SlideShare a Scribd company logo
พื้นฐานชีวิต 4
ผู้เรียบเรียงรุ่นหลัง65
29/07/2565
10.39น.
สารบัญ
โหราศาสตร ์จีนแขนงต่างๆ 23
ฟ
้ าดินคนประสานกันเป็ นหนึ่งเดียว 38
วิธีดูทิศทางน้า 納水 (หนับจุ้ย) เพื่อให ้
เกิดโชคลาภ
69
คุณลักษณะแห่งอินหยาง 97
ฤดูกาลของคนจีน 123
ตารา ปากว ้า มีหลายแบบ บทความก็มี
เยอะ
ควรศึกษาแยกแยะ
131
หัวข ้อตามวิชาจีนโบราณ
(ตามความเข ้าใจของผู้เรียบเรียงฯ)
หยิน-หยาง
5ธาตุจีน
ฤดูกาล
ฟ้า
คน
ดิน
ปฏิกิริยา5ธาตุกับดิถี
ปฏิกิริยานักษัตรกับดิถี
ปฏิกิริยาระหว่างนักษัตร
ลักษณะการผันแปร 1
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร 2
ลักษณะการผันแปร 3
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
จาแนกพลังตามลักษณะของการ
ทางาน
๑. พลังงานศักย์ (Potential Energy)
เป็นพลังงานที่เกิดขึ้น
เมื่อวัตถุถูกวางอยู่ในตาแหน่งที่สามารถเคลื่อนที่ได ้
ไม่ว่าจากแรงโน้มถ่วง
หรือแรงดึงดูดจากแม่เหล็ก
เช่น ก ้อนหินที่วางอยู่บนขอบที่สูง
๒. พลังงานจลน์ (Kinetic Energy)
เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่
เช่น รถที่กาลังวิ่ง ธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
จักรยานที่กาลังเคลื่อนที่ เป็นต ้น
๓. พลังงานสะสม (Stored Energy)
เป็นพลังงานที่เก็บสะสมในวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ
เช่น พลังงานเคมีที่เก็บสะสมไว ้ในอาหาร
ในก ้อนถ่านหิน น้ามัน หรือไม ้ฟืน
ซึ่งพลังงานดังกล่าว
จะถูกเก็บไว ้ในรูปขององค์ประกอบทางเคมีหรือของ
วัสดุหรือ สิ่งของนั้น ๆ
และจะถูกปล่อยออกมา
เมื่อวัสดุหรือสิ่งของดังกล่าวมีการเปลี่ยนรูป
เช่น การเผาไม ้ฟืนจะให ้พลังงานความร ้อน
3 หมวด 5 ธาตุ
ลักษณะอาการของพลัง องค์ประกอบข ้างในพลังมีดังนี้
๑. ถูกผลัก (ชง)
๒. ถูกดึง (ฮะ)
๓. ระเบิด ปะทะ เสียดสี (เฮ ้ง, ไห่, ผัวะ)
๔. กดดัน (คัก/ขัก/เก๋อ)
3 หมวด 5 ธาตุ
พลังงาน หมวด นักษัตรจีน นักษัตรไทย
ศักย์ ความรัก,ของ
สวยงาม (แม่
ธาตุ)
子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย
เถาะ ระกา
จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก
มะเส็ง กุน
สะสม เงินทอง (คลัง
ขุมทรัพย์)
辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู
มะแม
ภูมิสวรรค์ (60กะจื้อ)
แผนผังสี่สัตว์เทพ
N
https://bit.ly/3OC2Kjo
ผังภาพจาลองท ้องฟ้าอย่างย่อ
นาฬิกาจีนโบราณ
https://bit.ly/3zrljm1
• เมื่อถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทั้งสี่ ก็เป็ นที่ยอมรับ
กันทั่วไป
ในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทั้งสี่
ฤดูกาลและสีสันทั้งสี่
ฤดูกาลจีนทั้ง ๔
เซียนเทียนปากว ้า (先天八卦)
และโฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦)
https://www.facebook.com/udeeland/posts/650998372005210/
แผนภูมิกาเนิดปากว ้า
ที่มา เครื่องหมาย และชื่อเรียก
โฮ่วเทียนปากว ้า (后天八卦)
ผังหลังฟ้า กับ บุคคล
โหราศาสตร ์จีนแขนงต่างๆ
• โหราศาสตร์จีน
ได ้มีการแบงแยกแตกแขนงเป็นระบบ ได ้สองประเภท
คือ ภาคทฤษฎีจากคัมภีร์“อี้จิง易经”
และ “สู้สู่术数”หรือโหราศาสตร์ภาคคานวณ
นอกจากนี้ก็ยังมีวิชาการภาคคานวณอีก
เรียกว่า “จั้นโต่วสู้” “占卜术”
แม ้ว่าโหราศาสตร์ทั้งสองระบบหลักนี้
จะแตกต่างกัน
แต่ก็ยังมีหลักใหญ่เหมือนกันในเชิงหลักการ
โหราศาสตร์จีน
ภาคทฤษฎี
•อี้จิง易经
(ปา กว ้า)
ภาคคานวณ
•สู้สู่术数
•จั้นโต่วสู้占
卜术
https://bit.ly/3zrljm1
• ซึ่งทั้งสองระบบนี้
ต่างก็เป็นตัวแทนของโหราศาสตร์จีนทั้งคู่
จนแทบจะเรียกว่าเป็นอันเดียวกัน
หรือมีการเรียกขานจนเป็นอันหนึ่งเดียวกัน
(โดยเฉพาะคนทั่วไปที่ไม่รู้จัก)
แต่ที่ได ้แบ่งออกมาให ้เห็นเป็นระบบนี้
ก็เพื่อที่จะได ้เข ้าใจ
วิทยาการของโหราศาสตร์จีน
อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
คั
ม
ภี
ร
์
โ
จวลี
่
โจวอี้
คั
ม
ภี
ร
์
โ
จวลี
่
เหลียน
ซาน
คั
ม
ภี
ร
์
โ
จวลี
่
กุยจ้าง
วิชาอี้จิงและปากว ้า(โป๊ ยข่วย)
• ก็คือระบบหนึ่งของวิทยาการโหราศาสตร์ภาค
พยากรณ์
ถือกาเนิดมาจากระบบความเชื่อของจีนโบราณตั้งแต่
ยุคต ้น
โดยใช ้กระดองเต่าในการทานาย
ตามบันทึกของคัมภีร์”โจวลี่” 《周礼》
มีการพยากรณ์มากถึงสามแบบ
เรียกว่า โจวอี้, เหลียนซาน และกุยจ้าง
《周易》《连山》《归藏》
• แต่ภายหลังคัมภีร์สองแบบหลังได ้สาบสูญไร ้ร่องรอย
ไปหมดสิ้น
คงเหลือแต่คัมภีร์โจวอี้เพียงอย่างเดียว
อักษร
โบราณ
甲骨文
คัมภีร์
เซี่ยงซู่
อี้
คานวน
โชคชะตา
คัมภีร์
เหมย
ฮัวอี้
คานวน
โชคชะตา
• ปัจจุบันการค ้นพบอักษรโบราณทั้งหลายที่สลักไว ้บน
กระดองเต่า
(หรือที่เราเรียกว่า甲骨文)
ล ้วนแล ้วแต่เป็นผลิตผลของการบันทึก
จากการคานวนโชคชะตาในสมัยโบราณแทบทั้งสิ้น
และก็มีคัมภีร์ที่ตกทอดมาในวิชาโหรระบบนี้
ได ้แก่คัมภีร์ เซี่ยงซู่อี้
และคัมภีร์เหมยฮัวอี้
(象数易、梅花易数)
• ส่วนอีกระบบหนึ่งเรียกว่า โหราศาสตร์ภาคคานวณ
หรือ”สู้ซู่术数”
ซึ่งระบบนี้
ถือหลักมาจากการคานวณแผนภูมิฟ้าดิน
หรือที่เราเรียกว่า เทียนกาน ตี้จือ
天干地支
เทียนกาน ตี้จือ
天干地支
• ซึ่งวิชานี้ได ้กาเนิดมาจาก
ความรู้วิทยาการทางดาราศาสตร์ของจีนโบราณ
โดยหลักการการพยากรณ์
ก็อ ้างอิงมาจากการพยากรณ์ของระบบอี้จิงแต่เดิม
ซึ่งโหราศาสตร์ระบบนี้ เกิดหลังระบบอี้จิง
เทียนกาน ตี้จือ
天干地支
大六壬 四柱八字 铁板神数
七政四余 演禽 择日
เทียนกาน ตี้จือ
天干地支
• โหราศาสตร์ระบบนี้
มีหลายแขนง เช่น ต ้าลิ่วเริ่น
ซื้อจู่ปาจื้อ (โป๊ ยยี่สี่เถียว)
เถี่ยวปั่นเสินสู้
ชีเจิ้งซื่ออวี๋ หยานหลี่ เจ๋อยื่อ
大六壬、四柱八字、铁板神数、
七政四余、
演禽、择日ฯลฯ
• ส่วนการผสมผสาน
หลักการของโหราศาสตร์
ทั้งสองระบบนี้ (ภาคทฤษฎีและภาคคานวณ)
ก็ได ้เกิดเป็นวิชาการแขนงอื่นๆเพิ่มขึ้นมาอีก
เช่น ลิ่วเหยา ไท่อี้ จี๋เหมินตุ้นเจี่ย เฟิงสุย (ฮวงจุ้ย)
六爻、太乙、奇门遁甲、风水 ฯลฯ
x
z
ซื่อคุ่น
เฉวียนซู
Y จื่อปู้
• โหราศาสตร์จีน
แม ้ปัจจุบันนี้ก็ได ้มีพัฒนาการและแตกแขนงเป็นสานัก
ต่างๆ
อย่างมากมายและไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนกับวิชาบู๊ที่มีสานักสาขามากมาย
• จนกระทั่งวันนี้
มีเพียงคัมภีร์ของระบบภาคคานวนคือ ซื่อคุ่นเฉวียน
ซู และจื่อปู้
เท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีการรวมรวมหลักการเอาไว ้
อย่างเป็นระบบมากที่สุด
• https://bit.ly/3zrljm1
ฟ
้ าดินคนประสานกันเป็ นหนึ่ง
เดียว
• ในการศึกษาวิชาฮวงจุ้ย
ต ้องรู้จักคาว่า ไท่จี๋ หรือ ไท่เก็ก 太极 (วงกลมหยิน-
หยาง)
ซึ่งหมายบรมสภาวะ ของจักรวาลที่แทรกอยู่ในทุกๆ
สรรพสิ่ง
และคาว่า ฟ้า คน ดิน รวมเป็นหนึ่ง
ก็คือการอธิบายสภาวะทั้ง 3 ที่ต ้องสอดประสาน
และสัมพันธ์กันโดยที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได ้
• https://bit.ly/3zdXBIB
ทาเลที่ตั้ง
ชัยภูมิ
รูปแบบ
การ
ก่อสร ้าง
เลือกสรร
จัดวาง
ตาแหน่ง
อาคาร
คัดสรร
แผนผัง
บ ้าน
ออกแบบ
ในสมัยโบราณแต่นานมาแล ้ว
ฮวงจุ้ย ได ้เข ้าไปมีบทบาทใน
เลือกสรร
• ทาเลที่ตั้ง ชัยภูมิ
การออกแบบและจัดวางรูปแบบการก่อสร ้าง
ในทุก ๆขั้นตอน ตลอดยุคสมัยที่ผ่านมา
โดยก่อนที่วางแผนคัดสรรชัยภูมิ
ออกแบบ และการจัดวางตาแหน่งต่าง ๆของอาคาร
บ ้านเรือน
ตลอดจนถึงการออกแบบผังบ ้านหรือห ้องหับต่าง ๆ
ซึ่งแทบจะเรียกได ้ว่ามีอิทธิพลของฮวงจุ้ย
ครอบคลุมไปหมดในทุกๆแห่งและทุกๆขั้นตอน
• แต่สาหรับการวางแผนการก่อสร ้างพื้นที่อยู่อาศัย
สมัยใหม่
ในการวางฮวงจุ้ยให ้ถูกต ้องและสอดคล ้อง
ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
ควรพิจารณาแบบแผนและหลักการสาคัญของฮวง
จุ้ยก่อน
เป็นอันดับแรก
ซึ่งมีอยู่ 3 ประการดังนี้:
แบบแผนและหลักการสาคัญของฮ
วงจุ้ย
1.พิ
จ
ารณาขอบเขตของไท่
จ
ี
๋
(太極泛存觀)
2.พิ
จ
ารณาสนามพลั
ง
ของสรรพส
ิ
่
ง
(場氣萬有觀)
3.
พิ
จ
ารณาการไหลเวี
ย
นของสนามพลั
ง
(場氣導引觀)
1.พิจารณาขอบเขตของไท่จี๋(太極
泛存觀)
• ไม่ว่าจะเป็นเมืองเมืองหนึ่ง
หรือหมู่บ ้านหมู่บ ้านหนึ่ง
ลานหน้าบ ้าน อาคารบ ้านช่อง
แม ้แต่ห ้องหับต่างๆ ฯลฯ
ล ้วนแต่มีไทจี๋หรือไท่เก็ก สถิตอยู่
เพียงแต่มี ต่างระดับกันเท่านั้น
• รูปแบบของอาคารที่อยู่อาศัยแต่ละหลังนั้น
ต่างก็มี ไทจี๋ เป็ นของตนเอง
นอกจากนี้
ยังต้องดูภาพรวมไท่จี๋ของกลุ่มอาคารที่อยู่ใกล้เคียง
ประกอบด้วย
และรูปแบบเค้าโครงของกลุ่มอาคารต่างๆนั้น
ควรมีลักษณะพื้นที่ที่เป
็ นรูปทรงสี่เหลี่ยม
จึงจะมีพลังไท่จี๋ที่เหมาะสมและสมบูรณ์
และไม่ควรมีส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารขาด
หายไป
• ในการเขียนแบบร่างของสถาปัตยกรรม รูปแบบและ
พื้นที่ของอาคาร
ควรให ้ความสาคัญกับ
ผลกระทบของสนามพลังของแผนภูมิไท่จี๋
• และควรเลือกพื้นที่เปิดโล่งอย่างระมัดระวัง
อีกทั้งสนามหญ้าหรือพื้นที่สีเขียวในกลุ่มอาคาร
ควรได้รับการจัดวางในส่วนตาแหน่งใจกลางของ
พื้นที่
• https://bit.ly/3zdXBIB
แบบแผนและหลักการสาคัญของฮ
วงจุ้ย
1.พิ
จ
ารณาขอบเขตของไท่
จ
ี
๋
(太極泛存觀)
2.พิ
จ
ารณาสนามพลั
ง
ของสรรพส
ิ
่
ง
(場氣萬有觀)
3.
พิ
จ
ารณาการไหลเวี
ย
นของสนามพลั
ง
(場氣導引觀)
2.พิจารณาสนามพลังของสรรพสิ่ง
(場氣萬有觀)
• องค์ประกอบทั้งห ้าของวิชาดูฮวงจุ้ย
มีดังนี้คือ 1.มังกร (เล ้ง 龍)
2.จุดลมปราณ(ฮ่วย 穴)
3.ดิน-ทราย (ซา砂)
4.น้า(จุ้ย水)
และ 5.ทิศทาง(เหี่ยง向)
ซึ่งเป็นที่ก่อให ้เกิดพลังชี่จากธรรมชาติ
ดังนั้นจึงมีวิธีการดังนี้
1.ค ้นหาชีพจรมังกร (ชิมเล ้ง 尋龍)
2.ค ้นหาพลังชี่หรือปราณ(ช่อกฮ่วย 捉穴)
3.วิเคราะห์ลักษณะและคุณภาพของดิน(ฉักซา 察砂)
4.ค ้นหาแหล่งน้า(มิกจุ้ย 覓水)
5.กาหนดทิศทาง (เตี่ยเหียง หรือ เต็งเหี่ยง 定向)
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อสรรหาหาพลังชี่มงคลที่เหมาะสม
และสอดคล ้องกับพลังของร่างกายมนุษย์
หลีกเลี่ยงชี่ที่ชั่วร ้าย(หรือชี่พิฆาต) ที่ส่งผลร ้ายต่อ
มนุษย์
อีกทั้งส่งเสริมโชคลาภ ความมั่งคั่งและหลีกเลี่ยงสิ่ง
อัปมงคลต่างๆ
• ในวัตถุต่างๆ ล ้วนมีสนามพลังกระจายออกมาโดยรอบ
และ”พลังชี่” ก็คือสนามพลังที่กระจายออกมา
นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได ้ตรวจสอบแล ้วว่า
ร่างกายมนุษย์
มีพลังงานออร่ากระจายออกมา
ต ้นไม ้และพืชพรรณต่างๆก็เช่นกัน
ต่างก็มีพลังงานแผ่ออกมา
• แม ้แต่อาคารบ ้านเรือนต่างๆก็มีพลังงาน
และทุกสิ่งทุกอย่าง
แม ้กระทั่ง ก ้อนกรวด ดินทราย สายลม สายน้า ฯลฯ
ต่างก็มีสนามพลังเป็นของตนเอง
สานักงานใหญ่บริษัทแอปเปิ้ล
(ธาตุทอง ธาตุน้า)
• หากว่ามีอาคารปลูกไว ้เพียงหนึ่งหลังพลังก็ย่อมมี
ขอบเขตจากัด
แต่หากว่าเป็นหมู่ตึก กลุ่มอาคาร หรือหมู่บ ้าน
การประสานพลังระหว่างกันของอาคารแต่ละหลังก็
ย่อมเพิ่มเป็นทวีคูณ
เฉกเช่นเดียวกันกับพลังแรงโน้มถ่วงของโลก
ที่กระทาต่อทุกสรรพสิ่ง อย่างไม่มีข ้อยกเว ้น
ดังนั้นในทุกๆสรรพสิ่งย่อมมีพลังชี่แฝงอยู่
มารีนาเบย์แซนส์ สิงคโปร์
บ ้านดินชาวแคะ มณฑลฝูเจี้ยน
(Fujian)
แบบแผนและหลักการสาคัญของฮ
วงจุ้ย
1.พิ
จ
ารณาขอบเขตของไท่
จ
ี
๋
(太極泛存觀)
2.พิ
จ
ารณาสนามพลั
ง
ของสรรพส
ิ
่
ง
(場氣萬有觀)
3.
พิ
จ
ารณาการไหลเวี
ย
นของสนามพลั
ง
(場氣導引觀)
3. พิจารณาการไหลเวียนของ
สนามพลัง
(場氣導引觀)
• "ชี่"ในความหมายของวิชาฮวงจุ้ย
ก็คือ พลังชี่ของจักรวาล พลังชี่ของดาวเคราะห์โลก
พลังชี่ของพื้นที่ดิน ทรายแม่น้า
พลังของกลุ่มอาคารบ ้านเรือน
พลังชี่ของต ้นไม ้พืชพรรณ
และพลังชี่ของกายมนุษย์
ที่ผสานรวมกันไว ้เป็นหนึ่งเดียว เรียกรวมกันว่า “ชี่”
• รัศมีสนามพลังของโลกและจักรวาล และภาคพื้นดิน
ทั้งหมด
เรียกว่า พลังชี่ระดับมหภาค (ไต่เชียงขี่ 大場氣)
โบราณท่านกล่าวเอาไว ้ว่า พลังชี่มหภาค นั้น
ไหลมาจากที่อันว่างเปล่า(จากที่สูง)
แต่เมื่อหยุดอยู่ ณ ที่ใด(ที่ต่ากว่า)ที่นั้นย่อมอุดม
สมบูรณ์
(เฮอฉู่ไล ้ ซิกฉู่จี้ ,เกาฉู่ไหล ตีฉู่ขื่อ
虛處來 實處止 高處來 低處去)
ที่ราบระหว่างหุบเขา
• ดังนั้นทาเลสร ้างบ ้านเรือนของผู้คนส่วนใหญ่
มักจะเลือกทาเลในที่ราบลุ่ม
หรือกึ่งที่ราบลุ่ม ที่คล ้ายกับก ้นอ่างน้า
(วงโอบล ้อมของภูเขาและมีแม่น้าไหลผ่าน)
• พื้นที่แบบนี้จะมีผืนดินและน้าอันอุดมสมบูรณ์
และเป็นสิ่งที่เหมาะสมสาหรับการดารงชีวิตของผู้คน
และเป็นสิ่งที่ดี
สาหรับการรองรับพลังชี่ระดับมหภาค
การเคลื่อนไหวแบบเกลียว
https://bit.ly/3zdXBIB
การเคลื่อนไหวแบบเกลียว
https://bit.ly/3zdXBIB
• ส่วนลักษณะทางธรรมชาติของสนามพลัง(ชี่)
จะมีการเคลื่อนไหวแบบเกลียว
ไม่ว่าจะเป็นสนามพลังในระดับใด หรือบางส่วน
และการเคลื่อนไหวแบบเกลียวนี้
ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบจักรวาล
• https://bit.ly/3zdXBIB
แบบแผนและหลักการสาคัญของฮ
วงจุ้ย
1.พิ
จ
ารณาขอบเขตของไท่
จ
ี
๋
(太極泛存觀)
2.พิ
จ
ารณาสนามพลั
ง
ของสรรพส
ิ
่
ง
(場氣萬有觀)
3.
พิ
จ
ารณาการไหลเวี
ย
นของสนามพลั
ง
(場氣導引觀)
วิธีดูทิศทางน้า 納水 (หนับจุ้ย)
เพื่อให ้เกิดโชคลาภ
• ปราชญ์โบราณท่านได ้กล่าวไว ้ว่า
“ภูผาก่อให ้เกิดยศศักดิ์ น้าก่อให ้เกิดให ้โชคลาภ”
(ซัวก่วยยิ้งเต็ง จุ้ยก่วยไช ้山管人丁、水管財)
https://bit.ly/3cORPpl
• ในการศึกษาวิชาฮวงจุ้ย
หากต ้องการที่จะประสบความสาเร็จและเชี่ยวชาญใน
วิชาการทางด ้านนี้
จาเป็ นจะต้องเริ่มจาก การทาความเข้าใจ
ในหลัก”ชีพจรมังกร”
หรือ ซัวแมะ 山脈 ก่อนเป็นอันดับแรก
• ซึ่งมังกรในที่นี้หมายถึงภูเขา
ซึ่งปัจจุบันอาคารบ้านเรือนตึกสูงต่างๆ
ก็อยู่ในความหมายของภูเขาในทางฮวงจุ้ย
• และต ้องหาตาแหน่งชีพจร
โดยการวัดทิศทาง
ดูรูปลักษณะ(ชีพจร)ที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวของเทือกเขา
(อาคาร)
ระยะเชิงมุมต่าง ๆ
เพื่อหาจุดร่วมของตาแหน่งต่างๆ
มารวมกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง
เรียกว่า จุดรวมของพลังชีพจรเทพมังกร
หรือ เหล่งซิ้ง龍神
• ถ ้าหากว่าต ้องการจะแสวงหาทรัพย์สินและความ
ร่ารวย
ก็จาเป็นจะต ้องศึกษาเรื่อง”น้า” “水”ให ้ลึกซึ้งก่อน
และหากต ้องการที่จะได ้มีโชคที่ดี
ดวงดีก็ต ้องเริ่มศึกษาจาก “ทิศทาง” “向”ให ้
เชี่ยวชาญ
เพื่อที่นามาใช ้ในการดึงดูดโชคลาภ
ศิริมงคลและความโชคดีทั้งปวง
ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่องค์ประกอบหลัก
5 ประการของวิชาฮวงจุ้ย
คือ 1.มังกร (เล ้ง 龍)
2. จุดลมปราณ(ฮ่วย 穴)
3.ดิน-ทราย (ซา砂)
4.น้า(จุ้ย水)
และ 5.ทิศทาง(เหี่ยง向) ซึ่งเป็นที่ก่อให ้เกิดพลังชี่จาก
ธรรมชาติ
• และหากได ้ศึกษาวิชาดูทิศทางน้า
หรือ “หนับจุ้ย” “納水”
ได ้อย่างเชี่ยวชาญแล ้วก็จะสามารถใช ้วิชานี้
ดึงดูดพลังจากน้า
มาก่อให ้เกิดโชคลาภและความมั่งคั่ง
ได ้ดั่งความประสงค์
• ในทางฮวงจุ้ย
มีหลักธาตุแท ้อยู่ 4 ประการ
คือ 1.มังกรแท ้(จิงเล ้ง真龍)
2.น้าแท ้(จิงจุ้ย真水)
3.ทรายแท ้(จิงซา真砂)
4.จุดปราณแท ้( จิงฮ ้วย真穴)
แต่ในที่นี้เราจะกล่าวเฉพาะถึง ธาตุ
น้าแท ้
หรือ จิงจุ้ย 真水
ซึ่งคือ(ธาร)น้าไหลที่เราสามารถมองเห็นได ้จริงๆ
และก็สามารถบันดาลผลให ้เกิดทรัพย์สินโชคลาภได ้
จริงๆ
แต่การก่อเกิดโชคลาภ ก็ไม่แน่นอนเสมอไป
เพราะต้องขึ้นอยู่กับทิศทางของน้า
หากผิดทิศผิดทาง
กลับกลายเป็นการทาลายโชคลาภไปเสียอีก
• ท่านปรมาจารย์หยางกง
ได ้กล่าวไว ้ว่า
“未看山、先看水,有山無水休尋地”
คือให้หาน้าก่อน แล้วจึงหาภูเขา
เมื่อเห็นน้าก็จะพบกับภูเขา
ถ ้ามีภูเขาแต่ไม่มีน้า
แสดงว่าไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย
• นอกจากนี้
ท่านเลี่ยวกง 廖公
ปรมาจารย์ อีกท่านหนึ่ง
ก็กล่าวว่า “尋龍點穴須仔細,先須觀水勢”
ในการค ้นหาชีพจรมังกรและจุดรวมพลังชีพจร
จักต ้องกระทาอย่างรอบคอบ
แต่ก่อนอื่น
เราจะต ้องพิจารณาพลังและคุณสมบัติของน้าเป็น
อันดับแรก
• ซึ่งทั้งสองท่านนี้
ได ้ให ้ความสาคัญของ”น้า”เป็นหลักอย่างชัดเจน
ดังนี้จึงมีเพียงภูเขาและสายน้าที่สัมพันธ ์กันอย่าง
เหมาะสม
จึงจะเป็ นหนทางแห่งการศึกษาวิชา”ฮวงจุ้ย”อย่าง
แท้จริง
เกี่ยวกับกฎของน้า(จุ้ยหวบ 水法)
• ดูเหมือนว่าจะส่งผลเพียงสองประการเท่านั้นคือ ดี
และร ้าย
อันที่จริงเนื้อหาของ"จุ้ยหวบ“
มีมากมายและซับซ ้อนจนผู้เริ่มต ้นหลายคนสับสน
จนไม่รู้ว่าจะเริ่มต ้นที่ตรงไหนก่อน
• เพื่อให ้ผู้อ่านทุกคนเข ้าใจได ้ง่ายขึ้น
ผู้เขียนจึงเขียนวิธีการทิศทางและลักษณะของน้า
(หนับจุ้ย)
ที่เรียบง่ายและใช ้ได ้จริง ซึ่งมีเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น
และสามารถจดจาได ้โดยง่าย
https://bit.ly/3cORPpl
โดยธาตุทั้งห ้าของน้า
ได ้แก่ ทอง 金 ไม ้木 น้า水 ไฟ 火
และ ดิน 土
• ซึ่งมีอยู่ห ้ารูปแบบ ดังต่อไปนี้
1.น้าที่มีลักษณะของธาตุทอง “金形”
น้าที่มีลักษณะวงกลม หรือ ครึ่งวงกลมที่ล ้อมรอบด ้วย
ช่องว่าง
หรือมีลักษณะโอบล้อม
แสดงถึงความโชคดีและความมั่งคั่งร่ารวย
และถือเป็นน้ามงคลซึ่งถือว่าเป็นน้าที่มีชีวิต
แต่หากลักษณะไปในทางย ้อนกลับ หรือมีรูปลักษณ์ดั่ง
คันศร
ถือเป็นน้าพิฆาตและมีพลังที่รุนแรง
2.น้าที่มีลักษณะของธาตุไม้ “木
形”
น้าไหลไปในแนวทางตรง โดยที่ไม่มีรูปร่างคดเคี้ยว
น้าชนิดนี้
จะไม่สามารถสั่งสมโชคลาภและความมั่งคั่งได ้เลย
ดูเหมือนเส ้นเชือกเป็นแนวนอนไหลผ่านด ้านหน้าบ ้าน
ไหลมาตรงๆและไหลออกไปในแนวตรง
ถ ้าน้าไหลเร็วและแรง
ทางฮวงจุ้ยถือว่าร ้ายมาก เรียกว่า "คังงู้จุ้ย" “ 牵牛水”
ซึ่งเปรียบเสมือนเชือกลากวัว
จะส่งผลร ้ายทาลายทรัพย์สินและทาให ้ไร ้บุตรสืบสกุล
3.น้าที่มีลักษณะของธาตุน้า “水
形”
• น้ามีลักษณะคล ้ายคลื่น เลี้ยวลดคดเคี้ยว
แสดงถึงโชคลาภและความรุ่งเรือง
หาก สายน้า มีรูปทรงโค ้งไปโค ้งมา
นับได ้ถึงเก ้าโค ้ง
เรียกว่า "เกาคักจุ้ย 九曲水”
ก็จะยิ่งเสริมสิริมงคลเป็นอย่างมาก
• (หมายเหตุ-หากมี 2 โค ้งน้าจะเรียกว่า จือจุ้ย 之水
หรือหากมี 3-4 โค ้งน้าจะเรียก เฮี่ยงจุ้ย 玄水)
ซึ่งจุดโค ้งแต่ละโค ้งของสายน้าตามที่ได ้กล่าวไป
แสดงถึงการมีพลังชีวิต(有情)
หากปลายโค ้งที่เก ้าไหลเข ้าสู่ลานหน้าบ ้าน
หรือ หมิงถัง หรือ เหม่งตึ๊ง 明堂 ของบ ้าน
เจ้าชะตาจะได ้เป็นมหาเสนาบดี
4.น้าที่มีลักษณะของธาตุไฟ “火
形”
• น้าที่มีรูปทรงรูปสามเหลี่ยม
หรือรูปทรงแปลกๆผิดปกติ หรือมีมุมแหลมคมหลาย
มุม
จะทาให ้เสียทรัพย์และจะมีคดีความบ่อยๆ
5.น้าที่มีลักษณะของธาตุดิน “土
形”
• น้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ ้า
หรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
ถ ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ ้ายาวเกินไปจะเป็น "น้ารูปทรงธาตุ
ไม ้"
แต่ถ ้ามีลักษณะโอบล ้อมด ้วยจะเป็นมงคล โชคดี
เจริญรุ่งเรือง
หากมีลักษณะตรงข ้ามก็จะเป็นผลร ้าย จะเสียโชคลาภ
และทรัพย์สิน
ลักษณะให้คุณและให้โทษของน้า
• น้าที่ให้คุณ(เสี่ยงจุ้ย善水) :น้ามีลักษณะใส กลิ่นสด
ชื่น
น้าไหลอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน มีการโอบล ้อมและ
ปกป้อง
ย่อมส่งผลให ้ มีโชคลาภเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่ารวย
• น้าที่ให้โทษ(อักจุ้ย惡水):คุณภาพน้าไม่ดี สีขุ่นและ
สกปรก
มีกลิ่นเหม็น น้าไหลย ้อนกลับ หรือไหลออกไปทั้ง4
ทิศทางอย่างไม่หยุดยั้ง เรียกว่า (สิกอุ่งซ่วยจุ้ย 失運
衰水)
จะทาให ้ส่งผลร ้าย สูญเสียโชคและความมั่งคั่งลงไป
เรื่อยๆ จนหมดสิ้น
คุณลักษณะแห่งอินหยาง
1.อินหยางปฏิภาค (陰陽對立)
2.อินหยางอิงอยู่ (陰陽依存)
3.อินหยางเพิ่มลด (陰陽消長)
4.อินหยางพลิกผัน (陰陽轉化)
5.อินหยางหมุนเวียน (陰陽衍化)
คุณลักษณะแห่งอินหยาง
• ปรัชญาอินหยางยังมีคุณลักษณะอีกมากมาย
ดังจะขอสรุปอธิบายคุณลักษณะของอินหยางออกเป็น
5 ข ้อด ้วยกันคือ
1.อินหยางปฏิภาค (陰陽對立)
ปฏิภาคหมายถึงภาคที่อยู่สวนทางกัน อยู่ตรงข ้ามกัน
ไม่สามารถอยู่ร่วมภาคเดียวกันได ้
เหมือนเช่นน้าและไฟที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได ้นั่นเอง
แม ้จะอยู่ฝั่งตรงข ้ามกัน
แต่อินหยางก็อยู่แบบดึงรั้งซึ่งกันและกันจนเกิดความ
สมดุล
ยกตัวอย่างความร ้อนสามารถลด
ความเย็น
ขณะเดียวกันความเย็นก็สามารถ
ลดความร ้อนลงได ้
ดังนั้นในระหว่างที่ความร ้อนและความเย็นเป็นปฏิภาค
กันไปมา
แต่ก็ทาให ้เกิดความสมดุลระหว่างร ้อนและเย็นขึ้น
• ร่างกายของมนุษย์
ก็คือระบบที่เกิดจากความสมดุลของร้อนและเย็น
หากข ้างหนึ่งข ้างใดมากจนเกินไป ก็จะทาให ้เสีย
สมดุล
และเกิดเป็นอาการที่ค่อนไปทางร ้อนจัด หรือค่อนไป
ทางหนาวจัดได ้
• ดังนั้น เมื่ออินหยางของร่างกาย เสียสมดุล
ร่างกายก็จะเกิดอาการเจ็บป่ วย
• บทซู่เวิ่น (素問) ในหวงตี้เน่ยจิง (黃帝內經)
ได ้กล่าวว่า “หากอินแรงคือโรคหยาง หากหยางแรง
คือโรคอิน”
2.อินหยางอิงอยู่ (陰陽依存)
แม ้อินหยางจะเป็นปฏิภาคหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
แต่ความจริงอินหยางก็ต ้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ต้องอิงอยู่ซึ่งกันและกัน ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปมิได้
หรือก็คือ หากไม่มีอิน ก็ย่อมไม่มีหยาง
หากไม่มีหยาง ก็ย่อมไม่มีอิน
ยกตัวอย่างเช่น บนคือหยาง ล่างคืออิน
หากไม่มีล่างก็จะไม่มีบน หากไม่มีบนก็จะไม่มีล่าง
ร้อนคือหยาง เย็นคืออิน
ดังนั้น หากไม่มีร ้อนก็จะไม่มีเย็น
หากไม่มีเย็นก็จะไม่มีร ้อนนั่นเอง
ในซู่เวิ่น (素問)
ได ้กล่าวไว ้ว่า
“อินอยู่ใน คือการรักษาไว ้แห่งหยาง
หยางอยู่นอก คือการผลักดันไปแห่งอิน
(陰在內,陽之守也;陽在外,陰之使也.)”
หมายความว่า
อินอยู่ใน คือตัวช่วยผลักดันให ้เกิดเป็นอานุภาพแห่งห
ยางที่ภายนอก ขณะเดียวกัน หยางที่แสดงอานุภาพที่
ภายนอก
ก็เป็นตัวช่วยสร ้างอินเก็บไว ้ที่ภายใน
หากเรานามาประยุกต์เข ้ากับ
ระบบการทางานของร่างกาย
• คาว่า อิน จะหมายถึง สารอาหาร อิเล็คตรอน
หรือ ATP
หรือฮอร์โมน หรือน้าตาล
หรืออะไรก็แล ้วแต่
ที่ความรู้วิทยาการในปัจจุบันเราสามารถเข ้าใจได ้
เรารวมเรียกว่า สารอาหาร
ลักษณะการผันแปร
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
• ส่วน หยาง จะหมายถึง พลังงาน
หรืออุณภูมิร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว
หรือการย่อยการดูดซึม
หรืออะไรก็แล ้วแต่ที่เราพอจะเข ้าใจได ้ในปัจจุบัน
เราจะรวมเรียกว่า พลังงาน
• ดังนั้น สารอาหารที่อยู่ภายใน จึงเป็นตัวผลักดัน
ให ้เกิดพลังงานที่ภายนอก เช่น การเคลื่อนไหว หรือ
อุณหภูมิของร่างกาย
• ด ้วยเหตุนี้ในซู่เวิ่น (素問)
จึงกล่าวว่า หยางคือการผลักดันไปแห่งอิน
• ขณะเดียวกัน
การแสดงออกซึ่งพลังงานที่ภายนอก
ก็เป็นตัวช่วยสร ้างเก็บสารอาหารที่ภายใน
เช่นการบริโภคอาหาร การออกกาลังกาย
จะเป็นการช่วยให ้เกิดการสะสมพลังงานของร่างกาย
ดังนั้นในซู่เวิ่นจึงกล่าวว่า อินคือการรักษาไว ้แห่งห
ยาง
• ด ้วยเพราะเหตุนี้
ในตาราเล่ยจิงถูอี้ (類經圖翼)
จึงกล่าวไว ้ว่า “ไร ้อินหยางไม่เกิด ไร ้หยางอินไม่มี”
3.อินหยางเพิ่มลด (陰陽消長)
• อินและหยางเป็นภาวะที่ไม่ได ้อยู่นิ่ง
หากแต่เป็นภาวะหมุนเวียนที่จะคอยเสริมและลดอยู่
ตลอดเวลา
• ยกตัวอย่างเช่น
การเคลื่อนไหวของร่างกาย (หยาง)
จะต ้องมีการเผาผลาญสารอาหาร (อิน) บางส่วน
ออกไป
นี่ก็คือการเพิ่มอย่างหนึ่งและลดอีกอย่างหนึ่ง
• ขณะเดียวกัน การสร ้างสารอาหารของร่างกาย (อิน)
ก็จาเป็นต ้องมีการใช ้พลังในการย่อยอาหารด ้วย
(หยาง)
การลดอินเพื่อเพิ่มหยาง การลดหยางเพื่อเพิ่มอิน
อินและหยางจะมีการเพิ่มลดเช่นนี้จนอยู่ในภาวะ
สมดุล
แต่หากภาวะสมดุลนี้ ถูกทาลายไป
ก็จะเกิดภาวะเสียศูนย์ที่เป็นอินมากหรือหยางมาก
และนี่ก็คือเหตุผลที่ทาให ้ร่างกายเจ็บไข ้ได ้ป่ วย
นั่นเอง
4.อินหยางพลิกผัน (陰陽轉化)
• ภาวะอินและหยางนั้น
มิใช่เป็ นภาวะที่อยู่นิ่งไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
หากแต่สามารถที่จะพลิกผันไปอีกขั้วหนึ่งได ้ในทันที
• ขอเพียงแต่อยู่ในสภาวะหนึ่ง ๆ
ภาวะอินหรือหยางนี้ ก็จะสามารถผันแปรไปอีกสุดขั้ว
หนึ่งก็ได ้
หรือก็คืออินสามารถเปลี่ยนเป็นหยาง หยางสามารถ
เปลี่ยนเป็นอินได ้นั่นเอง
ในซู่เวิ่น (素問)
• ได ้กล่าวไว ้ว่า
“เมื่ออินมากก็จะเป็นหยาง เมื่อหยางมากก็จะเป็นอิน”
“เมื่อร ้อนสุดก็จะกลายเป็นเย็น เมื่อเย็นสุดก็จะ
กลายเป็นร ้อน”
• ในตาราได ้กล่าวถึงว่า
อินหยาง สามารถแปรผันเป็นอีกสุดขั้วหนึ่งได ้
แต่ขณะเดียวกันก็อธิบายว่า
การที่อินหยาง จะสามารถแปรผันเป็นฝั่งตรงข ้ามได ้
นั้น
จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะอย่างหนึ่ง
หากไม่มีเงื่อนไขเฉพาะ
จากด ้านในและด ้านนอก
ก็จะไม่สามารถแปรผันได ้
ยกตัวอย่างเช่น อาการตัวร ้อน
เฉียบพลัน
• เนื่องจากภายในร่างกายสะสมพิษร ้อนจานวนมาก
จึงมีการเผาผลาญพลังที่ดีของร่างกายอย่างมหาศาล
หากอยู่ในสภาวะไข ้ร ้อนเช่นนี้เป็นเวลานาน
ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิร่างกายลดลงโดย
เฉียบพลัน
ผู้ป่ วยจะมีสีหน้าซีดขาว แขนขาเย็นเยือก
ชีพจรอ่อนเล็กจนเหมือนว่าจะขาดหายไป
• ในตอนนี้จะต ้องทาการช่วยเหลือให ้เหมาะสม
เพื่อทาให ้แขนขาอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ให ้พลังหยางฟื้นฟู
ขึ้นมา
เหตุการณ์ก่อน คือจากหยางผันสู่อิน
ส่วนเหตุการณ์หลัง คือจากอินผันสู่หยาง
นี่ก็คือตัวอย่างการแปรผันของอินหยางนั่นเอง
5.อินหยางหมุนเวียน (陰陽衍化)
• อินและหยางจะไม่อยู่คงที่
โดยในอินหยางก็ยังคงมีอินหยางแฝงเร ้นอยู่ภายใน
เราสามารถแบ่งลักษณะของอินและหยางออกตาม
ระดับที่แตกต่างกันคือ
• ระดับของอิน จะสามารถแบ่งออกเป็น หนึ่งอิน สองอิน
และสามอิน
• ส่วนหยาง ก็สามารถแบ่งออกเป็น หนึ่งหยาง สองห
ยาง และสามหยาง
แผนภูมิกาเนิดปากว ้า
ที่มา เครื่องหมาย และชื่อเรียก
• โดย สามอิน
มีชื่อเรียกว่า ไท่อิน (太陰)
มีความหมายว่าความมากสุดแห่งอิน
สองอิน
มีชื่อเรียกว่า เส ้าอิน (少陰) มีความหมายว่า อินที่
น้อยลง
ส่วนหนึ่งอิน
มีชื่อเรียกว่า เจวี๋ยอิน (厥陰) มีความหมายว่า อินที่
อ่อนมาก
https://www.blockdit.com/posts/5d82e26dd929e50cba05c69a?id=5d82e26dd929e50cba05c69a&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378
• ขณะเดียวกัน
สามหยางมีชื่อเรียกว่า ไท่หยาง (太陽)
มีความหมายว่า ความมากสุดแห่งหยาง
สองหยาง
มีชื่อเรียกว่า หยางหมิง (陽明)
มีความหมายว่า ความเจริญแห่งหยาง
หนึ่งหยาง
มีชื่อเรียกว่า เส ้าหยาง (少陽)
มีความหมายว่า ความน้อยแห่งหยาง
https://www.blockdit.com/posts/5d82e26dd929e50cba05c69a?id=5d82e26dd929e50cba05c69a&series=5d7d9c0b39d2050cb25c3378
ฤดูกาลของคนจีน
• มีด ้วยกันทั้งหมด 4 ฤดูนะครับ
คือ ฤดูใบไม ้ผลิ เริ่มต ้นที่เดือน กุมภาพันธ์ /
ฤดูร ้อน เริ่มต ้นที่เดือนพฤษภาคม /
ฤดูใบไม ้ร่วง หรือฤดูฝน เริ่มต ้นที่เดือนสิงหาคม
และฤดูหนาว จะเริ่มต ้นที่เดือน พฤศจิกายน / ………
• https://www.facebook.com/415150122354333/posts/515972662272078/
• ทั้งนี้ฤดูใบไม ้ผลิ … เป็นดินแดนของ มังกรไม ้
• ฤดูร ้อน … เป็นดินแดนของ มังกรไฟ
• ฤดูใบไม ้ร่วง… เป็นดินแดนของ มังกรทอง
• ฤดูหนาว…เป็นดินแดนของ มังกรน้า
ฤดูใบไม ้ผลิ
ฤดูร ้อน
ฤดูใบไม ้ร่วง
ฤดูหนาว
พลังงาน หมวด นักษัตรจีน นักษัตรไทย
ศักย์ ความรัก,ของสวยงาม (แม่
ธาตุ)
子 午 卯 酉 ชวด มะเมีย เถาะ ระกา
จลน์ อานาจ (พาหะ) 寅 申 巳 亥 ขาล วอก มะเส็ง กุน
สะสม เงินทอง (คลังขุมทรัพย์) 辰 戌 丑 未 มะโรง จอ ฉลู มะแม
• เราจะเห็นได ้ว่า … ธาตุในดวงจีนมีทั้งหมด 5 ธาตุ
โดยแบ่งเป็นธาตุเล็กและธาตุใหญ่ รวม10ธาตุ…
ดังที่กล่าวมาแล ้วในครั้งก่อนนะครับ
……คือมีธาตุทอง น้า ไม ้ ไฟ และดิน…
• อ ้าว…แล ้วมังกรที่ว่า…ไหนมีเพียง 4 ละครับ……
เดี๋ยวครับ มังกรดินนั่นจะแทรกซึมอยู่ในทุกๆปลาย
ของ ทุกๆฤดูนะ…
แล ้วมังกรดินที่ว่าก็คือ
…เดือนมกราคม เดือนเมษายน เดือนกรกฎาคม เดือน
ตุลาคม
ก็คือใน 4 เดือนนี้อากาศจะแปรปรวนมาก
เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนถ่ายจากฤดูหนึ่ง… ไปสู่
อีกฤดูหนึ่ง นั่นเอง …
• ฉะนั้น ใครที่เกิดธาตุดิน แน่นอนจะเป็นผู้ที่มีความ
พิเศษนะครับ
เพราะฤดูกาลของเขานั่นไม่มี
และมังกรดินจะเกิดยากกว่ามังกรทุกๆตัวที่กล่าว
มา………
ถ้าชะตาดี และสมดุลย์
… จะเป็นผู้ที่มีความหนักแน่น อดทน
สะเทิ้นน้า สะเทิ้นบก …มีทรัพย์ คือวาสนาดี
นั่นเอง……;
• แต่มิใช่ว่ามังกรอื่นๆจะไม่ดีนะครับ
เพียงแต่มังกรดินมีความพิเศษเท่านั้นเอง……………
https://medium.com/@QiMenAlchemy/tian-ren-di-aba89d25e551
ลักษณะการผันแปร
ตารา ปากว ้า มีหลายแบบ
บทความก็มีเยอะ
ควรศึกษาแยกแยะ
• หลายครั้งแนะนาให ้อ่านตาราเก่า ตาราโบราณ
ในการศึกษาวิชาดวงจีน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับให ้ความรู้พื้นฐานของตนที่มีแน่น
เสียก่อน
แล ้วเวลาอ่านตาราใหม่ๆที่แต่งปัจจุบันสมัย
จะได ้มีข ้อสังเกตเพิ่มเติม
ขึ้นมาได ้ว่าพิจารณาแล ้วมีความถูกต ้องเหมาะสมมาก
น้อยเพียงไร
• https://bit.ly/3Q3uVsI
• พูดง่ายๆว่า ขอให ้เรามีคลังความรู ้ในตัวเองระดับนึง
เสียก่อน
จึงจะวิเคราะห์ได ้ว่าข ้อความหรือความรู้ใหม่ๆที่ได ้มา
นั้น
น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
ซึ่งนี่เป็นคาถามสาคัญ
ที่คนเรียน ดวงจีน หรือ ฮวงจุ้ย
มักตั้งคาถามกันว่า
ตาราที่มีในมือนั้น มีความน่าเชื่อถือได ้มากน้อย
เพียงไร
ยกตัวอย่างเช่นตาราข ้างล่างนี้
กล่าวถึง ปากว ้า 八卦 เทียบกับ
ร่างกายคน
• ซึ่งมีคากล่าวว่า เหรินเซิงเสี่ยวอวี่โจ ้ว
แปลว่า อันว่าร่างกายคนนั้นก็คือจักรวาลที่ย่อส่วนลง
มา
https://bit.ly/3Q3uVsI
• ปวงปรัชญาจีน
เชื่อว่า ปากว ้า หรือ โป๊ ยข่วย
เป็นสัญลักษณ์บอกและแสดง
ความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งในธรรมชาติ
ผ่านเครื่องหมายที่มีสืบต่อมาแต่ครั้งบรรพกาล
ในสมัยที่คนเรายังเขียนตัวหนังสือไม่เป็นเสียด ้วยซ้า
• แต่ที่ผมกล่าวว่านี่เป็นตาราแต่งใหม่
เนื่องจาก ธาตุของแต่ละกว ้า มีกากับเอาไว ้
ทั้งนี้การอธิบายข ้างล่างนี้
เป็นการอธิบายในเชิงให ้เห็น
ความสาคัญของหน้าที่การทางานของแต่ละชิ้นส่วน
อวัยวะร่างกาย ตามแต่ละ กว ้า
• https://bit.ly/3Q3uVsI
• โดยยกเพียงความหมายโดยนัย
ความหมายใด ความหมายหนึ่งออกมากล่าวเท่านั้น
เช่น กว ้าเฉียน หมายถึง หัว กระดูก ปอด
(ที่หมายถึงกระดูก และปอด
เพราะเป็นโครงร่างค้าจุนร่างกายคน
คือ โครงกระดูก และเป็นโครงร่างคุ้มครองกายคน
คือ ปอด และชี่ ซึ่งทั้งสองเป็นความหมายของ ธาตุ
ทอง
โดยที่เฉียน ในความหมายโดยนัย ห ้าธาตุ ก็คือ ธาตุ
ทอง)
จริงๆ ตารา ตี้หลี่เปี้ยนเจิ้ง
ได ้อธิบายเรื่องโฮ่วเทียน ปา กว ้า
และลักษณะประจาธาตุของแต่ละกว ้า
• ว่ามาจาก ดวงดาวบนท ้องฟ้าทั้งหมด ห ้าดวง
ได ้ทั้งหมด ห ้าธาตุ
มาประกอบกันตามความหมายของ ปากว ้า
บนฟ้า มีห ้าดวงดาว
บนดิน มีห ้าขุนเขา ห ้าแม่น้า
สรรพสิ่งบนโลก ประกอบมี ปา กว ้า
ตุ้ย ปาก ลิ้น ซ่างเจียว
หลี นัยตา หัวใจ
เจิ้น เท ้า ตับ ผม
ซวิ่น มือ ชี่
ขั่น หู เลือด ไต
เกิ้น จมูก นิ้วชี้ หลัง
คุน ท ้อง พุง
ความหมายตามลาดับก็มีดังนี้
• 八卦
• 人的身体上也有八卦图
• 一、乾为首。
以人体来说,乾卦代表头,因为乾为天、
为上、为君,乾代表尊贵,代表首领。
ปา กว ้า ที่ หนึ่ง
• เฉียน คือหัว คือเริ่มต ้น คือจุดเริ่ม
คือข ้างบน คือเจ ้าแห่งกาย (ศูนย์สั่งการ)
• แต่ก็มีข ้อคิดว่า จริงๆแล ้ว พุทธ และ แพทย์แผนจีน
เห็นตรงกัน
ให ้หัวใจเป็น จวิน หรือ เจ ้าแห่งกายทั้งปวง
เพราะเป็นตัวสูบฉีดเลือด
และในพระอภิธรรมกล่าวว่า จิตใจ อยู่ที่ หทยวัตถุ
มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ
เป็นตัวควบคุมความรู้สึกนึกคิดที่แท ้จริง
ก่อนส่งไปยังสมองอีกทีหนึ่ง
• พุทธศาสนา
ไม่ได ้เชื่อว่าศูนย์กลางการควบคุมความคิดความรู้สึก
ของคนเราอยู่ที่หัว
หากอยู่บริเวณใจ
สมองเป็นแค่ที่ทางานของจิตใจหรือตัวรับรู้เท่านั้น
人的头部位于最上方,
头是人体最尊贵的部分,
如首脑、首长、首领等
词语都是受人体头部的启发而来的。
所以乾卦代表人的头。
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
• ส่วนหัวของคน
ถือเป็นส่วนบนสุดของร่างกาย
หัวเป็นส่วนที่มีความสาคัญมากของร่างกาย เพราะ
เป็นที่เก็บของสมอง
ดังมีความหมายของคาว่า โส่ว มากมาย
ที่สื่อถึงความหมายโดยนัยของสมอง
หรือศูนย์การทางานหลัก
เช่น โสวหน่าว首脑、โสวจ่าง首长、
โสวหลิ่ง首领 (แปลว่า หัวหน้า หรือผู้รับผิดชอบ
หลัก)
二、坤为腹。坤为肚子。
肚子是装东西的。
坤代表大地,它幅员辽阔,
能够承载万物。
ปา กว ้า ที่ สอง คุน
• คุน หมายถึง พุง หรือ ท ้อง
ท ้องเพื่อรองรับอาหารต่างๆที่เข ้าสู่ร่างกาย
ในที่นี้ ตามความหมายปากว ้า คุน
หมายถึง ผืนปฐพีอันกว ้างใหญ่
เป็นตัวแทนความไพศาลอาณาเขตกว ้างขวาง
รองรับสรรพสิ่งไว ้
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
用人的腹来代表坤卦,
是警示人们要有大地一样宽广的胸襟,
要能够胸育万物,
要能够容纳百川。
ท ้องหรือพุงของคนเรา เลยเป็น
กว ้า คุน
• คือเปรียบเหมือนความไพศาลของปฐพี
หรือธาตุดินที่คอยรองรับแปรสภาพส่ิงต่างๆ
ให ้ได ้เจริญเติบโต และกักเก็บ
เป็นพื้นเป็นฐานของสารอาหารต่างๆ
เหมือนผืนดินที่รองรับสายน้า ทวีป แผ่นดินโลก
三、震为足。
震为动,而足是走路的。
阳爻主动,阴爻主静。
震卦初爻为阳爻,二三爻为阴爻。
人们要用下边的脚走路走动。
所以用脚来代表震卦的特性。
ปา กว ้า ที่ สาม เจิ้น หมายถึง เท ้า
เจิ้น คือการเคลื่อนไหว
เท ้าก็มีไว ้เพื่อการเคลื่อนที่ของร่างกาย
• ในสัญลักษณ์ ปากว ้า
จะมีขีดที่แตกต่างกันเพื่อแทน ยินหยาง สองลักษณะ
คือ ขีดเต็มแทนด ้วยหยาง ขีดที่แหว่งตรงกลางแทน
ด ้วยหยิน
ในที่นี้ หยาง หมายถึงการเคลื่อนไหว
หยิน หมายถึงการหยุดนิ่ง
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ผังก่อนฟ้า
• หนึ่ง กว ้า เป็นสัญลักษณ์ที่ประกอบด ้วย
ขีดดังกล่าวที่ว่ามาต่างๆลักษณะกัน
มีทั้งหมด 8 แบบ เรียก ปา กว ้า
และแต่ละแบบมี สามเส ้น (ยิน-หยาง ไม่เหมือนกัน)
เรียกแต่ละเส ้นว่า เหยา
หนึ่ง กว ้า มี สาม เหยา
หนึ่ง
กว ้า
หนึ่ง
เหยา
หนึ่ง
เหยา
หนึ่ง
เหยา
กว ้า เจิ้น
• โดยที่ เหยาแรกของ กว ้า เจิ้น
เป็นเส ้นเต็มไม่มีแหว่งกลาง
หรือ เรียกว่า หยางเหยา
เหยาที่สองและสาม เป็นหยิน
3
2
1
• คนเราต ้องใช ้เท ้าในการเคลื่อนที่เดินเหิน
เลยให ้กว้า เจิ้น เป็นตัวแทนของ ขา หรือ เท ้า
ดังจะเห็นได ้ว่า เป็นการมุ่งเน้นเค ้นเอา
แต่ละคุณลักษณะที่จะเอามาประกอบเสริม
เข ้ากับคาอธิบายออกมา ให ้เห็นภาพ
เพราะตรงนี้จู่ๆก็กล่าวเรื่องเหยา ขึ้นมา
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้สองกว ้าไม่ได ้พูดถึงเหยาในกว ้าแต่
ประการใด
四、巽为股。
股是大腿,自膝盖以上至大腿根部为“股”。
大腿是人最有力的地方。
巽为入,我们要进入一个高深的境界,
进入某一个领域,就必须要投入大的精力,
所以用股表示巽卦的德性。
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ปา กว ้า ที่ สี่ ซวิ่น
• ซวิ่น หมายถึง น่อง
น่องและต ้นขา
เป็นจุดที่มีความแข็งแรงยืนหยัดจุดหนึ่งของร่างกาย
คนเรา
ซวิ่น เป็นกว ้ามีนัยหมายถึง การเข้าไป การเข้าสู่
สังคมใหม่ๆ
การยกระดับตนเอง การก้าวขึ้นไป
ซึ่งเราต ้องใช ้ขาในการก ้าว
ก็เลยให ้เป็นกว ้า ซวิ่น
五、坎为耳。
坎为水,水在人体内部代表肾脏,
而肾脏开窍于耳,所以坎为耳。
坎卦的中间一爻为阳爻,上下爻为阴爻,
代表黑暗中的光亮,所以坎也代表聪明智慧之水。
我们常说“耳聪目明”一词,耳朵能听得清楚、
听得明白,一个人肾水旺盛,就会耳聪目明。
ปา กว ้า ที่ ห ้า ขั่น
• ขั่น หมายถึงสายน้า หรือ ธาตุน้า
ธาตุน้าในร่างกายคนเราหมายถึง ไต และ หู
สองอวัยวะนี้มีความสัมพันธ์กัน
จากันง่ายๆว่า ลักษณะของ กว ้า นี้
เหยา ตรงกลางเป็นหยาง
ขนาบบนล่างเป็น หยิน
เปรียบเหมือนความเคลื่อนไหวในที่สงบนิ่ง (ริมตลิ่ง)
ดังนั้น กว ้านี้จึงเปรียบได ้กับ ความฉลาดของธาตุน้า
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
六、离为目离。
代表太阳,能给世间带来一切光明,
而人的眼睛能够洞察天地万物,
所以用离卦代表人的眼睛。
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ปา กว ้า ที่ หก หลี
• หลี เป็นกว ้าตัวแทนของ ดวงตา
หรือ พระอาทิตย์ ที่ส่องแสงสว่างให ้แก่โลก
เปรียบดั่งตาคนที่คอยฉายภาพสอดส่องตรวจตรา
สรรพสิ่ง
(แต่ส่องไม่เห็นดวงตาตัวเอง)
ดังนั้น หลี กว ้านี้ เลยแทนด ้วย ดวงตา
七、艮为手。
艮代表手。
从卦象上说,上爻为阳爻,下两爻为阴爻,
它的形状如同一个人在用两只手做俯卧撑,
所以艮卦代表手。
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ปา กว ้า ที่ เจ็ด เกิ้น
• เกิ้น เป็นตัวแทนของ มือ
จาง่ายๆว่า กว ้านี้
คล ้ายลักษณะคนกาลังใช ้แขนสองข ้าง ดันพื้น
เพราะด ้านบนสุด เป็น หยางเหยา
สองเหยาล่าง เป็น ยินเหยา
八、兑为口-兑卦在自然界代表湖海,
为平地上的缺口。
人最大的缺口就是嘴。
兑卦的特性为喜悦,
而人在高兴地时候往往会夸夸其谈。
所以用口来代表兑卦的德性。
https://medium.com/@QiMenAlchemy/feng-shui-basic-gua-432a0b11564b
ปา กว ้า ที่ แปด ตุ้ย
• ตุ้ย หมายถึง ปาก
เพราะ ตุ้ย ในความหมาย ปา กว้า
แทนด ้วย ทะเลสาบ ห ้วยหนอง
เป็นแอ่งที่ลุ่มของที่ราบพื้นโลก
ร่างกายคนมีจุดที่เว ้า ที่ลุ่มลงไปที่สุดก็คือ ปาก
นัยยะของกว ้านี้แทนด ้วย ความสุขเปรมปรีดิ์
เหมือนปากคนที่จะพูดมากเวลามีความสุข
• จากที่อ่านแล ้วสรุปได ้ว่า บทความนี้
เป็นการยกตัวอย่างขึ้นมาเปรียบเปรย
ให ้จาแต่ละ กว ้า ได ้และเข ้าใจบทบาทอย่างคร่าวๆ
ไม่ใช่มุ่งหมายอธิบายขยายความความหมายของ
กว ้า
• นี่คือจุดสาคัญที่อยากมุ่งเน้นว่า เวลาอ่านหรือศึกษา
ตารา
ต ้องตีความให ้ออกว่า ตารานั้นๆ หรือบทความนั้นๆ
ผู้เขียนต ้องการเขียนเพื่ออะไร และเพื่อให ้ใครอ่าน
จะได ้ไม่ไขว ้เขวว่า ตารานึงว่าซ ้าย ตารานึงว่า ขวา จะ
เชื่อใครดี
ตาราจีนพื้นฐานจริงๆล ้วนมีพื้นฐานเดียว
แต่ผ่านกาลเวลาและการแต่งเติมมา
บางทีก็เลยเหมือนกับว่าย ้อนแย ้งกันไป
หากเข ้าใจหลักการจะเข ้าใจว่า เป็นอันเดียวกัน ดุจตา
บอดคลาช ้าง
https://bit.ly/3Q3uVsI
ตุ้ย ปาก ลิ้น ซ่างเจียว
หลี นัยตา หัวใจ
เจิ้น เท ้า ตับ ผม
ซวิ่น มือ ชี่
ขั่น หู เลือด ไต
เกิ้น จมูก นิ้วชี้ หลัง
คุน ท ้อง พุง
• ทั้งนี้ หากมีความรู้พื้นฐานเรื่อง ห ้าธาตุ
ก็สามารถนา แต่ละกว ้า ไปโยงกับความหมายแต่ละ
ธาตุ ในห ้าธาตุ
แล ้วโยงกับความหมายอวัยวะร่างกาย เส ้นลมปราณ
ตามแต่ละธาตุได ้ต่อไป
ทั้งนี้ นอกจากบทสรุปอวัยวะ
ตามลักษณะความหมายของ กว ้า แล ้ว
บางตารายังมีแบ่ง กว ้า เป็นแต่ละส่วนของร่างกาย
ตามภาพที่ผมวาดเอาไว ้
• https://bit.ly/3Q3uVsI

More Related Content

Similar to พื้นฐานชีวิต 4.pptx

วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
Padvee Academy
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
Tongsamut vorasan
 
พื้นฐานชีวิต 30.pptx
พื้นฐานชีวิต 30.pptxพื้นฐานชีวิต 30.pptx
พื้นฐานชีวิต 30.pptx
SunnyStrong
 
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
Tongsamut vorasan
 
พระมหาชนก
พระมหาชนกพระมหาชนก
พระมหาชนก
Danai Thongsin
 
พื้นฐานชีวิต 25.pptx
พื้นฐานชีวิต 25.pptxพื้นฐานชีวิต 25.pptx
พื้นฐานชีวิต 25.pptx
SunnyStrong
 
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัวหนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
Poramate Minsiri
 
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptxพื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
SunnyStrong
 

Similar to พื้นฐานชีวิต 4.pptx (20)

พื้นฐานชีวิต 11.pptx
พื้นฐานชีวิต 11.pptxพื้นฐานชีวิต 11.pptx
พื้นฐานชีวิต 11.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 10.pptx
พื้นฐานชีวิต 10.pptxพื้นฐานชีวิต 10.pptx
พื้นฐานชีวิต 10.pptx
 
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อวิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
วิชาปรัชญาจีน ตอน ปรัชญาเล่าจื๊อ
 
พื้นฐานชีวิต 19.pptx
พื้นฐานชีวิต 19.pptxพื้นฐานชีวิต 19.pptx
พื้นฐานชีวิต 19.pptx
 
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต    ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
 
พื้นฐานชีวิต 30.pptx
พื้นฐานชีวิต 30.pptxพื้นฐานชีวิต 30.pptx
พื้นฐานชีวิต 30.pptx
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
 
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิดสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
 
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
5 มรรควิธีที่ง่าย easypractice
 
พระมหาชนก
พระมหาชนกพระมหาชนก
พระมหาชนก
 
พื้นฐานชีวิต 25.pptx
พื้นฐานชีวิต 25.pptxพื้นฐานชีวิต 25.pptx
พื้นฐานชีวิต 25.pptx
 
ชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้ายชาติสุดท้าย
ชาติสุดท้าย
 
หนังสือ สำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขาร หลวงตามหาบัว
หนังสือ สำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขาร    หลวงตามหาบัวหนังสือ สำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขาร    หลวงตามหาบัว
หนังสือ สำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขาร หลวงตามหาบัว
 
หนังสือพิมพ์แจกในงานหลวงตามหาบัว
หนังสือพิมพ์แจกในงานหลวงตามหาบัวหนังสือพิมพ์แจกในงานหลวงตามหาบัว
หนังสือพิมพ์แจกในงานหลวงตามหาบัว
 
ไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า "ชาติสุดท้าย" โดย หลวงตามหาบัว
ไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า "ชาติสุดท้าย" โดย หลวงตามหาบัวไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า "ชาติสุดท้าย" โดย หลวงตามหาบัว
ไม่มาเกิดมาตายเรียกว่า "ชาติสุดท้าย" โดย หลวงตามหาบัว
 
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัวหนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
หนังสือแจกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว
 
What is life
What is lifeWhat is life
What is life
 
02life
02life02life
02life
 
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptxพื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
 

More from SunnyStrong

How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
SunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
SunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
SunnyStrong
 

More from SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 

Recently uploaded

Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdfMeaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
George638435
 

Recently uploaded (8)

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 
Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdfMeaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
Meaning Recognition การใช้คำศัพท์ให้ตรงความหมาย.pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 

พื้นฐานชีวิต 4.pptx