SlideShare a Scribd company logo
1 of 32
196




                                                  อินเทอร์เน็ต
                                           ( Internet ) เป็นเครือข่าย
                                           คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่
                                           เชื่อมโยงเครือข่าย
                                           คอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วย
                                           กัน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไซ
                                           เบอร์สเปซ
                                           ( Cyberspace )
                                                  อินเทอร์เน็ต ทำาให้การ
                                           เคลื่อนย้ายและส่งผ่าน
                                           ข่าวสารข้อมูลจากที่หนึงไป
                                                                   ่
                                           อีกที่หนึ่งกระทำาได้โดยง่าย
                                           โดยไม่จำากัดเรื่องระยะทาง
                                           และเวลา สามารถส่งข้อมูล
                                           ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
                                           ส่งเป็นแบบข้อความ ภาพนิง    ่
                                           ภาพเคลื่อนไหว เสียง โดย
                                           อาศัยเครือข่ายโทรคมนาคม
                                           เป็นตัวเชื่อมต่อเครือข่าย
         การเชื่อมโยงเครือข่ายจะใช้เครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม เช่น
สายสัญญาณโทรศัพท์ ใยแก้วนำาแสง (Fiber Optic) สัญญาณ
ไมโครเวฟ สัญญาณจากดาวเทียม ทำาให้การส่งผ่านข้อมูลจากที่หนึ่ง
ไปยังอีกที่หนึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อินเทอร์เน็ตเป็น แหล่งรวบรวม
ข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นที่รวมทั้งบริการและเครื่องมือ
สืบค้นข้อมูลหลายประเภท จนกระทั่งกล่าวได้วาอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่อง
                                                ่
มือสำาคัญอย่างหนึงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งใน
                    ่
ระดับบุคคลและองค์กร
          การเชื่อมต่อเข้าเป็นอินเทอร์เน็ตอาศัยการบริหารแบบ
กระจายอำานาจอินเทอร์เน็ต จึงไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือควบคุมดูแล
อย่างแท้จริง เครือข่ายแต่ละส่วนในอินเทอร์เน็ตต่างบริหารเครือข่าย
197

ของตนเองอย่างเป็นอิสระโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายติดตั้งระบบและการ
เช่าวงจรสื่อสารเพื่อต่อเชื่อมเข้าด้วยกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว
อินเทอร์เน็ตมีองค์กรระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประสานความร่วม
มือระหว่างสมาชิกองค์การนี้ได้แก่ สมาคมอินเทอร์เน็ต ISOC
( Internet Society )
ISOC เป็นองค์กรเพื่อความร่วมมือและประสานงานของสมาชิก
อินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำาไร และมีนโย
บายสนับสนุนการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนึ่ง
สำาหรับการศึกษาและงานวิจัย และทำาหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ความ
รูให้แก่ผู้ ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป ISOC ยังทำาหน้าที่พัฒนามาตรฐาน
  ้
และเทคโนโลยีเพื่อใช้ในอินเทอร์เน็ต ภายใน ISOC มีคณะทำางาน
อาสาสมัครร่วมวางแนวทางพัฒนาอินเทอร์เน็ต ให้สมาชิกถือปฏิบัติ
แต่ไม่มีหน้าที่ดูแลหรือควบคุมการบริหารเครือข่ายแต่อย่างใด
ประวัติความเป็นมา
           อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเริ่ม
ก่อตั้งโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา อินเทอร์เน็ตในยุคแรกๆ
ประมาณปี พ.ศ. 2512 เป็นเพียงการนำาคอมพิวเตอร์จำานวนไม่กี่เครื่อง
มาเชื่อมต่อกัน โดยสายส่งสัญญาณเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง
เครื่องคอมพิวเตอร์ ภารกิจหลัก เพื่อใช้ในงานวิจัยทางทหาร โดยใช้
ชื่อว่า "อาร์ปา" (ARPA : Advanced Research Project Agency) รูป
แบบเครือข่ายอาร์พาเน็ตไม่ได้ต่อเชื่อมโฮสต์ ( Host ) คอมพิวเตอร์
เข้าถึงกันโดย ตรง หากแต่ใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่า IMP ( Interface
Message Processors ) ต่อเชื่อมถึงกันทางสาย โทรศัพท์เพื่อทำา
หน้าที่ด้านสื่อสารโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละ IMP สามารถเชื่อมได้หลาย
โฮสต์
198




             กำาเนิดอาร์พาเน็ต วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2512 ได้มีการ
ทดลองเชื่อมโยง IMP ระหว่างมหาวิทยาลัย 4 แห่งโดยมีโฮสต์ต่าง
ชนิดกันที่ใช้ในระบบปฏิบัติการต่างกัน คือ
            1. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่ง ลอส แอนเจลิส ใช้เครื่อง
               SDS Sigma 7 ภายใต้ระบบปฏิบัติ การ SEX ( Sigma
               EXecutive )
            2. สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด ใช้เครื่อง SDS 940 และระบบ
               ปฏิบัติการ Genie
            3. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่ง ซานตา บาร์บารา มีเครื่อง
               IBM 360/75 ทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการ OS/MVT
            4. มหาวิทยาลัยยูทาห์ ทีซอลต์เลคซิตี้ ใช้เครื่อง DEC PDP-
                                    ่
               10 ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Tenex
             ปี 2515 หลังจากที่เครือข่ายทดลองอาร์ปา ประสบความ
สำาเร็จ ก็ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานจาก อาร์ปา มาเป็น ดาร์พา
DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) ตอน
หลังเปลียนเป็น Defence Communication Agency ปัจจุบันคือ
          ่
Defense Informations Systems Agency
             ในปี 2526 อาร์ปาเน็ตได้แบ่งเป็น 2 เครือข่าย ด้านงานวิจัย
ใช้ชื่อว่า อาร์ปาเน็ต เหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของกองทัพใช้ชื่อ มิล
เน็ต (MILNET: Military Network) ซึ่งมีการเชื่อมต่อโดยใช้
โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/ Internet
Protocol) เป็นครังแรก้
199

         ในปี 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติอเมริกา (NSF) ได้ให้
เงินทุนในการสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แห่ง และใช้ชื่อว่า
NSFNET
         และในปี 2533 อาร์ปาเนตไม่สามารถที่จะรองรับภาระที่เป็น
เครือข่ายหลัก (Backbone) ของระบบได้ อาร์ปาเน็ตจึงได้ยุติลงและ
เปลี่ยนไปใช้ NSFNET และเครือข่ายอื่นๆแทน มาจนเป็นเครือข่าย
ขนาดใหญ่ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ โดยเรียกเครือข่ายว่า อินเทอร์เน็ต
(Internet) โดยเครือข่าย ส่วนใหญ่จะอยู่ในอเมริกา และปัจจุบันนีมี ้
เครือข่ายย่อยมากมายทั่วโลก
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
          อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการ
เชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบัน
เทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศ
ออสเตรเลีย แต่ในครั้งนั้นยังเป็นการเชื่อมต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึง     ่
สามารถส่งข้อมูลได้ช้า และไม่เป็นการถาวร
                       จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็ก
                ทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้ทำาการ
                เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่
                จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
                (AIT), มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สถาบันเทคโนโลยี
                และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC), มหาวิทยาลัย
                ธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าด้วยกัน
                เรียกว่า "เครือข่ายไทยสาร" โดยสำานักวิทยบริการ
                จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจร สื่อสารความเร็ว
                9600 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อ
                เชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่ "บริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี
                ประเทศสหรัฐอเมริกา"
                       ในปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เช่าวงจรสื่อสาร
                ความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาทีจากการสื่อสารแห่ง
                ประเทศไทยเพื่อ เพิ่มความสามารถในการขนส่งข้อมูล
                ทำาให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสารระดับ ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้
                ไทยสารอินเทอร์เน็ต 2 วงจร ในปัจจุบันวงจรเชื่อมต่อไป
                ยังต่างประเทศที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ NECTEC
                ได้รบการปรับปรุงให้มีความ เร็วสูงขึ้นตามลำาดับ นับ
                     ั
                ตั้งแต่นั้นมาเครือข่ายไทยสารได้ขยายตัวกว้างขึ้น และมี
200

                    หน่วยงานอื่นเชื่อมเข้ากับ ไทยสารอีกหลายแห่งในช่วง
                    ต่อมา
     เครือข่ายไทยสารเติบโตอย่าง
ต่อเนื่อง โดยมีมหาวิทยาลัยและ
หน่วยงานราชการเข้ามาเชื่อมต่อกับ
เครือข่ายนี้เพิ่มขึ้นอีกจำานวนมาก จะ
เห็นได้วาอินเทอร์เน็ตในประเทศ
           ่
ขณะนั้นยังจำากัดอยู่ในวงการศึกษา
และการวิจัยเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครือ
ข่ายทีให้บริการในรูปของธุรกิจ แต่
       ่
ทางสถาบันนั้น ๆ จะเป็นผู้รบผิด
                             ั
ชอบค่าใช้จ่ายเอง
             ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 ความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ต
จากภาคเอกชนมีมากขึ้น การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) จึงได้
ร่วมมือกับบริษัทเอกชน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่บุคคล ผู้สนใจ
ทัวไปได้สมัครเป็นสมาชิก ตั้งขึ้นในรูปแบบของบริษทผู้ให้บริการ
   ่                                                 ั
อินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ เรียกว่า "ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต" หรือ ISP
(Internet Service Provider)
             ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตจะถูกส่งผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
และระบบการสื่อสารซึ่งในแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละประเทศซึ่งจะต้องรับ
ผิดชอบกันเอง เพื่อเชื่อมต่อกับระบบใหญ่ของโลกให้ได้ ดังนั้นจึงเป็น
หน้าที่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ซึ่งได้แก่ องค์กรทีทำาหน้าที่
                                                            ่
ให้บริการเชื่อมต่อสายสัญญาณจากแหล่งต่างๆ ของผูใช้บริการ เช่น
                                                       ้
จากที่บาน สำานักงาน สถานบริการ และแหล่งอื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อกับ
         ้
ระบบใหญ่ออกไปนอกประเทศได้
บริการบนอินเทอร์เน็ต
                                 อภิมหาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ
                       เครือข่ายของเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกันไป
                       ทัวโลก ในแต่ละเครือข่ายก็จะมีเครื่อง
                         ่
                       คอมพิวเตอร์ททำาหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ ซึ่งอาจ
                                      ี่
                       เรียกว่าเป็น เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือ โฮสต์
                       (Host) เชื่อมต่ออยู่เป็นจำานวนมาก ระบบ
                       คอมพิวเตอร์เหล่านี้จะให้บริการต่างๆ แล้วแต่
                       ลักษณะและจุดประสงค์ที่เจ้าของเครือข่ายนั้น
                       หรือเจ้าของระบบคอมพิวเตอร์นั้นตั้งขึ้น ในอดีต
201

                       มักมีเฉพาะบริการเรื่องข้อมูลข่าวสารและ
                       โปรแกรมที่ใช้ในแวดวงการศึกษาวิจัยเป็นหลัก
                       แต่ในปัจจุบันก็ได้ขยายเข้าสู่เรื่องของการค้า
                       และธุรกิจแทบจะทุกด้าน บริการต่างๆ บน
                       อินเทอร์เน็ตอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุมใหญ่ๆ ดังนี้
                                                          ่
                         1. บริการด้านการสื่อสาร
                         2. บริการด้านข้อมูลต่างๆ




บริการด้านการสื่อสาร
          เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อรับส่งข้อมูลแลก
เปลี่ยนกันได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งจะมีความรวดเร็วกว่าการ
ติดต่อด้วยวิธีการแบบธรรมดาและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูกกว่ามาก
     ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ (E-mail)
               ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ E-mail เป็นบริการในระบบ
     เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำาคัญที่มีผู้นยมใช้บริการกันมากที่สุด
                                                ิ
     สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบ
     เครือข่ายคอมพิวเตอร์ไปยังผู้รับ อาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคน
     โดยทั้งที่ผู้ส่งและผู้รับเป็นผู้ใช้ที่อยู่ในระบบเครือข่าย
     คอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้
     ทัวโลก มีความสะดวก รวดเร็วและสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอด
       ่
     เวลา โดยไม่ต้องคำานึงถึงว่าผู้รบจะอยูที่ไหน จะใช้เครื่อง
                                        ั         ่
     คอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์จะเก็บ
     ข้อความเหล่านั้นไว้
                          เมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบเครือข่าย ก็จะเห็น
                 ข้อความนั้นรออยูแล้ว ความสะดวกเหล่านีทำาให้นัก
                                      ่                       ้
                 วิชาการสามารถแลกเปลียนข้อมูลข่าวสารถึงกันและ
                                              ่
                 กัน นักศึกษาสามารถปรึกษา หรือฝึกฝนทักษะกับ
                 อาจารย์ หรือ เพื่อนนักศึกษาด้วยกันเอง โดยไม่ต้อง
                 คำานึงถึงเวลา และระยะทาง โดยผูใช้สามารถติดต่อ
                                                      ้
                 สื่อสารกันได้ไม่ว่าจะอยู่ตรงส่วนใดของมุมโลก
202

2              ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่เหมาะ
    สมในการเรียนรู้ และช่วยขจัดปัญหาในเรื่องของเวลาและระยะ
    ทาง ผู้เรียนจะรู้สึกอิสระและกล้าแสดงออกมากกว่าปกติ ตลอด
    จนสามารถเข้าถึงผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดีในยุค
    สารสนเทศดังเช่นปัจจุบัน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะมี
    บทบาทสำาคัญในการพัฒนาสังคมให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้
    อย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์เป็นรูปแบบการสื่อสารที่ทัน
    สมัยรูปแบบหนึ่งที่มีความสำาคัญ คือ
      1. ทำาให้การให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว
         ทันที ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค สำาหรับไปรษณีย์ อิเล็กทรอ
         นิคส์ ในทุกแห่งทัวโลกที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อ
                            ่
         ถึงกันได้ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ก็สามารถเข้าไปสถานที่
         เหล่านั้นได้ทุกที่ ทำาให้ผู้คนทั่วโลกติดต่อถึงกันได้ทันที
         ผู้รบสามารถจะรับข่าวสารจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ได้
             ั
         แทบจะทันทีที่ผู้ส่งจดหมายส่งข้อมูลผ่านทางคอมพิวเตอร์
         เสร็จสิ้น
      2. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับที่
         ต้องการได้ทุกเวลา แม้ผู้รับจะไม่ได้อยู่ที่ หน้าจอ
         คอมพิวเตอร์ก็ตาม จดหมายจะถูกเก็บไว้ในตู้จดหมายของ
         คอมพิวเตอร์และเป็นส่วนตัว จนกว่าเจ้าของจดหมายทีมี ่
         รหัสผ่านจะเปิดตู้จดหมายของตนเอง
      3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลายๆ
         คนได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลาส่งให้ ทีละคน
         กรณีนี้จะใช้กับจดหมายที่เป็นข้อความเดียวกัน เช่น
         หนังสือเวียนแจ้งข่าวให้สมาชิกในกลุมทราบ หรือเป็นการ
                                           ่
         นัดหมายระหว่างสมาชิกในกลุม เป็นต้น
                                     ่
      4. การส่งจดหมายทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ ช่วยประหยัด
         เวลาในการเดินทางไปส่ง จดหมายถึงตู้ไปรษณีย์ หรือ
         ทีทำาการไปรษณีย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง เนื่องจาก
           ่
         ไม่ต้องคำานึงถึงปริมาณนำ้าหนัก และระยะทาง ของจดหมาย
         เหมือนกับไปรษณีย์ธรรมดา
      5. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์นั้น ผู้รับจดหมายสามารถเรียกอ่าน
         จดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก โปรแกรมของ ไปรษณีย์อิ
203

     เล็กทรอนิคส์จะแสดงให้ทราบว่าในตู้จดหมายของผู้รบมีั
     จดหมายกี่ฉบับ มีจดหมายที่อ่านแล้ว และยังไม่ได้เรียก
     อ่านกี่ฉบับ เมื่ออ่านจดหมายฉบับใดแล้ว หากต้องการลบ
     ทิง ก็สามารถเก็บข้อความไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลได้ หรือ
       ้
     จะพิมพ์ออกมาลงกระดาษก็ได้เช่นกัน หรืออาจแก้ไข้
     ข้อความบางอย่างในจดหมายนั้น จากจอภาพแล้วส่งต่อไป
     ยังผู้อื่นได้ด้วย
  6. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
     (Transferring Files) แนบไปกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำาให้
     การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปได้ โดยสะดวก รวดเร็ว ทัน
     เวลา และทันเหตุการณ์
         จากความสำาคัญของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ ที่สามารถ
อำานวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่านี้ ทำาให้ในปัจจุบัน
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
สำานักงานทุกแห่งทัวโลก และในที่สุดเมื่อทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์
                   ่
ใช้ สมาชิกในชุมชนโลกก็จะสามารถติดต่อกันผ่านทาง
คอมพิวเตอร์ การทำางานตามสำานักงาน หรือสถานที่ต่างๆ จะถูก
เปลี่ยนไปสู่การทำางานที่บานมากขึ้นโดยการรับส่งงานทาง
                         ้
คอมพิวเตอร์
สนทนาแบบออนไลน์ (Chat)
           ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ ใน
อินเทอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพ์เข้าไปทาง
คีย์บอร์ด) เสมือนกับการคุยกันแต่ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้ง
สองที่ ซึงก็สนุกและรวดเร็วดี บริการสนทนาแบบออนไลน์นี้เรียก
         ่
ว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกัน หรือจะคุย
กันเป็นกลุมหลายๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเต็มๆ ว่า
           ่
Internet Relay Chat หรือ IRC ก็ได้) ซึ่งในปัจจุบันก็ได้พัฒนา
ไปถึงขั้นที่สามารถใช้ภาพสามมิติ ภาพเคลื่อนไหวหรือการ์ตูน
ต่างๆ แทนตัวคนที่สนทนากันได้แล้ว และยังสามารถคุยกันด้วย
เสียงในแบบเดียวกับ โทรศัพท์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลบน
จอภาพหรือในเครื่องของผู้สนทนาแต่ละฝ่ายได้อีกด้วยโดย การ
ทำางาน แบบนี้ก็จะอาศัยโปรโตคอลช่วยในการติดต่ออีก
โปรโตคอลหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า IRC (Internet Relay Chat) ซึ่งก็เป็น
โปรโตคอลอีกชนิดหนึ่งบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำาให้
204

User หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ผ่านตัวหนังสือแบบ Real
time โดยจะมีหลักการคือ
  1. มีเครื่อง Server ซึ่งจะเรียกว่าเป็น IRC server ก็ได้ซึ่ง
     server นี้ก็จะหมายถึงฮาร์ดแวร์+ซอฟแวร์โดยที่ฮาร์ดแวร์
     คือ คอมพิวเตอร์ที่จำาเป็นจะต้องมีทรัพยากรระบบค่อนข้าง
     สูงและจะต้องมีมากกว่า 1 เครื่องเพื่อรองรับ User หลาย
     คน
  2. เครื่องของเราจะทำาหน้าที่เป็นเครื่อง Client ซึ่งก็คือ
     คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตได้แบบธรรมดา
     โดยที่ไม่ต้องการทรัพยากรมากนัก และก็ต้องมีโปรแกรม
     สำาหรับเชื่อมต่อเข้า Irc server ได้
        การสนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมใน
ปัจจุบันมีหลายโปรแกรมเช่น โปรแกรม Pirch, ICQ,
Windows Messenger (MSN), Yahoo Messenger




"กระดานข่าว" หรือบูเลตินบอร์ด
           บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการให้บริการในลักษณะ
ของกระดานข่าวหรือบูเลตินบอร์ด (คล้ายๆ กับระบบ Bulletin
Board System หรือ BBS) โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ จำานวน
หลายพันกลุ่ม เรียกว่าเป็น กลุ่มข่าว หรือ Newsgroup ทุกๆ
วันจะมีผู้ส่งข่าวสารกันผ่านระบบดังกล่าว โดยแบ่งแยกออกตาม
กลุมที่สนใจ เช่น กลุ่มผู้สนใจ ศิลปะ กลุ่มผู้สนใจ เพลงร็อค กลุ่ม
   ่
205

วัฒนธรรมยุโรป ฯลฯ
           นอกจากนี้ก็มีกลุ่มที่สนใจในเรื่องของประเทศต่างๆ เช่น
กลุม Thai Group เป็นต้น การอ่านข่าวจากกลุ่มข่าวต่างๆ ใน
    ่
Usenet (User Network) หรือ Newsgroup นั้นนับเป็นช่องทาง
หนึ่งในการติดต่อแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
คนอื่นๆ ในระดับโลก ซึ่งมักจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการ
สื่อสารกัน ซึ่งใน Usenet นี้ เราสามารถเลือกอ่านข้อความใน
หัวข้อที่เราสนใจ และฝากข้อความคำาถามคำาตอบของเราไว้บน
กระดานข่าวนันได้้
           ถ้าเราไม่สนใจในกลุ่มข่าวสารที่เคยเป็นสมาชิกอยู่อีก
ต่อไป เราก็อาจยกเลิกการเป็นสมาชิก (Unsubscribe) ของกลุ่ม
ข่าวนั้นและไปเป็นสมาชิกของกลุ่มอื่นๆ แทนก็ได้ การเป็น
สมาชิกและการบอกเลิกสมาชิกของกลุ่มข่าวต่างๆ นันรวมทั้งการ
                                                   ้
ใช้บริการ Usenet จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทังสิ้น
                                             ้
           กระดานข่าวที่น่าสนใจของไทยและมีสมาชิกร่วมในการ
สนทนามากที่สุดในปัจจุบันคือ กระดานข่าวพันทิพ ที่ URL :
www.pantip.com ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ใช้ที่มีความสนใจ
หลากหลายเช่น กระดานข่าวเทคนิคคอมพิวเตอร์ทั้งทางด้าน
ระบบปฏิบัติการ ซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ฯลฯ สภากาแฟของคน
ชอบการเมือง ชอบด้านเครื่องยนต์กลไก และอื่นๆ อีกมากลอง
เข้าไปร่วมวงสนทนากันได้
บริการเข้าระบบระยะไกล Telnet
            ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่อง
อื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป ก็สามารถใช้บริการ Telnet เพื่อเข้าใช้
งานเครื่องดังกล่าวได้เหมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง
โดยจำาลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์นั้นได้
            โปรแกรม Telnet นับได้ว่าเป็นคำาสั่งพื้นฐานที่มี
ประโยชน์มากสำาหรับ การใช้งานอินเทอร์เน็ตในแบบตัวอักษร
(Text mode) หน้าที่ของโปรแกรม Telnet นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้
สามารถทำาการ Login เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ต่อ
เชื่อมอยู่ในเครือข่ายได้ และใช้บริการสำาเนาไฟล์ รับส่งอีเมล์ได้
206




การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
      การเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถทำาได้
หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะต้องใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนี้
      การเชื่อมต่อแบบบุคคล เป็นการเชื่อมต่อของบุคคลธรรมดา
      ทัวไป ซึ่งสามารถขอเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้
        ่
      เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ อาจจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำางาน เชื่อม
      ต่อผ่านทางสายโทรศัพท์ ผ่านอุปกรณ์ ที่เรียกว่า โมเด็ม
      (Modem) ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก เรามักเรียกการเชื่อมต่อ
      แบบนีว่า การเชื่อมต่อแบบ Dial-Up โดยผูใช้ต้องสมัครเป็น
             ้                                    ้
      สมาชิกของ ISP เพื่อขอเชื่อมต่อผ่านทาง SLIP หรือ PPP
      account
  a   การเชื่อมต่อแบบองค์กร เป็นองค์กรที่มีการจัดตั้งระบบเครือ
      ข่ายใช้งานภายในองค์กรอยู่แล้ว จะสามารถนำาเครื่องแม่ข่าย
      (Server) ของเครือข่ายนั้นเข้าเชื่อมต่อกับ ISP เพื่อเชื่อมโยง
      เข้าสู่ระบบ อินเทอร์เน็ตได้เลย โดยผ่านอุปกรณ์ชี้เส้นทาง
      Router และสายสัญญาณเช่า (ตลอด 24 ชั่วโมง)
อุปกรณ์สำาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  1. คอมพิวเตอร์ ควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา
     ของหน่วยประมวลผลตั้งแต่ 166 MHz มีหน่วยความจำาหลัก
     RAM ตั้งแต่ 16 MB ขึ้นไป
207

2. โมเด็ม (Modulator Demodulator Machine) คืออุปกรณ์
   ซึ่งทำาหน้าที่แปลงข้อมูลที่ได้จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ไปเป็น
   สัญญาณไฟฟ้ารูปแบบหนึ่ง (Impulse) ซึ่งสามารถส่งผ่านสาย
   โทรศัพท์ทั่วไปได้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์นั้นจะเป็นสัญญาณ
   อนาล็อก ส่วนสัญญาณข้อมูลที่มาจากคอมพิวเตอร์จะเป็น
   สัญญาณดิจิตอล ทำาให้ต้องใช้โมเด็มในการแปลงสัญญาณ
   อนาล็อกเป็นดิจิตอลและดิจิตอลเป็นอนาล็อกซะก่อน โมเด็ม
   สามารถแยกได้เป็น 3 ชนิด แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
   ไปดังนี้
         โมเด็มแบบติดตั้งภายใน โมเด็มชนิดนี้จะมีลักษณะเป็น
         แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์นำามาติดตั้งเข้ากับภายในตัวเครื่อง
         คอมพิวเตอร์โดยตรง รูปร่างจะแตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตจะ
         ออกแบบมาสำาหรับคอมพิวเตอร์ชนิดนั้นๆ โมเด็มชนิดนี้จะ
         ใช้ไฟฟ้าจากสล๊อตบนเมนบอร์ดทำาให้เราไม่ต้องต่อไฟ
         หม้อแปลงต่างหากจากภายนอก ส่วนมากโมเด็มติดตั้ง
         ภายในจะทำาการติดตั้ง ผ่านทาง Port อนุกรม RS-232C
         รวมอยู่ด้วย ทำาให้ไม่มีปัญหาในเรื่อง port อนุกรมรุ่นเก่าที่
         ติดมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อโมเด็มกับเครื่อง
         คอมพิวเตอร์จะต่อทาง slot มาตรฐานในเครื่อง
         คอมพิวเตอร์และเมื่อติดตั้งแล้วจะไม่เปลือง เนื้อที่ภายนอก
         ใดๆ เลย และโมเด็มสำาหรับติดตั้งภายในจะมี จุดให้ผู้ใช้
         เสียบสายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็มโดยใช้ปลั๊กโทรศัพท์
         ธรรมดา แบบ RJ-11 และมีลำาโพงประกอบด้วย
         โมเด็มแบบติดตั้งภายนอก จะมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่
         ยมแบนๆ ภายในมีวงจรโมเด็ม ไฟสถานะ และลำาโพง
         เนื่องจากต่อภายนอกจึงต้องมี adapter แปลงสัญญาณไฟ
         เลียงวงจร และจะมีสายต่อแบบ 25 ขา DB25 เอาไว้ใช้
             ้
         เชื่อมต่อผ่านทาง port อนุกรม RS - 232C
     R   PCMCIA (Personal Computer Memory Card
         International Asociation) จะเป็นโมเด็มที่มีขนาด
         เล็กที่สุดคือ มีขนาดเท่าบัตรเครดิตและหนาเพียง 5
         มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งโมเด็มชนิดนี้ออกแบบมาโดยให้
         คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ ซึงในปัจจุบันโมเด็มชนิดนี้
                                            ่
         จะมีความเร็วพอๆ กับโมเด็มที่ติดตั้งภายนอกและภายใน
208

          ในปัจจุบันนีโมเด็มมีความเร็วสูงสุดที่ 56 Kbps (Kilobyte
                      ้
          per second) โดยจะใช้ มาตรฐาน V.90 เป็นตัวกำาหนด




             โมเด็มชนิดติดตั้งภายนอก ภายใน
                        และ PCMCIA




        3.
        ภาพแสดงการเชื่อมต่อผ่านโมเด็มสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  4. คู่สายโทรศัพท์ (Dial line) เป็นคู่สายโทรศัพท์บ้านสำาหรับ
     เชื่อมต่อกับโมเด็ม
  5. บัญชีผู้ใช้งาน (Account) จากผู้ให้บริการเอกชน ISP หรือ
     ขององค์กร/หน่วยงานต่างๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่งจะกำาหนด
     หมายเลขโทรศัพท์สำาหรับการเชื่อมต่อ ชื่อผู้ใช้งาน
     (Username) และรหัสผ่าน (Password)
ลักษณะการเชื่อมต่อแบบบุคคล




       การเชื่อมต่อเริ่มจากผู้ใช้งาน (User) หมุนโมเด็มไปยัง
หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการที่มีโมเด็มต่ออยู่เช่นกัน สัญญาณ
209

จากเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนจากสัญญาณดิจิตอลเป็น
อนาล็อกผ่านคู่สายโทรศัพท์ไปยังโมเด็มฝั่งตรงข้ามเพื่อเปลี่ยนกลับ
สัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอลอีกครั้ง
         สัญญาณขอเข้าเชื่อมเครือข่ายจะถูกส่งมายังเครื่อง
คอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบสิทธิการใช้งานจาก
Username และ Password ว่าถูกต้องหรือไม่? ถ้าถูกต้องก็จะได้รับ
อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ สามารถจะทำาการรับ-ส่งไฟล์ รับ-ส่งอีเมล์
สนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ และท่องโลกกว้างไซเบอร์สเปซทาง
WWW ได้ทันที

การเชื่อมต่อแบบองค์กร
          จะเป็นการเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
จำานวนมากที่ถูกต่อเข้าด้วยกันเป็นเครือข่าย มีเครื่องคอมพิวเตอร์ททำา
                                                                 ี่
หน้าที่เป็นเครื่องให้บริการ (Server) ด้านต่างๆ และมีการเชื่อมต่อกับ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีอุปกรณ์ที่สำาคัญดังนี้




  1. คอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มี
     ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหน่วยประมวลผลตั้งแต่ 500 MHz
     มีหน่วยความจำาหลัก RAM ตั้งแต่ 512 MB ขึ้นไป จำานวน
     เครื่องขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณการใช้งานขององค์กร
                      2. ดิจิตอลโมเด็ม (NTU) และอุปกรณ์ชี้เส้น
                         ทาง (Router) คืออุปกรณ์ซึ่งทำาหน้าที่
                         แปลงสัญญาณดิจิตอลและกำาหนดเส้น
                         ทางในการเชื่อมต่อด้วยหมายเลข IP
                         Address ไปยังเครือข่ายอื่นๆ
                      3. คู่สายเช่า (Lease line) เป็นคู่สาย
210

                         สัญญาณเช่าสำาหรับการเชื่อมต่อแบบตลอด
                         เวลา ไม่ต้องมีการหมุนหมายเลขโทรศัพท์
                         ในการเชื่อมต่อ
  4. สิทธิการใช้งานเชื่อมต่อ (Air time) จากผู้ให้บริการเอกชน
     ISP หรือขององค์กร/หน่วยงานต่างๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่ง
     จะกำาหนดหมายเลข IP Address ของกลุ่มเครื่องในเครือข่าย
     จำานวนหนึ่งมาให้สำาหรับใช้กับอุปกรณ์ชี้เส้นทางและเครื่องแม่
     ข่าย




            การเชื่อมต่อแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เหมาะสำาหรับ
องค์กรทีมีปริมาณการใช้งานของเครือข่ายสูง มีเครื่องคอมพิวเตอร์/
          ่
สมาชิกเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายภายในองค์กรเป็นจำานวนมาก และมี
ข้อมูลที่จะนำาเสนอสู่สาธารณชนเป็นจำานวนมากและปรับปรุงให้ทนสมัย    ั
อยู่เสมอ
บริการด้านข้อมูล
การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล
      บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล หรือบริการ FTP (File Transfer
Protocol) เป็นบริการของอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
นิยมใช้ โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลียนข้อมูลต่างๆ ไม่วาจะเป็นไฟล์
                                 ่                  ่
ข้อมูลตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง วีดิโอ หรือโปรแกรมต่างๆ ซึงการถ่าย
                                                           ่
โอนข้อมูลนั้นมีอยู่ ٢ ลักษณะคือ
  1. การถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องของเราไปยังคอมพิวเตอร์ที่
     เป็นโฮสต์ (Host) เรียกว่า การอัปโหลด (Upload) ทำาให้
     คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นสามารถใช้งานจากข้อมูลของเราได้
211

  2. การที่เราถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากโฮสต์อื่นมายังคอมพิวเตอร์ของ
     เราเรียกว่า การดาวน์โหลด (Download)




ในการนำาดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ มาใช้นั้น มีบริการอยู่ ٢ ประเภท คือ
Private FTP หรือ เอฟทีพีเฉพาะกลุม นิยมใช้ตามสถานศึกษาและ
                                    ่
ภายในบริษัท ผู้ใช้บริการจะต้องมีรหัสผ่านเฉพาะจึงจะใช้งานได้
ประเภทที่สองคือ Anonymous FTP เป็นเอฟทีพีสาธารณะให้บริการ
ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลฟรีโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งปัจจุบันมีบริการใน
ลักษณะนี้เป็นจำานวนมาก โดยเฉพาะโปรแกรมซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ทีทาง     ่
บริษัทต่างๆ คิดค้นขึ้นมาและต้องการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ก็จะนำา
โปรแกรมมานำาเสนอไว้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนใดสนใจก็สามารถใช้เอฟที
พีดึงเอาโปรแกรมเหล่านั้นมาใช้งานได้ โดยโปรแกรมที่สามารถ
ดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เรียกว่า ฟรีแวร์ (Freeware)
และโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้ก่อน ซึ่งหากพอใจก็
ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อตัวโปรแกรม เรียกว่า แชร์แวร์ (Shareware)
การค้นหาข้อมูล
     เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นระบบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว้างขวาง
ทัวโลก โดยมีแฟ้มข้อมูลต่างๆ มากมายหลายพันล้านแฟ้มบรรจุอยูใน
  ่                                                             ่
ระบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นใช้งาน ดังนั้น จึงจำาเป็นต้องมีระบบ
หรือโปรแกรมเพื่อช่วยในการค้นหาแฟ้มได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
อาร์คี (Archie) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาแฟ้มที่เราทราบชื่อ แต่
ไม่ทราบว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใดในอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนี้จะ
สร้างบัตรรายการแฟ้มไว้ในฐานข้อมูล เมื่อต้องการค้นว่าแฟ้มนั้นอยู่ใน
212

เครื่องบริการใด ก็เพียงแต่เรียกใช้อาร์คีแล้วพิมพ์ชื่อแฟ้มข้อมูลที่
ต้องการนั้นลงไป อาร์คีจะตรวจค้นฐานข้อมูลและแสดงชื่อแฟ้มพร้อม
รายชื่อเครื่องบริการที่เก็บแฟ้มนั้นให้ทราบ เมื่อทราบชื่อเครื่องบริการ
แล้วก็สามารถใช้เอฟทีพีเพื่อถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล มาบรรจุลงใน
คอมพิวเตอร์ของเราได้
โกเฟอร์ (Gopher) เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลและขอใช้บริการด้วย
ระบบเมนู โกเฟอร์เป็นโปรแกรมที่มีรายการเลือกเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ใน
การค้นหาแฟ้มข้อมูล ความหมาย และทรัพยากรอื่นๆ เกี่ยวกับหัวข้อที่
ระบุไว้ โดยผู้ใช้ไม่จำาเป็นต้องทราบและใช้รายละเอียดของ
คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงอยู่กับอินเทอร์เน็ต สารบบ หรือชื่อแฟ้มข้อ
มูลใดๆ ทังสิ้น เราเพียงแต่เลือกอ่านในรายการเลือกและกดแป้น
         ้
Enter เท่านั้นเมื่อพบสิ่งที่น่าสนใจ ในการใช้นี้เราจะเห็นรายการเลือก
ต่างๆ พร้อมด้วยสิ่งทีให้เลือกใช้มากขึ้นจนกระทั่งเราเลือกสิ่งที่ต้องการ
                     ่
และมีข้อมูลแสดงขึ้นมา เราสามารถอ่านข้อมูลหรือเก็บบันทึกไว้ใน
คอมพิวเตอร์ของเราได้
Veronica เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลที่พฒนาขึ้นมาจากการทำางานของ
                                    ั
ระบบโกเฟอร์ เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการโดยไม่ต้องผ่าน
ระบบเมนูตามลำาดับขั้นของโกเฟอร์ เพียงแต่พิมพ์คำาสำาคัญ
(Keyword) ลงไปให้ระบบค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำานั้นๆ แทน
เวส (Wide Area Information Server-WAIS) เป็นโปรแกรมสำาหรับ
ใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยสืบค้นข้อมูล โดยการค้นจากเนื้อหาข้อมูลแทน
การค้นตามชื่อของแฟ้มข้อมูล จากฐานข้อมูลจำานวนมากที่กระจายอยู่
ทัวโลก การใช้งานผู้ใช้ต้องระบุชื่อเรื่อง หรือ ชื่อคำาหลักที่เกี่ยวกับ
  ่
เนื้อหาข้อมูลที่ต้องการค้น หลังจากใช้คำาสั่งค้นหาข้อมูล โปรแกรมเวส
จะช่วยค้นไปยังแหล่งข้อมูลที่ต่อเชื่อมกันอยู่ในอินเทอร์เน็ต โดยจะ
พยายามค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องตรงกับคำาค้น หรือวลีสำาคัญที่ผู้ใช้การ
ค้นหาให้มากที่สุด
Search Engines เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตที่
ได้รบความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลักษณะของโปรแกรมช่วย
    ั
การค้นหาซึ่งมีอยู่มากมายในระบบอินเทอร์เน็ต โดยการพัฒนาของ
องค์กรต่างๆ เช่น Google,Yahoo, Infooseek, Alta Vista, HotBot,
Excite เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลสารสนเทศต่างๆ โดยผู้ใช้
พิมพ์คำาหรือข้อความ ทีเป็น keyword เข้าไป โปรแกรม Search
                        ่
Engines ก็จะแสดงรายชื่อของแหล่งข้อมูลต่างๆ ทีเกี่ยวข้องขึ้นมา ซึง
                                                  ่               ่
213

เราสามารถคลิกไปที่รายชื่อต่างๆ เพื่อเข้าไปดูข้อมูลตัวนั้นๆ ได้ หรือจะ
เลือกค้นจากหัวข้อในหมวดต่างๆ (Categories) ทีทาง Search
                                                ่
Engines ได้แสดงไว้เป็นเมนูต่างๆ โดยเริมจากหมวดที่กว้างจนลึก
                                        ่
เข้าไปสู่หมวดย่อยได้




ข้อมูลมัลติมีเดีย

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) เป็นบริการบน
อินเทอร์เน็ตทีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากลักษณะเด่น
                 ่
ของเวิลด์ไวด์เว็บ ทีสามารถนำาเสนอข้อมูลมัลติมีเดียที่แสดงได้ทั้งตัว
                      ่
หนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ซึ่งมีอยูมากมาย และ
                                                   ่
สามารถรวบรวมลักษณะการใช้งานอื่นๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตเอาไว้
ด้วย ไม่วาจะเป็น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ การถ่ายโอนข้อมูล การ
           ่
สนทนา การค้นหาข้อมูล และอื่นๆ ทำาให้เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่ง
ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เว็บ จะ
ต้องใช้โปรแกรมการทำางานที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser)
เป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับ
ความนิยมได้แก่ Internet Explorer และ Netscape Navigator
  ลักษณะของเวิลด์ไวด์เว็บ คือ
  การนำาเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายใน
  ลักษณะหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์
  ที่เรียกว่า เว็บเพจ (Web Page)
  เปรียบเสมือนหน้าหนังสือ หรือหน้า
  นิตยสาร ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ
  รูปภาพ และเสียงไว้ได้ด้วย โดยที่
  หน้าแรกของเว็บเพจ เรียกว่า
  โฮมเพจ (Home Page) ซึ่งภาษาที่
214

 ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ให้สามารถดู
 ได้ในเวิลด์ไวด์เว็บ เรียกว่า HTML
 (Hypertext Markup Language)
 เมื่อเราเอาเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจมารวมกันในแหล่งเดียวกัน เรา
 เรียกว่า เว็บไซต์ (Website) เว็บไซต์แต่ละที่จะถูกเก็บไว้ในเว็บ
 เซิร์ฟเวอร์ (Web Server) แต่ละแห่ง โดยแต่ละแห่งก็จะมีโฮสต์ของ
 ตนเองทำาหน้าที่ดูแลและพัฒนาข้อมูล ซึ่งโดยปกติจะเปิดอิสระให้
 ทุกคนเข้าไปเปิดดูข้อมูลได้ ขอเพียงแต่ให้ผู้ใช้ทราบที่อยู่ของเว็บ
 เซิร์ฟเวอร์นนๆ ซึ่งที่อยูนี้เรียกว่า ยูอาร์แอล (Uniform Resource
              ั้          ่
 Locator - URL) ซึ่งแต่ละยูอาร์แอลจะมีชื่อไม่ซำ้ากัน เช่น
 www.hotmail.com และ www.inet.co.th เป็นต้น ส่วนประกอบ
 ของยูอาร์แอลมักจะเขียนดังตัวอย่างนี้




 โฮมเพจหรือเว็บเพจของแต่ละเว็บไซต์ จะมีทั้งข้อความและรูปภาพ
 ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เอกสารเหล่านี้จะมีข้อความที่บรรจุอยู่
 จำานวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อ กลุ่มคำา หรือรูปภาพที่สัมพันธ์กับ
 เนื้อหา แต่ไม่ได้แสดงเนื้อหาทั้งหมดไว้ในหน้าเดียว หากแต่มีคำา
 สำาคัญที่เน้นเป็นจุดเด่น มีสีสันชัดเจน หรือขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งโดยทัวไป
                                                                   ่
 ถ้าเราเอาเมาส์ไปวางไว้บนข้อความหรือรูปภาพนั้นๆ สัญลักษณ์ของ
 เมาส์ก็จะเปลียนจากรูปลูกศรมาเป็นรูปมือ ถ้าหากผู้ใช้ต้องการราย
               ่
 ละเอียดเพิ่มเติม ก็คลิกที่ข้อความหรือรูปภาพนั้น เว็บเพจที่เกี่ยวข้อง
 กับข้อความหรือรูปภาพนั้นก็จะถูกเปิดขึ้นมา ลักษณะเช่นนี้เราเรียก
 ว่าการเชื่อมโยงด้วย ไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) ซึ่งทำาให้เราสามารถ
 เชื่อมโยงหรือลิงค์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกัน และลิงค์ไป
 ยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างไม่จำากัด
โทษของอินเทอร์เน็ต
         ทุกสรรพสิ่งในโลกย่อมมีทงด้านที่เป็นคุณประโยชน์และด้าน
                                  ั้
ทีเป็นโทษ เปรียบเหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ
  ่
เลือกใช้อย่างไรให้เกิดผลดีต่อเรา ขอยกตัวอย่างโทษที่อาจจะเกิดขึ้น
ได้จากการใช้งานอินเทอร์เน็ตดังนี้
215

1. โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic)
   อินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งเสพติดหรือ?
                           หากการเล่นอินเทอร์เน็ตทำาให้คุณเสียงาน
                    หรือแม้แต่ทำาลายสุขภาพ นักจิตวิทยาชื่อ
                    Kimberly S. Young ได้ศึกษาพฤติกรรม ของผู้
                    ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมากเป็นจำานวน 496 คน โดย
                    เปรียบเทียบกับบรรทัดฐานซึ่งใช้ในการจัดว่า ผู้ใด
                    เป็นผู้ที่ติดการพนัน การติดการพนันประเภทที่
                    ถอนตัวไม่ขึ้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับการติด
                    อินเทอร์เน็ต เพราะทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับการ
                    ล้มเหลวในการควบคุมความต้องการของตนเอง
                    โดยไม่มีสวนเกี่ยวข้องกับสารเคมีใดๆ (อย่างสุรา
                                 ่
                    หรือยาเสพติด)
2. คำาว่า อินเทอร์เน็ต ในการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ หมายรวมถึง ตัว
   อินเทอร์เน็ตเอง ระบบออนไลน์ (อย่างเช่นบริการ AmericaOn-
   line, Compuserve, Prodigy) หรือระบบ BBS (Bulletin Board
   Systems) และการศึกษาวิจัยครั้งนีได้ระบุวา ผู้ที่มีคุณสมบัติดัง
                                     ้          ่
   ต่อไปนี้อย่างน้อย 4 อย่าง เป็นเวลานานอย่างน้อย 1 ปีถือได้ว่า
   มีอาการติดอินเทอร์เน็ต
        รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อกับ
        อินเทอร์เน็ต
        มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น
        ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้
        รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลงหรือหยุดใช้
        ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการ
        ใช้อินเทอร์เน็ตทำาให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น
        หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต
        ของตัวเอง
        การใช้อินเทอร์เน็ตทำาให้เกิดการเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน
        การเรียน และความสัมพันธ์ ยังใช้อินเทอร์เน็ตถึงแม้ว่าต้อง
        เสียค่าใช้จ่ายมาก
        มีอาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวนกระวายเมื่อเลิกใช้
        อินเทอร์เน็ต
        ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้
216

           สำาหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เข้าข่ายข้างต้นเกิน 3 ข้อ
  ในช่วงเวลา 1 ปี ถือว่ายังเป็นปกติ จากการศึกษาวิจัยผูที่ใช้
                                                           ้
  อินเทอร์เน็ตอย่างหนัก 496 คน มี 396 คนซึ่งประกอบไปด้วย
  เพศชาย 157 คน และเพศหญิง 239 คน เป็นผู้ที่เรียกได้ว่า "ติด
  อินเทอร์เน็ต" ในขณะที่อีก 100 คนยังนับเป็นปกติ ประกอบด้วย
  เพศชาย และเพศหญิง 46 และ 54 คนตามลำาดับ
           สำาหรับผู้ที่จัดว่า "ติดอินเทอร์เน็ต" นั้นได้แสดงลักษณะ
  อาการของการติด (คล้ายกับการติดการพนัน) และการใช้
  อินเทอร์เน็ต อย่างหนักเหมือนกับการเล่นการพนัน ความผิดปกติ
  ในการกินอาหารหรือสุราเรื้อรัง มีผลกระทบต่อการเรียน อาชีพ
  สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของคนคนนั้น ถึงแม้ว่าการวิจยที่       ั
  ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การติดเทคโนโลยีอย่างเช่น การติด
  เล่นเกมส์ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเพศชายแต่ผลลัพธ์ข้างต้น
  แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ติดอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง วัย
  กลางคนและไม่มีงานทำา
3. เรื่องอนาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent
   Content)
             เรื่องของข้อมูลต่างๆ ทีมีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีล
                                      ่
   ธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆ นั้นเป็นเรื่อง
   ทีมีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้ง
      ่
   เนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนามากนัก ทำาให้
   ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภาพเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบน
   อินเทอร์เน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่าย
   โดยผูปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่า
          ้
   อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำาให้สื่อเหล่า
   นี้สามารถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือ
   เอาผิดผู้ททำาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้
              ี่
4. ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา
              ไวรัส : เป็นโปรแกรมอิสระ ซึงจะสืบพันธุ์โดยการ
                                           ่
   จำาลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำาลายข้อมูล หรืออาจ
   ทำาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำางานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วย
   ความจำาหรือพื้นทีว่างบนดิสก์โดยพลการ
                      ่
              ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำานานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ใน
   ม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำาเร็จ
   โปรแกรมนี้ก็ทำางานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำาหน้าที่ไม่พึง
217

     ประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมัก
     จะทำาในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำานั้นไม่มีความจำาเป็น
     ต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเรา
     ไปให้ผู้เขียนโปรแกรม
               หนอนอินเตอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris,
     Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการ
     จำาลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร
     และทำาให้ระบบช้าลง
               ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำาหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูป
     แบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำางานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ
     มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำาลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่
     31 กรกฎาคม 2542
         นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลาย
เป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำาลาย
ระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณใน
การรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็น
เหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้
อนาคตของอินเทอร์เน็ต
         อนาคตของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้พัฒนาไป
อย่างต่อเนื่อง จากเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊กไปสู่เครื่อง
คอมพิวเตอร์พกพาที่เรียกกันว่า Palmtop และโทรศัพท์มือถือ




         โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ได้ผนวกรวมเข้ากับเทคโนโลยีด้าน
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)
218

ส่งข้อความสั้น (Short Message Service) รวมทั้งการท่อง
เว็บไซต์ด้วยเทคโนโลยี WAP (Wireless Application Protocol )
เป็นเทคโนโลยีททำาให้โทรศัพท์ สามารถเปิดเว็บทีถูกเขียนมาเพื่อ
                ี่                           ่
โทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะได้




           ปัจจุบันมีการนำาเอาเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการ
สื่อสารมากขึ้นเช่น การใช้โทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังต่าง
ประเทศ (Net2Phone) บริการนี้คือการโทรศัพท์จากคอมพิวเตอร์ไป
ยังเครื่องรับโทรศัพท์จริงๆ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมี
อัตราค่าโทรศัพท์ที่ถูกกว่า และยังมีบริการ Net2Fax ซึ่งให้บริการ
Fax เอกสารจากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่อง Fax จริงๆ ซึ่งมีอัตราค่า
บริการที่ถูกกว่าเช่นกัน บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมมาติด
ตั้งและจะต้องจ่ายเงินก่อน ซึงเป็นการซื้อเวลาล่วงหน้า เมื่อมีการใช้
                              ่
บริการ จึงจะหักค่าใช้บริการจากที่ซื้อไว้
           ในประเทศไทยได้นำาเอาเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (
ช่องความถี่ทว่าง) มาใช้ในการให้บริการโทรศัพท์ทางไกล Ytel ทำาให้
              ี่
ค่าบริการลดลง ด้วยการกดหมายเลข 1234 นำาหน้ารหัสทางไกลและ
หมายเลขโทรศัพท์บาน ค่าบริการจะลดลงมากกว่าครึ่งด้วยคุณภาพ
                       ้
ของเสียงที่ชัดเจนยอมรับได้ เป็นต้น

          ในอินเทอร์เน็ตยังมีบริการด้านความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ
เช่น เกมส์ เพลง รายการโทรทัศน์และวิทยุ เราสามารถเลือกใช้บริการ
เหล่านี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากแหล่งต่างๆ ทัวทุกมุมโลก เราสามารถ
                                            ่
รับความบันเทิงใหม่ล่าสุดได้พร้อมๆ กับประเทศอื่นๆ ทันทีเช่นเดียวกัน
219




            Game Online          Radio on Internet


โลกของอิเล็กทรอนิคส์
                      อนาคตของอินเทอร์เน็ตกำาลังมุ่งไปสู่การให้
               บริการทางด้านธุรกิจที่เราได้ยินกันจนชินหูว่า e-
               Commerce เช่น การทำาร้านค้าออนไลน์จำาหน่ายสินค้า
               และบริการต่างๆ การชำาระค่าบริการ (ค่านำ้า ค่าไฟฟ้า
               โทรศัพท์ ภาษีรถยนต์ เบียประกันภัย) ที่สามารถให้
                                        ้
               บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทัวโลก
                                           ่
                      รัฐบาลไทยได้วางนโยบายและกำาหนดเป้าหมาย
               ในการนำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งาน โดย
               การปรับปรุงการทำางานของหน่วยงานรัฐบาลเป็นแบบ e-
               Government มีการนำาเอาระบบฐานข้อมูลประชากร e-
               Citizen มาใช้ในการบริหารงานการให้บริการต่างๆ แก่
               ประชาชนในด้านต่างๆ
           ประชาชนจะมีบัตรประจำาตัวแบบสมาร์ทการ์ดทีบรรจุข้อมูล
                                                       ่
ต่างๆ เพียงใบเดียว (รวมใบ
ขับขี่ บัตรสุขภาพของสถานพยาบาล หรือบัตรอื่นๆ ไว้เพียงใบเดียว)
การทำาธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องการอ้างอิงหลักฐานทางราชการสามารถใช้
บัตรประจำาตัวประชาชนเพียงใบเดียวในการดำาเนินการ
220




                                จดหมายอิเล็กทรอนิกส์
                          (Electronic Mail = E- Mail)
วิธีการรับ-ส่ง Electronic Mail(E-Mail)
        ในการรับ – ส่ง E- Mail ในปัจจุบันเราสามารถทำาได้หลากหลาย
วิ ธี โดยขึ้ น อยู่ กั บ ว่ า เราใช้ บ ริ ก าร E-Mail ของ Site ใด เช่ น ของ
Hotmail.com , ข อ ง Excite.com Thaimail.com แ ล ะ อื่ น ๆ อี ก
มากมาย ทั้งนี้ ทาง Site ที่เราใช้บริการอยู่จะมีบริการในการจัดส่ง E-
Mail ให้ ซึ่งแต่ละ Site ก็จะมีรูปแบบการส่ง และวิธีการที่ต่างกันไป
        ใ น ที่ นี้ ข อ ย ก ตั ว อ ย่ า ง ก า ร รั บ ส่ ง E-Mail ข อ ง thaimail.com
เนื่ อ งจากเป็ น Site ที่ มี ผู้ใ ช้ บ ริ ก ารมากและเป็ น ที่ นิย มมากที่ สุด ทั้ ง ยั ง
เป็นภาษาไทยด้วย
การเข้าสู่ thaimail.com
        - ทำาโดยการพิมพ์ที่ Address ว่า thaimail.com ดังภาพ จะ
           แสดงหน้าจอแรก
        - จากนั้นทำาการใส่ User Name และ Password ของเรา แล้ว
           นำา Mouse ไปคลิกทีปุ่ม login  ่
221




              1


                  2

 3



  1. พิมพ์ User Name ที่ หมายเลข ١
  2. พิมพ์ Password ที่ หมายเลข ٢
  3. จากนั้นใช้ Mouse คลิกที่ Login ที่ หมายเลข 3


การรับ E -Mail
       หลั ง จากที่ เ ราใส่ User Name และ Password ที่ ถู ก ต้ อ งลงไป
แล้วกดปุ่ม จะปรากฏหน้าจอดังรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า ไม่มี Mail ใหม่ ๆ
เข้ า มา กรณี ที่ มี Mail ใหม่ ๆ เข้ า มาจะปรากฏในหน้ า จอนี้ เ องโดย
อัตโนมัติในทุก ๆ ครังที่เราเข้ามาดู
                        ้
222




  1. หมายเลข ١ เป็นส่วนเมนูในการเลือกใช้ Mail
  2. หมายเลข ٢ ส่วนทีแสดงจดหมายที่ได้รบใหม่เมื่อมีจดหมายเข้า
                      ่                ั
     มา

การส่ง E- Mail
      ขั้นที่ 1 นำา Mouse ไป Click ทีเมนู เขียนจดหมาย จากหน้าจอ
                                       ่
ในรูปที่ 2
      ขั้นที่ 2 หลังจากเลือกเมนูเขียนจดหมาย แล้วจะปรากฏหน้าจอ
ดังรูปที่ 3 หลังจากนั้นมีวิธีการดังนี้
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น
อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น

More Related Content

What's hot

3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ตMeaw Sukee
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1Morn Suwanno
 
หน่วยที่ 3 การใช้งานอินเทอร์เน็ต
หน่วยที่  3 การใช้งานอินเทอร์เน็ตหน่วยที่  3 การใช้งานอินเทอร์เน็ต
หน่วยที่ 3 การใช้งานอินเทอร์เน็ตPor Oraya
 
แบบฝึกหัดบทที่ 4
แบบฝึกหัดบทที่ 4แบบฝึกหัดบทที่ 4
แบบฝึกหัดบทที่ 4Chutikan Mint
 
งานนำเสนอ1(ติ่ง)
งานนำเสนอ1(ติ่ง)งานนำเสนอ1(ติ่ง)
งานนำเสนอ1(ติ่ง)Paveenut
 
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ตบทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ตWanphen Wirojcharoenwong
 
ระบบอินเตอร์เน็ต
ระบบอินเตอร์เน็ตระบบอินเตอร์เน็ต
ระบบอินเตอร์เน็ตWanphen Wirojcharoenwong
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์Wanphen Wirojcharoenwong
 
it-10-46
it-10-46it-10-46
it-10-46buabbn
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ARAM Narapol
 
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์jzturbo
 
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตการกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตปิยะดนัย วิเคียน
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์Kalib Karn
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์Krittalak Chawat
 
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายบทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายTum WinNing
 

What's hot (18)

3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
3.1 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ม.1
 
หน่วยที่ 3 การใช้งานอินเทอร์เน็ต
หน่วยที่  3 การใช้งานอินเทอร์เน็ตหน่วยที่  3 การใช้งานอินเทอร์เน็ต
หน่วยที่ 3 การใช้งานอินเทอร์เน็ต
 
แบบฝึกหัดบทที่ 4
แบบฝึกหัดบทที่ 4แบบฝึกหัดบทที่ 4
แบบฝึกหัดบทที่ 4
 
งานนำเสนอ1(ติ่ง)
งานนำเสนอ1(ติ่ง)งานนำเสนอ1(ติ่ง)
งานนำเสนอ1(ติ่ง)
 
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ตบทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
บทที่ 4 ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
 
ระบบอินเตอร์เน็ต
ระบบอินเตอร์เน็ตระบบอินเตอร์เน็ต
ระบบอินเตอร์เน็ต
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
it-10-46
it-10-46it-10-46
it-10-46
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยที่ 8 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตการกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
การกำหนดที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
 
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่ายบทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
บทที่6 การออกแบบระบบเครือข่าย
 

Viewers also liked

ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวNoomim
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวNoomim
 
Transparency Is The New Green
Transparency Is The New GreenTransparency Is The New Green
Transparency Is The New GreenScott Bales
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวNoomim
 
ข้อมูลและสาระสนเทศ
ข้อมูลและสาระสนเทศข้อมูลและสาระสนเทศ
ข้อมูลและสาระสนเทศNoomim
 
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มNoomim
 
Are you ready for Isaac? The Digital Native Consumer
Are you ready for Isaac? The Digital Native ConsumerAre you ready for Isaac? The Digital Native Consumer
Are you ready for Isaac? The Digital Native ConsumerScott Bales
 
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์Noomim
 

Viewers also liked (9)

ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 
Transparency Is The New Green
Transparency Is The New GreenTransparency Is The New Green
Transparency Is The New Green
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 
ข้อมูลและสาระสนเทศ
ข้อมูลและสาระสนเทศข้อมูลและสาระสนเทศ
ข้อมูลและสาระสนเทศ
 
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
 
Are you ready for Isaac? The Digital Native Consumer
Are you ready for Isaac? The Digital Native ConsumerAre you ready for Isaac? The Digital Native Consumer
Are you ready for Isaac? The Digital Native Consumer
 
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์
หน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์
 
Why Hit the GYM?
Why Hit the GYM?Why Hit the GYM?
Why Hit the GYM?
 

Similar to อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Suphattra
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1Suphattra
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1puangtong
 
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งานบทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งานPiyanoot Ch
 
อิรเตอร์เน็ต
อิรเตอร์เน็ตอิรเตอร์เน็ต
อิรเตอร์เน็ตNaluemonPcy
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตSutin Yotyavilai
 
Internet1
Internet1Internet1
Internet1mod2may
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1Toey_Wanatsanan
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาวความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาวMilkSick
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีPheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ยความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ยPheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1puangtong
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมวความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมวPheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายPheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายPheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบ
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบ
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบpuangtong
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1Pheeranan Thetkham
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีPheeranan Thetkham
 

Similar to อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น (20)

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
Lernning 05
Lernning 05Lernning 05
Lernning 05
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งานบทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
บทที่3เรื่องอินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
 
อิรเตอร์เน็ต
อิรเตอร์เน็ตอิรเตอร์เน็ต
อิรเตอร์เน็ต
 
Internet
InternetInternet
Internet
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
 
Internet1
Internet1Internet1
Internet1
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาวความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตขาว
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ยความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตดุ่ย
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมวความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมว
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตแมว
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปายความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตปาย
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบ
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบ
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโบ
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตเตย1
 
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบีความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตบี
 

More from Noomim

ระบบปฏิบัติการ1 มิ้ม
ระบบปฏิบัติการ1 มิ้มระบบปฏิบัติการ1 มิ้ม
ระบบปฏิบัติการ1 มิ้มNoomim
 
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มNoomim
 
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้ม
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้มเทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้ม
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้มNoomim
 
ระบบคอมพิวเตอร์1
ระบบคอมพิวเตอร์1ระบบคอมพิวเตอร์1
ระบบคอมพิวเตอร์1Noomim
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวNoomim
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวNoomim
 

More from Noomim (6)

ระบบปฏิบัติการ1 มิ้ม
ระบบปฏิบัติการ1 มิ้มระบบปฏิบัติการ1 มิ้ม
ระบบปฏิบัติการ1 มิ้ม
 
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้มประวัติส่วนตัว มิ้ม
ประวัติส่วนตัว มิ้ม
 
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้ม
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้มเทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้ม
เทคโนโลยี สารสนเทศ มิ้ม
 
ระบบคอมพิวเตอร์1
ระบบคอมพิวเตอร์1ระบบคอมพิวเตอร์1
ระบบคอมพิวเตอร์1
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 
ประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัวประวัติส่วนตัว
ประวัติส่วนตัว
 

อินเทอร์เน็ตเบื้องต้น

  • 1. 196 อินเทอร์เน็ต ( Internet ) เป็นเครือข่าย คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ เชื่อมโยงเครือข่าย คอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วย กัน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไซ เบอร์สเปซ ( Cyberspace ) อินเทอร์เน็ต ทำาให้การ เคลื่อนย้ายและส่งผ่าน ข่าวสารข้อมูลจากที่หนึงไป ่ อีกที่หนึ่งกระทำาได้โดยง่าย โดยไม่จำากัดเรื่องระยะทาง และเวลา สามารถส่งข้อมูล ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ส่งเป็นแบบข้อความ ภาพนิง ่ ภาพเคลื่อนไหว เสียง โดย อาศัยเครือข่ายโทรคมนาคม เป็นตัวเชื่อมต่อเครือข่าย การเชื่อมโยงเครือข่ายจะใช้เครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคม เช่น สายสัญญาณโทรศัพท์ ใยแก้วนำาแสง (Fiber Optic) สัญญาณ ไมโครเวฟ สัญญาณจากดาวเทียม ทำาให้การส่งผ่านข้อมูลจากที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว อินเทอร์เน็ตเป็น แหล่งรวบรวม ข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นที่รวมทั้งบริการและเครื่องมือ สืบค้นข้อมูลหลายประเภท จนกระทั่งกล่าวได้วาอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่อง ่ มือสำาคัญอย่างหนึงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งใน ่ ระดับบุคคลและองค์กร การเชื่อมต่อเข้าเป็นอินเทอร์เน็ตอาศัยการบริหารแบบ กระจายอำานาจอินเทอร์เน็ต จึงไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือควบคุมดูแล อย่างแท้จริง เครือข่ายแต่ละส่วนในอินเทอร์เน็ตต่างบริหารเครือข่าย
  • 2. 197 ของตนเองอย่างเป็นอิสระโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายติดตั้งระบบและการ เช่าวงจรสื่อสารเพื่อต่อเชื่อมเข้าด้วยกัน แต่ในทางปฏิบัติแล้ว อินเทอร์เน็ตมีองค์กรระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประสานความร่วม มือระหว่างสมาชิกองค์การนี้ได้แก่ สมาคมอินเทอร์เน็ต ISOC ( Internet Society ) ISOC เป็นองค์กรเพื่อความร่วมมือและประสานงานของสมาชิก อินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำาไร และมีนโย บายสนับสนุนการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนึ่ง สำาหรับการศึกษาและงานวิจัย และทำาหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ความ รูให้แก่ผู้ ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป ISOC ยังทำาหน้าที่พัฒนามาตรฐาน ้ และเทคโนโลยีเพื่อใช้ในอินเทอร์เน็ต ภายใน ISOC มีคณะทำางาน อาสาสมัครร่วมวางแนวทางพัฒนาอินเทอร์เน็ต ให้สมาชิกถือปฏิบัติ แต่ไม่มีหน้าที่ดูแลหรือควบคุมการบริหารเครือข่ายแต่อย่างใด ประวัติความเป็นมา อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งเริ่ม ก่อตั้งโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา อินเทอร์เน็ตในยุคแรกๆ ประมาณปี พ.ศ. 2512 เป็นเพียงการนำาคอมพิวเตอร์จำานวนไม่กี่เครื่อง มาเชื่อมต่อกัน โดยสายส่งสัญญาณเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์ ภารกิจหลัก เพื่อใช้ในงานวิจัยทางทหาร โดยใช้ ชื่อว่า "อาร์ปา" (ARPA : Advanced Research Project Agency) รูป แบบเครือข่ายอาร์พาเน็ตไม่ได้ต่อเชื่อมโฮสต์ ( Host ) คอมพิวเตอร์ เข้าถึงกันโดย ตรง หากแต่ใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่า IMP ( Interface Message Processors ) ต่อเชื่อมถึงกันทางสาย โทรศัพท์เพื่อทำา หน้าที่ด้านสื่อสารโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละ IMP สามารถเชื่อมได้หลาย โฮสต์
  • 3. 198 กำาเนิดอาร์พาเน็ต วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2512 ได้มีการ ทดลองเชื่อมโยง IMP ระหว่างมหาวิทยาลัย 4 แห่งโดยมีโฮสต์ต่าง ชนิดกันที่ใช้ในระบบปฏิบัติการต่างกัน คือ 1. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่ง ลอส แอนเจลิส ใช้เครื่อง SDS Sigma 7 ภายใต้ระบบปฏิบัติ การ SEX ( Sigma EXecutive ) 2. สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด ใช้เครื่อง SDS 940 และระบบ ปฏิบัติการ Genie 3. มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่ง ซานตา บาร์บารา มีเครื่อง IBM 360/75 ทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการ OS/MVT 4. มหาวิทยาลัยยูทาห์ ทีซอลต์เลคซิตี้ ใช้เครื่อง DEC PDP- ่ 10 ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Tenex ปี 2515 หลังจากที่เครือข่ายทดลองอาร์ปา ประสบความ สำาเร็จ ก็ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานจาก อาร์ปา มาเป็น ดาร์พา DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) ตอน หลังเปลียนเป็น Defence Communication Agency ปัจจุบันคือ ่ Defense Informations Systems Agency ในปี 2526 อาร์ปาเน็ตได้แบ่งเป็น 2 เครือข่าย ด้านงานวิจัย ใช้ชื่อว่า อาร์ปาเน็ต เหมือนเดิม ส่วนเครือข่ายของกองทัพใช้ชื่อ มิล เน็ต (MILNET: Military Network) ซึ่งมีการเชื่อมต่อโดยใช้ โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/ Internet Protocol) เป็นครังแรก้
  • 4. 199 ในปี 2528 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติอเมริกา (NSF) ได้ให้ เงินทุนในการสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 6 แห่ง และใช้ชื่อว่า NSFNET และในปี 2533 อาร์ปาเนตไม่สามารถที่จะรองรับภาระที่เป็น เครือข่ายหลัก (Backbone) ของระบบได้ อาร์ปาเน็ตจึงได้ยุติลงและ เปลี่ยนไปใช้ NSFNET และเครือข่ายอื่นๆแทน มาจนเป็นเครือข่าย ขนาดใหญ่ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ โดยเรียกเครือข่ายว่า อินเทอร์เน็ต (Internet) โดยเครือข่าย ส่วนใหญ่จะอยู่ในอเมริกา และปัจจุบันนีมี ้ เครือข่ายย่อยมากมายทั่วโลก อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยการ เชื่อมต่อมินิคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบัน เทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศ ออสเตรเลีย แต่ในครั้งนั้นยังเป็นการเชื่อมต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ ซึง ่ สามารถส่งข้อมูลได้ช้า และไม่เป็นการถาวร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็ก ทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้ทำาการ เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT), มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สถาบันเทคโนโลยี และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC), มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าด้วยกัน เรียกว่า "เครือข่ายไทยสาร" โดยสำานักวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เช่าวงจร สื่อสารความเร็ว 9600 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อ เชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่ "บริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา" ในปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เช่าวงจรสื่อสาร ความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาทีจากการสื่อสารแห่ง ประเทศไทยเพื่อ เพิ่มความสามารถในการขนส่งข้อมูล ทำาให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสารระดับ ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้ ไทยสารอินเทอร์เน็ต 2 วงจร ในปัจจุบันวงจรเชื่อมต่อไป ยังต่างประเทศที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ NECTEC ได้รบการปรับปรุงให้มีความ เร็วสูงขึ้นตามลำาดับ นับ ั ตั้งแต่นั้นมาเครือข่ายไทยสารได้ขยายตัวกว้างขึ้น และมี
  • 5. 200 หน่วยงานอื่นเชื่อมเข้ากับ ไทยสารอีกหลายแห่งในช่วง ต่อมา เครือข่ายไทยสารเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยมีมหาวิทยาลัยและ หน่วยงานราชการเข้ามาเชื่อมต่อกับ เครือข่ายนี้เพิ่มขึ้นอีกจำานวนมาก จะ เห็นได้วาอินเทอร์เน็ตในประเทศ ่ ขณะนั้นยังจำากัดอยู่ในวงการศึกษา และการวิจัยเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครือ ข่ายทีให้บริการในรูปของธุรกิจ แต่ ่ ทางสถาบันนั้น ๆ จะเป็นผู้รบผิด ั ชอบค่าใช้จ่ายเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 ความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ต จากภาคเอกชนมีมากขึ้น การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) จึงได้ ร่วมมือกับบริษัทเอกชน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่บุคคล ผู้สนใจ ทัวไปได้สมัครเป็นสมาชิก ตั้งขึ้นในรูปแบบของบริษทผู้ให้บริการ ่ ั อินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ เรียกว่า "ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต" หรือ ISP (Internet Service Provider) ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตจะถูกส่งผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และระบบการสื่อสารซึ่งในแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละประเทศซึ่งจะต้องรับ ผิดชอบกันเอง เพื่อเชื่อมต่อกับระบบใหญ่ของโลกให้ได้ ดังนั้นจึงเป็น หน้าที่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ซึ่งได้แก่ องค์กรทีทำาหน้าที่ ่ ให้บริการเชื่อมต่อสายสัญญาณจากแหล่งต่างๆ ของผูใช้บริการ เช่น ้ จากที่บาน สำานักงาน สถานบริการ และแหล่งอื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อกับ ้ ระบบใหญ่ออกไปนอกประเทศได้ บริการบนอินเทอร์เน็ต อภิมหาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายของเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกันไป ทัวโลก ในแต่ละเครือข่ายก็จะมีเครื่อง ่ คอมพิวเตอร์ททำาหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ ซึ่งอาจ ี่ เรียกว่าเป็น เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือ โฮสต์ (Host) เชื่อมต่ออยู่เป็นจำานวนมาก ระบบ คอมพิวเตอร์เหล่านี้จะให้บริการต่างๆ แล้วแต่ ลักษณะและจุดประสงค์ที่เจ้าของเครือข่ายนั้น หรือเจ้าของระบบคอมพิวเตอร์นั้นตั้งขึ้น ในอดีต
  • 6. 201 มักมีเฉพาะบริการเรื่องข้อมูลข่าวสารและ โปรแกรมที่ใช้ในแวดวงการศึกษาวิจัยเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันก็ได้ขยายเข้าสู่เรื่องของการค้า และธุรกิจแทบจะทุกด้าน บริการต่างๆ บน อินเทอร์เน็ตอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุมใหญ่ๆ ดังนี้ ่ 1. บริการด้านการสื่อสาร 2. บริการด้านข้อมูลต่างๆ บริการด้านการสื่อสาร เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อรับส่งข้อมูลแลก เปลี่ยนกันได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งจะมีความรวดเร็วกว่าการ ติดต่อด้วยวิธีการแบบธรรมดาและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูกกว่ามาก ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ (E-mail) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ E-mail เป็นบริการในระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำาคัญที่มีผู้นยมใช้บริการกันมากที่สุด ิ สามารถส่งตัวอักษร ข้อความ แฟ้มข้อมูล ภาพ เสียง ผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ไปยังผู้รับ อาจจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มคน โดยทั้งที่ผู้ส่งและผู้รับเป็นผู้ใช้ที่อยู่ในระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์เดียวกัน ช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้ ทัวโลก มีความสะดวก รวดเร็วและสามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอด ่ เวลา โดยไม่ต้องคำานึงถึงว่าผู้รบจะอยูที่ไหน จะใช้เครื่อง ั ่ คอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ เพราะไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์จะเก็บ ข้อความเหล่านั้นไว้ เมื่อผู้รับเข้าสู่ระบบเครือข่าย ก็จะเห็น ข้อความนั้นรออยูแล้ว ความสะดวกเหล่านีทำาให้นัก ่ ้ วิชาการสามารถแลกเปลียนข้อมูลข่าวสารถึงกันและ ่ กัน นักศึกษาสามารถปรึกษา หรือฝึกฝนทักษะกับ อาจารย์ หรือ เพื่อนนักศึกษาด้วยกันเอง โดยไม่ต้อง คำานึงถึงเวลา และระยะทาง โดยผูใช้สามารถติดต่อ ้ สื่อสารกันได้ไม่ว่าจะอยู่ตรงส่วนใดของมุมโลก
  • 7. 202 2 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์เป็นสื่อประเภทหนึ่งที่เหมาะ สมในการเรียนรู้ และช่วยขจัดปัญหาในเรื่องของเวลาและระยะ ทาง ผู้เรียนจะรู้สึกอิสระและกล้าแสดงออกมากกว่าปกติ ตลอด จนสามารถเข้าถึงผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดีในยุค สารสนเทศดังเช่นปัจจุบัน ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะมี บทบาทสำาคัญในการพัฒนาสังคมให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ อย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์เป็นรูปแบบการสื่อสารที่ทัน สมัยรูปแบบหนึ่งที่มีความสำาคัญ คือ 1. ทำาให้การให้การติดต่อสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันที ระยะทางไม่เป็นอุปสรรค สำาหรับไปรษณีย์ อิเล็กทรอ นิคส์ ในทุกแห่งทัวโลกที่มีเครือข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อ ่ ถึงกันได้ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ก็สามารถเข้าไปสถานที่ เหล่านั้นได้ทุกที่ ทำาให้ผู้คนทั่วโลกติดต่อถึงกันได้ทันที ผู้รบสามารถจะรับข่าวสารจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ได้ ั แทบจะทันทีที่ผู้ส่งจดหมายส่งข้อมูลผ่านทางคอมพิวเตอร์ เสร็จสิ้น 2. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับที่ ต้องการได้ทุกเวลา แม้ผู้รับจะไม่ได้อยู่ที่ หน้าจอ คอมพิวเตอร์ก็ตาม จดหมายจะถูกเก็บไว้ในตู้จดหมายของ คอมพิวเตอร์และเป็นส่วนตัว จนกว่าเจ้าของจดหมายทีมี ่ รหัสผ่านจะเปิดตู้จดหมายของตนเอง 3. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลายๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเสียเวลาส่งให้ ทีละคน กรณีนี้จะใช้กับจดหมายที่เป็นข้อความเดียวกัน เช่น หนังสือเวียนแจ้งข่าวให้สมาชิกในกลุมทราบ หรือเป็นการ ่ นัดหมายระหว่างสมาชิกในกลุม เป็นต้น ่ 4. การส่งจดหมายทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ ช่วยประหยัด เวลาในการเดินทางไปส่ง จดหมายถึงตู้ไปรษณีย์ หรือ ทีทำาการไปรษณีย์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่ง เนื่องจาก ่ ไม่ต้องคำานึงถึงปริมาณนำ้าหนัก และระยะทาง ของจดหมาย เหมือนกับไปรษณีย์ธรรมดา 5. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์นั้น ผู้รับจดหมายสามารถเรียกอ่าน จดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก โปรแกรมของ ไปรษณีย์อิ
  • 8. 203 เล็กทรอนิคส์จะแสดงให้ทราบว่าในตู้จดหมายของผู้รบมีั จดหมายกี่ฉบับ มีจดหมายที่อ่านแล้ว และยังไม่ได้เรียก อ่านกี่ฉบับ เมื่ออ่านจดหมายฉบับใดแล้ว หากต้องการลบ ทิง ก็สามารถเก็บข้อความไว้ในรูปของแฟ้มข้อมูลได้ หรือ ้ จะพิมพ์ออกมาลงกระดาษก็ได้เช่นกัน หรืออาจแก้ไข้ ข้อความบางอย่างในจดหมายนั้น จากจอภาพแล้วส่งต่อไป ยังผู้อื่นได้ด้วย 6. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์สามารถถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล (Transferring Files) แนบไปกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำาให้ การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปได้ โดยสะดวก รวดเร็ว ทัน เวลา และทันเหตุการณ์ จากความสำาคัญของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ ที่สามารถ อำานวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่านี้ ทำาให้ในปัจจุบัน ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ สำานักงานทุกแห่งทัวโลก และในที่สุดเมื่อทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ ่ ใช้ สมาชิกในชุมชนโลกก็จะสามารถติดต่อกันผ่านทาง คอมพิวเตอร์ การทำางานตามสำานักงาน หรือสถานที่ต่างๆ จะถูก เปลี่ยนไปสู่การทำางานที่บานมากขึ้นโดยการรับส่งงานทาง ้ คอมพิวเตอร์ สนทนาแบบออนไลน์ (Chat) ผู้ใช้บริการสามารถคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ ใน อินเทอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพ์เข้าไปทาง คีย์บอร์ด) เสมือนกับการคุยกันแต่ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้ง สองที่ ซึงก็สนุกและรวดเร็วดี บริการสนทนาแบบออนไลน์นี้เรียก ่ ว่า Talk เนื่องจากใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Talk ติดต่อกัน หรือจะคุย กันเป็นกลุมหลายๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเต็มๆ ว่า ่ Internet Relay Chat หรือ IRC ก็ได้) ซึ่งในปัจจุบันก็ได้พัฒนา ไปถึงขั้นที่สามารถใช้ภาพสามมิติ ภาพเคลื่อนไหวหรือการ์ตูน ต่างๆ แทนตัวคนที่สนทนากันได้แล้ว และยังสามารถคุยกันด้วย เสียงในแบบเดียวกับ โทรศัพท์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลบน จอภาพหรือในเครื่องของผู้สนทนาแต่ละฝ่ายได้อีกด้วยโดย การ ทำางาน แบบนี้ก็จะอาศัยโปรโตคอลช่วยในการติดต่ออีก โปรโตคอลหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า IRC (Internet Relay Chat) ซึ่งก็เป็น โปรโตคอลอีกชนิดหนึ่งบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำาให้
  • 9. 204 User หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ผ่านตัวหนังสือแบบ Real time โดยจะมีหลักการคือ 1. มีเครื่อง Server ซึ่งจะเรียกว่าเป็น IRC server ก็ได้ซึ่ง server นี้ก็จะหมายถึงฮาร์ดแวร์+ซอฟแวร์โดยที่ฮาร์ดแวร์ คือ คอมพิวเตอร์ที่จำาเป็นจะต้องมีทรัพยากรระบบค่อนข้าง สูงและจะต้องมีมากกว่า 1 เครื่องเพื่อรองรับ User หลาย คน 2. เครื่องของเราจะทำาหน้าที่เป็นเครื่อง Client ซึ่งก็คือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตได้แบบธรรมดา โดยที่ไม่ต้องการทรัพยากรมากนัก และก็ต้องมีโปรแกรม สำาหรับเชื่อมต่อเข้า Irc server ได้ การสนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมใน ปัจจุบันมีหลายโปรแกรมเช่น โปรแกรม Pirch, ICQ, Windows Messenger (MSN), Yahoo Messenger "กระดานข่าว" หรือบูเลตินบอร์ด บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการให้บริการในลักษณะ ของกระดานข่าวหรือบูเลตินบอร์ด (คล้ายๆ กับระบบ Bulletin Board System หรือ BBS) โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ จำานวน หลายพันกลุ่ม เรียกว่าเป็น กลุ่มข่าว หรือ Newsgroup ทุกๆ วันจะมีผู้ส่งข่าวสารกันผ่านระบบดังกล่าว โดยแบ่งแยกออกตาม กลุมที่สนใจ เช่น กลุ่มผู้สนใจ ศิลปะ กลุ่มผู้สนใจ เพลงร็อค กลุ่ม ่
  • 10. 205 วัฒนธรรมยุโรป ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีกลุ่มที่สนใจในเรื่องของประเทศต่างๆ เช่น กลุม Thai Group เป็นต้น การอ่านข่าวจากกลุ่มข่าวต่างๆ ใน ่ Usenet (User Network) หรือ Newsgroup นั้นนับเป็นช่องทาง หนึ่งในการติดต่อแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต คนอื่นๆ ในระดับโลก ซึ่งมักจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการ สื่อสารกัน ซึ่งใน Usenet นี้ เราสามารถเลือกอ่านข้อความใน หัวข้อที่เราสนใจ และฝากข้อความคำาถามคำาตอบของเราไว้บน กระดานข่าวนันได้้ ถ้าเราไม่สนใจในกลุ่มข่าวสารที่เคยเป็นสมาชิกอยู่อีก ต่อไป เราก็อาจยกเลิกการเป็นสมาชิก (Unsubscribe) ของกลุ่ม ข่าวนั้นและไปเป็นสมาชิกของกลุ่มอื่นๆ แทนก็ได้ การเป็น สมาชิกและการบอกเลิกสมาชิกของกลุ่มข่าวต่างๆ นันรวมทั้งการ ้ ใช้บริการ Usenet จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทังสิ้น ้ กระดานข่าวที่น่าสนใจของไทยและมีสมาชิกร่วมในการ สนทนามากที่สุดในปัจจุบันคือ กระดานข่าวพันทิพ ที่ URL : www.pantip.com ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ใช้ที่มีความสนใจ หลากหลายเช่น กระดานข่าวเทคนิคคอมพิวเตอร์ทั้งทางด้าน ระบบปฏิบัติการ ซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ฯลฯ สภากาแฟของคน ชอบการเมือง ชอบด้านเครื่องยนต์กลไก และอื่นๆ อีกมากลอง เข้าไปร่วมวงสนทนากันได้ บริการเข้าระบบระยะไกล Telnet ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่อง อื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป ก็สามารถใช้บริการ Telnet เพื่อเข้าใช้ งานเครื่องดังกล่าวได้เหมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำาลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่อง คอมพิวเตอร์นั้นได้ โปรแกรม Telnet นับได้ว่าเป็นคำาสั่งพื้นฐานที่มี ประโยชน์มากสำาหรับ การใช้งานอินเทอร์เน็ตในแบบตัวอักษร (Text mode) หน้าที่ของโปรแกรม Telnet นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้ สามารถทำาการ Login เข้าไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ต่อ เชื่อมอยู่ในเครือข่ายได้ และใช้บริการสำาเนาไฟล์ รับส่งอีเมล์ได้
  • 11. 206 การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถทำาได้ หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะต้องใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนี้ การเชื่อมต่อแบบบุคคล เป็นการเชื่อมต่อของบุคคลธรรมดา ทัวไป ซึ่งสามารถขอเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้ ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ อาจจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำางาน เชื่อม ต่อผ่านทางสายโทรศัพท์ ผ่านอุปกรณ์ ที่เรียกว่า โมเด็ม (Modem) ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก เรามักเรียกการเชื่อมต่อ แบบนีว่า การเชื่อมต่อแบบ Dial-Up โดยผูใช้ต้องสมัครเป็น ้ ้ สมาชิกของ ISP เพื่อขอเชื่อมต่อผ่านทาง SLIP หรือ PPP account a การเชื่อมต่อแบบองค์กร เป็นองค์กรที่มีการจัดตั้งระบบเครือ ข่ายใช้งานภายในองค์กรอยู่แล้ว จะสามารถนำาเครื่องแม่ข่าย (Server) ของเครือข่ายนั้นเข้าเชื่อมต่อกับ ISP เพื่อเชื่อมโยง เข้าสู่ระบบ อินเทอร์เน็ตได้เลย โดยผ่านอุปกรณ์ชี้เส้นทาง Router และสายสัญญาณเช่า (ตลอด 24 ชั่วโมง) อุปกรณ์สำาหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 1. คอมพิวเตอร์ ควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา ของหน่วยประมวลผลตั้งแต่ 166 MHz มีหน่วยความจำาหลัก RAM ตั้งแต่ 16 MB ขึ้นไป
  • 12. 207 2. โมเด็ม (Modulator Demodulator Machine) คืออุปกรณ์ ซึ่งทำาหน้าที่แปลงข้อมูลที่ได้จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ไปเป็น สัญญาณไฟฟ้ารูปแบบหนึ่ง (Impulse) ซึ่งสามารถส่งผ่านสาย โทรศัพท์ทั่วไปได้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์นั้นจะเป็นสัญญาณ อนาล็อก ส่วนสัญญาณข้อมูลที่มาจากคอมพิวเตอร์จะเป็น สัญญาณดิจิตอล ทำาให้ต้องใช้โมเด็มในการแปลงสัญญาณ อนาล็อกเป็นดิจิตอลและดิจิตอลเป็นอนาล็อกซะก่อน โมเด็ม สามารถแยกได้เป็น 3 ชนิด แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไปดังนี้ โมเด็มแบบติดตั้งภายใน โมเด็มชนิดนี้จะมีลักษณะเป็น แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์นำามาติดตั้งเข้ากับภายในตัวเครื่อง คอมพิวเตอร์โดยตรง รูปร่างจะแตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตจะ ออกแบบมาสำาหรับคอมพิวเตอร์ชนิดนั้นๆ โมเด็มชนิดนี้จะ ใช้ไฟฟ้าจากสล๊อตบนเมนบอร์ดทำาให้เราไม่ต้องต่อไฟ หม้อแปลงต่างหากจากภายนอก ส่วนมากโมเด็มติดตั้ง ภายในจะทำาการติดตั้ง ผ่านทาง Port อนุกรม RS-232C รวมอยู่ด้วย ทำาให้ไม่มีปัญหาในเรื่อง port อนุกรมรุ่นเก่าที่ ติดมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อโมเด็มกับเครื่อง คอมพิวเตอร์จะต่อทาง slot มาตรฐานในเครื่อง คอมพิวเตอร์และเมื่อติดตั้งแล้วจะไม่เปลือง เนื้อที่ภายนอก ใดๆ เลย และโมเด็มสำาหรับติดตั้งภายในจะมี จุดให้ผู้ใช้ เสียบสายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็มโดยใช้ปลั๊กโทรศัพท์ ธรรมดา แบบ RJ-11 และมีลำาโพงประกอบด้วย โมเด็มแบบติดตั้งภายนอก จะมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ ยมแบนๆ ภายในมีวงจรโมเด็ม ไฟสถานะ และลำาโพง เนื่องจากต่อภายนอกจึงต้องมี adapter แปลงสัญญาณไฟ เลียงวงจร และจะมีสายต่อแบบ 25 ขา DB25 เอาไว้ใช้ ้ เชื่อมต่อผ่านทาง port อนุกรม RS - 232C R PCMCIA (Personal Computer Memory Card International Asociation) จะเป็นโมเด็มที่มีขนาด เล็กที่สุดคือ มีขนาดเท่าบัตรเครดิตและหนาเพียง 5 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งโมเด็มชนิดนี้ออกแบบมาโดยให้ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ ซึงในปัจจุบันโมเด็มชนิดนี้ ่ จะมีความเร็วพอๆ กับโมเด็มที่ติดตั้งภายนอกและภายใน
  • 13. 208 ในปัจจุบันนีโมเด็มมีความเร็วสูงสุดที่ 56 Kbps (Kilobyte ้ per second) โดยจะใช้ มาตรฐาน V.90 เป็นตัวกำาหนด โมเด็มชนิดติดตั้งภายนอก ภายใน และ PCMCIA 3. ภาพแสดงการเชื่อมต่อผ่านโมเด็มสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4. คู่สายโทรศัพท์ (Dial line) เป็นคู่สายโทรศัพท์บ้านสำาหรับ เชื่อมต่อกับโมเด็ม 5. บัญชีผู้ใช้งาน (Account) จากผู้ให้บริการเอกชน ISP หรือ ขององค์กร/หน่วยงานต่างๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่งจะกำาหนด หมายเลขโทรศัพท์สำาหรับการเชื่อมต่อ ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ลักษณะการเชื่อมต่อแบบบุคคล การเชื่อมต่อเริ่มจากผู้ใช้งาน (User) หมุนโมเด็มไปยัง หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการที่มีโมเด็มต่ออยู่เช่นกัน สัญญาณ
  • 14. 209 จากเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนจากสัญญาณดิจิตอลเป็น อนาล็อกผ่านคู่สายโทรศัพท์ไปยังโมเด็มฝั่งตรงข้ามเพื่อเปลี่ยนกลับ สัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอลอีกครั้ง สัญญาณขอเข้าเชื่อมเครือข่ายจะถูกส่งมายังเครื่อง คอมพิวเตอร์ผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบสิทธิการใช้งานจาก Username และ Password ว่าถูกต้องหรือไม่? ถ้าถูกต้องก็จะได้รับ อนุญาตให้เชื่อมต่อได้ สามารถจะทำาการรับ-ส่งไฟล์ รับ-ส่งอีเมล์ สนทนาผ่านเครือข่ายออนไลน์ และท่องโลกกว้างไซเบอร์สเปซทาง WWW ได้ทันที การเชื่อมต่อแบบองค์กร จะเป็นการเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ จำานวนมากที่ถูกต่อเข้าด้วยกันเป็นเครือข่าย มีเครื่องคอมพิวเตอร์ททำา ี่ หน้าที่เป็นเครื่องให้บริการ (Server) ด้านต่างๆ และมีการเชื่อมต่อกับ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีอุปกรณ์ที่สำาคัญดังนี้ 1. คอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มี ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหน่วยประมวลผลตั้งแต่ 500 MHz มีหน่วยความจำาหลัก RAM ตั้งแต่ 512 MB ขึ้นไป จำานวน เครื่องขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณการใช้งานขององค์กร 2. ดิจิตอลโมเด็ม (NTU) และอุปกรณ์ชี้เส้น ทาง (Router) คืออุปกรณ์ซึ่งทำาหน้าที่ แปลงสัญญาณดิจิตอลและกำาหนดเส้น ทางในการเชื่อมต่อด้วยหมายเลข IP Address ไปยังเครือข่ายอื่นๆ 3. คู่สายเช่า (Lease line) เป็นคู่สาย
  • 15. 210 สัญญาณเช่าสำาหรับการเชื่อมต่อแบบตลอด เวลา ไม่ต้องมีการหมุนหมายเลขโทรศัพท์ ในการเชื่อมต่อ 4. สิทธิการใช้งานเชื่อมต่อ (Air time) จากผู้ให้บริการเอกชน ISP หรือขององค์กร/หน่วยงานต่างๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่ง จะกำาหนดหมายเลข IP Address ของกลุ่มเครื่องในเครือข่าย จำานวนหนึ่งมาให้สำาหรับใช้กับอุปกรณ์ชี้เส้นทางและเครื่องแม่ ข่าย การเชื่อมต่อแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เหมาะสำาหรับ องค์กรทีมีปริมาณการใช้งานของเครือข่ายสูง มีเครื่องคอมพิวเตอร์/ ่ สมาชิกเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายภายในองค์กรเป็นจำานวนมาก และมี ข้อมูลที่จะนำาเสนอสู่สาธารณชนเป็นจำานวนมากและปรับปรุงให้ทนสมัย ั อยู่เสมอ บริการด้านข้อมูล การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล หรือบริการ FTP (File Transfer Protocol) เป็นบริการของอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต นิยมใช้ โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลียนข้อมูลต่างๆ ไม่วาจะเป็นไฟล์ ่ ่ ข้อมูลตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง วีดิโอ หรือโปรแกรมต่างๆ ซึงการถ่าย ่ โอนข้อมูลนั้นมีอยู่ ٢ ลักษณะคือ 1. การถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องของเราไปยังคอมพิวเตอร์ที่ เป็นโฮสต์ (Host) เรียกว่า การอัปโหลด (Upload) ทำาให้ คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นสามารถใช้งานจากข้อมูลของเราได้
  • 16. 211 2. การที่เราถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากโฮสต์อื่นมายังคอมพิวเตอร์ของ เราเรียกว่า การดาวน์โหลด (Download) ในการนำาดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ มาใช้นั้น มีบริการอยู่ ٢ ประเภท คือ Private FTP หรือ เอฟทีพีเฉพาะกลุม นิยมใช้ตามสถานศึกษาและ ่ ภายในบริษัท ผู้ใช้บริการจะต้องมีรหัสผ่านเฉพาะจึงจะใช้งานได้ ประเภทที่สองคือ Anonymous FTP เป็นเอฟทีพีสาธารณะให้บริการ ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลฟรีโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งปัจจุบันมีบริการใน ลักษณะนี้เป็นจำานวนมาก โดยเฉพาะโปรแกรมซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ทีทาง ่ บริษัทต่างๆ คิดค้นขึ้นมาและต้องการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ก็จะนำา โปรแกรมมานำาเสนอไว้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนใดสนใจก็สามารถใช้เอฟที พีดึงเอาโปรแกรมเหล่านั้นมาใช้งานได้ โดยโปรแกรมที่สามารถ ดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เรียกว่า ฟรีแวร์ (Freeware) และโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้ก่อน ซึ่งหากพอใจก็ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อตัวโปรแกรม เรียกว่า แชร์แวร์ (Shareware) การค้นหาข้อมูล เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นระบบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว้างขวาง ทัวโลก โดยมีแฟ้มข้อมูลต่างๆ มากมายหลายพันล้านแฟ้มบรรจุอยูใน ่ ่ ระบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นใช้งาน ดังนั้น จึงจำาเป็นต้องมีระบบ หรือโปรแกรมเพื่อช่วยในการค้นหาแฟ้มได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อาร์คี (Archie) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาแฟ้มที่เราทราบชื่อ แต่ ไม่ทราบว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใดในอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนี้จะ สร้างบัตรรายการแฟ้มไว้ในฐานข้อมูล เมื่อต้องการค้นว่าแฟ้มนั้นอยู่ใน
  • 17. 212 เครื่องบริการใด ก็เพียงแต่เรียกใช้อาร์คีแล้วพิมพ์ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ ต้องการนั้นลงไป อาร์คีจะตรวจค้นฐานข้อมูลและแสดงชื่อแฟ้มพร้อม รายชื่อเครื่องบริการที่เก็บแฟ้มนั้นให้ทราบ เมื่อทราบชื่อเครื่องบริการ แล้วก็สามารถใช้เอฟทีพีเพื่อถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล มาบรรจุลงใน คอมพิวเตอร์ของเราได้ โกเฟอร์ (Gopher) เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลและขอใช้บริการด้วย ระบบเมนู โกเฟอร์เป็นโปรแกรมที่มีรายการเลือกเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ใน การค้นหาแฟ้มข้อมูล ความหมาย และทรัพยากรอื่นๆ เกี่ยวกับหัวข้อที่ ระบุไว้ โดยผู้ใช้ไม่จำาเป็นต้องทราบและใช้รายละเอียดของ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงอยู่กับอินเทอร์เน็ต สารบบ หรือชื่อแฟ้มข้อ มูลใดๆ ทังสิ้น เราเพียงแต่เลือกอ่านในรายการเลือกและกดแป้น ้ Enter เท่านั้นเมื่อพบสิ่งที่น่าสนใจ ในการใช้นี้เราจะเห็นรายการเลือก ต่างๆ พร้อมด้วยสิ่งทีให้เลือกใช้มากขึ้นจนกระทั่งเราเลือกสิ่งที่ต้องการ ่ และมีข้อมูลแสดงขึ้นมา เราสามารถอ่านข้อมูลหรือเก็บบันทึกไว้ใน คอมพิวเตอร์ของเราได้ Veronica เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลที่พฒนาขึ้นมาจากการทำางานของ ั ระบบโกเฟอร์ เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการโดยไม่ต้องผ่าน ระบบเมนูตามลำาดับขั้นของโกเฟอร์ เพียงแต่พิมพ์คำาสำาคัญ (Keyword) ลงไปให้ระบบค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำานั้นๆ แทน เวส (Wide Area Information Server-WAIS) เป็นโปรแกรมสำาหรับ ใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยสืบค้นข้อมูล โดยการค้นจากเนื้อหาข้อมูลแทน การค้นตามชื่อของแฟ้มข้อมูล จากฐานข้อมูลจำานวนมากที่กระจายอยู่ ทัวโลก การใช้งานผู้ใช้ต้องระบุชื่อเรื่อง หรือ ชื่อคำาหลักที่เกี่ยวกับ ่ เนื้อหาข้อมูลที่ต้องการค้น หลังจากใช้คำาสั่งค้นหาข้อมูล โปรแกรมเวส จะช่วยค้นไปยังแหล่งข้อมูลที่ต่อเชื่อมกันอยู่ในอินเทอร์เน็ต โดยจะ พยายามค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องตรงกับคำาค้น หรือวลีสำาคัญที่ผู้ใช้การ ค้นหาให้มากที่สุด Search Engines เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตที่ ได้รบความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลักษณะของโปรแกรมช่วย ั การค้นหาซึ่งมีอยู่มากมายในระบบอินเทอร์เน็ต โดยการพัฒนาของ องค์กรต่างๆ เช่น Google,Yahoo, Infooseek, Alta Vista, HotBot, Excite เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลสารสนเทศต่างๆ โดยผู้ใช้ พิมพ์คำาหรือข้อความ ทีเป็น keyword เข้าไป โปรแกรม Search ่ Engines ก็จะแสดงรายชื่อของแหล่งข้อมูลต่างๆ ทีเกี่ยวข้องขึ้นมา ซึง ่ ่
  • 18. 213 เราสามารถคลิกไปที่รายชื่อต่างๆ เพื่อเข้าไปดูข้อมูลตัวนั้นๆ ได้ หรือจะ เลือกค้นจากหัวข้อในหมวดต่างๆ (Categories) ทีทาง Search ่ Engines ได้แสดงไว้เป็นเมนูต่างๆ โดยเริมจากหมวดที่กว้างจนลึก ่ เข้าไปสู่หมวดย่อยได้ ข้อมูลมัลติมีเดีย เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) เป็นบริการบน อินเทอร์เน็ตทีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากลักษณะเด่น ่ ของเวิลด์ไวด์เว็บ ทีสามารถนำาเสนอข้อมูลมัลติมีเดียที่แสดงได้ทั้งตัว ่ หนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ซึ่งมีอยูมากมาย และ ่ สามารถรวบรวมลักษณะการใช้งานอื่นๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตเอาไว้ ด้วย ไม่วาจะเป็น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ การถ่ายโอนข้อมูล การ ่ สนทนา การค้นหาข้อมูล และอื่นๆ ทำาให้เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่ง ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เว็บ จะ ต้องใช้โปรแกรมการทำางานที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) เป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับ ความนิยมได้แก่ Internet Explorer และ Netscape Navigator ลักษณะของเวิลด์ไวด์เว็บ คือ การนำาเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายใน ลักษณะหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า เว็บเพจ (Web Page) เปรียบเสมือนหน้าหนังสือ หรือหน้า นิตยสาร ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ รูปภาพ และเสียงไว้ได้ด้วย โดยที่ หน้าแรกของเว็บเพจ เรียกว่า โฮมเพจ (Home Page) ซึ่งภาษาที่
  • 19. 214 ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ให้สามารถดู ได้ในเวิลด์ไวด์เว็บ เรียกว่า HTML (Hypertext Markup Language) เมื่อเราเอาเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจมารวมกันในแหล่งเดียวกัน เรา เรียกว่า เว็บไซต์ (Website) เว็บไซต์แต่ละที่จะถูกเก็บไว้ในเว็บ เซิร์ฟเวอร์ (Web Server) แต่ละแห่ง โดยแต่ละแห่งก็จะมีโฮสต์ของ ตนเองทำาหน้าที่ดูแลและพัฒนาข้อมูล ซึ่งโดยปกติจะเปิดอิสระให้ ทุกคนเข้าไปเปิดดูข้อมูลได้ ขอเพียงแต่ให้ผู้ใช้ทราบที่อยู่ของเว็บ เซิร์ฟเวอร์นนๆ ซึ่งที่อยูนี้เรียกว่า ยูอาร์แอล (Uniform Resource ั้ ่ Locator - URL) ซึ่งแต่ละยูอาร์แอลจะมีชื่อไม่ซำ้ากัน เช่น www.hotmail.com และ www.inet.co.th เป็นต้น ส่วนประกอบ ของยูอาร์แอลมักจะเขียนดังตัวอย่างนี้ โฮมเพจหรือเว็บเพจของแต่ละเว็บไซต์ จะมีทั้งข้อความและรูปภาพ ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เอกสารเหล่านี้จะมีข้อความที่บรรจุอยู่ จำานวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อ กลุ่มคำา หรือรูปภาพที่สัมพันธ์กับ เนื้อหา แต่ไม่ได้แสดงเนื้อหาทั้งหมดไว้ในหน้าเดียว หากแต่มีคำา สำาคัญที่เน้นเป็นจุดเด่น มีสีสันชัดเจน หรือขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งโดยทัวไป ่ ถ้าเราเอาเมาส์ไปวางไว้บนข้อความหรือรูปภาพนั้นๆ สัญลักษณ์ของ เมาส์ก็จะเปลียนจากรูปลูกศรมาเป็นรูปมือ ถ้าหากผู้ใช้ต้องการราย ่ ละเอียดเพิ่มเติม ก็คลิกที่ข้อความหรือรูปภาพนั้น เว็บเพจที่เกี่ยวข้อง กับข้อความหรือรูปภาพนั้นก็จะถูกเปิดขึ้นมา ลักษณะเช่นนี้เราเรียก ว่าการเชื่อมโยงด้วย ไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) ซึ่งทำาให้เราสามารถ เชื่อมโยงหรือลิงค์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกัน และลิงค์ไป ยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างไม่จำากัด โทษของอินเทอร์เน็ต ทุกสรรพสิ่งในโลกย่อมมีทงด้านที่เป็นคุณประโยชน์และด้าน ั้ ทีเป็นโทษ เปรียบเหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะ ่ เลือกใช้อย่างไรให้เกิดผลดีต่อเรา ขอยกตัวอย่างโทษที่อาจจะเกิดขึ้น ได้จากการใช้งานอินเทอร์เน็ตดังนี้
  • 20. 215 1. โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic) อินเทอร์เน็ตก็เป็นสิ่งเสพติดหรือ? หากการเล่นอินเทอร์เน็ตทำาให้คุณเสียงาน หรือแม้แต่ทำาลายสุขภาพ นักจิตวิทยาชื่อ Kimberly S. Young ได้ศึกษาพฤติกรรม ของผู้ ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมากเป็นจำานวน 496 คน โดย เปรียบเทียบกับบรรทัดฐานซึ่งใช้ในการจัดว่า ผู้ใด เป็นผู้ที่ติดการพนัน การติดการพนันประเภทที่ ถอนตัวไม่ขึ้น มีลักษณะคล้ายคลึงกับการติด อินเทอร์เน็ต เพราะทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับการ ล้มเหลวในการควบคุมความต้องการของตนเอง โดยไม่มีสวนเกี่ยวข้องกับสารเคมีใดๆ (อย่างสุรา ่ หรือยาเสพติด) 2. คำาว่า อินเทอร์เน็ต ในการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ หมายรวมถึง ตัว อินเทอร์เน็ตเอง ระบบออนไลน์ (อย่างเช่นบริการ AmericaOn- line, Compuserve, Prodigy) หรือระบบ BBS (Bulletin Board Systems) และการศึกษาวิจัยครั้งนีได้ระบุวา ผู้ที่มีคุณสมบัติดัง ้ ่ ต่อไปนี้อย่างน้อย 4 อย่าง เป็นเวลานานอย่างน้อย 1 ปีถือได้ว่า มีอาการติดอินเทอร์เน็ต รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อกับ อินเทอร์เน็ต มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น ไม่สามารถควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตได้ รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลงหรือหยุดใช้ ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือคิดว่าการ ใช้อินเทอร์เน็ตทำาให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต ของตัวเอง การใช้อินเทอร์เน็ตทำาให้เกิดการเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ยังใช้อินเทอร์เน็ตถึงแม้ว่าต้อง เสียค่าใช้จ่ายมาก มีอาการผิดปกติ อย่างเช่น หดหู่ กระวนกระวายเมื่อเลิกใช้ อินเทอร์เน็ต ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้
  • 21. 216 สำาหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เข้าข่ายข้างต้นเกิน 3 ข้อ ในช่วงเวลา 1 ปี ถือว่ายังเป็นปกติ จากการศึกษาวิจัยผูที่ใช้ ้ อินเทอร์เน็ตอย่างหนัก 496 คน มี 396 คนซึ่งประกอบไปด้วย เพศชาย 157 คน และเพศหญิง 239 คน เป็นผู้ที่เรียกได้ว่า "ติด อินเทอร์เน็ต" ในขณะที่อีก 100 คนยังนับเป็นปกติ ประกอบด้วย เพศชาย และเพศหญิง 46 และ 54 คนตามลำาดับ สำาหรับผู้ที่จัดว่า "ติดอินเทอร์เน็ต" นั้นได้แสดงลักษณะ อาการของการติด (คล้ายกับการติดการพนัน) และการใช้ อินเทอร์เน็ต อย่างหนักเหมือนกับการเล่นการพนัน ความผิดปกติ ในการกินอาหารหรือสุราเรื้อรัง มีผลกระทบต่อการเรียน อาชีพ สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของคนคนนั้น ถึงแม้ว่าการวิจยที่ ั ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การติดเทคโนโลยีอย่างเช่น การติด เล่นเกมส์ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเพศชายแต่ผลลัพธ์ข้างต้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ติดอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง วัย กลางคนและไม่มีงานทำา 3. เรื่องอนาจารผิดศีลธรรม(Pornography/Indecent Content) เรื่องของข้อมูลต่างๆ ทีมีเนื้อหาไปในทางขัดต่อศีล ่ ธรรม ลามกอนาจาร หรือรวมถึงภาพโป๊เปลือยต่างๆ นั้นเป็นเรื่อง ทีมีมานานพอสมควรแล้วบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ไม่โจ่งแจ้ง ่ เนื่องจากสมัยก่อนเป็นยุคที่ WWW ยังไม่พัฒนามากนัก ทำาให้ ไม่มีภาพออกมา แต่ในปัจจุบันภาพเหล่านี้เป็นที่โจ่งแจ้งบน อินเทอร์เน็ตและสิ่งเหล่านี้สามารถเข้าสู่เด็ก และเยาวชนได้ง่าย โดยผูปกครองไม่สามารถที่จะให้ความดูแลได้เต็มที่ เพราะว่า ้ อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นโลกที่ไร้พรมแดนและเปิดกว้างทำาให้สื่อเหล่า นี้สามารถเผยแพร่ไปได้รวดเร็วจนเรา ไม่สามารถจับกุมหรือ เอาผิดผู้ททำาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ ี่ 4. ไวรัส ม้าโทรจัน หนอนอินเตอร์เน็ต และระเบิดเวลา ไวรัส : เป็นโปรแกรมอิสระ ซึงจะสืบพันธุ์โดยการ ่ จำาลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำาลายข้อมูล หรืออาจ ทำาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำางานช้าลงโดยการแอบใช้สอยหน่วย ความจำาหรือพื้นทีว่างบนดิสก์โดยพลการ ่ ม้าโทรจัน : ม้าโทรจันเป็นตำานานนักรบที่ซ่อนตัวอยู่ใน ม้าไม้ แล้วแอบเข้าไปในเมืองจนกระทั่งยึดเมืองได้สำาเร็จ โปรแกรมนี้ก็ทำางานคล้ายๆ กัน คือโปรแกรมนี้จะทำาหน้าที่ไม่พึง
  • 22. 217 ประสงค์ มันจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต มันมัก จะทำาในสิ่งที่เราไม่ต้องการ และสิ่งที่มันทำานั้นไม่มีความจำาเป็น ต่อเราด้วย เช่น การแอบส่งรหัสผ่านต่างๆ ภายในเครื่องของเรา ไปให้ผู้เขียนโปรแกรม หนอนอินเตอร์เน็ต : ถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก มันคือโปรแกรมที่จะสืบพันธุ์โดยการ จำาลองตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำาให้ระบบช้าลง ระเบิดเวลา : คือรหัสซึ่งจะทำาหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นรูป แบบเฉพาะของการโจมตีนั้นๆ ทำางานเมื่อสภาพการโจมตีนั้นๆ มาถึง ยกตัวอย่างเช่น ระเบิดเวลาจะทำาลายไฟล์ทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2542 นอกจากนี้ ยังมีเรื่องหลอกหลวงต่างๆ อีกมากมายที่กลาย เป็นข่าวให้เราได้รับทราบอยู่เสมอ การพยายามในการเจาะทำาลาย ระบบเพื่อล้วงความลับหรือข้อมูลต่างๆ ดังนั้น การใช้งานเครือข่าย อินเทอร์เน็ตจึงต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน มีวิจารณญาณใน การรับข้อมูลข่าวสาร กลั่นกรองจากหลายๆ แหล่งเพื่อไม่ให้ตกเป็น เหยื่อจากเหล่ามิจฉาชีพไฮเทคเหล่านี้ อนาคตของอินเทอร์เน็ต อนาคตของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้พัฒนาไป อย่างต่อเนื่อง จากเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊กไปสู่เครื่อง คอมพิวเตอร์พกพาที่เรียกกันว่า Palmtop และโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ได้ผนวกรวมเข้ากับเทคโนโลยีด้าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)
  • 23. 218 ส่งข้อความสั้น (Short Message Service) รวมทั้งการท่อง เว็บไซต์ด้วยเทคโนโลยี WAP (Wireless Application Protocol ) เป็นเทคโนโลยีททำาให้โทรศัพท์ สามารถเปิดเว็บทีถูกเขียนมาเพื่อ ี่ ่ โทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะได้ ปัจจุบันมีการนำาเอาเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการ สื่อสารมากขึ้นเช่น การใช้โทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังต่าง ประเทศ (Net2Phone) บริการนี้คือการโทรศัพท์จากคอมพิวเตอร์ไป ยังเครื่องรับโทรศัพท์จริงๆ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมี อัตราค่าโทรศัพท์ที่ถูกกว่า และยังมีบริการ Net2Fax ซึ่งให้บริการ Fax เอกสารจากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่อง Fax จริงๆ ซึ่งมีอัตราค่า บริการที่ถูกกว่าเช่นกัน บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมมาติด ตั้งและจะต้องจ่ายเงินก่อน ซึงเป็นการซื้อเวลาล่วงหน้า เมื่อมีการใช้ ่ บริการ จึงจะหักค่าใช้บริการจากที่ซื้อไว้ ในประเทศไทยได้นำาเอาเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( ช่องความถี่ทว่าง) มาใช้ในการให้บริการโทรศัพท์ทางไกล Ytel ทำาให้ ี่ ค่าบริการลดลง ด้วยการกดหมายเลข 1234 นำาหน้ารหัสทางไกลและ หมายเลขโทรศัพท์บาน ค่าบริการจะลดลงมากกว่าครึ่งด้วยคุณภาพ ้ ของเสียงที่ชัดเจนยอมรับได้ เป็นต้น ในอินเทอร์เน็ตยังมีบริการด้านความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เช่น เกมส์ เพลง รายการโทรทัศน์และวิทยุ เราสามารถเลือกใช้บริการ เหล่านี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากแหล่งต่างๆ ทัวทุกมุมโลก เราสามารถ ่ รับความบันเทิงใหม่ล่าสุดได้พร้อมๆ กับประเทศอื่นๆ ทันทีเช่นเดียวกัน
  • 24. 219 Game Online Radio on Internet โลกของอิเล็กทรอนิคส์ อนาคตของอินเทอร์เน็ตกำาลังมุ่งไปสู่การให้ บริการทางด้านธุรกิจที่เราได้ยินกันจนชินหูว่า e- Commerce เช่น การทำาร้านค้าออนไลน์จำาหน่ายสินค้า และบริการต่างๆ การชำาระค่าบริการ (ค่านำ้า ค่าไฟฟ้า โทรศัพท์ ภาษีรถยนต์ เบียประกันภัย) ที่สามารถให้ ้ บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทัวโลก ่ รัฐบาลไทยได้วางนโยบายและกำาหนดเป้าหมาย ในการนำาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้งาน โดย การปรับปรุงการทำางานของหน่วยงานรัฐบาลเป็นแบบ e- Government มีการนำาเอาระบบฐานข้อมูลประชากร e- Citizen มาใช้ในการบริหารงานการให้บริการต่างๆ แก่ ประชาชนในด้านต่างๆ ประชาชนจะมีบัตรประจำาตัวแบบสมาร์ทการ์ดทีบรรจุข้อมูล ่ ต่างๆ เพียงใบเดียว (รวมใบ ขับขี่ บัตรสุขภาพของสถานพยาบาล หรือบัตรอื่นๆ ไว้เพียงใบเดียว) การทำาธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องการอ้างอิงหลักฐานทางราชการสามารถใช้ บัตรประจำาตัวประชาชนเพียงใบเดียวในการดำาเนินการ
  • 25. 220 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail = E- Mail) วิธีการรับ-ส่ง Electronic Mail(E-Mail) ในการรับ – ส่ง E- Mail ในปัจจุบันเราสามารถทำาได้หลากหลาย วิ ธี โดยขึ้ น อยู่ กั บ ว่ า เราใช้ บ ริ ก าร E-Mail ของ Site ใด เช่ น ของ Hotmail.com , ข อ ง Excite.com Thaimail.com แ ล ะ อื่ น ๆ อี ก มากมาย ทั้งนี้ ทาง Site ที่เราใช้บริการอยู่จะมีบริการในการจัดส่ง E- Mail ให้ ซึ่งแต่ละ Site ก็จะมีรูปแบบการส่ง และวิธีการที่ต่างกันไป ใ น ที่ นี้ ข อ ย ก ตั ว อ ย่ า ง ก า ร รั บ ส่ ง E-Mail ข อ ง thaimail.com เนื่ อ งจากเป็ น Site ที่ มี ผู้ใ ช้ บ ริ ก ารมากและเป็ น ที่ นิย มมากที่ สุด ทั้ ง ยั ง เป็นภาษาไทยด้วย การเข้าสู่ thaimail.com - ทำาโดยการพิมพ์ที่ Address ว่า thaimail.com ดังภาพ จะ แสดงหน้าจอแรก - จากนั้นทำาการใส่ User Name และ Password ของเรา แล้ว นำา Mouse ไปคลิกทีปุ่ม login ่
  • 26. 221 1 2 3 1. พิมพ์ User Name ที่ หมายเลข ١ 2. พิมพ์ Password ที่ หมายเลข ٢ 3. จากนั้นใช้ Mouse คลิกที่ Login ที่ หมายเลข 3 การรับ E -Mail หลั ง จากที่ เ ราใส่ User Name และ Password ที่ ถู ก ต้ อ งลงไป แล้วกดปุ่ม จะปรากฏหน้าจอดังรูปที่ 2 จะเห็นได้ว่า ไม่มี Mail ใหม่ ๆ เข้ า มา กรณี ที่ มี Mail ใหม่ ๆ เข้ า มาจะปรากฏในหน้ า จอนี้ เ องโดย อัตโนมัติในทุก ๆ ครังที่เราเข้ามาดู ้
  • 27. 222 1. หมายเลข ١ เป็นส่วนเมนูในการเลือกใช้ Mail 2. หมายเลข ٢ ส่วนทีแสดงจดหมายที่ได้รบใหม่เมื่อมีจดหมายเข้า ่ ั มา การส่ง E- Mail ขั้นที่ 1 นำา Mouse ไป Click ทีเมนู เขียนจดหมาย จากหน้าจอ ่ ในรูปที่ 2 ขั้นที่ 2 หลังจากเลือกเมนูเขียนจดหมาย แล้วจะปรากฏหน้าจอ ดังรูปที่ 3 หลังจากนั้นมีวิธีการดังนี้