More Related Content
Similar to ศิลปะพระพุทธรูปสมัยอยุธยา
Similar to ศิลปะพระพุทธรูปสมัยอยุธยา (6)
More from Padvee Academy (20)
ศิลปะพระพุทธรูปสมัยอยุธยา
- 2. ๑ • ศิลปะสมัยอยุธยา - อู่ทอง ๑
๒ • ศิลปะสมัยอยุธยา - อู่ทอง ๒
๓ • ศิลปะสมัยอยุธยา - สุพรรณภูมิ
๔ • ศิลปะสมัยอยุธยา - สุโขทัย
๕ • ศิลปะสมัยอยุธยา - ปราสาททอง
๖ • ศิลปะสมัยอยุธยา - บ้านพลูหลวง
- 4. การที่พระพุทธรูปศิลปะอยุธยารับอิทธิพลศิลปะอู่ทองมาเป็ น
แม่แบบ ทาให้พระพุทธรูปศิลปะอยุธยาตอนต้นคล้ายศิลปะอู่ทอง
เป็ นอย่างมาก และหากจะกล่าวอย่างชัดเจนแล้วพระพุทธรูปศิลปะ
อยุธยาตอนต้นก็คือศิลปะสกุลช่างอู่ทองนั้นเอง
พระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยา-อู่ทอง ๑ มีอายุเริ่มตั้งแต่สมัย
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ถึงสมัยสมเด็จพระราม
ราชาธิราช ซึ่งเป็นช่วงก่อตัวของศิลปะอยุธยา โดยรับอิทธิพลศิลปะอู่
ทองมาเป็ นแม่แบบ และรับอิทธิพลศิลปะสุโขทัยและศิลปะล้านนา
เข้ามาผสมผสานบ้างเล็กน้อย
- 6. พระพุทธปรางห้ามญาติ ศิลปะสมัย
อยุธยา-อู่ทอง ๑ แสดงรูปแบบ
ศิลปะที่ได้รับอิทธิพลศิลปะอู่ทอง
โดยตรง โดยมีพระพักตร์ (ใบหน้า)
ที่คล้ายมนุษย์มาก มีพระเนตร (ตา)
แบบตาเนื้อ พระนาสิก (จมูก) แบน
พระหัตถ์ (มือ) ใหญ่ และพระองคุลี
(นิ้วมือ) กางออก ซึ่งเป็ นพุทธ
ลักษณะเด่นของพระพุทธรูปสมัยนี้
- 7. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัย
อยุธยา -อู่ทอง ๑ ตอนต้น แสดงสาย
วิวัฒนาการทางศิลปะที่ปรับเปลี่ยนไป
นับตั้งแต่รูปแบบเปลวรัศมี เม็ดพระศก รูป
พระพักตร์ การครองจีวรเปลี่ยนจากห่ม
คลุมเป็ นห่ มเฉียง และรูปแบบสาย
รัดประคดที่หยักกลางเล็กน้อย ส่วนรูป
พระหัตถ์ก็ยังคงมีขนาดใหญ่และมีพระ
องคุลี (นิ้วมือ) ขวากางออกเช่นเดิม
- 8. พระพุทธรูปแผ่ นทองคาดุน
ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอยุธยา-
อู่ ทอง ๑ ตอนต้ น พบที่ กรุ
พ ร ะ ป ร า ง ค์ วั ด ร า ช บู ร ณ ะ
พระนครศรี อยุธยา มีพุทธ
ลักษณะเด่นคือที่แถบไรพระศกมี
เม็ดไข่ปลาขนาดเล็กวางเรียง
แบบพระพุทธศิลปะชัยปราการ
พระพุทธรูปองค์นี้มีพุทธลักษณะ
ที่งดงามมากองค์หนึ่ง ปัจจุบันจัด
แสดงอยู่ ที่ พิพิธภัณฑสถาน
แห่งชาติเจ้าสามพระยา จังหวัด
พระนคร-ศรีอยุธยา
- 13. พระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยา-อู่ทอง ๒ สกุลช่างอยุธยา กาเนิด
ในสมัยสมเด็จพระนครินทราธิราช (พ.ศ.๑๙๕๑-๑๙๖๗) โดยสืบต่อ
รูปแบบศิลปะจากสมัยอยุธยา-อู่ทอง ๑ แต่อิทธิพลของศิลปะอู่ทอง
ได้ลดความรุนแรงลงแล้วรับอิทธิพลศิลปะสุโขทัยเข้ามาผสมผสาน
ร่วมศิลปะมากขึ้น
- 14. ดังนั้นพระพุทธรู ปศิลปะสมัย
อยุธยา-อู่ทอง ๒ สกุลช่างอยุธยา จึง
มีพุทธลักษณะคล้ายศิลปะสุโขทัย
มากขึ้น โดยเฉพาะรูปพระพักตร์
เริ่มพัฒนาเป็นวงรี พระวรกาย เริ่ม
ยืดโปร่งขึ้น และลักษณะการหุบพระ
องคุลี (นิ้วมือ) รวมทั้งลักษณะการ
วางพระหัตถ์ ซ้ ายที่ ขนานกับ
พระเพลา (ตัก)
- 16. มีพระวรกายทรงกระบอก
ครองจีวรห่มเฉียง มีสายรัดประคด
ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ชายสังฆาฏิมีขนาดใหญ่ ด้านยาว
จรดพระนาภี (หน้าท้อง)
มักประทับนั่งขัดสมาธิราบ แสดง
ปางมารวิชัยบนฐานหน้ากระดาน
ทรงสูง โดยฐานหน้าแอ่นแล้วเว้า
เข้าใน
- 17. พระพุทธศิลปะสมัยอยุธยา-อู่ทอง ๒
สกุลช่างสุโขทัย กาเนิดในสมัยสมเด็จ
พระบรมราชาธิราชที่ ๒ (พ.ศ. ๑๙๖๗-
๑๙๙๑) สืบต่อมาจากสกุลช่างอยุธยา
แต่ รั บอิท ธิพลศิลปะสุ โ ขทั ยมา
ผสมผสานมากขึ้น ทาให้พระพุทธรูปมี
พระพักตร์ค่อนเป็ นรูปไข่คล้ายศิลปะ
สุ โ ขทั ยตอ น ปลาย โ ดยเ ฉ พา ะ
พระพุทธรูปที่สร้างโดยพระนางมหาเทวี
ที่เรียกว่า “เจ้าแม่” พระพักตร์จะมี
ลักษณะคล้ายหน้านาง
- 18. สกุลช่างสุโขทัย แบบหน้านาง รับ
อิทธิพลศิลปะสุโขทัยอย่างเต็มที่
มีพระพักตร์เป็นทรงรีรูปไข่
มีไรพระศกโค้งตามแนวพระขนง (คิ้ว)
มีขอบพระกรรณด้านบนตวัด
เล็กน้อย
พระวรกายสูงโปร่ง
มีพระองคุลีจีบเข้าหากันแบบศิลปะ
สุโขทัย
ชายสังฆาฏิปลายตัดตรงหรือเป็นลาย
เขี้ยวตะขาบชั้นเดียว
- 23. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะ
อยุธยา-สุพรรณภูมิตอนต้น ยังยึด
ติดรูปแบบกึ่งอนุรักษ์อยู่ มีรูปพระ
พักตร์ที่ยาวรีคล้ายผลฟัก มีขอบ
พระพักตร์หรือไรศก พระขนงที่โก่ง
มาก พระนาสิกยาว พระโอษฐ์เล็ก
เป็ นรูปกระจับ เน้นขอบพระโอษฐ์
ด้านบน และรูปแบบการวางพระ
หัตถ์ ซึ่งเป็ นรูปแบบของศิลปะ
อยุธยาอย่างเด่นชัด
สมัยตอนต้น
41
- 24. ศิลปะสมัยนี้รับอิทธิพลช่างสกุล
ต่างๆ เข้ามาร่วมศิลปะ เช่น มีเม็ด
พระศกกลมเล็กคล้ายเม็ดไข่ปลา
วางเรียงเป็ นระเบียบแบบศิลปะ
เมืองน่าน มีรูปพระพักตร์ แบบ
สุโขทัย มีพระวรกายล่าสั่นแบบ
ศิลปะเชียงแสน มีชายสังฆาฏิแบบ
อยุธยา พระหัตถ์ขวาวางบนปลาย
พระชานุ แบบเชียงแสน ฯ
สมัยตอนกลาง
พิมพ์ขนมต้มอยุธยา
45
- 25. ศิลปะสมัยนี้ นับเป็นความสาเร็จขั้นต้นของการสร้างสรรค์เอกลักษณ์
ศิลปะอยุธยา โดยพระพุทธรูปจะมีพุทธลักษณะดังนี้
มีพระรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง คล้ายกาบปลีวางซ้อนกัน แต่บางองค์จะมี
รัศมีเป็นรูปดอกบัวตูม
ขมวดพระเกศาเป็นรูปก้นหอยจุ๊บแจง แต่บางองค์ก็มีเม็ดพระศกแหลม
คล้ายหนามขนุน
มีพระพักตร์ (หน้า) ยาวรีเป็นรูปไข่ดูอิ่มเอิบแบบสุโขทัย
พระขนงโก่งจรดกันที่สันพระนาสิก
พระเนตร เหลือบต่า มีเปลือกพระเนตรหนา ตวัดปลายแบบตาหงส์ ฯ
สมัยตอนปลาย
- 29. เศียรพระพุทธรูปทรงเครื่ อง
ศิลปะอยุ ธยา - สุ พร ร ณภู มิ
ตอนกลาง เป็นเคียรพระพุทธรูป
ที่งดงามมาก ถึงแม้ว่าจะยังคง
รูปแบบศิลปะสุโขทัยอยู่แต่ก็
แสดงเอกลักษณ์ ของศิลปะ
อยุธยาขั้นปฐมบ้างแล้ว
สมัยตอนกลาง
82
- 30. พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางห้าม
สมุทร ศิลปะสุพรรณภูมิตอนปลาย
มีเนื้อโลหะและการหล่อแบบศิลปะ
สกุลช่างสุโขทัยหมวดกาแพงเพชร
แต่ก็แสดงเอกลักษณ์ศิลปะอยุธยา
เต็มที่แล้ว โดยเฉพาะลักษณะกรอง
ศอแบบปกเสื้อขนาดใหญ่ สังวาล
ห้อยยาวลงมา โดยส่วนปลายห้อย
ทับทรวงรู ปกระจับที่ ตกแต่ ง
ลวดลายภายใน
สมัยตอนปลาย
83
- 31. พระพุทธรูปสมัยนี้ ยังคงสืบต่อศิลปะสมัยอยุธยา-อู่ทอง ๒ แต่
ค่อนข้างจะมีรูปแบบหลากหลาย โดยในช่วงต้นจะมีรูปแบบกึ่ง
อนุรักษ์ จาลองรูปแบบศิลปะสุโขทัย ต่อมาในช่วงตอนกลางจะมี
รูปแบบร่วมสมัยหรือร่วมศิลปะ เป็นการนาเอาเอกลักษณ์ของแต่ละ
ศิลปะที่เห็นว่ามีความงดงามมาหล่อหลอมเข้าด้วยกัน เช่น
พระพุทธรูป “พิมพ์ขนมต้มอยุธยา” ต่อมาในช่วงปลายพระพุทธรูปก็
เริ่มแสดงเอกลักษณ์ของศิลปะอยุธยา เป็นศิลปะอยุธยาขั้นปฐม และ
สมัยนี้ก็เป็นสมัยแรกที่เริ่มสร้างพระพุทธรูปทรงแบบทรงเครื่อง
- 34. พระพุทธรูปทรงจีวรเรียบ ปางมาร
วิชัย สร้างในสมัยสมเด็จพระมหา
ธรรมราชา เป็นพระพุทธรูปศิลปะ
สมัยอยุธยาที่มีเอกลักษณ์เป็นของ
ตนเอง ประทับนั่งบนฐานสูงที่
ตกแต่งลวดลายอย่างมากมายตาม
ตานานพุทธประวัติ เรื่องพญามาร
ผจญและพระแม่ธรณีบิดมวยผม
เป็นศิลปะร่วมสมัยกับศิลปะพม่า
สมัยอังวะ
- 35. พระพุทธรูปสมัยนี้ ยังคงสืบต่อศิลปะสมัย
อยุธยา-สุพรรณภูมิ แต่ในช่วงต้นจะรับ
อิทธิพลศิลปะพม่าเข้ามาผสมผสาน
สังเกตการตกแต่งฐานพระพุทธรูป ต่อมา
ในช่วงปลาย ก็รับอิทธิพลศิลปะสุโขทัย
มากขึ้น โดยพระพุทธรูปจะมีลักษณะคล้าย
ศิลปะสุโขทัย เช่น มีพระอุระ (อก) หนา
บั้นพระองค์ (เอว) เล็ก พระโสณี (สะโพก)
ใหญ่ และกลับมานิยมพระเนตรแบบตา
หงส์อีกครั้งหนึ่ง
- 43. พระพุทธรูปสมัยนี้ แม้จะสืบต่อศิลปะสมัยอยุธยา-สุโขทัย แต่ก็
เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด โดยสมัยนี้ได้สร้างสรรค์
พระพุทธรูปแบบทรงเครื่องใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งยังสร้างสรรค์ฐาน
พระพุทธรูปให้มีทรวดทรงสูงขึ้นและมีความวิจิตรอลังการประดับ
ตกแต่งลวดลายอย่างมากมาย
ดังนั้นการสร้างสรรค์พระพุทธรูปสมัยนี้ จึงหลุดพ้นจากแบบแผน
ดั้งเดิมที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมา และก็ได้เป็ นต้นแบบของศิลปะ
อยุธยาบริสุทธิ์ในสมัยต่อมาด้วย
- 45. ราชวงศ์บ้านพลูหลวง นับเป็ นราชวงศ์สุดท้าย ที่มีอานาจ
ปกครองอยุธยา ก่อนที่จะถูกพม่าปล้นสะดมเผาทาลาย
ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. ๒๒๗๕-๒๓๑๐) งาน
ศิลปกรรมเกือบทุกแขนงได้รับยกย่องให้เป็น “ศิลปะอยุธยาบริสุทธิ์”
พระพุทธรูปสมัยอยุธยา-บ้านพลูหลวงได้พัฒนาสืบต่อจากสมัย
อยุธยา-ประสาททอง ฉะนั้นจึงมีรูปแบบศิลปะค่อนข้างคลายคลึงกัน
ทั้ง ๓ แบบ คือแบบทรงเครื่องใหญ่ แบบทรงจีวรเรียบ และแบบ
ทรงเครื่องน้อย
- 51. พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะ
บ้ าน พลู หลวงต อน กลาง มี
ลักษณะงดงามและค่อนข้างหา
ยาก เพราะมีขนาดเล็กและหล่อ
ด้วยสาริด มีสภาพสมบูรณ์ ฐาน
พ ร ะ พุ ท ธ รู ป แ ล ะ รู ป อ ง ค์
พระพุทธรูปสามารถแยกถอด
ออกจากกันได้
- 55. สมัยนี้ศิลปกรรมแขนงต่างๆ ได้รับการพัฒนามากที่สุด
โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ศิลปกรรมแขนง
ต่างๆ ได้รับการยกย่องให้เป็น “ศิลปะอยุธยาบริสุทธิ์” เป็นศิลปะแห่ง
ชนชาติไทยอย่างแท้จริง และเป็นแม่แบบให้แก่ศิลปะไทยสมัยต่อมา
พระพุทธรูปสมัยนี้มีความงามเป็ นเลิศทั้งส่วนองค์พระพุทธรูป
และฐานพระพุทธรูปซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างอลังการวิจิตรประณีต
สวยงาม แสดงเอกลักษณ์ความเป็ นไทยอย่างชัดเจนโดยเฉพาะพระ
พักตร์จะมีลักษณะคล้ายใบหน้ามนุษย์มาก ซึ่งอาจจะเป็นเค้าใบหน้า
ของบรรพบุรุษคนไทยก็เป็นได้