SlideShare a Scribd company logo
AI Coaching A to Z
ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
ผู้ก่อตั้ง AI Thailand/Appreciative Inquiry Institute

www.aithailand.org @ 2016

© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
A= Appreciative
Inquiry Coaching
• คือการโค้ชพัฒนามาจากศาสตร์การ
สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ชื่อ
Appreciative Inquiry ที่เน้นการค้นหา
สิ่งดีๆ ความภาคภูมิใจของโค้ชชี่ โดย
ใช้คำถามเชิงบวก ให้โค้ชชี่ค้นพบแล้ว
นำสิ่งที่ดีๆ ในตัว ในองค์กร สิ่ง
แวดล้อมไปขยายผลสร้างความสำเร็จ
ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน เป็นชีวิต
ส่วนตัว ตามประสบการณ์ผมได้ผสม
ผสานศาสตร์หลายๆศาสตร์ จากฝั่ง OD
(พัฒนาองค์กร) พวก Brain science
แม้กระทั่งแนวคิดบริหารที่ดีๆ เข้าไป
ทำให้กลมกล่อมใช้ได้ผลมากขึ้น
เนื่องจากผมผสมผสานจนต่างไปจาก
เดิมเลยเรียกใหม่ว่า AI Coaching©
ครับ
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
B= Brain Science
• เป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์มากๆ ผมใช้แนวทางของ Whole Brain Lietracy (WBL) ของดร. Perla Rizalina M.
Tayko สมองมนุษย์แบ่งเป็นสี่ส่วนครับ

• I-Control มีบุคลิกเป็นพวกที่ควบคุม จัดระบบเก่ง แต่มักมีปัญหาเรื่องคน 

• I-Preserve มีมนุษย์สัมพันธ์ดี แต่อาจมีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเอง 

• I-Explore เป็นพวกคิดสร้างสรรค์ แต่อาจมีปัญหาว่าไม่เริ่มทำอะไรจริงจัง สุดท้ายพวก 

• I-Pursue พวกมีเป้าหมายเอาไว้พุ่งชน แต่อาจขาดวิสัยทัศน์ 

• มนุษย์ที่สมบูรณ์จะใช้สมองสี่ส่วนนี้ได้เหมาะกับสถานการณ์ ข่าวร้ายคือมีไม่กี่คนที่ทำได้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหา
โดยธรรมชาติ ซึ่งโค้ชจะดูออกครับ เช่นผมเคยเจอพวก I-control ที่ไม่มีความสุขเลย เพราะทะเลาะกับสามี ยัน
พนักงาน ตัวนี้เรียกว่าไม่สมดุล สิ่งที่เราเพิ่มได้ คือหันไปสร้างสมดุลที่สมองซีกตรงข้ามคือ I-preserve ผมชวน
มาเรียนเรื่อง Happiness ก็มีความสุขขึ้น อีกคนเป็น I-explore ไม่ทำอะไรเลยมัวแต่คิด ผมก็เริ่มให้ทำตรงข้าง
คือ I-Pursue ตอนนี้เก่งขึ้น ตามทฤษฎีของอาจารย์ เราพัฒนาคนนี้พัฒนาด้านตรงข้ามได้เลย และจริงๆ คือ
พรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นนั่นเอง ทฤษฎีนี้จึงเน้นการพัฒนาโค้ชชี่ให้ใช้สมองได้อย่างสมดุลมากขึ้น ชีวิตจะดีขึ้น สุขขึ้น
สำเร็จขึ้นครับ 

• อาจารย์ Perla ต่อยอดเรื่องนี้มาจาก Dudley Lych อีกทีครับ
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
C=Commitment
• 10-10-10 เป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ
ครับ คือจะทำอะไรก็ตาม OD หรือ
Coaching ก็ตาม ปัญหาใหญ่คือ
โค้ชชี่ทราบปัญหาแล้ว อยากแก้แล้ว
วางแผนแล้ว แต่ไม่ทำ ใช้เทคนิกนี้
ครับ ให้เขาวางแผนเลยว่าใน 10 วัน
10 สัปดาห์ 10 เดือนจะทำอะไรบ้าง
สำคัญที่สุดคือ 10 วันแรก ถ้าเริ่มได้
ที่เหลือตามมาเอง กรอบตรงนี้เอาไว้
Followup ด้วยครับ การวางแผนลอง
ใช้เวลาสัก 10 นาที วางแผนคิดเร็วๆ
เลยว่าจะทำอะไรใน 10-10-10 ผมได้
แนวคิดมาจาก Suzy Welch ครับ ทำ
สำเร็จมามากแล้วครับ
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
D=4D Process
• ทำ Appreciative Inquiry Coaching เน้นที่การค้นหา
เรื่องดีๆ ของโค้ชชี่ ตั้งคำถามค้นหาเรื่องดีๆ (Discovery)
แล้วพาโค้ชชี่วาดฝัน (Dream) พากันออกแบบ (Design)
และขยายผล (Destiny) บางทีคุยกันธรรมดาๆ นี่เองก็ครบ
วงจรได้ เช่นขณะผมสอนลูกศิษย์ MBA คนหนึ่งชื่อคุณม่อน
ตอนนั้นทำ Thesis กับผม ว่าม่อนๆ ที่ผมสอนไปม่อนชอบ
อะไร ม่อนบอกว่าชอบเรื่อง Consulting ครับ
(Dicscovery) ผมอยากเป็น Consult แบบอาจารย์
(Dream) ..อ้าว งั๊นมาทำ Thesis เรื่องนี้กัน (Design) ที่ก็มี
การออกแบบ การสร้างโอกาส เช่นเรียน OD มากขึ้นกว่า
เดิม ไปลองสนามจริง ไป networking เปิดบริษัท Destiny
ทำจริง ..ตอนนี้เปิดบริษัท ABC Club ได้งาน Consult ดีๆ
หลายๆงานเลยครับ แถมตอนนี้ต่อยอดมาเขียนหนังสือ
เปิด Public Course อีก ...ชัดไหมครับ ถามคำเดียว ถ้า
โค้ชชี่ชอบอะไร มัก “ใช่” เสมอ โค้ชก็ “เชียร์” และ “ช่วย”
เท่าที่จะทำได้ด้วยความรู้ด้วยโอกาส เท่านี้ก็โตได้ครับ อีก
คนอ.โอ๋ ชอบ Theory U ที่ผมสอน Step เดียวกันครับ
ตอนนี้เปิด U.Lab Thailand แถมต่อยอดเรียนเอกไกล้จบ
แล้วครับ และก็เปิดบริษัทชื่อ Presencing Purpose
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
http://www.tmiaust.com.au/what_we_do/appreciative_inquiry.htm
E = Equation
• Success = Attitude + Alliance + Assignment
ลองหากรอบการมองชีวิตจากนักคิดข้างบน เป็น
สมการความสำเร็จของนักบุกเบิกจากน่าซ่า ความ
สำเร็จมาจาก การมีทัศนคติที่ดี + การมีพันธมิตร
กัลยาณมิตร หรือครูในหลายแวดวง รู้ว่าติดปัญหา
เรื่องนี้จะไปหาใคร+ Assignment วางแผนชีวิต
ทำงานที่ชอบอย่างมีจุดหมาย ใช้กรอบการมองแบบ
นี้บางทีตะทำให้เห็นสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมโค้ชชี่บาง
คนก็มีปัญหาเรื่องทัศนคติ ก็มาคุญกันเรื่องนี้ก่อน ไม่
อย่างนั้นไปไหนไม่รอด หรือบางที่ไม่รู้จักใครเลยก็
ยาก มีแต่เข้าหาไม่ได้ ทำตัวไม่เป็นก็ไปไม่รอด
สุดท้าย Assignment ต้องรู้จักค้นหา Passion ใน
ชีวิต ค้นหาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ (Pupose)
หลักๆ คือจะทำอะไรให้โลกใบนี้ สมการชีวิตเป็น
อะไรที่ช่วยจัดกรอบ ที่จะทำให้โค้ชชี่มองออกไป
นอกกรอบมากขึ้น เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ คุณอาจหา
สมการอื่นที่คุณชอบมาเป็นตัวช่วยก็ได้ครับ
© ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
F = Flow
• เป็นทฤษฎีความสุขที่เอามาใช้งานได้หลาย
อย่าง ทฤษฎีนี้บอกว่าคนเราจะมีสุขมีทุกข์
ขึ้นกับความสัมพันธ์ของสองปัจจัยคือความ
ท้าทายกับทักษะ ถ้าคุณเจอโค้ชชี่กังวลคิด
ไม่ตก ลองถามดูครับเขากำลังเจอความ
ท้าทายสูง แต่ขาดทักษะ คุณโค้ชเลยครับว่า
จะเพิ่มทักษะอะไร แต่หากเจอโค้ชชี่ดูหลง
ทาง ไม่รู้ไปไหน เรื่อยเปื่อยก็ต้องให้เขา
ค้นหาความชอบ เพื่อกำหนดเป้าหมาย
ความ้ทาทายใหม่ แล้วค้นหาทักษะใหม่ๆ
แต่หาโค้ชชี่ดูเบื่อๆชีวิต ก็ให้ค้นหาความ
ท้าทายใหม่ ปรับจนกว่าจะสมดุลคือเขาเอง
ได้ทำอะไรที่ท้าทายสูงแต่ก็มีทักษะสูง ภาวะ
นี้คนจะเจอภาวะลื่นไหล สุขลืมวันลืมคืน
หรือเรียกว่าเจอภาวะ Flow นั่นเอง ...เป็น
เครื่องมือที่สุดยอดมากๆ แนะนำครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
G = Gender Intelligence
• ความรู้เรื่องความแตกต่างระหว่างเพศนี้จะช่วยโค้ชชี่ให้
ทำความเข้าใจได้มากๆ เช่นฮอล์โมนที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุข
และเก่งคือ Oxytocin ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงได้อยู่ในภาวะได้
รับการดูแล เอาใจใส่ สนับสนุน ตัวนี้ถ้าโค้ชชี่เป็นผู้ชายอาจ
สร้างปัญหาในชีวิตด้วยความไม่รู้ จริงๆ ผู้หญิงต้องการให้
ผู้ชายฟังมากๆ ดูแล เอาใจใส่ ระบบสมอง ความคิดจะเติบโต
ได้เอง แก้ปัญหายากๆได้แต่ผู้ชายมักไม่ฟังตรงนี้เองบางครั้ง
ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ขึ้นมา ส่วนผู้หญิงเองถ้าไม่
เข้าใจผู้ชายที่จะเก่งขึ้นด้วยฮอล์โมนเทสโทสเตอโนรตัวนี้ออก
มาเมื่อผู้ชายได้เผชิญวิกฤติ ได้แก่ปัญหาได้เป็นฮีโร่ ดังนั้นการ
สร้างโจทย์ ตั้งคำถามให้ผู้ชายได้ช่วยแก้จะมีส่วนช่วยพัฒนา
ความสามารถและความสัมพันธ์กับผู้ชายได้มาก ความรู้อย่าง
นี้ให้โค้ชชี่ลองตั้งข้อสังเกตได้ แล้วลองเอาไปทดลองทำจริง
ได้ครับ จะแก้ปัญหาที่บางทีงุนงง หาต้นเหตุไม่ได้ครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
H=HERON Model
• ผมชอบ Model นี้มากครับเอามาประยุกต์ได้มาก
เพราะเราเองไม่ได้คุยกันในบรรยากาศการโค้ช
ตลอด ยิ่งเป็นครู เราเริ่มสนิทกับศิษย์มาก เริ่มเห็นขีด
จำกัดบางครั้งจิตตก ก็ต้องดึงกัน เช่นไม่มั่นใจชีวิต
แย่มาก ก็พาวิเคราะห์ว่าชอบอะไร มีท่านหนึ่งชอบ
แต่งตัว เลย “ให้การสนับสนุน” “แนะนำ” ให้มาต่อย
อดที่ Thai Coach รวมทั้งไปเรียนต่อด้านการเป็น
โค้ชด้านการแต่งตัว ที่สุดเลยมาเป็น TIG Identity
Coach ผมเองก็ได้ดีจาก Model นี้ ตอนทำป.เอก
เขียนมาก ทำมาก แต่ดูวนในอ่าง ที่สุดอาจารย์ที่
ปรึกษาเลยสั่งว่า “ภิญโญ ดูออกนอกขอบเขตมากไป
ไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านปะ Action Research
ของ Stinger ” เท่านั้นเอง ผมรู้เลยว่าผมออกนอก
เส้นทางไปมาก ...ลองดูครับ Heron Model มี
ประโยชน์มาก ผมปรับแต่งนิดหน่อยครับ ไม่ตรงกับ
ต้นฉบับมากๆ ผสมแนวคิด AI เข้าไปหน่อย
กลมกล่อมขึ้นมากๆ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Tig Identity Coach
I = IKIGAI
• การค้นหาความหมายของชีวิตแบบญี่ปุ่น หรือเหตุผล
ของการตื่นขึ้นมาแต่ละวัน เคยเจอไหมครับ ... “ตื่น
ขึ้นมาก็อยากให้ถึงตอนเย็นแล้ว” เรียกว่าหมดไฟแต่
ตื่น IKIGAI ทำอย่างนี้ครับIkigai เป็นจุดร่วมของ
Passion (สิ่งที่คุณหลงใหล) Mission (พันธกิจ)
Vocation (งานที่ อาจเป็นอาชีพหรืออาสาสมัครก็ได้
เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะอาจผ่านการศึกษาอย่างเป็น
ทางการหรือไม่ก็ได้ เกิดจากการค้นพบตัวเอง เกิด
จากพรสวรรค์ของคุณเอง ) Profession (วิชาชีพ เป็น
งานเฉพาะทางที่ต้องผ่านการศึกษาอย่างเป็นทางการ
เช่นมหาวิทยาลัย เช่นหมอ วิศวะ นักกฏหมาย
เป็นต้น) คุณลองเอามารวมๆกัน หาดูว่ามันมีจุดร่วม
อะไร แล้วตั้งคำถามว่าตอนนี้โลกกำลังต้องการอะไร
คุณจะได้คำตอบดีๆ ว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่ออะไร IKIGAI
ช่วยให้คนค้นหาเป้าหมายชีวิต ที่ตอบโจทย์หัวใจตัว
เองจริงๆ เท่าที่ผมเห็น 99% ของโค้ชชี่ที่มีปัญหา
ชีวิตไม่ว่างานหรือที่บ้าน ร้อยทั้งร้อยไม่มี IKIGAI
ครับ น่าสงสารมากๆ ...โค้ชเองก็อาจไม่มีก็ได้ โค้ชก็
ต้องหานะครับ
• Ref ภาพ: http://us.ikigaibags.com/blog/what-the-heck-is-iki...)
• ( อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/599051)
J= Just do it
• ผมแนะนนำอย่างหนึ่งนะครับ คือไม่
จำเป็นต้องทำตามตำรา 4 D แบบจัด
เต็ม หลายกรณีผมเน้นแค่ Discovery
เท่านั้น คือชอบอะไร ภูมิใจอะไร ก็
ค้นหา แล้วเชียร์ให้ขยายผลเลย
ประมาณว่า Discovery แล้ว Do เลย
คือเอาที่ค้นพบไปทดลองเดี๋ยวนั้น ไม่
ต้องค้นหา Dream Design ให้วุ่น ทำ
เป็นพิธีการไม่ค่อยเกิดครับ ในมุมมอง
ของผม Discovery หรือการค้นหา
ประสบการณ์ดีๆ เมื่อค้นพบเหตุการณ์
นั้นมักจะทำให้โค้ชชี่ เห็นความฝัน หรือ
สิ่งที่อยากทำ และแผนการอยู่แล้ว
กระตุ้นให้ขยายผลสร้าง Small
Sucess ก่อนแล้วฝันที่ใหญ่กว่าจะมา
เอง คือเน้นทำ ทำ ทำ ทำ ครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
K=Knowledge
• ความรู้ไม่พอใช้ 5 M Model ช่วย เพื่อทำให้เกิด จะดี
มากๆ ปัญหาของโค้ชชี่จำนวนมากเลยคือความรู้ไม่พอ
ทำให้เกิดปัญหา วิธีการสร้างความรู้เพิ่มเติมทำได้ด้วย
Model นี้ครับ คือ 5 M

• Me Experience ให้ค้นหาความรู้เดิมของโค้ชชี่ว่า ใน
เรื่องในที่ทำได้ดีที่สุดที่เคยทำได้คืออะไร

• Mate Experience ให้เขาไปถามเพื่อนว่าเพื่อนทำ
อย่างไร

• Mankind Experience คนในระดับโลกเขาทำอย่างไร
อาจเป็นบริษัทญี่ปุ่น อเมริกันที่ดังๆ เขาทำเรื่องเดียวกัน
อย่างไร (ลองถามเพื่อนในบริษัทนั้นดู)

• Mixed Experience ลองหาอะไรดีๆ ในแวดวงอื่นๆ ว่า
เขาทำอย่างไร 

• Morale Experience ลองถามหลวงพ่อ หรือดูคำภีร์
หรือศึกษาจากต้นแบบดีๆ ในชีวิตดู ของผมมักดูจาก
หลวงพ่อกล้วย ดร.วรภัทร์ ท่านดาไลลามะเป็นต้น

• พอโค้ชชี่ได้ไปศึกษาจากแห่งข้อมูลต่างๆ ก็มักจะค้นพบ
คำตอบได้ หรือเกิดทิศทางใหม่ๆ เอง
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
ผมดัดแปลงมาจาก SECI Model
จากหนังสือเล่มนี้ครับ
L = Learning
• หมายถึงการเรียนรู้แบบ Double-Loop Learning คนเราบางที่ทำอะไรผิดแบบเดิมๆ เพราะทำอะไรแบบ
อัตโนมัติ ทำด้วยความรู้ความเชื่อเดิมๆ ก็อาจจะผิดแบบเดิมๆ แต่หากโค้ชสามารถทำให้โค้ชชี่หันมา
ตรวจสอบสมมติฐาน ความเชื่อของตนเองได้ ว่าสิ่งที่ทำอยู่มาจากความเชื่ออะไร เมื่อปรับความเชื่อได้ก็จะ
ปรับวิถีการคิด หรือแม้กระทั่ง Mindset ได้ครับ วิธีการคือลองให้ให้โค้ชชี่ทำ Reflection บ่อยๆ คือเวลา
ทำอะไรไป เช่นพูดกับหัวหน้า ลองกลับมาคิดดูว่าอะไร work ไม่ work ทำอย่างนี้บ่อยๆ จะปรับอะไรที่ไม่ได้
ผลออก แล้วทำอะไรได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวโค้ชชี่จะเปลี่ยนความเชื่อไปถาวรเลย ตัวนี้ใช้ใน
วงการ OD ด้วย เรียกว่าถ้าทำเป็น Coach ตัวเองได้เลย แถมเอาไปต่อยอดทำ Learning Organisation
ได้ด้วย
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Mindfulness
• การเจริญสติ (Mindfulness) เป็น
เครื่องชาร์จพลังของทั้งโค้ชและ
โค้ชชี่ครับ ก่อนทำอะไร ก่อนไป
โค้ชแนะนำให้เจริญสติก่อน จะดี
มากๆ ถ้ายังไม่ Strong ก็แนะนให้
โค้ชชี่ลองไปหาอาจารย์ผู้รู้ดู หรือ
เล่าเรื่องดีๆ เกี่ยวกับการเจริญสติ
ให้โค้ชชี่ได้ฟัง ในสายจิตวิทยาบวก
จนถึง Learning Organisation
ตอนนี้ต่างแนะนำเรื่องการเจริญสติ
ครับ จะช่วยสงบจิตใจ เกิดปัญญา
เกิดความคิดดีๆ ได้เอง
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
N= Networking
• เครือข่ายสำคัญกับโค้ชและโค้ชชี่มาก
ครับ หลายครั้งที่ผมเจอ โค้ชชี่มักแก้
ปัญหาหลายเรื่องด้วยตนเอง โดย
เฉพาะเรื่องาน ตัวโค้ชอาจแนะนำโค้ช
ชี่ว่ารู้จักใครที่จะช่วยเรื่องที่ทำอยู่ให้
ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นครับ ผม
มีโค้ชชี่คนหนึ่งเจอปัญหาทำตู้อบเห็ด
แล้วต้นทุนสูง เลยถามคำถามว่าพอ
รู้จักใครที่ช่วยได้ไหม บังเอิญถาม
เพื่อนในกลุ่มเดียวกันไปเจอว่าคุณพ่อ
เพื่อนอีกคนจบปริญญาเอกด้านการ
หมักจากเยอรมัน เลยนัดเจอกัน คุณ
พ่อเขียนแบบให้เลย ปรากฏไปทำจริง
ลดต้นทุนลงเป็นหมื่นบาท การมีเครือ
ข่ายจึงสำคัญมาก
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
O= Ownership
• ความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน เจ้าของ
ปัญหาคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ถ้าโค้ชชี่
ไม่อยากทำ ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาของ
เขา เป็นปัญหาของครู เป็นปัญหาของ
นาย “โอ๊ มาอีกแล้วนายหา Training
แปลกๆมาให้อีกแล้ว” ยากครับ แต่
โชคดีที่ AI Coaching ใช้คำถามเชิง
บวก ที่ทำให้โค้ชชี่ค้บพบสิ่งดีๆ ที่เคย
ทำสำเร็จ โค้ชชี่จึงมักเกิดแรงบันดาล
ใจขยายผลเอง โดยไม่ต้องบังคับ
โค้ชชี่ผมเกิดสนใจกาแฟ จึงเริ่มขาย
จากเหยือกเดียว ตอนนี้เริ่มส่งออกไป
เมืองนอกแล้วเพราะฉะนั้นเน้นเชิงบวก
ครับ จะไปได้เอง อยากเป็น
Ownership เอง
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
P= Positive Psychology
เป็นศาสตร์ที่ควรศึกษามากๆ เพราะเอามาผสมสานได้ดี
มากๆ เช่นตัวหนึ่งที่ผมชอบมากคือเรื่อง Self-portrait คือ
การให้เราไปถามคนรอบๆตัวเราไม่ว่าจะเป็นคนใน
ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าว่าเขาเห็นเรามีดีตรง
ไหน ภาพที่ได้มักไม่ตรงกับภาพที่เราคิดว่าคนอื่นมองเห็น
ที่เจอมาบางคนกลับบ้านไปจะไปเล่าความสำเร็จในอาชีพ
ได้เจอกับคนโน๊นคนนี๊ เพราะคิดว่านี่คือสิ่งที่เราอยากให้
คนอื่นมองเห็น แต่พอไปถามมากๆ กลับเป็น “ชอบที่พ่อ
พัฒนาตัวเอง” “ชอบที่พ่อเล่นเป็นเพื่อนหนู” ...คนละเรื่อง
ครับ คนรอบตัวจะสะท้อนให้เราเห็น ที่สุดแล้วเราจะ
กำหนดทิศทางชีวิตได้ใหม่ ชีวิตจะดีขึ้น ลองให้โค้ชชี่ของ
ท่านลองทำดูนะครับ มีอีกหลายเทคนิกเช่น เจริญสติ
(Mindfulness) นี่บ้านเรามีวัดดีๆ ให้เข้าเยอะ แนะนำไป
เลยครับ สายหลวงพ่อเทียน หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงพ่อ
กล้วย (ขอนแก่น) ไม่ต้องไปเรียนเมืองนอกเหมือนผม เมือง
ไทยมีอะไรดีๆมากครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Question
1. คุณภาคภูมิใจอะไรที่สุด (ค้นหา Innovation) 

2. (รู้สึกไม่ดี) ตอนที่คุณรู้สึกดีๆ เกิดอะไรขึ้น

3. (ไม่มีความสุข) ตอนที่มีความสุข ทำอะไร

4. (พ่อไม่เชื่อ) ตอนที่พ่อเชื่อทำอย่างไร

5. (หน่วยงานไม่ยอมรับ Idea) ตอนเขายอมรับ Idea ใหม่ๆ ตอนนั้นมีองค์ประกอบ
อะไร

6. (เสี่ยง) ตอนบริหารความเสี่ยงได้ดี ทำอย่างไร

7. (ไม่มีเงิน) ตอนที่เรารู้สึกฉลาดเรื่องเงินไป ตอนนั้นทำอย่างไร

8. อื่นๆ เน้นถามตรงข้าม 

คำถามหลักคือ “คุณภาคภูมิใจอะไร” ใช้ถามเพื่อหา Innovation อาจขยานผลถึง
ขั้นเปลี่ยนงาน สร้างโครงการใหม่ ตั้งกิจการ ส่วนคำถามเจาะ คือเจาะเฉพาะ
ปัญหาตรงๆ เน้นการถามตรงข้าม
R= Reframing
• การเปลี่ยนกรอบสำคัญมากๆ บางคนยึดติด
อยู่กับกรอบเดิมครับ เช่นคิดอะไรลบไว้ก่อน
ผมเองจะบอกแต่ต้นว่า “เคยรู้สึกอะไรลบๆ
ไหม ตอนคิดลบสามารถคิดอะไรดีๆ กลยุทธ์
ดีๆได้ไหม” ไม่เคยมีใครตอบว่าได้สักคน
โกรธ เกลียด พยาบาท เมื่อไหร่จะคิดอะไรได้
ไม่ดีเสมอ ถ้าทำอะไรไปมักตั้งเสียใจภายหลัง
เราต้องสงบๆ หรือคิดบวกก่อน จึงจะหา
ทางออกได้ ตรงนี้อธิบายด้วยความรู้เรื่อง
สมองครับตอนอารมร์ไม่ดีเราไปกระตุ้นสมอง
Retilian Brain ครับสมองส่วนโบราณสุด
สมองนี้ทำหน้าที่เอาตัวรอดใช้ในตอนฉุกเฉิน
คือมันจะสู้ หนี หรือแกล้งตายเท่านั้น ส่วน
เวลาบวก หรือสงบมันจะกระตุ้นสมองส่วน
หน้า Prefrontal ที่จะเป็นสมองส่วนที่ค้นหา
กลยุทธ์ เพราะฉะนั้นโค้ชชี่อยากทำอะไรให้ดี
ต้องสงบหรือบวกก่อน ...นั่นคือโค้ชต้อง
ปล่อยให้เขาพูด ระบาย แล้วเล่าเรื่องนี้ให้เขา
เปลี่ยนกรอบ หรือรอให้สงบ สบายแล้วค่อย
โค้ชครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
S= Scaling
• แนวคิดจาก Solution-focused
brief Therapy ใช้ในการออกแบบ
(Design) ถ้าให้คะแนน 10 มากสุด
0 น้อยสุด โค้ชชี่ก็สามารถประเมิน
ตนเองได้ว่าทักษะ ความพร้อมตัว
เองอยู่ระดับใด ตัวนี้ช่วยให้โค้ชชี่
มองปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่รู้สึก
ว่ามันท่วมท้นจนทำไม่ได้ จากนั้น
เมื่อโค้ชชี่ให้คะแนนตัวเองแล้วก็
ถามว่าถ้าจะขยับขึ้นอีก 1 คะแนน
เขาต้องทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะ
เห็นภาพแล้วบอกตัวเองได้ว่าจะทำ
อะไรต่อไป จากนั้นโค้ชขอ
Commitment เลย ก็จะได้ครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
T= Tipping Point
• ตัวช่วยทวีคูณความสำเร็จของโค้ชชี่ คือคนสามประเภท
ได้แก่ Connector Maven Salesman

• Connector เป็นคนกว้างขวางรู้จักคนที่อาจมีความ
เชี่ยวชาญบางอย่าง หรือรู้เรื่องในบางวงการให้โค้ชชี่
ทำให้โค้ชชี่แก้ปัญหา หรือเข้าถึงโอกาสได้

• Maven คือผู้เชี่ยวชาญรู้เฉพาะทาง เช่นพ่อผมเป็น Vertigo
โลกเอียง ถามไปหาผู้เชี่ยาวชาญปรากฏว่าอยู่ข้างบ้านนี่เอง
ไปหาท่านรักษาแป๊ปเดียวหายขาด Maven แก้ปัญหาทาง
เทคนิกให้โค้ชชี่ได้

• Salesman คือคนที่รู้จักพูด รู้จักสื่อสาร ช่วยให้คำปรึกษา
เรื่องวิธีพูดได้ เช่นโค้ชชี่ของผมมีปัญหากับหน่วยงานที่เป็น
วิศวะชอบตัวเลขมากๆ จะทำอะไรที่เป็น Soft skill ไม้ค่อย
ได้ ภายหลังคนที่สื่อสารเก่งมีบุคลิกเป็น Salesman แนะนำ
ว่าให้ผูกตัวเลขไปสิ เท่านั้นเองก้ได้รับการยอมรับมากขึ้น

• สามคนนี้จะมีอยู่รอบๆตัวของโค้ชชี่ แค่เล่าแนวคิดให้โค้ชชี่
ฟัง โค้ชชี่จะเห็นโอกาสเอง
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
U=Uses variety of
tools
• ใช้เครื่องมือหลายๆอย่างครับ จะช่วยได้มาก ผม
เรียนศาสตร์การพัฒนาองค์กรมาครับ เราใช้หลายๆ
ศาสตร์มาผสมผสานกัน เพราะศาสตร์เดียวบางทีไป
ไม่รอด ผมเองเริ่มต้นการทำ Appreciative Inquiry
สมับทำปริญญาเอก ทำกับคน 33 คน ก็ต้องอาศัย
ศาสตร์อื่นช่วยด้วยคือ Appreciative Inquiry
Coaching เพราะแต่ละคนจะมีปัญหา ความฝัน
เฉพาะตัว ทำให้ต้องใช้การโค้ชมาช่วยดึงศักยภาพ
ให้ได้สูงสุด แต่ก็ผสมผสานวิธีการตั้งคำถามแบบ
Appreciative Inquiry แบบดั้งเดิมไปด้วย และใช้
ในกระบวนการกลุ่ม นอกจากนี้ยังใช้ KM มาช่วย
เก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้จากการเล่าประสบการณ์ดีๆ
มาเก็บในรูปแบบของ Blog หรือ Case study ที่
www.aithailand.org ทำให้สามารถนำความรู้ที่ได้
(ที่เปิดเผยได้) มาสร้างแรงบันดาลใจ มาสร้างพื้น
ฐานความรู้ให้คนอื่นได้อีก ปัจจุบันผมได้ผสมผสาน
ศาสตร์ต่างๆ เข้าไปอีก ทำให้ได้การโค้ชที่เหมาะกับ
คน และบริบทต่างๆมากขึ้น
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
V= VIA
• Character Strengths and Virtues
เป็นแบบประเมินบุคลิกภาพที่ผ่านการ
วิจัยมาอย่างเข้มข้น ตอนนี้มีเป็นภาษา
ไทยแล้ว ท่านสามารถให้โค้ชชี่เข้าไป
ประเมินได้ จุดแข็งเชิงบุคลิกภาพแบบ
VIA นี้จะทำให้โค้ชชี่เห็นจุดแข็งของ
บุคลิกภาพ ที่จริงๆเองก็มีกระบวนการ
ซ่อนอยู่ด้วย เช่นโค้ชชี่ผมคนหนึ่งมี
บุคลิกคือเป็นคนรักการเรียนรู้ ตัวนี้มา
อันดับหนึ่งเลย เวลาเจอปัญหา ก็ให้เลย
แนะนำลองไปหาหนังสือใหม่ๆ ไปเรียน
อะไรใหม่ๆ โค้ชชี่จะสามารถค้นพบ
ทางออกได้ด้วยตัวเอง VIA นี้ใช้
วางแผนการพัฒนาตัวเองทั้งในระยะสั้น
ระยะยาวได้ ดีมากๆ แนะนำครับ สงสัย
อะไรผมแนะนนำให้ได้ครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
W= What works
What not works
• โค้ชเองต้องปรับปรุงตัวเองครับ
โดยการหันมามองตัวเองตลอด
เวลาว่าอะไรที่ทำไป Work ไม่ work
คือหันมามากระบวนการของตัวเอง
ไม่ใช่มองแต่ว่าโค้ชโค้ชชี่สำเร็จ
ไหม ต้องหามองตัวเองตั้งแต่
กระบวนการเตรียมการ การโค้ช
Followup ทั้งหมด งานของคุณจะดี
มีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญจะ
สามารถพัฒนา Signature ของตัว
เองได้ ไม่ซ้ำแบบใครในที่สุด วิธีนี้
ผมเรียนมาจากสมัยเรียน Ph.D.
OD ครับ ดีมากๆ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
X= Exception
• ขอบเขตครับ คุณต้องรู้ว่าคุณไม่ใช่
จิตแพทย์ บางเรื่องที่เคยเจอมาเกิน
ขอบเขตเราเช่นคุณพ่อมีปัญหาทาง
จิต สามีเป็นมะเร็ง จะทำอย่างไรคะ
อาจารย์ ..ตัวนี้ผมส่งต่อมืออาชีพ
อย่างเดียว เพราะผมไม่ใช่มืออาชีพ
ด้านการรักษาครับ บางทีก็อาจ
ถามเพื่อนให้ได้ครับ เราก็จะช่วย
โค้ชชี่ได้อีกทาง
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Y= Yield
• ผลที่ได้รับจากการโค้ช ส่วนใหญ่บอก
ว่าอาจารย์ เอา KPI ให้ขึ้นเลย ใจเย็น
ครับ จริงๆ KPI ประกอบด้วยองค์
ประกอบย่อยคือ Outcome KPI คือ
ผลที่ได้อยากได้ ตัวนี้วัดเป็นตัวเลข
ส่วนอีกตัวเราเรียกว่า Performance
Driver หรือเหตุที่เชื่อว่าจะทำให้ผลดีๆ
หรือ Outcome KPI เกิดขึ้นจริง การ
โค้ชคือการค้นหาเหตุ (Performance
Driver) ครับ ที่สุดก็จะไปทำให้
Outcome KPI เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าคน
เปลี่ยนมุมมองจากลบเป็นบวกได้ ไม่
ต้องกลัวครับ เขาจะทำงานได้มากขึ้น
มีความสุข และพัฒนาตนเองมากขึ้น
ไปเอง ยังไม่ต้องเร่ง KPI แต่ต้น
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
Z= ZEN
• ผมเองใช่ว่ารู้ทุกเรื่อง เรื่องของคนเป็น
เรื่องซับซ้อนครับ ผมเองนับถือดร.วร
ภัทร์ ภู่เจริญมากๆ ท่านมีวิธีการฝึกคน
ที่ดีครับ ผมชอบวิธีคิดของท่านเรื่อง
สัตว์สี่ทิศ กระทิง หมี หนู อินทรี และ
เรื่องปัญญาสามฐาน ฐานคิด ฐานกาย
ฐานใจมากๆครับ ที่สำคัญท่านมี
หลักสูตรดีๆ มากเช่นธนูโพชชงค์ มี
โค้ชโพชชงค์ การแต่งดอกไม้แบบเซน
หลายครั้งถ้าค้นพบว่าโค้ชชี่ดูมีความ
ท้าทายเรื่องใจ ผมจะแนะนำไปเรียน
ปรับฐานใจกับดร.วรภัทร์ หรือไม่ก็ไป
ฝึกปฏิบัติทำ เช่นไปถ้าฝั่งผมก็
วัดหลวงพ่อกล้วยครับ
© โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
• B.Eng (KMITL), MBA (Virginia Tech), Ph.D.
(OD) Assumption University

• อาจารย์ประจำ MBA KKU 

• ผู้ก่อตั้ง AI Thailand ชุมชนของผู้สนใจศึกษา
ค้นคว้า ปฏิบัติ Appreciative Inquiry มาตั้งแต่ปี
2550 

• Website: www.aithailand.org

• ชอบศึกษาค้นคว้าเรื่อง Appreciative Inquiry
มากจนทำเป็นวิทยานิพนธ์ในระดับป.เอก และ
ขยายผลทำอย่างต่อเนื่องมากถึงปัจจุบัน นอกจาก
นี้หลังจบยังศึกษาต่อกับผู้คิดค้นทฤษฎีโดยตรง 

• “มีความสุขมาก”
Certificate: Art and Science of Appreciative Coaching
จากอาจารย์ผู้คิดค้น Appreciative Coaching
ศึกษา Appreciative Inquiry กับ Prof. David Cooperrier
ผู้คิดค้น Appreciative Inquiry

More Related Content

Viewers also liked

การนิเทศแบบสอนแนะิ Coaching
การนิเทศแบบสอนแนะิ Coachingการนิเทศแบบสอนแนะิ Coaching
การนิเทศแบบสอนแนะิ CoachingProud N. Boonrak
 
Coaching
Coaching Coaching
How to coach!
How to coach!How to coach!
How to coach!
Pragasit Thitaram
 
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 20173 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
Drift
 
TEDx Manchester: AI & The Future of Work
TEDx Manchester: AI & The Future of WorkTEDx Manchester: AI & The Future of Work
TEDx Manchester: AI & The Future of Work
Volker Hirsch
 
Build Features, Not Apps
Build Features, Not AppsBuild Features, Not Apps
Build Features, Not Apps
Natasha Murashev
 
How to Become a Thought Leader in Your Niche
How to Become a Thought Leader in Your NicheHow to Become a Thought Leader in Your Niche
How to Become a Thought Leader in Your Niche
Leslie Samuel
 

Viewers also liked (7)

การนิเทศแบบสอนแนะิ Coaching
การนิเทศแบบสอนแนะิ Coachingการนิเทศแบบสอนแนะิ Coaching
การนิเทศแบบสอนแนะิ Coaching
 
Coaching
Coaching Coaching
Coaching
 
How to coach!
How to coach!How to coach!
How to coach!
 
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 20173 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
3 Things Every Sales Team Needs to Be Thinking About in 2017
 
TEDx Manchester: AI & The Future of Work
TEDx Manchester: AI & The Future of WorkTEDx Manchester: AI & The Future of Work
TEDx Manchester: AI & The Future of Work
 
Build Features, Not Apps
Build Features, Not AppsBuild Features, Not Apps
Build Features, Not Apps
 
How to Become a Thought Leader in Your Niche
How to Become a Thought Leader in Your NicheHow to Become a Thought Leader in Your Niche
How to Become a Thought Leader in Your Niche
 

Similar to Appreciative Inquiry Coaching A-Z

Get job hop to success v3
Get job hop to success  v3Get job hop to success  v3
Get job hop to success v3
KASETSART UNIVERSITY
 
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
maruay songtanin
 
Presentation 2013-01-11 My experience on Coaching
Presentation 2013-01-11 My experience on CoachingPresentation 2013-01-11 My experience on Coaching
Presentation 2013-01-11 My experience on Coaching
Nopporn Thepsithar
 
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
maruay songtanin
 
Get job hop to success
Get job hop to successGet job hop to success
Get job hop to success
KASETSART UNIVERSITY
 
Sripatum learning
Sripatum learningSripatum learning
Sripatum learning
Pattie Pattie
 
คำบรรยาย Start your it career
คำบรรยาย Start your it careerคำบรรยาย Start your it career
คำบรรยาย Start your it career
Chisnupong Sakulrangsun
 
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdfอิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
maruay songtanin
 
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
Perus Saranurak
 
4 lifeyes how to get start 1
4 lifeyes how to get start 14 lifeyes how to get start 1
4 lifeyes how to get start 1
4LIFEYES
 
รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้
นะนาท นะคะ
 
H aforum21
H aforum21H aforum21
H aforum21
Pattie Pattie
 
การโค้ช
การโค้ชการโค้ช
การโค้ชkeatwimc
 
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
Orawan Sritiapetch
 
Get job hop to uccess V2.
Get job hop to uccess V2.Get job hop to uccess V2.
Get job hop to uccess V2.
KASETSART UNIVERSITY
 
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
Ritthiporn Lekdee
 
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
Tanade Sirinumas
 
Thinking schools, learning nation
Thinking schools, learning nationThinking schools, learning nation
Thinking schools, learning nationDrDanai Thienphut
 
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯสาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
ณัฐพล บัวพันธ์
 

Similar to Appreciative Inquiry Coaching A-Z (20)

Get job hop to success v3
Get job hop to success  v3Get job hop to success  v3
Get job hop to success v3
 
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
สร้างองค์กรอย่างยั่งยืน Built to last
 
Presentation 2013-01-11 My experience on Coaching
Presentation 2013-01-11 My experience on CoachingPresentation 2013-01-11 My experience on Coaching
Presentation 2013-01-11 My experience on Coaching
 
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
วิถีผู้นำชั้นยอด How the best leaders lead
 
Get job hop to success
Get job hop to successGet job hop to success
Get job hop to success
 
Sripatum learning
Sripatum learningSripatum learning
Sripatum learning
 
คำบรรยาย Start your it career
คำบรรยาย Start your it careerคำบรรยาย Start your it career
คำบรรยาย Start your it career
 
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdfอิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
อิคิไก การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของญี่ปุ่น IKIGAI .pdf
 
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
How to Design Knowledge Toolkit - การออกแบบชุดสื่อเรียนรู้
 
4 lifeyes how to get start 1
4 lifeyes how to get start 14 lifeyes how to get start 1
4 lifeyes how to get start 1
 
รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้รายงานเพื่อการเรียนรู้
รายงานเพื่อการเรียนรู้
 
H aforum21
H aforum21H aforum21
H aforum21
 
การโค้ช
การโค้ชการโค้ช
การโค้ช
 
Learning Organization
Learning OrganizationLearning Organization
Learning Organization
 
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
8 step ikash new(แก้แล้ว).ppt
 
Get job hop to uccess V2.
Get job hop to uccess V2.Get job hop to uccess V2.
Get job hop to uccess V2.
 
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
โรงเรียนพระดาบส (มูลนิธิพระดาบส)
 
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
Volunteer Management : รูปแบบการบริหารจัดการอาสาสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององ...
 
Thinking schools, learning nation
Thinking schools, learning nationThinking schools, learning nation
Thinking schools, learning nation
 
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯสาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้การงานฯ
 

Appreciative Inquiry Coaching A-Z

  • 1. AI Coaching A to Z ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ ผู้ก่อตั้ง AI Thailand/Appreciative Inquiry Institute www.aithailand.org @ 2016 © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 2. A= Appreciative Inquiry Coaching • คือการโค้ชพัฒนามาจากศาสตร์การ สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ชื่อ Appreciative Inquiry ที่เน้นการค้นหา สิ่งดีๆ ความภาคภูมิใจของโค้ชชี่ โดย ใช้คำถามเชิงบวก ให้โค้ชชี่ค้นพบแล้ว นำสิ่งที่ดีๆ ในตัว ในองค์กร สิ่ง แวดล้อมไปขยายผลสร้างความสำเร็จ ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน เป็นชีวิต ส่วนตัว ตามประสบการณ์ผมได้ผสม ผสานศาสตร์หลายๆศาสตร์ จากฝั่ง OD (พัฒนาองค์กร) พวก Brain science แม้กระทั่งแนวคิดบริหารที่ดีๆ เข้าไป ทำให้กลมกล่อมใช้ได้ผลมากขึ้น เนื่องจากผมผสมผสานจนต่างไปจาก เดิมเลยเรียกใหม่ว่า AI Coaching© ครับ © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 3. B= Brain Science • เป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์มากๆ ผมใช้แนวทางของ Whole Brain Lietracy (WBL) ของดร. Perla Rizalina M. Tayko สมองมนุษย์แบ่งเป็นสี่ส่วนครับ • I-Control มีบุคลิกเป็นพวกที่ควบคุม จัดระบบเก่ง แต่มักมีปัญหาเรื่องคน • I-Preserve มีมนุษย์สัมพันธ์ดี แต่อาจมีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเอง • I-Explore เป็นพวกคิดสร้างสรรค์ แต่อาจมีปัญหาว่าไม่เริ่มทำอะไรจริงจัง สุดท้ายพวก • I-Pursue พวกมีเป้าหมายเอาไว้พุ่งชน แต่อาจขาดวิสัยทัศน์ • มนุษย์ที่สมบูรณ์จะใช้สมองสี่ส่วนนี้ได้เหมาะกับสถานการณ์ ข่าวร้ายคือมีไม่กี่คนที่ทำได้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหา โดยธรรมชาติ ซึ่งโค้ชจะดูออกครับ เช่นผมเคยเจอพวก I-control ที่ไม่มีความสุขเลย เพราะทะเลาะกับสามี ยัน พนักงาน ตัวนี้เรียกว่าไม่สมดุล สิ่งที่เราเพิ่มได้ คือหันไปสร้างสมดุลที่สมองซีกตรงข้ามคือ I-preserve ผมชวน มาเรียนเรื่อง Happiness ก็มีความสุขขึ้น อีกคนเป็น I-explore ไม่ทำอะไรเลยมัวแต่คิด ผมก็เริ่มให้ทำตรงข้าง คือ I-Pursue ตอนนี้เก่งขึ้น ตามทฤษฎีของอาจารย์ เราพัฒนาคนนี้พัฒนาด้านตรงข้ามได้เลย และจริงๆ คือ พรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นนั่นเอง ทฤษฎีนี้จึงเน้นการพัฒนาโค้ชชี่ให้ใช้สมองได้อย่างสมดุลมากขึ้น ชีวิตจะดีขึ้น สุขขึ้น สำเร็จขึ้นครับ • อาจารย์ Perla ต่อยอดเรื่องนี้มาจาก Dudley Lych อีกทีครับ © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 4. C=Commitment • 10-10-10 เป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ ครับ คือจะทำอะไรก็ตาม OD หรือ Coaching ก็ตาม ปัญหาใหญ่คือ โค้ชชี่ทราบปัญหาแล้ว อยากแก้แล้ว วางแผนแล้ว แต่ไม่ทำ ใช้เทคนิกนี้ ครับ ให้เขาวางแผนเลยว่าใน 10 วัน 10 สัปดาห์ 10 เดือนจะทำอะไรบ้าง สำคัญที่สุดคือ 10 วันแรก ถ้าเริ่มได้ ที่เหลือตามมาเอง กรอบตรงนี้เอาไว้ Followup ด้วยครับ การวางแผนลอง ใช้เวลาสัก 10 นาที วางแผนคิดเร็วๆ เลยว่าจะทำอะไรใน 10-10-10 ผมได้ แนวคิดมาจาก Suzy Welch ครับ ทำ สำเร็จมามากแล้วครับ © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 5. D=4D Process • ทำ Appreciative Inquiry Coaching เน้นที่การค้นหา เรื่องดีๆ ของโค้ชชี่ ตั้งคำถามค้นหาเรื่องดีๆ (Discovery) แล้วพาโค้ชชี่วาดฝัน (Dream) พากันออกแบบ (Design) และขยายผล (Destiny) บางทีคุยกันธรรมดาๆ นี่เองก็ครบ วงจรได้ เช่นขณะผมสอนลูกศิษย์ MBA คนหนึ่งชื่อคุณม่อน ตอนนั้นทำ Thesis กับผม ว่าม่อนๆ ที่ผมสอนไปม่อนชอบ อะไร ม่อนบอกว่าชอบเรื่อง Consulting ครับ (Dicscovery) ผมอยากเป็น Consult แบบอาจารย์ (Dream) ..อ้าว งั๊นมาทำ Thesis เรื่องนี้กัน (Design) ที่ก็มี การออกแบบ การสร้างโอกาส เช่นเรียน OD มากขึ้นกว่า เดิม ไปลองสนามจริง ไป networking เปิดบริษัท Destiny ทำจริง ..ตอนนี้เปิดบริษัท ABC Club ได้งาน Consult ดีๆ หลายๆงานเลยครับ แถมตอนนี้ต่อยอดมาเขียนหนังสือ เปิด Public Course อีก ...ชัดไหมครับ ถามคำเดียว ถ้า โค้ชชี่ชอบอะไร มัก “ใช่” เสมอ โค้ชก็ “เชียร์” และ “ช่วย” เท่าที่จะทำได้ด้วยความรู้ด้วยโอกาส เท่านี้ก็โตได้ครับ อีก คนอ.โอ๋ ชอบ Theory U ที่ผมสอน Step เดียวกันครับ ตอนนี้เปิด U.Lab Thailand แถมต่อยอดเรียนเอกไกล้จบ แล้วครับ และก็เปิดบริษัทชื่อ Presencing Purpose © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org http://www.tmiaust.com.au/what_we_do/appreciative_inquiry.htm
  • 6. E = Equation • Success = Attitude + Alliance + Assignment ลองหากรอบการมองชีวิตจากนักคิดข้างบน เป็น สมการความสำเร็จของนักบุกเบิกจากน่าซ่า ความ สำเร็จมาจาก การมีทัศนคติที่ดี + การมีพันธมิตร กัลยาณมิตร หรือครูในหลายแวดวง รู้ว่าติดปัญหา เรื่องนี้จะไปหาใคร+ Assignment วางแผนชีวิต ทำงานที่ชอบอย่างมีจุดหมาย ใช้กรอบการมองแบบ นี้บางทีตะทำให้เห็นสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมโค้ชชี่บาง คนก็มีปัญหาเรื่องทัศนคติ ก็มาคุญกันเรื่องนี้ก่อน ไม่ อย่างนั้นไปไหนไม่รอด หรือบางที่ไม่รู้จักใครเลยก็ ยาก มีแต่เข้าหาไม่ได้ ทำตัวไม่เป็นก็ไปไม่รอด สุดท้าย Assignment ต้องรู้จักค้นหา Passion ใน ชีวิต ค้นหาเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ (Pupose) หลักๆ คือจะทำอะไรให้โลกใบนี้ สมการชีวิตเป็น อะไรที่ช่วยจัดกรอบ ที่จะทำให้โค้ชชี่มองออกไป นอกกรอบมากขึ้น เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ คุณอาจหา สมการอื่นที่คุณชอบมาเป็นตัวช่วยก็ได้ครับ © ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 7. F = Flow • เป็นทฤษฎีความสุขที่เอามาใช้งานได้หลาย อย่าง ทฤษฎีนี้บอกว่าคนเราจะมีสุขมีทุกข์ ขึ้นกับความสัมพันธ์ของสองปัจจัยคือความ ท้าทายกับทักษะ ถ้าคุณเจอโค้ชชี่กังวลคิด ไม่ตก ลองถามดูครับเขากำลังเจอความ ท้าทายสูง แต่ขาดทักษะ คุณโค้ชเลยครับว่า จะเพิ่มทักษะอะไร แต่หากเจอโค้ชชี่ดูหลง ทาง ไม่รู้ไปไหน เรื่อยเปื่อยก็ต้องให้เขา ค้นหาความชอบ เพื่อกำหนดเป้าหมาย ความ้ทาทายใหม่ แล้วค้นหาทักษะใหม่ๆ แต่หาโค้ชชี่ดูเบื่อๆชีวิต ก็ให้ค้นหาความ ท้าทายใหม่ ปรับจนกว่าจะสมดุลคือเขาเอง ได้ทำอะไรที่ท้าทายสูงแต่ก็มีทักษะสูง ภาวะ นี้คนจะเจอภาวะลื่นไหล สุขลืมวันลืมคืน หรือเรียกว่าเจอภาวะ Flow นั่นเอง ...เป็น เครื่องมือที่สุดยอดมากๆ แนะนำครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 8. G = Gender Intelligence • ความรู้เรื่องความแตกต่างระหว่างเพศนี้จะช่วยโค้ชชี่ให้ ทำความเข้าใจได้มากๆ เช่นฮอล์โมนที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุข และเก่งคือ Oxytocin ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงได้อยู่ในภาวะได้ รับการดูแล เอาใจใส่ สนับสนุน ตัวนี้ถ้าโค้ชชี่เป็นผู้ชายอาจ สร้างปัญหาในชีวิตด้วยความไม่รู้ จริงๆ ผู้หญิงต้องการให้ ผู้ชายฟังมากๆ ดูแล เอาใจใส่ ระบบสมอง ความคิดจะเติบโต ได้เอง แก้ปัญหายากๆได้แต่ผู้ชายมักไม่ฟังตรงนี้เองบางครั้ง ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ขึ้นมา ส่วนผู้หญิงเองถ้าไม่ เข้าใจผู้ชายที่จะเก่งขึ้นด้วยฮอล์โมนเทสโทสเตอโนรตัวนี้ออก มาเมื่อผู้ชายได้เผชิญวิกฤติ ได้แก่ปัญหาได้เป็นฮีโร่ ดังนั้นการ สร้างโจทย์ ตั้งคำถามให้ผู้ชายได้ช่วยแก้จะมีส่วนช่วยพัฒนา ความสามารถและความสัมพันธ์กับผู้ชายได้มาก ความรู้อย่าง นี้ให้โค้ชชี่ลองตั้งข้อสังเกตได้ แล้วลองเอาไปทดลองทำจริง ได้ครับ จะแก้ปัญหาที่บางทีงุนงง หาต้นเหตุไม่ได้ครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 9. H=HERON Model • ผมชอบ Model นี้มากครับเอามาประยุกต์ได้มาก เพราะเราเองไม่ได้คุยกันในบรรยากาศการโค้ช ตลอด ยิ่งเป็นครู เราเริ่มสนิทกับศิษย์มาก เริ่มเห็นขีด จำกัดบางครั้งจิตตก ก็ต้องดึงกัน เช่นไม่มั่นใจชีวิต แย่มาก ก็พาวิเคราะห์ว่าชอบอะไร มีท่านหนึ่งชอบ แต่งตัว เลย “ให้การสนับสนุน” “แนะนำ” ให้มาต่อย อดที่ Thai Coach รวมทั้งไปเรียนต่อด้านการเป็น โค้ชด้านการแต่งตัว ที่สุดเลยมาเป็น TIG Identity Coach ผมเองก็ได้ดีจาก Model นี้ ตอนทำป.เอก เขียนมาก ทำมาก แต่ดูวนในอ่าง ที่สุดอาจารย์ที่ ปรึกษาเลยสั่งว่า “ภิญโญ ดูออกนอกขอบเขตมากไป ไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านปะ Action Research ของ Stinger ” เท่านั้นเอง ผมรู้เลยว่าผมออกนอก เส้นทางไปมาก ...ลองดูครับ Heron Model มี ประโยชน์มาก ผมปรับแต่งนิดหน่อยครับ ไม่ตรงกับ ต้นฉบับมากๆ ผสมแนวคิด AI เข้าไปหน่อย กลมกล่อมขึ้นมากๆ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org Tig Identity Coach
  • 10. I = IKIGAI • การค้นหาความหมายของชีวิตแบบญี่ปุ่น หรือเหตุผล ของการตื่นขึ้นมาแต่ละวัน เคยเจอไหมครับ ... “ตื่น ขึ้นมาก็อยากให้ถึงตอนเย็นแล้ว” เรียกว่าหมดไฟแต่ ตื่น IKIGAI ทำอย่างนี้ครับIkigai เป็นจุดร่วมของ Passion (สิ่งที่คุณหลงใหล) Mission (พันธกิจ) Vocation (งานที่ อาจเป็นอาชีพหรืออาสาสมัครก็ได้ เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะอาจผ่านการศึกษาอย่างเป็น ทางการหรือไม่ก็ได้ เกิดจากการค้นพบตัวเอง เกิด จากพรสวรรค์ของคุณเอง ) Profession (วิชาชีพ เป็น งานเฉพาะทางที่ต้องผ่านการศึกษาอย่างเป็นทางการ เช่นมหาวิทยาลัย เช่นหมอ วิศวะ นักกฏหมาย เป็นต้น) คุณลองเอามารวมๆกัน หาดูว่ามันมีจุดร่วม อะไร แล้วตั้งคำถามว่าตอนนี้โลกกำลังต้องการอะไร คุณจะได้คำตอบดีๆ ว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่ออะไร IKIGAI ช่วยให้คนค้นหาเป้าหมายชีวิต ที่ตอบโจทย์หัวใจตัว เองจริงๆ เท่าที่ผมเห็น 99% ของโค้ชชี่ที่มีปัญหา ชีวิตไม่ว่างานหรือที่บ้าน ร้อยทั้งร้อยไม่มี IKIGAI ครับ น่าสงสารมากๆ ...โค้ชเองก็อาจไม่มีก็ได้ โค้ชก็ ต้องหานะครับ • Ref ภาพ: http://us.ikigaibags.com/blog/what-the-heck-is-iki...) • ( อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/599051)
  • 11. J= Just do it • ผมแนะนนำอย่างหนึ่งนะครับ คือไม่ จำเป็นต้องทำตามตำรา 4 D แบบจัด เต็ม หลายกรณีผมเน้นแค่ Discovery เท่านั้น คือชอบอะไร ภูมิใจอะไร ก็ ค้นหา แล้วเชียร์ให้ขยายผลเลย ประมาณว่า Discovery แล้ว Do เลย คือเอาที่ค้นพบไปทดลองเดี๋ยวนั้น ไม่ ต้องค้นหา Dream Design ให้วุ่น ทำ เป็นพิธีการไม่ค่อยเกิดครับ ในมุมมอง ของผม Discovery หรือการค้นหา ประสบการณ์ดีๆ เมื่อค้นพบเหตุการณ์ นั้นมักจะทำให้โค้ชชี่ เห็นความฝัน หรือ สิ่งที่อยากทำ และแผนการอยู่แล้ว กระตุ้นให้ขยายผลสร้าง Small Sucess ก่อนแล้วฝันที่ใหญ่กว่าจะมา เอง คือเน้นทำ ทำ ทำ ทำ ครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 12. K=Knowledge • ความรู้ไม่พอใช้ 5 M Model ช่วย เพื่อทำให้เกิด จะดี มากๆ ปัญหาของโค้ชชี่จำนวนมากเลยคือความรู้ไม่พอ ทำให้เกิดปัญหา วิธีการสร้างความรู้เพิ่มเติมทำได้ด้วย Model นี้ครับ คือ 5 M • Me Experience ให้ค้นหาความรู้เดิมของโค้ชชี่ว่า ใน เรื่องในที่ทำได้ดีที่สุดที่เคยทำได้คืออะไร • Mate Experience ให้เขาไปถามเพื่อนว่าเพื่อนทำ อย่างไร • Mankind Experience คนในระดับโลกเขาทำอย่างไร อาจเป็นบริษัทญี่ปุ่น อเมริกันที่ดังๆ เขาทำเรื่องเดียวกัน อย่างไร (ลองถามเพื่อนในบริษัทนั้นดู) • Mixed Experience ลองหาอะไรดีๆ ในแวดวงอื่นๆ ว่า เขาทำอย่างไร • Morale Experience ลองถามหลวงพ่อ หรือดูคำภีร์ หรือศึกษาจากต้นแบบดีๆ ในชีวิตดู ของผมมักดูจาก หลวงพ่อกล้วย ดร.วรภัทร์ ท่านดาไลลามะเป็นต้น • พอโค้ชชี่ได้ไปศึกษาจากแห่งข้อมูลต่างๆ ก็มักจะค้นพบ คำตอบได้ หรือเกิดทิศทางใหม่ๆ เอง © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org ผมดัดแปลงมาจาก SECI Model จากหนังสือเล่มนี้ครับ
  • 13. L = Learning • หมายถึงการเรียนรู้แบบ Double-Loop Learning คนเราบางที่ทำอะไรผิดแบบเดิมๆ เพราะทำอะไรแบบ อัตโนมัติ ทำด้วยความรู้ความเชื่อเดิมๆ ก็อาจจะผิดแบบเดิมๆ แต่หากโค้ชสามารถทำให้โค้ชชี่หันมา ตรวจสอบสมมติฐาน ความเชื่อของตนเองได้ ว่าสิ่งที่ทำอยู่มาจากความเชื่ออะไร เมื่อปรับความเชื่อได้ก็จะ ปรับวิถีการคิด หรือแม้กระทั่ง Mindset ได้ครับ วิธีการคือลองให้ให้โค้ชชี่ทำ Reflection บ่อยๆ คือเวลา ทำอะไรไป เช่นพูดกับหัวหน้า ลองกลับมาคิดดูว่าอะไร work ไม่ work ทำอย่างนี้บ่อยๆ จะปรับอะไรที่ไม่ได้ ผลออก แล้วทำอะไรได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวโค้ชชี่จะเปลี่ยนความเชื่อไปถาวรเลย ตัวนี้ใช้ใน วงการ OD ด้วย เรียกว่าถ้าทำเป็น Coach ตัวเองได้เลย แถมเอาไปต่อยอดทำ Learning Organisation ได้ด้วย © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 14. Mindfulness • การเจริญสติ (Mindfulness) เป็น เครื่องชาร์จพลังของทั้งโค้ชและ โค้ชชี่ครับ ก่อนทำอะไร ก่อนไป โค้ชแนะนำให้เจริญสติก่อน จะดี มากๆ ถ้ายังไม่ Strong ก็แนะนให้ โค้ชชี่ลองไปหาอาจารย์ผู้รู้ดู หรือ เล่าเรื่องดีๆ เกี่ยวกับการเจริญสติ ให้โค้ชชี่ได้ฟัง ในสายจิตวิทยาบวก จนถึง Learning Organisation ตอนนี้ต่างแนะนำเรื่องการเจริญสติ ครับ จะช่วยสงบจิตใจ เกิดปัญญา เกิดความคิดดีๆ ได้เอง © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 15. N= Networking • เครือข่ายสำคัญกับโค้ชและโค้ชชี่มาก ครับ หลายครั้งที่ผมเจอ โค้ชชี่มักแก้ ปัญหาหลายเรื่องด้วยตนเอง โดย เฉพาะเรื่องาน ตัวโค้ชอาจแนะนำโค้ช ชี่ว่ารู้จักใครที่จะช่วยเรื่องที่ทำอยู่ให้ ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นครับ ผม มีโค้ชชี่คนหนึ่งเจอปัญหาทำตู้อบเห็ด แล้วต้นทุนสูง เลยถามคำถามว่าพอ รู้จักใครที่ช่วยได้ไหม บังเอิญถาม เพื่อนในกลุ่มเดียวกันไปเจอว่าคุณพ่อ เพื่อนอีกคนจบปริญญาเอกด้านการ หมักจากเยอรมัน เลยนัดเจอกัน คุณ พ่อเขียนแบบให้เลย ปรากฏไปทำจริง ลดต้นทุนลงเป็นหมื่นบาท การมีเครือ ข่ายจึงสำคัญมาก © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 16. O= Ownership • ความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน เจ้าของ ปัญหาคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ถ้าโค้ชชี่ ไม่อยากทำ ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาของ เขา เป็นปัญหาของครู เป็นปัญหาของ นาย “โอ๊ มาอีกแล้วนายหา Training แปลกๆมาให้อีกแล้ว” ยากครับ แต่ โชคดีที่ AI Coaching ใช้คำถามเชิง บวก ที่ทำให้โค้ชชี่ค้บพบสิ่งดีๆ ที่เคย ทำสำเร็จ โค้ชชี่จึงมักเกิดแรงบันดาล ใจขยายผลเอง โดยไม่ต้องบังคับ โค้ชชี่ผมเกิดสนใจกาแฟ จึงเริ่มขาย จากเหยือกเดียว ตอนนี้เริ่มส่งออกไป เมืองนอกแล้วเพราะฉะนั้นเน้นเชิงบวก ครับ จะไปได้เอง อยากเป็น Ownership เอง © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 17. P= Positive Psychology เป็นศาสตร์ที่ควรศึกษามากๆ เพราะเอามาผสมสานได้ดี มากๆ เช่นตัวหนึ่งที่ผมชอบมากคือเรื่อง Self-portrait คือ การให้เราไปถามคนรอบๆตัวเราไม่ว่าจะเป็นคนใน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าว่าเขาเห็นเรามีดีตรง ไหน ภาพที่ได้มักไม่ตรงกับภาพที่เราคิดว่าคนอื่นมองเห็น ที่เจอมาบางคนกลับบ้านไปจะไปเล่าความสำเร็จในอาชีพ ได้เจอกับคนโน๊นคนนี๊ เพราะคิดว่านี่คือสิ่งที่เราอยากให้ คนอื่นมองเห็น แต่พอไปถามมากๆ กลับเป็น “ชอบที่พ่อ พัฒนาตัวเอง” “ชอบที่พ่อเล่นเป็นเพื่อนหนู” ...คนละเรื่อง ครับ คนรอบตัวจะสะท้อนให้เราเห็น ที่สุดแล้วเราจะ กำหนดทิศทางชีวิตได้ใหม่ ชีวิตจะดีขึ้น ลองให้โค้ชชี่ของ ท่านลองทำดูนะครับ มีอีกหลายเทคนิกเช่น เจริญสติ (Mindfulness) นี่บ้านเรามีวัดดีๆ ให้เข้าเยอะ แนะนำไป เลยครับ สายหลวงพ่อเทียน หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงพ่อ กล้วย (ขอนแก่น) ไม่ต้องไปเรียนเมืองนอกเหมือนผม เมือง ไทยมีอะไรดีๆมากครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 18. Question 1. คุณภาคภูมิใจอะไรที่สุด (ค้นหา Innovation) 2. (รู้สึกไม่ดี) ตอนที่คุณรู้สึกดีๆ เกิดอะไรขึ้น 3. (ไม่มีความสุข) ตอนที่มีความสุข ทำอะไร 4. (พ่อไม่เชื่อ) ตอนที่พ่อเชื่อทำอย่างไร 5. (หน่วยงานไม่ยอมรับ Idea) ตอนเขายอมรับ Idea ใหม่ๆ ตอนนั้นมีองค์ประกอบ อะไร 6. (เสี่ยง) ตอนบริหารความเสี่ยงได้ดี ทำอย่างไร 7. (ไม่มีเงิน) ตอนที่เรารู้สึกฉลาดเรื่องเงินไป ตอนนั้นทำอย่างไร 8. อื่นๆ เน้นถามตรงข้าม คำถามหลักคือ “คุณภาคภูมิใจอะไร” ใช้ถามเพื่อหา Innovation อาจขยานผลถึง ขั้นเปลี่ยนงาน สร้างโครงการใหม่ ตั้งกิจการ ส่วนคำถามเจาะ คือเจาะเฉพาะ ปัญหาตรงๆ เน้นการถามตรงข้าม
  • 19. R= Reframing • การเปลี่ยนกรอบสำคัญมากๆ บางคนยึดติด อยู่กับกรอบเดิมครับ เช่นคิดอะไรลบไว้ก่อน ผมเองจะบอกแต่ต้นว่า “เคยรู้สึกอะไรลบๆ ไหม ตอนคิดลบสามารถคิดอะไรดีๆ กลยุทธ์ ดีๆได้ไหม” ไม่เคยมีใครตอบว่าได้สักคน โกรธ เกลียด พยาบาท เมื่อไหร่จะคิดอะไรได้ ไม่ดีเสมอ ถ้าทำอะไรไปมักตั้งเสียใจภายหลัง เราต้องสงบๆ หรือคิดบวกก่อน จึงจะหา ทางออกได้ ตรงนี้อธิบายด้วยความรู้เรื่อง สมองครับตอนอารมร์ไม่ดีเราไปกระตุ้นสมอง Retilian Brain ครับสมองส่วนโบราณสุด สมองนี้ทำหน้าที่เอาตัวรอดใช้ในตอนฉุกเฉิน คือมันจะสู้ หนี หรือแกล้งตายเท่านั้น ส่วน เวลาบวก หรือสงบมันจะกระตุ้นสมองส่วน หน้า Prefrontal ที่จะเป็นสมองส่วนที่ค้นหา กลยุทธ์ เพราะฉะนั้นโค้ชชี่อยากทำอะไรให้ดี ต้องสงบหรือบวกก่อน ...นั่นคือโค้ชต้อง ปล่อยให้เขาพูด ระบาย แล้วเล่าเรื่องนี้ให้เขา เปลี่ยนกรอบ หรือรอให้สงบ สบายแล้วค่อย โค้ชครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 20. S= Scaling • แนวคิดจาก Solution-focused brief Therapy ใช้ในการออกแบบ (Design) ถ้าให้คะแนน 10 มากสุด 0 น้อยสุด โค้ชชี่ก็สามารถประเมิน ตนเองได้ว่าทักษะ ความพร้อมตัว เองอยู่ระดับใด ตัวนี้ช่วยให้โค้ชชี่ มองปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่รู้สึก ว่ามันท่วมท้นจนทำไม่ได้ จากนั้น เมื่อโค้ชชี่ให้คะแนนตัวเองแล้วก็ ถามว่าถ้าจะขยับขึ้นอีก 1 คะแนน เขาต้องทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่จะ เห็นภาพแล้วบอกตัวเองได้ว่าจะทำ อะไรต่อไป จากนั้นโค้ชขอ Commitment เลย ก็จะได้ครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 21. T= Tipping Point • ตัวช่วยทวีคูณความสำเร็จของโค้ชชี่ คือคนสามประเภท ได้แก่ Connector Maven Salesman • Connector เป็นคนกว้างขวางรู้จักคนที่อาจมีความ เชี่ยวชาญบางอย่าง หรือรู้เรื่องในบางวงการให้โค้ชชี่ ทำให้โค้ชชี่แก้ปัญหา หรือเข้าถึงโอกาสได้ • Maven คือผู้เชี่ยวชาญรู้เฉพาะทาง เช่นพ่อผมเป็น Vertigo โลกเอียง ถามไปหาผู้เชี่ยาวชาญปรากฏว่าอยู่ข้างบ้านนี่เอง ไปหาท่านรักษาแป๊ปเดียวหายขาด Maven แก้ปัญหาทาง เทคนิกให้โค้ชชี่ได้ • Salesman คือคนที่รู้จักพูด รู้จักสื่อสาร ช่วยให้คำปรึกษา เรื่องวิธีพูดได้ เช่นโค้ชชี่ของผมมีปัญหากับหน่วยงานที่เป็น วิศวะชอบตัวเลขมากๆ จะทำอะไรที่เป็น Soft skill ไม้ค่อย ได้ ภายหลังคนที่สื่อสารเก่งมีบุคลิกเป็น Salesman แนะนำ ว่าให้ผูกตัวเลขไปสิ เท่านั้นเองก้ได้รับการยอมรับมากขึ้น • สามคนนี้จะมีอยู่รอบๆตัวของโค้ชชี่ แค่เล่าแนวคิดให้โค้ชชี่ ฟัง โค้ชชี่จะเห็นโอกาสเอง © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 22. U=Uses variety of tools • ใช้เครื่องมือหลายๆอย่างครับ จะช่วยได้มาก ผม เรียนศาสตร์การพัฒนาองค์กรมาครับ เราใช้หลายๆ ศาสตร์มาผสมผสานกัน เพราะศาสตร์เดียวบางทีไป ไม่รอด ผมเองเริ่มต้นการทำ Appreciative Inquiry สมับทำปริญญาเอก ทำกับคน 33 คน ก็ต้องอาศัย ศาสตร์อื่นช่วยด้วยคือ Appreciative Inquiry Coaching เพราะแต่ละคนจะมีปัญหา ความฝัน เฉพาะตัว ทำให้ต้องใช้การโค้ชมาช่วยดึงศักยภาพ ให้ได้สูงสุด แต่ก็ผสมผสานวิธีการตั้งคำถามแบบ Appreciative Inquiry แบบดั้งเดิมไปด้วย และใช้ ในกระบวนการกลุ่ม นอกจากนี้ยังใช้ KM มาช่วย เก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้จากการเล่าประสบการณ์ดีๆ มาเก็บในรูปแบบของ Blog หรือ Case study ที่ www.aithailand.org ทำให้สามารถนำความรู้ที่ได้ (ที่เปิดเผยได้) มาสร้างแรงบันดาลใจ มาสร้างพื้น ฐานความรู้ให้คนอื่นได้อีก ปัจจุบันผมได้ผสมผสาน ศาสตร์ต่างๆ เข้าไปอีก ทำให้ได้การโค้ชที่เหมาะกับ คน และบริบทต่างๆมากขึ้น © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 23. V= VIA • Character Strengths and Virtues เป็นแบบประเมินบุคลิกภาพที่ผ่านการ วิจัยมาอย่างเข้มข้น ตอนนี้มีเป็นภาษา ไทยแล้ว ท่านสามารถให้โค้ชชี่เข้าไป ประเมินได้ จุดแข็งเชิงบุคลิกภาพแบบ VIA นี้จะทำให้โค้ชชี่เห็นจุดแข็งของ บุคลิกภาพ ที่จริงๆเองก็มีกระบวนการ ซ่อนอยู่ด้วย เช่นโค้ชชี่ผมคนหนึ่งมี บุคลิกคือเป็นคนรักการเรียนรู้ ตัวนี้มา อันดับหนึ่งเลย เวลาเจอปัญหา ก็ให้เลย แนะนำลองไปหาหนังสือใหม่ๆ ไปเรียน อะไรใหม่ๆ โค้ชชี่จะสามารถค้นพบ ทางออกได้ด้วยตัวเอง VIA นี้ใช้ วางแผนการพัฒนาตัวเองทั้งในระยะสั้น ระยะยาวได้ ดีมากๆ แนะนำครับ สงสัย อะไรผมแนะนนำให้ได้ครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 24. W= What works What not works • โค้ชเองต้องปรับปรุงตัวเองครับ โดยการหันมามองตัวเองตลอด เวลาว่าอะไรที่ทำไป Work ไม่ work คือหันมามากระบวนการของตัวเอง ไม่ใช่มองแต่ว่าโค้ชโค้ชชี่สำเร็จ ไหม ต้องหามองตัวเองตั้งแต่ กระบวนการเตรียมการ การโค้ช Followup ทั้งหมด งานของคุณจะดี มีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญจะ สามารถพัฒนา Signature ของตัว เองได้ ไม่ซ้ำแบบใครในที่สุด วิธีนี้ ผมเรียนมาจากสมัยเรียน Ph.D. OD ครับ ดีมากๆ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 25. X= Exception • ขอบเขตครับ คุณต้องรู้ว่าคุณไม่ใช่ จิตแพทย์ บางเรื่องที่เคยเจอมาเกิน ขอบเขตเราเช่นคุณพ่อมีปัญหาทาง จิต สามีเป็นมะเร็ง จะทำอย่างไรคะ อาจารย์ ..ตัวนี้ผมส่งต่อมืออาชีพ อย่างเดียว เพราะผมไม่ใช่มืออาชีพ ด้านการรักษาครับ บางทีก็อาจ ถามเพื่อนให้ได้ครับ เราก็จะช่วย โค้ชชี่ได้อีกทาง © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 26. Y= Yield • ผลที่ได้รับจากการโค้ช ส่วนใหญ่บอก ว่าอาจารย์ เอา KPI ให้ขึ้นเลย ใจเย็น ครับ จริงๆ KPI ประกอบด้วยองค์ ประกอบย่อยคือ Outcome KPI คือ ผลที่ได้อยากได้ ตัวนี้วัดเป็นตัวเลข ส่วนอีกตัวเราเรียกว่า Performance Driver หรือเหตุที่เชื่อว่าจะทำให้ผลดีๆ หรือ Outcome KPI เกิดขึ้นจริง การ โค้ชคือการค้นหาเหตุ (Performance Driver) ครับ ที่สุดก็จะไปทำให้ Outcome KPI เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าคน เปลี่ยนมุมมองจากลบเป็นบวกได้ ไม่ ต้องกลัวครับ เขาจะทำงานได้มากขึ้น มีความสุข และพัฒนาตนเองมากขึ้น ไปเอง ยังไม่ต้องเร่ง KPI แต่ต้น © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 27. Z= ZEN • ผมเองใช่ว่ารู้ทุกเรื่อง เรื่องของคนเป็น เรื่องซับซ้อนครับ ผมเองนับถือดร.วร ภัทร์ ภู่เจริญมากๆ ท่านมีวิธีการฝึกคน ที่ดีครับ ผมชอบวิธีคิดของท่านเรื่อง สัตว์สี่ทิศ กระทิง หมี หนู อินทรี และ เรื่องปัญญาสามฐาน ฐานคิด ฐานกาย ฐานใจมากๆครับ ที่สำคัญท่านมี หลักสูตรดีๆ มากเช่นธนูโพชชงค์ มี โค้ชโพชชงค์ การแต่งดอกไม้แบบเซน หลายครั้งถ้าค้นพบว่าโค้ชชี่ดูมีความ ท้าทายเรื่องใจ ผมจะแนะนำไปเรียน ปรับฐานใจกับดร.วรภัทร์ หรือไม่ก็ไป ฝึกปฏิบัติทำ เช่นไปถ้าฝั่งผมก็ วัดหลวงพ่อกล้วยครับ © โดยดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ www.aithailand.org
  • 28. ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์ • B.Eng (KMITL), MBA (Virginia Tech), Ph.D. (OD) Assumption University • อาจารย์ประจำ MBA KKU • ผู้ก่อตั้ง AI Thailand ชุมชนของผู้สนใจศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติ Appreciative Inquiry มาตั้งแต่ปี 2550 • Website: www.aithailand.org • ชอบศึกษาค้นคว้าเรื่อง Appreciative Inquiry มากจนทำเป็นวิทยานิพนธ์ในระดับป.เอก และ ขยายผลทำอย่างต่อเนื่องมากถึงปัจจุบัน นอกจาก นี้หลังจบยังศึกษาต่อกับผู้คิดค้นทฤษฎีโดยตรง • “มีความสุขมาก” Certificate: Art and Science of Appreciative Coaching จากอาจารย์ผู้คิดค้น Appreciative Coaching ศึกษา Appreciative Inquiry กับ Prof. David Cooperrier ผู้คิดค้น Appreciative Inquiry