SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
8/21/2011




                                                                                               บทนํา
          สื่ อประเภทเครื่องเสี ยง                                                             ลักษณะของเสี ยง
        (Audio Equipment Media)
                            Media)                                                             องค์ ประกอบของคลืนเสี ยง
                                                                                                                 ่
                                                สุ ขุมาภรณ์ ขันธ์ ศรี                          ระบบเสี ยง
                                                                                               มิตของเสี ยง
                                                                                                   ิ
                                                                                               ระบบขยายเสี ยง
                                                                                               วัสดุและครุภณฑ์ เสี ยงทีควรรู้ จก
                                                                                                            ั           ่       ั
                                                                                               คุณสมบัตของสื่ อประเภทเครื่องเสี ยง
                                                                                                        ิ
                                        1 สิงหาคม 2554




               สื่ อประเภทเครื่องเสี ยง                                                             ลักษณะของเสี ยง
                                                                                                เสี ยงเป็ นพลังงาน : ที่เกิดจากการสั่ นสะเทือนของวัตถุ
         สื่ อเสี ยงหรือโสตทัศนูปกรณ์ ประเภทเครื่องเสี ยง เป็ นสื่ อที่รับ
                                                                             ทําให้ เกิดคลืนอากาศที่เคลือนที่มากระทบหูของคนเรา เราจึงได้ ยินเสี ยง
                                                                                           ่               ่
   สั มผัสเพียงมิติเดียวคือ “การฟัง” ใช้ ประสาทสั มผัสของการรั บรู้
                                                                             นั้น คลืนเสี ยงที่มนุษย์ ได้ ยินจะอยู่ระหว่ าง 16 – 20,,000 เฮิร์ทซ์
                                                                                      ่                                          20
   คือ หู บางครั้งจะจําแนกเสี ยงที่ได้ ยินว่ าเป็ นเสี ยงอะไรได้ ยาก
         การฟงทสมบูรณจงจาเปนตองมเครองชวยในการฟง เชน ชุ ด
         การฟังที่สมบรณ์ จึงจําเป็ นต้ องมีเครื่องช่ วยในการฟัง เช่ น ชด
   เครื่องขยายเสี ยง วิทยุกระจายเสี ยง เทปบันทึก เสี ยง แผ่ น
   คอมพิวเตอร์ ดสก์  ิ




               องค์ ประกอบของคลืนเสี ยง
                                ่                                                          ระบบเสี ยง (Sound System)
                                                                                                             System)
         1. แอมพลิจูด (Amplitude) : ระยะระหว่ างยอดคลืนบนสุ ด
                          Amplitude)                          ่                    เสี ยงได้ มีการจัดระบบเพือให้ ใกล้ เคียงเสี ยงธรรมชาติ จึงได้ มีการ
                                                                                                            ่
ถึงยอดคลื่นล่ างสุ ด ยอดคลืนสู งเสี ยงจะดัง ยอดคลืนตํ่าเสี ยงจะเบา
                            ่                       ่                        พัฒนาตามทิศทางที่กาเนิดเสี ยงออกเป็ น 2 ระบบใหญ่ ๆ คือ
                                                                                                  ํ
         2. ความถี่ (Frequency ) : รอบของการสั่ นสะเทือนของคลื่น               1. ระบบเสี ยงแบบทิศทางเดียว (Monophonic Sound System)
                                                                                                                              System)
เสี ยงใน 1 วินาที                                                              2. ระบบเสยงแบบหลายทศทาง (S
                                                                                           ี           ิ      Stereophonic S d S
                                                                                                                     h i Sound System)
                                                                                                                               System)
         3. ช่ วงคลื่น (Pitch ) : ระยะห่ างระหว่ างยอดคลืนแต่ ละลูก
                                                           ่
ถ้ ายอดคลื่นมีระยะห่ างน้ อย เสี ยงก็จะมีความถี่มาก ถ้ าระยะห่ าง
ระหว่ างยอดคลืนมาก เสี ยงจะมีความถี่น้อย
                 ่




                                                                                                                                                                1
8/21/2011




    ประเภทของระบบเสี ยง (Kind of Sound System)
                                       System)                                        มิตของเสี ยง (Sound Dimension or Image)
                                                                                         ิ                             Image)
ระบบเสียงแบบทิศทางเดียว (Monophonic Sound System)
                                          System)                                          มิติหรือทิศทางของเสี ยง คือ จุดที่ผ้ ูฟังสามารถบอกได้ ว่าเสี ยง
         การจัดระบบเสี ยงที่รวมต้ นกําเนิดเสี ยงทุกชนิดเข้ าด้ วยกัน เช่ น        มาจากทิศทางใด และเป็ นเสี ยงของอะไร เสี ยงนั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ หรือ
เครื่องขยายเสี ยงชุ ดเดียว แต่ ไมโครโฟนหลายตัวที่ มาจากไมโครโฟนทุก                กําลังมีการเคลือนที่ เสี ยงนั้นอยู่ใกล้ หรือไกล
                                                                                                  ่
ตัวถกขยายและไปออกที่ลาโพงชดเดียวกัน
      ู                    ํ      ุ                                                        มิติของเสี ยงจะทําให้ ผู้ฟังเกิดอารมณ์ หรือความร้ ู สึกคล้ อยตาม
                                                                                  เหตุการณ์ ที่เกิดขึนได้ เช่ น การฟังเพลง การฟังละครวิทยุ การดูภาพยนตร์
                                                                                                     ้
ระบบเสียงแบบหลายทิศทาง (Stereophonic Sound System)
                                           System)
                                                                                  ดูโทรทัศน์ ฯลฯ
          ระบบเสี ยงที่เสมือนว่ าผู้ฟังอยู่หน้ าแหล่ งกําเนิดเสี ยงแต่ ละประเภท
นั้นจริง ๆ ผู้ฟังสามารถบอกทิศทางของแหล่ งกําเนิดเสี ยงได้ ระบบสเตริโอ                ภาคสั ญญาณเข้ า           ภาคขยายสัญญาณ              ภาคสั ญญาณออก
มีท้ังแบบ 2, 3, 4 และรอบทิศทาง เสมือนว่ าผู้ฟังอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ทําให้
เสี ยงมีมิติ




   ระบบขยายเสี ยง (Sound Amplifier System)
                                   System)                                                        กระบวนการในการขยายเสี ยง
                                                                                  ภาคแปลงสั ญญาณ ทําหน้ าที่แปลงพลังงานเสี ยงให้ เป็ นพลังไฟฟา           ้
              การขยายเสี ยง คือทําให้ สัญญาณเสี ยงมีกาลังแรงขึน
                                                     ํ        ้
                                                                                                       เพือให้ มีกาลังมากพอที่จะส่ งยังภาคขยายเสี ยงให้ ดงขึน
                                                                                                          ่       ํ                                             ั ้
    ดังขึน และดังพอที่จะได้ ยินอย่ างทั่วถึงในที่ ๆ กว้ าง
         ้                                                                        ภาคขยายเสี ยง ทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณไฟฟาที่แปลงมาจากพลังงาน
                                                                                                                              ้
    ระบบขยายเสี ยงประกอบด้ วยส่ วนที่สําคัญ 3 ส่ วน คือ                                          เสี ยงให้ มีกาลังแรงขึน จะมีอุปกรณ์ อยู่ 2 ส่ วน คือ
                                                                                                              ํ        ้
                                                                                                 Pre – Amplifier และ Power Amplifier ทําหน้ าที่
          1. ภาคแปลงสั ญญาณ                                                                     ขยาย สั ญญาณเสี ยงและสั ญญาณไฟฟาให้ มีกาลัง
                                                                                                                                          ้          ํ
          2. ภาคขยายเสี ยง                                                                      แรงขึน มีหน่ วยวัดเป็ นวัตต์ (Watt)
                                                                                                        ้                         Watt)
          3. ภาคกระจายเสี ยง                                                     ภาคกระจายเสี ยง ทําหน้ าที่แปลงพลังงานไฟฟาที่ขยายแล้ วให้ กลับ เป็ น
                                                                                                                                ้
                                                                                                  พลังงานเสี ยงให้ ได้ ยินอีกครั้ งหนึ่ง แต่ มีเสี ยง ดังกว่ าเก่ า
                                                                                                  ซึ่งก็คอลําโพงนั่นเอง
                                                                                                            ื




                เครื่องขยายเสี ยง (Amplifier)
                      งขยายเสี                                                      2. ภาคขยายเสี ยง (Main Amp or Power Amp)
           เป็ นวงจรอีเลคทรอนิคส์ ประกอบด้ วย หลอดวิทยุ ทรานซิสเตอร์                      ทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณเสี ยงที่แปลงเป็ นพลังงานไฟฟาที่ได้ รับการ
                                                                                                                                            ้
      หรือไอซี ที่ประกอบขึนเพือทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณไฟฟาจากส่ วน
                           ้ ่                            ้                            ปรับแต่ งแล้ วให้ มีกาลังสั ญญาณแรงมากขึนตามที่ต้องการ
                                                                                                            ํ                    ้
      Input แบ่ งออกเป็ น 2 ส่ วนคือ
        1. ภาคเตรียมขยาย (Pre Amplifier) ทําหน้ าที่ปรับแต่ งสั ญญาณ
           ภาคเตรยมขยาย                     ทาหนาทปรบแตงสญญาณ
            สั ญญาณให้ เหมาะสม




                                                                                                                                                                      2
8/21/2011




              ระบบไฟฟาทีใช้ กบเครื่องเสี ยง
                     ้ ่ ั                                                        3. ภาคสั ญญาณออก (Output Signal)
ชนิดของไฟฟา
          ้                                                                      ภาคสั ญญาณออกหรือภาคลําโพง เป็ นคลืนไฟฟาที่ได้ รับการขยาย
                                                                                                                         ่      ้
       1.ไฟฟาสถิต (Static Electricity)
            ้                                                              ให้ มีกาลังแรงขึนจากเครื่องขยายเสี ยง อาจกล่ าวได้ ว่า ลําโพงทําหน้ าที่
                                                                                  ํ        ้
       2. ไฟฟากระแส (Current Electricity)
              ้                                                            ตรงกันข้ ามกับไมโครโฟน โดยเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสี ยง
                                                                                                            ่                 ้
                - กระแสตรง (Directed Current : DC)        )
                - กระแสสลับ (Alternating Current : AC)
       1. แบบเฟสเดียว (Single Phase)
                มี 2 เส้ น คือ 1. Line (L) 2. Neutral (N)
       2. แบบ 3 เฟส (Three Phase 4 Wires)
                มี 4 เส้ น          สายไฟ 3 เส้ นเป็ น L
                                    และอีก 1 เส้ นเป็ น N




                        ชนิดของลําโพง                                         2. ลําโพงปากแตร ตัวลําโพงจะทําด้ วยเหล็กทุกส่ วน เสี ยงของลําโพง
                                                                              ชนิดนีจะดังมาก และเสี ยงสู ง ส่ วนมากจะใช้ งานสนาม
                                                                                     ้
       1. ลําโพงชนิดกรวย ตัวลําโพงเป็ นโครงเหล็กและส่ วนที่สั่นสะเทือน
       จะเป็ นกระดาษหรือผ้ า แบ่ งออกเป็ น 3 ชนิด คือ
              1. ลําโพงเสี ยงทุ้ม (Woofer)
                                                                           ลักษณะของลําโพงในการใช้ งาน
              2. ลําโพงเสี ยงกลาง (Midrange)
                 ลาโพงเสยงกลาง
              3. ลําโพงเสี ยงแหลม (Tweeter)                                    • ลําโพงใช้ ภายในอาคาร
                                                                               • ลําโพงใช้ ภายนอก
                                                                               • ลําโพงใช้ ภายในและภายนอก
                                                                                 อาคาร




            วัสดุและครุภัณฑ์ เสี ยงทีควรรู้ จัก
                                     ่                                                     ไมโครโฟน (Microphone)
                                                                                                     Microphone)
         วัสดุและครุ ภัณฑ์ เสี ยงมีมากมายหลายประเภทเพือประสิ ทธิผล
                                                      ่                           ไมโครโฟนเป็ นภาครั บคลื่นเสี ยงและทําหน้ าที่เปลี่ยนสั ญญาณเสี ยง
 ต่ อการฟัง ถึงแม้ จะเป็ นการฟังเพียงอย่ างเดียวก็ตาม
                                                                          ให้ เป็ นสั ญญาณไฟฟาเพือส่ งไปยังภาคขยายสั ญญาณเสี ยงเบืองต้ น
                                                                                              ้ ่                                     ้
         วัสดุและครุ ภัณฑ์ ทางเสี ยง ได้ แก่
 1.   ไมโครโฟน (Microphone)
                    Microphone)                                           ประเภทของไมโครโฟน
 2.   เครื่องบันทึกเสียงและแถบบันทึกเสียง (Tape Recorder and Tape)
                                                                 Tape)      ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้
 3.   เครื่องเล่นแผ่ นเสียงและแผ่ นเสียง (Record Player and Records)
                                                             Records)
 4.   เครื่องบันทึกเสียงแบบออดิโอคอมแพคดิสค์ (Audio Compact Disc)Disc)     ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรั บเสี ยง
 5.   วิทยุกระจายเสียง (Radio)
                           Radio)                                           ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน




                                                                                                                                                             3
8/21/2011




        ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้                        1. ไมโครโฟนชนิดคาร์ บอน (Carbon Microphone)
                                                                                                  Microphone)
                                                                    มีผงคาร์ บอนบรรจุอยู่ ไมโครโฟนชนิดนีมีเสี ยงรบกวนมาก
                                                                                                        ้

  ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้ มี 6 ชนิด คือ
         1. คาร์ บอนไมโครโฟน (Carbon Microphone)
                                        Microphone)
         2. คริสตัลไมโครโฟน (Crystal Microphone)
                                      Microphone)
         3. ไดนามิคไมโครโฟน (Dynamic Microphone)
            ไดนามคไมโครโฟน                Microphone)             2. ไมโครโฟนชนิดคริสตัล (Crystal Microphone)
                                                                     ไมโครโฟนชนดครสตล             Microphone)
         4. ริบบอนไมโครโฟน (Ribbon Microphone)
                                      Microphone)                      ใช้ ระบบการเปลียนรู ปโครงสร้ างภายในผลึกของสารกึงตัวนํา
                                                                                      ่                                ่
         5. คอนเดนเซอร์ ไมโครโฟน (Condenser Microphone)
                                                Microphone)            ไมโครโฟนชนิดนีมีความไวน้ อยไม่ ทนทานต่ อความร้ อนและ
                                                                                        ้
         6. เซรามิคไมโครโฟน (Ceramic Microphone)
                                        Microphone)                    ความชื้น




3. ไมโครโฟนชนิดไดนามิก (Dynamic Microphone)
                                Microphone)                     4. ไมโครโฟนชนิดริบบอน (Ribbon Microphone)
                                                                                              Microphone)
      ภายในมีขดตัวนําไฟฟา (Coil) ติดกับไดอะแฟรม นิยมใช้ กนมาก
                             ้ Coil)                     ั                ใช้ แผ่ นโลหะบาง ๆ พับซ้ อนกันเหมือนริบบิน ทําหน้ าที่แทน
                                                                                                                   ้
  เพราะคุณภาพเสี ยงดี ใช้ ง่าย ทนทาน                            ไดอะแฟรมและขดตัวนําไฟฟา นิยมใช้ ในห้ องบันทึกเสี ยงหรือห้ อง
                                                                                              ้
                                                                ส่ งวิทยุ – โทรทัศน์




5. ไมโครโฟนชนิดคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone)
                                      Microphone)               ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรับเสี ยง
      แผ่ นโลหะสองแผ่ นทําหน้ าที่เป็ นขั้วไฟฟาสองขั้ว
                                              ้
                                                                ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรั บเสี ยง มี 5 ชนิด คือ
                                                                    1. รับเสี ยงแบบทิศทางเดียว (Unidirectional Microphone)
                                                                                                                 Microphone)
                                                                    2. รับเสี ยงแบบสองทิศทาง (Bi-directional Microphone)
                                                                                                    Bi-         Microphone)
                                                                    3. รับเสี ยงแบบคาร์ ดออยด์ (Cardioid Microphone)
                                                                       รบเสยงแบบคารดออยด ิ                 Microphone)
                                                                    4. รับเสี ยงแบบซู เปอร์ คาร์ ดออยด์ (Super Cardioid Microphone)
                                                                                                  ิ                     Microphone)
     ขาตั้งไมโครโฟน                                                 5. รับเสี ยงแบบรอบทิศทาง (Omni-directional Microphone)
                                                                                                    Omni-          Microphone)




                                                                                                                                             4
8/21/2011




                                                                                       การกําหนดค่ าอิมพีแดนซ์ ของไมโครโฟน
 ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน
                                                                                                    (Impedance)
                                                                                                     Impedance)
     ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน มี 2 ชนิด คือ                            อิมพีแดนซ์ : ค่ าความต้ านทานที่เกิดขึนเมื่อมีกระแสไฟฟาสลับ
                                                                                                                                 ้               ้
     1. ชนิดมีสาย (Cord line Mic) เป็ นไมโครโฟนที่ต่อสายจากเครื่ อง
                                  Mic)                                                                 ไหลผ่ าน มีหน่ วยเป็ นโอห์ ม (Ohm)
                                                                                                                                      Ohm)
                      ขยายเสี ยงได้ โดยตรง                                            ค่ าอิมพีแดนซ์ ในไมโครโฟนมี 2 แบบ คือ
     2. ชนิดไร้ สาย (Wireless Mic) เป็ นไมโครโฟนที่ไม่ มีสายต่ อจาก
                                Mic)                                                  แบบ High Impedance คือ ค่ าความต้ านทานขาออกในไมโครโฟนสง
                                                                                                                คอ คาความตานทานขาออกในไมโครโฟนสู ง
                     เครื่ องขยายเสี ยงโดยตรง                                                เมื่อต่ อสายไมโครโฟนยาวขึนจะเกิดเสี ยงรบกวนได้ ง่าย จึงไม่
                                                                                                                            ้
                                                       ไมโครโฟนหนีบเสื้อ                     ควรต่ อสายยาวเกิน 7.5 เมตร รั บเสี ยงได้ เร็ว 20-60 อิมพีแดนซ์
                                                                                                                                            20-
                                                                                      แบบ Low Impedance คือ ค่ าความต้ านทานขาออกในไมโครโฟนตํ่า
                                                                                             สามารถต่ อสายไมโครโฟนให้ ยาวได้ เมื่อต่ อสายยาวจะไม่ มี
                                                                                             เสี ยงรบกวน รั บเสี ยงได้ ช้า มีค่า 200-600 อิมพีแดนซ์
                                                                                                                                 200-
       ไมโครโฟนหนีบปก




                      หลักการใช้ ไมโครโฟน                                                        วิธีการดูแลรักษาไมโครโฟน
          หลักการใช้ ไมโครโฟนที่ถูกต้ อง มีดังนี้                                     1. อย่ าให้ ไมโครโฟนได้ รับการกระทบกระเทือน
          1. ควรเลือกใช้ ไมโครโฟนให้ เหมาะสมกับงานและสถานที่                          2. ขณะใช้ งานอย่ าหันหน้ าไมค์ เข้ าหาลําโพง หรืออยู่ใกล้ เกิน
          2. ผู้พูดควรยืนห่ างจากไมโครโฟนตามความเหมาะสมไม่
                                                                                         กว่ า 15 ฟุต จะทําให้ เกิดเสี ยงฮัม (Feed back)
             ใกล้ หรือ ไกล จนเกินไป
             ใกลหรอ          จนเกนไป
          3. อย่ าเคาะหรือเป่ าไมโครโฟนเป็ นอันขาด แต่ ให้ ทดลอง                      3. ควรพูดห่ างจากไมค์ ในระยะพอสมควร ระดับที่เหมาะสมจะทํา
             เสี ยงโดยการพูดจะดีที่สุด                                                   ให้ ได้ เสี ยงที่ไพเราะชัดเจน
          4. ควรตั้งไมโครโฟนให้ อยู่ด้านหลังของลําโพง และอย่ าอยู่                    4. ควรมีผ้าหรือฟองนํ้าปองกันฝุ่ นหรือลม ห่ อหุ้ม
                                                                                                                  ้
             ใกล้ จนเกินไป ถ้ าหันลําโพงเข้ าหาไมโครโฟน จะทําให้                      5. ควรเลือกใช้ ไมโครโฟนให้ เหมาะกับงาน
             เกิดเสี ยงหอน หรือเสี ยงย้ อนกลับได้




                  เครื่องและแถบบันทึกเสี ยง
                                                                                      เครื่องบันทึกเสี ยงแบบม้ วน (Reel to Reel)
                                                                                                                           Reel)
                 (Tape Recorder and Tape)
                                     Tape)
     เครื่ องบั นทึ ก เสี ย งเป็ นสื่ อที่ ใ ช้ ไ ด้ ส ะดวกและให้ สั มฤทธิ ผลทางการ           เครื่องบันทึกเสี ยงประเภทนีจะมีอตราเร็วในการบันทึก
                                                                                                                            ้     ั
                                                                                      หลายอัตราเพือเลือกให้ เหมาะสมกับงาน อัตราความเร็วใน
                                                                                                    ่
สื่ อสารได้ ดี ปัจจุบันมีขนาดเล็กมาก พกพาสะดวก ราคาไม่ แพง
                                                                                      บันทึกเสี ยงจะวัดเป็ นนิวต่ อวินาที (Inches per Second = ips..)
                                                                                                              ้                                ips
เครองบนทกเสยงโดยทวไปม ชนด คอ
เครื่องบันทึกเสี ยงโดยทั่วไปมี 3 ชนิด คือ                                             ปจจุบนไมนยมใช
                                                                                      ปัจจบันไม่ นิยมใช้
     1. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบม้ วน (Reel to Reel)
                                              Reel)
     2. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบตลับ (Cassette Tape Recorder)
                                                   Recorder)
     3. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบคาร์ ทริจ (Cartridge Tape Recorder)
                                                         Recorder)




                                                                                                                                                                 5
8/21/2011




               เครื่องบันทึกเสี ยงแบบตลับ                                                     เครื่องบันทึกเสี ยงแบบคาร์ ทริจ
               (Cassette Tape Recorder)
                                 Recorder)                                                     (Cartridge Tape Recorder)
                                                                                                                  Recorder)
         จะมีแถบเทปบันทึกเสี ยงจะบรรจุอยู่ในตลับ ซึ่งมีความยาว                            จะใช้ กับเทปแบบ 8 แถบเสี ยง บรรจุอยู่ในกล่ องพลาสติก
   หลายขนาด เช่ นขนาด 30 นาที 60 นาที ไปจนถึง 90-120 นาที
                                              90-                                 เป็ นเทปชนิดเล่ นต่ อเนื่องซึ่งใช้ ในรถยนต์ ปัจจุบันเลิกใช้ ไปแล้ ว




                  แผ่ นเสี ยงและเครื่องเล่ น
                                                                                                     ชนิดของแผ่ นเสี ยง
               (Records and Record Player)
                                       Player)
         เครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยงและแผ่ นเสี ยงเป็ นแผ่ นที่บันทึกเสี ยงเพลง            ชนิดของแผ่ นเสี ยง แบ่ งเป็ น 3 ชนิด คือ
เสี ยงธรรมชาติต่าง ๆ ไว้ เพือความบันเทิงและการใช้ งาน บนผิวของแผ่ น
                               ่                                                        1. แบ่ งตามขนาดร่ องเสี ยง
เสี ยงจะทําเป็ นร่ องเสี ยงเล็ก ๆ เรียกว่ าร่ องเสี ยง (Grooves) มีขนาดไม่
                                                        Grooves)                        2. แบ่ งตามขนาดเส้ นผ่ านศู นย์ กลางของแผ่ นเสี ยง
สมาเสมอ บางรองตน ตามสญญาณเสยงทบนทกไว
สมํ่าเสมอ บางร่ องตืน ตามสั ญญาณเสี ยงที่บันทึกไว้
                      ้                                                                 3. แบ่ งตามอัตราการหมุุนของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง บนแท่ น
                                                                                           หมุนด้ วย อัตราความเร็วเป็ นจํานวนรอบต่ อนาที
                                                                                           (round per minute = rpm.)rpm.)




           ส่ วนประกอบของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง                                    เครื่องบันทึกเสี ยงแบบออดิโอคอมแพคดิสค์
                                                                                              (Audio Compact Disc)
                                                                                                               Disc)
           มีส่วนประกอบที่สําคัญ 4 ส่ วน ดังนี้ คือ
                                                                                          เป็ นการบันทึกเสี ยงโดยแปลงสั ญญาณเสี ยงซึ่งเป็ นแบบ
           1. ระบบขับให้ แผ่ นเสี ยงหมุน ทําให้ แท่ นวางแผ่นหมุนตามอัตรา
 ความเร็วที่กาหนดไว้ โดยใช้ มอเตอร์
               ํ
                                                                                 อนาลอก ไปเป็ นแบบดิจิตัล แล้ วบันทึกลงบนแผ่ น เรียงกันเป็ นรู ปก้ น
           2. แท่ นวางแผ่นเสี ยง เป็ นแผ่ นกลมทําด้ วยโลหะ ส่ วนบนจะบุด้วย       หอยวนจากใจกลางแผ่ นดิสก์ ออกสู่ ขอบด้ านนอกของแผ่ น เมื่อใช้ แสง
 ผ้ ากํามะหยี่ ผ้ าสั กหลาด หรืือยางอัดขึนรู ป สํ าหรั บวางแผ่ นเสี ยง หมุนตาม
                                         ้                                       เลเซอรอานสญญาณดจตลจากแผนแลวแปลงกลบเปนสญญาณ
                                                                                 เลเซอร์ อ่านสั ญญาณดิจิตัลจากแผ่ นแล้ วแปลงกลับเป็ นสั ญญาณ
 เข็มนาฬิ กา                                                                     อนาลอก แล้ วเข้ าสู่ ภาคขยายเสี ยงส่ งออกมาตามลําโพงอีกที
            3. เข็มและหัวกําเนิดสั ญญาณ เป็ นหัวใจของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง
 มีปลายมนทําด้ วยเพชร (Diamond) หิน (Sapphire) เหล็ก (Metal)
                            Diamond) Sapphire)                  Metal)
           4. แขนยึดหัวกําเนิดสั ญญาณ จะมีลกษณะเป็ นแขนยาว และมีจุด
                                                   ั
 รองรับ ความยาวและนํ้าหนักที่กดเข็มต้ องพอดี




                                                                                                                                                               6
8/21/2011




                         โครงสร้ างของแผ่ น                                           วิทยุกระจายเสี ยง (Radio Broadcasting)
                                                                                                               Broadcasting)
โครงสร้ างของแผ่ นแบ่ งออกเป็ น 3 ชั้น คือ                                                   วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งเป็ นสื่ อ อี ก ประเภทหนึ่ ง ที่ เ ข้ า ถึ ง
1. ชั้นบนสุ ด เป็ นพลาสติกปองกันการขีดข่ วน
                                  ้                                            ประชาชนมากที่สุด ทั้งในลักษณะของสื่ อเพื่อการสื่ อสาร สื่ อการศึกษา สื่ อ
2. ชั้นที่สอง เป็ นแผ่ นฟิ ล์ มอะลูมิเนียมบาง ๆ เพือสะท้ อนแสง
                                                    ่                          เพื่อการโฆษณาและประชาชนสั มพันธ์ วิทยุ กระจายเสี ยงก็ยังเป็ นสื่ อที่
   เก็บสั ญญาณเสี ยงหรือข้ อมููล                                               ทนสมยอยูเสมอ เรื่องน่ าร้ เกยวกบวทยุกระจายเสยงในประเทศไทย
                                                                               ทันสมัยอย่    เรองนารู กียวกับวิทยกระจายเสี ยงในประเทศไทย
                                                                                                           ่
3. ชั้นสุ ดท้ าย เป็ นชั้นที่โปร่ งใสเพือปองกันแผ่ นดิสก์ และเป็ นที่รวม
                                        ่ ้
   แสงเลเซอร์




        ลักษณะพิเศษของสื่ อวิทยุกระจายเสี ยง                                                     บทบาทของวิทยุกระจายเสี ยง
       1. ความรวดเร็วในการถ่ ายทอดเหตุการณ์                                           1. ทางด้ านเศรษฐกิจ รายได้ ส่วนใหญ่ ได้ จากภาคธุ รกิจให้ ผลตอบแทน
       2. สื่ อวิทยุกระจายเสี ยงครอบคลุมขอบเขตของการ                       แก่ ห น่ ว ยงานรั ฐ เป็ นรายปี เป็ นสถานี เ พื่ อ การค้ า อย่ า งสมบู ร ณ์ ยกเว้ น สถานี
          กระจายเสี ยงที่กว้ างขวาง                                        วิทยุกระจายเสี ยงของกรมประชาสั มพันธ์ และของมหาวิทยาลัยบางแห่ งเท่ านั้นที่
       3. เป็ นสื่ อที่มีราคาถก
                              ู                                            กฎหมายไม่ อนุุญาตให้ มีการโฆษณารายการวิทยุุกระจายเสี ยงทางเศรษฐกิจ
       4. วิทยุกระจายเสี ยงเป็ นสื่ อที่มีพลังทั้งทางด้ านการนําเสนอ
                                                                                    2. ทางด้ านการเมือง ช่ วยให้ ผ้ ูฟังได้ รับทราบข่ าวสารทางการเมือง โดย
          ข่ าวสารและสร้ างแรงจูงใจให้ เกิดขึน ทั้งในทางบวกและลบ
                                               ้
                                                                             ปัจจุบันวิทยุกระจายเสี ยงมีเสรีภาพในการเสนอข่ าวสารและสามารถวิพากษ์
       5. สร้ างจินตนาการหรือความคิดสร้ างสรรค์ ได้ ดี จากการฟัง
                                                                             วิจารณ์ รัฐบาได้ มากกว่ าแต่ ก่อน ผู้จัดรายการมีสิทธิและเสรี ภาพมากขึน ้
          รายการและคิดตามได้ อย่ างอิสระ นําไปสู่ ความคิดเชิงสร้ างสรรค์




    3. ทางด้ านการศึกษา                                                                  การใช้ วทยุกระจายเสี ยงเพือการจูงใจ
                                                                                                 ิ                 ่
       1. รายการวิทยุโรงเรียน เพือโรงเรียนที่อยู่ห่ างไกล
                                 ่
       2. รายการการศึกษานอกโรงเรียนทางวิทยุและไปรษณีย์                         1. การใช้ วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งในรู ป แบบของสปอตโฆษณา โดยเน้ น การ
       3. รายการสอนของมหาวิทยาลัยเปิ ด                                         นําเสนอประเด็นหลัก ๆ เพือกระตุ้นให้ มีพฤติกรรมในเรื่องที่พงประสงค์
                                                                                                          ่                                   ึ
       4. รายการส่ งเสริมการเกษตร                                              2. การใช้ รายการวิทยุสัมภาษณ์ ผ้ ูที่ประสบผลสํ าเร็ จนํามาออกอากาศ เป็ น
       5. รายการเกียวกับสุ ขภาพอนามัย
                    ่                                                          การดึงดดใจให้ ผ้ฟังปฏิบัติตามผ้ ที่ประสบผลสํ าเร็จ
                                                                               การดงดูดใจใหผู งปฏบตตามผู ประสบผลสาเรจ
     4. ทางด้ านโฆษณาชวนเชื่อ สร้ างภาพลักษณ์                                  3. การใช้ ร ายการวิทยุ ร่วมกับสื่ อ อื่น เช่ น สิ่ งพิมพ์ การสาธิ ตทดลองใน
       เป็ นการโฆษณาขายสิ นค้ า ขายความเชื่อ                                   ชุ มชนของกลุ่มเปาหมาย
                                                                                                  ้
  ถือ สร้ างภาพลักษณ์ ที่ดี ให้ หน่ วยงานและ
  องค์ กร




                                                                                                                                                                         7
8/21/2011




         คุณสมบัตของสื่ อประเภทเครื่องเสี ยง
                 ิ                                                                                               อ้ างอิง
        1. ข้ อดีของสื่ อเสี ยง คือ ให้ ข่าวสารที่รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ผู้ฟัง   จริยา เหนียนเฉลย,, เทคโนโลยีการศึกษา , ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ, 2540
                                                                                            นเฉลย                                             เทพ,
สามารถสร้ างจินตนาการจากการฟังได้ เป็ นสื่ อที่ลงทุนน้ อย ค่ าใช้ จ่ายถูก       โสพล มีเจริญ, เอกสารประกอบการสอนวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา , ภาควิชา
                                                                                     ครุศาสตร์ เทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ อตสาหกรรม , 2540
                                                                                                                             ุ
และเข้ าถึงประชาชนได้ มาก ครอบคลุมพืนที่ได้ กว้ างขวางแม้ ในชนบทที่
                                             ้                                  นิพนธ์ ศุขปรีด,ี การใช้ เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา , ไทยวัฒนาพานิช , 2537
หางไกล การสอสารดวยเสยงกสามารถเขาถงไดโดยงาย
ห่ างไกล การสื่ อสารด้ วยเสี ยงก็สามารถเข้ าถึงได้ โดยง่ าย                     ณรงค์์ สมพงษ์์ , สืื่อเพืองานส่่ งเสริิมเผยแพร่่ , งานการพิมพ์์ฝ่ายสืื่อการศึึกษา
                                                                                                         ื่                                ิ
         2. ข้ อจํากัดของสื่ อเสี ยง คือ ผู้ฟังไม่ เห็นสี สันหรือภาพเคลือน
                                                                        ่              สํานักส่ งเสริมและฝึ กอบรม , 2538
ไหว ได้ ยินแต่ เสี ยง บางครั้งเสี ยงที่ได้ ยินอาจจะทําให้ สับสนหรือไม่ ตรงกับ   เอกสารการสอน ชุดวิชา การผลิตสื่อเพือการประชาสัมพันธ์ , หน่ วยที่ 5 การ
                                                                                                                          ่
                                                                                     ประชาสัมพันธ์ . สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ , สํานักพิมพ์ มสธ. 2540..
                                                                                                                                             มสธ. 2540
ข้ อเท็จจริงได้ ถ้ าเป็ นระบบวิทยุคลืนวิทยุ อาจจะถูกรบกวนด้ วยสภาพ
                                       ่
ของอากาศที่แปรปรวน ทําให้ การนําคลืนวิทยุไม่ ดี
                                              ่




                                                                                                                                                                           8

More Related Content

What's hot

เทคนิคการสร้าง Value proposition canvas
เทคนิคการสร้าง Value proposition canvasเทคนิคการสร้าง Value proposition canvas
เทคนิคการสร้าง Value proposition canvasRatchakrit Klongpayabal
 
พันธุศาสตร์ประชากร
พันธุศาสตร์ประชากรพันธุศาสตร์ประชากร
พันธุศาสตร์ประชากรWan Ngamwongwan
 
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e Ebulioscopia
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e EbulioscopiaPropriedades Coligativas: Tonoscopia e Ebulioscopia
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e EbulioscopiaLenilson Santana de Araujo
 
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์Phattarawan Wai
 
ความเข้มเสียงการได้ยิน
ความเข้มเสียงการได้ยินความเข้มเสียงการได้ยิน
ความเข้มเสียงการได้ยินพัน พัน
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากรWan Ngamwongwan
 
อุตสาหกรรมเซรามิกส์
อุตสาหกรรมเซรามิกส์อุตสาหกรรมเซรามิกส์
อุตสาหกรรมเซรามิกส์Chantana Yayod
 
ระบบนิเวศ (Ecosystem)
ระบบนิเวศ (Ecosystem)ระบบนิเวศ (Ecosystem)
ระบบนิเวศ (Ecosystem)พัน พัน
 
Wcs polymer-120402100823-phpapp01
Wcs polymer-120402100823-phpapp01Wcs polymer-120402100823-phpapp01
Wcs polymer-120402100823-phpapp01Triwat Talbumrung
 
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SE
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SEเริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SE
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SEInnovative Experiment Co.,Ltd.
 
ระบบน้ำเหลือง
ระบบน้ำเหลืองระบบน้ำเหลือง
ระบบน้ำเหลืองWan Ngamwongwan
 
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 2559
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต   2559บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต   2559
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 2559Pinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดPinutchaya Nakchumroon
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนkkrunuch
 
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์NATTAWANKONGBURAN
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมPinutchaya Nakchumroon
 

What's hot (20)

เทคนิคการสร้าง Value proposition canvas
เทคนิคการสร้าง Value proposition canvasเทคนิคการสร้าง Value proposition canvas
เทคนิคการสร้าง Value proposition canvas
 
พันธุศาสตร์ประชากร
พันธุศาสตร์ประชากรพันธุศาสตร์ประชากร
พันธุศาสตร์ประชากร
 
Pop x2 FireBOT present
Pop x2 FireBOT presentPop x2 FireBOT present
Pop x2 FireBOT present
 
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e Ebulioscopia
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e EbulioscopiaPropriedades Coligativas: Tonoscopia e Ebulioscopia
Propriedades Coligativas: Tonoscopia e Ebulioscopia
 
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
เฉลยแบบทดสอบย่อยครั้งที่ 1 เรื่องกล้องและเซลล์
 
ความเข้มเสียงการได้ยิน
ความเข้มเสียงการได้ยินความเข้มเสียงการได้ยิน
ความเข้มเสียงการได้ยิน
 
3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร3พันธุศาสตร์ประชากร
3พันธุศาสตร์ประชากร
 
อุตสาหกรรมเซรามิกส์
อุตสาหกรรมเซรามิกส์อุตสาหกรรมเซรามิกส์
อุตสาหกรรมเซรามิกส์
 
ระบบนิเวศ (Ecosystem)
ระบบนิเวศ (Ecosystem)ระบบนิเวศ (Ecosystem)
ระบบนิเวศ (Ecosystem)
 
ระบบเทคโนโลยี
ระบบเทคโนโลยีระบบเทคโนโลยี
ระบบเทคโนโลยี
 
Wcs polymer-120402100823-phpapp01
Wcs polymer-120402100823-phpapp01Wcs polymer-120402100823-phpapp01
Wcs polymer-120402100823-phpapp01
 
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SE
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SEเริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SE
เริ่มต้นใช้งานชุดกล่องสมองกล IPST-SE
 
The chosen people
The chosen peopleThe chosen people
The chosen people
 
ระบบน้ำเหลือง
ระบบน้ำเหลืองระบบน้ำเหลือง
ระบบน้ำเหลือง
 
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 2559
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต   2559บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต   2559
บทที่ 1 ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต 2559
 
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือดบทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
บทที่ 1 พันธุกรรมกับหมู่เลือด
 
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออนขนาดอะตอมและขนาดไอออน
ขนาดอะตอมและขนาดไอออน
 
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคม และ มนุษย์
 
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรมบทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
บทที่ 15 การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
 
บทนำ
บทนำบทนำ
บทนำ
 

Viewers also liked

ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองาน
ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองานความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองาน
ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองานFair Kung Nattaput
 
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่Ssk Jeenn
 
การนำเสนอPower point
การนำเสนอPower pointการนำเสนอPower point
การนำเสนอPower pointyenny3484
 
การออกแบบการนำเสนอ
การออกแบบการนำเสนอการออกแบบการนำเสนอ
การออกแบบการนำเสนอKriengsak Niratpattanasai
 
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียงเอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียงWijitta DevilTeacher
 

Viewers also liked (7)

ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองาน
ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองานความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองาน
ความหมายและองค์ประกอบการนำเสนองาน
 
การออกแบบสื่อนำเสนอ
การออกแบบสื่อนำเสนอการออกแบบสื่อนำเสนอ
การออกแบบสื่อนำเสนอ
 
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
โครงงาน สื่อวีดิทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่
 
การนำเสนอPower point
การนำเสนอPower pointการนำเสนอPower point
การนำเสนอPower point
 
การออกแบบการนำเสนอ
การออกแบบการนำเสนอการออกแบบการนำเสนอ
การออกแบบการนำเสนอ
 
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียงเอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
เอกสารประกอบการสอนเรื่องเสียง
 
ประเภทของการนำเสนอ
ประเภทของการนำเสนอประเภทของการนำเสนอ
ประเภทของการนำเสนอ
 

More from Worapon Masee

กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อ
กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อกล้องถ่ายภาพผลิตสื่อ
กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อWorapon Masee
 
สื่อการออกแบบ
สื่อการออกแบบสื่อการออกแบบ
สื่อการออกแบบWorapon Masee
 
สื่อกิจกรรม
สื่อกิจกรรมสื่อกิจกรรม
สื่อกิจกรรมWorapon Masee
 
สื่อเสียง Cd
สื่อเสียง Cdสื่อเสียง Cd
สื่อเสียง CdWorapon Masee
 
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศWorapon Masee
 
ภาพยนตร์เบื้องต้น
ภาพยนตร์เบื้องต้นภาพยนตร์เบื้องต้น
ภาพยนตร์เบื้องต้นWorapon Masee
 
ประเภทของสื่อ
ประเภทของสื่อประเภทของสื่อ
ประเภทของสื่อWorapon Masee
 
นิทรรศการ
นิทรรศการนิทรรศการ
นิทรรศการWorapon Masee
 
นิตยสาร
นิตยสารนิตยสาร
นิตยสารWorapon Masee
 
ต้นฉบับงานพิมพ์
ต้นฉบับงานพิมพ์ต้นฉบับงานพิมพ์
ต้นฉบับงานพิมพ์Worapon Masee
 
การวางแผนสื่อ
การวางแผนสื่อการวางแผนสื่อ
การวางแผนสื่อWorapon Masee
 
การเลือกสื่อ
การเลือกสื่อการเลือกสื่อ
การเลือกสื่อWorapon Masee
 
กระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้Worapon Masee
 
โปสเตอร์ แผ่นพับ
โปสเตอร์ แผ่นพับโปสเตอร์ แผ่นพับ
โปสเตอร์ แผ่นพับWorapon Masee
 
โทรทัศน์เบื้องต้น
โทรทัศน์เบื้องต้นโทรทัศน์เบื้องต้น
โทรทัศน์เบื้องต้นWorapon Masee
 

More from Worapon Masee (17)

กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อ
กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อกล้องถ่ายภาพผลิตสื่อ
กล้องถ่ายภาพผลิตสื่อ
 
สื่อการออกแบบ
สื่อการออกแบบสื่อการออกแบบ
สื่อการออกแบบ
 
สื่อกิจกรรม
สื่อกิจกรรมสื่อกิจกรรม
สื่อกิจกรรม
 
สื่อเสียง Cd
สื่อเสียง Cdสื่อเสียง Cd
สื่อเสียง Cd
 
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ภาพยนตร์เบื้องต้น
ภาพยนตร์เบื้องต้นภาพยนตร์เบื้องต้น
ภาพยนตร์เบื้องต้น
 
ประเภทของสื่อ
ประเภทของสื่อประเภทของสื่อ
ประเภทของสื่อ
 
นิทรรศการ
นิทรรศการนิทรรศการ
นิทรรศการ
 
นิตยสาร
นิตยสารนิตยสาร
นิตยสาร
 
ต้นฉบับงานพิมพ์
ต้นฉบับงานพิมพ์ต้นฉบับงานพิมพ์
ต้นฉบับงานพิมพ์
 
การวางแผนสื่อ
การวางแผนสื่อการวางแผนสื่อ
การวางแผนสื่อ
 
การเลือกสื่อ
การเลือกสื่อการเลือกสื่อ
การเลือกสื่อ
 
กระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้
กระบวนการเรียนรู้
 
โปสเตอร์ แผ่นพับ
โปสเตอร์ แผ่นพับโปสเตอร์ แผ่นพับ
โปสเตอร์ แผ่นพับ
 
โทรทัศน์เบื้องต้น
โทรทัศน์เบื้องต้นโทรทัศน์เบื้องต้น
โทรทัศน์เบื้องต้น
 
แฟลช
แฟลชแฟลช
แฟลช
 
Computer network
Computer networkComputer network
Computer network
 

สื่อประเภทเครื่องเสียง

  • 1. 8/21/2011  บทนํา สื่ อประเภทเครื่องเสี ยง  ลักษณะของเสี ยง (Audio Equipment Media) Media)  องค์ ประกอบของคลืนเสี ยง ่ สุ ขุมาภรณ์ ขันธ์ ศรี  ระบบเสี ยง  มิตของเสี ยง ิ  ระบบขยายเสี ยง  วัสดุและครุภณฑ์ เสี ยงทีควรรู้ จก ั ่ ั  คุณสมบัตของสื่ อประเภทเครื่องเสี ยง ิ 1 สิงหาคม 2554 สื่ อประเภทเครื่องเสี ยง ลักษณะของเสี ยง เสี ยงเป็ นพลังงาน : ที่เกิดจากการสั่ นสะเทือนของวัตถุ สื่ อเสี ยงหรือโสตทัศนูปกรณ์ ประเภทเครื่องเสี ยง เป็ นสื่ อที่รับ ทําให้ เกิดคลืนอากาศที่เคลือนที่มากระทบหูของคนเรา เราจึงได้ ยินเสี ยง ่ ่ สั มผัสเพียงมิติเดียวคือ “การฟัง” ใช้ ประสาทสั มผัสของการรั บรู้ นั้น คลืนเสี ยงที่มนุษย์ ได้ ยินจะอยู่ระหว่ าง 16 – 20,,000 เฮิร์ทซ์ ่ 20 คือ หู บางครั้งจะจําแนกเสี ยงที่ได้ ยินว่ าเป็ นเสี ยงอะไรได้ ยาก การฟงทสมบูรณจงจาเปนตองมเครองชวยในการฟง เชน ชุ ด การฟังที่สมบรณ์ จึงจําเป็ นต้ องมีเครื่องช่ วยในการฟัง เช่ น ชด เครื่องขยายเสี ยง วิทยุกระจายเสี ยง เทปบันทึก เสี ยง แผ่ น คอมพิวเตอร์ ดสก์ ิ องค์ ประกอบของคลืนเสี ยง ่ ระบบเสี ยง (Sound System) System) 1. แอมพลิจูด (Amplitude) : ระยะระหว่ างยอดคลืนบนสุ ด Amplitude) ่ เสี ยงได้ มีการจัดระบบเพือให้ ใกล้ เคียงเสี ยงธรรมชาติ จึงได้ มีการ ่ ถึงยอดคลื่นล่ างสุ ด ยอดคลืนสู งเสี ยงจะดัง ยอดคลืนตํ่าเสี ยงจะเบา ่ ่ พัฒนาตามทิศทางที่กาเนิดเสี ยงออกเป็ น 2 ระบบใหญ่ ๆ คือ ํ 2. ความถี่ (Frequency ) : รอบของการสั่ นสะเทือนของคลื่น  1. ระบบเสี ยงแบบทิศทางเดียว (Monophonic Sound System) System) เสี ยงใน 1 วินาที  2. ระบบเสยงแบบหลายทศทาง (S ี ิ Stereophonic S d S h i Sound System) System) 3. ช่ วงคลื่น (Pitch ) : ระยะห่ างระหว่ างยอดคลืนแต่ ละลูก ่ ถ้ ายอดคลื่นมีระยะห่ างน้ อย เสี ยงก็จะมีความถี่มาก ถ้ าระยะห่ าง ระหว่ างยอดคลืนมาก เสี ยงจะมีความถี่น้อย ่ 1
  • 2. 8/21/2011 ประเภทของระบบเสี ยง (Kind of Sound System) System) มิตของเสี ยง (Sound Dimension or Image) ิ Image) ระบบเสียงแบบทิศทางเดียว (Monophonic Sound System) System) มิติหรือทิศทางของเสี ยง คือ จุดที่ผ้ ูฟังสามารถบอกได้ ว่าเสี ยง การจัดระบบเสี ยงที่รวมต้ นกําเนิดเสี ยงทุกชนิดเข้ าด้ วยกัน เช่ น มาจากทิศทางใด และเป็ นเสี ยงของอะไร เสี ยงนั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ หรือ เครื่องขยายเสี ยงชุ ดเดียว แต่ ไมโครโฟนหลายตัวที่ มาจากไมโครโฟนทุก กําลังมีการเคลือนที่ เสี ยงนั้นอยู่ใกล้ หรือไกล ่ ตัวถกขยายและไปออกที่ลาโพงชดเดียวกัน ู ํ ุ มิติของเสี ยงจะทําให้ ผู้ฟังเกิดอารมณ์ หรือความร้ ู สึกคล้ อยตาม เหตุการณ์ ที่เกิดขึนได้ เช่ น การฟังเพลง การฟังละครวิทยุ การดูภาพยนตร์ ้ ระบบเสียงแบบหลายทิศทาง (Stereophonic Sound System) System) ดูโทรทัศน์ ฯลฯ ระบบเสี ยงที่เสมือนว่ าผู้ฟังอยู่หน้ าแหล่ งกําเนิดเสี ยงแต่ ละประเภท นั้นจริง ๆ ผู้ฟังสามารถบอกทิศทางของแหล่ งกําเนิดเสี ยงได้ ระบบสเตริโอ ภาคสั ญญาณเข้ า ภาคขยายสัญญาณ ภาคสั ญญาณออก มีท้ังแบบ 2, 3, 4 และรอบทิศทาง เสมือนว่ าผู้ฟังอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ทําให้ เสี ยงมีมิติ ระบบขยายเสี ยง (Sound Amplifier System) System) กระบวนการในการขยายเสี ยง ภาคแปลงสั ญญาณ ทําหน้ าที่แปลงพลังงานเสี ยงให้ เป็ นพลังไฟฟา ้ การขยายเสี ยง คือทําให้ สัญญาณเสี ยงมีกาลังแรงขึน ํ ้ เพือให้ มีกาลังมากพอที่จะส่ งยังภาคขยายเสี ยงให้ ดงขึน ่ ํ ั ้ ดังขึน และดังพอที่จะได้ ยินอย่ างทั่วถึงในที่ ๆ กว้ าง ้ ภาคขยายเสี ยง ทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณไฟฟาที่แปลงมาจากพลังงาน ้ ระบบขยายเสี ยงประกอบด้ วยส่ วนที่สําคัญ 3 ส่ วน คือ เสี ยงให้ มีกาลังแรงขึน จะมีอุปกรณ์ อยู่ 2 ส่ วน คือ ํ ้ Pre – Amplifier และ Power Amplifier ทําหน้ าที่  1. ภาคแปลงสั ญญาณ ขยาย สั ญญาณเสี ยงและสั ญญาณไฟฟาให้ มีกาลัง ้ ํ  2. ภาคขยายเสี ยง แรงขึน มีหน่ วยวัดเป็ นวัตต์ (Watt) ้ Watt)  3. ภาคกระจายเสี ยง ภาคกระจายเสี ยง ทําหน้ าที่แปลงพลังงานไฟฟาที่ขยายแล้ วให้ กลับ เป็ น ้ พลังงานเสี ยงให้ ได้ ยินอีกครั้ งหนึ่ง แต่ มีเสี ยง ดังกว่ าเก่ า ซึ่งก็คอลําโพงนั่นเอง ื เครื่องขยายเสี ยง (Amplifier) งขยายเสี 2. ภาคขยายเสี ยง (Main Amp or Power Amp) เป็ นวงจรอีเลคทรอนิคส์ ประกอบด้ วย หลอดวิทยุ ทรานซิสเตอร์ ทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณเสี ยงที่แปลงเป็ นพลังงานไฟฟาที่ได้ รับการ ้ หรือไอซี ที่ประกอบขึนเพือทําหน้ าที่ขยายสั ญญาณไฟฟาจากส่ วน ้ ่ ้ ปรับแต่ งแล้ วให้ มีกาลังสั ญญาณแรงมากขึนตามที่ต้องการ ํ ้ Input แบ่ งออกเป็ น 2 ส่ วนคือ 1. ภาคเตรียมขยาย (Pre Amplifier) ทําหน้ าที่ปรับแต่ งสั ญญาณ ภาคเตรยมขยาย ทาหนาทปรบแตงสญญาณ สั ญญาณให้ เหมาะสม 2
  • 3. 8/21/2011 ระบบไฟฟาทีใช้ กบเครื่องเสี ยง ้ ่ ั 3. ภาคสั ญญาณออก (Output Signal) ชนิดของไฟฟา ้ ภาคสั ญญาณออกหรือภาคลําโพง เป็ นคลืนไฟฟาที่ได้ รับการขยาย ่ ้ 1.ไฟฟาสถิต (Static Electricity) ้ ให้ มีกาลังแรงขึนจากเครื่องขยายเสี ยง อาจกล่ าวได้ ว่า ลําโพงทําหน้ าที่ ํ ้ 2. ไฟฟากระแส (Current Electricity) ้ ตรงกันข้ ามกับไมโครโฟน โดยเปลียนพลังงานไฟฟาเป็ นพลังงานเสี ยง ่ ้ - กระแสตรง (Directed Current : DC) ) - กระแสสลับ (Alternating Current : AC) 1. แบบเฟสเดียว (Single Phase) มี 2 เส้ น คือ 1. Line (L) 2. Neutral (N) 2. แบบ 3 เฟส (Three Phase 4 Wires) มี 4 เส้ น สายไฟ 3 เส้ นเป็ น L และอีก 1 เส้ นเป็ น N ชนิดของลําโพง 2. ลําโพงปากแตร ตัวลําโพงจะทําด้ วยเหล็กทุกส่ วน เสี ยงของลําโพง ชนิดนีจะดังมาก และเสี ยงสู ง ส่ วนมากจะใช้ งานสนาม ้ 1. ลําโพงชนิดกรวย ตัวลําโพงเป็ นโครงเหล็กและส่ วนที่สั่นสะเทือน จะเป็ นกระดาษหรือผ้ า แบ่ งออกเป็ น 3 ชนิด คือ 1. ลําโพงเสี ยงทุ้ม (Woofer) ลักษณะของลําโพงในการใช้ งาน 2. ลําโพงเสี ยงกลาง (Midrange) ลาโพงเสยงกลาง 3. ลําโพงเสี ยงแหลม (Tweeter) • ลําโพงใช้ ภายในอาคาร • ลําโพงใช้ ภายนอก • ลําโพงใช้ ภายในและภายนอก อาคาร วัสดุและครุภัณฑ์ เสี ยงทีควรรู้ จัก ่ ไมโครโฟน (Microphone) Microphone) วัสดุและครุ ภัณฑ์ เสี ยงมีมากมายหลายประเภทเพือประสิ ทธิผล ่ ไมโครโฟนเป็ นภาครั บคลื่นเสี ยงและทําหน้ าที่เปลี่ยนสั ญญาณเสี ยง ต่ อการฟัง ถึงแม้ จะเป็ นการฟังเพียงอย่ างเดียวก็ตาม ให้ เป็ นสั ญญาณไฟฟาเพือส่ งไปยังภาคขยายสั ญญาณเสี ยงเบืองต้ น ้ ่ ้ วัสดุและครุ ภัณฑ์ ทางเสี ยง ได้ แก่ 1. ไมโครโฟน (Microphone) Microphone) ประเภทของไมโครโฟน 2. เครื่องบันทึกเสียงและแถบบันทึกเสียง (Tape Recorder and Tape) Tape)  ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้ 3. เครื่องเล่นแผ่ นเสียงและแผ่ นเสียง (Record Player and Records) Records) 4. เครื่องบันทึกเสียงแบบออดิโอคอมแพคดิสค์ (Audio Compact Disc)Disc)  ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรั บเสี ยง 5. วิทยุกระจายเสียง (Radio) Radio)  ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน 3
  • 4. 8/21/2011 ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้ 1. ไมโครโฟนชนิดคาร์ บอน (Carbon Microphone) Microphone) มีผงคาร์ บอนบรรจุอยู่ ไมโครโฟนชนิดนีมีเสี ยงรบกวนมาก ้ ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามวัสดุที่ใช้ มี 6 ชนิด คือ 1. คาร์ บอนไมโครโฟน (Carbon Microphone) Microphone) 2. คริสตัลไมโครโฟน (Crystal Microphone) Microphone) 3. ไดนามิคไมโครโฟน (Dynamic Microphone) ไดนามคไมโครโฟน Microphone) 2. ไมโครโฟนชนิดคริสตัล (Crystal Microphone) ไมโครโฟนชนดครสตล Microphone) 4. ริบบอนไมโครโฟน (Ribbon Microphone) Microphone) ใช้ ระบบการเปลียนรู ปโครงสร้ างภายในผลึกของสารกึงตัวนํา ่ ่ 5. คอนเดนเซอร์ ไมโครโฟน (Condenser Microphone) Microphone) ไมโครโฟนชนิดนีมีความไวน้ อยไม่ ทนทานต่ อความร้ อนและ ้ 6. เซรามิคไมโครโฟน (Ceramic Microphone) Microphone) ความชื้น 3. ไมโครโฟนชนิดไดนามิก (Dynamic Microphone) Microphone) 4. ไมโครโฟนชนิดริบบอน (Ribbon Microphone) Microphone) ภายในมีขดตัวนําไฟฟา (Coil) ติดกับไดอะแฟรม นิยมใช้ กนมาก ้ Coil) ั ใช้ แผ่ นโลหะบาง ๆ พับซ้ อนกันเหมือนริบบิน ทําหน้ าที่แทน ้ เพราะคุณภาพเสี ยงดี ใช้ ง่าย ทนทาน ไดอะแฟรมและขดตัวนําไฟฟา นิยมใช้ ในห้ องบันทึกเสี ยงหรือห้ อง ้ ส่ งวิทยุ – โทรทัศน์ 5. ไมโครโฟนชนิดคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone) Microphone) ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรับเสี ยง แผ่ นโลหะสองแผ่ นทําหน้ าที่เป็ นขั้วไฟฟาสองขั้ว ้ ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามทิศทางการรั บเสี ยง มี 5 ชนิด คือ 1. รับเสี ยงแบบทิศทางเดียว (Unidirectional Microphone) Microphone) 2. รับเสี ยงแบบสองทิศทาง (Bi-directional Microphone) Bi- Microphone) 3. รับเสี ยงแบบคาร์ ดออยด์ (Cardioid Microphone) รบเสยงแบบคารดออยด ิ Microphone) 4. รับเสี ยงแบบซู เปอร์ คาร์ ดออยด์ (Super Cardioid Microphone) ิ Microphone) ขาตั้งไมโครโฟน 5. รับเสี ยงแบบรอบทิศทาง (Omni-directional Microphone) Omni- Microphone) 4
  • 5. 8/21/2011 การกําหนดค่ าอิมพีแดนซ์ ของไมโครโฟน ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน (Impedance) Impedance) ชนิดของไมโครโฟนแบ่ งตามลักษณะการใช้ งาน มี 2 ชนิด คือ อิมพีแดนซ์ : ค่ าความต้ านทานที่เกิดขึนเมื่อมีกระแสไฟฟาสลับ ้ ้ 1. ชนิดมีสาย (Cord line Mic) เป็ นไมโครโฟนที่ต่อสายจากเครื่ อง Mic) ไหลผ่ าน มีหน่ วยเป็ นโอห์ ม (Ohm) Ohm) ขยายเสี ยงได้ โดยตรง ค่ าอิมพีแดนซ์ ในไมโครโฟนมี 2 แบบ คือ 2. ชนิดไร้ สาย (Wireless Mic) เป็ นไมโครโฟนที่ไม่ มีสายต่ อจาก Mic) แบบ High Impedance คือ ค่ าความต้ านทานขาออกในไมโครโฟนสง คอ คาความตานทานขาออกในไมโครโฟนสู ง เครื่ องขยายเสี ยงโดยตรง เมื่อต่ อสายไมโครโฟนยาวขึนจะเกิดเสี ยงรบกวนได้ ง่าย จึงไม่ ้ ไมโครโฟนหนีบเสื้อ ควรต่ อสายยาวเกิน 7.5 เมตร รั บเสี ยงได้ เร็ว 20-60 อิมพีแดนซ์ 20- แบบ Low Impedance คือ ค่ าความต้ านทานขาออกในไมโครโฟนตํ่า สามารถต่ อสายไมโครโฟนให้ ยาวได้ เมื่อต่ อสายยาวจะไม่ มี เสี ยงรบกวน รั บเสี ยงได้ ช้า มีค่า 200-600 อิมพีแดนซ์ 200- ไมโครโฟนหนีบปก หลักการใช้ ไมโครโฟน วิธีการดูแลรักษาไมโครโฟน หลักการใช้ ไมโครโฟนที่ถูกต้ อง มีดังนี้ 1. อย่ าให้ ไมโครโฟนได้ รับการกระทบกระเทือน 1. ควรเลือกใช้ ไมโครโฟนให้ เหมาะสมกับงานและสถานที่ 2. ขณะใช้ งานอย่ าหันหน้ าไมค์ เข้ าหาลําโพง หรืออยู่ใกล้ เกิน 2. ผู้พูดควรยืนห่ างจากไมโครโฟนตามความเหมาะสมไม่ กว่ า 15 ฟุต จะทําให้ เกิดเสี ยงฮัม (Feed back) ใกล้ หรือ ไกล จนเกินไป ใกลหรอ จนเกนไป 3. อย่ าเคาะหรือเป่ าไมโครโฟนเป็ นอันขาด แต่ ให้ ทดลอง 3. ควรพูดห่ างจากไมค์ ในระยะพอสมควร ระดับที่เหมาะสมจะทํา เสี ยงโดยการพูดจะดีที่สุด ให้ ได้ เสี ยงที่ไพเราะชัดเจน 4. ควรตั้งไมโครโฟนให้ อยู่ด้านหลังของลําโพง และอย่ าอยู่ 4. ควรมีผ้าหรือฟองนํ้าปองกันฝุ่ นหรือลม ห่ อหุ้ม ้ ใกล้ จนเกินไป ถ้ าหันลําโพงเข้ าหาไมโครโฟน จะทําให้ 5. ควรเลือกใช้ ไมโครโฟนให้ เหมาะกับงาน เกิดเสี ยงหอน หรือเสี ยงย้ อนกลับได้ เครื่องและแถบบันทึกเสี ยง เครื่องบันทึกเสี ยงแบบม้ วน (Reel to Reel) Reel) (Tape Recorder and Tape) Tape) เครื่ องบั นทึ ก เสี ย งเป็ นสื่ อที่ ใ ช้ ไ ด้ ส ะดวกและให้ สั มฤทธิ ผลทางการ เครื่องบันทึกเสี ยงประเภทนีจะมีอตราเร็วในการบันทึก ้ ั หลายอัตราเพือเลือกให้ เหมาะสมกับงาน อัตราความเร็วใน ่ สื่ อสารได้ ดี ปัจจุบันมีขนาดเล็กมาก พกพาสะดวก ราคาไม่ แพง บันทึกเสี ยงจะวัดเป็ นนิวต่ อวินาที (Inches per Second = ips..) ้ ips เครองบนทกเสยงโดยทวไปม ชนด คอ เครื่องบันทึกเสี ยงโดยทั่วไปมี 3 ชนิด คือ ปจจุบนไมนยมใช ปัจจบันไม่ นิยมใช้ 1. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบม้ วน (Reel to Reel) Reel) 2. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบตลับ (Cassette Tape Recorder) Recorder) 3. เครื่องบันทึกเสี ยงแบบคาร์ ทริจ (Cartridge Tape Recorder) Recorder) 5
  • 6. 8/21/2011 เครื่องบันทึกเสี ยงแบบตลับ เครื่องบันทึกเสี ยงแบบคาร์ ทริจ (Cassette Tape Recorder) Recorder) (Cartridge Tape Recorder) Recorder) จะมีแถบเทปบันทึกเสี ยงจะบรรจุอยู่ในตลับ ซึ่งมีความยาว จะใช้ กับเทปแบบ 8 แถบเสี ยง บรรจุอยู่ในกล่ องพลาสติก หลายขนาด เช่ นขนาด 30 นาที 60 นาที ไปจนถึง 90-120 นาที 90- เป็ นเทปชนิดเล่ นต่ อเนื่องซึ่งใช้ ในรถยนต์ ปัจจุบันเลิกใช้ ไปแล้ ว แผ่ นเสี ยงและเครื่องเล่ น ชนิดของแผ่ นเสี ยง (Records and Record Player) Player) เครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยงและแผ่ นเสี ยงเป็ นแผ่ นที่บันทึกเสี ยงเพลง ชนิดของแผ่ นเสี ยง แบ่ งเป็ น 3 ชนิด คือ เสี ยงธรรมชาติต่าง ๆ ไว้ เพือความบันเทิงและการใช้ งาน บนผิวของแผ่ น ่ 1. แบ่ งตามขนาดร่ องเสี ยง เสี ยงจะทําเป็ นร่ องเสี ยงเล็ก ๆ เรียกว่ าร่ องเสี ยง (Grooves) มีขนาดไม่ Grooves) 2. แบ่ งตามขนาดเส้ นผ่ านศู นย์ กลางของแผ่ นเสี ยง สมาเสมอ บางรองตน ตามสญญาณเสยงทบนทกไว สมํ่าเสมอ บางร่ องตืน ตามสั ญญาณเสี ยงที่บันทึกไว้ ้ 3. แบ่ งตามอัตราการหมุุนของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง บนแท่ น หมุนด้ วย อัตราความเร็วเป็ นจํานวนรอบต่ อนาที (round per minute = rpm.)rpm.) ส่ วนประกอบของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง เครื่องบันทึกเสี ยงแบบออดิโอคอมแพคดิสค์ (Audio Compact Disc) Disc) มีส่วนประกอบที่สําคัญ 4 ส่ วน ดังนี้ คือ เป็ นการบันทึกเสี ยงโดยแปลงสั ญญาณเสี ยงซึ่งเป็ นแบบ 1. ระบบขับให้ แผ่ นเสี ยงหมุน ทําให้ แท่ นวางแผ่นหมุนตามอัตรา ความเร็วที่กาหนดไว้ โดยใช้ มอเตอร์ ํ อนาลอก ไปเป็ นแบบดิจิตัล แล้ วบันทึกลงบนแผ่ น เรียงกันเป็ นรู ปก้ น 2. แท่ นวางแผ่นเสี ยง เป็ นแผ่ นกลมทําด้ วยโลหะ ส่ วนบนจะบุด้วย หอยวนจากใจกลางแผ่ นดิสก์ ออกสู่ ขอบด้ านนอกของแผ่ น เมื่อใช้ แสง ผ้ ากํามะหยี่ ผ้ าสั กหลาด หรืือยางอัดขึนรู ป สํ าหรั บวางแผ่ นเสี ยง หมุนตาม ้ เลเซอรอานสญญาณดจตลจากแผนแลวแปลงกลบเปนสญญาณ เลเซอร์ อ่านสั ญญาณดิจิตัลจากแผ่ นแล้ วแปลงกลับเป็ นสั ญญาณ เข็มนาฬิ กา อนาลอก แล้ วเข้ าสู่ ภาคขยายเสี ยงส่ งออกมาตามลําโพงอีกที 3. เข็มและหัวกําเนิดสั ญญาณ เป็ นหัวใจของเครื่องเล่ นแผ่ นเสี ยง มีปลายมนทําด้ วยเพชร (Diamond) หิน (Sapphire) เหล็ก (Metal) Diamond) Sapphire) Metal) 4. แขนยึดหัวกําเนิดสั ญญาณ จะมีลกษณะเป็ นแขนยาว และมีจุด ั รองรับ ความยาวและนํ้าหนักที่กดเข็มต้ องพอดี 6
  • 7. 8/21/2011 โครงสร้ างของแผ่ น วิทยุกระจายเสี ยง (Radio Broadcasting) Broadcasting) โครงสร้ างของแผ่ นแบ่ งออกเป็ น 3 ชั้น คือ วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งเป็ นสื่ อ อี ก ประเภทหนึ่ ง ที่ เ ข้ า ถึ ง 1. ชั้นบนสุ ด เป็ นพลาสติกปองกันการขีดข่ วน ้ ประชาชนมากที่สุด ทั้งในลักษณะของสื่ อเพื่อการสื่ อสาร สื่ อการศึกษา สื่ อ 2. ชั้นที่สอง เป็ นแผ่ นฟิ ล์ มอะลูมิเนียมบาง ๆ เพือสะท้ อนแสง ่ เพื่อการโฆษณาและประชาชนสั มพันธ์ วิทยุ กระจายเสี ยงก็ยังเป็ นสื่ อที่ เก็บสั ญญาณเสี ยงหรือข้ อมููล ทนสมยอยูเสมอ เรื่องน่ าร้ เกยวกบวทยุกระจายเสยงในประเทศไทย ทันสมัยอย่ เรองนารู กียวกับวิทยกระจายเสี ยงในประเทศไทย ่ 3. ชั้นสุ ดท้ าย เป็ นชั้นที่โปร่ งใสเพือปองกันแผ่ นดิสก์ และเป็ นที่รวม ่ ้ แสงเลเซอร์ ลักษณะพิเศษของสื่ อวิทยุกระจายเสี ยง บทบาทของวิทยุกระจายเสี ยง 1. ความรวดเร็วในการถ่ ายทอดเหตุการณ์ 1. ทางด้ านเศรษฐกิจ รายได้ ส่วนใหญ่ ได้ จากภาคธุ รกิจให้ ผลตอบแทน 2. สื่ อวิทยุกระจายเสี ยงครอบคลุมขอบเขตของการ แก่ ห น่ ว ยงานรั ฐ เป็ นรายปี เป็ นสถานี เ พื่ อ การค้ า อย่ า งสมบู ร ณ์ ยกเว้ น สถานี กระจายเสี ยงที่กว้ างขวาง วิทยุกระจายเสี ยงของกรมประชาสั มพันธ์ และของมหาวิทยาลัยบางแห่ งเท่ านั้นที่ 3. เป็ นสื่ อที่มีราคาถก ู กฎหมายไม่ อนุุญาตให้ มีการโฆษณารายการวิทยุุกระจายเสี ยงทางเศรษฐกิจ 4. วิทยุกระจายเสี ยงเป็ นสื่ อที่มีพลังทั้งทางด้ านการนําเสนอ 2. ทางด้ านการเมือง ช่ วยให้ ผ้ ูฟังได้ รับทราบข่ าวสารทางการเมือง โดย ข่ าวสารและสร้ างแรงจูงใจให้ เกิดขึน ทั้งในทางบวกและลบ ้ ปัจจุบันวิทยุกระจายเสี ยงมีเสรีภาพในการเสนอข่ าวสารและสามารถวิพากษ์ 5. สร้ างจินตนาการหรือความคิดสร้ างสรรค์ ได้ ดี จากการฟัง วิจารณ์ รัฐบาได้ มากกว่ าแต่ ก่อน ผู้จัดรายการมีสิทธิและเสรี ภาพมากขึน ้ รายการและคิดตามได้ อย่ างอิสระ นําไปสู่ ความคิดเชิงสร้ างสรรค์ 3. ทางด้ านการศึกษา การใช้ วทยุกระจายเสี ยงเพือการจูงใจ ิ ่ 1. รายการวิทยุโรงเรียน เพือโรงเรียนที่อยู่ห่ างไกล ่ 2. รายการการศึกษานอกโรงเรียนทางวิทยุและไปรษณีย์ 1. การใช้ วิ ท ยุ ก ระจายเสี ย งในรู ป แบบของสปอตโฆษณา โดยเน้ น การ 3. รายการสอนของมหาวิทยาลัยเปิ ด นําเสนอประเด็นหลัก ๆ เพือกระตุ้นให้ มีพฤติกรรมในเรื่องที่พงประสงค์ ่ ึ 4. รายการส่ งเสริมการเกษตร 2. การใช้ รายการวิทยุสัมภาษณ์ ผ้ ูที่ประสบผลสํ าเร็ จนํามาออกอากาศ เป็ น 5. รายการเกียวกับสุ ขภาพอนามัย ่ การดึงดดใจให้ ผ้ฟังปฏิบัติตามผ้ ที่ประสบผลสํ าเร็จ การดงดูดใจใหผู งปฏบตตามผู ประสบผลสาเรจ 4. ทางด้ านโฆษณาชวนเชื่อ สร้ างภาพลักษณ์ 3. การใช้ ร ายการวิทยุ ร่วมกับสื่ อ อื่น เช่ น สิ่ งพิมพ์ การสาธิ ตทดลองใน เป็ นการโฆษณาขายสิ นค้ า ขายความเชื่อ ชุ มชนของกลุ่มเปาหมาย ้ ถือ สร้ างภาพลักษณ์ ที่ดี ให้ หน่ วยงานและ องค์ กร 7
  • 8. 8/21/2011 คุณสมบัตของสื่ อประเภทเครื่องเสี ยง ิ อ้ างอิง 1. ข้ อดีของสื่ อเสี ยง คือ ให้ ข่าวสารที่รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ ผู้ฟัง จริยา เหนียนเฉลย,, เทคโนโลยีการศึกษา , ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ, 2540 นเฉลย เทพ, สามารถสร้ างจินตนาการจากการฟังได้ เป็ นสื่ อที่ลงทุนน้ อย ค่ าใช้ จ่ายถูก โสพล มีเจริญ, เอกสารประกอบการสอนวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา , ภาควิชา ครุศาสตร์ เทคโนโลยี คณะครุศาสตร์ อตสาหกรรม , 2540 ุ และเข้ าถึงประชาชนได้ มาก ครอบคลุมพืนที่ได้ กว้ างขวางแม้ ในชนบทที่ ้ นิพนธ์ ศุขปรีด,ี การใช้ เครื่องมือเทคโนโลยีการศึกษา , ไทยวัฒนาพานิช , 2537 หางไกล การสอสารดวยเสยงกสามารถเขาถงไดโดยงาย ห่ างไกล การสื่ อสารด้ วยเสี ยงก็สามารถเข้ าถึงได้ โดยง่ าย ณรงค์์ สมพงษ์์ , สืื่อเพืองานส่่ งเสริิมเผยแพร่่ , งานการพิมพ์์ฝ่ายสืื่อการศึึกษา ื่ ิ 2. ข้ อจํากัดของสื่ อเสี ยง คือ ผู้ฟังไม่ เห็นสี สันหรือภาพเคลือน ่ สํานักส่ งเสริมและฝึ กอบรม , 2538 ไหว ได้ ยินแต่ เสี ยง บางครั้งเสี ยงที่ได้ ยินอาจจะทําให้ สับสนหรือไม่ ตรงกับ เอกสารการสอน ชุดวิชา การผลิตสื่อเพือการประชาสัมพันธ์ , หน่ วยที่ 5 การ ่ ประชาสัมพันธ์ . สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ , สํานักพิมพ์ มสธ. 2540.. มสธ. 2540 ข้ อเท็จจริงได้ ถ้ าเป็ นระบบวิทยุคลืนวิทยุ อาจจะถูกรบกวนด้ วยสภาพ ่ ของอากาศที่แปรปรวน ทําให้ การนําคลืนวิทยุไม่ ดี ่ 8