More Related Content
Similar to อินเทอร์เน็ต (Internet)
Similar to อินเทอร์เน็ต (Internet) (20)
More from Krusine soyo (9)
อินเทอร์เน็ต (Internet)
- 2. อินเทอร์เน็ต หมายถึง ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงระบบ
เครือข่ายต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน การเชื่อมโยงระบบเครือข่าย
ต่างๆ เข้าด้วยกันนั้นต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์วิธีการติดต่อสื่อสารที่เป็น
มาตรฐานเดียวกัน
ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่บรรจุ
ข้อมูลข่าวสารไว้มากมายจากหลายแหล่งข้อมูล และเป็นข้อมูลที่หลากหลาย
ประเภท อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศที่สาคัญเพื่อให้
ทุกคนเข้ามาค้นหาข้อมูลได้ ทาให้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
มีบทบาทต่อการทางาน และการสื่อสารในสังคมปัจจุบัน
เป็นอย่างยิ่ง
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
- 4. ลักษณะของการเชื่อมโยงข้อมูล คือการเชื่อมโยงเอกสาร
หรือที่เรียกว่า Link จากเอกสารภายในหน้าเดียวกันเชื่อมโยง
ไปยังหน้าอื่นๆ หรือไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้โดยการเชื่อมโยง
ในลักษณะของข้อความหรือไฮเปอร์เท็กซ์ และสื่อประสมต่างๆ
> เว็บเพจ คือ หน้าเอกสารเว็บแต่ละหน้าสามารถเชื่อมโยงกันได้
เปรียบเสมือนหน้าของหนังสือที่เราอ่านแต่ละหน้า
> เว็บไซต์ คือ หน้าเว็บเพจหลายๆ หน้านามารวมกันเปรียบ
ได้กับหนังสือ 1 เล่ม ที่ประกอบด้วยหน้าของหนังสือหลายหน้า
> โฮมเพจ คือ หน้าแรกของเว็บไซต์เปรียบได้กับหนังสือ
หน้าแรกสุด
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 5. 2. โดเมนเนม (Domain Name) โดเมนเนม หรือที่เราเรียกว่า
ที่อยู่ของเว็บไซต์เป็นชื่อที่ถูกเรียกแทนหมายเลข IP Address เนื่องจากเกิด
ความยุ่งยากในการจาหมายเลข เวลาที่ต้องการท่องเที่ยวในอินเทอร์เน็ตจึงได้
นาตัวอักษรมาใช้แทนมักเป็นชื่อที่สื่อความหมายเป็นหน่วยงาน หรือเจ้าของ
เว็บไซต์นั้น ชื่อของโดเมนเนมแต่ละชื่อจะมีอยู่หนึ่งเดียวเท่านั้น
2.1 Organization Domains โดเมนเนม 2 ระดับ
แสดงถึงองค์กร หรือหน่วยงานที่มีลักษณะดังนี้ เช่น
www.thai2learn.com www.berkeley.edu
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 6. การแสดงตัวอย่างประเภทองค์กร สาหรับ Organization Domains
ตัวย่อ ประเภทองค์กร
.com บริษัท หรือองค์กรพาณิชย์
.edu สถาบันการศึกษา
.net องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
.mil องค์กรทางทหาร
.org องค์กรที่ไม่แสวงผลกาไร
.gov องค์กรของรัฐ
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 7. 2.2 Geographical Domains โดเมน 3 ระดับ
มีลักษณะดังนี้ www.google.com www.nvc-koran.ac.th แตกต่างจาก
รูปแบบ 2 ระดับ คือหลังจากบอกประเภทองค์กรแล้วจะตามด้วยชื่อประเทศ
ที่ตั้งขององค์กรนั้นการแสดงตัวย่อของประเภทองค์กรสาหรับ
Geographical Domains
ตัวย่อ ประเภทองค์กร
.co บริษัทหรือองค์กรพาณิชย์
.ac สถาบันการศึกษา
.go องค์กรของรัฐ
.net องค์กรที่ให้บริการเครือข่าย
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 8. 3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ บริการหนึ่งที่ได้รับการนิยมมาก เพราะ
เป็นวิธีติดต่อที่เป็นมาตรฐาน สามารถรับและส่งเอกสารที่เป็นเอกสารข้อความ
และเเบบมัลติมีเดีย มีทั้งภาพและเสียง โดยสามารถสื่อสารกันได้ไม่ว่าผู้รับหรือ
ผู้ส่งจะอยู่ไกลหรือใกล้เพียงใดก็ตามบุรุษไปรษณีย์จะทาหน้าที่ส่งจดหมายให้กับ
เรา คือ เว็บไซต์ที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกเพื่อขอใช้บริการเมื่อลงทะเบียน
เรียบร้อยเเล้วจะได้ที่อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาหรับติดต่อสื่อสาร
กับผู้อื่นที่เรียกว่า E-mail Address
ที่มีรูปแบบดังนี้
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 9. ตัวอย่าง Krusinesoyo@gmail.com
ชื่อผู้ใช้ @ ที่อยู่
> ผู้ใช้ คือ ชื่ออะไรก็ได้ที่ผู้ใช้บริการอีเมล์ได้ตั้งขึ้นโดยจะต้องไม่ซ้า
กับสมาชิกของคนอื่น
> @ คือ อ่านว่า “แอท” เป็นสัญญาลักษณ์ที่คั่นระหว่างชื่อ
และที่อยู่ของอีเมล์แอดเดรส
> ที่อยู่ คือ ชื่อโดเมนเนมของเว็บไซต์ที่ให้บริการอีเมล์
เช่น gmail.com hotmail.com
เป็นต้น
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 10. 4. การโอนย้ายข้อมูลข้ามเครือข่าย
> FTP หรือ File Transfer Protocol เป็นบริการโอนย้ายข้อมูลข้าม
เครือข่ายข้อมูล โอนย้ายมีหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ เพลง ภาพ
ภาพเคลื่อนไหว ข่าวสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
การโอนย้ายข้อมูลแบ่งเป็น 2 แบบ 1.การดาวน์โหลด คือ การนาไฟล์
ข้อมูลโปรแกรมหรือภาพจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาเก็บไว้ที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์ของเรา ดังนี้ อินเทอร์เน็ต ไฟล์ คอมพิวเตอร์
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 12. 5. การบริการค้นหาข้อมูลข้ามเครือข่าย การค้นหาข้อมูลบนเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตเป็นอีกบริการหนึ่งที่นิยมมาก เพราะอานวยความสะดวกให้แก่
ผู้ใช้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลอยู่เป็นจานวนมาก ดั้งนั้นการ
ค้นหาข้อมูลจาเป็นต้องมีโปรแกรมเพื่อให้ทราบแหล่งที่อยู่ข้อมูล
เครื่องจักรค้นหา (Search Engines) คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการในด้านการค้นหา
ข้อมูลต่างๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้ใช้บริการ การใช้วิธีการค้นหาข้อมูล
บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบ่งรูปแบบในการค้นหาออกเป็น 2
ลักษณะ ดังนี้ 1. การระบุคาเพื่อใช้
ในการค้นหาหรือที่เรียกว่า “คีย์เวิร์ค”
2. การค้นหาจากหมวดหมู่หรือ
“ไดเรกทอรี”
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 13. 6. การบริการสนทนาออนไลน์ (Chat) การบริการสนทนา
ออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Chat เป็นการสนทนาระหว่างบุคคลที่ใช้บริการ
อินเทอร์เน็ตมีการโต้ตอบกันทันที โดยไม่ต้องรอคาตอบเหมือนการใช้อีเมล์
พิมพ์ข้อความ หรือใช้เสียงในการสนทนาได้ การสนทนาสามารถกระทาได้ใน
กลุ่มสนทนา เป็นการเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ปัจจุบันนี้ได้นา
วิธีการสนทนาออนไลน์มาประยุกต์ใช้กับการประชุมทางไกล
(VDO Conference) โดยใช้อุปกรณ์ เช่น
กล้องที่ใช้ในการส่งภาพไมโครโฟน
เป็นต้น โปรแกรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่
MSN Messenger Pirch ICQ Facebook
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 14. 7. กระดานข่าว (Bulletin Board System : BBS)
กระดานข่าว เป็นบริการในรูปแบบของกลุ่มสนทนา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสารต่างๆ ในกลุ่มของผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกันโดยจะต้องเป็น
"กลุ่มข่าว (News Group)" เช่น กลุ่มผู้ที่สนใจด้านคอมพิวเตอร์ ด้านดนตรี
ด้านศิลปะ หรือแม้กระทั่งแบ่งตามกลุ่มอาชีพ และกลุ่มอายุก็ได้ เช่น
กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มผู้หญิงทางาน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจที่จะใช้
บริการเลือกกลุ่มเข้าไปสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเป็นเวที
ให้แสดงความคิดเห็น หรือเมื่อต้องการสอบถามในเรื่องที่สงสัย
และต้องการคาตอบผู้ที่อยู่ภายในกลุ่มให้คาแนะนา หรือตอบ
ข้อสงสัยได้ ทาให้เราได้รับประโยชน์และได้ความรู้ใหม่ๆ
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 15. 8. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เป็นระบบการค้าที่มี
การซื้อขายผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโลกยุคดิจิทัล ระบบการค้ามิได้ยึดรูป
แบบเดิมๆ คือต้องหาทาเลเพื่อตั้งร้านค้า หรือหาพนักงานในการดาเนิน
การค้า แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของการสื่อสารจึงทาได้สะดวกและ
รวดเร็วประหยัดกว่ารูปแบบเดิม
สามารถดาเนินการค้าได้ไม่เฉพาะแต่ภายในประเทศ หรือในเขตที่ตั้ง
ร้านเท่านั้นแต่สามารถค้าขายได้กับทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีทา
การค้าที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแต่นั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ก็สามารถซื้อขายสินค้าได้ ดั้งนั้นหน้าจอคอมพิวเตอร์
จึงเปรียบเสมือนประตูที่เปิดสู่ร้านค้าทั่วโลก
รูปแบบการบริการบนอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 17. 3.เปรียบเสมือนเวทีที่ให้เข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ ภายในห้อง
สนทนา (chat room) และกระดานข่าว (Web room) เป็นการเปิดโลก
กว้างและวิสัยทัศน์ในเรื่องที่น่าสนใจ
4.สามารถติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
5.สามารถเปิดการค้าได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องหาสถานที่จัดตั้งร้าน
หรือพนักงานบริการ แต่สามารถทาการค้าได้ด้วยตนเองคนเดียว
6.สามารถซื้อสินค้าโดยไม่ต้องเดินทางไปยังร้านค้า สั่งซื้อ
ผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการ การชาระเงินก็สะดวก เช่น
ชาระผ่านบัตรเครดิต การหักเงินผ่านบัญชีธนาคารและทาง
ไปรษณีย์
ประโยชน์และโทษของอินเตอร์เน็ต (ต่อ)
- 21. เรียกว่าบัญญัติ 10 ประการ
- ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทาร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
- ต้องไม่รบกวนการทางานของผู้อื่น
- ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต