Submit Search
Upload
การฝึกลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
•
4 likes
•
10,309 views
Teacher Sophonnawit
Follow
การฝึกลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ท่ายืน การใช้มือ เป็นต้น
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 29
Download now
Download to read offline
Recommended
คู่มือฝึกระเบียบแถว
คู่มือฝึกระเบียบแถว
Teacher Sophonnawit
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
sripayom
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
krupornpana55
แบบประเม น
แบบประเม น
ไชยา แก้วผาไล
แผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
แผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ดอกหญ้า ธรรมดา
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ssuserf8d051
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
Aon Narinchoti
แบบทดสอบวิชาลูกเสือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบทดสอบวิชาลูกเสือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
watdang
Recommended
คู่มือฝึกระเบียบแถว
คู่มือฝึกระเบียบแถว
Teacher Sophonnawit
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
sripayom
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
Slชุดฝึกเฉลยแบบฝึกทักษะ
krupornpana55
แบบประเม น
แบบประเม น
ไชยา แก้วผาไล
แผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
แผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ดอกหญ้า ธรรมดา
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ssuserf8d051
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10
Aon Narinchoti
แบบทดสอบวิชาลูกเสือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แบบทดสอบวิชาลูกเสือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
watdang
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ssuser456899
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
SophinyaDara
ราชาศัพท์
ราชาศัพท์
kruthai40
คู่มือสภานักเรียน
คู่มือสภานักเรียน
krupornpana55
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
Mam Chongruk
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
KruNistha Akkho
โครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถม
wangasom
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
sarawut chaicharoen
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
teerachon
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
waranyuati
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
บัตรลงคะแนน2
บัตรลงคะแนน2
Pattama Poyangyuen
คำอุทาน
คำอุทาน
Nanthida Chattong
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
koorimkhong
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
Surapong Klamboot
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
สิ่งดีๆ เริ่มที่ใจ
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
Napadon Yingyongsakul
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
พัน พัน
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
kanjana2536
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
Teacher Sophonnawit
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
Teacher Sophonnawit
More Related Content
What's hot
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ssuser456899
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
SophinyaDara
ราชาศัพท์
ราชาศัพท์
kruthai40
คู่มือสภานักเรียน
คู่มือสภานักเรียน
krupornpana55
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
Mam Chongruk
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
KruNistha Akkho
โครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถม
wangasom
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
sarawut chaicharoen
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
teerachon
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
waranyuati
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
บัตรลงคะแนน2
บัตรลงคะแนน2
Pattama Poyangyuen
คำอุทาน
คำอุทาน
Nanthida Chattong
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
koorimkhong
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
Surapong Klamboot
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
สิ่งดีๆ เริ่มที่ใจ
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
Napadon Yingyongsakul
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
พัน พัน
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
kanjana2536
What's hot
(20)
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
ใบงานคำที่มาจากภาษาต่างประเทศ
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
แบบรายงานคุรุชนคนคุณธรรม เครดิตโดยครูโสภิญญา
ราชาศัพท์
ราชาศัพท์
คู่มือสภานักเรียน
คู่มือสภานักเรียน
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
วิเคราะห์หลักสูตรวิทยาศาสตร์ ป 3
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
1 แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาฟิสกส์ เรื่อง ความหนาแน่น
โครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถม
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
วิจัยในชั้นเรียนวิจัยในชั้นเรียนชั้นม.2
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
ดาวโหลดเอกสารเลือกตั้งประธานนักเรียน
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงานการแสดงทางวิทยาศาสตร์
บัตรลงคะแนน2
บัตรลงคะแนน2
คำอุทาน
คำอุทาน
ภูมิศาสตร์
ภูมิศาสตร์
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสนธิ
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ (PISA)
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
ใบงานรูปเรขาคณิตสามมิติ
More from Teacher Sophonnawit
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
Teacher Sophonnawit
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
Teacher Sophonnawit
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
Teacher Sophonnawit
Lookbook teacher
Lookbook teacher
Teacher Sophonnawit
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
Teacher Sophonnawit
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fish
Teacher Sophonnawit
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
Teacher Sophonnawit
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
Teacher Sophonnawit
Access m.3 wordlists
Access m.3 wordlists
Teacher Sophonnawit
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
Teacher Sophonnawit
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
Teacher Sophonnawit
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
Teacher Sophonnawit
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
Teacher Sophonnawit
PA.1 แบบคำขอ
PA.1 แบบคำขอ
Teacher Sophonnawit
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
Teacher Sophonnawit
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
Teacher Sophonnawit
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
Teacher Sophonnawit
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
Teacher Sophonnawit
More from Teacher Sophonnawit
(20)
คู่มือการใช้งาน Logbook
คู่มือการใช้งาน Logbook
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
วิทยฐานะ ว 21 2560 ล่าสุด
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
ว21 2560 (ดร.สำเริง)
Lookbook teacher
Lookbook teacher
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี...
แผน 1 the curious boy and the fish
แผน 1 the curious boy and the fish
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือหนังสือส่งเสริมการอ่าน
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
คู่มือการใช้สื่อปฏิสัมพันธ์ (Interactive Solfwear) หนังสือ Upstream ม.4
Access m.3 wordlists
Access m.3 wordlists
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
ว7 แนวทางและแบบฟอร์มการเสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/4 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานนิเทศการศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/3 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/2 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานบริหารสถานศึกษา)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.3/1 แบบข้อเสนอในการพัฒนางานตามหน้าที่และความรับผิดชอบ (สายงานการสอน)
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.2 แบบรายงานและรับรองด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
PA.1 แบบคำขอ
PA.1 แบบคำขอ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 กรอบและแนวทางการทดสอบความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎีและการประเมินประสบการณ์วิชาชีพ
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 ปฏิทินการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 คำอธิบายและตัวอย่าง
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
ว7 หลักเกณฑ์และวิธีการ
การฝึกลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่
1.
1. การฝกลูกเสือ ความมุงหมายของการฝกอบรมลูกเสือ 1. เพื่อใหลูกเสือเกิดความกระตือรือรนตอเครื่องหมายวิชาพิเศษ 2
เพื่อใหลูกเสือแสดงความสามารถตามวิชาพิเศษที่ลูกเสือมีความถนัด 3 เพื่อสงเสริมใหลูกเสือมีความชํานาญตอวิชาพิเศษ และสามารถนําไปใชในชีวิต ประจําวัน 4 เพื่อใหมีความสามารถพิเศษ จนไดรับเครื่องหมายสายยงยศ หรือลูกเสือหลวงอัน เปนเครื่องหมายเชิดชูเกียรติอยางสูงของลูกเสือ การเขารับการฝกและสามารถทํางานฝกลูกเสือดวยตนเอง ลูกเสือที่เลือกเรียนวิชาการฝกเปนผูนํา จะตองมีความรู ความสามารถและมีทักษะในวิชาที่ เปนพื้นฐานในการทํางานฝกลูกเสือดวยตนเอง ดังนี้ 1. การฝกบุคคลทามือเปลา 2. การจัดแถว 3. การเดินสวนสนาม การฝกบุคคลทามือเปลา 1. ทาตรง คําบอก “แถว-ตรง” การปฏิบัติ ยืนใหสนเทาชิดกันและอยูในแนวเดียวกันปลายเทาแบะออกขางละเทา ๆ กัน หางกันประมาณ 1 คืบ (ทํามุม 45 องศา) เขาเหยียดตึงและบีบเขาหากัน ลําตัว ยืดตรงอกผายไหลเสมอกันแขนทั้งสองหอยอยูขางตัวและเหยียดตรงพลิกศอก ไปขางหนาเล็กนอย จนไหลตึง นิ้วมือเหยียด และชิดกันนิ้วกลางติดขาตรง กึ่งกลางประมาณแนวตะเข็บกางเกงเปดฝามือออกเล็กนอย ลําคอยืดตรง ไป ยื่นคาง ตาแลตรงไป ขางหนาไดระดับนํ้าหนักตัวอยูบนเทาทั้งสองเทา ๆ กัน และนิ่ง (รูปที่ 3) หมายเหตุ 1. ทาตรงเปนทาเบื้องตนและเปนรากฐานของการปฏิบัติทาอื่น ๆ 2. ใชเปนทาสําหรับแสดงการเคารพไดทาหนึ่ง
2.
รูปที่ 3 ทาตรง 2.
ทาพัก ก.พักตามปรกติ คําบอก “ พัก“ การปฏิบัติ หยอนเขาขวากอน ตอไปจึงหยอนและเคลื่อนไหวสวนตาง ๆ ของรางกายและ เปลี่ยนเขาพักไดตามสมควร แตเทาทั้งสองคงอยูกับที่ หามพูดเมื่อไดยินคําบอกวา “ แถว“ ใหยืดตัวตรง นอกจากเขาขวา ครั้นเมื่อไดยินคําบอกวา “ ตรง“ ใหกระตุก เขาขวาโดยเร็วและแข็งแรงกลับไปอยูในลักษณะของทาตรง (รูปที่ 4) รูปที่ 4 ทาพักตามปรกติ
3.
ข. พักตามระเบียบ คําบอก “
ตามระเบียบ,พัก“ การปฏิบัติ แยกเทาซายออกไปทางซายประมาณ 30 ซม. (หรือประมาณเกือบครึ่งกาวปกติ) อยางแข็งแรงและองอาจ พรอมกับจับมือไขวหลังใหหลังมือเขาหาตัว มือขวาทับ มือซายนิ้วหัวแมมือขวาจับนิ้วหัวแมมือซาย หลังมือซายแบบติดลําตัวในแนว กึ่งกลางหลัง และอยูใตเข็มขัดเล็กนอย ขาทั้งสองตึง นํ้าหนักตัวอยูบนเทาทั้ง สองเทา ๆ กันและนิ่ง (รูปที่ 5) รูปที่ 5 ทาพักตามระเบียบ เมื่อไดยินคําบอกวา “ แถว-ตรง“ ใหชักเทาซายชิดเทาขวาอยางแข็งแรง พรอมกับมือทั้ง สองกลับไปอยูในลักษณะทาตรงตามเดิม ค. พักตามสบาย คําบอก “ ตามสบาย,พัก“ การปฏิบัติ หยอนเขาขวากอนเชนเดียวกับ “ พัก“ ตอไปจึงเคลื่อนไหวรางกายอยางสบายและ พูดจากันไดแตเทาขางหนึ่งตองอยูกับที่ ถามิไดรับอนุญาตใหนั่งจะนั่งไมได เมื่อไดยินคําบอกวา “ แถว-ตรง“ ใหปฏิบัติอยางเดียวกับทาพักตามปรกติ ง. พักนอกแถว คําบอก “ พักแถว“ การปฏิบัติ ตางคนตางแยกออกจากแถวทันที แตตองอยูในบริเวณใกลเคียงนั้น และไมทําเสียง อึกทึกเมื่อไดยินคําบอกวา “ แถว “ ใหรีบกลับมาเขาแถวตรงที่เดิมโดยเร็ว ในรูปแถวเดิม และเมื่อจัดแถวเรียบรอยแลวใหอยูในทาตรงจนกวาจะมีคําบอก คําสั่งตอไป
4.
หมายเหตุ สําหรับทาพัก ทาพัก เปนทาที่เปลี่ยนอิริยาบถจากทาตรง
เพื่อผอนคลายความเครงเครียดตาม โอกาสตาง ๆ คือ 1. พักตามปรกติใชพักในโอกาสระหวางฝก-สอนเพื่ออธิบายหรือแสดงตัวอยางแก ลูกเสือ 2. พักตามระเบียบ ใชพักในโอกาสเกี่ยวกับพิธีการตาง ๆ เชน ตรวจพล สวนสนามหรืออยูในแถวกองเกียรติยศ ฯลฯ 3. พักตามสบาย ใชพักในโอกาสที่ตองรอรับคําสั่ง เพื่อปฏิบัติตอไปเปนระยะเวลา สั้น ๆ เชน เมื่อ ผูควบคุมแถวตองไปรับคําสั่งของผูบังคับบัญชา เปนตน 4. พักนอกแถว ใชพักในโอกาสที่ตองรอรับคําสั่ง เพื่อปฏิบัติตอไปนี้เปนระยะเวลา นาน ๆ 3. ทาเคารพ 1. วันทยหัตถ ก. การหัดขั้นตน คําบอก “วันทยหัตถ “ และ“มือลง “ การปฏิบัติ ยกมือขวาโดยเร็วและแข็งแรง จัดนิ้วอยางเดียวกับทารหัสของลูกเสือใหปลายนิ้วชี้ แตะขอบลางของหมวก คอนไปขางหนาเล็กนอยในแนวหางตาขวา มือเหยียดตาม แนวแขนขวาทอนลาง นิ้วเหยียดตรงและเรียงชิดกันขอมือไมหัก เปดฝามือขึ้น ประมาณ 30 องศา แขนขวาทอนบนยื่นไปทางขาง อยูประมาณแนวไหล เมื่ออยูที่ แคบ ๆ ใหลดขอศอกลงไดตามความเหมาะสม รางกายสวนอื่นตองไมเสียลักษณะ ทาตรง (รูปที่ 6-10) เมื่อไดยินคําบอก “ มือลง“ ใหลดมือลงอยูในทาตรงโดยเร็วและแข็งแรง หมายเหตุ ก. ทาวันทยหัตถ โดยปรกติตอจากทาตรงเปนคาเคารพ เมื่ออยูตามลําพังนอกแถว ของลูกเสือทุกประเภท สําหรับลูกเสือสํารองใหทําวันทยหัตถ 2 นิ้ว คือ ยกมือขวาขึ้นแยก นิ้วชี้ กับนิ้วกลางออกจากเหยียดตรง (รูปตัววี) และเมื่อจําเปนก็ให ทําจากทานั่งได
5.
รูปที่ 6 ทาวันทยหัตถ
(สวมหมวกทรงกลมมีกระบังหนาหมวก) รูปที่ 7 ทาวันทยหัตถ (สวมหมวกปกกวาง) รูปที่ 8 ทาวันทยหัตถ (สวมหมวกทรงหมอตาล)
6.
รูปที่ 9 ทาวันทยหัตถ
(สวมหมวกทรงออน) รูปที่ 10 ทาวันทยหัตถ (สวมหมวกทรงกลาสี) ข. ผูบังคับบัญชาลูกเสือ เขาแถวแสดงการเคารพดวยทาวันทยหัตถ(สวมหมวก) ค. ลูกเสือจะสวมหมวกหรือมิไดสวมหมวก ใหทําวันทยหัตถได ถาไมไดสวมหมวกให ปลายนิ้วชี้แตะที่หางคิ้วขวา ง. เมื่อมีผูรับการเคารพ คําบอก “ ทางขวา,(ทางซาย, ตรงหนา) วันทยหัตถ การปฏิบัติ สะบัดหนาไปยังผูรับการเคารพ พรอมกับยกมือทําวันทยหัตถ กอนถึงผูรับการ เคารพ 3 กาว ตามองจับผูรับการเคารพและหันหนาตามจนผูรับการเคารพผานพน ไปแลว 2 กาว ใหสะบัดหนากลับพรอมกับลดมือลงเอง ถาผูรับการเคารพอยูตรง หนาก็ปฏิบัติโดยไมตองสะบัดหนา (รูปที่ 11) ในการหัด เมื่อผูรับการเคารพไมเคลื่อนที่ผานก็ใหสะบัดหนากลับพรอมกับลดมือ ลงตาม คําบอกวา “ มือลง“
7.
รูปที่ 11 ทาทางขวา
, วันทยหัตถ (อยูกับที่) รูปที่ 11 ทาทางขวา , วันทยหัตถ (เคลื่อนที่) 2. แลขวา แลซาย-ทํา คําบอก “แลขวา(ซาย) - ทํา“ การปฏิบัติ สะบัดหนาไปทางขวา(ซาย) ประมาณกึ่งขวา(ซาย) กอนถึงผูรับการเคารพ 3 กาว ตามองจับตาผูรับความเคารพหันหนาตามจนผูรับการเคารพผานพนไปแลว 2 กาว แลวสะบัดหนากลับที่เดิม (รูปที่ 12) ในการหัด เมื่อผูรับการเคารพไมเคลื่อนที่ผาน ก็สะบัดหนากลับที่เดิมตามคําบอกวา “แล-ตรง“ หมายเหตุ ทาแลขวา (ซาย) เปนทาแสดงการเคารพ เมื่อลูกเสืออยูในแถว มือเปลาหรือถือ อาวุธ ที่ทําทาวันทยาวุธไมได และเปนทาแสดงการเคารพตามลําพัง นอกแถวของลูกเสือในเมื่อไม สามารถแสดงการเคารพตามลําพัง นอกแถวของลูกเสือ ในเมื่อไมสามารถแสดงการ เคารพดวย ทาวันทยหัตถได
8.
รูปที่ 13 ทาแลขวา
(อยูในแถว) รูปที่ 14 ทาแลขวา (อยูตามลําพังนอกแถว) ขอแนะนํา สําหรับทาเคารพ ก. การแสดงการเคารพ ในเวลาเคลื่อนที่แขนตองไมแกวงคงเหยียดตรงตลอดปลายนิ้ว และหอยอยูขางตัว (มือไมติดขาเหมือนอยางอยูกับที่) ข. รัศมีแสดงการเคารพ ถือระยะที่มองเห็นเครื่องหมายหรือจําไดเปนเกณฑ ค. ถาเขาแถวรวมกับลูกเสือ ถืออาวุธเมื่อไดยินคําบอกวา “ทางขวา (ทางซาย) ระวัง, วันทยา –วุธ ” ใหทําทาแลขวา(ซาย)พรอมกับผูที่ทําทาวันทยาวุธ และทําทา ”แลตรง” เมื่อขาดคําบอกวา ”เรียบ-อาวุธ” พรอมกับผูที่ทําทาเรียบอาวุธ ง. ในเวลาเคลื่อนที่ เมื่อจะตองทําการเคารพโดยวิธีหยุดกอนที่ผูรับการเคารพ จะมา ถึง ระยะการแสดงการเคารพใหทําทาหันในเวลาเดิน ไปทางทิศที่ผูรับการเคารพจะ ผานมา โดยหยุดชิดเทาอยูในทาตรงแลว แสดงการเคารพไปยังผูรับการเคารพ เมื่อ
9.
เลิกแสดงการ เคารพแลวใหทําทาหันไปในทิศทางเดิม และกาวเทาหลังเคลื่อนที่ ตอไปโดยไมตองชิดเทา จ.
ในโอกาสที่ผูรับการเคารพอยูกับที่ ผูแสดงการเคารพไมตองหยุดแสดงการเคารพ ฉ. การแสดงการเคารพ ประกอบกับการรายงาน เชน ในหนาที่เวรยาม ใหวิ่งเขาไป รายงาน และหยุดแสดงการเคารพหางจากผูรับการเคารพ 3 กาว หลังจากรายงาน จบ หรือภายหลังจากซักถามเสร็จแลว (จากวันทยหัตถหรือวันทยาวุธ) ใหลดมือลด หรือเรียบอาวุธ แลวปฏิบัติหนาที่ตอไป 4. ทาหันอยูกับที่ 1. ขวาหัน คําบอก “ ขวา - หัน“ การปฏิบัติ ทําเปน 2 จังหวะคือ จังหวะ 1 เปดปลายเทาขวา และยกสนเทาซาย ทันใดนั้นใหหันตัวไปทางขวาจน ได 90 องศา หมุนเทาทั้งสองไปโดยใหสนเทาและปลายเทาซึ่งเปนหลักนั้น ติดอยูกับพื้น นํ้าหนักตัวอยูที่เทาขวาขาซายเหยียดตึง ปดสนเทาซายออกขางนอกพอตึง จังหวะ 2 ชักเทาซายมาชิดเทาขวาในลักษณะทาตรงโดยเร็วและแข็งแรง (รูปที่ 15) รูปที่ 15 ทาขวาหันอยูกับที่ (จังหวะ 1) 2. ซายหัน คําบอก “ซาย - หัน” การปฏิบัติ ทําเปน 2 จังหวะ อยางเดียวกับทาขวาหันโดยเปลี่ยนคําวา “ ขวา” เปน ”ซาย”
10.
3. กลับหลังหัน คําบอก “
กลับหลัง-หัน“ การปฏิบัติ ทําเปน 2 จังหวะคือ จังหวะ 1 ทําเชนเดียวกับทาขวาหันจังหวะ 1 แตหันเลยไปจนกลับหนาเปนหลัง ครบ 180 องศา และใหปลายเทาซายไปหยุดอยูขางหลังเฉียงซายประมาณครึ่งกาว และ ในแนวสนเทาขวา จังหวะ 2 ทําเชนเดียวกับทาขวาหันจังหวะ 2 (รูปที่ 16) รูปที่ 16 ทาขวาหันอยูกับที่ (จังหวะ 2) รูปที่ 17 ทากลับหลังหันอยูกับที่ (จังหวะ 1)
11.
รูปที่ 18 ทากลับหลังหันอยูกับที่
(จังหวะ 2) 4. กึ่งขวา (ซาย) หัน คําบอก “ กึ่งขวา(ซาย)-หัน“ การปฏิบัติ ทําเปน 2 จังหวะใหเหมือนกับขวาหัน ,ซายหัน แตหันไปเพียง 45 องศา 5. ทาเดิน 1. เดินตามปกติ คําบอก เดินตามปกติ การปฏิบัติ โนมนํ้าหนักตัวไปขางหนา พรอมกับกาวเทาซายออกเดินกอน ขาเหยียดตึง ปลายเทางุม สนเทาสูงจากพื้นประมาณ 1 คืบ เมื่อจะวางเทาและกาวเทาตอไป ใหโนมนํ้าหนักตัวไปขางหนาตบเต็มฝาเทาอยางแข็งแรง ทรงตัวและศีรษะอยูใน ทาตรง แกวงแขนตามธรรมดาเฉียงไปขางหนาและขางหลังพองาม เมื่อแกวงแขน ไปขางหนาขอศอกงอเล็กนอย เมื่อแกวงแขนไปขางหลังใหแขนเหยียดตรงตาม ธรรมชาติหันหลังมือออกนอกตัวแบมือใหนิ้วมือเรียงชิดติดกัน (รูปที่ 19) รูปที่ 19 ทาเดินตามปกติ
12.
ความยาวของกาว 40-60 เซนติเมตร
(นับจากสนเทาถึงสนเทา) รักษาความยาวของ กาว ใหคงที่ อัตราความเร็วในการเดินนาทีละ 90-100 กาว 2. เดินตามสบาย คําบอก “ เดินตามสบาย“ การปฏิบัติ เปลี่ยนจากเดินตามปกติเปนเดินตามสบาย ระยะกาวเชนเดียวกับการเดินตามปกติ อัตราความเร็วในการเดินนาทีละ 120-150 กาว แตไมตองรักษาทาทางใหเครงครัด ถาเดินทางเปนหนวยก็ได ตองเดินพรอมพรา ลูกเสืออาจจะพูดกันไดเวนแตจะมี คําสั่งหาม ถาจะเปลี่ยนใหเดินพรอมกันและ ใหกลับมาอยูในทาเดินตามปกติใหใชคําบอกวา “เดินเขาระเบียบ” หรือจะบอกแถวหยุดเสียกอนแลวจึงบอกใหออกเดินทางใหมก็ได จากทาเดิน ตามสบายเมื่อจะบอกแถวหยุด จะตองบอกใหลูกเสือเดินเขาระเบียบเสียกอนเสมอ รูปที่ 20 ทาเดินตามสบาย 3. เปลี่ยนเทา คําบอก “ เปลี่ยนเทา“ การปฏิบัติ ใหกาวเทาไปขางหนาอีก 1 กาว ยั้งตัวพรอมกับกาวเทาหลังใหปลายเทาหลัง ชิดสนเทาหนา และกาวเทาหนาออกเดินตอไป (รูปที่ 21,22)
13.
รูปที่ 21 ทาเปลี่ยนเทา
(จังหวะ 1) รูปที่ 22 ทาเปลี่ยนเทา (จังหวะ 2) 4. เดินครึ่งกาว คําบอก “ครึ่งกาว-เดิน” การปฏิบัติ กาวเทาเดินเชนเดียวกับการเดินตามธรรมดา แตลดระยะกาวลงเหลือเพียง ครึ่งกาวการเดินตามปกติ จังหวะกาวตามจังหวะของทาเดินครั้งนั้น ถาจะใหเดินเต็มกาวตอไป ใหใชคําบอกวา “หนา-เดิน” สวนทาหยุดจาก ทาเดินครึ่งกาวคงปฏิบัติอนุโลม เชนเดียวกับทาหยุดจากทาเดินตามปกติ 5. ซอยเทา คําบอก “ ซอยเทา-ทํา” การปฏิบัติ เมื่อหยุดอยูกับที่ ถาไดยินคําบอกวา “ ซอยเทาทํา“ ใหยกเทาขึ้นลงสลับกันอยูกับที่ ตามจังหวะเดินในครั้งนั้น โดยยกเทาซายขึ้นกอนเทาที่ยกขึ้นนั้นใหพื้นรองเทา สูงจากพื้นประมาณ 1 คืบ ลักษณะมือและการแกวงแขนคงเปนไปตามทาเดิน ครั้งนั้น ถากําลังเดิน เมื่อไดยินคําวา “ “ซอยเทา-ทํา” ไมวาเทาใดจะตกถึงพื้นก็ตาม ใหเดินตอไปอีก 1 กาว แลวกาวเทาหลังใหสนเทาหลังเสมอแนวเดียวกับสนเทา หนา และยกเทาเดิมนั้นขึ้นกอน ตอไปเปนการปฏิบัติเชนเดียวกับเมื่อหยุดอยูกับที่ (รูปที่ 23) ทั้งสองโอกาสดังกลาวแลว ถาจะใหเดินตอไปก็ใชคําบอกวา “หนา-เดิน” เมื่อเทาซายตกถึงพื้น ซอยเทาขวาอยูกับที่แลวกาวเทาซายออกเดินตอไป หรือจะ ใหหยุดก็ให ใชคําบอกวา “แถว-หยุด” เชนเดียวกับทาหยุดในเวลาเดิน หมายเหตุ ในการฝกถาลูกเสือคนใดซอยเทาผิด ใหซอยเทาซํ้าเทาเดิมอีกหนึ่งครั้ง
14.
รูปที่ 23 ทาซอยเทา 6.
เดินเฉียง คําบอก “เฉียงขวา(ซาย),ทํา “ การปฏิบัติ เมื่อขาดคําบอกวา “ทํา“ ในขณะที่เทาขวา(ซาย)ตกถึงพื้นใหกาวเทาซาย(ขวา) ออก เดินตอไปพรอมกับปดปลายเทา และหันตัวไปทางกึ่งขวา(ซาย) แลวกาวเทาหลัง เดินไปในทางทิศใหมที่เปนมุม 45 องศา กับทิศทางเดิมโดยตอเนื่อง ไมมีการหยุด ชะงัก จังหวะกาวเปนไปตามจังหวะของทาเดินครั้งนั้น ถาจะใหกลับมาเดินในทิศทางเดิม ก็ใชคําบอกวา “เดินตรง” ลูกเสือกาวเทา ทํากึ่งซาย (ขวา) แลวเดินตรงไปขางหนาตอไป คําบอกตองบอกใหขณะที่เทาซาย (ขวา) ตกถึงพื้น 6. ทาหยุด คําบอก “แถว-หยุด” การปฏิบัติ ในขณะที่กําลังเดินตามปกติ เมื่อไดยินคําบอกวา “แถว-หยุด” ไมวาเทาขางใด ขางหนึ่งจะตกถึงพื้นก็ตาม ใหปฏิบัติเปน 2 จังหวะคือ จังหวะ 1 กาวเทาตอไปอีก 1 กาว จังหวะ 2 ชักเทาหลังไปชิดเทาหนาในลักษณะทาตรงอยางแข็งแรง หมายเหตุ 1. ทาหยุดโดยธรรมดา ผูบอกแถวควรบอกใหตกเทาขวา 2. เมื่อใชคําบอกวา “แถว” ลงเทาใดใหบอกคําวา “หยุด” ลงเทานั้นในกาวตอไป เชน บอก “แถว” ลงเทาขวา เมื่อกาวเทาซายตอไปและลงเทาขวาอีกเปนครั้งที่ 2 จึงบอกคําวา “หยุด”
15.
7. ทากาวทางขาง คําบอก “กาวทางขวา(ซาย),ทํา” การปฏิบัติ
ยกสนเทาทั้งสอง แลวกาวเทาขวา(ซาย)ไปทางขวา(ซาย) 30 ซม. (หรือประมาณ เกือบกาวปกติ) แลวชักเทาซาย (ขวา) ไปชิดอยางแข็งแรงระหวางใชเทาเคลื่อนที่ เขาทั้งสองตองตึง สนเทายกและกาวทางขางตอไปในจังหวะเดินตามปกติ ถาจะใหหยุดจากทากาวทางขาง ใหใชคําบอกวา “แถว-หยุด” ขณะเมื่อเทา ทั้งสองมาชิดกัน ปฏิบัติโดยกาวไปทางขวา (ซาย) อีก 1 กาว และหยุดดวยการ กาวเทาขางหนึ่งไป ชิด และใหอยูในลักษณะของทาตรงทันที หมายเหตุ 1. ทากาวทางขางใชสําหรับหัดใหลูกเสือรูจักวิธีปฏิบัติถูกตอง เพื่อนําไปใชตาม ลําพังในแถว 2. ทานี้ใชในโอกาสเมื่อมีการจัดหรือ รน แถวในระยะสั้น ๆ ซึ่งตองการความเปน ระเบียบเรียบรอย เชน การปฏิบัติการของแถวขบวนสั้นๆ หรือในพิธีตรวจพล สวนสนาม เปนตน 3. ถากําหนดจํานวนกาวใหแล ลูกเสือคงกาวเทาไปตามจํานวนกาวที่กําหนดแลว หยุดเองไมตองใชคําบอกวา “แถว – หยุด” รูปที่ 24 ทากาวทางซาย (เริ่ม) รูปที่ 25 ทากาวทางซาย (ตอ)
16.
8. ทากาวถอยหลัง คําบอก “
กาวถอยหลัง, ทํา “ การปฏิบัติ เอนตัวไปขางหลังเล็กนอย พรอมกับกาวเทาซายถอยหลัง กอนวางเทาลงบนพื้น ตามธรรมดาใหปลายเทาลงกอนแกวงแขน เชนเดียวกับทาเดินตามปกติ ความยาว ของกาว 30 ซม. หรือครึ่งกาวปกติ จังหวะกาวเชนเดียวกับทาเดินตามปกติ (รูปที่ 26) ถาจะใหหยุดจากทางกาวถอยหลัง ใหใชคําบอกวา “แถว-หยุด” ไมวาเทา ขางใดจะตกถึงพื้น ใหกาวถอยหลังไปอีก 1 กาว แลวชักเทาที่อยูขางหนาไปชิด สันเทาที่อยูขางหลังและอยูในลักษณะทาตรง หมายเหตุ 1. ทากาวถอยหลังใชสําหรับหัด ใหลูกเสือรูจักวิธีปฏิบัติที่ถูกตองเพื่อนําไปใชตาม ลําพังในแถวหรือในความควบคุมตามคําบอก เชน “กาวถอยหลังสาม (สี่) กาว, ทํา” 2. ทานี้ใชในการจัดแถวเมื่ออยูกับที่ และทําในระยะสั้น ๆ เทานั้น 3. ถากําหนดจํานวนกาวใหแลว ลูกเสือคงกาวเทาไปตามจํานวนกาวที่กําหนดแลว หยุดเองไมตองใชคําบอกวา “แถว-หยุด” รูปที่ 26 ทากาวถอยหลัง 9. ทาวิ่ง 1.การวิ่ง คําบอก “วิ่ง,หนา-วิ่ง” การปฏิบัติ ออกวิ่งดวยเทาซายกอน วางปลายเทาลงบนพื้นงอเขาเล็กนอย โนมตัวไปขางหนา ขาหลังไมตองเหยียดตึง ปลายเทายกสูงจากพื้นพอสมควรพรอมกันนั้นยกมือขึ้น
17.
เสมอราวนม กํามือและหันฝามือเขาหาตัว ยืดอกและศีรษะตั้งตรง
ขณะวิ่งแกวง แขนที่งอตามจังหวะกาวได พอสมควร (รูปที่ 27) ความยาวของกาว 50-60 ซม. รักษาความยาวของกาวใหคงที่ อัตราความเร็วในการวิ่งนาทีละ 150-160 กาว หมายเหตุ ก. ทาวิ่ง ใชในโอกาสตองการความรวดเร็วในการเคลื่อนที่ซึ่งปกติเปนระยะใกล ๆ หรืออีกประการหนึ่งเพื่อการออกกําลังกายของลูกเสือ ข. ทานี้เริ่มไดทั้งเมื่อเวลาอยูกับที่และขณะกําลังเดิน สําหรับกําลังเดิน สิ้นคําบอก เมื่อตกเทาใดก็ตาม ใหกาวตอไปอีก 1 กาวแลวเริ่มวิ่งทันที (ปกติควรบอกตกเทาขวา) 2. การหยุด คําบอก “แถว-หยุด” การปฏิบัติ เมื่อสิ้นคําบอก โดยเทาใดตกถึงพื้นก็ตาม ใหคงวิ่งดวยอาการยั้งตัวตอไปขางหนา อีก 3 กาวและทําทาหยุด เชนเดียวกับการหยุดในเวลาเดิน 3. เปลี่ยนเปนเดิน คําบอก “เดิน-ทํา” การปฏิบัติ เมื่อสิ้นคําบอก โดยเทาใดตกถึงพื้นก็ตาม ใหคงวิ่งดวยอาการยั้งตัวตอไปขางหนา อีก 3 กาวแลวทําทาเดินตามปกติ 4. เปลี่ยนเทา คําบอก “เปลี่ยนเทา” การปฏิบัติ ตามปกติใหใชคําบอก ในขณะที่เทาซายและขวาตกถึงพื้น ในลําดับติดตอกัน ปฏิบัติโดยกาวเทาไปขางหนาอีก 2 กาว (ซาย ขวา) ครั้นแลวกระโดดกาวซํ้าเทา ขวาไปขางหนาอีกประมาณ 1 กาว (60 ซม.) และกาวเทาซายวิ่งตอไปตามระยะ กาวปกติทานี้ทําเปนจังหวะเดียว หมายเหตุ ก. ทาเปลี่ยนเทาในเวลาวิ่งนี้ ปกติเปนทาที่ใชสําหรับหัดใหลูกเสือรูจักวิธีปฏิบัติที่ ถูกตองแลวนําไปใชตามลําพังในแถว ข. ทานี้โดยทั่วไปใชในโอกาสเปลี่ยนเทาใหพรอมกับสวนรวมของแถว
18.
10. ทาหันในเวลาเดิน 1.ขวาหัน คําบอก “ขวา-หัน” การปฏิบัติ
ใหบอกคําวา “ขวา”และ”หัน” เมื่อเทาขวาจดถึงพื้น ในลําดับติดตอกันปฏิบัติเปน 2 จังหวะ ดังนี้ จังหวะ 1 กาวเทาซายไปทางหนาในแนวปลายเทาขวาประมาณครึ่งกาว พรอมกับ บิดปลายเทาใหไปทางกึ่งขวาดวย ขณะเดียวกันยกสนเทาขวาและหมุนตัวดวย สะโพก โดยใชปลายเทาทั้งสองเปนหลักไปทางขวาจนได 90 องศา จังหวะ 2 กาวเทาขวาออกเดินตอไปตามจังหวะการเดินเดิมในทิศทางใหมโดย ตอเนื่อง (รูปที่ 28,29,30) รูปที่ 28 ทาขวาหันเวลาเดิน (เริ่ม) รูปที่ 29 ทาขวาหันเวลาเดิน (ตอ)
19.
รูปที่ 30 ทาขวาหันเวลาเดิน
(ตอ) 2. ซายหัน คําบอก “ซาย-หัน” การปฏิบัติ ใชคําบอกวา “ซาย”และ “หัน” เมื่อเทาซายจดถึงพื้น ในระดับติดตอกันปฏิบัติเปน 2 จังหวะเชนเดียวกับขวาหัน โดยเปลี่ยนคําวาขวาเปนซายเทานั้น หมายเหตุ สําหรับทาขวาและซายหัน 1. ทาขวาและซายหัน เมื่อปฏิบัติเปดจังหวะตองไมหยุดชะงักและมือคงแกวงตาม จังหวะกาวติดตอเรื่อยไป 2. ทาทั้งสองนี้ใชในโอกาสที่ตองการเปลี่ยนทิศหรือหนาแถวระหวางการเดิน 3. กลับหลังหัน คําบอก “กลับหลัง-หัน” การปฏิบัติ ใชคําบอกวา “ กลับหลัง” และ “หัน” เมื่อเทาซายจดถึงพื้น ในลําดับติดตอกัน ปฏิบัติเปน 3 จังหวะดังนี้ จังหวะที่ 1 กาวเทาขวาไปขางหนา 1 กาว จังหวะที่ 2 ชักเทาซายไปขางหนาเฉียงขวา และตบลงกับพื้นดวยปลายเทาใน แนวทางขวา ของปลายเทาขวาเล็กนอยพอเขาซายตึง ทันใดนั้นยกสนเทาขวาและ หมุนตัวดวยสะโพกโดยใชปลายเทาทั้งสองเปนหลัก ไปขางหลังจนได 180 องศา ขณะหมุนตัวนิ้วมือทั้งสองติดอยูกับขางขา จังหวะที่ 3 กาวเทาซายออกเดินพรอมกับยกมือและแกวงแขนตามจังหวะของ ทาเดินครั้งนั้นตอไป (รูปที่ 31,32)
20.
หมายเหตุ ทาหันในเวลาเดินเปนทาที่มีจังหวะ ดังนั้นการหัดในขั้นแรกๆ
จึงควรให ลูกเสือนับจังหวะดวยเสียงดังกอนจนปฏิบัติไดชํานาญแลวจึงใหนับในใจ รูปที่ 31 ทากลับหลังหันเวลาเดิน (เริ่ม) รูปที่ 32 ทากลับหลังหันเวลาเดิน (ตอ) 11. ทาหันในเวลาวิ่ง 1. ขวา(ซาย-หัน) คําบอก “ขวา(ซาย)-หัน” การปฏิบัติ ใชคําบอกวา “ขวา(ซาย)” และ “หัน” เมื่อเทาขวา (ซาย) จดถึงพื้น การปฏิบัติเปน 4 จังหวะดังนี้ จังหวะที่ 1 กาวเทาซาย(ขวา) ไปขางหนา 1 กาวเพื่อยั้งตัว จังหวะที่ 2 กาวเทาขวา(ซาย)ไปขางหนาอีก 1 กาว พรอมกับหมุนตัวไปทางกึ่งขวา (ซาย)
21.
จังหวะที่ 3 กาวเทาซาย
(ขวา) ไปอยูหนาปลายเทาขวา(ซาย)พรอมกับหมุนตัวไป ทางขวา (ซาย) จนได 90 องศา จากทิศทางเดิม จังหวะที่ 4 กาวเทาขวา(ซาย) ออกวิ่งตอไปตามจังหวะเดิม (รูปที่ 33,34) หมายเหตุ 1. ทาขวา(ซาย) หันเวลาวิ่ง ใชในโอกาสตองการเปลี่ยนทิศทางในเวลาวิ่ง 2. ทานี้เมื่อปฏิบัติเปดจังหวะตองไมหยุดชะงักและแกวงแขนที่งอขึ้นนั้นตาม จังหวะกาวโดยตอเนื่องกัน รูปที่ 33 ทาขวาในหันเวลาวิ่ง 2. กลับหลังหัน คําบอก “กลับหลัง-หัน” การปฏิบัติ ใชคําบอกวา “กลับหลัง” และ “หัน” เมื่อเทาซายจดพื้นในลําดับติดตอกันปฏิบัติ เปน 4 จังหวะดังนี้ จังหวะ 1 กาวเทาขวาไปขางหนา 1 กาว เพื่อยั้งตัว จังหวะ 2 กาวเทาซายไปขางหนาอีก 1 กาวพรอมกับหมุนตัวไปทางขวาประมาณ 90 องศา จังหวะ 3 กาวเทาขวาไปอยูหนาปลายเทาซายพรอมกับหมุนตัวไปทางขวาอีก ประมาณ 90 องศาจากทิศทางเดิม จังหวะ 4 กาวเทาซายออกวิ่งตอไปตามจังหวะเดิม หมายเหตุ ทาหันในเวลาวิ่งเปนทาที่มีจังหวะเชนเดียวกับในเวลาเดิน ดังนั้นการหันใน ขั้นแรกๆ จึงควรใหนับจังหวะดวยเสียงดังกอน จนปฏิบัติไดชํานาญแลวจึงให นับแตเพียงในใจ
22.
รูปที่ 34 ทากลับหลังหันในเวลาวิ่ง 12.
การนับ คําบอก “นับ” การปฏิบัติ ลูกเสือคนที่อยูหัวแถว สะบัดหนาไปทางซายพรอมกับนับ “หนึ่ง” แลวสะบัดหนา กลับมาอยูในทาตรงโดยเร็ว ลูกเสือคนอื่น ๆ นับเรียงไปตามลําดับเชนเดียวกับ คนหัวแถวเวนคนอยูทายแถวใหสะบัดหนามาทางขวา “นับสอง(สาม ฯลฯ)” คําบอก “นับสอง (สาม ฯลฯ)” การปฏิบัติ ลูกเสือนับตามจํานวนที่บอกเริ่มจากหัวแถวเชนเดียวกับการนับตามธรรมดา เชน นับสองลูกเสือคงนับหนึ่ง สอง หนึ่ง สองเรียงตอไปตามลําดับจนสุดแถว หมายเหตุ 1. นับใหใชสําหรับหนากระดานแถวเดียว แตถาหนากระดานหลายแถวก็ใหนับ เฉพาะแถวหนาหรือ หากมีความประสงคจะใหแถวใดนับก็ใชคําบอกวา “แถวที่ สอง (สาม……) นับ” 2. การนับใชหัดใหลูกเสือออกเสียงใหถูกตองตามลักษณะของลูกเสือ 3. การนับเมื่อแถวมีการแยกคูขาดใหคนที่อยูทายแถวสุดของแถวหลังสุด ขาน จํานวนที่ขาดใหทราบโดยขานวา “ขาดหนึ่ง” (สอง สาม ฯลฯ) แลวแตการ เขาแถวครั้งนั้น 13. ทาถอดหมวก 1.ถอดหมวก คําบอก “ถอดหมวก”
23.
การปฏิบัติ ก.แบมือซายและงอศอกจนแขนทอนลางไดฉากกับแขนทอนบนนิ้วหัวแมมือตั้ง ขึ้นขางบนพรอมกันนั้นใชมือขวา จับที่กะบังหนาหมวก
(หมวกทรงกลมที่มีกะบัง หนาหมวก, หมวกทรงหมอตาล) จับที่ปกหมวกดานหนา (หมวกปกกวางพับขาง และไมพับขาง) จับที่หมวกดานขวา (หมวกทรงออน) จับที่ขอบหมวกบนดานหนา (หมวกกลาสี) ข. ถอดหมวกออกจากศีรษะ วงครอบหัวแมมือซาย ใหหนาหมวกหันไปทางขวา ขอบหมวกดานนอกอยูระหวางนิ้วหัวแมมือกับนิ้วชี้ ค. ลดมือขวาลงมาอยูในทาตรงพรอมกับมือซายจับหนาหมวกดวยนิ้วหัวแมมือ กับ นิ้วอื่นทั้งสี่ (รูปที่ 35,36,37) รูปที่ 35 ทาถอดหมวก รูปที่ 36 ทาถอดหมวก (หมวกทรงออน) จังหวะ 1 (หมวกทรงออน) จังหวะ 2 รูปที่ 37 ทาถอดหมวก (หมวกทรงออน) จังหวะ 3
24.
2. สวมหมวก คําบอก “สวมหมวก” การปฏิบัติ
ก. ใชมือขวาจับหมวกที่อยูในมือซาย เชนเดียวกับการถอดหมวก ข. ยกหมวกขึ้นสวมศีรษะ มือซายชวยจัดหมวกก็ได ค. ลดมือทั้งสองลงมาอยูในทาตรงอยางแข็งแรง (รูปที่ 38,39,40) รูปที่ 38 ทาสวมหมวก รูปที่ 39 ทาสวมหมวก (หมวกทรงออน) จังหวะ 1 (หมวกทรงออน) จังหวะ 2 รูปที่ 40 ทาสวมหมวก (หมวกทรงออน) จังหวะ 3 หมายเหตุ 1. ทาถอดหมวกใชในโอกาสเกี่ยวกับพิธีสงฆหรือทางศาสนา เชน พิธีสวนสนามที่ มีการประพรมนํ้าพระพุทธมนต เปนตน 2. การหัดในขั้นแรก ควรกระทําเปนตอน ๆ (หมายอักษรละตอน) เมื่อลูกเสือมี ความเขาใจดีแลว จึงหัดโดยเปดตอน
25.
3. ถาลูกเสือถือไมพลองหรือไมงาม กอนทําทาถอดหมวกและสวมหมวก
ใหนํา อาวุธมาไวระหวางปลายเทาทั้งสอง แลวพิงทอนบนไวกับแขนซาย ครั้นแลวจึง ปฏิบัติตามขั้นตอนตางๆ ตอไปและเมื่อถอดหรือสวมหมวกเรียบรอยแลว จึงนํา ไมพลองหรือไมสามงามไปอยูในทาเรียบอาวุธตามเดิม 14. การถวายราชสดุดี คําบอก “ถอดหมวก,นั่ง” การปฏิบัติ เมื่อสั่ง ”ถอดหมวก” เวนระยะไวพอสมควร เมื่อลูกเสือทุกคนถอดหมวกเรียบรอย แลวใหสั่ง “นั่ง” เมื่อลูกเสือไดยินคําสั่งวา “นั่ง” ใหกาวเทาซายไปขางหนาครึ่งกาว คุกเขาขวาลงตั้งเขาซาย นั่งลงบนสนเทาขวา มือขวาแบควํ่า วางลงบนเขาขวามือ ซายที่ถือหมวกวางพาดบนเขาซาย และตั้งฉากกับเขาซาย เมื่อรองเพชงราชสดุดี ใหกมหนาเล็กนอย และใหเงยหนาขึ้นตามเดิมเมื่อเพลงจบ เมื่อสั่งวา “ลุก” ใหลูกเสือลุกขึ้น โดยดึงเทาซายที่กาวออกไปกลับมาชิดเทาขวา และเมื่อสั่ง “สวมหมวก” ใหลูกเสือสวมหมวกโดยเร็ว แลวอยูในทาตรง หมายเหตุ ในกรณีที่ลูกเสือมีไมพลองหรือไมงาม ใหถอดหมวกในทาที่มีอาวุธเสียกอน แลว จึงนั่งโดยนําไมพลองหรือไมสามงามไปวางไวตามยาว ชิดขาขวาทางขวามือขวา คงแบควํ่าวางบนเขาตามปกติ รูปที่ 41 การถวายราชสดุดี
26.
15. การถอดหมวกเพื่อสวดมนต -
สงบนิ่ง ก. หมวกลูกเสือสํารอง หมวกทรงกลมมีกะบังหนาหมวก ใชมือขวาจับที่กะบังหนาหมวก แลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายอยูขางบน กะบังหมวกอยูระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหลดมือขวาที่ถือกะบังหนาหมวกไปอยูกึ่งกลางลําตัว แขนเหยียด ตรงพรอมกับวางฝามือซายทับลงบนหลังมือขวา กมหนาเล็กนอย สงบนิ่งอยูประมาณ 1 นาทีแลว เงยหนาขึ้นสวมหมวก รูปที่ 42 หมวกทรงกลมมีกะบังหนาหมวก (สวดมนต - สงบนิ่ง) รูปที่ 43
27.
ข. หมวกลูกเสือสามัญ หมวกปก
กวางพับขาง ใชมือขวาจับที่ปกหมวกดานหนาแลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายขึ้นมาประกบ กับมือขวาในทาพนมมือใหดานในของหมวกหันไปทางซาย ดอกจันหันไปดานหนา ใหปกหมวก อยูระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบัติเชนเดียวกับหมวกลูกเสือสํารอง รูปที่ 44 หมวกผูบังคับบัญชาลูกเสือ หมวกปกกวางไมพับขาง (สวดมนต - สงบนิ่ง) รูปที่ 45 รูปที่ 46 รูปที่ 47 ค. หมวกผูบังคับบัญชาลูกเสือ หมวกปกกวาง ไมพับขาง ใชมือขวาจับที่ปกหมวกดานหนาแลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายขึ้นมาประกบ มือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหันไปทางซาย หนาหมวกอยูขางบน ใหปกหมวกอยู ระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบัติเชนเดียวกับหมวกลูกเสือสามัญ
28.
ง. หมวกทรงออน (เบเรห) ใชมือขวาจับที่หมวกดานขวาแลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายขึ้นมาประกบกับ มือขวาในทาพนมมือใหดานในของหมวกหันไปทางซายหนาหมวกหันเขาหาตัว
ใหหมวกอยู ระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบัติเชนเดียวกับหมวกลูกเสือสามัญ จ. หมวกกลาสี ใชมือขวาจับที่หมวกดานหนาแลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายขึ้นมาประกบกับ มือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหันไปทางซาย หนาหมวกอยูขางบน ใหหมวกอยู ระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบัติเชนเดียวกับหมวกทรงออน ฉ. หมวกทรงหมอตาล ใชมือขวาจับที่กะบังหนาหมวกแลวถอดหมวกพรอมกับยกมือซายขึ้นมาประกบ กับมือขวาในทาพนมมือ ใหดานในของหมวกหันไปทางซาย หนาหมวกอยูขางบน ใหกะบังหนา หมวกอยูระหวางฝามือทั้งสอง และหนีบหมวกไว เวลาสงบนิ่ง ใหปฏิบัติเชนเดียวกับหมวกกลาสี 16. ทาหมอบ 1. หมอบ คําบอก “หมอบ” การปฏิบัติ ก. กาวเทาซายไปขางหนาประมาณ 1 กาว นํ้าหนักตัวใหอยูบนเทาทั้งสอง แขนทั้ง สองในขณะนี้ยังคงอยูที่เดิม ข. ทรุดตัวคุกเขาขวา และเขาซายตามลําดับลงจดพื้น พรอมกับกมตัวลงไปขาง หนาและเหยียดแขนทั้งสอง ใชมือยันพื้น เพื่อรับนํ้าหนักตัว แลวเหยียดขาขวา ตึง เงยหนาตามองตรงไปขางหนา ค. เหยียดเทาซายใหสนเทาชิดกัน (ถึงแคโคนนิ้ว) ฝามือทั้งสองควํ่าลงกับพื้น แนว กึ่งกลางระหวางมือทั้งสองอยูประมาณหนาผาก (เวลากมหนา) กางศอกทั้งสอง ออกเต็มที่ทําศีรษะใหตํ่า และเงยหนา
29.
รูปที่ 48 ทาหมอบ 2.
ลุก คําบอก “ลุก” การปฏิบัติ ก. ชักมือทั้งสองขางเขาหาตัว พรอมกับยันพื้นยกตัวขึ้น แลวชักเทาขวาคุกเขา ข. คุกเขาซาย แลวยกตัวขึ้นยืนโดยเร็ว และนํามือทั้งสองมาไวขางขา ค. ชักเทาขวามาชิดเทาซายตอไปอยูในลักษณะทาตรง ถาเปนการเคลื่อนที่ใน ภูมิประเทศหรือจะตองเดินตอไปไมตองชักเทาขวาชิด คือเมื่อยืนขึ้นแลวก็ออก เดินไดเลยทีเดียว หมายเหตุ ก. ทาหมอบมือเปลา ใชในโอกาสเมื่อลูกเสือจะปฏิบัติ โดยมิไดถือไมพลองหรือ ไมงามกําหนดไว เพื่อใหเปนแนวปฏิบัติอันเดียวกัน ข. การหัดในขั้นแรก ควรกระทําเปนตอน ๆ (หมายอักษรละตอน) เมื่อลูกเสือมี ความเขาใจดีแลว จึงหัดโดยเปดตอน และใหปฏิบัติดวยความรวดเร็วตอ รูปที่ 49 ทาลุก
Download now