The best practice on ICT competency development for Khon Kaen Unviersity undergraduate student.

1. แนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนาคุณภาพบัณฑิต
เรื่อง “การพัฒนาศักยภาพทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นพื้นฐาน”
ความเป็นมา
ตามยุทธศาสตร์การผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มุ่งผลิตบัณฑิตให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของประเทศ โดยมีการปรับปรุงหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัยให้ทันสมัยและตรงกับ
ความต้องการมากขึ้น โดยพบว่าความต้องการของตลาดงานมีความต้องการทักษะทั่วไปหลัก ตรงกัน ทุก
หลักสูตรคือ ทักษะทางภาษาอังกฤษ และ ทักษะทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงกาหนดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ต้องการให้บัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทุกคน มีลักษณะเด่นคือ “พร้อมทางาน (Ready to Work)” ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น 3 ประการคือ มี
ประสบการณ์ทางวิชาชีพ พร้อมต่อการเปลี่ยนแปล ง และสามารถ เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ทั้งนี้ได้กาหนด
คุณสมบัติบัณฑิตที่สาคัญอย่างหนึ่งคือ ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้น
พื้นฐาน ที่ทาให้บัณฑิตมีความรู้พื้นฐานที่จาเป็นให้ทางานได้ทันทีเมื่อสาเร็จการศึกษา
ในสภาวะการทางานในสังคมปัจจุบัน คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัจจัยสาคัญที่
องค์การต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้นามาใช้เพื่อการบริหารและการดาเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การทางานและพัฒนาศักยภาพผลผลิตและการบริการ จากการสารวจความต้องการบัณฑิตระดับ
ปริญญาตรีของผู้ใช้บัณฑิตในประเทศไทย ซึ่งดาเนินการ โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นที่ยอมรับตรงกันว่า
ผู้ใช้บัณฑิตทุกองค์การและภาคส่วนต้องการบัณฑิตที่นอกจากจะมีความรู้ความสามารถทางด้าน
วิชาการแล้ว มีความจาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความรู้ความสามารถและทักษะทางคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีสารสนเทศในระดับที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี เพื่อสามารถปฏิบัติงานในองค์การได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล็งเห็นความสาคัญในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาด้านคอมพิวเตอร์
และเทคโนโลยีสารสนเทศ จะเห็นได้จากในหลักสูตรระดับปริญญาตรีเกือบทุกหลักสูตรได้กาหนดให้
นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์ พื้นฐานเป็นวิชาบังคับ และยังได้มีก ารจัดอบรม
เพิ่มเติมในหัวข้อต่างๆ
วิธีการดาเนินการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กาหนดแนวทางการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาด้านคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีแนวทางการดาเนินการดังต่อไปนี้
1. พัฒนาเนื้อหาหลักสูตร มาตรฐานความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศขั้นพื้นฐาน สาหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
(Standards for Basic Computer and Information Technology Competencies
for Undergraduate Students of Khon Kaen University) ซึ่งเป็นส่วนที่ กาหนด
รายละเอียดเนื้อหาของหลักสูตร ความรู้และทักษะที่ต้องการพัฒนาในแต่ละหัวข้อเนื้อหา ที่
มหาวิทยาลัยได้พัฒนาขึ้นโดยอาศัยกรอบแนวคิดของ International Computer Driving
1

2. License ของ European Computer Driving License ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล
รวมทั้งอาศัยข้อ มูลจากการวิจัยศึกษาความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน ที่
ฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ได้สนับสนุนให้ดาเนินการ โดยศึกษาจากผู้ใช้บัณฑิต บัณฑิต
ที่สาเร็จการศึกษา และนักศึกษาเมื่อปีการศึกษา 2547
2. พัฒนาระบบทดสอบวัดศักยภาพด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ขั้นพื้นฐาน (e-
Testing) เพื่อวัดความรู้ความสามารถและทักษะทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ของนักศึกษา โดยนักศึกษาสามารถสมัครเข้ารับการทดสอบได้ผ่านระบบออนไลน์
3. พัฒนาระบบฝึกอบรมออนไลน์ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นพื้นฐาน (e-
Learning หรือ e-Training) ซึ่งเป็นการพัฒนาบทเรียนตามเนื้อหาหลักสูตร ให้นักศึกษา
สามารถศึกษาบทเรียนได้ด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ต
โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีรายละเอียดในการดาเนินการในแต่ละองค์ประกอบข้างต้นดังนี้
1. เนื้อหาของหลักสูตร
หลักสูตร มาตรฐานความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้น
พื้นฐาน สาหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเนื้อหาประกอบด้วย 7 มอดูล
ดังนี้
มอดูล 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
Basic Concepts of Computer and Information Technology
ส่วนประกอบทางกายภาพของคอมพิวเตอร์ การใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจาวันและงาน
ด้านต่างๆ เทคโนโลยีสารสนเทศกับสังคม
Basic physical make-up of a personal computer, computer and information
network, computer applications in everyday life, information technology and society.
มอดูล 2 การใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นและการจัดการไฟล์
Using the Computer and Managing Files
การใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ของคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
การจัดระบบไฟล์/ไดเร็คทอรี /โฟลเดอร์ การคัดลอก ย้ายและลบไฟล์ /ไดเร็คทอรี /โฟลเดอร์ การ
ทางานกับไอคอนและวินโดวส์ การใช้ฟังก์ชันสนับสนุนต่างๆในระบบปฏิบัติการ เช่น การสืบค้น
และการพิมพ์เอกสาร
Using the basic functions of a personal computer and its operating system,
managing and organizing files/directories/folders, working with desktop icons and
manipulating windows, using of some support functions within the operating system
such as search features, and print management.
2

3. มอดูล 3 สารสนเทศและการสื่อสาร
Information and Communication
การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการสืบค้นสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แก่ โปรแกรมเว็บเบราเซอร์
การสืบค้นสารสนเทศบนเว็บ การใช้อีเมล์ และการจัดการที่อยู่และข้อความบนอีเมล์
Using internet for information and communication include web browsing
application, web searching, using email, email’s addresses and messages
management.
มอดูล 4 การประมวลผลคา
Word Processing
การใช้โปรแกรมประมวลผลคาบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การใช้งานโปรแกรมใน
ระดับพื้นฐาน ได้แก่ การสร้าง จัดรูปแบบ และจัดเก็บไฟล์เอกสาร การใช้งานโปรแกรมบางอย่าง
ในขั้นสูง ได้แก่ การสร้างตาราง การใส่ภาพหรือกราฟิก และการใช้ฟังก์ชันผนวกเมล์
Using word processing program on a personal computer, using basic
operations associated with creating, formatting and finishing a word processing
document ready for distribution, using some more advanced features associated
with word processing applications such as creating standard tables, using pictures
and graphics within a document, and mail merge tools.
มอดูล 5 ตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์
Spreadsheets
การใช้โปรแกรมตารางวิเคราะห์แบบอิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การใช้
งานโปรแกรมในระดับพื้นฐาน ได้แก่ การสร้าง จัดรูปแบบ และทาตารางวิเคราะห์ การใช้งาน
โปรแกรมเพื่อการคานวณทางคณิตศาสตร์โดยใช้สูตรและฟังก์ชันมาตรฐาน การใช้งานโปรแกรม
บางอย่างในขั้นสูง ได้แก่ การใส่ออบเจ็กต์ การสร้างกราฟและแผนภูมิ
Using spreadsheet program on a personal computer, using basic operations
associated with creating, formatting and spreadsheet, using standard mathematical
formulas and functions for calculation, using some more advanced features
associated with spreadsheet applications such as importing objects, creating
graphs and charts.
มอดูล 6 การนาเสนอผลงาน
Presentation
การใช้โปรแกรมนาเสนอผลงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การใช้งานโปรแกรมใน
3

4. ระดับพื้นฐาน ได้แก่ การสร้าง จัดรูปแบบ และผลิตผลงานนาเสนอเพื่ อเผยแพร่หรือจัดแสดง การ
ใช้งานโปรแกรมบางอย่างในขั้นสูง ได้แก่ การใส่ออบเจ็กต์ การทาสไลด์โชว์ การทาเอฟเฟ็กต์
และภาพเคลื่อนไหว
Using presentation program on a personal computer, using basic operations
associated with creating, formatting and preparing presentations for distribution and
display, using some more advanced features associated with presentation
applications such as importing objects, slide show, effects, and animations.
มอดูล 7 ฐานข้อมูล
Database
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฐานข้อมูลและการออกแบบฐานข้อมูลอย่างง่าย การใช้โปรแกรม
จัดการฐานข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การใช้งานโปรแกรมในระดับพื้นฐาน ได้แก่
การสร้างตารางและฟอร์ม การบันทึก แก้ไขและลบข้อมูล และการสืบค้นข้อมูลอย่างง่าย
Basic concepts of database and simple database design, Using database
management program on a personal computer, using basic operations associated
with creating simple tables and forms, updating data, and searching data.
2. ระบบทดสอบศักยภาพคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
โปรแกรมการทดสอบ (e-Testing) เป็นโปรแกรมบนระบบออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ทดสอบความรู้
ความสามารถและทักษะทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ซึ่งประกอบด้วยข้อสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
1. ข้อสอบภาคทฤษฎี เป็นข้อสอบปรนัยแบบเลือกตอบ (Multiple choices) แต่ละข้อ มี 4
ตัวเลือก ใช้วัดความรู้ (Knowledge) และความเข้าใจ (Comprehend) ของนักศึกษาเป็นหลัก
การทดสอบภาคทฤษฎีเป็นการสอบออนไลน์ ด้วยคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายแบบ
ปิด โดยคอมพิวเตอร์สุ่มข้อสอบจาก คลังข้อสอบ จานวน 140 ข้อ จากคลังข้อสอบ
ครอบคลุมทั้ง 7 มอดูล ใช้เวลาในการทาข้อสอบไม่เกิน 3 ชั่วโมง
2. ข้อสอบภาคปฏิบัติ เป็นข้อสอบที่กาหนดให้นักศึกษาใช้โปรแกรมในการทางานตามคาสั่งที่
กาหนด เพื่อเป็นการวัดความรู้ (Knowledge) และทักษะ (Skill) ของนักศึกษา
ข้อสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จะอ้างอิงการใช้โปรแกรม Microsoft Office เป็นหลัก
โดยการทดสอบ นักศึกษาจะต้องสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ทั้งการสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
ห้องทดสอบมาตรฐาน มหาวิทยาลัยได้จัดให้มีห้องสอบมาตรฐานสาหรับการนี้เป็นการเฉพาะ
ขนาด 55 ที่นั่งสอบ ควบคุมคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายแบบปิด และมีระบบกล้องวงจรปิดทุกจุด เพื่อให้
สามารถตรวจสอบการสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
3. โปรแกรมการฝึกอบรมออนไลน์
โปรแกรมการอบรม (e-Training) เป็นโปรแกรมสาหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองสาหรับนักศึกษาใน
รูปแบบ e-Learning ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยบทเรียนเนื้อหาทั้ง 7 มอดูลตามหลักสูตร
4

5. มาตรฐานความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นพื้นฐาน ของมหาวิทยาลัย
รายละเอียดของเนื้อหาแต่ละมอดูลมีดังนี้
Module 1 Basic Concepts of Computer and Information Technology
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และความเข้าใจที่ต้องการ
1.1 บทนา 1.1.1 คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี 1.1.1.1 รู้และเข้าใจความหมายและความสาคัญของคอมพิวเตอร์
สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.1.2 ชนิดของคอมพิวเตอร์ 1.1.2.1 รู้และเข้าใจความแตกต่างของคอมพิวเตอร์เมนเฟรม
มินิคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
1.1.3 ส่วนประกอบที่สาคัญของ 1.1.3.1 รู้ส่วนประกอบที่สาคัญของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ได้แก่
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล CPU, hard disk, input/output devices, หน่วยความจา
สารอง และส่วนประกอบย่อยอื่นๆ
1.2 ฮาร์ดแวร์ 1.2.1 หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) 1.2.1.1 รู้และเข้าใจความหมายและความสาคัญของ CPU รวมทั้ง
การทางานของ CPU
1.2.2 อุปกรณ์ส่วนนาเข้า (Input 1.2.2.1 รู้อุปกรณ์ส่วนนาเข้าที่สาคัญ ได้แก่ keyboards,
devices) trackballs, scanners, touch pads, light pens,
joysticks เป็นต้น
1.1.3 อุปกรณ์ส่วนแสดงผล (Output 1.2.3.1 รู้อุปกรณ์ส่วนแสดงผลที่สาคัญ ได้แก่ screens หรือ
devices) monitors, printers, speakers เป็นต้น
1.3 หน่วยจัดเก็บ 1.3.1 หน่วยความจาสารอง (memory 1.3.1.1 รู้และเข้าใจความหมายและความแตกต่างของ
ข้อมูล storage devices) หน่วยความจาสารอง ในด้านความจุ ความเร็ว และราคา
ได้แก่ hard disk, zip disk, data cartridges, diskette,
CD-ROM เป็นต้น
1.3.2 ชนิดของความจา (Type of 1.3.2.1 รู้และเข้าใจความหมายและความแตกต่างของความจา
memory) แบบ RAM และ ROM
1.3.3 หน่วยวัดความจา 1.3.3.1 รู้และเข้าใจหน่วยวัดความจาของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ bit,
byte, KB, MB, GB
1.4 ซอฟต์แวร์ 1.4.1 ชนิดของซอฟต์แวร์ 1.4.1.1 รู้และเข้าใจความหมายและความแตกต่างของซอฟต์แวร์
ระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์ประยุกต์
1.4.2 ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ 1.4.2.1 รู้และเข้าใจหน้าที่หลักและการทางานของระบบปฏิบัติการ
(Operating system software) และประเภทของระบบปฏิบัติการ
1.4.3 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application 1.4.3.1 รู้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ และเข้าใจชนิดของซอฟต์แวร์
software) ประยุกต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการทางานต่างๆ ที่สาคัญ
ได้แก่ ซอฟต์แวร์สาหรับ word processing,
spreadsheets, database และ presentation
1.5 คอมพิวเตอร์กับ 1.5.1 การใช้คอมพิวเตอร์ในบ้าน 1.5.1.1 รู้และเข้าใจการใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านโดยทั่วๆไป เช่น ใช้
ชีวิตประจาวัน ทางานอดิเรกตามความสนใจ ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้ทางาน
และงานด้าน ส่วนตัวหรืองานบ้านบางอย่าง
ต่างๆ 1.5.2 การใช้คอมพิวเตอร์ในการงานด้าน 1.5.2.1 รู้และเข้าใจการใช้คอมพิวเตอร์ในการทางานด้านต่างๆ
ต่างๆ เช่น การศึกษา ธุรกิจ อุตสาหกรรม เป็นต้น
1.5.3 การใช้คอมพิวเตอร์ใน 1.5.3.1 รู้และเข้าใจการใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจาวัน เช่น ใช้
ชีวิตประจาวัน ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้องสมุด คลินิกแพทย์ บริการเงินด่วน
บริการโทรศัพท์ เป็นต้น
5

6. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และความเข้าใจที่ต้องการ
1.6 เทคโนโลยี 1.6.1 การเปลี่ยนแปลงของโลก 1.6.1.1 รู้และเข้าใจคาว่าสังคมสารสนเทศ ทางด่วนสารสนเทศ
สารสนเทศกับ โลกาภิวัตน์ และผลกระทบทางสังคมอันเนื่องมาจาก
สังคม พัฒนาการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.6.2 ความปลอดภัยและความเป็น 1.6.2.1 รู้และเข้าใจผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อ
ส่วนตัว (Security and privacy) ความปลอดภัยของข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
1.6.3 ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual 1.6.3.1 รู้และเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการ
property) คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นประเด็นสาคัญใน
การผลิตผลงานทางวิชาการด้านต่างๆ
Module 2 Using the Computer and Managing Files
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
2.1 บทเริ่มต้น 2.1.1 เริ่มต้นใช้งานคอมพิวเตอร์ 2.1.1.1 รู้วิธีเปิด-ปิดคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง
2.1.1.2 รู้วิธีอ่านข้อมูลเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ เช่น
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ ขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ ขนาด
ของ RAM ชนิดของโปรเซสเซอร์
2.1.1.3 รู้วิธีอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ desktop configuration เช่น
date, time, volume settings, desktop display
options
2.2 การทางานบน 2.2.1 การทางานกับ icon 2.2.1.1 รู้วิธีเลือกและเคลื่อนย้ายไอคอน จาไอคอนที่สาคัญๆ บน
desktop desktop เช่น My Computer, My Documents, Recycle
Bin
2.2.1.2 รู้วิธีสร้าง shortcut icon บน desktop
2.2.2 การทางานกับ windows 2.2.2.1 รู้และจาส่วนต่างๆ บน windows ได้ เช่น title bar,
toolbar, menu bar, status bar, scroll bar
2.2.2.2 เข้าใจวิธีการลด-ขยายขนาด windows และปิด windows
2.3 การจัดการไฟล์ 2.3.1 ไดเร็คทอรี/โฟลเดอร์ 2.3.1.1 รู้และเข้าใจโครงสร้างไดเร็คทอรี/โฟลเดอร์ รู้วิธีสร้าง
(Directories/Folders) ไดเร็คทอรี/โฟลเดอร์ ทั้งในระดับรากและระดับย่อยๆ ลง
ไป
2.3.1.2 รู้วิธีอ่าน คัดลอก ย้าย ลบ และเปลี่ยนชื่อ ไดเร็คทอรี/
โฟลเดอร์
2.3.2 การคัดลอก ย้าย และลบไฟล์ 2.3.2.1 รู้วิธีเลือก คัดลอก ย้ายและลบไฟล์หนึ่งไฟล์ และกลุ่มไฟล์
โดยใช้ฟังก์ชันต่างๆ เช่น copy, cut, paste ระหว่าง
ไดเร็คทอรี/โฟลเดอร์บนฮาร์ดดิสก์
2.3.2.2 รู้วิธีเลือก คัดลอก ย้ายและลบไฟล์หนึ่งไฟล์ และกลุ่มไฟล์
โดยใช้ฟังก์ชันต่างๆ เช่น copy, cut, paste จากอุปกรณ์
สารองข้อมูลต่างชนิดกัน เช่น จากฮาร์ดิสก์สู่ CD-ROM
2.3.3 การค้นหาไฟล์ 2.3.3.1 รู้วิธีใช้ฟังก์ชัน Find เพื่อค้นหาแหล่งที่อยู่ของไดเร็คทอรี/
โฟลเดอร์ และไฟล์
2.3.3.2 รู้วิธีค้นโดยระบุ ชื่อ วันที่สร้าง และชนิดของไดเร็คทอรี/
โฟลเดอร์ และไฟล์
2.4 การจัดการการ 2.4.1 การพิมพ์เอกสาร 2.4.1.1 รู้วิธีพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ที่ติดตั้งกับเครื่อง
พิมพ์ คอมพิวเตอร์นั้น
2.4.1.2 รู้วิธีเปลี่ยนเครื่องพิมพ์จากรายชื่อที่ติดตั้งไว้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เพื่อพิมพ์เอกสารต่างๆ
6

7. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
2.4.1.3 รู้วิธีอ่าน Printer properties และวิธีหยุด หรือยกเลิกการ
พิมพ์ในกรณีที่จาเป็น
Module 3 Information and Communication
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
3.1 บทเริ่มต้น 3.1.1 เริ่มต้นใช้งาน Internet 3.1.1.1 รู้วิธีเปิด-ปิด และเปลี่ยน web browser
3.1.1.2 เข้าใจโครงสร้างของ web address และรู้วิธีเปิด web
page ตามที่กาหนดได้
3.1.1.3 รู้วิธีใช้ฟังก์ชัน online help
3.2 Web 3.2.1 การเข้าถึง web address 3.2.1.1 รู้วิธีใช้ URL เพื่อเข้าถึงเว็บที่ต้องการข้อมูล
navigation 3.2.1.2 รู้วิธีเข้าถึงข้อมูล จากหน้าเว็บหนึ่งไปอีกหน้าเว็บหนึ่ง โดย
ใช้ hyperlink function และกลับมาสูหน้าเว็บเดิมได้เมื่อ
ต้องการ
3.3 การค้นข้อมูล 3.3.1 การใช้ search engine 3.3.1.1 รู้ search engineที่สาคัญๆ และการทางานของ search
บนเว็บ engine
3.3.1.2 รู้วิธีค้นข้อมูลบนเว็บโดยใช้ search engine ทั้งโดยการ
กาหนดคาค้นอย่างง่าย และการค้นขั้นสูง เช่น การใช้
ตรรกะ การผสมคา
3.3.1.3 รู้วิธีแสดงผลการค้น บันทึกผลการค้นเป็นไฟล์ใหม่ เก็บ
หน้าเว็บผลการค้นใน bookmarks หรือ favorites และ
พิมพ์ผลการค้น
3.4 การใช้ email 3.4.1 เริ่มต้นใช้ email 3.4.1.1 รู้วิธีเปิดโปรแกรมการใช้ email และ login เข้าไปใช้ระบบ
3.4.1.2 รู้วิธีเปิดอ่านจดหมายที่อยู่ใน mailbox ของตนเอง
3.4.1.3 รู้วิธีใช้ฟังก์ชัน online help
3.4.2 การจัดการ mail message 3.4.2.1 รู้วิธีสร้างจดหมายฉบับใหม่ (compose) โดยระบุที่อยู่ของ
ผู้รับ สาเนาแจ้งผู้เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) และหัวข้อเรื่องที่จะส่ง
3.4.2.2 รู้วิธีการส่งไฟล์พร้อมจดหมาย (attached file) และการลง
นามผู้ส่งอัตโนมัติ (auto-signature)
3.4.3 การคัดลอก ย้าย และลบ mail 3.4.3.1 รู้วิธีคัดลอกและย้ายข้อความในจดหมายฉบับเดียวกัน
message หรือระหว่างจดหมายคนละฉบับ
3.4.3.2 รู้วิธีการลบข้อความ ลบไฟล์ที่ส่งมากับจดหมาย และลบ
จดหมาย
3.4.4 การตอบจดหมาย (reply) และส่ง 3.4.4.1 รู้วิธีตอบจดหมาย (reply) ไปยังผู้ส่ง ทั้งแบบที่มีหรือไม่มี
ต่อจดหมาย (forward) ข้อความเดิมปรากฏอยู่
3.4.4.2 รู้วิธีการส่งต่อจดหมาย (forward) ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง
แบบที่เติมข้อความและไม่เติมข้อความใหม่
3.4.5 การใช้สมุดที่อยู่ (address book) 3.4.5.1 รู้วิธีบันทึก เพิ่ม ลบชื่อ-ที่อยู่ที่ต้องการลงในสมุดที่อยู่
3.4.5.2 รู้วิธีการสร้างกลุ่มผู้รับในรูปแบบของ distribution list
Module 4 Word Processing
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
4.1 บทเริ่มต้น 4.1.1 เริ่มต้นใช้งาน Word Processing 4.1.1.1 สามารถเปิด-ปิด โปรแกรม word processing
7

8. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
4.1.1.2 สามารถเปิดเอกสารหนึ่งไฟล์ หรือหลายไฟล์ และแก้ไข
ข้อความบางส่วน
4.1.1.3 สามารถสร้างไฟล์เอกสารใหม่ พิมพ์ข้อความลงในเอกสาร
บันทึกเอกสารเก็บไว้ใน hard disk หรือสื่ออื่นๆ และปิด
ไฟล์เอกสาร
4.1.2 การปรับแต่งเอกสารขั้นพื้นฐาน 4.1.2.1 สามารถเปลี่ยนโหมดการแสดงเอกสาร (display mode)
4.1.2.2 สามารถใช้เครื่องมือในการย่อ-ขยายเอกสาร
4.1.2.3 สามารถเปิด-ปิด toolbar และใช้ tool bar ในการทางาน
ต่างๆ
4.2 การจัดการ 4.2.1 การแทรกข้อความ (insert data) 4.2.1.1 สามารถแทรกตัวอักษร คา ประโยค ที่มีข้อความไม่มาก
ข้อความใน รวมทั้งแทรกข้อความเป็นย่อหน้า (insert paragraph)
เอกสาร ลงในเอกสาร
4.2.1.2 สามารถแทรกตัวอักษรหรือสัญลักษณ์พิเศษลงในเอกสาร
4.2.1.3 สามารถแทรกเส้นกั้นหน้า (page break) ได้
4.2.2 การคัดลอก ย้าย และลบข้อความ 4.2.2.1 สามารถเลือก คา ประโยค ข้อความเป็นย่อหน้า หรือทั้ง
เอกสารได้
4.2.2.2 สามารถคัดลอกและย้ายข้อความที่เลือก นาไปวางใน
เอกสารเดียวกัน หรือต่างเอกสารได้
4.2.2.3 สามารถลบข้อความในเอกสาร และยกเลิกการลบได้
4.2.3 การค้นหาและแทนที่ข้อความ 4.2.3.1 สามารถใช้คาสั่ง search ในการค้นหาคาหรือข้อความ
ในเอกสาร
4.2.3.2 สามารถใช้คาสั่ง replace เพื่อแทนที่คาหรือข้อความที่
ต้องการแก้ไขในเอกสาร
4.3 การจัดรูปแบบ 4.3.1 การจัดรูปแบบข้อความ (text 4.3.1.1 สามารถเปลี่ยนชนิด ขนาด สีและรูปแบบตัวอักษรของ
เอกสาร formatting) ข้อความที่ต้องการ
(Format-ting) 4.3.1.2 สามารถจัดรูปแบบการจัดวางเนื้อหาเอกสาร (alignment
and justification)
4.3.1.3 สามารถเปลี่ยนระยะห่างระหว่างบรรทัดในเอกสาร (line
spacing)
4.3.1.4 สามารถใช้ฟังก์ชัน tab และ bulleted หรือ numbered
ในการจัดย่อหน้าหรือหัวข้อใหญ่-ย่อย
4.3.1.5 สามารถคัดลอกรูปแบบข้อความ (formatted text) ไปวาง
ในส่วนอื่นของเอกสารได้
4.4 ก่อนจบจัดทา 4.4.1 การจัดการ header and footer 4.4.1.1 สามารถใส่เลขหน้าเอกสาร ตามรูปแบบและในที่ที่
เอกสาร ต้องการ
4.4.1.2 สามารถใส่ข้อความในหัวหรือท้ายเอกสาร เช่น ชื่อผู้เขียน
วันที่ หรืออื่นๆ
4.4.2 การตรวจสอบการสะกดคาหรือ 4.4.2.1 สามารถใช้ฟังก์ชัน spell check ในการตรวจสอบคาผิด
ไวยากรณ์ ในเอกสาร และแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง
4.4.1.2 สามารถใช้ grammar tool ในการตรวจสอบความถูกต้อง
ทางไวยากรณ์ของข้อความ และแก้ได้อย่างเหมาะสม
4.4.3 การพิมพ์เอกสาร 4.4.3.1 สามารถดูรูปแบบเอกสารก่อนการพิมพ์ (print preview)
8

9. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
4.4.3.2 สามารถกาหนดหรือเปลี่ยนคาสั่งเกี่ยวกับการพิมพ์อย่าง
ง่ายๆ เช่น เปลี่ยนกระดาษ เปลี่ยนวิธีป้อนกระดาษ
เปลี่ยนคุณภาพการพิมพ์ เปลี่ยนเครื่องพิมพ์ และสั่งพิมพ์
ทางเครื่องพิมพ์
4.5 การใช้งานขั้น 4.5.1 ตาราง (tables) และคอลัมน์ 4.5.1.1 สามารถสร้างตารางมาตรฐานในเอกสารได้
สูงบางอย่าง (column) 4.5.1.2 สามารถจัดข้อความในเอกสารเป็นคอลัมน์ได้
4.5.2 รูปภาพ (pictures & images) 4.5.2.1 สามารถแทรก รูปภาพและกราฟิก ลงในเอกสารได้
4.5.2.2 สามารถตกแต่งภาพและกราฟิกที่นามาแทรกในเอกสาร
โดยเปลี่ยนขนาด สี และรูปลักษณ์ได้ตามความเหมาะสม
4.5.3 การ import objects 4.5.3.1 สามารถ import object จากไฟล์เอกสารอื่น หรือไฟล์
ชนิดอื่นมาวางในเอกสารได้ เช่น จากไฟล์รูปภาพ ไฟล์
spreadsheet
4.5.4 การใช้ mail merge 4.5.4.1 สามารถสร้าง mailing list หรือไฟล์ข้อมูลอื่นๆ เพื่อ
นามาใช้ใน mail merge
4.5.4.2 สามารถใช้ mail merge ในการส่งจดหมายไปยังผู้รับ
ตามที่ปรากฏใน mailing list ที่สร้างขึ้น
Module 5 Spreadsheets
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
5.1 บทเริ่มต้น 5.1.1 เริ่มต้นใช้งาน Spreadsheets 5.1.1.1 สามารถเปิด-ปิด โปรแกรม spreadsheets
5.1.1.2 สามารถเปิดไฟล์ หรือหลายไฟล์ และแก้ไขข้อความ
บางส่วน
5.1.1.3 สามารถสร้างไฟล์ใหม่ พิมพ์ข้อความลงในตาราง บันทึก
เอกสารเก็บไว้ใน hard disk หรือสื่ออื่นๆ และปิดไฟล์
เอกสาร
5.1.2 การปรับแต่งเอกสารขั้นพื้นฐาน 5.1.2.1 สามารถเปลี่ยนโหมดการแสดงเอกสาร (display mode)
5.1.2.2 สามารถใช้เครื่องมือในการย่อ-ขยายเอกสาร
5.1.2.3 สามารถเปิด-ปิด toolbar และใช้ tool bar ในการทางาน
ต่างๆ
5.2 การจัดการ 5.2.1 การแทรกข้อความ (insert data) 5.2.1.1 สามารถพิมพ์ตัวอักษร คา ประโยค ตัวเลขลงใน cell ของ
ข้อมูลใน ตาราง
ตารางเอกสาร 5.2.1.2 สามารถแทรกตัวอักษรหรือสัญลักษณ์พิเศษลงในcell ของ
ตาราง
5.2.1.3 สามารถใช้สูตรง่ายๆ ในการคานวณข้อมูลใน cell
5.2.2 การคัดลอก ย้าย และลบข้อความ 5.2.2.1 สามารถเลือก cell กลุ่มของ cell หรือเลือกแถว และ
คอลัมน์ได้
5.2.2.2 สามารถคัดลอกและย้ายข้อความจาก cell หรือกลุ่มcell
หรือข้อความทั้งแถวหรือคอลัมน์ได้
5.2.2.3 สามารถลบข้อความใน cell หรือกลุ่มcell หรือข้อความ
ทั้งแถวหรือคอลัมน์ได้
5.2.3 การค้นหาและแทนที่ข้อความ 5.2.3.1 สามารถใช้คาสั่ง search ในการค้นหา cell หรือ
ข้อความที่ต้องการ
5.2.3.2 สามารถใช้คาสั่ง replace เพื่อแทนที่คาหรือข้อความที่
ต้องการแก้ไขใน cell หรือเอกสาร
9

10. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
5.2.4 การจัดการแถวและคอลัมน์ 5.2.4.1 สามารถแทรกหรือลบแถวและคอลัมน์ในตาแหน่งที่
ต้องการได้
5.2.4.2 สามารถปรับขนาดความสูง-ความกว้างของแถวและ
คอลัมน์ได้
5.2.5 การจัดเรียงข้อมูล (sort data) 5.2.5.1 สามารถใช้คาสั่งในการจัดเรียงข้อมูลตัวเลข จากน้อยไป
หามาก และจากมากไปหาน้อยได้
5.2.5.2 สามารถจัดเรียงข้อมูลตามลาดับอักษรได้
5.3 การใช้ 5.3.1 การใช้สูตร (formulas) 5.3.1.1 สามารถใช้สูตรคณิตศาสตร์อย่างง่ายในการคานวณ
(formulas/ ตัวเลขในตาราง เช่น บวก ลบ คูณ หาร
functions) 5.3.1.2 เข้าใจความหมายของ error message และแก้ไขได้
5.3.1.3 สามารถใช้ autofill tool ในการกรอกข้อมูลใน cell โดย
อัตโนมัติ
5.3.1.4 สามารถใช้วิธีการอ้างอิง cell ในการเขียนสูตรคานวณ
ในตารางเดียวกัน หรือต่างตาราง หรือต่าง sheet ได้
5.3.2 การใช้ฟังก์ชันคานวณ 5.3.2.1 สามารถใช้ฟังก์ชัน sum ในการคานวณได้
5.3.2.2 สามารถใช้ฟังก์ชัน average ในการคานวณได้
5.4 การจัดรูปแบบ 5.4.1 การจัดรูปแบบข้อมูลใน cell 5.4.1.1 สามารถจัดรูปแบบตัวเลขใน cell ได้ เช่น เป็นแบบ
และการพิมพ์ มาตรฐาน แบบมีจุดทศนิยม แบบมี comma เป็นต้น
เอกสาร 5.4.1.2 สามารถจัดรูปแบบวันที่ (date) และสกุลเงิน (currency)
ใน cell ได้
5.4.1.3 สามารถจัดรูปแบบตัวอักษร (font) ใน cell ได้
5.4.2 การจัดรูปแบบตารางและเอกสาร 5.4.2.1 สามารถใช้ฟังก์ชัน จัดรูปแบบตารางตามที่ต้องการ
5.4.2.2 สามารถแทรกข้อความใน header หรือ footer
5.4.2.3 สามารถจัดวางเอกสารในรูปแบบและตาแหน่งที่ต้องการได้
เช่น จัดให้พอดีหน้ากระดาษ จัดวาง ตารางตาม
แนวตั้งหรือแนวนอน จัดกึ่งกลางหน้า เป็นต้น
5.4.3 การพิมพ์เอกสาร 5.4.3.1 สามารถดูรูปแบบเอกสารก่อนการพิมพ์ (print preview)
5.4.3.2 สามารถกาหนดหรือเปลี่ยนคาสั่งเกี่ยวกับการพิมพ์อย่าง
ง่ายๆ เช่น เปลี่ยนกระดาษ เปลี่ยนวิธีป้อนกระดาษ
เปลี่ยนคุณภาพการพิมพ์ เปลี่ยนเครื่องพิมพ์ และสั่งพิมพ์
ทางเครื่องพิมพ์
5.5 การใช้งานขั้น 5.5.1 การ import objects 5.5.1.1 สามารถ import object เช่น ภาพ กราฟิก ข้อความจาก
สูงบางอย่าง ไฟล์เอกสารอื่น หรือไฟล์ชนิดอื่นมาวางในเอกสารได้
5.5.1.2 สามารถตกแต่งภาพและกราฟิกที่นามาแทรกในเอกสาร
โดยเปลี่ยนขนาด สี และรูปลักษณ์ได้ตามความเหมาะสม
5.5.2 การสร้างแผนภูมิและกราฟิก 5.5.2.1 สามารถสร้างแผนภูมิ (charts) และ กราฟิก (graphics)
(charts and graphics) จากข้อมูลที่อยู่ในตาราง ในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น pie
charts, column charts, bar charts.
5.5.2.2 สามารถเพิ่ม/แก้ไขข้อมูลในแผนภูมิได้ เช่น ชื่อเรื่อง สีของ
ส่วนต่างๆ scale เป็นต้น
5.5.2.3 สามารถคัดลอก ย้าย แผนภูมิไปวางในเอกสารต่างๆ ได้
และลบแผนภูมิได้
Module 6 Presentation
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
10

11. หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
6.1 บทเริ่มต้น 6.1.1 เริ่มต้นใช้งานโปรแกรม 6.1.1.1 สามารถเปิด-ปิด โปรแกรม presentation
Presentation 6.1.1.2 สามารถเปิดไฟล์ หรือหลายไฟล์ และแก้ไขข้อความ
บางส่วนในไฟล์
6.1.1.3 สามารถบันทึกไฟล์เก็บไว้ใน hard disk หรือสื่ออื่นๆ และ
ปิดไฟล์เอกสาร
6.1.2 การปรับแต่งเอกสารขั้นพื้นฐาน 6.1.2.1 สามารถเปลี่ยนโหมดการแสดงเอกสาร (display mode)
6.1.2.2 สามารถใช้เครื่องมือในการย่อ-ขยายเอกสาร
6.1.2.3 สามารถเปิด-ปิด toolbar และใช้ tool bar ในการทางาน
ต่างๆ
6.2 การทา 6.2.1 การสร้างไฟล์ presentation 6.2.1.1 สามารถสร้าง presentation ใหม่
presenta-tion 6.2.1.2 สามารถสร้างสไลด์ที่มีข้อมูลรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น title
ขั้นพื้นฐาน slide, text slide, bulleted slide
6.2.2 การคัดลอก ย้าย และลบข้อความ 6.2.2.1 สามารถคัดลอกและย้ายข้อความ หรือภาพ หรือออบเจ็กต์
และสไลด์ จาก slide ในไฟล์เดียวกัน หรือต่างไฟล์
6.2.2.2 สามารถคัดลอก และย้ายสไลด์ในไฟล์เดียวกัน หรือต่าง
ไฟล์
6.2.2.3 สามารถลบข้อความใน slide หรือลบสไลด์
6.2.3 การเปลี่ยนรูปแบบข้อความใน 6.2.3.1 สามารถเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรหรือข้อความใน text box
text box ได้ ตามชนิด ขนาด สี ทิศทางที่ต้องการ
6.2.3.2 สามารถใส่เงา จัดขอบ และจัดระยะห่างระหว่างบรรทัด
ของข้อความใน text box
6.2.3.3 สามารถเปลี่ยนขนาดของ text box และเคลื่อนย้าย จัด
วาง และลบ text box ตามต้องการ
6.2.4 การจัดการออบเจ็กต์บนสไลด์ 6.2.4.1 สามารถ import objects จากไฟล์อื่นๆ มาวางบน สไลด์
6.2.4.2 สามารถแก้ไข/ตกแต่ง object ที่นามาวางให้มีรูปแบบ
ขนาด และสีตามต้องการ
6.2.5 การจัดเตรียมเอกสาร 6.2.5.1 สามารถเลือกรูปแบบการแสดงสไลด์ได้ เช่น overhead,
presentation handouts, screen show
6.2.5.2 สามารถเพิ่มข้อความใน note สาหรับการเสนอสไลด์
6.2.5.3 สามารถกาหนดการจัดวางสไลด์บนหน้ากระดาษ แบบ
แนวตั้งหรือแนวนอน
6.2.5.4 สามารถเลือกดูสไลด์ในมุมมองต่างๆ เช่น slide, outline,
sorter, note
6.2.5.5 สามารถสั่งพิมพ์สไลด์ตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น เป็น
overhead, handouts แบบ 2, 3 หรือ 6 สไลด์ แบบ
note เป็นต้น
6.3 การทา 6.3.1 การทา animation 6.3.1.2 สามารถกาหนด effect กับข้อความหรือออบเจ็กต์บน
presenta-tion สไลด์ และทา animation
ขั้นสูงบางอย่าง 6.3.1.3 สามารถกาหนดการเคลื่อนไหวของสไลด์ (slide
transition)
6.3.2 การทา slide show 6.3.2.1 สามารถใช้ฟังก์ชันเพื่อแสดงสไลด์บนหน้าจอได้อย่าง
เหมาะสม
6.3.2.2 สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของการแสดงสไลด์
เดินหน้า-ถอยหลัง หรือเลือกแสดงเฉพาะสไลด์ที่ต้องการ
11

12. Module 7 Database
หัวข้อ หัวข้อย่อย ความรู้และทักษะที่ต้องการ
7.1 บทเริ่มต้น 7.1.1 เริ่มต้นใช้งานโปรแกรม Database 7.1.1.1 สามารถเปิด-ปิด โปรแกรม database
7.1.1.2 สามารถเปิดไฟล์ฐานข้อมูลที่มีอยู่และแสดงผลตาม default
ที่กาหนดไว้แล้วในโปรแกรม
7.1.1.3 สามารถแก้ไขข้อมูลในเรคคอร์ดที่มีอยู่แล้วบ้างเล็กน้อย
และบันทึกไฟล์
7.1.2 การปรับแต่งเอกสารขั้นพื้นฐาน 7.1.2.1 สามารถเปลี่ยนโหมดการแสดงเอกสาร (display mode)
7.1.2.2 สามารถใช้เครื่องมือในการย่อ-ขยายเอกสาร
7.1.2.3 สามารถเปิด-ปิด toolbar และใช้ tool bar ในการทางาน
ต่างๆ
7.2 การสร้าง 7.2.1 เริ่มต้นสร้างตาราง (table) 7.2.1.1 สามารถวางแผนและออกแบบฐานข้อมูลที่มีตารางข้อมูล
ตาราง อย่างน้อย 1 ตาราง
7.2.1.2 สามารถสร้างตารางบนโปรแกรมฐานข้อมูลที่กาหนด
ตามที่ได้ออกแบบไว้
7.2.1.3 สามารถกาหนดคีย์หลักของตารางได้
7.2.1.4 สามารถกาหนดคุณสมบัติของแต่ละ field/attribute ใน
ตารางได้ตามข้อกาหนดของโปรแกรมอย่างง่ายๆ
7.2.2 การจัดการข้อมูลในตาราง 7.2.2.1 สามารถบันทึก แก้ไข เพิ่มเติม และลบข้อมูลใน แต่
ละเรคคอร์ด
7.2.2.2 สามารถแทรก เพิ่ม ย้ายและลบเรคคอร์ด
7.3 การสร้างฟอร์ม 7.3.1 การสร้างฟอร์มอย่างง่าย (simple 7.3.1.2 สามารถสร้างฟอร์มอย่างง่ายๆ ได้ โดยใช้ฟังก์ชันช่วย
form) สร้างที่มีอยู่ในโปรแกรม
7.3.1.3 สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงของฟอร์ม เช่น ภาพ สี
ตัวอักษร และการจัดวางส่วนต่างๆ (layout)
7.3.1.4 สามารถแสดงฟอร์ม บันทึกแก้ไขข้อมูลบนฟอร์ม และ
ควบคุมการเคลื่อนไหวของเรคคอร์ดที่แสดงบนฟอร์ม
7.4 การค้นข้อมูลใน 7.4.1 การค้นข้อมูลอย่างง่าย (simple 7.4.1.1 สามารถค้นหาเรคคอร์ดในฐานข้อมูลตามที่กาหนด โดย
ฐานข้อมูล search) ใช้ฟังก์ชัน find
7.4.1.2 สามารถสร้าง (query) จากตาราง และสร้างเงื่อนไขการ
ค้นอย่างง่าย
7.3.1.3 สามารถแสดงผลการค้น และจัดเรียงข้อมูลผลการค้น
ตามที่กาหนด
ผลการดาเนินการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กาหนดแนวทางการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติโดยแบ่งเป็นเฟส การ
ทางานที่ผ่านมา ดังนี้
เฟสที่ 1 ปีการศึกษา 2548 1. จัดทาโครงการนาร่องการฝึกอบรมตามหลักสูตรฯ (คณะวิชาเข้า
ร่วมโครงการ 8 คณะ
2. จัดทดสอบนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการนาร่อง (นักศึกษาเข้าร่วม
ทดสอบจานวน 1,000 คน)
เฟสที่ 2 ปีการศึกษา 2549 1. ออกประกาศมหาวิทยาลัยฯ ฉบับที่ 771/2548 ให้หลักสูตรที่มี
12

13. - 2551 รายวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศพื้นฐาน สามารถ
เทียบเท่ารายวิชากับหลักสูตรมาตรฐานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศขั้นพื้นฐานได้
2. จัดทดสอบนักศึกษาที่ศึกษาจากหลักสูตรต่างๆ โดยจัดการทดสอบปี
การศึกษาละ 2 ครั้งๆ ละประมาณ 2,000 คน (สอบนักศึกษาแล้ว
จานวน 3,276 คน นักศึกษาสาเร็จหลักสูตรแล้วจานวน 1,306 คน)
เฟสที่ 3 ปีการศึกษา 2552 1. ออกประกาศมหาวิทยาลัยฯ ฉบับที่ 816/2552 กาหนดให้ นักศึกษา
(ปัจจุบัน) ทุกคนที่เข้าศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีของ
มหาวิทยาลัยขอนแก่นตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 เป็นต้นไป ต้องสอบ
ผ่าน การทดสอบความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน ภายในระยะเวลาที่กาหนดให้ศึกษาตาม
หลักสูตรนั้นๆ และให้นับการสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานข้างต้นเป็น
ส่วนหนึ่งของการสาเร็จการศึกษา
2. จัดทาห้องทดสอบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศขั้น
พื้นฐาน โดยจัดระบบการสอบที่ เป็นมาตรฐาน สามารถทดสอบ
นักศึกษาได้วันละ 110 คน โดยสามารถรองรับการทดสอบของ
นักศึกษาได้ตลอดทั้งปี
แนวทางการขยายผล
เนื่องจากหลักสูตรพัฒนาศักยภาพคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นหลักสูตรที่
ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาความสามารถทางด้านนี้ได้เป็นอย่างดี ทาให้ได้รับความสนใจจาก
บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกมหาวิทยาลัย อาทิเช่น ศูนย์ประสานงานเขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ (E-saan Software Park) เทศบาลนครขอนแก่น และ เทศบาลนครภูเก็ต เป็นต้น
โดยต้องการใช้หลักสูตรฯ ในการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงาน และบริการประชาชนเพื่อเพิ่มศักยภาพ
ในการหางานของประชาชนด้วย โดยได้นาบทเรียนออนไลน์ที่มหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้นไปให้บริการ
ประชาชน และประสงค์ให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นพัฒนาระบบสอบสาหรับบุคคลทั่วไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะ
ได้เริ่มดาเนินการในกลางปี พ.ศ. 2552 นี้
13

14. เอกสารหลักสูตรมาตรฐานความรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศฯ
14

15. ตัวอย่างบทเรียนออนไลน์
ระบบสมัครสอบออนไลน์
ภาพห้องสอบ
15