More Related Content Similar to โครงงานใบงานที่ 7
Similar to โครงงานใบงานที่ 7 (20) More from Anny Na Sonsawan
More from Anny Na Sonsawan (9) โครงงานใบงานที่ 71. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ ใช้ งาน”
--------------------------------------------------------------
ความหมาย
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์
ิ
สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ สาหรับการระบุ
คนร้าย เป็ นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรื ออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่ งอาจ
่
เป็ นการคิดสร้างสิ่ งของขึ้นใหม่ หรื อปรับปรุ งเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยูแล้วให้มีประสิ ทธิ ภาพสู งขึ้น โครง
งานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผูใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ
้
และพัฒนาสิ่ งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรื อทดสอบคุณภาพของสิ่ งประดิษฐ์แล้วปรับ
ปรุ งแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผเู ้ รี ยนต้องใช้ความรู ้เกี่ยวกับเครื่ องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่ องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรมระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผูเ้ รี ยน
2001
ทีมา : https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-
่
khxmphiwtexr
ตัวอย่าง
1.โครงงานโปรแกรมธนาคารความดี
โครงงานโปรแกรมธนาคารความดีน้ ีได้จดทาขึ้นเพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลนักเรี ยน เพิ่มคะแนนความดี หัก
ั
คะแนนความประพฤติของนักเรี ยน และผลของการใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลนี้กบธนาคารความดี ก็เป็ นที่น่า
ั
ั ่
พอใจมากกว่าการบันทึกความดีที่เป็ นสมุดรู ปเล่ม ที่ใช้กนอยูในปั จจุบน ซึ่ งต้องใช้กระดาษเป็ นจานวนมากใน
ั
การทาเป็ นสมุดบันทึกคะแนนความดีให้นกเรี ยนทุกคนในโรงเรี ยนซึ่งมีจานวน 1431 คน อีกทั้งการพกพา
ั
สมุดนั้นทาให้เกิดการสู ญหายได้ และเกิดการชารุ ดได้ง่าย
การหาวิธีที่จะใช้กระดาษให้นอยลงจึงเป็ นทางเลือกที่ดี
้
ดังนั้นโปรแกรมธนาคารความดีน้ ีจึงเป็ นทางเลือกใหม่ที่
ดีกว่ารู ปเล่มบันทึกแบบเดิม ความคิดในการพัฒนา
โปรแกรมธนาคารความดีน้ ีได้ถูกคิดต่อยอดจากโปรแกรม
เดิมที่มีคุณสมบัติไม่ดีเท่าโปรแกรมตัวใหม่ ทางคณะ
ผูจดทาได้นาโปรแกรมมาศึกษาและดัดแปลง ปรับปรุ ง
้ั
เพิ่มเติมในส่ วนที่นกเรี ยนกลุ่มก่อนได้ทาไว้แต่ยงไม่ดีนก โดยเริ่ มจากการวางแผนเค้าโครงโปรแกรม คิดหา
ั ั ั
2. สู ตรที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมธนาคารความดี ออกแบบฐานข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Microsoft
Access 2003 ออกแบบเมนูหลักต่างๆที่จาเป็ นต่อการใช้งาน เช่น รายการเพิ่มคะแนนความดี รายการหัก
คะแนนความประพฤติ รายงานคะแนนแบบห้อง หรื อแม้แต่ระดับบุคคล และยังสามารถมีประโยชน์ในการใช้
งานจริ ง แล้วจึงมาสร้างในโปรแกรม
Microsoft Visual Basic 6.0 โดยเริ่ ม
่
จากการสร้างเมนูหลัก เพิ่มเมนูยอยอีกหลายรายการ
เพื่อสะดวกแก่การเก็บหลักฐานพฤติกรรมของ
นักเรี ยนที่เป็ นสมาชิกภายในโรงเรี ยน ข้อมูลภายใน
โปรแกรมธนาคารความดียงสามารถ เพิม ลบ หรื อ
ั ่
แก้ไข ข้อมูลสมาชิกหรื อข้อมูลต่างๆภายใน
โปรแกรมได้ ข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่ถูกบันทึก
ในโปรแกรมยังสามารถเก็บเป็ นหลักฐาน และ
รายงานเพื่อส่ งต่อให้ฝ่ายปกครองพิจารณาต่อไปได้อีกด้วย โปรแกรมธนาคารความดีน้ ี จึงเป็ นโปรแกรมที่
สามารถลดภาระของครู ผบริ หารเกี่ยวกับการควบคุม ดูแลความประพฤติของนักเรี ยนได้โดยไม่ตองเพิงการ
ู้ ้ ่
ตรวจสอบที่ยงยากเหมือนแต่ก่อน ลดขั้นตอนการดูแลได้ในโปรแกรมเดียว และยังสามารถประยุกต์พฒนา
ุ่ ั
โปรแกรมนี้ เพื่อประโยชน์แก่กิจกรรมทางการเรี ยนของนักเรี ยนได้อีกด้วย
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/project/view/689
http://www.vcharkarn.com/project/upload/0/689_2.pdf
2.ระบบบริหารจัดการโครงงานในโรงเรียน (KuiSchool)
: การจัดการข้อมูลผูใช้งาน การประกาศกิจกรรมหลัก และกิจกรรมย่อย
้
โครงงานนี้นาเสนอระบบบริ หารจัดการโครงงานในโรงเรี ยน (KuiSchool) ซึ่ งพัฒนาต่อยอดจากระบบ
่
บริ หารจัดการงานวิจย (KuiSci) ซึ่ งอยูในเครื อข่ายสังคมคุย (KuiSociety) โดย ระบบ KuiSci
ั
นั้นใช้บริ หารจัดการงานวิจย แต่ระบบ KuiSchool ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อบริ หารจัดการในการให้ทุนจัดทา
ั
โครงงานในระดับโรงเรี ยน โดยมีการทางานหลักๆ คือ การประกาศกิจกรรม เพื่อให้โรงเรี ยน หรื อนักเรี ยนส่ ง
ข้อเสนอกิจกรรม เข้าร่ วมการแข่งขัน และให้ทุนหรื อรางวัล โครงงานครั้งนี้ทาให้ได้ระบบที่ช่วยบริ หารจัดการ
ในการให้ทุนการจัดทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับโรงเรี ยน มีความสะดวก รวดเร็ ว ง่ายต่อการติดต่อสื่ อสาร
ั ั ่
ช่วยลดเวลาและการทางานที่ซบซ้อน ระบบนี้จดทาให้อยูในรู ปแบบของเว็บแอพพลิเคชัน ผูใช้สามารถเข้าถึง
่ ้
ได้ง่ายผ่านเว็บเบราว์เซอร์ Mozilla Firefox, Internet ExplorerและGoogle Chrome
ระบบใช้ MySQL ในการจัดการฐานข้อมูล PHP Framework ชื่อ CodeIgniter เป็ นกรอบ
ในการทางานเพื่อพัฒนาโปรแกรม
3. ที่มา : http://www.informatics.buu.ac.th/drupal/?q=content/
3. การจัดการเส้ นทางการท่ องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่ นด้ วยเว็บเซอร์ วส
ิ
ในปัจจุบนมีเว็บไซต์ที่นาเสนอข้อมูลเกี่ยวข้อง
ั
กับการท่องเที่ยวจานวนมาก แต่ละเว็บไซต์ต่างมี
จุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป สิ่ งที่จะทาให้
เว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวดูน่าสนใจมาก
ยิงขึ้น นันคือการเลือกเส้นทางที่เหมาะสมให้แก่
่ ่
ผูใช้งาน เพราะในบางครั้งผูที่สนใจจะท่องเที่ยว
้ ้
ในจังหวัดขอนแก่น อาจไม่ได้มีการเตรี ยมตัว
ล่วงหน้ามาก่อน หรื อ มีเวลาจากัดในการเดินทาง ทาให้พลาดโอกาสในการท่องเที่ยวสถานที่บางแห่งได้
เนื่องจากในเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีการแยกการนาเสนอข้อมูลออกเป็ นส่วนๆ ทาให้ผใช้งานต้องเข้าหลายเว็บไซต์จึงจะ
ู้
ได้ขอมูลที่ครบถ้วน เราจึงได้มีการนา
้
เทคโนโลยีเว็บเซอร์วส เพื่อรวมข้อมูล
ิ
่
ทั้งหลายที่มีอยูอย่างกระจัดกระจายนี้ให้เป็ น
ระบบบริ การเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสม
แก่ผใช้บริ การ
ู้
ดังนั้นจึงจัดทาโครงงานการจัดการ
เส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น
ด้วยเว็บเซอร์วส ขึ้น เพื่อเป็ นการเผยแพร่
ิ
ความรู ้ความเข้าใจเกี่ยวกับเว็บเซอร์วส ให้เป็ นที่รู้จกแพร่ หลายมากขึ้น โดยไม่จาเป็ นว่าจะเก็บข้อมูลเพียงอย่างเดียวแต่ยง
ิ ั ั
สามารถให้บริ การได้ เช่น คานวณโปรแกรมการจัดเส้นทาง สื บหาข้อมูล ให้บริ การข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวได้ ทาให้ง่าย
ต่อการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยงเป็ นการส่งเสริ มการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย
ั
ที่มา : 202.28.94.55/web/322494/2551/project/g22/report/proposal.doc
4.ระบบตรวจสอบโปรแกรมและไวรัสใน
เครือข่ าย
โครงงานนี้นาเสนอระบบการตรวจสอบและเฝ้ าระวังการ
ติดตั้งโปรแกรมผิดกฏหมายโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต
และไวรัสประเภทโทรจันบนเครื อข่าย มีรูปแบบการทางาน
แบบ ไคลเอนต์ เซิ ร์ฟเวอร์ และมีหน้าที่คอยตรวจสอบการใช้งานของไคลเอนต์ แต่ละเครื่ องที่มีการเปิ ด
4. เซอร์วสไว้รองรับสาหรับการตรวจสอบของผูดูแลระบบ โดยใช้ Windows Management
ิ ้
Instrumentation (WMI) เป็ นเครื่ องมือที่เข้ามาช่วยในการตรวจสอบ
ผูดูแลระบบสามารถตรวจสอบและเฝ้ าระวงัการใช้งานที่ไม่ถูกต้องตามกฏระเบียบและข้อบังคับของเครื่ อง
้
ไคลเอนต์หลายๆ เครื่ องภายในองค์กรได้โดยสะดวก รวดเร็ วและเป็ นระบบมากยิงขึ้น
่
ที่มา: http://www.msne.mut.ac.th/newweb/phpfile/Thesis
5.โครงงานซียูเท็กซ์ ไทล์ :
ซอฟต์แวร์ออกแบบลายผ้าสามมิติ CU
Textile Design
อุตสาหกรรมแฟชัน ประกอบไปด้วย
อุตสาหกรรมสิ่ งทอและเครื่ องนุ่งห่ม อุตสาหกรรม
รองเท้าและเครื่ องหนัง และอุตสาหกรรมอัญมณี
และเครื่ องประดับ ตามรายงานของกระทรวง
อุตสาหกรรมแล้วปัจจุบนประเทศไทยมี
ั
โรงงานแฟชัน ไม่ต่ากว่า 10,207 โรงงาน
คนงาน ประมาณ 1.58 ล้านคน และมี มูลค่าการส่ งออกในปี 2545 ประมาณ 346,822.3 ล้านบาท คิด
เป็ นร้อยละ 6.2 ของ GDP
ปั ญหาที่ประสบของอุตสาหกรรมแฟชันในปั จจุบน คือ ปั ญหาแนวโน้มการส่ งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่ อง ตั้งแต่
ั
ปี พ.ศ. 2545 โดยปั จจัยของการถดถอย ได้แก่ ผูประกอบการของไทยส่ วนใหญ่เป็ นเพียงผูรับจ้างผลิต หรื อ
้ ้
โออีเอ็ม (Original Equipment Manufacture: OEM) ผลิตสิ นค้าคุณภาพระดับล่าง และไม่
สร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งมีการแข่งขันสู งขึ้นจากประเทศที่มีตนทุนและค่าจ้างแรงงานต่า เช่น จีน เวียดนามและ
้
อินโดนี เซี ย เป็ นเหตุให้คณะรัฐมนตรี ตระหนักถึงความสาคัญของการส่ งเสริ มอุตสาหกรรมแฟชัน จึงได้มีมติ
เห็นชอบในกิจกรรมการเปิ ดตัวโครงการกรุ งเทพฯเมืองแฟชัน โดยคาสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้าง
ธุ รกิจ จากการที่ประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นด้านแฟชัน และเพื่อให้ตราสิ นค้าไทยเป็ นที่ยอมรับ รวมทั้ง
สร้างมูลค่าเพิ่มในการส่ งออก งบประมาณและรายได้ รวมทั้งเป็ นศูนย์กลางแฟชันอย่างแท้จริ ง
ที่มา: http://www.vcharkarn.com/project/upload/0/499_1.pdf