ตัวกลางของการสื่อสาร
ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
นายเผ่า พันธโคตร
นายคุณากร ธนที
ตัวกลางของการสื่อสาร
ตัวกลางของการสื่อสารใน
เครือข่ายคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อระหว่าง
อุปกรณ์เครือข่ายเข้าด้วยกัน โดยทา
หน้าที่เป็นอุปกรณ์ที่ให้ข้อมูลเดิน
ทางผ่านจากผู้ส่งไปยังผู้รับ
ตัวกลางของการสื่อสาร
แบนด์วิดธ์ (bandwidth) คือ ค่าที่ใช้ใน
การวัดความเร็วในการส่งข้อมูลซึ่งจะวัดความเร็ว
ของการส่งข้อมูลเป็น bps (bit per second)
ตัวกลางของการสื่อสาร
ตัวกลางแบบมีสาย ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
ตัวกลางแบบมีสาย
สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair : TP) ประกอบด้วย
เส้นลวดทองแดงหุ้มด้วยฉนวนพลาสติก 2 เส้นพัน
เป็นเกลียว เพื่อลดผลกระทบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
จากคู่สายข้างเคียง
ตัวกลางแบบมีสาย
Shielded Twisted Pair : STP เป็นสายคู่บิดเกลียว
ที่หุ้มด้วยลวดถักชั้นนอกอีกชั้นเพื่อป้องกันการรบกวน
ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า นิยมใช้ในสถานที่ที่มี
สัญญาณรบกวนสูง แต่สายชนิดนี้มีราคาแพง
สายคู่บิดเกลียวแบบป้องกันสัญญาณรบกวน
ตัวกลางแบบมีสาย
Unshielded Twisted Pair : UTP เป็นสายคู่บิด
เกลียวที่ไม่มีลวดถักชั้นนอกทาให้สะดวกในการ
เดินสายเพราะโค้งงอได้ดี แต่ป้องการรบกวนได้น้อย
มีราคาต่า นิยมใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่าย
ทั่วไป เช่น การเดินสายเชื่อมต่อ
สายคู่บิดเกลียวแบบไม่ป้องกันสัญญาณรบกวน
ตัวกลางแบบมีสาย
สายโคแอกซ์หรือสายแกนร่วม ( coaxial
cable) เป็นสายสัญญาณที่มีสายทองแดงเดี่ยวเป็น
แกนกลาง หุ้มด้วยฉนวนเพื่อป้องกันไฟรั่ว จากนั้น
หุ้มด้วยลวดทองแดงถักเป็นร่างแห เป็นตัวกั้น
สัญญาณรบกวน และหุ้มชั้นนอกด้วยพลาสติก
ตัวกลางแบบมีสาย
ข้อดี ฉนวนภายนอกมีความคงทนต่อการใช้งาน
สูง และเป็นช่องสื่อสารที่มีความกว้างมาก
ข้อเสีย ขนาดค่อนข้างใหญ่และน้าหนักมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับสายคู่บิดเกลียว
ตัวกลางแบบมีสาย
สายไฟเบอร์ออปติก หรือ เคเบิลใยแก้วนาแสง
(fiber optic cable) ทาจากแก้วหรือพลาสติกที่มี
ความบริสุทธิ์สูง ใช้แสงในการสื่อสารข้อมูลทาให้
คลื่นแม่เหล็กไม่สามารถรบกวนได้ โดยแกนกลาง
ของสายจะประกอบด้วยเส้นใยแก้วหรือพลาสติก
ขนาดเล็กๆ รวมกัน เส้นใยแก้วแต่ละเส้นมีขนาดเล็ก
เท่ากับเส้นผมภายในกลวง
แกนกลาง
ตัวหุ้มที่เรียกว่าแคล็ดดิง
(cladding)
ปลอกหุ้มกันกระแทก
ปลอกหุ้มภายนอก
ตัวกลางแบบมีสาย
ข้อดี
- ส่งข้อมูลได้มากกว่า 1 กิกะบิตต่อวินาที
- ความผิดพลาดต่า ไม่ถูกรบกวนจากคลื่นไฟฟ้า
- มีขนาดเล็กน้าหนักเบา
ข้อเสีย
- ราคาแพง ติดตั้งยาก
- เนื่องจากการบิดงอของสายจะทาให้เส้นใยหัก ใช้ตามมุมตึกได้ยาก
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
คลื่นวิทยุ (radio wave) คือ คลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่อยู่ในช่วง 10
กิโลเฮิรตซ์ ถึง 1 กิกะเฮิรตซ์ ใช้ในการ
สื่อสารในระบบแลนไร้สาย
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
ข้อดี สามารถส่งข้อมูลได้แบบไร้สายและสร้างเครือข่ายได้กว้างไกล การ
ติดตั้งไม่ยุ่งยากเนื่องจากใช้อุปกรณ์น้อย
ข้อเสีย ความปลอดภัยของผู้มูลมีน้อย อาจถูกรบกวนจากคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าและสภาพภูมิอากาศต่างๆ
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
คลื่นไมโครเวฟ (microwave) คือ คลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงกว่าคลื่นวิทยุ มีการ
นามาใช้แบบสื่อสารระหว่างสถานีบนพื้นโลก และใช้
สื่อสารระหว่างสถานีบนพื้นโลกกับดาวเทียม ส่ง
ข้อมูลโดยอาศัยสัญญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็น
เส้นตรงไม่สามารถเลี้ยวหรือโค้งตามของโลกได้ จึง
ต้องมีสถานีรับส่งเป็นระยะ
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
ข้อดี
- ไม่มีปัญหาเรื่องวางสายเคเบิล
- นิยมใช้ในเครือข่ายไม่ไกล
ข้อเสีย
- ค่าติดตั้งเสาและจานส่งมีราคาแพง
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
อินฟราเรด (infrared) คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่
มีความถี่สูงกว่าไมโครเวฟแต่ต่ากว่าความถี่ของแสงที่
ตามนุษย์มองเห็น ใช้กับการสื่อสารข้อมูลที่ไม่มีสิ่งกีด
ขวาง ระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง โดยทั่วไปมักใช้ในการ
สื่อสารระยะใกล้ไม่เกิน 10 เมตร เช่น รีโมทควบคุม
อุปกรณ์ต่างๆ
ตัวกลางนาสัญญาณไร้สาย
ข้อดี สร้างได้ง่าย ราคาถูก และมีความ
ปลอดภัยในการส่งข้อมูลดีกว่าคลื่นวิทยุ
ข้อเสีย ไม่สามารถผ่านวัตถุทึบแสงได้
เกร็ดความรู้
หน่วยวัดความเร็วในการรับส่งข้อมูล
 บิตต่อวินาที (bit per second: bps)
 กิโลบิตต่อวินาที (kilobit per second: kbps)
 เมกะบิตต่อวินาที (megabit per second: Mbps)
 กิกะบิตต่อวินาที (gigabit per second: Gbps)
1 kbps = 1,000 bps
1 Mbps = 1,000,000 bps
1 Gbps = 1,000,000,000 bps

สื่อการเรียน เรื่อง ตัวกลางของการสื่อสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์