Download free for 30 days
Sign in
Upload
Language (EN)
Support
Business
Mobile
Social Media
Marketing
Technology
Art & Photos
Career
Design
Education
Presentations & Public Speaking
Government & Nonprofit
Healthcare
Internet
Law
Leadership & Management
Automotive
Engineering
Software
Recruiting & HR
Retail
Sales
Services
Science
Small Business & Entrepreneurship
Food
Environment
Economy & Finance
Data & Analytics
Investor Relations
Sports
Spiritual
News & Politics
Travel
Self Improvement
Real Estate
Entertainment & Humor
Health & Medicine
Devices & Hardware
Lifestyle
Change Language
Language
English
Español
Português
Français
Deutsche
Cancel
Save
Submit search
EN
Uploaded by
Rose Banioki
281 views
Samkok02
Read more
0
Save
Share
Embed
Embed presentation
Download
Download to read offline
1
/ 115
2
/ 115
3
/ 115
4
/ 115
5
/ 115
6
/ 115
7
/ 115
8
/ 115
9
/ 115
10
/ 115
11
/ 115
12
/ 115
13
/ 115
14
/ 115
15
/ 115
16
/ 115
17
/ 115
18
/ 115
19
/ 115
20
/ 115
21
/ 115
22
/ 115
23
/ 115
24
/ 115
25
/ 115
26
/ 115
27
/ 115
28
/ 115
29
/ 115
30
/ 115
31
/ 115
32
/ 115
33
/ 115
34
/ 115
35
/ 115
36
/ 115
37
/ 115
38
/ 115
39
/ 115
40
/ 115
41
/ 115
42
/ 115
43
/ 115
44
/ 115
45
/ 115
46
/ 115
47
/ 115
48
/ 115
49
/ 115
50
/ 115
51
/ 115
52
/ 115
53
/ 115
54
/ 115
55
/ 115
56
/ 115
57
/ 115
58
/ 115
59
/ 115
60
/ 115
61
/ 115
62
/ 115
63
/ 115
64
/ 115
65
/ 115
66
/ 115
67
/ 115
68
/ 115
69
/ 115
70
/ 115
71
/ 115
72
/ 115
73
/ 115
74
/ 115
75
/ 115
76
/ 115
77
/ 115
78
/ 115
79
/ 115
80
/ 115
81
/ 115
82
/ 115
83
/ 115
84
/ 115
85
/ 115
86
/ 115
87
/ 115
88
/ 115
89
/ 115
90
/ 115
91
/ 115
92
/ 115
93
/ 115
94
/ 115
95
/ 115
96
/ 115
97
/ 115
98
/ 115
99
/ 115
100
/ 115
101
/ 115
102
/ 115
103
/ 115
104
/ 115
105
/ 115
106
/ 115
107
/ 115
108
/ 115
109
/ 115
110
/ 115
111
/ 115
112
/ 115
113
/ 115
114
/ 115
115
/ 115
More Related Content
PDF
แผนที่ศึก 9 ทัพ
by
sudchaleom
PPT
El nuevo siglo y los rostros del sistema educativo
by
Sandra Roberts
PPT
สามก๊ก
by
kanchana13
DOCX
ตายเสียดีกว่าที่จะเสียเกียรติศักดิ์
by
Thongkum Virut
PPTX
งานคอมแก ส ง
by
ruth12874
PDF
Samkok04
by
Rose Banioki
PPTX
Uso de las TIC en la formación
by
Javier Alguerinho Dos Santos
DOCX
Carta iberoamericana belkys
by
andreinaaguero
แผนที่ศึก 9 ทัพ
by
sudchaleom
El nuevo siglo y los rostros del sistema educativo
by
Sandra Roberts
สามก๊ก
by
kanchana13
ตายเสียดีกว่าที่จะเสียเกียรติศักดิ์
by
Thongkum Virut
งานคอมแก ส ง
by
ruth12874
Samkok04
by
Rose Banioki
Uso de las TIC en la formación
by
Javier Alguerinho Dos Santos
Carta iberoamericana belkys
by
andreinaaguero
Viewers also liked
PDF
Netejar la tauleta
by
josep.tomas.alemany
PPTX
Dioses del olimpo
by
laurajj
PDF
Sinopse do Censo Demográfico para o Semiárido Brasileiro
by
Ministério da Ciência, Tecnologia e Inovações
PDF
Semiárido Piauiense: Educação e Contexto
by
Ministério da Ciência, Tecnologia e Inovações
DOCX
Kulkarni Vision Learning Science notesm-&-chapter-notes
by
Ramesh Kulkarni
DOCX
andres algarra
by
Andres Ricardo Algarra Ramos
DOC
Consejos importantes-para-la-mantención-de-acuarios-marinos-y-arrecife
by
Jhim Davis Calle
PDF
Resultats 3ª jornada lliga
by
cfvmonistrol
PDF
Gesicherte Anlagenverfügbarkeit durch systematisch abgeleitete Instandhaltung...
by
MCP Deutschland GmbH
PPTX
Osservatorio Politecnico Gonzalez Galicia_Semplicità e fruibilità
by
josejgonzalez
PDF
Talent meets Bertelsmann via http://www.talentmeetsbertelsmann.com
by
Spirofrog & Cleantech Europe - Jobs & Career
PPSX
Apresentação3
by
Polivalente Linhares
PDF
Samkok03
by
Rose Banioki
DOCX
Software Educativo
by
Jéssica Baú
PPT
La Pubertad por Dayana Lárraga
by
dayanasofia92
Netejar la tauleta
by
josep.tomas.alemany
Dioses del olimpo
by
laurajj
Sinopse do Censo Demográfico para o Semiárido Brasileiro
by
Ministério da Ciência, Tecnologia e Inovações
Semiárido Piauiense: Educação e Contexto
by
Ministério da Ciência, Tecnologia e Inovações
Kulkarni Vision Learning Science notesm-&-chapter-notes
by
Ramesh Kulkarni
andres algarra
by
Andres Ricardo Algarra Ramos
Consejos importantes-para-la-mantención-de-acuarios-marinos-y-arrecife
by
Jhim Davis Calle
Resultats 3ª jornada lliga
by
cfvmonistrol
Gesicherte Anlagenverfügbarkeit durch systematisch abgeleitete Instandhaltung...
by
MCP Deutschland GmbH
Osservatorio Politecnico Gonzalez Galicia_Semplicità e fruibilità
by
josejgonzalez
Talent meets Bertelsmann via http://www.talentmeetsbertelsmann.com
by
Spirofrog & Cleantech Europe - Jobs & Career
Apresentação3
by
Polivalente Linhares
Samkok03
by
Rose Banioki
Software Educativo
by
Jéssica Baú
La Pubertad por Dayana Lárraga
by
dayanasofia92
Similar to Samkok02
PPT
สรุปเรื่อง สามก๊ก
by
ห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์
PDF
Red and Peach Aesthetic Illustration Chinese Mythology Presentation.pdf.pdf
by
M1ILMSHIOSL
PDF
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
by
krunoree.wordpress.com
PDF
แผนที่ศึก 9 ทัพ
by
sudchaleom
DOC
เรื่องย่อ สามก๊ก
by
ห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์
PPT
สามัคคีเภทคำฉันท์
by
A'waken P'Kong
PDF
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
PDF
9789740335726
by
CUPress
PDF
สามก๊ก ลำดับเหตุการณ์
by
sornblog2u
PDF
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
DOC
ตั้งฮั่น ตอนที่ 2
by
tommy
PDF
Samkok12 (551-600)
by
sornblog2u
PDF
Samkok12
by
Rose Banioki
PDF
Samkok06
by
Rose Banioki
PDF
Samkok06 (251-300)
by
sornblog2u
DOCX
งาน
by
Supichayaporn Thongtue
DOC
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
by
tommy
PDF
Samkok10 (451-500)
by
sornblog2u
PDF
Samkok10
by
Rose Banioki
PDF
Samkok01
by
tommy
สรุปเรื่อง สามก๊ก
by
ห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์
Red and Peach Aesthetic Illustration Chinese Mythology Presentation.pdf.pdf
by
M1ILMSHIOSL
ใบงานที่1เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย
by
krunoree.wordpress.com
แผนที่ศึก 9 ทัพ
by
sudchaleom
เรื่องย่อ สามก๊ก
by
ห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์
สามัคคีเภทคำฉันท์
by
A'waken P'Kong
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
by
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
9789740335726
by
CUPress
สามก๊ก ลำดับเหตุการณ์
by
sornblog2u
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
by
พัน พัน
ตั้งฮั่น ตอนที่ 2
by
tommy
Samkok12 (551-600)
by
sornblog2u
Samkok12
by
Rose Banioki
Samkok06
by
Rose Banioki
Samkok06 (251-300)
by
sornblog2u
งาน
by
Supichayaporn Thongtue
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
by
tommy
Samkok10 (451-500)
by
sornblog2u
Samkok10
by
Rose Banioki
Samkok01
by
tommy
More from Rose Banioki
PDF
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
by
Rose Banioki
PDF
หนังสือความทรงอภิญญา
by
Rose Banioki
PDF
Instant tax
by
Rose Banioki
PPS
P4
by
Rose Banioki
PDF
Thaifood table
by
Rose Banioki
PPS
Tibet
by
Rose Banioki
PPS
P3
by
Rose Banioki
PPS
Photo mix7
by
Rose Banioki
PDF
2013ar-Berkshire Hathaway
by
Rose Banioki
PDF
Ipad user guide ios7
by
Rose Banioki
PPS
Pps hollywood dorado_bea
by
Rose Banioki
PDF
Iphone user guide th
by
Rose Banioki
PPS
To myfriends
by
Rose Banioki
PPS
P1
by
Rose Banioki
PPS
Photos carlosalbertobau
by
Rose Banioki
PDF
Techinque mutual-fund
by
Rose Banioki
PPS
Toilets pierre daspe
by
Rose Banioki
PPS
Photosdutempspass
by
Rose Banioki
PPS
The differencebetweenbeachesinindia&greece
by
Rose Banioki
PDF
Nutritive values of foods
by
Rose Banioki
Spm ระบบความคิดพิชิตการลงทุน
by
Rose Banioki
หนังสือความทรงอภิญญา
by
Rose Banioki
Instant tax
by
Rose Banioki
P4
by
Rose Banioki
Thaifood table
by
Rose Banioki
Tibet
by
Rose Banioki
P3
by
Rose Banioki
Photo mix7
by
Rose Banioki
2013ar-Berkshire Hathaway
by
Rose Banioki
Ipad user guide ios7
by
Rose Banioki
Pps hollywood dorado_bea
by
Rose Banioki
Iphone user guide th
by
Rose Banioki
To myfriends
by
Rose Banioki
P1
by
Rose Banioki
Photos carlosalbertobau
by
Rose Banioki
Techinque mutual-fund
by
Rose Banioki
Toilets pierre daspe
by
Rose Banioki
Photosdutempspass
by
Rose Banioki
The differencebetweenbeachesinindia&greece
by
Rose Banioki
Nutritive values of foods
by
Rose Banioki
Samkok02
1.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 1 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เมื่อเสือไดลิ้มรสเลือด (ตอนที่ 51) ลิโปยกทหารออกจากเมืองหลวงมารบดวยลิฉุย กุยกี ตองกลยุทธวิธีแหงสงครามจรยุทธ หลอกลอใหรบ พัวพันอยูถึงสามวันสามคืน จึงทั้งออนลาเรี่ยวแรงลง ทั้งคิดถึงยอดหวานใจเตียวเสี้ยน ซึ่งกําลังอยูในชวงขาว ใหมปลามัน จิตใจสูรบจึงไมกลาแกรงเหมือนกับเมื่อครั้งรบดวยกองทัพปฏิวัติ ครั้นไดขาววากองทัพของเตียวเจ และหวนเตียว ยกเขาตีเมือง หลวงจึงคิดหวงใยการขางในพระนคร ซึ่งกลอง ดวงใจเตียวเสี้ยนอยูในที่นั้นดวย และเกรงวาเมืองหลวงจะไดรับอันตรายเพราะรูดีวาระบบและกําลังปองกันพระ นครไมไดเขมแข็งมั่นคง ดังนั้นลิโปจึงตัดสินใจตีฝาทหารของกุยกีที่ปดลอมอยูดานเชิงเขาเพื่อจะกลับไปชวย เมืองหลวง ทหารของลิฉุย กุยกี ไลตามตีลิโปอยางไมลดละ ครั้นลิโปจะหันเขามารบครั้งใดก็ถอยเสีย แตพอลิ โปหันกลับรุดไปเมืองเตียงอัน ทั้งลิฉุย กุยกี ก็ยกทหารเขาตามตีอีก ลิโปรบพลางถอยพลางอยูตลอดทาง ตองสูญเสียทหารไปเปนจํานวนมาก ครั้นมาใกลกําแพงพระนคร ทหารของลิโปเห็นทหารของเตียวเจและหวนเตียวเปนจํานวนมากลอมเมืองหลวง และกําลังโจมตีกําแพงพระนครก็เกิดความรักตัวกลัวตาย จึงพากันไปเขาสวามิภักดิ์กับทหารของเตียวเจและ หวนเตียวเปนจํานวนมาก ลิโปเห็นเชนนั้นก็หมดกําลังใจตอสูอาการที่ลูกนองทิ้งนายแบบลิโปนี้ ดานหนึ่ง เปนไปไดวาทหารของลิโปเหลานั้นเปนคนใชไมได ทอดทิ้งนายในยามยาก แตในอีกดานหนึ่งก็เปนไปไดดวย วาเกิดแตเหตุที่ลิโปเปนนายแตตําแหนงหนาที่ ไมมีน้ําใจตอลูกนอง ดวยคนนั้นมีใจ ครั้นใจไมมีน้ําใจหลอเลี้ยง ผูกพันไวตอกันแลว ยามใดมีโอกาสหรือยามใดเปนยามยาก ความสัมพันธของคนที่อาศัยแตเพียงตําแหนง และหนาที่จึงยอมขาดสะบั้นลงโดยงาย ลิโปเหลือทหารที่ยังคงจงรักภักดีเพียงไมกี่คนจึงเห็นเหลือกําลังที่จะทําการสูรบขับไลกองทัพที่ลอมพระนคร อยูนั้น จึงไดแตพาทหารที่เหลืออยูรวนเรโดยรอบพระนครอยูถึงสองสามวัน คิดไมตกวา จะแกไขสถานการณ ประการใด การณขางในพระนครนั้น ทหารรักษาพระนครยังคงตอสูปองกันเมืองหลวงเปนสามารถ ยิงเกาทัณฑ ทิ้งกอนศิลา และทรายคั่วจากเชิงเทินกําแพง เมืองใสทหารที่ลอมพระนครบาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก ขณะนั้นลูกนองเกาของตั๋งโตะสองคนคือลิบองและอองหอง ซึ่งเอาตัวรอดจากการตามลางบางพรรคพวกตั๋ง โตะของอองอุน โดยอาศัยวิชาจิ้งจกเปลี่ยนสี ทําทีเขาเปนพวกของอองอุน จึงยังคงรักษาตําแหนงขุนนางใน เมืองหลวงเอาไวได ครั้นไดทราบขาวสี่ทหาร เอกของตั๋งโตะเจานายเกายกกองทัพมาโจมตีเมืองหลวงก็มี ความยินดียิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตัวจะเปนใหญอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเห็นเปนโอกาส ที่จะแกแคนเอากับอองอุน ดังนั้นจึงระดมลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เคย กินอยูไดเสียในทางผลประโยชนกันมาแตกอนแลวกอการเปนไสศึก ขึ้นในเมือง ครั้นเห็นเปนทีที่ภายในเมืองหลวงกําลังชุลมุนสูรบกับกองทัพของสี่ทหารเอกอยูบนเชิงเทินพระนคร จึงพา พรรคพวกไลฆาฟนทหารฝายเมืองหลวงที่รักษาประตูเมืองอยูนั้น แลวเปดประตูเมืองทั้งสี่ดาน กองทัพของลิ ฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว จึงกรูกันเขาพระนคร ฆาฟนทหารที่รักษาเชิงเทินบาดเจ็บลมตายเปน อันมาก ทหารฝายเมืองหลวงที่เหลืออยูก็ยอมเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ลิโปเห็นเมืองหลวงแตกก็ตกใจ รีบตีฝาทหารของลิฉุย กุยกี เขา ไปในพระราชวัง ไปพบอองอุนที่ตึก บัญชาการแลววา บัดนี้เมืองหลวง ตกอยูในมือขาศึกแลว ใหรีบขึ้นมาตีฝาออกไปดวยกัน อองอุนบัดนี้เห็นทีคับ ขัน ครั้นจะหนีก็คงหนีไมรอดเพราะชราภาพ ทั้งไมตองการใหถูกตราหนาในภายหลังวาทอดทิ้งฮองเตใน ยาม วิกฤติจึงตัดสินใจรักษาชื่อเสียงเกียรติคุณแลววากับลิโปวา "เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไมควร ถึงจะตายก็เอา ความชอบไวภายหนา ทานจะไปก็ไปเถิด แตชวยเอาเนื้อความทั้งนี้ไปแจงแกหัวเมืองทั้งปวงวา เราคํานับไป ดวย บัดนี้เกิดเหตุขึ้นในเมืองหลวงใหหัวเมืองทั้งปวงตั้งใจทํานุบํารุงแผนดิน ยกกองทัพเขามาชวยกําจัดศัตรู ราชสมบัติเสีย" อองอุนในยามเขาตาจนจึงเพิ่งคิดถึงการทํานุบํารุงแผนดิน เพิ่งคิดขอใหหัวเมืองตางๆ ยกทัพ เขามากําจัดศัตรูแผนดิน ซึ่งถาหากไม ตั้งอยูในความประมาทคิดถึงเรื่องนี้และทําในเรื่องนี้เสียกอนก็จะไมตก อยูในสภาพอับจนเยี่ยงนี้ ถึงกระนั้นก็ยังคงคิดไวลายเสือเฒาใหลิโปชวยบอกกลาวบรรดาหัวเมืองตางๆ ถึง เกียรติคุณของตนที่ยอม ตายอยูกับฮองเตเพื่อจะไดมีชื่อเสียงปรากฏไวในประวัติศาสตร All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําอองอุนแลวยังพยายามชักชวนใหรีบหนีอีกหลายหน แตอองอุนก็ยืนหยัดเจตนาเดิม พอดีขณะนั้น ทหารของลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว ยกตามมาและเขาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน แตไมกลาบุกรุกผาน
2.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 2 ประตูพระราชวังเขาไป เพราะสี่ทหารเอกและทหารเหลานั้นเดิมทีลวนเปนทหารอาชีพ เคารพตอกฎมณเฑียร บาล จึงยังคงเกรงพระบรมเดชานุภาพของฮองเต ตางคนตางก็อออยูแตภายนอกกําแพงพระราชวัง ลิโปเห็นสถานการณคับขัน ทั้งเพลิงก็ลุกไหมขึ้นภายนอกพระราชวังหลายแหง ครั้นจะเขาไปรับเอาเตียวเสี้ยน และครอบครัวออกมาก็ไมทันการ จึงรีบตีฝาออกจากประตูพระราชวังพา ทหารรอยเศษตีฝาหนีออกจากเมือง หลวงตรงไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง อองอุนครั้นลิโปไปแลวจึงเดินทางเขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงพระ ตําหนักที่ประทับ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ วาบัดนี้สี่ทหารเอกของตั๋งโตะยึดไดเมือง หลวงแลว และยกทหารมาลอมพระราชวังไวทั้งสี่ดาน ดังนั้นจึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จออกพระบัญชร สันติภาพ บนชั้นสองของพระที่นั่งเพื่อระงับการจลาจลตอไป พระเจาเหี้ยนเตจึงเสด็จออกพระบัญชรสันติภาพ ประทับบนระเบียงชั้นสองของพระตําหนักพรอมดวยขันที อาลักษณ และอองอุน แลวโปรดใหลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียว เขาเฝา ณ พื้นเบื้องลางของพระบัญชร นั้น สี่ทหารเอกรับทราบพระราชกระแสแลวก็พากันมาเฝาอยูขางลาง กราบถวายบังคมแลว พระเจาเหี้ยนเตจึง รับสั่งถามวาพวกเจายกทหารมาลอมพระราชวังนี้มีประสงคสิ่งใด สี่ทหารเอกกราบบังคมทูลวาที่กระทําการดังนี้ จะคิดเปนกบฏตอ แผนดินนั้นหามิได เนื่องจากเบื้องกอนนี้ตั๋งโตะเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน และอัครมหา เสนาบดี ไดทํานุบํารุงบานเมืองและราษฎรใหเปนสุข แตอองอุนคบคิดกับลิโปสังหารตั๋งโตะเสีย แลวยึด อํานาจไวเสียเองโดยไมชอบดวยกฎหมาย พวกขาพระพุทธเจาปรารถนาจะสรางความ ถูกตองขึ้นในบานเมือง ธํารงบทกฎหมายใหศักดิ์สิทธิ์ เปนหลักและขื่อแปของบานเมืองเพื่อใหเกิดความสงบสุขสืบไป ดังนั้น จึงขอพระราชทานเอาตัวอองอุนมาประหารเสียในฐานะเปนกบฏตอแผนดิน เสร็จการแลว ขาพระพุทธเจาทั้งปวงก็จะ กลับคืนสูที่ตั้งตามเดิม อองอุนไดยินดังนั้นจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาเปน ขุนนางรับราชการในพระราชวงศฮั่นดวยความสัตยสุจริตติดตอกันถึง สี่แผนดิน เห็นตั๋งโตะเปนทรราชคิดแยง ชิงราชสมบัติ เบียดเบียนบาน เมืองและราษฎร ขาพระพุทธเจาจึงคิดกําจัดภัยแผนดินเสีย บัดนี้มีความวุนวาย ขึ้นในพระราชวังอันเนื่องมาแตความตองการตัวขาพระพุทธเจา ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงพรอมพลีชีวิตถวาย เปนราชพลี เพื่อใหเหตุการณวุนวายไดสงบลง และขอกราบถวายบังคมลา ณ บัดนี้ วาแลวอองอุนก็กระโดดลงจากระเบียงชั้นสองลงมาที่พื้นขางหนาสี่ทหารเอก ดวยความชราภาพและความสูง จึงทําใหอองอุนแขน ขาหักทรุดอยูกับที่ แตปากนั้นยังกลาอยูและรองขึ้นวา "ไอศัตรูราชสมบัติ กูอยูที่นี่แลว" สี่ทหารเอกอยากรูความถึงเหตุผลและผูคนที่เกี่ยวของในการสังหารตั๋งโตะ จึงถามอองอุนวาตั๋งโตะมีผิดสิ่งใด จึงคบคิดกับลิโปฆาเสีย และมีใครรวมเกี่ยวของดวยบาง อองอุนจึงวาฆาเสียเพราะตั๋งโตะเปนศัตรูราชสมบัติ เปนทรราช ขมเหงและทํารายขุนนางแลราษฎร พวกเจาก็รูอยูแกใจ หามีใครรวมมือดวยกูไม สี่ทหารเอกจึงวา ตอไปวา ครั้นเราทั้งสี่คนมีหนังสือมาสวามิภักดิ์ขอทําราชการดวย เหตุใดตัวจึงจองอาฆาตพยาบาทคิดสังหาร พวกเราสี่คนเลา อองอุนจึงวาเพราะพวกเจาเปนพวกทรราช ขณะนั้นอองอุนบาดเจ็บไดความทรมานนัก จึงยั่วสี่ ทหารเอกวาพวกมึงเปนกบฏ กูอยูในเงื้อมมือพวกมึงแลว จะฆาก็เรงฆาเสียเถิด สี่ทหารเอกไดฟงก็โกรธ ทั้ง เห็นจะซักไซไลเลียงใหอองอุนเปด ปากวามีใครเปนพวกคบคิดสังหารตั๋งโตะไมเปนผลแลว จึงเอาดาบฟน อองอุนถึงแกความตาย แลวสั่งใหทหารไปจับเอาบุตร ภรรยา และญาติพี่นองอองอุนฆาเสียทั้งสิ้น หลังจากอองอุนกระโดดลงไปใหสี่ทหารเอกฆาแลว พระเจาเหี้ยนเตสลดพระทัยอาลัยนักจึงเสด็จเขา สี่ทหาร เอกกราบถวายบังคมลาแลวพากันไปปรึกษาที่ตึกบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร แตคงใหทหารลอม พระราชวังไวอางวาเปนการถวายการอารักขาฮองเต สี่ทหารเอกเมื่อมาถึงกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระ นครแลว ก็ใหทหารของตัวเขาประจําการ เปนทหารสังกัดกองกําลังรักษาพระนคร ทหารหนวยตางๆ ในพระ นครที่เขาสวามิภักดิ์เปนจํานวนมากก็ใหทําหนาที่ในหนวยสังกัดเดิม สี่ทหารเอกนั้นแรกเริ่มคิดอานกันแตเพียง เพื่อเสี่ยงตายตอสูเอา ตัวรอดแลวกาวมาถึงขั้นคิดสังหารอองอุนเพื่อแกแคน ครั้นยึดพระนครไดแลวก็เริ่ม สัมผัสวาสถานการณทั้งปวงไดตกอยูภายใตอํานาจการควบคุมของกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งพวกตนเปน คณะผูบัญชาการแลวโดยไมไดคิดฝน มารูตัวอีกทีหนึ่งก็กลายเปนคณะรัฐประหารที่ยึดอํานาจรัฐจากอองอุนมา ไวในกํามือเสียแลว คนหนึ่งประมาทจนอํานาจรัฐหลุดจากมือแลวถูกสังหารอยางทารุณ แตอีกสี่คนเพียงแคเสี่ยงเอาตัวรอดกลับ บังเอิญไดอํานาจรัฐมาครอง ดูประหนึ่งวาฟานั้นไรกฎเกณฑ แตความจริงนี่คือกฎเกณฑ ของฟา เนื่องเพราะ กฎเกณฑของฟานั้นไมขึ้นตอการคํานวณทางคณิตศาสตร ไมขึ้นตอกฎเกณฑของตรรกะ และไมขึ้นตอ เจตจํานงของผูคน แตใครเลาจักเขาถึงกฎเกณฑของฟาได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
3.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 3 เมื่อรูตัววาไดครองอํานาจรัฐอยูในมือฉะนี้แลว ลิฉุย กุยกี จึงคิดกาวตอไปถึงขนาดคิดลมราชวงศฮั่น สังหาร ฮองเต ตั้งระบอบการ ปกครองโดยสภารัฐประหาร แตเตียวเจ และหวนเตียว คัดคานวาแผนดินมีธรรมเนียมการ ปกครองในระบอบกษัตริย ราชวงศฮั่นไดสถาปนามารวม 400 ปแลว หัวเมืองจํานวนมากยังคงจงรักภักดีตอ ราชวงศฮั่น เจาเมืองจํานวนมากก็เปนพวก "แซเลา" เชื้อสายของพระเจาฮั่นโกโจเลาปง ทั้งราษฎรก็เคยชินใน ระบอบกษัตริย หากลมฮองเตเสียแลวบรรดาหัวเมืองก็จะยกกองทัพเขามา ราษฎรก็จะกอการจลาจล พวกเราก็ จะคุมสถานการณไวไมได ดีรายอํานาจวาสนา ที่มีอยูในวันนี้ก็จะสูญสิ้นไป กระไรเลยควรคงราชวงศฮั่นและ พระเจาเหี้ยนเตไวดังเดิม แลวพวกเราครองอํานาจรัฐแบบตั๋งโตะ บานเมืองก็จะเปนปกติสุขสืบไป ที่ประชุมสภารัฐประหารเห็นชอบดวยกับความคิดของเตียวเจ และหวนเตียว และตกลงกันตอไปวาตองรีบ สลายตัวสภารัฐประหาร แลวกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตโปรดเกลาฯ ใหดํารงตําแหนง ขุนนางตาม ระบอบการปกครองปกติ เพื่อสลายคราบเผด็จการออกไปแลวใชเสื้อคลุมของฮองเตคุมตัวใหไดครองอํานาจ เผด็จการไดโดย ชอบดวยกฎหมาย จากนั้นแลวจึงคอยคิดอานกําจัดศัตรูทางการเมือง อยางเปนขั้นตอน วาง ฐานอํานาจภายใตฮองเตใหมั่นคงยั่งยืน เมื่อปรึกษาพรอมกันแลวจึงพากันไปขอเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต พระ เจาเหี้ยนเตเสด็จขึ้นใหสี่ทหารเอกเขาเฝา แลวรับสั่งถามวาเดิมทีพวกเจายกกองทัพมาอางวาตองการตัว อองอุน บัดนี้อองอุนก็ตายแลว เหตุใดจึงยังไมยกทัพกลับไปอีกเลา สี่ทหารเอกบัดนี้ประดุจดั่งเสือรายที่เพิ่งได สัมผัสรสเลือดจึงยอมเปนวิสัยเสือที่ไหนเลยจะละวางเสียแตเพียงเทานี้ มีแตจะกระทําการตามอําเภอใจของ สัตวเดรัจฉานตอไปเทานั้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เปดตัวตนตํารับลวงโลก (ตอนที่ 52) สี่ทหารเอกฟงรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตแลวกราบบังคมทูลวา พวกขาพระพุทธเจาทําราชการมีความชอบมา แตกอน แตหามีผูใด กราบบังคมทูลเสนอความชอบใหไม บัดนี้พวกขาพระพุทธเจาประสงคจะเปนขุนนางรับ ราชการในเมืองหลวง จึงขอรับพระราชทานพระกรุณา พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลก็รูความนัย จึง รับสั่งถามตอไปวา พวกเจาตองการตําแหนงใดขอใหวามา สี่ทหารเอกฟงรับสั่งแลวคิดไมทันวาจะทูลขอรับ พระราชทานตําแหนงใดเพราะไมได เตรียมตัวมากอน ทั้งไมรูสายสนกลในในการบริหารราชการแผนดิน จึงไม สามารถกราบทูลตอไปได ตางคนตางอ้ําอึ้งอยูพักหนึ่งแลวลิฉุย กุยกี จึงกราบทูลวาขาพระพุทธเจาขอเวลา กลับไปปรึกษากันกอนแลว กราบถวายบังคมลา ลาภวาสนาอันไดมาโดยบังเอิญ และบังเอิญเสียจนไมรูวาจะเอา อยางไรกันดี คลายๆ กับยาจกตกเขาไปใน แหลงมหาสมบัติ ไมรูจะหยิบฉวยเอาสิ่งใด ไดแตหูพราตาลาย ไมตางกระไรกับคณะรัฐประหารบางคณะที่ยึด อํานาจแลวไมมีสติปญญาคิดอานวาจะทําการอยางใดสืบไป จนในที่สุดกลับยกเอาอํานาจนั้นใหคนอื่นเสียดื้อๆ แตลิฉุย กุยกี เตียวเจ และหวนเตียวนั้น แมจะเปนทหารบานนอก แตยังคงความเฉลียวฉลาดกวาคณะ รัฐประหารบางคณะ จึงขอเวลาตั้งหลักคิดอานกันใหม ครั้นกราบถวายบังคมลากลับมายังกองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนครแลว จึงปรึกษากันวาจะขอรับ พระราชทานตําแหนงใด แตในที่สุดก็ไมรูวาจะขอรับพระราชทานตําแหนงใดจึงจะครองอํานาจ รัฐไวได ตามปกติ ดังนั้นจึงใหไปเชิญเจากรมกําลังพลและนักวิชาการ มาปรึกษาวาตําแหนงใดที่ครองแลวจะมีผลเปน การครองอํานาจรัฐไดสืบไป เมื่อปรึกษาตกลงกันแลว จึงทําเปนหนังสือกราบบังคมทูลขอ รับพระราชทาน ตําแหนงใหลิฉุยเปนผูสําเร็จราชการแผนดิน เปนผูบัญชาการกองทัพภาคกลาง และเปนผูบัญชาการกองกําลัง รักษาพระนคร กุยกีเปนผูบัญชาการทหารสวนหลัง และขุนนางผูใหญมี ตําแหนงเฝา เตียวเจเปนผูบัญชาการ ทหารฝายซาย และหวนเตียว เปนผูบัญชาการทหารฝายขวา พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรหนังสือกราบบังคมทูลแลว ทรงโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหสี่ทหารเอกดํารงตําแหนง ตามที่เสนอ นี่คือพระบรมราโชบายที่สอดคลองกับวิถีแหงฟา เปนไปตามหลักพิชัยสงครามที่ไมแตกหักเมื่อยัง แตกหักไมได เปนไปตามหลักสุดยอดกลยุทธหนึ่งในสามสิบหกประการ คือ "หนี" เมื่อยังเอาชนะไมไดนั่นเอง นับวาพระเจาเหี้ยนเตซึ่งเปนพระมหากษัตริย เมื่อสองพันปกอนทรงมีพระสติปญญายิ่งกวาพระมหากษัตริย พมาที่แข็งกราวแตกหักกับอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไมมีน้ํายาที่จะตอกรดวยกองทัพของอังกฤษ เปนเหตุใหพมาตองตก เปนเมืองขึ้นอังกฤษในที่สุด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
4.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 4 ครั้นไดรับพระมหากรุณาโปรดเกลาฯ ใหไดรับตําแหนงตามที่ทูล ขอแลว ลิฉุย กุยกี จึงถอนทหารที่ลอม พระราชวังยกออกมาตั้งที่กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร และใหเตียวเจ หวนเตียว คุม ทหารยกไป รักษาเมืองฮองหลง ซึ่งเปนเมืองหนาดานและเปนเมืองยุทธศาสตรสําคัญในการปองกันขาศึก เมื่อไดอํานาจรัฐแลวก็ลงมือเลนพรรคเลนพวกตามวิสัยของนักการเมือง เหตุนี้ลิฉุย กุยกี จึงแตงตั้งใหลิบอง และอองหอง ลูกนองเกาของตั๋งโตะที่เปนพวกเดียวกันและเปนไสศึกเปดประตูเมือง รับกองทัพสี่ทหารเอกให เปนที่ขุนนาง สวนทหารที่มาดวยกันในกองทัพที่เปนตัวนายก็แตงตั้งเปนขุนนาง ระดับรอง ๆ ลงมาก็เลื่อน ยศ ตําแหนงใหทั่วถึงกัน นับวาลิฉุย กุยกี เปนนักการเมืองที่เอาพรรคเอาพวก เพียงขอใหเปนพวกเทานั้นยอม บําเหน็จรางวัลและผลประโยชนให ดังนั้นจึงมีนักวิชาการ บัณฑิต สื่อมวลชน และขุนนางขาราชการอื่น ๆ เขา มาเปนพวกดวยจํานวนมาก ครั้นใครมาเปนพวกแลวก็ใชอํานาจของตัวเขาปกปองประดุจแมไกที่ คอยกางปกปกปองลูกไกฉะนั้น เพราะ เหตุนี้พรรคพวกของลิฉุย กุยกีจึงมีจิตคิดกําเริบกลาทําชั่วชาไดทุกอยางทุกประการ โดยไมหวาดหวั่นยําเกรง กฎหมายบานเมือง เพราะถือดีวามีอํานาจรัฐปกปองคุมครองอยูทุกกรณี ไมวาจะผิดชั่วชาขนาดไหน ประการใด หลังจากใชอํานาจรัฐเกื้อกูลพวกพองแลวก็เผื่อแผถึงคนตายที่เปนนายเกาของตัว ลิฉุย กุยกี จึงสั่งใหตั้ง คณะกรรมการฟนฟูเกียรติยศของตั๋งโตะขึ้นคณะหนึ่ง ใหทําการคนหาซากศพของตั๋งโตะเพื่อทําพิธีศพใหมให สมเกียรติยศ แลวจะไดนําไปฝงตามธรรมเนียมตอไป คณะกรรมการชุดนี้คนหาไดแตเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะที่ถูกฝงอยูนอกพระนคร ดังนั้น จึงใหทําพิธีใหญ เอาเศษเนื้อ และกระดูกใสโลงอยางดีสําหรับศพพระบรมราชวงศ แลวใหเอาไมจันทนหอมแกะเปนรูปตั๋งโตะมี ขนาดเทาคนจริงเอามาตั้งในพิธีแลวเซนไหวอยางธรรมเนียม ลิฉุย กุยกี ตองการใหผูคนเห็นวาตั๋งโตะนั้นเปน รัฐบุรุษ มีคน เคารพรักอาลัยเปนอันมาก จึงเกณฑคนมารวมพิธีเซนไหวศพเปน เวลาสิบวันสิบคืน มีคนที่ถูก เกณฑมาเซนไหวศพในครั้งนี้ถึงสองลาน คน หากใครรองไหแบบสุดโศกเศราอาดูรก็จะมอบรางวัลให ดังนั้น จึงมีผูคนมารองไหตอหนาพิธีศพเปนจํานวนมากตลอด ระยะเวลาสิบวัน อาการรองไหนั้นสุดแสนจะโศกเศรา อาลัยรักเปนหนักหนา ยิ่งเสียกวาเปนศพบิดามารดาของตัวเสียอีก และกลายเปนธรรมเนียมรองไหหนาศพ ตอมาอีกนับพันป นี่แหละอานุภาพแหงอํานาจเงินตรา ซึ่งอยาวาแตชั้นรองไหเพียงเทานี้เลย ตอใหเปนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริยก็อาจถูกคน ขายตัวขายไดอยางไมอาลัยไยดี เหลาขุนนางขาราชการเห็นบานเมืองเขาสูยุค "ตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม" จํานวนมากที่เคยรวมอยูในเหตุการณสังหารตั๋งโตะ หรือเคยรวมสาปแชงศพตั๋งโตะก็พา กันมาเซนไหวศพตั๋งโตะกันเปนการใหญ พระเจาเหี้ยนเตแมยังทรงพระเยาว แตทรงทราบสถานการณดี วาควร ตองวางพระองคอยางไร ดังนั้นจึงทรงพระราชทานของเซนไหว ศพตั๋งโตะอยางธรรมเนียมเชื้อพระวงศชั้น ผูใหญ ลิฉุย กุยกี เห็นเชนนี้ก็ดีใจยิ่งนัก ภาพที่สรางขึ้นเพื่อลวงโลกกลับมาหลอกตัวเองใหหลงไปวาตั๋งโตะ นั้นมีผูคนเคารพรักนับถือศรัทธาเปนจํานวนมาก ดังนั้นจึงตองประพฤติปฏิบัติตามแบบอยาง ของตั๋งโตะ และ นํานโยบายตางๆ ของตั๋งโตะมาใชในการบริหารราชการแผนดินตอไป การบิดเบือนขอเท็จจริงเพื่อหลอกลวงชาวบานเชนนี้ถือเปนตนฉบับของการลวงโลก และเปนแบบอยางให นักการเมืองในยุคสองพันปตอมานําไปใช โดยไมคํานึงวาสิ่งที่บิดเบือนหลอกลวงนั้นจะสราง ความรูสึกที่เจ็บ แคนชิงชังแกอาณาประชาราษฎรอยางไร ในขณะที่น้ําทวมบานเรือนและทรัพยสินราษฎร และกระแสน้ํา พัด พาผูคนลมตายหายไปเปนจํานวนมาก แทนที่จะยอมรับวาเกิดอุทกภัย และบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือนหลอกลวง เสียวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการปองกันแกไขปญหาภัยแลงอยางไดผล ในบางป ภัยแลงคุกคาม ฝนฟาไมตก อากาศรอนและแลงจัด ดินแตกระแหง สัตวไมมีน้ํากิน พืชผลของเกษตรกร เสียหายทั่วประเทศ แทนที่จะยอมรับวาเกิดภัยแลงและบอกวามีแผนการแกไขอยางไร กลับบิดเบือน หลอกลวงวานี่คือผลงานของรัฐบาลในการแกไข ปญหาน้ําทวมอยางไดผล ครั้นสรางหนี้สินจนบานเมืองมี หนี้สินลนพนตัว ถึงขนาดที่ชาว นาทั้งประเทศตองขายขาวทั้งหมดที่ผลิตไดโดยไมตองเหลือไวกินก็ตองใช เวลาถึง สองรอยหาสิบปจึงจะชดใชหนี้ไดหมด แทนที่จะยอมรับความจริงแลวแกไขความผิดพลาดกลับหลอกลวง บิดเบือนดวยการออกคํานิยามวา "หนี้สาธารณะ" เสียใหม ตัดเอายอดหนี้จํานวนมากออกไปแลวบอกวาหนี้ สาธารณะมีจํานวนนอยนิดเทานั้น หลังจากออกมาตรการบีบบังคับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อ จะยึดมา เปนของรัฐแลวขายใหกับตางชาติซึ่งผิดพลาดมหันต สงผล ใหหนี้เนาเกิดขึ้นทวมทั้งระบบ แทนที่จะยอมรับ ความผิดพลาดกลับเอาหนี้เนาออกจากระบบไปกองไวหลังบาน คือไปใสไวในองคกร อีกองคกรหนึ่งแลว หลอกลวงบิดเบือนวาแกไขปญหาหนี้เนาไดสําเร็จแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
5.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 5 การหลอกลวงบิดเบือนถึงขนาดที่แมวาราษฎรไมมีเงินในกระเปา ไมมีจะกินและยากไร ซึ่งทุกผูคนสัมผัสความ จริงอยูกับตัว แตยังกลาหลอกลวงวาสามารถแกไขปญหาเศรษฐกิจถูกตอง ถูกทาง แลว ทุกคนมีรายไดมาก ขึ้นแลว มีเงินในกระเปาเพิ่มขึ้นแลว รายไดประชาชาติเพิ่มขึ้นแลว การโกหกหลอกลวงบิดเบือนของ นักการเมืองในยุคหลังดังกลาว นี้ นับไดวาไดพัฒนาวิชาลวงโลกของลิฉุย กุยกี จนกาวหนายิ่งกวาตนฉบับเดิม มากมายนัก ดังนั้นนักการเมืองลวงโลกเชนนี้จึงยอมถือไดวาเปนพวกลูกศิษย หลานศิษยของลิฉุย กุยกี ลูกนองผูซื่อสัตยของจอมทรราชตั๋งโตะ และตองนับวาเปนลูกศิษย หลานศิษยที่ยอด เยี่ยมยิ่งกวาคนรุน ปรมาจารยเทียบกันไมติด ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวตามธรรมเนียมแลว จึงใหเชิญศพตั๋งโตะไปทําพิธีฝง ณ สุสานวีรชน แตครั้นจะทําพิธีฝง พระแมธรณีกลับลงทัณฑ สวรรคกลับสาปสงบันดาลใหเกิดพายุพัดแรงกลา ฝน ตกหนักหาใหญ น้ําทวม แผนดินถึงสองศอก เกิดอสุนีบาตผาถูกโลงศพตั๋งโตะแตกกระจัดกระจาย เศษเนื้อและกระดูกกระจายไปสิ้น ลิ ฉุย กุยกี รออยูในพิธีฝงศพตั๋งโตะจนกระทั่งพายุสงบ ฝนสราง ฟากระจางแลว จึงใหทหารไปเก็บรวบรวมเศษ เนื้อ เศษกระดูกมาผสมกันแลวใสไวในโลงใหม กวาจะเสร็จก็ลวงยามเที่ยงคืน ครั้นจะเอาโลงศพนั้นลงฝงอีกก็ เกิดพายุจัด ฝนตก แลวฟาผาลงที่โลงนั้นซ้ําอีก โลงแตกกระจาย เศษเนื้อและกระดูกที่ปนเปนรูปตั๋งโตะก็แตก กระจายแหลกละเอียดสิ้น ลิฉุย กุยกี ยังไมละความพยายาม พอฝนสรางก็สั่งใหเก็บรวมรวมเศษเนื้อและกระดูก ของตั๋งโตะมาผสมเขากันอีกครั้งหนึ่ง แลวนํา ไปใสโลงใบใหมเพื่อเตรียมฝงจนถึงเวลาใกลจะสวาง แตครั้นจะ ฝงอีก ครั้งหนึ่งก็เกิดเหตุการณเชนเดิมคือเกิดลมพายุพัดจัด ฝนกระหน่ําจนน้ําทวมพื้นดินและเกิดฟาผาถูกโลง ที่ใสเศษเนื้อและกระดูกของตั๋งโตะนั้นแหลกละเอียดกระจายจนไมเปนชิ้นดี ไมสามารถจัดเก็บรวบรวมมาฝงได อีกตอไป ตั๋งโตะตายไปแลว ในตอนที่เปนศพก็ถูกทหารเอาไสตะเกียงเจาะใสทองจุดเปนตะเกียงจนซากศพถูกเผาไหม ดวยไฟแหงน้ํามือคน ครั้นเก็บเศษเนื้อและกระดูกมาทําพิธีฝงกลับถูกไฟแหงสวรรคบันดาลทําลายจนไม สามารถฝงไดตามธรรมเนียม นี่หาใชเนื่อง จากเหตุอื่นใดไม หากเนื่องเพราะผลกรรมที่ทําชั่วชาไวกับแผนดิน และราษฎรจนแมแตฟาก็ไมอาจใหอยูใต แมพระธรณีก็ไมอาจใหอยูบน แตกระนั้นพฤติกรรมลวงโลกของลิฉุย กุยกี ที่กระทําใหกับตั๋งโตะนั้นก็ยังพอนับวาเปนลูกนองที่ใชได เพราะไดแสดงออกถึงความจงรักภักดีตอ เจานายตัวจนถึงที่สุด ความดีของลิฉุย กุยกี ถาหากจะยกขึ้นแสดงก็คงมีประการนี้ประการเดียวเทานั้น ครั้นฝงศพตั๋งโตะไมสําเร็จเพราะฟาดินไมยอมรับเปนที่คุมและรองรับคนแบบตั๋งโตะแลว ลิฉุย กุยกี จึง จําเปนตองกลับเขาเมืองหลวง เริ่มกิจกรรมที่ชั่วชาทางการเมืองตอไปดวยการติดสินบนขันทีที่อยูใน พระ ตําหนักของฮองเตใหเปนสายลับคอยรายงานขาวความเคลื่อนไหวของพระเจาเหี้ยนเตใหทราบทุกประการ แต กระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยังคงเปนทหารที่ไมรูการแผนดิน จะสั่งการใดๆ ในการบริหารราชการแผนดินก็ฟนเฟอน วิปริตผันแปร แตยังดีที่รูสึกตัววาเปนการไมถูกตอง จึงใหหาจูฮีอดีตรองแมทัพใหญ ปราบโจรโพกผาเหลืองที่ ลาออกจากราชการเพราะไมสามารถจายเงินคาสวยสินบนแกสิบขันทีใหกลับเขารับราชการอีกครั้งหนึ่ง ตั้งเปน ขุนนางผูใหญในตําแหนงที่ปรึกษาผูสําเร็จราชการแผนดิน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามขุนศึกภาคพายัพ (ตอนที่ 53) การสรางภาพลวงโลกที่ลิฉุย กุยกีไดจัดฉากสรางขึ้นในงานพิธี ศพของตั๋งโตะไดกลับมาหลอกลวงแลว ครอบงําความคิดของลิฉุย กุยกีวาพฤติกรรมและการกระทําแบบตั๋งโตะคือแบบอยางอันเปนที่ เคารพรักของ ราษฎร ดังนั้น รัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงสืบทอดเจตนารมณ นโยบาย และพฤติกรรม ตลอดจนการกระทําตางๆ ของตั๋งโตะเอามาใช แตหาไดสังวรและเฉลียวใจถึงเหตุการณในพิธีฝงศพของตั๋งโตะที่แมแตพระแมธรณียังไม ยอมรับเรือนราง และสวรรคก็ไมยอม รับใหอยูภายใตหลา วานั่นเปนผลจากความชั่วชาเลวทรามที่กระทําไวแต ประการใด เหตุนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีจึงเปนรัฐบาลทรราชยแบบเดียวกับ รัฐบาลของตั๋งโตะเกือบทุกประการ ยกเวนก็แต เพียงสองอยางเทานั้นคือ ไมตั้งตัวเปนบิดาบุญธรรมของฮองเตอยางหนึ่ง และไมถึงกับเอาคนเปนๆ มาทอดใน งานเลี้ยงโตะอีกอยางหนึ่ง เมื่อเปนเชนนี้บรรดาขุนนางขาราชการและราษฎรจึงไดรับความเดือดรอนเหมือนกับ ครั้งตั๋งโตะอีกครั้งหนึ่ง สงผลใหหัวเมืองบางเมืองมีความคิดที่จะลมลางรัฐบาล และในหมูประชาชนหลายพื้น ที่ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่จะลุกขึ้นสูอีกครั้งหนึ่ง เชื้อไฟขบวนการกูชาติของโจรโพกผาเหลืองจึงเริ่มปะทุขึ้นอีก ครั้งหนึ่งดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
6.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 6 ในดานขุนศึกนั้นมาเทง เจาเมืองเสเหลียงและคูเกลอคือหันซุย เจาเมืองเปงจิ๋ว ซึ่งเปนเจาเมืองครองดินแดน ภาคพายัพ ไดรับทราบ ขาวการกอกรรมทําเข็ญของรัฐบาลลิฉุย กุยกีแลว จึงปรึกษากันวาบัดนี้รัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนทรราชยเหมือนกับรัฐบาลของตั๋งโตะ จะปลอยไวอีกไมไดจําเปนตองกําจัดเสีย ดังนั้นจึงตองวางไสศึก ไวใน เมืองหลวงเพื่อจะไดกําจัดลิฉุย กุยกีไดโดยสะดวก สองเกลอปรึกษากันแลว จึงทําหนังสือลับถึง มหาดเล็กในพระเจาเหี้ยนเตสามคน ซึ่งสนิทสนมไววางใจกันมาแตกอนคือ มาฮู, ตงเซียง และเลาเฉีย ใหทํา การเปนไสศึกอยูในเมืองหลวง และใหนําความขึ้นกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบวา เจาเมืองทั้งสอง จะยกกองทัพเขาเมืองหลวงเพื่อลมรัฐบาลของลิฉุย กุยกีเสีย มหาดเล็กทั้งสามคนไดรับหนังสือลับของเจา เมืองทั้งสองแลว มีความเห็นพองตองกันที่จะตองรวมลมลางรัฐบาลของลิฉุย กุยกี จึงพา กันไปเฝาพระเจา เหี้ยนเตเปนการสวนพระองคถึงขางในพระตําหนัก ที่ประทับกราบบังคมทูลใหทรงทราบความตามที่สองเจา เมืองบอกมานั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความแลวมีพระทัยยินดียิ่งนัก จึงมีพระราชหัตถเลขาไปยังสองเจาเมืองวาทรงขอบใจ ที่สองเจาเมืองเปนเดือดแคนดวย แผนดินและราษฎร หากทําการสําเร็จแลวจะโปรดใหเปนขุนนางผูใหญสาม มหาดเล็กรับพระราชทานพระราชหัตถเลขาแลว ก็นําไปมอบแกทหารเดินสารของมาเทง หันซุย เพื่อนําไป มอบแกสองเจาเมืองตอไป ครั้นมาเทง หันซุย ไดรับพระราชหัตถเลขาและทราบพระราชประสงคแลวมีความยินดียิ่งนัก จึงสั่งการใหเตรียม กองทัพจากทั้งสอง เมืองกําลังพลสิบสองหมื่นเคลื่อนทัพจากภาคพายัพสูเมืองหลวง เสนทางเดินทัพจาก เมืองเสเหลียงและเมืองเปงจิ๋ว ไปเมืองเตียงอันเปนระยะทางไกลกวาสามรอยกิโลเมตร เสนทางทุรกันดาร กลางวันรอนจัด กลางคืนหนาวจัด ดังนั้นแมกองทัพทั้งสองเมืองจะเปนกองทัพมาที่เกงกลาสามารถก็ตองหยุด พักเปนระยะๆ ครั้นเดินทัพมาถึงกลางทางหนวยลาดตระเวนของเมืองหลวงก็ไดรับขาวศึกจึงรีบสงใบบอก รายงานใหรัฐบาลทราบ ลิฉุย กุยกี จึงใหหาเตียวเจ และหวนเตียว ซึ่งเปนแกนนําสําคัญของรัฐบาลพรอม ดวย กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญมาประชุมเพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม ขุนศึกภาคพายัพ และปรึกษาวาจะคิดอานวาง แผนการสงครามประการใด กาเซี่ยงกุนซือคนสําคัญของรัฐบาลไดเสนอความเห็นวาการศึกครั้งนี้ไมนาหนักใจแตประการใด แลวยก สถานการณของทั้งสองฝายขึ้นแสดงตอที่ประชุมวา ขาศึกเดินทัพมาแตทางไกล และไมมีหัวเมือง ราย ทางเขารวมดวย ดังนั้นยิ่งเดินทัพลึกเขามาทางเมืองหลวงมากเทาใด ไพรพลยอมยากลําบาก และออนลาลง มากขึ้นเทานั้น การลําเลียง เสบียงก็จะไมสามารถลําเลียงสนับสนุนไดทันตอความตองการ ยิ่งใกล เมืองหลวง เทาใดเสบียงอาหารก็จะลําเลียงไดนอยลงเทานั้น ในที่สุดก็จะคงเหลือเพียงเสบียงที่ติดตัวมาซึ่งใชในกอง ทัพไดไมนาน หลังจากแสดงสภาพการณของฝายขาศึกแลว กาเซี่ยงก็ไดแสดง สภาพการณของฝายเมืองหลวงวาฝายเมือง หลวงตั้งมั่นอยูในพระนคร มีกําแพงเชิงเทิน คายคู หอรบพรอมสรรพ ทหารก็พรอม เสบียงก็มาก กําลังของ เมืองหลวงในยามปะทะขาศึกจะมีความสดชื่นยิ่งกวาขาศึกที่ออนลาอิดโรย กาเซี่ยงจึงสรุปวาสถานการณ สงครามของทั้งสองฝายเปนดั่งนี้ ทําใหเวลายิ่งเนิ่นนานไปเพียงใดยอมเปนโทษแกขาศึกเพียงนั้น และเปนคุณ แกฝายเมืองหลวงเพียงนั้น วาแลวจึงถามที่ประชุมวาสภาพการศึกครั้งนี้เปนดั่งนี้ใชหรือไม ที่ประชุมยอมรับ สภาพการสงครามระหวางขาศึกกับฝายเมืองหลวงตามที่กาเซี่ยงไดกลาวมาทั้งนั้น ลิฉุยจึงใหกาเซี่ยงเสนอ แผนยุทธการตอไป กาเซี่ยงจึงวาเมื่อปจจัยพื้นฐานของสงครามระหวางขาศึกกับเรา เปนดั่งนี้แลว ปจจัยพื้นฐานเหลานั้นจึงกําหนด ยุทธการใหฝายเมืองหลวงเปนฝายตั้งรับ และรอคอยโอกาสโจมตี ทั้งกําหนดแผนการยุทธใหขาศึกยกลวง มาถึงชานกําแพงพระนคร ในที่สุดขาศึกก็จะหมด เสบียงแลวตองถอนทัพกลับไป ถึงเวลานั้นฝายเมืองหลวง จึงยกตาม ตียอมจะไดรับชัยชนะเปนมั่นคง ลิบองกับอองหอง สองขุนนางที่ไดรับแตงตั้งใหมเปนบําเหน็จ ความชอบที่เปดประตูเมืองรับทัพลิฉุย กุยกี ไมเห็นดวยกับแผนยุทธการของกาเซี่ยง และเสนอแผนยุทธการ ใหมใหฝายเมืองหลวงยกกองทัพไปโจมตีขาศึก มิใหยกลวงเขามาถึงพระนครได โดยอางวาจะกอใหเกิดความ ตระหนกตกใจแกราษฎร แลววาขาพเจาทั้งสองขอนําทหารเพียงหมื่นคนไปตัดเอาศีรษะมาเทง หันซุย มาให จงได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุย กุยกี เห็นชอบตามแผนการยุทธของสองขุนนาง แตกาเซี่ยง ทวงติงวาการยกทัพไปครั้งนี้จะเสียทีแก ขาศึกเปนมั่นคง เพราะเมื่อฝายเรายกทัพไปทางไกลก็จะสูญเสียความไดเปรียบที่มีอยูจากการตั้งรับและมี สภาพไมตางกับขาศึก แตเนื่องจากขาศึกมีกําลังพลมากกวาทั้งการยุทธจะเกิดขึ้นในพื้นราบรบกันดวยกําลัง ทหารมายอมมีสภาพเปนรองฝายกองทัพเมืองเสเหลียงที่มีความเชี่ยวชาญการรบบนหลังมา ฝายเมืองหลวงจึง
7.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 7 เสียเปรียบในทุกทาง ลิบอง อองหอง ฟงคํากาเซี่ยงแลวไมพอใจจึงวาการยกไปครั้งนี้ถาหากไมไดหัวมาเทง หันซุย กลับมาก็ขอใหเอาหัวของขาพเจา สองคนแทน แตถาขาพเจาไดหัวของสองเจาเมืองมาแลวก็ให กาเซี่ยง มอบศีรษะแกขาพเจา กาเซี่ยงไมรับคําทาของสองขุนนาง ยังคงเสนอตอไปวาถาจะให ลิบอง ออง หอง ยกไปก็จะเสียทีแกขาศึกเปนแมนมั่น แตเพื่อไมใหเสียการขาพเจาขอเสนอใหทานแมทัพเตียวเจ และ หวนเตียว ยกทหาร อีกหมื่นหนึ่งไปตั้งมั่นไวที่เขาเจียวจิด ซึ่งอยูทางทิศตะวันตกหางจาก เมืองหลวงไป ระยะทางสองพันหารอยเสน หรือประมาณหนึ่งรอยกิโลเมตร ณ เขาลูกนี้เปนชัยภูมิสําคัญ เพราะภูมิประเทศมี ทางเดินทัพเฉพาะตามซอกเขาเทานั้น ถึงขาศึกมีกําลังพลมากกวาก็ถูกสภาพ ภูมิประเทศบีบบังคับใหเสมือน นอย หากลิบอง อองหอง เสียทีมาฝายเมืองหลวงก็ยังคงสามารถยันทัพขาศึกไวได ณ ที่นี้ การสงคราม ครั้งนี้ เราก็จะไมเสียทีแกขาศึก ปรากฏวาคณะฝายทหารทั้งหมดในที่ประชุมไมเห็นดวยกับขอเสนอของกาเซี่ยง ดังนั้นลิฉุย จึงสั่งใหจัด กองทัพพลหมื่นหาพันคนใหลิบอง และอองหองยกไปรบดวยมาเทงและหันซุยตามแผนของสอง ขุนนาง ดังกลาว กาเซี่ยงที่ปรึกษาเห็นเชนนั้นก็มิไดวากลาวประการใด คงรําพึง แตในใจวา "แลวจะไดเห็นดีกัน" ลิ บอง อองหอง ยกกองทัพออกจากเมืองหลวง เดินทัพไปไดประมาณสองพันเสนก็เผชิญหนากับกองทัพภาค พายัพของมาเทงและหันซุย ดังนั้นทั้งสองฝายจึงตั้งคายลงในลักษณะประชิดกัน เตรียมการยุทธขั้นแตกหัก ตอไป ครั้นรุงขึ้นทหารของทั้งสองฝายจึงยกออกจากคาย ตั้งขบวนเรียงหนากระดานเขาหากัน เวนพื้นที่เปนลานรบไว ตรงกลาง แมทัพนายกอง ของทั้งสองฝายออกมายืนมาอยูหนาทหารของฝายตน เปนการเตรียม การทําศึก โดยอาศัยฝมือทหารเอก หลังจากเปดฉากดากันตามธรรมเนียมแลว กองทัพภาคพายัพจึงสงมาเฉียวผูเปนบุตร มาเทงและเปนทหารเอกออกรบ มาเฉียวนั้น สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "อายุสิบแปดป หนาดังสี หยก กิริยาวองไว" แตสามกกฉบับสมบูรณกลาววา เปน "หนุมนอยสีหนาดังหยกขาว ดวงตาดุจดาวตก รางดุจ พยัคฆ แขนคลายวานร ทองเหมือนเสือดาว เอวดั่งสุนัขจิ้งจอก" ซึ่งดูออกจะมีลักษณะพิกล จึงเอาเปนวามา เฉียวนั้นอายุสิบแปดป มีหนาขาวประดุจดังหยก ดวงตาคมวาว แข็งแรง แคลวคลองวองไว มาเฉียวรับคําสั่ง แลวก็ขับมาศึกมือถือทวนยาวออกมากลางลาน รบฝายอองหองเห็นมาเฉียวยังเปนเด็กนักคิดวาจะเอาชัยได โดยงายจึงชักมาออกมากลางลานรบ ทั้งสองฝายขับมาประอาวุธกันเพียง หาเพลง มาเฉียวก็เอาทวนแทงออง หองตกมาตาย แลวชักมาหันหลังจะกลับเขามาในแถวทหารของเมืองเสเหลียง ฝายลิบองเห็นออง หองตายก็ โกรธ ขับมาถืองาวไลตามมาขางหลังมาเฉียว แตมาเฉียวทําเปนไมเห็น ฝายมาเทงผูบิดาเปนหวงมาเฉียวจึง รองตะโกนใหระวังวาขาศึกกําลังไลตามมาขางหลัง พอดีลิบองขับมาเขามาใกลไดจังหวะงาวจึงเงื้องาวขึ้นจะ ฟนมาเฉียวมาเฉียวสังเกตความเคลื่อนไหวของลิบองอยูทุกฝเทา ครั้นเห็น ลิบองเอางาวฟนลงมาก็เอี้ยวตัว หลบพรอมกับชักมาเขาประกบมาของ ลิบอง แลวกระโจนไปบนหลังมาของลิบองจับลิบองไดบนหลังมานั้น แลวเอามาสงแกมาเทงผูบิดา มาเทงเห็นไดทีจึงใหสัญญาณทหารบุกเขาโจมตีกองทัพของลิบอง อองหอง ซึ่งกําลังขวัญเสียเพราะสูญเสีย แมทัพไปทั้งหมด จึงแตกตื่น วิ่งหนีถูกทหารภาคพายัพฆาตายเปนจํานวนมาก และที่ถูกจับเปนก็ไมนอย กองทัพลิบอง อองหอง จึงแตกพายไป มาเทงและหันซุยไดรับชัยชนะในศึกยกแรกแลว จึงเคลื่อนทัพ ภาค พายัพเดินทางเขาเมืองหลวง แลวตั้งคายประชิดกําแพงพระนคร ครั้นตั้งคายเสร็จแลวจึงสั่งใหตัดศีรษะลิบอง และอองหองเสียบประจานไวที่หนาคาย ลิฉุย กุยกี ทราบขาวศึกวาลิบอง อองหอง เสียทีแกขาศึกและกองทัพ ภาคพายัพยกลวงมาประชิดกําแพงพระนคร จึงเรียกประชุมแมทัพนายกอง ณ กองบัญชาการกองกําลังรักษา พระนคร และสั่งให หากาเซี่ยงที่ปรึกษาเขารวมประชุมดวย ลิฉุย เปดประชุมแลวกลาววาเปนความผิดของเรา เองที่ไมฟงคํา กาเซี่ยง การณจึงเสียทีแกขาศึกถึงเพียงนี้ เราไดพิจารณาการณประมาณการศึก และแผน ยุทธการของกาเซี่ยงอีกครั้งหนึ่งแลวเห็นวา เปนแผนการที่จะเอาชนะขาศึกได ดังนั้นจากนี้ไปใหปฏิบัติตาม แผนของ กาเซี่ยง ทุกประการ แลวลิฉุยจึงมีคําสั่งใหทหารทุกหนวยตั้งมั่นรับศึกในพระนครใหระมัดระวังรักษาเชิงเทิน คายคู หอรบตางๆ ให มั่นคงทุกดาน สงครามกับขุนศึกภาคพายัพที่ดําเนินการมาถึงชั้นนี้ ไดใหขอพิสูจนที่ชัดเจนอยางหนึ่งวา ความผิดถูกนั้นหาไดขึ้นอยูกับเสียงขางมากแตประการใดไม หากขึ้นอยูกับสติปญญาและขอมูลขาวสารที่ ถูกตองถองแทตางหาก แมจะเปนเสียงขางนอยแตถาหากมีสติปญญากําหนดแผนการขึ้นบนพื้นฐานของขอมูล ขาวสารที่ถูกตองแลว ยังดีเสีย กวาเสียงขางมากที่ไรสติปญญาและปราศจากขอมูลขาวสารที่ถูกตอง พระผูมี พระภาคเจาทรงตรัสวาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตยอมไม ถือวาเปนการประชุม ซึ่งหากจะกลาวโดยสํานวนของ กิมยงก็ตองกลาววาการประชุมที่ไมมีบัณฑิตก็คือการผายลมนั่นเอง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
8.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 8 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม กลยุทธสงบสยบความเคลื่อนไหว (ตอนที่ 54) กองทัพจากแดนไกลตั้งคายประชิดกําแพงพระนครแลวยกทหารออกมาทารบกับฝายเมืองหลวงทุกวัน ตีกลอง ศึกมาลอ โหรองดาทอฝายเมืองหลวงสักเทาใด ฝายเมืองหลวงก็ไมยอมออกรบ มิหนําซ้ํายังยั่วเยาดวยการไป ตั้งโตะจัดเลี้ยงบนกําแพงพระนคร ดื่มกินกันเปนที่สนุกสนานบางวันในขณะที่กองทัพจากภาคพายัพตั้งมั่นอยู ในคายภายในเมืองหลวงก็จัดดนตรีมาเลน เสียงมโหรีดังสนั่นไดยินไปถึงคายของ มาเทงและหันซุย การตั้งมั่น ประกอบเขากับการเลี้ยงโตะบนกําแพงพระนครและการเลนดนตรีภายในพระนครไดสรางความโมโหโกรธา ใหกับฝายมาเทง หันซุยเปนยิ่งนัก แตจะรบก็รบไมได เพราะฝายเมืองหลวงไมยอมรบดวย ยังคงตั้งมั่นรักษา เชิงเทินคายคู หอรบไวอยางเหนียวแนน อาการเชนนี้ดูเหมือนวามิใชการรบ แตแทจริงนี่คือการรบเพราะการตั้ง มั่นในลักษณะนี้เปนยุทธานุภาพชนิดหนึ่งที่ฝายเมือง หลวงกําลังใชทําลายฝายมาเทง หันซุย ใหออนเปลี้ยลง ทุกวี่วัน เปน ผลที่เกิดขึ้นจากแผนการอันไดกําหนดไวเปนอยางดีแลว เปนแผน การที่มีผลคือชัยชนะโดยไม ตองรบ นี่คือการสะทอนถึงสภาพที่กุมชัยชนะอยางแนแทไวในมือ ในขณะที่อีกฝายหนึ่งกลับดิ้นรนเพื่อจะ เอาชนะ และนั่นคืออาการของฝายที่กําลังจะพายแพนั่นเอง ทั้งสองฝายทําการยุทธตอกันในลักษณะเชนนี้จนเวลาผานไปสองเดือน กองทัพจากแดนไกลก็ขาดเสบียงลง ทหารออนลาอิดโรย และเสียขวัญทั้งกองทัพ ในขณะนั้นขาวการเคลื่อนไหวของสามมหาดเล็กที่เปนไสศึกให กับมาเทง หันซุยไดทราบไปถึงหูของลิฉุยวาเหตุที่กองทัพยกมาประชิดเมืองหลวงก็เพราะมาฮู ตงเซียง และ เลาเฉียเปนไสศึก ลิฉุยทราบความก็โกรธ สั่งทหารใหจับตัวสามมหาดเล็กพรอมครอบครัวมาประหาร แลวตัด ศีรษะเสียบไวบนเชิงเทิน ฝายมาเทงและหันซุยทราบขาววาสามมหาดเล็กซึ่งรับทําการเปน ไสศึกในเมืองหลวงถูกประหารเสียแลวก็สิ้น หนทางที่จะทําการศึกตอไป เพราะการณขางในก็มืดมิรูขาวคราวของฝายเมืองหลวง การณขางนอก กองทัพ จากภาคพายัพก็ขาดเสบียง ดังนั้นมาเทงและหันซุยจึงปรึกษากัน และเห็นชอบรวมกันวาใหถอยทัพกลับภาค พายัพ โดยแยกขบวนออกเปนสองกอง คือมาเทงคุมกองทัพเมืองเสเหลียง และหันซุยคุม กองทัพเมืองเปงจิ๋ว แลวแยกกันถอยทัพเปนสองทางกลับเมืองแตละเมืองปรึกษากันเสร็จแลว ครั้นเวลายามสามกองทัพจากภาค พายัพ ทั้งสองกองก็ถอนทัพเคลื่อนออกจากเขตเมืองหลวงคืนสูภาคพายัพ รุงขึ้นลิฉุย กุยกีไดทราบวาขาศึกถอนทัพยกถอยกลับไปตามแผนการความคิดของกาเซี่ยง จึงสั่งใหเตียวเจ และหวนเตียวยกทหาร ไปคนละกองไลตามตีกองทัพจากภาคพายัพ โดยเตียวเจไลตามตีกองทัพของมาเทง และหวนเตียวไลตามตีกองทัพของหันซุย เตียวเจและหวนเตียวรับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากพระนครไล ตามตีกองทัพของมาเทงและหันซุยตามคําสั่งหวนเตียวยกทหารตามหันซุยมาถึงเขาตันฉอง หันซุยไดยินเสียง กองทหารไลตามมาเห็นธงประจําตัวแมทัพวาหวนเตียวคนบานเดียวกัน จึงชักมามาดานหลังทหารพบกับหวน เตียวแลวจึงกระทําคารวะตามธรรมเนียมแลววา เรายกมาทั้งนี้เพื่อกําจัดศัตรูราชสมบัติเสีย บัดนี้กองทัพของ เราขาดเสบียงจึงตองถอยทัพกลับ ขอใหทานเห็นแกไมตรีที่มีมาแตนอยปลอยเรากลับไปอยาใหตองกระทําศึก ตอกันใหเสียเลือดเนื้อทหารเลย หวนเตียวคารวะตอบหันซุยแลววาการครั้งนี้เปนเรื่องของแผนดินเปนการใหญ เราจะเห็นแกหนาคาตากันไมได ทานจงเตรียมใหพรอมเถิด เราจะเขาโจมตีทาน หันซุยจึงวา "เรายกมาทั้งนี้ก็เพราะหวังจะทํานุบํารุงแผนดินให อยูเย็นเปนสุข ถึงทานจะมิคิดถึงเรา ก็จงคิดถึงพระเจาเหี้ยนเตซึ่งครองราชสมบัตินั้นเถิด" หวนเตียวรูอยูกับอก วารัฐบาลของลิฉุย กุยกีเปนรัฐบาลทรราชย ขมเหงฮองเตกดขี่รังแกขุนนางราษฎร ครั้นไดยินความนี้ ความคิด กตัญูตอราชวงศฮั่นก็ประดังขึ้นในอกเห็นคลอยตามไปกับคําหันซุย มิไดกลาวตอบประการใด คงยืนมาเฉย อยูกับที่เปนทีปลอยใหหันซุย ยกทหารไปได หันซุยเห็นเชนนั้นจึงสั่งทหารใหเคลื่อนกองทัพรีบเดินทางกลับ เมืองเปงจิ๋ว ฝายหวนเตียวเมื่อเห็นกองทัพเมืองเปงจิ๋วยกกลับไปแลวก็ตั้งคายมั่นลง ณ ที่นั้นเพื่อติดตาม สถานการณวากองทัพภาคพายัพจะยกกลับไปจริงหรือวาจะยอนกลับมาใหม ฝายเตียวเจซึ่งยกกองทัพไลตาม ตีกองทัพเมืองเสเหลียงไปทันเขาจึงเขารบพุงกันเปนสามารถ มาเฉียวผูบุตรมาเทงไดเขารบดวยเตียวเจ แต เตียวเจสูกําลังมาเฉียวไมไดจึงถอยทหารกลับมาและมาสมทบดวยหวนเตียวตั้งคายมั่นรักษาการณอยูในที่นั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วากองทัพของเตียวเจยกไลตามตีกองทัพเมืองเสเหลียงแตไมทันกัน จึง ยกกลับมาตั้งอยูกับหวนเตียว ในขณะที่คอยติดตามสถานการณอยูนั้น หลานของลิฉุยซึ่งมาในกองทัพของ หวนเตียวไดรูเห็นเหตุการณที่หวนเตียวพบหันซุยแลว ปลอยใหหันซุยถอยทัพกลับไปโดยไมโจมตีตามคําสั่ง ของลิฉุย จึงรีบกลับเขาเมืองหลวงนําความไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธหวนเตียวที่ขัดคําสั่ง
9.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 9 ทั้งเกรงวาในภายหนาหวนเตียวจะคบคิดกับมาเทง หันซุย ทรยศตอตัวเอง สิ้นความวางใจที่จะคบหาหวนเตียว อีกตอไป จึงเรียกกาเซี่ยงมาปรึกษาวาจะใหทหารไปจับตัวหวนเตียวมาฆาเสีย กาเซี่ยงจึงวาในขณะนี้บานเมือง ยังไมสงบสันติ หากทานสงทหารขึ้นไปจับตัวหวนเตียวเกรงวาจะเกิดศึกขึ้นภายในเพราะหวนเตียวนั้นใกลชิด สนิทสนมกับเตียวเจ และคุมทหารอยูนอกพระนคร หากรูวาทานจะเอาตัวมาฆาเสียคงจะไมยอมใหจับแตโดยดี แลวยอม คิดดิ้นรนตอสูจนเกิดเปนสงครามขึ้น ความสูญเสียก็จะติดตามมาโดยไมจําเปน ทั้งขาศึกก็อาจยกทัพ เขาเมืองหลวงซ้ําเติมเอาไดเราก็จะเสียทีไป ลิฉุยจึงปรึกษาวาทําอยางไรจึงจะกําจัดหวนเตียวไดโดยไมเกิดความเสียหายดังคําทาน กาเซี่ยงจึงวาขอให ทานมีหนังสือออกไปถึงเตียวเจและหวนเตียววาบัดนี้กองทัพมาเทง หันซุย ถอยกลับภาคพายัพแลว ไมจําตอง รอคอยฟงสถานการณตอไปใหรีบกลับเขาเมือง หลวงเพื่อรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ เมื่อเตียวเจ หวนเตียว กลับเขา มาแลวก็จะกําจัดเสียไดโดยงาย ลิฉุยเห็นดวยกับแผนการนี้ จึงใหทหารถือหนังสือไปบอกใหเตียวเจ และหวนเตียวใหยกกองทัพกลับเมืองหลวงตามคําของกาเซี่ยง สองแมทัพรับหนังสือของลิฉุยแลวมิไดคิด ระแวงสงสัยประการใด จึงยกกองทัพกลับเมืองหลวง แลวเตียวเจ หวนเตียวจึงไปรวมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่ กองบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ในขณะที่งานเลี้ยงฉลองชัยชนะดําเนินอยูนั้น ลิฉุยจึงเขาไปวากับหวน เตียววาเราใหทานยกกองทัพไปตามตีหันซุย แตตัวทานฝาฝน ไมทําตามคําสั่งเอาใจออกหางจากเรา จะคบ คิดดวยหันซุยทํารายเราหรือ หวนเตียวไดยินคําลิฉุยก็ตกใจ ยังไมทันไดตอบประการใด ทหาร ก็กรูเขามาจับ เอาตัวหวนเตียวออกไปจากงานเลี้ยงทามกลางความตกตะลึงของบรรดาขุนนางขาราชการ เพราะตางคนตาง ไมรูความนัยมากอน ยังไมทันหายตกตะลึงทหารก็นําศีรษะของหวนเตียวใสถาดเขามารายงานแกลิฉุย ยิ่งเพิ่ม ความตกใจกลัวแกผูคนในที่นั้น ฝายเตียวเจเห็นเหตุการณเชนนั้นก็ตกใจกลัวหมอบศีระษะลงกับโตะ ลิฉุยจึงเดินเขาไปหาเตียวเจประคองให ลุกขึ้นแลววาการที่หวนเตียวขัดคําสั่งทรยศตอเรา ปลอยหันซุยไปนั้น ทานมิไดเกี่ยว ของรูเห็นดวย อยากังวล ใจไปเลย เสร็จงานเลี้ยงแลว ลิฉุยไดออกคําสั่งใหโอนกองทหารในสังกัดของหวนเตียวใหไปขึ้นสังกัดกับเตียว เจทั้งสิ้นและใหเตียวเจยกออกไปรักษาเมืองฮองหลงดังแตกอน การตัดศีรษะคนเอาเขามาในงานเลี้ยงของลิฉุยครั้งนี้ ทําใหขุนนาง ขาราชการตางนึกถึงบรรยากาศเมื่อครั้งตั๋ง โตะยังมีชีวิตอยูวา บัดนี้บรรยากาศเหลานั้นกําลังหวนกลับมาปกครองเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง แลว ดังนั้นจึงตาง เกรงกลัวลิฉุย กุยกีเปนอันมาก กาเซี่ยงเห็นบรรยากาศการเมืองในเมืองหลวงที่ขุนนางขาราชการ ตางเกรง กลัว ลิฉุย กุยกีดังนี้จึงเสนอแผนการปกครองใหลิฉุย กุยกี พยายามเอาอกเอาใจขุนนางและราษฎร ในสวนขุน นางขาราชการก็ใหปรับยศตําแหนงและเลื่อนขั้นเงินเดือนให ในสวนราษฎรก็ลดสวยสาอากรและเอาใจใสทุกข สุขของราษฎรมากขึ้น พระคุณที่ตามมากับพระเดชดั่งนี้จึงทําใหขุนนางขาราชการและราษฎรยอมอยูในอํานาจ ของลิฉุย กุยกี ทั้งสิ้น การสังหารหวนเตียวในครั้งนี้นับเปนเรื่องที่ควรตั้งความสังเกตเพราะสี่ทหารเอกกลุมนี้มีความสนิทสนมกันมา ชานาน ตอสูความยากลําบากมาดวยกัน เสี่ยงเปนเสี่ยงตายมาดวยกันและรวมกันกระทํารัฐประหารดวยกัน ครั้น ไดอํานาจรัฐมาครองแลวเพียงแคหวนเตียวปลอยหันซุยไป เหตุใดจึงตองถึงกับสังหารกันเอง จะทําความ เขาใจกันไมไดหรือ หรือหากเห็นเปนความผิดฉกรรจ จะเอาโทษแตสถานเบา หรือจะเนรเทศใหไปอยูเมืองอื่น ไมไดหรือ จะวาลิฉุยสังหารหวนเตียวเสียเพื่อลดจํานวนหุนสวนแหงอํานาจใหเหลือนอยตัวลง แลวตัวเองจะมี อํานาจเพิ่มขึ้นก็ไมเห็นสม เพราะถึง แมหวนเตียวยังอยู ลิฉุยก็ยังคงมีอํานาจลนฟาอยูแลว ครั้นหวนเตียวตาย แลวก็เห็นไดวาลิฉุยมิไดเอาอํานาจของหวนเตียวมาไวกับตน หากมอบใหแกเตียวเจ ซึ่งรูอยูวาสนิทสนมกับ หวนเตียวมากกวา จึงแสดงวาลิฉุยนั้นมิไดมุงตอประการนี้ จะวาลิฉุยเปนคนหวาดระแวงไมวางใจคนก็ยอมไมใช เพราะถาหากเปนเชนนั้นไหนเลยจะคงอํานาจเตียวเจไว ดังเดิมมิหนําซ้ํายังเพิ่ม อํานาจทางทหารใหอีกเลา ความขอนี้มีความเปนไปไดวาอํานาจรัฐทําใหลิฉุยลืม ความหลัง ลืมความเปนเพื่อน ลืมน้ํามิตรที่รวมเสี่ยงตายมาแตกอน ตองการสําแดงอํานาจสิทธิขาดของตนให เปนที่ปรากฏวาลิฉุยแตผูเดียวเทานั้นที่ครองอํานาจสูงสุด คําสั่งคือประกาศิตที่มิอาจฝาฝนได ผูใดขัดคําสั่ง ยอมตองถือเปนความผิดและมีโทษประหาร ถึงแมจะเปนเพื่อนสนิทก็ไมละเวน นี่คือกลวิธีในการสรางอํานาจ และความเปนผูนําชนิดหนึ่ง ปมเงื่อนก็คือความตองการเปนใหญในแผนดินแตผูเดียว โดยตัดกุยกี เตียวเจ และหวนเตียวออกไปใหเหลือฐานะเปนเพียงผูชวยหรือลูกนองของตวเทานั้น โดยนัยนี้ยอมแสดงวาบัดนี้ลิฉุย ไดยึดอํานาจรัฐที่รวมกอการโดยสี่ทหารเอกเปนของตนแตผูเดียวแลว และเมื่อยึดอํานาจนั้นเปนของตนแตผู เดียวแลวก็จําเปนที่จะตอง สรางความศักดิ์สิทธิ์ของอํานาจ และสรางความยิ่งใหญของตนใหปรากฏ ความ ศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญนั้นคือรากฐานรองรับความ เปนผูนําสูงสุดของลิฉุยนั่นเอง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
10.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 10 การที่กุยกีมิไดทวงติงขัดขวาง ในขณะที่เตียวเจยอมรับปฏิบัติตามคําสั่งของ ลิฉุยคือปรากฏการณที่แสดงให เห็นวาทั้งสองคนนี้ไดยอมรับฐานะใหมที่เปลี่ยนแปลงฐานะเดิมจากหุนสวนทางการเมืองของลิฉุยมาเปน ลูกนอง ผูใตบังคับบัญชาของลิฉุยไปแลว หรือวานี่คือธรรมชาติของอํานาจที่ไมอาจถือไดโดยคนหลายคน หากตองถือไวแตคนเพียงคนเดียวเทานั้น และถาเปนเชนนั้นสิ่งที่เรียกวาระบอบประชาธิปไตยหรือการนํารวม หมูก็อาจมีฐานะที่แทจริง เพียงรูปแบบ หรือเปนเปลือกที่หอหุมตัวอํานาจที่แทจริงที่ยังคงถือและยึดกุมไวโดย คนเพียงคนเดียวเทานั้น สถานการณในวันนี้สี่ทหารเอกลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเดิมทีเปน หุนสวนแหงอํานาจทางการเมือง ไดลาง ผลาญกันเองจนเหลืออยูเพียง สามคนเทานั้น โดยคนหนึ่งคือลิฉุยเปนผูคุมอํานาจสูงสุดแตผูเดียว ในขณะที่ กุยกี และเตียวเจ ไดกลายเปนลูกนองผูใตบังคับบัญชาไปแลว ประวัติศาสตรแหงอํานาจตั้งแตอดีตจนถึง ปจจุบันลวนเปนเชนนี้ ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา "วโส อิสสริยัง โลเก" ซึ่งแปลวา "อํานาจเปนใหญ ในโลก" สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามโจรโพกผาเหลืองครั้งที่สาม (ตอนที่ 55) กองทัพภาคพายัพของมาเทงและหันซุยถอยกลับไปแลว ทิ้งรอยราวภายในคณะสี่ทหารเอก ซึ่งบัดนี้คงเหลือ อยูเพียงสามคนไวขางหลัง แตความเคลื่อนไหวลุกขึ้นตอสูกูชาติของประชาชนกําลังจะเริ่มตนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จําเดิมแตการลุกขึ้นสูของประชาชนครั้งที่สอง ที่เมืองอวนเซียถูกปราบปรามในปลายรัชสมัยของพระเจาเลนเต แลว กองกําลังกูชาติของประชาชนก็แตกฉานซานเซ็นไปตามทิศตางๆ แตทวาเชื้อไฟปฏิวัติของประชาชนนั้น หาดับมอดสิ้นไปไม แกนนําของขบวนการกูชาติบางสวนที่แตกหนีหลบภัยในภาคตะวันออกไดปกหลักพักฟน ที่เมืองเซียงจิ๋วแหงหนึ่ง และอีกสวนหนึ่ง ไดหลบราชภัยไปปกหลักพักฟนในเขตเมืองปกไฮ และอีกบาง ทองที่ ครั้นเกิดการจลาจลขึ้นในเมืองหลวงและมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากโฮจิ๋นเปนรัฐบาลของตั๋งโตะ จากรัฐบาล ของตั๋งโตะเปนรัฐบาลของอองอุน จนกระทั่งถึงรัฐบาลของลิฉุย กุยกี ทุกๆ รัฐบาลตางมิไดเหลียวแลเอาใจใส ทุกขสุขของราษฎร บางรัฐบาลยังกดขี่ขมเหงรังแกประชาชนอยางโหดรายทารุณ จึงสรางความโกรธแคน ชิงชังในหมูประชาชนอยางกวางขวาง ขาราชการขุนนางในหัวเมืองไดถือโอกาสที่อํานาจรัฐสวนกลางออนแอ ขาดการกํากับตรวจสอบ ทําการกดขี่ขมเหงราษฎรมากขึ้น ดังนั้นจึงเปนธรรมดาที่ประชาชนตองลุกขึ้นตอสูเพื่อ ไปตายเอาดาบหนาดังที่วิสา คัญทัพ กวีของประชาชนไดรจนาไววา "เมื่อลุกขึ้นตอสูผูกดขี่ ประชาชนยอมมีชีวิตใหม เมื่อทองฟาสีทองผองอําไพ ประชาชนยอมเปนใหญในแผนดิน" ในสถานการณเชนนี้ขบวนการตอสูกูชาติของประชาชนที่มอดลง จากการถูกปราบปรามครั้งที่สองจึงเริ่มคุโชน ขึ้น แกนนําในพื้นที่ตางๆ จึงทําการจัดตั้งมวลชนขึ้นมาใหม เคลื่อนไหวความคิดทางการเมืองในหมูประชาชน กวางขวางยิ่งขึ้นทุกวัน ชี้ใหประชาชนไดเขาใจถึงตนเหตุของความยากจนขนแคนและความยากไรทั้งปวงวา ไมใชเกิดจากบาปกรรมในชาติปางกอน หากเกิดจากการถูกชนชั้นปกครอง เอาเปรียบขูดรีดดวยประการตางๆ ในชาตินี้ตางหาก มิหนําซ้ํายังสมคบกับตางชาติใหเขามาทําลายระบบเศรษฐกิจของประเทศจนยอยยับ บังคับราษฎรใหจําตอง ขายทรัพยสมบัติแกตางชาติในราคาถูก ทําตัวเปนสมุนของตางชาติ ยึดกิจการของราษฎรแลวบรรณาการแก ตางชาติในราคาต่ําเกือบจะเปนการยกใหเปลาๆ แมทรัพยสมบัติของชาติที่บรรพบุรุษไดสรางสมมานานเกือบ รอยป ก็แอบมุบมิบขายใหแกตางชาติ ออกกฎหมายและระเบียบตางๆ ใหสิทธิประโยชนแกตางชาติในการยึด ครองเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการถือครองที่ดิน ซึ่งบรรพบุรุษไดพลีเลือดเนื้อและชีวิต พิทักษรักษาไว อยางไมไยดี เพราะเหตุนี้ ประเทศจึงมีหนี้สินลนพนตัว ราษฎรถูกสูบเลือดสูบ เนื้ออยางเลือดเย็น ทั้งการกิน การอยู การ จับจายใชสอยก็ตองจายคาความคิดหรือลิขสิทธิ์ใหกับตางชาติจนแทบจะเหลือเพียงอากาศหาย ใจเทานั้นที่ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ราษฎรยังไมตองจายเงินซื้อหา ความยากจนของราษฎรและประเทศชาติจึงเกิดจากการขายชาติ เกิด
11.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 11 จากการยอมตัวเปนขี้ขาของตางชาติแลวชวยกันปลนสะดมราษฎรและประเทศชาติของตนเอง ราษฎรสัมผัส ความจริงไดดวยตนเองเชนนี้แลว จึงพากันตอตานรัฐบาล และเขารวมกับขบวนการกูชาติมากขึ้นทุกวัน จน สามารถกอ ตั้งเขตจรยุทธ เขตที่มั่น และฐานที่มั่นขึ้นไดสําเร็จอยางเปนขั้นตอนตามหลักการพัฒนาของ สรรพสิ่งที่พัฒนา "จากไมมีสูมี จากเล็กสูใหญ และจากออนสูแข็ง" ทําใหฐานที่มั่นของกองกําลังอาวุธของ ประชาชนมีความมั่นคงและขยายตัวออกไปอยางกวางขวาง บรรดาชายฉกรรจในเขตเคลื่อนไหวไดอาสาเขารวมในกองกําลังอาวุธอยางตอเนื่อง จนกองกําลังติดอาวุธของ ประชาชนเพิ่มจํานวนขึ้นถึงสี่สิบหมื่น ในขณะที่เขตเคลื่อนไหวไดขยายตัวครอบคลุมพื้นที่หลายเมือง มีราษฎร อยูในเขตเคลื่อนไหวถึงรอยหมื่น อํานาจรัฐของประชาชนไดกอตัวขึ้น เติบโตและเขมแข็งขึ้นโดยลําดับ ผลักดันใหเขตอํานาจรัฐของรัฐบาลถอยรนหดแคบลง จนคุกคามความปลอดภัยของบรรดาขุนนางขาราชการ ทั้งเมืองเชียงจิ๋วและเมืองปกไฮ ดังนั้นหัวเมืองเหลานี้จึงมีใบบอกเขาไปยังเมืองหลวงวาบัดนี้โจรโพก ผาเหลืองกอการกําเริบขึ้นอีกแลว ทําการปลนฆารังแกราษฎร ขอใหทางเมืองหลวงสงกองทัพมาชวย ปราบปราม ถาหากจะตําหนิคนแตงหนังสือสามกกวาเปนพวกเลาปตามทัศนะของหมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช แลว การตําหนิเชนนั้นยังคงคลาดเคลื่อนจากความเปนจริง และถาจะใหถูกตองตรงกับขอเท็จจริงก็ตองตําหนิวาคน เขียนสามกกเปนพวกขุนนางตางหาก ในกรณีของพวกขุนนางดวยกัน แมหากจะทําชั่วชาสารเลว หรือทําตน ไรคาและความหมายใดๆ ก็ยังคงใหเกียรติยกยอง อยางนอย ก็ยังเอยอางชื่อเสียงเรียงนามไวในสามกก แต ครั้นถึงทีของประชาชน กลับยัดเยียดวาเปนโจร และไมยอมเอยอางชื่อเสียงเรียงนามทําใหผูอานสามกกในชั้น หลังไมรูจักชื่อเสียงของนักตอสูของประชาชนในครั้งกระโนน การลุกขึ้นสูของประชาชนในครั้งที่สามนี้ เฉพาะดานเมืองเชียงจิ๋วดานเดียว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ก็ยังระบุวา "โจรโพกผาเหลืองประมาณสามสิบ สี่สิบหมื่น" และ "บรรดาหญิงชายชาวเมืองที่โจรจับไว นั้นประมาณรอยหมื่น" กําลังพลสามสิบ สี่สิบหมื่น มีขนาดใหญกวากําลังพลของกองทัพไทย กองทัพกัมพูชา ลาว มาเลเซีย สิงคโปร และบรูไนรวม กัน เชนนี้แลวยังจะเรียกวาเปนโจร จึงออกจะเปนการบิดเบือนความจริง ที่ชัดเจนเกินไป สวนราษฎรที่วาโจรจับกุมไวถึงรอยหมื่นหรือหนึ่งลานคนนั้นยอมเปนไปไมไดที่คนนับลานคน จะถูกโจรจับ หรือหากวาจะจับกันจริงๆ แลว จะจับไวไดสักกี่วัน จะเลี้ยงดูทํามาหากินกันอยางไร นี่คือการ บิดเบือนที่ไรความยุติธรรม กรณีจึงเปนเรื่องที่ราษฎรเหลานั้นปฏิเสธอํานาจรัฐ และเขารวมกับกองกําลังติด อาวุธของประชาชน ในบรรดากระบวนการบิดเบือนทางการเมืองตองยกใหพวกถือ ลัทธิขุนนาง ศักดินาเปนเลิศในโลก ภาพลักษณ การตอสูกูชาติของประชาชนทุกหนแหงในโลกลวนถูกลัทธิขุนนางศักดินานี่เองที่ทํา การบิดเบือนจนกลายเปน ยักษมารการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยในปพุทธศักราช 2475 ถูกบิดเบือนวาเปน "การปฏิวัติ" คือการทําใหแยลง ทั้งๆ ที่เปน "การอภิวัฒน" คือการทําใหกาวหนาและดียิ่งขึ้น การตอสูกับเผด็จ การขาย ชาติในสมัยหนึ่งที่เรียกชื่อวา "พรรคคอมมิวนิสตแหงประเทศไทย" ก็ถูกเรียกวา "ผูกอการราย" แตการคายา เสพยติด และการขายชาติซึ่งมีเภทภัยรายแรงยิ่งกวากลับไมประณามหรือทํา ลายใหสิ้นซาก แมวาจะบิดเบือน ประการใด ความจริงก็ยอมปรากฏตัวใหคนรุนหลังรับรูจนไดเหมือนกับสามกกตอนนี้ก็ไดเห็นกันแลววา ที กองทัพภาคพายัพเพียงสิบสองหมื่นยกเขาตีเมืองหลวงก็เรียกวา "กองทัพ" เอยอางชื่อแมทัพคือมาเทง และหันซุย แตครั้นประชาชนลุกขึ้นสูและมิไดยกเขามาโจมตีเมืองหลวง มีกําลังพลมากกวากองทัพภาคพายัพ ถึงกวาสามเทากลับเรียกวาเปน "โจร" ลิฉุย กุยกี ไดทราบความจากใบบอกของหัวเมืองแลว จึงเรียก ประชุม ขุนนางขาราชการปรึกษาวา จะปราบปรามโจรโพกผาเหลือง นี้ไดอยางไร จูฮี อดีตรองแมทัพใหญปราบโจร โพกผาเหลืองในยุคแรกๆ ซึ่งบัดนี้เปนที่ปรึกษาของผูสําเร็จราชการแผนดิน และมีความรูประสบการณเกี่ยวกับ กรณีของโจรโพกผาเหลืองมากกวาใคร จึงไดเสนอวาการครั้งนี้ควรใหโจโฉเปนผูไปปราบ ลิฉุย กุยกี ไม รูจักโจโฉมากอนจึงถามวาโจโฉเปนใคร และขณะนี้อยูที่ไหน จูฮีจึงวา เดิมโจโฉเคยรวมกับพวกขาพเจาปราบ โจร โพกผาเหลืองในยุคสมัยของพระเจาเลนเต ตอมาโจโฉไดเขารวมกับอวนเสี้ยวกอตั้งกองทัพปฏิวัติยก มารบดวยตั๋งโตะ ครั้นกองทัพปฏิวัติสลายตัวแลว โจโฉจึงยกไปตั้งอยูที่เมืองเองจิ๋ว มีกําลังทหารอยูเปน จํานวนมากสามารถปราบโจรทางภาคตะวันออกไดสําเร็จ ทั้งจะเกิดผลดีทางการเมืองเพราะเทากับเปนการนิร โทษกรรมใหกับโจโฉ และจะทําใหโจโฉกลับมาอยูในอํานาจของเมืองหลวงตอไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุย กุยกี จึงปรึกษาตอไปวาจะทําอยางไรโจโฉจึงจะยอมยกกองทัพไปปราบโจรโพกผาเหลืองในครั้งนี้ เพราะบัดนี้ฐานะทางกฎหมายของโจโฉคือผูขบถตอทางราชการ จูฮีจึงแนะนําวาขอใหทาน มีหมายรับสั่งของ พระเจาเหี้ยนเตไปถึงโจโฉ ดังนี้แลว โจโฉก็คงจะยอมปฏิบัติตามเพราะโจโฉยังคงยอมรับนับถือพระราชวงศ ฮั่นอยู และเพื่อใหการปราบโจรครั้งนี้ราบคาบไปโดยเร็ว สมควรมีหมายรับ สั่งเปนสองฉบับคือถึงโจโฉฉบับ
12.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 12 หนึ่ง และถึงเปาสิ้นเจาเมืองเจปกใหยกกองทัพไปชวยโจโฉอีกกองหนึ่ง ลิฉุย กุยกีเห็นดวยกับแผนการของจูฮี จึงใหทําหมายรับสั่งตาม คําของจูฮีทุกประการ โจโฉนั้นนับแตชูธง "ตงหงี" จัดตั้งกองทัพปฏิวัติขึ้นแลวกลายเปนกบฏตอแผนดินของรัฐบาลกลาง และจุดยืน ทางการเมืองนั้น โจโฉ ปฏิเสธไมยอมรับอํานาจของรัฐบาลกลาง แตยังคงยอมรับอํานาจของราชสํานักอยู ครั้นไดรับพระบรมราชโองการของพระเจาเหี้ยนเตก็มีความยินดี จึงสั่งใหจัดการเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตาม หมายรับสั่ง ในขณะเดียวกันนั้น เปาสิ้นเจาเมืองเจปกก็ไดรับหมายรับสั่งให ยกไปชวยโจโฉปราบโจรโพก ผาเหลือง ก็มีความยินดีเชนเดียวกัน เพราะเปาสิ้นก็มีฐานะเปนกบฏ เนื่องจากไดเขารวมในกองทัพปฏิวัติ การ ไดรับหมายรับสั่งก็คือการไดรับนิรโทษกรรมโดยอัตโนมัติ ประกอบทั้งเปนคนอยากดังและเปนเจาเมืองที่ซาส มากที่สุดตั้งแตครั้งที่เขารวม ในกองทัพปฏิวัติจึงรีบสั่งเตรียมกองทัพยกไปสมทบกับโจโฉที่เมืองเองจิ๋ว ครั้นโจโฉไดทราบวาเปาสิ้นยกกองทัพมาสมทบดวยก็มีความยินดี จึงสั่งใหเคลื่อนทัพจากเมืองเองจิ๋วยกไป เมืองเชียงจิ๋ว ครั้นเคลื่อนทัพมาถึงตําบลซิวสุน ซึ่งเปนเขตชายแดนเมืองเชียงจิ๋ว ก็เผชิญหนากับกองทัพหนา ของโจรโพกผาเหลือง เปาสิ้นจึงอาสายกเปนกองหนาเขารบ ในขณะที่กองหนาของเปาสิ้นเขาปะทะกับกองหนาของโจรโพกผาเหลืองนั้น โจรโพกผาเหลืองไดจัดกองทัพ อีกกองหนึ่งวกออมเขาตีตลบดานหลังของกองทัพเปาสิ้นอีกทางหนึ่ง ทั้งสองกองตีกระหนาบกองทัพหนาของ เปาสิ้นไวระหวางกลาง กองทัพของเปาสิ้นจึงเกิด การพะวงหนาพะวงหลัง และพากันแตกตื่นดวยคิดวาตองกล ของ โจรโพกผาเหลือง กองหนาของโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดานไดตีฝาเขามาถึงตัวของเปาสิ้น แลวเขา ลอมไว ฆาฟนทหารติดตามเปาสิ้นจนไมมีเหลือ แลวใชหอกแทงเปาสิ้นถึงแกความตาย ในขณะนั้นโจโฉซึ่งเปนกองทัพหลวงเห็นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองเขาตีกระหนาบกองทัพของเปาสิ้น จึง สั่งใหทหารเคลื่อนพลเขาโจมตีกระหนาบหลังกองทัพโจรโพกผาเหลืองกองที่วกมาทางดาน หลังของกองทัพ เปาสิ้นนั้น กองทัพโจรโพกผาเหลืองไมทันระวังตัวจึง พากันแตกพลาน ทหารของเปาสิ้นที่เหลือรอดอยูเห็น กองทัพโจโฉยกเขาตีประดาหนาเขามาก็ฮึดสูอีกครั้งหนึ่งจึงรวมตัวกันหันเขามาตีกระทบกระหนาบ กองทัพโจร โพกผาเหลือง ดังนั้นกองทัพของโจรโพกผาเหลืองจึงตกอยูในสภาพถูกตีกระหนาบทั้งสองดาน ถูกสังหารลม ตายลงเปนอันมาก ทหารโจรที่เหลืออยู จึงพากันแตกหนีไปทางดานเมืองเจปก สวนกองหนาของโจรโพก ผาเหลืองที่ตีกระหนาบในขณะเผชิญ หนากับกองทัพของเปาสิ้นอยูทางขางหนานั้น เห็นกองทัพที่ยกตี กระหนาบแตกพายก็พากันแตกพายตามไปดวย แลวยกหนีไปทางดานเมืองเจปกเชนเดียวกัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม วิถีแหงการกอรางตั้งตัวของโจโฉ (ตอนที่ 56) โจโฉไดยกทหารไลตามตีโจรโพกผาเหลืองไปจนถึงชายแดนเมืองเจปก จับโจรโพกผาเหลืองและอาวุธ ยุทโธปกรณตางๆ ไดเปนจํานวนมาก พวกโจรบางสวนที่หลบหนีไปไดครั้นเห็นวาสิ้นทางที่จะหนีและไรหนทาง ไป จึงพากันกลับเขามา สวามิภักดิ์กับโจโฉ โจโฉไดรีบปรับปรุงกองทัพ จัดสังกัดใหโจรโพกผาเหลืองที่ยอมเขาสวามิภักดิ์ที่มีจํานวนถึงหาหมื่นใหเปน กองทัพหนา และจัดใหทหารที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหลวง แลวยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลือง ที่ยังคง ตั้งฐานที่มั่นอยูอีกหลายแหงในภาคตะวันออก โจโฉใชเวลาเกือบสามเดือนก็สามารถปราบปรามโจรโพก ผาเหลืองทางภาคตะวันออกไดอยางราบคาบ ไดเกลี้ยกลอมใหโจรโพกผาเหลืองจํานวนมากเขาสวามิภักดิ์ และรับเขาเปนทหารในกองทัพ สวนบรรดาราษฎรในเขตยึดครองของโจรโพกผาเหลืองนับลาน คนนั้น ถาชาย ฉกรรจคนใดยอมเขาสวามิภักดิ์และสมัครเขาเปนทหาร โจโฉก็จะรับเขาไวในกองทัพ สวนที่ตองการทํามาหา กินตามปกติก็อนุญาตใหทํามาหากินไดตามเดิม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เมื่อโจโฉไดทหารใหมจากโจรโพกผาเหลืองและบรรดาชายฉกรรจที่เต็มใจเขารับราชการทหารดวย จึงทําให กองทัพของโจโฉขยายตัวเติบใหญมีกําลังพลเพิ่มขึ้นรวมกับของเดิมแลวมีจํานวนถึง สามสิบหมื่น และได ปรับปรุงกองทัพใหมอีกครั้งหนึ่ง โดยกําลังพลที่มีมาแตเดิมเปนกองทัพหนึ่ง และกําลังพลใหมใหจัดตั้งเปนอีก กองทัพหนึ่งเรียกวา "กองทัพเมืองเชียงจิ๋ว" เพื่อเปนการเอาใจและผูกใจกลุมโจรโพกผาเหลืองที่เขา สวามิภักดิ์ใหมนั้น เสร็จจากการปราบโจรโพกผาเหลืองทางภาคตะวันออกแลว โจโฉจึงใหปลงทัพไวที่ ชายแดนเมืองเจปก และทํารายงานการศึกกราบ บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตทรงทราบ แลวสงเขาเมืองหลวง ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นไดรับรายงานการศึกจากโจโฉแลว จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตนําความขึ้นกราบบังคมทูลให ทรงทราบ พระเจาเหี้ยนเตทราบความศึกตามคํากราบบังคมทูลแลวจึงตรัสวา การศึกครั้งนี้โจโฉทําความชอบ
13.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 13 มาก และโปรดเกลาฯ แตงตั้งให โจโฉเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ลิฉุย กุยกี ไมทันคิดและไมเฉลียวใจวา เหตุใดพระเจาเหี้ยนเต จึงมีพระบรมราชโองการตั้งโจโฉดวยพระองคเอง ซึ่งถาวาโดยปกตินับแตลิฉุย กุยกี ได ยึดอํานาจการปกครองมาจากอองอุนแลว จะเปนฝายที่เสนอแตงตั้งขาราชการและขุนนางตางๆ ไมมีสักครั้ง เดียว ที่พระเจาเหี้ยนเตจะแตงตั้งดวยพระองคเอง แตกระนั้นลิฉุย กุยกี ก็ยอมรับพระบรมราชโองการดังกลาว และทําเปนพระราชโองการแตงตั้งโจโฉตามรับสั่ง แลวสงพระบรมราชโองการนั้นแกโจโฉ โจโฉในวันนี้จึงนับวาพนจากขอหากบฏจากกรณีที่เขารวมกับกองทัพ ปฏิวัติและกลายเปนแมทัพใหญภาคตะวันออก ซึ่งมีกําลังทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น นับเปนการขยายฐาน กําลังอํานาจทาง ทหารครั้งสําคัญและครั้งใหญของโจโฉ กองทัพสามสิบหมื่นของโจโฉในวันนี้ยังมีแมทัพนาย กองระดับทหารเอกอยูถึงหกคนคือแฮหัวตุน, แฮหัวเอี๋ยน, โจหยิน, โจหอง, ลิเตียน และงักจิ้น ดังนั้นกองทัพ ของโจโฉจึงเปนกองทัพที่พรอมรบ ทั้งโดยวิธีตอสูกันดวยฝมือทหารเอก หรือดวยกําลังทหาร ยังคงขาดอยูก็ แตเพียงนักยุทธศาสตรที่สามารถวางแผนการยุทธในเชิง กลอุบายหรือเชิงกลพยุหะ และการใชพลังจักรวาล และยังคงขาดอยูสําหรับดานการเมือง การปกครอง และการทูต ตัวโจโฉเองนั้นแมจะเชี่ยวชาญทางพิชัยสงคราม และมีประสบการณทางดานการบริหารการปกครองมากอน แตโจโฉก็รูดีวา ลําพังตัวคนเดียวนั้นยอมไมอาจทําการใหญไดสําเร็จ ซึ่งเปนธรรมดาของ "ปาใหญยอมไมอาจ มีแตไมใหญเพียงตนเดียว หากตองมีทั้งไมขนาดใหญ ไมขนาดกลาง ไมขนาดเล็ก ไมพื้นดิน และไมพันธุที่มี หัวอยูในดิน" ถึงกระนั้นหากจะเทียบกับซุนเซ็กและเลาปแลว ตองนับวาโจโฉ ไดกาวไปไกลกวากันมาก เพราะ ในขณะนี้เลาปยังคงเปนเพียงเจาเมือง เพงงวนกวน ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวา ขึ้นตอบังคับของเมืองปกเปงที่มี กองซุนจานเปนเจาเมือง มีกําลังพลอยูในมือเพียงไมกี่หมื่นคน และมีทหารเอกก็เพียงกวนอูและเตียวหุย เทานั้น ทั้งยังอยูหางจากอํานาจรัฐจนไกลโพน ฝายซุนเซ็กนั้นเลา แมวาไดสืบทอดอํานาจจากซุนเกี๋ยนผูบิดาขึ้น เปนที่เจาเมืองเตียงสาแลว และแมวาเมือง เตียงสาจะเปนศูนยกลางของแควนกังตั๋ง ดินแดนทางภาคใตของแมน้ําแยงซีมีหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา ใน สังกัดถึงแปดสิบเอ็ดหัวเมืองก็จริงอยู แตความสัมพันธระหวางหัวเมืองเหลานั้นก็ยังคงอยูในลักษณะที่เมือง เตียงสา เปนเพียงศูนยกลางในระบบราชการปกติของรัฐบาลกลางเทานั้น ไมไดมีอํานาจบังคับบัญชาหมือนกับ เมืองที่ขึ้นตอโดยตรง กําลังทหารของเมืองเตียงสาก็มีอยูไมกี่หมื่นคน สวนทหารเอกก็มีเพียงอุยกาย เทียเภา และฮันตง สามสหาย รวมรบของซุนเกี๋ยนเทานั้น แตซุนเซ็กมีขอไดเปรียบเลาปตรงที่ดินแดนภาคใตของแมน้ํา แยงซีมีความสงบ สันติ ราษฎรรักการทํามาคาขาย ซึ่งเปนรากฐานของการพัฒนา และเปนรากฐานของความเปนปกแผนในวัน ขางหนา ทั้งหัวเมืองตางๆ ในภาคใตไมไดมีความขัดแยงถึงขนาดจะตองทําสงครามแกกัน หากมีขอพิพาทกัน บางก็แกไขกันภายใตระบบราชการ หรือมิฉะนั้นก็แกไขกันเองโดยวิถีทางทํานองการคาขาย ผิดกันกับโจโฉซึ่ง อยูทางภาคตะวันออกฝงเหนือของแมน้ําแยงซี ดินแดนในภาคเหนือเปนดินแดนที่มีขุนศึกอยูเปนจํานวนมาก เชน มาเทง หันซุย อวนเสี้ยว อวนสุด หรือกองซุนจานเปนตน พวกขุนศึกในภาคเหนือลวนเปนผูใฝในอํานาจ ตางแกงแยงแขงขันชิงดีแยงอํานาจซึ่งกันและกัน มีขอพิพาทกันแตเพียงเล็กนอยก็ใชสงคราม เปนเครื่องมือ ตัดสิน แมยามสงบก็พยายามขยายเขตอํานาจทําสงครามแกกัน พฤติกรรมเชนนี้ยังคงสืบทอด ตลอดมาแมกระทั่งทุกวันนี้ ดังนั้น ระหวางโจโฉ เลาปและซุนเซ็กในวันนี้จึงเห็นไดชัดวาโจโฉไดสรางฐานอํานาจทางทหารที่เขมแข็งเติบ ใหญที่สุด ในขณะที่เลาปและซุนเซ็กยังคงมีกําลังทหารไมมากนัก แตเมื่อประมวลดาน ความเปนปกแผนของ ดินแดนที่เกี่ยวของแลวก็ตองนับวาซุนเซ็กมีความเหนือกวาเลาปอยูมาก แตทวาโจโฉนั้นมีความมักใหญใฝสูง คิดตั้งตัวเปนใหญตั้งแตยังเด็ก ครั้นสถานการณเปนใจใหเติบใหญขึ้นในภาคตะวันออก โจโฉจึงอาศัยโอกาสนี้ กอรางตั้งตัวเปนรูปรางที่ชัดเจนขึ้น ครั้นโจโฉไดรับพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งใหเปนแมทัพใหญ ภาคตะวันออกแลวก็มีความยินดียิ่งนัก ดวยเห็นวานี่คือโอกาสอันยิ่งใหญที่สวรรคไดประทานใหแลว จึงรีบ เคลื่อนกองทัพไปตั้งอยู ณ เมืองกุนจิ๋ว ซึ่งเปนเมืองยุทธศาสตรของดินแดนภาคตะวันออก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉเคยอยูเมืองหลวงมากอน มีความใกลชิดกับอํานาจรัฐ ไดรูเห็นการชวงชิงอํานาจรัฐ การใชอํานาจรัฐ และ การรักษาอํานาจรัฐ ตั้งแตครั้งยุครัฐบาลของโฮจิ๋นมาจนถึงตอนตนยุครัฐบาลของตั๋งโตะ ดังนั้นโจโฉจึงได เรียนรู ทั้งขอเดน ขอดอย ขอดี และขอเสียของรัฐบาลดังกลาววาปมเงื่อนของความสําเร็จหรือความลมเหลว อยูที่คน เนื่องเพราะการงานทั้งปวงกระทําโดยคน คนจึงเปนผูกอใหเกิด ทั้งความสําเร็จและความลมเหลว เปน ผูกอใหเกิดความสามัคคีสมานฉันท หรือความแตกสามัคคี และยังเปนผูกอใหเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นหรือ ความเคียดแคนชิงชัง โจโฉไดเรียนรูวาเหลานี้คือวิถีแหงการกอรางตั้งตัว ดังนั้นเมื่อโอกาสเปดใหแกการกอ
14.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 14 รางตั้งตัวแลว โจโฉจึงมุงเนนในเรื่องของคนเปนสําคัญ มุงมั่นรักษาคนดีมีฝมือและกําลังพลที่มีอยูแตเดิมให แนนแฟนยิ่งขึ้น ควบคูไปกับการแสวงหาคนดีมีสติปญญาใหมๆ เขามารวมงาน แลวมอบหมายการงานที่ เหมาะสมแกแตละคนอยางชัดเจน โจโฉตั้งทัพที่เมืองกุนจิ๋วแลว ตระหนักดีวาปจจัยสําคัญแหงการตั้งตัวเปน ใหญนั้นยังคงขาดอยูคือคณะที่ปรึกษาที่เปนมันสมองใน กิจการดานตางๆ ดังนั้นกิจกรรมแรกสุดที่โจโฉให ความสําคัญและเรง รีบดําเนินการคือทุมเทความพยายามอยางเต็มที่ในการแสวงหาคนดีมีสติปญญามาเปนที่ ปรึกษา เพื่อหาสิ่งที่ยังขาดอยูใหเต็มบริบูรณ โจโฉจึงใหปาวประกาศรับสมัครคนดีมีสติปญญาในทุกๆ ดานเขา มารับราชการในกองทัพภาคตะวันออก กระแสขาวการรับคนดีมีสติปญญาของโจโฉในครั้งนี้ไดแพรขยายไปทั่ว ภาคตะวันออกและดินแดนใกลเคียง ฝายซุนฮก ซุนสิว สองอาหลานซึ่งรับราชการอยูกับอวนเสี้ยวแตไมเคยไดรับความสนใจใหความสําคัญหรือ เห็นคุณคา ดังนั้นจึงปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับอวนเสี้ยวตอไปก็ไรประโยชน จึงพากันไปสมัครเขากับโจ โฉ โจโฉไดสนทนาสัมภาษณแลวเห็นวาเปนคน มีสติปญญาวาจาหลักแหลมจึงรับไวในราชการ แตงตั้งใหเปน ที่ปรึกษา เมื่อซุนฮก เปนที่ปรึกษาแลว ไดเสนอโจโฉวามีชาวเมืองตงกุนคนหนึ่งชื่อ เทียหยก เปนคนมี สติปญญาความสามารถหลายสถาน ขอใหเชิญมาเปนที่ปรึกษา โจโฉไดยินชื่อเทียหยก จึงวาเราไดยิน กิตติศัพทคนผูนี้มานานนักหนาแลวแตไมรูจักตัว ดังนั้นโจโฉจึงใหทหารไปสืบเสาะหาตัวเทียหยกจนพบ แลว เชิญ มารับราชการดวย เทียหยกก็รับคําเชิญมารับราชการดวยโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉแตงตั้งใหเปนที่ปรึกษา เทียหยกรูดีวาตัวไดเขารับราชการดวยโจโฉเพราะการแนะนําของ ซุนฮก จึงเคารพนับถือซุนฮกเปนหัวหนา แลวเสนอแกซุนฮกวาคนบานเดียวกันกับซุนฮกผูหนึ่งชื่อกุยแกเปนคนหนุมแตมีสติปญญามากกวาใคร สมควร ที่จะเชิญมาทําราชการดวย ซุนฮกไดยินชื่อกุยแกก็ดีใจ ระลึกถึงกุยแกได จึงไปเสนอโจโฉใหเชิญกุยแกเปนที่ ปรึกษาอีก คนหนึ่ง โจโฉมีความยินดียิ่งนัก แลวใหเชิญกุยแกมาเปนที่ปรึกษาอีกคนหนึ่ง กุยแกมาเปนที่ปรึกษาแลวก็แนะนําโจโฉใหเชิญผูมีสติปญญาความสามารถอีกสี่คนคือ เลาหัว, บวนทง, ลิ เกียน และมอกายมาเปนที่ปรึกษา โจโฉก็เชิญทั้งสี่คนมาเปนที่ปรึกษาตามคําของกุยแก ในขณะนั้นหัวหนาโจร ชื่ออิกิ๋ม ไดยินกิตติศัพทการรับสมัครบุคลากรของโจโฉจึงพาพรรคพวกมาเขาดวยกับโจโฉ โจโฉไดแตงตั้ง ใหอิกิ๋มเปนทหารเอก แลวรับเอาพรรคพวกของอิกิ๋มเปนทหาร ชวงนั้นชาวเมืองตันลิวอีกคนหนึ่งชื่อเตียนอุย มี รูปรางใหญ กําลังกลาแข็ง เคยอยูกับเจาเมืองตันลิวมากอน แตเกิดวิวาทฆาทหาร เมืองตันลิวตายหลายคนจึง หนีไปอยูปา ไปพบเขากับเสือโครงก็ตีเสือโครงตาย แฮหัวตุนไปพบเขาจึงพามาทําราชการดวยโจโฉ โจโฉ เห็นบุคลิกเตียนอุยแลวเปนที่ประหลาดนักก็ใหแสดงฝมือใหชม เตียนอุยจึงขี่มาถือทวนประจําตัว เปนทวนคู หนักเลมละแปดสิบชั่ง รายรําเพลงทวนใหโจโฉดูอยางแคลวคลองวองไว โจโฉมีความ พอใจเปนอันมากจึงตั้ง ใหเปนทหารองครักษประจําตัว พอดีขณะนั้นเกิดพายุใหญพัดมาตองธงชัยประจํากองทัพที่ปกอยูหนาคายลม ลง ทหารเกือบสามสิบคนวิ่งเขาไปจะยกใหตั้งตรงแตหาเขยื้อนไม เตียนอุยเห็นดังนั้นจึงรีบเขาไปยกธงชัยนั้น ตั้งตรงไดดังเดิม โจโฉมีความพอใจเปนอันมากจึงมอบเสื้อเกราะอยางดีเปนรางวัลแกเตียนอุย ดังนั้น ในขณะนี้กองทัพของโจโฉจึงประกอบดวยบุคคลครบครันทั้งฝายบุนและฝายบู โดยฝายบุนนั้น ประกอบดวยคณะที่ปรึกษาครบแทบทุกดาน ถึงแปดคนคือ ซุนฮก, ซุนฮิว,เทียหยก, กุยแก, เลาหัว, บวนทง, ลิเกียน และมอกาย ในบรรดาทั้งแปดคนนี้ตองนับวากุยแก เปนผูมีสติปญญารอบรูการสงคราม การเมือง และ การปกครองมากที่สุด ในฝายบู โจโฉไดทหารเอกเพิ่มเติมอีกสองคนคืออิกิ๋มและเตียนอุย โดยเฉพาะเตียนอุย นั้นไดรับความไววางใจเชื่อถือจากโจโฉ มากถึงขนาดแตงตั้งใหเปนองครักษประจําตัวนี่คือวิถีการกอรางตั้งตัว ของโจโฉ ซึ่งบัดนี้พรอมแลวที่จะเปนหนึ่งในสามกก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แปรความแคนสวนตัวเปนการ มือง (ตอนที่ 57)เ โจโฉซองสุมกําลังทั้งฝายบุนและฝายบูอยูที่เมืองกุนจิ๋วเปนปกแผนแลวจึงพิจารณายุทธศาสตรใหญในการกาว เขาสูอํานาจรัฐรวมกับคณะที่ปรึกษา แลวเห็นวามีอยูสองแนวทาง คือ แนวทางแรก ยกกองทัพเขาโจมตีเมือง หลวง และแนวทางที่สอง คือการขยายฐานอํานาจในหัวเมืองตางๆ กอนแลวคอยยกกองทัพเขายึดเมืองหลวง แนวทางแรกนั้น มีบทเรียนตั้งแตยุคของโฮจิ๋นและตั๋งโตะแลววามีความเสี่ยงภัยสูงมากทุกขั้นตอน ในชั้นเขา โจมตีเมืองหลวงก็อาจ ถูกฝายเมืองหลวงสั่งใหหัวเมืองอื่นยกกองทัพมาตีกระหนาบ แมไดอํานาจรัฐแลวก็ยังมี ความเปนไปไดที่หัวเมืองตางๆ จะยกกองทัพเขามายึดอํานาจคืน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สวนแนวทางที่สองนั้นอาจเรียกไดวาเปนแนวทาง "ชนบทลอมเมือง" หากยึดหัวเมืองตางๆ ไวในอํานาจ ขยายกองทัพใหเติบโตเขมแข็งเสียกอนแลวยกไปยึดเมืองหลวงในภายหลังก็จะทําศึกเพียง ดานเดียวไมตอง
15.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 15 หวงหนาพะวงหลัง ทั้งทําการไดสะดวกเพราะอํานาจ รัฐออนแอ ไมสามารถชวยเหลือหัวเมืองตางๆ ได ทั้งแต ละเมืองก็มี ทหารปองกันรักษาไมมากนัก ดังนั้น โจโฉจึงตกลงใจใชแผนยุทธศาสตร "ชนบทลอมเมือง" เปน ยุทธศาสตรหลักในการยึดอํานาจรัฐ และภายใตยุทธศาสตรนี้ได กําหนดวิธีการคอยๆ แผอํานาจยึดทีละเมือง อยางคอยเปนคอยไป ถือ ยุทธวิธี "กินขาวทีละคําจนหมดจาน" เพื่อไมใหเกิดความตื่นตระหนกแกหัวเมือง ตางๆ เมื่อกําหนดยุทธศาสตรและยุทธวิธีดั่งนี้แลว ขั้นตอไปก็คือการ สรางความชอบธรรมในการยึดหัวเมืองตางๆ ตอไป ในขณะที่รอคอยโอกาสสรางเงื่อนไขความชอบธรรมอยูนั้น โจโฉเห็นวาภายในเมืองกุนจิ๋วมีเสถียรภาพ เพียงพอแลว จึงรําลึกถึง บิดาตนที่หนีราชภัยไปอาศัยอยูเมืองตันลิว จึงสั่งใหทหารถือหนังสือไปหาโจโกผู บิดาที่เมืองตันลิว เพื่อรับเอาครอบครัวและญาติ พี่นองมาอยูดวยกันที่เมืองกุนจิ๋ว โจโกไดรับหนังสือของโจโฉ แลวยินดีในวาสนาของลูกชายยิ่งนัก จึงจัดแจงรวบรวมทรัพยสมบัติทั้งปวงแลวพาครอบครัวพรอมดวย โจเตก ผูนองและญาติที่สนิทรวมสองรอยกวาคนออกเดินทางจากเมืองตันลิวพรอมกับทหารของโจโฉที่มารับนั้น ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว หลังจากเขารวมกับกองทัพปฏิวัติแลว มีความประทับใจในสติปญญาของโจโฉเปน อันมาก ครั้นเลิกทัพกลับมาเมืองชีจิ๋วแลวก็ยังระลึกถึงโจโฉอยูเสมอคิดวาในยามบานเมืองเปนจลาจลเชนนี้ จําเปนที่จะตองมีผูที่ปรีชาสามารถมาเปนหลักใหแกหัวเมืองตางๆ ชวยทํานุบํารุงแผนดินและราษฎรใหเปนสุข คิดอยูในใจวาถาโอกาสอํานวยเมื่อใดก็จะชวนใหโจโฉเปนผูนําทําการใหญอีกตอไป ครั้นโตเกี๋ยมไดขาววาบัดนี้โจโฉใหทหารไปรับบิดาและครอบ ครัวจะไปอยูเมืองกุนจิ๋ว และกําลังเดินทางผาน มาทางเมืองชีจิ๋วก็มีความยินดี ประกอบทั้งตัวโตเกี๋ยมเองก็เปนคนใจคอกวางขวางเอื้ออารีตอคนทั้งปวงเห็น วาโจโก เดินทางไกลคงยากลําบากประการหนึ่ง และเห็นวาเปนบิดาและครอบครัวของคนที่ตัวนับถือผาน มาแลวจะทําเปนไมรูเห็นจะเปนการแลงน้ําใจเกินไปอีก ประการหนึ่ง ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงนําทหารออกจากประตู เมืองไปเชิญโจโกและญาติพี่นองในขบวนใหเขามาพักในเมืองชีจิ๋วเสียกอน แลวคอยเดินทางตอไป โจโกเห็น เจาเมืองออกมาคารวะและออกปากเชิญดวยตนเองก็เกรงใจและยินดีตามคําเชิญนั้น จึงพากันเขาเมืองชีจิ๋ว โต เกี๋ยมไดจัดใหโจโกและคณะพักที่ตึกรับรองแขกเมืองอยางสมเกียรติ แลวแตงโตะเลี้ยงโจโกและคณะเปน อยางดี คณะของโจโกพักอยูเมืองชีจิ๋วสองวันแลวจึงออกเดินทางตอไป โตเกี๋ยมคนใจอารีจึงใหเตียวคีนําทหารหารอย นายไปสงขบวนใหถึงเมืองกุนจิ๋ว ขบวนของโจโกเดินทางมาถึงวัดแฮหุย ซึ่งเปนวัดรางแหง หนึ่งเปนเวลาค่ํา ประจวบกับฝนตกหาใหญจึงใหพักขบวนคางคืนใน วัดรางแหงนี้โดยมีทหารของโตเกี๋ยมและทหารของโจโฉ เฝารักษาการณอยูภายนอกที่พัก เตียวคีทหารของโตเกี๋ยมซึ่งเปนผูนําทหารมาสงขบวนนั้นเคยเปนโจรโพก ผาเหลืองมาแตกอน ครั้นโจรโพกผาเหลืองถูกปราบปรามจึงหนีมาสมัครเปนทหารเมืองชีจิ๋วเห็นในขบวน ของโจโกมีทรัพยสินหลายเลมเกวียนก็เกิดความคิดโลภอยากไดทรัพยสมบัติเหลานั้น จึงปรึกษากับเพื่อน ทหารที่มาดวยกันเพื่อปลนเอาทรัพยสินนั้นเสีย พวกทหารเหลานั้นก็เห็นดวย โจโกและคณะเดินทางมาเหนื่อย เหน็ดทั้งวัน ทั้งวางใจวามีทหาร คอยรักษาความปลอดภัยจึงพากันหลับสนิท โดยไมไดคิดเลยวาทหาร เหลานั้น จะคิดทํารายตัว ดังนั้นในขณะที่ทุกคนกําลังหลับใหล เตียวคี จึงคุมทหารเมืองชีจิ๋วเขาไปสังหารโจ โกและครอบครัวจนตายสิ้นและปลนเอาทรัพยสินทั้งหมดหนีไปอยูปา ทหารของโจโฉที่มารับโจโกและญาติพี่นองเห็นทหารของเตียวคี ปลนฆาเจาทรัพยก็ตกใจกลัวจึงพากัน หลบหนีไปดวย ตัวนายนั้นหนีไปอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว แตทหารชั้นผูนอยไมมีหนทางไปและคิดถึง ครอบครัวจึงเดินทางกลับไปเมืองกุนจิ๋วรายงานเหตุ การณใหโจโฉทราบ โจโฉทราบเรื่องแลวก็รองไหรักบิดา และญาติเปนอันมาก สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วา "โจโฉครั้นแจงดังนั้นก็รองไหรักบิดาจนลมลงจากเกาอี้ ทหารทั้งปวง เขาอุมโจโฉขึ้นบนเกาอี้" อันความโศกเศราแตการที่บิดาและญาติๆ ถูกปลนฆาอยางทารุณ เชนนี้เปนวิสัยของ คนเราทุกตัวคน และโจโฉก็ยอมอยูในวิสัยเชนนี้ แตคนคิดการใหญและมีความเปนผูนําอยางโจโฉนั้นยอมรูดีวา ถึงจะเศราโศกเสียใจและรองไหจนน้ําตาเปนสายเลือดก็หาไดทําใหคนตายฟนคืนขึ้นมาไดไม กรณีมีเหตุผล ที่โจโฉจะโกรธโตเกี๋ยม เพราะคนซึ่งปลนฆาครอบครัวของตนคือทหารของโตเกี๋ยม เมื่อโกรธแลวก็มีเหตุผลที่ จะตองแกแคนเอากับโตเกี๋ยม นี่คือเหตุผลและความชอบธรรมที่จะยกกองทัพไปโจมตีเมืองชีจิ๋ว และนี่คือ โอกาสที่โจโฉรอคอยอยูมิใชหรือ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ดังนั้น โจโฉจึงจําตองสรางสถานการณขึ้นเพื่อใหผูใตบังคับบัญชาทั้งปวงมีความรูสึกเดือดแคนดวยจะไดมี น้ําใจสมานฉันทในการสงคราม ทําใหกําลังรบสามารถเปลงอานุภาพไดอยางเต็มที่ ซึ่งถือเปนยุทโธบายสําคัญ
16.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 16 ตามพิชัยสงครามที่วา "ฝายนําและผูใตบังคับบัญชารวมจิตสมานฉันทเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน ผูนั้นชนะ" และนี่ คือหลักการวางแผนเบื้องตนในการทําสงคราม ซึ่งตําราพิชัยสงครามบัญญัติวา "เมื่อไดวางแผนการเหมาะสม และผูใตบังคับบัญชาเห็นชอบและเชื่อฟงดีแลว กาวตอไปก็คือการเสกสรางเหตุการณใหเกิดขึ้นเพื่อคอยเปน กําลังเสริมทางภายนอกอีกดานหนึ่ง อันวาเหตุการณอันจะปลุกเสกขึ้นนั้น เรามิพักตองถือหลักเกณฑตายตัว จงกระทําไปตามโดยนัยประโยชนของฝายเราก็แลวกัน" ดังนั้น การโศกเศราเสียใจรองไหของโจโฉจึงนาจะเปนความรูสึก ที่แทจริงตามวิสัยของปุถุชน แตการรองไห จนลมลงจากเกาอี้นั้น นาจะเปนการเสกสรางขึ้น เพื่อสรางความรูสึกเดือดแคนรวมขึ้นภายในกองทัพ และนี่ แสดงวาโจโฉในวันนี้ไดเรียนรูและสามารถใชความ รูดานพิชัยสงครามอยางกลมกลืนจนดูประหนึ่งเปนเรื่อง ธรรมดาเขาทํานอง "สูงสุดสูสามัญ" แลว ครั้นทหารพยุงโจโฉขึ้นบนเกาอี้แลว โจโฉจึงวาการณครั้งนี้เปน เพราะ โตเกี๋ยมทํากลอุบายปลนฆาบิดาและญาติๆ ของเรา หากเราไมลางแคนโตเกี๋ยมแลวยอมไดชื่อวาเปน บุตรอกตัญู ดังนั้นแมวาตัวเราจะเห็น แกความสงบสุขของบานเมืองแลราษฎร ครั้งนี้จําตองละความเห็นสวน ตัวนั้นเสีย เพื่อพิทักษคุณธรรม เราจําจะยกไปเหยียบเมืองชีจิ๋วเสียใหเรียบเปนหนากลองแลวจับตัวโตเกี๋ยมมาฆาเสียให จงได แลวโจโฉจึงถามความเห็นบรรดาแมทัพนายกองทั้งปวง ทั่วทั้งกองทัพ สนับสนุนความคิดเห็นของโจโฉ อยางทวมทนดวยใจเดือดแคนรวมกับนายตัว ดังนั้น โจโฉจึงสั่งใหซุนฮกและเทียหยกสองที่ปรึกษาคุมกําลัง ทหารสามหมื่นอยูรักษาเมืองกุนจิ๋วแลวโจโฉจึงเคลื่อนทัพจากเมืองกุนจิ๋วตรงไปเมืองชีจิ๋วของโตเกี๋ยม ครั้น ใกลเมืองชีจิ๋วแลวจึงใหตั้งคาย ลง และสั่งใหแฮหัวตุน อิกิ๋ม และเตียนอุย สามทหารเอกเปนกองหนายกทหาร ไปประชิดกําแพงเมืองชีจิ๋ว กําชับวาใหสังหารผูคนชาวเมืองชีจิ๋วเสียใหสิ้น สามทหารเอกจึงเคลื่อนกําลังเขาประชิดเมืองชีจิ๋ว และสังหารชาวเมืองที่อยูนอกกําแพงเมืองเสียสิ้น ไมละเวน แมกระทั่งลูกเด็กเล็กแดงและคนชรา ฝายเปยนเหยียง เจาเมืองกิวกั๋ง ซึ่งเปนหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และตัว เปยนเหยียงเองมีความชอบพอกับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงยกทหารหาพันจะมา ชวยเหลือโตเกี๋ยม ครั้นยกมาใกลเมืองชีจิ๋วจึงปะทะกับกองหนาของแฮหัวตุน ทหาร ของทั้งสองฝายได ตะลุมบอนกันอยางดุเดือด แฮหัวตุนฆาเปยนเหยียง ตายในที่รบ ทหารของเปยนเหยียงที่เหลือจึงแตกพายไป ฝายตันกง อดีตเจาเมืองจงพวน ซึ่งเคยศรัทธาในตัวโจโฉ ได ปลอยตัว โจโฉซึ่งถูกจองจําตามคําสั่งของรัฐบาลกลาง แลวทิ้งตําแหนงเจาเมืองหนีไปกับโจโฉ ตอมาเห็น วาโจโฉเปนคนเนรคุณ ไรคุณธรรม จึงหนีจากโจโฉไปนั้น ไดไปทําราชการอยูที่เมืองตองกุน ตันกงเปนเพื่อน กับโตเกี๋ยม ครั้นรูขาววาโจโฉยกกองทัพจะไปโจมตีเมืองชีจิ๋วและสั่งใหสังหารชาวเมืองเสียทั้งสิ้น รูสึกเปน หวงใยโตเกี๋ยม ทั้งมีน้ําใจรักราษฎร จึงคิดวาเคยมีคุณกับโจโฉมาแตกอน จึงเดินทางมาพบโจโฉ อธิบายความ จริงใหทราบวา โตเกี๋ยมมิไดรูเห็น เปนใจในการปลนฆาบิดาและญาติพี่นองของโจโฉ เหตุเกิดจากทหาร ของ โตเกี๋ยมมีความโลภหักหลังโตเกี๋ยมแลวปลนฆาโจโกและคณะเสีย จึงขอใหโจโฉทบทวนความคิด และขอรอง ใหถอนทัพกลับเมืองกุนจิ๋ว โจโฉฟงคําตันกงแลว แมยังระลึกถึงคุณตันกงที่ชวยเหลือปลอยตัวออกจากการถูกจองจําและยังสูอุตสาหทิ้ง ตําแหนงเจาเมืองหนีตาม มาทําการดวย แตแผนการของตัวเองนั้นเปนการใหญ จะมัวคิดเห็นแกไมตรีสวนตัว เชนนี้ไมได โจโฉจึงไมยอมตามคําขอรองของตันกง และแสรงทําทีเปนโกรธตันกงหาวาละทิ้งกันในยามยาก แลวยังมาเขา ขางคนที่คบคิดกันสังหารบิดาตัวเองซ้ําอีก ตันกงมาขอรองโจโฉไมสมความคิด ก็รูสึกละอายใจ ที่ไมสามารถ ชวยเหลือโตเกี๋ยมผูเปนมิตร จึงไมกลาเขาเมืองชีจิ๋วไปพบหนากับโตเกี๋ยม ดังนั้นตันกงจึง เดินทางไปหาเจาเมืองตันลิว ฝายโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ครั้นไดขาวศึกและไดรับรายงานวาทหาร โจโฉสังหาร ชาวเมืองที่อาศัยทํามาหากินอยูนอกเมืองเปนอันมากก็มีความเสียใจ รองไหอาลัยรักราษฎรเหลานั้นและได เรียกประชุมขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว เพื่อรับมือกับกองทัพโจโฉ ผลการประชุมตกลงกันวาจําเปนที่จะตอง ชี้แจงขอเท็จจริงเพื่อทํา ความเขาใจกับโจโฉวาโตเกี๋ยมมิไดรูเห็นหรือคบคิดปลนฆาครอบ ครัวโจโฉเสียครั้ง หนึ่งกอน แลวคอยคิดอานการศึกตอไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นรุงขึ้นโตเกี๋ยมจึงยกทหารออกไป "เห็นทหารโจโฉนั้นตั้งอยูเปนมาก ดังคลื่นในทองมหาสมุทร" โจโฉเห็น โตเกี๋ยมยกทหารออกมาจึงชักมาออกไปหนาทหาร โตเกี๋ยมก็ชักมาออกมาหนาทหารอยางเดียวกัน คํานับโจ โฉแลวชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นทุกประการ โจโฉฟงคําโตเกี๋ยมแลวหาวาโตเกี๋ยมเปนคนเจาอุบาย คบคิดกับ ลูกนองใหปลนฆาบิดาและครอบครัว จึงสั่งใหทหารลอมจับโตเกี๋ยม เมื่อพูดจากันไมรูเรื่องดังนี้ จึงทั้งโจโฉ และโตเกี๋ยมตางชักมาเขามาขางหลังทหาร ทหารทั้งสองฝายจึงดาหนาเขาประจัญบานกัน บาดเจ็บ ลมตาย ลงเปนอันมาก พอดีฝนตกลงมาหาใหญ ทั้งสองฝายจึงถอยทัพกลับเขาเมืองและกลับเขาคายของตน
17.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 17 สงครามระหวางเมืองกุนจิ๋วและเมืองชีจิ๋วครั้งนี้ นับเปนสงคราม ระหวางขุนศึกดวยกันเปนครั้งที่สามหลังจาก เกิดศึกเมืองกังตั๋งกับเมือง เกงจิ๋ว ระหวางซุนเกี๋ยนกับเลาเปยว และศึกเมืองกิจิ๋วกับเมืองปกเปง ระหวางอวน เสี้ยวกับกองซุนจาน โดยที่อํานาจรัฐสวนกลางมิไดเกี่ยว ของและไมสามารถบังคับบัญชาขุนศึกเหลานั้นไดนี่ คือสถานการณที่พัฒนาไปอีกขั้นใหญ แสดงใหเห็นถึงอํานาจรัฐสวนกลางไดออนตัวลง และตางเมืองตางตั้ง ตัวเปนอิสระ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สงครามภาคตะวันออก (ตอนที่ 58) โตเกี๋ยมแมมีใจรักชาติและอาทรตอราษฎรแตเปนคนใจออนไมตางกับเจาเมืองพิษณุโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งคิดการแตดาน เดียววาเมื่อผูปกครองตั้งอยูในธรรมแลวจะเอาบานเมืองใหรอดปลอดภัยได การปกครอง โดยธรรมเปนเรื่องภายใน แตการปองกันรักษาเมืองนั้นตองอาศัยกําลังทหารที่เขมแข็ง จะอาศัยธรรมเปนหลัก ไมได เพราะขาศึกที่มุงจะยึดเมืองนั้นใชกําลังอาวุธไมไดใชธรรม เหตุนี้เจาเมืองพิษณุโลกสมัยนั้น จึงเสียทั้ง เมือง เสียทั้งชีวิตใหแกพมา ประเทศสวิตเซอรแลนด แมเปนประเทศที่ใฝสันติ ถือสันติธรรม เปนหลักในการ บริหารบานเมือง แตในขณะเดียวกันกลับมีกองทัพที่ทันสมัยเขมแข็ง เหตุนี้จึงสามารถรักษาบานเมืองและ รักษาความเปน กลางไวไดตลอดทุกยุคทุกสมัย พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจา จึงทรงตักเตือนพสกนิกรของพระองควา "แมหวังตั้งสงบจงเตรียมรบให พรอมสรรพถึงศัตรูกลามาประจันก็อาจสูริปูสลาย" โตเกี๋ยมหลังจากยกออกไปเจรจากับโจโฉไมสําเร็จและเกิด ปะทะกันแลวกลับเขาเมืองก็เสียใจยิ่งนัก เรียกประชุมแมทัพนาย กองแลวแจงวาศึกครั้งนี้ เห็นทีจะสูโจโฉ ไมได หากจะตอสูตอไปก็จะพลอยพาใหราษฎรไดรับความเดือดรอน จึงขอใหแมทัพนายกองทั้งปวงมัดตัวเอง แลวนําไปมอบใหโจโฉในวันพรุงนี้ แลวขอชีวิตชาวเมืองไว บิตกขุนนางเมืองชีจิ๋วตําแหนงที่ปรึกษาจึงวาขึ้นใน ที่ประชุมนั้นวา ตัวทานมีน้ําใจโอบออมอารี ปกครองราษฎรโดยธรรม ดังนั้นราษฎร จึงมีน้ําใจรักทานเปนอัน มาก ยอมไมยินยอมใหทานตองเสียสละถึงเพียงนี้ อันเมืองชีจิ๋วนั้นกําแพงเมืองก็สูงใหญ เชิงเทินคายคูหอรบก็ มั่นคง ผูคนก็พรอมสรรพ ทหารทั้งปวงเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกันยอมสามารถปองกันรักษาเมืองเอาไวไดทาน อยาไดวิตกเลย แลวบิตกไดเสนอตอไปวาตัวทานกับขงหยง เจาเมืองปกไฮก็รักใครนับถือกันดังพี่นอง ขอให ทานมีหนังสือใหขงหยงยกกองทัพมาชวย อนึ่ง การที่โจโฉยกมาทั้งนี้เปนกองทัพใหญยอมทําใหเตงไก เจา เมืองเซียงจิ๋วคิดพรั่นใจ เพราะถาหากเมืองชีจิ๋วเสียแกโจโฉแลว เมืองเซียงจิ๋วก็จะตกอยูในอันตรายดวย การ ขับไลกองทัพโจโฉจึงเปน ประโยชนรวมกันของทั้งสองเมือง หากทานมีหนังสือไปใหเตงไกมารวมขับไลโจโฉ เห็นทีเตงไกจะยกกองทัพมาชวยเปนแน เมื่อกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาชวยเราแลว กองทัพโจ โฉก็จะตกอยูในระหวางกระหนาบของทั้งสามเมือง คงจะเสียทีเปนมั่นคง บิตกคนนี้เปนคนมีคุณธรรม น้ําใจเอื้อ อารีตอคนทั้วปวง วากันวาครั้งหนึ่งมีเทพธิดาซึ่งไดรับบัญชาจากสวรรคใหมาวางเพลิงเผาบานเรือนของบิตก ตามวิบากกรรมเกา แตเทพธิดาไดกิตติศัพทวาบิตก เปนคนใจซื่อมือสะอาด จึงแกลงลองใจขออาศัยเดินทาง รวมกับบิตก หลังจากรอนแรมคางคืนกันมาหลายวันบิตกก็ยังคงปฏิบัติตอเทพธิดาจําแลงดวยความเอื้ออาทร คงเสนคงวา มิไดคิดหรือกระทําการใดๆ ใหเปนที่ลวงเกิน เทพธิดาจึงสงสารแลวบอกความใหทราบ บิตก จึง สามารถขนยายทรัพยสินออกจากเรือนกอนที่จะถูกเพลิงไหม ครั้นบิตกเสนอความเห็นดั่งนั้นแลว โตเกี๋ยมและที่ประชุมเห็น พองดวยโตเกี๋ยมจึงทําหนังสือใหตันเตงถือไป ขอความชวยเหลือจาก เตงไก เจาเมือง เซียงจิ๋ว และใหบิตกถือไปขอความชวยเหลือจากขงหยง เจาเมือง ปกไฮ สองนักเดินสารออกจากเมืองชีจิ๋วแลว โตเกี๋ยมจึงสั่งทหารใหขึ้น รักษาเชิงเทินคายคูหอรบตั้งมั่นรับศึก อยูแตในเมือง ทหารโจโฉยกมา ทารบดวยเปนหลายครั้ง ฝายเมืองชีจิ๋วก็ยังคงคุมกําลังตั้งมั่นไมยอมออกรบ ฝายขงหยง เจาเมืองปกไฮ ไดรับหนังสือจากโตเกี๋ยมแลวปรึกษา กับบิตกวาเรากับโจโฉไมมีสิ่งใดผิดใจกันมา กอน ดังนั้นจะมีหนังสือไปถึงโจโฉชี้แจงความจริงแลวขอใหถอนทัพกลับไป โจโฉคงจะเกรง ใจเรา แตบิตก ทวงวาโตเกี๋ยมเคยออกไปพูดจาแลวแตไมไดผล หากทานจะมีหนังสือไปอีกครั้งหนึ่งโจโฉก็คงไมยอมเกรงวา จะเสียการไป ขงหยงฟงแลวเห็นดวยจึงวาถาเชนนั้นเราก็จะดําเนินการพรอมกันทั้งสองอยางคือ มีหนังสือไป ชี้แจงขอรองใหโจโฉถอนทัพ ในขณะเดียวกันก็จะยกกองทัพไปดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ในขณะที่กําลังปรึกษากันอยูนั้น ขุนนางเมืองปกไฮไดนําใบบอกจากนายดานเขามารายงานวา บัดนี้โจรโพก ผาเหลืองนําโดยกวนไฮไดยกกองทัพจํานวนหาหมื่นเขาโจมตีชายแดนเมืองปกไฮ ดังนั้นขงหยงจึงตองพัก การขางเมืองชีจิ๋วไวกอน แลวสั่งทหารใหเตรียมกองทัพยกไปปราบโจรโพกผาเหลือง กองทัพเมืองปกไฮ ประจันหนากับกองทัพโจรโพกผาเหลืองที่ชายแดนกวนไฮนายโจรจึงวากับขงหยงวา ยกมาครั้งนี้ไมประสงคจะ
18.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 18 รุกราน เปนแตขาดเสบียง จึงขอเสบียงสักหมื่นถังแลวจะยกทัพไปทางอื่น ขงหยงไมยอมใหแลวสั่งทหารเอก ออกรบดวนกวนไฮ ตอ สูกันไดเพียงหาเพลง กวนไฮก็เอางาวฟนทหารเอกของขงหยงตกมาตาย ขงหยงจึงพา ทหารยกหนีเขาเมือง โจรโพกผาเหลืองเห็นไดทีจึง ยกกองทัพไปลอมเมืองปกไฮไว ขณะนั้นไทสูจู ชาวเมือง อุยกวน ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองปกไฮ และขงหยงเคยอุปการะครอบครัวของไทสูจูมาแตกอน ครั้นได ขาววาโจรโพกผาเหลืองยกมาลอมเมืองปกไฮ มารดาของไทสูจูจึงสั่งใหมาชวยขงหยง ไทสูจูขับมามาถึง กําแพงเมืองปกไฮ เห็นพวกโจรลอมอยูจึงตีฝา เขามาที่กําแพงเมืองเกิดอลหมานขึ้น ขงหยงทราบขาวจึงขึ้น ไปดูบนเชิงเทินเห็นไทสูจูมีฝมือเขมแข็ง ทหารโจรโพกผาเหลืองสูมิได ไทสูจู ขับมาไปทางไหน ทหารโจร โพกผาเหลืองก็แตกไปทางนั้น จนไทสูจูตีฝาเขามาถึงประตูเมือง รองเรียกใหเปดประตูแตทหารไมรูจักตัวเกรง วาจะเปนกลอุบายจึงไมยอมเปด ทหารโจรลอมเขามาอีก ไทสูจูจึงชักมากลับเขารบฆาฟนทหารโจรโพก ผาเหลืองถอยรนไป ขงหยงจึงสั่งใหเปดประตูเมืองรับไทสูจูเขามาพบ หลังจากคารวะไตถามกันตามธรรม เนียมแลว ขงหยงก็ระลึกความที่เคยอุปการะครอบครัวไทสูจูได ไทสูจูขอทหารพันหนึ่งจะยกออกไปขับไลโจร โพกผาเหลือง แตขงหยงเห็นวาฝายโจรโพกผาเหลืองมีจํานวนมากเกรงจะเสียทีจึงคิดขอใหเลาปเจาเมืองเพง งวนกวน ซึ่งเปนเชื้อพระวงศยกทหารเขามาชวยปองกันแผนดินของราชวงศฮั่น แตยังหาผูอาสานําหนังสือไป ถึงเลาปไมได ไทสูจูจึงขออาสาเดินสารครั้งนี้ ขงหยงก็ยินดี ครั้นเลาปไดรับหนังสือของขงหยงแลว เห็นเปนหนาที่ของเจาเมืองในแผนดินของราชวงศฮั่นที่ตองชวย ปองกันแผนดินไวจึง สั่งใหจัดกองทัพเมืองเพงงวนกวนจํานวนสามพันพรอมดวยกวนอู เตียวหุย ยกไปเมือง ปกไฮพรอมกับไทสูจู กองทัพโจรโพกผาเหลืองลอมเมืองชีจิ๋วอยู เห็นมีกองทัพยกมา จึงยกทหารเขาตี กองทัพเมืองเพงงวนกวน เลาปจึงสั่งใหทหารตั้งขบวนเรียงหนากระดานเตรียมรบกันดวยฝมือทหารเอกแลว เลาปจึงขับมาพรอมดวยกวนอู เตียวหุย และไทสูจูออกไปขางหนาขบวน กวนไฮนายโจรเห็นดังนั้นจึงขับมา ออกไปกลางลานรบ ไทสูจูกําลังจะชักมาออกไปแตเห็นกวนอูขับมาออกไปกอนจึงรั้งมาไว กวนอู เขารบดวย กวนไฮไดสามสิบเพลงก็เอางาวฟนกวนไฮตกมาตาย กองทัพเมืองเพงงวนกวนจึงยกเขาตีกองทัพโจรโพก ผาเหลือง ขณะนั้นขงหยงไดยินเสียงกลองศึกดังสนั่น จึงขึ้นไปดูบนเชิงเทินเห็นทัพเลาปกําลังเขารบกับ กองทัพโจรโพกผาเหลือง จึงยกทหารออกจาก เมืองตีกระหนาบกองทัพโจรโพกผาเหลืองทั้งสองดาน ทหารโจรโพกผาเหลืองบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก พวกที่เหลืออยูทราบวาเลาปเปน เชื้อพระวงศก็เขามา สวามิภักดิ์ดวย ปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมของกวนไฮแลว ขงหยงจึงเลา เรื่องโจโฉยกมาตีเมืองชีจิ๋วใหเลาปฟง และ ขอใหเลาปยกไปชวยโตเกี๋ยม พรอมกับกองทัพเมืองปกไฮ เลาปจึงวามีทหารมานอยเกรงวาจะเสียที ขงหยง ขอรองอีกครั้งหนึ่งวาโตเกี๋ยมเปนคนสัตยซื่อตอแผนดิน เลาป ก็เปนเชื้อพระวงศ จะเพิกเฉยตอเรื่องนี้เปนการ ไมสมควร เลาปเห็นขงหยงเขาใจผิดคิดวาบิดพลิ้วจึงวาเตรียมทหารมานอยนัก ไมสามารถรับมือโจโฉได จะ กลับไปขอยืมทหารจากกองซุนจานแลวจะยกไปชวยโตเกี๋ยม ขอใหขงหยงยกไปชวยโตเกี๋ยมกอนแลวจะตาม ไปสมทบ และใหคํามั่นวาไมวาจะยืมทหารไดหรือไมก็จะตามไป ขงหยงจึงบอกใหบิตกกลับไปบอกแกโตเกี๋ยมวาจะยกกองทัพไปชวย สวนเลาปก็ลาขงหยงไปเมืองปกเปง สวนไทสูจูครั้นเสร็จการตามคําสั่งมารดาแลวก็เดินทางกลับไป เลาปยกทหารมาถึงเมืองปกเปงแลวขอยืม ทหารกับกองซุนจาน แตกองซุนจานหามเลาปวาไมไดมีความขัดแยงกับโจโฉ จะไปตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ นั้นไมเห็นประโยชนอันใด เลาปยืนยันวาเปนเชื้อพระวงศมีหนาที่ปองกันแผนดิน ทั้งรับคําขงหยงไวแลว จะละ คําสัตยเสียไมควร กองซุนจานทัดทานเลาปไมไดแตก็ขัดเลาปไมไดเชนเดียวกัน จึงใหยืมทหารมาแกเลาป จํานวนสองพัน เลาปเห็นไดทหาร นอยนักจึงขอตัวจูลงไปในกองทัพดวย กองซุนจานก็ตกลงอนุญาตใหตาม ขอเลาปไดทหารจากกองซุนจานแลว จึงจัดกองทัพใหจูลงคุมทหาร มาสองพันที่กองซุนจานใหยืมทําหนาที่ เปนกองหลัง สวนเลาป กวนอู เตียวหุย พรอมทหารจากเมืองเพงงวนกวนสามพันนั้นเปนกองหนายกออกจาก เมืองปกเปง ฝายโตเกี๋ยมหลังจากมีหนังสือไปขอใหขงหยงและเตงไกยกกองทัพมาชวยแลวก็ตั้งมั่นรับศึกในเมือง ครั้นบิต กกลับมาถึงก็เขา ไปรายงานใหโตเกี๋ยมทราบ หางกันไมนานตันเตงก็กลับมาจากเมืองเซียงจิ๋วรายงานวาเตง ไกตกลงจะยกกองทัพมาชวยโตเกี๋ยมจึงคอยคลายความวิตกลง หลังจากนั้นอีกสามวันทหารรักษาการณบน เชิงเทินไดมารายงาน แกโตเกี๋ยมวาบัดนี้มีกองทัพยกมาสองกองตั้งคายอยูดานหลังคายของ โจโฉ กองหนึ่งมี ธงประจํากองทัพระบุวาเปนเมืองปกไฮ และมีธงประจําตัวแมทัพชื่อขงหยง อีกกองทัพเปนกองทัพเมืองเซียง จิ๋ว มีเตงไก เปนแมทัพ ขงหยงทราบรายงานแลวจึงขึ้นไปดูบนเชิงเทิน เห็นกองทัพทั้งสองกองตั้งคายอยู ดานหลังคายของโจโฉตามรายงาน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
19.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 19 ดานโจโฉเห็นมีกองทัพเมืองปกไฮและเมืองเซียงจิ๋วยกมาตั้งคาย อยูทางดานหลังก็พะวักพะวง จะยกเขาตี เมืองชีจิ๋วก็ไมไดเกรงวากองทัพทางดานหลังจะเขาตีกระหนาบ จะยกไปตีกองทัพทางดานหลังก็เกรงวา กองทัพเมืองชีจิ๋วจะยกมาตีกระหนาบ จึงสั่งทหารใหแยก เปนสองกอง กองหนึ่งรับหนาเมืองชีจิ๋ว อีกกองหนึ่ง รับหนากองทัพทางดานหลังแลวคุมเชิงกันอยู ฝายเลาปครั้นเดินทัพมาถึงเมืองชีจิ๋ว เห็นกองทัพเมืองปกไฮ และกองทัพเมืองเซียงจิ๋วตั้งคายประชิดคายโจโฉอยูเปนสองกอง จึงหยุดทัพไวแลวเขาไปพบขงหยง ขงหยง จึงวากองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีทหารเปนอันมาก และโจโฉ ก็มีสติปญญาเชี่ยวชาญพิชัยสงคราม หากจะดวน เขาโจมตีเกรงจะเสียที เลาปจึงวาบัดนี้เรายังไมรูการศึกขางในเมืองชีจิ๋ว จําเปนที่จะตองใหกองทัพทั้ง ภายนอกและภายในถึงกันเสียกอน รูความศึกกระจางแลว คอยทําการตอไป ดังนั้นจะใหกวนอูกับจูลงคุมทหาร สี่พันอยูกับกองทัพของทาน ตัวขาพเจากับเตียวหุยจะคุมทหารหนึ่งพันตีฝาเขา ไปในเมืองปรึกษาการศึกกับ โตเกี๋ยมเสียชั้นหนึ่งกอน ขงหยงเห็นดวยกับความคิดของเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งกวนอู และจูลงใหคุมทหารสี่พันอยูกับขงหยง สวนตัว เลาปกับเตียวหุยและทหารหนึ่งพันจะตีฝาเขาไปในเมือง ระหวางที่ตีฝาเขาเมืองนั้นหากพลาดพลั้งประการใดก็ ใหกวนอู และจูลงตีหนุนเขาไปก็จะไมเสียทีแกขาศึก สั่งการแลวเลาป เตียวหุย กับทหารหนึ่งพันจึงเคลื่อน กําลังเตรียม ตีฝากองทัพโจโฉเขาไปในเมืองชีจิ๋ว สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม จิตใจมหาบุรุษ (ตอนที่ 59) โจโฉกรีธาทัพใหญหวังจะเหยียบเมืองชีจิ๋วใหราบเปนหนา กลอง แตสถานการณถึงวันนี้เรื่องที่คาดคิดวาจะ สําเร็จไดโดยงายทําทาวาจะกลับกลายจนเหยียบเทาลงที่เมืองชีจิ๋วไมสะดวกดายเสียแลว ขางในเมืองโต เกี๋ยมก็ไมยอมออกรบ ตั้งมั่นอยูแตในเมือง หากตองถึงกับโจมตีเมืองที่มีกําแพงเชิงเทินสูงใหญ คายคูหอรบ แข็งแรง ก็จะสูญเสียทหารมาก สวนขางนอกเมืองก็ยังมีกองทัพอีกสองเมืองมาตั้งมั่นอยูดานหลัง สถานการณ บังคับใหตองแยกกองทัพออกเปน สองกองรับศึกทั้งดานหนาและดานหลัง ดังนั้นสถานการณสงครามจึงเริ่มแปรเปลี่ยนใหกองทัพโจโฉตองตกอยูในสภาพถูกกระทํา ในขณะที่คุมเชิงกัน อยูนั้นโจโฉไดรับรายงานวาบัดนี้มีกองทัพยก มาอีกกองหนึ่งเปนกองทัพเมืองเพงงวนกวน ดูธงประจําทัพแลว ระบุวาเลาปเปนแมทัพโจโฉก็ยิ่งหัวเสีย ไมทันไรทหารก็เขามารายงาน อีกวาบัดนี้เลาปกําลังตีฝาทหารของเรา จะเขาเมืองชีจิ๋ว โจโฉจึงมีคําสั่งใหอิกิ๋มทหารเอกยกทหารออกไปสกัดไมใหเลาปเขาเมืองได อิกิ๋มรับคําสั่งแลวจึงยกทหารออกไปสกัดเลาปตามคําสั่ง พอเผชิญหนากันไมทันไดพูดพร่ําทําเพลง เตียวหุยก็ ขับมากรายทวนเขารบดวยอิกิ๋ม เลาปจึงขับทหารตีฝาเขาไป อิกิ๋มตอสูกับเตียวหุยไดสิบเพลงเห็นทาวาจะสู เตียวหุยไมไดจึงชักมาหนี เลาป เตียวหุย และทหารพันหนึ่งไดโจมตีทหารอิกิ๋มลมตายลง เปนอันมาก แลวตี ฝาเขาไปถึงประตูเมือง ขณะนั้นโตเกี๋ยมขึ้นไปดูการศึกบนเชิงเทินเห็นเลาป เตียวหุย ตีฝาทหารเขามาก็ใหเปด ประตูเมืองรับแลวแตงโตะเลี้ยงเลาปกับทหารทั้งนั้น โตเกี๋ยมไดพินิจพิเคราะหดูเลาปเห็นวามีสงาราศีสมกับ เปนเชื้อพระวงศ ก็มีใจศรัทธาจึงใชใหบิตกไปเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบ ถามโตเกี๋ยมวานี่เปนเรื่องราวใดกัน โตเกี๋ยมจึงวา "ทุกวันนี้พระเจาเหี้ยนเตไดครองพระราชสมบัติ พระชันษา นั้นยังเยาวอยู ขุนนางที่ มิไดมีน้ําใจสัตยซื่อนั้นมักทําจลาจลตางๆ แผนดินไดรับความเดือดรอนเนืองๆ มา ขาพเจาก็แกชราแลว จะคิดการทํานุบํารุงแผนดินตอไปนั้นก็ขัดสน ขาพเจาเห็นวาทานเปนเชื้อพระวงศแลวก็มี สติปญญาโอบออมอารี ควรที่จะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข ขาพเจาจึง เอาตราสําหรับที่มาให หวังจะเชิญให ทานเปนเจาเมืองชีจิ๋ว เพื่อจะไดคิดการกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป แลวขาพเจาจะแตงหนังสือขึ้น ไปใหกราบ ทูลพระเจาเหี้ยนเต" ขอเสนอของโตเกี๋ยมนี้หากเสนอใหกับคนทั่วไปแลว โตเกี๋ยมคงจะไมผิดหวัง เพราะเปน ขอเสนอที่ไมมีผูใดปฏิเสธ โดยเฉพาะโจโฉ อวนเสี้ยว ซุนเซ็ก หรือลิฉุย กุยกี หรือนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง คน เหลานั้นยอมรีบที่จะรับเอา โจโฉนั้นยอมยากลําบากยกกองทัพจํานวนมากมาเพื่อยึดเอาเมือ แตโตเกี๋ยม ไมยอมยกใหกลับคิดตอสู และถาหากโตเกี๋ยมคิดจะเซ็งลี้แลวยอมจะไดรับผลประโยชนมากมายมหาศาลยิ่ง กวาการขายธนาคารใหกับตางชาติ แตโตเกี๋ยมไมกระทํา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด จิตใจชนิดนี้คือจิตใจที่ตองการ "ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุข" เปนน้ําใจแทที่เปยมดวยความรักและความเมตตา อาทรตอราษฎร ไมใชน้ําใจของนักการเมือง ไมวาระดับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในบางประเทศ ที่ปากพร่ํา แตคําวาเพื่อราษฎร แตกระทําตนเปนนักขายชาติ นักเผด็จการ หลอกลวงราษฎร และปลนสะดมราษฎรและ บานเมืองของตน บังอาจถึงขนาดตั้งนักคายาเสพยติดระดับโลก นักปลนชาติ และอาชญากรระดับชาติเปน
20.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 20 รัฐมนตรีกลาหาญกระทั่งเบียดเบียน พระราชมรดก และพระราชทรัพยของฮองเต และพรอมที่จะทําความชั่วชา ทุกประการเพียงเพื่อใหไดอยูในอํานาจ นอกจากวัตถุประสงคเพื่อทํานุบํารุงราษฎรแลว โตเกี๋ยมยังมีวัตถุประสงคเปนขอที่สองคือ "คิดการกําจัดศัตรู ราชสมบัติตอไป" นี่คือจิตใจที่เดือดรอนดวยบานเมืองที่เกิดทุกขเข็ญเนื่องจากพวกทรราช ทรชนและพวก อิทธิพลมาเฟยตางๆ กระทําย่ํายีตอบานเมือง มิใชอางเพียงวารักชาติแตทําตัวเปนนายหนาในการขายชาติ แลวปาว ประกาศลัทธิธรรมรัฐ หรือธรรมาภิบาลขึ้น เพื่อสรางความมึนชาแกประชาชน โดยที่ตนเองก็ไมรูแมแต ความหมายของคําวา "ธรรม" หรือบางก็เที่ยวสรรสรางแตถอยคําสวยหรูซึ่งไรความหมายและคุณคาทาง ความ เปนจริงเพื่อจะไดอวดอางวาตัวเองเปนราษฎรอาวุโสอะไรเทือกนั้น คนแบบโตเกี๋ยมจึงเปนคนที่หาไดยากยิ่งในโลก เปนคนที่ควรแกการสดุดีใหปรากฏไวในประวัติศาสตร เพื่อ เปนแบบอยางใหคนรุนหลังปฏิบัติตามสถานหนึ่ง และเพื่อเปนกระจกใหบรรดานักลวงโลกหรือวิญูชนแบบ เถรขวาดไดสองดูใบหนาหลังหนากากของตน เหตุผลที่โตเกี๋ยมจําเพาะมอบเมืองชีจิ๋วแกเลาปมีอยูสี่ขอคือ เพราะเปนเชื้อพระวงศหนึ่ง เพราะเห็นวามีสติปญญาหนึ่ง เพราะมีน้ําใจโอบออมอารีหนึ่งและเชื่อวาจะสามารถ ทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขอีกหนึ่ง ความเปนเชื้อพระวงศเปนฐานะอันติดตัวมาแตกําเนิด สามารถทราบได โดยงาย ความมีน้ําใจโอบออมอารีนั้นโตเกี๋ยมเห็นได ดวยตนเองจากการที่เลาป ซึ่งมิไดรูจักมักคุนใดๆ กับตัว และแมไมไดรับประโยชนใดๆ จากการตั้งตัวเปนปรปกษกับโจโฉ แตยอมตัวเขาชวยเหลือเพียงเพราะเห็นแก เพื่อนของโตเกี๋ยมที่ขอรองเทานั้น ความมีสติปญญาก็อาจเล็งเห็นไดในสถานการณที่กองทัพใหญ ของโจโฉลอมเมืองอยูแลวไมผลีผลามทําการ คิดเชื่อมการขางในกับ การขางนอกเมืองใหไดเสียกอน สวนความเชื่อที่วาจะทํานุบํารุงราษฎรใหเปนสุขนั้น เปนความเชื่อใจของโตเกี๋ยมโดยแท และยอมเปนความเชื่อเพียงแคไดเห็นรูปรางบุคลิกทวงทํานองของเลาป เทานั้น แตอาจยอมรับไดวานั่นเปน ความเชื่อที่มีเหตุผลของคนแกแบบโตเกี๋ยมที่มีโรคหลายโรครุมเราอยู ดีกวาคนในยุคหลังที่มีพรอมทั้งขอมูลขาวสารและความรอบ รูสารพัด กลับถูกนักการเมืองไรอาชีพที่เพียงแค พูดจาดูเหมือนมีหลักฐาน และหวานหูหลอกตมกันจนเปอยทั้งเมือง เลาปไดฟงคําโตเกี๋ยมแลวตกใจ รีบลุกขึ้น คํานับแลววา "เรานี้เปนเชื้อพระวงศก็จริงแตสติปญญานอย ทําราชการยังหาความชอบ ขอใหญมิไดเปนแตเจา เมืองจัตวา เราก็ยังคิดเกรงอยูวาจักไมควรกับสติปญญา ซึ่งยกมาทั้งนี้เพราะมีน้ําใจหวังจะชวยทานรบโจโฉ หรือ ทานแคลงอยูวาเราจะมาชิงเอาเมืองชีจิ๋ว ถาเราคิดดังนั้นก็ขออยาใหเทพยดารักษาชีวิตเราเลย" นี่คือ น้ําใจแทของเลาปที่ไมเคยคิดอยากไดหรือโลภของคนอื่น ทั้งๆ ที่เขายกใหดวยความเต็มใจและเปยมดวย เหตุผล ใจเลาปนั้นเจียมตัววาเปนเจาเมืองเล็ก สติปญญานอย ความเปนคนเจียมตัวและถอมตนนี้เปน คุณสมบัติประจําตัวและฝงลึกอยูในใจไมมีหนทางใดจะแกไขหรือลดหยอนผอนลงได จึงทําใหเลาปตอง สูญเสียโอกาสหลายครั้งหลายหนจนบางครั้งแทบเอาตัวไมรอด น้ําใจเชนนี้แมจะเทียบไมไดกับพระเวสสันดรที่ทรงบําเพ็ญทานบารมีจนเปยมลน จนสามารถยกแมกระทั่งบุตร และธิดาใหเปนทานก็ตาม แตความมีคุณธรรมของเลาปในขอที่ไมยอมหวังสิ่งใดจากใครอื่นก็ล้ําเลิศแลว สําหรับปุถุชน ความเจียมเนื้อเจียมตัวของเลาปยังเลยเถิดไปถึงขนาดที่คิดวา การที่โตเกี๋ยม กระทําเชนนั้น เพราะคิดวาเลาปจะหวังชิงเอาเมือง โตเกี๋ยมคะยั้นคะยอใหเลาปรับเปนเจาเมืองอีกหลายครั้งแตเลาปก็ยัง ยืนยันเจตนาเดิม บิตกที่ปรึกษาของโตเกี๋ยมเห็นเลาปจะไมยอม รับเปนแมนมั่น จึงเปลี่ยนหัวขอหารือ มาเปนการรับมือกับกองทัพโจโฉตอไป เลาปจึงวา ขาพเจานี้เคยปราบโจรโพกผาเหลืองรวมกับโจโฉในกองทัพของโลติดแมทัพใหญ ทั้งเคยรวมใน กองทัพปฏิวัติกับโจโฉ และโจโฉก็มีน้ําใจเมตตาเคยเอาหมูเห็ดเปดไกไปผูกไมตรีถึงในคาย เมื่อไมตรีมีอยู ดังนี้ขาพเจาจะทําหนังสือไปถึงโจโฉขอใหเห็นแกไมตรี แลวชี้แจงความจริงใหปรากฏเชื่อวาโจโฉจะยอมถอน ทัพกลับไป โตเกี๋ยมและบิตกเห็นชอบกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงแตงหนังสือใหทหารสิบสองนาย ถือไปยังคายโจโฉ และใหทหารลอบไปที่คายของขงหยงและเตงไกแจงวาใหตั้งคายมั่นไวกอน โจโฉเห็น หนังสือของเลาปแลวก็โกรธ คิดระแวงวาเลาปแกลงมีหนังสือมาหลอกใหตายใจแลวจะยกเขาโจมตีใน ภายหลัง จึงสั่งใหทหาร จับตัวทหารเดินสารของเลาปเพื่อจะเอาไปประหารเสีย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด กุยแกที่ปรึกษาของโจโฉจึงวาเลาปนั้นเปนคนสัตยซื่อ คงมีหนังสือมาโดยสุจริต การที่จะฆาทหารเดินสารเสีย นั้นไมสมควรดวย ธรรมเนียมศึก ควรจะหาทางตอบเอาใจผูกไมตรีไวกอน แลวคอยชิงเอาเมืองชีจิ๋วในภายหลัง ก็จะไดโดยงาย โจโฉเห็นชอบกับคําที่ปรึกษาจึงใหตอนรับขับสูทหารเดินสารเปนอยางดีแลวบอกใหรอรับ หนังสือตอบสักวันสองวัน ในระหวางที่โจโฉกําลังตรึกตรองหาวิธีตอบหนังสือเลาปอยูนั้น เหตุการณที่ไม คาดคิดก็เกิดขึ้น คือทหารจากเมืองกุนจิ๋วรีบรุดมายังคายโจโฉแลวรายงานวาบัดนี้กองทัพเมืองตันลิวไดยก
21.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 21 กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเมืองกุนจิ๋วเสียทีแกขาศึกแลว คงเหลือแตหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองกุนจิ๋วสามเมือง เทานั้นที่ยังรักษาไวได คือเมืองเอียงเสีย, เมืองตองไฮ และเมืองฮวนกวน โจโฉไดฟงรายงานแลวตกใจยิ่งนัก จึงสอบถามความเปนมาจากทหารที่มาแตเมืองกุนจิ๋วนั้น ไดความวาหลังจากลิโปไดหนีลิฉุย กุยกี ไปหาอวน สุดที่เมืองลําหยงแลว อวนสุดไมยอมรับลิโปไวในราชการ ลิโปจึงไปขออยูกับอวนเสี้ยว แตตอมาลิโปกําเริบ กอการวิวาทและสังหารทหารอวนเสี้ยวเสียหลายคน อวนเสี้ยวโกรธจะฆาลิโป ดังนั้นลิโปจึงหนีไปอยูกับเตียน เอี๋ยงที่เมืองเสียงตง ครั้นลิโปไปอยูกับเตียนเอี๋ยงแลว บังสีซึ่งเปนขุนนางอยูเมืองหลวง สนิทกับลิโปทราบขาวจึงลอบพาครอบครัว ของลิโปไปสงใหแกลิโป ลิฉุย กุยกี ทราบความจึงฆาบังสีเสีย แลวสั่งเตียนเอี๋ยงใหจับลิโปสงไปเมืองหลวง ลิ โปรูขาวจึงหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยว เจาเมืองตันลิว สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) วาลิโปไปอยูกับเตียว เมา เจาเมืองตันลิว ซึ่งนาจะเปนการแปลโดยสับสน เพราะเตียวเมาถูกเลาตายฆาเสียแลวตั้งแตกองทัพปฏิวัติ ใกลจะสลายตัว ดังนั้นเตียวเมี่ยวนองชายเตียวเมาจึงเปนเจาเมืองสืบตอมาทหารนั้นรายงานตอไปวาเหตุ เกิดขึ้นเนื่องจากตันกงซึ่งเคยมาขอรองใหโจโฉถอนทัพแตไมสําเร็จ จึงไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว และ ไดรับความไววางใจใหเปนที่ปรึกษา ตันกงคิดชวยเหลือโตเกี๋ยมตามความคิดเดิมอยางหนึ่งและเห็นเปน โอกาสที่โจโฉยกกองทัพใหญ มาเมืองชีจิ๋ว มีทหารรักษาเมืองกุนจิ๋วอยูนอยตัว จึงเสนอใหเตียวเมี่ยว ยก กองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วเตียวเมี่ยวเห็นดวยกับความคิดของตันกงจึงใหลิโปเปนแมทัพยก ไปตีเมืองกุนจิ๋ว โจ หยินรับมือลิโปไมไดจึงยกทหารหนีออกจากเมืองกุนจิ๋ว คงจะตามมาหาโจโฉในไมชานี้ ครั้นลิโปไดเมืองกุนจิ๋วแลว ไดยกกองทัพไปตีหัวเมืองในบังคับเมืองกุนจิ๋วอีกหลายเมืองไปจนสุดชายแดน เมืองปกเอี้ยง คงเหลือแตเพียงสามเมืองที่ซุนฮกและเทียหยกรักษาไวได โจโฉทราบความละเอียดแลวจึงหา กุยแกมาปรึกษาหารือกันแลวเห็นพรอมกันที่จะตองถอนทัพยกกลับไปยึดเมืองกุนจิ๋วคืน กุยแกจึงเสนอวาการ ถอนทัพครั้งนี้ตองผูกไมตรีและเอาบุญคุณ ไวกับเลาปจึงเสนอใหโจโฉตอบหนังสือเลาปวายินดีถอนทัพ เพราะ เห็นแกหนาของเลาป โจโฉก็เห็นดวย แลวแตงหนังสือตามคํากุยแกวา สงใหกับทหารของเลาปแลวเลิกทัพยก กลับไปเมืองกุนจิ๋ว สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ประชาธิปไตยแบบลิโป (ตอนที่ 60) ทหารของเลาปกลับจากคายของโจโฉแลว เอาหนังสือตอบของ โจโฉนําไปใหแกเลาป ในขณะที่เลาปกําลัง ปรึกษาการศึกอยูกับโตเกี๋ยม ครั้นโตเกี๋ยมและเลาปทราบความตามหนังสือของโจโฉแลวมีความยินดียิ่งนัก ดวยไมรูเหตุผลที่แทจริงในการถอนทัพของโจโฉ ครั้นทหารรักษาเชิงเทินมารายงานวาบัดนี้โจโฉไดเลิกทัพ กลับไปแลว ทั้งโตเกี๋ยม เลาปตางก็โลงอก ดังนั้นโตเกี๋ยมจึงใหเชิญบรรดาผูมาชวยเหลือจากเมืองตางๆ เขา มาในเมืองชีจิ๋วและจัดงานเลี้ยงฉลอง และถือโอกาสที่ผูคนมากันพรอมหนานั้นขอรองใหเลาปรับเปนเจาเมือง ชีจิ๋วอีกครั้งหนึ่ง เลาปยังคงไมยอมรับ บรรดาผูมารวมงานตางชวยกันพูดจาใหเลาปยอม รับเปนเจาเมืองตาม คําขอรองของโตเกี๋ยม แตเลาปยังคงยืนกรานปฏิเสธ โตเกี๋ยมครั้นเห็นเลาปยืนยันปฏิเสธอยางแข็งขันจึงขอรองใหม วาในเมื่อไมยอมรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ก็ขอใหมา เปนเจาเมืองเสียวพาย ซึ่งเปนหัวเมืองในบังคับของเมืองชีจิ๋ว โดยอางวาถาหากมีราชการสําคัญและจําเปน แลวจะไดอาศัยเลาปไดโดยสะดวก เลาปเห็นโตเกี๋ยมมีใจมั่นคงตอตัวโดยสุจริตเชนนี้ก็เกรงใจ ตัดสินใจละ ตําแหนงเจาเมืองเพงงวนกวนเสียแลวยอมเปนเจาเมืองเสียวพายตามคําขอรองของโตเกี๋ยม โตเกี๋ยมยินดียิ่ง นัก สั่งทหารใหจัดเสบียงและเงินทองเปนอันมากมอบ แกเจาเมืองทั้งสองและเลาป เปนการแสดงความ ขอบคุณที่มาชวยเหลือ ครั้นเสร็จงานเลี้ยง ขงหยงเจาเมืองปกไฮและเตงไกเจาเมืองเซียงจิ๋ว จึงขอลาโตเกี๋ยม ยกกองทัพกลับเมือง ของตน ฝายจูลงก็เขา ไปลาเลาปกลับเมืองปกเปง ทั้งเลาป จูลง ตางรองไหอาลัยรักกันเปนอันมาก แลวจูลง จึงยกทหารมาสองพันที่เลาปยืมจากกองซุนจานกลับเมืองปกเปง ดานเลาปก็ไปรับตําแหนงเจาเมืองเสียวพาย พรอมกับกวนอู เตียวหุย ราษฎรเมืองเสียวพายรูกิตติศัพทเลาปมาแตกอน ก็มีน้ําใจรักเลาป และทํามาหากิน เปนปกติสุขโดยทั่วกัน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายโจโฉเมื่อถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วแลว เดินทัพมาถึงกลางทาง พบกับโจหยิน ซึ่งแตกทัพมาจากเมืองกุนจิ๋ว โจหยินไดรายงานการ ศึกใหโจโฉทราบมีเนื้อความตองกันกับความซึ่งทหารของโจโฉที่แตกทัพมากอนได รายงานใหโจโฉทราบแลว โจโฉจึงบอกกับโจหยินวา "ลิโปนั้นมีฝมือกลาหาญก็จริง แตหาความคิดมิได ทาน
22.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 22 อยาเปนทุกขเลย" แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพตอไปถึงเมืองเตงกวน ซึ่งเปนเมืองกึ่งกลางระหวางเมืองกุนจิ๋วกับ เมือง ปกเอี้ยง และใหตั้งคายมั่นไว คําพูดของโจโฉดังกลาวเปนการพูดจากความที่รูจักกับลิโป แตมองขามคน แบบตันกงไป อันตันกงนั้นเปนคนมีสติปญญา รูจักภูมิประเทศของภาคตะวันออกเปนอยางดี แตโจโฉไมรูความ ขอนี้ เนื่องจากเวลาที่อยูดวยกันกับตันกงเพียงชั่วสามวันเทานั้น โจโฉจึงเริ่มตน ดวยความประมาท และ "ไมรู เขา" ซึ่งเปนปจจัยหลักของการพลาดพลั้งเสียทีในการสงครามทั้งปวง เนื่องเพราะหลักการใหญในการทํา สงครามประการหนึ่งนั้นคือ "ตองรูเขา รูเรา รบรอยครั้งบพาย" การที่โจโฉเลือกหยุดทัพที่เมืองเตงกวนเกิดแตเหตุผลสามประการคือ ขอแรกจากเมืองเตงกวนนี้โจโฉสามารถ เลือกที่จะเคลื่อน ทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว หรือเมืองปกเอี้ยงก็ได ขอสองการตั้งทัพในลักษณะนี้มีผลบังคับใหลิโป จําเปนตองแยกทหารออกเปนสองกองเพื่อปองกันทั้งเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง ทําใหกําลังทหารของลิโป ถึงแมจะมีมากก็ตองถูกแบงแยกเหลือแตละเมืองเพียงครึ่งเดียว ทําใหงายตอการโจมตีชวงชิงชัย และขอสาม เพื่อตองการทราบความศึกใหกระจางเสียกอนที่จะตัดสินใจวาจะเลือกทางใดทางหนึ่ง การตั้งทัพในลักษณะนี้ แสดงใหเห็นวาโจโฉและทีมที่ปรึกษาใน วันนี้ตางกับโจโฉเมื่อครั้งที่รวมในกองทัพปฏิวัติมากมายนัก แมสาม กกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จะมิไดมีขอความใดระบุวาเปนความคิดอานของคณะที่ปรึกษา แตเมื่อ พิจารณาจากการกําหนดแผนการครั้งนี้แลว ยอมมิใชความคิดของโจโฉเพียงลําพัง และยอมมิใชความคิดของ ซุนฮก หรือเทียหยก ซึ่งไมไดอยูในกองทัพ ดังนั้นจึงนาจะเปนความคิดของกุยแกที่ปรึกษาหนุมผูนั้น ฝายลิโปครั้นทราบขาวโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองเตงกวน จึงปรึกษากับตันกงวาจะใหลิฮองและซิหลัน ทหารเอกคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมือง กุนจิ๋ว โดยตัวลิโปเองจะคุมทหารไปรักษาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเปนเมือง ใหญกวาเมืองกุนจิ๋ว ตันกงจึงวาโจโฉตั้งหลักในภาคตะวันออกที่เมืองกุนจิ๋ว แมวาจะเปนเมืองเล็กกวาเมืองปก เอี้ยง แตเปนเมืองยุทธศาสตร ดังนั้นเปาหมายของโจโฉในการยกทัพมาครั้งนี้คือยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใช เตรียมโจมตีเมืองปกเอี้ยงไม ดังนั้นการที่ทานจะยกไปที่เมืองปกเอี้ยงจึงเปนการเสียเที่ยวเปลา และการใหลิฮ องกับซิหลันคุมทหารหนึ่ง หมื่นรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ทั้งสองคนนี้สติปญญาหางชั้นกับโจโฉมาก และทหารก็ นอย คงจะไมสามารถรับมือกับโจโฉไดเห็นทีจะเสียเมือง กุนจิ๋วเปนแน ลิโปไมเห็นดวยกับความคิดตันกง อางวาเมืองปกเอี้ยงเปนเมืองใหญ โจโฉนาจะยกไปตีเมืองปกเอี้ยงมากกวา ดังนั้นตัวเราจะไปรับมือกับโจโฉที่เมืองปกเอี้ยงเอง นี่คือความคิดแบบโงๆ ของลิโปที่ยึดถือเอาแตความใหญ เล็กของเมืองเปนสําคัญ ยิ่งกวาฐานะสําคัญทางยุทธศาสตรของเมืองนั้น ทั้งไมเขาใจวาเปาหมายการศึกครั้งนี้ ของโจโฉคือการยึดเมืองกุนจิ๋วคืน หาใชยึดเมืองปกเอี้ยงไม ตันกงเห็นวาลิโปไมฟง ดันทุรังจะทําตามความคิด ตัวก็เกรงวาจะเสียทีแกโจโฉจึงเสนอแผนการขั้นที่สองวา ตรงเขาไทสันหรือภูเขา ไทซัว ซึ่งอยูทางทิศใตของ เมืองกุนจิ๋วประมาณแปดรอยเสน และไมไกลจากเมืองปกเอี้ยงนั้น เปนชัยภูมิสําคัญเพราะเปนทางลัดที่จะแยก ไปยังเมืองกุนจิ๋วและเมืองปกเอี้ยง แตเปนทางทุรกันดารในซอกเขา ขาพเจาคิดวาโจโฉจะยกไปตามทางนี้ ให ทานจัดทหารหมื่นหนึ่งไปซุม อยูสองขางทางในซอกเขารอใหกองทัพหนาโจโฉผานไปแลวจึงเขาตีกองทัพ หลวงพรอมกัน ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย เพราะกองหนาและกองหลังจะเขาชวยไมทันเนื่องจากเปนทาง จํากัด ลิโปฟงความเห็นของตันกงแลว ไมยอมใชความคิดวาขอเสนอ เชนนี้เปนขอเสนอจากความกระจางแจงในภูมิ ประเทศ กลับเห็นไปวาการเอาทหารไปซุมไวในซอกเขาเปนความยากลําบากและเสียเวลาเปลา เพราะถึงแม จะเปนทางลัดแตโจโฉนาจะเลือกไปทางใหญซึ่งสะดวกกวา ดังนั้นลิโปจึงไมยอมรับแผนการของตันกง ตัดสินใจสั่งใหลิฮองและซิหลันคุมทหารหมื่นหนึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋ว ตัวลิโปเอง ยกทหารไปเมืองปกเอี้ยง ตั้ง คายไวนอกเมืองทางดานทิศใตและทิศ ตะวันตก ซึ่งอยูใกลทางที่จะมาจากเมืองเตงกวน ขางโจโฉเมื่อตั้งคาย ลงที่เมืองเตงกวนแลวใหทหารสืบขาวความ เคลื่อนไหวของลิโป ครั้นทราบขาวดังนั้นแลวก็ดีใจนัก เห็นวาจะ ยึดเมืองกุนจิ๋วคืนไดโดยงาย จึงกําหนดแผนการยุทธใหโจหยินคุมทหารจํานวนมากยกไปตีเมืองกุนจิ๋วทาง หนึ่ง สวนโจโฉจะไปยึดเมืองปกเอี้ยงเพื่อจัดการกับลิโปดวยตนเองมั่นใจวาจะชนะศึกไดทั้งสองดาน นี่คือความประมาทของโจโฉที่จับปลาพรอมกันทีเดียวทั้งสองมือ หากโจโฉยึดเมืองกุนจิ๋วใหเสร็จสิ้นเสียกอน แลวระดมทัพทั้งหมดไป ตีเมืองปกเอี้ยงก็จะไดโดยงาย ความประมาทนี้เกิดจากการมองขาม คนแบบตันกง นั่นเอง จึงวางกําลังสวนใหญไวที่การยึดเมืองกุนจิ๋ว จัดกําลังแตสวนนอยไปยึดเมืองปกเอี้ยง กําหนดแผนการ ยุทธเสร็จแลวจึงสั่งการกองทัพใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสัน เพื่อจะแยกไปโจมตีเมืองกุนจิ๋วและเมือง ปกเอี้ยง ตอไป ขณะเคลื่อนทัพใกลจะถึงเขาไทสัน กุยแกไดทักทวงวาภูมิประเทศเปนทางจําเพาะหากขาศึก จัดทหารมาซุมก็จะเสียทีโดยงาย สมควรหยุดทัพไวแลวใหทหารหนวยลาดตระเวนไปสืบสภาพดูกอน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
23.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 23 โจโฉหัวเราะแลววา คนแบบลิโปไรสติปญญา คงจะไมคิดจัดกําลังมาซุมและการที่ลิโปยกไปเมืองปกเอี้ยงแลว ยอมแสดงวาไมสนใจซุมโจมตี วาแลวก็สั่งใหเคลื่อนทัพไปตามซอกเขาไทสันนั้นแลวแยกเดินทัพเปนสองทาง ตามแผนการยุทธที่วางไว ฝายตันกงยังคงมั่นใจวาโจโฉตองยกมาตามทางเขาไทสัน จึงให ทหารคอยลาดตระเวนหาขาวความ เคลื่อนไหวของกองทัพโจโฉ ครั้นทราบขาววาโจโฉเคลื่อนทัพดังที่คาดการณไวจึงแจงแกลิโปวา โจโฉ เคลื่อนทัพมาตามทางลัดที่ทุรกันดารยากลําบาก ดังนั้นทหารโจโฉ จึงตองออนลาอิดโรย ขอใหลิโปยก กองทัพไปโจมตีโจโฉ อยาใหโจโฉทันตั้งคายเสร็จ ก็จะเอาชัยชนะไดโดยงาย ขอเสนอของตันกงนี้เปนไป ตามหลักพิชัยสงครามที่ใหเขาตีเมื่อ ขาศึกออนลาอิดโรยไรเรี่ยวแรงและไมทันตั้งตัว แตลิโปไมเห็นดวยกลับ คิดวาการที่โจโฉเดินทัพทางเขาไทสันนั้นสมกับการคาดการณของ ตันกงจึงรูสึกเสียหนา ครั้นตันกงเสนอแผน โจมตีโจโฉไมใหทันตั้งตัวจึงออกอาการดันทุรังเอากับตันกงวา "เดิมเราตั้งตัวมาแตตัวผูเดียว กับมาคิดทําการ เที่ยวรบพุงมาจนไดทหารมากขึ้นถึงเพียงนี้แลว เรา จะคิดยอทอโจโฉนั้นหามิได ใหโจโฉตั้งคายมั่นลงแลวเรา จะหักเอาใหได" คําพูดของลิโปนี้แสดงวา ลิโปซึ่งเดิมอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว รับคําสั่งใหยกกองทัพ ไปตีเมืองกุนจิ๋วไดทรยศหักหลังเตียวเมี่ยว และตั้งตนเปนอิสระแลว และยังทระนงในฝมือตัวเอง ตกอยูใน ความประมาท เทากับเปนการเปดโอกาสใหโจโฉตั้งหลักปกคายมั่นพักฟน กําลังเสียกอน ซึ่งถือวาเปน ความโงเขลาที่สุดในทางการทหาร มิตางกับสมิงนครอินทรทหารเอกพระเจาราชาธิราช ที่บอกอุบายซึ่ง กองทัพมอญวางกลจะสังหารพมาเสียดวยเกรงวาการตอสูจะไมเปนไป โดยยุติธรรมจะตางกันบางตรงที่สมิง นครอินทรโงในการสงครามแตไมหัวรั้น แตลิโปทั้งโงทั้งรั้น โจโฉครั้นเคลื่อนทัพผานชองเขาไทสันแลวตรงไปยังเมืองปกเอี้ยง เห็นลิโปตั้งคายอยูนอกเมืองทางทิศใตจึง ปลงทัพลงแลวตั้งคายประชิดกับคายลิโปโดยสะดวกดายยิ่งนัก เพราะลิโปไมตองการโจมตี ในขณะที่โจโฉยัง อิดโรยและไมพรอม จะรอใหโจโฉพรอมเสียกอนจึง คอยยกออกมารบ นาที่จะโจโฉจะไดมีหนังสือไปขอบคุณ ลิโปใหเปนที่สะใจสักครั้งหนึ่ง ครั้นรุงขึ้นทั้งสองฝายจึงยกทหารออกมาประจันหนากัน ธงทิวปลิวไสวประสานกับเสียงกลองศึกใหสัญญาณ แปรรูปขบวนเปนระยะๆ โจโฉเห็นลิโปยืนมาอยูหนาสุด ตามดวยทหารเอกแปดนาย โจโฉจึงเอาแสมาชี้หนาลิ โปแลววา "ตัวกับเราจะไดมีความผิดกันสิ่งใดหามิได เปนไฉนตัวจึงยกทหารมาตีเอาเมืองเรา" ลิโปจึงตอบโจ โฉเปนสุนทรพจนอันบันลือลั่นสนั่นโลก เปนแบบอยางของการแสดงเหตุผลแบบนักเลงโตที่นารักและนาขันวา "เมืองเหลานี้เปนของพระเจาเหี้ยนเตก็เหมือนหนึ่งของคนทั้งปวงซึ่งอยูในแผนดิน ถาผูใดมีบุญแลเขมแข็งก็จะ ครอบครองเมืองไดเหมือนกัน เหตุใดทานจึงวาบานเมืองนี้เปนของทาน หามีความละอายไม" โจโฉแมวาจะ เปนคนเจากลอุบายและเฉลียวฉลาด แตไมเคยคาด คิดวาจะมีเหตุผลเชนนี้อยูในโลก และไมคาดคิดวาลิโปจะ ยกเหตุผลอันพิสดารนี้มาแกตัว และดาวาตัวเองกลับมาเชนนี้จึงจํานนตอถอยคํา คิดไมออกวาจะหาเหตุผลที่ ไรเหตุผลยิ่งกวานี้ไปตอบโตไดอยางไร หมอมราชวงศคึกฤทธิ์ ปราโมช ไดเขียนบทความประชดนักการเมืองที่ชอบอางประชาธิปไตย แตประพฤติตน เปนทรราช และเปนทั้งนักเลงอันธพาลวาเปน "นักประชาธิปไตยแบบลิโป" นักประชาธิปไตยแบบลิโป เกิดขึ้น ในประเทศไทยแตบัดนั้นถึง บัดนี้รวมสามสิบปแลว จึงยิ่งพัฒนาไปกวาครั้งกระนั้นมากนัก กลายเปนประชาธิป ไตยที่ฉาบหนาเปนจุดขายแบบพระเอกลิเก ในขณะที่ภายในเต็มไปดวยเผด็จการ การฉอราษฎรบังหลวง นักเลงโต นักขายชาติ นักคายาเสพยติด และเต็มไปดวยนักปลนประชาธิปไตย ประชาธิปไตยแบบที่เปนอยูใน ปพุทธศักราช 2543 นี้ จึงรายแรงเสียยิ่งกวาประชาธิปไตยแบบลิโปหลายเทานัก หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ฤทธิ์เดชของคนที่ถูกมองขาม (ตอนที่ 61) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปเห็นโจโฉจํานนตอถอยคําที่พิสดารของตัวก็กระหยิ่มในความหลักแหลมแบบไรเหตุผลนี้ยิ่งนัก จึงสั่งใหจง ปาทหารเอกออก ไปจับตัวโจโฉ ฝายโจโฉก็สั่งใหงักจิ้นออกรบดวยลิโป รบกันไดสามสิบเพลงแฮหัวตุนจึงขับ มาเขาไปชวยงักจิ้น ฝายเตียวเลี้ยวเห็น เชนนั้นก็ขับมาออกไปสกัดแฮหัวตุนไว ทหารเอกทั้งสองคูของทั้งสอง ฝายตอสูกันเปนสามารถ ลิโปรูสึกรําคาญใจจึงขับมาเขารบดวยแฮหัวตุนและงักจิ้น สองทหารเอกของโจโฉสูลิ
24.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 24 โปไมไดก็ขับมาหนี ลิโปจึงสั่งใหทหารเขาโจมตีกองทหาร ของโจโฉจนแตกพายหนีเขาคายไป ลิโปจึงยก ทหารกลับมาคาย ครั้นกลับมาถึงคายแลวโจโฉจึงเรียกประชุมแมทัพนายกองวา ลิโปมีฝมือเขมแข็งผูใดจะอาสาเอาชนะลิโปได บาง อิกิ๋มทหารเอกของ โจโฉจึงวาไดขึ้นไปบนภูเขาตรวจดูภูมิประเทศและการตั้งคายของลิโปแลว ปรากฏวา คายดานทิศตะวันตกของเมืองมีทหารประจําอยูนอย วันนี้ลิโปรบชนะศึกยกแรกยอมมีใจกําเริบ ทหารก็จะขาด ความระมัดระวังในการรักษาคาย ถาฝายเรายกทหารเขาปลนคายตะวันตกคงจะไดโดยงาย จากนั้นคอยยึดคาย ดานทิศใตของลิโปตอไป โจโฉเห็นชอบกับแผนการของอิกิ๋ม จึงสั่งการใหโจหอง ลิเตียน ลิยอย อิกิ๋ม และเตียนอุย คุมทหารสองหมื่น เตรียมพรอมไว คืนนี้จะยกเขาปลนคายตะวันตกของลิโปฝายลิโปชนะศึกยกแรก และกลับเขาคายดานทิศใต ของเมืองปกเอี้ยงแลว เย็นลงก็จัดเลี้ยงแมทัพนายกอง ณ คายนั้นเปนการฉลองชัยชนะ ตันกงเห็นดังนั้นจึง เสนอวาโจโฉแพศึกวันนี้คงคิดแกแคนเปนมั่นคง โจโฉรูวาฝายเราฉลองชัยแลวจะประมาท เห็นทีจะยกมาปลน คายเราในคืนนี้และเนื่องจากคายตะวันตกมีทหารอยูนอย โจโฉคงเขาปลนคายตะวันตกเปนแนแท ขอใหทาน จัดทหารลอบยก ไปเสริมกําลังไวในคายตะวันตกโดยเร็ว หากโจโฉยกมาก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคง ลิโปจึงวาโจโฉเพิ่งพายแพไปไมทันขามวันคงจะขยาดไมกลายกมาโจมตีในค่ํานี้ ตันกงจึงยืนยันแข็งขันวาโจ โฉมีสติปญญาในการศึก เห็นโอกาสคืนนี้แลวคงจะไมปลอยใหผานไป ทานอยาไดวางใจ ทั้งการสงทหารไป เพิ่มเติมก็ไมไดเสียหายอะไร ลิโปเห็นตันกงยืนยันแข็งขันก็คลอยตาม จึงสั่งใหโกสุน งุยซก และโฮเสง คุม ทหารสองหมื่นเตรียมยกไปเสริมกําลังที่คายดานตะวันตก แตขอเวลาวาใหทหารไดเลี้ยงฉลองชัยชนะใหเสร็จ เสียกอนแลวคอยยกไป ตันกงขี้เกียจเซาซี้ก็เออออตามใจลิโป ลิโปเลี้ยงฉลองชัยชนะอยูจนเกือบสองยาม เสร็จงานเลี้ยงแลว สามทหารเอกจึงยกทหารออกจากคายทิศใตของลิโปไปยังคายตะวันตก ถึงกลางทางพบ ทหารคายตะวันตกแตกตื่นหนีมาจึงทราบ ความวาโจโฉลอบยกทหารไปปลนคายตะวันตกและยึดคายไวได แลว สามทหารเอกจึงใหทหารที่แตกหนีมานั้นไปรายงานใหลิโปทราบ แลวรีบยกไปเพื่อจะยึดคายตะวันตก กลับคืนโจโฉรูวาทหารลิโปยกมาก็ยกทหารออกมาตั้งรับหนาคายทหารทั้งสอง ฝายรบพุงกันเปนสามารถ ตั้งแตสองยามจนถึงใกลรุง บาดเจ็บลมตายเปนอันมาก ขณะนั้นทหารโจโฉหนาตื่น เขามารายงานวา ลิโปกําลังยกทหารเปนจํานวนมากมาสมทบ ขณะนี้ใกลถึงคายดานตะวันตกแลว โจโฉไดฟง เชนนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีฝาเพื่อจะกลับไปคายเดิม สามทหารเอกของลิโปจึงไลตามตีมาทางดานหลัง โจโฉ นําทหารหนีมา ระยะหนึ่งปะทะกับกองทหารซึ่งลิโปยกมาสมทบ จึงใหอิกิ๋มกับงักจิ้นสกัดลิโปไว ตัวโจโฉคุม ทหารวกไปทางดานทิศเหนือของเมืองปกเอี้ยง เพื่อจะออมดานตะวันออกไปยังคายของตัว อิกิ๋มกับงักจิ้นรบ กับลิโปอยูครูหนึ่งสูลิโปไมไดจึงชักมาหนีพา ทหารตามโจโฉไปทางทิศเหนือ ลิโปและทหารไลฆาทหารโจโฉ ลมตายลงเปนอันมาก โจโฉ อิกิ๋ม และงักจิ้น พาทหารหนีออมไปทางดานทิศเหนือของ เมืองปกเอี้ยง ถึงเนิน เขาแหงหนึ่งปะทะกับเตียวเลี้ยวและจงปา ทหารเอกของลิโปซึ่งคุมทหารมาสกัดอยูจึงตีฝาออกไปหนีไปได ระยะหนึ่งใกลจะเลี้ยวไปทางดานตะวันออกของเมืองไดปะทะกับทหารเอกของ ลิโปอีกสี่คน ซึ่งคุมทหารมา สกัดอยูอีก ทหารทั้งสองฝายตอสูกันเปนสามารถ โจโฉเห็นจวนตัวเขาจึงใหทหารชวยกันสกัดฝายลิโปไว แลว พาทหารสี่หาคนรีบหนีฝาออกไปทางดานทิศตะวันออกของเมืองปกเอี้ยง โจโฉและทหารสี่หาคนหนีมาไดระยะหนึ่ง ถึงเนินเขาก็ไดยินพลุสัญญาณแลวทหารลิโปไดยิงเกาทัณฑลงมา เปนหาฝนและยกทหารมา ลอมไวทั้งสี่ดาน โจโฉเห็นจะหนีไมรอดจึงรองขึ้นวา "ผูใดมีกําลัง จง ชวยชีวิตเรา ในครั้งนี้" เตียนอุย จึงวาทานอยากลัวเลย ขาพเจาอยูกับทานจะพิทักษให ทานปลอดภัย แลวจึงลงจากมาเอา ทวนคูหนีบไวขางกายเปลี่ยนเอาหอกซัดเกือบยี่สิบเลมมาถือไว สั่งทหารวาถาขาศึกตามมาในระยะหาวาให เรียกชื่อเตียนอุย จากนั้นจึงนําหนามาโจโฉตีฝาออกไป ทหารลิโปราวยี่สิบคนไลตามไปติดๆ คนไหนเขามาในระยะหาวา ทหารโจโฉก็เรียกชื่อเตียนอุย เตียนอุยก็หยุด แลวซัดหอกไปถูกทหารที่ตามมาตายไปทีละคนจนหมดหอกซัด ทหารลิโปที่เหลืออีกสี่หา คนจึงไมกลา ติดตามเขามาอีก เตียนอุยพาโจโฉหนีตอไปเพื่อจะกลับเขาคายจนใกลค่ําลิโปก็ยกทหารตามมาทัน โจโฉก็ ตกใจ ทั้งออนลา หิวโหย สิ้นเรี่ยวแรง ทหารโจโฉที่ตามมาสี่หาคนจึงแยกยาย กันวิ่งหนี เตียนอุยพาโจโฉหนีลิ โปตอไป พอดีแฮหัวตุนคุมทหารตาม มาทันจึงเขาสกัดลิโปไวจนใกลพลบค่ํา ฝนก็ตกหนักลงมาลิโปจึงรีบ ยก ทหารกลับไปคาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายโจโฉ เตียนอุย แฮหัวตุนและทหารที่เหลือซึ่งเปยกปอนและอิดโรยเต็มที่ หนีกลับเขาคายไดเกือบยางเขา ยามสอง ถึงคายแลวโจโฉจึงสั่งทหารปูนบําเหน็จรางวัลแกเตียนอุยเปนอันมาก การศึกยกที่สองระหวางโจโฉ
25.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 25 กับลิโปตั้งแตสองยามวันหนึ่งตอเนื่องมาถึงค่ําอีกวันหนึ่ง สิ้นสุดลงโดยพระพิรุณประทานฝนมาหามทัพ และโจ โฉเปนฝายปราชัยอยางยอยยับแทบจะเอาตัวไมรอดความปราชัยของโจโฉในครั้งนี้ตองถือวาเปนการปราชัย ครั้งสําคัญที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต และเกิดขึ้นโดยที่โจโฉคาดคิดไมถึง เนื่องจากมองขามเรื่องสําคัญไปสอง เรื่อง เรื่องสําคัญเรื่องแรกคือเรื่องตันกง โจโฉไมรูจักคนผูนี้ดีพอ เนื่องจากอยูรวมกันเพียงชั่วสองสามวัน คิดวาตันกง เปนเพียงเจาเมือง ธรรมดาที่ไมเอาไหนเหมือนกับบรรดาเจาเมืองอื่นๆ ที่เอาแตเสพสุข คอรรัปชั่น รีดไถ และ ขมเหงราษฎร โดยหารูไมวาตันกงนั้นคือนักยุทธศาสตรทั้งการเมืองและการทหาร เรื่องสําคัญเรื่องที่สองคือ ความสัมพันธระหวางลิโปกับตันกง ซึ่ง โจโฉรูจักลิโปดีวาเปนคนมีฝมือเขมแข็งกลาหาญ แตหัวรั้น โลภและไร สติปญญาจึงเชื่อวาจะสามารถกําจัดลิโปไดโดยงาย ดังนั้นโจโฉ จึงประมาทคิดจับปลาทีเดียวพรอมกันสองมือ จะยึดเอาทั้งเมืองกุนจิ๋ว และเมืองปกเอี้ยงพรอมกันในคราวเดียว มิหนําซ้ํายังวางกําลังหลักไวที่การยึดเมืองกุน จิ๋ว ตัวเองยกกําลังสวนนอยมาเมืองปกเอี้ยง หวังเอาชนะลิโปดวยสติปญญา โจโฉมองขามความสัมพันธระหวางลิโปซึ่งสุดยอดเชิงบูวาไรสติปญญา มองขามตันกงซึ่งนับวาเปนยอดคน ทางบุนวาเปนเพียงขุนนางตัวเล็กๆ ที่ไรความหมาย ครั้นสุดยอดทางบูกับยอดคนทางบุนมารวมตัวกัน โดยที่โจ โฉไมรูความขอนี้และมองขามความขอนี้จึง เปนเรื่องที่นาตระหนกอยางยิ่ง เพราะสภาพเชนนี้คือสภาพที่ไมใช เพียงโจโฉ "ไมรูเขา" เอาเสียเลยเทานั้น หากยังเขาใจสภาพการศึกที่ ผิดพลาดอยางมหันตอีกดวย ดังนั้น ความปราชัยของโจโฉจึงเปนสิ่งที่ถูกกําหนดขึ้นอยางแนนอนแลวภายใตกฎแหงสงคราม แตทวา ความสัมพันธระหวางตันกงกับลิโปนั้นมิใชจะปกติลึกซึ้งกระไรนัก เพราะตันกงมิไดสมัครใจอยูกับลิโปหากทํา ราชการอยูกับเมืองตันลิว ที่มาดวยลิโปก็เพราะเจาเมืองตันลิวมอบหมายใหชวยเหลือ โตเกี๋ยม ซึ่งสอดคลอง กับความประสงคของตันกงสถานหนึ่ง และเพื่อปองกันเมืองตันลิวอันเปนผลประโยชนของเจาเมืองตันลิวอีก สถานหนึ่ง ในขณะที่ลิโปก็มิไดเชื่อถือศรัทธาตันกง แตทั้งสองคนนี้กลับตองมารวมกันทําศึก ดังนั้นความเห็น ของตันกงจึงไมสามารถเปลงอานุภาพไดเต็มที่ ลิโปพอใจจะเชื่อก็ปฏิบัติตาม ไมพอใจจะเชื่อก็ถือเอาความคิด ตนเปนใหญ ดวยเหตุนี้โอกาสกําจัดโจโฉตอน เดินทัพตามซอกเขาไทสัน และการโจมตีโจโฉในขณะที่เพิ่งยกถึงเมืองปกเอี้ยง ซึ่งทั้งออนลา และยังไมทัน ตั้งคายจึงไมไดรับการปฏิบัติจากลิโป แมในการสงครามครั้งที่สอง ซึ่งโจโฉปราชัยยอยยับก็เชนเดียวกัน ถา หากลิโปปฏิบัติตามคําตันกงสงทหารไปเสริมไวที่คายตะวันตกกอน แลวคอยยกไปตีกระหนาบ โจโฉก็จะยอย ยับกวานี้ แมกระนั้นอานุภาพของฝมือทางบูของลิโปกับมันสมองอันเลิศทางบุนของตันกงก็ไดทํา ใหโจโฉ เกือบเอาตัวไมรอด การที่โจโฉหนีลิโปที่คายตะวันตกแลวถูกทหารลิโปออกสกัดโจมตีตลอดแนวทางดานทิศเหนือ ดานทิศ ตะวันออก เรื่อยมาจนเกือบจะถึงคายโจโฉทางดานทิศใตถึงสามครั้งสามครานั้นมิใชเกิดขึ้นโดย บังเอิญหรือ จากความคิดอานของลิโป เพราะสติปญญาของลิโปนั้นเปนไปไมไดที่จะคาดการณถึงการหนีของโจโฉได แมนยําถึงปานนั้น และโดยความรับรูของลิโปก็ไมไดรูจักภูมิประเทศของเมือง ปกเอี้ยง ตันกงตางหากที่รูจัก สภาพภูมิประเทศเปนอยางดี ครั้นลิโปยกทหารออกไปชวยคายตะวันตกยามใกลรุงก็ไดมอบหมายใหตันกง รักษาคายทิศใตของตนไว ดังนั้นเมื่อ ลิโปยกทหารออกไปแลว ขางภายในคายของลิโปจึงมีตันกงเปน ผูบังคับบัญชาแทนลิโป ตันกงจึงอาศัยอํานาจและโอกาสนี้บัญชาการใหจัดทหารเปนสามกองยกไปตั้งสกัดโจ โฉ ซึ่งตันกงคาดการณไวลวงหนาแลววาเมื่อลิโปยกออกไปชวยคายตะวันตก โจโฉจะตองแตกหนีไปออม เมืองปกเอี้ยงทางดานทิศเหนือ แลววกกลับมาทางดานตะวันออกจึงจะกลับเขาคายได เมื่อคาดการณเสนทางที่โจโฉจะหนีแลว จึงวางกําลังไปสกัดถึงสามกอง เพื่อใหมั่นใจวาคราวนี้โจโฉตองตาย แนนอน ความคิดของตันกงครั้งนี้ก็พอจะเห็นไดวาโจโฉคงจะเอาตัวรอดไดโดยยาก แตทวา "ความคิดเปนของ คน แตความสําเร็จเปนของฟา" ปาฏิหาริยจึงเกิดขึ้นเพราะความเกงกลาสามารถของเตียนอุย องครักษ ประจําตัวของโจโฉที่สามารถพาโจโฉตีฝาทหารที่สกัดหลุดรอดไปได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด แมเมื่อลิโปไลตามมาทันกอนจะถึงคายทางทิศใต โจโฉมีเพียงแฮหัวตุนเทานั้นที่สกัดลิโปไว ลําพังฝมือของ แฮหัวตุนคงจะสกัดไวไดไมนาน แตฝนกลับตกหนักลงมา ลิโปซึ่งคงจะเปนคนกลัวฝน กลัวเปยก ดังที่จะเห็น ไดตลอดมาวาถาฝนตกลงมาคราวใด ลิโปมีอันตองยกทหารกลับเขาเมืองหรือกลับเขาคายทุกครั้ง ดังนั้นถา หากโจโฉรูมากอนวาตันกงไมใชเจาเมืองธรรมดาเหมือน กับบรรดาเจาเมืองที่เคยพบ โจโฉยอมหาหนทางเอา ตัวตันกงมาทําราชการดวยเปนแนแท และคงไมตองเสียหายยับเยินถึงปานนี้ นี่คือฤทธิ์เดชของสิ่งที่โจโฉ มองขามไป
26.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 26 ยังไมจบเพียงเทานี้ มันสมองของตันกงยังคงคิดอานแผนการกําจัดโจโฉออกมาอยางตอเนื่อง ดังนั้นใน วันรุงขึ้นเมื่อตันกงทราบขาววาเจาเมืองปกเอี้ยงเกิดรักตัวกลัวตายจากสงคราม จึงทิ้งเมืองปกเอี้ยงเสีย แลวพา ครอบครัวหลบหนีไปตั้งแตคืนที่โจโฉเขาปลนคายตะวันตกแลว ตันกงจึงรีบไปหาลิโปรายงานเรื่องนี้ใหทราบ รายงานแลวตันกงไดเอาขาวคราวเรื่องนี้กําหนดขึ้นเปนแผนกําจัดโจโฉตอไป และตองถือวาเปน "แผนพิฆาต" อยางแทจริง เพราะแผนการพิฆาตนี้คือแผนการใชพลังจักรวาลเขาทําสงครามเปนครั้งแรกในสามกก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนเพลิงพิฆาต (ตอนที่ 62) ตันกงไดเสนอแผนการศึกยกที่สามระหวางกองทัพของลิโปกับกองทัพของโจโฉใหแกลิโปวา "ในเมืองนั้นมี เศรษฐีคนหนึ่งชื่อเตียนซี มีใจสัตยซื่อเปนที่นับถือแกชาวเมืองทั้งปวง ถาเตียนซีจะวาประการใดชาวเมืองก็ทํา ตาม ขอใหหาเตียนซีออกมาวากลาวใหมี หนังสือไปถึงโจโฉวา ทานมีชัยแกโจโฉแลว บัดนี้ใหโกสุนอยูรักษา เมืองปกเอี้ยง ทานยกทหารไปตีเอาเมืองลิหยง ใหโจโฉยกทหาร เขาปลนเอาเมืองปกเอี้ยง เตียนซีจะคุม ชาวเมืองออกรบกระหนาบ เราจึงลอบยกทหารเขาไปอยูในเมืองปกเอี้ยง แลวเอาฟนมากองประตูทั้งสี่ดาน ถาโจโฉเขามาแลวเราจึงจุดเพลิงเผาเมือง และกองฟน ทั้งสี่ประตูขึ้น ถึงโจโฉจะมีความคิดแกไขประการใดก็ เห็นจะไมพนมือเรา" แผนการครั้งนี้ของตันกงคือแผนการใชธาตุไฟ ซึ่งเปนหนึ่งในพลังจักรวาลเขาสังหารขาศึก นับเปนความคิด อานวางแผนการรบดวย การใชพลังจักรวาลเปนครั้งแรกในสามกก อันเพลิงนั้นเปนพลังแหงจักรวาลชนิดหนึ่ง ที่มีอานุภาพทําลายลางสูงสุดในยุคนั้น ไมตางกับระเบิดนาปาลมในยุคปจจุบัน เปนพลังที่สามารถทําลายลาง ขาศึกไดเปนจํานวนมากยิ่งกวาทหารเอกที่มีฝมือหรืออาวุธชนิดอื่น ทวน งาว หอกและเกาทัณฑ ใชเปนอาวุธ สังหารขาศึกไดอยางจํากัด ขึ้นอยูกับกําลังและฝมือของผูใช ดังนั้นในการสงครามจึงไม เคยปรากฏวาอาวุธ เหลานี้จะใชสังหารขาศึกไดครั้งละถึงหมื่น ตางกันกับเพลิงที่สามารถทําลายลางขาศึกกวาครั้งละสิบหมื่นได โดยนัยนี้ เพลิงจึงเปนพลังแหงจักรวาลที่อาจมีอานุภาพมากกวาทหาร สิบหมื่น แตเพลิงอันเปนพลังจักรวาลนี้ จะมีอานุภาพปานใดยอมขึ้นอยูกับเงื่อนไขของการใชเพลิงและสติปญญาคิดอานของผูบัญชาการทัพเปน สําคัญ สามกกดําเนินมาถึงตอนนี้จึงเพิ่งปรากฏวามียอดคนที่สามารถคิดอานวางแผนใชพลังจักรวาลในการ ยุทธคือตันกงผูนี้ แตทวารายละเอียดของแผนการกลับทําใหการใชพลังจักรวาลครั้งนี้ไมอาจบรรลุอานุภาพสูงสุดได เนื่องเพราะ ในรายละเอียดของแผนการนั้น ตันกงยังเสนอให ลิโปจัดวางกองทหารซุมไวในเมืองเพื่อจะเขาโจมตีโจโฉ ในขณะที่ถูกเพลิงคลอก ในลักษณะเชนนี้จึงบีบบังคับฝายลิโปอยูในตัว ทําใหไมสามารถเผาเมืองทั้งเมืองเพื่อ เผาทหารโจโฉใหหมดสิ้นไปได เพราะทหารของลิโปเองก็ยังคงติดอยูในเมืองนั้น นี่คือจุดออนที่ทําให ความคิดที่จะใชพลังจักรวาลในการศึกของ ตันกงไมสามารถกอเกิดอานุภาพอันยิ่งใหญได ในที่สุดแผน ทั้งหมดนี้จึงถูกลดทอนพลังทําลายลางลง เหลือเพียงระดับที่เปนแผนปดประตูตีแมวเทานั้น แตกระนั้นแผนการนี้ก็ยังนับวารัดกุมและยากที่โจโฉจะเอาตัวรอดได และตองถือวาแผนการครั้งนี้ของตันกง เปนแผนที่ยอดเยี่ยมอีกแผนหนึ่งในการสงครามตั้งแตเริ่มตนมาจนถึงวันนี้ ลิโปไดฟงแผนการของตันกงแลว เห็นชอบกับแผนการดังกลาว จึงใหหาเตียนซีออกมาที่คายแลวเกลี้ยกลอมใหเตียนซีปฏิบัติตามแผนการของ ตันกงทุกประการ เตียนซีรับคําลิโปแลวก็มีหนังสือใหคนสนิทถือไปใหโจโฉเปนใจความวา ลิโปเปนคนโหดรายทารุณ ไม คํานึงถึงความเดือดรอนของราษฎร นับตั้งแตยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมืองปกเอี้ยงแลวราษฎรไดรับความ เดือดรอนยิ่งนัก ขาพเจาสงสารราษฎรนัก จึงคิดจะกําจัดลิโปเสีย บัดนี้ชาวเมืองมีความยินดีที่ทานไดยก กองทัพมาเพื่อจะปลดปลอยเมืองปกเอี้ยงใหพนจากอํานาจเถื่อนของลิโป ตัวขาพเจาเองมีความเคารพและ ศรัทธาตัวทานเปนยิ่งนัก หวังเอาบารมีของทานมาดับรอนทุกขเข็ญของราษฎรเมืองปกเอี้ยงนี้ จึงขอใหทานยก ทหาร เขาชิงเอาเมืองปกเอี้ยง โดยขาพเจาและชาวเมืองจะเปดประตูเมืองทางดานตะวันตกตอนรับทานใน เพลาตนของคืนนี้ และจะปกธงจารึก คําวา "คุณธรรม" ไวเปนสําคัญ เมื่อทานยกเขามาแลวขาพเจาและ ชาวเมืองจะไดชวยกันตีกระหนาบชวยทานยึดเมืองปกเอี้ยงจาก ลิโปใหจงได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉไดรับหนังสือของเตียนซีแลวมีความยินดี กลาวกับคนของเตียนซีวานี่เปนเพราะสวรรคบันดาล ทานจงไป บอกเตียนซีเถิดวาเรา จะทําการตามคําของเตียนซี ทํานุบํารุงชาวเมืองใหมีความสุขสืบไป วาแลวโจโฉก็สั่งให
27.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 27 จัดเตรียมทหารเตรียมเขายึดเมืองปกเอี้ยงในคืนวันนี้ เลาหัวที่ปรึกษาของโจโฉไดทวงขึ้นวา การครั้งนี้อาจเปน กลอุบายของลิโปก็เปนได โจโฉแยงวาคนแบบลิโปยอมไมสามารถคิดกลอุบาย เชนนี้ออกมาได แตเลาหัว ยังคงติงวาแมวาลิโปจะไรสติปญญาแตมีที่ปรึกษาอยูเปนจํานวนมาก ทั้งตันกงก็เปนคนมีสติปญญาสูง ดังนั้น ถึงแมทานจะเชื่อคําของเตียนซี แตตองเตรียมการใหพรอมเพื่อจะได ไมเสียทีหากวาเปนกลอุบาย โจโฉถาม วาจะใหเตรียมการอยางไร เลาหัวชี้แจงวาในการเขาโจมตียึดเมืองปกเอี้ยงครั้งนี้ควรจัดทหารออกเปนสามกอง กองหนึ่ง ใหเขาไปดูลาดเลาในเมืองตามคําของเตียนซี สวนอีกสองกองใหตั้งคุมเชิงอยูนอกเมืองจะได ชวยเหลือกันและกันได หากแมเปนอุบายก็คงจะไมเสียทีแกขาศึก โจโฉเห็นชอบดวยจึงมีคําสั่งใหแบงทหารที่ เตรียมไวนั้นแบงออก เปนสามกองตามคําของเลาหัว ครั้นค่ําลงเพลาแรกผานไปแลว โจโฉจึงใหยกทหารทั้ง สามกองวกออมไปทางดานประตูเมืองตะวันตก เห็นธงสีขาวมีขอความวา "คุณธรรม" ปกอยูตรงตามคําของ เตียนซีก็หยุดทหารรอฟงสัญญาณจากขางในเมือง ครั้นใกลเที่ยงคืน ทหารของลิโปคือโฮเสงและโกสุนไดคุมทหาร เปนสองกองยกออกจากประตูเมืองดาน ตะวันออกมาทางดานตะวันตกปะทะเขากับทหารของโจโฉที่ซุมรอสัญญาณอยู โจโฉสั่งให เตียนอุยออกรบ ทหารของลิโปสูไมไดก็แตกหนีเขาประตูเมืองทางดานตะวันออก การยกทหารสองกองนี้ออกมารบดวยโจโฉ เปนเรื่องที่ไมมีระบุไวในแผนการ แตกระนั้นก็เห็นไดวาเปนมาตรการลวงที่ทําใหฝายโจโฉตายใจวากรณีที่ เตียนซีมีหนังสือมานั้นไมใชกลอุบาย คือทําเรื่องที่หลอกลวงใหกลายเปนเรื่องที่นาเชื่อมากขึ้น ในขณะนั้นมีคนของเตียนซีถือหนังสือมาถึงโจโฉทางดานประตูทิศตะวันตกวา กอนเที่ยงคืนวันนี้จะพา ชาวเมืองฆาทหารรักษาประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองรับโจโฉ เมื่อเขาทําการแลวจะจุดพลุสัญญาณเปน สําคัญใหโจโฉรีบยกเขายึดเมืองโจโฉรับหนังสือของเตียนซีแลวยิ่งตายใจจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารปองกัน กองหนึ่งอยูทางดานซายของประตูเมือง ใหโจหองคุมทหารปองกันอีกกองหนึ่งอยูทางดานขวาของประตูเมือง สวนโจโฉพรอมแฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น และเตียนอุยคุมทหารเปนกองกลาง เตรียมยกเขาไปในเมือง คืนนั้น เปนคืนเดือนมืด โจโฉคุมทหารซุมรอสัญญาณอยูจน ถึงใกลเที่ยงคืนก็ไดยินเสียงพลุสัญญาณ และประตูเมือง ดานตะวันตกเปดออก โจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนกําลังเขาประตูเมืองดานตะวันตก ลิเตียนฟงคําสั่งแลวทวงโจโฉวา ตัวทานเปนแมทัพ การครั้งนี้ยังไมแนชัดวาเปนกลอุบายหรือไม จึงไมควรที่ทานจะนําทหารบุกเขา ไปดวย ตนเอง ขาพเจาจะขออาสานําทหารเขาไปดูลาดเลากอนหากเห็น เปนการสุจริตแลวทานจึงคอยยกตามเขาไป โจโฉจึงวาตัวเรานั้นเปนผูนําทัพ หากเรามินําหนาทหารเขาไปก็จะทําใหทหารเห็นวาเราขี้ขลาด และจะไม พรอมใจกันทําการ การครั้งนี้คงไมมีกลอุบาย หากเปนการกระทําโดยสุจริตของชาวเมือง วาแลวก็รีบขับมานํา ทหารเขาประตูเมืองไป โจโฉนําทหารจากประตูเมืองดานตะวันตกตรงเขาไปจนถึงศาลาวาราชการที่กลาง เมืองแตไมเห็นผูคนเดินไปมา ทุกอยางเงียบสงัดโจโฉ จึงพรั่นใจวาตองกลอุบายของตันกงแลว จึงรีบสั่งทหาร ใหรีบถอยกลับออกจากเมือง สิ้นเสียงสั่งของโจโฉพลุสัญญาณ มาลอ กลองศึก และเสียงโห รองของทหารลิ โปก็ดังกองกระหึ่มขึ้น แสงเพลิงโชติชวงขึ้นทางดานประตูเมืองทั้งสี่ทิศ และบานเรือนราษฎรหลายแหงก็เกิด เพลิงลุกไหม ในทันใดนั้นโจปาทหารเอกของลิโปไดคุมทหารยกออกมาแตดานตะวันออกสกัดหนาโจโฉไว ในขณะที่เตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปคน หนึ่งคุมทหารออกมาสกัดดานหลังของโจโฉทางดานตะวันตกโจโฉ เห็นเชนนั้นก็ตกใจรีบชักมาพาทหารจะหนีออกทางประตูดานทิศเหนือ ปะทะเขากับหลันเปงและโจเสงคุม ทหารสกัดไว โจโฉจึงชักมานําทหารเลี้ยวกลับตรงไปยังประตูเมืองดานทิศใต พบโกสุน โฮเสง คุมทหารมา สกัดไวอีก สภาพของโจโฉจึงตกอยูในทามกลางของทหารลิโปทั้งสี่ทิศ จึงมีความตกใจเปนอันมาก เสียงโหรองของ ทหารลิโป ควันไฟและแสง เพลิงทําใหทหารที่มาดวยโจโฉแตกตื่นพากันวิ่งหนี แตเตียนอุยทหารองครักษ ของโจโฉนั้นคุมสติมั่นนําโจโฉตีฝาทหารของโกสุนและโฮเสง ไปทางดานประตูเมืองทิศใต และฝาออกนอก ประตูเมืองไปได ครั้นเตียนอุยพนออกไปจากประตูเมืองแลวเหลียวกลับมาไมเห็น โจโฉก็ตกใจ จึงรบฝาเขาไป ในประตูเมืองดานทิศใตอีกครั้งหนึ่งพบเขากับลิเตียน ตางคนตางถามหาโจโฉ ดังนั้นเตียนอุยจึงบอกใหลิเตียน รีบออกนอกประตูเมืองไปนําทหารเขามาชวย สวนเตียนอุยนั้นจะตีฝาเขาไปในเมืองอีกครั้งหนึ่ง เตียนอุยตีฝา เขาไปในเมืองแลวเที่ยวตระเวนหาโจโฉก็ไมพบ ครั้นฝาออกไปถึงคูเมืองดานทิศเหนือจึงพบเขากับงักจิ้น ตาง คนตางถามหาโจโฉ แตไมทราบความจึงจะพากันกลับเขามาในเมืองอีกครั้งหนึ่ง ครั้นมาถึงประตูเมืองทหารลิ โปซึ่งอยูบนเชิงเทินไดเอาเพลิงพะเนียงจุดชนวนโยนลงมา งักจิ้นตกใจชักมาถอยกลับจึงเขาเมืองไปไมได คง มีแตเตียนอุยขับมาฝาไฟพะเนียงไปตามหาโจโฉในเมืองอีกครั้งหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ขางโจโฉเมื่อพลัดกับเตียนอุยแลวไดขับมาฝาเพลิงไปทางประตูดานทิศเหนือเพียงผูเดียว พลันไดยินเสียงลิ โปขับมาไลตามหลังมา เอาทวนเคาะหมวกโจโฉแลวถามวาเห็นโจโฉหรือไม โจโฉรูวาคําถามเชนนี้แสดงวาลิ โปจําตัวเองไมได จึงตั้งสติมั่นเอามือซายจับบังเหียนมา ยกมือขวาชี้ไปขางหนาบังใบหนาตัวเองไว แลววาโจ
28.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 28 โฉไปทางขางหนานี้ ลิโปไมทันสังเกตเขาใจวาโจโฉเปนทหารของตัวเองก็เชื่อคําแลวขับมาผานหนาโจโฉไป โจโฉจึงรีบชักมากลับไปทางดานประตูตะวันออก จึงพบเขากับเตียนอุย ดังนั้นเตียนอุยจึงนําหนามาโจโฉตีฝา ทหารของ ลิโปออกไปถึงประตูเมือง เห็นเพลิงลุกไหมประตูเมืองอยู เตียนอุยก็ เอาทวนเขี่ยเพลิงใหแยก ออกเปนทางแลวขับมานําหนาโจโฉออกประตูเมืองไป โจโฉจึงขับมาตามเตียนอุยออกไป พอถึงประตูเมืองคานประตูที่ไหมไฟอยูไดหลนลงมาทับเอามาของโจโฉลม ลงในกองเพลิงถึงแกความตาย "แตโจโฉนั้นดิ้นออกจากกองเพลิงได แตเสื้อแลผมกับหนวดนั้นไหม โจโฉฉีก เสื้อทิ้งเสีย แลวเอามือซายขวาลูบดับเพลิงซึ่งไหมหนวดแลผมนั้นดับแลว ก็ออกมาจากประตูเมืองได" เตียน อุยเหลียวหลังมาเห็นโจโฉอยูในสภาพเชนนั้นก็ตกใจรีบกระโจนลงจากหลังมา พอดีแฮหัวเอี๋ยนมาทันก็รีบ ชวยกันประคองโจโฉ ใหนั่งมาของแฮหัวเอี๋ยน ในขณะนั้นทหารลิโปไดยกไลตามตีมาเปนจํานวนมาก เตียนอุย กับแฮหัวเอี๋ยนไดรบปองกันโจโฉจนกระทั่งกลับเขาคายได ครั้นรุงเชาขึ้นโจโฉจึงใหสํารวจทหาร ปรากฏวาทหารของโจโฉได ลมหายตายจากไปในการรบครั้งนี้เปน จํานวนมาก แตทหารอีกสองกองที่ตั้งระวังอยูนอกประตูเมืองสวนใหญยังอยูครบ บรรดานายทหารและที่ ปรึกษาไดพากันเขามาเยี่ยมโจโฉ ซึ่งบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกถึงในคาย โจโฉเห็นบรรดาแมทัพนายกองเขา มาเยี่ยมก็หัวเราะขึ้นวา ครั้งนี้เราเสียรูตันกง เสียทหารไปเปนจํานวนมาก หากไมตายก็ตอง แกแคนลิโปใหจง ได ฝายหนึ่งคิดแผนการอยางละเอียดถี่ถวน หวังเอาโจโฉถึงตายใน ครั้งนี้แตโจโฉกลับหนีรอดออกมาได นี่แสดง วาความคิดของคนไมอาจ ฝาฝนลิขิตของฟาได อีกฝายหนึ่งแทนที่จะโศกเศราเสียใจกลับหัวเราะ นั่นยอมเปน การหัวเราะเยาะตัวเองที่หลงกลขาศึกอยางหนึ่ง และหัวเราะเยาะลิโปที่สวรรคยังเขาขางตนจึงรอดตายมาได อีกอยางหนึ่ง สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนยิงนกสามตัวดวยกระสุนนัดเดียว (ตอนที่ 63) โจโฉเสียทีลิโปถึงสามครั้งสามคราจนแทบเอาตัวไมรอด แตโจโฉก็ยังคงหัวเราะเยาะโชควาสนาของตัวที่ตอง กลขาศึกถึงเพียงนี้แลว ชะตายังแข็งกลาสามารถเอาตัวรอดไดทุกครั้ง นี่คือความเปน ผูมีเลือดนักสูที่ไมยอม ทอถอยตออุปสรรคและความยากลําบากใดๆ และนี่คือลักษณะผูนําที่ยอดเยี่ยม ประการหนึ่งของโจโฉอันยาก ที่จะหาผูใดมาเทียมเทียบเปรียบไดกุยแกไดเสนอตอโจโฉวา บัดนี้ทานเพิ่งเสียทีขาศึกมา ขาศึกยอมคาดคิด วาทานตองใชเวลาอีกยาวนานจึงจะสามารถทําการแกแคน ดังนั้นในสถานการณที่ขาศึกสําคัญความดั่งนี้ ทาน ควรรีบคิดอานทํา การซึ่งจะมีผลทําใหทหารไมเสียขวัญกําลังใจอีกดวย โจโฉเห็นชอบกับความคิดของกุยแกจึงวา เราบาดเจ็บจากถูกไฟคลอกครั้งนี้เปนที่รูกันในฝายทหารของลิโป ดังนั้นเราจะคิดอาน เอาความเจ็บปวยนี้วางกลจับตัวลิโปใหจงได แลวโจโฉจึงเสนอแผนการใหคณะที่ปรึกษา พิจารณาวา เราจะปลอยขาวไปถึงทหารลิโปวาเราถูกไฟคลอกปวยหนัก กลับมาถึงคาย แลวค่ําลงก็สิ้นใจ ให ทหารนุงขาวหมขาวไวทุกขรองไห ขาวนี้เมื่อรูไป ถึงลิโปคงจะยกมาปลนคายเรา และยอมยกมาทางดานหลัง ของคาย เราผานเขามาเลง ซึ่งมีทางเดินในซอกเขาเปนที่จํากัด เราจะแตงทหารไปซุมไวในซอกเขา ครั้นกอง หนาลิโปผานไปแลวจึงคอยโจมตีที่ทัพหลวง คงจะจับลิโปไดโดยงาย คณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดวยกับแผนการนี้ แลวพากันสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอันมาก โจโฉครั้นเห็นวาแผนการดังกลาวเปนที่เห็นชอบพรอมกันทุกฝายแลวจึงสั่งใหดําเนินการตามแผนการนี้ทุก ประการ แผนการครั้งนี้มิใชแผนการใหมอะไรเลย ตันกงเคยเสนอแผนการอยางเดียวกันนี้ใหกับลิโปเมื่อครั้ง ที่โจโฉจะเดินทัพผานเขาไทสันไปตีเมืองปกเอี้ยง แตลิโปไมยอมรับแผนดังกลาว ครั้งนี้โจโฉวางอุบายเปน แผนการเดียวกัน แตสรางสถานการณปลอยขาววาถูกไฟคลอกตาย ครั้นขาวนี้รูไปถึงทหารลิโปจึงเขาไป รายงานใหลิโปทราบครั้นลิโปไดทราบขาวนี้แลวสมกับขาวคราวที่โจโฉถูกไฟคลอกก็เชื่อวาเปนเรื่องจริง จึง ตัดสินใจตามลําพังความคิดตัวเองโดยไมสนใจ ที่จะปรึกษากับตันกงอีกตอไป เพราะฮึกเหิมในชัยชนะที่ไดมา อยางตอเนื่องถึงสามครั้ง สั่งทหารใหเตรียมการยกไปปลนคายโจโฉครั้นค่ําลง ลิโปก็ยกทหารไปตามซอกเขา มาเลง เพื่อจะลอบไปปลนคายโจโฉ พอกองหนาของลิโปผานจุดซุมไปใกลจะถึงปากทาง ทัพหลวงของลิโปก็ เคลื่อนมาถึงจุดซุมพอดี โจโฉจึงใหจุดพลุสัญญาณและใหทหารโหรองดังสนั่นทั้งหุบเขา กองซุมของโจโฉจึง เอาเกาทัณฑยิงทหารของลิโปตายเปนอันมาก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
29.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 29 พอทหารลิโปแตกตื่นคุมกันไมติด ทหารของโจโฉก็ยกออกมา ลอมลิโปกับทหารไว ทั้งสองฝายตะลุมบอนกัน อยางดุเดือด ลิโปเห็นตองกลขาศึกและทหารแตกตื่นลมตายลงเปนอันมากก็รีบตีฝายอน กลับมาทางดานหลัง รีบพาทหารที่เหลือถอยกลับเขาเมืองปกเอี้ยง โจโฉไดชัยชนะแกลิโปแลวก็พาทหารกลับเขาคาย แตตั้งทัพอยู ไดไมกี่วันก็ขาดเสบียงลงเนื่องจากเกิดโรคแมลงระบาดหนักทั้งภาคตะวันออก ผลิตผลทางการเกษตรทั้งไรนา ราษฎรเสียหายจนหมดสิ้น ดังนั้นโจโฉจึงจําเปนตองสั่งใหกองทัพถอนไปตั้งอยูที่เมืองเอียนเสีย ฝายลิโป เห็นโจโฉถอนทัพไปก็จัดทหารออกไปรักษาดานตางๆ นอกเมืองปกเอี้ยงเพื่อระแวดระวังเหตุการณจนทั่วถวน ทุกดาน ขางเมืองชีจิ๋วนั้น โตเกี๋ยมถูกโรคหลายโรครุมเราจึงลมปวยลง มีอาการหนัก จึงสั่งใหหาเลาปเพื่อจะมอบเมือง ชีจิ๋วให แตเลาปไมยอมรับ ขุนนางเมืองชีจิ๋ว กวนอู เตียวหุย ชวยกันออนวอน แตเลาป ก็ยืนกรานไมยอมรับ เกี่ยงใหโตเกี๋ยมยกเมืองใหแกบุตรคนใดคนหนึ่ง โตเกี๋ยมรูจักบุตรของตัวเองดีวาไรสติปญญา จึงสั่งกําชับวา หาก มีอันเปนไปหามยกเมืองชีจิ๋วใหแกบุตรโดยเด็ดขาด และใหเลาปรับเปนเจาเมืองจงไดทั้งนี้ไดทําเปน หนังสือขึนกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อเสนอแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วไวพรอมแลว และสั่งเสียวา เมื่อเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวใหบิตก และซุนเขียนชวยเปนที่ปรึกษาของเลาปในการบริหารบานเมืองตอไป โตเกี๋ยมสั่งเสียไมสิ้นความ ลมก็ปะทะขึ้นมาแนนในอก พูดจาตอไปอีกไมไดแตยังคงมีสติอยูจึงเอามือชี้เขาที่ อกตัว เปนนัยวาขอใหเลาปเห็นใจคนกําลังใกลตายที่หวงใยราษฎรรับเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตามความประสงค แลวมือโตเกี๋ยมก็พลัดลงเปนอันสิ้นใจ ณ อายุได 63 ป บรรดาขุนนางและทหารเมืองชีจิ๋วจึงพรอมกันเอาตราสําหรับเมืองมามอบแกเลาป บรรดาชาวเมืองรูขาววาโต เกี๋ยมตายแลวก็พากันมารองไหที่จวนเจาเมืองและออนวอนขอใหเลาปรับเปนเจาเมืองแทนโตเกี๋ยม กวนอู เตียวหุย เห็นเชนนั้นก็มีใจสงสารชาวเมืองจึงชวยพูดออนวอนเลาปอีกครั้งหนึ่ง เลาปเห็นคนทั้งปวงมีน้ําใจนับ ถือตัวโดยสุจริตก็มีใจสงสารจึงรับเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวตั้งบิตกและซุนเขียนเปนที่ปรึกษาตามคําสั่งเสีย และให กวนอู เตียวหุย ไปรับทหารจากเมืองเสียวพายเขามาอยูเมืองชีจิ๋ว เลาปสั่งใหจัดพิธีศพของโตเกี๋ยมอยาง สมเกียรติตามธรรมเนียม แลวเชิญศพไปฝงไวที่ริมแมน้ําฮวงโห ครั้นเสร็จจากพิธีศพแลวจึงได สงหนังสือ กราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเตซึ่งโตเกี๋ยมไดทําเตรียมไวเขาไปยังเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตร หนังสือของ โตเกี๋ยมแลวมิไดตรัสประการใด ฝายโจโฉเมื่อทราบวาโตเกี๋ยมตายแลวและเลาปไดเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็โกรธ เพราะความแคนเรื่องสังหารบิดา และครอบครัวยังไมไดชําระสะสาง แตโตเกี๋ยมกลับมาชิงตายเสียกอน สวนเลาปนั้นมิไดเสีย ทหารสักคนหนึ่ง ไมไดเสียเกาทัณฑแตสักดอกหนึ่งกลับไดเมืองชีจิ๋วไปครอง โจโฉยิ่งคิดก็ยิ่งแคนจึงใหเรียกคณะที่ปรึกษามา ประชุมหารือวา จะยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว ขุดศพโตเกี๋ยมเอามาสับเปนชิ้น ๆ และจับเลาปประหารเสีย แตซุน ฮกที่ปรึกษาไดหามวา ขณะนี้เกิดทุพภิกขภัย ขาวยากหมากแพง เสบียงอาหารก็ขาดแคลน ทั้งกองทัพก็เพิ่ง เสร็จศึกกับลิโปจําเปนตองพักฟนสักระยะหนึ่ง ซุนฮกไดแสดงเหตุผลวาเมืองชีจิ๋วบัดนี้ชาวเมืองรักเลาปเปนอัน มาก หากทานจะยกกองทัพไปก็คงจะพรอมใจกันรักษาเมืองไวเปน สามารถเมืองชีจิ๋วมีผูคนมาก ทหารก็พรอม กําแพงเมืองก็สูงใหญ ขาวปลาอาหารก็ยังบริบูรณ คงจะยึดเมืองชีจิ๋วไมไดโดยงาย และหากทานยกไปเมืองชี จิ๋ว ลิโปรูขาวเขาก็คงจะยกกองทัพมายึดเอาเมืองเอียน เสียและหัวเมืองอื่นๆ ในภาคตะวันออก "ทานยกไปขาง โนนก็จะไมสมความคิด จะกลับมาขางนี้ก็จะเสีย ทีทหารก็จะนอยลง กวาจะหาที่ตั้งตัวขึ้นไดก็ชานานไป ซึ่ง ทานจะทิ้งที่กวางไปหาที่แคบนั้นขอทานดําริดูแตควร" โจโฉฟงคําซุนฮกแลว บริบูรณดวยเหตุผลจึงเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก แตวิตกวาจะตั้งทัพอยูเฉยๆ เชนนี้เสบียงอาหารก็ยิ่งลดนอยถอยลง กองทัพก็จะลําบาก จึงหารือวาจะแกไขปญหานี้ประการใด ซุนฮกจึงวา ขณะนี้โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮีกับอุยเซียง ไดตั้งฐานที่มั่นขึ้นในเขตเมืองเองจิ๋ว เที่ยวแยงชิงเสบียง อาหารจากราษฎร ไวเปนอันมาก ถาหากทานยกไปปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวจะไดผลดีถึงสาม สถานคือ เปนการสรางความชอบไวกับแผนดินทางเมืองหลวงรับทราบแลวคงจะบําเหน็จความชอบแกทาน สถานหนึ่ง ในขณะนี้กองทัพของเราก็ขาดแคลนเสบียง หากปราบปรามโจรโพกผาเหลืองกลุมนี้แลวก็จะยึด เสบียงอาหารจากโจรโพกผาเหลืองไดเปนจํานวนมาก ไดขาวขาศึกมาหนึ่งถังดีกวากินขาวตัวเองถึงสิบถัง ทํา ใหปญหาเสบียงอาหารของกองทัพหมดสิ้นไปสถานหนึ่ง และการปราบโจรโพกผาเหลืองครั้งนี้ทานจะไดรับ ความเคารพรักจากราษฎร และจะไดกําลังพลกองทัพเพิ่มขึ้นอีกสถานหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉฟงคําของซุนฮกแลวเห็นเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม ยิงกระสุนนัดเดียวไดนกถึงสามตัว จึงยกยองความคิด ของซุนฮกเปนอันมาก แลวสั่งใหเรียกโจหยินกลับมารักษาเมืองรวมกับแฮหัวตุน สวนตัวโจโฉจัดทหารยกไป เมืองเองจิ๋ว เพื่อปราบปรามโจรโพกผาเหลืองตามแผนการของซุนฮก โจรโพกผาเหลืองกลุมของโฮฮี และอุย
30.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 30 เซียงนั้น ถึงอยางไรก็เปน เพียงกองกําลังอาวุธของชาวบาน ขาดประสบการณในการศึก โดยเฉพาะการรบ แบบแผน ดังนั้นเมื่อประจันหนากับกองทัพของโจโฉไม ทันไร อุยเซียงก็ถูกลิเตียนทหารเอกของโจโฉจับได โจรโพกผาเหลือง จึงแตกพายไป กองทัพโจโฉไดยึดเอาเสบียง อาวุธยุทโธปกรณไวเปน จํานวนมาก สวน โฮฮีแกนนําของโจรโพกผาเหลืองอีกคนหนึ่งคุมพรรคพวก ไดสองรอยเศษจึงพากันหนีทหารของโจโฉไปถึง เนินเขาลูกหนึ่งก็ปะทะกับกองโจรอีกกองหนึ่ง ซึ่งมีเคาทูเปนหัวหนา ตอสูกันไมกี่เพลง โฮฮีก็ถูกเคาทูจับตัวได พรอมกับทหารโจรโพกผาเหลืองทั้งหมด แลว เคาทูสั่งใหพรรคพวกควบคุมไปขังไวในถ้ํา โจโฉเห็นโฮฮีหนีไป ไดจึงสั่งใหเตียนอุยไลติดตามเพื่อปราบปราม ใหสิ้นซาก เตียนอุยประจันหนากับเคาทูจึงเรียกรองใหสงมอบ พวกโจรมาให แตเคาทูไมยอม ทั้งสองฝายจึงตอสูกันเปนสามารถตั้งแตเชา ถึงเที่ยงก็ไมแพชนะกัน พักเที่ยง แลวเริ่มตอสูกันใหมจนถึงค่ํา มาที่ทั้งสองฝายขี่ก็หมดกําลังลง ทั้งสองฝายจึงตกลงพักรบและนัดมาตอสูใหม ในวันรุงขึ้น เตียนอุยกลับมาถึงคายจึงรายงานใหโจโฉทราบ โจโฉฟงรายงาน แลวแปลกใจในฝมือของโจรปาที่สามารถ ตอสูกับเตียนอุยไดทั้งวันโดย ไมเพลี่ยงพล้ํา น้ําใจรักคนมีฝมือพลุงขึ้นในความคิดของโจโฉไมอาจทนรอจน ลวงพนราตรีได จึงพาเตียนอุยและทหารสองรอยไปที่หนาถ้ําของเคาทูตั้งแตคืนนั้น ครั้นรุงขึ้นโจโฉจึงใหตี กลองศึกเปนสัญญาณใหเตียนอุยรบกับเคาทูตามที่นัดหมาย เคาทูก็ออกมาประจันหนากับเตียนอุย โจโฉเห็น เคาทู "รูปรางเคาทูใหญโต สูงประมาณหกศอก" จึงมีใจใครจะไดตัวเคาทูมารับราชการดวย โจโฉยืนมาดูเตียน อุยรบกับเคาทูตั้งแตเชาจนพักเที่ยง แลวเริ่มการตอสูในภาคบายจนถึงค่ําอยางสนุกสนาน และมีความพออก พอใจ ในฝมือสองทหารเสือที่ตอสูกันเปนยิ่งนัก ครั้นพักรบหลังเวลาค่ําแลวเคาทูก็กลับเขาถ้ํา เตียนอุยก็ กลับมาที่คาย โจโฉจึงวางแผนจับตัวเคาทู และสั่งใหขุดหลุมหางจากบริเวณลานรบหาเสน เปนหลุมกวางยาว ดานละสองวา ลึกสองวา เอาบวงซอนไวที่ปากหลุมแลวเอาหญาเกลี่ยปดปากหลุมไวจนดูเสมือนหนึ่ง เปนเนื้อ เดียวกัน แลวสั่งเตียนอุยวาพรุงนี้เมื่อออกรบดวยเคาทูใหทําเปนหนีแลวหลอกลอใหเคาทูมาตกหลุมซึ่งขุดไว นั้น วันรุงขึ้นเตียนอุยจึงไปทารบกับเคาทู แลวทําเปนหนีไปขางหลุม ที่ขุดไว เคาทูไมรูกลก็ไลตามไปและตกลงไป ในหลุมถูกบวงรัดไว ทหารโจโฉจึงจับเอาตัวเคาทูมัดเขาไปใหโจโฉ โจโฉเปนคนรักคนมีฝมือ มีความพอใจ อยางสูงในฝมือและบุคลิกสมทหารเอกของเคาทูตั้งแตครั้งแรก ครั้นรูวาแผนการจับตัวเคาทูบรรลุผลแลว โจ โฉจึงเริ่มผูกน้ําใจเคาทูทันทีดวยการแกลงทําเปนตกใจแลว เขาไปแกมัดเคาทูดวยตนเอง และสั่งทหารใหนํา เสื้อผาอยางดีมาให เคาทูเปลี่ยน เสร็จแลวจึงจูงมือเคาทูมานั่งใกลๆ ถามสารทุกขสุขดิบราว กับเปนญาติสนิท ครั้นเคาทูบอกกลาวประวัติสวนตัวและความเปนมาแลว โจโฉ จึงวาเคยไดยินกิตติศัพทเคาทูมานานแลว บัดนี้ มาพบตัวนับเปนวาสนาของเราทั้งสองที่ไดสรางสมมาแตปางกอน เมื่อบุญบันดาลดั่งนี้แลวจึงขอเชิญทานให มาทําราชการดวยเราเถิด เคาทูเผชิญกับไมนี้ของโจโฉเขาก็ตกลงใจรับราชการดวยโจโฉ ลุกขึ้นคํานับคารวะขอบคุณแลววา ขาพเจา เปนแตชาวปา ทานใหความกรุณาครั้งนี้เปนพระคุณหาที่สุดมิได ขาพเจาตกลงใจที่จะทําราชการสนอง คุณทานสืบไป โจโฉมีความยินดีเปนอันมากจึงใหเคาทูเปนทหารเอก และมอบเงินทองเปนรางวัลบําเหน็จ รับขวัญเปนอันมาก เคาทูจึงใหพรรคพวกไปเอาพวกโจรที่จับไวมามอบแกโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหประหารโฮฮีและ อุยเซียงและตัดศีรษะเสียบประจานไว ไมใหใครเอาเปนเยี่ยงอยาง แลวยกกองทัพกลับเมืองเอียนเสีย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม โจโฉครองอํานาจภาคตะวันออก (ตอนที่ 64) ครั้นถอนทัพกลับเมืองเอียนเสียแลว โจโฉไดรับรายงานวาเมือง กุนจิ๋ว ซึ่งลิโปสั่งใหสองทหารเอกคุมทหาร หมื่นหนึ่งไปรักษาอยูนั้นขาดแคลนเสบียงอาหาร ทหารอดอยากถึงกับตองปลนสะดมภชาวเมืองแยงชิงเอา อาหาร จึงเห็นเปนโอกาสที่จะชิงเอาเมืองกุนจิ๋วคืนตามความคิดเดิม ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหเตรียมกองทัพยกไป เมืองกุนจิ๋ว ฝายลิฮองและซิหลันสองทหารเอกของลิโป ซึ่งรักษาเมืองกุนจิ๋วนั้น ครั้นทราบวาโจโฉยกกองทัพ มาจึงยกทหารออกไปรบดวยโจโฉ ปะทะกับเคาทูไดสามเพลง เคาทูเอาทวนแทงลิฮองตกมาตาย ซิหลัน เห็น เชนนั้นก็ตกใจรีบพาทหารหนีจะกลับเขาเมือง โจโฉคาดการณไวกอนแลววาทหารลิโปจะตองแตกหนีกลับเขา เมือง จึงสั่งใหลิเตียนคุมทหารไปเตรียมสกัดไวที่หนาคูเมือง ครั้นซิหลันพาทหารหนีมาจึงเขาเมืองไมได ซิห ลันจึงชักมาหนีกลับไปอีกทางหนึ่ง ลิยอยทหารโจโฉจึงเอาเกาทัณฑยิงถูกซิหลันตกมาตาย ทหารที่เหลือก็ แตกหนีไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
31.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 31 โจโฉเห็นไดทีจึงสั่งทหารหักเขาตีเมืองกุนจิ๋ว ทหารในเมืองเหลือ อยูเพียงไมกี่คนรับมือทหารของโจโฉไมได จึงยอมแพ เปนความพาย แพของลิโป ครั้งสําคัญสมดังที่ตันกงไดคาดการณไวลวงหนาแลววา ทหารเอกสอง คนนี้ไรสติปญญาไมสามารถรับมือโจโฉไดและจะตอง เสียเมืองกุนจิ๋วแกโจโฉ การที่โจโฉยึดเมืองกุนจิ๋ว กลับคืนมาไดครั้งนี้สงผลใหโจโฉไดยึด กุมจุดยุทธศาสตรของภาคตะวันออกไวในมือ ดังนั้นเปาหมายตอไป คือ การกวาดลางลิโปทําใหภาคตะวันออกอยูภายใตการยึดครองโดย สมบูรณ โจโฉจัดแจงการปกครองเมืองกุนจิ๋วใหเขาที่เขารอยดังเดิมแลว จึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตีเมืองปก เอี้ยง โดยตั้งความหวังวา การยกไปครั้งนี้จะตองบรรลุผลสถานเดียวเทานั้น ดังนั้นการจัดเตรียมทัพไปตีเมือง ปกเอี้ยงจึงใหจัดกระบวนทัพอยางทัพกษัตริย โจโฉสั่งการใหเคาทูและเตียนอุยคุมทหารเปนกองหนา ใหแฮ หัวตุนและแฮหัวเอี๋ยนเปนปกขวา ใหลิเตียนกับงักจิ้นเปนปกซาย โจโฉเปนกองทัพหลวง และใหอิกิ๋มและลิ ยองเปนกองหลัง เคลื่อนขบวนทัพยกไปเมืองปกเอี้ยง นับเปนการเคลื่อนทัพครั้งใหญในลักษณะเปนขบวน พยุหะ ตามลักษณะทัพกษัตริยเปนครั้งแรกของโจโฉ ฝายลิโปทราบขาวศึกก็สั่งใหเตรียมทหารจะยกออกไปรบกับโจโฉที่นอกเมือง ตันกงทราบขาวจึงเขาไป ทักทวงวา กองทัพของลิโป ยังไมพรอมรบ เพราะบรรดาทหารเอกที่สั่งใหไปลําเลียงเสบียง ณ เมืองอื่นยัง กลับมาไมถึง ทั้งกองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้มีลักษณะเปนทัพกษัตริย หากยกออกไปรบนอกเมืองก็จะเสียทีแก ขาศึก สมควรที่ลิโปจะตั้งรับอยูในเมือง รอจนกวาบรรดาทหารเอกที่ไปลําเลียงเสบียงกลับมากอนอยางหนึ่ง และรอจนกองทัพโจโฉขาดเสบียงแลว จึงคอยโจมตีในภายหลังก็จะไดชัยชนะ แตคนหัวรั้นแบบลิโปนั้นไมรู การควรไมควร ไมประมาณในการศึก คิดแตจะรบทาเดียวดวยมั่นใจในฝไมลายมือของตนเอง ไมคํานึงวาคน นอยหรือจะสูคนมากได และไมคํานึงถึงผลแพชนะวาจะเกิดผลประการใด คําทักทวงของตันกงซึ่งเปรียบ ประดุจดั่งยันตอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปองกันเมืองปกเอี้ยงจึงไรผล ลิโปไมฟงคําตันกงสั่งใหยก ทหารออกไปนอกเมือง เพื่อจะรบดวยโจโฉ ลิโปยกออกไปแลวปะทะกับเคาทูกองทัพหนาของโจโฉ ลิโปและเคาทูตอสูกันไดยี่สิบเพลงยังไมแพชนะกัน โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งใหเตียนอุยและทหารเอกทั้งปกซาย ปกขวาเขารุมลอมลิโป อันโจโฉนั้นทําศึกหวังชัย ชนะเปนสําคัญ หาไดคิดวาการใชคนมากรุมคนนอยจะเปนการเอาเปรียบหรือทําใหการตอสูไมเปนไปโดย ยุติธรรม เพราะโจโฉตระหนักดีวา "ไมมีธรรมะในสงคราม" วิธีการใดก็ตามที่จะเอาชนะขาศึกได วิธีการนั้นยอม นํามาใชไดทั้งสิ้น ลิโปตกอยูในวงลอมของทหารเอกโจโฉถึงหกคน สูไมไดจึงขับมาหนีจะเขาเมือง แตการ ขางในเมืองนั้นไมเขาขางลิโปเสียแลว เพราะในระหวางที่ลิโปครองเมืองปกเอี้ยงอยูนั้นไดกดขี่ขมเหง รังแก ขุนนางและราษฎร เตียนซีและชาวเมืองไมพอใจลิโป ครั้นรูขาว ลิโปยกออกไปรบกับโจโฉจึงชวยกันปดประตู เมืองเสียแลวชักชวนทหารที่รักษาเมืองใหเขาดวยโจโฉ ลิโปขับมาพาทหารมาถึงประตูเมือง เห็นประตูเมืองปดก็เรียกใหเปดประตู แตเตียนซีไดรองบอกไปวาบัดนี้ เมืองปกเอี้ยงไมตอนรับคน แบบลิโปตอไปแลว ลิโปเห็นเชนนั้นจึงรองดาวาเตียนซีวาเปนคนทรยศ พอดีทหาร ของโจโฉไลตามมาลิโปจึงพาทหารหนีกลับไปหาเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ตันกงเห็นเหตุการณดั่งนั้นจึงลอบ พาครอบครัวของลิโปหนีออก จากเมืองตามลิโปไป โจโฉจึงยกทหารเขาเมืองปกเอี้ยง ซึ่งเตียนซีและบรรดา ขุนนาง ไดใหการตอนรับเปนอยางดี โจโฉเห็นเหตุการณเชนนั้นจึงเรียกเตียนซีเขามาพบแลววา เมื่อครั้งกอน ทานมีหนังสือไปลวงเรา ทําให เราตองกลของลิโปเกือบเอาชีวิตไมรอด เปนความผิดฉกรรจ โทษ ถึงประหาร แตมาครั้งนี้ทานทําคุณไวกับบานเมือง มีความชอบเปน อันมาก ดังนั้นจึงตัดสินใหโทษทัณฑกับความชอบลบ ลางกันไป นี่คือลักษณะความเปนนักปกครองของโจโฉที่แมจะมีความขุน แคนเตียนซี ซึ่งสมคบกับลิโปวางกลอุบายจน ตัวเองแทบถึงแกชีวิต แตเมื่อเตียนซีมีความชอบก็จําแนกชัดเจนใหเอาความชอบและความ ผิดมาหักลบกลบ ลางกัน เมื่อประกอบเขากับการที่เตียนซีเปนที่นับถือของชาวเมืองแลว การปฏิบัติตอเตียนซีเชนนี้จึงเทากับ เปนการผูกน้ําใจชาวเมือง ทําใหการจัดระเบียบบริหารและการปกครองเมือง ปกเอี้ยงเปนไปโดยเรียบรอย ราบรื่นอยางรวดเร็ว นักปกครองแบบโจโฉจึงหาไดยาก แมวาการเมืองการปกครอง ในระยะหลังจะพัฒนา กาวหนาไป แตจิตใจของนักการเมืองและนักปกครองในยุคหลังนั้นกลับเลวทรามต่ําชา ไมคิดถึงความสงบ สันติของบานเมือง คิดถึงแตอํานาจและตัวเอง จึงเอาแตหลอกลวงปลิ้นปลอนราษฎรเพื่อใหไดอยูในอํานาจไป วันหนึ่งๆ เทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉยึดไดเมืองปกเอี้ยงแลว เสี้ยนหนามในภาคตะวันออกจึงคงเหลือแตเมืองตันลิวเมืองเดียวเทานั้น ครั้น ทราบวาลิโปหนีไปอยูกับเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โอกาสจึงเปดชองใหแกโจโฉที่จะยกขึ้น กลาวอางเอา ความชอบธรรมในการกําจัดลิโปศัตรูสําคัญ และยึดเมืองตันลิวตอไป เลาหัวที่ปรึกษาจึงเสนอตอโจโฉวา ซึ่งลิ
32.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 32 โปหนีไปอยูเมืองตันลิวครั้งนี้หากละไวนานลิโปก็จะตั้งหลักปกฐานเติบกลาขึ้นมาอีก จึงขอเสนอใหโจโฉยก กองทัพไปตีเมืองตันลิว กําจัดลิโปเสีย ทําใหการยึดครองภาคตะวันออกบรรลุผลอยางสมบูรณ ขอเสนอของเลาหัวตรงกับความคิดยุทธศาสตรของโจโฉอยูแลว โจโฉจึงเห็นชอบและสั่งใหเลาหัวคุมทหาร สวนหนึ่งอยูรักษาเมืองปกเอี้ยง ตัวโจโฉและแมทัพนายกองอื่นยกไปเมืองตันลิว ฝายลิโปเมื่อหนีโจโฉมาถึง เมืองตันลิวแลวก็เขาไปหาเตียวเมี่ยว ขอกลับเขาทําราชการอยูกับเมืองตันลิวดังเดิม เตียวเมี่ยวเปนคนไมรู รอนรูหนาวและไมประมาณในการศึก ทั้งๆ ที่ลิโปเคยคิดแยกตัวเปนอิสระมาแลว แตพอลิโปกลับมาก็รีบรับลิโป ไวทําราชการดังเดิม โดยไมไดคํานึงวาการรับลิโปไวครั้งนี้เปนการ "ชักน้ําเขาลึก ชักศึกเขาบาน" ครั้นเตียวเมี่ยวทราบวาโจโฉยกกองทัพมาตั้งประชิดเมืองตันลิว จึงสั่งใหตั้งรับอยูแตในเมือง ใหทหารรักษา เชิงเทิน หอรบไว โจโฉลอมเมืองตันลิวอยูเกือบครึ่งเดือนก็ขาดเสบียงลง ประกอบกับเปนฤดูกาลเก็บเกี่ยวขาว สาลี ดังนั้นโจโฉจึงสั่งใหถอนทัพถอยไปสี่รอยเสน ใหตั้งคายลงใกลปาริมแมน้ํา และใหทหารออกไปเก็บเกี่ยว ขาวสาลีของราษฎรมาเขาคลังเสบียง ราษฎรจึงแจงความไปยังเมืองตันลิว เตียวเมี่ยวเจาเมืองจึงสั่งใหลิโปยก ทหารออกไปขับไลทหารโจโฉไมใหแยงเกี่ยวขาวสาลีของราษฎร ลิโปคุมทหารออกมาไลจับและขับทหารโจ โฉซึ่งเกี่ยวขาวสาลีอยูนั้น ทหารของโจโฉสูลิโปไมไดก็พากันหนีเขาคายลิโปจึงยกทหารไลตามไปถึงบริเวณ ใกลหนาคายโจโฉ เห็นทางซายมือ เปนปารกเกรงวาโจโฉจะซุมทหารไวโจมตี จึงรีบยกทหารกลับเขาเมืองตัน ลิว โจโฉไดรับรายงานเหตุการณโดยตลอดแลว จึงวากับที่ปรึกษาวา ลิโปยกกลับไปเพราะระแวงวาฝายเราจะซุม ทหารไวในปา ดังนั้นในวันพรุงนี้ลิโปคงยกทหารมาเผาปาแลวโจมตีคายเราเปนมั่นคง เราจะวางกลอุบายจับลิ โปใหจงได โจโฉทําการศึกในระยะหลังนี้จะใชแนวทางการเมืองเปนหลักนํา และใชกลอุบายเปนมาตรการ หลักในการศึก ผิดกับโจโฉในครั้งที่รวม อยูในกองทัพปฏิวัติราวกับเปนคนละคน แลวโจโฉจึงวาเราจะใหทหาร เอาธงไปปกไวในปา หลอกลิโปใหหลงวาเราซุมทหารไวในปาขางทางนั้น และจะใหทหารรักษาคายไวแต นอยเพียงสี่หาสิบนาย นอกนั้นใหยกไปซุมอยูหลังคายดานริมแมน้ํา ครั้นลิโปเผาปาแลวคงยกลวงเขามายึด คาย ใหทหารซึ่งซุมอยูนั้นยกออกมาลอมจับคงจะไดตัวลิโปโดยงาย คณะที่ปรึกษาและบรรดาแมทัพนายกองฟงแผนการของโจโฉแลว ตางสรรเสริญความคิดอานของโจโฉเปนอัน มาก โจโฉเห็นเชนนั้นจึงสั่งการใหจัดเตรียมกําลังไวใหพรอม รุงขึ้นจะไดยกไปทําการครั้นรุงเชาลิโปจึงเสนอ เตียวเมี่ยวขอยกทหารออกไปตีคายโจโฉ ตันกงอยูในที่นั้นดวยจึงทักทวงวา ขณะนี้โจโฉขาดเสบียงไปตั้งคาย อยูริมแมน้ํา ก็เพียงเพื่อใหทหารไดเกี่ยวขาวสาลีเขาคลังเสบียง ดังนั้นถาเรายกทหารออกไปเพียงแตขับไล ทหารโจโฉไมใหเกี่ยวขาวได สําเร็จ หรือเผาขาวในนาเสีย กองทัพโจโฉก็จะขาดเสบียงลง และคงจะตองถอย ทัพกลับไป การที่จะเขาตีคายโจโฉครั้งนี้นาจะเปนอันตราย เพราะโจโฉนั้นมีความคิดและสติปญญาในการศึก มาก ไหนเลยจะไมคิดปองกันรักษาคายไวเปนอยางดี หรือมิฉะนั้นก็อาจวางกลอุบาย ไวอยางใดอยางหนึ่ง เรา ก็จะเสียทีแกโจโฉ ลิโปไมเห็นดวยกับตันกง อางวาในสถานการณที่โจโฉขาดเสบียง เชนนี้ควรที่จะตองรีบโจมตี เตียวเมี่ยวเห็นดี เห็นงามไปกับลิโป ดังนั้นจึงอนุญาตใหลิโปยกทหารไปตีคายโจโฉ ลิโปยกทหารไปถึงเขตปา ดานซายทาง ขางหนาคายโจโฉ พอเขาไปใกลเห็นธงปกอยูในปาเปนจํานวนมาก สําคัญผิดคิดวาทหารโจโฉซุมอยูในปา จึง ใหทหารเขาลอมปานั้นไวแลวเอาไฟเผาปาพรอมกันทั้งสี่ดาน ลิโปเห็นคายโจโฉเงียบอยูก็เขาใจผิดตอไปวา ทหารโจโฉยกออก จากคายมาซุมอยูในปาทั้งหมด จึงสั่งใหทหารบุกเขายึดคายโจโฉ แตขณะที่ลิโปยกทหาร ไปถึงหนาคาย โจโฉก็ใหทหารจุดพลุสัญญาณขึ้น ทหารของโจโฉก็โหรองดังสนั่นจากขางหลังคาย ทหารเอก ของโจโฉก็ยกทหารออกจากดานหลังคายเปนสองกอง เขามาสกัดหนาลิโปไวทางหนึ่ง และสกัดทางถอยไว อีกทางหนึ่ง ตีกระหนาบเขามาพรอมกัน แลวฆาฟนทหารลิโปลมตายลงเปนอันมาก ลิโปรูตัววาตองกลโจโฉก็ ตกใจ จึงรีบชักมากลับทางดานหลังตีฝาออกไป พาทหารที่รอดมาไดเพียงไมกี่คนหลบหนีจะเขาเมือง แต ทหารโจโฉยกตามไปติดๆ ในเมืองจึงไมสามารถเปดประตูเมืองรับ ลิโป กลับเขาเมืองได ลิโปจึงรีบหนีตอไป ทางดานชายทะเล ไปพบเขากับเตียวเลี้ยว จงปา โฮเสง โกสุน ซึ่งเปนทหารเอกที่ลิโปสั่งใหไปลําเลียง เสบียงเพิ่งกลับมา จึงพากันยกไปทางชายทะเลเมืองตันลิว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายตันกงอยูในเมืองตันลิวคาดการณวาลิโปยกไปครั้งนี้คงจะเสีย ทีแกโจโฉเปนแน จึงคอยเฝาติดตาม สถานการณ ครั้นทราบขาววาทหาร โจโฉลอมลิโปไวที่หนาคายจึงคาดการณวาในที่สุดลิโปคงหนีเขาเมือง ไมได และโจโฉคงยกเขามายึดเมืองตันลิวไดโดยเร็ว หากจะอยูในเมือง ตอไปจะไมปลอดภัย และทางหนีที่ ปลอดภัยก็คือทางดานชายทะเล ดังนั้นตันกงจึงพาครอบครัวของลิโปหนีออกจากเมืองไปทางดานชาย ทะเล
33.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 33 ชายแดนเมืองตันลิว และในระหวางทางไดพบกับลิโปและทหาร ที่แตกหนีมานั้น จึงพากันไปตั้งหลักอยูที่ ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิว ฝายโจโฉเมื่อไดชัยชนะแลวจึงสั่งใหเคลื่อนทัพเขาโจมตีเมืองตันลิวอยางดุเดือด ทหารของโจโฉไดยิง เกาทัณฑเพลิงเขาไปในเมืองเปนอันมาก เพลิงลุกไหมในเมืองตันลิวหลายแหง ทหารเมืองตันลิวรักษาเมือง ไวไมได จึงพากันหลบหนี โจโฉจึงยกทหารเขายึดเมืองตันลิวไดสําเร็จ แตตัวเตียวเมี่ยวนั้นหนีรอดไปไดแลว ไปอาศัยอยูกับอวนสุดที่เมืองลําหยง โจโฉยึดเมืองตันลิวไดแลวไดเกลี้ยกลอมราษฎรใหทํามาหากินตามปกติ แลวจัดระเบียบการปกครองเมืองตันลิวเสียใหม จากนั้นรับสมัครชายฉกรรจเขาเปนทหารในกองทัพเปนจํานวน มาก เปนอันวาโจโฉไดยึดหัวเมืองในภาคตะวันออกไวในอํานาจไดอยางราบคาบและสมบูรณ ทําใหกําลัง กองทัพของโจโฉเพิ่มขึ้นอีกเปน จํานวนมาก และยังไดเคาทูนักรบฝมือดีมาเปนทหารเอกอีกคนหนึ่งบัดนี้โจโฉ ไดตั้งตัวเปนใหญขึ้นแลวอยางสมบูรณในภาคตะวันออก และนับเปนขุมกําลังใหญที่สุดในบรรดากําลังของขุน ศึกทั้งปวงในแผนดินปจจุบัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนเผาบานไลหนู (ตอนที่ 65) ฝายลิโปเมื่อยกไปตั้งหลักที่ชายทะเลชายแดนเมืองตันลิวแลว ทราบขาววาโจโฉยึดเมืองตันลิวได จึงปรึกษา กับตันกงวาจะยกทหาร ไปรบกับโจโฉยึดเมืองตันลิวกลับคืน ตันกงจึงวาบัดนี้โจโฉยึดหัวเมืองภาคตะวันออกไว ในอํานาจหมดสิ้นแลว มีกําลังทหารเปนอันมาก ในขณะที่ฝายเรามีทหารอยูนอย ไมพอกับการรุกรับในสงคราม หากทานยกไปคงจะเสียทีแกโจโฉ สถานการณยามนี้จึงกําหนดใหฝายเราตองพักรบตั้งหลักปกฐานพักฟน สรางสมกําลังกอนแลวคอยคิดการสืบไป ลิโปสิ้นความฮึกเหิมจากชัยชนะสามครั้งกอนเพราะพายแพโจโฉจนตองมาติดอยูที่ชายทะเล ทิฐิมานะจึงออน ลง จึงเห็นดวยกับตันกง แลวปรึกษาวาดินแดนในภาคตะวันออกนี้คงจะอาศัยอยูนานไมได เพราะเมื่อโจโฉ ทราบขาวคงยกทหารมาที่ชายทะเลเราก็จะอันตราย และเห็นวาควรไปขออาศัยอยูกับอวนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว ตัน กงจึงวาจะดวนผลีผลามในทันทียอมไมชอบเพราะเปนการสุมเสี่ยง เนื่องจากกอนหนานี้อวนเสี้ยวโกรธและคิด จะสังหารทานเสีย ทานจึงหนีมาอยูกับเตียวเมี่ยวที่เมืองตันลิว หากคิดจะกลับไปอาศัยอวนเสี้ยวอีก อันตรายก็ อาจเกิดแกตัวทาน สมควรใหทหารไป สืบลาดเลาดูเสียชั้นหนึ่งกอน ลิโปเห็นชอบกับความคิดตันกงจึงให ทหารไปสืบลาดเลาทางดาน เมืองกิจิ๋ว ทหารกลับมารายงานวา อวนเสี้ยวทราบขาวโจโฉยกมาทําศึกกับทาน ที่เมืองปกเอี้ยงจึงใหงันเหลียงทหารเอกยกทหารหกหมื่นจะไปชวยโจโฉ บัดนี้งันเหลียงทราบวาโจโฉยึดได เมืองปกเอี้ยงแลว จึงยกทัพกลับไป ลิโปไดฟงดังนั้นก็ตกใจรีบปรึกษากับตันกงวาจะคิดอานประการใดตอไป ตันกงจึงวาบัดนี้เมื่อไมสามารถไปอาศัยอวนเสี้ยวไดแลว จึงคงเหลือเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนเมืองใหญขณะนี้โตเกี๋ยม เจาเมืองตายแลว ยกเมืองใหแกเลาป แตเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศมีน้ําใจกวาง ขวางโอบออมอารีตอคนทั้งปวง หากทานไปขออาศัยเลาปคาดวาเลาปคงเต็มใจ ไมละไมตรีตอทาน ลิโปเห็นดวยจึงพาทหารและครอบครัวไป เมืองชีจิ๋ว และใหทหาร เขาไปสงขาวแกเลาปวาจะมาขออาศัยอยูดวย เลาปทราบขาวแลวจึงปรึกษาดวยบิตกและซุนเขียนพรอมดวย ขุนนางทั้งปวงของเมืองชีจิ๋ว บรรดาขุนนางไม เห็นดวยที่จะรับลิโปไว โดยแสดงเหตุผลวาลิโปนั้นเปนคนเนรคุณจะทําอันตรายตอทาน ในภายหลังทั้งการรับ ลิโปไวจะเปนการชักศึกใหโจโฉยกกองทัพมา ตีเมืองชีจิ๋ว เลาปฟงคําที่ปรึกษาแลวแยงวาเดิมทีนั้นโจโฉยก มาตีเมืองชีจิ๋ว แตลิโปไดชวยเหลือไวดวยการยกไปตีเมืองกุนจิ๋ว ทําใหโจโฉตองถอน ทัพกลับไป เมืองชีจิ๋วจึง พนจากอันตราย เทากับลิโปไดทําคุณไวแกเมืองชีจิ๋ว มาครั้งนี้ลิโปเดือดรอนหากไมรับลิโปไวก็จะไดชื่อวาไม รูคุณ คนและเปนการไรน้ําใจไมตรีตอผูยาก บรรดาที่ปรึกษา และขุนนางเห็นเลาปยืนกรานจะรับลิโปไวเห็น จะทัดทานไมได จึงพรอมกันวาทานจะรับลิโป ไวก็ตามใจทานเถิด แตตองระมัดระวังตัวไวใหจงดี เลาปฟงคําที่ปรึกษาเชนนั้นก็ยินดี แลวพากวนอู เตียวหุย ออกไปรับลิโปที่นอกเมือง แลวเชิญลิโปมาที่จวน ของเจาเมือง น้ําใจของเลาปครั้งนี้สะทอนถึงคุณธรรมและ ความมีน้ําใจโอบออมอารีตอผูอื่นโดยไมไดหวงใยถึงอันตรายของตนเอง และไมคํานึงวาจะชักพาศึกใหญ มาถึงตัว จิตใจของเลาปเปนดั่งนี้ใครจะวาผิด ใครจะวาถูกก็ยอมเปนเรื่องที่วากันไปตามอัธยาศัยและน้ําใจของ แตละคน โดยที่ไมมีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดและจิตใจของเลาป ใหเปนอื่นไปได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปมาถึงจวนของเจาเมืองแลวคารวะเลาป แลวเลาความตั้งแต รวมคิดอานกับ อองอุนกําจัดตั๋งโตะศัตรูราช สมบัติเสีย ตอมาลิฉุย กุยกี ไดครองอํานาจในเมืองหลวงคิดลางแคนใหกับตั๋งโตะจึงตองหนี ไปหลายที่หลาย
34.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 34 เมือง ในที่สุดไดไปพึ่งเตียวเมี่ยว ที่เมืองตันลิว ครั้นโจโฉยกทัพมาตีเมืองชีจิ๋วจึงไดนํากองทัพยกไปตีเมืองกุน จิ๋วเพื่อ ชวยเหลือเมืองชีจิ๋วไว บัดนี้เสียทีแกโจโฉจึงตองมาขอพึ่งเลาปเพื่อจะไดคิดการใหญสืบไป ความจริงลิ โปยกทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วนั้นเปนไปตามคําสั่งของเตียวเมี่ยวเจาเมืองตันลิว โดยคําปรึกษาของตันกง เพื่อยึด เอาเมืองกุนจิ๋วไวในอํานาจอยางหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของเมืองตันลิวอีกอยางหนึ่ง แตการทําใหโจโฉตอง ถอนทัพจากเมืองชีจิ๋วนั้นเปนเพียงผลพลอยได แตลิโปกลับยกเอาเปนบุญคุณวาเปนการชวยเมืองชีจิ๋ว เปน การจี้ใจดําของเลาปโดยตรง แลวลิโปจึงชวนเลาปใหรวมกันคิดการใหญ เพื่อกําจัดลิฉุย กุยกี และโจโฉตอไป และถามเลาปวาจะพรอมใจ รวมทําการดวยหรือไม เลาปจึงวาโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วเพิ่งถึงแกความตาย ปลงธุระเมืองชีจิ๋วไวกับขาพเจา แต ขาพเจานี้มีสติปญญานอย เกรงวาจะทําการไปไมตลอด ดังนั้นเมื่อทานคิดอานทําการใหญ จงรับธุระเปนเจา เมืองชีจิ๋วแทนขาพเจาเถิด วาแลวก็ใหทหารไปเอาตราสําหรับเมืองจะมอบแกลิโป ลิโปยินเลาปวาจะยกเมืองชี จิ๋วใหก็ขยับมือจะรับเอาตราเจาเมือง แตชําเลืองไปเห็นกวนอู เตียวหุย ซึ่งยืนอยูขางหลังเลาปนั้นแสดงอาการ ไมพอใจก็ชะงักมือไว แลวแกลงทําเปนหัวเราะและวา ตัวขาพเจานี้เปนทหารอาชีพไมถนัดการบานการเมือง ทั้งเปนเพียงผูมาขออาศัยใบบุญของทานอยู ไมชอบที่จะรับเอาเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ตัวทานนั้นเปนเชื้อพระวงศ พระเจาเหี้ยนเต ไดครองเมืองชีจิ๋วยอมเปนการเหมาะสมทุกประการแลว ตันกงเห็นเหตุการณก็เขาใจวาเลาประแวงวาลิโปจะมาแยงเมือง จึงวาพวกเราเปนแขกมาขออาศัยทานจะคิด ชิงเอาเมืองนั้นหามิได ทานอยาไดระแวงสงสัยเลย เลาปจึงวาความคิดที่จะระแวงสงสัยลิโป หรือผูใดไมเคยมี อยูในใจของขาพเจา แตเมื่อลิโปไมเต็มใจก็แลวกันไปเถิด เลาปจึงจัดใหลิโปและคณะพักที่เรือนรับรองแขก เมือง ค่ําลงก็เชิญลิโปมากินโตะ ในระหวางกินโตะกันนั้นลิโปเรียกบุตร ภรรยามา คารวะเลาป แตเลาปเกรงใจ และวาขาพเจาเปนผูนอยทานอยาไดคํานับเลย ลิโปเห็นดังนั้นจึงวา "นองเรา! จงใหบุตรภรรยาเราคํานับเถิด" เตียวหุยไดยินคําลิโปเรียกเลาปเปนนองจึงคิดวาลิโปเปนคนอาศัยมา กระทําการจวงจาบเลาปวาเปนเพียงนอง หรือลูกนองจึงโกรธ ลิโป ลุกขึ้นดาลิโปวาไมรูคุณคน และทาลิโปออกไปสูกัน เลาปเห็นเตียวหุยโกรธจึงหาม เตียวหุยไวและใหกวนอูพาเตียวหุยออกไปขางนอก แลวขอโทษลิโปที่เตียวหุยเสียมารยาทตอแขกเมืองเชนนี้ ลิโปสั่นศีรษะแตไมตอบคําประการใด เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปและลิโปก็แยกกันกลับที่พัก เลาปมาถึง กลางทางเหลียวไปไมเห็นเตียวหุย เกรงวา เตียวหุยจะหวนกลับไปวิวาทดวยลิโป จึงสั่งใหกวนอูรีบไปตามเตียวหุยกลับมา กวนอูตามไปถึงหนาเรือน รับรองแขกเมืองเห็นเตียวหุยขี่มารําทวนทาลิโปใหออกมารบ กวนอูจึงพาเตียวหุยกลับไปที่พัก รุงขึ้นเชาลิโปจึงไปพบเลาปแลววา ขาพเจาหนีรอนมาพึ่งเย็นขออาศัยอยูกับทาน ตัวทานก็ใหความเกรงใจ อนุญาตใหขาพเจาไดอาศัย แตเตียวหุยนองทานดูหมิ่นขาพเจานัก ไมสามารถทนอยูที่นี่ตอไปได จําเปนตอง ขอลาทานไปอาศัยที่อื่น เลาปจึงขอโทษลิโปแลววา ซึ่งเตียวหุยลวงเกินทานนั้นขาพเจาขออภัยตอทาน แลว จะพาเตียวหุยไปขอขมาในภายหลัง แตลิโปยืนกรานจะลาไปอยูที่อื่น เลาปจึงวาถาเชนนั้นใหทานไปอยูเมือง เสียวพายเถิด ขาพเจาจะจัดสงเสบียงอาหารใหแกทานมิใหอนาทรเลย ลิโปไดฟงเชนนั้นก็ยินดี ขอบคุณเลาป แลวพาครอบครัวกับทหารที่ติดตามมายกออกจากเมืองชีจิ๋วไปอยูเมืองเสียวพาย ฝายโจโฉครั้นไดครองอํานาจในหัวเมืองภาคตะวันออกราบคาบแลว จึงทําหนังสือกราบบังคมทูลพระเจา เหี้ยนเตรายงานสถาน การณทั้งปวงใหทรงทราบ ครั้นหนังสือเขาไปถึงเมืองหลวง เจาหนาที่จึงนําหนังสือไป เสนอกับลิฉุย ลิฉุยเห็นความในหนังสือแลวก็เก็บเสีย ไมนําความขึ้นกราบบังคมทูล แตใหเลื่อนตําแหนงโจโฉ เปนพระยาพิทักษคุณธรรม การขางในราชสํานักในขณะนั้น ลิฉุย กุยกีไดจําเริญรอยตั๋งโตะ ยึดอํานาจบริหาร บานเมืองของฮองเตไวทั้งสิ้น กระทําการหยาบชาตอฮองเตและขุนนาง ขาราชการเหมือนกับยุคสมัยของตั๋ง โตะทุก ประการ ขณะนั้นเอียวปวและจูฮี ขุนนางผูใหญมีความจงรักภักดีตอราชวงศฮั่น เห็นลิฉุย กุยกีประพฤติ ตนเปนทรราชเหมือนกับตั๋งโตะ จึงรวมคิดปรึกษากันจะกําจัด ลิฉุย กุยกีเสีย ปรึกษากันแลวสองขุนนางจึงลอบ ไปเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตถึงในพระตําหนัก กราบบังคมทูลวาบัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนทรราช ประพฤติตนเปนศัตรู ราชสมบัติ ขุนนางในเมืองหลวงไมมีผูใดสามารถกําจัดลิฉุย กุยกีได แลววาบัดนี้โจโฉปราบปรามโจรโพก ผาเหลืองภาคตะวันออกราบคาบแลว มี ทหารอยูในมือถึงสามสิบหมื่น ขอเสนอใหมีรับสั่งใหหาโจโฉมา ทําราชการในเมืองหลวงและกําจัดทรราชเสีย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงสองขุนนางแลวทรงพระกันแสง และมีพระราชดํารัสวาแผนดินทุกวันนี้สิทธิขาดอยูที่ลิ ฉุย กุยกีสิ้น เราหามีอํานาจที่จะเรียกโจโฉเขามาไม ผูใดมีสติปญญาก็จงคิดอานกําจัดศัตรูแผนดินเถิด สองขุน นางไดฟงกระแสพระราชดํารัสแลว รูสึกสงสารยุวกษัตริยที่ถูกทรราชกดขี่ขมเหงรังแกจึงพากันรองไห แลว เอียวปวจึงกราบบังคมทูลวาขาพระพุทธเจาขออาสากําจัดทรราชยใหสําเร็จจงได พระเจาเหี้ยนเตสนพระทัย
35.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 35 ความคิดของเอียวปว ที่จะกําจัดศัตรูราชสมบัติ จึงรับสั่งถามวาแผนการความคิดของทานเปนประการใด เอียวป วกราบบังคมทูลวาลิฉุย กุยกีมีความสนิทสนมแนนแฟน ไปมาหาสูกันเปนประจําทุกวัน บางวันถึงขนาดนอน คางอยูบานเดียว กัน ถาสองเสือนี้ยังคงมีความสามัคคีกันเปนอันดียอมยากที่จะกําจัด ดังนั้นขาพระพุทธเจาจะ คิดการใหสองเสือนี้บาดหมางหักลางกันเอง จากนั้นจึงคอยหาโจโฉเขามากําจัดเสีย พระเจาเหี้ยนเตรับสั่งถามตอไปวา ทําอยางไรสองเสือนี้จึงจะกัดกันเองจนบาดเจ็บลมตาย เอียวปวถวาย ความเห็นตอไปวา กุยกีนั้นมีภรรยาที่มีจิตริษยาหึงหวงมากกวาสตรีทั้งปวง ขาพระพุทธเจาจะคิดอานยุยง ทางดานภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยระแวงสงสัยกันกอนแลวคอยยุยงใหประหัตประหารกันตอไป พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลดังนั้นแลวทรงเห็นชอบดวย จึงทรงพระอักษรลับใหเอียวปวถือไว เมื่อใด ที่ลิฉุย กุยกี แตกกันเห็นเปนทีแลวจึงใหเอาพระราชหัตถเลขานี้เรียกโจโฉเขามากําจัดสองเสือเสีย แผนการครั้งนี้ดูประหนึ่งเปนแผนการที่ยอดเยี่ยม เพราะทําใหทรราชแตกความสามัคคี ลางผลาญกันเอง แต กลับเปนแผนการที่ขาดความรอบคอบรอบดานเพราะมิไดคํานึงวาสองทรราชอยูใกลชิดกับฮองเต เสมือนหนึ่ง อยูในบานเดียวกัน หากสองเสือฟาดฟนกันในบาน ทรัพยสิ่งศฤงคารภายในบานยอมถูกผลแหงการลางผลาญ นั้นทําลายไปหมดสิ้น ยิ่งกวานั้นหากพลาดพลั้งประการใด เจาบานก็อาจถูกลูกหลงจากการลางผลาญของสอง เสือจนตองตกอยูในอันตราย นับเปนแผนการที่เสี่ยงภัยตอผูเปนเจาบานคือฮองเตมากที่สุด ไมตางอะไรกับ การ จุดไฟในบานเพื่อขับไลหนู พลาดพลั้งลงไฟก็ไหมบานจนหมดสิ้น มิหนําซ้ําหนูก็หนีรอดไปไดอีก แผนการนี้อาจจะไดผลถาหากเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปประพาสตางเมืองเสียกอน แตกระนั้นก็คงยากจะ สําเร็จเพราะสองเสือ ยอมระมัดระวังควบคุมฮองเตไว จึงไมอาจนับเปนแผนการที่ดี แผนการที่ดีเปนอยางไร ยอมตองสอดคลองกับสถานการณภาย ในราชสํานักเอง ปมเงื่อนอยูที่การแสวงหาคนดีมีฝมือ ทั้งทาง สติปญญา ความคิด และกําลังฝมือ ตลอดจนกําลังทหารเพื่อเปนกําลังในการกําจัดทรราช กําลังเหลานี้พรอม บริบูรณขึ้นแลวนั่นแหละจึงจะกําจัดทรราชยไดสําเร็จ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวทรงพระเยาว ก็ตกอยูในสภาพการณอยางเดียวกันนี้ แตดวย พระปรีชาสามารถสมเปนมหาราช ดังนั้นจึงทรงคิดอานทั้งดานสรางเสริมกําลังทุกดานของราชสํานัก และลด อํานาจบทบาทของฝายอื่นลงอยางเปนขั้นตอน จึงทําใหพระราชอํานาจคอยๆ เพิ่มพูนขึ้นจนเต็มบริบูรณ และ ทําใหการบานเมืองเปนไปอยางราบรื่นสันติ จนประสบความสําเร็จอันยิ่งใหญ ในภูมิภาคในยุคนั้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายเสี้ยมสองเสือ (ตอนที่ 66) เอียวปวกับจูฮีออกจากพระตําหนักที่ประทับแลว ก็พากันไปที่บานของเอียวปวเพื่อปรึกษาหารือในรายละเอียด ของอุบายเสี้ยมสองเสือ จูฮีไดถามเอียวปววา ซึ่งทานมีความคิดที่จะวางอุบายตามที่กราบบังคมทูลนั้นจะทํา ประการใด เอียวปวจึงบอกจูฮีวา ภรรยาของขาพเจามีความสนิทคุนเคยและไปมาหาสูกับภรรยาของกุยกีอยู เสมอ เพราะภรรยาของกุยกีนั้นชอบเลนไพ เชนเดียวกับภรรยาของขุนนางอีกหลายคน จึงมักเรียกหาภรรยา ขาพเจาไปรวมวงไพเปนประจํา ดังนั้นขาพเจาจะใหภรรยาไปยุภรรยาของกุยกี ทําใหกุยกีกับลิฉุยแตกคอแลว ลางผลาญกันใหจงได ทานจงวางใจในธุระนี้ ขาพเจาจักคิดอานทําการไมใหเกิด ความเสียหายขึ้นเปนอันขาด จูฮีฟงคําเอียวปวแลวก็เห็นลูทางที่จะเสี้ยมสองเสือใหลางผลาญกันเอง จึงเปนที่พอใจ แลวลาเอียวปวกลับไป บานเอียวปวจึงเรียกภรรยามาปรึกษาและอธิบายความทุกขรอนของ พระเจาเหี้ยนเตที่ถูกทรราชขมเหงย่ํายี ตลอดจนแผนการที่จะยุยง ภรรยาของกุยกีใหภรรยาฟงโดยละเอียด ภรรยาของเอียวปวมีใจภักดีมั่นคงในราช สํานักจึงเต็มใจทําการสนองพระเดชพระคุณ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด วันรุงขึ้นภรรยาเอียวปวจึงทําทีไปเยี่ยมภรรยากุยกีตามปกติ ครั้นทักทายปราศรัยกันประสาคนคุนเคยแลว ภรรยาเอียวปวจึงวา บัดนี้ขาพเจามีเรื่องสําคัญจําเปนตองบอกกลาวใหทานทราบ เพราะหากละเสียแลว ขาพเจาก็จะไดชื่อวาไมซื่อตรงตอมิตร เห็นภยันตรายที่จะเกิดขึ้นแกมิตรผูเปนที่รักเคารพแลวทิ้งธุระเสีย แต เนื่อง จากเรื่องนี้เปนเรื่องลับเกี่ยวกับชื่อเสียงเกียรติคุณของกุยกีสามีทาน ไมอาจกลาวในที่แจงได ภรรยากุยกี ไดฟงดังนั้นก็ประหวั่นใจวาเปนเรื่องรายของสามีตัว จึงรีบพาภรรยาเอียวปวเขาไปที่ขางใน แลวเรงเราให ภรรยาเอียวปวรีบบอกความตามที่ทราบมา ภรรยาเอียวปวจึงแสรงถามแตพอไดยินวา ระยะนี้กุยกีกลับมาคาง คืนที่บานทุกคืนหรือไม ภรรยากุยกีจึงวาระยะหลังๆ มานี้กุยกีไมคอยไดกลับบาน บอกวาคางที่บานของลิฉุย เพื่อปรึกษาราชการ ภรรยาเอียวปวจึงกลาวดวยความหวงใยวาทานใจซื่ออยูแตในบาน มิรูความนัย บัดนี้มี กิตติศัพทซุบซิบกันวา กุยกีสามีทานไปติดพันดวยภรรยาของลิฉุย ดังนั้นถาหากลิฉุยทราบเรื่องเขาวันใดคง จะ
36.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 36 สังหารสามีทานเสียในวันนั้น ขาพเจาเอ็นดูวาทานจะเปนหมาย จึงนําความลับมาบอกใหทานคิดอานปองกัน แกไขเสียใหทันการณ ภรรยาเอียวปวอางเอาความสงสารเห็นแกภรรยากุยกีวาจะเปนหมาย ปกปดเจตนาที่แทจริงมิใหเกิดความสงสัย โดยกลาวความขาม เรื่องความหึงหวงของอิสตรีไป แตภรรยากุยกีฟงความแลวจิตใจหึงหวงหนักหนวงกวา จิตใจหวงใยกุยกี กระทบเขากับแกนใจถนัดถนี่ อารมณหวงหึงจึงพุงประดังเขาครองใจภรรยากุยกี ครั้นหวน รําลึกถึงเหตุการณที่ผานมาก็เห็นสมจริงตามคําของภรรยาเอียวปว มิไดเกิดความระแวงสงสัยใดๆ กลับรูสึก ขอบใจภรรยาเอียวปวที่ภักดีตอน้ํามิตรแหงวงไพ จึงบอกกับภรรยาเอียวปววามินาเลากุยกีจึงไมคอยกลับมา คางคืนที่บาน ตัวเราสิวางใจวาเปนขุนนางผูใหญมีราชการบาน เมืองเปนอันมากจึงมิไดคิดสงสัย บัดนี้มา ไตรตรองดูแลวจะมีราชการ อะไรหนักหนาจึงถึงกับตองคางคืนที่บานลิฉุยเปนประจํา การณสมจริง ตามคํา ซุบซิบนินทาเปนแมนมั่น แลวภรรยากุยกีจึงกลาวขอบใจภรรยาเอียวปวเปนอันมาก จึงวาเรื่องนี้เปนเรื่องลับ ของสามีเรา อาจกระทบตอหนาที่การงาน ชื่อเสียง และเกียรติคุณ ขอทานอยาไดแพรงพรายใหผูอื่นไดรูอีก เปนอันขาด เพราะถาหากลวงรูถึงลิฉุย สามีเราก็จักเปนอันตราย ภรรยาเอียวปวจึงกลาววาทานจงวางใจเถิด ขาพเจาไมมีวันเห็นอื่นไกล ยิ่งไปกวาทานซึ่งเปนมิตรที่เคารพแลว สวนตัวทานก็เชนเดียวกัน ขอจงอยาแพรงพรายความที่ขาพเจานํามาบอกใหผูใดไดลวงรูเปนอันขาด มิฉะนั้น แลวขาพเจาก็จะไมสามารถสืบหาขาวคราวมารายงานทานไดอีกตอไป ภรรยากุยกีจึงวาตอไปนี้เราจะหาทาง หามปรามและกีดกันมิใหกุยกีไปบานลิฉุย ถาหากทานมีขาวคราวความคืบหนาประการใด ก็ใหรีบมาแจงให ขาพเจาทราบ จักไมลืมพระคุณเลย ภรรยาเอียวปวทําการสําเร็จดังประสงคแลวก็ขอลากลับบาน อันอารมณหึงหวงของสตรีนั้นมีอยูประจําทั่วทุกตัวคน เปนแตระดับจะมีมากบางนอยบางตามอัธยาศัยของแต ละคน ไมวาจะมีฐานะตําแหนงเปนเมียเดี่ยว หรือเมียหลวง หรือเมียนอยก็ตามที ถาหากภรรยากุยกีนั้นเปน ภรรยาโดยชอบดวยกฎหมายของบุคคลอื่นแลวกุยกีไปแยงเอามาครอง ก็ยอมยากที่จะอางหรือแสดงความหึง หวงสตรีอื่นใหปรากฏไดอยางเต็มที่ เพราะสตรีอื่นยอมมีสิทธิที่จะโตแยงไดวาหามีสิทธิประการใดไม เนื่องจาก ฐานะตัวเปนเพียงชูของกุยกี เทานั้น และถาหากเกิดการโตแยงขึ้นดังนี้แลว หนากากของกุยกีที่พยายามแสดง ตอสาธารณชนโดยตลอดมาวาเปนคนมีคุณธรรมก็จะเสื่อมเสียไปสิ้น แตภรรยาของกุยกีนั้นเปนภรรยาโดยชอบดวยกฎหมาย จึงหึงหวงกุยกีไดโดยไมมีสิ่งใดกีดคั่นใหเปนที่ครหา ทั้งไมตองหวงใยวาจะมีหญิงใดเที่ยวโพนทะนาเรียกหาใบหยาใหเปนที่ยุงยากลําบากใจ หลังจากนั้นวันสองวัน ลิฉุยใหคนมาเชิญกุยกีไปกินโตะที่บาน กุยกีก็รับคําเชิญตามปกติ ภรรยากุยกีทราบความจึงหามกุยกีวาบาน เมืองทุกวันนี้อํานาจสิทธิขาดอยูที่ลิฉุยกับทานเพียงสองคน ตัวลิฉุยนั้นคิดอานจะครองอํานาจไวแตเพียงผู เดียว หาทางกําจัดทานอยู การที่ทานจะไปกินโตะที่บานลิฉุย ถาหากทานเมาสุราแลวลิฉุยเอายาพิษ ใหทาน กิน หรือแสรงใหทหารมากอวิวาทกับทานแลวสังหารทานเสีย ทานก็จักไดรับอันตราย ตัวขาพเจาเปนสตรีจะ พึ่งพาผูใดไดเลา กุยกีเปนคนกลัวเมีย ฟงคําเมียปรามดวยเหตุและผลดังนี้จึงอางวาปวยนอนอยูที่บาน ถึงเวลา ก็ไมไปกินโตะที่บานลิฉุย ฝายลิฉุยรอกุยกีอยู ครั้นทราบวากุยกีปวยมากินโตะไมไดจึงใหคนสงอาหารที่จะ เลี้ยงโตะนั้นไปใหกุยกีถึงที่บาน ภรรยากุยกีเห็นดังนั้นจึงลอบเอายาพิษใสไวในอาหาร แลวเตรียมรอกุยกี ครั้นไดเวลากุยกีและภรรยาก็มาพรอม กันที่หองอาหาร ภรรยากุยกีไดปรารภขึ้นวาลิฉุยเชิญทานไปกินโตะที่บาน ครั้นทานไมไปยังอุตสาหสงโตะมา ใหถึงบาน ขาพเจาสงสัยวาเหตุใดลิฉุยจึงอยากใหทานกินโตะนั้น ดังนั้นเราควรพิสูจนอาหารที่ลิฉุยสงมานี้ เสียกอน กุยกีก็ตามใจภรรยา ภรรยากุยกีจึงแบงเอาอาหารนั้นใหสุนัขกิน สุนัขกินแลวก็ตาย กุยกีเห็นเชนนั้นก็ ตกใจคิดไมถึงวาอาหารที่ลิฉุยสงมาจะใสยาพิษ ภรรยากุยกีจึงแสรงทําตกใจตามไปดวยแลววาเดชะบุญทาน ยังไมสิ้น ดังนั้นเทพยดาจึงบันดาลใหทานพบเหตุเสียกอน กุยกีฟงคําภรรยา แลวก็เห็นจริงจึงเกิดความคิด ระแวงลิฉุยตั้งแตบัดนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด รุงขึ้นอีกสองวันหลังจากออกจากที่เฝาแลว ลิฉุยก็ชวนกุยกีไปปรึกษาราชการที่จวน เสร็จแลวก็ชวนกินโตะ ครั้นกลับมาถึงบานกุยกี มีอาการปวดทอง ภรรยากุยกีจึงถามวาออกจากที่เฝาวันนี้แลวทานไปที่ไหนมา กุยกีจึง เลาความที่ลิฉุยชวนไปบานแลวเลี้ยงโตะ ภรรยากุยกีก็ทําเปนตกใจแลวเอายาถอนพิษมากรอกปากกุยกี ครั้น กุยกีกินยาถอนพิษซึ่งมีคุณสมบัติที่ทําใหคนอาเจียนแลว กุยกีก็อาเจียนออกมาเปนอันมาก อาการปวดทองก็ หาย กุยกีจึงเชื่อโดยสนิทใจวาลิฉุยมุงรายวางยาพิษคิดสังหารตัวเพื่อครองอํานาจไวแตเพียงผูเดียวสมจริง ตามที่ภรรยาไดตักเตือนมาตั้งแตตนก็โกรธลิฉุย แลวคิดวาเมื่อลิฉุยคิดอานกําจัดเราเชนนี้แลว หากละไวนาน ไปความคิดของลิฉุยก็คงสัมฤทธิผลขึ้นสักวันหนึ่ง จําเปนที่เราจะตองสังหารลิฉุยเสียกอน คิดดังนี้แลวจึงสั่งให จัดทหารเตรียมจะยกไปลอมบานลิฉุยเพื่อ จับลิฉุยฆาเสีย
37.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 37 ขณะนั้นเอียวปวและจูฮีเฝาติดตามสถานการณอยูอยางใกลชิด ครั้นทราบเหตุการณที่กุยกีสั่งใหจัดเตรียม ทหารเพื่อจะยกไปบานลิฉุย จึงใหคนรีบลอบไปบอกแกลิฉุยวากุยกีกําลังเตรียมการยึดอํานาจแผนดินไวแตผู เดียว ขณะนี้กําลังเตรียมทหารเพื่อจะยกมาจับลิฉุยฆาเสีย ลิฉุยไดทราบดังนั้นก็โกรธ คิดวาตัวเราไมเคยคิดราย ตอกุยกี ไมไดทําผิดตอกุยกีแมแตนอย แตกลับถูกกุยกีคิดทรยศ จะยึดอํานาจ แลวฆาตัวเราเสีย จําเปนที่เรา จะตองฆากุยกีเสียกอนแลวจึงสั่งใหลิเซียมผูเปนหลานยกทหารกองหนึ่งไปอารักขาพระเจาเหี้ยนเต ตัวลิฉุย เองยกทหารอีกกองหนึ่งจะไปที่บานของกุยกี ครั้นลิฉุยยกมาถึงกลางทางพบกับกุยกียกทหารมา ลิฉุยก็ยิ่ง มั่นใจวากุยกีคิดทรยศตอตัวเอง จึงสั่งทหารใหเขาตีทหารของกุยกีจับตัวกุยกีใหไดไมวาเปนหรือตาย ทหารทั้ง สองฝายไดตอสูกันเปนสามารถ ครั้นออนลาลงทั้งสองฝายจึงตางถอยทหารออกมา กุยกีถอยทหารมาแลวคิด ขึ้นไดวาพระเจาเหี้ยนเตเปนกลไกสําคัญแหงอํานาจรัฐ ใครยึดฮองเตไวไดก็จะมีความชอบธรรมที่จะครองและ ใชอํานาจรัฐตอไป จึงสั่งทหารใหเคลื่อนไปทางพระราชวัง พอดีสวนกับลิเซียมหลานกุยกีและกาเซี่ยง คุม ขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเต พระมเหสี พระสนมและขันทีทั้งปวงจะหนีออกจากพระราชวังไปที่กองทหารของลิ ฉุย กุยกีจึงสั่งทหารใหระดมยิงเกาทัณฑใสขบวนเสด็จทหารของลิเซียม พระสนม นางกํานัลและขันทีหลาย คนถูกเกาทัณฑของทหารกุยกีลมตายลง พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเหตุ การณดังนั้นก็ทรงตกพระทัยมิรูที่ จะทําประการใด ฝายลิฉุยครั้นไดรับรายงานวากุยกีถอนทหารแลวยกไปลอมขบวนเสด็จ จึงยกทหารไลตามมาและลอมทหาร กุยกีไว ทหารของทั้งสองฝายไดหันเขาตอสูกันอีกครั้งหนึ่ง กุยกีเห็นวาสูไมไดก็ยกทหาร เขาไปในพระราชวัง ลิฉุยจึงเขาถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตและนําขบวนไปตั้งพลับพลาที่ประทับชั่วคราวอยูนอกพระราชวัง และใหทหารไปสืบขาวในพระราชวังวากุยกีไดทําประการใด ดานกุยกีเมื่อยกทหารเขาไปในพระราชวังแลวยึด เอาทรัพยสิน เงินทองในทองพระคลังหลวง จับเอาสาวสนมนางกํานัลและขาราชสํานักไวเปนจํานวนมาก แลว ใหทหารเอาไฟเผาพระราชวังเสียทั้งสิ้น กุยกีแมยังมีตําแหนงเปนขุนนางผูใหญ แตบัดนี้กระทําการเยี่ยงโจรไป เสียแลว แตการตัดสินใจเผาพระราชวังนั้นเปนเรื่องไรเหตุ ผลสิ้นเชิง แตจะหวังเอาเหตุผลกับคนไรเหตุผล แบบกุยกีนั้นยอมหวังอะไรไมได เหมือนกับการที่จะหวังเอาความสํานึกรับผิดชอบจาก นักการเมืองที่ทุศีล ไร คุณธรรมก็ยอมหวังอะไรไมได บรรดาขุนนางขาราชการที่เหลือตางพากันหนีเอาตัวรอด บางก็พากันไปตามเสด็จพระเจาเหี้ยนเต บางก็หนี กลับภูมิลําเนาเดิม ฝายกุยกีครั้นรูขาววาลิฉุยไดถวายการอารักขาพระเจาเหี้ยนเตอยู นอกพระราชวังก็ยกทหาร ตามไปเพื่อจะชิงเอาพระเจาเหี้ยนเตมาไวใน อารักขาเสียเอง ทหารของกุยกีปะทะกับทหารของลิฉุยแตสูทหาร ของ ลิฉุยไมได จึงถอยออกมาตั้งคายคุมเชิงกันอยู ฝายลิฉุยครั้นเห็นไฟไหมพระราชวังจนหมดสิ้น จึงให อัญเชิญขบวนเสด็จไปยังเมืองหลวงแหงที่สองที่ตั๋งโตะสรางไว แตเนื่องจากเมืองหลวงแหงที่สองก็ทรุดโทรม และเสบียงไมพอเพียง ดังนั้นลิฉุยจึง กําชับลิเซียมผูหลานไมใหสงอาหารแกบรรดาพระสนม นางกํานัลและ ขันที คงใหสงถวายเฉพาะพระเจาเหี้ยนเตและพระมเหสีเทานั้น อุบายเสี้ยมสองเสือใหกัดกันในบานตัวเองไดสงผลใหเสือกัดกันก็จริงอยู แตจากการที่สองเสือฟาดฟนกันเอง นั้น ยอมทําใหบรรดา ทรัพยสินขาวของภายในบานฉิบหายวายวอดจนหมดสิ้น แมกระทั่งเจาบานก็ตองไรที่อยู ตกเปนผูระเหเรรอนตั้งแตบัดนั้น ถึงขณะนี้อุบาย เสี้ยมสองเสือจึงกลายเปนแผนการเผาบานตัวเองเพื่อไลหนู ที่ไมเพียง แตจะกําจัดหนูไมไดเทานั้น ไฟกลับเผาผลาญบานจนวอดวายไปหมด สิ้น ทําใหเดือดรอนและตก อยูในความเสี่ยงแหงหายนะเพิ่มขึ้น สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม มังกรนอยระหวางปากหมี ปาก สือ (ตอนที่ 67)เ พระเจาเหี้ยนเตทอดพระเนตรเห็นขาราชบริพารอดอยากก็มีน้ําพระทัยสงสาร จึงมีรับสั่งใหลิฉุยจัดอาหารมอบ แกขาราชบริพาร ลิฉุยทราบความตามรับสั่งแลวก็โกรธหาวาพระเจาเหี้ยนเตไมเห็น ใจทหาร ทรงเอาพระทัยใส แตเฉพาะขาราชบริพาร จึงไมดําเนินการ ตามรับสั่ง มิหนําซ้ํายังใหเอาอาหารบูดขึ้นไปถวาย พระเจาเหี้ยนเต เห็นลิฉุยดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ทรงพระพิโรธแตก็ไมรูที่จะทําประการใด เอียวปวเห็นเชนนั้นจึงกราบ บังคมทูลวาในสถานการณเชนนี้ขอ จงทรงอดออมพระทัยไวกอน พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงแลวก็กันแสงแตมิได ตรัสประการใด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายกุยกีครั้นทราบวาลิฉุยคุมขบวนเสด็จพระเจาเหี้ยนเตยกไป เมืองหลวงแหงที่สองก็ยกทหารตามมา ลิฉุยรู วากุยกียกทหารมาจึงสั่งใหยกทหารออกไปรบดวยกุยกี ทั้งสองฝายตางดาวาโจมตีกันและกันแลวลิฉุยจึงทา
38.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 38 กุยกีรบกันตัวตอตัวเพื่อมิใหยากลําบากแกทหาร ทั้งสองฝายรบกันไดสิบเพลงก็พอดีเอียวปวและขุนนางเกือบ หกสิบคนไดออกมาหามทั้งสองฝายใหหยุดรบกัน ลิฉุยจึงยกทหารกลับเขาเมืองหลวงแหงที่สอง บรรดาขุน นางก็พากันไปหากุยกีเพื่อ เจรจาใหกุยกีถอนทหารกลับไป กุยกีเห็นขบวนขุนนางมาพบเพื่อจะเกลี้ยกลอมจึงสั่งใหจับบรรดาขุนนางทั้งนั้นไวเปนตัวประกันเพื่อตอรองกับลิ ฉุย เอียวปวจึง ถามกุยกีวาบัดนี้ลิฉุยคุมเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชสํานักไว สวน ฝายทานจับเอาบรรดาขุน นางไวเชนนี้ทานจะคิดอานประการใด กุยกีไดฟงก็โกรธที่เอียวปวรูทันจึงชักกระบี่จะฆาเอียวปวเสีย แต เอียว ปดทหารเอกของกุยกี ซึ่งเปนคนแซเดียวกับเอียวปวไดหามไวอางวาเอียวปวเปนขุนนางผูใหญ จะฆาเสียยอม ไมสมควร เพราะจะเกิดคําครหาวาทานไมรูธรรมเนียม คนทั้งปวงก็จะดูหมิ่นทาน กุยกีซึ่งบัดนี้เปนโจรไป แลวแตมีปมดอยเรื่องการศึกษาอยูในใจวาผูคนทั้งปวงจะหาวาไมมีความรูในขนบธรรมเนียมจึงออนลง เอียวปดจึงวาควรจะปลอยเอียวปวและจูฮีซึ่งเปนขุนนางผูใหญทั้งสองคน เพื่อใหเปนทูตในการเจรจาระหวาง ทานกับลิฉุย กุยกี เห็นชอบดวยจึงสั่งใหปลอย เอียวปวและจูฮีเสีย แตขุนนางนอกจากนี้ใหจับขังไว เอียวปว และจูฮีสองขุนนางเจาของแผนเผาบานเพื่อกําจัดหนู ครั้นถูกปลอยออกมาแลวเกิดความละอายแกใจที่ ความคิดตัวไดกอ ใหเกิดความเดือดรอนเสียหายกับฮองเต ไมกลากลับเขาไปในเมืองหลวงแหงที่สองเพื่อเฝา พระเจาเหี้ยนเตอีก จึงชวนกันกลับไปบาน ระหวางทางปรึกษากันแลวหาทางออกไมไดตางสํานึกวาที่พระเจา เหี้ยนเตทรงตกอยูในสภาพระกําลําบากและเสี่ยงตายเชนนี้เปนเพราะความคิดของเราทั้งสองคนจึงกอดคอกัน รองไหจนสลบลงทั้งคู แตจูฮีนั้นอาการโรคหัวใจกําเริบ และถึงแกความตายในที่นั้น ฝายเอียวกีขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตเห็นพระเจาเหี้ยนเตตกอยู ในความทุกขระกําลําบากจึงเขาเฝาแลวกราบ ทูลวา ลิฉุย กุยกี ไดยกทหารไปรบกันทุกวัน ติดตอกันถึงสองเดือนเศษแลว ทหารของทั้งสองฝายบาดเจ็บลม ตายลงเปนอันมาก และบัดนี้กาเซี่ยงที่ปรึกษาของลิฉุยไมพอใจลิฉุยที่ไมฟงคําปรึกษาดังแตกอน หันไปเชื่อ พอมด หมอผี จึงขอถวายคําแนะนําวาใหโปรดเกลาฯ เรียกกาเซี่ยงมาเฝาเพื่อปรึกษาราชการ ถาหากกาเซี่ยง เขาสวามิภักดิ์ตอราชสํานักแลวก็จะไดคิดอานกําจัดศัตรูราชสมบัติตอไป นี่ก็อีกคนหนึ่งที่ไมรูความสัมพันธ ระหวางกาเซี่ยงกับลิฉุยที่ผูกพันลึกซึ้งกันมายาวนานแลวเสือกถวายคําปรึกษาใหฮองเตเรียกคนชนิดนี้เขามา ปรึกษา จึงกลายเปนวาอาศัยความคิดของศัตรูมาชี้นําทาง ไมเพียงแตจะไมเกิดผลสําเร็จใดๆ เทานั้น หาก จะตองเสี่ยงตอการเผชิญกับวิกฤติที่รายแรงตอไปอีก เหมือนกับรัฐบาลบางรัฐบาลที่มองขามคนของตัวไปหลงเอาพรรคพวกของศัตรูมาทําการ ในที่สุดก็ตองตกจาก อํานาจไปในเวลาไมชาไมนาน พระเจาเหี้ยนเตทรงพระเยาวนัก ทรงฟงคําเอียวกีแลวก็เห็นชอบจึงโปรดให กาเซี่ยงเขาเฝาเปนการสวนพระองค ทรงพระกันแสง แลวตรัสกับกาเซี่ยงวาบัดนี้เราไดทุกขเวทนานัก เห็นวา ทานมีน้ําใจ สัตยซื่อและมีสติปญญาจึงขอใหชวยคิดอานหาหนทางชวยเหลือ เราใหพนทุกขดวย กาเซี่ยงฟง รับสั่งแลวกราบบังคมทูลวา ทุกวันนี้ขาพระพุทธเจาก็คิดอานที่จะสนองพระเดชพระคุณอยู แตขณะนี้ สถานการณยังไมกระจาง จึงขอเวลาคิดอานวางแผนแลวจะกราบบังคมทูลในภายหลัง ขอพระองคอยาได แพรงพรายความทั้งนี้ใหผูอื่นทราบ พระเจาเหี้ยนเต ทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวก็ทรงเบาพระทัยลง ตอมาลิฉุยไดเขามาเฝาแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กุยกีเปนขบถ จะชิงเอาราชสมบัติ แตบุญบารมีในใตฝา ละอองธุลีพระบาทยังมากอยู ดังนั้นขาพระพุทธเจาจึงอัญเชิญเสด็จออกมาไดทันทวงทีจึงไมเปนอันตราย พระ เจาเหี้ยนเตทรงขอบใจลิฉุยแลวลิฉุยก็ถวายบังคมลากลับออกไป ถัดจากนั้นหองฮูเหียบ ขุนนางมาขอเขาเฝา พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นวาเปนคนบานเดียวกับลิฉุยและเปนผูที่กุยกีใหความเกรงใจ จึงทรงมีพระราชหัตถเลขา ใหหองฮูเหียบนําไปมอบแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบกัน แลวรวมกันทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขสืบไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด หองฮูเหียบรับพระราชหัตถเลขาแลวจึงไปหากุยกี แจงความตามพระราชประสงคใหทราบ ครั้นกุยกีทราบ ความตามพระราชหัตถเลขาแลวตอบตกลงที่จะเลิกรบกับลิฉุย แตขอฟงความขางลิฉุยกอน และขอใหหองฮู เหียบบอกลิฉุยใหปลอยฮองเตและขาราชบริพารเสีย ตัวเองจะปลอยขุนนางที่กักขังไวจากนั้นจะไดรวมกันทํานุ บํารุงแผนดินตามพระราชประสงคตอไป หองฮูเหียบมีความยินดียิ่งนัก จึงออกมาและไปยังคายลิฉุย มอบพระ ราชหัตถเลขาและแจงความตามที่ไดพบกับกุยกีใหลิฉุยทราบทุกประการ ลิฉุยจึงวาเราทําความชอบทํานุบํารุง แผนดินมากวาสี่ปแลว แตกุยกีนั้นเปนแคคนเลี้ยงมา เราสูอุตสาหสงเสริมจนไดดีถึงเพียงนี้ กลับมาคิดทรยศ ตอเรา ดังนั้นเราจะฆากุยกีเสียใหได หองฮูเหียบเห็นลิฉุยมีทาทีแข็งกราวจึงวาแผนดินนับถึงบัดนี้ยังไมปกติสุข จะถือเอาความชอบขางใดนั้นยังไมไดกอน หากควรถือเอาการสรางความสงบสุขของบานเมืองใหบังเกิดขึ้น นั่นแลวจึงจะถือเปนความชอบ ตัวทานและบรรดาญาติพี่นองไดรับพระมหากรุณาธิคุณใหเปนขุนนางผูใหญ แต ตัวทานกลับจับเอาพระเจาเหี้ยนเตและขาราชบริพารกักขังไว กุยกีจึงจับเอาบรรดาขุนนางไวเปน ตัวประกันบาง ตางคนตางผิดเสมอกัน บัดนี้กุยกียอมปฏิบัติตามพระราชประสงคแลว ขอใหทานใครครวญจงดี ลิฉุยฟงคําหอง
39.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 39 ฮูเหียบก็โกรธชักกระบี่ออกจะฆาหองฮูเหียบเสีย แตถูกบรรดาแมทัพนายกองหามไววาหองฮูเหียบเปนผูถือ รับสั่งจะประหารเสียยอมไมชอบ ลิฉุยฟงคําทัดทานแลวก็ปลอยหองฮูเหียบกลับไป หองฮูเหียบทําการไมสําเร็จดังที่ไดรับมอบหมายจึงโกรธลิฉุยเปนอันมาก ขณะออกมาก็รองดาลิฉุยเปนขอ รายแรง บรรดาทหารก็หามไมใหหองฮูเหียบรองดาอีกตอไป ดวยเกรงวาลิฉุยจะตามมาฆาเสียแลวรีบพาหองฮู เหียบออกมาจากคายของลิฉุย พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความก็เปนหวงหองฮูเหียบจะเปนอันตราย จึงโปรด ใหหองฮูเหียบเดินทางไปอยูเมืองซีหลง หองฮูเหียบ รับรับสั่งแลวก็กราบถวายบังคมลาออกมา แตจิตใจนั้นยัง คุมแคนลิฉุยอยูเปนอันมาก จึงไปชักชวนทหารของลิฉุยซึ่งเปนคนบานเดียวกันวาลิฉุยเปนกบฏตอราชสํานัก หากขืนอยูดวยลิฉุยก็จะมีอันตราย ผูใดมีความจงรักภักดีตอราชวงศก็ใหตามเราไปอยูเมืองซีหลงหรือกลับบาน เดิมเสียเถิด บรรดาทหารของลิฉุยฟงแลวก็เชื่อตามหองฮูเหียบจึงพากันหนี ทหารติดตามหองฮูเหียบไปเปนจํานวนมาก ศัตรูของลิฉุยซึ่งเปนเพียงหนูตัวเล็กๆ แบบหองฮูเหียบนี้ไดทําใหกําลังทหารของลิฉุยออนแอลงเปนอันมาก ครั้นลิฉุยทราบความที่หองฮูเหียบชวนทหารใหหนีไปก็โกรธ สั่งใหอองเฉียงยกทหารไลตามไปฆาบรรดาคน เหลานั้นเสีย อองเฉียง รับคําสั่งแลวก็ยกทหารออกจากคาย แตมาไดพักหนึ่งก็คิดขึ้นวาหองฮูเหียบเปนขา แผนดิน ถือความสัตยสุจริตตอราชสํานัก บัดนี้ตองตกทุกขรอนไปจากเมืองหลวง หากเราฆาเสียความผิดก็จะ ตกอยูแกตัวเรา หรือหากจะจับไปมอบแกลิฉุยก็คงจะถูกลิฉุยประหารเสีย เราก็จะไดชื่อวาทรยศตอแผนดิน อองเฉียงคิดดังนั้นแลว จึงแสรงยกทหารเบนไปเสียอีกทางหนึ่ง จึงไมพบกับหองฮูเหียบ ครั้นทําทีติดตามไป ระยะหนึ่งแลวจึงพาทหาร กลับมารายงานใหลิฉุยทราบวาตามไปไมพบหองฮูเหียบ ลิฉุยก็ไมไดวาประการใด ฝายกาเซี่ยงรูวาทหารของลิฉุยหนีราชการเปนจํานวนมาก จึงเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวา ขอใหเอาใจลิ ฉุยตั้งเปนอัครมหา เสนาบดีแลวคอยคิดการตอไป ขอเสนอของกาเซี่ยงดังนี้ไมเห็นที่จะเปนประโยชนใดๆ เพราะคนแบบลิฉุยนั้นไมรูจักบุญคุณคน และไมอิ่มใน ยศศักดิ์วาสนา ฐานะและตําแหนงในปจจุบันก็สูงสงแตยังคงประพฤติตนเยี่ยงโจร ถึงจะใหตําแหนงยศศักดิ์ เพิ่มขึ้นอีกก็ไมเห็นที่จะเปลี่ยนความคิดจิตใจของ ลิฉุยใหกลับมาจงรักภักดีตอพระมหากษัตริยได ไมตางกับ การสุมฟน เขาไปในกองไฟ ยอมไมอาจทําใหไฟดับลงได มีแตจะทําใหเพลิงลุกโชติชวงเผาผลาญรุนแรง ยิ่งขึ้น นี่จึงเปนขอเสนอของนกสองหัวที่เอาใจทั้งลิฉุยและสรางความหวังใหกับฮองเต โดยหวังประโยชนของ ผูเสนอเปนสําคัญ ดังนั้นใคร มีที่ปรึกษาแบบนี้จึงหาคุณประโยชนใดๆ ไมได มีแตจะสรางความฉิบหายให เกิดขึ้นเทานั้น แตพระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากาเซี่ยงแลวทรง หวังวาจะเปลี่ยนความคิดจิตใจคนแบบลิฉุยได จึงโปรดเกลาฯ แตงตั้งตามเสนอ แตความคิดที่จะเอาความชอบของกาเซี่ยงกลับไมบรรลุผล เพราะเมื่อลิฉุยไดรับพระบรมราชโองการโปรด เกลาฯ แตงตั้งเปนอัครมหาเสนาบดีแลว แทนที่จะคิดวาเปนเพราะขอเสนอของกาเซี่ยง แลวคิดตอบแทน บุญคุณปูนบําเหน็จใหกาเซี่ยงกลับคิดวายศฐาบรรดาศักดิ์ที่ไดมานั้นเปนผลมาจากพิธีกรรมของพอมดหมอผี ซึ่งเปน ที่ปรึกษาสวนตัวอีกกลุมหนึ่ง จึงเอาทรัพยสินเงินทองเปนอันมากไปกราบไหวตอบแทนที่ปรึกษาพอมด หมอผีเหลานั้น ฝายเอียวฮองและซองโกสองนายทหารของลิฉุยเห็นลิฉุยไดดีมีตําแหนงสูงขึ้นแลวแทนที่จะใหรางวัล ความชอบกับทหารที่ยากลําบากเปนตายมาดวยกัน กลับไปใหรางวัลความชอบกับพวกพอมด หมอผีก็โกรธลิ ฉุย ปรึกษากันแลวเห็นวาขืนอยูกับเจานายแบบนี้หามีความเจริญอันใดไม ควรจะกําจัดลิฉุยเสีย ทําความชอบ ไวในพระเจาเหี้ยนเตจะดีกวา ปรึกษากันแลวจึงวางแผนกันวาใหซองโกเขาไปสังเกตการณอยูขางในเมือง ตัวเอียวฮองจะคุมทหารไวใหพรอมที่นอกเมือง ถาปลอดคนดีแลวใหซองโกจุดพลุสัญญาณ เอียวฮองจะยก ทหารเขาไปจับเอา ลิฉุยฆาเสีย วางแผนกันเสร็จแลวทั้งสองนายทหารก็แยกยายกันไปดําเนินการ ในขณะที่ เอียวฮองจัดเตรียมทหารอยูที่นอกเมืองนั้น ทหารของเอียวฮองคนหนึ่งซึ่งภักดีตอลิฉุยเห็นเอียวฮองจะทรยศ จึงลอบนําความ ที่เอียวฮองกับซองโกคบคิดกันไปแจงใหลิฉุยทราบ ลิฉุยทราบความก็โกรธสั่งทหารใหไปจับ ตัวซองโกซึ่งอยูในเมืองไปประหารแลวรีบยกทหารออกไปยังที่เอียวฮองเตรียมทหารอยูนอกเมืองนั้น ทหาร ของทั้งสองฝายปะทะตะลุมบอนกันอยางดุเดือด เอียวฮองเห็นวาจะสูลิฉุยไมไดก็พาทหารหนีไป ตั้งมั่นอยูที่ เขาลูกหนึ่ง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิฉุยและกุยกียังคงชิงอํานาจกันตอไปอยางดุเดือด และยกทหารออกมารบกันทุกวันจนทหารของทั้งสองฝาย บาดเจ็บลมตายลงเปนจํานวนมาก แตละฝายเหลือทหารไมถึงหมื่นคน ในขณะที่ทหารของลิฉุย กุยกีกําลังรบ กันอยางบาคลั่งในวันหนึ่ง ก็เห็นทหารเตียวเจยกทหารจํานวนมากมาจากเมืองฮองหลง มาตั้งคายอยูใกลกับ
40.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 40 เมืองหลวงแหงที่สองนั้น แลวสงทหารมาแจงแกลิฉุย กุยกีใหเลิกรบตอกัน หากฝายใดไมฟงคําเตียวเจก็จะเขา ดวยกับอีกฝายหนึ่ง แลวจะโจมตีฝายที่ไมเชื่อฟงนั้นใหพินาศไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม โจรปลนควายไมรายเทาโจรขายชาติ (ตอน 68) เตียวเจแมจะเปนหนึ่งในสี่ทหารเอกของตั๋งโตะที่รวมการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกีมาตั้งแตตน และถูกลิฉุย กุยกี แยงชิงอํานาจในเมืองหลวงไวแตเพียงสองคน มิหนําซ้ํายังขับไลไสสงใหออกไปอยู เมืองฮองหลง แตเตียวเจ นั้นยังเปนคนเห็นแกพวก ไมผูกใจเจ็บถือ พยาบาทเอากับเพื่อนรวมการ ยอมทําตามใจพวก โดยไมเคยปริปาก ครั้นเตียวเจทราบวาลิฉุย กุยกี บาดหมางลางผลาญกันเองจนเกิดเปนจลาจลขึ้นในบานเมืองจึงยกทหารมาจาก เมืองฮองหลงหามทัพของลิฉุย กุยกี ไมใหรบกันอีกตอไปหวังจะสรางความปรองดองใหเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต เตียวเจยอมรูดีวาคนแบบลิฉุย กุยกีนั้นจะพูดกันแตปากเปลายอมไมไดผล อันคนเรานั้น บางสามารถพูดจากัน ดวยเหตุดวยผล บางสามารถตกลงกันไดดวยผลประโยชน บางพูดจากันรูเรื่องโดยอาศัยสุราเมรัยหรือสตรี แต กับบางคนบางกลุมก็ตองพูดกันดวยกําลังและตองเปนกําลังอาวุธ และคนแบบลิฉุยกุยกีนั้นไมอาจใชวิธีพูดจา กันใหรูเรื่อง ดวยประการอื่นนอกจากดวยกําลังทหารเทานั้น ดังนั้นเมื่อจะพูดจาใหลิฉุย กุยกีเลิกรบกัน เตียวเจจึงตองยกกําลังทหารจํานวนมากมาดวย และแจงตอทั้งสอง คนวาถาหากฝายใดฝายหนึ่งไมทําตาม เตียวเจก็จะเขาขางอีกฝายหนึ่ง ดังนี้แลวการพูดจากับคนแบบลิฉุย กุยกีจึงจะไมเปนการเสียเวลาเปลา ฝายลิฉุยและกุยกีครั้นไดทราบความที่เตียวเจแจงใหเลิกรบกันแลว ก็เกรง กําลังทหารของเตียวเจจึงยินยอมเลิกรบกันแตโดยดี และปลอยขุนนางที่กักขังไวนั้น ดังนั้นเตียวเจจึงสั่งทหาร ใหรักษาคายไวนอกเมืองใหมั่นคง แลวทําหนังสือกราบบังคมทูล พระเจาเหี้ยนเต กราบทูลถวายรายงานให ทรงทราบทุกประการ พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบความตามคํากราบบังคมทูลแลวทรง มีพระทัยยินดียิ่งนัก และทรงเห็นวาเตียวเจทํา ความชอบไวกับแผน ดินจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหเตียวเจเปนขุนนางผูใหญฝายทหาร เตียวเจรับพระบรมราช โองการแตงตั้งแลวจึงเขาเฝากราบบังคมทูลวา เมืองหลวงแหงที่สองนี้ไมเหมาะสมกับพระเกียรติของ พระมหากษัตริย เพราะสิ่งกอสรางตางๆ ที่ตั๋งโตะไดทําขึ้นนั้นบัดนี้ทรุดโทรม จึงขออัญเชิญเสด็จไปประทับ ชั่วคราวที่เมืองฮองหลง เพื่อบูรณะเมืองเตียงอันเปนเมืองหลวงใหมตอไป พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็น ชอบและ โปรดฯใหเตียวเจยกทหารไปเมืองเตียงอันเพื่อทําการบูรณะ ใหสมบูรณดังเดิม แลวพระเจาเหี้ยนเตจะเสด็จ ตามไปในภายหลัง เตียวเจรับรับสั่งแลวก็ออกมายกทหารไปเมืองเตียงอัน ฝายขุนนางตางๆ ครั้นไดรับการปลอยตัวแลวก็พากันไป เขาเฝาพระเจาเหี้ยนเตกราบทูลวาถาขืนอยูในเมืองนี้ตอไปก็จะเปนอันตราย เพราะลิฉุย กุยกี สองคนนี้ ความคิดอานไมอยูกับรองกับรอย และเชื่อถืออันใดไมได วันหนึ่งคิดอยางหนึ่งทําอยางหนึ่ง เปลี่ยนแปลงไป ทุกวันเวลา ดังนั้นหากเปลี่ยนความคิดขึ้นในวันเวลาใด อันตรายก็จะเกิดขึ้นอีก บรรดาขุนนางเหลานั้นจึง รวมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตใหไปประทับที่เมืองฮองหลงกอนเปนการชั่วคราว พระเจา เหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ทรงเห็นตาม จึงรับสั่งให จัดขบวนเสด็จ แลวเสด็จออกจากเมืองหลวงแหง ที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลงพรอมดวยขุนนางขาราชการทั้งปวง ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงเชิงสะพานแหงหนึ่งก็ถูกทหารของ กุยกีสกัดไว เนื่องจากไดรับคําสั่งจากกุยกีให มาตั้งมั่นรักษาสะพาน เพื่อปองกันมิใหทหารกองอื่นๆ ของลิฉุยยกเขามาชวยลิฉุยได บรรดาขุนนางเห็นทหาร ของกุยกีคุมสะพานกั้นขบวนเสด็จไวจึง เขาไปเจรจาแจงความใหทราบวานี่เปนขบวนเสด็จของฮองเต พวกเจา มาขัดขวางไวจะเปนกบฏหรือ ความจริงบรรดาขุนนางเหลานั้นเห็นทหารมาสกัดอยูบนสะพานขางหนาตางก็มี ความตกใจ แตทําใจดีสูเสือเพราะเห็นวาเปนทหารชั้นผูนอย ยอมมีความยําเกรงในพระบารมี จึงใชวิชาเจรจา ของขุนนางกลาวความใหญขูวาการขวางขบวนเสด็จเปนการกบฏทหารของกุยกีซึ่งรักษาสะพานอยูนั้นไดรับ คําสั่งมาแตเพียงใหมา สกัดกองทหารอื่นๆ ของลิฉุย ไมคิดวาจะมีขบวนเสด็จผานมาทางนี้ ก็เกิดความลังเลแต ดวยความเปนทหารอาชีพและเกรงในพระบารมีของฮองเต แตไมแนใจวาจะเปนเรื่องจริงหรือเรื่องลวงจึงถาม วาถาเชนนั้นฮองเตอยูที่ไหน พระเจาเหี้ยนเตประทับอยูในรถพระที่นั่ง ทรงสดับคําโตตอบของทหารกุยกีแลว จึงทรงเปดมูลี่รถพระที่นั่งแลวโบกพระหัตถใหกับทหารของกุยกี ฝายทหารของกุยกีเห็นพระเจาเหี้ยนเต ประทับอยูในรถพระที่นั่งก็ตกใจ รีบคุกเขาลงถวายบังคมแลวถอยลงมาจากสะพานเปดทางใหขบวนเสด็จผาน ไปแลวไปที่คายของกุยกีรายงานความใหกุยกีทราบ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
41.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 41 กุยกีทราบความแลวก็โกรธหาวาทหารของตัวไมฟงคําสั่ง ทั้งๆ ที่ไมไดมีคําสั่งใหสกัดขบวนเสด็จแตประการใด จึงสั่งประหารทหารที่รักษาสะพานนั้นเสีย แลวรีบยกทหารตามขบวนเสด็จไป ฝายเอียวฮองซึ่งหนีจากลิฉุย เพราะคบคิดกับซองโกสังหารลิฉุยไมสําเร็จ แลวไปตั้งมั่นอยูที่เนินเขาแหงหนึ่ง ครั้นไดทราบวาพระเจา เหี้ยนเตเสด็จออกจากเมืองหลวงแหงที่สองจะไปยังเมือง ฮองหลง ก็ยกทหารมาเพื่อถวายการอารักขาเอียว ฮองและทหารยกมาใกลขบวนเสด็จก็เห็นทหารของกุยกียกไลตามขบวนเสด็จมาจึงเขาสกัดไว ทั้งสองฝายได ตอสูกันเปนสามารถ ซิหลงทหารของเอียวฮองเห็นซุยยงทหารของกุยกีรบฝาเขามาหาเอียวฮองจึงชักมาเขา สกัดซุยยงไว รบกันไดสามเพลงซิหลงก็ใชขวานฟนซุยยงตกมาตาย ทหารของเอียวฮองไดทีก็ไลโจมตีทหาร ของกุยกีแตกพายไป เอียวฮองจึงพาซิหลงและทหารมาเขาเฝาพระเจาเหี้ยนเต ถวายบังคมกราบทูลรายงาน แลวพระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจ และรับสั่งใหเอียวฮอง ซิหลง และทหารที่ยกมานั้นอารักขาขบวนเสด็จ ครั้นรุง เชากุยกีไดรวบรวมทหารจํานวนหนึ่ง จึงยกตามมาอีกหวังจะจับตัวพระเจาเหี้ยนเต กุยกียกทหารทันขบวนเสด็จ จึงใหเขาลอมขบวนเสด็จไว ในขณะนั้นตังสินขุนนางในพระเจาเหี้ยนเตไดรวบรวมทหารที่มีความจงรักภักดีตอราชสํานักไดจํานวนหนึ่งได ทราบขาว การเสด็จของพระเจาเหี้ยนเตจึงยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารของกุยกีลอมขบวนเสด็จอยู จึงสั่ง ทหารใหลอมทหารของกุยกีไวอีกชั้นหนึ่ง เอียวฮอง ซิหลงและทหารซึ่งอารักขาขบวนเสด็จและตกอยูในวง ลอมชั้นใน ครั้นเห็นตังสินและทหารลอมทหารกุยกีไวอยูชั้นนอก จึงตีกระหนาบทหารของกุยกีออกมา ในขณะ ที่ทหารของตังสินก็ตีกระหนาบเขาไป ทหารของกุยกีถูกตีกระหนาบพรอมกันทั้งสองดาน จึงแตกพายไปอีก ครั้งหนึ่ง ตังสิน เอียวฮอง และซิหลง จึงพากันไปเขาเฝา พระเจาเหี้ยนเต ทอดพระเนตรเห็นตังสินซึ่งเปนขุน นางที่ทรงสนิทสนมก็ทรงพระกันแสง และทรงเลาความยากลําบากใหตังสินฟงทุกประการ ตังสินกราบบังคมทูลวากุยกีแตกไปครั้งนี้คงจะไปรวบรวมทหารยกตามมาอีก และดีรายลิฉุยก็อาจจะยกตามมา เชนเดียวกัน จึงกราบ บังคมทูลใหรีบเสด็จพระราชดําเนิน พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นชอบดวย จึงมีรับสั่งให เคลื่อนขบวนเสด็จรีบเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืนจน ถึงเมืองฮองหลง ครั้นถึงเมืองฮองหลงแลวบรรดาขุน นางที่ตามมาในขบวนเสด็จ เห็นสภาพเมืองฮองหลงแลวก็เปลี่ยนความคิด และพากันเขาไปกราบบังคมทูลวา เมืองฮองหลงเปนเมืองเล็กนัก ทหารรักษาเมืองก็นอย เกรงวาถาหากลิฉุย กุยกี ยกตามมาก็จะไมสามารถ รับมือกับลิฉุย กุยกีได และเสนอใหเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอัน ความคิดของเหลาขุนนางขี้ขลาดเหลานี้ เกิดจากความขี้ขลาดตาขาวโดยแท เพราะเมืองฮองหลงถึงจะเปนเมืองเล็ก แตก็มีกําแพงเมือง ทั้งทหารที่พอ มีอยูบางก็พอที่จะรักษาเมืองเอาไวได และสามารถออกหมายรับสั่งเรียกเจาเมืองอื่นๆ ใหมาชวยปองกันและ กําจัดลิฉุย กุยกีได แตกลับไมคิด โรคกลัวตายขึ้นสมอง ปดบังสติปญญาไวสิ้น คิดแตจะหนีทาเดียว พระเจา เหี้ยนเตฟงคําขุนนางขี้ขลาดเหลานั้นแลว ทรงเห็นชอบ จึงเคลื่อนขบวนเสด็จออกจากเมืองฮองหลงจะไป เมือง เตียงอัน ฝายลิฉุยครั้นทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จไปเมืองฮองหลงและกุยกียกทหารไลตามไปก็เกรงวาถาหากกุยกี ควบคุมพระเจาเหี้ยนเตแลวยึดอํานาจเหมือนกับที่ตัวเคยกระทํามากอน จึงรีบยกทหารมาเมืองฮองหลง มาพบ เขากับกุยกีและทหารที่แตกหนีมา กุยกีจึงเลาความใหลิฉุยฟงทุกประการ สองเสือที่เคยรบกันอยางบาคลั่ง มา บัดนี้เห็นวาการที่เอียวฮอง ตังสินไดเขาถวายการอารักขาขบวนเสด็จทําใหอํานาจรัฐหลุดลอยจาก น้ํามือตัว และถาหากปลอยใหขบวนเสด็จไปถึงเมืองเตียงอัน ก็จะสมทบเขากับทหารของเตียวเจ พระเจาเหี้ยนเตก็จะตั้ง หลักได อันตรายก็จะเกิดแกทั้งสองคน ผลประโยชนจึงกลับมาสมกันอีกครั้งหนึ่งที่จะตองชิงเอาพระเจา เหี้ยนเตจากการถวายอารักขาของเอียวฮองและตังสิน ดังนั้นทั้งสองเสือจึงทําความตกลงกันวาจะรวมกันทําการอีกครั้งหนึ่ง โดยจะจับพระเจาเหี้ยนเตฆาเสีย ผลประโยชนและทรัพยสมบัติที่ไดมาก็จะแบงกันฝายละครึ่ง ขอตกลงของลิฉุย กุยกีในครั้งนี้เปนขอตกลงที่ไม คํานึงถึงฐานะตําแหนงขุนนางอีกตอไป และเปนขอตกลงของโจรที่จะปลนชิง เอาทรัพยสมบัติตางๆ มา แบงปนกัน ไมตางกระไรกับนักการเมืองในปจจุบันที่บริหารบานเมืองโดยมิไดคํานึงถึงประโยชนสุขของ ประเทศชาติและราษฎร คิดแตจะขายชาติ ปลนชาติและราษฎร แบงผลประโยชนกันเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด คนถอยทั้งสองทําความตกลงกันแลวก็รวมมือกันยกทหารตามขบวนเสด็จไป ยกไปถึงตําบลใดก็เขาปลนสะดม ชิงเอาทรัพยสินของ ราษฎรตําบลนั้น แลวแบงสันปนสวนกันฝายละครึ่ง กองโจรของ ลิฉุย กุยกี ไดปลน ราษฎรราบคาบไปตลอดทาง จึงทําใหการไลตามขบวนเสด็จลาชาลง ฝายตังสิน เอียวฮอง ครั้นไดทราบขาว วาลิฉุย กุยกี ยกทหารไลตามมาอีก จึงจัดทหารจํานวนหนึ่งใหรีบนําขบวนเสด็จรีบเคลื่อนไป สวนตังสิน และเอียวฮองหยุดกองทหารไวเตรียมสกัดลิฉุย กุยกี ครั้นกองทหารของลิฉุย กุยกี ตามมาถึง ทั้งสองฝายได รบพุงกันเปนสามารถ ทหารของตังสิน เอียวฮองนอยกวาก็ถอยรน ตังสินและเอียวฮองเห็นเชนนั้นจึงใหทหาร รบถวงเวลาไว สวนตังสินกับเอียวฮองรีบตามขบวนเสด็จไป ทันขบวนเสด็จแลวนําขบวนเสด็จยกไปทางดาน
42.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 42 เหนือ ทหารของตังสิน เอียวฮอง รบถวงเวลาไวจนค่ําก็พากันหนีตามขบวนเสด็จไป ทหารของลิฉุย กุยกีเห็น เวลาค่ําลงแลวก็ยกทหารเขา ไปในเมืองฮองหลง แยงกันปลนทรัพยสินของราษฎรเมืองฮองหลงแลวแบงกัน ฝายละครึ่งตามขอตกลง รุงเชาก็รีบตามขบวนเสด็จไป ฝายตังสินกับเอียวฮองนําขบวนเสด็จมาระยะหนึ่งแลวปรึกษากันวาการจะหนีอยางเดียวคงจะไปไมตลอด จะตองเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีอีกครั้งหนึ่ง และตองเสริมกําลังอารักขาขบวนเสด็จเพิ่มขึ้นทั้งสองขุนนางเห็นชอบ พรอมกันและไดทราบขาววาในทองถิ่นนี้มีกลุมโจรสามกลุมคือกลุมของหันเซียม, ลิงัก และโฮจาย มีกําลังเปน จํานวนมาก จึงใหทําหมายรับสั่งเรียกนายโจรทั้งสามใหเขามาถวาย อารักขาและนิรโทษกรรมความผิดที่มีมา แตกอน และใหแตงหมายรับสั่งเกลี้ยกลอมลิฉุย กุยกีใหรวมกันบริหารบานเมืองอีกครั้งหนึ่ง นายโจรทั้งสามกลุมครั้นไดรับหมายรับสั่งแลวมีความปลาบ ปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ จึงพากันยกกําลังมา รับเสด็จ พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดฯใหโจรกลับใจทั้งสามกลุมถวายการอารักขา ตรงกันขามกับลิฉุย กุยกี ไดรับ หนังสือรับสั่งแลวไมยอมทําตาม เพราะบัดนี้ทั้งลิฉุย กุยกีหมดสิ้นความสํานึกในความเปนขุนนางแลว มีแตใจ โจรโฉดเขาสิงใจ จนไมสามารถเปลี่ยนความคิดจิตใจไดอีกตอไป เหมือนกับนักการเมืองที่ขายชาติและปลน ชาติจนเสียสติ ไมสามารถ ยั้งคิดหรือสํานึกในความผิดชอบชั่วดีอีกตอไปสวนโจรกลับใจนั้นเลาใครจะหยั่งคาด จิตใจโจรได แตยามสิ้นทาจนตรอกจําเปนตองเกี่ยวของดวยแลว คบกับโจรทองถิ่นที่กลับใจ ก็ยังดีเสียกวาที่ จะคบหรือเปนพวกพองกับนักการเมืองที่ขายชาติ หรือปลนชาติ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ในวังวนของคนอับจนปญญา (ตอนที่ 69) ขบวนเสด็จยกออกจากเมืองฮองหลงหนีการไลลาโจมตีของลิฉุย กุยกีมาหลายหนจนตรอกเขาถึงกับตองหัน พึ่งกลุมโจรทองถิ่น และพระเจาเหี้ยนเตไดโปรดเกลาฯ ใหนายโจรและกลุมโจร ทั้งสามกลุมเขาถวายการ อารักขา ครั้นขบวนเสด็จเคลื่อนมาถึงตําบลตังกั๋ง ความคิดที่จะไปเมืองเตียนอันก็ไดเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ในสถานการณเชนนั้นจําเปนที่จะตองตั้งหลักใหไดกอนแลว เรียกใหบรรดาหัวเมืองยกทหารมาชวย แต ตังสินขุนนางคนสนิท กลับเรียกนายโจรทั้งสามคนมาปรึกษาวา การเดินทางไปเมืองเตียนอันเปนระยะทางไกล ควรยกเขาตีเอาเมืองฮองหลงแลวตั้งหลักที่เมือง ฮองหลงเสียกอน นายโจรทั้งสามคนไมเคยมีความคิดอานใน เรื่องการบานการเมืองและการศึกสงคราม ครั้นถูกปรึกษาเรื่องเชนนี้จึงเออออตามตังสินไป ดังนั้นตังสินจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยอนกลับไปเพื่อจะยึดเมืองฮองหลง ครั้นเคลื่อนมาถึงตําบลอยูเอี๋ยงก็ ปะทะกับกองทหารของลิฉุย กุยกี ตางฝายตางยันกัน ลิฉุยจึงปรึกษากุยกีวาการที่ขบวน เสด็จตองพึ่งกําลังโจร ทองถิ่นเชนนี้ หากเราจะตอสูกับพวกโจรซึ่งหนา ก็จะเปลืองกําลังเสียเปลา และวิสัยโจรนั้นถึงจะกลับใจก็ยอม มีน้ําใจ ใฝชอบทรัพยสินติดอยูในกมลสันดาน ดังนั้นถาหากเราเอาทรัพยสินเสื้อผาเขาลอ พวกโจรคงไมมีใจสู รบดวยคิดแตจะเอาทรัพยสินคงจะเสียทีเราเปนมั่นคง กุยกีเห็นชอบดวยจึงวาถาเชนนั้นเราจงเอาทรัพยสินและเสื้อผา ที่ปลนมาจากราษฎรคนละครึ่งมารวมกันแลว เอาไปทิ้งตามสองขางทาง แลวรบลอพวกโจรมาถึงที่ทิ้งทรัพยสินลอไวนั้น พวกโจรคงชุลมุนแยงทรัพยสินกัน เราจึงคอยยกทหารเขาโจมตีคงจะไดชัยชนะโดยงาย สองเสือปรึกษาเห็นชอบในการลงขันเอาทรัพยสินเสื้อผา ลอโจร แลวตางฝายตางสั่งใหสมุนของตนนําทรัพยสินและเสื้อผาคนละครึ่ง มารวมไวเปนกองกลาง แลวสั่ง ทหารใหเอาไปทิ้งไวตามขางทาง และยกทหารออกไปรบดวยทหารที่คุมกันขบวนเสด็จ ครั้นทหารทั้งสองฝาย ปะทะกันไดครูหนึ่ง ทหารของลิฉุย กุยกี ก็ทําทีถอยหนีมาตามทางที่เอาทรัพยสินเสื้อผาไปทิ้งไวนั้น ทหาร ของ ตังสินไลตามมาเห็นทรัพยสินเสื้อผาทิ้งเกลื่อนกลาดอยูตามรายทางเปนอันมากก็หยุดไลตาม ตางคนตาง พากันแยงชิงเอาทรัพยสินเสื้อผา ซึ่งทิ้งไวนั้นเกิดอลหมานขึ้น ลิฉุย กุยกีเห็นทหารตังสินตองกลจึงใหจุด ประทัดสัญญาณแลวยกทหารเขาลอมตีกระหนาบทหารของตังสิน ฝายทหารของตังสินมัวหลงเพลินแยงชิง ทรัพยสินกันไมทันระวังตัว จึงถูกทหารของลิฉุย กุยกีฆาตายเปนจํานวนมาก ที่เหลืออยูทิ้งขาวของแลวพากัน หนีไปตามขบวนเสด็จ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ทหารของลิฉุย กุยกีไลตามตีไปไมลดละ ดานตังสินและเอียวฮอง เห็นเชนนั้นจึงรีบพาขบวนเสด็จหนีไป ทางดานเหนือ ลิงักนายโจรอีกคนหนึ่งเห็นเหตุการณจวนตัวจึงกราบบังคมทูลใหพระเจาเหี้ยนเตรีบลงจากรถ พระที่นั่งประทับบนหลังมารีบหนีไป แตพระเจาเหี้ยนเตทรงสงสารขาราชบริพาร จึงมีพระดํารัสวาในยาม อันตรายเชนนี้เราจะทอดทิ้งพวกทานไปไดอยางไรกัน เปนอะไรก็ขอใหเปนไปดวยกัน บรรดาขุนนางและนาย โจรไดยินพระราชกระแสดังนั้น ก็ซาบซึ้ง ในน้ําพระทัยพากันรองไห แลวชวยกันปองกันขบวนเสด็จรีบรุดหนา
43.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 43 หนีตอไป หนีมาไดระยะหนึ่งทหารของลิฉุย กุยกีก็ยิ่งตามใกลเขามา ตังสินเห็นวาถาจะหนีในลักษณะเชนนี้ก็ จะไมทันการณ จึงกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาเชิญเสด็จประทับบนหลังมา และรีบขับหนีไป จนถึงริมฝงแมน้ําฮวงโห ลิงักนายโจรหาเรือไดลําหนึ่งจึงอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาลงเรือขาม แมน้ําฮวงโหไปพรอมกับขาราชบริพารจํานวนหนึ่ง สงเสด็จขามฝงแลวก็นําเรือกลับมารับขุนนางและทหารได อีกหลายเที่ยว แตยังไมทันหมดทหารของลิฉุย กุยกีก็ตามมาถึงริมแมน้ํา ฮวงโห แลวจับเอาบรรดาขุนนาง และขาราชบริพารที่คางอยูนั้นไวทั้งสิ้น ตังสิน เอียวฮอง ไดจัดหาเกวียนเปนพระราชพาหนะของพระเจาเหี้ยนเตและฮองเฮาแลวนําเสด็จหนีตอไป จนถึงชายแดนเมือง ไทเอียงเปนเวลาค่ํา เห็นบานราษฎรอยูใกลๆ เปนโรงกระเบื้องจึงพากันไปขออาศัยคาง คืน เจาของโรงกระเบื้องรูวาเปนขบวนเสด็จก็ดีใจ จัดเตรียมอาหารมาถวายแลวเลี้ยงดูพวกที่ตามเสด็จนั้น รุง ขึ้นเอียวปวกับฮันหยงขุนนางผูใหญติดตามมาพบก็พากันเขาเฝาแลวรองไหสงสารพระเจาเหี้ยนเต สําหรับเอียวปวนั้นละอายใจตัวเองยิ่งนักที่เสนอแผนยุสองเสือใหกัดกันจนพระเจาเหี้ยนเตตองตกอยูในความ ทุกขยากลําบากถึงเพียงนี้ ฮันหยงหยุดรองไหกอนจึงกราบทูลวา ขาพระพุทธเจากับลิฉุย กุยกีนั้นมีความสนิท สนมกัน ทั้งสองคนมีความเคารพยําเกรงเปนอันมาก จึงขออาสาไปเกลี้ยกลอมอีกครั้งหนึ่งและขออัญเชิญ เสด็จประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้เพื่อฟงขาวกอน พระเจาเหี้ยนเตครั้นไดเห็นทางรอดตามคํากราบบังคมทูลของ ฮันหยงจึงมีพระราชดํารัสวาตามใจทานเถิด ฮันหยงรับพระบรมราชานุญาตแลวจึงกราบบังคมลาออกไปหาลิฉุย กุยกี พอฮันหยงออกไปแลว ลิงักจึงกราบ ทูลวาการประทับอยูที่โรงกระเบื้องนี้ไมเหมาะสมเพราะไมมีรั้วกําแพงปองกันอันตรายทั้งทหาร ก็ไมเพียงพอ ตอการอารักขา จึงขออัญเชิญรีบเสด็จตอไป พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงเออออตามลิงัก ขบวนเสด็จไดเคลื่อนออก จากโรงกระเบื้องไปถึงตําบลอันอิบเปน เวลาค่ํา จึงขออาศัยบานราษฎรเปนที่ประทับแรม โดยพวกที่ตามเสด็จ ทําหนาที่ถวายการอารักขาอยูรอบบานที่ประทับนั้น ฮันหยงรับอาสาพระเจาเหี้ยนเตแลวเดินยอนกลับไปถึงริมแมน้ํา ฮวงโห ขามแมน้ําไปพบกับลิฉุย กุยกี ทักทาย คารวะกันตามธรรมเนียม แลวจึงวาบัดนี้พระเจาเหี้ยนเตทรงตกทุกขระกําลําบากนัก ทั้งสองทาน อยาได ติดตามพระองคอีกเลย เพราะเพียงเทาที่เปนอยูนี้หากราษฎร ทั้งปวงรูความเขาก็จะพลอยนินทาวาทานคิดราย ตอพระมหากษัตริย แตถาละเสียไวแตเพียงนี้ ความสรรเสริญก็จะบังเกิดมีแกทานทั้งสอง ไปจนชั่วกัลปาวสาน สองโจรโฉด ใจหนึ่งเคารพยําเกรงฮันหยงมาแตเดิม ครั้นได ยินคําลอวาการปลอยพระเจาเหี้ยนเตจะไดรับคํา สรรเสริญและมาคิด วาแมหากจะยกทหารขามแมน้ําไปก็ไมไดแลว จึงตกลงทําตามคําขอ ของฮันหยง แลว ปลอยบรรดาขุนนางและขาราชบริพารที่จับตัวไวนั้นเสีย ฝายเตียวเฮียง ซึ่งบัดนี้ไดเปนที่เจาเมืองโหลายสืบตอจากอองของและฮองอิบเจาเมืองโฮตอง ครั้นไดทราบ ขาววาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จลี้ภัยมาประทับอยูที่บานราษฎรที่ตําบลอันอิบ จึงจัดแจงเสบียงอาหารและพา เจาหนาที่มาเขาเฝา นอมเกลาถวายเสบียงอาหารทั้งนั้น พระเจาเหี้ยนเตทรงรับมอบเสบียงจากสองเจาเมือง แลวทรงขอบใจแตมิไดตรัสความเมืองอื่นตอแตประการใด สถานการณมาถึงขั้นนี้พอจะแลเห็นไดวาขบวน เสด็จนาจะปลอดภัยและเริ่มตั้งหลักได เพราะเพียงแคเสด็จไปประทับที่เมืองใดเมืองหนึ่งเปนการชั่วคราวและ ใหหัวเมืองตางๆ สงทหารมาชวยเพียงเมืองละหาพันถึงหมื่นคนเพื่อรักษาเมืองแลว จึงคอยคิดอานบูรณะเมือง หลวง ความสงบสุขสันติก็อาจฟนคืนมาไดโดยเร็ว แตเปนโชครายของราชวงศฮั่นเพราะหาผูใดมีความคิด สติปญญามิได ผูคนทั้งปวงในที่นั้นลวนแลวแตเปนพวกอับจนปญญาทั้งสิ้น ตังสินและเอียวฮองปรึกษากับพวกอับจนปญญาดวยกันเปลี่ยน เปาหมายในการเดินทางใหมอีกครั้งหนึ่งวาจะ ใหทหารไปทําการบูรณะเมืองลกเอี๋ยง ราชธานีเกาที่ถูกตั๋งโตะเผาผลาญจนวอดวายขึ้นมาใหม แลวอัญเชิญ เสด็จพระเจาเหี้ยนเตไปอยูเมืองลกเอี๋ยง ลิงักนายโจรไมเห็นดวย อางวาเมืองลกเอี๋ยงถูกเผาผลาญหมดสิ้น แลวทั้งสถานการณในขณะนี้ยังไมมีความปลอดภัย ควรตั้งหลักอยูที่เดิม ไปกอนจนกวาจะมีทหารจากหัวเมือง ตางๆ มาชวยเหลือ ตังสินและเอียวฮองไมฟงคําทัดทานของลิงัก ดังนั้นลิงักจึงไม ยอมติดตามไปดวย ฝายตังสินและเอียวฮองจึง กราบบังคมทูลอัญเชิญ เสด็จพระเจาเหี้ยนเต ฮองเฮาและขาราชบริพารจะยกไปเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเต ก็เห็นชอบตามคํากราบบังคมทูลนั้น ลิงักครั้นเห็นตังสินไมฟงคําจึงมีใจคิดออกหาง และสงคนนําความไปแจง แก ลิฉุย กุยกีวาบัดนี้ตังสินและเอียวฮองกําลังนําขบวน เสด็จไปเมืองลกเอี๋ยง ขอใหคิดการชิงเอาพระเจา เหี้ยนเตมาฆาเสีย ตัวเราจะยกไปสมทบและแบงปนทรัพยสินกันเปนสามสวน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
44.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 44 ลิฉุย กุยกีทราบความแลวมีความยินดีตกลงที่จะยกทหารไปชิง เอาพระเจาเหี้ยนเต ฝายลิงักครั้นใชคนไปแจง ความแกลิฉุย กุยกีแลว กลับมาคิดใหมวาเรื่องอะไรที่เราจะใหลิฉุย กุยกีชวงชิงพระเจาเหี้ยนเต เราจะจัดการ เสียเองมิดีกวาหรือ เปลี่ยนใจดังนี้แลวจึงพาพรรคพวกโจรรีบตามขบวนเสด็จไป ครั้นยามสามก็ทันขบวนเสด็จ ณ เขากิสาน ลิงักจึงรองเรียกขบวนเสด็จใหหยุดกอนอางวาลิฉุย กุยกีกําลังยกทหารตามมา พระเจาเหี้ยนเตได ยินเสียงไลตามขบวนเสด็จมาก็ตกพระทัย เอียวฮองจึงกราบบังคมทูลวานั่นเปนลิงักพาพรรคพวกโจรติดตาม มาคาดวาคงจะมารายเปนแน แตเห็นจะไมเปนอันตรายเพราะลิงักนั้นไรฝมือและพรรคพวกก็ไมมากนัก กราบ ทูลแลวเอียวฮองจึงสั่งใหซิหลงคุมทหารถอยมาเปนกองหลัง จึงปะทะกับพรรคพวกของลิงัก ซิหลงตอสูกับลิ งักไดสามเพลง ก็เอาขวานฟนลิงักตกมาตายแลวไลฟนพวกโจรแตกหนีไป ขบวนเสด็จเคลื่อนมาทั้งคืน ครั้นสวางก็เขาเขตเมืองลกเอี๋ยง ขณะนั้นเตียวเอี๋ยนไดนําอาหารมาทูลเกลาถวาย พระเจาเหี้ยนเตทรงขอบใจและโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหเตียวเอี๋ยนเปนขุนนาง ขบวนเสด็จไดเคลื่อนเขาไปใน เมืองลกเอี๋ยง แลวหยุดขบวนที่ประตูพระราชวังเดิม พระเจาเหี้ยนเตเสด็จพระราชดําเนินพรอมกับขุนนางและ ขาราชบริพารเขาไปในพระราชวัง ทอดพระเนตรพระตําหนักและอาคารสิ่งกอสรางตางๆ ซึ่งถูกเพลิงเผาผลาญ เหลือแตฐานราก มีตนไมและหญาขึ้นรกชัฏโดยทั่วไป พระเจาเหี้ยนเตทรงรําลึกถึงเมื่อครั้งแตกอนที่เคย ประทับในพระราชวังก็สลดพระทัยลง ทรงพระกันแสง บรรดาขุนนางและขาราชบริพารเห็นสภาพการณเชนนั้น ก็สงสารพากันรองไหระงมเมืองรางนั้น ยุวกษัตริยและขาราชบริพารพากันดูบริเวณพระราชวังโดยรอบแลว ตังสินจึงใหทหารตัดตนไมและตนหญาที่ ปกคลุมพระตําหนักที่ประทับ แลวปลูกโรงชั่วคราวสําหรับเปนที่ประทับและใหปลูกโรงชั่วคราวสําหรับขาราช บริพารฝายหนาอีกหลังหนึ่ง เสร็จแลวจึงเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่พระตําหนักชั่วคราว บรรดาขุนนาง ขาราชบริพารเขาเฝาถวายบังคมตามธรรมเนียม บรรดาราษฎรที่หลบหนีไปอยูนอกเมืองครั้นไดทราบขาววา พระเจาเหี้ยนเตเสด็จกลับมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงก็พากันอพยพกลับเขามาในตัวเมือง ตั้งครอบครัวขึ้นใหม หลายรอยหลังคาเรือน ฝายเอียวปวรําลึกขึ้นไดวาพระราชหัตถเลขาซึ่งพระเจาเหี้ยนเต พระราชทานไวสําหรับเรียกโจโฉเขามารับ ราชการในเมืองหลวงตั้งแตครั้งวางแผนรวมกับจูฮียุสองเสือใหกัดกันแตยังไมไดจัดการสงใหแกโจโฉ จึงนํา ความกราบบังคมทูลใหทรงทราบ ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงมีรับสั่งใหเอียวปวรีบสงพระราชหัตถเลขานั้น ใหแกโจโฉ และทรงกําชับใหรีบยกมาเมืองลกเอี๋ยงแตโดยไว เอียวปวรับกระแสพระราชดํารัสแลวจึงรีบถวาย บังคมลาออกมา แลวสั่งทหารใหรีบนําพระราชหัตถเลขาและอัญเชิญพระราชดํารัสของพระเจาเหี้ยนเตไปมอบ แกโจโฉ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ฟายอมประทานโอกาสแกผูมีความพรอม (ตอนที่ 70) รับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตผูเปนโอรสแหงสวรรคที่ใหเรียกหาตัวโจโฉเขามาชวยราชการในเมืองหลวงเปน โอกาสสําคัญที่ฟาประทานแกโจโฉ เนื่องเพราะโจโฉนั้นมีความพรอมยิ่งกวาขุนนางและขุนศึกใดๆ ในแผนดิน ความพรอมสถานหนึ่งก็คือ ความมีผูสนับสนุนที่อยูใกลชิดฮองเต ในครั้งนั้นไดแกจูฮี ซึ่งโจโฉเคยรวมงานใน กองทัพปราบโจรโพกผาเหลือง และความพรอมอีกสถานหนึ่งคือการที่โจโฉไดครองอํานาจในภาคตะวันออก มีทหารเอก แมทัพ นายกอง และทหารเลว ถึงสามสิบหมื่น มีศักยภาพที่จะชวยราชการในเมืองหลวงได เพราะ ความพรอมสองประการนี้โอกาสจึงเปดใหแกโจโฉ ในทางตรงกันขามถาหากวาโจโฉไมมีความพรอม ถึงแมฟา จะเปดโอกาสแลวแตยอมยากหรือยอมไมอาจกุมโอกาสนั้นเอาไวได ครั้นโจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาของ พระเจาเหี้ยนเตและรับสั่งใหรีบ เขาไปชวยราชการในเมืองหลวงแลว สอบถามกับทหารที่อัญเชิญพระ ราชหัตถเลขามานั้นไดความวา บัดนี้พระเจาเหี้ยนเตเสด็จประทับอยูที่เมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงมีความยินดียิ่ง นัก รีบเรียกประชุม บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งปวงโจโฉไดแจงขอรับสั่งใหบรรดาที่ปรึกษาและแม ทัพนายกองฟงแลวขอความเห็นวาสมควรดําเนินการประการใด ทั้งๆ ที่ในใจโจโฉเองนั้นปกใจมั่นอยูกอนแลว วาจะตองรีบยกเขาไปเมืองหลวงกุมโอกาส นี้ไวใหมั่นคง แตนี่เปนวิสัยของผูนําที่มีการใดเปนขอสําคัญยอม รวม กันคิดอานปรึกษาแลวแบงภาระหนาที่กันทํา การใหญจึงจะสําเร็จดังประสงค All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนฮกที่ปรึกษาจึงวา ในสมัยเลียดกกนั้นพระเจาจิ๋วซองอองได เสวยราชยแผนดินเปนจลาจลจึงโปรดเกลา ใหจิ๋นบุนกงเขาไปรับราชการในเมืองหลวง จิ๋นบุนกงเปนผูมีสติปญญา จัดการบริหารราชการแผนดินไมทันนาน ก็เขารูปเขารอย สามารถครองใจบรรดาขุนนาง ขาราชการทั้งปวงได สืบตอมาจิ๋นบุนกงก็ไดครองราชสมบัติ โดยงาย และวาสถานการณบานเมืองขณะนี้คลายกับเมื่อครั้งเลียดกกนั้น แผนดินเปนจลาจล ราษฎรไดรับ
45.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 45 ความทุกขเข็ญทุกหยอมหญา บรรดาขุนศึกตางแยงชิงอํานาจกัน การที่มีรับสั่งเรียกหาทานเขาไปรับราชการ ในเมืองหลวงครั้งนี้นับวาสวรรคไดประทานโอกาสแกทาน แลว ขอใหทานรีบยกทหารเขาไปยังเมืองลกเอี๋ยง โดยเร็ว หากละไวชาไปบรรดาหัวเมืองอื่นทราบความก็จะชิงโอกาสเขาไปกอน ราชการ สิทธิขาดก็จะตกอยูแก หัวเมืองอื่นนั้น เพราะสถานการณเชนนี้ผูใดยก เขาไปชวยราชการฮองเตกอน อํานาจสิทธิขาดในราชการยอ มตกอยูแกผูนั้น ทานก็จะเสียการไป บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองทั้งนั้นเห็นพองกับความคิด ของซุนฮก โจโฉจึงวาความคิดของทานทั้งปวง ตองดวยความคิดของเรา ดังนั้นเราจะรีบยกไปในทันที จึงสั่งใหเตรียมทหารทั้งสิ้น ยกออกจากที่ตั้งไปเมืองลก เอี๋ยงทั้งกลางวัน กลางคืน โจโฉตั้งปณิธานตั้งแตยังเด็กที่จะตองครองอํานาจเปนใหญในแผนดิน บัดนี้กําลัง พลทั้งฝายบุน ฝายบูพรั่งพรอม เมื่อโอกาสเปดชองใหเชนนี้ โจโฉจึงรีบเขากุมเอาโอกาสนั้นโดยไมลังเล หมายเอา การเขาเมืองหลวงครั้งนี้เขาสูอํานาจรัฐอยางเต็มตัว ดังนั้นบรรดาสรรพกําลังที่มีอยู จึงไดรับคําสั่งให ยกไปเมืองหลวงทั้งสิ้น ทางดานเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตและบรรดาขุนนางขาราชการยังคงปรับปรุงที่ประทับและที่พักตางๆ เพื่อใหมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขณะนั้นทหารลาดตระเวนไดถวายรายงานวา บัดนี้ลิฉุย กุยกียกกองทัพมา ใกลจะถึงเมืองลกเอี๋ยง พระเจาเหี้ยนเตทรงทราบรายงานดังนั้นก็ตกพระทัย เพราะเมืองลกเอี๋ยงถูกเพลิงเผา ผลาญจนหมดสิ้น คายคู ประตูเมือง และหอรบตางๆ ก็ยังไมพรอม จึงรับสั่งใหเรียกบรรดาขุนนางขาราชการ ตางๆ มาปรึกษาบรรดาขุนนางขาราชการ ตลอดจนขาราชบริพารครั้นทราบความก็ตกใจ แตเอียวฮองและ หันเซียมไดกราบทูลวาขออยาทรงพระวิตก ขาพระพุทธเจาทั้งสองจะขออาสาไปโจมตีขับไลกองทัพของลิฉุย กุยกีเอง ตังสินแยงวาทหารฝายเรามีนอยกวาทหารของลิฉุย กุยกีมากนัก ทั้งไมสามารถอาศัยกําแพงเมือง คายคู หอรบตั้งรับขาศึกได ดังนั้นถาหากอยูที่นี่ตอไปคงจะเปนอันตราย จึงขอกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จหนี ไปทางภาคตะวันออก ดีรายก็อาจจะสวนทางกับกองทัพของโจโฉ ซึ่งคงจะยกมาชวยราชการ พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคําตังสินแลวเห็นชอบ จึงโปรดใหจัดขบวนเสด็จแลวยกออกจากเมืองลกเอี๋ยงมุงไป ทางภาคตะวันออก ขบวนเสด็จเคลื่อนไปไดประมาณยี่สิบเสน เห็นกองทหารจํานวนมาก ยกสวนทางมาแต ไกล มีธงประจําตัวแมทัพบงบอกวาเปนกองทัพของโจโฉ พระเจาเหี้ยนเตก็คลายพระทัย ครั้นเขามาใกล ปรากฏวาเปนทหารผูถือรับสั่งไปเรียกโจโฉรวมมา ในขบวนกองทัพหนานั้น ทหารผูถือรับสั่งไดเขามาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตที่รถพระที่นั่ง กราบบังคมทูลวาบัดนี้โจโฉไดรับพระราชหัตถเลขาแลว กําลังยกกองทัพมาตาม รับสั่ง แตพอมาถึงกลางทางไดทราบวาลิฉุย กุยกียกกองทัพมาเมืองลกเอี๋ยง โจโฉจึงสั่งใหแฮหัวตุน เคาทู และเตียนอุย คุมทหารมาหาหมื่นเปนกองหนารีบยกมาถวายอารักขาพระองคกอน พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวก็ดีพระทัยโปรด ใหสามทหารเอกของโจโฉเขาเฝา แฮหัวตุน เคา ทู และเตียนอุย จึงนําทหารทั้งนั้นเขามาถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต ทันใดนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝา กราบบังคมทูลวา บัดนี้มีกองทหารยกมาทางดานตะวันออกอีกกองหนึ่ง พระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหแฮหัวตุน ไปดูสถานการณวาเปนกองทัพของผูใดยกมา ครูหนึ่งแฮหัวตุนพาโจหอง ลิเตียน และงักจิ้น เขามาเฝาแลว กราบบังคมทูลวาโจโฉไดสั่งใหทหารเอกอีกสามคนรีบคุมทหารยกหนุนตามมา จึงขอเบิกตัวเขาเฝา นายทหาร ของโจโฉที่เพิ่งมาใหมทั้งสามนายจึงถวายบังคมพระเจาเหี้ยนเต พระเจาเหี้ยนเตทรงเห็นสถานการณมีความ ปลอดภัยจึงตรัสชม วาโจโฉมีสติปญญารอบคอบมาก ทั้งมีความจงรักภักดี เห็นแกราชการ เปนการดวน สมควรจะไดชวยทํานุบํารุงแผนดิน ขณะนั้นทหารรักษาการณไดเขามาเฝาอีกครั้งหนึ่งแลวกราบบังคมทูลวาบัดนี้กองทัพลิฉุย กุยกียกใกลเขา มาแลว พระเจาเหี้ยนเต จึงตรัสกับแฮหัวตุนวาทานจะคิดอานรับศึกครั้งนี้ประการใด แฮหัวตุน จึงกราบบังคม ทูลวาขออยาทรงพระวิตกตอไปเลย ขาพระพุทธเจาซึ่งเปนกองทัพหนาของโจโฉขออาสาไปกําจัดลิฉุย กุยกี ณ บัดนี้ แลว กราบถวายบังคมลาออกมา แฮหัวตุน โจหอง จัดกองทหารมาเปนกองหนาซายขวาและให ทหารราบเปนกองหนุน ยกไปสกัดกองทัพของลิฉุย กุยกี ทหารมากองหนาทั้งซายขวาไดบุกทะลวงเขาตี กองทัพของลิฉุย กุยกีอยางดุเดือด ทหารราบก็หนุนเนื่องตามเขาไปฆาฟนทหารของ ลิฉุย กุยกีลม ตายลงกวา หมื่น กองทัพของลิฉุย กุยกี จึงแตกพายไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด แฮหัวตุน และโจหองจึงยกทหารกลับมาที่ขบวนเสด็จ แลวอัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตกลับเขาเมืองลกเอี๋ยง ถวายที่ประทับ ณ ที่ประทับชั่วคราวดังเดิม แลวจัดทหารตั้งคายอารักขาไวโดยรอบกําแพงพระนคร รุงขึ้นโจโฉ ยกกองทัพมาถึงเมืองลกเอี๋ยง ใหทหารตั้งคายไวนอกกําแพงพระนคร ตัวโจโฉและทหารเอกที่ติดตามมาไดพา กันไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉคุกเขาลงกับพื้นถวายบังคม แลวพระเจาเหี้ยนเต โปรดใหลุกขึ้นนั่งแลวมีพระ ราชกระแสวา บัดนี้ลิฉุย กุยกีเปนกบฏ เผาทําลายเมืองหลวงแลวไลลา คิดจะทํารายเราจนตองระหกระเหินไป
46.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 46 หลายที่ บัดนี้ไดมาอยูที่เมืองลกเอี๋ยง ลิฉุย กุยกีก็ยังยกกองทัพไลตามมาอีก เปนโชคดีที่ทานยกกองทัพมา ชวยไวทันสถานการณ จึงขอขอบใจทานที่ชวยราชการในครั้งนี้ โจโฉกราบบังคมทูลวา ขาพระพุทธเจาไดรับ พระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยงมาแตกอน มีความซาบซึ้งและสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเปนลนพนคิดอยูเสมอ ที่จะสนองพระเดชพระคุณ ซึ่งลิฉุย กุยกีเปนกบฏนั้นขออยาทรงพระวิตกอีกตอไป ขาพระพุทธ เจาจะคิดอาน กําจัดลิฉุย กุยกีเสียใหจงได พระเจาเหี้ยนเตทรงพอพระทัยโจโฉยิ่งนักจึงโปรดเกลาแตงตั้งใหโจโฉเปนผู บัญชากองกําลังรักษาพระนคร มีอํานาจบังคับบัญชาฝายทหารทั้งสิ้น และพระราชทานขวานโบราณและตรา สําคัญสําหรับตําแหนงมีอํานาจประหารผูกระทําความผิดได และโปรดเกลาพระราชทานตําแหนงราช เลขาธิการมีอํานาจบังคับบัญชาฝายพลเรือน อีกตําแหนงหนึ่ง โจโฉ ณ บัดนี้แมยังมิไดมีตําแหนงสูงสุดทั้งฝายทหารและฝายพลเรือนแตโดยสภาพที่เปนจริงนั้นตําแหนง สูงสุดที่ลิฉุย กุยกีครองอยูไรความหมายสิ้นเชิงแลวเพราะกลายเปนกบฏและเปนโจร เที่ยวปลนชิงวิ่งราว ทรัพยสินราษฎร ดังนั้นอํานาจทั้งทางทหารและพลเรือนที่แทจริงจึงอยูที่โจโฉทั้งสิ้น ฝายลิฉุย กุยกี ครั้นแตก พายไปไดซองสุมกําลังทหารขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แลวปรึกษากันวาบัดนี้โจโฉยกกองทัพใหญมาตั้งอยูที่เมือง ลกเอี๋ยง และไดเขาถวายการอารักขาฮองเตไว หากนานไปอํานาจสิทธิขาดในราชการจะตกไดแกโจโฉ และโจโฉจะเติบกลาขึ้นจนยากที่จะกําจัด ดังนั้นจําเปนที่จะตองรีบกําจัดโจโฉเสียอยาใหทันไดตั้งตัว กาเซี่ยง ที่ปรึกษาจึงวา โจโฉตั้งหลักขึ้นในภาคตะวันออก มีทหารเอก ทหารรองและกําลังทหารเปนอันมาก บัดนี้เขามา ชวยราชการในเมืองหลวงตามรับสั่งของฮองเต โจโฉจึงมีอํานาจโดยธรรมเนียม การปกครองสถานหนึ่งและมี กําลังทหารมากกวาฝายเราอีกสถานหนึ่งหากรีบยกไปรบดวยโจโฉในสถานการณเชนนี้ "อุปมาดังเนื้อไป สู เสือ" คงจะเสียทีแกโจโฉเปนมั่นคง กรณีสมควรคิดอานผอนปรน เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉจะปลอดภัยกวาที่จะ คิดอานทําสงครามกัน ลิฉุย กุยกียินคํากาเซี่ยงก็โกรธ หาวากาเซี่ยงเอาใจออกหาง กลาวความใหเสียขวัญทหาร จึงชักกระบี่จะฆา กาเซี่ยงเสีย แมทัพนายกอง เห็นดังนั้นจึงชวยกันขอรอง ลิฉุย กุยกี ขอชีวิตกาเซี่ยงไว ลิฉุย กุยกี จึงไล กาเซี่ยงออกไปจากที่ประชุม กาเซี่ยงคนมีสติปญญาคิดอานจนลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ มาครั้งนี้ถึงมาก ดวยสติปญญาก็แทบจะเอาชีวิตไมรอด เหตุผลมิใชอื่นใดหากอยูที่การคบคนผิด เลือกนายผิดนั่นเอง กาเซี่ยง เห็นวา ลิฉุย กุยกีหยาบชาตอตัวถึงเพียงนี้ก็นอยใจรีบออกมาจัดเตรียมขาวของ ค่ําลงก็ขับมาหนีกลับไปอยู ภูมิลําเนาเดิม รุงเชาขึ้นลิฉุย กุยกีจึงสั่งใหลิเซียม ลิเปก เปนกองทัพหนายกไป รบดวยโจโฉ ฝายโจโฉครั้นไดทราบความจึง สั่งใหเคาทู ลิเตียน โจหยิน คุมทหารมาสามรอยยกออกไปรบดวยกองทัพหนาของลิฉุย กุยกี ทหารทั้งสอง ฝายปะทะกันไมทันไร เคาทูก็เอาทวนแทงลิเซียมตกมาตาย ลิเปกเห็นดังนั้นก็ตกใจจะชักมาหนี เคาทูขับมา ปราดเขาไปเอาทวนแทงลิเปกตกมาตายอีกคนหนึ่งทหารของลิเซียม ลิเปก จึงพากันแตกหนีไป เคาทูจึงตัด ศีรษะของลิเซียมและลิเปกเอาไปมอบแกโจโฉ โจโฉเห็นเชนนั้นก็ยินดีโอบไหลเคาทูแลวชื่นชมวาสมเปน ทหารเอก แตสามกกฉบับสมบูรณวา "ทานนั้น นับเปนฮวมไกวของขาจริงๆ" ฮวมไกวคือทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจ ดังนั้นการที่โจโฉกลาว เชนนี้ยอม สะทอนถึงความมักใหญใฝสูง เปรียบเทียบตัวเองเสมอดวย ปฐมกษัตริยแหงราชวงศฮั่น ครั้นไดรับชัยชนะใน ศึกยกแรกแลว โจโฉจึงคิดกวาดลางลิฉุย กุยกีใหสิ้นซาก ดังนั้นจึงสั่งใหแฮหัวตุนคุมทหารเปนกองทัพหนา โจ หยินคุมทหารเปนปกขวา โจโฉเองเปนกองทัพหลวง เคลื่อนขบวนเรียง หนากระดานเขาโจมตีกองทหารของลิ ฉุย กุยกีอยางรวดเร็ว ฆาทหาร ลิฉุย กุยกีลมตายลงเปนอันมาก ลิฉุย กุยกีสูไมไดก็พากันชักมาหนี โจโฉไล ตามไปตลอดทั้งคืนจับทหารลิฉุย กุยกีไดเปนอันมาก และที่เขาสวามิภักดิ์ดวยก็มีเปนจํานวนมาก ลิฉุย กุยกี เหลือทหารอยูไมกี่คนก็หมดกําลังใจสูรบ จึงพากันหนีไปทางภาคตะวันตก กลายเปนโจรปาไปอีกครั้งหนึ่ง โจ โฉครั้นไดรับชัยชนะอยางเด็ดขาดตอกองทัพของลิฉุย กุยกีแลว จึงยกทหารกลับเมืองลกเอี๋ยง ตัวโจโฉเอง เขาเฝากราบทูลรายงานสถานการณใหทรงทราบ แลวถวายบังคมลากลับมา ณ คายนอกเมือง หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
47.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 47 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ปรากฏการณแหงฟาดิน (ตอนที่ 71) ฝายเอียวฮองและหันเซียม ครั้นไดทราบวาโจโฉตีทัพลิฉุย กุยกี แตกพายไปและยกกองทัพมาตั้งอยูที่เมือง ลกเอี๋ยง มีอํานาจสิทธิขาด ทั้งฝายทหารและพลเรือน จึงปรึกษากันวา "โจโฉทําการครั้งนี้ใหญ หลวงนักนาน ไปราชการในเมืองหลวงก็จะสิทธิขาดอยูแกเขา เราทั้งสองก็จะอยูในเงื้อมมือโจโฉ" ขุนนางโหลที่ไดรับแตงตั้ง ในยามที่พระเจาเหี้ยนเตทรงระเหเรรอนจากการไลตามตีของลิฉุย กุยกี เคยมีบทบาทในครั้งนั้น มาครั้งนี้ เห็นโจโฉเรืองอํานาจขึ้นก็คิดวาตัวจะหมดบทบาทและความหมาย และจะตองตกอยูใตอํานาจของโจโฉ ความคิดจึงจมไมลง ดังนั้นจึงคิดจะหนีออกจากเมืองหลวงตามประสาคนไรสติปญญา ปรึกษากันแลวตกลง วางแผนวาจะอางเหตุยกไปกําจัดลิฉุย กุยกี แลวคอยหนีไปอยูเมืองไตเหลียง ดังนั้นจึงพากันไปเขาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลขออาสายกทหารไปกําจัดลิฉุย กุยกี ลางเสี้ยนหนามแผนดินใหสิ้นซากตอไป พระ เจาเหี้ยนเตทรงฟงคําอาสาแลวโปรดเกลาอนุญาต เอียวฮองและหันเซียมจึงกราบถวายบังคมลาออกมา จัดเตรียมทหาร ขาวของ เงินทอง และพาพรรคพวกออกจากเมืองลกเอี๋ยง ในขณะนั้นพระเจาเหี้ยนเตโปรดใหตังเจี๋ยวขาหลวงคนใหมไปพบโจโฉ เพื่อเรียกเขาเฝาปรึกษาขอราชการ โจ โฉครั้นทราบวาตังเจี๋ยว ขาหลวงในพระเจาเหี้ยนเตถือรับสั่งมาจึงออกไปตอนรับแลวเชิญเขา มาในคาย โจโฉ เห็นบุคลิกลักษณะของตังเจี๋ยว "พวงพีผิวเนื้อสดใส จักษุนั้นโตกลม คิ้วสุดหางตา" ก็ประหลาดใจเพราะยามนี้ ขาวยากหมากแพง อาหารไมบริบูรณ ขุนนางขาราชการทั่วไปซูบซีดผอมโซ ไฉนคนผูนี้จึงมีบุคลิกสมบูรณ สดใสดังนี้ จึงถามวาบานเมืองยามทุกขเข็ญ ขาวปลาอาหารไมบริบูรณ แตตัวทานสมบูรณผองใสยิ่งนัก ทาน บํารุงรางกายหรือมีโอสถทิพยประการใด ตังเจี๋ยวจึงวาขาพเจานี้ไมเคยดื่มกินอาหารทิพยหรือโอสถทิพย แต ประการใด ในระยะสามสิบปมานี้ขาพเจากินแตอาหารธรรมดา ไมปรุงรสชาติ ไมวาเค็ม เปรี้ยว เผ็ด หวาน มัน คงกินแตอาหารที่มีรสจืดหรือไรรสเทานั้น อาหารเปนปจจัยสําคัญของชีวิต เปนทั้งเครื่องหลอเลี้ยงชีวิตให เจริญเติบโต และเปนทั้งยาบําบัดรักษาโรค เนื่องเพราะอาหารนั้นเปนตนกําเนิดของเลือด เลือดเปนตนกําเนิด ของความเจริญเติบโตและโรคภัยไขเจ็บ โดยนัยนี้อาหารจึงมีทั้งคุณและโทษ อาหารที่ไรรสจัดเปนยา อายุวัฒนะอยางหนึ่งที่มีมาแตโบราณกาล สามกกในตอนนี้ไดเปดเผยถึงการใชอาหารเปนยาอายุวัฒนะที่ นาสนใจทดลองยิ่ง โจโฉฟงแลวพยักหนาเปนเชิงยอมรับแลวถามตอไปวา ทานรับราชการอยูที่ไหนมากอนและบัดนี้มีตําแหนง อะไร ตังเจี๋ยวจึงวาเดิม ขาพเจารับราชการอยูกับอวนเสี้ยว เคยไดรับเลือกเปนบุคคลตัวอยางในฐานะบุตรยอด กตัญู ครั้นไดทราบวาพระเจาเหี้ยนเตเสด็จมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงจึงมาขอเขาเฝา ทรงโปรดเกลาแตงตั้ง ใหเปนที่ขาหลวงมีหนาที่ถวายคําปรึกษา โจโฉครั้นไดยินวาตังเจี๋ยวเปนที่ปรึกษาใกลชิดพระเจาเหี้ยนเตและ สังเกตเห็นทวงทาเจรจาเฉลียวฉลาด จึงกลาวผูกน้ําใจไมตรีวาขาพเจาไดยินกิตติศัพทของทาน มีความ เลื่อมใสมานานแลว บัดนี้มาพบตัวโดยบังเอิญนับวาเปนวาสนาที่รวมกันมาแตปางกอน ดังนั้นเพื่อแสดงความ คารวะตอทาน ขาพเจาขอเชิญทานอยูกินโตะดวยขาพเจาสักมื้อหนึ่ง ตังเจี๋ยวเพลินใจในถอยรอยวาจาอันเจริญโสตของโจโฉจึงลืมพระราชธุระเสียสิ้น ตอบรับคําเชิญแลวกินโตะ ดวยโจโฉในคายนั้น ยังไมทันไดเริ่มกินโตะทหารเขามารายงานวา ขณะนี้มีทหารกองหนึ่งกําลังออกเดินทาง จากเมืองลกเอี๋ยงจะไปทางดานตะวันออก โจโฉจึงสั่งใหทหารไปสืบดูวาเปนกองทหารของผูใดและจะยกไปที่ ใด ตังเจี๋ยวซึ่งเปนขาหลวงทราบความที่เอียวฮองและหันเซียมเขาเฝากราบทูลพระเจาเหี้ยนเตจึงวา ทานไม จําเปนตองไปสืบขาวดอก เพราะนั่นเปนเอียวฮองทหารเกาของลิฉุย และหันเซียมหัวหนาโจรที่กลับใจเขารับ ราชการ สองคนนี้เห็นทานมีอํานาจในเมืองหลวงจึงคิด จะไปอยูเมืองไตเหลียง โจโฉไมรูความเกี่ยวกับสองคน นี้มากอนก็สงสัย จึงถามตังเจี๋ยว วาทั้งสองคนนี้มีความหวาดระแวงขาพเจาดวยเหตุใด ตังเจี๋ยวเฉลย วาทั้ง สองคนนี้ไมมีความคิดสติปญญา หาไดมีความคิดระแวงสงสัยอะไรในตัวทานไม เพียงแตเห็นบทบาทตัวเอง ลดลงก็อยากไปอยูที่อื่นเสียเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉลองภูมิตังเจี๋ยวตอไปอีกวา ทั้งสองคนนี้เมื่อไปอยูเมืองไตเหลียง แลวจะคิดอานประการใด ตังเจี๋ยวจึงวา ทั้งสองคนนี้ไมมีน้ํายา "อุปมาเหมือนเสือไมมีเขี้ยว แลนกหาปกมิได" คงจะไมคิดการอันใดใหเปนอันตรายตอ ทาน โจโฉสนทนากับตังเจี๋ยวก็ยิ่งเห็นความหลักแหลม รอบรูการบานเมือง และเห็นวามีไมตรีสนองตอบ ชัดเจนแลวจึงปรึกษาตอไปวา บัดนี้เมืองลกเอี๋ยงถูกเผลิงเผาผลาญหมดสิ้น จะคิดอานประการใดจึงจะควร ตังเจี๋ยวจึงวาตั๋งโตะเปนทรราชเผาเมืองลกเอี๋ยงนี้เสียแลวเชิญเสด็จไปประทับที่เมืองเตียงอันตั้งเปนเมือง หลวงขึ้นมาใหมอีกครั้งหนึ่ง สิ้นตั๋งโตะแลวลิฉุย กุยกีครองอํานาจเปนทรราชตามเผาเมืองเตียงอันเสียแลว กระทําย่ํายีตอฮองเตและขุนนางทั้งปวงจนพระเจาเหี้ยนเตตองหนีมาประทับที่เมืองลกเอี๋ยงนี้ บัดนี้ทานเขามา
48.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 48 ชวยราชการในเมืองหลวง พระเจาเหี้ยนเตและขุนนางทั้งปวงจึงคอยมีความสุขขึ้น ความชอบจึงมีแกทานเปน อันมาก แตทวาเมืองลกเอี๋ยงนี้ชํารุดทรุดโทรมไมสามารถบูรณะฟนฟูใหคืนดีไดดังเดิม ทั้งประตูเมือง คายคู หอรบก็ถูกทําลายสิ้น หากมีศึกเหนือเสือใตยกมาก็จะทําการรับศึกไมสะดวก โจโฉฟงคําตังเจี๋ยวชอบดวยเหตุและผลตองดวยใจตัวจึงซักไซ ตอไปวาเมื่อเปนเชนนี้ทานมีความคิดเห็น ประการใดสืบไปจึงจะทํานุบํารุงแผนดินใหเปนสุขได ตังเจี๋ยวจึงวาเมืองฮูโตอยูไมไกลจากเมืองลกเอี๋ยง ขาว ปลาอาหาร ก็บริบูรณ ขอใหทานกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหยายเมืองหลวง ไปอยูเมืองฮูโต เทากับทาน ไดเนรมิตเมืองหลวงใหมแลวนอมเกลาถวาย ความชอบจะมีแกทานเปนอันมาก ขอทานจงพิจารณาโดยควร เถิด โจโฉฟงตังเจี๋ยวอรรถาธิบายความเมืองโดยกวาง โดยลึกแลวประทับใจตังเจี๋ยวเปนอันมาก ลุกขึ้นแลวเขา มาจับเอามือทั้งสองของตังเจี๋ยวกุมไว แลววาความคิดอานของทานชางกวางไกลยิ่งนัก ตองดวยความคิดของ ขาพเจา แผนดินจะเปนสุขสงบครั้งนี้ดวยความคิดอานของทานนี่แลว ขาพเจาจะรีบทําตามคําปรึกษาของทาน แตวิตกวาถาเรายกไปจากเมืองลกเอี๋ยงแลว เอียวฮองและหันเซียมจะไมยก มาทํารายเอาหรือ นอกจากนี้ บรรดาขุนนางขาราชการจะพรอมใจยาย ไปเมืองฮูโตพรอมกันแลวละหรือ ตังเจี๋ยวจึงวาการทั้งปวงนั้นจะหวัง เอาความพรอมใจจากทุกคนยอมไมได เพราะไมวาเรื่องราวจะดีราย ประการใด ก็ยอมมีทั้งผูเห็นดวยแล คัดคานควบคูไปแทบทั้งสิ้น ขอเพียงการนั้นเปนประโยชนตอคนสวนใหญในแผนดิน และผูคนหมูมากเห็นพอง ดวยแลวยอมพึงกระทํา และยอมเปนการดีที่จะไดรูอยางแจงชัดวาใครใดเห็นพองเขารวมดวยความคิดทาน ใครใด ทักทวงขัดขวางอยู ดังนี้แลวสภาพความเมืองทั้งสิ้นก็ยอมกระจางแจง คนทั้งปวงก็จะยําเกรงทานเปน อันมาก สวนเอียวฮองและหันเซียมแมจะคิดทํารายทานแตขาดกําลัง ทั้งกําลังสติปญญาและกําลังทหาร ยอม คิดทําการไปไมตลอด แตเพื่อ ไมใหทานตองวิตกกังวลในสองคนนี้เพียงแตเกลี้ยกลอมเอาใจไวก็จะไมคิดทํา อันตรายตอทาน โจโฉจึงวาทานอรรถาธิบายมานี้กระจางแจงยิ่งนัก ประดุจทําของคว่ําอยูใหหงายขึ้น ปญหาจึงคงเหลือแตเพียง วาจะทําประการใดจึงจะชักจูงใจใหคนสวนใหญเห็นพองในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตังเจี๋ยวจึงวา บัดนี้ในเมืองลกเอี๋ยงขาวปลาอาหารก็ขาดแคลน เกิดความอดอยากแกทุกผูคน ใหทานประกาศแกคนทั้งปวง วาพระเจาเหี้ยนเตมีพระราชประสงคจะยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต เพื่อมิใหราษฎรตองอดอยากก็จะตอง ดวยความปรารถนาของทุกผูคน โจโฉฟงคําชี้แจงโดยตลอดเห็นการขางหนาสวางไสว จึงมีความยินดีเปนอัน มาก แลววานับแตนี้เปนตนไปขอทานชวยเอ็นดูขาพเจาใหคําปรึกษา ในการตางๆ เพื่อความรมเย็นเปนสุขของ บานเมืองแลราษฎรเถิด ขาพเจามีขอราชการสิ่งใดก็จะขอคําปรึกษาทาน ตังเจี๋ยวขอบคุณโจโฉที่ไววางใจแลว ขอลากลับ จากนั้นโจโฉจึงเชิญคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเขามาปรึกษาเรื่องยายเมืองหลวงและให เตรียมการเพื่อยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตตอไป ขณะนั้นอองหลิบขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ผูเชี่ยวชาญดานดาราศาสตร มีหนาที่บันทึกจดหมายเหตุการ แผนดิน ไดปรึกษากับเลางายเชื้อพระวงศ ซึ่งมีหนาที่เปนนายทะเบียนทําเนียบราชนิกูลวา ขาพเจาไดสังเกต ดาวประจําเมืองตั้งแตชวงฤดูฝนเปนตนมา ถึงบัดนี้เปนเวลาสามเดือนแลว เห็นปรากฏการณบนนภากาศ ประหลาดกวาที่เคยเปนมา เลางายจึงถามวาปรากฏการณบนทองฟาที่วานี้เปนฉันใด และจะเกิดผลดีรายตอ บานเมืองประการใด อองหลิบจึงวาชวงเวลานี้ดาวพระศุกรไดโคจรเขาบดบังดาวประจําเมืองตรงบริเวณกลุม ดาวไถซึ่งเปนระยะเชิงมุมบงชี้วาตรงกับเมืองเทียนสิน ซึ่งถือวาเปนทาขามระหวางเมืองมนุษยกับเมืองสวรรค ขณะเดียวกันดาวอังคารไดโคจรถอยหลังเขามาใกลกับดาวพระศุกรตรงจุดที่เปนประตูสวรรค ปรากฏการณ ทั้งนี้แสดงวาบานเมืองจะเปลี่ยนแปลงผูครองอํานาจรัฐ ขาพเจาพิเคราะหแลวเห็นวาราชวงศฮั่นใกลจะดับสูญ แลว ดินแดนอันเปนวุยกกจะรุงเรืองไพบูลย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด อนึ่งดาวอังคารอันโคจรเขามา ณ ประตูสวรรคนั้นหมายถึงขุนศึกผูมีกําลังกองทัพเขมเข็งเกรียงไกร ดังนั้นผู ครองอํานาจรัฐใหมจึงเปนแมทัพ และจะตั้งตนแหงอํานาจ ณ ดินแดนอันเปนแควนวุยนั้น เลางายจึงวาความ เรื่องนี้เปนการใหญของแผนดินสมควรที่ทานจะกราบบังคมทูลใหทรงทราบ อองหลิบก็รับคํา และเขาเฝาพระ เจาเหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหทรงทราบเปนการสวนพระองค พระเจาเหี้ยนเตทรงฟงคํากราบบังคมทูลแลวมิได ตรัสประการใด ในขณะที่อองหลิบสนทนากับเลางายนั้น คนรับใชในบานได ยินความก็คิดขายนายเอา ความชอบจึงลอบไปแจงขอความนั้นใหโจโฉทราบ โจโฉครั้นทราบความอันเปนที่ประหลาดนัก กริ่งใจวาความ จะแพรงพรายไปแลวจะเกิดผลรายแกตัว ค่ําลงก็ใหคนไปวากลาวตักเตือนอองหลิบวา ปรากฏการณแหงฟาดิน ยังหาเปนที่แนนอนไม อยาเพิ่งพูดจาใหแพรงพรายจะเปนที่ตระหนกตอผูคนในแผนดิน อองหลิบ ฟงคําเตือน แลวก็มิไดวากลาวประการใด โจโฉใหทหารตามซุนฮกที่ปรึกษามาพบแลวเลาความตามที่ อองหลิบสนทนา กับเลางายใหฟงทุกประการ แลวถามวาทานมีความเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาสรรพสิ่งยอมหมุนเวียน เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ และความสัมพันธของฟาดิน ธาตุทั้งหลายยอมหมุนเวียนเปลี่ยนแปรไปตามเหตุปจจัย ของกันและกัน ธาตุไฟใหกําเนิดธาตุดิน ธาตุดินใหกําเนิดธาตุทอง ธาตุทอง ใหกําเนิดธาตุน้ํา ธาตุน้ําให
49.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 49 กําเนิดธาตุไม และธาตุไมใหกําเนิดธาตุไฟเปนวัฏจักรดั่งนี้ อันพระเจาเหี้ยนเตนั้นเปนธาตุไฟ ตัวทานเปนธาตุ ดิน ครั้นเหตุการณหมุนเวียนสิ้นปูมแหงธาตุไฟแลว ยุคสมัยใหมยอมผันสูปูม ธาตุดินอันเปนปูมธาตุประจําตัว ทาน ทั้งเมืองฮูโตซึ่งอยูในดินแดนอันเปนวุยกกก็อยูในภูมิธาตุดินสมกับธาตุของทาน สอดคลองกับการบนนภา กาศ ดังนั้นปรากฏการณของฟาดินสมคลอยตองกันแลว การยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโตครั้งนี้เห็นทีทานจะ เรืองอํานาจขึ้นดังคําของอองหลิบเปนมั่นคง ขอทานจงรีบดําเนินการโดยไวเถิด โจโฉฟงคําซุนฮกแลวตัดสินใจขั้นสุดทายในการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นรุงเชาก็เขาเฝาพระเจา เหี้ยนเตกราบบังคมทูลใหยายเมืองหลวง โดยอางวาเมือง ลกเอี๋ยงชํารุดทรุดโทรมหากมีศึกเหนือเสือใตยกมา ทําอันตรายก็จะไมสามารถปองกันรักษาไวได ทั้งเสบียงอาหารก็ไมสมบูรณ แตเมืองฮูโตซึ่งอยูไมไกลมีความ พรอมทุกอยาง พระเจาเหี้ยนเตฟงคํากราบบังคมทูลแลวทรงเห็นชอบดวย และรับสั่งใหดําเนินการตามที่ เห็นสมควร โจโฉจึงกราบบังคมทูลตอไปวา ถาเปนเชนนั้นขาพระพุทธเจาจะไดรีบดําเนินการตามพระบรมรา ชานุญาตโดยเร็วแลวกราบบังคมลาออกมา สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม การสถาปนาอํานาจรัฐใหมของโจโฉ (ตอนที่ 72) โจโฉออกจากที่เฝาแลวสั่งใหเตรียมการยายเมืองหลวงไปอยูเมืองฮูโต ครั้นพรอมแลวจึงอัญเชิญเสด็จพระเจา เหี้ยนเตและฮองเฮาประทับรถพระที่นั่ง ขาราชบริพารและขุนนางขาราชการทั้ง ปวงโดยเสด็จอยางพรอม เพรียงกัน แลวเคลื่อนขบวนออกจากเมือง ลกเอี๋ยง โดยมีกองทัพของโจโฉเปนกองระวังหนาหลังตามขบวน พยุหยาตราทางสถลมารค ครั้นขบวนเคลื่อนมาประมาณหกสิบเสน ถึงเขตเขาอันเปนที่ฝงพระบรมศพอดีต พระมหากษัตริย เอียวฮองและหันเซียมไดคุมทหารมาสกัดขบวนไว โจโฉครั้นทราบความจึงขับมาออกไปหนา ทหาร แลวแจงวานี่เปนขบวนเสด็จ ผูมาสกัดขวางจะเปนกบฏตอแผนดินหรือ ซิหลงทหารของเอียวฮองและ หันเซียมไมตอคํา ขับมาตรงเขามา หาโจโฉ เคาทูเห็นดังนั้นจึงขับมาเขาสกัดซิหลงไว สองทหารตอสูกันอยาง ดุเดือดไดหาสิบเพลง โจโฉจึงใหตีระฆังเปนสัญญาณใหเคาทูถอยกลับมา ซิหลงเห็นเคาทูถอยไปก็กลับไป คายโจโฉเชิญบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองมาปรึกษาวาเอียวฮองและหันเซียมเปนกบฏตอแผนดิน จํา จะจับฆาเสียใหจงได แตซิหลงนั้นมีฝมือกลาแข็ง ขาพเจาใครไดตัวมาใชในราชการ ทั้งหากไดตัวซิหลง มาแลวก็จะจับตัวเอียวฮองและหันเซียมไดโดยงาย ดังนี้จะมีผูใดอาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงไดบาง หมันทอง ขุนนางเมืองลกเอี๋ยงซึ่งโดยเสด็จมาในขบวนยินคําโจโฉ แลวขออาสาไปเกลี้ยกลอมซิหลงเพราะเปนชาวบาน เดียวกัน สนิทกันมาตั้งแตยังเด็ก โจโฉเห็นชอบและอนุญาตใหหมันทองไปดําเนินการ ครั้นค่ําลงหมันทองจึง ปลอมตัวเปนทหารเลวลอบไปยังคายของ ซิหลง เห็นซิหลงในชุดออกศึกจุดเทียนนั่งดูหนังสืออยูจึงเขาไป คารวะแลวทักทายซิหลงวา ไมไดพบกันนานป ทานมีความสุขสบาย ดีหรือ ซิหลงเห็นทหารเลวเขามาในคายก็ ประหลาดใจเขมนมองโดย พินิจก็จําไดวาเปนหมันทองเพื่อนแตวัยเด็ก จึงเชิญใหนั่งลงเจรจาแลว ถามวาเหตุ ใดจึงมาหาขาพเจาถึงที่นี่ หมันทองจึงวาขาพเจานี้รับราชการอยูกับโจโฉ วันนี้เห็นทานตอสูกับเคาทูจึงรีบลอบ มาเยือนในฐานะเพื่อนเกาเพื่อบอกความเห็นอันเปนประโยชนตอมิตร แลววาตัวทานมีฝมือกลาแข็ง องอาจกลา หาญ สมควรรับราชการในพระมหากษัตริย เหตุใดจึงมางอมืองอเทา อยูกับคนไรความคิดแบบเอียวฮองและ หันเซียมนี้ จะหาความกาวหนา หรือความเจริญรุงเรืองใดๆ ไมไดอยางมากก็เปนไดแคหัวหนาโจร ขาพเจา เสียดายยิ่งนักจึงมาเตือนสติทานใหคิดดูตามที่ควร ซิหลงฟงคําหมันทองแลวนิ่งอยู เปนทาทีที่จํานนตอถอยคําของ หมันทอง ดังนั้นหมันทองจึงรีบรุกตอไปวา บัดนี้โจโฉถือรับสั่งฮองเต นําขบวนเสด็จไปเมืองฮูโต โจโฉนั้นเปนผูนําที่ปรีชาสามารถ มีน้ํา ใจรักผูมีฝมือกลา แข็ง ความขอนี้ทานคงไดยินกิตติศัพทมาบางแลว เปนแน วันนี้ในขณะที่ทานตอสูกับเคาทูนั้น โจโฉมีความ พอใจในฝมืออันแกรงกลาของทานจึงมีไมตรีจิตเมตตา สั่งหามทหารเกาทัณฑมิใหทําอันตรายทานแลวให ขาพเจาออกมาเชิญทานไปทําราชการดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซิหลงฟงดังนั้นจึงทอดถอนใจใหญแลววาขาพเจาก็รูอยูวาเอียวฮองและหันเซียมไรความคิดแลสติปญญา แต ติดขัดอยูตรงที่อยูดวยกันมาชานาน หากละทิ้งเสียในยามนี้ก็จะถูกเขานินทาได หมันทองเห็นซิหลงมีน้ําใจ โนมไปในทางที่ไมสมัครใจอยูกับเอียวฮอง และหันเซียม จึงกลาววา "อันธรรมดานกจะทํารังก็ยอมแสวงหาซึ่ง พุมไมชัฏ จะไดทํารังอยูเปนสุข ถึงลมพายุใหญจะพัดมา รังนั้นก็มิไดเปนอันตราย ประการหนึ่งเปนชายชาติ ทหาร จะหาแมทัพก็ใหพิเคราะหดูผูใจโอบออมอารีแลชํานาญในการสงคราม ถึง ขาศึกจะยกมามากมาย เทาใดก็มิไดหวาดไหว คิดอานปองกันทหารทั้งปวงมิใหเปนอันตราย ถาผูใดพบพานผูมีสติปญญาหมายจะพึ่ง ไดแลว ไมเขาทําราชการดวย อยาใหคนทั้งปวงนับถือความคิดผูนั้นเลย" ซิหลงฟงคําหมันทอง ทั้งเหตุผลแล ความแวดลอมอันบริบูรณดังนี้จึงเห็นดวยตกลงใจจะไปทําราชการดวยโจโฉ หมันทองจึงวาถา เชนนั้นทานจง
50.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 50 ตัดศีรษะเอียวฮองและหันเซียมเอาไปคํานับโจโฉพรอมกันเถิด ทานจะมีความชอบเปนอันมาก ซิหลงจึงวา "ธรรมดาเปนบาวไดกินขาวแดงของทานแลว ถามิพอใจอยูดวยแลจะซ้ําทํารายแกนายก็เปนคนหากตัญูมิได" แลวปฏิเสธขอเสนอดังกลาวของหมันทองวาขาพเจาทําตามขอเสนอของทานมิได หมันทองฟงคําปฏิเสธแลว สรรเสริญ ซิหลงเปนอันมากวาเปนคนมีกตัญูรูคุณคน แลววาถาเชนนั้นก็จงไปแตตัวพรอมกันเถิด ซิหลงรับคําแลวจัดแจงขาวของเครื่องใชสวนตัวและพาพรรคพวกที่สนิทสนมกันสามสิบคนตามหมันทองหนี ออกจากคายไปหาโจโฉในคืนนั้น ฝายเอียวฮองทราบวาซิหลงพาพรรคพวกหนีออกจากคายจะไปอยูดวย โจ โฉก็โกรธ ยกทหารพันหนึ่งออกไลตามซิหลง ครั้นมาถึงเนินเขาเห็นมีกองทหารสุมไฟสวางอยู ทันใดนั้นโจโฉ ยกทหารออกมาลอมเอียวฮองไว แลววาเรามาคอยทานอยูเกือบสองชั่วยามแลว ทานหนีไปไมรอดดอก วา แลวใหทหารบุกเขาไปเพื่อจะจับตัวเอียวฮอง เอียวฮองพยายามจะตีฝาออกไป ขณะนั้นหันเซียมทราบวาเอียว ฮองยกทหารออกติดตามซิหลงจึง รีบยกทหารตามมา ครั้นเห็นทหารโจโฉลอมเอียวฮองอยู จึงตีฝาเขามาชวย เอาเอียวฮองออกจากวงลอมทหารโจโฉไปได ทหารโจโฉไดฆา ฟนทหารเอียวฮองและทหารหันเซียมลมตาย ลงหลายคน สวนที่เหลือ ก็เขาสวามิภักดิ์ดวยโจโฉสิ้น แตเอียวฮองและหันเซียมนั้นเมื่อหนีมา ไดแลวเห็น ทหารเหลืออยูไมกี่คนก็เสียใจ หมดกําลังใจที่จะตอสูอีกตอไปจึงพากันไปหาอวนสุด ณ เมืองลําหยง โจโฉก็ยกทหารกลับมายังขบวนเสด็จ หมันทองจึงพาซิหลงเขา มาคํานับโจโฉ ครั้นโจโฉเห็นหนาหมันทอง และซิหลงก็มีความยินดียิ่งนัก สั่งทหารใหเอาเสื้อเกราะอยางดีและเงินทองจํานวนมากมารับขวัญซิหลง แลว แตงตั้งใหเปนนายทหารประจํากองทัพของโจโฉ รุงขึ้นโจโฉจึงสั่งใหเคลื่อนขบวนเสด็จยกไปเมืองฮูโต แลว อัญเชิญเสด็จพระเจาเหี้ยนเตประทับที่เรือนรับรองแขกเมือง ซึ่งจัดเปนที่ประทับชั่วคราว และใหใชจวนเจา เมืองเปนทองพระโรงสําหรับวาราชการชั่วคราว พระเจาเหี้ยนเตทรงมีพระบรมราชโองการใหสถาปนาเมืองฮูโต เปนราชธานี แลวโปรดใหสรางพระราชวัง ทองพระโรง พระตําหนักและอาคารตางๆ ตามธรรมเนียมการสราง เมืองหลวง และใหขยายเขตเมืองใหมใหกวางขวางกวาเดิม กอสรางกําแพงเมืองใหม กอสรางคายคูประตู เมืองหอรบพรอมสรรพเนื่องจากบรรดาขุนนางแตครั้งเมืองหลวงเกาตั้งแตลิฉุย กุยกีลงมาบางก็เปนกบฏ บางก็ ลมหายตายจาก ครั้นสถาปนาเมืองหลวงใหมจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลาแตงตั้งขาราชการขุนนางครั้ง ใหญตั้งแตระดับสูงสุดลงมาดังนี้ แตงตั้งโจโฉเปนอัครมหาเสบาบดี, ตังสินและขุนนางในพระเจา เหี้ยนเตรวมสามสิบเอ็ดคนเปนขุนนางชั้น เสนาบดี, ซุนฮกเปนราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี, ซุนฮิวเปนขุนนาง ที่ปรึกษา ดานกิจการ ทหาร, กุยแกเปนเสนาธิการทหารสูงสุด, เลาหัวเปนเสนาบดีประจําสํานักอัครมหาเสนาบดี, "มอกาย เล็กโจ ยิบจุน สาม คนนี้ไดกํากับคลังและฉางขาว", เทียหยกเปนเจาเมืองตังเปง, ฮวนแสง กับตังเจี๋ยวเปนเจาเมือง ลกเอี๋ยง, หมันทองเปนที่เจาเมืองฮูโต, แฮหัวตุน แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน โจหอง สี่คนนี้เปนทหารเอก, ลิยอย ลิ เตียน งักจิ้น อิกิ๋ม ซิหลง ทั้งหาคนนี้เปนทหารโท, เคาทูกับเตียนอุยเปนทหารตรี และบรรดาทหารมีฝมือทั้งนั้น ก็ตั้งเปนขุนนางสิ้นการแตงตั้งขุนนางใหมในครั้งนี้มีลักษณะเหมือนการตั้งรัฐบาลใหม เปนการประนีประนอม ระหวางฝายราชสํานักกับฝายของโจโฉ ดังนั้นรัฐบาลใหมนี้จึงเปนรัฐบาลผสมระหวางขุนนางขาราชสํานักเกา กับทีมงานของโจโฉ โดยคณะรัฐมนตรีมีทั้งสิ้นสามสิบหกคน เทากับจํานวนคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ในจํานวนคณะรัฐมนตรีสามสิบหกคนนี้มีโจโฉเปนนายกรัฐมนตรี มีขุนนางขา ราชสํานักเกาเปนรัฐมนตรีสามสิบเอ็ดคน โดย มีตังสินเปนหัวหนา ทีมงานของโจโฉเปนรัฐมนตรีเพียงสี่คน คือ มอกาย เล็กโจ ยิบจุน และเลาหัวเทานั้น แตเปนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ งานสําคัญคือรับผิดชอบงานการคลัง และฉางขาวอันเปนคลังเสบียง รวมทั้งงานบัญชาการภายในประเทศซึ่งอยูในความรับผิดชอบ ของสํานักอัคร มหาเสนาบดี หรือสํานักนายกรัฐมนตรีในปจจุบันนั่นเอง รัฐบาลผสมชุดนี้มีผูประสานงานระหวางสถาบันพระมหากษัตริยกับรัฐบาลคือซุนฮก ซึ่งเปนทั้งราชเลขาธิการ และที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ทําใหงานของฝายบริหารกับของสถาบันพระมหากษัตริยเปนเอกภาพ แตใน ดานการทหารนั้น โจโฉไดวางคนของตัวในตําแหนงสําคัญจนหมดสิ้น ดังนั้นแมวาจะเปนรัฐบาลผสมที่ฝายโจ โฉมีรัฐมนตรีเปนเสียงขางนอย แตทวาโดยเนื้อหาแหงอํานาจกลับตกอยูกับโจโฉทั้งสิ้น เพราะตัวโจโฉเองเปน อัครมหาเสนาบดีวาราชการสิทธิขาดทั้งดานกิจการทหารและพลเรือน โดยเฉพาะตําแหนงสําคัญทางฝาย ทหารนั้นยังมีตําแหนงเปนผูบัญชาการกองกําลังรักษาพระนคร ซึ่งเปนตําแหนงสําคัญอยูเดิมอีกตําแหนงอีก มี อํานาจ สิทธิขาดในราชการประจํา รวมทั้งการบัญชาการสํานักพระราชวัง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) จึงวาไววา "ถาผูใดจะวาขอราชการสิ่งใดๆ ก็เอามาแจงแกโจโฉกอน จึง กราบทูลพระเจาเหี้ยนเตได" นั่นคือสายงานระหวางฝายบริหารกับสถาบันพระมหากษัตริยจะผานจากโจโฉซึ่ง เปนอัครมหาเสนาบดีไปทางซุนฮกราชเลขาธิการ เพื่อนําความกราบบังคมทูลทางหนึ่ง และจากระมหากษัตริย ผานราชเลขาธิการลงมาถึงอัครมหาเสนาบดีอีกทางหนึ่ง การทั้งนี้จะวาเปนไปเพราะโจโฉมีจิตใจคิดกําเริบยอม
51.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 51 ไมได เพราะระบบบริหารราชการแผนดินในขณะนั้นเปนดังที่กลาวแลวมาตั้งแตยุครัชกาลกอนๆ และดูไปแลว อํานาจของพระเจาเหี้ยนเตในยุค นั้นคลายๆ กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข เปนแต วาเปนประชาธิปไตยที่มีอัครมหาเสนาบดีเปนผูมีอํานาจเด็ดขาดในการบริหารอยางหนึ่งและโดยไมมี การ เลือกตั้งอีกอยางหนึ่ง โครงสรางแหงอํานาจแบบนี้ประจักษชัดวาโจโฉไดเห็นความสําคัญของ อํานาจในยุคนั้น วาอยูที่กองทัพ เปนหลักการเดียวกับความคิดของเหมาเจอตงที่วา "อํานาจรัฐเกิดจากกระบอกปน" โจโฉได อาศัยกองทัพเปนฐานอํานาจทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งมีโจโฉเอง เปนหัวหนารัฐบาล ดังนั้นแมวาจะมีเสียง ขางนอยในคณะรัฐมนตรี แตอํานาจแทจริงกลับมิไดอยูที่คนเหลานั้นหากอยูที่โจโฉ ซึ่งเปนผูรับผิดชอบทาง นโยบายสูงสุด ความลมเหลวที่ฉกรรจของนายปรีดี พนมยงค หนึ่งในคณะราษฎรคนสําคัญและอดีตหัวหนาขบวนการเสรีไทย คือการไมใหความสําคัญแกการกุมอํานาจทางทหาร ดังนั้นอํานาจรัฐของนายปรีดี พนมยงค ในยุคหลัง เปลี่ยนแปลงการปกครองจึงตองหลุดมือไป ทําใหการอภิวัฒนตองถอยหลังแมกระทั่งตัวเองก็ตองลี้ภัยออกไป อยูในตางประเทศจนวาระสุดทายแหงชีวิต แมวายุคสมัยจะไดพัฒนาไปจนสงครามกําลังกลายเปนเรื่องลาสมัย แตอํานาจรัฐก็ยังคงอยูที่กระบอกปนอยูนั่นเอง เปนแตวากระสุนปนนั้นไดแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และกระสุน เงินไดเขามามีบทบาทมากขึ้นโจโฉผูใฝฝนเปนใหญในแผนดินมาตั้งแตเด็ก บัดนี้ความใฝฝนของโจโฉปรากฏ เปนจริงขึ้นแลว และเมื่อโจโฉครองอํานาจรัฐก็เห็น ไดชัดอีกประการหนึ่งวาบรรดากลไกสําคัญแหงอํานาจได ถูกวางตัวโดยบุคคลที่เปนคนเกา เคยรวมทุกขรวมสุข รวมเปนรวมตายกันมากอน ทั้งสิ้น โจโฉไมยอมรับเอา บุคลากรภายนอกจําพวก "ปลาผอม" ที่วิ่งเตนแสวงหาตําแหนงจากผูมีอํานาจ หรือประเภท "มืออาชีพ" ที่ใคร ไหนชนะก็เอาดวยชวยกระพือ หรือจําพวก "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามาอยูในกลไกอํานาจรัฐแมเพียง คนเดียว บทเรียนนี้มีมานับพันป แตนายกรัฐมนตรีบางคนซึ่งดูประหนึ่งเฉลียวฉลาดแตกลับไมรูจักบทเรียนนี้ หลงเลือก เอาคนแบบ "ปลาผอม" คนแบบ "มืออาชีพ" และคนแบบ "ภาพลักษณดีแตไสในกลวง" เขามารวมรัฐบาล โดยทิ้งขวางผูคนเกาของตนที่รวมทุกขรวมสุขมาดวย กันอยางไมไยดี จึงทําใหรัฐบาลนั้นตองอายุสั้นอยางนา เสียดาย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายลิดกิ่งเอาลําตน (ตอน 73) ในขณะที่โจโฉครองอํานาจรัฐอยางเต็มเปยมแลวนั้น เลาปยังคงเปนแคเจาเมืองชีจิ๋ว อันเปนหัวเมืองเอก แต ซุนเซ็กกลับตกระกําลําบากและถดถอยลงจากเมื่อครั้งที่เพิ่งสิ้นซุนเกี๋ยน ในครั้งนั้นบรรดาแมทัพนายกองและ ทหารของซุนเกี๋ยนพรอมใจกันยกให ซุนเซ็กเปนเจาเมืองเตียงสา แตทางเมืองหลวงไมรับรองฐานะของซุน เซ็ก ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพาพรรคพวกออกจากเมืองเตียงสาไปอยูเมืองกังหนํา ซึ่งเปนหัวเมืองจัตวา ขึ้นกับ เมืองชีจิ๋ว ตอมางอเกงซึ่งเปนเจาเมืองตันเอี๋ยง และเปนนาของซุนเซ็ก ไดพิพาทกับโตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋ว ซุนเซ็กอาศัย อยูในเมืองกังหนําตอไปไมไดเพราะตองถือวาเปนปรปกษกับโตเกี๋ยมไปดวย ดังนั้นซุนเซ็กจึงตองพามารดา และครอบครัวไปฝากอาศัยอยูที่ตําบลขยกโอ ทางตอนใตของแมน้ําแยงซีเกียง ใกลกับเมืองตันเอี๋ยง แตตัว ซุนเซ็ก และบรรดาทหารลูกนองเกาของซุนเกี๋ยนไดพากันไปรับราชการอยู กับอวนสุดที่เมืองลําหยง และ กลายเปนลูกนองของอวนสุดตั้งแตบัดนั้น ในสถานการณที่กลาวนี้ โจโฉจึงเปนขุนนางในพระเจาเหี้ยนเต ที่มีตําแหนงสูงที่สุด และมีอํานาจมากที่สุดใน แผนดิน โดยที่บรรดาหัวเมืองตางๆ นั้นยังไมปรากฏวาเมืองใดตั้งตนเปนปรปกษโดยตรงกับโจโฉ คงมีแตลิโป คนเดียวที่เปนศัตรูคูอาฆาตและบัดนี้แตกทัพหนี ไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย โดยนัยที่กลาวนี้ถาโจโฉ เปนผูนําและนักปกครองที่แทจริงแลว ยอมใชอํานาจรัฐที่มีอยูนั้นสรางเอกภาพ สรางความสงบสุขสันติขึ้นใน แผนดินได หรืออยางนอยก็ตองไมแยลงกวาที่เปนมาแตเดิม ดวยเหตุนี้การที่สถานการณไมเกิดความสุขสันติ แตกลายเปนสงครามขุนศึกอยางยาวนานจนกลายเปนสามกก จึงตองกลาววาเปนผลมาจากความผิดพลาด ของโจโฉทั้งสิ้น และยอมกลาวไดดวยวาบรรดาที่ปรึกษา ตลอดจนแมทัพนายกองของโจโฉคือผูรวมขบวนการ ที่กอความเดือดรอนทุกขเข็ญแกแผนดินและราษฎรรวมกับโจโฉ ซึ่งตองรับผิดชอบในความผิดพลาดลมเหลว นั้นดวย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
52.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 52 ในฐานะรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเต แทนที่โจโฉจะเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการทํานุบํารุงแผนดินและ ราษฎร แกไขปญหาความพิพาทบาดหมางระหวางหัวเมืองตางๆ ที่หากจะพึงมี สรางสันติสุขและสันติภาพให เกิดขึ้นในแผนดิน แตกลับปรากฏวาโจโฉไดเริ่มตน ดวยความคิดกอสงคราม และทําใหสงครามขยายตัว ลุกลามไปทั่วประเทศ โจโฉเริ่มงานของรัฐบาลใหมดวยการพิจารณาวาใครเปนศัตรูที่ตองรีบกําจัดบาง แลวตั้ง เอาลิโปเปนศัตรูตัวสําคัญที่ตองกําจัดเปนคนแรก ดังนั้นโจโฉจึงแตงโตะเลี้ยงบรรดาขุนนาง แมทัพนายกอง และขาราชการทั้งปวง แลวปรึกษาวาบัดนี้ลิโปศัตรูตัวสําคัญของเราไดไปอาศัยเลาปอยูที่เมืองเสียวพาย ดังนั้น หากละไวนานทั้งลิโปและเลาปก็อาจคบคิดกันมาทําอันตรายแกเรา ขาพเจาจึงปรารถนาที่จะกําจัดศัตรู เสียตั้งแตไมทันตั้งตัว ทานผูใดจะคิดอานชวยการนี้ใหสัมฤทธิผลไดบาง เคาทูจึงลุกขึ้นคารวะโจโฉแลวขออาสายกทหารหาหมื่นไปกําจัดลิโป และเลาปใหจงได ซุนฮกที่ปรึกษาอัคร มหาเสนาบดีไดทักทวงขึ้นวาเคาทูเปนทหาร มีกําลังฝมือมากก็จริงอยู แตการทั้งนี้จะอาศัยกําลังฝมืออยาง เดียวไมได หากตองอาศัยกําลังสติปญญาเปนธงชัยชี้ทิศนําทาง ซึ่งตองเริ่มตนดวยปญหาทางการเมืองกอนวา สถานการณ ณ บัดนี้สมควรรบหรือไม หากวาสมควรรบแลวจึงไปสูปญหาวารบแลวจะชนะหรือไม จากนั้นจึง เปนปญหาทางการทหารวาจะรบกันอยางไร โจโฉจึงวาขาพเจาเห็นดวยกับกระบวนการทางความคิดของทาน จงแสดงใหประจักษวาดวยกระบวนการทาง ความคิดนี้เราพึงกระทําการสถานใด จึงจะบรรลุความปรารถนาของขาพเจา ซุนฮกจึงวา "ในเมืองฮูโตนี้ทานพึ่ง ยกมาซอมแปลงขึ้นใหม บานเมืองยังมิทันปรกติ ซึ่งจะยกไปนั้นขาพเจายังไมเห็นดวย แลเลาปกับลิโปนั้น อุปมาดังเสือสองตัว ขาพเจาจะคิดใหชิงอาหารกันกิน เห็นเลาปกับลิโปจะเกิดรุกรบพุงกันจนตายขางหนึ่ง แลว จึงคิดการตอไป" แลววาตามความคิดของขาพเจานั้น ขอทานจงนําความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตวา บัดนี้โตเกี๋ยมเจาเมืองชีจิ๋วตายแลว ไดทําพินัยกรรมไวแตกอนตายยกเมืองชีจิ๋วแกเลาป และเลาปไดสงหนังสือ กราบบังคมทูลมาตามพินัยกรรมนั้น แตเรื่องราวยังเงียบอยู ขอทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจา เมืองชีจิ๋วตามทางราชการ ดังนี้แลวเลาปก็จะเต็มใจทําราชการสนองพระเดชพระคุณ ตอจากนั้นใหทานมี หนังสือไปถึงเลาปอีกฉบับหนึ่งแจงแสดงความยินดีที่พระเจาเหี้ยนเตทรงพระกรุณาโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจา เมืองชีจิ๋ว โดยการเพ็ดทูลของทาน แตลิโปนั้นเปนศัตรูราชสมบัติแลมักเนรคุณคน ใหเลาปคิดอานวางแผน กําจัดลิโปเสีย สิ้นลิโปแลวเลาปคงจะไมแข็งขอตอทานสืบไป แผนการของซุนฮกครั้งนี้คืออุบายลิดกิ่งเอาลําตน เปาหมายที่แทจริงคือการยึดเมืองชีจิ๋ว บังคับใหเลาปเขา สวามิภักดิ์แตโดยดี แตตนไมใหญแบบเลาปนั้น ขณะนี้ยังมีลิโปเปนกิ่งกานสาขาอยู จึงตองลิดกิ่งกานสาขา เสียกอน แลวคอยเอาลําตนตอภายหลัง เปนอุบายทางการเมืองที่เปนอยางเดียวกับกลยุทธทางการทหารที่วา "กินขาวทีละคําจนหมดจาน" นั่นเอง โจโฉและบรรดาแมทัพนายกองฟงคําซุนฮกแลวตางสรรเสริญความคิดสติปญญาซุนฮกเปนอันมาก โจโฉจึงนํา ความกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วตามคําของ ซุนฮก และทํา หนังสือลับอีกฉบับหนึ่งถึงเลาปแลวสั่งใหขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการและเอาหนังสือลับนั้นไปมอบ แกเลาปที่เมือง ชีจิ๋ว และสั่งกําชับขาหลวงวาใหสังเกตการณความเคลื่อนไหวของเลาป วาจะยินดีปฏิบัติตาม หนังสือลับนั้นหรือไม เลาปครั้นทราบวามีขาหลวงอัญเชิญพระบรมราชโองการมาแตเมืองหลวง จึงใหจัดพิธีรับพระบรมราชโองการ อยางธรรมเนียม ครั้นไดทราบความตามพระบรมราชโองการแลวก็มีความยินดี สั่งให แตงโตะเลี้ยงขาหลวง และบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วในค่ําวันนั้น กินโตะเสร็จแลวขาหลวงจึงมอบหนังสือลับของโจโฉใหแก เลาป ครั้นเลาปไดทราบความตามหนังสือลับที่วาโจโฉเปนผูเพ็ดทูลใหทรงโปรดเกลาแตงตั้งเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และใหกําจัดลิโปเสีย ก็เขาใจความคิดและแผนการของโจโฉ ดังนั้นจึงผลัดผอนกับขาหลวงวาขอเวลาตรึก ตรองอีก 2-3 วัน ขาหลวงก็รับคําเลาป แลวลากลับไปพักที่บานพักรับรองแขกเมือง เสร็จงานเลี้ยงแลวเลาปจึง ใหเชิญบิตก ซุนเขียน สองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือของโจโฉวาจะ จัดการประการใด คนทั้งนั้นเห็นวาสมควรฆาลิโปเสียตามที่โจโฉ ไดมีหนังสือมาเพราะเปนการกําจัดคนเนรคุณ ที่เลวทรามเสียคนหนึ่งทั้งไมตองขัดใจเปนศัตรูกับโจโฉ แตเลาปไมเห็นดวย และแสดงเหตุผลวา "ลิโปไดบาก หนามาพึ่งแลว ครั้นเราจะทําอันตรายเสียบัดนี้ก็เห็นไมสมควร นานไปใครจะมาอยูดวยเลา" เตียวหุยยังคง ยืนยันวา การทําดีตอคนชั่วนั้นไรผล มีแตจะเปนอันตรายในภายหนา แตเลาปไมฟงคําเตียวหุย คงยืนยันตาม ความเห็นเดิม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด วันรุงขึ้นไมทันที่เลาปจะไดแจงผลการตัดสินใจแกขาหลวงทหาร ก็มารายงานวาบัดนี้ลิโปมาขอพบเพื่อแสดง ความยินดี เลาปจึงออกไปตอนรับลิโป ปฏิสันถารกันตามธรรมเนียมแลวจึงเชิญมาที่จวนเจาเมือง ลิโปไดแสดง
53.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 53 ความยินดีพรอมกับมอบของขวัญจํานวนมากแกเลาป ขณะนั้นเตียวหุยถือกระบี่เขามาในจวนจะฆาลิโป เลาป เห็นดังนั้นก็ตกใจขวางเตียวหุยไวแลวชิงกระบี่จากมือเตียวหุย และตอวาเตียวหุยวาไฉนไมฟงคําเราผูเปนพี่ แลวมากระทําเสียมารยาทตอลิโปดังนี้ ลิโปจึงวา เตียวหุยนี้มีความแคนผูกพยาบาทขาพเจาดวยเรื่องสิ่งใดหรือ จึงพยายามฆาขาพเจาหลายครั้งหลายหนแลว เตียวหุยยินคําลิโปก็โกรธรองตวาดดวยเสียงอันดังวาเปนเพราะ ลิโปเปนคนเนรคุณ แมโจโฉก็ยังมีหนังสือมาใหพี่กูฆามึงเสีย เลาปไดยินเตียวหุยเอาความเมืองอันเปนเรื่องลับ มาพูดกับลิโป โดยไมยั้งคิดจึงตวาดเอากับเตียวหุยแลวสั่งทหารใหพาเตียวหุยออกไปจากจวน จากนั้นจึงพาลิ โปเขาไปที่หองหนังสือแลวเอาหนังสือลับของโจโฉใหลิโปอานดู และบอกความตามที่โจโฉแจงมากับ ขาหลวงใหลิโปฟงทุกประการ ลิโปเห็นหนังสือของโจโฉที่ใหเลาปจับตัวฆาเสียก็รองไห รีบคํานับเลาปแลววาขาพเจาขอขอบใจในพระ คุณทานที่ซื่อตรงตอมิตรในยามยาก การที่โจโฉคิดอานทําการทั้งนี้หวังจะใหทานกับขาพเจา หวาดระแวง สงสัยแลวกลายเปนศัตรูกัน เมื่อลางผลาญกันเองแลว โจโฉยอมฉวยโอกาสกําจัดฝายชนะไดโดยงาย แต น้ําใจทานงดงาม ซื่อตรงนัก จึงเอาความทั้งนี้ใหขาพเจาไดทราบ ดังนั้นจึงขจัดความหวาดระแวงสงสัยระหวาง เราสอง ทําลายแผนการลิดกิ่งเอาลําตนของ โจโฉใหพินาศไปดวยน้ําใจแหงคุณธรรมของทานครั้งนี้ คําพูดของลิโปครั้งนี้ไมวาจะพูดออกมาเพราะความกลัวภัย หรือดวยบังเอิญก็ตามที แตแสดงใหเห็นวาลิโปได เขาใจแผนการของโจโฉ ซึ่งยอมตรงกับความเขาใจของเลาปเปนอยางเดียวกัน เลาปฟงคําลิโปแลวจึงวา ขาพเจาคบหากับทานดวยความสุจริต จะไมคิดสังหารทาน ตามความตองการของโจโฉเปนอันขาด ดังนั้น ถึงแมผูใดจะมาวากลาว ยุยงประการใด ขาพเจาก็จะไมทํารายทาน อยาไดวิตกกังวลตอไปเลย ลิโปจึงวาขาพเจาไดฟงคําทานแลวก็เบาใจ ตัวขาพเจานี้ก็จะรักษาไมตรีและระลึกถึงคุณทานตลอดไป เมื่อ เขาใจกันเชนนี้แลวทั้งเลาปและลิโปจึงนั่งกินโตะกันตอไปจนถึงเวลาเย็น ลิโปจึงขอลาเลาปกลับไปเมืองเสียว พาย กวนอู เตียวหุย เห็นเลาปปลอยลิโปลอยชายกลับไป จึงพากันเขาไปถามเลาปวาเหตุใดจึงไมฆาลิโปเสีย เลา เลาปจึงวาโจโฉคิดอุบาย จะใหเรากับลิโปกินแหนงแคลงใจกันลางผลาญกันเองกอน แลวจึงกําจัดฝายที่ ชนะในภายหลัง ถาหากเรากําจัดลิโปเสียแลว โจโฉก็จะทําศึกปราบปรามฝายที่ชนะแตเพียงดานเดียว ไมตอง หวงหนาพะวงหลังอีกตอไป การฆาลิโปก็คือการตองกลโจโฉ และเรานั่นแหละที่จะตกอยูในอันตรายตอไป กวนอู ฟงคําเลาปแลวเห็นดวย แตเตียวหุยยังคงคุมความโกรธแคนชิงชังลิโปอยูจึงวาไมวาประการใดขาพเจา จะฆาลิโปเสียใหจงได เลาปเห็นเตียวหุยดื้อรั้น ไมฟงเหตุผล จึงตําหนิเตียวหุยวาการที่นองเล็กเจาคิดเชนนี้ เหมือนกับคนไมมีความคิด เราไดอธิบายความเมืองอันเปนอุบายใหเจาฟงทั้งนี้ชัดเจนอยูแลว ไฉนเลาเจาจึง ดื้อดึงไมฟงเหตุและผล เตียวหุยเห็นเลาปไมพอใจก็เกรงใจเลาปแลวยอมสงบทวงทากิริยาลงเปนปรกติ ฝายขาหลวงรอฟงคําตอบจากเลาปวาจะเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉหรือไมอยูหลายวัน ก็ไมมีคําตอบ วาประการใด ทั้งไดรูขาววาลิโปเดินทางมาเมืองชีจิ๋วเพื่อแสดงความยินดีกับเลาป แตเลาปยังคงปลอยใหลิโป กลับไปอยางปลอดภัย ก็รูวาเลาปไมเต็มใจปฏิบัติตามหนังสือของโจโฉ ดังนั้นจึงขอลาเลาปกลับเมืองหลวง เลาปก็ไมไดวากลาวประการใด คงอวยพรแตใหขาหลวงเดินทางกลับโดยสวัสดี ครั้นขาหลวงเดินทางกลับถึงเมืองฮูโตแลว ไดเขาไปรายงานให โจโฉทราบวาเลาปไมปฏิบัติตามหนังสือของ ทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็โกรธ แลวสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษา และแมทัพนายกองมาปรึกษา เพื่อจะกําจัดลิโป และเลาปตอไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายเสือกลืนหมี (ตอน 74) โจโฉไดแจงใหบรรดาคณะที่ปรึกษาและแมทัพนายกองไดทราบวา เลาปไมยอมปฏิบัติตามหนังสือที่แจงไปให ฆาลิโปเสีย ดังนั้นจึงขอปรึกษาวาทานทั้งปวงจะคิดอานประการใดตอไป ซุนฮกที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดีจึง เสนอวา "ขาพเจาจะขอคิด กลอุบายอีกขอหนึ่งเรียกวาเสือกลืนหมี" ทําใหลิโปกับเลาปประหัตประหารกันให จงได โจโฉสงสัยจึงถามซุนฮกวาอุบายเสือกลืนหมีนี้เปนประการใด ซุนฮกจึงอธิบายตอไปวา "น้ําใจลิโปนั้น มิไดซื่อตอผูใด ขอทานแตงคนไปบอกอวนสุดเจาเมืองลําหยงวา บัดนี้เลาปมีหนังสือขึ้นมาใหกราบทูลพระเจา เหี้ยนเตวาจะขอยกทหารไปตีเมืองลําหยง ถาอวนสุดรูดังนี้ก็จะโกรธเห็นจะยกทหารชิงมารบเมืองเลาปกอน ทานใหมีหนังสือรับสั่งไปใหเลาปยกไปรบเมืองอวนสุด เมื่อเลาปกับ อวนสุดรบกันอยูนั้น ถาผูใดเพลี่ยงพล้ํา ลิ โปก็จะซ้ําเอาเปนมั่นคง ทานจึงคิดการตอไป" All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
54.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 54 แผนการอันเปนอุบายที่เรียกวาเสือกลืนหมีนี้ อาศัยหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตอยางหนึ่ง และหลอกอวน สุดใหยกมารบกับเลาปอีกอยางหนึ่ง จึงพอแลเห็นไดวาเลาปกับอวนสุดจะตองทําศึกชิงเมืองกัน แตที่ซุนฮก ไมไดคํานึงถึงก็คือรัฐบาลของพระเจาเหี้ยนเตนั้นมีหนาที่สรางความสงบสุขและสันติภาวะใหเกิดขึ้นใน บานเมือง ไมไดมีหนาที่สรางความแตกแยก กอสงครามหรือทําใหสงครามขยายตัวไป การดึงเอาอวนสุดเจา เมืองลําหยง ซึ่งเปนหัวเมืองใหญเขามาเกี่ยวของยอมทําใหการรบพุงฆาฟนขยายตัว กลายเปนสงคราม ระหวางเมืองชีจิ๋วกับเมืองลําหยง เปนที่เดือดรอนแกทหาร และราษฎรทั้งปวง โดยนัยนี้ยอมประณามไดวาแผนการและความคิดของซุนฮกทั้งนี้ เปนแผนการของคนกระหายเลือด และ กระหายสงคราม อันเปนการทําผิดหนาที่ของรัฐบาล และผิดหนาที่ของที่ปรึกษาอัครมหาเสนาบดี ซึ่งจะกอ ผลรายอยางใหญหลวงตามมาในภายหลัง แตโจโฉนั้นมีอัธยาศัยใฝในการสงครามเหมือนๆ กับฮิตเลอร ครั้น ไดฟงคําซุนฮกแลวก็ตองดวยความรูสึกนึกคิดเปนยิ่งนัก ตกลงทําตามความเห็นของซุนฮก ดังนั้นโจโฉจึงแตง คนไปหาอวนสุดที่เมืองลําหยง แลวแจงแก อวนสุดวาบัดนี้เลาปมีหนังสือกราบบังคมทูลพระเจาเหี้ยนเต กลาวหาวาทานเปนกบฏ จึงขอพระบรมราชานุญาตยกกองทัพมากําจัดทานเสีย แตอัครมหาเสนาบดีเมตตา ทานจึงเก็บหนังสือนั้นไวยังไมนําความกราบบังคมทูล และรีบใหขาพเจานําความมาแจงใหทาน ทราบอวนสุด ไดทราบความแลวก็เชื่อตาม และโกรธเลาปเปนอันมาก ดาวาเลาปเปนไอยาจกทอเสื่อขาย พอไดดีเปนที่เจา เมืองชีจิ๋วแลวคิดอานกําเริบ จะยกมาตีเมืองเรา เราจะนิ่งอยูใหเลาปยกมานั้นไมสมควรจําจะเหยียบเมืองชีจิ๋ว เสียกอน วาแลวก็สั่งตั้งกิเหลง ทหารเอกเปนแมทัพคุมทหารสิบหมื่นยกไปตีเมืองชีจิ๋ว โจโฉครั้นแตงคนไปหาอวนสุดแลว จึงทําหนังสือรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเตไปถึงเลาปวา บัดนี้อวนสุดเปนกบฏ ตอแผนดินตั้งตัวขึ้นเปนเจา ดังนั้นพระเจาเหี้ยนเตจึงโปรดใหเลาปจัดกองทัพยกไปปราบอวนสุดใหราบคาบ เลาปรับหนังสือรับสั่งแลวแจงแกผูเชิญหนังสือนั้นวา ทานจงกลับไปกราบบังคมทูลเถิดวาขาพเจาเลาปนอมรับ คําสั่ง จะยกกองทัพไปกําจัดอวนสุดตามพระราชประสงค ผูเชิญหนังสือก็ขอลากลับเมืองหลวง แลวแจงใหโจ โฉทราบ เลาปไดเชิญบิตกและซุนเขียนสองที่ปรึกษา พรอมดวยกวนอู เตียวหุย มาปรึกษาเตรียมการยกกองทัพไปเมือง ลําหยง แตบิตกนั้นเมื่อไดทราบความแลวก็แจงในอุบายของโจโฉจึงวา การครั้งนี้นาจะไมใชรับสั่งของพระเจา เหี้ยนเต แตเปนอุบายของโจโฉที่จะทําใหเรากับอวนสุดรบกัน แลวโจโฉจะคิดการกําจัดฝายที่ชนะตอภายหลัง บิตกอานสถานการณไดอยางทะลุปรุโปรงวานี่คือกลอุบายของ โจโฉ จึงมีหรือที่คนระดับเลาปจะอาน สถานการณไมออก แตเลาปกลับกลาวขึ้นวาการครั้งนี้เปนรับสั่งของพระเจาเหี้ยนเต เราเปนขาแผนดินยอมมี หนาที่ตองปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น ไมวาจะเปนอุบายของโจโฉหรือไมก็ตามที ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหจัดเตรียม ทหาร รอฤกษดีแลวจะยกไปตีเมืองลําหยง ความอันนาสังเกตอยูตรงที่เมื่อเลาปรูวาเปนอุบายแลวไฉนเลา จึง ยังคงดําเนินการตองตามกลอุบายนั้น หรือแมหากวาเลาปไมแจงในกลอุบายแต เมื่อบิตกไดแสดงใหเห็นแลวก็ ยอมเห็นตามไดโดยงาย ดังนั้นการตัดสินใจยกไปตีเมืองลําหยงจึงนาจะมีเหตุผลที่เปนไปไดสองประการคือ ขอแรก เลาปตองการลดความขัดแยงกับโจโฉ ตองการเอาใจโจโฉเพื่อลบลางการขัดขืนไมฆาลิโปในครั้งกอน ขอสอง เลาปเองก็จองหาโอกาสขยายอิทธิพลอํานาจอยู แตยังหาเหตุความชอบธรรมไมได ดังนั้นเมื่อมีหมาย รับสั่งมาดั่งนี้จึงมีขออางที่ชอบดวยกฎหมายและชอบธรรมในการยกไปตีเมืองลําหยง แตไมวาในทางใดยังคงแสดงวาทั้งบิตก และเลาปตางก็คาดไมถึงในอุบายเสือกลืนหมี ซึ่งซอนอยูอีกชั้นหนึ่ง ในอุบายลิดกิ่งเอาลําตน เพราะตางไมไดคํานึงถึงลิโปที่จองฉวยโอกาสซ้ําเติมในภายหลัง ฝายซุนเขียนเปน คนรอบคอบ ครั้นไดฟงวาเลาปตัดสินใจจะยกไปตีเมือง ลําหยงจึงเสนอวาทานจะยกไปก็ตามใจเถิด แตเมือง ชี จิ๋วนี้เปนเมืองสําคัญ เปนฐานกําลังของฝายเรา จําตองคิดอานปองกันรักษาไวใหปลอดภัย กวนอูจึงขันอาสาวา จะอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว แตเลาปแยงวานองรองเจาเปนทั้งที่ปรึกษาและขุนพลของเราจะอยูรักษาเมืองยอมไม เหมาะ เพราะสมควรที่จะไปดวยเรามากกวา All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เตียวหุยเห็นดังนั้นวาในเมื่อพี่รองตองไปเมืองลําหยงกับพี่ใหญ ขาพเจาก็จะอาสาเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋วเอง เลา ปไดติงวานองเล็กเจามักเสพสุรา และแรงดวยโทสะ ชอบโบยตีทหาร ทั้งเปนคนใจรอนใจรายไมฟงเหตุผลใคร เห็นจะใหรักษาเมืองชีจิ๋วนั้นไมได เตียวหุยจึงวาขาพเจาขอใหสัญญาวาในระหวางรักษาเมืองชีจิ๋ว นี้จะไมเสพ สุราเปนอันขาด ทําการสิ่งใดจะปรึกษาหารือผูมีสติปญญากอน และถาทําการใดแลวมีผูทักทวงหามปรามก็จะ เชื่อฟงโดย เคารพคําสัญญาของเตียวหุย แมจะดูเปนหลักฐานแตเปนคําสัญญาแบบเด็กๆ ที่ใหสัญญาอะไร งายๆ เพียงแคขอใหไดสิ่งที่ตองการเทานั้น และสิ่งที่ตองการนั้นก็คือการไดเปนผูรักษาเมืองชีจิ๋ว การให สัญญางายๆ แบบนี้จึงเชื่อถืออันใดไมได บิตกฟงคําเตียวหุยแลวทวงวา ความที่ทานใหสัญญานี้ดีอยู แตเกรง วาการปฏิบัติจะไมเหมือนคําที่ใหสัญญาไว เตียวหุยฟงคําทวงของบิตกก็โกรธ ลําเลิกขึ้นวาขาพเจานี้ไดทําการ
55.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 55 ดวยเลาปพี่เรามาก็ชานาน ไมเคยถูกผูใดหมิ่นคําวาเชื่อถือไมได บิตกทานดูแคลน ขาพเจานัก หาควรแก คําพูดของขุนนางผูใหญไม เลาปเห็นเตียวหุยพาลโกรธเชนนั้นจึงหามวาอยาเพิ่งดวนตําหนิบิตก เพราะแมแตตัวเราก็หาไดวางใจไมแตเอา เถิดเมื่อนองเล็ก เจาไดใหสัญญาแลวเชนนี้ ก็จงอยูรักษาเมืองใหปลอดภัย แตจะขอใหตันเตงอยูดวยเจาเพื่อ ชวยปรึกษาทวงติง และหามปรามมิใหเจาเสพสุราจนมากเกินไป เตียวหุยฟงคําเลาปแลวดีใจ ย้ําคําวาจะรักษา สัญญาอยางมั่นคง เพื่อใหเมือง ชีจิ๋วปลอดภัยไรเหตุรายทั้งปวง ตันเตงก็รับคําเลาปวาจะอยูชวยเหลือเตียวหุย จนกวาเลาปจะยกทัพกลับมา เมื่อมอบหมายภาระหนาที่รักษาเมืองชีจิ๋วเสร็จแลว เลาปก็สั่ง ใหเคลื่อนทัพจะยกไปเมืองลําหยง ครั้นยกมาถึง ชายแดนเมืองอุไถก็พบกับกองทัพของกิเหลง ทั้งสองฝายจึงตั้งคายยันกันไวรุงขึ้นทั้งสองฝายก็ยกทหารออก จากคายยกมาประจันหนากัน หลังจากไดวากลาวโจมตีกันตามธรรมเนียมแลว กิเหลงแมทัพของอวนสุดจึงขับ มารํางาวหนักหาสิบชั่งตรงเขาหาเลาป กวนอูเห็นเชนนั้น จึงขับมาออกมาสกัดกิเหลงแลวตวาดขึ้นดวยเสียงอัน ดัง มากิเหลงตกใจชะงักลง พอตั้งตัวไดกิเหลงก็ชักมาเขามารบดวยกวนอู ทั้งสองฝายรบกันไดสามสิบเพลง มากิเหลงออนกําลังลง กิเหลง จึงบอกกวนอูวาขอพักรบชั่วคราวกอน กวนอูก็ยินยอม กิเหลงจึงขับมากลับเขา คาย แลวสั่งใหซุนเจงทหารรองออกไปรบดวยกวนอู กวนอูยืนมารออยูไมเห็นกิเหลงยกออกมา เห็นแตซุนเจง ยกทหารตรงเขามาจึงถามวากิเหลงหลบหนีไปเสียที่ใด จึงใหคนต่ําฝมืออยางเจาออกมารบหาคูควรแกเราไม ซุนเจงฝมือระดับสุนัขจิ้งจอก ไมรูจักพญาเสือโครง ขาดความยั้งคิดวาที่ตัวไดออกมารบเพราะกิเหลงผูเปนนาย รักตัวกลัวตาย เห็นวาสูไมไดจึงขอพักรบ แลวสงลูกนองออกมาตายแทน จึงทาทายกวนอูวาฝมือทานนั้นไม คูควรกับกิเหลงเจานายเรา เอาแคระดับทหารรองอยางเรา เจาก็จงรักษาศีรษะบนบาไวใหจงดีเถิด เมื่อเปนเชนนี้กวนอูจึงจําตองรบดวยซุนเจง เพลงแรกไมทันสิ้นเสียง กวนอูก็เอางาวฟนซุนเจงตกมาตาย เลาป เห็นดังนั้นจึงสั่งทหารเขาโจมตีทหารของกิเหลงที่ยกมากับซุนเจง ทหารซุนเจงเห็นฝมือกวนอูฉกาจนักก็แตก พายพากันวิ่งหนีจะเขาคาย เลาป กวนอู จึงยกทหารไลตามตี แลวยึดคายกิเหลงได กิเหลงเห็นเสียทีแกเลาป จึงถอยทัพพาทหารไปตั้งคายใหมอยูริมแมน้ําเมืองซัวหยิน แลวแตงทหารเขาปลนคายเลาปหลายครั้ง แตถูก ทหารเลาปตีโตแตกพายกลับไปทุกครั้ง จนทหารของกิเหลงซึ่งตอนยกมามีจํานวนมากกวาทหารของเลาป คอยๆลดจํานวนลงจนมีจํานวนใกลเคียงกัน ดังนั้นกิเหลงจึงไมยอมออกรบ ทั้งสองฝายตั้งคายคุมเชิงกันอยู ฝายเตียวหุยอยูรักษาเมืองชีจิ๋ว ระยะแรกๆ ก็รักษาสัญญาที่ใหไวกับเลาป และไดแบงหนาที่ใหตันเตง รับผิดชอบวาราชการฝายพลเรือน ตัวเตียวหุยวาราชการฝายทหาร แตนานวันเขาก็อยากเสพสุราตามนิสัยเดิม จึงสั่งใหแตงโตะแลวเชิญบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋วมากินโตะ เตียวหุยเสพสุราแลวเดินไปตามโตะ ตางๆ เชิญชวนขุนนางขาราชการชนจอกไปโดยลําดับ จนเตียวหุยเริ่มเมาสุรา ครั้นมาถึงโตะของโจปา โจปา ไมยอมดื่มสุรา เตียวหุยก็บังคับใหดื่ม โจปาขัดไมไดก็ดื่มไปจอกหนึ่ง เตียวหุยก็เดินชนจอกตามโตะตางๆ ตอไป จนอาการเมาสุรามากขึ้นโดยลําดับ มาถึงโตะโจปาอีกครั้งหนึ่งก็บังคับโจปาอีก แตโจปาไมยอมดื่ม เตียวหุยโกรธจึงสั่งทหารใหโบยโจปาหนึ่งรอยที ตันเตงเห็นดังนั้นจึงเขาหาม แตเตียวหุยกลับอางวาตันเตงรับผิดชอบดานพลเรือน แตโจปาเปนทหารจึงไมควร มายุงเกี่ยว ตันเตง เห็นเตียวหุยเมาก็ไมอยากตอแยดวย คนเมาจึงนิ่งเสีย โจปาเห็น ดังนั้นจึงวา ขาพเจาอายุ มากแลว เพียงแคไมดื่มสุราขออยาไดลงโทษขาพเจาเลย แมนไมเกรงใจขาพเจาก็ขอใหเห็นแกหนาลูกเขย ของขาพเจา เตียวหุยจึงถามวาผูใดเปนลูกเขยของทาน โจปาจึงวาคือลิโปเจาเมืองเสียวพาย สิ้นคําวาลิโป เลือดโทสะก็ฉีดพลุงครอบงําความคิดจิตใจเตียวหุย แรงโทสะโถมเขาใสโจปาโดยตรง เตียวหุยจึงวาเดิมเรา ลอทานเลน แตบัดนี้เมื่อทานอางลิโปมาขมเรา เราก็จะโบยทานจริงๆ แลวสั่งทหารใหเอาโจปาไปโบยรอยที โบยไปไดเพียงหาสิบทีโจปาก็สลบลง บรรดาขุนนางขาราชการเห็นเชนนั้นก็ตกใจ เขาไปชวยออนวอนเตียว หุยใหหยุดโบย เตียวหุยก็สั่งใหหยุดตามคําขอของขุนนางขาราชการนั้น โจปาฟนจากสลบแลวก็โกรธแคนเตียวหุยเปนอันมาก จึงแตงหนังสือเลาความที่เตียวหุยขมเหงรังแกใหไดเจ็บ อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการ แลวใหทหารผูใตบังคับบัญชานําไปสงใหกับลิโป ณ เมืองเสียวพาย ตั้งแตค่ําวันนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
56.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 56 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ผลของการตั้งอยูในความประมาท (ตอน 75) พระผูมีพระภาคเจาทรงบัญญัติเบญจศีลเพื่อคุมครองบุคคล และสังคมใหปลอดภัยและเปนสุข ในเบญจศีลนั้น บทวาดวยการหาม เสพสุรายาเมา เปนบทสุดทาย แตมีความสําคัญสูงสุด เพราะเปนบทที่ปองกันมิใหตั้งอยูใน ความประมาท เมื่อตั้งอยูในความประมาทแลว ในทางกาย วาจา ก็สามารถลวงศีลไดทุกขอ ในทางจิตก็ทําให สติเผลอเรอ ไมตั้งมั่น ไมบริสุทธิ์ และไมสามารถใชการงานอันใดได ดังนั้นพระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา ใน บรรดาธรรมทั้งปวงไมเห็นธรรมขอใดจะเปนใหญเปนประธานเสมอดวยความไมประมาท และทรงตรัสถึงผลราย ของการตั้งอยูในความประมาทวา เปนหนทางที่จะเผชิญกับพญามัจจุราช แมยามใกลจะดับขันธปรินิพพานก็ ทรงย้ําเปนปจฉิมวาจาวา "ทานทั้งหลายจงยังการทั้งปวงใหถึงพรอมดวยความไมประมาทเถิด" พลันที่เตียวหุยคิดละคําสัญญาที่ใหไวกับเลาป และเริ่มดื่มสุรา ยอมไดชื่อวาตั้งอยูในความประมาทแลว เพราะ ความประมาทนั้นจึงขาดสติ และปญญาก็ถูกปดบังไป จึงผิดสัญญาที่ใหไวกับเลาปทั้งสามขอที่วาจะไมเสพ สุรากอนที่เลาปจะกลับมา ทําการสิ่งใดจะปรึกษาดวยผูมีสติปญญา และถาทําการสิ่งใดมีผูทัดทานก็จะรับฟง เตียวหุยทําผิดสัญญาทั้งสามขอแลวสั่งโบยโจปา เพียงเทานี้ก็นับวาผิดหนักหนาสาหัสแลว แตการมิไดจบลง เพียงเทานี้ เพราะเมื่อลิโปไดรับหนังสือของโจปาผูเปนพอตา เลาความที่ถูกเตียวหุยขมเหงรังแก ทําใหเจ็บ อายตอหนาบรรดาขุนนางขาราชการเมืองชีจิ๋ว และยังกลาวจาบจวงดูหมิ่นมาถึงลิโปอีกดวย ลิโปจึงโกรธเคือง เตียวหุยเปนอันมาก ใหหาตันกงมาพบเลาความทั้งปวงใหตันกงฟง แลวปรึกษาวาจะตองลางแคนเตียวหุยให จงได ตันกงจึงวาอันตัวทานนั้นเปรียบประดุจจระเขใหญ มาอยูเมืองเสียวพาย ซึ่งประหนึ่งเปนหนองน้ํานอยหาสมควร ไม จําตองแสวงหา แมน้ําใหญอาศัยจึงจะทําการใหญได บัดนี้เลาปยกไปตีเมืองลําหยง ใหเตียวหุยอยูรักษา เมือง ทหารก็นอยตัวนัก การที่เตียวหุยทําหยาบชาตอพอตาทาน และยังจาบจวงมาถึงทานทั้งนี้เปนทีแลวที่จะ ยกไปยึดเอาเมืองชีจิ๋ว ทําการใหญสืบไป ขอทานจงเรงยึดเมืองชีจิ๋วโดยเร็วเถิด ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นชอบ กับขอเสนอ จึงสั่งใหจัดทหารเปน สองกอง ลิโปยกทหารมาเปนกองหนารีบรุดไปเมืองชีจิ๋วกอน และใหตันกง กับโกสุนระดมทหารทั้งสิ้นจากเมืองเสียวพายรีบยกตามไป ลิโป ตันกง และโกสุนจัดเตรียมทหารแลว ลิโปก็รีบยกกําลังทหารมาไปเมืองชีจิ๋วตั้งแตวันนั้น ลวงยามสามก็ ถึงกําแพงเมืองชีจิ๋ว จึงรองใหทหารเปดประตูเมืองแจงวามีขอราชการสําคัญจะปรึกษากับเตียวหุย ขณะนั้น ทหารของโจปารักษาเชิงเทินและประตูเมืองอยูเห็นเปนลิโปจึงเอาความไปรายงานใหโจปาทราบ โจปารีบมาที่ เชิงเทินเห็น ลิโปจึงสั่งทหารใหเปดประตูเมืองรับลิโปเขามา ทหารของลิโปก็โหรองและพากันยกเขาไปใน เมืองชีจิ๋ว ทหารเตียวหุยเห็นทหารลิโปยกมาก็ตกใจ รีบวิ่งเขาไปหาเตียวหุย แตเตียวหุยเมาสุราหลับใหลอยู ทหารจึงรีบปลุกใหตื่นแลวรายงานเหตุการณใหทราบ เตียวหุยทราบความก็ตกใจ รีบควาทวนออกไปยืนหนา บานพัก เห็นทหารลิโปลอมอยู เห็นวาจะตอสูมิไดเพราะมีกําลังนอย ทั้งยังมึนเมาสุราอยู จึงวิ่งไปที่โรงมาขึ้น มาพาทหารติดตามเพียงสิบแปดคนหนีออกจากเมืองชีจิ๋ว ทิ้งครอบครัวเลาปและขาวของทั้งสิ้นไวในเมืองชีจิ๋ว ทหารลิโปเห็นเตียวหุยพาทหารหลบหนีออกจากประตูเมืองก็ไปรายงานใหลิโปทราบ ลิโปเห็นวายึดเมืองชีจิ๋ว ไดโดยงายเชนนี้แลว และเตียวหุยก็มีฝมือกลาแข็ง จึงไมติดตามเตียวหุยตอไป แตโจปาพอตาลิโปนั้นยังคุม แคนเตียวหุยอยูเปนอันมาก เห็นเตียวหุยหนีไปทั้งๆ ที่เมาสุราจึงรีบคุมทหารรอยเศษติดตามเตียวหุยไป เตียว หุยหนีออกจากเมืองไปไมไกลนัก ไดยินเสียงทหารไลตาม มาก็หยุดดูวาเปนทหารของผูใด ครั้นเห็นเปนโจปา จึงชักมากลับมาเผชิญหนากับโจปา โจปาเห็นเตียวหุยขับมาเขามาก็เรงฝเทามาเขารบดวยเตียวหุย ตอสูกันได สามเพลงโจปาเห็นวาสูเตียวหุยไมไดจึงขับมาหนี เตียวหุยขับมาไลตามไปถึงริมแมน้ําทันเขากับโจปา จึงเอา ทวนแทงโจปาตกมาตาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นสวางทหารเตียวหุยที่หลบหนีออกจากเมืองติดตามมาทันจึงพากันไปหาเลาปตามเสนทางที่จะไปเมือง ลําหยง ครั้นมาถึงเมืองอุไถก็พบกองทัพเลาป เตียวหุยจึงเขาไปหาเลาป เลาความใหเลาปฟงทุกประการ บรรดาทหารของเลาปครั้นไดทราบความตางพากันเสียน้ําใจและหวงใยครอบครัวที่อยูในเมืองชีจิ๋วนั้น เลาป เห็นคนทั้งปวงตกใจ จึงปลอบวา "ธรรมดาเกิดมาเปนชาติทหารแลว ถาจะเสียทีก็อยาเปนทุกข ถึงจะไดทีก็ อยายินดี" กวนอูสังเกตเห็นเตียวหุยมาแตตัว มิไดเห็นครอบครัวเลาปตาม มาดวย จึงถามวาครอบครัวพี่ใหญ ของเราขณะนี้อยูที่ใด เตียวหุย จึงวาขาพเจารีบหนีมา ดังนั้นครอบครัวของพี่ใหญจึงยังคงคางอยูในเมืองชีจิ๋ว เลาปไดยินก็เงียบงันไมวากลาวประการใด แตกวนอูฟงแลวก็โกรธ กระทืบเทาแลววาเตียวหุยวา กอนที่พี่ใหญ จะยกมา นองเล็ก เจาใหสัญญาไววาอยางไร แลวไฉนจึงละสัญญานั้นเสีย ทําใหพี่ใหญ ตองเสียทั้งเมืองและ เสียทั้งครอบครัว เจาจะรับผิดชอบเรื่องนี้อยางไรกัน เตียวหุยไดยินกวนอูตําหนิดังนั้น หันไปมองเลาปเห็นนิ่ง
57.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 57 ขรึมอยู สํานึกรับผิดชอบก็ประดังเขามาเต็มหัวใจ ทั้งรูสึกอับอายขายหนายิ่งนัก ประกอบกับเสียใจอยางสุดซึ้ง ที่ทําใหพี่ใหญของตัวตองเสียทั้งเมือง และเสียทั้งเมีย เตียวหุยจึงกระชากกระบี่ออกจากฝกจะเชือดคอตาย เลาปเห็นดังนั้นก็ตกใจ ปราดเขาถึงตัวเตียวหุย มือหนึ่งกอดเตียวหุยไว อีกมือหนึ่งชิงกระบี่จากมือเตียวหุยแลว จึงวา "คําโบราณ กลาวไววา ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอยางเสื้อผา ขาดแลหายแลว ก็จะหาได พี่นอง เหมือนแขนซายขวา ขาดแลวยากที่จะตอได แลว เราก็ไดสาบานไวตอกันวา ถาจะตายก็จะตายดวยกัน ซึ่งเสีย เมืองชีจิ๋วและภรรยาเราไปทั้งนี้เปนแตการภายนอก จะฆาตัวเสียนั้นใชของ ทั้งนี้จะคืนมาก็หามิได ถาเรายังมี ชีวิตอยูก็จะไดคิดอานทําการสืบไป จะมาตายเสียเปลาๆ ไมควรเลย" คําพูดจากใจของเลาปครั้งนี้สะเทือนใจผูคนยิ่ง บรรดาทหารที่อยู ณ ที่นั้นยินคําเลาปแลวพากันรองไหสงสาร และเลื่อมใสศรัทธาเลาปเปนยิ่งนัก เลาปเห็นทหารทั้งนั้นรองไหก็พลอยรองไหตาม ไปดวย กวนอู เตียวหุย เห็นเลาปรองไหจึงพากันรองไหตาม ฝายลิโปครั้นไดเมืองชีจิ๋วแลวใจยังเกรงเลาปอยู จึงจัดทหารรอยหนึ่งไป คุมครองครอบครัวเลาปแลวจัดการดูแลเลี้ยงดูเปนอันดี มิใหขาดตกบกพรอง ฝายอวนสุดเจาเมืองลําหยง ครั้นไดทราบขาววาลิโปยึดไดเมือง ชีจิ๋วแลว จึงใหทหารถือหนังสือไปใหลิโป ขอใหลิโปยกมาชวยรบดวยเลาป โดยสัญญาวาจะตอบแทนการครั้งนี้แกลิโปดวยขาวหมื่นถัง มาหารอย ทอง เงินหมื่นตําลึง แพรพันพับ ลิโปเปนคนโลภเห็นรางวัลที่อวนสุดตั้งไวเปนจํานวนมากก็ตกลงที่จะยกไปรบดวย เลาปลิโปจึงสั่งใหโกสุนคุมทหารหาหมื่นยกไปตีกระหนาบหลังเลาป ฝายเลาปตั้งคายยันอยูกับกิเหลง ครั้น ทราบวาลิโปใหโกสุนยกทหาร มาตั้งคายกระหนาบหลังอยู เห็นวากําลังทหารนอยกวาขาศึก จึงปรึกษาดวยแม ทัพนายกองวากองทัพเรามีกําลังนอย ทั้งอยูระหวางถูกกระหนาบดังนี้เห็นจะสูไปไมตลอด สมควรถอนทัพไป ตั้งในที่ปลอดภัยเสียกอน ทุกคนเห็นพองกับเลาป ครั้นค่ําลง ฝนตกหนัก เลาปจึงใชสุดยอดกลยุทธ "หนีในเมื่อตอสูไมชนะ" สั่งใหถอนทัพยกหนีจะไปเมืองกอง เหลง ครั้นรุงขึ้นโกสุนทหารลิโปทราบวาเลาปถอยทัพหนีไปจึงไปพบกิเหลง แลวทวงถามของตอบแทนตาม สัญญา แตกิเหลงปฏิเสธวาไมทราบเรื่องขอสัญญานี้ โกสุนจึงเลิกทัพกลับเมืองชีจิ๋ว สวนกิเหลงก็เลิกทัพกลับ เมืองลําหยง แจงใหอวนสุดทราบความที่โกสุนมาทวงของตอบแทนตามสัญญา โกสุนกลับถึงเมืองชีจิ๋วก็ รายงานใหลิโปทราบวา กิเหลงปฏิเสธ ไมรับรูเรื่องสัญญา พอดีอวนสุดใหทหารถือหนังสือมาถึงลิโปวากองทัพ โกสุนยกไปไมทันไดรบกับเลาป ดังนั้นจึงทวงขาวของตามสัญญายังไมได ตองรอใหไดตัวเลาปกอนจึงจะสง ขาวของตามสัญญามาให ลิโปไดยินดังนั้นก็โกรธคิดจะยกไปรบดวยอวนสุด จึงใหหาบรรดาที่ปรึกษาและแม ทัพนายกองมาปรึกษา ตันกงฟงความจากลิโปแลวเสนอวา ขณะนี้ยังไมสมควรรบดวยอวนสุด เพราะฝายเรา เพิ่งตั้งตัวขึ้นมาใหม เหตุการณยังไมปกติดีนัก แตอวนสุดซองสุมผูคนและเสบียงไวเปนอันมาก หากทําศึกตอ กันในสถานการณเชนนี้เห็นจะเสียทีแกอวนสุด ทั้งโจโฉก็อาจฉวยโอกาสยกมาซ้ําเติมก็จะเสียการไป ลิโปจึงถามวาถาเชนนั้นควรดําเนินการตอไปอยางไร ตันกงจึงวาขณะนี้เลาปยกหนีไปเมืองกองเหลง หากไป เขาดวยโจโฉ หรืออวนสุด เราก็จะเสียเปรียบ ดังนั้นจึงควรเกลี้ยกลอมเลาปเขามาเปนพวกใหอยูที่เมืองเสียว พายเสียกอน หากจะทําศึกกับอวนสุดตอไปก็จะไดอาศัยเลาป กวนอู เตียวหุย เปนกําลัง ลิโปเห็นดวยกับ ขอเสนอของตันกง จึงใหทหารถือหนังสือไปเชิญเลาปมาอยูเมืองเสียวพาย ในขณะนั้นเลาปตั้งคายพักทหาร อยูที่เมืองกองเหลง อวนสุดทราบขาวจึงจัดกองทัพยกไปตี เลาปเห็นทหารอวนสุดยกมาเปนจํานวนมากก็พา ทหารหนีออกจากเมืองกองเหลง และไดพบกับทหารของลิโปที่ถือหนังสือมาเชิญนั้น เลาปทราบความตาม หนังสือของลิโปแลว จึงปรึกษาดวยกวนอูวา ลิโปมีหนังสือมาทั้งนี้เจามีความเห็นเปนประการใด กวนอูจึงวาลิ โปเปนคนเนรคุณ ไมควรของแวะดวย เพราะการคบคนพาลเปนอัปมงคล ทั้งลิโปเพิ่งยึดเอาเมืองชีจิ๋ว แลว กลับมาเชิญไปอยูเมืองเสียวพายเชนนี้ นาจะเปนการเชิญโดยไมสุจริต โดยจะคิดทํารายในภายหลัง แตเลาป เห็นวาลิโปมีหนังสือมาเชิญโดยสุจริต สมควรที่จะตอบรับแลวไปอยูเมืองเสียวพาย กวนอูไดฟงดังนั้นก็ตามใจเลาป ดังนั้นเลาปจึงสั่งใหทหารยกไปเมืองเสียวพาย ครั้นมาถึงกลางทางพบทหาร ของลิโปเชิญนางกําฮูหยิน นางบิฮูหยิน และผูคนในครอบครัวของเลาปเขามาแลวรายงานวาลิโปเชิญทานไป อยูเมืองเสียวพายโดยสุจริต ดังนั้น จึงใชใหขาพเจานําครอบครัวของทานมาสงเพื่อจะไดนําไปเมืองเสียวพาย พรอมกันเลาปถามภรรยาทั้งสองวา ระหวางที่ลิโปยึดเมืองชีจิ๋วนั้นไดปฏิบัติตอพวกเจาอยางไร ภรรยาทั้งสอง ของเลาปตอบวาลิโปไดปฏิบัติตอพวกเราดวยดี ไมมีบกพรอง ไดใหทหารพิทักษอารักขาปลอดภัยทุกประการ ทั้งไดจัดสงขาวปลาอาหารอยางดีมิไดขาดเลย เลาปไดฟงเชนนั้นจึงวากับกวนอู เตียวหุยวา คําพี่สะใภทั้งสอง ของเจาเห็นไดวาลิโปยังคงมีใจกตัญูตอเรา การเชิญไปอยูเมืองเสียวพายจึงนาจะเปนไปโดยสุจริต ดังนั้นเรา จําเปนที่จะตองไปพบ กับลิโปที่เมืองชีจิ๋วเสียกอน กวนอูเห็นพองกับเลาป แตเตียวหุยนั้นยังผูกใจเจ็บอยูจึงวา ตัวขาพเจาจะขอนําพี่สะใภตรงไปเมืองเสียวพายกอน พี่ใหญเสร็จธุระแลวก็จงรีบตามไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
58.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 58 เลาปจึงพากวนอูและทหารยกไปเมืองชีจิ๋วเพื่อพบกับลิโป ฝายลิโปทราบวาเลาปรับคําเชิญและกําลังมาที่เมือง ชีจิ๋ว จึงออกมาตอนรับเลาปแลวเชิญเขาไปที่จวนเจาเมืองแลววา ขาพเจามาอยูเมือง ชีจิ๋วนี้จะไดคิดแยงชิง สมบัติของทานนั้นหามิได กรณีเกิดแตเตียวหุยเมาสุรา ทําหยาบชากับขุนนางขาราชการ แลวโบยพอตาของ ขาพเจาใหไดรับเจ็บอาย เพราะเหตุเพียงแคพอตาขาพเจาดื่มสุราไมไดเทานั้น ขาพเจาจึงจําเปนตองมารักษา เมืองชีจิ๋วไวใหทาน บัดนี้ทานกลับมาแลวจงรับเปนเมืองเจาชีจิ๋วตอไปตามเดิมเถิด คําพูดลิโปเชนนี้จะเปนการพูดจากใจจริง หรือพูดโดยมารยาท หรือพูดเพื่อใหเห็นวามิไดคิดแยงชิงเบียดเบียน เลาปก็ตามที แตตองนับวาลิโป ณ บัดนี้ชางเจรจายิ่งขึ้นจึงพูดจาความเมืองไดนาฟง แตนาจะมิใชใจจริง เพราะความตั้งใจเดิมของลิโปในการยึดเมืองชีจิ๋วก็เพื่อตั้งตัวขึ้นเปนใหญ ลิโปและตันกงคงจะปรึกษากันแลววา ถึงแมจะพูดเชนนี้ เลาปคงจะไมรับเอาเมืองชีจิ๋วกลับไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ลูกเสือยางเขาสูปาใหญ (ตอน 76) เลาปฟงคําลิโปแลวก็รูใจลิโป จึงวาอันเมืองชีจิ๋วนี้เปนเมืองใหญ เกินกวากําลังสติปญญาของขาพเจาจะรักษา ไวได แตเดิมมาขาพเจาก็ไดออนวอนขอใหทานรับเปนเจาเมืองแตทานปฏิเสธเสีย บัดนี้ทานมาอยูเมืองชีจิ๋วก็ ดีแลว แสดงวาสวรรคเปนใจเอื้อใหทานไดครองเมือง ราษฎรจะเปนสุขก็เพราะทาน สวนตัวขาพเจาเต็มใจที่จะ ไปอยูเมืองเสียวพาย ลิโปไดคะยั้นคะยอใหเลาปเปนเจาเมืองตอไป แตเลาปยืนกรานไมยอมรับ และยืนยันใหลิ โปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว ลิโปจึงคํานับเลาปแลววาเมื่อทานยืนกรานดังนี้ ขาพเจาก็จําใจตองทําตามใจทานแลว ลิ โปจึงสั่งใหแตงโตะเลี้ยงเลาปและสนทนากันตอจนสมควรแกเวลา เลาปจึงขอลาลิโปแลวยกไปเมืองเสียวพาย ครั้นถึงเมืองเสียวพาย เลาปเห็นกวนอู เตียวหุย ยังมีทาทีแสดงความไมพอใจลิโปอยู จึงวาธรรมดาผูคิดการ หวังเปนใหญนั้นตองเปยมดวยความอดทนทั้งกายและใจ ยามใดโอกาสยังไมเปนใจ ก็ตองอดทน อดออม จิตใจไมใหทอถอย กลาที่จะยอมคุดคูอยูในที่อันจํากัด ยามใดเปนโอกาสจะทําการไดสําเร็จก็ชวงชิงโอกาสไว ไดไมปลอยใหหลุดมือ แลววาเมื่อครั้งฮั่นสินทหารเอกของพระเจาฮั่นโกโจยังคงเปนทหารเอกอยูนั้น ก็เคย ยินยอมลอดหวางขาของนักเลง อดออมน้ําใจ แมวาจะถูกเขาหยามเหยียดถึงเพียงนั้น พวกเราในวันนี้ยังไม ถึงกับตองทนเจ็บอายเหมือนฮั่นสินนั้น พวกเจาจึงตองตระหนักความขอนี้ไวใหจงดี โอกาสเปดทางแกเราวัน ใดแลวคอยคิดการตอไป เมื่อเลาปมาอยูเมืองเสียวพายแลว ลิโปไดจัดสงเสบียงอาหารและของกํานัลไปใหเลาปเปนเนืองนิจ ทําให ความขุนของหมองใจของทั้งสองฝายเปนปกติลง ฝายซุนเซ็กหลังจากสิ้นบุญซุนเกี๋ยนแลว ตราพระลัญจกรที่ ซุนเกี๋ยนไดไวจึงตกทอดมาถึงซุนเซ็กผูบุตร ซุนเซ็กไดเก็บรักษาตราพระลัญจกรนั้นไวเปนความลับ แต อาถรรพตราพระลัญจกรนั้นยังคงสําแดงอานุภาพ การปรากฏวานับแตซุนเซ็กไดตราพระลัญจกรมาครองก็ ตกต่ําเสื่อมถอยลงจนกระทั่งตกมาเปนลูกนองของอวนสุด ณ เมืองลําหยง อวนสุดไดตั้งใหซุนเซ็กเปนนายพัน ทหารราบ สังกัดกองทัพเมืองลําหยง แตตัวซุนเซ็กนั้นรูปงาม แคลวคลอง องอาจกลาหาญ แตมีความออน นอมถอมตนตอผูใหญ ดังนั้นอวนสุดจึงพึงพอใจซุนเซ็ก บางครั้งถึงกับทอดถอนใจใหญรําพึงวาถาตัวเรามีบุตร อยางซุนเซ็กสักคนหนึ่ง ถึงจะตายก็นอนตาหลับ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ตอมาเมืองเกงกวนแข็งขอ ไมฟงคําสั่งของอวนสุด อวนสุดจึงสั่งใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองเกงกวน แลว เอาชนะไดโดยงาย ครั้นซุนเซ็กยกทหารกลับมาแลวรายงานชัยชนะใหอวนสุดทราบ อวนสุดก็ยิ่งพึงใจ และสั่ง ใหซุนเซ็กยกทหารไปตีเมืองโลกั๋ง ซึ่งแข็งขอ กับเมืองลําหยงอีกเมืองหนึ่ง ซุนเซ็กยกทหารไปปราบปราม เมืองโลกั๋งไดสําเร็จราบคาบอีกเมืองหนึ่ง จึงยกกองทัพกลับเมืองลําหยง ครั้นอวนสุดไดทราบขาวชัยชนะก็มี ความยินดี สั่งใหจัดงานสโมสรสันนิบาตฉลองชัยชนะเพื่อเปนเกียรติแกซุนเซ็ก ในงานเลี้ยงนั้นอวนสุดถึงกับ ลุกมาที่โตะของซุนเซ็กแลวจูงมือซุนเซ็กไปนั่งกินโตะที่โตะเดียวกัน ซุนเซ็กตั้งใจคอยวาอวนสุดจะปูนบําเหน็จ แตเสร็จงานเลี้ยงแลวอวนสุดก็ไมไดพูดถึงเรื่องนี้ กลับกลาวอางในงานสโมสรสันนิบาตวา การที่ซุนเซ็กชนะ ศึกถึงสองครั้งนั้นเปนเพราะบุญวาสนาของอวนสุดเองที่จะไดเปนใหญในแผนดิน ครั้นเลิกงานซุนเซ็กกลับมาที่ พักดวยความผิดหวัง และนอยใจ อวนสุดที่ไมเห็นคุณงามความดี ทั้งยังแสดงทาทีเหลิงระเริงในอํานาจ ของ เจาเมือง ลวงยามสองแลว ซุนเซ็กก็ยังนอนไมหลับ เห็นแสงแหงพระจันทรจรัสงามตาจึงลงมาเดินในสวน ดอกไมหนาบาน สายตาซุนเซ็กทอดไปตามตนไมในสวนที่กระทบกับแสงพระจันทร แลวเงยหนาขึ้นมองไปใน อากาศ พลันมีเมฆกลุมหนึ่งลอย ผานดวงจันทรมีลักษณะดั่งขุนศึกกําลังขี่มาลักษณาการเดียวกันกับซุนเกี๋ยนผู บิดา สายใจซุนเซ็กก็หวนรําลึกถึงบิดา ซึ่งมีเกียรติภูมิลือลั่นสนั่นลุมน้ําแยงซี คํานึงขึ้นวาตัวเราบัดนี้สิ้นลายเสือ ของบิดา ตองตกมาเปนขาอวนสุดเหมือนกับเปนลูกสุนัข คํานึงดั่งนี้แลวก็เสียใจนัก ลืมตัวรองไหโฮออกมา ใน พลันนั้นก็มีเสียงพูดดังมาจากขางหลังวา ไฉนนายนอยจึงมารองไหในสวนดอกไมในยามดึกดื่นดังนี้ มีการใด
59.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 59 วิตกขุนของอยูในใจ จงบอกกับขาพเจาเถิด ซุนเซ็กตกใจไดสติเหลียวกลับไปเห็นเปนจูตี ที่ปรึกษาเกาของ ซุนเกี๋ยนก็ดีใจ รีบเชิญจูตีไปนั่งสนทนากันที่เกาอี้ในสวนนั้น จูตีจึงวาเมื่อครั้งบิดาทานยังมีชีวิตอยูนั้น มีการใหญนอยก็จะปรึกษาดวยขาพเจาสิ้น ค่ําคืนนี้พระจันทรงามตา นัก ตัวขาพเจาเปนคนมีอายุแลวนอนไมหลับ จึงลุกออกมาเดินชมแสงแหงจันทรลวงมาถึงสวนดอกไมหนา บานทาน ก็ไดยินเสียงนายนอยรองไห ดังนั้นมีทุกขรอนประการใดจงวางใจขาพเจาเหมือนดั่งครั้งบิดาทานยังมี ชีวิตอยูเถิด ซุนเซ็กจึงวา นับแตขาพเจามารับราชการดวยอวนสุด ไดทําความชอบไวมากแตอวนสุดกลับไม เคยเห็นคุณงามความชอบ มิหนําซ้ํายังมีทาทียโสวางอํานาจ ขาพเจานี้คิดอานจะทําการใหเหมือนบิดา แตจน ใจดวยขาดกําลังทําการไมตลอด หวนรําลึกถึงเกียรติภูมิของบิดาแลวสลดใจนักจึงรองไห บัดนี้มาพบหนาทาน จึงอิ่มใจเหมือนดังวาบิดายังอยูคอยอุมชูมิใหตกต่ํา จูตีจึงวาแตครั้งบิดาทานมีชีวิตอยู ไดวาดหวังอุดมการณวา ตระกูล "ซุน" จะตั้งตัวเปนใหญไดก็จะตองเขาครองแควนกังตั๋งใหไดกอน อันดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีก วางใหญไพศาลอุดมสมบูรณ พรั่งพรอมดวยผูคนแลเสบียงอาหาร ทั้งยังมีแมน้ําแยงซีเปน ปราการใหญ ปองกันภัยขาศึก ดังนั้นหากนายนอยจะคิดอานทําการ อยางบิดาก็จงหาทางตั้งหลักปกฐาน ณ ดินแดน กังตั๋งนั้นจงสําเร็จเถิด ซุนเซ็กไดยินคําจูตีกลาวถึงอุดมการณของบิดาก็เห็นทางสวาง ตัดสินใจดําเนินการตาม แนวทางที่ซุนเกี๋ยนเคยคิดการไวกับที่ปรึกษาผูนี้ จึงถามวาจะทําการประการใดจึงเปนใหญในแควนกังตั๋งได จู ตีจึงวาขอใหนายนอยไปแจงแกอวนสุดวาบัดนี้งอเกงเจาเมือง ตันเอี๋ยง ผูเปนนาชายกําลังขัดแยงกับเลาอิ้ว เจาเมืองเอียงจิ๋ว นายนอยไดฝากมารดาและครอบครัวอยูที่เมืองตันเอี๋ยง จึงเกรงวาจักเปนอันตราย แลวขอยก ทหารไปชวยงอเกง และขอตีเมืองเอียงจิ๋วใหแกอวนสุดในคราวเดียวกัน จากนั้นจึงคอยคิดการใหญตอไป ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นวา แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ลูกเสือใหญคืนเขาสูปายอมตองเปนเจาปาเปนแนแท ซุน เซ็กและจูตีไดยินดังนั้นก็ตกใจ ครั้นเจาของเสียงเดินเขามาใกลเห็นเปน ลิหอมที่ปรึกษาของอวนสุดก็ยิ่งตกใจ ซุนเซ็กเอามือกุมกระบี่ไวมั่น แตลิหอมยกมือเปนเชิงหามซุนเซ็กแลววาทานอยาเพิ่งวูวาม ขาพเจามาดีดอก แลววาความที่ทานสนทนากันนั้นขาพเจาไดยิน สิ้นแลวตองดวยความคิดขาพเจานัก ตัวขาพเจานี้แมเปนที่ ปรึกษาของอวนสุดมาชานาน แตหาความหมายความเจริญอันใดมิได ไมตางอันใดกับเจว็ด จึงคิดที่จะหาผูมี สติปญญาคิดการใหญไวเปนที่พึ่ง สืบไป ขาพเจาไดยินคําสนทนาแลวมีความเลื่อมใสยิ่งนัก เต็มใจที่จะเขา รวมทําการดวยทาน และจะเอาทหารของขาพเจารอยกวาคนมาสวามิภักดิ์ดวย ลิหอมกลาวตอไปวา แผนการที่ไดยินทั้งสิ้นนั้นเปนแนวทางการเมืองที่ถูกตอง และจะไดรับความสนับสนุนจาก ราษฎรเปนมั่นคง ขาพเจาวิตกอยูก็แตวากําลังเรายังนอยนัก การไปขอยืมทหารอวนสุด อาจไมบรรลุดัง ประสงค เพราะอวนสุดเปนคนใจแคบ คงจะไมยินยอมใหทหารแกทานยกไปทําการ ซุนเซ็กไดฟงลิหอมก็ดีใจ กระทําคารวะลิหอมแลววา ทานเมตตามาเขาดวยชวยขาพเจาในครั้งนี้เปนพระคุณหนักหนา อยาไดวิตกวาอวน สุดจะไมใหทหาร เพราะขาพเจานี้มีตราพระลัญจกรอันเปนที่ปองปรารถนาของบรรดาเจาเมืองทั้งปวง ขาพเจา จะขอทหาร จากอวนสุดแลวมอบตราพระลัญจกรไวเปนประกันวาจะคืนทหารเมื่อการเสร็จแลว เชื่อวาอวนสุด คงจะยินยอมพรอมใจ จูตีและลิหอมไดยินดังนั้นก็เห็นดวย และเชื่อวาอวนสุดเปนคนมักใหญใฝสูง คงจะรับ จํานําตราพระลัญจกรไวตามความคิดของซุนเซ็กจึงเสนอใหซุนเซ็กรีบดําเนินการตามแผนการที่วางไว รุงขึ้นซุนเซ็กจึงไปหาอวนสุดที่จวนเจาเมือง ทําหนาเศราแลวกลาววากอนหนาที่ขาพเจาจะมารับราชการดวย ทานนั้นไดนํามารดาและครอบครัวไปฝากไวกับงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชาย บัดนี้เลาอิ้วเจาเมืองเอียง จิ๋วบีบคั้นงอเกงแลวจะยกกองทัพไปตีเมือง ตันเอี๋ยง ขาพเจาเกรงวามารดาและนาชายจักเปนอันตราย จึงใคร ขอทหารทานยกไปชวยงอเกงและมารดาเสร็จการแลวจะยกกลับมาเมือง ลําหยง แลววาเพื่อเปนหลักประกัน ความซื่อตรงของขาพเจา จะมอบตราพระลัญจกรไวแกทาน เมื่อใดที่ขาพเจาคืนทหารแกทานแลว ก็จะรับตรา พระลัญจกรกลับคืน แลวซุนเซ็กไดเอาตราพระลัญจกรออกมาแสดง อวนสุดไดยินคําวาตราพระลัญจกรก็ดีใจ จนเนื้อเตน รับเอาตราพระลัญจกรจากซุนเซ็กมาพิจารณาก็รูวาเปนของแทสําหรับพระมหากษัตริยมาแตกอนจึง วาทานจะปรารมภไปไยกับการขอยืมทหารไปทําการครั้งนี้ เพราะเปนการแสดงออกถึงความกตัญูตอผูมีคุณ ซึ่งยอมเปนธุระที่เราตองชวยเหลืออยูแลว แตเมื่อทานจะไปในราชการศึก เราก็จะรักษาตราพระลัญจกรไวให อวนสุดรีบเรียกทหารใหเอาตราพระลัญจกรไปเก็บ แลวออกปากอนุญาตใหซุนเซ็กยกทหารไปตามคําขอ สั่ง ใหจัดทหารสามพันและมาศึกหารอยมอบแกซุนเซ็ก แลวกําชับวาเสร็จการแลวใหรีบยกกลับมา อยาไดทํา กระทําการใดนอกเหนือจากที่กลาวนี้เพราะตัวเจายังเยาวนักเกรงวาจะเสียทีแกขาศึก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เมื่อเจากลับมาแลว เราจะตั้งใหเจาเปนขุนนางเมืองลําหยง ในความคิดของอวนสุดนั้นไมคิดที่จะคืนตราพระ ลัญจกรใหแก ซุนเซ็ก ดังนั้น เมื่อใดที่ซุนเซ็กกลับมา อวนสุดจึงแจงวาจะปูนบําเหน็จแคตั้งใหเปนขุนนาง แต ไมพูดวาจะคืนตราพระลัญจกร ซุนเซ็กไดฟงคําอวนสุดสมดังประสงคก็ดีใจ แมวาอวนสุดจะไมพูดถึงการคืน ตราพระลัญจกรเมื่อกลับมา เพราะซุนเซ็กนั้นเห็นความสําคัญของการไดครองแควนกังตั๋งยิ่งกวาตราพระ
60.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 60 ลัญจกร และเพื่อใหการใหญดําเนินไปโดยราบรื่น ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายังเยาวอยูดังคําทาน เกรงจะทําการไป ไมตลอด ดังนั้นจึงขอตัวลิหอม จูตี ไปเปนที่ปรึกษาและขอเทียเภา ฮันตง อุยกาย ซึ่งเปนทหารเกา ของบิดา ไปทําการดวย อวนสุดกําลังคิดถึงตราพระลัญจกรและคิดถึงการอาศัยตราพระลัญจกรตั้งตัวขึ้นเปนเจา ไม สนใจเรื่องอื่นใด ครั้นไดยินคําขอตัวที่ปรึกษาและทหารเกาของซุนเกี๋ยน ก็มิไดสนใจหรือสงสัยประการใด ออก ปากอนุญาตตามที่ซุนเซ็กตองการ ซุนเซ็กไดรับมอบทหารและมาศึกแลวก็พาที่ปรึกษาและทหารของบิดายกออกจากเมืองลําหยง เคลื่อนไปตาม เสนทางที่จะไปเมือง ตันเอี๋ยง กองทหารของซุนเซ็กเคลื่อนไปไดไมทันนาน ก็สวนกับทหารหนวยหนึ่งยกสวน ทางมา ปรากฏวาเปนจิวยี่ซึ่งซุนเซ็กไดรูจักตั้งแตครั้งที่ซุนเกี๋ยนเขารวมกองทัพปฏิวัติยกไปรบกับตั๋งโตะ ใน ครั้งนั้นซุนเกี๋ยนไดพาครอบครัวไปอาศัยอยูที่เมืองชีเสงใกลกับบานของจิวยี่ ดังนั้นซุนเซ็กและจิวยี่จึงไดคบหา กันมาอยางสนิทสนม แตจิวยี่นั้นออนวัยกวาซุนเซ็กสองเดือนจึงเรียกซุนเซ็กวาพี่ ซุนเซ็กและจิวยี่เห็นกันแลว ตางก็หยุดมาแลวลงมาหากัน จิวยี่คารวะซุนเซ็กทักทายกันตามธรรมเนียมแลวจึงถามซุนเซ็กวาจะยกทหารไป ที่ใด ซุนเซ็กจึงเลาความที่คิดการกันนั้นใหจิวยี่ฟงทุกประการ จิวยี่ทราบความแลวมีความยินดีจึงวาขาพเจามี ความเลื่อมใสศรัทธาในอุดมการณของพี่ทาน จะขอติดตามรับใชพี่ทานไปทําการใหญจนกวาจะสําเร็จ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม สรางเสริมกําลังเตรียมตั้งตัว(ตอน 77) ซุนเซ็กไดฟงวาจิวยี่จะรวมทําการดวยก็ยินดียิ่งนัก เขากอด เอาจิวยี่ไวแลววาคําของนองทานเปรียบดังสายฝน โปรยมายามหนาแลง ตนไมใบหญาดั่งขาพเจานี้ยินแลวอิ่มใจสดชื่นยิ่งนัก มั่นใจวาการใหญของเราจักสําเร็จ เปนมั่นคง ซุนเซ็กไดแนะนําใหจิวยี่รูจักกับจูตีและลิหอม จิวยี่กระทําคารวะแกสองที่ปรึกษาแลวถามซุนเซ็กวา ในดินแดนกังตั๋งนี้มีสองบัณฑิตแซเตียว ทานรูจักหรือไม ซุนเซ็กไมตอบคําแตถามกลับมาวา สองบัณฑิตตาม คําทานนี้เปนผูใดหรือ จิวยี่จึงวาคนหนึ่งชื่อเตียวเจียว เปนชาวเมืองเพงเสีย อีกคนหนึ่งชื่อเตียวเหียน เปน ชาวเมืองกองเหลง ทั้งสองคนนี้เจนจบพิชัยสงครามศาสตรการปกครองแลกฎแหงฟาดิน หากไดตัวมาทําการ แลว การใหญของพี่ทานก็จะสําเร็จโดยงายดาย และบัดนี้บัณฑิตทั้งสองคนนี้ไดหลบโจรภัยมาอยูในเมืองนี้ ชอบที่พี่ทานจะไดไปเชิญมารวมทําการดวย ซุนเซ็กไดฟงคําจิวยี่ก็ดีใจนัก สั่งใหทหารปลงทัพไว ณ ที่นั้น แลวใหทหารคนสนิทนําขาวของเงินทองจํานวนมากไปมอบแกบัณฑิตทั้งสอง และขอเชิญมาพบกับซุนเซ็ก ณ คายทหาร แตทหารคนสนิทกลับมารายงานซุนเซ็กวา ไดไปพบบัณฑิตทั้งสองแลวแตทั้งสองคนไมยอมรับ ของกํานัลและไมยอมมาพบ ซุนเซ็กไดฟงรายงานแลวจึงปรึกษาจิวยี่วาจะทําประการใดจึงจะไดตัวบัณฑิตทั้งสองมาทําการดวย จิวยี่จึงวา บัณฑิตทั้งสองมีสติปญญา พี่ทานใหทหารไปเชิญมาพบคงจะคิดวาเราไมเห็นความสําคัญแหงสติปญญา จึง ไมยอมมา ดังนั้นพี่ทานจึงควรออกไปเชิญดวยตนเองเถิด ซุนเซ็กเห็นชอบกับขอเสนอของจิวยี่ จึงพากันไปยัง บานของเตียวเจียวและเตียวเหียน ซุนเซ็กคารวะแลวไดสนทนากับบัณฑิตทั้งสองเกี่ยวกับสถานการณ บานเมืองอยางกวางขวางเปนที่ตองใจของกันและกัน ซุนเซ็กจึงแจงแผนการของตนใหสองบัณฑิตทราบ ทั้ง เตียวเจียวและเตียวเหียน หลังจากสนทนากับซุนเซ็กแลว เกิดความประทับใจ ครั้นไดทราบอุดมการณที่จะตั้ง ตนเปนใหญในดินแดนกังตั๋งก็ยินดีและตอบรับคําเชิญของซุนเซ็ก แลวพากันมายังคายทหาร กลับมาถึงคายแลว ซุนเซ็กไดเรียกประชุมที่ปรึกษาและแมทัพนายกองประกาศแตงตั้งใหเตียวเจียวเปนรองแม ทัพ และให เตียวเหียนเปนเสนาธิการของกองทัพ แลวจัดงานเลี้ยงตอนรับทั้งสองบัณฑิต ณ คายนั้น รุงขึ้นซุน เซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพขามแมน้ําแยงซีเพื่อกําจัดเลาอิ้ว ซึ่งบัดนี้เสียทีแกอวนสุดแลวยกมาตั้งอยูที่ เมืองขยกโอ ซุนเซ็กยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีเขาสูดินแดนอันเปนแควน กังตั๋งประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังเขา สูปารอวันเวลาเจริญวัยเติบใหญเปนเจาปาดังนี้ All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด อันวิสัยพญาครุฑนั้นอาจบินสูงเทียมเมฆ ในขณะเดียวกันก็อาจบินต่ําระดับยอดหญา แตกตางกับนกกระจอกที่ แมวาสามารถบินสูงกวายอดหญาแตก็หาสามารถบินสูงเทียมเมฆไดไม เชนเดียวกับลูกเสือแมวายังเล็กและ กําลังวังชายังไมเขมแข็งดุจพญาพยัคฆ แตในทามกลางดงสมันนั้นลูกเสือก็ยังกลาแกรงเขมเข็งนาเกรงขามยิ่ง กวาสมันทั้งฝูงมากนัก อันดินแดนแถบใตแมน้ําแยงซี โดยเฉพาะบริเวณอันเปนปากน้ําดานตะวันออกที่เรียกวา กังตั๋งนั้น นับแตโบราณกาลมาราษฎร ใฝการคาขายแลทํามาหากิน มีความเกงกลาสามารถในเชิงการคา ยาก จะหาชาวจีน ณ ดินแดนแควนอื่นเทียบเทียม แตสําหรับการศึกแลวกลับตรงกันขามอยางสิ้นเชิง ราษฎรเกรง กลัวการเปนทหาร และพยายามหลีกหนีไมยอมเปนทหารแมเปนทหารแลวสวนใหญก็เปนดวยจําใจ หาไดคิด
61.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 61 อานฝกปรือการศึกสงครามเหมือนกับชาวภาคเหนือไม ดังนั้นการจัดกองทัพ การฝกทหาร การเตรียมรบ ตลอดจนการฝกฝนทางยุทธวิธีของชาวภาคใตแมน้ําแยงซีจึงออนดอยโดยทั่วไป เหตุนี้เมื่อซุนเซ็กคิดอานสืบสานอุดมการณของซุนเกี๋ยนผูบิดา ยาตรากองทัพขามแมน้ําแยงซีลงมาที่ดินแดน กังตั๋งจึงประดุจดั่งลูกพยัคฆกําลังฝาเขามาในดงสมันฉะนั้น ฝายเลาอิ้วครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพขาม แมน้ําแยงซีมุงมาที่เมือง ขยกโอ จึงสั่งใหเชิญบรรดาที่ปรึกษาแมทัพนายกองเตรียมรับมือกับกองทัพซุนเซ็ก เตียวเองนายทหารของเลาอิ้วไดขันอาสาขอยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ซึ่งเปนที่ราบ ลุมริมทะเลสาบเปนพื้นที่จํากัด หากซุนเซ็กยกมาแมจะมีทหารมากกวาภูมิประเทศก็จะบีบบังคับใหเหมือนนอย ยอมตั้งรับศึกมิใหฝาลงมาได ขณะนั้นไทสูจูซึ่งเดินทางมาจากการไปชวยเหลือขงหยงที่เมืองปกไฮ ไดมาพบเลาอิ้วตามคําเชิญแลวตกลง เขารับราชการดวยเลาอิ้ว เมื่อไดฟงเตียวเองเสนอแผนการสกัดทัพซุนเซ็กดังนั้นจึงขออาสาเปนกองหนา แต เลาอิ้วไมเห็นดวย อางวาไทสูจูยังเปนเด็กอยู ไทสูจูเห็นเลาอิ้วไมไววางใจก็เสียใจ แตเปนผูนอยจึงนิ่งเก็บ ความเสียใจนั้นไวแตลําพัง เลาอิ้วไดตั้งใหเตียวเองเปนแมทัพ ยกทหารไปสกัดกองทัพซุนเซ็กที่ตําบลงิวจู ถึง ที่หมายแลวใหทหารตั้งคายมั่นลงไว แลวแตงทหารออกไปลาดตระเวนระวังเหตุการณตามธรรมเนียมศึก แลว ออกหมายเกณฑชายฉกรรจในพื้นที่เขามารับราชการทหาร และเกณฑเสบียงจากราษฎรไดเปนจํานวนกวา หมื่นถัง จึงใหตั้งคลังเสบียงไวหลายแหง พรอมที่จะยันทัพซุนเซ็กไดนานนับเดือน ฝายซุนเซ็กเมื่อยกกองทัพมาถึงตําบลงิวจู เห็นกองทัพเตียวเองตั้งสกัดอยูจึงสั่งใหอุยกายออกไปรบดวยเตียว เอง ในขณะที่เตียวเองรบกับอุยกายอยูนั้น พลันมีแสงเพลิงลุกขึ้นในคายของเตียวเอง และทหารไดวิ่งมา รายงานเตียวเองวาบัดนี้มีกลุมโจรปานําโดยเจียวขิมและจิวทาย มีกําลังพลประมาณสามรอยไดพากันบุกเขา ไปในคาย แลวเผาคายทําใหทหารแตกตื่นอลหมานอยู เตียวเองไดฟงก็ตกใจรีบชักมาผละจากอุยกาย แลวสั่ง ทหาร ใหรีบถอยเขาคาย ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งทหารใหไลตามตีเตียวเอง และฆาฟนทหารของเตียวเอง บาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก เตียวเองเขาคายไมไดก็รีบพาทหารหนีไปเมืองขยกโอ ซุนเซ็กจึงยกทหารเขา ยึดคายของเตียวเอง ยึดสินศึกและเสบียงไดเปนจํานวนมาก ทหารของเตียวเองที่หนีไมทันไดเขาสวามิภักดิ์ ดวยซุนเซ็กสิ้น ฝายเจียวขิมและจิวทาย ครั้นซุนเซ็กยึดคายไดแลวก็พาพรรคพวกเขามาคารวะซุนเซ็กแลววาพวกขาพเจาเปน โจรปาไดทราบกิตติศัพทวาทานมีน้ําใจโอบออมอารีรักราษฎร และมีสติปญญาเปนอันมาก จึงพากันยกมาจะ เขาทําการดวยทาน แตเห็นกองทัพของทานกําลังรบอยูกับเตียวเอง จึงพาพรรคพวกบุกเขามาในคายแลวจุด เพลิงเผาคายเสีย ซุนเซ็กไดฟงก็ยินดี ใหรับเจียวขิมและจิวทาย รวมทั้งพรรคพวกสามรอยนั้นเปนทหารใน กองทัพ และเกลี้ยกลอมบรรดาชายฉกรรจในเมืองเขาเปนทหาร ซุนเซ็กไดทหารเพิ่มขึ้นจากการศึกครั้งนี้อีก กวาสี่พันคน ครั้นจัดสังกัดทหารใหมเกาแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหเคลื่อนกองทัพไปเมืองขยกโอ ฝายเตียวเองครั้นพาทหารที่แตกหนีไปถึงเมืองขยกโอ ไดเขาไปรายงานการศึกใหเลาอิ้วทราบ เลาอิ้วก็โกรธ สั่งใหเอาตัวเตียวเอง ไปประหารชีวิต แตบรรดาแมทัพนายกองไดออนวอนรองขอชีวิตเตียวเองไว เพราะเห็น เปนทหารมีฝมือ ยามหนาศึกเชนนี้ไมสมควรฆาทหารและเสนอวาสมควรใหเตียวเองยกไปตั้งสกัดกองทัพของ ซุนเซ็กอีกครั้งหนึ่ง โดยใหยกไปตั้งที่เมืองเลงเหลง เลาอิ้วเห็นชอบตามคําขอรองของบรรดาแมทัพนายกอง จึงใหงดโทษประหารไวแลวสั่งใหเตียวเองยกทหารไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กไวที่เมืองเลง เหลง สวนตัว เลาอิ้วยกทหารอีกกองหนึ่งออกไปตั้งสกัดซุนเซ็กที่เชิงเขาสินเตง ทางดานทิศเหนือของเมืองขยกโอ ฝายซุน เซ็กครั้นยกกองทัพมาถึงเขาสินเตงเขตแดนเมือง ขยกโอเห็นกองทัพเลาอิ้วมาตั้งคายสกัดอยู จึงสั่งใหหยุด ทัพตั้งคาย ลงเตรียมทําศึกกับเลาอิ้วตอไป ในยามดึกคืนนั้น ซุนเซ็กนอนหลับแลวฝนวา พระเจาฮั่นกองบูมี รับสั่งใหซุนเซ็กไปเฝา ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กเกิดความสงสัยวาพระเจาฮั่นกองบูมีสุสานฝงพระบรมศพอยูที่เมืองลก เอี๋ยง เหตุไฉนจึงบังเกิดความฝนดังนี้ ซุนเซ็กจึงสั่งใหทหารไปจับชาวบานมาสอบถามวาบริเวณนี้มีศาลของพระเจาฮั่นกองบูอยูหรือไม ชาวบานได แจงแกซุนเซ็กวาเดิม สุสานพระบรมศพพระเจาฮั่นกองบูอยูที่เมืองลกเอี๋ยง เมื่อครั้งตั๋งโตะเผาเมืองลกเอี๋ยงสั่ง ใหขุดพระบรมศพยายไปอยูที่เมืองเตียงอันรวมกับพระบรมศพของอดีตพระมหากษัตริยพระองคอื่นๆ เกิดความ สับสนไมมีผูใดรูวาหลุมฝงพระบรมศพของพระเจาฮั่นกองบูอยู ณ ที่ใด ดังนั้นเลาอิ้วซึ่งเปนเชื้อพระวงศจึงให สรางศาลพระเจาฮั่นกองบูไวในตําบลนี้ เพื่อทําพิธีเซนไหวบรรพบุรุษตามอยางธรรมเนียม All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กทราบความแลวก็ปลอยชาวบานนั้นไป แลวปรึกษากับบรรดาแมทัพนายกองวา ที่นี่มีศาลพระเจาฮั่น กองบูตรงกับความฝนของขาพเจา ดังนั้น จึงสมควรที่ขาพเจาจะไดไปที่ภูเขาอันเปนที่ตั้งศาลพระเจาฮั่นกองบู
62.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 62 นั้นเพื่อกราบถวายบังคมพระเจาฮั่นกองบูสักครั้งหนึ่งเตียวเจียวไดฟงดังนั้นจึงทวงวา ถิ่นแถบนี้เปนเขต ปกครองของเลาอิ้ว และบนเขานั้นเปนที่คับขันทานไมสมควรที่จะไปดวยเกรงวาจะเกิดอันตราย ซุนเซ็กจึงวา ในเมื่อพระเจาฮั่นกองบูมาเขาฝนเรียกใหขาพเจาไปเฝาก็ยอมตองคุมครองใหขาพเจาปลอดภัยทานอยาได กังวลเลย วาแลวก็ใสเกราะถือทวนขึ้นมาพาทหารคนสนิทสิบสองคนขึ้นไปที่ภูเขาจนถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู ซุนเซ็กไดเขาไปในศาลกราบถวายบังคมแลวอธิษฐานวา ดวยพระบารมีจงดลบันดาลใหขาพเจาไดครองแควน กังตั๋ง การสําเร็จดังประสงคแลวขาพเจาจะทําการบูรณะศาลนี้ใหงามสงาและจะบวงสรวงเซนไหวทุกวันตรุษ สารท แลวซุนเซ็กก็ถวายบังคมลาออกมาจากศาล ซุนเซ็กไดชวนบรรดาทหารที่ติดตามมาใหขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อดูการตั้งคายและการจัดกําลังทหารของเลาอิ้ว บรรดาทหารเหลานั้นเห็นเปนทางไมคุนเคยและมีกําลังติดตามไมกี่คนเกรงวาจะเกิดอันตรายจึงหามซุนเซ็ก และเชิญซุนเซ็กใหกลับไปคาย แตซุนเซ็กไมฟงคําทัดทาน ขับมานําทหารขึ้นไปบนยอดเขา ฝายทหาร ลาดตระเวนของเลาอิ้วเห็นซุนเซ็กนําทหารมาที่ศาลของพระเจาฮั่นกองบูจึงไปรายงานใหเลาอิ้วทราบ เสนอให เลาอิ้วยกทหารไปจับตัวซุนเซ็กก็จะไดตัวโดยงาย เลาอิ้วเกรงวาจะเปนกลลวง ของซุนเซ็กจึงวาพื้นที่นี้เปนเขต เมืองขยกโอ หากซุนเซ็กมีทหารมานอยจริง ไฉนจะกลาลวงมาถึงศาลพระเจาฮั่นกองบู หากเรายกไปคงจะเสีย ทีแกซุนเซ็ก ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงวาหากไมใชโอกาสนี้จับตัวซุนเซ็กแลว ซุนเซ็กกลับไปคายก็จะเสียโอกาสไป วาแลวไมฟงคําเลาอิ้ววากลาวประการใด ไทสูจูไดถือทวนผลันออกมานอกคายแลวประกาศแกทหารทั้งปวงวา ผูใดมีความกลาหาญจะไปจับตัวซุนเซ็กกับเราบางก็ใหรีบตามมา ทหารในคายเลาอิ้วเห็นไทสูจูยังเปนเด็ก และ แสดงอาการวูวาม ก็พากันหัวเราะ คงมีแตทหารเลวคนหนึ่งชอบใจความกลาหาญของไทสูจู จึงขับมาตามไทสู จูไป ฝายซุนเซ็กครั้นไดตรวจตราดูการตั้งคายและการจัดวางกําลังทหารของเลาอิ้วแลวก็ลงมาจากภูเขา ขับมามา ตามเนินเขา ทันใดนั้นไดยินเสียงรองมาจากดานหลังวาไอซุนเซ็กมึงจะหนีไปไหน ซุนเซ็กเหลียวกลับมาทาง ดานหลังเห็นทหารสองคนขับมาไลตามมาจึงชักมาหันกลับมาเผชิญหนากัน ไทสูจูถามวาผูใดคือซุนเซ็ก ซุน เซ็กก็วาตัวเรานี้คือซุนเซ็ก แลวตัวเจาเลาเปนผูใด ไทสูจูจึงวาตัวเราชื่อไทสูจูเปนทหารเลาอิ้วจะมาจับตัวซุน เซ็ก สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม พยัคฆนอย ณ ฝงใตแมน้ําแยงซี (ตอน 78) ซุนเซ็กไดยินวาไทสูจูจะมาจับตัวจึวหัวเราะแลววา ใหพวกเจา ทั้งสองคนเขามาพรอมกัน ตัวเราคนเดียวจะจับ พวกเจาทั้งสองคนเอง ไทสูจูจึงวาใหพวกเจาทั้งหมดนั่นแหละเขามาพรอมกัน ตัวเราแตผูเดียวจะจับพวกเจา ทั้งหมดเอง ทั้งสองฝายตางโอกันตามธรรมเนียม แลวซุนเซ็กจึงขับมาเขารบดวยไทสูจู ตอสูกันไดหาเพลงไท สูจูเห็นกําลังซุนเซ็กกลาแข็ง ยากจะเอาชนะได และเห็นทหารของซุนเซ็กทั้งสิบสองคนขยับมาเปนทีจะเขามา ลอม ดังนั้น ไทสูจูจึงชักมาหนีเพื่อจะลอใหซุนเซ็กไลตาม พนออกมาจากพวกทหารซุนเซ็กขับมาไลตามไทสูจู แลวรองถามวา ก็ไหนเจาโอวาเกงกลานักไมทันไรไฉนจึงรีบหนีเสียเลา ไทสูจูทําเปนไมไดยินคงขับมาหนี ตอไปจนถึงตําบลเพงฉวน ซุนเซ็กก็ไลทัน ไทสูจูจึงชักมาหันกลับมารบกับซุนเซ็ก ตอสูกันไดหาสิบเพลง ซุน เซ็กเอาทวนแทง ไทสูจูหลบทันและจับเอาทวนซุนเซ็กแลวใชทวนแทงกลับไป ซุนเซ็กก็หลบไดแลวจับเอา ทวนไทสูจูไว ทั้งสองฝายตางยื้อแยงทวนกันบนหลังมาจนพลัดตกลงจากหลังมาพรอมกัน ทวนนั้นหลุดจาก มือของทั้งสองคน ทั้งซุนเซ็กและไทสูจูจึงเขาปล้ําตอสูกันดวยมือเปลาจนเสื้อและเกราะขาดทั้งสองฝาย ซุน เซ็กควาเอาทวนสั้นซึ่งเหน็บอยูขางหลังไทสูจู ไทสูจูก็ดึงเอาหมวกเกราะของซุนเซ็กมาได ซุนเซ็กเอาทวนสั้นแทง ไทสูจูก็เอาหมวกเกราะรับไวได พอทหารของเลาอิ้วยกตามไทสูจูมาพันเศษ และ ทหารซุนเซ็กทั้งสิบสองคนตามมาทัน ทั้งสองฝายตางชักมาเขามาในหมูทหารของตน เอาทวนใหมจากทหาร แลวเขามารบกันอีกครั้งหนึ่ง ซุนเซ็กเห็นวาทหารเลาอิ้วยกมาเปนจํานวนมาก จึงรบพลางถอยพลาง พอจิวยี่ยก ทหารมาทันก็ตั้งยันกันไว ทั้งไทสูจูและซุนเซ็กรบกันจนค่ําฝนตกหนักลงมา ทั้งสองฝายจึงถอยกลับเขาคาย ซุนเซ็กมีความประทับใจไทสูจูยิ่งนัก ทั้งดวยฝมือทหารและความเปนสุภาพบุรุษ ในขณะเดียวกันไทสูจูก็ ประทับใจซุนเซ็กเปนอันมาก กลับถึงคายแลวตางฝายตางรําลึกถึงกัน ครั้นรุงขึ้นซุนเซ็กจึงยกทหารไปที่หนา คายของเลาอิ้ว ชูทวนสั้นของไทสูจูแลวรองวาเจาของทวนสั้นเลมนี้อยูที่ใด ไฉนจึงไมกลาออกมารบดวยเรา เลา ไทสูจูเห็นดังนั้นก็เอาหมวกเกราะของซุนเซ็กชูขึ้นแลวรองวา ศีรษะของเจาของหมวกเกราะนี้ยังมีชีวิตอยู หรือ ไฉนหมวกเกราะจึงหลุดจากศีรษะมาอยูในมือของเราเลา ตางฝายตางเยาะเยยกันพักหนึ่ง ไทสูจูจึงขับมา ออกจากคายจะรบดวยซุนเซ็ก เทียเภาเห็นดังนั้น จึงชักมาออกไปสกัดไว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
63.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 63 จิวยี่เห็นทั้งสองฝายกําลังรบกันก็ลอบยกทหารวกออมไปทางดานหลังเมืองขยกโอ พอไปถึงประตูเมืองประตูก็ เปดออกมีทหารกองหนึ่งยกออกมา ตัวนาย "มีกําลังมาก รูปรางใหญ สูงหาศอกเศษ หนาเหลือง วงตาแดง" ครั้นพบหนาจิวยี่ก็รีบลงจากหลังมากระทําคารวะ แลววาขาพเจาชื่อตันบู เปนชาวเมืองโลกั๋ง ไดขาววาซุนเซ็ก ยกกองทัพขามแมน้ําแยงซีจะมาตีเมืองขยกโอ ขาพเจาไดยินกิตติศัพทวาซุนเซ็กมีสติปญญาและรักทหาร จึง พาพรรคพวกจะมาทําการดวยซุนเซ็ก แลวไดลอบเขาไปในเมือง ครั้นทราบวาทานยกมาจึงฆาทหารรักษา ประตูเมืองเสียแลวเปดประตูเมืองตอนรับทาน จิวยี่ไดฟงดังนั้นก็ดีใจ รีบยกทหารเขาไปในเมืองขยกโอ ทหาร ของเลาอิ้วเห็นจิวยี่ยึดเมืองไดก็เขาสวามิภักดิ์ดวยจิวยี่ คงมีแตทหารที่สนิทกับเลาอิ้วหนีออกจากเมืองแลวไป หาเลาอิ้ว ณ คาย รายงานใหทราบวาบัดนี้จิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว เลาอิ้วไดฟงดังนั้นก็ตกใจสั่งทหารใหตีระฆังสัญญาณเรียกไทสูจูกลับมาคาย ไทสูจูไดยินสัญญาณก็กลับมาที่ คายแลวตอวาเลาอิ้ว วาขาพเจาจวนจะไดรับชัยชนะ เทียเภาอยูแลว ไฉนทานจึงใหสัญญาณเรียกขาพเจาให ถอยกลับ เลาอิ้วจึงแจงวาจิวยี่ยึดเมืองขยกโอไดแลว เราจะอยูที่นี่อีกตอไปไมได ค่ําลงเลาอิ้วก็สั่งใหถอนทัพ แลวยกไปเมืองวัวเหลง ฝายจิวยี่ไดเมืองขยกโอแลวสั่งใหตันบูรีบไปพบซุนเซ็กแลวรีบรายงานใหซุนเซ็กทราบ เตียวเจียวรองแมทัพจึง วาบัดนี้เลาอิ้วถอยทัพหนีไปแลว สมควรตองรีบตามตีอยาใหทันตั้งตัว ซุนเซ็กเห็นชอบดวยจึงใหยกทหาร ติดตามกองทัพเลาอิ้วไปในทันที ซุนเซ็กนําทหารมาไลตามเลาอิ้วไปไมถึงชั่วยามก็ทันกองทัพเลาอิ้ว ไทสูจู ไดถอยกลับมารบดวยซุนเซ็ก ทหารซุนเซ็กจึงตีวงจะเขาลอม ไทสูจูจึงรีบชักมาหนี แลวพาทหารที่ตามมาอีก สิบหาคนหนีไปเมืองเกงกวน ซุนเซ็กไดทีจึงขับทหารเขาฆาฟนทหารของเลาอิ้ว อยางดุเดือด เลาอิ้วสูไมไดก็ แตกหนีไปอยูที่ตําบลงิวจู ฝายฉกหยงและซีเหลทหารเมืองวัวเหลงทราบขาววาเลาอิ้วรบ กับซุนเซ็ก ก็ยกทหารจะมาชวยเลาอิ้ว แตยก มาไมทันเพราะเลาอิ้วแตกหนีไปกอนจึงปะทะกับซุนเซ็ก ซุนเซ็กสั่งใหตันบูนําทหารเขาตีกองทหารของฉกห ยงและซีเหล ตันบูนํากําลังทหารรุกเขาตีอยางดุเดือด ฉกหยงและซีเหลสูไมไดก็แตกหนีไปคนละทาง ซีเหล พาทหารหนีกลับเขาเมืองวัวเหลงแลวปดประตูเมืองไมยอมออกรบ ฝายฉกหยงแตกหนีไปทางตําบลงิวจูไดพบ กับเลาอิ้ว พอดีซุนเซ็กยกทหารไลตามมาทัน เลาอิ้วจึงใหทหารรองสองนายออกรบ ซุนเซ็กไดสังหารทหาร รองทั้งสองนายนั้นเสีย เลาอิ้วตกใจจึงพาทหารที่เหลือหนีไปอยูเมืองอิเจี๋ยง ซุนเซ็กไลตามเลาอิ้วไมทันจึงยก ทหารไปลอมเมืองวัวเหลงแลวขี่มาไปที่หนาเชิงเทิน ทาใหซีเหลออกมารบ ซีเหลเห็นซุนเซ็กไมทันระวังตัว จึงเอาเกาทัณฑยิงไปถูกขาซุนเซ็กตกจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กจึงชวยกันหามซุนเซ็กกลับไปคาย ซุนเซ็กกลับเขาคายแลวจึงวา ซีเหลคิดอาศัยการตั้งรับอยูแตในเมือง ไมยอมยกออกมารบ ทําตัวเปนเตาหดหัว อยูในกระดอง ครั้นเราจะยกเขาหักเอาเมืองก็จะสูญเสียทหารเปนอันมาก ดังนั้นเราจะแตงกลอุบายลวงใหซีเห ลยกออกมารบใหจงได แลวซุนเซ็กจึงสั่งใหปลอยขาวลือวาซุนเซ็กถูกเกาทัณฑอาการกําเริบตายแลว ให ทหารถอนคายทําทีเปนถอยทัพ และใหจัดทหารซุมไวทั้งสองขางทาง อีกกองหนึ่งใหสกัดทางหนี ตัวซุนเซ็ก เตรียมรอสกัดอยูปลายทาง ฝายซีเหลไดขาววาซุนเซ็กตายแลวและทหารซุนเซ็กถอนคายเตรียมถอยทัพ ค่ํา ลงจึงยกทหารออกจากเมืองจะโจมตีชิงเอาศพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารจุดพลุสัญญาณ ทหารที่ซุมอยูก็ยกออกมาลอมกองทหารของซีเหลไวทั้งสี่ดาน ทหารของซุนเซ็กลอมโจมตีกองทหารของซี เหลอยางดุเดือด ตัวซีเหลตายในที่รบ ทหารของซีเหลจึงพากันเขาดวยซุนเซ็กสิ้น จากนั้นซุนเซ็กจึงยกทหาร เขายึดเมืองวัวเหลงได ครั้นจัดการภายในเมืองเสร็จแลว ซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพไปเมืองเกงกวน ตั้งคายประชิดกําแพงเมืองแลว ปรึกษาดวยจิวยี่วา บัดนี้ไทสูจูหนีมาอยูเมืองเกงกวน ไทสูจูคนนี้มีฝมือกลาแข็งนัก ขาพเจาอยากไดตัวมาทํา การดวย แตจะคิดประการใดจึงจะไดตัวไทสูจู จิวยี่จึงเสนอวาใหทานจัดทหารเปนสามกองเขาโจมตีเมืองเกง กวนทั้งสามดาน เวนอีกดานหนึ่งไว ทหารรักษาเมืองเกงกวนมีอยูนอยคงจะรักษาเมืองไวไมได ไทสูจูคงจะพา ทหารหนีไปทางดานที่เราเปดทางไว ใหทานจัดทหารไปซุมอยูสองขางทาง เอาเชือกขึงกั้นทางไวแลวคอยจับ ตัวไทสูจูที่นั่นคงจะไดตัวเปนมั่นคง All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กเห็นดวยกับความคิดของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามแผนของจิวยี่ทุกประการ ค่ําลงทหารของซุนเซ็กก็ หักเขาโจมตีเมืองเกงกวนพรอมกันทั้งสามดาน ทหารรักษาเมืองลวนไรฝมือไมสามารถ รักษาเมืองไวได ทหารซุนเซ็กจึงบุกเขาไปในกําแพงเมืองทั้งสามดาน ไทสูจูเห็นทหารในเมืองสูทหารซุนเซ็กไมไดก็ขับมาหนี ออกจากเมืองไปทางดานที่ซุนเซ็กเปดทางไวให ครั้นไทสูจูขับมามาถึงจุดซุม มาที่ไทสูจูขี่จึงสะดุดกับเชือกที่ ขึงกั้นไวลมลง ไทสูจูพลัดตกลงจากหลังมา ทหารของซุนเซ็กไดกรูเขาจับตัวไทสูจูแลวมัดพาเขาไปหาซุน เซ็ก ซุนเซ็กเห็นทหารมัดไทสูจูเขามาจึงรีบวิ่งมาแกเชือกที่มัดไทสูจูแลวจูงมือมานั่งลงตรงหนา แลววา
64.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 64 ขาพเจาปรารถนาจะไดตัวทานแตครั้งแรกที่รบกันแลว มาสมความปรารถนาในวันนี้ ขาพเจามีความยินดียิ่งนัก ทานอยาถือโกรธที่ทหารจับตัวทานเลย แลววาตัวทานมีฝมือเขมแข็ง องอาจกลาหาญ สมเปนผูนําทัพสราง ความสงบสุขแกแผนดิน อยาอยูกับเลาอิ้วคนถอยตอไปอีกเลย ขอจงมาทําการ อยูชวยขาพเจา ชวยทํานุบํารุง ราษฎรใหเปนสุขเถิด ไทสูจูประทับใจซุนเซ็กอยูแตเดิม ครั้นเห็นซุนเซ็กไมมีใจพยาบาทและมอบไมตรีมาดังนี้ จึงตกลงทําการดวย ซุนเซ็ก ลุกขึ้นคารวะซุนเซ็กแลววาขาพเจาขออภัยที่ไดลวงเกินทานเปนอันมาก ขอทานจงถือเสียวาครั้งนั้นยัง เปนคนละฝาย ขาพเจาจําเปนตองทําหนาที่ของทหาร อยาถือโกรธขาพเจาเลย นับแตนี้ไปขาพเจาจะขอ ติดตามรับใชทาน ถึงแมจะตองดําน้ํา ลุยไฟ ขาพเจาก็พรอมใจทําการโดยไมหวงหาอาทรตอชีวิตเลย ซุนเซ็ก ดีใจยิ่งนักเขามาสวมกอดไทสูจูแลวหัวเราะ และถามวาเมื่อครั้งที่เรารบกันนั้นถาหากทานจับขาพเจาได ทาน จะฆาขาพเจาหรือไม ไทสูจูจึงวาสถานการณในขณะนั้นขาพเจาตอบไมได วาแลวทั้งสองคนก็หัวเราะพรอมกัน ซุนเซ็กสั่งใหแตงโตะเชิญแมทัพนายกองเขารวมงานเลี้ยงเพื่อฉลองชัย และรับขวัญไทสูจู ครั้นกินโตะเสร็จ แลวไทสูจูจึงวาทหารของเลาอิ้วที่กระสานซานเซ็นมีเปนจํานวนมาก ขาพเจาขออาสาไปติดตามเกลี้ยกลอม ทหารเหลานั้นใหมาทําการดวยทานจะไดเปนกําลังของทานสืบไป แลวถามซุนเซ็กวาทานจะวางใจใหขาพเจา ไปหรือไม ซุนเซ็กจึงวาขาพเจายอมวางใจทาน อยาไดมีความสงสัยเลย แตวันนี้ค่ําแลวทานจงเดินทางในวัน พรุงนี้แลวใหกลับมา ณ เวลาเที่ยงตรง ขาพเจาจะคอยรับทาน ไทสูจูคารวะซุนเซ็กแสดงความขอบคุณที่ซุน เซ็กวางใจ เสร็จงานเลี้ยงแลวซุนเซ็กสั่งทหารใหจัดที่พักใหกับไทสูจู ครั้นไทสูจูกลับไปที่พักแลว บรรดาที่ ปรึกษาไดทักทวงซุนเซ็ก วาไทสูจูไดตอสูกับทานเปนหลายครั้งและถูกจับตัวไดในวันนี้ การที่ทานปลอยไทสู จูกลับไปจะมิเทากับเปนการปลอยจระเขลงน้ําหรือ ซุนเซ็กจึงวาขาพเจาเชื่อวาไทสูจูเปนชายชาติทหาร มี ความสัตยซื่อมั่นคงยอมจะไมคิดหนีไปในลักษณะเชนนี้ รุงเชาไทสูจูก็ออกจากเมืองไป บรรดาที่ปรึกษาเห็นเวลาใกลเที่ยง ไทสูจูยังไมกลับมาจึงพากันไปหาซุนเซ็ก แสดงความหวงใยวาไทสูจูคงจะไมกลับมาแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารเอาทวนไปปกไวกลางแจงแลววา เวลานี้ พระอาทิตยยังไมคลอยพนศีรษะ เงาทวนยังคงทาบพื้นทางดานตะวันตก พวกทานจงอดใจรอไวกอนเถิด ครั้น สิ้นเงาทวน ซุนเซ็กและบรรดาที่ปรึกษาจึงเห็นไทสูจูขับมา มาถึงหนาเมือง มีทหารติดตามมาดวยถึงพันเศษ บรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นดังนั้นจึงพากันสรรเสริญซุนเซ็กวามีสายตาคมกลา สามารถดูลักษณะ คน ลวงรูเขาไปถึงความคิดจิตใจแมนยําดุจดังเทพยดาเขาดลใจ ไทสูจูเขาเมืองแลวรีบพาพรรคพวกที่ตามมาดวยเขาไปคารวะซุนเซ็ก แลววาบัดนี้พรรคพวกสหายศึกของ ขาพเจาตกลงพรอมกันที่จะมาทําการดวยทาน ซุนเซ็กเห็นดังนั้นก็ยินดีคารวะตอบ แลวจัดวางใหทหาร เหลานั้นเขาสังกัดในกองทัพซุนเซ็กสั่งใหสํารวจกําลังทหารทั้งใหมเกา ปรากฏวา ณ บัดนี้กําลังทหารของ ซุน เซ็กไดเพิ่มจํานวนขึ้นเปนสามหมื่นคน มากกวาตอนที่ยืมทหารจากอวนสุดถึงสิบเทา อันธรรมดาการสงคราม นั้นมีทั้งดานที่สูญเสียและมีทั้งดานที่เพิ่มพูนขึ้นอยูกับความถูกตองของทิศทางการเมืองที่ใชนํากองทัพ หาก แนวทางการเมืองที่ชี้ทิศนําทางใหกับกองทัพถูกตองแลว กองทัพก็จะเติบใหญขึ้น ทามกลางสงคราม ในทาง ตรงกันขามถาหากวาแนว ทางการเมืองผิดพลาด กองทัพก็จะคอยๆ หดตัวเล็กลงและสลายไป ในทามกลาง สงครามนั้น ซุนเซ็กเริ่มตนดวยการยืมทหารจากอวนสุดเพียงสามพัน หลังจากยกขามฟากแมน้ําแยงซีผานศึกหลายครั้ง ไม เพียงแตกองทัพของซุนเซ็กจะไมเล็กลงเพราะการบาดเจ็บลมตายของทหาร แตกลับเติบใหญขึ้นและมีกําลัง พลเพิ่มขึ้นถึงสิบเทาของกําลังรบเดิม นี่คือปรากฏการณของความถูกตองของแนวทางการเมืองที่เชิดชู อุดมการณเอกภาพแหงดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีที่มีชื่อวาดินแดน กังตั๋งเปนธงชัยนําทางใหกับกองทัพ ของซุนเซ็กนั่นเองลอมกรอบ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เถลิงอํานาจตระกูล "ซุน" เหนือแควนกังตั๋ง (ตอน 79) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ซุนเซ็กจัดกองทัพกําลังพลสามหมื่นเปนอันดีแลว จึงยกกองทัพไปเมืองกังตั๋ง ชาวเมืองทั้งปวงเคารพศรัทธา ซุนเกี๋ยนมาแตเดิม ครั้นทราบกิตติศัพทความโอบออมอารีมีเมตตาของซุนเซ็กจึงพากันมาเขาดวยซุนเซ็ก หัว เมืองตางๆ ก็พากันเขาสวามิภักดิ์แตโดยดี ซุนเซ็กออกคําสั่งสนามใหทหารทุกคนเคารพประชาชน รัก ประชาชน และรับใชประชาชน ผูใดเบียดเบียนขมเหงรังแกราษฎรจะไดรับโทษสถานหนัก จึงเปนที่ชื่นชมยินดี
65.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 65 ของราษฎร และไดรับความชวยเหลือสนับสนุนจากราษฎรทุกหนแหง กองทัพของซุนเซ็กจึงยิ่งเติบโตขึ้นใน ทามกลางสงครามนั้น ครั้นจัดการปกครองเปนปกติดีแลว ซุนเซ็กจึงใหทหารไปรับ มารดาและครอบครัวมาอยูที่เมืองขยกโอ ซึ่งเปน ตําบลที่ฝงศพซุนเกี๋ยนผูบิดา และใหซุนกวนผูนองไปรักษาเมืองฮวนเสีย โดยใหจิวทายไปเปนผูชวยของซุน กวนเมื่อการจัดการปกครองและจัดการเรื่องครอบครัวเสร็จเรียบรอย ซุนเซ็กจึงสั่งใหเตรียมกองทัพเพื่อยกไปตี เมืองตองงอซึ่งเปนหัวเมืองเอกอีกเมืองหนึ่งของแควนกังตั๋ง ณ เมืองตองงออันเปนหัวเมืองเอกแหงดินแดนกังตั๋ง มีเงียมแปะฮอเปนเจาเมือง เดิมขึ้นตอราชสํานักลกเอี๋ย งแหงราชวงศฮั่น ครั้นตั๋งโตะเปนทรราชขมเหงอาณาประชาราษฎรและหัวเมืองตางๆ จนโจโฉไดกอตั้งกองทัพ ปฏิวัติขึ้น เชิญหัวเมืองเอกสิบหกหัวเมืองเขารวมกองทัพปฏิวัติ ในครั้งนั้นเมืองตองงอไมไดรับคําเชิญ ใน แควนกังตั๋งคงมีแตเมืองเตียงสาของซุนเกี๋ยนเทานั้นที่ไดรับเชิญเขารวมในกองทัพปฏิวัติ เมื่อเงียมแปะฮอ ทราบขาวหัวเมืองตางๆ ประกาศตั้งกองทัพปฏิวัติไมขึ้นตอรัฐบาลกลางและยกกองทัพไปเพื่อจะลมลางรัฐบาล ของตั๋งโตะ ดังนั้นเงียมแปะฮอจึงประกาศไมขึ้นตอรัฐบาลกลางของ ตั๋งโตะดวย และเมื่อเมืองตองงอไมไดเขา รวมในกองทัพปฏิวัติจึงถือ โอกาสนั้นตั้งตัวขึ้นเปนเจาเสียเอง ตั้งสมัญญาวา "เตกออง" จัดแจงแตงคายคูหอ รบไวทุกหัวเมืองที่ขึ้นตอเมืองตองงอนั้น ครั้นทราบวาซุนเซ็กยกกองทัพจะมาตีเมืองตองงอ เงียมแปะฮอจึงตั้งใหนองชายชื่อเงียมอี๋เปนกองทัพหนา ยก ไปตั้งสกัดกองทัพของซุนเซ็กที่สะพานหองเกียว ซึ่งเปนสะพานขามแมน้ําใน ทางที่ซุนเซ็กจะยกมา ฝายซุน เซ็กเมื่อไดรับรายงานจากทหารลาดตระเวนวาบัดนี้ เงียมอี๋ยกทหารมาตั้งสกัดอยูที่สะพานหองเกียว จึงใหจัด ทหารเปนสองกอง ใหฮันตงคุมทหารไปทางบกเพื่อรบกับเงียมอี๋และใหตันบู และเจียวขิมคุมทหารเกาทัณฑ อีกกองหนึ่งลงเรือเล็ก ใหกองทัพทั้งสองกองยกไปพรอมกันที่สะพานหองเกียว เงียมอี๋ไดรับรายงานวา กองทัพซุนเซ็กยกมาก็พาทหารขามสะพานหองเกียวไปจนเกือบถึงตนสะพานรบดวยฮันตง กองทัพหนาของ ซุนเซ็ก ในขณะที่ทหารของทั้งสองฝายรบกันบนสะพานนั้น ตันบูและเจียวขิมสั่งใหเคลื่อนกองเรือเล็กเขาไปที่ สองขางสะพาน แลวใหทหารยิงเกาทัณฑใสทหารของเงียมอี๋ ทหารของเงียมอี๋ตองเผชิญศึกดานหนาทางหนึ่งแลว ยังถูกทหารของซุนเซ็กระดมยิงมาจากเรือเล็กขาง สะพานทั้งสองดาน จึงบาดเจ็บลมตายลงเปนอันมาก ทหารที่เหลือจึงพากันแตกหนีถอยกลับเขาเมืองตองงอ ซุนเซ็กจึงสั่งใหฮันตงยกทหารไปทางบกและใหตันบู เจียวขิม ยกกองเรือเร็วไปลอยลําอยูที่หนาเมืองตองงอ ทหารของซุนเซ็กลอม เมืองตองงอไวสามดาน และใหทหารออกไปทารบถึงสามวัน แตทหารเมืองตองงอก็ไม ยอมออกรบ คงคุมกําลังตั้งรับอยูแตในเมือง ซุนเซ็กจึงขับมานําทหารไปที่ประตูเมืองแลวใหทหารรองไปวา บัดนี้ซุนเซ็กไดลอมเมืองตองงอไวแลว หากคิดตอสูก็จะพากันตายสิ้น ผูใดรักตัวกลัวตายใหรีบเขามา สวามิภักดิ์ ทหารรักษาเชิงเทินคนหนึ่ง เห็นดังนั้นก็รองเยาะซุนเซ็กวา ขอเชิญพวกทานตากแดดตากฝนใหจง ดีเถิด พวกเราจะกินโตะรออยูในเมือง ไทสูจูเห็นทหารรักษาเชิงเทินเยาะเยยซุนเซ็กก็โกรธ เอาเกาทัณฑ ขึ้นมาพาดสาย หมายจะสังหารทหารรักษาเชิงเทินนั้นเสีย พอดีทหารนั้นกําลังเอามือขางหนึ่งเทาอยูที่ขอบเชิง เทินจึงเปลี่ยนเปนคิดขมขวัญขาศึก ไทสูจูจึงยิงเกาทัณฑไปที่มือทหารนั้น เกาทัณฑปกมือตรึงเขากับกําแพง ทหารนั้นบาดเจ็บรองไหดังลั่น ทหารทั้งสองฝายจึงพากันหันมาดู ทหารฝายซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงพากัน สรรเสริญฝมือเกาทัณฑของไทสูจูเปนอันมาก ในขณะที่ทหารรักษาเชิงเทินก็พากันตกใจกลัว ตางคนตางหลบ อยูในใบเสมาของกําแพงเมือง ครั้นเงียมแปะฮอทราบเหตุการณแลวไดทอดถอนใจใหญแลววากับที่ปรึกษาวา เสียดายนักที่กองทัพเราไมมีผูใดมีฝมือเสมอดวยไทสูจูเลย หากแมนวามีคนอยางไทสูจูสักคนหนึ่งก็จะไมเกรง ผูใดในแผนดิน และปรึกษาวาจะคิดอานประการใดตอไป บรรดาที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นวาซุนเซ็กยกมาครั้งนี้มีทหารมีฝมือเปนจํานวนมาก ดังนั้นเพื่อไมใหเดือดรอนแก ราษฎรจึงควรเขาเกลี้ยกลอมออนนอมตอซุนเซ็ก แบงดินแดนใหครึ่งหนึ่งเห็นทีซุนเซ็กจะยกทัพกลับไป เงียม แปะฮอเห็นดวยจึงสั่งใหเงียมอี๋เปนทูตไปเจรจาดวยซุนเซ็ก ซุนเซ็กเมื่อไดฟงขอเสนอของเงียมอี๋แลวก็โกรธ จึงวา เรายกมาทําการถึงเพียงนี้เมืองตองงอไมพนมือเราแลว ยังจะมาเกี่ยงยกเมืองใหครึ่งหนึ่งเปนการดูหมิ่น เรานัก วาแลวสั่งทหารใหเอาเงียมอี๋ไปตัดศีรษะแลวโยนศีรษะนั้นเขาไปในเมืองตองงอ เงียมแปะฮอทราบขาว ก็ตกใจไมมีแกใจจะตั้งรับซุนเซ็กอีกตอไป ค่ําลงก็พาทหารใกลชิดหนีออกจากเมืองจะยกไปเมืองอิของ ครั้น ไป ถึงกลางทางพบกับเลงโฉคุมชาวบานออกมาสกัดทางไว เงียมแปะฮอ จึงพาทหารขามฟากไปตั้งอยูตําบล ไชสิน เตรียมจะไปอาศัยเมืองหอยแข กลายเปนเจาไมมีศาลตั้งแตบัดนั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฝายซุนเซ็กครั้นทราบวาเงียมแปะฮอทิ้งเมืองหนีไป จึงยกทหารเขาเมืองตองงอจัดระเบียบการปกครองเปน ปกติแลว จึงสั่งใหอุยกายยกทหารไปตีเมืองแกหิน และใหไทสูจูยกทหารไปตีเมืองออแสง ซึ่งสองเมืองนี้ขึ้น
66.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 66 ตอเมืองตองงอ แตทหารของเงียมแปะฮอยังคงรักษาเมืองไมยอมขึ้นตอบังคับของซุนเซ็ก อุยกายและไทสูจู ยกทหารไปตีเมืองทั้งสองไดเมื่อจัดระเบียบการปกครองใหขึ้นกับเมืองตองงอแลว จึงยกทหารกลับมาหาซุน เซ็ก ซุนเซ็กเห็นดังนั้นจึงสั่งใหจัดทหารเตรียมยกตามเงียมแปะฮอไป ครั้นถึงตําบลอิของจึงพบกับเลงโฉพา บุตรชายมาขอทําราชการดวย และแจงวาบัดนี้เงียมแปะฮอหนีไปตําบลไชสินจะไปเมืองหอยแข ซุนเซ็กได ทราบก็ยินดีและใหรับเลงโฉกับบุตรชายเปนทหารในกองทัพ แลวสั่งใหเคลื่อนกองทัพยกไปเมืองหอยแข ฝาย อองหลอง เจาเมืองหอยแขเปนเพื่อนสนิทกับเงียมแปะฮอ ครั้นทราบวา เงียมแปะฮอกําลังหนีการไลติดตาม ของซุนเซ็กจะมาเมืองหอยแขจึงพาทหารออกไปรับเงียมแปะฮอถึงนอกเมือง แลวตั้งคายไวที่เชิงเขานอก เมืองเตรียมรับมือกับกองทัพของซุนเซ็ก ครั้นทราบขาววาซุนเซ็กยกทหารมาถึง อองหลองจึงขับมาถือกระบี่จะออกรบดวยซุนเซ็ก อองหลองรบกับซุน เซ็กไดหกเพลง ไทสูจูเห็นดังนั้นจึงชักมากรายทวนเขารบดวยอองหลองแทนซุนเซ็ก ซุนเซ็กจึงชักมาถอยเขา มา ไทสูจูตอสูกับอองหลองถึงเพลงที่หา พอดีจิวยี่และเทียเภายกทหารตามซุนเซ็กมาและเขาลอมอองหลอง และทหารไว อองหลองเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบพาเงียมแปะฮอและทหารตีฝาหนีกลับเขาเมืองหอยแข สั่งทหาร ปดประตูเมืองและใหระวังรักษาเชิงเทินไวใหมั่นคง รุงขึ้นอองหลองปรึกษาดวยเงียมแปะฮอวา จะยกทหารออกไปรบดวยซุนเซ็กแตเงียมแปะฮอรูฝมือทหารซุน เซ็กเปนอยางดีจึงหามไว แลวเสนอวาขาศึกเขมแข็งกวาเรา ดังนั้นจึงควรตั้งรับศึกไวในเมือง ซุนเซ็กมีทหาร มากก็ยอมกินเสบียงมาก ในไมชาก็คงหมดเสบียง และจะตองยกทัพกลับไปเอง อองหลองเห็นดวยจึงสั่งทหาร กวดขันเชิงเทิน คายคูหอรบ สั่งกําชับไมใหออกรบดวยซุนเซ็ก ฝายซุนเซ็กลอมเมืองหอยแข แตละวันให ทหารออกไปทาอองหลองใหยกออกมารบ ผานไปถึงหาวันทหารอองหลองก็ยังคงตั้งมั่นอยูในเมือง ซุนเซ็ก เกรงวาถาการศึกยืดเยื้อไปก็อาจขาดเสบียงลง กองทัพก็จักเปนอันตราย จึงปรึกษากับที่ปรึกษาและแมทัพ นายกองวาจะคิดอานประการใดจึงจะยึดเมืองหอยแขไดโดยเร็ว นายทหารหัวหนาหนวยลาดตระเวนไดเสนอ กับซุนเซ็กวาจากการลาดตระเวนของทหารพบวาเมืองหอยแขนี้เสบียงอาหารไมพอกิน ตองอาศัยเสบียง อาหารซึ่งลําเลียงมาจากเมืองแจตอก ดังนั้นถาเรายึดเมืองแจตอกเสียกอน เมืองหอยแขก็จะหมดหนทางตอสู ซุนเซ็กไดฟงขอเสนอดังนั้นจึงสั่งใหเลิกทัพเพื่อจะยกไปยึดเอาเมืองแจตอก จิวยี่จึงเสนอวาขาพเจาจะคิดกล อุบายประการหนึ่ง ถาหากอองหลองหลงกลแลว เราก็จะยึดเอาเมืองหอยแขไดโดยงาย ซุนเซ็กจึงถามวาทาน มีความคิดอุบายประการใด จิวยี่จึงวา เมื่ออองหลองรูวาเราจะยกไปเมืองแจตอก คงลังเลวาจะติดตามตีหรือไม ดังนั้น อยาใหถอนคายและธงทิว ใหคงเปนปกติไวดังเดิม และใหทหารกอไฟหุงขาวไวในคายเหมือนกับปกติ อองหลองเมื่อรูวาเรายกไปแลว ทํากลไวดังนี้ก็จะคิดวาเรากลัว คงจะยกทหารไลโจมตีเรา ตามเสนทางไป เมืองแจตอกหางจากคายนี้สามรอยเสน สองขางทางเปนปา เราจะจัดทหารไปซุมไว พออองหลองยกตามไปก็ จะลอมจับเอาตัวไดโดยงาย ซุนเซ็กเห็นดวยกับแผนการของจิวยี่จึงสั่งใหดําเนินการตามความคิดของจิวยี่ทุกประการ แลวยกทหารออกจาก คายไปตามทางที่จะไปเมืองแจตอก ถึงชายปาแลวใหทหารซุมไวตามแผนการ ฝายอองหลองไดรับรายงาน จากทหารวาซุนเซ็กยกทหารไปแลว แตไมไดรื้อถอนคายไปดวย อองหลองสงสัยจึงพาบรรดาแมทัพนายกอง ขึ้นไปดูบนหอรบ เห็นคายซุนเซ็กเงียบอยูแตมีธงทิวปลิวไสว แลควันไฟที่หุงอาหารลอยอยู เหมือนกับวา ทหารยังอยูในคาย บรรดาแมทัพนายกองและอองหลองเห็นพองตองกันวา ซุนเซ็กทํากลอุบายวายังคงตั้งคาย อยูเพื่อไมใหเรายกตามตี การทั้งนี้อาจเกิดขึ้นจากกองทัพซุนเซ็กขาดเสบียง แตกลัววาจะถูกตามตีจึงทําเปน ลวงดวยกลอุบายดั่งนี้ ดังนั้น หากเรายกทหารไลตามตีซุนเซ็กก็จะเสียทีแกเราเปนมั่นคงปรึกษากันแลว อองหลองจึงใหจิวเจียดนาย ทหารและเงียมแปะฮอเปนกองทัพหนา ตัวอองหลองเปนกองทัพหลวงยกออกจากเมืองหอยแขไปตามตี กองทัพซุนเซ็ก ครั้นมาถึงจุดซุมซุนเซ็กจึงใหทหารตีมาลอใหสัญญาณเขาโจมตีพรอมกัน ซุนเซ็กซึ่งสกัดอยู ดานหนาใหทหารจุดไฟสวางไสว เพื่อใหทหารเงียมแปะฮอเกรงกลัวไมกลารุกไปขางหนา จิวเจียด เงียม แปะฮอ และทหารในกองทัพหนาตกอยูทาม กลางวงลอมของทหารซุนเซ็กและถูกตีกระหนาบเขามาทุกดานก็ ตกใจ เงียมแปะฮอนั้นเปนนักหนี มีฝเทาไว จึงตีฝาหนีออกไปได แลวนําทหารไปเมืองอิของ เหลือแตจิวเจียด คุมทหารตอสูกับซุนเซ็กและถูกซุนเซ็กเอาทวนแทงตกมาตาย All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นกองทัพหนาแตกแลว ทหารของซุนเซ็กก็ยังคงตีฝาเขามาจนถึงทัพหลวงของอองหลอง อองหลองเห็น จวนตัวจะหนีเขาเมืองก็ไมทันการณเพราะรบประชิดกันอยู จึงพาทหารหนีไปทางดานชายทะเล ซุนเซ็กไดรับ ชัยชนะอยางงดงามตามแผนการของจิวยี่ จึงรีบยกทหารไปเมืองหอยแข ทหารรักษาเมืองทราบวาอองหลอง หนีไปแลว ก็พากันเปดประตูเมืองเขาสวามิภักดิ์กับซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กไดทั้งชัยชนะและไดทั้งเมืองหลายเมือง ติดตอกันเชนนี้กําลังกองทัพของซุนเซ็กจึงเติบโตขึ้นเปนอันมาก ฝายเงียมแปะฮอครั้นพาทหารหนีไปถึง
67.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 67 เมืองอิของก็พบกับตังสิดชาวเมืองเหยียง ซึ่งทราบกิตติศัพทของซุนเซ็กวามีน้ําใจเปนธรรม โอบออมอารีแลรัก ราษฎร อยากจะไปทําการดวยกับซุนเซ็ก ครั้นทราบวาเงียมแปะฮอแตกหนีซุนเซ็กมาจึงพาพรรคพวกเขาลอม จับเงียมแปะฮอแลวตัดศีรษะมามอบแกซุนเซ็ก ซุนเซ็กเห็นตังสิด "หนาสี่เหลี่ยม ปากกวาง สูงหาศอกเศษ สมควรที่จะเปนทหาร" จึงมีความยินดีแลวรับตังสิด เขาเปนทหารในกองทัพสิ้นเงียมแปะฮอแลว บรรดาดินแดนเกือบทั้งหมดในแควนกังตั๋งก็สยบราบคาบอยู ภายใตอํานาจของซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กจึงเลิกทัพกลับไปเมืองกังตั๋งเตรียมการที่จะยกไปยึดหัวเมืองยอยๆ มี เมืองกังหนําเปนศูนยกลางเพื่อครองอํานาจเบ็ดเสร็จเหนือดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซีเกียงทั้งสิ้น ขณะ เตรียมทหารอยูนั้น ทหารสื่อสารไดเขามารายงานวาบัดนี้มีโจรกลุมใหญยกกําลังเขาลอมเมืองอวนเซีย ยึด เมืองอวนเซียไดแลว จิวทายพาซุนกวนหลบหนีออกมา ในขณะที่พาซุนกวนหนีมานั้นจิวทายถูกกลุมโจรลอม ทํารายบาดเจ็บสาหัส ถูกแผลทวนสิบกวาแหง แมหนีรอดมาไดแตเห็นจะไมรอดชีวิต ซุนเซ็กไดฟงดังนั้นก็ ตกใจสั่งทหารใหรีบยกไปชวยซุนกวน ถึงกลางทาง พบซุนกวนและทหารกําลังหนีมาใชเปลหามจิวทายอยาง ทุลักทุเล ครั้นมาถึงเมืองกังตั๋งไดหมอโฮโตมารักษา อาการบาดเจ็บของจิวทายก็หายอยางรวดเร็ว ครั้นซุนกวนกลับมาเมืองกังตั๋ง ซุนเซ็กจึงยกทหารไปยึดเมืองอวนเซียกลับคืน จับโจรไดเปนอันมาก เหตุการณ สงบแลวซุนเซ็กจึงสั่งใหยกกองทัพเคลื่อนตอไปยังเมืองกังหนํา บรรดาชาวเมืองและหัวเมืองยอยที่ขึ้นตอ เมืองกังหนําครั้นไดทราบวา ซุนเซ็กยกกองทัพมาก็ไมคิดตอสูและพากันเขาดวยซุนเซ็ก เปนอันวาบรรดาหัว เมืองทั้งปวงทางฝงใตของแมน้ําแยงซีไดตกอยูภายใตอํานาจการปกครองของซุนเซ็กสิ้น ซุนเซ็กไดสถาปนาอํานาจการปกครองของตระกูล "ซุน" เหนือ ดินแดนฝงใตของแมน้ําแยงซี โดยมีกังตั๋งเปน ศูนยกลางการปกครอง สําเร็จตามปณิธานของซุนเกี๋ยนผูบิดาดวยประการฉะนี้ ครั้นซุนเซ็กจัดระเบียบการ ปกครองแควนกังตั๋งเสร็จสิ้นแลว จึงทําหนังสือกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตเพื่อทรงทราบ สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม ความฉลาดของคนโง (ตอน 80) ซุนเซ็กเถลิงอํานาจขึ้นในแควนกังตั๋งแลว แตเปนอํานาจในระดับแควนโดยที่รัฐบาลกลางยังไมไดรับรอง แมวา จะยังไมมีพระบรมราชโองการของฮองเตโปรดเกลาแตงตั้งซุนเซ็กอยางเปนทางการ แตโดยพฤตินัยนั้นอํานาจ ปกครองแควนกังตั๋งอยูที่ซุนเซ็ก หาไดอยูที่รัฐบาลกลางไม ในขณะเดียวกันโจโฉครองอํานาจรัฐสวนกลาง มี อํานาจปกครองทั่วประเทศตามนิตินัย แตโดยพฤตินัยกลับไมมีอํานาจปกครองเหนือแควนกังตั๋ง สวนเลาปผู เปนเชื้อพระวงศฮั่นกลับตกต่ําลงลดฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋วซึ่งเปนหัวเมืองเอก กลับมาเปนเจาเมืองเสียวพาย ซึ่งเปนหัวเมืองชั้นจัตวาและบัดนี้ขึ้นตอเมืองชีจิ๋วที่มีลิโปเปนเจาเมือง และเปนเจาเมืองทางพฤตินัย เชนเดียวกัน เพราะลิโปก็มิไดรับการรับรองจากรัฐบาลกลาง ดังนั้น ถึงตอนนี้กลุมอํานาจที่ชัดเจนคือโจโฉ ซุน เซ็ก ลิโป และนี่คือผลโดยตรงจากการดําเนินนโยบายทางการเมือง การปกครองที่ผิดพลาดของโจโฉ ไม เพียงแตเทานี้อวนสุดเจาเมืองลําหยงก็กลายเปนกลุมอํานาจอีกกลุมหนึ่งเพราะหลังจากไดรับจํานําตราพระ ลัญจกรจากซุนเซ็กแลว อวนสุดก็กําเริบคิดตั้งตัวขึ้นเปนเจา ความคิดที่ถือเอาตราพระลัญจกรเปนหลักในการ ตั้งตัวขึ้นเปนเจานี้เปนการแสดงถึงความโงเขลาเบาปญญาของอวนสุดโดยแท เพราะอํานาจและความเปนเจา นั้นไมไดอยูที่ตราพระลัญจกร หากอยูที่การสรางสมอํานาจและบารมี มิฉะนั้นแลวคนเฝารักษาตราพระลัญจกร ทุกยุคทุกสมัยยอมเปนเจากันไปทุกคน ในขณะที่อวนสุดกอดยึดเอาตราพระลัญจกร ตั้งความฝนที่จะอาศัยตราพระลัญจกรสถาปนาตัวเองขึ้นเปนเจา นั้น อวนสุดก็ตองตื่นจากความฝนเนื่องจากขุนนางเมืองลําหยงฝายพิธีการทูตไดเขามารายงานวา บัดนี้ซุนเซ็ก ไดแตงตั้งผูแทนมาทวงเอาตราพระลัญจกร แลวจะคืนทหารและมาศึกที่ยืมไป อวนสุดไดทราบรายงานดังนั้นก็ บิดพลิ้วไมยอมคืนตราพระลัญจกร แจงกลับไปวาซุนเซ็กเปนฝายผิดสัญญาจํานําเพราะหลังจากยืมทหารและ มาศึกเพื่อไปชวยงอเกงเจาเมืองตันเอี๋ยงผูเปนนาชายแลว ซุนเซ็กไมคืนทหารและมาศึกกลับเอาไปใชทําการ ใหญจนไดแควนกังตั๋ง ดังนั้น ตราพระลัญจกรจึงตกเปนสิทธิขาดแกอวนสุดแลว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ผูแทนของซุนเซ็กรับทราบทาทีของอวนสุดแลวจึงกลับไปเมือง กังตั๋งรายงานใหซุนเซ็กทราบ ฝายอวนสุด เกรงวาจะมีขอครหาวาบิดพลิ้วยึดเอาตราพระลัญจกรของซุนเซ็กไว และเกรงวาซุนเซ็กจะยกทหารมาโจมตี เมืองลําหยงจึงเรียกประชุมบรรดาที่ปรึกษาและแมทัพนายกอง ปรึกษาวาจะยกกองทัพไปกําจัดซุนเซ็ก เสียกอน เอียวไตเจียงเสนาธิการเมืองลําหยงจึงเสนอวาบัดนี้ซุนเซ็กไดครองอํานาจในแควนกังตั๋งแลว มี
68.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 68 ดินแดนกวางใหญ ทหารที่มีฝมือเขมแข็งก็มีเปนจํานวนมาก ราษฎรพรักพรอม เสบียงอาหารก็อุดมสมบูรณ และยังมีแมน้ําแยงซีเปนปราการธรรมชาติ หากยกไปเห็นจะไมไดชัยชนะ ทั้งเมื่อยกไปแลวลิโปและเลาปคงจะ ฉวย โอกาสซ้ําเติม เราก็จะเสียการใหญไป อวนสุดจึงปรึกษาวาถาเปนเชนนั้นจะคิดการประการใด เอียวไตเจียงจึงวากรณีจําเปนตองยกไปตีเลาปซึ่ง ออนแอที่สุดกอน ถาเลาปแพแกกองทัพเราแลวก็จะเอาชนะซุนเซ็กในขั้นตอไป อวนสุดจึงวาถายกไปตีเมือง เสียวพาย ลิโปซึ่งเปนเจาเมืองชีจิ๋วก็ยอมยกมาชวยเลาปเราก็จะถูกตีกระหนาบ แลววาขาพเจาเห็นดวยที่จะตี เลาปกอน แตตองหาทางไมใหลิโปชวยเหลือเลาป แลลิโปนั้นเปนคนโลภ ถาเราตั้งคาตอบแทนที่พอเพียง แลวลิโปก็จะทิ้งเลาปเสีย เราก็จะกําจัดเลาปไดสําเร็จ ที่ปรึกษาของอวนสุดไดทักทวงวา เมื่อครั้งที่ทานยกไป รบกับเลาปไดขอใหลิโปยกกองทัพไปชวยและสัญญาวาจะมอบมาศึกหารอย ขาวหาหมื่นถัง ทองเงินหมื่น ตําลึง แพรพันพับนั้น ยังมิไดมอบ ขาวของดังกลาวแกลิโป ดังนั้นลิโปยอมขัดเคืองในเรื่องนี้คงจะไมยอมทํา ตามที่เราตองการ อวนสุดจึงวาครั้งนั้นลิโปมิไดเขารบพุงดวยเลาป เปนแตเลาปยกทัพหนีไปเอง แตเพื่อจูงใจลิ โปดังนั้นครั้งนี้เราจะตั้งคาตอบแทนเปนเสบียงใหมาก ลิโปมีเสบียงอยูนอยคงจะทําตามความประสงค บรรดาที่ ปรึกษาและแมทัพนายกองเห็นชอบพรอมกันกับแผนการของอวนสุด ดังนั้นอวนสุดจึงใหหันอิ้นเปนทูตไป เจรจาความกับ ลิโป โดยนําขาวยี่สิบหมื่นถังไปมอบเปนกํานัลแกลิโป ขอสัญญาวาอยาใหลิโปชวยเหลือเลาป ครั้นลิโปไดทราบความที่หันอิ้นมาเจรจา และเห็นของตอบแทนเปนเสบียงจํานวนมากก็ดีใจ ตกปากรับคําวา ถึงแมอวนสุดจะรบกับเลาปประการใด ลิโปก็จะไมเขาเกี่ยวของ หันอิ้นจึงกลับไปรายงานใหอวนสุดทราบอวน สุดเห็นการณเปนไปตามแผนการแลวจึงตั้งใหกิเหลงเปนแมทัพ ใหลุยปกและตันหลันเปนรองแมทัพคุมทหาร หาหมื่นยกไปตีเมืองเสียวพาย ฝายเลาปไดขาวศึกจึงปรึกษากับบิตก ซุนเขียน กวนอู และเตียวหุยวาเมือง เสียวพายเปนเมืองเล็ก เห็นจะรับมือขาศึกไมได ซุนเขียนจึงเสนอวาขอใหทานมีหนังสือไปขอความชวยเหลือ จากลิโปใหรีบยกกองทัพมาชวย แลวตีกระหนาบกองทัพกิเหลงทั้งสองดานก็จะเอาชนะไดโดยงาย เตียวหุย จึงวาลิโปเปนคนเนรคุณ เห็นเราลําบากคงจะไมมาชวย เลาปแยงวาแมความคิดของเตียวหุยในครั้งนี้จะชอบ ดวยเหตุผล แตจําเปนตองลองใจลิโปตามคําซุนเขียนกอน และลิโปนั้นมีตันกงเปนที่ปรึกษามีสติปญญามาก คงจะตองคิดอานระวังตัววาถาอวนสุดไดเมืองเสียวพายแลวก็อาจโจมตีเมือง ชีจิ๋วตอไป ถาเปนไปตามที่ คาดหมายนี้ลิโปยอมตองเขาชวยเหลือเรา ทุกคนเห็นพองกับความเห็นของเลาป ดังนั้นเลาปจึงใหทหาร ถือหนังสือไปถึงลิโปแจงขาวศึกใหทราบ และ ขอใหลิโปยกกองทัพมาชวย ลิโปไดตกปากรับคําอวนสุดไปแลววาจะไมยุงเกี่ยวในการศึกระหวางอวนสุดกับ เลาป แตครั้นไดรับหนังสือของเลาปก็เกิดลังเลในความคิดวาจะเฉย หรือจะชวยดี ดังนั้นจึงเรียกตันกงมา ปรึกษา แจงความใหตันกงทราบทุกประการแลวออกความคิดเสียเองวา "เราคิดวาเลาปอยูในเมืองเสียวพาย เห็นจะไมทําอันตรายแกเรา ถาเราฟงคําอวนสุด อวนสุดรบไดเมืองเสียวพายแลว เราจะวางศีรษะลงถึงหมอน เปนปรกตินั้นหามิได เห็นอวนสุดจะกําเริบยกลวงมาตีเอา เมืองชีจิ๋วเปนมั่นคง เราจําจะยกไปชวยเลาปปองกัน เมืองเสียวพาย ไวจึงจะควร" ลิโปนั้นแมเปนคนไรสติปญญา แตวันนี้มีอายุมากขึ้น ประสบการณมากขึ้น และมี ความหวงแหนเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นแมจะรับสินบนของอวนสุด ตกปากรับคําวาจะไมเกี่ยวของในเรื่องนี้ แตพอเอา เขาจริง ก็คิดออกวาการครั้งนี้สุดทายเมืองชีจิ๋วจะตกอยูในอันตราย ดังนั้นจึงคิดบิดพลิ้วอวนสุดโดยไมคํานึงถึง การผิดสัญญาเพราะถือเสียวาอวนสุดก็เคยบิดพลิ้วสัญญาตัวมาแตกอน ตันกงไดฟงความคิดลิโปแลวเห็นชอบดวย แตก็แปลกใจที่ลิโปวันนี้เฉลียวฉลาดทันเกมของอวนสุด ดังนั้นลิโป จึงใหเตรียมกองทัพยกไปเมืองเสียวพาย ฝายกิเหลงเคลื่อนทัพมาถึงเมืองเสียวพาย ก็ใหทหารตั้งคายลง ประชิดกําแพงเมือง เตรียมการเขาตีหักเอาเมืองตอไป เลาปในขณะนี้มีทหารอยูเพียงหาพัน นอยกวาทหาร ของกิเหลงถึงสิบเทา จึงจําใจตองตั้งรับอยูในเมืองและเตรียมแผนการรบดวยวิธีการรบ โดยอาศัยฝมือทหาร เอกเพื่อลดทอนความเสียเปรียบ สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) และฉบับสมบูรณกลาว ความตอนนี้ตรงกันวา เลาปยกทหารออกไปตั้ง คายรับศึกที่นอกเมือง แตพิเคราะหดูแลวไมเห็นสม เพราะเลาปมีทหารนอยกวามาก หากยกทหารหาพัน ออกไปรับศึกที่นอกเมืองแลว ภายในเมืองก็จะมีทหารนอยกวานอย เลาปและคณะที่ปรึกษายอมคิดออกวาถากิ เหลงแบงกําลังออกเปนสองกอง กองหนึ่งเขาปลนคาย อีกกองหนึ่งเขาตีเมือง ใชกําลังทหารที่เหนือกวาทั้งใน การโจมตีเมืองและในการโจมตีคายแลว เลาปก็จะเสียทั้งเมืองเสียทั้งคาย ดังนั้น การรบดวยคนนอยกับคนมากดังนี้ วิธีลดความไดเปรียบของขาศึกจึงตองอาศัยกําแพงเมือง คายคูประตู หอรบเปนที่มั่น แลวอาศัยการรบดวยฝมือทหารเอก ซึ่งฝายเลาปไดเปรียบฝายกิเหลง เปนหลัก และสามกก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ฉบับวิจารณบางฉบับก็ตั้งความสังเกตดังนี้
69.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 69 วันรุงขึ้นยังไมทันที่กิเหลงจะรบกับเลาปก็เห็นกองทัพของลิโปยกมาตั้งคายอยูทางดานหลัง ระยะหางกันเพียง ชั่วสามระยะเกาทัณฑยิงเทานั้น ก็รูวาลิโปยกมาชวยเลาป จึงใหทหารไปหาลิโปที่คายแลวถามวา ลิโปตกปาก รับคําวาจะไมเกี่ยวของ ทั้งรับเอาคาตอบแทนไปแลว เหตุใดจึงยกมาชวยเลาปอีกจะไมเปนการบิดพลิ้วสัญญา ดอกหรือ ลิโปก็ยังเปนลิโปที่สามารถหาเหตุผลพิสดารที่คนไมคาดคิดไดอยูเสมอ ครั้นถูกตอวาดังนั้นจึงตอบ วาเรายกมาทั้งนี้ไมไดยกมาชวยเลาป แตเรายกมาปองกันเมืองเสียวพาย ซึ่งขึ้นกับเมืองชีจิ๋ว หากทานไมลวง เขามาในเขตแดนเมืองเสียวพายแลว เราก็จะไมเกี่ยวของดวย และวาทานมากลาววาเรารับของตอบแทนแลว บิดพลิ้วสัญญานั้นไมชอบ อวนสุดสงขาวแกเราจะคิดเรื่องคาตอบแทนไมใหเรายกมาชวย เลาปเปนความคิด ของอวนสุด แตเรารับของตอบแทนเพราะคิดวาเปนคาตอบแทนที่อวนสุดเคยขอใหเรายกไปรบเลาป ตางคน ตางคิด กันเชนนี้จะวาเราบิดพลิ้วไดอยางไร เพราะตัวเราเองยังไมเคยตําหนิตัวเองวาบิดพลิ้วเลยแมแตนอย แลววาตัวเรานั้นเปนผูใหญ ไมตองการเห็นผูนอยทะเลาะวิวาท กัน จะหาทางใหปรองดองกันสืบไป เจาจง กลับไปแจงกิเหลงใหมาหาเราที่คายนี้ ในเพลาเชาวันพรุงนี้ ลิโปบิดพลิ้วสัญญาที่ใหไวกับอวนสุดดวยเหตุผลแบบลิโป ซึ่งทหารที่กิเหลงใชมานั้นไดฟงแลวก็งุนงงสงสัย เปนอันมากวานี่เปนเหตุผลของคนหรือไม มิหนําซ้ํายังวางตัวเปนผูใหญแบบลิโปเสียอีก แตทหารของกิเหลง เปนผูนอยทั้งเกรงกลัวลิโปไดฟงลิโปแลวก็รีบลากลับไปแจงใหกิเหลงทราบ หลังจากทหารของกิเหลงกลับไป แลว ลิโปก็ใหทหารไปเชิญเลาปมาพบที่คายตามเวลาที่นัดไวกับกิเหลงนั้น เลาปครั้นไดทราบคําเชิญจึง ปรึกษากับกวนอู เตียวหุย กวนอู เตียวหุย ทักทวงไมใหเลาปไปที่คายของลิโปเกลือกวาจะเปนอันตราย แต เลาปเอาใจซื่อเขาสูกับคนใจคดแบบลิโป แยงวาลิโปคงคิดถึงคุณที่ชวยเหลือในยามยาก คงจะไมคิดทํา อันตรายตอเรา นับเปนความคิดที่กลาหาญและเสี่ยงภัยมิใชนอย แตก็เปนไปไดวาเลาปอานใจคนแบบลิโป กระจางวา ลิโปยังคงตองการเลาปไวรักษาดุลอํานาจระหวางเมือง คงจะไมคิดทําอันตราย กวนอู เตียวหุย เห็น เลาปไมฟงคําทัดทานจึงวาเมื่อพี่ใหญตัดสินใจไปดั่งนี้ก็จะขอตามไปดวย เผื่อวามีเหตุการณนอกเหนือความ คาดคิดเกิดขึ้นจะไดชวยกันคิดอานแกไข เลาปก็ตกลง รุงขึ้นเลาปจึงพากวนอู เตียวหุย ไปยังคายของลิโปกอนเวลา นัดหมาย เผื่อวาลิโปจะไมซื่อก็อาจเห็นพิรุธและ หาทางแกไขไปตามสถานการณไดทันทวงที ครั้นลิโปทราบวาเลาปมาก็ออกมาตอนรับ จูงมือเลาปเขาไปใน โรงบัญชาการทหาร แลวบอกวาขาพเจายกมาทั้งนี้จะชวยทานมิใหถูกอวนสุดทําอันตรายได กวนอู เตียวหุย ก็ เดินตามเขาไปในโรงบัญชาการทหารนั้นแลวยืนอยูขางหลังเลาป พอถึงโรงบัญชาการ ทหารรักษาการณก็เขา มารายงานลิโปวาบัดนี้กิเหลงกําลังมาที่คาย เลาปไดยินดังนั้นก็ตกใจเกรงวาลิโปจะคิดทําอันตราย ยังมิทันที่ จะกลาวความประการใด ลิโปก็ลุกออกไปที่หนาคายขณะนั้นกิเหลงเดินเขามาถึงหนาคาย ลิโปก็เขาไปตอนรับ แลว บอกวาบัดนี้เลาปมารออยูแลว กิเหลงไดฟงดังนั้นก็ตกใจคิดวาลิโปจะคิดทําอันตราย คนแบบลิโปใครๆ ก็ เห็นวาเปนตัวอันตรายทั้งนั้น แมกระทั่งเลาปซึ่งกอนมาก็คิดวาลิโปคงคิดถึงบุญคุณและจะไมทําอันตราย หนังสือพิมพผูจัดการออนไลน http://www.manager.co.th สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายใชคนผูกคน (ตอน 81) ลิโปนัดทั้งเลาปและกิเหลง ซึ่งเปนคูศึกมาที่คายของตนโดยไมแจงใหแตละฝายทราบวานัดมาทําไม ดังนั้นทั้ง เลาปและกิเหลงจึงไมทราบวาคูศึกของตนจะมาที่คายของลิโป เหตุนี้เมื่อตางฝายไดทราบวามีคูศึกมา ณ คาย ของลิโป จึงเขาใจวาลิโปสมคบกับอีกฝายหนึ่งลวงตนมาทําราย เลาปตกใจก็จริงอยู แตมิไดเสียอาการยังคง นั่งสงบในโรงบัญชาการนั้น โดยมีกวนอู เตียวหุย นองรวมสาบานถืออาวุธยืนคุมเชิงอยูขางหลัง แตกิเหลงนั้น เมื่อตกใจแลวเสียกิริยาไป จะหันหลังกลับออกไปจากคาย ลิโปเห็นดังนั้นจึงเรงกาวเทาเขาถึงตัวจับเอามือกิเห ลงไวแลววาทานอยาเพิ่งตกใจ กิเหลงจึงวา ทานจะลวงขาพเจามาทํารายหรือวาจะทํารายไอเลาปหูยาว ลิโป จึงตอบแบบลิโปที่ทําใหงุนงงสงสัยตอไปโดยไมยอมพูดเขาประเด็นที่ถูกถามวา ขาพเจาไมไดคิดฆาทาน และ ไมไดคิดฆาเลาป แตเลาปกับขาพเจานั้นดุจดั่งพี่นอง ทานยกมารุกรานเมืองเสียวพายเพื่อจะทํารายเลาป ขาพเจาจึงตองยกมาปองกันเมืองเสียวพาย จึงคลายประหนึ่งวาขาพเจามาชวยเลาป ดังนั้นทานจะเขาใจ วา ขาพเจาชวยเลาปก็ได กิเหลงยิ่งฟงลิโปก็ยิ่งงง จึงพยายามลากเขาประเด็นวาเมื่อเปนเชนนั้นทานจึงตองฆา ขาพเจาเพื่อทําใหเมืองเสียวพายและเลาปปลอดภัยกระนั้นหรือ ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญ มีหนาที่ตองทํา ใหผูนอยเลิกวิวาทกัน All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
70.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 70 ลิโปอางตนเปนผูใหญแลเห็นคนอื่นเปนเด็ก แลวรีบจูงกิเหลง เขาไปในโรงบัญชาการทหาร เชิญใหนั่งอยูที่ โตะเดียวกับเลาป สวนลิโปเขาไปนั่งระหวางกลาง และสั่งใหทหารนําสุรามาใหเลาปและกิเหลง ครั้นทหารนํา สุรามาแลว ลิโปจึงชวนเลาปและกิเหลงดื่ม ทั้งสองคนเกรงใจลิโปก็ดื่มสุรานั้น แลวลิโปจึงวาขาพเจาขอให ทานทั้งสองเห็นแกหนาขาพเจา เลิกพยาบาทวิวาทกัน ยุติศึกระหวางกันเสีย เลาปเปนฝายถูกรุกราน ยินคําลิ โปแลวนิ่งอยูเพราะมิไดเปนฝายกอเหตุ แตกิเหลงเปนฝายที่จะตองถอนทัพกลับไปจึงวาอวนสุดนายขาพเจา ใชใหขาพเจายกกองทัพมาจับตัวเลาป หากขาพเจากลับไปมือเปลายอมเปนการขัดคําสั่งและมีโทษถึง ประหาร เตียวหุยเห็นวาการที่กิเหลงมีทีทาไมฟงคําลิโปก็โกรธหาวา กิเหลงดูหมิ่น ชักกระบี่ออกจากฝกแลวดาวากิเห ลง กวนอูเห็นเตียวหุยวูวามจึงหามเตียวหุยไว และวาใหคอยดูทีทาของลิโปกอน ลิโปเห็นเตียวหุยคูเคืองเกา โวยวายขึ้นมาทามกลางการเจรจาความเมืองก็ไมพอใจ ออกปากตําหนิวาเราเปนผูใหญไดเชิญทั้งสองฝายมา หวังใหปรองดองกัน ทั้งเลาปแลกิเหลงลวนเห็นแกหนาเรา ตั้งใจฟงเรากลาว ตัวทานเปนแตผูติดตามเลาป ไฉนจึงมาทําหยาบชา ณ คายเราดั่งนี้ เปนการดูหมิ่นไมไวหนาเรา วาแลวลิโปก็ทําเปนโกรธ ลุกขึ้นไปควาเอา ทวนประจํากายมาถือมั่นไว ทั้งสองฝายตางตกใจ เพราะไมมีใครรูวาลิโปจะเอาอยางไร แตเลาปเกรงวาลิโปจะทํารายเตียวหุย เหลียวมอง ไปขางหลังเห็นทั้งกวนอูและเตียวหุยตางกุมอาวุธประจํากายมั่นคงอยูก็วางใจ ในทันใดนั้น ลิโปไดรองเรียก ทหารเขามาสั่งใหเอาทวนไปปกไวหนาโรงบัญชาการทหาร ระยะหางสามรอยกาว แตตัวลิโปทํายืนขรึมอยู ณ ที่เดิม ครั้นทหารนําทวนไปปกไวตามคําสั่งแลว ลิโปจึงวาขาพเจาเปนผูใหญทําการใดตองถือความประสงค ของฟาเปนเกณฑ ดังนั้นขาพเจา จะทําการเสี่ยงทายตอเทพยดา โดยจะยิงเกาทัณฑไปที่ทวนซึ่งปกไวนั้น ถา ขาพเจายิงพลาด แสดงวาเทพยดามีประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้ทานจงรบกันตามใจสะดวก ขาพเจา จะไมเกี่ยวของดวย แตถาขาพเจายิงไปถูกทวนนั้นก็แสดงวาเทพยดาไมประสงคใหพวกทานรบกัน ในกรณีนี้ หากผูใดไมเชื่อฟง ขาพเจาก็จําตองถืออาญาสิทธิ์ แหงสวรรคเขาทําสงครามดวยผูนั้น กิเหลงเห็นระยะสาม รอยกาวไกลเกินที่ผูใดจะยิงเกาทัณฑไปถูกที่หมายได หวังใจวาเมื่อลิโปยิงพลาดเปาแลวจะไดทําการกับเลาป ไดถนัดมือก็ดีใจ จึงวาเมื่อลิโปทานตกลงใจดั่งนี้แลว ขาพเจามีแตตองคลอยตามคําทาน สวนเลาปนั้นมิไดวา กลาวประการใด อาการอันดุษณีเปนอันถือวาเลาปยินยอมตกลงดวย ดังนั้นลิโปจึงสั่งทหารใหเอาสุรามารินอีก สามจอก แลวเชิญเลาปและกิเหลงดื่มสุราถือวาทุกฝายตกลงกันตามนี้ ลิโปดื่มสุราหมดจอกแลวสั่งทหารใหเอาเกาทัณฑสําหรับตัวมา ใหขึ้นเกาทัณฑพาดสายแลวนาวจนคัน เกาทัณฑโกงดังพระจันทรกลางปกษขางขึ้น เสียงวืดหวือดังขึ้น ลูกเกาทัณฑพุงออกจากแหลง ถูกคันทวนดัง เกรง ทหารทั้งคายลิโปตางโหรองดังสนั่นสรรเสริญฝมือเกาทัณฑของลิโปวาเปนเลิศในใตหลา เสมอดวยวีร ชนในอดีตที่นาวเกาทัณฑยิงพระอาทิตย จนความมืดมิดปกคลุมโลกอันลือลั่น เลาป กวนอู และเตียวหุย ตาง ปรบมือแสดงความยินดี ชื่นชม ในฝมือเกาทัณฑของลิโปสถานหนึ่ง และดีใจที่การสมประโยชนอีกสถานหนึ่ง คงมีแตกิเหลงเทานั้นที่สีหนาสลดลง เพราะการณเปนไป ผิดจากที่คาดหมาย ลิโปหัวเราะดังลั่นแลววา ฝมือ เกาทัณฑของขาพเจาแทจริงต่ําตอย แตนี่เปนเพราะฟาบันดาล วาแลวเขาไปจับมือเลาปและ กิเหลงมากุมไว และวาเทพยดาแสดงความประสงคใหเห็นประจักษ พวกทานจึงมีแตตองเลิกรบกันแลวสั่งทหารใหจัดโตะมา เลี้ยงทั้งสองฝาย ลิโปคําหนึ่งก็อางฟา สองคําก็อางสวรรค สามคําก็อางเทพยดา เห็นไดชัดวานับแตมาเปนเจาเมืองชีจิ๋วแลวลิ โปไมเพียงแตจะลืมตัว หลงตัววาเปนผูใหญเทานั้น หากยังทําตัวประหนึ่งเปนคนทรงเจา เขาผีอีกดวย ฝายกิ เหลงนั้นกินโตะไมเปนสุข เพราะมัวครุนคิดวาตัวกําลังขัดคําสั่งอวนสุด เกรงตองโทษถึงตาย คิดแกปญหาของ ตัวเองไมตก จึงออกปากวาตัวขาพเจาประจักษในการเสี่ยงทายก็จริงอยู แตหากขาพเจากลับไปมือเปลา อวน สุดยอมไมเชื่อถือ คงจะเอาโทษขาพเจา ถึงตายลิโปไดฟงดังนั้นจึงวาทานจงวางใจ ขาพเจาจะมีหนังสือให ทาน ถือไปถึงอวนสุดบอกความทั้งนี้ใหแจง กิเหลงก็คลายใจลง ลิโปจึงเรียกทหารเอาเครื่องเขียนมาทํา หนังสือถึงอวนสุดแลวมอบแกกิเหลง กิเหลงรับหนังสือแลวก็ลาลิโปกลับไปคาย สั่งใหเลิกทัพยกกลับไปเมือง ลําหยง เลาปเห็นกิเหลงไปแลว จึงกลาวขอบคุณลิโปที่ชวยเหลือแลวถือโอกาสลาลิโปกลับเขาเมือง ฝายลิโป ครั้นเสร็จการแลวจึงสั่งทหาร ใหถอนคายยกกลับไปเมืองชีจิ๋ว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นกิเหลงกลับมาถึงเมืองลําหยง จึงเขาไปรายงานใหอวนสุด ทราบเหตุการณแลวมอบหนังสือของลิโป อวน สุดไดอานหนังสือทราบความแลวโกรธลิโปเปนอันมาก ออกปากดาลิโปวาเปนคนตระบัดสัตย และวาลิโป กระทําดังนี้เปนการไมเกรงใจเรา เราจะยกกองทัพไปตีเมืองเสียวพาย แลวจับตัวเลาปเอง เสร็จแลวจะยกไปตี เอาเมืองชีจิ๋วตอไป กิเหลงจึงหามอวนสุดวาลิโปไดครองเมืองชีจิ๋ว ผูคนแลเสบียง ก็พรอมสรรพ ทหารมีฝมือก็ มีอยูเปนอันมาก ตัวลิโปเองก็มีฝมือกลาแข็ง ทั้งเลาปมี กวนอู เตียวหุย ฝมือฉกาจนัก ลิโปกับเลาปมีไมตรี
71.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 71 แนนแฟนอยู หากทานยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกมาชวยเลาปรุมตีกระหนาบเราทั้งสองดาน เราก็จะ เสียทีแกขาศึก ครั้งกอนทานใชเสบียงไปผูกมัดลิโปมิใหชวยเหลือเลาป แตผูกลิโปไวไมได เพราะลิโปรักเมือง ชีจิ๋วมากกวาเสบียงที่ทานมอบให ดังนั้น ถาจะผูกลิโปไวไมใหชวยเหลือเลาปก็ตองหาวิธีผูกวิธีใหม อวนสุด ถามวาจะผูกลิโปไวไดดวยวิธีใด กิเหลงจึงวาในเมื่อสิ่ง ของผูกลิโปไวไมได ก็ตองอาศัยคนเปนเครื่องผูกมัดลิ โปไว ขาพเจา ขอเสนอกลใหทานผูกดองกับลิโปเพราะลิโปนั้นเปนคนกลัวเมีย รักเมียและลูกสาวคนเดียว ยิ่งกวาสิ่งใด ขอใหทานแตงเถาแกไปสูขอลูกสาวลิโปที่เกิดจากนางเหงียมซีมาเปนภรรยาบุตรของทาน เมื่อ ทานผูกดองกับลิโปดั่งนี้แลว ก็จะทําการกับเลาปไดถนัด ลิโปจะถูกความเปนดองกับทานผูกไวเขาชวยเลาป ไมได การกําจัดเลาป ก็จะสําเร็จโดยงาย อวนสุดเห็นดวยกับแผนการของกิเหลงจึงเรียกหันอิ้นขุนนางเมืองลําหยงฝายการทูตเขามา สั่งใหทําหนาที่เปน เถาแกไปเมืองชีจิ๋วสูขอลูกสาวของลิโปตามแผนการของกิเหลงนั้น หันอิ้นรับคําสั่งแลวออกมาจัดแจงของ กํานัลเปนจํานวนมาก จัดขบวนออกจากเมืองลําหยงไปเมืองชีจิ๋วและขอเขาพบลิโป แลวมอบของกํานัลทั้งนั้น แกลิโป แลววาอวนสุดนายขาพเจาเปนเชื้อสายขุนนางมาถึงสี่ชั่วอายุคน ไดครองเมืองลําหยงซึ่งเปนหัวเมือง ใหญ บัดนี้ไดตราพระลัญจกรสําหรับพระมหากษัตริยไวแลว คงจะตั้งตัวเปนใหญในแผนดิน แตวิตกดวยบุตรยัง ไมมีเหยาเรือน ไดทอดตาทั้งแผนดินแลวไมเห็นสตรีใดสมควรคูแกบุตร และวาอวนสุดนายของขาพเจาเห็นวา บุตรสาวของทานมีความพรอมดวยวุฒิและสกุลควรคูเสมอกัน ทั้งมีความเลื่อมใสในตัวทานจึงหวังผูกไมตรีเปน ทองแผนเดียวกัน จึงสั่งใหขาพเจาเปนเถาแกมาสูขอบุตรสาวทานใหแกบุตร ดั่งนี้อวนสุดแลทานก็จะมีไมตรี กันสืบไป ลิโปไดฟงดังนั้นก็มีใจยินดี แตตัดสินใจเองไมไดจึงวา การครั้งนี้เปนเรื่องภายในครอบครัว ขาพเจาขอเวลา ปรึกษาหารือกับภรรยาเสียค่ําหนึ่งกอน ในวันพรุงนี้ขาพเจาจะแจงความตกลงใจใหทานทราบ วาแลวสั่งทหาร ใหเชิญหันอิ้นไปพักที่เรือนรับรองแขกเมือง ค่ําลงลิโปจึงเลาความที่หันอิ้นมาสูขอบุตรีใหนางเหงียมซีผูภรรยา ทราบ แลวถามวาเจามีความคิดเห็นเปนประการใด นางเหงียมซี จึงวาบานเมือง ขณะนี้เปนจลาจล ขุนศึกทุก หัวเมืองตางแยงชิงอํานาจ เมื่ออวนสุดไดตราพระลัญจกรไวคงจะไดเปนเจาในวันหนา บุตรีเราก็จะไดเปนพระ มเหสี ดังนั้นไมวาทางใกลหรือทางไกล ลูกเราก็มีแต จะเปนใหญในทุกทาง ทานพี่จงรับปากหันอิ้นเถิด วิธีมองคนเพื่อเลือกคูครองโดยทั่วไปยอมเปนดังนี้คือมุงเอาแค ฐานะของทรัพยสินและฐานะตําแหนง ซึ่งเปน ความคิดเห็นแกตัวของ ผูเปนพอแมไมไดแลเห็นความสุขและจิตใจของผูเปนบุตร มองขาม ความชั่วดีและ คุณธรรมที่จะทําใหชีวิตคูเปนสุข ดังนั้นความคิดชนิดนี้จึงเปนความคิดที่ลงโทษบุตรเสียเปนสวนใหญ คงมีแต สวนนอยเทานั้นที่ใชความคิดในการเลือกคูครองโดยถือเอาความรัก คุณธรรม และความดีงามเปนหลักในการ เลือกคูครองใหแกบุตร ดังนั้น บุตรคนใดที่พอแมใชความคิดชนิดนี้ยอมถือวาเปนบุญกุศลที่ไมตองตกอยูใน นรกในวันขางหนา ลิโปคนกลัวเมียไดรับความเห็นชอบจากเมียที่เคารพแลว รุงขึ้นจึงเชิญหันอิ้นมาพบแลวตอบตกลงที่จะยกลูก สาวใหเปนสะใภของอวนสุด หันอิ้นเห็นการสมความประสงคจึงขอลากลับไปรายงานใหอวนสุดทราบ ครั้นอวน สุดเห็นการสมความคิดจึงจัดแจงของหมั้นเปนจํานวนมาก สั่งใหหันอิ้นจัดขบวนเถาแกนําของหมั้นยกไปเมืองชี จิ๋ว เพื่อสูขอบุตรีของลิโปตามอยางธรรมเนียม หันอิ้นรับคําสั่งแลวจัดขบวนขันหมากยกไปเมืองชีจิ๋ว เพื่อตัวลูก สาวลิโปมาเมืองลําหยง ถึงเมืองชีจิ๋วแลวขอพบลิโป และมอบของหมั้นทั้งนั้นแลววา อวนสุดนายขาพเจา มี ความยินดีที่ทานรับไมตรี ดังนั้น จึงสั้งใหขาพเจานําขบวนเถาแกและของหมั้นมาสูขอบุตรีของทานและรับตัว เจาสาวไปเมืองลําหยง ลิโปรับของหมั้นไวแลวใหแตงโตะเลี้ยงหันอิ้นและขบวนเถาแก เสร็จแลวเชิญหันอิ้นไป พักที่เรือนรับรองแขกเมือง เพื่อหารือถึงพิธีการ สงตัวเจาสาวตอไป ค่ําวันนั้นตันกงไดไปเยือนหันอิ้น ณ เรือนรับรองแขกเมือง พบหันอิ้นแลวคารวะตามธรรมเนียม ตันกงสั่งให บรรดาทหารที่อารักขาเรือนรับรองนั้นถอยลงไปขางลาง แลวกลาวขึ้นวา แผนการครั้งนี้ยอดเยี่ยมลึกซึ้งยิ่งนักๆ หันอิ้นไดฟงคําตันกงก็แปลกใจ ถามขึ้นวาทานหมายความถึงเรื่องราวใดกัน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม แผนทําลายกลผูกดอง (ตอน 82) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ตันกงเห็นหันอิ้นมีอาการสะดุงใจจึงกลาววา บัดนี้เลาปมาอาศัยลิโปอยูที่เมืองเสียวพาย ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว เทากับวาเลาปเปนลูกไกอยูในกํามือของลิโป ครั้งนี้เมื่ออวนสุดกับลิโปเปนทองแผนเดียวกันแลว หากอวนสุด ปรารถนาศีรษะของเลาปก็คงไดสมปรารถนา เหตุนี้ขาพเจาจึงวาเปนแผนการที่ยอดเยี่ยมลึกซึ้ง
72.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 72 หันอิ้นยินคําตันกงก็รูวาที่ปรึกษาของลิโปผูนี้มีสติปญญาหลักแหลม อานแผนการของอวนสุดทะลุปรุโปรงก็ ตกใจ แตแสรงกลาววาทานอยาเพิ่งคาดการณไปกอน การของนายเราทั้งสองก็จะเสียไป อวนสุดนายของ ขาพเจามีน้ําใจสุจริต คิดผูกไมตรีกับนายของทาน ยอมเปนประโยชนรวมกันของนายเราทั้งสอง ใชวาจะ ปรารถนา ศีรษะเลาปดังคําทานแตประการใด ตันกงครั้นไดสําแดงสติปญญาใหปรากฏแลวเห็นอาการหันอิ้นที่ ตอบความดังนั้นจึงยกมือขึ้นเปนเชิงปรามในทํานองวา ไมจําเปนที่จะตองพูดถึงเรื่องนี้เพราะอุบายเทานี้ปดบัง เราไมไดดอก แลวตัดบทวาขาพเจาเห็นจริงตามคําทานวาการครั้งนี้เปนประโยชนรวมกันของทั้งสองฝาย แต การที่ทานคิดการไวนั้นหากลาชาไปก็อาจแปรผันเปนอื่นได เหตุนี้ขาพเจาจึงรีบมาเตือนสติใหทานรีบทําการ หันอิ้นยินคําตันกงแลวก็เขาใจวาตันกงอานแผนการออกก็จริง แตมีจุดยืนสนับสนุนแผนการนี้จึงคลายใจ หันอิ้ นจึงลุกขึ้นคารวะตันกงแลววา ทานมีสติปญญาหลักแหลมยิ่งนัก ขอใหทานเห็นแกไมตรีทั้งสองฝายรับเปนธุระ ชวยใหการครั้งนี้สําเร็จเถิด อวนสุดนายขาพเจาจะไมมีวันลืมพระคุณของทานในครั้งนี้เลย ตันกงจึงวา ขาพเจาจะรับเปนธุระใหลิโปและอวนสุดเปนทองแผนเดียวกันจงได ทานอยาไดวิตก วาแลวก็ลา หันอิ้นไปที่จวนลิโป ตันกงวันนี้เปลี่ยนแปลงจากผูมีอุดมการณแตครั้งที่ทิ้งตําแหนงเจาเมืองจงพวนหนี ติดตามโจโฉเปนคนละคน กลายเปนนักการเมืองเต็มตัวแลว แตเปนนักการเมืองที่มีจุดยืนอยูกับผลประโยชน ของตัวเองเปนใหญ ก็แลเมื่อตันกงอานแผนการของอวนสุดกระจางแลว ก็ยอมอานแผนการออกวาเมื่ออวนสุด กําจัดเลาป ยึดเอาเมืองเสียวพายแลวยอมกระทบตอเมืองชีจิ๋ว ดังนั้นปมสําคัญจึงอยูที่เมื่อตันกงอานแผนการ แทงตลอดดั่งนี้แลว เหตุไฉนจึงยังคงสนับสนุนแผนการนี้ตอไปอีก ไมคิดหวงใยหรือคิดปองกันเมืองชีจิ๋ว กระนั้นหรือ ปมนี้มีความเปนไปไดสามประการ คือตันกงกําลังขายตัวใหกับอวนสุดคิดอานหวังจะทิ้งลิโปไปเขาดวยอวนสุด หรือยังคงภักดีตอลิโปอยู แตมั่นใจในสติปญญาตัววาเมื่อลิโปกับอวนสุดเปนดองกันแลวก็จะสามารถคิดการให ลิโปมีอํานาจเหนืออวนสุด อาศัยความเปนดองครองความเปนใหญทั้งเมืองชีจิ๋วและเมืองลําหยง หรือมิฉะนั้น ตันกงอาจคาดการณถึงอํานาจของโจโฉที่เรืองอํานาจขึ้นในเมืองหลวง เห็นวาลําพังลิโปไมสามารถรับมือโจ โฉได จึงสนับสนุนใหลิโปกับอวนสุดผนึกกําลังกันเพื่อรับมือกับโจโฉโดยยอมเสียเลาปเปนคาตอบแทน ความเปนไปไดทั้งสามประการนี้ไมวาจะเปนไปในทางไหน ประโยชนยอมตกอยูแกตันกงทั้งสิ้น ดังนั้นหากจะ เปรียบกิเหลงผูวางแผนการนี้เปน พอครัวปรุงอาหารรสเลิศขึ้นแลว ผูเสพอาหารนั้นกลับเปนตันกงหาใชลิโป หรืออวนสุดไม ตันกงเขาไปพบลิโปถึงในจวนแลวแสรงถามวา วันนี้มีขบวนขันหมากยกมา ขาพเจาจึงไดทราบ ขาววาเปนขบวนเถาแกยกมาขอลูกสาวทานใหเปนสะใภของอวนสุด ความที่ขาพเจาทราบมาดั่งนี้เปน ความ จริงหรือ ลิโปจึงวาเปนความจริงดังที่ทานไดทราบมา ตันกงไดลุกขึ้นคํานับลิโป แลววาขาพเจาขอแสดงความ ยินดีดวยทาน ในวันขางหนาบุตรีทานคงจะไดเปนพระมเหสี แลวถามวาทานจะกําหนดวันฤกษดีสงตัวเจาสาว ใหแกบุตรชายอวนสุดเมื่อใด ลิโปจึงวาเรื่องนี้เปนการใหญของครอบครัวขาพเจา ตัวขาพเจามีบุตรสาวแตผู เดียว ดังนั้นจึงจําตองปรึกษาเกี่ยวกับวันเวลาใหรอบคอบกอน ตันกงจึงวาอันธรรมเนียมแตโบราณ การสงตัวเจาสาวไปบานเจาบาวนั้น หากเปนกรณีของพระมหากษัตริยก็จะ ทอดเวลาไปหนึ่งป ถาเปนขุนนางผูใหญก็ลดลงมาเปนหกเดือน ถาเปนขุนนางผูนอยก็ลดลงมาเหลือสามเดือน และถาเปนราษฎรสามัญการสงตัวเจาสาวก็จะกระทําภายในหนึ่งเดือน ลิโปจึงวาบัดนี้อวนสุดไดตราพระ ลัญจกรไวครองแลว จึงเสมอดวยพระมหากษัตริย ขาพเจาคิดที่จะทําการตามฐานะแหงพระมหากษัตริย จึง ไดยั้งการไว รอเวลาครบหนึ่งปแลวคอยสงตัวเจาสาว ตันกงจึงทวงวาความคิดของทานทั้งนี้ชอบอยางธรรม เนียมก็จริงอยู แตบัดนี้สถานการณบานเมืองไมเปนปกติ บรรดาเจาเมืองตางๆ ไดแกงแยงแขงอํานาจกัน ตาง คนตางชิงกันเปนใหญ หากการเนิ่นชาไปความลวงรูถึงเมืองอื่นก็ยอมคิดขัดขวางมิใหการมงคลของทานสําเร็จ เพราะบรรดาหัวเมืองทั้งหลายเมื่อไดทราบความแลวยอมจะเกรงกลัววาการที่ทานกับอวนสุดผูกดองกันเชนนี้ ก็จะมีกําลังอํานาจเติบใหญเขมแข็ง คงจะคิดขัดขวางในประการตางๆ แมอาจสงทหารมาซุมแลวชิงตัวเจาสาว ในระหวางทางการมงคลของทานก็จะเสียไป ดังนั้นทานจึงควรสงบุตรสาวไปใหแกบุตรอวนสุด อยาใหทัน ความแพรงพรายไปถึงบรรดาหัวเมืองอื่น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นคลอยตาม จึงสั่งใหนางเหงียมซีผูภรรยาจัดเตรียมขาวของสําหรับบุตรีใหพรอมที่จะ สงตัวแกบุตรของอวนสุดเสียแตในคืนนั้น นางเหงียมซีก็รับคํารีบจัดเตรียมขาวของและขบวนของเจาสาว ครั้น รุงขึ้นลิโปจึงใหบุตรสาวขึ้นเกวียนไมหอม มอบตัวแกหันอิ้นผูเปนเถาแก พรอมกับขาวของตามอยางธรรมเนียม การสงตัวเจาสาวและสั่งใหซงเหียนกับงุยซก คุมทหารไปสงขบวนเจาสาว หันอิ้นจึงนําขบวนเคลื่อนออกจาก เมืองชีจิ๋วไปเมืองลําหยง ในขณะที่ขบวนกําลังเคลื่อนจะออกจากเมืองชีจิ๋วนั้น ตันกุยซึ่งเปนบิดาของตันเตง และเปนที่ขุนนางเมืองชีจิ๋วในตําแหนงที่ปรึกษากําลังนอนปวยอยูที่บาน ไดยินเสียงปแตรของขบวนเจาสาวจึง
73.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 73 เรียกคนใชในบานมาถามวาเปนขบวนแตงงานของผูใด คนใชในบานไดรายงานวาอวนสุดไดสงเถาแกมาสูขอ บุตรสาวลิโปไปเปนสะใภ ลิโปตกลงและจัดขบวนใหซงเหียนกับงุยซกนําขบวนไปสงเจาสาวพรอมกับเถาแก ของฝายอวนสุด ตันกุยไดฟงความแลวนั่งนิ่งพิเคราะหเหตุการณก็อานแผนการของอวนสุดกระจางวากลผูก ดองครั้งนี้มีเปาหมายเบื้องตนคือศีรษะเลาปและเมืองเสียวพาย และเปาหมายขั้นตอไปก็คือศีรษะ ลิโปและ เมืองชีจิ๋ว ตันกุยนั้นมีน้ําใจศรัทธาตอเลาปตั้งแตครั้งที่ เลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋วและตันเตงผูบุตรไดเปนขุนนางที่ ปรึกษา ครั้นอานแผนการของอวนสุดตลอดแลวจึงคิดวาหากเราจะนิ่งเฉยเสีย ทั้งเลาปและเมืองชีจิ๋วก็จะตกอยู ในอันตราย ดังนั้นตันกุยจึงตัดสินใจทําลายแผนการผูกดองของอวนสุด ตัดสินใจแลวจึงแตงตัวโพกผาขาวในชุดไวทุกข งานศพใหคนในบานพยุงพาไปที่จวนลิโป ขอพบลิโป ฝายลิโปทราบวาตันกุยมาขอพบก็ออกมารับที่หนาจวน แตครั้นเห็นตันกุยแตงตัวในชุดไวทุกขงานศพ มีหนาตาเศราโศกก็ประหลาดใจ จึงถามตันกุยวา ญาติพี่นองคน ใดของทานถึง แกความตายหรือจึงมาหาขาพเจา อยาไดหวงใยเลยขาพเจาพรอมที่จะชวยเหลือทุกประการ ทั้งนี้เพราะลิโปเขาใจวาตันกุยมาหาเพื่อบอกกลาวขาวงานศพของญาติพี่นอง ตันกุยไดฟงดังนั้นจึงวาขาพเจา ไดยินขาววาทานตายและมีการจัดพิธีกงเตกใหกับงานศพของทานจึงรีบมาหวังจะไดเคารพศพ ลิโปตกใจรีบ ซักถามตันกุยวาทานไดขาวจากใครวาขาพเจาตาย ตันกุยซึ่งคุนเคยอยูกับผูคนในจวนของลิโปไดยิน ดังนั้นจึง โบกมือเปนทีใหคนรับใชในจวนของลิโปถอยออกไปกอน ลิโปเห็นเปนที่ประหลาดนักจึงเขามาประคอง ตันกุย เขาไปนั่งที่หองรับรอง ตันกุยจึงวาเมื่อไมนานมานี้อวนสุดไดสงสิ่งของมาตั้งสินบนใหกับทาน ไมใหทานยกไป ชวยเลาป แตครั้นกิเหลงยกกองทัพจะไปตีเมืองเสียวพาย ทานกลับยกทหารไปชวยเลาป ทานไดเสี่ยงทาย เทพยดายิงเกาทัณฑไปถูกคันทวน กิเหลงจึงตองยกทัพกลับไป มาบัดนี้อวนสุดสงเถาแกมาสูขอบุตรีทาน และทราบวาทานรับไมตรียกบุตรีใหแกบุตรอวนสุด ดังนั้นเมื่อทานกับอวนสุดผูกดองกันแลว อวนสุดก็จะยกไป ตีเมืองเสียวพาย หากอวนสุดกําจัดเลาปไดเมืองเสียวพายแลว เมืองชีจิ๋วและ ตัวทานจะตกอยูในอันตราย ลิโป ไดยินดังนั้นก็ตกใจ ตันกุยจึงกลาวตอไปวาการทั้งนี้เปนกลอุบายที่ใชคนผูกคน เพราะอวนสุดใชสินบนผูกทาน ไวไมได จึงใชกลผูกดองหวังเอาบุตรีทานเปนตัวประกันไมใหทานยกไปชวยเลาป หลังจากอวนสุดไดเมือง เสียวพายแลวก็จะอาศัยบุตรีทานซึ่งเปนตัวประกันอยูในมือขมเหงทานดวย ประการตางๆ หากทานไมยอมใหขมเหง ก็จะอางวาทานตัดไมตรีอยางนอย อวนสุดก็จะยืมทั้งทหารและเสบียง เบียดเบียนทานและราษฎรเมืองชีจิ๋ว หากทานไมใหก็จะหาเหตุยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ความเดือดรอนก็จะบังเกิดขึ้น อีกประการหนึ่งเลา นับแตอวนสุดไดตราพระลัญจกรไวแลว ก็คิดตั้งตัวเปนเจา นั่นคือการกบฏตอแผนดิน ทร ยศตอพระเจาเหี้ยนเต หัวเมืองทั้งปวง แมแตโจโฉก็ยอมยกมากําจัดอวนสุด ตัวทานก็จะตกอยูในฐานะเปนฝาย กบฏดวย และจะพลอยเปนศัตรูกับบรรดาหัวเมืองทั้งหลายในแผนดิน การทั้งนี้ทานจะเสียทั้งบุตรี จะเสียทั้ง เมืองเสียวพาย ราษฎรเมืองชีจิ๋วก็จะเดือดรอน ตัวทานก็จะเดือดรอน แมเมืองชีจิ๋วก็จะรักษาไวไมได ขอทานจง ใครครวญดูจงดีเถิด ลิโปฟงคําตันกุยก็เห็นกระจางถึงแผนการรายของอวนสุดก็ตกใจยิ่งนัก วากับตันกุยวา ขาพเจาเชื่อคําตันกงจึง พลาดพลั้งไปถึง เพียงนี้จําเปนที่จะตองรีบแกไขใหทันทวงที วาแลวจึงสั่งทหารใหเรียก เตียวเลี้ยวเขามาพบ แลวสั่งใหยกทหารรีบติดตามขบวนเจาสาวไป และชิงขบวนกลับมาเมืองชีจิ๋ว ในทันที เตียวเลี้ยวรับคําสั่งแลว รีบนําทหารยกตามขบวนของหันอิ้นไป ทันเขาแลวเขาสกัดขบวนไว และสั่งใหเคลื่อนขบวนกลับมาเมือง ชีจิ๋ว ลิโปไดสั่งให เอาตัวหันอิ้นไปจําขังไวกอนแลวทําหนังสือแจงไป ยังอวนสุดวายังจัดแจงสิ่งของทั้งปวงไม พรอม และยังไมไดวันฤกษดี การทั้งปวงพรอมแลวจะสงบุตรีไปให ตันกุยครั้นไดทราบวาเตียวเลี้ยวคุมขบวน เถาแกกลับมาถึงเมืองชีจิ๋วแลว จึงเขาไปพบลิโปแลววา เมื่ออวนสุดทราบวาทานบิดพลิ้วไมสงลูกสาวไปใหคง จะคิดการยกมาตีเมืองชีจิ๋ว ฝายใดฝายหนึ่งพลาดพลั้งลง โจโฉก็อาจยกมาซ้ําเติม ดังนั้นจึงขอใหทานผูกไมตรี ดวยโจโฉไวเสียกอน โดยทําหนังสือไปถึง โจโฉวา อวนสุดวางแผนผูกดองกับทานเพื่อจะยกไปตีเมืองฮูโต แตทานไมรับไมตรีจึงจับตัวหันอิ้นผูเปนเถาแกสงใหแกโจโฉ ดังนี้เมืองชีจิ๋วก็จะไมเปนอันตราย หากเมื่อใดอวน สุดยกกองทัพมาตีเมืองชีจิ๋ว โจโฉก็จะยกกองทัพไปยึดเอาเมืองลําหยง อยางนอยอวนสุดก็ไมกลายกกองทัพ มาทําอันตรายตอเมืองชีจิ๋ว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ลิโปฟงคําตันกุยแลวลังเลใจไมอาจตัดสินใจไดวาจะทําประการใดดี ใน ทันใดนั้นทหารไดเขามารายงานวา บัดนี้หนวยขาวไดสงขาวสารมารายงานใหทราบวาเลาปไดทําการเกลี้ยกลอมผูคน ซองสุมทหารเปนอันมาก แตไมทราบวาเลาปจะคิดอานประการใด ลิโปจึงวาเลาปเปนเจาเมืองเสียวพาย ยอมเปนธรรมดาที่จะตองคิด อานปองกันรักษาเมือง การเกลี้ยกลอมผูคนและจัดกองทหารของเลาปจึงเปนเรื่องปกติที่ไมสมควรจะแคลงใจ เลาป และตัวเราก็ไดทําคุณไวกับเลาปเปนอันมาก เลาปคงจะไมทําอันตรายแกเรา ในระหวางนั้นลิโปไดใหซง เหียนกับงุยซกไปจัดหาซื้อมาสําหรับใชในราชการศึก ณ เมืองซัวตั๋ง ซงเหียนและงุยซกไปซื้อมาศึกไดเปน จํานวนสามรอยตัว ครั้นนําฝูงมามาถึงชายแดนเมืองเสียวพายเปนเวลากลางคืน ก็ถูกโจรปายกพวกมาปลนเอา
74.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 74 มาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว ซงเหียนและงุยซกจึงติดตามสืบหาก็ไดความวาเตียวหุยคุมพรรคพวกปลอมเปนโจรปา มาปลนเอามาดังกลาวไป ดังนั้นซงเหียนและงุยซกจึงนํามาที่เหลือมาที่เมืองชีจิ๋วแลวรายงานใหลิโปทราบ ลิ โปไดยินดังนั้นก็โกรธ และยิ่งไดยินวาผูที่ปลนเอามาไปคือเตียวหุยคูเคืองเกาก็ยิ่งโกรธจัด สั่งใหจัดทหารจะยก ไปตีเมืองเสียวพายเพื่อจับเอาตัวเตียวหุยและพรรคพวกที่ปลอมตัวเปนโจรมาประหารเสีย ครั้นเลาปไดทราบวาลิโปยกทหารมาเมืองเสียวพายก็ตกใจ สั่งใหเตรียมทหารยกออกไปตั้งรับ ครั้นพบกับลิโป แลวจึงถามลิโปวา ทานพี่ยกกองทัพมาทั้งนี้เพราะเหตุใด ลิโปเห็นเลาปตีหนาซื่อจึงเอาแสมาชี้หนาเลาปแลว วา เมื่อครั้งที่อวนสุดสั่งกิเหลงยกกองทัพมาตีเมืองเสียวพาย ขาพเจาไดชวยเหลือทาน เสี่ยงเกาทัณฑจนกิเห ลงตองถอนทัพกลับไป แตทานไมรูคุณใหเตียว หุยปลอมเปนโจรปามาปลนชิงเอามาของขาพเจาไป สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม อุบายยืมมีดฆาโค (ตอนที่ 83) เลาปถูกลิโปตอวา วาเปนตัวการใหเตียวหุยปลอมเปนโจรปาไป ปลนชิงเอามาก็ตกใจ เพราะตัวเลาปไมเคย ทราบเรื่องนี้มากอน จึงรีบปฏิเสธวาขาพเจาไมเคยปลนชิงมาของทานเลย นี่เปนความสัตยจากใจจริงของ ขาพเจา แตลิโปไมฟงคํายืนยันวาเตียวหุยปลนเอามาไปหนึ่งรอยหาสิบตัว เตียวหุยยืนมาอยูดานหลังเลาป เห็นลิโปตอวาตอขานเลาปเชนนั้นก็โกรธ ชักมาออกไปขางหนาแลววากูนี่แหละที่ชิงเอามามึงไว แลวมึงจะ ทําไม ลิโปไดยินก็โกรธดาเตียวหุยวาไอโจรตาถลน มึงดูหมิ่นกูหลายครั้งแลว ยังบังอาจมาปลนเอามากูไปอีก เตียวหุยจึงดาลิโปตอไปวากูแคชิงเอาแตมามึงก็โกรธ แลวทีมึงชิงเอาเมืองของพี่กู ทําไมมึงไมคิดวากูจะไม โกรธบางเลา ลิโปถูกเตียวหุยดาตองใจดําก็โกรธ ชักมาเขาตอสูกับเตียวหุย ทั้งสองฝายตอสูกันถึงรอยเพลงก็ ยังไมแพชนะกัน เลาปเกรงวาเตียวหุยจะเสียที จึงใหทหารตีระฆังเปนสัญญาณเรียกเตียวหุยกลับมา พอเปน เวลาค่ําเลาปก็ยกทหารกลับเขาเมือง ลิโปจึงสั่งใหทหารลอมเมืองเสียวพายไวทั้งสี่ดาน ครั้นกลับเขาเมืองแลว เลาปจึงเรียกเตียวหุยเขามาสอบถามวา ที่ลิโปกลาวหาวาเจาไปปลนชิงเอามาจํานวน หนึ่งรอยหาสิบตัวนั้น ความจริงเปนอยางไร เตียวหุยรับวาเปนความจริง เลาปจึงสั่งใหเตียวหุยไปเอามามาแลว ใหทหารคุมมาไปมอบใหแกลิโป และขอขมาลิโปวา ที่ปฏิเสธไปนั้นเพราะยังไมทราบความจริง บัดนี้สอบถาม เตียวหุยรับเปนจริงแลว จึงนํามามามอบคืนและขออภัยตอลิโป ทั้งขอใหเลิกแลวตอกันจะไดเปนไมตรีกัน สืบไป ลิโปครั้นไดมาคืน และเลาปไดขอขมาลาโทษดังนี้ก็หายโกรธ ยอมรับขมาเลาป ทหารของเลาปจึงลาลิ โปกลับเขาไปในเมืองเสียวพาย ครั้นตันกงทราบความจึงเขาไปวากับลิโปวาทานยกมาถึงเพียงนี้แลว ไมตรีทั้ง สองฝายที่มีมาแตเดิมยอมสลายลง เหมือนดังแกวแตกแลวไมอาจตอใหติดเหมือนดังเดิม หากปลอยเลาปไว สืบไปก็จะคิดรายตอทานเปนมั่นคง ขอใหทานกําจัดเลาปใหเสร็จสรรพไปในครั้งนี้จะไดไมตองพะวงตอไปใน วันหนา ลิโปฟงคําตันกงแลวเห็นดวยจึงสั่งใหแมทัพนายกองทั้งปวงยกเขาหักเอาเมืองเสียวพายพรอมกันทุก ดาน แมทัพนายกองทั้งนั้นรับคําสั่งแลวพากันออกมาจากคายของลิโป แลวกลับไปยังกองทหาร ของตนที่ ลอมเมืองเสียวพายอยูนั้น ครั้นไดเวลากําหนดกองทหารของลิโปทั้งสี่ดานจึงเคลื่อนกําลังเขาไปที่กําแพงเมือง เสียวพาย หักตีแนวกําแพงทั้งสี่ดาน แตทหารรักษาเมืองเสียวพายไดตั้งรับอยางเหนียวแนน ตีโตทหารลิโป อยางดุเดือด ทหารของลิโปพยายามหักเขาเมืองจนกระทั่งถึงเวลาค่ําก็ยังหักเขาไปไมได จึงพากันถอยกลับ เขาคาย เลาปเห็นวากําลังทหารในเมืองเสียวพายมีนอยกวากําลังทหาร ของลิโปคงจะตานทานไดไมขามวันพรุง จึง ปรึกษากับที่ปรึกษาวาเห็นจะตานรับลิโปไวไมได จะมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนเขียนและบิตกสองที่ ปรึกษาไดเสนอใหตีฝาออกจากเมืองไป ขออาศัยอยูกับโจโฉที่เมืองฮูโต เพราะโจโฉถือวาลิโปเปนศัตรูตัว สําคัญ ดังนั้นผูใดเปนศัตรูของลิโปจึงเทากับเปนพันธมิตรของโจโฉดวย เลาปเห็นชอบจึงสั่งใหเตรียมการตีฝา วงลอมของทหารลิโปเพื่อยกไป เมืองฮูโต ใหเตียวหุยเปนกองหนา ตัวเลาปคุมครอบครัวและขุนนางตลอดจน ที่ปรึกษาซึ่งพรอมจะไปดวยเปนกองกลาง และใหกวนอูเปนกองระวังหลัง คืนนั้นเปนขางขึ้น พระจันทรสวางเห็นหนทางชัดเจน ครั้นเพลาเที่ยงคืนผานไปใกลยามสาม สายลมโชยพลิ้ว เย็นยะเยือก น้ําคางลงจัด ทหารฝายลิโปหลับสนิท คงเหลืออยูแตทหารลาดตระเวนและทหารรักษาเวรยาม เทานั้น ขบวนของเลาปจึงเคลื่อนออกจากประตูเมืองดานทิศเหนือ ทหารลาดตระเวนไดพยายามสกัดขบวน ของเลาปไว แตไมสามารถตานทานกําลังของเตียวหุยไดจึงแตกหนี แลวจุดพลุใหสัญญาณเกิดเหตุ ซงเหียน และงุยซกสองนายทหารของลิโปรักษาการณอยูดานทิศเหนือไดรับรายงาน จากทหารรักษาการณวา เลาปยก หนีออกจากเมือง จึงยกทหารออกมาสกัดขบวนของเลาปไว All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
75.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 75 เตียวหุยคุมกองหนามาถึงที่ซงเหียนและงุยซกตั้งสกัดอยูก็กระทืบโกลนมาเขารบดวยซงเหียนและงุยซกอยาง ฮึกเหิม สองนายทหารของลิโปประเพลงทวนกับเตียวหุยไดคนละเพลงก็พากันชักมาถอยเขามาในหมูทหาร ขับทหาร ใหเขาสกัดเตียวหุย แตทหารเหลานั้นขยาดฝมือจึงไมกลาเขามาในระยะทวนแทง เตียวหุย จึงตีฝา นําขบวนผานไปอยางงายดาย ฝายเตียวเลี้ยวทหารเอกของลิโปลอมเมืองอยูทางดานทิศใต ครั้นไดเห็นพลุ สัญญาณเกิดเหตุรายขึ้นทางดานทิศเหนือ และไดทราบจากรายงานของหนวยลาดตระเวนวาเลาปยกหนีออก จากเมือง ก็เกรงวาซงเหียนและงุยซกจะสกัดเลาปไวไมอยู จึงรีบคุมทหารยกตามไป เตียวเลี้ยวไดพบกับซง เหียนและงุยซกที่แตกถอยมาแจงวาเลาป ตีฝาออกไปไดแลว เตียวเลี้ยวจึงรีบคุมทหารเรงตามเลาปไป กวนอู ซึ่งคุมกองระวังหลังเห็นทหารไลตามมาจึงสั่งใหทหารในกองระวังหลังแปรขบวนหันกลับมาตั้งสกัด ครั้นเตียว เลี้ยวยกทหาร เขามาใกล เห็นกวนอูถืองาวนิลนาคะยืนมาอยูหนาทหาร ผาโพกศีรษะสีเขียวตองออนตอง แสงพระจันทร และตองลมพริ้วดูเปนสงานาเกรงขาม บรรดาทหารที่ตามเตียวเลี้ยวมาเห็นลักษณาการดั่งนั้นก็ พากันขยาด หยุดมาไวแตหาง ๆ เตียวเลี้ยวไดขับมาเขารบดวยกวนอูไดหาเพลง เห็นวาไมมีทางที่จะฝากวนอู เขาไปถึงขบวนของเลาปได ทั้งเห็นทหารที่ติดตามมาไมยอมขับมาออก มาขางหนาเพื่อเขาลอมกวนอู ทั้งเห็น วาการตอสู กับกวนอูไมไดประโยชนอันใด และฝมืองาวกวนอูก็กลาแข็งยิ่งนักจึงชักมาออกมา กวนอูก็มิไดไล ตาม คงยืนมาอยูที่เดิมครูหนึ่งเห็นเตียวเลี้ยวไมยอมออกมารบอีก จึงสั่งทหารใหเคลื่อนตามเลาปไป กวนอูยืน มาคุมเชิงดูอีกพักใหญจึงชักมากลับตามขบวนไป เตียวเลี้ยว ซงเหียน และงุยซกกลับไปถึงคายก็ใกลสวางจึงพากันไปที่คายของ ลิโป ลิโปตื่นแลวรอฟงขาวอยู ครั้นไดทราบจากทหาร ทั้งสามวาเลาปหนีไปไดก็ไมคิดติดตามอีกตอไป สวางขึ้นลิโปจึงสั่งทหารยกเขาไป ประชิดเมืองเสียวพาย ทหารรักษาเมืองรูวาเลาปหนีไปแลวจึงยอมแพ ลิโปจึงยกทหารเขาไปในเมืองจัดการ ปกครองใหเปนปกติแลว สั่งใหโกสุนอยูรักษาเมืองและใหเลิกทัพกลับไปเมืองชีจิ๋ว ลิโปเดิมเปนเพียงคนขอ อาศัย มาอาศัยเมืองเสียวพายกับเลาป ตอมาก็ยึดเอาเมืองชีจิ๋วของเลาปเสีย ทั้งๆ ที่รูวามีพระบรมราชโองการ ของพระเจาเหี้ยนเตตั้งเลาปเปนเจาเมืองแลว ตอมาลิโปถูกอวนสุดวางกลไมใหเขาชวยเหลือเลาป แตผูกลิโป ไวไมอยูเพราะผลประโยชนทางการเมืองครองใจลิโปไวแนนหนา แตมาครั้งนี้ลิโปกลับยกมายึดเอาเมืองเสียว พายเสียเอง เลาปดวงชะตาตกต่ําเปลี่ยนฐานะจากเจาเมืองชีจิ๋ว ซึ่งเปนหัวเมืองเอกมาอยูเมืองเสียวพายซึ่ง เปนแคหัวเมืองจัตวา และบัดนี้แคหัวเมืองจัตวาก็ไมมีที่จะอาศัยแลว จึงบากหนาไปหาโจโฉที่เมืองฮูโต เลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศฮั่นและหัวเมืองจํานวนมากก็มีคน "แซเลา" ปกครอง แตเหตุที่เลาปไมยอมไปอาศัย คน "แซเลา" กลับมุงไปขอพึ่งโจโฉคนตางแซถึงเมืองหลวงนั้น ยอมมีมาแตเหตุสามประการคือ ขอแรก เลาป เปนเชื้อพระวงศก็จริง แตเปนเชื้อสายของพระเจาฮั่น เกงเต และบรรพบุรุษของเลาปเคยมีขอขัดแยงกับราช สํานักเพราะไมสงสวยประจําป แลวถูกถอดออกจากเจาลงเปนคนสามัญ ดังนั้น พวก "แซเลา" ดวยกันจึง ระมัดระวังในการคบหากับเลาป ดังที่จะเห็นไดชัดเมื่อครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลือง ขอสอง เลาปอาจ คิดวาเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วก็ดี เลาเจี้ยงเจาเมืองเสฉวนก็ดี แมจะเปนหัวเมืองเอกแตไมมีกําลังแข็งกลา พอที่จะอยูอาศัยอยางปลอดภัย หรืออาจคิดวาการไปขออาศัยคนเหลานี้จะเปนการชักนําเภทภัยไปสูคนแซ เดียวกัน ขอสาม เลาปอาจคิดวาตัวมีจุดออนทั้งความรูและประสบการณในการบริหารราชการแผนดินสวนกลาง เปนอุปสรรคตอการคิดการใหญในภายหนา การเขาไปเมืองหลวงเปนหนทางแกไขจุดออนเหลานี้ ทั้งโจโฉก็มี กําลัง ทหารกลาแข็ง สามารถพึ่งพาอาศัยไดดีกวาเมืองอื่น และโจโฉก็พยายาม สรางภาพลักษณวาตองการ รวบรวมคนดีมีฝมือกอบกูแผนดิน คงจะไมทําราย แตมีความเปนไปไดดวยวาเลาปไดคิดถึงประโยชนทั้งสาม ขอนี้ พรอมกัน จึงไปพึ่งใบบุญโจโฉ ครั้นขบวนของเลาปมาถึงเมืองฮูโตจึงหยุดขบวนไวนอกเมือง และใหซุนเขียนเขาไปในเมืองแจงความใหโจ โฉทราบ ครั้นโจโฉทราบ ความวาเลาปจะมาขออาศัยก็มีใจยินดีกลาวแกซุนเขียนวาตัวเรากับเลาปนั้นเหมือน ดั่งพี่นอง ทานอยาไดอนาทรเลย วาแลวก็สั่งใหทหารออกไปกับซุนเขียนเพื่อรับเลาป เขามาในเมือง เลาป ทราบความแลวใหพักขบวนไวนอกเมืองใหกวนอู เตียวหุย และ ทหารที่ติดตามมาดูแลอารักขา ตัวเลาปพา บิตกและซุนเขียนไปพบโจโฉที่จวน ฝายโจโฉทราบวาเลาปมาถึงจึงออกมารับที่หนาจวน ถอยทีถอยคํานับกัน แลวโจโฉจึงวา พวกเราเปนสหายศึกกันมาแตครั้งสงครามปราบโจรโพกผาเหลืองเหมือนกับเปนพี่นอง ทาน อยาไดเกรงใจขอใหอยูอาศัยในเมือง ฮูโตอยางเปนสุขเถิด All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด เลาปขอบคุณโจโฉแลววาขาพเจาตกอยูในยามยาก ไมเห็นหนา ผูใด เปนที่พึ่งจึงมาขออาศัยใบบุญทานอัคร มหาเสนาบดี ทานมีความ กรุณาครั้งนี้ เปนคุณหาที่สุดมิได โจโฉพาเลาปเขามาที่หองรับรองเชิญใหนั่งในที่ สมควรแลวถามวา ไมไดพบกันเสียนาน เหตุใดจึงเดินทางมาถึงที่นี่ เลาปจึงเลาความที่ตองรับธุระเปน เจา เมืองชีจิ๋ว แลวถูกลิโปแยงยึดไป จนตองไปอาศัยอยูเมืองเสียวพาย แลวลิโปก็ยังยกไปตีชิงเอาอีก ไดรับความ เดือดรอนสิ้นที่อยูอาศัย จึงมุงหนามาพึ่งในครั้งนี้ โจโฉจึงวา ลิโปเปนคนหยาบชา กักขฬะ เนรคุณคน ได สังหารบิดาบุญธรรมไปแลวถึงสองคน และยังเปนกบฏตอแผนดิน ตัวทานมาถึงเมือง ฮูโตแลวจะปลอดภัยจาก
76.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 76 การรังควานของลิโป อยาไดวิตกตอไปอีกเลย ขาพเจาจะชวยทานคิดการกําจัดลิโปเสียใหจงได เลาปไดฟง ดังนั้นก็ขอบคุณโจโฉ โจโฉจึงสั่งใหจัดโตะมาเลี้ยงเลาป ครั้นไดเวลาสมควรแลวเลาปจึงขอลากลับไปที่อยู คืนนั้นซุนฮกที่ปรึกษาไดมาพบโจโฉแลวเสนอวา เลาปเปนเชื้อพระวงศ มีสติปญญาเปนอันมาก สืบไปเบื้อง หนาจะเปนคูแขงคนสําคัญของทาน จึงชอบที่จะกําจัดเลาปเสียกอน โจโฉฟงขอเสนอแลวขอตรึกตรองดูกอน ซุนฮก จึงลากลับไป ไมทันนานกุยแกที่ปรึกษาไดมาขอพบโจโฉอีกคนหนึ่ง โจโฉไดปรารภความที่ซุนฮกได เสนอใหกุยแกฟง แลวถามวาทานมีความคิดเห็นประการใด กุยแกจึงวาสถานการณบานเมืองขณะนี้ยังไมเปน ปรกติ บรรดา ขุนศึก และหัวเมืองตางตั้งตัวเปนใหญแยงชิงอํานาจกัน ตัวทานชูธงธรรมภายใต บัลลังกมังกร มุงสรางสันติสุข ทํานุบํารุงแผนดินแลราษฎร นับเปนการใหญตองอาศัยผูมีสติปญญาความสามารถจํานวนมาก มิฉะนั้นการใหญก็จักไมสําเร็จ ดังปรารถนา แลววาเลาปนั้นเปนเชื้อพระวงศ เปนวิญูชนและสัตยซื่อ เปนที่นับ ถือของราษฎรทั้งปวง บัดนี้เลาปหนีรอนมาพึ่งเย็นหากสังหารเลาปเสีย คนทั้งหลายก็จะเห็นวาตัวทานไร คุณธรรม ไมเลี้ยงดูคนดีมีฝมือ ดั่งนี้ผูมีสติปญญา ทั้งแผนดินก็จะระแวงสงสัยและรังเกียจทาน การณจะ กลายเปนวาทานฆาเลาปไดคนเดียว แตตัวทานกลับจะถูกบวงผูกขาเปนมลทินไปชั่วชีวิต ที่คิดการใหญไว เบื้องหนาก็จะขัดสน ดังนั้น ทานจึงประหารเลาปไมไดเปนอันขาด โจโฉจึงวาขาพเจามีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตทวาเลาปนี้ไมใชคนที่จะยอมอยูใตปกครองคนอื่น สืบไป ภายหนาคงจะทําใหเรายุงยากเปนมั่นคง ทานจะคิดอานปองกันประการใด กุยแกจึงวาขาพเจาไดคิดถึงเรื่องนี้ เหมือนกับความคิดทาน แตผูเปนใหญนั้นจะคิดทําการดีชั่วประการใดตองแยบยลล้ําลึก ขาพเจาเห็นวาทั้งลิโป และ เลาปเปนพวกที่ทานตองกําจัดใหพนทาง ดังนั้นจําเปนจะตองวางกลใหลิโป กับเลาปฆาฟนกันเองใหตก ตายไปขางหนึ่ง ศัตรูทานก็จะลดไปคนหนึ่ง ความครหาก็จะไมตกอยูแกทาน โจโฉจึงถามวาทานจะวางกล ประการใด การณจึงเปนไปสมประสงคดังคําทาน สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม คนคิดไมอาจฝนลิขิตฟา (ตอนที่ 84) ทั้งโจโฉและกุยแกเห็นพองตองกันวาเลาปเปนวิญูชน แมตองการกําจัดใหพนทางแตจะใชมือตนเขาทําการ ไมได หากตองยืมมือคนอื่น โจโฉครั้นไดฟงขอเสนอของกุยแกแลวก็สงสัยวาจะทําประการใด กุยแกจึงวา เมืองอิจิ๋วซึ่งอยูใกลกับเมืองเสียวพายนั้นยังไมมีเจาเมือง ขอใหทานกราบทูลพระเจาเหี้ยนเตใหแตงตั้งเลาป เปนเจาเมือง แลวใหเลาปยกไปตีเมืองเสียวพาย ลิโปก็จะยกไปปองกันเมืองเสียวพายรบดวยเลาป คงจะตก ตายกันไปขางหนึ่งแลวคอยกําจัดคนที่เหลือตอไป โจโฉฟงแผนการของกุยแกแลวดีใจยิ่งนัก จึงวาขาพเจาตกลงใจ ทําตามแผนของทาน รุงขึ้นโจโฉจึงเขาไป เฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบบังคมทูลเสนอใหโปรดเกลาแตงตั้งเลาปเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ตามแผนการของกุยแก พระเจาเหี้ยนเตก็โปรดเกลาแตงตั้งตามที่เสนอ โจโฉจึงกราบถวายบังคมลากลับออกมา พอมาถึงจวนเทียหยก ที่ปรึกษาซึ่งเปนเจาเมืองตังเปงไดมารอพบอยูกอน โจโฉเห็นเทียหยกมาก็ยินดี และเลาความที่เลาปมาขอ อาศัยแลวพระเจาเหี้ยนเตโปรดแตงตั้งใหเปนเจาเมืองอิจิ๋ว แตแผนการ และความคิดของกุยแกนั้น โจโฉไมได เลาใหเทียหยกทราบ เทียหยกจึงวาเลาปเปนผูมีสติปญญา ที่จะยอมเปนผูนอยในบังคับของทานนั้นหายั่งยืน ไม ตอไปภายหนาเลาปยอมเอาใจออกหาง คิดตั้งตัวเปนใหญ ขอใหทานตัดไฟเสียแตตนลมจับเลาปฆา เสียโจโฉจึงวาซุนฮกไดมาหาและมีความเห็นเชนเดียวกับทาน แตขาพเจาเห็นวาการฆาเลาปเปนการไมชอบ ดวยบัดนี้เรากําลังทําการใหญเพื่อรวบรวมแผนดิน ตองเอาใจผูคนเพื่อระดมคนดีมีฝมือ เขามาชวยทําการ หาก สังหารเลาปเสียแลว ใครไหนจะกลาเขามาทําการ ดวยเราเลา ขาพเจาไดปรึกษาเรื่องนี้กับกุยแกและตกลง แผนการกันเรียบรอยแลว ทานจงวางใจเถิด เทียหยกยินความที่โจโฉกลาววากําหนดแผนการเสร็จสิ้นแลว ก็ คลายใจ จึงขอลาโจโฉกลับไป All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด พอเวลาใกลเที่ยงเลาปไดเขามาหาโจโฉ โจโฉจึงแจงแกเลาป วาวันนี้ได เขาไปเฝาพระเจาเหี้ยนเต กราบทูล เสนอใหแตงตั้งทานเปนเจาเมืองอิจิ๋ว ทรงโปรดเกลาตามเสนอและจะมอบพระบรมราชโองการและตราตั้ง ตอไป ใหเลาปรีบเดินทางไปรับตําแหนงเจาเมืองอิจิ๋ว แลววาขาพเจาจะจัดทหารใหกับทานสามพัน เมื่อถึง เมืองอิจิ๋วแลวใหทานยกไปตีเมืองเสียวพาย แลวเตรียมทหารไวใหพรอมที่จะยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ขาพเจาจะ เตรียมการทางนี้ไวใหพรอม แลวจะแจงกําหนดใหทานทราบจะไดยกทหารไปตีเมืองชีจิ๋วพรอมกัน เลาปลุกขึ้น คารวะแสดงความขอบคุณโจโฉที่สงเสริม แลวรีบลาโจโฉกลับออกไปที่อยู พอโจโฉใหคนคุมทหารสามพันมา มอบใหอยูในบังคับบัญชาเลาป และขาหลวงเชิญพระบรมราชโองการพรอม ตราตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วมามอบ แลว เลาปจึงยกทหารและครอบครัว ออกจากเมืองฮูโตไปเมืองอิจิ๋ว การที่เลาปรับคําโจโฉวาจะยกไปตีเมือง
77.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 77 เสียวพาย เทากับเปนการยอมเดินไปตามแผนการของกุยแก ซึ่งนับวาเปนแผนการที่ลึกล้ํารายกาจ แตไมมีใคร ทราบวาเลาปแจงในกลอุบายนี้หรือไม กอนหนานี้โจโฉไดอางเอาบุญคุณที่กราบทูลเสนอใหตั้งเลาปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และใหเลาปคิดกําจัดลิโปซึ่ง เปนคูอาฆาตเสีย แตเลาปไมทําตาม โจโฉจึงลวงอวนสุดใหยกไปกําจัดเลาป แตลิโปเขาขวางไว ครั้นเลาปหนี ลิโปมาพึ่งโจโฉที่เมืองฮูโต แมวาใจจริงโจโฉ อยากจะประหารเลาปแตทําไมได เพราะเกรงจะเปนอุปสรรคตอ การรวบรวมแผนดิน ดังนั้นโจโฉจึงเอาอกเอาใจเลาปเรียกเปนพี่เปนนอง และยังเสนอตั้งเปนเจาเมืองอิจิ๋วแลว มอบทหารใหอีกสามพัน การกระทําทั้งปวงของโจโฉนี้ความจริงจึงไมใชการชวยเหลือเลาป แตเปนการเดิน ตามแผนที่ตองการใหเลาปรบกับลิโป ไมวาลิโปจะฆาเลาปหรือเลาปจะฆาลิโป ยอมเปนประโยชนแกโจโฉ ทั้งสิ้น เพราะเทากับยืมมือของศัตรูกําจัดศัตรู โดยเสียทหารเพียงสามพันเปนคาใชจายเทานั้น นับเปนการ ลงทุนที่เกินคุมจริงๆ และตองนับวาเปนแผนการที่ลึกซึ้งรอบคอบแทบจะไมมีทางผิดพลาดไดเลย ครั้นเลาปยกไปแลว โจโฉจึงสั่งใหเตรียมทหารใหพรอมเพื่อจะยกไปตีเอาเมืองชีจิ๋ว การเตรียมการทั้งนี้ยอม แสดงวาโจโฉไดประเมินสถานการณแลววาเลาปตองพายแพแกลิโปเปนแนแท จึงเหลือเพียงลิโปที่จะตอง กําจัด และแมวาลิโปจะเปนฝายพายแพ โจโฉ ก็จะยึดเอาเมืองชีจิ๋วไดโดยงาย ทั้งเปนการปองกันมิใหเลาปยก ลวงเขามายึดเอาเมืองชีจิ๋วไดอีกทางหนึ่งดวย ทวาความคิดเปนของคน แตความสําเร็จกลับเปนของฟา ความคิดคน แมจะลึกล้ํารอบคอบสักเพียงไหนก็ไมอาจฝนลิขิตแหงฟาได เหตุนี้ความผันแปรนอกเหนือ ความคิดของผูคนจึงยอมเกิดขึ้นได โจโฉยังไมทันที่จะไดยกทัพออกจากเมืองฮูโต เหตุการณนอกเหนือ ความคาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากหัวหนา กองขาวไดมารายงานแกโจโฉวา บัดนี้เตียวเจลูกนองเกาของตั๋งโตะ ซึ่งเปนหนึ่งใน สี่ทหารเอกของตั๋งโตะ และเคยรวมทําการรัฐประหารกับลิฉุย กุยกี และหวนเตียว ไดยกกองทัพจะมาตีเมืองฮูโต แตปะทะกันที่ ชายแดน เตียวเจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย เตียวสิ้วผูหลานไดรวบรวมทหารเตียวเจและเกณฑชายฉกรรจ จํานวนมากเขารวมในกองทัพ และไดกาเซี่ยงที่ปรึกษาเกาของลิฉุยมาเปนที่ปรึกษา ขณะนี้เตียวสิ้วยึดไดเมือง อวนเซียตั้งเปนฐานที่มั่น แลวชักชวนเลาเปยวเจาเมืองเกงจิ๋วใหยกกองทัพมาตีเมืองฮูโตพรอมกันเพื่อจะชิง เอาพระเจาเหี้ยนเต โจโฉไดทราบรายงานแลวก็โกรธเตียวสิ้วและเลาเปยวเปนอันมาก เพราะการที่เตียวสิ้วและ เลาเปยวจะยกกองทัพมาตีเมืองฮูโต ครั้งนี้คือการทําลายแผนการที่จะกําจัดเลาปและลิโป ที่ไดเตรียมการ ไว แลวเปนอยางดี เพราะหากโจโฉจะยกไปตีเมืองชีจิ๋วก็อาจตองเสียเมืองฮูโตและหากพระเจาเหี้ยนเตถูกชวงชิง ไป อํานาจรัฐทั้งปวง ที่มีอยูก็จะมลายสูญไปสิ้น ดังนั้น โจโฉจึงตองปรับเปลี่ยนแผนการมาคิดกําจัดเตียวสิ้วเสียกอน แตครั้นจะยกทหารไปกําจัดเตียวสิ้วก็หวง หลังวาลิโปจะยกมาตีเมืองฮูโต จึงเรียกซุนฮกมาปรึกษาวาจะคิดอานประการใด จึงจะปองกันลิโปไมใหยก กองทัพมาตีตลบหลังเอาเมืองฮูโต ซุนฮกจึงวาลิโปเปนคนโลภ และหาความคิดมิได ดังนั้นจึงขอใหทานกราบ บังคมทูลพระเจาเหี้ยนเตใหโปรดเกลาแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋วอยางเปนทางการ ลิโปเห็นประโยชนดังนี้ ยอมมีใจ ยินดี และไมยกมาทําอันตราย โจโฉจึงวาขาพเจาไดสั่งเลาปใหยกไปตีเมืองเสียวพาย ทานมีความคิดเห็นเปนประการใด ซุนฮกจึงวาถาเลาป กับลิโปรบกันในชวงระยะนี้ ไมเพียงแตจะทําใหทานพะวงหลังเทานั้น แมฝายใดเพลี่ยงพล้ําลงทานก็ไมมี โอกาสซ้ําเติมเอาประโยชน ดังนั้น จึงขอใหทานมีหนังสือไปถึงลิโป และเลาปใหปรองดองกัน อยาไดทําศึก สงครามตอกันใหเปนที่เดือด รอนแกราษฎร โจโฉเห็นชอบกับความคิดของซุนฮก จึงเขาไปเฝาพระเจา เหี้ยนเตกราบบังคมทูลเสนอแตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว พระเจาเหี้ยนเตก็ทรงโปรดเกลาตามคํากราบบังคม ทูล โจโฉออกจากที่เฝาแลวก็ใหทหารเชิญพระบรมราชโองการไปใหลิโป และมอบหนังสือตามคําซุนฮกไปถึง ลิโปและเลาป จากแผนการที่วางไวใหเลาปกับลิโปรบราฆาฟนกันเอง มาถึงบัดนี้แผนการใหมไดปรับเปลี่ยน เปนใหลิโปกับเลาปตองปรองดองไมทําศึกสงครามตอกัน เทากับความคิดตามแผนการเกาตองสูญสลายไป ไมอาจฝนลิขิตแหงสวรรคได เหตุนี้เลาปจึงหลุดรอดออกจากกลอุบายของกุยแก All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ครั้นจัดแจงการทางดานลิโปและเลาปเสร็จแลว โจโฉจึงสั่งใหจัดทหารสิบหาหมื่น ใหแฮหัวตุนและอิกิ๋มเปนก องทัพหนา โจโฉเปนกองทัพหลวง ยกออกจากเมืองฮูโตเพื่อจะไปกําจัดเตียวสิ้วที่เมืองอวนเซีย ครั้นกองทัพ ของโจโฉเคลื่อนไปถึงแมน้ําหยกซุย ชายแดนเมืองอวนเซีย จึงใหตั้งคายลงไว ฝายเตียวสิ้วครั้นไดขาววาโจ โฉยกกองทัพใหญจะมาตี เมืองอวนเซียก็ตกใจจึงปรึกษาดวยกาเซี่ยงวาจะคิดอานประการใด กาเซี่ยงจึงวา กองทัพโจโฉยกมาครั้งนี้ใหญหลวงนัก คงจะรับมือโจโฉไมได และวาตัวทานกับโจโฉไมเคยมีความผิดพอง หมองใจมาแตกอน ดังนั้นถาหากทานยอมสวามิภักดิ์ โจโฉคงจะรับไมตรี ทานก็ยังเปนเจาเมืองอวนเซียอยู เหมือนเดิม ทหารแล ราษฎรก็จะไมตองลําบาก เตียวสิ้วเห็นดวยกับความคิดของกาเซี่ยง จึงใหกาเซี่ยงเปนทูต
78.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 78 ไปเจรจา ความกับโจโฉ ณ คายของโจโฉ ฝายโจโฉเมื่อทราบวากาเซี่ยงเปนทูตมาเจรจาความเมืองจึงให ทหารรับกาเซี่ยงเขามาพบ ณ คายบัญชาการ กาเซี่ยงเขาไปพบโจโฉ กระทําคารวะแลวจึงวา กิตติศัพท ชื่อเสียงของ ทานอัครมหาเสนาบดีไดขจรไกลวามีน้ําใจโอบออมอารีตอคนทั้งปวง ทั้งมีอุดมการณมั่นคงที่จะ ทํานุแผนดินใหเปนสุข ดังนั้นเตียวสิ้วจึงมีความเลื่อมใส ศรัทธาเปนอันมาก บัดนี้ทราบวาทานยกกองทัพมาจึง ใหขาพเจาเปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์เปนขาชวงใชตลอดไป โจโฉเห็นกาเซี่ยงมีบุคลิกลักษณะสมกับเปนผูมีสติปญญา ทั้งเคยไดยินกิตติศัพทของกาเซี่ยงแตครั้งชวย วางแผนคิดการให ลิฉุย กุยกีไดครองอํานาจรัฐ ครั้นไดฟงคําเจรจาก็เห็นหลักแหลม ก็กระหายใครไดตัว กาเซี่ยงไวทําราชการ จึงวาบัดนี้เมื่อเตียวสิ้วยอม สวามิภักดิ์ดวยเราแลว หากทานพรอมใจทําราชการในเมือง หลวง เราก็จะตั้งใหทานเปนที่ปรึกษา โจโฉแมจะอิ่มดวยอํานาจวาสนา แตมีความหิวกระหายใครไดเสวนาหา คนดีมีฝมือมารวมทําการไมเคยสราง ดังนั้นเมื่อกาเซี่ยง เปนทูตมาเจรจาขอสวามิภักดิ์ แทนที่โจโฉจะพิจารณา และกลาวถึงเรื่องขอสวามิภักดิ์ กลับเชิญชวนใหกาเซี่ยงมาเปนที่ปรึกษา แตกาเซี่ยงยังคงมั่นคงอยูกับเตียวสิ้ว จึงบายเบี่ยงวาขาพเจาเคยทําราชการอยูดวยลิฉุย กุยกี ซึ่งบัดนี้เปนขบถตอแผนดิน มลทินมัวหมองจึงพลอย ตองตัวขาพเขาเปรอะเปอนไปดวย จึงขอเวลาไวใหขาพเจาไดทําความชอบลบลางมลทินแลความผิดใหสิ้น กอน อนึ่งนั้นเลาเตียวสิ้วมีคุณแกขาพเจา ทั้งยังขาดผูคนเปนที่ปรึกษา หากละทิ้งมาในยามนี้ก็เหมือนหนึ่งไม รูคุณคน แลเตียวสิ้วเมื่ออยูสวามิภักดิ์ดวยทานแลว ก็เหมือนขาพเจาอยูดวยทานเชนเดียวกัน โจโฉฟงคํากาเซี่ยงก็รูวายังไมพรอมที่จะมาอยูทําราชการดวยจึงวา ทานจงกลับไปบอกเตียวสิ้วใหออกมาพบ เราเถิด เราจะไวไมตรี กาเซี่ยงจึงลาโจโฉกลับไปเมืองอวนเซีย รายงานเหตุการณใหเตียวสิ้ว ฟงทุกประการ เตียวสิ้วทราบรายงานแลวก็มีความยินดี รุงขึ้นกาเซี่ยงจึงพาเตียวสิ้วพรอมของกํานัลและตราสําหรับเมืองไปที่ คายของโจโฉ ครั้นโจโฉทราบวากาเซี่ยงและเตียวสิ้วมาหา ก็มีความยินดี หลังจากคารวะโอภาปราศรัยตาม ธรรมเนียมแลว โจโฉ จึงถามวา ภายในเมืองอวนเซียมีปญหาประการใดบางหรือไม เตียวสิ้วรายงานวาภายใน เมืองอวนเซียมีความปรกติดีทุกประการ ราษฎรอยูเย็นเปนสุข บัดนี้ขาพเจาขอเชิญทานอัครมหาเสนาบดีไดยก เขาไปใน เมืองเพื่อเปนมิ่งขวัญแกราษฎรสืบไป โจโฉก็รับคํา แลวสั่งแมทัพนายกองใหรักษาคายนอกเมืองไว ใหมั่นคง ตัวโจโฉพาทหารที่สนิทสองรอยคนเขาไปใน เมืองอวนเซียแลวพักที่เรือนรับรองแขกเมืองพิเศษ เตียวสิ้วเอาใจปรนนิบัติโจโฉเปนอันดี ทุกวันแตงโตะเลี้ยงโจโฉและ บรรดาทหารที่ติดตามมาเปนที่สําราญ โจ โฉไดรับการเอาอกเอาใจจากเตียวสิ้วอยางเต็มที่ก็พอใจวาเตียวสิ้วสวามิภักดิ์มั่นคงจึงวางใจและใหเตียวสิ้วคง วาราชการเมืองอวนเซียตอไปตามเดิม อยูมาวันหนึ่งโจโฉมีความเบิกบานใจยิ่งนัก เชิญเตียวสิ้วและบรรดานาย ทหารดื่มสุราชนจอกกับทุกคนจนเมา มาย เลิกกินโตะ แลวโจอันบิ๋นผูหลาน ตองพยุงโจโฉกลับที่พัก แตโจโฉนั้นยังเมาสุราอยูอารมณคึกคักเปน พิเศษ จึงเรียกโจอันบิ๋นหลานคูใจมาถามวาในเมืองนี้มีสตรีใดรูปโฉมงดงาม มีเสนหแพรวพราวบาง ความ ปรารถนาดังนี้ของโจโฉเปนธรรมดาของชายชาติทหารที่จากบาน ไปแดนไกล หลังจากวางทาอํานาจเปนสงา มาหลายวัน แตครั้นเมาสุราก็ แสดงธาตุแทตัวตนจริงออกมา และทําใหไดเห็นถึงรสนิยมอิสตรีของโจโฉวาตอง รูปงามอยางหนึ่ง และตองพราวเสนหอีกอยางหนึ่ง คือไมเพียงแตตองเปน ดอกกระดังงาเทานั้นหากตองลน ไฟอีกดวย สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม เพลิงสวาทเผาทัพโจโฉ (ตอนที่ 85) All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจอันบิ๋นหลานคูใจฟงคําโจโฉแลวก็รูใจจึงกลาววา ที่ตึกรับรองแขกเมืองอีกหลังหนึ่งขาพเจาไดเห็นสตรีรูป โฉมสะคราญตองตามที่ทานอาปรารถนา ขาพเจาไดสืบถามมากอนแลวไดความวาเปนภรรยาของเตียวเจ และ เปนอาสะใภของเตียวสิ้ว บัดนี้เตียวเจตายแลว นางจึงเปนมายอยู โจโฉไดฟงวามีสตรีงามตองตามรสนิยมตัว อารมณคึกคะนอง และฮึกเหิมดวยแรงสุราขาดความคํานึงถึงธรรมเนียมประเพณีวาเตียวเจเพิ่งตายไมทันถึงป ความปรารถนานั้นอาจกระทบตอความรูสึกและสัมพันธระหวางเมืองของเตียวสิ้ว ผสมเขากับความใครที่คอยๆ กําเริบเพราะจากเมืองหลวงมานานวัน กลายเปนพายุที่ฮือโหม ทําใหเพลิงแหงความพิศวาสคุโชนโชติชวงบด บังสติปญญาไปสิ้น โจโฉจึงสั่งใหโจอันบิ๋นนําทหารหาสิบคนไปเอาตัวภรรยามายของเตียวเจมาที่พักในค่ําวัน นั้น โจอันบิ๋นคุมทหารหาสิบคนไปถึงเรือนพักรับรองของภรรยามายของเตียวเจแลวเชิญตัวภรรยามายของ เตียวเจนั้นมายังที่พักของโจโฉ โจโฉครั้นเห็นสตรีมีเสนหรูปงามตองตามรสนิยมก็ดีใจยิ่งนัก โซเซลุกขึ้นไปจูง เอาภรรยามายของเตียวเจเขามานั่งอยูดวยกันแลวถามวาเจานี้มีชื่อใด สตรีนั้นจึงตอบวาขาพเจาชื่อเจาซือเปน ภรรยามายของเตียวเจและเปนอาสะใภของเตียวสิ้ว โจโฉรินสุราใหนางเจาซือและถามตอไปวา เจารูจักเรา หรือไม นางเจาซือจึงตอบวาชื่อเสียงของทานกองกําจรทั่วทั้งแผนดิน ขาพเจาไดยินแตกิตติศัพททานมาชา
79.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 79 นานไดมีโอกาสมาคารวะทานในวันนี้เปนบุญของขาพเจายิ่งนัก วาแลวนางเจาซือก็สงจอกสุราคารวะแกโจโฉ โจโฉหัวเราะดังสนั่น รับสุราจากนางเจาซือมาดื่มแลววาเตียวสิ้วคิดจะยกกองทัพไปทําอันตรายเราที่เมืองฮูโต เราจึงยกกองทัพมาจะกําจัดเตียวสิ้วเสียและจะประหารเสียใหสิ้นทั้งโคตรวงศพงศา แตเราเห็นแกหนาเจาจึง ยอมรับการสวามิภักดิ์ คนทั้งปวงจึงไดรอดตายเพราะตัวเจานี่แลว คําพูดของคนเมามักจะเปนเชนนี้ ความจริงในขณะรับสวามิภักดิ์ โจโฉยังไมเคยพบเห็นรูจักนางเจาซือจึงเปน การรับสวามิภักดิ์เพราะเห็นแกหนานางเจาซือกระไรได โจโฉพลามกลาวความทั้งนี้เพื่อจะยกยองเอาใจนาง เจาซือดวยฤทธิ์แรงแหงความเสนหา ตองการใหนางเจาซือยินยอมพรอมใจดวยเทานั้น นางเจาซือเปนคนเคย การจึงวาทานยกโทษใหแกเตียวสิ้วและญาติพี่นองทั้งสิ้นนั้นเปนพระคุณหาที่สุดมิได วาแลวก็รินสุราสง ใหแกโจโฉเปนการแสดงคารวะอีกจอกหนึ่ง โจโฉก็หัวเราะแลวรับสุรามาดื่มแลววาตัวเจานี้มีเสนหงดงามตอง ใจเรายิ่งนัก ผิวกายเจา ยามตองประทีปแหงราตรีนี้ยากแลวจะหาสตรีใดในแผนดินมาเทียมเทา หากเราจะรับ เจาเปนภรรยาแลวพาไป อยูเมืองฮูโตใหเสพสุขมิสิ้น เจาจะมีความเห็นเปนประการใด างเจาซือลุกขึ้นคํานับโจ โฉแลววา ทานอัครมหาเสนาบดีมีบุญวาสนาบารมีแผปกคลุมทั่วทั้งแผนดิน เมืองอวนเซียนี้เปนสิทธิอยูแกทาน ตัวขาพเจาเปนแตราษฎรของเมืองอวนเซียจึงยอมเปนสิทธิอยูแกทานดวย ขาพเจาหามีสิทธิที่จะตัดสินใจ ประการใดไม การทั้งปวงสุดแทแตใจของทานจะเมตตาเถิด โจโฉไดยินคํานางเจาซือ มีลักษณะยินยอมโอน ออนผอนตามใจ จึงไลทหารและคนรับใชใหออกไปอยูนอกเรือนรับรอง แลวประคองนางเจาซือพาเขาไปที่ หองอันรโหฐานแตค่ํานั้น โจโฉครองอํานาจใหญในแผนดินไมวาไปแหงหนตําบลใด บรรดาขุนนางขาราชการที่รูใจนายก็จะแสวงหาสตรี อันแรกรุนมาปรนเปรอทําความชอบไวแกตัว ดรุณีแรกรุนเหลานั้นแมเปนหญาออน แตความไมเคยการ และ ความอับอายที่มีประจําตัวแตอิสตรีจึงมักบิดพลิ้วผลักไสดวยความไมคุนเคยและเจ็บกลัว จึงทําใหหญาออน เกิดเสี้ยนทําลายแรงปรารถนาใหบรรเทาลง ผิดกับนางเจาซือซึ่งมีวัยถึงสี่สิบ แตกระนั้นความมีโฉมสะคราญ รูจักการทะนุถนอม กลอมบํารุงรางกายใหวิไล ทั้งเปนคนเคยการและผานวันเวลาที่เปนมาย จึงคลายดั่งดิน หนาแลง แตกระแหงรอฝนโปรยมาใหเกิดความชุมฉ่ํา ความปรารถนาของทั้งสองตองกันดั่งนี้ การก็เปนไป คลายกับเมื่อครั้งที่หนุมานไดตัวนางสุวรรณกันยุมา ซึ่งรามเกียรติ์วาไววา "เกี่ยวกระหวัดรัดรึงตรึงตรา วิญญาณ ดาวดิ้นแดยัน พระสมุทรตีฟองนองระลอก กระทบฝงกระฉอกสะเทือนลั่น วาฬใหญพนน้ําอยูเปนควัน ฝน สวรรคตกทั่วสาคร สองรวมภิรมยสมพาส แสนสวาทในรสสโมสร แสนสุข แสนเกษมสถาวร เหนือที่จะ บรรจถรณในราตรี" โจโฉเคยแตเสพหญาออนและถูกเสี้ยนตําปากเปนเนืองนิจ ครั้นพบกับจริตแหงนางเจาซือ กระดังงาดอกงาม แหงเมืองอวนเซียก็เปรมใจ สัมผัสถึงซึ่งความแตกตางระหวางดรุณีแรกรุนกับกระดังงาลนไฟดอกนี้วาเปนดัง เมื่อครั้ง ขุนแผนเปรมรสสวาทนางสายทองวาล้ําเลิศเหนือกวานางพิมพิลาไลยกุหลาบแรกเริ่มแยมวา "สมพาส พิมดุจริมแมน้ําตื้น ไมมีคลื่นแตระลอกกระฉอกฉาว ปะสายทองดุจตองพายุวาว พอออกอาวก็ลมจมลงไป" โจโฉไดรับการปรนเปรอจากนางเจาซือจนอิ่มหนําสําราญ ถึงเวลาใกลสางก็พากันหลับใหล ตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ก็พนเพลาเที่ยง นางเจาซือตื่นกอนเกิดความรูสึกนึกละอายเกรงวาเตียวสิ้วผูเปนหลานจะทราบความ จึงนั่ง ซึมเศรารออยูที่หนาเตียง พอโจโฉตื่นขึ้นนางเจาซือจึงวา ขาพเจาตกเปนภรรยาทานทั้งๆ ที่เตียวเจผูสามีเพิ่ง ตายไดไมทันนาน ความครหานินทาวาลวงประเพณีจะมีแกขาพเจาเปนอันมาก ไมอาจสูหนาผูคนทั้งปวงใน เมืองนี้ไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตาพาขาพเจาไปอยูที่อื่นเถิด อนึ่งเตียวสิ้วนั้นเปนคนเครงครัดประเพณี หากรู ความเขาแลวก็จะนอยใจในตัวทานวาเปนผูใหญไมคิดถึงน้ําใจของผูนอย โจโฉจึงวาความที่เจาวามาทั้งนี้ชอบ ดวยเหตุและผลตองดวยความคิดเรา บายวันนี้เราจะพาเจาไปอยูที่คายนอกเมือง แลวโจโฉจึงสั่งใหทหารลอบ พานางเจาซือไปพักที่คายบัญชาการนอกเมือง และใกลพลบค่ําตัวโจโฉก็ขึ้นมาพาทหารออกจากเมือง อวนเซียไปอยูที่คายนอกแลวสั่งใหเตียนอุยทหาร องครักษพิทักษรักษาหนาคายหามผูคนเขาออก ยกเวนแต กรณีที่โจโฉจะเรียกหาเทานั้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด โจโฉ "ทุกค่ําเชาเฝาสีซอลอกามา" อยูแตในคายกับนางเจาซือ มิไดออกตรวจตรากองทหาร หรือวาราชการ ตามปกติ นางเจาซือก็ปรนเปรอความสุข ดวยกลกามจนโจโฉลุมหลงไมคิดที่จะยกกลับไปเมืองฮูโต ฝายเตียว สิ้วครั้นเห็นโจโฉไมไดออกวาราชการเปนเวลาหลายวัน และไดยกกลับออกไปอยู ณ คายนอกเมืองก็สงสัย ประกอบทั้งคนรับใชไดเขามารายงานวาทหารของโจโฉไดมารับตัวนางเจาซือไปที่เรือนรับรองจนบัดนี้ยังไม กลับ เตียวสิ้วไดสืบทราบจนไดความชัดวา โจโฉไดนางเจาซืออาสะใภไวเปนภรรยาแลวพาออกไปอยูนอก เมืองก็นอยใจนัก ยิ่งคิดถึงขนบธรรมเนียมประเพณีก็โกรธโจโฉหาวาหยามเหยียดเกียรติแหงตระกูล "เตียว" เตียวสิ้วยิ่งคิดก็ยิ่งอาย ยิ่งอายก็ยิ่งแคน จึงใหหากาเซี่ยงมาปรึกษาเลาความทั้งปวงใหกาเซี่ยงฟงแลววา โจโฉ ทําการทั้งนี้ดูหมิ่น ขาพเจาและตระกูล "เตียว" ยิ่งนัก หากขาพเจาไมแกแคนครั้งนี้ ไมมีหนาที่จะพาดวง
80.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 80 วิญญาณไปพบบรรพบุรุษในปรโลก แมยามมีชีวิตอยูก็ไมกลาแบกหนาพบผูคนไดอีกตอไป ขอทานไดเมตตา ชวยขาพเจาคิดอานแกแคนโจโฉแทนขาพเจาดวยเถิด กาเซี่ยงจึงวา โจโฉยกมาทั้งนี้มีทหารมาดวยจํานวนมาก ทานอยาเพิ่งวูวามรอนใจไป ขาพเจาจะคิดอุบายให ทานยกทหารไปตั้งประชิดตัวโจโฉไว ครั้นไดทีแลวก็จะจับตัวโจโฉมาสังหารเสีย แลวเสนอวาใหทานแจง แกโจโฉวา ทหารที่เกณฑมาใหมนั้นไมเกรงกลัวทานพากันหลบหนีไปเปนอันมาก ดังนั้น จึงขอเอาทหารใหม ยกไปอยูใกล กับคายโจโฉ จะไดเกรงบุญบารมีไมหลบหนีตอไป ถาโจโฉอนุญาตแลวก็จะจับตัวโจโฉได โดยสะดวก เตียวสิ้วเห็นพองกับความคิดของกาเซี่ยง รุงขึ้นจึงออกไปหาโจโฉ ณ คายนอกเมือง เตียนอุยจึงเขาไปรายงาน ใหโจโฉทราบ โจโฉก็อนุญาตใหเตียวสิ้วเขาไปพบ ครั้นเตียวสิ้วไดกระทําคารวะอยางธรรมเนียมแลว จึงวา กับโจโฉตามคําของกาเซี่ยงทุกประการ โจโฉทําความผิดรูความผิดอยูแตในใจก็อนุญาตตามที่ตองการ เปน การเอาใจ เตียวสิ้วกลบความผิดของตัว เตียวสิ้วกลับมาจากคายโจโฉแลวจึงพาทหารยกเขาไปอยูใน กองทัพโจโฉ ตั้งคายไวตามมุมคายของโจโฉทั้งสี่ดาน แตกระนั้นยังไมเห็นชองทําการ เพราะเตียนอุย องครักษของโจโฉมีสงานาเกรงขาม ทั้งรักษาคายดวยความระมัดระวัง เตียวสิ้วจึงหาเฮาเฉียนายทหารคนสนิท มาปรึกษาวาจะทําประการใดจึงจะฝาเตียนอุยเขาไปถึงตัวโจโฉได เฮาเฉียจึงวาขาพเจาสามารถแบกเหล็กได ถึงหารอยชั่ง แข็งแรง มิไดเปนรองเตียนอุย และยังสามารถเดินทางไดถึงวันละเจ็ดพันเสน เกรงอยูก็แตทวนคู ของเตียนอุยเทานั้น จึงขอใหทานเชิญเตียนอุยมาเลี้ยงโตะมอมสุรา ขาพเจาจะฉวยโอกาสปลอมเขาไปลักเอา ทวนคูนั้นเสีย เตียนอุยก็จะกลายเปนเสือไรเขี้ยวเล็บ ดังนี้ก็จะจับตัวโจโฉไดโดยงาย เตียวสิ้วเห็นดวยกับแผนการของเฮาเฉีย จึงใหกาเซี่ยงไปเชิญ เตียนอุยมากินโตะ ครั้นทราบวาเตียนอุยรับคํา เชิญแลว จึงสั่งทหารทั้งสี่คายให เตรียมตัวพรอมอาวุธ หากไดยินเสียงประทัดสัญญาณก็ใหยกเขาไปจับตัวโจ โฉ พรอมกัน ครั้นถึงเวลานัด เตียนอุยก็มา ณ คายของเตียวสิ้ว กินโตะและเสพสุรา โดยมิไดสงสัยจนเมามาย จนใกลพลบค่ําเสร็จงานเลี้ยงเตียวสิ้วจึงใหทหารชวยพยุงเตียนอุยกลับไปคาย เตียนอุยเมาสุราไมไดสติกลับ ถึงคายแลวก็หลับใหลอยูริมประตูคาย จากนั้นเฮาเฉียจึงปลอมตัวเขาไปลักเอาทวนคูประจํากายของเตียนอุย แลวเอาไปทิ้งไวดานหลังคาย เตียวสิ้วเห็นการสมความคิดจึงเรียกนายทหารมาสั่งการ กําหนดวิธีการตอบโต ในตอนเคลื่อนยายกําลังเปนที่เขาใจดีแลวจึงสั่งใหยกทหารไปที่คายโจโฉพรอมกัน ขณะนั้นโจโฉยังคงเสพสุราเคลาคลออยูกับนางเจาซือ ไดยินเสียงทหารอึกทึกจึงใหทหารออกไปดู ทหาร กลับมารายงานวาเปนทหารของเตียวสิ้ว กําลังสับเปลี่ยนเวรยาม โจโฉก็มิไดสงสัย อีกครูหนึ่งทหารเฝาคายก็ เขามารายงานอีกวา เกวียนบรรทุกหญามาหลังคายติดไฟอยู โจโฉกําลังเพลินอารมณอยูกับนางเจาซือ นึก รําคาญทหารที่เพียงแคเห็นไฟไหมหญามาก็แสเขามารายงานในยามหนาเหลาหนานางเชนนี้ จึงตวาดใส ทหารนั้นแลววา ทหารหุงขาว ไฟไหมหญาเปนเรื่องเล็กนอย ไฉนเจาจึงไมรูจักใชความคิดแกไขดับไฟ ทหาร นั้นยินน้ําเสียงไมพอใจของโจโฉก็ตกใจกลัวรีบคารวะแลวถอยกลับออกไปนอกคาย แตพอออกมานอกคายได ยินเสียงประทัดดังขึ้น แลวเพลิงก็ลุกขึ้นรอบคายทั้งสี่ดาน โจโฉไดยินเสียงประทัดและไดยินเสียงทหารวิ่งอยู นอกคายเปนจํานวนมากก็ตกใจ รีบรองเรียกเตียนอุยแตไมมีเสียงขานรับ โจโฉรีบออกมาดูที่ประตูคายเห็น เตียนอุยเพิ่งตื่นงัวเงียอยู และเห็นเพลิงไหมคายโชติชวงขึ้นทั้งสี่ดานและทหารของเตียวสิ้วก็พากันบุกเขามาที่ หนาคายก็ยิ่งตกใจ รีบวิ่งกลับเขาไปในคาย เอากระบี่ฟนผนังคายแลวขึ้นมาพาโจอันบิ๋นผูหลานหนีออกไปทาง ดานหลังคายนั้น ขณะนั้นเตียนอุยตื่นขึ้นแลวเห็นไฟไหมคายและทหารเตียวสิ้ว พากันกรูเขามาก็ตกใจมิทันใสเกราะ ควาหาทวน สําหรับมือก็ไมพบ ทหารเตียวสิ้วก็เขามาใกลถึงตัว เตียนอุยจึงแยงเอาดาบของทหารเลว เขาตอสูสกัดทหาร ของ เตียวสิ้วมิใหเขาไปในคาย เตียนอุยฆาทหารเตียวสิ้วประมาณยี่สิบหาคน ทหารของเตียวสิ้วก็พากันถอย มาคุมเชิงอยู ทหารของเตียวสิ้วอีกสองกองไดบุกเขามาทางดานหลังคาย หักเขาไปลอมเตียนอุยไวใชทวน แทงและใชดาบฟนเตียนอุยจนบาดเจ็บ แตเตียนอุยก็ มิไดทอถอยใชดาบตอสูดวยทหารของเตียวสิ้วจนดาบ บิ่นและหักสะบั้นลง เตียนอุยจึงฉวยเอาศพทหารเตียวสิ้ว ขางละคนเขาตอสูปองกันตัว และเอาศพฟาดถูก ทหารเตียวสิ้วลมตายอีกรวมสิบคน ทหารเตียวสิ้วสูไมไดก็พากันถอยออกไปแลวใชเกาทัณฑระดมยิงจนลูก เกาทัณฑเสียบเต็มทั่วราง เตียนอุยก็ยังยืนปกหลักมั่นอยู ทหารเตียวสิ้วคนหนึ่งเขามาทางดานหลังเอาทวน แทง ทะลุอกดานซายเตียนอุยขาดใจตาย ขณะที่สิ้นใจนั้นศพเตียนอุย ยืนพิงประตูคายอยู ทหารเตียวสิ้วไมรูวา เตียนอุยตาย ตางคนตางกลัวฝมือไมกลาบุกเขาไปในคาย เพลิงที่ไหมคายโจโฉในครั้งนี้ ตนเหตุสมุฏฐานที่ แทจริงเกิดจากเพลิงสวาทที่เผาผลาญในใจของโจโฉกอน จึงลุกลามกลายเปน เพลิงที่ผลาญทัพโจโฉจน หมดสิ้น All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด
81.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 81 สามกกฉบับคนขายชาติ: เรืองวิทยาคม กลยุทธเลี้ยงเสือและนกอินทรี (ตอนที่ 86) เพลิงสวาทไดลุกลามกลายเปนไฟเผาผลาญกองทัพโจโฉจนหมดสิ้น ทหารของเตียวสิ้วไดโจมตีกองทัพโจโฉ ที่ตกอยูในสภาพตื่นตระหนก ณ แดนเมืองอวนเซีย จนแตกกระเจิง ทหารของโจโฉถูกเพลิงคลอก และถูก ทหารเตียวสิ้วฆาฟนลมตายลงเปนอันมาก ตัวโจโฉหนีออกจากคายทางดานหลัง ไปกับโจอันบิ๋นหลานคูใจ พอใกลแมน้ําหยกซุยทหารเตียวสิ้วกองหนึ่งไดใชเกาทัณฑระดมยิงถูกมาโจโฉลมลง ถึงแกความตาย ตัวโจโฉ ตองเกาทัณฑแตไมถูกที่สําคัญ จึงวิ่งหนีไปแตลําพัง สวนโจอันบิ๋นหลานคูใจถูกเกาทัณฑถึงแกความตาย ณ ที่นั้น โจโฉวิ่งหนีไปไดเกือบรอยเสน ไดพบกับโจงั่งผูเปนบุตรซึ่งแตกหนีมาเชนเดียวกัน โจงั่งจึงเอามาของทหาร ใหโจโฉขี่แลวพากันหลบหนีตอไป แตหนีไปไดไมกี่เสนก็ถูกกองทหารของเตียวสิ้วอีก กองหนึ่งไลตามไปทัน ใชเกาทัณฑยิงถูกโจงั่งตายไปอีกคนหนึ่ง โจโฉ โชคยังดีจึงหลบหนีรอดไปไดอีก ขณะนั้นแฮหัวตุนและทหาร ซึ่งแตกหนีอดอยากเที่ยวปลนสะดมเสบียงอาหารและขาวของจากราษฎรตามชายแดนเมืองอวนเซีย อิกิ๋มซึ่ง คุมทหารแตกหนีมาอีกทางหนึ่งพบเหตุการณเขาเห็นทหารแฮหัวตุนประพฤติผิดวินัย กองทัพจึงเขาชวยเหลือ ราษฎร สังหารทหารแฮหัวตุนไปหลายคน ทหารแฮหัวตุนพากันหนีอิกิ๋มไปพบแฮหัวตุน จึงพากันหนีตอไปและพบกับโจโฉจึงนําความรายงานใหโจโฉ ทราบวา อิกิ๋มเปนกบฎ ทหารของอิกิ๋มทราบเรื่องราวก็ไปบอกใหอิกิ๋มทราบ ขณะนั้นอิกิ๋มไดขาววาเตียวสิ้ว กําลังยกทหารติดตามมา จึงสั่งทหารใหตั้งคายมั่นไวและไมเขาไปหาโจโฉ หวังเอาความจริงและความชอบใน การสกัดทัพเตียวสิ้วเขาแกขอหา ครั้นเตียวสิ้วยกตามมาจึงปะทะกับอิกิ๋ม เตียวสิ้วสูอิกิ๋มไมไดจึงแตกถอยรน มาถึงแมน้ําหยกซุย อิกิ๋มไดยกทหารไลตามตีเตียวสิ้วจนเตียวสิ้วตองถอยรนและปะทะเขากับโจโฉและกอง ทหารของแฮหัวตุน ทหารของโจโฉทั้งสองดานไดรุมตีกระหนาบเตียวสิ้ว ทําใหทหารของเตียวสิ้วบาดเจ็บลม ตายลงเปนอันมาก เตียวสิ้วเห็นวาทหารเหลืออยูนอยตัวนัก สูโจโฉไมได จึงพาทหารที่เหลืออยูนั้นหนีไป อาศัยเลาเปยว ที่เมืองเกงจิ๋ว อิกิ๋มจึงเขาไปหาโจโฉเลาความที่ทหารแฮหัวตุนกระทําผิดวินัยกองทัพ ปลนชิงทรัพยสินของราษฎร ทําให เสื่อมเสียเกียรติของทหารหลวงจึงฆาเสียเพื่อพิทักษเกียรติของโจโฉไว โจโฉฟงรายงานแลวพอใจ แตสงสัย วาทําไมอิกิ๋มจึงตั้งคายมั่นไมยอมออกมา ตอนรับโจโฉเขาไปในคาย อิกิ๋มจึงวาไดทราบขาววาเตียวสิ้วกําลังยก ทหารไลตามตี จึงตั้งคายสกัดไว เพื่อตีเตียวสิ้วใหแตกไปกอน จึงจะปองกันโจโฉและพลิกสถานการณได แต กระนั้นก็สํานึกวาไดกระทําความผิดจึงคุกเขาลงขออภัยตอโจโฉ โจโฉไดฟงความตลอดแลวจึงตําหนิแฮหัวตุน ที่ปกครองทหารหละหลวม แลวยังมากลาวฟองใหรายอิกิ๋มอีก แตเห็นวาแฮหัวตุนมีความชอบมาแตกอนจึงให ภาคทัณฑไว แลวสรรเสริญอิกิ๋มเปนอันมากที่คิดอานแกไขสถานการณ พลิกจากแพแกเปนชนะกลับคืนได โจ โฉไดมอบรางวัลใหแกอิกิ๋มเปนอันมาก แลวปูนบําเหน็จ ตั้งใหอิกิ๋มเปนขุนนางที่พระยาจําเริญอายุ โจโฉจัดแจงกองทัพเสร็จแลวจึงสั่งใหทําพิธีเซนไหวเตียนอุย โจอันบิ๋น และโจงั่งผูบุตรที่ริมแมน้ําหยกซุย แลวประกาศแกทหารทั้งปวงวาแมศึกครั้งนี้ จะเสียบุตรและหลานไป แตมิไดเศราโศกเสียใจ เทากับการเสีย เตียนอุย วาแลวโจโฉก็รองไห ทหารทั้งปวงไดฟงดังนั้นก็เขาใจวาโจโฉมีน้ําใจรักทหารยิ่งกวา บุตร หลาน ตางซาบซึ้งน้ําใจโจโฉเปนอันมาก พากันรองไหรักโจโฉ ครั้นเสร็จพิธีเซนไหวแลวโจโฉจึงใหเลิกทัพ พกเอา ความเคียดแคนเตียวสิ้วกลับไปเลียแผลอยูที่เมืองฮูโต ครั้นสรางโศกจิตใจสงบเปนปกติลงแลว จึงรําลึก ทบทวนสาเหตุของการแตกทัพจนตองเสียเตียนอุย องครักษที่วางใจสูงสุด เสียทั้งบุตรและหลาน และทหาร เปนอันมาก ก็สํานึกวาความผิดพลาดทั้งนั้นเกิดแตตัวเองประพฤติปฏิบัติผิดกฎแหงพิชัยสงครามถึงสามสถาน คือ เปนแมทัพตั้งอยูในความประมาทหนึ่ง ประพฤติลวงขนบธรรมเนียมประเพณี ทําลายน้ําใจมิตรจนตองลาง ผลาญกันเองหนึ่ง และอยูหนาศึกแตมัวเมาลุม หลงในอิสตรีไมเปนอันวาราชการสงครามอีกหนึ่ง โจโฉสํานึก ถึงความผิดพลาดสามสถานดั่งนี้แลวก็เสียใจ แตไมไดปริปากแพรงพรายความสํานึกนี้ใหผูใดทราบ ดวยเกรง วาความแพรงพรายไปแลวจะเสื่อมเสียเกียรติ จึงกลายเปนตราบาปติดอยูในใจโจโฉไปจนตลอดชีวิต All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ทางดานอองเจกซึ่งโจโฉใชใหเชิญพระบรมราชโองการและถือหนังสือของโจโฉไปใหลิโป และเลาป ปรองดองกัน ครั้นเดินทางเขาเขตเมืองชีจิ๋วจึงแจงขาวใหนายดานทราบ นายดานจึงสั่งมาเร็วรีบเขาเมือง รายงานแกลิโป ลิโปเมื่อทราบวาอองเจกเชิญพระบรมราชโองการมาที่เมืองชีจิ๋วจึงนําขบวนออกมาตอนรับเขา ไปในเมือง กระทําพิธีรับพระบรมราชโองการตามธรรมเนียมแลว อองเจกจึงอานประกาศพระบรมราชโองการ แตงตั้งลิโปเปนเจาเมืองชีจิ๋ว และเปนขุนนางที่ขุนพลปราบศึกภาคบูรพา ลิโปถวายบังคมพระบรมราชโองการ
82.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 82 ดวยความยินดี อองเจกจึงมอบหนังสือของโจโฉที่ใหลิโปกับเลาปปรองดองกันแลวกลาวความผูกใจลิโปวา ทาน อัครมหาเสนาบดีมีความเมตตาและเชื่อถือ ลิโปเปนอันมาก จึงกราบบังคมทูลเสนอพระเจาเหี้ยนเตให ทรงแตงตั้ง เปนขุนนางลิโปไดทั้งยศศักดิ์ และฐานะตําแหนงขุนนางก็ยินดีรับปากกับอองเจกวาจะปฏิบัติตาม หนังสือของโจโฉทุกประการ ในขณะนั้นทหารรับใชไดเขามารายงานวาอวนสุดไดสงผูแทนมาพบ ลิโปจึงให เชิญเขามาแลวถามวามีราชการสิ่งใดหรือ ผูแทนของอวนสุดจึงวา อวนสุดกําลังเตรียมการพิธีสถาปนาตัวเอง เปนฮองเต แลวจะแตงตั้งบุตรชายขึ้นเปนรัชทายาท จึงขอใหลิโปรีบสงลูกสาวไปเขาพิธีแตงงานเสียในคราว เดียวกัน ลิโปกําลังอิ่มอยูดวยยศฐาบรรดาศักดิ์ที่โจโฉหยิบยื่นให จึงเห็นการขางอวนสุดเปนเรื่องเหลวไหลที่จะดึงตัว ลงสูที่ต่ํา กลายเปนกบฏตอแผนดินไปดวย จึงแสดงความโกรธใหปรากฏตอหนาอองเจกดวยการดาวาอวนสุด วาเปนคนถอย กําเริบคิดกบฏตอแผนดิน แลวสั่งทหารใหเอาตัวผูแทนอวนสุดไปประหาร จากนั้นลิโปจึงสั่งให ทหารไปเบิกตัวหันอิ้นเถาแกของอวนสุดที่สงมารับลูกสาวออกจากคุก ใหจําใสกรงนักโทษแลวแตงหนังสือให ตันเตงนําไปมอบแกโจโฉที่เมืองฮูโตโดยใหเดินทางไปพรอมกับอองเจก อองเจกพาตันเตงและนักโทษหันอิ้นเดินทางถึงเมืองฮูโตแลว จึงพากันเขาไปพบโจโฉรายงานเหตุการณให ทราบทุกประการ โจโฉไดเปดหนังสือของลิโปที่มอบมากับตันเตงซึ่งมีเนื้อความวาลิโปขอขอบคุณโจโฉที่ สงเสริมสนับสนุน และจะตั้งหนาตั้งตาทําราชการ สนองพระเดชพระคุณสืบไป โจโฉอานหนังสือนี้แลวก็อานใจ ลิโปวาบัดนี้ไดตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุดแลว จึงสั่งใหเอาตัวหันอิ้นไปประหาร ตันเตงเห็นดังนั้นจึงแปร พักตรเขาดวยโจโฉ แลวแอบกระซิบเสนอโจโฉวาลิโปเปนคนพาลต่ําชาประดุจสัตวเดรัจฉาน เนรคุณคน คิด กบฏตอแผนดิน ทานจะเลี้ยงไวนั้นไมชอบเพราะนานไปลิโปก็จะคิดรายตอทาน โจโฉไดฟงดังนั้นก็ดีใจ และ แปลกใจไปพรอมกัน เขมนมองหนาตันเตง แลวกลาววาขาพเจาก็มีความคิดเห็นเชนเดียวกับทานและตองการ กําจัดลิโปเสียใหจงได ขอใหทานและตันกุยผูบิดาจงชวยกันคิดอานวางแผนอยูที่เมืองชีจิ๋ว เมื่อใดที่ขาพเจา ยกกองทัพไปตีเมืองชีจิ๋วแลวก็ใหชวยหาทางกําจัดลิโปเสีย ตันเตงจึงรับปากโจโฉวาจะคิดอานทําการเปนไส ศึกอยูในเมืองชีจิ๋วรวม กับตันกุยผูบิดา ขอใหโจโฉวางใจ โจโฉไดฟงดังนั้นก็มีความยินดี จึงตั้งใหตันเตงเปน เจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว และใหเพิ่มเบี้ยหวัดแกตันกุย พรอมรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง แลวใหทําหมายรับสั่งแจงใหลิโปเจาเมืองชีจิ๋วทราบเพื่อปฏิบัติตามหมายรับสั่งนั้น ตันเตงจึงลาโจโฉจะกลับเมืองชีจิ๋ว โจโฉไดตันกุย ตันเตง สอง พอลูกเปนไสศึกอยูในเมืองชีจิ๋วดังนี้ก็มีความ ยินดียิ่งนัก คิดผูกใจสองพอลูกไวอีกชั้นหนึ่ง จึงยุดเอามือตันเตงเขามากุมไวแนนแลววา "การซึ่งคิดไวทั้งนี้เรา ปลงใจไวแกทาน ทานจงคิดอานกระทําการใหสําเร็จจงได" ผูกตราสังมัดใจตันเตง แลวก็เดินออกมาสงตันเตง จนถึงประตูจวน ตันเตงประทับใจโจโฉยิ่งนัก คํานับโจโฉอีกครั้งหนึ่งแลวลากลับไปเมืองชีจิ๋ว เขาไปรายงานให ลิโปทราบ ลิโปเห็นตันเตงกลับมาก็ถามวาโจโฉวากลาวประการใดบาง ตันเตงยกเอาตราสําหรับเมืองกองเห ลงและหมายรับสั่งสงให ลิโปแลววา โจโฉไดแตงตั้งใหขาพเจาเปนเจาเมืองกองเหลง ขึ้นตอเมืองชีจิ๋ว เพิ่ม เบี้ยหวัดใหแกตันกุยผูบิดาและมอบรางวัลเปนขาวเปลือกอีกจํานวนหนึ่ง ลิโปเห็นดังนั้นก็โกรธจึงวาเราใชตัว ไปทําการแตสิ่งหนึ่งก็มิไดการ แตตัวสองพอลูกกลับไดดิบไดดี แลววาแตกอนเรากับอวนสุดจะผูกดองกัน บิดา ตัวมาหามไวแลวลวงเราใหเขากับโจโฉ ทําใหเราตองตัดขาดความสัมพันธกับอวนสุด แตมิไดสิ่งใดตอบแทน ตางกับตัวสองพอลูกไดทั้งวาสนาและยศฐาบรรดาศักดิ์ ตัวคิดคดตอเราเปนมั่นคง วาแลวก็ชักกระบี่จะฆา ตันเตง ตันเตงตกใจแตแสรงหัวเราะแลววา ขาพเจายังกลาวไมสิ้นความ ไฉนทานจึงวูวามดั่งนี้ ลิโปสงสัยจึง ถามวากระแสความอันใดยังไมสิ้น ตัวจงวามาใหแจง ตันเตงจึงลวงลิโปวา เมื่อไปหาโจโฉนั้นไดเสนอแกโจโฉ วาตัวทานอุปมาดั่งเสือ การเลี้ยงเสือจะตองเลี้ยงใหอิ่มหนําสําราญอยาใหหิวเปนอันขาด เพราะหากเสือหิวขึ้น แลวก็จักทําอันตรายตอคนเลี้ยง และจะเบียดเบียนจับเอาสัตวอื่นเปนอาหาร จึงขอใหโจโฉสนับสนุนทานใหอิ่ม ดวยอํานาจและวาสนาทั้งปวง และลวงลิโปตอไปวาครั้นโจโฉไดฟงขาพเจาแลวกลับหัวเราะ แลวกลาววา ขาพเจาสําคัญผิดเพราะตัวทานนั้นจะเปรียบกับเสือไมได เปรียบไดก็แตพญาอินทรี ที่มีสายตาอันคมกลาและมี กําลังปกอันเขมแข็ง จองคอยจับกระตายเปนอาหาร ตราบใดที่ยังจับกระตายเปน อาหารไมไดก็จะจองคอย จนกวาจะทําการสําเร็จ ครั้นจับกระตายเปนอาหารไดแลวก็จะโผผินบินไปในอากาศ ดังนั้น หากเลี้ยงดูทานใหอิ่มแลวทานก็จะไมเต็มใจทําราชการ ดังนี้การเลี้ยงพญานกอินทรีจึงเลี้ยงใหอิ่มไมได All contents copyright (c) 1999-2002 บริษัท ไทยเดย ด็อท คอม จํากัด ความตอนนี้สามกกฉบับเจาพระยาพระคลัง (หน) ไดอุปมาเพื่อใหตองกับความเขาใจของคนไทยวา "ทุกวันนี้ หากทานยังขัดสนจึงออนนอมตอ ถาทานมีกําลังขึ้นแลวก็จะเอาใจออกหางโจโฉ อุปมาเหมือนเหยี่ยวซึ่งอยาก อาหาร คอยแสวงหาลูกไกอันพลัดแม ไดทีแลวก็ฉาบลงเอา ถาเห็นยังมิไดทีก็คอยทําความเพียรคอยอยูกวา จะไดลูกไก" ความอันตันเตงกลาวทั้งนี้หาใชความคิดหรือคํากลาวของโจโฉไม หากแตเปนเรื่องที่ตันเตงเสก สรรปนแตงขึ้นวากลาวเอาเองเพื่อเอาตัวรอดจากความโกรธของลิโปที่กําลังถือกระบี่จองจะสังหารตัวเสีย แตก็
83.
โดย เรืองวิทยาคม ชุดที่
2 ตอนที่ 51-100 หนาที่ 83 ไดแลเห็นความรูและความคิดอานของตันเตงวาการใชคนนั้นจะตองจําแนกใหไดวา คนนั้นเปนเสือหรือเปน พญานกอินทรี หากเปนเสือก็ตองเลี้ยงใหอิ่มจึงจะไมทําอันตรายตอผูเลี้ยง และจะไดไมเบียดเบียนจับสัต
Download