More Related Content Similar to Tsan newsletter 8
Similar to Tsan newsletter 8 (20) Tsan newsletter 81. ฉบับที่ 8 : ตุลาคม 2553
บรรณาธิการ : ทร Rotterdam
อานวยการ : ชล Rotterdam
พิสจน์อกษร : อุ้ย Deventer
ู ั
ออกแบบ : ฝน Rotterdam
What’s going on
โดย บ๊ะจ่าง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คอลัมส์พเิ ศษ
โดย ชล Rotterdam
ข่าว TSAN: ในเดือน
ตุลาคมนี้ทางสมาคมฯจะมีการ วันเวลาก็เคลื่อนผ่านชีวิตของทุกๆคนใน เนเธอร์แลนด์ไปอีกปีหนึ่งนะครับ หลายๆ
จัดงาน Orientation ขึ้น ในวัน
คนก็ต้องกลับมาสู่โหมดการเรียนในปีการศึกษาใหม่ ในขณะที่เพื่อนๆเราอีกหลายๆคนที่ได้รับ
เสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2553 ตั้งแต่
TSAN Newsletter ฉบับนี้ก็คงจะกลับถึงบ้านที่เมืองไทยอย่างปลอดภัย หรืออาจจะเริ่มทางาน
เวลา 10.00 – 18.00 ณ
เริ่มอนาคตของแต่ละคนทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สถาณทูตไทยประจาประเทศ
เนเธอร์แลนด์ กรุงเฮก โดยมี ในนามของสมาคมนักเรียนไทยในราชอาณา จักรเนเธอร์แลนด์ (TSAN) ผมต้องขอขอบคุณ
จุดประสงค์หลักเพื่อต้อนรับ ทุกๆคนที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของ TSAN ตลอดช่วงเวลาที่เรียนอยู่ในเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่
เพื่อนนักเรียนไทยที่เพิ่งมาใหม่ คนที่เปิดอีเมล์รับรู้ข่าวสาร เป็นแฟนของ TSAN Newsletter ไปจนถึงทุกๆคนที่ร่วมทุกข์ร่วม
ในงานจะมีการแนะนาสถาณทูต สุข ร่วมหัวจมท้าย กับ TSAN มาตลอด
และวัดไทยในประเทศ
เนเธอร์แลนด์ พร้อมทั้งกิจกรรม ผมว่าหวังว่าทุกๆคนจะผ่านประสบการณ์ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเล่น ทั้งดีและร้าย ไปในแบบที่ได้
ไฮไลท์อย่าง ไลเด้นเสวนา ใน เรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งวิชาความรู้ และทักษะชีวิตอย่างเต็มที่ จากการเรียนในประเทศ
หัวข้อเบาๆ เรื่องการกาจัด เนเธอร์แลนด์ และหวังว่า TSAN ได้เคยเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ดีๆให้กับทุกๆคน
ความเครียด โดยวิทยากรรับ ในปีที่ผ่านมาครับ
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
เชิญ 3 ท่าน ได้แก่ พระมหา
จาเริญ (ท่านเจ้าอาวาสวัดพุทธ
วิหาร กรุงอัมสเตอร์ดัม) (ธรรม
มะ), พี่กวาง (จิตวิทยา), พี่เค
(กายภาพบาบัด) และกิจกรรม
ต่างๆมากมายที่ทาให้นักเรียน
บอกอ ขอบอก
ใหม่และนักเรียนเก่าได้ทาความ โดย ทร Rotterdam
รู้จักกันมากขึ้น จึงอยากเชิญ
ชวนเพื่อนๆนักเรียนไทยทุกๆคน สวัสดีครับเพื่อนชาวทีซานทุกๆ คน เดือนตุลาคมนี้เป็นอีกเดือนนึงของ
เข้าร่วมงานกันอย่างพร้อม ปีที่สร้างความรู้สึกที่หลากหลายและบางคนอาจจะปรับตัวและรับมือกับมันไม่ทัน ถ้าพูดถึง
เพรียง เดือนตุลาคมแล้ว หลายๆคนอาจจะนึกไปถึงหลายๆ อย่าง แต่ผมเชื่อแน่ว่าคนส่วนใหญ่จะต้อง
นึกถึงฤดูใบไม้ร่วงหรือ Autumn กันแน่นอนครับ ถ้าจะพูดถึงฤดูนี้แล้วคุณนึกถึงอะไร คน
ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี้ หลายคนอาจจะนึกถึง ใบไม้เปลี่ยนสี หรือการเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูร้อนเป็นฤดูหนาว แต่ว่า
หลายๆ คนคงจะลืมนึกไปว่าฤดูนี้ก็เป็นอีกฤดูนึงที่เหมาะสาหรับการแต่งงานไม่แพ้เดือน
กุมภาพันธ์เลยนะครับ ว่าด้วย autumn โดยส่วนตัวผมแล้วมีความรู้สึกอยู่ 2 อารมณ์ครับ
คือ อารมณ์รัก และอารมณ์เหงา ทาไมถึงเป็น 2 อารมณ์นี้ เราลองจินตนาการไปพร้อมๆ กัน
นะครับ ให้เราจินตนาการถึงถนนเส้นหนึ่งที่ 2 ข้างทางมีต้นไม้ยืนต้นเรียงรายกันเต็มไปหมด
ใบไม้ของทุกต้นเปลี่ยนสีจากสีเขียวขจีไปเป็นสีเหลืองแกมด้วยสีส้มสดใสดูอบอุ่น แล้วให้เรา
จินตนาการไปว่าเรากาลังเดินอยู่บนถนนเส้นนั้น...
ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี้
2. สุขภาพจิตกับการศึกษา Present Simple
โดย ชล Rotterdam
โดย กวาง Rotterdam
ตอนค่าของวันก่อนได้นั่ง
อาการ homesick เป็นของคู่กันกับคนไกลบ้าน
คุยกับ ทิงหยู เพื่อนไต้หวันที่มา
อาการ homesick เป็นอาการที่หวนคิดบ่อยๆ ว่าอยากกลับไปในที่ๆ ตัวเองจากมา
เที่ยวปารีสด้วยกัน เกี่ยวกับ
โหยหาคิดถึงบรรยากาศของสถานที่, สิ่งแวดล้อม และผู้คนที่จากมา ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือ
เรื่องการนั่งสมาธิ นอกจากนี้เขา
เพื่อนเก่า คิดถึงกิจกรรมเดิมๆ ที่เคยทาในที่นั้น อาการคิดถึงบ้านนี้ส่งผลทั้งสภาพจิตใจและ
ยังได้สาธิตและเราก็นั่งสมาธิ
สภาพร่างกาย บางคนกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ ปวดหัว ไม่ค่อยมีสมาธิ มีอาการเครียด,
ร่วมกันก่อนที่เราจะเข้านอนกัน
กังวลหรือซึมเศร้า ว้าเหว่ บางทีก็อยากร้องไห้ขึ้นมาเสียเฉยๆ ระดับความรุนแรงของอาการ
ด้วย จากการคุยดังกล่าว มี
homesick จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ถ้ามีอาการหนักจะส่งผลต่อเสียต่อการเรียนได้
ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง
อาการ homesick มักเกิดในช่วงเวลาที่รู้สึกไม่มีความสุขกับสถานที่ใหม่หรือสถานการณ์ที่ สมาธิและความรู้ที่อยากจะ
เผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเครียดกับการเรียน ไม่มีคนให้กาลังใจใกล้ๆ เหมือนอยู่กับครอบครัว กังวลกับ บันทึกเอาไว้ดังนี้
การปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ทั้งสภาพอากาศที่แตกต่างไปจากบ้านเรา ทั้งอาหารทีไม่คุ้น
่
รส รวมทั้งผู้คนที่พูดภาษาที่ไม่คุ้นหู ....
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
เขียนความคิด
โดย ไนท์ Amsterdam
ทิงหยูบอกว่า เมื่อจิตเรามีความ
เหมาะสมและมีกาลังระดับหนึ่ง
ในมื้อเย็นนั้นเรามักจะทานอาหารทีหลากหลายและ
่ จากการฝึกสมาธิ ประกอบกับ
หนักกว่ามื้ออื่นๆ พร้อมกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง การที่เรามีข้อมูลเบื้องต้นใน
แล้วก็ยังมีเวลานั่งทานกันนานๆ เพื่อเล่าเรื่องราวในแต่ละวันให้กับคู่สนทนาบนโต๊ะทานข้าว เพื่อนๆ สมอง จากการอ่านหนังสือ/ฟัง
ชาว TSAN ของเราที่ข้ามน้าข้ามทะเลมาศึกษาเล่าเรียนที่นี่ก็คงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงครอบครัวและ ครูสอน เราจะสามารถเกิด
เพื่อนๆที่เมืองไทยตอนทานข้าวเย็นนี่ล่ะค่ะ บางครั้งบางทีก็ยุ่งกับการเรียนจนต้องรีบๆกินแล้วก็ ญาณทัศนะได้ง่ายขึ้น หรือหาก
กลับไปอ่านหนังสือต่อ บ้างก็ต้องนั่งกินคนเดียว ทาให้ห่อเหี่ยวใจไม่น้อย ความโหยหาการทาน เป็นเวอร์ชั่นที่ extreme กว่า
อาหารเย็นแบบครอบครัวอบอุ่นๆทาให้ผู้เขียนมีโอกาสไปนั่งทานข้าวเย็นที่บ้านเพื่อนชาวดัตช์อยู่ นั้นก็คือ จริงๆแล้วความรู้นั้นอยู่
หลายครั้งหลายหน บางทีปีใหม่คริสต์มาสด้วยความไม่อยากเห็นเพื่อนอยู่บ้านเหงาๆ เพื่อนชาว รอบๆตัวของเรา เราเพียงแต่
ดัตช์เค้าก็ชวนเราไปทานข้าวด้วย ก็เลยอยากจะมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสนี้ค่ะ ต้องทาจิตใจเราให้พร้อมกับการ
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่หนาว ลมแรง และเฉอะแฉะ ในสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องทาความ รับองค์ความรู้นั้น เมื่อเวลา
ร้อน อาหารเป็นส่วนสาคัญที่ทาให้ชาวดัตช์สามารถเผชิญกับอากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้.... มาถึง
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
เรืองโดนแบรนด์
่
โดย ตี้ Utrecht
เขียนเกี่ยวกับเรื่องประเทศอื่นมาก็เยอะแล้ว แต่ทาไมนา ไม่เขียนเรื่องของประเทศ
ที่เราอยู่ซักที มีหลายคนถามว่า ฮอลแลนด์ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเองเลยหรืออย่างไร?
ถูกเรียกร้องมาค่อนข้างเยอะพอสมควร คอลัมน์เดือนนี้จึงขอเขียนภาพรวมๆ ของ แบรนด์ Holland
บ้าง ว่าประเทศนี้แม้จะเล็ก แต่ไม่ธรรมดาทีเดียวเรื่องการสร้างแบรนด์
ด้วยเนื้อที่เพียงแค่ 42,500 ตารางกิโลเมตร (โดยพื้นที่เกือบ 30% ของประเทศนี้นั้นเกิดจากการถมขึ้นมา) ทั้งเล็ก ทั้งแออัด และทรัพยากร
ไม่พอใช้ หากเป็นสมัยก่อนนั้น ชาวดัชต์ก็จะไปขนทรัพยากร จากประเทศที่เป็นอาณานิคมมา เช่น อินโดนีเซีย หรือ สุรินัม แต่หลังจากต้อง
(จาใจ) คืน อาณานิคมเหล่านั้นไปแล้ว ชาวดัชต์เองต้องหาทางทาให้ตัวเองอยู่รอดต่อไปให้ได้
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
3. Journal Club: โลกนีมีเรืองเล่า
้ ่
โดย ชล Rotterdam
การดูดวงกับหมอดูเป็นสิ่งที่หลายๆคนอาจจะเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วไม่มากก็น้อย จากวารสาร
เศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ฉบับล่าสุด นักเศรษฐศาสตร์จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ
NIDA ได้ทาการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับโครงสร้างตลาดหมอดู พฤติกรรมการดูดวง และปัจจัยที่ส่งผลต่อ
ความเต็มใจจะจ่ายในการดูดวง จากกลุ่มตัวอย่างชาวกทม.จานวน 300 คน
งานวิจัยนี้ยังใช้เครื่องมือทางเศรษฐมิติ (แบบจาลอง Ordinary Least Square (OLS)) ในการหา
ความสัมพันธ์ระหว่างความเต็มใจจะจ่าย กับปัจจัยทางด้านอุปสงค์ และปัจจัยด้านอุปทาน ปัจจัยด้านอุปสงค์
คือ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อความเต็มใจจะจ่ายที่มาจากฝ่ายผู้บริโภค เช่น เพศ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา
อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประสบการณ์ โอกาสในการใช้บริการ ความเต็มใจจะจ่าย วัตถุประสงค์ในการใช้
บริการเป็นต้น ปัจจัยด้านอุปทาน คือ ปัจจัยทีจะส่งผลต่อความเต็มใจจะจ่าย ที่มาจากฝ่ายผู้ให้บริการ เช่น
่
อายุของหมอดู, เพศของหมอดู, วิธีการทานาย, แหล่งของหมอดู, ลักษณะของหมอดู เป็นต้น
ลักษณะของโครงสร้างตลาดหมอดู มีลักษณะโครงสร้างตลาดเป็นแบบตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด
(Monopolistic Market) คือ...
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด
เดือนละแนะ สวัสดีครับ วันนี้
โดย ทร Rotterdam ผมขอแนะนาเทคนิคการถ่ายภาพที่มี
ชื่อว่า Hyperfocal distance ผม
เดือนละแนะเดือนนี้ผมมีหนังสือดีๆ แนะนาว่าก่อนจะเรียนรู้เทคนิคนี้ ต้อง
มาฝากครับ มันเป็นหนังสือทีมียอดขายทั่วโลก
่ มีความเข้าใจเรื่องระยะชัดเขียนโดย
สูงมากๆ ครับ ซึ่งเป็นตัวการันตีความเยี่ยมยอด เปป เมือง Delf (ฉบับที่แล้ว) มาก่อน
ของหนังสือเล่มนี้ได้เลย หนังสือเล่มนีมียอดขาย
้ นะครับ เพราะเป็นพื้นฐานที่สาคัญใน
มากกว่า 15 ล้านเล่มครับ!!! ไม่ผิดหรอกครับ 15 ล้าน การถ่ายภาพโดยใช้เทคนิคนี้ ส่วนมาก
เล่มจริงๆ หนังสือที่ผมกาลังพูดถึงมีชอว่า “ The 7 habits of
ื่ เทคนิคนี้นิยมใช้ในการถ่ายภาพ Landscape โดยใช้เลนส์
Highly effective people” มันเป็นหนังสือที่มีความยาวกาลังน่า มุมกว้าง
อ่าน 350 หน้าครับ ขนาดกาลังน่าพกพาครับ ราคาของหนังสือนับ เดือนละรูป
ได้ว่าเป็นหนังสือที่ไม่แพงเลย ราคาอยู่ที่ $15.95 U.S. ครับหรือ
โดย หาญ Wagenigen
ประมาณ 10 กว่าๆ ยูโรครับ ผมจาราคาที่แน่นอนไม่ได้จริงๆ เพราะ
ซื้อมาได้ซักพักแล้วครับ
เรามาเข้าสู่ลักษณะภาษาการเขียนกันและเนือหากันดีกว่าครับ
้
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Dr. Stephen R. covey ผู้เขียนได้ใช้
ประสบการณ์ในการทางานที่ได้สะสมมา จากทั้งงานสอน งานวิจัย
งานที่ปรึกษาและงานอบรม ในช่วงตลอดชีวิตการทางานที่ผ่านมา
นามาถ่ายทอดเป็นทฤษฎีและเรื่องราวที่เป็นระบบแบบแผน ชัดเจน Hyperfocal distance (ระยะชัดสุดพิสัย ฟังแล้วแปลกๆ)
ง่ายต่อการทาความเข้าใจและปฏิบัติตาม เนื้อหาของหนังสือจะเป็น คือระยะของจุดที่เราโฟกัสแล้วสามารถทาให้ภาพมีระยะชัด
การพูดถึงการพัฒนาอุปนิสัยที่จะทาให้ทุกคนเป็นคนที่ประสบ (คมหรือไม่เบลอหรือไม่หลุดโฟกัส) ไปจนถึงระยะอนันต์
ความสาเร็จในทุกๆ ด้านครับ เมือเราโฟกัสไปยังจุด hyperfocal distance (A) แล้ว
่
ระยะชัดจะครอบคลุม “ตั้งแต่ระยะทางครึ่งหนึ่งของจุด
คลิกเพื่ออ่านทั้งหมด hyperfocal distance มายังกล้องของเรา (B) ไปถึงระยะ
อนันต์” เรียกว่าชัดไปถึงสุดขอบฟ้าเลยครับ
คลิกเพื่ออ่านและดูรูป