PAT 1 (ต.ค. 52) 1
PAT 1 (ต.ค. 52)
รหัสวิชา 71 วิชา ความถนัดทางคณิตศาสตร์ (PAT 1)
วันเสาร์ที 10 ตุลาคม 2552 เวลา 13.00 - 16.00 น.
ตอนที 1 ข้อ 1 - 25 ข้อละ 6 คะแนน
1. กําหนดให้เอกภพสัมพัทธ์คือเซต {−2, −1, 1, 2} ประโยคในข้อใดต่อไปนีมีค่าความจริงเป็นเท็จ
1. ∃‫ݕ∃ݔ‬ሾ‫ݔ‬ ≤ 0 ∧ |‫|ݔ‬ = ‫ݕ‬ + 1ሿ 2. ∃‫ݕ∀ݔ‬ሾ‫ݔ‬ ≤ ‫ݕ‬ ∧ −(‫ݔ‬ + ‫)ݕ‬ ≥ 0ሿ
3. ∀‫ݕ∃ݔ‬ሾ‫ݔ‬ + ‫ݕ‬ = 0 ∨ ‫ݔ‬ − ‫ݕ‬ = 0ሿ 4. ∀‫ݕ∀ݔ‬ሾ|‫|ݔ‬ < |‫|ݕ‬ ∨ |‫|ݔ‬ > |‫|ݕ‬ሿ
2. กําหนดให้ ‫,݌‬ ‫,ݍ‬ ‫ݎ‬ เป็นประพจน์ พิจารณาข้อความต่อไปนี
ก. ถ้า ‫ݍ‬ ∧ ‫ݎ‬ มีค่าความจริงเป็นจริง แล้ว ‫݌‬ และ ‫݌‬ ∨ ሾ(‫ݍ‬ ∧ ‫)ݎ‬ ⇒ ‫݌‬ሿ มีค่าความจริงเหมือนกัน
ข. ถ้า ‫݌‬ มีค่าความจริงเป็นเท็จ แล้ว ‫ݎ‬ และ (‫݌‬ ⇒ ‫)ݍ‬ ∧ ‫ݎ‬ มีค่าความจริงเหมือนกัน
ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
2 PAT 1 (ต.ค. 52)
3. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = {0, 1, 2, {0, 1, 2}} และ ܲ(‫)ܣ‬ แทนเซตกําลังของ ‫ܣ‬ พิจารณาข้อความต่อไปนี
ก. ‫ܣ‬ ∩ ܲ(‫)ܣ‬ = {0, 1, 2}
ข. ݊൫‫ܣ‬ − ܲ(‫)ܣ‬൯ < ݊(ܲ(‫)ܣ‬ − ‫)ܣ‬
ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
4. กําหนดให้ ‫ܣ‬ เป็นเซตคําตอบของสมการ ‫ݔ‬ଷ
+ ‫ݔ‬ଶ
− 27‫ݔ‬ − 27 = 0
และ ‫ܤ‬ เป็นเซตคําตอบของสมการ ‫ݔ‬ଷ
+ ൫1 − √3൯‫ݔ‬ଶ
− ൫36 + √3൯‫ݔ‬ − 36 = 0
‫ܣ‬ ∩ ‫ܤ‬ เป็นสับเซตของช่วงในข้อใดต่อไปนี
1. ሾ−3√5, −0.9ሿ 2. ሾ−1.1, 0ሿ 3. ሾ0, 3√5ሿ 4. ሾ1, 5√3ሿ
5. กําหนดให้ ܵ = ቄ‫ݔ‬ ቚ
௫
௫మିଷ௫ାଶ
≥
௫ାଶ
௫మିଵ
ቅ ช่วงในข้อใดต่อไปนีเป็นสับเซตของ ܵ
1. (−∞, −3) 2. (−1, 0.5) 3. (−0.5, 2) 4. (1, ∞)
PAT 1 (ต.ค. 52) 3
6. กําหนดให้ ܵ = ሾ−2, 2ሿ และ ‫ݎ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ ∈ ܵ × ܵ | ‫ݔ‬ଶ
+ 2‫ݕ‬ଶ
= 2}
ช่วงในข้อใดต่อไปนีไม่เป็นสับเซตของ D௥ − R௥
1. (−1.4, −1.3) 2. (−1.3, −1.2) 3. (1.2, 1.4) 4. (1.4, 1.5)
7. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลียมทีมีด้าน AB ยาว √2 หน่วย
ถ้า BCଷ
+ ACଷ
= 2BC + 2AC แล้ว cot C มีค่าเท่ากับเท่าใด
1. ଵ
√ଷ
2. ଵ
ଶ
3. 1 4. √3
8. ถ้า ‫ݔ‬ > 0 และ 8௫
+ 8 = 4௫
+ 2௫ାଷ
แล้ว ค่าของ ‫ݔ‬ อยู่ในช่วงใดต่อไปนี
1. ሾ0, 1) 2. ሾ1, 2) 3. ሾ2, 3) 4. ሾ3, 4)
4 PAT 1 (ต.ค. 52)
9. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ | ‫ݔ‬ଶ
+ ‫ݕ‬ଶ
= 1} และ
‫ܤ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ | ‫ݔ‬ଶ
+ ‫ݕ‬ଶ
− 10‫ݔ‬ − 10‫ݕ‬ + 49 = 0}
ถ้า ‫݌‬ ∈ ‫ܣ‬ และ ‫ݍ‬ ∈ ‫ܤ‬ แล้ว ระยะทางมากสุดทีเป็นไปได้ระหว่างจุด ‫݌‬ และ ‫ݍ‬ เท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. 5√2 หน่วย 2. 2 + 5√2 หน่วย 3. 2√5 หน่วย 4. 5 + 2√5 หน่วย
10. กําหนดให้ ‫ܧ‬ เป็นวงรีทีมีโฟกัสอยู่ทีจุดยอดของไฮเพอร์โบลา ‫ݔ‬ଶ
− ‫ݕ‬ଶ
= 1
ถ้า ‫ܧ‬ ผ่านจุด (0, 1) แล้ว จุดในข้อใดต่อไปนีอยู่บน ‫ܧ‬
1. (1, −
√ଶ
ଶ
) 2. (1, √2) 3. (1, −
ଵ
ଶ
) 4. (1,
√ଷ
ଶ
)
11. กําหนดให้ ܺ = ቈ
‫ݔ‬
‫ݕ‬
‫ݖ‬
቉ สอดคล้องกับสมการ ‫ܺܣ‬ = ‫ܥ‬ เมือ
‫ܣ‬ = ൥
1 2 1
−2 0 1
0 1 2
൩ , ‫ܤ‬ = ൥
1 −1 0
2 0 −1
1 4 0
൩ และ ‫ܥ‬ = ൥
2
−2
3
൩
ถ้า (2‫ܣ‬ + ‫ܺ)ܤ‬ = ቈ
ܽ
ܾ
ܿ
቉ แล้ว ܽ + ܾ + ܿ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. 3 2. 6 3. 9 4. 12
PAT 1 (ต.ค. 52) 5
12. ถ้า det ቌ2 ൥
0 ‫ݔ‬ 0
0 2 2
3 1 5
൩
ିଵ
ቍ =
ଵ
௫ିଵ
แล้ว ‫ݔ‬ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4
13. กําหนดให้ ‫ݑ‬ത และ ‫̅ݒ‬ เป็นเวกเตอร์ทีไม่เท่ากับเวกเตอร์ศูนย์ซึง ‫ݑ‬ത ตังฉากกับ ‫̅ݒ‬ และ ‫ݑ‬ത + ‫̅ݒ‬ ตังฉากกับ ‫ݑ‬ത − ‫̅ݒ‬
พิจารณาข้อความต่อไปนี
ก. |‫ݑ‬ത| = |‫̅ݒ‬|
ข. ‫ݑ‬ത + 2‫̅ݒ‬ ตังฉากกับ 2‫ݑ‬ത − ‫̅ݒ‬
ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
14. พิจารณาข้อความต่อไปนี
ก. ถ้า ลําดับ ܽ௡ ลู่เข้า แล้ว อนุกรม ∑
∞
=1n
ܽ௡ ลู่เข้า
ข. ถ้า อนุกรม ∑
∞
=1n
ܽ௡ ลู่เข้า แล้ว อนุกรม ∑
∞
=1n
ቀ1 +
௔೙
ଶ೙ቁ ลู่เข้า
ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
6 PAT 1 (ต.ค. 52)
15. กําหนดให้ ‫ݖ‬ เป็นจํานวนเชิงซ้อนทีสอดคล้องกับ ‫ݖ‬ଷ
− 2‫ݖ‬ଶ
+ 2‫ݖ‬ = 0 และ ‫ݖ‬ ≠ 0
ถ้า อาร์กิวเมนต์ของ ‫ݖ‬ อยู่ในช่วง (0,
గ
ଶ
) แล้ว ௭ర
(௭̅)మ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. −2i 2. 1 − i 3. 1 + i 4. 2i
16. ถุงใบหนึงบรรจุลูกแก้วสีแดง 5 ลูก สีเขียว 4 ลูก และสีเหลือง 3 ลูก ถ้า หยิบลูกแก้วจากถุงทีละลูก 3 ครังโดยไม่ใส่
คืน แล้วความน่าจะเป็นทีจะหยิบได้ลูกแก้ว ลูกทีหนึง สอง และสาม เป็นสีแดง สีเขียว และสีเหลือง ตามลําดับเท่ากับ
ข้อใดต่อไปนี
1. ଵ
ଶଵ
2. ଵ
ଶଶ
3. ଷ
ଶଶ
4. ଷ
ଶହ
17. กล่องใบหนึงบรรจุหลอดไฟ 12 หลอด เป็นหลอดชํารุด 3 หลอด ถ้าหยิบหลอดไฟ จากกล่องมา 4 หลอด แล้ว ความ
น่าจะเป็นทีจะได้หลอดชํารุดไม่เกิน 1 หลอด เท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. ଵ
ଷ
2. ଵ
ସ
3. ଵସ
ଽଽ
4. ଵସ
ହହ
PAT 1 (ต.ค. 52) 7
18. ในการโยนลูกเต๋า 2 ลูกหนึงครัง ความน่าจะเป็นทีจะได้แต้มรวมเป็น 7 โดยทีมีลูกเต๋าลูกหนึงขึนแต้มไม่น้อยกว่า 4
เท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. ଵ
ଷ
2. ଵ
ସ
3. ଵ
଺
4. ଵ
ଵଶ
19. กําหนดให้ความสูงของคนกลุ่มหนึงมีการแจกแจงแบบปกติ ถ้ามีคนสูงกว่า 145 เซนติเมตรและ 165 เซนติเมตรอยู่
84.13% และ 15.87% ตามลําดับ แล้ว สัมประสิทธิของความแปรผันของความสูงของคนกลุ่มนีเท่ากับข้อใด
ต่อไปนี
‫ݖ‬ 1.00 1.12 1.14 1.16
พืนทีใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐานจาก 0 ถึง ‫ݖ‬ 0.3413 0.3686 0.3729 0.3770
1. ଵ
ଷଵ
2. ଶ
ଷଵ
3. ଷ
ଷଵ
4. ସ
ଷଵ
20. กําหนดให้ข้อมูลชุดหนึงมีการแจกแจงปกติ หยิบข้อมูล ‫ݔ‬ଵ , ‫ݔ‬ଶ , ‫ݔ‬ଷ มาคํานวณค่ามาตรฐานปรากฏว่าได้ค่าเป็น
‫ݖ‬ଵ , ‫ݖ‬ଶ , ‫ݖ‬ଷ ตามลําดับ ถ้า ‫ݖ‬ଵ + ‫ݖ‬ଶ = ‫ݖ‬ଷ แล้ว ค่าเฉลียเลขคณิตของข้อมูลชุดนีเท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. ‫ݔ‬ଵ + ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଷ 2. ‫ݔ‬ଵ − ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଷ
3. ‫ݔ‬ଷ − ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଵ 4. ‫ݔ‬ଵ + ‫ݔ‬ଶ + ‫ݔ‬ଷ
8 PAT 1 (ต.ค. 52)
21. กําหนดให้ ‫ܣ‬ เป็นเซตซึงสอดคล้องกับเงือนไขต่อไปนี
ก. 1 ∈ ‫ܣ‬
ข. ถ้า ‫ݔ‬ ∈ ‫ܣ‬ แล้ว ଵ
௫
∈ ‫ܣ‬
ค. ‫ݔ‬ ∉ ‫ܣ‬ ก็ต่อเมือ 2‫ݔ‬ ∈ ‫ܣ‬
จํานวนในข้อใดต่อไปนีเป็นสมาชิกของ ‫ܣ‬
1. ଵ
ଶ
2. ଵ
଼
3. ଵ
ଵ଺
4. ଵ
ଷଶ
22. ถ้า ߠ เป็นมุมซึง 0° ≤ ߠ ≤ 180° แล้ว จากเวลาเทียงวันถึงบ่ายโมง เข็มยาวและเข็มสันของนาฬิกาจะทํามุมกัน
เท่ากับ ߠ เป็นครังแรกเมือเวลาผ่านไปกีนาที
1. ଶఏ
ଵଷ
นาที 2. ଶఏ
ଵଵ
นาที 3. ଶఏ
ଽ
นาที 4. ଶఏ
଻
นาที
23. กําหนดให้ ‫ܫ‬௡ = (0, 1) ∩ (
ଵ
ଶ
, 2) ∩ (
ଶ
ଷ
, 3) ∩ … ∩ (
௡ିଵ
௡
, ݊) เมือ ݊ เป็นจํานวนนับ
ค่าของ ݊ ทีน้อยทีสุดทีทําให้ ‫ܫ‬௡ ⊆ (
ଶହହଵ
ଶହହସ
,
ଶହହଷ
ଶହହଶ
ሿ เท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. 2554 2. 2552 3. 1277 4. 1276
PAT 1 (ต.ค. 52) 9
โจทย์สําหรับข้อ 24 - 25
นาย ก, ข, ค, ง, จ และ ฉ นังเก้าอี 6 ตัวทีมีหมายเลข 1 ถึง 6 เรียงแถวหน้ากระดานจากซ้ายไปขวา โดยมีเงือนไข
ดังต่อไปนี
- นาย ค นังเก้าอีหมายเลข 1 หรือ 6
- นาย จ ไม่นังติดนาย ค
- นาย จ ไม่นังติดนาย ข
- นาย ฉ นังติดด้านซ้ายของนาย จ
24. ถ้า นาย ค นังเก้าอีหมายเลข 1 และนาย ข นังเก้าอีหมายเลข 5 แล้ว ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง
1. นาย ก นังเก้าอีหมายเลข 4 2. นาย ก นังเก้าอีหมายเลข 6
3. นาย ฉ นังเก้าอีหมายเลข 2 4. นาย ง นังเก้าอีหมายเลข 6
25. ถ้ากําหนดเงือนไขเพิมเติมให้มีคนนังคันกลางระหว่างนาย ข และ ค อยู่ 3 คน แล้ว จํานวนวิธีของการนังทังหมด
เท่ากับข้อใดต่อไปนี
1. 1 วิธี 2. 2 วิธี 3. 3 วิธี 4. 4 วิธี
10 PAT 1 (ต.ค. 52)
ตอนที 2 ข้อ 1 - 25 ข้อละ 6 คะแนน
1. กําหนดเซตและจํานวนสมาชิกของเซตตามตารางต่อไปนี
เซต ‫ܣ‬ ‫ܤ‬ ‫ܥ‬ ‫ܣ‬ ∪ ‫ܤ‬ ‫ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬ ‫ܣ‬ ∪ ‫ܥ‬ (‫ܣ‬ ∩ ‫)ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬
จํานวนสมาชิก 15 17 22 23 29 32 28
จํานวนสมาชิกในเซต ‫ܣ‬ ∪ ‫ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬ เท่ากับเท่าใด
2. ถ้า ܽ เป็น ห.ร.ม. ของ 403 และ 465 และ ܾ เป็น ห.ร.ม. ของ 431 และ 465 แล้ว ܽ − ܾ มีค่าเท่าใด
3. ถ้า ݂(‫)ݔ‬ =
ଵ
௫
และ ݃(‫)ݔ‬ = 2݂(‫)ݔ‬ แล้ว ݃ ∘ ݂(3) + ݂ ∘ ݃ିଵ(3) มีค่าเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 52) 11
4. ถ้า ݂(‫)ݔ‬ = √‫ݔ‬
య
และ ݃(‫)ݔ‬ =
௫
ଵା௫
แล้ว (݂ିଵ
+ ݃ିଵ)(2) มีค่าเท่าใด
5. ถ้า 1 − cot 20° =
௫
ଵିୡ୭୲ଶହ°
แล้ว ‫ݔ‬ มีค่าเท่าใด
6. ถ้า (sinߠ + cos ߠ)ଶ
=
ଷ
ଶ
เมือ 0 ≤ ߠ ≤
గ
ସ
แล้ว arccos(tan 3ߠ) มีค่าเท่าใด
12 PAT 1 (ต.ค. 52)
7. ให้ ܽ, ܾ และ ܿ เป็นจํานวนจริง ถ้าวงกลม ‫ݔ‬ଶ
+ ‫ݕ‬ଶ
+ ܽ‫ݔ‬ + ܾ‫ݕ‬ + ܿ = 0 มีจุดศูนย์กลางที (2, 1) และมี
เส้นตรง ‫ݔ‬ − ‫ݕ‬ + 2 = 0 เป็นเส้นสัมผัสวงกลม แล้ว |ܽ + ܾ + ܿ| เท่ากับเท่าใด
8. พาราโบลามีจุดยอดที (−1, 0) และมีจุดกําเนิดเป็นโฟกัส ถ้าเส้นตรง ‫ݕ‬ = ‫ݔ‬ ตัดพาราโบลาทีจุด P และจุด Q แล้ว
ระยะทางระหว่างจุด P กับจุด Q เท่ากับเท่าใด
9. กําหนด log௬ ‫ݔ‬ + 4 log௫ ‫ݕ‬ = 4 แล้ว log௬ ‫ݔ‬ଷ
มีค่าเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 52) 13
10. รากทีมีค่าน้อยทีสุดของสมการ 2୪୭୥(௫ିଶ)
∙ 2୪୭୥(௫ିଷ)
= 2୪୭୥ ଶ
มีค่าเท่าใด
11. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = ൥
1 2 4
−3 8 0
1 2 −1
൩ สมาชิกในแถวที 3 หลักที 1 ของ ‫ܣ‬ିଵ
เท่ากับเท่าใด
12. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลียมทีมี D เป็นจุดบนด้าน AC และ F เป็นจุดบนด้าน BC ถ้า ADሬሬሬሬሬԦ =
ଵ
ସ
ACሬሬሬሬሬԦ ,
BFሬሬሬሬԦ =
ଵ
ଷ
BCሬሬሬሬሬԦ และ DFሬሬሬሬሬԦ = ܽABሬሬሬሬሬԦ + ܾBCሬሬሬሬሬԦ แล้ว ௔
௕
มีค่าเท่าใด
14 PAT 1 (ต.ค. 52)
13. กําหนดให้ ‫,ݓ‬ ‫ݖ‬ เป็นจํานวนเชิงซ้อนซึง ‫ݓ‬ഥ = ‫ݖ‬ − 2i และ |‫|ݓ‬ଶ
= ‫ݖ‬ + 6
ถ้าอาร์กิวเมนต์ของ ‫ݓ‬ อยู่ในช่วง ሾ0,
గ
ଶ
ሿ และ ‫ݓ‬ = ܽ + ܾi เมือ ܽ, ܾ เป็นจํานวนจริง แล้ว ܽ + ܾ มีค่าเท่าใด
14. กําหนดให้ ܽ และ ܾ เป็นจํานวนจริงบวกซึง ܽ < ܾ
ถ้าค่ามากสุดและค่าน้อยสุดของ ܲ = 2‫ݔ‬ + ‫ݕ‬ เมือ ‫,ݔ‬ ‫ݕ‬ เป็นไปตามเงือนไข ܽ ≤ ‫ݔ‬ + 2‫ݕ‬ ≤ ܾ , ‫ݔ‬ ≥ 0 และ
‫ݕ‬ ≥ 0 มีค่าเท่ากับ 100 และ 10 ตามลําดับ แล้ว ܽ + ܾ มีค่าเท่าใด
15. ถ้า ܽ௡ เป็นลําดับเลขคณิตซึง
∞→n
lim ቀ
௔೙శభ
మ ି௔೙
మ
௡
ቁ = 4 แล้ว ට
௔భళି௔వ
ଶ
มีค่าเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 52) 15
16.
∞→n
lim ቀ
ଷ௡ାଵଶ௡ାଶ଻௡ା … ାଷ௡య
ଵା଼ାଶ଻ା … ା௡య ቁ มีค่าเท่าใด
17. ถ้า ݂ᇱ(‫)ݔ‬ = ‫ݔ‬ଶ
− 1 และ
1
0
∫ ݂(‫)ݔ‬ ݀‫ݔ‬ = 0 แล้ว |݂(1)| มีค่าเท่ากับเท่าใด
18. กําหนดให้ ݂(‫)ݔ‬ = ܽ‫ݔ‬ଶ
+ ܾ√‫ݔ‬ เมือ ܽ และ ܾ เป็นจํานวนจริงที ܾ ≠ 0
ถ้า 2݂ᇱ(1) = ݂(1) แล้ว ௙(ସ)
௙ᇲ(ଽ)
มีค่าเท่าใด
16 PAT 1 (ต.ค. 52)
19. กําหนดให้ ‫ݕ‬ = ݂(‫)ݔ‬ เป็นฟังก์ชันซึงมีค่าสูงสุดที ‫ݔ‬ = 1
ถ้า ݂ᇱᇱ(‫)ݔ‬ = −4 ทุก ‫ݔ‬ และ ݂(−1) + ݂(3) = 0 แล้ว ݂ มีค่าสูงสุดเท่าใด
20. มีสิงของซึงแตกต่างกันอยู่ 8 ชิน ต้องแบ่งให้คน 2 คน คนหนึงได้ 6 ชิน
และอีกคนหนึงได้ 2 ชิน จะมีจํานวนวิธีแบ่งกีวิธี
21. ในการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลหนึง มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 7 ทีม จัดแข่งแบบพบกันหมด (แต่ละทีมต้องลงแข่งกับทีม
อืนทุกทีม) จะต้องจัดการแข่งขันกีนัด
PAT 1 (ต.ค. 52) 17
22. ข้อมูลชุดหนึงเรียงจากน้อยไปมากเป็นดังนี 1 , 4 , ‫ݔ‬ , ‫ݕ‬ , 9 , 10
ถ้ามัธยฐานของข้อมูลชุดนีเท่ากับค่าเฉลียเลขคณิต และส่วนเบียงเบนเฉลียของข้อมูลชุดนีเท่ากับ ଼
ଷ
แล้ว ‫ݕ‬ − ‫ݔ‬ มีค่าเท่าใด
23. ข้อมูลชุดหนึงมี 5 จํานวนและมีค่าเฉลียเลขคณิตเท่ากับ 12
ถ้าควอไทล์ที 1 และ 3 ของข้อมูลชุดนีมีค่าเท่ากับ 5 และ 20 ตามลําดับ แล้ว เดไซล์ที 5 ของข้อมูลชุดนีมีค่าเท่าใด
18 PAT 1 (ต.ค. 52)
24. กําหนดตารางแจกแจงความถีแสดงอายุของคนในหมู่บ้านแห่งหนึง เป็นดังนี
อายุ (ปี) 0-9 10-19 20-29 30-39 40-49 50-59
จํานวน (คน) 5 10 ‫ܣ‬ 20 10 10
ถ้าอายุเฉลียของคนในหมู่บ้านนีเท่ากับ 33.33 ปี แล้ว จํานวนคนในหมู่บ้านนีเท่ากับเท่าใด
25. กําหนดให้ข้อมูล ܺ และ ܻ มีความสัมพันธ์กันดังตารางต่อไปนี
ܺ 1 2 3 3
ܻ 1 3 4 6
ถ้าสมการปกติของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันดังกล่าวอยู่ในรูป ܻ = ܽ + ܾܺ
แล้วเมือ ܺ = 10 ค่าของ ܻ เท่ากับเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 52) 19
เฉลย
1. 4 11. 3 21. 3 6. 0 16. 4
2. 1 12. 4 22. 2 7. 5.5 17. 0.25
3. 3 13. 1 23. (852) 8. 8 18. 12
4. 1 14. 4 24. 3 9. 6 19. 8
5. 2 15. 1 25. 4 10. 4 20. 56
6. 4 16. 2 1. 33 11. 0.2 21. 21
7. 1 17. (42/55) 2. 30 12. 9 22. 2
8. 2 18. 3 3. 7.5 13. 4 23. 10
9. 2 19. 2 4. 6 14. 70 24. -
10. 1 20. 1 5. 2 15. (√32
ర
) 25. 19

Pat15210

  • 1.
    PAT 1 (ต.ค.52) 1 PAT 1 (ต.ค. 52) รหัสวิชา 71 วิชา ความถนัดทางคณิตศาสตร์ (PAT 1) วันเสาร์ที 10 ตุลาคม 2552 เวลา 13.00 - 16.00 น. ตอนที 1 ข้อ 1 - 25 ข้อละ 6 คะแนน 1. กําหนดให้เอกภพสัมพัทธ์คือเซต {−2, −1, 1, 2} ประโยคในข้อใดต่อไปนีมีค่าความจริงเป็นเท็จ 1. ∃‫ݕ∃ݔ‬ሾ‫ݔ‬ ≤ 0 ∧ |‫|ݔ‬ = ‫ݕ‬ + 1ሿ 2. ∃‫ݕ∀ݔ‬ሾ‫ݔ‬ ≤ ‫ݕ‬ ∧ −(‫ݔ‬ + ‫)ݕ‬ ≥ 0ሿ 3. ∀‫ݕ∃ݔ‬ሾ‫ݔ‬ + ‫ݕ‬ = 0 ∨ ‫ݔ‬ − ‫ݕ‬ = 0ሿ 4. ∀‫ݕ∀ݔ‬ሾ|‫|ݔ‬ < |‫|ݕ‬ ∨ |‫|ݔ‬ > |‫|ݕ‬ሿ 2. กําหนดให้ ‫,݌‬ ‫,ݍ‬ ‫ݎ‬ เป็นประพจน์ พิจารณาข้อความต่อไปนี ก. ถ้า ‫ݍ‬ ∧ ‫ݎ‬ มีค่าความจริงเป็นจริง แล้ว ‫݌‬ และ ‫݌‬ ∨ ሾ(‫ݍ‬ ∧ ‫)ݎ‬ ⇒ ‫݌‬ሿ มีค่าความจริงเหมือนกัน ข. ถ้า ‫݌‬ มีค่าความจริงเป็นเท็จ แล้ว ‫ݎ‬ และ (‫݌‬ ⇒ ‫)ݍ‬ ∧ ‫ݎ‬ มีค่าความจริงเหมือนกัน ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง 1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด 3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
  • 2.
    2 PAT 1(ต.ค. 52) 3. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = {0, 1, 2, {0, 1, 2}} และ ܲ(‫)ܣ‬ แทนเซตกําลังของ ‫ܣ‬ พิจารณาข้อความต่อไปนี ก. ‫ܣ‬ ∩ ܲ(‫)ܣ‬ = {0, 1, 2} ข. ݊൫‫ܣ‬ − ܲ(‫)ܣ‬൯ < ݊(ܲ(‫)ܣ‬ − ‫)ܣ‬ ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง 1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด 3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด 4. กําหนดให้ ‫ܣ‬ เป็นเซตคําตอบของสมการ ‫ݔ‬ଷ + ‫ݔ‬ଶ − 27‫ݔ‬ − 27 = 0 และ ‫ܤ‬ เป็นเซตคําตอบของสมการ ‫ݔ‬ଷ + ൫1 − √3൯‫ݔ‬ଶ − ൫36 + √3൯‫ݔ‬ − 36 = 0 ‫ܣ‬ ∩ ‫ܤ‬ เป็นสับเซตของช่วงในข้อใดต่อไปนี 1. ሾ−3√5, −0.9ሿ 2. ሾ−1.1, 0ሿ 3. ሾ0, 3√5ሿ 4. ሾ1, 5√3ሿ 5. กําหนดให้ ܵ = ቄ‫ݔ‬ ቚ ௫ ௫మିଷ௫ାଶ ≥ ௫ାଶ ௫మିଵ ቅ ช่วงในข้อใดต่อไปนีเป็นสับเซตของ ܵ 1. (−∞, −3) 2. (−1, 0.5) 3. (−0.5, 2) 4. (1, ∞)
  • 3.
    PAT 1 (ต.ค.52) 3 6. กําหนดให้ ܵ = ሾ−2, 2ሿ และ ‫ݎ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ ∈ ܵ × ܵ | ‫ݔ‬ଶ + 2‫ݕ‬ଶ = 2} ช่วงในข้อใดต่อไปนีไม่เป็นสับเซตของ D௥ − R௥ 1. (−1.4, −1.3) 2. (−1.3, −1.2) 3. (1.2, 1.4) 4. (1.4, 1.5) 7. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลียมทีมีด้าน AB ยาว √2 หน่วย ถ้า BCଷ + ACଷ = 2BC + 2AC แล้ว cot C มีค่าเท่ากับเท่าใด 1. ଵ √ଷ 2. ଵ ଶ 3. 1 4. √3 8. ถ้า ‫ݔ‬ > 0 และ 8௫ + 8 = 4௫ + 2௫ାଷ แล้ว ค่าของ ‫ݔ‬ อยู่ในช่วงใดต่อไปนี 1. ሾ0, 1) 2. ሾ1, 2) 3. ሾ2, 3) 4. ሾ3, 4)
  • 4.
    4 PAT 1(ต.ค. 52) 9. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ | ‫ݔ‬ଶ + ‫ݕ‬ଶ = 1} และ ‫ܤ‬ = {(‫,ݔ‬ ‫)ݕ‬ | ‫ݔ‬ଶ + ‫ݕ‬ଶ − 10‫ݔ‬ − 10‫ݕ‬ + 49 = 0} ถ้า ‫݌‬ ∈ ‫ܣ‬ และ ‫ݍ‬ ∈ ‫ܤ‬ แล้ว ระยะทางมากสุดทีเป็นไปได้ระหว่างจุด ‫݌‬ และ ‫ݍ‬ เท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. 5√2 หน่วย 2. 2 + 5√2 หน่วย 3. 2√5 หน่วย 4. 5 + 2√5 หน่วย 10. กําหนดให้ ‫ܧ‬ เป็นวงรีทีมีโฟกัสอยู่ทีจุดยอดของไฮเพอร์โบลา ‫ݔ‬ଶ − ‫ݕ‬ଶ = 1 ถ้า ‫ܧ‬ ผ่านจุด (0, 1) แล้ว จุดในข้อใดต่อไปนีอยู่บน ‫ܧ‬ 1. (1, − √ଶ ଶ ) 2. (1, √2) 3. (1, − ଵ ଶ ) 4. (1, √ଷ ଶ ) 11. กําหนดให้ ܺ = ቈ ‫ݔ‬ ‫ݕ‬ ‫ݖ‬ ቉ สอดคล้องกับสมการ ‫ܺܣ‬ = ‫ܥ‬ เมือ ‫ܣ‬ = ൥ 1 2 1 −2 0 1 0 1 2 ൩ , ‫ܤ‬ = ൥ 1 −1 0 2 0 −1 1 4 0 ൩ และ ‫ܥ‬ = ൥ 2 −2 3 ൩ ถ้า (2‫ܣ‬ + ‫ܺ)ܤ‬ = ቈ ܽ ܾ ܿ ቉ แล้ว ܽ + ܾ + ܿ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. 3 2. 6 3. 9 4. 12
  • 5.
    PAT 1 (ต.ค.52) 5 12. ถ้า det ቌ2 ൥ 0 ‫ݔ‬ 0 0 2 2 3 1 5 ൩ ିଵ ቍ = ଵ ௫ିଵ แล้ว ‫ݔ‬ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. 1 2. 2 3. 3 4. 4 13. กําหนดให้ ‫ݑ‬ത และ ‫̅ݒ‬ เป็นเวกเตอร์ทีไม่เท่ากับเวกเตอร์ศูนย์ซึง ‫ݑ‬ത ตังฉากกับ ‫̅ݒ‬ และ ‫ݑ‬ത + ‫̅ݒ‬ ตังฉากกับ ‫ݑ‬ത − ‫̅ݒ‬ พิจารณาข้อความต่อไปนี ก. |‫ݑ‬ത| = |‫̅ݒ‬| ข. ‫ݑ‬ത + 2‫̅ݒ‬ ตังฉากกับ 2‫ݑ‬ത − ‫̅ݒ‬ ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง 1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด 3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด 14. พิจารณาข้อความต่อไปนี ก. ถ้า ลําดับ ܽ௡ ลู่เข้า แล้ว อนุกรม ∑ ∞ =1n ܽ௡ ลู่เข้า ข. ถ้า อนุกรม ∑ ∞ =1n ܽ௡ ลู่เข้า แล้ว อนุกรม ∑ ∞ =1n ቀ1 + ௔೙ ଶ೙ቁ ลู่เข้า ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง 1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด 3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
  • 6.
    6 PAT 1(ต.ค. 52) 15. กําหนดให้ ‫ݖ‬ เป็นจํานวนเชิงซ้อนทีสอดคล้องกับ ‫ݖ‬ଷ − 2‫ݖ‬ଶ + 2‫ݖ‬ = 0 และ ‫ݖ‬ ≠ 0 ถ้า อาร์กิวเมนต์ของ ‫ݖ‬ อยู่ในช่วง (0, గ ଶ ) แล้ว ௭ర (௭̅)మ มีค่าเท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. −2i 2. 1 − i 3. 1 + i 4. 2i 16. ถุงใบหนึงบรรจุลูกแก้วสีแดง 5 ลูก สีเขียว 4 ลูก และสีเหลือง 3 ลูก ถ้า หยิบลูกแก้วจากถุงทีละลูก 3 ครังโดยไม่ใส่ คืน แล้วความน่าจะเป็นทีจะหยิบได้ลูกแก้ว ลูกทีหนึง สอง และสาม เป็นสีแดง สีเขียว และสีเหลือง ตามลําดับเท่ากับ ข้อใดต่อไปนี 1. ଵ ଶଵ 2. ଵ ଶଶ 3. ଷ ଶଶ 4. ଷ ଶହ 17. กล่องใบหนึงบรรจุหลอดไฟ 12 หลอด เป็นหลอดชํารุด 3 หลอด ถ้าหยิบหลอดไฟ จากกล่องมา 4 หลอด แล้ว ความ น่าจะเป็นทีจะได้หลอดชํารุดไม่เกิน 1 หลอด เท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. ଵ ଷ 2. ଵ ସ 3. ଵସ ଽଽ 4. ଵସ ହହ
  • 7.
    PAT 1 (ต.ค.52) 7 18. ในการโยนลูกเต๋า 2 ลูกหนึงครัง ความน่าจะเป็นทีจะได้แต้มรวมเป็น 7 โดยทีมีลูกเต๋าลูกหนึงขึนแต้มไม่น้อยกว่า 4 เท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. ଵ ଷ 2. ଵ ସ 3. ଵ ଺ 4. ଵ ଵଶ 19. กําหนดให้ความสูงของคนกลุ่มหนึงมีการแจกแจงแบบปกติ ถ้ามีคนสูงกว่า 145 เซนติเมตรและ 165 เซนติเมตรอยู่ 84.13% และ 15.87% ตามลําดับ แล้ว สัมประสิทธิของความแปรผันของความสูงของคนกลุ่มนีเท่ากับข้อใด ต่อไปนี ‫ݖ‬ 1.00 1.12 1.14 1.16 พืนทีใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐานจาก 0 ถึง ‫ݖ‬ 0.3413 0.3686 0.3729 0.3770 1. ଵ ଷଵ 2. ଶ ଷଵ 3. ଷ ଷଵ 4. ସ ଷଵ 20. กําหนดให้ข้อมูลชุดหนึงมีการแจกแจงปกติ หยิบข้อมูล ‫ݔ‬ଵ , ‫ݔ‬ଶ , ‫ݔ‬ଷ มาคํานวณค่ามาตรฐานปรากฏว่าได้ค่าเป็น ‫ݖ‬ଵ , ‫ݖ‬ଶ , ‫ݖ‬ଷ ตามลําดับ ถ้า ‫ݖ‬ଵ + ‫ݖ‬ଶ = ‫ݖ‬ଷ แล้ว ค่าเฉลียเลขคณิตของข้อมูลชุดนีเท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. ‫ݔ‬ଵ + ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଷ 2. ‫ݔ‬ଵ − ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଷ 3. ‫ݔ‬ଷ − ‫ݔ‬ଶ − ‫ݔ‬ଵ 4. ‫ݔ‬ଵ + ‫ݔ‬ଶ + ‫ݔ‬ଷ
  • 8.
    8 PAT 1(ต.ค. 52) 21. กําหนดให้ ‫ܣ‬ เป็นเซตซึงสอดคล้องกับเงือนไขต่อไปนี ก. 1 ∈ ‫ܣ‬ ข. ถ้า ‫ݔ‬ ∈ ‫ܣ‬ แล้ว ଵ ௫ ∈ ‫ܣ‬ ค. ‫ݔ‬ ∉ ‫ܣ‬ ก็ต่อเมือ 2‫ݔ‬ ∈ ‫ܣ‬ จํานวนในข้อใดต่อไปนีเป็นสมาชิกของ ‫ܣ‬ 1. ଵ ଶ 2. ଵ ଼ 3. ଵ ଵ଺ 4. ଵ ଷଶ 22. ถ้า ߠ เป็นมุมซึง 0° ≤ ߠ ≤ 180° แล้ว จากเวลาเทียงวันถึงบ่ายโมง เข็มยาวและเข็มสันของนาฬิกาจะทํามุมกัน เท่ากับ ߠ เป็นครังแรกเมือเวลาผ่านไปกีนาที 1. ଶఏ ଵଷ นาที 2. ଶఏ ଵଵ นาที 3. ଶఏ ଽ นาที 4. ଶఏ ଻ นาที 23. กําหนดให้ ‫ܫ‬௡ = (0, 1) ∩ ( ଵ ଶ , 2) ∩ ( ଶ ଷ , 3) ∩ … ∩ ( ௡ିଵ ௡ , ݊) เมือ ݊ เป็นจํานวนนับ ค่าของ ݊ ทีน้อยทีสุดทีทําให้ ‫ܫ‬௡ ⊆ ( ଶହହଵ ଶହହସ , ଶହହଷ ଶହହଶ ሿ เท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. 2554 2. 2552 3. 1277 4. 1276
  • 9.
    PAT 1 (ต.ค.52) 9 โจทย์สําหรับข้อ 24 - 25 นาย ก, ข, ค, ง, จ และ ฉ นังเก้าอี 6 ตัวทีมีหมายเลข 1 ถึง 6 เรียงแถวหน้ากระดานจากซ้ายไปขวา โดยมีเงือนไข ดังต่อไปนี - นาย ค นังเก้าอีหมายเลข 1 หรือ 6 - นาย จ ไม่นังติดนาย ค - นาย จ ไม่นังติดนาย ข - นาย ฉ นังติดด้านซ้ายของนาย จ 24. ถ้า นาย ค นังเก้าอีหมายเลข 1 และนาย ข นังเก้าอีหมายเลข 5 แล้ว ข้อใดต่อไปนีเป็นจริง 1. นาย ก นังเก้าอีหมายเลข 4 2. นาย ก นังเก้าอีหมายเลข 6 3. นาย ฉ นังเก้าอีหมายเลข 2 4. นาย ง นังเก้าอีหมายเลข 6 25. ถ้ากําหนดเงือนไขเพิมเติมให้มีคนนังคันกลางระหว่างนาย ข และ ค อยู่ 3 คน แล้ว จํานวนวิธีของการนังทังหมด เท่ากับข้อใดต่อไปนี 1. 1 วิธี 2. 2 วิธี 3. 3 วิธี 4. 4 วิธี
  • 10.
    10 PAT 1(ต.ค. 52) ตอนที 2 ข้อ 1 - 25 ข้อละ 6 คะแนน 1. กําหนดเซตและจํานวนสมาชิกของเซตตามตารางต่อไปนี เซต ‫ܣ‬ ‫ܤ‬ ‫ܥ‬ ‫ܣ‬ ∪ ‫ܤ‬ ‫ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬ ‫ܣ‬ ∪ ‫ܥ‬ (‫ܣ‬ ∩ ‫)ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬ จํานวนสมาชิก 15 17 22 23 29 32 28 จํานวนสมาชิกในเซต ‫ܣ‬ ∪ ‫ܤ‬ ∪ ‫ܥ‬ เท่ากับเท่าใด 2. ถ้า ܽ เป็น ห.ร.ม. ของ 403 และ 465 และ ܾ เป็น ห.ร.ม. ของ 431 และ 465 แล้ว ܽ − ܾ มีค่าเท่าใด 3. ถ้า ݂(‫)ݔ‬ = ଵ ௫ และ ݃(‫)ݔ‬ = 2݂(‫)ݔ‬ แล้ว ݃ ∘ ݂(3) + ݂ ∘ ݃ିଵ(3) มีค่าเท่าใด
  • 11.
    PAT 1 (ต.ค.52) 11 4. ถ้า ݂(‫)ݔ‬ = √‫ݔ‬ య และ ݃(‫)ݔ‬ = ௫ ଵା௫ แล้ว (݂ିଵ + ݃ିଵ)(2) มีค่าเท่าใด 5. ถ้า 1 − cot 20° = ௫ ଵିୡ୭୲ଶହ° แล้ว ‫ݔ‬ มีค่าเท่าใด 6. ถ้า (sinߠ + cos ߠ)ଶ = ଷ ଶ เมือ 0 ≤ ߠ ≤ గ ସ แล้ว arccos(tan 3ߠ) มีค่าเท่าใด
  • 12.
    12 PAT 1(ต.ค. 52) 7. ให้ ܽ, ܾ และ ܿ เป็นจํานวนจริง ถ้าวงกลม ‫ݔ‬ଶ + ‫ݕ‬ଶ + ܽ‫ݔ‬ + ܾ‫ݕ‬ + ܿ = 0 มีจุดศูนย์กลางที (2, 1) และมี เส้นตรง ‫ݔ‬ − ‫ݕ‬ + 2 = 0 เป็นเส้นสัมผัสวงกลม แล้ว |ܽ + ܾ + ܿ| เท่ากับเท่าใด 8. พาราโบลามีจุดยอดที (−1, 0) และมีจุดกําเนิดเป็นโฟกัส ถ้าเส้นตรง ‫ݕ‬ = ‫ݔ‬ ตัดพาราโบลาทีจุด P และจุด Q แล้ว ระยะทางระหว่างจุด P กับจุด Q เท่ากับเท่าใด 9. กําหนด log௬ ‫ݔ‬ + 4 log௫ ‫ݕ‬ = 4 แล้ว log௬ ‫ݔ‬ଷ มีค่าเท่าใด
  • 13.
    PAT 1 (ต.ค.52) 13 10. รากทีมีค่าน้อยทีสุดของสมการ 2୪୭୥(௫ିଶ) ∙ 2୪୭୥(௫ିଷ) = 2୪୭୥ ଶ มีค่าเท่าใด 11. กําหนดให้ ‫ܣ‬ = ൥ 1 2 4 −3 8 0 1 2 −1 ൩ สมาชิกในแถวที 3 หลักที 1 ของ ‫ܣ‬ିଵ เท่ากับเท่าใด 12. กําหนดให้ ABC เป็นรูปสามเหลียมทีมี D เป็นจุดบนด้าน AC และ F เป็นจุดบนด้าน BC ถ้า ADሬሬሬሬሬԦ = ଵ ସ ACሬሬሬሬሬԦ , BFሬሬሬሬԦ = ଵ ଷ BCሬሬሬሬሬԦ และ DFሬሬሬሬሬԦ = ܽABሬሬሬሬሬԦ + ܾBCሬሬሬሬሬԦ แล้ว ௔ ௕ มีค่าเท่าใด
  • 14.
    14 PAT 1(ต.ค. 52) 13. กําหนดให้ ‫,ݓ‬ ‫ݖ‬ เป็นจํานวนเชิงซ้อนซึง ‫ݓ‬ഥ = ‫ݖ‬ − 2i และ |‫|ݓ‬ଶ = ‫ݖ‬ + 6 ถ้าอาร์กิวเมนต์ของ ‫ݓ‬ อยู่ในช่วง ሾ0, గ ଶ ሿ และ ‫ݓ‬ = ܽ + ܾi เมือ ܽ, ܾ เป็นจํานวนจริง แล้ว ܽ + ܾ มีค่าเท่าใด 14. กําหนดให้ ܽ และ ܾ เป็นจํานวนจริงบวกซึง ܽ < ܾ ถ้าค่ามากสุดและค่าน้อยสุดของ ܲ = 2‫ݔ‬ + ‫ݕ‬ เมือ ‫,ݔ‬ ‫ݕ‬ เป็นไปตามเงือนไข ܽ ≤ ‫ݔ‬ + 2‫ݕ‬ ≤ ܾ , ‫ݔ‬ ≥ 0 และ ‫ݕ‬ ≥ 0 มีค่าเท่ากับ 100 และ 10 ตามลําดับ แล้ว ܽ + ܾ มีค่าเท่าใด 15. ถ้า ܽ௡ เป็นลําดับเลขคณิตซึง ∞→n lim ቀ ௔೙శభ మ ି௔೙ మ ௡ ቁ = 4 แล้ว ට ௔భళି௔వ ଶ มีค่าเท่าใด
  • 15.
    PAT 1 (ต.ค.52) 15 16. ∞→n lim ቀ ଷ௡ାଵଶ௡ାଶ଻௡ା … ାଷ௡య ଵା଼ାଶ଻ା … ା௡య ቁ มีค่าเท่าใด 17. ถ้า ݂ᇱ(‫)ݔ‬ = ‫ݔ‬ଶ − 1 และ 1 0 ∫ ݂(‫)ݔ‬ ݀‫ݔ‬ = 0 แล้ว |݂(1)| มีค่าเท่ากับเท่าใด 18. กําหนดให้ ݂(‫)ݔ‬ = ܽ‫ݔ‬ଶ + ܾ√‫ݔ‬ เมือ ܽ และ ܾ เป็นจํานวนจริงที ܾ ≠ 0 ถ้า 2݂ᇱ(1) = ݂(1) แล้ว ௙(ସ) ௙ᇲ(ଽ) มีค่าเท่าใด
  • 16.
    16 PAT 1(ต.ค. 52) 19. กําหนดให้ ‫ݕ‬ = ݂(‫)ݔ‬ เป็นฟังก์ชันซึงมีค่าสูงสุดที ‫ݔ‬ = 1 ถ้า ݂ᇱᇱ(‫)ݔ‬ = −4 ทุก ‫ݔ‬ และ ݂(−1) + ݂(3) = 0 แล้ว ݂ มีค่าสูงสุดเท่าใด 20. มีสิงของซึงแตกต่างกันอยู่ 8 ชิน ต้องแบ่งให้คน 2 คน คนหนึงได้ 6 ชิน และอีกคนหนึงได้ 2 ชิน จะมีจํานวนวิธีแบ่งกีวิธี 21. ในการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลหนึง มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 7 ทีม จัดแข่งแบบพบกันหมด (แต่ละทีมต้องลงแข่งกับทีม อืนทุกทีม) จะต้องจัดการแข่งขันกีนัด
  • 17.
    PAT 1 (ต.ค.52) 17 22. ข้อมูลชุดหนึงเรียงจากน้อยไปมากเป็นดังนี 1 , 4 , ‫ݔ‬ , ‫ݕ‬ , 9 , 10 ถ้ามัธยฐานของข้อมูลชุดนีเท่ากับค่าเฉลียเลขคณิต และส่วนเบียงเบนเฉลียของข้อมูลชุดนีเท่ากับ ଼ ଷ แล้ว ‫ݕ‬ − ‫ݔ‬ มีค่าเท่าใด 23. ข้อมูลชุดหนึงมี 5 จํานวนและมีค่าเฉลียเลขคณิตเท่ากับ 12 ถ้าควอไทล์ที 1 และ 3 ของข้อมูลชุดนีมีค่าเท่ากับ 5 และ 20 ตามลําดับ แล้ว เดไซล์ที 5 ของข้อมูลชุดนีมีค่าเท่าใด
  • 18.
    18 PAT 1(ต.ค. 52) 24. กําหนดตารางแจกแจงความถีแสดงอายุของคนในหมู่บ้านแห่งหนึง เป็นดังนี อายุ (ปี) 0-9 10-19 20-29 30-39 40-49 50-59 จํานวน (คน) 5 10 ‫ܣ‬ 20 10 10 ถ้าอายุเฉลียของคนในหมู่บ้านนีเท่ากับ 33.33 ปี แล้ว จํานวนคนในหมู่บ้านนีเท่ากับเท่าใด 25. กําหนดให้ข้อมูล ܺ และ ܻ มีความสัมพันธ์กันดังตารางต่อไปนี ܺ 1 2 3 3 ܻ 1 3 4 6 ถ้าสมการปกติของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันดังกล่าวอยู่ในรูป ܻ = ܽ + ܾܺ แล้วเมือ ܺ = 10 ค่าของ ܻ เท่ากับเท่าใด
  • 19.
    PAT 1 (ต.ค.52) 19 เฉลย 1. 4 11. 3 21. 3 6. 0 16. 4 2. 1 12. 4 22. 2 7. 5.5 17. 0.25 3. 3 13. 1 23. (852) 8. 8 18. 12 4. 1 14. 4 24. 3 9. 6 19. 8 5. 2 15. 1 25. 4 10. 4 20. 56 6. 4 16. 2 1. 33 11. 0.2 21. 21 7. 1 17. (42/55) 2. 30 12. 9 22. 2 8. 2 18. 3 3. 7.5 13. 4 23. 10 9. 2 19. 2 4. 6 14. 70 24. - 10. 1 20. 1 5. 2 15. (√32 ర ) 25. 19