โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 1
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เมื่อเสือไดลิ้มรสเลือด (ตอนที่ 51)
ลิโปยกทหารออกจากเมืองหลวงมารบดวยลิฉุย กุยกี ตองกลยุทธวิธีแหงสงครามจรยุทธ หลอกลอใหรบ
พัวพันอยูถึงสามวันสามคืน จึงทั้งออนลาเรี่ยวแรงลง ทั้งคิดถึงยอดหวานใจเตียวเสี้ยน ซึ่งกําลังอยูในชวงขาว
ใหมปลามัน จิตใจสูรบจึงไมกลาแกรงเหมือนกับเมื่อครั้งรบดวยกองทัพปฏิวัติ
ครั้นไดขาววากองทัพของเตียวเจ และหวนเตียว ยกเขาตีเมือง หลวงจึงคิดหวงใยการขางในพระนคร ซึ่งกลอง
ดวงใจเตียวเสี้ยนอยูในที่นั้นดวย และเกรงวาเมืองหลวงจะไดรับอันตรายเพราะรูดีวาระบบและกําลังปองกันพระ
นครไมไดเขมแข็งมั่นคง ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจตีฝาทหารของกุยกีที่ปดลอมอยูดานเชิงเขาเพื่อจะกลับไปชวย
เมืองหลวง ทหารของลิฉุย กุยกี ไลตามตีลิโปอยางไมลดละ ครั้นลิโปจะหันเขามารบครั้งใดก็ถอยเสีย แตพอลิ
โปหันกลับรุดไปเมืองเตียงอัน ทั้งลิฉุย กุยกี ก็ยกทหารเขาตามตีอีก ลิโปรบพลางถอยพลางอยูตลอดทาง
ตองสูญเสียทหารไปเปนจํานวนมาก
ครั้นมาใกลกําแพงพระนคร ทหารของลิโปเห็นทหารของเตียวเจและหวนเตียวเปนจํานวนมากลอมเมืองหลวง
และกําลังโจมตีกําแพงพระนครก็เกิดความรักตัวกลัวตาย จึงพากันไปเขาสวามิภักดิ์กับทหารของเตียวเจและ
หวนเตียวเปนจํานวนมาก ลิโปเห็นเชนนั้นก็หมดกําลังใจตอสูอาการที่ลูกนองทิ้งนายแบบลิโปนี้ ดานหนึ่ง
เปนไปไดวาทหารของลิโปเหลานั้นเปนคนใชไมได ทอดทิ้งนายในยามยาก แตในอีกดานหนึ่งก็เปนไปไดดวย
วาเกิดแตเหตุที่ลิโปเปนนายแตตําแหนงหนาที่ ไมมีน้ําใจตอลูกนอง ดวยคนนั้นมีใจ ครั้นใจไมมีน้ําใจหลอเลี้ยง
ผูกพันไวตอกันแลว ยามใดมีโอกาสหรือยามใดเปนยามยาก ความสัมพันธของคนที่อาศัยแตเพียงตําแหนง
และหนาที่จึงยอมขาดสะบั้นลงโดยงาย
ลิโปเหลือทหารที่ยังคงจงรักภักดีเพียงไมกี่คนจึงเห็นเหลือกําลังที่จะทําการสูรบขับไลกองทัพที่ลอมพระนคร
อยูนั้น จึงไดแตพาทหารที่เหลืออยูรวนเรโดยรอบพระนครอยูถึงสองสามวัน คิดไมตกวา จะแกไขสถานการณ
ประการใด การณขางในพระนครนั้น ทหารรักษาพระนครยังคงตอสูปองกันเมืองหลวงเปนสามารถ ยิงเกาทัณฑ
ทิ้งกอนศิลา และทรายคั่วจากเชิงเทินกําแพง เมืองใสทหารที่ลอมพระนครบาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก
ขณะนั้นลูกนองเกาของตั๋งโตะสองคนคือลิบองและอองหอง ซึ่งเอาตัวรอดจากการตามลางบางพรรคพวกตั๋ง
โตะของอองอุน โดยอาศัยวิชาจิ้งจกเปลี่ยนสี ทําทีเขาเปนพวกของอองอุน จึงยังคงรักษาตําแหนงขุนนางใน
เมืองหลวงเอาไวได ครั้นไดทราบขาวสี่ทหาร เอกของตั๋งโตะเจานายเกายกกองทัพมาโจมตีเมืองหลวงก็มี
ความยินดียิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตัวจะเปนใหญอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเห็นเปนโอกาส ที่จะแกแคนเอากับอองอุน
ดังนั้นจึงระดมลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เคย กินอยูไดเสียในทางผลประโยชนกันมาแตกอนแลวกอการเปนไสศึก
ขึ้นในเมือง
ครั้นเห็นเปนทีที่ภายในเมืองหลวงกําลังชุลมุนสูรบกับกองทัพของสี่ทหารเอกอยูบนเชิงเทินพระนคร จึงพา
พรรคพวกไลฆาฟนทหารฝายเมืองหลวงที่รักษาประตูเมืองอยูนั้น แลวเปดประตูเมืองทั้งสี่ดาน กองทัพของลิ
ฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว จึงกรูกันเขาพระนคร ฆาฟนทหารที่รักษาเชิงเทินบาดเจ็บลมตายเปน อันมาก
ทหารฝายเมืองหลวงที่เหลืออยูก็ยอมเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี
ลิโปเห็นเมืองหลวงแตกก็ตกใจ รีบตีฝาทหารของลิฉุย กุยกี เขา ไปในพระราชวัง ไปพบอองอุนที่ตึก
บัญชาการแลววา บัดนี้เมืองหลวง ตกอยูในมือขาศึกแลว ใหรีบขึ้นมาตีฝาออกไปดวยกัน อองอุนบัดนี้เห็นทีคับ
ขัน ครั้นจะหนีก็คงหนีไมรอดเพราะชราภาพ ทั้งไมตองการใหถูกตราหนาในภายหลังวาทอดทิ้งฮองเตใน ยาม
วิกฤติจึงตัดสินใจรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณแลววากับลิโปวา "เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไมควร ถึงจะตายก็เอา
ความชอบไวภายหนา ทานจะไปก็ไปเถิด แตชวยเอาเนื้อความทั้งนี้ไปแจงแกหัวเมืองทั้งปวงวา เราคํานับไป
ดวย บัดนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองหลวงใหหัวเมืองทั้งปวงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดิน ยกกองทัพเขามาชวยกําจัดศัตรู
ราชสมบัติเสีย" อองอุนในยามเขาตาจนจึงเพิ่งคิดถึงการทํานุบํารุงแผนดิน เพิ่งคิดขอใหหัวเมืองตางๆ ยกทัพ
เขามากําจัดศัตรูแผนดิน ซึ่งถาหากไม ตั้งอยูในความประมาทคิดถึงเรื่องนี้และทําในเรื่องนี้เสียกอนก็จะไมตก
อยูในสภาพอับจนเยี่ยงนี้ ถึงกระนั้นก็ยังคงคิดไวลายเสือเฒาใหลิโปชวยบอกกลาวบรรดาหัวเมืองตางๆ ถึง
เกียรติคุณของตนที่ยอม ตายอยูกับฮองเตเพื่อจะไดมีชื่อเสียงปรากฏไวในประวัติศาสตร
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปฟงคําอองอุนแลวยังพยายามชักชวนใหรีบหนีอีกหลายหน แตอองอุนก็ยืนหยัดเจตนาเดิม พอดีขณะนั้น
ทหารของลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว ยกตามมาและเขาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน แตไมกลาบุกรุกผาน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 2
ประตูพระราชวังเขาไป เพราะสี่ทหารเอกและทหารเหลานั้นเดิมทีลวนเปนทหารอาชีพ เคารพตอกฎมณเฑียร
บาล จึงยังคงเกรงพระบรมเดชานุภาพของฮองเต ตางคนตางก็อออยูแตภายนอกกําแพงพระราชวัง
ลิโปเห็นสถานการณคับขัน ทั้งเพลิงก็ลุกไหมขึ้นภายนอกพระราชวังหลายแหง ครั้นจะเขาไปรับเอาเตียวเสี้ยน
และครอบครัวออกมาก็ไมทันการ จึงรีบตีฝาออกจากประตูพระราชวังพา ทหารรอยเศษตีฝาหนีออกจากเมือง
หลวงตรงไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง อองอุนครั้นลิโปไปแลวจึงเดินทางเขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงพระ
ตําหนักที่ประทับ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ วาบัดนี้สี่ทหารเอกของตั๋งโตะยึดไดเมือง
หลวงแลว และยกทหารมาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน ดังนั้นจึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จออกพระบัญชร
สันติภาพ บนชั้นสองของพระที่นั่งเพื่อระงับการจลาจลตอไป
พระเจาเหี้ยนเตจึงเสด็จออกพระบัญชรสันติภาพ ประทับบนระเบียงชั้นสองของพระตําหนักพรอมดวยขันที
อาลักษณ และอองอุน แลวโปรดใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว เขาเฝา ณ พื้นเบื้องลางของพระบัญชร
นั้น สี่ทหารเอกรับทราบพระราชกระแสแลวก็พากันมาเฝาอยูขางลาง กราบถวายบังคมแลว พระเจาเหี้ยนเตจึง
รับสั่งถามวาพวกเจายกทหารมาลอมพระราชวังนี้มีประสงคสิ่งใด สี่ทหารเอกกราบบังคมทูลวาที่กระทําการดังนี้
จะคิดเปนกบฏตอ แผนดินนั้นหามิได เนื่องจากเบื้องกอนนี้ตั๋งโตะเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และอัครมหา
เสนาบดี ไดทํานุบํารุงบานเมืองและราษฎรใหเปนสุข แตอองอุนคบคิดกับลิโปสังหารตั๋งโตะเสีย แลวยึด
อํานาจไวเสียเองโดยไมชอบดวยกฎหมาย พวกขาพระพุทธเจาปรารถนาจะสรางความ ถูกตองขึ้นในบานเมือง
ธํารงบทกฎหมายใหศักดิ์สิทธิ์ เปนหลักและขื่อแปของบานเมืองเพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป
ดังนั้น จึงขอพระราชทานเอาตัวอองอุนมาประหารเสียในฐานะเปนกบฏตอแผนดิน เสร็จการแลว
ขาพระพุทธเจาทั้งปวงก็จะ กลับคืนสูที่ตั้งตามเดิม อองอุนไดยินดังนั้นจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาเปน
ขุนนางรับราชการในพระราชวงศฮั่นดวยความสัตยสุจริตติดตอกันถึง สี่แผนดิน เห็นตั๋งโตะเปนทรราชคิดแยง
ชิงราชสมบัติ เบียดเบียนบาน เมืองและราษฎร ขาพระพุทธเจาจึงคิดกําจัดภัยแผนดินเสีย บัดนี้มีความวุนวาย
ขึ้นในพระราชวังอันเนื่องมาแตความตองการตัวขาพระพุทธเจา ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงพรอมพลีชีวิตถวาย
เปนราชพลี เพื่อใหเหตุการณวุนวายไดสงบลง และขอกราบถวายบังคมลา ณ บัดนี้
วาแลวอองอุนก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสองลงมาที่พื้นขางหนาสี่ทหารเอก ดวยความชราภาพและความสูง
จึงทําใหอองอุนแขน ขาหักทรุดอยูกับที่ แตปากนั้นยังกลาอยูและรองขึ้นวา "ไอศัตรูราชสมบัติ กูอยูที่นี่แลว"
สี่ทหารเอกอยากรูความถึงเหตุผลและผูคนที่เกี่ยวของในการสังหารตั๋งโตะ จึงถามอองอุนวาตั๋งโตะมีผิดสิ่งใด
จึงคบคิดกับลิโปฆาเสีย และมีใครรวมเกี่ยวของดวยบาง อองอุนจึงวาฆาเสียเพราะตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ
เปนทรราช ขมเหงและทํารายขุนนางแลราษฎร พวกเจาก็รูอยูแกใจ หามีใครรวมมือดวยกูไม สี่ทหารเอกจึงวา
ตอไปวา ครั้นเราทั้งสี่คนมีหนังสือมาสวามิภักดิ์ขอทําราชการดวย เหตุใดตัวจึงจองอาฆาตพยาบาทคิดสังหาร
พวกเราสี่คนเลา อองอุนจึงวาเพราะพวกเจาเปนพวกทรราช ขณะนั้นอองอุนบาดเจ็บไดความทรมานนัก จึงยั่วสี่
ทหารเอกวาพวกมึงเปนกบฏ กูอยูในเงื้อมมือพวกมึงแลว จะฆาก็เรงฆาเสียเถิด สี่ทหารเอกไดฟงก็โกรธ ทั้ง
เห็นจะซักไซไลเลียงใหอองอุนเปด ปากวามีใครเปนพวกคบคิดสังหารตั๋งโตะไมเปนผลแลว จึงเอาดาบฟน
อองอุนถึงแกความตาย แลวสั่งใหทหารไปจับเอาบุตร ภรรยา และญาติพี่นองอองอุนฆาเสียทั้งสิ้น
หลังจากอองอุนกระโดดลงไปใหสี่ทหารเอกฆาแลว พระเจาเหี้ยนเตสลดพระทัยอาลัยนักจึงเสด็จเขา สี่ทหาร
เอกกราบถวายบังคมลาแลวพากันไปปรึกษาที่ตึกบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร แตคงใหทหารลอม
พระราชวังไวอางวาเปนการถวายการอารักขาฮองเต สี่ทหารเอกเมื่อมาถึงกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระ
นครแลว ก็ใหทหารของตัวเขาประจําการ เปนทหารสังกัดกองกําลังรักษาพระนคร ทหารหนวยตางๆ ในพระ
นครที่เขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากก็ใหทําหนาที่ในหนวยสังกัดเดิม สี่ทหารเอกนั้นแรกเริ่มคิดอานกันแตเพียง
เพื่อเสี่ยงตายตอสูเอา ตัวรอดแลวกาวมาถึงขั้นคิดสังหารอองอุนเพื่อแกแคน ครั้นยึดพระนครไดแลวก็เริ่ม
สัมผัสวาสถานการณทั้งปวงไดตกอยูภายใตอํานาจการควบคุมของกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งพวกตนเปน
คณะผูบัญชาการแลวโดยไมไดคิดฝน มารูตัวอีกทีหนึ่งก็กลายเปนคณะรัฐประหารที่ยึดอํานาจรัฐจากอองอุนมา
ไวในกํามือเสียแลว
คนหนึ่งประมาทจนอํานาจรัฐหลุดจากมือแลวถูกสังหารอยางทารุณ แตอีกสี่คนเพียงแคเสี่ยงเอาตัวรอดกลับ
บังเอิญไดอํานาจรัฐมาครอง ดูประหนึ่งวาฟานั้นไรกฎเกณฑ แตความจริงนี่คือกฎเกณฑ ของฟา เนื่องเพราะ
กฎเกณฑของฟานั้นไมขึ้นตอการคํานวณทางคณิตศาสตร ไมขึ้นตอกฎเกณฑของตรรกะ และไมขึ้นตอ
เจตจํานงของผูคน แตใครเลาจักเขาถึงกฎเกณฑของฟาได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 3
เมื่อรูตัววาไดครองอํานาจรัฐอยูในมือฉะนี้แลว ลิฉุย กุยกี จึงคิดกาวตอไปถึงขนาดคิดลมราชวงศฮั่น สังหาร
ฮองเต ตั้งระบอบการ ปกครองโดยสภารัฐประหาร แตเตียวเจ และหวนเตียว คัดคานวาแผนดินมีธรรมเนียมการ
ปกครองในระบอบกษัตริย ราชวงศฮั่นไดสถาปนามารวม 400 ปแลว หัวเมืองจํานวนมากยังคงจงรักภักดีตอ
ราชวงศฮั่น เจาเมืองจํานวนมากก็เปนพวก "แซเลา" เชื้อสายของพระเจาฮั่นโกโจเลาปง ทั้งราษฎรก็เคยชินใน
ระบอบกษัตริย หากลมฮองเตเสียแลวบรรดาหัวเมืองก็จะยกกองทัพเขามา ราษฎรก็จะกอการจลาจล พวกเราก็
จะคุมสถานการณไวไมได ดีรายอํานาจวาสนา ที่มีอยูในวันนี้ก็จะสูญสิ้นไป กระไรเลยควรคงราชวงศฮั่นและ
พระเจาเหี้ยนเตไวดังเดิม แลวพวกเราครองอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะ บานเมืองก็จะเปนปกติสุขสืบไป
ที่ประชุมสภารัฐประหารเห็นชอบดวยกับความคิดของเตียวเจ และหวนเตียว และตกลงกันตอไปวาตองรีบ
สลายตัวสภารัฐประหาร แลวกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตโปรดเกลาฯ ใหดํารงตําแหนง ขุนนางตาม
ระบอบการปกครองปกติ เพื่อสลายคราบเผด็จการออกไปแลวใชเสื้อคลุมของฮองเตคุมตัวใหไดครองอํานาจ
เผด็จการไดโดย ชอบดวยกฎหมาย จากนั้นแลวจึงคอยคิดอานกําจัดศัตรูทางการเมือง อยางเปนขั้นตอน วาง
ฐานอํานาจภายใตฮองเตใหมั่นคงยั่งยืน เมื่อปรึกษาพรอมกันแลวจึงพากันไปขอเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต พระ
เจาเหี้ยนเตเสด็จขึ้นใหสี่ทหารเอกเขาเฝา แลวรับสั่งถามวาเดิมทีพวกเจายกกองทัพมาอางวาตองการตัว
อองอุน บัดนี้อองอุนก็ตายแลว เหตุใดจึงยังไมยกทัพกลับไปอีกเลา สี่ทหารเอกบัดนี้ประดุจดั่งเสือรายที่เพิ่งได
สัมผัสรสเลือดจึงยอมเปนวิสัยเสือที่ไหนเลยจะละวางเสียแตเพียงเทานี้ มีแตจะกระทําการตามอําเภอใจของ
สัตวเดรัจฉานตอไปเทานั้น
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เปดตัวตนตํารับลวงโลก (ตอนที่ 52)
สี่ทหารเอกฟงรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตแลวกราบบังคมทูลวา พวกขาพระพุทธเจาทําราชการมีความชอบมา
แตกอน แตหามีผูใด กราบบังคมทูลเสนอความชอบใหไม บัดนี้พวกขาพระพุทธเจาประสงคจะเปนขุนนางรับ
ราชการในเมืองหลวง จึงขอรับพระราชทานพระกรุณา พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลก็รูความนัย จึง
รับสั่งถามตอไปวา พวกเจาตองการตําแหนงใดขอใหวามา สี่ทหารเอกฟงรับสั่งแลวคิดไมทันวาจะทูลขอรับ
พระราชทานตําแหนงใดเพราะไมได เตรียมตัวมากอน ทั้งไมรูสายสนกลในในการบริหารราชการแผนดิน จึงไม
สามารถกราบทูลตอไปได ตางคนตางอ้ําอึ้งอยูพักหนึ่งแลวลิฉุย กุยกี จึงกราบทูลวาขาพระพุทธเจาขอเวลา
กลับไปปรึกษากันกอนแลว กราบถวายบังคมลา
ลาภวาสนาอันไดมาโดยบังเอิญ และบังเอิญเสียจนไมรูวาจะเอา อยางไรกันดี คลายๆ กับยาจกตกเขาไปใน
แหลงมหาสมบัติ ไมรูจะหยิบฉวยเอาสิ่งใด ไดแตหูพราตาลาย ไมตางกระไรกับคณะรัฐประหารบางคณะที่ยึด
อํานาจแลวไมมีสติปญญาคิดอานวาจะทําการอยางใดสืบไป จนในที่สุดกลับยกเอาอํานาจนั้นใหคนอื่นเสียดื้อๆ
แตลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวนั้น แมจะเปนทหารบานนอก แตยังคงความเฉลียวฉลาดกวาคณะ
รัฐประหารบางคณะ จึงขอเวลาตั้งหลักคิดอานกันใหม
ครั้นกราบถวายบังคมลากลับมายังกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนครแลว จึงปรึกษากันวาจะขอรับ
พระราชทานตําแหนงใด แตในที่สุดก็ไมรูวาจะขอรับพระราชทานตําแหนงใดจึงจะครองอํานาจ รัฐไวได
ตามปกติ ดังนั้นจึงใหไปเชิญเจากรมกําลังพลและนักวิชาการ มาปรึกษาวาตําแหนงใดที่ครองแลวจะมีผลเปน
การครองอํานาจรัฐไดสืบไป เมื่อปรึกษาตกลงกันแลว จึงทําเปนหนังสือกราบบังคมทูลขอ รับพระราชทาน
ตําแหนงใหลิฉุยเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน เปนผูบัญชาการกองทัพภาคกลาง และเปนผูบัญชาการกองกําลัง
รักษาพระนคร กุยกีเปนผูบัญชาการทหารสวนหลัง และขุนนางผูใหญมี ตําแหนงเฝา เตียวเจเปนผูบัญชาการ
ทหารฝายซาย และหวนเตียว เปนผูบัญชาการทหารฝายขวา
พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรหนังสือกราบบังคมทูลแลว ทรงโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหสี่ทหารเอกดํารงตําแหนง
ตามที่เสนอ นี่คือพระบรมราโชบายที่สอดคลองกับวิถีแหงฟา เปนไปตามหลักพิชัยสงครามที่ไมแตกหักเมื่อยัง
แตกหักไมได เปนไปตามหลักสุดยอดกลยุทธหนึ่งในสามสิบหกประการ คือ "หนี" เมื่อยังเอาชนะไมไดนั่นเอง
นับวาพระเจาเหี้ยนเตซึ่งเปนพระมหากษัตริย เมื่อสองพันปกอนทรงมีพระสติปญญายิ่งกวาพระมหากษัตริย
พมาที่แข็งกราวแตกหักกับอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไมมีน้ํายาที่จะตอกรดวยกองทัพของอังกฤษ เปนเหตุใหพมาตองตก
เปนเมืองขึ้นอังกฤษในที่สุด
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 4
ครั้นไดรับพระมหากรุณาโปรดเกลาฯ ใหไดรับตําแหนงตามที่ทูล ขอแลว ลิฉุย กุยกี จึงถอนทหารที่ลอม
พระราชวังยกออกมาตั้งที่กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร และใหเตียวเจ หวนเตียว คุม ทหารยกไป
รักษาเมืองฮองหลง ซึ่งเปนเมืองหนาดานและเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการปองกันขาศึก
เมื่อไดอํานาจรัฐแลวก็ลงมือเลนพรรคเลนพวกตามวิสัยของนักการเมือง เหตุนี้ลิฉุย กุยกี จึงแตงตั้งใหลิบอง
และอองหอง ลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เปนพวกเดียวกันและเปนไสศึกเปดประตูเมือง รับกองทัพสี่ทหารเอกให
เปนที่ขุนนาง สวนทหารที่มาดวยกันในกองทัพที่เปนตัวนายก็แตงตั้งเปนขุนนาง ระดับรอง ๆ ลงมาก็เลื่อน ยศ
ตําแหนงใหทั่วถึงกัน นับวาลิฉุย กุยกี เปนนักการเมืองที่เอาพรรคเอาพวก เพียงขอใหเปนพวกเทานั้นยอม
บําเหน็จรางวัลและผลประโยชนให ดังนั้นจึงมีนักวิชาการ บัณฑิต สื่อมวลชน และขุนนางขาราชการอื่น ๆ เขา
มาเปนพวกดวยจํานวนมาก
ครั้นใครมาเปนพวกแลวก็ใชอํานาจของตัวเขาปกปองประดุจแมไกที่ คอยกางปกปกปองลูกไกฉะนั้น เพราะ
เหตุนี้พรรคพวกของลิฉุย กุยกีจึงมีจิตคิดกําเริบกลาทําชั่วชาไดทุกอยางทุกประการ โดยไมหวาดหวั่นยําเกรง
กฎหมายบานเมือง เพราะถือดีวามีอํานาจรัฐปกปองคุมครองอยูทุกกรณี ไมวาจะผิดชั่วชาขนาดไหน ประการใด
หลังจากใชอํานาจรัฐเกื้อกูลพวกพองแลวก็เผื่อแผถึงคนตายที่เปนนายเกาของตัว ลิฉุย กุยกี จึงสั่งใหตั้ง
คณะกรรมการฟนฟูเกียรติยศของตั๋งโตะขึ้นคณะหนึ่ง ใหทําการคนหาซากศพของตั๋งโตะเพื่อทําพิธีศพใหมให
สมเกียรติยศ แลวจะไดนําไปฝงตามธรรมเนียมตอไป
คณะกรรมการชุดนี้คนหาไดแตเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะที่ถูกฝงอยูนอกพระนคร ดังนั้น จึงใหทําพิธีใหญ
เอาเศษเนื้อ และกระดูกใสโลงอยางดีสําหรับศพพระบรมราชวงศ แลวใหเอาไมจันทนหอมแกะเปนรูปตั๋งโตะมี
ขนาดเทาคนจริงเอามาตั้งในพิธีแลวเซนไหวอยางธรรมเนียม ลิฉุย กุยกี ตองการใหผูคนเห็นวาตั๋งโตะนั้นเปน
รัฐบุรุษ มีคน เคารพรักอาลัยเปนอันมาก จึงเกณฑคนมารวมพิธีเซนไหวศพเปน เวลาสิบวันสิบคืน มีคนที่ถูก
เกณฑมาเซนไหวศพในครั้งนี้ถึงสองลาน คน หากใครรองไหแบบสุดโศกเศราอาดูรก็จะมอบรางวัลให ดังนั้น
จึงมีผูคนมารองไหตอหนาพิธีศพเปนจํานวนมากตลอด ระยะเวลาสิบวัน อาการรองไหนั้นสุดแสนจะโศกเศรา
อาลัยรักเปนหนักหนา ยิ่งเสียกวาเปนศพบิดามารดาของตัวเสียอีก และกลายเปนธรรมเนียมรองไหหนาศพ
ตอมาอีกนับพันป
นี่แหละอานุภาพแหงอํานาจเงินตรา ซึ่งอยาวาแตชั้นรองไหเพียงเทานี้เลย ตอใหเปนชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริยก็อาจถูกคน ขายตัวขายไดอยางไมอาลัยไยดี เหลาขุนนางขาราชการเห็นบานเมืองเขาสูยุค
"ตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม" จํานวนมากที่เคยรวมอยูในเหตุการณสังหารตั๋งโตะ หรือเคยรวมสาปแชงศพตั๋งโตะก็พา
กันมาเซนไหวศพตั๋งโตะกันเปนการใหญ พระเจาเหี้ยนเตแมยังทรงพระเยาว แตทรงทราบสถานการณดี วาควร
ตองวางพระองคอยางไร ดังนั้นจึงทรงพระราชทานของเซนไหว ศพตั๋งโตะอยางธรรมเนียมเชื้อพระวงศชั้น
ผูใหญ ลิฉุย กุยกี เห็นเชนนี้ก็ดีใจยิ่งนัก ภาพที่สรางขึ้นเพื่อลวงโลกกลับมาหลอกตัวเองใหหลงไปวาตั๋งโตะ
นั้นมีผูคนเคารพรักนับถือศรัทธาเปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงตองประพฤติปฏิบัติตามแบบอยาง ของตั๋งโตะ และ
นํานโยบายตางๆ ของตั๋งโตะมาใชในการบริหารราชการแผนดินตอไป
การบิดเบือนขอเท็จจริงเพื่อหลอกลวงชาวบานเชนนี้ถือเปนตนฉบับของการลวงโลก และเปนแบบอยางให
นักการเมืองในยุคสองพันปตอมานําไปใช โดยไมคํานึงวาสิ่งที่บิดเบือนหลอกลวงนั้นจะสราง ความรูสึกที่เจ็บ
แคนชิงชังแกอาณาประชาราษฎรอยางไร ในขณะที่น้ําทวมบานเรือนและทรัพยสินราษฎร และกระแสน้ํา พัด
พาผูคนลมตายหายไปเปนจํานวนมาก แทนที่จะยอมรับวาเกิดอุทกภัย และบอกวามีแผนการแกไขอยางไร
กลับบิดเบือนหลอกลวง เสียวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการปองกันแกไขปญหาภัยแลงอยางไดผล ในบางป
ภัยแลงคุกคาม ฝนฟาไมตก อากาศรอนและแลงจัด ดินแตกระแหง สัตวไมมีน้ํากิน พืชผลของเกษตรกร
เสียหายทั่วประเทศ แทนที่จะยอมรับวาเกิดภัยแลงและบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือน
หลอกลวงวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการแกไข ปญหาน้ําทวมอยางไดผล ครั้นสรางหนี้สินจนบานเมืองมี
หนี้สินลนพนตัว ถึงขนาดที่ชาว นาทั้งประเทศตองขายขาวทั้งหมดที่ผลิตไดโดยไมตองเหลือไวกินก็ตองใช
เวลาถึง
สองรอยหาสิบปจึงจะชดใชหนี้ไดหมด แทนที่จะยอมรับความจริงแลวแกไขความผิดพลาดกลับหลอกลวง
บิดเบือนดวยการออกคํานิยามวา "หนี้สาธารณะ" เสียใหม ตัดเอายอดหนี้จํานวนมากออกไปแลวบอกวาหนี้
สาธารณะมีจํานวนนอยนิดเทานั้น หลังจากออกมาตรการบีบบังคับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อ จะยึดมา
เปนของรัฐแลวขายใหกับตางชาติซึ่งผิดพลาดมหันต สงผล ใหหนี้เนาเกิดขึ้นทวมทั้งระบบ แทนที่จะยอมรับ
ความผิดพลาดกลับเอาหนี้เนาออกจากระบบไปกองไวหลังบาน คือไปใสไวในองคกร อีกองคกรหนึ่งแลว
หลอกลวงบิดเบือนวาแกไขปญหาหนี้เนาไดสําเร็จแลว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 5
การหลอกลวงบิดเบือนถึงขนาดที่แมวาราษฎรไมมีเงินในกระเปา ไมมีจะกินและยากไร ซึ่งทุกผูคนสัมผัสความ
จริงอยูกับตัว แตยังกลาหลอกลวงวาสามารถแกไขปญหาเศรษฐกิจถูกตอง ถูกทาง แลว ทุกคนมีรายไดมาก
ขึ้นแลว มีเงินในกระเปาเพิ่มขึ้นแลว รายไดประชาชาติเพิ่มขึ้นแลว การโกหกหลอกลวงบิดเบือนของ
นักการเมืองในยุคหลังดังกลาว นี้ นับไดวาไดพัฒนาวิชาลวงโลกของลิฉุย กุยกี จนกาวหนายิ่งกวาตนฉบับเดิม
มากมายนัก ดังนั้นนักการเมืองลวงโลกเชนนี้จึงยอมถือไดวาเปนพวกลูกศิษย หลานศิษยของลิฉุย กุยกี
ลูกนองผูซื่อสัตยของจอมทรราชตั๋งโตะ และตองนับวาเปนลูกศิษย หลานศิษยที่ยอด เยี่ยมยิ่งกวาคนรุน
ปรมาจารยเทียบกันไมติด
ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวตามธรรมเนียมแลว จึงใหเชิญศพตั๋งโตะไปทําพิธีฝง ณ สุสานวีรชน แตครั้นจะทําพิธีฝง
พระแมธรณีกลับลงทัณฑ สวรรคกลับสาปสงบันดาลใหเกิดพายุพัดแรงกลา ฝน ตกหนักหาใหญ น้ําทวม
แผนดินถึงสองศอก เกิดอสุนีบาตผาถูกโลงศพตั๋งโตะแตกกระจัดกระจาย เศษเนื้อและกระดูกกระจายไปสิ้น ลิ
ฉุย กุยกี รออยูในพิธีฝงศพตั๋งโตะจนกระทั่งพายุสงบ ฝนสราง ฟากระจางแลว จึงใหทหารไปเก็บรวบรวมเศษ
เนื้อ เศษกระดูกมาผสมกันแลวใสไวในโลงใหม กวาจะเสร็จก็ลวงยามเที่ยงคืน ครั้นจะเอาโลงศพนั้นลงฝงอีกก็
เกิดพายุจัด ฝนตก แลวฟาผาลงที่โลงนั้นซ้ําอีก โลงแตกกระจาย เศษเนื้อและกระดูกที่ปนเปนรูปตั๋งโตะก็แตก
กระจายแหลกละเอียดสิ้น ลิฉุย กุยกี ยังไมละความพยายาม พอฝนสรางก็สั่งใหเก็บรวมรวมเศษเนื้อและกระดูก
ของตั๋งโตะมาผสมเขากันอีกครั้งหนึ่ง แลวนํา ไปใสโลงใบใหมเพื่อเตรียมฝงจนถึงเวลาใกลจะสวาง แตครั้นจะ
ฝงอีก ครั้งหนึ่งก็เกิดเหตุการณเชนเดิมคือเกิดลมพายุพัดจัด ฝนกระหน่ําจนน้ําทวมพื้นดินและเกิดฟาผาถูกโลง
ที่ใสเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะนั้นแหลกละเอียดกระจายจนไมเปนชิ้นดี ไมสามารถจัดเก็บรวบรวมมาฝงได
อีกตอไป
ตั๋งโตะตายไปแลว ในตอนที่เปนศพก็ถูกทหารเอาไสตะเกียงเจาะใสทองจุดเปนตะเกียงจนซากศพถูกเผาไหม
ดวยไฟแหงน้ํามือคน ครั้นเก็บเศษเนื้อและกระดูกมาทําพิธีฝงกลับถูกไฟแหงสวรรคบันดาลทําลายจนไม
สามารถฝงไดตามธรรมเนียม นี่หาใชเนื่อง จากเหตุอื่นใดไม หากเนื่องเพราะผลกรรมที่ทําชั่วชาไวกับแผนดิน
และราษฎรจนแมแตฟาก็ไมอาจใหอยูใต แมพระธรณีก็ไมอาจใหอยูบน แตกระนั้นพฤติกรรมลวงโลกของลิฉุย
กุยกี ที่กระทําใหกับตั๋งโตะนั้นก็ยังพอนับวาเปนลูกนองที่ใชได เพราะไดแสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ
เจานายตัวจนถึงที่สุด ความดีของลิฉุย กุยกี ถาหากจะยกขึ้นแสดงก็คงมีประการนี้ประการเดียวเทานั้น
ครั้นฝงศพตั๋งโตะไมสําเร็จเพราะฟาดินไมยอมรับเปนที่คุมและรองรับคนแบบตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกี จึง
จําเปนตองกลับเขาเมืองหลวง เริ่มกิจกรรมที่ชั่วชาทางการเมืองตอไปดวยการติดสินบนขันทีที่อยูใน พระ
ตําหนักของฮองเตใหเปนสายลับคอยรายงานขาวความเคลื่อนไหวของพระเจาเหี้ยนเตใหทราบทุกประการ แต
กระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยังคงเปนทหารที่ไมรูการแผนดิน จะสั่งการใดๆ ในการบริหารราชการแผนดินก็ฟนเฟอน
วิปริตผันแปร แตยังดีที่รูสึกตัววาเปนการไมถูกตอง จึงใหหาจูฮีอดีตรองแมทัพใหญ ปราบโจรโพกผาเหลืองที่
ลาออกจากราชการเพราะไมสามารถจายเงินคาสวยสินบนแกสิบขันทีใหกลับเขารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ตั้งเปน
ขุนนางผูใหญในตําแหนงที่ปรึกษาผูสําเร็จราชการแผนดิน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
สงครามขุนศึกภาคพายัพ (ตอนที่ 53)
การสรางภาพลวงโลกที่ลิฉุย กุยกีไดจัดฉากสรางขึ้นในงานพิธี ศพของตั๋งโตะไดกลับมาหลอกลวงแลว
ครอบงําความคิดของลิฉุย กุยกีวาพฤติกรรมและการกระทําแบบตั๋งโตะคือแบบอยางอันเปนที่ เคารพรักของ
ราษฎร ดังนั้น รัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงสืบทอดเจตนารมณ นโยบาย และพฤติกรรม ตลอดจนการกระทําตางๆ
ของตั๋งโตะเอามาใช แตหาไดสังวรและเฉลียวใจถึงเหตุการณในพิธีฝงศพของตั๋งโตะที่แมแตพระแมธรณียังไม
ยอมรับเรือนราง และสวรรคก็ไมยอม รับใหอยูภายใตหลา วานั่นเปนผลจากความชั่วชาเลวทรามที่กระทําไวแต
ประการใด
เหตุนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีจึงเปนรัฐบาลทรราชยแบบเดียวกับ รัฐบาลของตั๋งโตะเกือบทุกประการ ยกเวนก็แต
เพียงสองอยางเทานั้นคือ ไมตั้งตัวเปนบิดาบุญธรรมของฮองเตอยางหนึ่ง และไมถึงกับเอาคนเปนๆ มาทอดใน
งานเลี้ยงโตะอีกอยางหนึ่ง เมื่อเปนเชนนี้บรรดาขุนนางขาราชการและราษฎรจึงไดรับความเดือดรอนเหมือนกับ
ครั้งตั๋งโตะอีกครั้งหนึ่ง สงผลใหหัวเมืองบางเมืองมีความคิดที่จะลมลางรัฐบาล และในหมูประชาชนหลายพื้น
ที่ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่จะลุกขึ้นสูอีกครั้งหนึ่ง เชื้อไฟขบวนการกูชาติของโจรโพกผาเหลืองจึงเริ่มปะทุขึ้นอีก
ครั้งหนึ่งดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 6
ในดานขุนศึกนั้นมาเทง เจาเมืองเสเหลียงและคูเกลอคือหันซุย เจาเมืองเปงจิ๋ว ซึ่งเปนเจาเมืองครองดินแดน
ภาคพายัพ ไดรับทราบ ขาวการกอกรรมทําเข็ญของรัฐบาลลิฉุย กุยกีแลว จึงปรึกษากันวาบัดนี้รัฐบาลของลิฉุย
กุยกีเปนทรราชยเหมือนกับรัฐบาลของตั๋งโตะ จะปลอยไวอีกไมไดจําเปนตองกําจัดเสีย ดังนั้นจึงตองวางไสศึก
ไวใน เมืองหลวงเพื่อจะไดกําจัดลิฉุย กุยกีไดโดยสะดวก สองเกลอปรึกษากันแลว จึงทําหนังสือลับถึง
มหาดเล็กในพระเจาเหี้ยนเตสามคน ซึ่งสนิทสนมไววางใจกันมาแตกอนคือ มาฮู, ตงเซียง และเลาเฉีย ใหทํา
การเปนไสศึกอยูในเมืองหลวง และใหนําความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบวา เจาเมืองทั้งสอง
จะยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อลมรัฐบาลของลิฉุย กุยกีเสีย มหาดเล็กทั้งสามคนไดรับหนังสือลับของเจา
เมืองทั้งสองแลว มีความเห็นพองตองกันที่จะตองรวมลมลางรัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงพา กันไปเฝาพระเจา
เหี้ยนเตเปนการสวนพระองคถึงขางในพระตําหนัก ที่ประทับกราบบังคมทูลใหทรงทราบความตามที่สองเจา
เมืองบอกมานั้น
พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความแลวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชหัตถเลขาไปยังสองเจาเมืองวาทรงขอบใจ
ที่สองเจาเมืองเปนเดือดแคนดวย แผนดินและราษฎร หากทําการสําเร็จแลวจะโปรดใหเปนขุนนางผูใหญสาม
มหาดเล็กรับพระราชทานพระราชหัตถเลขาแลว ก็นําไปมอบแกทหารเดินสารของมาเทง หันซุย เพื่อนําไป
มอบแกสองเจาเมืองตอไป
ครั้นมาเทง หันซุย ไดรับพระราชหัตถเลขาและทราบพระราชประสงคแลวมีความยินดียิ่งนัก จึงสั่งการใหเตรียม
กองทัพจากทั้งสอง เมืองกําลังพลสิบสองหมื่นเคลื่อนทัพจากภาคพายัพสูเมืองหลวง เสนทางเดินทัพจาก
เมืองเสเหลียงและเมืองเปงจิ๋ว ไปเมืองเตียงอันเปนระยะทางไกลกวาสามรอยกิโลเมตร เสนทางทุรกันดาร
กลางวันรอนจัด กลางคืนหนาวจัด ดังนั้นแมกองทัพทั้งสองเมืองจะเปนกองทัพมาที่เกงกลาสามารถก็ตองหยุด
พักเปนระยะๆ ครั้นเดินทัพมาถึงกลางทางหนวยลาดตระเวนของเมืองหลวงก็ไดรับขาวศึกจึงรีบสงใบบอก
รายงานใหรัฐบาลทราบ ลิฉุย กุยกี จึงใหหาเตียวเจ และหวนเตียว ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของรัฐบาลพรอม ดวย
กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญมาประชุมเพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม ขุนศึกภาคพายัพ และปรึกษาวาจะคิดอานวาง
แผนการสงครามประการใด
กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญของรัฐบาลไดเสนอความเห็นวาการศึกครั้งนี้ไมนาหนักใจแตประการใด แลวยก
สถานการณของทั้งสองฝายขึ้นแสดงตอที่ประชุมวา ขาศึกเดินทัพมาแตทางไกล และไมมีหัวเมือง ราย
ทางเขารวมดวย ดังนั้นยิ่งเดินทัพลึกเขามาทางเมืองหลวงมากเทาใด ไพรพลยอมยากลําบาก และออนลาลง
มากขึ้นเทานั้น การลําเลียง เสบียงก็จะไมสามารถลําเลียงสนับสนุนไดทันตอความตองการ ยิ่งใกล เมืองหลวง
เทาใดเสบียงอาหารก็จะลําเลียงไดนอยลงเทานั้น ในที่สุดก็จะคงเหลือเพียงเสบียงที่ติดตัวมาซึ่งใชในกอง
ทัพไดไมนาน
หลังจากแสดงสภาพการณของฝายขาศึกแลว กาเซี่ยงก็ไดแสดง สภาพการณของฝายเมืองหลวงวาฝายเมือง
หลวงตั้งมั่นอยูในพระนคร มีกําแพงเชิงเทิน คายคู หอรบพรอมสรรพ ทหารก็พรอม เสบียงก็มาก กําลังของ
เมืองหลวงในยามปะทะขาศึกจะมีความสดชื่นยิ่งกวาขาศึกที่ออนลาอิดโรย กาเซี่ยงจึงสรุปวาสถานการณ
สงครามของทั้งสองฝายเปนดั่งนี้ ทําใหเวลายิ่งเนิ่นนานไปเพียงใดยอมเปนโทษแกขาศึกเพียงนั้น และเปนคุณ
แกฝายเมืองหลวงเพียงนั้น วาแลวจึงถามที่ประชุมวาสภาพการศึกครั้งนี้เปนดั่งนี้ใชหรือไม ที่ประชุมยอมรับ
สภาพการสงครามระหวางขาศึกกับฝายเมืองหลวงตามที่กาเซี่ยงไดกลาวมาทั้งนั้น ลิฉุยจึงใหกาเซี่ยงเสนอ
แผนยุทธการตอไป
กาเซี่ยงจึงวาเมื่อปจจัยพื้นฐานของสงครามระหวางขาศึกกับเรา เปนดั่งนี้แลว ปจจัยพื้นฐานเหลานั้นจึงกําหนด
ยุทธการใหฝายเมืองหลวงเปนฝายตั้งรับ และรอคอยโอกาสโจมตี ทั้งกําหนดแผนการยุทธใหขาศึกยกลวง
มาถึงชานกําแพงพระนคร ในที่สุดขาศึกก็จะหมด เสบียงแลวตองถอนทัพกลับไป ถึงเวลานั้นฝายเมืองหลวง
จึงยกตาม ตียอมจะไดรับชัยชนะเปนมั่นคง ลิบองกับอองหอง สองขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหมเปนบําเหน็จ
ความชอบที่เปดประตูเมืองรับทัพลิฉุย กุยกี ไมเห็นดวยกับแผนยุทธการของกาเซี่ยง และเสนอแผนยุทธการ
ใหมใหฝายเมืองหลวงยกกองทัพไปโจมตีขาศึก มิใหยกลวงเขามาถึงพระนครได โดยอางวาจะกอใหเกิดความ
ตระหนกตกใจแกราษฎร แลววาขาพเจาทั้งสองขอนําทหารเพียงหมื่นคนไปตัดเอาศีรษะมาเทง หันซุย มาให
จงได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิฉุย กุยกี เห็นชอบตามแผนการยุทธของสองขุนนาง แตกาเซี่ยง ทวงติงวาการยกทัพไปครั้งนี้จะเสียทีแก
ขาศึกเปนมั่นคง เพราะเมื่อฝายเรายกทัพไปทางไกลก็จะสูญเสียความไดเปรียบที่มีอยูจากการตั้งรับและมี
สภาพไมตางกับขาศึก แตเนื่องจากขาศึกมีกําลังพลมากกวาทั้งการยุทธจะเกิดขึ้นในพื้นราบรบกันดวยกําลัง
ทหารมายอมมีสภาพเปนรองฝายกองทัพเมืองเสเหลียงที่มีความเชี่ยวชาญการรบบนหลังมา ฝายเมืองหลวงจึง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 7
เสียเปรียบในทุกทาง ลิบอง อองหอง ฟงคํากาเซี่ยงแลวไมพอใจจึงวาการยกไปครั้งนี้ถาหากไมไดหัวมาเทง
หันซุย กลับมาก็ขอใหเอาหัวของขาพเจา สองคนแทน แตถาขาพเจาไดหัวของสองเจาเมืองมาแลวก็ให
กาเซี่ยง มอบศีรษะแกขาพเจา กาเซี่ยงไมรับคําทาของสองขุนนาง ยังคงเสนอตอไปวาถาจะให ลิบอง ออง
หอง ยกไปก็จะเสียทีแกขาศึกเปนแมนมั่น แตเพื่อไมใหเสียการขาพเจาขอเสนอใหทานแมทัพเตียวเจ และ
หวนเตียว ยกทหาร อีกหมื่นหนึ่งไปตั้งมั่นไวที่เขาเจียวจิด ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกหางจาก เมืองหลวงไป
ระยะทางสองพันหารอยเสน หรือประมาณหนึ่งรอยกิโลเมตร ณ เขาลูกนี้เปนชัยภูมิสําคัญ เพราะภูมิประเทศมี
ทางเดินทัพเฉพาะตามซอกเขาเทานั้น ถึงขาศึกมีกําลังพลมากกวาก็ถูกสภาพ ภูมิประเทศบีบบังคับใหเสมือน
นอย หากลิบอง อองหอง เสียทีมาฝายเมืองหลวงก็ยังคงสามารถยันทัพขาศึกไวได ณ ที่นี้ การสงคราม ครั้งนี้
เราก็จะไมเสียทีแกขาศึก
ปรากฏวาคณะฝายทหารทั้งหมดในที่ประชุมไมเห็นดวยกับขอเสนอของกาเซี่ยง ดังนั้นลิฉุย จึงสั่งใหจัด
กองทัพพลหมื่นหาพันคนใหลิบอง และอองหองยกไปรบดวยมาเทงและหันซุยตามแผนของสอง ขุนนาง
ดังกลาว กาเซี่ยงที่ปรึกษาเห็นเชนนั้นก็มิไดวากลาวประการใด คงรําพึง แตในใจวา "แลวจะไดเห็นดีกัน" ลิ
บอง อองหอง ยกกองทัพออกจากเมืองหลวง เดินทัพไปไดประมาณสองพันเสนก็เผชิญหนากับกองทัพภาค
พายัพของมาเทงและหันซุย ดังนั้นทั้งสองฝายจึงตั้งคายลงในลักษณะประชิดกัน เตรียมการยุทธขั้นแตกหัก
ตอไป
ครั้นรุงขึ้นทหารของทั้งสองฝายจึงยกออกจากคาย ตั้งขบวนเรียงหนากระดานเขาหากัน เวนพื้นที่เปนลานรบไว
ตรงกลาง แมทัพนายกอง ของทั้งสองฝายออกมายืนมาอยูหนาทหารของฝายตน เปนการเตรียม การทําศึก
โดยอาศัยฝมือทหารเอก หลังจากเปดฉากดากันตามธรรมเนียมแลว กองทัพภาคพายัพจึงสงมาเฉียวผูเปนบุตร
มาเทงและเปนทหารเอกออกรบ มาเฉียวนั้น สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "อายุสิบแปดป หนาดังสี
หยก กิริยาวองไว" แตสามกกฉบับสมบูรณกลาววา เปน "หนุมนอยสีหนาดังหยกขาว ดวงตาดุจดาวตก รางดุจ
พยัคฆ แขนคลายวานร ทองเหมือนเสือดาว เอวดั่งสุนัขจิ้งจอก" ซึ่งดูออกจะมีลักษณะพิกล จึงเอาเปนวามา
เฉียวนั้นอายุสิบแปดป มีหนาขาวประดุจดังหยก ดวงตาคมวาว แข็งแรง แคลวคลองวองไว มาเฉียวรับคําสั่ง
แลวก็ขับมาศึกมือถือทวนยาวออกมากลางลาน รบฝายอองหองเห็นมาเฉียวยังเปนเด็กนักคิดวาจะเอาชัยได
โดยงายจึงชักมาออกมากลางลานรบ ทั้งสองฝายขับมาประอาวุธกันเพียง หาเพลง มาเฉียวก็เอาทวนแทงออง
หองตกมาตาย แลวชักมาหันหลังจะกลับเขามาในแถวทหารของเมืองเสเหลียง ฝายลิบองเห็นออง หองตายก็
โกรธ ขับมาถืองาวไลตามมาขางหลังมาเฉียว แตมาเฉียวทําเปนไมเห็น ฝายมาเทงผูบิดาเปนหวงมาเฉียวจึง
รองตะโกนใหระวังวาขาศึกกําลังไลตามมาขางหลัง พอดีลิบองขับมาเขามาใกลไดจังหวะงาวจึงเงื้องาวขึ้นจะ
ฟนมาเฉียวมาเฉียวสังเกตความเคลื่อนไหวของลิบองอยูทุกฝเทา ครั้นเห็น ลิบองเอางาวฟนลงมาก็เอี้ยวตัว
หลบพรอมกับชักมาเขาประกบมาของ ลิบอง แลวกระโจนไปบนหลังมาของลิบองจับลิบองไดบนหลังมานั้น
แลวเอามาสงแกมาเทงผูบิดา
มาเทงเห็นไดทีจึงใหสัญญาณทหารบุกเขาโจมตีกองทัพของลิบอง อองหอง ซึ่งกําลังขวัญเสียเพราะสูญเสีย
แมทัพไปทั้งหมด จึงแตกตื่น วิ่งหนีถูกทหารภาคพายัพฆาตายเปนจํานวนมาก และที่ถูกจับเปนก็ไมนอย
กองทัพลิบอง อองหอง จึงแตกพายไป มาเทงและหันซุยไดรับชัยชนะในศึกยกแรกแลว จึงเคลื่อนทัพ ภาค
พายัพเดินทางเขาเมืองหลวง แลวตั้งคายประชิดกําแพงพระนคร ครั้นตั้งคายเสร็จแลวจึงสั่งใหตัดศีรษะลิบอง
และอองหองเสียบประจานไวที่หนาคาย ลิฉุย กุยกี ทราบขาวศึกวาลิบอง อองหอง เสียทีแกขาศึกและกองทัพ
ภาคพายัพยกลวงมาประชิดกําแพงพระนคร จึงเรียกประชุมแมทัพนายกอง ณ กองบัญชาการกองกําลังรักษา
พระนคร และสั่งให หากาเซี่ยงที่ปรึกษาเขารวมประชุมดวย ลิฉุย เปดประชุมแลวกลาววาเปนความผิดของเรา
เองที่ไมฟงคํา กาเซี่ยง การณจึงเสียทีแกขาศึกถึงเพียงนี้ เราไดพิจารณาการณประมาณการศึก และแผน
ยุทธการของกาเซี่ยงอีกครั้งหนึ่งแลวเห็นวา เปนแผนการที่จะเอาชนะขาศึกได ดังนั้นจากนี้ไปใหปฏิบัติตาม
แผนของ กาเซี่ยง ทุกประการ
แลวลิฉุยจึงมีคําสั่งใหทหารทุกหนวยตั้งมั่นรับศึกในพระนครใหระมัดระวังรักษาเชิงเทิน คายคู หอรบตางๆ ให
มั่นคงทุกดาน สงครามกับขุนศึกภาคพายัพที่ดําเนินการมาถึงชั้นนี้ ไดใหขอพิสูจนที่ชัดเจนอยางหนึ่งวา
ความผิดถูกนั้นหาไดขึ้นอยูกับเสียงขางมากแตประการใดไม หากขึ้นอยูกับสติปญญาและขอมูลขาวสารที่
ถูกตองถองแทตางหาก แมจะเปนเสียงขางนอยแตถาหากมีสติปญญากําหนดแผนการขึ้นบนพื้นฐานของขอมูล
ขาวสารที่ถูกตองแลว ยังดีเสีย กวาเสียงขางมากที่ไรสติปญญาและปราศจากขอมูลขาวสารที่ถูกตอง พระผูมี
พระภาคเจาทรงตรัสวาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตยอมไม ถือวาเปนการประชุม ซึ่งหากจะกลาวโดยสํานวนของ
กิมยงก็ตองกลาววาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตก็คือการผายลมนั่นเอง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 8
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
กลยุทธสงบสยบความเคลื่อนไหว (ตอนที่ 54)
กองทัพจากแดนไกลตั้งคายประชิดกําแพงพระนครแลวยกทหารออกมาทารบกับฝายเมืองหลวงทุกวัน ตีกลอง
ศึกมาลอ โหรองดาทอฝายเมืองหลวงสักเทาใด ฝายเมืองหลวงก็ไมยอมออกรบ มิหนําซ้ํายังยั่วเยาดวยการไป
ตั้งโตะจัดเลี้ยงบนกําแพงพระนคร ดื่มกินกันเปนที่สนุกสนานบางวันในขณะที่กองทัพจากภาคพายัพตั้งมั่นอยู
ในคายภายในเมืองหลวงก็จัดดนตรีมาเลน เสียงมโหรีดังสนั่นไดยินไปถึงคายของ มาเทงและหันซุย การตั้งมั่น
ประกอบเขากับการเลี้ยงโตะบนกําแพงพระนครและการเลนดนตรีภายในพระนครไดสรางความโมโหโกรธา
ใหกับฝายมาเทง หันซุยเปนยิ่งนัก แตจะรบก็รบไมได เพราะฝายเมืองหลวงไมยอมรบดวย ยังคงตั้งมั่นรักษา
เชิงเทินคายคู หอรบไวอยางเหนียวแนน อาการเชนนี้ดูเหมือนวามิใชการรบ แตแทจริงนี่คือการรบเพราะการตั้ง
มั่นในลักษณะนี้เปนยุทธานุภาพชนิดหนึ่งที่ฝายเมือง หลวงกําลังใชทําลายฝายมาเทง หันซุย ใหออนเปลี้ยลง
ทุกวี่วัน เปน ผลที่เกิดขึ้นจากแผนการอันไดกําหนดไวเปนอยางดีแลว เปนแผน การที่มีผลคือชัยชนะโดยไม
ตองรบ นี่คือการสะทอนถึงสภาพที่กุมชัยชนะอยางแนแทไวในมือ ในขณะที่อีกฝายหนึ่งกลับดิ้นรนเพื่อจะ
เอาชนะ และนั่นคืออาการของฝายที่กําลังจะพายแพนั่นเอง
ทั้งสองฝายทําการยุทธตอกันในลักษณะเชนนี้จนเวลาผานไปสองเดือน กองทัพจากแดนไกลก็ขาดเสบียงลง
ทหารออนลาอิดโรย และเสียขวัญทั้งกองทัพ ในขณะนั้นขาวการเคลื่อนไหวของสามมหาดเล็กที่เปนไสศึกให
กับมาเทง หันซุยไดทราบไปถึงหูของลิฉุยวาเหตุที่กองทัพยกมาประชิดเมืองหลวงก็เพราะมาฮู ตงเซียง และ
เลาเฉียเปนไสศึก ลิฉุยทราบความก็โกรธ สั่งทหารใหจับตัวสามมหาดเล็กพรอมครอบครัวมาประหาร แลวตัด
ศีรษะเสียบไวบนเชิงเทิน
ฝายมาเทงและหันซุยทราบขาววาสามมหาดเล็กซึ่งรับทําการเปน ไสศึกในเมืองหลวงถูกประหารเสียแลวก็สิ้น
หนทางที่จะทําการศึกตอไป เพราะการณขางในก็มืดมิรูขาวคราวของฝายเมืองหลวง การณขางนอก กองทัพ
จากภาคพายัพก็ขาดเสบียง ดังนั้นมาเทงและหันซุยจึงปรึกษากัน และเห็นชอบรวมกันวาใหถอยทัพกลับภาค
พายัพ โดยแยกขบวนออกเปนสองกอง คือมาเทงคุมกองทัพเมืองเสเหลียง และหันซุยคุม กองทัพเมืองเปงจิ๋ว
แลวแยกกันถอยทัพเปนสองทางกลับเมืองแตละเมืองปรึกษากันเสร็จแลว ครั้นเวลายามสามกองทัพจากภาค
พายัพ ทั้งสองกองก็ถอนทัพเคลื่อนออกจากเขตเมืองหลวงคืนสูภาคพายัพ
รุงขึ้นลิฉุย กุยกีไดทราบวาขาศึกถอนทัพยกถอยกลับไปตามแผนการความคิดของกาเซี่ยง จึงสั่งใหเตียวเจ
และหวนเตียวยกทหาร ไปคนละกองไลตามตีกองทัพจากภาคพายัพ โดยเตียวเจไลตามตีกองทัพของมาเทง
และหวนเตียวไลตามตีกองทัพของหันซุย เตียวเจและหวนเตียวรับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากพระนครไล
ตามตีกองทัพของมาเทงและหันซุยตามคําสั่งหวนเตียวยกทหารตามหันซุยมาถึงเขาตันฉอง หันซุยไดยินเสียง
กองทหารไลตามมาเห็นธงประจําตัวแมทัพวาหวนเตียวคนบานเดียวกัน จึงชักมามาดานหลังทหารพบกับหวน
เตียวแลวจึงกระทําคารวะตามธรรมเนียมแลววา เรายกมาทั้งนี้เพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติเสีย บัดนี้กองทัพของ
เราขาดเสบียงจึงตองถอยทัพกลับ ขอใหทานเห็นแกไมตรีที่มีมาแตนอยปลอยเรากลับไปอยาใหตองกระทําศึก
ตอกันใหเสียเลือดเนื้อทหารเลย
หวนเตียวคารวะตอบหันซุยแลววาการครั้งนี้เปนเรื่องของแผนดินเปนการใหญ เราจะเห็นแกหนาคาตากันไมได
ทานจงเตรียมใหพรอมเถิด เราจะเขาโจมตีทาน หันซุยจึงวา "เรายกมาทั้งนี้ก็เพราะหวังจะทํานุบํารุงแผนดินให
อยูเย็นเปนสุข ถึงทานจะมิคิดถึงเรา ก็จงคิดถึงพระเจาเหี้ยนเตซึ่งครองราชสมบัตินั้นเถิด" หวนเตียวรูอยูกับอก
วารัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนรัฐบาลทรราชย ขมเหงฮองเตกดขี่รังแกขุนนางราษฎร ครั้นไดยินความนี้ ความคิด
กตัญูตอราชวงศฮั่นก็ประดังขึ้นในอกเห็นคลอยตามไปกับคําหันซุย มิไดกลาวตอบประการใด คงยืนมาเฉย
อยูกับที่เปนทีปลอยใหหันซุย ยกทหารไปได หันซุยเห็นเชนนั้นจึงสั่งทหารใหเคลื่อนกองทัพรีบเดินทางกลับ
เมืองเปงจิ๋ว ฝายหวนเตียวเมื่อเห็นกองทัพเมืองเปงจิ๋วยกกลับไปแลวก็ตั้งคายมั่นลง ณ ที่นั้นเพื่อติดตาม
สถานการณวากองทัพภาคพายัพจะยกกลับไปจริงหรือวาจะยอนกลับมาใหม ฝายเตียวเจซึ่งยกกองทัพไลตาม
ตีกองทัพเมืองเสเหลียงไปทันเขาจึงเขารบพุงกันเปนสามารถ มาเฉียวผูบุตรมาเทงไดเขารบดวยเตียวเจ แต
เตียวเจสูกําลังมาเฉียวไมไดจึงถอยทหารกลับมาและมาสมทบดวยหวนเตียวตั้งคายมั่นรักษาการณอยูในที่นั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วากองทัพของเตียวเจยกไลตามตีกองทัพเมืองเสเหลียงแตไมทันกัน จึง
ยกกลับมาตั้งอยูกับหวนเตียว ในขณะที่คอยติดตามสถานการณอยูนั้น หลานของลิฉุยซึ่งมาในกองทัพของ
หวนเตียวไดรูเห็นเหตุการณที่หวนเตียวพบหันซุยแลว ปลอยใหหันซุยถอยทัพกลับไปโดยไมโจมตีตามคําสั่ง
ของลิฉุย จึงรีบกลับเขาเมืองหลวงนําความไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธหวนเตียวที่ขัดคําสั่ง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 9
ทั้งเกรงวาในภายหนาหวนเตียวจะคบคิดกับมาเทง หันซุย ทรยศตอตัวเอง สิ้นความวางใจที่จะคบหาหวนเตียว
อีกตอไป จึงเรียกกาเซี่ยงมาปรึกษาวาจะใหทหารไปจับตัวหวนเตียวมาฆาเสีย กาเซี่ยงจึงวาในขณะนี้บานเมือง
ยังไมสงบสันติ หากทานสงทหารขึ้นไปจับตัวหวนเตียวเกรงวาจะเกิดศึกขึ้นภายในเพราะหวนเตียวนั้นใกลชิด
สนิทสนมกับเตียวเจ และคุมทหารอยูนอกพระนคร หากรูวาทานจะเอาตัวมาฆาเสียคงจะไมยอมใหจับแตโดยดี
แลวยอม คิดดิ้นรนตอสูจนเกิดเปนสงครามขึ้น ความสูญเสียก็จะติดตามมาโดยไมจําเปน ทั้งขาศึกก็อาจยกทัพ
เขาเมืองหลวงซ้ําเติมเอาไดเราก็จะเสียทีไป
ลิฉุยจึงปรึกษาวาทําอยางไรจึงจะกําจัดหวนเตียวไดโดยไมเกิดความเสียหายดังคําทาน กาเซี่ยงจึงวาขอให
ทานมีหนังสือออกไปถึงเตียวเจและหวนเตียววาบัดนี้กองทัพมาเทง หันซุย ถอยกลับภาคพายัพแลว ไมจําตอง
รอคอยฟงสถานการณตอไปใหรีบกลับเขาเมือง หลวงเพื่อรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ เมื่อเตียวเจ หวนเตียว
กลับเขา มาแลวก็จะกําจัดเสียไดโดยงาย ลิฉุยเห็นดวยกับแผนการนี้ จึงใหทหารถือหนังสือไปบอกใหเตียวเจ
และหวนเตียวใหยกกองทัพกลับเมืองหลวงตามคําของกาเซี่ยง สองแมทัพรับหนังสือของลิฉุยแลวมิไดคิด
ระแวงสงสัยประการใด จึงยกกองทัพกลับเมืองหลวง แลวเตียวเจ หวนเตียวจึงไปรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่
กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ในขณะที่งานเลี้ยงฉลองชัยชนะดําเนินอยูนั้น ลิฉุยจึงเขาไปวากับหวน
เตียววาเราใหทานยกกองทัพไปตามตีหันซุย แตตัวทานฝาฝน ไมทําตามคําสั่งเอาใจออกหางจากเรา จะคบ
คิดดวยหันซุยทํารายเราหรือ หวนเตียวไดยินคําลิฉุยก็ตกใจ ยังไมทันไดตอบประการใด ทหาร ก็กรูเขามาจับ
เอาตัวหวนเตียวออกไปจากงานเลี้ยงทามกลางความตกตะลึงของบรรดาขุนนางขาราชการ เพราะตางคนตาง
ไมรูความนัยมากอน ยังไมทันหายตกตะลึงทหารก็นําศีรษะของหวนเตียวใสถาดเขามารายงานแกลิฉุย ยิ่งเพิ่ม
ความตกใจกลัวแกผูคนในที่นั้น
ฝายเตียวเจเห็นเหตุการณเชนนั้นก็ตกใจกลัวหมอบศีระษะลงกับโตะ ลิฉุยจึงเดินเขาไปหาเตียวเจประคองให
ลุกขึ้นแลววาการที่หวนเตียวขัดคําสั่งทรยศตอเรา ปลอยหันซุยไปนั้น ทานมิไดเกี่ยว ของรูเห็นดวย อยากังวล
ใจไปเลย เสร็จงานเลี้ยงแลว ลิฉุยไดออกคําสั่งใหโอนกองทหารในสังกัดของหวนเตียวใหไปขึ้นสังกัดกับเตียว
เจทั้งสิ้นและใหเตียวเจยกออกไปรักษาเมืองฮองหลงดังแตกอน
การตัดศีรษะคนเอาเขามาในงานเลี้ยงของลิฉุยครั้งนี้ ทําใหขุนนาง ขาราชการตางนึกถึงบรรยากาศเมื่อครั้งตั๋ง
โตะยังมีชีวิตอยูวา บัดนี้บรรยากาศเหลานั้นกําลังหวนกลับมาปกครองเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง แลว ดังนั้นจึงตาง
เกรงกลัวลิฉุย กุยกีเปนอันมาก กาเซี่ยงเห็นบรรยากาศการเมืองในเมืองหลวงที่ขุนนางขาราชการ ตางเกรง
กลัว ลิฉุย กุยกีดังนี้จึงเสนอแผนการปกครองใหลิฉุย กุยกี พยายามเอาอกเอาใจขุนนางและราษฎร ในสวนขุน
นางขาราชการก็ใหปรับยศตําแหนงและเลื่อนขั้นเงินเดือนให ในสวนราษฎรก็ลดสวยสาอากรและเอาใจใสทุกข
สุขของราษฎรมากขึ้น พระคุณที่ตามมากับพระเดชดั่งนี้จึงทําใหขุนนางขาราชการและราษฎรยอมอยูในอํานาจ
ของลิฉุย กุยกี ทั้งสิ้น
การสังหารหวนเตียวในครั้งนี้นับเปนเรื่องที่ควรตั้งความสังเกตเพราะสี่ทหารเอกกลุมนี้มีความสนิทสนมกันมา
ชานาน ตอสูความยากลําบากมาดวยกัน เสี่ยงเปนเสี่ยงตายมาดวยกันและรวมกันกระทํารัฐประหารดวยกัน ครั้น
ไดอํานาจรัฐมาครองแลวเพียงแคหวนเตียวปลอยหันซุยไป เหตุใดจึงตองถึงกับสังหารกันเอง จะทําความ
เขาใจกันไมไดหรือ หรือหากเห็นเปนความผิดฉกรรจ จะเอาโทษแตสถานเบา หรือจะเนรเทศใหไปอยูเมืองอื่น
ไมไดหรือ จะวาลิฉุยสังหารหวนเตียวเสียเพื่อลดจํานวนหุนสวนแหงอํานาจใหเหลือนอยตัวลง แลวตัวเองจะมี
อํานาจเพิ่มขึ้นก็ไมเห็นสม เพราะถึง แมหวนเตียวยังอยู ลิฉุยก็ยังคงมีอํานาจลนฟาอยูแลว ครั้นหวนเตียวตาย
แลวก็เห็นไดวาลิฉุยมิไดเอาอํานาจของหวนเตียวมาไวกับตน หากมอบใหแกเตียวเจ ซึ่งรูอยูวาสนิทสนมกับ
หวนเตียวมากกวา จึงแสดงวาลิฉุยนั้นมิไดมุงตอประการนี้
จะวาลิฉุยเปนคนหวาดระแวงไมวางใจคนก็ยอมไมใช เพราะถาหากเปนเชนนั้นไหนเลยจะคงอํานาจเตียวเจไว
ดังเดิมมิหนําซ้ํายังเพิ่ม อํานาจทางทหารใหอีกเลา ความขอนี้มีความเปนไปไดวาอํานาจรัฐทําใหลิฉุยลืม
ความหลัง ลืมความเปนเพื่อน ลืมน้ํามิตรที่รวมเสี่ยงตายมาแตกอน ตองการสําแดงอํานาจสิทธิขาดของตนให
เปนที่ปรากฏวาลิฉุยแตผูเดียวเทานั้นที่ครองอํานาจสูงสุด คําสั่งคือประกาศิตที่มิอาจฝาฝนได ผูใดขัดคําสั่ง
ยอมตองถือเปนความผิดและมีโทษประหาร ถึงแมจะเปนเพื่อนสนิทก็ไมละเวน นี่คือกลวิธีในการสรางอํานาจ
และความเปนผูนําชนิดหนึ่ง ปมเงื่อนก็คือความตองการเปนใหญในแผนดินแตผูเดียว โดยตัดกุยกี เตียวเจ
และหวนเตียวออกไปใหเหลือฐานะเปนเพียงผูชวยหรือลูกนองของตวเทานั้น โดยนัยนี้ยอมแสดงวาบัดนี้ลิฉุย
ไดยึดอํานาจรัฐที่รวมกอการโดยสี่ทหารเอกเปนของตนแตผูเดียวแลว และเมื่อยึดอํานาจนั้นเปนของตนแตผู
เดียวแลวก็จําเปนที่จะตอง สรางความศักดิ์สิทธิ์ของอํานาจ และสรางความยิ่งใหญของตนใหปรากฏ ความ
ศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญนั้นคือรากฐานรองรับความ เปนผูนําสูงสุดของลิฉุยนั่นเอง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 10
การที่กุยกีมิไดทวงติงขัดขวาง ในขณะที่เตียวเจยอมรับปฏิบัติตามคําสั่งของ ลิฉุยคือปรากฏการณที่แสดงให
เห็นวาทั้งสองคนนี้ไดยอมรับฐานะใหมที่เปลี่ยนแปลงฐานะเดิมจากหุนสวนทางการเมืองของลิฉุยมาเปน
ลูกนอง ผูใตบังคับบัญชาของลิฉุยไปแลว หรือวานี่คือธรรมชาติของอํานาจที่ไมอาจถือไดโดยคนหลายคน
หากตองถือไวแตคนเพียงคนเดียวเทานั้น และถาเปนเชนนั้นสิ่งที่เรียกวาระบอบประชาธิปไตยหรือการนํารวม
หมูก็อาจมีฐานะที่แทจริง เพียงรูปแบบ หรือเปนเปลือกที่หอหุมตัวอํานาจที่แทจริงที่ยังคงถือและยึดกุมไวโดย
คนเพียงคนเดียวเทานั้น
สถานการณในวันนี้สี่ทหารเอกลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเดิมทีเปน หุนสวนแหงอํานาจทางการเมือง ไดลาง
ผลาญกันเองจนเหลืออยูเพียง สามคนเทานั้น โดยคนหนึ่งคือลิฉุยเปนผูคุมอํานาจสูงสุดแตผูเดียว ในขณะที่
กุยกี และเตียวเจ ไดกลายเปนลูกนองผูใตบังคับบัญชาไปแลว ประวัติศาสตรแหงอํานาจตั้งแตอดีตจนถึง
ปจจุบันลวนเปนเชนนี้ ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา "วโส อิสสริยัง โลเก" ซึ่งแปลวา "อํานาจเปนใหญ
ในโลก"
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
สงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งที่สาม (ตอนที่ 55)
กองทัพภาคพายัพของมาเทงและหันซุยถอยกลับไปแลว ทิ้งรอยราวภายในคณะสี่ทหารเอก ซึ่งบัดนี้คงเหลือ
อยูเพียงสามคนไวขางหลัง แตความเคลื่อนไหวลุกขึ้นตอสูกูชาติของประชาชนกําลังจะเริ่มตนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
จําเดิมแตการลุกขึ้นสูของประชาชนครั้งที่สอง ที่เมืองอวนเซียถูกปราบปรามในปลายรัชสมัยของพระเจาเลนเต
แลว กองกําลังกูชาติของประชาชนก็แตกฉานซานเซ็นไปตามทิศตางๆ แตทวาเชื้อไฟปฏิวัติของประชาชนนั้น
หาดับมอดสิ้นไปไม แกนนําของขบวนการกูชาติบางสวนที่แตกหนีหลบภัยในภาคตะวันออกไดปกหลักพักฟน
ที่เมืองเซียงจิ๋วแหงหนึ่ง และอีกสวนหนึ่ง ไดหลบราชภัยไปปกหลักพักฟนในเขตเมืองปกไฮ และอีกบาง
ทองที่
ครั้นเกิดการจลาจลขึ้นในเมืองหลวงและมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากโฮจิ๋นเปนรัฐบาลของตั๋งโตะ จากรัฐบาล
ของตั๋งโตะเปนรัฐบาลของอองอุน จนกระทั่งถึงรัฐบาลของลิฉุย กุยกี ทุกๆ รัฐบาลตางมิไดเหลียวแลเอาใจใส
ทุกขสุขของราษฎร บางรัฐบาลยังกดขี่ขมเหงรังแกประชาชนอยางโหดรายทารุณ จึงสรางความโกรธแคน
ชิงชังในหมูประชาชนอยางกวางขวาง ขาราชการขุนนางในหัวเมืองไดถือโอกาสที่อํานาจรัฐสวนกลางออนแอ
ขาดการกํากับตรวจสอบ ทําการกดขี่ขมเหงราษฎรมากขึ้น ดังนั้นจึงเปนธรรมดาที่ประชาชนตองลุกขึ้นตอสูเพื่อ
ไปตายเอาดาบหนาดังที่วิสา คัญทัพ กวีของประชาชนไดรจนาไววา
"เมื่อลุกขึ้นตอสูผูกดขี่
ประชาชนยอมมีชีวิตใหม
เมื่อทองฟาสีทองผองอําไพ
ประชาชนยอมเปนใหญในแผนดิน"
ในสถานการณเชนนี้ขบวนการตอสูกูชาติของประชาชนที่มอดลง จากการถูกปราบปรามครั้งที่สองจึงเริ่มคุโชน
ขึ้น แกนนําในพื้นที่ตางๆ จึงทําการจัดตั้งมวลชนขึ้นมาใหม เคลื่อนไหวความคิดทางการเมืองในหมูประชาชน
กวางขวางยิ่งขึ้นทุกวัน ชี้ใหประชาชนไดเขาใจถึงตนเหตุของความยากจนขนแคนและความยากไรทั้งปวงวา
ไมใชเกิดจากบาปกรรมในชาติปางกอน หากเกิดจากการถูกชนชั้นปกครอง เอาเปรียบขูดรีดดวยประการตางๆ
ในชาตินี้ตางหาก
มิหนําซ้ํายังสมคบกับตางชาติใหเขามาทําลายระบบเศรษฐกิจของประเทศจนยอยยับ บังคับราษฎรใหจําตอง
ขายทรัพยสมบัติแกตางชาติในราคาถูก ทําตัวเปนสมุนของตางชาติ ยึดกิจการของราษฎรแลวบรรณาการแก
ตางชาติในราคาต่ําเกือบจะเปนการยกใหเปลาๆ แมทรัพยสมบัติของชาติที่บรรพบุรุษไดสรางสมมานานเกือบ
รอยป ก็แอบมุบมิบขายใหแกตางชาติ ออกกฎหมายและระเบียบตางๆ ใหสิทธิประโยชนแกตางชาติในการยึด
ครองเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการถือครองที่ดิน ซึ่งบรรพบุรุษไดพลีเลือดเนื้อและชีวิต พิทักษรักษาไว
อยางไมไยดี
เพราะเหตุนี้ ประเทศจึงมีหนี้สินลนพนตัว ราษฎรถูกสูบเลือดสูบ เนื้ออยางเลือดเย็น ทั้งการกิน การอยู การ
จับจายใชสอยก็ตองจายคาความคิดหรือลิขสิทธิ์ใหกับตางชาติจนแทบจะเหลือเพียงอากาศหาย ใจเทานั้นที่
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ราษฎรยังไมตองจายเงินซื้อหา ความยากจนของราษฎรและประเทศชาติจึงเกิดจากการขายชาติ เกิด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 11
จากการยอมตัวเปนขี้ขาของตางชาติแลวชวยกันปลนสะดมราษฎรและประเทศชาติของตนเอง ราษฎรสัมผัส
ความจริงไดดวยตนเองเชนนี้แลว จึงพากันตอตานรัฐบาล และเขารวมกับขบวนการกูชาติมากขึ้นทุกวัน จน
สามารถกอ ตั้งเขตจรยุทธ เขตที่มั่น และฐานที่มั่นขึ้นไดสําเร็จอยางเปนขั้นตอนตามหลักการพัฒนาของ
สรรพสิ่งที่พัฒนา "จากไมมีสูมี จากเล็กสูใหญ และจากออนสูแข็ง" ทําใหฐานที่มั่นของกองกําลังอาวุธของ
ประชาชนมีความมั่นคงและขยายตัวออกไปอยางกวางขวาง
บรรดาชายฉกรรจในเขตเคลื่อนไหวไดอาสาเขารวมในกองกําลังอาวุธอยางตอเนื่อง จนกองกําลังติดอาวุธของ
ประชาชนเพิ่มจํานวนขึ้นถึงสี่สิบหมื่น ในขณะที่เขตเคลื่อนไหวไดขยายตัวครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง มีราษฎร
อยูในเขตเคลื่อนไหวถึงรอยหมื่น อํานาจรัฐของประชาชนไดกอตัวขึ้น เติบโตและเขมแข็งขึ้นโดยลําดับ
ผลักดันใหเขตอํานาจรัฐของรัฐบาลถอยรนหดแคบลง จนคุกคามความปลอดภัยของบรรดาขุนนางขาราชการ
ทั้งเมืองเชียงจิ๋วและเมืองปกไฮ ดังนั้นหัวเมืองเหลานี้จึงมีใบบอกเขาไปยังเมืองหลวงวาบัดนี้โจรโพก
ผาเหลืองกอการกําเริบขึ้นอีกแลว ทําการปลนฆารังแกราษฎร ขอใหทางเมืองหลวงสงกองทัพมาชวย
ปราบปราม
ถาหากจะตําหนิคนแตงหนังสือสามกกวาเปนพวกเลาปตามทัศนะของหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช แลว
การตําหนิเชนนั้นยังคงคลาดเคลื่อนจากความเปนจริง และถาจะใหถูกตองตรงกับขอเท็จจริงก็ตองตําหนิวาคน
เขียนสามกกเปนพวกขุนนางตางหาก ในกรณีของพวกขุนนางดวยกัน แมหากจะทําชั่วชาสารเลว หรือทําตน
ไรคาและความหมายใดๆ ก็ยังคงใหเกียรติยกยอง อยางนอย ก็ยังเอยอางชื่อเสียงเรียงนามไวในสามกก แต
ครั้นถึงทีของประชาชน กลับยัดเยียดวาเปนโจร และไมยอมเอยอางชื่อเสียงเรียงนามทําใหผูอานสามกกในชั้น
หลังไมรูจักชื่อเสียงของนักตอสูของประชาชนในครั้งกระโนน
การลุกขึ้นสูของประชาชนในครั้งที่สามนี้ เฉพาะดานเมืองเชียงจิ๋วดานเดียว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง
(หน) ก็ยังระบุวา "โจรโพกผาเหลืองประมาณสามสิบ สี่สิบหมื่น" และ "บรรดาหญิงชายชาวเมืองที่โจรจับไว
นั้นประมาณรอยหมื่น" กําลังพลสามสิบ สี่สิบหมื่น มีขนาดใหญกวากําลังพลของกองทัพไทย กองทัพกัมพูชา
ลาว มาเลเซีย สิงคโปร และบรูไนรวม กัน เชนนี้แลวยังจะเรียกวาเปนโจร จึงออกจะเปนการบิดเบือนความจริง
ที่ชัดเจนเกินไป สวนราษฎรที่วาโจรจับกุมไวถึงรอยหมื่นหรือหนึ่งลานคนนั้นยอมเปนไปไมไดที่คนนับลานคน
จะถูกโจรจับ หรือหากวาจะจับกันจริงๆ แลว จะจับไวไดสักกี่วัน จะเลี้ยงดูทํามาหากินกันอยางไร นี่คือการ
บิดเบือนที่ไรความยุติธรรม กรณีจึงเปนเรื่องที่ราษฎรเหลานั้นปฏิเสธอํานาจรัฐ และเขารวมกับกองกําลังติด
อาวุธของประชาชน
ในบรรดากระบวนการบิดเบือนทางการเมืองตองยกใหพวกถือ ลัทธิขุนนาง ศักดินาเปนเลิศในโลก ภาพลักษณ
การตอสูกูชาติของประชาชนทุกหนแหงในโลกลวนถูกลัทธิขุนนางศักดินานี่เองที่ทํา การบิดเบือนจนกลายเปน
ยักษมารการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยในปพุทธศักราช 2475 ถูกบิดเบือนวาเปน "การปฏิวัติ"
คือการทําใหแยลง ทั้งๆ ที่เปน "การอภิวัฒน" คือการทําใหกาวหนาและดียิ่งขึ้น การตอสูกับเผด็จ การขาย
ชาติในสมัยหนึ่งที่เรียกชื่อวา "พรรคคอมมิวนิสตแหงประเทศไทย" ก็ถูกเรียกวา "ผูกอการราย" แตการคายา
เสพยติด และการขายชาติซึ่งมีเภทภัยรายแรงยิ่งกวากลับไมประณามหรือทํา ลายใหสิ้นซาก แมวาจะบิดเบือน
ประการใด ความจริงก็ยอมปรากฏตัวใหคนรุนหลังรับรูจนไดเหมือนกับสามกกตอนนี้ก็ไดเห็นกันแลววา ที
กองทัพภาคพายัพเพียงสิบสองหมื่นยกเขาตีเมืองหลวงก็เรียกวา "กองทัพ" เอยอางชื่อแมทัพคือมาเทง
และหันซุย แตครั้นประชาชนลุกขึ้นสูและมิไดยกเขามาโจมตีเมืองหลวง มีกําลังพลมากกวากองทัพภาคพายัพ
ถึงกวาสามเทากลับเรียกวาเปน "โจร" ลิฉุย กุยกี ไดทราบความจากใบบอกของหัวเมืองแลว จึงเรียก ประชุม
ขุนนางขาราชการปรึกษาวา จะปราบปรามโจรโพกผาเหลือง นี้ไดอยางไร จูฮี อดีตรองแมทัพใหญปราบโจร
โพกผาเหลืองในยุคแรกๆ ซึ่งบัดนี้เปนที่ปรึกษาของผูสําเร็จราชการแผนดิน และมีความรูประสบการณเกี่ยวกับ
กรณีของโจรโพกผาเหลืองมากกวาใคร จึงไดเสนอวาการครั้งนี้ควรใหโจโฉเปนผูไปปราบ ลิฉุย กุยกี ไม
รูจักโจโฉมากอนจึงถามวาโจโฉเปนใคร และขณะนี้อยูที่ไหน จูฮีจึงวา เดิมโจโฉเคยรวมกับพวกขาพเจาปราบ
โจร โพกผาเหลืองในยุคสมัยของพระเจาเลนเต ตอมาโจโฉไดเขารวมกับอวนเสี้ยวกอตั้งกองทัพปฏิวัติยก
มารบดวยตั๋งโตะ ครั้นกองทัพปฏิวัติสลายตัวแลว โจโฉจึงยกไปตั้งอยูที่เมืองเองจิ๋ว มีกําลังทหารอยูเปน
จํานวนมากสามารถปราบโจรทางภาคตะวันออกไดสําเร็จ ทั้งจะเกิดผลดีทางการเมืองเพราะเทากับเปนการนิร
โทษกรรมใหกับโจโฉ และจะทําใหโจโฉกลับมาอยูในอํานาจของเมืองหลวงตอไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิฉุย กุยกี จึงปรึกษาตอไปวาจะทําอยางไรโจโฉจึงจะยอมยกกองทัพไปปราบโจรโพกผาเหลืองในครั้งนี้
เพราะบัดนี้ฐานะทางกฎหมายของโจโฉคือผูขบถตอทางราชการ จูฮีจึงแนะนําวาขอใหทาน มีหมายรับสั่งของ
พระเจาเหี้ยนเตไปถึงโจโฉ ดังนี้แลว โจโฉก็คงจะยอมปฏิบัติตามเพราะโจโฉยังคงยอมรับนับถือพระราชวงศ
ฮั่นอยู และเพื่อใหการปราบโจรครั้งนี้ราบคาบไปโดยเร็ว สมควรมีหมายรับ สั่งเปนสองฉบับคือถึงโจโฉฉบับ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 12
หนึ่ง และถึงเปาสิ้นเจาเมืองเจปกใหยกกองทัพไปชวยโจโฉอีกกองหนึ่ง ลิฉุย กุยกีเห็นดวยกับแผนการของจูฮี
จึงใหทําหมายรับสั่งตาม คําของจูฮีทุกประการ
โจโฉนั้นนับแตชูธง "ตงหงี" จัดตั้งกองทัพปฏิวัติขึ้นแลวกลายเปนกบฏตอแผนดินของรัฐบาลกลาง และจุดยืน
ทางการเมืองนั้น โจโฉ ปฏิเสธไมยอมรับอํานาจของรัฐบาลกลาง แตยังคงยอมรับอํานาจของราชสํานักอยู
ครั้นไดรับพระบรมราชโองการของพระเจาเหี้ยนเตก็มีความยินดี จึงสั่งใหจัดการเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตาม
หมายรับสั่ง ในขณะเดียวกันนั้น เปาสิ้นเจาเมืองเจปกก็ไดรับหมายรับสั่งให ยกไปชวยโจโฉปราบโจรโพก
ผาเหลือง ก็มีความยินดีเชนเดียวกัน เพราะเปาสิ้นก็มีฐานะเปนกบฏ เนื่องจากไดเขารวมในกองทัพปฏิวัติ การ
ไดรับหมายรับสั่งก็คือการไดรับนิรโทษกรรมโดยอัตโนมัติ ประกอบทั้งเปนคนอยากดังและเปนเจาเมืองที่ซาส
มากที่สุดตั้งแตครั้งที่เขารวม ในกองทัพปฏิวัติจึงรีบสั่งเตรียมกองทัพยกไปสมทบกับโจโฉที่เมืองเองจิ๋ว
ครั้นโจโฉไดทราบวาเปาสิ้นยกกองทัพมาสมทบดวยก็มีความยินดี จึงสั่งใหเคลื่อนทัพจากเมืองเองจิ๋วยกไป
เมืองเชียงจิ๋ว ครั้นเคลื่อนทัพมาถึงตําบลซิวสุน ซึ่งเปนเขตชายแดนเมืองเชียงจิ๋ว ก็เผชิญหนากับกองทัพหนา
ของโจรโพกผาเหลือง เปาสิ้นจึงอาสายกเปนกองหนาเขารบ
ในขณะที่กองหนาของเปาสิ้นเขาปะทะกับกองหนาของโจรโพกผาเหลืองนั้น โจรโพกผาเหลืองไดจัดกองทัพ
อีกกองหนึ่งวกออมเขาตีตลบดานหลังของกองทัพเปาสิ้นอีกทางหนึ่ง ทั้งสองกองตีกระหนาบกองทัพหนาของ
เปาสิ้นไวระหวางกลาง กองทัพของเปาสิ้นจึงเกิด การพะวงหนาพะวงหลัง และพากันแตกตื่นดวยคิดวาตองกล
ของ โจรโพกผาเหลือง กองหนาของโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดานไดตีฝาเขามาถึงตัวของเปาสิ้น แลวเขา
ลอมไว ฆาฟนทหารติดตามเปาสิ้นจนไมมีเหลือ แลวใชหอกแทงเปาสิ้นถึงแกความตาย
ในขณะนั้นโจโฉซึ่งเปนกองทัพหลวงเห็นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองเขาตีกระหนาบกองทัพของเปาสิ้น จึง
สั่งใหทหารเคลื่อนพลเขาโจมตีกระหนาบหลังกองทัพโจรโพกผาเหลืองกองที่วกมาทางดาน หลังของกองทัพ
เปาสิ้นนั้น กองทัพโจรโพกผาเหลืองไมทันระวังตัวจึง พากันแตกพลาน ทหารของเปาสิ้นที่เหลือรอดอยูเห็น
กองทัพโจโฉยกเขาตีประดาหนาเขามาก็ฮึดสูอีกครั้งหนึ่งจึงรวมตัวกันหันเขามาตีกระทบกระหนาบ กองทัพโจร
โพกผาเหลือง ดังนั้นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองจึงตกอยูในสภาพถูกตีกระหนาบทั้งสองดาน ถูกสังหารลม
ตายลงเปนอันมาก ทหารโจรที่เหลืออยู จึงพากันแตกหนีไปทางดานเมืองเจปก สวนกองหนาของโจรโพก
ผาเหลืองที่ตีกระหนาบในขณะเผชิญ หนากับกองทัพของเปาสิ้นอยูทางขางหนานั้น เห็นกองทัพที่ยกตี
กระหนาบแตกพายก็พากันแตกพายตามไปดวย แลวยกหนีไปทางดานเมืองเจปกเชนเดียวกัน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
วิถีแหงการกอรางตั้งตัวของโจโฉ (ตอนที่ 56)
โจโฉไดยกทหารไลตามตีโจรโพกผาเหลืองไปจนถึงชายแดนเมืองเจปก จับโจรโพกผาเหลืองและอาวุธ
ยุทโธปกรณตางๆ ไดเปนจํานวนมาก พวกโจรบางสวนที่หลบหนีไปไดครั้นเห็นวาสิ้นทางที่จะหนีและไรหนทาง
ไป จึงพากันกลับเขามา สวามิภักดิ์กับโจโฉ
โจโฉไดรีบปรับปรุงกองทัพ จัดสังกัดใหโจรโพกผาเหลืองที่ยอมเขาสวามิภักดิ์ที่มีจํานวนถึงหาหมื่นใหเปน
กองทัพหนา และจัดใหทหารที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหลวง แลวยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลือง ที่ยังคง
ตั้งฐานที่มั่นอยูอีกหลายแหงในภาคตะวันออก โจโฉใชเวลาเกือบสามเดือนก็สามารถปราบปรามโจรโพก
ผาเหลืองทางภาคตะวันออกไดอยางราบคาบ ไดเกลี้ยกลอมใหโจรโพกผาเหลืองจํานวนมากเขาสวามิภักดิ์
และรับเขาเปนทหารในกองทัพ สวนบรรดาราษฎรในเขตยึดครองของโจรโพกผาเหลืองนับลาน คนนั้น ถาชาย
ฉกรรจคนใดยอมเขาสวามิภักดิ์และสมัครเขาเปนทหาร โจโฉก็จะรับเขาไวในกองทัพ สวนที่ตองการทํามาหา
กินตามปกติก็อนุญาตใหทํามาหากินไดตามเดิม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เมื่อโจโฉไดทหารใหมจากโจรโพกผาเหลืองและบรรดาชายฉกรรจที่เต็มใจเขารับราชการทหารดวย จึงทําให
กองทัพของโจโฉขยายตัวเติบใหญมีกําลังพลเพิ่มขึ้นรวมกับของเดิมแลวมีจํานวนถึง สามสิบหมื่น และได
ปรับปรุงกองทัพใหมอีกครั้งหนึ่ง โดยกําลังพลที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหนึ่ง และกําลังพลใหมใหจัดตั้งเปนอีก
กองทัพหนึ่งเรียกวา "กองทัพเมืองเชียงจิ๋ว" เพื่อเปนการเอาใจและผูกใจกลุมโจรโพกผาเหลืองที่เขา
สวามิภักดิ์ใหมนั้น เสร็จจากการปราบโจรโพกผาเหลืองทางภาคตะวันออกแลว โจโฉจึงใหปลงทัพไวที่
ชายแดนเมืองเจปก และทํารายงานการศึกกราบ บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบ แลวสงเขาเมืองหลวง
ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นไดรับรายงานการศึกจากโจโฉแลว จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตนําความขึ้นกราบบังคมทูลให
ทรงทราบ พระเจาเหี้ยนเตทราบความศึกตามคํากราบบังคมทูลแลวจึงตรัสวา การศึกครั้งนี้โจโฉทําความชอบ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 13
มาก และโปรดเกลาฯ แตงตั้งให โจโฉเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ลิฉุย กุยกี ไมทันคิดและไมเฉลียวใจวา
เหตุใดพระเจาเหี้ยนเต จึงมีพระบรมราชโองการตั้งโจโฉดวยพระองคเอง ซึ่งถาวาโดยปกตินับแตลิฉุย กุยกี ได
ยึดอํานาจการปกครองมาจากอองอุนแลว จะเปนฝายที่เสนอแตงตั้งขาราชการและขุนนางตางๆ ไมมีสักครั้ง
เดียว ที่พระเจาเหี้ยนเตจะแตงตั้งดวยพระองคเอง
แตกระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยอมรับพระบรมราชโองการดังกลาว และทําเปนพระราชโองการแตงตั้งโจโฉตามรับสั่ง
แลวสงพระบรมราชโองการนั้นแกโจโฉ โจโฉในวันนี้จึงนับวาพนจากขอหากบฏจากกรณีที่เขารวมกับกองทัพ
ปฏิวัติและกลายเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ซึ่งมีกําลังทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น นับเปนการขยายฐาน
กําลังอํานาจทาง ทหารครั้งสําคัญและครั้งใหญของโจโฉ กองทัพสามสิบหมื่นของโจโฉในวันนี้ยังมีแมทัพนาย
กองระดับทหารเอกอยูถึงหกคนคือแฮหัวตุน, แฮหัวเอี๋ยน, โจหยิน, โจหอง, ลิเตียน และงักจิ้น ดังนั้นกองทัพ
ของโจโฉจึงเปนกองทัพที่พรอมรบ ทั้งโดยวิธีตอสูกันดวยฝมือทหารเอก หรือดวยกําลังทหาร ยังคงขาดอยูก็
แตเพียงนักยุทธศาสตรที่สามารถวางแผนการยุทธในเชิง กลอุบายหรือเชิงกลพยุหะ และการใชพลังจักรวาล
และยังคงขาดอยูสําหรับดานการเมือง การปกครอง และการทูต
ตัวโจโฉเองนั้นแมจะเชี่ยวชาญทางพิชัยสงคราม และมีประสบการณทางดานการบริหารการปกครองมากอน
แตโจโฉก็รูดีวา ลําพังตัวคนเดียวนั้นยอมไมอาจทําการใหญไดสําเร็จ ซึ่งเปนธรรมดาของ "ปาใหญยอมไมอาจ
มีแตไมใหญเพียงตนเดียว หากตองมีทั้งไมขนาดใหญ ไมขนาดกลาง ไมขนาดเล็ก ไมพื้นดิน และไมพันธุที่มี
หัวอยูในดิน" ถึงกระนั้นหากจะเทียบกับซุนเซ็กและเลาปแลว ตองนับวาโจโฉ ไดกาวไปไกลกวากันมาก เพราะ
ในขณะนี้เลาปยังคงเปนเพียงเจาเมือง เพงงวนกวน ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวา ขึ้นตอบังคับของเมืองปกเปงที่มี
กองซุนจานเปนเจาเมือง มีกําลังพลอยูในมือเพียงไมกี่หมื่นคน และมีทหารเอกก็เพียงกวนอูและเตียวหุย
เทานั้น ทั้งยังอยูหางจากอํานาจรัฐจนไกลโพน
ฝายซุนเซ็กนั้นเลา แมวาไดสืบทอดอํานาจจากซุนเกี๋ยนผูบิดาขึ้น เปนที่เจาเมืองเตียงสาแลว และแมวาเมือง
เตียงสาจะเปนศูนยกลางของแควนกังตั๋ง ดินแดนทางภาคใตของแมน้ําแยงซีมีหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา ใน
สังกัดถึงแปดสิบเอ็ดหัวเมืองก็จริงอยู แตความสัมพันธระหวางหัวเมืองเหลานั้นก็ยังคงอยูในลักษณะที่เมือง
เตียงสา เปนเพียงศูนยกลางในระบบราชการปกติของรัฐบาลกลางเทานั้น ไมไดมีอํานาจบังคับบัญชาหมือนกับ
เมืองที่ขึ้นตอโดยตรง
กําลังทหารของเมืองเตียงสาก็มีอยูไมกี่หมื่นคน สวนทหารเอกก็มีเพียงอุยกาย เทียเภา และฮันตง สามสหาย
รวมรบของซุนเกี๋ยนเทานั้น แตซุนเซ็กมีขอไดเปรียบเลาปตรงที่ดินแดนภาคใตของแมน้ํา แยงซีมีความสงบ
สันติ ราษฎรรักการทํามาคาขาย ซึ่งเปนรากฐานของการพัฒนา และเปนรากฐานของความเปนปกแผนในวัน
ขางหนา ทั้งหัวเมืองตางๆ ในภาคใตไมไดมีความขัดแยงถึงขนาดจะตองทําสงครามแกกัน หากมีขอพิพาทกัน
บางก็แกไขกันภายใตระบบราชการ หรือมิฉะนั้นก็แกไขกันเองโดยวิถีทางทํานองการคาขาย ผิดกันกับโจโฉซึ่ง
อยูทางภาคตะวันออกฝงเหนือของแมน้ําแยงซี ดินแดนในภาคเหนือเปนดินแดนที่มีขุนศึกอยูเปนจํานวนมาก
เชน มาเทง หันซุย อวนเสี้ยว อวนสุด หรือกองซุนจานเปนตน พวกขุนศึกในภาคเหนือลวนเปนผูใฝในอํานาจ
ตางแกงแยงแขงขันชิงดีแยงอํานาจซึ่งกันและกัน มีขอพิพาทกันแตเพียงเล็กนอยก็ใชสงคราม เปนเครื่องมือ
ตัดสิน แมยามสงบก็พยายามขยายเขตอํานาจทําสงครามแกกัน พฤติกรรมเชนนี้ยังคงสืบทอด
ตลอดมาแมกระทั่งทุกวันนี้
ดังนั้น ระหวางโจโฉ เลาปและซุนเซ็กในวันนี้จึงเห็นไดชัดวาโจโฉไดสรางฐานอํานาจทางทหารที่เขมแข็งเติบ
ใหญที่สุด ในขณะที่เลาปและซุนเซ็กยังคงมีกําลังทหารไมมากนัก แตเมื่อประมวลดาน ความเปนปกแผนของ
ดินแดนที่เกี่ยวของแลวก็ตองนับวาซุนเซ็กมีความเหนือกวาเลาปอยูมาก แตทวาโจโฉนั้นมีความมักใหญใฝสูง
คิดตั้งตัวเปนใหญตั้งแตยังเด็ก ครั้นสถานการณเปนใจใหเติบใหญขึ้นในภาคตะวันออก โจโฉจึงอาศัยโอกาสนี้
กอรางตั้งตัวเปนรูปรางที่ชัดเจนขึ้น ครั้นโจโฉไดรับพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งใหเปนแมทัพใหญ
ภาคตะวันออกแลวก็มีความยินดียิ่งนัก ดวยเห็นวานี่คือโอกาสอันยิ่งใหญที่สวรรคไดประทานใหแลว จึงรีบ
เคลื่อนกองทัพไปตั้งอยู ณ เมืองกุนจิ๋ว ซึ่งเปนเมืองยุทธศาสตรของดินแดนภาคตะวันออก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉเคยอยูเมืองหลวงมากอน มีความใกลชิดกับอํานาจรัฐ ไดรูเห็นการชวงชิงอํานาจรัฐ การใชอํานาจรัฐ และ
การรักษาอํานาจรัฐ ตั้งแตครั้งยุครัฐบาลของโฮจิ๋นมาจนถึงตอนตนยุครัฐบาลของตั๋งโตะ ดังนั้นโจโฉจึงได
เรียนรู ทั้งขอเดน ขอดอย ขอดี และขอเสียของรัฐบาลดังกลาววาปมเงื่อนของความสําเร็จหรือความลมเหลว
อยูที่คน เนื่องเพราะการงานทั้งปวงกระทําโดยคน คนจึงเปนผูกอใหเกิด ทั้งความสําเร็จและความลมเหลว เปน
ผูกอใหเกิดความสามัคคีสมานฉันท หรือความแตกสามัคคี และยังเปนผูกอใหเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นหรือ
ความเคียดแคนชิงชัง โจโฉไดเรียนรูวาเหลานี้คือวิถีแหงการกอรางตั้งตัว ดังนั้นเมื่อโอกาสเปดใหแกการกอ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 14
รางตั้งตัวแลว โจโฉจึงมุงเนนในเรื่องของคนเปนสําคัญ มุงมั่นรักษาคนดีมีฝมือและกําลังพลที่มีอยูแตเดิมให
แนนแฟนยิ่งขึ้น ควบคูไปกับการแสวงหาคนดีมีสติปญญาใหมๆ เขามารวมงาน แลวมอบหมายการงานที่
เหมาะสมแกแตละคนอยางชัดเจน โจโฉตั้งทัพที่เมืองกุนจิ๋วแลว ตระหนักดีวาปจจัยสําคัญแหงการตั้งตัวเปน
ใหญนั้นยังคงขาดอยูคือคณะที่ปรึกษาที่เปนมันสมองใน กิจการดานตางๆ ดังนั้นกิจกรรมแรกสุดที่โจโฉให
ความสําคัญและเรง รีบดําเนินการคือทุมเทความพยายามอยางเต็มที่ในการแสวงหาคนดีมีสติปญญามาเปนที่
ปรึกษา เพื่อหาสิ่งที่ยังขาดอยูใหเต็มบริบูรณ โจโฉจึงใหปาวประกาศรับสมัครคนดีมีสติปญญาในทุกๆ ดานเขา
มารับราชการในกองทัพภาคตะวันออก กระแสขาวการรับคนดีมีสติปญญาของโจโฉในครั้งนี้ไดแพรขยายไปทั่ว
ภาคตะวันออกและดินแดนใกลเคียง
ฝายซุนฮก ซุนสิว สองอาหลานซึ่งรับราชการอยูกับอวนเสี้ยวแตไมเคยไดรับความสนใจใหความสําคัญหรือ
เห็นคุณคา ดังนั้นจึงปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับอวนเสี้ยวตอไปก็ไรประโยชน จึงพากันไปสมัครเขากับโจ
โฉ โจโฉไดสนทนาสัมภาษณแลวเห็นวาเปนคน มีสติปญญาวาจาหลักแหลมจึงรับไวในราชการ แตงตั้งใหเปน
ที่ปรึกษา เมื่อซุนฮก เปนที่ปรึกษาแลว ไดเสนอโจโฉวามีชาวเมืองตงกุนคนหนึ่งชื่อ เทียหยก เปนคนมี
สติปญญาความสามารถหลายสถาน ขอใหเชิญมาเปนที่ปรึกษา โจโฉไดยินชื่อเทียหยก จึงวาเราไดยิน
กิตติศัพทคนผูนี้มานานนักหนาแลวแตไมรูจักตัว ดังนั้นโจโฉจึงใหทหารไปสืบเสาะหาตัวเทียหยกจนพบ แลว
เชิญ มารับราชการดวย เทียหยกก็รับคําเชิญมารับราชการดวยโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉแตงตั้งใหเปนที่ปรึกษา
เทียหยกรูดีวาตัวไดเขารับราชการดวยโจโฉเพราะการแนะนําของ ซุนฮก จึงเคารพนับถือซุนฮกเปนหัวหนา
แลวเสนอแกซุนฮกวาคนบานเดียวกันกับซุนฮกผูหนึ่งชื่อกุยแกเปนคนหนุมแตมีสติปญญามากกวาใคร สมควร
ที่จะเชิญมาทําราชการดวย ซุนฮกไดยินชื่อกุยแกก็ดีใจ ระลึกถึงกุยแกได จึงไปเสนอโจโฉใหเชิญกุยแกเปนที่
ปรึกษาอีก คนหนึ่ง โจโฉมีความยินดียิ่งนัก แลวใหเชิญกุยแกมาเปนที่ปรึกษาอีกคนหนึ่ง
กุยแกมาเปนที่ปรึกษาแลวก็แนะนําโจโฉใหเชิญผูมีสติปญญาความสามารถอีกสี่คนคือ เลาหัว, บวนทง, ลิ
เกียน และมอกายมาเปนที่ปรึกษา โจโฉก็เชิญทั้งสี่คนมาเปนที่ปรึกษาตามคําของกุยแก ในขณะนั้นหัวหนาโจร
ชื่ออิกิ๋ม ไดยินกิตติศัพทการรับสมัครบุคลากรของโจโฉจึงพาพรรคพวกมาเขาดวยกับโจโฉ โจโฉไดแตงตั้ง
ใหอิกิ๋มเปนทหารเอก แลวรับเอาพรรคพวกของอิกิ๋มเปนทหาร ชวงนั้นชาวเมืองตันลิวอีกคนหนึ่งชื่อเตียนอุย มี
รูปรางใหญ กําลังกลาแข็ง เคยอยูกับเจาเมืองตันลิวมากอน แตเกิดวิวาทฆาทหาร เมืองตันลิวตายหลายคนจึง
หนีไปอยูปา ไปพบเขากับเสือโครงก็ตีเสือโครงตาย แฮหัวตุนไปพบเขาจึงพามาทําราชการดวยโจโฉ โจโฉ
เห็นบุคลิกเตียนอุยแลวเปนที่ประหลาดนักก็ใหแสดงฝมือใหชม เตียนอุยจึงขี่มาถือทวนประจําตัว เปนทวนคู
หนักเลมละแปดสิบชั่ง รายรําเพลงทวนใหโจโฉดูอยางแคลวคลองวองไว โจโฉมีความ พอใจเปนอันมากจึงตั้ง
ใหเปนทหารองครักษประจําตัว พอดีขณะนั้นเกิดพายุใหญพัดมาตองธงชัยประจํากองทัพที่ปกอยูหนาคายลม
ลง ทหารเกือบสามสิบคนวิ่งเขาไปจะยกใหตั้งตรงแตหาเขยื้อนไม เตียนอุยเห็นดังนั้นจึงรีบเขาไปยกธงชัยนั้น
ตั้งตรงไดดังเดิม โจโฉมีความพอใจเปนอันมากจึงมอบเสื้อเกราะอยางดีเปนรางวัลแกเตียนอุย
ดังนั้น ในขณะนี้กองทัพของโจโฉจึงประกอบดวยบุคคลครบครันทั้งฝายบุนและฝายบู โดยฝายบุนนั้น
ประกอบดวยคณะที่ปรึกษาครบแทบทุกดาน ถึงแปดคนคือ ซุนฮก, ซุนฮิว,เทียหยก, กุยแก, เลาหัว, บวนทง,
ลิเกียน และมอกาย ในบรรดาทั้งแปดคนนี้ตองนับวากุยแก เปนผูมีสติปญญารอบรูการสงคราม การเมือง และ
การปกครองมากที่สุด ในฝายบู โจโฉไดทหารเอกเพิ่มเติมอีกสองคนคืออิกิ๋มและเตียนอุย โดยเฉพาะเตียนอุย
นั้นไดรับความไววางใจเชื่อถือจากโจโฉ มากถึงขนาดแตงตั้งใหเปนองครักษประจําตัวนี่คือวิถีการกอรางตั้งตัว
ของโจโฉ ซึ่งบัดนี้พรอมแลวที่จะเปนหนึ่งในสามกก
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
แปรความแคนสวนตัวเปนการ มือง (ตอนที่ 57)เ
โจโฉซองสุมกําลังทั้งฝายบุนและฝายบูอยูที่เมืองกุนจิ๋วเปนปกแผนแลวจึงพิจารณายุทธศาสตรใหญในการกาว
เขาสูอํานาจรัฐรวมกับคณะที่ปรึกษา แลวเห็นวามีอยูสองแนวทาง คือ แนวทางแรก ยกกองทัพเขาโจมตีเมือง
หลวง และแนวทางที่สอง คือการขยายฐานอํานาจในหัวเมืองตางๆ กอนแลวคอยยกกองทัพเขายึดเมืองหลวง
แนวทางแรกนั้น มีบทเรียนตั้งแตยุคของโฮจิ๋นและตั๋งโตะแลววามีความเสี่ยงภัยสูงมากทุกขั้นตอน ในชั้นเขา
โจมตีเมืองหลวงก็อาจ ถูกฝายเมืองหลวงสั่งใหหัวเมืองอื่นยกกองทัพมาตีกระหนาบ แมไดอํานาจรัฐแลวก็ยังมี
ความเปนไปไดที่หัวเมืองตางๆ จะยกกองทัพเขามายึดอํานาจคืน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สวนแนวทางที่สองนั้นอาจเรียกไดวาเปนแนวทาง "ชนบทลอมเมือง" หากยึดหัวเมืองตางๆ ไวในอํานาจ
ขยายกองทัพใหเติบโตเขมแข็งเสียกอนแลวยกไปยึดเมืองหลวงในภายหลังก็จะทําศึกเพียง ดานเดียวไมตอง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 15
หวงหนาพะวงหลัง ทั้งทําการไดสะดวกเพราะอํานาจ รัฐออนแอ ไมสามารถชวยเหลือหัวเมืองตางๆ ได ทั้งแต
ละเมืองก็มี ทหารปองกันรักษาไมมากนัก ดังนั้น โจโฉจึงตกลงใจใชแผนยุทธศาสตร "ชนบทลอมเมือง" เปน
ยุทธศาสตรหลักในการยึดอํานาจรัฐ และภายใตยุทธศาสตรนี้ได กําหนดวิธีการคอยๆ แผอํานาจยึดทีละเมือง
อยางคอยเปนคอยไป ถือ ยุทธวิธี "กินขาวทีละคําจนหมดจาน" เพื่อไมใหเกิดความตื่นตระหนกแกหัวเมือง
ตางๆ
เมื่อกําหนดยุทธศาสตรและยุทธวิธีดั่งนี้แลว ขั้นตอไปก็คือการ สรางความชอบธรรมในการยึดหัวเมืองตางๆ
ตอไป ในขณะที่รอคอยโอกาสสรางเงื่อนไขความชอบธรรมอยูนั้น โจโฉเห็นวาภายในเมืองกุนจิ๋วมีเสถียรภาพ
เพียงพอแลว จึงรําลึกถึง บิดาตนที่หนีราชภัยไปอาศัยอยูเมืองตันลิว จึงสั่งใหทหารถือหนังสือไปหาโจโกผู
บิดาที่เมืองตันลิว เพื่อรับเอาครอบครัวและญาติ พี่นองมาอยูดวยกันที่เมืองกุนจิ๋ว โจโกไดรับหนังสือของโจโฉ
แลวยินดีในวาสนาของลูกชายยิ่งนัก จึงจัดแจงรวบรวมทรัพยสมบัติทั้งปวงแลวพาครอบครัวพรอมดวย โจเตก
ผูนองและญาติที่สนิทรวมสองรอยกวาคนออกเดินทางจากเมืองตันลิวพรอมกับทหารของโจโฉที่มารับนั้น
ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว หลังจากเขารวมกับกองทัพปฏิวัติแลว มีความประทับใจในสติปญญาของโจโฉเปน
อันมาก ครั้นเลิกทัพกลับมาเมืองชีจิ๋วแลวก็ยังระลึกถึงโจโฉอยูเสมอคิดวาในยามบานเมืองเปนจลาจลเชนนี้
จําเปนที่จะตองมีผูที่ปรีชาสามารถมาเปนหลักใหแกหัวเมืองตางๆ ชวยทํานุบํารุงแผนดินและราษฎรใหเปนสุข
คิดอยูในใจวาถาโอกาสอํานวยเมื่อใดก็จะชวนใหโจโฉเปนผูนําทําการใหญอีกตอไป
ครั้นโตเกี๋ยมไดขาววาบัดนี้โจโฉใหทหารไปรับบิดาและครอบ ครัวจะไปอยูเมืองกุนจิ๋ว และกําลังเดินทางผาน
มาทางเมืองชีจิ๋วก็มีความยินดี ประกอบทั้งตัวโตเกี๋ยมเองก็เปนคนใจคอกวางขวางเอื้ออารีตอคนทั้งปวงเห็น
วาโจโก เดินทางไกลคงยากลําบากประการหนึ่ง และเห็นวาเปนบิดาและครอบครัวของคนที่ตัวนับถือผาน
มาแลวจะทําเปนไมรูเห็นจะเปนการแลงน้ําใจเกินไปอีก ประการหนึ่ง ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงนําทหารออกจากประตู
เมืองไปเชิญโจโกและญาติพี่นองในขบวนใหเขามาพักในเมืองชีจิ๋วเสียกอน แลวคอยเดินทางตอไป โจโกเห็น
เจาเมืองออกมาคารวะและออกปากเชิญดวยตนเองก็เกรงใจและยินดีตามคําเชิญนั้น จึงพากันเขาเมืองชีจิ๋ว โต
เกี๋ยมไดจัดใหโจโกและคณะพักที่ตึกรับรองแขกเมืองอยางสมเกียรติ แลวแตงโตะเลี้ยงโจโกและคณะเปน
อยางดี
คณะของโจโกพักอยูเมืองชีจิ๋วสองวันแลวจึงออกเดินทางตอไป โตเกี๋ยมคนใจอารีจึงใหเตียวคีนําทหารหารอย
นายไปสงขบวนใหถึงเมืองกุนจิ๋ว ขบวนของโจโกเดินทางมาถึงวัดแฮหุย ซึ่งเปนวัดรางแหง หนึ่งเปนเวลาค่ํา
ประจวบกับฝนตกหาใหญจึงใหพักขบวนคางคืนใน วัดรางแหงนี้โดยมีทหารของโตเกี๋ยมและทหารของโจโฉ
เฝารักษาการณอยูภายนอกที่พัก เตียวคีทหารของโตเกี๋ยมซึ่งเปนผูนําทหารมาสงขบวนนั้นเคยเปนโจรโพก
ผาเหลืองมาแตกอน ครั้นโจรโพกผาเหลืองถูกปราบปรามจึงหนีมาสมัครเปนทหารเมืองชีจิ๋วเห็นในขบวน
ของโจโกมีทรัพยสินหลายเลมเกวียนก็เกิดความคิดโลภอยากไดทรัพยสมบัติเหลานั้น จึงปรึกษากับเพื่อน
ทหารที่มาดวยกันเพื่อปลนเอาทรัพยสินนั้นเสีย พวกทหารเหลานั้นก็เห็นดวย โจโกและคณะเดินทางมาเหนื่อย
เหน็ดทั้งวัน ทั้งวางใจวามีทหาร คอยรักษาความปลอดภัยจึงพากันหลับสนิท โดยไมไดคิดเลยวาทหาร
เหลานั้น จะคิดทํารายตัว ดังนั้นในขณะที่ทุกคนกําลังหลับใหล เตียวคี จึงคุมทหารเมืองชีจิ๋วเขาไปสังหารโจ
โกและครอบครัวจนตายสิ้นและปลนเอาทรัพยสินทั้งหมดหนีไปอยูปา
ทหารของโจโฉที่มารับโจโกและญาติพี่นองเห็นทหารของเตียวคี ปลนฆาเจาทรัพยก็ตกใจกลัวจึงพากัน
หลบหนีไปดวย ตัวนายนั้นหนีไปอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว แตทหารชั้นผูนอยไมมีหนทางไปและคิดถึง
ครอบครัวจึงเดินทางกลับไปเมืองกุนจิ๋วรายงานเหตุ การณใหโจโฉทราบ โจโฉทราบเรื่องแลวก็รองไหรักบิดา
และญาติเปนอันมาก
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "โจโฉครั้นแจงดังนั้นก็รองไหรักบิดาจนลมลงจากเกาอี้ ทหารทั้งปวง
เขาอุมโจโฉขึ้นบนเกาอี้" อันความโศกเศราแตการที่บิดาและญาติๆ ถูกปลนฆาอยางทารุณ เชนนี้เปนวิสัยของ
คนเราทุกตัวคน และโจโฉก็ยอมอยูในวิสัยเชนนี้ แตคนคิดการใหญและมีความเปนผูนําอยางโจโฉนั้นยอมรูดีวา
ถึงจะเศราโศกเสียใจและรองไหจนน้ําตาเปนสายเลือดก็หาไดทําใหคนตายฟนคืนขึ้นมาไดไม กรณีมีเหตุผล
ที่โจโฉจะโกรธโตเกี๋ยม เพราะคนซึ่งปลนฆาครอบครัวของตนคือทหารของโตเกี๋ยม เมื่อโกรธแลวก็มีเหตุผลที่
จะตองแกแคนเอากับโตเกี๋ยม นี่คือเหตุผลและความชอบธรรมที่จะยกกองทัพไปโจมตีเมืองชีจิ๋ว และนี่คือ
โอกาสที่โจโฉรอคอยอยูมิใชหรือ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ดังนั้น โจโฉจึงจําตองสรางสถานการณขึ้นเพื่อใหผูใตบังคับบัญชาทั้งปวงมีความรูสึกเดือดแคนดวยจะไดมี
น้ําใจสมานฉันทในการสงคราม ทําใหกําลังรบสามารถเปลงอานุภาพไดอยางเต็มที่ ซึ่งถือเปนยุทโธบายสําคัญ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 16
ตามพิชัยสงครามที่วา "ฝายนําและผูใตบังคับบัญชารวมจิตสมานฉันทเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน ผูนั้นชนะ" และนี่
คือหลักการวางแผนเบื้องตนในการทําสงคราม ซึ่งตําราพิชัยสงครามบัญญัติวา "เมื่อไดวางแผนการเหมาะสม
และผูใตบังคับบัญชาเห็นชอบและเชื่อฟงดีแลว กาวตอไปก็คือการเสกสรางเหตุการณใหเกิดขึ้นเพื่อคอยเปน
กําลังเสริมทางภายนอกอีกดานหนึ่ง อันวาเหตุการณอันจะปลุกเสกขึ้นนั้น เรามิพักตองถือหลักเกณฑตายตัว
จงกระทําไปตามโดยนัยประโยชนของฝายเราก็แลวกัน"
ดังนั้น การโศกเศราเสียใจรองไหของโจโฉจึงนาจะเปนความรูสึก ที่แทจริงตามวิสัยของปุถุชน แตการรองไห
จนลมลงจากเกาอี้นั้น นาจะเปนการเสกสรางขึ้น เพื่อสรางความรูสึกเดือดแคนรวมขึ้นภายในกองทัพ และนี่
แสดงวาโจโฉในวันนี้ไดเรียนรูและสามารถใชความ รูดานพิชัยสงครามอยางกลมกลืนจนดูประหนึ่งเปนเรื่อง
ธรรมดาเขาทํานอง "สูงสุดสูสามัญ" แลว ครั้นทหารพยุงโจโฉขึ้นบนเกาอี้แลว โจโฉจึงวาการณครั้งนี้เปน
เพราะ โตเกี๋ยมทํากลอุบายปลนฆาบิดาและญาติๆ ของเรา หากเราไมลางแคนโตเกี๋ยมแลวยอมไดชื่อวาเปน
บุตรอกตัญู ดังนั้นแมวาตัวเราจะเห็น แกความสงบสุขของบานเมืองแลราษฎร ครั้งนี้จําตองละความเห็นสวน
ตัวนั้นเสีย
เพื่อพิทักษคุณธรรม เราจําจะยกไปเหยียบเมืองชีจิ๋วเสียใหเรียบเปนหนากลองแลวจับตัวโตเกี๋ยมมาฆาเสียให
จงได แลวโจโฉจึงถามความเห็นบรรดาแมทัพนายกองทั้งปวง ทั่วทั้งกองทัพ สนับสนุนความคิดเห็นของโจโฉ
อยางทวมทนดวยใจเดือดแคนรวมกับนายตัว ดังนั้น โจโฉจึงสั่งใหซุนฮกและเทียหยกสองที่ปรึกษาคุมกําลัง
ทหารสามหมื่นอยูรักษาเมืองกุนจิ๋วแลวโจโฉจึงเคลื่อนทัพจากเมืองกุนจิ๋วตรงไปเมืองชีจิ๋วของโตเกี๋ยม ครั้น
ใกลเมืองชีจิ๋วแลวจึงใหตั้งคาย ลง และสั่งใหแฮหัวตุน อิกิ๋ม และเตียนอุย สามทหารเอกเปนกองหนายกทหาร
ไปประชิดกําแพงเมืองชีจิ๋ว กําชับวาใหสังหารผูคนชาวเมืองชีจิ๋วเสียใหสิ้น
สามทหารเอกจึงเคลื่อนกําลังเขาประชิดเมืองชีจิ๋ว และสังหารชาวเมืองที่อยูนอกกําแพงเมืองเสียสิ้น ไมละเวน
แมกระทั่งลูกเด็กเล็กแดงและคนชรา ฝายเปยนเหยียง เจาเมืองกิวกั๋ง ซึ่งเปนหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และตัว
เปยนเหยียงเองมีความชอบพอกับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงยกทหารหาพันจะมา
ชวยเหลือโตเกี๋ยม ครั้นยกมาใกลเมืองชีจิ๋วจึงปะทะกับกองหนาของแฮหัวตุน ทหาร ของทั้งสองฝายได
ตะลุมบอนกันอยางดุเดือด แฮหัวตุนฆาเปยนเหยียง ตายในที่รบ
ทหารของเปยนเหยียงที่เหลือจึงแตกพายไป ฝายตันกง อดีตเจาเมืองจงพวน ซึ่งเคยศรัทธาในตัวโจโฉ ได
ปลอยตัว โจโฉซึ่งถูกจองจําตามคําสั่งของรัฐบาลกลาง แลวทิ้งตําแหนงเจาเมืองหนีไปกับโจโฉ ตอมาเห็น
วาโจโฉเปนคนเนรคุณ ไรคุณธรรม จึงหนีจากโจโฉไปนั้น ไดไปทําราชการอยูที่เมืองตองกุน ตันกงเปนเพื่อน
กับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพจะไปโจมตีเมืองชีจิ๋วและสั่งใหสังหารชาวเมืองเสียทั้งสิ้น รูสึกเปน
หวงใยโตเกี๋ยม ทั้งมีน้ําใจรักราษฎร จึงคิดวาเคยมีคุณกับโจโฉมาแตกอน จึงเดินทางมาพบโจโฉ อธิบายความ
จริงใหทราบวา โตเกี๋ยมมิไดรูเห็น เปนใจในการปลนฆาบิดาและญาติพี่นองของโจโฉ เหตุเกิดจากทหาร ของ
โตเกี๋ยมมีความโลภหักหลังโตเกี๋ยมแลวปลนฆาโจโกและคณะเสีย จึงขอใหโจโฉทบทวนความคิด และขอรอง
ใหถอนทัพกลับเมืองกุนจิ๋ว
โจโฉฟงคําตันกงแลว แมยังระลึกถึงคุณตันกงที่ชวยเหลือปลอยตัวออกจากการถูกจองจําและยังสูอุตสาหทิ้ง
ตําแหนงเจาเมืองหนีตาม มาทําการดวย แตแผนการของตัวเองนั้นเปนการใหญ จะมัวคิดเห็นแกไมตรีสวนตัว
เชนนี้ไมได โจโฉจึงไมยอมตามคําขอรองของตันกง และแสรงทําทีเปนโกรธตันกงหาวาละทิ้งกันในยามยาก
แลวยังมาเขา ขางคนที่คบคิดกันสังหารบิดาตัวเองซ้ําอีก ตันกงมาขอรองโจโฉไมสมความคิด ก็รูสึกละอายใจ
ที่ไมสามารถ ชวยเหลือโตเกี๋ยมผูเปนมิตร จึงไมกลาเขาเมืองชีจิ๋วไปพบหนากับโตเกี๋ยม ดังนั้นตันกงจึง
เดินทางไปหาเจาเมืองตันลิว ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ครั้นไดขาวศึกและไดรับรายงานวาทหาร โจโฉสังหาร
ชาวเมืองที่อาศัยทํามาหากินอยูนอกเมืองเปนอันมากก็มีความเสียใจ รองไหอาลัยรักราษฎรเหลานั้นและได
เรียกประชุมขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว เพื่อรับมือกับกองทัพโจโฉ ผลการประชุมตกลงกันวาจําเปนที่จะตอง
ชี้แจงขอเท็จจริงเพื่อทํา ความเขาใจกับโจโฉวาโตเกี๋ยมมิไดรูเห็นหรือคบคิดปลนฆาครอบ ครัวโจโฉเสียครั้ง
หนึ่งกอน แลวคอยคิดอานการศึกตอไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นรุงขึ้นโตเกี๋ยมจึงยกทหารออกไป "เห็นทหารโจโฉนั้นตั้งอยูเปนมาก ดังคลื่นในทองมหาสมุทร" โจโฉเห็น
โตเกี๋ยมยกทหารออกมาจึงชักมาออกไปหนาทหาร โตเกี๋ยมก็ชักมาออกมาหนาทหารอยางเดียวกัน คํานับโจ
โฉแลวชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นทุกประการ โจโฉฟงคําโตเกี๋ยมแลวหาวาโตเกี๋ยมเปนคนเจาอุบาย คบคิดกับ
ลูกนองใหปลนฆาบิดาและครอบครัว จึงสั่งใหทหารลอมจับโตเกี๋ยม เมื่อพูดจากันไมรูเรื่องดังนี้ จึงทั้งโจโฉ
และโตเกี๋ยมตางชักมาเขามาขางหลังทหาร ทหารทั้งสองฝายจึงดาหนาเขาประจัญบานกัน บาดเจ็บ ลมตาย
ลงเปนอันมาก พอดีฝนตกลงมาหาใหญ ทั้งสองฝายจึงถอยทัพกลับเขาเมืองและกลับเขาคายของตน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 17
สงครามระหวางเมืองกุนจิ๋วและเมืองชีจิ๋วครั้งนี้ นับเปนสงคราม ระหวางขุนศึกดวยกันเปนครั้งที่สามหลังจาก
เกิดศึกเมืองกังตั๋งกับเมือง เกงจิ๋ว ระหวางซุนเกี๋ยนกับเลาเปยว และศึกเมืองกิจิ๋วกับเมืองปกเปง ระหวางอวน
เสี้ยวกับกองซุนจาน โดยที่อํานาจรัฐสวนกลางมิไดเกี่ยว ของและไมสามารถบังคับบัญชาขุนศึกเหลานั้นไดนี่
คือสถานการณที่พัฒนาไปอีกขั้นใหญ แสดงใหเห็นถึงอํานาจรัฐสวนกลางไดออนตัวลง และตางเมืองตางตั้ง
ตัวเปนอิสระ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
สงครามภาคตะวันออก (ตอนที่ 58)
โตเกี๋ยมแมมีใจรักชาติและอาทรตอราษฎรแตเปนคนใจออนไมตางกับเจาเมืองพิษณุโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ซึ่งคิดการแตดาน เดียววาเมื่อผูปกครองตั้งอยูในธรรมแลวจะเอาบานเมืองใหรอดปลอดภัยได การปกครอง
โดยธรรมเปนเรื่องภายใน แตการปองกันรักษาเมืองนั้นตองอาศัยกําลังทหารที่เขมแข็ง จะอาศัยธรรมเปนหลัก
ไมได เพราะขาศึกที่มุงจะยึดเมืองนั้นใชกําลังอาวุธไมไดใชธรรม เหตุนี้เจาเมืองพิษณุโลกสมัยนั้น จึงเสียทั้ง
เมือง เสียทั้งชีวิตใหแกพมา ประเทศสวิตเซอรแลนด แมเปนประเทศที่ใฝสันติ ถือสันติธรรม เปนหลักในการ
บริหารบานเมือง แตในขณะเดียวกันกลับมีกองทัพที่ทันสมัยเขมแข็ง เหตุนี้จึงสามารถรักษาบานเมืองและ
รักษาความเปน กลางไวไดตลอดทุกยุคทุกสมัย
พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจา จึงทรงตักเตือนพสกนิกรของพระองควา "แมหวังตั้งสงบจงเตรียมรบให
พรอมสรรพถึงศัตรูกลามาประจันก็อาจสูริปูสลาย" โตเกี๋ยมหลังจากยกออกไปเจรจากับโจโฉไมสําเร็จและเกิด
ปะทะกันแลวกลับเขาเมืองก็เสียใจยิ่งนัก เรียกประชุมแมทัพนาย กองแลวแจงวาศึกครั้งนี้ เห็นทีจะสูโจโฉ
ไมได หากจะตอสูตอไปก็จะพลอยพาใหราษฎรไดรับความเดือดรอน จึงขอใหแมทัพนายกองทั้งปวงมัดตัวเอง
แลวนําไปมอบใหโจโฉในวันพรุงนี้ แลวขอชีวิตชาวเมืองไว บิตกขุนนางเมืองชีจิ๋วตําแหนงที่ปรึกษาจึงวาขึ้นใน
ที่ประชุมนั้นวา ตัวทานมีน้ําใจโอบออมอารี ปกครองราษฎรโดยธรรม ดังนั้นราษฎร จึงมีน้ําใจรักทานเปนอัน
มาก ยอมไมยินยอมใหทานตองเสียสละถึงเพียงนี้ อันเมืองชีจิ๋วนั้นกําแพงเมืองก็สูงใหญ เชิงเทินคายคูหอรบก็
มั่นคง ผูคนก็พรอมสรรพ ทหารทั้งปวงเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกันยอมสามารถปองกันรักษาเมืองเอาไวไดทาน
อยาไดวิตกเลย แลวบิตกไดเสนอตอไปวาตัวทานกับขงหยง เจาเมืองปกไฮก็รักใครนับถือกันดังพี่นอง ขอให
ทานมีหนังสือใหขงหยงยกกองทัพมาชวย อนึ่ง การที่โจโฉยกมาทั้งนี้เปนกองทัพใหญยอมทําใหเตงไก เจา
เมืองเซียงจิ๋วคิดพรั่นใจ เพราะถาหากเมืองชีจิ๋วเสียแกโจโฉแลว เมืองเซียงจิ๋วก็จะตกอยูในอันตรายดวย การ
ขับไลกองทัพโจโฉจึงเปน ประโยชนรวมกันของทั้งสองเมือง หากทานมีหนังสือไปใหเตงไกมารวมขับไลโจโฉ
เห็นทีเตงไกจะยกกองทัพมาชวยเปนแน เมื่อกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาชวยเราแลว กองทัพโจ
โฉก็จะตกอยูในระหวางกระหนาบของทั้งสามเมือง คงจะเสียทีเปนมั่นคง บิตกคนนี้เปนคนมีคุณธรรม น้ําใจเอื้อ
อารีตอคนทั้วปวง วากันวาครั้งหนึ่งมีเทพธิดาซึ่งไดรับบัญชาจากสวรรคใหมาวางเพลิงเผาบานเรือนของบิตก
ตามวิบากกรรมเกา แตเทพธิดาไดกิตติศัพทวาบิตก เปนคนใจซื่อมือสะอาด จึงแกลงลองใจขออาศัยเดินทาง
รวมกับบิตก หลังจากรอนแรมคางคืนกันมาหลายวันบิตกก็ยังคงปฏิบัติตอเทพธิดาจําแลงดวยความเอื้ออาทร
คงเสนคงวา มิไดคิดหรือกระทําการใดๆ ใหเปนที่ลวงเกิน เทพธิดาจึงสงสารแลวบอกความใหทราบ บิตก จึง
สามารถขนยายทรัพยสินออกจากเรือนกอนที่จะถูกเพลิงไหม
ครั้นบิตกเสนอความเห็นดั่งนั้นแลว โตเกี๋ยมและที่ประชุมเห็น พองดวยโตเกี๋ยมจึงทําหนังสือใหตันเตงถือไป
ขอความชวยเหลือจาก เตงไก เจาเมือง เซียงจิ๋ว และใหบิตกถือไปขอความชวยเหลือจากขงหยง เจาเมือง
ปกไฮ สองนักเดินสารออกจากเมืองชีจิ๋วแลว โตเกี๋ยมจึงสั่งทหารใหขึ้น รักษาเชิงเทินคายคูหอรบตั้งมั่นรับศึก
อยูแตในเมือง ทหารโจโฉยกมา ทารบดวยเปนหลายครั้ง ฝายเมืองชีจิ๋วก็ยังคงคุมกําลังตั้งมั่นไมยอมออกรบ
ฝายขงหยง เจาเมืองปกไฮ ไดรับหนังสือจากโตเกี๋ยมแลวปรึกษา กับบิตกวาเรากับโจโฉไมมีสิ่งใดผิดใจกันมา
กอน ดังนั้นจะมีหนังสือไปถึงโจโฉชี้แจงความจริงแลวขอใหถอนทัพกลับไป โจโฉคงจะเกรง ใจเรา แตบิตก
ทวงวาโตเกี๋ยมเคยออกไปพูดจาแลวแตไมไดผล หากทานจะมีหนังสือไปอีกครั้งหนึ่งโจโฉก็คงไมยอมเกรงวา
จะเสียการไป ขงหยงฟงแลวเห็นดวยจึงวาถาเชนนั้นเราก็จะดําเนินการพรอมกันทั้งสองอยางคือ มีหนังสือไป
ชี้แจงขอรองใหโจโฉถอนทัพ ในขณะเดียวกันก็จะยกกองทัพไปดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ในขณะที่กําลังปรึกษากันอยูนั้น ขุนนางเมืองปกไฮไดนําใบบอกจากนายดานเขามารายงานวา บัดนี้โจรโพก
ผาเหลืองนําโดยกวนไฮไดยกกองทัพจํานวนหาหมื่นเขาโจมตีชายแดนเมืองปกไฮ ดังนั้นขงหยงจึงตองพัก
การขางเมืองชีจิ๋วไวกอน แลวสั่งทหารใหเตรียมกองทัพยกไปปราบโจรโพกผาเหลือง กองทัพเมืองปกไฮ
ประจันหนากับกองทัพโจรโพกผาเหลืองที่ชายแดนกวนไฮนายโจรจึงวากับขงหยงวา ยกมาครั้งนี้ไมประสงคจะ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 18
รุกราน เปนแตขาดเสบียง จึงขอเสบียงสักหมื่นถังแลวจะยกทัพไปทางอื่น ขงหยงไมยอมใหแลวสั่งทหารเอก
ออกรบดวนกวนไฮ ตอ สูกันไดเพียงหาเพลง กวนไฮก็เอางาวฟนทหารเอกของขงหยงตกมาตาย ขงหยงจึงพา
ทหารยกหนีเขาเมือง โจรโพกผาเหลืองเห็นไดทีจึง ยกกองทัพไปลอมเมืองปกไฮไว ขณะนั้นไทสูจู ชาวเมือง
อุยกวน ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองปกไฮ และขงหยงเคยอุปการะครอบครัวของไทสูจูมาแตกอน ครั้นได
ขาววาโจรโพกผาเหลืองยกมาลอมเมืองปกไฮ มารดาของไทสูจูจึงสั่งใหมาชวยขงหยง ไทสูจูขับมามาถึง
กําแพงเมืองปกไฮ เห็นพวกโจรลอมอยูจึงตีฝา เขามาที่กําแพงเมืองเกิดอลหมานขึ้น ขงหยงทราบขาวจึงขึ้น
ไปดูบนเชิงเทินเห็นไทสูจูมีฝมือเขมแข็ง ทหารโจรโพกผาเหลืองสูมิได ไทสูจู ขับมาไปทางไหน ทหารโจร
โพกผาเหลืองก็แตกไปทางนั้น จนไทสูจูตีฝาเขามาถึงประตูเมือง รองเรียกใหเปดประตูแตทหารไมรูจักตัวเกรง
วาจะเปนกลอุบายจึงไมยอมเปด ทหารโจรลอมเขามาอีก ไทสูจูจึงชักมากลับเขารบฆาฟนทหารโจรโพก
ผาเหลืองถอยรนไป ขงหยงจึงสั่งใหเปดประตูเมืองรับไทสูจูเขามาพบ หลังจากคารวะไตถามกันตามธรรม
เนียมแลว ขงหยงก็ระลึกความที่เคยอุปการะครอบครัวไทสูจูได ไทสูจูขอทหารพันหนึ่งจะยกออกไปขับไลโจร
โพกผาเหลือง แตขงหยงเห็นวาฝายโจรโพกผาเหลืองมีจํานวนมากเกรงจะเสียทีจึงคิดขอใหเลาปเจาเมืองเพง
งวนกวน ซึ่งเปนเชื้อพระวงศยกทหารเขามาชวยปองกันแผนดินของราชวงศฮั่น แตยังหาผูอาสานําหนังสือไป
ถึงเลาปไมได ไทสูจูจึงขออาสาเดินสารครั้งนี้ ขงหยงก็ยินดี
ครั้นเลาปไดรับหนังสือของขงหยงแลว เห็นเปนหนาที่ของเจาเมืองในแผนดินของราชวงศฮั่นที่ตองชวย
ปองกันแผนดินไวจึง สั่งใหจัดกองทัพเมืองเพงงวนกวนจํานวนสามพันพรอมดวยกวนอู เตียวหุย ยกไปเมือง
ปกไฮพรอมกับไทสูจู กองทัพโจรโพกผาเหลืองลอมเมืองชีจิ๋วอยู เห็นมีกองทัพยกมา จึงยกทหารเขาตี
กองทัพเมืองเพงงวนกวน เลาปจึงสั่งใหทหารตั้งขบวนเรียงหนากระดานเตรียมรบกันดวยฝมือทหารเอกแลว
เลาปจึงขับมาพรอมดวยกวนอู เตียวหุย และไทสูจูออกไปขางหนาขบวน กวนไฮนายโจรเห็นดังนั้นจึงขับมา
ออกไปกลางลานรบ ไทสูจูกําลังจะชักมาออกไปแตเห็นกวนอูขับมาออกไปกอนจึงรั้งมาไว กวนอู เขารบดวย
กวนไฮไดสามสิบเพลงก็เอางาวฟนกวนไฮตกมาตาย กองทัพเมืองเพงงวนกวนจึงยกเขาตีกองทัพโจรโพก
ผาเหลือง ขณะนั้นขงหยงไดยินเสียงกลองศึกดังสนั่น จึงขึ้นไปดูบนเชิงเทินเห็นทัพเลาปกําลังเขารบกับ
กองทัพโจรโพกผาเหลือง จึงยกทหารออกจาก เมืองตีกระหนาบกองทัพโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดาน
ทหารโจรโพกผาเหลืองบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก พวกที่เหลืออยูทราบวาเลาปเปน เชื้อพระวงศก็เขามา
สวามิภักดิ์ดวย
ปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมของกวนไฮแลว ขงหยงจึงเลา เรื่องโจโฉยกมาตีเมืองชีจิ๋วใหเลาปฟง และ
ขอใหเลาปยกไปชวยโตเกี๋ยม พรอมกับกองทัพเมืองปกไฮ เลาปจึงวามีทหารมานอยเกรงวาจะเสียที ขงหยง
ขอรองอีกครั้งหนึ่งวาโตเกี๋ยมเปนคนสัตยซื่อตอแผนดิน เลาป ก็เปนเชื้อพระวงศ จะเพิกเฉยตอเรื่องนี้เปนการ
ไมสมควร เลาปเห็นขงหยงเขาใจผิดคิดวาบิดพลิ้วจึงวาเตรียมทหารมานอยนัก ไมสามารถรับมือโจโฉได จะ
กลับไปขอยืมทหารจากกองซุนจานแลวจะยกไปชวยโตเกี๋ยม ขอใหขงหยงยกไปชวยโตเกี๋ยมกอนแลวจะตาม
ไปสมทบ และใหคํามั่นวาไมวาจะยืมทหารไดหรือไมก็จะตามไป
ขงหยงจึงบอกใหบิตกกลับไปบอกแกโตเกี๋ยมวาจะยกกองทัพไปชวย สวนเลาปก็ลาขงหยงไปเมืองปกเปง
สวนไทสูจูครั้นเสร็จการตามคําสั่งมารดาแลวก็เดินทางกลับไป เลาปยกทหารมาถึงเมืองปกเปงแลวขอยืม
ทหารกับกองซุนจาน แตกองซุนจานหามเลาปวาไมไดมีความขัดแยงกับโจโฉ จะไปตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ
นั้นไมเห็นประโยชนอันใด เลาปยืนยันวาเปนเชื้อพระวงศมีหนาที่ปองกันแผนดิน ทั้งรับคําขงหยงไวแลว จะละ
คําสัตยเสียไมควร กองซุนจานทัดทานเลาปไมไดแตก็ขัดเลาปไมไดเชนเดียวกัน จึงใหยืมทหารมาแกเลาป
จํานวนสองพัน เลาปเห็นไดทหาร นอยนักจึงขอตัวจูลงไปในกองทัพดวย กองซุนจานก็ตกลงอนุญาตใหตาม
ขอเลาปไดทหารจากกองซุนจานแลว จึงจัดกองทัพใหจูลงคุมทหาร มาสองพันที่กองซุนจานใหยืมทําหนาที่
เปนกองหลัง สวนเลาป กวนอู เตียวหุย พรอมทหารจากเมืองเพงงวนกวนสามพันนั้นเปนกองหนายกออกจาก
เมืองปกเปง
ฝายโตเกี๋ยมหลังจากมีหนังสือไปขอใหขงหยงและเตงไกยกกองทัพมาชวยแลวก็ตั้งมั่นรับศึกในเมือง ครั้นบิต
กกลับมาถึงก็เขา ไปรายงานใหโตเกี๋ยมทราบ หางกันไมนานตันเตงก็กลับมาจากเมืองเซียงจิ๋วรายงานวาเตง
ไกตกลงจะยกกองทัพมาชวยโตเกี๋ยมจึงคอยคลายความวิตกลง หลังจากนั้นอีกสามวันทหารรักษาการณบน
เชิงเทินไดมารายงาน แกโตเกี๋ยมวาบัดนี้มีกองทัพยกมาสองกองตั้งคายอยูดานหลังคายของ โจโฉ กองหนึ่งมี
ธงประจํากองทัพระบุวาเปนเมืองปกไฮ และมีธงประจําตัวแมทัพชื่อขงหยง อีกกองทัพเปนกองทัพเมืองเซียง
จิ๋ว มีเตงไก เปนแมทัพ ขงหยงทราบรายงานแลวจึงขึ้นไปดูบนเชิงเทิน เห็นกองทัพทั้งสองกองตั้งคายอยู
ดานหลังคายของโจโฉตามรายงาน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 19
ดานโจโฉเห็นมีกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาตั้งคาย อยูทางดานหลังก็พะวักพะวง จะยกเขาตี
เมืองชีจิ๋วก็ไมไดเกรงวากองทัพทางดานหลังจะเขาตีกระหนาบ จะยกไปตีกองทัพทางดานหลังก็เกรงวา
กองทัพเมืองชีจิ๋วจะยกมาตีกระหนาบ จึงสั่งทหารใหแยก เปนสองกอง กองหนึ่งรับหนาเมืองชีจิ๋ว อีกกองหนึ่ง
รับหนากองทัพทางดานหลังแลวคุมเชิงกันอยู ฝายเลาปครั้นเดินทัพมาถึงเมืองชีจิ๋ว เห็นกองทัพเมืองปกไฮ
และกองทัพเมืองเซียงจิ๋วตั้งคายประชิดคายโจโฉอยูเปนสองกอง จึงหยุดทัพไวแลวเขาไปพบขงหยง ขงหยง
จึงวากองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีทหารเปนอันมาก และโจโฉ ก็มีสติปญญาเชี่ยวชาญพิชัยสงคราม หากจะดวน
เขาโจมตีเกรงจะเสียที เลาปจึงวาบัดนี้เรายังไมรูการศึกขางในเมืองชีจิ๋ว จําเปนที่จะตองใหกองทัพทั้ง
ภายนอกและภายในถึงกันเสียกอน รูความศึกกระจางแลว คอยทําการตอไป ดังนั้นจะใหกวนอูกับจูลงคุมทหาร
สี่พันอยูกับกองทัพของทาน ตัวขาพเจากับเตียวหุยจะคุมทหารหนึ่งพันตีฝาเขา ไปในเมืองปรึกษาการศึกกับ
โตเกี๋ยมเสียชั้นหนึ่งกอน
ขงหยงเห็นดวยกับความคิดของเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งกวนอู และจูลงใหคุมทหารสี่พันอยูกับขงหยง สวนตัว
เลาปกับเตียวหุยและทหารหนึ่งพันจะตีฝาเขาไปในเมือง ระหวางที่ตีฝาเขาเมืองนั้นหากพลาดพลั้งประการใดก็
ใหกวนอู และจูลงตีหนุนเขาไปก็จะไมเสียทีแกขาศึก สั่งการแลวเลาป เตียวหุย กับทหารหนึ่งพันจึงเคลื่อน
กําลังเตรียม ตีฝากองทัพโจโฉเขาไปในเมืองชีจิ๋ว
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
จิตใจมหาบุรุษ (ตอนที่ 59)
โจโฉกรีธาทัพใหญหวังจะเหยียบเมืองชีจิ๋วใหราบเปนหนา กลอง แตสถานการณถึงวันนี้เรื่องที่คาดคิดวาจะ
สําเร็จไดโดยงายทําทาวาจะกลับกลายจนเหยียบเทาลงที่เมืองชีจิ๋วไมสะดวกดายเสียแลว ขางในเมืองโต
เกี๋ยมก็ไมยอมออกรบ ตั้งมั่นอยูแตในเมือง หากตองถึงกับโจมตีเมืองที่มีกําแพงเชิงเทินสูงใหญ คายคูหอรบ
แข็งแรง ก็จะสูญเสียทหารมาก สวนขางนอกเมืองก็ยังมีกองทัพอีกสองเมืองมาตั้งมั่นอยูดานหลัง สถานการณ
บังคับใหตองแยกกองทัพออกเปน สองกองรับศึกทั้งดานหนาและดานหลัง
ดังนั้นสถานการณสงครามจึงเริ่มแปรเปลี่ยนใหกองทัพโจโฉตองตกอยูในสภาพถูกกระทํา ในขณะที่คุมเชิงกัน
อยูนั้นโจโฉไดรับรายงานวาบัดนี้มีกองทัพยก มาอีกกองหนึ่งเปนกองทัพเมืองเพงงวนกวน ดูธงประจําทัพแลว
ระบุวาเลาปเปนแมทัพโจโฉก็ยิ่งหัวเสีย ไมทันไรทหารก็เขามารายงาน อีกวาบัดนี้เลาปกําลังตีฝาทหารของเรา
จะเขาเมืองชีจิ๋ว โจโฉจึงมีคําสั่งใหอิกิ๋มทหารเอกยกทหารออกไปสกัดไมใหเลาปเขาเมืองได
อิกิ๋มรับคําสั่งแลวจึงยกทหารออกไปสกัดเลาปตามคําสั่ง พอเผชิญหนากันไมทันไดพูดพร่ําทําเพลง เตียวหุยก็
ขับมากรายทวนเขารบดวยอิกิ๋ม เลาปจึงขับทหารตีฝาเขาไป อิกิ๋มตอสูกับเตียวหุยไดสิบเพลงเห็นทาวาจะสู
เตียวหุยไมไดจึงชักมาหนี เลาป เตียวหุย และทหารพันหนึ่งไดโจมตีทหารอิกิ๋มลมตายลง เปนอันมาก แลวตี
ฝาเขาไปถึงประตูเมือง ขณะนั้นโตเกี๋ยมขึ้นไปดูการศึกบนเชิงเทินเห็นเลาป เตียวหุย ตีฝาทหารเขามาก็ใหเปด
ประตูเมืองรับแลวแตงโตะเลี้ยงเลาปกับทหารทั้งนั้น โตเกี๋ยมไดพินิจพิเคราะหดูเลาปเห็นวามีสงาราศีสมกับ
เปนเชื้อพระวงศ ก็มีใจศรัทธาจึงใชใหบิตกไปเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบ
ถามโตเกี๋ยมวานี่เปนเรื่องราวใดกัน โตเกี๋ยมจึงวา "ทุกวันนี้พระเจาเหี้ยนเตไดครองพระราชสมบัติ พระชันษา
นั้นยังเยาวอยู ขุนนางที่ มิไดมีน้ําใจสัตยซื่อนั้นมักทําจลาจลตางๆ แผนดินไดรับความเดือดรอนเนืองๆ มา
ขาพเจาก็แกชราแลว จะคิดการทํานุบํารุงแผนดินตอไปนั้นก็ขัดสน ขาพเจาเห็นวาทานเปนเชื้อพระวงศแลวก็มี
สติปญญาโอบออมอารี ควรที่จะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข ขาพเจาจึง เอาตราสําหรับที่มาให หวังจะเชิญให
ทานเปนเจาเมืองชีจิ๋ว เพื่อจะไดคิดการกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป แลวขาพเจาจะแตงหนังสือขึ้น ไปใหกราบ
ทูลพระเจาเหี้ยนเต" ขอเสนอของโตเกี๋ยมนี้หากเสนอใหกับคนทั่วไปแลว โตเกี๋ยมคงจะไมผิดหวัง เพราะเปน
ขอเสนอที่ไมมีผูใดปฏิเสธ โดยเฉพาะโจโฉ อวนเสี้ยว ซุนเซ็ก หรือลิฉุย กุยกี หรือนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง
คน เหลานั้นยอมรีบที่จะรับเอา โจโฉนั้นยอมยากลําบากยกกองทัพจํานวนมากมาเพื่อยึดเอาเมือ แตโตเกี๋ยม
ไมยอมยกใหกลับคิดตอสู และถาหากโตเกี๋ยมคิดจะเซ็งลี้แลวยอมจะไดรับผลประโยชนมากมายมหาศาลยิ่ง
กวาการขายธนาคารใหกับตางชาติ แตโตเกี๋ยมไมกระทํา
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
จิตใจชนิดนี้คือจิตใจที่ตองการ "ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข" เปนน้ําใจแทที่เปยมดวยความรักและความเมตตา
อาทรตอราษฎร ไมใชน้ําใจของนักการเมือง ไมวาระดับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในบางประเทศ ที่ปากพร่ํา
แตคําวาเพื่อราษฎร แตกระทําตนเปนนักขายชาติ นักเผด็จการ หลอกลวงราษฎร และปลนสะดมราษฎรและ
บานเมืองของตน บังอาจถึงขนาดตั้งนักคายาเสพยติดระดับโลก นักปลนชาติ และอาชญากรระดับชาติเปน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 20
รัฐมนตรีกลาหาญกระทั่งเบียดเบียน พระราชมรดก และพระราชทรัพยของฮองเต และพรอมที่จะทําความชั่วชา
ทุกประการเพียงเพื่อใหไดอยูในอํานาจ
นอกจากวัตถุประสงคเพื่อทํานุบํารุงราษฎรแลว โตเกี๋ยมยังมีวัตถุประสงคเปนขอที่สองคือ "คิดการกําจัดศัตรู
ราชสมบัติตอไป" นี่คือจิตใจที่เดือดรอนดวยบานเมืองที่เกิดทุกขเข็ญเนื่องจากพวกทรราช ทรชนและพวก
อิทธิพลมาเฟยตางๆ กระทําย่ํายีตอบานเมือง มิใชอางเพียงวารักชาติแตทําตัวเปนนายหนาในการขายชาติ
แลวปาว ประกาศลัทธิธรรมรัฐ หรือธรรมาภิบาลขึ้น เพื่อสรางความมึนชาแกประชาชน โดยที่ตนเองก็ไมรูแมแต
ความหมายของคําวา "ธรรม" หรือบางก็เที่ยวสรรสรางแตถอยคําสวยหรูซึ่งไรความหมายและคุณคาทาง ความ
เปนจริงเพื่อจะไดอวดอางวาตัวเองเปนราษฎรอาวุโสอะไรเทือกนั้น
คนแบบโตเกี๋ยมจึงเปนคนที่หาไดยากยิ่งในโลก เปนคนที่ควรแกการสดุดีใหปรากฏไวในประวัติศาสตร เพื่อ
เปนแบบอยางใหคนรุนหลังปฏิบัติตามสถานหนึ่ง และเพื่อเปนกระจกใหบรรดานักลวงโลกหรือวิญูชนแบบ
เถรขวาดไดสองดูใบหนาหลังหนากากของตน เหตุผลที่โตเกี๋ยมจําเพาะมอบเมืองชีจิ๋วแกเลาปมีอยูสี่ขอคือ
เพราะเปนเชื้อพระวงศหนึ่ง เพราะเห็นวามีสติปญญาหนึ่ง เพราะมีน้ําใจโอบออมอารีหนึ่งและเชื่อวาจะสามารถ
ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขอีกหนึ่ง ความเปนเชื้อพระวงศเปนฐานะอันติดตัวมาแตกําเนิด สามารถทราบได
โดยงาย ความมีน้ําใจโอบออมอารีนั้นโตเกี๋ยมเห็นได ดวยตนเองจากการที่เลาป ซึ่งมิไดรูจักมักคุนใดๆ กับตัว
และแมไมไดรับประโยชนใดๆ จากการตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ แตยอมตัวเขาชวยเหลือเพียงเพราะเห็นแก
เพื่อนของโตเกี๋ยมที่ขอรองเทานั้น
ความมีสติปญญาก็อาจเล็งเห็นไดในสถานการณที่กองทัพใหญ ของโจโฉลอมเมืองอยูแลวไมผลีผลามทําการ
คิดเชื่อมการขางในกับ การขางนอกเมืองใหไดเสียกอน สวนความเชื่อที่วาจะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขนั้น
เปนความเชื่อใจของโตเกี๋ยมโดยแท และยอมเปนความเชื่อเพียงแคไดเห็นรูปรางบุคลิกทวงทํานองของเลาป
เทานั้น แตอาจยอมรับไดวานั่นเปน ความเชื่อที่มีเหตุผลของคนแกแบบโตเกี๋ยมที่มีโรคหลายโรครุมเราอยู
ดีกวาคนในยุคหลังที่มีพรอมทั้งขอมูลขาวสารและความรอบ รูสารพัด กลับถูกนักการเมืองไรอาชีพที่เพียงแค
พูดจาดูเหมือนมีหลักฐาน และหวานหูหลอกตมกันจนเปอยทั้งเมือง เลาปไดฟงคําโตเกี๋ยมแลวตกใจ รีบลุกขึ้น
คํานับแลววา "เรานี้เปนเชื้อพระวงศก็จริงแตสติปญญานอย ทําราชการยังหาความชอบ ขอใหญมิไดเปนแตเจา
เมืองจัตวา เราก็ยังคิดเกรงอยูวาจักไมควรกับสติปญญา ซึ่งยกมาทั้งนี้เพราะมีน้ําใจหวังจะชวยทานรบโจโฉ
หรือ ทานแคลงอยูวาเราจะมาชิงเอาเมืองชีจิ๋ว ถาเราคิดดังนั้นก็ขออยาใหเทพยดารักษาชีวิตเราเลย" นี่คือ
น้ําใจแทของเลาปที่ไมเคยคิดอยากไดหรือโลภของคนอื่น ทั้งๆ ที่เขายกใหดวยความเต็มใจและเปยมดวย
เหตุผล ใจเลาปนั้นเจียมตัววาเปนเจาเมืองเล็ก สติปญญานอย ความเปนคนเจียมตัวและถอมตนนี้เปน
คุณสมบัติประจําตัวและฝงลึกอยูในใจไมมีหนทางใดจะแกไขหรือลดหยอนผอนลงได จึงทําใหเลาปตอง
สูญเสียโอกาสหลายครั้งหลายหนจนบางครั้งแทบเอาตัวไมรอด
น้ําใจเชนนี้แมจะเทียบไมไดกับพระเวสสันดรที่ทรงบําเพ็ญทานบารมีจนเปยมลน จนสามารถยกแมกระทั่งบุตร
และธิดาใหเปนทานก็ตาม แตความมีคุณธรรมของเลาปในขอที่ไมยอมหวังสิ่งใดจากใครอื่นก็ล้ําเลิศแลว
สําหรับปุถุชน ความเจียมเนื้อเจียมตัวของเลาปยังเลยเถิดไปถึงขนาดที่คิดวา การที่โตเกี๋ยม กระทําเชนนั้น
เพราะคิดวาเลาปจะหวังชิงเอาเมือง โตเกี๋ยมคะยั้นคะยอใหเลาปรับเปนเจาเมืองอีกหลายครั้งแตเลาปก็ยัง
ยืนยันเจตนาเดิม บิตกที่ปรึกษาของโตเกี๋ยมเห็นเลาปจะไมยอม รับเปนแมนมั่น จึงเปลี่ยนหัวขอหารือ
มาเปนการรับมือกับกองทัพโจโฉตอไป
เลาปจึงวา ขาพเจานี้เคยปราบโจรโพกผาเหลืองรวมกับโจโฉในกองทัพของโลติดแมทัพใหญ ทั้งเคยรวมใน
กองทัพปฏิวัติกับโจโฉ และโจโฉก็มีน้ําใจเมตตาเคยเอาหมูเห็ดเปดไกไปผูกไมตรีถึงในคาย เมื่อไมตรีมีอยู
ดังนี้ขาพเจาจะทําหนังสือไปถึงโจโฉขอใหเห็นแกไมตรี แลวชี้แจงความจริงใหปรากฏเชื่อวาโจโฉจะยอมถอน
ทัพกลับไป โตเกี๋ยมและบิตกเห็นชอบกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงแตงหนังสือใหทหารสิบสองนาย
ถือไปยังคายโจโฉ และใหทหารลอบไปที่คายของขงหยงและเตงไกแจงวาใหตั้งคายมั่นไวกอน โจโฉเห็น
หนังสือของเลาปแลวก็โกรธ คิดระแวงวาเลาปแกลงมีหนังสือมาหลอกใหตายใจแลวจะยกเขาโจมตีใน
ภายหลัง จึงสั่งใหทหาร จับตัวทหารเดินสารของเลาปเพื่อจะเอาไปประหารเสีย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
กุยแกที่ปรึกษาของโจโฉจึงวาเลาปนั้นเปนคนสัตยซื่อ คงมีหนังสือมาโดยสุจริต การที่จะฆาทหารเดินสารเสีย
นั้นไมสมควรดวย ธรรมเนียมศึก ควรจะหาทางตอบเอาใจผูกไมตรีไวกอน แลวคอยชิงเอาเมืองชีจิ๋วในภายหลัง
ก็จะไดโดยงาย โจโฉเห็นชอบกับคําที่ปรึกษาจึงใหตอนรับขับสูทหารเดินสารเปนอยางดีแลวบอกใหรอรับ
หนังสือตอบสักวันสองวัน ในระหวางที่โจโฉกําลังตรึกตรองหาวิธีตอบหนังสือเลาปอยูนั้น เหตุการณที่ไม
คาดคิดก็เกิดขึ้น คือทหารจากเมืองกุนจิ๋วรีบรุดมายังคายโจโฉแลวรายงานวาบัดนี้กองทัพเมืองตันลิวไดยก
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 21
กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเมืองกุนจิ๋วเสียทีแกขาศึกแลว คงเหลือแตหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองกุนจิ๋วสามเมือง
เทานั้นที่ยังรักษาไวได คือเมืองเอียงเสีย, เมืองตองไฮ และเมืองฮวนกวน โจโฉไดฟงรายงานแลวตกใจยิ่งนัก
จึงสอบถามความเปนมาจากทหารที่มาแตเมืองกุนจิ๋วนั้น ไดความวาหลังจากลิโปไดหนีลิฉุย กุยกี ไปหาอวน
สุดที่เมืองลําหยงแลว อวนสุดไมยอมรับลิโปไวในราชการ ลิโปจึงไปขออยูกับอวนเสี้ยว แตตอมาลิโปกําเริบ
กอการวิวาทและสังหารทหารอวนเสี้ยวเสียหลายคน อวนเสี้ยวโกรธจะฆาลิโป ดังนั้นลิโปจึงหนีไปอยูกับเตียน
เอี๋ยงที่เมืองเสียงตง
ครั้นลิโปไปอยูกับเตียนเอี๋ยงแลว บังสีซึ่งเปนขุนนางอยูเมืองหลวง สนิทกับลิโปทราบขาวจึงลอบพาครอบครัว
ของลิโปไปสงใหแกลิโป ลิฉุย กุยกี ทราบความจึงฆาบังสีเสีย แลวสั่งเตียนเอี๋ยงใหจับลิโปสงไปเมืองหลวง ลิ
โปรูขาวจึงหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยว เจาเมืองตันลิว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาลิโปไปอยูกับเตียว
เมา เจาเมืองตันลิว ซึ่งนาจะเปนการแปลโดยสับสน เพราะเตียวเมาถูกเลาตายฆาเสียแลวตั้งแตกองทัพปฏิวัติ
ใกลจะสลายตัว ดังนั้นเตียวเมี่ยวนองชายเตียวเมาจึงเปนเจาเมืองสืบตอมาทหารนั้นรายงานตอไปวาเหตุ
เกิดขึ้นเนื่องจากตันกงซึ่งเคยมาขอรองใหโจโฉถอนทัพแตไมสําเร็จ จึงไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว และ
ไดรับความไววางใจใหเปนที่ปรึกษา ตันกงคิดชวยเหลือโตเกี๋ยมตามความคิดเดิมอยางหนึ่งและเห็นเปน
โอกาสที่โจโฉยกกองทัพใหญ มาเมืองชีจิ๋ว มีทหารรักษาเมืองกุนจิ๋วอยูนอยตัว จึงเสนอใหเตียวเมี่ยว ยก
กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วเตียวเมี่ยวเห็นดวยกับความคิดของตันกงจึงใหลิโปเปนแมทัพยก ไปตีเมืองกุนจิ๋ว โจ
หยินรับมือลิโปไมไดจึงยกทหารหนีออกจากเมืองกุนจิ๋ว คงจะตามมาหาโจโฉในไมชานี้
ครั้นลิโปไดเมืองกุนจิ๋วแลว ไดยกกองทัพไปตีหัวเมืองในบังคับเมืองกุนจิ๋วอีกหลายเมืองไปจนสุดชายแดน
เมืองปกเอี้ยง คงเหลือแตเพียงสามเมืองที่ซุนฮกและเทียหยกรักษาไวได โจโฉทราบความละเอียดแลวจึงหา
กุยแกมาปรึกษาหารือกันแลวเห็นพรอมกันที่จะตองถอนทัพยกกลับไปยึดเมืองกุนจิ๋วคืน กุยแกจึงเสนอวาการ
ถอนทัพครั้งนี้ตองผูกไมตรีและเอาบุญคุณ ไวกับเลาปจึงเสนอใหโจโฉตอบหนังสือเลาปวายินดีถอนทัพ เพราะ
เห็นแกหนาของเลาป โจโฉก็เห็นดวย แลวแตงหนังสือตามคํากุยแกวา สงใหกับทหารของเลาปแลวเลิกทัพยก
กลับไปเมืองกุนจิ๋ว
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ประชาธิปไตยแบบลิโป (ตอนที่ 60)
ทหารของเลาปกลับจากคายของโจโฉแลว เอาหนังสือตอบของ โจโฉนําไปใหแกเลาป ในขณะที่เลาปกําลัง
ปรึกษาการศึกอยูกับโตเกี๋ยม ครั้นโตเกี๋ยมและเลาปทราบความตามหนังสือของโจโฉแลวมีความยินดียิ่งนัก
ดวยไมรูเหตุผลที่แทจริงในการถอนทัพของโจโฉ ครั้นทหารรักษาเชิงเทินมารายงานวาบัดนี้โจโฉไดเลิกทัพ
กลับไปแลว ทั้งโตเกี๋ยม เลาปตางก็โลงอก ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงใหเชิญบรรดาผูมาชวยเหลือจากเมืองตางๆ เขา
มาในเมืองชีจิ๋วและจัดงานเลี้ยงฉลอง และถือโอกาสที่ผูคนมากันพรอมหนานั้นขอรองใหเลาปรับเปนเจาเมือง
ชีจิ๋วอีกครั้งหนึ่ง เลาปยังคงไมยอมรับ บรรดาผูมารวมงานตางชวยกันพูดจาใหเลาปยอม รับเปนเจาเมืองตาม
คําขอรองของโตเกี๋ยม แตเลาปยังคงยืนกรานปฏิเสธ
โตเกี๋ยมครั้นเห็นเลาปยืนยันปฏิเสธอยางแข็งขันจึงขอรองใหม วาในเมื่อไมยอมรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ก็ขอใหมา
เปนเจาเมืองเสียวพาย ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองชีจิ๋ว โดยอางวาถาหากมีราชการสําคัญและจําเปน
แลวจะไดอาศัยเลาปไดโดยสะดวก เลาปเห็นโตเกี๋ยมมีใจมั่นคงตอตัวโดยสุจริตเชนนี้ก็เกรงใจ ตัดสินใจละ
ตําแหนงเจาเมืองเพงงวนกวนเสียแลวยอมเปนเจาเมืองเสียวพายตามคําขอรองของโตเกี๋ยม โตเกี๋ยมยินดียิ่ง
นัก สั่งทหารใหจัดเสบียงและเงินทองเปนอันมากมอบ แกเจาเมืองทั้งสองและเลาป เปนการแสดงความ
ขอบคุณที่มาชวยเหลือ
ครั้นเสร็จงานเลี้ยง ขงหยงเจาเมืองปกไฮและเตงไกเจาเมืองเซียงจิ๋ว จึงขอลาโตเกี๋ยม ยกกองทัพกลับเมือง
ของตน ฝายจูลงก็เขา ไปลาเลาปกลับเมืองปกเปง ทั้งเลาป จูลง ตางรองไหอาลัยรักกันเปนอันมาก แลวจูลง
จึงยกทหารมาสองพันที่เลาปยืมจากกองซุนจานกลับเมืองปกเปง ดานเลาปก็ไปรับตําแหนงเจาเมืองเสียวพาย
พรอมกับกวนอู เตียวหุย ราษฎรเมืองเสียวพายรูกิตติศัพทเลาปมาแตกอน ก็มีน้ําใจรักเลาป และทํามาหากิน
เปนปกติสุขโดยทั่วกัน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฝายโจโฉเมื่อถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วแลว เดินทัพมาถึงกลางทาง พบกับโจหยิน ซึ่งแตกทัพมาจากเมืองกุนจิ๋ว
โจหยินไดรายงานการ ศึกใหโจโฉทราบมีเนื้อความตองกันกับความซึ่งทหารของโจโฉที่แตกทัพมากอนได
รายงานใหโจโฉทราบแลว โจโฉจึงบอกกับโจหยินวา "ลิโปนั้นมีฝมือกลาหาญก็จริง แตหาความคิดมิได ทาน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 22
อยาเปนทุกขเลย" แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพตอไปถึงเมืองเตงกวน ซึ่งเปนเมืองกึ่งกลางระหวางเมืองกุนจิ๋วกับ
เมือง ปกเอี้ยง และใหตั้งคายมั่นไว คําพูดของโจโฉดังกลาวเปนการพูดจากความที่รูจักกับลิโป แตมองขามคน
แบบตันกงไป อันตันกงนั้นเปนคนมีสติปญญา รูจักภูมิประเทศของภาคตะวันออกเปนอยางดี แตโจโฉไมรูความ
ขอนี้ เนื่องจากเวลาที่อยูดวยกันกับตันกงเพียงชั่วสามวันเทานั้น โจโฉจึงเริ่มตน ดวยความประมาท และ "ไมรู
เขา" ซึ่งเปนปจจัยหลักของการพลาดพลั้งเสียทีในการสงครามทั้งปวง เนื่องเพราะหลักการใหญในการทํา
สงครามประการหนึ่งนั้นคือ "ตองรูเขา รูเรา รบรอยครั้งบพาย"
การที่โจโฉเลือกหยุดทัพที่เมืองเตงกวนเกิดแตเหตุผลสามประการคือ ขอแรกจากเมืองเตงกวนนี้โจโฉสามารถ
เลือกที่จะเคลื่อน ทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว หรือเมืองปกเอี้ยงก็ได ขอสองการตั้งทัพในลักษณะนี้มีผลบังคับใหลิโป
จําเปนตองแยกทหารออกเปนสองกองเพื่อปองกันทั้งเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง ทําใหกําลังทหารของลิโป
ถึงแมจะมีมากก็ตองถูกแบงแยกเหลือแตละเมืองเพียงครึ่งเดียว ทําใหงายตอการโจมตีชวงชิงชัย และขอสาม
เพื่อตองการทราบความศึกใหกระจางเสียกอนที่จะตัดสินใจวาจะเลือกทางใดทางหนึ่ง การตั้งทัพในลักษณะนี้
แสดงใหเห็นวาโจโฉและทีมที่ปรึกษาใน วันนี้ตางกับโจโฉเมื่อครั้งที่รวมในกองทัพปฏิวัติมากมายนัก แมสาม
กกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จะมิไดมีขอความใดระบุวาเปนความคิดอานของคณะที่ปรึกษา แตเมื่อ
พิจารณาจากการกําหนดแผนการครั้งนี้แลว ยอมมิใชความคิดของโจโฉเพียงลําพัง และยอมมิใชความคิดของ
ซุนฮก หรือเทียหยก ซึ่งไมไดอยูในกองทัพ ดังนั้นจึงนาจะเปนความคิดของกุยแกที่ปรึกษาหนุมผูนั้น
ฝายลิโปครั้นทราบขาวโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองเตงกวน จึงปรึกษากับตันกงวาจะใหลิฮองและซิหลัน
ทหารเอกคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมือง กุนจิ๋ว โดยตัวลิโปเองจะคุมทหารไปรักษาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเปนเมือง
ใหญกวาเมืองกุนจิ๋ว ตันกงจึงวาโจโฉตั้งหลักในภาคตะวันออกที่เมืองกุนจิ๋ว แมวาจะเปนเมืองเล็กกวาเมืองปก
เอี้ยง แตเปนเมืองยุทธศาสตร ดังนั้นเปาหมายของโจโฉในการยกทัพมาครั้งนี้คือยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใช
เตรียมโจมตีเมืองปกเอี้ยงไม ดังนั้นการที่ทานจะยกไปที่เมืองปกเอี้ยงจึงเปนการเสียเที่ยวเปลา และการใหลิฮ
องกับซิหลันคุมทหารหนึ่ง หมื่นรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ทั้งสองคนนี้สติปญญาหางชั้นกับโจโฉมาก และทหารก็
นอย คงจะไมสามารถรับมือกับโจโฉไดเห็นทีจะเสียเมือง กุนจิ๋วเปนแน
ลิโปไมเห็นดวยกับความคิดตันกง อางวาเมืองปกเอี้ยงเปนเมืองใหญ โจโฉนาจะยกไปตีเมืองปกเอี้ยงมากกวา
ดังนั้นตัวเราจะไปรับมือกับโจโฉที่เมืองปกเอี้ยงเอง นี่คือความคิดแบบโงๆ ของลิโปที่ยึดถือเอาแตความใหญ
เล็กของเมืองเปนสําคัญ ยิ่งกวาฐานะสําคัญทางยุทธศาสตรของเมืองนั้น ทั้งไมเขาใจวาเปาหมายการศึกครั้งนี้
ของโจโฉคือการยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใชยึดเมืองปกเอี้ยงไม ตันกงเห็นวาลิโปไมฟง ดันทุรังจะทําตามความคิด
ตัวก็เกรงวาจะเสียทีแกโจโฉจึงเสนอแผนการขั้นที่สองวา ตรงเขาไทสันหรือภูเขา ไทซัว ซึ่งอยูทางทิศใตของ
เมืองกุนจิ๋วประมาณแปดรอยเสน และไมไกลจากเมืองปกเอี้ยงนั้น เปนชัยภูมิสําคัญเพราะเปนทางลัดที่จะแยก
ไปยังเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง แตเปนทางทุรกันดารในซอกเขา ขาพเจาคิดวาโจโฉจะยกไปตามทางนี้ ให
ทานจัดทหารหมื่นหนึ่งไปซุม อยูสองขางทางในซอกเขารอใหกองทัพหนาโจโฉผานไปแลวจึงเขาตีกองทัพ
หลวงพรอมกัน ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย เพราะกองหนาและกองหลังจะเขาชวยไมทันเนื่องจากเปนทาง
จํากัด
ลิโปฟงความเห็นของตันกงแลว ไมยอมใชความคิดวาขอเสนอ เชนนี้เปนขอเสนอจากความกระจางแจงในภูมิ
ประเทศ กลับเห็นไปวาการเอาทหารไปซุมไวในซอกเขาเปนความยากลําบากและเสียเวลาเปลา เพราะถึงแม
จะเปนทางลัดแตโจโฉนาจะเลือกไปทางใหญซึ่งสะดวกกวา ดังนั้นลิโปจึงไมยอมรับแผนการของตันกง
ตัดสินใจสั่งใหลิฮองและซิหลันคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋ว ตัวลิโปเอง ยกทหารไปเมืองปกเอี้ยง ตั้ง
คายไวนอกเมืองทางดานทิศใตและทิศ ตะวันตก ซึ่งอยูใกลทางที่จะมาจากเมืองเตงกวน ขางโจโฉเมื่อตั้งคาย
ลงที่เมืองเตงกวนแลวใหทหารสืบขาวความ เคลื่อนไหวของลิโป ครั้นทราบขาวดังนั้นแลวก็ดีใจนัก เห็นวาจะ
ยึดเมืองกุนจิ๋วคืนไดโดยงาย จึงกําหนดแผนการยุทธใหโจหยินคุมทหารจํานวนมากยกไปตีเมืองกุนจิ๋วทาง
หนึ่ง สวนโจโฉจะไปยึดเมืองปกเอี้ยงเพื่อจัดการกับลิโปดวยตนเองมั่นใจวาจะชนะศึกไดทั้งสองดาน
นี่คือความประมาทของโจโฉที่จับปลาพรอมกันทีเดียวทั้งสองมือ หากโจโฉยึดเมืองกุนจิ๋วใหเสร็จสิ้นเสียกอน
แลวระดมทัพทั้งหมดไป ตีเมืองปกเอี้ยงก็จะไดโดยงาย ความประมาทนี้เกิดจากการมองขาม คนแบบตันกง
นั่นเอง จึงวางกําลังสวนใหญไวที่การยึดเมืองกุนจิ๋ว จัดกําลังแตสวนนอยไปยึดเมืองปกเอี้ยง กําหนดแผนการ
ยุทธเสร็จแลวจึงสั่งการกองทัพใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสัน เพื่อจะแยกไปโจมตีเมืองกุนจิ๋วและเมือง
ปกเอี้ยง ตอไป ขณะเคลื่อนทัพใกลจะถึงเขาไทสัน กุยแกไดทักทวงวาภูมิประเทศเปนทางจําเพาะหากขาศึก
จัดทหารมาซุมก็จะเสียทีโดยงาย สมควรหยุดทัพไวแลวใหทหารหนวยลาดตระเวนไปสืบสภาพดูกอน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 23
โจโฉหัวเราะแลววา คนแบบลิโปไรสติปญญา คงจะไมคิดจัดกําลังมาซุมและการที่ลิโปยกไปเมืองปกเอี้ยงแลว
ยอมแสดงวาไมสนใจซุมโจมตี วาแลวก็สั่งใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสันนั้นแลวแยกเดินทัพเปนสองทาง
ตามแผนการยุทธที่วางไว
ฝายตันกงยังคงมั่นใจวาโจโฉตองยกมาตามทางเขาไทสัน จึงให ทหารคอยลาดตระเวนหาขาวความ
เคลื่อนไหวของกองทัพโจโฉ ครั้นทราบขาววาโจโฉเคลื่อนทัพดังที่คาดการณไวจึงแจงแกลิโปวา โจโฉ
เคลื่อนทัพมาตามทางลัดที่ทุรกันดารยากลําบาก ดังนั้นทหารโจโฉ จึงตองออนลาอิดโรย ขอใหลิโปยก
กองทัพไปโจมตีโจโฉ อยาใหโจโฉทันตั้งคายเสร็จ ก็จะเอาชัยชนะไดโดยงาย ขอเสนอของตันกงนี้เปนไป
ตามหลักพิชัยสงครามที่ใหเขาตีเมื่อ ขาศึกออนลาอิดโรยไรเรี่ยวแรงและไมทันตั้งตัว แตลิโปไมเห็นดวยกลับ
คิดวาการที่โจโฉเดินทัพทางเขาไทสันนั้นสมกับการคาดการณของ ตันกงจึงรูสึกเสียหนา ครั้นตันกงเสนอแผน
โจมตีโจโฉไมใหทันตั้งตัวจึงออกอาการดันทุรังเอากับตันกงวา "เดิมเราตั้งตัวมาแตตัวผูเดียว กับมาคิดทําการ
เที่ยวรบพุงมาจนไดทหารมากขึ้นถึงเพียงนี้แลว เรา จะคิดยอทอโจโฉนั้นหามิได ใหโจโฉตั้งคายมั่นลงแลวเรา
จะหักเอาใหได" คําพูดของลิโปนี้แสดงวา ลิโปซึ่งเดิมอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว รับคําสั่งใหยกกองทัพ
ไปตีเมืองกุนจิ๋วไดทรยศหักหลังเตียวเมี่ยว และตั้งตนเปนอิสระแลว และยังทระนงในฝมือตัวเอง ตกอยูใน
ความประมาท เทากับเปนการเปดโอกาสใหโจโฉตั้งหลักปกคายมั่นพักฟน กําลังเสียกอน ซึ่งถือวาเปน
ความโงเขลาที่สุดในทางการทหาร มิตางกับสมิงนครอินทรทหารเอกพระเจาราชาธิราช ที่บอกอุบายซึ่ง
กองทัพมอญวางกลจะสังหารพมาเสียดวยเกรงวาการตอสูจะไมเปนไป โดยยุติธรรมจะตางกันบางตรงที่สมิง
นครอินทรโงในการสงครามแตไมหัวรั้น แตลิโปทั้งโงทั้งรั้น
โจโฉครั้นเคลื่อนทัพผานชองเขาไทสันแลวตรงไปยังเมืองปกเอี้ยง เห็นลิโปตั้งคายอยูนอกเมืองทางทิศใตจึง
ปลงทัพลงแลวตั้งคายประชิดกับคายลิโปโดยสะดวกดายยิ่งนัก เพราะลิโปไมตองการโจมตี ในขณะที่โจโฉยัง
อิดโรยและไมพรอม จะรอใหโจโฉพรอมเสียกอนจึง คอยยกออกมารบ นาที่จะโจโฉจะไดมีหนังสือไปขอบคุณ
ลิโปใหเปนที่สะใจสักครั้งหนึ่ง
ครั้นรุงขึ้นทั้งสองฝายจึงยกทหารออกมาประจันหนากัน ธงทิวปลิวไสวประสานกับเสียงกลองศึกใหสัญญาณ
แปรรูปขบวนเปนระยะๆ โจโฉเห็นลิโปยืนมาอยูหนาสุด ตามดวยทหารเอกแปดนาย โจโฉจึงเอาแสมาชี้หนาลิ
โปแลววา "ตัวกับเราจะไดมีความผิดกันสิ่งใดหามิได เปนไฉนตัวจึงยกทหารมาตีเอาเมืองเรา" ลิโปจึงตอบโจ
โฉเปนสุนทรพจนอันบันลือลั่นสนั่นโลก เปนแบบอยางของการแสดงเหตุผลแบบนักเลงโตที่นารักและนาขันวา
"เมืองเหลานี้เปนของพระเจาเหี้ยนเตก็เหมือนหนึ่งของคนทั้งปวงซึ่งอยูในแผนดิน ถาผูใดมีบุญแลเขมแข็งก็จะ
ครอบครองเมืองไดเหมือนกัน เหตุใดทานจึงวาบานเมืองนี้เปนของทาน หามีความละอายไม" โจโฉแมวาจะ
เปนคนเจากลอุบายและเฉลียวฉลาด แตไมเคยคาด คิดวาจะมีเหตุผลเชนนี้อยูในโลก และไมคาดคิดวาลิโปจะ
ยกเหตุผลอันพิสดารนี้มาแกตัว และดาวาตัวเองกลับมาเชนนี้จึงจํานนตอถอยคํา คิดไมออกวาจะหาเหตุผลที่
ไรเหตุผลยิ่งกวานี้ไปตอบโตไดอยางไร
หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ไดเขียนบทความประชดนักการเมืองที่ชอบอางประชาธิปไตย แตประพฤติตน
เปนทรราช และเปนทั้งนักเลงอันธพาลวาเปน "นักประชาธิปไตยแบบลิโป" นักประชาธิปไตยแบบลิโป เกิดขึ้น
ในประเทศไทยแตบัดนั้นถึง บัดนี้รวมสามสิบปแลว จึงยิ่งพัฒนาไปกวาครั้งกระนั้นมากนัก กลายเปนประชาธิป
ไตยที่ฉาบหนาเปนจุดขายแบบพระเอกลิเก ในขณะที่ภายในเต็มไปดวยเผด็จการ การฉอราษฎรบังหลวง
นักเลงโต นักขายชาติ นักคายาเสพยติด และเต็มไปดวยนักปลนประชาธิปไตย ประชาธิปไตยแบบที่เปนอยูใน
ปพุทธศักราช 2543 นี้ จึงรายแรงเสียยิ่งกวาประชาธิปไตยแบบลิโปหลายเทานัก
หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ฤทธิ์เดชของคนที่ถูกมองขาม (ตอนที่ 61)
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปเห็นโจโฉจํานนตอถอยคําที่พิสดารของตัวก็กระหยิ่มในความหลักแหลมแบบไรเหตุผลนี้ยิ่งนัก จึงสั่งใหจง
ปาทหารเอกออก ไปจับตัวโจโฉ ฝายโจโฉก็สั่งใหงักจิ้นออกรบดวยลิโป รบกันไดสามสิบเพลงแฮหัวตุนจึงขับ
มาเขาไปชวยงักจิ้น ฝายเตียวเลี้ยวเห็น เชนนั้นก็ขับมาออกไปสกัดแฮหัวตุนไว ทหารเอกทั้งสองคูของทั้งสอง
ฝายตอสูกันเปนสามารถ ลิโปรูสึกรําคาญใจจึงขับมาเขารบดวยแฮหัวตุนและงักจิ้น สองทหารเอกของโจโฉสูลิ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 24
โปไมไดก็ขับมาหนี ลิโปจึงสั่งใหทหารเขาโจมตีกองทหาร ของโจโฉจนแตกพายหนีเขาคายไป ลิโปจึงยก
ทหารกลับมาคาย
ครั้นกลับมาถึงคายแลวโจโฉจึงเรียกประชุมแมทัพนายกองวา ลิโปมีฝมือเขมแข็งผูใดจะอาสาเอาชนะลิโปได
บาง อิกิ๋มทหารเอกของ โจโฉจึงวาไดขึ้นไปบนภูเขาตรวจดูภูมิประเทศและการตั้งคายของลิโปแลว ปรากฏวา
คายดานทิศตะวันตกของเมืองมีทหารประจําอยูนอย วันนี้ลิโปรบชนะศึกยกแรกยอมมีใจกําเริบ ทหารก็จะขาด
ความระมัดระวังในการรักษาคาย ถาฝายเรายกทหารเขาปลนคายตะวันตกคงจะไดโดยงาย จากนั้นคอยยึดคาย
ดานทิศใตของลิโปตอไป
โจโฉเห็นชอบกับแผนการของอิกิ๋ม จึงสั่งการใหโจหอง ลิเตียน ลิยอย อิกิ๋ม และเตียนอุย คุมทหารสองหมื่น
เตรียมพรอมไว คืนนี้จะยกเขาปลนคายตะวันตกของลิโปฝายลิโปชนะศึกยกแรก และกลับเขาคายดานทิศใต
ของเมืองปกเอี้ยงแลว เย็นลงก็จัดเลี้ยงแมทัพนายกอง ณ คายนั้นเปนการฉลองชัยชนะ ตันกงเห็นดังนั้นจึง
เสนอวาโจโฉแพศึกวันนี้คงคิดแกแคนเปนมั่นคง โจโฉรูวาฝายเราฉลองชัยแลวจะประมาท เห็นทีจะยกมาปลน
คายเราในคืนนี้และเนื่องจากคายตะวันตกมีทหารอยูนอย โจโฉคงเขาปลนคายตะวันตกเปนแนแท ขอใหทาน
จัดทหารลอบยก ไปเสริมกําลังไวในคายตะวันตกโดยเร็ว หากโจโฉยกมาก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคง
ลิโปจึงวาโจโฉเพิ่งพายแพไปไมทันขามวันคงจะขยาดไมกลายกมาโจมตีในค่ํานี้ ตันกงจึงยืนยันแข็งขันวาโจ
โฉมีสติปญญาในการศึก เห็นโอกาสคืนนี้แลวคงจะไมปลอยใหผานไป ทานอยาไดวางใจ ทั้งการสงทหารไป
เพิ่มเติมก็ไมไดเสียหายอะไร ลิโปเห็นตันกงยืนยันแข็งขันก็คลอยตาม จึงสั่งใหโกสุน งุยซก และโฮเสง คุม
ทหารสองหมื่นเตรียมยกไปเสริมกําลังที่คายดานตะวันตก แตขอเวลาวาใหทหารไดเลี้ยงฉลองชัยชนะใหเสร็จ
เสียกอนแลวคอยยกไป ตันกงขี้เกียจเซาซี้ก็เออออตามใจลิโป ลิโปเลี้ยงฉลองชัยชนะอยูจนเกือบสองยาม
เสร็จงานเลี้ยงแลว สามทหารเอกจึงยกทหารออกจากคายทิศใตของลิโปไปยังคายตะวันตก ถึงกลางทางพบ
ทหารคายตะวันตกแตกตื่นหนีมาจึงทราบ ความวาโจโฉลอบยกทหารไปปลนคายตะวันตกและยึดคายไวได
แลว สามทหารเอกจึงใหทหารที่แตกหนีมานั้นไปรายงานใหลิโปทราบ แลวรีบยกไปเพื่อจะยึดคายตะวันตก
กลับคืนโจโฉรูวาทหารลิโปยกมาก็ยกทหารออกมาตั้งรับหนาคายทหารทั้งสอง
ฝายรบพุงกันเปนสามารถ ตั้งแตสองยามจนถึงใกลรุง บาดเจ็บลมตายเปนอันมาก ขณะนั้นทหารโจโฉหนาตื่น
เขามารายงานวา ลิโปกําลังยกทหารเปนจํานวนมากมาสมทบ ขณะนี้ใกลถึงคายดานตะวันตกแลว โจโฉไดฟง
เชนนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีฝาเพื่อจะกลับไปคายเดิม สามทหารเอกของลิโปจึงไลตามตีมาทางดานหลัง โจโฉ
นําทหารหนีมา ระยะหนึ่งปะทะกับกองทหารซึ่งลิโปยกมาสมทบ จึงใหอิกิ๋มกับงักจิ้นสกัดลิโปไว ตัวโจโฉคุม
ทหารวกไปทางดานทิศเหนือของเมืองปกเอี้ยง เพื่อจะออมดานตะวันออกไปยังคายของตัว อิกิ๋มกับงักจิ้นรบ
กับลิโปอยูครูหนึ่งสูลิโปไมไดจึงชักมาหนีพา ทหารตามโจโฉไปทางทิศเหนือ ลิโปและทหารไลฆาทหารโจโฉ
ลมตายลงเปนอันมาก โจโฉ อิกิ๋ม และงักจิ้น พาทหารหนีออมไปทางดานทิศเหนือของ เมืองปกเอี้ยง ถึงเนิน
เขาแหงหนึ่งปะทะกับเตียวเลี้ยวและจงปา ทหารเอกของลิโปซึ่งคุมทหารมาสกัดอยูจึงตีฝาออกไปหนีไปได
ระยะหนึ่งใกลจะเลี้ยวไปทางดานตะวันออกของเมืองไดปะทะกับทหารเอกของ ลิโปอีกสี่คน ซึ่งคุมทหารมา
สกัดอยูอีก ทหารทั้งสองฝายตอสูกันเปนสามารถ โจโฉเห็นจวนตัวเขาจึงใหทหารชวยกันสกัดฝายลิโปไว แลว
พาทหารสี่หาคนรีบหนีฝาออกไปทางดานทิศตะวันออกของเมืองปกเอี้ยง
โจโฉและทหารสี่หาคนหนีมาไดระยะหนึ่ง ถึงเนินเขาก็ไดยินพลุสัญญาณแลวทหารลิโปไดยิงเกาทัณฑลงมา
เปนหาฝนและยกทหารมา ลอมไวทั้งสี่ดาน โจโฉเห็นจะหนีไมรอดจึงรองขึ้นวา "ผูใดมีกําลัง จง ชวยชีวิตเรา
ในครั้งนี้" เตียนอุย จึงวาทานอยากลัวเลย ขาพเจาอยูกับทานจะพิทักษให ทานปลอดภัย แลวจึงลงจากมาเอา
ทวนคูหนีบไวขางกายเปลี่ยนเอาหอกซัดเกือบยี่สิบเลมมาถือไว สั่งทหารวาถาขาศึกตามมาในระยะหาวาให
เรียกชื่อเตียนอุย จากนั้นจึงนําหนามาโจโฉตีฝาออกไป
ทหารลิโปราวยี่สิบคนไลตามไปติดๆ คนไหนเขามาในระยะหาวา ทหารโจโฉก็เรียกชื่อเตียนอุย เตียนอุยก็หยุด
แลวซัดหอกไปถูกทหารที่ตามมาตายไปทีละคนจนหมดหอกซัด ทหารลิโปที่เหลืออีกสี่หา คนจึงไมกลา
ติดตามเขามาอีก เตียนอุยพาโจโฉหนีตอไปเพื่อจะกลับเขาคายจนใกลค่ําลิโปก็ยกทหารตามมาทัน โจโฉก็
ตกใจ ทั้งออนลา หิวโหย สิ้นเรี่ยวแรง ทหารโจโฉที่ตามมาสี่หาคนจึงแยกยาย กันวิ่งหนี เตียนอุยพาโจโฉหนีลิ
โปตอไป พอดีแฮหัวตุนคุมทหารตาม มาทันจึงเขาสกัดลิโปไวจนใกลพลบค่ํา ฝนก็ตกหนักลงมาลิโปจึงรีบ ยก
ทหารกลับไปคาย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฝายโจโฉ เตียนอุย แฮหัวตุนและทหารที่เหลือซึ่งเปยกปอนและอิดโรยเต็มที่ หนีกลับเขาคายไดเกือบยางเขา
ยามสอง ถึงคายแลวโจโฉจึงสั่งทหารปูนบําเหน็จรางวัลแกเตียนอุยเปนอันมาก การศึกยกที่สองระหวางโจโฉ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 25
กับลิโปตั้งแตสองยามวันหนึ่งตอเนื่องมาถึงค่ําอีกวันหนึ่ง สิ้นสุดลงโดยพระพิรุณประทานฝนมาหามทัพ และโจ
โฉเปนฝายปราชัยอยางยอยยับแทบจะเอาตัวไมรอดความปราชัยของโจโฉในครั้งนี้ตองถือวาเปนการปราชัย
ครั้งสําคัญที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต และเกิดขึ้นโดยที่โจโฉคาดคิดไมถึง เนื่องจากมองขามเรื่องสําคัญไปสอง
เรื่อง
เรื่องสําคัญเรื่องแรกคือเรื่องตันกง โจโฉไมรูจักคนผูนี้ดีพอ เนื่องจากอยูรวมกันเพียงชั่วสองสามวัน คิดวาตันกง
เปนเพียงเจาเมือง ธรรมดาที่ไมเอาไหนเหมือนกับบรรดาเจาเมืองอื่นๆ ที่เอาแตเสพสุข คอรรัปชั่น รีดไถ และ
ขมเหงราษฎร โดยหารูไมวาตันกงนั้นคือนักยุทธศาสตรทั้งการเมืองและการทหาร เรื่องสําคัญเรื่องที่สองคือ
ความสัมพันธระหวางลิโปกับตันกง ซึ่ง โจโฉรูจักลิโปดีวาเปนคนมีฝมือเขมแข็งกลาหาญ แตหัวรั้น โลภและไร
สติปญญาจึงเชื่อวาจะสามารถกําจัดลิโปไดโดยงาย ดังนั้นโจโฉ จึงประมาทคิดจับปลาทีเดียวพรอมกันสองมือ
จะยึดเอาทั้งเมืองกุนจิ๋ว และเมืองปกเอี้ยงพรอมกันในคราวเดียว มิหนําซ้ํายังวางกําลังหลักไวที่การยึดเมืองกุน
จิ๋ว ตัวเองยกกําลังสวนนอยมาเมืองปกเอี้ยง หวังเอาชนะลิโปดวยสติปญญา
โจโฉมองขามความสัมพันธระหวางลิโปซึ่งสุดยอดเชิงบูวาไรสติปญญา มองขามตันกงซึ่งนับวาเปนยอดคน
ทางบุนวาเปนเพียงขุนนางตัวเล็กๆ ที่ไรความหมาย ครั้นสุดยอดทางบูกับยอดคนทางบุนมารวมตัวกัน โดยที่โจ
โฉไมรูความขอนี้และมองขามความขอนี้จึง เปนเรื่องที่นาตระหนกอยางยิ่ง เพราะสภาพเชนนี้คือสภาพที่ไมใช
เพียงโจโฉ "ไมรูเขา" เอาเสียเลยเทานั้น หากยังเขาใจสภาพการศึกที่ ผิดพลาดอยางมหันตอีกดวย
ดังนั้น ความปราชัยของโจโฉจึงเปนสิ่งที่ถูกกําหนดขึ้นอยางแนนอนแลวภายใตกฎแหงสงคราม แตทวา
ความสัมพันธระหวางตันกงกับลิโปนั้นมิใชจะปกติลึกซึ้งกระไรนัก เพราะตันกงมิไดสมัครใจอยูกับลิโปหากทํา
ราชการอยูกับเมืองตันลิว ที่มาดวยลิโปก็เพราะเจาเมืองตันลิวมอบหมายใหชวยเหลือ โตเกี๋ยม ซึ่งสอดคลอง
กับความประสงคของตันกงสถานหนึ่ง และเพื่อปองกันเมืองตันลิวอันเปนผลประโยชนของเจาเมืองตันลิวอีก
สถานหนึ่ง ในขณะที่ลิโปก็มิไดเชื่อถือศรัทธาตันกง แตทั้งสองคนนี้กลับตองมารวมกันทําศึก ดังนั้นความเห็น
ของตันกงจึงไมสามารถเปลงอานุภาพไดเต็มที่
ลิโปพอใจจะเชื่อก็ปฏิบัติตาม ไมพอใจจะเชื่อก็ถือเอาความคิด ตนเปนใหญ ดวยเหตุนี้โอกาสกําจัดโจโฉตอน
เดินทัพตามซอกเขาไทสัน และการโจมตีโจโฉในขณะที่เพิ่งยกถึงเมืองปกเอี้ยง ซึ่งทั้งออนลา และยังไมทัน
ตั้งคายจึงไมไดรับการปฏิบัติจากลิโป แมในการสงครามครั้งที่สอง ซึ่งโจโฉปราชัยยอยยับก็เชนเดียวกัน ถา
หากลิโปปฏิบัติตามคําตันกงสงทหารไปเสริมไวที่คายตะวันตกกอน แลวคอยยกไปตีกระหนาบ โจโฉก็จะยอย
ยับกวานี้ แมกระนั้นอานุภาพของฝมือทางบูของลิโปกับมันสมองอันเลิศทางบุนของตันกงก็ไดทํา ใหโจโฉ
เกือบเอาตัวไมรอด
การที่โจโฉหนีลิโปที่คายตะวันตกแลวถูกทหารลิโปออกสกัดโจมตีตลอดแนวทางดานทิศเหนือ ดานทิศ
ตะวันออก เรื่อยมาจนเกือบจะถึงคายโจโฉทางดานทิศใตถึงสามครั้งสามครานั้นมิใชเกิดขึ้นโดย บังเอิญหรือ
จากความคิดอานของลิโป เพราะสติปญญาของลิโปนั้นเปนไปไมไดที่จะคาดการณถึงการหนีของโจโฉได
แมนยําถึงปานนั้น และโดยความรับรูของลิโปก็ไมไดรูจักภูมิประเทศของเมือง ปกเอี้ยง ตันกงตางหากที่รูจัก
สภาพภูมิประเทศเปนอยางดี ครั้นลิโปยกทหารออกไปชวยคายตะวันตกยามใกลรุงก็ไดมอบหมายใหตันกง
รักษาคายทิศใตของตนไว ดังนั้นเมื่อ ลิโปยกทหารออกไปแลว ขางภายในคายของลิโปจึงมีตันกงเปน
ผูบังคับบัญชาแทนลิโป ตันกงจึงอาศัยอํานาจและโอกาสนี้บัญชาการใหจัดทหารเปนสามกองยกไปตั้งสกัดโจ
โฉ ซึ่งตันกงคาดการณไวลวงหนาแลววาเมื่อลิโปยกออกไปชวยคายตะวันตก โจโฉจะตองแตกหนีไปออม
เมืองปกเอี้ยงทางดานทิศเหนือ แลววกกลับมาทางดานตะวันออกจึงจะกลับเขาคายได
เมื่อคาดการณเสนทางที่โจโฉจะหนีแลว จึงวางกําลังไปสกัดถึงสามกอง เพื่อใหมั่นใจวาคราวนี้โจโฉตองตาย
แนนอน ความคิดของตันกงครั้งนี้ก็พอจะเห็นไดวาโจโฉคงจะเอาตัวรอดไดโดยยาก แตทวา "ความคิดเปนของ
คน แตความสําเร็จเปนของฟา" ปาฏิหาริยจึงเกิดขึ้นเพราะความเกงกลาสามารถของเตียนอุย องครักษ
ประจําตัวของโจโฉที่สามารถพาโจโฉตีฝาทหารที่สกัดหลุดรอดไปได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
แมเมื่อลิโปไลตามมาทันกอนจะถึงคายทางทิศใต โจโฉมีเพียงแฮหัวตุนเทานั้นที่สกัดลิโปไว ลําพังฝมือของ
แฮหัวตุนคงจะสกัดไวไดไมนาน แตฝนกลับตกหนักลงมา ลิโปซึ่งคงจะเปนคนกลัวฝน กลัวเปยก ดังที่จะเห็น
ไดตลอดมาวาถาฝนตกลงมาคราวใด ลิโปมีอันตองยกทหารกลับเขาเมืองหรือกลับเขาคายทุกครั้ง ดังนั้นถา
หากโจโฉรูมากอนวาตันกงไมใชเจาเมืองธรรมดาเหมือน กับบรรดาเจาเมืองที่เคยพบ โจโฉยอมหาหนทางเอา
ตัวตันกงมาทําราชการดวยเปนแนแท และคงไมตองเสียหายยับเยินถึงปานนี้ นี่คือฤทธิ์เดชของสิ่งที่โจโฉ
มองขามไป
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 26
ยังไมจบเพียงเทานี้ มันสมองของตันกงยังคงคิดอานแผนการกําจัดโจโฉออกมาอยางตอเนื่อง ดังนั้นใน
วันรุงขึ้นเมื่อตันกงทราบขาววาเจาเมืองปกเอี้ยงเกิดรักตัวกลัวตายจากสงคราม จึงทิ้งเมืองปกเอี้ยงเสีย แลวพา
ครอบครัวหลบหนีไปตั้งแตคืนที่โจโฉเขาปลนคายตะวันตกแลว ตันกงจึงรีบไปหาลิโปรายงานเรื่องนี้ใหทราบ
รายงานแลวตันกงไดเอาขาวคราวเรื่องนี้กําหนดขึ้นเปนแผนกําจัดโจโฉตอไป และตองถือวาเปน "แผนพิฆาต"
อยางแทจริง เพราะแผนการพิฆาตนี้คือแผนการใชพลังจักรวาลเขาทําสงครามเปนครั้งแรกในสามกก
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
แผนเพลิงพิฆาต (ตอนที่ 62)
ตันกงไดเสนอแผนการศึกยกที่สามระหวางกองทัพของลิโปกับกองทัพของโจโฉใหแกลิโปวา "ในเมืองนั้นมี
เศรษฐีคนหนึ่งชื่อเตียนซี มีใจสัตยซื่อเปนที่นับถือแกชาวเมืองทั้งปวง ถาเตียนซีจะวาประการใดชาวเมืองก็ทํา
ตาม ขอใหหาเตียนซีออกมาวากลาวใหมี หนังสือไปถึงโจโฉวา ทานมีชัยแกโจโฉแลว บัดนี้ใหโกสุนอยูรักษา
เมืองปกเอี้ยง ทานยกทหารไปตีเอาเมืองลิหยง ใหโจโฉยกทหาร เขาปลนเอาเมืองปกเอี้ยง เตียนซีจะคุม
ชาวเมืองออกรบกระหนาบ เราจึงลอบยกทหารเขาไปอยูในเมืองปกเอี้ยง แลวเอาฟนมากองประตูทั้งสี่ดาน
ถาโจโฉเขามาแลวเราจึงจุดเพลิงเผาเมือง และกองฟน ทั้งสี่ประตูขึ้น ถึงโจโฉจะมีความคิดแกไขประการใดก็
เห็นจะไมพนมือเรา"
แผนการครั้งนี้ของตันกงคือแผนการใชธาตุไฟ ซึ่งเปนหนึ่งในพลังจักรวาลเขาสังหารขาศึก นับเปนความคิด
อานวางแผนการรบดวย การใชพลังจักรวาลเปนครั้งแรกในสามกก อันเพลิงนั้นเปนพลังแหงจักรวาลชนิดหนึ่ง
ที่มีอานุภาพทําลายลางสูงสุดในยุคนั้น ไมตางกับระเบิดนาปาลมในยุคปจจุบัน เปนพลังที่สามารถทําลายลาง
ขาศึกไดเปนจํานวนมากยิ่งกวาทหารเอกที่มีฝมือหรืออาวุธชนิดอื่น ทวน งาว หอกและเกาทัณฑ ใชเปนอาวุธ
สังหารขาศึกไดอยางจํากัด ขึ้นอยูกับกําลังและฝมือของผูใช ดังนั้นในการสงครามจึงไม เคยปรากฏวาอาวุธ
เหลานี้จะใชสังหารขาศึกไดครั้งละถึงหมื่น ตางกันกับเพลิงที่สามารถทําลายลางขาศึกกวาครั้งละสิบหมื่นได
โดยนัยนี้ เพลิงจึงเปนพลังแหงจักรวาลที่อาจมีอานุภาพมากกวาทหาร สิบหมื่น แตเพลิงอันเปนพลังจักรวาลนี้
จะมีอานุภาพปานใดยอมขึ้นอยูกับเงื่อนไขของการใชเพลิงและสติปญญาคิดอานของผูบัญชาการทัพเปน
สําคัญ สามกกดําเนินมาถึงตอนนี้จึงเพิ่งปรากฏวามียอดคนที่สามารถคิดอานวางแผนใชพลังจักรวาลในการ
ยุทธคือตันกงผูนี้
แตทวารายละเอียดของแผนการกลับทําใหการใชพลังจักรวาลครั้งนี้ไมอาจบรรลุอานุภาพสูงสุดได เนื่องเพราะ
ในรายละเอียดของแผนการนั้น ตันกงยังเสนอให ลิโปจัดวางกองทหารซุมไวในเมืองเพื่อจะเขาโจมตีโจโฉ
ในขณะที่ถูกเพลิงคลอก ในลักษณะเชนนี้จึงบีบบังคับฝายลิโปอยูในตัว ทําใหไมสามารถเผาเมืองทั้งเมืองเพื่อ
เผาทหารโจโฉใหหมดสิ้นไปได เพราะทหารของลิโปเองก็ยังคงติดอยูในเมืองนั้น นี่คือจุดออนที่ทําให
ความคิดที่จะใชพลังจักรวาลในการศึกของ ตันกงไมสามารถกอเกิดอานุภาพอันยิ่งใหญได ในที่สุดแผน
ทั้งหมดนี้จึงถูกลดทอนพลังทําลายลางลง เหลือเพียงระดับที่เปนแผนปดประตูตีแมวเทานั้น
แตกระนั้นแผนการนี้ก็ยังนับวารัดกุมและยากที่โจโฉจะเอาตัวรอดได และตองถือวาแผนการครั้งนี้ของตันกง
เปนแผนที่ยอดเยี่ยมอีกแผนหนึ่งในการสงครามตั้งแตเริ่มตนมาจนถึงวันนี้ ลิโปไดฟงแผนการของตันกงแลว
เห็นชอบกับแผนการดังกลาว จึงใหหาเตียนซีออกมาที่คายแลวเกลี้ยกลอมใหเตียนซีปฏิบัติตามแผนการของ
ตันกงทุกประการ
เตียนซีรับคําลิโปแลวก็มีหนังสือใหคนสนิทถือไปใหโจโฉเปนใจความวา ลิโปเปนคนโหดรายทารุณ ไม
คํานึงถึงความเดือดรอนของราษฎร นับตั้งแตยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองปกเอี้ยงแลวราษฎรไดรับความ
เดือดรอนยิ่งนัก ขาพเจาสงสารราษฎรนัก จึงคิดจะกําจัดลิโปเสีย บัดนี้ชาวเมืองมีความยินดีที่ทานไดยก
กองทัพมาเพื่อจะปลดปลอยเมืองปกเอี้ยงใหพนจากอํานาจเถื่อนของลิโป ตัวขาพเจาเองมีความเคารพและ
ศรัทธาตัวทานเปนยิ่งนัก หวังเอาบารมีของทานมาดับรอนทุกขเข็ญของราษฎรเมืองปกเอี้ยงนี้ จึงขอใหทานยก
ทหาร เขาชิงเอาเมืองปกเอี้ยง โดยขาพเจาและชาวเมืองจะเปดประตูเมืองทางดานตะวันตกตอนรับทานใน
เพลาตนของคืนนี้ และจะปกธงจารึก คําวา "คุณธรรม" ไวเปนสําคัญ เมื่อทานยกเขามาแลวขาพเจาและ
ชาวเมืองจะไดชวยกันตีกระหนาบชวยทานยึดเมืองปกเอี้ยงจาก ลิโปใหจงได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉไดรับหนังสือของเตียนซีแลวมีความยินดี กลาวกับคนของเตียนซีวานี่เปนเพราะสวรรคบันดาล ทานจงไป
บอกเตียนซีเถิดวาเรา จะทําการตามคําของเตียนซี ทํานุบํารุงชาวเมืองใหมีความสุขสืบไป วาแลวโจโฉก็สั่งให
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 27
จัดเตรียมทหารเตรียมเขายึดเมืองปกเอี้ยงในคืนวันนี้ เลาหัวที่ปรึกษาของโจโฉไดทวงขึ้นวา การครั้งนี้อาจเปน
กลอุบายของลิโปก็เปนได โจโฉแยงวาคนแบบลิโปยอมไมสามารถคิดกลอุบาย เชนนี้ออกมาได แตเลาหัว
ยังคงติงวาแมวาลิโปจะไรสติปญญาแตมีที่ปรึกษาอยูเปนจํานวนมาก ทั้งตันกงก็เปนคนมีสติปญญาสูง ดังนั้น
ถึงแมทานจะเชื่อคําของเตียนซี แตตองเตรียมการใหพรอมเพื่อจะได ไมเสียทีหากวาเปนกลอุบาย โจโฉถาม
วาจะใหเตรียมการอยางไร เลาหัวชี้แจงวาในการเขาโจมตียึดเมืองปกเอี้ยงครั้งนี้ควรจัดทหารออกเปนสามกอง
กองหนึ่ง ใหเขาไปดูลาดเลาในเมืองตามคําของเตียนซี สวนอีกสองกองใหตั้งคุมเชิงอยูนอกเมืองจะได
ชวยเหลือกันและกันได หากแมเปนอุบายก็คงจะไมเสียทีแกขาศึก โจโฉเห็นชอบดวยจึงมีคําสั่งใหแบงทหารที่
เตรียมไวนั้นแบงออก เปนสามกองตามคําของเลาหัว ครั้นค่ําลงเพลาแรกผานไปแลว โจโฉจึงใหยกทหารทั้ง
สามกองวกออมไปทางดานประตูเมืองตะวันตก เห็นธงสีขาวมีขอความวา "คุณธรรม" ปกอยูตรงตามคําของ
เตียนซีก็หยุดทหารรอฟงสัญญาณจากขางในเมือง
ครั้นใกลเที่ยงคืน ทหารของลิโปคือโฮเสงและโกสุนไดคุมทหาร เปนสองกองยกออกจากประตูเมืองดาน
ตะวันออกมาทางดานตะวันตกปะทะเขากับทหารของโจโฉที่ซุมรอสัญญาณอยู โจโฉสั่งให เตียนอุยออกรบ
ทหารของลิโปสูไมไดก็แตกหนีเขาประตูเมืองทางดานตะวันออก การยกทหารสองกองนี้ออกมารบดวยโจโฉ
เปนเรื่องที่ไมมีระบุไวในแผนการ แตกระนั้นก็เห็นไดวาเปนมาตรการลวงที่ทําใหฝายโจโฉตายใจวากรณีที่
เตียนซีมีหนังสือมานั้นไมใชกลอุบาย คือทําเรื่องที่หลอกลวงใหกลายเปนเรื่องที่นาเชื่อมากขึ้น
ในขณะนั้นมีคนของเตียนซีถือหนังสือมาถึงโจโฉทางดานประตูทิศตะวันตกวา กอนเที่ยงคืนวันนี้จะพา
ชาวเมืองฆาทหารรักษาประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองรับโจโฉ เมื่อเขาทําการแลวจะจุดพลุสัญญาณเปน
สําคัญใหโจโฉรีบยกเขายึดเมืองโจโฉรับหนังสือของเตียนซีแลวยิ่งตายใจจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารปองกัน
กองหนึ่งอยูทางดานซายของประตูเมือง ใหโจหองคุมทหารปองกันอีกกองหนึ่งอยูทางดานขวาของประตูเมือง
สวนโจโฉพรอมแฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น และเตียนอุยคุมทหารเปนกองกลาง เตรียมยกเขาไปในเมือง คืนนั้น
เปนคืนเดือนมืด โจโฉคุมทหารซุมรอสัญญาณอยูจน ถึงใกลเที่ยงคืนก็ไดยินเสียงพลุสัญญาณ และประตูเมือง
ดานตะวันตกเปดออก โจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนกําลังเขาประตูเมืองดานตะวันตก ลิเตียนฟงคําสั่งแลวทวงโจโฉวา
ตัวทานเปนแมทัพ การครั้งนี้ยังไมแนชัดวาเปนกลอุบายหรือไม จึงไมควรที่ทานจะนําทหารบุกเขา ไปดวย
ตนเอง ขาพเจาจะขออาสานําทหารเขาไปดูลาดเลากอนหากเห็น เปนการสุจริตแลวทานจึงคอยยกตามเขาไป
โจโฉจึงวาตัวเรานั้นเปนผูนําทัพ หากเรามินําหนาทหารเขาไปก็จะทําใหทหารเห็นวาเราขี้ขลาด และจะไม
พรอมใจกันทําการ การครั้งนี้คงไมมีกลอุบาย หากเปนการกระทําโดยสุจริตของชาวเมือง วาแลวก็รีบขับมานํา
ทหารเขาประตูเมืองไป โจโฉนําทหารจากประตูเมืองดานตะวันตกตรงเขาไปจนถึงศาลาวาราชการที่กลาง
เมืองแตไมเห็นผูคนเดินไปมา ทุกอยางเงียบสงัดโจโฉ จึงพรั่นใจวาตองกลอุบายของตันกงแลว จึงรีบสั่งทหาร
ใหรีบถอยกลับออกจากเมือง สิ้นเสียงสั่งของโจโฉพลุสัญญาณ มาลอ กลองศึก และเสียงโห รองของทหารลิ
โปก็ดังกองกระหึ่มขึ้น แสงเพลิงโชติชวงขึ้นทางดานประตูเมืองทั้งสี่ทิศ และบานเรือนราษฎรหลายแหงก็เกิด
เพลิงลุกไหม ในทันใดนั้นโจปาทหารเอกของลิโปไดคุมทหารยกออกมาแตดานตะวันออกสกัดหนาโจโฉไว
ในขณะที่เตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปคน หนึ่งคุมทหารออกมาสกัดดานหลังของโจโฉทางดานตะวันตกโจโฉ
เห็นเชนนั้นก็ตกใจรีบชักมาพาทหารจะหนีออกทางประตูดานทิศเหนือ ปะทะเขากับหลันเปงและโจเสงคุม
ทหารสกัดไว โจโฉจึงชักมานําทหารเลี้ยวกลับตรงไปยังประตูเมืองดานทิศใต พบโกสุน โฮเสง คุมทหารมา
สกัดไวอีก
สภาพของโจโฉจึงตกอยูในทามกลางของทหารลิโปทั้งสี่ทิศ จึงมีความตกใจเปนอันมาก เสียงโหรองของ
ทหารลิโป ควันไฟและแสง เพลิงทําใหทหารที่มาดวยโจโฉแตกตื่นพากันวิ่งหนี แตเตียนอุยทหารองครักษ
ของโจโฉนั้นคุมสติมั่นนําโจโฉตีฝาทหารของโกสุนและโฮเสง ไปทางดานประตูเมืองทิศใต และฝาออกนอก
ประตูเมืองไปได ครั้นเตียนอุยพนออกไปจากประตูเมืองแลวเหลียวกลับมาไมเห็น โจโฉก็ตกใจ จึงรบฝาเขาไป
ในประตูเมืองดานทิศใตอีกครั้งหนึ่งพบเขากับลิเตียน ตางคนตางถามหาโจโฉ ดังนั้นเตียนอุยจึงบอกใหลิเตียน
รีบออกนอกประตูเมืองไปนําทหารเขามาชวย สวนเตียนอุยนั้นจะตีฝาเขาไปในเมืองอีกครั้งหนึ่ง เตียนอุยตีฝา
เขาไปในเมืองแลวเที่ยวตระเวนหาโจโฉก็ไมพบ ครั้นฝาออกไปถึงคูเมืองดานทิศเหนือจึงพบเขากับงักจิ้น ตาง
คนตางถามหาโจโฉ แตไมทราบความจึงจะพากันกลับเขามาในเมืองอีกครั้งหนึ่ง ครั้นมาถึงประตูเมืองทหารลิ
โปซึ่งอยูบนเชิงเทินไดเอาเพลิงพะเนียงจุดชนวนโยนลงมา งักจิ้นตกใจชักมาถอยกลับจึงเขาเมืองไปไมได คง
มีแตเตียนอุยขับมาฝาไฟพะเนียงไปตามหาโจโฉในเมืองอีกครั้งหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ขางโจโฉเมื่อพลัดกับเตียนอุยแลวไดขับมาฝาเพลิงไปทางประตูดานทิศเหนือเพียงผูเดียว พลันไดยินเสียงลิ
โปขับมาไลตามหลังมา เอาทวนเคาะหมวกโจโฉแลวถามวาเห็นโจโฉหรือไม โจโฉรูวาคําถามเชนนี้แสดงวาลิ
โปจําตัวเองไมได จึงตั้งสติมั่นเอามือซายจับบังเหียนมา ยกมือขวาชี้ไปขางหนาบังใบหนาตัวเองไว แลววาโจ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 28
โฉไปทางขางหนานี้ ลิโปไมทันสังเกตเขาใจวาโจโฉเปนทหารของตัวเองก็เชื่อคําแลวขับมาผานหนาโจโฉไป
โจโฉจึงรีบชักมากลับไปทางดานประตูตะวันออก จึงพบเขากับเตียนอุย ดังนั้นเตียนอุยจึงนําหนามาโจโฉตีฝา
ทหารของ ลิโปออกไปถึงประตูเมือง เห็นเพลิงลุกไหมประตูเมืองอยู เตียนอุยก็ เอาทวนเขี่ยเพลิงใหแยก
ออกเปนทางแลวขับมานําหนาโจโฉออกประตูเมืองไป
โจโฉจึงขับมาตามเตียนอุยออกไป พอถึงประตูเมืองคานประตูที่ไหมไฟอยูไดหลนลงมาทับเอามาของโจโฉลม
ลงในกองเพลิงถึงแกความตาย "แตโจโฉนั้นดิ้นออกจากกองเพลิงได แตเสื้อแลผมกับหนวดนั้นไหม โจโฉฉีก
เสื้อทิ้งเสีย แลวเอามือซายขวาลูบดับเพลิงซึ่งไหมหนวดแลผมนั้นดับแลว ก็ออกมาจากประตูเมืองได" เตียน
อุยเหลียวหลังมาเห็นโจโฉอยูในสภาพเชนนั้นก็ตกใจรีบกระโจนลงจากหลังมา พอดีแฮหัวเอี๋ยนมาทันก็รีบ
ชวยกันประคองโจโฉ ใหนั่งมาของแฮหัวเอี๋ยน ในขณะนั้นทหารลิโปไดยกไลตามตีมาเปนจํานวนมาก เตียนอุย
กับแฮหัวเอี๋ยนไดรบปองกันโจโฉจนกระทั่งกลับเขาคายได
ครั้นรุงเชาขึ้นโจโฉจึงใหสํารวจทหาร ปรากฏวาทหารของโจโฉได ลมหายตายจากไปในการรบครั้งนี้เปน
จํานวนมาก แตทหารอีกสองกองที่ตั้งระวังอยูนอกประตูเมืองสวนใหญยังอยูครบ บรรดานายทหารและที่
ปรึกษาไดพากันเขามาเยี่ยมโจโฉ ซึ่งบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกถึงในคาย โจโฉเห็นบรรดาแมทัพนายกองเขา
มาเยี่ยมก็หัวเราะขึ้นวา ครั้งนี้เราเสียรูตันกง เสียทหารไปเปนจํานวนมาก หากไมตายก็ตอง แกแคนลิโปใหจง
ได
ฝายหนึ่งคิดแผนการอยางละเอียดถี่ถวน หวังเอาโจโฉถึงตายใน ครั้งนี้แตโจโฉกลับหนีรอดออกมาได นี่แสดง
วาความคิดของคนไมอาจ ฝาฝนลิขิตของฟาได อีกฝายหนึ่งแทนที่จะโศกเศราเสียใจกลับหัวเราะ นั่นยอมเปน
การหัวเราะเยาะตัวเองที่หลงกลขาศึกอยางหนึ่ง และหัวเราะเยาะลิโปที่สวรรคยังเขาขางตนจึงรอดตายมาได
อีกอยางหนึ่ง
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
แผนยิงนกสามตัวดวยกระสุนนัดเดียว (ตอนที่ 63)
โจโฉเสียทีลิโปถึงสามครั้งสามคราจนแทบเอาตัวไมรอด แตโจโฉก็ยังคงหัวเราะเยาะโชควาสนาของตัวที่ตอง
กลขาศึกถึงเพียงนี้แลว ชะตายังแข็งกลาสามารถเอาตัวรอดไดทุกครั้ง นี่คือความเปน ผูมีเลือดนักสูที่ไมยอม
ทอถอยตออุปสรรคและความยากลําบากใดๆ และนี่คือลักษณะผูนําที่ยอดเยี่ยม ประการหนึ่งของโจโฉอันยาก
ที่จะหาผูใดมาเทียมเทียบเปรียบไดกุยแกไดเสนอตอโจโฉวา บัดนี้ทานเพิ่งเสียทีขาศึกมา ขาศึกยอมคาดคิด
วาทานตองใชเวลาอีกยาวนานจึงจะสามารถทําการแกแคน ดังนั้นในสถานการณที่ขาศึกสําคัญความดั่งนี้ ทาน
ควรรีบคิดอานทํา การซึ่งจะมีผลทําใหทหารไมเสียขวัญกําลังใจอีกดวย
โจโฉเห็นชอบกับความคิดของกุยแกจึงวา เราบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกครั้งนี้เปนที่รูกันในฝายทหารของลิโป
ดังนั้นเราจะคิดอาน เอาความเจ็บปวยนี้วางกลจับตัวลิโปใหจงได แลวโจโฉจึงเสนอแผนการใหคณะที่ปรึกษา
พิจารณาวา เราจะปลอยขาวไปถึงทหารลิโปวาเราถูกไฟคลอกปวยหนัก กลับมาถึงคาย แลวค่ําลงก็สิ้นใจ ให
ทหารนุงขาวหมขาวไวทุกขรองไห ขาวนี้เมื่อรูไป ถึงลิโปคงจะยกมาปลนคายเรา และยอมยกมาทางดานหลัง
ของคาย เราผานเขามาเลง ซึ่งมีทางเดินในซอกเขาเปนที่จํากัด เราจะแตงทหารไปซุมไวในซอกเขา ครั้นกอง
หนาลิโปผานไปแลวจึงคอยโจมตีที่ทัพหลวง คงจะจับลิโปไดโดยงาย
คณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดวยกับแผนการนี้ แลวพากันสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอันมาก
โจโฉครั้นเห็นวาแผนการดังกลาวเปนที่เห็นชอบพรอมกันทุกฝายแลวจึงสั่งใหดําเนินการตามแผนการนี้ทุก
ประการ แผนการครั้งนี้มิใชแผนการใหมอะไรเลย ตันกงเคยเสนอแผนการอยางเดียวกันนี้ใหกับลิโปเมื่อครั้ง
ที่โจโฉจะเดินทัพผานเขาไทสันไปตีเมืองปกเอี้ยง แตลิโปไมยอมรับแผนดังกลาว ครั้งนี้โจโฉวางอุบายเปน
แผนการเดียวกัน แตสรางสถานการณปลอยขาววาถูกไฟคลอกตาย ครั้นขาวนี้รูไปถึงทหารลิโปจึงเขาไป
รายงานใหลิโปทราบครั้นลิโปไดทราบขาวนี้แลวสมกับขาวคราวที่โจโฉถูกไฟคลอกก็เชื่อวาเปนเรื่องจริง จึง
ตัดสินใจตามลําพังความคิดตัวเองโดยไมสนใจ ที่จะปรึกษากับตันกงอีกตอไป เพราะฮึกเหิมในชัยชนะที่ไดมา
อยางตอเนื่องถึงสามครั้ง สั่งทหารใหเตรียมการยกไปปลนคายโจโฉครั้นค่ําลง ลิโปก็ยกทหารไปตามซอกเขา
มาเลง เพื่อจะลอบไปปลนคายโจโฉ พอกองหนาของลิโปผานจุดซุมไปใกลจะถึงปากทาง ทัพหลวงของลิโปก็
เคลื่อนมาถึงจุดซุมพอดี โจโฉจึงใหจุดพลุสัญญาณและใหทหารโหรองดังสนั่นทั้งหุบเขา กองซุมของโจโฉจึง
เอาเกาทัณฑยิงทหารของลิโปตายเปนอันมาก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 29
พอทหารลิโปแตกตื่นคุมกันไมติด ทหารของโจโฉก็ยกออกมา ลอมลิโปกับทหารไว ทั้งสองฝายตะลุมบอนกัน
อยางดุเดือด ลิโปเห็นตองกลขาศึกและทหารแตกตื่นลมตายลงเปนอันมากก็รีบตีฝายอน กลับมาทางดานหลัง
รีบพาทหารที่เหลือถอยกลับเขาเมืองปกเอี้ยง โจโฉไดชัยชนะแกลิโปแลวก็พาทหารกลับเขาคาย แตตั้งทัพอยู
ไดไมกี่วันก็ขาดเสบียงลงเนื่องจากเกิดโรคแมลงระบาดหนักทั้งภาคตะวันออก ผลิตผลทางการเกษตรทั้งไรนา
ราษฎรเสียหายจนหมดสิ้น ดังนั้นโจโฉจึงจําเปนตองสั่งใหกองทัพถอนไปตั้งอยูที่เมืองเอียนเสีย ฝายลิโป
เห็นโจโฉถอนทัพไปก็จัดทหารออกไปรักษาดานตางๆ นอกเมืองปกเอี้ยงเพื่อระแวดระวังเหตุการณจนทั่วถวน
ทุกดาน
ขางเมืองชีจิ๋วนั้น โตเกี๋ยมถูกโรคหลายโรครุมเราจึงลมปวยลง มีอาการหนัก จึงสั่งใหหาเลาปเพื่อจะมอบเมือง
ชีจิ๋วให แตเลาปไมยอมรับ ขุนนางเมืองชีจิ๋ว กวนอู เตียวหุย ชวยกันออนวอน แตเลาป ก็ยืนกรานไมยอมรับ
เกี่ยงใหโตเกี๋ยมยกเมืองใหแกบุตรคนใดคนหนึ่ง โตเกี๋ยมรูจักบุตรของตัวเองดีวาไรสติปญญา จึงสั่งกําชับวา
หาก มีอันเปนไปหามยกเมืองชีจิ๋วใหแกบุตรโดยเด็ดขาด และใหเลาปรับเปนเจาเมืองจงไดทั้งนี้ไดทําเปน
หนังสือขึนกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อเสนอแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วไวพรอมแลว และสั่งเสียวา
เมื่อเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวใหบิตก และซุนเขียนชวยเปนที่ปรึกษาของเลาปในการบริหารบานเมืองตอไป
โตเกี๋ยมสั่งเสียไมสิ้นความ ลมก็ปะทะขึ้นมาแนนในอก พูดจาตอไปอีกไมไดแตยังคงมีสติอยูจึงเอามือชี้เขาที่
อกตัว เปนนัยวาขอใหเลาปเห็นใจคนกําลังใกลตายที่หวงใยราษฎรรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตามความประสงค
แลวมือโตเกี๋ยมก็พลัดลงเปนอันสิ้นใจ ณ อายุได 63 ป
บรรดาขุนนางและทหารเมืองชีจิ๋วจึงพรอมกันเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป บรรดาชาวเมืองรูขาววาโต
เกี๋ยมตายแลวก็พากันมารองไหที่จวนเจาเมืองและออนวอนขอใหเลาปรับเปนเจาเมืองแทนโตเกี๋ยม กวนอู
เตียวหุย เห็นเชนนั้นก็มีใจสงสารชาวเมืองจึงชวยพูดออนวอนเลาปอีกครั้งหนึ่ง เลาปเห็นคนทั้งปวงมีน้ําใจนับ
ถือตัวโดยสุจริตก็มีใจสงสารจึงรับเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวตั้งบิตกและซุนเขียนเปนที่ปรึกษาตามคําสั่งเสีย และให
กวนอู เตียวหุย ไปรับทหารจากเมืองเสียวพายเขามาอยูเมืองชีจิ๋ว เลาปสั่งใหจัดพิธีศพของโตเกี๋ยมอยาง
สมเกียรติตามธรรมเนียม แลวเชิญศพไปฝงไวที่ริมแมน้ําฮวงโห ครั้นเสร็จจากพิธีศพแลวจึงได สงหนังสือ
กราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเตซึ่งโตเกี๋ยมไดทําเตรียมไวเขาไปยังเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตร
หนังสือของ โตเกี๋ยมแลวมิไดตรัสประการใด
ฝายโจโฉเมื่อทราบวาโตเกี๋ยมตายแลวและเลาปไดเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็โกรธ เพราะความแคนเรื่องสังหารบิดา
และครอบครัวยังไมไดชําระสะสาง แตโตเกี๋ยมกลับมาชิงตายเสียกอน สวนเลาปนั้นมิไดเสีย ทหารสักคนหนึ่ง
ไมไดเสียเกาทัณฑแตสักดอกหนึ่งกลับไดเมืองชีจิ๋วไปครอง โจโฉยิ่งคิดก็ยิ่งแคนจึงใหเรียกคณะที่ปรึกษามา
ประชุมหารือวา จะยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว ขุดศพโตเกี๋ยมเอามาสับเปนชิ้น ๆ และจับเลาปประหารเสีย แตซุน
ฮกที่ปรึกษาไดหามวา ขณะนี้เกิดทุพภิกขภัย ขาวยากหมากแพง เสบียงอาหารก็ขาดแคลน ทั้งกองทัพก็เพิ่ง
เสร็จศึกกับลิโปจําเปนตองพักฟนสักระยะหนึ่ง ซุนฮกไดแสดงเหตุผลวาเมืองชีจิ๋วบัดนี้ชาวเมืองรักเลาปเปนอัน
มาก หากทานจะยกกองทัพไปก็คงจะพรอมใจกันรักษาเมืองไวเปน สามารถเมืองชีจิ๋วมีผูคนมาก ทหารก็พรอม
กําแพงเมืองก็สูงใหญ ขาวปลาอาหารก็ยังบริบูรณ คงจะยึดเมืองชีจิ๋วไมไดโดยงาย และหากทานยกไปเมืองชี
จิ๋ว ลิโปรูขาวเขาก็คงจะยกกองทัพมายึดเอาเมืองเอียน เสียและหัวเมืองอื่นๆ ในภาคตะวันออก "ทานยกไปขาง
โนนก็จะไมสมความคิด จะกลับมาขางนี้ก็จะเสีย ทีทหารก็จะนอยลง กวาจะหาที่ตั้งตัวขึ้นไดก็ชานานไป ซึ่ง
ทานจะทิ้งที่กวางไปหาที่แคบนั้นขอทานดําริดูแตควร"
โจโฉฟงคําซุนฮกแลว บริบูรณดวยเหตุผลจึงเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก แตวิตกวาจะตั้งทัพอยูเฉยๆ
เชนนี้เสบียงอาหารก็ยิ่งลดนอยถอยลง กองทัพก็จะลําบาก จึงหารือวาจะแกไขปญหานี้ประการใด ซุนฮกจึงวา
ขณะนี้โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮีกับอุยเซียง ไดตั้งฐานที่มั่นขึ้นในเขตเมืองเองจิ๋ว เที่ยวแยงชิงเสบียง
อาหารจากราษฎร ไวเปนอันมาก ถาหากทานยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวจะไดผลดีถึงสาม
สถานคือ เปนการสรางความชอบไวกับแผนดินทางเมืองหลวงรับทราบแลวคงจะบําเหน็จความชอบแกทาน
สถานหนึ่ง ในขณะนี้กองทัพของเราก็ขาดแคลนเสบียง หากปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวก็จะยึด
เสบียงอาหารจากโจรโพกผาเหลืองไดเปนจํานวนมาก ไดขาวขาศึกมาหนึ่งถังดีกวากินขาวตัวเองถึงสิบถัง ทํา
ใหปญหาเสบียงอาหารของกองทัพหมดสิ้นไปสถานหนึ่ง และการปราบโจรโพกผาเหลืองครั้งนี้ทานจะไดรับ
ความเคารพรักจากราษฎร และจะไดกําลังพลกองทัพเพิ่มขึ้นอีกสถานหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉฟงคําของซุนฮกแลวเห็นเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม ยิงกระสุนนัดเดียวไดนกถึงสามตัว จึงยกยองความคิด
ของซุนฮกเปนอันมาก แลวสั่งใหเรียกโจหยินกลับมารักษาเมืองรวมกับแฮหัวตุน สวนตัวโจโฉจัดทหารยกไป
เมืองเองจิ๋ว เพื่อปราบปรามโจรโพกผาเหลืองตามแผนการของซุนฮก โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮี และอุย
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 30
เซียงนั้น ถึงอยางไรก็เปน เพียงกองกําลังอาวุธของชาวบาน ขาดประสบการณในการศึก โดยเฉพาะการรบ
แบบแผน ดังนั้นเมื่อประจันหนากับกองทัพของโจโฉไม ทันไร อุยเซียงก็ถูกลิเตียนทหารเอกของโจโฉจับได
โจรโพกผาเหลือง จึงแตกพายไป กองทัพโจโฉไดยึดเอาเสบียง อาวุธยุทโธปกรณไวเปน จํานวนมาก สวน
โฮฮีแกนนําของโจรโพกผาเหลืองอีกคนหนึ่งคุมพรรคพวก ไดสองรอยเศษจึงพากันหนีทหารของโจโฉไปถึง
เนินเขาลูกหนึ่งก็ปะทะกับกองโจรอีกกองหนึ่ง ซึ่งมีเคาทูเปนหัวหนา ตอสูกันไมกี่เพลง โฮฮีก็ถูกเคาทูจับตัวได
พรอมกับทหารโจรโพกผาเหลืองทั้งหมด แลว เคาทูสั่งใหพรรคพวกควบคุมไปขังไวในถ้ํา โจโฉเห็นโฮฮีหนีไป
ไดจึงสั่งใหเตียนอุยไลติดตามเพื่อปราบปราม ใหสิ้นซาก เตียนอุยประจันหนากับเคาทูจึงเรียกรองใหสงมอบ
พวกโจรมาให แตเคาทูไมยอม ทั้งสองฝายจึงตอสูกันเปนสามารถตั้งแตเชา ถึงเที่ยงก็ไมแพชนะกัน พักเที่ยง
แลวเริ่มตอสูกันใหมจนถึงค่ํา มาที่ทั้งสองฝายขี่ก็หมดกําลังลง ทั้งสองฝายจึงตกลงพักรบและนัดมาตอสูใหม
ในวันรุงขึ้น
เตียนอุยกลับมาถึงคายจึงรายงานใหโจโฉทราบ โจโฉฟงรายงาน แลวแปลกใจในฝมือของโจรปาที่สามารถ
ตอสูกับเตียนอุยไดทั้งวันโดย ไมเพลี่ยงพล้ํา น้ําใจรักคนมีฝมือพลุงขึ้นในความคิดของโจโฉไมอาจทนรอจน
ลวงพนราตรีได จึงพาเตียนอุยและทหารสองรอยไปที่หนาถ้ําของเคาทูตั้งแตคืนนั้น ครั้นรุงขึ้นโจโฉจึงใหตี
กลองศึกเปนสัญญาณใหเตียนอุยรบกับเคาทูตามที่นัดหมาย เคาทูก็ออกมาประจันหนากับเตียนอุย โจโฉเห็น
เคาทู "รูปรางเคาทูใหญโต สูงประมาณหกศอก" จึงมีใจใครจะไดตัวเคาทูมารับราชการดวย โจโฉยืนมาดูเตียน
อุยรบกับเคาทูตั้งแตเชาจนพักเที่ยง แลวเริ่มการตอสูในภาคบายจนถึงค่ําอยางสนุกสนาน และมีความพออก
พอใจ ในฝมือสองทหารเสือที่ตอสูกันเปนยิ่งนัก ครั้นพักรบหลังเวลาค่ําแลวเคาทูก็กลับเขาถ้ํา เตียนอุยก็
กลับมาที่คาย โจโฉจึงวางแผนจับตัวเคาทู และสั่งใหขุดหลุมหางจากบริเวณลานรบหาเสน เปนหลุมกวางยาว
ดานละสองวา ลึกสองวา เอาบวงซอนไวที่ปากหลุมแลวเอาหญาเกลี่ยปดปากหลุมไวจนดูเสมือนหนึ่ง เปนเนื้อ
เดียวกัน แลวสั่งเตียนอุยวาพรุงนี้เมื่อออกรบดวยเคาทูใหทําเปนหนีแลวหลอกลอใหเคาทูมาตกหลุมซึ่งขุดไว
นั้น
วันรุงขึ้นเตียนอุยจึงไปทารบกับเคาทู แลวทําเปนหนีไปขางหลุม ที่ขุดไว เคาทูไมรูกลก็ไลตามไปและตกลงไป
ในหลุมถูกบวงรัดไว ทหารโจโฉจึงจับเอาตัวเคาทูมัดเขาไปใหโจโฉ โจโฉเปนคนรักคนมีฝมือ มีความพอใจ
อยางสูงในฝมือและบุคลิกสมทหารเอกของเคาทูตั้งแตครั้งแรก ครั้นรูวาแผนการจับตัวเคาทูบรรลุผลแลว โจ
โฉจึงเริ่มผูกน้ําใจเคาทูทันทีดวยการแกลงทําเปนตกใจแลว เขาไปแกมัดเคาทูดวยตนเอง และสั่งทหารใหนํา
เสื้อผาอยางดีมาให เคาทูเปลี่ยน เสร็จแลวจึงจูงมือเคาทูมานั่งใกลๆ ถามสารทุกขสุขดิบราว กับเปนญาติสนิท
ครั้นเคาทูบอกกลาวประวัติสวนตัวและความเปนมาแลว โจโฉ จึงวาเคยไดยินกิตติศัพทเคาทูมานานแลว บัดนี้
มาพบตัวนับเปนวาสนาของเราทั้งสองที่ไดสรางสมมาแตปางกอน เมื่อบุญบันดาลดั่งนี้แลวจึงขอเชิญทานให
มาทําราชการดวยเราเถิด
เคาทูเผชิญกับไมนี้ของโจโฉเขาก็ตกลงใจรับราชการดวยโจโฉ ลุกขึ้นคํานับคารวะขอบคุณแลววา ขาพเจา
เปนแตชาวปา ทานใหความกรุณาครั้งนี้เปนพระคุณหาที่สุดมิได ขาพเจาตกลงใจที่จะทําราชการสนอง
คุณทานสืบไป โจโฉมีความยินดีเปนอันมากจึงใหเคาทูเปนทหารเอก และมอบเงินทองเปนรางวัลบําเหน็จ
รับขวัญเปนอันมาก เคาทูจึงใหพรรคพวกไปเอาพวกโจรที่จับไวมามอบแกโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหประหารโฮฮีและ
อุยเซียงและตัดศีรษะเสียบประจานไว ไมใหใครเอาเปนเยี่ยงอยาง แลวยกกองทัพกลับเมืองเอียนเสีย
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
โจโฉครองอํานาจภาคตะวันออก (ตอนที่ 64)
ครั้นถอนทัพกลับเมืองเอียนเสียแลว โจโฉไดรับรายงานวาเมือง กุนจิ๋ว ซึ่งลิโปสั่งใหสองทหารเอกคุมทหาร
หมื่นหนึ่งไปรักษาอยูนั้นขาดแคลนเสบียงอาหาร ทหารอดอยากถึงกับตองปลนสะดมภชาวเมืองแยงชิงเอา
อาหาร จึงเห็นเปนโอกาสที่จะชิงเอาเมืองกุนจิ๋วคืนตามความคิดเดิม ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหเตรียมกองทัพยกไป
เมืองกุนจิ๋ว ฝายลิฮองและซิหลันสองทหารเอกของลิโป ซึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ครั้นทราบวาโจโฉยกกองทัพ
มาจึงยกทหารออกไปรบดวยโจโฉ ปะทะกับเคาทูไดสามเพลง เคาทูเอาทวนแทงลิฮองตกมาตาย ซิหลัน เห็น
เชนนั้นก็ตกใจรีบพาทหารหนีจะกลับเขาเมือง โจโฉคาดการณไวกอนแลววาทหารลิโปจะตองแตกหนีกลับเขา
เมือง จึงสั่งใหลิเตียนคุมทหารไปเตรียมสกัดไวที่หนาคูเมือง ครั้นซิหลันพาทหารหนีมาจึงเขาเมืองไมได ซิห
ลันจึงชักมาหนีกลับไปอีกทางหนึ่ง ลิยอยทหารโจโฉจึงเอาเกาทัณฑยิงถูกซิหลันตกมาตาย ทหารที่เหลือก็
แตกหนีไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 31
โจโฉเห็นไดทีจึงสั่งทหารหักเขาตีเมืองกุนจิ๋ว ทหารในเมืองเหลือ อยูเพียงไมกี่คนรับมือทหารของโจโฉไมได
จึงยอมแพ เปนความพาย แพของลิโป ครั้งสําคัญสมดังที่ตันกงไดคาดการณไวลวงหนาแลววา ทหารเอกสอง
คนนี้ไรสติปญญาไมสามารถรับมือโจโฉไดและจะตอง เสียเมืองกุนจิ๋วแกโจโฉ การที่โจโฉยึดเมืองกุนจิ๋ว
กลับคืนมาไดครั้งนี้สงผลใหโจโฉไดยึด กุมจุดยุทธศาสตรของภาคตะวันออกไวในมือ ดังนั้นเปาหมายตอไป
คือ การกวาดลางลิโปทําใหภาคตะวันออกอยูภายใตการยึดครองโดย สมบูรณ
โจโฉจัดแจงการปกครองเมืองกุนจิ๋วใหเขาที่เขารอยดังเดิมแลว จึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตีเมืองปก
เอี้ยง โดยตั้งความหวังวา การยกไปครั้งนี้จะตองบรรลุผลสถานเดียวเทานั้น ดังนั้นการจัดเตรียมทัพไปตีเมือง
ปกเอี้ยงจึงใหจัดกระบวนทัพอยางทัพกษัตริย โจโฉสั่งการใหเคาทูและเตียนอุยคุมทหารเปนกองหนา ใหแฮ
หัวตุนและแฮหัวเอี๋ยนเปนปกขวา ใหลิเตียนกับงักจิ้นเปนปกซาย โจโฉเปนกองทัพหลวง และใหอิกิ๋มและลิ
ยองเปนกองหลัง เคลื่อนขบวนทัพยกไปเมืองปกเอี้ยง นับเปนการเคลื่อนทัพครั้งใหญในลักษณะเปนขบวน
พยุหะ ตามลักษณะทัพกษัตริยเปนครั้งแรกของโจโฉ
ฝายลิโปทราบขาวศึกก็สั่งใหเตรียมทหารจะยกออกไปรบกับโจโฉที่นอกเมือง ตันกงทราบขาวจึงเขาไป
ทักทวงวา กองทัพของลิโป ยังไมพรอมรบ เพราะบรรดาทหารเอกที่สั่งใหไปลําเลียงเสบียง ณ เมืองอื่นยัง
กลับมาไมถึง ทั้งกองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีลักษณะเปนทัพกษัตริย หากยกออกไปรบนอกเมืองก็จะเสียทีแก
ขาศึก สมควรที่ลิโปจะตั้งรับอยูในเมือง รอจนกวาบรรดาทหารเอกที่ไปลําเลียงเสบียงกลับมากอนอยางหนึ่ง
และรอจนกองทัพโจโฉขาดเสบียงแลว จึงคอยโจมตีในภายหลังก็จะไดชัยชนะ แตคนหัวรั้นแบบลิโปนั้นไมรู
การควรไมควร ไมประมาณในการศึก คิดแตจะรบทาเดียวดวยมั่นใจในฝไมลายมือของตนเอง ไมคํานึงวาคน
นอยหรือจะสูคนมากได และไมคํานึงถึงผลแพชนะวาจะเกิดผลประการใด คําทักทวงของตันกงซึ่งเปรียบ
ประดุจดั่งยันตอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปองกันเมืองปกเอี้ยงจึงไรผล ลิโปไมฟงคําตันกงสั่งใหยก ทหารออกไปนอกเมือง
เพื่อจะรบดวยโจโฉ
ลิโปยกออกไปแลวปะทะกับเคาทูกองทัพหนาของโจโฉ ลิโปและเคาทูตอสูกันไดยี่สิบเพลงยังไมแพชนะกัน
โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งใหเตียนอุยและทหารเอกทั้งปกซาย ปกขวาเขารุมลอมลิโป อันโจโฉนั้นทําศึกหวังชัย
ชนะเปนสําคัญ หาไดคิดวาการใชคนมากรุมคนนอยจะเปนการเอาเปรียบหรือทําใหการตอสูไมเปนไปโดย
ยุติธรรม เพราะโจโฉตระหนักดีวา "ไมมีธรรมะในสงคราม" วิธีการใดก็ตามที่จะเอาชนะขาศึกได วิธีการนั้นยอม
นํามาใชไดทั้งสิ้น ลิโปตกอยูในวงลอมของทหารเอกโจโฉถึงหกคน สูไมไดจึงขับมาหนีจะเขาเมือง แตการ
ขางในเมืองนั้นไมเขาขางลิโปเสียแลว เพราะในระหวางที่ลิโปครองเมืองปกเอี้ยงอยูนั้นไดกดขี่ขมเหง รังแก
ขุนนางและราษฎร เตียนซีและชาวเมืองไมพอใจลิโป ครั้นรูขาว ลิโปยกออกไปรบกับโจโฉจึงชวยกันปดประตู
เมืองเสียแลวชักชวนทหารที่รักษาเมืองใหเขาดวยโจโฉ
ลิโปขับมาพาทหารมาถึงประตูเมือง เห็นประตูเมืองปดก็เรียกใหเปดประตู แตเตียนซีไดรองบอกไปวาบัดนี้
เมืองปกเอี้ยงไมตอนรับคน แบบลิโปตอไปแลว ลิโปเห็นเชนนั้นจึงรองดาวาเตียนซีวาเปนคนทรยศ พอดีทหาร
ของโจโฉไลตามมาลิโปจึงพาทหารหนีกลับไปหาเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ตันกงเห็นเหตุการณดั่งนั้นจึงลอบ
พาครอบครัวของลิโปหนีออก จากเมืองตามลิโปไป โจโฉจึงยกทหารเขาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเตียนซีและบรรดา
ขุนนาง ไดใหการตอนรับเปนอยางดี โจโฉเห็นเหตุการณเชนนั้นจึงเรียกเตียนซีเขามาพบแลววา เมื่อครั้งกอน
ทานมีหนังสือไปลวงเรา ทําให เราตองกลของลิโปเกือบเอาชีวิตไมรอด เปนความผิดฉกรรจ โทษ ถึงประหาร
แตมาครั้งนี้ทานทําคุณไวกับบานเมือง มีความชอบเปน อันมาก ดังนั้นจึงตัดสินใหโทษทัณฑกับความชอบลบ
ลางกันไป
นี่คือลักษณะความเปนนักปกครองของโจโฉที่แมจะมีความขุน แคนเตียนซี ซึ่งสมคบกับลิโปวางกลอุบายจน
ตัวเองแทบถึงแกชีวิต แตเมื่อเตียนซีมีความชอบก็จําแนกชัดเจนใหเอาความชอบและความ ผิดมาหักลบกลบ
ลางกัน เมื่อประกอบเขากับการที่เตียนซีเปนที่นับถือของชาวเมืองแลว การปฏิบัติตอเตียนซีเชนนี้จึงเทากับ
เปนการผูกน้ําใจชาวเมือง ทําใหการจัดระเบียบบริหารและการปกครองเมือง ปกเอี้ยงเปนไปโดยเรียบรอย
ราบรื่นอยางรวดเร็ว นักปกครองแบบโจโฉจึงหาไดยาก แมวาการเมืองการปกครอง ในระยะหลังจะพัฒนา
กาวหนาไป แตจิตใจของนักการเมืองและนักปกครองในยุคหลังนั้นกลับเลวทรามต่ําชา ไมคิดถึงความสงบ
สันติของบานเมือง คิดถึงแตอํานาจและตัวเอง จึงเอาแตหลอกลวงปลิ้นปลอนราษฎรเพื่อใหไดอยูในอํานาจไป
วันหนึ่งๆ เทานั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉยึดไดเมืองปกเอี้ยงแลว เสี้ยนหนามในภาคตะวันออกจึงคงเหลือแตเมืองตันลิวเมืองเดียวเทานั้น ครั้น
ทราบวาลิโปหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โอกาสจึงเปดชองใหแกโจโฉที่จะยกขึ้น กลาวอางเอา
ความชอบธรรมในการกําจัดลิโปศัตรูสําคัญ และยึดเมืองตันลิวตอไป เลาหัวที่ปรึกษาจึงเสนอตอโจโฉวา ซึ่งลิ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 32
โปหนีไปอยูเมืองตันลิวครั้งนี้หากละไวนานลิโปก็จะตั้งหลักปกฐานเติบกลาขึ้นมาอีก จึงขอเสนอใหโจโฉยก
กองทัพไปตีเมืองตันลิว กําจัดลิโปเสีย ทําใหการยึดครองภาคตะวันออกบรรลุผลอยางสมบูรณ
ขอเสนอของเลาหัวตรงกับความคิดยุทธศาสตรของโจโฉอยูแลว โจโฉจึงเห็นชอบและสั่งใหเลาหัวคุมทหาร
สวนหนึ่งอยูรักษาเมืองปกเอี้ยง ตัวโจโฉและแมทัพนายกองอื่นยกไปเมืองตันลิว ฝายลิโปเมื่อหนีโจโฉมาถึง
เมืองตันลิวแลวก็เขาไปหาเตียวเมี่ยว ขอกลับเขาทําราชการอยูกับเมืองตันลิวดังเดิม เตียวเมี่ยวเปนคนไมรู
รอนรูหนาวและไมประมาณในการศึก ทั้งๆ ที่ลิโปเคยคิดแยกตัวเปนอิสระมาแลว แตพอลิโปกลับมาก็รีบรับลิโป
ไวทําราชการดังเดิม โดยไมไดคํานึงวาการรับลิโปไวครั้งนี้เปนการ "ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาบาน"
ครั้นเตียวเมี่ยวทราบวาโจโฉยกกองทัพมาตั้งประชิดเมืองตันลิว จึงสั่งใหตั้งรับอยูแตในเมือง ใหทหารรักษา
เชิงเทิน หอรบไว โจโฉลอมเมืองตันลิวอยูเกือบครึ่งเดือนก็ขาดเสบียงลง ประกอบกับเปนฤดูกาลเก็บเกี่ยวขาว
สาลี ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหถอนทัพถอยไปสี่รอยเสน ใหตั้งคายลงใกลปาริมแมน้ํา และใหทหารออกไปเก็บเกี่ยว
ขาวสาลีของราษฎรมาเขาคลังเสบียง ราษฎรจึงแจงความไปยังเมืองตันลิว เตียวเมี่ยวเจาเมืองจึงสั่งใหลิโปยก
ทหารออกไปขับไลทหารโจโฉไมใหแยงเกี่ยวขาวสาลีของราษฎร ลิโปคุมทหารออกมาไลจับและขับทหารโจ
โฉซึ่งเกี่ยวขาวสาลีอยูนั้น ทหารของโจโฉสูลิโปไมไดก็พากันหนีเขาคายลิโปจึงยกทหารไลตามไปถึงบริเวณ
ใกลหนาคายโจโฉ เห็นทางซายมือ เปนปารกเกรงวาโจโฉจะซุมทหารไวโจมตี จึงรีบยกทหารกลับเขาเมืองตัน
ลิว
โจโฉไดรับรายงานเหตุการณโดยตลอดแลว จึงวากับที่ปรึกษาวา ลิโปยกกลับไปเพราะระแวงวาฝายเราจะซุม
ทหารไวในปา ดังนั้นในวันพรุงนี้ลิโปคงยกทหารมาเผาปาแลวโจมตีคายเราเปนมั่นคง เราจะวางกลอุบายจับลิ
โปใหจงได โจโฉทําการศึกในระยะหลังนี้จะใชแนวทางการเมืองเปนหลักนํา และใชกลอุบายเปนมาตรการ
หลักในการศึก ผิดกับโจโฉในครั้งที่รวม อยูในกองทัพปฏิวัติราวกับเปนคนละคน แลวโจโฉจึงวาเราจะใหทหาร
เอาธงไปปกไวในปา หลอกลิโปใหหลงวาเราซุมทหารไวในปาขางทางนั้น และจะใหทหารรักษาคายไวแต
นอยเพียงสี่หาสิบนาย นอกนั้นใหยกไปซุมอยูหลังคายดานริมแมน้ํา ครั้นลิโปเผาปาแลวคงยกลวงเขามายึด
คาย ใหทหารซึ่งซุมอยูนั้นยกออกมาลอมจับคงจะไดตัวลิโปโดยงาย
คณะที่ปรึกษาและบรรดาแมทัพนายกองฟงแผนการของโจโฉแลว ตางสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอัน
มาก โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งการใหจัดเตรียมกําลังไวใหพรอม รุงขึ้นจะไดยกไปทําการครั้นรุงเชาลิโปจึงเสนอ
เตียวเมี่ยวขอยกทหารออกไปตีคายโจโฉ ตันกงอยูในที่นั้นดวยจึงทักทวงวา ขณะนี้โจโฉขาดเสบียงไปตั้งคาย
อยูริมแมน้ํา ก็เพียงเพื่อใหทหารไดเกี่ยวขาวสาลีเขาคลังเสบียง ดังนั้นถาเรายกทหารออกไปเพียงแตขับไล
ทหารโจโฉไมใหเกี่ยวขาวได สําเร็จ หรือเผาขาวในนาเสีย กองทัพโจโฉก็จะขาดเสบียงลง และคงจะตองถอย
ทัพกลับไป การที่จะเขาตีคายโจโฉครั้งนี้นาจะเปนอันตราย เพราะโจโฉนั้นมีความคิดและสติปญญาในการศึก
มาก ไหนเลยจะไมคิดปองกันรักษาคายไวเปนอยางดี หรือมิฉะนั้นก็อาจวางกลอุบาย ไวอยางใดอยางหนึ่ง เรา
ก็จะเสียทีแกโจโฉ
ลิโปไมเห็นดวยกับตันกง อางวาในสถานการณที่โจโฉขาดเสบียง เชนนี้ควรที่จะตองรีบโจมตี เตียวเมี่ยวเห็นดี
เห็นงามไปกับลิโป ดังนั้นจึงอนุญาตใหลิโปยกทหารไปตีคายโจโฉ ลิโปยกทหารไปถึงเขตปา ดานซายทาง
ขางหนาคายโจโฉ พอเขาไปใกลเห็นธงปกอยูในปาเปนจํานวนมาก สําคัญผิดคิดวาทหารโจโฉซุมอยูในปา จึง
ใหทหารเขาลอมปานั้นไวแลวเอาไฟเผาปาพรอมกันทั้งสี่ดาน ลิโปเห็นคายโจโฉเงียบอยูก็เขาใจผิดตอไปวา
ทหารโจโฉยกออก จากคายมาซุมอยูในปาทั้งหมด จึงสั่งใหทหารบุกเขายึดคายโจโฉ แตขณะที่ลิโปยกทหาร
ไปถึงหนาคาย โจโฉก็ใหทหารจุดพลุสัญญาณขึ้น ทหารของโจโฉก็โหรองดังสนั่นจากขางหลังคาย ทหารเอก
ของโจโฉก็ยกทหารออกจากดานหลังคายเปนสองกอง เขามาสกัดหนาลิโปไวทางหนึ่ง และสกัดทางถอยไว
อีกทางหนึ่ง ตีกระหนาบเขามาพรอมกัน แลวฆาฟนทหารลิโปลมตายลงเปนอันมาก ลิโปรูตัววาตองกลโจโฉก็
ตกใจ จึงรีบชักมากลับทางดานหลังตีฝาออกไป พาทหารที่รอดมาไดเพียงไมกี่คนหลบหนีจะเขาเมือง แต
ทหารโจโฉยกตามไปติดๆ ในเมืองจึงไมสามารถเปดประตูเมืองรับ ลิโป กลับเขาเมืองได ลิโปจึงรีบหนีตอไป
ทางดานชายทะเล ไปพบเขากับเตียวเลี้ยว จงปา โฮเสง โกสุน ซึ่งเปนทหารเอกที่ลิโปสั่งใหไปลําเลียง
เสบียงเพิ่งกลับมา จึงพากันยกไปทางชายทะเลเมืองตันลิว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฝายตันกงอยูในเมืองตันลิวคาดการณวาลิโปยกไปครั้งนี้คงจะเสีย ทีแกโจโฉเปนแน จึงคอยเฝาติดตาม
สถานการณ ครั้นทราบขาววาทหาร โจโฉลอมลิโปไวที่หนาคายจึงคาดการณวาในที่สุดลิโปคงหนีเขาเมือง
ไมได และโจโฉคงยกเขามายึดเมืองตันลิวไดโดยเร็ว หากจะอยูในเมือง ตอไปจะไมปลอดภัย และทางหนีที่
ปลอดภัยก็คือทางดานชายทะเล ดังนั้นตันกงจึงพาครอบครัวของลิโปหนีออกจากเมืองไปทางดานชาย ทะเล
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 33
ชายแดนเมืองตันลิว และในระหวางทางไดพบกับลิโปและทหาร ที่แตกหนีมานั้น จึงพากันไปตั้งหลักอยูที่
ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิว
ฝายโจโฉเมื่อไดชัยชนะแลวจึงสั่งใหเคลื่อนทัพเขาโจมตีเมืองตันลิวอยางดุเดือด ทหารของโจโฉไดยิง
เกาทัณฑเพลิงเขาไปในเมืองเปนอันมาก เพลิงลุกไหมในเมืองตันลิวหลายแหง ทหารเมืองตันลิวรักษาเมือง
ไวไมได จึงพากันหลบหนี โจโฉจึงยกทหารเขายึดเมืองตันลิวไดสําเร็จ แตตัวเตียวเมี่ยวนั้นหนีรอดไปไดแลว
ไปอาศัยอยูกับอวนสุดที่เมืองลําหยง โจโฉยึดเมืองตันลิวไดแลวไดเกลี้ยกลอมราษฎรใหทํามาหากินตามปกติ
แลวจัดระเบียบการปกครองเมืองตันลิวเสียใหม จากนั้นรับสมัครชายฉกรรจเขาเปนทหารในกองทัพเปนจํานวน
มาก เปนอันวาโจโฉไดยึดหัวเมืองในภาคตะวันออกไวในอํานาจไดอยางราบคาบและสมบูรณ ทําใหกําลัง
กองทัพของโจโฉเพิ่มขึ้นอีกเปน จํานวนมาก และยังไดเคาทูนักรบฝมือดีมาเปนทหารเอกอีกคนหนึ่งบัดนี้โจโฉ
ไดตั้งตัวเปนใหญขึ้นแลวอยางสมบูรณในภาคตะวันออก และนับเปนขุมกําลังใหญที่สุดในบรรดากําลังของขุน
ศึกทั้งปวงในแผนดินปจจุบัน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
แผนเผาบานไลหนู (ตอนที่ 65)
ฝายลิโปเมื่อยกไปตั้งหลักที่ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิวแลว ทราบขาววาโจโฉยึดเมืองตันลิวได จึงปรึกษา
กับตันกงวาจะยกทหาร ไปรบกับโจโฉยึดเมืองตันลิวกลับคืน ตันกงจึงวาบัดนี้โจโฉยึดหัวเมืองภาคตะวันออกไว
ในอํานาจหมดสิ้นแลว มีกําลังทหารเปนอันมาก ในขณะที่ฝายเรามีทหารอยูนอย ไมพอกับการรุกรับในสงคราม
หากทานยกไปคงจะเสียทีแกโจโฉ สถานการณยามนี้จึงกําหนดใหฝายเราตองพักรบตั้งหลักปกฐานพักฟน
สรางสมกําลังกอนแลวคอยคิดการสืบไป
ลิโปสิ้นความฮึกเหิมจากชัยชนะสามครั้งกอนเพราะพายแพโจโฉจนตองมาติดอยูที่ชายทะเล ทิฐิมานะจึงออน
ลง จึงเห็นดวยกับตันกง แลวปรึกษาวาดินแดนในภาคตะวันออกนี้คงจะอาศัยอยูนานไมได เพราะเมื่อโจโฉ
ทราบขาวคงยกทหารมาที่ชายทะเลเราก็จะอันตราย และเห็นวาควรไปขออาศัยอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว ตัน
กงจึงวาจะดวนผลีผลามในทันทียอมไมชอบเพราะเปนการสุมเสี่ยง เนื่องจากกอนหนานี้อวนเสี้ยวโกรธและคิด
จะสังหารทานเสีย ทานจึงหนีมาอยูกับเตียวเมี่ยวที่เมืองตันลิว หากคิดจะกลับไปอาศัยอวนเสี้ยวอีก อันตรายก็
อาจเกิดแกตัวทาน สมควรใหทหารไป สืบลาดเลาดูเสียชั้นหนึ่งกอน ลิโปเห็นชอบกับความคิดตันกงจึงให
ทหารไปสืบลาดเลาทางดาน เมืองกิจิ๋ว ทหารกลับมารายงานวา อวนเสี้ยวทราบขาวโจโฉยกมาทําศึกกับทาน
ที่เมืองปกเอี้ยงจึงใหงันเหลียงทหารเอกยกทหารหกหมื่นจะไปชวยโจโฉ บัดนี้งันเหลียงทราบวาโจโฉยึดได
เมืองปกเอี้ยงแลว จึงยกทัพกลับไป ลิโปไดฟงดังนั้นก็ตกใจรีบปรึกษากับตันกงวาจะคิดอานประการใดตอไป
ตันกงจึงวาบัดนี้เมื่อไมสามารถไปอาศัยอวนเสี้ยวไดแลว จึงคงเหลือเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนเมืองใหญขณะนี้โตเกี๋ยม
เจาเมืองตายแลว ยกเมืองใหแกเลาป แตเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศมีน้ําใจกวาง ขวางโอบออมอารีตอคนทั้งปวง
หากทานไปขออาศัยเลาปคาดวาเลาปคงเต็มใจ ไมละไมตรีตอทาน ลิโปเห็นดวยจึงพาทหารและครอบครัวไป
เมืองชีจิ๋ว และใหทหาร เขาไปสงขาวแกเลาปวาจะมาขออาศัยอยูดวย
เลาปทราบขาวแลวจึงปรึกษาดวยบิตกและซุนเขียนพรอมดวย ขุนนางทั้งปวงของเมืองชีจิ๋ว บรรดาขุนนางไม
เห็นดวยที่จะรับลิโปไว โดยแสดงเหตุผลวาลิโปนั้นเปนคนเนรคุณจะทําอันตรายตอทาน ในภายหลังทั้งการรับ
ลิโปไวจะเปนการชักศึกใหโจโฉยกกองทัพมา ตีเมืองชีจิ๋ว เลาปฟงคําที่ปรึกษาแลวแยงวาเดิมทีนั้นโจโฉยก
มาตีเมืองชีจิ๋ว แตลิโปไดชวยเหลือไวดวยการยกไปตีเมืองกุนจิ๋ว ทําใหโจโฉตองถอน ทัพกลับไป เมืองชีจิ๋วจึง
พนจากอันตราย เทากับลิโปไดทําคุณไวแกเมืองชีจิ๋ว มาครั้งนี้ลิโปเดือดรอนหากไมรับลิโปไวก็จะไดชื่อวาไม
รูคุณ คนและเปนการไรน้ําใจไมตรีตอผูยาก
บรรดาที่ปรึกษา และขุนนางเห็นเลาปยืนกรานจะรับลิโปไวเห็น จะทัดทานไมได จึงพรอมกันวาทานจะรับลิโป
ไวก็ตามใจทานเถิด แตตองระมัดระวังตัวไวใหจงดี เลาปฟงคําที่ปรึกษาเชนนั้นก็ยินดี แลวพากวนอู เตียวหุย
ออกไปรับลิโปที่นอกเมือง แลวเชิญลิโปมาที่จวน ของเจาเมือง น้ําใจของเลาปครั้งนี้สะทอนถึงคุณธรรมและ
ความมีน้ําใจโอบออมอารีตอผูอื่นโดยไมไดหวงใยถึงอันตรายของตนเอง และไมคํานึงวาจะชักพาศึกใหญ
มาถึงตัว จิตใจของเลาปเปนดั่งนี้ใครจะวาผิด ใครจะวาถูกก็ยอมเปนเรื่องที่วากันไปตามอัธยาศัยและน้ําใจของ
แตละคน โดยที่ไมมีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดและจิตใจของเลาป ใหเปนอื่นไปได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปมาถึงจวนของเจาเมืองแลวคารวะเลาป แลวเลาความตั้งแต รวมคิดอานกับ อองอุนกําจัดตั๋งโตะศัตรูราช
สมบัติเสีย ตอมาลิฉุย กุยกี ไดครองอํานาจในเมืองหลวงคิดลางแคนใหกับตั๋งโตะจึงตองหนี ไปหลายที่หลาย
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 34
เมือง ในที่สุดไดไปพึ่งเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ครั้นโจโฉยกทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงไดนํากองทัพยกไปตีเมืองกุน
จิ๋วเพื่อ ชวยเหลือเมืองชีจิ๋วไว บัดนี้เสียทีแกโจโฉจึงตองมาขอพึ่งเลาปเพื่อจะไดคิดการใหญสืบไป ความจริงลิ
โปยกทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วนั้นเปนไปตามคําสั่งของเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โดยคําปรึกษาของตันกง เพื่อยึด
เอาเมืองกุนจิ๋วไวในอํานาจอยางหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของเมืองตันลิวอีกอยางหนึ่ง แตการทําใหโจโฉตอง
ถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วนั้นเปนเพียงผลพลอยได แตลิโปกลับยกเอาเปนบุญคุณวาเปนการชวยเมืองชีจิ๋ว เปน
การจี้ใจดําของเลาปโดยตรง
แลวลิโปจึงชวนเลาปใหรวมกันคิดการใหญ เพื่อกําจัดลิฉุย กุยกี และโจโฉตอไป และถามเลาปวาจะพรอมใจ
รวมทําการดวยหรือไม เลาปจึงวาโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วเพิ่งถึงแกความตาย ปลงธุระเมืองชีจิ๋วไวกับขาพเจา แต
ขาพเจานี้มีสติปญญานอย เกรงวาจะทําการไปไมตลอด ดังนั้นเมื่อทานคิดอานทําการใหญ จงรับธุระเปนเจา
เมืองชีจิ๋วแทนขาพเจาเถิด วาแลวก็ใหทหารไปเอาตราสําหรับเมืองจะมอบแกลิโป ลิโปยินเลาปวาจะยกเมืองชี
จิ๋วใหก็ขยับมือจะรับเอาตราเจาเมือง แตชําเลืองไปเห็นกวนอู เตียวหุย ซึ่งยืนอยูขางหลังเลาปนั้นแสดงอาการ
ไมพอใจก็ชะงักมือไว แลวแกลงทําเปนหัวเราะและวา ตัวขาพเจานี้เปนทหารอาชีพไมถนัดการบานการเมือง
ทั้งเปนเพียงผูมาขออาศัยใบบุญของทานอยู ไมชอบที่จะรับเอาเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตัวทานนั้นเปนเชื้อพระวงศ
พระเจาเหี้ยนเต ไดครองเมืองชีจิ๋วยอมเปนการเหมาะสมทุกประการแลว
ตันกงเห็นเหตุการณก็เขาใจวาเลาประแวงวาลิโปจะมาแยงเมือง จึงวาพวกเราเปนแขกมาขออาศัยทานจะคิด
ชิงเอาเมืองนั้นหามิได ทานอยาไดระแวงสงสัยเลย เลาปจึงวาความคิดที่จะระแวงสงสัยลิโป หรือผูใดไมเคยมี
อยูในใจของขาพเจา แตเมื่อลิโปไมเต็มใจก็แลวกันไปเถิด เลาปจึงจัดใหลิโปและคณะพักที่เรือนรับรองแขก
เมือง ค่ําลงก็เชิญลิโปมากินโตะ ในระหวางกินโตะกันนั้นลิโปเรียกบุตร ภรรยามา คารวะเลาป แตเลาปเกรงใจ
และวาขาพเจาเปนผูนอยทานอยาไดคํานับเลย ลิโปเห็นดังนั้นจึงวา "นองเรา! จงใหบุตรภรรยาเราคํานับเถิด"
เตียวหุยไดยินคําลิโปเรียกเลาปเปนนองจึงคิดวาลิโปเปนคนอาศัยมา กระทําการจวงจาบเลาปวาเปนเพียงนอง
หรือลูกนองจึงโกรธ ลิโป ลุกขึ้นดาลิโปวาไมรูคุณคน และทาลิโปออกไปสูกัน เลาปเห็นเตียวหุยโกรธจึงหาม
เตียวหุยไวและใหกวนอูพาเตียวหุยออกไปขางนอก แลวขอโทษลิโปที่เตียวหุยเสียมารยาทตอแขกเมืองเชนนี้
ลิโปสั่นศีรษะแตไมตอบคําประการใด
เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปและลิโปก็แยกกันกลับที่พัก เลาปมาถึง กลางทางเหลียวไปไมเห็นเตียวหุย เกรงวา
เตียวหุยจะหวนกลับไปวิวาทดวยลิโป จึงสั่งใหกวนอูรีบไปตามเตียวหุยกลับมา กวนอูตามไปถึงหนาเรือน
รับรองแขกเมืองเห็นเตียวหุยขี่มารําทวนทาลิโปใหออกมารบ กวนอูจึงพาเตียวหุยกลับไปที่พัก
รุงขึ้นเชาลิโปจึงไปพบเลาปแลววา ขาพเจาหนีรอนมาพึ่งเย็นขออาศัยอยูกับทาน ตัวทานก็ใหความเกรงใจ
อนุญาตใหขาพเจาไดอาศัย แตเตียวหุยนองทานดูหมิ่นขาพเจานัก ไมสามารถทนอยูที่นี่ตอไปได จําเปนตอง
ขอลาทานไปอาศัยที่อื่น เลาปจึงขอโทษลิโปแลววา ซึ่งเตียวหุยลวงเกินทานนั้นขาพเจาขออภัยตอทาน แลว
จะพาเตียวหุยไปขอขมาในภายหลัง แตลิโปยืนกรานจะลาไปอยูที่อื่น เลาปจึงวาถาเชนนั้นใหทานไปอยูเมือง
เสียวพายเถิด ขาพเจาจะจัดสงเสบียงอาหารใหแกทานมิใหอนาทรเลย ลิโปไดฟงเชนนั้นก็ยินดี ขอบคุณเลาป
แลวพาครอบครัวกับทหารที่ติดตามมายกออกจากเมืองชีจิ๋วไปอยูเมืองเสียวพาย
ฝายโจโฉครั้นไดครองอํานาจในหัวเมืองภาคตะวันออกราบคาบแลว จึงทําหนังสือกราบบังคมทูลพระเจา
เหี้ยนเตรายงานสถาน การณทั้งปวงใหทรงทราบ ครั้นหนังสือเขาไปถึงเมืองหลวง เจาหนาที่จึงนําหนังสือไป
เสนอกับลิฉุย ลิฉุยเห็นความในหนังสือแลวก็เก็บเสีย ไมนําความขึ้นกราบบังคมทูล แตใหเลื่อนตําแหนงโจโฉ
เปนพระยาพิทักษคุณธรรม การขางในราชสํานักในขณะนั้น ลิฉุย กุยกีไดจําเริญรอยตั๋งโตะ ยึดอํานาจบริหาร
บานเมืองของฮองเตไวทั้งสิ้น กระทําการหยาบชาตอฮองเตและขุนนาง ขาราชการเหมือนกับยุคสมัยของตั๋ง
โตะทุก ประการ ขณะนั้นเอียวปวและจูฮี ขุนนางผูใหญมีความจงรักภักดีตอราชวงศฮั่น เห็นลิฉุย กุยกีประพฤติ
ตนเปนทรราชเหมือนกับตั๋งโตะ จึงรวมคิดปรึกษากันจะกําจัด ลิฉุย กุยกีเสีย ปรึกษากันแลวสองขุนนางจึงลอบ
ไปเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงในพระตําหนัก กราบบังคมทูลวาบัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนทรราช ประพฤติตนเปนศัตรู
ราชสมบัติ ขุนนางในเมืองหลวงไมมีผูใดสามารถกําจัดลิฉุย กุยกีได แลววาบัดนี้โจโฉปราบปรามโจรโพก
ผาเหลืองภาคตะวันออกราบคาบแลว มี ทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น ขอเสนอใหมีรับสั่งใหหาโจโฉมา
ทําราชการในเมืองหลวงและกําจัดทรราชเสีย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงสองขุนนางแลวทรงพระกันแสง และมีพระราชดํารัสวาแผนดินทุกวันนี้สิทธิขาดอยูที่ลิ
ฉุย กุยกีสิ้น เราหามีอํานาจที่จะเรียกโจโฉเขามาไม ผูใดมีสติปญญาก็จงคิดอานกําจัดศัตรูแผนดินเถิด สองขุน
นางไดฟงกระแสพระราชดํารัสแลว รูสึกสงสารยุวกษัตริยที่ถูกทรราชกดขี่ขมเหงรังแกจึงพากันรองไห แลว
เอียวปวจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาขออาสากําจัดทรราชยใหสําเร็จจงได พระเจาเหี้ยนเตสนพระทัย
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 35
ความคิดของเอียวปว ที่จะกําจัดศัตรูราชสมบัติ จึงรับสั่งถามวาแผนการความคิดของทานเปนประการใด เอียวป
วกราบบังคมทูลวาลิฉุย กุยกีมีความสนิทสนมแนนแฟน ไปมาหาสูกันเปนประจําทุกวัน บางวันถึงขนาดนอน
คางอยูบานเดียว กัน ถาสองเสือนี้ยังคงมีความสามัคคีกันเปนอันดียอมยากที่จะกําจัด ดังนั้นขาพระพุทธเจาจะ
คิดการใหสองเสือนี้บาดหมางหักลางกันเอง จากนั้นจึงคอยหาโจโฉเขามากําจัดเสีย
พระเจาเหี้ยนเตรับสั่งถามตอไปวา ทําอยางไรสองเสือนี้จึงจะกัดกันเองจนบาดเจ็บลมตาย เอียวปวถวาย
ความเห็นตอไปวา กุยกีนั้นมีภรรยาที่มีจิตริษยาหึงหวงมากกวาสตรีทั้งปวง ขาพระพุทธเจาจะคิดอานยุยง
ทางดานภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยระแวงสงสัยกันกอนแลวคอยยุยงใหประหัตประหารกันตอไป
พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลดังนั้นแลวทรงเห็นชอบดวย จึงทรงพระอักษรลับใหเอียวปวถือไว เมื่อใด
ที่ลิฉุย กุยกี แตกกันเห็นเปนทีแลวจึงใหเอาพระราชหัตถเลขานี้เรียกโจโฉเขามากําจัดสองเสือเสีย
แผนการครั้งนี้ดูประหนึ่งเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม เพราะทําใหทรราชแตกความสามัคคี ลางผลาญกันเอง แต
กลับเปนแผนการที่ขาดความรอบคอบรอบดานเพราะมิไดคํานึงวาสองทรราชอยูใกลชิดกับฮองเต เสมือนหนึ่ง
อยูในบานเดียวกัน หากสองเสือฟาดฟนกันในบาน ทรัพยสิ่งศฤงคารภายในบานยอมถูกผลแหงการลางผลาญ
นั้นทําลายไปหมดสิ้น ยิ่งกวานั้นหากพลาดพลั้งประการใด เจาบานก็อาจถูกลูกหลงจากการลางผลาญของสอง
เสือจนตองตกอยูในอันตราย นับเปนแผนการที่เสี่ยงภัยตอผูเปนเจาบานคือฮองเตมากที่สุด ไมตางอะไรกับ
การ จุดไฟในบานเพื่อขับไลหนู พลาดพลั้งลงไฟก็ไหมบานจนหมดสิ้น มิหนําซ้ําหนูก็หนีรอดไปไดอีก
แผนการนี้อาจจะไดผลถาหากเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปประพาสตางเมืองเสียกอน แตกระนั้นก็คงยากจะ
สําเร็จเพราะสองเสือ ยอมระมัดระวังควบคุมฮองเตไว จึงไมอาจนับเปนแผนการที่ดี แผนการที่ดีเปนอยางไร
ยอมตองสอดคลองกับสถานการณภาย ในราชสํานักเอง ปมเงื่อนอยูที่การแสวงหาคนดีมีฝมือ ทั้งทาง
สติปญญา ความคิด และกําลังฝมือ ตลอดจนกําลังทหารเพื่อเปนกําลังในการกําจัดทรราช กําลังเหลานี้พรอม
บริบูรณขึ้นแลวนั่นแหละจึงจะกําจัดทรราชยไดสําเร็จ
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวทรงพระเยาว ก็ตกอยูในสภาพการณอยางเดียวกันนี้ แตดวย
พระปรีชาสามารถสมเปนมหาราช ดังนั้นจึงทรงคิดอานทั้งดานสรางเสริมกําลังทุกดานของราชสํานัก และลด
อํานาจบทบาทของฝายอื่นลงอยางเปนขั้นตอน จึงทําใหพระราชอํานาจคอยๆ เพิ่มพูนขึ้นจนเต็มบริบูรณ และ
ทําใหการบานเมืองเปนไปอยางราบรื่นสันติ จนประสบความสําเร็จอันยิ่งใหญ ในภูมิภาคในยุคนั้น
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
อุบายเสี้ยมสองเสือ (ตอนที่ 66)
เอียวปวกับจูฮีออกจากพระตําหนักที่ประทับแลว ก็พากันไปที่บานของเอียวปวเพื่อปรึกษาหารือในรายละเอียด
ของอุบายเสี้ยมสองเสือ จูฮีไดถามเอียวปววา ซึ่งทานมีความคิดที่จะวางอุบายตามที่กราบบังคมทูลนั้นจะทํา
ประการใด เอียวปวจึงบอกจูฮีวา ภรรยาของขาพเจามีความสนิทคุนเคยและไปมาหาสูกับภรรยาของกุยกีอยู
เสมอ เพราะภรรยาของกุยกีนั้นชอบเลนไพ เชนเดียวกับภรรยาของขุนนางอีกหลายคน จึงมักเรียกหาภรรยา
ขาพเจาไปรวมวงไพเปนประจํา ดังนั้นขาพเจาจะใหภรรยาไปยุภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยแตกคอแลว
ลางผลาญกันใหจงได ทานจงวางใจในธุระนี้ ขาพเจาจักคิดอานทําการไมใหเกิด ความเสียหายขึ้นเปนอันขาด
จูฮีฟงคําเอียวปวแลวก็เห็นลูทางที่จะเสี้ยมสองเสือใหลางผลาญกันเอง จึงเปนที่พอใจ แลวลาเอียวปวกลับไป
บานเอียวปวจึงเรียกภรรยามาปรึกษาและอธิบายความทุกขรอนของ พระเจาเหี้ยนเตที่ถูกทรราชขมเหงย่ํายี
ตลอดจนแผนการที่จะยุยง ภรรยาของกุยกีใหภรรยาฟงโดยละเอียด ภรรยาของเอียวปวมีใจภักดีมั่นคงในราช
สํานักจึงเต็มใจทําการสนองพระเดชพระคุณ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
วันรุงขึ้นภรรยาเอียวปวจึงทําทีไปเยี่ยมภรรยากุยกีตามปกติ ครั้นทักทายปราศรัยกันประสาคนคุนเคยแลว
ภรรยาเอียวปวจึงวา บัดนี้ขาพเจามีเรื่องสําคัญจําเปนตองบอกกลาวใหทานทราบ เพราะหากละเสียแลว
ขาพเจาก็จะไดชื่อวาไมซื่อตรงตอมิตร เห็นภยันตรายที่จะเกิดขึ้นแกมิตรผูเปนที่รักเคารพแลวทิ้งธุระเสีย แต
เนื่อง จากเรื่องนี้เปนเรื่องลับเกี่ยวกับชื่อเสียงเกียรติคุณของกุยกีสามีทาน ไมอาจกลาวในที่แจงได ภรรยากุยกี
ไดฟงดังนั้นก็ประหวั่นใจวาเปนเรื่องรายของสามีตัว จึงรีบพาภรรยาเอียวปวเขาไปที่ขางใน แลวเรงเราให
ภรรยาเอียวปวรีบบอกความตามที่ทราบมา ภรรยาเอียวปวจึงแสรงถามแตพอไดยินวา ระยะนี้กุยกีกลับมาคาง
คืนที่บานทุกคืนหรือไม ภรรยากุยกีจึงวาระยะหลังๆ มานี้กุยกีไมคอยไดกลับบาน บอกวาคางที่บานของลิฉุย
เพื่อปรึกษาราชการ ภรรยาเอียวปวจึงกลาวดวยความหวงใยวาทานใจซื่ออยูแตในบาน มิรูความนัย บัดนี้มี
กิตติศัพทซุบซิบกันวา กุยกีสามีทานไปติดพันดวยภรรยาของลิฉุย ดังนั้นถาหากลิฉุยทราบเรื่องเขาวันใดคง จะ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 36
สังหารสามีทานเสียในวันนั้น ขาพเจาเอ็นดูวาทานจะเปนหมาย จึงนําความลับมาบอกใหทานคิดอานปองกัน
แกไขเสียใหทันการณ
ภรรยาเอียวปวอางเอาความสงสารเห็นแกภรรยากุยกีวาจะเปนหมาย ปกปดเจตนาที่แทจริงมิใหเกิดความสงสัย
โดยกลาวความขาม เรื่องความหึงหวงของอิสตรีไป แตภรรยากุยกีฟงความแลวจิตใจหึงหวงหนักหนวงกวา
จิตใจหวงใยกุยกี กระทบเขากับแกนใจถนัดถนี่ อารมณหวงหึงจึงพุงประดังเขาครองใจภรรยากุยกี ครั้นหวน
รําลึกถึงเหตุการณที่ผานมาก็เห็นสมจริงตามคําของภรรยาเอียวปว มิไดเกิดความระแวงสงสัยใดๆ กลับรูสึก
ขอบใจภรรยาเอียวปวที่ภักดีตอน้ํามิตรแหงวงไพ จึงบอกกับภรรยาเอียวปววามินาเลากุยกีจึงไมคอยกลับมา
คางคืนที่บาน ตัวเราสิวางใจวาเปนขุนนางผูใหญมีราชการบาน เมืองเปนอันมากจึงมิไดคิดสงสัย บัดนี้มา
ไตรตรองดูแลวจะมีราชการ อะไรหนักหนาจึงถึงกับตองคางคืนที่บานลิฉุยเปนประจํา การณสมจริง ตามคํา
ซุบซิบนินทาเปนแมนมั่น แลวภรรยากุยกีจึงกลาวขอบใจภรรยาเอียวปวเปนอันมาก จึงวาเรื่องนี้เปนเรื่องลับ
ของสามีเรา อาจกระทบตอหนาที่การงาน ชื่อเสียง และเกียรติคุณ ขอทานอยาไดแพรงพรายใหผูอื่นไดรูอีก
เปนอันขาด เพราะถาหากลวงรูถึงลิฉุย สามีเราก็จักเปนอันตราย
ภรรยาเอียวปวจึงกลาววาทานจงวางใจเถิด ขาพเจาไมมีวันเห็นอื่นไกล ยิ่งไปกวาทานซึ่งเปนมิตรที่เคารพแลว
สวนตัวทานก็เชนเดียวกัน ขอจงอยาแพรงพรายความที่ขาพเจานํามาบอกใหผูใดไดลวงรูเปนอันขาด มิฉะนั้น
แลวขาพเจาก็จะไมสามารถสืบหาขาวคราวมารายงานทานไดอีกตอไป ภรรยากุยกีจึงวาตอไปนี้เราจะหาทาง
หามปรามและกีดกันมิใหกุยกีไปบานลิฉุย ถาหากทานมีขาวคราวความคืบหนาประการใด ก็ใหรีบมาแจงให
ขาพเจาทราบ จักไมลืมพระคุณเลย ภรรยาเอียวปวทําการสําเร็จดังประสงคแลวก็ขอลากลับบาน
อันอารมณหึงหวงของสตรีนั้นมีอยูประจําทั่วทุกตัวคน เปนแตระดับจะมีมากบางนอยบางตามอัธยาศัยของแต
ละคน ไมวาจะมีฐานะตําแหนงเปนเมียเดี่ยว หรือเมียหลวง หรือเมียนอยก็ตามที ถาหากภรรยากุยกีนั้นเปน
ภรรยาโดยชอบดวยกฎหมายของบุคคลอื่นแลวกุยกีไปแยงเอามาครอง ก็ยอมยากที่จะอางหรือแสดงความหึง
หวงสตรีอื่นใหปรากฏไดอยางเต็มที่ เพราะสตรีอื่นยอมมีสิทธิที่จะโตแยงไดวาหามีสิทธิประการใดไม เนื่องจาก
ฐานะตัวเปนเพียงชูของกุยกี เทานั้น และถาหากเกิดการโตแยงขึ้นดังนี้แลว หนากากของกุยกีที่พยายามแสดง
ตอสาธารณชนโดยตลอดมาวาเปนคนมีคุณธรรมก็จะเสื่อมเสียไปสิ้น
แตภรรยาของกุยกีนั้นเปนภรรยาโดยชอบดวยกฎหมาย จึงหึงหวงกุยกีไดโดยไมมีสิ่งใดกีดคั่นใหเปนที่ครหา
ทั้งไมตองหวงใยวาจะมีหญิงใดเที่ยวโพนทะนาเรียกหาใบหยาใหเปนที่ยุงยากลําบากใจ หลังจากนั้นวันสองวัน
ลิฉุยใหคนมาเชิญกุยกีไปกินโตะที่บาน กุยกีก็รับคําเชิญตามปกติ ภรรยากุยกีทราบความจึงหามกุยกีวาบาน
เมืองทุกวันนี้อํานาจสิทธิขาดอยูที่ลิฉุยกับทานเพียงสองคน ตัวลิฉุยนั้นคิดอานจะครองอํานาจไวแตเพียงผู
เดียว หาทางกําจัดทานอยู การที่ทานจะไปกินโตะที่บานลิฉุย ถาหากทานเมาสุราแลวลิฉุยเอายาพิษ ใหทาน
กิน หรือแสรงใหทหารมากอวิวาทกับทานแลวสังหารทานเสีย ทานก็จักไดรับอันตราย ตัวขาพเจาเปนสตรีจะ
พึ่งพาผูใดไดเลา กุยกีเปนคนกลัวเมีย ฟงคําเมียปรามดวยเหตุและผลดังนี้จึงอางวาปวยนอนอยูที่บาน ถึงเวลา
ก็ไมไปกินโตะที่บานลิฉุย ฝายลิฉุยรอกุยกีอยู ครั้นทราบวากุยกีปวยมากินโตะไมไดจึงใหคนสงอาหารที่จะ
เลี้ยงโตะนั้นไปใหกุยกีถึงที่บาน
ภรรยากุยกีเห็นดังนั้นจึงลอบเอายาพิษใสไวในอาหาร แลวเตรียมรอกุยกี ครั้นไดเวลากุยกีและภรรยาก็มาพรอม
กันที่หองอาหาร ภรรยากุยกีไดปรารภขึ้นวาลิฉุยเชิญทานไปกินโตะที่บาน ครั้นทานไมไปยังอุตสาหสงโตะมา
ใหถึงบาน ขาพเจาสงสัยวาเหตุใดลิฉุยจึงอยากใหทานกินโตะนั้น ดังนั้นเราควรพิสูจนอาหารที่ลิฉุยสงมานี้
เสียกอน กุยกีก็ตามใจภรรยา ภรรยากุยกีจึงแบงเอาอาหารนั้นใหสุนัขกิน สุนัขกินแลวก็ตาย กุยกีเห็นเชนนั้นก็
ตกใจคิดไมถึงวาอาหารที่ลิฉุยสงมาจะใสยาพิษ ภรรยากุยกีจึงแสรงทําตกใจตามไปดวยแลววาเดชะบุญทาน
ยังไมสิ้น ดังนั้นเทพยดาจึงบันดาลใหทานพบเหตุเสียกอน กุยกีฟงคําภรรยา แลวก็เห็นจริงจึงเกิดความคิด
ระแวงลิฉุยตั้งแตบัดนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
รุงขึ้นอีกสองวันหลังจากออกจากที่เฝาแลว ลิฉุยก็ชวนกุยกีไปปรึกษาราชการที่จวน เสร็จแลวก็ชวนกินโตะ
ครั้นกลับมาถึงบานกุยกี มีอาการปวดทอง ภรรยากุยกีจึงถามวาออกจากที่เฝาวันนี้แลวทานไปที่ไหนมา กุยกีจึง
เลาความที่ลิฉุยชวนไปบานแลวเลี้ยงโตะ ภรรยากุยกีก็ทําเปนตกใจแลวเอายาถอนพิษมากรอกปากกุยกี ครั้น
กุยกีกินยาถอนพิษซึ่งมีคุณสมบัติที่ทําใหคนอาเจียนแลว กุยกีก็อาเจียนออกมาเปนอันมาก อาการปวดทองก็
หาย กุยกีจึงเชื่อโดยสนิทใจวาลิฉุยมุงรายวางยาพิษคิดสังหารตัวเพื่อครองอํานาจไวแตเพียงผูเดียวสมจริง
ตามที่ภรรยาไดตักเตือนมาตั้งแตตนก็โกรธลิฉุย แลวคิดวาเมื่อลิฉุยคิดอานกําจัดเราเชนนี้แลว หากละไวนาน
ไปความคิดของลิฉุยก็คงสัมฤทธิผลขึ้นสักวันหนึ่ง จําเปนที่เราจะตองสังหารลิฉุยเสียกอน คิดดังนี้แลวจึงสั่งให
จัดทหารเตรียมจะยกไปลอมบานลิฉุยเพื่อ จับลิฉุยฆาเสีย
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 37
ขณะนั้นเอียวปวและจูฮีเฝาติดตามสถานการณอยูอยางใกลชิด ครั้นทราบเหตุการณที่กุยกีสั่งใหจัดเตรียม
ทหารเพื่อจะยกไปบานลิฉุย จึงใหคนรีบลอบไปบอกแกลิฉุยวากุยกีกําลังเตรียมการยึดอํานาจแผนดินไวแตผู
เดียว ขณะนี้กําลังเตรียมทหารเพื่อจะยกมาจับลิฉุยฆาเสีย ลิฉุยไดทราบดังนั้นก็โกรธ คิดวาตัวเราไมเคยคิดราย
ตอกุยกี ไมไดทําผิดตอกุยกีแมแตนอย แตกลับถูกกุยกีคิดทรยศ จะยึดอํานาจ แลวฆาตัวเราเสีย จําเปนที่เรา
จะตองฆากุยกีเสียกอนแลวจึงสั่งใหลิเซียมผูเปนหลานยกทหารกองหนึ่งไปอารักขาพระเจาเหี้ยนเต ตัวลิฉุย
เองยกทหารอีกกองหนึ่งจะไปที่บานของกุยกี ครั้นลิฉุยยกมาถึงกลางทางพบกับกุยกียกทหารมา ลิฉุยก็ยิ่ง
มั่นใจวากุยกีคิดทรยศตอตัวเอง จึงสั่งทหารใหเขาตีทหารของกุยกีจับตัวกุยกีใหไดไมวาเปนหรือตาย ทหารทั้ง
สองฝายไดตอสูกันเปนสามารถ ครั้นออนลาลงทั้งสองฝายจึงตางถอยทหารออกมา กุยกีถอยทหารมาแลวคิด
ขึ้นไดวาพระเจาเหี้ยนเตเปนกลไกสําคัญแหงอํานาจรัฐ ใครยึดฮองเตไวไดก็จะมีความชอบธรรมที่จะครองและ
ใชอํานาจรัฐตอไป จึงสั่งทหารใหเคลื่อนไปทางพระราชวัง พอดีสวนกับลิเซียมหลานกุยกีและกาเซี่ยง คุม
ขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเต พระมเหสี พระสนมและขันทีทั้งปวงจะหนีออกจากพระราชวังไปที่กองทหารของลิ
ฉุย กุยกีจึงสั่งทหารใหระดมยิงเกาทัณฑใสขบวนเสด็จทหารของลิเซียม พระสนม นางกํานัลและขันทีหลาย
คนถูกเกาทัณฑของทหารกุยกีลมตายลง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเหตุ การณดังนั้นก็ทรงตกพระทัยมิรูที่
จะทําประการใด
ฝายลิฉุยครั้นไดรับรายงานวากุยกีถอนทหารแลวยกไปลอมขบวนเสด็จ จึงยกทหารไลตามมาและลอมทหาร
กุยกีไว ทหารของทั้งสองฝายไดหันเขาตอสูกันอีกครั้งหนึ่ง กุยกีเห็นวาสูไมไดก็ยกทหาร เขาไปในพระราชวัง
ลิฉุยจึงเขาถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตและนําขบวนไปตั้งพลับพลาที่ประทับชั่วคราวอยูนอกพระราชวัง
และใหทหารไปสืบขาวในพระราชวังวากุยกีไดทําประการใด ดานกุยกีเมื่อยกทหารเขาไปในพระราชวังแลวยึด
เอาทรัพยสิน เงินทองในทองพระคลังหลวง จับเอาสาวสนมนางกํานัลและขาราชสํานักไวเปนจํานวนมาก แลว
ใหทหารเอาไฟเผาพระราชวังเสียทั้งสิ้น กุยกีแมยังมีตําแหนงเปนขุนนางผูใหญ แตบัดนี้กระทําการเยี่ยงโจรไป
เสียแลว แตการตัดสินใจเผาพระราชวังนั้นเปนเรื่องไรเหตุ ผลสิ้นเชิง แตจะหวังเอาเหตุผลกับคนไรเหตุผล
แบบกุยกีนั้นยอมหวังอะไรไมได เหมือนกับการที่จะหวังเอาความสํานึกรับผิดชอบจาก นักการเมืองที่ทุศีล ไร
คุณธรรมก็ยอมหวังอะไรไมได
บรรดาขุนนางขาราชการที่เหลือตางพากันหนีเอาตัวรอด บางก็พากันไปตามเสด็จพระเจาเหี้ยนเต บางก็หนี
กลับภูมิลําเนาเดิม ฝายกุยกีครั้นรูขาววาลิฉุยไดถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตอยู นอกพระราชวังก็ยกทหาร
ตามไปเพื่อจะชิงเอาพระเจาเหี้ยนเตมาไวใน อารักขาเสียเอง ทหารของกุยกีปะทะกับทหารของลิฉุยแตสูทหาร
ของ ลิฉุยไมได จึงถอยออกมาตั้งคายคุมเชิงกันอยู ฝายลิฉุยครั้นเห็นไฟไหมพระราชวังจนหมดสิ้น จึงให
อัญเชิญขบวนเสด็จไปยังเมืองหลวงแหงที่สองที่ตั๋งโตะสรางไว แตเนื่องจากเมืองหลวงแหงที่สองก็ทรุดโทรม
และเสบียงไมพอเพียง ดังนั้นลิฉุยจึง กําชับลิเซียมผูหลานไมใหสงอาหารแกบรรดาพระสนม นางกํานัลและ
ขันที คงใหสงถวายเฉพาะพระเจาเหี้ยนเตและพระมเหสีเทานั้น
อุบายเสี้ยมสองเสือใหกัดกันในบานตัวเองไดสงผลใหเสือกัดกันก็จริงอยู แตจากการที่สองเสือฟาดฟนกันเอง
นั้น ยอมทําใหบรรดา ทรัพยสินขาวของภายในบานฉิบหายวายวอดจนหมดสิ้น แมกระทั่งเจาบานก็ตองไรที่อยู
ตกเปนผูระเหเรรอนตั้งแตบัดนั้น ถึงขณะนี้อุบาย เสี้ยมสองเสือจึงกลายเปนแผนการเผาบานตัวเองเพื่อไลหนู
ที่ไมเพียง แตจะกําจัดหนูไมไดเทานั้น ไฟกลับเผาผลาญบานจนวอดวายไปหมด สิ้น ทําใหเดือดรอนและตก
อยูในความเสี่ยงแหงหายนะเพิ่มขึ้น
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
มังกรนอยระหวางปากหมี ปาก สือ (ตอนที่ 67)เ
พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเห็นขาราชบริพารอดอยากก็มีน้ําพระทัยสงสาร จึงมีรับสั่งใหลิฉุยจัดอาหารมอบ
แกขาราชบริพาร ลิฉุยทราบความตามรับสั่งแลวก็โกรธหาวาพระเจาเหี้ยนเตไมเห็น ใจทหาร ทรงเอาพระทัยใส
แตเฉพาะขาราชบริพาร จึงไมดําเนินการ ตามรับสั่ง มิหนําซ้ํายังใหเอาอาหารบูดขึ้นไปถวาย พระเจาเหี้ยนเต
เห็นลิฉุยดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ทรงพระพิโรธแตก็ไมรูที่จะทําประการใด เอียวปวเห็นเชนนั้นจึงกราบ
บังคมทูลวาในสถานการณเชนนี้ขอ จงทรงอดออมพระทัยไวกอน พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงแลวก็กันแสงแตมิได
ตรัสประการใด
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฝายกุยกีครั้นทราบวาลิฉุยคุมขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเตยกไป เมืองหลวงแหงที่สองก็ยกทหารตามมา ลิฉุยรู
วากุยกียกทหารมาจึงสั่งใหยกทหารออกไปรบดวยกุยกี ทั้งสองฝายตางดาวาโจมตีกันและกันแลวลิฉุยจึงทา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 38
กุยกีรบกันตัวตอตัวเพื่อมิใหยากลําบากแกทหาร ทั้งสองฝายรบกันไดสิบเพลงก็พอดีเอียวปวและขุนนางเกือบ
หกสิบคนไดออกมาหามทั้งสองฝายใหหยุดรบกัน ลิฉุยจึงยกทหารกลับเขาเมืองหลวงแหงที่สอง บรรดาขุน
นางก็พากันไปหากุยกีเพื่อ เจรจาใหกุยกีถอนทหารกลับไป
กุยกีเห็นขบวนขุนนางมาพบเพื่อจะเกลี้ยกลอมจึงสั่งใหจับบรรดาขุนนางทั้งนั้นไวเปนตัวประกันเพื่อตอรองกับลิ
ฉุย เอียวปวจึง ถามกุยกีวาบัดนี้ลิฉุยคุมเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชสํานักไว สวน ฝายทานจับเอาบรรดาขุน
นางไวเชนนี้ทานจะคิดอานประการใด กุยกีไดฟงก็โกรธที่เอียวปวรูทันจึงชักกระบี่จะฆาเอียวปวเสีย แต เอียว
ปดทหารเอกของกุยกี ซึ่งเปนคนแซเดียวกับเอียวปวไดหามไวอางวาเอียวปวเปนขุนนางผูใหญ จะฆาเสียยอม
ไมสมควร เพราะจะเกิดคําครหาวาทานไมรูธรรมเนียม คนทั้งปวงก็จะดูหมิ่นทาน กุยกีซึ่งบัดนี้เปนโจรไป
แลวแตมีปมดอยเรื่องการศึกษาอยูในใจวาผูคนทั้งปวงจะหาวาไมมีความรูในขนบธรรมเนียมจึงออนลง
เอียวปดจึงวาควรจะปลอยเอียวปวและจูฮีซึ่งเปนขุนนางผูใหญทั้งสองคน เพื่อใหเปนทูตในการเจรจาระหวาง
ทานกับลิฉุย กุยกี เห็นชอบดวยจึงสั่งใหปลอย เอียวปวและจูฮีเสีย แตขุนนางนอกจากนี้ใหจับขังไว เอียวปว
และจูฮีสองขุนนางเจาของแผนเผาบานเพื่อกําจัดหนู ครั้นถูกปลอยออกมาแลวเกิดความละอายแกใจที่
ความคิดตัวไดกอ ใหเกิดความเดือดรอนเสียหายกับฮองเต ไมกลากลับเขาไปในเมืองหลวงแหงที่สองเพื่อเฝา
พระเจาเหี้ยนเตอีก จึงชวนกันกลับไปบาน ระหวางทางปรึกษากันแลวหาทางออกไมไดตางสํานึกวาที่พระเจา
เหี้ยนเตทรงตกอยูในสภาพระกําลําบากและเสี่ยงตายเชนนี้เปนเพราะความคิดของเราทั้งสองคนจึงกอดคอกัน
รองไหจนสลบลงทั้งคู แตจูฮีนั้นอาการโรคหัวใจกําเริบ และถึงแกความตายในที่นั้น
ฝายเอียวกีขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตเห็นพระเจาเหี้ยนเตตกอยู ในความทุกขระกําลําบากจึงเขาเฝาแลวกราบ
ทูลวา ลิฉุย กุยกี ไดยกทหารไปรบกันทุกวัน ติดตอกันถึงสองเดือนเศษแลว ทหารของทั้งสองฝายบาดเจ็บลม
ตายลงเปนอันมาก และบัดนี้กาเซี่ยงที่ปรึกษาของลิฉุยไมพอใจลิฉุยที่ไมฟงคําปรึกษาดังแตกอน หันไปเชื่อ
พอมด หมอผี จึงขอถวายคําแนะนําวาใหโปรดเกลาฯ เรียกกาเซี่ยงมาเฝาเพื่อปรึกษาราชการ ถาหากกาเซี่ยง
เขาสวามิภักดิ์ตอราชสํานักแลวก็จะไดคิดอานกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป นี่ก็อีกคนหนึ่งที่ไมรูความสัมพันธ
ระหวางกาเซี่ยงกับลิฉุยที่ผูกพันลึกซึ้งกันมายาวนานแลวเสือกถวายคําปรึกษาใหฮองเตเรียกคนชนิดนี้เขามา
ปรึกษา จึงกลายเปนวาอาศัยความคิดของศัตรูมาชี้นําทาง ไมเพียงแตจะไมเกิดผลสําเร็จใดๆ เทานั้น หาก
จะตองเสี่ยงตอการเผชิญกับวิกฤติที่รายแรงตอไปอีก
เหมือนกับรัฐบาลบางรัฐบาลที่มองขามคนของตัวไปหลงเอาพรรคพวกของศัตรูมาทําการ ในที่สุดก็ตองตกจาก
อํานาจไปในเวลาไมชาไมนาน พระเจาเหี้ยนเตทรงพระเยาวนัก ทรงฟงคําเอียวกีแลวก็เห็นชอบจึงโปรดให
กาเซี่ยงเขาเฝาเปนการสวนพระองค ทรงพระกันแสง แลวตรัสกับกาเซี่ยงวาบัดนี้เราไดทุกขเวทนานัก เห็นวา
ทานมีน้ําใจ สัตยซื่อและมีสติปญญาจึงขอใหชวยคิดอานหาหนทางชวยเหลือ เราใหพนทุกขดวย กาเซี่ยงฟง
รับสั่งแลวกราบบังคมทูลวา ทุกวันนี้ขาพระพุทธเจาก็คิดอานที่จะสนองพระเดชพระคุณอยู แตขณะนี้
สถานการณยังไมกระจาง จึงขอเวลาคิดอานวางแผนแลวจะกราบบังคมทูลในภายหลัง ขอพระองคอยาได
แพรงพรายความทั้งนี้ใหผูอื่นทราบ พระเจาเหี้ยนเต ทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวก็ทรงเบาพระทัยลง
ตอมาลิฉุยไดเขามาเฝาแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กุยกีเปนขบถ จะชิงเอาราชสมบัติ แตบุญบารมีในใตฝา
ละอองธุลีพระบาทยังมากอยู ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงอัญเชิญเสด็จออกมาไดทันทวงทีจึงไมเปนอันตราย พระ
เจาเหี้ยนเตทรงขอบใจลิฉุยแลวลิฉุยก็ถวายบังคมลากลับออกไป ถัดจากนั้นหองฮูเหียบ ขุนนางมาขอเขาเฝา
พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นวาเปนคนบานเดียวกับลิฉุยและเปนผูที่กุยกีใหความเกรงใจ จึงทรงมีพระราชหัตถเลขา
ใหหองฮูเหียบนําไปมอบแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบกัน แลวรวมกันทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขสืบไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
หองฮูเหียบรับพระราชหัตถเลขาแลวจึงไปหากุยกี แจงความตามพระราชประสงคใหทราบ ครั้นกุยกีทราบ
ความตามพระราชหัตถเลขาแลวตอบตกลงที่จะเลิกรบกับลิฉุย แตขอฟงความขางลิฉุยกอน และขอใหหองฮู
เหียบบอกลิฉุยใหปลอยฮองเตและขาราชบริพารเสีย ตัวเองจะปลอยขุนนางที่กักขังไวจากนั้นจะไดรวมกันทํานุ
บํารุงแผนดินตามพระราชประสงคตอไป หองฮูเหียบมีความยินดียิ่งนัก จึงออกมาและไปยังคายลิฉุย มอบพระ
ราชหัตถเลขาและแจงความตามที่ไดพบกับกุยกีใหลิฉุยทราบทุกประการ ลิฉุยจึงวาเราทําความชอบทํานุบํารุง
แผนดินมากวาสี่ปแลว แตกุยกีนั้นเปนแคคนเลี้ยงมา เราสูอุตสาหสงเสริมจนไดดีถึงเพียงนี้ กลับมาคิดทรยศ
ตอเรา ดังนั้นเราจะฆากุยกีเสียใหได หองฮูเหียบเห็นลิฉุยมีทาทีแข็งกราวจึงวาแผนดินนับถึงบัดนี้ยังไมปกติสุข
จะถือเอาความชอบขางใดนั้นยังไมไดกอน หากควรถือเอาการสรางความสงบสุขของบานเมืองใหบังเกิดขึ้น
นั่นแลวจึงจะถือเปนความชอบ ตัวทานและบรรดาญาติพี่นองไดรับพระมหากรุณาธิคุณใหเปนขุนนางผูใหญ แต
ตัวทานกลับจับเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชบริพารกักขังไว กุยกีจึงจับเอาบรรดาขุนนางไวเปน ตัวประกันบาง
ตางคนตางผิดเสมอกัน บัดนี้กุยกียอมปฏิบัติตามพระราชประสงคแลว ขอใหทานใครครวญจงดี ลิฉุยฟงคําหอง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 39
ฮูเหียบก็โกรธชักกระบี่ออกจะฆาหองฮูเหียบเสีย แตถูกบรรดาแมทัพนายกองหามไววาหองฮูเหียบเปนผูถือ
รับสั่งจะประหารเสียยอมไมชอบ ลิฉุยฟงคําทัดทานแลวก็ปลอยหองฮูเหียบกลับไป
หองฮูเหียบทําการไมสําเร็จดังที่ไดรับมอบหมายจึงโกรธลิฉุยเปนอันมาก ขณะออกมาก็รองดาลิฉุยเปนขอ
รายแรง บรรดาทหารก็หามไมใหหองฮูเหียบรองดาอีกตอไป ดวยเกรงวาลิฉุยจะตามมาฆาเสียแลวรีบพาหองฮู
เหียบออกมาจากคายของลิฉุย พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความก็เปนหวงหองฮูเหียบจะเปนอันตราย จึงโปรด
ใหหองฮูเหียบเดินทางไปอยูเมืองซีหลง หองฮูเหียบ รับรับสั่งแลวก็กราบถวายบังคมลาออกมา แตจิตใจนั้นยัง
คุมแคนลิฉุยอยูเปนอันมาก จึงไปชักชวนทหารของลิฉุยซึ่งเปนคนบานเดียวกันวาลิฉุยเปนกบฏตอราชสํานัก
หากขืนอยูดวยลิฉุยก็จะมีอันตราย ผูใดมีความจงรักภักดีตอราชวงศก็ใหตามเราไปอยูเมืองซีหลงหรือกลับบาน
เดิมเสียเถิด
บรรดาทหารของลิฉุยฟงแลวก็เชื่อตามหองฮูเหียบจึงพากันหนี ทหารติดตามหองฮูเหียบไปเปนจํานวนมาก
ศัตรูของลิฉุยซึ่งเปนเพียงหนูตัวเล็กๆ แบบหองฮูเหียบนี้ไดทําใหกําลังทหารของลิฉุยออนแอลงเปนอันมาก
ครั้นลิฉุยทราบความที่หองฮูเหียบชวนทหารใหหนีไปก็โกรธ สั่งใหอองเฉียงยกทหารไลตามไปฆาบรรดาคน
เหลานั้นเสีย อองเฉียง รับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากคาย แตมาไดพักหนึ่งก็คิดขึ้นวาหองฮูเหียบเปนขา
แผนดิน ถือความสัตยสุจริตตอราชสํานัก บัดนี้ตองตกทุกขรอนไปจากเมืองหลวง หากเราฆาเสียความผิดก็จะ
ตกอยูแกตัวเรา หรือหากจะจับไปมอบแกลิฉุยก็คงจะถูกลิฉุยประหารเสีย เราก็จะไดชื่อวาทรยศตอแผนดิน
อองเฉียงคิดดังนั้นแลว จึงแสรงยกทหารเบนไปเสียอีกทางหนึ่ง จึงไมพบกับหองฮูเหียบ ครั้นทําทีติดตามไป
ระยะหนึ่งแลวจึงพาทหาร กลับมารายงานใหลิฉุยทราบวาตามไปไมพบหองฮูเหียบ ลิฉุยก็ไมไดวาประการใด
ฝายกาเซี่ยงรูวาทหารของลิฉุยหนีราชการเปนจํานวนมาก จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวา ขอใหเอาใจลิ
ฉุยตั้งเปนอัครมหา เสนาบดีแลวคอยคิดการตอไป
ขอเสนอของกาเซี่ยงดังนี้ไมเห็นที่จะเปนประโยชนใดๆ เพราะคนแบบลิฉุยนั้นไมรูจักบุญคุณคน และไมอิ่มใน
ยศศักดิ์วาสนา ฐานะและตําแหนงในปจจุบันก็สูงสงแตยังคงประพฤติตนเยี่ยงโจร ถึงจะใหตําแหนงยศศักดิ์
เพิ่มขึ้นอีกก็ไมเห็นที่จะเปลี่ยนความคิดจิตใจของ ลิฉุยใหกลับมาจงรักภักดีตอพระมหากษัตริยได ไมตางกับ
การสุมฟน เขาไปในกองไฟ ยอมไมอาจทําใหไฟดับลงได มีแตจะทําใหเพลิงลุกโชติชวงเผาผลาญรุนแรง
ยิ่งขึ้น นี่จึงเปนขอเสนอของนกสองหัวที่เอาใจทั้งลิฉุยและสรางความหวังใหกับฮองเต โดยหวังประโยชนของ
ผูเสนอเปนสําคัญ ดังนั้นใคร มีที่ปรึกษาแบบนี้จึงหาคุณประโยชนใดๆ ไมได มีแตจะสรางความฉิบหายให
เกิดขึ้นเทานั้น แตพระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวทรง หวังวาจะเปลี่ยนความคิดจิตใจคนแบบลิฉุยได
จึงโปรดเกลาฯ แตงตั้งตามเสนอ
แตความคิดที่จะเอาความชอบของกาเซี่ยงกลับไมบรรลุผล เพราะเมื่อลิฉุยไดรับพระบรมราชโองการโปรด
เกลาฯ แตงตั้งเปนอัครมหาเสนาบดีแลว แทนที่จะคิดวาเปนเพราะขอเสนอของกาเซี่ยง แลวคิดตอบแทน
บุญคุณปูนบําเหน็จใหกาเซี่ยงกลับคิดวายศฐาบรรดาศักดิ์ที่ไดมานั้นเปนผลมาจากพิธีกรรมของพอมดหมอผี
ซึ่งเปน ที่ปรึกษาสวนตัวอีกกลุมหนึ่ง จึงเอาทรัพยสินเงินทองเปนอันมากไปกราบไหวตอบแทนที่ปรึกษาพอมด
หมอผีเหลานั้น
ฝายเอียวฮองและซองโกสองนายทหารของลิฉุยเห็นลิฉุยไดดีมีตําแหนงสูงขึ้นแลวแทนที่จะใหรางวัล
ความชอบกับทหารที่ยากลําบากเปนตายมาดวยกัน กลับไปใหรางวัลความชอบกับพวกพอมด หมอผีก็โกรธลิ
ฉุย ปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับเจานายแบบนี้หามีความเจริญอันใดไม ควรจะกําจัดลิฉุยเสีย ทําความชอบ
ไวในพระเจาเหี้ยนเตจะดีกวา ปรึกษากันแลวจึงวางแผนกันวาใหซองโกเขาไปสังเกตการณอยูขางในเมือง
ตัวเอียวฮองจะคุมทหารไวใหพรอมที่นอกเมือง ถาปลอดคนดีแลวใหซองโกจุดพลุสัญญาณ เอียวฮองจะยก
ทหารเขาไปจับเอา ลิฉุยฆาเสีย วางแผนกันเสร็จแลวทั้งสองนายทหารก็แยกยายกันไปดําเนินการ ในขณะที่
เอียวฮองจัดเตรียมทหารอยูที่นอกเมืองนั้น ทหารของเอียวฮองคนหนึ่งซึ่งภักดีตอลิฉุยเห็นเอียวฮองจะทรยศ
จึงลอบนําความ ที่เอียวฮองกับซองโกคบคิดกันไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธสั่งทหารใหไปจับ
ตัวซองโกซึ่งอยูในเมืองไปประหารแลวรีบยกทหารออกไปยังที่เอียวฮองเตรียมทหารอยูนอกเมืองนั้น ทหาร
ของทั้งสองฝายปะทะตะลุมบอนกันอยางดุเดือด เอียวฮองเห็นวาจะสูลิฉุยไมไดก็พาทหารหนีไป ตั้งมั่นอยูที่
เขาลูกหนึ่ง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิฉุยและกุยกียังคงชิงอํานาจกันตอไปอยางดุเดือด และยกทหารออกมารบกันทุกวันจนทหารของทั้งสองฝาย
บาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก แตละฝายเหลือทหารไมถึงหมื่นคน ในขณะที่ทหารของลิฉุย กุยกีกําลังรบ
กันอยางบาคลั่งในวันหนึ่ง ก็เห็นทหารเตียวเจยกทหารจํานวนมากมาจากเมืองฮองหลง มาตั้งคายอยูใกลกับ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 40
เมืองหลวงแหงที่สองนั้น แลวสงทหารมาแจงแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบตอกัน หากฝายใดไมฟงคําเตียวเจก็จะเขา
ดวยกับอีกฝายหนึ่ง แลวจะโจมตีฝายที่ไมเชื่อฟงนั้นใหพินาศไป
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
โจรปลนควายไมรายเทาโจรขายชาติ (ตอน 68)
เตียวเจแมจะเปนหนึ่งในสี่ทหารเอกของตั๋งโตะที่รวมการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกีมาตั้งแตตน และถูกลิฉุย กุยกี
แยงชิงอํานาจในเมืองหลวงไวแตเพียงสองคน มิหนําซ้ํายังขับไลไสสงใหออกไปอยู เมืองฮองหลง แตเตียวเจ
นั้นยังเปนคนเห็นแกพวก ไมผูกใจเจ็บถือ พยาบาทเอากับเพื่อนรวมการ ยอมทําตามใจพวก โดยไมเคยปริปาก
ครั้นเตียวเจทราบวาลิฉุย กุยกี บาดหมางลางผลาญกันเองจนเกิดเปนจลาจลขึ้นในบานเมืองจึงยกทหารมาจาก
เมืองฮองหลงหามทัพของลิฉุย กุยกี ไมใหรบกันอีกตอไปหวังจะสรางความปรองดองใหเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต
เตียวเจยอมรูดีวาคนแบบลิฉุย กุยกีนั้นจะพูดกันแตปากเปลายอมไมไดผล อันคนเรานั้น บางสามารถพูดจากัน
ดวยเหตุดวยผล บางสามารถตกลงกันไดดวยผลประโยชน บางพูดจากันรูเรื่องโดยอาศัยสุราเมรัยหรือสตรี แต
กับบางคนบางกลุมก็ตองพูดกันดวยกําลังและตองเปนกําลังอาวุธ และคนแบบลิฉุยกุยกีนั้นไมอาจใชวิธีพูดจา
กันใหรูเรื่อง ดวยประการอื่นนอกจากดวยกําลังทหารเทานั้น
ดังนั้นเมื่อจะพูดจาใหลิฉุย กุยกีเลิกรบกัน เตียวเจจึงตองยกกําลังทหารจํานวนมากมาดวย และแจงตอทั้งสอง
คนวาถาหากฝายใดฝายหนึ่งไมทําตาม เตียวเจก็จะเขาขางอีกฝายหนึ่ง ดังนี้แลวการพูดจากับคนแบบลิฉุย
กุยกีจึงจะไมเปนการเสียเวลาเปลา ฝายลิฉุยและกุยกีครั้นไดทราบความที่เตียวเจแจงใหเลิกรบกันแลว ก็เกรง
กําลังทหารของเตียวเจจึงยินยอมเลิกรบกันแตโดยดี และปลอยขุนนางที่กักขังไวนั้น ดังนั้นเตียวเจจึงสั่งทหาร
ใหรักษาคายไวนอกเมืองใหมั่นคง แลวทําหนังสือกราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเต กราบทูลถวายรายงานให
ทรงทราบทุกประการ
พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความตามคํากราบบังคมทูลแลวทรง มีพระทัยยินดียิ่งนัก และทรงเห็นวาเตียวเจทํา
ความชอบไวกับแผน ดินจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหเตียวเจเปนขุนนางผูใหญฝายทหาร เตียวเจรับพระบรมราช
โองการแตงตั้งแลวจึงเขาเฝากราบบังคมทูลวา เมืองหลวงแหงที่สองนี้ไมเหมาะสมกับพระเกียรติของ
พระมหากษัตริย เพราะสิ่งกอสรางตางๆ ที่ตั๋งโตะไดทําขึ้นนั้นบัดนี้ทรุดโทรม จึงขออัญเชิญเสด็จไปประทับ
ชั่วคราวที่เมืองฮองหลง เพื่อบูรณะเมืองเตียงอันเปนเมืองหลวงใหมตอไป พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็น ชอบและ
โปรดฯใหเตียวเจยกทหารไปเมืองเตียงอันเพื่อทําการบูรณะ ใหสมบูรณดังเดิม แลวพระเจาเหี้ยนเตจะเสด็จ
ตามไปในภายหลัง
เตียวเจรับรับสั่งแลวก็ออกมายกทหารไปเมืองเตียงอัน ฝายขุนนางตางๆ ครั้นไดรับการปลอยตัวแลวก็พากันไป
เขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวาถาขืนอยูในเมืองนี้ตอไปก็จะเปนอันตราย เพราะลิฉุย กุยกี สองคนนี้
ความคิดอานไมอยูกับรองกับรอย และเชื่อถืออันใดไมได วันหนึ่งคิดอยางหนึ่งทําอยางหนึ่ง เปลี่ยนแปลงไป
ทุกวันเวลา ดังนั้นหากเปลี่ยนความคิดขึ้นในวันเวลาใด อันตรายก็จะเกิดขึ้นอีก บรรดาขุนนางเหลานั้นจึง
รวมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตใหไปประทับที่เมืองฮองหลงกอนเปนการชั่วคราว พระเจา
เหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ทรงเห็นตาม จึงรับสั่งให จัดขบวนเสด็จ แลวเสด็จออกจากเมืองหลวงแหง
ที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลงพรอมดวยขุนนางขาราชการทั้งปวง
ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงเชิงสะพานแหงหนึ่งก็ถูกทหารของ กุยกีสกัดไว เนื่องจากไดรับคําสั่งจากกุยกีให
มาตั้งมั่นรักษาสะพาน เพื่อปองกันมิใหทหารกองอื่นๆ ของลิฉุยยกเขามาชวยลิฉุยได บรรดาขุนนางเห็นทหาร
ของกุยกีคุมสะพานกั้นขบวนเสด็จไวจึง เขาไปเจรจาแจงความใหทราบวานี่เปนขบวนเสด็จของฮองเต พวกเจา
มาขัดขวางไวจะเปนกบฏหรือ ความจริงบรรดาขุนนางเหลานั้นเห็นทหารมาสกัดอยูบนสะพานขางหนาตางก็มี
ความตกใจ แตทําใจดีสูเสือเพราะเห็นวาเปนทหารชั้นผูนอย ยอมมีความยําเกรงในพระบารมี จึงใชวิชาเจรจา
ของขุนนางกลาวความใหญขูวาการขวางขบวนเสด็จเปนการกบฏทหารของกุยกีซึ่งรักษาสะพานอยูนั้นไดรับ
คําสั่งมาแตเพียงใหมา สกัดกองทหารอื่นๆ ของลิฉุย ไมคิดวาจะมีขบวนเสด็จผานมาทางนี้ ก็เกิดความลังเลแต
ดวยความเปนทหารอาชีพและเกรงในพระบารมีของฮองเต แตไมแนใจวาจะเปนเรื่องจริงหรือเรื่องลวงจึงถาม
วาถาเชนนั้นฮองเตอยูที่ไหน พระเจาเหี้ยนเตประทับอยูในรถพระที่นั่ง ทรงสดับคําโตตอบของทหารกุยกีแลว
จึงทรงเปดมูลี่รถพระที่นั่งแลวโบกพระหัตถใหกับทหารของกุยกี ฝายทหารของกุยกีเห็นพระเจาเหี้ยนเต
ประทับอยูในรถพระที่นั่งก็ตกใจ รีบคุกเขาลงถวายบังคมแลวถอยลงมาจากสะพานเปดทางใหขบวนเสด็จผาน
ไปแลวไปที่คายของกุยกีรายงานความใหกุยกีทราบ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 41
กุยกีทราบความแลวก็โกรธหาวาทหารของตัวไมฟงคําสั่ง ทั้งๆ ที่ไมไดมีคําสั่งใหสกัดขบวนเสด็จแตประการใด
จึงสั่งประหารทหารที่รักษาสะพานนั้นเสีย แลวรีบยกทหารตามขบวนเสด็จไป ฝายเอียวฮองซึ่งหนีจากลิฉุย
เพราะคบคิดกับซองโกสังหารลิฉุยไมสําเร็จ แลวไปตั้งมั่นอยูที่เนินเขาแหงหนึ่ง ครั้นไดทราบวาพระเจา
เหี้ยนเตเสด็จออกจากเมืองหลวงแหงที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลง ก็ยกทหารมาเพื่อถวายการอารักขาเอียว
ฮองและทหารยกมาใกลขบวนเสด็จก็เห็นทหารของกุยกียกไลตามขบวนเสด็จมาจึงเขาสกัดไว ทั้งสองฝายได
ตอสูกันเปนสามารถ ซิหลงทหารของเอียวฮองเห็นซุยยงทหารของกุยกีรบฝาเขามาหาเอียวฮองจึงชักมาเขา
สกัดซุยยงไว รบกันไดสามเพลงซิหลงก็ใชขวานฟนซุยยงตกมาตาย ทหารของเอียวฮองไดทีก็ไลโจมตีทหาร
ของกุยกีแตกพายไป เอียวฮองจึงพาซิหลงและทหารมาเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต ถวายบังคมกราบทูลรายงาน
แลวพระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจ และรับสั่งใหเอียวฮอง ซิหลง และทหารที่ยกมานั้นอารักขาขบวนเสด็จ ครั้นรุง
เชากุยกีไดรวบรวมทหารจํานวนหนึ่ง จึงยกตามมาอีกหวังจะจับตัวพระเจาเหี้ยนเต กุยกียกทหารทันขบวนเสด็จ
จึงใหเขาลอมขบวนเสด็จไว
ในขณะนั้นตังสินขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตไดรวบรวมทหารที่มีความจงรักภักดีตอราชสํานักไดจํานวนหนึ่งได
ทราบขาว การเสด็จของพระเจาเหี้ยนเตจึงยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารของกุยกีลอมขบวนเสด็จอยู จึงสั่ง
ทหารใหลอมทหารของกุยกีไวอีกชั้นหนึ่ง เอียวฮอง ซิหลงและทหารซึ่งอารักขาขบวนเสด็จและตกอยูในวง
ลอมชั้นใน ครั้นเห็นตังสินและทหารลอมทหารกุยกีไวอยูชั้นนอก จึงตีกระหนาบทหารของกุยกีออกมา ในขณะ
ที่ทหารของตังสินก็ตีกระหนาบเขาไป ทหารของกุยกีถูกตีกระหนาบพรอมกันทั้งสองดาน จึงแตกพายไปอีก
ครั้งหนึ่ง ตังสิน เอียวฮอง และซิหลง จึงพากันไปเขาเฝา พระเจาเหี้ยนเต ทอดพระเนตรเห็นตังสินซึ่งเปนขุน
นางที่ทรงสนิทสนมก็ทรงพระกันแสง และทรงเลาความยากลําบากใหตังสินฟงทุกประการ
ตังสินกราบบังคมทูลวากุยกีแตกไปครั้งนี้คงจะไปรวบรวมทหารยกตามมาอีก และดีรายลิฉุยก็อาจจะยกตามมา
เชนเดียวกัน จึงกราบ บังคมทูลใหรีบเสด็จพระราชดําเนิน พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นชอบดวย จึงมีรับสั่งให
เคลื่อนขบวนเสด็จรีบเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืนจน ถึงเมืองฮองหลง ครั้นถึงเมืองฮองหลงแลวบรรดาขุน
นางที่ตามมาในขบวนเสด็จ เห็นสภาพเมืองฮองหลงแลวก็เปลี่ยนความคิด และพากันเขาไปกราบบังคมทูลวา
เมืองฮองหลงเปนเมืองเล็กนัก ทหารรักษาเมืองก็นอย เกรงวาถาหากลิฉุย กุยกี ยกตามมาก็จะไมสามารถ
รับมือกับลิฉุย กุยกีได และเสนอใหเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอัน ความคิดของเหลาขุนนางขี้ขลาดเหลานี้
เกิดจากความขี้ขลาดตาขาวโดยแท เพราะเมืองฮองหลงถึงจะเปนเมืองเล็ก แตก็มีกําแพงเมือง ทั้งทหารที่พอ
มีอยูบางก็พอที่จะรักษาเมืองเอาไวได และสามารถออกหมายรับสั่งเรียกเจาเมืองอื่นๆ ใหมาชวยปองกันและ
กําจัดลิฉุย กุยกีได แตกลับไมคิด โรคกลัวตายขึ้นสมอง ปดบังสติปญญาไวสิ้น คิดแตจะหนีทาเดียว พระเจา
เหี้ยนเตฟงคําขุนนางขี้ขลาดเหลานั้นแลว ทรงเห็นชอบ จึงเคลื่อนขบวนเสด็จออกจากเมืองฮองหลงจะไป
เมือง เตียงอัน
ฝายลิฉุยครั้นทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จไปเมืองฮองหลงและกุยกียกทหารไลตามไปก็เกรงวาถาหากกุยกี
ควบคุมพระเจาเหี้ยนเตแลวยึดอํานาจเหมือนกับที่ตัวเคยกระทํามากอน จึงรีบยกทหารมาเมืองฮองหลง มาพบ
เขากับกุยกีและทหารที่แตกหนีมา กุยกีจึงเลาความใหลิฉุยฟงทุกประการ สองเสือที่เคยรบกันอยางบาคลั่ง มา
บัดนี้เห็นวาการที่เอียวฮอง ตังสินไดเขาถวายการอารักขาขบวนเสด็จทําใหอํานาจรัฐหลุดลอยจาก น้ํามือตัว
และถาหากปลอยใหขบวนเสด็จไปถึงเมืองเตียงอัน ก็จะสมทบเขากับทหารของเตียวเจ พระเจาเหี้ยนเตก็จะตั้ง
หลักได อันตรายก็จะเกิดแกทั้งสองคน ผลประโยชนจึงกลับมาสมกันอีกครั้งหนึ่งที่จะตองชิงเอาพระเจา
เหี้ยนเตจากการถวายอารักขาของเอียวฮองและตังสิน
ดังนั้นทั้งสองเสือจึงทําความตกลงกันวาจะรวมกันทําการอีกครั้งหนึ่ง โดยจะจับพระเจาเหี้ยนเตฆาเสีย
ผลประโยชนและทรัพยสมบัติที่ไดมาก็จะแบงกันฝายละครึ่ง ขอตกลงของลิฉุย กุยกีในครั้งนี้เปนขอตกลงที่ไม
คํานึงถึงฐานะตําแหนงขุนนางอีกตอไป และเปนขอตกลงของโจรที่จะปลนชิง เอาทรัพยสมบัติตางๆ มา
แบงปนกัน ไมตางกระไรกับนักการเมืองในปจจุบันที่บริหารบานเมืองโดยมิไดคํานึงถึงประโยชนสุขของ
ประเทศชาติและราษฎร คิดแตจะขายชาติ ปลนชาติและราษฎร แบงผลประโยชนกันเทานั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
คนถอยทั้งสองทําความตกลงกันแลวก็รวมมือกันยกทหารตามขบวนเสด็จไป ยกไปถึงตําบลใดก็เขาปลนสะดม
ชิงเอาทรัพยสินของ ราษฎรตําบลนั้น แลวแบงสันปนสวนกันฝายละครึ่ง กองโจรของ ลิฉุย กุยกี ไดปลน
ราษฎรราบคาบไปตลอดทาง จึงทําใหการไลตามขบวนเสด็จลาชาลง ฝายตังสิน เอียวฮอง ครั้นไดทราบขาว
วาลิฉุย กุยกี ยกทหารไลตามมาอีก จึงจัดทหารจํานวนหนึ่งใหรีบนําขบวนเสด็จรีบเคลื่อนไป สวนตังสิน
และเอียวฮองหยุดกองทหารไวเตรียมสกัดลิฉุย กุยกี ครั้นกองทหารของลิฉุย กุยกี ตามมาถึง ทั้งสองฝายได
รบพุงกันเปนสามารถ ทหารของตังสิน เอียวฮองนอยกวาก็ถอยรน ตังสินและเอียวฮองเห็นเชนนั้นจึงใหทหาร
รบถวงเวลาไว สวนตังสินกับเอียวฮองรีบตามขบวนเสด็จไป ทันขบวนเสด็จแลวนําขบวนเสด็จยกไปทางดาน
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 42
เหนือ ทหารของตังสิน เอียวฮอง รบถวงเวลาไวจนค่ําก็พากันหนีตามขบวนเสด็จไป ทหารของลิฉุย กุยกีเห็น
เวลาค่ําลงแลวก็ยกทหารเขา ไปในเมืองฮองหลง แยงกันปลนทรัพยสินของราษฎรเมืองฮองหลงแลวแบงกัน
ฝายละครึ่งตามขอตกลง รุงเชาก็รีบตามขบวนเสด็จไป
ฝายตังสินกับเอียวฮองนําขบวนเสด็จมาระยะหนึ่งแลวปรึกษากันวาการจะหนีอยางเดียวคงจะไปไมตลอด
จะตองเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีอีกครั้งหนึ่ง และตองเสริมกําลังอารักขาขบวนเสด็จเพิ่มขึ้นทั้งสองขุนนางเห็นชอบ
พรอมกันและไดทราบขาววาในทองถิ่นนี้มีกลุมโจรสามกลุมคือกลุมของหันเซียม, ลิงัก และโฮจาย มีกําลังเปน
จํานวนมาก จึงใหทําหมายรับสั่งเรียกนายโจรทั้งสามใหเขามาถวาย อารักขาและนิรโทษกรรมความผิดที่มีมา
แตกอน และใหแตงหมายรับสั่งเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีใหรวมกันบริหารบานเมืองอีกครั้งหนึ่ง
นายโจรทั้งสามกลุมครั้นไดรับหมายรับสั่งแลวมีความปลาบ ปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ จึงพากันยกกําลังมา
รับเสด็จ พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดฯใหโจรกลับใจทั้งสามกลุมถวายการอารักขา ตรงกันขามกับลิฉุย กุยกี ไดรับ
หนังสือรับสั่งแลวไมยอมทําตาม เพราะบัดนี้ทั้งลิฉุย กุยกีหมดสิ้นความสํานึกในความเปนขุนนางแลว มีแตใจ
โจรโฉดเขาสิงใจ จนไมสามารถเปลี่ยนความคิดจิตใจไดอีกตอไป เหมือนกับนักการเมืองที่ขายชาติและปลน
ชาติจนเสียสติ ไมสามารถ ยั้งคิดหรือสํานึกในความผิดชอบชั่วดีอีกตอไปสวนโจรกลับใจนั้นเลาใครจะหยั่งคาด
จิตใจโจรได แตยามสิ้นทาจนตรอกจําเปนตองเกี่ยวของดวยแลว คบกับโจรทองถิ่นที่กลับใจ ก็ยังดีเสียกวาที่
จะคบหรือเปนพวกพองกับนักการเมืองที่ขายชาติ หรือปลนชาติ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ในวังวนของคนอับจนปญญา (ตอนที่ 69)
ขบวนเสด็จยกออกจากเมืองฮองหลงหนีการไลลาโจมตีของลิฉุย กุยกีมาหลายหนจนตรอกเขาถึงกับตองหัน
พึ่งกลุมโจรทองถิ่น และพระเจาเหี้ยนเตไดโปรดเกลาฯ ใหนายโจรและกลุมโจร ทั้งสามกลุมเขาถวายการ
อารักขา ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงตําบลตังกั๋ง ความคิดที่จะไปเมืองเตียนอันก็ไดเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ในสถานการณเชนนั้นจําเปนที่จะตองตั้งหลักใหไดกอนแลว เรียกใหบรรดาหัวเมืองยกทหารมาชวย แต
ตังสินขุนนางคนสนิท กลับเรียกนายโจรทั้งสามคนมาปรึกษาวา การเดินทางไปเมืองเตียนอันเปนระยะทางไกล
ควรยกเขาตีเอาเมืองฮองหลงแลวตั้งหลักที่เมือง ฮองหลงเสียกอน นายโจรทั้งสามคนไมเคยมีความคิดอานใน
เรื่องการบานการเมืองและการศึกสงคราม ครั้นถูกปรึกษาเรื่องเชนนี้จึงเออออตามตังสินไป
ดังนั้นตังสินจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยอนกลับไปเพื่อจะยึดเมืองฮองหลง ครั้นเคลื่อนมาถึงตําบลอยูเอี๋ยงก็
ปะทะกับกองทหารของลิฉุย กุยกี ตางฝายตางยันกัน ลิฉุยจึงปรึกษากุยกีวาการที่ขบวน เสด็จตองพึ่งกําลังโจร
ทองถิ่นเชนนี้ หากเราจะตอสูกับพวกโจรซึ่งหนา ก็จะเปลืองกําลังเสียเปลา และวิสัยโจรนั้นถึงจะกลับใจก็ยอม
มีน้ําใจ ใฝชอบทรัพยสินติดอยูในกมลสันดาน ดังนั้นถาหากเราเอาทรัพยสินเสื้อผาเขาลอ พวกโจรคงไมมีใจสู
รบดวยคิดแตจะเอาทรัพยสินคงจะเสียทีเราเปนมั่นคง
กุยกีเห็นชอบดวยจึงวาถาเชนนั้นเราจงเอาทรัพยสินและเสื้อผา ที่ปลนมาจากราษฎรคนละครึ่งมารวมกันแลว
เอาไปทิ้งตามสองขางทาง แลวรบลอพวกโจรมาถึงที่ทิ้งทรัพยสินลอไวนั้น พวกโจรคงชุลมุนแยงทรัพยสินกัน
เราจึงคอยยกทหารเขาโจมตีคงจะไดชัยชนะโดยงาย สองเสือปรึกษาเห็นชอบในการลงขันเอาทรัพยสินเสื้อผา
ลอโจร แลวตางฝายตางสั่งใหสมุนของตนนําทรัพยสินและเสื้อผาคนละครึ่ง มารวมไวเปนกองกลาง แลวสั่ง
ทหารใหเอาไปทิ้งไวตามขางทาง และยกทหารออกไปรบดวยทหารที่คุมกันขบวนเสด็จ ครั้นทหารทั้งสองฝาย
ปะทะกันไดครูหนึ่ง ทหารของลิฉุย กุยกี ก็ทําทีถอยหนีมาตามทางที่เอาทรัพยสินเสื้อผาไปทิ้งไวนั้น ทหาร
ของ ตังสินไลตามมาเห็นทรัพยสินเสื้อผาทิ้งเกลื่อนกลาดอยูตามรายทางเปนอันมากก็หยุดไลตาม ตางคนตาง
พากันแยงชิงเอาทรัพยสินเสื้อผา ซึ่งทิ้งไวนั้นเกิดอลหมานขึ้น ลิฉุย กุยกีเห็นทหารตังสินตองกลจึงใหจุด
ประทัดสัญญาณแลวยกทหารเขาลอมตีกระหนาบทหารของตังสิน ฝายทหารของตังสินมัวหลงเพลินแยงชิง
ทรัพยสินกันไมทันระวังตัว จึงถูกทหารของลิฉุย กุยกีฆาตายเปนจํานวนมาก ที่เหลืออยูทิ้งขาวของแลวพากัน
หนีไปตามขบวนเสด็จ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ทหารของลิฉุย กุยกีไลตามตีไปไมลดละ ดานตังสินและเอียวฮอง เห็นเชนนั้นจึงรีบพาขบวนเสด็จหนีไป
ทางดานเหนือ ลิงักนายโจรอีกคนหนึ่งเห็นเหตุการณจวนตัวจึงกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตรีบลงจากรถ
พระที่นั่งประทับบนหลังมารีบหนีไป แตพระเจาเหี้ยนเตทรงสงสารขาราชบริพาร จึงมีพระดํารัสวาในยาม
อันตรายเชนนี้เราจะทอดทิ้งพวกทานไปไดอยางไรกัน เปนอะไรก็ขอใหเปนไปดวยกัน บรรดาขุนนางและนาย
โจรไดยินพระราชกระแสดังนั้น ก็ซาบซึ้ง ในน้ําพระทัยพากันรองไห แลวชวยกันปองกันขบวนเสด็จรีบรุดหนา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 43
หนีตอไป หนีมาไดระยะหนึ่งทหารของลิฉุย กุยกีก็ยิ่งตามใกลเขามา ตังสินเห็นวาถาจะหนีในลักษณะเชนนี้ก็
จะไมทันการณ จึงกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาเชิญเสด็จประทับบนหลังมา และรีบขับหนีไป
จนถึงริมฝงแมน้ําฮวงโห ลิงักนายโจรหาเรือไดลําหนึ่งจึงอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาลงเรือขาม
แมน้ําฮวงโหไปพรอมกับขาราชบริพารจํานวนหนึ่ง สงเสด็จขามฝงแลวก็นําเรือกลับมารับขุนนางและทหารได
อีกหลายเที่ยว แตยังไมทันหมดทหารของลิฉุย กุยกีก็ตามมาถึงริมแมน้ํา ฮวงโห แลวจับเอาบรรดาขุนนาง
และขาราชบริพารที่คางอยูนั้นไวทั้งสิ้น
ตังสิน เอียวฮอง ไดจัดหาเกวียนเปนพระราชพาหนะของพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาแลวนําเสด็จหนีตอไป
จนถึงชายแดนเมือง ไทเอียงเปนเวลาค่ํา เห็นบานราษฎรอยูใกลๆ เปนโรงกระเบื้องจึงพากันไปขออาศัยคาง
คืน เจาของโรงกระเบื้องรูวาเปนขบวนเสด็จก็ดีใจ จัดเตรียมอาหารมาถวายแลวเลี้ยงดูพวกที่ตามเสด็จนั้น รุง
ขึ้นเอียวปวกับฮันหยงขุนนางผูใหญติดตามมาพบก็พากันเขาเฝาแลวรองไหสงสารพระเจาเหี้ยนเต
สําหรับเอียวปวนั้นละอายใจตัวเองยิ่งนักที่เสนอแผนยุสองเสือใหกัดกันจนพระเจาเหี้ยนเตตองตกอยูในความ
ทุกขยากลําบากถึงเพียงนี้ ฮันหยงหยุดรองไหกอนจึงกราบทูลวา ขาพระพุทธเจากับลิฉุย กุยกีนั้นมีความสนิท
สนมกัน ทั้งสองคนมีความเคารพยําเกรงเปนอันมาก จึงขออาสาไปเกลี้ยกลอมอีกครั้งหนึ่งและขออัญเชิญ
เสด็จประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้เพื่อฟงขาวกอน
พระเจาเหี้ยนเตครั้นไดเห็นทางรอดตามคํากราบบังคมทูลของ ฮันหยงจึงมีพระราชดํารัสวาตามใจทานเถิด
ฮันหยงรับพระบรมราชานุญาตแลวจึงกราบบังคมลาออกไปหาลิฉุย กุยกี พอฮันหยงออกไปแลว ลิงักจึงกราบ
ทูลวาการประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้ไมเหมาะสมเพราะไมมีรั้วกําแพงปองกันอันตรายทั้งทหาร ก็ไมเพียงพอ
ตอการอารักขา จึงขออัญเชิญรีบเสด็จตอไป พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงเออออตามลิงัก ขบวนเสด็จไดเคลื่อนออก
จากโรงกระเบื้องไปถึงตําบลอันอิบเปน เวลาค่ํา จึงขออาศัยบานราษฎรเปนที่ประทับแรม โดยพวกที่ตามเสด็จ
ทําหนาที่ถวายการอารักขาอยูรอบบานที่ประทับนั้น
ฮันหยงรับอาสาพระเจาเหี้ยนเตแลวเดินยอนกลับไปถึงริมแมน้ํา ฮวงโห ขามแมน้ําไปพบกับลิฉุย กุยกี ทักทาย
คารวะกันตามธรรมเนียม แลวจึงวาบัดนี้พระเจาเหี้ยนเตทรงตกทุกขระกําลําบากนัก ทั้งสองทาน อยาได
ติดตามพระองคอีกเลย เพราะเพียงเทาที่เปนอยูนี้หากราษฎร ทั้งปวงรูความเขาก็จะพลอยนินทาวาทานคิดราย
ตอพระมหากษัตริย แตถาละเสียไวแตเพียงนี้ ความสรรเสริญก็จะบังเกิดมีแกทานทั้งสอง ไปจนชั่วกัลปาวสาน
สองโจรโฉด ใจหนึ่งเคารพยําเกรงฮันหยงมาแตเดิม ครั้นได ยินคําลอวาการปลอยพระเจาเหี้ยนเตจะไดรับคํา
สรรเสริญและมาคิด วาแมหากจะยกทหารขามแมน้ําไปก็ไมไดแลว จึงตกลงทําตามคําขอ ของฮันหยง แลว
ปลอยบรรดาขุนนางและขาราชบริพารที่จับตัวไวนั้นเสีย
ฝายเตียวเฮียง ซึ่งบัดนี้ไดเปนที่เจาเมืองโหลายสืบตอจากอองของและฮองอิบเจาเมืองโฮตอง ครั้นไดทราบ
ขาววาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จลี้ภัยมาประทับอยูที่บานราษฎรที่ตําบลอันอิบ จึงจัดแจงเสบียงอาหารและพา
เจาหนาที่มาเขาเฝา นอมเกลาถวายเสบียงอาหารทั้งนั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงรับมอบเสบียงจากสองเจาเมือง
แลวทรงขอบใจแตมิไดตรัสความเมืองอื่นตอแตประการใด สถานการณมาถึงขั้นนี้พอจะแลเห็นไดวาขบวน
เสด็จนาจะปลอดภัยและเริ่มตั้งหลักได เพราะเพียงแคเสด็จไปประทับที่เมืองใดเมืองหนึ่งเปนการชั่วคราวและ
ใหหัวเมืองตางๆ สงทหารมาชวยเพียงเมืองละหาพันถึงหมื่นคนเพื่อรักษาเมืองแลว จึงคอยคิดอานบูรณะเมือง
หลวง ความสงบสุขสันติก็อาจฟนคืนมาไดโดยเร็ว แตเปนโชครายของราชวงศฮั่นเพราะหาผูใดมีความคิด
สติปญญามิได ผูคนทั้งปวงในที่นั้นลวนแลวแตเปนพวกอับจนปญญาทั้งสิ้น
ตังสินและเอียวฮองปรึกษากับพวกอับจนปญญาดวยกันเปลี่ยน เปาหมายในการเดินทางใหมอีกครั้งหนึ่งวาจะ
ใหทหารไปทําการบูรณะเมืองลกเอี๋ยง ราชธานีเกาที่ถูกตั๋งโตะเผาผลาญจนวอดวายขึ้นมาใหม แลวอัญเชิญ
เสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปอยูเมืองลกเอี๋ยง ลิงักนายโจรไมเห็นดวย อางวาเมืองลกเอี๋ยงถูกเผาผลาญหมดสิ้น
แลวทั้งสถานการณในขณะนี้ยังไมมีความปลอดภัย ควรตั้งหลักอยูที่เดิม ไปกอนจนกวาจะมีทหารจากหัวเมือง
ตางๆ มาชวยเหลือ
ตังสินและเอียวฮองไมฟงคําทัดทานของลิงัก ดังนั้นลิงักจึงไม ยอมติดตามไปดวย ฝายตังสินและเอียวฮองจึง
กราบบังคมทูลอัญเชิญ เสด็จพระเจาเหี้ยนเต ฮองเฮาและขาราชบริพารจะยกไปเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเต
ก็เห็นชอบตามคํากราบบังคมทูลนั้น ลิงักครั้นเห็นตังสินไมฟงคําจึงมีใจคิดออกหาง และสงคนนําความไปแจง
แก ลิฉุย กุยกีวาบัดนี้ตังสินและเอียวฮองกําลังนําขบวน เสด็จไปเมืองลกเอี๋ยง ขอใหคิดการชิงเอาพระเจา
เหี้ยนเตมาฆาเสีย ตัวเราจะยกไปสมทบและแบงปนทรัพยสินกันเปนสามสวน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 44
ลิฉุย กุยกีทราบความแลวมีความยินดีตกลงที่จะยกทหารไปชิง เอาพระเจาเหี้ยนเต ฝายลิงักครั้นใชคนไปแจง
ความแกลิฉุย กุยกีแลว กลับมาคิดใหมวาเรื่องอะไรที่เราจะใหลิฉุย กุยกีชวงชิงพระเจาเหี้ยนเต เราจะจัดการ
เสียเองมิดีกวาหรือ เปลี่ยนใจดังนี้แลวจึงพาพรรคพวกโจรรีบตามขบวนเสด็จไป ครั้นยามสามก็ทันขบวนเสด็จ
ณ เขากิสาน ลิงักจึงรองเรียกขบวนเสด็จใหหยุดกอนอางวาลิฉุย กุยกีกําลังยกทหารตามมา พระเจาเหี้ยนเตได
ยินเสียงไลตามขบวนเสด็จมาก็ตกพระทัย เอียวฮองจึงกราบบังคมทูลวานั่นเปนลิงักพาพรรคพวกโจรติดตาม
มาคาดวาคงจะมารายเปนแน แตเห็นจะไมเปนอันตรายเพราะลิงักนั้นไรฝมือและพรรคพวกก็ไมมากนัก กราบ
ทูลแลวเอียวฮองจึงสั่งใหซิหลงคุมทหารถอยมาเปนกองหลัง จึงปะทะกับพรรคพวกของลิงัก ซิหลงตอสูกับลิ
งักไดสามเพลง ก็เอาขวานฟนลิงักตกมาตายแลวไลฟนพวกโจรแตกหนีไป
ขบวนเสด็จเคลื่อนมาทั้งคืน ครั้นสวางก็เขาเขตเมืองลกเอี๋ยง ขณะนั้นเตียวเอี๋ยนไดนําอาหารมาทูลเกลาถวาย
พระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจและโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหเตียวเอี๋ยนเปนขุนนาง ขบวนเสด็จไดเคลื่อนเขาไปใน
เมืองลกเอี๋ยง แลวหยุดขบวนที่ประตูพระราชวังเดิม พระเจาเหี้ยนเตเสด็จพระราชดําเนินพรอมกับขุนนางและ
ขาราชบริพารเขาไปในพระราชวัง ทอดพระเนตรพระตําหนักและอาคารสิ่งกอสรางตางๆ ซึ่งถูกเพลิงเผาผลาญ
เหลือแตฐานราก มีตนไมและหญาขึ้นรกชัฏโดยทั่วไป พระเจาเหี้ยนเตทรงรําลึกถึงเมื่อครั้งแตกอนที่เคย
ประทับในพระราชวังก็สลดพระทัยลง ทรงพระกันแสง บรรดาขุนนางและขาราชบริพารเห็นสภาพการณเชนนั้น
ก็สงสารพากันรองไหระงมเมืองรางนั้น
ยุวกษัตริยและขาราชบริพารพากันดูบริเวณพระราชวังโดยรอบแลว ตังสินจึงใหทหารตัดตนไมและตนหญาที่
ปกคลุมพระตําหนักที่ประทับ แลวปลูกโรงชั่วคราวสําหรับเปนที่ประทับและใหปลูกโรงชั่วคราวสําหรับขาราช
บริพารฝายหนาอีกหลังหนึ่ง เสร็จแลวจึงเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่พระตําหนักชั่วคราว บรรดาขุนนาง
ขาราชบริพารเขาเฝาถวายบังคมตามธรรมเนียม บรรดาราษฎรที่หลบหนีไปอยูนอกเมืองครั้นไดทราบขาววา
พระเจาเหี้ยนเตเสด็จกลับมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงก็พากันอพยพกลับเขามาในตัวเมือง ตั้งครอบครัวขึ้นใหม
หลายรอยหลังคาเรือน
ฝายเอียวปวรําลึกขึ้นไดวาพระราชหัตถเลขาซึ่งพระเจาเหี้ยนเต พระราชทานไวสําหรับเรียกโจโฉเขามารับ
ราชการในเมืองหลวงตั้งแตครั้งวางแผนรวมกับจูฮียุสองเสือใหกัดกันแตยังไมไดจัดการสงใหแกโจโฉ จึงนํา
ความกราบบังคมทูลใหทรงทราบ ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงมีรับสั่งใหเอียวปวรีบสงพระราชหัตถเลขานั้น
ใหแกโจโฉ และทรงกําชับใหรีบยกมาเมืองลกเอี๋ยงแตโดยไว เอียวปวรับกระแสพระราชดํารัสแลวจึงรีบถวาย
บังคมลาออกมา แลวสั่งทหารใหรีบนําพระราชหัตถเลขาและอัญเชิญพระราชดํารัสของพระเจาเหี้ยนเตไปมอบ
แกโจโฉ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ฟายอมประทานโอกาสแกผูมีความพรอม (ตอนที่ 70)
รับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตผูเปนโอรสแหงสวรรคที่ใหเรียกหาตัวโจโฉเขามาชวยราชการในเมืองหลวงเปน
โอกาสสําคัญที่ฟาประทานแกโจโฉ เนื่องเพราะโจโฉนั้นมีความพรอมยิ่งกวาขุนนางและขุนศึกใดๆ ในแผนดิน
ความพรอมสถานหนึ่งก็คือ ความมีผูสนับสนุนที่อยูใกลชิดฮองเต ในครั้งนั้นไดแกจูฮี ซึ่งโจโฉเคยรวมงานใน
กองทัพปราบโจรโพกผาเหลือง และความพรอมอีกสถานหนึ่งคือการที่โจโฉไดครองอํานาจในภาคตะวันออก
มีทหารเอก แมทัพ นายกอง และทหารเลว ถึงสามสิบหมื่น มีศักยภาพที่จะชวยราชการในเมืองหลวงได เพราะ
ความพรอมสองประการนี้โอกาสจึงเปดใหแกโจโฉ ในทางตรงกันขามถาหากวาโจโฉไมมีความพรอม ถึงแมฟา
จะเปดโอกาสแลวแตยอมยากหรือยอมไมอาจกุมโอกาสนั้นเอาไวได ครั้นโจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาของ
พระเจาเหี้ยนเตและรับสั่งใหรีบ เขาไปชวยราชการในเมืองหลวงแลว สอบถามกับทหารที่อัญเชิญพระ
ราชหัตถเลขามานั้นไดความวา บัดนี้พระเจาเหี้ยนเตเสด็จประทับอยูที่เมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงมีความยินดียิ่ง
นัก รีบเรียกประชุม บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งปวงโจโฉไดแจงขอรับสั่งใหบรรดาที่ปรึกษาและแม
ทัพนายกองฟงแลวขอความเห็นวาสมควรดําเนินการประการใด ทั้งๆ ที่ในใจโจโฉเองนั้นปกใจมั่นอยูกอนแลว
วาจะตองรีบยกเขาไปเมืองหลวงกุมโอกาส นี้ไวใหมั่นคง แตนี่เปนวิสัยของผูนําที่มีการใดเปนขอสําคัญยอม
รวม กันคิดอานปรึกษาแลวแบงภาระหนาที่กันทํา การใหญจึงจะสําเร็จดังประสงค
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ซุนฮกที่ปรึกษาจึงวา ในสมัยเลียดกกนั้นพระเจาจิ๋วซองอองได เสวยราชยแผนดินเปนจลาจลจึงโปรดเกลา
ใหจิ๋นบุนกงเขาไปรับราชการในเมืองหลวง จิ๋นบุนกงเปนผูมีสติปญญา จัดการบริหารราชการแผนดินไมทันนาน
ก็เขารูปเขารอย สามารถครองใจบรรดาขุนนาง ขาราชการทั้งปวงได สืบตอมาจิ๋นบุนกงก็ไดครองราชสมบัติ
โดยงาย และวาสถานการณบานเมืองขณะนี้คลายกับเมื่อครั้งเลียดกกนั้น แผนดินเปนจลาจล ราษฎรไดรับ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 45
ความทุกขเข็ญทุกหยอมหญา บรรดาขุนศึกตางแยงชิงอํานาจกัน การที่มีรับสั่งเรียกหาทานเขาไปรับราชการ
ในเมืองหลวงครั้งนี้นับวาสวรรคไดประทานโอกาสแกทาน แลว ขอใหทานรีบยกทหารเขาไปยังเมืองลกเอี๋ยง
โดยเร็ว หากละไวชาไปบรรดาหัวเมืองอื่นทราบความก็จะชิงโอกาสเขาไปกอน ราชการ สิทธิขาดก็จะตกอยูแก
หัวเมืองอื่นนั้น เพราะสถานการณเชนนี้ผูใดยก เขาไปชวยราชการฮองเตกอน อํานาจสิทธิขาดในราชการยอ
มตกอยูแกผูนั้น ทานก็จะเสียการไป
บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งนั้นเห็นพองกับความคิด ของซุนฮก โจโฉจึงวาความคิดของทานทั้งปวง
ตองดวยความคิดของเรา ดังนั้นเราจะรีบยกไปในทันที จึงสั่งใหเตรียมทหารทั้งสิ้น ยกออกจากที่ตั้งไปเมืองลก
เอี๋ยงทั้งกลางวัน กลางคืน โจโฉตั้งปณิธานตั้งแตยังเด็กที่จะตองครองอํานาจเปนใหญในแผนดิน บัดนี้กําลัง
พลทั้งฝายบุน ฝายบูพรั่งพรอม เมื่อโอกาสเปดชองใหเชนนี้ โจโฉจึงรีบเขากุมเอาโอกาสนั้นโดยไมลังเล
หมายเอา การเขาเมืองหลวงครั้งนี้เขาสูอํานาจรัฐอยางเต็มตัว ดังนั้นบรรดาสรรพกําลังที่มีอยู จึงไดรับคําสั่งให
ยกไปเมืองหลวงทั้งสิ้น
ทางดานเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตและบรรดาขุนนางขาราชการยังคงปรับปรุงที่ประทับและที่พักตางๆ
เพื่อใหมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขณะนั้นทหารลาดตระเวนไดถวายรายงานวา บัดนี้ลิฉุย กุยกียกกองทัพมา
ใกลจะถึงเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบรายงานดังนั้นก็ตกพระทัย เพราะเมืองลกเอี๋ยงถูกเพลิงเผา
ผลาญจนหมดสิ้น คายคู ประตูเมือง และหอรบตางๆ ก็ยังไมพรอม จึงรับสั่งใหเรียกบรรดาขุนนางขาราชการ
ตางๆ มาปรึกษาบรรดาขุนนางขาราชการ ตลอดจนขาราชบริพารครั้นทราบความก็ตกใจ แตเอียวฮองและ
หันเซียมไดกราบทูลวาขออยาทรงพระวิตก ขาพระพุทธเจาทั้งสองจะขออาสาไปโจมตีขับไลกองทัพของลิฉุย
กุยกีเอง ตังสินแยงวาทหารฝายเรามีนอยกวาทหารของลิฉุย กุยกีมากนัก ทั้งไมสามารถอาศัยกําแพงเมือง
คายคู หอรบตั้งรับขาศึกได ดังนั้นถาหากอยูที่นี่ตอไปคงจะเปนอันตราย จึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จหนี
ไปทางภาคตะวันออก ดีรายก็อาจจะสวนทางกับกองทัพของโจโฉ ซึ่งคงจะยกมาชวยราชการ
พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคําตังสินแลวเห็นชอบ จึงโปรดใหจัดขบวนเสด็จแลวยกออกจากเมืองลกเอี๋ยงมุงไป
ทางภาคตะวันออก ขบวนเสด็จเคลื่อนไปไดประมาณยี่สิบเสน เห็นกองทหารจํานวนมาก ยกสวนทางมาแต
ไกล มีธงประจําตัวแมทัพบงบอกวาเปนกองทัพของโจโฉ พระเจาเหี้ยนเตก็คลายพระทัย ครั้นเขามาใกล
ปรากฏวาเปนทหารผูถือรับสั่งไปเรียกโจโฉรวมมา ในขบวนกองทัพหนานั้น ทหารผูถือรับสั่งไดเขามาเฝาพระ
เจาเหี้ยนเตที่รถพระที่นั่ง กราบบังคมทูลวาบัดนี้โจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาแลว กําลังยกกองทัพมาตาม
รับสั่ง แตพอมาถึงกลางทางไดทราบวาลิฉุย กุยกียกกองทัพมาเมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงสั่งใหแฮหัวตุน เคาทู
และเตียนอุย คุมทหารมาหาหมื่นเปนกองหนารีบยกมาถวายอารักขาพระองคกอน
พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ดีพระทัยโปรด ใหสามทหารเอกของโจโฉเขาเฝา แฮหัวตุน เคา
ทู และเตียนอุย จึงนําทหารทั้งนั้นเขามาถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต ทันใดนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝา
กราบบังคมทูลวา บัดนี้มีกองทหารยกมาทางดานตะวันออกอีกกองหนึ่ง พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหแฮหัวตุน
ไปดูสถานการณวาเปนกองทัพของผูใดยกมา ครูหนึ่งแฮหัวตุนพาโจหอง ลิเตียน และงักจิ้น เขามาเฝาแลว
กราบบังคมทูลวาโจโฉไดสั่งใหทหารเอกอีกสามคนรีบคุมทหารยกหนุนตามมา จึงขอเบิกตัวเขาเฝา นายทหาร
ของโจโฉที่เพิ่งมาใหมทั้งสามนายจึงถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นสถานการณมีความ
ปลอดภัยจึงตรัสชม วาโจโฉมีสติปญญารอบคอบมาก ทั้งมีความจงรักภักดี เห็นแกราชการ เปนการดวน
สมควรจะไดชวยทํานุบํารุงแผนดิน
ขณะนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝาอีกครั้งหนึ่งแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กองทัพลิฉุย กุยกียกใกลเขา
มาแลว พระเจาเหี้ยนเต จึงตรัสกับแฮหัวตุนวาทานจะคิดอานรับศึกครั้งนี้ประการใด แฮหัวตุน จึงกราบบังคม
ทูลวาขออยาทรงพระวิตกตอไปเลย ขาพระพุทธเจาซึ่งเปนกองทัพหนาของโจโฉขออาสาไปกําจัดลิฉุย กุยกี
ณ บัดนี้ แลว กราบถวายบังคมลาออกมา แฮหัวตุน โจหอง จัดกองทหารมาเปนกองหนาซายขวาและให
ทหารราบเปนกองหนุน ยกไปสกัดกองทัพของลิฉุย กุยกี ทหารมากองหนาทั้งซายขวาไดบุกทะลวงเขาตี
กองทัพของลิฉุย กุยกีอยางดุเดือด ทหารราบก็หนุนเนื่องตามเขาไปฆาฟนทหารของ ลิฉุย กุยกีลม ตายลงกวา
หมื่น กองทัพของลิฉุย กุยกี จึงแตกพายไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
แฮหัวตุน และโจหองจึงยกทหารกลับมาที่ขบวนเสด็จ แลวอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตกลับเขาเมืองลกเอี๋ยง
ถวายที่ประทับ ณ ที่ประทับชั่วคราวดังเดิม แลวจัดทหารตั้งคายอารักขาไวโดยรอบกําแพงพระนคร รุงขึ้นโจโฉ
ยกกองทัพมาถึงเมืองลกเอี๋ยง ใหทหารตั้งคายไวนอกกําแพงพระนคร ตัวโจโฉและทหารเอกที่ติดตามมาไดพา
กันไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉคุกเขาลงกับพื้นถวายบังคม แลวพระเจาเหี้ยนเต โปรดใหลุกขึ้นนั่งแลวมีพระ
ราชกระแสวา บัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนกบฏ เผาทําลายเมืองหลวงแลวไลลา คิดจะทํารายเราจนตองระหกระเหินไป
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 46
หลายที่ บัดนี้ไดมาอยูที่เมืองลกเอี๋ยง ลิฉุย กุยกีก็ยังยกกองทัพไลตามมาอีก เปนโชคดีที่ทานยกกองทัพมา
ชวยไวทันสถานการณ จึงขอขอบใจทานที่ชวยราชการในครั้งนี้ โจโฉกราบบังคมทูลวา ขาพระพุทธเจาไดรับ
พระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยงมาแตกอน มีความซาบซึ้งและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเปนลนพนคิดอยูเสมอ
ที่จะสนองพระเดชพระคุณ ซึ่งลิฉุย กุยกีเปนกบฏนั้นขออยาทรงพระวิตกอีกตอไป ขาพระพุทธ เจาจะคิดอาน
กําจัดลิฉุย กุยกีเสียใหจงได พระเจาเหี้ยนเตทรงพอพระทัยโจโฉยิ่งนักจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหโจโฉเปนผู
บัญชากองกําลังรักษาพระนคร มีอํานาจบังคับบัญชาฝายทหารทั้งสิ้น และพระราชทานขวานโบราณและตรา
สําคัญสําหรับตําแหนงมีอํานาจประหารผูกระทําความผิดได และโปรดเกลาพระราชทานตําแหนงราช
เลขาธิการมีอํานาจบังคับบัญชาฝายพลเรือน อีกตําแหนงหนึ่ง
โจโฉ ณ บัดนี้แมยังมิไดมีตําแหนงสูงสุดทั้งฝายทหารและฝายพลเรือนแตโดยสภาพที่เปนจริงนั้นตําแหนง
สูงสุดที่ลิฉุย กุยกีครองอยูไรความหมายสิ้นเชิงแลวเพราะกลายเปนกบฏและเปนโจร เที่ยวปลนชิงวิ่งราว
ทรัพยสินราษฎร ดังนั้นอํานาจทั้งทางทหารและพลเรือนที่แทจริงจึงอยูที่โจโฉทั้งสิ้น ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นแตก
พายไปไดซองสุมกําลังทหารขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แลวปรึกษากันวาบัดนี้โจโฉยกกองทัพใหญมาตั้งอยูที่เมือง
ลกเอี๋ยง และไดเขาถวายการอารักขาฮองเตไว หากนานไปอํานาจสิทธิขาดในราชการจะตกไดแกโจโฉ
และโจโฉจะเติบกลาขึ้นจนยากที่จะกําจัด ดังนั้นจําเปนที่จะตองรีบกําจัดโจโฉเสียอยาใหทันไดตั้งตัว กาเซี่ยง
ที่ปรึกษาจึงวา โจโฉตั้งหลักขึ้นในภาคตะวันออก มีทหารเอก ทหารรองและกําลังทหารเปนอันมาก บัดนี้เขามา
ชวยราชการในเมืองหลวงตามรับสั่งของฮองเต โจโฉจึงมีอํานาจโดยธรรมเนียม การปกครองสถานหนึ่งและมี
กําลังทหารมากกวาฝายเราอีกสถานหนึ่งหากรีบยกไปรบดวยโจโฉในสถานการณเชนนี้ "อุปมาดังเนื้อไป สู
เสือ" คงจะเสียทีแกโจโฉเปนมั่นคง กรณีสมควรคิดอานผอนปรน เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉจะปลอดภัยกวาที่จะ
คิดอานทําสงครามกัน
ลิฉุย กุยกียินคํากาเซี่ยงก็โกรธ หาวากาเซี่ยงเอาใจออกหาง กลาวความใหเสียขวัญทหาร จึงชักกระบี่จะฆา
กาเซี่ยงเสีย แมทัพนายกอง เห็นดังนั้นจึงชวยกันขอรอง ลิฉุย กุยกี ขอชีวิตกาเซี่ยงไว ลิฉุย กุยกี จึงไล
กาเซี่ยงออกไปจากที่ประชุม กาเซี่ยงคนมีสติปญญาคิดอานจนลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ มาครั้งนี้ถึงมาก
ดวยสติปญญาก็แทบจะเอาชีวิตไมรอด เหตุผลมิใชอื่นใดหากอยูที่การคบคนผิด เลือกนายผิดนั่นเอง กาเซี่ยง
เห็นวา ลิฉุย กุยกีหยาบชาตอตัวถึงเพียงนี้ก็นอยใจรีบออกมาจัดเตรียมขาวของ ค่ําลงก็ขับมาหนีกลับไปอยู
ภูมิลําเนาเดิม
รุงเชาขึ้นลิฉุย กุยกีจึงสั่งใหลิเซียม ลิเปก เปนกองทัพหนายกไป รบดวยโจโฉ ฝายโจโฉครั้นไดทราบความจึง
สั่งใหเคาทู ลิเตียน โจหยิน คุมทหารมาสามรอยยกออกไปรบดวยกองทัพหนาของลิฉุย กุยกี ทหารทั้งสอง
ฝายปะทะกันไมทันไร เคาทูก็เอาทวนแทงลิเซียมตกมาตาย ลิเปกเห็นดังนั้นก็ตกใจจะชักมาหนี เคาทูขับมา
ปราดเขาไปเอาทวนแทงลิเปกตกมาตายอีกคนหนึ่งทหารของลิเซียม ลิเปก จึงพากันแตกหนีไป เคาทูจึงตัด
ศีรษะของลิเซียมและลิเปกเอาไปมอบแกโจโฉ
โจโฉเห็นเชนนั้นก็ยินดีโอบไหลเคาทูแลวชื่นชมวาสมเปน ทหารเอก แตสามกกฉบับสมบูรณวา "ทานนั้น
นับเปนฮวมไกวของขาจริงๆ" ฮวมไกวคือทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจ ดังนั้นการที่โจโฉกลาว เชนนี้ยอม
สะทอนถึงความมักใหญใฝสูง เปรียบเทียบตัวเองเสมอดวย ปฐมกษัตริยแหงราชวงศฮั่น ครั้นไดรับชัยชนะใน
ศึกยกแรกแลว โจโฉจึงคิดกวาดลางลิฉุย กุยกีใหสิ้นซาก ดังนั้นจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารเปนกองทัพหนา โจ
หยินคุมทหารเปนปกขวา โจโฉเองเปนกองทัพหลวง เคลื่อนขบวนเรียง หนากระดานเขาโจมตีกองทหารของลิ
ฉุย กุยกีอยางรวดเร็ว ฆาทหาร ลิฉุย กุยกีลมตายลงเปนอันมาก ลิฉุย กุยกีสูไมไดก็พากันชักมาหนี โจโฉไล
ตามไปตลอดทั้งคืนจับทหารลิฉุย กุยกีไดเปนอันมาก และที่เขาสวามิภักดิ์ดวยก็มีเปนจํานวนมาก ลิฉุย กุยกี
เหลือทหารอยูไมกี่คนก็หมดกําลังใจสูรบ จึงพากันหนีไปทางภาคตะวันตก กลายเปนโจรปาไปอีกครั้งหนึ่ง โจ
โฉครั้นไดรับชัยชนะอยางเด็ดขาดตอกองทัพของลิฉุย กุยกีแลว จึงยกทหารกลับเมืองลกเอี๋ยง ตัวโจโฉเอง
เขาเฝากราบทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ แลวถวายบังคมลากลับมา ณ คายนอกเมือง
หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 47
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ปรากฏการณแหงฟาดิน (ตอนที่ 71)
ฝายเอียวฮองและหันเซียม ครั้นไดทราบวาโจโฉตีทัพลิฉุย กุยกี แตกพายไปและยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมือง
ลกเอี๋ยง มีอํานาจสิทธิขาด ทั้งฝายทหารและพลเรือน จึงปรึกษากันวา "โจโฉทําการครั้งนี้ใหญ หลวงนักนาน
ไปราชการในเมืองหลวงก็จะสิทธิขาดอยูแกเขา เราทั้งสองก็จะอยูในเงื้อมมือโจโฉ" ขุนนางโหลที่ไดรับแตงตั้ง
ในยามที่พระเจาเหี้ยนเตทรงระเหเรรอนจากการไลตามตีของลิฉุย กุยกี เคยมีบทบาทในครั้งนั้น มาครั้งนี้
เห็นโจโฉเรืองอํานาจขึ้นก็คิดวาตัวจะหมดบทบาทและความหมาย และจะตองตกอยูใตอํานาจของโจโฉ
ความคิดจึงจมไมลง ดังนั้นจึงคิดจะหนีออกจากเมืองหลวงตามประสาคนไรสติปญญา ปรึกษากันแลวตกลง
วางแผนวาจะอางเหตุยกไปกําจัดลิฉุย กุยกี แลวคอยหนีไปอยูเมืองไตเหลียง ดังนั้นจึงพากันไปเขาเฝาพระ
เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลขออาสายกทหารไปกําจัดลิฉุย กุยกี ลางเสี้ยนหนามแผนดินใหสิ้นซากตอไป พระ
เจาเหี้ยนเตทรงฟงคําอาสาแลวโปรดเกลาอนุญาต เอียวฮองและหันเซียมจึงกราบถวายบังคมลาออกมา
จัดเตรียมทหาร ขาวของ เงินทอง และพาพรรคพวกออกจากเมืองลกเอี๋ยง
ในขณะนั้นพระเจาเหี้ยนเตโปรดใหตังเจี๋ยวขาหลวงคนใหมไปพบโจโฉ เพื่อเรียกเขาเฝาปรึกษาขอราชการ โจ
โฉครั้นทราบวาตังเจี๋ยว ขาหลวงในพระเจาเหี้ยนเตถือรับสั่งมาจึงออกไปตอนรับแลวเชิญเขา มาในคาย โจโฉ
เห็นบุคลิกลักษณะของตังเจี๋ยว "พวงพีผิวเนื้อสดใส จักษุนั้นโตกลม คิ้วสุดหางตา" ก็ประหลาดใจเพราะยามนี้
ขาวยากหมากแพง อาหารไมบริบูรณ ขุนนางขาราชการทั่วไปซูบซีดผอมโซ ไฉนคนผูนี้จึงมีบุคลิกสมบูรณ
สดใสดังนี้ จึงถามวาบานเมืองยามทุกขเข็ญ ขาวปลาอาหารไมบริบูรณ แตตัวทานสมบูรณผองใสยิ่งนัก ทาน
บํารุงรางกายหรือมีโอสถทิพยประการใด ตังเจี๋ยวจึงวาขาพเจานี้ไมเคยดื่มกินอาหารทิพยหรือโอสถทิพย แต
ประการใด ในระยะสามสิบปมานี้ขาพเจากินแตอาหารธรรมดา ไมปรุงรสชาติ ไมวาเค็ม เปรี้ยว เผ็ด หวาน มัน
คงกินแตอาหารที่มีรสจืดหรือไรรสเทานั้น อาหารเปนปจจัยสําคัญของชีวิต เปนทั้งเครื่องหลอเลี้ยงชีวิตให
เจริญเติบโต และเปนทั้งยาบําบัดรักษาโรค เนื่องเพราะอาหารนั้นเปนตนกําเนิดของเลือด เลือดเปนตนกําเนิด
ของความเจริญเติบโตและโรคภัยไขเจ็บ โดยนัยนี้อาหารจึงมีทั้งคุณและโทษ อาหารที่ไรรสจัดเปนยา
อายุวัฒนะอยางหนึ่งที่มีมาแตโบราณกาล สามกกในตอนนี้ไดเปดเผยถึงการใชอาหารเปนยาอายุวัฒนะที่
นาสนใจทดลองยิ่ง
โจโฉฟงแลวพยักหนาเปนเชิงยอมรับแลวถามตอไปวา ทานรับราชการอยูที่ไหนมากอนและบัดนี้มีตําแหนง
อะไร ตังเจี๋ยวจึงวาเดิม ขาพเจารับราชการอยูกับอวนเสี้ยว เคยไดรับเลือกเปนบุคคลตัวอยางในฐานะบุตรยอด
กตัญู ครั้นไดทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงจึงมาขอเขาเฝา ทรงโปรดเกลาแตงตั้ง
ใหเปนที่ขาหลวงมีหนาที่ถวายคําปรึกษา โจโฉครั้นไดยินวาตังเจี๋ยวเปนที่ปรึกษาใกลชิดพระเจาเหี้ยนเตและ
สังเกตเห็นทวงทาเจรจาเฉลียวฉลาด จึงกลาวผูกน้ําใจไมตรีวาขาพเจาไดยินกิตติศัพทของทาน มีความ
เลื่อมใสมานานแลว บัดนี้มาพบตัวโดยบังเอิญนับวาเปนวาสนาที่รวมกันมาแตปางกอน ดังนั้นเพื่อแสดงความ
คารวะตอทาน ขาพเจาขอเชิญทานอยูกินโตะดวยขาพเจาสักมื้อหนึ่ง
ตังเจี๋ยวเพลินใจในถอยรอยวาจาอันเจริญโสตของโจโฉจึงลืมพระราชธุระเสียสิ้น ตอบรับคําเชิญแลวกินโตะ
ดวยโจโฉในคายนั้น ยังไมทันไดเริ่มกินโตะทหารเขามารายงานวา ขณะนี้มีทหารกองหนึ่งกําลังออกเดินทาง
จากเมืองลกเอี๋ยงจะไปทางดานตะวันออก โจโฉจึงสั่งใหทหารไปสืบดูวาเปนกองทหารของผูใดและจะยกไปที่
ใด ตังเจี๋ยวซึ่งเปนขาหลวงทราบความที่เอียวฮองและหันเซียมเขาเฝากราบทูลพระเจาเหี้ยนเตจึงวา ทานไม
จําเปนตองไปสืบขาวดอก เพราะนั่นเปนเอียวฮองทหารเกาของลิฉุย และหันเซียมหัวหนาโจรที่กลับใจเขารับ
ราชการ สองคนนี้เห็นทานมีอํานาจในเมืองหลวงจึงคิด จะไปอยูเมืองไตเหลียง โจโฉไมรูความเกี่ยวกับสองคน
นี้มากอนก็สงสัย จึงถามตังเจี๋ยว วาทั้งสองคนนี้มีความหวาดระแวงขาพเจาดวยเหตุใด ตังเจี๋ยวเฉลย วาทั้ง
สองคนนี้ไมมีความคิดสติปญญา หาไดมีความคิดระแวงสงสัยอะไรในตัวทานไม เพียงแตเห็นบทบาทตัวเอง
ลดลงก็อยากไปอยูที่อื่นเสียเทานั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉลองภูมิตังเจี๋ยวตอไปอีกวา ทั้งสองคนนี้เมื่อไปอยูเมืองไตเหลียง แลวจะคิดอานประการใด ตังเจี๋ยวจึงวา
ทั้งสองคนนี้ไมมีน้ํายา "อุปมาเหมือนเสือไมมีเขี้ยว แลนกหาปกมิได" คงจะไมคิดการอันใดใหเปนอันตรายตอ
ทาน โจโฉสนทนากับตังเจี๋ยวก็ยิ่งเห็นความหลักแหลม รอบรูการบานเมือง และเห็นวามีไมตรีสนองตอบ
ชัดเจนแลวจึงปรึกษาตอไปวา บัดนี้เมืองลกเอี๋ยงถูกเผลิงเผาผลาญหมดสิ้น จะคิดอานประการใดจึงจะควร
ตังเจี๋ยวจึงวาตั๋งโตะเปนทรราชเผาเมืองลกเอี๋ยงนี้เสียแลวเชิญเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอันตั้งเปนเมือง
หลวงขึ้นมาใหมอีกครั้งหนึ่ง สิ้นตั๋งโตะแลวลิฉุย กุยกีครองอํานาจเปนทรราชตามเผาเมืองเตียงอันเสียแลว
กระทําย่ํายีตอฮองเตและขุนนางทั้งปวงจนพระเจาเหี้ยนเตตองหนีมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงนี้ บัดนี้ทานเขามา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 48
ชวยราชการในเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตและขุนนางทั้งปวงจึงคอยมีความสุขขึ้น ความชอบจึงมีแกทานเปน
อันมาก แตทวาเมืองลกเอี๋ยงนี้ชํารุดทรุดโทรมไมสามารถบูรณะฟนฟูใหคืนดีไดดังเดิม ทั้งประตูเมือง คายคู
หอรบก็ถูกทําลายสิ้น หากมีศึกเหนือเสือใตยกมาก็จะทําการรับศึกไมสะดวก
โจโฉฟงคําตังเจี๋ยวชอบดวยเหตุและผลตองดวยใจตัวจึงซักไซ ตอไปวาเมื่อเปนเชนนี้ทานมีความคิดเห็น
ประการใดสืบไปจึงจะทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขได ตังเจี๋ยวจึงวาเมืองฮูโตอยูไมไกลจากเมืองลกเอี๋ยง ขาว
ปลาอาหาร ก็บริบูรณ ขอใหทานกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหยายเมืองหลวง ไปอยูเมืองฮูโต เทากับทาน
ไดเนรมิตเมืองหลวงใหมแลวนอมเกลาถวาย ความชอบจะมีแกทานเปนอันมาก ขอทานจงพิจารณาโดยควร
เถิด โจโฉฟงตังเจี๋ยวอรรถาธิบายความเมืองโดยกวาง โดยลึกแลวประทับใจตังเจี๋ยวเปนอันมาก ลุกขึ้นแลวเขา
มาจับเอามือทั้งสองของตังเจี๋ยวกุมไว แลววาความคิดอานของทานชางกวางไกลยิ่งนัก ตองดวยความคิดของ
ขาพเจา แผนดินจะเปนสุขสงบครั้งนี้ดวยความคิดอานของทานนี่แลว ขาพเจาจะรีบทําตามคําปรึกษาของทาน
แตวิตกวาถาเรายกไปจากเมืองลกเอี๋ยงแลว เอียวฮองและหันเซียมจะไมยก มาทํารายเอาหรือ นอกจากนี้
บรรดาขุนนางขาราชการจะพรอมใจยาย ไปเมืองฮูโตพรอมกันแลวละหรือ ตังเจี๋ยวจึงวาการทั้งปวงนั้นจะหวัง
เอาความพรอมใจจากทุกคนยอมไมได เพราะไมวาเรื่องราวจะดีราย ประการใด ก็ยอมมีทั้งผูเห็นดวยแล
คัดคานควบคูไปแทบทั้งสิ้น ขอเพียงการนั้นเปนประโยชนตอคนสวนใหญในแผนดิน และผูคนหมูมากเห็นพอง
ดวยแลวยอมพึงกระทํา และยอมเปนการดีที่จะไดรูอยางแจงชัดวาใครใดเห็นพองเขารวมดวยความคิดทาน
ใครใด ทักทวงขัดขวางอยู ดังนี้แลวสภาพความเมืองทั้งสิ้นก็ยอมกระจางแจง คนทั้งปวงก็จะยําเกรงทานเปน
อันมาก สวนเอียวฮองและหันเซียมแมจะคิดทํารายทานแตขาดกําลัง ทั้งกําลังสติปญญาและกําลังทหาร ยอม
คิดทําการไปไมตลอด แตเพื่อ ไมใหทานตองวิตกกังวลในสองคนนี้เพียงแตเกลี้ยกลอมเอาใจไวก็จะไมคิดทํา
อันตรายตอทาน
โจโฉจึงวาทานอรรถาธิบายมานี้กระจางแจงยิ่งนัก ประดุจทําของคว่ําอยูใหหงายขึ้น ปญหาจึงคงเหลือแตเพียง
วาจะทําประการใดจึงจะชักจูงใจใหคนสวนใหญเห็นพองในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตังเจี๋ยวจึงวา
บัดนี้ในเมืองลกเอี๋ยงขาวปลาอาหารก็ขาดแคลน เกิดความอดอยากแกทุกผูคน ใหทานประกาศแกคนทั้งปวง
วาพระเจาเหี้ยนเตมีพระราชประสงคจะยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต เพื่อมิใหราษฎรตองอดอยากก็จะตอง
ดวยความปรารถนาของทุกผูคน โจโฉฟงคําชี้แจงโดยตลอดเห็นการขางหนาสวางไสว จึงมีความยินดีเปนอัน
มาก แลววานับแตนี้เปนตนไปขอทานชวยเอ็นดูขาพเจาใหคําปรึกษา ในการตางๆ เพื่อความรมเย็นเปนสุขของ
บานเมืองแลราษฎรเถิด ขาพเจามีขอราชการสิ่งใดก็จะขอคําปรึกษาทาน ตังเจี๋ยวขอบคุณโจโฉที่ไววางใจแลว
ขอลากลับ จากนั้นโจโฉจึงเชิญคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเขามาปรึกษาเรื่องยายเมืองหลวงและให
เตรียมการเพื่อยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตอไป
ขณะนั้นอองหลิบขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ผูเชี่ยวชาญดานดาราศาสตร มีหนาที่บันทึกจดหมายเหตุการ
แผนดิน ไดปรึกษากับเลางายเชื้อพระวงศ ซึ่งมีหนาที่เปนนายทะเบียนทําเนียบราชนิกูลวา ขาพเจาไดสังเกต
ดาวประจําเมืองตั้งแตชวงฤดูฝนเปนตนมา ถึงบัดนี้เปนเวลาสามเดือนแลว เห็นปรากฏการณบนนภากาศ
ประหลาดกวาที่เคยเปนมา เลางายจึงถามวาปรากฏการณบนทองฟาที่วานี้เปนฉันใด และจะเกิดผลดีรายตอ
บานเมืองประการใด อองหลิบจึงวาชวงเวลานี้ดาวพระศุกรไดโคจรเขาบดบังดาวประจําเมืองตรงบริเวณกลุม
ดาวไถซึ่งเปนระยะเชิงมุมบงชี้วาตรงกับเมืองเทียนสิน ซึ่งถือวาเปนทาขามระหวางเมืองมนุษยกับเมืองสวรรค
ขณะเดียวกันดาวอังคารไดโคจรถอยหลังเขามาใกลกับดาวพระศุกรตรงจุดที่เปนประตูสวรรค ปรากฏการณ
ทั้งนี้แสดงวาบานเมืองจะเปลี่ยนแปลงผูครองอํานาจรัฐ ขาพเจาพิเคราะหแลวเห็นวาราชวงศฮั่นใกลจะดับสูญ
แลว ดินแดนอันเปนวุยกกจะรุงเรืองไพบูลย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
อนึ่งดาวอังคารอันโคจรเขามา ณ ประตูสวรรคนั้นหมายถึงขุนศึกผูมีกําลังกองทัพเขมเข็งเกรียงไกร ดังนั้นผู
ครองอํานาจรัฐใหมจึงเปนแมทัพ และจะตั้งตนแหงอํานาจ ณ ดินแดนอันเปนแควนวุยนั้น เลางายจึงวาความ
เรื่องนี้เปนการใหญของแผนดินสมควรที่ทานจะกราบบังคมทูลใหทรงทราบ อองหลิบก็รับคํา และเขาเฝาพระ
เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหทรงทราบเปนการสวนพระองค พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวมิได
ตรัสประการใด ในขณะที่อองหลิบสนทนากับเลางายนั้น คนรับใชในบานได ยินความก็คิดขายนายเอา
ความชอบจึงลอบไปแจงขอความนั้นใหโจโฉทราบ โจโฉครั้นทราบความอันเปนที่ประหลาดนัก กริ่งใจวาความ
จะแพรงพรายไปแลวจะเกิดผลรายแกตัว ค่ําลงก็ใหคนไปวากลาวตักเตือนอองหลิบวา ปรากฏการณแหงฟาดิน
ยังหาเปนที่แนนอนไม อยาเพิ่งพูดจาใหแพรงพรายจะเปนที่ตระหนกตอผูคนในแผนดิน อองหลิบ ฟงคําเตือน
แลวก็มิไดวากลาวประการใด โจโฉใหทหารตามซุนฮกที่ปรึกษามาพบแลวเลาความตามที่ อองหลิบสนทนา
กับเลางายใหฟงทุกประการ แลวถามวาทานมีความเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาสรรพสิ่งยอมหมุนเวียน
เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ และความสัมพันธของฟาดิน ธาตุทั้งหลายยอมหมุนเวียนเปลี่ยนแปรไปตามเหตุปจจัย
ของกันและกัน ธาตุไฟใหกําเนิดธาตุดิน ธาตุดินใหกําเนิดธาตุทอง ธาตุทอง ใหกําเนิดธาตุน้ํา ธาตุน้ําให
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 49
กําเนิดธาตุไม และธาตุไมใหกําเนิดธาตุไฟเปนวัฏจักรดั่งนี้ อันพระเจาเหี้ยนเตนั้นเปนธาตุไฟ ตัวทานเปนธาตุ
ดิน ครั้นเหตุการณหมุนเวียนสิ้นปูมแหงธาตุไฟแลว ยุคสมัยใหมยอมผันสูปูม ธาตุดินอันเปนปูมธาตุประจําตัว
ทาน ทั้งเมืองฮูโตซึ่งอยูในดินแดนอันเปนวุยกกก็อยูในภูมิธาตุดินสมกับธาตุของทาน สอดคลองกับการบนนภา
กาศ ดังนั้นปรากฏการณของฟาดินสมคลอยตองกันแลว การยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตครั้งนี้เห็นทีทานจะ
เรืองอํานาจขึ้นดังคําของอองหลิบเปนมั่นคง ขอทานจงรีบดําเนินการโดยไวเถิด
โจโฉฟงคําซุนฮกแลวตัดสินใจขั้นสุดทายในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นรุงเชาก็เขาเฝาพระเจา
เหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหยายเมืองหลวง โดยอางวาเมือง ลกเอี๋ยงชํารุดทรุดโทรมหากมีศึกเหนือเสือใตยกมา
ทําอันตรายก็จะไมสามารถปองกันรักษาไวได ทั้งเสบียงอาหารก็ไมสมบูรณ แตเมืองฮูโตซึ่งอยูไมไกลมีความ
พรอมทุกอยาง พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวทรงเห็นชอบดวย และรับสั่งใหดําเนินการตามที่
เห็นสมควร โจโฉจึงกราบบังคมทูลตอไปวา ถาเปนเชนนั้นขาพระพุทธเจาจะไดรีบดําเนินการตามพระบรมรา
ชานุญาตโดยเร็วแลวกราบบังคมลาออกมา
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
การสถาปนาอํานาจรัฐใหมของโจโฉ (ตอนที่ 72)
โจโฉออกจากที่เฝาแลวสั่งใหเตรียมการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นพรอมแลวจึงอัญเชิญเสด็จพระเจา
เหี้ยนเตและฮองเฮาประทับรถพระที่นั่ง ขาราชบริพารและขุนนางขาราชการทั้ง ปวงโดยเสด็จอยางพรอม
เพรียงกัน แลวเคลื่อนขบวนออกจากเมือง ลกเอี๋ยง โดยมีกองทัพของโจโฉเปนกองระวังหนาหลังตามขบวน
พยุหยาตราทางสถลมารค ครั้นขบวนเคลื่อนมาประมาณหกสิบเสน ถึงเขตเขาอันเปนที่ฝงพระบรมศพอดีต
พระมหากษัตริย เอียวฮองและหันเซียมไดคุมทหารมาสกัดขบวนไว โจโฉครั้นทราบความจึงขับมาออกไปหนา
ทหาร แลวแจงวานี่เปนขบวนเสด็จ ผูมาสกัดขวางจะเปนกบฏตอแผนดินหรือ ซิหลงทหารของเอียวฮองและ
หันเซียมไมตอคํา ขับมาตรงเขามา หาโจโฉ เคาทูเห็นดังนั้นจึงขับมาเขาสกัดซิหลงไว สองทหารตอสูกันอยาง
ดุเดือดไดหาสิบเพลง โจโฉจึงใหตีระฆังเปนสัญญาณใหเคาทูถอยกลับมา ซิหลงเห็นเคาทูถอยไปก็กลับไป
คายโจโฉเชิญบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองมาปรึกษาวาเอียวฮองและหันเซียมเปนกบฏตอแผนดิน จํา
จะจับฆาเสียใหจงได แตซิหลงนั้นมีฝมือกลาแข็ง ขาพเจาใครไดตัวมาใชในราชการ ทั้งหากไดตัวซิหลง
มาแลวก็จะจับตัวเอียวฮองและหันเซียมไดโดยงาย ดังนี้จะมีผูใดอาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงไดบาง หมันทอง
ขุนนางเมืองลกเอี๋ยงซึ่งโดยเสด็จมาในขบวนยินคําโจโฉ แลวขออาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงเพราะเปนชาวบาน
เดียวกัน สนิทกันมาตั้งแตยังเด็ก โจโฉเห็นชอบและอนุญาตใหหมันทองไปดําเนินการ ครั้นค่ําลงหมันทองจึง
ปลอมตัวเปนทหารเลวลอบไปยังคายของ ซิหลง เห็นซิหลงในชุดออกศึกจุดเทียนนั่งดูหนังสืออยูจึงเขาไป
คารวะแลวทักทายซิหลงวา ไมไดพบกันนานป ทานมีความสุขสบาย ดีหรือ ซิหลงเห็นทหารเลวเขามาในคายก็
ประหลาดใจเขมนมองโดย พินิจก็จําไดวาเปนหมันทองเพื่อนแตวัยเด็ก จึงเชิญใหนั่งลงเจรจาแลว ถามวาเหตุ
ใดจึงมาหาขาพเจาถึงที่นี่ หมันทองจึงวาขาพเจานี้รับราชการอยูกับโจโฉ วันนี้เห็นทานตอสูกับเคาทูจึงรีบลอบ
มาเยือนในฐานะเพื่อนเกาเพื่อบอกความเห็นอันเปนประโยชนตอมิตร แลววาตัวทานมีฝมือกลาแข็ง องอาจกลา
หาญ สมควรรับราชการในพระมหากษัตริย เหตุใดจึงมางอมืองอเทา อยูกับคนไรความคิดแบบเอียวฮองและ
หันเซียมนี้ จะหาความกาวหนา หรือความเจริญรุงเรืองใดๆ ไมไดอยางมากก็เปนไดแคหัวหนาโจร ขาพเจา
เสียดายยิ่งนักจึงมาเตือนสติทานใหคิดดูตามที่ควร
ซิหลงฟงคําหมันทองแลวนิ่งอยู เปนทาทีที่จํานนตอถอยคําของ หมันทอง ดังนั้นหมันทองจึงรีบรุกตอไปวา
บัดนี้โจโฉถือรับสั่งฮองเต นําขบวนเสด็จไปเมืองฮูโต โจโฉนั้นเปนผูนําที่ปรีชาสามารถ มีน้ํา ใจรักผูมีฝมือกลา
แข็ง ความขอนี้ทานคงไดยินกิตติศัพทมาบางแลว เปนแน วันนี้ในขณะที่ทานตอสูกับเคาทูนั้น โจโฉมีความ
พอใจในฝมืออันแกรงกลาของทานจึงมีไมตรีจิตเมตตา สั่งหามทหารเกาทัณฑมิใหทําอันตรายทานแลวให
ขาพเจาออกมาเชิญทานไปทําราชการดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ซิหลงฟงดังนั้นจึงทอดถอนใจใหญแลววาขาพเจาก็รูอยูวาเอียวฮองและหันเซียมไรความคิดแลสติปญญา แต
ติดขัดอยูตรงที่อยูดวยกันมาชานาน หากละทิ้งเสียในยามนี้ก็จะถูกเขานินทาได หมันทองเห็นซิหลงมีน้ําใจ
โนมไปในทางที่ไมสมัครใจอยูกับเอียวฮอง และหันเซียม จึงกลาววา "อันธรรมดานกจะทํารังก็ยอมแสวงหาซึ่ง
พุมไมชัฏ จะไดทํารังอยูเปนสุข ถึงลมพายุใหญจะพัดมา รังนั้นก็มิไดเปนอันตราย ประการหนึ่งเปนชายชาติ
ทหาร จะหาแมทัพก็ใหพิเคราะหดูผูใจโอบออมอารีแลชํานาญในการสงคราม ถึง ขาศึกจะยกมามากมาย
เทาใดก็มิไดหวาดไหว คิดอานปองกันทหารทั้งปวงมิใหเปนอันตราย ถาผูใดพบพานผูมีสติปญญาหมายจะพึ่ง
ไดแลว ไมเขาทําราชการดวย อยาใหคนทั้งปวงนับถือความคิดผูนั้นเลย" ซิหลงฟงคําหมันทอง ทั้งเหตุผลแล
ความแวดลอมอันบริบูรณดังนี้จึงเห็นดวยตกลงใจจะไปทําราชการดวยโจโฉ หมันทองจึงวาถา เชนนั้นทานจง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 50
ตัดศีรษะเอียวฮองและหันเซียมเอาไปคํานับโจโฉพรอมกันเถิด ทานจะมีความชอบเปนอันมาก ซิหลงจึงวา
"ธรรมดาเปนบาวไดกินขาวแดงของทานแลว ถามิพอใจอยูดวยแลจะซ้ําทํารายแกนายก็เปนคนหากตัญูมิได"
แลวปฏิเสธขอเสนอดังกลาวของหมันทองวาขาพเจาทําตามขอเสนอของทานมิได หมันทองฟงคําปฏิเสธแลว
สรรเสริญ ซิหลงเปนอันมากวาเปนคนมีกตัญูรูคุณคน แลววาถาเชนนั้นก็จงไปแตตัวพรอมกันเถิด
ซิหลงรับคําแลวจัดแจงขาวของเครื่องใชสวนตัวและพาพรรคพวกที่สนิทสนมกันสามสิบคนตามหมันทองหนี
ออกจากคายไปหาโจโฉในคืนนั้น ฝายเอียวฮองทราบวาซิหลงพาพรรคพวกหนีออกจากคายจะไปอยูดวย โจ
โฉก็โกรธ ยกทหารพันหนึ่งออกไลตามซิหลง ครั้นมาถึงเนินเขาเห็นมีกองทหารสุมไฟสวางอยู ทันใดนั้นโจโฉ
ยกทหารออกมาลอมเอียวฮองไว แลววาเรามาคอยทานอยูเกือบสองชั่วยามแลว ทานหนีไปไมรอดดอก วา
แลวใหทหารบุกเขาไปเพื่อจะจับตัวเอียวฮอง เอียวฮองพยายามจะตีฝาออกไป ขณะนั้นหันเซียมทราบวาเอียว
ฮองยกทหารออกติดตามซิหลงจึง รีบยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารโจโฉลอมเอียวฮองอยู จึงตีฝาเขามาชวย
เอาเอียวฮองออกจากวงลอมทหารโจโฉไปได ทหารโจโฉไดฆา ฟนทหารเอียวฮองและทหารหันเซียมลมตาย
ลงหลายคน สวนที่เหลือ ก็เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉสิ้น แตเอียวฮองและหันเซียมนั้นเมื่อหนีมา ไดแลวเห็น
ทหารเหลืออยูไมกี่คนก็เสียใจ หมดกําลังใจที่จะตอสูอีกตอไปจึงพากันไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง
โจโฉก็ยกทหารกลับมายังขบวนเสด็จ หมันทองจึงพาซิหลงเขา มาคํานับโจโฉ ครั้นโจโฉเห็นหนาหมันทอง
และซิหลงก็มีความยินดียิ่งนัก สั่งทหารใหเอาเสื้อเกราะอยางดีและเงินทองจํานวนมากมารับขวัญซิหลง แลว
แตงตั้งใหเปนนายทหารประจํากองทัพของโจโฉ รุงขึ้นโจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยกไปเมืองฮูโต แลว
อัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่เรือนรับรองแขกเมือง ซึ่งจัดเปนที่ประทับชั่วคราว และใหใชจวนเจา
เมืองเปนทองพระโรงสําหรับวาราชการชั่วคราว พระเจาเหี้ยนเตทรงมีพระบรมราชโองการใหสถาปนาเมืองฮูโต
เปนราชธานี แลวโปรดใหสรางพระราชวัง ทองพระโรง พระตําหนักและอาคารตางๆ ตามธรรมเนียมการสราง
เมืองหลวง และใหขยายเขตเมืองใหมใหกวางขวางกวาเดิม กอสรางกําแพงเมืองใหม กอสรางคายคูประตู
เมืองหอรบพรอมสรรพเนื่องจากบรรดาขุนนางแตครั้งเมืองหลวงเกาตั้งแตลิฉุย กุยกีลงมาบางก็เปนกบฏ บางก็
ลมหายตายจาก ครั้นสถาปนาเมืองหลวงใหมจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งขาราชการขุนนางครั้ง
ใหญตั้งแตระดับสูงสุดลงมาดังนี้
แตงตั้งโจโฉเปนอัครมหาเสบาบดี, ตังสินและขุนนางในพระเจา เหี้ยนเตรวมสามสิบเอ็ดคนเปนขุนนางชั้น
เสนาบดี, ซุนฮกเปนราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี, ซุนฮิวเปนขุนนาง ที่ปรึกษา ดานกิจการ
ทหาร, กุยแกเปนเสนาธิการทหารสูงสุด, เลาหัวเปนเสนาบดีประจําสํานักอัครมหาเสนาบดี, "มอกาย เล็กโจ
ยิบจุน สาม คนนี้ไดกํากับคลังและฉางขาว", เทียหยกเปนเจาเมืองตังเปง, ฮวนแสง กับตังเจี๋ยวเปนเจาเมือง
ลกเอี๋ยง, หมันทองเปนที่เจาเมืองฮูโต, แฮหัวตุน แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน โจหอง สี่คนนี้เปนทหารเอก, ลิยอย ลิ
เตียน งักจิ้น อิกิ๋ม ซิหลง ทั้งหาคนนี้เปนทหารโท, เคาทูกับเตียนอุยเปนทหารตรี และบรรดาทหารมีฝมือทั้งนั้น
ก็ตั้งเปนขุนนางสิ้นการแตงตั้งขุนนางใหมในครั้งนี้มีลักษณะเหมือนการตั้งรัฐบาลใหม เปนการประนีประนอม
ระหวางฝายราชสํานักกับฝายของโจโฉ ดังนั้นรัฐบาลใหมนี้จึงเปนรัฐบาลผสมระหวางขุนนางขาราชสํานักเกา
กับทีมงานของโจโฉ โดยคณะรัฐมนตรีมีทั้งสิ้นสามสิบหกคน เทากับจํานวนคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแหง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ในจํานวนคณะรัฐมนตรีสามสิบหกคนนี้มีโจโฉเปนนายกรัฐมนตรี มีขุนนางขา
ราชสํานักเกาเปนรัฐมนตรีสามสิบเอ็ดคน โดย มีตังสินเปนหัวหนา ทีมงานของโจโฉเปนรัฐมนตรีเพียงสี่คน คือ
มอกาย เล็กโจ ยิบจุน และเลาหัวเทานั้น แตเปนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ งานสําคัญคือรับผิดชอบงานการคลัง
และฉางขาวอันเปนคลังเสบียง รวมทั้งงานบัญชาการภายในประเทศซึ่งอยูในความรับผิดชอบ ของสํานักอัคร
มหาเสนาบดี หรือสํานักนายกรัฐมนตรีในปจจุบันนั่นเอง
รัฐบาลผสมชุดนี้มีผูประสานงานระหวางสถาบันพระมหากษัตริยกับรัฐบาลคือซุนฮก ซึ่งเปนทั้งราชเลขาธิการ
และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ทําใหงานของฝายบริหารกับของสถาบันพระมหากษัตริยเปนเอกภาพ แตใน
ดานการทหารนั้น โจโฉไดวางคนของตัวในตําแหนงสําคัญจนหมดสิ้น ดังนั้นแมวาจะเปนรัฐบาลผสมที่ฝายโจ
โฉมีรัฐมนตรีเปนเสียงขางนอย แตทวาโดยเนื้อหาแหงอํานาจกลับตกอยูกับโจโฉทั้งสิ้น เพราะตัวโจโฉเองเปน
อัครมหาเสนาบดีวาราชการสิทธิขาดทั้งดานกิจการทหารและพลเรือน โดยเฉพาะตําแหนงสําคัญทางฝาย
ทหารนั้นยังมีตําแหนงเปนผูบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งเปนตําแหนงสําคัญอยูเดิมอีกตําแหนงอีก มี
อํานาจ สิทธิขาดในราชการประจํา รวมทั้งการบัญชาการสํานักพระราชวัง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จึงวาไววา "ถาผูใดจะวาขอราชการสิ่งใดๆ ก็เอามาแจงแกโจโฉกอน จึง
กราบทูลพระเจาเหี้ยนเตได" นั่นคือสายงานระหวางฝายบริหารกับสถาบันพระมหากษัตริยจะผานจากโจโฉซึ่ง
เปนอัครมหาเสนาบดีไปทางซุนฮกราชเลขาธิการ เพื่อนําความกราบบังคมทูลทางหนึ่ง และจากระมหากษัตริย
ผานราชเลขาธิการลงมาถึงอัครมหาเสนาบดีอีกทางหนึ่ง การทั้งนี้จะวาเปนไปเพราะโจโฉมีจิตใจคิดกําเริบยอม
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 51
ไมได เพราะระบบบริหารราชการแผนดินในขณะนั้นเปนดังที่กลาวแลวมาตั้งแตยุครัชกาลกอนๆ และดูไปแลว
อํานาจของพระเจาเหี้ยนเตในยุค นั้นคลายๆ กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข เปนแต
วาเปนประชาธิปไตยที่มีอัครมหาเสนาบดีเปนผูมีอํานาจเด็ดขาดในการบริหารอยางหนึ่งและโดยไมมี การ
เลือกตั้งอีกอยางหนึ่ง โครงสรางแหงอํานาจแบบนี้ประจักษชัดวาโจโฉไดเห็นความสําคัญของ อํานาจในยุคนั้น
วาอยูที่กองทัพ เปนหลักการเดียวกับความคิดของเหมาเจอตงที่วา "อํานาจรัฐเกิดจากกระบอกปน" โจโฉได
อาศัยกองทัพเปนฐานอํานาจทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งมีโจโฉเอง เปนหัวหนารัฐบาล ดังนั้นแมวาจะมีเสียง
ขางนอยในคณะรัฐมนตรี แตอํานาจแทจริงกลับมิไดอยูที่คนเหลานั้นหากอยูที่โจโฉ ซึ่งเปนผูรับผิดชอบทาง
นโยบายสูงสุด
ความลมเหลวที่ฉกรรจของนายปรีดี พนมยงค หนึ่งในคณะราษฎรคนสําคัญและอดีตหัวหนาขบวนการเสรีไทย
คือการไมใหความสําคัญแกการกุมอํานาจทางทหาร ดังนั้นอํานาจรัฐของนายปรีดี พนมยงค ในยุคหลัง
เปลี่ยนแปลงการปกครองจึงตองหลุดมือไป ทําใหการอภิวัฒนตองถอยหลังแมกระทั่งตัวเองก็ตองลี้ภัยออกไป
อยูในตางประเทศจนวาระสุดทายแหงชีวิต แมวายุคสมัยจะไดพัฒนาไปจนสงครามกําลังกลายเปนเรื่องลาสมัย
แตอํานาจรัฐก็ยังคงอยูที่กระบอกปนอยูนั่นเอง เปนแตวากระสุนปนนั้นไดแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และกระสุน
เงินไดเขามามีบทบาทมากขึ้นโจโฉผูใฝฝนเปนใหญในแผนดินมาตั้งแตเด็ก บัดนี้ความใฝฝนของโจโฉปรากฏ
เปนจริงขึ้นแลว และเมื่อโจโฉครองอํานาจรัฐก็เห็น ไดชัดอีกประการหนึ่งวาบรรดากลไกสําคัญแหงอํานาจได
ถูกวางตัวโดยบุคคลที่เปนคนเกา เคยรวมทุกขรวมสุข รวมเปนรวมตายกันมากอน ทั้งสิ้น โจโฉไมยอมรับเอา
บุคลากรภายนอกจําพวก "ปลาผอม" ที่วิ่งเตนแสวงหาตําแหนงจากผูมีอํานาจ หรือประเภท "มืออาชีพ" ที่ใคร
ไหนชนะก็เอาดวยชวยกระพือ หรือจําพวก "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามาอยูในกลไกอํานาจรัฐแมเพียง
คนเดียว
บทเรียนนี้มีมานับพันป แตนายกรัฐมนตรีบางคนซึ่งดูประหนึ่งเฉลียวฉลาดแตกลับไมรูจักบทเรียนนี้ หลงเลือก
เอาคนแบบ "ปลาผอม" คนแบบ "มืออาชีพ" และคนแบบ "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามารวมรัฐบาล
โดยทิ้งขวางผูคนเกาของตนที่รวมทุกขรวมสุขมาดวย กันอยางไมไยดี จึงทําใหรัฐบาลนั้นตองอายุสั้นอยางนา
เสียดาย
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
อุบายลิดกิ่งเอาลําตน (ตอน 73)
ในขณะที่โจโฉครองอํานาจรัฐอยางเต็มเปยมแลวนั้น เลาปยังคงเปนแคเจาเมืองชีจิ๋ว อันเปนหัวเมืองเอก แต
ซุนเซ็กกลับตกระกําลําบากและถดถอยลงจากเมื่อครั้งที่เพิ่งสิ้นซุนเกี๋ยน ในครั้งนั้นบรรดาแมทัพนายกองและ
ทหารของซุนเกี๋ยนพรอมใจกันยกให ซุนเซ็กเปนเจาเมืองเตียงสา แตทางเมืองหลวงไมรับรองฐานะของซุน
เซ็ก ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพาพรรคพวกออกจากเมืองเตียงสาไปอยูเมืองกังหนํา ซึ่งเปนหัวเมืองจัตวา ขึ้นกับ
เมืองชีจิ๋ว
ตอมางอเกงซึ่งเปนเจาเมืองตันเอี๋ยง และเปนนาของซุนเซ็ก ไดพิพาทกับโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ซุนเซ็กอาศัย
อยูในเมืองกังหนําตอไปไมไดเพราะตองถือวาเปนปรปกษกับโตเกี๋ยมไปดวย ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพามารดา
และครอบครัวไปฝากอาศัยอยูที่ตําบลขยกโอ ทางตอนใตของแมน้ําแยงซีเกียง ใกลกับเมืองตันเอี๋ยง แตตัว
ซุนเซ็ก และบรรดาทหารลูกนองเกาของซุนเกี๋ยนไดพากันไปรับราชการอยู กับอวนสุดที่เมืองลําหยง และ
กลายเปนลูกนองของอวนสุดตั้งแตบัดนั้น
ในสถานการณที่กลาวนี้ โจโฉจึงเปนขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ที่มีตําแหนงสูงที่สุด และมีอํานาจมากที่สุดใน
แผนดิน โดยที่บรรดาหัวเมืองตางๆ นั้นยังไมปรากฏวาเมืองใดตั้งตนเปนปรปกษโดยตรงกับโจโฉ คงมีแตลิโป
คนเดียวที่เปนศัตรูคูอาฆาตและบัดนี้แตกทัพหนี ไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย โดยนัยที่กลาวนี้ถาโจโฉ
เปนผูนําและนักปกครองที่แทจริงแลว ยอมใชอํานาจรัฐที่มีอยูนั้นสรางเอกภาพ สรางความสงบสุขสันติขึ้นใน
แผนดินได หรืออยางนอยก็ตองไมแยลงกวาที่เปนมาแตเดิม ดวยเหตุนี้การที่สถานการณไมเกิดความสุขสันติ
แตกลายเปนสงครามขุนศึกอยางยาวนานจนกลายเปนสามกก จึงตองกลาววาเปนผลมาจากความผิดพลาด
ของโจโฉทั้งสิ้น และยอมกลาวไดดวยวาบรรดาที่ปรึกษา ตลอดจนแมทัพนายกองของโจโฉคือผูรวมขบวนการ
ที่กอความเดือดรอนทุกขเข็ญแกแผนดินและราษฎรรวมกับโจโฉ ซึ่งตองรับผิดชอบในความผิดพลาดลมเหลว
นั้นดวย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 52
ในฐานะรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเต แทนที่โจโฉจะเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการทํานุบํารุงแผนดินและ
ราษฎร แกไขปญหาความพิพาทบาดหมางระหวางหัวเมืองตางๆ ที่หากจะพึงมี สรางสันติสุขและสันติภาพให
เกิดขึ้นในแผนดิน แตกลับปรากฏวาโจโฉไดเริ่มตน ดวยความคิดกอสงคราม และทําใหสงครามขยายตัว
ลุกลามไปทั่วประเทศ โจโฉเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการพิจารณาวาใครเปนศัตรูที่ตองรีบกําจัดบาง แลวตั้ง
เอาลิโปเปนศัตรูตัวสําคัญที่ตองกําจัดเปนคนแรก ดังนั้นโจโฉจึงแตงโตะเลี้ยงบรรดาขุนนาง แมทัพนายกอง
และขาราชการทั้งปวง แลวปรึกษาวาบัดนี้ลิโปศัตรูตัวสําคัญของเราไดไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย
ดังนั้น หากละไวนานทั้งลิโปและเลาปก็อาจคบคิดกันมาทําอันตรายแกเรา ขาพเจาจึงปรารถนาที่จะกําจัดศัตรู
เสียตั้งแตไมทันตั้งตัว ทานผูใดจะคิดอานชวยการนี้ใหสัมฤทธิผลไดบาง
เคาทูจึงลุกขึ้นคารวะโจโฉแลวขออาสายกทหารหาหมื่นไปกําจัดลิโป และเลาปใหจงได ซุนฮกที่ปรึกษาอัคร
มหาเสนาบดีไดทักทวงขึ้นวาเคาทูเปนทหาร มีกําลังฝมือมากก็จริงอยู แตการทั้งนี้จะอาศัยกําลังฝมืออยาง
เดียวไมได หากตองอาศัยกําลังสติปญญาเปนธงชัยชี้ทิศนําทาง ซึ่งตองเริ่มตนดวยปญหาทางการเมืองกอนวา
สถานการณ ณ บัดนี้สมควรรบหรือไม หากวาสมควรรบแลวจึงไปสูปญหาวารบแลวจะชนะหรือไม จากนั้นจึง
เปนปญหาทางการทหารวาจะรบกันอยางไร
โจโฉจึงวาขาพเจาเห็นดวยกับกระบวนการทางความคิดของทาน จงแสดงใหประจักษวาดวยกระบวนการทาง
ความคิดนี้เราพึงกระทําการสถานใด จึงจะบรรลุความปรารถนาของขาพเจา ซุนฮกจึงวา "ในเมืองฮูโตนี้ทานพึ่ง
ยกมาซอมแปลงขึ้นใหม บานเมืองยังมิทันปรกติ ซึ่งจะยกไปนั้นขาพเจายังไมเห็นดวย แลเลาปกับลิโปนั้น
อุปมาดังเสือสองตัว ขาพเจาจะคิดใหชิงอาหารกันกิน เห็นเลาปกับลิโปจะเกิดรุกรบพุงกันจนตายขางหนึ่ง แลว
จึงคิดการตอไป" แลววาตามความคิดของขาพเจานั้น ขอทานจงนําความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตวา
บัดนี้โตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วตายแลว ไดทําพินัยกรรมไวแตกอนตายยกเมืองชีจิ๋วแกเลาป และเลาปไดสงหนังสือ
กราบบังคมทูลมาตามพินัยกรรมนั้น แตเรื่องราวยังเงียบอยู ขอทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจา
เมืองชีจิ๋วตามทางราชการ ดังนี้แลวเลาปก็จะเต็มใจทําราชการสนองพระเดชพระคุณ ตอจากนั้นใหทานมี
หนังสือไปถึงเลาปอีกฉบับหนึ่งแจงแสดงความยินดีที่พระเจาเหี้ยนเตทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจา
เมืองชีจิ๋ว โดยการเพ็ดทูลของทาน แตลิโปนั้นเปนศัตรูราชสมบัติแลมักเนรคุณคน ใหเลาปคิดอานวางแผน
กําจัดลิโปเสีย สิ้นลิโปแลวเลาปคงจะไมแข็งขอตอทานสืบไป
แผนการของซุนฮกครั้งนี้คืออุบายลิดกิ่งเอาลําตน เปาหมายที่แทจริงคือการยึดเมืองชีจิ๋ว บังคับใหเลาปเขา
สวามิภักดิ์แตโดยดี แตตนไมใหญแบบเลาปนั้น ขณะนี้ยังมีลิโปเปนกิ่งกานสาขาอยู จึงตองลิดกิ่งกานสาขา
เสียกอน แลวคอยเอาลําตนตอภายหลัง เปนอุบายทางการเมืองที่เปนอยางเดียวกับกลยุทธทางการทหารที่วา
"กินขาวทีละคําจนหมดจาน" นั่นเอง
โจโฉและบรรดาแมทัพนายกองฟงคําซุนฮกแลวตางสรรเสริญความคิดสติปญญาซุนฮกเปนอันมาก โจโฉจึงนํา
ความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วตามคําของ ซุนฮก และทํา
หนังสือลับอีกฉบับหนึ่งถึงเลาปแลวสั่งใหขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการและเอาหนังสือลับนั้นไปมอบ
แกเลาปที่เมือง ชีจิ๋ว และสั่งกําชับขาหลวงวาใหสังเกตการณความเคลื่อนไหวของเลาป วาจะยินดีปฏิบัติตาม
หนังสือลับนั้นหรือไม
เลาปครั้นทราบวามีขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการมาแตเมืองหลวง จึงใหจัดพิธีรับพระบรมราชโองการ
อยางธรรมเนียม ครั้นไดทราบความตามพระบรมราชโองการแลวก็มีความยินดี สั่งให แตงโตะเลี้ยงขาหลวง
และบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วในค่ําวันนั้น กินโตะเสร็จแลวขาหลวงจึงมอบหนังสือลับของโจโฉใหแก
เลาป ครั้นเลาปไดทราบความตามหนังสือลับที่วาโจโฉเปนผูเพ็ดทูลใหทรงโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจาเมืองชีจิ๋ว
และใหกําจัดลิโปเสีย ก็เขาใจความคิดและแผนการของโจโฉ ดังนั้นจึงผลัดผอนกับขาหลวงวาขอเวลาตรึก
ตรองอีก 2-3 วัน ขาหลวงก็รับคําเลาป แลวลากลับไปพักที่บานพักรับรองแขกเมือง เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปจึง
ใหเชิญบิตก ซุนเขียน สองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือของโจโฉวาจะ
จัดการประการใด คนทั้งนั้นเห็นวาสมควรฆาลิโปเสียตามที่โจโฉ ไดมีหนังสือมาเพราะเปนการกําจัดคนเนรคุณ
ที่เลวทรามเสียคนหนึ่งทั้งไมตองขัดใจเปนศัตรูกับโจโฉ แตเลาปไมเห็นดวย และแสดงเหตุผลวา "ลิโปไดบาก
หนามาพึ่งแลว ครั้นเราจะทําอันตรายเสียบัดนี้ก็เห็นไมสมควร นานไปใครจะมาอยูดวยเลา" เตียวหุยยังคง
ยืนยันวา การทําดีตอคนชั่วนั้นไรผล มีแตจะเปนอันตรายในภายหนา แตเลาปไมฟงคําเตียวหุย คงยืนยันตาม
ความเห็นเดิม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
วันรุงขึ้นไมทันที่เลาปจะไดแจงผลการตัดสินใจแกขาหลวงทหาร ก็มารายงานวาบัดนี้ลิโปมาขอพบเพื่อแสดง
ความยินดี เลาปจึงออกไปตอนรับลิโป ปฏิสันถารกันตามธรรมเนียมแลวจึงเชิญมาที่จวนเจาเมือง ลิโปไดแสดง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 53
ความยินดีพรอมกับมอบของขวัญจํานวนมากแกเลาป ขณะนั้นเตียวหุยถือกระบี่เขามาในจวนจะฆาลิโป เลาป
เห็นดังนั้นก็ตกใจขวางเตียวหุยไวแลวชิงกระบี่จากมือเตียวหุย และตอวาเตียวหุยวาไฉนไมฟงคําเราผูเปนพี่
แลวมากระทําเสียมารยาทตอลิโปดังนี้ ลิโปจึงวา เตียวหุยนี้มีความแคนผูกพยาบาทขาพเจาดวยเรื่องสิ่งใดหรือ
จึงพยายามฆาขาพเจาหลายครั้งหลายหนแลว เตียวหุยยินคําลิโปก็โกรธรองตวาดดวยเสียงอันดังวาเปนเพราะ
ลิโปเปนคนเนรคุณ แมโจโฉก็ยังมีหนังสือมาใหพี่กูฆามึงเสีย เลาปไดยินเตียวหุยเอาความเมืองอันเปนเรื่องลับ
มาพูดกับลิโป โดยไมยั้งคิดจึงตวาดเอากับเตียวหุยแลวสั่งทหารใหพาเตียวหุยออกไปจากจวน จากนั้นจึงพาลิ
โปเขาไปที่หองหนังสือแลวเอาหนังสือลับของโจโฉใหลิโปอานดู และบอกความตามที่โจโฉแจงมากับ
ขาหลวงใหลิโปฟงทุกประการ
ลิโปเห็นหนังสือของโจโฉที่ใหเลาปจับตัวฆาเสียก็รองไห รีบคํานับเลาปแลววาขาพเจาขอขอบใจในพระ
คุณทานที่ซื่อตรงตอมิตรในยามยาก การที่โจโฉคิดอานทําการทั้งนี้หวังจะใหทานกับขาพเจา หวาดระแวง
สงสัยแลวกลายเปนศัตรูกัน เมื่อลางผลาญกันเองแลว โจโฉยอมฉวยโอกาสกําจัดฝายชนะไดโดยงาย แต
น้ําใจทานงดงาม ซื่อตรงนัก จึงเอาความทั้งนี้ใหขาพเจาไดทราบ ดังนั้นจึงขจัดความหวาดระแวงสงสัยระหวาง
เราสอง ทําลายแผนการลิดกิ่งเอาลําตนของ โจโฉใหพินาศไปดวยน้ําใจแหงคุณธรรมของทานครั้งนี้
คําพูดของลิโปครั้งนี้ไมวาจะพูดออกมาเพราะความกลัวภัย หรือดวยบังเอิญก็ตามที แตแสดงใหเห็นวาลิโปได
เขาใจแผนการของโจโฉ ซึ่งยอมตรงกับความเขาใจของเลาปเปนอยางเดียวกัน เลาปฟงคําลิโปแลวจึงวา
ขาพเจาคบหากับทานดวยความสุจริต จะไมคิดสังหารทาน ตามความตองการของโจโฉเปนอันขาด ดังนั้น
ถึงแมผูใดจะมาวากลาว ยุยงประการใด ขาพเจาก็จะไมทํารายทาน อยาไดวิตกกังวลตอไปเลย
ลิโปจึงวาขาพเจาไดฟงคําทานแลวก็เบาใจ ตัวขาพเจานี้ก็จะรักษาไมตรีและระลึกถึงคุณทานตลอดไป เมื่อ
เขาใจกันเชนนี้แลวทั้งเลาปและลิโปจึงนั่งกินโตะกันตอไปจนถึงเวลาเย็น ลิโปจึงขอลาเลาปกลับไปเมืองเสียว
พาย กวนอู เตียวหุย เห็นเลาปปลอยลิโปลอยชายกลับไป จึงพากันเขาไปถามเลาปวาเหตุใดจึงไมฆาลิโปเสีย
เลา เลาปจึงวาโจโฉคิดอุบาย จะใหเรากับลิโปกินแหนงแคลงใจกันลางผลาญกันเองกอน แลวจึงกําจัดฝายที่
ชนะในภายหลัง ถาหากเรากําจัดลิโปเสียแลว โจโฉก็จะทําศึกปราบปรามฝายที่ชนะแตเพียงดานเดียว ไมตอง
หวงหนาพะวงหลังอีกตอไป การฆาลิโปก็คือการตองกลโจโฉ และเรานั่นแหละที่จะตกอยูในอันตรายตอไป
กวนอู ฟงคําเลาปแลวเห็นดวย แตเตียวหุยยังคงคุมความโกรธแคนชิงชังลิโปอยูจึงวาไมวาประการใดขาพเจา
จะฆาลิโปเสียใหจงได เลาปเห็นเตียวหุยดื้อรั้น ไมฟงเหตุผล จึงตําหนิเตียวหุยวาการที่นองเล็กเจาคิดเชนนี้
เหมือนกับคนไมมีความคิด เราไดอธิบายความเมืองอันเปนอุบายใหเจาฟงทั้งนี้ชัดเจนอยูแลว ไฉนเลาเจาจึง
ดื้อดึงไมฟงเหตุและผล เตียวหุยเห็นเลาปไมพอใจก็เกรงใจเลาปแลวยอมสงบทวงทากิริยาลงเปนปรกติ
ฝายขาหลวงรอฟงคําตอบจากเลาปวาจะเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉหรือไมอยูหลายวัน ก็ไมมีคําตอบ
วาประการใด ทั้งไดรูขาววาลิโปเดินทางมาเมืองชีจิ๋วเพื่อแสดงความยินดีกับเลาป แตเลาปยังคงปลอยใหลิโป
กลับไปอยางปลอดภัย ก็รูวาเลาปไมเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉ ดังนั้นจึงขอลาเลาปกลับเมืองหลวง
เลาปก็ไมไดวากลาวประการใด คงอวยพรแตใหขาหลวงเดินทางกลับโดยสวัสดี
ครั้นขาหลวงเดินทางกลับถึงเมืองฮูโตแลว ไดเขาไปรายงานให โจโฉทราบวาเลาปไมปฏิบัติตามหนังสือของ
ทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็โกรธ แลวสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษา และแมทัพนายกองมาปรึกษา เพื่อจะกําจัดลิโป
และเลาปตอไป
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
อุบายเสือกลืนหมี (ตอน 74)
โจโฉไดแจงใหบรรดาคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองไดทราบวา เลาปไมยอมปฏิบัติตามหนังสือที่แจงไปให
ฆาลิโปเสีย ดังนั้นจึงขอปรึกษาวาทานทั้งปวงจะคิดอานประการใดตอไป ซุนฮกที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดีจึง
เสนอวา "ขาพเจาจะขอคิด กลอุบายอีกขอหนึ่งเรียกวาเสือกลืนหมี" ทําใหลิโปกับเลาปประหัตประหารกันให
จงได โจโฉสงสัยจึงถามซุนฮกวาอุบายเสือกลืนหมีนี้เปนประการใด ซุนฮกจึงอธิบายตอไปวา "น้ําใจลิโปนั้น
มิไดซื่อตอผูใด ขอทานแตงคนไปบอกอวนสุดเจาเมืองลําหยงวา บัดนี้เลาปมีหนังสือขึ้นมาใหกราบทูลพระเจา
เหี้ยนเตวาจะขอยกทหารไปตีเมืองลําหยง ถาอวนสุดรูดังนี้ก็จะโกรธเห็นจะยกทหารชิงมารบเมืองเลาปกอน
ทานใหมีหนังสือรับสั่งไปใหเลาปยกไปรบเมืองอวนสุด เมื่อเลาปกับ อวนสุดรบกันอยูนั้น ถาผูใดเพลี่ยงพล้ํา ลิ
โปก็จะซ้ําเอาเปนมั่นคง ทานจึงคิดการตอไป"
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 54
แผนการอันเปนอุบายที่เรียกวาเสือกลืนหมีนี้ อาศัยหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตอยางหนึ่ง และหลอกอวน
สุดใหยกมารบกับเลาปอีกอยางหนึ่ง จึงพอแลเห็นไดวาเลาปกับอวนสุดจะตองทําศึกชิงเมืองกัน แตที่ซุนฮก
ไมไดคํานึงถึงก็คือรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเตนั้นมีหนาที่สรางความสงบสุขและสันติภาวะใหเกิดขึ้นใน
บานเมือง ไมไดมีหนาที่สรางความแตกแยก กอสงครามหรือทําใหสงครามขยายตัวไป การดึงเอาอวนสุดเจา
เมืองลําหยง ซึ่งเปนหัวเมืองใหญเขามาเกี่ยวของยอมทําใหการรบพุงฆาฟนขยายตัว กลายเปนสงคราม
ระหวางเมืองชีจิ๋วกับเมืองลําหยง เปนที่เดือดรอนแกทหาร และราษฎรทั้งปวง
โดยนัยนี้ยอมประณามไดวาแผนการและความคิดของซุนฮกทั้งนี้ เปนแผนการของคนกระหายเลือด และ
กระหายสงคราม อันเปนการทําผิดหนาที่ของรัฐบาล และผิดหนาที่ของที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ซึ่งจะกอ
ผลรายอยางใหญหลวงตามมาในภายหลัง แตโจโฉนั้นมีอัธยาศัยใฝในการสงครามเหมือนๆ กับฮิตเลอร ครั้น
ไดฟงคําซุนฮกแลวก็ตองดวยความรูสึกนึกคิดเปนยิ่งนัก ตกลงทําตามความเห็นของซุนฮก ดังนั้นโจโฉจึงแตง
คนไปหาอวนสุดที่เมืองลําหยง แลวแจงแก อวนสุดวาบัดนี้เลาปมีหนังสือกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเต
กลาวหาวาทานเปนกบฏ จึงขอพระบรมราชานุญาตยกกองทัพมากําจัดทานเสีย แตอัครมหาเสนาบดีเมตตา
ทานจึงเก็บหนังสือนั้นไวยังไมนําความกราบบังคมทูล และรีบใหขาพเจานําความมาแจงใหทาน ทราบอวนสุด
ไดทราบความแลวก็เชื่อตาม และโกรธเลาปเปนอันมาก ดาวาเลาปเปนไอยาจกทอเสื่อขาย พอไดดีเปนที่เจา
เมืองชีจิ๋วแลวคิดอานกําเริบ จะยกมาตีเมืองเรา เราจะนิ่งอยูใหเลาปยกมานั้นไมสมควรจําจะเหยียบเมืองชีจิ๋ว
เสียกอน วาแลวก็สั่งตั้งกิเหลง ทหารเอกเปนแมทัพคุมทหารสิบหมื่นยกไปตีเมืองชีจิ๋ว
โจโฉครั้นแตงคนไปหาอวนสุดแลว จึงทําหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตไปถึงเลาปวา บัดนี้อวนสุดเปนกบฏ
ตอแผนดินตั้งตัวขึ้นเปนเจา ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหเลาปจัดกองทัพยกไปปราบอวนสุดใหราบคาบ
เลาปรับหนังสือรับสั่งแลวแจงแกผูเชิญหนังสือนั้นวา ทานจงกลับไปกราบบังคมทูลเถิดวาขาพเจาเลาปนอมรับ
คําสั่ง จะยกกองทัพไปกําจัดอวนสุดตามพระราชประสงค ผูเชิญหนังสือก็ขอลากลับเมืองหลวง แลวแจงใหโจ
โฉทราบ
เลาปไดเชิญบิตกและซุนเขียนสองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเตรียมการยกกองทัพไปเมือง
ลําหยง แตบิตกนั้นเมื่อไดทราบความแลวก็แจงในอุบายของโจโฉจึงวา การครั้งนี้นาจะไมใชรับสั่งของพระเจา
เหี้ยนเต แตเปนอุบายของโจโฉที่จะทําใหเรากับอวนสุดรบกัน แลวโจโฉจะคิดการกําจัดฝายที่ชนะตอภายหลัง
บิตกอานสถานการณไดอยางทะลุปรุโปรงวานี่คือกลอุบายของ โจโฉ จึงมีหรือที่คนระดับเลาปจะอาน
สถานการณไมออก แตเลาปกลับกลาวขึ้นวาการครั้งนี้เปนรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต เราเปนขาแผนดินยอมมี
หนาที่ตองปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น ไมวาจะเปนอุบายของโจโฉหรือไมก็ตามที ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหจัดเตรียม
ทหาร รอฤกษดีแลวจะยกไปตีเมืองลําหยง ความอันนาสังเกตอยูตรงที่เมื่อเลาปรูวาเปนอุบายแลวไฉนเลา จึง
ยังคงดําเนินการตองตามกลอุบายนั้น หรือแมหากวาเลาปไมแจงในกลอุบายแต เมื่อบิตกไดแสดงใหเห็นแลวก็
ยอมเห็นตามไดโดยงาย ดังนั้นการตัดสินใจยกไปตีเมืองลําหยงจึงนาจะมีเหตุผลที่เปนไปไดสองประการคือ
ขอแรก เลาปตองการลดความขัดแยงกับโจโฉ ตองการเอาใจโจโฉเพื่อลบลางการขัดขืนไมฆาลิโปในครั้งกอน
ขอสอง เลาปเองก็จองหาโอกาสขยายอิทธิพลอํานาจอยู แตยังหาเหตุความชอบธรรมไมได ดังนั้นเมื่อมีหมาย
รับสั่งมาดั่งนี้จึงมีขออางที่ชอบดวยกฎหมายและชอบธรรมในการยกไปตีเมืองลําหยง
แตไมวาในทางใดยังคงแสดงวาทั้งบิตก และเลาปตางก็คาดไมถึงในอุบายเสือกลืนหมี ซึ่งซอนอยูอีกชั้นหนึ่ง
ในอุบายลิดกิ่งเอาลําตน เพราะตางไมไดคํานึงถึงลิโปที่จองฉวยโอกาสซ้ําเติมในภายหลัง ฝายซุนเขียนเปน
คนรอบคอบ ครั้นไดฟงวาเลาปตัดสินใจจะยกไปตีเมือง ลําหยงจึงเสนอวาทานจะยกไปก็ตามใจเถิด แตเมือง ชี
จิ๋วนี้เปนเมืองสําคัญ เปนฐานกําลังของฝายเรา จําตองคิดอานปองกันรักษาไวใหปลอดภัย กวนอูจึงขันอาสาวา
จะอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว แตเลาปแยงวานองรองเจาเปนทั้งที่ปรึกษาและขุนพลของเราจะอยูรักษาเมืองยอมไม
เหมาะ เพราะสมควรที่จะไปดวยเรามากกวา
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เตียวหุยเห็นดังนั้นวาในเมื่อพี่รองตองไปเมืองลําหยงกับพี่ใหญ ขาพเจาก็จะอาสาเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋วเอง เลา
ปไดติงวานองเล็กเจามักเสพสุรา และแรงดวยโทสะ ชอบโบยตีทหาร ทั้งเปนคนใจรอนใจรายไมฟงเหตุผลใคร
เห็นจะใหรักษาเมืองชีจิ๋วนั้นไมได เตียวหุยจึงวาขาพเจาขอใหสัญญาวาในระหวางรักษาเมืองชีจิ๋ว นี้จะไมเสพ
สุราเปนอันขาด ทําการสิ่งใดจะปรึกษาหารือผูมีสติปญญากอน และถาทําการใดแลวมีผูทักทวงหามปรามก็จะ
เชื่อฟงโดย เคารพคําสัญญาของเตียวหุย แมจะดูเปนหลักฐานแตเปนคําสัญญาแบบเด็กๆ ที่ใหสัญญาอะไร
งายๆ เพียงแคขอใหไดสิ่งที่ตองการเทานั้น และสิ่งที่ตองการนั้นก็คือการไดเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋ว การให
สัญญางายๆ แบบนี้จึงเชื่อถืออันใดไมได บิตกฟงคําเตียวหุยแลวทวงวา ความที่ทานใหสัญญานี้ดีอยู แตเกรง
วาการปฏิบัติจะไมเหมือนคําที่ใหสัญญาไว เตียวหุยฟงคําทวงของบิตกก็โกรธ ลําเลิกขึ้นวาขาพเจานี้ไดทําการ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 55
ดวยเลาปพี่เรามาก็ชานาน ไมเคยถูกผูใดหมิ่นคําวาเชื่อถือไมได บิตกทานดูแคลน ขาพเจานัก หาควรแก
คําพูดของขุนนางผูใหญไม
เลาปเห็นเตียวหุยพาลโกรธเชนนั้นจึงหามวาอยาเพิ่งดวนตําหนิบิตก เพราะแมแตตัวเราก็หาไดวางใจไมแตเอา
เถิดเมื่อนองเล็ก เจาไดใหสัญญาแลวเชนนี้ ก็จงอยูรักษาเมืองใหปลอดภัย แตจะขอใหตันเตงอยูดวยเจาเพื่อ
ชวยปรึกษาทวงติง และหามปรามมิใหเจาเสพสุราจนมากเกินไป เตียวหุยฟงคําเลาปแลวดีใจ ย้ําคําวาจะรักษา
สัญญาอยางมั่นคง เพื่อใหเมือง ชีจิ๋วปลอดภัยไรเหตุรายทั้งปวง ตันเตงก็รับคําเลาปวาจะอยูชวยเหลือเตียวหุย
จนกวาเลาปจะยกทัพกลับมา
เมื่อมอบหมายภาระหนาที่รักษาเมืองชีจิ๋วเสร็จแลว เลาปก็สั่ง ใหเคลื่อนทัพจะยกไปเมืองลําหยง ครั้นยกมาถึง
ชายแดนเมืองอุไถก็พบกับกองทัพของกิเหลง ทั้งสองฝายจึงตั้งคายยันกันไวรุงขึ้นทั้งสองฝายก็ยกทหารออก
จากคายยกมาประจันหนากัน หลังจากไดวากลาวโจมตีกันตามธรรมเนียมแลว กิเหลงแมทัพของอวนสุดจึงขับ
มารํางาวหนักหาสิบชั่งตรงเขาหาเลาป กวนอูเห็นเชนนั้น จึงขับมาออกมาสกัดกิเหลงแลวตวาดขึ้นดวยเสียงอัน
ดัง มากิเหลงตกใจชะงักลง พอตั้งตัวไดกิเหลงก็ชักมาเขามารบดวยกวนอู ทั้งสองฝายรบกันไดสามสิบเพลง
มากิเหลงออนกําลังลง กิเหลง จึงบอกกวนอูวาขอพักรบชั่วคราวกอน กวนอูก็ยินยอม กิเหลงจึงขับมากลับเขา
คาย แลวสั่งใหซุนเจงทหารรองออกไปรบดวยกวนอู กวนอูยืนมารออยูไมเห็นกิเหลงยกออกมา เห็นแตซุนเจง
ยกทหารตรงเขามาจึงถามวากิเหลงหลบหนีไปเสียที่ใด จึงใหคนต่ําฝมืออยางเจาออกมารบหาคูควรแกเราไม
ซุนเจงฝมือระดับสุนัขจิ้งจอก ไมรูจักพญาเสือโครง ขาดความยั้งคิดวาที่ตัวไดออกมารบเพราะกิเหลงผูเปนนาย
รักตัวกลัวตาย เห็นวาสูไมไดจึงขอพักรบ แลวสงลูกนองออกมาตายแทน จึงทาทายกวนอูวาฝมือทานนั้นไม
คูควรกับกิเหลงเจานายเรา เอาแคระดับทหารรองอยางเรา เจาก็จงรักษาศีรษะบนบาไวใหจงดีเถิด
เมื่อเปนเชนนี้กวนอูจึงจําตองรบดวยซุนเจง เพลงแรกไมทันสิ้นเสียง กวนอูก็เอางาวฟนซุนเจงตกมาตาย เลาป
เห็นดังนั้นจึงสั่งทหารเขาโจมตีทหารของกิเหลงที่ยกมากับซุนเจง ทหารซุนเจงเห็นฝมือกวนอูฉกาจนักก็แตก
พายพากันวิ่งหนีจะเขาคาย เลาป กวนอู จึงยกทหารไลตามตี แลวยึดคายกิเหลงได กิเหลงเห็นเสียทีแกเลาป
จึงถอยทัพพาทหารไปตั้งคายใหมอยูริมแมน้ําเมืองซัวหยิน แลวแตงทหารเขาปลนคายเลาปหลายครั้ง แตถูก
ทหารเลาปตีโตแตกพายกลับไปทุกครั้ง จนทหารของกิเหลงซึ่งตอนยกมามีจํานวนมากกวาทหารของเลาป
คอยๆลดจํานวนลงจนมีจํานวนใกลเคียงกัน ดังนั้นกิเหลงจึงไมยอมออกรบ ทั้งสองฝายตั้งคายคุมเชิงกันอยู
ฝายเตียวหุยอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว ระยะแรกๆ ก็รักษาสัญญาที่ใหไวกับเลาป และไดแบงหนาที่ใหตันเตง
รับผิดชอบวาราชการฝายพลเรือน ตัวเตียวหุยวาราชการฝายทหาร แตนานวันเขาก็อยากเสพสุราตามนิสัยเดิม
จึงสั่งใหแตงโตะแลวเชิญบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วมากินโตะ เตียวหุยเสพสุราแลวเดินไปตามโตะ
ตางๆ เชิญชวนขุนนางขาราชการชนจอกไปโดยลําดับ จนเตียวหุยเริ่มเมาสุรา ครั้นมาถึงโตะของโจปา โจปา
ไมยอมดื่มสุรา เตียวหุยก็บังคับใหดื่ม โจปาขัดไมไดก็ดื่มไปจอกหนึ่ง เตียวหุยก็เดินชนจอกตามโตะตางๆ
ตอไป จนอาการเมาสุรามากขึ้นโดยลําดับ มาถึงโตะโจปาอีกครั้งหนึ่งก็บังคับโจปาอีก แตโจปาไมยอมดื่ม
เตียวหุยโกรธจึงสั่งทหารใหโบยโจปาหนึ่งรอยที
ตันเตงเห็นดังนั้นจึงเขาหาม แตเตียวหุยกลับอางวาตันเตงรับผิดชอบดานพลเรือน แตโจปาเปนทหารจึงไมควร
มายุงเกี่ยว ตันเตง เห็นเตียวหุยเมาก็ไมอยากตอแยดวย คนเมาจึงนิ่งเสีย โจปาเห็น ดังนั้นจึงวา ขาพเจาอายุ
มากแลว เพียงแคไมดื่มสุราขออยาไดลงโทษขาพเจาเลย แมนไมเกรงใจขาพเจาก็ขอใหเห็นแกหนาลูกเขย
ของขาพเจา เตียวหุยจึงถามวาผูใดเปนลูกเขยของทาน โจปาจึงวาคือลิโปเจาเมืองเสียวพาย สิ้นคําวาลิโป
เลือดโทสะก็ฉีดพลุงครอบงําความคิดจิตใจเตียวหุย แรงโทสะโถมเขาใสโจปาโดยตรง เตียวหุยจึงวาเดิมเรา
ลอทานเลน แตบัดนี้เมื่อทานอางลิโปมาขมเรา เราก็จะโบยทานจริงๆ แลวสั่งทหารใหเอาโจปาไปโบยรอยที
โบยไปไดเพียงหาสิบทีโจปาก็สลบลง บรรดาขุนนางขาราชการเห็นเชนนั้นก็ตกใจ เขาไปชวยออนวอนเตียว
หุยใหหยุดโบย เตียวหุยก็สั่งใหหยุดตามคําขอของขุนนางขาราชการนั้น
โจปาฟนจากสลบแลวก็โกรธแคนเตียวหุยเปนอันมาก จึงแตงหนังสือเลาความที่เตียวหุยขมเหงรังแกใหไดเจ็บ
อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการ แลวใหทหารผูใตบังคับบัญชานําไปสงใหกับลิโป ณ เมืองเสียวพาย
ตั้งแตค่ําวันนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 56
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ผลของการตั้งอยูในความประมาท (ตอน 75)
พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติเบญจศีลเพื่อคุมครองบุคคล และสังคมใหปลอดภัยและเปนสุข ในเบญจศีลนั้น
บทวาดวยการหาม เสพสุรายาเมา เปนบทสุดทาย แตมีความสําคัญสูงสุด เพราะเปนบทที่ปองกันมิใหตั้งอยูใน
ความประมาท เมื่อตั้งอยูในความประมาทแลว ในทางกาย วาจา ก็สามารถลวงศีลไดทุกขอ ในทางจิตก็ทําให
สติเผลอเรอ ไมตั้งมั่น ไมบริสุทธิ์ และไมสามารถใชการงานอันใดได ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา ใน
บรรดาธรรมทั้งปวงไมเห็นธรรมขอใดจะเปนใหญเปนประธานเสมอดวยความไมประมาท และทรงตรัสถึงผลราย
ของการตั้งอยูในความประมาทวา เปนหนทางที่จะเผชิญกับพญามัจจุราช แมยามใกลจะดับขันธปรินิพพานก็
ทรงย้ําเปนปจฉิมวาจาวา "ทานทั้งหลายจงยังการทั้งปวงใหถึงพรอมดวยความไมประมาทเถิด"
พลันที่เตียวหุยคิดละคําสัญญาที่ใหไวกับเลาป และเริ่มดื่มสุรา ยอมไดชื่อวาตั้งอยูในความประมาทแลว เพราะ
ความประมาทนั้นจึงขาดสติ และปญญาก็ถูกปดบังไป จึงผิดสัญญาที่ใหไวกับเลาปทั้งสามขอที่วาจะไมเสพ
สุรากอนที่เลาปจะกลับมา ทําการสิ่งใดจะปรึกษาดวยผูมีสติปญญา และถาทําการสิ่งใดมีผูทัดทานก็จะรับฟง
เตียวหุยทําผิดสัญญาทั้งสามขอแลวสั่งโบยโจปา เพียงเทานี้ก็นับวาผิดหนักหนาสาหัสแลว แตการมิไดจบลง
เพียงเทานี้ เพราะเมื่อลิโปไดรับหนังสือของโจปาผูเปนพอตา เลาความที่ถูกเตียวหุยขมเหงรังแก ทําใหเจ็บ
อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว และยังกลาวจาบจวงดูหมิ่นมาถึงลิโปอีกดวย ลิโปจึงโกรธเคือง
เตียวหุยเปนอันมาก ใหหาตันกงมาพบเลาความทั้งปวงใหตันกงฟง แลวปรึกษาวาจะตองลางแคนเตียวหุยให
จงได
ตันกงจึงวาอันตัวทานนั้นเปรียบประดุจจระเขใหญ มาอยูเมืองเสียวพาย ซึ่งประหนึ่งเปนหนองน้ํานอยหาสมควร
ไม จําตองแสวงหา แมน้ําใหญอาศัยจึงจะทําการใหญได บัดนี้เลาปยกไปตีเมืองลําหยง ใหเตียวหุยอยูรักษา
เมือง ทหารก็นอยตัวนัก การที่เตียวหุยทําหยาบชาตอพอตาทาน และยังจาบจวงมาถึงทานทั้งนี้เปนทีแลวที่จะ
ยกไปยึดเอาเมืองชีจิ๋ว ทําการใหญสืบไป ขอทานจงเรงยึดเมืองชีจิ๋วโดยเร็วเถิด ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นชอบ
กับขอเสนอ จึงสั่งใหจัดทหารเปน สองกอง ลิโปยกทหารมาเปนกองหนารีบรุดไปเมืองชีจิ๋วกอน และใหตันกง
กับโกสุนระดมทหารทั้งสิ้นจากเมืองเสียวพายรีบยกตามไป
ลิโป ตันกง และโกสุนจัดเตรียมทหารแลว ลิโปก็รีบยกกําลังทหารมาไปเมืองชีจิ๋วตั้งแตวันนั้น ลวงยามสามก็
ถึงกําแพงเมืองชีจิ๋ว จึงรองใหทหารเปดประตูเมืองแจงวามีขอราชการสําคัญจะปรึกษากับเตียวหุย ขณะนั้น
ทหารของโจปารักษาเชิงเทินและประตูเมืองอยูเห็นเปนลิโปจึงเอาความไปรายงานใหโจปาทราบ โจปารีบมาที่
เชิงเทินเห็น ลิโปจึงสั่งทหารใหเปดประตูเมืองรับลิโปเขามา ทหารของลิโปก็โหรองและพากันยกเขาไปใน
เมืองชีจิ๋ว ทหารเตียวหุยเห็นทหารลิโปยกมาก็ตกใจ รีบวิ่งเขาไปหาเตียวหุย แตเตียวหุยเมาสุราหลับใหลอยู
ทหารจึงรีบปลุกใหตื่นแลวรายงานเหตุการณใหทราบ เตียวหุยทราบความก็ตกใจ รีบควาทวนออกไปยืนหนา
บานพัก เห็นทหารลิโปลอมอยู เห็นวาจะตอสูมิไดเพราะมีกําลังนอย ทั้งยังมึนเมาสุราอยู จึงวิ่งไปที่โรงมาขึ้น
มาพาทหารติดตามเพียงสิบแปดคนหนีออกจากเมืองชีจิ๋ว ทิ้งครอบครัวเลาปและขาวของทั้งสิ้นไวในเมืองชีจิ๋ว
ทหารลิโปเห็นเตียวหุยพาทหารหลบหนีออกจากประตูเมืองก็ไปรายงานใหลิโปทราบ ลิโปเห็นวายึดเมืองชีจิ๋ว
ไดโดยงายเชนนี้แลว และเตียวหุยก็มีฝมือกลาแข็ง จึงไมติดตามเตียวหุยตอไป แตโจปาพอตาลิโปนั้นยังคุม
แคนเตียวหุยอยูเปนอันมาก เห็นเตียวหุยหนีไปทั้งๆ ที่เมาสุราจึงรีบคุมทหารรอยเศษติดตามเตียวหุยไป เตียว
หุยหนีออกจากเมืองไปไมไกลนัก ไดยินเสียงทหารไลตาม มาก็หยุดดูวาเปนทหารของผูใด ครั้นเห็นเปนโจปา
จึงชักมากลับมาเผชิญหนากับโจปา โจปาเห็นเตียวหุยขับมาเขามาก็เรงฝเทามาเขารบดวยเตียวหุย ตอสูกันได
สามเพลงโจปาเห็นวาสูเตียวหุยไมไดจึงขับมาหนี เตียวหุยขับมาไลตามไปถึงริมแมน้ําทันเขากับโจปา จึงเอา
ทวนแทงโจปาตกมาตาย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นสวางทหารเตียวหุยที่หลบหนีออกจากเมืองติดตามมาทันจึงพากันไปหาเลาปตามเสนทางที่จะไปเมือง
ลําหยง ครั้นมาถึงเมืองอุไถก็พบกองทัพเลาป เตียวหุยจึงเขาไปหาเลาป เลาความใหเลาปฟงทุกประการ
บรรดาทหารของเลาปครั้นไดทราบความตางพากันเสียน้ําใจและหวงใยครอบครัวที่อยูในเมืองชีจิ๋วนั้น เลาป
เห็นคนทั้งปวงตกใจ จึงปลอบวา "ธรรมดาเกิดมาเปนชาติทหารแลว ถาจะเสียทีก็อยาเปนทุกข ถึงจะไดทีก็
อยายินดี" กวนอูสังเกตเห็นเตียวหุยมาแตตัว มิไดเห็นครอบครัวเลาปตาม มาดวย จึงถามวาครอบครัวพี่ใหญ
ของเราขณะนี้อยูที่ใด เตียวหุย จึงวาขาพเจารีบหนีมา ดังนั้นครอบครัวของพี่ใหญจึงยังคงคางอยูในเมืองชีจิ๋ว
เลาปไดยินก็เงียบงันไมวากลาวประการใด แตกวนอูฟงแลวก็โกรธ กระทืบเทาแลววาเตียวหุยวา กอนที่พี่ใหญ
จะยกมา นองเล็ก เจาใหสัญญาไววาอยางไร แลวไฉนจึงละสัญญานั้นเสีย ทําใหพี่ใหญ ตองเสียทั้งเมืองและ
เสียทั้งครอบครัว เจาจะรับผิดชอบเรื่องนี้อยางไรกัน เตียวหุยไดยินกวนอูตําหนิดังนั้น หันไปมองเลาปเห็นนิ่ง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 57
ขรึมอยู สํานึกรับผิดชอบก็ประดังเขามาเต็มหัวใจ ทั้งรูสึกอับอายขายหนายิ่งนัก ประกอบกับเสียใจอยางสุดซึ้ง
ที่ทําใหพี่ใหญของตัวตองเสียทั้งเมือง และเสียทั้งเมีย เตียวหุยจึงกระชากกระบี่ออกจากฝกจะเชือดคอตาย
เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจ ปราดเขาถึงตัวเตียวหุย มือหนึ่งกอดเตียวหุยไว อีกมือหนึ่งชิงกระบี่จากมือเตียวหุยแลว
จึงวา "คําโบราณ กลาวไววา ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอยางเสื้อผา ขาดแลหายแลว ก็จะหาได พี่นอง
เหมือนแขนซายขวา ขาดแลวยากที่จะตอได แลว เราก็ไดสาบานไวตอกันวา ถาจะตายก็จะตายดวยกัน ซึ่งเสีย
เมืองชีจิ๋วและภรรยาเราไปทั้งนี้เปนแตการภายนอก จะฆาตัวเสียนั้นใชของ ทั้งนี้จะคืนมาก็หามิได ถาเรายังมี
ชีวิตอยูก็จะไดคิดอานทําการสืบไป จะมาตายเสียเปลาๆ ไมควรเลย"
คําพูดจากใจของเลาปครั้งนี้สะเทือนใจผูคนยิ่ง บรรดาทหารที่อยู ณ ที่นั้นยินคําเลาปแลวพากันรองไหสงสาร
และเลื่อมใสศรัทธาเลาปเปนยิ่งนัก เลาปเห็นทหารทั้งนั้นรองไหก็พลอยรองไหตาม ไปดวย กวนอู เตียวหุย
เห็นเลาปรองไหจึงพากันรองไหตาม ฝายลิโปครั้นไดเมืองชีจิ๋วแลวใจยังเกรงเลาปอยู จึงจัดทหารรอยหนึ่งไป
คุมครองครอบครัวเลาปแลวจัดการดูแลเลี้ยงดูเปนอันดี มิใหขาดตกบกพรอง
ฝายอวนสุดเจาเมืองลําหยง ครั้นไดทราบขาววาลิโปยึดไดเมือง ชีจิ๋วแลว จึงใหทหารถือหนังสือไปใหลิโป
ขอใหลิโปยกมาชวยรบดวยเลาป โดยสัญญาวาจะตอบแทนการครั้งนี้แกลิโปดวยขาวหมื่นถัง มาหารอย ทอง
เงินหมื่นตําลึง แพรพันพับ ลิโปเปนคนโลภเห็นรางวัลที่อวนสุดตั้งไวเปนจํานวนมากก็ตกลงที่จะยกไปรบดวย
เลาปลิโปจึงสั่งใหโกสุนคุมทหารหาหมื่นยกไปตีกระหนาบหลังเลาป ฝายเลาปตั้งคายยันอยูกับกิเหลง ครั้น
ทราบวาลิโปใหโกสุนยกทหาร มาตั้งคายกระหนาบหลังอยู เห็นวากําลังทหารนอยกวาขาศึก จึงปรึกษาดวยแม
ทัพนายกองวากองทัพเรามีกําลังนอย ทั้งอยูระหวางถูกกระหนาบดังนี้เห็นจะสูไปไมตลอด สมควรถอนทัพไป
ตั้งในที่ปลอดภัยเสียกอน ทุกคนเห็นพองกับเลาป
ครั้นค่ําลง ฝนตกหนัก เลาปจึงใชสุดยอดกลยุทธ "หนีในเมื่อตอสูไมชนะ" สั่งใหถอนทัพยกหนีจะไปเมืองกอง
เหลง ครั้นรุงขึ้นโกสุนทหารลิโปทราบวาเลาปถอยทัพหนีไปจึงไปพบกิเหลง แลวทวงถามของตอบแทนตาม
สัญญา แตกิเหลงปฏิเสธวาไมทราบเรื่องขอสัญญานี้ โกสุนจึงเลิกทัพกลับเมืองชีจิ๋ว สวนกิเหลงก็เลิกทัพกลับ
เมืองลําหยง แจงใหอวนสุดทราบความที่โกสุนมาทวงของตอบแทนตามสัญญา โกสุนกลับถึงเมืองชีจิ๋วก็
รายงานใหลิโปทราบวา กิเหลงปฏิเสธ ไมรับรูเรื่องสัญญา พอดีอวนสุดใหทหารถือหนังสือมาถึงลิโปวากองทัพ
โกสุนยกไปไมทันไดรบกับเลาป ดังนั้นจึงทวงขาวของตามสัญญายังไมได ตองรอใหไดตัวเลาปกอนจึงจะสง
ขาวของตามสัญญามาให ลิโปไดยินดังนั้นก็โกรธคิดจะยกไปรบดวยอวนสุด จึงใหหาบรรดาที่ปรึกษาและแม
ทัพนายกองมาปรึกษา ตันกงฟงความจากลิโปแลวเสนอวา ขณะนี้ยังไมสมควรรบดวยอวนสุด เพราะฝายเรา
เพิ่งตั้งตัวขึ้นมาใหม เหตุการณยังไมปกติดีนัก แตอวนสุดซองสุมผูคนและเสบียงไวเปนอันมาก หากทําศึกตอ
กันในสถานการณเชนนี้เห็นจะเสียทีแกอวนสุด ทั้งโจโฉก็อาจฉวยโอกาสยกมาซ้ําเติมก็จะเสียการไป
ลิโปจึงถามวาถาเชนนั้นควรดําเนินการตอไปอยางไร ตันกงจึงวาขณะนี้เลาปยกหนีไปเมืองกองเหลง หากไป
เขาดวยโจโฉ หรืออวนสุด เราก็จะเสียเปรียบ ดังนั้นจึงควรเกลี้ยกลอมเลาปเขามาเปนพวกใหอยูที่เมืองเสียว
พายเสียกอน หากจะทําศึกกับอวนสุดตอไปก็จะไดอาศัยเลาป กวนอู เตียวหุย เปนกําลัง ลิโปเห็นดวยกับ
ขอเสนอของตันกง จึงใหทหารถือหนังสือไปเชิญเลาปมาอยูเมืองเสียวพาย ในขณะนั้นเลาปตั้งคายพักทหาร
อยูที่เมืองกองเหลง อวนสุดทราบขาวจึงจัดกองทัพยกไปตี เลาปเห็นทหารอวนสุดยกมาเปนจํานวนมากก็พา
ทหารหนีออกจากเมืองกองเหลง และไดพบกับทหารของลิโปที่ถือหนังสือมาเชิญนั้น เลาปทราบความตาม
หนังสือของลิโปแลว จึงปรึกษาดวยกวนอูวา ลิโปมีหนังสือมาทั้งนี้เจามีความเห็นเปนประการใด กวนอูจึงวาลิ
โปเปนคนเนรคุณ ไมควรของแวะดวย เพราะการคบคนพาลเปนอัปมงคล ทั้งลิโปเพิ่งยึดเอาเมืองชีจิ๋ว แลว
กลับมาเชิญไปอยูเมืองเสียวพายเชนนี้ นาจะเปนการเชิญโดยไมสุจริต โดยจะคิดทํารายในภายหลัง แตเลาป
เห็นวาลิโปมีหนังสือมาเชิญโดยสุจริต สมควรที่จะตอบรับแลวไปอยูเมืองเสียวพาย
กวนอูไดฟงดังนั้นก็ตามใจเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหทหารยกไปเมืองเสียวพาย ครั้นมาถึงกลางทางพบทหาร
ของลิโปเชิญนางกําฮูหยิน นางบิฮูหยิน และผูคนในครอบครัวของเลาปเขามาแลวรายงานวาลิโปเชิญทานไป
อยูเมืองเสียวพายโดยสุจริต ดังนั้น จึงใชใหขาพเจานําครอบครัวของทานมาสงเพื่อจะไดนําไปเมืองเสียวพาย
พรอมกันเลาปถามภรรยาทั้งสองวา ระหวางที่ลิโปยึดเมืองชีจิ๋วนั้นไดปฏิบัติตอพวกเจาอยางไร ภรรยาทั้งสอง
ของเลาปตอบวาลิโปไดปฏิบัติตอพวกเราดวยดี ไมมีบกพรอง ไดใหทหารพิทักษอารักขาปลอดภัยทุกประการ
ทั้งไดจัดสงขาวปลาอาหารอยางดีมิไดขาดเลย เลาปไดฟงเชนนั้นจึงวากับกวนอู เตียวหุยวา คําพี่สะใภทั้งสอง
ของเจาเห็นไดวาลิโปยังคงมีใจกตัญูตอเรา การเชิญไปอยูเมืองเสียวพายจึงนาจะเปนไปโดยสุจริต ดังนั้นเรา
จําเปนที่จะตองไปพบ กับลิโปที่เมืองชีจิ๋วเสียกอน กวนอูเห็นพองกับเลาป แตเตียวหุยนั้นยังผูกใจเจ็บอยูจึงวา
ตัวขาพเจาจะขอนําพี่สะใภตรงไปเมืองเสียวพายกอน พี่ใหญเสร็จธุระแลวก็จงรีบตามไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 58
เลาปจึงพากวนอูและทหารยกไปเมืองชีจิ๋วเพื่อพบกับลิโป ฝายลิโปทราบวาเลาปรับคําเชิญและกําลังมาที่เมือง
ชีจิ๋ว จึงออกมาตอนรับเลาปแลวเชิญเขาไปที่จวนเจาเมืองแลววา ขาพเจามาอยูเมือง ชีจิ๋วนี้จะไดคิดแยงชิง
สมบัติของทานนั้นหามิได กรณีเกิดแตเตียวหุยเมาสุรา ทําหยาบชากับขุนนางขาราชการ แลวโบยพอตาของ
ขาพเจาใหไดรับเจ็บอาย เพราะเหตุเพียงแคพอตาขาพเจาดื่มสุราไมไดเทานั้น ขาพเจาจึงจําเปนตองมารักษา
เมืองชีจิ๋วไวใหทาน บัดนี้ทานกลับมาแลวจงรับเปนเมืองเจาชีจิ๋วตอไปตามเดิมเถิด
คําพูดลิโปเชนนี้จะเปนการพูดจากใจจริง หรือพูดโดยมารยาท หรือพูดเพื่อใหเห็นวามิไดคิดแยงชิงเบียดเบียน
เลาปก็ตามที แตตองนับวาลิโป ณ บัดนี้ชางเจรจายิ่งขึ้นจึงพูดจาความเมืองไดนาฟง แตนาจะมิใชใจจริง
เพราะความตั้งใจเดิมของลิโปในการยึดเมืองชีจิ๋วก็เพื่อตั้งตัวขึ้นเปนใหญ ลิโปและตันกงคงจะปรึกษากันแลววา
ถึงแมจะพูดเชนนี้ เลาปคงจะไมรับเอาเมืองชีจิ๋วกลับไป
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ลูกเสือยางเขาสูปาใหญ (ตอน 76)
เลาปฟงคําลิโปแลวก็รูใจลิโป จึงวาอันเมืองชีจิ๋วนี้เปนเมืองใหญ เกินกวากําลังสติปญญาของขาพเจาจะรักษา
ไวได แตเดิมมาขาพเจาก็ไดออนวอนขอใหทานรับเปนเจาเมืองแตทานปฏิเสธเสีย บัดนี้ทานมาอยูเมืองชีจิ๋วก็
ดีแลว แสดงวาสวรรคเปนใจเอื้อใหทานไดครองเมือง ราษฎรจะเปนสุขก็เพราะทาน สวนตัวขาพเจาเต็มใจที่จะ
ไปอยูเมืองเสียวพาย ลิโปไดคะยั้นคะยอใหเลาปเปนเจาเมืองตอไป แตเลาปยืนกรานไมยอมรับ และยืนยันใหลิ
โปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ลิโปจึงคํานับเลาปแลววาเมื่อทานยืนกรานดังนี้ ขาพเจาก็จําใจตองทําตามใจทานแลว ลิ
โปจึงสั่งใหแตงโตะเลี้ยงเลาปและสนทนากันตอจนสมควรแกเวลา เลาปจึงขอลาลิโปแลวยกไปเมืองเสียวพาย
ครั้นถึงเมืองเสียวพาย เลาปเห็นกวนอู เตียวหุย ยังมีทาทีแสดงความไมพอใจลิโปอยู จึงวาธรรมดาผูคิดการ
หวังเปนใหญนั้นตองเปยมดวยความอดทนทั้งกายและใจ ยามใดโอกาสยังไมเปนใจ ก็ตองอดทน อดออม
จิตใจไมใหทอถอย กลาที่จะยอมคุดคูอยูในที่อันจํากัด ยามใดเปนโอกาสจะทําการไดสําเร็จก็ชวงชิงโอกาสไว
ไดไมปลอยใหหลุดมือ แลววาเมื่อครั้งฮั่นสินทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจยังคงเปนทหารเอกอยูนั้น ก็เคย
ยินยอมลอดหวางขาของนักเลง อดออมน้ําใจ แมวาจะถูกเขาหยามเหยียดถึงเพียงนั้น พวกเราในวันนี้ยังไม
ถึงกับตองทนเจ็บอายเหมือนฮั่นสินนั้น พวกเจาจึงตองตระหนักความขอนี้ไวใหจงดี โอกาสเปดทางแกเราวัน
ใดแลวคอยคิดการตอไป
เมื่อเลาปมาอยูเมืองเสียวพายแลว ลิโปไดจัดสงเสบียงอาหารและของกํานัลไปใหเลาปเปนเนืองนิจ ทําให
ความขุนของหมองใจของทั้งสองฝายเปนปกติลง ฝายซุนเซ็กหลังจากสิ้นบุญซุนเกี๋ยนแลว ตราพระลัญจกรที่
ซุนเกี๋ยนไดไวจึงตกทอดมาถึงซุนเซ็กผูบุตร ซุนเซ็กไดเก็บรักษาตราพระลัญจกรนั้นไวเปนความลับ แต
อาถรรพตราพระลัญจกรนั้นยังคงสําแดงอานุภาพ การปรากฏวานับแตซุนเซ็กไดตราพระลัญจกรมาครองก็
ตกต่ําเสื่อมถอยลงจนกระทั่งตกมาเปนลูกนองของอวนสุด ณ เมืองลําหยง อวนสุดไดตั้งใหซุนเซ็กเปนนายพัน
ทหารราบ สังกัดกองทัพเมืองลําหยง แตตัวซุนเซ็กนั้นรูปงาม แคลวคลอง องอาจกลาหาญ แตมีความออน
นอมถอมตนตอผูใหญ ดังนั้นอวนสุดจึงพึงพอใจซุนเซ็ก บางครั้งถึงกับทอดถอนใจใหญรําพึงวาถาตัวเรามีบุตร
อยางซุนเซ็กสักคนหนึ่ง ถึงจะตายก็นอนตาหลับ
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ตอมาเมืองเกงกวนแข็งขอ ไมฟงคําสั่งของอวนสุด อวนสุดจึงสั่งใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองเกงกวน แลว
เอาชนะไดโดยงาย ครั้นซุนเซ็กยกทหารกลับมาแลวรายงานชัยชนะใหอวนสุดทราบ อวนสุดก็ยิ่งพึงใจ และสั่ง
ใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองโลกั๋ง ซึ่งแข็งขอ กับเมืองลําหยงอีกเมืองหนึ่ง ซุนเซ็กยกทหารไปปราบปราม
เมืองโลกั๋งไดสําเร็จราบคาบอีกเมืองหนึ่ง จึงยกกองทัพกลับเมืองลําหยง ครั้นอวนสุดไดทราบขาวชัยชนะก็มี
ความยินดี สั่งใหจัดงานสโมสรสันนิบาตฉลองชัยชนะเพื่อเปนเกียรติแกซุนเซ็ก ในงานเลี้ยงนั้นอวนสุดถึงกับ
ลุกมาที่โตะของซุนเซ็กแลวจูงมือซุนเซ็กไปนั่งกินโตะที่โตะเดียวกัน ซุนเซ็กตั้งใจคอยวาอวนสุดจะปูนบําเหน็จ
แตเสร็จงานเลี้ยงแลวอวนสุดก็ไมไดพูดถึงเรื่องนี้ กลับกลาวอางในงานสโมสรสันนิบาตวา การที่ซุนเซ็กชนะ
ศึกถึงสองครั้งนั้นเปนเพราะบุญวาสนาของอวนสุดเองที่จะไดเปนใหญในแผนดิน ครั้นเลิกงานซุนเซ็กกลับมาที่
พักดวยความผิดหวัง และนอยใจ อวนสุดที่ไมเห็นคุณงามความดี ทั้งยังแสดงทาทีเหลิงระเริงในอํานาจ ของ
เจาเมือง ลวงยามสองแลว ซุนเซ็กก็ยังนอนไมหลับ เห็นแสงแหงพระจันทรจรัสงามตาจึงลงมาเดินในสวน
ดอกไมหนาบาน สายตาซุนเซ็กทอดไปตามตนไมในสวนที่กระทบกับแสงพระจันทร แลวเงยหนาขึ้นมองไปใน
อากาศ พลันมีเมฆกลุมหนึ่งลอย ผานดวงจันทรมีลักษณะดั่งขุนศึกกําลังขี่มาลักษณาการเดียวกันกับซุนเกี๋ยนผู
บิดา สายใจซุนเซ็กก็หวนรําลึกถึงบิดา ซึ่งมีเกียรติภูมิลือลั่นสนั่นลุมน้ําแยงซี คํานึงขึ้นวาตัวเราบัดนี้สิ้นลายเสือ
ของบิดา ตองตกมาเปนขาอวนสุดเหมือนกับเปนลูกสุนัข คํานึงดั่งนี้แลวก็เสียใจนัก ลืมตัวรองไหโฮออกมา ใน
พลันนั้นก็มีเสียงพูดดังมาจากขางหลังวา ไฉนนายนอยจึงมารองไหในสวนดอกไมในยามดึกดื่นดังนี้ มีการใด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 59
วิตกขุนของอยูในใจ จงบอกกับขาพเจาเถิด ซุนเซ็กตกใจไดสติเหลียวกลับไปเห็นเปนจูตี ที่ปรึกษาเกาของ
ซุนเกี๋ยนก็ดีใจ รีบเชิญจูตีไปนั่งสนทนากันที่เกาอี้ในสวนนั้น
จูตีจึงวาเมื่อครั้งบิดาทานยังมีชีวิตอยูนั้น มีการใหญนอยก็จะปรึกษาดวยขาพเจาสิ้น ค่ําคืนนี้พระจันทรงามตา
นัก ตัวขาพเจาเปนคนมีอายุแลวนอนไมหลับ จึงลุกออกมาเดินชมแสงแหงจันทรลวงมาถึงสวนดอกไมหนา
บานทาน ก็ไดยินเสียงนายนอยรองไห ดังนั้นมีทุกขรอนประการใดจงวางใจขาพเจาเหมือนดั่งครั้งบิดาทานยังมี
ชีวิตอยูเถิด ซุนเซ็กจึงวา นับแตขาพเจามารับราชการดวยอวนสุด ไดทําความชอบไวมากแตอวนสุดกลับไม
เคยเห็นคุณงามความชอบ มิหนําซ้ํายังมีทาทียโสวางอํานาจ ขาพเจานี้คิดอานจะทําการใหเหมือนบิดา แตจน
ใจดวยขาดกําลังทําการไมตลอด หวนรําลึกถึงเกียรติภูมิของบิดาแลวสลดใจนักจึงรองไห บัดนี้มาพบหนาทาน
จึงอิ่มใจเหมือนดังวาบิดายังอยูคอยอุมชูมิใหตกต่ํา จูตีจึงวาแตครั้งบิดาทานมีชีวิตอยู ไดวาดหวังอุดมการณวา
ตระกูล "ซุน" จะตั้งตัวเปนใหญไดก็จะตองเขาครองแควนกังตั๋งใหไดกอน อันดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีก
วางใหญไพศาลอุดมสมบูรณ พรั่งพรอมดวยผูคนแลเสบียงอาหาร ทั้งยังมีแมน้ําแยงซีเปน ปราการใหญ
ปองกันภัยขาศึก ดังนั้นหากนายนอยจะคิดอานทําการ อยางบิดาก็จงหาทางตั้งหลักปกฐาน ณ ดินแดน
กังตั๋งนั้นจงสําเร็จเถิด ซุนเซ็กไดยินคําจูตีกลาวถึงอุดมการณของบิดาก็เห็นทางสวาง ตัดสินใจดําเนินการตาม
แนวทางที่ซุนเกี๋ยนเคยคิดการไวกับที่ปรึกษาผูนี้ จึงถามวาจะทําการประการใดจึงเปนใหญในแควนกังตั๋งได จู
ตีจึงวาขอใหนายนอยไปแจงแกอวนสุดวาบัดนี้งอเกงเจาเมือง ตันเอี๋ยง ผูเปนนาชายกําลังขัดแยงกับเลาอิ้ว
เจาเมืองเอียงจิ๋ว นายนอยไดฝากมารดาและครอบครัวอยูที่เมืองตันเอี๋ยง จึงเกรงวาจักเปนอันตราย แลวขอยก
ทหารไปชวยงอเกง และขอตีเมืองเอียงจิ๋วใหแกอวนสุดในคราวเดียวกัน จากนั้นจึงคอยคิดการใหญตอไป
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นวา แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ลูกเสือใหญคืนเขาสูปายอมตองเปนเจาปาเปนแนแท ซุน
เซ็กและจูตีไดยินดังนั้นก็ตกใจ ครั้นเจาของเสียงเดินเขามาใกลเห็นเปน ลิหอมที่ปรึกษาของอวนสุดก็ยิ่งตกใจ
ซุนเซ็กเอามือกุมกระบี่ไวมั่น แตลิหอมยกมือเปนเชิงหามซุนเซ็กแลววาทานอยาเพิ่งวูวาม ขาพเจามาดีดอก
แลววาความที่ทานสนทนากันนั้นขาพเจาไดยิน สิ้นแลวตองดวยความคิดขาพเจานัก ตัวขาพเจานี้แมเปนที่
ปรึกษาของอวนสุดมาชานาน แตหาความหมายความเจริญอันใดมิได ไมตางอันใดกับเจว็ด จึงคิดที่จะหาผูมี
สติปญญาคิดการใหญไวเปนที่พึ่ง สืบไป ขาพเจาไดยินคําสนทนาแลวมีความเลื่อมใสยิ่งนัก เต็มใจที่จะเขา
รวมทําการดวยทาน และจะเอาทหารของขาพเจารอยกวาคนมาสวามิภักดิ์ดวย
ลิหอมกลาวตอไปวา แผนการที่ไดยินทั้งสิ้นนั้นเปนแนวทางการเมืองที่ถูกตอง และจะไดรับความสนับสนุนจาก
ราษฎรเปนมั่นคง ขาพเจาวิตกอยูก็แตวากําลังเรายังนอยนัก การไปขอยืมทหารอวนสุด อาจไมบรรลุดัง
ประสงค เพราะอวนสุดเปนคนใจแคบ คงจะไมยินยอมใหทหารแกทานยกไปทําการ ซุนเซ็กไดฟงลิหอมก็ดีใจ
กระทําคารวะลิหอมแลววา ทานเมตตามาเขาดวยชวยขาพเจาในครั้งนี้เปนพระคุณหนักหนา อยาไดวิตกวาอวน
สุดจะไมใหทหาร เพราะขาพเจานี้มีตราพระลัญจกรอันเปนที่ปองปรารถนาของบรรดาเจาเมืองทั้งปวง ขาพเจา
จะขอทหาร จากอวนสุดแลวมอบตราพระลัญจกรไวเปนประกันวาจะคืนทหารเมื่อการเสร็จแลว เชื่อวาอวนสุด
คงจะยินยอมพรอมใจ จูตีและลิหอมไดยินดังนั้นก็เห็นดวย และเชื่อวาอวนสุดเปนคนมักใหญใฝสูง คงจะรับ
จํานําตราพระลัญจกรไวตามความคิดของซุนเซ็กจึงเสนอใหซุนเซ็กรีบดําเนินการตามแผนการที่วางไว
รุงขึ้นซุนเซ็กจึงไปหาอวนสุดที่จวนเจาเมือง ทําหนาเศราแลวกลาววากอนหนาที่ขาพเจาจะมารับราชการดวย
ทานนั้นไดนํามารดาและครอบครัวไปฝากไวกับงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชาย บัดนี้เลาอิ้วเจาเมืองเอียง
จิ๋วบีบคั้นงอเกงแลวจะยกกองทัพไปตีเมือง ตันเอี๋ยง ขาพเจาเกรงวามารดาและนาชายจักเปนอันตราย จึงใคร
ขอทหารทานยกไปชวยงอเกงและมารดาเสร็จการแลวจะยกกลับมาเมือง ลําหยง แลววาเพื่อเปนหลักประกัน
ความซื่อตรงของขาพเจา จะมอบตราพระลัญจกรไวแกทาน เมื่อใดที่ขาพเจาคืนทหารแกทานแลว ก็จะรับตรา
พระลัญจกรกลับคืน แลวซุนเซ็กไดเอาตราพระลัญจกรออกมาแสดง อวนสุดไดยินคําวาตราพระลัญจกรก็ดีใจ
จนเนื้อเตน รับเอาตราพระลัญจกรจากซุนเซ็กมาพิจารณาก็รูวาเปนของแทสําหรับพระมหากษัตริยมาแตกอนจึง
วาทานจะปรารมภไปไยกับการขอยืมทหารไปทําการครั้งนี้ เพราะเปนการแสดงออกถึงความกตัญูตอผูมีคุณ
ซึ่งยอมเปนธุระที่เราตองชวยเหลืออยูแลว แตเมื่อทานจะไปในราชการศึก เราก็จะรักษาตราพระลัญจกรไวให
อวนสุดรีบเรียกทหารใหเอาตราพระลัญจกรไปเก็บ แลวออกปากอนุญาตใหซุนเซ็กยกทหารไปตามคําขอ สั่ง
ใหจัดทหารสามพันและมาศึกหารอยมอบแกซุนเซ็ก แลวกําชับวาเสร็จการแลวใหรีบยกกลับมา อยาไดทํา
กระทําการใดนอกเหนือจากที่กลาวนี้เพราะตัวเจายังเยาวนักเกรงวาจะเสียทีแกขาศึก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เมื่อเจากลับมาแลว เราจะตั้งใหเจาเปนขุนนางเมืองลําหยง ในความคิดของอวนสุดนั้นไมคิดที่จะคืนตราพระ
ลัญจกรใหแก ซุนเซ็ก ดังนั้น เมื่อใดที่ซุนเซ็กกลับมา อวนสุดจึงแจงวาจะปูนบําเหน็จแคตั้งใหเปนขุนนาง แต
ไมพูดวาจะคืนตราพระลัญจกร ซุนเซ็กไดฟงคําอวนสุดสมดังประสงคก็ดีใจ แมวาอวนสุดจะไมพูดถึงการคืน
ตราพระลัญจกรเมื่อกลับมา เพราะซุนเซ็กนั้นเห็นความสําคัญของการไดครองแควนกังตั๋งยิ่งกวาตราพระ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 60
ลัญจกร และเพื่อใหการใหญดําเนินไปโดยราบรื่น ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายังเยาวอยูดังคําทาน เกรงจะทําการไป
ไมตลอด ดังนั้นจึงขอตัวลิหอม จูตี ไปเปนที่ปรึกษาและขอเทียเภา ฮันตง อุยกาย ซึ่งเปนทหารเกา ของบิดา
ไปทําการดวย อวนสุดกําลังคิดถึงตราพระลัญจกรและคิดถึงการอาศัยตราพระลัญจกรตั้งตัวขึ้นเปนเจา ไม
สนใจเรื่องอื่นใด ครั้นไดยินคําขอตัวที่ปรึกษาและทหารเกาของซุนเกี๋ยน ก็มิไดสนใจหรือสงสัยประการใด ออก
ปากอนุญาตตามที่ซุนเซ็กตองการ
ซุนเซ็กไดรับมอบทหารและมาศึกแลวก็พาที่ปรึกษาและทหารของบิดายกออกจากเมืองลําหยง เคลื่อนไปตาม
เสนทางที่จะไปเมือง ตันเอี๋ยง กองทหารของซุนเซ็กเคลื่อนไปไดไมทันนาน ก็สวนกับทหารหนวยหนึ่งยกสวน
ทางมา ปรากฏวาเปนจิวยี่ซึ่งซุนเซ็กไดรูจักตั้งแตครั้งที่ซุนเกี๋ยนเขารวมกองทัพปฏิวัติยกไปรบกับตั๋งโตะ ใน
ครั้งนั้นซุนเกี๋ยนไดพาครอบครัวไปอาศัยอยูที่เมืองชีเสงใกลกับบานของจิวยี่ ดังนั้นซุนเซ็กและจิวยี่จึงไดคบหา
กันมาอยางสนิทสนม แตจิวยี่นั้นออนวัยกวาซุนเซ็กสองเดือนจึงเรียกซุนเซ็กวาพี่ ซุนเซ็กและจิวยี่เห็นกันแลว
ตางก็หยุดมาแลวลงมาหากัน จิวยี่คารวะซุนเซ็กทักทายกันตามธรรมเนียมแลวจึงถามซุนเซ็กวาจะยกทหารไป
ที่ใด ซุนเซ็กจึงเลาความที่คิดการกันนั้นใหจิวยี่ฟงทุกประการ จิวยี่ทราบความแลวมีความยินดีจึงวาขาพเจามี
ความเลื่อมใสศรัทธาในอุดมการณของพี่ทาน จะขอติดตามรับใชพี่ทานไปทําการใหญจนกวาจะสําเร็จ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
สรางเสริมกําลังเตรียมตั้งตัว(ตอน 77)
ซุนเซ็กไดฟงวาจิวยี่จะรวมทําการดวยก็ยินดียิ่งนัก เขากอด เอาจิวยี่ไวแลววาคําของนองทานเปรียบดังสายฝน
โปรยมายามหนาแลง ตนไมใบหญาดั่งขาพเจานี้ยินแลวอิ่มใจสดชื่นยิ่งนัก มั่นใจวาการใหญของเราจักสําเร็จ
เปนมั่นคง ซุนเซ็กไดแนะนําใหจิวยี่รูจักกับจูตีและลิหอม จิวยี่กระทําคารวะแกสองที่ปรึกษาแลวถามซุนเซ็กวา
ในดินแดนกังตั๋งนี้มีสองบัณฑิตแซเตียว ทานรูจักหรือไม ซุนเซ็กไมตอบคําแตถามกลับมาวา สองบัณฑิตตาม
คําทานนี้เปนผูใดหรือ จิวยี่จึงวาคนหนึ่งชื่อเตียวเจียว เปนชาวเมืองเพงเสีย อีกคนหนึ่งชื่อเตียวเหียน เปน
ชาวเมืองกองเหลง ทั้งสองคนนี้เจนจบพิชัยสงครามศาสตรการปกครองแลกฎแหงฟาดิน หากไดตัวมาทําการ
แลว การใหญของพี่ทานก็จะสําเร็จโดยงายดาย และบัดนี้บัณฑิตทั้งสองคนนี้ไดหลบโจรภัยมาอยูในเมืองนี้
ชอบที่พี่ทานจะไดไปเชิญมารวมทําการดวย ซุนเซ็กไดฟงคําจิวยี่ก็ดีใจนัก สั่งใหทหารปลงทัพไว ณ ที่นั้น
แลวใหทหารคนสนิทนําขาวของเงินทองจํานวนมากไปมอบแกบัณฑิตทั้งสอง และขอเชิญมาพบกับซุนเซ็ก ณ
คายทหาร แตทหารคนสนิทกลับมารายงานซุนเซ็กวา ไดไปพบบัณฑิตทั้งสองแลวแตทั้งสองคนไมยอมรับ
ของกํานัลและไมยอมมาพบ
ซุนเซ็กไดฟงรายงานแลวจึงปรึกษาจิวยี่วาจะทําประการใดจึงจะไดตัวบัณฑิตทั้งสองมาทําการดวย จิวยี่จึงวา
บัณฑิตทั้งสองมีสติปญญา พี่ทานใหทหารไปเชิญมาพบคงจะคิดวาเราไมเห็นความสําคัญแหงสติปญญา จึง
ไมยอมมา ดังนั้นพี่ทานจึงควรออกไปเชิญดวยตนเองเถิด ซุนเซ็กเห็นชอบกับขอเสนอของจิวยี่ จึงพากันไปยัง
บานของเตียวเจียวและเตียวเหียน ซุนเซ็กคารวะแลวไดสนทนากับบัณฑิตทั้งสองเกี่ยวกับสถานการณ
บานเมืองอยางกวางขวางเปนที่ตองใจของกันและกัน ซุนเซ็กจึงแจงแผนการของตนใหสองบัณฑิตทราบ ทั้ง
เตียวเจียวและเตียวเหียน หลังจากสนทนากับซุนเซ็กแลว เกิดความประทับใจ ครั้นไดทราบอุดมการณที่จะตั้ง
ตนเปนใหญในดินแดนกังตั๋งก็ยินดีและตอบรับคําเชิญของซุนเซ็ก แลวพากันมายังคายทหาร
กลับมาถึงคายแลว ซุนเซ็กไดเรียกประชุมที่ปรึกษาและแมทัพนายกองประกาศแตงตั้งใหเตียวเจียวเปนรองแม
ทัพ และให เตียวเหียนเปนเสนาธิการของกองทัพ แลวจัดงานเลี้ยงตอนรับทั้งสองบัณฑิต ณ คายนั้น รุงขึ้นซุน
เซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพขามแมน้ําแยงซีเพื่อกําจัดเลาอิ้ว ซึ่งบัดนี้เสียทีแกอวนสุดแลวยกมาตั้งอยูที่
เมืองขยกโอ ซุนเซ็กยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีเขาสูดินแดนอันเปนแควน กังตั๋งประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังเขา
สูปารอวันเวลาเจริญวัยเติบใหญเปนเจาปาดังนี้
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
อันวิสัยพญาครุฑนั้นอาจบินสูงเทียมเมฆ ในขณะเดียวกันก็อาจบินต่ําระดับยอดหญา แตกตางกับนกกระจอกที่
แมวาสามารถบินสูงกวายอดหญาแตก็หาสามารถบินสูงเทียมเมฆไดไม เชนเดียวกับลูกเสือแมวายังเล็กและ
กําลังวังชายังไมเขมแข็งดุจพญาพยัคฆ แตในทามกลางดงสมันนั้นลูกเสือก็ยังกลาแกรงเขมเข็งนาเกรงขามยิ่ง
กวาสมันทั้งฝูงมากนัก อันดินแดนแถบใตแมน้ําแยงซี โดยเฉพาะบริเวณอันเปนปากน้ําดานตะวันออกที่เรียกวา
กังตั๋งนั้น นับแตโบราณกาลมาราษฎร ใฝการคาขายแลทํามาหากิน มีความเกงกลาสามารถในเชิงการคา ยาก
จะหาชาวจีน ณ ดินแดนแควนอื่นเทียบเทียม แตสําหรับการศึกแลวกลับตรงกันขามอยางสิ้นเชิง ราษฎรเกรง
กลัวการเปนทหาร และพยายามหลีกหนีไมยอมเปนทหารแมเปนทหารแลวสวนใหญก็เปนดวยจําใจ หาไดคิด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 61
อานฝกปรือการศึกสงครามเหมือนกับชาวภาคเหนือไม ดังนั้นการจัดกองทัพ การฝกทหาร การเตรียมรบ
ตลอดจนการฝกฝนทางยุทธวิธีของชาวภาคใตแมน้ําแยงซีจึงออนดอยโดยทั่วไป
เหตุนี้เมื่อซุนเซ็กคิดอานสืบสานอุดมการณของซุนเกี๋ยนผูบิดา ยาตรากองทัพขามแมน้ําแยงซีลงมาที่ดินแดน
กังตั๋งจึงประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังฝาเขามาในดงสมันฉะนั้น ฝายเลาอิ้วครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพขาม
แมน้ําแยงซีมุงมาที่เมือง ขยกโอ จึงสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษาแมทัพนายกองเตรียมรับมือกับกองทัพซุนเซ็ก
เตียวเองนายทหารของเลาอิ้วไดขันอาสาขอยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ซึ่งเปนที่ราบ
ลุมริมทะเลสาบเปนพื้นที่จํากัด หากซุนเซ็กยกมาแมจะมีทหารมากกวาภูมิประเทศก็จะบีบบังคับใหเหมือนนอย
ยอมตั้งรับศึกมิใหฝาลงมาได
ขณะนั้นไทสูจูซึ่งเดินทางมาจากการไปชวยเหลือขงหยงที่เมืองปกไฮ ไดมาพบเลาอิ้วตามคําเชิญแลวตกลง
เขารับราชการดวยเลาอิ้ว เมื่อไดฟงเตียวเองเสนอแผนการสกัดทัพซุนเซ็กดังนั้นจึงขออาสาเปนกองหนา แต
เลาอิ้วไมเห็นดวย อางวาไทสูจูยังเปนเด็กอยู ไทสูจูเห็นเลาอิ้วไมไววางใจก็เสียใจ แตเปนผูนอยจึงนิ่งเก็บ
ความเสียใจนั้นไวแตลําพัง เลาอิ้วไดตั้งใหเตียวเองเปนแมทัพ ยกทหารไปสกัดกองทัพซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ถึง
ที่หมายแลวใหทหารตั้งคายมั่นลงไว แลวแตงทหารออกไปลาดตระเวนระวังเหตุการณตามธรรมเนียมศึก แลว
ออกหมายเกณฑชายฉกรรจในพื้นที่เขามารับราชการทหาร และเกณฑเสบียงจากราษฎรไดเปนจํานวนกวา
หมื่นถัง จึงใหตั้งคลังเสบียงไวหลายแหง พรอมที่จะยันทัพซุนเซ็กไดนานนับเดือน
ฝายซุนเซ็กเมื่อยกกองทัพมาถึงตําบลงิวจู เห็นกองทัพเตียวเองตั้งสกัดอยูจึงสั่งใหอุยกายออกไปรบดวยเตียว
เอง ในขณะที่เตียวเองรบกับอุยกายอยูนั้น พลันมีแสงเพลิงลุกขึ้นในคายของเตียวเอง และทหารไดวิ่งมา
รายงานเตียวเองวาบัดนี้มีกลุมโจรปานําโดยเจียวขิมและจิวทาย มีกําลังพลประมาณสามรอยไดพากันบุกเขา
ไปในคาย แลวเผาคายทําใหทหารแตกตื่นอลหมานอยู เตียวเองไดฟงก็ตกใจรีบชักมาผละจากอุยกาย แลวสั่ง
ทหาร ใหรีบถอยเขาคาย ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งทหารใหไลตามตีเตียวเอง และฆาฟนทหารของเตียวเอง
บาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก เตียวเองเขาคายไมไดก็รีบพาทหารหนีไปเมืองขยกโอ ซุนเซ็กจึงยกทหารเขา
ยึดคายของเตียวเอง ยึดสินศึกและเสบียงไดเปนจํานวนมาก ทหารของเตียวเองที่หนีไมทันไดเขาสวามิภักดิ์
ดวยซุนเซ็กสิ้น
ฝายเจียวขิมและจิวทาย ครั้นซุนเซ็กยึดคายไดแลวก็พาพรรคพวกเขามาคารวะซุนเซ็กแลววาพวกขาพเจาเปน
โจรปาไดทราบกิตติศัพทวาทานมีน้ําใจโอบออมอารีรักราษฎร และมีสติปญญาเปนอันมาก จึงพากันยกมาจะ
เขาทําการดวยทาน แตเห็นกองทัพของทานกําลังรบอยูกับเตียวเอง จึงพาพรรคพวกบุกเขามาในคายแลวจุด
เพลิงเผาคายเสีย ซุนเซ็กไดฟงก็ยินดี ใหรับเจียวขิมและจิวทาย รวมทั้งพรรคพวกสามรอยนั้นเปนทหารใน
กองทัพ และเกลี้ยกลอมบรรดาชายฉกรรจในเมืองเขาเปนทหาร ซุนเซ็กไดทหารเพิ่มขึ้นจากการศึกครั้งนี้อีก
กวาสี่พันคน ครั้นจัดสังกัดทหารใหมเกาแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพไปเมืองขยกโอ
ฝายเตียวเองครั้นพาทหารที่แตกหนีไปถึงเมืองขยกโอ ไดเขาไปรายงานการศึกใหเลาอิ้วทราบ เลาอิ้วก็โกรธ
สั่งใหเอาตัวเตียวเอง ไปประหารชีวิต แตบรรดาแมทัพนายกองไดออนวอนรองขอชีวิตเตียวเองไว เพราะเห็น
เปนทหารมีฝมือ ยามหนาศึกเชนนี้ไมสมควรฆาทหารและเสนอวาสมควรใหเตียวเองยกไปตั้งสกัดกองทัพของ
ซุนเซ็กอีกครั้งหนึ่ง โดยใหยกไปตั้งที่เมืองเลงเหลง เลาอิ้วเห็นชอบตามคําขอรองของบรรดาแมทัพนายกอง
จึงใหงดโทษประหารไวแลวสั่งใหเตียวเองยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กไวที่เมืองเลง เหลง สวนตัว
เลาอิ้วยกทหารอีกกองหนึ่งออกไปตั้งสกัดซุนเซ็กที่เชิงเขาสินเตง ทางดานทิศเหนือของเมืองขยกโอ ฝายซุน
เซ็กครั้นยกกองทัพมาถึงเขาสินเตงเขตแดนเมือง ขยกโอเห็นกองทัพเลาอิ้วมาตั้งคายสกัดอยู จึงสั่งใหหยุด
ทัพตั้งคาย ลงเตรียมทําศึกกับเลาอิ้วตอไป ในยามดึกคืนนั้น ซุนเซ็กนอนหลับแลวฝนวา พระเจาฮั่นกองบูมี
รับสั่งใหซุนเซ็กไปเฝา ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กเกิดความสงสัยวาพระเจาฮั่นกองบูมีสุสานฝงพระบรมศพอยูที่เมืองลก
เอี๋ยง เหตุไฉนจึงบังเกิดความฝนดังนี้
ซุนเซ็กจึงสั่งใหทหารไปจับชาวบานมาสอบถามวาบริเวณนี้มีศาลของพระเจาฮั่นกองบูอยูหรือไม ชาวบานได
แจงแกซุนเซ็กวาเดิม สุสานพระบรมศพพระเจาฮั่นกองบูอยูที่เมืองลกเอี๋ยง เมื่อครั้งตั๋งโตะเผาเมืองลกเอี๋ยงสั่ง
ใหขุดพระบรมศพยายไปอยูที่เมืองเตียงอันรวมกับพระบรมศพของอดีตพระมหากษัตริยพระองคอื่นๆ เกิดความ
สับสนไมมีผูใดรูวาหลุมฝงพระบรมศพของพระเจาฮั่นกองบูอยู ณ ที่ใด ดังนั้นเลาอิ้วซึ่งเปนเชื้อพระวงศจึงให
สรางศาลพระเจาฮั่นกองบูไวในตําบลนี้ เพื่อทําพิธีเซนไหวบรรพบุรุษตามอยางธรรมเนียม
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ซุนเซ็กทราบความแลวก็ปลอยชาวบานนั้นไป แลวปรึกษากับบรรดาแมทัพนายกองวา ที่นี่มีศาลพระเจาฮั่น
กองบูตรงกับความฝนของขาพเจา ดังนั้น จึงสมควรที่ขาพเจาจะไดไปที่ภูเขาอันเปนที่ตั้งศาลพระเจาฮั่นกองบู
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 62
นั้นเพื่อกราบถวายบังคมพระเจาฮั่นกองบูสักครั้งหนึ่งเตียวเจียวไดฟงดังนั้นจึงทวงวา ถิ่นแถบนี้เปนเขต
ปกครองของเลาอิ้ว และบนเขานั้นเปนที่คับขันทานไมสมควรที่จะไปดวยเกรงวาจะเกิดอันตราย ซุนเซ็กจึงวา
ในเมื่อพระเจาฮั่นกองบูมาเขาฝนเรียกใหขาพเจาไปเฝาก็ยอมตองคุมครองใหขาพเจาปลอดภัยทานอยาได
กังวลเลย วาแลวก็ใสเกราะถือทวนขึ้นมาพาทหารคนสนิทสิบสองคนขึ้นไปที่ภูเขาจนถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู
ซุนเซ็กไดเขาไปในศาลกราบถวายบังคมแลวอธิษฐานวา ดวยพระบารมีจงดลบันดาลใหขาพเจาไดครองแควน
กังตั๋ง การสําเร็จดังประสงคแลวขาพเจาจะทําการบูรณะศาลนี้ใหงามสงาและจะบวงสรวงเซนไหวทุกวันตรุษ
สารท แลวซุนเซ็กก็ถวายบังคมลาออกมาจากศาล
ซุนเซ็กไดชวนบรรดาทหารที่ติดตามมาใหขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อดูการตั้งคายและการจัดกําลังทหารของเลาอิ้ว
บรรดาทหารเหลานั้นเห็นเปนทางไมคุนเคยและมีกําลังติดตามไมกี่คนเกรงวาจะเกิดอันตรายจึงหามซุนเซ็ก
และเชิญซุนเซ็กใหกลับไปคาย แตซุนเซ็กไมฟงคําทัดทาน ขับมานําทหารขึ้นไปบนยอดเขา ฝายทหาร
ลาดตระเวนของเลาอิ้วเห็นซุนเซ็กนําทหารมาที่ศาลของพระเจาฮั่นกองบูจึงไปรายงานใหเลาอิ้วทราบ เสนอให
เลาอิ้วยกทหารไปจับตัวซุนเซ็กก็จะไดตัวโดยงาย เลาอิ้วเกรงวาจะเปนกลลวง ของซุนเซ็กจึงวาพื้นที่นี้เปนเขต
เมืองขยกโอ หากซุนเซ็กมีทหารมานอยจริง ไฉนจะกลาลวงมาถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู หากเรายกไปคงจะเสีย
ทีแกซุนเซ็ก ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงวาหากไมใชโอกาสนี้จับตัวซุนเซ็กแลว ซุนเซ็กกลับไปคายก็จะเสียโอกาสไป
วาแลวไมฟงคําเลาอิ้ววากลาวประการใด ไทสูจูไดถือทวนผลันออกมานอกคายแลวประกาศแกทหารทั้งปวงวา
ผูใดมีความกลาหาญจะไปจับตัวซุนเซ็กกับเราบางก็ใหรีบตามมา ทหารในคายเลาอิ้วเห็นไทสูจูยังเปนเด็ก และ
แสดงอาการวูวาม ก็พากันหัวเราะ คงมีแตทหารเลวคนหนึ่งชอบใจความกลาหาญของไทสูจู จึงขับมาตามไทสู
จูไป
ฝายซุนเซ็กครั้นไดตรวจตราดูการตั้งคายและการจัดวางกําลังทหารของเลาอิ้วแลวก็ลงมาจากภูเขา ขับมามา
ตามเนินเขา ทันใดนั้นไดยินเสียงรองมาจากดานหลังวาไอซุนเซ็กมึงจะหนีไปไหน ซุนเซ็กเหลียวกลับมาทาง
ดานหลังเห็นทหารสองคนขับมาไลตามมาจึงชักมาหันกลับมาเผชิญหนากัน ไทสูจูถามวาผูใดคือซุนเซ็ก ซุน
เซ็กก็วาตัวเรานี้คือซุนเซ็ก แลวตัวเจาเลาเปนผูใด ไทสูจูจึงวาตัวเราชื่อไทสูจูเปนทหารเลาอิ้วจะมาจับตัวซุน
เซ็ก
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
พยัคฆนอย ณ ฝงใตแมน้ําแยงซี (ตอน 78)
ซุนเซ็กไดยินวาไทสูจูจะมาจับตัวจึวหัวเราะแลววา ใหพวกเจา ทั้งสองคนเขามาพรอมกัน ตัวเราคนเดียวจะจับ
พวกเจาทั้งสองคนเอง ไทสูจูจึงวาใหพวกเจาทั้งหมดนั่นแหละเขามาพรอมกัน ตัวเราแตผูเดียวจะจับพวกเจา
ทั้งหมดเอง ทั้งสองฝายตางโอกันตามธรรมเนียม แลวซุนเซ็กจึงขับมาเขารบดวยไทสูจู ตอสูกันไดหาเพลงไท
สูจูเห็นกําลังซุนเซ็กกลาแข็ง ยากจะเอาชนะได และเห็นทหารของซุนเซ็กทั้งสิบสองคนขยับมาเปนทีจะเขามา
ลอม ดังนั้น ไทสูจูจึงชักมาหนีเพื่อจะลอใหซุนเซ็กไลตาม พนออกมาจากพวกทหารซุนเซ็กขับมาไลตามไทสูจู
แลวรองถามวา ก็ไหนเจาโอวาเกงกลานักไมทันไรไฉนจึงรีบหนีเสียเลา ไทสูจูทําเปนไมไดยินคงขับมาหนี
ตอไปจนถึงตําบลเพงฉวน ซุนเซ็กก็ไลทัน ไทสูจูจึงชักมาหันกลับมารบกับซุนเซ็ก ตอสูกันไดหาสิบเพลง ซุน
เซ็กเอาทวนแทง ไทสูจูหลบทันและจับเอาทวนซุนเซ็กแลวใชทวนแทงกลับไป ซุนเซ็กก็หลบไดแลวจับเอา
ทวนไทสูจูไว ทั้งสองฝายตางยื้อแยงทวนกันบนหลังมาจนพลัดตกลงจากหลังมาพรอมกัน ทวนนั้นหลุดจาก
มือของทั้งสองคน ทั้งซุนเซ็กและไทสูจูจึงเขาปล้ําตอสูกันดวยมือเปลาจนเสื้อและเกราะขาดทั้งสองฝาย ซุน
เซ็กควาเอาทวนสั้นซึ่งเหน็บอยูขางหลังไทสูจู ไทสูจูก็ดึงเอาหมวกเกราะของซุนเซ็กมาได
ซุนเซ็กเอาทวนสั้นแทง ไทสูจูก็เอาหมวกเกราะรับไวได พอทหารของเลาอิ้วยกตามไทสูจูมาพันเศษ และ
ทหารซุนเซ็กทั้งสิบสองคนตามมาทัน ทั้งสองฝายตางชักมาเขามาในหมูทหารของตน เอาทวนใหมจากทหาร
แลวเขามารบกันอีกครั้งหนึ่ง ซุนเซ็กเห็นวาทหารเลาอิ้วยกมาเปนจํานวนมาก จึงรบพลางถอยพลาง พอจิวยี่ยก
ทหารมาทันก็ตั้งยันกันไว ทั้งไทสูจูและซุนเซ็กรบกันจนค่ําฝนตกหนักลงมา ทั้งสองฝายจึงถอยกลับเขาคาย
ซุนเซ็กมีความประทับใจไทสูจูยิ่งนัก ทั้งดวยฝมือทหารและความเปนสุภาพบุรุษ ในขณะเดียวกันไทสูจูก็
ประทับใจซุนเซ็กเปนอันมาก กลับถึงคายแลวตางฝายตางรําลึกถึงกัน ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กจึงยกทหารไปที่หนา
คายของเลาอิ้ว ชูทวนสั้นของไทสูจูแลวรองวาเจาของทวนสั้นเลมนี้อยูที่ใด ไฉนจึงไมกลาออกมารบดวยเรา
เลา ไทสูจูเห็นดังนั้นก็เอาหมวกเกราะของซุนเซ็กชูขึ้นแลวรองวา ศีรษะของเจาของหมวกเกราะนี้ยังมีชีวิตอยู
หรือ ไฉนหมวกเกราะจึงหลุดจากศีรษะมาอยูในมือของเราเลา ตางฝายตางเยาะเยยกันพักหนึ่ง ไทสูจูจึงขับมา
ออกจากคายจะรบดวยซุนเซ็ก เทียเภาเห็นดังนั้น จึงชักมาออกไปสกัดไว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 63
จิวยี่เห็นทั้งสองฝายกําลังรบกันก็ลอบยกทหารวกออมไปทางดานหลังเมืองขยกโอ พอไปถึงประตูเมืองประตูก็
เปดออกมีทหารกองหนึ่งยกออกมา ตัวนาย "มีกําลังมาก รูปรางใหญ สูงหาศอกเศษ หนาเหลือง วงตาแดง"
ครั้นพบหนาจิวยี่ก็รีบลงจากหลังมากระทําคารวะ แลววาขาพเจาชื่อตันบู เปนชาวเมืองโลกั๋ง ไดขาววาซุนเซ็ก
ยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีจะมาตีเมืองขยกโอ ขาพเจาไดยินกิตติศัพทวาซุนเซ็กมีสติปญญาและรักทหาร จึง
พาพรรคพวกจะมาทําการดวยซุนเซ็ก แลวไดลอบเขาไปในเมือง ครั้นทราบวาทานยกมาจึงฆาทหารรักษา
ประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองตอนรับทาน จิวยี่ไดฟงดังนั้นก็ดีใจ รีบยกทหารเขาไปในเมืองขยกโอ ทหาร
ของเลาอิ้วเห็นจิวยี่ยึดเมืองไดก็เขาสวามิภักดิ์ดวยจิวยี่ คงมีแตทหารที่สนิทกับเลาอิ้วหนีออกจากเมืองแลวไป
หาเลาอิ้ว ณ คาย รายงานใหทราบวาบัดนี้จิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว
เลาอิ้วไดฟงดังนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีระฆังสัญญาณเรียกไทสูจูกลับมาคาย ไทสูจูไดยินสัญญาณก็กลับมาที่
คายแลวตอวาเลาอิ้ว วาขาพเจาจวนจะไดรับชัยชนะ เทียเภาอยูแลว ไฉนทานจึงใหสัญญาณเรียกขาพเจาให
ถอยกลับ เลาอิ้วจึงแจงวาจิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว เราจะอยูที่นี่อีกตอไปไมได ค่ําลงเลาอิ้วก็สั่งใหถอนทัพ
แลวยกไปเมืองวัวเหลง
ฝายจิวยี่ไดเมืองขยกโอแลวสั่งใหตันบูรีบไปพบซุนเซ็กแลวรีบรายงานใหซุนเซ็กทราบ เตียวเจียวรองแมทัพจึง
วาบัดนี้เลาอิ้วถอยทัพหนีไปแลว สมควรตองรีบตามตีอยาใหทันตั้งตัว ซุนเซ็กเห็นชอบดวยจึงใหยกทหาร
ติดตามกองทัพเลาอิ้วไปในทันที ซุนเซ็กนําทหารมาไลตามเลาอิ้วไปไมถึงชั่วยามก็ทันกองทัพเลาอิ้ว ไทสูจู
ไดถอยกลับมารบดวยซุนเซ็ก ทหารซุนเซ็กจึงตีวงจะเขาลอม ไทสูจูจึงรีบชักมาหนี แลวพาทหารที่ตามมาอีก
สิบหาคนหนีไปเมืองเกงกวน ซุนเซ็กไดทีจึงขับทหารเขาฆาฟนทหารของเลาอิ้ว อยางดุเดือด เลาอิ้วสูไมไดก็
แตกหนีไปอยูที่ตําบลงิวจู
ฝายฉกหยงและซีเหลทหารเมืองวัวเหลงทราบขาววาเลาอิ้วรบ กับซุนเซ็ก ก็ยกทหารจะมาชวยเลาอิ้ว แตยก
มาไมทันเพราะเลาอิ้วแตกหนีไปกอนจึงปะทะกับซุนเซ็ก ซุนเซ็กสั่งใหตันบูนําทหารเขาตีกองทหารของฉกห
ยงและซีเหล ตันบูนํากําลังทหารรุกเขาตีอยางดุเดือด ฉกหยงและซีเหลสูไมไดก็แตกหนีไปคนละทาง ซีเหล
พาทหารหนีกลับเขาเมืองวัวเหลงแลวปดประตูเมืองไมยอมออกรบ ฝายฉกหยงแตกหนีไปทางตําบลงิวจูไดพบ
กับเลาอิ้ว พอดีซุนเซ็กยกทหารไลตามมาทัน เลาอิ้วจึงใหทหารรองสองนายออกรบ ซุนเซ็กไดสังหารทหาร
รองทั้งสองนายนั้นเสีย เลาอิ้วตกใจจึงพาทหารที่เหลือหนีไปอยูเมืองอิเจี๋ยง ซุนเซ็กไลตามเลาอิ้วไมทันจึงยก
ทหารไปลอมเมืองวัวเหลงแลวขี่มาไปที่หนาเชิงเทิน ทาใหซีเหลออกมารบ ซีเหลเห็นซุนเซ็กไมทันระวังตัว
จึงเอาเกาทัณฑยิงไปถูกขาซุนเซ็กตกจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กจึงชวยกันหามซุนเซ็กกลับไปคาย
ซุนเซ็กกลับเขาคายแลวจึงวา ซีเหลคิดอาศัยการตั้งรับอยูแตในเมือง ไมยอมยกออกมารบ ทําตัวเปนเตาหดหัว
อยูในกระดอง ครั้นเราจะยกเขาหักเอาเมืองก็จะสูญเสียทหารเปนอันมาก ดังนั้นเราจะแตงกลอุบายลวงใหซีเห
ลยกออกมารบใหจงได แลวซุนเซ็กจึงสั่งใหปลอยขาวลือวาซุนเซ็กถูกเกาทัณฑอาการกําเริบตายแลว ให
ทหารถอนคายทําทีเปนถอยทัพ และใหจัดทหารซุมไวทั้งสองขางทาง อีกกองหนึ่งใหสกัดทางหนี ตัวซุนเซ็ก
เตรียมรอสกัดอยูปลายทาง ฝายซีเหลไดขาววาซุนเซ็กตายแลวและทหารซุนเซ็กถอนคายเตรียมถอยทัพ ค่ํา
ลงจึงยกทหารออกจากเมืองจะโจมตีชิงเอาศพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารจุดพลุสัญญาณ
ทหารที่ซุมอยูก็ยกออกมาลอมกองทหารของซีเหลไวทั้งสี่ดาน ทหารของซุนเซ็กลอมโจมตีกองทหารของซี
เหลอยางดุเดือด ตัวซีเหลตายในที่รบ ทหารของซีเหลจึงพากันเขาดวยซุนเซ็กสิ้น จากนั้นซุนเซ็กจึงยกทหาร
เขายึดเมืองวัวเหลงได
ครั้นจัดการภายในเมืองเสร็จแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพไปเมืองเกงกวน ตั้งคายประชิดกําแพงเมืองแลว
ปรึกษาดวยจิวยี่วา บัดนี้ไทสูจูหนีมาอยูเมืองเกงกวน ไทสูจูคนนี้มีฝมือกลาแข็งนัก ขาพเจาอยากไดตัวมาทํา
การดวย แตจะคิดประการใดจึงจะไดตัวไทสูจู จิวยี่จึงเสนอวาใหทานจัดทหารเปนสามกองเขาโจมตีเมืองเกง
กวนทั้งสามดาน เวนอีกดานหนึ่งไว ทหารรักษาเมืองเกงกวนมีอยูนอยคงจะรักษาเมืองไวไมได ไทสูจูคงจะพา
ทหารหนีไปทางดานที่เราเปดทางไว ใหทานจัดทหารไปซุมอยูสองขางทาง เอาเชือกขึงกั้นทางไวแลวคอยจับ
ตัวไทสูจูที่นั่นคงจะไดตัวเปนมั่นคง
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ซุนเซ็กเห็นดวยกับความคิดของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามแผนของจิวยี่ทุกประการ ค่ําลงทหารของซุนเซ็กก็
หักเขาโจมตีเมืองเกงกวนพรอมกันทั้งสามดาน ทหารรักษาเมืองลวนไรฝมือไมสามารถ รักษาเมืองไวได
ทหารซุนเซ็กจึงบุกเขาไปในกําแพงเมืองทั้งสามดาน ไทสูจูเห็นทหารในเมืองสูทหารซุนเซ็กไมไดก็ขับมาหนี
ออกจากเมืองไปทางดานที่ซุนเซ็กเปดทางไวให ครั้นไทสูจูขับมามาถึงจุดซุม มาที่ไทสูจูขี่จึงสะดุดกับเชือกที่
ขึงกั้นไวลมลง ไทสูจูพลัดตกลงจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กไดกรูเขาจับตัวไทสูจูแลวมัดพาเขาไปหาซุน
เซ็ก ซุนเซ็กเห็นทหารมัดไทสูจูเขามาจึงรีบวิ่งมาแกเชือกที่มัดไทสูจูแลวจูงมือมานั่งลงตรงหนา แลววา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 64
ขาพเจาปรารถนาจะไดตัวทานแตครั้งแรกที่รบกันแลว มาสมความปรารถนาในวันนี้ ขาพเจามีความยินดียิ่งนัก
ทานอยาถือโกรธที่ทหารจับตัวทานเลย แลววาตัวทานมีฝมือเขมแข็ง องอาจกลาหาญ สมเปนผูนําทัพสราง
ความสงบสุขแกแผนดิน อยาอยูกับเลาอิ้วคนถอยตอไปอีกเลย ขอจงมาทําการ อยูชวยขาพเจา ชวยทํานุบํารุง
ราษฎรใหเปนสุขเถิด
ไทสูจูประทับใจซุนเซ็กอยูแตเดิม ครั้นเห็นซุนเซ็กไมมีใจพยาบาทและมอบไมตรีมาดังนี้ จึงตกลงทําการดวย
ซุนเซ็ก ลุกขึ้นคารวะซุนเซ็กแลววาขาพเจาขออภัยที่ไดลวงเกินทานเปนอันมาก ขอทานจงถือเสียวาครั้งนั้นยัง
เปนคนละฝาย ขาพเจาจําเปนตองทําหนาที่ของทหาร อยาถือโกรธขาพเจาเลย นับแตนี้ไปขาพเจาจะขอ
ติดตามรับใชทาน ถึงแมจะตองดําน้ํา ลุยไฟ ขาพเจาก็พรอมใจทําการโดยไมหวงหาอาทรตอชีวิตเลย ซุนเซ็ก
ดีใจยิ่งนักเขามาสวมกอดไทสูจูแลวหัวเราะ และถามวาเมื่อครั้งที่เรารบกันนั้นถาหากทานจับขาพเจาได ทาน
จะฆาขาพเจาหรือไม ไทสูจูจึงวาสถานการณในขณะนั้นขาพเจาตอบไมได วาแลวทั้งสองคนก็หัวเราะพรอมกัน
ซุนเซ็กสั่งใหแตงโตะเชิญแมทัพนายกองเขารวมงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัย และรับขวัญไทสูจู ครั้นกินโตะเสร็จ
แลวไทสูจูจึงวาทหารของเลาอิ้วที่กระสานซานเซ็นมีเปนจํานวนมาก ขาพเจาขออาสาไปติดตามเกลี้ยกลอม
ทหารเหลานั้นใหมาทําการดวยทานจะไดเปนกําลังของทานสืบไป แลวถามซุนเซ็กวาทานจะวางใจใหขาพเจา
ไปหรือไม ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายอมวางใจทาน อยาไดมีความสงสัยเลย แตวันนี้ค่ําแลวทานจงเดินทางในวัน
พรุงนี้แลวใหกลับมา ณ เวลาเที่ยงตรง ขาพเจาจะคอยรับทาน ไทสูจูคารวะซุนเซ็กแสดงความขอบคุณที่ซุน
เซ็กวางใจ เสร็จงานเลี้ยงแลวซุนเซ็กสั่งทหารใหจัดที่พักใหกับไทสูจู ครั้นไทสูจูกลับไปที่พักแลว บรรดาที่
ปรึกษาไดทักทวงซุนเซ็ก วาไทสูจูไดตอสูกับทานเปนหลายครั้งและถูกจับตัวไดในวันนี้ การที่ทานปลอยไทสู
จูกลับไปจะมิเทากับเปนการปลอยจระเขลงน้ําหรือ ซุนเซ็กจึงวาขาพเจาเชื่อวาไทสูจูเปนชายชาติทหาร มี
ความสัตยซื่อมั่นคงยอมจะไมคิดหนีไปในลักษณะเชนนี้
รุงเชาไทสูจูก็ออกจากเมืองไป บรรดาที่ปรึกษาเห็นเวลาใกลเที่ยง ไทสูจูยังไมกลับมาจึงพากันไปหาซุนเซ็ก
แสดงความหวงใยวาไทสูจูคงจะไมกลับมาแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารเอาทวนไปปกไวกลางแจงแลววา เวลานี้
พระอาทิตยยังไมคลอยพนศีรษะ เงาทวนยังคงทาบพื้นทางดานตะวันตก พวกทานจงอดใจรอไวกอนเถิด ครั้น
สิ้นเงาทวน ซุนเซ็กและบรรดาที่ปรึกษาจึงเห็นไทสูจูขับมา มาถึงหนาเมือง มีทหารติดตามมาดวยถึงพันเศษ
บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดังนั้นจึงพากันสรรเสริญซุนเซ็กวามีสายตาคมกลา สามารถดูลักษณะ
คน ลวงรูเขาไปถึงความคิดจิตใจแมนยําดุจดังเทพยดาเขาดลใจ
ไทสูจูเขาเมืองแลวรีบพาพรรคพวกที่ตามมาดวยเขาไปคารวะซุนเซ็ก แลววาบัดนี้พรรคพวกสหายศึกของ
ขาพเจาตกลงพรอมกันที่จะมาทําการดวยทาน ซุนเซ็กเห็นดังนั้นก็ยินดีคารวะตอบ แลวจัดวางใหทหาร
เหลานั้นเขาสังกัดในกองทัพซุนเซ็กสั่งใหสํารวจกําลังทหารทั้งใหมเกา ปรากฏวา ณ บัดนี้กําลังทหารของ ซุน
เซ็กไดเพิ่มจํานวนขึ้นเปนสามหมื่นคน มากกวาตอนที่ยืมทหารจากอวนสุดถึงสิบเทา อันธรรมดาการสงคราม
นั้นมีทั้งดานที่สูญเสียและมีทั้งดานที่เพิ่มพูนขึ้นอยูกับความถูกตองของทิศทางการเมืองที่ใชนํากองทัพ หาก
แนวทางการเมืองที่ชี้ทิศนําทางใหกับกองทัพถูกตองแลว กองทัพก็จะเติบใหญขึ้น ทามกลางสงคราม ในทาง
ตรงกันขามถาหากวาแนว ทางการเมืองผิดพลาด กองทัพก็จะคอยๆ หดตัวเล็กลงและสลายไป ในทามกลาง
สงครามนั้น
ซุนเซ็กเริ่มตนดวยการยืมทหารจากอวนสุดเพียงสามพัน หลังจากยกขามฟากแมน้ําแยงซีผานศึกหลายครั้ง ไม
เพียงแตกองทัพของซุนเซ็กจะไมเล็กลงเพราะการบาดเจ็บลมตายของทหาร แตกลับเติบใหญขึ้นและมีกําลัง
พลเพิ่มขึ้นถึงสิบเทาของกําลังรบเดิม นี่คือปรากฏการณของความถูกตองของแนวทางการเมืองที่เชิดชู
อุดมการณเอกภาพแหงดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีที่มีชื่อวาดินแดน กังตั๋งเปนธงชัยนําทางใหกับกองทัพ
ของซุนเซ็กนั่นเองลอมกรอบ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เถลิงอํานาจตระกูล "ซุน" เหนือแควนกังตั๋ง (ตอน 79)
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ซุนเซ็กจัดกองทัพกําลังพลสามหมื่นเปนอันดีแลว จึงยกกองทัพไปเมืองกังตั๋ง ชาวเมืองทั้งปวงเคารพศรัทธา
ซุนเกี๋ยนมาแตเดิม ครั้นทราบกิตติศัพทความโอบออมอารีมีเมตตาของซุนเซ็กจึงพากันมาเขาดวยซุนเซ็ก หัว
เมืองตางๆ ก็พากันเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ซุนเซ็กออกคําสั่งสนามใหทหารทุกคนเคารพประชาชน รัก
ประชาชน และรับใชประชาชน ผูใดเบียดเบียนขมเหงรังแกราษฎรจะไดรับโทษสถานหนัก จึงเปนที่ชื่นชมยินดี
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 65
ของราษฎร และไดรับความชวยเหลือสนับสนุนจากราษฎรทุกหนแหง กองทัพของซุนเซ็กจึงยิ่งเติบโตขึ้นใน
ทามกลางสงครามนั้น
ครั้นจัดการปกครองเปนปกติดีแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารไปรับ มารดาและครอบครัวมาอยูที่เมืองขยกโอ ซึ่งเปน
ตําบลที่ฝงศพซุนเกี๋ยนผูบิดา และใหซุนกวนผูนองไปรักษาเมืองฮวนเสีย โดยใหจิวทายไปเปนผูชวยของซุน
กวนเมื่อการจัดการปกครองและจัดการเรื่องครอบครัวเสร็จเรียบรอย ซุนเซ็กจึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตี
เมืองตองงอซึ่งเปนหัวเมืองเอกอีกเมืองหนึ่งของแควนกังตั๋ง
ณ เมืองตองงออันเปนหัวเมืองเอกแหงดินแดนกังตั๋ง มีเงียมแปะฮอเปนเจาเมือง เดิมขึ้นตอราชสํานักลกเอี๋ย
งแหงราชวงศฮั่น ครั้นตั๋งโตะเปนทรราชขมเหงอาณาประชาราษฎรและหัวเมืองตางๆ จนโจโฉไดกอตั้งกองทัพ
ปฏิวัติขึ้น เชิญหัวเมืองเอกสิบหกหัวเมืองเขารวมกองทัพปฏิวัติ ในครั้งนั้นเมืองตองงอไมไดรับคําเชิญ ใน
แควนกังตั๋งคงมีแตเมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนเทานั้นที่ไดรับเชิญเขารวมในกองทัพปฏิวัติ เมื่อเงียมแปะฮอ
ทราบขาวหัวเมืองตางๆ ประกาศตั้งกองทัพปฏิวัติไมขึ้นตอรัฐบาลกลางและยกกองทัพไปเพื่อจะลมลางรัฐบาล
ของตั๋งโตะ ดังนั้นเงียมแปะฮอจึงประกาศไมขึ้นตอรัฐบาลกลางของ ตั๋งโตะดวย และเมื่อเมืองตองงอไมไดเขา
รวมในกองทัพปฏิวัติจึงถือ โอกาสนั้นตั้งตัวขึ้นเปนเจาเสียเอง ตั้งสมัญญาวา "เตกออง" จัดแจงแตงคายคูหอ
รบไวทุกหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองตองงอนั้น
ครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพจะมาตีเมืองตองงอ เงียมแปะฮอจึงตั้งใหนองชายชื่อเงียมอี๋เปนกองทัพหนา ยก
ไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่สะพานหองเกียว ซึ่งเปนสะพานขามแมน้ําใน ทางที่ซุนเซ็กจะยกมา ฝายซุน
เซ็กเมื่อไดรับรายงานจากทหารลาดตระเวนวาบัดนี้ เงียมอี๋ยกทหารมาตั้งสกัดอยูที่สะพานหองเกียว จึงใหจัด
ทหารเปนสองกอง ใหฮันตงคุมทหารไปทางบกเพื่อรบกับเงียมอี๋และใหตันบู และเจียวขิมคุมทหารเกาทัณฑ
อีกกองหนึ่งลงเรือเล็ก ใหกองทัพทั้งสองกองยกไปพรอมกันที่สะพานหองเกียว เงียมอี๋ไดรับรายงานวา
กองทัพซุนเซ็กยกมาก็พาทหารขามสะพานหองเกียวไปจนเกือบถึงตนสะพานรบดวยฮันตง กองทัพหนาของ
ซุนเซ็ก ในขณะที่ทหารของทั้งสองฝายรบกันบนสะพานนั้น ตันบูและเจียวขิมสั่งใหเคลื่อนกองเรือเล็กเขาไปที่
สองขางสะพาน แลวใหทหารยิงเกาทัณฑใสทหารของเงียมอี๋
ทหารของเงียมอี๋ตองเผชิญศึกดานหนาทางหนึ่งแลว ยังถูกทหารของซุนเซ็กระดมยิงมาจากเรือเล็กขาง
สะพานทั้งสองดาน จึงบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก ทหารที่เหลือจึงพากันแตกหนีถอยกลับเขาเมืองตองงอ
ซุนเซ็กจึงสั่งใหฮันตงยกทหารไปทางบกและใหตันบู เจียวขิม ยกกองเรือเร็วไปลอยลําอยูที่หนาเมืองตองงอ
ทหารของซุนเซ็กลอม เมืองตองงอไวสามดาน และใหทหารออกไปทารบถึงสามวัน แตทหารเมืองตองงอก็ไม
ยอมออกรบ คงคุมกําลังตั้งรับอยูแตในเมือง ซุนเซ็กจึงขับมานําทหารไปที่ประตูเมืองแลวใหทหารรองไปวา
บัดนี้ซุนเซ็กไดลอมเมืองตองงอไวแลว หากคิดตอสูก็จะพากันตายสิ้น ผูใดรักตัวกลัวตายใหรีบเขามา
สวามิภักดิ์ ทหารรักษาเชิงเทินคนหนึ่ง เห็นดังนั้นก็รองเยาะซุนเซ็กวา ขอเชิญพวกทานตากแดดตากฝนใหจง
ดีเถิด พวกเราจะกินโตะรออยูในเมือง ไทสูจูเห็นทหารรักษาเชิงเทินเยาะเยยซุนเซ็กก็โกรธ เอาเกาทัณฑ
ขึ้นมาพาดสาย หมายจะสังหารทหารรักษาเชิงเทินนั้นเสีย พอดีทหารนั้นกําลังเอามือขางหนึ่งเทาอยูที่ขอบเชิง
เทินจึงเปลี่ยนเปนคิดขมขวัญขาศึก ไทสูจูจึงยิงเกาทัณฑไปที่มือทหารนั้น เกาทัณฑปกมือตรึงเขากับกําแพง
ทหารนั้นบาดเจ็บรองไหดังลั่น ทหารทั้งสองฝายจึงพากันหันมาดู ทหารฝายซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงพากัน
สรรเสริญฝมือเกาทัณฑของไทสูจูเปนอันมาก ในขณะที่ทหารรักษาเชิงเทินก็พากันตกใจกลัว ตางคนตางหลบ
อยูในใบเสมาของกําแพงเมือง ครั้นเงียมแปะฮอทราบเหตุการณแลวไดทอดถอนใจใหญแลววากับที่ปรึกษาวา
เสียดายนักที่กองทัพเราไมมีผูใดมีฝมือเสมอดวยไทสูจูเลย หากแมนวามีคนอยางไทสูจูสักคนหนึ่งก็จะไมเกรง
ผูใดในแผนดิน และปรึกษาวาจะคิดอานประการใดตอไป
บรรดาที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นวาซุนเซ็กยกมาครั้งนี้มีทหารมีฝมือเปนจํานวนมาก ดังนั้นเพื่อไมใหเดือดรอนแก
ราษฎรจึงควรเขาเกลี้ยกลอมออนนอมตอซุนเซ็ก แบงดินแดนใหครึ่งหนึ่งเห็นทีซุนเซ็กจะยกทัพกลับไป เงียม
แปะฮอเห็นดวยจึงสั่งใหเงียมอี๋เปนทูตไปเจรจาดวยซุนเซ็ก ซุนเซ็กเมื่อไดฟงขอเสนอของเงียมอี๋แลวก็โกรธ
จึงวา เรายกมาทําการถึงเพียงนี้เมืองตองงอไมพนมือเราแลว ยังจะมาเกี่ยงยกเมืองใหครึ่งหนึ่งเปนการดูหมิ่น
เรานัก วาแลวสั่งทหารใหเอาเงียมอี๋ไปตัดศีรษะแลวโยนศีรษะนั้นเขาไปในเมืองตองงอ เงียมแปะฮอทราบขาว
ก็ตกใจไมมีแกใจจะตั้งรับซุนเซ็กอีกตอไป ค่ําลงก็พาทหารใกลชิดหนีออกจากเมืองจะยกไปเมืองอิของ ครั้น
ไป ถึงกลางทางพบกับเลงโฉคุมชาวบานออกมาสกัดทางไว เงียมแปะฮอ จึงพาทหารขามฟากไปตั้งอยูตําบล
ไชสิน เตรียมจะไปอาศัยเมืองหอยแข กลายเปนเจาไมมีศาลตั้งแตบัดนั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฝายซุนเซ็กครั้นทราบวาเงียมแปะฮอทิ้งเมืองหนีไป จึงยกทหารเขาเมืองตองงอจัดระเบียบการปกครองเปน
ปกติแลว จึงสั่งใหอุยกายยกทหารไปตีเมืองแกหิน และใหไทสูจูยกทหารไปตีเมืองออแสง ซึ่งสองเมืองนี้ขึ้น
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 66
ตอเมืองตองงอ แตทหารของเงียมแปะฮอยังคงรักษาเมืองไมยอมขึ้นตอบังคับของซุนเซ็ก อุยกายและไทสูจู
ยกทหารไปตีเมืองทั้งสองไดเมื่อจัดระเบียบการปกครองใหขึ้นกับเมืองตองงอแลว จึงยกทหารกลับมาหาซุน
เซ็ก ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งใหจัดทหารเตรียมยกตามเงียมแปะฮอไป ครั้นถึงตําบลอิของจึงพบกับเลงโฉพา
บุตรชายมาขอทําราชการดวย และแจงวาบัดนี้เงียมแปะฮอหนีไปตําบลไชสินจะไปเมืองหอยแข ซุนเซ็กได
ทราบก็ยินดีและใหรับเลงโฉกับบุตรชายเปนทหารในกองทัพ แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพยกไปเมืองหอยแข ฝาย
อองหลอง เจาเมืองหอยแขเปนเพื่อนสนิทกับเงียมแปะฮอ ครั้นทราบวา เงียมแปะฮอกําลังหนีการไลติดตาม
ของซุนเซ็กจะมาเมืองหอยแขจึงพาทหารออกไปรับเงียมแปะฮอถึงนอกเมือง แลวตั้งคายไวที่เชิงเขานอก
เมืองเตรียมรับมือกับกองทัพของซุนเซ็ก
ครั้นทราบขาววาซุนเซ็กยกทหารมาถึง อองหลองจึงขับมาถือกระบี่จะออกรบดวยซุนเซ็ก อองหลองรบกับซุน
เซ็กไดหกเพลง ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงชักมากรายทวนเขารบดวยอองหลองแทนซุนเซ็ก ซุนเซ็กจึงชักมาถอยเขา
มา ไทสูจูตอสูกับอองหลองถึงเพลงที่หา พอดีจิวยี่และเทียเภายกทหารตามซุนเซ็กมาและเขาลอมอองหลอง
และทหารไว อองหลองเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบพาเงียมแปะฮอและทหารตีฝาหนีกลับเขาเมืองหอยแข สั่งทหาร
ปดประตูเมืองและใหระวังรักษาเชิงเทินไวใหมั่นคง
รุงขึ้นอองหลองปรึกษาดวยเงียมแปะฮอวา จะยกทหารออกไปรบดวยซุนเซ็กแตเงียมแปะฮอรูฝมือทหารซุน
เซ็กเปนอยางดีจึงหามไว แลวเสนอวาขาศึกเขมแข็งกวาเรา ดังนั้นจึงควรตั้งรับศึกไวในเมือง ซุนเซ็กมีทหาร
มากก็ยอมกินเสบียงมาก ในไมชาก็คงหมดเสบียง และจะตองยกทัพกลับไปเอง อองหลองเห็นดวยจึงสั่งทหาร
กวดขันเชิงเทิน คายคูหอรบ สั่งกําชับไมใหออกรบดวยซุนเซ็ก ฝายซุนเซ็กลอมเมืองหอยแข แตละวันให
ทหารออกไปทาอองหลองใหยกออกมารบ ผานไปถึงหาวันทหารอองหลองก็ยังคงตั้งมั่นอยูในเมือง ซุนเซ็ก
เกรงวาถาการศึกยืดเยื้อไปก็อาจขาดเสบียงลง กองทัพก็จักเปนอันตราย จึงปรึกษากับที่ปรึกษาและแมทัพ
นายกองวาจะคิดอานประการใดจึงจะยึดเมืองหอยแขไดโดยเร็ว นายทหารหัวหนาหนวยลาดตระเวนไดเสนอ
กับซุนเซ็กวาจากการลาดตระเวนของทหารพบวาเมืองหอยแขนี้เสบียงอาหารไมพอกิน ตองอาศัยเสบียง
อาหารซึ่งลําเลียงมาจากเมืองแจตอก ดังนั้นถาเรายึดเมืองแจตอกเสียกอน เมืองหอยแขก็จะหมดหนทางตอสู
ซุนเซ็กไดฟงขอเสนอดังนั้นจึงสั่งใหเลิกทัพเพื่อจะยกไปยึดเอาเมืองแจตอก จิวยี่จึงเสนอวาขาพเจาจะคิดกล
อุบายประการหนึ่ง ถาหากอองหลองหลงกลแลว เราก็จะยึดเอาเมืองหอยแขไดโดยงาย ซุนเซ็กจึงถามวาทาน
มีความคิดอุบายประการใด จิวยี่จึงวา เมื่ออองหลองรูวาเราจะยกไปเมืองแจตอก คงลังเลวาจะติดตามตีหรือไม
ดังนั้น อยาใหถอนคายและธงทิว ใหคงเปนปกติไวดังเดิม และใหทหารกอไฟหุงขาวไวในคายเหมือนกับปกติ
อองหลองเมื่อรูวาเรายกไปแลว ทํากลไวดังนี้ก็จะคิดวาเรากลัว คงจะยกทหารไลโจมตีเรา ตามเสนทางไป
เมืองแจตอกหางจากคายนี้สามรอยเสน สองขางทางเปนปา เราจะจัดทหารไปซุมไว พออองหลองยกตามไปก็
จะลอมจับเอาตัวไดโดยงาย
ซุนเซ็กเห็นดวยกับแผนการของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามความคิดของจิวยี่ทุกประการ แลวยกทหารออกจาก
คายไปตามทางที่จะไปเมืองแจตอก ถึงชายปาแลวใหทหารซุมไวตามแผนการ ฝายอองหลองไดรับรายงาน
จากทหารวาซุนเซ็กยกทหารไปแลว แตไมไดรื้อถอนคายไปดวย อองหลองสงสัยจึงพาบรรดาแมทัพนายกอง
ขึ้นไปดูบนหอรบ เห็นคายซุนเซ็กเงียบอยูแตมีธงทิวปลิวไสว แลควันไฟที่หุงอาหารลอยอยู เหมือนกับวา
ทหารยังอยูในคาย บรรดาแมทัพนายกองและอองหลองเห็นพองตองกันวา ซุนเซ็กทํากลอุบายวายังคงตั้งคาย
อยูเพื่อไมใหเรายกตามตี การทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากกองทัพซุนเซ็กขาดเสบียง แตกลัววาจะถูกตามตีจึงทําเปน
ลวงดวยกลอุบายดั่งนี้
ดังนั้น หากเรายกทหารไลตามตีซุนเซ็กก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคงปรึกษากันแลว อองหลองจึงใหจิวเจียดนาย
ทหารและเงียมแปะฮอเปนกองทัพหนา ตัวอองหลองเปนกองทัพหลวงยกออกจากเมืองหอยแขไปตามตี
กองทัพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารตีมาลอใหสัญญาณเขาโจมตีพรอมกัน ซุนเซ็กซึ่งสกัดอยู
ดานหนาใหทหารจุดไฟสวางไสว เพื่อใหทหารเงียมแปะฮอเกรงกลัวไมกลารุกไปขางหนา จิวเจียด เงียม
แปะฮอ และทหารในกองทัพหนาตกอยูทาม กลางวงลอมของทหารซุนเซ็กและถูกตีกระหนาบเขามาทุกดานก็
ตกใจ เงียมแปะฮอนั้นเปนนักหนี มีฝเทาไว จึงตีฝาหนีออกไปได แลวนําทหารไปเมืองอิของ เหลือแตจิวเจียด
คุมทหารตอสูกับซุนเซ็กและถูกซุนเซ็กเอาทวนแทงตกมาตาย
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นกองทัพหนาแตกแลว ทหารของซุนเซ็กก็ยังคงตีฝาเขามาจนถึงทัพหลวงของอองหลอง อองหลองเห็น
จวนตัวจะหนีเขาเมืองก็ไมทันการณเพราะรบประชิดกันอยู จึงพาทหารหนีไปทางดานชายทะเล ซุนเซ็กไดรับ
ชัยชนะอยางงดงามตามแผนการของจิวยี่ จึงรีบยกทหารไปเมืองหอยแข ทหารรักษาเมืองทราบวาอองหลอง
หนีไปแลว ก็พากันเปดประตูเมืองเขาสวามิภักดิ์กับซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กไดทั้งชัยชนะและไดทั้งเมืองหลายเมือง
ติดตอกันเชนนี้กําลังกองทัพของซุนเซ็กจึงเติบโตขึ้นเปนอันมาก ฝายเงียมแปะฮอครั้นพาทหารหนีไปถึง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 67
เมืองอิของก็พบกับตังสิดชาวเมืองเหยียง ซึ่งทราบกิตติศัพทของซุนเซ็กวามีน้ําใจเปนธรรม โอบออมอารีแลรัก
ราษฎร อยากจะไปทําการดวยกับซุนเซ็ก ครั้นทราบวาเงียมแปะฮอแตกหนีซุนเซ็กมาจึงพาพรรคพวกเขาลอม
จับเงียมแปะฮอแลวตัดศีรษะมามอบแกซุนเซ็ก
ซุนเซ็กเห็นตังสิด "หนาสี่เหลี่ยม ปากกวาง สูงหาศอกเศษ สมควรที่จะเปนทหาร" จึงมีความยินดีแลวรับตังสิด
เขาเปนทหารในกองทัพสิ้นเงียมแปะฮอแลว บรรดาดินแดนเกือบทั้งหมดในแควนกังตั๋งก็สยบราบคาบอยู
ภายใตอํานาจของซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กจึงเลิกทัพกลับไปเมืองกังตั๋งเตรียมการที่จะยกไปยึดหัวเมืองยอยๆ มี
เมืองกังหนําเปนศูนยกลางเพื่อครองอํานาจเบ็ดเสร็จเหนือดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีเกียงทั้งสิ้น ขณะ
เตรียมทหารอยูนั้น ทหารสื่อสารไดเขามารายงานวาบัดนี้มีโจรกลุมใหญยกกําลังเขาลอมเมืองอวนเซีย ยึด
เมืองอวนเซียไดแลว จิวทายพาซุนกวนหลบหนีออกมา ในขณะที่พาซุนกวนหนีมานั้นจิวทายถูกกลุมโจรลอม
ทํารายบาดเจ็บสาหัส ถูกแผลทวนสิบกวาแหง แมหนีรอดมาไดแตเห็นจะไมรอดชีวิต ซุนเซ็กไดฟงดังนั้นก็
ตกใจสั่งทหารใหรีบยกไปชวยซุนกวน ถึงกลางทาง พบซุนกวนและทหารกําลังหนีมาใชเปลหามจิวทายอยาง
ทุลักทุเล ครั้นมาถึงเมืองกังตั๋งไดหมอโฮโตมารักษา อาการบาดเจ็บของจิวทายก็หายอยางรวดเร็ว
ครั้นซุนกวนกลับมาเมืองกังตั๋ง ซุนเซ็กจึงยกทหารไปยึดเมืองอวนเซียกลับคืน จับโจรไดเปนอันมาก เหตุการณ
สงบแลวซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพเคลื่อนตอไปยังเมืองกังหนํา บรรดาชาวเมืองและหัวเมืองยอยที่ขึ้นตอ
เมืองกังหนําครั้นไดทราบวา ซุนเซ็กยกกองทัพมาก็ไมคิดตอสูและพากันเขาดวยซุนเซ็ก เปนอันวาบรรดาหัว
เมืองทั้งปวงทางฝงใตของแมน้ําแยงซีไดตกอยูภายใตอํานาจการปกครองของซุนเซ็กสิ้น
ซุนเซ็กไดสถาปนาอํานาจการปกครองของตระกูล "ซุน" เหนือ ดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซี โดยมีกังตั๋งเปน
ศูนยกลางการปกครอง สําเร็จตามปณิธานของซุนเกี๋ยนผูบิดาดวยประการฉะนี้ ครั้นซุนเซ็กจัดระเบียบการ
ปกครองแควนกังตั๋งเสร็จสิ้นแลว จึงทําหนังสือกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อทรงทราบ
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
ความฉลาดของคนโง (ตอน 80)
ซุนเซ็กเถลิงอํานาจขึ้นในแควนกังตั๋งแลว แตเปนอํานาจในระดับแควนโดยที่รัฐบาลกลางยังไมไดรับรอง แมวา
จะยังไมมีพระบรมราชโองการของฮองเตโปรดเกลาแตงตั้งซุนเซ็กอยางเปนทางการ แตโดยพฤตินัยนั้นอํานาจ
ปกครองแควนกังตั๋งอยูที่ซุนเซ็ก หาไดอยูที่รัฐบาลกลางไม ในขณะเดียวกันโจโฉครองอํานาจรัฐสวนกลาง มี
อํานาจปกครองทั่วประเทศตามนิตินัย แตโดยพฤตินัยกลับไมมีอํานาจปกครองเหนือแควนกังตั๋ง สวนเลาปผู
เปนเชื้อพระวงศฮั่นกลับตกต่ําลงลดฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนหัวเมืองเอก กลับมาเปนเจาเมืองเสียวพาย
ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวาและบัดนี้ขึ้นตอเมืองชีจิ๋วที่มีลิโปเปนเจาเมือง และเปนเจาเมืองทางพฤตินัย
เชนเดียวกัน เพราะลิโปก็มิไดรับการรับรองจากรัฐบาลกลาง ดังนั้น ถึงตอนนี้กลุมอํานาจที่ชัดเจนคือโจโฉ ซุน
เซ็ก ลิโป และนี่คือผลโดยตรงจากการดําเนินนโยบายทางการเมือง การปกครองที่ผิดพลาดของโจโฉ ไม
เพียงแตเทานี้อวนสุดเจาเมืองลําหยงก็กลายเปนกลุมอํานาจอีกกลุมหนึ่งเพราะหลังจากไดรับจํานําตราพระ
ลัญจกรจากซุนเซ็กแลว อวนสุดก็กําเริบคิดตั้งตัวขึ้นเปนเจา ความคิดที่ถือเอาตราพระลัญจกรเปนหลักในการ
ตั้งตัวขึ้นเปนเจานี้เปนการแสดงถึงความโงเขลาเบาปญญาของอวนสุดโดยแท เพราะอํานาจและความเปนเจา
นั้นไมไดอยูที่ตราพระลัญจกร หากอยูที่การสรางสมอํานาจและบารมี มิฉะนั้นแลวคนเฝารักษาตราพระลัญจกร
ทุกยุคทุกสมัยยอมเปนเจากันไปทุกคน
ในขณะที่อวนสุดกอดยึดเอาตราพระลัญจกร ตั้งความฝนที่จะอาศัยตราพระลัญจกรสถาปนาตัวเองขึ้นเปนเจา
นั้น อวนสุดก็ตองตื่นจากความฝนเนื่องจากขุนนางเมืองลําหยงฝายพิธีการทูตไดเขามารายงานวา บัดนี้ซุนเซ็ก
ไดแตงตั้งผูแทนมาทวงเอาตราพระลัญจกร แลวจะคืนทหารและมาศึกที่ยืมไป อวนสุดไดทราบรายงานดังนั้นก็
บิดพลิ้วไมยอมคืนตราพระลัญจกร แจงกลับไปวาซุนเซ็กเปนฝายผิดสัญญาจํานําเพราะหลังจากยืมทหารและ
มาศึกเพื่อไปชวยงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชายแลว ซุนเซ็กไมคืนทหารและมาศึกกลับเอาไปใชทําการ
ใหญจนไดแควนกังตั๋ง ดังนั้น ตราพระลัญจกรจึงตกเปนสิทธิขาดแกอวนสุดแลว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ผูแทนของซุนเซ็กรับทราบทาทีของอวนสุดแลวจึงกลับไปเมือง กังตั๋งรายงานใหซุนเซ็กทราบ ฝายอวนสุด
เกรงวาจะมีขอครหาวาบิดพลิ้วยึดเอาตราพระลัญจกรของซุนเซ็กไว และเกรงวาซุนเซ็กจะยกทหารมาโจมตี
เมืองลําหยงจึงเรียกประชุมบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกอง ปรึกษาวาจะยกกองทัพไปกําจัดซุนเซ็ก
เสียกอน เอียวไตเจียงเสนาธิการเมืองลําหยงจึงเสนอวาบัดนี้ซุนเซ็กไดครองอํานาจในแควนกังตั๋งแลว มี
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 68
ดินแดนกวางใหญ ทหารที่มีฝมือเขมแข็งก็มีเปนจํานวนมาก ราษฎรพรักพรอม เสบียงอาหารก็อุดมสมบูรณ
และยังมีแมน้ําแยงซีเปนปราการธรรมชาติ หากยกไปเห็นจะไมไดชัยชนะ ทั้งเมื่อยกไปแลวลิโปและเลาปคงจะ
ฉวย โอกาสซ้ําเติม เราก็จะเสียการใหญไป
อวนสุดจึงปรึกษาวาถาเปนเชนนั้นจะคิดการประการใด เอียวไตเจียงจึงวากรณีจําเปนตองยกไปตีเลาปซึ่ง
ออนแอที่สุดกอน ถาเลาปแพแกกองทัพเราแลวก็จะเอาชนะซุนเซ็กในขั้นตอไป อวนสุดจึงวาถายกไปตีเมือง
เสียวพาย ลิโปซึ่งเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็ยอมยกมาชวยเลาปเราก็จะถูกตีกระหนาบ แลววาขาพเจาเห็นดวยที่จะตี
เลาปกอน แตตองหาทางไมใหลิโปชวยเหลือเลาป แลลิโปนั้นเปนคนโลภ ถาเราตั้งคาตอบแทนที่พอเพียง
แลวลิโปก็จะทิ้งเลาปเสีย เราก็จะกําจัดเลาปไดสําเร็จ ที่ปรึกษาของอวนสุดไดทักทวงวา เมื่อครั้งที่ทานยกไป
รบกับเลาปไดขอใหลิโปยกกองทัพไปชวยและสัญญาวาจะมอบมาศึกหารอย ขาวหาหมื่นถัง ทองเงินหมื่น
ตําลึง แพรพันพับนั้น ยังมิไดมอบ ขาวของดังกลาวแกลิโป ดังนั้นลิโปยอมขัดเคืองในเรื่องนี้คงจะไมยอมทํา
ตามที่เราตองการ อวนสุดจึงวาครั้งนั้นลิโปมิไดเขารบพุงดวยเลาป เปนแตเลาปยกทัพหนีไปเอง แตเพื่อจูงใจลิ
โปดังนั้นครั้งนี้เราจะตั้งคาตอบแทนเปนเสบียงใหมาก ลิโปมีเสบียงอยูนอยคงจะทําตามความประสงค บรรดาที่
ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นชอบพรอมกันกับแผนการของอวนสุด ดังนั้นอวนสุดจึงใหหันอิ้นเปนทูตไป
เจรจาความกับ ลิโป โดยนําขาวยี่สิบหมื่นถังไปมอบเปนกํานัลแกลิโป ขอสัญญาวาอยาใหลิโปชวยเหลือเลาป
ครั้นลิโปไดทราบความที่หันอิ้นมาเจรจา และเห็นของตอบแทนเปนเสบียงจํานวนมากก็ดีใจ ตกปากรับคําวา
ถึงแมอวนสุดจะรบกับเลาปประการใด ลิโปก็จะไมเขาเกี่ยวของ หันอิ้นจึงกลับไปรายงานใหอวนสุดทราบอวน
สุดเห็นการณเปนไปตามแผนการแลวจึงตั้งใหกิเหลงเปนแมทัพ ใหลุยปกและตันหลันเปนรองแมทัพคุมทหาร
หาหมื่นยกไปตีเมืองเสียวพาย ฝายเลาปไดขาวศึกจึงปรึกษากับบิตก ซุนเขียน กวนอู และเตียวหุยวาเมือง
เสียวพายเปนเมืองเล็ก เห็นจะรับมือขาศึกไมได ซุนเขียนจึงเสนอวาขอใหทานมีหนังสือไปขอความชวยเหลือ
จากลิโปใหรีบยกกองทัพมาชวย แลวตีกระหนาบกองทัพกิเหลงทั้งสองดานก็จะเอาชนะไดโดยงาย เตียวหุย
จึงวาลิโปเปนคนเนรคุณ เห็นเราลําบากคงจะไมมาชวย เลาปแยงวาแมความคิดของเตียวหุยในครั้งนี้จะชอบ
ดวยเหตุผล แตจําเปนตองลองใจลิโปตามคําซุนเขียนกอน และลิโปนั้นมีตันกงเปนที่ปรึกษามีสติปญญามาก
คงจะตองคิดอานระวังตัววาถาอวนสุดไดเมืองเสียวพายแลวก็อาจโจมตีเมือง ชีจิ๋วตอไป ถาเปนไปตามที่
คาดหมายนี้ลิโปยอมตองเขาชวยเหลือเรา
ทุกคนเห็นพองกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงใหทหาร ถือหนังสือไปถึงลิโปแจงขาวศึกใหทราบ และ
ขอใหลิโปยกกองทัพมาชวย ลิโปไดตกปากรับคําอวนสุดไปแลววาจะไมยุงเกี่ยวในการศึกระหวางอวนสุดกับ
เลาป แตครั้นไดรับหนังสือของเลาปก็เกิดลังเลในความคิดวาจะเฉย หรือจะชวยดี ดังนั้นจึงเรียกตันกงมา
ปรึกษา แจงความใหตันกงทราบทุกประการแลวออกความคิดเสียเองวา "เราคิดวาเลาปอยูในเมืองเสียวพาย
เห็นจะไมทําอันตรายแกเรา ถาเราฟงคําอวนสุด อวนสุดรบไดเมืองเสียวพายแลว เราจะวางศีรษะลงถึงหมอน
เปนปรกตินั้นหามิได เห็นอวนสุดจะกําเริบยกลวงมาตีเอา เมืองชีจิ๋วเปนมั่นคง เราจําจะยกไปชวยเลาปปองกัน
เมืองเสียวพาย ไวจึงจะควร" ลิโปนั้นแมเปนคนไรสติปญญา แตวันนี้มีอายุมากขึ้น ประสบการณมากขึ้น และมี
ความหวงแหนเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นแมจะรับสินบนของอวนสุด ตกปากรับคําวาจะไมเกี่ยวของในเรื่องนี้ แตพอเอา
เขาจริง ก็คิดออกวาการครั้งนี้สุดทายเมืองชีจิ๋วจะตกอยูในอันตราย ดังนั้นจึงคิดบิดพลิ้วอวนสุดโดยไมคํานึงถึง
การผิดสัญญาเพราะถือเสียวาอวนสุดก็เคยบิดพลิ้วสัญญาตัวมาแตกอน
ตันกงไดฟงความคิดลิโปแลวเห็นชอบดวย แตก็แปลกใจที่ลิโปวันนี้เฉลียวฉลาดทันเกมของอวนสุด ดังนั้นลิโป
จึงใหเตรียมกองทัพยกไปเมืองเสียวพาย ฝายกิเหลงเคลื่อนทัพมาถึงเมืองเสียวพาย ก็ใหทหารตั้งคายลง
ประชิดกําแพงเมือง เตรียมการเขาตีหักเอาเมืองตอไป เลาปในขณะนี้มีทหารอยูเพียงหาพัน นอยกวาทหาร
ของกิเหลงถึงสิบเทา จึงจําใจตองตั้งรับอยูในเมืองและเตรียมแผนการรบดวยวิธีการรบ โดยอาศัยฝมือทหาร
เอกเพื่อลดทอนความเสียเปรียบ
สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) และฉบับสมบูรณกลาว ความตอนนี้ตรงกันวา เลาปยกทหารออกไปตั้ง
คายรับศึกที่นอกเมือง แตพิเคราะหดูแลวไมเห็นสม เพราะเลาปมีทหารนอยกวามาก หากยกทหารหาพัน
ออกไปรับศึกที่นอกเมืองแลว ภายในเมืองก็จะมีทหารนอยกวานอย เลาปและคณะที่ปรึกษายอมคิดออกวาถากิ
เหลงแบงกําลังออกเปนสองกอง กองหนึ่งเขาปลนคาย อีกกองหนึ่งเขาตีเมือง ใชกําลังทหารที่เหนือกวาทั้งใน
การโจมตีเมืองและในการโจมตีคายแลว เลาปก็จะเสียทั้งเมืองเสียทั้งคาย
ดังนั้น การรบดวยคนนอยกับคนมากดังนี้ วิธีลดความไดเปรียบของขาศึกจึงตองอาศัยกําแพงเมือง คายคูประตู
หอรบเปนที่มั่น แลวอาศัยการรบดวยฝมือทหารเอก ซึ่งฝายเลาปไดเปรียบฝายกิเหลง เปนหลัก และสามกก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ฉบับวิจารณบางฉบับก็ตั้งความสังเกตดังนี้
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 69
วันรุงขึ้นยังไมทันที่กิเหลงจะรบกับเลาปก็เห็นกองทัพของลิโปยกมาตั้งคายอยูทางดานหลัง ระยะหางกันเพียง
ชั่วสามระยะเกาทัณฑยิงเทานั้น ก็รูวาลิโปยกมาชวยเลาป จึงใหทหารไปหาลิโปที่คายแลวถามวา ลิโปตกปาก
รับคําวาจะไมเกี่ยวของ ทั้งรับเอาคาตอบแทนไปแลว เหตุใดจึงยกมาชวยเลาปอีกจะไมเปนการบิดพลิ้วสัญญา
ดอกหรือ ลิโปก็ยังเปนลิโปที่สามารถหาเหตุผลพิสดารที่คนไมคาดคิดไดอยูเสมอ ครั้นถูกตอวาดังนั้นจึงตอบ
วาเรายกมาทั้งนี้ไมไดยกมาชวยเลาป แตเรายกมาปองกันเมืองเสียวพาย ซึ่งขึ้นกับเมืองชีจิ๋ว หากทานไมลวง
เขามาในเขตแดนเมืองเสียวพายแลว เราก็จะไมเกี่ยวของดวย และวาทานมากลาววาเรารับของตอบแทนแลว
บิดพลิ้วสัญญานั้นไมชอบ อวนสุดสงขาวแกเราจะคิดเรื่องคาตอบแทนไมใหเรายกมาชวย เลาปเปนความคิด
ของอวนสุด แตเรารับของตอบแทนเพราะคิดวาเปนคาตอบแทนที่อวนสุดเคยขอใหเรายกไปรบเลาป ตางคน
ตางคิด กันเชนนี้จะวาเราบิดพลิ้วไดอยางไร เพราะตัวเราเองยังไมเคยตําหนิตัวเองวาบิดพลิ้วเลยแมแตนอย
แลววาตัวเรานั้นเปนผูใหญ ไมตองการเห็นผูนอยทะเลาะวิวาท กัน จะหาทางใหปรองดองกันสืบไป เจาจง
กลับไปแจงกิเหลงใหมาหาเราที่คายนี้ ในเพลาเชาวันพรุงนี้
ลิโปบิดพลิ้วสัญญาที่ใหไวกับอวนสุดดวยเหตุผลแบบลิโป ซึ่งทหารที่กิเหลงใชมานั้นไดฟงแลวก็งุนงงสงสัย
เปนอันมากวานี่เปนเหตุผลของคนหรือไม มิหนําซ้ํายังวางตัวเปนผูใหญแบบลิโปเสียอีก แตทหารของกิเหลง
เปนผูนอยทั้งเกรงกลัวลิโปไดฟงลิโปแลวก็รีบลากลับไปแจงใหกิเหลงทราบ หลังจากทหารของกิเหลงกลับไป
แลว ลิโปก็ใหทหารไปเชิญเลาปมาพบที่คายตามเวลาที่นัดไวกับกิเหลงนั้น เลาปครั้นไดทราบคําเชิญจึง
ปรึกษากับกวนอู เตียวหุย กวนอู เตียวหุย ทักทวงไมใหเลาปไปที่คายของลิโปเกลือกวาจะเปนอันตราย แต
เลาปเอาใจซื่อเขาสูกับคนใจคดแบบลิโป แยงวาลิโปคงคิดถึงคุณที่ชวยเหลือในยามยาก คงจะไมคิดทํา
อันตรายตอเรา นับเปนความคิดที่กลาหาญและเสี่ยงภัยมิใชนอย แตก็เปนไปไดวาเลาปอานใจคนแบบลิโป
กระจางวา ลิโปยังคงตองการเลาปไวรักษาดุลอํานาจระหวางเมือง คงจะไมคิดทําอันตราย กวนอู เตียวหุย เห็น
เลาปไมฟงคําทัดทานจึงวาเมื่อพี่ใหญตัดสินใจไปดั่งนี้ก็จะขอตามไปดวย เผื่อวามีเหตุการณนอกเหนือความ
คาดคิดเกิดขึ้นจะไดชวยกันคิดอานแกไข เลาปก็ตกลง
รุงขึ้นเลาปจึงพากวนอู เตียวหุย ไปยังคายของลิโปกอนเวลา นัดหมาย เผื่อวาลิโปจะไมซื่อก็อาจเห็นพิรุธและ
หาทางแกไขไปตามสถานการณไดทันทวงที ครั้นลิโปทราบวาเลาปมาก็ออกมาตอนรับ จูงมือเลาปเขาไปใน
โรงบัญชาการทหาร แลวบอกวาขาพเจายกมาทั้งนี้จะชวยทานมิใหถูกอวนสุดทําอันตรายได กวนอู เตียวหุย ก็
เดินตามเขาไปในโรงบัญชาการทหารนั้นแลวยืนอยูขางหลังเลาป พอถึงโรงบัญชาการ ทหารรักษาการณก็เขา
มารายงานลิโปวาบัดนี้กิเหลงกําลังมาที่คาย เลาปไดยินดังนั้นก็ตกใจเกรงวาลิโปจะคิดทําอันตราย ยังมิทันที่
จะกลาวความประการใด ลิโปก็ลุกออกไปที่หนาคายขณะนั้นกิเหลงเดินเขามาถึงหนาคาย ลิโปก็เขาไปตอนรับ
แลว บอกวาบัดนี้เลาปมารออยูแลว กิเหลงไดฟงดังนั้นก็ตกใจคิดวาลิโปจะคิดทําอันตราย คนแบบลิโปใครๆ ก็
เห็นวาเปนตัวอันตรายทั้งนั้น แมกระทั่งเลาปซึ่งกอนมาก็คิดวาลิโปคงคิดถึงบุญคุณและจะไมทําอันตราย
หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
อุบายใชคนผูกคน (ตอน 81)
ลิโปนัดทั้งเลาปและกิเหลง ซึ่งเปนคูศึกมาที่คายของตนโดยไมแจงใหแตละฝายทราบวานัดมาทําไม ดังนั้นทั้ง
เลาปและกิเหลงจึงไมทราบวาคูศึกของตนจะมาที่คายของลิโป เหตุนี้เมื่อตางฝายไดทราบวามีคูศึกมา ณ คาย
ของลิโป จึงเขาใจวาลิโปสมคบกับอีกฝายหนึ่งลวงตนมาทําราย เลาปตกใจก็จริงอยู แตมิไดเสียอาการยังคง
นั่งสงบในโรงบัญชาการนั้น โดยมีกวนอู เตียวหุย นองรวมสาบานถืออาวุธยืนคุมเชิงอยูขางหลัง แตกิเหลงนั้น
เมื่อตกใจแลวเสียกิริยาไป จะหันหลังกลับออกไปจากคาย ลิโปเห็นดังนั้นจึงเรงกาวเทาเขาถึงตัวจับเอามือกิเห
ลงไวแลววาทานอยาเพิ่งตกใจ กิเหลงจึงวา ทานจะลวงขาพเจามาทํารายหรือวาจะทํารายไอเลาปหูยาว ลิโป
จึงตอบแบบลิโปที่ทําใหงุนงงสงสัยตอไปโดยไมยอมพูดเขาประเด็นที่ถูกถามวา ขาพเจาไมไดคิดฆาทาน และ
ไมไดคิดฆาเลาป แตเลาปกับขาพเจานั้นดุจดั่งพี่นอง ทานยกมารุกรานเมืองเสียวพายเพื่อจะทํารายเลาป
ขาพเจาจึงตองยกมาปองกันเมืองเสียวพาย จึงคลายประหนึ่งวาขาพเจามาชวยเลาป ดังนั้นทานจะเขาใจ วา
ขาพเจาชวยเลาปก็ได กิเหลงยิ่งฟงลิโปก็ยิ่งงง จึงพยายามลากเขาประเด็นวาเมื่อเปนเชนนั้นทานจึงตองฆา
ขาพเจาเพื่อทําใหเมืองเสียวพายและเลาปปลอดภัยกระนั้นหรือ ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญ มีหนาที่ตองทํา
ใหผูนอยเลิกวิวาทกัน
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 70
ลิโปอางตนเปนผูใหญแลเห็นคนอื่นเปนเด็ก แลวรีบจูงกิเหลง เขาไปในโรงบัญชาการทหาร เชิญใหนั่งอยูที่
โตะเดียวกับเลาป สวนลิโปเขาไปนั่งระหวางกลาง และสั่งใหทหารนําสุรามาใหเลาปและกิเหลง ครั้นทหารนํา
สุรามาแลว ลิโปจึงชวนเลาปและกิเหลงดื่ม ทั้งสองคนเกรงใจลิโปก็ดื่มสุรานั้น แลวลิโปจึงวาขาพเจาขอให
ทานทั้งสองเห็นแกหนาขาพเจา เลิกพยาบาทวิวาทกัน ยุติศึกระหวางกันเสีย เลาปเปนฝายถูกรุกราน ยินคําลิ
โปแลวนิ่งอยูเพราะมิไดเปนฝายกอเหตุ แตกิเหลงเปนฝายที่จะตองถอนทัพกลับไปจึงวาอวนสุดนายขาพเจา
ใชใหขาพเจายกกองทัพมาจับตัวเลาป หากขาพเจากลับไปมือเปลายอมเปนการขัดคําสั่งและมีโทษถึง
ประหาร
เตียวหุยเห็นวาการที่กิเหลงมีทีทาไมฟงคําลิโปก็โกรธหาวา กิเหลงดูหมิ่น ชักกระบี่ออกจากฝกแลวดาวากิเห
ลง กวนอูเห็นเตียวหุยวูวามจึงหามเตียวหุยไว และวาใหคอยดูทีทาของลิโปกอน ลิโปเห็นเตียวหุยคูเคืองเกา
โวยวายขึ้นมาทามกลางการเจรจาความเมืองก็ไมพอใจ ออกปากตําหนิวาเราเปนผูใหญไดเชิญทั้งสองฝายมา
หวังใหปรองดองกัน ทั้งเลาปแลกิเหลงลวนเห็นแกหนาเรา ตั้งใจฟงเรากลาว ตัวทานเปนแตผูติดตามเลาป
ไฉนจึงมาทําหยาบชา ณ คายเราดั่งนี้ เปนการดูหมิ่นไมไวหนาเรา วาแลวลิโปก็ทําเปนโกรธ ลุกขึ้นไปควาเอา
ทวนประจํากายมาถือมั่นไว
ทั้งสองฝายตางตกใจ เพราะไมมีใครรูวาลิโปจะเอาอยางไร แตเลาปเกรงวาลิโปจะทํารายเตียวหุย เหลียวมอง
ไปขางหลังเห็นทั้งกวนอูและเตียวหุยตางกุมอาวุธประจํากายมั่นคงอยูก็วางใจ ในทันใดนั้น ลิโปไดรองเรียก
ทหารเขามาสั่งใหเอาทวนไปปกไวหนาโรงบัญชาการทหาร ระยะหางสามรอยกาว แตตัวลิโปทํายืนขรึมอยู ณ
ที่เดิม ครั้นทหารนําทวนไปปกไวตามคําสั่งแลว ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญทําการใดตองถือความประสงค
ของฟาเปนเกณฑ ดังนั้นขาพเจา จะทําการเสี่ยงทายตอเทพยดา โดยจะยิงเกาทัณฑไปที่ทวนซึ่งปกไวนั้น ถา
ขาพเจายิงพลาด แสดงวาเทพยดามีประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้ทานจงรบกันตามใจสะดวก ขาพเจา
จะไมเกี่ยวของดวย แตถาขาพเจายิงไปถูกทวนนั้นก็แสดงวาเทพยดาไมประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้
หากผูใดไมเชื่อฟง ขาพเจาก็จําตองถืออาญาสิทธิ์ แหงสวรรคเขาทําสงครามดวยผูนั้น กิเหลงเห็นระยะสาม
รอยกาวไกลเกินที่ผูใดจะยิงเกาทัณฑไปถูกที่หมายได หวังใจวาเมื่อลิโปยิงพลาดเปาแลวจะไดทําการกับเลาป
ไดถนัดมือก็ดีใจ จึงวาเมื่อลิโปทานตกลงใจดั่งนี้แลว ขาพเจามีแตตองคลอยตามคําทาน สวนเลาปนั้นมิไดวา
กลาวประการใด อาการอันดุษณีเปนอันถือวาเลาปยินยอมตกลงดวย ดังนั้นลิโปจึงสั่งทหารใหเอาสุรามารินอีก
สามจอก แลวเชิญเลาปและกิเหลงดื่มสุราถือวาทุกฝายตกลงกันตามนี้
ลิโปดื่มสุราหมดจอกแลวสั่งทหารใหเอาเกาทัณฑสําหรับตัวมา ใหขึ้นเกาทัณฑพาดสายแลวนาวจนคัน
เกาทัณฑโกงดังพระจันทรกลางปกษขางขึ้น เสียงวืดหวือดังขึ้น ลูกเกาทัณฑพุงออกจากแหลง ถูกคันทวนดัง
เกรง ทหารทั้งคายลิโปตางโหรองดังสนั่นสรรเสริญฝมือเกาทัณฑของลิโปวาเปนเลิศในใตหลา เสมอดวยวีร
ชนในอดีตที่นาวเกาทัณฑยิงพระอาทิตย จนความมืดมิดปกคลุมโลกอันลือลั่น เลาป กวนอู และเตียวหุย ตาง
ปรบมือแสดงความยินดี ชื่นชม ในฝมือเกาทัณฑของลิโปสถานหนึ่ง และดีใจที่การสมประโยชนอีกสถานหนึ่ง
คงมีแตกิเหลงเทานั้นที่สีหนาสลดลง เพราะการณเปนไป ผิดจากที่คาดหมาย ลิโปหัวเราะดังลั่นแลววา ฝมือ
เกาทัณฑของขาพเจาแทจริงต่ําตอย แตนี่เปนเพราะฟาบันดาล วาแลวเขาไปจับมือเลาปและ กิเหลงมากุมไว
และวาเทพยดาแสดงความประสงคใหเห็นประจักษ พวกทานจึงมีแตตองเลิกรบกันแลวสั่งทหารใหจัดโตะมา
เลี้ยงทั้งสองฝาย
ลิโปคําหนึ่งก็อางฟา สองคําก็อางสวรรค สามคําก็อางเทพยดา เห็นไดชัดวานับแตมาเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวลิ
โปไมเพียงแตจะลืมตัว หลงตัววาเปนผูใหญเทานั้น หากยังทําตัวประหนึ่งเปนคนทรงเจา เขาผีอีกดวย ฝายกิ
เหลงนั้นกินโตะไมเปนสุข เพราะมัวครุนคิดวาตัวกําลังขัดคําสั่งอวนสุด เกรงตองโทษถึงตาย คิดแกปญหาของ
ตัวเองไมตก จึงออกปากวาตัวขาพเจาประจักษในการเสี่ยงทายก็จริงอยู แตหากขาพเจากลับไปมือเปลา อวน
สุดยอมไมเชื่อถือ คงจะเอาโทษขาพเจา ถึงตายลิโปไดฟงดังนั้นจึงวาทานจงวางใจ ขาพเจาจะมีหนังสือให
ทาน ถือไปถึงอวนสุดบอกความทั้งนี้ใหแจง กิเหลงก็คลายใจลง ลิโปจึงเรียกทหารเอาเครื่องเขียนมาทํา
หนังสือถึงอวนสุดแลวมอบแกกิเหลง กิเหลงรับหนังสือแลวก็ลาลิโปกลับไปคาย สั่งใหเลิกทัพยกกลับไปเมือง
ลําหยง เลาปเห็นกิเหลงไปแลว จึงกลาวขอบคุณลิโปที่ชวยเหลือแลวถือโอกาสลาลิโปกลับเขาเมือง ฝายลิโป
ครั้นเสร็จการแลวจึงสั่งทหาร ใหถอนคายยกกลับไปเมืองชีจิ๋ว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นกิเหลงกลับมาถึงเมืองลําหยง จึงเขาไปรายงานใหอวนสุด ทราบเหตุการณแลวมอบหนังสือของลิโป อวน
สุดไดอานหนังสือทราบความแลวโกรธลิโปเปนอันมาก ออกปากดาลิโปวาเปนคนตระบัดสัตย และวาลิโป
กระทําดังนี้เปนการไมเกรงใจเรา เราจะยกกองทัพไปตีเมืองเสียวพาย แลวจับตัวเลาปเอง เสร็จแลวจะยกไปตี
เอาเมืองชีจิ๋วตอไป กิเหลงจึงหามอวนสุดวาลิโปไดครองเมืองชีจิ๋ว ผูคนแลเสบียง ก็พรอมสรรพ ทหารมีฝมือก็
มีอยูเปนอันมาก ตัวลิโปเองก็มีฝมือกลาแข็ง ทั้งเลาปมี กวนอู เตียวหุย ฝมือฉกาจนัก ลิโปกับเลาปมีไมตรี
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 71
แนนแฟนอยู หากทานยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกมาชวยเลาปรุมตีกระหนาบเราทั้งสองดาน เราก็จะ
เสียทีแกขาศึก ครั้งกอนทานใชเสบียงไปผูกมัดลิโปมิใหชวยเหลือเลาป แตผูกลิโปไวไมได เพราะลิโปรักเมือง
ชีจิ๋วมากกวาเสบียงที่ทานมอบให ดังนั้น ถาจะผูกลิโปไวไมใหชวยเหลือเลาปก็ตองหาวิธีผูกวิธีใหม อวนสุด
ถามวาจะผูกลิโปไวไดดวยวิธีใด กิเหลงจึงวาในเมื่อสิ่ง ของผูกลิโปไวไมได ก็ตองอาศัยคนเปนเครื่องผูกมัดลิ
โปไว ขาพเจา ขอเสนอกลใหทานผูกดองกับลิโปเพราะลิโปนั้นเปนคนกลัวเมีย รักเมียและลูกสาวคนเดียว
ยิ่งกวาสิ่งใด ขอใหทานแตงเถาแกไปสูขอลูกสาวลิโปที่เกิดจากนางเหงียมซีมาเปนภรรยาบุตรของทาน เมื่อ
ทานผูกดองกับลิโปดั่งนี้แลว ก็จะทําการกับเลาปไดถนัด ลิโปจะถูกความเปนดองกับทานผูกไวเขาชวยเลาป
ไมได การกําจัดเลาป ก็จะสําเร็จโดยงาย
อวนสุดเห็นดวยกับแผนการของกิเหลงจึงเรียกหันอิ้นขุนนางเมืองลําหยงฝายการทูตเขามา สั่งใหทําหนาที่เปน
เถาแกไปเมืองชีจิ๋วสูขอลูกสาวของลิโปตามแผนการของกิเหลงนั้น หันอิ้นรับคําสั่งแลวออกมาจัดแจงของ
กํานัลเปนจํานวนมาก จัดขบวนออกจากเมืองลําหยงไปเมืองชีจิ๋วและขอเขาพบลิโป แลวมอบของกํานัลทั้งนั้น
แกลิโป แลววาอวนสุดนายขาพเจาเปนเชื้อสายขุนนางมาถึงสี่ชั่วอายุคน ไดครองเมืองลําหยงซึ่งเปนหัวเมือง
ใหญ บัดนี้ไดตราพระลัญจกรสําหรับพระมหากษัตริยไวแลว คงจะตั้งตัวเปนใหญในแผนดิน แตวิตกดวยบุตรยัง
ไมมีเหยาเรือน ไดทอดตาทั้งแผนดินแลวไมเห็นสตรีใดสมควรคูแกบุตร และวาอวนสุดนายของขาพเจาเห็นวา
บุตรสาวของทานมีความพรอมดวยวุฒิและสกุลควรคูเสมอกัน ทั้งมีความเลื่อมใสในตัวทานจึงหวังผูกไมตรีเปน
ทองแผนเดียวกัน จึงสั่งใหขาพเจาเปนเถาแกมาสูขอบุตรสาวทานใหแกบุตร ดั่งนี้อวนสุดแลทานก็จะมีไมตรี
กันสืบไป
ลิโปไดฟงดังนั้นก็มีใจยินดี แตตัดสินใจเองไมไดจึงวา การครั้งนี้เปนเรื่องภายในครอบครัว ขาพเจาขอเวลา
ปรึกษาหารือกับภรรยาเสียค่ําหนึ่งกอน ในวันพรุงนี้ขาพเจาจะแจงความตกลงใจใหทานทราบ วาแลวสั่งทหาร
ใหเชิญหันอิ้นไปพักที่เรือนรับรองแขกเมือง ค่ําลงลิโปจึงเลาความที่หันอิ้นมาสูขอบุตรีใหนางเหงียมซีผูภรรยา
ทราบ แลวถามวาเจามีความคิดเห็นเปนประการใด นางเหงียมซี จึงวาบานเมือง ขณะนี้เปนจลาจล ขุนศึกทุก
หัวเมืองตางแยงชิงอํานาจ เมื่ออวนสุดไดตราพระลัญจกรไวคงจะไดเปนเจาในวันหนา บุตรีเราก็จะไดเปนพระ
มเหสี ดังนั้นไมวาทางใกลหรือทางไกล ลูกเราก็มีแต จะเปนใหญในทุกทาง ทานพี่จงรับปากหันอิ้นเถิด
วิธีมองคนเพื่อเลือกคูครองโดยทั่วไปยอมเปนดังนี้คือมุงเอาแค ฐานะของทรัพยสินและฐานะตําแหนง ซึ่งเปน
ความคิดเห็นแกตัวของ ผูเปนพอแมไมไดแลเห็นความสุขและจิตใจของผูเปนบุตร มองขาม ความชั่วดีและ
คุณธรรมที่จะทําใหชีวิตคูเปนสุข ดังนั้นความคิดชนิดนี้จึงเปนความคิดที่ลงโทษบุตรเสียเปนสวนใหญ คงมีแต
สวนนอยเทานั้นที่ใชความคิดในการเลือกคูครองโดยถือเอาความรัก คุณธรรม และความดีงามเปนหลักในการ
เลือกคูครองใหแกบุตร ดังนั้น บุตรคนใดที่พอแมใชความคิดชนิดนี้ยอมถือวาเปนบุญกุศลที่ไมตองตกอยูใน
นรกในวันขางหนา
ลิโปคนกลัวเมียไดรับความเห็นชอบจากเมียที่เคารพแลว รุงขึ้นจึงเชิญหันอิ้นมาพบแลวตอบตกลงที่จะยกลูก
สาวใหเปนสะใภของอวนสุด หันอิ้นเห็นการสมความประสงคจึงขอลากลับไปรายงานใหอวนสุดทราบ ครั้นอวน
สุดเห็นการสมความคิดจึงจัดแจงของหมั้นเปนจํานวนมาก สั่งใหหันอิ้นจัดขบวนเถาแกนําของหมั้นยกไปเมืองชี
จิ๋ว เพื่อสูขอบุตรีของลิโปตามอยางธรรมเนียม หันอิ้นรับคําสั่งแลวจัดขบวนขันหมากยกไปเมืองชีจิ๋ว เพื่อตัวลูก
สาวลิโปมาเมืองลําหยง ถึงเมืองชีจิ๋วแลวขอพบลิโป และมอบของหมั้นทั้งนั้นแลววา อวนสุดนายขาพเจา มี
ความยินดีที่ทานรับไมตรี ดังนั้น จึงสั้งใหขาพเจานําขบวนเถาแกและของหมั้นมาสูขอบุตรีของทานและรับตัว
เจาสาวไปเมืองลําหยง ลิโปรับของหมั้นไวแลวใหแตงโตะเลี้ยงหันอิ้นและขบวนเถาแก เสร็จแลวเชิญหันอิ้นไป
พักที่เรือนรับรองแขกเมือง เพื่อหารือถึงพิธีการ สงตัวเจาสาวตอไป
ค่ําวันนั้นตันกงไดไปเยือนหันอิ้น ณ เรือนรับรองแขกเมือง พบหันอิ้นแลวคารวะตามธรรมเนียม ตันกงสั่งให
บรรดาทหารที่อารักขาเรือนรับรองนั้นถอยลงไปขางลาง แลวกลาวขึ้นวา แผนการครั้งนี้ยอดเยี่ยมลึกซึ้งยิ่งนักๆ
หันอิ้นไดฟงคําตันกงก็แปลกใจ ถามขึ้นวาทานหมายความถึงเรื่องราวใดกัน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
แผนทําลายกลผูกดอง (ตอน 82)
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ตันกงเห็นหันอิ้นมีอาการสะดุงใจจึงกลาววา บัดนี้เลาปมาอาศัยลิโปอยูที่เมืองเสียวพาย ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว
เทากับวาเลาปเปนลูกไกอยูในกํามือของลิโป ครั้งนี้เมื่ออวนสุดกับลิโปเปนทองแผนเดียวกันแลว หากอวนสุด
ปรารถนาศีรษะของเลาปก็คงไดสมปรารถนา เหตุนี้ขาพเจาจึงวาเปนแผนการที่ยอดเยี่ยมลึกซึ้ง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 72
หันอิ้นยินคําตันกงก็รูวาที่ปรึกษาของลิโปผูนี้มีสติปญญาหลักแหลม อานแผนการของอวนสุดทะลุปรุโปรงก็
ตกใจ แตแสรงกลาววาทานอยาเพิ่งคาดการณไปกอน การของนายเราทั้งสองก็จะเสียไป อวนสุดนายของ
ขาพเจามีน้ําใจสุจริต คิดผูกไมตรีกับนายของทาน ยอมเปนประโยชนรวมกันของนายเราทั้งสอง ใชวาจะ
ปรารถนา ศีรษะเลาปดังคําทานแตประการใด ตันกงครั้นไดสําแดงสติปญญาใหปรากฏแลวเห็นอาการหันอิ้นที่
ตอบความดังนั้นจึงยกมือขึ้นเปนเชิงปรามในทํานองวา ไมจําเปนที่จะตองพูดถึงเรื่องนี้เพราะอุบายเทานี้ปดบัง
เราไมไดดอก แลวตัดบทวาขาพเจาเห็นจริงตามคําทานวาการครั้งนี้เปนประโยชนรวมกันของทั้งสองฝาย แต
การที่ทานคิดการไวนั้นหากลาชาไปก็อาจแปรผันเปนอื่นได เหตุนี้ขาพเจาจึงรีบมาเตือนสติใหทานรีบทําการ
หันอิ้นยินคําตันกงแลวก็เขาใจวาตันกงอานแผนการออกก็จริง แตมีจุดยืนสนับสนุนแผนการนี้จึงคลายใจ หันอิ้
นจึงลุกขึ้นคารวะตันกงแลววา ทานมีสติปญญาหลักแหลมยิ่งนัก ขอใหทานเห็นแกไมตรีทั้งสองฝายรับเปนธุระ
ชวยใหการครั้งนี้สําเร็จเถิด อวนสุดนายขาพเจาจะไมมีวันลืมพระคุณของทานในครั้งนี้เลย
ตันกงจึงวา ขาพเจาจะรับเปนธุระใหลิโปและอวนสุดเปนทองแผนเดียวกันจงได ทานอยาไดวิตก วาแลวก็ลา
หันอิ้นไปที่จวนลิโป ตันกงวันนี้เปลี่ยนแปลงจากผูมีอุดมการณแตครั้งที่ทิ้งตําแหนงเจาเมืองจงพวนหนี
ติดตามโจโฉเปนคนละคน กลายเปนนักการเมืองเต็มตัวแลว แตเปนนักการเมืองที่มีจุดยืนอยูกับผลประโยชน
ของตัวเองเปนใหญ ก็แลเมื่อตันกงอานแผนการของอวนสุดกระจางแลว ก็ยอมอานแผนการออกวาเมื่ออวนสุด
กําจัดเลาป ยึดเอาเมืองเสียวพายแลวยอมกระทบตอเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นปมสําคัญจึงอยูที่เมื่อตันกงอานแผนการ
แทงตลอดดั่งนี้แลว เหตุไฉนจึงยังคงสนับสนุนแผนการนี้ตอไปอีก ไมคิดหวงใยหรือคิดปองกันเมืองชีจิ๋ว
กระนั้นหรือ
ปมนี้มีความเปนไปไดสามประการ คือตันกงกําลังขายตัวใหกับอวนสุดคิดอานหวังจะทิ้งลิโปไปเขาดวยอวนสุด
หรือยังคงภักดีตอลิโปอยู แตมั่นใจในสติปญญาตัววาเมื่อลิโปกับอวนสุดเปนดองกันแลวก็จะสามารถคิดการให
ลิโปมีอํานาจเหนืออวนสุด อาศัยความเปนดองครองความเปนใหญทั้งเมืองชีจิ๋วและเมืองลําหยง หรือมิฉะนั้น
ตันกงอาจคาดการณถึงอํานาจของโจโฉที่เรืองอํานาจขึ้นในเมืองหลวง เห็นวาลําพังลิโปไมสามารถรับมือโจ
โฉได จึงสนับสนุนใหลิโปกับอวนสุดผนึกกําลังกันเพื่อรับมือกับโจโฉโดยยอมเสียเลาปเปนคาตอบแทน
ความเปนไปไดทั้งสามประการนี้ไมวาจะเปนไปในทางไหน ประโยชนยอมตกอยูแกตันกงทั้งสิ้น ดังนั้นหากจะ
เปรียบกิเหลงผูวางแผนการนี้เปน พอครัวปรุงอาหารรสเลิศขึ้นแลว ผูเสพอาหารนั้นกลับเปนตันกงหาใชลิโป
หรืออวนสุดไม ตันกงเขาไปพบลิโปถึงในจวนแลวแสรงถามวา วันนี้มีขบวนขันหมากยกมา ขาพเจาจึงไดทราบ
ขาววาเปนขบวนเถาแกยกมาขอลูกสาวทานใหเปนสะใภของอวนสุด ความที่ขาพเจาทราบมาดั่งนี้เปน ความ
จริงหรือ ลิโปจึงวาเปนความจริงดังที่ทานไดทราบมา ตันกงไดลุกขึ้นคํานับลิโป แลววาขาพเจาขอแสดงความ
ยินดีดวยทาน ในวันขางหนาบุตรีทานคงจะไดเปนพระมเหสี แลวถามวาทานจะกําหนดวันฤกษดีสงตัวเจาสาว
ใหแกบุตรชายอวนสุดเมื่อใด ลิโปจึงวาเรื่องนี้เปนการใหญของครอบครัวขาพเจา ตัวขาพเจามีบุตรสาวแตผู
เดียว ดังนั้นจึงจําตองปรึกษาเกี่ยวกับวันเวลาใหรอบคอบกอน
ตันกงจึงวาอันธรรมเนียมแตโบราณ การสงตัวเจาสาวไปบานเจาบาวนั้น หากเปนกรณีของพระมหากษัตริยก็จะ
ทอดเวลาไปหนึ่งป ถาเปนขุนนางผูใหญก็ลดลงมาเปนหกเดือน ถาเปนขุนนางผูนอยก็ลดลงมาเหลือสามเดือน
และถาเปนราษฎรสามัญการสงตัวเจาสาวก็จะกระทําภายในหนึ่งเดือน ลิโปจึงวาบัดนี้อวนสุดไดตราพระ
ลัญจกรไวครองแลว จึงเสมอดวยพระมหากษัตริย ขาพเจาคิดที่จะทําการตามฐานะแหงพระมหากษัตริย จึง
ไดยั้งการไว รอเวลาครบหนึ่งปแลวคอยสงตัวเจาสาว ตันกงจึงทวงวาความคิดของทานทั้งนี้ชอบอยางธรรม
เนียมก็จริงอยู แตบัดนี้สถานการณบานเมืองไมเปนปกติ บรรดาเจาเมืองตางๆ ไดแกงแยงแขงอํานาจกัน ตาง
คนตางชิงกันเปนใหญ หากการเนิ่นชาไปความลวงรูถึงเมืองอื่นก็ยอมคิดขัดขวางมิใหการมงคลของทานสําเร็จ
เพราะบรรดาหัวเมืองทั้งหลายเมื่อไดทราบความแลวยอมจะเกรงกลัววาการที่ทานกับอวนสุดผูกดองกันเชนนี้
ก็จะมีกําลังอํานาจเติบใหญเขมแข็ง คงจะคิดขัดขวางในประการตางๆ แมอาจสงทหารมาซุมแลวชิงตัวเจาสาว
ในระหวางทางการมงคลของทานก็จะเสียไป ดังนั้นทานจึงควรสงบุตรสาวไปใหแกบุตรอวนสุด อยาใหทัน
ความแพรงพรายไปถึงบรรดาหัวเมืองอื่น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นคลอยตาม จึงสั่งใหนางเหงียมซีผูภรรยาจัดเตรียมขาวของสําหรับบุตรีใหพรอมที่จะ
สงตัวแกบุตรของอวนสุดเสียแตในคืนนั้น นางเหงียมซีก็รับคํารีบจัดเตรียมขาวของและขบวนของเจาสาว ครั้น
รุงขึ้นลิโปจึงใหบุตรสาวขึ้นเกวียนไมหอม มอบตัวแกหันอิ้นผูเปนเถาแก พรอมกับขาวของตามอยางธรรมเนียม
การสงตัวเจาสาวและสั่งใหซงเหียนกับงุยซก คุมทหารไปสงขบวนเจาสาว หันอิ้นจึงนําขบวนเคลื่อนออกจาก
เมืองชีจิ๋วไปเมืองลําหยง ในขณะที่ขบวนกําลังเคลื่อนจะออกจากเมืองชีจิ๋วนั้น ตันกุยซึ่งเปนบิดาของตันเตง
และเปนที่ขุนนางเมืองชีจิ๋วในตําแหนงที่ปรึกษากําลังนอนปวยอยูที่บาน ไดยินเสียงปแตรของขบวนเจาสาวจึง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 73
เรียกคนใชในบานมาถามวาเปนขบวนแตงงานของผูใด คนใชในบานไดรายงานวาอวนสุดไดสงเถาแกมาสูขอ
บุตรสาวลิโปไปเปนสะใภ ลิโปตกลงและจัดขบวนใหซงเหียนกับงุยซกนําขบวนไปสงเจาสาวพรอมกับเถาแก
ของฝายอวนสุด ตันกุยไดฟงความแลวนั่งนิ่งพิเคราะหเหตุการณก็อานแผนการของอวนสุดกระจางวากลผูก
ดองครั้งนี้มีเปาหมายเบื้องตนคือศีรษะเลาปและเมืองเสียวพาย และเปาหมายขั้นตอไปก็คือศีรษะ ลิโปและ
เมืองชีจิ๋ว ตันกุยนั้นมีน้ําใจศรัทธาตอเลาปตั้งแตครั้งที่ เลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วและตันเตงผูบุตรไดเปนขุนนางที่
ปรึกษา ครั้นอานแผนการของอวนสุดตลอดแลวจึงคิดวาหากเราจะนิ่งเฉยเสีย ทั้งเลาปและเมืองชีจิ๋วก็จะตกอยู
ในอันตราย
ดังนั้นตันกุยจึงตัดสินใจทําลายแผนการผูกดองของอวนสุด ตัดสินใจแลวจึงแตงตัวโพกผาขาวในชุดไวทุกข
งานศพใหคนในบานพยุงพาไปที่จวนลิโป ขอพบลิโป ฝายลิโปทราบวาตันกุยมาขอพบก็ออกมารับที่หนาจวน
แตครั้นเห็นตันกุยแตงตัวในชุดไวทุกขงานศพ มีหนาตาเศราโศกก็ประหลาดใจ จึงถามตันกุยวา ญาติพี่นองคน
ใดของทานถึง แกความตายหรือจึงมาหาขาพเจา อยาไดหวงใยเลยขาพเจาพรอมที่จะชวยเหลือทุกประการ
ทั้งนี้เพราะลิโปเขาใจวาตันกุยมาหาเพื่อบอกกลาวขาวงานศพของญาติพี่นอง ตันกุยไดฟงดังนั้นจึงวาขาพเจา
ไดยินขาววาทานตายและมีการจัดพิธีกงเตกใหกับงานศพของทานจึงรีบมาหวังจะไดเคารพศพ ลิโปตกใจรีบ
ซักถามตันกุยวาทานไดขาวจากใครวาขาพเจาตาย ตันกุยซึ่งคุนเคยอยูกับผูคนในจวนของลิโปไดยิน ดังนั้นจึง
โบกมือเปนทีใหคนรับใชในจวนของลิโปถอยออกไปกอน ลิโปเห็นเปนที่ประหลาดนักจึงเขามาประคอง ตันกุย
เขาไปนั่งที่หองรับรอง ตันกุยจึงวาเมื่อไมนานมานี้อวนสุดไดสงสิ่งของมาตั้งสินบนใหกับทาน ไมใหทานยกไป
ชวยเลาป แตครั้นกิเหลงยกกองทัพจะไปตีเมืองเสียวพาย ทานกลับยกทหารไปชวยเลาป ทานไดเสี่ยงทาย
เทพยดายิงเกาทัณฑไปถูกคันทวน กิเหลงจึงตองยกทัพกลับไป มาบัดนี้อวนสุดสงเถาแกมาสูขอบุตรีทาน
และทราบวาทานรับไมตรียกบุตรีใหแกบุตรอวนสุด ดังนั้นเมื่อทานกับอวนสุดผูกดองกันแลว อวนสุดก็จะยกไป
ตีเมืองเสียวพาย หากอวนสุดกําจัดเลาปไดเมืองเสียวพายแลว เมืองชีจิ๋วและ ตัวทานจะตกอยูในอันตราย ลิโป
ไดยินดังนั้นก็ตกใจ ตันกุยจึงกลาวตอไปวาการทั้งนี้เปนกลอุบายที่ใชคนผูกคน เพราะอวนสุดใชสินบนผูกทาน
ไวไมได จึงใชกลผูกดองหวังเอาบุตรีทานเปนตัวประกันไมใหทานยกไปชวยเลาป หลังจากอวนสุดไดเมือง
เสียวพายแลวก็จะอาศัยบุตรีทานซึ่งเปนตัวประกันอยูในมือขมเหงทานดวย
ประการตางๆ หากทานไมยอมใหขมเหง ก็จะอางวาทานตัดไมตรีอยางนอย อวนสุดก็จะยืมทั้งทหารและเสบียง
เบียดเบียนทานและราษฎรเมืองชีจิ๋ว หากทานไมใหก็จะหาเหตุยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ความเดือดรอนก็จะบังเกิดขึ้น
อีกประการหนึ่งเลา นับแตอวนสุดไดตราพระลัญจกรไวแลว ก็คิดตั้งตัวเปนเจา นั่นคือการกบฏตอแผนดิน ทร
ยศตอพระเจาเหี้ยนเต หัวเมืองทั้งปวง แมแตโจโฉก็ยอมยกมากําจัดอวนสุด ตัวทานก็จะตกอยูในฐานะเปนฝาย
กบฏดวย และจะพลอยเปนศัตรูกับบรรดาหัวเมืองทั้งหลายในแผนดิน การทั้งนี้ทานจะเสียทั้งบุตรี จะเสียทั้ง
เมืองเสียวพาย ราษฎรเมืองชีจิ๋วก็จะเดือดรอน ตัวทานก็จะเดือดรอน แมเมืองชีจิ๋วก็จะรักษาไวไมได ขอทานจง
ใครครวญดูจงดีเถิด
ลิโปฟงคําตันกุยก็เห็นกระจางถึงแผนการรายของอวนสุดก็ตกใจยิ่งนัก วากับตันกุยวา ขาพเจาเชื่อคําตันกงจึง
พลาดพลั้งไปถึง เพียงนี้จําเปนที่จะตองรีบแกไขใหทันทวงที วาแลวจึงสั่งทหารใหเรียก เตียวเลี้ยวเขามาพบ
แลวสั่งใหยกทหารรีบติดตามขบวนเจาสาวไป และชิงขบวนกลับมาเมืองชีจิ๋ว ในทันที เตียวเลี้ยวรับคําสั่งแลว
รีบนําทหารยกตามขบวนของหันอิ้นไป ทันเขาแลวเขาสกัดขบวนไว และสั่งใหเคลื่อนขบวนกลับมาเมือง ชีจิ๋ว
ลิโปไดสั่งให เอาตัวหันอิ้นไปจําขังไวกอนแลวทําหนังสือแจงไป ยังอวนสุดวายังจัดแจงสิ่งของทั้งปวงไม
พรอม และยังไมไดวันฤกษดี การทั้งปวงพรอมแลวจะสงบุตรีไปให ตันกุยครั้นไดทราบวาเตียวเลี้ยวคุมขบวน
เถาแกกลับมาถึงเมืองชีจิ๋วแลว จึงเขาไปพบลิโปแลววา เมื่ออวนสุดทราบวาทานบิดพลิ้วไมสงลูกสาวไปใหคง
จะคิดการยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ฝายใดฝายหนึ่งพลาดพลั้งลง โจโฉก็อาจยกมาซ้ําเติม ดังนั้นจึงขอใหทานผูกไมตรี
ดวยโจโฉไวเสียกอน โดยทําหนังสือไปถึง โจโฉวา อวนสุดวางแผนผูกดองกับทานเพื่อจะยกไปตีเมืองฮูโต
แตทานไมรับไมตรีจึงจับตัวหันอิ้นผูเปนเถาแกสงใหแกโจโฉ ดังนี้เมืองชีจิ๋วก็จะไมเปนอันตราย หากเมื่อใดอวน
สุดยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋ว โจโฉก็จะยกกองทัพไปยึดเอาเมืองลําหยง อยางนอยอวนสุดก็ไมกลายกกองทัพ
มาทําอันตรายตอเมืองชีจิ๋ว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ลิโปฟงคําตันกุยแลวลังเลใจไมอาจตัดสินใจไดวาจะทําประการใดดี ใน ทันใดนั้นทหารไดเขามารายงานวา
บัดนี้หนวยขาวไดสงขาวสารมารายงานใหทราบวาเลาปไดทําการเกลี้ยกลอมผูคน ซองสุมทหารเปนอันมาก
แตไมทราบวาเลาปจะคิดอานประการใด ลิโปจึงวาเลาปเปนเจาเมืองเสียวพาย ยอมเปนธรรมดาที่จะตองคิด
อานปองกันรักษาเมือง การเกลี้ยกลอมผูคนและจัดกองทหารของเลาปจึงเปนเรื่องปกติที่ไมสมควรจะแคลงใจ
เลาป และตัวเราก็ไดทําคุณไวกับเลาปเปนอันมาก เลาปคงจะไมทําอันตรายแกเรา ในระหวางนั้นลิโปไดใหซง
เหียนกับงุยซกไปจัดหาซื้อมาสําหรับใชในราชการศึก ณ เมืองซัวตั๋ง ซงเหียนและงุยซกไปซื้อมาศึกไดเปน
จํานวนสามรอยตัว ครั้นนําฝูงมามาถึงชายแดนเมืองเสียวพายเปนเวลากลางคืน ก็ถูกโจรปายกพวกมาปลนเอา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 74
มาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว ซงเหียนและงุยซกจึงติดตามสืบหาก็ไดความวาเตียวหุยคุมพรรคพวกปลอมเปนโจรปา
มาปลนเอามาดังกลาวไป ดังนั้นซงเหียนและงุยซกจึงนํามาที่เหลือมาที่เมืองชีจิ๋วแลวรายงานใหลิโปทราบ ลิ
โปไดยินดังนั้นก็โกรธ และยิ่งไดยินวาผูที่ปลนเอามาไปคือเตียวหุยคูเคืองเกาก็ยิ่งโกรธจัด สั่งใหจัดทหารจะยก
ไปตีเมืองเสียวพายเพื่อจับเอาตัวเตียวหุยและพรรคพวกที่ปลอมตัวเปนโจรมาประหารเสีย
ครั้นเลาปไดทราบวาลิโปยกทหารมาเมืองเสียวพายก็ตกใจ สั่งใหเตรียมทหารยกออกไปตั้งรับ ครั้นพบกับลิโป
แลวจึงถามลิโปวา ทานพี่ยกกองทัพมาทั้งนี้เพราะเหตุใด ลิโปเห็นเลาปตีหนาซื่อจึงเอาแสมาชี้หนาเลาปแลว
วา เมื่อครั้งที่อวนสุดสั่งกิเหลงยกกองทัพมาตีเมืองเสียวพาย ขาพเจาไดชวยเหลือทาน เสี่ยงเกาทัณฑจนกิเห
ลงตองถอนทัพกลับไป แตทานไมรูคุณใหเตียว หุยปลอมเปนโจรปามาปลนชิงเอามาของขาพเจาไป
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
อุบายยืมมีดฆาโค (ตอนที่ 83)
เลาปถูกลิโปตอวา วาเปนตัวการใหเตียวหุยปลอมเปนโจรปาไป ปลนชิงเอามาก็ตกใจ เพราะตัวเลาปไมเคย
ทราบเรื่องนี้มากอน จึงรีบปฏิเสธวาขาพเจาไมเคยปลนชิงมาของทานเลย นี่เปนความสัตยจากใจจริงของ
ขาพเจา แตลิโปไมฟงคํายืนยันวาเตียวหุยปลนเอามาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว เตียวหุยยืนมาอยูดานหลังเลาป
เห็นลิโปตอวาตอขานเลาปเชนนั้นก็โกรธ ชักมาออกไปขางหนาแลววากูนี่แหละที่ชิงเอามามึงไว แลวมึงจะ
ทําไม ลิโปไดยินก็โกรธดาเตียวหุยวาไอโจรตาถลน มึงดูหมิ่นกูหลายครั้งแลว ยังบังอาจมาปลนเอามากูไปอีก
เตียวหุยจึงดาลิโปตอไปวากูแคชิงเอาแตมามึงก็โกรธ แลวทีมึงชิงเอาเมืองของพี่กู ทําไมมึงไมคิดวากูจะไม
โกรธบางเลา ลิโปถูกเตียวหุยดาตองใจดําก็โกรธ ชักมาเขาตอสูกับเตียวหุย ทั้งสองฝายตอสูกันถึงรอยเพลงก็
ยังไมแพชนะกัน เลาปเกรงวาเตียวหุยจะเสียที จึงใหทหารตีระฆังเปนสัญญาณเรียกเตียวหุยกลับมา พอเปน
เวลาค่ําเลาปก็ยกทหารกลับเขาเมือง ลิโปจึงสั่งใหทหารลอมเมืองเสียวพายไวทั้งสี่ดาน
ครั้นกลับเขาเมืองแลว เลาปจึงเรียกเตียวหุยเขามาสอบถามวา ที่ลิโปกลาวหาวาเจาไปปลนชิงเอามาจํานวน
หนึ่งรอยหาสิบตัวนั้น ความจริงเปนอยางไร เตียวหุยรับวาเปนความจริง เลาปจึงสั่งใหเตียวหุยไปเอามามาแลว
ใหทหารคุมมาไปมอบใหแกลิโป และขอขมาลิโปวา ที่ปฏิเสธไปนั้นเพราะยังไมทราบความจริง บัดนี้สอบถาม
เตียวหุยรับเปนจริงแลว จึงนํามามามอบคืนและขออภัยตอลิโป ทั้งขอใหเลิกแลวตอกันจะไดเปนไมตรีกัน
สืบไป ลิโปครั้นไดมาคืน และเลาปไดขอขมาลาโทษดังนี้ก็หายโกรธ ยอมรับขมาเลาป ทหารของเลาปจึงลาลิ
โปกลับเขาไปในเมืองเสียวพาย ครั้นตันกงทราบความจึงเขาไปวากับลิโปวาทานยกมาถึงเพียงนี้แลว ไมตรีทั้ง
สองฝายที่มีมาแตเดิมยอมสลายลง เหมือนดังแกวแตกแลวไมอาจตอใหติดเหมือนดังเดิม หากปลอยเลาปไว
สืบไปก็จะคิดรายตอทานเปนมั่นคง ขอใหทานกําจัดเลาปใหเสร็จสรรพไปในครั้งนี้จะไดไมตองพะวงตอไปใน
วันหนา ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นดวยจึงสั่งใหแมทัพนายกองทั้งปวงยกเขาหักเอาเมืองเสียวพายพรอมกันทุก
ดาน แมทัพนายกองทั้งนั้นรับคําสั่งแลวพากันออกมาจากคายของลิโป แลวกลับไปยังกองทหาร ของตนที่
ลอมเมืองเสียวพายอยูนั้น ครั้นไดเวลากําหนดกองทหารของลิโปทั้งสี่ดานจึงเคลื่อนกําลังเขาไปที่กําแพงเมือง
เสียวพาย หักตีแนวกําแพงทั้งสี่ดาน แตทหารรักษาเมืองเสียวพายไดตั้งรับอยางเหนียวแนน ตีโตทหารลิโป
อยางดุเดือด ทหารของลิโปพยายามหักเขาเมืองจนกระทั่งถึงเวลาค่ําก็ยังหักเขาไปไมได จึงพากันถอยกลับ
เขาคาย
เลาปเห็นวากําลังทหารในเมืองเสียวพายมีนอยกวากําลังทหาร ของลิโปคงจะตานทานไดไมขามวันพรุง จึง
ปรึกษากับที่ปรึกษาวาเห็นจะตานรับลิโปไวไมได จะมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนเขียนและบิตกสองที่
ปรึกษาไดเสนอใหตีฝาออกจากเมืองไป ขออาศัยอยูกับโจโฉที่เมืองฮูโต เพราะโจโฉถือวาลิโปเปนศัตรูตัว
สําคัญ ดังนั้นผูใดเปนศัตรูของลิโปจึงเทากับเปนพันธมิตรของโจโฉดวย เลาปเห็นชอบจึงสั่งใหเตรียมการตีฝา
วงลอมของทหารลิโปเพื่อยกไป เมืองฮูโต ใหเตียวหุยเปนกองหนา ตัวเลาปคุมครอบครัวและขุนนางตลอดจน
ที่ปรึกษาซึ่งพรอมจะไปดวยเปนกองกลาง และใหกวนอูเปนกองระวังหลัง
คืนนั้นเปนขางขึ้น พระจันทรสวางเห็นหนทางชัดเจน ครั้นเพลาเที่ยงคืนผานไปใกลยามสาม สายลมโชยพลิ้ว
เย็นยะเยือก น้ําคางลงจัด ทหารฝายลิโปหลับสนิท คงเหลืออยูแตทหารลาดตระเวนและทหารรักษาเวรยาม
เทานั้น ขบวนของเลาปจึงเคลื่อนออกจากประตูเมืองดานทิศเหนือ ทหารลาดตระเวนไดพยายามสกัดขบวน
ของเลาปไว แตไมสามารถตานทานกําลังของเตียวหุยไดจึงแตกหนี แลวจุดพลุใหสัญญาณเกิดเหตุ ซงเหียน
และงุยซกสองนายทหารของลิโปรักษาการณอยูดานทิศเหนือไดรับรายงาน จากทหารรักษาการณวา เลาปยก
หนีออกจากเมือง จึงยกทหารออกมาสกัดขบวนของเลาปไว
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 75
เตียวหุยคุมกองหนามาถึงที่ซงเหียนและงุยซกตั้งสกัดอยูก็กระทืบโกลนมาเขารบดวยซงเหียนและงุยซกอยาง
ฮึกเหิม สองนายทหารของลิโปประเพลงทวนกับเตียวหุยไดคนละเพลงก็พากันชักมาถอยเขามาในหมูทหาร
ขับทหาร ใหเขาสกัดเตียวหุย แตทหารเหลานั้นขยาดฝมือจึงไมกลาเขามาในระยะทวนแทง เตียวหุย จึงตีฝา
นําขบวนผานไปอยางงายดาย ฝายเตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปลอมเมืองอยูทางดานทิศใต ครั้นไดเห็นพลุ
สัญญาณเกิดเหตุรายขึ้นทางดานทิศเหนือ และไดทราบจากรายงานของหนวยลาดตระเวนวาเลาปยกหนีออก
จากเมือง ก็เกรงวาซงเหียนและงุยซกจะสกัดเลาปไวไมอยู จึงรีบคุมทหารยกตามไป เตียวเลี้ยวไดพบกับซง
เหียนและงุยซกที่แตกถอยมาแจงวาเลาป ตีฝาออกไปไดแลว เตียวเลี้ยวจึงรีบคุมทหารเรงตามเลาปไป กวนอู
ซึ่งคุมกองระวังหลังเห็นทหารไลตามมาจึงสั่งใหทหารในกองระวังหลังแปรขบวนหันกลับมาตั้งสกัด ครั้นเตียว
เลี้ยวยกทหาร เขามาใกล เห็นกวนอูถืองาวนิลนาคะยืนมาอยูหนาทหาร ผาโพกศีรษะสีเขียวตองออนตอง
แสงพระจันทร และตองลมพริ้วดูเปนสงานาเกรงขาม บรรดาทหารที่ตามเตียวเลี้ยวมาเห็นลักษณาการดั่งนั้นก็
พากันขยาด หยุดมาไวแตหาง ๆ เตียวเลี้ยวไดขับมาเขารบดวยกวนอูไดหาเพลง เห็นวาไมมีทางที่จะฝากวนอู
เขาไปถึงขบวนของเลาปได ทั้งเห็นทหารที่ติดตามมาไมยอมขับมาออก มาขางหนาเพื่อเขาลอมกวนอู ทั้งเห็น
วาการตอสู กับกวนอูไมไดประโยชนอันใด และฝมืองาวกวนอูก็กลาแข็งยิ่งนักจึงชักมาออกมา กวนอูก็มิไดไล
ตาม คงยืนมาอยูที่เดิมครูหนึ่งเห็นเตียวเลี้ยวไมยอมออกมารบอีก จึงสั่งทหารใหเคลื่อนตามเลาปไป กวนอูยืน
มาคุมเชิงดูอีกพักใหญจึงชักมากลับตามขบวนไป
เตียวเลี้ยว ซงเหียน และงุยซกกลับไปถึงคายก็ใกลสวางจึงพากันไปที่คายของ ลิโป ลิโปตื่นแลวรอฟงขาวอยู
ครั้นไดทราบจากทหาร ทั้งสามวาเลาปหนีไปไดก็ไมคิดติดตามอีกตอไป สวางขึ้นลิโปจึงสั่งทหารยกเขาไป
ประชิดเมืองเสียวพาย ทหารรักษาเมืองรูวาเลาปหนีไปแลวจึงยอมแพ ลิโปจึงยกทหารเขาไปในเมืองจัดการ
ปกครองใหเปนปกติแลว สั่งใหโกสุนอยูรักษาเมืองและใหเลิกทัพกลับไปเมืองชีจิ๋ว ลิโปเดิมเปนเพียงคนขอ
อาศัย มาอาศัยเมืองเสียวพายกับเลาป ตอมาก็ยึดเอาเมืองชีจิ๋วของเลาปเสีย ทั้งๆ ที่รูวามีพระบรมราชโองการ
ของพระเจาเหี้ยนเตตั้งเลาปเปนเจาเมืองแลว ตอมาลิโปถูกอวนสุดวางกลไมใหเขาชวยเหลือเลาป แตผูกลิโป
ไวไมอยูเพราะผลประโยชนทางการเมืองครองใจลิโปไวแนนหนา แตมาครั้งนี้ลิโปกลับยกมายึดเอาเมืองเสียว
พายเสียเอง เลาปดวงชะตาตกต่ําเปลี่ยนฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋ว ซึ่งเปนหัวเมืองเอกมาอยูเมืองเสียวพายซึ่ง
เปนแคหัวเมืองจัตวา และบัดนี้แคหัวเมืองจัตวาก็ไมมีที่จะอาศัยแลว จึงบากหนาไปหาโจโฉที่เมืองฮูโต
เลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศฮั่นและหัวเมืองจํานวนมากก็มีคน "แซเลา" ปกครอง แตเหตุที่เลาปไมยอมไปอาศัย
คน "แซเลา" กลับมุงไปขอพึ่งโจโฉคนตางแซถึงเมืองหลวงนั้น ยอมมีมาแตเหตุสามประการคือ ขอแรก เลาป
เปนเชื้อพระวงศก็จริง แตเปนเชื้อสายของพระเจาฮั่น เกงเต และบรรพบุรุษของเลาปเคยมีขอขัดแยงกับราช
สํานักเพราะไมสงสวยประจําป แลวถูกถอดออกจากเจาลงเปนคนสามัญ ดังนั้น พวก "แซเลา" ดวยกันจึง
ระมัดระวังในการคบหากับเลาป ดังที่จะเห็นไดชัดเมื่อครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลือง ขอสอง เลาปอาจ
คิดวาเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วก็ดี เลาเจี้ยงเจาเมืองเสฉวนก็ดี แมจะเปนหัวเมืองเอกแตไมมีกําลังแข็งกลา
พอที่จะอยูอาศัยอยางปลอดภัย หรืออาจคิดวาการไปขออาศัยคนเหลานี้จะเปนการชักนําเภทภัยไปสูคนแซ
เดียวกัน ขอสาม เลาปอาจคิดวาตัวมีจุดออนทั้งความรูและประสบการณในการบริหารราชการแผนดินสวนกลาง
เปนอุปสรรคตอการคิดการใหญในภายหนา การเขาไปเมืองหลวงเปนหนทางแกไขจุดออนเหลานี้ ทั้งโจโฉก็มี
กําลัง ทหารกลาแข็ง สามารถพึ่งพาอาศัยไดดีกวาเมืองอื่น และโจโฉก็พยายาม สรางภาพลักษณวาตองการ
รวบรวมคนดีมีฝมือกอบกูแผนดิน คงจะไมทําราย แตมีความเปนไปไดดวยวาเลาปไดคิดถึงประโยชนทั้งสาม
ขอนี้ พรอมกัน จึงไปพึ่งใบบุญโจโฉ
ครั้นขบวนของเลาปมาถึงเมืองฮูโตจึงหยุดขบวนไวนอกเมือง และใหซุนเขียนเขาไปในเมืองแจงความใหโจ
โฉทราบ ครั้นโจโฉทราบ ความวาเลาปจะมาขออาศัยก็มีใจยินดีกลาวแกซุนเขียนวาตัวเรากับเลาปนั้นเหมือน
ดั่งพี่นอง ทานอยาไดอนาทรเลย วาแลวก็สั่งใหทหารออกไปกับซุนเขียนเพื่อรับเลาป เขามาในเมือง เลาป
ทราบความแลวใหพักขบวนไวนอกเมืองใหกวนอู เตียวหุย และ ทหารที่ติดตามมาดูแลอารักขา ตัวเลาปพา
บิตกและซุนเขียนไปพบโจโฉที่จวน ฝายโจโฉทราบวาเลาปมาถึงจึงออกมารับที่หนาจวน ถอยทีถอยคํานับกัน
แลวโจโฉจึงวา พวกเราเปนสหายศึกกันมาแตครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลืองเหมือนกับเปนพี่นอง ทาน
อยาไดเกรงใจขอใหอยูอาศัยในเมือง ฮูโตอยางเปนสุขเถิด
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
เลาปขอบคุณโจโฉแลววาขาพเจาตกอยูในยามยาก ไมเห็นหนา ผูใด เปนที่พึ่งจึงมาขออาศัยใบบุญทานอัคร
มหาเสนาบดี ทานมีความ กรุณาครั้งนี้ เปนคุณหาที่สุดมิได โจโฉพาเลาปเขามาที่หองรับรองเชิญใหนั่งในที่
สมควรแลวถามวา ไมไดพบกันเสียนาน เหตุใดจึงเดินทางมาถึงที่นี่ เลาปจึงเลาความที่ตองรับธุระเปน เจา
เมืองชีจิ๋ว แลวถูกลิโปแยงยึดไป จนตองไปอาศัยอยูเมืองเสียวพาย แลวลิโปก็ยังยกไปตีชิงเอาอีก ไดรับความ
เดือดรอนสิ้นที่อยูอาศัย จึงมุงหนามาพึ่งในครั้งนี้ โจโฉจึงวา ลิโปเปนคนหยาบชา กักขฬะ เนรคุณคน ได
สังหารบิดาบุญธรรมไปแลวถึงสองคน และยังเปนกบฏตอแผนดิน ตัวทานมาถึงเมือง ฮูโตแลวจะปลอดภัยจาก
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 76
การรังควานของลิโป อยาไดวิตกตอไปอีกเลย ขาพเจาจะชวยทานคิดการกําจัดลิโปเสียใหจงได เลาปไดฟง
ดังนั้นก็ขอบคุณโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหจัดโตะมาเลี้ยงเลาป ครั้นไดเวลาสมควรแลวเลาปจึงขอลากลับไปที่อยู
คืนนั้นซุนฮกที่ปรึกษาไดมาพบโจโฉแลวเสนอวา เลาปเปนเชื้อพระวงศ มีสติปญญาเปนอันมาก สืบไปเบื้อง
หนาจะเปนคูแขงคนสําคัญของทาน จึงชอบที่จะกําจัดเลาปเสียกอน โจโฉฟงขอเสนอแลวขอตรึกตรองดูกอน
ซุนฮก จึงลากลับไป ไมทันนานกุยแกที่ปรึกษาไดมาขอพบโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉไดปรารภความที่ซุนฮกได
เสนอใหกุยแกฟง แลวถามวาทานมีความคิดเห็นประการใด กุยแกจึงวาสถานการณบานเมืองขณะนี้ยังไมเปน
ปรกติ บรรดา ขุนศึก และหัวเมืองตางตั้งตัวเปนใหญแยงชิงอํานาจกัน ตัวทานชูธงธรรมภายใต บัลลังกมังกร
มุงสรางสันติสุข ทํานุบํารุงแผนดินแลราษฎร นับเปนการใหญตองอาศัยผูมีสติปญญาความสามารถจํานวนมาก
มิฉะนั้นการใหญก็จักไมสําเร็จ ดังปรารถนา แลววาเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศ เปนวิญูชนและสัตยซื่อ เปนที่นับ
ถือของราษฎรทั้งปวง บัดนี้เลาปหนีรอนมาพึ่งเย็นหากสังหารเลาปเสีย คนทั้งหลายก็จะเห็นวาตัวทานไร
คุณธรรม ไมเลี้ยงดูคนดีมีฝมือ ดั่งนี้ผูมีสติปญญา ทั้งแผนดินก็จะระแวงสงสัยและรังเกียจทาน การณจะ
กลายเปนวาทานฆาเลาปไดคนเดียว แตตัวทานกลับจะถูกบวงผูกขาเปนมลทินไปชั่วชีวิต ที่คิดการใหญไว
เบื้องหนาก็จะขัดสน ดังนั้น ทานจึงประหารเลาปไมไดเปนอันขาด
โจโฉจึงวาขาพเจามีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตทวาเลาปนี้ไมใชคนที่จะยอมอยูใตปกครองคนอื่น สืบไป
ภายหนาคงจะทําใหเรายุงยากเปนมั่นคง ทานจะคิดอานปองกันประการใด กุยแกจึงวาขาพเจาไดคิดถึงเรื่องนี้
เหมือนกับความคิดทาน แตผูเปนใหญนั้นจะคิดทําการดีชั่วประการใดตองแยบยลล้ําลึก ขาพเจาเห็นวาทั้งลิโป
และ เลาปเปนพวกที่ทานตองกําจัดใหพนทาง ดังนั้นจําเปนจะตองวางกลใหลิโป กับเลาปฆาฟนกันเองใหตก
ตายไปขางหนึ่ง ศัตรูทานก็จะลดไปคนหนึ่ง ความครหาก็จะไมตกอยูแกทาน โจโฉจึงถามวาทานจะวางกล
ประการใด การณจึงเปนไปสมประสงคดังคําทาน
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
คนคิดไมอาจฝนลิขิตฟา (ตอนที่ 84)
ทั้งโจโฉและกุยแกเห็นพองตองกันวาเลาปเปนวิญูชน แมตองการกําจัดใหพนทางแตจะใชมือตนเขาทําการ
ไมได หากตองยืมมือคนอื่น โจโฉครั้นไดฟงขอเสนอของกุยแกแลวก็สงสัยวาจะทําประการใด กุยแกจึงวา
เมืองอิจิ๋วซึ่งอยูใกลกับเมืองเสียวพายนั้นยังไมมีเจาเมือง ขอใหทานกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตใหแตงตั้งเลาป
เปนเจาเมือง แลวใหเลาปยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกไปปองกันเมืองเสียวพายรบดวยเลาป คงจะตก
ตายกันไปขางหนึ่งแลวคอยกําจัดคนที่เหลือตอไป
โจโฉฟงแผนการของกุยแกแลวดีใจยิ่งนัก จึงวาขาพเจาตกลงใจ ทําตามแผนของทาน รุงขึ้นโจโฉจึงเขาไป
เฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบบังคมทูลเสนอใหโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ตามแผนการของกุยแก
พระเจาเหี้ยนเตก็โปรดเกลาแตงตั้งตามที่เสนอ โจโฉจึงกราบถวายบังคมลากลับออกมา พอมาถึงจวนเทียหยก
ที่ปรึกษาซึ่งเปนเจาเมืองตังเปงไดมารอพบอยูกอน โจโฉเห็นเทียหยกมาก็ยินดี และเลาความที่เลาปมาขอ
อาศัยแลวพระเจาเหี้ยนเตโปรดแตงตั้งใหเปนเจาเมืองอิจิ๋ว แตแผนการ และความคิดของกุยแกนั้น โจโฉไมได
เลาใหเทียหยกทราบ เทียหยกจึงวาเลาปเปนผูมีสติปญญา ที่จะยอมเปนผูนอยในบังคับของทานนั้นหายั่งยืน
ไม ตอไปภายหนาเลาปยอมเอาใจออกหาง คิดตั้งตัวเปนใหญ ขอใหทานตัดไฟเสียแตตนลมจับเลาปฆา
เสียโจโฉจึงวาซุนฮกไดมาหาและมีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตขาพเจาเห็นวาการฆาเลาปเปนการไมชอบ
ดวยบัดนี้เรากําลังทําการใหญเพื่อรวบรวมแผนดิน ตองเอาใจผูคนเพื่อระดมคนดีมีฝมือ เขามาชวยทําการ หาก
สังหารเลาปเสียแลว ใครไหนจะกลาเขามาทําการ ดวยเราเลา ขาพเจาไดปรึกษาเรื่องนี้กับกุยแกและตกลง
แผนการกันเรียบรอยแลว ทานจงวางใจเถิด เทียหยกยินความที่โจโฉกลาววากําหนดแผนการเสร็จสิ้นแลว ก็
คลายใจ จึงขอลาโจโฉกลับไป
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
พอเวลาใกลเที่ยงเลาปไดเขามาหาโจโฉ โจโฉจึงแจงแกเลาป วาวันนี้ได เขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบทูล
เสนอใหแตงตั้งทานเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ทรงโปรดเกลาตามเสนอและจะมอบพระบรมราชโองการและตราตั้ง
ตอไป ใหเลาปรีบเดินทางไปรับตําแหนงเจาเมืองอิจิ๋ว แลววาขาพเจาจะจัดทหารใหกับทานสามพัน เมื่อถึง
เมืองอิจิ๋วแลวใหทานยกไปตีเมืองเสียวพาย แลวเตรียมทหารไวใหพรอมที่จะยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ขาพเจาจะ
เตรียมการทางนี้ไวใหพรอม แลวจะแจงกําหนดใหทานทราบจะไดยกทหารไปตีเมืองชีจิ๋วพรอมกัน เลาปลุกขึ้น
คารวะแสดงความขอบคุณโจโฉที่สงเสริม แลวรีบลาโจโฉกลับออกไปที่อยู พอโจโฉใหคนคุมทหารสามพันมา
มอบใหอยูในบังคับบัญชาเลาป และขาหลวงเชิญพระบรมราชโองการพรอม ตราตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วมามอบ
แลว เลาปจึงยกทหารและครอบครัว ออกจากเมืองฮูโตไปเมืองอิจิ๋ว การที่เลาปรับคําโจโฉวาจะยกไปตีเมือง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 77
เสียวพาย เทากับเปนการยอมเดินไปตามแผนการของกุยแก ซึ่งนับวาเปนแผนการที่ลึกล้ํารายกาจ แตไมมีใคร
ทราบวาเลาปแจงในกลอุบายนี้หรือไม
กอนหนานี้โจโฉไดอางเอาบุญคุณที่กราบทูลเสนอใหตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และใหเลาปคิดกําจัดลิโปซึ่ง
เปนคูอาฆาตเสีย แตเลาปไมทําตาม โจโฉจึงลวงอวนสุดใหยกไปกําจัดเลาป แตลิโปเขาขวางไว ครั้นเลาปหนี
ลิโปมาพึ่งโจโฉที่เมืองฮูโต แมวาใจจริงโจโฉ อยากจะประหารเลาปแตทําไมได เพราะเกรงจะเปนอุปสรรคตอ
การรวบรวมแผนดิน ดังนั้นโจโฉจึงเอาอกเอาใจเลาปเรียกเปนพี่เปนนอง และยังเสนอตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วแลว
มอบทหารใหอีกสามพัน การกระทําทั้งปวงของโจโฉนี้ความจริงจึงไมใชการชวยเหลือเลาป แตเปนการเดิน
ตามแผนที่ตองการใหเลาปรบกับลิโป ไมวาลิโปจะฆาเลาปหรือเลาปจะฆาลิโป ยอมเปนประโยชนแกโจโฉ
ทั้งสิ้น เพราะเทากับยืมมือของศัตรูกําจัดศัตรู โดยเสียทหารเพียงสามพันเปนคาใชจายเทานั้น นับเปนการ
ลงทุนที่เกินคุมจริงๆ และตองนับวาเปนแผนการที่ลึกซึ้งรอบคอบแทบจะไมมีทางผิดพลาดไดเลย
ครั้นเลาปยกไปแลว โจโฉจึงสั่งใหเตรียมทหารใหพรอมเพื่อจะยกไปตีเอาเมืองชีจิ๋ว การเตรียมการทั้งนี้ยอม
แสดงวาโจโฉไดประเมินสถานการณแลววาเลาปตองพายแพแกลิโปเปนแนแท จึงเหลือเพียงลิโปที่จะตอง
กําจัด และแมวาลิโปจะเปนฝายพายแพ โจโฉ ก็จะยึดเอาเมืองชีจิ๋วไดโดยงาย ทั้งเปนการปองกันมิใหเลาปยก
ลวงเขามายึดเอาเมืองชีจิ๋วไดอีกทางหนึ่งดวย ทวาความคิดเปนของคน แตความสําเร็จกลับเปนของฟา
ความคิดคน แมจะลึกล้ํารอบคอบสักเพียงไหนก็ไมอาจฝนลิขิตแหงฟาได เหตุนี้ความผันแปรนอกเหนือ
ความคิดของผูคนจึงยอมเกิดขึ้นได
โจโฉยังไมทันที่จะไดยกทัพออกจากเมืองฮูโต เหตุการณนอกเหนือ ความคาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากหัวหนา
กองขาวไดมารายงานแกโจโฉวา บัดนี้เตียวเจลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเปนหนึ่งใน สี่ทหารเอกของตั๋งโตะ
และเคยรวมทําการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกี และหวนเตียว ไดยกกองทัพจะมาตีเมืองฮูโต แตปะทะกันที่
ชายแดน เตียวเจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย เตียวสิ้วผูหลานไดรวบรวมทหารเตียวเจและเกณฑชายฉกรรจ
จํานวนมากเขารวมในกองทัพ และไดกาเซี่ยงที่ปรึกษาเกาของลิฉุยมาเปนที่ปรึกษา ขณะนี้เตียวสิ้วยึดไดเมือง
อวนเซียตั้งเปนฐานที่มั่น แลวชักชวนเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วใหยกกองทัพมาตีเมืองฮูโตพรอมกันเพื่อจะชิง
เอาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉไดทราบรายงานแลวก็โกรธเตียวสิ้วและเลาเปยวเปนอันมาก เพราะการที่เตียวสิ้วและ
เลาเปยวจะยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต ครั้งนี้คือการทําลายแผนการที่จะกําจัดเลาปและลิโป ที่ไดเตรียมการ ไว
แลวเปนอยางดี เพราะหากโจโฉจะยกไปตีเมืองชีจิ๋วก็อาจตองเสียเมืองฮูโตและหากพระเจาเหี้ยนเตถูกชวงชิง
ไป อํานาจรัฐทั้งปวง ที่มีอยูก็จะมลายสูญไปสิ้น
ดังนั้น โจโฉจึงตองปรับเปลี่ยนแผนการมาคิดกําจัดเตียวสิ้วเสียกอน แตครั้นจะยกทหารไปกําจัดเตียวสิ้วก็หวง
หลังวาลิโปจะยกมาตีเมืองฮูโต จึงเรียกซุนฮกมาปรึกษาวาจะคิดอานประการใด จึงจะปองกันลิโปไมใหยก
กองทัพมาตีตลบหลังเอาเมืองฮูโต ซุนฮกจึงวาลิโปเปนคนโลภ และหาความคิดมิได ดังนั้นจึงขอใหทานกราบ
บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหโปรดเกลาแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋วอยางเปนทางการ ลิโปเห็นประโยชนดังนี้
ยอมมีใจ ยินดี และไมยกมาทําอันตราย
โจโฉจึงวาขาพเจาไดสั่งเลาปใหยกไปตีเมืองเสียวพาย ทานมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาถาเลาป
กับลิโปรบกันในชวงระยะนี้ ไมเพียงแตจะทําใหทานพะวงหลังเทานั้น แมฝายใดเพลี่ยงพล้ําลงทานก็ไมมี
โอกาสซ้ําเติมเอาประโยชน ดังนั้น จึงขอใหทานมีหนังสือไปถึงลิโป และเลาปใหปรองดองกัน อยาไดทําศึก
สงครามตอกันใหเปนที่เดือด รอนแกราษฎร โจโฉเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก จึงเขาไปเฝาพระเจา
เหี้ยนเตกราบบังคมทูลเสนอแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงโปรดเกลาตามคํากราบบังคม
ทูล โจโฉออกจากที่เฝาแลวก็ใหทหารเชิญพระบรมราชโองการไปใหลิโป และมอบหนังสือตามคําซุนฮกไปถึง
ลิโปและเลาป จากแผนการที่วางไวใหเลาปกับลิโปรบราฆาฟนกันเอง มาถึงบัดนี้แผนการใหมไดปรับเปลี่ยน
เปนใหลิโปกับเลาปตองปรองดองไมทําศึกสงครามตอกัน เทากับความคิดตามแผนการเกาตองสูญสลายไป
ไมอาจฝนลิขิตแหงสวรรคได เหตุนี้เลาปจึงหลุดรอดออกจากกลอุบายของกุยแก
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ครั้นจัดแจงการทางดานลิโปและเลาปเสร็จแลว โจโฉจึงสั่งใหจัดทหารสิบหาหมื่น ใหแฮหัวตุนและอิกิ๋มเปนก
องทัพหนา โจโฉเปนกองทัพหลวง ยกออกจากเมืองฮูโตเพื่อจะไปกําจัดเตียวสิ้วที่เมืองอวนเซีย ครั้นกองทัพ
ของโจโฉเคลื่อนไปถึงแมน้ําหยกซุย ชายแดนเมืองอวนเซีย จึงใหตั้งคายลงไว ฝายเตียวสิ้วครั้นไดขาววาโจ
โฉยกกองทัพใหญจะมาตี เมืองอวนเซียก็ตกใจจึงปรึกษาดวยกาเซี่ยงวาจะคิดอานประการใด กาเซี่ยงจึงวา
กองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ใหญหลวงนัก คงจะรับมือโจโฉไมได และวาตัวทานกับโจโฉไมเคยมีความผิดพอง
หมองใจมาแตกอน ดังนั้นถาหากทานยอมสวามิภักดิ์ โจโฉคงจะรับไมตรี ทานก็ยังเปนเจาเมืองอวนเซียอยู
เหมือนเดิม ทหารแล ราษฎรก็จะไมตองลําบาก เตียวสิ้วเห็นดวยกับความคิดของกาเซี่ยง จึงใหกาเซี่ยงเปนทูต
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 78
ไปเจรจา ความกับโจโฉ ณ คายของโจโฉ ฝายโจโฉเมื่อทราบวากาเซี่ยงเปนทูตมาเจรจาความเมืองจึงให
ทหารรับกาเซี่ยงเขามาพบ ณ คายบัญชาการ กาเซี่ยงเขาไปพบโจโฉ กระทําคารวะแลวจึงวา กิตติศัพท
ชื่อเสียงของ ทานอัครมหาเสนาบดีไดขจรไกลวามีน้ําใจโอบออมอารีตอคนทั้งปวง ทั้งมีอุดมการณมั่นคงที่จะ
ทํานุแผนดินใหเปนสุข ดังนั้นเตียวสิ้วจึงมีความเลื่อมใส ศรัทธาเปนอันมาก บัดนี้ทราบวาทานยกกองทัพมาจึง
ใหขาพเจาเปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์เปนขาชวงใชตลอดไป
โจโฉเห็นกาเซี่ยงมีบุคลิกลักษณะสมกับเปนผูมีสติปญญา ทั้งเคยไดยินกิตติศัพทของกาเซี่ยงแตครั้งชวย
วางแผนคิดการให ลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ ครั้นไดฟงคําเจรจาก็เห็นหลักแหลม ก็กระหายใครไดตัว
กาเซี่ยงไวทําราชการ จึงวาบัดนี้เมื่อเตียวสิ้วยอม สวามิภักดิ์ดวยเราแลว หากทานพรอมใจทําราชการในเมือง
หลวง เราก็จะตั้งใหทานเปนที่ปรึกษา โจโฉแมจะอิ่มดวยอํานาจวาสนา แตมีความหิวกระหายใครไดเสวนาหา
คนดีมีฝมือมารวมทําการไมเคยสราง ดังนั้นเมื่อกาเซี่ยง เปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์ แทนที่โจโฉจะพิจารณา
และกลาวถึงเรื่องขอสวามิภักดิ์ กลับเชิญชวนใหกาเซี่ยงมาเปนที่ปรึกษา แตกาเซี่ยงยังคงมั่นคงอยูกับเตียวสิ้ว
จึงบายเบี่ยงวาขาพเจาเคยทําราชการอยูดวยลิฉุย กุยกี ซึ่งบัดนี้เปนขบถตอแผนดิน มลทินมัวหมองจึงพลอย
ตองตัวขาพเขาเปรอะเปอนไปดวย จึงขอเวลาไวใหขาพเจาไดทําความชอบลบลางมลทินแลความผิดใหสิ้น
กอน อนึ่งนั้นเลาเตียวสิ้วมีคุณแกขาพเจา ทั้งยังขาดผูคนเปนที่ปรึกษา หากละทิ้งมาในยามนี้ก็เหมือนหนึ่งไม
รูคุณคน แลเตียวสิ้วเมื่ออยูสวามิภักดิ์ดวยทานแลว ก็เหมือนขาพเจาอยูดวยทานเชนเดียวกัน
โจโฉฟงคํากาเซี่ยงก็รูวายังไมพรอมที่จะมาอยูทําราชการดวยจึงวา ทานจงกลับไปบอกเตียวสิ้วใหออกมาพบ
เราเถิด เราจะไวไมตรี กาเซี่ยงจึงลาโจโฉกลับไปเมืองอวนเซีย รายงานเหตุการณใหเตียวสิ้ว ฟงทุกประการ
เตียวสิ้วทราบรายงานแลวก็มีความยินดี รุงขึ้นกาเซี่ยงจึงพาเตียวสิ้วพรอมของกํานัลและตราสําหรับเมืองไปที่
คายของโจโฉ ครั้นโจโฉทราบวากาเซี่ยงและเตียวสิ้วมาหา ก็มีความยินดี หลังจากคารวะโอภาปราศรัยตาม
ธรรมเนียมแลว โจโฉ จึงถามวา ภายในเมืองอวนเซียมีปญหาประการใดบางหรือไม เตียวสิ้วรายงานวาภายใน
เมืองอวนเซียมีความปรกติดีทุกประการ ราษฎรอยูเย็นเปนสุข บัดนี้ขาพเจาขอเชิญทานอัครมหาเสนาบดีไดยก
เขาไปใน เมืองเพื่อเปนมิ่งขวัญแกราษฎรสืบไป โจโฉก็รับคํา แลวสั่งแมทัพนายกองใหรักษาคายนอกเมืองไว
ใหมั่นคง ตัวโจโฉพาทหารที่สนิทสองรอยคนเขาไปใน เมืองอวนเซียแลวพักที่เรือนรับรองแขกเมืองพิเศษ
เตียวสิ้วเอาใจปรนนิบัติโจโฉเปนอันดี ทุกวันแตงโตะเลี้ยงโจโฉและ บรรดาทหารที่ติดตามมาเปนที่สําราญ โจ
โฉไดรับการเอาอกเอาใจจากเตียวสิ้วอยางเต็มที่ก็พอใจวาเตียวสิ้วสวามิภักดิ์มั่นคงจึงวางใจและใหเตียวสิ้วคง
วาราชการเมืองอวนเซียตอไปตามเดิม
อยูมาวันหนึ่งโจโฉมีความเบิกบานใจยิ่งนัก เชิญเตียวสิ้วและบรรดานาย ทหารดื่มสุราชนจอกกับทุกคนจนเมา
มาย เลิกกินโตะ แลวโจอันบิ๋นผูหลาน ตองพยุงโจโฉกลับที่พัก แตโจโฉนั้นยังเมาสุราอยูอารมณคึกคักเปน
พิเศษ จึงเรียกโจอันบิ๋นหลานคูใจมาถามวาในเมืองนี้มีสตรีใดรูปโฉมงดงาม มีเสนหแพรวพราวบาง ความ
ปรารถนาดังนี้ของโจโฉเปนธรรมดาของชายชาติทหารที่จากบาน ไปแดนไกล หลังจากวางทาอํานาจเปนสงา
มาหลายวัน แตครั้นเมาสุราก็ แสดงธาตุแทตัวตนจริงออกมา และทําใหไดเห็นถึงรสนิยมอิสตรีของโจโฉวาตอง
รูปงามอยางหนึ่ง และตองพราวเสนหอีกอยางหนึ่ง คือไมเพียงแตตองเปน ดอกกระดังงาเทานั้นหากตองลน
ไฟอีกดวย
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
เพลิงสวาทเผาทัพโจโฉ (ตอนที่ 85)
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจอันบิ๋นหลานคูใจฟงคําโจโฉแลวก็รูใจจึงกลาววา ที่ตึกรับรองแขกเมืองอีกหลังหนึ่งขาพเจาไดเห็นสตรีรูป
โฉมสะคราญตองตามที่ทานอาปรารถนา ขาพเจาไดสืบถามมากอนแลวไดความวาเปนภรรยาของเตียวเจ และ
เปนอาสะใภของเตียวสิ้ว บัดนี้เตียวเจตายแลว นางจึงเปนมายอยู โจโฉไดฟงวามีสตรีงามตองตามรสนิยมตัว
อารมณคึกคะนอง และฮึกเหิมดวยแรงสุราขาดความคํานึงถึงธรรมเนียมประเพณีวาเตียวเจเพิ่งตายไมทันถึงป
ความปรารถนานั้นอาจกระทบตอความรูสึกและสัมพันธระหวางเมืองของเตียวสิ้ว ผสมเขากับความใครที่คอยๆ
กําเริบเพราะจากเมืองหลวงมานานวัน กลายเปนพายุที่ฮือโหม ทําใหเพลิงแหงความพิศวาสคุโชนโชติชวงบด
บังสติปญญาไปสิ้น โจโฉจึงสั่งใหโจอันบิ๋นนําทหารหาสิบคนไปเอาตัวภรรยามายของเตียวเจมาที่พักในค่ําวัน
นั้น โจอันบิ๋นคุมทหารหาสิบคนไปถึงเรือนพักรับรองของภรรยามายของเตียวเจแลวเชิญตัวภรรยามายของ
เตียวเจนั้นมายังที่พักของโจโฉ โจโฉครั้นเห็นสตรีมีเสนหรูปงามตองตามรสนิยมก็ดีใจยิ่งนัก โซเซลุกขึ้นไปจูง
เอาภรรยามายของเตียวเจเขามานั่งอยูดวยกันแลวถามวาเจานี้มีชื่อใด สตรีนั้นจึงตอบวาขาพเจาชื่อเจาซือเปน
ภรรยามายของเตียวเจและเปนอาสะใภของเตียวสิ้ว โจโฉรินสุราใหนางเจาซือและถามตอไปวา เจารูจักเรา
หรือไม นางเจาซือจึงตอบวาชื่อเสียงของทานกองกําจรทั่วทั้งแผนดิน ขาพเจาไดยินแตกิตติศัพททานมาชา
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 79
นานไดมีโอกาสมาคารวะทานในวันนี้เปนบุญของขาพเจายิ่งนัก วาแลวนางเจาซือก็สงจอกสุราคารวะแกโจโฉ
โจโฉหัวเราะดังสนั่น รับสุราจากนางเจาซือมาดื่มแลววาเตียวสิ้วคิดจะยกกองทัพไปทําอันตรายเราที่เมืองฮูโต
เราจึงยกกองทัพมาจะกําจัดเตียวสิ้วเสียและจะประหารเสียใหสิ้นทั้งโคตรวงศพงศา แตเราเห็นแกหนาเจาจึง
ยอมรับการสวามิภักดิ์ คนทั้งปวงจึงไดรอดตายเพราะตัวเจานี่แลว
คําพูดของคนเมามักจะเปนเชนนี้ ความจริงในขณะรับสวามิภักดิ์ โจโฉยังไมเคยพบเห็นรูจักนางเจาซือจึงเปน
การรับสวามิภักดิ์เพราะเห็นแกหนานางเจาซือกระไรได โจโฉพลามกลาวความทั้งนี้เพื่อจะยกยองเอาใจนาง
เจาซือดวยฤทธิ์แรงแหงความเสนหา ตองการใหนางเจาซือยินยอมพรอมใจดวยเทานั้น นางเจาซือเปนคนเคย
การจึงวาทานยกโทษใหแกเตียวสิ้วและญาติพี่นองทั้งสิ้นนั้นเปนพระคุณหาที่สุดมิได วาแลวก็รินสุราสง
ใหแกโจโฉเปนการแสดงคารวะอีกจอกหนึ่ง โจโฉก็หัวเราะแลวรับสุรามาดื่มแลววาตัวเจานี้มีเสนหงดงามตอง
ใจเรายิ่งนัก ผิวกายเจา ยามตองประทีปแหงราตรีนี้ยากแลวจะหาสตรีใดในแผนดินมาเทียมเทา หากเราจะรับ
เจาเปนภรรยาแลวพาไป อยูเมืองฮูโตใหเสพสุขมิสิ้น เจาจะมีความเห็นเปนประการใด างเจาซือลุกขึ้นคํานับโจ
โฉแลววา ทานอัครมหาเสนาบดีมีบุญวาสนาบารมีแผปกคลุมทั่วทั้งแผนดิน เมืองอวนเซียนี้เปนสิทธิอยูแกทาน
ตัวขาพเจาเปนแตราษฎรของเมืองอวนเซียจึงยอมเปนสิทธิอยูแกทานดวย ขาพเจาหามีสิทธิที่จะตัดสินใจ
ประการใดไม การทั้งปวงสุดแทแตใจของทานจะเมตตาเถิด โจโฉไดยินคํานางเจาซือ มีลักษณะยินยอมโอน
ออนผอนตามใจ จึงไลทหารและคนรับใชใหออกไปอยูนอกเรือนรับรอง แลวประคองนางเจาซือพาเขาไปที่
หองอันรโหฐานแตค่ํานั้น
โจโฉครองอํานาจใหญในแผนดินไมวาไปแหงหนตําบลใด บรรดาขุนนางขาราชการที่รูใจนายก็จะแสวงหาสตรี
อันแรกรุนมาปรนเปรอทําความชอบไวแกตัว ดรุณีแรกรุนเหลานั้นแมเปนหญาออน แตความไมเคยการ และ
ความอับอายที่มีประจําตัวแตอิสตรีจึงมักบิดพลิ้วผลักไสดวยความไมคุนเคยและเจ็บกลัว จึงทําใหหญาออน
เกิดเสี้ยนทําลายแรงปรารถนาใหบรรเทาลง ผิดกับนางเจาซือซึ่งมีวัยถึงสี่สิบ แตกระนั้นความมีโฉมสะคราญ
รูจักการทะนุถนอม กลอมบํารุงรางกายใหวิไล ทั้งเปนคนเคยการและผานวันเวลาที่เปนมาย จึงคลายดั่งดิน
หนาแลง แตกระแหงรอฝนโปรยมาใหเกิดความชุมฉ่ํา ความปรารถนาของทั้งสองตองกันดั่งนี้ การก็เปนไป
คลายกับเมื่อครั้งที่หนุมานไดตัวนางสุวรรณกันยุมา ซึ่งรามเกียรติ์วาไววา "เกี่ยวกระหวัดรัดรึงตรึงตรา วิญญาณ
ดาวดิ้นแดยัน พระสมุทรตีฟองนองระลอก กระทบฝงกระฉอกสะเทือนลั่น วาฬใหญพนน้ําอยูเปนควัน ฝน
สวรรคตกทั่วสาคร สองรวมภิรมยสมพาส แสนสวาทในรสสโมสร แสนสุข แสนเกษมสถาวร เหนือที่จะ
บรรจถรณในราตรี"
โจโฉเคยแตเสพหญาออนและถูกเสี้ยนตําปากเปนเนืองนิจ ครั้นพบกับจริตแหงนางเจาซือ กระดังงาดอกงาม
แหงเมืองอวนเซียก็เปรมใจ สัมผัสถึงซึ่งความแตกตางระหวางดรุณีแรกรุนกับกระดังงาลนไฟดอกนี้วาเปนดัง
เมื่อครั้ง ขุนแผนเปรมรสสวาทนางสายทองวาล้ําเลิศเหนือกวานางพิมพิลาไลยกุหลาบแรกเริ่มแยมวา "สมพาส
พิมดุจริมแมน้ําตื้น ไมมีคลื่นแตระลอกกระฉอกฉาว ปะสายทองดุจตองพายุวาว พอออกอาวก็ลมจมลงไป"
โจโฉไดรับการปรนเปรอจากนางเจาซือจนอิ่มหนําสําราญ ถึงเวลาใกลสางก็พากันหลับใหล ตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ก็พนเพลาเที่ยง นางเจาซือตื่นกอนเกิดความรูสึกนึกละอายเกรงวาเตียวสิ้วผูเปนหลานจะทราบความ จึงนั่ง
ซึมเศรารออยูที่หนาเตียง พอโจโฉตื่นขึ้นนางเจาซือจึงวา ขาพเจาตกเปนภรรยาทานทั้งๆ ที่เตียวเจผูสามีเพิ่ง
ตายไดไมทันนาน ความครหานินทาวาลวงประเพณีจะมีแกขาพเจาเปนอันมาก ไมอาจสูหนาผูคนทั้งปวงใน
เมืองนี้ไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตาพาขาพเจาไปอยูที่อื่นเถิด อนึ่งเตียวสิ้วนั้นเปนคนเครงครัดประเพณี หากรู
ความเขาแลวก็จะนอยใจในตัวทานวาเปนผูใหญไมคิดถึงน้ําใจของผูนอย โจโฉจึงวาความที่เจาวามาทั้งนี้ชอบ
ดวยเหตุและผลตองดวยความคิดเรา บายวันนี้เราจะพาเจาไปอยูที่คายนอกเมือง แลวโจโฉจึงสั่งใหทหารลอบ
พานางเจาซือไปพักที่คายบัญชาการนอกเมือง และใกลพลบค่ําตัวโจโฉก็ขึ้นมาพาทหารออกจากเมือง
อวนเซียไปอยูที่คายนอกแลวสั่งใหเตียนอุยทหาร องครักษพิทักษรักษาหนาคายหามผูคนเขาออก ยกเวนแต
กรณีที่โจโฉจะเรียกหาเทานั้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โจโฉ "ทุกค่ําเชาเฝาสีซอลอกามา" อยูแตในคายกับนางเจาซือ มิไดออกตรวจตรากองทหาร หรือวาราชการ
ตามปกติ นางเจาซือก็ปรนเปรอความสุข ดวยกลกามจนโจโฉลุมหลงไมคิดที่จะยกกลับไปเมืองฮูโต ฝายเตียว
สิ้วครั้นเห็นโจโฉไมไดออกวาราชการเปนเวลาหลายวัน และไดยกกลับออกไปอยู ณ คายนอกเมืองก็สงสัย
ประกอบทั้งคนรับใชไดเขามารายงานวาทหารของโจโฉไดมารับตัวนางเจาซือไปที่เรือนรับรองจนบัดนี้ยังไม
กลับ เตียวสิ้วไดสืบทราบจนไดความชัดวา โจโฉไดนางเจาซืออาสะใภไวเปนภรรยาแลวพาออกไปอยูนอก
เมืองก็นอยใจนัก ยิ่งคิดถึงขนบธรรมเนียมประเพณีก็โกรธโจโฉหาวาหยามเหยียดเกียรติแหงตระกูล "เตียว"
เตียวสิ้วยิ่งคิดก็ยิ่งอาย ยิ่งอายก็ยิ่งแคน จึงใหหากาเซี่ยงมาปรึกษาเลาความทั้งปวงใหกาเซี่ยงฟงแลววา โจโฉ
ทําการทั้งนี้ดูหมิ่น ขาพเจาและตระกูล "เตียว" ยิ่งนัก หากขาพเจาไมแกแคนครั้งนี้ ไมมีหนาที่จะพาดวง
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 80
วิญญาณไปพบบรรพบุรุษในปรโลก แมยามมีชีวิตอยูก็ไมกลาแบกหนาพบผูคนไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตา
ชวยขาพเจาคิดอานแกแคนโจโฉแทนขาพเจาดวยเถิด
กาเซี่ยงจึงวา โจโฉยกมาทั้งนี้มีทหารมาดวยจํานวนมาก ทานอยาเพิ่งวูวามรอนใจไป ขาพเจาจะคิดอุบายให
ทานยกทหารไปตั้งประชิดตัวโจโฉไว ครั้นไดทีแลวก็จะจับตัวโจโฉมาสังหารเสีย แลวเสนอวาใหทานแจง
แกโจโฉวา ทหารที่เกณฑมาใหมนั้นไมเกรงกลัวทานพากันหลบหนีไปเปนอันมาก ดังนั้น จึงขอเอาทหารใหม
ยกไปอยูใกล กับคายโจโฉ จะไดเกรงบุญบารมีไมหลบหนีตอไป ถาโจโฉอนุญาตแลวก็จะจับตัวโจโฉได
โดยสะดวก
เตียวสิ้วเห็นพองกับความคิดของกาเซี่ยง รุงขึ้นจึงออกไปหาโจโฉ ณ คายนอกเมือง เตียนอุยจึงเขาไปรายงาน
ใหโจโฉทราบ โจโฉก็อนุญาตใหเตียวสิ้วเขาไปพบ ครั้นเตียวสิ้วไดกระทําคารวะอยางธรรมเนียมแลว จึงวา
กับโจโฉตามคําของกาเซี่ยงทุกประการ โจโฉทําความผิดรูความผิดอยูแตในใจก็อนุญาตตามที่ตองการ เปน
การเอาใจ เตียวสิ้วกลบความผิดของตัว เตียวสิ้วกลับมาจากคายโจโฉแลวจึงพาทหารยกเขาไปอยูใน
กองทัพโจโฉ ตั้งคายไวตามมุมคายของโจโฉทั้งสี่ดาน แตกระนั้นยังไมเห็นชองทําการ เพราะเตียนอุย
องครักษของโจโฉมีสงานาเกรงขาม ทั้งรักษาคายดวยความระมัดระวัง เตียวสิ้วจึงหาเฮาเฉียนายทหารคนสนิท
มาปรึกษาวาจะทําประการใดจึงจะฝาเตียนอุยเขาไปถึงตัวโจโฉได เฮาเฉียจึงวาขาพเจาสามารถแบกเหล็กได
ถึงหารอยชั่ง แข็งแรง มิไดเปนรองเตียนอุย และยังสามารถเดินทางไดถึงวันละเจ็ดพันเสน เกรงอยูก็แตทวนคู
ของเตียนอุยเทานั้น จึงขอใหทานเชิญเตียนอุยมาเลี้ยงโตะมอมสุรา ขาพเจาจะฉวยโอกาสปลอมเขาไปลักเอา
ทวนคูนั้นเสีย เตียนอุยก็จะกลายเปนเสือไรเขี้ยวเล็บ ดังนี้ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย
เตียวสิ้วเห็นดวยกับแผนการของเฮาเฉีย จึงใหกาเซี่ยงไปเชิญ เตียนอุยมากินโตะ ครั้นทราบวาเตียนอุยรับคํา
เชิญแลว จึงสั่งทหารทั้งสี่คายให เตรียมตัวพรอมอาวุธ หากไดยินเสียงประทัดสัญญาณก็ใหยกเขาไปจับตัวโจ
โฉ พรอมกัน ครั้นถึงเวลานัด เตียนอุยก็มา ณ คายของเตียวสิ้ว กินโตะและเสพสุรา โดยมิไดสงสัยจนเมามาย
จนใกลพลบค่ําเสร็จงานเลี้ยงเตียวสิ้วจึงใหทหารชวยพยุงเตียนอุยกลับไปคาย เตียนอุยเมาสุราไมไดสติกลับ
ถึงคายแลวก็หลับใหลอยูริมประตูคาย จากนั้นเฮาเฉียจึงปลอมตัวเขาไปลักเอาทวนคูประจํากายของเตียนอุย
แลวเอาไปทิ้งไวดานหลังคาย เตียวสิ้วเห็นการสมความคิดจึงเรียกนายทหารมาสั่งการ กําหนดวิธีการตอบโต
ในตอนเคลื่อนยายกําลังเปนที่เขาใจดีแลวจึงสั่งใหยกทหารไปที่คายโจโฉพรอมกัน
ขณะนั้นโจโฉยังคงเสพสุราเคลาคลออยูกับนางเจาซือ ไดยินเสียงทหารอึกทึกจึงใหทหารออกไปดู ทหาร
กลับมารายงานวาเปนทหารของเตียวสิ้ว กําลังสับเปลี่ยนเวรยาม โจโฉก็มิไดสงสัย อีกครูหนึ่งทหารเฝาคายก็
เขามารายงานอีกวา เกวียนบรรทุกหญามาหลังคายติดไฟอยู โจโฉกําลังเพลินอารมณอยูกับนางเจาซือ นึก
รําคาญทหารที่เพียงแคเห็นไฟไหมหญามาก็แสเขามารายงานในยามหนาเหลาหนานางเชนนี้ จึงตวาดใส
ทหารนั้นแลววา ทหารหุงขาว ไฟไหมหญาเปนเรื่องเล็กนอย ไฉนเจาจึงไมรูจักใชความคิดแกไขดับไฟ ทหาร
นั้นยินน้ําเสียงไมพอใจของโจโฉก็ตกใจกลัวรีบคารวะแลวถอยกลับออกไปนอกคาย แตพอออกมานอกคายได
ยินเสียงประทัดดังขึ้น แลวเพลิงก็ลุกขึ้นรอบคายทั้งสี่ดาน โจโฉไดยินเสียงประทัดและไดยินเสียงทหารวิ่งอยู
นอกคายเปนจํานวนมากก็ตกใจ รีบรองเรียกเตียนอุยแตไมมีเสียงขานรับ โจโฉรีบออกมาดูที่ประตูคายเห็น
เตียนอุยเพิ่งตื่นงัวเงียอยู และเห็นเพลิงไหมคายโชติชวงขึ้นทั้งสี่ดานและทหารของเตียวสิ้วก็พากันบุกเขามาที่
หนาคายก็ยิ่งตกใจ รีบวิ่งกลับเขาไปในคาย เอากระบี่ฟนผนังคายแลวขึ้นมาพาโจอันบิ๋นผูหลานหนีออกไปทาง
ดานหลังคายนั้น
ขณะนั้นเตียนอุยตื่นขึ้นแลวเห็นไฟไหมคายและทหารเตียวสิ้ว พากันกรูเขามาก็ตกใจมิทันใสเกราะ ควาหาทวน
สําหรับมือก็ไมพบ ทหารเตียวสิ้วก็เขามาใกลถึงตัว เตียนอุยจึงแยงเอาดาบของทหารเลว เขาตอสูสกัดทหาร
ของ เตียวสิ้วมิใหเขาไปในคาย เตียนอุยฆาทหารเตียวสิ้วประมาณยี่สิบหาคน ทหารของเตียวสิ้วก็พากันถอย
มาคุมเชิงอยู ทหารของเตียวสิ้วอีกสองกองไดบุกเขามาทางดานหลังคาย หักเขาไปลอมเตียนอุยไวใชทวน
แทงและใชดาบฟนเตียนอุยจนบาดเจ็บ แตเตียนอุยก็ มิไดทอถอยใชดาบตอสูดวยทหารของเตียวสิ้วจนดาบ
บิ่นและหักสะบั้นลง เตียนอุยจึงฉวยเอาศพทหารเตียวสิ้ว ขางละคนเขาตอสูปองกันตัว และเอาศพฟาดถูก
ทหารเตียวสิ้วลมตายอีกรวมสิบคน ทหารเตียวสิ้วสูไมไดก็พากันถอยออกไปแลวใชเกาทัณฑระดมยิงจนลูก
เกาทัณฑเสียบเต็มทั่วราง เตียนอุยก็ยังยืนปกหลักมั่นอยู ทหารเตียวสิ้วคนหนึ่งเขามาทางดานหลังเอาทวน
แทง ทะลุอกดานซายเตียนอุยขาดใจตาย ขณะที่สิ้นใจนั้นศพเตียนอุย ยืนพิงประตูคายอยู ทหารเตียวสิ้วไมรูวา
เตียนอุยตาย ตางคนตางกลัวฝมือไมกลาบุกเขาไปในคาย เพลิงที่ไหมคายโจโฉในครั้งนี้ ตนเหตุสมุฏฐานที่
แทจริงเกิดจากเพลิงสวาทที่เผาผลาญในใจของโจโฉกอน จึงลุกลามกลายเปน เพลิงที่ผลาญทัพโจโฉจน
หมดสิ้น
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 81
สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม
กลยุทธเลี้ยงเสือและนกอินทรี (ตอนที่ 86)
เพลิงสวาทไดลุกลามกลายเปนไฟเผาผลาญกองทัพโจโฉจนหมดสิ้น ทหารของเตียวสิ้วไดโจมตีกองทัพโจโฉ
ที่ตกอยูในสภาพตื่นตระหนก ณ แดนเมืองอวนเซีย จนแตกกระเจิง ทหารของโจโฉถูกเพลิงคลอก และถูก
ทหารเตียวสิ้วฆาฟนลมตายลงเปนอันมาก ตัวโจโฉหนีออกจากคายทางดานหลัง ไปกับโจอันบิ๋นหลานคูใจ
พอใกลแมน้ําหยกซุยทหารเตียวสิ้วกองหนึ่งไดใชเกาทัณฑระดมยิงถูกมาโจโฉลมลง ถึงแกความตาย ตัวโจโฉ
ตองเกาทัณฑแตไมถูกที่สําคัญ จึงวิ่งหนีไปแตลําพัง สวนโจอันบิ๋นหลานคูใจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย ณ
ที่นั้น
โจโฉวิ่งหนีไปไดเกือบรอยเสน ไดพบกับโจงั่งผูเปนบุตรซึ่งแตกหนีมาเชนเดียวกัน โจงั่งจึงเอามาของทหาร
ใหโจโฉขี่แลวพากันหลบหนีตอไป แตหนีไปไดไมกี่เสนก็ถูกกองทหารของเตียวสิ้วอีก กองหนึ่งไลตามไปทัน
ใชเกาทัณฑยิงถูกโจงั่งตายไปอีกคนหนึ่ง โจโฉ โชคยังดีจึงหลบหนีรอดไปไดอีก ขณะนั้นแฮหัวตุนและทหาร
ซึ่งแตกหนีอดอยากเที่ยวปลนสะดมเสบียงอาหารและขาวของจากราษฎรตามชายแดนเมืองอวนเซีย อิกิ๋มซึ่ง
คุมทหารแตกหนีมาอีกทางหนึ่งพบเหตุการณเขาเห็นทหารแฮหัวตุนประพฤติผิดวินัย กองทัพจึงเขาชวยเหลือ
ราษฎร สังหารทหารแฮหัวตุนไปหลายคน
ทหารแฮหัวตุนพากันหนีอิกิ๋มไปพบแฮหัวตุน จึงพากันหนีตอไปและพบกับโจโฉจึงนําความรายงานใหโจโฉ
ทราบวา อิกิ๋มเปนกบฎ ทหารของอิกิ๋มทราบเรื่องราวก็ไปบอกใหอิกิ๋มทราบ ขณะนั้นอิกิ๋มไดขาววาเตียวสิ้ว
กําลังยกทหารติดตามมา จึงสั่งทหารใหตั้งคายมั่นไวและไมเขาไปหาโจโฉ หวังเอาความจริงและความชอบใน
การสกัดทัพเตียวสิ้วเขาแกขอหา ครั้นเตียวสิ้วยกตามมาจึงปะทะกับอิกิ๋ม เตียวสิ้วสูอิกิ๋มไมไดจึงแตกถอยรน
มาถึงแมน้ําหยกซุย อิกิ๋มไดยกทหารไลตามตีเตียวสิ้วจนเตียวสิ้วตองถอยรนและปะทะเขากับโจโฉและกอง
ทหารของแฮหัวตุน ทหารของโจโฉทั้งสองดานไดรุมตีกระหนาบเตียวสิ้ว ทําใหทหารของเตียวสิ้วบาดเจ็บลม
ตายลงเปนอันมาก เตียวสิ้วเห็นวาทหารเหลืออยูนอยตัวนัก สูโจโฉไมได จึงพาทหารที่เหลืออยูนั้นหนีไป
อาศัยเลาเปยว ที่เมืองเกงจิ๋ว
อิกิ๋มจึงเขาไปหาโจโฉเลาความที่ทหารแฮหัวตุนกระทําผิดวินัยกองทัพ ปลนชิงทรัพยสินของราษฎร ทําให
เสื่อมเสียเกียรติของทหารหลวงจึงฆาเสียเพื่อพิทักษเกียรติของโจโฉไว โจโฉฟงรายงานแลวพอใจ แตสงสัย
วาทําไมอิกิ๋มจึงตั้งคายมั่นไมยอมออกมา ตอนรับโจโฉเขาไปในคาย อิกิ๋มจึงวาไดทราบขาววาเตียวสิ้วกําลังยก
ทหารไลตามตี จึงตั้งคายสกัดไว เพื่อตีเตียวสิ้วใหแตกไปกอน จึงจะปองกันโจโฉและพลิกสถานการณได แต
กระนั้นก็สํานึกวาไดกระทําความผิดจึงคุกเขาลงขออภัยตอโจโฉ โจโฉไดฟงความตลอดแลวจึงตําหนิแฮหัวตุน
ที่ปกครองทหารหละหลวม แลวยังมากลาวฟองใหรายอิกิ๋มอีก แตเห็นวาแฮหัวตุนมีความชอบมาแตกอนจึงให
ภาคทัณฑไว แลวสรรเสริญอิกิ๋มเปนอันมากที่คิดอานแกไขสถานการณ พลิกจากแพแกเปนชนะกลับคืนได โจ
โฉไดมอบรางวัลใหแกอิกิ๋มเปนอันมาก แลวปูนบําเหน็จ ตั้งใหอิกิ๋มเปนขุนนางที่พระยาจําเริญอายุ
โจโฉจัดแจงกองทัพเสร็จแลวจึงสั่งใหทําพิธีเซนไหวเตียนอุย โจอันบิ๋น และโจงั่งผูบุตรที่ริมแมน้ําหยกซุย
แลวประกาศแกทหารทั้งปวงวาแมศึกครั้งนี้ จะเสียบุตรและหลานไป แตมิไดเศราโศกเสียใจ เทากับการเสีย
เตียนอุย วาแลวโจโฉก็รองไห ทหารทั้งปวงไดฟงดังนั้นก็เขาใจวาโจโฉมีน้ําใจรักทหารยิ่งกวา บุตร หลาน
ตางซาบซึ้งน้ําใจโจโฉเปนอันมาก พากันรองไหรักโจโฉ ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวแลวโจโฉจึงใหเลิกทัพ พกเอา
ความเคียดแคนเตียวสิ้วกลับไปเลียแผลอยูที่เมืองฮูโต ครั้นสรางโศกจิตใจสงบเปนปกติลงแลว จึงรําลึก
ทบทวนสาเหตุของการแตกทัพจนตองเสียเตียนอุย องครักษที่วางใจสูงสุด เสียทั้งบุตรและหลาน และทหาร
เปนอันมาก ก็สํานึกวาความผิดพลาดทั้งนั้นเกิดแตตัวเองประพฤติปฏิบัติผิดกฎแหงพิชัยสงครามถึงสามสถาน
คือ เปนแมทัพตั้งอยูในความประมาทหนึ่ง ประพฤติลวงขนบธรรมเนียมประเพณี ทําลายน้ําใจมิตรจนตองลาง
ผลาญกันเองหนึ่ง และอยูหนาศึกแตมัวเมาลุม หลงในอิสตรีไมเปนอันวาราชการสงครามอีกหนึ่ง โจโฉสํานึก
ถึงความผิดพลาดสามสถานดั่งนี้แลวก็เสียใจ แตไมไดปริปากแพรงพรายความสํานึกนี้ใหผูใดทราบ ดวยเกรง
วาความแพรงพรายไปแลวจะเสื่อมเสียเกียรติ จึงกลายเปนตราบาปติดอยูในใจโจโฉไปจนตลอดชีวิต
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ทางดานอองเจกซึ่งโจโฉใชใหเชิญพระบรมราชโองการและถือหนังสือของโจโฉไปใหลิโป และเลาป
ปรองดองกัน ครั้นเดินทางเขาเขตเมืองชีจิ๋วจึงแจงขาวใหนายดานทราบ นายดานจึงสั่งมาเร็วรีบเขาเมือง
รายงานแกลิโป ลิโปเมื่อทราบวาอองเจกเชิญพระบรมราชโองการมาที่เมืองชีจิ๋วจึงนําขบวนออกมาตอนรับเขา
ไปในเมือง กระทําพิธีรับพระบรมราชโองการตามธรรมเนียมแลว อองเจกจึงอานประกาศพระบรมราชโองการ
แตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และเปนขุนนางที่ขุนพลปราบศึกภาคบูรพา ลิโปถวายบังคมพระบรมราชโองการ
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 82
ดวยความยินดี อองเจกจึงมอบหนังสือของโจโฉที่ใหลิโปกับเลาปปรองดองกันแลวกลาวความผูกใจลิโปวา
ทาน อัครมหาเสนาบดีมีความเมตตาและเชื่อถือ ลิโปเปนอันมาก จึงกราบบังคมทูลเสนอพระเจาเหี้ยนเตให
ทรงแตงตั้ง เปนขุนนางลิโปไดทั้งยศศักดิ์ และฐานะตําแหนงขุนนางก็ยินดีรับปากกับอองเจกวาจะปฏิบัติตาม
หนังสือของโจโฉทุกประการ ในขณะนั้นทหารรับใชไดเขามารายงานวาอวนสุดไดสงผูแทนมาพบ ลิโปจึงให
เชิญเขามาแลวถามวามีราชการสิ่งใดหรือ ผูแทนของอวนสุดจึงวา อวนสุดกําลังเตรียมการพิธีสถาปนาตัวเอง
เปนฮองเต แลวจะแตงตั้งบุตรชายขึ้นเปนรัชทายาท จึงขอใหลิโปรีบสงลูกสาวไปเขาพิธีแตงงานเสียในคราว
เดียวกัน
ลิโปกําลังอิ่มอยูดวยยศฐาบรรดาศักดิ์ที่โจโฉหยิบยื่นให จึงเห็นการขางอวนสุดเปนเรื่องเหลวไหลที่จะดึงตัว
ลงสูที่ต่ํา กลายเปนกบฏตอแผนดินไปดวย จึงแสดงความโกรธใหปรากฏตอหนาอองเจกดวยการดาวาอวนสุด
วาเปนคนถอย กําเริบคิดกบฏตอแผนดิน แลวสั่งทหารใหเอาตัวผูแทนอวนสุดไปประหาร จากนั้นลิโปจึงสั่งให
ทหารไปเบิกตัวหันอิ้นเถาแกของอวนสุดที่สงมารับลูกสาวออกจากคุก ใหจําใสกรงนักโทษแลวแตงหนังสือให
ตันเตงนําไปมอบแกโจโฉที่เมืองฮูโตโดยใหเดินทางไปพรอมกับอองเจก
อองเจกพาตันเตงและนักโทษหันอิ้นเดินทางถึงเมืองฮูโตแลว จึงพากันเขาไปพบโจโฉรายงานเหตุการณให
ทราบทุกประการ โจโฉไดเปดหนังสือของลิโปที่มอบมากับตันเตงซึ่งมีเนื้อความวาลิโปขอขอบคุณโจโฉที่
สงเสริมสนับสนุน และจะตั้งหนาตั้งตาทําราชการ สนองพระเดชพระคุณสืบไป โจโฉอานหนังสือนี้แลวก็อานใจ
ลิโปวาบัดนี้ไดตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุดแลว จึงสั่งใหเอาตัวหันอิ้นไปประหาร ตันเตงเห็นดังนั้นจึงแปร
พักตรเขาดวยโจโฉ แลวแอบกระซิบเสนอโจโฉวาลิโปเปนคนพาลต่ําชาประดุจสัตวเดรัจฉาน เนรคุณคน คิด
กบฏตอแผนดิน ทานจะเลี้ยงไวนั้นไมชอบเพราะนานไปลิโปก็จะคิดรายตอทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็ดีใจ และ
แปลกใจไปพรอมกัน เขมนมองหนาตันเตง แลวกลาววาขาพเจาก็มีความคิดเห็นเชนเดียวกับทานและตองการ
กําจัดลิโปเสียใหจงได ขอใหทานและตันกุยผูบิดาจงชวยกันคิดอานวางแผนอยูที่เมืองชีจิ๋ว เมื่อใดที่ขาพเจา
ยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋วแลวก็ใหชวยหาทางกําจัดลิโปเสีย ตันเตงจึงรับปากโจโฉวาจะคิดอานทําการเปนไส
ศึกอยูในเมืองชีจิ๋วรวม กับตันกุยผูบิดา ขอใหโจโฉวางใจ โจโฉไดฟงดังนั้นก็มีความยินดี จึงตั้งใหตันเตงเปน
เจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และใหเพิ่มเบี้ยหวัดแกตันกุย พรอมรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง
แลวใหทําหมายรับสั่งแจงใหลิโปเจาเมืองชีจิ๋วทราบเพื่อปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น
ตันเตงจึงลาโจโฉจะกลับเมืองชีจิ๋ว โจโฉไดตันกุย ตันเตง สอง พอลูกเปนไสศึกอยูในเมืองชีจิ๋วดังนี้ก็มีความ
ยินดียิ่งนัก คิดผูกใจสองพอลูกไวอีกชั้นหนึ่ง จึงยุดเอามือตันเตงเขามากุมไวแนนแลววา "การซึ่งคิดไวทั้งนี้เรา
ปลงใจไวแกทาน ทานจงคิดอานกระทําการใหสําเร็จจงได" ผูกตราสังมัดใจตันเตง แลวก็เดินออกมาสงตันเตง
จนถึงประตูจวน ตันเตงประทับใจโจโฉยิ่งนัก คํานับโจโฉอีกครั้งหนึ่งแลวลากลับไปเมืองชีจิ๋ว เขาไปรายงานให
ลิโปทราบ ลิโปเห็นตันเตงกลับมาก็ถามวาโจโฉวากลาวประการใดบาง ตันเตงยกเอาตราสําหรับเมืองกองเห
ลงและหมายรับสั่งสงให ลิโปแลววา โจโฉไดแตงตั้งใหขาพเจาเปนเจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว เพิ่ม
เบี้ยหวัดใหแกตันกุยผูบิดาและมอบรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง ลิโปเห็นดังนั้นก็โกรธจึงวาเราใชตัว
ไปทําการแตสิ่งหนึ่งก็มิไดการ แตตัวสองพอลูกกลับไดดิบไดดี แลววาแตกอนเรากับอวนสุดจะผูกดองกัน บิดา
ตัวมาหามไวแลวลวงเราใหเขากับโจโฉ ทําใหเราตองตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุด แตมิไดสิ่งใดตอบแทน
ตางกับตัวสองพอลูกไดทั้งวาสนาและยศฐาบรรดาศักดิ์ ตัวคิดคดตอเราเปนมั่นคง วาแลวก็ชักกระบี่จะฆา
ตันเตง ตันเตงตกใจแตแสรงหัวเราะแลววา ขาพเจายังกลาวไมสิ้นความ ไฉนทานจึงวูวามดั่งนี้ ลิโปสงสัยจึง
ถามวากระแสความอันใดยังไมสิ้น ตัวจงวามาใหแจง ตันเตงจึงลวงลิโปวา เมื่อไปหาโจโฉนั้นไดเสนอแกโจโฉ
วาตัวทานอุปมาดั่งเสือ การเลี้ยงเสือจะตองเลี้ยงใหอิ่มหนําสําราญอยาใหหิวเปนอันขาด เพราะหากเสือหิวขึ้น
แลวก็จักทําอันตรายตอคนเลี้ยง และจะเบียดเบียนจับเอาสัตวอื่นเปนอาหาร จึงขอใหโจโฉสนับสนุนทานใหอิ่ม
ดวยอํานาจและวาสนาทั้งปวง และลวงลิโปตอไปวาครั้นโจโฉไดฟงขาพเจาแลวกลับหัวเราะ แลวกลาววา
ขาพเจาสําคัญผิดเพราะตัวทานนั้นจะเปรียบกับเสือไมได เปรียบไดก็แตพญาอินทรี ที่มีสายตาอันคมกลาและมี
กําลังปกอันเขมแข็ง จองคอยจับกระตายเปนอาหาร ตราบใดที่ยังจับกระตายเปน อาหารไมไดก็จะจองคอย
จนกวาจะทําการสําเร็จ ครั้นจับกระตายเปนอาหารไดแลวก็จะโผผินบินไปในอากาศ
ดังนั้น หากเลี้ยงดูทานใหอิ่มแลวทานก็จะไมเต็มใจทําราชการ ดังนี้การเลี้ยงพญานกอินทรีจึงเลี้ยงใหอิ่มไมได
All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
ความตอนนี้สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ไดอุปมาเพื่อใหตองกับความเขาใจของคนไทยวา "ทุกวันนี้
หากทานยังขัดสนจึงออนนอมตอ ถาทานมีกําลังขึ้นแลวก็จะเอาใจออกหางโจโฉ อุปมาเหมือนเหยี่ยวซึ่งอยาก
อาหาร คอยแสวงหาลูกไกอันพลัดแม ไดทีแลวก็ฉาบลงเอา ถาเห็นยังมิไดทีก็คอยทําความเพียรคอยอยูกวา
จะไดลูกไก" ความอันตันเตงกลาวทั้งนี้หาใชความคิดหรือคํากลาวของโจโฉไม หากแตเปนเรื่องที่ตันเตงเสก
สรรปนแตงขึ้นวากลาวเอาเองเพื่อเอาตัวรอดจากความโกรธของลิโปที่กําลังถือกระบี่จองจะสังหารตัวเสีย แตก็
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่ 2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 83
ไดแลเห็นความรูและความคิดอานของตันเตงวาการใชคนนั้นจะตองจําแนกใหไดวา คนนั้นเปนเสือหรือเปน
พญานกอินทรี
หากเปนเสือก็ตองเลี้ยงใหอิ่มจึงจะไมทําอันตรายตอผูเลี้ยง และจะไดไมเบียดเบียนจับสัต
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02
Samkok02

Samkok02

  • 1.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เมื่อเสือไดลิ้มรสเลือด (ตอนที่ 51) ลิโปยกทหารออกจากเมืองหลวงมารบดวยลิฉุย กุยกี ตองกลยุทธวิธีแหงสงครามจรยุทธ หลอกลอใหรบ พัวพันอยูถึงสามวันสามคืน จึงทั้งออนลาเรี่ยวแรงลง ทั้งคิดถึงยอดหวานใจเตียวเสี้ยน ซึ่งกําลังอยูในชวงขาว ใหมปลามัน จิตใจสูรบจึงไมกลาแกรงเหมือนกับเมื่อครั้งรบดวยกองทัพปฏิวัติ ครั้นไดขาววากองทัพของเตียวเจ และหวนเตียว ยกเขาตีเมือง หลวงจึงคิดหวงใยการขางในพระนคร ซึ่งกลอง ดวงใจเตียวเสี้ยนอยูในที่นั้นดวย และเกรงวาเมืองหลวงจะไดรับอันตรายเพราะรูดีวาระบบและกําลังปองกันพระ นครไมไดเขมแข็งมั่นคง ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจตีฝาทหารของกุยกีที่ปดลอมอยูดานเชิงเขาเพื่อจะกลับไปชวย เมืองหลวง ทหารของลิฉุย กุยกี ไลตามตีลิโปอยางไมลดละ ครั้นลิโปจะหันเขามารบครั้งใดก็ถอยเสีย แตพอลิ โปหันกลับรุดไปเมืองเตียงอัน ทั้งลิฉุย กุยกี ก็ยกทหารเขาตามตีอีก ลิโปรบพลางถอยพลางอยูตลอดทาง ตองสูญเสียทหารไปเปนจํานวนมาก ครั้นมาใกลกําแพงพระนคร ทหารของลิโปเห็นทหารของเตียวเจและหวนเตียวเปนจํานวนมากลอมเมืองหลวง และกําลังโจมตีกําแพงพระนครก็เกิดความรักตัวกลัวตาย จึงพากันไปเขาสวามิภักดิ์กับทหารของเตียวเจและ หวนเตียวเปนจํานวนมาก ลิโปเห็นเชนนั้นก็หมดกําลังใจตอสูอาการที่ลูกนองทิ้งนายแบบลิโปนี้ ดานหนึ่ง เปนไปไดวาทหารของลิโปเหลานั้นเปนคนใชไมได ทอดทิ้งนายในยามยาก แตในอีกดานหนึ่งก็เปนไปไดดวย วาเกิดแตเหตุที่ลิโปเปนนายแตตําแหนงหนาที่ ไมมีน้ําใจตอลูกนอง ดวยคนนั้นมีใจ ครั้นใจไมมีน้ําใจหลอเลี้ยง ผูกพันไวตอกันแลว ยามใดมีโอกาสหรือยามใดเปนยามยาก ความสัมพันธของคนที่อาศัยแตเพียงตําแหนง และหนาที่จึงยอมขาดสะบั้นลงโดยงาย ลิโปเหลือทหารที่ยังคงจงรักภักดีเพียงไมกี่คนจึงเห็นเหลือกําลังที่จะทําการสูรบขับไลกองทัพที่ลอมพระนคร อยูนั้น จึงไดแตพาทหารที่เหลืออยูรวนเรโดยรอบพระนครอยูถึงสองสามวัน คิดไมตกวา จะแกไขสถานการณ ประการใด การณขางในพระนครนั้น ทหารรักษาพระนครยังคงตอสูปองกันเมืองหลวงเปนสามารถ ยิงเกาทัณฑ ทิ้งกอนศิลา และทรายคั่วจากเชิงเทินกําแพง เมืองใสทหารที่ลอมพระนครบาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก ขณะนั้นลูกนองเกาของตั๋งโตะสองคนคือลิบองและอองหอง ซึ่งเอาตัวรอดจากการตามลางบางพรรคพวกตั๋ง โตะของอองอุน โดยอาศัยวิชาจิ้งจกเปลี่ยนสี ทําทีเขาเปนพวกของอองอุน จึงยังคงรักษาตําแหนงขุนนางใน เมืองหลวงเอาไวได ครั้นไดทราบขาวสี่ทหาร เอกของตั๋งโตะเจานายเกายกกองทัพมาโจมตีเมืองหลวงก็มี ความยินดียิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตัวจะเปนใหญอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเห็นเปนโอกาส ที่จะแกแคนเอากับอองอุน ดังนั้นจึงระดมลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เคย กินอยูไดเสียในทางผลประโยชนกันมาแตกอนแลวกอการเปนไสศึก ขึ้นในเมือง ครั้นเห็นเปนทีที่ภายในเมืองหลวงกําลังชุลมุนสูรบกับกองทัพของสี่ทหารเอกอยูบนเชิงเทินพระนคร จึงพา พรรคพวกไลฆาฟนทหารฝายเมืองหลวงที่รักษาประตูเมืองอยูนั้น แลวเปดประตูเมืองทั้งสี่ดาน กองทัพของลิ ฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว จึงกรูกันเขาพระนคร ฆาฟนทหารที่รักษาเชิงเทินบาดเจ็บลมตายเปน อันมาก ทหารฝายเมืองหลวงที่เหลืออยูก็ยอมเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ลิโปเห็นเมืองหลวงแตกก็ตกใจ รีบตีฝาทหารของลิฉุย กุยกี เขา ไปในพระราชวัง ไปพบอองอุนที่ตึก บัญชาการแลววา บัดนี้เมืองหลวง ตกอยูในมือขาศึกแลว ใหรีบขึ้นมาตีฝาออกไปดวยกัน อองอุนบัดนี้เห็นทีคับ ขัน ครั้นจะหนีก็คงหนีไมรอดเพราะชราภาพ ทั้งไมตองการใหถูกตราหนาในภายหลังวาทอดทิ้งฮองเตใน ยาม วิกฤติจึงตัดสินใจรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณแลววากับลิโปวา "เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไมควร ถึงจะตายก็เอา ความชอบไวภายหนา ทานจะไปก็ไปเถิด แตชวยเอาเนื้อความทั้งนี้ไปแจงแกหัวเมืองทั้งปวงวา เราคํานับไป ดวย บัดนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองหลวงใหหัวเมืองทั้งปวงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดิน ยกกองทัพเขามาชวยกําจัดศัตรู ราชสมบัติเสีย" อองอุนในยามเขาตาจนจึงเพิ่งคิดถึงการทํานุบํารุงแผนดิน เพิ่งคิดขอใหหัวเมืองตางๆ ยกทัพ เขามากําจัดศัตรูแผนดิน ซึ่งถาหากไม ตั้งอยูในความประมาทคิดถึงเรื่องนี้และทําในเรื่องนี้เสียกอนก็จะไมตก อยูในสภาพอับจนเยี่ยงนี้ ถึงกระนั้นก็ยังคงคิดไวลายเสือเฒาใหลิโปชวยบอกกลาวบรรดาหัวเมืองตางๆ ถึง เกียรติคุณของตนที่ยอม ตายอยูกับฮองเตเพื่อจะไดมีชื่อเสียงปรากฏไวในประวัติศาสตร All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําอองอุนแลวยังพยายามชักชวนใหรีบหนีอีกหลายหน แตอองอุนก็ยืนหยัดเจตนาเดิม พอดีขณะนั้น ทหารของลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว ยกตามมาและเขาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน แตไมกลาบุกรุกผาน
  • 2.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 2 ประตูพระราชวังเขาไป เพราะสี่ทหารเอกและทหารเหลานั้นเดิมทีลวนเปนทหารอาชีพ เคารพตอกฎมณเฑียร บาล จึงยังคงเกรงพระบรมเดชานุภาพของฮองเต ตางคนตางก็อออยูแตภายนอกกําแพงพระราชวัง ลิโปเห็นสถานการณคับขัน ทั้งเพลิงก็ลุกไหมขึ้นภายนอกพระราชวังหลายแหง ครั้นจะเขาไปรับเอาเตียวเสี้ยน และครอบครัวออกมาก็ไมทันการ จึงรีบตีฝาออกจากประตูพระราชวังพา ทหารรอยเศษตีฝาหนีออกจากเมือง หลวงตรงไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง อองอุนครั้นลิโปไปแลวจึงเดินทางเขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงพระ ตําหนักที่ประทับ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ วาบัดนี้สี่ทหารเอกของตั๋งโตะยึดไดเมือง หลวงแลว และยกทหารมาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน ดังนั้นจึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จออกพระบัญชร สันติภาพ บนชั้นสองของพระที่นั่งเพื่อระงับการจลาจลตอไป พระเจาเหี้ยนเตจึงเสด็จออกพระบัญชรสันติภาพ ประทับบนระเบียงชั้นสองของพระตําหนักพรอมดวยขันที อาลักษณ และอองอุน แลวโปรดใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว เขาเฝา ณ พื้นเบื้องลางของพระบัญชร นั้น สี่ทหารเอกรับทราบพระราชกระแสแลวก็พากันมาเฝาอยูขางลาง กราบถวายบังคมแลว พระเจาเหี้ยนเตจึง รับสั่งถามวาพวกเจายกทหารมาลอมพระราชวังนี้มีประสงคสิ่งใด สี่ทหารเอกกราบบังคมทูลวาที่กระทําการดังนี้ จะคิดเปนกบฏตอ แผนดินนั้นหามิได เนื่องจากเบื้องกอนนี้ตั๋งโตะเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และอัครมหา เสนาบดี ไดทํานุบํารุงบานเมืองและราษฎรใหเปนสุข แตอองอุนคบคิดกับลิโปสังหารตั๋งโตะเสีย แลวยึด อํานาจไวเสียเองโดยไมชอบดวยกฎหมาย พวกขาพระพุทธเจาปรารถนาจะสรางความ ถูกตองขึ้นในบานเมือง ธํารงบทกฎหมายใหศักดิ์สิทธิ์ เปนหลักและขื่อแปของบานเมืองเพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป ดังนั้น จึงขอพระราชทานเอาตัวอองอุนมาประหารเสียในฐานะเปนกบฏตอแผนดิน เสร็จการแลว ขาพระพุทธเจาทั้งปวงก็จะ กลับคืนสูที่ตั้งตามเดิม อองอุนไดยินดังนั้นจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาเปน ขุนนางรับราชการในพระราชวงศฮั่นดวยความสัตยสุจริตติดตอกันถึง สี่แผนดิน เห็นตั๋งโตะเปนทรราชคิดแยง ชิงราชสมบัติ เบียดเบียนบาน เมืองและราษฎร ขาพระพุทธเจาจึงคิดกําจัดภัยแผนดินเสีย บัดนี้มีความวุนวาย ขึ้นในพระราชวังอันเนื่องมาแตความตองการตัวขาพระพุทธเจา ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงพรอมพลีชีวิตถวาย เปนราชพลี เพื่อใหเหตุการณวุนวายไดสงบลง และขอกราบถวายบังคมลา ณ บัดนี้ วาแลวอองอุนก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสองลงมาที่พื้นขางหนาสี่ทหารเอก ดวยความชราภาพและความสูง จึงทําใหอองอุนแขน ขาหักทรุดอยูกับที่ แตปากนั้นยังกลาอยูและรองขึ้นวา "ไอศัตรูราชสมบัติ กูอยูที่นี่แลว" สี่ทหารเอกอยากรูความถึงเหตุผลและผูคนที่เกี่ยวของในการสังหารตั๋งโตะ จึงถามอองอุนวาตั๋งโตะมีผิดสิ่งใด จึงคบคิดกับลิโปฆาเสีย และมีใครรวมเกี่ยวของดวยบาง อองอุนจึงวาฆาเสียเพราะตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ เปนทรราช ขมเหงและทํารายขุนนางแลราษฎร พวกเจาก็รูอยูแกใจ หามีใครรวมมือดวยกูไม สี่ทหารเอกจึงวา ตอไปวา ครั้นเราทั้งสี่คนมีหนังสือมาสวามิภักดิ์ขอทําราชการดวย เหตุใดตัวจึงจองอาฆาตพยาบาทคิดสังหาร พวกเราสี่คนเลา อองอุนจึงวาเพราะพวกเจาเปนพวกทรราช ขณะนั้นอองอุนบาดเจ็บไดความทรมานนัก จึงยั่วสี่ ทหารเอกวาพวกมึงเปนกบฏ กูอยูในเงื้อมมือพวกมึงแลว จะฆาก็เรงฆาเสียเถิด สี่ทหารเอกไดฟงก็โกรธ ทั้ง เห็นจะซักไซไลเลียงใหอองอุนเปด ปากวามีใครเปนพวกคบคิดสังหารตั๋งโตะไมเปนผลแลว จึงเอาดาบฟน อองอุนถึงแกความตาย แลวสั่งใหทหารไปจับเอาบุตร ภรรยา และญาติพี่นองอองอุนฆาเสียทั้งสิ้น หลังจากอองอุนกระโดดลงไปใหสี่ทหารเอกฆาแลว พระเจาเหี้ยนเตสลดพระทัยอาลัยนักจึงเสด็จเขา สี่ทหาร เอกกราบถวายบังคมลาแลวพากันไปปรึกษาที่ตึกบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร แตคงใหทหารลอม พระราชวังไวอางวาเปนการถวายการอารักขาฮองเต สี่ทหารเอกเมื่อมาถึงกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระ นครแลว ก็ใหทหารของตัวเขาประจําการ เปนทหารสังกัดกองกําลังรักษาพระนคร ทหารหนวยตางๆ ในพระ นครที่เขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากก็ใหทําหนาที่ในหนวยสังกัดเดิม สี่ทหารเอกนั้นแรกเริ่มคิดอานกันแตเพียง เพื่อเสี่ยงตายตอสูเอา ตัวรอดแลวกาวมาถึงขั้นคิดสังหารอองอุนเพื่อแกแคน ครั้นยึดพระนครไดแลวก็เริ่ม สัมผัสวาสถานการณทั้งปวงไดตกอยูภายใตอํานาจการควบคุมของกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งพวกตนเปน คณะผูบัญชาการแลวโดยไมไดคิดฝน มารูตัวอีกทีหนึ่งก็กลายเปนคณะรัฐประหารที่ยึดอํานาจรัฐจากอองอุนมา ไวในกํามือเสียแลว คนหนึ่งประมาทจนอํานาจรัฐหลุดจากมือแลวถูกสังหารอยางทารุณ แตอีกสี่คนเพียงแคเสี่ยงเอาตัวรอดกลับ บังเอิญไดอํานาจรัฐมาครอง ดูประหนึ่งวาฟานั้นไรกฎเกณฑ แตความจริงนี่คือกฎเกณฑ ของฟา เนื่องเพราะ กฎเกณฑของฟานั้นไมขึ้นตอการคํานวณทางคณิตศาสตร ไมขึ้นตอกฎเกณฑของตรรกะ และไมขึ้นตอ เจตจํานงของผูคน แตใครเลาจักเขาถึงกฎเกณฑของฟาได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 3.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 3 เมื่อรูตัววาไดครองอํานาจรัฐอยูในมือฉะนี้แลว ลิฉุย กุยกี จึงคิดกาวตอไปถึงขนาดคิดลมราชวงศฮั่น สังหาร ฮองเต ตั้งระบอบการ ปกครองโดยสภารัฐประหาร แตเตียวเจ และหวนเตียว คัดคานวาแผนดินมีธรรมเนียมการ ปกครองในระบอบกษัตริย ราชวงศฮั่นไดสถาปนามารวม 400 ปแลว หัวเมืองจํานวนมากยังคงจงรักภักดีตอ ราชวงศฮั่น เจาเมืองจํานวนมากก็เปนพวก "แซเลา" เชื้อสายของพระเจาฮั่นโกโจเลาปง ทั้งราษฎรก็เคยชินใน ระบอบกษัตริย หากลมฮองเตเสียแลวบรรดาหัวเมืองก็จะยกกองทัพเขามา ราษฎรก็จะกอการจลาจล พวกเราก็ จะคุมสถานการณไวไมได ดีรายอํานาจวาสนา ที่มีอยูในวันนี้ก็จะสูญสิ้นไป กระไรเลยควรคงราชวงศฮั่นและ พระเจาเหี้ยนเตไวดังเดิม แลวพวกเราครองอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะ บานเมืองก็จะเปนปกติสุขสืบไป ที่ประชุมสภารัฐประหารเห็นชอบดวยกับความคิดของเตียวเจ และหวนเตียว และตกลงกันตอไปวาตองรีบ สลายตัวสภารัฐประหาร แลวกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตโปรดเกลาฯ ใหดํารงตําแหนง ขุนนางตาม ระบอบการปกครองปกติ เพื่อสลายคราบเผด็จการออกไปแลวใชเสื้อคลุมของฮองเตคุมตัวใหไดครองอํานาจ เผด็จการไดโดย ชอบดวยกฎหมาย จากนั้นแลวจึงคอยคิดอานกําจัดศัตรูทางการเมือง อยางเปนขั้นตอน วาง ฐานอํานาจภายใตฮองเตใหมั่นคงยั่งยืน เมื่อปรึกษาพรอมกันแลวจึงพากันไปขอเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต พระ เจาเหี้ยนเตเสด็จขึ้นใหสี่ทหารเอกเขาเฝา แลวรับสั่งถามวาเดิมทีพวกเจายกกองทัพมาอางวาตองการตัว อองอุน บัดนี้อองอุนก็ตายแลว เหตุใดจึงยังไมยกทัพกลับไปอีกเลา สี่ทหารเอกบัดนี้ประดุจดั่งเสือรายที่เพิ่งได สัมผัสรสเลือดจึงยอมเปนวิสัยเสือที่ไหนเลยจะละวางเสียแตเพียงเทานี้ มีแตจะกระทําการตามอําเภอใจของ สัตวเดรัจฉานตอไปเทานั้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เปดตัวตนตํารับลวงโลก (ตอนที่ 52) สี่ทหารเอกฟงรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตแลวกราบบังคมทูลวา พวกขาพระพุทธเจาทําราชการมีความชอบมา แตกอน แตหามีผูใด กราบบังคมทูลเสนอความชอบใหไม บัดนี้พวกขาพระพุทธเจาประสงคจะเปนขุนนางรับ ราชการในเมืองหลวง จึงขอรับพระราชทานพระกรุณา พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลก็รูความนัย จึง รับสั่งถามตอไปวา พวกเจาตองการตําแหนงใดขอใหวามา สี่ทหารเอกฟงรับสั่งแลวคิดไมทันวาจะทูลขอรับ พระราชทานตําแหนงใดเพราะไมได เตรียมตัวมากอน ทั้งไมรูสายสนกลในในการบริหารราชการแผนดิน จึงไม สามารถกราบทูลตอไปได ตางคนตางอ้ําอึ้งอยูพักหนึ่งแลวลิฉุย กุยกี จึงกราบทูลวาขาพระพุทธเจาขอเวลา กลับไปปรึกษากันกอนแลว กราบถวายบังคมลา ลาภวาสนาอันไดมาโดยบังเอิญ และบังเอิญเสียจนไมรูวาจะเอา อยางไรกันดี คลายๆ กับยาจกตกเขาไปใน แหลงมหาสมบัติ ไมรูจะหยิบฉวยเอาสิ่งใด ไดแตหูพราตาลาย ไมตางกระไรกับคณะรัฐประหารบางคณะที่ยึด อํานาจแลวไมมีสติปญญาคิดอานวาจะทําการอยางใดสืบไป จนในที่สุดกลับยกเอาอํานาจนั้นใหคนอื่นเสียดื้อๆ แตลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวนั้น แมจะเปนทหารบานนอก แตยังคงความเฉลียวฉลาดกวาคณะ รัฐประหารบางคณะ จึงขอเวลาตั้งหลักคิดอานกันใหม ครั้นกราบถวายบังคมลากลับมายังกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนครแลว จึงปรึกษากันวาจะขอรับ พระราชทานตําแหนงใด แตในที่สุดก็ไมรูวาจะขอรับพระราชทานตําแหนงใดจึงจะครองอํานาจ รัฐไวได ตามปกติ ดังนั้นจึงใหไปเชิญเจากรมกําลังพลและนักวิชาการ มาปรึกษาวาตําแหนงใดที่ครองแลวจะมีผลเปน การครองอํานาจรัฐไดสืบไป เมื่อปรึกษาตกลงกันแลว จึงทําเปนหนังสือกราบบังคมทูลขอ รับพระราชทาน ตําแหนงใหลิฉุยเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน เปนผูบัญชาการกองทัพภาคกลาง และเปนผูบัญชาการกองกําลัง รักษาพระนคร กุยกีเปนผูบัญชาการทหารสวนหลัง และขุนนางผูใหญมี ตําแหนงเฝา เตียวเจเปนผูบัญชาการ ทหารฝายซาย และหวนเตียว เปนผูบัญชาการทหารฝายขวา พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรหนังสือกราบบังคมทูลแลว ทรงโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหสี่ทหารเอกดํารงตําแหนง ตามที่เสนอ นี่คือพระบรมราโชบายที่สอดคลองกับวิถีแหงฟา เปนไปตามหลักพิชัยสงครามที่ไมแตกหักเมื่อยัง แตกหักไมได เปนไปตามหลักสุดยอดกลยุทธหนึ่งในสามสิบหกประการ คือ "หนี" เมื่อยังเอาชนะไมไดนั่นเอง นับวาพระเจาเหี้ยนเตซึ่งเปนพระมหากษัตริย เมื่อสองพันปกอนทรงมีพระสติปญญายิ่งกวาพระมหากษัตริย พมาที่แข็งกราวแตกหักกับอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไมมีน้ํายาที่จะตอกรดวยกองทัพของอังกฤษ เปนเหตุใหพมาตองตก เปนเมืองขึ้นอังกฤษในที่สุด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 4.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 4 ครั้นไดรับพระมหากรุณาโปรดเกลาฯ ใหไดรับตําแหนงตามที่ทูล ขอแลว ลิฉุย กุยกี จึงถอนทหารที่ลอม พระราชวังยกออกมาตั้งที่กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร และใหเตียวเจ หวนเตียว คุม ทหารยกไป รักษาเมืองฮองหลง ซึ่งเปนเมืองหนาดานและเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการปองกันขาศึก เมื่อไดอํานาจรัฐแลวก็ลงมือเลนพรรคเลนพวกตามวิสัยของนักการเมือง เหตุนี้ลิฉุย กุยกี จึงแตงตั้งใหลิบอง และอองหอง ลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เปนพวกเดียวกันและเปนไสศึกเปดประตูเมือง รับกองทัพสี่ทหารเอกให เปนที่ขุนนาง สวนทหารที่มาดวยกันในกองทัพที่เปนตัวนายก็แตงตั้งเปนขุนนาง ระดับรอง ๆ ลงมาก็เลื่อน ยศ ตําแหนงใหทั่วถึงกัน นับวาลิฉุย กุยกี เปนนักการเมืองที่เอาพรรคเอาพวก เพียงขอใหเปนพวกเทานั้นยอม บําเหน็จรางวัลและผลประโยชนให ดังนั้นจึงมีนักวิชาการ บัณฑิต สื่อมวลชน และขุนนางขาราชการอื่น ๆ เขา มาเปนพวกดวยจํานวนมาก ครั้นใครมาเปนพวกแลวก็ใชอํานาจของตัวเขาปกปองประดุจแมไกที่ คอยกางปกปกปองลูกไกฉะนั้น เพราะ เหตุนี้พรรคพวกของลิฉุย กุยกีจึงมีจิตคิดกําเริบกลาทําชั่วชาไดทุกอยางทุกประการ โดยไมหวาดหวั่นยําเกรง กฎหมายบานเมือง เพราะถือดีวามีอํานาจรัฐปกปองคุมครองอยูทุกกรณี ไมวาจะผิดชั่วชาขนาดไหน ประการใด หลังจากใชอํานาจรัฐเกื้อกูลพวกพองแลวก็เผื่อแผถึงคนตายที่เปนนายเกาของตัว ลิฉุย กุยกี จึงสั่งใหตั้ง คณะกรรมการฟนฟูเกียรติยศของตั๋งโตะขึ้นคณะหนึ่ง ใหทําการคนหาซากศพของตั๋งโตะเพื่อทําพิธีศพใหมให สมเกียรติยศ แลวจะไดนําไปฝงตามธรรมเนียมตอไป คณะกรรมการชุดนี้คนหาไดแตเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะที่ถูกฝงอยูนอกพระนคร ดังนั้น จึงใหทําพิธีใหญ เอาเศษเนื้อ และกระดูกใสโลงอยางดีสําหรับศพพระบรมราชวงศ แลวใหเอาไมจันทนหอมแกะเปนรูปตั๋งโตะมี ขนาดเทาคนจริงเอามาตั้งในพิธีแลวเซนไหวอยางธรรมเนียม ลิฉุย กุยกี ตองการใหผูคนเห็นวาตั๋งโตะนั้นเปน รัฐบุรุษ มีคน เคารพรักอาลัยเปนอันมาก จึงเกณฑคนมารวมพิธีเซนไหวศพเปน เวลาสิบวันสิบคืน มีคนที่ถูก เกณฑมาเซนไหวศพในครั้งนี้ถึงสองลาน คน หากใครรองไหแบบสุดโศกเศราอาดูรก็จะมอบรางวัลให ดังนั้น จึงมีผูคนมารองไหตอหนาพิธีศพเปนจํานวนมากตลอด ระยะเวลาสิบวัน อาการรองไหนั้นสุดแสนจะโศกเศรา อาลัยรักเปนหนักหนา ยิ่งเสียกวาเปนศพบิดามารดาของตัวเสียอีก และกลายเปนธรรมเนียมรองไหหนาศพ ตอมาอีกนับพันป นี่แหละอานุภาพแหงอํานาจเงินตรา ซึ่งอยาวาแตชั้นรองไหเพียงเทานี้เลย ตอใหเปนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยก็อาจถูกคน ขายตัวขายไดอยางไมอาลัยไยดี เหลาขุนนางขาราชการเห็นบานเมืองเขาสูยุค "ตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม" จํานวนมากที่เคยรวมอยูในเหตุการณสังหารตั๋งโตะ หรือเคยรวมสาปแชงศพตั๋งโตะก็พา กันมาเซนไหวศพตั๋งโตะกันเปนการใหญ พระเจาเหี้ยนเตแมยังทรงพระเยาว แตทรงทราบสถานการณดี วาควร ตองวางพระองคอยางไร ดังนั้นจึงทรงพระราชทานของเซนไหว ศพตั๋งโตะอยางธรรมเนียมเชื้อพระวงศชั้น ผูใหญ ลิฉุย กุยกี เห็นเชนนี้ก็ดีใจยิ่งนัก ภาพที่สรางขึ้นเพื่อลวงโลกกลับมาหลอกตัวเองใหหลงไปวาตั๋งโตะ นั้นมีผูคนเคารพรักนับถือศรัทธาเปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงตองประพฤติปฏิบัติตามแบบอยาง ของตั๋งโตะ และ นํานโยบายตางๆ ของตั๋งโตะมาใชในการบริหารราชการแผนดินตอไป การบิดเบือนขอเท็จจริงเพื่อหลอกลวงชาวบานเชนนี้ถือเปนตนฉบับของการลวงโลก และเปนแบบอยางให นักการเมืองในยุคสองพันปตอมานําไปใช โดยไมคํานึงวาสิ่งที่บิดเบือนหลอกลวงนั้นจะสราง ความรูสึกที่เจ็บ แคนชิงชังแกอาณาประชาราษฎรอยางไร ในขณะที่น้ําทวมบานเรือนและทรัพยสินราษฎร และกระแสน้ํา พัด พาผูคนลมตายหายไปเปนจํานวนมาก แทนที่จะยอมรับวาเกิดอุทกภัย และบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือนหลอกลวง เสียวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการปองกันแกไขปญหาภัยแลงอยางไดผล ในบางป ภัยแลงคุกคาม ฝนฟาไมตก อากาศรอนและแลงจัด ดินแตกระแหง สัตวไมมีน้ํากิน พืชผลของเกษตรกร เสียหายทั่วประเทศ แทนที่จะยอมรับวาเกิดภัยแลงและบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือน หลอกลวงวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการแกไข ปญหาน้ําทวมอยางไดผล ครั้นสรางหนี้สินจนบานเมืองมี หนี้สินลนพนตัว ถึงขนาดที่ชาว นาทั้งประเทศตองขายขาวทั้งหมดที่ผลิตไดโดยไมตองเหลือไวกินก็ตองใช เวลาถึง สองรอยหาสิบปจึงจะชดใชหนี้ไดหมด แทนที่จะยอมรับความจริงแลวแกไขความผิดพลาดกลับหลอกลวง บิดเบือนดวยการออกคํานิยามวา "หนี้สาธารณะ" เสียใหม ตัดเอายอดหนี้จํานวนมากออกไปแลวบอกวาหนี้ สาธารณะมีจํานวนนอยนิดเทานั้น หลังจากออกมาตรการบีบบังคับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อ จะยึดมา เปนของรัฐแลวขายใหกับตางชาติซึ่งผิดพลาดมหันต สงผล ใหหนี้เนาเกิดขึ้นทวมทั้งระบบ แทนที่จะยอมรับ ความผิดพลาดกลับเอาหนี้เนาออกจากระบบไปกองไวหลังบาน คือไปใสไวในองคกร อีกองคกรหนึ่งแลว หลอกลวงบิดเบือนวาแกไขปญหาหนี้เนาไดสําเร็จแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 5.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 5 การหลอกลวงบิดเบือนถึงขนาดที่แมวาราษฎรไมมีเงินในกระเปา ไมมีจะกินและยากไร ซึ่งทุกผูคนสัมผัสความ จริงอยูกับตัว แตยังกลาหลอกลวงวาสามารถแกไขปญหาเศรษฐกิจถูกตอง ถูกทาง แลว ทุกคนมีรายไดมาก ขึ้นแลว มีเงินในกระเปาเพิ่มขึ้นแลว รายไดประชาชาติเพิ่มขึ้นแลว การโกหกหลอกลวงบิดเบือนของ นักการเมืองในยุคหลังดังกลาว นี้ นับไดวาไดพัฒนาวิชาลวงโลกของลิฉุย กุยกี จนกาวหนายิ่งกวาตนฉบับเดิม มากมายนัก ดังนั้นนักการเมืองลวงโลกเชนนี้จึงยอมถือไดวาเปนพวกลูกศิษย หลานศิษยของลิฉุย กุยกี ลูกนองผูซื่อสัตยของจอมทรราชตั๋งโตะ และตองนับวาเปนลูกศิษย หลานศิษยที่ยอด เยี่ยมยิ่งกวาคนรุน ปรมาจารยเทียบกันไมติด ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวตามธรรมเนียมแลว จึงใหเชิญศพตั๋งโตะไปทําพิธีฝง ณ สุสานวีรชน แตครั้นจะทําพิธีฝง พระแมธรณีกลับลงทัณฑ สวรรคกลับสาปสงบันดาลใหเกิดพายุพัดแรงกลา ฝน ตกหนักหาใหญ น้ําทวม แผนดินถึงสองศอก เกิดอสุนีบาตผาถูกโลงศพตั๋งโตะแตกกระจัดกระจาย เศษเนื้อและกระดูกกระจายไปสิ้น ลิ ฉุย กุยกี รออยูในพิธีฝงศพตั๋งโตะจนกระทั่งพายุสงบ ฝนสราง ฟากระจางแลว จึงใหทหารไปเก็บรวบรวมเศษ เนื้อ เศษกระดูกมาผสมกันแลวใสไวในโลงใหม กวาจะเสร็จก็ลวงยามเที่ยงคืน ครั้นจะเอาโลงศพนั้นลงฝงอีกก็ เกิดพายุจัด ฝนตก แลวฟาผาลงที่โลงนั้นซ้ําอีก โลงแตกกระจาย เศษเนื้อและกระดูกที่ปนเปนรูปตั๋งโตะก็แตก กระจายแหลกละเอียดสิ้น ลิฉุย กุยกี ยังไมละความพยายาม พอฝนสรางก็สั่งใหเก็บรวมรวมเศษเนื้อและกระดูก ของตั๋งโตะมาผสมเขากันอีกครั้งหนึ่ง แลวนํา ไปใสโลงใบใหมเพื่อเตรียมฝงจนถึงเวลาใกลจะสวาง แตครั้นจะ ฝงอีก ครั้งหนึ่งก็เกิดเหตุการณเชนเดิมคือเกิดลมพายุพัดจัด ฝนกระหน่ําจนน้ําทวมพื้นดินและเกิดฟาผาถูกโลง ที่ใสเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะนั้นแหลกละเอียดกระจายจนไมเปนชิ้นดี ไมสามารถจัดเก็บรวบรวมมาฝงได อีกตอไป ตั๋งโตะตายไปแลว ในตอนที่เปนศพก็ถูกทหารเอาไสตะเกียงเจาะใสทองจุดเปนตะเกียงจนซากศพถูกเผาไหม ดวยไฟแหงน้ํามือคน ครั้นเก็บเศษเนื้อและกระดูกมาทําพิธีฝงกลับถูกไฟแหงสวรรคบันดาลทําลายจนไม สามารถฝงไดตามธรรมเนียม นี่หาใชเนื่อง จากเหตุอื่นใดไม หากเนื่องเพราะผลกรรมที่ทําชั่วชาไวกับแผนดิน และราษฎรจนแมแตฟาก็ไมอาจใหอยูใต แมพระธรณีก็ไมอาจใหอยูบน แตกระนั้นพฤติกรรมลวงโลกของลิฉุย กุยกี ที่กระทําใหกับตั๋งโตะนั้นก็ยังพอนับวาเปนลูกนองที่ใชได เพราะไดแสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ เจานายตัวจนถึงที่สุด ความดีของลิฉุย กุยกี ถาหากจะยกขึ้นแสดงก็คงมีประการนี้ประการเดียวเทานั้น ครั้นฝงศพตั๋งโตะไมสําเร็จเพราะฟาดินไมยอมรับเปนที่คุมและรองรับคนแบบตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกี จึง จําเปนตองกลับเขาเมืองหลวง เริ่มกิจกรรมที่ชั่วชาทางการเมืองตอไปดวยการติดสินบนขันทีที่อยูใน พระ ตําหนักของฮองเตใหเปนสายลับคอยรายงานขาวความเคลื่อนไหวของพระเจาเหี้ยนเตใหทราบทุกประการ แต กระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยังคงเปนทหารที่ไมรูการแผนดิน จะสั่งการใดๆ ในการบริหารราชการแผนดินก็ฟนเฟอน วิปริตผันแปร แตยังดีที่รูสึกตัววาเปนการไมถูกตอง จึงใหหาจูฮีอดีตรองแมทัพใหญ ปราบโจรโพกผาเหลืองที่ ลาออกจากราชการเพราะไมสามารถจายเงินคาสวยสินบนแกสิบขันทีใหกลับเขารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ตั้งเปน ขุนนางผูใหญในตําแหนงที่ปรึกษาผูสําเร็จราชการแผนดิน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามขุนศึกภาคพายัพ (ตอนที่ 53) การสรางภาพลวงโลกที่ลิฉุย กุยกีไดจัดฉากสรางขึ้นในงานพิธี ศพของตั๋งโตะไดกลับมาหลอกลวงแลว ครอบงําความคิดของลิฉุย กุยกีวาพฤติกรรมและการกระทําแบบตั๋งโตะคือแบบอยางอันเปนที่ เคารพรักของ ราษฎร ดังนั้น รัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงสืบทอดเจตนารมณ นโยบาย และพฤติกรรม ตลอดจนการกระทําตางๆ ของตั๋งโตะเอามาใช แตหาไดสังวรและเฉลียวใจถึงเหตุการณในพิธีฝงศพของตั๋งโตะที่แมแตพระแมธรณียังไม ยอมรับเรือนราง และสวรรคก็ไมยอม รับใหอยูภายใตหลา วานั่นเปนผลจากความชั่วชาเลวทรามที่กระทําไวแต ประการใด เหตุนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีจึงเปนรัฐบาลทรราชยแบบเดียวกับ รัฐบาลของตั๋งโตะเกือบทุกประการ ยกเวนก็แต เพียงสองอยางเทานั้นคือ ไมตั้งตัวเปนบิดาบุญธรรมของฮองเตอยางหนึ่ง และไมถึงกับเอาคนเปนๆ มาทอดใน งานเลี้ยงโตะอีกอยางหนึ่ง เมื่อเปนเชนนี้บรรดาขุนนางขาราชการและราษฎรจึงไดรับความเดือดรอนเหมือนกับ ครั้งตั๋งโตะอีกครั้งหนึ่ง สงผลใหหัวเมืองบางเมืองมีความคิดที่จะลมลางรัฐบาล และในหมูประชาชนหลายพื้น ที่ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่จะลุกขึ้นสูอีกครั้งหนึ่ง เชื้อไฟขบวนการกูชาติของโจรโพกผาเหลืองจึงเริ่มปะทุขึ้นอีก ครั้งหนึ่งดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 6.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 6 ในดานขุนศึกนั้นมาเทง เจาเมืองเสเหลียงและคูเกลอคือหันซุย เจาเมืองเปงจิ๋ว ซึ่งเปนเจาเมืองครองดินแดน ภาคพายัพ ไดรับทราบ ขาวการกอกรรมทําเข็ญของรัฐบาลลิฉุย กุยกีแลว จึงปรึกษากันวาบัดนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนทรราชยเหมือนกับรัฐบาลของตั๋งโตะ จะปลอยไวอีกไมไดจําเปนตองกําจัดเสีย ดังนั้นจึงตองวางไสศึก ไวใน เมืองหลวงเพื่อจะไดกําจัดลิฉุย กุยกีไดโดยสะดวก สองเกลอปรึกษากันแลว จึงทําหนังสือลับถึง มหาดเล็กในพระเจาเหี้ยนเตสามคน ซึ่งสนิทสนมไววางใจกันมาแตกอนคือ มาฮู, ตงเซียง และเลาเฉีย ใหทํา การเปนไสศึกอยูในเมืองหลวง และใหนําความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบวา เจาเมืองทั้งสอง จะยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อลมรัฐบาลของลิฉุย กุยกีเสีย มหาดเล็กทั้งสามคนไดรับหนังสือลับของเจา เมืองทั้งสองแลว มีความเห็นพองตองกันที่จะตองรวมลมลางรัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงพา กันไปเฝาพระเจา เหี้ยนเตเปนการสวนพระองคถึงขางในพระตําหนัก ที่ประทับกราบบังคมทูลใหทรงทราบความตามที่สองเจา เมืองบอกมานั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความแลวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชหัตถเลขาไปยังสองเจาเมืองวาทรงขอบใจ ที่สองเจาเมืองเปนเดือดแคนดวย แผนดินและราษฎร หากทําการสําเร็จแลวจะโปรดใหเปนขุนนางผูใหญสาม มหาดเล็กรับพระราชทานพระราชหัตถเลขาแลว ก็นําไปมอบแกทหารเดินสารของมาเทง หันซุย เพื่อนําไป มอบแกสองเจาเมืองตอไป ครั้นมาเทง หันซุย ไดรับพระราชหัตถเลขาและทราบพระราชประสงคแลวมีความยินดียิ่งนัก จึงสั่งการใหเตรียม กองทัพจากทั้งสอง เมืองกําลังพลสิบสองหมื่นเคลื่อนทัพจากภาคพายัพสูเมืองหลวง เสนทางเดินทัพจาก เมืองเสเหลียงและเมืองเปงจิ๋ว ไปเมืองเตียงอันเปนระยะทางไกลกวาสามรอยกิโลเมตร เสนทางทุรกันดาร กลางวันรอนจัด กลางคืนหนาวจัด ดังนั้นแมกองทัพทั้งสองเมืองจะเปนกองทัพมาที่เกงกลาสามารถก็ตองหยุด พักเปนระยะๆ ครั้นเดินทัพมาถึงกลางทางหนวยลาดตระเวนของเมืองหลวงก็ไดรับขาวศึกจึงรีบสงใบบอก รายงานใหรัฐบาลทราบ ลิฉุย กุยกี จึงใหหาเตียวเจ และหวนเตียว ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของรัฐบาลพรอม ดวย กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญมาประชุมเพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม ขุนศึกภาคพายัพ และปรึกษาวาจะคิดอานวาง แผนการสงครามประการใด กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญของรัฐบาลไดเสนอความเห็นวาการศึกครั้งนี้ไมนาหนักใจแตประการใด แลวยก สถานการณของทั้งสองฝายขึ้นแสดงตอที่ประชุมวา ขาศึกเดินทัพมาแตทางไกล และไมมีหัวเมือง ราย ทางเขารวมดวย ดังนั้นยิ่งเดินทัพลึกเขามาทางเมืองหลวงมากเทาใด ไพรพลยอมยากลําบาก และออนลาลง มากขึ้นเทานั้น การลําเลียง เสบียงก็จะไมสามารถลําเลียงสนับสนุนไดทันตอความตองการ ยิ่งใกล เมืองหลวง เทาใดเสบียงอาหารก็จะลําเลียงไดนอยลงเทานั้น ในที่สุดก็จะคงเหลือเพียงเสบียงที่ติดตัวมาซึ่งใชในกอง ทัพไดไมนาน หลังจากแสดงสภาพการณของฝายขาศึกแลว กาเซี่ยงก็ไดแสดง สภาพการณของฝายเมืองหลวงวาฝายเมือง หลวงตั้งมั่นอยูในพระนคร มีกําแพงเชิงเทิน คายคู หอรบพรอมสรรพ ทหารก็พรอม เสบียงก็มาก กําลังของ เมืองหลวงในยามปะทะขาศึกจะมีความสดชื่นยิ่งกวาขาศึกที่ออนลาอิดโรย กาเซี่ยงจึงสรุปวาสถานการณ สงครามของทั้งสองฝายเปนดั่งนี้ ทําใหเวลายิ่งเนิ่นนานไปเพียงใดยอมเปนโทษแกขาศึกเพียงนั้น และเปนคุณ แกฝายเมืองหลวงเพียงนั้น วาแลวจึงถามที่ประชุมวาสภาพการศึกครั้งนี้เปนดั่งนี้ใชหรือไม ที่ประชุมยอมรับ สภาพการสงครามระหวางขาศึกกับฝายเมืองหลวงตามที่กาเซี่ยงไดกลาวมาทั้งนั้น ลิฉุยจึงใหกาเซี่ยงเสนอ แผนยุทธการตอไป กาเซี่ยงจึงวาเมื่อปจจัยพื้นฐานของสงครามระหวางขาศึกกับเรา เปนดั่งนี้แลว ปจจัยพื้นฐานเหลานั้นจึงกําหนด ยุทธการใหฝายเมืองหลวงเปนฝายตั้งรับ และรอคอยโอกาสโจมตี ทั้งกําหนดแผนการยุทธใหขาศึกยกลวง มาถึงชานกําแพงพระนคร ในที่สุดขาศึกก็จะหมด เสบียงแลวตองถอนทัพกลับไป ถึงเวลานั้นฝายเมืองหลวง จึงยกตาม ตียอมจะไดรับชัยชนะเปนมั่นคง ลิบองกับอองหอง สองขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหมเปนบําเหน็จ ความชอบที่เปดประตูเมืองรับทัพลิฉุย กุยกี ไมเห็นดวยกับแผนยุทธการของกาเซี่ยง และเสนอแผนยุทธการ ใหมใหฝายเมืองหลวงยกกองทัพไปโจมตีขาศึก มิใหยกลวงเขามาถึงพระนครได โดยอางวาจะกอใหเกิดความ ตระหนกตกใจแกราษฎร แลววาขาพเจาทั้งสองขอนําทหารเพียงหมื่นคนไปตัดเอาศีรษะมาเทง หันซุย มาให จงได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุย กุยกี เห็นชอบตามแผนการยุทธของสองขุนนาง แตกาเซี่ยง ทวงติงวาการยกทัพไปครั้งนี้จะเสียทีแก ขาศึกเปนมั่นคง เพราะเมื่อฝายเรายกทัพไปทางไกลก็จะสูญเสียความไดเปรียบที่มีอยูจากการตั้งรับและมี สภาพไมตางกับขาศึก แตเนื่องจากขาศึกมีกําลังพลมากกวาทั้งการยุทธจะเกิดขึ้นในพื้นราบรบกันดวยกําลัง ทหารมายอมมีสภาพเปนรองฝายกองทัพเมืองเสเหลียงที่มีความเชี่ยวชาญการรบบนหลังมา ฝายเมืองหลวงจึง
  • 7.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 7 เสียเปรียบในทุกทาง ลิบอง อองหอง ฟงคํากาเซี่ยงแลวไมพอใจจึงวาการยกไปครั้งนี้ถาหากไมไดหัวมาเทง หันซุย กลับมาก็ขอใหเอาหัวของขาพเจา สองคนแทน แตถาขาพเจาไดหัวของสองเจาเมืองมาแลวก็ให กาเซี่ยง มอบศีรษะแกขาพเจา กาเซี่ยงไมรับคําทาของสองขุนนาง ยังคงเสนอตอไปวาถาจะให ลิบอง ออง หอง ยกไปก็จะเสียทีแกขาศึกเปนแมนมั่น แตเพื่อไมใหเสียการขาพเจาขอเสนอใหทานแมทัพเตียวเจ และ หวนเตียว ยกทหาร อีกหมื่นหนึ่งไปตั้งมั่นไวที่เขาเจียวจิด ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกหางจาก เมืองหลวงไป ระยะทางสองพันหารอยเสน หรือประมาณหนึ่งรอยกิโลเมตร ณ เขาลูกนี้เปนชัยภูมิสําคัญ เพราะภูมิประเทศมี ทางเดินทัพเฉพาะตามซอกเขาเทานั้น ถึงขาศึกมีกําลังพลมากกวาก็ถูกสภาพ ภูมิประเทศบีบบังคับใหเสมือน นอย หากลิบอง อองหอง เสียทีมาฝายเมืองหลวงก็ยังคงสามารถยันทัพขาศึกไวได ณ ที่นี้ การสงคราม ครั้งนี้ เราก็จะไมเสียทีแกขาศึก ปรากฏวาคณะฝายทหารทั้งหมดในที่ประชุมไมเห็นดวยกับขอเสนอของกาเซี่ยง ดังนั้นลิฉุย จึงสั่งใหจัด กองทัพพลหมื่นหาพันคนใหลิบอง และอองหองยกไปรบดวยมาเทงและหันซุยตามแผนของสอง ขุนนาง ดังกลาว กาเซี่ยงที่ปรึกษาเห็นเชนนั้นก็มิไดวากลาวประการใด คงรําพึง แตในใจวา "แลวจะไดเห็นดีกัน" ลิ บอง อองหอง ยกกองทัพออกจากเมืองหลวง เดินทัพไปไดประมาณสองพันเสนก็เผชิญหนากับกองทัพภาค พายัพของมาเทงและหันซุย ดังนั้นทั้งสองฝายจึงตั้งคายลงในลักษณะประชิดกัน เตรียมการยุทธขั้นแตกหัก ตอไป ครั้นรุงขึ้นทหารของทั้งสองฝายจึงยกออกจากคาย ตั้งขบวนเรียงหนากระดานเขาหากัน เวนพื้นที่เปนลานรบไว ตรงกลาง แมทัพนายกอง ของทั้งสองฝายออกมายืนมาอยูหนาทหารของฝายตน เปนการเตรียม การทําศึก โดยอาศัยฝมือทหารเอก หลังจากเปดฉากดากันตามธรรมเนียมแลว กองทัพภาคพายัพจึงสงมาเฉียวผูเปนบุตร มาเทงและเปนทหารเอกออกรบ มาเฉียวนั้น สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "อายุสิบแปดป หนาดังสี หยก กิริยาวองไว" แตสามกกฉบับสมบูรณกลาววา เปน "หนุมนอยสีหนาดังหยกขาว ดวงตาดุจดาวตก รางดุจ พยัคฆ แขนคลายวานร ทองเหมือนเสือดาว เอวดั่งสุนัขจิ้งจอก" ซึ่งดูออกจะมีลักษณะพิกล จึงเอาเปนวามา เฉียวนั้นอายุสิบแปดป มีหนาขาวประดุจดังหยก ดวงตาคมวาว แข็งแรง แคลวคลองวองไว มาเฉียวรับคําสั่ง แลวก็ขับมาศึกมือถือทวนยาวออกมากลางลาน รบฝายอองหองเห็นมาเฉียวยังเปนเด็กนักคิดวาจะเอาชัยได โดยงายจึงชักมาออกมากลางลานรบ ทั้งสองฝายขับมาประอาวุธกันเพียง หาเพลง มาเฉียวก็เอาทวนแทงออง หองตกมาตาย แลวชักมาหันหลังจะกลับเขามาในแถวทหารของเมืองเสเหลียง ฝายลิบองเห็นออง หองตายก็ โกรธ ขับมาถืองาวไลตามมาขางหลังมาเฉียว แตมาเฉียวทําเปนไมเห็น ฝายมาเทงผูบิดาเปนหวงมาเฉียวจึง รองตะโกนใหระวังวาขาศึกกําลังไลตามมาขางหลัง พอดีลิบองขับมาเขามาใกลไดจังหวะงาวจึงเงื้องาวขึ้นจะ ฟนมาเฉียวมาเฉียวสังเกตความเคลื่อนไหวของลิบองอยูทุกฝเทา ครั้นเห็น ลิบองเอางาวฟนลงมาก็เอี้ยวตัว หลบพรอมกับชักมาเขาประกบมาของ ลิบอง แลวกระโจนไปบนหลังมาของลิบองจับลิบองไดบนหลังมานั้น แลวเอามาสงแกมาเทงผูบิดา มาเทงเห็นไดทีจึงใหสัญญาณทหารบุกเขาโจมตีกองทัพของลิบอง อองหอง ซึ่งกําลังขวัญเสียเพราะสูญเสีย แมทัพไปทั้งหมด จึงแตกตื่น วิ่งหนีถูกทหารภาคพายัพฆาตายเปนจํานวนมาก และที่ถูกจับเปนก็ไมนอย กองทัพลิบอง อองหอง จึงแตกพายไป มาเทงและหันซุยไดรับชัยชนะในศึกยกแรกแลว จึงเคลื่อนทัพ ภาค พายัพเดินทางเขาเมืองหลวง แลวตั้งคายประชิดกําแพงพระนคร ครั้นตั้งคายเสร็จแลวจึงสั่งใหตัดศีรษะลิบอง และอองหองเสียบประจานไวที่หนาคาย ลิฉุย กุยกี ทราบขาวศึกวาลิบอง อองหอง เสียทีแกขาศึกและกองทัพ ภาคพายัพยกลวงมาประชิดกําแพงพระนคร จึงเรียกประชุมแมทัพนายกอง ณ กองบัญชาการกองกําลังรักษา พระนคร และสั่งให หากาเซี่ยงที่ปรึกษาเขารวมประชุมดวย ลิฉุย เปดประชุมแลวกลาววาเปนความผิดของเรา เองที่ไมฟงคํา กาเซี่ยง การณจึงเสียทีแกขาศึกถึงเพียงนี้ เราไดพิจารณาการณประมาณการศึก และแผน ยุทธการของกาเซี่ยงอีกครั้งหนึ่งแลวเห็นวา เปนแผนการที่จะเอาชนะขาศึกได ดังนั้นจากนี้ไปใหปฏิบัติตาม แผนของ กาเซี่ยง ทุกประการ แลวลิฉุยจึงมีคําสั่งใหทหารทุกหนวยตั้งมั่นรับศึกในพระนครใหระมัดระวังรักษาเชิงเทิน คายคู หอรบตางๆ ให มั่นคงทุกดาน สงครามกับขุนศึกภาคพายัพที่ดําเนินการมาถึงชั้นนี้ ไดใหขอพิสูจนที่ชัดเจนอยางหนึ่งวา ความผิดถูกนั้นหาไดขึ้นอยูกับเสียงขางมากแตประการใดไม หากขึ้นอยูกับสติปญญาและขอมูลขาวสารที่ ถูกตองถองแทตางหาก แมจะเปนเสียงขางนอยแตถาหากมีสติปญญากําหนดแผนการขึ้นบนพื้นฐานของขอมูล ขาวสารที่ถูกตองแลว ยังดีเสีย กวาเสียงขางมากที่ไรสติปญญาและปราศจากขอมูลขาวสารที่ถูกตอง พระผูมี พระภาคเจาทรงตรัสวาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตยอมไม ถือวาเปนการประชุม ซึ่งหากจะกลาวโดยสํานวนของ กิมยงก็ตองกลาววาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตก็คือการผายลมนั่นเอง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 8.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 8 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม กลยุทธสงบสยบความเคลื่อนไหว (ตอนที่ 54) กองทัพจากแดนไกลตั้งคายประชิดกําแพงพระนครแลวยกทหารออกมาทารบกับฝายเมืองหลวงทุกวัน ตีกลอง ศึกมาลอ โหรองดาทอฝายเมืองหลวงสักเทาใด ฝายเมืองหลวงก็ไมยอมออกรบ มิหนําซ้ํายังยั่วเยาดวยการไป ตั้งโตะจัดเลี้ยงบนกําแพงพระนคร ดื่มกินกันเปนที่สนุกสนานบางวันในขณะที่กองทัพจากภาคพายัพตั้งมั่นอยู ในคายภายในเมืองหลวงก็จัดดนตรีมาเลน เสียงมโหรีดังสนั่นไดยินไปถึงคายของ มาเทงและหันซุย การตั้งมั่น ประกอบเขากับการเลี้ยงโตะบนกําแพงพระนครและการเลนดนตรีภายในพระนครไดสรางความโมโหโกรธา ใหกับฝายมาเทง หันซุยเปนยิ่งนัก แตจะรบก็รบไมได เพราะฝายเมืองหลวงไมยอมรบดวย ยังคงตั้งมั่นรักษา เชิงเทินคายคู หอรบไวอยางเหนียวแนน อาการเชนนี้ดูเหมือนวามิใชการรบ แตแทจริงนี่คือการรบเพราะการตั้ง มั่นในลักษณะนี้เปนยุทธานุภาพชนิดหนึ่งที่ฝายเมือง หลวงกําลังใชทําลายฝายมาเทง หันซุย ใหออนเปลี้ยลง ทุกวี่วัน เปน ผลที่เกิดขึ้นจากแผนการอันไดกําหนดไวเปนอยางดีแลว เปนแผน การที่มีผลคือชัยชนะโดยไม ตองรบ นี่คือการสะทอนถึงสภาพที่กุมชัยชนะอยางแนแทไวในมือ ในขณะที่อีกฝายหนึ่งกลับดิ้นรนเพื่อจะ เอาชนะ และนั่นคืออาการของฝายที่กําลังจะพายแพนั่นเอง ทั้งสองฝายทําการยุทธตอกันในลักษณะเชนนี้จนเวลาผานไปสองเดือน กองทัพจากแดนไกลก็ขาดเสบียงลง ทหารออนลาอิดโรย และเสียขวัญทั้งกองทัพ ในขณะนั้นขาวการเคลื่อนไหวของสามมหาดเล็กที่เปนไสศึกให กับมาเทง หันซุยไดทราบไปถึงหูของลิฉุยวาเหตุที่กองทัพยกมาประชิดเมืองหลวงก็เพราะมาฮู ตงเซียง และ เลาเฉียเปนไสศึก ลิฉุยทราบความก็โกรธ สั่งทหารใหจับตัวสามมหาดเล็กพรอมครอบครัวมาประหาร แลวตัด ศีรษะเสียบไวบนเชิงเทิน ฝายมาเทงและหันซุยทราบขาววาสามมหาดเล็กซึ่งรับทําการเปน ไสศึกในเมืองหลวงถูกประหารเสียแลวก็สิ้น หนทางที่จะทําการศึกตอไป เพราะการณขางในก็มืดมิรูขาวคราวของฝายเมืองหลวง การณขางนอก กองทัพ จากภาคพายัพก็ขาดเสบียง ดังนั้นมาเทงและหันซุยจึงปรึกษากัน และเห็นชอบรวมกันวาใหถอยทัพกลับภาค พายัพ โดยแยกขบวนออกเปนสองกอง คือมาเทงคุมกองทัพเมืองเสเหลียง และหันซุยคุม กองทัพเมืองเปงจิ๋ว แลวแยกกันถอยทัพเปนสองทางกลับเมืองแตละเมืองปรึกษากันเสร็จแลว ครั้นเวลายามสามกองทัพจากภาค พายัพ ทั้งสองกองก็ถอนทัพเคลื่อนออกจากเขตเมืองหลวงคืนสูภาคพายัพ รุงขึ้นลิฉุย กุยกีไดทราบวาขาศึกถอนทัพยกถอยกลับไปตามแผนการความคิดของกาเซี่ยง จึงสั่งใหเตียวเจ และหวนเตียวยกทหาร ไปคนละกองไลตามตีกองทัพจากภาคพายัพ โดยเตียวเจไลตามตีกองทัพของมาเทง และหวนเตียวไลตามตีกองทัพของหันซุย เตียวเจและหวนเตียวรับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากพระนครไล ตามตีกองทัพของมาเทงและหันซุยตามคําสั่งหวนเตียวยกทหารตามหันซุยมาถึงเขาตันฉอง หันซุยไดยินเสียง กองทหารไลตามมาเห็นธงประจําตัวแมทัพวาหวนเตียวคนบานเดียวกัน จึงชักมามาดานหลังทหารพบกับหวน เตียวแลวจึงกระทําคารวะตามธรรมเนียมแลววา เรายกมาทั้งนี้เพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติเสีย บัดนี้กองทัพของ เราขาดเสบียงจึงตองถอยทัพกลับ ขอใหทานเห็นแกไมตรีที่มีมาแตนอยปลอยเรากลับไปอยาใหตองกระทําศึก ตอกันใหเสียเลือดเนื้อทหารเลย หวนเตียวคารวะตอบหันซุยแลววาการครั้งนี้เปนเรื่องของแผนดินเปนการใหญ เราจะเห็นแกหนาคาตากันไมได ทานจงเตรียมใหพรอมเถิด เราจะเขาโจมตีทาน หันซุยจึงวา "เรายกมาทั้งนี้ก็เพราะหวังจะทํานุบํารุงแผนดินให อยูเย็นเปนสุข ถึงทานจะมิคิดถึงเรา ก็จงคิดถึงพระเจาเหี้ยนเตซึ่งครองราชสมบัตินั้นเถิด" หวนเตียวรูอยูกับอก วารัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนรัฐบาลทรราชย ขมเหงฮองเตกดขี่รังแกขุนนางราษฎร ครั้นไดยินความนี้ ความคิด กตัญูตอราชวงศฮั่นก็ประดังขึ้นในอกเห็นคลอยตามไปกับคําหันซุย มิไดกลาวตอบประการใด คงยืนมาเฉย อยูกับที่เปนทีปลอยใหหันซุย ยกทหารไปได หันซุยเห็นเชนนั้นจึงสั่งทหารใหเคลื่อนกองทัพรีบเดินทางกลับ เมืองเปงจิ๋ว ฝายหวนเตียวเมื่อเห็นกองทัพเมืองเปงจิ๋วยกกลับไปแลวก็ตั้งคายมั่นลง ณ ที่นั้นเพื่อติดตาม สถานการณวากองทัพภาคพายัพจะยกกลับไปจริงหรือวาจะยอนกลับมาใหม ฝายเตียวเจซึ่งยกกองทัพไลตาม ตีกองทัพเมืองเสเหลียงไปทันเขาจึงเขารบพุงกันเปนสามารถ มาเฉียวผูบุตรมาเทงไดเขารบดวยเตียวเจ แต เตียวเจสูกําลังมาเฉียวไมไดจึงถอยทหารกลับมาและมาสมทบดวยหวนเตียวตั้งคายมั่นรักษาการณอยูในที่นั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วากองทัพของเตียวเจยกไลตามตีกองทัพเมืองเสเหลียงแตไมทันกัน จึง ยกกลับมาตั้งอยูกับหวนเตียว ในขณะที่คอยติดตามสถานการณอยูนั้น หลานของลิฉุยซึ่งมาในกองทัพของ หวนเตียวไดรูเห็นเหตุการณที่หวนเตียวพบหันซุยแลว ปลอยใหหันซุยถอยทัพกลับไปโดยไมโจมตีตามคําสั่ง ของลิฉุย จึงรีบกลับเขาเมืองหลวงนําความไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธหวนเตียวที่ขัดคําสั่ง
  • 9.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 9 ทั้งเกรงวาในภายหนาหวนเตียวจะคบคิดกับมาเทง หันซุย ทรยศตอตัวเอง สิ้นความวางใจที่จะคบหาหวนเตียว อีกตอไป จึงเรียกกาเซี่ยงมาปรึกษาวาจะใหทหารไปจับตัวหวนเตียวมาฆาเสีย กาเซี่ยงจึงวาในขณะนี้บานเมือง ยังไมสงบสันติ หากทานสงทหารขึ้นไปจับตัวหวนเตียวเกรงวาจะเกิดศึกขึ้นภายในเพราะหวนเตียวนั้นใกลชิด สนิทสนมกับเตียวเจ และคุมทหารอยูนอกพระนคร หากรูวาทานจะเอาตัวมาฆาเสียคงจะไมยอมใหจับแตโดยดี แลวยอม คิดดิ้นรนตอสูจนเกิดเปนสงครามขึ้น ความสูญเสียก็จะติดตามมาโดยไมจําเปน ทั้งขาศึกก็อาจยกทัพ เขาเมืองหลวงซ้ําเติมเอาไดเราก็จะเสียทีไป ลิฉุยจึงปรึกษาวาทําอยางไรจึงจะกําจัดหวนเตียวไดโดยไมเกิดความเสียหายดังคําทาน กาเซี่ยงจึงวาขอให ทานมีหนังสือออกไปถึงเตียวเจและหวนเตียววาบัดนี้กองทัพมาเทง หันซุย ถอยกลับภาคพายัพแลว ไมจําตอง รอคอยฟงสถานการณตอไปใหรีบกลับเขาเมือง หลวงเพื่อรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ เมื่อเตียวเจ หวนเตียว กลับเขา มาแลวก็จะกําจัดเสียไดโดยงาย ลิฉุยเห็นดวยกับแผนการนี้ จึงใหทหารถือหนังสือไปบอกใหเตียวเจ และหวนเตียวใหยกกองทัพกลับเมืองหลวงตามคําของกาเซี่ยง สองแมทัพรับหนังสือของลิฉุยแลวมิไดคิด ระแวงสงสัยประการใด จึงยกกองทัพกลับเมืองหลวง แลวเตียวเจ หวนเตียวจึงไปรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่ กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ในขณะที่งานเลี้ยงฉลองชัยชนะดําเนินอยูนั้น ลิฉุยจึงเขาไปวากับหวน เตียววาเราใหทานยกกองทัพไปตามตีหันซุย แตตัวทานฝาฝน ไมทําตามคําสั่งเอาใจออกหางจากเรา จะคบ คิดดวยหันซุยทํารายเราหรือ หวนเตียวไดยินคําลิฉุยก็ตกใจ ยังไมทันไดตอบประการใด ทหาร ก็กรูเขามาจับ เอาตัวหวนเตียวออกไปจากงานเลี้ยงทามกลางความตกตะลึงของบรรดาขุนนางขาราชการ เพราะตางคนตาง ไมรูความนัยมากอน ยังไมทันหายตกตะลึงทหารก็นําศีรษะของหวนเตียวใสถาดเขามารายงานแกลิฉุย ยิ่งเพิ่ม ความตกใจกลัวแกผูคนในที่นั้น ฝายเตียวเจเห็นเหตุการณเชนนั้นก็ตกใจกลัวหมอบศีระษะลงกับโตะ ลิฉุยจึงเดินเขาไปหาเตียวเจประคองให ลุกขึ้นแลววาการที่หวนเตียวขัดคําสั่งทรยศตอเรา ปลอยหันซุยไปนั้น ทานมิไดเกี่ยว ของรูเห็นดวย อยากังวล ใจไปเลย เสร็จงานเลี้ยงแลว ลิฉุยไดออกคําสั่งใหโอนกองทหารในสังกัดของหวนเตียวใหไปขึ้นสังกัดกับเตียว เจทั้งสิ้นและใหเตียวเจยกออกไปรักษาเมืองฮองหลงดังแตกอน การตัดศีรษะคนเอาเขามาในงานเลี้ยงของลิฉุยครั้งนี้ ทําใหขุนนาง ขาราชการตางนึกถึงบรรยากาศเมื่อครั้งตั๋ง โตะยังมีชีวิตอยูวา บัดนี้บรรยากาศเหลานั้นกําลังหวนกลับมาปกครองเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง แลว ดังนั้นจึงตาง เกรงกลัวลิฉุย กุยกีเปนอันมาก กาเซี่ยงเห็นบรรยากาศการเมืองในเมืองหลวงที่ขุนนางขาราชการ ตางเกรง กลัว ลิฉุย กุยกีดังนี้จึงเสนอแผนการปกครองใหลิฉุย กุยกี พยายามเอาอกเอาใจขุนนางและราษฎร ในสวนขุน นางขาราชการก็ใหปรับยศตําแหนงและเลื่อนขั้นเงินเดือนให ในสวนราษฎรก็ลดสวยสาอากรและเอาใจใสทุกข สุขของราษฎรมากขึ้น พระคุณที่ตามมากับพระเดชดั่งนี้จึงทําใหขุนนางขาราชการและราษฎรยอมอยูในอํานาจ ของลิฉุย กุยกี ทั้งสิ้น การสังหารหวนเตียวในครั้งนี้นับเปนเรื่องที่ควรตั้งความสังเกตเพราะสี่ทหารเอกกลุมนี้มีความสนิทสนมกันมา ชานาน ตอสูความยากลําบากมาดวยกัน เสี่ยงเปนเสี่ยงตายมาดวยกันและรวมกันกระทํารัฐประหารดวยกัน ครั้น ไดอํานาจรัฐมาครองแลวเพียงแคหวนเตียวปลอยหันซุยไป เหตุใดจึงตองถึงกับสังหารกันเอง จะทําความ เขาใจกันไมไดหรือ หรือหากเห็นเปนความผิดฉกรรจ จะเอาโทษแตสถานเบา หรือจะเนรเทศใหไปอยูเมืองอื่น ไมไดหรือ จะวาลิฉุยสังหารหวนเตียวเสียเพื่อลดจํานวนหุนสวนแหงอํานาจใหเหลือนอยตัวลง แลวตัวเองจะมี อํานาจเพิ่มขึ้นก็ไมเห็นสม เพราะถึง แมหวนเตียวยังอยู ลิฉุยก็ยังคงมีอํานาจลนฟาอยูแลว ครั้นหวนเตียวตาย แลวก็เห็นไดวาลิฉุยมิไดเอาอํานาจของหวนเตียวมาไวกับตน หากมอบใหแกเตียวเจ ซึ่งรูอยูวาสนิทสนมกับ หวนเตียวมากกวา จึงแสดงวาลิฉุยนั้นมิไดมุงตอประการนี้ จะวาลิฉุยเปนคนหวาดระแวงไมวางใจคนก็ยอมไมใช เพราะถาหากเปนเชนนั้นไหนเลยจะคงอํานาจเตียวเจไว ดังเดิมมิหนําซ้ํายังเพิ่ม อํานาจทางทหารใหอีกเลา ความขอนี้มีความเปนไปไดวาอํานาจรัฐทําใหลิฉุยลืม ความหลัง ลืมความเปนเพื่อน ลืมน้ํามิตรที่รวมเสี่ยงตายมาแตกอน ตองการสําแดงอํานาจสิทธิขาดของตนให เปนที่ปรากฏวาลิฉุยแตผูเดียวเทานั้นที่ครองอํานาจสูงสุด คําสั่งคือประกาศิตที่มิอาจฝาฝนได ผูใดขัดคําสั่ง ยอมตองถือเปนความผิดและมีโทษประหาร ถึงแมจะเปนเพื่อนสนิทก็ไมละเวน นี่คือกลวิธีในการสรางอํานาจ และความเปนผูนําชนิดหนึ่ง ปมเงื่อนก็คือความตองการเปนใหญในแผนดินแตผูเดียว โดยตัดกุยกี เตียวเจ และหวนเตียวออกไปใหเหลือฐานะเปนเพียงผูชวยหรือลูกนองของตวเทานั้น โดยนัยนี้ยอมแสดงวาบัดนี้ลิฉุย ไดยึดอํานาจรัฐที่รวมกอการโดยสี่ทหารเอกเปนของตนแตผูเดียวแลว และเมื่อยึดอํานาจนั้นเปนของตนแตผู เดียวแลวก็จําเปนที่จะตอง สรางความศักดิ์สิทธิ์ของอํานาจ และสรางความยิ่งใหญของตนใหปรากฏ ความ ศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญนั้นคือรากฐานรองรับความ เปนผูนําสูงสุดของลิฉุยนั่นเอง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 10.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 10 การที่กุยกีมิไดทวงติงขัดขวาง ในขณะที่เตียวเจยอมรับปฏิบัติตามคําสั่งของ ลิฉุยคือปรากฏการณที่แสดงให เห็นวาทั้งสองคนนี้ไดยอมรับฐานะใหมที่เปลี่ยนแปลงฐานะเดิมจากหุนสวนทางการเมืองของลิฉุยมาเปน ลูกนอง ผูใตบังคับบัญชาของลิฉุยไปแลว หรือวานี่คือธรรมชาติของอํานาจที่ไมอาจถือไดโดยคนหลายคน หากตองถือไวแตคนเพียงคนเดียวเทานั้น และถาเปนเชนนั้นสิ่งที่เรียกวาระบอบประชาธิปไตยหรือการนํารวม หมูก็อาจมีฐานะที่แทจริง เพียงรูปแบบ หรือเปนเปลือกที่หอหุมตัวอํานาจที่แทจริงที่ยังคงถือและยึดกุมไวโดย คนเพียงคนเดียวเทานั้น สถานการณในวันนี้สี่ทหารเอกลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเดิมทีเปน หุนสวนแหงอํานาจทางการเมือง ไดลาง ผลาญกันเองจนเหลืออยูเพียง สามคนเทานั้น โดยคนหนึ่งคือลิฉุยเปนผูคุมอํานาจสูงสุดแตผูเดียว ในขณะที่ กุยกี และเตียวเจ ไดกลายเปนลูกนองผูใตบังคับบัญชาไปแลว ประวัติศาสตรแหงอํานาจตั้งแตอดีตจนถึง ปจจุบันลวนเปนเชนนี้ ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา "วโส อิสสริยัง โลเก" ซึ่งแปลวา "อํานาจเปนใหญ ในโลก" สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งที่สาม (ตอนที่ 55) กองทัพภาคพายัพของมาเทงและหันซุยถอยกลับไปแลว ทิ้งรอยราวภายในคณะสี่ทหารเอก ซึ่งบัดนี้คงเหลือ อยูเพียงสามคนไวขางหลัง แตความเคลื่อนไหวลุกขึ้นตอสูกูชาติของประชาชนกําลังจะเริ่มตนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จําเดิมแตการลุกขึ้นสูของประชาชนครั้งที่สอง ที่เมืองอวนเซียถูกปราบปรามในปลายรัชสมัยของพระเจาเลนเต แลว กองกําลังกูชาติของประชาชนก็แตกฉานซานเซ็นไปตามทิศตางๆ แตทวาเชื้อไฟปฏิวัติของประชาชนนั้น หาดับมอดสิ้นไปไม แกนนําของขบวนการกูชาติบางสวนที่แตกหนีหลบภัยในภาคตะวันออกไดปกหลักพักฟน ที่เมืองเซียงจิ๋วแหงหนึ่ง และอีกสวนหนึ่ง ไดหลบราชภัยไปปกหลักพักฟนในเขตเมืองปกไฮ และอีกบาง ทองที่ ครั้นเกิดการจลาจลขึ้นในเมืองหลวงและมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากโฮจิ๋นเปนรัฐบาลของตั๋งโตะ จากรัฐบาล ของตั๋งโตะเปนรัฐบาลของอองอุน จนกระทั่งถึงรัฐบาลของลิฉุย กุยกี ทุกๆ รัฐบาลตางมิไดเหลียวแลเอาใจใส ทุกขสุขของราษฎร บางรัฐบาลยังกดขี่ขมเหงรังแกประชาชนอยางโหดรายทารุณ จึงสรางความโกรธแคน ชิงชังในหมูประชาชนอยางกวางขวาง ขาราชการขุนนางในหัวเมืองไดถือโอกาสที่อํานาจรัฐสวนกลางออนแอ ขาดการกํากับตรวจสอบ ทําการกดขี่ขมเหงราษฎรมากขึ้น ดังนั้นจึงเปนธรรมดาที่ประชาชนตองลุกขึ้นตอสูเพื่อ ไปตายเอาดาบหนาดังที่วิสา คัญทัพ กวีของประชาชนไดรจนาไววา "เมื่อลุกขึ้นตอสูผูกดขี่ ประชาชนยอมมีชีวิตใหม เมื่อทองฟาสีทองผองอําไพ ประชาชนยอมเปนใหญในแผนดิน" ในสถานการณเชนนี้ขบวนการตอสูกูชาติของประชาชนที่มอดลง จากการถูกปราบปรามครั้งที่สองจึงเริ่มคุโชน ขึ้น แกนนําในพื้นที่ตางๆ จึงทําการจัดตั้งมวลชนขึ้นมาใหม เคลื่อนไหวความคิดทางการเมืองในหมูประชาชน กวางขวางยิ่งขึ้นทุกวัน ชี้ใหประชาชนไดเขาใจถึงตนเหตุของความยากจนขนแคนและความยากไรทั้งปวงวา ไมใชเกิดจากบาปกรรมในชาติปางกอน หากเกิดจากการถูกชนชั้นปกครอง เอาเปรียบขูดรีดดวยประการตางๆ ในชาตินี้ตางหาก มิหนําซ้ํายังสมคบกับตางชาติใหเขามาทําลายระบบเศรษฐกิจของประเทศจนยอยยับ บังคับราษฎรใหจําตอง ขายทรัพยสมบัติแกตางชาติในราคาถูก ทําตัวเปนสมุนของตางชาติ ยึดกิจการของราษฎรแลวบรรณาการแก ตางชาติในราคาต่ําเกือบจะเปนการยกใหเปลาๆ แมทรัพยสมบัติของชาติที่บรรพบุรุษไดสรางสมมานานเกือบ รอยป ก็แอบมุบมิบขายใหแกตางชาติ ออกกฎหมายและระเบียบตางๆ ใหสิทธิประโยชนแกตางชาติในการยึด ครองเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการถือครองที่ดิน ซึ่งบรรพบุรุษไดพลีเลือดเนื้อและชีวิต พิทักษรักษาไว อยางไมไยดี เพราะเหตุนี้ ประเทศจึงมีหนี้สินลนพนตัว ราษฎรถูกสูบเลือดสูบ เนื้ออยางเลือดเย็น ทั้งการกิน การอยู การ จับจายใชสอยก็ตองจายคาความคิดหรือลิขสิทธิ์ใหกับตางชาติจนแทบจะเหลือเพียงอากาศหาย ใจเทานั้นที่ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ราษฎรยังไมตองจายเงินซื้อหา ความยากจนของราษฎรและประเทศชาติจึงเกิดจากการขายชาติ เกิด
  • 11.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 11 จากการยอมตัวเปนขี้ขาของตางชาติแลวชวยกันปลนสะดมราษฎรและประเทศชาติของตนเอง ราษฎรสัมผัส ความจริงไดดวยตนเองเชนนี้แลว จึงพากันตอตานรัฐบาล และเขารวมกับขบวนการกูชาติมากขึ้นทุกวัน จน สามารถกอ ตั้งเขตจรยุทธ เขตที่มั่น และฐานที่มั่นขึ้นไดสําเร็จอยางเปนขั้นตอนตามหลักการพัฒนาของ สรรพสิ่งที่พัฒนา "จากไมมีสูมี จากเล็กสูใหญ และจากออนสูแข็ง" ทําใหฐานที่มั่นของกองกําลังอาวุธของ ประชาชนมีความมั่นคงและขยายตัวออกไปอยางกวางขวาง บรรดาชายฉกรรจในเขตเคลื่อนไหวไดอาสาเขารวมในกองกําลังอาวุธอยางตอเนื่อง จนกองกําลังติดอาวุธของ ประชาชนเพิ่มจํานวนขึ้นถึงสี่สิบหมื่น ในขณะที่เขตเคลื่อนไหวไดขยายตัวครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง มีราษฎร อยูในเขตเคลื่อนไหวถึงรอยหมื่น อํานาจรัฐของประชาชนไดกอตัวขึ้น เติบโตและเขมแข็งขึ้นโดยลําดับ ผลักดันใหเขตอํานาจรัฐของรัฐบาลถอยรนหดแคบลง จนคุกคามความปลอดภัยของบรรดาขุนนางขาราชการ ทั้งเมืองเชียงจิ๋วและเมืองปกไฮ ดังนั้นหัวเมืองเหลานี้จึงมีใบบอกเขาไปยังเมืองหลวงวาบัดนี้โจรโพก ผาเหลืองกอการกําเริบขึ้นอีกแลว ทําการปลนฆารังแกราษฎร ขอใหทางเมืองหลวงสงกองทัพมาชวย ปราบปราม ถาหากจะตําหนิคนแตงหนังสือสามกกวาเปนพวกเลาปตามทัศนะของหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช แลว การตําหนิเชนนั้นยังคงคลาดเคลื่อนจากความเปนจริง และถาจะใหถูกตองตรงกับขอเท็จจริงก็ตองตําหนิวาคน เขียนสามกกเปนพวกขุนนางตางหาก ในกรณีของพวกขุนนางดวยกัน แมหากจะทําชั่วชาสารเลว หรือทําตน ไรคาและความหมายใดๆ ก็ยังคงใหเกียรติยกยอง อยางนอย ก็ยังเอยอางชื่อเสียงเรียงนามไวในสามกก แต ครั้นถึงทีของประชาชน กลับยัดเยียดวาเปนโจร และไมยอมเอยอางชื่อเสียงเรียงนามทําใหผูอานสามกกในชั้น หลังไมรูจักชื่อเสียงของนักตอสูของประชาชนในครั้งกระโนน การลุกขึ้นสูของประชาชนในครั้งที่สามนี้ เฉพาะดานเมืองเชียงจิ๋วดานเดียว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ก็ยังระบุวา "โจรโพกผาเหลืองประมาณสามสิบ สี่สิบหมื่น" และ "บรรดาหญิงชายชาวเมืองที่โจรจับไว นั้นประมาณรอยหมื่น" กําลังพลสามสิบ สี่สิบหมื่น มีขนาดใหญกวากําลังพลของกองทัพไทย กองทัพกัมพูชา ลาว มาเลเซีย สิงคโปร และบรูไนรวม กัน เชนนี้แลวยังจะเรียกวาเปนโจร จึงออกจะเปนการบิดเบือนความจริง ที่ชัดเจนเกินไป สวนราษฎรที่วาโจรจับกุมไวถึงรอยหมื่นหรือหนึ่งลานคนนั้นยอมเปนไปไมไดที่คนนับลานคน จะถูกโจรจับ หรือหากวาจะจับกันจริงๆ แลว จะจับไวไดสักกี่วัน จะเลี้ยงดูทํามาหากินกันอยางไร นี่คือการ บิดเบือนที่ไรความยุติธรรม กรณีจึงเปนเรื่องที่ราษฎรเหลานั้นปฏิเสธอํานาจรัฐ และเขารวมกับกองกําลังติด อาวุธของประชาชน ในบรรดากระบวนการบิดเบือนทางการเมืองตองยกใหพวกถือ ลัทธิขุนนาง ศักดินาเปนเลิศในโลก ภาพลักษณ การตอสูกูชาติของประชาชนทุกหนแหงในโลกลวนถูกลัทธิขุนนางศักดินานี่เองที่ทํา การบิดเบือนจนกลายเปน ยักษมารการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยในปพุทธศักราช 2475 ถูกบิดเบือนวาเปน "การปฏิวัติ" คือการทําใหแยลง ทั้งๆ ที่เปน "การอภิวัฒน" คือการทําใหกาวหนาและดียิ่งขึ้น การตอสูกับเผด็จ การขาย ชาติในสมัยหนึ่งที่เรียกชื่อวา "พรรคคอมมิวนิสตแหงประเทศไทย" ก็ถูกเรียกวา "ผูกอการราย" แตการคายา เสพยติด และการขายชาติซึ่งมีเภทภัยรายแรงยิ่งกวากลับไมประณามหรือทํา ลายใหสิ้นซาก แมวาจะบิดเบือน ประการใด ความจริงก็ยอมปรากฏตัวใหคนรุนหลังรับรูจนไดเหมือนกับสามกกตอนนี้ก็ไดเห็นกันแลววา ที กองทัพภาคพายัพเพียงสิบสองหมื่นยกเขาตีเมืองหลวงก็เรียกวา "กองทัพ" เอยอางชื่อแมทัพคือมาเทง และหันซุย แตครั้นประชาชนลุกขึ้นสูและมิไดยกเขามาโจมตีเมืองหลวง มีกําลังพลมากกวากองทัพภาคพายัพ ถึงกวาสามเทากลับเรียกวาเปน "โจร" ลิฉุย กุยกี ไดทราบความจากใบบอกของหัวเมืองแลว จึงเรียก ประชุม ขุนนางขาราชการปรึกษาวา จะปราบปรามโจรโพกผาเหลือง นี้ไดอยางไร จูฮี อดีตรองแมทัพใหญปราบโจร โพกผาเหลืองในยุคแรกๆ ซึ่งบัดนี้เปนที่ปรึกษาของผูสําเร็จราชการแผนดิน และมีความรูประสบการณเกี่ยวกับ กรณีของโจรโพกผาเหลืองมากกวาใคร จึงไดเสนอวาการครั้งนี้ควรใหโจโฉเปนผูไปปราบ ลิฉุย กุยกี ไม รูจักโจโฉมากอนจึงถามวาโจโฉเปนใคร และขณะนี้อยูที่ไหน จูฮีจึงวา เดิมโจโฉเคยรวมกับพวกขาพเจาปราบ โจร โพกผาเหลืองในยุคสมัยของพระเจาเลนเต ตอมาโจโฉไดเขารวมกับอวนเสี้ยวกอตั้งกองทัพปฏิวัติยก มารบดวยตั๋งโตะ ครั้นกองทัพปฏิวัติสลายตัวแลว โจโฉจึงยกไปตั้งอยูที่เมืองเองจิ๋ว มีกําลังทหารอยูเปน จํานวนมากสามารถปราบโจรทางภาคตะวันออกไดสําเร็จ ทั้งจะเกิดผลดีทางการเมืองเพราะเทากับเปนการนิร โทษกรรมใหกับโจโฉ และจะทําใหโจโฉกลับมาอยูในอํานาจของเมืองหลวงตอไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุย กุยกี จึงปรึกษาตอไปวาจะทําอยางไรโจโฉจึงจะยอมยกกองทัพไปปราบโจรโพกผาเหลืองในครั้งนี้ เพราะบัดนี้ฐานะทางกฎหมายของโจโฉคือผูขบถตอทางราชการ จูฮีจึงแนะนําวาขอใหทาน มีหมายรับสั่งของ พระเจาเหี้ยนเตไปถึงโจโฉ ดังนี้แลว โจโฉก็คงจะยอมปฏิบัติตามเพราะโจโฉยังคงยอมรับนับถือพระราชวงศ ฮั่นอยู และเพื่อใหการปราบโจรครั้งนี้ราบคาบไปโดยเร็ว สมควรมีหมายรับ สั่งเปนสองฉบับคือถึงโจโฉฉบับ
  • 12.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 12 หนึ่ง และถึงเปาสิ้นเจาเมืองเจปกใหยกกองทัพไปชวยโจโฉอีกกองหนึ่ง ลิฉุย กุยกีเห็นดวยกับแผนการของจูฮี จึงใหทําหมายรับสั่งตาม คําของจูฮีทุกประการ โจโฉนั้นนับแตชูธง "ตงหงี" จัดตั้งกองทัพปฏิวัติขึ้นแลวกลายเปนกบฏตอแผนดินของรัฐบาลกลาง และจุดยืน ทางการเมืองนั้น โจโฉ ปฏิเสธไมยอมรับอํานาจของรัฐบาลกลาง แตยังคงยอมรับอํานาจของราชสํานักอยู ครั้นไดรับพระบรมราชโองการของพระเจาเหี้ยนเตก็มีความยินดี จึงสั่งใหจัดการเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตาม หมายรับสั่ง ในขณะเดียวกันนั้น เปาสิ้นเจาเมืองเจปกก็ไดรับหมายรับสั่งให ยกไปชวยโจโฉปราบโจรโพก ผาเหลือง ก็มีความยินดีเชนเดียวกัน เพราะเปาสิ้นก็มีฐานะเปนกบฏ เนื่องจากไดเขารวมในกองทัพปฏิวัติ การ ไดรับหมายรับสั่งก็คือการไดรับนิรโทษกรรมโดยอัตโนมัติ ประกอบทั้งเปนคนอยากดังและเปนเจาเมืองที่ซาส มากที่สุดตั้งแตครั้งที่เขารวม ในกองทัพปฏิวัติจึงรีบสั่งเตรียมกองทัพยกไปสมทบกับโจโฉที่เมืองเองจิ๋ว ครั้นโจโฉไดทราบวาเปาสิ้นยกกองทัพมาสมทบดวยก็มีความยินดี จึงสั่งใหเคลื่อนทัพจากเมืองเองจิ๋วยกไป เมืองเชียงจิ๋ว ครั้นเคลื่อนทัพมาถึงตําบลซิวสุน ซึ่งเปนเขตชายแดนเมืองเชียงจิ๋ว ก็เผชิญหนากับกองทัพหนา ของโจรโพกผาเหลือง เปาสิ้นจึงอาสายกเปนกองหนาเขารบ ในขณะที่กองหนาของเปาสิ้นเขาปะทะกับกองหนาของโจรโพกผาเหลืองนั้น โจรโพกผาเหลืองไดจัดกองทัพ อีกกองหนึ่งวกออมเขาตีตลบดานหลังของกองทัพเปาสิ้นอีกทางหนึ่ง ทั้งสองกองตีกระหนาบกองทัพหนาของ เปาสิ้นไวระหวางกลาง กองทัพของเปาสิ้นจึงเกิด การพะวงหนาพะวงหลัง และพากันแตกตื่นดวยคิดวาตองกล ของ โจรโพกผาเหลือง กองหนาของโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดานไดตีฝาเขามาถึงตัวของเปาสิ้น แลวเขา ลอมไว ฆาฟนทหารติดตามเปาสิ้นจนไมมีเหลือ แลวใชหอกแทงเปาสิ้นถึงแกความตาย ในขณะนั้นโจโฉซึ่งเปนกองทัพหลวงเห็นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองเขาตีกระหนาบกองทัพของเปาสิ้น จึง สั่งใหทหารเคลื่อนพลเขาโจมตีกระหนาบหลังกองทัพโจรโพกผาเหลืองกองที่วกมาทางดาน หลังของกองทัพ เปาสิ้นนั้น กองทัพโจรโพกผาเหลืองไมทันระวังตัวจึง พากันแตกพลาน ทหารของเปาสิ้นที่เหลือรอดอยูเห็น กองทัพโจโฉยกเขาตีประดาหนาเขามาก็ฮึดสูอีกครั้งหนึ่งจึงรวมตัวกันหันเขามาตีกระทบกระหนาบ กองทัพโจร โพกผาเหลือง ดังนั้นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองจึงตกอยูในสภาพถูกตีกระหนาบทั้งสองดาน ถูกสังหารลม ตายลงเปนอันมาก ทหารโจรที่เหลืออยู จึงพากันแตกหนีไปทางดานเมืองเจปก สวนกองหนาของโจรโพก ผาเหลืองที่ตีกระหนาบในขณะเผชิญ หนากับกองทัพของเปาสิ้นอยูทางขางหนานั้น เห็นกองทัพที่ยกตี กระหนาบแตกพายก็พากันแตกพายตามไปดวย แลวยกหนีไปทางดานเมืองเจปกเชนเดียวกัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม วิถีแหงการกอรางตั้งตัวของโจโฉ (ตอนที่ 56) โจโฉไดยกทหารไลตามตีโจรโพกผาเหลืองไปจนถึงชายแดนเมืองเจปก จับโจรโพกผาเหลืองและอาวุธ ยุทโธปกรณตางๆ ไดเปนจํานวนมาก พวกโจรบางสวนที่หลบหนีไปไดครั้นเห็นวาสิ้นทางที่จะหนีและไรหนทาง ไป จึงพากันกลับเขามา สวามิภักดิ์กับโจโฉ โจโฉไดรีบปรับปรุงกองทัพ จัดสังกัดใหโจรโพกผาเหลืองที่ยอมเขาสวามิภักดิ์ที่มีจํานวนถึงหาหมื่นใหเปน กองทัพหนา และจัดใหทหารที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหลวง แลวยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลือง ที่ยังคง ตั้งฐานที่มั่นอยูอีกหลายแหงในภาคตะวันออก โจโฉใชเวลาเกือบสามเดือนก็สามารถปราบปรามโจรโพก ผาเหลืองทางภาคตะวันออกไดอยางราบคาบ ไดเกลี้ยกลอมใหโจรโพกผาเหลืองจํานวนมากเขาสวามิภักดิ์ และรับเขาเปนทหารในกองทัพ สวนบรรดาราษฎรในเขตยึดครองของโจรโพกผาเหลืองนับลาน คนนั้น ถาชาย ฉกรรจคนใดยอมเขาสวามิภักดิ์และสมัครเขาเปนทหาร โจโฉก็จะรับเขาไวในกองทัพ สวนที่ตองการทํามาหา กินตามปกติก็อนุญาตใหทํามาหากินไดตามเดิม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เมื่อโจโฉไดทหารใหมจากโจรโพกผาเหลืองและบรรดาชายฉกรรจที่เต็มใจเขารับราชการทหารดวย จึงทําให กองทัพของโจโฉขยายตัวเติบใหญมีกําลังพลเพิ่มขึ้นรวมกับของเดิมแลวมีจํานวนถึง สามสิบหมื่น และได ปรับปรุงกองทัพใหมอีกครั้งหนึ่ง โดยกําลังพลที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหนึ่ง และกําลังพลใหมใหจัดตั้งเปนอีก กองทัพหนึ่งเรียกวา "กองทัพเมืองเชียงจิ๋ว" เพื่อเปนการเอาใจและผูกใจกลุมโจรโพกผาเหลืองที่เขา สวามิภักดิ์ใหมนั้น เสร็จจากการปราบโจรโพกผาเหลืองทางภาคตะวันออกแลว โจโฉจึงใหปลงทัพไวที่ ชายแดนเมืองเจปก และทํารายงานการศึกกราบ บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบ แลวสงเขาเมืองหลวง ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นไดรับรายงานการศึกจากโจโฉแลว จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตนําความขึ้นกราบบังคมทูลให ทรงทราบ พระเจาเหี้ยนเตทราบความศึกตามคํากราบบังคมทูลแลวจึงตรัสวา การศึกครั้งนี้โจโฉทําความชอบ
  • 13.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 13 มาก และโปรดเกลาฯ แตงตั้งให โจโฉเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ลิฉุย กุยกี ไมทันคิดและไมเฉลียวใจวา เหตุใดพระเจาเหี้ยนเต จึงมีพระบรมราชโองการตั้งโจโฉดวยพระองคเอง ซึ่งถาวาโดยปกตินับแตลิฉุย กุยกี ได ยึดอํานาจการปกครองมาจากอองอุนแลว จะเปนฝายที่เสนอแตงตั้งขาราชการและขุนนางตางๆ ไมมีสักครั้ง เดียว ที่พระเจาเหี้ยนเตจะแตงตั้งดวยพระองคเอง แตกระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยอมรับพระบรมราชโองการดังกลาว และทําเปนพระราชโองการแตงตั้งโจโฉตามรับสั่ง แลวสงพระบรมราชโองการนั้นแกโจโฉ โจโฉในวันนี้จึงนับวาพนจากขอหากบฏจากกรณีที่เขารวมกับกองทัพ ปฏิวัติและกลายเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ซึ่งมีกําลังทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น นับเปนการขยายฐาน กําลังอํานาจทาง ทหารครั้งสําคัญและครั้งใหญของโจโฉ กองทัพสามสิบหมื่นของโจโฉในวันนี้ยังมีแมทัพนาย กองระดับทหารเอกอยูถึงหกคนคือแฮหัวตุน, แฮหัวเอี๋ยน, โจหยิน, โจหอง, ลิเตียน และงักจิ้น ดังนั้นกองทัพ ของโจโฉจึงเปนกองทัพที่พรอมรบ ทั้งโดยวิธีตอสูกันดวยฝมือทหารเอก หรือดวยกําลังทหาร ยังคงขาดอยูก็ แตเพียงนักยุทธศาสตรที่สามารถวางแผนการยุทธในเชิง กลอุบายหรือเชิงกลพยุหะ และการใชพลังจักรวาล และยังคงขาดอยูสําหรับดานการเมือง การปกครอง และการทูต ตัวโจโฉเองนั้นแมจะเชี่ยวชาญทางพิชัยสงคราม และมีประสบการณทางดานการบริหารการปกครองมากอน แตโจโฉก็รูดีวา ลําพังตัวคนเดียวนั้นยอมไมอาจทําการใหญไดสําเร็จ ซึ่งเปนธรรมดาของ "ปาใหญยอมไมอาจ มีแตไมใหญเพียงตนเดียว หากตองมีทั้งไมขนาดใหญ ไมขนาดกลาง ไมขนาดเล็ก ไมพื้นดิน และไมพันธุที่มี หัวอยูในดิน" ถึงกระนั้นหากจะเทียบกับซุนเซ็กและเลาปแลว ตองนับวาโจโฉ ไดกาวไปไกลกวากันมาก เพราะ ในขณะนี้เลาปยังคงเปนเพียงเจาเมือง เพงงวนกวน ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวา ขึ้นตอบังคับของเมืองปกเปงที่มี กองซุนจานเปนเจาเมือง มีกําลังพลอยูในมือเพียงไมกี่หมื่นคน และมีทหารเอกก็เพียงกวนอูและเตียวหุย เทานั้น ทั้งยังอยูหางจากอํานาจรัฐจนไกลโพน ฝายซุนเซ็กนั้นเลา แมวาไดสืบทอดอํานาจจากซุนเกี๋ยนผูบิดาขึ้น เปนที่เจาเมืองเตียงสาแลว และแมวาเมือง เตียงสาจะเปนศูนยกลางของแควนกังตั๋ง ดินแดนทางภาคใตของแมน้ําแยงซีมีหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา ใน สังกัดถึงแปดสิบเอ็ดหัวเมืองก็จริงอยู แตความสัมพันธระหวางหัวเมืองเหลานั้นก็ยังคงอยูในลักษณะที่เมือง เตียงสา เปนเพียงศูนยกลางในระบบราชการปกติของรัฐบาลกลางเทานั้น ไมไดมีอํานาจบังคับบัญชาหมือนกับ เมืองที่ขึ้นตอโดยตรง กําลังทหารของเมืองเตียงสาก็มีอยูไมกี่หมื่นคน สวนทหารเอกก็มีเพียงอุยกาย เทียเภา และฮันตง สามสหาย รวมรบของซุนเกี๋ยนเทานั้น แตซุนเซ็กมีขอไดเปรียบเลาปตรงที่ดินแดนภาคใตของแมน้ํา แยงซีมีความสงบ สันติ ราษฎรรักการทํามาคาขาย ซึ่งเปนรากฐานของการพัฒนา และเปนรากฐานของความเปนปกแผนในวัน ขางหนา ทั้งหัวเมืองตางๆ ในภาคใตไมไดมีความขัดแยงถึงขนาดจะตองทําสงครามแกกัน หากมีขอพิพาทกัน บางก็แกไขกันภายใตระบบราชการ หรือมิฉะนั้นก็แกไขกันเองโดยวิถีทางทํานองการคาขาย ผิดกันกับโจโฉซึ่ง อยูทางภาคตะวันออกฝงเหนือของแมน้ําแยงซี ดินแดนในภาคเหนือเปนดินแดนที่มีขุนศึกอยูเปนจํานวนมาก เชน มาเทง หันซุย อวนเสี้ยว อวนสุด หรือกองซุนจานเปนตน พวกขุนศึกในภาคเหนือลวนเปนผูใฝในอํานาจ ตางแกงแยงแขงขันชิงดีแยงอํานาจซึ่งกันและกัน มีขอพิพาทกันแตเพียงเล็กนอยก็ใชสงคราม เปนเครื่องมือ ตัดสิน แมยามสงบก็พยายามขยายเขตอํานาจทําสงครามแกกัน พฤติกรรมเชนนี้ยังคงสืบทอด ตลอดมาแมกระทั่งทุกวันนี้ ดังนั้น ระหวางโจโฉ เลาปและซุนเซ็กในวันนี้จึงเห็นไดชัดวาโจโฉไดสรางฐานอํานาจทางทหารที่เขมแข็งเติบ ใหญที่สุด ในขณะที่เลาปและซุนเซ็กยังคงมีกําลังทหารไมมากนัก แตเมื่อประมวลดาน ความเปนปกแผนของ ดินแดนที่เกี่ยวของแลวก็ตองนับวาซุนเซ็กมีความเหนือกวาเลาปอยูมาก แตทวาโจโฉนั้นมีความมักใหญใฝสูง คิดตั้งตัวเปนใหญตั้งแตยังเด็ก ครั้นสถานการณเปนใจใหเติบใหญขึ้นในภาคตะวันออก โจโฉจึงอาศัยโอกาสนี้ กอรางตั้งตัวเปนรูปรางที่ชัดเจนขึ้น ครั้นโจโฉไดรับพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งใหเปนแมทัพใหญ ภาคตะวันออกแลวก็มีความยินดียิ่งนัก ดวยเห็นวานี่คือโอกาสอันยิ่งใหญที่สวรรคไดประทานใหแลว จึงรีบ เคลื่อนกองทัพไปตั้งอยู ณ เมืองกุนจิ๋ว ซึ่งเปนเมืองยุทธศาสตรของดินแดนภาคตะวันออก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉเคยอยูเมืองหลวงมากอน มีความใกลชิดกับอํานาจรัฐ ไดรูเห็นการชวงชิงอํานาจรัฐ การใชอํานาจรัฐ และ การรักษาอํานาจรัฐ ตั้งแตครั้งยุครัฐบาลของโฮจิ๋นมาจนถึงตอนตนยุครัฐบาลของตั๋งโตะ ดังนั้นโจโฉจึงได เรียนรู ทั้งขอเดน ขอดอย ขอดี และขอเสียของรัฐบาลดังกลาววาปมเงื่อนของความสําเร็จหรือความลมเหลว อยูที่คน เนื่องเพราะการงานทั้งปวงกระทําโดยคน คนจึงเปนผูกอใหเกิด ทั้งความสําเร็จและความลมเหลว เปน ผูกอใหเกิดความสามัคคีสมานฉันท หรือความแตกสามัคคี และยังเปนผูกอใหเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นหรือ ความเคียดแคนชิงชัง โจโฉไดเรียนรูวาเหลานี้คือวิถีแหงการกอรางตั้งตัว ดังนั้นเมื่อโอกาสเปดใหแกการกอ
  • 14.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 14 รางตั้งตัวแลว โจโฉจึงมุงเนนในเรื่องของคนเปนสําคัญ มุงมั่นรักษาคนดีมีฝมือและกําลังพลที่มีอยูแตเดิมให แนนแฟนยิ่งขึ้น ควบคูไปกับการแสวงหาคนดีมีสติปญญาใหมๆ เขามารวมงาน แลวมอบหมายการงานที่ เหมาะสมแกแตละคนอยางชัดเจน โจโฉตั้งทัพที่เมืองกุนจิ๋วแลว ตระหนักดีวาปจจัยสําคัญแหงการตั้งตัวเปน ใหญนั้นยังคงขาดอยูคือคณะที่ปรึกษาที่เปนมันสมองใน กิจการดานตางๆ ดังนั้นกิจกรรมแรกสุดที่โจโฉให ความสําคัญและเรง รีบดําเนินการคือทุมเทความพยายามอยางเต็มที่ในการแสวงหาคนดีมีสติปญญามาเปนที่ ปรึกษา เพื่อหาสิ่งที่ยังขาดอยูใหเต็มบริบูรณ โจโฉจึงใหปาวประกาศรับสมัครคนดีมีสติปญญาในทุกๆ ดานเขา มารับราชการในกองทัพภาคตะวันออก กระแสขาวการรับคนดีมีสติปญญาของโจโฉในครั้งนี้ไดแพรขยายไปทั่ว ภาคตะวันออกและดินแดนใกลเคียง ฝายซุนฮก ซุนสิว สองอาหลานซึ่งรับราชการอยูกับอวนเสี้ยวแตไมเคยไดรับความสนใจใหความสําคัญหรือ เห็นคุณคา ดังนั้นจึงปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับอวนเสี้ยวตอไปก็ไรประโยชน จึงพากันไปสมัครเขากับโจ โฉ โจโฉไดสนทนาสัมภาษณแลวเห็นวาเปนคน มีสติปญญาวาจาหลักแหลมจึงรับไวในราชการ แตงตั้งใหเปน ที่ปรึกษา เมื่อซุนฮก เปนที่ปรึกษาแลว ไดเสนอโจโฉวามีชาวเมืองตงกุนคนหนึ่งชื่อ เทียหยก เปนคนมี สติปญญาความสามารถหลายสถาน ขอใหเชิญมาเปนที่ปรึกษา โจโฉไดยินชื่อเทียหยก จึงวาเราไดยิน กิตติศัพทคนผูนี้มานานนักหนาแลวแตไมรูจักตัว ดังนั้นโจโฉจึงใหทหารไปสืบเสาะหาตัวเทียหยกจนพบ แลว เชิญ มารับราชการดวย เทียหยกก็รับคําเชิญมารับราชการดวยโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉแตงตั้งใหเปนที่ปรึกษา เทียหยกรูดีวาตัวไดเขารับราชการดวยโจโฉเพราะการแนะนําของ ซุนฮก จึงเคารพนับถือซุนฮกเปนหัวหนา แลวเสนอแกซุนฮกวาคนบานเดียวกันกับซุนฮกผูหนึ่งชื่อกุยแกเปนคนหนุมแตมีสติปญญามากกวาใคร สมควร ที่จะเชิญมาทําราชการดวย ซุนฮกไดยินชื่อกุยแกก็ดีใจ ระลึกถึงกุยแกได จึงไปเสนอโจโฉใหเชิญกุยแกเปนที่ ปรึกษาอีก คนหนึ่ง โจโฉมีความยินดียิ่งนัก แลวใหเชิญกุยแกมาเปนที่ปรึกษาอีกคนหนึ่ง กุยแกมาเปนที่ปรึกษาแลวก็แนะนําโจโฉใหเชิญผูมีสติปญญาความสามารถอีกสี่คนคือ เลาหัว, บวนทง, ลิ เกียน และมอกายมาเปนที่ปรึกษา โจโฉก็เชิญทั้งสี่คนมาเปนที่ปรึกษาตามคําของกุยแก ในขณะนั้นหัวหนาโจร ชื่ออิกิ๋ม ไดยินกิตติศัพทการรับสมัครบุคลากรของโจโฉจึงพาพรรคพวกมาเขาดวยกับโจโฉ โจโฉไดแตงตั้ง ใหอิกิ๋มเปนทหารเอก แลวรับเอาพรรคพวกของอิกิ๋มเปนทหาร ชวงนั้นชาวเมืองตันลิวอีกคนหนึ่งชื่อเตียนอุย มี รูปรางใหญ กําลังกลาแข็ง เคยอยูกับเจาเมืองตันลิวมากอน แตเกิดวิวาทฆาทหาร เมืองตันลิวตายหลายคนจึง หนีไปอยูปา ไปพบเขากับเสือโครงก็ตีเสือโครงตาย แฮหัวตุนไปพบเขาจึงพามาทําราชการดวยโจโฉ โจโฉ เห็นบุคลิกเตียนอุยแลวเปนที่ประหลาดนักก็ใหแสดงฝมือใหชม เตียนอุยจึงขี่มาถือทวนประจําตัว เปนทวนคู หนักเลมละแปดสิบชั่ง รายรําเพลงทวนใหโจโฉดูอยางแคลวคลองวองไว โจโฉมีความ พอใจเปนอันมากจึงตั้ง ใหเปนทหารองครักษประจําตัว พอดีขณะนั้นเกิดพายุใหญพัดมาตองธงชัยประจํากองทัพที่ปกอยูหนาคายลม ลง ทหารเกือบสามสิบคนวิ่งเขาไปจะยกใหตั้งตรงแตหาเขยื้อนไม เตียนอุยเห็นดังนั้นจึงรีบเขาไปยกธงชัยนั้น ตั้งตรงไดดังเดิม โจโฉมีความพอใจเปนอันมากจึงมอบเสื้อเกราะอยางดีเปนรางวัลแกเตียนอุย ดังนั้น ในขณะนี้กองทัพของโจโฉจึงประกอบดวยบุคคลครบครันทั้งฝายบุนและฝายบู โดยฝายบุนนั้น ประกอบดวยคณะที่ปรึกษาครบแทบทุกดาน ถึงแปดคนคือ ซุนฮก, ซุนฮิว,เทียหยก, กุยแก, เลาหัว, บวนทง, ลิเกียน และมอกาย ในบรรดาทั้งแปดคนนี้ตองนับวากุยแก เปนผูมีสติปญญารอบรูการสงคราม การเมือง และ การปกครองมากที่สุด ในฝายบู โจโฉไดทหารเอกเพิ่มเติมอีกสองคนคืออิกิ๋มและเตียนอุย โดยเฉพาะเตียนอุย นั้นไดรับความไววางใจเชื่อถือจากโจโฉ มากถึงขนาดแตงตั้งใหเปนองครักษประจําตัวนี่คือวิถีการกอรางตั้งตัว ของโจโฉ ซึ่งบัดนี้พรอมแลวที่จะเปนหนึ่งในสามกก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แปรความแคนสวนตัวเปนการ มือง (ตอนที่ 57)เ โจโฉซองสุมกําลังทั้งฝายบุนและฝายบูอยูที่เมืองกุนจิ๋วเปนปกแผนแลวจึงพิจารณายุทธศาสตรใหญในการกาว เขาสูอํานาจรัฐรวมกับคณะที่ปรึกษา แลวเห็นวามีอยูสองแนวทาง คือ แนวทางแรก ยกกองทัพเขาโจมตีเมือง หลวง และแนวทางที่สอง คือการขยายฐานอํานาจในหัวเมืองตางๆ กอนแลวคอยยกกองทัพเขายึดเมืองหลวง แนวทางแรกนั้น มีบทเรียนตั้งแตยุคของโฮจิ๋นและตั๋งโตะแลววามีความเสี่ยงภัยสูงมากทุกขั้นตอน ในชั้นเขา โจมตีเมืองหลวงก็อาจ ถูกฝายเมืองหลวงสั่งใหหัวเมืองอื่นยกกองทัพมาตีกระหนาบ แมไดอํานาจรัฐแลวก็ยังมี ความเปนไปไดที่หัวเมืองตางๆ จะยกกองทัพเขามายึดอํานาจคืน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สวนแนวทางที่สองนั้นอาจเรียกไดวาเปนแนวทาง "ชนบทลอมเมือง" หากยึดหัวเมืองตางๆ ไวในอํานาจ ขยายกองทัพใหเติบโตเขมแข็งเสียกอนแลวยกไปยึดเมืองหลวงในภายหลังก็จะทําศึกเพียง ดานเดียวไมตอง
  • 15.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 15 หวงหนาพะวงหลัง ทั้งทําการไดสะดวกเพราะอํานาจ รัฐออนแอ ไมสามารถชวยเหลือหัวเมืองตางๆ ได ทั้งแต ละเมืองก็มี ทหารปองกันรักษาไมมากนัก ดังนั้น โจโฉจึงตกลงใจใชแผนยุทธศาสตร "ชนบทลอมเมือง" เปน ยุทธศาสตรหลักในการยึดอํานาจรัฐ และภายใตยุทธศาสตรนี้ได กําหนดวิธีการคอยๆ แผอํานาจยึดทีละเมือง อยางคอยเปนคอยไป ถือ ยุทธวิธี "กินขาวทีละคําจนหมดจาน" เพื่อไมใหเกิดความตื่นตระหนกแกหัวเมือง ตางๆ เมื่อกําหนดยุทธศาสตรและยุทธวิธีดั่งนี้แลว ขั้นตอไปก็คือการ สรางความชอบธรรมในการยึดหัวเมืองตางๆ ตอไป ในขณะที่รอคอยโอกาสสรางเงื่อนไขความชอบธรรมอยูนั้น โจโฉเห็นวาภายในเมืองกุนจิ๋วมีเสถียรภาพ เพียงพอแลว จึงรําลึกถึง บิดาตนที่หนีราชภัยไปอาศัยอยูเมืองตันลิว จึงสั่งใหทหารถือหนังสือไปหาโจโกผู บิดาที่เมืองตันลิว เพื่อรับเอาครอบครัวและญาติ พี่นองมาอยูดวยกันที่เมืองกุนจิ๋ว โจโกไดรับหนังสือของโจโฉ แลวยินดีในวาสนาของลูกชายยิ่งนัก จึงจัดแจงรวบรวมทรัพยสมบัติทั้งปวงแลวพาครอบครัวพรอมดวย โจเตก ผูนองและญาติที่สนิทรวมสองรอยกวาคนออกเดินทางจากเมืองตันลิวพรอมกับทหารของโจโฉที่มารับนั้น ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว หลังจากเขารวมกับกองทัพปฏิวัติแลว มีความประทับใจในสติปญญาของโจโฉเปน อันมาก ครั้นเลิกทัพกลับมาเมืองชีจิ๋วแลวก็ยังระลึกถึงโจโฉอยูเสมอคิดวาในยามบานเมืองเปนจลาจลเชนนี้ จําเปนที่จะตองมีผูที่ปรีชาสามารถมาเปนหลักใหแกหัวเมืองตางๆ ชวยทํานุบํารุงแผนดินและราษฎรใหเปนสุข คิดอยูในใจวาถาโอกาสอํานวยเมื่อใดก็จะชวนใหโจโฉเปนผูนําทําการใหญอีกตอไป ครั้นโตเกี๋ยมไดขาววาบัดนี้โจโฉใหทหารไปรับบิดาและครอบ ครัวจะไปอยูเมืองกุนจิ๋ว และกําลังเดินทางผาน มาทางเมืองชีจิ๋วก็มีความยินดี ประกอบทั้งตัวโตเกี๋ยมเองก็เปนคนใจคอกวางขวางเอื้ออารีตอคนทั้งปวงเห็น วาโจโก เดินทางไกลคงยากลําบากประการหนึ่ง และเห็นวาเปนบิดาและครอบครัวของคนที่ตัวนับถือผาน มาแลวจะทําเปนไมรูเห็นจะเปนการแลงน้ําใจเกินไปอีก ประการหนึ่ง ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงนําทหารออกจากประตู เมืองไปเชิญโจโกและญาติพี่นองในขบวนใหเขามาพักในเมืองชีจิ๋วเสียกอน แลวคอยเดินทางตอไป โจโกเห็น เจาเมืองออกมาคารวะและออกปากเชิญดวยตนเองก็เกรงใจและยินดีตามคําเชิญนั้น จึงพากันเขาเมืองชีจิ๋ว โต เกี๋ยมไดจัดใหโจโกและคณะพักที่ตึกรับรองแขกเมืองอยางสมเกียรติ แลวแตงโตะเลี้ยงโจโกและคณะเปน อยางดี คณะของโจโกพักอยูเมืองชีจิ๋วสองวันแลวจึงออกเดินทางตอไป โตเกี๋ยมคนใจอารีจึงใหเตียวคีนําทหารหารอย นายไปสงขบวนใหถึงเมืองกุนจิ๋ว ขบวนของโจโกเดินทางมาถึงวัดแฮหุย ซึ่งเปนวัดรางแหง หนึ่งเปนเวลาค่ํา ประจวบกับฝนตกหาใหญจึงใหพักขบวนคางคืนใน วัดรางแหงนี้โดยมีทหารของโตเกี๋ยมและทหารของโจโฉ เฝารักษาการณอยูภายนอกที่พัก เตียวคีทหารของโตเกี๋ยมซึ่งเปนผูนําทหารมาสงขบวนนั้นเคยเปนโจรโพก ผาเหลืองมาแตกอน ครั้นโจรโพกผาเหลืองถูกปราบปรามจึงหนีมาสมัครเปนทหารเมืองชีจิ๋วเห็นในขบวน ของโจโกมีทรัพยสินหลายเลมเกวียนก็เกิดความคิดโลภอยากไดทรัพยสมบัติเหลานั้น จึงปรึกษากับเพื่อน ทหารที่มาดวยกันเพื่อปลนเอาทรัพยสินนั้นเสีย พวกทหารเหลานั้นก็เห็นดวย โจโกและคณะเดินทางมาเหนื่อย เหน็ดทั้งวัน ทั้งวางใจวามีทหาร คอยรักษาความปลอดภัยจึงพากันหลับสนิท โดยไมไดคิดเลยวาทหาร เหลานั้น จะคิดทํารายตัว ดังนั้นในขณะที่ทุกคนกําลังหลับใหล เตียวคี จึงคุมทหารเมืองชีจิ๋วเขาไปสังหารโจ โกและครอบครัวจนตายสิ้นและปลนเอาทรัพยสินทั้งหมดหนีไปอยูปา ทหารของโจโฉที่มารับโจโกและญาติพี่นองเห็นทหารของเตียวคี ปลนฆาเจาทรัพยก็ตกใจกลัวจึงพากัน หลบหนีไปดวย ตัวนายนั้นหนีไปอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว แตทหารชั้นผูนอยไมมีหนทางไปและคิดถึง ครอบครัวจึงเดินทางกลับไปเมืองกุนจิ๋วรายงานเหตุ การณใหโจโฉทราบ โจโฉทราบเรื่องแลวก็รองไหรักบิดา และญาติเปนอันมาก สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "โจโฉครั้นแจงดังนั้นก็รองไหรักบิดาจนลมลงจากเกาอี้ ทหารทั้งปวง เขาอุมโจโฉขึ้นบนเกาอี้" อันความโศกเศราแตการที่บิดาและญาติๆ ถูกปลนฆาอยางทารุณ เชนนี้เปนวิสัยของ คนเราทุกตัวคน และโจโฉก็ยอมอยูในวิสัยเชนนี้ แตคนคิดการใหญและมีความเปนผูนําอยางโจโฉนั้นยอมรูดีวา ถึงจะเศราโศกเสียใจและรองไหจนน้ําตาเปนสายเลือดก็หาไดทําใหคนตายฟนคืนขึ้นมาไดไม กรณีมีเหตุผล ที่โจโฉจะโกรธโตเกี๋ยม เพราะคนซึ่งปลนฆาครอบครัวของตนคือทหารของโตเกี๋ยม เมื่อโกรธแลวก็มีเหตุผลที่ จะตองแกแคนเอากับโตเกี๋ยม นี่คือเหตุผลและความชอบธรรมที่จะยกกองทัพไปโจมตีเมืองชีจิ๋ว และนี่คือ โอกาสที่โจโฉรอคอยอยูมิใชหรือ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ดังนั้น โจโฉจึงจําตองสรางสถานการณขึ้นเพื่อใหผูใตบังคับบัญชาทั้งปวงมีความรูสึกเดือดแคนดวยจะไดมี น้ําใจสมานฉันทในการสงคราม ทําใหกําลังรบสามารถเปลงอานุภาพไดอยางเต็มที่ ซึ่งถือเปนยุทโธบายสําคัญ
  • 16.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 16 ตามพิชัยสงครามที่วา "ฝายนําและผูใตบังคับบัญชารวมจิตสมานฉันทเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน ผูนั้นชนะ" และนี่ คือหลักการวางแผนเบื้องตนในการทําสงคราม ซึ่งตําราพิชัยสงครามบัญญัติวา "เมื่อไดวางแผนการเหมาะสม และผูใตบังคับบัญชาเห็นชอบและเชื่อฟงดีแลว กาวตอไปก็คือการเสกสรางเหตุการณใหเกิดขึ้นเพื่อคอยเปน กําลังเสริมทางภายนอกอีกดานหนึ่ง อันวาเหตุการณอันจะปลุกเสกขึ้นนั้น เรามิพักตองถือหลักเกณฑตายตัว จงกระทําไปตามโดยนัยประโยชนของฝายเราก็แลวกัน" ดังนั้น การโศกเศราเสียใจรองไหของโจโฉจึงนาจะเปนความรูสึก ที่แทจริงตามวิสัยของปุถุชน แตการรองไห จนลมลงจากเกาอี้นั้น นาจะเปนการเสกสรางขึ้น เพื่อสรางความรูสึกเดือดแคนรวมขึ้นภายในกองทัพ และนี่ แสดงวาโจโฉในวันนี้ไดเรียนรูและสามารถใชความ รูดานพิชัยสงครามอยางกลมกลืนจนดูประหนึ่งเปนเรื่อง ธรรมดาเขาทํานอง "สูงสุดสูสามัญ" แลว ครั้นทหารพยุงโจโฉขึ้นบนเกาอี้แลว โจโฉจึงวาการณครั้งนี้เปน เพราะ โตเกี๋ยมทํากลอุบายปลนฆาบิดาและญาติๆ ของเรา หากเราไมลางแคนโตเกี๋ยมแลวยอมไดชื่อวาเปน บุตรอกตัญู ดังนั้นแมวาตัวเราจะเห็น แกความสงบสุขของบานเมืองแลราษฎร ครั้งนี้จําตองละความเห็นสวน ตัวนั้นเสีย เพื่อพิทักษคุณธรรม เราจําจะยกไปเหยียบเมืองชีจิ๋วเสียใหเรียบเปนหนากลองแลวจับตัวโตเกี๋ยมมาฆาเสียให จงได แลวโจโฉจึงถามความเห็นบรรดาแมทัพนายกองทั้งปวง ทั่วทั้งกองทัพ สนับสนุนความคิดเห็นของโจโฉ อยางทวมทนดวยใจเดือดแคนรวมกับนายตัว ดังนั้น โจโฉจึงสั่งใหซุนฮกและเทียหยกสองที่ปรึกษาคุมกําลัง ทหารสามหมื่นอยูรักษาเมืองกุนจิ๋วแลวโจโฉจึงเคลื่อนทัพจากเมืองกุนจิ๋วตรงไปเมืองชีจิ๋วของโตเกี๋ยม ครั้น ใกลเมืองชีจิ๋วแลวจึงใหตั้งคาย ลง และสั่งใหแฮหัวตุน อิกิ๋ม และเตียนอุย สามทหารเอกเปนกองหนายกทหาร ไปประชิดกําแพงเมืองชีจิ๋ว กําชับวาใหสังหารผูคนชาวเมืองชีจิ๋วเสียใหสิ้น สามทหารเอกจึงเคลื่อนกําลังเขาประชิดเมืองชีจิ๋ว และสังหารชาวเมืองที่อยูนอกกําแพงเมืองเสียสิ้น ไมละเวน แมกระทั่งลูกเด็กเล็กแดงและคนชรา ฝายเปยนเหยียง เจาเมืองกิวกั๋ง ซึ่งเปนหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และตัว เปยนเหยียงเองมีความชอบพอกับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงยกทหารหาพันจะมา ชวยเหลือโตเกี๋ยม ครั้นยกมาใกลเมืองชีจิ๋วจึงปะทะกับกองหนาของแฮหัวตุน ทหาร ของทั้งสองฝายได ตะลุมบอนกันอยางดุเดือด แฮหัวตุนฆาเปยนเหยียง ตายในที่รบ ทหารของเปยนเหยียงที่เหลือจึงแตกพายไป ฝายตันกง อดีตเจาเมืองจงพวน ซึ่งเคยศรัทธาในตัวโจโฉ ได ปลอยตัว โจโฉซึ่งถูกจองจําตามคําสั่งของรัฐบาลกลาง แลวทิ้งตําแหนงเจาเมืองหนีไปกับโจโฉ ตอมาเห็น วาโจโฉเปนคนเนรคุณ ไรคุณธรรม จึงหนีจากโจโฉไปนั้น ไดไปทําราชการอยูที่เมืองตองกุน ตันกงเปนเพื่อน กับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพจะไปโจมตีเมืองชีจิ๋วและสั่งใหสังหารชาวเมืองเสียทั้งสิ้น รูสึกเปน หวงใยโตเกี๋ยม ทั้งมีน้ําใจรักราษฎร จึงคิดวาเคยมีคุณกับโจโฉมาแตกอน จึงเดินทางมาพบโจโฉ อธิบายความ จริงใหทราบวา โตเกี๋ยมมิไดรูเห็น เปนใจในการปลนฆาบิดาและญาติพี่นองของโจโฉ เหตุเกิดจากทหาร ของ โตเกี๋ยมมีความโลภหักหลังโตเกี๋ยมแลวปลนฆาโจโกและคณะเสีย จึงขอใหโจโฉทบทวนความคิด และขอรอง ใหถอนทัพกลับเมืองกุนจิ๋ว โจโฉฟงคําตันกงแลว แมยังระลึกถึงคุณตันกงที่ชวยเหลือปลอยตัวออกจากการถูกจองจําและยังสูอุตสาหทิ้ง ตําแหนงเจาเมืองหนีตาม มาทําการดวย แตแผนการของตัวเองนั้นเปนการใหญ จะมัวคิดเห็นแกไมตรีสวนตัว เชนนี้ไมได โจโฉจึงไมยอมตามคําขอรองของตันกง และแสรงทําทีเปนโกรธตันกงหาวาละทิ้งกันในยามยาก แลวยังมาเขา ขางคนที่คบคิดกันสังหารบิดาตัวเองซ้ําอีก ตันกงมาขอรองโจโฉไมสมความคิด ก็รูสึกละอายใจ ที่ไมสามารถ ชวยเหลือโตเกี๋ยมผูเปนมิตร จึงไมกลาเขาเมืองชีจิ๋วไปพบหนากับโตเกี๋ยม ดังนั้นตันกงจึง เดินทางไปหาเจาเมืองตันลิว ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ครั้นไดขาวศึกและไดรับรายงานวาทหาร โจโฉสังหาร ชาวเมืองที่อาศัยทํามาหากินอยูนอกเมืองเปนอันมากก็มีความเสียใจ รองไหอาลัยรักราษฎรเหลานั้นและได เรียกประชุมขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว เพื่อรับมือกับกองทัพโจโฉ ผลการประชุมตกลงกันวาจําเปนที่จะตอง ชี้แจงขอเท็จจริงเพื่อทํา ความเขาใจกับโจโฉวาโตเกี๋ยมมิไดรูเห็นหรือคบคิดปลนฆาครอบ ครัวโจโฉเสียครั้ง หนึ่งกอน แลวคอยคิดอานการศึกตอไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นรุงขึ้นโตเกี๋ยมจึงยกทหารออกไป "เห็นทหารโจโฉนั้นตั้งอยูเปนมาก ดังคลื่นในทองมหาสมุทร" โจโฉเห็น โตเกี๋ยมยกทหารออกมาจึงชักมาออกไปหนาทหาร โตเกี๋ยมก็ชักมาออกมาหนาทหารอยางเดียวกัน คํานับโจ โฉแลวชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นทุกประการ โจโฉฟงคําโตเกี๋ยมแลวหาวาโตเกี๋ยมเปนคนเจาอุบาย คบคิดกับ ลูกนองใหปลนฆาบิดาและครอบครัว จึงสั่งใหทหารลอมจับโตเกี๋ยม เมื่อพูดจากันไมรูเรื่องดังนี้ จึงทั้งโจโฉ และโตเกี๋ยมตางชักมาเขามาขางหลังทหาร ทหารทั้งสองฝายจึงดาหนาเขาประจัญบานกัน บาดเจ็บ ลมตาย ลงเปนอันมาก พอดีฝนตกลงมาหาใหญ ทั้งสองฝายจึงถอยทัพกลับเขาเมืองและกลับเขาคายของตน
  • 17.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 17 สงครามระหวางเมืองกุนจิ๋วและเมืองชีจิ๋วครั้งนี้ นับเปนสงคราม ระหวางขุนศึกดวยกันเปนครั้งที่สามหลังจาก เกิดศึกเมืองกังตั๋งกับเมือง เกงจิ๋ว ระหวางซุนเกี๋ยนกับเลาเปยว และศึกเมืองกิจิ๋วกับเมืองปกเปง ระหวางอวน เสี้ยวกับกองซุนจาน โดยที่อํานาจรัฐสวนกลางมิไดเกี่ยว ของและไมสามารถบังคับบัญชาขุนศึกเหลานั้นไดนี่ คือสถานการณที่พัฒนาไปอีกขั้นใหญ แสดงใหเห็นถึงอํานาจรัฐสวนกลางไดออนตัวลง และตางเมืองตางตั้ง ตัวเปนอิสระ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามภาคตะวันออก (ตอนที่ 58) โตเกี๋ยมแมมีใจรักชาติและอาทรตอราษฎรแตเปนคนใจออนไมตางกับเจาเมืองพิษณุโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคิดการแตดาน เดียววาเมื่อผูปกครองตั้งอยูในธรรมแลวจะเอาบานเมืองใหรอดปลอดภัยได การปกครอง โดยธรรมเปนเรื่องภายใน แตการปองกันรักษาเมืองนั้นตองอาศัยกําลังทหารที่เขมแข็ง จะอาศัยธรรมเปนหลัก ไมได เพราะขาศึกที่มุงจะยึดเมืองนั้นใชกําลังอาวุธไมไดใชธรรม เหตุนี้เจาเมืองพิษณุโลกสมัยนั้น จึงเสียทั้ง เมือง เสียทั้งชีวิตใหแกพมา ประเทศสวิตเซอรแลนด แมเปนประเทศที่ใฝสันติ ถือสันติธรรม เปนหลักในการ บริหารบานเมือง แตในขณะเดียวกันกลับมีกองทัพที่ทันสมัยเขมแข็ง เหตุนี้จึงสามารถรักษาบานเมืองและ รักษาความเปน กลางไวไดตลอดทุกยุคทุกสมัย พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจา จึงทรงตักเตือนพสกนิกรของพระองควา "แมหวังตั้งสงบจงเตรียมรบให พรอมสรรพถึงศัตรูกลามาประจันก็อาจสูริปูสลาย" โตเกี๋ยมหลังจากยกออกไปเจรจากับโจโฉไมสําเร็จและเกิด ปะทะกันแลวกลับเขาเมืองก็เสียใจยิ่งนัก เรียกประชุมแมทัพนาย กองแลวแจงวาศึกครั้งนี้ เห็นทีจะสูโจโฉ ไมได หากจะตอสูตอไปก็จะพลอยพาใหราษฎรไดรับความเดือดรอน จึงขอใหแมทัพนายกองทั้งปวงมัดตัวเอง แลวนําไปมอบใหโจโฉในวันพรุงนี้ แลวขอชีวิตชาวเมืองไว บิตกขุนนางเมืองชีจิ๋วตําแหนงที่ปรึกษาจึงวาขึ้นใน ที่ประชุมนั้นวา ตัวทานมีน้ําใจโอบออมอารี ปกครองราษฎรโดยธรรม ดังนั้นราษฎร จึงมีน้ําใจรักทานเปนอัน มาก ยอมไมยินยอมใหทานตองเสียสละถึงเพียงนี้ อันเมืองชีจิ๋วนั้นกําแพงเมืองก็สูงใหญ เชิงเทินคายคูหอรบก็ มั่นคง ผูคนก็พรอมสรรพ ทหารทั้งปวงเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกันยอมสามารถปองกันรักษาเมืองเอาไวไดทาน อยาไดวิตกเลย แลวบิตกไดเสนอตอไปวาตัวทานกับขงหยง เจาเมืองปกไฮก็รักใครนับถือกันดังพี่นอง ขอให ทานมีหนังสือใหขงหยงยกกองทัพมาชวย อนึ่ง การที่โจโฉยกมาทั้งนี้เปนกองทัพใหญยอมทําใหเตงไก เจา เมืองเซียงจิ๋วคิดพรั่นใจ เพราะถาหากเมืองชีจิ๋วเสียแกโจโฉแลว เมืองเซียงจิ๋วก็จะตกอยูในอันตรายดวย การ ขับไลกองทัพโจโฉจึงเปน ประโยชนรวมกันของทั้งสองเมือง หากทานมีหนังสือไปใหเตงไกมารวมขับไลโจโฉ เห็นทีเตงไกจะยกกองทัพมาชวยเปนแน เมื่อกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาชวยเราแลว กองทัพโจ โฉก็จะตกอยูในระหวางกระหนาบของทั้งสามเมือง คงจะเสียทีเปนมั่นคง บิตกคนนี้เปนคนมีคุณธรรม น้ําใจเอื้อ อารีตอคนทั้วปวง วากันวาครั้งหนึ่งมีเทพธิดาซึ่งไดรับบัญชาจากสวรรคใหมาวางเพลิงเผาบานเรือนของบิตก ตามวิบากกรรมเกา แตเทพธิดาไดกิตติศัพทวาบิตก เปนคนใจซื่อมือสะอาด จึงแกลงลองใจขออาศัยเดินทาง รวมกับบิตก หลังจากรอนแรมคางคืนกันมาหลายวันบิตกก็ยังคงปฏิบัติตอเทพธิดาจําแลงดวยความเอื้ออาทร คงเสนคงวา มิไดคิดหรือกระทําการใดๆ ใหเปนที่ลวงเกิน เทพธิดาจึงสงสารแลวบอกความใหทราบ บิตก จึง สามารถขนยายทรัพยสินออกจากเรือนกอนที่จะถูกเพลิงไหม ครั้นบิตกเสนอความเห็นดั่งนั้นแลว โตเกี๋ยมและที่ประชุมเห็น พองดวยโตเกี๋ยมจึงทําหนังสือใหตันเตงถือไป ขอความชวยเหลือจาก เตงไก เจาเมือง เซียงจิ๋ว และใหบิตกถือไปขอความชวยเหลือจากขงหยง เจาเมือง ปกไฮ สองนักเดินสารออกจากเมืองชีจิ๋วแลว โตเกี๋ยมจึงสั่งทหารใหขึ้น รักษาเชิงเทินคายคูหอรบตั้งมั่นรับศึก อยูแตในเมือง ทหารโจโฉยกมา ทารบดวยเปนหลายครั้ง ฝายเมืองชีจิ๋วก็ยังคงคุมกําลังตั้งมั่นไมยอมออกรบ ฝายขงหยง เจาเมืองปกไฮ ไดรับหนังสือจากโตเกี๋ยมแลวปรึกษา กับบิตกวาเรากับโจโฉไมมีสิ่งใดผิดใจกันมา กอน ดังนั้นจะมีหนังสือไปถึงโจโฉชี้แจงความจริงแลวขอใหถอนทัพกลับไป โจโฉคงจะเกรง ใจเรา แตบิตก ทวงวาโตเกี๋ยมเคยออกไปพูดจาแลวแตไมไดผล หากทานจะมีหนังสือไปอีกครั้งหนึ่งโจโฉก็คงไมยอมเกรงวา จะเสียการไป ขงหยงฟงแลวเห็นดวยจึงวาถาเชนนั้นเราก็จะดําเนินการพรอมกันทั้งสองอยางคือ มีหนังสือไป ชี้แจงขอรองใหโจโฉถอนทัพ ในขณะเดียวกันก็จะยกกองทัพไปดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ในขณะที่กําลังปรึกษากันอยูนั้น ขุนนางเมืองปกไฮไดนําใบบอกจากนายดานเขามารายงานวา บัดนี้โจรโพก ผาเหลืองนําโดยกวนไฮไดยกกองทัพจํานวนหาหมื่นเขาโจมตีชายแดนเมืองปกไฮ ดังนั้นขงหยงจึงตองพัก การขางเมืองชีจิ๋วไวกอน แลวสั่งทหารใหเตรียมกองทัพยกไปปราบโจรโพกผาเหลือง กองทัพเมืองปกไฮ ประจันหนากับกองทัพโจรโพกผาเหลืองที่ชายแดนกวนไฮนายโจรจึงวากับขงหยงวา ยกมาครั้งนี้ไมประสงคจะ
  • 18.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 18 รุกราน เปนแตขาดเสบียง จึงขอเสบียงสักหมื่นถังแลวจะยกทัพไปทางอื่น ขงหยงไมยอมใหแลวสั่งทหารเอก ออกรบดวนกวนไฮ ตอ สูกันไดเพียงหาเพลง กวนไฮก็เอางาวฟนทหารเอกของขงหยงตกมาตาย ขงหยงจึงพา ทหารยกหนีเขาเมือง โจรโพกผาเหลืองเห็นไดทีจึง ยกกองทัพไปลอมเมืองปกไฮไว ขณะนั้นไทสูจู ชาวเมือง อุยกวน ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองปกไฮ และขงหยงเคยอุปการะครอบครัวของไทสูจูมาแตกอน ครั้นได ขาววาโจรโพกผาเหลืองยกมาลอมเมืองปกไฮ มารดาของไทสูจูจึงสั่งใหมาชวยขงหยง ไทสูจูขับมามาถึง กําแพงเมืองปกไฮ เห็นพวกโจรลอมอยูจึงตีฝา เขามาที่กําแพงเมืองเกิดอลหมานขึ้น ขงหยงทราบขาวจึงขึ้น ไปดูบนเชิงเทินเห็นไทสูจูมีฝมือเขมแข็ง ทหารโจรโพกผาเหลืองสูมิได ไทสูจู ขับมาไปทางไหน ทหารโจร โพกผาเหลืองก็แตกไปทางนั้น จนไทสูจูตีฝาเขามาถึงประตูเมือง รองเรียกใหเปดประตูแตทหารไมรูจักตัวเกรง วาจะเปนกลอุบายจึงไมยอมเปด ทหารโจรลอมเขามาอีก ไทสูจูจึงชักมากลับเขารบฆาฟนทหารโจรโพก ผาเหลืองถอยรนไป ขงหยงจึงสั่งใหเปดประตูเมืองรับไทสูจูเขามาพบ หลังจากคารวะไตถามกันตามธรรม เนียมแลว ขงหยงก็ระลึกความที่เคยอุปการะครอบครัวไทสูจูได ไทสูจูขอทหารพันหนึ่งจะยกออกไปขับไลโจร โพกผาเหลือง แตขงหยงเห็นวาฝายโจรโพกผาเหลืองมีจํานวนมากเกรงจะเสียทีจึงคิดขอใหเลาปเจาเมืองเพง งวนกวน ซึ่งเปนเชื้อพระวงศยกทหารเขามาชวยปองกันแผนดินของราชวงศฮั่น แตยังหาผูอาสานําหนังสือไป ถึงเลาปไมได ไทสูจูจึงขออาสาเดินสารครั้งนี้ ขงหยงก็ยินดี ครั้นเลาปไดรับหนังสือของขงหยงแลว เห็นเปนหนาที่ของเจาเมืองในแผนดินของราชวงศฮั่นที่ตองชวย ปองกันแผนดินไวจึง สั่งใหจัดกองทัพเมืองเพงงวนกวนจํานวนสามพันพรอมดวยกวนอู เตียวหุย ยกไปเมือง ปกไฮพรอมกับไทสูจู กองทัพโจรโพกผาเหลืองลอมเมืองชีจิ๋วอยู เห็นมีกองทัพยกมา จึงยกทหารเขาตี กองทัพเมืองเพงงวนกวน เลาปจึงสั่งใหทหารตั้งขบวนเรียงหนากระดานเตรียมรบกันดวยฝมือทหารเอกแลว เลาปจึงขับมาพรอมดวยกวนอู เตียวหุย และไทสูจูออกไปขางหนาขบวน กวนไฮนายโจรเห็นดังนั้นจึงขับมา ออกไปกลางลานรบ ไทสูจูกําลังจะชักมาออกไปแตเห็นกวนอูขับมาออกไปกอนจึงรั้งมาไว กวนอู เขารบดวย กวนไฮไดสามสิบเพลงก็เอางาวฟนกวนไฮตกมาตาย กองทัพเมืองเพงงวนกวนจึงยกเขาตีกองทัพโจรโพก ผาเหลือง ขณะนั้นขงหยงไดยินเสียงกลองศึกดังสนั่น จึงขึ้นไปดูบนเชิงเทินเห็นทัพเลาปกําลังเขารบกับ กองทัพโจรโพกผาเหลือง จึงยกทหารออกจาก เมืองตีกระหนาบกองทัพโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดาน ทหารโจรโพกผาเหลืองบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก พวกที่เหลืออยูทราบวาเลาปเปน เชื้อพระวงศก็เขามา สวามิภักดิ์ดวย ปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมของกวนไฮแลว ขงหยงจึงเลา เรื่องโจโฉยกมาตีเมืองชีจิ๋วใหเลาปฟง และ ขอใหเลาปยกไปชวยโตเกี๋ยม พรอมกับกองทัพเมืองปกไฮ เลาปจึงวามีทหารมานอยเกรงวาจะเสียที ขงหยง ขอรองอีกครั้งหนึ่งวาโตเกี๋ยมเปนคนสัตยซื่อตอแผนดิน เลาป ก็เปนเชื้อพระวงศ จะเพิกเฉยตอเรื่องนี้เปนการ ไมสมควร เลาปเห็นขงหยงเขาใจผิดคิดวาบิดพลิ้วจึงวาเตรียมทหารมานอยนัก ไมสามารถรับมือโจโฉได จะ กลับไปขอยืมทหารจากกองซุนจานแลวจะยกไปชวยโตเกี๋ยม ขอใหขงหยงยกไปชวยโตเกี๋ยมกอนแลวจะตาม ไปสมทบ และใหคํามั่นวาไมวาจะยืมทหารไดหรือไมก็จะตามไป ขงหยงจึงบอกใหบิตกกลับไปบอกแกโตเกี๋ยมวาจะยกกองทัพไปชวย สวนเลาปก็ลาขงหยงไปเมืองปกเปง สวนไทสูจูครั้นเสร็จการตามคําสั่งมารดาแลวก็เดินทางกลับไป เลาปยกทหารมาถึงเมืองปกเปงแลวขอยืม ทหารกับกองซุนจาน แตกองซุนจานหามเลาปวาไมไดมีความขัดแยงกับโจโฉ จะไปตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ นั้นไมเห็นประโยชนอันใด เลาปยืนยันวาเปนเชื้อพระวงศมีหนาที่ปองกันแผนดิน ทั้งรับคําขงหยงไวแลว จะละ คําสัตยเสียไมควร กองซุนจานทัดทานเลาปไมไดแตก็ขัดเลาปไมไดเชนเดียวกัน จึงใหยืมทหารมาแกเลาป จํานวนสองพัน เลาปเห็นไดทหาร นอยนักจึงขอตัวจูลงไปในกองทัพดวย กองซุนจานก็ตกลงอนุญาตใหตาม ขอเลาปไดทหารจากกองซุนจานแลว จึงจัดกองทัพใหจูลงคุมทหาร มาสองพันที่กองซุนจานใหยืมทําหนาที่ เปนกองหลัง สวนเลาป กวนอู เตียวหุย พรอมทหารจากเมืองเพงงวนกวนสามพันนั้นเปนกองหนายกออกจาก เมืองปกเปง ฝายโตเกี๋ยมหลังจากมีหนังสือไปขอใหขงหยงและเตงไกยกกองทัพมาชวยแลวก็ตั้งมั่นรับศึกในเมือง ครั้นบิต กกลับมาถึงก็เขา ไปรายงานใหโตเกี๋ยมทราบ หางกันไมนานตันเตงก็กลับมาจากเมืองเซียงจิ๋วรายงานวาเตง ไกตกลงจะยกกองทัพมาชวยโตเกี๋ยมจึงคอยคลายความวิตกลง หลังจากนั้นอีกสามวันทหารรักษาการณบน เชิงเทินไดมารายงาน แกโตเกี๋ยมวาบัดนี้มีกองทัพยกมาสองกองตั้งคายอยูดานหลังคายของ โจโฉ กองหนึ่งมี ธงประจํากองทัพระบุวาเปนเมืองปกไฮ และมีธงประจําตัวแมทัพชื่อขงหยง อีกกองทัพเปนกองทัพเมืองเซียง จิ๋ว มีเตงไก เปนแมทัพ ขงหยงทราบรายงานแลวจึงขึ้นไปดูบนเชิงเทิน เห็นกองทัพทั้งสองกองตั้งคายอยู ดานหลังคายของโจโฉตามรายงาน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 19.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 19 ดานโจโฉเห็นมีกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาตั้งคาย อยูทางดานหลังก็พะวักพะวง จะยกเขาตี เมืองชีจิ๋วก็ไมไดเกรงวากองทัพทางดานหลังจะเขาตีกระหนาบ จะยกไปตีกองทัพทางดานหลังก็เกรงวา กองทัพเมืองชีจิ๋วจะยกมาตีกระหนาบ จึงสั่งทหารใหแยก เปนสองกอง กองหนึ่งรับหนาเมืองชีจิ๋ว อีกกองหนึ่ง รับหนากองทัพทางดานหลังแลวคุมเชิงกันอยู ฝายเลาปครั้นเดินทัพมาถึงเมืองชีจิ๋ว เห็นกองทัพเมืองปกไฮ และกองทัพเมืองเซียงจิ๋วตั้งคายประชิดคายโจโฉอยูเปนสองกอง จึงหยุดทัพไวแลวเขาไปพบขงหยง ขงหยง จึงวากองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีทหารเปนอันมาก และโจโฉ ก็มีสติปญญาเชี่ยวชาญพิชัยสงคราม หากจะดวน เขาโจมตีเกรงจะเสียที เลาปจึงวาบัดนี้เรายังไมรูการศึกขางในเมืองชีจิ๋ว จําเปนที่จะตองใหกองทัพทั้ง ภายนอกและภายในถึงกันเสียกอน รูความศึกกระจางแลว คอยทําการตอไป ดังนั้นจะใหกวนอูกับจูลงคุมทหาร สี่พันอยูกับกองทัพของทาน ตัวขาพเจากับเตียวหุยจะคุมทหารหนึ่งพันตีฝาเขา ไปในเมืองปรึกษาการศึกกับ โตเกี๋ยมเสียชั้นหนึ่งกอน ขงหยงเห็นดวยกับความคิดของเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งกวนอู และจูลงใหคุมทหารสี่พันอยูกับขงหยง สวนตัว เลาปกับเตียวหุยและทหารหนึ่งพันจะตีฝาเขาไปในเมือง ระหวางที่ตีฝาเขาเมืองนั้นหากพลาดพลั้งประการใดก็ ใหกวนอู และจูลงตีหนุนเขาไปก็จะไมเสียทีแกขาศึก สั่งการแลวเลาป เตียวหุย กับทหารหนึ่งพันจึงเคลื่อน กําลังเตรียม ตีฝากองทัพโจโฉเขาไปในเมืองชีจิ๋ว สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม จิตใจมหาบุรุษ (ตอนที่ 59) โจโฉกรีธาทัพใหญหวังจะเหยียบเมืองชีจิ๋วใหราบเปนหนา กลอง แตสถานการณถึงวันนี้เรื่องที่คาดคิดวาจะ สําเร็จไดโดยงายทําทาวาจะกลับกลายจนเหยียบเทาลงที่เมืองชีจิ๋วไมสะดวกดายเสียแลว ขางในเมืองโต เกี๋ยมก็ไมยอมออกรบ ตั้งมั่นอยูแตในเมือง หากตองถึงกับโจมตีเมืองที่มีกําแพงเชิงเทินสูงใหญ คายคูหอรบ แข็งแรง ก็จะสูญเสียทหารมาก สวนขางนอกเมืองก็ยังมีกองทัพอีกสองเมืองมาตั้งมั่นอยูดานหลัง สถานการณ บังคับใหตองแยกกองทัพออกเปน สองกองรับศึกทั้งดานหนาและดานหลัง ดังนั้นสถานการณสงครามจึงเริ่มแปรเปลี่ยนใหกองทัพโจโฉตองตกอยูในสภาพถูกกระทํา ในขณะที่คุมเชิงกัน อยูนั้นโจโฉไดรับรายงานวาบัดนี้มีกองทัพยก มาอีกกองหนึ่งเปนกองทัพเมืองเพงงวนกวน ดูธงประจําทัพแลว ระบุวาเลาปเปนแมทัพโจโฉก็ยิ่งหัวเสีย ไมทันไรทหารก็เขามารายงาน อีกวาบัดนี้เลาปกําลังตีฝาทหารของเรา จะเขาเมืองชีจิ๋ว โจโฉจึงมีคําสั่งใหอิกิ๋มทหารเอกยกทหารออกไปสกัดไมใหเลาปเขาเมืองได อิกิ๋มรับคําสั่งแลวจึงยกทหารออกไปสกัดเลาปตามคําสั่ง พอเผชิญหนากันไมทันไดพูดพร่ําทําเพลง เตียวหุยก็ ขับมากรายทวนเขารบดวยอิกิ๋ม เลาปจึงขับทหารตีฝาเขาไป อิกิ๋มตอสูกับเตียวหุยไดสิบเพลงเห็นทาวาจะสู เตียวหุยไมไดจึงชักมาหนี เลาป เตียวหุย และทหารพันหนึ่งไดโจมตีทหารอิกิ๋มลมตายลง เปนอันมาก แลวตี ฝาเขาไปถึงประตูเมือง ขณะนั้นโตเกี๋ยมขึ้นไปดูการศึกบนเชิงเทินเห็นเลาป เตียวหุย ตีฝาทหารเขามาก็ใหเปด ประตูเมืองรับแลวแตงโตะเลี้ยงเลาปกับทหารทั้งนั้น โตเกี๋ยมไดพินิจพิเคราะหดูเลาปเห็นวามีสงาราศีสมกับ เปนเชื้อพระวงศ ก็มีใจศรัทธาจึงใชใหบิตกไปเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบ ถามโตเกี๋ยมวานี่เปนเรื่องราวใดกัน โตเกี๋ยมจึงวา "ทุกวันนี้พระเจาเหี้ยนเตไดครองพระราชสมบัติ พระชันษา นั้นยังเยาวอยู ขุนนางที่ มิไดมีน้ําใจสัตยซื่อนั้นมักทําจลาจลตางๆ แผนดินไดรับความเดือดรอนเนืองๆ มา ขาพเจาก็แกชราแลว จะคิดการทํานุบํารุงแผนดินตอไปนั้นก็ขัดสน ขาพเจาเห็นวาทานเปนเชื้อพระวงศแลวก็มี สติปญญาโอบออมอารี ควรที่จะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข ขาพเจาจึง เอาตราสําหรับที่มาให หวังจะเชิญให ทานเปนเจาเมืองชีจิ๋ว เพื่อจะไดคิดการกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป แลวขาพเจาจะแตงหนังสือขึ้น ไปใหกราบ ทูลพระเจาเหี้ยนเต" ขอเสนอของโตเกี๋ยมนี้หากเสนอใหกับคนทั่วไปแลว โตเกี๋ยมคงจะไมผิดหวัง เพราะเปน ขอเสนอที่ไมมีผูใดปฏิเสธ โดยเฉพาะโจโฉ อวนเสี้ยว ซุนเซ็ก หรือลิฉุย กุยกี หรือนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง คน เหลานั้นยอมรีบที่จะรับเอา โจโฉนั้นยอมยากลําบากยกกองทัพจํานวนมากมาเพื่อยึดเอาเมือ แตโตเกี๋ยม ไมยอมยกใหกลับคิดตอสู และถาหากโตเกี๋ยมคิดจะเซ็งลี้แลวยอมจะไดรับผลประโยชนมากมายมหาศาลยิ่ง กวาการขายธนาคารใหกับตางชาติ แตโตเกี๋ยมไมกระทํา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด จิตใจชนิดนี้คือจิตใจที่ตองการ "ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข" เปนน้ําใจแทที่เปยมดวยความรักและความเมตตา อาทรตอราษฎร ไมใชน้ําใจของนักการเมือง ไมวาระดับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในบางประเทศ ที่ปากพร่ํา แตคําวาเพื่อราษฎร แตกระทําตนเปนนักขายชาติ นักเผด็จการ หลอกลวงราษฎร และปลนสะดมราษฎรและ บานเมืองของตน บังอาจถึงขนาดตั้งนักคายาเสพยติดระดับโลก นักปลนชาติ และอาชญากรระดับชาติเปน
  • 20.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 20 รัฐมนตรีกลาหาญกระทั่งเบียดเบียน พระราชมรดก และพระราชทรัพยของฮองเต และพรอมที่จะทําความชั่วชา ทุกประการเพียงเพื่อใหไดอยูในอํานาจ นอกจากวัตถุประสงคเพื่อทํานุบํารุงราษฎรแลว โตเกี๋ยมยังมีวัตถุประสงคเปนขอที่สองคือ "คิดการกําจัดศัตรู ราชสมบัติตอไป" นี่คือจิตใจที่เดือดรอนดวยบานเมืองที่เกิดทุกขเข็ญเนื่องจากพวกทรราช ทรชนและพวก อิทธิพลมาเฟยตางๆ กระทําย่ํายีตอบานเมือง มิใชอางเพียงวารักชาติแตทําตัวเปนนายหนาในการขายชาติ แลวปาว ประกาศลัทธิธรรมรัฐ หรือธรรมาภิบาลขึ้น เพื่อสรางความมึนชาแกประชาชน โดยที่ตนเองก็ไมรูแมแต ความหมายของคําวา "ธรรม" หรือบางก็เที่ยวสรรสรางแตถอยคําสวยหรูซึ่งไรความหมายและคุณคาทาง ความ เปนจริงเพื่อจะไดอวดอางวาตัวเองเปนราษฎรอาวุโสอะไรเทือกนั้น คนแบบโตเกี๋ยมจึงเปนคนที่หาไดยากยิ่งในโลก เปนคนที่ควรแกการสดุดีใหปรากฏไวในประวัติศาสตร เพื่อ เปนแบบอยางใหคนรุนหลังปฏิบัติตามสถานหนึ่ง และเพื่อเปนกระจกใหบรรดานักลวงโลกหรือวิญูชนแบบ เถรขวาดไดสองดูใบหนาหลังหนากากของตน เหตุผลที่โตเกี๋ยมจําเพาะมอบเมืองชีจิ๋วแกเลาปมีอยูสี่ขอคือ เพราะเปนเชื้อพระวงศหนึ่ง เพราะเห็นวามีสติปญญาหนึ่ง เพราะมีน้ําใจโอบออมอารีหนึ่งและเชื่อวาจะสามารถ ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขอีกหนึ่ง ความเปนเชื้อพระวงศเปนฐานะอันติดตัวมาแตกําเนิด สามารถทราบได โดยงาย ความมีน้ําใจโอบออมอารีนั้นโตเกี๋ยมเห็นได ดวยตนเองจากการที่เลาป ซึ่งมิไดรูจักมักคุนใดๆ กับตัว และแมไมไดรับประโยชนใดๆ จากการตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ แตยอมตัวเขาชวยเหลือเพียงเพราะเห็นแก เพื่อนของโตเกี๋ยมที่ขอรองเทานั้น ความมีสติปญญาก็อาจเล็งเห็นไดในสถานการณที่กองทัพใหญ ของโจโฉลอมเมืองอยูแลวไมผลีผลามทําการ คิดเชื่อมการขางในกับ การขางนอกเมืองใหไดเสียกอน สวนความเชื่อที่วาจะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขนั้น เปนความเชื่อใจของโตเกี๋ยมโดยแท และยอมเปนความเชื่อเพียงแคไดเห็นรูปรางบุคลิกทวงทํานองของเลาป เทานั้น แตอาจยอมรับไดวานั่นเปน ความเชื่อที่มีเหตุผลของคนแกแบบโตเกี๋ยมที่มีโรคหลายโรครุมเราอยู ดีกวาคนในยุคหลังที่มีพรอมทั้งขอมูลขาวสารและความรอบ รูสารพัด กลับถูกนักการเมืองไรอาชีพที่เพียงแค พูดจาดูเหมือนมีหลักฐาน และหวานหูหลอกตมกันจนเปอยทั้งเมือง เลาปไดฟงคําโตเกี๋ยมแลวตกใจ รีบลุกขึ้น คํานับแลววา "เรานี้เปนเชื้อพระวงศก็จริงแตสติปญญานอย ทําราชการยังหาความชอบ ขอใหญมิไดเปนแตเจา เมืองจัตวา เราก็ยังคิดเกรงอยูวาจักไมควรกับสติปญญา ซึ่งยกมาทั้งนี้เพราะมีน้ําใจหวังจะชวยทานรบโจโฉ หรือ ทานแคลงอยูวาเราจะมาชิงเอาเมืองชีจิ๋ว ถาเราคิดดังนั้นก็ขออยาใหเทพยดารักษาชีวิตเราเลย" นี่คือ น้ําใจแทของเลาปที่ไมเคยคิดอยากไดหรือโลภของคนอื่น ทั้งๆ ที่เขายกใหดวยความเต็มใจและเปยมดวย เหตุผล ใจเลาปนั้นเจียมตัววาเปนเจาเมืองเล็ก สติปญญานอย ความเปนคนเจียมตัวและถอมตนนี้เปน คุณสมบัติประจําตัวและฝงลึกอยูในใจไมมีหนทางใดจะแกไขหรือลดหยอนผอนลงได จึงทําใหเลาปตอง สูญเสียโอกาสหลายครั้งหลายหนจนบางครั้งแทบเอาตัวไมรอด น้ําใจเชนนี้แมจะเทียบไมไดกับพระเวสสันดรที่ทรงบําเพ็ญทานบารมีจนเปยมลน จนสามารถยกแมกระทั่งบุตร และธิดาใหเปนทานก็ตาม แตความมีคุณธรรมของเลาปในขอที่ไมยอมหวังสิ่งใดจากใครอื่นก็ล้ําเลิศแลว สําหรับปุถุชน ความเจียมเนื้อเจียมตัวของเลาปยังเลยเถิดไปถึงขนาดที่คิดวา การที่โตเกี๋ยม กระทําเชนนั้น เพราะคิดวาเลาปจะหวังชิงเอาเมือง โตเกี๋ยมคะยั้นคะยอใหเลาปรับเปนเจาเมืองอีกหลายครั้งแตเลาปก็ยัง ยืนยันเจตนาเดิม บิตกที่ปรึกษาของโตเกี๋ยมเห็นเลาปจะไมยอม รับเปนแมนมั่น จึงเปลี่ยนหัวขอหารือ มาเปนการรับมือกับกองทัพโจโฉตอไป เลาปจึงวา ขาพเจานี้เคยปราบโจรโพกผาเหลืองรวมกับโจโฉในกองทัพของโลติดแมทัพใหญ ทั้งเคยรวมใน กองทัพปฏิวัติกับโจโฉ และโจโฉก็มีน้ําใจเมตตาเคยเอาหมูเห็ดเปดไกไปผูกไมตรีถึงในคาย เมื่อไมตรีมีอยู ดังนี้ขาพเจาจะทําหนังสือไปถึงโจโฉขอใหเห็นแกไมตรี แลวชี้แจงความจริงใหปรากฏเชื่อวาโจโฉจะยอมถอน ทัพกลับไป โตเกี๋ยมและบิตกเห็นชอบกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงแตงหนังสือใหทหารสิบสองนาย ถือไปยังคายโจโฉ และใหทหารลอบไปที่คายของขงหยงและเตงไกแจงวาใหตั้งคายมั่นไวกอน โจโฉเห็น หนังสือของเลาปแลวก็โกรธ คิดระแวงวาเลาปแกลงมีหนังสือมาหลอกใหตายใจแลวจะยกเขาโจมตีใน ภายหลัง จึงสั่งใหทหาร จับตัวทหารเดินสารของเลาปเพื่อจะเอาไปประหารเสีย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด กุยแกที่ปรึกษาของโจโฉจึงวาเลาปนั้นเปนคนสัตยซื่อ คงมีหนังสือมาโดยสุจริต การที่จะฆาทหารเดินสารเสีย นั้นไมสมควรดวย ธรรมเนียมศึก ควรจะหาทางตอบเอาใจผูกไมตรีไวกอน แลวคอยชิงเอาเมืองชีจิ๋วในภายหลัง ก็จะไดโดยงาย โจโฉเห็นชอบกับคําที่ปรึกษาจึงใหตอนรับขับสูทหารเดินสารเปนอยางดีแลวบอกใหรอรับ หนังสือตอบสักวันสองวัน ในระหวางที่โจโฉกําลังตรึกตรองหาวิธีตอบหนังสือเลาปอยูนั้น เหตุการณที่ไม คาดคิดก็เกิดขึ้น คือทหารจากเมืองกุนจิ๋วรีบรุดมายังคายโจโฉแลวรายงานวาบัดนี้กองทัพเมืองตันลิวไดยก
  • 21.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 21 กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเมืองกุนจิ๋วเสียทีแกขาศึกแลว คงเหลือแตหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองกุนจิ๋วสามเมือง เทานั้นที่ยังรักษาไวได คือเมืองเอียงเสีย, เมืองตองไฮ และเมืองฮวนกวน โจโฉไดฟงรายงานแลวตกใจยิ่งนัก จึงสอบถามความเปนมาจากทหารที่มาแตเมืองกุนจิ๋วนั้น ไดความวาหลังจากลิโปไดหนีลิฉุย กุยกี ไปหาอวน สุดที่เมืองลําหยงแลว อวนสุดไมยอมรับลิโปไวในราชการ ลิโปจึงไปขออยูกับอวนเสี้ยว แตตอมาลิโปกําเริบ กอการวิวาทและสังหารทหารอวนเสี้ยวเสียหลายคน อวนเสี้ยวโกรธจะฆาลิโป ดังนั้นลิโปจึงหนีไปอยูกับเตียน เอี๋ยงที่เมืองเสียงตง ครั้นลิโปไปอยูกับเตียนเอี๋ยงแลว บังสีซึ่งเปนขุนนางอยูเมืองหลวง สนิทกับลิโปทราบขาวจึงลอบพาครอบครัว ของลิโปไปสงใหแกลิโป ลิฉุย กุยกี ทราบความจึงฆาบังสีเสีย แลวสั่งเตียนเอี๋ยงใหจับลิโปสงไปเมืองหลวง ลิ โปรูขาวจึงหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยว เจาเมืองตันลิว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาลิโปไปอยูกับเตียว เมา เจาเมืองตันลิว ซึ่งนาจะเปนการแปลโดยสับสน เพราะเตียวเมาถูกเลาตายฆาเสียแลวตั้งแตกองทัพปฏิวัติ ใกลจะสลายตัว ดังนั้นเตียวเมี่ยวนองชายเตียวเมาจึงเปนเจาเมืองสืบตอมาทหารนั้นรายงานตอไปวาเหตุ เกิดขึ้นเนื่องจากตันกงซึ่งเคยมาขอรองใหโจโฉถอนทัพแตไมสําเร็จ จึงไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว และ ไดรับความไววางใจใหเปนที่ปรึกษา ตันกงคิดชวยเหลือโตเกี๋ยมตามความคิดเดิมอยางหนึ่งและเห็นเปน โอกาสที่โจโฉยกกองทัพใหญ มาเมืองชีจิ๋ว มีทหารรักษาเมืองกุนจิ๋วอยูนอยตัว จึงเสนอใหเตียวเมี่ยว ยก กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วเตียวเมี่ยวเห็นดวยกับความคิดของตันกงจึงใหลิโปเปนแมทัพยก ไปตีเมืองกุนจิ๋ว โจ หยินรับมือลิโปไมไดจึงยกทหารหนีออกจากเมืองกุนจิ๋ว คงจะตามมาหาโจโฉในไมชานี้ ครั้นลิโปไดเมืองกุนจิ๋วแลว ไดยกกองทัพไปตีหัวเมืองในบังคับเมืองกุนจิ๋วอีกหลายเมืองไปจนสุดชายแดน เมืองปกเอี้ยง คงเหลือแตเพียงสามเมืองที่ซุนฮกและเทียหยกรักษาไวได โจโฉทราบความละเอียดแลวจึงหา กุยแกมาปรึกษาหารือกันแลวเห็นพรอมกันที่จะตองถอนทัพยกกลับไปยึดเมืองกุนจิ๋วคืน กุยแกจึงเสนอวาการ ถอนทัพครั้งนี้ตองผูกไมตรีและเอาบุญคุณ ไวกับเลาปจึงเสนอใหโจโฉตอบหนังสือเลาปวายินดีถอนทัพ เพราะ เห็นแกหนาของเลาป โจโฉก็เห็นดวย แลวแตงหนังสือตามคํากุยแกวา สงใหกับทหารของเลาปแลวเลิกทัพยก กลับไปเมืองกุนจิ๋ว สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ประชาธิปไตยแบบลิโป (ตอนที่ 60) ทหารของเลาปกลับจากคายของโจโฉแลว เอาหนังสือตอบของ โจโฉนําไปใหแกเลาป ในขณะที่เลาปกําลัง ปรึกษาการศึกอยูกับโตเกี๋ยม ครั้นโตเกี๋ยมและเลาปทราบความตามหนังสือของโจโฉแลวมีความยินดียิ่งนัก ดวยไมรูเหตุผลที่แทจริงในการถอนทัพของโจโฉ ครั้นทหารรักษาเชิงเทินมารายงานวาบัดนี้โจโฉไดเลิกทัพ กลับไปแลว ทั้งโตเกี๋ยม เลาปตางก็โลงอก ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงใหเชิญบรรดาผูมาชวยเหลือจากเมืองตางๆ เขา มาในเมืองชีจิ๋วและจัดงานเลี้ยงฉลอง และถือโอกาสที่ผูคนมากันพรอมหนานั้นขอรองใหเลาปรับเปนเจาเมือง ชีจิ๋วอีกครั้งหนึ่ง เลาปยังคงไมยอมรับ บรรดาผูมารวมงานตางชวยกันพูดจาใหเลาปยอม รับเปนเจาเมืองตาม คําขอรองของโตเกี๋ยม แตเลาปยังคงยืนกรานปฏิเสธ โตเกี๋ยมครั้นเห็นเลาปยืนยันปฏิเสธอยางแข็งขันจึงขอรองใหม วาในเมื่อไมยอมรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ก็ขอใหมา เปนเจาเมืองเสียวพาย ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองชีจิ๋ว โดยอางวาถาหากมีราชการสําคัญและจําเปน แลวจะไดอาศัยเลาปไดโดยสะดวก เลาปเห็นโตเกี๋ยมมีใจมั่นคงตอตัวโดยสุจริตเชนนี้ก็เกรงใจ ตัดสินใจละ ตําแหนงเจาเมืองเพงงวนกวนเสียแลวยอมเปนเจาเมืองเสียวพายตามคําขอรองของโตเกี๋ยม โตเกี๋ยมยินดียิ่ง นัก สั่งทหารใหจัดเสบียงและเงินทองเปนอันมากมอบ แกเจาเมืองทั้งสองและเลาป เปนการแสดงความ ขอบคุณที่มาชวยเหลือ ครั้นเสร็จงานเลี้ยง ขงหยงเจาเมืองปกไฮและเตงไกเจาเมืองเซียงจิ๋ว จึงขอลาโตเกี๋ยม ยกกองทัพกลับเมือง ของตน ฝายจูลงก็เขา ไปลาเลาปกลับเมืองปกเปง ทั้งเลาป จูลง ตางรองไหอาลัยรักกันเปนอันมาก แลวจูลง จึงยกทหารมาสองพันที่เลาปยืมจากกองซุนจานกลับเมืองปกเปง ดานเลาปก็ไปรับตําแหนงเจาเมืองเสียวพาย พรอมกับกวนอู เตียวหุย ราษฎรเมืองเสียวพายรูกิตติศัพทเลาปมาแตกอน ก็มีน้ําใจรักเลาป และทํามาหากิน เปนปกติสุขโดยทั่วกัน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายโจโฉเมื่อถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วแลว เดินทัพมาถึงกลางทาง พบกับโจหยิน ซึ่งแตกทัพมาจากเมืองกุนจิ๋ว โจหยินไดรายงานการ ศึกใหโจโฉทราบมีเนื้อความตองกันกับความซึ่งทหารของโจโฉที่แตกทัพมากอนได รายงานใหโจโฉทราบแลว โจโฉจึงบอกกับโจหยินวา "ลิโปนั้นมีฝมือกลาหาญก็จริง แตหาความคิดมิได ทาน
  • 22.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 22 อยาเปนทุกขเลย" แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพตอไปถึงเมืองเตงกวน ซึ่งเปนเมืองกึ่งกลางระหวางเมืองกุนจิ๋วกับ เมือง ปกเอี้ยง และใหตั้งคายมั่นไว คําพูดของโจโฉดังกลาวเปนการพูดจากความที่รูจักกับลิโป แตมองขามคน แบบตันกงไป อันตันกงนั้นเปนคนมีสติปญญา รูจักภูมิประเทศของภาคตะวันออกเปนอยางดี แตโจโฉไมรูความ ขอนี้ เนื่องจากเวลาที่อยูดวยกันกับตันกงเพียงชั่วสามวันเทานั้น โจโฉจึงเริ่มตน ดวยความประมาท และ "ไมรู เขา" ซึ่งเปนปจจัยหลักของการพลาดพลั้งเสียทีในการสงครามทั้งปวง เนื่องเพราะหลักการใหญในการทํา สงครามประการหนึ่งนั้นคือ "ตองรูเขา รูเรา รบรอยครั้งบพาย" การที่โจโฉเลือกหยุดทัพที่เมืองเตงกวนเกิดแตเหตุผลสามประการคือ ขอแรกจากเมืองเตงกวนนี้โจโฉสามารถ เลือกที่จะเคลื่อน ทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว หรือเมืองปกเอี้ยงก็ได ขอสองการตั้งทัพในลักษณะนี้มีผลบังคับใหลิโป จําเปนตองแยกทหารออกเปนสองกองเพื่อปองกันทั้งเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง ทําใหกําลังทหารของลิโป ถึงแมจะมีมากก็ตองถูกแบงแยกเหลือแตละเมืองเพียงครึ่งเดียว ทําใหงายตอการโจมตีชวงชิงชัย และขอสาม เพื่อตองการทราบความศึกใหกระจางเสียกอนที่จะตัดสินใจวาจะเลือกทางใดทางหนึ่ง การตั้งทัพในลักษณะนี้ แสดงใหเห็นวาโจโฉและทีมที่ปรึกษาใน วันนี้ตางกับโจโฉเมื่อครั้งที่รวมในกองทัพปฏิวัติมากมายนัก แมสาม กกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จะมิไดมีขอความใดระบุวาเปนความคิดอานของคณะที่ปรึกษา แตเมื่อ พิจารณาจากการกําหนดแผนการครั้งนี้แลว ยอมมิใชความคิดของโจโฉเพียงลําพัง และยอมมิใชความคิดของ ซุนฮก หรือเทียหยก ซึ่งไมไดอยูในกองทัพ ดังนั้นจึงนาจะเปนความคิดของกุยแกที่ปรึกษาหนุมผูนั้น ฝายลิโปครั้นทราบขาวโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองเตงกวน จึงปรึกษากับตันกงวาจะใหลิฮองและซิหลัน ทหารเอกคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมือง กุนจิ๋ว โดยตัวลิโปเองจะคุมทหารไปรักษาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเปนเมือง ใหญกวาเมืองกุนจิ๋ว ตันกงจึงวาโจโฉตั้งหลักในภาคตะวันออกที่เมืองกุนจิ๋ว แมวาจะเปนเมืองเล็กกวาเมืองปก เอี้ยง แตเปนเมืองยุทธศาสตร ดังนั้นเปาหมายของโจโฉในการยกทัพมาครั้งนี้คือยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใช เตรียมโจมตีเมืองปกเอี้ยงไม ดังนั้นการที่ทานจะยกไปที่เมืองปกเอี้ยงจึงเปนการเสียเที่ยวเปลา และการใหลิฮ องกับซิหลันคุมทหารหนึ่ง หมื่นรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ทั้งสองคนนี้สติปญญาหางชั้นกับโจโฉมาก และทหารก็ นอย คงจะไมสามารถรับมือกับโจโฉไดเห็นทีจะเสียเมือง กุนจิ๋วเปนแน ลิโปไมเห็นดวยกับความคิดตันกง อางวาเมืองปกเอี้ยงเปนเมืองใหญ โจโฉนาจะยกไปตีเมืองปกเอี้ยงมากกวา ดังนั้นตัวเราจะไปรับมือกับโจโฉที่เมืองปกเอี้ยงเอง นี่คือความคิดแบบโงๆ ของลิโปที่ยึดถือเอาแตความใหญ เล็กของเมืองเปนสําคัญ ยิ่งกวาฐานะสําคัญทางยุทธศาสตรของเมืองนั้น ทั้งไมเขาใจวาเปาหมายการศึกครั้งนี้ ของโจโฉคือการยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใชยึดเมืองปกเอี้ยงไม ตันกงเห็นวาลิโปไมฟง ดันทุรังจะทําตามความคิด ตัวก็เกรงวาจะเสียทีแกโจโฉจึงเสนอแผนการขั้นที่สองวา ตรงเขาไทสันหรือภูเขา ไทซัว ซึ่งอยูทางทิศใตของ เมืองกุนจิ๋วประมาณแปดรอยเสน และไมไกลจากเมืองปกเอี้ยงนั้น เปนชัยภูมิสําคัญเพราะเปนทางลัดที่จะแยก ไปยังเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง แตเปนทางทุรกันดารในซอกเขา ขาพเจาคิดวาโจโฉจะยกไปตามทางนี้ ให ทานจัดทหารหมื่นหนึ่งไปซุม อยูสองขางทางในซอกเขารอใหกองทัพหนาโจโฉผานไปแลวจึงเขาตีกองทัพ หลวงพรอมกัน ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย เพราะกองหนาและกองหลังจะเขาชวยไมทันเนื่องจากเปนทาง จํากัด ลิโปฟงความเห็นของตันกงแลว ไมยอมใชความคิดวาขอเสนอ เชนนี้เปนขอเสนอจากความกระจางแจงในภูมิ ประเทศ กลับเห็นไปวาการเอาทหารไปซุมไวในซอกเขาเปนความยากลําบากและเสียเวลาเปลา เพราะถึงแม จะเปนทางลัดแตโจโฉนาจะเลือกไปทางใหญซึ่งสะดวกกวา ดังนั้นลิโปจึงไมยอมรับแผนการของตันกง ตัดสินใจสั่งใหลิฮองและซิหลันคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋ว ตัวลิโปเอง ยกทหารไปเมืองปกเอี้ยง ตั้ง คายไวนอกเมืองทางดานทิศใตและทิศ ตะวันตก ซึ่งอยูใกลทางที่จะมาจากเมืองเตงกวน ขางโจโฉเมื่อตั้งคาย ลงที่เมืองเตงกวนแลวใหทหารสืบขาวความ เคลื่อนไหวของลิโป ครั้นทราบขาวดังนั้นแลวก็ดีใจนัก เห็นวาจะ ยึดเมืองกุนจิ๋วคืนไดโดยงาย จึงกําหนดแผนการยุทธใหโจหยินคุมทหารจํานวนมากยกไปตีเมืองกุนจิ๋วทาง หนึ่ง สวนโจโฉจะไปยึดเมืองปกเอี้ยงเพื่อจัดการกับลิโปดวยตนเองมั่นใจวาจะชนะศึกไดทั้งสองดาน นี่คือความประมาทของโจโฉที่จับปลาพรอมกันทีเดียวทั้งสองมือ หากโจโฉยึดเมืองกุนจิ๋วใหเสร็จสิ้นเสียกอน แลวระดมทัพทั้งหมดไป ตีเมืองปกเอี้ยงก็จะไดโดยงาย ความประมาทนี้เกิดจากการมองขาม คนแบบตันกง นั่นเอง จึงวางกําลังสวนใหญไวที่การยึดเมืองกุนจิ๋ว จัดกําลังแตสวนนอยไปยึดเมืองปกเอี้ยง กําหนดแผนการ ยุทธเสร็จแลวจึงสั่งการกองทัพใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสัน เพื่อจะแยกไปโจมตีเมืองกุนจิ๋วและเมือง ปกเอี้ยง ตอไป ขณะเคลื่อนทัพใกลจะถึงเขาไทสัน กุยแกไดทักทวงวาภูมิประเทศเปนทางจําเพาะหากขาศึก จัดทหารมาซุมก็จะเสียทีโดยงาย สมควรหยุดทัพไวแลวใหทหารหนวยลาดตระเวนไปสืบสภาพดูกอน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 23.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 23 โจโฉหัวเราะแลววา คนแบบลิโปไรสติปญญา คงจะไมคิดจัดกําลังมาซุมและการที่ลิโปยกไปเมืองปกเอี้ยงแลว ยอมแสดงวาไมสนใจซุมโจมตี วาแลวก็สั่งใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสันนั้นแลวแยกเดินทัพเปนสองทาง ตามแผนการยุทธที่วางไว ฝายตันกงยังคงมั่นใจวาโจโฉตองยกมาตามทางเขาไทสัน จึงให ทหารคอยลาดตระเวนหาขาวความ เคลื่อนไหวของกองทัพโจโฉ ครั้นทราบขาววาโจโฉเคลื่อนทัพดังที่คาดการณไวจึงแจงแกลิโปวา โจโฉ เคลื่อนทัพมาตามทางลัดที่ทุรกันดารยากลําบาก ดังนั้นทหารโจโฉ จึงตองออนลาอิดโรย ขอใหลิโปยก กองทัพไปโจมตีโจโฉ อยาใหโจโฉทันตั้งคายเสร็จ ก็จะเอาชัยชนะไดโดยงาย ขอเสนอของตันกงนี้เปนไป ตามหลักพิชัยสงครามที่ใหเขาตีเมื่อ ขาศึกออนลาอิดโรยไรเรี่ยวแรงและไมทันตั้งตัว แตลิโปไมเห็นดวยกลับ คิดวาการที่โจโฉเดินทัพทางเขาไทสันนั้นสมกับการคาดการณของ ตันกงจึงรูสึกเสียหนา ครั้นตันกงเสนอแผน โจมตีโจโฉไมใหทันตั้งตัวจึงออกอาการดันทุรังเอากับตันกงวา "เดิมเราตั้งตัวมาแตตัวผูเดียว กับมาคิดทําการ เที่ยวรบพุงมาจนไดทหารมากขึ้นถึงเพียงนี้แลว เรา จะคิดยอทอโจโฉนั้นหามิได ใหโจโฉตั้งคายมั่นลงแลวเรา จะหักเอาใหได" คําพูดของลิโปนี้แสดงวา ลิโปซึ่งเดิมอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว รับคําสั่งใหยกกองทัพ ไปตีเมืองกุนจิ๋วไดทรยศหักหลังเตียวเมี่ยว และตั้งตนเปนอิสระแลว และยังทระนงในฝมือตัวเอง ตกอยูใน ความประมาท เทากับเปนการเปดโอกาสใหโจโฉตั้งหลักปกคายมั่นพักฟน กําลังเสียกอน ซึ่งถือวาเปน ความโงเขลาที่สุดในทางการทหาร มิตางกับสมิงนครอินทรทหารเอกพระเจาราชาธิราช ที่บอกอุบายซึ่ง กองทัพมอญวางกลจะสังหารพมาเสียดวยเกรงวาการตอสูจะไมเปนไป โดยยุติธรรมจะตางกันบางตรงที่สมิง นครอินทรโงในการสงครามแตไมหัวรั้น แตลิโปทั้งโงทั้งรั้น โจโฉครั้นเคลื่อนทัพผานชองเขาไทสันแลวตรงไปยังเมืองปกเอี้ยง เห็นลิโปตั้งคายอยูนอกเมืองทางทิศใตจึง ปลงทัพลงแลวตั้งคายประชิดกับคายลิโปโดยสะดวกดายยิ่งนัก เพราะลิโปไมตองการโจมตี ในขณะที่โจโฉยัง อิดโรยและไมพรอม จะรอใหโจโฉพรอมเสียกอนจึง คอยยกออกมารบ นาที่จะโจโฉจะไดมีหนังสือไปขอบคุณ ลิโปใหเปนที่สะใจสักครั้งหนึ่ง ครั้นรุงขึ้นทั้งสองฝายจึงยกทหารออกมาประจันหนากัน ธงทิวปลิวไสวประสานกับเสียงกลองศึกใหสัญญาณ แปรรูปขบวนเปนระยะๆ โจโฉเห็นลิโปยืนมาอยูหนาสุด ตามดวยทหารเอกแปดนาย โจโฉจึงเอาแสมาชี้หนาลิ โปแลววา "ตัวกับเราจะไดมีความผิดกันสิ่งใดหามิได เปนไฉนตัวจึงยกทหารมาตีเอาเมืองเรา" ลิโปจึงตอบโจ โฉเปนสุนทรพจนอันบันลือลั่นสนั่นโลก เปนแบบอยางของการแสดงเหตุผลแบบนักเลงโตที่นารักและนาขันวา "เมืองเหลานี้เปนของพระเจาเหี้ยนเตก็เหมือนหนึ่งของคนทั้งปวงซึ่งอยูในแผนดิน ถาผูใดมีบุญแลเขมแข็งก็จะ ครอบครองเมืองไดเหมือนกัน เหตุใดทานจึงวาบานเมืองนี้เปนของทาน หามีความละอายไม" โจโฉแมวาจะ เปนคนเจากลอุบายและเฉลียวฉลาด แตไมเคยคาด คิดวาจะมีเหตุผลเชนนี้อยูในโลก และไมคาดคิดวาลิโปจะ ยกเหตุผลอันพิสดารนี้มาแกตัว และดาวาตัวเองกลับมาเชนนี้จึงจํานนตอถอยคํา คิดไมออกวาจะหาเหตุผลที่ ไรเหตุผลยิ่งกวานี้ไปตอบโตไดอยางไร หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ไดเขียนบทความประชดนักการเมืองที่ชอบอางประชาธิปไตย แตประพฤติตน เปนทรราช และเปนทั้งนักเลงอันธพาลวาเปน "นักประชาธิปไตยแบบลิโป" นักประชาธิปไตยแบบลิโป เกิดขึ้น ในประเทศไทยแตบัดนั้นถึง บัดนี้รวมสามสิบปแลว จึงยิ่งพัฒนาไปกวาครั้งกระนั้นมากนัก กลายเปนประชาธิป ไตยที่ฉาบหนาเปนจุดขายแบบพระเอกลิเก ในขณะที่ภายในเต็มไปดวยเผด็จการ การฉอราษฎรบังหลวง นักเลงโต นักขายชาติ นักคายาเสพยติด และเต็มไปดวยนักปลนประชาธิปไตย ประชาธิปไตยแบบที่เปนอยูใน ปพุทธศักราช 2543 นี้ จึงรายแรงเสียยิ่งกวาประชาธิปไตยแบบลิโปหลายเทานัก หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ฤทธิ์เดชของคนที่ถูกมองขาม (ตอนที่ 61) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปเห็นโจโฉจํานนตอถอยคําที่พิสดารของตัวก็กระหยิ่มในความหลักแหลมแบบไรเหตุผลนี้ยิ่งนัก จึงสั่งใหจง ปาทหารเอกออก ไปจับตัวโจโฉ ฝายโจโฉก็สั่งใหงักจิ้นออกรบดวยลิโป รบกันไดสามสิบเพลงแฮหัวตุนจึงขับ มาเขาไปชวยงักจิ้น ฝายเตียวเลี้ยวเห็น เชนนั้นก็ขับมาออกไปสกัดแฮหัวตุนไว ทหารเอกทั้งสองคูของทั้งสอง ฝายตอสูกันเปนสามารถ ลิโปรูสึกรําคาญใจจึงขับมาเขารบดวยแฮหัวตุนและงักจิ้น สองทหารเอกของโจโฉสูลิ
  • 24.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 24 โปไมไดก็ขับมาหนี ลิโปจึงสั่งใหทหารเขาโจมตีกองทหาร ของโจโฉจนแตกพายหนีเขาคายไป ลิโปจึงยก ทหารกลับมาคาย ครั้นกลับมาถึงคายแลวโจโฉจึงเรียกประชุมแมทัพนายกองวา ลิโปมีฝมือเขมแข็งผูใดจะอาสาเอาชนะลิโปได บาง อิกิ๋มทหารเอกของ โจโฉจึงวาไดขึ้นไปบนภูเขาตรวจดูภูมิประเทศและการตั้งคายของลิโปแลว ปรากฏวา คายดานทิศตะวันตกของเมืองมีทหารประจําอยูนอย วันนี้ลิโปรบชนะศึกยกแรกยอมมีใจกําเริบ ทหารก็จะขาด ความระมัดระวังในการรักษาคาย ถาฝายเรายกทหารเขาปลนคายตะวันตกคงจะไดโดยงาย จากนั้นคอยยึดคาย ดานทิศใตของลิโปตอไป โจโฉเห็นชอบกับแผนการของอิกิ๋ม จึงสั่งการใหโจหอง ลิเตียน ลิยอย อิกิ๋ม และเตียนอุย คุมทหารสองหมื่น เตรียมพรอมไว คืนนี้จะยกเขาปลนคายตะวันตกของลิโปฝายลิโปชนะศึกยกแรก และกลับเขาคายดานทิศใต ของเมืองปกเอี้ยงแลว เย็นลงก็จัดเลี้ยงแมทัพนายกอง ณ คายนั้นเปนการฉลองชัยชนะ ตันกงเห็นดังนั้นจึง เสนอวาโจโฉแพศึกวันนี้คงคิดแกแคนเปนมั่นคง โจโฉรูวาฝายเราฉลองชัยแลวจะประมาท เห็นทีจะยกมาปลน คายเราในคืนนี้และเนื่องจากคายตะวันตกมีทหารอยูนอย โจโฉคงเขาปลนคายตะวันตกเปนแนแท ขอใหทาน จัดทหารลอบยก ไปเสริมกําลังไวในคายตะวันตกโดยเร็ว หากโจโฉยกมาก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคง ลิโปจึงวาโจโฉเพิ่งพายแพไปไมทันขามวันคงจะขยาดไมกลายกมาโจมตีในค่ํานี้ ตันกงจึงยืนยันแข็งขันวาโจ โฉมีสติปญญาในการศึก เห็นโอกาสคืนนี้แลวคงจะไมปลอยใหผานไป ทานอยาไดวางใจ ทั้งการสงทหารไป เพิ่มเติมก็ไมไดเสียหายอะไร ลิโปเห็นตันกงยืนยันแข็งขันก็คลอยตาม จึงสั่งใหโกสุน งุยซก และโฮเสง คุม ทหารสองหมื่นเตรียมยกไปเสริมกําลังที่คายดานตะวันตก แตขอเวลาวาใหทหารไดเลี้ยงฉลองชัยชนะใหเสร็จ เสียกอนแลวคอยยกไป ตันกงขี้เกียจเซาซี้ก็เออออตามใจลิโป ลิโปเลี้ยงฉลองชัยชนะอยูจนเกือบสองยาม เสร็จงานเลี้ยงแลว สามทหารเอกจึงยกทหารออกจากคายทิศใตของลิโปไปยังคายตะวันตก ถึงกลางทางพบ ทหารคายตะวันตกแตกตื่นหนีมาจึงทราบ ความวาโจโฉลอบยกทหารไปปลนคายตะวันตกและยึดคายไวได แลว สามทหารเอกจึงใหทหารที่แตกหนีมานั้นไปรายงานใหลิโปทราบ แลวรีบยกไปเพื่อจะยึดคายตะวันตก กลับคืนโจโฉรูวาทหารลิโปยกมาก็ยกทหารออกมาตั้งรับหนาคายทหารทั้งสอง ฝายรบพุงกันเปนสามารถ ตั้งแตสองยามจนถึงใกลรุง บาดเจ็บลมตายเปนอันมาก ขณะนั้นทหารโจโฉหนาตื่น เขามารายงานวา ลิโปกําลังยกทหารเปนจํานวนมากมาสมทบ ขณะนี้ใกลถึงคายดานตะวันตกแลว โจโฉไดฟง เชนนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีฝาเพื่อจะกลับไปคายเดิม สามทหารเอกของลิโปจึงไลตามตีมาทางดานหลัง โจโฉ นําทหารหนีมา ระยะหนึ่งปะทะกับกองทหารซึ่งลิโปยกมาสมทบ จึงใหอิกิ๋มกับงักจิ้นสกัดลิโปไว ตัวโจโฉคุม ทหารวกไปทางดานทิศเหนือของเมืองปกเอี้ยง เพื่อจะออมดานตะวันออกไปยังคายของตัว อิกิ๋มกับงักจิ้นรบ กับลิโปอยูครูหนึ่งสูลิโปไมไดจึงชักมาหนีพา ทหารตามโจโฉไปทางทิศเหนือ ลิโปและทหารไลฆาทหารโจโฉ ลมตายลงเปนอันมาก โจโฉ อิกิ๋ม และงักจิ้น พาทหารหนีออมไปทางดานทิศเหนือของ เมืองปกเอี้ยง ถึงเนิน เขาแหงหนึ่งปะทะกับเตียวเลี้ยวและจงปา ทหารเอกของลิโปซึ่งคุมทหารมาสกัดอยูจึงตีฝาออกไปหนีไปได ระยะหนึ่งใกลจะเลี้ยวไปทางดานตะวันออกของเมืองไดปะทะกับทหารเอกของ ลิโปอีกสี่คน ซึ่งคุมทหารมา สกัดอยูอีก ทหารทั้งสองฝายตอสูกันเปนสามารถ โจโฉเห็นจวนตัวเขาจึงใหทหารชวยกันสกัดฝายลิโปไว แลว พาทหารสี่หาคนรีบหนีฝาออกไปทางดานทิศตะวันออกของเมืองปกเอี้ยง โจโฉและทหารสี่หาคนหนีมาไดระยะหนึ่ง ถึงเนินเขาก็ไดยินพลุสัญญาณแลวทหารลิโปไดยิงเกาทัณฑลงมา เปนหาฝนและยกทหารมา ลอมไวทั้งสี่ดาน โจโฉเห็นจะหนีไมรอดจึงรองขึ้นวา "ผูใดมีกําลัง จง ชวยชีวิตเรา ในครั้งนี้" เตียนอุย จึงวาทานอยากลัวเลย ขาพเจาอยูกับทานจะพิทักษให ทานปลอดภัย แลวจึงลงจากมาเอา ทวนคูหนีบไวขางกายเปลี่ยนเอาหอกซัดเกือบยี่สิบเลมมาถือไว สั่งทหารวาถาขาศึกตามมาในระยะหาวาให เรียกชื่อเตียนอุย จากนั้นจึงนําหนามาโจโฉตีฝาออกไป ทหารลิโปราวยี่สิบคนไลตามไปติดๆ คนไหนเขามาในระยะหาวา ทหารโจโฉก็เรียกชื่อเตียนอุย เตียนอุยก็หยุด แลวซัดหอกไปถูกทหารที่ตามมาตายไปทีละคนจนหมดหอกซัด ทหารลิโปที่เหลืออีกสี่หา คนจึงไมกลา ติดตามเขามาอีก เตียนอุยพาโจโฉหนีตอไปเพื่อจะกลับเขาคายจนใกลค่ําลิโปก็ยกทหารตามมาทัน โจโฉก็ ตกใจ ทั้งออนลา หิวโหย สิ้นเรี่ยวแรง ทหารโจโฉที่ตามมาสี่หาคนจึงแยกยาย กันวิ่งหนี เตียนอุยพาโจโฉหนีลิ โปตอไป พอดีแฮหัวตุนคุมทหารตาม มาทันจึงเขาสกัดลิโปไวจนใกลพลบค่ํา ฝนก็ตกหนักลงมาลิโปจึงรีบ ยก ทหารกลับไปคาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายโจโฉ เตียนอุย แฮหัวตุนและทหารที่เหลือซึ่งเปยกปอนและอิดโรยเต็มที่ หนีกลับเขาคายไดเกือบยางเขา ยามสอง ถึงคายแลวโจโฉจึงสั่งทหารปูนบําเหน็จรางวัลแกเตียนอุยเปนอันมาก การศึกยกที่สองระหวางโจโฉ
  • 25.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 25 กับลิโปตั้งแตสองยามวันหนึ่งตอเนื่องมาถึงค่ําอีกวันหนึ่ง สิ้นสุดลงโดยพระพิรุณประทานฝนมาหามทัพ และโจ โฉเปนฝายปราชัยอยางยอยยับแทบจะเอาตัวไมรอดความปราชัยของโจโฉในครั้งนี้ตองถือวาเปนการปราชัย ครั้งสําคัญที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต และเกิดขึ้นโดยที่โจโฉคาดคิดไมถึง เนื่องจากมองขามเรื่องสําคัญไปสอง เรื่อง เรื่องสําคัญเรื่องแรกคือเรื่องตันกง โจโฉไมรูจักคนผูนี้ดีพอ เนื่องจากอยูรวมกันเพียงชั่วสองสามวัน คิดวาตันกง เปนเพียงเจาเมือง ธรรมดาที่ไมเอาไหนเหมือนกับบรรดาเจาเมืองอื่นๆ ที่เอาแตเสพสุข คอรรัปชั่น รีดไถ และ ขมเหงราษฎร โดยหารูไมวาตันกงนั้นคือนักยุทธศาสตรทั้งการเมืองและการทหาร เรื่องสําคัญเรื่องที่สองคือ ความสัมพันธระหวางลิโปกับตันกง ซึ่ง โจโฉรูจักลิโปดีวาเปนคนมีฝมือเขมแข็งกลาหาญ แตหัวรั้น โลภและไร สติปญญาจึงเชื่อวาจะสามารถกําจัดลิโปไดโดยงาย ดังนั้นโจโฉ จึงประมาทคิดจับปลาทีเดียวพรอมกันสองมือ จะยึดเอาทั้งเมืองกุนจิ๋ว และเมืองปกเอี้ยงพรอมกันในคราวเดียว มิหนําซ้ํายังวางกําลังหลักไวที่การยึดเมืองกุน จิ๋ว ตัวเองยกกําลังสวนนอยมาเมืองปกเอี้ยง หวังเอาชนะลิโปดวยสติปญญา โจโฉมองขามความสัมพันธระหวางลิโปซึ่งสุดยอดเชิงบูวาไรสติปญญา มองขามตันกงซึ่งนับวาเปนยอดคน ทางบุนวาเปนเพียงขุนนางตัวเล็กๆ ที่ไรความหมาย ครั้นสุดยอดทางบูกับยอดคนทางบุนมารวมตัวกัน โดยที่โจ โฉไมรูความขอนี้และมองขามความขอนี้จึง เปนเรื่องที่นาตระหนกอยางยิ่ง เพราะสภาพเชนนี้คือสภาพที่ไมใช เพียงโจโฉ "ไมรูเขา" เอาเสียเลยเทานั้น หากยังเขาใจสภาพการศึกที่ ผิดพลาดอยางมหันตอีกดวย ดังนั้น ความปราชัยของโจโฉจึงเปนสิ่งที่ถูกกําหนดขึ้นอยางแนนอนแลวภายใตกฎแหงสงคราม แตทวา ความสัมพันธระหวางตันกงกับลิโปนั้นมิใชจะปกติลึกซึ้งกระไรนัก เพราะตันกงมิไดสมัครใจอยูกับลิโปหากทํา ราชการอยูกับเมืองตันลิว ที่มาดวยลิโปก็เพราะเจาเมืองตันลิวมอบหมายใหชวยเหลือ โตเกี๋ยม ซึ่งสอดคลอง กับความประสงคของตันกงสถานหนึ่ง และเพื่อปองกันเมืองตันลิวอันเปนผลประโยชนของเจาเมืองตันลิวอีก สถานหนึ่ง ในขณะที่ลิโปก็มิไดเชื่อถือศรัทธาตันกง แตทั้งสองคนนี้กลับตองมารวมกันทําศึก ดังนั้นความเห็น ของตันกงจึงไมสามารถเปลงอานุภาพไดเต็มที่ ลิโปพอใจจะเชื่อก็ปฏิบัติตาม ไมพอใจจะเชื่อก็ถือเอาความคิด ตนเปนใหญ ดวยเหตุนี้โอกาสกําจัดโจโฉตอน เดินทัพตามซอกเขาไทสัน และการโจมตีโจโฉในขณะที่เพิ่งยกถึงเมืองปกเอี้ยง ซึ่งทั้งออนลา และยังไมทัน ตั้งคายจึงไมไดรับการปฏิบัติจากลิโป แมในการสงครามครั้งที่สอง ซึ่งโจโฉปราชัยยอยยับก็เชนเดียวกัน ถา หากลิโปปฏิบัติตามคําตันกงสงทหารไปเสริมไวที่คายตะวันตกกอน แลวคอยยกไปตีกระหนาบ โจโฉก็จะยอย ยับกวานี้ แมกระนั้นอานุภาพของฝมือทางบูของลิโปกับมันสมองอันเลิศทางบุนของตันกงก็ไดทํา ใหโจโฉ เกือบเอาตัวไมรอด การที่โจโฉหนีลิโปที่คายตะวันตกแลวถูกทหารลิโปออกสกัดโจมตีตลอดแนวทางดานทิศเหนือ ดานทิศ ตะวันออก เรื่อยมาจนเกือบจะถึงคายโจโฉทางดานทิศใตถึงสามครั้งสามครานั้นมิใชเกิดขึ้นโดย บังเอิญหรือ จากความคิดอานของลิโป เพราะสติปญญาของลิโปนั้นเปนไปไมไดที่จะคาดการณถึงการหนีของโจโฉได แมนยําถึงปานนั้น และโดยความรับรูของลิโปก็ไมไดรูจักภูมิประเทศของเมือง ปกเอี้ยง ตันกงตางหากที่รูจัก สภาพภูมิประเทศเปนอยางดี ครั้นลิโปยกทหารออกไปชวยคายตะวันตกยามใกลรุงก็ไดมอบหมายใหตันกง รักษาคายทิศใตของตนไว ดังนั้นเมื่อ ลิโปยกทหารออกไปแลว ขางภายในคายของลิโปจึงมีตันกงเปน ผูบังคับบัญชาแทนลิโป ตันกงจึงอาศัยอํานาจและโอกาสนี้บัญชาการใหจัดทหารเปนสามกองยกไปตั้งสกัดโจ โฉ ซึ่งตันกงคาดการณไวลวงหนาแลววาเมื่อลิโปยกออกไปชวยคายตะวันตก โจโฉจะตองแตกหนีไปออม เมืองปกเอี้ยงทางดานทิศเหนือ แลววกกลับมาทางดานตะวันออกจึงจะกลับเขาคายได เมื่อคาดการณเสนทางที่โจโฉจะหนีแลว จึงวางกําลังไปสกัดถึงสามกอง เพื่อใหมั่นใจวาคราวนี้โจโฉตองตาย แนนอน ความคิดของตันกงครั้งนี้ก็พอจะเห็นไดวาโจโฉคงจะเอาตัวรอดไดโดยยาก แตทวา "ความคิดเปนของ คน แตความสําเร็จเปนของฟา" ปาฏิหาริยจึงเกิดขึ้นเพราะความเกงกลาสามารถของเตียนอุย องครักษ ประจําตัวของโจโฉที่สามารถพาโจโฉตีฝาทหารที่สกัดหลุดรอดไปได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด แมเมื่อลิโปไลตามมาทันกอนจะถึงคายทางทิศใต โจโฉมีเพียงแฮหัวตุนเทานั้นที่สกัดลิโปไว ลําพังฝมือของ แฮหัวตุนคงจะสกัดไวไดไมนาน แตฝนกลับตกหนักลงมา ลิโปซึ่งคงจะเปนคนกลัวฝน กลัวเปยก ดังที่จะเห็น ไดตลอดมาวาถาฝนตกลงมาคราวใด ลิโปมีอันตองยกทหารกลับเขาเมืองหรือกลับเขาคายทุกครั้ง ดังนั้นถา หากโจโฉรูมากอนวาตันกงไมใชเจาเมืองธรรมดาเหมือน กับบรรดาเจาเมืองที่เคยพบ โจโฉยอมหาหนทางเอา ตัวตันกงมาทําราชการดวยเปนแนแท และคงไมตองเสียหายยับเยินถึงปานนี้ นี่คือฤทธิ์เดชของสิ่งที่โจโฉ มองขามไป
  • 26.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 26 ยังไมจบเพียงเทานี้ มันสมองของตันกงยังคงคิดอานแผนการกําจัดโจโฉออกมาอยางตอเนื่อง ดังนั้นใน วันรุงขึ้นเมื่อตันกงทราบขาววาเจาเมืองปกเอี้ยงเกิดรักตัวกลัวตายจากสงคราม จึงทิ้งเมืองปกเอี้ยงเสีย แลวพา ครอบครัวหลบหนีไปตั้งแตคืนที่โจโฉเขาปลนคายตะวันตกแลว ตันกงจึงรีบไปหาลิโปรายงานเรื่องนี้ใหทราบ รายงานแลวตันกงไดเอาขาวคราวเรื่องนี้กําหนดขึ้นเปนแผนกําจัดโจโฉตอไป และตองถือวาเปน "แผนพิฆาต" อยางแทจริง เพราะแผนการพิฆาตนี้คือแผนการใชพลังจักรวาลเขาทําสงครามเปนครั้งแรกในสามกก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนเพลิงพิฆาต (ตอนที่ 62) ตันกงไดเสนอแผนการศึกยกที่สามระหวางกองทัพของลิโปกับกองทัพของโจโฉใหแกลิโปวา "ในเมืองนั้นมี เศรษฐีคนหนึ่งชื่อเตียนซี มีใจสัตยซื่อเปนที่นับถือแกชาวเมืองทั้งปวง ถาเตียนซีจะวาประการใดชาวเมืองก็ทํา ตาม ขอใหหาเตียนซีออกมาวากลาวใหมี หนังสือไปถึงโจโฉวา ทานมีชัยแกโจโฉแลว บัดนี้ใหโกสุนอยูรักษา เมืองปกเอี้ยง ทานยกทหารไปตีเอาเมืองลิหยง ใหโจโฉยกทหาร เขาปลนเอาเมืองปกเอี้ยง เตียนซีจะคุม ชาวเมืองออกรบกระหนาบ เราจึงลอบยกทหารเขาไปอยูในเมืองปกเอี้ยง แลวเอาฟนมากองประตูทั้งสี่ดาน ถาโจโฉเขามาแลวเราจึงจุดเพลิงเผาเมือง และกองฟน ทั้งสี่ประตูขึ้น ถึงโจโฉจะมีความคิดแกไขประการใดก็ เห็นจะไมพนมือเรา" แผนการครั้งนี้ของตันกงคือแผนการใชธาตุไฟ ซึ่งเปนหนึ่งในพลังจักรวาลเขาสังหารขาศึก นับเปนความคิด อานวางแผนการรบดวย การใชพลังจักรวาลเปนครั้งแรกในสามกก อันเพลิงนั้นเปนพลังแหงจักรวาลชนิดหนึ่ง ที่มีอานุภาพทําลายลางสูงสุดในยุคนั้น ไมตางกับระเบิดนาปาลมในยุคปจจุบัน เปนพลังที่สามารถทําลายลาง ขาศึกไดเปนจํานวนมากยิ่งกวาทหารเอกที่มีฝมือหรืออาวุธชนิดอื่น ทวน งาว หอกและเกาทัณฑ ใชเปนอาวุธ สังหารขาศึกไดอยางจํากัด ขึ้นอยูกับกําลังและฝมือของผูใช ดังนั้นในการสงครามจึงไม เคยปรากฏวาอาวุธ เหลานี้จะใชสังหารขาศึกไดครั้งละถึงหมื่น ตางกันกับเพลิงที่สามารถทําลายลางขาศึกกวาครั้งละสิบหมื่นได โดยนัยนี้ เพลิงจึงเปนพลังแหงจักรวาลที่อาจมีอานุภาพมากกวาทหาร สิบหมื่น แตเพลิงอันเปนพลังจักรวาลนี้ จะมีอานุภาพปานใดยอมขึ้นอยูกับเงื่อนไขของการใชเพลิงและสติปญญาคิดอานของผูบัญชาการทัพเปน สําคัญ สามกกดําเนินมาถึงตอนนี้จึงเพิ่งปรากฏวามียอดคนที่สามารถคิดอานวางแผนใชพลังจักรวาลในการ ยุทธคือตันกงผูนี้ แตทวารายละเอียดของแผนการกลับทําใหการใชพลังจักรวาลครั้งนี้ไมอาจบรรลุอานุภาพสูงสุดได เนื่องเพราะ ในรายละเอียดของแผนการนั้น ตันกงยังเสนอให ลิโปจัดวางกองทหารซุมไวในเมืองเพื่อจะเขาโจมตีโจโฉ ในขณะที่ถูกเพลิงคลอก ในลักษณะเชนนี้จึงบีบบังคับฝายลิโปอยูในตัว ทําใหไมสามารถเผาเมืองทั้งเมืองเพื่อ เผาทหารโจโฉใหหมดสิ้นไปได เพราะทหารของลิโปเองก็ยังคงติดอยูในเมืองนั้น นี่คือจุดออนที่ทําให ความคิดที่จะใชพลังจักรวาลในการศึกของ ตันกงไมสามารถกอเกิดอานุภาพอันยิ่งใหญได ในที่สุดแผน ทั้งหมดนี้จึงถูกลดทอนพลังทําลายลางลง เหลือเพียงระดับที่เปนแผนปดประตูตีแมวเทานั้น แตกระนั้นแผนการนี้ก็ยังนับวารัดกุมและยากที่โจโฉจะเอาตัวรอดได และตองถือวาแผนการครั้งนี้ของตันกง เปนแผนที่ยอดเยี่ยมอีกแผนหนึ่งในการสงครามตั้งแตเริ่มตนมาจนถึงวันนี้ ลิโปไดฟงแผนการของตันกงแลว เห็นชอบกับแผนการดังกลาว จึงใหหาเตียนซีออกมาที่คายแลวเกลี้ยกลอมใหเตียนซีปฏิบัติตามแผนการของ ตันกงทุกประการ เตียนซีรับคําลิโปแลวก็มีหนังสือใหคนสนิทถือไปใหโจโฉเปนใจความวา ลิโปเปนคนโหดรายทารุณ ไม คํานึงถึงความเดือดรอนของราษฎร นับตั้งแตยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองปกเอี้ยงแลวราษฎรไดรับความ เดือดรอนยิ่งนัก ขาพเจาสงสารราษฎรนัก จึงคิดจะกําจัดลิโปเสีย บัดนี้ชาวเมืองมีความยินดีที่ทานไดยก กองทัพมาเพื่อจะปลดปลอยเมืองปกเอี้ยงใหพนจากอํานาจเถื่อนของลิโป ตัวขาพเจาเองมีความเคารพและ ศรัทธาตัวทานเปนยิ่งนัก หวังเอาบารมีของทานมาดับรอนทุกขเข็ญของราษฎรเมืองปกเอี้ยงนี้ จึงขอใหทานยก ทหาร เขาชิงเอาเมืองปกเอี้ยง โดยขาพเจาและชาวเมืองจะเปดประตูเมืองทางดานตะวันตกตอนรับทานใน เพลาตนของคืนนี้ และจะปกธงจารึก คําวา "คุณธรรม" ไวเปนสําคัญ เมื่อทานยกเขามาแลวขาพเจาและ ชาวเมืองจะไดชวยกันตีกระหนาบชวยทานยึดเมืองปกเอี้ยงจาก ลิโปใหจงได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉไดรับหนังสือของเตียนซีแลวมีความยินดี กลาวกับคนของเตียนซีวานี่เปนเพราะสวรรคบันดาล ทานจงไป บอกเตียนซีเถิดวาเรา จะทําการตามคําของเตียนซี ทํานุบํารุงชาวเมืองใหมีความสุขสืบไป วาแลวโจโฉก็สั่งให
  • 27.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 27 จัดเตรียมทหารเตรียมเขายึดเมืองปกเอี้ยงในคืนวันนี้ เลาหัวที่ปรึกษาของโจโฉไดทวงขึ้นวา การครั้งนี้อาจเปน กลอุบายของลิโปก็เปนได โจโฉแยงวาคนแบบลิโปยอมไมสามารถคิดกลอุบาย เชนนี้ออกมาได แตเลาหัว ยังคงติงวาแมวาลิโปจะไรสติปญญาแตมีที่ปรึกษาอยูเปนจํานวนมาก ทั้งตันกงก็เปนคนมีสติปญญาสูง ดังนั้น ถึงแมทานจะเชื่อคําของเตียนซี แตตองเตรียมการใหพรอมเพื่อจะได ไมเสียทีหากวาเปนกลอุบาย โจโฉถาม วาจะใหเตรียมการอยางไร เลาหัวชี้แจงวาในการเขาโจมตียึดเมืองปกเอี้ยงครั้งนี้ควรจัดทหารออกเปนสามกอง กองหนึ่ง ใหเขาไปดูลาดเลาในเมืองตามคําของเตียนซี สวนอีกสองกองใหตั้งคุมเชิงอยูนอกเมืองจะได ชวยเหลือกันและกันได หากแมเปนอุบายก็คงจะไมเสียทีแกขาศึก โจโฉเห็นชอบดวยจึงมีคําสั่งใหแบงทหารที่ เตรียมไวนั้นแบงออก เปนสามกองตามคําของเลาหัว ครั้นค่ําลงเพลาแรกผานไปแลว โจโฉจึงใหยกทหารทั้ง สามกองวกออมไปทางดานประตูเมืองตะวันตก เห็นธงสีขาวมีขอความวา "คุณธรรม" ปกอยูตรงตามคําของ เตียนซีก็หยุดทหารรอฟงสัญญาณจากขางในเมือง ครั้นใกลเที่ยงคืน ทหารของลิโปคือโฮเสงและโกสุนไดคุมทหาร เปนสองกองยกออกจากประตูเมืองดาน ตะวันออกมาทางดานตะวันตกปะทะเขากับทหารของโจโฉที่ซุมรอสัญญาณอยู โจโฉสั่งให เตียนอุยออกรบ ทหารของลิโปสูไมไดก็แตกหนีเขาประตูเมืองทางดานตะวันออก การยกทหารสองกองนี้ออกมารบดวยโจโฉ เปนเรื่องที่ไมมีระบุไวในแผนการ แตกระนั้นก็เห็นไดวาเปนมาตรการลวงที่ทําใหฝายโจโฉตายใจวากรณีที่ เตียนซีมีหนังสือมานั้นไมใชกลอุบาย คือทําเรื่องที่หลอกลวงใหกลายเปนเรื่องที่นาเชื่อมากขึ้น ในขณะนั้นมีคนของเตียนซีถือหนังสือมาถึงโจโฉทางดานประตูทิศตะวันตกวา กอนเที่ยงคืนวันนี้จะพา ชาวเมืองฆาทหารรักษาประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองรับโจโฉ เมื่อเขาทําการแลวจะจุดพลุสัญญาณเปน สําคัญใหโจโฉรีบยกเขายึดเมืองโจโฉรับหนังสือของเตียนซีแลวยิ่งตายใจจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารปองกัน กองหนึ่งอยูทางดานซายของประตูเมือง ใหโจหองคุมทหารปองกันอีกกองหนึ่งอยูทางดานขวาของประตูเมือง สวนโจโฉพรอมแฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น และเตียนอุยคุมทหารเปนกองกลาง เตรียมยกเขาไปในเมือง คืนนั้น เปนคืนเดือนมืด โจโฉคุมทหารซุมรอสัญญาณอยูจน ถึงใกลเที่ยงคืนก็ไดยินเสียงพลุสัญญาณ และประตูเมือง ดานตะวันตกเปดออก โจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนกําลังเขาประตูเมืองดานตะวันตก ลิเตียนฟงคําสั่งแลวทวงโจโฉวา ตัวทานเปนแมทัพ การครั้งนี้ยังไมแนชัดวาเปนกลอุบายหรือไม จึงไมควรที่ทานจะนําทหารบุกเขา ไปดวย ตนเอง ขาพเจาจะขออาสานําทหารเขาไปดูลาดเลากอนหากเห็น เปนการสุจริตแลวทานจึงคอยยกตามเขาไป โจโฉจึงวาตัวเรานั้นเปนผูนําทัพ หากเรามินําหนาทหารเขาไปก็จะทําใหทหารเห็นวาเราขี้ขลาด และจะไม พรอมใจกันทําการ การครั้งนี้คงไมมีกลอุบาย หากเปนการกระทําโดยสุจริตของชาวเมือง วาแลวก็รีบขับมานํา ทหารเขาประตูเมืองไป โจโฉนําทหารจากประตูเมืองดานตะวันตกตรงเขาไปจนถึงศาลาวาราชการที่กลาง เมืองแตไมเห็นผูคนเดินไปมา ทุกอยางเงียบสงัดโจโฉ จึงพรั่นใจวาตองกลอุบายของตันกงแลว จึงรีบสั่งทหาร ใหรีบถอยกลับออกจากเมือง สิ้นเสียงสั่งของโจโฉพลุสัญญาณ มาลอ กลองศึก และเสียงโห รองของทหารลิ โปก็ดังกองกระหึ่มขึ้น แสงเพลิงโชติชวงขึ้นทางดานประตูเมืองทั้งสี่ทิศ และบานเรือนราษฎรหลายแหงก็เกิด เพลิงลุกไหม ในทันใดนั้นโจปาทหารเอกของลิโปไดคุมทหารยกออกมาแตดานตะวันออกสกัดหนาโจโฉไว ในขณะที่เตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปคน หนึ่งคุมทหารออกมาสกัดดานหลังของโจโฉทางดานตะวันตกโจโฉ เห็นเชนนั้นก็ตกใจรีบชักมาพาทหารจะหนีออกทางประตูดานทิศเหนือ ปะทะเขากับหลันเปงและโจเสงคุม ทหารสกัดไว โจโฉจึงชักมานําทหารเลี้ยวกลับตรงไปยังประตูเมืองดานทิศใต พบโกสุน โฮเสง คุมทหารมา สกัดไวอีก สภาพของโจโฉจึงตกอยูในทามกลางของทหารลิโปทั้งสี่ทิศ จึงมีความตกใจเปนอันมาก เสียงโหรองของ ทหารลิโป ควันไฟและแสง เพลิงทําใหทหารที่มาดวยโจโฉแตกตื่นพากันวิ่งหนี แตเตียนอุยทหารองครักษ ของโจโฉนั้นคุมสติมั่นนําโจโฉตีฝาทหารของโกสุนและโฮเสง ไปทางดานประตูเมืองทิศใต และฝาออกนอก ประตูเมืองไปได ครั้นเตียนอุยพนออกไปจากประตูเมืองแลวเหลียวกลับมาไมเห็น โจโฉก็ตกใจ จึงรบฝาเขาไป ในประตูเมืองดานทิศใตอีกครั้งหนึ่งพบเขากับลิเตียน ตางคนตางถามหาโจโฉ ดังนั้นเตียนอุยจึงบอกใหลิเตียน รีบออกนอกประตูเมืองไปนําทหารเขามาชวย สวนเตียนอุยนั้นจะตีฝาเขาไปในเมืองอีกครั้งหนึ่ง เตียนอุยตีฝา เขาไปในเมืองแลวเที่ยวตระเวนหาโจโฉก็ไมพบ ครั้นฝาออกไปถึงคูเมืองดานทิศเหนือจึงพบเขากับงักจิ้น ตาง คนตางถามหาโจโฉ แตไมทราบความจึงจะพากันกลับเขามาในเมืองอีกครั้งหนึ่ง ครั้นมาถึงประตูเมืองทหารลิ โปซึ่งอยูบนเชิงเทินไดเอาเพลิงพะเนียงจุดชนวนโยนลงมา งักจิ้นตกใจชักมาถอยกลับจึงเขาเมืองไปไมได คง มีแตเตียนอุยขับมาฝาไฟพะเนียงไปตามหาโจโฉในเมืองอีกครั้งหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ขางโจโฉเมื่อพลัดกับเตียนอุยแลวไดขับมาฝาเพลิงไปทางประตูดานทิศเหนือเพียงผูเดียว พลันไดยินเสียงลิ โปขับมาไลตามหลังมา เอาทวนเคาะหมวกโจโฉแลวถามวาเห็นโจโฉหรือไม โจโฉรูวาคําถามเชนนี้แสดงวาลิ โปจําตัวเองไมได จึงตั้งสติมั่นเอามือซายจับบังเหียนมา ยกมือขวาชี้ไปขางหนาบังใบหนาตัวเองไว แลววาโจ
  • 28.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 28 โฉไปทางขางหนานี้ ลิโปไมทันสังเกตเขาใจวาโจโฉเปนทหารของตัวเองก็เชื่อคําแลวขับมาผานหนาโจโฉไป โจโฉจึงรีบชักมากลับไปทางดานประตูตะวันออก จึงพบเขากับเตียนอุย ดังนั้นเตียนอุยจึงนําหนามาโจโฉตีฝา ทหารของ ลิโปออกไปถึงประตูเมือง เห็นเพลิงลุกไหมประตูเมืองอยู เตียนอุยก็ เอาทวนเขี่ยเพลิงใหแยก ออกเปนทางแลวขับมานําหนาโจโฉออกประตูเมืองไป โจโฉจึงขับมาตามเตียนอุยออกไป พอถึงประตูเมืองคานประตูที่ไหมไฟอยูไดหลนลงมาทับเอามาของโจโฉลม ลงในกองเพลิงถึงแกความตาย "แตโจโฉนั้นดิ้นออกจากกองเพลิงได แตเสื้อแลผมกับหนวดนั้นไหม โจโฉฉีก เสื้อทิ้งเสีย แลวเอามือซายขวาลูบดับเพลิงซึ่งไหมหนวดแลผมนั้นดับแลว ก็ออกมาจากประตูเมืองได" เตียน อุยเหลียวหลังมาเห็นโจโฉอยูในสภาพเชนนั้นก็ตกใจรีบกระโจนลงจากหลังมา พอดีแฮหัวเอี๋ยนมาทันก็รีบ ชวยกันประคองโจโฉ ใหนั่งมาของแฮหัวเอี๋ยน ในขณะนั้นทหารลิโปไดยกไลตามตีมาเปนจํานวนมาก เตียนอุย กับแฮหัวเอี๋ยนไดรบปองกันโจโฉจนกระทั่งกลับเขาคายได ครั้นรุงเชาขึ้นโจโฉจึงใหสํารวจทหาร ปรากฏวาทหารของโจโฉได ลมหายตายจากไปในการรบครั้งนี้เปน จํานวนมาก แตทหารอีกสองกองที่ตั้งระวังอยูนอกประตูเมืองสวนใหญยังอยูครบ บรรดานายทหารและที่ ปรึกษาไดพากันเขามาเยี่ยมโจโฉ ซึ่งบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกถึงในคาย โจโฉเห็นบรรดาแมทัพนายกองเขา มาเยี่ยมก็หัวเราะขึ้นวา ครั้งนี้เราเสียรูตันกง เสียทหารไปเปนจํานวนมาก หากไมตายก็ตอง แกแคนลิโปใหจง ได ฝายหนึ่งคิดแผนการอยางละเอียดถี่ถวน หวังเอาโจโฉถึงตายใน ครั้งนี้แตโจโฉกลับหนีรอดออกมาได นี่แสดง วาความคิดของคนไมอาจ ฝาฝนลิขิตของฟาได อีกฝายหนึ่งแทนที่จะโศกเศราเสียใจกลับหัวเราะ นั่นยอมเปน การหัวเราะเยาะตัวเองที่หลงกลขาศึกอยางหนึ่ง และหัวเราะเยาะลิโปที่สวรรคยังเขาขางตนจึงรอดตายมาได อีกอยางหนึ่ง สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนยิงนกสามตัวดวยกระสุนนัดเดียว (ตอนที่ 63) โจโฉเสียทีลิโปถึงสามครั้งสามคราจนแทบเอาตัวไมรอด แตโจโฉก็ยังคงหัวเราะเยาะโชควาสนาของตัวที่ตอง กลขาศึกถึงเพียงนี้แลว ชะตายังแข็งกลาสามารถเอาตัวรอดไดทุกครั้ง นี่คือความเปน ผูมีเลือดนักสูที่ไมยอม ทอถอยตออุปสรรคและความยากลําบากใดๆ และนี่คือลักษณะผูนําที่ยอดเยี่ยม ประการหนึ่งของโจโฉอันยาก ที่จะหาผูใดมาเทียมเทียบเปรียบไดกุยแกไดเสนอตอโจโฉวา บัดนี้ทานเพิ่งเสียทีขาศึกมา ขาศึกยอมคาดคิด วาทานตองใชเวลาอีกยาวนานจึงจะสามารถทําการแกแคน ดังนั้นในสถานการณที่ขาศึกสําคัญความดั่งนี้ ทาน ควรรีบคิดอานทํา การซึ่งจะมีผลทําใหทหารไมเสียขวัญกําลังใจอีกดวย โจโฉเห็นชอบกับความคิดของกุยแกจึงวา เราบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกครั้งนี้เปนที่รูกันในฝายทหารของลิโป ดังนั้นเราจะคิดอาน เอาความเจ็บปวยนี้วางกลจับตัวลิโปใหจงได แลวโจโฉจึงเสนอแผนการใหคณะที่ปรึกษา พิจารณาวา เราจะปลอยขาวไปถึงทหารลิโปวาเราถูกไฟคลอกปวยหนัก กลับมาถึงคาย แลวค่ําลงก็สิ้นใจ ให ทหารนุงขาวหมขาวไวทุกขรองไห ขาวนี้เมื่อรูไป ถึงลิโปคงจะยกมาปลนคายเรา และยอมยกมาทางดานหลัง ของคาย เราผานเขามาเลง ซึ่งมีทางเดินในซอกเขาเปนที่จํากัด เราจะแตงทหารไปซุมไวในซอกเขา ครั้นกอง หนาลิโปผานไปแลวจึงคอยโจมตีที่ทัพหลวง คงจะจับลิโปไดโดยงาย คณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดวยกับแผนการนี้ แลวพากันสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอันมาก โจโฉครั้นเห็นวาแผนการดังกลาวเปนที่เห็นชอบพรอมกันทุกฝายแลวจึงสั่งใหดําเนินการตามแผนการนี้ทุก ประการ แผนการครั้งนี้มิใชแผนการใหมอะไรเลย ตันกงเคยเสนอแผนการอยางเดียวกันนี้ใหกับลิโปเมื่อครั้ง ที่โจโฉจะเดินทัพผานเขาไทสันไปตีเมืองปกเอี้ยง แตลิโปไมยอมรับแผนดังกลาว ครั้งนี้โจโฉวางอุบายเปน แผนการเดียวกัน แตสรางสถานการณปลอยขาววาถูกไฟคลอกตาย ครั้นขาวนี้รูไปถึงทหารลิโปจึงเขาไป รายงานใหลิโปทราบครั้นลิโปไดทราบขาวนี้แลวสมกับขาวคราวที่โจโฉถูกไฟคลอกก็เชื่อวาเปนเรื่องจริง จึง ตัดสินใจตามลําพังความคิดตัวเองโดยไมสนใจ ที่จะปรึกษากับตันกงอีกตอไป เพราะฮึกเหิมในชัยชนะที่ไดมา อยางตอเนื่องถึงสามครั้ง สั่งทหารใหเตรียมการยกไปปลนคายโจโฉครั้นค่ําลง ลิโปก็ยกทหารไปตามซอกเขา มาเลง เพื่อจะลอบไปปลนคายโจโฉ พอกองหนาของลิโปผานจุดซุมไปใกลจะถึงปากทาง ทัพหลวงของลิโปก็ เคลื่อนมาถึงจุดซุมพอดี โจโฉจึงใหจุดพลุสัญญาณและใหทหารโหรองดังสนั่นทั้งหุบเขา กองซุมของโจโฉจึง เอาเกาทัณฑยิงทหารของลิโปตายเปนอันมาก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 29.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 29 พอทหารลิโปแตกตื่นคุมกันไมติด ทหารของโจโฉก็ยกออกมา ลอมลิโปกับทหารไว ทั้งสองฝายตะลุมบอนกัน อยางดุเดือด ลิโปเห็นตองกลขาศึกและทหารแตกตื่นลมตายลงเปนอันมากก็รีบตีฝายอน กลับมาทางดานหลัง รีบพาทหารที่เหลือถอยกลับเขาเมืองปกเอี้ยง โจโฉไดชัยชนะแกลิโปแลวก็พาทหารกลับเขาคาย แตตั้งทัพอยู ไดไมกี่วันก็ขาดเสบียงลงเนื่องจากเกิดโรคแมลงระบาดหนักทั้งภาคตะวันออก ผลิตผลทางการเกษตรทั้งไรนา ราษฎรเสียหายจนหมดสิ้น ดังนั้นโจโฉจึงจําเปนตองสั่งใหกองทัพถอนไปตั้งอยูที่เมืองเอียนเสีย ฝายลิโป เห็นโจโฉถอนทัพไปก็จัดทหารออกไปรักษาดานตางๆ นอกเมืองปกเอี้ยงเพื่อระแวดระวังเหตุการณจนทั่วถวน ทุกดาน ขางเมืองชีจิ๋วนั้น โตเกี๋ยมถูกโรคหลายโรครุมเราจึงลมปวยลง มีอาการหนัก จึงสั่งใหหาเลาปเพื่อจะมอบเมือง ชีจิ๋วให แตเลาปไมยอมรับ ขุนนางเมืองชีจิ๋ว กวนอู เตียวหุย ชวยกันออนวอน แตเลาป ก็ยืนกรานไมยอมรับ เกี่ยงใหโตเกี๋ยมยกเมืองใหแกบุตรคนใดคนหนึ่ง โตเกี๋ยมรูจักบุตรของตัวเองดีวาไรสติปญญา จึงสั่งกําชับวา หาก มีอันเปนไปหามยกเมืองชีจิ๋วใหแกบุตรโดยเด็ดขาด และใหเลาปรับเปนเจาเมืองจงไดทั้งนี้ไดทําเปน หนังสือขึนกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อเสนอแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วไวพรอมแลว และสั่งเสียวา เมื่อเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวใหบิตก และซุนเขียนชวยเปนที่ปรึกษาของเลาปในการบริหารบานเมืองตอไป โตเกี๋ยมสั่งเสียไมสิ้นความ ลมก็ปะทะขึ้นมาแนนในอก พูดจาตอไปอีกไมไดแตยังคงมีสติอยูจึงเอามือชี้เขาที่ อกตัว เปนนัยวาขอใหเลาปเห็นใจคนกําลังใกลตายที่หวงใยราษฎรรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตามความประสงค แลวมือโตเกี๋ยมก็พลัดลงเปนอันสิ้นใจ ณ อายุได 63 ป บรรดาขุนนางและทหารเมืองชีจิ๋วจึงพรอมกันเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป บรรดาชาวเมืองรูขาววาโต เกี๋ยมตายแลวก็พากันมารองไหที่จวนเจาเมืองและออนวอนขอใหเลาปรับเปนเจาเมืองแทนโตเกี๋ยม กวนอู เตียวหุย เห็นเชนนั้นก็มีใจสงสารชาวเมืองจึงชวยพูดออนวอนเลาปอีกครั้งหนึ่ง เลาปเห็นคนทั้งปวงมีน้ําใจนับ ถือตัวโดยสุจริตก็มีใจสงสารจึงรับเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวตั้งบิตกและซุนเขียนเปนที่ปรึกษาตามคําสั่งเสีย และให กวนอู เตียวหุย ไปรับทหารจากเมืองเสียวพายเขามาอยูเมืองชีจิ๋ว เลาปสั่งใหจัดพิธีศพของโตเกี๋ยมอยาง สมเกียรติตามธรรมเนียม แลวเชิญศพไปฝงไวที่ริมแมน้ําฮวงโห ครั้นเสร็จจากพิธีศพแลวจึงได สงหนังสือ กราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเตซึ่งโตเกี๋ยมไดทําเตรียมไวเขาไปยังเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตร หนังสือของ โตเกี๋ยมแลวมิไดตรัสประการใด ฝายโจโฉเมื่อทราบวาโตเกี๋ยมตายแลวและเลาปไดเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็โกรธ เพราะความแคนเรื่องสังหารบิดา และครอบครัวยังไมไดชําระสะสาง แตโตเกี๋ยมกลับมาชิงตายเสียกอน สวนเลาปนั้นมิไดเสีย ทหารสักคนหนึ่ง ไมไดเสียเกาทัณฑแตสักดอกหนึ่งกลับไดเมืองชีจิ๋วไปครอง โจโฉยิ่งคิดก็ยิ่งแคนจึงใหเรียกคณะที่ปรึกษามา ประชุมหารือวา จะยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว ขุดศพโตเกี๋ยมเอามาสับเปนชิ้น ๆ และจับเลาปประหารเสีย แตซุน ฮกที่ปรึกษาไดหามวา ขณะนี้เกิดทุพภิกขภัย ขาวยากหมากแพง เสบียงอาหารก็ขาดแคลน ทั้งกองทัพก็เพิ่ง เสร็จศึกกับลิโปจําเปนตองพักฟนสักระยะหนึ่ง ซุนฮกไดแสดงเหตุผลวาเมืองชีจิ๋วบัดนี้ชาวเมืองรักเลาปเปนอัน มาก หากทานจะยกกองทัพไปก็คงจะพรอมใจกันรักษาเมืองไวเปน สามารถเมืองชีจิ๋วมีผูคนมาก ทหารก็พรอม กําแพงเมืองก็สูงใหญ ขาวปลาอาหารก็ยังบริบูรณ คงจะยึดเมืองชีจิ๋วไมไดโดยงาย และหากทานยกไปเมืองชี จิ๋ว ลิโปรูขาวเขาก็คงจะยกกองทัพมายึดเอาเมืองเอียน เสียและหัวเมืองอื่นๆ ในภาคตะวันออก "ทานยกไปขาง โนนก็จะไมสมความคิด จะกลับมาขางนี้ก็จะเสีย ทีทหารก็จะนอยลง กวาจะหาที่ตั้งตัวขึ้นไดก็ชานานไป ซึ่ง ทานจะทิ้งที่กวางไปหาที่แคบนั้นขอทานดําริดูแตควร" โจโฉฟงคําซุนฮกแลว บริบูรณดวยเหตุผลจึงเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก แตวิตกวาจะตั้งทัพอยูเฉยๆ เชนนี้เสบียงอาหารก็ยิ่งลดนอยถอยลง กองทัพก็จะลําบาก จึงหารือวาจะแกไขปญหานี้ประการใด ซุนฮกจึงวา ขณะนี้โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮีกับอุยเซียง ไดตั้งฐานที่มั่นขึ้นในเขตเมืองเองจิ๋ว เที่ยวแยงชิงเสบียง อาหารจากราษฎร ไวเปนอันมาก ถาหากทานยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวจะไดผลดีถึงสาม สถานคือ เปนการสรางความชอบไวกับแผนดินทางเมืองหลวงรับทราบแลวคงจะบําเหน็จความชอบแกทาน สถานหนึ่ง ในขณะนี้กองทัพของเราก็ขาดแคลนเสบียง หากปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวก็จะยึด เสบียงอาหารจากโจรโพกผาเหลืองไดเปนจํานวนมาก ไดขาวขาศึกมาหนึ่งถังดีกวากินขาวตัวเองถึงสิบถัง ทํา ใหปญหาเสบียงอาหารของกองทัพหมดสิ้นไปสถานหนึ่ง และการปราบโจรโพกผาเหลืองครั้งนี้ทานจะไดรับ ความเคารพรักจากราษฎร และจะไดกําลังพลกองทัพเพิ่มขึ้นอีกสถานหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉฟงคําของซุนฮกแลวเห็นเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม ยิงกระสุนนัดเดียวไดนกถึงสามตัว จึงยกยองความคิด ของซุนฮกเปนอันมาก แลวสั่งใหเรียกโจหยินกลับมารักษาเมืองรวมกับแฮหัวตุน สวนตัวโจโฉจัดทหารยกไป เมืองเองจิ๋ว เพื่อปราบปรามโจรโพกผาเหลืองตามแผนการของซุนฮก โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮี และอุย
  • 30.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 30 เซียงนั้น ถึงอยางไรก็เปน เพียงกองกําลังอาวุธของชาวบาน ขาดประสบการณในการศึก โดยเฉพาะการรบ แบบแผน ดังนั้นเมื่อประจันหนากับกองทัพของโจโฉไม ทันไร อุยเซียงก็ถูกลิเตียนทหารเอกของโจโฉจับได โจรโพกผาเหลือง จึงแตกพายไป กองทัพโจโฉไดยึดเอาเสบียง อาวุธยุทโธปกรณไวเปน จํานวนมาก สวน โฮฮีแกนนําของโจรโพกผาเหลืองอีกคนหนึ่งคุมพรรคพวก ไดสองรอยเศษจึงพากันหนีทหารของโจโฉไปถึง เนินเขาลูกหนึ่งก็ปะทะกับกองโจรอีกกองหนึ่ง ซึ่งมีเคาทูเปนหัวหนา ตอสูกันไมกี่เพลง โฮฮีก็ถูกเคาทูจับตัวได พรอมกับทหารโจรโพกผาเหลืองทั้งหมด แลว เคาทูสั่งใหพรรคพวกควบคุมไปขังไวในถ้ํา โจโฉเห็นโฮฮีหนีไป ไดจึงสั่งใหเตียนอุยไลติดตามเพื่อปราบปราม ใหสิ้นซาก เตียนอุยประจันหนากับเคาทูจึงเรียกรองใหสงมอบ พวกโจรมาให แตเคาทูไมยอม ทั้งสองฝายจึงตอสูกันเปนสามารถตั้งแตเชา ถึงเที่ยงก็ไมแพชนะกัน พักเที่ยง แลวเริ่มตอสูกันใหมจนถึงค่ํา มาที่ทั้งสองฝายขี่ก็หมดกําลังลง ทั้งสองฝายจึงตกลงพักรบและนัดมาตอสูใหม ในวันรุงขึ้น เตียนอุยกลับมาถึงคายจึงรายงานใหโจโฉทราบ โจโฉฟงรายงาน แลวแปลกใจในฝมือของโจรปาที่สามารถ ตอสูกับเตียนอุยไดทั้งวันโดย ไมเพลี่ยงพล้ํา น้ําใจรักคนมีฝมือพลุงขึ้นในความคิดของโจโฉไมอาจทนรอจน ลวงพนราตรีได จึงพาเตียนอุยและทหารสองรอยไปที่หนาถ้ําของเคาทูตั้งแตคืนนั้น ครั้นรุงขึ้นโจโฉจึงใหตี กลองศึกเปนสัญญาณใหเตียนอุยรบกับเคาทูตามที่นัดหมาย เคาทูก็ออกมาประจันหนากับเตียนอุย โจโฉเห็น เคาทู "รูปรางเคาทูใหญโต สูงประมาณหกศอก" จึงมีใจใครจะไดตัวเคาทูมารับราชการดวย โจโฉยืนมาดูเตียน อุยรบกับเคาทูตั้งแตเชาจนพักเที่ยง แลวเริ่มการตอสูในภาคบายจนถึงค่ําอยางสนุกสนาน และมีความพออก พอใจ ในฝมือสองทหารเสือที่ตอสูกันเปนยิ่งนัก ครั้นพักรบหลังเวลาค่ําแลวเคาทูก็กลับเขาถ้ํา เตียนอุยก็ กลับมาที่คาย โจโฉจึงวางแผนจับตัวเคาทู และสั่งใหขุดหลุมหางจากบริเวณลานรบหาเสน เปนหลุมกวางยาว ดานละสองวา ลึกสองวา เอาบวงซอนไวที่ปากหลุมแลวเอาหญาเกลี่ยปดปากหลุมไวจนดูเสมือนหนึ่ง เปนเนื้อ เดียวกัน แลวสั่งเตียนอุยวาพรุงนี้เมื่อออกรบดวยเคาทูใหทําเปนหนีแลวหลอกลอใหเคาทูมาตกหลุมซึ่งขุดไว นั้น วันรุงขึ้นเตียนอุยจึงไปทารบกับเคาทู แลวทําเปนหนีไปขางหลุม ที่ขุดไว เคาทูไมรูกลก็ไลตามไปและตกลงไป ในหลุมถูกบวงรัดไว ทหารโจโฉจึงจับเอาตัวเคาทูมัดเขาไปใหโจโฉ โจโฉเปนคนรักคนมีฝมือ มีความพอใจ อยางสูงในฝมือและบุคลิกสมทหารเอกของเคาทูตั้งแตครั้งแรก ครั้นรูวาแผนการจับตัวเคาทูบรรลุผลแลว โจ โฉจึงเริ่มผูกน้ําใจเคาทูทันทีดวยการแกลงทําเปนตกใจแลว เขาไปแกมัดเคาทูดวยตนเอง และสั่งทหารใหนํา เสื้อผาอยางดีมาให เคาทูเปลี่ยน เสร็จแลวจึงจูงมือเคาทูมานั่งใกลๆ ถามสารทุกขสุขดิบราว กับเปนญาติสนิท ครั้นเคาทูบอกกลาวประวัติสวนตัวและความเปนมาแลว โจโฉ จึงวาเคยไดยินกิตติศัพทเคาทูมานานแลว บัดนี้ มาพบตัวนับเปนวาสนาของเราทั้งสองที่ไดสรางสมมาแตปางกอน เมื่อบุญบันดาลดั่งนี้แลวจึงขอเชิญทานให มาทําราชการดวยเราเถิด เคาทูเผชิญกับไมนี้ของโจโฉเขาก็ตกลงใจรับราชการดวยโจโฉ ลุกขึ้นคํานับคารวะขอบคุณแลววา ขาพเจา เปนแตชาวปา ทานใหความกรุณาครั้งนี้เปนพระคุณหาที่สุดมิได ขาพเจาตกลงใจที่จะทําราชการสนอง คุณทานสืบไป โจโฉมีความยินดีเปนอันมากจึงใหเคาทูเปนทหารเอก และมอบเงินทองเปนรางวัลบําเหน็จ รับขวัญเปนอันมาก เคาทูจึงใหพรรคพวกไปเอาพวกโจรที่จับไวมามอบแกโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหประหารโฮฮีและ อุยเซียงและตัดศีรษะเสียบประจานไว ไมใหใครเอาเปนเยี่ยงอยาง แลวยกกองทัพกลับเมืองเอียนเสีย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม โจโฉครองอํานาจภาคตะวันออก (ตอนที่ 64) ครั้นถอนทัพกลับเมืองเอียนเสียแลว โจโฉไดรับรายงานวาเมือง กุนจิ๋ว ซึ่งลิโปสั่งใหสองทหารเอกคุมทหาร หมื่นหนึ่งไปรักษาอยูนั้นขาดแคลนเสบียงอาหาร ทหารอดอยากถึงกับตองปลนสะดมภชาวเมืองแยงชิงเอา อาหาร จึงเห็นเปนโอกาสที่จะชิงเอาเมืองกุนจิ๋วคืนตามความคิดเดิม ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหเตรียมกองทัพยกไป เมืองกุนจิ๋ว ฝายลิฮองและซิหลันสองทหารเอกของลิโป ซึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ครั้นทราบวาโจโฉยกกองทัพ มาจึงยกทหารออกไปรบดวยโจโฉ ปะทะกับเคาทูไดสามเพลง เคาทูเอาทวนแทงลิฮองตกมาตาย ซิหลัน เห็น เชนนั้นก็ตกใจรีบพาทหารหนีจะกลับเขาเมือง โจโฉคาดการณไวกอนแลววาทหารลิโปจะตองแตกหนีกลับเขา เมือง จึงสั่งใหลิเตียนคุมทหารไปเตรียมสกัดไวที่หนาคูเมือง ครั้นซิหลันพาทหารหนีมาจึงเขาเมืองไมได ซิห ลันจึงชักมาหนีกลับไปอีกทางหนึ่ง ลิยอยทหารโจโฉจึงเอาเกาทัณฑยิงถูกซิหลันตกมาตาย ทหารที่เหลือก็ แตกหนีไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 31.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 31 โจโฉเห็นไดทีจึงสั่งทหารหักเขาตีเมืองกุนจิ๋ว ทหารในเมืองเหลือ อยูเพียงไมกี่คนรับมือทหารของโจโฉไมได จึงยอมแพ เปนความพาย แพของลิโป ครั้งสําคัญสมดังที่ตันกงไดคาดการณไวลวงหนาแลววา ทหารเอกสอง คนนี้ไรสติปญญาไมสามารถรับมือโจโฉไดและจะตอง เสียเมืองกุนจิ๋วแกโจโฉ การที่โจโฉยึดเมืองกุนจิ๋ว กลับคืนมาไดครั้งนี้สงผลใหโจโฉไดยึด กุมจุดยุทธศาสตรของภาคตะวันออกไวในมือ ดังนั้นเปาหมายตอไป คือ การกวาดลางลิโปทําใหภาคตะวันออกอยูภายใตการยึดครองโดย สมบูรณ โจโฉจัดแจงการปกครองเมืองกุนจิ๋วใหเขาที่เขารอยดังเดิมแลว จึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตีเมืองปก เอี้ยง โดยตั้งความหวังวา การยกไปครั้งนี้จะตองบรรลุผลสถานเดียวเทานั้น ดังนั้นการจัดเตรียมทัพไปตีเมือง ปกเอี้ยงจึงใหจัดกระบวนทัพอยางทัพกษัตริย โจโฉสั่งการใหเคาทูและเตียนอุยคุมทหารเปนกองหนา ใหแฮ หัวตุนและแฮหัวเอี๋ยนเปนปกขวา ใหลิเตียนกับงักจิ้นเปนปกซาย โจโฉเปนกองทัพหลวง และใหอิกิ๋มและลิ ยองเปนกองหลัง เคลื่อนขบวนทัพยกไปเมืองปกเอี้ยง นับเปนการเคลื่อนทัพครั้งใหญในลักษณะเปนขบวน พยุหะ ตามลักษณะทัพกษัตริยเปนครั้งแรกของโจโฉ ฝายลิโปทราบขาวศึกก็สั่งใหเตรียมทหารจะยกออกไปรบกับโจโฉที่นอกเมือง ตันกงทราบขาวจึงเขาไป ทักทวงวา กองทัพของลิโป ยังไมพรอมรบ เพราะบรรดาทหารเอกที่สั่งใหไปลําเลียงเสบียง ณ เมืองอื่นยัง กลับมาไมถึง ทั้งกองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีลักษณะเปนทัพกษัตริย หากยกออกไปรบนอกเมืองก็จะเสียทีแก ขาศึก สมควรที่ลิโปจะตั้งรับอยูในเมือง รอจนกวาบรรดาทหารเอกที่ไปลําเลียงเสบียงกลับมากอนอยางหนึ่ง และรอจนกองทัพโจโฉขาดเสบียงแลว จึงคอยโจมตีในภายหลังก็จะไดชัยชนะ แตคนหัวรั้นแบบลิโปนั้นไมรู การควรไมควร ไมประมาณในการศึก คิดแตจะรบทาเดียวดวยมั่นใจในฝไมลายมือของตนเอง ไมคํานึงวาคน นอยหรือจะสูคนมากได และไมคํานึงถึงผลแพชนะวาจะเกิดผลประการใด คําทักทวงของตันกงซึ่งเปรียบ ประดุจดั่งยันตอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปองกันเมืองปกเอี้ยงจึงไรผล ลิโปไมฟงคําตันกงสั่งใหยก ทหารออกไปนอกเมือง เพื่อจะรบดวยโจโฉ ลิโปยกออกไปแลวปะทะกับเคาทูกองทัพหนาของโจโฉ ลิโปและเคาทูตอสูกันไดยี่สิบเพลงยังไมแพชนะกัน โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งใหเตียนอุยและทหารเอกทั้งปกซาย ปกขวาเขารุมลอมลิโป อันโจโฉนั้นทําศึกหวังชัย ชนะเปนสําคัญ หาไดคิดวาการใชคนมากรุมคนนอยจะเปนการเอาเปรียบหรือทําใหการตอสูไมเปนไปโดย ยุติธรรม เพราะโจโฉตระหนักดีวา "ไมมีธรรมะในสงคราม" วิธีการใดก็ตามที่จะเอาชนะขาศึกได วิธีการนั้นยอม นํามาใชไดทั้งสิ้น ลิโปตกอยูในวงลอมของทหารเอกโจโฉถึงหกคน สูไมไดจึงขับมาหนีจะเขาเมือง แตการ ขางในเมืองนั้นไมเขาขางลิโปเสียแลว เพราะในระหวางที่ลิโปครองเมืองปกเอี้ยงอยูนั้นไดกดขี่ขมเหง รังแก ขุนนางและราษฎร เตียนซีและชาวเมืองไมพอใจลิโป ครั้นรูขาว ลิโปยกออกไปรบกับโจโฉจึงชวยกันปดประตู เมืองเสียแลวชักชวนทหารที่รักษาเมืองใหเขาดวยโจโฉ ลิโปขับมาพาทหารมาถึงประตูเมือง เห็นประตูเมืองปดก็เรียกใหเปดประตู แตเตียนซีไดรองบอกไปวาบัดนี้ เมืองปกเอี้ยงไมตอนรับคน แบบลิโปตอไปแลว ลิโปเห็นเชนนั้นจึงรองดาวาเตียนซีวาเปนคนทรยศ พอดีทหาร ของโจโฉไลตามมาลิโปจึงพาทหารหนีกลับไปหาเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ตันกงเห็นเหตุการณดั่งนั้นจึงลอบ พาครอบครัวของลิโปหนีออก จากเมืองตามลิโปไป โจโฉจึงยกทหารเขาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเตียนซีและบรรดา ขุนนาง ไดใหการตอนรับเปนอยางดี โจโฉเห็นเหตุการณเชนนั้นจึงเรียกเตียนซีเขามาพบแลววา เมื่อครั้งกอน ทานมีหนังสือไปลวงเรา ทําให เราตองกลของลิโปเกือบเอาชีวิตไมรอด เปนความผิดฉกรรจ โทษ ถึงประหาร แตมาครั้งนี้ทานทําคุณไวกับบานเมือง มีความชอบเปน อันมาก ดังนั้นจึงตัดสินใหโทษทัณฑกับความชอบลบ ลางกันไป นี่คือลักษณะความเปนนักปกครองของโจโฉที่แมจะมีความขุน แคนเตียนซี ซึ่งสมคบกับลิโปวางกลอุบายจน ตัวเองแทบถึงแกชีวิต แตเมื่อเตียนซีมีความชอบก็จําแนกชัดเจนใหเอาความชอบและความ ผิดมาหักลบกลบ ลางกัน เมื่อประกอบเขากับการที่เตียนซีเปนที่นับถือของชาวเมืองแลว การปฏิบัติตอเตียนซีเชนนี้จึงเทากับ เปนการผูกน้ําใจชาวเมือง ทําใหการจัดระเบียบบริหารและการปกครองเมือง ปกเอี้ยงเปนไปโดยเรียบรอย ราบรื่นอยางรวดเร็ว นักปกครองแบบโจโฉจึงหาไดยาก แมวาการเมืองการปกครอง ในระยะหลังจะพัฒนา กาวหนาไป แตจิตใจของนักการเมืองและนักปกครองในยุคหลังนั้นกลับเลวทรามต่ําชา ไมคิดถึงความสงบ สันติของบานเมือง คิดถึงแตอํานาจและตัวเอง จึงเอาแตหลอกลวงปลิ้นปลอนราษฎรเพื่อใหไดอยูในอํานาจไป วันหนึ่งๆ เทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉยึดไดเมืองปกเอี้ยงแลว เสี้ยนหนามในภาคตะวันออกจึงคงเหลือแตเมืองตันลิวเมืองเดียวเทานั้น ครั้น ทราบวาลิโปหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โอกาสจึงเปดชองใหแกโจโฉที่จะยกขึ้น กลาวอางเอา ความชอบธรรมในการกําจัดลิโปศัตรูสําคัญ และยึดเมืองตันลิวตอไป เลาหัวที่ปรึกษาจึงเสนอตอโจโฉวา ซึ่งลิ
  • 32.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 32 โปหนีไปอยูเมืองตันลิวครั้งนี้หากละไวนานลิโปก็จะตั้งหลักปกฐานเติบกลาขึ้นมาอีก จึงขอเสนอใหโจโฉยก กองทัพไปตีเมืองตันลิว กําจัดลิโปเสีย ทําใหการยึดครองภาคตะวันออกบรรลุผลอยางสมบูรณ ขอเสนอของเลาหัวตรงกับความคิดยุทธศาสตรของโจโฉอยูแลว โจโฉจึงเห็นชอบและสั่งใหเลาหัวคุมทหาร สวนหนึ่งอยูรักษาเมืองปกเอี้ยง ตัวโจโฉและแมทัพนายกองอื่นยกไปเมืองตันลิว ฝายลิโปเมื่อหนีโจโฉมาถึง เมืองตันลิวแลวก็เขาไปหาเตียวเมี่ยว ขอกลับเขาทําราชการอยูกับเมืองตันลิวดังเดิม เตียวเมี่ยวเปนคนไมรู รอนรูหนาวและไมประมาณในการศึก ทั้งๆ ที่ลิโปเคยคิดแยกตัวเปนอิสระมาแลว แตพอลิโปกลับมาก็รีบรับลิโป ไวทําราชการดังเดิม โดยไมไดคํานึงวาการรับลิโปไวครั้งนี้เปนการ "ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาบาน" ครั้นเตียวเมี่ยวทราบวาโจโฉยกกองทัพมาตั้งประชิดเมืองตันลิว จึงสั่งใหตั้งรับอยูแตในเมือง ใหทหารรักษา เชิงเทิน หอรบไว โจโฉลอมเมืองตันลิวอยูเกือบครึ่งเดือนก็ขาดเสบียงลง ประกอบกับเปนฤดูกาลเก็บเกี่ยวขาว สาลี ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหถอนทัพถอยไปสี่รอยเสน ใหตั้งคายลงใกลปาริมแมน้ํา และใหทหารออกไปเก็บเกี่ยว ขาวสาลีของราษฎรมาเขาคลังเสบียง ราษฎรจึงแจงความไปยังเมืองตันลิว เตียวเมี่ยวเจาเมืองจึงสั่งใหลิโปยก ทหารออกไปขับไลทหารโจโฉไมใหแยงเกี่ยวขาวสาลีของราษฎร ลิโปคุมทหารออกมาไลจับและขับทหารโจ โฉซึ่งเกี่ยวขาวสาลีอยูนั้น ทหารของโจโฉสูลิโปไมไดก็พากันหนีเขาคายลิโปจึงยกทหารไลตามไปถึงบริเวณ ใกลหนาคายโจโฉ เห็นทางซายมือ เปนปารกเกรงวาโจโฉจะซุมทหารไวโจมตี จึงรีบยกทหารกลับเขาเมืองตัน ลิว โจโฉไดรับรายงานเหตุการณโดยตลอดแลว จึงวากับที่ปรึกษาวา ลิโปยกกลับไปเพราะระแวงวาฝายเราจะซุม ทหารไวในปา ดังนั้นในวันพรุงนี้ลิโปคงยกทหารมาเผาปาแลวโจมตีคายเราเปนมั่นคง เราจะวางกลอุบายจับลิ โปใหจงได โจโฉทําการศึกในระยะหลังนี้จะใชแนวทางการเมืองเปนหลักนํา และใชกลอุบายเปนมาตรการ หลักในการศึก ผิดกับโจโฉในครั้งที่รวม อยูในกองทัพปฏิวัติราวกับเปนคนละคน แลวโจโฉจึงวาเราจะใหทหาร เอาธงไปปกไวในปา หลอกลิโปใหหลงวาเราซุมทหารไวในปาขางทางนั้น และจะใหทหารรักษาคายไวแต นอยเพียงสี่หาสิบนาย นอกนั้นใหยกไปซุมอยูหลังคายดานริมแมน้ํา ครั้นลิโปเผาปาแลวคงยกลวงเขามายึด คาย ใหทหารซึ่งซุมอยูนั้นยกออกมาลอมจับคงจะไดตัวลิโปโดยงาย คณะที่ปรึกษาและบรรดาแมทัพนายกองฟงแผนการของโจโฉแลว ตางสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอัน มาก โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งการใหจัดเตรียมกําลังไวใหพรอม รุงขึ้นจะไดยกไปทําการครั้นรุงเชาลิโปจึงเสนอ เตียวเมี่ยวขอยกทหารออกไปตีคายโจโฉ ตันกงอยูในที่นั้นดวยจึงทักทวงวา ขณะนี้โจโฉขาดเสบียงไปตั้งคาย อยูริมแมน้ํา ก็เพียงเพื่อใหทหารไดเกี่ยวขาวสาลีเขาคลังเสบียง ดังนั้นถาเรายกทหารออกไปเพียงแตขับไล ทหารโจโฉไมใหเกี่ยวขาวได สําเร็จ หรือเผาขาวในนาเสีย กองทัพโจโฉก็จะขาดเสบียงลง และคงจะตองถอย ทัพกลับไป การที่จะเขาตีคายโจโฉครั้งนี้นาจะเปนอันตราย เพราะโจโฉนั้นมีความคิดและสติปญญาในการศึก มาก ไหนเลยจะไมคิดปองกันรักษาคายไวเปนอยางดี หรือมิฉะนั้นก็อาจวางกลอุบาย ไวอยางใดอยางหนึ่ง เรา ก็จะเสียทีแกโจโฉ ลิโปไมเห็นดวยกับตันกง อางวาในสถานการณที่โจโฉขาดเสบียง เชนนี้ควรที่จะตองรีบโจมตี เตียวเมี่ยวเห็นดี เห็นงามไปกับลิโป ดังนั้นจึงอนุญาตใหลิโปยกทหารไปตีคายโจโฉ ลิโปยกทหารไปถึงเขตปา ดานซายทาง ขางหนาคายโจโฉ พอเขาไปใกลเห็นธงปกอยูในปาเปนจํานวนมาก สําคัญผิดคิดวาทหารโจโฉซุมอยูในปา จึง ใหทหารเขาลอมปานั้นไวแลวเอาไฟเผาปาพรอมกันทั้งสี่ดาน ลิโปเห็นคายโจโฉเงียบอยูก็เขาใจผิดตอไปวา ทหารโจโฉยกออก จากคายมาซุมอยูในปาทั้งหมด จึงสั่งใหทหารบุกเขายึดคายโจโฉ แตขณะที่ลิโปยกทหาร ไปถึงหนาคาย โจโฉก็ใหทหารจุดพลุสัญญาณขึ้น ทหารของโจโฉก็โหรองดังสนั่นจากขางหลังคาย ทหารเอก ของโจโฉก็ยกทหารออกจากดานหลังคายเปนสองกอง เขามาสกัดหนาลิโปไวทางหนึ่ง และสกัดทางถอยไว อีกทางหนึ่ง ตีกระหนาบเขามาพรอมกัน แลวฆาฟนทหารลิโปลมตายลงเปนอันมาก ลิโปรูตัววาตองกลโจโฉก็ ตกใจ จึงรีบชักมากลับทางดานหลังตีฝาออกไป พาทหารที่รอดมาไดเพียงไมกี่คนหลบหนีจะเขาเมือง แต ทหารโจโฉยกตามไปติดๆ ในเมืองจึงไมสามารถเปดประตูเมืองรับ ลิโป กลับเขาเมืองได ลิโปจึงรีบหนีตอไป ทางดานชายทะเล ไปพบเขากับเตียวเลี้ยว จงปา โฮเสง โกสุน ซึ่งเปนทหารเอกที่ลิโปสั่งใหไปลําเลียง เสบียงเพิ่งกลับมา จึงพากันยกไปทางชายทะเลเมืองตันลิว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายตันกงอยูในเมืองตันลิวคาดการณวาลิโปยกไปครั้งนี้คงจะเสีย ทีแกโจโฉเปนแน จึงคอยเฝาติดตาม สถานการณ ครั้นทราบขาววาทหาร โจโฉลอมลิโปไวที่หนาคายจึงคาดการณวาในที่สุดลิโปคงหนีเขาเมือง ไมได และโจโฉคงยกเขามายึดเมืองตันลิวไดโดยเร็ว หากจะอยูในเมือง ตอไปจะไมปลอดภัย และทางหนีที่ ปลอดภัยก็คือทางดานชายทะเล ดังนั้นตันกงจึงพาครอบครัวของลิโปหนีออกจากเมืองไปทางดานชาย ทะเล
  • 33.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 33 ชายแดนเมืองตันลิว และในระหวางทางไดพบกับลิโปและทหาร ที่แตกหนีมานั้น จึงพากันไปตั้งหลักอยูที่ ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิว ฝายโจโฉเมื่อไดชัยชนะแลวจึงสั่งใหเคลื่อนทัพเขาโจมตีเมืองตันลิวอยางดุเดือด ทหารของโจโฉไดยิง เกาทัณฑเพลิงเขาไปในเมืองเปนอันมาก เพลิงลุกไหมในเมืองตันลิวหลายแหง ทหารเมืองตันลิวรักษาเมือง ไวไมได จึงพากันหลบหนี โจโฉจึงยกทหารเขายึดเมืองตันลิวไดสําเร็จ แตตัวเตียวเมี่ยวนั้นหนีรอดไปไดแลว ไปอาศัยอยูกับอวนสุดที่เมืองลําหยง โจโฉยึดเมืองตันลิวไดแลวไดเกลี้ยกลอมราษฎรใหทํามาหากินตามปกติ แลวจัดระเบียบการปกครองเมืองตันลิวเสียใหม จากนั้นรับสมัครชายฉกรรจเขาเปนทหารในกองทัพเปนจํานวน มาก เปนอันวาโจโฉไดยึดหัวเมืองในภาคตะวันออกไวในอํานาจไดอยางราบคาบและสมบูรณ ทําใหกําลัง กองทัพของโจโฉเพิ่มขึ้นอีกเปน จํานวนมาก และยังไดเคาทูนักรบฝมือดีมาเปนทหารเอกอีกคนหนึ่งบัดนี้โจโฉ ไดตั้งตัวเปนใหญขึ้นแลวอยางสมบูรณในภาคตะวันออก และนับเปนขุมกําลังใหญที่สุดในบรรดากําลังของขุน ศึกทั้งปวงในแผนดินปจจุบัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนเผาบานไลหนู (ตอนที่ 65) ฝายลิโปเมื่อยกไปตั้งหลักที่ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิวแลว ทราบขาววาโจโฉยึดเมืองตันลิวได จึงปรึกษา กับตันกงวาจะยกทหาร ไปรบกับโจโฉยึดเมืองตันลิวกลับคืน ตันกงจึงวาบัดนี้โจโฉยึดหัวเมืองภาคตะวันออกไว ในอํานาจหมดสิ้นแลว มีกําลังทหารเปนอันมาก ในขณะที่ฝายเรามีทหารอยูนอย ไมพอกับการรุกรับในสงคราม หากทานยกไปคงจะเสียทีแกโจโฉ สถานการณยามนี้จึงกําหนดใหฝายเราตองพักรบตั้งหลักปกฐานพักฟน สรางสมกําลังกอนแลวคอยคิดการสืบไป ลิโปสิ้นความฮึกเหิมจากชัยชนะสามครั้งกอนเพราะพายแพโจโฉจนตองมาติดอยูที่ชายทะเล ทิฐิมานะจึงออน ลง จึงเห็นดวยกับตันกง แลวปรึกษาวาดินแดนในภาคตะวันออกนี้คงจะอาศัยอยูนานไมได เพราะเมื่อโจโฉ ทราบขาวคงยกทหารมาที่ชายทะเลเราก็จะอันตราย และเห็นวาควรไปขออาศัยอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว ตัน กงจึงวาจะดวนผลีผลามในทันทียอมไมชอบเพราะเปนการสุมเสี่ยง เนื่องจากกอนหนานี้อวนเสี้ยวโกรธและคิด จะสังหารทานเสีย ทานจึงหนีมาอยูกับเตียวเมี่ยวที่เมืองตันลิว หากคิดจะกลับไปอาศัยอวนเสี้ยวอีก อันตรายก็ อาจเกิดแกตัวทาน สมควรใหทหารไป สืบลาดเลาดูเสียชั้นหนึ่งกอน ลิโปเห็นชอบกับความคิดตันกงจึงให ทหารไปสืบลาดเลาทางดาน เมืองกิจิ๋ว ทหารกลับมารายงานวา อวนเสี้ยวทราบขาวโจโฉยกมาทําศึกกับทาน ที่เมืองปกเอี้ยงจึงใหงันเหลียงทหารเอกยกทหารหกหมื่นจะไปชวยโจโฉ บัดนี้งันเหลียงทราบวาโจโฉยึดได เมืองปกเอี้ยงแลว จึงยกทัพกลับไป ลิโปไดฟงดังนั้นก็ตกใจรีบปรึกษากับตันกงวาจะคิดอานประการใดตอไป ตันกงจึงวาบัดนี้เมื่อไมสามารถไปอาศัยอวนเสี้ยวไดแลว จึงคงเหลือเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนเมืองใหญขณะนี้โตเกี๋ยม เจาเมืองตายแลว ยกเมืองใหแกเลาป แตเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศมีน้ําใจกวาง ขวางโอบออมอารีตอคนทั้งปวง หากทานไปขออาศัยเลาปคาดวาเลาปคงเต็มใจ ไมละไมตรีตอทาน ลิโปเห็นดวยจึงพาทหารและครอบครัวไป เมืองชีจิ๋ว และใหทหาร เขาไปสงขาวแกเลาปวาจะมาขออาศัยอยูดวย เลาปทราบขาวแลวจึงปรึกษาดวยบิตกและซุนเขียนพรอมดวย ขุนนางทั้งปวงของเมืองชีจิ๋ว บรรดาขุนนางไม เห็นดวยที่จะรับลิโปไว โดยแสดงเหตุผลวาลิโปนั้นเปนคนเนรคุณจะทําอันตรายตอทาน ในภายหลังทั้งการรับ ลิโปไวจะเปนการชักศึกใหโจโฉยกกองทัพมา ตีเมืองชีจิ๋ว เลาปฟงคําที่ปรึกษาแลวแยงวาเดิมทีนั้นโจโฉยก มาตีเมืองชีจิ๋ว แตลิโปไดชวยเหลือไวดวยการยกไปตีเมืองกุนจิ๋ว ทําใหโจโฉตองถอน ทัพกลับไป เมืองชีจิ๋วจึง พนจากอันตราย เทากับลิโปไดทําคุณไวแกเมืองชีจิ๋ว มาครั้งนี้ลิโปเดือดรอนหากไมรับลิโปไวก็จะไดชื่อวาไม รูคุณ คนและเปนการไรน้ําใจไมตรีตอผูยาก บรรดาที่ปรึกษา และขุนนางเห็นเลาปยืนกรานจะรับลิโปไวเห็น จะทัดทานไมได จึงพรอมกันวาทานจะรับลิโป ไวก็ตามใจทานเถิด แตตองระมัดระวังตัวไวใหจงดี เลาปฟงคําที่ปรึกษาเชนนั้นก็ยินดี แลวพากวนอู เตียวหุย ออกไปรับลิโปที่นอกเมือง แลวเชิญลิโปมาที่จวน ของเจาเมือง น้ําใจของเลาปครั้งนี้สะทอนถึงคุณธรรมและ ความมีน้ําใจโอบออมอารีตอผูอื่นโดยไมไดหวงใยถึงอันตรายของตนเอง และไมคํานึงวาจะชักพาศึกใหญ มาถึงตัว จิตใจของเลาปเปนดั่งนี้ใครจะวาผิด ใครจะวาถูกก็ยอมเปนเรื่องที่วากันไปตามอัธยาศัยและน้ําใจของ แตละคน โดยที่ไมมีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดและจิตใจของเลาป ใหเปนอื่นไปได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปมาถึงจวนของเจาเมืองแลวคารวะเลาป แลวเลาความตั้งแต รวมคิดอานกับ อองอุนกําจัดตั๋งโตะศัตรูราช สมบัติเสีย ตอมาลิฉุย กุยกี ไดครองอํานาจในเมืองหลวงคิดลางแคนใหกับตั๋งโตะจึงตองหนี ไปหลายที่หลาย
  • 34.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 34 เมือง ในที่สุดไดไปพึ่งเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ครั้นโจโฉยกทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงไดนํากองทัพยกไปตีเมืองกุน จิ๋วเพื่อ ชวยเหลือเมืองชีจิ๋วไว บัดนี้เสียทีแกโจโฉจึงตองมาขอพึ่งเลาปเพื่อจะไดคิดการใหญสืบไป ความจริงลิ โปยกทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วนั้นเปนไปตามคําสั่งของเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โดยคําปรึกษาของตันกง เพื่อยึด เอาเมืองกุนจิ๋วไวในอํานาจอยางหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของเมืองตันลิวอีกอยางหนึ่ง แตการทําใหโจโฉตอง ถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วนั้นเปนเพียงผลพลอยได แตลิโปกลับยกเอาเปนบุญคุณวาเปนการชวยเมืองชีจิ๋ว เปน การจี้ใจดําของเลาปโดยตรง แลวลิโปจึงชวนเลาปใหรวมกันคิดการใหญ เพื่อกําจัดลิฉุย กุยกี และโจโฉตอไป และถามเลาปวาจะพรอมใจ รวมทําการดวยหรือไม เลาปจึงวาโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วเพิ่งถึงแกความตาย ปลงธุระเมืองชีจิ๋วไวกับขาพเจา แต ขาพเจานี้มีสติปญญานอย เกรงวาจะทําการไปไมตลอด ดังนั้นเมื่อทานคิดอานทําการใหญ จงรับธุระเปนเจา เมืองชีจิ๋วแทนขาพเจาเถิด วาแลวก็ใหทหารไปเอาตราสําหรับเมืองจะมอบแกลิโป ลิโปยินเลาปวาจะยกเมืองชี จิ๋วใหก็ขยับมือจะรับเอาตราเจาเมือง แตชําเลืองไปเห็นกวนอู เตียวหุย ซึ่งยืนอยูขางหลังเลาปนั้นแสดงอาการ ไมพอใจก็ชะงักมือไว แลวแกลงทําเปนหัวเราะและวา ตัวขาพเจานี้เปนทหารอาชีพไมถนัดการบานการเมือง ทั้งเปนเพียงผูมาขออาศัยใบบุญของทานอยู ไมชอบที่จะรับเอาเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตัวทานนั้นเปนเชื้อพระวงศ พระเจาเหี้ยนเต ไดครองเมืองชีจิ๋วยอมเปนการเหมาะสมทุกประการแลว ตันกงเห็นเหตุการณก็เขาใจวาเลาประแวงวาลิโปจะมาแยงเมือง จึงวาพวกเราเปนแขกมาขออาศัยทานจะคิด ชิงเอาเมืองนั้นหามิได ทานอยาไดระแวงสงสัยเลย เลาปจึงวาความคิดที่จะระแวงสงสัยลิโป หรือผูใดไมเคยมี อยูในใจของขาพเจา แตเมื่อลิโปไมเต็มใจก็แลวกันไปเถิด เลาปจึงจัดใหลิโปและคณะพักที่เรือนรับรองแขก เมือง ค่ําลงก็เชิญลิโปมากินโตะ ในระหวางกินโตะกันนั้นลิโปเรียกบุตร ภรรยามา คารวะเลาป แตเลาปเกรงใจ และวาขาพเจาเปนผูนอยทานอยาไดคํานับเลย ลิโปเห็นดังนั้นจึงวา "นองเรา! จงใหบุตรภรรยาเราคํานับเถิด" เตียวหุยไดยินคําลิโปเรียกเลาปเปนนองจึงคิดวาลิโปเปนคนอาศัยมา กระทําการจวงจาบเลาปวาเปนเพียงนอง หรือลูกนองจึงโกรธ ลิโป ลุกขึ้นดาลิโปวาไมรูคุณคน และทาลิโปออกไปสูกัน เลาปเห็นเตียวหุยโกรธจึงหาม เตียวหุยไวและใหกวนอูพาเตียวหุยออกไปขางนอก แลวขอโทษลิโปที่เตียวหุยเสียมารยาทตอแขกเมืองเชนนี้ ลิโปสั่นศีรษะแตไมตอบคําประการใด เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปและลิโปก็แยกกันกลับที่พัก เลาปมาถึง กลางทางเหลียวไปไมเห็นเตียวหุย เกรงวา เตียวหุยจะหวนกลับไปวิวาทดวยลิโป จึงสั่งใหกวนอูรีบไปตามเตียวหุยกลับมา กวนอูตามไปถึงหนาเรือน รับรองแขกเมืองเห็นเตียวหุยขี่มารําทวนทาลิโปใหออกมารบ กวนอูจึงพาเตียวหุยกลับไปที่พัก รุงขึ้นเชาลิโปจึงไปพบเลาปแลววา ขาพเจาหนีรอนมาพึ่งเย็นขออาศัยอยูกับทาน ตัวทานก็ใหความเกรงใจ อนุญาตใหขาพเจาไดอาศัย แตเตียวหุยนองทานดูหมิ่นขาพเจานัก ไมสามารถทนอยูที่นี่ตอไปได จําเปนตอง ขอลาทานไปอาศัยที่อื่น เลาปจึงขอโทษลิโปแลววา ซึ่งเตียวหุยลวงเกินทานนั้นขาพเจาขออภัยตอทาน แลว จะพาเตียวหุยไปขอขมาในภายหลัง แตลิโปยืนกรานจะลาไปอยูที่อื่น เลาปจึงวาถาเชนนั้นใหทานไปอยูเมือง เสียวพายเถิด ขาพเจาจะจัดสงเสบียงอาหารใหแกทานมิใหอนาทรเลย ลิโปไดฟงเชนนั้นก็ยินดี ขอบคุณเลาป แลวพาครอบครัวกับทหารที่ติดตามมายกออกจากเมืองชีจิ๋วไปอยูเมืองเสียวพาย ฝายโจโฉครั้นไดครองอํานาจในหัวเมืองภาคตะวันออกราบคาบแลว จึงทําหนังสือกราบบังคมทูลพระเจา เหี้ยนเตรายงานสถาน การณทั้งปวงใหทรงทราบ ครั้นหนังสือเขาไปถึงเมืองหลวง เจาหนาที่จึงนําหนังสือไป เสนอกับลิฉุย ลิฉุยเห็นความในหนังสือแลวก็เก็บเสีย ไมนําความขึ้นกราบบังคมทูล แตใหเลื่อนตําแหนงโจโฉ เปนพระยาพิทักษคุณธรรม การขางในราชสํานักในขณะนั้น ลิฉุย กุยกีไดจําเริญรอยตั๋งโตะ ยึดอํานาจบริหาร บานเมืองของฮองเตไวทั้งสิ้น กระทําการหยาบชาตอฮองเตและขุนนาง ขาราชการเหมือนกับยุคสมัยของตั๋ง โตะทุก ประการ ขณะนั้นเอียวปวและจูฮี ขุนนางผูใหญมีความจงรักภักดีตอราชวงศฮั่น เห็นลิฉุย กุยกีประพฤติ ตนเปนทรราชเหมือนกับตั๋งโตะ จึงรวมคิดปรึกษากันจะกําจัด ลิฉุย กุยกีเสีย ปรึกษากันแลวสองขุนนางจึงลอบ ไปเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงในพระตําหนัก กราบบังคมทูลวาบัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนทรราช ประพฤติตนเปนศัตรู ราชสมบัติ ขุนนางในเมืองหลวงไมมีผูใดสามารถกําจัดลิฉุย กุยกีได แลววาบัดนี้โจโฉปราบปรามโจรโพก ผาเหลืองภาคตะวันออกราบคาบแลว มี ทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น ขอเสนอใหมีรับสั่งใหหาโจโฉมา ทําราชการในเมืองหลวงและกําจัดทรราชเสีย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงสองขุนนางแลวทรงพระกันแสง และมีพระราชดํารัสวาแผนดินทุกวันนี้สิทธิขาดอยูที่ลิ ฉุย กุยกีสิ้น เราหามีอํานาจที่จะเรียกโจโฉเขามาไม ผูใดมีสติปญญาก็จงคิดอานกําจัดศัตรูแผนดินเถิด สองขุน นางไดฟงกระแสพระราชดํารัสแลว รูสึกสงสารยุวกษัตริยที่ถูกทรราชกดขี่ขมเหงรังแกจึงพากันรองไห แลว เอียวปวจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาขออาสากําจัดทรราชยใหสําเร็จจงได พระเจาเหี้ยนเตสนพระทัย
  • 35.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 35 ความคิดของเอียวปว ที่จะกําจัดศัตรูราชสมบัติ จึงรับสั่งถามวาแผนการความคิดของทานเปนประการใด เอียวป วกราบบังคมทูลวาลิฉุย กุยกีมีความสนิทสนมแนนแฟน ไปมาหาสูกันเปนประจําทุกวัน บางวันถึงขนาดนอน คางอยูบานเดียว กัน ถาสองเสือนี้ยังคงมีความสามัคคีกันเปนอันดียอมยากที่จะกําจัด ดังนั้นขาพระพุทธเจาจะ คิดการใหสองเสือนี้บาดหมางหักลางกันเอง จากนั้นจึงคอยหาโจโฉเขามากําจัดเสีย พระเจาเหี้ยนเตรับสั่งถามตอไปวา ทําอยางไรสองเสือนี้จึงจะกัดกันเองจนบาดเจ็บลมตาย เอียวปวถวาย ความเห็นตอไปวา กุยกีนั้นมีภรรยาที่มีจิตริษยาหึงหวงมากกวาสตรีทั้งปวง ขาพระพุทธเจาจะคิดอานยุยง ทางดานภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยระแวงสงสัยกันกอนแลวคอยยุยงใหประหัตประหารกันตอไป พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลดังนั้นแลวทรงเห็นชอบดวย จึงทรงพระอักษรลับใหเอียวปวถือไว เมื่อใด ที่ลิฉุย กุยกี แตกกันเห็นเปนทีแลวจึงใหเอาพระราชหัตถเลขานี้เรียกโจโฉเขามากําจัดสองเสือเสีย แผนการครั้งนี้ดูประหนึ่งเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม เพราะทําใหทรราชแตกความสามัคคี ลางผลาญกันเอง แต กลับเปนแผนการที่ขาดความรอบคอบรอบดานเพราะมิไดคํานึงวาสองทรราชอยูใกลชิดกับฮองเต เสมือนหนึ่ง อยูในบานเดียวกัน หากสองเสือฟาดฟนกันในบาน ทรัพยสิ่งศฤงคารภายในบานยอมถูกผลแหงการลางผลาญ นั้นทําลายไปหมดสิ้น ยิ่งกวานั้นหากพลาดพลั้งประการใด เจาบานก็อาจถูกลูกหลงจากการลางผลาญของสอง เสือจนตองตกอยูในอันตราย นับเปนแผนการที่เสี่ยงภัยตอผูเปนเจาบานคือฮองเตมากที่สุด ไมตางอะไรกับ การ จุดไฟในบานเพื่อขับไลหนู พลาดพลั้งลงไฟก็ไหมบานจนหมดสิ้น มิหนําซ้ําหนูก็หนีรอดไปไดอีก แผนการนี้อาจจะไดผลถาหากเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปประพาสตางเมืองเสียกอน แตกระนั้นก็คงยากจะ สําเร็จเพราะสองเสือ ยอมระมัดระวังควบคุมฮองเตไว จึงไมอาจนับเปนแผนการที่ดี แผนการที่ดีเปนอยางไร ยอมตองสอดคลองกับสถานการณภาย ในราชสํานักเอง ปมเงื่อนอยูที่การแสวงหาคนดีมีฝมือ ทั้งทาง สติปญญา ความคิด และกําลังฝมือ ตลอดจนกําลังทหารเพื่อเปนกําลังในการกําจัดทรราช กําลังเหลานี้พรอม บริบูรณขึ้นแลวนั่นแหละจึงจะกําจัดทรราชยไดสําเร็จ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวทรงพระเยาว ก็ตกอยูในสภาพการณอยางเดียวกันนี้ แตดวย พระปรีชาสามารถสมเปนมหาราช ดังนั้นจึงทรงคิดอานทั้งดานสรางเสริมกําลังทุกดานของราชสํานัก และลด อํานาจบทบาทของฝายอื่นลงอยางเปนขั้นตอน จึงทําใหพระราชอํานาจคอยๆ เพิ่มพูนขึ้นจนเต็มบริบูรณ และ ทําใหการบานเมืองเปนไปอยางราบรื่นสันติ จนประสบความสําเร็จอันยิ่งใหญ ในภูมิภาคในยุคนั้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายเสี้ยมสองเสือ (ตอนที่ 66) เอียวปวกับจูฮีออกจากพระตําหนักที่ประทับแลว ก็พากันไปที่บานของเอียวปวเพื่อปรึกษาหารือในรายละเอียด ของอุบายเสี้ยมสองเสือ จูฮีไดถามเอียวปววา ซึ่งทานมีความคิดที่จะวางอุบายตามที่กราบบังคมทูลนั้นจะทํา ประการใด เอียวปวจึงบอกจูฮีวา ภรรยาของขาพเจามีความสนิทคุนเคยและไปมาหาสูกับภรรยาของกุยกีอยู เสมอ เพราะภรรยาของกุยกีนั้นชอบเลนไพ เชนเดียวกับภรรยาของขุนนางอีกหลายคน จึงมักเรียกหาภรรยา ขาพเจาไปรวมวงไพเปนประจํา ดังนั้นขาพเจาจะใหภรรยาไปยุภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยแตกคอแลว ลางผลาญกันใหจงได ทานจงวางใจในธุระนี้ ขาพเจาจักคิดอานทําการไมใหเกิด ความเสียหายขึ้นเปนอันขาด จูฮีฟงคําเอียวปวแลวก็เห็นลูทางที่จะเสี้ยมสองเสือใหลางผลาญกันเอง จึงเปนที่พอใจ แลวลาเอียวปวกลับไป บานเอียวปวจึงเรียกภรรยามาปรึกษาและอธิบายความทุกขรอนของ พระเจาเหี้ยนเตที่ถูกทรราชขมเหงย่ํายี ตลอดจนแผนการที่จะยุยง ภรรยาของกุยกีใหภรรยาฟงโดยละเอียด ภรรยาของเอียวปวมีใจภักดีมั่นคงในราช สํานักจึงเต็มใจทําการสนองพระเดชพระคุณ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด วันรุงขึ้นภรรยาเอียวปวจึงทําทีไปเยี่ยมภรรยากุยกีตามปกติ ครั้นทักทายปราศรัยกันประสาคนคุนเคยแลว ภรรยาเอียวปวจึงวา บัดนี้ขาพเจามีเรื่องสําคัญจําเปนตองบอกกลาวใหทานทราบ เพราะหากละเสียแลว ขาพเจาก็จะไดชื่อวาไมซื่อตรงตอมิตร เห็นภยันตรายที่จะเกิดขึ้นแกมิตรผูเปนที่รักเคารพแลวทิ้งธุระเสีย แต เนื่อง จากเรื่องนี้เปนเรื่องลับเกี่ยวกับชื่อเสียงเกียรติคุณของกุยกีสามีทาน ไมอาจกลาวในที่แจงได ภรรยากุยกี ไดฟงดังนั้นก็ประหวั่นใจวาเปนเรื่องรายของสามีตัว จึงรีบพาภรรยาเอียวปวเขาไปที่ขางใน แลวเรงเราให ภรรยาเอียวปวรีบบอกความตามที่ทราบมา ภรรยาเอียวปวจึงแสรงถามแตพอไดยินวา ระยะนี้กุยกีกลับมาคาง คืนที่บานทุกคืนหรือไม ภรรยากุยกีจึงวาระยะหลังๆ มานี้กุยกีไมคอยไดกลับบาน บอกวาคางที่บานของลิฉุย เพื่อปรึกษาราชการ ภรรยาเอียวปวจึงกลาวดวยความหวงใยวาทานใจซื่ออยูแตในบาน มิรูความนัย บัดนี้มี กิตติศัพทซุบซิบกันวา กุยกีสามีทานไปติดพันดวยภรรยาของลิฉุย ดังนั้นถาหากลิฉุยทราบเรื่องเขาวันใดคง จะ
  • 36.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 36 สังหารสามีทานเสียในวันนั้น ขาพเจาเอ็นดูวาทานจะเปนหมาย จึงนําความลับมาบอกใหทานคิดอานปองกัน แกไขเสียใหทันการณ ภรรยาเอียวปวอางเอาความสงสารเห็นแกภรรยากุยกีวาจะเปนหมาย ปกปดเจตนาที่แทจริงมิใหเกิดความสงสัย โดยกลาวความขาม เรื่องความหึงหวงของอิสตรีไป แตภรรยากุยกีฟงความแลวจิตใจหึงหวงหนักหนวงกวา จิตใจหวงใยกุยกี กระทบเขากับแกนใจถนัดถนี่ อารมณหวงหึงจึงพุงประดังเขาครองใจภรรยากุยกี ครั้นหวน รําลึกถึงเหตุการณที่ผานมาก็เห็นสมจริงตามคําของภรรยาเอียวปว มิไดเกิดความระแวงสงสัยใดๆ กลับรูสึก ขอบใจภรรยาเอียวปวที่ภักดีตอน้ํามิตรแหงวงไพ จึงบอกกับภรรยาเอียวปววามินาเลากุยกีจึงไมคอยกลับมา คางคืนที่บาน ตัวเราสิวางใจวาเปนขุนนางผูใหญมีราชการบาน เมืองเปนอันมากจึงมิไดคิดสงสัย บัดนี้มา ไตรตรองดูแลวจะมีราชการ อะไรหนักหนาจึงถึงกับตองคางคืนที่บานลิฉุยเปนประจํา การณสมจริง ตามคํา ซุบซิบนินทาเปนแมนมั่น แลวภรรยากุยกีจึงกลาวขอบใจภรรยาเอียวปวเปนอันมาก จึงวาเรื่องนี้เปนเรื่องลับ ของสามีเรา อาจกระทบตอหนาที่การงาน ชื่อเสียง และเกียรติคุณ ขอทานอยาไดแพรงพรายใหผูอื่นไดรูอีก เปนอันขาด เพราะถาหากลวงรูถึงลิฉุย สามีเราก็จักเปนอันตราย ภรรยาเอียวปวจึงกลาววาทานจงวางใจเถิด ขาพเจาไมมีวันเห็นอื่นไกล ยิ่งไปกวาทานซึ่งเปนมิตรที่เคารพแลว สวนตัวทานก็เชนเดียวกัน ขอจงอยาแพรงพรายความที่ขาพเจานํามาบอกใหผูใดไดลวงรูเปนอันขาด มิฉะนั้น แลวขาพเจาก็จะไมสามารถสืบหาขาวคราวมารายงานทานไดอีกตอไป ภรรยากุยกีจึงวาตอไปนี้เราจะหาทาง หามปรามและกีดกันมิใหกุยกีไปบานลิฉุย ถาหากทานมีขาวคราวความคืบหนาประการใด ก็ใหรีบมาแจงให ขาพเจาทราบ จักไมลืมพระคุณเลย ภรรยาเอียวปวทําการสําเร็จดังประสงคแลวก็ขอลากลับบาน อันอารมณหึงหวงของสตรีนั้นมีอยูประจําทั่วทุกตัวคน เปนแตระดับจะมีมากบางนอยบางตามอัธยาศัยของแต ละคน ไมวาจะมีฐานะตําแหนงเปนเมียเดี่ยว หรือเมียหลวง หรือเมียนอยก็ตามที ถาหากภรรยากุยกีนั้นเปน ภรรยาโดยชอบดวยกฎหมายของบุคคลอื่นแลวกุยกีไปแยงเอามาครอง ก็ยอมยากที่จะอางหรือแสดงความหึง หวงสตรีอื่นใหปรากฏไดอยางเต็มที่ เพราะสตรีอื่นยอมมีสิทธิที่จะโตแยงไดวาหามีสิทธิประการใดไม เนื่องจาก ฐานะตัวเปนเพียงชูของกุยกี เทานั้น และถาหากเกิดการโตแยงขึ้นดังนี้แลว หนากากของกุยกีที่พยายามแสดง ตอสาธารณชนโดยตลอดมาวาเปนคนมีคุณธรรมก็จะเสื่อมเสียไปสิ้น แตภรรยาของกุยกีนั้นเปนภรรยาโดยชอบดวยกฎหมาย จึงหึงหวงกุยกีไดโดยไมมีสิ่งใดกีดคั่นใหเปนที่ครหา ทั้งไมตองหวงใยวาจะมีหญิงใดเที่ยวโพนทะนาเรียกหาใบหยาใหเปนที่ยุงยากลําบากใจ หลังจากนั้นวันสองวัน ลิฉุยใหคนมาเชิญกุยกีไปกินโตะที่บาน กุยกีก็รับคําเชิญตามปกติ ภรรยากุยกีทราบความจึงหามกุยกีวาบาน เมืองทุกวันนี้อํานาจสิทธิขาดอยูที่ลิฉุยกับทานเพียงสองคน ตัวลิฉุยนั้นคิดอานจะครองอํานาจไวแตเพียงผู เดียว หาทางกําจัดทานอยู การที่ทานจะไปกินโตะที่บานลิฉุย ถาหากทานเมาสุราแลวลิฉุยเอายาพิษ ใหทาน กิน หรือแสรงใหทหารมากอวิวาทกับทานแลวสังหารทานเสีย ทานก็จักไดรับอันตราย ตัวขาพเจาเปนสตรีจะ พึ่งพาผูใดไดเลา กุยกีเปนคนกลัวเมีย ฟงคําเมียปรามดวยเหตุและผลดังนี้จึงอางวาปวยนอนอยูที่บาน ถึงเวลา ก็ไมไปกินโตะที่บานลิฉุย ฝายลิฉุยรอกุยกีอยู ครั้นทราบวากุยกีปวยมากินโตะไมไดจึงใหคนสงอาหารที่จะ เลี้ยงโตะนั้นไปใหกุยกีถึงที่บาน ภรรยากุยกีเห็นดังนั้นจึงลอบเอายาพิษใสไวในอาหาร แลวเตรียมรอกุยกี ครั้นไดเวลากุยกีและภรรยาก็มาพรอม กันที่หองอาหาร ภรรยากุยกีไดปรารภขึ้นวาลิฉุยเชิญทานไปกินโตะที่บาน ครั้นทานไมไปยังอุตสาหสงโตะมา ใหถึงบาน ขาพเจาสงสัยวาเหตุใดลิฉุยจึงอยากใหทานกินโตะนั้น ดังนั้นเราควรพิสูจนอาหารที่ลิฉุยสงมานี้ เสียกอน กุยกีก็ตามใจภรรยา ภรรยากุยกีจึงแบงเอาอาหารนั้นใหสุนัขกิน สุนัขกินแลวก็ตาย กุยกีเห็นเชนนั้นก็ ตกใจคิดไมถึงวาอาหารที่ลิฉุยสงมาจะใสยาพิษ ภรรยากุยกีจึงแสรงทําตกใจตามไปดวยแลววาเดชะบุญทาน ยังไมสิ้น ดังนั้นเทพยดาจึงบันดาลใหทานพบเหตุเสียกอน กุยกีฟงคําภรรยา แลวก็เห็นจริงจึงเกิดความคิด ระแวงลิฉุยตั้งแตบัดนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด รุงขึ้นอีกสองวันหลังจากออกจากที่เฝาแลว ลิฉุยก็ชวนกุยกีไปปรึกษาราชการที่จวน เสร็จแลวก็ชวนกินโตะ ครั้นกลับมาถึงบานกุยกี มีอาการปวดทอง ภรรยากุยกีจึงถามวาออกจากที่เฝาวันนี้แลวทานไปที่ไหนมา กุยกีจึง เลาความที่ลิฉุยชวนไปบานแลวเลี้ยงโตะ ภรรยากุยกีก็ทําเปนตกใจแลวเอายาถอนพิษมากรอกปากกุยกี ครั้น กุยกีกินยาถอนพิษซึ่งมีคุณสมบัติที่ทําใหคนอาเจียนแลว กุยกีก็อาเจียนออกมาเปนอันมาก อาการปวดทองก็ หาย กุยกีจึงเชื่อโดยสนิทใจวาลิฉุยมุงรายวางยาพิษคิดสังหารตัวเพื่อครองอํานาจไวแตเพียงผูเดียวสมจริง ตามที่ภรรยาไดตักเตือนมาตั้งแตตนก็โกรธลิฉุย แลวคิดวาเมื่อลิฉุยคิดอานกําจัดเราเชนนี้แลว หากละไวนาน ไปความคิดของลิฉุยก็คงสัมฤทธิผลขึ้นสักวันหนึ่ง จําเปนที่เราจะตองสังหารลิฉุยเสียกอน คิดดังนี้แลวจึงสั่งให จัดทหารเตรียมจะยกไปลอมบานลิฉุยเพื่อ จับลิฉุยฆาเสีย
  • 37.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 37 ขณะนั้นเอียวปวและจูฮีเฝาติดตามสถานการณอยูอยางใกลชิด ครั้นทราบเหตุการณที่กุยกีสั่งใหจัดเตรียม ทหารเพื่อจะยกไปบานลิฉุย จึงใหคนรีบลอบไปบอกแกลิฉุยวากุยกีกําลังเตรียมการยึดอํานาจแผนดินไวแตผู เดียว ขณะนี้กําลังเตรียมทหารเพื่อจะยกมาจับลิฉุยฆาเสีย ลิฉุยไดทราบดังนั้นก็โกรธ คิดวาตัวเราไมเคยคิดราย ตอกุยกี ไมไดทําผิดตอกุยกีแมแตนอย แตกลับถูกกุยกีคิดทรยศ จะยึดอํานาจ แลวฆาตัวเราเสีย จําเปนที่เรา จะตองฆากุยกีเสียกอนแลวจึงสั่งใหลิเซียมผูเปนหลานยกทหารกองหนึ่งไปอารักขาพระเจาเหี้ยนเต ตัวลิฉุย เองยกทหารอีกกองหนึ่งจะไปที่บานของกุยกี ครั้นลิฉุยยกมาถึงกลางทางพบกับกุยกียกทหารมา ลิฉุยก็ยิ่ง มั่นใจวากุยกีคิดทรยศตอตัวเอง จึงสั่งทหารใหเขาตีทหารของกุยกีจับตัวกุยกีใหไดไมวาเปนหรือตาย ทหารทั้ง สองฝายไดตอสูกันเปนสามารถ ครั้นออนลาลงทั้งสองฝายจึงตางถอยทหารออกมา กุยกีถอยทหารมาแลวคิด ขึ้นไดวาพระเจาเหี้ยนเตเปนกลไกสําคัญแหงอํานาจรัฐ ใครยึดฮองเตไวไดก็จะมีความชอบธรรมที่จะครองและ ใชอํานาจรัฐตอไป จึงสั่งทหารใหเคลื่อนไปทางพระราชวัง พอดีสวนกับลิเซียมหลานกุยกีและกาเซี่ยง คุม ขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเต พระมเหสี พระสนมและขันทีทั้งปวงจะหนีออกจากพระราชวังไปที่กองทหารของลิ ฉุย กุยกีจึงสั่งทหารใหระดมยิงเกาทัณฑใสขบวนเสด็จทหารของลิเซียม พระสนม นางกํานัลและขันทีหลาย คนถูกเกาทัณฑของทหารกุยกีลมตายลง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเหตุ การณดังนั้นก็ทรงตกพระทัยมิรูที่ จะทําประการใด ฝายลิฉุยครั้นไดรับรายงานวากุยกีถอนทหารแลวยกไปลอมขบวนเสด็จ จึงยกทหารไลตามมาและลอมทหาร กุยกีไว ทหารของทั้งสองฝายไดหันเขาตอสูกันอีกครั้งหนึ่ง กุยกีเห็นวาสูไมไดก็ยกทหาร เขาไปในพระราชวัง ลิฉุยจึงเขาถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตและนําขบวนไปตั้งพลับพลาที่ประทับชั่วคราวอยูนอกพระราชวัง และใหทหารไปสืบขาวในพระราชวังวากุยกีไดทําประการใด ดานกุยกีเมื่อยกทหารเขาไปในพระราชวังแลวยึด เอาทรัพยสิน เงินทองในทองพระคลังหลวง จับเอาสาวสนมนางกํานัลและขาราชสํานักไวเปนจํานวนมาก แลว ใหทหารเอาไฟเผาพระราชวังเสียทั้งสิ้น กุยกีแมยังมีตําแหนงเปนขุนนางผูใหญ แตบัดนี้กระทําการเยี่ยงโจรไป เสียแลว แตการตัดสินใจเผาพระราชวังนั้นเปนเรื่องไรเหตุ ผลสิ้นเชิง แตจะหวังเอาเหตุผลกับคนไรเหตุผล แบบกุยกีนั้นยอมหวังอะไรไมได เหมือนกับการที่จะหวังเอาความสํานึกรับผิดชอบจาก นักการเมืองที่ทุศีล ไร คุณธรรมก็ยอมหวังอะไรไมได บรรดาขุนนางขาราชการที่เหลือตางพากันหนีเอาตัวรอด บางก็พากันไปตามเสด็จพระเจาเหี้ยนเต บางก็หนี กลับภูมิลําเนาเดิม ฝายกุยกีครั้นรูขาววาลิฉุยไดถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตอยู นอกพระราชวังก็ยกทหาร ตามไปเพื่อจะชิงเอาพระเจาเหี้ยนเตมาไวใน อารักขาเสียเอง ทหารของกุยกีปะทะกับทหารของลิฉุยแตสูทหาร ของ ลิฉุยไมได จึงถอยออกมาตั้งคายคุมเชิงกันอยู ฝายลิฉุยครั้นเห็นไฟไหมพระราชวังจนหมดสิ้น จึงให อัญเชิญขบวนเสด็จไปยังเมืองหลวงแหงที่สองที่ตั๋งโตะสรางไว แตเนื่องจากเมืองหลวงแหงที่สองก็ทรุดโทรม และเสบียงไมพอเพียง ดังนั้นลิฉุยจึง กําชับลิเซียมผูหลานไมใหสงอาหารแกบรรดาพระสนม นางกํานัลและ ขันที คงใหสงถวายเฉพาะพระเจาเหี้ยนเตและพระมเหสีเทานั้น อุบายเสี้ยมสองเสือใหกัดกันในบานตัวเองไดสงผลใหเสือกัดกันก็จริงอยู แตจากการที่สองเสือฟาดฟนกันเอง นั้น ยอมทําใหบรรดา ทรัพยสินขาวของภายในบานฉิบหายวายวอดจนหมดสิ้น แมกระทั่งเจาบานก็ตองไรที่อยู ตกเปนผูระเหเรรอนตั้งแตบัดนั้น ถึงขณะนี้อุบาย เสี้ยมสองเสือจึงกลายเปนแผนการเผาบานตัวเองเพื่อไลหนู ที่ไมเพียง แตจะกําจัดหนูไมไดเทานั้น ไฟกลับเผาผลาญบานจนวอดวายไปหมด สิ้น ทําใหเดือดรอนและตก อยูในความเสี่ยงแหงหายนะเพิ่มขึ้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม มังกรนอยระหวางปากหมี ปาก สือ (ตอนที่ 67)เ พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเห็นขาราชบริพารอดอยากก็มีน้ําพระทัยสงสาร จึงมีรับสั่งใหลิฉุยจัดอาหารมอบ แกขาราชบริพาร ลิฉุยทราบความตามรับสั่งแลวก็โกรธหาวาพระเจาเหี้ยนเตไมเห็น ใจทหาร ทรงเอาพระทัยใส แตเฉพาะขาราชบริพาร จึงไมดําเนินการ ตามรับสั่ง มิหนําซ้ํายังใหเอาอาหารบูดขึ้นไปถวาย พระเจาเหี้ยนเต เห็นลิฉุยดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ทรงพระพิโรธแตก็ไมรูที่จะทําประการใด เอียวปวเห็นเชนนั้นจึงกราบ บังคมทูลวาในสถานการณเชนนี้ขอ จงทรงอดออมพระทัยไวกอน พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงแลวก็กันแสงแตมิได ตรัสประการใด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายกุยกีครั้นทราบวาลิฉุยคุมขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเตยกไป เมืองหลวงแหงที่สองก็ยกทหารตามมา ลิฉุยรู วากุยกียกทหารมาจึงสั่งใหยกทหารออกไปรบดวยกุยกี ทั้งสองฝายตางดาวาโจมตีกันและกันแลวลิฉุยจึงทา
  • 38.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 38 กุยกีรบกันตัวตอตัวเพื่อมิใหยากลําบากแกทหาร ทั้งสองฝายรบกันไดสิบเพลงก็พอดีเอียวปวและขุนนางเกือบ หกสิบคนไดออกมาหามทั้งสองฝายใหหยุดรบกัน ลิฉุยจึงยกทหารกลับเขาเมืองหลวงแหงที่สอง บรรดาขุน นางก็พากันไปหากุยกีเพื่อ เจรจาใหกุยกีถอนทหารกลับไป กุยกีเห็นขบวนขุนนางมาพบเพื่อจะเกลี้ยกลอมจึงสั่งใหจับบรรดาขุนนางทั้งนั้นไวเปนตัวประกันเพื่อตอรองกับลิ ฉุย เอียวปวจึง ถามกุยกีวาบัดนี้ลิฉุยคุมเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชสํานักไว สวน ฝายทานจับเอาบรรดาขุน นางไวเชนนี้ทานจะคิดอานประการใด กุยกีไดฟงก็โกรธที่เอียวปวรูทันจึงชักกระบี่จะฆาเอียวปวเสีย แต เอียว ปดทหารเอกของกุยกี ซึ่งเปนคนแซเดียวกับเอียวปวไดหามไวอางวาเอียวปวเปนขุนนางผูใหญ จะฆาเสียยอม ไมสมควร เพราะจะเกิดคําครหาวาทานไมรูธรรมเนียม คนทั้งปวงก็จะดูหมิ่นทาน กุยกีซึ่งบัดนี้เปนโจรไป แลวแตมีปมดอยเรื่องการศึกษาอยูในใจวาผูคนทั้งปวงจะหาวาไมมีความรูในขนบธรรมเนียมจึงออนลง เอียวปดจึงวาควรจะปลอยเอียวปวและจูฮีซึ่งเปนขุนนางผูใหญทั้งสองคน เพื่อใหเปนทูตในการเจรจาระหวาง ทานกับลิฉุย กุยกี เห็นชอบดวยจึงสั่งใหปลอย เอียวปวและจูฮีเสีย แตขุนนางนอกจากนี้ใหจับขังไว เอียวปว และจูฮีสองขุนนางเจาของแผนเผาบานเพื่อกําจัดหนู ครั้นถูกปลอยออกมาแลวเกิดความละอายแกใจที่ ความคิดตัวไดกอ ใหเกิดความเดือดรอนเสียหายกับฮองเต ไมกลากลับเขาไปในเมืองหลวงแหงที่สองเพื่อเฝา พระเจาเหี้ยนเตอีก จึงชวนกันกลับไปบาน ระหวางทางปรึกษากันแลวหาทางออกไมไดตางสํานึกวาที่พระเจา เหี้ยนเตทรงตกอยูในสภาพระกําลําบากและเสี่ยงตายเชนนี้เปนเพราะความคิดของเราทั้งสองคนจึงกอดคอกัน รองไหจนสลบลงทั้งคู แตจูฮีนั้นอาการโรคหัวใจกําเริบ และถึงแกความตายในที่นั้น ฝายเอียวกีขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตเห็นพระเจาเหี้ยนเตตกอยู ในความทุกขระกําลําบากจึงเขาเฝาแลวกราบ ทูลวา ลิฉุย กุยกี ไดยกทหารไปรบกันทุกวัน ติดตอกันถึงสองเดือนเศษแลว ทหารของทั้งสองฝายบาดเจ็บลม ตายลงเปนอันมาก และบัดนี้กาเซี่ยงที่ปรึกษาของลิฉุยไมพอใจลิฉุยที่ไมฟงคําปรึกษาดังแตกอน หันไปเชื่อ พอมด หมอผี จึงขอถวายคําแนะนําวาใหโปรดเกลาฯ เรียกกาเซี่ยงมาเฝาเพื่อปรึกษาราชการ ถาหากกาเซี่ยง เขาสวามิภักดิ์ตอราชสํานักแลวก็จะไดคิดอานกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป นี่ก็อีกคนหนึ่งที่ไมรูความสัมพันธ ระหวางกาเซี่ยงกับลิฉุยที่ผูกพันลึกซึ้งกันมายาวนานแลวเสือกถวายคําปรึกษาใหฮองเตเรียกคนชนิดนี้เขามา ปรึกษา จึงกลายเปนวาอาศัยความคิดของศัตรูมาชี้นําทาง ไมเพียงแตจะไมเกิดผลสําเร็จใดๆ เทานั้น หาก จะตองเสี่ยงตอการเผชิญกับวิกฤติที่รายแรงตอไปอีก เหมือนกับรัฐบาลบางรัฐบาลที่มองขามคนของตัวไปหลงเอาพรรคพวกของศัตรูมาทําการ ในที่สุดก็ตองตกจาก อํานาจไปในเวลาไมชาไมนาน พระเจาเหี้ยนเตทรงพระเยาวนัก ทรงฟงคําเอียวกีแลวก็เห็นชอบจึงโปรดให กาเซี่ยงเขาเฝาเปนการสวนพระองค ทรงพระกันแสง แลวตรัสกับกาเซี่ยงวาบัดนี้เราไดทุกขเวทนานัก เห็นวา ทานมีน้ําใจ สัตยซื่อและมีสติปญญาจึงขอใหชวยคิดอานหาหนทางชวยเหลือ เราใหพนทุกขดวย กาเซี่ยงฟง รับสั่งแลวกราบบังคมทูลวา ทุกวันนี้ขาพระพุทธเจาก็คิดอานที่จะสนองพระเดชพระคุณอยู แตขณะนี้ สถานการณยังไมกระจาง จึงขอเวลาคิดอานวางแผนแลวจะกราบบังคมทูลในภายหลัง ขอพระองคอยาได แพรงพรายความทั้งนี้ใหผูอื่นทราบ พระเจาเหี้ยนเต ทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวก็ทรงเบาพระทัยลง ตอมาลิฉุยไดเขามาเฝาแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กุยกีเปนขบถ จะชิงเอาราชสมบัติ แตบุญบารมีในใตฝา ละอองธุลีพระบาทยังมากอยู ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงอัญเชิญเสด็จออกมาไดทันทวงทีจึงไมเปนอันตราย พระ เจาเหี้ยนเตทรงขอบใจลิฉุยแลวลิฉุยก็ถวายบังคมลากลับออกไป ถัดจากนั้นหองฮูเหียบ ขุนนางมาขอเขาเฝา พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นวาเปนคนบานเดียวกับลิฉุยและเปนผูที่กุยกีใหความเกรงใจ จึงทรงมีพระราชหัตถเลขา ใหหองฮูเหียบนําไปมอบแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบกัน แลวรวมกันทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขสืบไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด หองฮูเหียบรับพระราชหัตถเลขาแลวจึงไปหากุยกี แจงความตามพระราชประสงคใหทราบ ครั้นกุยกีทราบ ความตามพระราชหัตถเลขาแลวตอบตกลงที่จะเลิกรบกับลิฉุย แตขอฟงความขางลิฉุยกอน และขอใหหองฮู เหียบบอกลิฉุยใหปลอยฮองเตและขาราชบริพารเสีย ตัวเองจะปลอยขุนนางที่กักขังไวจากนั้นจะไดรวมกันทํานุ บํารุงแผนดินตามพระราชประสงคตอไป หองฮูเหียบมีความยินดียิ่งนัก จึงออกมาและไปยังคายลิฉุย มอบพระ ราชหัตถเลขาและแจงความตามที่ไดพบกับกุยกีใหลิฉุยทราบทุกประการ ลิฉุยจึงวาเราทําความชอบทํานุบํารุง แผนดินมากวาสี่ปแลว แตกุยกีนั้นเปนแคคนเลี้ยงมา เราสูอุตสาหสงเสริมจนไดดีถึงเพียงนี้ กลับมาคิดทรยศ ตอเรา ดังนั้นเราจะฆากุยกีเสียใหได หองฮูเหียบเห็นลิฉุยมีทาทีแข็งกราวจึงวาแผนดินนับถึงบัดนี้ยังไมปกติสุข จะถือเอาความชอบขางใดนั้นยังไมไดกอน หากควรถือเอาการสรางความสงบสุขของบานเมืองใหบังเกิดขึ้น นั่นแลวจึงจะถือเปนความชอบ ตัวทานและบรรดาญาติพี่นองไดรับพระมหากรุณาธิคุณใหเปนขุนนางผูใหญ แต ตัวทานกลับจับเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชบริพารกักขังไว กุยกีจึงจับเอาบรรดาขุนนางไวเปน ตัวประกันบาง ตางคนตางผิดเสมอกัน บัดนี้กุยกียอมปฏิบัติตามพระราชประสงคแลว ขอใหทานใครครวญจงดี ลิฉุยฟงคําหอง
  • 39.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 39 ฮูเหียบก็โกรธชักกระบี่ออกจะฆาหองฮูเหียบเสีย แตถูกบรรดาแมทัพนายกองหามไววาหองฮูเหียบเปนผูถือ รับสั่งจะประหารเสียยอมไมชอบ ลิฉุยฟงคําทัดทานแลวก็ปลอยหองฮูเหียบกลับไป หองฮูเหียบทําการไมสําเร็จดังที่ไดรับมอบหมายจึงโกรธลิฉุยเปนอันมาก ขณะออกมาก็รองดาลิฉุยเปนขอ รายแรง บรรดาทหารก็หามไมใหหองฮูเหียบรองดาอีกตอไป ดวยเกรงวาลิฉุยจะตามมาฆาเสียแลวรีบพาหองฮู เหียบออกมาจากคายของลิฉุย พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความก็เปนหวงหองฮูเหียบจะเปนอันตราย จึงโปรด ใหหองฮูเหียบเดินทางไปอยูเมืองซีหลง หองฮูเหียบ รับรับสั่งแลวก็กราบถวายบังคมลาออกมา แตจิตใจนั้นยัง คุมแคนลิฉุยอยูเปนอันมาก จึงไปชักชวนทหารของลิฉุยซึ่งเปนคนบานเดียวกันวาลิฉุยเปนกบฏตอราชสํานัก หากขืนอยูดวยลิฉุยก็จะมีอันตราย ผูใดมีความจงรักภักดีตอราชวงศก็ใหตามเราไปอยูเมืองซีหลงหรือกลับบาน เดิมเสียเถิด บรรดาทหารของลิฉุยฟงแลวก็เชื่อตามหองฮูเหียบจึงพากันหนี ทหารติดตามหองฮูเหียบไปเปนจํานวนมาก ศัตรูของลิฉุยซึ่งเปนเพียงหนูตัวเล็กๆ แบบหองฮูเหียบนี้ไดทําใหกําลังทหารของลิฉุยออนแอลงเปนอันมาก ครั้นลิฉุยทราบความที่หองฮูเหียบชวนทหารใหหนีไปก็โกรธ สั่งใหอองเฉียงยกทหารไลตามไปฆาบรรดาคน เหลานั้นเสีย อองเฉียง รับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากคาย แตมาไดพักหนึ่งก็คิดขึ้นวาหองฮูเหียบเปนขา แผนดิน ถือความสัตยสุจริตตอราชสํานัก บัดนี้ตองตกทุกขรอนไปจากเมืองหลวง หากเราฆาเสียความผิดก็จะ ตกอยูแกตัวเรา หรือหากจะจับไปมอบแกลิฉุยก็คงจะถูกลิฉุยประหารเสีย เราก็จะไดชื่อวาทรยศตอแผนดิน อองเฉียงคิดดังนั้นแลว จึงแสรงยกทหารเบนไปเสียอีกทางหนึ่ง จึงไมพบกับหองฮูเหียบ ครั้นทําทีติดตามไป ระยะหนึ่งแลวจึงพาทหาร กลับมารายงานใหลิฉุยทราบวาตามไปไมพบหองฮูเหียบ ลิฉุยก็ไมไดวาประการใด ฝายกาเซี่ยงรูวาทหารของลิฉุยหนีราชการเปนจํานวนมาก จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวา ขอใหเอาใจลิ ฉุยตั้งเปนอัครมหา เสนาบดีแลวคอยคิดการตอไป ขอเสนอของกาเซี่ยงดังนี้ไมเห็นที่จะเปนประโยชนใดๆ เพราะคนแบบลิฉุยนั้นไมรูจักบุญคุณคน และไมอิ่มใน ยศศักดิ์วาสนา ฐานะและตําแหนงในปจจุบันก็สูงสงแตยังคงประพฤติตนเยี่ยงโจร ถึงจะใหตําแหนงยศศักดิ์ เพิ่มขึ้นอีกก็ไมเห็นที่จะเปลี่ยนความคิดจิตใจของ ลิฉุยใหกลับมาจงรักภักดีตอพระมหากษัตริยได ไมตางกับ การสุมฟน เขาไปในกองไฟ ยอมไมอาจทําใหไฟดับลงได มีแตจะทําใหเพลิงลุกโชติชวงเผาผลาญรุนแรง ยิ่งขึ้น นี่จึงเปนขอเสนอของนกสองหัวที่เอาใจทั้งลิฉุยและสรางความหวังใหกับฮองเต โดยหวังประโยชนของ ผูเสนอเปนสําคัญ ดังนั้นใคร มีที่ปรึกษาแบบนี้จึงหาคุณประโยชนใดๆ ไมได มีแตจะสรางความฉิบหายให เกิดขึ้นเทานั้น แตพระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวทรง หวังวาจะเปลี่ยนความคิดจิตใจคนแบบลิฉุยได จึงโปรดเกลาฯ แตงตั้งตามเสนอ แตความคิดที่จะเอาความชอบของกาเซี่ยงกลับไมบรรลุผล เพราะเมื่อลิฉุยไดรับพระบรมราชโองการโปรด เกลาฯ แตงตั้งเปนอัครมหาเสนาบดีแลว แทนที่จะคิดวาเปนเพราะขอเสนอของกาเซี่ยง แลวคิดตอบแทน บุญคุณปูนบําเหน็จใหกาเซี่ยงกลับคิดวายศฐาบรรดาศักดิ์ที่ไดมานั้นเปนผลมาจากพิธีกรรมของพอมดหมอผี ซึ่งเปน ที่ปรึกษาสวนตัวอีกกลุมหนึ่ง จึงเอาทรัพยสินเงินทองเปนอันมากไปกราบไหวตอบแทนที่ปรึกษาพอมด หมอผีเหลานั้น ฝายเอียวฮองและซองโกสองนายทหารของลิฉุยเห็นลิฉุยไดดีมีตําแหนงสูงขึ้นแลวแทนที่จะใหรางวัล ความชอบกับทหารที่ยากลําบากเปนตายมาดวยกัน กลับไปใหรางวัลความชอบกับพวกพอมด หมอผีก็โกรธลิ ฉุย ปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับเจานายแบบนี้หามีความเจริญอันใดไม ควรจะกําจัดลิฉุยเสีย ทําความชอบ ไวในพระเจาเหี้ยนเตจะดีกวา ปรึกษากันแลวจึงวางแผนกันวาใหซองโกเขาไปสังเกตการณอยูขางในเมือง ตัวเอียวฮองจะคุมทหารไวใหพรอมที่นอกเมือง ถาปลอดคนดีแลวใหซองโกจุดพลุสัญญาณ เอียวฮองจะยก ทหารเขาไปจับเอา ลิฉุยฆาเสีย วางแผนกันเสร็จแลวทั้งสองนายทหารก็แยกยายกันไปดําเนินการ ในขณะที่ เอียวฮองจัดเตรียมทหารอยูที่นอกเมืองนั้น ทหารของเอียวฮองคนหนึ่งซึ่งภักดีตอลิฉุยเห็นเอียวฮองจะทรยศ จึงลอบนําความ ที่เอียวฮองกับซองโกคบคิดกันไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธสั่งทหารใหไปจับ ตัวซองโกซึ่งอยูในเมืองไปประหารแลวรีบยกทหารออกไปยังที่เอียวฮองเตรียมทหารอยูนอกเมืองนั้น ทหาร ของทั้งสองฝายปะทะตะลุมบอนกันอยางดุเดือด เอียวฮองเห็นวาจะสูลิฉุยไมไดก็พาทหารหนีไป ตั้งมั่นอยูที่ เขาลูกหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุยและกุยกียังคงชิงอํานาจกันตอไปอยางดุเดือด และยกทหารออกมารบกันทุกวันจนทหารของทั้งสองฝาย บาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก แตละฝายเหลือทหารไมถึงหมื่นคน ในขณะที่ทหารของลิฉุย กุยกีกําลังรบ กันอยางบาคลั่งในวันหนึ่ง ก็เห็นทหารเตียวเจยกทหารจํานวนมากมาจากเมืองฮองหลง มาตั้งคายอยูใกลกับ
  • 40.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 40 เมืองหลวงแหงที่สองนั้น แลวสงทหารมาแจงแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบตอกัน หากฝายใดไมฟงคําเตียวเจก็จะเขา ดวยกับอีกฝายหนึ่ง แลวจะโจมตีฝายที่ไมเชื่อฟงนั้นใหพินาศไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม โจรปลนควายไมรายเทาโจรขายชาติ (ตอน 68) เตียวเจแมจะเปนหนึ่งในสี่ทหารเอกของตั๋งโตะที่รวมการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกีมาตั้งแตตน และถูกลิฉุย กุยกี แยงชิงอํานาจในเมืองหลวงไวแตเพียงสองคน มิหนําซ้ํายังขับไลไสสงใหออกไปอยู เมืองฮองหลง แตเตียวเจ นั้นยังเปนคนเห็นแกพวก ไมผูกใจเจ็บถือ พยาบาทเอากับเพื่อนรวมการ ยอมทําตามใจพวก โดยไมเคยปริปาก ครั้นเตียวเจทราบวาลิฉุย กุยกี บาดหมางลางผลาญกันเองจนเกิดเปนจลาจลขึ้นในบานเมืองจึงยกทหารมาจาก เมืองฮองหลงหามทัพของลิฉุย กุยกี ไมใหรบกันอีกตอไปหวังจะสรางความปรองดองใหเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต เตียวเจยอมรูดีวาคนแบบลิฉุย กุยกีนั้นจะพูดกันแตปากเปลายอมไมไดผล อันคนเรานั้น บางสามารถพูดจากัน ดวยเหตุดวยผล บางสามารถตกลงกันไดดวยผลประโยชน บางพูดจากันรูเรื่องโดยอาศัยสุราเมรัยหรือสตรี แต กับบางคนบางกลุมก็ตองพูดกันดวยกําลังและตองเปนกําลังอาวุธ และคนแบบลิฉุยกุยกีนั้นไมอาจใชวิธีพูดจา กันใหรูเรื่อง ดวยประการอื่นนอกจากดวยกําลังทหารเทานั้น ดังนั้นเมื่อจะพูดจาใหลิฉุย กุยกีเลิกรบกัน เตียวเจจึงตองยกกําลังทหารจํานวนมากมาดวย และแจงตอทั้งสอง คนวาถาหากฝายใดฝายหนึ่งไมทําตาม เตียวเจก็จะเขาขางอีกฝายหนึ่ง ดังนี้แลวการพูดจากับคนแบบลิฉุย กุยกีจึงจะไมเปนการเสียเวลาเปลา ฝายลิฉุยและกุยกีครั้นไดทราบความที่เตียวเจแจงใหเลิกรบกันแลว ก็เกรง กําลังทหารของเตียวเจจึงยินยอมเลิกรบกันแตโดยดี และปลอยขุนนางที่กักขังไวนั้น ดังนั้นเตียวเจจึงสั่งทหาร ใหรักษาคายไวนอกเมืองใหมั่นคง แลวทําหนังสือกราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเต กราบทูลถวายรายงานให ทรงทราบทุกประการ พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความตามคํากราบบังคมทูลแลวทรง มีพระทัยยินดียิ่งนัก และทรงเห็นวาเตียวเจทํา ความชอบไวกับแผน ดินจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหเตียวเจเปนขุนนางผูใหญฝายทหาร เตียวเจรับพระบรมราช โองการแตงตั้งแลวจึงเขาเฝากราบบังคมทูลวา เมืองหลวงแหงที่สองนี้ไมเหมาะสมกับพระเกียรติของ พระมหากษัตริย เพราะสิ่งกอสรางตางๆ ที่ตั๋งโตะไดทําขึ้นนั้นบัดนี้ทรุดโทรม จึงขออัญเชิญเสด็จไปประทับ ชั่วคราวที่เมืองฮองหลง เพื่อบูรณะเมืองเตียงอันเปนเมืองหลวงใหมตอไป พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็น ชอบและ โปรดฯใหเตียวเจยกทหารไปเมืองเตียงอันเพื่อทําการบูรณะ ใหสมบูรณดังเดิม แลวพระเจาเหี้ยนเตจะเสด็จ ตามไปในภายหลัง เตียวเจรับรับสั่งแลวก็ออกมายกทหารไปเมืองเตียงอัน ฝายขุนนางตางๆ ครั้นไดรับการปลอยตัวแลวก็พากันไป เขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวาถาขืนอยูในเมืองนี้ตอไปก็จะเปนอันตราย เพราะลิฉุย กุยกี สองคนนี้ ความคิดอานไมอยูกับรองกับรอย และเชื่อถืออันใดไมได วันหนึ่งคิดอยางหนึ่งทําอยางหนึ่ง เปลี่ยนแปลงไป ทุกวันเวลา ดังนั้นหากเปลี่ยนความคิดขึ้นในวันเวลาใด อันตรายก็จะเกิดขึ้นอีก บรรดาขุนนางเหลานั้นจึง รวมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตใหไปประทับที่เมืองฮองหลงกอนเปนการชั่วคราว พระเจา เหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ทรงเห็นตาม จึงรับสั่งให จัดขบวนเสด็จ แลวเสด็จออกจากเมืองหลวงแหง ที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลงพรอมดวยขุนนางขาราชการทั้งปวง ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงเชิงสะพานแหงหนึ่งก็ถูกทหารของ กุยกีสกัดไว เนื่องจากไดรับคําสั่งจากกุยกีให มาตั้งมั่นรักษาสะพาน เพื่อปองกันมิใหทหารกองอื่นๆ ของลิฉุยยกเขามาชวยลิฉุยได บรรดาขุนนางเห็นทหาร ของกุยกีคุมสะพานกั้นขบวนเสด็จไวจึง เขาไปเจรจาแจงความใหทราบวานี่เปนขบวนเสด็จของฮองเต พวกเจา มาขัดขวางไวจะเปนกบฏหรือ ความจริงบรรดาขุนนางเหลานั้นเห็นทหารมาสกัดอยูบนสะพานขางหนาตางก็มี ความตกใจ แตทําใจดีสูเสือเพราะเห็นวาเปนทหารชั้นผูนอย ยอมมีความยําเกรงในพระบารมี จึงใชวิชาเจรจา ของขุนนางกลาวความใหญขูวาการขวางขบวนเสด็จเปนการกบฏทหารของกุยกีซึ่งรักษาสะพานอยูนั้นไดรับ คําสั่งมาแตเพียงใหมา สกัดกองทหารอื่นๆ ของลิฉุย ไมคิดวาจะมีขบวนเสด็จผานมาทางนี้ ก็เกิดความลังเลแต ดวยความเปนทหารอาชีพและเกรงในพระบารมีของฮองเต แตไมแนใจวาจะเปนเรื่องจริงหรือเรื่องลวงจึงถาม วาถาเชนนั้นฮองเตอยูที่ไหน พระเจาเหี้ยนเตประทับอยูในรถพระที่นั่ง ทรงสดับคําโตตอบของทหารกุยกีแลว จึงทรงเปดมูลี่รถพระที่นั่งแลวโบกพระหัตถใหกับทหารของกุยกี ฝายทหารของกุยกีเห็นพระเจาเหี้ยนเต ประทับอยูในรถพระที่นั่งก็ตกใจ รีบคุกเขาลงถวายบังคมแลวถอยลงมาจากสะพานเปดทางใหขบวนเสด็จผาน ไปแลวไปที่คายของกุยกีรายงานความใหกุยกีทราบ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 41.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 41 กุยกีทราบความแลวก็โกรธหาวาทหารของตัวไมฟงคําสั่ง ทั้งๆ ที่ไมไดมีคําสั่งใหสกัดขบวนเสด็จแตประการใด จึงสั่งประหารทหารที่รักษาสะพานนั้นเสีย แลวรีบยกทหารตามขบวนเสด็จไป ฝายเอียวฮองซึ่งหนีจากลิฉุย เพราะคบคิดกับซองโกสังหารลิฉุยไมสําเร็จ แลวไปตั้งมั่นอยูที่เนินเขาแหงหนึ่ง ครั้นไดทราบวาพระเจา เหี้ยนเตเสด็จออกจากเมืองหลวงแหงที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลง ก็ยกทหารมาเพื่อถวายการอารักขาเอียว ฮองและทหารยกมาใกลขบวนเสด็จก็เห็นทหารของกุยกียกไลตามขบวนเสด็จมาจึงเขาสกัดไว ทั้งสองฝายได ตอสูกันเปนสามารถ ซิหลงทหารของเอียวฮองเห็นซุยยงทหารของกุยกีรบฝาเขามาหาเอียวฮองจึงชักมาเขา สกัดซุยยงไว รบกันไดสามเพลงซิหลงก็ใชขวานฟนซุยยงตกมาตาย ทหารของเอียวฮองไดทีก็ไลโจมตีทหาร ของกุยกีแตกพายไป เอียวฮองจึงพาซิหลงและทหารมาเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต ถวายบังคมกราบทูลรายงาน แลวพระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจ และรับสั่งใหเอียวฮอง ซิหลง และทหารที่ยกมานั้นอารักขาขบวนเสด็จ ครั้นรุง เชากุยกีไดรวบรวมทหารจํานวนหนึ่ง จึงยกตามมาอีกหวังจะจับตัวพระเจาเหี้ยนเต กุยกียกทหารทันขบวนเสด็จ จึงใหเขาลอมขบวนเสด็จไว ในขณะนั้นตังสินขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตไดรวบรวมทหารที่มีความจงรักภักดีตอราชสํานักไดจํานวนหนึ่งได ทราบขาว การเสด็จของพระเจาเหี้ยนเตจึงยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารของกุยกีลอมขบวนเสด็จอยู จึงสั่ง ทหารใหลอมทหารของกุยกีไวอีกชั้นหนึ่ง เอียวฮอง ซิหลงและทหารซึ่งอารักขาขบวนเสด็จและตกอยูในวง ลอมชั้นใน ครั้นเห็นตังสินและทหารลอมทหารกุยกีไวอยูชั้นนอก จึงตีกระหนาบทหารของกุยกีออกมา ในขณะ ที่ทหารของตังสินก็ตีกระหนาบเขาไป ทหารของกุยกีถูกตีกระหนาบพรอมกันทั้งสองดาน จึงแตกพายไปอีก ครั้งหนึ่ง ตังสิน เอียวฮอง และซิหลง จึงพากันไปเขาเฝา พระเจาเหี้ยนเต ทอดพระเนตรเห็นตังสินซึ่งเปนขุน นางที่ทรงสนิทสนมก็ทรงพระกันแสง และทรงเลาความยากลําบากใหตังสินฟงทุกประการ ตังสินกราบบังคมทูลวากุยกีแตกไปครั้งนี้คงจะไปรวบรวมทหารยกตามมาอีก และดีรายลิฉุยก็อาจจะยกตามมา เชนเดียวกัน จึงกราบ บังคมทูลใหรีบเสด็จพระราชดําเนิน พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นชอบดวย จึงมีรับสั่งให เคลื่อนขบวนเสด็จรีบเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืนจน ถึงเมืองฮองหลง ครั้นถึงเมืองฮองหลงแลวบรรดาขุน นางที่ตามมาในขบวนเสด็จ เห็นสภาพเมืองฮองหลงแลวก็เปลี่ยนความคิด และพากันเขาไปกราบบังคมทูลวา เมืองฮองหลงเปนเมืองเล็กนัก ทหารรักษาเมืองก็นอย เกรงวาถาหากลิฉุย กุยกี ยกตามมาก็จะไมสามารถ รับมือกับลิฉุย กุยกีได และเสนอใหเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอัน ความคิดของเหลาขุนนางขี้ขลาดเหลานี้ เกิดจากความขี้ขลาดตาขาวโดยแท เพราะเมืองฮองหลงถึงจะเปนเมืองเล็ก แตก็มีกําแพงเมือง ทั้งทหารที่พอ มีอยูบางก็พอที่จะรักษาเมืองเอาไวได และสามารถออกหมายรับสั่งเรียกเจาเมืองอื่นๆ ใหมาชวยปองกันและ กําจัดลิฉุย กุยกีได แตกลับไมคิด โรคกลัวตายขึ้นสมอง ปดบังสติปญญาไวสิ้น คิดแตจะหนีทาเดียว พระเจา เหี้ยนเตฟงคําขุนนางขี้ขลาดเหลานั้นแลว ทรงเห็นชอบ จึงเคลื่อนขบวนเสด็จออกจากเมืองฮองหลงจะไป เมือง เตียงอัน ฝายลิฉุยครั้นทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จไปเมืองฮองหลงและกุยกียกทหารไลตามไปก็เกรงวาถาหากกุยกี ควบคุมพระเจาเหี้ยนเตแลวยึดอํานาจเหมือนกับที่ตัวเคยกระทํามากอน จึงรีบยกทหารมาเมืองฮองหลง มาพบ เขากับกุยกีและทหารที่แตกหนีมา กุยกีจึงเลาความใหลิฉุยฟงทุกประการ สองเสือที่เคยรบกันอยางบาคลั่ง มา บัดนี้เห็นวาการที่เอียวฮอง ตังสินไดเขาถวายการอารักขาขบวนเสด็จทําใหอํานาจรัฐหลุดลอยจาก น้ํามือตัว และถาหากปลอยใหขบวนเสด็จไปถึงเมืองเตียงอัน ก็จะสมทบเขากับทหารของเตียวเจ พระเจาเหี้ยนเตก็จะตั้ง หลักได อันตรายก็จะเกิดแกทั้งสองคน ผลประโยชนจึงกลับมาสมกันอีกครั้งหนึ่งที่จะตองชิงเอาพระเจา เหี้ยนเตจากการถวายอารักขาของเอียวฮองและตังสิน ดังนั้นทั้งสองเสือจึงทําความตกลงกันวาจะรวมกันทําการอีกครั้งหนึ่ง โดยจะจับพระเจาเหี้ยนเตฆาเสีย ผลประโยชนและทรัพยสมบัติที่ไดมาก็จะแบงกันฝายละครึ่ง ขอตกลงของลิฉุย กุยกีในครั้งนี้เปนขอตกลงที่ไม คํานึงถึงฐานะตําแหนงขุนนางอีกตอไป และเปนขอตกลงของโจรที่จะปลนชิง เอาทรัพยสมบัติตางๆ มา แบงปนกัน ไมตางกระไรกับนักการเมืองในปจจุบันที่บริหารบานเมืองโดยมิไดคํานึงถึงประโยชนสุขของ ประเทศชาติและราษฎร คิดแตจะขายชาติ ปลนชาติและราษฎร แบงผลประโยชนกันเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด คนถอยทั้งสองทําความตกลงกันแลวก็รวมมือกันยกทหารตามขบวนเสด็จไป ยกไปถึงตําบลใดก็เขาปลนสะดม ชิงเอาทรัพยสินของ ราษฎรตําบลนั้น แลวแบงสันปนสวนกันฝายละครึ่ง กองโจรของ ลิฉุย กุยกี ไดปลน ราษฎรราบคาบไปตลอดทาง จึงทําใหการไลตามขบวนเสด็จลาชาลง ฝายตังสิน เอียวฮอง ครั้นไดทราบขาว วาลิฉุย กุยกี ยกทหารไลตามมาอีก จึงจัดทหารจํานวนหนึ่งใหรีบนําขบวนเสด็จรีบเคลื่อนไป สวนตังสิน และเอียวฮองหยุดกองทหารไวเตรียมสกัดลิฉุย กุยกี ครั้นกองทหารของลิฉุย กุยกี ตามมาถึง ทั้งสองฝายได รบพุงกันเปนสามารถ ทหารของตังสิน เอียวฮองนอยกวาก็ถอยรน ตังสินและเอียวฮองเห็นเชนนั้นจึงใหทหาร รบถวงเวลาไว สวนตังสินกับเอียวฮองรีบตามขบวนเสด็จไป ทันขบวนเสด็จแลวนําขบวนเสด็จยกไปทางดาน
  • 42.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 42 เหนือ ทหารของตังสิน เอียวฮอง รบถวงเวลาไวจนค่ําก็พากันหนีตามขบวนเสด็จไป ทหารของลิฉุย กุยกีเห็น เวลาค่ําลงแลวก็ยกทหารเขา ไปในเมืองฮองหลง แยงกันปลนทรัพยสินของราษฎรเมืองฮองหลงแลวแบงกัน ฝายละครึ่งตามขอตกลง รุงเชาก็รีบตามขบวนเสด็จไป ฝายตังสินกับเอียวฮองนําขบวนเสด็จมาระยะหนึ่งแลวปรึกษากันวาการจะหนีอยางเดียวคงจะไปไมตลอด จะตองเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีอีกครั้งหนึ่ง และตองเสริมกําลังอารักขาขบวนเสด็จเพิ่มขึ้นทั้งสองขุนนางเห็นชอบ พรอมกันและไดทราบขาววาในทองถิ่นนี้มีกลุมโจรสามกลุมคือกลุมของหันเซียม, ลิงัก และโฮจาย มีกําลังเปน จํานวนมาก จึงใหทําหมายรับสั่งเรียกนายโจรทั้งสามใหเขามาถวาย อารักขาและนิรโทษกรรมความผิดที่มีมา แตกอน และใหแตงหมายรับสั่งเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีใหรวมกันบริหารบานเมืองอีกครั้งหนึ่ง นายโจรทั้งสามกลุมครั้นไดรับหมายรับสั่งแลวมีความปลาบ ปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ จึงพากันยกกําลังมา รับเสด็จ พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดฯใหโจรกลับใจทั้งสามกลุมถวายการอารักขา ตรงกันขามกับลิฉุย กุยกี ไดรับ หนังสือรับสั่งแลวไมยอมทําตาม เพราะบัดนี้ทั้งลิฉุย กุยกีหมดสิ้นความสํานึกในความเปนขุนนางแลว มีแตใจ โจรโฉดเขาสิงใจ จนไมสามารถเปลี่ยนความคิดจิตใจไดอีกตอไป เหมือนกับนักการเมืองที่ขายชาติและปลน ชาติจนเสียสติ ไมสามารถ ยั้งคิดหรือสํานึกในความผิดชอบชั่วดีอีกตอไปสวนโจรกลับใจนั้นเลาใครจะหยั่งคาด จิตใจโจรได แตยามสิ้นทาจนตรอกจําเปนตองเกี่ยวของดวยแลว คบกับโจรทองถิ่นที่กลับใจ ก็ยังดีเสียกวาที่ จะคบหรือเปนพวกพองกับนักการเมืองที่ขายชาติ หรือปลนชาติ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ในวังวนของคนอับจนปญญา (ตอนที่ 69) ขบวนเสด็จยกออกจากเมืองฮองหลงหนีการไลลาโจมตีของลิฉุย กุยกีมาหลายหนจนตรอกเขาถึงกับตองหัน พึ่งกลุมโจรทองถิ่น และพระเจาเหี้ยนเตไดโปรดเกลาฯ ใหนายโจรและกลุมโจร ทั้งสามกลุมเขาถวายการ อารักขา ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงตําบลตังกั๋ง ความคิดที่จะไปเมืองเตียนอันก็ไดเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ในสถานการณเชนนั้นจําเปนที่จะตองตั้งหลักใหไดกอนแลว เรียกใหบรรดาหัวเมืองยกทหารมาชวย แต ตังสินขุนนางคนสนิท กลับเรียกนายโจรทั้งสามคนมาปรึกษาวา การเดินทางไปเมืองเตียนอันเปนระยะทางไกล ควรยกเขาตีเอาเมืองฮองหลงแลวตั้งหลักที่เมือง ฮองหลงเสียกอน นายโจรทั้งสามคนไมเคยมีความคิดอานใน เรื่องการบานการเมืองและการศึกสงคราม ครั้นถูกปรึกษาเรื่องเชนนี้จึงเออออตามตังสินไป ดังนั้นตังสินจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยอนกลับไปเพื่อจะยึดเมืองฮองหลง ครั้นเคลื่อนมาถึงตําบลอยูเอี๋ยงก็ ปะทะกับกองทหารของลิฉุย กุยกี ตางฝายตางยันกัน ลิฉุยจึงปรึกษากุยกีวาการที่ขบวน เสด็จตองพึ่งกําลังโจร ทองถิ่นเชนนี้ หากเราจะตอสูกับพวกโจรซึ่งหนา ก็จะเปลืองกําลังเสียเปลา และวิสัยโจรนั้นถึงจะกลับใจก็ยอม มีน้ําใจ ใฝชอบทรัพยสินติดอยูในกมลสันดาน ดังนั้นถาหากเราเอาทรัพยสินเสื้อผาเขาลอ พวกโจรคงไมมีใจสู รบดวยคิดแตจะเอาทรัพยสินคงจะเสียทีเราเปนมั่นคง กุยกีเห็นชอบดวยจึงวาถาเชนนั้นเราจงเอาทรัพยสินและเสื้อผา ที่ปลนมาจากราษฎรคนละครึ่งมารวมกันแลว เอาไปทิ้งตามสองขางทาง แลวรบลอพวกโจรมาถึงที่ทิ้งทรัพยสินลอไวนั้น พวกโจรคงชุลมุนแยงทรัพยสินกัน เราจึงคอยยกทหารเขาโจมตีคงจะไดชัยชนะโดยงาย สองเสือปรึกษาเห็นชอบในการลงขันเอาทรัพยสินเสื้อผา ลอโจร แลวตางฝายตางสั่งใหสมุนของตนนําทรัพยสินและเสื้อผาคนละครึ่ง มารวมไวเปนกองกลาง แลวสั่ง ทหารใหเอาไปทิ้งไวตามขางทาง และยกทหารออกไปรบดวยทหารที่คุมกันขบวนเสด็จ ครั้นทหารทั้งสองฝาย ปะทะกันไดครูหนึ่ง ทหารของลิฉุย กุยกี ก็ทําทีถอยหนีมาตามทางที่เอาทรัพยสินเสื้อผาไปทิ้งไวนั้น ทหาร ของ ตังสินไลตามมาเห็นทรัพยสินเสื้อผาทิ้งเกลื่อนกลาดอยูตามรายทางเปนอันมากก็หยุดไลตาม ตางคนตาง พากันแยงชิงเอาทรัพยสินเสื้อผา ซึ่งทิ้งไวนั้นเกิดอลหมานขึ้น ลิฉุย กุยกีเห็นทหารตังสินตองกลจึงใหจุด ประทัดสัญญาณแลวยกทหารเขาลอมตีกระหนาบทหารของตังสิน ฝายทหารของตังสินมัวหลงเพลินแยงชิง ทรัพยสินกันไมทันระวังตัว จึงถูกทหารของลิฉุย กุยกีฆาตายเปนจํานวนมาก ที่เหลืออยูทิ้งขาวของแลวพากัน หนีไปตามขบวนเสด็จ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ทหารของลิฉุย กุยกีไลตามตีไปไมลดละ ดานตังสินและเอียวฮอง เห็นเชนนั้นจึงรีบพาขบวนเสด็จหนีไป ทางดานเหนือ ลิงักนายโจรอีกคนหนึ่งเห็นเหตุการณจวนตัวจึงกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตรีบลงจากรถ พระที่นั่งประทับบนหลังมารีบหนีไป แตพระเจาเหี้ยนเตทรงสงสารขาราชบริพาร จึงมีพระดํารัสวาในยาม อันตรายเชนนี้เราจะทอดทิ้งพวกทานไปไดอยางไรกัน เปนอะไรก็ขอใหเปนไปดวยกัน บรรดาขุนนางและนาย โจรไดยินพระราชกระแสดังนั้น ก็ซาบซึ้ง ในน้ําพระทัยพากันรองไห แลวชวยกันปองกันขบวนเสด็จรีบรุดหนา
  • 43.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 43 หนีตอไป หนีมาไดระยะหนึ่งทหารของลิฉุย กุยกีก็ยิ่งตามใกลเขามา ตังสินเห็นวาถาจะหนีในลักษณะเชนนี้ก็ จะไมทันการณ จึงกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาเชิญเสด็จประทับบนหลังมา และรีบขับหนีไป จนถึงริมฝงแมน้ําฮวงโห ลิงักนายโจรหาเรือไดลําหนึ่งจึงอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาลงเรือขาม แมน้ําฮวงโหไปพรอมกับขาราชบริพารจํานวนหนึ่ง สงเสด็จขามฝงแลวก็นําเรือกลับมารับขุนนางและทหารได อีกหลายเที่ยว แตยังไมทันหมดทหารของลิฉุย กุยกีก็ตามมาถึงริมแมน้ํา ฮวงโห แลวจับเอาบรรดาขุนนาง และขาราชบริพารที่คางอยูนั้นไวทั้งสิ้น ตังสิน เอียวฮอง ไดจัดหาเกวียนเปนพระราชพาหนะของพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาแลวนําเสด็จหนีตอไป จนถึงชายแดนเมือง ไทเอียงเปนเวลาค่ํา เห็นบานราษฎรอยูใกลๆ เปนโรงกระเบื้องจึงพากันไปขออาศัยคาง คืน เจาของโรงกระเบื้องรูวาเปนขบวนเสด็จก็ดีใจ จัดเตรียมอาหารมาถวายแลวเลี้ยงดูพวกที่ตามเสด็จนั้น รุง ขึ้นเอียวปวกับฮันหยงขุนนางผูใหญติดตามมาพบก็พากันเขาเฝาแลวรองไหสงสารพระเจาเหี้ยนเต สําหรับเอียวปวนั้นละอายใจตัวเองยิ่งนักที่เสนอแผนยุสองเสือใหกัดกันจนพระเจาเหี้ยนเตตองตกอยูในความ ทุกขยากลําบากถึงเพียงนี้ ฮันหยงหยุดรองไหกอนจึงกราบทูลวา ขาพระพุทธเจากับลิฉุย กุยกีนั้นมีความสนิท สนมกัน ทั้งสองคนมีความเคารพยําเกรงเปนอันมาก จึงขออาสาไปเกลี้ยกลอมอีกครั้งหนึ่งและขออัญเชิญ เสด็จประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้เพื่อฟงขาวกอน พระเจาเหี้ยนเตครั้นไดเห็นทางรอดตามคํากราบบังคมทูลของ ฮันหยงจึงมีพระราชดํารัสวาตามใจทานเถิด ฮันหยงรับพระบรมราชานุญาตแลวจึงกราบบังคมลาออกไปหาลิฉุย กุยกี พอฮันหยงออกไปแลว ลิงักจึงกราบ ทูลวาการประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้ไมเหมาะสมเพราะไมมีรั้วกําแพงปองกันอันตรายทั้งทหาร ก็ไมเพียงพอ ตอการอารักขา จึงขออัญเชิญรีบเสด็จตอไป พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงเออออตามลิงัก ขบวนเสด็จไดเคลื่อนออก จากโรงกระเบื้องไปถึงตําบลอันอิบเปน เวลาค่ํา จึงขออาศัยบานราษฎรเปนที่ประทับแรม โดยพวกที่ตามเสด็จ ทําหนาที่ถวายการอารักขาอยูรอบบานที่ประทับนั้น ฮันหยงรับอาสาพระเจาเหี้ยนเตแลวเดินยอนกลับไปถึงริมแมน้ํา ฮวงโห ขามแมน้ําไปพบกับลิฉุย กุยกี ทักทาย คารวะกันตามธรรมเนียม แลวจึงวาบัดนี้พระเจาเหี้ยนเตทรงตกทุกขระกําลําบากนัก ทั้งสองทาน อยาได ติดตามพระองคอีกเลย เพราะเพียงเทาที่เปนอยูนี้หากราษฎร ทั้งปวงรูความเขาก็จะพลอยนินทาวาทานคิดราย ตอพระมหากษัตริย แตถาละเสียไวแตเพียงนี้ ความสรรเสริญก็จะบังเกิดมีแกทานทั้งสอง ไปจนชั่วกัลปาวสาน สองโจรโฉด ใจหนึ่งเคารพยําเกรงฮันหยงมาแตเดิม ครั้นได ยินคําลอวาการปลอยพระเจาเหี้ยนเตจะไดรับคํา สรรเสริญและมาคิด วาแมหากจะยกทหารขามแมน้ําไปก็ไมไดแลว จึงตกลงทําตามคําขอ ของฮันหยง แลว ปลอยบรรดาขุนนางและขาราชบริพารที่จับตัวไวนั้นเสีย ฝายเตียวเฮียง ซึ่งบัดนี้ไดเปนที่เจาเมืองโหลายสืบตอจากอองของและฮองอิบเจาเมืองโฮตอง ครั้นไดทราบ ขาววาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จลี้ภัยมาประทับอยูที่บานราษฎรที่ตําบลอันอิบ จึงจัดแจงเสบียงอาหารและพา เจาหนาที่มาเขาเฝา นอมเกลาถวายเสบียงอาหารทั้งนั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงรับมอบเสบียงจากสองเจาเมือง แลวทรงขอบใจแตมิไดตรัสความเมืองอื่นตอแตประการใด สถานการณมาถึงขั้นนี้พอจะแลเห็นไดวาขบวน เสด็จนาจะปลอดภัยและเริ่มตั้งหลักได เพราะเพียงแคเสด็จไปประทับที่เมืองใดเมืองหนึ่งเปนการชั่วคราวและ ใหหัวเมืองตางๆ สงทหารมาชวยเพียงเมืองละหาพันถึงหมื่นคนเพื่อรักษาเมืองแลว จึงคอยคิดอานบูรณะเมือง หลวง ความสงบสุขสันติก็อาจฟนคืนมาไดโดยเร็ว แตเปนโชครายของราชวงศฮั่นเพราะหาผูใดมีความคิด สติปญญามิได ผูคนทั้งปวงในที่นั้นลวนแลวแตเปนพวกอับจนปญญาทั้งสิ้น ตังสินและเอียวฮองปรึกษากับพวกอับจนปญญาดวยกันเปลี่ยน เปาหมายในการเดินทางใหมอีกครั้งหนึ่งวาจะ ใหทหารไปทําการบูรณะเมืองลกเอี๋ยง ราชธานีเกาที่ถูกตั๋งโตะเผาผลาญจนวอดวายขึ้นมาใหม แลวอัญเชิญ เสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปอยูเมืองลกเอี๋ยง ลิงักนายโจรไมเห็นดวย อางวาเมืองลกเอี๋ยงถูกเผาผลาญหมดสิ้น แลวทั้งสถานการณในขณะนี้ยังไมมีความปลอดภัย ควรตั้งหลักอยูที่เดิม ไปกอนจนกวาจะมีทหารจากหัวเมือง ตางๆ มาชวยเหลือ ตังสินและเอียวฮองไมฟงคําทัดทานของลิงัก ดังนั้นลิงักจึงไม ยอมติดตามไปดวย ฝายตังสินและเอียวฮองจึง กราบบังคมทูลอัญเชิญ เสด็จพระเจาเหี้ยนเต ฮองเฮาและขาราชบริพารจะยกไปเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเต ก็เห็นชอบตามคํากราบบังคมทูลนั้น ลิงักครั้นเห็นตังสินไมฟงคําจึงมีใจคิดออกหาง และสงคนนําความไปแจง แก ลิฉุย กุยกีวาบัดนี้ตังสินและเอียวฮองกําลังนําขบวน เสด็จไปเมืองลกเอี๋ยง ขอใหคิดการชิงเอาพระเจา เหี้ยนเตมาฆาเสีย ตัวเราจะยกไปสมทบและแบงปนทรัพยสินกันเปนสามสวน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 44.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 44 ลิฉุย กุยกีทราบความแลวมีความยินดีตกลงที่จะยกทหารไปชิง เอาพระเจาเหี้ยนเต ฝายลิงักครั้นใชคนไปแจง ความแกลิฉุย กุยกีแลว กลับมาคิดใหมวาเรื่องอะไรที่เราจะใหลิฉุย กุยกีชวงชิงพระเจาเหี้ยนเต เราจะจัดการ เสียเองมิดีกวาหรือ เปลี่ยนใจดังนี้แลวจึงพาพรรคพวกโจรรีบตามขบวนเสด็จไป ครั้นยามสามก็ทันขบวนเสด็จ ณ เขากิสาน ลิงักจึงรองเรียกขบวนเสด็จใหหยุดกอนอางวาลิฉุย กุยกีกําลังยกทหารตามมา พระเจาเหี้ยนเตได ยินเสียงไลตามขบวนเสด็จมาก็ตกพระทัย เอียวฮองจึงกราบบังคมทูลวานั่นเปนลิงักพาพรรคพวกโจรติดตาม มาคาดวาคงจะมารายเปนแน แตเห็นจะไมเปนอันตรายเพราะลิงักนั้นไรฝมือและพรรคพวกก็ไมมากนัก กราบ ทูลแลวเอียวฮองจึงสั่งใหซิหลงคุมทหารถอยมาเปนกองหลัง จึงปะทะกับพรรคพวกของลิงัก ซิหลงตอสูกับลิ งักไดสามเพลง ก็เอาขวานฟนลิงักตกมาตายแลวไลฟนพวกโจรแตกหนีไป ขบวนเสด็จเคลื่อนมาทั้งคืน ครั้นสวางก็เขาเขตเมืองลกเอี๋ยง ขณะนั้นเตียวเอี๋ยนไดนําอาหารมาทูลเกลาถวาย พระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจและโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหเตียวเอี๋ยนเปนขุนนาง ขบวนเสด็จไดเคลื่อนเขาไปใน เมืองลกเอี๋ยง แลวหยุดขบวนที่ประตูพระราชวังเดิม พระเจาเหี้ยนเตเสด็จพระราชดําเนินพรอมกับขุนนางและ ขาราชบริพารเขาไปในพระราชวัง ทอดพระเนตรพระตําหนักและอาคารสิ่งกอสรางตางๆ ซึ่งถูกเพลิงเผาผลาญ เหลือแตฐานราก มีตนไมและหญาขึ้นรกชัฏโดยทั่วไป พระเจาเหี้ยนเตทรงรําลึกถึงเมื่อครั้งแตกอนที่เคย ประทับในพระราชวังก็สลดพระทัยลง ทรงพระกันแสง บรรดาขุนนางและขาราชบริพารเห็นสภาพการณเชนนั้น ก็สงสารพากันรองไหระงมเมืองรางนั้น ยุวกษัตริยและขาราชบริพารพากันดูบริเวณพระราชวังโดยรอบแลว ตังสินจึงใหทหารตัดตนไมและตนหญาที่ ปกคลุมพระตําหนักที่ประทับ แลวปลูกโรงชั่วคราวสําหรับเปนที่ประทับและใหปลูกโรงชั่วคราวสําหรับขาราช บริพารฝายหนาอีกหลังหนึ่ง เสร็จแลวจึงเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่พระตําหนักชั่วคราว บรรดาขุนนาง ขาราชบริพารเขาเฝาถวายบังคมตามธรรมเนียม บรรดาราษฎรที่หลบหนีไปอยูนอกเมืองครั้นไดทราบขาววา พระเจาเหี้ยนเตเสด็จกลับมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงก็พากันอพยพกลับเขามาในตัวเมือง ตั้งครอบครัวขึ้นใหม หลายรอยหลังคาเรือน ฝายเอียวปวรําลึกขึ้นไดวาพระราชหัตถเลขาซึ่งพระเจาเหี้ยนเต พระราชทานไวสําหรับเรียกโจโฉเขามารับ ราชการในเมืองหลวงตั้งแตครั้งวางแผนรวมกับจูฮียุสองเสือใหกัดกันแตยังไมไดจัดการสงใหแกโจโฉ จึงนํา ความกราบบังคมทูลใหทรงทราบ ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงมีรับสั่งใหเอียวปวรีบสงพระราชหัตถเลขานั้น ใหแกโจโฉ และทรงกําชับใหรีบยกมาเมืองลกเอี๋ยงแตโดยไว เอียวปวรับกระแสพระราชดํารัสแลวจึงรีบถวาย บังคมลาออกมา แลวสั่งทหารใหรีบนําพระราชหัตถเลขาและอัญเชิญพระราชดํารัสของพระเจาเหี้ยนเตไปมอบ แกโจโฉ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ฟายอมประทานโอกาสแกผูมีความพรอม (ตอนที่ 70) รับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตผูเปนโอรสแหงสวรรคที่ใหเรียกหาตัวโจโฉเขามาชวยราชการในเมืองหลวงเปน โอกาสสําคัญที่ฟาประทานแกโจโฉ เนื่องเพราะโจโฉนั้นมีความพรอมยิ่งกวาขุนนางและขุนศึกใดๆ ในแผนดิน ความพรอมสถานหนึ่งก็คือ ความมีผูสนับสนุนที่อยูใกลชิดฮองเต ในครั้งนั้นไดแกจูฮี ซึ่งโจโฉเคยรวมงานใน กองทัพปราบโจรโพกผาเหลือง และความพรอมอีกสถานหนึ่งคือการที่โจโฉไดครองอํานาจในภาคตะวันออก มีทหารเอก แมทัพ นายกอง และทหารเลว ถึงสามสิบหมื่น มีศักยภาพที่จะชวยราชการในเมืองหลวงได เพราะ ความพรอมสองประการนี้โอกาสจึงเปดใหแกโจโฉ ในทางตรงกันขามถาหากวาโจโฉไมมีความพรอม ถึงแมฟา จะเปดโอกาสแลวแตยอมยากหรือยอมไมอาจกุมโอกาสนั้นเอาไวได ครั้นโจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาของ พระเจาเหี้ยนเตและรับสั่งใหรีบ เขาไปชวยราชการในเมืองหลวงแลว สอบถามกับทหารที่อัญเชิญพระ ราชหัตถเลขามานั้นไดความวา บัดนี้พระเจาเหี้ยนเตเสด็จประทับอยูที่เมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงมีความยินดียิ่ง นัก รีบเรียกประชุม บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งปวงโจโฉไดแจงขอรับสั่งใหบรรดาที่ปรึกษาและแม ทัพนายกองฟงแลวขอความเห็นวาสมควรดําเนินการประการใด ทั้งๆ ที่ในใจโจโฉเองนั้นปกใจมั่นอยูกอนแลว วาจะตองรีบยกเขาไปเมืองหลวงกุมโอกาส นี้ไวใหมั่นคง แตนี่เปนวิสัยของผูนําที่มีการใดเปนขอสําคัญยอม รวม กันคิดอานปรึกษาแลวแบงภาระหนาที่กันทํา การใหญจึงจะสําเร็จดังประสงค All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนฮกที่ปรึกษาจึงวา ในสมัยเลียดกกนั้นพระเจาจิ๋วซองอองได เสวยราชยแผนดินเปนจลาจลจึงโปรดเกลา ใหจิ๋นบุนกงเขาไปรับราชการในเมืองหลวง จิ๋นบุนกงเปนผูมีสติปญญา จัดการบริหารราชการแผนดินไมทันนาน ก็เขารูปเขารอย สามารถครองใจบรรดาขุนนาง ขาราชการทั้งปวงได สืบตอมาจิ๋นบุนกงก็ไดครองราชสมบัติ โดยงาย และวาสถานการณบานเมืองขณะนี้คลายกับเมื่อครั้งเลียดกกนั้น แผนดินเปนจลาจล ราษฎรไดรับ
  • 45.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 45 ความทุกขเข็ญทุกหยอมหญา บรรดาขุนศึกตางแยงชิงอํานาจกัน การที่มีรับสั่งเรียกหาทานเขาไปรับราชการ ในเมืองหลวงครั้งนี้นับวาสวรรคไดประทานโอกาสแกทาน แลว ขอใหทานรีบยกทหารเขาไปยังเมืองลกเอี๋ยง โดยเร็ว หากละไวชาไปบรรดาหัวเมืองอื่นทราบความก็จะชิงโอกาสเขาไปกอน ราชการ สิทธิขาดก็จะตกอยูแก หัวเมืองอื่นนั้น เพราะสถานการณเชนนี้ผูใดยก เขาไปชวยราชการฮองเตกอน อํานาจสิทธิขาดในราชการยอ มตกอยูแกผูนั้น ทานก็จะเสียการไป บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งนั้นเห็นพองกับความคิด ของซุนฮก โจโฉจึงวาความคิดของทานทั้งปวง ตองดวยความคิดของเรา ดังนั้นเราจะรีบยกไปในทันที จึงสั่งใหเตรียมทหารทั้งสิ้น ยกออกจากที่ตั้งไปเมืองลก เอี๋ยงทั้งกลางวัน กลางคืน โจโฉตั้งปณิธานตั้งแตยังเด็กที่จะตองครองอํานาจเปนใหญในแผนดิน บัดนี้กําลัง พลทั้งฝายบุน ฝายบูพรั่งพรอม เมื่อโอกาสเปดชองใหเชนนี้ โจโฉจึงรีบเขากุมเอาโอกาสนั้นโดยไมลังเล หมายเอา การเขาเมืองหลวงครั้งนี้เขาสูอํานาจรัฐอยางเต็มตัว ดังนั้นบรรดาสรรพกําลังที่มีอยู จึงไดรับคําสั่งให ยกไปเมืองหลวงทั้งสิ้น ทางดานเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตและบรรดาขุนนางขาราชการยังคงปรับปรุงที่ประทับและที่พักตางๆ เพื่อใหมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขณะนั้นทหารลาดตระเวนไดถวายรายงานวา บัดนี้ลิฉุย กุยกียกกองทัพมา ใกลจะถึงเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบรายงานดังนั้นก็ตกพระทัย เพราะเมืองลกเอี๋ยงถูกเพลิงเผา ผลาญจนหมดสิ้น คายคู ประตูเมือง และหอรบตางๆ ก็ยังไมพรอม จึงรับสั่งใหเรียกบรรดาขุนนางขาราชการ ตางๆ มาปรึกษาบรรดาขุนนางขาราชการ ตลอดจนขาราชบริพารครั้นทราบความก็ตกใจ แตเอียวฮองและ หันเซียมไดกราบทูลวาขออยาทรงพระวิตก ขาพระพุทธเจาทั้งสองจะขออาสาไปโจมตีขับไลกองทัพของลิฉุย กุยกีเอง ตังสินแยงวาทหารฝายเรามีนอยกวาทหารของลิฉุย กุยกีมากนัก ทั้งไมสามารถอาศัยกําแพงเมือง คายคู หอรบตั้งรับขาศึกได ดังนั้นถาหากอยูที่นี่ตอไปคงจะเปนอันตราย จึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จหนี ไปทางภาคตะวันออก ดีรายก็อาจจะสวนทางกับกองทัพของโจโฉ ซึ่งคงจะยกมาชวยราชการ พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคําตังสินแลวเห็นชอบ จึงโปรดใหจัดขบวนเสด็จแลวยกออกจากเมืองลกเอี๋ยงมุงไป ทางภาคตะวันออก ขบวนเสด็จเคลื่อนไปไดประมาณยี่สิบเสน เห็นกองทหารจํานวนมาก ยกสวนทางมาแต ไกล มีธงประจําตัวแมทัพบงบอกวาเปนกองทัพของโจโฉ พระเจาเหี้ยนเตก็คลายพระทัย ครั้นเขามาใกล ปรากฏวาเปนทหารผูถือรับสั่งไปเรียกโจโฉรวมมา ในขบวนกองทัพหนานั้น ทหารผูถือรับสั่งไดเขามาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตที่รถพระที่นั่ง กราบบังคมทูลวาบัดนี้โจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาแลว กําลังยกกองทัพมาตาม รับสั่ง แตพอมาถึงกลางทางไดทราบวาลิฉุย กุยกียกกองทัพมาเมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงสั่งใหแฮหัวตุน เคาทู และเตียนอุย คุมทหารมาหาหมื่นเปนกองหนารีบยกมาถวายอารักขาพระองคกอน พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ดีพระทัยโปรด ใหสามทหารเอกของโจโฉเขาเฝา แฮหัวตุน เคา ทู และเตียนอุย จึงนําทหารทั้งนั้นเขามาถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต ทันใดนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝา กราบบังคมทูลวา บัดนี้มีกองทหารยกมาทางดานตะวันออกอีกกองหนึ่ง พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหแฮหัวตุน ไปดูสถานการณวาเปนกองทัพของผูใดยกมา ครูหนึ่งแฮหัวตุนพาโจหอง ลิเตียน และงักจิ้น เขามาเฝาแลว กราบบังคมทูลวาโจโฉไดสั่งใหทหารเอกอีกสามคนรีบคุมทหารยกหนุนตามมา จึงขอเบิกตัวเขาเฝา นายทหาร ของโจโฉที่เพิ่งมาใหมทั้งสามนายจึงถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นสถานการณมีความ ปลอดภัยจึงตรัสชม วาโจโฉมีสติปญญารอบคอบมาก ทั้งมีความจงรักภักดี เห็นแกราชการ เปนการดวน สมควรจะไดชวยทํานุบํารุงแผนดิน ขณะนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝาอีกครั้งหนึ่งแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กองทัพลิฉุย กุยกียกใกลเขา มาแลว พระเจาเหี้ยนเต จึงตรัสกับแฮหัวตุนวาทานจะคิดอานรับศึกครั้งนี้ประการใด แฮหัวตุน จึงกราบบังคม ทูลวาขออยาทรงพระวิตกตอไปเลย ขาพระพุทธเจาซึ่งเปนกองทัพหนาของโจโฉขออาสาไปกําจัดลิฉุย กุยกี ณ บัดนี้ แลว กราบถวายบังคมลาออกมา แฮหัวตุน โจหอง จัดกองทหารมาเปนกองหนาซายขวาและให ทหารราบเปนกองหนุน ยกไปสกัดกองทัพของลิฉุย กุยกี ทหารมากองหนาทั้งซายขวาไดบุกทะลวงเขาตี กองทัพของลิฉุย กุยกีอยางดุเดือด ทหารราบก็หนุนเนื่องตามเขาไปฆาฟนทหารของ ลิฉุย กุยกีลม ตายลงกวา หมื่น กองทัพของลิฉุย กุยกี จึงแตกพายไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด แฮหัวตุน และโจหองจึงยกทหารกลับมาที่ขบวนเสด็จ แลวอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตกลับเขาเมืองลกเอี๋ยง ถวายที่ประทับ ณ ที่ประทับชั่วคราวดังเดิม แลวจัดทหารตั้งคายอารักขาไวโดยรอบกําแพงพระนคร รุงขึ้นโจโฉ ยกกองทัพมาถึงเมืองลกเอี๋ยง ใหทหารตั้งคายไวนอกกําแพงพระนคร ตัวโจโฉและทหารเอกที่ติดตามมาไดพา กันไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉคุกเขาลงกับพื้นถวายบังคม แลวพระเจาเหี้ยนเต โปรดใหลุกขึ้นนั่งแลวมีพระ ราชกระแสวา บัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนกบฏ เผาทําลายเมืองหลวงแลวไลลา คิดจะทํารายเราจนตองระหกระเหินไป
  • 46.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 46 หลายที่ บัดนี้ไดมาอยูที่เมืองลกเอี๋ยง ลิฉุย กุยกีก็ยังยกกองทัพไลตามมาอีก เปนโชคดีที่ทานยกกองทัพมา ชวยไวทันสถานการณ จึงขอขอบใจทานที่ชวยราชการในครั้งนี้ โจโฉกราบบังคมทูลวา ขาพระพุทธเจาไดรับ พระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยงมาแตกอน มีความซาบซึ้งและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเปนลนพนคิดอยูเสมอ ที่จะสนองพระเดชพระคุณ ซึ่งลิฉุย กุยกีเปนกบฏนั้นขออยาทรงพระวิตกอีกตอไป ขาพระพุทธ เจาจะคิดอาน กําจัดลิฉุย กุยกีเสียใหจงได พระเจาเหี้ยนเตทรงพอพระทัยโจโฉยิ่งนักจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหโจโฉเปนผู บัญชากองกําลังรักษาพระนคร มีอํานาจบังคับบัญชาฝายทหารทั้งสิ้น และพระราชทานขวานโบราณและตรา สําคัญสําหรับตําแหนงมีอํานาจประหารผูกระทําความผิดได และโปรดเกลาพระราชทานตําแหนงราช เลขาธิการมีอํานาจบังคับบัญชาฝายพลเรือน อีกตําแหนงหนึ่ง โจโฉ ณ บัดนี้แมยังมิไดมีตําแหนงสูงสุดทั้งฝายทหารและฝายพลเรือนแตโดยสภาพที่เปนจริงนั้นตําแหนง สูงสุดที่ลิฉุย กุยกีครองอยูไรความหมายสิ้นเชิงแลวเพราะกลายเปนกบฏและเปนโจร เที่ยวปลนชิงวิ่งราว ทรัพยสินราษฎร ดังนั้นอํานาจทั้งทางทหารและพลเรือนที่แทจริงจึงอยูที่โจโฉทั้งสิ้น ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นแตก พายไปไดซองสุมกําลังทหารขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แลวปรึกษากันวาบัดนี้โจโฉยกกองทัพใหญมาตั้งอยูที่เมือง ลกเอี๋ยง และไดเขาถวายการอารักขาฮองเตไว หากนานไปอํานาจสิทธิขาดในราชการจะตกไดแกโจโฉ และโจโฉจะเติบกลาขึ้นจนยากที่จะกําจัด ดังนั้นจําเปนที่จะตองรีบกําจัดโจโฉเสียอยาใหทันไดตั้งตัว กาเซี่ยง ที่ปรึกษาจึงวา โจโฉตั้งหลักขึ้นในภาคตะวันออก มีทหารเอก ทหารรองและกําลังทหารเปนอันมาก บัดนี้เขามา ชวยราชการในเมืองหลวงตามรับสั่งของฮองเต โจโฉจึงมีอํานาจโดยธรรมเนียม การปกครองสถานหนึ่งและมี กําลังทหารมากกวาฝายเราอีกสถานหนึ่งหากรีบยกไปรบดวยโจโฉในสถานการณเชนนี้ "อุปมาดังเนื้อไป สู เสือ" คงจะเสียทีแกโจโฉเปนมั่นคง กรณีสมควรคิดอานผอนปรน เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉจะปลอดภัยกวาที่จะ คิดอานทําสงครามกัน ลิฉุย กุยกียินคํากาเซี่ยงก็โกรธ หาวากาเซี่ยงเอาใจออกหาง กลาวความใหเสียขวัญทหาร จึงชักกระบี่จะฆา กาเซี่ยงเสีย แมทัพนายกอง เห็นดังนั้นจึงชวยกันขอรอง ลิฉุย กุยกี ขอชีวิตกาเซี่ยงไว ลิฉุย กุยกี จึงไล กาเซี่ยงออกไปจากที่ประชุม กาเซี่ยงคนมีสติปญญาคิดอานจนลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ มาครั้งนี้ถึงมาก ดวยสติปญญาก็แทบจะเอาชีวิตไมรอด เหตุผลมิใชอื่นใดหากอยูที่การคบคนผิด เลือกนายผิดนั่นเอง กาเซี่ยง เห็นวา ลิฉุย กุยกีหยาบชาตอตัวถึงเพียงนี้ก็นอยใจรีบออกมาจัดเตรียมขาวของ ค่ําลงก็ขับมาหนีกลับไปอยู ภูมิลําเนาเดิม รุงเชาขึ้นลิฉุย กุยกีจึงสั่งใหลิเซียม ลิเปก เปนกองทัพหนายกไป รบดวยโจโฉ ฝายโจโฉครั้นไดทราบความจึง สั่งใหเคาทู ลิเตียน โจหยิน คุมทหารมาสามรอยยกออกไปรบดวยกองทัพหนาของลิฉุย กุยกี ทหารทั้งสอง ฝายปะทะกันไมทันไร เคาทูก็เอาทวนแทงลิเซียมตกมาตาย ลิเปกเห็นดังนั้นก็ตกใจจะชักมาหนี เคาทูขับมา ปราดเขาไปเอาทวนแทงลิเปกตกมาตายอีกคนหนึ่งทหารของลิเซียม ลิเปก จึงพากันแตกหนีไป เคาทูจึงตัด ศีรษะของลิเซียมและลิเปกเอาไปมอบแกโจโฉ โจโฉเห็นเชนนั้นก็ยินดีโอบไหลเคาทูแลวชื่นชมวาสมเปน ทหารเอก แตสามกกฉบับสมบูรณวา "ทานนั้น นับเปนฮวมไกวของขาจริงๆ" ฮวมไกวคือทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจ ดังนั้นการที่โจโฉกลาว เชนนี้ยอม สะทอนถึงความมักใหญใฝสูง เปรียบเทียบตัวเองเสมอดวย ปฐมกษัตริยแหงราชวงศฮั่น ครั้นไดรับชัยชนะใน ศึกยกแรกแลว โจโฉจึงคิดกวาดลางลิฉุย กุยกีใหสิ้นซาก ดังนั้นจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารเปนกองทัพหนา โจ หยินคุมทหารเปนปกขวา โจโฉเองเปนกองทัพหลวง เคลื่อนขบวนเรียง หนากระดานเขาโจมตีกองทหารของลิ ฉุย กุยกีอยางรวดเร็ว ฆาทหาร ลิฉุย กุยกีลมตายลงเปนอันมาก ลิฉุย กุยกีสูไมไดก็พากันชักมาหนี โจโฉไล ตามไปตลอดทั้งคืนจับทหารลิฉุย กุยกีไดเปนอันมาก และที่เขาสวามิภักดิ์ดวยก็มีเปนจํานวนมาก ลิฉุย กุยกี เหลือทหารอยูไมกี่คนก็หมดกําลังใจสูรบ จึงพากันหนีไปทางภาคตะวันตก กลายเปนโจรปาไปอีกครั้งหนึ่ง โจ โฉครั้นไดรับชัยชนะอยางเด็ดขาดตอกองทัพของลิฉุย กุยกีแลว จึงยกทหารกลับเมืองลกเอี๋ยง ตัวโจโฉเอง เขาเฝากราบทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ แลวถวายบังคมลากลับมา ณ คายนอกเมือง หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 47.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 47 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ปรากฏการณแหงฟาดิน (ตอนที่ 71) ฝายเอียวฮองและหันเซียม ครั้นไดทราบวาโจโฉตีทัพลิฉุย กุยกี แตกพายไปและยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมือง ลกเอี๋ยง มีอํานาจสิทธิขาด ทั้งฝายทหารและพลเรือน จึงปรึกษากันวา "โจโฉทําการครั้งนี้ใหญ หลวงนักนาน ไปราชการในเมืองหลวงก็จะสิทธิขาดอยูแกเขา เราทั้งสองก็จะอยูในเงื้อมมือโจโฉ" ขุนนางโหลที่ไดรับแตงตั้ง ในยามที่พระเจาเหี้ยนเตทรงระเหเรรอนจากการไลตามตีของลิฉุย กุยกี เคยมีบทบาทในครั้งนั้น มาครั้งนี้ เห็นโจโฉเรืองอํานาจขึ้นก็คิดวาตัวจะหมดบทบาทและความหมาย และจะตองตกอยูใตอํานาจของโจโฉ ความคิดจึงจมไมลง ดังนั้นจึงคิดจะหนีออกจากเมืองหลวงตามประสาคนไรสติปญญา ปรึกษากันแลวตกลง วางแผนวาจะอางเหตุยกไปกําจัดลิฉุย กุยกี แลวคอยหนีไปอยูเมืองไตเหลียง ดังนั้นจึงพากันไปเขาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลขออาสายกทหารไปกําจัดลิฉุย กุยกี ลางเสี้ยนหนามแผนดินใหสิ้นซากตอไป พระ เจาเหี้ยนเตทรงฟงคําอาสาแลวโปรดเกลาอนุญาต เอียวฮองและหันเซียมจึงกราบถวายบังคมลาออกมา จัดเตรียมทหาร ขาวของ เงินทอง และพาพรรคพวกออกจากเมืองลกเอี๋ยง ในขณะนั้นพระเจาเหี้ยนเตโปรดใหตังเจี๋ยวขาหลวงคนใหมไปพบโจโฉ เพื่อเรียกเขาเฝาปรึกษาขอราชการ โจ โฉครั้นทราบวาตังเจี๋ยว ขาหลวงในพระเจาเหี้ยนเตถือรับสั่งมาจึงออกไปตอนรับแลวเชิญเขา มาในคาย โจโฉ เห็นบุคลิกลักษณะของตังเจี๋ยว "พวงพีผิวเนื้อสดใส จักษุนั้นโตกลม คิ้วสุดหางตา" ก็ประหลาดใจเพราะยามนี้ ขาวยากหมากแพง อาหารไมบริบูรณ ขุนนางขาราชการทั่วไปซูบซีดผอมโซ ไฉนคนผูนี้จึงมีบุคลิกสมบูรณ สดใสดังนี้ จึงถามวาบานเมืองยามทุกขเข็ญ ขาวปลาอาหารไมบริบูรณ แตตัวทานสมบูรณผองใสยิ่งนัก ทาน บํารุงรางกายหรือมีโอสถทิพยประการใด ตังเจี๋ยวจึงวาขาพเจานี้ไมเคยดื่มกินอาหารทิพยหรือโอสถทิพย แต ประการใด ในระยะสามสิบปมานี้ขาพเจากินแตอาหารธรรมดา ไมปรุงรสชาติ ไมวาเค็ม เปรี้ยว เผ็ด หวาน มัน คงกินแตอาหารที่มีรสจืดหรือไรรสเทานั้น อาหารเปนปจจัยสําคัญของชีวิต เปนทั้งเครื่องหลอเลี้ยงชีวิตให เจริญเติบโต และเปนทั้งยาบําบัดรักษาโรค เนื่องเพราะอาหารนั้นเปนตนกําเนิดของเลือด เลือดเปนตนกําเนิด ของความเจริญเติบโตและโรคภัยไขเจ็บ โดยนัยนี้อาหารจึงมีทั้งคุณและโทษ อาหารที่ไรรสจัดเปนยา อายุวัฒนะอยางหนึ่งที่มีมาแตโบราณกาล สามกกในตอนนี้ไดเปดเผยถึงการใชอาหารเปนยาอายุวัฒนะที่ นาสนใจทดลองยิ่ง โจโฉฟงแลวพยักหนาเปนเชิงยอมรับแลวถามตอไปวา ทานรับราชการอยูที่ไหนมากอนและบัดนี้มีตําแหนง อะไร ตังเจี๋ยวจึงวาเดิม ขาพเจารับราชการอยูกับอวนเสี้ยว เคยไดรับเลือกเปนบุคคลตัวอยางในฐานะบุตรยอด กตัญู ครั้นไดทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงจึงมาขอเขาเฝา ทรงโปรดเกลาแตงตั้ง ใหเปนที่ขาหลวงมีหนาที่ถวายคําปรึกษา โจโฉครั้นไดยินวาตังเจี๋ยวเปนที่ปรึกษาใกลชิดพระเจาเหี้ยนเตและ สังเกตเห็นทวงทาเจรจาเฉลียวฉลาด จึงกลาวผูกน้ําใจไมตรีวาขาพเจาไดยินกิตติศัพทของทาน มีความ เลื่อมใสมานานแลว บัดนี้มาพบตัวโดยบังเอิญนับวาเปนวาสนาที่รวมกันมาแตปางกอน ดังนั้นเพื่อแสดงความ คารวะตอทาน ขาพเจาขอเชิญทานอยูกินโตะดวยขาพเจาสักมื้อหนึ่ง ตังเจี๋ยวเพลินใจในถอยรอยวาจาอันเจริญโสตของโจโฉจึงลืมพระราชธุระเสียสิ้น ตอบรับคําเชิญแลวกินโตะ ดวยโจโฉในคายนั้น ยังไมทันไดเริ่มกินโตะทหารเขามารายงานวา ขณะนี้มีทหารกองหนึ่งกําลังออกเดินทาง จากเมืองลกเอี๋ยงจะไปทางดานตะวันออก โจโฉจึงสั่งใหทหารไปสืบดูวาเปนกองทหารของผูใดและจะยกไปที่ ใด ตังเจี๋ยวซึ่งเปนขาหลวงทราบความที่เอียวฮองและหันเซียมเขาเฝากราบทูลพระเจาเหี้ยนเตจึงวา ทานไม จําเปนตองไปสืบขาวดอก เพราะนั่นเปนเอียวฮองทหารเกาของลิฉุย และหันเซียมหัวหนาโจรที่กลับใจเขารับ ราชการ สองคนนี้เห็นทานมีอํานาจในเมืองหลวงจึงคิด จะไปอยูเมืองไตเหลียง โจโฉไมรูความเกี่ยวกับสองคน นี้มากอนก็สงสัย จึงถามตังเจี๋ยว วาทั้งสองคนนี้มีความหวาดระแวงขาพเจาดวยเหตุใด ตังเจี๋ยวเฉลย วาทั้ง สองคนนี้ไมมีความคิดสติปญญา หาไดมีความคิดระแวงสงสัยอะไรในตัวทานไม เพียงแตเห็นบทบาทตัวเอง ลดลงก็อยากไปอยูที่อื่นเสียเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉลองภูมิตังเจี๋ยวตอไปอีกวา ทั้งสองคนนี้เมื่อไปอยูเมืองไตเหลียง แลวจะคิดอานประการใด ตังเจี๋ยวจึงวา ทั้งสองคนนี้ไมมีน้ํายา "อุปมาเหมือนเสือไมมีเขี้ยว แลนกหาปกมิได" คงจะไมคิดการอันใดใหเปนอันตรายตอ ทาน โจโฉสนทนากับตังเจี๋ยวก็ยิ่งเห็นความหลักแหลม รอบรูการบานเมือง และเห็นวามีไมตรีสนองตอบ ชัดเจนแลวจึงปรึกษาตอไปวา บัดนี้เมืองลกเอี๋ยงถูกเผลิงเผาผลาญหมดสิ้น จะคิดอานประการใดจึงจะควร ตังเจี๋ยวจึงวาตั๋งโตะเปนทรราชเผาเมืองลกเอี๋ยงนี้เสียแลวเชิญเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอันตั้งเปนเมือง หลวงขึ้นมาใหมอีกครั้งหนึ่ง สิ้นตั๋งโตะแลวลิฉุย กุยกีครองอํานาจเปนทรราชตามเผาเมืองเตียงอันเสียแลว กระทําย่ํายีตอฮองเตและขุนนางทั้งปวงจนพระเจาเหี้ยนเตตองหนีมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงนี้ บัดนี้ทานเขามา
  • 48.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 48 ชวยราชการในเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตและขุนนางทั้งปวงจึงคอยมีความสุขขึ้น ความชอบจึงมีแกทานเปน อันมาก แตทวาเมืองลกเอี๋ยงนี้ชํารุดทรุดโทรมไมสามารถบูรณะฟนฟูใหคืนดีไดดังเดิม ทั้งประตูเมือง คายคู หอรบก็ถูกทําลายสิ้น หากมีศึกเหนือเสือใตยกมาก็จะทําการรับศึกไมสะดวก โจโฉฟงคําตังเจี๋ยวชอบดวยเหตุและผลตองดวยใจตัวจึงซักไซ ตอไปวาเมื่อเปนเชนนี้ทานมีความคิดเห็น ประการใดสืบไปจึงจะทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขได ตังเจี๋ยวจึงวาเมืองฮูโตอยูไมไกลจากเมืองลกเอี๋ยง ขาว ปลาอาหาร ก็บริบูรณ ขอใหทานกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหยายเมืองหลวง ไปอยูเมืองฮูโต เทากับทาน ไดเนรมิตเมืองหลวงใหมแลวนอมเกลาถวาย ความชอบจะมีแกทานเปนอันมาก ขอทานจงพิจารณาโดยควร เถิด โจโฉฟงตังเจี๋ยวอรรถาธิบายความเมืองโดยกวาง โดยลึกแลวประทับใจตังเจี๋ยวเปนอันมาก ลุกขึ้นแลวเขา มาจับเอามือทั้งสองของตังเจี๋ยวกุมไว แลววาความคิดอานของทานชางกวางไกลยิ่งนัก ตองดวยความคิดของ ขาพเจา แผนดินจะเปนสุขสงบครั้งนี้ดวยความคิดอานของทานนี่แลว ขาพเจาจะรีบทําตามคําปรึกษาของทาน แตวิตกวาถาเรายกไปจากเมืองลกเอี๋ยงแลว เอียวฮองและหันเซียมจะไมยก มาทํารายเอาหรือ นอกจากนี้ บรรดาขุนนางขาราชการจะพรอมใจยาย ไปเมืองฮูโตพรอมกันแลวละหรือ ตังเจี๋ยวจึงวาการทั้งปวงนั้นจะหวัง เอาความพรอมใจจากทุกคนยอมไมได เพราะไมวาเรื่องราวจะดีราย ประการใด ก็ยอมมีทั้งผูเห็นดวยแล คัดคานควบคูไปแทบทั้งสิ้น ขอเพียงการนั้นเปนประโยชนตอคนสวนใหญในแผนดิน และผูคนหมูมากเห็นพอง ดวยแลวยอมพึงกระทํา และยอมเปนการดีที่จะไดรูอยางแจงชัดวาใครใดเห็นพองเขารวมดวยความคิดทาน ใครใด ทักทวงขัดขวางอยู ดังนี้แลวสภาพความเมืองทั้งสิ้นก็ยอมกระจางแจง คนทั้งปวงก็จะยําเกรงทานเปน อันมาก สวนเอียวฮองและหันเซียมแมจะคิดทํารายทานแตขาดกําลัง ทั้งกําลังสติปญญาและกําลังทหาร ยอม คิดทําการไปไมตลอด แตเพื่อ ไมใหทานตองวิตกกังวลในสองคนนี้เพียงแตเกลี้ยกลอมเอาใจไวก็จะไมคิดทํา อันตรายตอทาน โจโฉจึงวาทานอรรถาธิบายมานี้กระจางแจงยิ่งนัก ประดุจทําของคว่ําอยูใหหงายขึ้น ปญหาจึงคงเหลือแตเพียง วาจะทําประการใดจึงจะชักจูงใจใหคนสวนใหญเห็นพองในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตังเจี๋ยวจึงวา บัดนี้ในเมืองลกเอี๋ยงขาวปลาอาหารก็ขาดแคลน เกิดความอดอยากแกทุกผูคน ใหทานประกาศแกคนทั้งปวง วาพระเจาเหี้ยนเตมีพระราชประสงคจะยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต เพื่อมิใหราษฎรตองอดอยากก็จะตอง ดวยความปรารถนาของทุกผูคน โจโฉฟงคําชี้แจงโดยตลอดเห็นการขางหนาสวางไสว จึงมีความยินดีเปนอัน มาก แลววานับแตนี้เปนตนไปขอทานชวยเอ็นดูขาพเจาใหคําปรึกษา ในการตางๆ เพื่อความรมเย็นเปนสุขของ บานเมืองแลราษฎรเถิด ขาพเจามีขอราชการสิ่งใดก็จะขอคําปรึกษาทาน ตังเจี๋ยวขอบคุณโจโฉที่ไววางใจแลว ขอลากลับ จากนั้นโจโฉจึงเชิญคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเขามาปรึกษาเรื่องยายเมืองหลวงและให เตรียมการเพื่อยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตอไป ขณะนั้นอองหลิบขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ผูเชี่ยวชาญดานดาราศาสตร มีหนาที่บันทึกจดหมายเหตุการ แผนดิน ไดปรึกษากับเลางายเชื้อพระวงศ ซึ่งมีหนาที่เปนนายทะเบียนทําเนียบราชนิกูลวา ขาพเจาไดสังเกต ดาวประจําเมืองตั้งแตชวงฤดูฝนเปนตนมา ถึงบัดนี้เปนเวลาสามเดือนแลว เห็นปรากฏการณบนนภากาศ ประหลาดกวาที่เคยเปนมา เลางายจึงถามวาปรากฏการณบนทองฟาที่วานี้เปนฉันใด และจะเกิดผลดีรายตอ บานเมืองประการใด อองหลิบจึงวาชวงเวลานี้ดาวพระศุกรไดโคจรเขาบดบังดาวประจําเมืองตรงบริเวณกลุม ดาวไถซึ่งเปนระยะเชิงมุมบงชี้วาตรงกับเมืองเทียนสิน ซึ่งถือวาเปนทาขามระหวางเมืองมนุษยกับเมืองสวรรค ขณะเดียวกันดาวอังคารไดโคจรถอยหลังเขามาใกลกับดาวพระศุกรตรงจุดที่เปนประตูสวรรค ปรากฏการณ ทั้งนี้แสดงวาบานเมืองจะเปลี่ยนแปลงผูครองอํานาจรัฐ ขาพเจาพิเคราะหแลวเห็นวาราชวงศฮั่นใกลจะดับสูญ แลว ดินแดนอันเปนวุยกกจะรุงเรืองไพบูลย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด อนึ่งดาวอังคารอันโคจรเขามา ณ ประตูสวรรคนั้นหมายถึงขุนศึกผูมีกําลังกองทัพเขมเข็งเกรียงไกร ดังนั้นผู ครองอํานาจรัฐใหมจึงเปนแมทัพ และจะตั้งตนแหงอํานาจ ณ ดินแดนอันเปนแควนวุยนั้น เลางายจึงวาความ เรื่องนี้เปนการใหญของแผนดินสมควรที่ทานจะกราบบังคมทูลใหทรงทราบ อองหลิบก็รับคํา และเขาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหทรงทราบเปนการสวนพระองค พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวมิได ตรัสประการใด ในขณะที่อองหลิบสนทนากับเลางายนั้น คนรับใชในบานได ยินความก็คิดขายนายเอา ความชอบจึงลอบไปแจงขอความนั้นใหโจโฉทราบ โจโฉครั้นทราบความอันเปนที่ประหลาดนัก กริ่งใจวาความ จะแพรงพรายไปแลวจะเกิดผลรายแกตัว ค่ําลงก็ใหคนไปวากลาวตักเตือนอองหลิบวา ปรากฏการณแหงฟาดิน ยังหาเปนที่แนนอนไม อยาเพิ่งพูดจาใหแพรงพรายจะเปนที่ตระหนกตอผูคนในแผนดิน อองหลิบ ฟงคําเตือน แลวก็มิไดวากลาวประการใด โจโฉใหทหารตามซุนฮกที่ปรึกษามาพบแลวเลาความตามที่ อองหลิบสนทนา กับเลางายใหฟงทุกประการ แลวถามวาทานมีความเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาสรรพสิ่งยอมหมุนเวียน เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ และความสัมพันธของฟาดิน ธาตุทั้งหลายยอมหมุนเวียนเปลี่ยนแปรไปตามเหตุปจจัย ของกันและกัน ธาตุไฟใหกําเนิดธาตุดิน ธาตุดินใหกําเนิดธาตุทอง ธาตุทอง ใหกําเนิดธาตุน้ํา ธาตุน้ําให
  • 49.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 49 กําเนิดธาตุไม และธาตุไมใหกําเนิดธาตุไฟเปนวัฏจักรดั่งนี้ อันพระเจาเหี้ยนเตนั้นเปนธาตุไฟ ตัวทานเปนธาตุ ดิน ครั้นเหตุการณหมุนเวียนสิ้นปูมแหงธาตุไฟแลว ยุคสมัยใหมยอมผันสูปูม ธาตุดินอันเปนปูมธาตุประจําตัว ทาน ทั้งเมืองฮูโตซึ่งอยูในดินแดนอันเปนวุยกกก็อยูในภูมิธาตุดินสมกับธาตุของทาน สอดคลองกับการบนนภา กาศ ดังนั้นปรากฏการณของฟาดินสมคลอยตองกันแลว การยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตครั้งนี้เห็นทีทานจะ เรืองอํานาจขึ้นดังคําของอองหลิบเปนมั่นคง ขอทานจงรีบดําเนินการโดยไวเถิด โจโฉฟงคําซุนฮกแลวตัดสินใจขั้นสุดทายในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นรุงเชาก็เขาเฝาพระเจา เหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหยายเมืองหลวง โดยอางวาเมือง ลกเอี๋ยงชํารุดทรุดโทรมหากมีศึกเหนือเสือใตยกมา ทําอันตรายก็จะไมสามารถปองกันรักษาไวได ทั้งเสบียงอาหารก็ไมสมบูรณ แตเมืองฮูโตซึ่งอยูไมไกลมีความ พรอมทุกอยาง พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวทรงเห็นชอบดวย และรับสั่งใหดําเนินการตามที่ เห็นสมควร โจโฉจึงกราบบังคมทูลตอไปวา ถาเปนเชนนั้นขาพระพุทธเจาจะไดรีบดําเนินการตามพระบรมรา ชานุญาตโดยเร็วแลวกราบบังคมลาออกมา สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม การสถาปนาอํานาจรัฐใหมของโจโฉ (ตอนที่ 72) โจโฉออกจากที่เฝาแลวสั่งใหเตรียมการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นพรอมแลวจึงอัญเชิญเสด็จพระเจา เหี้ยนเตและฮองเฮาประทับรถพระที่นั่ง ขาราชบริพารและขุนนางขาราชการทั้ง ปวงโดยเสด็จอยางพรอม เพรียงกัน แลวเคลื่อนขบวนออกจากเมือง ลกเอี๋ยง โดยมีกองทัพของโจโฉเปนกองระวังหนาหลังตามขบวน พยุหยาตราทางสถลมารค ครั้นขบวนเคลื่อนมาประมาณหกสิบเสน ถึงเขตเขาอันเปนที่ฝงพระบรมศพอดีต พระมหากษัตริย เอียวฮองและหันเซียมไดคุมทหารมาสกัดขบวนไว โจโฉครั้นทราบความจึงขับมาออกไปหนา ทหาร แลวแจงวานี่เปนขบวนเสด็จ ผูมาสกัดขวางจะเปนกบฏตอแผนดินหรือ ซิหลงทหารของเอียวฮองและ หันเซียมไมตอคํา ขับมาตรงเขามา หาโจโฉ เคาทูเห็นดังนั้นจึงขับมาเขาสกัดซิหลงไว สองทหารตอสูกันอยาง ดุเดือดไดหาสิบเพลง โจโฉจึงใหตีระฆังเปนสัญญาณใหเคาทูถอยกลับมา ซิหลงเห็นเคาทูถอยไปก็กลับไป คายโจโฉเชิญบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองมาปรึกษาวาเอียวฮองและหันเซียมเปนกบฏตอแผนดิน จํา จะจับฆาเสียใหจงได แตซิหลงนั้นมีฝมือกลาแข็ง ขาพเจาใครไดตัวมาใชในราชการ ทั้งหากไดตัวซิหลง มาแลวก็จะจับตัวเอียวฮองและหันเซียมไดโดยงาย ดังนี้จะมีผูใดอาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงไดบาง หมันทอง ขุนนางเมืองลกเอี๋ยงซึ่งโดยเสด็จมาในขบวนยินคําโจโฉ แลวขออาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงเพราะเปนชาวบาน เดียวกัน สนิทกันมาตั้งแตยังเด็ก โจโฉเห็นชอบและอนุญาตใหหมันทองไปดําเนินการ ครั้นค่ําลงหมันทองจึง ปลอมตัวเปนทหารเลวลอบไปยังคายของ ซิหลง เห็นซิหลงในชุดออกศึกจุดเทียนนั่งดูหนังสืออยูจึงเขาไป คารวะแลวทักทายซิหลงวา ไมไดพบกันนานป ทานมีความสุขสบาย ดีหรือ ซิหลงเห็นทหารเลวเขามาในคายก็ ประหลาดใจเขมนมองโดย พินิจก็จําไดวาเปนหมันทองเพื่อนแตวัยเด็ก จึงเชิญใหนั่งลงเจรจาแลว ถามวาเหตุ ใดจึงมาหาขาพเจาถึงที่นี่ หมันทองจึงวาขาพเจานี้รับราชการอยูกับโจโฉ วันนี้เห็นทานตอสูกับเคาทูจึงรีบลอบ มาเยือนในฐานะเพื่อนเกาเพื่อบอกความเห็นอันเปนประโยชนตอมิตร แลววาตัวทานมีฝมือกลาแข็ง องอาจกลา หาญ สมควรรับราชการในพระมหากษัตริย เหตุใดจึงมางอมืองอเทา อยูกับคนไรความคิดแบบเอียวฮองและ หันเซียมนี้ จะหาความกาวหนา หรือความเจริญรุงเรืองใดๆ ไมไดอยางมากก็เปนไดแคหัวหนาโจร ขาพเจา เสียดายยิ่งนักจึงมาเตือนสติทานใหคิดดูตามที่ควร ซิหลงฟงคําหมันทองแลวนิ่งอยู เปนทาทีที่จํานนตอถอยคําของ หมันทอง ดังนั้นหมันทองจึงรีบรุกตอไปวา บัดนี้โจโฉถือรับสั่งฮองเต นําขบวนเสด็จไปเมืองฮูโต โจโฉนั้นเปนผูนําที่ปรีชาสามารถ มีน้ํา ใจรักผูมีฝมือกลา แข็ง ความขอนี้ทานคงไดยินกิตติศัพทมาบางแลว เปนแน วันนี้ในขณะที่ทานตอสูกับเคาทูนั้น โจโฉมีความ พอใจในฝมืออันแกรงกลาของทานจึงมีไมตรีจิตเมตตา สั่งหามทหารเกาทัณฑมิใหทําอันตรายทานแลวให ขาพเจาออกมาเชิญทานไปทําราชการดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซิหลงฟงดังนั้นจึงทอดถอนใจใหญแลววาขาพเจาก็รูอยูวาเอียวฮองและหันเซียมไรความคิดแลสติปญญา แต ติดขัดอยูตรงที่อยูดวยกันมาชานาน หากละทิ้งเสียในยามนี้ก็จะถูกเขานินทาได หมันทองเห็นซิหลงมีน้ําใจ โนมไปในทางที่ไมสมัครใจอยูกับเอียวฮอง และหันเซียม จึงกลาววา "อันธรรมดานกจะทํารังก็ยอมแสวงหาซึ่ง พุมไมชัฏ จะไดทํารังอยูเปนสุข ถึงลมพายุใหญจะพัดมา รังนั้นก็มิไดเปนอันตราย ประการหนึ่งเปนชายชาติ ทหาร จะหาแมทัพก็ใหพิเคราะหดูผูใจโอบออมอารีแลชํานาญในการสงคราม ถึง ขาศึกจะยกมามากมาย เทาใดก็มิไดหวาดไหว คิดอานปองกันทหารทั้งปวงมิใหเปนอันตราย ถาผูใดพบพานผูมีสติปญญาหมายจะพึ่ง ไดแลว ไมเขาทําราชการดวย อยาใหคนทั้งปวงนับถือความคิดผูนั้นเลย" ซิหลงฟงคําหมันทอง ทั้งเหตุผลแล ความแวดลอมอันบริบูรณดังนี้จึงเห็นดวยตกลงใจจะไปทําราชการดวยโจโฉ หมันทองจึงวาถา เชนนั้นทานจง
  • 50.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 50 ตัดศีรษะเอียวฮองและหันเซียมเอาไปคํานับโจโฉพรอมกันเถิด ทานจะมีความชอบเปนอันมาก ซิหลงจึงวา "ธรรมดาเปนบาวไดกินขาวแดงของทานแลว ถามิพอใจอยูดวยแลจะซ้ําทํารายแกนายก็เปนคนหากตัญูมิได" แลวปฏิเสธขอเสนอดังกลาวของหมันทองวาขาพเจาทําตามขอเสนอของทานมิได หมันทองฟงคําปฏิเสธแลว สรรเสริญ ซิหลงเปนอันมากวาเปนคนมีกตัญูรูคุณคน แลววาถาเชนนั้นก็จงไปแตตัวพรอมกันเถิด ซิหลงรับคําแลวจัดแจงขาวของเครื่องใชสวนตัวและพาพรรคพวกที่สนิทสนมกันสามสิบคนตามหมันทองหนี ออกจากคายไปหาโจโฉในคืนนั้น ฝายเอียวฮองทราบวาซิหลงพาพรรคพวกหนีออกจากคายจะไปอยูดวย โจ โฉก็โกรธ ยกทหารพันหนึ่งออกไลตามซิหลง ครั้นมาถึงเนินเขาเห็นมีกองทหารสุมไฟสวางอยู ทันใดนั้นโจโฉ ยกทหารออกมาลอมเอียวฮองไว แลววาเรามาคอยทานอยูเกือบสองชั่วยามแลว ทานหนีไปไมรอดดอก วา แลวใหทหารบุกเขาไปเพื่อจะจับตัวเอียวฮอง เอียวฮองพยายามจะตีฝาออกไป ขณะนั้นหันเซียมทราบวาเอียว ฮองยกทหารออกติดตามซิหลงจึง รีบยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารโจโฉลอมเอียวฮองอยู จึงตีฝาเขามาชวย เอาเอียวฮองออกจากวงลอมทหารโจโฉไปได ทหารโจโฉไดฆา ฟนทหารเอียวฮองและทหารหันเซียมลมตาย ลงหลายคน สวนที่เหลือ ก็เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉสิ้น แตเอียวฮองและหันเซียมนั้นเมื่อหนีมา ไดแลวเห็น ทหารเหลืออยูไมกี่คนก็เสียใจ หมดกําลังใจที่จะตอสูอีกตอไปจึงพากันไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง โจโฉก็ยกทหารกลับมายังขบวนเสด็จ หมันทองจึงพาซิหลงเขา มาคํานับโจโฉ ครั้นโจโฉเห็นหนาหมันทอง และซิหลงก็มีความยินดียิ่งนัก สั่งทหารใหเอาเสื้อเกราะอยางดีและเงินทองจํานวนมากมารับขวัญซิหลง แลว แตงตั้งใหเปนนายทหารประจํากองทัพของโจโฉ รุงขึ้นโจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยกไปเมืองฮูโต แลว อัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่เรือนรับรองแขกเมือง ซึ่งจัดเปนที่ประทับชั่วคราว และใหใชจวนเจา เมืองเปนทองพระโรงสําหรับวาราชการชั่วคราว พระเจาเหี้ยนเตทรงมีพระบรมราชโองการใหสถาปนาเมืองฮูโต เปนราชธานี แลวโปรดใหสรางพระราชวัง ทองพระโรง พระตําหนักและอาคารตางๆ ตามธรรมเนียมการสราง เมืองหลวง และใหขยายเขตเมืองใหมใหกวางขวางกวาเดิม กอสรางกําแพงเมืองใหม กอสรางคายคูประตู เมืองหอรบพรอมสรรพเนื่องจากบรรดาขุนนางแตครั้งเมืองหลวงเกาตั้งแตลิฉุย กุยกีลงมาบางก็เปนกบฏ บางก็ ลมหายตายจาก ครั้นสถาปนาเมืองหลวงใหมจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งขาราชการขุนนางครั้ง ใหญตั้งแตระดับสูงสุดลงมาดังนี้ แตงตั้งโจโฉเปนอัครมหาเสบาบดี, ตังสินและขุนนางในพระเจา เหี้ยนเตรวมสามสิบเอ็ดคนเปนขุนนางชั้น เสนาบดี, ซุนฮกเปนราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี, ซุนฮิวเปนขุนนาง ที่ปรึกษา ดานกิจการ ทหาร, กุยแกเปนเสนาธิการทหารสูงสุด, เลาหัวเปนเสนาบดีประจําสํานักอัครมหาเสนาบดี, "มอกาย เล็กโจ ยิบจุน สาม คนนี้ไดกํากับคลังและฉางขาว", เทียหยกเปนเจาเมืองตังเปง, ฮวนแสง กับตังเจี๋ยวเปนเจาเมือง ลกเอี๋ยง, หมันทองเปนที่เจาเมืองฮูโต, แฮหัวตุน แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน โจหอง สี่คนนี้เปนทหารเอก, ลิยอย ลิ เตียน งักจิ้น อิกิ๋ม ซิหลง ทั้งหาคนนี้เปนทหารโท, เคาทูกับเตียนอุยเปนทหารตรี และบรรดาทหารมีฝมือทั้งนั้น ก็ตั้งเปนขุนนางสิ้นการแตงตั้งขุนนางใหมในครั้งนี้มีลักษณะเหมือนการตั้งรัฐบาลใหม เปนการประนีประนอม ระหวางฝายราชสํานักกับฝายของโจโฉ ดังนั้นรัฐบาลใหมนี้จึงเปนรัฐบาลผสมระหวางขุนนางขาราชสํานักเกา กับทีมงานของโจโฉ โดยคณะรัฐมนตรีมีทั้งสิ้นสามสิบหกคน เทากับจํานวนคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ในจํานวนคณะรัฐมนตรีสามสิบหกคนนี้มีโจโฉเปนนายกรัฐมนตรี มีขุนนางขา ราชสํานักเกาเปนรัฐมนตรีสามสิบเอ็ดคน โดย มีตังสินเปนหัวหนา ทีมงานของโจโฉเปนรัฐมนตรีเพียงสี่คน คือ มอกาย เล็กโจ ยิบจุน และเลาหัวเทานั้น แตเปนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ งานสําคัญคือรับผิดชอบงานการคลัง และฉางขาวอันเปนคลังเสบียง รวมทั้งงานบัญชาการภายในประเทศซึ่งอยูในความรับผิดชอบ ของสํานักอัคร มหาเสนาบดี หรือสํานักนายกรัฐมนตรีในปจจุบันนั่นเอง รัฐบาลผสมชุดนี้มีผูประสานงานระหวางสถาบันพระมหากษัตริยกับรัฐบาลคือซุนฮก ซึ่งเปนทั้งราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ทําใหงานของฝายบริหารกับของสถาบันพระมหากษัตริยเปนเอกภาพ แตใน ดานการทหารนั้น โจโฉไดวางคนของตัวในตําแหนงสําคัญจนหมดสิ้น ดังนั้นแมวาจะเปนรัฐบาลผสมที่ฝายโจ โฉมีรัฐมนตรีเปนเสียงขางนอย แตทวาโดยเนื้อหาแหงอํานาจกลับตกอยูกับโจโฉทั้งสิ้น เพราะตัวโจโฉเองเปน อัครมหาเสนาบดีวาราชการสิทธิขาดทั้งดานกิจการทหารและพลเรือน โดยเฉพาะตําแหนงสําคัญทางฝาย ทหารนั้นยังมีตําแหนงเปนผูบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งเปนตําแหนงสําคัญอยูเดิมอีกตําแหนงอีก มี อํานาจ สิทธิขาดในราชการประจํา รวมทั้งการบัญชาการสํานักพระราชวัง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จึงวาไววา "ถาผูใดจะวาขอราชการสิ่งใดๆ ก็เอามาแจงแกโจโฉกอน จึง กราบทูลพระเจาเหี้ยนเตได" นั่นคือสายงานระหวางฝายบริหารกับสถาบันพระมหากษัตริยจะผานจากโจโฉซึ่ง เปนอัครมหาเสนาบดีไปทางซุนฮกราชเลขาธิการ เพื่อนําความกราบบังคมทูลทางหนึ่ง และจากระมหากษัตริย ผานราชเลขาธิการลงมาถึงอัครมหาเสนาบดีอีกทางหนึ่ง การทั้งนี้จะวาเปนไปเพราะโจโฉมีจิตใจคิดกําเริบยอม
  • 51.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 51 ไมได เพราะระบบบริหารราชการแผนดินในขณะนั้นเปนดังที่กลาวแลวมาตั้งแตยุครัชกาลกอนๆ และดูไปแลว อํานาจของพระเจาเหี้ยนเตในยุค นั้นคลายๆ กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข เปนแต วาเปนประชาธิปไตยที่มีอัครมหาเสนาบดีเปนผูมีอํานาจเด็ดขาดในการบริหารอยางหนึ่งและโดยไมมี การ เลือกตั้งอีกอยางหนึ่ง โครงสรางแหงอํานาจแบบนี้ประจักษชัดวาโจโฉไดเห็นความสําคัญของ อํานาจในยุคนั้น วาอยูที่กองทัพ เปนหลักการเดียวกับความคิดของเหมาเจอตงที่วา "อํานาจรัฐเกิดจากกระบอกปน" โจโฉได อาศัยกองทัพเปนฐานอํานาจทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งมีโจโฉเอง เปนหัวหนารัฐบาล ดังนั้นแมวาจะมีเสียง ขางนอยในคณะรัฐมนตรี แตอํานาจแทจริงกลับมิไดอยูที่คนเหลานั้นหากอยูที่โจโฉ ซึ่งเปนผูรับผิดชอบทาง นโยบายสูงสุด ความลมเหลวที่ฉกรรจของนายปรีดี พนมยงค หนึ่งในคณะราษฎรคนสําคัญและอดีตหัวหนาขบวนการเสรีไทย คือการไมใหความสําคัญแกการกุมอํานาจทางทหาร ดังนั้นอํานาจรัฐของนายปรีดี พนมยงค ในยุคหลัง เปลี่ยนแปลงการปกครองจึงตองหลุดมือไป ทําใหการอภิวัฒนตองถอยหลังแมกระทั่งตัวเองก็ตองลี้ภัยออกไป อยูในตางประเทศจนวาระสุดทายแหงชีวิต แมวายุคสมัยจะไดพัฒนาไปจนสงครามกําลังกลายเปนเรื่องลาสมัย แตอํานาจรัฐก็ยังคงอยูที่กระบอกปนอยูนั่นเอง เปนแตวากระสุนปนนั้นไดแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และกระสุน เงินไดเขามามีบทบาทมากขึ้นโจโฉผูใฝฝนเปนใหญในแผนดินมาตั้งแตเด็ก บัดนี้ความใฝฝนของโจโฉปรากฏ เปนจริงขึ้นแลว และเมื่อโจโฉครองอํานาจรัฐก็เห็น ไดชัดอีกประการหนึ่งวาบรรดากลไกสําคัญแหงอํานาจได ถูกวางตัวโดยบุคคลที่เปนคนเกา เคยรวมทุกขรวมสุข รวมเปนรวมตายกันมากอน ทั้งสิ้น โจโฉไมยอมรับเอา บุคลากรภายนอกจําพวก "ปลาผอม" ที่วิ่งเตนแสวงหาตําแหนงจากผูมีอํานาจ หรือประเภท "มืออาชีพ" ที่ใคร ไหนชนะก็เอาดวยชวยกระพือ หรือจําพวก "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามาอยูในกลไกอํานาจรัฐแมเพียง คนเดียว บทเรียนนี้มีมานับพันป แตนายกรัฐมนตรีบางคนซึ่งดูประหนึ่งเฉลียวฉลาดแตกลับไมรูจักบทเรียนนี้ หลงเลือก เอาคนแบบ "ปลาผอม" คนแบบ "มืออาชีพ" และคนแบบ "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามารวมรัฐบาล โดยทิ้งขวางผูคนเกาของตนที่รวมทุกขรวมสุขมาดวย กันอยางไมไยดี จึงทําใหรัฐบาลนั้นตองอายุสั้นอยางนา เสียดาย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายลิดกิ่งเอาลําตน (ตอน 73) ในขณะที่โจโฉครองอํานาจรัฐอยางเต็มเปยมแลวนั้น เลาปยังคงเปนแคเจาเมืองชีจิ๋ว อันเปนหัวเมืองเอก แต ซุนเซ็กกลับตกระกําลําบากและถดถอยลงจากเมื่อครั้งที่เพิ่งสิ้นซุนเกี๋ยน ในครั้งนั้นบรรดาแมทัพนายกองและ ทหารของซุนเกี๋ยนพรอมใจกันยกให ซุนเซ็กเปนเจาเมืองเตียงสา แตทางเมืองหลวงไมรับรองฐานะของซุน เซ็ก ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพาพรรคพวกออกจากเมืองเตียงสาไปอยูเมืองกังหนํา ซึ่งเปนหัวเมืองจัตวา ขึ้นกับ เมืองชีจิ๋ว ตอมางอเกงซึ่งเปนเจาเมืองตันเอี๋ยง และเปนนาของซุนเซ็ก ไดพิพาทกับโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ซุนเซ็กอาศัย อยูในเมืองกังหนําตอไปไมไดเพราะตองถือวาเปนปรปกษกับโตเกี๋ยมไปดวย ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพามารดา และครอบครัวไปฝากอาศัยอยูที่ตําบลขยกโอ ทางตอนใตของแมน้ําแยงซีเกียง ใกลกับเมืองตันเอี๋ยง แตตัว ซุนเซ็ก และบรรดาทหารลูกนองเกาของซุนเกี๋ยนไดพากันไปรับราชการอยู กับอวนสุดที่เมืองลําหยง และ กลายเปนลูกนองของอวนสุดตั้งแตบัดนั้น ในสถานการณที่กลาวนี้ โจโฉจึงเปนขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ที่มีตําแหนงสูงที่สุด และมีอํานาจมากที่สุดใน แผนดิน โดยที่บรรดาหัวเมืองตางๆ นั้นยังไมปรากฏวาเมืองใดตั้งตนเปนปรปกษโดยตรงกับโจโฉ คงมีแตลิโป คนเดียวที่เปนศัตรูคูอาฆาตและบัดนี้แตกทัพหนี ไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย โดยนัยที่กลาวนี้ถาโจโฉ เปนผูนําและนักปกครองที่แทจริงแลว ยอมใชอํานาจรัฐที่มีอยูนั้นสรางเอกภาพ สรางความสงบสุขสันติขึ้นใน แผนดินได หรืออยางนอยก็ตองไมแยลงกวาที่เปนมาแตเดิม ดวยเหตุนี้การที่สถานการณไมเกิดความสุขสันติ แตกลายเปนสงครามขุนศึกอยางยาวนานจนกลายเปนสามกก จึงตองกลาววาเปนผลมาจากความผิดพลาด ของโจโฉทั้งสิ้น และยอมกลาวไดดวยวาบรรดาที่ปรึกษา ตลอดจนแมทัพนายกองของโจโฉคือผูรวมขบวนการ ที่กอความเดือดรอนทุกขเข็ญแกแผนดินและราษฎรรวมกับโจโฉ ซึ่งตองรับผิดชอบในความผิดพลาดลมเหลว นั้นดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 52.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 52 ในฐานะรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเต แทนที่โจโฉจะเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการทํานุบํารุงแผนดินและ ราษฎร แกไขปญหาความพิพาทบาดหมางระหวางหัวเมืองตางๆ ที่หากจะพึงมี สรางสันติสุขและสันติภาพให เกิดขึ้นในแผนดิน แตกลับปรากฏวาโจโฉไดเริ่มตน ดวยความคิดกอสงคราม และทําใหสงครามขยายตัว ลุกลามไปทั่วประเทศ โจโฉเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการพิจารณาวาใครเปนศัตรูที่ตองรีบกําจัดบาง แลวตั้ง เอาลิโปเปนศัตรูตัวสําคัญที่ตองกําจัดเปนคนแรก ดังนั้นโจโฉจึงแตงโตะเลี้ยงบรรดาขุนนาง แมทัพนายกอง และขาราชการทั้งปวง แลวปรึกษาวาบัดนี้ลิโปศัตรูตัวสําคัญของเราไดไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย ดังนั้น หากละไวนานทั้งลิโปและเลาปก็อาจคบคิดกันมาทําอันตรายแกเรา ขาพเจาจึงปรารถนาที่จะกําจัดศัตรู เสียตั้งแตไมทันตั้งตัว ทานผูใดจะคิดอานชวยการนี้ใหสัมฤทธิผลไดบาง เคาทูจึงลุกขึ้นคารวะโจโฉแลวขออาสายกทหารหาหมื่นไปกําจัดลิโป และเลาปใหจงได ซุนฮกที่ปรึกษาอัคร มหาเสนาบดีไดทักทวงขึ้นวาเคาทูเปนทหาร มีกําลังฝมือมากก็จริงอยู แตการทั้งนี้จะอาศัยกําลังฝมืออยาง เดียวไมได หากตองอาศัยกําลังสติปญญาเปนธงชัยชี้ทิศนําทาง ซึ่งตองเริ่มตนดวยปญหาทางการเมืองกอนวา สถานการณ ณ บัดนี้สมควรรบหรือไม หากวาสมควรรบแลวจึงไปสูปญหาวารบแลวจะชนะหรือไม จากนั้นจึง เปนปญหาทางการทหารวาจะรบกันอยางไร โจโฉจึงวาขาพเจาเห็นดวยกับกระบวนการทางความคิดของทาน จงแสดงใหประจักษวาดวยกระบวนการทาง ความคิดนี้เราพึงกระทําการสถานใด จึงจะบรรลุความปรารถนาของขาพเจา ซุนฮกจึงวา "ในเมืองฮูโตนี้ทานพึ่ง ยกมาซอมแปลงขึ้นใหม บานเมืองยังมิทันปรกติ ซึ่งจะยกไปนั้นขาพเจายังไมเห็นดวย แลเลาปกับลิโปนั้น อุปมาดังเสือสองตัว ขาพเจาจะคิดใหชิงอาหารกันกิน เห็นเลาปกับลิโปจะเกิดรุกรบพุงกันจนตายขางหนึ่ง แลว จึงคิดการตอไป" แลววาตามความคิดของขาพเจานั้น ขอทานจงนําความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตวา บัดนี้โตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วตายแลว ไดทําพินัยกรรมไวแตกอนตายยกเมืองชีจิ๋วแกเลาป และเลาปไดสงหนังสือ กราบบังคมทูลมาตามพินัยกรรมนั้น แตเรื่องราวยังเงียบอยู ขอทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจา เมืองชีจิ๋วตามทางราชการ ดังนี้แลวเลาปก็จะเต็มใจทําราชการสนองพระเดชพระคุณ ตอจากนั้นใหทานมี หนังสือไปถึงเลาปอีกฉบับหนึ่งแจงแสดงความยินดีที่พระเจาเหี้ยนเตทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจา เมืองชีจิ๋ว โดยการเพ็ดทูลของทาน แตลิโปนั้นเปนศัตรูราชสมบัติแลมักเนรคุณคน ใหเลาปคิดอานวางแผน กําจัดลิโปเสีย สิ้นลิโปแลวเลาปคงจะไมแข็งขอตอทานสืบไป แผนการของซุนฮกครั้งนี้คืออุบายลิดกิ่งเอาลําตน เปาหมายที่แทจริงคือการยึดเมืองชีจิ๋ว บังคับใหเลาปเขา สวามิภักดิ์แตโดยดี แตตนไมใหญแบบเลาปนั้น ขณะนี้ยังมีลิโปเปนกิ่งกานสาขาอยู จึงตองลิดกิ่งกานสาขา เสียกอน แลวคอยเอาลําตนตอภายหลัง เปนอุบายทางการเมืองที่เปนอยางเดียวกับกลยุทธทางการทหารที่วา "กินขาวทีละคําจนหมดจาน" นั่นเอง โจโฉและบรรดาแมทัพนายกองฟงคําซุนฮกแลวตางสรรเสริญความคิดสติปญญาซุนฮกเปนอันมาก โจโฉจึงนํา ความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วตามคําของ ซุนฮก และทํา หนังสือลับอีกฉบับหนึ่งถึงเลาปแลวสั่งใหขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการและเอาหนังสือลับนั้นไปมอบ แกเลาปที่เมือง ชีจิ๋ว และสั่งกําชับขาหลวงวาใหสังเกตการณความเคลื่อนไหวของเลาป วาจะยินดีปฏิบัติตาม หนังสือลับนั้นหรือไม เลาปครั้นทราบวามีขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการมาแตเมืองหลวง จึงใหจัดพิธีรับพระบรมราชโองการ อยางธรรมเนียม ครั้นไดทราบความตามพระบรมราชโองการแลวก็มีความยินดี สั่งให แตงโตะเลี้ยงขาหลวง และบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วในค่ําวันนั้น กินโตะเสร็จแลวขาหลวงจึงมอบหนังสือลับของโจโฉใหแก เลาป ครั้นเลาปไดทราบความตามหนังสือลับที่วาโจโฉเปนผูเพ็ดทูลใหทรงโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และใหกําจัดลิโปเสีย ก็เขาใจความคิดและแผนการของโจโฉ ดังนั้นจึงผลัดผอนกับขาหลวงวาขอเวลาตรึก ตรองอีก 2-3 วัน ขาหลวงก็รับคําเลาป แลวลากลับไปพักที่บานพักรับรองแขกเมือง เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปจึง ใหเชิญบิตก ซุนเขียน สองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือของโจโฉวาจะ จัดการประการใด คนทั้งนั้นเห็นวาสมควรฆาลิโปเสียตามที่โจโฉ ไดมีหนังสือมาเพราะเปนการกําจัดคนเนรคุณ ที่เลวทรามเสียคนหนึ่งทั้งไมตองขัดใจเปนศัตรูกับโจโฉ แตเลาปไมเห็นดวย และแสดงเหตุผลวา "ลิโปไดบาก หนามาพึ่งแลว ครั้นเราจะทําอันตรายเสียบัดนี้ก็เห็นไมสมควร นานไปใครจะมาอยูดวยเลา" เตียวหุยยังคง ยืนยันวา การทําดีตอคนชั่วนั้นไรผล มีแตจะเปนอันตรายในภายหนา แตเลาปไมฟงคําเตียวหุย คงยืนยันตาม ความเห็นเดิม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด วันรุงขึ้นไมทันที่เลาปจะไดแจงผลการตัดสินใจแกขาหลวงทหาร ก็มารายงานวาบัดนี้ลิโปมาขอพบเพื่อแสดง ความยินดี เลาปจึงออกไปตอนรับลิโป ปฏิสันถารกันตามธรรมเนียมแลวจึงเชิญมาที่จวนเจาเมือง ลิโปไดแสดง
  • 53.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 53 ความยินดีพรอมกับมอบของขวัญจํานวนมากแกเลาป ขณะนั้นเตียวหุยถือกระบี่เขามาในจวนจะฆาลิโป เลาป เห็นดังนั้นก็ตกใจขวางเตียวหุยไวแลวชิงกระบี่จากมือเตียวหุย และตอวาเตียวหุยวาไฉนไมฟงคําเราผูเปนพี่ แลวมากระทําเสียมารยาทตอลิโปดังนี้ ลิโปจึงวา เตียวหุยนี้มีความแคนผูกพยาบาทขาพเจาดวยเรื่องสิ่งใดหรือ จึงพยายามฆาขาพเจาหลายครั้งหลายหนแลว เตียวหุยยินคําลิโปก็โกรธรองตวาดดวยเสียงอันดังวาเปนเพราะ ลิโปเปนคนเนรคุณ แมโจโฉก็ยังมีหนังสือมาใหพี่กูฆามึงเสีย เลาปไดยินเตียวหุยเอาความเมืองอันเปนเรื่องลับ มาพูดกับลิโป โดยไมยั้งคิดจึงตวาดเอากับเตียวหุยแลวสั่งทหารใหพาเตียวหุยออกไปจากจวน จากนั้นจึงพาลิ โปเขาไปที่หองหนังสือแลวเอาหนังสือลับของโจโฉใหลิโปอานดู และบอกความตามที่โจโฉแจงมากับ ขาหลวงใหลิโปฟงทุกประการ ลิโปเห็นหนังสือของโจโฉที่ใหเลาปจับตัวฆาเสียก็รองไห รีบคํานับเลาปแลววาขาพเจาขอขอบใจในพระ คุณทานที่ซื่อตรงตอมิตรในยามยาก การที่โจโฉคิดอานทําการทั้งนี้หวังจะใหทานกับขาพเจา หวาดระแวง สงสัยแลวกลายเปนศัตรูกัน เมื่อลางผลาญกันเองแลว โจโฉยอมฉวยโอกาสกําจัดฝายชนะไดโดยงาย แต น้ําใจทานงดงาม ซื่อตรงนัก จึงเอาความทั้งนี้ใหขาพเจาไดทราบ ดังนั้นจึงขจัดความหวาดระแวงสงสัยระหวาง เราสอง ทําลายแผนการลิดกิ่งเอาลําตนของ โจโฉใหพินาศไปดวยน้ําใจแหงคุณธรรมของทานครั้งนี้ คําพูดของลิโปครั้งนี้ไมวาจะพูดออกมาเพราะความกลัวภัย หรือดวยบังเอิญก็ตามที แตแสดงใหเห็นวาลิโปได เขาใจแผนการของโจโฉ ซึ่งยอมตรงกับความเขาใจของเลาปเปนอยางเดียวกัน เลาปฟงคําลิโปแลวจึงวา ขาพเจาคบหากับทานดวยความสุจริต จะไมคิดสังหารทาน ตามความตองการของโจโฉเปนอันขาด ดังนั้น ถึงแมผูใดจะมาวากลาว ยุยงประการใด ขาพเจาก็จะไมทํารายทาน อยาไดวิตกกังวลตอไปเลย ลิโปจึงวาขาพเจาไดฟงคําทานแลวก็เบาใจ ตัวขาพเจานี้ก็จะรักษาไมตรีและระลึกถึงคุณทานตลอดไป เมื่อ เขาใจกันเชนนี้แลวทั้งเลาปและลิโปจึงนั่งกินโตะกันตอไปจนถึงเวลาเย็น ลิโปจึงขอลาเลาปกลับไปเมืองเสียว พาย กวนอู เตียวหุย เห็นเลาปปลอยลิโปลอยชายกลับไป จึงพากันเขาไปถามเลาปวาเหตุใดจึงไมฆาลิโปเสีย เลา เลาปจึงวาโจโฉคิดอุบาย จะใหเรากับลิโปกินแหนงแคลงใจกันลางผลาญกันเองกอน แลวจึงกําจัดฝายที่ ชนะในภายหลัง ถาหากเรากําจัดลิโปเสียแลว โจโฉก็จะทําศึกปราบปรามฝายที่ชนะแตเพียงดานเดียว ไมตอง หวงหนาพะวงหลังอีกตอไป การฆาลิโปก็คือการตองกลโจโฉ และเรานั่นแหละที่จะตกอยูในอันตรายตอไป กวนอู ฟงคําเลาปแลวเห็นดวย แตเตียวหุยยังคงคุมความโกรธแคนชิงชังลิโปอยูจึงวาไมวาประการใดขาพเจา จะฆาลิโปเสียใหจงได เลาปเห็นเตียวหุยดื้อรั้น ไมฟงเหตุผล จึงตําหนิเตียวหุยวาการที่นองเล็กเจาคิดเชนนี้ เหมือนกับคนไมมีความคิด เราไดอธิบายความเมืองอันเปนอุบายใหเจาฟงทั้งนี้ชัดเจนอยูแลว ไฉนเลาเจาจึง ดื้อดึงไมฟงเหตุและผล เตียวหุยเห็นเลาปไมพอใจก็เกรงใจเลาปแลวยอมสงบทวงทากิริยาลงเปนปรกติ ฝายขาหลวงรอฟงคําตอบจากเลาปวาจะเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉหรือไมอยูหลายวัน ก็ไมมีคําตอบ วาประการใด ทั้งไดรูขาววาลิโปเดินทางมาเมืองชีจิ๋วเพื่อแสดงความยินดีกับเลาป แตเลาปยังคงปลอยใหลิโป กลับไปอยางปลอดภัย ก็รูวาเลาปไมเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉ ดังนั้นจึงขอลาเลาปกลับเมืองหลวง เลาปก็ไมไดวากลาวประการใด คงอวยพรแตใหขาหลวงเดินทางกลับโดยสวัสดี ครั้นขาหลวงเดินทางกลับถึงเมืองฮูโตแลว ไดเขาไปรายงานให โจโฉทราบวาเลาปไมปฏิบัติตามหนังสือของ ทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็โกรธ แลวสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษา และแมทัพนายกองมาปรึกษา เพื่อจะกําจัดลิโป และเลาปตอไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายเสือกลืนหมี (ตอน 74) โจโฉไดแจงใหบรรดาคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองไดทราบวา เลาปไมยอมปฏิบัติตามหนังสือที่แจงไปให ฆาลิโปเสีย ดังนั้นจึงขอปรึกษาวาทานทั้งปวงจะคิดอานประการใดตอไป ซุนฮกที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดีจึง เสนอวา "ขาพเจาจะขอคิด กลอุบายอีกขอหนึ่งเรียกวาเสือกลืนหมี" ทําใหลิโปกับเลาปประหัตประหารกันให จงได โจโฉสงสัยจึงถามซุนฮกวาอุบายเสือกลืนหมีนี้เปนประการใด ซุนฮกจึงอธิบายตอไปวา "น้ําใจลิโปนั้น มิไดซื่อตอผูใด ขอทานแตงคนไปบอกอวนสุดเจาเมืองลําหยงวา บัดนี้เลาปมีหนังสือขึ้นมาใหกราบทูลพระเจา เหี้ยนเตวาจะขอยกทหารไปตีเมืองลําหยง ถาอวนสุดรูดังนี้ก็จะโกรธเห็นจะยกทหารชิงมารบเมืองเลาปกอน ทานใหมีหนังสือรับสั่งไปใหเลาปยกไปรบเมืองอวนสุด เมื่อเลาปกับ อวนสุดรบกันอยูนั้น ถาผูใดเพลี่ยงพล้ํา ลิ โปก็จะซ้ําเอาเปนมั่นคง ทานจึงคิดการตอไป" All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 54.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 54 แผนการอันเปนอุบายที่เรียกวาเสือกลืนหมีนี้ อาศัยหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตอยางหนึ่ง และหลอกอวน สุดใหยกมารบกับเลาปอีกอยางหนึ่ง จึงพอแลเห็นไดวาเลาปกับอวนสุดจะตองทําศึกชิงเมืองกัน แตที่ซุนฮก ไมไดคํานึงถึงก็คือรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเตนั้นมีหนาที่สรางความสงบสุขและสันติภาวะใหเกิดขึ้นใน บานเมือง ไมไดมีหนาที่สรางความแตกแยก กอสงครามหรือทําใหสงครามขยายตัวไป การดึงเอาอวนสุดเจา เมืองลําหยง ซึ่งเปนหัวเมืองใหญเขามาเกี่ยวของยอมทําใหการรบพุงฆาฟนขยายตัว กลายเปนสงคราม ระหวางเมืองชีจิ๋วกับเมืองลําหยง เปนที่เดือดรอนแกทหาร และราษฎรทั้งปวง โดยนัยนี้ยอมประณามไดวาแผนการและความคิดของซุนฮกทั้งนี้ เปนแผนการของคนกระหายเลือด และ กระหายสงคราม อันเปนการทําผิดหนาที่ของรัฐบาล และผิดหนาที่ของที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ซึ่งจะกอ ผลรายอยางใหญหลวงตามมาในภายหลัง แตโจโฉนั้นมีอัธยาศัยใฝในการสงครามเหมือนๆ กับฮิตเลอร ครั้น ไดฟงคําซุนฮกแลวก็ตองดวยความรูสึกนึกคิดเปนยิ่งนัก ตกลงทําตามความเห็นของซุนฮก ดังนั้นโจโฉจึงแตง คนไปหาอวนสุดที่เมืองลําหยง แลวแจงแก อวนสุดวาบัดนี้เลาปมีหนังสือกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเต กลาวหาวาทานเปนกบฏ จึงขอพระบรมราชานุญาตยกกองทัพมากําจัดทานเสีย แตอัครมหาเสนาบดีเมตตา ทานจึงเก็บหนังสือนั้นไวยังไมนําความกราบบังคมทูล และรีบใหขาพเจานําความมาแจงใหทาน ทราบอวนสุด ไดทราบความแลวก็เชื่อตาม และโกรธเลาปเปนอันมาก ดาวาเลาปเปนไอยาจกทอเสื่อขาย พอไดดีเปนที่เจา เมืองชีจิ๋วแลวคิดอานกําเริบ จะยกมาตีเมืองเรา เราจะนิ่งอยูใหเลาปยกมานั้นไมสมควรจําจะเหยียบเมืองชีจิ๋ว เสียกอน วาแลวก็สั่งตั้งกิเหลง ทหารเอกเปนแมทัพคุมทหารสิบหมื่นยกไปตีเมืองชีจิ๋ว โจโฉครั้นแตงคนไปหาอวนสุดแลว จึงทําหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตไปถึงเลาปวา บัดนี้อวนสุดเปนกบฏ ตอแผนดินตั้งตัวขึ้นเปนเจา ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหเลาปจัดกองทัพยกไปปราบอวนสุดใหราบคาบ เลาปรับหนังสือรับสั่งแลวแจงแกผูเชิญหนังสือนั้นวา ทานจงกลับไปกราบบังคมทูลเถิดวาขาพเจาเลาปนอมรับ คําสั่ง จะยกกองทัพไปกําจัดอวนสุดตามพระราชประสงค ผูเชิญหนังสือก็ขอลากลับเมืองหลวง แลวแจงใหโจ โฉทราบ เลาปไดเชิญบิตกและซุนเขียนสองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเตรียมการยกกองทัพไปเมือง ลําหยง แตบิตกนั้นเมื่อไดทราบความแลวก็แจงในอุบายของโจโฉจึงวา การครั้งนี้นาจะไมใชรับสั่งของพระเจา เหี้ยนเต แตเปนอุบายของโจโฉที่จะทําใหเรากับอวนสุดรบกัน แลวโจโฉจะคิดการกําจัดฝายที่ชนะตอภายหลัง บิตกอานสถานการณไดอยางทะลุปรุโปรงวานี่คือกลอุบายของ โจโฉ จึงมีหรือที่คนระดับเลาปจะอาน สถานการณไมออก แตเลาปกลับกลาวขึ้นวาการครั้งนี้เปนรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต เราเปนขาแผนดินยอมมี หนาที่ตองปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น ไมวาจะเปนอุบายของโจโฉหรือไมก็ตามที ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหจัดเตรียม ทหาร รอฤกษดีแลวจะยกไปตีเมืองลําหยง ความอันนาสังเกตอยูตรงที่เมื่อเลาปรูวาเปนอุบายแลวไฉนเลา จึง ยังคงดําเนินการตองตามกลอุบายนั้น หรือแมหากวาเลาปไมแจงในกลอุบายแต เมื่อบิตกไดแสดงใหเห็นแลวก็ ยอมเห็นตามไดโดยงาย ดังนั้นการตัดสินใจยกไปตีเมืองลําหยงจึงนาจะมีเหตุผลที่เปนไปไดสองประการคือ ขอแรก เลาปตองการลดความขัดแยงกับโจโฉ ตองการเอาใจโจโฉเพื่อลบลางการขัดขืนไมฆาลิโปในครั้งกอน ขอสอง เลาปเองก็จองหาโอกาสขยายอิทธิพลอํานาจอยู แตยังหาเหตุความชอบธรรมไมได ดังนั้นเมื่อมีหมาย รับสั่งมาดั่งนี้จึงมีขออางที่ชอบดวยกฎหมายและชอบธรรมในการยกไปตีเมืองลําหยง แตไมวาในทางใดยังคงแสดงวาทั้งบิตก และเลาปตางก็คาดไมถึงในอุบายเสือกลืนหมี ซึ่งซอนอยูอีกชั้นหนึ่ง ในอุบายลิดกิ่งเอาลําตน เพราะตางไมไดคํานึงถึงลิโปที่จองฉวยโอกาสซ้ําเติมในภายหลัง ฝายซุนเขียนเปน คนรอบคอบ ครั้นไดฟงวาเลาปตัดสินใจจะยกไปตีเมือง ลําหยงจึงเสนอวาทานจะยกไปก็ตามใจเถิด แตเมือง ชี จิ๋วนี้เปนเมืองสําคัญ เปนฐานกําลังของฝายเรา จําตองคิดอานปองกันรักษาไวใหปลอดภัย กวนอูจึงขันอาสาวา จะอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว แตเลาปแยงวานองรองเจาเปนทั้งที่ปรึกษาและขุนพลของเราจะอยูรักษาเมืองยอมไม เหมาะ เพราะสมควรที่จะไปดวยเรามากกวา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เตียวหุยเห็นดังนั้นวาในเมื่อพี่รองตองไปเมืองลําหยงกับพี่ใหญ ขาพเจาก็จะอาสาเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋วเอง เลา ปไดติงวานองเล็กเจามักเสพสุรา และแรงดวยโทสะ ชอบโบยตีทหาร ทั้งเปนคนใจรอนใจรายไมฟงเหตุผลใคร เห็นจะใหรักษาเมืองชีจิ๋วนั้นไมได เตียวหุยจึงวาขาพเจาขอใหสัญญาวาในระหวางรักษาเมืองชีจิ๋ว นี้จะไมเสพ สุราเปนอันขาด ทําการสิ่งใดจะปรึกษาหารือผูมีสติปญญากอน และถาทําการใดแลวมีผูทักทวงหามปรามก็จะ เชื่อฟงโดย เคารพคําสัญญาของเตียวหุย แมจะดูเปนหลักฐานแตเปนคําสัญญาแบบเด็กๆ ที่ใหสัญญาอะไร งายๆ เพียงแคขอใหไดสิ่งที่ตองการเทานั้น และสิ่งที่ตองการนั้นก็คือการไดเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋ว การให สัญญางายๆ แบบนี้จึงเชื่อถืออันใดไมได บิตกฟงคําเตียวหุยแลวทวงวา ความที่ทานใหสัญญานี้ดีอยู แตเกรง วาการปฏิบัติจะไมเหมือนคําที่ใหสัญญาไว เตียวหุยฟงคําทวงของบิตกก็โกรธ ลําเลิกขึ้นวาขาพเจานี้ไดทําการ
  • 55.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 55 ดวยเลาปพี่เรามาก็ชานาน ไมเคยถูกผูใดหมิ่นคําวาเชื่อถือไมได บิตกทานดูแคลน ขาพเจานัก หาควรแก คําพูดของขุนนางผูใหญไม เลาปเห็นเตียวหุยพาลโกรธเชนนั้นจึงหามวาอยาเพิ่งดวนตําหนิบิตก เพราะแมแตตัวเราก็หาไดวางใจไมแตเอา เถิดเมื่อนองเล็ก เจาไดใหสัญญาแลวเชนนี้ ก็จงอยูรักษาเมืองใหปลอดภัย แตจะขอใหตันเตงอยูดวยเจาเพื่อ ชวยปรึกษาทวงติง และหามปรามมิใหเจาเสพสุราจนมากเกินไป เตียวหุยฟงคําเลาปแลวดีใจ ย้ําคําวาจะรักษา สัญญาอยางมั่นคง เพื่อใหเมือง ชีจิ๋วปลอดภัยไรเหตุรายทั้งปวง ตันเตงก็รับคําเลาปวาจะอยูชวยเหลือเตียวหุย จนกวาเลาปจะยกทัพกลับมา เมื่อมอบหมายภาระหนาที่รักษาเมืองชีจิ๋วเสร็จแลว เลาปก็สั่ง ใหเคลื่อนทัพจะยกไปเมืองลําหยง ครั้นยกมาถึง ชายแดนเมืองอุไถก็พบกับกองทัพของกิเหลง ทั้งสองฝายจึงตั้งคายยันกันไวรุงขึ้นทั้งสองฝายก็ยกทหารออก จากคายยกมาประจันหนากัน หลังจากไดวากลาวโจมตีกันตามธรรมเนียมแลว กิเหลงแมทัพของอวนสุดจึงขับ มารํางาวหนักหาสิบชั่งตรงเขาหาเลาป กวนอูเห็นเชนนั้น จึงขับมาออกมาสกัดกิเหลงแลวตวาดขึ้นดวยเสียงอัน ดัง มากิเหลงตกใจชะงักลง พอตั้งตัวไดกิเหลงก็ชักมาเขามารบดวยกวนอู ทั้งสองฝายรบกันไดสามสิบเพลง มากิเหลงออนกําลังลง กิเหลง จึงบอกกวนอูวาขอพักรบชั่วคราวกอน กวนอูก็ยินยอม กิเหลงจึงขับมากลับเขา คาย แลวสั่งใหซุนเจงทหารรองออกไปรบดวยกวนอู กวนอูยืนมารออยูไมเห็นกิเหลงยกออกมา เห็นแตซุนเจง ยกทหารตรงเขามาจึงถามวากิเหลงหลบหนีไปเสียที่ใด จึงใหคนต่ําฝมืออยางเจาออกมารบหาคูควรแกเราไม ซุนเจงฝมือระดับสุนัขจิ้งจอก ไมรูจักพญาเสือโครง ขาดความยั้งคิดวาที่ตัวไดออกมารบเพราะกิเหลงผูเปนนาย รักตัวกลัวตาย เห็นวาสูไมไดจึงขอพักรบ แลวสงลูกนองออกมาตายแทน จึงทาทายกวนอูวาฝมือทานนั้นไม คูควรกับกิเหลงเจานายเรา เอาแคระดับทหารรองอยางเรา เจาก็จงรักษาศีรษะบนบาไวใหจงดีเถิด เมื่อเปนเชนนี้กวนอูจึงจําตองรบดวยซุนเจง เพลงแรกไมทันสิ้นเสียง กวนอูก็เอางาวฟนซุนเจงตกมาตาย เลาป เห็นดังนั้นจึงสั่งทหารเขาโจมตีทหารของกิเหลงที่ยกมากับซุนเจง ทหารซุนเจงเห็นฝมือกวนอูฉกาจนักก็แตก พายพากันวิ่งหนีจะเขาคาย เลาป กวนอู จึงยกทหารไลตามตี แลวยึดคายกิเหลงได กิเหลงเห็นเสียทีแกเลาป จึงถอยทัพพาทหารไปตั้งคายใหมอยูริมแมน้ําเมืองซัวหยิน แลวแตงทหารเขาปลนคายเลาปหลายครั้ง แตถูก ทหารเลาปตีโตแตกพายกลับไปทุกครั้ง จนทหารของกิเหลงซึ่งตอนยกมามีจํานวนมากกวาทหารของเลาป คอยๆลดจํานวนลงจนมีจํานวนใกลเคียงกัน ดังนั้นกิเหลงจึงไมยอมออกรบ ทั้งสองฝายตั้งคายคุมเชิงกันอยู ฝายเตียวหุยอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว ระยะแรกๆ ก็รักษาสัญญาที่ใหไวกับเลาป และไดแบงหนาที่ใหตันเตง รับผิดชอบวาราชการฝายพลเรือน ตัวเตียวหุยวาราชการฝายทหาร แตนานวันเขาก็อยากเสพสุราตามนิสัยเดิม จึงสั่งใหแตงโตะแลวเชิญบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วมากินโตะ เตียวหุยเสพสุราแลวเดินไปตามโตะ ตางๆ เชิญชวนขุนนางขาราชการชนจอกไปโดยลําดับ จนเตียวหุยเริ่มเมาสุรา ครั้นมาถึงโตะของโจปา โจปา ไมยอมดื่มสุรา เตียวหุยก็บังคับใหดื่ม โจปาขัดไมไดก็ดื่มไปจอกหนึ่ง เตียวหุยก็เดินชนจอกตามโตะตางๆ ตอไป จนอาการเมาสุรามากขึ้นโดยลําดับ มาถึงโตะโจปาอีกครั้งหนึ่งก็บังคับโจปาอีก แตโจปาไมยอมดื่ม เตียวหุยโกรธจึงสั่งทหารใหโบยโจปาหนึ่งรอยที ตันเตงเห็นดังนั้นจึงเขาหาม แตเตียวหุยกลับอางวาตันเตงรับผิดชอบดานพลเรือน แตโจปาเปนทหารจึงไมควร มายุงเกี่ยว ตันเตง เห็นเตียวหุยเมาก็ไมอยากตอแยดวย คนเมาจึงนิ่งเสีย โจปาเห็น ดังนั้นจึงวา ขาพเจาอายุ มากแลว เพียงแคไมดื่มสุราขออยาไดลงโทษขาพเจาเลย แมนไมเกรงใจขาพเจาก็ขอใหเห็นแกหนาลูกเขย ของขาพเจา เตียวหุยจึงถามวาผูใดเปนลูกเขยของทาน โจปาจึงวาคือลิโปเจาเมืองเสียวพาย สิ้นคําวาลิโป เลือดโทสะก็ฉีดพลุงครอบงําความคิดจิตใจเตียวหุย แรงโทสะโถมเขาใสโจปาโดยตรง เตียวหุยจึงวาเดิมเรา ลอทานเลน แตบัดนี้เมื่อทานอางลิโปมาขมเรา เราก็จะโบยทานจริงๆ แลวสั่งทหารใหเอาโจปาไปโบยรอยที โบยไปไดเพียงหาสิบทีโจปาก็สลบลง บรรดาขุนนางขาราชการเห็นเชนนั้นก็ตกใจ เขาไปชวยออนวอนเตียว หุยใหหยุดโบย เตียวหุยก็สั่งใหหยุดตามคําขอของขุนนางขาราชการนั้น โจปาฟนจากสลบแลวก็โกรธแคนเตียวหุยเปนอันมาก จึงแตงหนังสือเลาความที่เตียวหุยขมเหงรังแกใหไดเจ็บ อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการ แลวใหทหารผูใตบังคับบัญชานําไปสงใหกับลิโป ณ เมืองเสียวพาย ตั้งแตค่ําวันนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 56.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 56 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ผลของการตั้งอยูในความประมาท (ตอน 75) พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติเบญจศีลเพื่อคุมครองบุคคล และสังคมใหปลอดภัยและเปนสุข ในเบญจศีลนั้น บทวาดวยการหาม เสพสุรายาเมา เปนบทสุดทาย แตมีความสําคัญสูงสุด เพราะเปนบทที่ปองกันมิใหตั้งอยูใน ความประมาท เมื่อตั้งอยูในความประมาทแลว ในทางกาย วาจา ก็สามารถลวงศีลไดทุกขอ ในทางจิตก็ทําให สติเผลอเรอ ไมตั้งมั่น ไมบริสุทธิ์ และไมสามารถใชการงานอันใดได ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา ใน บรรดาธรรมทั้งปวงไมเห็นธรรมขอใดจะเปนใหญเปนประธานเสมอดวยความไมประมาท และทรงตรัสถึงผลราย ของการตั้งอยูในความประมาทวา เปนหนทางที่จะเผชิญกับพญามัจจุราช แมยามใกลจะดับขันธปรินิพพานก็ ทรงย้ําเปนปจฉิมวาจาวา "ทานทั้งหลายจงยังการทั้งปวงใหถึงพรอมดวยความไมประมาทเถิด" พลันที่เตียวหุยคิดละคําสัญญาที่ใหไวกับเลาป และเริ่มดื่มสุรา ยอมไดชื่อวาตั้งอยูในความประมาทแลว เพราะ ความประมาทนั้นจึงขาดสติ และปญญาก็ถูกปดบังไป จึงผิดสัญญาที่ใหไวกับเลาปทั้งสามขอที่วาจะไมเสพ สุรากอนที่เลาปจะกลับมา ทําการสิ่งใดจะปรึกษาดวยผูมีสติปญญา และถาทําการสิ่งใดมีผูทัดทานก็จะรับฟง เตียวหุยทําผิดสัญญาทั้งสามขอแลวสั่งโบยโจปา เพียงเทานี้ก็นับวาผิดหนักหนาสาหัสแลว แตการมิไดจบลง เพียงเทานี้ เพราะเมื่อลิโปไดรับหนังสือของโจปาผูเปนพอตา เลาความที่ถูกเตียวหุยขมเหงรังแก ทําใหเจ็บ อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว และยังกลาวจาบจวงดูหมิ่นมาถึงลิโปอีกดวย ลิโปจึงโกรธเคือง เตียวหุยเปนอันมาก ใหหาตันกงมาพบเลาความทั้งปวงใหตันกงฟง แลวปรึกษาวาจะตองลางแคนเตียวหุยให จงได ตันกงจึงวาอันตัวทานนั้นเปรียบประดุจจระเขใหญ มาอยูเมืองเสียวพาย ซึ่งประหนึ่งเปนหนองน้ํานอยหาสมควร ไม จําตองแสวงหา แมน้ําใหญอาศัยจึงจะทําการใหญได บัดนี้เลาปยกไปตีเมืองลําหยง ใหเตียวหุยอยูรักษา เมือง ทหารก็นอยตัวนัก การที่เตียวหุยทําหยาบชาตอพอตาทาน และยังจาบจวงมาถึงทานทั้งนี้เปนทีแลวที่จะ ยกไปยึดเอาเมืองชีจิ๋ว ทําการใหญสืบไป ขอทานจงเรงยึดเมืองชีจิ๋วโดยเร็วเถิด ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นชอบ กับขอเสนอ จึงสั่งใหจัดทหารเปน สองกอง ลิโปยกทหารมาเปนกองหนารีบรุดไปเมืองชีจิ๋วกอน และใหตันกง กับโกสุนระดมทหารทั้งสิ้นจากเมืองเสียวพายรีบยกตามไป ลิโป ตันกง และโกสุนจัดเตรียมทหารแลว ลิโปก็รีบยกกําลังทหารมาไปเมืองชีจิ๋วตั้งแตวันนั้น ลวงยามสามก็ ถึงกําแพงเมืองชีจิ๋ว จึงรองใหทหารเปดประตูเมืองแจงวามีขอราชการสําคัญจะปรึกษากับเตียวหุย ขณะนั้น ทหารของโจปารักษาเชิงเทินและประตูเมืองอยูเห็นเปนลิโปจึงเอาความไปรายงานใหโจปาทราบ โจปารีบมาที่ เชิงเทินเห็น ลิโปจึงสั่งทหารใหเปดประตูเมืองรับลิโปเขามา ทหารของลิโปก็โหรองและพากันยกเขาไปใน เมืองชีจิ๋ว ทหารเตียวหุยเห็นทหารลิโปยกมาก็ตกใจ รีบวิ่งเขาไปหาเตียวหุย แตเตียวหุยเมาสุราหลับใหลอยู ทหารจึงรีบปลุกใหตื่นแลวรายงานเหตุการณใหทราบ เตียวหุยทราบความก็ตกใจ รีบควาทวนออกไปยืนหนา บานพัก เห็นทหารลิโปลอมอยู เห็นวาจะตอสูมิไดเพราะมีกําลังนอย ทั้งยังมึนเมาสุราอยู จึงวิ่งไปที่โรงมาขึ้น มาพาทหารติดตามเพียงสิบแปดคนหนีออกจากเมืองชีจิ๋ว ทิ้งครอบครัวเลาปและขาวของทั้งสิ้นไวในเมืองชีจิ๋ว ทหารลิโปเห็นเตียวหุยพาทหารหลบหนีออกจากประตูเมืองก็ไปรายงานใหลิโปทราบ ลิโปเห็นวายึดเมืองชีจิ๋ว ไดโดยงายเชนนี้แลว และเตียวหุยก็มีฝมือกลาแข็ง จึงไมติดตามเตียวหุยตอไป แตโจปาพอตาลิโปนั้นยังคุม แคนเตียวหุยอยูเปนอันมาก เห็นเตียวหุยหนีไปทั้งๆ ที่เมาสุราจึงรีบคุมทหารรอยเศษติดตามเตียวหุยไป เตียว หุยหนีออกจากเมืองไปไมไกลนัก ไดยินเสียงทหารไลตาม มาก็หยุดดูวาเปนทหารของผูใด ครั้นเห็นเปนโจปา จึงชักมากลับมาเผชิญหนากับโจปา โจปาเห็นเตียวหุยขับมาเขามาก็เรงฝเทามาเขารบดวยเตียวหุย ตอสูกันได สามเพลงโจปาเห็นวาสูเตียวหุยไมไดจึงขับมาหนี เตียวหุยขับมาไลตามไปถึงริมแมน้ําทันเขากับโจปา จึงเอา ทวนแทงโจปาตกมาตาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นสวางทหารเตียวหุยที่หลบหนีออกจากเมืองติดตามมาทันจึงพากันไปหาเลาปตามเสนทางที่จะไปเมือง ลําหยง ครั้นมาถึงเมืองอุไถก็พบกองทัพเลาป เตียวหุยจึงเขาไปหาเลาป เลาความใหเลาปฟงทุกประการ บรรดาทหารของเลาปครั้นไดทราบความตางพากันเสียน้ําใจและหวงใยครอบครัวที่อยูในเมืองชีจิ๋วนั้น เลาป เห็นคนทั้งปวงตกใจ จึงปลอบวา "ธรรมดาเกิดมาเปนชาติทหารแลว ถาจะเสียทีก็อยาเปนทุกข ถึงจะไดทีก็ อยายินดี" กวนอูสังเกตเห็นเตียวหุยมาแตตัว มิไดเห็นครอบครัวเลาปตาม มาดวย จึงถามวาครอบครัวพี่ใหญ ของเราขณะนี้อยูที่ใด เตียวหุย จึงวาขาพเจารีบหนีมา ดังนั้นครอบครัวของพี่ใหญจึงยังคงคางอยูในเมืองชีจิ๋ว เลาปไดยินก็เงียบงันไมวากลาวประการใด แตกวนอูฟงแลวก็โกรธ กระทืบเทาแลววาเตียวหุยวา กอนที่พี่ใหญ จะยกมา นองเล็ก เจาใหสัญญาไววาอยางไร แลวไฉนจึงละสัญญานั้นเสีย ทําใหพี่ใหญ ตองเสียทั้งเมืองและ เสียทั้งครอบครัว เจาจะรับผิดชอบเรื่องนี้อยางไรกัน เตียวหุยไดยินกวนอูตําหนิดังนั้น หันไปมองเลาปเห็นนิ่ง
  • 57.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 57 ขรึมอยู สํานึกรับผิดชอบก็ประดังเขามาเต็มหัวใจ ทั้งรูสึกอับอายขายหนายิ่งนัก ประกอบกับเสียใจอยางสุดซึ้ง ที่ทําใหพี่ใหญของตัวตองเสียทั้งเมือง และเสียทั้งเมีย เตียวหุยจึงกระชากกระบี่ออกจากฝกจะเชือดคอตาย เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจ ปราดเขาถึงตัวเตียวหุย มือหนึ่งกอดเตียวหุยไว อีกมือหนึ่งชิงกระบี่จากมือเตียวหุยแลว จึงวา "คําโบราณ กลาวไววา ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอยางเสื้อผา ขาดแลหายแลว ก็จะหาได พี่นอง เหมือนแขนซายขวา ขาดแลวยากที่จะตอได แลว เราก็ไดสาบานไวตอกันวา ถาจะตายก็จะตายดวยกัน ซึ่งเสีย เมืองชีจิ๋วและภรรยาเราไปทั้งนี้เปนแตการภายนอก จะฆาตัวเสียนั้นใชของ ทั้งนี้จะคืนมาก็หามิได ถาเรายังมี ชีวิตอยูก็จะไดคิดอานทําการสืบไป จะมาตายเสียเปลาๆ ไมควรเลย" คําพูดจากใจของเลาปครั้งนี้สะเทือนใจผูคนยิ่ง บรรดาทหารที่อยู ณ ที่นั้นยินคําเลาปแลวพากันรองไหสงสาร และเลื่อมใสศรัทธาเลาปเปนยิ่งนัก เลาปเห็นทหารทั้งนั้นรองไหก็พลอยรองไหตาม ไปดวย กวนอู เตียวหุย เห็นเลาปรองไหจึงพากันรองไหตาม ฝายลิโปครั้นไดเมืองชีจิ๋วแลวใจยังเกรงเลาปอยู จึงจัดทหารรอยหนึ่งไป คุมครองครอบครัวเลาปแลวจัดการดูแลเลี้ยงดูเปนอันดี มิใหขาดตกบกพรอง ฝายอวนสุดเจาเมืองลําหยง ครั้นไดทราบขาววาลิโปยึดไดเมือง ชีจิ๋วแลว จึงใหทหารถือหนังสือไปใหลิโป ขอใหลิโปยกมาชวยรบดวยเลาป โดยสัญญาวาจะตอบแทนการครั้งนี้แกลิโปดวยขาวหมื่นถัง มาหารอย ทอง เงินหมื่นตําลึง แพรพันพับ ลิโปเปนคนโลภเห็นรางวัลที่อวนสุดตั้งไวเปนจํานวนมากก็ตกลงที่จะยกไปรบดวย เลาปลิโปจึงสั่งใหโกสุนคุมทหารหาหมื่นยกไปตีกระหนาบหลังเลาป ฝายเลาปตั้งคายยันอยูกับกิเหลง ครั้น ทราบวาลิโปใหโกสุนยกทหาร มาตั้งคายกระหนาบหลังอยู เห็นวากําลังทหารนอยกวาขาศึก จึงปรึกษาดวยแม ทัพนายกองวากองทัพเรามีกําลังนอย ทั้งอยูระหวางถูกกระหนาบดังนี้เห็นจะสูไปไมตลอด สมควรถอนทัพไป ตั้งในที่ปลอดภัยเสียกอน ทุกคนเห็นพองกับเลาป ครั้นค่ําลง ฝนตกหนัก เลาปจึงใชสุดยอดกลยุทธ "หนีในเมื่อตอสูไมชนะ" สั่งใหถอนทัพยกหนีจะไปเมืองกอง เหลง ครั้นรุงขึ้นโกสุนทหารลิโปทราบวาเลาปถอยทัพหนีไปจึงไปพบกิเหลง แลวทวงถามของตอบแทนตาม สัญญา แตกิเหลงปฏิเสธวาไมทราบเรื่องขอสัญญานี้ โกสุนจึงเลิกทัพกลับเมืองชีจิ๋ว สวนกิเหลงก็เลิกทัพกลับ เมืองลําหยง แจงใหอวนสุดทราบความที่โกสุนมาทวงของตอบแทนตามสัญญา โกสุนกลับถึงเมืองชีจิ๋วก็ รายงานใหลิโปทราบวา กิเหลงปฏิเสธ ไมรับรูเรื่องสัญญา พอดีอวนสุดใหทหารถือหนังสือมาถึงลิโปวากองทัพ โกสุนยกไปไมทันไดรบกับเลาป ดังนั้นจึงทวงขาวของตามสัญญายังไมได ตองรอใหไดตัวเลาปกอนจึงจะสง ขาวของตามสัญญามาให ลิโปไดยินดังนั้นก็โกรธคิดจะยกไปรบดวยอวนสุด จึงใหหาบรรดาที่ปรึกษาและแม ทัพนายกองมาปรึกษา ตันกงฟงความจากลิโปแลวเสนอวา ขณะนี้ยังไมสมควรรบดวยอวนสุด เพราะฝายเรา เพิ่งตั้งตัวขึ้นมาใหม เหตุการณยังไมปกติดีนัก แตอวนสุดซองสุมผูคนและเสบียงไวเปนอันมาก หากทําศึกตอ กันในสถานการณเชนนี้เห็นจะเสียทีแกอวนสุด ทั้งโจโฉก็อาจฉวยโอกาสยกมาซ้ําเติมก็จะเสียการไป ลิโปจึงถามวาถาเชนนั้นควรดําเนินการตอไปอยางไร ตันกงจึงวาขณะนี้เลาปยกหนีไปเมืองกองเหลง หากไป เขาดวยโจโฉ หรืออวนสุด เราก็จะเสียเปรียบ ดังนั้นจึงควรเกลี้ยกลอมเลาปเขามาเปนพวกใหอยูที่เมืองเสียว พายเสียกอน หากจะทําศึกกับอวนสุดตอไปก็จะไดอาศัยเลาป กวนอู เตียวหุย เปนกําลัง ลิโปเห็นดวยกับ ขอเสนอของตันกง จึงใหทหารถือหนังสือไปเชิญเลาปมาอยูเมืองเสียวพาย ในขณะนั้นเลาปตั้งคายพักทหาร อยูที่เมืองกองเหลง อวนสุดทราบขาวจึงจัดกองทัพยกไปตี เลาปเห็นทหารอวนสุดยกมาเปนจํานวนมากก็พา ทหารหนีออกจากเมืองกองเหลง และไดพบกับทหารของลิโปที่ถือหนังสือมาเชิญนั้น เลาปทราบความตาม หนังสือของลิโปแลว จึงปรึกษาดวยกวนอูวา ลิโปมีหนังสือมาทั้งนี้เจามีความเห็นเปนประการใด กวนอูจึงวาลิ โปเปนคนเนรคุณ ไมควรของแวะดวย เพราะการคบคนพาลเปนอัปมงคล ทั้งลิโปเพิ่งยึดเอาเมืองชีจิ๋ว แลว กลับมาเชิญไปอยูเมืองเสียวพายเชนนี้ นาจะเปนการเชิญโดยไมสุจริต โดยจะคิดทํารายในภายหลัง แตเลาป เห็นวาลิโปมีหนังสือมาเชิญโดยสุจริต สมควรที่จะตอบรับแลวไปอยูเมืองเสียวพาย กวนอูไดฟงดังนั้นก็ตามใจเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหทหารยกไปเมืองเสียวพาย ครั้นมาถึงกลางทางพบทหาร ของลิโปเชิญนางกําฮูหยิน นางบิฮูหยิน และผูคนในครอบครัวของเลาปเขามาแลวรายงานวาลิโปเชิญทานไป อยูเมืองเสียวพายโดยสุจริต ดังนั้น จึงใชใหขาพเจานําครอบครัวของทานมาสงเพื่อจะไดนําไปเมืองเสียวพาย พรอมกันเลาปถามภรรยาทั้งสองวา ระหวางที่ลิโปยึดเมืองชีจิ๋วนั้นไดปฏิบัติตอพวกเจาอยางไร ภรรยาทั้งสอง ของเลาปตอบวาลิโปไดปฏิบัติตอพวกเราดวยดี ไมมีบกพรอง ไดใหทหารพิทักษอารักขาปลอดภัยทุกประการ ทั้งไดจัดสงขาวปลาอาหารอยางดีมิไดขาดเลย เลาปไดฟงเชนนั้นจึงวากับกวนอู เตียวหุยวา คําพี่สะใภทั้งสอง ของเจาเห็นไดวาลิโปยังคงมีใจกตัญูตอเรา การเชิญไปอยูเมืองเสียวพายจึงนาจะเปนไปโดยสุจริต ดังนั้นเรา จําเปนที่จะตองไปพบ กับลิโปที่เมืองชีจิ๋วเสียกอน กวนอูเห็นพองกับเลาป แตเตียวหุยนั้นยังผูกใจเจ็บอยูจึงวา ตัวขาพเจาจะขอนําพี่สะใภตรงไปเมืองเสียวพายกอน พี่ใหญเสร็จธุระแลวก็จงรีบตามไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 58.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 58 เลาปจึงพากวนอูและทหารยกไปเมืองชีจิ๋วเพื่อพบกับลิโป ฝายลิโปทราบวาเลาปรับคําเชิญและกําลังมาที่เมือง ชีจิ๋ว จึงออกมาตอนรับเลาปแลวเชิญเขาไปที่จวนเจาเมืองแลววา ขาพเจามาอยูเมือง ชีจิ๋วนี้จะไดคิดแยงชิง สมบัติของทานนั้นหามิได กรณีเกิดแตเตียวหุยเมาสุรา ทําหยาบชากับขุนนางขาราชการ แลวโบยพอตาของ ขาพเจาใหไดรับเจ็บอาย เพราะเหตุเพียงแคพอตาขาพเจาดื่มสุราไมไดเทานั้น ขาพเจาจึงจําเปนตองมารักษา เมืองชีจิ๋วไวใหทาน บัดนี้ทานกลับมาแลวจงรับเปนเมืองเจาชีจิ๋วตอไปตามเดิมเถิด คําพูดลิโปเชนนี้จะเปนการพูดจากใจจริง หรือพูดโดยมารยาท หรือพูดเพื่อใหเห็นวามิไดคิดแยงชิงเบียดเบียน เลาปก็ตามที แตตองนับวาลิโป ณ บัดนี้ชางเจรจายิ่งขึ้นจึงพูดจาความเมืองไดนาฟง แตนาจะมิใชใจจริง เพราะความตั้งใจเดิมของลิโปในการยึดเมืองชีจิ๋วก็เพื่อตั้งตัวขึ้นเปนใหญ ลิโปและตันกงคงจะปรึกษากันแลววา ถึงแมจะพูดเชนนี้ เลาปคงจะไมรับเอาเมืองชีจิ๋วกลับไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ลูกเสือยางเขาสูปาใหญ (ตอน 76) เลาปฟงคําลิโปแลวก็รูใจลิโป จึงวาอันเมืองชีจิ๋วนี้เปนเมืองใหญ เกินกวากําลังสติปญญาของขาพเจาจะรักษา ไวได แตเดิมมาขาพเจาก็ไดออนวอนขอใหทานรับเปนเจาเมืองแตทานปฏิเสธเสีย บัดนี้ทานมาอยูเมืองชีจิ๋วก็ ดีแลว แสดงวาสวรรคเปนใจเอื้อใหทานไดครองเมือง ราษฎรจะเปนสุขก็เพราะทาน สวนตัวขาพเจาเต็มใจที่จะ ไปอยูเมืองเสียวพาย ลิโปไดคะยั้นคะยอใหเลาปเปนเจาเมืองตอไป แตเลาปยืนกรานไมยอมรับ และยืนยันใหลิ โปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ลิโปจึงคํานับเลาปแลววาเมื่อทานยืนกรานดังนี้ ขาพเจาก็จําใจตองทําตามใจทานแลว ลิ โปจึงสั่งใหแตงโตะเลี้ยงเลาปและสนทนากันตอจนสมควรแกเวลา เลาปจึงขอลาลิโปแลวยกไปเมืองเสียวพาย ครั้นถึงเมืองเสียวพาย เลาปเห็นกวนอู เตียวหุย ยังมีทาทีแสดงความไมพอใจลิโปอยู จึงวาธรรมดาผูคิดการ หวังเปนใหญนั้นตองเปยมดวยความอดทนทั้งกายและใจ ยามใดโอกาสยังไมเปนใจ ก็ตองอดทน อดออม จิตใจไมใหทอถอย กลาที่จะยอมคุดคูอยูในที่อันจํากัด ยามใดเปนโอกาสจะทําการไดสําเร็จก็ชวงชิงโอกาสไว ไดไมปลอยใหหลุดมือ แลววาเมื่อครั้งฮั่นสินทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจยังคงเปนทหารเอกอยูนั้น ก็เคย ยินยอมลอดหวางขาของนักเลง อดออมน้ําใจ แมวาจะถูกเขาหยามเหยียดถึงเพียงนั้น พวกเราในวันนี้ยังไม ถึงกับตองทนเจ็บอายเหมือนฮั่นสินนั้น พวกเจาจึงตองตระหนักความขอนี้ไวใหจงดี โอกาสเปดทางแกเราวัน ใดแลวคอยคิดการตอไป เมื่อเลาปมาอยูเมืองเสียวพายแลว ลิโปไดจัดสงเสบียงอาหารและของกํานัลไปใหเลาปเปนเนืองนิจ ทําให ความขุนของหมองใจของทั้งสองฝายเปนปกติลง ฝายซุนเซ็กหลังจากสิ้นบุญซุนเกี๋ยนแลว ตราพระลัญจกรที่ ซุนเกี๋ยนไดไวจึงตกทอดมาถึงซุนเซ็กผูบุตร ซุนเซ็กไดเก็บรักษาตราพระลัญจกรนั้นไวเปนความลับ แต อาถรรพตราพระลัญจกรนั้นยังคงสําแดงอานุภาพ การปรากฏวานับแตซุนเซ็กไดตราพระลัญจกรมาครองก็ ตกต่ําเสื่อมถอยลงจนกระทั่งตกมาเปนลูกนองของอวนสุด ณ เมืองลําหยง อวนสุดไดตั้งใหซุนเซ็กเปนนายพัน ทหารราบ สังกัดกองทัพเมืองลําหยง แตตัวซุนเซ็กนั้นรูปงาม แคลวคลอง องอาจกลาหาญ แตมีความออน นอมถอมตนตอผูใหญ ดังนั้นอวนสุดจึงพึงพอใจซุนเซ็ก บางครั้งถึงกับทอดถอนใจใหญรําพึงวาถาตัวเรามีบุตร อยางซุนเซ็กสักคนหนึ่ง ถึงจะตายก็นอนตาหลับ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ตอมาเมืองเกงกวนแข็งขอ ไมฟงคําสั่งของอวนสุด อวนสุดจึงสั่งใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองเกงกวน แลว เอาชนะไดโดยงาย ครั้นซุนเซ็กยกทหารกลับมาแลวรายงานชัยชนะใหอวนสุดทราบ อวนสุดก็ยิ่งพึงใจ และสั่ง ใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองโลกั๋ง ซึ่งแข็งขอ กับเมืองลําหยงอีกเมืองหนึ่ง ซุนเซ็กยกทหารไปปราบปราม เมืองโลกั๋งไดสําเร็จราบคาบอีกเมืองหนึ่ง จึงยกกองทัพกลับเมืองลําหยง ครั้นอวนสุดไดทราบขาวชัยชนะก็มี ความยินดี สั่งใหจัดงานสโมสรสันนิบาตฉลองชัยชนะเพื่อเปนเกียรติแกซุนเซ็ก ในงานเลี้ยงนั้นอวนสุดถึงกับ ลุกมาที่โตะของซุนเซ็กแลวจูงมือซุนเซ็กไปนั่งกินโตะที่โตะเดียวกัน ซุนเซ็กตั้งใจคอยวาอวนสุดจะปูนบําเหน็จ แตเสร็จงานเลี้ยงแลวอวนสุดก็ไมไดพูดถึงเรื่องนี้ กลับกลาวอางในงานสโมสรสันนิบาตวา การที่ซุนเซ็กชนะ ศึกถึงสองครั้งนั้นเปนเพราะบุญวาสนาของอวนสุดเองที่จะไดเปนใหญในแผนดิน ครั้นเลิกงานซุนเซ็กกลับมาที่ พักดวยความผิดหวัง และนอยใจ อวนสุดที่ไมเห็นคุณงามความดี ทั้งยังแสดงทาทีเหลิงระเริงในอํานาจ ของ เจาเมือง ลวงยามสองแลว ซุนเซ็กก็ยังนอนไมหลับ เห็นแสงแหงพระจันทรจรัสงามตาจึงลงมาเดินในสวน ดอกไมหนาบาน สายตาซุนเซ็กทอดไปตามตนไมในสวนที่กระทบกับแสงพระจันทร แลวเงยหนาขึ้นมองไปใน อากาศ พลันมีเมฆกลุมหนึ่งลอย ผานดวงจันทรมีลักษณะดั่งขุนศึกกําลังขี่มาลักษณาการเดียวกันกับซุนเกี๋ยนผู บิดา สายใจซุนเซ็กก็หวนรําลึกถึงบิดา ซึ่งมีเกียรติภูมิลือลั่นสนั่นลุมน้ําแยงซี คํานึงขึ้นวาตัวเราบัดนี้สิ้นลายเสือ ของบิดา ตองตกมาเปนขาอวนสุดเหมือนกับเปนลูกสุนัข คํานึงดั่งนี้แลวก็เสียใจนัก ลืมตัวรองไหโฮออกมา ใน พลันนั้นก็มีเสียงพูดดังมาจากขางหลังวา ไฉนนายนอยจึงมารองไหในสวนดอกไมในยามดึกดื่นดังนี้ มีการใด
  • 59.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 59 วิตกขุนของอยูในใจ จงบอกกับขาพเจาเถิด ซุนเซ็กตกใจไดสติเหลียวกลับไปเห็นเปนจูตี ที่ปรึกษาเกาของ ซุนเกี๋ยนก็ดีใจ รีบเชิญจูตีไปนั่งสนทนากันที่เกาอี้ในสวนนั้น จูตีจึงวาเมื่อครั้งบิดาทานยังมีชีวิตอยูนั้น มีการใหญนอยก็จะปรึกษาดวยขาพเจาสิ้น ค่ําคืนนี้พระจันทรงามตา นัก ตัวขาพเจาเปนคนมีอายุแลวนอนไมหลับ จึงลุกออกมาเดินชมแสงแหงจันทรลวงมาถึงสวนดอกไมหนา บานทาน ก็ไดยินเสียงนายนอยรองไห ดังนั้นมีทุกขรอนประการใดจงวางใจขาพเจาเหมือนดั่งครั้งบิดาทานยังมี ชีวิตอยูเถิด ซุนเซ็กจึงวา นับแตขาพเจามารับราชการดวยอวนสุด ไดทําความชอบไวมากแตอวนสุดกลับไม เคยเห็นคุณงามความชอบ มิหนําซ้ํายังมีทาทียโสวางอํานาจ ขาพเจานี้คิดอานจะทําการใหเหมือนบิดา แตจน ใจดวยขาดกําลังทําการไมตลอด หวนรําลึกถึงเกียรติภูมิของบิดาแลวสลดใจนักจึงรองไห บัดนี้มาพบหนาทาน จึงอิ่มใจเหมือนดังวาบิดายังอยูคอยอุมชูมิใหตกต่ํา จูตีจึงวาแตครั้งบิดาทานมีชีวิตอยู ไดวาดหวังอุดมการณวา ตระกูล "ซุน" จะตั้งตัวเปนใหญไดก็จะตองเขาครองแควนกังตั๋งใหไดกอน อันดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีก วางใหญไพศาลอุดมสมบูรณ พรั่งพรอมดวยผูคนแลเสบียงอาหาร ทั้งยังมีแมน้ําแยงซีเปน ปราการใหญ ปองกันภัยขาศึก ดังนั้นหากนายนอยจะคิดอานทําการ อยางบิดาก็จงหาทางตั้งหลักปกฐาน ณ ดินแดน กังตั๋งนั้นจงสําเร็จเถิด ซุนเซ็กไดยินคําจูตีกลาวถึงอุดมการณของบิดาก็เห็นทางสวาง ตัดสินใจดําเนินการตาม แนวทางที่ซุนเกี๋ยนเคยคิดการไวกับที่ปรึกษาผูนี้ จึงถามวาจะทําการประการใดจึงเปนใหญในแควนกังตั๋งได จู ตีจึงวาขอใหนายนอยไปแจงแกอวนสุดวาบัดนี้งอเกงเจาเมือง ตันเอี๋ยง ผูเปนนาชายกําลังขัดแยงกับเลาอิ้ว เจาเมืองเอียงจิ๋ว นายนอยไดฝากมารดาและครอบครัวอยูที่เมืองตันเอี๋ยง จึงเกรงวาจักเปนอันตราย แลวขอยก ทหารไปชวยงอเกง และขอตีเมืองเอียงจิ๋วใหแกอวนสุดในคราวเดียวกัน จากนั้นจึงคอยคิดการใหญตอไป ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นวา แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ลูกเสือใหญคืนเขาสูปายอมตองเปนเจาปาเปนแนแท ซุน เซ็กและจูตีไดยินดังนั้นก็ตกใจ ครั้นเจาของเสียงเดินเขามาใกลเห็นเปน ลิหอมที่ปรึกษาของอวนสุดก็ยิ่งตกใจ ซุนเซ็กเอามือกุมกระบี่ไวมั่น แตลิหอมยกมือเปนเชิงหามซุนเซ็กแลววาทานอยาเพิ่งวูวาม ขาพเจามาดีดอก แลววาความที่ทานสนทนากันนั้นขาพเจาไดยิน สิ้นแลวตองดวยความคิดขาพเจานัก ตัวขาพเจานี้แมเปนที่ ปรึกษาของอวนสุดมาชานาน แตหาความหมายความเจริญอันใดมิได ไมตางอันใดกับเจว็ด จึงคิดที่จะหาผูมี สติปญญาคิดการใหญไวเปนที่พึ่ง สืบไป ขาพเจาไดยินคําสนทนาแลวมีความเลื่อมใสยิ่งนัก เต็มใจที่จะเขา รวมทําการดวยทาน และจะเอาทหารของขาพเจารอยกวาคนมาสวามิภักดิ์ดวย ลิหอมกลาวตอไปวา แผนการที่ไดยินทั้งสิ้นนั้นเปนแนวทางการเมืองที่ถูกตอง และจะไดรับความสนับสนุนจาก ราษฎรเปนมั่นคง ขาพเจาวิตกอยูก็แตวากําลังเรายังนอยนัก การไปขอยืมทหารอวนสุด อาจไมบรรลุดัง ประสงค เพราะอวนสุดเปนคนใจแคบ คงจะไมยินยอมใหทหารแกทานยกไปทําการ ซุนเซ็กไดฟงลิหอมก็ดีใจ กระทําคารวะลิหอมแลววา ทานเมตตามาเขาดวยชวยขาพเจาในครั้งนี้เปนพระคุณหนักหนา อยาไดวิตกวาอวน สุดจะไมใหทหาร เพราะขาพเจานี้มีตราพระลัญจกรอันเปนที่ปองปรารถนาของบรรดาเจาเมืองทั้งปวง ขาพเจา จะขอทหาร จากอวนสุดแลวมอบตราพระลัญจกรไวเปนประกันวาจะคืนทหารเมื่อการเสร็จแลว เชื่อวาอวนสุด คงจะยินยอมพรอมใจ จูตีและลิหอมไดยินดังนั้นก็เห็นดวย และเชื่อวาอวนสุดเปนคนมักใหญใฝสูง คงจะรับ จํานําตราพระลัญจกรไวตามความคิดของซุนเซ็กจึงเสนอใหซุนเซ็กรีบดําเนินการตามแผนการที่วางไว รุงขึ้นซุนเซ็กจึงไปหาอวนสุดที่จวนเจาเมือง ทําหนาเศราแลวกลาววากอนหนาที่ขาพเจาจะมารับราชการดวย ทานนั้นไดนํามารดาและครอบครัวไปฝากไวกับงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชาย บัดนี้เลาอิ้วเจาเมืองเอียง จิ๋วบีบคั้นงอเกงแลวจะยกกองทัพไปตีเมือง ตันเอี๋ยง ขาพเจาเกรงวามารดาและนาชายจักเปนอันตราย จึงใคร ขอทหารทานยกไปชวยงอเกงและมารดาเสร็จการแลวจะยกกลับมาเมือง ลําหยง แลววาเพื่อเปนหลักประกัน ความซื่อตรงของขาพเจา จะมอบตราพระลัญจกรไวแกทาน เมื่อใดที่ขาพเจาคืนทหารแกทานแลว ก็จะรับตรา พระลัญจกรกลับคืน แลวซุนเซ็กไดเอาตราพระลัญจกรออกมาแสดง อวนสุดไดยินคําวาตราพระลัญจกรก็ดีใจ จนเนื้อเตน รับเอาตราพระลัญจกรจากซุนเซ็กมาพิจารณาก็รูวาเปนของแทสําหรับพระมหากษัตริยมาแตกอนจึง วาทานจะปรารมภไปไยกับการขอยืมทหารไปทําการครั้งนี้ เพราะเปนการแสดงออกถึงความกตัญูตอผูมีคุณ ซึ่งยอมเปนธุระที่เราตองชวยเหลืออยูแลว แตเมื่อทานจะไปในราชการศึก เราก็จะรักษาตราพระลัญจกรไวให อวนสุดรีบเรียกทหารใหเอาตราพระลัญจกรไปเก็บ แลวออกปากอนุญาตใหซุนเซ็กยกทหารไปตามคําขอ สั่ง ใหจัดทหารสามพันและมาศึกหารอยมอบแกซุนเซ็ก แลวกําชับวาเสร็จการแลวใหรีบยกกลับมา อยาไดทํา กระทําการใดนอกเหนือจากที่กลาวนี้เพราะตัวเจายังเยาวนักเกรงวาจะเสียทีแกขาศึก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เมื่อเจากลับมาแลว เราจะตั้งใหเจาเปนขุนนางเมืองลําหยง ในความคิดของอวนสุดนั้นไมคิดที่จะคืนตราพระ ลัญจกรใหแก ซุนเซ็ก ดังนั้น เมื่อใดที่ซุนเซ็กกลับมา อวนสุดจึงแจงวาจะปูนบําเหน็จแคตั้งใหเปนขุนนาง แต ไมพูดวาจะคืนตราพระลัญจกร ซุนเซ็กไดฟงคําอวนสุดสมดังประสงคก็ดีใจ แมวาอวนสุดจะไมพูดถึงการคืน ตราพระลัญจกรเมื่อกลับมา เพราะซุนเซ็กนั้นเห็นความสําคัญของการไดครองแควนกังตั๋งยิ่งกวาตราพระ
  • 60.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 60 ลัญจกร และเพื่อใหการใหญดําเนินไปโดยราบรื่น ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายังเยาวอยูดังคําทาน เกรงจะทําการไป ไมตลอด ดังนั้นจึงขอตัวลิหอม จูตี ไปเปนที่ปรึกษาและขอเทียเภา ฮันตง อุยกาย ซึ่งเปนทหารเกา ของบิดา ไปทําการดวย อวนสุดกําลังคิดถึงตราพระลัญจกรและคิดถึงการอาศัยตราพระลัญจกรตั้งตัวขึ้นเปนเจา ไม สนใจเรื่องอื่นใด ครั้นไดยินคําขอตัวที่ปรึกษาและทหารเกาของซุนเกี๋ยน ก็มิไดสนใจหรือสงสัยประการใด ออก ปากอนุญาตตามที่ซุนเซ็กตองการ ซุนเซ็กไดรับมอบทหารและมาศึกแลวก็พาที่ปรึกษาและทหารของบิดายกออกจากเมืองลําหยง เคลื่อนไปตาม เสนทางที่จะไปเมือง ตันเอี๋ยง กองทหารของซุนเซ็กเคลื่อนไปไดไมทันนาน ก็สวนกับทหารหนวยหนึ่งยกสวน ทางมา ปรากฏวาเปนจิวยี่ซึ่งซุนเซ็กไดรูจักตั้งแตครั้งที่ซุนเกี๋ยนเขารวมกองทัพปฏิวัติยกไปรบกับตั๋งโตะ ใน ครั้งนั้นซุนเกี๋ยนไดพาครอบครัวไปอาศัยอยูที่เมืองชีเสงใกลกับบานของจิวยี่ ดังนั้นซุนเซ็กและจิวยี่จึงไดคบหา กันมาอยางสนิทสนม แตจิวยี่นั้นออนวัยกวาซุนเซ็กสองเดือนจึงเรียกซุนเซ็กวาพี่ ซุนเซ็กและจิวยี่เห็นกันแลว ตางก็หยุดมาแลวลงมาหากัน จิวยี่คารวะซุนเซ็กทักทายกันตามธรรมเนียมแลวจึงถามซุนเซ็กวาจะยกทหารไป ที่ใด ซุนเซ็กจึงเลาความที่คิดการกันนั้นใหจิวยี่ฟงทุกประการ จิวยี่ทราบความแลวมีความยินดีจึงวาขาพเจามี ความเลื่อมใสศรัทธาในอุดมการณของพี่ทาน จะขอติดตามรับใชพี่ทานไปทําการใหญจนกวาจะสําเร็จ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สรางเสริมกําลังเตรียมตั้งตัว(ตอน 77) ซุนเซ็กไดฟงวาจิวยี่จะรวมทําการดวยก็ยินดียิ่งนัก เขากอด เอาจิวยี่ไวแลววาคําของนองทานเปรียบดังสายฝน โปรยมายามหนาแลง ตนไมใบหญาดั่งขาพเจานี้ยินแลวอิ่มใจสดชื่นยิ่งนัก มั่นใจวาการใหญของเราจักสําเร็จ เปนมั่นคง ซุนเซ็กไดแนะนําใหจิวยี่รูจักกับจูตีและลิหอม จิวยี่กระทําคารวะแกสองที่ปรึกษาแลวถามซุนเซ็กวา ในดินแดนกังตั๋งนี้มีสองบัณฑิตแซเตียว ทานรูจักหรือไม ซุนเซ็กไมตอบคําแตถามกลับมาวา สองบัณฑิตตาม คําทานนี้เปนผูใดหรือ จิวยี่จึงวาคนหนึ่งชื่อเตียวเจียว เปนชาวเมืองเพงเสีย อีกคนหนึ่งชื่อเตียวเหียน เปน ชาวเมืองกองเหลง ทั้งสองคนนี้เจนจบพิชัยสงครามศาสตรการปกครองแลกฎแหงฟาดิน หากไดตัวมาทําการ แลว การใหญของพี่ทานก็จะสําเร็จโดยงายดาย และบัดนี้บัณฑิตทั้งสองคนนี้ไดหลบโจรภัยมาอยูในเมืองนี้ ชอบที่พี่ทานจะไดไปเชิญมารวมทําการดวย ซุนเซ็กไดฟงคําจิวยี่ก็ดีใจนัก สั่งใหทหารปลงทัพไว ณ ที่นั้น แลวใหทหารคนสนิทนําขาวของเงินทองจํานวนมากไปมอบแกบัณฑิตทั้งสอง และขอเชิญมาพบกับซุนเซ็ก ณ คายทหาร แตทหารคนสนิทกลับมารายงานซุนเซ็กวา ไดไปพบบัณฑิตทั้งสองแลวแตทั้งสองคนไมยอมรับ ของกํานัลและไมยอมมาพบ ซุนเซ็กไดฟงรายงานแลวจึงปรึกษาจิวยี่วาจะทําประการใดจึงจะไดตัวบัณฑิตทั้งสองมาทําการดวย จิวยี่จึงวา บัณฑิตทั้งสองมีสติปญญา พี่ทานใหทหารไปเชิญมาพบคงจะคิดวาเราไมเห็นความสําคัญแหงสติปญญา จึง ไมยอมมา ดังนั้นพี่ทานจึงควรออกไปเชิญดวยตนเองเถิด ซุนเซ็กเห็นชอบกับขอเสนอของจิวยี่ จึงพากันไปยัง บานของเตียวเจียวและเตียวเหียน ซุนเซ็กคารวะแลวไดสนทนากับบัณฑิตทั้งสองเกี่ยวกับสถานการณ บานเมืองอยางกวางขวางเปนที่ตองใจของกันและกัน ซุนเซ็กจึงแจงแผนการของตนใหสองบัณฑิตทราบ ทั้ง เตียวเจียวและเตียวเหียน หลังจากสนทนากับซุนเซ็กแลว เกิดความประทับใจ ครั้นไดทราบอุดมการณที่จะตั้ง ตนเปนใหญในดินแดนกังตั๋งก็ยินดีและตอบรับคําเชิญของซุนเซ็ก แลวพากันมายังคายทหาร กลับมาถึงคายแลว ซุนเซ็กไดเรียกประชุมที่ปรึกษาและแมทัพนายกองประกาศแตงตั้งใหเตียวเจียวเปนรองแม ทัพ และให เตียวเหียนเปนเสนาธิการของกองทัพ แลวจัดงานเลี้ยงตอนรับทั้งสองบัณฑิต ณ คายนั้น รุงขึ้นซุน เซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพขามแมน้ําแยงซีเพื่อกําจัดเลาอิ้ว ซึ่งบัดนี้เสียทีแกอวนสุดแลวยกมาตั้งอยูที่ เมืองขยกโอ ซุนเซ็กยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีเขาสูดินแดนอันเปนแควน กังตั๋งประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังเขา สูปารอวันเวลาเจริญวัยเติบใหญเปนเจาปาดังนี้ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด อันวิสัยพญาครุฑนั้นอาจบินสูงเทียมเมฆ ในขณะเดียวกันก็อาจบินต่ําระดับยอดหญา แตกตางกับนกกระจอกที่ แมวาสามารถบินสูงกวายอดหญาแตก็หาสามารถบินสูงเทียมเมฆไดไม เชนเดียวกับลูกเสือแมวายังเล็กและ กําลังวังชายังไมเขมแข็งดุจพญาพยัคฆ แตในทามกลางดงสมันนั้นลูกเสือก็ยังกลาแกรงเขมเข็งนาเกรงขามยิ่ง กวาสมันทั้งฝูงมากนัก อันดินแดนแถบใตแมน้ําแยงซี โดยเฉพาะบริเวณอันเปนปากน้ําดานตะวันออกที่เรียกวา กังตั๋งนั้น นับแตโบราณกาลมาราษฎร ใฝการคาขายแลทํามาหากิน มีความเกงกลาสามารถในเชิงการคา ยาก จะหาชาวจีน ณ ดินแดนแควนอื่นเทียบเทียม แตสําหรับการศึกแลวกลับตรงกันขามอยางสิ้นเชิง ราษฎรเกรง กลัวการเปนทหาร และพยายามหลีกหนีไมยอมเปนทหารแมเปนทหารแลวสวนใหญก็เปนดวยจําใจ หาไดคิด
  • 61.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 61 อานฝกปรือการศึกสงครามเหมือนกับชาวภาคเหนือไม ดังนั้นการจัดกองทัพ การฝกทหาร การเตรียมรบ ตลอดจนการฝกฝนทางยุทธวิธีของชาวภาคใตแมน้ําแยงซีจึงออนดอยโดยทั่วไป เหตุนี้เมื่อซุนเซ็กคิดอานสืบสานอุดมการณของซุนเกี๋ยนผูบิดา ยาตรากองทัพขามแมน้ําแยงซีลงมาที่ดินแดน กังตั๋งจึงประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังฝาเขามาในดงสมันฉะนั้น ฝายเลาอิ้วครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพขาม แมน้ําแยงซีมุงมาที่เมือง ขยกโอ จึงสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษาแมทัพนายกองเตรียมรับมือกับกองทัพซุนเซ็ก เตียวเองนายทหารของเลาอิ้วไดขันอาสาขอยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ซึ่งเปนที่ราบ ลุมริมทะเลสาบเปนพื้นที่จํากัด หากซุนเซ็กยกมาแมจะมีทหารมากกวาภูมิประเทศก็จะบีบบังคับใหเหมือนนอย ยอมตั้งรับศึกมิใหฝาลงมาได ขณะนั้นไทสูจูซึ่งเดินทางมาจากการไปชวยเหลือขงหยงที่เมืองปกไฮ ไดมาพบเลาอิ้วตามคําเชิญแลวตกลง เขารับราชการดวยเลาอิ้ว เมื่อไดฟงเตียวเองเสนอแผนการสกัดทัพซุนเซ็กดังนั้นจึงขออาสาเปนกองหนา แต เลาอิ้วไมเห็นดวย อางวาไทสูจูยังเปนเด็กอยู ไทสูจูเห็นเลาอิ้วไมไววางใจก็เสียใจ แตเปนผูนอยจึงนิ่งเก็บ ความเสียใจนั้นไวแตลําพัง เลาอิ้วไดตั้งใหเตียวเองเปนแมทัพ ยกทหารไปสกัดกองทัพซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ถึง ที่หมายแลวใหทหารตั้งคายมั่นลงไว แลวแตงทหารออกไปลาดตระเวนระวังเหตุการณตามธรรมเนียมศึก แลว ออกหมายเกณฑชายฉกรรจในพื้นที่เขามารับราชการทหาร และเกณฑเสบียงจากราษฎรไดเปนจํานวนกวา หมื่นถัง จึงใหตั้งคลังเสบียงไวหลายแหง พรอมที่จะยันทัพซุนเซ็กไดนานนับเดือน ฝายซุนเซ็กเมื่อยกกองทัพมาถึงตําบลงิวจู เห็นกองทัพเตียวเองตั้งสกัดอยูจึงสั่งใหอุยกายออกไปรบดวยเตียว เอง ในขณะที่เตียวเองรบกับอุยกายอยูนั้น พลันมีแสงเพลิงลุกขึ้นในคายของเตียวเอง และทหารไดวิ่งมา รายงานเตียวเองวาบัดนี้มีกลุมโจรปานําโดยเจียวขิมและจิวทาย มีกําลังพลประมาณสามรอยไดพากันบุกเขา ไปในคาย แลวเผาคายทําใหทหารแตกตื่นอลหมานอยู เตียวเองไดฟงก็ตกใจรีบชักมาผละจากอุยกาย แลวสั่ง ทหาร ใหรีบถอยเขาคาย ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งทหารใหไลตามตีเตียวเอง และฆาฟนทหารของเตียวเอง บาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก เตียวเองเขาคายไมไดก็รีบพาทหารหนีไปเมืองขยกโอ ซุนเซ็กจึงยกทหารเขา ยึดคายของเตียวเอง ยึดสินศึกและเสบียงไดเปนจํานวนมาก ทหารของเตียวเองที่หนีไมทันไดเขาสวามิภักดิ์ ดวยซุนเซ็กสิ้น ฝายเจียวขิมและจิวทาย ครั้นซุนเซ็กยึดคายไดแลวก็พาพรรคพวกเขามาคารวะซุนเซ็กแลววาพวกขาพเจาเปน โจรปาไดทราบกิตติศัพทวาทานมีน้ําใจโอบออมอารีรักราษฎร และมีสติปญญาเปนอันมาก จึงพากันยกมาจะ เขาทําการดวยทาน แตเห็นกองทัพของทานกําลังรบอยูกับเตียวเอง จึงพาพรรคพวกบุกเขามาในคายแลวจุด เพลิงเผาคายเสีย ซุนเซ็กไดฟงก็ยินดี ใหรับเจียวขิมและจิวทาย รวมทั้งพรรคพวกสามรอยนั้นเปนทหารใน กองทัพ และเกลี้ยกลอมบรรดาชายฉกรรจในเมืองเขาเปนทหาร ซุนเซ็กไดทหารเพิ่มขึ้นจากการศึกครั้งนี้อีก กวาสี่พันคน ครั้นจัดสังกัดทหารใหมเกาแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพไปเมืองขยกโอ ฝายเตียวเองครั้นพาทหารที่แตกหนีไปถึงเมืองขยกโอ ไดเขาไปรายงานการศึกใหเลาอิ้วทราบ เลาอิ้วก็โกรธ สั่งใหเอาตัวเตียวเอง ไปประหารชีวิต แตบรรดาแมทัพนายกองไดออนวอนรองขอชีวิตเตียวเองไว เพราะเห็น เปนทหารมีฝมือ ยามหนาศึกเชนนี้ไมสมควรฆาทหารและเสนอวาสมควรใหเตียวเองยกไปตั้งสกัดกองทัพของ ซุนเซ็กอีกครั้งหนึ่ง โดยใหยกไปตั้งที่เมืองเลงเหลง เลาอิ้วเห็นชอบตามคําขอรองของบรรดาแมทัพนายกอง จึงใหงดโทษประหารไวแลวสั่งใหเตียวเองยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กไวที่เมืองเลง เหลง สวนตัว เลาอิ้วยกทหารอีกกองหนึ่งออกไปตั้งสกัดซุนเซ็กที่เชิงเขาสินเตง ทางดานทิศเหนือของเมืองขยกโอ ฝายซุน เซ็กครั้นยกกองทัพมาถึงเขาสินเตงเขตแดนเมือง ขยกโอเห็นกองทัพเลาอิ้วมาตั้งคายสกัดอยู จึงสั่งใหหยุด ทัพตั้งคาย ลงเตรียมทําศึกกับเลาอิ้วตอไป ในยามดึกคืนนั้น ซุนเซ็กนอนหลับแลวฝนวา พระเจาฮั่นกองบูมี รับสั่งใหซุนเซ็กไปเฝา ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กเกิดความสงสัยวาพระเจาฮั่นกองบูมีสุสานฝงพระบรมศพอยูที่เมืองลก เอี๋ยง เหตุไฉนจึงบังเกิดความฝนดังนี้ ซุนเซ็กจึงสั่งใหทหารไปจับชาวบานมาสอบถามวาบริเวณนี้มีศาลของพระเจาฮั่นกองบูอยูหรือไม ชาวบานได แจงแกซุนเซ็กวาเดิม สุสานพระบรมศพพระเจาฮั่นกองบูอยูที่เมืองลกเอี๋ยง เมื่อครั้งตั๋งโตะเผาเมืองลกเอี๋ยงสั่ง ใหขุดพระบรมศพยายไปอยูที่เมืองเตียงอันรวมกับพระบรมศพของอดีตพระมหากษัตริยพระองคอื่นๆ เกิดความ สับสนไมมีผูใดรูวาหลุมฝงพระบรมศพของพระเจาฮั่นกองบูอยู ณ ที่ใด ดังนั้นเลาอิ้วซึ่งเปนเชื้อพระวงศจึงให สรางศาลพระเจาฮั่นกองบูไวในตําบลนี้ เพื่อทําพิธีเซนไหวบรรพบุรุษตามอยางธรรมเนียม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กทราบความแลวก็ปลอยชาวบานนั้นไป แลวปรึกษากับบรรดาแมทัพนายกองวา ที่นี่มีศาลพระเจาฮั่น กองบูตรงกับความฝนของขาพเจา ดังนั้น จึงสมควรที่ขาพเจาจะไดไปที่ภูเขาอันเปนที่ตั้งศาลพระเจาฮั่นกองบู
  • 62.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 62 นั้นเพื่อกราบถวายบังคมพระเจาฮั่นกองบูสักครั้งหนึ่งเตียวเจียวไดฟงดังนั้นจึงทวงวา ถิ่นแถบนี้เปนเขต ปกครองของเลาอิ้ว และบนเขานั้นเปนที่คับขันทานไมสมควรที่จะไปดวยเกรงวาจะเกิดอันตราย ซุนเซ็กจึงวา ในเมื่อพระเจาฮั่นกองบูมาเขาฝนเรียกใหขาพเจาไปเฝาก็ยอมตองคุมครองใหขาพเจาปลอดภัยทานอยาได กังวลเลย วาแลวก็ใสเกราะถือทวนขึ้นมาพาทหารคนสนิทสิบสองคนขึ้นไปที่ภูเขาจนถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู ซุนเซ็กไดเขาไปในศาลกราบถวายบังคมแลวอธิษฐานวา ดวยพระบารมีจงดลบันดาลใหขาพเจาไดครองแควน กังตั๋ง การสําเร็จดังประสงคแลวขาพเจาจะทําการบูรณะศาลนี้ใหงามสงาและจะบวงสรวงเซนไหวทุกวันตรุษ สารท แลวซุนเซ็กก็ถวายบังคมลาออกมาจากศาล ซุนเซ็กไดชวนบรรดาทหารที่ติดตามมาใหขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อดูการตั้งคายและการจัดกําลังทหารของเลาอิ้ว บรรดาทหารเหลานั้นเห็นเปนทางไมคุนเคยและมีกําลังติดตามไมกี่คนเกรงวาจะเกิดอันตรายจึงหามซุนเซ็ก และเชิญซุนเซ็กใหกลับไปคาย แตซุนเซ็กไมฟงคําทัดทาน ขับมานําทหารขึ้นไปบนยอดเขา ฝายทหาร ลาดตระเวนของเลาอิ้วเห็นซุนเซ็กนําทหารมาที่ศาลของพระเจาฮั่นกองบูจึงไปรายงานใหเลาอิ้วทราบ เสนอให เลาอิ้วยกทหารไปจับตัวซุนเซ็กก็จะไดตัวโดยงาย เลาอิ้วเกรงวาจะเปนกลลวง ของซุนเซ็กจึงวาพื้นที่นี้เปนเขต เมืองขยกโอ หากซุนเซ็กมีทหารมานอยจริง ไฉนจะกลาลวงมาถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู หากเรายกไปคงจะเสีย ทีแกซุนเซ็ก ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงวาหากไมใชโอกาสนี้จับตัวซุนเซ็กแลว ซุนเซ็กกลับไปคายก็จะเสียโอกาสไป วาแลวไมฟงคําเลาอิ้ววากลาวประการใด ไทสูจูไดถือทวนผลันออกมานอกคายแลวประกาศแกทหารทั้งปวงวา ผูใดมีความกลาหาญจะไปจับตัวซุนเซ็กกับเราบางก็ใหรีบตามมา ทหารในคายเลาอิ้วเห็นไทสูจูยังเปนเด็ก และ แสดงอาการวูวาม ก็พากันหัวเราะ คงมีแตทหารเลวคนหนึ่งชอบใจความกลาหาญของไทสูจู จึงขับมาตามไทสู จูไป ฝายซุนเซ็กครั้นไดตรวจตราดูการตั้งคายและการจัดวางกําลังทหารของเลาอิ้วแลวก็ลงมาจากภูเขา ขับมามา ตามเนินเขา ทันใดนั้นไดยินเสียงรองมาจากดานหลังวาไอซุนเซ็กมึงจะหนีไปไหน ซุนเซ็กเหลียวกลับมาทาง ดานหลังเห็นทหารสองคนขับมาไลตามมาจึงชักมาหันกลับมาเผชิญหนากัน ไทสูจูถามวาผูใดคือซุนเซ็ก ซุน เซ็กก็วาตัวเรานี้คือซุนเซ็ก แลวตัวเจาเลาเปนผูใด ไทสูจูจึงวาตัวเราชื่อไทสูจูเปนทหารเลาอิ้วจะมาจับตัวซุน เซ็ก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม พยัคฆนอย ณ ฝงใตแมน้ําแยงซี (ตอน 78) ซุนเซ็กไดยินวาไทสูจูจะมาจับตัวจึวหัวเราะแลววา ใหพวกเจา ทั้งสองคนเขามาพรอมกัน ตัวเราคนเดียวจะจับ พวกเจาทั้งสองคนเอง ไทสูจูจึงวาใหพวกเจาทั้งหมดนั่นแหละเขามาพรอมกัน ตัวเราแตผูเดียวจะจับพวกเจา ทั้งหมดเอง ทั้งสองฝายตางโอกันตามธรรมเนียม แลวซุนเซ็กจึงขับมาเขารบดวยไทสูจู ตอสูกันไดหาเพลงไท สูจูเห็นกําลังซุนเซ็กกลาแข็ง ยากจะเอาชนะได และเห็นทหารของซุนเซ็กทั้งสิบสองคนขยับมาเปนทีจะเขามา ลอม ดังนั้น ไทสูจูจึงชักมาหนีเพื่อจะลอใหซุนเซ็กไลตาม พนออกมาจากพวกทหารซุนเซ็กขับมาไลตามไทสูจู แลวรองถามวา ก็ไหนเจาโอวาเกงกลานักไมทันไรไฉนจึงรีบหนีเสียเลา ไทสูจูทําเปนไมไดยินคงขับมาหนี ตอไปจนถึงตําบลเพงฉวน ซุนเซ็กก็ไลทัน ไทสูจูจึงชักมาหันกลับมารบกับซุนเซ็ก ตอสูกันไดหาสิบเพลง ซุน เซ็กเอาทวนแทง ไทสูจูหลบทันและจับเอาทวนซุนเซ็กแลวใชทวนแทงกลับไป ซุนเซ็กก็หลบไดแลวจับเอา ทวนไทสูจูไว ทั้งสองฝายตางยื้อแยงทวนกันบนหลังมาจนพลัดตกลงจากหลังมาพรอมกัน ทวนนั้นหลุดจาก มือของทั้งสองคน ทั้งซุนเซ็กและไทสูจูจึงเขาปล้ําตอสูกันดวยมือเปลาจนเสื้อและเกราะขาดทั้งสองฝาย ซุน เซ็กควาเอาทวนสั้นซึ่งเหน็บอยูขางหลังไทสูจู ไทสูจูก็ดึงเอาหมวกเกราะของซุนเซ็กมาได ซุนเซ็กเอาทวนสั้นแทง ไทสูจูก็เอาหมวกเกราะรับไวได พอทหารของเลาอิ้วยกตามไทสูจูมาพันเศษ และ ทหารซุนเซ็กทั้งสิบสองคนตามมาทัน ทั้งสองฝายตางชักมาเขามาในหมูทหารของตน เอาทวนใหมจากทหาร แลวเขามารบกันอีกครั้งหนึ่ง ซุนเซ็กเห็นวาทหารเลาอิ้วยกมาเปนจํานวนมาก จึงรบพลางถอยพลาง พอจิวยี่ยก ทหารมาทันก็ตั้งยันกันไว ทั้งไทสูจูและซุนเซ็กรบกันจนค่ําฝนตกหนักลงมา ทั้งสองฝายจึงถอยกลับเขาคาย ซุนเซ็กมีความประทับใจไทสูจูยิ่งนัก ทั้งดวยฝมือทหารและความเปนสุภาพบุรุษ ในขณะเดียวกันไทสูจูก็ ประทับใจซุนเซ็กเปนอันมาก กลับถึงคายแลวตางฝายตางรําลึกถึงกัน ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กจึงยกทหารไปที่หนา คายของเลาอิ้ว ชูทวนสั้นของไทสูจูแลวรองวาเจาของทวนสั้นเลมนี้อยูที่ใด ไฉนจึงไมกลาออกมารบดวยเรา เลา ไทสูจูเห็นดังนั้นก็เอาหมวกเกราะของซุนเซ็กชูขึ้นแลวรองวา ศีรษะของเจาของหมวกเกราะนี้ยังมีชีวิตอยู หรือ ไฉนหมวกเกราะจึงหลุดจากศีรษะมาอยูในมือของเราเลา ตางฝายตางเยาะเยยกันพักหนึ่ง ไทสูจูจึงขับมา ออกจากคายจะรบดวยซุนเซ็ก เทียเภาเห็นดังนั้น จึงชักมาออกไปสกัดไว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 63.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 63 จิวยี่เห็นทั้งสองฝายกําลังรบกันก็ลอบยกทหารวกออมไปทางดานหลังเมืองขยกโอ พอไปถึงประตูเมืองประตูก็ เปดออกมีทหารกองหนึ่งยกออกมา ตัวนาย "มีกําลังมาก รูปรางใหญ สูงหาศอกเศษ หนาเหลือง วงตาแดง" ครั้นพบหนาจิวยี่ก็รีบลงจากหลังมากระทําคารวะ แลววาขาพเจาชื่อตันบู เปนชาวเมืองโลกั๋ง ไดขาววาซุนเซ็ก ยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีจะมาตีเมืองขยกโอ ขาพเจาไดยินกิตติศัพทวาซุนเซ็กมีสติปญญาและรักทหาร จึง พาพรรคพวกจะมาทําการดวยซุนเซ็ก แลวไดลอบเขาไปในเมือง ครั้นทราบวาทานยกมาจึงฆาทหารรักษา ประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองตอนรับทาน จิวยี่ไดฟงดังนั้นก็ดีใจ รีบยกทหารเขาไปในเมืองขยกโอ ทหาร ของเลาอิ้วเห็นจิวยี่ยึดเมืองไดก็เขาสวามิภักดิ์ดวยจิวยี่ คงมีแตทหารที่สนิทกับเลาอิ้วหนีออกจากเมืองแลวไป หาเลาอิ้ว ณ คาย รายงานใหทราบวาบัดนี้จิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว เลาอิ้วไดฟงดังนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีระฆังสัญญาณเรียกไทสูจูกลับมาคาย ไทสูจูไดยินสัญญาณก็กลับมาที่ คายแลวตอวาเลาอิ้ว วาขาพเจาจวนจะไดรับชัยชนะ เทียเภาอยูแลว ไฉนทานจึงใหสัญญาณเรียกขาพเจาให ถอยกลับ เลาอิ้วจึงแจงวาจิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว เราจะอยูที่นี่อีกตอไปไมได ค่ําลงเลาอิ้วก็สั่งใหถอนทัพ แลวยกไปเมืองวัวเหลง ฝายจิวยี่ไดเมืองขยกโอแลวสั่งใหตันบูรีบไปพบซุนเซ็กแลวรีบรายงานใหซุนเซ็กทราบ เตียวเจียวรองแมทัพจึง วาบัดนี้เลาอิ้วถอยทัพหนีไปแลว สมควรตองรีบตามตีอยาใหทันตั้งตัว ซุนเซ็กเห็นชอบดวยจึงใหยกทหาร ติดตามกองทัพเลาอิ้วไปในทันที ซุนเซ็กนําทหารมาไลตามเลาอิ้วไปไมถึงชั่วยามก็ทันกองทัพเลาอิ้ว ไทสูจู ไดถอยกลับมารบดวยซุนเซ็ก ทหารซุนเซ็กจึงตีวงจะเขาลอม ไทสูจูจึงรีบชักมาหนี แลวพาทหารที่ตามมาอีก สิบหาคนหนีไปเมืองเกงกวน ซุนเซ็กไดทีจึงขับทหารเขาฆาฟนทหารของเลาอิ้ว อยางดุเดือด เลาอิ้วสูไมไดก็ แตกหนีไปอยูที่ตําบลงิวจู ฝายฉกหยงและซีเหลทหารเมืองวัวเหลงทราบขาววาเลาอิ้วรบ กับซุนเซ็ก ก็ยกทหารจะมาชวยเลาอิ้ว แตยก มาไมทันเพราะเลาอิ้วแตกหนีไปกอนจึงปะทะกับซุนเซ็ก ซุนเซ็กสั่งใหตันบูนําทหารเขาตีกองทหารของฉกห ยงและซีเหล ตันบูนํากําลังทหารรุกเขาตีอยางดุเดือด ฉกหยงและซีเหลสูไมไดก็แตกหนีไปคนละทาง ซีเหล พาทหารหนีกลับเขาเมืองวัวเหลงแลวปดประตูเมืองไมยอมออกรบ ฝายฉกหยงแตกหนีไปทางตําบลงิวจูไดพบ กับเลาอิ้ว พอดีซุนเซ็กยกทหารไลตามมาทัน เลาอิ้วจึงใหทหารรองสองนายออกรบ ซุนเซ็กไดสังหารทหาร รองทั้งสองนายนั้นเสีย เลาอิ้วตกใจจึงพาทหารที่เหลือหนีไปอยูเมืองอิเจี๋ยง ซุนเซ็กไลตามเลาอิ้วไมทันจึงยก ทหารไปลอมเมืองวัวเหลงแลวขี่มาไปที่หนาเชิงเทิน ทาใหซีเหลออกมารบ ซีเหลเห็นซุนเซ็กไมทันระวังตัว จึงเอาเกาทัณฑยิงไปถูกขาซุนเซ็กตกจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กจึงชวยกันหามซุนเซ็กกลับไปคาย ซุนเซ็กกลับเขาคายแลวจึงวา ซีเหลคิดอาศัยการตั้งรับอยูแตในเมือง ไมยอมยกออกมารบ ทําตัวเปนเตาหดหัว อยูในกระดอง ครั้นเราจะยกเขาหักเอาเมืองก็จะสูญเสียทหารเปนอันมาก ดังนั้นเราจะแตงกลอุบายลวงใหซีเห ลยกออกมารบใหจงได แลวซุนเซ็กจึงสั่งใหปลอยขาวลือวาซุนเซ็กถูกเกาทัณฑอาการกําเริบตายแลว ให ทหารถอนคายทําทีเปนถอยทัพ และใหจัดทหารซุมไวทั้งสองขางทาง อีกกองหนึ่งใหสกัดทางหนี ตัวซุนเซ็ก เตรียมรอสกัดอยูปลายทาง ฝายซีเหลไดขาววาซุนเซ็กตายแลวและทหารซุนเซ็กถอนคายเตรียมถอยทัพ ค่ํา ลงจึงยกทหารออกจากเมืองจะโจมตีชิงเอาศพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารจุดพลุสัญญาณ ทหารที่ซุมอยูก็ยกออกมาลอมกองทหารของซีเหลไวทั้งสี่ดาน ทหารของซุนเซ็กลอมโจมตีกองทหารของซี เหลอยางดุเดือด ตัวซีเหลตายในที่รบ ทหารของซีเหลจึงพากันเขาดวยซุนเซ็กสิ้น จากนั้นซุนเซ็กจึงยกทหาร เขายึดเมืองวัวเหลงได ครั้นจัดการภายในเมืองเสร็จแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพไปเมืองเกงกวน ตั้งคายประชิดกําแพงเมืองแลว ปรึกษาดวยจิวยี่วา บัดนี้ไทสูจูหนีมาอยูเมืองเกงกวน ไทสูจูคนนี้มีฝมือกลาแข็งนัก ขาพเจาอยากไดตัวมาทํา การดวย แตจะคิดประการใดจึงจะไดตัวไทสูจู จิวยี่จึงเสนอวาใหทานจัดทหารเปนสามกองเขาโจมตีเมืองเกง กวนทั้งสามดาน เวนอีกดานหนึ่งไว ทหารรักษาเมืองเกงกวนมีอยูนอยคงจะรักษาเมืองไวไมได ไทสูจูคงจะพา ทหารหนีไปทางดานที่เราเปดทางไว ใหทานจัดทหารไปซุมอยูสองขางทาง เอาเชือกขึงกั้นทางไวแลวคอยจับ ตัวไทสูจูที่นั่นคงจะไดตัวเปนมั่นคง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กเห็นดวยกับความคิดของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามแผนของจิวยี่ทุกประการ ค่ําลงทหารของซุนเซ็กก็ หักเขาโจมตีเมืองเกงกวนพรอมกันทั้งสามดาน ทหารรักษาเมืองลวนไรฝมือไมสามารถ รักษาเมืองไวได ทหารซุนเซ็กจึงบุกเขาไปในกําแพงเมืองทั้งสามดาน ไทสูจูเห็นทหารในเมืองสูทหารซุนเซ็กไมไดก็ขับมาหนี ออกจากเมืองไปทางดานที่ซุนเซ็กเปดทางไวให ครั้นไทสูจูขับมามาถึงจุดซุม มาที่ไทสูจูขี่จึงสะดุดกับเชือกที่ ขึงกั้นไวลมลง ไทสูจูพลัดตกลงจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กไดกรูเขาจับตัวไทสูจูแลวมัดพาเขาไปหาซุน เซ็ก ซุนเซ็กเห็นทหารมัดไทสูจูเขามาจึงรีบวิ่งมาแกเชือกที่มัดไทสูจูแลวจูงมือมานั่งลงตรงหนา แลววา
  • 64.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 64 ขาพเจาปรารถนาจะไดตัวทานแตครั้งแรกที่รบกันแลว มาสมความปรารถนาในวันนี้ ขาพเจามีความยินดียิ่งนัก ทานอยาถือโกรธที่ทหารจับตัวทานเลย แลววาตัวทานมีฝมือเขมแข็ง องอาจกลาหาญ สมเปนผูนําทัพสราง ความสงบสุขแกแผนดิน อยาอยูกับเลาอิ้วคนถอยตอไปอีกเลย ขอจงมาทําการ อยูชวยขาพเจา ชวยทํานุบํารุง ราษฎรใหเปนสุขเถิด ไทสูจูประทับใจซุนเซ็กอยูแตเดิม ครั้นเห็นซุนเซ็กไมมีใจพยาบาทและมอบไมตรีมาดังนี้ จึงตกลงทําการดวย ซุนเซ็ก ลุกขึ้นคารวะซุนเซ็กแลววาขาพเจาขออภัยที่ไดลวงเกินทานเปนอันมาก ขอทานจงถือเสียวาครั้งนั้นยัง เปนคนละฝาย ขาพเจาจําเปนตองทําหนาที่ของทหาร อยาถือโกรธขาพเจาเลย นับแตนี้ไปขาพเจาจะขอ ติดตามรับใชทาน ถึงแมจะตองดําน้ํา ลุยไฟ ขาพเจาก็พรอมใจทําการโดยไมหวงหาอาทรตอชีวิตเลย ซุนเซ็ก ดีใจยิ่งนักเขามาสวมกอดไทสูจูแลวหัวเราะ และถามวาเมื่อครั้งที่เรารบกันนั้นถาหากทานจับขาพเจาได ทาน จะฆาขาพเจาหรือไม ไทสูจูจึงวาสถานการณในขณะนั้นขาพเจาตอบไมได วาแลวทั้งสองคนก็หัวเราะพรอมกัน ซุนเซ็กสั่งใหแตงโตะเชิญแมทัพนายกองเขารวมงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัย และรับขวัญไทสูจู ครั้นกินโตะเสร็จ แลวไทสูจูจึงวาทหารของเลาอิ้วที่กระสานซานเซ็นมีเปนจํานวนมาก ขาพเจาขออาสาไปติดตามเกลี้ยกลอม ทหารเหลานั้นใหมาทําการดวยทานจะไดเปนกําลังของทานสืบไป แลวถามซุนเซ็กวาทานจะวางใจใหขาพเจา ไปหรือไม ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายอมวางใจทาน อยาไดมีความสงสัยเลย แตวันนี้ค่ําแลวทานจงเดินทางในวัน พรุงนี้แลวใหกลับมา ณ เวลาเที่ยงตรง ขาพเจาจะคอยรับทาน ไทสูจูคารวะซุนเซ็กแสดงความขอบคุณที่ซุน เซ็กวางใจ เสร็จงานเลี้ยงแลวซุนเซ็กสั่งทหารใหจัดที่พักใหกับไทสูจู ครั้นไทสูจูกลับไปที่พักแลว บรรดาที่ ปรึกษาไดทักทวงซุนเซ็ก วาไทสูจูไดตอสูกับทานเปนหลายครั้งและถูกจับตัวไดในวันนี้ การที่ทานปลอยไทสู จูกลับไปจะมิเทากับเปนการปลอยจระเขลงน้ําหรือ ซุนเซ็กจึงวาขาพเจาเชื่อวาไทสูจูเปนชายชาติทหาร มี ความสัตยซื่อมั่นคงยอมจะไมคิดหนีไปในลักษณะเชนนี้ รุงเชาไทสูจูก็ออกจากเมืองไป บรรดาที่ปรึกษาเห็นเวลาใกลเที่ยง ไทสูจูยังไมกลับมาจึงพากันไปหาซุนเซ็ก แสดงความหวงใยวาไทสูจูคงจะไมกลับมาแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารเอาทวนไปปกไวกลางแจงแลววา เวลานี้ พระอาทิตยยังไมคลอยพนศีรษะ เงาทวนยังคงทาบพื้นทางดานตะวันตก พวกทานจงอดใจรอไวกอนเถิด ครั้น สิ้นเงาทวน ซุนเซ็กและบรรดาที่ปรึกษาจึงเห็นไทสูจูขับมา มาถึงหนาเมือง มีทหารติดตามมาดวยถึงพันเศษ บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดังนั้นจึงพากันสรรเสริญซุนเซ็กวามีสายตาคมกลา สามารถดูลักษณะ คน ลวงรูเขาไปถึงความคิดจิตใจแมนยําดุจดังเทพยดาเขาดลใจ ไทสูจูเขาเมืองแลวรีบพาพรรคพวกที่ตามมาดวยเขาไปคารวะซุนเซ็ก แลววาบัดนี้พรรคพวกสหายศึกของ ขาพเจาตกลงพรอมกันที่จะมาทําการดวยทาน ซุนเซ็กเห็นดังนั้นก็ยินดีคารวะตอบ แลวจัดวางใหทหาร เหลานั้นเขาสังกัดในกองทัพซุนเซ็กสั่งใหสํารวจกําลังทหารทั้งใหมเกา ปรากฏวา ณ บัดนี้กําลังทหารของ ซุน เซ็กไดเพิ่มจํานวนขึ้นเปนสามหมื่นคน มากกวาตอนที่ยืมทหารจากอวนสุดถึงสิบเทา อันธรรมดาการสงคราม นั้นมีทั้งดานที่สูญเสียและมีทั้งดานที่เพิ่มพูนขึ้นอยูกับความถูกตองของทิศทางการเมืองที่ใชนํากองทัพ หาก แนวทางการเมืองที่ชี้ทิศนําทางใหกับกองทัพถูกตองแลว กองทัพก็จะเติบใหญขึ้น ทามกลางสงคราม ในทาง ตรงกันขามถาหากวาแนว ทางการเมืองผิดพลาด กองทัพก็จะคอยๆ หดตัวเล็กลงและสลายไป ในทามกลาง สงครามนั้น ซุนเซ็กเริ่มตนดวยการยืมทหารจากอวนสุดเพียงสามพัน หลังจากยกขามฟากแมน้ําแยงซีผานศึกหลายครั้ง ไม เพียงแตกองทัพของซุนเซ็กจะไมเล็กลงเพราะการบาดเจ็บลมตายของทหาร แตกลับเติบใหญขึ้นและมีกําลัง พลเพิ่มขึ้นถึงสิบเทาของกําลังรบเดิม นี่คือปรากฏการณของความถูกตองของแนวทางการเมืองที่เชิดชู อุดมการณเอกภาพแหงดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีที่มีชื่อวาดินแดน กังตั๋งเปนธงชัยนําทางใหกับกองทัพ ของซุนเซ็กนั่นเองลอมกรอบ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เถลิงอํานาจตระกูล "ซุน" เหนือแควนกังตั๋ง (ตอน 79) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กจัดกองทัพกําลังพลสามหมื่นเปนอันดีแลว จึงยกกองทัพไปเมืองกังตั๋ง ชาวเมืองทั้งปวงเคารพศรัทธา ซุนเกี๋ยนมาแตเดิม ครั้นทราบกิตติศัพทความโอบออมอารีมีเมตตาของซุนเซ็กจึงพากันมาเขาดวยซุนเซ็ก หัว เมืองตางๆ ก็พากันเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ซุนเซ็กออกคําสั่งสนามใหทหารทุกคนเคารพประชาชน รัก ประชาชน และรับใชประชาชน ผูใดเบียดเบียนขมเหงรังแกราษฎรจะไดรับโทษสถานหนัก จึงเปนที่ชื่นชมยินดี
  • 65.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 65 ของราษฎร และไดรับความชวยเหลือสนับสนุนจากราษฎรทุกหนแหง กองทัพของซุนเซ็กจึงยิ่งเติบโตขึ้นใน ทามกลางสงครามนั้น ครั้นจัดการปกครองเปนปกติดีแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารไปรับ มารดาและครอบครัวมาอยูที่เมืองขยกโอ ซึ่งเปน ตําบลที่ฝงศพซุนเกี๋ยนผูบิดา และใหซุนกวนผูนองไปรักษาเมืองฮวนเสีย โดยใหจิวทายไปเปนผูชวยของซุน กวนเมื่อการจัดการปกครองและจัดการเรื่องครอบครัวเสร็จเรียบรอย ซุนเซ็กจึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตี เมืองตองงอซึ่งเปนหัวเมืองเอกอีกเมืองหนึ่งของแควนกังตั๋ง ณ เมืองตองงออันเปนหัวเมืองเอกแหงดินแดนกังตั๋ง มีเงียมแปะฮอเปนเจาเมือง เดิมขึ้นตอราชสํานักลกเอี๋ย งแหงราชวงศฮั่น ครั้นตั๋งโตะเปนทรราชขมเหงอาณาประชาราษฎรและหัวเมืองตางๆ จนโจโฉไดกอตั้งกองทัพ ปฏิวัติขึ้น เชิญหัวเมืองเอกสิบหกหัวเมืองเขารวมกองทัพปฏิวัติ ในครั้งนั้นเมืองตองงอไมไดรับคําเชิญ ใน แควนกังตั๋งคงมีแตเมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนเทานั้นที่ไดรับเชิญเขารวมในกองทัพปฏิวัติ เมื่อเงียมแปะฮอ ทราบขาวหัวเมืองตางๆ ประกาศตั้งกองทัพปฏิวัติไมขึ้นตอรัฐบาลกลางและยกกองทัพไปเพื่อจะลมลางรัฐบาล ของตั๋งโตะ ดังนั้นเงียมแปะฮอจึงประกาศไมขึ้นตอรัฐบาลกลางของ ตั๋งโตะดวย และเมื่อเมืองตองงอไมไดเขา รวมในกองทัพปฏิวัติจึงถือ โอกาสนั้นตั้งตัวขึ้นเปนเจาเสียเอง ตั้งสมัญญาวา "เตกออง" จัดแจงแตงคายคูหอ รบไวทุกหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองตองงอนั้น ครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพจะมาตีเมืองตองงอ เงียมแปะฮอจึงตั้งใหนองชายชื่อเงียมอี๋เปนกองทัพหนา ยก ไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่สะพานหองเกียว ซึ่งเปนสะพานขามแมน้ําใน ทางที่ซุนเซ็กจะยกมา ฝายซุน เซ็กเมื่อไดรับรายงานจากทหารลาดตระเวนวาบัดนี้ เงียมอี๋ยกทหารมาตั้งสกัดอยูที่สะพานหองเกียว จึงใหจัด ทหารเปนสองกอง ใหฮันตงคุมทหารไปทางบกเพื่อรบกับเงียมอี๋และใหตันบู และเจียวขิมคุมทหารเกาทัณฑ อีกกองหนึ่งลงเรือเล็ก ใหกองทัพทั้งสองกองยกไปพรอมกันที่สะพานหองเกียว เงียมอี๋ไดรับรายงานวา กองทัพซุนเซ็กยกมาก็พาทหารขามสะพานหองเกียวไปจนเกือบถึงตนสะพานรบดวยฮันตง กองทัพหนาของ ซุนเซ็ก ในขณะที่ทหารของทั้งสองฝายรบกันบนสะพานนั้น ตันบูและเจียวขิมสั่งใหเคลื่อนกองเรือเล็กเขาไปที่ สองขางสะพาน แลวใหทหารยิงเกาทัณฑใสทหารของเงียมอี๋ ทหารของเงียมอี๋ตองเผชิญศึกดานหนาทางหนึ่งแลว ยังถูกทหารของซุนเซ็กระดมยิงมาจากเรือเล็กขาง สะพานทั้งสองดาน จึงบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก ทหารที่เหลือจึงพากันแตกหนีถอยกลับเขาเมืองตองงอ ซุนเซ็กจึงสั่งใหฮันตงยกทหารไปทางบกและใหตันบู เจียวขิม ยกกองเรือเร็วไปลอยลําอยูที่หนาเมืองตองงอ ทหารของซุนเซ็กลอม เมืองตองงอไวสามดาน และใหทหารออกไปทารบถึงสามวัน แตทหารเมืองตองงอก็ไม ยอมออกรบ คงคุมกําลังตั้งรับอยูแตในเมือง ซุนเซ็กจึงขับมานําทหารไปที่ประตูเมืองแลวใหทหารรองไปวา บัดนี้ซุนเซ็กไดลอมเมืองตองงอไวแลว หากคิดตอสูก็จะพากันตายสิ้น ผูใดรักตัวกลัวตายใหรีบเขามา สวามิภักดิ์ ทหารรักษาเชิงเทินคนหนึ่ง เห็นดังนั้นก็รองเยาะซุนเซ็กวา ขอเชิญพวกทานตากแดดตากฝนใหจง ดีเถิด พวกเราจะกินโตะรออยูในเมือง ไทสูจูเห็นทหารรักษาเชิงเทินเยาะเยยซุนเซ็กก็โกรธ เอาเกาทัณฑ ขึ้นมาพาดสาย หมายจะสังหารทหารรักษาเชิงเทินนั้นเสีย พอดีทหารนั้นกําลังเอามือขางหนึ่งเทาอยูที่ขอบเชิง เทินจึงเปลี่ยนเปนคิดขมขวัญขาศึก ไทสูจูจึงยิงเกาทัณฑไปที่มือทหารนั้น เกาทัณฑปกมือตรึงเขากับกําแพง ทหารนั้นบาดเจ็บรองไหดังลั่น ทหารทั้งสองฝายจึงพากันหันมาดู ทหารฝายซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงพากัน สรรเสริญฝมือเกาทัณฑของไทสูจูเปนอันมาก ในขณะที่ทหารรักษาเชิงเทินก็พากันตกใจกลัว ตางคนตางหลบ อยูในใบเสมาของกําแพงเมือง ครั้นเงียมแปะฮอทราบเหตุการณแลวไดทอดถอนใจใหญแลววากับที่ปรึกษาวา เสียดายนักที่กองทัพเราไมมีผูใดมีฝมือเสมอดวยไทสูจูเลย หากแมนวามีคนอยางไทสูจูสักคนหนึ่งก็จะไมเกรง ผูใดในแผนดิน และปรึกษาวาจะคิดอานประการใดตอไป บรรดาที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นวาซุนเซ็กยกมาครั้งนี้มีทหารมีฝมือเปนจํานวนมาก ดังนั้นเพื่อไมใหเดือดรอนแก ราษฎรจึงควรเขาเกลี้ยกลอมออนนอมตอซุนเซ็ก แบงดินแดนใหครึ่งหนึ่งเห็นทีซุนเซ็กจะยกทัพกลับไป เงียม แปะฮอเห็นดวยจึงสั่งใหเงียมอี๋เปนทูตไปเจรจาดวยซุนเซ็ก ซุนเซ็กเมื่อไดฟงขอเสนอของเงียมอี๋แลวก็โกรธ จึงวา เรายกมาทําการถึงเพียงนี้เมืองตองงอไมพนมือเราแลว ยังจะมาเกี่ยงยกเมืองใหครึ่งหนึ่งเปนการดูหมิ่น เรานัก วาแลวสั่งทหารใหเอาเงียมอี๋ไปตัดศีรษะแลวโยนศีรษะนั้นเขาไปในเมืองตองงอ เงียมแปะฮอทราบขาว ก็ตกใจไมมีแกใจจะตั้งรับซุนเซ็กอีกตอไป ค่ําลงก็พาทหารใกลชิดหนีออกจากเมืองจะยกไปเมืองอิของ ครั้น ไป ถึงกลางทางพบกับเลงโฉคุมชาวบานออกมาสกัดทางไว เงียมแปะฮอ จึงพาทหารขามฟากไปตั้งอยูตําบล ไชสิน เตรียมจะไปอาศัยเมืองหอยแข กลายเปนเจาไมมีศาลตั้งแตบัดนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายซุนเซ็กครั้นทราบวาเงียมแปะฮอทิ้งเมืองหนีไป จึงยกทหารเขาเมืองตองงอจัดระเบียบการปกครองเปน ปกติแลว จึงสั่งใหอุยกายยกทหารไปตีเมืองแกหิน และใหไทสูจูยกทหารไปตีเมืองออแสง ซึ่งสองเมืองนี้ขึ้น
  • 66.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 66 ตอเมืองตองงอ แตทหารของเงียมแปะฮอยังคงรักษาเมืองไมยอมขึ้นตอบังคับของซุนเซ็ก อุยกายและไทสูจู ยกทหารไปตีเมืองทั้งสองไดเมื่อจัดระเบียบการปกครองใหขึ้นกับเมืองตองงอแลว จึงยกทหารกลับมาหาซุน เซ็ก ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งใหจัดทหารเตรียมยกตามเงียมแปะฮอไป ครั้นถึงตําบลอิของจึงพบกับเลงโฉพา บุตรชายมาขอทําราชการดวย และแจงวาบัดนี้เงียมแปะฮอหนีไปตําบลไชสินจะไปเมืองหอยแข ซุนเซ็กได ทราบก็ยินดีและใหรับเลงโฉกับบุตรชายเปนทหารในกองทัพ แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพยกไปเมืองหอยแข ฝาย อองหลอง เจาเมืองหอยแขเปนเพื่อนสนิทกับเงียมแปะฮอ ครั้นทราบวา เงียมแปะฮอกําลังหนีการไลติดตาม ของซุนเซ็กจะมาเมืองหอยแขจึงพาทหารออกไปรับเงียมแปะฮอถึงนอกเมือง แลวตั้งคายไวที่เชิงเขานอก เมืองเตรียมรับมือกับกองทัพของซุนเซ็ก ครั้นทราบขาววาซุนเซ็กยกทหารมาถึง อองหลองจึงขับมาถือกระบี่จะออกรบดวยซุนเซ็ก อองหลองรบกับซุน เซ็กไดหกเพลง ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงชักมากรายทวนเขารบดวยอองหลองแทนซุนเซ็ก ซุนเซ็กจึงชักมาถอยเขา มา ไทสูจูตอสูกับอองหลองถึงเพลงที่หา พอดีจิวยี่และเทียเภายกทหารตามซุนเซ็กมาและเขาลอมอองหลอง และทหารไว อองหลองเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบพาเงียมแปะฮอและทหารตีฝาหนีกลับเขาเมืองหอยแข สั่งทหาร ปดประตูเมืองและใหระวังรักษาเชิงเทินไวใหมั่นคง รุงขึ้นอองหลองปรึกษาดวยเงียมแปะฮอวา จะยกทหารออกไปรบดวยซุนเซ็กแตเงียมแปะฮอรูฝมือทหารซุน เซ็กเปนอยางดีจึงหามไว แลวเสนอวาขาศึกเขมแข็งกวาเรา ดังนั้นจึงควรตั้งรับศึกไวในเมือง ซุนเซ็กมีทหาร มากก็ยอมกินเสบียงมาก ในไมชาก็คงหมดเสบียง และจะตองยกทัพกลับไปเอง อองหลองเห็นดวยจึงสั่งทหาร กวดขันเชิงเทิน คายคูหอรบ สั่งกําชับไมใหออกรบดวยซุนเซ็ก ฝายซุนเซ็กลอมเมืองหอยแข แตละวันให ทหารออกไปทาอองหลองใหยกออกมารบ ผานไปถึงหาวันทหารอองหลองก็ยังคงตั้งมั่นอยูในเมือง ซุนเซ็ก เกรงวาถาการศึกยืดเยื้อไปก็อาจขาดเสบียงลง กองทัพก็จักเปนอันตราย จึงปรึกษากับที่ปรึกษาและแมทัพ นายกองวาจะคิดอานประการใดจึงจะยึดเมืองหอยแขไดโดยเร็ว นายทหารหัวหนาหนวยลาดตระเวนไดเสนอ กับซุนเซ็กวาจากการลาดตระเวนของทหารพบวาเมืองหอยแขนี้เสบียงอาหารไมพอกิน ตองอาศัยเสบียง อาหารซึ่งลําเลียงมาจากเมืองแจตอก ดังนั้นถาเรายึดเมืองแจตอกเสียกอน เมืองหอยแขก็จะหมดหนทางตอสู ซุนเซ็กไดฟงขอเสนอดังนั้นจึงสั่งใหเลิกทัพเพื่อจะยกไปยึดเอาเมืองแจตอก จิวยี่จึงเสนอวาขาพเจาจะคิดกล อุบายประการหนึ่ง ถาหากอองหลองหลงกลแลว เราก็จะยึดเอาเมืองหอยแขไดโดยงาย ซุนเซ็กจึงถามวาทาน มีความคิดอุบายประการใด จิวยี่จึงวา เมื่ออองหลองรูวาเราจะยกไปเมืองแจตอก คงลังเลวาจะติดตามตีหรือไม ดังนั้น อยาใหถอนคายและธงทิว ใหคงเปนปกติไวดังเดิม และใหทหารกอไฟหุงขาวไวในคายเหมือนกับปกติ อองหลองเมื่อรูวาเรายกไปแลว ทํากลไวดังนี้ก็จะคิดวาเรากลัว คงจะยกทหารไลโจมตีเรา ตามเสนทางไป เมืองแจตอกหางจากคายนี้สามรอยเสน สองขางทางเปนปา เราจะจัดทหารไปซุมไว พออองหลองยกตามไปก็ จะลอมจับเอาตัวไดโดยงาย ซุนเซ็กเห็นดวยกับแผนการของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามความคิดของจิวยี่ทุกประการ แลวยกทหารออกจาก คายไปตามทางที่จะไปเมืองแจตอก ถึงชายปาแลวใหทหารซุมไวตามแผนการ ฝายอองหลองไดรับรายงาน จากทหารวาซุนเซ็กยกทหารไปแลว แตไมไดรื้อถอนคายไปดวย อองหลองสงสัยจึงพาบรรดาแมทัพนายกอง ขึ้นไปดูบนหอรบ เห็นคายซุนเซ็กเงียบอยูแตมีธงทิวปลิวไสว แลควันไฟที่หุงอาหารลอยอยู เหมือนกับวา ทหารยังอยูในคาย บรรดาแมทัพนายกองและอองหลองเห็นพองตองกันวา ซุนเซ็กทํากลอุบายวายังคงตั้งคาย อยูเพื่อไมใหเรายกตามตี การทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากกองทัพซุนเซ็กขาดเสบียง แตกลัววาจะถูกตามตีจึงทําเปน ลวงดวยกลอุบายดั่งนี้ ดังนั้น หากเรายกทหารไลตามตีซุนเซ็กก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคงปรึกษากันแลว อองหลองจึงใหจิวเจียดนาย ทหารและเงียมแปะฮอเปนกองทัพหนา ตัวอองหลองเปนกองทัพหลวงยกออกจากเมืองหอยแขไปตามตี กองทัพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารตีมาลอใหสัญญาณเขาโจมตีพรอมกัน ซุนเซ็กซึ่งสกัดอยู ดานหนาใหทหารจุดไฟสวางไสว เพื่อใหทหารเงียมแปะฮอเกรงกลัวไมกลารุกไปขางหนา จิวเจียด เงียม แปะฮอ และทหารในกองทัพหนาตกอยูทาม กลางวงลอมของทหารซุนเซ็กและถูกตีกระหนาบเขามาทุกดานก็ ตกใจ เงียมแปะฮอนั้นเปนนักหนี มีฝเทาไว จึงตีฝาหนีออกไปได แลวนําทหารไปเมืองอิของ เหลือแตจิวเจียด คุมทหารตอสูกับซุนเซ็กและถูกซุนเซ็กเอาทวนแทงตกมาตาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นกองทัพหนาแตกแลว ทหารของซุนเซ็กก็ยังคงตีฝาเขามาจนถึงทัพหลวงของอองหลอง อองหลองเห็น จวนตัวจะหนีเขาเมืองก็ไมทันการณเพราะรบประชิดกันอยู จึงพาทหารหนีไปทางดานชายทะเล ซุนเซ็กไดรับ ชัยชนะอยางงดงามตามแผนการของจิวยี่ จึงรีบยกทหารไปเมืองหอยแข ทหารรักษาเมืองทราบวาอองหลอง หนีไปแลว ก็พากันเปดประตูเมืองเขาสวามิภักดิ์กับซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กไดทั้งชัยชนะและไดทั้งเมืองหลายเมือง ติดตอกันเชนนี้กําลังกองทัพของซุนเซ็กจึงเติบโตขึ้นเปนอันมาก ฝายเงียมแปะฮอครั้นพาทหารหนีไปถึง
  • 67.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 67 เมืองอิของก็พบกับตังสิดชาวเมืองเหยียง ซึ่งทราบกิตติศัพทของซุนเซ็กวามีน้ําใจเปนธรรม โอบออมอารีแลรัก ราษฎร อยากจะไปทําการดวยกับซุนเซ็ก ครั้นทราบวาเงียมแปะฮอแตกหนีซุนเซ็กมาจึงพาพรรคพวกเขาลอม จับเงียมแปะฮอแลวตัดศีรษะมามอบแกซุนเซ็ก ซุนเซ็กเห็นตังสิด "หนาสี่เหลี่ยม ปากกวาง สูงหาศอกเศษ สมควรที่จะเปนทหาร" จึงมีความยินดีแลวรับตังสิด เขาเปนทหารในกองทัพสิ้นเงียมแปะฮอแลว บรรดาดินแดนเกือบทั้งหมดในแควนกังตั๋งก็สยบราบคาบอยู ภายใตอํานาจของซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กจึงเลิกทัพกลับไปเมืองกังตั๋งเตรียมการที่จะยกไปยึดหัวเมืองยอยๆ มี เมืองกังหนําเปนศูนยกลางเพื่อครองอํานาจเบ็ดเสร็จเหนือดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีเกียงทั้งสิ้น ขณะ เตรียมทหารอยูนั้น ทหารสื่อสารไดเขามารายงานวาบัดนี้มีโจรกลุมใหญยกกําลังเขาลอมเมืองอวนเซีย ยึด เมืองอวนเซียไดแลว จิวทายพาซุนกวนหลบหนีออกมา ในขณะที่พาซุนกวนหนีมานั้นจิวทายถูกกลุมโจรลอม ทํารายบาดเจ็บสาหัส ถูกแผลทวนสิบกวาแหง แมหนีรอดมาไดแตเห็นจะไมรอดชีวิต ซุนเซ็กไดฟงดังนั้นก็ ตกใจสั่งทหารใหรีบยกไปชวยซุนกวน ถึงกลางทาง พบซุนกวนและทหารกําลังหนีมาใชเปลหามจิวทายอยาง ทุลักทุเล ครั้นมาถึงเมืองกังตั๋งไดหมอโฮโตมารักษา อาการบาดเจ็บของจิวทายก็หายอยางรวดเร็ว ครั้นซุนกวนกลับมาเมืองกังตั๋ง ซุนเซ็กจึงยกทหารไปยึดเมืองอวนเซียกลับคืน จับโจรไดเปนอันมาก เหตุการณ สงบแลวซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพเคลื่อนตอไปยังเมืองกังหนํา บรรดาชาวเมืองและหัวเมืองยอยที่ขึ้นตอ เมืองกังหนําครั้นไดทราบวา ซุนเซ็กยกกองทัพมาก็ไมคิดตอสูและพากันเขาดวยซุนเซ็ก เปนอันวาบรรดาหัว เมืองทั้งปวงทางฝงใตของแมน้ําแยงซีไดตกอยูภายใตอํานาจการปกครองของซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กไดสถาปนาอํานาจการปกครองของตระกูล "ซุน" เหนือ ดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซี โดยมีกังตั๋งเปน ศูนยกลางการปกครอง สําเร็จตามปณิธานของซุนเกี๋ยนผูบิดาดวยประการฉะนี้ ครั้นซุนเซ็กจัดระเบียบการ ปกครองแควนกังตั๋งเสร็จสิ้นแลว จึงทําหนังสือกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อทรงทราบ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ความฉลาดของคนโง (ตอน 80) ซุนเซ็กเถลิงอํานาจขึ้นในแควนกังตั๋งแลว แตเปนอํานาจในระดับแควนโดยที่รัฐบาลกลางยังไมไดรับรอง แมวา จะยังไมมีพระบรมราชโองการของฮองเตโปรดเกลาแตงตั้งซุนเซ็กอยางเปนทางการ แตโดยพฤตินัยนั้นอํานาจ ปกครองแควนกังตั๋งอยูที่ซุนเซ็ก หาไดอยูที่รัฐบาลกลางไม ในขณะเดียวกันโจโฉครองอํานาจรัฐสวนกลาง มี อํานาจปกครองทั่วประเทศตามนิตินัย แตโดยพฤตินัยกลับไมมีอํานาจปกครองเหนือแควนกังตั๋ง สวนเลาปผู เปนเชื้อพระวงศฮั่นกลับตกต่ําลงลดฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนหัวเมืองเอก กลับมาเปนเจาเมืองเสียวพาย ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวาและบัดนี้ขึ้นตอเมืองชีจิ๋วที่มีลิโปเปนเจาเมือง และเปนเจาเมืองทางพฤตินัย เชนเดียวกัน เพราะลิโปก็มิไดรับการรับรองจากรัฐบาลกลาง ดังนั้น ถึงตอนนี้กลุมอํานาจที่ชัดเจนคือโจโฉ ซุน เซ็ก ลิโป และนี่คือผลโดยตรงจากการดําเนินนโยบายทางการเมือง การปกครองที่ผิดพลาดของโจโฉ ไม เพียงแตเทานี้อวนสุดเจาเมืองลําหยงก็กลายเปนกลุมอํานาจอีกกลุมหนึ่งเพราะหลังจากไดรับจํานําตราพระ ลัญจกรจากซุนเซ็กแลว อวนสุดก็กําเริบคิดตั้งตัวขึ้นเปนเจา ความคิดที่ถือเอาตราพระลัญจกรเปนหลักในการ ตั้งตัวขึ้นเปนเจานี้เปนการแสดงถึงความโงเขลาเบาปญญาของอวนสุดโดยแท เพราะอํานาจและความเปนเจา นั้นไมไดอยูที่ตราพระลัญจกร หากอยูที่การสรางสมอํานาจและบารมี มิฉะนั้นแลวคนเฝารักษาตราพระลัญจกร ทุกยุคทุกสมัยยอมเปนเจากันไปทุกคน ในขณะที่อวนสุดกอดยึดเอาตราพระลัญจกร ตั้งความฝนที่จะอาศัยตราพระลัญจกรสถาปนาตัวเองขึ้นเปนเจา นั้น อวนสุดก็ตองตื่นจากความฝนเนื่องจากขุนนางเมืองลําหยงฝายพิธีการทูตไดเขามารายงานวา บัดนี้ซุนเซ็ก ไดแตงตั้งผูแทนมาทวงเอาตราพระลัญจกร แลวจะคืนทหารและมาศึกที่ยืมไป อวนสุดไดทราบรายงานดังนั้นก็ บิดพลิ้วไมยอมคืนตราพระลัญจกร แจงกลับไปวาซุนเซ็กเปนฝายผิดสัญญาจํานําเพราะหลังจากยืมทหารและ มาศึกเพื่อไปชวยงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชายแลว ซุนเซ็กไมคืนทหารและมาศึกกลับเอาไปใชทําการ ใหญจนไดแควนกังตั๋ง ดังนั้น ตราพระลัญจกรจึงตกเปนสิทธิขาดแกอวนสุดแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ผูแทนของซุนเซ็กรับทราบทาทีของอวนสุดแลวจึงกลับไปเมือง กังตั๋งรายงานใหซุนเซ็กทราบ ฝายอวนสุด เกรงวาจะมีขอครหาวาบิดพลิ้วยึดเอาตราพระลัญจกรของซุนเซ็กไว และเกรงวาซุนเซ็กจะยกทหารมาโจมตี เมืองลําหยงจึงเรียกประชุมบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกอง ปรึกษาวาจะยกกองทัพไปกําจัดซุนเซ็ก เสียกอน เอียวไตเจียงเสนาธิการเมืองลําหยงจึงเสนอวาบัดนี้ซุนเซ็กไดครองอํานาจในแควนกังตั๋งแลว มี
  • 68.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 68 ดินแดนกวางใหญ ทหารที่มีฝมือเขมแข็งก็มีเปนจํานวนมาก ราษฎรพรักพรอม เสบียงอาหารก็อุดมสมบูรณ และยังมีแมน้ําแยงซีเปนปราการธรรมชาติ หากยกไปเห็นจะไมไดชัยชนะ ทั้งเมื่อยกไปแลวลิโปและเลาปคงจะ ฉวย โอกาสซ้ําเติม เราก็จะเสียการใหญไป อวนสุดจึงปรึกษาวาถาเปนเชนนั้นจะคิดการประการใด เอียวไตเจียงจึงวากรณีจําเปนตองยกไปตีเลาปซึ่ง ออนแอที่สุดกอน ถาเลาปแพแกกองทัพเราแลวก็จะเอาชนะซุนเซ็กในขั้นตอไป อวนสุดจึงวาถายกไปตีเมือง เสียวพาย ลิโปซึ่งเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็ยอมยกมาชวยเลาปเราก็จะถูกตีกระหนาบ แลววาขาพเจาเห็นดวยที่จะตี เลาปกอน แตตองหาทางไมใหลิโปชวยเหลือเลาป แลลิโปนั้นเปนคนโลภ ถาเราตั้งคาตอบแทนที่พอเพียง แลวลิโปก็จะทิ้งเลาปเสีย เราก็จะกําจัดเลาปไดสําเร็จ ที่ปรึกษาของอวนสุดไดทักทวงวา เมื่อครั้งที่ทานยกไป รบกับเลาปไดขอใหลิโปยกกองทัพไปชวยและสัญญาวาจะมอบมาศึกหารอย ขาวหาหมื่นถัง ทองเงินหมื่น ตําลึง แพรพันพับนั้น ยังมิไดมอบ ขาวของดังกลาวแกลิโป ดังนั้นลิโปยอมขัดเคืองในเรื่องนี้คงจะไมยอมทํา ตามที่เราตองการ อวนสุดจึงวาครั้งนั้นลิโปมิไดเขารบพุงดวยเลาป เปนแตเลาปยกทัพหนีไปเอง แตเพื่อจูงใจลิ โปดังนั้นครั้งนี้เราจะตั้งคาตอบแทนเปนเสบียงใหมาก ลิโปมีเสบียงอยูนอยคงจะทําตามความประสงค บรรดาที่ ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นชอบพรอมกันกับแผนการของอวนสุด ดังนั้นอวนสุดจึงใหหันอิ้นเปนทูตไป เจรจาความกับ ลิโป โดยนําขาวยี่สิบหมื่นถังไปมอบเปนกํานัลแกลิโป ขอสัญญาวาอยาใหลิโปชวยเหลือเลาป ครั้นลิโปไดทราบความที่หันอิ้นมาเจรจา และเห็นของตอบแทนเปนเสบียงจํานวนมากก็ดีใจ ตกปากรับคําวา ถึงแมอวนสุดจะรบกับเลาปประการใด ลิโปก็จะไมเขาเกี่ยวของ หันอิ้นจึงกลับไปรายงานใหอวนสุดทราบอวน สุดเห็นการณเปนไปตามแผนการแลวจึงตั้งใหกิเหลงเปนแมทัพ ใหลุยปกและตันหลันเปนรองแมทัพคุมทหาร หาหมื่นยกไปตีเมืองเสียวพาย ฝายเลาปไดขาวศึกจึงปรึกษากับบิตก ซุนเขียน กวนอู และเตียวหุยวาเมือง เสียวพายเปนเมืองเล็ก เห็นจะรับมือขาศึกไมได ซุนเขียนจึงเสนอวาขอใหทานมีหนังสือไปขอความชวยเหลือ จากลิโปใหรีบยกกองทัพมาชวย แลวตีกระหนาบกองทัพกิเหลงทั้งสองดานก็จะเอาชนะไดโดยงาย เตียวหุย จึงวาลิโปเปนคนเนรคุณ เห็นเราลําบากคงจะไมมาชวย เลาปแยงวาแมความคิดของเตียวหุยในครั้งนี้จะชอบ ดวยเหตุผล แตจําเปนตองลองใจลิโปตามคําซุนเขียนกอน และลิโปนั้นมีตันกงเปนที่ปรึกษามีสติปญญามาก คงจะตองคิดอานระวังตัววาถาอวนสุดไดเมืองเสียวพายแลวก็อาจโจมตีเมือง ชีจิ๋วตอไป ถาเปนไปตามที่ คาดหมายนี้ลิโปยอมตองเขาชวยเหลือเรา ทุกคนเห็นพองกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงใหทหาร ถือหนังสือไปถึงลิโปแจงขาวศึกใหทราบ และ ขอใหลิโปยกกองทัพมาชวย ลิโปไดตกปากรับคําอวนสุดไปแลววาจะไมยุงเกี่ยวในการศึกระหวางอวนสุดกับ เลาป แตครั้นไดรับหนังสือของเลาปก็เกิดลังเลในความคิดวาจะเฉย หรือจะชวยดี ดังนั้นจึงเรียกตันกงมา ปรึกษา แจงความใหตันกงทราบทุกประการแลวออกความคิดเสียเองวา "เราคิดวาเลาปอยูในเมืองเสียวพาย เห็นจะไมทําอันตรายแกเรา ถาเราฟงคําอวนสุด อวนสุดรบไดเมืองเสียวพายแลว เราจะวางศีรษะลงถึงหมอน เปนปรกตินั้นหามิได เห็นอวนสุดจะกําเริบยกลวงมาตีเอา เมืองชีจิ๋วเปนมั่นคง เราจําจะยกไปชวยเลาปปองกัน เมืองเสียวพาย ไวจึงจะควร" ลิโปนั้นแมเปนคนไรสติปญญา แตวันนี้มีอายุมากขึ้น ประสบการณมากขึ้น และมี ความหวงแหนเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นแมจะรับสินบนของอวนสุด ตกปากรับคําวาจะไมเกี่ยวของในเรื่องนี้ แตพอเอา เขาจริง ก็คิดออกวาการครั้งนี้สุดทายเมืองชีจิ๋วจะตกอยูในอันตราย ดังนั้นจึงคิดบิดพลิ้วอวนสุดโดยไมคํานึงถึง การผิดสัญญาเพราะถือเสียวาอวนสุดก็เคยบิดพลิ้วสัญญาตัวมาแตกอน ตันกงไดฟงความคิดลิโปแลวเห็นชอบดวย แตก็แปลกใจที่ลิโปวันนี้เฉลียวฉลาดทันเกมของอวนสุด ดังนั้นลิโป จึงใหเตรียมกองทัพยกไปเมืองเสียวพาย ฝายกิเหลงเคลื่อนทัพมาถึงเมืองเสียวพาย ก็ใหทหารตั้งคายลง ประชิดกําแพงเมือง เตรียมการเขาตีหักเอาเมืองตอไป เลาปในขณะนี้มีทหารอยูเพียงหาพัน นอยกวาทหาร ของกิเหลงถึงสิบเทา จึงจําใจตองตั้งรับอยูในเมืองและเตรียมแผนการรบดวยวิธีการรบ โดยอาศัยฝมือทหาร เอกเพื่อลดทอนความเสียเปรียบ สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) และฉบับสมบูรณกลาว ความตอนนี้ตรงกันวา เลาปยกทหารออกไปตั้ง คายรับศึกที่นอกเมือง แตพิเคราะหดูแลวไมเห็นสม เพราะเลาปมีทหารนอยกวามาก หากยกทหารหาพัน ออกไปรับศึกที่นอกเมืองแลว ภายในเมืองก็จะมีทหารนอยกวานอย เลาปและคณะที่ปรึกษายอมคิดออกวาถากิ เหลงแบงกําลังออกเปนสองกอง กองหนึ่งเขาปลนคาย อีกกองหนึ่งเขาตีเมือง ใชกําลังทหารที่เหนือกวาทั้งใน การโจมตีเมืองและในการโจมตีคายแลว เลาปก็จะเสียทั้งเมืองเสียทั้งคาย ดังนั้น การรบดวยคนนอยกับคนมากดังนี้ วิธีลดความไดเปรียบของขาศึกจึงตองอาศัยกําแพงเมือง คายคูประตู หอรบเปนที่มั่น แลวอาศัยการรบดวยฝมือทหารเอก ซึ่งฝายเลาปไดเปรียบฝายกิเหลง เปนหลัก และสามกก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฉบับวิจารณบางฉบับก็ตั้งความสังเกตดังนี้
  • 69.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 69 วันรุงขึ้นยังไมทันที่กิเหลงจะรบกับเลาปก็เห็นกองทัพของลิโปยกมาตั้งคายอยูทางดานหลัง ระยะหางกันเพียง ชั่วสามระยะเกาทัณฑยิงเทานั้น ก็รูวาลิโปยกมาชวยเลาป จึงใหทหารไปหาลิโปที่คายแลวถามวา ลิโปตกปาก รับคําวาจะไมเกี่ยวของ ทั้งรับเอาคาตอบแทนไปแลว เหตุใดจึงยกมาชวยเลาปอีกจะไมเปนการบิดพลิ้วสัญญา ดอกหรือ ลิโปก็ยังเปนลิโปที่สามารถหาเหตุผลพิสดารที่คนไมคาดคิดไดอยูเสมอ ครั้นถูกตอวาดังนั้นจึงตอบ วาเรายกมาทั้งนี้ไมไดยกมาชวยเลาป แตเรายกมาปองกันเมืองเสียวพาย ซึ่งขึ้นกับเมืองชีจิ๋ว หากทานไมลวง เขามาในเขตแดนเมืองเสียวพายแลว เราก็จะไมเกี่ยวของดวย และวาทานมากลาววาเรารับของตอบแทนแลว บิดพลิ้วสัญญานั้นไมชอบ อวนสุดสงขาวแกเราจะคิดเรื่องคาตอบแทนไมใหเรายกมาชวย เลาปเปนความคิด ของอวนสุด แตเรารับของตอบแทนเพราะคิดวาเปนคาตอบแทนที่อวนสุดเคยขอใหเรายกไปรบเลาป ตางคน ตางคิด กันเชนนี้จะวาเราบิดพลิ้วไดอยางไร เพราะตัวเราเองยังไมเคยตําหนิตัวเองวาบิดพลิ้วเลยแมแตนอย แลววาตัวเรานั้นเปนผูใหญ ไมตองการเห็นผูนอยทะเลาะวิวาท กัน จะหาทางใหปรองดองกันสืบไป เจาจง กลับไปแจงกิเหลงใหมาหาเราที่คายนี้ ในเพลาเชาวันพรุงนี้ ลิโปบิดพลิ้วสัญญาที่ใหไวกับอวนสุดดวยเหตุผลแบบลิโป ซึ่งทหารที่กิเหลงใชมานั้นไดฟงแลวก็งุนงงสงสัย เปนอันมากวานี่เปนเหตุผลของคนหรือไม มิหนําซ้ํายังวางตัวเปนผูใหญแบบลิโปเสียอีก แตทหารของกิเหลง เปนผูนอยทั้งเกรงกลัวลิโปไดฟงลิโปแลวก็รีบลากลับไปแจงใหกิเหลงทราบ หลังจากทหารของกิเหลงกลับไป แลว ลิโปก็ใหทหารไปเชิญเลาปมาพบที่คายตามเวลาที่นัดไวกับกิเหลงนั้น เลาปครั้นไดทราบคําเชิญจึง ปรึกษากับกวนอู เตียวหุย กวนอู เตียวหุย ทักทวงไมใหเลาปไปที่คายของลิโปเกลือกวาจะเปนอันตราย แต เลาปเอาใจซื่อเขาสูกับคนใจคดแบบลิโป แยงวาลิโปคงคิดถึงคุณที่ชวยเหลือในยามยาก คงจะไมคิดทํา อันตรายตอเรา นับเปนความคิดที่กลาหาญและเสี่ยงภัยมิใชนอย แตก็เปนไปไดวาเลาปอานใจคนแบบลิโป กระจางวา ลิโปยังคงตองการเลาปไวรักษาดุลอํานาจระหวางเมือง คงจะไมคิดทําอันตราย กวนอู เตียวหุย เห็น เลาปไมฟงคําทัดทานจึงวาเมื่อพี่ใหญตัดสินใจไปดั่งนี้ก็จะขอตามไปดวย เผื่อวามีเหตุการณนอกเหนือความ คาดคิดเกิดขึ้นจะไดชวยกันคิดอานแกไข เลาปก็ตกลง รุงขึ้นเลาปจึงพากวนอู เตียวหุย ไปยังคายของลิโปกอนเวลา นัดหมาย เผื่อวาลิโปจะไมซื่อก็อาจเห็นพิรุธและ หาทางแกไขไปตามสถานการณไดทันทวงที ครั้นลิโปทราบวาเลาปมาก็ออกมาตอนรับ จูงมือเลาปเขาไปใน โรงบัญชาการทหาร แลวบอกวาขาพเจายกมาทั้งนี้จะชวยทานมิใหถูกอวนสุดทําอันตรายได กวนอู เตียวหุย ก็ เดินตามเขาไปในโรงบัญชาการทหารนั้นแลวยืนอยูขางหลังเลาป พอถึงโรงบัญชาการ ทหารรักษาการณก็เขา มารายงานลิโปวาบัดนี้กิเหลงกําลังมาที่คาย เลาปไดยินดังนั้นก็ตกใจเกรงวาลิโปจะคิดทําอันตราย ยังมิทันที่ จะกลาวความประการใด ลิโปก็ลุกออกไปที่หนาคายขณะนั้นกิเหลงเดินเขามาถึงหนาคาย ลิโปก็เขาไปตอนรับ แลว บอกวาบัดนี้เลาปมารออยูแลว กิเหลงไดฟงดังนั้นก็ตกใจคิดวาลิโปจะคิดทําอันตราย คนแบบลิโปใครๆ ก็ เห็นวาเปนตัวอันตรายทั้งนั้น แมกระทั่งเลาปซึ่งกอนมาก็คิดวาลิโปคงคิดถึงบุญคุณและจะไมทําอันตราย หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายใชคนผูกคน (ตอน 81) ลิโปนัดทั้งเลาปและกิเหลง ซึ่งเปนคูศึกมาที่คายของตนโดยไมแจงใหแตละฝายทราบวานัดมาทําไม ดังนั้นทั้ง เลาปและกิเหลงจึงไมทราบวาคูศึกของตนจะมาที่คายของลิโป เหตุนี้เมื่อตางฝายไดทราบวามีคูศึกมา ณ คาย ของลิโป จึงเขาใจวาลิโปสมคบกับอีกฝายหนึ่งลวงตนมาทําราย เลาปตกใจก็จริงอยู แตมิไดเสียอาการยังคง นั่งสงบในโรงบัญชาการนั้น โดยมีกวนอู เตียวหุย นองรวมสาบานถืออาวุธยืนคุมเชิงอยูขางหลัง แตกิเหลงนั้น เมื่อตกใจแลวเสียกิริยาไป จะหันหลังกลับออกไปจากคาย ลิโปเห็นดังนั้นจึงเรงกาวเทาเขาถึงตัวจับเอามือกิเห ลงไวแลววาทานอยาเพิ่งตกใจ กิเหลงจึงวา ทานจะลวงขาพเจามาทํารายหรือวาจะทํารายไอเลาปหูยาว ลิโป จึงตอบแบบลิโปที่ทําใหงุนงงสงสัยตอไปโดยไมยอมพูดเขาประเด็นที่ถูกถามวา ขาพเจาไมไดคิดฆาทาน และ ไมไดคิดฆาเลาป แตเลาปกับขาพเจานั้นดุจดั่งพี่นอง ทานยกมารุกรานเมืองเสียวพายเพื่อจะทํารายเลาป ขาพเจาจึงตองยกมาปองกันเมืองเสียวพาย จึงคลายประหนึ่งวาขาพเจามาชวยเลาป ดังนั้นทานจะเขาใจ วา ขาพเจาชวยเลาปก็ได กิเหลงยิ่งฟงลิโปก็ยิ่งงง จึงพยายามลากเขาประเด็นวาเมื่อเปนเชนนั้นทานจึงตองฆา ขาพเจาเพื่อทําใหเมืองเสียวพายและเลาปปลอดภัยกระนั้นหรือ ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญ มีหนาที่ตองทํา ใหผูนอยเลิกวิวาทกัน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 70.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 70 ลิโปอางตนเปนผูใหญแลเห็นคนอื่นเปนเด็ก แลวรีบจูงกิเหลง เขาไปในโรงบัญชาการทหาร เชิญใหนั่งอยูที่ โตะเดียวกับเลาป สวนลิโปเขาไปนั่งระหวางกลาง และสั่งใหทหารนําสุรามาใหเลาปและกิเหลง ครั้นทหารนํา สุรามาแลว ลิโปจึงชวนเลาปและกิเหลงดื่ม ทั้งสองคนเกรงใจลิโปก็ดื่มสุรานั้น แลวลิโปจึงวาขาพเจาขอให ทานทั้งสองเห็นแกหนาขาพเจา เลิกพยาบาทวิวาทกัน ยุติศึกระหวางกันเสีย เลาปเปนฝายถูกรุกราน ยินคําลิ โปแลวนิ่งอยูเพราะมิไดเปนฝายกอเหตุ แตกิเหลงเปนฝายที่จะตองถอนทัพกลับไปจึงวาอวนสุดนายขาพเจา ใชใหขาพเจายกกองทัพมาจับตัวเลาป หากขาพเจากลับไปมือเปลายอมเปนการขัดคําสั่งและมีโทษถึง ประหาร เตียวหุยเห็นวาการที่กิเหลงมีทีทาไมฟงคําลิโปก็โกรธหาวา กิเหลงดูหมิ่น ชักกระบี่ออกจากฝกแลวดาวากิเห ลง กวนอูเห็นเตียวหุยวูวามจึงหามเตียวหุยไว และวาใหคอยดูทีทาของลิโปกอน ลิโปเห็นเตียวหุยคูเคืองเกา โวยวายขึ้นมาทามกลางการเจรจาความเมืองก็ไมพอใจ ออกปากตําหนิวาเราเปนผูใหญไดเชิญทั้งสองฝายมา หวังใหปรองดองกัน ทั้งเลาปแลกิเหลงลวนเห็นแกหนาเรา ตั้งใจฟงเรากลาว ตัวทานเปนแตผูติดตามเลาป ไฉนจึงมาทําหยาบชา ณ คายเราดั่งนี้ เปนการดูหมิ่นไมไวหนาเรา วาแลวลิโปก็ทําเปนโกรธ ลุกขึ้นไปควาเอา ทวนประจํากายมาถือมั่นไว ทั้งสองฝายตางตกใจ เพราะไมมีใครรูวาลิโปจะเอาอยางไร แตเลาปเกรงวาลิโปจะทํารายเตียวหุย เหลียวมอง ไปขางหลังเห็นทั้งกวนอูและเตียวหุยตางกุมอาวุธประจํากายมั่นคงอยูก็วางใจ ในทันใดนั้น ลิโปไดรองเรียก ทหารเขามาสั่งใหเอาทวนไปปกไวหนาโรงบัญชาการทหาร ระยะหางสามรอยกาว แตตัวลิโปทํายืนขรึมอยู ณ ที่เดิม ครั้นทหารนําทวนไปปกไวตามคําสั่งแลว ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญทําการใดตองถือความประสงค ของฟาเปนเกณฑ ดังนั้นขาพเจา จะทําการเสี่ยงทายตอเทพยดา โดยจะยิงเกาทัณฑไปที่ทวนซึ่งปกไวนั้น ถา ขาพเจายิงพลาด แสดงวาเทพยดามีประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้ทานจงรบกันตามใจสะดวก ขาพเจา จะไมเกี่ยวของดวย แตถาขาพเจายิงไปถูกทวนนั้นก็แสดงวาเทพยดาไมประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้ หากผูใดไมเชื่อฟง ขาพเจาก็จําตองถืออาญาสิทธิ์ แหงสวรรคเขาทําสงครามดวยผูนั้น กิเหลงเห็นระยะสาม รอยกาวไกลเกินที่ผูใดจะยิงเกาทัณฑไปถูกที่หมายได หวังใจวาเมื่อลิโปยิงพลาดเปาแลวจะไดทําการกับเลาป ไดถนัดมือก็ดีใจ จึงวาเมื่อลิโปทานตกลงใจดั่งนี้แลว ขาพเจามีแตตองคลอยตามคําทาน สวนเลาปนั้นมิไดวา กลาวประการใด อาการอันดุษณีเปนอันถือวาเลาปยินยอมตกลงดวย ดังนั้นลิโปจึงสั่งทหารใหเอาสุรามารินอีก สามจอก แลวเชิญเลาปและกิเหลงดื่มสุราถือวาทุกฝายตกลงกันตามนี้ ลิโปดื่มสุราหมดจอกแลวสั่งทหารใหเอาเกาทัณฑสําหรับตัวมา ใหขึ้นเกาทัณฑพาดสายแลวนาวจนคัน เกาทัณฑโกงดังพระจันทรกลางปกษขางขึ้น เสียงวืดหวือดังขึ้น ลูกเกาทัณฑพุงออกจากแหลง ถูกคันทวนดัง เกรง ทหารทั้งคายลิโปตางโหรองดังสนั่นสรรเสริญฝมือเกาทัณฑของลิโปวาเปนเลิศในใตหลา เสมอดวยวีร ชนในอดีตที่นาวเกาทัณฑยิงพระอาทิตย จนความมืดมิดปกคลุมโลกอันลือลั่น เลาป กวนอู และเตียวหุย ตาง ปรบมือแสดงความยินดี ชื่นชม ในฝมือเกาทัณฑของลิโปสถานหนึ่ง และดีใจที่การสมประโยชนอีกสถานหนึ่ง คงมีแตกิเหลงเทานั้นที่สีหนาสลดลง เพราะการณเปนไป ผิดจากที่คาดหมาย ลิโปหัวเราะดังลั่นแลววา ฝมือ เกาทัณฑของขาพเจาแทจริงต่ําตอย แตนี่เปนเพราะฟาบันดาล วาแลวเขาไปจับมือเลาปและ กิเหลงมากุมไว และวาเทพยดาแสดงความประสงคใหเห็นประจักษ พวกทานจึงมีแตตองเลิกรบกันแลวสั่งทหารใหจัดโตะมา เลี้ยงทั้งสองฝาย ลิโปคําหนึ่งก็อางฟา สองคําก็อางสวรรค สามคําก็อางเทพยดา เห็นไดชัดวานับแตมาเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวลิ โปไมเพียงแตจะลืมตัว หลงตัววาเปนผูใหญเทานั้น หากยังทําตัวประหนึ่งเปนคนทรงเจา เขาผีอีกดวย ฝายกิ เหลงนั้นกินโตะไมเปนสุข เพราะมัวครุนคิดวาตัวกําลังขัดคําสั่งอวนสุด เกรงตองโทษถึงตาย คิดแกปญหาของ ตัวเองไมตก จึงออกปากวาตัวขาพเจาประจักษในการเสี่ยงทายก็จริงอยู แตหากขาพเจากลับไปมือเปลา อวน สุดยอมไมเชื่อถือ คงจะเอาโทษขาพเจา ถึงตายลิโปไดฟงดังนั้นจึงวาทานจงวางใจ ขาพเจาจะมีหนังสือให ทาน ถือไปถึงอวนสุดบอกความทั้งนี้ใหแจง กิเหลงก็คลายใจลง ลิโปจึงเรียกทหารเอาเครื่องเขียนมาทํา หนังสือถึงอวนสุดแลวมอบแกกิเหลง กิเหลงรับหนังสือแลวก็ลาลิโปกลับไปคาย สั่งใหเลิกทัพยกกลับไปเมือง ลําหยง เลาปเห็นกิเหลงไปแลว จึงกลาวขอบคุณลิโปที่ชวยเหลือแลวถือโอกาสลาลิโปกลับเขาเมือง ฝายลิโป ครั้นเสร็จการแลวจึงสั่งทหาร ใหถอนคายยกกลับไปเมืองชีจิ๋ว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นกิเหลงกลับมาถึงเมืองลําหยง จึงเขาไปรายงานใหอวนสุด ทราบเหตุการณแลวมอบหนังสือของลิโป อวน สุดไดอานหนังสือทราบความแลวโกรธลิโปเปนอันมาก ออกปากดาลิโปวาเปนคนตระบัดสัตย และวาลิโป กระทําดังนี้เปนการไมเกรงใจเรา เราจะยกกองทัพไปตีเมืองเสียวพาย แลวจับตัวเลาปเอง เสร็จแลวจะยกไปตี เอาเมืองชีจิ๋วตอไป กิเหลงจึงหามอวนสุดวาลิโปไดครองเมืองชีจิ๋ว ผูคนแลเสบียง ก็พรอมสรรพ ทหารมีฝมือก็ มีอยูเปนอันมาก ตัวลิโปเองก็มีฝมือกลาแข็ง ทั้งเลาปมี กวนอู เตียวหุย ฝมือฉกาจนัก ลิโปกับเลาปมีไมตรี
  • 71.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 71 แนนแฟนอยู หากทานยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกมาชวยเลาปรุมตีกระหนาบเราทั้งสองดาน เราก็จะ เสียทีแกขาศึก ครั้งกอนทานใชเสบียงไปผูกมัดลิโปมิใหชวยเหลือเลาป แตผูกลิโปไวไมได เพราะลิโปรักเมือง ชีจิ๋วมากกวาเสบียงที่ทานมอบให ดังนั้น ถาจะผูกลิโปไวไมใหชวยเหลือเลาปก็ตองหาวิธีผูกวิธีใหม อวนสุด ถามวาจะผูกลิโปไวไดดวยวิธีใด กิเหลงจึงวาในเมื่อสิ่ง ของผูกลิโปไวไมได ก็ตองอาศัยคนเปนเครื่องผูกมัดลิ โปไว ขาพเจา ขอเสนอกลใหทานผูกดองกับลิโปเพราะลิโปนั้นเปนคนกลัวเมีย รักเมียและลูกสาวคนเดียว ยิ่งกวาสิ่งใด ขอใหทานแตงเถาแกไปสูขอลูกสาวลิโปที่เกิดจากนางเหงียมซีมาเปนภรรยาบุตรของทาน เมื่อ ทานผูกดองกับลิโปดั่งนี้แลว ก็จะทําการกับเลาปไดถนัด ลิโปจะถูกความเปนดองกับทานผูกไวเขาชวยเลาป ไมได การกําจัดเลาป ก็จะสําเร็จโดยงาย อวนสุดเห็นดวยกับแผนการของกิเหลงจึงเรียกหันอิ้นขุนนางเมืองลําหยงฝายการทูตเขามา สั่งใหทําหนาที่เปน เถาแกไปเมืองชีจิ๋วสูขอลูกสาวของลิโปตามแผนการของกิเหลงนั้น หันอิ้นรับคําสั่งแลวออกมาจัดแจงของ กํานัลเปนจํานวนมาก จัดขบวนออกจากเมืองลําหยงไปเมืองชีจิ๋วและขอเขาพบลิโป แลวมอบของกํานัลทั้งนั้น แกลิโป แลววาอวนสุดนายขาพเจาเปนเชื้อสายขุนนางมาถึงสี่ชั่วอายุคน ไดครองเมืองลําหยงซึ่งเปนหัวเมือง ใหญ บัดนี้ไดตราพระลัญจกรสําหรับพระมหากษัตริยไวแลว คงจะตั้งตัวเปนใหญในแผนดิน แตวิตกดวยบุตรยัง ไมมีเหยาเรือน ไดทอดตาทั้งแผนดินแลวไมเห็นสตรีใดสมควรคูแกบุตร และวาอวนสุดนายของขาพเจาเห็นวา บุตรสาวของทานมีความพรอมดวยวุฒิและสกุลควรคูเสมอกัน ทั้งมีความเลื่อมใสในตัวทานจึงหวังผูกไมตรีเปน ทองแผนเดียวกัน จึงสั่งใหขาพเจาเปนเถาแกมาสูขอบุตรสาวทานใหแกบุตร ดั่งนี้อวนสุดแลทานก็จะมีไมตรี กันสืบไป ลิโปไดฟงดังนั้นก็มีใจยินดี แตตัดสินใจเองไมไดจึงวา การครั้งนี้เปนเรื่องภายในครอบครัว ขาพเจาขอเวลา ปรึกษาหารือกับภรรยาเสียค่ําหนึ่งกอน ในวันพรุงนี้ขาพเจาจะแจงความตกลงใจใหทานทราบ วาแลวสั่งทหาร ใหเชิญหันอิ้นไปพักที่เรือนรับรองแขกเมือง ค่ําลงลิโปจึงเลาความที่หันอิ้นมาสูขอบุตรีใหนางเหงียมซีผูภรรยา ทราบ แลวถามวาเจามีความคิดเห็นเปนประการใด นางเหงียมซี จึงวาบานเมือง ขณะนี้เปนจลาจล ขุนศึกทุก หัวเมืองตางแยงชิงอํานาจ เมื่ออวนสุดไดตราพระลัญจกรไวคงจะไดเปนเจาในวันหนา บุตรีเราก็จะไดเปนพระ มเหสี ดังนั้นไมวาทางใกลหรือทางไกล ลูกเราก็มีแต จะเปนใหญในทุกทาง ทานพี่จงรับปากหันอิ้นเถิด วิธีมองคนเพื่อเลือกคูครองโดยทั่วไปยอมเปนดังนี้คือมุงเอาแค ฐานะของทรัพยสินและฐานะตําแหนง ซึ่งเปน ความคิดเห็นแกตัวของ ผูเปนพอแมไมไดแลเห็นความสุขและจิตใจของผูเปนบุตร มองขาม ความชั่วดีและ คุณธรรมที่จะทําใหชีวิตคูเปนสุข ดังนั้นความคิดชนิดนี้จึงเปนความคิดที่ลงโทษบุตรเสียเปนสวนใหญ คงมีแต สวนนอยเทานั้นที่ใชความคิดในการเลือกคูครองโดยถือเอาความรัก คุณธรรม และความดีงามเปนหลักในการ เลือกคูครองใหแกบุตร ดังนั้น บุตรคนใดที่พอแมใชความคิดชนิดนี้ยอมถือวาเปนบุญกุศลที่ไมตองตกอยูใน นรกในวันขางหนา ลิโปคนกลัวเมียไดรับความเห็นชอบจากเมียที่เคารพแลว รุงขึ้นจึงเชิญหันอิ้นมาพบแลวตอบตกลงที่จะยกลูก สาวใหเปนสะใภของอวนสุด หันอิ้นเห็นการสมความประสงคจึงขอลากลับไปรายงานใหอวนสุดทราบ ครั้นอวน สุดเห็นการสมความคิดจึงจัดแจงของหมั้นเปนจํานวนมาก สั่งใหหันอิ้นจัดขบวนเถาแกนําของหมั้นยกไปเมืองชี จิ๋ว เพื่อสูขอบุตรีของลิโปตามอยางธรรมเนียม หันอิ้นรับคําสั่งแลวจัดขบวนขันหมากยกไปเมืองชีจิ๋ว เพื่อตัวลูก สาวลิโปมาเมืองลําหยง ถึงเมืองชีจิ๋วแลวขอพบลิโป และมอบของหมั้นทั้งนั้นแลววา อวนสุดนายขาพเจา มี ความยินดีที่ทานรับไมตรี ดังนั้น จึงสั้งใหขาพเจานําขบวนเถาแกและของหมั้นมาสูขอบุตรีของทานและรับตัว เจาสาวไปเมืองลําหยง ลิโปรับของหมั้นไวแลวใหแตงโตะเลี้ยงหันอิ้นและขบวนเถาแก เสร็จแลวเชิญหันอิ้นไป พักที่เรือนรับรองแขกเมือง เพื่อหารือถึงพิธีการ สงตัวเจาสาวตอไป ค่ําวันนั้นตันกงไดไปเยือนหันอิ้น ณ เรือนรับรองแขกเมือง พบหันอิ้นแลวคารวะตามธรรมเนียม ตันกงสั่งให บรรดาทหารที่อารักขาเรือนรับรองนั้นถอยลงไปขางลาง แลวกลาวขึ้นวา แผนการครั้งนี้ยอดเยี่ยมลึกซึ้งยิ่งนักๆ หันอิ้นไดฟงคําตันกงก็แปลกใจ ถามขึ้นวาทานหมายความถึงเรื่องราวใดกัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนทําลายกลผูกดอง (ตอน 82) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ตันกงเห็นหันอิ้นมีอาการสะดุงใจจึงกลาววา บัดนี้เลาปมาอาศัยลิโปอยูที่เมืองเสียวพาย ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว เทากับวาเลาปเปนลูกไกอยูในกํามือของลิโป ครั้งนี้เมื่ออวนสุดกับลิโปเปนทองแผนเดียวกันแลว หากอวนสุด ปรารถนาศีรษะของเลาปก็คงไดสมปรารถนา เหตุนี้ขาพเจาจึงวาเปนแผนการที่ยอดเยี่ยมลึกซึ้ง
  • 72.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 72 หันอิ้นยินคําตันกงก็รูวาที่ปรึกษาของลิโปผูนี้มีสติปญญาหลักแหลม อานแผนการของอวนสุดทะลุปรุโปรงก็ ตกใจ แตแสรงกลาววาทานอยาเพิ่งคาดการณไปกอน การของนายเราทั้งสองก็จะเสียไป อวนสุดนายของ ขาพเจามีน้ําใจสุจริต คิดผูกไมตรีกับนายของทาน ยอมเปนประโยชนรวมกันของนายเราทั้งสอง ใชวาจะ ปรารถนา ศีรษะเลาปดังคําทานแตประการใด ตันกงครั้นไดสําแดงสติปญญาใหปรากฏแลวเห็นอาการหันอิ้นที่ ตอบความดังนั้นจึงยกมือขึ้นเปนเชิงปรามในทํานองวา ไมจําเปนที่จะตองพูดถึงเรื่องนี้เพราะอุบายเทานี้ปดบัง เราไมไดดอก แลวตัดบทวาขาพเจาเห็นจริงตามคําทานวาการครั้งนี้เปนประโยชนรวมกันของทั้งสองฝาย แต การที่ทานคิดการไวนั้นหากลาชาไปก็อาจแปรผันเปนอื่นได เหตุนี้ขาพเจาจึงรีบมาเตือนสติใหทานรีบทําการ หันอิ้นยินคําตันกงแลวก็เขาใจวาตันกงอานแผนการออกก็จริง แตมีจุดยืนสนับสนุนแผนการนี้จึงคลายใจ หันอิ้ นจึงลุกขึ้นคารวะตันกงแลววา ทานมีสติปญญาหลักแหลมยิ่งนัก ขอใหทานเห็นแกไมตรีทั้งสองฝายรับเปนธุระ ชวยใหการครั้งนี้สําเร็จเถิด อวนสุดนายขาพเจาจะไมมีวันลืมพระคุณของทานในครั้งนี้เลย ตันกงจึงวา ขาพเจาจะรับเปนธุระใหลิโปและอวนสุดเปนทองแผนเดียวกันจงได ทานอยาไดวิตก วาแลวก็ลา หันอิ้นไปที่จวนลิโป ตันกงวันนี้เปลี่ยนแปลงจากผูมีอุดมการณแตครั้งที่ทิ้งตําแหนงเจาเมืองจงพวนหนี ติดตามโจโฉเปนคนละคน กลายเปนนักการเมืองเต็มตัวแลว แตเปนนักการเมืองที่มีจุดยืนอยูกับผลประโยชน ของตัวเองเปนใหญ ก็แลเมื่อตันกงอานแผนการของอวนสุดกระจางแลว ก็ยอมอานแผนการออกวาเมื่ออวนสุด กําจัดเลาป ยึดเอาเมืองเสียวพายแลวยอมกระทบตอเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นปมสําคัญจึงอยูที่เมื่อตันกงอานแผนการ แทงตลอดดั่งนี้แลว เหตุไฉนจึงยังคงสนับสนุนแผนการนี้ตอไปอีก ไมคิดหวงใยหรือคิดปองกันเมืองชีจิ๋ว กระนั้นหรือ ปมนี้มีความเปนไปไดสามประการ คือตันกงกําลังขายตัวใหกับอวนสุดคิดอานหวังจะทิ้งลิโปไปเขาดวยอวนสุด หรือยังคงภักดีตอลิโปอยู แตมั่นใจในสติปญญาตัววาเมื่อลิโปกับอวนสุดเปนดองกันแลวก็จะสามารถคิดการให ลิโปมีอํานาจเหนืออวนสุด อาศัยความเปนดองครองความเปนใหญทั้งเมืองชีจิ๋วและเมืองลําหยง หรือมิฉะนั้น ตันกงอาจคาดการณถึงอํานาจของโจโฉที่เรืองอํานาจขึ้นในเมืองหลวง เห็นวาลําพังลิโปไมสามารถรับมือโจ โฉได จึงสนับสนุนใหลิโปกับอวนสุดผนึกกําลังกันเพื่อรับมือกับโจโฉโดยยอมเสียเลาปเปนคาตอบแทน ความเปนไปไดทั้งสามประการนี้ไมวาจะเปนไปในทางไหน ประโยชนยอมตกอยูแกตันกงทั้งสิ้น ดังนั้นหากจะ เปรียบกิเหลงผูวางแผนการนี้เปน พอครัวปรุงอาหารรสเลิศขึ้นแลว ผูเสพอาหารนั้นกลับเปนตันกงหาใชลิโป หรืออวนสุดไม ตันกงเขาไปพบลิโปถึงในจวนแลวแสรงถามวา วันนี้มีขบวนขันหมากยกมา ขาพเจาจึงไดทราบ ขาววาเปนขบวนเถาแกยกมาขอลูกสาวทานใหเปนสะใภของอวนสุด ความที่ขาพเจาทราบมาดั่งนี้เปน ความ จริงหรือ ลิโปจึงวาเปนความจริงดังที่ทานไดทราบมา ตันกงไดลุกขึ้นคํานับลิโป แลววาขาพเจาขอแสดงความ ยินดีดวยทาน ในวันขางหนาบุตรีทานคงจะไดเปนพระมเหสี แลวถามวาทานจะกําหนดวันฤกษดีสงตัวเจาสาว ใหแกบุตรชายอวนสุดเมื่อใด ลิโปจึงวาเรื่องนี้เปนการใหญของครอบครัวขาพเจา ตัวขาพเจามีบุตรสาวแตผู เดียว ดังนั้นจึงจําตองปรึกษาเกี่ยวกับวันเวลาใหรอบคอบกอน ตันกงจึงวาอันธรรมเนียมแตโบราณ การสงตัวเจาสาวไปบานเจาบาวนั้น หากเปนกรณีของพระมหากษัตริยก็จะ ทอดเวลาไปหนึ่งป ถาเปนขุนนางผูใหญก็ลดลงมาเปนหกเดือน ถาเปนขุนนางผูนอยก็ลดลงมาเหลือสามเดือน และถาเปนราษฎรสามัญการสงตัวเจาสาวก็จะกระทําภายในหนึ่งเดือน ลิโปจึงวาบัดนี้อวนสุดไดตราพระ ลัญจกรไวครองแลว จึงเสมอดวยพระมหากษัตริย ขาพเจาคิดที่จะทําการตามฐานะแหงพระมหากษัตริย จึง ไดยั้งการไว รอเวลาครบหนึ่งปแลวคอยสงตัวเจาสาว ตันกงจึงทวงวาความคิดของทานทั้งนี้ชอบอยางธรรม เนียมก็จริงอยู แตบัดนี้สถานการณบานเมืองไมเปนปกติ บรรดาเจาเมืองตางๆ ไดแกงแยงแขงอํานาจกัน ตาง คนตางชิงกันเปนใหญ หากการเนิ่นชาไปความลวงรูถึงเมืองอื่นก็ยอมคิดขัดขวางมิใหการมงคลของทานสําเร็จ เพราะบรรดาหัวเมืองทั้งหลายเมื่อไดทราบความแลวยอมจะเกรงกลัววาการที่ทานกับอวนสุดผูกดองกันเชนนี้ ก็จะมีกําลังอํานาจเติบใหญเขมแข็ง คงจะคิดขัดขวางในประการตางๆ แมอาจสงทหารมาซุมแลวชิงตัวเจาสาว ในระหวางทางการมงคลของทานก็จะเสียไป ดังนั้นทานจึงควรสงบุตรสาวไปใหแกบุตรอวนสุด อยาใหทัน ความแพรงพรายไปถึงบรรดาหัวเมืองอื่น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นคลอยตาม จึงสั่งใหนางเหงียมซีผูภรรยาจัดเตรียมขาวของสําหรับบุตรีใหพรอมที่จะ สงตัวแกบุตรของอวนสุดเสียแตในคืนนั้น นางเหงียมซีก็รับคํารีบจัดเตรียมขาวของและขบวนของเจาสาว ครั้น รุงขึ้นลิโปจึงใหบุตรสาวขึ้นเกวียนไมหอม มอบตัวแกหันอิ้นผูเปนเถาแก พรอมกับขาวของตามอยางธรรมเนียม การสงตัวเจาสาวและสั่งใหซงเหียนกับงุยซก คุมทหารไปสงขบวนเจาสาว หันอิ้นจึงนําขบวนเคลื่อนออกจาก เมืองชีจิ๋วไปเมืองลําหยง ในขณะที่ขบวนกําลังเคลื่อนจะออกจากเมืองชีจิ๋วนั้น ตันกุยซึ่งเปนบิดาของตันเตง และเปนที่ขุนนางเมืองชีจิ๋วในตําแหนงที่ปรึกษากําลังนอนปวยอยูที่บาน ไดยินเสียงปแตรของขบวนเจาสาวจึง
  • 73.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 73 เรียกคนใชในบานมาถามวาเปนขบวนแตงงานของผูใด คนใชในบานไดรายงานวาอวนสุดไดสงเถาแกมาสูขอ บุตรสาวลิโปไปเปนสะใภ ลิโปตกลงและจัดขบวนใหซงเหียนกับงุยซกนําขบวนไปสงเจาสาวพรอมกับเถาแก ของฝายอวนสุด ตันกุยไดฟงความแลวนั่งนิ่งพิเคราะหเหตุการณก็อานแผนการของอวนสุดกระจางวากลผูก ดองครั้งนี้มีเปาหมายเบื้องตนคือศีรษะเลาปและเมืองเสียวพาย และเปาหมายขั้นตอไปก็คือศีรษะ ลิโปและ เมืองชีจิ๋ว ตันกุยนั้นมีน้ําใจศรัทธาตอเลาปตั้งแตครั้งที่ เลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วและตันเตงผูบุตรไดเปนขุนนางที่ ปรึกษา ครั้นอานแผนการของอวนสุดตลอดแลวจึงคิดวาหากเราจะนิ่งเฉยเสีย ทั้งเลาปและเมืองชีจิ๋วก็จะตกอยู ในอันตราย ดังนั้นตันกุยจึงตัดสินใจทําลายแผนการผูกดองของอวนสุด ตัดสินใจแลวจึงแตงตัวโพกผาขาวในชุดไวทุกข งานศพใหคนในบานพยุงพาไปที่จวนลิโป ขอพบลิโป ฝายลิโปทราบวาตันกุยมาขอพบก็ออกมารับที่หนาจวน แตครั้นเห็นตันกุยแตงตัวในชุดไวทุกขงานศพ มีหนาตาเศราโศกก็ประหลาดใจ จึงถามตันกุยวา ญาติพี่นองคน ใดของทานถึง แกความตายหรือจึงมาหาขาพเจา อยาไดหวงใยเลยขาพเจาพรอมที่จะชวยเหลือทุกประการ ทั้งนี้เพราะลิโปเขาใจวาตันกุยมาหาเพื่อบอกกลาวขาวงานศพของญาติพี่นอง ตันกุยไดฟงดังนั้นจึงวาขาพเจา ไดยินขาววาทานตายและมีการจัดพิธีกงเตกใหกับงานศพของทานจึงรีบมาหวังจะไดเคารพศพ ลิโปตกใจรีบ ซักถามตันกุยวาทานไดขาวจากใครวาขาพเจาตาย ตันกุยซึ่งคุนเคยอยูกับผูคนในจวนของลิโปไดยิน ดังนั้นจึง โบกมือเปนทีใหคนรับใชในจวนของลิโปถอยออกไปกอน ลิโปเห็นเปนที่ประหลาดนักจึงเขามาประคอง ตันกุย เขาไปนั่งที่หองรับรอง ตันกุยจึงวาเมื่อไมนานมานี้อวนสุดไดสงสิ่งของมาตั้งสินบนใหกับทาน ไมใหทานยกไป ชวยเลาป แตครั้นกิเหลงยกกองทัพจะไปตีเมืองเสียวพาย ทานกลับยกทหารไปชวยเลาป ทานไดเสี่ยงทาย เทพยดายิงเกาทัณฑไปถูกคันทวน กิเหลงจึงตองยกทัพกลับไป มาบัดนี้อวนสุดสงเถาแกมาสูขอบุตรีทาน และทราบวาทานรับไมตรียกบุตรีใหแกบุตรอวนสุด ดังนั้นเมื่อทานกับอวนสุดผูกดองกันแลว อวนสุดก็จะยกไป ตีเมืองเสียวพาย หากอวนสุดกําจัดเลาปไดเมืองเสียวพายแลว เมืองชีจิ๋วและ ตัวทานจะตกอยูในอันตราย ลิโป ไดยินดังนั้นก็ตกใจ ตันกุยจึงกลาวตอไปวาการทั้งนี้เปนกลอุบายที่ใชคนผูกคน เพราะอวนสุดใชสินบนผูกทาน ไวไมได จึงใชกลผูกดองหวังเอาบุตรีทานเปนตัวประกันไมใหทานยกไปชวยเลาป หลังจากอวนสุดไดเมือง เสียวพายแลวก็จะอาศัยบุตรีทานซึ่งเปนตัวประกันอยูในมือขมเหงทานดวย ประการตางๆ หากทานไมยอมใหขมเหง ก็จะอางวาทานตัดไมตรีอยางนอย อวนสุดก็จะยืมทั้งทหารและเสบียง เบียดเบียนทานและราษฎรเมืองชีจิ๋ว หากทานไมใหก็จะหาเหตุยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ความเดือดรอนก็จะบังเกิดขึ้น อีกประการหนึ่งเลา นับแตอวนสุดไดตราพระลัญจกรไวแลว ก็คิดตั้งตัวเปนเจา นั่นคือการกบฏตอแผนดิน ทร ยศตอพระเจาเหี้ยนเต หัวเมืองทั้งปวง แมแตโจโฉก็ยอมยกมากําจัดอวนสุด ตัวทานก็จะตกอยูในฐานะเปนฝาย กบฏดวย และจะพลอยเปนศัตรูกับบรรดาหัวเมืองทั้งหลายในแผนดิน การทั้งนี้ทานจะเสียทั้งบุตรี จะเสียทั้ง เมืองเสียวพาย ราษฎรเมืองชีจิ๋วก็จะเดือดรอน ตัวทานก็จะเดือดรอน แมเมืองชีจิ๋วก็จะรักษาไวไมได ขอทานจง ใครครวญดูจงดีเถิด ลิโปฟงคําตันกุยก็เห็นกระจางถึงแผนการรายของอวนสุดก็ตกใจยิ่งนัก วากับตันกุยวา ขาพเจาเชื่อคําตันกงจึง พลาดพลั้งไปถึง เพียงนี้จําเปนที่จะตองรีบแกไขใหทันทวงที วาแลวจึงสั่งทหารใหเรียก เตียวเลี้ยวเขามาพบ แลวสั่งใหยกทหารรีบติดตามขบวนเจาสาวไป และชิงขบวนกลับมาเมืองชีจิ๋ว ในทันที เตียวเลี้ยวรับคําสั่งแลว รีบนําทหารยกตามขบวนของหันอิ้นไป ทันเขาแลวเขาสกัดขบวนไว และสั่งใหเคลื่อนขบวนกลับมาเมือง ชีจิ๋ว ลิโปไดสั่งให เอาตัวหันอิ้นไปจําขังไวกอนแลวทําหนังสือแจงไป ยังอวนสุดวายังจัดแจงสิ่งของทั้งปวงไม พรอม และยังไมไดวันฤกษดี การทั้งปวงพรอมแลวจะสงบุตรีไปให ตันกุยครั้นไดทราบวาเตียวเลี้ยวคุมขบวน เถาแกกลับมาถึงเมืองชีจิ๋วแลว จึงเขาไปพบลิโปแลววา เมื่ออวนสุดทราบวาทานบิดพลิ้วไมสงลูกสาวไปใหคง จะคิดการยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ฝายใดฝายหนึ่งพลาดพลั้งลง โจโฉก็อาจยกมาซ้ําเติม ดังนั้นจึงขอใหทานผูกไมตรี ดวยโจโฉไวเสียกอน โดยทําหนังสือไปถึง โจโฉวา อวนสุดวางแผนผูกดองกับทานเพื่อจะยกไปตีเมืองฮูโต แตทานไมรับไมตรีจึงจับตัวหันอิ้นผูเปนเถาแกสงใหแกโจโฉ ดังนี้เมืองชีจิ๋วก็จะไมเปนอันตราย หากเมื่อใดอวน สุดยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋ว โจโฉก็จะยกกองทัพไปยึดเอาเมืองลําหยง อยางนอยอวนสุดก็ไมกลายกกองทัพ มาทําอันตรายตอเมืองชีจิ๋ว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําตันกุยแลวลังเลใจไมอาจตัดสินใจไดวาจะทําประการใดดี ใน ทันใดนั้นทหารไดเขามารายงานวา บัดนี้หนวยขาวไดสงขาวสารมารายงานใหทราบวาเลาปไดทําการเกลี้ยกลอมผูคน ซองสุมทหารเปนอันมาก แตไมทราบวาเลาปจะคิดอานประการใด ลิโปจึงวาเลาปเปนเจาเมืองเสียวพาย ยอมเปนธรรมดาที่จะตองคิด อานปองกันรักษาเมือง การเกลี้ยกลอมผูคนและจัดกองทหารของเลาปจึงเปนเรื่องปกติที่ไมสมควรจะแคลงใจ เลาป และตัวเราก็ไดทําคุณไวกับเลาปเปนอันมาก เลาปคงจะไมทําอันตรายแกเรา ในระหวางนั้นลิโปไดใหซง เหียนกับงุยซกไปจัดหาซื้อมาสําหรับใชในราชการศึก ณ เมืองซัวตั๋ง ซงเหียนและงุยซกไปซื้อมาศึกไดเปน จํานวนสามรอยตัว ครั้นนําฝูงมามาถึงชายแดนเมืองเสียวพายเปนเวลากลางคืน ก็ถูกโจรปายกพวกมาปลนเอา
  • 74.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 74 มาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว ซงเหียนและงุยซกจึงติดตามสืบหาก็ไดความวาเตียวหุยคุมพรรคพวกปลอมเปนโจรปา มาปลนเอามาดังกลาวไป ดังนั้นซงเหียนและงุยซกจึงนํามาที่เหลือมาที่เมืองชีจิ๋วแลวรายงานใหลิโปทราบ ลิ โปไดยินดังนั้นก็โกรธ และยิ่งไดยินวาผูที่ปลนเอามาไปคือเตียวหุยคูเคืองเกาก็ยิ่งโกรธจัด สั่งใหจัดทหารจะยก ไปตีเมืองเสียวพายเพื่อจับเอาตัวเตียวหุยและพรรคพวกที่ปลอมตัวเปนโจรมาประหารเสีย ครั้นเลาปไดทราบวาลิโปยกทหารมาเมืองเสียวพายก็ตกใจ สั่งใหเตรียมทหารยกออกไปตั้งรับ ครั้นพบกับลิโป แลวจึงถามลิโปวา ทานพี่ยกกองทัพมาทั้งนี้เพราะเหตุใด ลิโปเห็นเลาปตีหนาซื่อจึงเอาแสมาชี้หนาเลาปแลว วา เมื่อครั้งที่อวนสุดสั่งกิเหลงยกกองทัพมาตีเมืองเสียวพาย ขาพเจาไดชวยเหลือทาน เสี่ยงเกาทัณฑจนกิเห ลงตองถอนทัพกลับไป แตทานไมรูคุณใหเตียว หุยปลอมเปนโจรปามาปลนชิงเอามาของขาพเจาไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายยืมมีดฆาโค (ตอนที่ 83) เลาปถูกลิโปตอวา วาเปนตัวการใหเตียวหุยปลอมเปนโจรปาไป ปลนชิงเอามาก็ตกใจ เพราะตัวเลาปไมเคย ทราบเรื่องนี้มากอน จึงรีบปฏิเสธวาขาพเจาไมเคยปลนชิงมาของทานเลย นี่เปนความสัตยจากใจจริงของ ขาพเจา แตลิโปไมฟงคํายืนยันวาเตียวหุยปลนเอามาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว เตียวหุยยืนมาอยูดานหลังเลาป เห็นลิโปตอวาตอขานเลาปเชนนั้นก็โกรธ ชักมาออกไปขางหนาแลววากูนี่แหละที่ชิงเอามามึงไว แลวมึงจะ ทําไม ลิโปไดยินก็โกรธดาเตียวหุยวาไอโจรตาถลน มึงดูหมิ่นกูหลายครั้งแลว ยังบังอาจมาปลนเอามากูไปอีก เตียวหุยจึงดาลิโปตอไปวากูแคชิงเอาแตมามึงก็โกรธ แลวทีมึงชิงเอาเมืองของพี่กู ทําไมมึงไมคิดวากูจะไม โกรธบางเลา ลิโปถูกเตียวหุยดาตองใจดําก็โกรธ ชักมาเขาตอสูกับเตียวหุย ทั้งสองฝายตอสูกันถึงรอยเพลงก็ ยังไมแพชนะกัน เลาปเกรงวาเตียวหุยจะเสียที จึงใหทหารตีระฆังเปนสัญญาณเรียกเตียวหุยกลับมา พอเปน เวลาค่ําเลาปก็ยกทหารกลับเขาเมือง ลิโปจึงสั่งใหทหารลอมเมืองเสียวพายไวทั้งสี่ดาน ครั้นกลับเขาเมืองแลว เลาปจึงเรียกเตียวหุยเขามาสอบถามวา ที่ลิโปกลาวหาวาเจาไปปลนชิงเอามาจํานวน หนึ่งรอยหาสิบตัวนั้น ความจริงเปนอยางไร เตียวหุยรับวาเปนความจริง เลาปจึงสั่งใหเตียวหุยไปเอามามาแลว ใหทหารคุมมาไปมอบใหแกลิโป และขอขมาลิโปวา ที่ปฏิเสธไปนั้นเพราะยังไมทราบความจริง บัดนี้สอบถาม เตียวหุยรับเปนจริงแลว จึงนํามามามอบคืนและขออภัยตอลิโป ทั้งขอใหเลิกแลวตอกันจะไดเปนไมตรีกัน สืบไป ลิโปครั้นไดมาคืน และเลาปไดขอขมาลาโทษดังนี้ก็หายโกรธ ยอมรับขมาเลาป ทหารของเลาปจึงลาลิ โปกลับเขาไปในเมืองเสียวพาย ครั้นตันกงทราบความจึงเขาไปวากับลิโปวาทานยกมาถึงเพียงนี้แลว ไมตรีทั้ง สองฝายที่มีมาแตเดิมยอมสลายลง เหมือนดังแกวแตกแลวไมอาจตอใหติดเหมือนดังเดิม หากปลอยเลาปไว สืบไปก็จะคิดรายตอทานเปนมั่นคง ขอใหทานกําจัดเลาปใหเสร็จสรรพไปในครั้งนี้จะไดไมตองพะวงตอไปใน วันหนา ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นดวยจึงสั่งใหแมทัพนายกองทั้งปวงยกเขาหักเอาเมืองเสียวพายพรอมกันทุก ดาน แมทัพนายกองทั้งนั้นรับคําสั่งแลวพากันออกมาจากคายของลิโป แลวกลับไปยังกองทหาร ของตนที่ ลอมเมืองเสียวพายอยูนั้น ครั้นไดเวลากําหนดกองทหารของลิโปทั้งสี่ดานจึงเคลื่อนกําลังเขาไปที่กําแพงเมือง เสียวพาย หักตีแนวกําแพงทั้งสี่ดาน แตทหารรักษาเมืองเสียวพายไดตั้งรับอยางเหนียวแนน ตีโตทหารลิโป อยางดุเดือด ทหารของลิโปพยายามหักเขาเมืองจนกระทั่งถึงเวลาค่ําก็ยังหักเขาไปไมได จึงพากันถอยกลับ เขาคาย เลาปเห็นวากําลังทหารในเมืองเสียวพายมีนอยกวากําลังทหาร ของลิโปคงจะตานทานไดไมขามวันพรุง จึง ปรึกษากับที่ปรึกษาวาเห็นจะตานรับลิโปไวไมได จะมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนเขียนและบิตกสองที่ ปรึกษาไดเสนอใหตีฝาออกจากเมืองไป ขออาศัยอยูกับโจโฉที่เมืองฮูโต เพราะโจโฉถือวาลิโปเปนศัตรูตัว สําคัญ ดังนั้นผูใดเปนศัตรูของลิโปจึงเทากับเปนพันธมิตรของโจโฉดวย เลาปเห็นชอบจึงสั่งใหเตรียมการตีฝา วงลอมของทหารลิโปเพื่อยกไป เมืองฮูโต ใหเตียวหุยเปนกองหนา ตัวเลาปคุมครอบครัวและขุนนางตลอดจน ที่ปรึกษาซึ่งพรอมจะไปดวยเปนกองกลาง และใหกวนอูเปนกองระวังหลัง คืนนั้นเปนขางขึ้น พระจันทรสวางเห็นหนทางชัดเจน ครั้นเพลาเที่ยงคืนผานไปใกลยามสาม สายลมโชยพลิ้ว เย็นยะเยือก น้ําคางลงจัด ทหารฝายลิโปหลับสนิท คงเหลืออยูแตทหารลาดตระเวนและทหารรักษาเวรยาม เทานั้น ขบวนของเลาปจึงเคลื่อนออกจากประตูเมืองดานทิศเหนือ ทหารลาดตระเวนไดพยายามสกัดขบวน ของเลาปไว แตไมสามารถตานทานกําลังของเตียวหุยไดจึงแตกหนี แลวจุดพลุใหสัญญาณเกิดเหตุ ซงเหียน และงุยซกสองนายทหารของลิโปรักษาการณอยูดานทิศเหนือไดรับรายงาน จากทหารรักษาการณวา เลาปยก หนีออกจากเมือง จึงยกทหารออกมาสกัดขบวนของเลาปไว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 75.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 75 เตียวหุยคุมกองหนามาถึงที่ซงเหียนและงุยซกตั้งสกัดอยูก็กระทืบโกลนมาเขารบดวยซงเหียนและงุยซกอยาง ฮึกเหิม สองนายทหารของลิโปประเพลงทวนกับเตียวหุยไดคนละเพลงก็พากันชักมาถอยเขามาในหมูทหาร ขับทหาร ใหเขาสกัดเตียวหุย แตทหารเหลานั้นขยาดฝมือจึงไมกลาเขามาในระยะทวนแทง เตียวหุย จึงตีฝา นําขบวนผานไปอยางงายดาย ฝายเตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปลอมเมืองอยูทางดานทิศใต ครั้นไดเห็นพลุ สัญญาณเกิดเหตุรายขึ้นทางดานทิศเหนือ และไดทราบจากรายงานของหนวยลาดตระเวนวาเลาปยกหนีออก จากเมือง ก็เกรงวาซงเหียนและงุยซกจะสกัดเลาปไวไมอยู จึงรีบคุมทหารยกตามไป เตียวเลี้ยวไดพบกับซง เหียนและงุยซกที่แตกถอยมาแจงวาเลาป ตีฝาออกไปไดแลว เตียวเลี้ยวจึงรีบคุมทหารเรงตามเลาปไป กวนอู ซึ่งคุมกองระวังหลังเห็นทหารไลตามมาจึงสั่งใหทหารในกองระวังหลังแปรขบวนหันกลับมาตั้งสกัด ครั้นเตียว เลี้ยวยกทหาร เขามาใกล เห็นกวนอูถืองาวนิลนาคะยืนมาอยูหนาทหาร ผาโพกศีรษะสีเขียวตองออนตอง แสงพระจันทร และตองลมพริ้วดูเปนสงานาเกรงขาม บรรดาทหารที่ตามเตียวเลี้ยวมาเห็นลักษณาการดั่งนั้นก็ พากันขยาด หยุดมาไวแตหาง ๆ เตียวเลี้ยวไดขับมาเขารบดวยกวนอูไดหาเพลง เห็นวาไมมีทางที่จะฝากวนอู เขาไปถึงขบวนของเลาปได ทั้งเห็นทหารที่ติดตามมาไมยอมขับมาออก มาขางหนาเพื่อเขาลอมกวนอู ทั้งเห็น วาการตอสู กับกวนอูไมไดประโยชนอันใด และฝมืองาวกวนอูก็กลาแข็งยิ่งนักจึงชักมาออกมา กวนอูก็มิไดไล ตาม คงยืนมาอยูที่เดิมครูหนึ่งเห็นเตียวเลี้ยวไมยอมออกมารบอีก จึงสั่งทหารใหเคลื่อนตามเลาปไป กวนอูยืน มาคุมเชิงดูอีกพักใหญจึงชักมากลับตามขบวนไป เตียวเลี้ยว ซงเหียน และงุยซกกลับไปถึงคายก็ใกลสวางจึงพากันไปที่คายของ ลิโป ลิโปตื่นแลวรอฟงขาวอยู ครั้นไดทราบจากทหาร ทั้งสามวาเลาปหนีไปไดก็ไมคิดติดตามอีกตอไป สวางขึ้นลิโปจึงสั่งทหารยกเขาไป ประชิดเมืองเสียวพาย ทหารรักษาเมืองรูวาเลาปหนีไปแลวจึงยอมแพ ลิโปจึงยกทหารเขาไปในเมืองจัดการ ปกครองใหเปนปกติแลว สั่งใหโกสุนอยูรักษาเมืองและใหเลิกทัพกลับไปเมืองชีจิ๋ว ลิโปเดิมเปนเพียงคนขอ อาศัย มาอาศัยเมืองเสียวพายกับเลาป ตอมาก็ยึดเอาเมืองชีจิ๋วของเลาปเสีย ทั้งๆ ที่รูวามีพระบรมราชโองการ ของพระเจาเหี้ยนเตตั้งเลาปเปนเจาเมืองแลว ตอมาลิโปถูกอวนสุดวางกลไมใหเขาชวยเหลือเลาป แตผูกลิโป ไวไมอยูเพราะผลประโยชนทางการเมืองครองใจลิโปไวแนนหนา แตมาครั้งนี้ลิโปกลับยกมายึดเอาเมืองเสียว พายเสียเอง เลาปดวงชะตาตกต่ําเปลี่ยนฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋ว ซึ่งเปนหัวเมืองเอกมาอยูเมืองเสียวพายซึ่ง เปนแคหัวเมืองจัตวา และบัดนี้แคหัวเมืองจัตวาก็ไมมีที่จะอาศัยแลว จึงบากหนาไปหาโจโฉที่เมืองฮูโต เลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศฮั่นและหัวเมืองจํานวนมากก็มีคน "แซเลา" ปกครอง แตเหตุที่เลาปไมยอมไปอาศัย คน "แซเลา" กลับมุงไปขอพึ่งโจโฉคนตางแซถึงเมืองหลวงนั้น ยอมมีมาแตเหตุสามประการคือ ขอแรก เลาป เปนเชื้อพระวงศก็จริง แตเปนเชื้อสายของพระเจาฮั่น เกงเต และบรรพบุรุษของเลาปเคยมีขอขัดแยงกับราช สํานักเพราะไมสงสวยประจําป แลวถูกถอดออกจากเจาลงเปนคนสามัญ ดังนั้น พวก "แซเลา" ดวยกันจึง ระมัดระวังในการคบหากับเลาป ดังที่จะเห็นไดชัดเมื่อครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลือง ขอสอง เลาปอาจ คิดวาเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วก็ดี เลาเจี้ยงเจาเมืองเสฉวนก็ดี แมจะเปนหัวเมืองเอกแตไมมีกําลังแข็งกลา พอที่จะอยูอาศัยอยางปลอดภัย หรืออาจคิดวาการไปขออาศัยคนเหลานี้จะเปนการชักนําเภทภัยไปสูคนแซ เดียวกัน ขอสาม เลาปอาจคิดวาตัวมีจุดออนทั้งความรูและประสบการณในการบริหารราชการแผนดินสวนกลาง เปนอุปสรรคตอการคิดการใหญในภายหนา การเขาไปเมืองหลวงเปนหนทางแกไขจุดออนเหลานี้ ทั้งโจโฉก็มี กําลัง ทหารกลาแข็ง สามารถพึ่งพาอาศัยไดดีกวาเมืองอื่น และโจโฉก็พยายาม สรางภาพลักษณวาตองการ รวบรวมคนดีมีฝมือกอบกูแผนดิน คงจะไมทําราย แตมีความเปนไปไดดวยวาเลาปไดคิดถึงประโยชนทั้งสาม ขอนี้ พรอมกัน จึงไปพึ่งใบบุญโจโฉ ครั้นขบวนของเลาปมาถึงเมืองฮูโตจึงหยุดขบวนไวนอกเมือง และใหซุนเขียนเขาไปในเมืองแจงความใหโจ โฉทราบ ครั้นโจโฉทราบ ความวาเลาปจะมาขออาศัยก็มีใจยินดีกลาวแกซุนเขียนวาตัวเรากับเลาปนั้นเหมือน ดั่งพี่นอง ทานอยาไดอนาทรเลย วาแลวก็สั่งใหทหารออกไปกับซุนเขียนเพื่อรับเลาป เขามาในเมือง เลาป ทราบความแลวใหพักขบวนไวนอกเมืองใหกวนอู เตียวหุย และ ทหารที่ติดตามมาดูแลอารักขา ตัวเลาปพา บิตกและซุนเขียนไปพบโจโฉที่จวน ฝายโจโฉทราบวาเลาปมาถึงจึงออกมารับที่หนาจวน ถอยทีถอยคํานับกัน แลวโจโฉจึงวา พวกเราเปนสหายศึกกันมาแตครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลืองเหมือนกับเปนพี่นอง ทาน อยาไดเกรงใจขอใหอยูอาศัยในเมือง ฮูโตอยางเปนสุขเถิด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เลาปขอบคุณโจโฉแลววาขาพเจาตกอยูในยามยาก ไมเห็นหนา ผูใด เปนที่พึ่งจึงมาขออาศัยใบบุญทานอัคร มหาเสนาบดี ทานมีความ กรุณาครั้งนี้ เปนคุณหาที่สุดมิได โจโฉพาเลาปเขามาที่หองรับรองเชิญใหนั่งในที่ สมควรแลวถามวา ไมไดพบกันเสียนาน เหตุใดจึงเดินทางมาถึงที่นี่ เลาปจึงเลาความที่ตองรับธุระเปน เจา เมืองชีจิ๋ว แลวถูกลิโปแยงยึดไป จนตองไปอาศัยอยูเมืองเสียวพาย แลวลิโปก็ยังยกไปตีชิงเอาอีก ไดรับความ เดือดรอนสิ้นที่อยูอาศัย จึงมุงหนามาพึ่งในครั้งนี้ โจโฉจึงวา ลิโปเปนคนหยาบชา กักขฬะ เนรคุณคน ได สังหารบิดาบุญธรรมไปแลวถึงสองคน และยังเปนกบฏตอแผนดิน ตัวทานมาถึงเมือง ฮูโตแลวจะปลอดภัยจาก
  • 76.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 76 การรังควานของลิโป อยาไดวิตกตอไปอีกเลย ขาพเจาจะชวยทานคิดการกําจัดลิโปเสียใหจงได เลาปไดฟง ดังนั้นก็ขอบคุณโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหจัดโตะมาเลี้ยงเลาป ครั้นไดเวลาสมควรแลวเลาปจึงขอลากลับไปที่อยู คืนนั้นซุนฮกที่ปรึกษาไดมาพบโจโฉแลวเสนอวา เลาปเปนเชื้อพระวงศ มีสติปญญาเปนอันมาก สืบไปเบื้อง หนาจะเปนคูแขงคนสําคัญของทาน จึงชอบที่จะกําจัดเลาปเสียกอน โจโฉฟงขอเสนอแลวขอตรึกตรองดูกอน ซุนฮก จึงลากลับไป ไมทันนานกุยแกที่ปรึกษาไดมาขอพบโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉไดปรารภความที่ซุนฮกได เสนอใหกุยแกฟง แลวถามวาทานมีความคิดเห็นประการใด กุยแกจึงวาสถานการณบานเมืองขณะนี้ยังไมเปน ปรกติ บรรดา ขุนศึก และหัวเมืองตางตั้งตัวเปนใหญแยงชิงอํานาจกัน ตัวทานชูธงธรรมภายใต บัลลังกมังกร มุงสรางสันติสุข ทํานุบํารุงแผนดินแลราษฎร นับเปนการใหญตองอาศัยผูมีสติปญญาความสามารถจํานวนมาก มิฉะนั้นการใหญก็จักไมสําเร็จ ดังปรารถนา แลววาเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศ เปนวิญูชนและสัตยซื่อ เปนที่นับ ถือของราษฎรทั้งปวง บัดนี้เลาปหนีรอนมาพึ่งเย็นหากสังหารเลาปเสีย คนทั้งหลายก็จะเห็นวาตัวทานไร คุณธรรม ไมเลี้ยงดูคนดีมีฝมือ ดั่งนี้ผูมีสติปญญา ทั้งแผนดินก็จะระแวงสงสัยและรังเกียจทาน การณจะ กลายเปนวาทานฆาเลาปไดคนเดียว แตตัวทานกลับจะถูกบวงผูกขาเปนมลทินไปชั่วชีวิต ที่คิดการใหญไว เบื้องหนาก็จะขัดสน ดังนั้น ทานจึงประหารเลาปไมไดเปนอันขาด โจโฉจึงวาขาพเจามีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตทวาเลาปนี้ไมใชคนที่จะยอมอยูใตปกครองคนอื่น สืบไป ภายหนาคงจะทําใหเรายุงยากเปนมั่นคง ทานจะคิดอานปองกันประการใด กุยแกจึงวาขาพเจาไดคิดถึงเรื่องนี้ เหมือนกับความคิดทาน แตผูเปนใหญนั้นจะคิดทําการดีชั่วประการใดตองแยบยลล้ําลึก ขาพเจาเห็นวาทั้งลิโป และ เลาปเปนพวกที่ทานตองกําจัดใหพนทาง ดังนั้นจําเปนจะตองวางกลใหลิโป กับเลาปฆาฟนกันเองใหตก ตายไปขางหนึ่ง ศัตรูทานก็จะลดไปคนหนึ่ง ความครหาก็จะไมตกอยูแกทาน โจโฉจึงถามวาทานจะวางกล ประการใด การณจึงเปนไปสมประสงคดังคําทาน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม คนคิดไมอาจฝนลิขิตฟา (ตอนที่ 84) ทั้งโจโฉและกุยแกเห็นพองตองกันวาเลาปเปนวิญูชน แมตองการกําจัดใหพนทางแตจะใชมือตนเขาทําการ ไมได หากตองยืมมือคนอื่น โจโฉครั้นไดฟงขอเสนอของกุยแกแลวก็สงสัยวาจะทําประการใด กุยแกจึงวา เมืองอิจิ๋วซึ่งอยูใกลกับเมืองเสียวพายนั้นยังไมมีเจาเมือง ขอใหทานกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตใหแตงตั้งเลาป เปนเจาเมือง แลวใหเลาปยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกไปปองกันเมืองเสียวพายรบดวยเลาป คงจะตก ตายกันไปขางหนึ่งแลวคอยกําจัดคนที่เหลือตอไป โจโฉฟงแผนการของกุยแกแลวดีใจยิ่งนัก จึงวาขาพเจาตกลงใจ ทําตามแผนของทาน รุงขึ้นโจโฉจึงเขาไป เฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบบังคมทูลเสนอใหโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ตามแผนการของกุยแก พระเจาเหี้ยนเตก็โปรดเกลาแตงตั้งตามที่เสนอ โจโฉจึงกราบถวายบังคมลากลับออกมา พอมาถึงจวนเทียหยก ที่ปรึกษาซึ่งเปนเจาเมืองตังเปงไดมารอพบอยูกอน โจโฉเห็นเทียหยกมาก็ยินดี และเลาความที่เลาปมาขอ อาศัยแลวพระเจาเหี้ยนเตโปรดแตงตั้งใหเปนเจาเมืองอิจิ๋ว แตแผนการ และความคิดของกุยแกนั้น โจโฉไมได เลาใหเทียหยกทราบ เทียหยกจึงวาเลาปเปนผูมีสติปญญา ที่จะยอมเปนผูนอยในบังคับของทานนั้นหายั่งยืน ไม ตอไปภายหนาเลาปยอมเอาใจออกหาง คิดตั้งตัวเปนใหญ ขอใหทานตัดไฟเสียแตตนลมจับเลาปฆา เสียโจโฉจึงวาซุนฮกไดมาหาและมีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตขาพเจาเห็นวาการฆาเลาปเปนการไมชอบ ดวยบัดนี้เรากําลังทําการใหญเพื่อรวบรวมแผนดิน ตองเอาใจผูคนเพื่อระดมคนดีมีฝมือ เขามาชวยทําการ หาก สังหารเลาปเสียแลว ใครไหนจะกลาเขามาทําการ ดวยเราเลา ขาพเจาไดปรึกษาเรื่องนี้กับกุยแกและตกลง แผนการกันเรียบรอยแลว ทานจงวางใจเถิด เทียหยกยินความที่โจโฉกลาววากําหนดแผนการเสร็จสิ้นแลว ก็ คลายใจ จึงขอลาโจโฉกลับไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด พอเวลาใกลเที่ยงเลาปไดเขามาหาโจโฉ โจโฉจึงแจงแกเลาป วาวันนี้ได เขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบทูล เสนอใหแตงตั้งทานเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ทรงโปรดเกลาตามเสนอและจะมอบพระบรมราชโองการและตราตั้ง ตอไป ใหเลาปรีบเดินทางไปรับตําแหนงเจาเมืองอิจิ๋ว แลววาขาพเจาจะจัดทหารใหกับทานสามพัน เมื่อถึง เมืองอิจิ๋วแลวใหทานยกไปตีเมืองเสียวพาย แลวเตรียมทหารไวใหพรอมที่จะยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ขาพเจาจะ เตรียมการทางนี้ไวใหพรอม แลวจะแจงกําหนดใหทานทราบจะไดยกทหารไปตีเมืองชีจิ๋วพรอมกัน เลาปลุกขึ้น คารวะแสดงความขอบคุณโจโฉที่สงเสริม แลวรีบลาโจโฉกลับออกไปที่อยู พอโจโฉใหคนคุมทหารสามพันมา มอบใหอยูในบังคับบัญชาเลาป และขาหลวงเชิญพระบรมราชโองการพรอม ตราตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วมามอบ แลว เลาปจึงยกทหารและครอบครัว ออกจากเมืองฮูโตไปเมืองอิจิ๋ว การที่เลาปรับคําโจโฉวาจะยกไปตีเมือง
  • 77.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 77 เสียวพาย เทากับเปนการยอมเดินไปตามแผนการของกุยแก ซึ่งนับวาเปนแผนการที่ลึกล้ํารายกาจ แตไมมีใคร ทราบวาเลาปแจงในกลอุบายนี้หรือไม กอนหนานี้โจโฉไดอางเอาบุญคุณที่กราบทูลเสนอใหตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และใหเลาปคิดกําจัดลิโปซึ่ง เปนคูอาฆาตเสีย แตเลาปไมทําตาม โจโฉจึงลวงอวนสุดใหยกไปกําจัดเลาป แตลิโปเขาขวางไว ครั้นเลาปหนี ลิโปมาพึ่งโจโฉที่เมืองฮูโต แมวาใจจริงโจโฉ อยากจะประหารเลาปแตทําไมได เพราะเกรงจะเปนอุปสรรคตอ การรวบรวมแผนดิน ดังนั้นโจโฉจึงเอาอกเอาใจเลาปเรียกเปนพี่เปนนอง และยังเสนอตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วแลว มอบทหารใหอีกสามพัน การกระทําทั้งปวงของโจโฉนี้ความจริงจึงไมใชการชวยเหลือเลาป แตเปนการเดิน ตามแผนที่ตองการใหเลาปรบกับลิโป ไมวาลิโปจะฆาเลาปหรือเลาปจะฆาลิโป ยอมเปนประโยชนแกโจโฉ ทั้งสิ้น เพราะเทากับยืมมือของศัตรูกําจัดศัตรู โดยเสียทหารเพียงสามพันเปนคาใชจายเทานั้น นับเปนการ ลงทุนที่เกินคุมจริงๆ และตองนับวาเปนแผนการที่ลึกซึ้งรอบคอบแทบจะไมมีทางผิดพลาดไดเลย ครั้นเลาปยกไปแลว โจโฉจึงสั่งใหเตรียมทหารใหพรอมเพื่อจะยกไปตีเอาเมืองชีจิ๋ว การเตรียมการทั้งนี้ยอม แสดงวาโจโฉไดประเมินสถานการณแลววาเลาปตองพายแพแกลิโปเปนแนแท จึงเหลือเพียงลิโปที่จะตอง กําจัด และแมวาลิโปจะเปนฝายพายแพ โจโฉ ก็จะยึดเอาเมืองชีจิ๋วไดโดยงาย ทั้งเปนการปองกันมิใหเลาปยก ลวงเขามายึดเอาเมืองชีจิ๋วไดอีกทางหนึ่งดวย ทวาความคิดเปนของคน แตความสําเร็จกลับเปนของฟา ความคิดคน แมจะลึกล้ํารอบคอบสักเพียงไหนก็ไมอาจฝนลิขิตแหงฟาได เหตุนี้ความผันแปรนอกเหนือ ความคิดของผูคนจึงยอมเกิดขึ้นได โจโฉยังไมทันที่จะไดยกทัพออกจากเมืองฮูโต เหตุการณนอกเหนือ ความคาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากหัวหนา กองขาวไดมารายงานแกโจโฉวา บัดนี้เตียวเจลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเปนหนึ่งใน สี่ทหารเอกของตั๋งโตะ และเคยรวมทําการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกี และหวนเตียว ไดยกกองทัพจะมาตีเมืองฮูโต แตปะทะกันที่ ชายแดน เตียวเจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย เตียวสิ้วผูหลานไดรวบรวมทหารเตียวเจและเกณฑชายฉกรรจ จํานวนมากเขารวมในกองทัพ และไดกาเซี่ยงที่ปรึกษาเกาของลิฉุยมาเปนที่ปรึกษา ขณะนี้เตียวสิ้วยึดไดเมือง อวนเซียตั้งเปนฐานที่มั่น แลวชักชวนเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วใหยกกองทัพมาตีเมืองฮูโตพรอมกันเพื่อจะชิง เอาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉไดทราบรายงานแลวก็โกรธเตียวสิ้วและเลาเปยวเปนอันมาก เพราะการที่เตียวสิ้วและ เลาเปยวจะยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต ครั้งนี้คือการทําลายแผนการที่จะกําจัดเลาปและลิโป ที่ไดเตรียมการ ไว แลวเปนอยางดี เพราะหากโจโฉจะยกไปตีเมืองชีจิ๋วก็อาจตองเสียเมืองฮูโตและหากพระเจาเหี้ยนเตถูกชวงชิง ไป อํานาจรัฐทั้งปวง ที่มีอยูก็จะมลายสูญไปสิ้น ดังนั้น โจโฉจึงตองปรับเปลี่ยนแผนการมาคิดกําจัดเตียวสิ้วเสียกอน แตครั้นจะยกทหารไปกําจัดเตียวสิ้วก็หวง หลังวาลิโปจะยกมาตีเมืองฮูโต จึงเรียกซุนฮกมาปรึกษาวาจะคิดอานประการใด จึงจะปองกันลิโปไมใหยก กองทัพมาตีตลบหลังเอาเมืองฮูโต ซุนฮกจึงวาลิโปเปนคนโลภ และหาความคิดมิได ดังนั้นจึงขอใหทานกราบ บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหโปรดเกลาแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋วอยางเปนทางการ ลิโปเห็นประโยชนดังนี้ ยอมมีใจ ยินดี และไมยกมาทําอันตราย โจโฉจึงวาขาพเจาไดสั่งเลาปใหยกไปตีเมืองเสียวพาย ทานมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาถาเลาป กับลิโปรบกันในชวงระยะนี้ ไมเพียงแตจะทําใหทานพะวงหลังเทานั้น แมฝายใดเพลี่ยงพล้ําลงทานก็ไมมี โอกาสซ้ําเติมเอาประโยชน ดังนั้น จึงขอใหทานมีหนังสือไปถึงลิโป และเลาปใหปรองดองกัน อยาไดทําศึก สงครามตอกันใหเปนที่เดือด รอนแกราษฎร โจโฉเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก จึงเขาไปเฝาพระเจา เหี้ยนเตกราบบังคมทูลเสนอแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงโปรดเกลาตามคํากราบบังคม ทูล โจโฉออกจากที่เฝาแลวก็ใหทหารเชิญพระบรมราชโองการไปใหลิโป และมอบหนังสือตามคําซุนฮกไปถึง ลิโปและเลาป จากแผนการที่วางไวใหเลาปกับลิโปรบราฆาฟนกันเอง มาถึงบัดนี้แผนการใหมไดปรับเปลี่ยน เปนใหลิโปกับเลาปตองปรองดองไมทําศึกสงครามตอกัน เทากับความคิดตามแผนการเกาตองสูญสลายไป ไมอาจฝนลิขิตแหงสวรรคได เหตุนี้เลาปจึงหลุดรอดออกจากกลอุบายของกุยแก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นจัดแจงการทางดานลิโปและเลาปเสร็จแลว โจโฉจึงสั่งใหจัดทหารสิบหาหมื่น ใหแฮหัวตุนและอิกิ๋มเปนก องทัพหนา โจโฉเปนกองทัพหลวง ยกออกจากเมืองฮูโตเพื่อจะไปกําจัดเตียวสิ้วที่เมืองอวนเซีย ครั้นกองทัพ ของโจโฉเคลื่อนไปถึงแมน้ําหยกซุย ชายแดนเมืองอวนเซีย จึงใหตั้งคายลงไว ฝายเตียวสิ้วครั้นไดขาววาโจ โฉยกกองทัพใหญจะมาตี เมืองอวนเซียก็ตกใจจึงปรึกษาดวยกาเซี่ยงวาจะคิดอานประการใด กาเซี่ยงจึงวา กองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ใหญหลวงนัก คงจะรับมือโจโฉไมได และวาตัวทานกับโจโฉไมเคยมีความผิดพอง หมองใจมาแตกอน ดังนั้นถาหากทานยอมสวามิภักดิ์ โจโฉคงจะรับไมตรี ทานก็ยังเปนเจาเมืองอวนเซียอยู เหมือนเดิม ทหารแล ราษฎรก็จะไมตองลําบาก เตียวสิ้วเห็นดวยกับความคิดของกาเซี่ยง จึงใหกาเซี่ยงเปนทูต
  • 78.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 78 ไปเจรจา ความกับโจโฉ ณ คายของโจโฉ ฝายโจโฉเมื่อทราบวากาเซี่ยงเปนทูตมาเจรจาความเมืองจึงให ทหารรับกาเซี่ยงเขามาพบ ณ คายบัญชาการ กาเซี่ยงเขาไปพบโจโฉ กระทําคารวะแลวจึงวา กิตติศัพท ชื่อเสียงของ ทานอัครมหาเสนาบดีไดขจรไกลวามีน้ําใจโอบออมอารีตอคนทั้งปวง ทั้งมีอุดมการณมั่นคงที่จะ ทํานุแผนดินใหเปนสุข ดังนั้นเตียวสิ้วจึงมีความเลื่อมใส ศรัทธาเปนอันมาก บัดนี้ทราบวาทานยกกองทัพมาจึง ใหขาพเจาเปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์เปนขาชวงใชตลอดไป โจโฉเห็นกาเซี่ยงมีบุคลิกลักษณะสมกับเปนผูมีสติปญญา ทั้งเคยไดยินกิตติศัพทของกาเซี่ยงแตครั้งชวย วางแผนคิดการให ลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ ครั้นไดฟงคําเจรจาก็เห็นหลักแหลม ก็กระหายใครไดตัว กาเซี่ยงไวทําราชการ จึงวาบัดนี้เมื่อเตียวสิ้วยอม สวามิภักดิ์ดวยเราแลว หากทานพรอมใจทําราชการในเมือง หลวง เราก็จะตั้งใหทานเปนที่ปรึกษา โจโฉแมจะอิ่มดวยอํานาจวาสนา แตมีความหิวกระหายใครไดเสวนาหา คนดีมีฝมือมารวมทําการไมเคยสราง ดังนั้นเมื่อกาเซี่ยง เปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์ แทนที่โจโฉจะพิจารณา และกลาวถึงเรื่องขอสวามิภักดิ์ กลับเชิญชวนใหกาเซี่ยงมาเปนที่ปรึกษา แตกาเซี่ยงยังคงมั่นคงอยูกับเตียวสิ้ว จึงบายเบี่ยงวาขาพเจาเคยทําราชการอยูดวยลิฉุย กุยกี ซึ่งบัดนี้เปนขบถตอแผนดิน มลทินมัวหมองจึงพลอย ตองตัวขาพเขาเปรอะเปอนไปดวย จึงขอเวลาไวใหขาพเจาไดทําความชอบลบลางมลทินแลความผิดใหสิ้น กอน อนึ่งนั้นเลาเตียวสิ้วมีคุณแกขาพเจา ทั้งยังขาดผูคนเปนที่ปรึกษา หากละทิ้งมาในยามนี้ก็เหมือนหนึ่งไม รูคุณคน แลเตียวสิ้วเมื่ออยูสวามิภักดิ์ดวยทานแลว ก็เหมือนขาพเจาอยูดวยทานเชนเดียวกัน โจโฉฟงคํากาเซี่ยงก็รูวายังไมพรอมที่จะมาอยูทําราชการดวยจึงวา ทานจงกลับไปบอกเตียวสิ้วใหออกมาพบ เราเถิด เราจะไวไมตรี กาเซี่ยงจึงลาโจโฉกลับไปเมืองอวนเซีย รายงานเหตุการณใหเตียวสิ้ว ฟงทุกประการ เตียวสิ้วทราบรายงานแลวก็มีความยินดี รุงขึ้นกาเซี่ยงจึงพาเตียวสิ้วพรอมของกํานัลและตราสําหรับเมืองไปที่ คายของโจโฉ ครั้นโจโฉทราบวากาเซี่ยงและเตียวสิ้วมาหา ก็มีความยินดี หลังจากคารวะโอภาปราศรัยตาม ธรรมเนียมแลว โจโฉ จึงถามวา ภายในเมืองอวนเซียมีปญหาประการใดบางหรือไม เตียวสิ้วรายงานวาภายใน เมืองอวนเซียมีความปรกติดีทุกประการ ราษฎรอยูเย็นเปนสุข บัดนี้ขาพเจาขอเชิญทานอัครมหาเสนาบดีไดยก เขาไปใน เมืองเพื่อเปนมิ่งขวัญแกราษฎรสืบไป โจโฉก็รับคํา แลวสั่งแมทัพนายกองใหรักษาคายนอกเมืองไว ใหมั่นคง ตัวโจโฉพาทหารที่สนิทสองรอยคนเขาไปใน เมืองอวนเซียแลวพักที่เรือนรับรองแขกเมืองพิเศษ เตียวสิ้วเอาใจปรนนิบัติโจโฉเปนอันดี ทุกวันแตงโตะเลี้ยงโจโฉและ บรรดาทหารที่ติดตามมาเปนที่สําราญ โจ โฉไดรับการเอาอกเอาใจจากเตียวสิ้วอยางเต็มที่ก็พอใจวาเตียวสิ้วสวามิภักดิ์มั่นคงจึงวางใจและใหเตียวสิ้วคง วาราชการเมืองอวนเซียตอไปตามเดิม อยูมาวันหนึ่งโจโฉมีความเบิกบานใจยิ่งนัก เชิญเตียวสิ้วและบรรดานาย ทหารดื่มสุราชนจอกกับทุกคนจนเมา มาย เลิกกินโตะ แลวโจอันบิ๋นผูหลาน ตองพยุงโจโฉกลับที่พัก แตโจโฉนั้นยังเมาสุราอยูอารมณคึกคักเปน พิเศษ จึงเรียกโจอันบิ๋นหลานคูใจมาถามวาในเมืองนี้มีสตรีใดรูปโฉมงดงาม มีเสนหแพรวพราวบาง ความ ปรารถนาดังนี้ของโจโฉเปนธรรมดาของชายชาติทหารที่จากบาน ไปแดนไกล หลังจากวางทาอํานาจเปนสงา มาหลายวัน แตครั้นเมาสุราก็ แสดงธาตุแทตัวตนจริงออกมา และทําใหไดเห็นถึงรสนิยมอิสตรีของโจโฉวาตอง รูปงามอยางหนึ่ง และตองพราวเสนหอีกอยางหนึ่ง คือไมเพียงแตตองเปน ดอกกระดังงาเทานั้นหากตองลน ไฟอีกดวย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เพลิงสวาทเผาทัพโจโฉ (ตอนที่ 85) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจอันบิ๋นหลานคูใจฟงคําโจโฉแลวก็รูใจจึงกลาววา ที่ตึกรับรองแขกเมืองอีกหลังหนึ่งขาพเจาไดเห็นสตรีรูป โฉมสะคราญตองตามที่ทานอาปรารถนา ขาพเจาไดสืบถามมากอนแลวไดความวาเปนภรรยาของเตียวเจ และ เปนอาสะใภของเตียวสิ้ว บัดนี้เตียวเจตายแลว นางจึงเปนมายอยู โจโฉไดฟงวามีสตรีงามตองตามรสนิยมตัว อารมณคึกคะนอง และฮึกเหิมดวยแรงสุราขาดความคํานึงถึงธรรมเนียมประเพณีวาเตียวเจเพิ่งตายไมทันถึงป ความปรารถนานั้นอาจกระทบตอความรูสึกและสัมพันธระหวางเมืองของเตียวสิ้ว ผสมเขากับความใครที่คอยๆ กําเริบเพราะจากเมืองหลวงมานานวัน กลายเปนพายุที่ฮือโหม ทําใหเพลิงแหงความพิศวาสคุโชนโชติชวงบด บังสติปญญาไปสิ้น โจโฉจึงสั่งใหโจอันบิ๋นนําทหารหาสิบคนไปเอาตัวภรรยามายของเตียวเจมาที่พักในค่ําวัน นั้น โจอันบิ๋นคุมทหารหาสิบคนไปถึงเรือนพักรับรองของภรรยามายของเตียวเจแลวเชิญตัวภรรยามายของ เตียวเจนั้นมายังที่พักของโจโฉ โจโฉครั้นเห็นสตรีมีเสนหรูปงามตองตามรสนิยมก็ดีใจยิ่งนัก โซเซลุกขึ้นไปจูง เอาภรรยามายของเตียวเจเขามานั่งอยูดวยกันแลวถามวาเจานี้มีชื่อใด สตรีนั้นจึงตอบวาขาพเจาชื่อเจาซือเปน ภรรยามายของเตียวเจและเปนอาสะใภของเตียวสิ้ว โจโฉรินสุราใหนางเจาซือและถามตอไปวา เจารูจักเรา หรือไม นางเจาซือจึงตอบวาชื่อเสียงของทานกองกําจรทั่วทั้งแผนดิน ขาพเจาไดยินแตกิตติศัพททานมาชา
  • 79.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 79 นานไดมีโอกาสมาคารวะทานในวันนี้เปนบุญของขาพเจายิ่งนัก วาแลวนางเจาซือก็สงจอกสุราคารวะแกโจโฉ โจโฉหัวเราะดังสนั่น รับสุราจากนางเจาซือมาดื่มแลววาเตียวสิ้วคิดจะยกกองทัพไปทําอันตรายเราที่เมืองฮูโต เราจึงยกกองทัพมาจะกําจัดเตียวสิ้วเสียและจะประหารเสียใหสิ้นทั้งโคตรวงศพงศา แตเราเห็นแกหนาเจาจึง ยอมรับการสวามิภักดิ์ คนทั้งปวงจึงไดรอดตายเพราะตัวเจานี่แลว คําพูดของคนเมามักจะเปนเชนนี้ ความจริงในขณะรับสวามิภักดิ์ โจโฉยังไมเคยพบเห็นรูจักนางเจาซือจึงเปน การรับสวามิภักดิ์เพราะเห็นแกหนานางเจาซือกระไรได โจโฉพลามกลาวความทั้งนี้เพื่อจะยกยองเอาใจนาง เจาซือดวยฤทธิ์แรงแหงความเสนหา ตองการใหนางเจาซือยินยอมพรอมใจดวยเทานั้น นางเจาซือเปนคนเคย การจึงวาทานยกโทษใหแกเตียวสิ้วและญาติพี่นองทั้งสิ้นนั้นเปนพระคุณหาที่สุดมิได วาแลวก็รินสุราสง ใหแกโจโฉเปนการแสดงคารวะอีกจอกหนึ่ง โจโฉก็หัวเราะแลวรับสุรามาดื่มแลววาตัวเจานี้มีเสนหงดงามตอง ใจเรายิ่งนัก ผิวกายเจา ยามตองประทีปแหงราตรีนี้ยากแลวจะหาสตรีใดในแผนดินมาเทียมเทา หากเราจะรับ เจาเปนภรรยาแลวพาไป อยูเมืองฮูโตใหเสพสุขมิสิ้น เจาจะมีความเห็นเปนประการใด างเจาซือลุกขึ้นคํานับโจ โฉแลววา ทานอัครมหาเสนาบดีมีบุญวาสนาบารมีแผปกคลุมทั่วทั้งแผนดิน เมืองอวนเซียนี้เปนสิทธิอยูแกทาน ตัวขาพเจาเปนแตราษฎรของเมืองอวนเซียจึงยอมเปนสิทธิอยูแกทานดวย ขาพเจาหามีสิทธิที่จะตัดสินใจ ประการใดไม การทั้งปวงสุดแทแตใจของทานจะเมตตาเถิด โจโฉไดยินคํานางเจาซือ มีลักษณะยินยอมโอน ออนผอนตามใจ จึงไลทหารและคนรับใชใหออกไปอยูนอกเรือนรับรอง แลวประคองนางเจาซือพาเขาไปที่ หองอันรโหฐานแตค่ํานั้น โจโฉครองอํานาจใหญในแผนดินไมวาไปแหงหนตําบลใด บรรดาขุนนางขาราชการที่รูใจนายก็จะแสวงหาสตรี อันแรกรุนมาปรนเปรอทําความชอบไวแกตัว ดรุณีแรกรุนเหลานั้นแมเปนหญาออน แตความไมเคยการ และ ความอับอายที่มีประจําตัวแตอิสตรีจึงมักบิดพลิ้วผลักไสดวยความไมคุนเคยและเจ็บกลัว จึงทําใหหญาออน เกิดเสี้ยนทําลายแรงปรารถนาใหบรรเทาลง ผิดกับนางเจาซือซึ่งมีวัยถึงสี่สิบ แตกระนั้นความมีโฉมสะคราญ รูจักการทะนุถนอม กลอมบํารุงรางกายใหวิไล ทั้งเปนคนเคยการและผานวันเวลาที่เปนมาย จึงคลายดั่งดิน หนาแลง แตกระแหงรอฝนโปรยมาใหเกิดความชุมฉ่ํา ความปรารถนาของทั้งสองตองกันดั่งนี้ การก็เปนไป คลายกับเมื่อครั้งที่หนุมานไดตัวนางสุวรรณกันยุมา ซึ่งรามเกียรติ์วาไววา "เกี่ยวกระหวัดรัดรึงตรึงตรา วิญญาณ ดาวดิ้นแดยัน พระสมุทรตีฟองนองระลอก กระทบฝงกระฉอกสะเทือนลั่น วาฬใหญพนน้ําอยูเปนควัน ฝน สวรรคตกทั่วสาคร สองรวมภิรมยสมพาส แสนสวาทในรสสโมสร แสนสุข แสนเกษมสถาวร เหนือที่จะ บรรจถรณในราตรี" โจโฉเคยแตเสพหญาออนและถูกเสี้ยนตําปากเปนเนืองนิจ ครั้นพบกับจริตแหงนางเจาซือ กระดังงาดอกงาม แหงเมืองอวนเซียก็เปรมใจ สัมผัสถึงซึ่งความแตกตางระหวางดรุณีแรกรุนกับกระดังงาลนไฟดอกนี้วาเปนดัง เมื่อครั้ง ขุนแผนเปรมรสสวาทนางสายทองวาล้ําเลิศเหนือกวานางพิมพิลาไลยกุหลาบแรกเริ่มแยมวา "สมพาส พิมดุจริมแมน้ําตื้น ไมมีคลื่นแตระลอกกระฉอกฉาว ปะสายทองดุจตองพายุวาว พอออกอาวก็ลมจมลงไป" โจโฉไดรับการปรนเปรอจากนางเจาซือจนอิ่มหนําสําราญ ถึงเวลาใกลสางก็พากันหลับใหล ตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็พนเพลาเที่ยง นางเจาซือตื่นกอนเกิดความรูสึกนึกละอายเกรงวาเตียวสิ้วผูเปนหลานจะทราบความ จึงนั่ง ซึมเศรารออยูที่หนาเตียง พอโจโฉตื่นขึ้นนางเจาซือจึงวา ขาพเจาตกเปนภรรยาทานทั้งๆ ที่เตียวเจผูสามีเพิ่ง ตายไดไมทันนาน ความครหานินทาวาลวงประเพณีจะมีแกขาพเจาเปนอันมาก ไมอาจสูหนาผูคนทั้งปวงใน เมืองนี้ไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตาพาขาพเจาไปอยูที่อื่นเถิด อนึ่งเตียวสิ้วนั้นเปนคนเครงครัดประเพณี หากรู ความเขาแลวก็จะนอยใจในตัวทานวาเปนผูใหญไมคิดถึงน้ําใจของผูนอย โจโฉจึงวาความที่เจาวามาทั้งนี้ชอบ ดวยเหตุและผลตองดวยความคิดเรา บายวันนี้เราจะพาเจาไปอยูที่คายนอกเมือง แลวโจโฉจึงสั่งใหทหารลอบ พานางเจาซือไปพักที่คายบัญชาการนอกเมือง และใกลพลบค่ําตัวโจโฉก็ขึ้นมาพาทหารออกจากเมือง อวนเซียไปอยูที่คายนอกแลวสั่งใหเตียนอุยทหาร องครักษพิทักษรักษาหนาคายหามผูคนเขาออก ยกเวนแต กรณีที่โจโฉจะเรียกหาเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉ "ทุกค่ําเชาเฝาสีซอลอกามา" อยูแตในคายกับนางเจาซือ มิไดออกตรวจตรากองทหาร หรือวาราชการ ตามปกติ นางเจาซือก็ปรนเปรอความสุข ดวยกลกามจนโจโฉลุมหลงไมคิดที่จะยกกลับไปเมืองฮูโต ฝายเตียว สิ้วครั้นเห็นโจโฉไมไดออกวาราชการเปนเวลาหลายวัน และไดยกกลับออกไปอยู ณ คายนอกเมืองก็สงสัย ประกอบทั้งคนรับใชไดเขามารายงานวาทหารของโจโฉไดมารับตัวนางเจาซือไปที่เรือนรับรองจนบัดนี้ยังไม กลับ เตียวสิ้วไดสืบทราบจนไดความชัดวา โจโฉไดนางเจาซืออาสะใภไวเปนภรรยาแลวพาออกไปอยูนอก เมืองก็นอยใจนัก ยิ่งคิดถึงขนบธรรมเนียมประเพณีก็โกรธโจโฉหาวาหยามเหยียดเกียรติแหงตระกูล "เตียว" เตียวสิ้วยิ่งคิดก็ยิ่งอาย ยิ่งอายก็ยิ่งแคน จึงใหหากาเซี่ยงมาปรึกษาเลาความทั้งปวงใหกาเซี่ยงฟงแลววา โจโฉ ทําการทั้งนี้ดูหมิ่น ขาพเจาและตระกูล "เตียว" ยิ่งนัก หากขาพเจาไมแกแคนครั้งนี้ ไมมีหนาที่จะพาดวง
  • 80.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 80 วิญญาณไปพบบรรพบุรุษในปรโลก แมยามมีชีวิตอยูก็ไมกลาแบกหนาพบผูคนไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตา ชวยขาพเจาคิดอานแกแคนโจโฉแทนขาพเจาดวยเถิด กาเซี่ยงจึงวา โจโฉยกมาทั้งนี้มีทหารมาดวยจํานวนมาก ทานอยาเพิ่งวูวามรอนใจไป ขาพเจาจะคิดอุบายให ทานยกทหารไปตั้งประชิดตัวโจโฉไว ครั้นไดทีแลวก็จะจับตัวโจโฉมาสังหารเสีย แลวเสนอวาใหทานแจง แกโจโฉวา ทหารที่เกณฑมาใหมนั้นไมเกรงกลัวทานพากันหลบหนีไปเปนอันมาก ดังนั้น จึงขอเอาทหารใหม ยกไปอยูใกล กับคายโจโฉ จะไดเกรงบุญบารมีไมหลบหนีตอไป ถาโจโฉอนุญาตแลวก็จะจับตัวโจโฉได โดยสะดวก เตียวสิ้วเห็นพองกับความคิดของกาเซี่ยง รุงขึ้นจึงออกไปหาโจโฉ ณ คายนอกเมือง เตียนอุยจึงเขาไปรายงาน ใหโจโฉทราบ โจโฉก็อนุญาตใหเตียวสิ้วเขาไปพบ ครั้นเตียวสิ้วไดกระทําคารวะอยางธรรมเนียมแลว จึงวา กับโจโฉตามคําของกาเซี่ยงทุกประการ โจโฉทําความผิดรูความผิดอยูแตในใจก็อนุญาตตามที่ตองการ เปน การเอาใจ เตียวสิ้วกลบความผิดของตัว เตียวสิ้วกลับมาจากคายโจโฉแลวจึงพาทหารยกเขาไปอยูใน กองทัพโจโฉ ตั้งคายไวตามมุมคายของโจโฉทั้งสี่ดาน แตกระนั้นยังไมเห็นชองทําการ เพราะเตียนอุย องครักษของโจโฉมีสงานาเกรงขาม ทั้งรักษาคายดวยความระมัดระวัง เตียวสิ้วจึงหาเฮาเฉียนายทหารคนสนิท มาปรึกษาวาจะทําประการใดจึงจะฝาเตียนอุยเขาไปถึงตัวโจโฉได เฮาเฉียจึงวาขาพเจาสามารถแบกเหล็กได ถึงหารอยชั่ง แข็งแรง มิไดเปนรองเตียนอุย และยังสามารถเดินทางไดถึงวันละเจ็ดพันเสน เกรงอยูก็แตทวนคู ของเตียนอุยเทานั้น จึงขอใหทานเชิญเตียนอุยมาเลี้ยงโตะมอมสุรา ขาพเจาจะฉวยโอกาสปลอมเขาไปลักเอา ทวนคูนั้นเสีย เตียนอุยก็จะกลายเปนเสือไรเขี้ยวเล็บ ดังนี้ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย เตียวสิ้วเห็นดวยกับแผนการของเฮาเฉีย จึงใหกาเซี่ยงไปเชิญ เตียนอุยมากินโตะ ครั้นทราบวาเตียนอุยรับคํา เชิญแลว จึงสั่งทหารทั้งสี่คายให เตรียมตัวพรอมอาวุธ หากไดยินเสียงประทัดสัญญาณก็ใหยกเขาไปจับตัวโจ โฉ พรอมกัน ครั้นถึงเวลานัด เตียนอุยก็มา ณ คายของเตียวสิ้ว กินโตะและเสพสุรา โดยมิไดสงสัยจนเมามาย จนใกลพลบค่ําเสร็จงานเลี้ยงเตียวสิ้วจึงใหทหารชวยพยุงเตียนอุยกลับไปคาย เตียนอุยเมาสุราไมไดสติกลับ ถึงคายแลวก็หลับใหลอยูริมประตูคาย จากนั้นเฮาเฉียจึงปลอมตัวเขาไปลักเอาทวนคูประจํากายของเตียนอุย แลวเอาไปทิ้งไวดานหลังคาย เตียวสิ้วเห็นการสมความคิดจึงเรียกนายทหารมาสั่งการ กําหนดวิธีการตอบโต ในตอนเคลื่อนยายกําลังเปนที่เขาใจดีแลวจึงสั่งใหยกทหารไปที่คายโจโฉพรอมกัน ขณะนั้นโจโฉยังคงเสพสุราเคลาคลออยูกับนางเจาซือ ไดยินเสียงทหารอึกทึกจึงใหทหารออกไปดู ทหาร กลับมารายงานวาเปนทหารของเตียวสิ้ว กําลังสับเปลี่ยนเวรยาม โจโฉก็มิไดสงสัย อีกครูหนึ่งทหารเฝาคายก็ เขามารายงานอีกวา เกวียนบรรทุกหญามาหลังคายติดไฟอยู โจโฉกําลังเพลินอารมณอยูกับนางเจาซือ นึก รําคาญทหารที่เพียงแคเห็นไฟไหมหญามาก็แสเขามารายงานในยามหนาเหลาหนานางเชนนี้ จึงตวาดใส ทหารนั้นแลววา ทหารหุงขาว ไฟไหมหญาเปนเรื่องเล็กนอย ไฉนเจาจึงไมรูจักใชความคิดแกไขดับไฟ ทหาร นั้นยินน้ําเสียงไมพอใจของโจโฉก็ตกใจกลัวรีบคารวะแลวถอยกลับออกไปนอกคาย แตพอออกมานอกคายได ยินเสียงประทัดดังขึ้น แลวเพลิงก็ลุกขึ้นรอบคายทั้งสี่ดาน โจโฉไดยินเสียงประทัดและไดยินเสียงทหารวิ่งอยู นอกคายเปนจํานวนมากก็ตกใจ รีบรองเรียกเตียนอุยแตไมมีเสียงขานรับ โจโฉรีบออกมาดูที่ประตูคายเห็น เตียนอุยเพิ่งตื่นงัวเงียอยู และเห็นเพลิงไหมคายโชติชวงขึ้นทั้งสี่ดานและทหารของเตียวสิ้วก็พากันบุกเขามาที่ หนาคายก็ยิ่งตกใจ รีบวิ่งกลับเขาไปในคาย เอากระบี่ฟนผนังคายแลวขึ้นมาพาโจอันบิ๋นผูหลานหนีออกไปทาง ดานหลังคายนั้น ขณะนั้นเตียนอุยตื่นขึ้นแลวเห็นไฟไหมคายและทหารเตียวสิ้ว พากันกรูเขามาก็ตกใจมิทันใสเกราะ ควาหาทวน สําหรับมือก็ไมพบ ทหารเตียวสิ้วก็เขามาใกลถึงตัว เตียนอุยจึงแยงเอาดาบของทหารเลว เขาตอสูสกัดทหาร ของ เตียวสิ้วมิใหเขาไปในคาย เตียนอุยฆาทหารเตียวสิ้วประมาณยี่สิบหาคน ทหารของเตียวสิ้วก็พากันถอย มาคุมเชิงอยู ทหารของเตียวสิ้วอีกสองกองไดบุกเขามาทางดานหลังคาย หักเขาไปลอมเตียนอุยไวใชทวน แทงและใชดาบฟนเตียนอุยจนบาดเจ็บ แตเตียนอุยก็ มิไดทอถอยใชดาบตอสูดวยทหารของเตียวสิ้วจนดาบ บิ่นและหักสะบั้นลง เตียนอุยจึงฉวยเอาศพทหารเตียวสิ้ว ขางละคนเขาตอสูปองกันตัว และเอาศพฟาดถูก ทหารเตียวสิ้วลมตายอีกรวมสิบคน ทหารเตียวสิ้วสูไมไดก็พากันถอยออกไปแลวใชเกาทัณฑระดมยิงจนลูก เกาทัณฑเสียบเต็มทั่วราง เตียนอุยก็ยังยืนปกหลักมั่นอยู ทหารเตียวสิ้วคนหนึ่งเขามาทางดานหลังเอาทวน แทง ทะลุอกดานซายเตียนอุยขาดใจตาย ขณะที่สิ้นใจนั้นศพเตียนอุย ยืนพิงประตูคายอยู ทหารเตียวสิ้วไมรูวา เตียนอุยตาย ตางคนตางกลัวฝมือไมกลาบุกเขาไปในคาย เพลิงที่ไหมคายโจโฉในครั้งนี้ ตนเหตุสมุฏฐานที่ แทจริงเกิดจากเพลิงสวาทที่เผาผลาญในใจของโจโฉกอน จึงลุกลามกลายเปน เพลิงที่ผลาญทัพโจโฉจน หมดสิ้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
  • 81.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 81 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม กลยุทธเลี้ยงเสือและนกอินทรี (ตอนที่ 86) เพลิงสวาทไดลุกลามกลายเปนไฟเผาผลาญกองทัพโจโฉจนหมดสิ้น ทหารของเตียวสิ้วไดโจมตีกองทัพโจโฉ ที่ตกอยูในสภาพตื่นตระหนก ณ แดนเมืองอวนเซีย จนแตกกระเจิง ทหารของโจโฉถูกเพลิงคลอก และถูก ทหารเตียวสิ้วฆาฟนลมตายลงเปนอันมาก ตัวโจโฉหนีออกจากคายทางดานหลัง ไปกับโจอันบิ๋นหลานคูใจ พอใกลแมน้ําหยกซุยทหารเตียวสิ้วกองหนึ่งไดใชเกาทัณฑระดมยิงถูกมาโจโฉลมลง ถึงแกความตาย ตัวโจโฉ ตองเกาทัณฑแตไมถูกที่สําคัญ จึงวิ่งหนีไปแตลําพัง สวนโจอันบิ๋นหลานคูใจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย ณ ที่นั้น โจโฉวิ่งหนีไปไดเกือบรอยเสน ไดพบกับโจงั่งผูเปนบุตรซึ่งแตกหนีมาเชนเดียวกัน โจงั่งจึงเอามาของทหาร ใหโจโฉขี่แลวพากันหลบหนีตอไป แตหนีไปไดไมกี่เสนก็ถูกกองทหารของเตียวสิ้วอีก กองหนึ่งไลตามไปทัน ใชเกาทัณฑยิงถูกโจงั่งตายไปอีกคนหนึ่ง โจโฉ โชคยังดีจึงหลบหนีรอดไปไดอีก ขณะนั้นแฮหัวตุนและทหาร ซึ่งแตกหนีอดอยากเที่ยวปลนสะดมเสบียงอาหารและขาวของจากราษฎรตามชายแดนเมืองอวนเซีย อิกิ๋มซึ่ง คุมทหารแตกหนีมาอีกทางหนึ่งพบเหตุการณเขาเห็นทหารแฮหัวตุนประพฤติผิดวินัย กองทัพจึงเขาชวยเหลือ ราษฎร สังหารทหารแฮหัวตุนไปหลายคน ทหารแฮหัวตุนพากันหนีอิกิ๋มไปพบแฮหัวตุน จึงพากันหนีตอไปและพบกับโจโฉจึงนําความรายงานใหโจโฉ ทราบวา อิกิ๋มเปนกบฎ ทหารของอิกิ๋มทราบเรื่องราวก็ไปบอกใหอิกิ๋มทราบ ขณะนั้นอิกิ๋มไดขาววาเตียวสิ้ว กําลังยกทหารติดตามมา จึงสั่งทหารใหตั้งคายมั่นไวและไมเขาไปหาโจโฉ หวังเอาความจริงและความชอบใน การสกัดทัพเตียวสิ้วเขาแกขอหา ครั้นเตียวสิ้วยกตามมาจึงปะทะกับอิกิ๋ม เตียวสิ้วสูอิกิ๋มไมไดจึงแตกถอยรน มาถึงแมน้ําหยกซุย อิกิ๋มไดยกทหารไลตามตีเตียวสิ้วจนเตียวสิ้วตองถอยรนและปะทะเขากับโจโฉและกอง ทหารของแฮหัวตุน ทหารของโจโฉทั้งสองดานไดรุมตีกระหนาบเตียวสิ้ว ทําใหทหารของเตียวสิ้วบาดเจ็บลม ตายลงเปนอันมาก เตียวสิ้วเห็นวาทหารเหลืออยูนอยตัวนัก สูโจโฉไมได จึงพาทหารที่เหลืออยูนั้นหนีไป อาศัยเลาเปยว ที่เมืองเกงจิ๋ว อิกิ๋มจึงเขาไปหาโจโฉเลาความที่ทหารแฮหัวตุนกระทําผิดวินัยกองทัพ ปลนชิงทรัพยสินของราษฎร ทําให เสื่อมเสียเกียรติของทหารหลวงจึงฆาเสียเพื่อพิทักษเกียรติของโจโฉไว โจโฉฟงรายงานแลวพอใจ แตสงสัย วาทําไมอิกิ๋มจึงตั้งคายมั่นไมยอมออกมา ตอนรับโจโฉเขาไปในคาย อิกิ๋มจึงวาไดทราบขาววาเตียวสิ้วกําลังยก ทหารไลตามตี จึงตั้งคายสกัดไว เพื่อตีเตียวสิ้วใหแตกไปกอน จึงจะปองกันโจโฉและพลิกสถานการณได แต กระนั้นก็สํานึกวาไดกระทําความผิดจึงคุกเขาลงขออภัยตอโจโฉ โจโฉไดฟงความตลอดแลวจึงตําหนิแฮหัวตุน ที่ปกครองทหารหละหลวม แลวยังมากลาวฟองใหรายอิกิ๋มอีก แตเห็นวาแฮหัวตุนมีความชอบมาแตกอนจึงให ภาคทัณฑไว แลวสรรเสริญอิกิ๋มเปนอันมากที่คิดอานแกไขสถานการณ พลิกจากแพแกเปนชนะกลับคืนได โจ โฉไดมอบรางวัลใหแกอิกิ๋มเปนอันมาก แลวปูนบําเหน็จ ตั้งใหอิกิ๋มเปนขุนนางที่พระยาจําเริญอายุ โจโฉจัดแจงกองทัพเสร็จแลวจึงสั่งใหทําพิธีเซนไหวเตียนอุย โจอันบิ๋น และโจงั่งผูบุตรที่ริมแมน้ําหยกซุย แลวประกาศแกทหารทั้งปวงวาแมศึกครั้งนี้ จะเสียบุตรและหลานไป แตมิไดเศราโศกเสียใจ เทากับการเสีย เตียนอุย วาแลวโจโฉก็รองไห ทหารทั้งปวงไดฟงดังนั้นก็เขาใจวาโจโฉมีน้ําใจรักทหารยิ่งกวา บุตร หลาน ตางซาบซึ้งน้ําใจโจโฉเปนอันมาก พากันรองไหรักโจโฉ ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวแลวโจโฉจึงใหเลิกทัพ พกเอา ความเคียดแคนเตียวสิ้วกลับไปเลียแผลอยูที่เมืองฮูโต ครั้นสรางโศกจิตใจสงบเปนปกติลงแลว จึงรําลึก ทบทวนสาเหตุของการแตกทัพจนตองเสียเตียนอุย องครักษที่วางใจสูงสุด เสียทั้งบุตรและหลาน และทหาร เปนอันมาก ก็สํานึกวาความผิดพลาดทั้งนั้นเกิดแตตัวเองประพฤติปฏิบัติผิดกฎแหงพิชัยสงครามถึงสามสถาน คือ เปนแมทัพตั้งอยูในความประมาทหนึ่ง ประพฤติลวงขนบธรรมเนียมประเพณี ทําลายน้ําใจมิตรจนตองลาง ผลาญกันเองหนึ่ง และอยูหนาศึกแตมัวเมาลุม หลงในอิสตรีไมเปนอันวาราชการสงครามอีกหนึ่ง โจโฉสํานึก ถึงความผิดพลาดสามสถานดั่งนี้แลวก็เสียใจ แตไมไดปริปากแพรงพรายความสํานึกนี้ใหผูใดทราบ ดวยเกรง วาความแพรงพรายไปแลวจะเสื่อมเสียเกียรติ จึงกลายเปนตราบาปติดอยูในใจโจโฉไปจนตลอดชีวิต All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ทางดานอองเจกซึ่งโจโฉใชใหเชิญพระบรมราชโองการและถือหนังสือของโจโฉไปใหลิโป และเลาป ปรองดองกัน ครั้นเดินทางเขาเขตเมืองชีจิ๋วจึงแจงขาวใหนายดานทราบ นายดานจึงสั่งมาเร็วรีบเขาเมือง รายงานแกลิโป ลิโปเมื่อทราบวาอองเจกเชิญพระบรมราชโองการมาที่เมืองชีจิ๋วจึงนําขบวนออกมาตอนรับเขา ไปในเมือง กระทําพิธีรับพระบรมราชโองการตามธรรมเนียมแลว อองเจกจึงอานประกาศพระบรมราชโองการ แตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และเปนขุนนางที่ขุนพลปราบศึกภาคบูรพา ลิโปถวายบังคมพระบรมราชโองการ
  • 82.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 82 ดวยความยินดี อองเจกจึงมอบหนังสือของโจโฉที่ใหลิโปกับเลาปปรองดองกันแลวกลาวความผูกใจลิโปวา ทาน อัครมหาเสนาบดีมีความเมตตาและเชื่อถือ ลิโปเปนอันมาก จึงกราบบังคมทูลเสนอพระเจาเหี้ยนเตให ทรงแตงตั้ง เปนขุนนางลิโปไดทั้งยศศักดิ์ และฐานะตําแหนงขุนนางก็ยินดีรับปากกับอองเจกวาจะปฏิบัติตาม หนังสือของโจโฉทุกประการ ในขณะนั้นทหารรับใชไดเขามารายงานวาอวนสุดไดสงผูแทนมาพบ ลิโปจึงให เชิญเขามาแลวถามวามีราชการสิ่งใดหรือ ผูแทนของอวนสุดจึงวา อวนสุดกําลังเตรียมการพิธีสถาปนาตัวเอง เปนฮองเต แลวจะแตงตั้งบุตรชายขึ้นเปนรัชทายาท จึงขอใหลิโปรีบสงลูกสาวไปเขาพิธีแตงงานเสียในคราว เดียวกัน ลิโปกําลังอิ่มอยูดวยยศฐาบรรดาศักดิ์ที่โจโฉหยิบยื่นให จึงเห็นการขางอวนสุดเปนเรื่องเหลวไหลที่จะดึงตัว ลงสูที่ต่ํา กลายเปนกบฏตอแผนดินไปดวย จึงแสดงความโกรธใหปรากฏตอหนาอองเจกดวยการดาวาอวนสุด วาเปนคนถอย กําเริบคิดกบฏตอแผนดิน แลวสั่งทหารใหเอาตัวผูแทนอวนสุดไปประหาร จากนั้นลิโปจึงสั่งให ทหารไปเบิกตัวหันอิ้นเถาแกของอวนสุดที่สงมารับลูกสาวออกจากคุก ใหจําใสกรงนักโทษแลวแตงหนังสือให ตันเตงนําไปมอบแกโจโฉที่เมืองฮูโตโดยใหเดินทางไปพรอมกับอองเจก อองเจกพาตันเตงและนักโทษหันอิ้นเดินทางถึงเมืองฮูโตแลว จึงพากันเขาไปพบโจโฉรายงานเหตุการณให ทราบทุกประการ โจโฉไดเปดหนังสือของลิโปที่มอบมากับตันเตงซึ่งมีเนื้อความวาลิโปขอขอบคุณโจโฉที่ สงเสริมสนับสนุน และจะตั้งหนาตั้งตาทําราชการ สนองพระเดชพระคุณสืบไป โจโฉอานหนังสือนี้แลวก็อานใจ ลิโปวาบัดนี้ไดตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุดแลว จึงสั่งใหเอาตัวหันอิ้นไปประหาร ตันเตงเห็นดังนั้นจึงแปร พักตรเขาดวยโจโฉ แลวแอบกระซิบเสนอโจโฉวาลิโปเปนคนพาลต่ําชาประดุจสัตวเดรัจฉาน เนรคุณคน คิด กบฏตอแผนดิน ทานจะเลี้ยงไวนั้นไมชอบเพราะนานไปลิโปก็จะคิดรายตอทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็ดีใจ และ แปลกใจไปพรอมกัน เขมนมองหนาตันเตง แลวกลาววาขาพเจาก็มีความคิดเห็นเชนเดียวกับทานและตองการ กําจัดลิโปเสียใหจงได ขอใหทานและตันกุยผูบิดาจงชวยกันคิดอานวางแผนอยูที่เมืองชีจิ๋ว เมื่อใดที่ขาพเจา ยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋วแลวก็ใหชวยหาทางกําจัดลิโปเสีย ตันเตงจึงรับปากโจโฉวาจะคิดอานทําการเปนไส ศึกอยูในเมืองชีจิ๋วรวม กับตันกุยผูบิดา ขอใหโจโฉวางใจ โจโฉไดฟงดังนั้นก็มีความยินดี จึงตั้งใหตันเตงเปน เจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และใหเพิ่มเบี้ยหวัดแกตันกุย พรอมรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง แลวใหทําหมายรับสั่งแจงใหลิโปเจาเมืองชีจิ๋วทราบเพื่อปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น ตันเตงจึงลาโจโฉจะกลับเมืองชีจิ๋ว โจโฉไดตันกุย ตันเตง สอง พอลูกเปนไสศึกอยูในเมืองชีจิ๋วดังนี้ก็มีความ ยินดียิ่งนัก คิดผูกใจสองพอลูกไวอีกชั้นหนึ่ง จึงยุดเอามือตันเตงเขามากุมไวแนนแลววา "การซึ่งคิดไวทั้งนี้เรา ปลงใจไวแกทาน ทานจงคิดอานกระทําการใหสําเร็จจงได" ผูกตราสังมัดใจตันเตง แลวก็เดินออกมาสงตันเตง จนถึงประตูจวน ตันเตงประทับใจโจโฉยิ่งนัก คํานับโจโฉอีกครั้งหนึ่งแลวลากลับไปเมืองชีจิ๋ว เขาไปรายงานให ลิโปทราบ ลิโปเห็นตันเตงกลับมาก็ถามวาโจโฉวากลาวประการใดบาง ตันเตงยกเอาตราสําหรับเมืองกองเห ลงและหมายรับสั่งสงให ลิโปแลววา โจโฉไดแตงตั้งใหขาพเจาเปนเจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว เพิ่ม เบี้ยหวัดใหแกตันกุยผูบิดาและมอบรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง ลิโปเห็นดังนั้นก็โกรธจึงวาเราใชตัว ไปทําการแตสิ่งหนึ่งก็มิไดการ แตตัวสองพอลูกกลับไดดิบไดดี แลววาแตกอนเรากับอวนสุดจะผูกดองกัน บิดา ตัวมาหามไวแลวลวงเราใหเขากับโจโฉ ทําใหเราตองตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุด แตมิไดสิ่งใดตอบแทน ตางกับตัวสองพอลูกไดทั้งวาสนาและยศฐาบรรดาศักดิ์ ตัวคิดคดตอเราเปนมั่นคง วาแลวก็ชักกระบี่จะฆา ตันเตง ตันเตงตกใจแตแสรงหัวเราะแลววา ขาพเจายังกลาวไมสิ้นความ ไฉนทานจึงวูวามดั่งนี้ ลิโปสงสัยจึง ถามวากระแสความอันใดยังไมสิ้น ตัวจงวามาใหแจง ตันเตงจึงลวงลิโปวา เมื่อไปหาโจโฉนั้นไดเสนอแกโจโฉ วาตัวทานอุปมาดั่งเสือ การเลี้ยงเสือจะตองเลี้ยงใหอิ่มหนําสําราญอยาใหหิวเปนอันขาด เพราะหากเสือหิวขึ้น แลวก็จักทําอันตรายตอคนเลี้ยง และจะเบียดเบียนจับเอาสัตวอื่นเปนอาหาร จึงขอใหโจโฉสนับสนุนทานใหอิ่ม ดวยอํานาจและวาสนาทั้งปวง และลวงลิโปตอไปวาครั้นโจโฉไดฟงขาพเจาแลวกลับหัวเราะ แลวกลาววา ขาพเจาสําคัญผิดเพราะตัวทานนั้นจะเปรียบกับเสือไมได เปรียบไดก็แตพญาอินทรี ที่มีสายตาอันคมกลาและมี กําลังปกอันเขมแข็ง จองคอยจับกระตายเปนอาหาร ตราบใดที่ยังจับกระตายเปน อาหารไมไดก็จะจองคอย จนกวาจะทําการสําเร็จ ครั้นจับกระตายเปนอาหารไดแลวก็จะโผผินบินไปในอากาศ ดังนั้น หากเลี้ยงดูทานใหอิ่มแลวทานก็จะไมเต็มใจทําราชการ ดังนี้การเลี้ยงพญานกอินทรีจึงเลี้ยงใหอิ่มไมได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ความตอนนี้สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ไดอุปมาเพื่อใหตองกับความเขาใจของคนไทยวา "ทุกวันนี้ หากทานยังขัดสนจึงออนนอมตอ ถาทานมีกําลังขึ้นแลวก็จะเอาใจออกหางโจโฉ อุปมาเหมือนเหยี่ยวซึ่งอยาก อาหาร คอยแสวงหาลูกไกอันพลัดแม ไดทีแลวก็ฉาบลงเอา ถาเห็นยังมิไดทีก็คอยทําความเพียรคอยอยูกวา จะไดลูกไก" ความอันตันเตงกลาวทั้งนี้หาใชความคิดหรือคํากลาวของโจโฉไม หากแตเปนเรื่องที่ตันเตงเสก สรรปนแตงขึ้นวากลาวเอาเองเพื่อเอาตัวรอดจากความโกรธของลิโปที่กําลังถือกระบี่จองจะสังหารตัวเสีย แตก็
  • 83.
    โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 83 ไดแลเห็นความรูและความคิดอานของตันเตงวาการใชคนนั้นจะตองจําแนกใหไดวา คนนั้นเปนเสือหรือเปน พญานกอินทรี หากเปนเสือก็ตองเลี้ยงใหอิ่มจึงจะไมทําอันตรายตอผูเลี้ยง และจะไดไมเบียดเบียนจับสัต