ดิน
- 3. ดิน (Soil)ดิน (Soil)
ดิน (Soil) คือ วัตถุ
ธรรมชาติที)ปกคลุมผิวโลกอยู่
บางๆ เกิดขึ8นจากผลของการ
3
ธรรมชาติที)ปกคลุมผิวโลกอยู่
บางๆ เกิดขึ8นจากผลของการ
แปรสภาพหรือผุพังของหิน
และแร่ และอินทรียวัตถุผสม
คลุกเคล้ากัน
- 17. ประเภทของดิน (ตามความลึก)ประเภทของดิน (ตามความลึก)
ดินชั8นบน ดินชั8นล่าง
1. ดินนับจากผิวดินจนถึงดินที)ลึก
ประมาณ 20 เซนติเมตร
1. ดินที)อยู่ลึกกว่า 20 เซนติเมตร
ขึ8นไปประมาณ 20 เซนติเมตร ขึ8นไป
2. ดินที)มีสารอินทรีย์สะสมมากทําให้
ดินมีสีคลํ8า
2. ดินที)มีสารอินทรีย์สะสมน้อยทํา
ให้ดินมีสีจาง
3. เม็ดดินมีขนาดโต ทําให้ช่องว่าง
ระหว่างเม็ดดินมีขนาดใหญ่นํ8า
และอากาศผ่านสะดวก
3. เม็ดดินมีขนาดเล็ก ทําให้ช่องว่าง
ระหว่างเม็ดดินมีขนาดเล็กนํ8า
และอากาศผ่านยาก
17
- 18. ประเภทของดิน (ตามความลึก)ประเภทของดิน (ตามความลึก)
1. ดินชั!นบน มีสารอินทรีย์มาก จึงทําให้ สีเข้ม เนื*อ
ดินหยาบ เม็ดดินมีขนาดใหญ่ เมื4อนําไป ละลายนํ*า
เกิดตะกอนเป็นเศษกิ4งไม้ใบไม้ซากแมลงอยู่ข้างบน
เนื*อดินตกตะกอนอยู่ข้างล่างและตกตะกอนช้า อาจ
มีเศษกิ4งไม้ใบไม้และซากสัตว์บ้างเล็กน้อยมีเศษกิ4งไม้ใบไม้และซากสัตว์บ้างเล็กน้อย
2. ดินชั!นล่าง มีสารอินทรีย์น้อยกว่าดินชั*นบน จึง
ทําให้มีสีอ่อน เนื*อดินละเอียด เม็ดดินมีขนาดเล็ก
เมื4อนําไปละลายนํ*า เนื*อดินตกตะกอนอยู่ข้างล่าง
และตกตะกอนช้า อาจมีเศษกิ4งไม้ใบไม้และ ซาก
สัตว์ล้างเล็กน้อย
18
- 19. เนื8อดิน (Soil Texture)เนื8อดิน (Soil Texture)
เนื8อดิน หมายถึง องค์ประกอบเชิงกายภาพของดิน เราจะสังเกตได้ว่า
ดินในแต่ละสถานที)มีลักษณะแตกต่างกัน เนื)องจากดินประกอบขึ8นจากของ
อนุภาคตะกอนหลาย ๆ ขนาด อนุภาคที)ใหญ่ที)สุดคืออนุภาคทราย (Sand)
อนุภาคขนาดรองลงมาคือ อนุภาคทรายแป้ ง (Silt) และอนุภาคที)มีขนาดเล็กที)สุด
คือ อนุภาคดินเหนียว (Clay)
อนุภาคขนาดรองลงมาคือ อนุภาคทรายแป้ ง (Silt) และอนุภาคที)มีขนาดเล็กที)สุด
คือ อนุภาคดินเหนียว (Clay)
19
- 21. 1. ดินทราย เป็นดินที4มีการระบาย
นํ*าและอากาศดีมาก มีความสามารถ
ในการอุ้มนํ*าตํ4า มีความอุดมสมบูรณ์
ตํ4า เพราะความสามารถในการจับยึด
ชนิดของดินชนิดของดิน
ในการอุ้มนํ*าตํ4า มีความอุดมสมบูรณ์
ตํ4า เพราะความสามารถในการจับยึด
ธาตุอาหารพืชมีน้อย พืชที4ชั*นบนดิน
ทรายจึงมักขาดทั*งอาหารและนํ*าเป็น
ดินที4มีเนื*อดินทรายเพราะมีปริมาณ
อนุภาคทรายมาก
21
- 22. 2. ดินเหนียว เป็นดินที4เมื4อเปียก
แล้วมีความยืดหยุ่น อาจปั*นเป็นก้อนหรือ
คลึงเป็นเส้นยาวได้เหนียวเหนอะหนะ
ติดมือ เป็นดินที4มีการระบายนํ*าและ
อากาศไม่ดี มีความสามารถในการอุ้มนํ*า
ชนิดของดินชนิดของดิน
อากาศไม่ดี มีความสามารถในการอุ้มนํ*า
ได้ดี มีความสามารถในการจับยึดและ
แลกเปลี4ยนธาตุอาหารพืชได้สูง หรือ
ค่อนข้างสูง เป็นดินที4มีก้อนเนื*อละเอียด
เพราะมีปริมาณอนุภาคดินเหนียวอยู่มาก
เหมาะทีจะใช้ทํานาปลูกข้าวเพราะเก็บ
นํ*าได้นาน
22
- 23. 3. ดินร่วน ได้แก่ ดินที4มี
ส่วนประกอบดินทราย โคลนตม
และดินเหนียวโดยปริมาณดิน
เหนียวและดินทรายไม่มากนัก
ชนิดของดินชนิดของดิน
เหนียวและดินทรายไม่มากนัก
เม็ดดินขนาดพอเหมาะ ฉะนั*น
นํ*าและอากาศจึงไหลผ่านดิน
ร่วนได้ดีกว่าดินเหนียว
23
- 33. หน้าตัดดินหน้าตัดดิน
1. ชั!นโอ (O Horizon) เป็น
ดินชั8นบนสุดมักมีสีคลํ8าเนื)องจาก
ประกอบด้วยอินทรียวัตถุ (Organic)ประกอบด้วยอินทรียวัตถุ (Organic)
หรือ ฮิวมัส ซึ)งเป็นซากพืชซากสัตว์
ซึ)งทําให้เกิดความเป็นกรด ดินชั8นโอ
ส่วนใหญ่จะพบในพื8นที)ป่ า ส่วนใน
พื8นที)การเกษตรจะไม่มีชั8นโอในหน้า
ตัดดิน เนื)องจากถูกไถพรวนไปหมด
33
- 34. หน้าตัดดินหน้าตัดดิน
2. ชั!นเอ (A Horizon) เป็นดินชั8นบน
(Top soil) เป็นส่วนที)มีนํ8าซึมผ่าน ดินชั8นเอ
ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินแร่และ
อินทรียวัตถุที)ย่อยสลายสมบูรณ์แล้วอยู่ด้วยอินทรียวัตถุที)ย่อยสลายสมบูรณ์แล้วอยู่ด้วย
ทําให้ดินมีสีเข้ม ในพื8นที)เกษตรกรรมดินชั8น
เอจะถูกไถพรวน เมื)อมีการย่อยสลายของ
รากพืชและมีการสะสมอินทรียวัตถุ โดย
ปกติโครงสร้างของดินจะเป็นแบบก้อนกลม
แต่ถ้าดินมีการอัดตัวกันแน่น โครงสร้างของ
ดินในชั8นเอจะเป็นแบบแผ่น
34
- 35. หน้าตัดดินหน้าตัดดิน
3. ชั!นบี (B Horizon) เป็นชั8น
ดินล่าง (subsoil) เนื8อดินและ
โครงสร้างเป็นแบบก้อนเหลี)ยม หรือ
แท่งผลึก เกิดจากการชะล้างแร่ธาตุแท่งผลึก เกิดจากการชะล้างแร่ธาตุ
ต่างๆ ของสารละลายต่างๆ เคลื)อนตัว
ผ่านชั8นเอ ลงมามาสะสมในชั8นบี ใน
เขตภูมิอากาศชื8น ดินในชั8นบีส่วน
ใหญ่จะมีสีนํ8าตาลปนแดง เนื)องจาก
การสะสมตัวของเหล็กออกไซด์
35
- 36. หน้าตัดดินหน้าตัดดิน
4. ชั!นซี (C Horizon) เกิดจาก4. ชั!นซี (C Horizon) เกิดจาก
การผุพังของหินกําเนิดดิน (Parent
rock) ไม่มีการตกตะกอนของวัสดุ
ดินจากการชะล้าง และไม่มีการ
สะสมของอินทรียวัตถุ
36
- 38. การชะล้างพังทลายของดิน
1. เกิดจากการกระทําของมนุษย์ เช่น
- การตัดไม้ทําลายป่ า การทําไร่
เลื)อนลอย
- การขุดหน้าดิน การขุดแร่
2. เกิดจากธรรมชาติ เช่น
- กระแสนํ8า
- กระแสลม
- แผ่นดินไหว- การขุดหน้าดิน การขุดแร่
- การระเบิดภูเขา
- การดูดทรายในแม่นํ8า
- การสร้างถนน
- แผ่นดินไหว
-ภูเขาไฟระเบิด
38
- 49. “ฉันจะปลูกป่ าบนดอยตุง แต่คงจะต้องใช้ระยะ
เวลานานมาก อาจจะ 10 ปี ซึ)งฉันคงไม่ได้เห็น”
พระราชปรารภของสมเด็จย่าที)ทรงต้องการ
ทอดพระเนตรเห็นความเขียวชอุ่มและความสมบูรณ์
ของสภาพป่ าบนดอยตุง ซึ)งในขณะนั8นชาวเขา
สมเด็จย่า
49
ทอดพระเนตรเห็นความเขียวชอุ่มและความสมบูรณ์
ของสภาพป่ าบนดอยตุง ซึ)งในขณะนั8นชาวเขา
พื8นเมืองล้วนดํารงชีพด้วยการถางป่ าทําไร่เลื)อนลอย
ปลูกฝิ)น และกัญชา ไม่เหลือแม้สภาพป่ า ดังนั8นภายใต้
รัฐบาลของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
นายกรัฐมนตรีฯในสมัยนั8นจึงได้ก่อตั8งโครงการพัฒนา
ดอยตุงขึ8นในปี พ.ศ.2531