SlideShare a Scribd company logo
1 of 574
ฟาร ์มสุข 1
เรียบเรียงโดย เมทนี แสงธรรม
Complied by: Martin Chan
编制者: 马丁 陈
22.3.2023
9.27AM.
https://sinsae.com/sinsaecalendar-19-03-66/
http://horoacademy.com/program/program2.php
http://horoacademy.com/program/program3.php
โลกภายนอก ได้แก่ วัตถุ เช่น
ความมั่งคั่ง สุขภาพ ความรัก (เป็นผล)
โลกภายใน ความคิด อารมณ์ จิตใจ
ทางานร่วมกับพลังงานต่างๆ เช่น สมาธิ
พลังฮวงจุ้ย (เป็นเหตุ)
การเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
ต้องเริ่มจากภายใน
เพราะผลลัพธ์ทุกอย่างอยู่ในโลกของเห
ตุและผล ☯
ยกตัวอย่าง
ศาสตร ์โหงวเฮ้ง
จะแสดงประกายสี รูปทรง
และขนาดของอวัยวะต่างๆ
ตามอุปนิสัยใจคอ
และกรรมเก่าที่สั่งสมมา
เช่น คนที่ปีกจมูกเล็กจะไม่รู้จักเก็บออม
ส่วนคนปีกจมูกใหญ่จะไม่สุรุ่ยสุร่าย
แต่หากมีรูจมูกเล็ก
มองรูปหน้าตรงไม่เห็นรูจมูก
ก็จะกลายเป็นคนที่ตระหนี่ถี่เหนียว
จึงมีบริษัทใหญ่หลายแห่ง
ในเมืองไทยใช ้วิชานี้
ประกอบการคัดเลือกบุคลากร
เข้าทางานในตาแหน่งสาคัญครับ
ตามประวัติ
ท้าวเวสสุวรรณ
เป็นอดีตพราหมณ์ที่ร่ารวย
ทาทานที่เป็นสาธารณะตลอดชีวิตจนสิ้
นลม
จึงถือเป็น เทพเจ้าแห่งความร่ารวย
และมีอานาจบังคับบัญชาภูติผีปีศาจ
อาฏานาฏิยปริตร
เป็นคาถาที่ท่านได้นาขึ้นทูลเกล้าถวาย
พระพุทธเจ้า
เพื่อให้พุทธบริษัทสวดป้องกันเหล่ายักษ์
ภูตผีปีศาจที่ไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยไ
ม่ให้เข้ามาทาร้าย
และเกิดความสุขสวัสดี
นิยมสวดขับไล่สิ่งอัปมงคล
อานาจคุณไสย และอาถรรพ์
โดยจะจัดเป็นพิธีกรรมกันใหญ่โต
เรียกว่า สวดภาณยักษ์
https://bit.ly/3FIfwvj
เรากาลังเข้าสู่ยุค 9 ตามหลักฮวงจุ้ย
ถ้าคานวณตามหลักทฤษฎีในศาสตร ์วิช
า
ก็จะเริ่มต้นใน ปี พ.ศ. 2567
แต่แน่นอนว่า
พลังงานธรรมชาติไม่ได้เหมือนกับการเ
ปิด-ปิดสวิตซ ์
ที่กดปุ่มและเปลี่ยนยุคทันที
แต่จะเหมือนกับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆขึ้นใ
นยามเช ้า ชัดเจนสุดในช่วงเที่ยงวัน
และค่อยๆตกลงในยามเย็น
ซึ่งหมายความได้ว่าปัจจุปันนี้
โลกเริ่มได้รับอิทธิพลของพลังของดาว
9 แล้ว
คุณอาจมีคาถามในใจว่าแล้วดาว 9
มันส่งผลยังไงกับชีวิตเรากันหล่ะ...
เนื่องจากดาว 9 นั้น
มีพลังงานของธาตุไฟ
ดังนั้นสิ่งที่มีความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกั
บธาตุไฟ
จะโดดเด่นขึ้นในยุคนี้
ไฟเป็นธาตุที่มีความสว่างไสว นาทาง
และชักจูงผู้คนได้ มีความโดดเด่น
เป็นพลังงานที่สามารถสร ้างสรรค์ในสิ่ง
ที่ดี
และในขณะเดียวกัน
ก็สามารถแผดเผาสิ่งที่มีอยู่ให้กลายเป็น
จุล
ดังนั้นสิ่งที่สอดคล้องกับธาตุไฟ
อาทิเช่น AI เทคโนโลยีล้าๆ
พลังงานทดแทน
การตลาดออนไลน์ การทาแบรนดิ้ง
การสร้างภาพลักษณ์ตัวเอง
หรือภาพลักษณ์องค์กร
ความบันเทิงต่างๆ
โดยเฉพาะที่ผ่านสื่ออนไลน์ Youtuber
หรือ Influencer
การเจริญในด้านของจิตวิญาญ
ความเชื่อ ลัทธิใหม่ๆ
การค้นพบความรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน
หรือแม้กระทั่งสงครามที่กาลังเกิดขึ้นใน
ปัจจุบันนี้
สิ่งเหล่านี้จะเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และมีอิทธิพลไปอีกประมาณ 20 ปี
ดังนั้น 20
ปีต่อจากนี้เราควรทาธุรกิจอะไร
ทุกท่านก็คงได้คาตอบกันแล้ว
ต่อไปเราจะลงลึกในระดับปัจเจกบุคคล
จากยุคที่ผ่านมา
ที่ได้รับอิทธิพลจากดาว 8
เป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่อายุน้อย
จึงเป็นเหตุผลว่า
ทาไมเราถึงเห็นคนประสบความสาเร็จกั
น
ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
เช่น Mark Zuckerberg เป็นต้น
แต่สาหรับในยุค 9 นั้น
จะเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่มีอายุ
เราก็จะค่อยๆเห็น ผู้หญิง
มีบทบาทในการเป็นผู้นา
มากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
ตามศาสตร ์จีน
ถ้าต้องการดูเรื่องของการงาน ธุรกิจ
เราจะดูในช่องของเดือนเกิด
ว่าเราเกิดเดือนนักษัตรอะไร
ดังนั้น
ถ้าจะโฟกัสว่ายุค 9
เราควรผลักดันตัวเองยังไง
ให้ประสบความสาเร็จ
ก็จะพิจารณาได้ตามนี้
คนที่เกิดเดือนธาตุไฟ
ได้แก่เดือนมะเส็ง มะเมีย
และมะแมช่วงต้น
หรือก็คือ
เกิดช่วงประมาณวันที่ 6 พ.ค.-18
ก.ค.
ไฟเจอไฟ ยิ่งแผ่กระจาย
สิ่งที่ควรโฟกัสก็คือ การหาพันธมิตร
โดยเน้นในกลุ่มธุรกิจของธาตุไฟเป็นห
ลัก
ใช้เทคโนโลยี
มาเป็นเครื่องทุ่นแรงของเรา
การ Outsource
คือกลยุทธ์หลักของธุรกิจ
โฟกัสเฉพาะในสิ่งที่เราทาได้ดี
ส่วนที่เหลือกระจายให้คนอื่นที่ทาได้ดีก
ว่า
ช่วยจัดการไป
การศึกษาด้านจิตวิญญาณ ปรัชญา
ศาสาตร ์ลี้ลับต่างๆจะทาให้ทะลุศักยภาพ
ของตัวเองไปอีกขั้น
สนใจสั่งซื้อเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะดวงชะ
ตาคุณได้ที่ http://bit.ly/2SG6YJH
คนที่เกิดเดือนธาตุไม้
ได้แก่เดือนขาล เถาะ และมะโรงช่วงต้น
หรือก็คือ
เกิดช่วงประมาณวันที่ 4 ก.พ.-16
เม.ย.
ไม้เจอไฟ ก่อประโยชน์ได้มหาศาล
สิ่งที่ควรโฟกัส
คือ การสร้างสรรค์
และการพัฒนาต่อยอด
โดยพยายาม
เน้นไปในกลุ่มธุรกิจที่เป็นธาตุไฟแล้ว
จะเติบโตได้ไว
การ R&D
คือกลยุทธ์หลักของธุรกิจ
คิดสร ้างสรรค์บริการ
และผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่ๆ
ตอบโจทย์กับสังคมในยุคปัจจุบัน
การสอน และการเรียนรู้
จะเป็นอาวุธสาคัญในยุคนี้ของคุณ
พยายามลับให้คมอยู่เสมอ
สนใจสั่งซื้อเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะดวงชะ
ตาคุณได้ที่ http://bit.ly/2SG6YJH
คนที่เกิดเดือนธาตุทอง
ได้แก่เดือนวอก ระกา และจอช่วงต้น
หรือก็คือ
เกิดช่วงประมาณวันที่ 8 ส.ค.-19
ต.ค.
ทองเจอไฟ ก่อเกิดอารยธรรม
สิ่งที่ควรโฟกัส
คือ ความมุมานะ อดทน
กล้าในสิ่งที่คนอื่นกลัว
การสร้างระบบมาตรฐาน
และ Duplicate ระบบไปยังธุรกิจใหม่ๆ
คือ กลยุทธ์หลักของเรา
ฐานต้องแน่น พอแน่นแล้ว
ต้องกล้าขยายไปยังพื้นที่ที่คู่แข่งเราไม่ก
ล้าเข้า
การลงมือทา
คือกุญแจสู่ความสาเร็จของคุณ
สนใจสั่งซื้อเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะดวงชะ
ตาคุณได้ที่ http://bit.ly/2SG6YJH
คนที่เกิดเดือนธาตุน้า
ได้แก่เดือนกุน ชวด และฉลูช่วงต้น
หรือก็คือ
เกิดช่วงประมาณวันที่ 7 พ.ย.-17
ม.ค.
น้าเจอไฟ ก่อเกิดเป็นขุมทรัพย์
น้าเห็นธาตุไฟเป็นโชคลาภ
สิ่งที่ควรโฟกัส
คือ ปัญญา และการวางแผนที่แยบยล
การหาช่องโหว่ในตลาด
หาpain pointของลูกค้า
และสร ้างคุณค่าจากสิ่งนั้น
พร ้อมทั้งเปลี่ยนเป็นรายได้
หรือกาไรให้กับเรา
คือกลยุทธ์หลักของธุรกิจ
ถึงเวลาแล้ว
ที่คุณจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นา
ภาวะผู้นาคือสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้โดยเร็ว
ที่สุด
สนใจสั่งซื้อเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะดวงชะ
ตาคุณได้ที่ http://bit.ly/2SG6YJH
คนที่เกิดเดือนธาตุดิน
ได้แก่เดือนมะแมช่วงปลาย
มะโรงช่วงปลาย
จอช่วงปลาย ฉลูช่วงปลาย
หรือก็คือ
เกิดช่วงประมาณวันที่ 19 ก.ค.-7 ส.ค.
และ 17 เม.ย.-5 พ.ค.
และ 20 ต.ค.-6 พ.ย.
และ 18 ม.ค.-3 ก.พ.
ดินเจอไฟ ก่อเกิดเป็น ความศรัทธา
สิ่งที่ควรโฟกัสคือความน่าเชื่อถือ
ถ้าเป็นไปได้
ก็พยายามผันตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในกลุ่มธุรกิจธาตุไฟ
การสร้าง Brand Loyalty
คือกลยุทธ์หลักของธุรกิจ
สร ้างความเชื่อมั่น
สร ้างความน่าเชื่อถือผ่านเรื่องเล่า
โดยมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือสนับสนุน
รวมถึงการเปลี่ยน Data ที่มี
ให้เป็น Information
เพื่อความได้เปรียบในการตัดสินใจ
จะเป็นสิ่งที่ชี้ชะตาคุณในยุคนี้
สนใจสั่งซื้อเนื้อหาเจาะลึกเฉพาะดวงชะ
ตาคุณได้ที่ http://bit.ly/2SG6YJH
ขอให้ทุกท่านโชคดีในยุค 9
#DestinySoln
Content
33 4 ความมหัศจรรย์ของเต่าแห่งแม่น้าโหลและฮวงจุ้ยดาวเหิน
61 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า สภาพอากาศวันนี้ (23 มีนาคม
2566)
64 ราคาทองคาวันนี้
94 จอห์น วินสตัน โอโนะ เลนนอน
107 เข้าใจเคล็ดลับความสุข จากประเทศที่คนมีความสุขที่สุดในโลก
ด้วย Free Online Tour จากประเทศฟินแลนด์
114 ฮวงจุ้ยบ้าน ทิศตะวันตก และทิศใต้ อย่ารีบสรุปว่าไม่ดี!
139 ทฤษฎีอิน-หยาง Yin & Yang พื้นฐานการแพทย์แผนจีน
196 八字(ปาจื่อ)
205 หลักการพิจารณาฮวงจุ้ย
267 (24 มี.ค.2566) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
270 ฟิวเจอร ์พาร ์ครังสิต เปิด “เมกา ฮาร ์เบอร ์แลนด์” สนามเด็กเล่นในร่มใหญ่
ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก
291 Generation Clash: ก้าวข้ามความขัดแย้งแห่งยุคสมัย กับ กนกรัตน์
เลิศชูสกุล
397 วิธีจัดฮวงจุ้ย แต่ละทิศของบ้าน
404 วิถีนักเขียน : มาดูซิว่า 16 นักเขียนระดับโลกเขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ยังไง
443 What is Yin Yang?
458 What is Qi?
4
ความมหัศจรรย์ของเต่า
แห่งแม่น้าโหล
และฮวงจุ้ยดาวเหิน
http://bit.ly/404C8Op
เลขศาสตร ์ในฮวงจุ้ย
มีกาเนิดมาจากการเรียงลาดับทางคณิต
ศาสตร ์
อันลึกลับเรียกว่า แผนภูมิโหลซู
ตามตานานจีน
กล่าวว่า ในราว 6,000 ปีมาแล้ว
เต่ายักษ์ตัวหนึ่ง
ผุดขึ้นจากแม่น้าโหล
ในตอนกลางของจีน
คนโบราณ
พบแบบแผนอย่างหนึ่ง
บนหลังเต่า
แบบแผนนี้
คือพื้นฐานของเลขศาสตร ์จีน
และกลายเป็นผังนวจัตุรัส
(แผนภูมิฮวงจุ้ย 9 ช่อง)
ที่มีชื่อเสียง
แผนภูมิโหลซู ต้นกาเนิดของนวจัตุรัส
(แผนภูมิฮวงจุ้ย 9 ช่อง)
แต่ละจัตุรัส
เป็นตัวแทนของ 1 ทิศ
และ 1 หมายเลข นี้
เรียกว่า แผนภูมิโหลซู
ซึ่งเป็นรากฐานของฮวงจุ้ยสานักดาวเหิ
น
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ
เกี่ยวกับผังนวจัตุรัส
คือสามารถบวกตัวเลข 3 จานวน
ในแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง
แล้วได้
ผลลัพธ์เท่ากับ 15 เสมอ
กล่าวกันว่า
จักรพรรดิจีนองค์หนึ่ง
ที่มีปัญญาเฉียบแหลม (จักรพรรดิฉู่)
ผนวก ปากัว จาก อี้จิง
เข้าไปในแผนภูมินี้
ผลของการรวมกันนี้
ในที่สุด
ก็ค่อยๆ พัฒนา
ไปเป็นเลขศาสตร ์และระบบฮวงจุ้ย
การรวมกันระหว่างแผนภูมิ
โหลซู กับ ปากัว
คือรากฐานของเลขศาสตร ์จีน
เนื่องจาก
เชื่อกันว่า ปากัว
ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล
หมายเลขทั้งเก้าของแผนภูมิโหลซู
จึงมีความสาคัญในการทานายโชคชะต
า
ดังนั้น
การใช้เวลาสักเล็กน้อยจดจาความสาคั
ญ
ของแต่ละหมายเลขจึงเป็นสิ่งคุ้มค่า
1 (ธาตุน้า) 6 (ธาตุทอง) และ 8
(ธาตุดิน)
เป็นหมายเลขที่ดี
ใน 3 หมายเลขนี้ 8 ดีที่สุด
เนื่องจาก
มันเป็นตัวแทน
ของความหวังและความเจริญรุ่งเรือง
(ดูตอนที่ 3)
6 เป็นตัวแทนของความมั่งคั่งร่ารวย
และความเจริญรุ่งเรืองในยุคหก
(1964-1983)
เมื่อยุคเจ็ด "เข้ามาแทนที่"
ในปี 1984
อิทธิพลที่ดีจาก 6 ก็เริ่มเสื่อมสลายไป
9 เป็นธาตุไฟ
เนื่องจากยุคนี้จะยังมาไม่ถึงจนกระทั่งปี
2024
9
จึงเป็นตัวแทนของโชคลาภในอนาคตอั
นยาวไกล และไม่สาคัญในยุคปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม
ธรรมชาติของธาตุไฟแห่งยุคเก้า
เป็นภัยต่อยุคเจ็ด
ซึ่งเป็นธาตุทอง
2 และ 5 เป็นหมายเลขที่ไม่ดี
เนื่องจาก 2 มักนาสุขภาพที่ไม่ดีมาให้
และ 5
เป็นตัวแทนของการใช้อานาจตามอาเภ
อใจ
2 กับ 5 รวมกันเมื่อใด
จะนาเรื่องเดือดเนื้อร ้อนใจมาให้
เมื่อนั้น
มันเทียบได้กับความโกรธและความขุ่นเ
คือง
4 เป็นตัวแทนของเรื่องรักๆ ใคร่
วรรณคดี การศึกษาและกามารมณ์
แม้แต่คนจีนสมัยก่อน
ก็มักแปลกใจในความสัมพันธ์ที่พูดถึงไ
ปนี้
ตัวอย่างเช่น
คนกวางตุ้งชอบ 2
เพราะเมื่อออกเสียงคาว่า 2
ในภาษากวางตุ้ง
จะฟังเหมือนคาว่า"ง่าย"
เช่นเดียวกับคาว่า 8
ซึ่งฟังเหมือนคาว่า "เจริญรุ่งเรือง"
ส่วน 4 เป็ นหมายเลขต้องห้าม
เพราะฟังเหมือนคาว่า "ตาย"
แต่ในฮวงจุ้ย ต้องหลีกเลี่ยง 2 กับ 5
ให้จงได้
แต่เลข 4 สามารถนาเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ
หรือการเลื่อนขั้นเลื่อนตาแหน่งมาให้
ส่วน 8 ดีทั้งในแง่ของฮวงจุ้ย
และในแง่ของความเชื่อตามประเพณีขอ
งชาวจีน
การเรียงลาดับหมายเลขที่โดดเด่น
จาก เต่าลึกลับ
ซึ่งเรียก กันว่าแผนภูมิโหลซูนี้
มีฐานะอันสาคัญยิ่งในฮวงจุ้ย
เนื่องจาก
เชื่อกันว่า
แบบแผนจากหมายเลข 1 ถึง 9
เผยถึง
แบบแผนที่เคลื่อนไหวของพลังที่จับต้อง
ไม่ได้
ของฮวงจุ้ย
พลังที่จับต้องไม่ได้ในฮวงจุ้ย
ไม่อยู่นิ่ง
มันมีลักษณะพลวัต
และเคลื่อนไหว
ในแบบแผนที่ตายตัวตามกาละของมัน
แบบแผนแห่งการเคลื่อนไหว
เห็นได้ในผังนวจัตุรัส
ผังนวจัตุรัส
เป็ นตัวแทนของ 8 ทิศทางและ 1
ศูนย์กลาง
ควรตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่า
นวจัตุรัส (ที่มาจากแผนภูมิโหลซู)
หันหัวกลับเสมอ
กล่าวคือ
ทิศใต้อยู่ข้างบนในตาแหน่งของทิศเหนื
อ
เนื่องจากมันเป็นแบบแผนต้นกาเนิดขอ
งแผนภูมิโหลซู
แสดงแผนภูมิโหลซู
โดยมีหมายเลข 5 อยู่ที่ศูนย์กลาง
เราเรียกมันว่า แผนภูมิต้นกาเนิด
เพราะมันคัดลอก
มาจากแผนภูมิที่ปรากฏบนหลังเต่ายักษ์
ในแม่น้าโหล
เราได้แบบแผนที่เคลื่อนไหวของพลังที่จั
บต้องไม่ได้จากแผนภูมิต้นกาเนิดนี้เอง
ถ้าเริ่มต้นจาก 5 ที่ศูนย์กลาง
และนับไปหาหมายเลขถัดไปตามลาดับ
จะพบแบบแผนดังต่อไปนี้
คือ ศูนย์กลาง 5
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 6
ทิศตะวันตก 7 ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
8 ทิศใต้ 9
ทิศเหนือ 1ทิศตะวันตกเฉียงใต้ 2
ทิศตะวันออก 3
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ 4
5 คือหมายเลขปกครอง
และเป็นตัวแทนของยุคที่กาลังปกครองอ
ยู่
ดังนั้น
แผนภูมิโหลซูจึงสอดคล้องกับยุคห้า
ในยุคซึ่งเป็นยุคเจ็ด
หมายเลข 7 จะอยู่ที่ศูนย์กลาง
และหมายเลขอื่น ๆ
จะเปลี่ยนตาแหน่งของมันตาม
รูปที่ 7 ตัวอย่างพลังที่จับต้องไม่ได้ระหว่างปี 1984-2003
(ยุคเจ็ด)
ผังของยุคเจ็ด
แสดงให้เห็นในรูปที่ 7
ผังนี้บ่งชี้ถึงพลังที่จับต้องไม่ได้
ในระหว่างปี 1984 ถึงปี 2003
และเป็นแนวทางพื้นฐาน
สาหรับการผูกดวง
ชะตากาเนิดของบ้าน
ซึ่งสร ้างเสร็จในยุคนี้
เราสามารถวาดผังที่คล้ายคลึงกันได้ทุก
ปี
โดยหมายเลขปกครอง
ที่ศูนย์กลาง
เปลี่ยนไปปีต่อปี เดือนต่อเดือน
และกระทั่งวันต่อวัน
ตัวอย่าง
เช่น ในปี 1988
หมายเลขปกครองคือ 3
และในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน
หมายเลขปกครองคือ 6
เมื่อนาหมายเลขเหล่านี้
มารวมกัน
เราจะได้ผังแสดงพลังที่จับต้องไม่ได้
สาหรับเดือนตุลาคม 1988
ผังนี้สามารถเปรียบเทียบ
กับดวงชะตากาเนิดของบ้าน
เพื่อกาหนดเหตุการณ์ต่าง ๆ
ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 1988
พลังที่จับต้องไม่ได้ในเดือนตุลาคม
1988
ปีจร 3 เดือนจร 6
ก่อนหน้านี้
เราเห็นแล้วว่า 2 กับ 5
คือหมายเลขที่ไม่ดี
รูปนี้แสดงให้เห็นว่า
ในเดือนตุลาคม 1988
2 กับ 5 อยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้
ดังนั้น ถ้าบ้านนี้ไม่มีฮวงจุ้ยด้านอื่น ๆ
ที่ดีแล้ว
ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้มากว่า
จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี
กับคนที่อยู่ในห้องทางทิศตะวันออกเฉีย
งเหนือ
ในเดือนตุลาคม 1988
แน่นอนเหตุการณ์ไม่ดีแบบไหน
และความรุนแรงของมัน
ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยจานวนหนึ่ง
ปัจจัยเหล่านี้
ได้แก่ ดวงชะตากาเนิดของบ้าน
ดวงชะตากาเนิดของคนที่ได้รับผลกระท
บ
การจัดเครื่องเรือน
และการตกแต่งที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณ
นั้น สภาพแวดล้อมภายนอก และอื่นๆ
วีธีประเมินบ้านแบบนี้
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแบบแผนที่เคลื่อนไ
หว
ของพลังที่จับต้องไม่ได้
ซึ่งเรียกว่าฮวงจุ้ยสานักดาวเหิน
และซินแสฮวงจุ้ย
ในฮ่องกงและไต้หวัน
หลายคนนิยมใช ้
(เหตุที่เรียกพลังที่จับต้องไม่ได้
ซึ่งแทนด้วยหมายเลขนี้ว่าดาวเหิน
ก็เพราะมันเหินผ่านมิติของกาละและเท
ศะ)
ตัวอย่างที่แล้ว
เป็นตัวอย่างง่าย ๆ
ตอนนี้เรามาดูตัวอย่างที่สลับซับซ ้อนมา
กขึ้น
ในรูป(หน้าถัดไป)กัน
มันคือ ผังดาวเหิน
ในเดือนมิถุนายน 1988
พลังที่จับต้องไม่ได้ในเดือนมิถุนายน19
88
หมายเลข 1 6 และ 8 เป็นหมายเลขที่ดี
และมันอยู่ทางทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
และทิศเหนือตามลาดับ
บ้านที่มีผังแบบนี้ถือว่าโชคดี
ยกตัวอย่าง
มีหญิงท่านนึง
มีบ้านแห่งหนึ่งที่ได้รับผลดี
จากทิศทางที่เป็นมงคลเช่นนี้
กล่าวคือ
ทางเข้าบ้านอยู่ทางทิศเหนือ
เตาอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
และห้องนอนอยู่ทางทิศตะวันออก
ในเดือนมิถุนายน 1988
เธอให้กาเนิดลูกชายที่สุขภาพแข็งแรงค
นหนึ่ง
กรมอุตุฯ เผย อากาศร ้อนถึงร้อนจัด -
ฝนฟ้ าคะนองบางแห่ง วันนี้ร ้อนแตะ 41
องศาฯ
'กรมอุตุนิยมวิทยา' พยากรณ์อากาศ
สภาพอากาศวันนี้ (23 มี.ค.66)
ทั่วไทยอากาศร ้อนถึงร ้อนจัด
อุณหภูมิสูงสุดวันนี้ 41 องศาฯ
ภาคอีสาน - ตะวันออกมีฝนฟ้ าคะนอง
ลมกระโชกแรงบางแห่ง
'กรมอุตุนิยมวิทยา'
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
สภาพอากาศวันนี้ (23 มีนาคม 2566)
ความกดอากาศต่า
เนื่องจากความร ้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทาให้บริเวณดังกล่าวมี
'อากาศร ้อน'
โดยทั่วไปกับมีฟ้ าหลัวในตอนกลางวัน
และมีอากาศร ้อนจัดบางพื้นที่
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้
ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน
ล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ทาให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
และภาคตะวันออกมีฝนฟ้ าคะนอง
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุ
ขภาพ
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร ้อนถึงร ้อนจัด
รวมถึงระวังอันตรายจากฝนฟ้ าคะนอง
และลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
สาหรับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉี
ยงเหนือ
พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน
ทาให้ภาคใต้มีฝนฟ้ าคะนองบางแห่ง
ฝุ่ นละอองในระยะนี้ :
ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควัน
อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก
เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกาลังอ่อน
ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริม
ณฑล
และภาคตะวันออก
มีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์
น้อย
เนื่องจากมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดป
กคลุม
ทาให้บริเวณดังกล่าวอากาศระบายได้ดี
ราคาทองคาวันนี้
ราคาทองวันนี้ตามประกาศสมาคมค้าทองคา
ทองแท่ง ทองรูปพรรณ ราคาทองย้อนหลัง
กราฟราคาทอง ข่าวแนวโน้มราคาทอง
https://sinsae.net/chinesecalendar/chinesecalendar.aspx
ทิศห้าม เดือน มี.ค. ระหว่างวันที่ 6/3/66-5/4/66
- ซาสั่วะ (อสูร) อยู่ในทิศ ตะวันตก
- ส่วยผั่ว (แตกสลาย) คือช่วง 255-285 องศา
หากหลังอาคารหรือทิศกระทาการ
อยู่ในทิศดังกล่าว
ห้ามกระทบ ซ่อมแซม ย้ายเข้าออก ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
โต๊ะทางาน เตียงนอน
จะเกิดเหตุ วิวาท วุ่นวาย
- โหงวอึ้ง (เบญจภูติ - อุปสรรค ติดขัด)
อยู่ทิศตะวันออก และ ตะวันตกเฉียงเหนือ
หลีกเลี่ยงการกระทบซ่อมแซม
กรณีจาเป็ นให้ราดน้า 5 ขัน (ถัง)
จะช่วยผ่อนหนักเป็ นเบา
ดาวจร ระหว่างวันที่ 4/2/66-6/3/66
ประตูที่อยู่ตาแหน่ง
- ทิศเหนือ มีดาว 4 หมายถึง การแก้ปัญหาลุล่วง
การศึกษา ความรักโด่ดเด่น (ดี)
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีดาว 2 หมายถึง การงาน
การเงินนิ่ง มีอุปสรรค เจ็บป่วย (ไม่ดี)
- ทิศตะวันออก มีดาว 6 หมายถึง ตาแหน่งมั่นคง มีบารมี
(ปานกลาง)
- ทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีดาว 7 หมายถึง เกิดเหตุ แย่งชิง
สูญเสีย สูญหาย (ไม่ดี)
- ทิศใต้ มีดาว 3 หมายถึง วุ่นวาย มีเหตุติดขัด ไม่ราบรื่น
แต่หากเป็ นร้านค้าถือว่าดี (ปานกลาง)
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีดาว 5 หมายถึง อุดตัน วิบัติ
เกิดเหตุร้าย (ไม่ดี)
- ทิศตะวันตก มีดาว 1 หมายถึง ชีวิตการงานราบรื่น
เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น (ดี)
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีดาว 9 หมายถึง มีข่าวดี
สมหวัง ยินดี (ดี)
ชี่สภาวะอากาศ ที่จะมีปรากฏในช่วง 4/2/66-
6/3/66
- มีกระแสลมมาก ชื้นฝน ยังมีความแห้งแล้ง
(ช่วงแรกยังอาจเกิดสภาวะ หนาวเย็น
มีกระแสลมมากผสม)
*
ต้องใช ้ฤดูกาลแต่ละภูมิภาคประกอบการพิจารณาสภาพอ
ากาศด้วย
3 วัฏจักรฮวงจุ้ย
http://bit.ly/3LHxB0m
ยกตัวอย่าง ในยุคเจ็ด
(ในตอนที่1 http://bit.ly/3yXdyn1
เราได้ตรวจสอบพลังที่จับต้องได้
และพลังที่จับต้องไม่ได้ในฮวงจุ้ย
ไปแล้ว)
อิทธิพลเหล่านี้
มีมิติด้านเทศะ
ในแง่ของทิศทางและที่ตั้ง
มันยังมีมิติของกาละอีกด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากแต่ละช่วงของกาลเวลา
มันจะเคลื่อนไหว
ตามแบบแผนของวัฏจักรที่แน่นอนตาย
ตัว
การที่เราจะเข้าใจ
แบบแผนของพลังที่จับต้องไม่ได้นั้น
เราต้องทาความคุ้นเคยกับมิติของกาล
ะ
อีกนัยหนึ่ง
คือทาความเข้าใจ
มโนทัศน์ของวัฏจักรแห่งกาลเวลา
ในฮวงจุ้ย
ในโหราศาสตร ์ตะวันตก
เวลาแบ่งออกเป็น 12
สุริยลักษณ์ในจักรราศี
ขณะนี้ เราเข้าสู่ยุคของราศีกุมภ์
ซึ่งยาวนานถึง 2,000 ปี
ในฮวงจุ้ย
ก็มีมโนทัศน์เกี่ยวกับวัฏจักรของกาลเว
ลา
ในแบบที่คล้ายคลึงกันนี ้
แต่แทนที่จะแบ่งเวลาตามจักรราศี
ซึ่งครองด้วยกลุ่มดาว
ระบบของจีน
กลับแบ่งออกเป็น 9 ยุค
แต่ละยุคกินเวลา 20 ปี เวลา 20 ปี
แบ่งออกเป็น 3 ช่วง
ซึ่งรวมกันเป็นหนึ่งมหายุค
ดังนั้น หนึ่งวัฏจักร
จึงกินเวลา 180 ปีกว่าจะครบรอบ
แต่ละยุคจะมีตัวเลขหนึ่งตัวเลขจาก 1
ถึง 9
เรียงกันตามลาดับ
การแบ่งเวลาเป็ นยุคเช่นนี้
มีกาเนิดมาจาก
การเรียงลาดับทางคณิตศาสตร ์อันลึกลั
บ
ที่เรียกว่า แผนภูมิโหลชู
เช่นเดียวกับ ปากัว
(เครื่องหมายตรีลักษณ์ทั้ง 8)
ในคัมภีร ์อี้จิง
(คัมภีร ์แห่งความเปลี่ยนแปลง)
ระบบวัฏจักรและยุคของฮวงจุ้ย
วัฏจักร 180 ปี
ยุคต้น ยุคกลาง ยุคปลาย
ยุค1 (1864-1883)
ยุค2 (1884-1903)
ยุค3 (1904-1923)
ยุค4 (1924-1943)
ยุค5 (1944-1963)
ยุค6 (1964-1983)
ยุค7 (1984-2003)
ยุค8 (2004-2023)
ยุค9 (2024-2043)
ระบบของตะวันตกกับตะวันออก
นอกจากจะแตกต่างกัน
ในการแบ่งช่วงเวลาแล้ว
แต่กลับมีความคล้ายคลึงกันในหลักกา
ร
นั่นคือ ระบบ 20 ปีของจีน
ใกล้เคียงกับ
การที่ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร ์
โคจรมาร่วมราศีเดียวกันทุก 20 ปี
แม้ว่าเวลาจะไม่ตรงกันเสียเลยทีเดียว
ตัวอย่าง
เช่น ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร ์
โคจรมาร่วมราศีเดียวกัน
ครั้งสุดท้ายในปี 1980
แต่ยุคเจ็ดของจีน
เริ่มต้นในปี 1984
(เราจะกล่าวถึงแผนภูมิปากัวและโหลชู
รวมทั้งอิทธิพลของการที่ดาวพฤหัสฯ
และดาวเสาร ์โคจรมาร่วมราศีเดียวกันอ
ย่างละเอียดทีหลัง)
เรามาดูยุค
ที่ยกตัวอย่างกันดีกว่า
ตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมา
เราเริ่มเข้าสู่ยุคเจ็ด
ซึ่งจะไปสิ้นสุดในปี 2003
หมายเลข 7
ยังสามารถแทนด้วยเครื่องหมายตรีลักษ
ณ์(กัว)
ในสัญลักษณ์เครื่องหมายตรีลักษณ์นี้
บ่งบอกถึงข้อมูลกว้างๆ
ที่มีลักษณะทั่วไปดังต่อไปนี้ :
ทิศทาง-ตะวันตก
วัตถุ-ทอง โลทะ
บุคคล-หญิงสาว เพศหญิง
อาชีพ-วงการบันเทิง
การทานายโชคชะตา
เรื่องของจิตใจ
การกระทา-การพูด กามารมณ์
การรื้อถอนและการสร ้างใหม่
ร่างกาย-ปาก
ดังนั้น จึงย่อมเป็ นธรรมดาอยู่เอง
ที่ ยุคเจ็ด
จะเป็ นตัวแทนแห่งความเจริญรุ่งเรื
อง
ของกิจกรรมต่าง ๆ
ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับหัวข้อข้างต้น
ผสมผสานกันกับเป็ นช่วงเวลาของ
การที่ผู้หญิงขึ้นมามีอานาจ
ความเฟื่องฟูของธุรกิจทานายโชคชะตา
เรื่องเหนือธรรมชาติ
ได้รับความนิยมชมชอบอย่างกว้างขวาง
ความหวือหวาของธุรกิจบันเทิง
การปลดปล่อยทางเพศ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ซึ่งเกิดขึ้น
ล้วนเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
จากอิทธิพลของหมายเลข 7
แนวโน้มนี้
จะยังคงดาเนินต่อไปและยังไม่มีที่ท่าว่าจ
ะซาลงจนกระทั่งถึงปี 2003
(โปรดจาไว้ด้วยว่า
ยุคระหว่างปี1964 ถึง 1984 คือ
ยุคหก
และยุคระหว่างปี 1984 ถึงปี 2003 คือ
ยุคเจ็ด)
ยุคเจ็ด
หมายเลข 7 คือหมายเลขประจายุค
มันยังเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเ
รือง
และโชคลาภอีกด้วย
ถ้าหมายเลขนี้
สัมพันธ์กับข้าวของส่วนตัว
อาทิ หมายเลขโทรศัพท์
หมายเลขบัตรประจาตัว
เลขที่บ้าน ทะเบียนรถยนต์
หรือหมายเลขใด ๆ ก็ตาม
ที่ประกอบด้วยหมายเลข 7
ย่อมถือได้ว่า
มันเป็นเครื่องหมายบ่งชี้ถึงโชคดีตามยุค
สมัยนั้น
หมายเลขถัดไป คือ หมายเลข 8
แต่ยุคแปด
จะยังมาไม่ถึงจนกระทั่งปี 2004
ขณะนี้(ยุคเจ็ด) หมายเลข 8
จึงบ่งบอกถึงโชคลาภในอนาคตที่ไม่ยา
วไกลนัก
มันเป็นสัญลักษณ์
ของความเติบโตและความหวัง
ยิ่งกว่านั้น
หมายเลข 8 เป็นธาตุดิน
ส่วนหมายเลข 7 เป็นธาตุทอง
8 จึงก่อกาเนิด 7
และเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ 7
ดังนั้น ในยุคเจ็ด
เลขโชคจึงได้แก่หมายเลขทั้งสองนี้
รวมกัน คือ 87
จอห์น วินสตัน โอโนะ
เลนนอน
http://bit.ly/3K0eBIU
(9 ตุลาคม 1940 - 8 ธันวาคม 1980)
John Winston Ono Lennon,
Dead on Arrival
(อังกฤษ: John Winston Ono
Lennon, MBE)
เป็นนักร ้อง
นักแต่งเพลงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงทั่วโ
ลก
และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งวงเดอะบีเทิลส์
วงดนตรีที่ประสบความสาเร็จเชิงพาณิช
ย์
ในประวัติศาสตร ์วงการดนตรี
ร่วมกับสมาชิก พอล แม็กคาร ์ตนีย์
เขากลายเป็นคู่หูนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสีย
ง
จอห์น
เกิดและเติบโตที่เมืองลิเวอร ์พูล
ในวัยเด็กคลั่งไคล้ดนตรีแนวสกิฟเฟิล
จอห์นได้เป็นสมาชิกวง เดอะควอรีเม็น
ต่อมาในปี 1960
เปลี่ยนเป็นเดอะบีเทิลส์
ครั้นยุบวงในปี 1970
เลนนอนออกผลงานเดี่ยวของตัวเอง
เขาออกอัลบั้ม
จอห์น เลนนอน/พลาสติกโอโนะแบนด์
และอัลบั้ม อิแมจิน
ซึ่งได้รับคายกย่องมากมาย
อัลบั้ม
มีเพลงโดดเด่น
อย่าง "กิฟพีซอะชานซ ์" และ
"เวิร ์กกิงคลาสฮีโร"
และ "อิแมจิน"
หลังจอห์นสมรสกับโยโกะ โอโนะ
ในปี 1969
เขาเปลี่ยนชื่อเป็น จอห์น โอโนะ
เลนนอน
เลนนอนปลีกตัวจากงานเพลงในปี
1975
เพื่อเลี้ยงดูบุตรชาย ฌอน
แต่กลับมารวมตัวทางานเพลงกับโยโกะ
โอโนะ
ในอัลบั้ม ดับเบิลแฟนตาซี
เขาถูกฆาตกรรม
สามสัปดาห์ก่อนออกอัลบั้มดังกล่าว
เลนนอน
เผยให้เห็นนิสัยหัวรั้น
และมีไหวพริบตรงไปตรงมาในด้านดนต
รี
การเขียน การวาดภาพ ภาพยนตร ์
และในบทสัมภาษณ์
หลังจากมีประเด็น
เกี่ยวกับกิจกรรมความเคลื่อนไหว
เชิงสันติภาพและการเมือง
เขาจึงย้ายไปแมนแฮตตัน
ในปี 1971
ซึ่งคาวิจารณ์
เกี่ยวกับสงครามเวียดนาม
ทาให้รัฐบาลของริชาร ์ด นิกสัน
พยายามเนรเทศเขา
แต่เพลงของเขา
บางเพลง
ถูกนาไปเป็นเพลงสรรเสริญ
ความเคลื่อนไหวต่อต้านสงคราม
และกลุ่มต่อต้านวัฒนธรรม
ในปี 2012
อัลบั้มเดี่ยวของเลนนอน
ขายได้มากกว่า 14 ล้านชุด
ในสหรัฐอเมริกา
壬
辰
ในนามนักแต่งเพลง
ผู้ช่วยนักแต่งเพลง
และนักร ้อง
เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับซิงเกิลอันดับหนึ่ง
บนชาร ์ตบิลบอร ์ดฮอต 100 ถึง 25
เพลง
ในปี 2002 ผลสารวจของบีบีซีชื่อ
ชาวบริติชผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด 100 คน
(100 Greatest Britons)
จัดอันดับ
ให้เลนนอนเป็นบุคคลลาดับที่ 8
壬
午
ในปี 2008
นิตยสารโรลลิงสโตน
จัดอันดับให้เขาศิลปินยอดเยี่ยมตลอดก
าล
อันดับที่ห้า หลังเสียชีวิต
เขาติดในหอเกียรติยศนักแต่งเพลง
ในปี 1987
และติดในหอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล
สองครั้ง
ในฐานะสมาชิกวงเดอะบีเทิลส์ในปี
1988
และฐานะนักร ้องเดี่ยวในปี 1994
เข้าใจเคล็ดลับความสุข
จากประเทศที่คนมีความสุขที่สุด
ในโลก
ด้วย Free Online Tour
จากประเทศฟิ นแลนด์
https://thematter.co/brief/goodsmorning/goodsmorning-1589761801/111904
อะไรทาให้คนฟินแลนด์
มีความสุขมากเป็นลาดับต้นๆ ของโลก?
อะไรคือเคล็ดลับที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้กันน
ะ?
พวกเราอาจจะได้รับคาตอบได้
ผ่านแคมเปญใหม่
ที่การท่องเที่ยวของฟินแลนด์
เพิ่งปล่อยออกมา
แคมเปญนี้
มีชื่อว่า ‘Rent a Finn’
ที่มีลูกเล่น
เป็นการเปิดให้เราสามารถไปทัวร ์
(แบบออนไลน์)
สัมผัสการใช้ชีวิตแบบคนฟินแลนด์
โดยมีคนฟินแลนด์ตัวจริง
มาพาเราไปทาสิ่งต่างๆ
ใช้ชีวิตแบบพวกเขา
รวมถึงได้เข้าใจถึงเคล็ดลับ
ว่า ทาไมคนฟินแลนด์
ถึงขึ ้นชื่อว่าความสุขได้เป็นอันดับต้นๆ
ของโลก
ในแคมเปญนี้
เราจะเหมือนกับ
ได้ออกใช ้ชีวิตกับคนฟินแลนด์จริงๆ
เช่น การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
การอยู่กับตัวเองที่มีความสุข
รวมถึงการเก็บเกี่ยวคุณค่าชีวิต
ผ่านกิจกรรมที่คนฟินแลนด์ทาในแต่ละ
วัน
“คนฟินแลนด์
มีความสุขได้จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
ในชีวิต”
Hetta Huittinen
หนึ่งในหัวหน้าทีมงานแคมเปญนี้
อธิบาย
ตัวอย่าง
ทัวร ์แบบออนไลน์ที่จะมีในแคมเปญนี้
ก็จะเต็มไปด้วยหัวข้อที่สั้นๆ ชื่อน่ารักๆ
แต่ก็ตรงไปตรงมา
จนน่าเข้าไปกดตาม ไม่ว่าจะเป็น…
“Eat with a Finn”
(กินอาหารกับคนฟินแลนด์)
“Relax with a Finn”
(พักผ่อนกับคนฟินแลนด์)
“Spend time with a Finn”
(ใช้เวลากับคนฟินแลนด์)
“Be happy with a Finn”
(มีความสุขกับคนฟินแลนด์)
ที่ผ่านมา
แคมเปญ Rent a Finn นี้
ถูกโปรโมทมาสักพักหนึ่งแล้ว
แต่เมื่อมาถึง
ช่วงเวลาที่เกิดปัญหาโคโรนาไวรัสขึ้น
ก็ทาให้ทีมงานและการท่องเที่ยวของฟิน
แลนด์
ต้องปรับรูปแบบกันเสียใหม่
ก่อนที่จะกลายมาเป็นรูปแบบทัวร ์ออนไ
ลน์
ใครสนใจ
สามารถเข้าไปติดตามคลิปต่างๆ
ของแคมเปญนี้ได้ที่ :
https://www.facebook.com/visitf
inland
และ
https://www.visitfinland.com/
ฮวงจุ้ยบ้าน ทิศตะวันตก
และทิศใต้
อย่ารีบสรุปว่าไม่ดี!
https://www.thaihometown.com/fengshui/941/
ทิศตะวันตกและทิศใต้
ในระบบฮวงจุ้ยเป็ นอย่างไร
คนไทยเรา
มีความเชื่อในเรื่องทิศตะวันตก
และทิศใต้
ในหลายลักษณะ
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน
โดยใช ้ความหมายของชื่อทิศ
เป็นตัวกาหนด
คือ ทิศใต้ - อยู่ใต้ผู้อื่น
ทิศตะวันตก - ชีวิตจะตกต่า
บวกความเชื่อต่าง ๆ รวมกัน
จนหลายคน
เหมารวมว่าเป็นกฎข้อห้ามของระบบฮว
งจุ้ย
ข้อเท็จจริง
ทิศใต้ ภาษาจีน คือ อ่านว่า นั้ม
ทิศตะวันตก ภาษาจีน คือ อ่านว่า ไซ
ทั้งสองคา
ไม่ได้มีความหมายไม่ดีแต่อย่างใด
ในระบบฮวงจุ้ย
ทุกทิศมีดีและไม่ดีเหมือน ๆ กัน
ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา
ไม่ได้กาหนดจากชื่อทิศ
จากภาพผังดาวภูมิเดิม
ชาวจีนจะเอาทิศเหนืออยู่ด้านล่าง
และให้ทิศใต้อยู่ด้านบน
ผังดาวข้างต้น
บ่งบอกถึง ช่วงเวลาใด
ที่ทิศใดทิศหนึ่ง
มีพลังอานาจทิศตะวันตกสถิตอยู่
ด้านขวามือ เป็นเลข 7
หมายถึง ช่วงเวลายุค 7
คือ 4 กุมภาพันธ์2527 - 4 กุมภาพันธ์
2547
ดังนั้น
ประเทศมหาอานาจ
ที่อยู่ในภูมิภาคตะวันตก ของโลก
ได้แก่ อเมริกา
.... จะมีความเจริญรุ่งเรืองดี
ในช่วงเวลาดังกล่าว
ยกตัวอย่างเพิ่มเติมที่ใกล้ตัว
พระพุทธชินราช
เป็นที่ศรัทธา
ที่ประดิษฐานอยู่จังหวัดพิษณุโลก
แม้ว่าหันพระพักตร ์
ไปทางทิศตะวันตก
ก็เป็นที่ศรัทธาแก่บุคคลทั่วไป
มีชื่อเสียงระดับสากล
สุสานของบรรดาเศรษฐี
ก็มีหันไปทุกทิศ
ขึ้นอยู่กับความสมพงศ์
ในปัจจัยองค์ประกอบต่างกัน
สาหรับผู้ที่ศึกษาฮวงจุ้ย ระบบดาว 9 ยุค
จะพบว่า
บ้าน สานักงาน สุสาน
ในช่วงยุค 7
พิงทิศตะวันตก ช่วงองศา 270 4.5
285 4.5
ล้วนเป็นองศารุ่งเรือง
คือลาภอยู่ด้านหน้า บารมีอยู่ด้านหลัง
หรือแม้พิงตะวันออก หันหน้าตะวันตก
ทิศตะวันออก - East
<E1> 1/ กะ 75 องศา +/- 3 ธาตุไม้
บารมีเกื้อหนุนโชคลาภ
( บารมีหนุนลาภ ) *
ได้บารมีก่อน ได้ลาภตาม
... แม้บทบาทคล้ายกับ 345 องศา
...
แต่ด้านหน้ากลับไม่มีดาวโชคลาภเลย
... ลาภหนุน 7 9 ก็อยู่ด้านหลัง
... เปิดประตูตรงกลาง 43
ดีที่สุดสาหรับกรณีนี้ *
ทิศตะวันออก - East
<E2> /4 เบ้า 90 องศา +/- 3 ธาตุไม้
และ
<E3> 2/ อิก 105 องศา +/- 3
ธาตุไม้
ลาภเกื้อหนุนบารมี ( ลาภหนุนบารมี ) *
ได้ลาภก่อน ได้บารมีตามมา
เป็นองศาที่ดี
เพราะลาภประจายุคอยู่หน้าบ้านตร
ง
... เก่ง+เฮง x2
เพราะมีทั้งดาวลาภประจายุค
ด้านหน้าตรง
... และดาวลาภหนุน 7 9
อยู่ด้านหน้าขวามือ
... ทิศตะวันออกเหมือน E1
แต่บทบาทดาวลาภต่างกันมาก
... โอกาสเจริญรุ่งเรือง ย่อมผิดกัน
ทิศตะวันตก - West
<W1> 7/ แก 255 องศา +/- 3
ธาตุทอง
ลาภเกื้อหนุนบารมี ( ลาภหนุนบารมี ) *
ได้ลาภก่อน ได้บารมีตามมา
เป็นองศาที่ดี
เพราะลาภประจายุคอยู่หน้าบ้านตรง
... เก่ง+เฮง
... ข้อดี ดาวลาภวิบัติอยู่ด้านหลัง
... ข้อด้อย ลาภหนุนอยู่ด้านหลัง +
ลาภเสื่อม 9 7 ด้านหน้าขวามือ
ทิศตะวันตก - West
<W2> /0 อิ้ว 270 องศา +/- 3
ธาตุทอง
<W3> 8/ ซิง 285 องศา +/- 3
ธาตุทอง
บารมีเกื้อหนุนโชคลาภ
( บารมีหนุนลาภ ) *
ได้บารมีก่อน ได้ลาภตาม
... ต้องระวังให้มาก
เปิดประตูผิดฝั่ง ผลลัพธ์ตรงกันข้าม
... ฝั่งหนึ่ง 7 9 ลาภหนุน ดี
เหมาะเป็นประตูรั้ว ประตูบ้าน
... อีกฝั่ง 2 5 ลาภวิบัติ
จะเสียทรัพย์มาก
... ครอบครัวหย่าร ้าง
เกิดเรื่องเลวร ้ายต่าง ๆ
... และมีโอกาสพบเห็น วิญญาณ
ทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ผังดาว 9 ยุค
ดาวตรงแบบพื้นฐาน
ที่ผู้ศึกษาควรทราบ
การเจริญรุ่งเรือง เสื่อมถอย
พิจารณาจากผังดาวเท่านั้น
*** ส่วนผังดาวเอียง***
ขอให้ใช ้แนวทางข้างต้นเป็นพื้นฐานใน
การวิเคราะห์
ในฮวงจุ้ย ยุค 8
ปัจจุบัน ( 4 กพ. 2547 – 4 กพ.
2567 )
ประเทศที่อยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเ
หนือ
จะเป็นกลุ่มที่มีความเจริญรุ่งเรือง
ได้แก่ ประเทศจีน ( รองลงมา เกาหลี
ญี่ปุ่น ไต้หวัน )
บทบาทของจีน
เริ่มมีบทบาทอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
บทบาท ระดับโลกที่เพิ่งผ่านมา
ก็คือ พิธีเปิด - ปิดโอลิมปิค 2008
สร ้างความตื่นตะลึงให้กับทั่วโลก
กล่าวได้ว่า
งดงามอลังการมากที่สุดเท่าที่เคยจัดกัน
มา
สาหรับบ้านเรือน ออฟฟิศ อื่นๆ
ที่พิงทิศตะวันออก ทิศตะวันตก เหนือ
ใต้
ช่วงองศาตรง ล้วนเป็นทิศทางที่ดี
มากน้อย
ขึ้นอยู่กับองศาที่วัดได้
จัดอันดับทิศทาง ดาว 9 ยุค ผังดาวตรง 24 ผัง
ทิศทางรุ่งเรือง +/- 4.5
ทิ่ว 30 , เคี้ยง 315 , ไห 330
บี่ 210 , สุ่ง 135 , จี๋ 150
ลาภเกื้อหนุนบารมี +/-
3
เบ ้า 90 , อิก 105
จื้อ 0 , กุ่ย 15 , เปี้ย 165, แก 255
บารมีเกื้อหนุนลาภ +/-
3
กะ 75 , ยิ้ม 345
โง่ว 180 , เต็ง 195 , อิ้ว 270 , ซิง 285
ล ้มเหลว +/- 1.5
กึ่ง 45 , เอี้ยง 60
ซิ้ง 120 , คุง 225 , ซิม 240 , สุก 300
ระบบหลักฮวงจุ้ยที่แท้
จะชัดเจนในหลักการ
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นตัวกาหนด
จริงหรือไม่จริง ดูที่ปรากฎการณ์
ในระบบหลักวิชาฮวงจุ้ย
ทิศใดจะดีหรือไม่ดี
ขึ้นกับ....
1.ยุคสมัย
สมัยหนึ่ง ๆ มี 9 ยุค ยุคหนึ่งมี 20 ปี
ปัจจุบันเป็นยุค 8 ในยุค 8 ทิศไหนดี
พอเข้า ยุค 9
ทิศนั้นก็ไม่แน่ว่าจะดีหรือไม่
.... เพราะเปลี่ยนยุคก็เปลี่ยนบทบาท
2.ดวงของแต่ละบุคคล
3.สิ่งแวดล้อม
4. องศาที่ตั้ง
ในหนึ่งทิศจะมี 3 ราศี
แต่ละราศีมีบทบาท 15 องศา
ซึ่งสามารถ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ดังนั้น
ในสามราศี
แต่ละราศี แต่ละองศาก็มีอิทธิพล
แตกต่างกันไป
ฉะนั้น จึงไม่มีทิศไหนที่ดีแน่นอน
และทิศไหนที่ไม่ดีแน่นอนตายตัว
ทฤษฎีอิน-หยาง
Yin & Yang
พื้นฐานการแพทย์แผนจี
น
https://bit.ly/3b6HhkP
อิน-หยาง
(阴阳 Yin-Yang)
เป็นแนวคิดปรัชญาของชาวจีนที่มีมาแ
ต่โบราณกาล ได้จากการสังเกต
และค้นพบลักษณะที่สาคัญของธรรมชา
ติ ว่าสิ่งต่าง ๆ ประกอบด้วย 2 ด้าน
ซึ่งขัดแย้งกัน ต่อสู้กัน พึ่งพากัน
แยกจากกันไม่ได้
สัญลักษณ์อิน-หยาง
สีดาแทนอิน สีขาวแทนหยาง
ทฤษฎีอิน-หยาง
เริ่มมีมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์โจว
(1,000-256 ปีก่อนคริสตกาล)
มีการกล่าวถึง อิน-หยาง เป็นครั้งแรก
ซึ่งถูกบันทึกในคัมภีร ์อี้จิง《易经》
และได้รับการปรับปรุงแนวคิดเรื่อยมาจน
ถึงขีดสูงสุดในยุคจั้นกั๋ว
(2,476-221 ปีก่อนคริสตกาล)
เนื่องจากทฤษฎีอิน-หยาง
ครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ ไว้ตั้งแต่โบราณ
จึงถูกนามาใช้ในวิชาการต่าง ๆ
เช่น พยากรณ์อากาศ หมอดู
ภูมิศาสตร ์-ฮวงจุ้ย
ดาราศาสตร ์คณิตศาสตร ์
และการแพทย์แผนจีนด้วย
เริ่มในสมัยราชวงศ์จิ้นและราชวงศ์ฮั่น
กล่าวกันว่า ผู้ที่จะเข้าใจเรื่องอิน-
หยางได้ดี
ต้องเข้าใจคาพูดที่บันทึกอยู่ในคัมภีร ์เน่
ย์จิง
ภาคซู่เวิ่น อินหยางอิ้งเซี่ยงต้าลุ่น
《素问 。阴阳应象大论》
กล่าวว่า
“สรรพสิ่ง
ล้วนถูกครอบคลุมโดยกฎเกณฑ์
ลักษณะคู่
สองด้านที่มีการแปรเปลี่ยนมีเกิดดับเป็น
พื้นฐาน
เป็นที่พิสดาร
แปรเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด”
ความสาคัญ
อยู่ที่คาว่า “ลักษณะคู่”
(天地之道 เทียนตี้จือเต้า)
การแปรเปลี่ยน
(变化之父母 เปี้ยนฮฺว่าจือฟู่หมู่)
และคาว่า
“เป็นที่พิสดารแปรเปลี่ยนได้เรื่อยไม่สิ้น
สุด” (神明之府也
เสินหมินจือฝู่เหยี่ย)
Content
146 1. ลักษณะคู่ของอิน-หยาง
155 2. การแปรเปลี่ยนของอิน-หยาง
166 3. ซานอินซานหยาง (三阴三阳)
171 การจาแนกอิน-หยาง
176 การแปรเปลี่ยนไปสู่โรคพยาธิ
187 การใช้หลักอินหยางในการป้ องกันแ
1. ลักษณะคู่ของอิน-หยาง
ลักษณะคู่ของอิน-หยาง มีสองลักษณะ
ดังนี้
1.1 ลักษณะที่ตรงข้ามกัน ขัดแย้งกัน
สู้กัน
(阴阳对立 อินหยางตุ้ยลี่)
เช่น ทิศทางการเคลื่อนไหวสู่ด้านนอก
สู่ด้านบน
ไฟ อุ่นร ้อน ฯลฯ เป็นหยาง
ทิศทางการเคลื่อนไหวสู่ด้านใน
สู่ด้านล่าง สงบนิ่ง
น้า หนาวเย็น ฯลฯ เป็นอิน
1.2 ลักษณะคู่ที่พึ่งพาอาศัยกัน
และแยกกันไม่ได้
(阴阳互相 อินหยางฮู่เซียง)
คือ ไม่ว่าอินหรือหยาง
ไม่สามารถแยกกันอยู่เดี่ยว ๆ ได้
เมื่อด้านบนเป็นหยาง
ด้านล่างต้องเป็นอิน
จะมีด้านบนโดยไม่มีด้านล่าง
หรือมีด้านล่างโดยไม่มีด้านบนไม่ได้
ต้องมีคู่กันเสมอ
อีกตัวอย่างหนึ่ง
คือ ฝนเกิดจากชี่ของดิน ซึ่งเป็นหยาง
พาน้าระเหยขึ้นเป็นก้อนเมฆแล้วตกลงม
า
ฝนซึ่งเป็นมวลคืออิน
จะเห็นได้ว่าวัฏจักรของการเกิดฝน
ต้องมีอิน-หยางคู่กัน แยกจากกันไม่ได้
ในสมัยราชวงศ์หมิง
ได้กล่าวถึงอิน-หยาง
เกี่ยวกับการพึ่งพาและแยกจากกันไม่ได้
ในตาราอีก้วน อินหยางลุ่น
《医贯。阴阳论》ว่า
“หยางสัมพันธ์กับอิน
อินสัมพันธ์กับหยาง
ไม่มีหยางเกิดอินไม่ได้
ไม่มีอินหยางก็ไม่เกิด”
คัมภีร ์ซู่เวิ่น อินหยางอิ้งเซี่ยงต้าลุ่น
《素问 。阴阳应象大论》
กล่าวว่า
“อินอยู่ในหยางเป็นยามเฝ้า
หยางอยู่นอกเป็นผู้รับใช้ของอิน”
ความสัมพันธ์แบบแยกกันไม่ได้นี้
แพทย์ผู้มีชื่อเสียง
ในสมัยราชวงศ์หมิง
ชื่อ จางเจี้ยปิน (张介宾)
ได้เขียนไว้ในตาราเล่ย์จิง วิ่นชี่เล่ย์
《类经。运气类》ว่า
“ฟ้ ามีทุนเป็นหยาง ในหยางนั้นมีอิน
ดินมีทุนเป็นอิน ในดินนั้นมีหยาง”
ในสมัยราชวงศ์ชิง
หวงเยฺวียนอฺวี้ (黄元御)
ที่ได้เขียนไว้ใน
ตาราซูหลิงเวยยฺวิ่น
《苏灵微蕴》ว่า
“อิน-หยางแยกกันไม่ได้
อวัยวะตันทั้งห้าเป็นอิน
แต่เก็บซ่อนหยางไว้
ถ้าไม่มีอวัยวะตันทั้งห้าคอยเก็บซ่อนหย
างไว้
หยางก็หลุดลอยไป
ส่วนอวัยวะกลวงทั้งหกเป็นหยาง
เป็นที่สารจิงแปรมา
ไม่มีอวัยวะกลวงทั้งหก
สารอินจิงที่เป็นอินก็ไม่มี
จิงจะแห้งเหือดไป”
ชี่ให้กาเนิดเลือด
ทาให้เลือดไหลเวียนได้
เลือดให้ชี่เป็ นที่อาศัยอยู่และทาหน้
าที่บารุงชี่
ลักษณะการอยู่ร่วมกันแบบอาศัยพึ่งพา
กันแยกกันไม่ได้ต้องสมดุล
จึงจะอยู่ได้ปกติสุขไม่เป็นโรค
ถ้าเกิดภาวะที่ไม่สมดุล
เช่น
ร่างกายมีอะไรมากระตุ้นให้ตื่นตัวมากเกิ
นไป
เกิดภาวะหยาง
และไม่มีตัวยับยั้งควบคุมให้สมดุล
ความตื่นตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ก็กลายเป็นคนบ้าได้ในที่สุด
ตรงกันข้าม
ถ้าไม่มีการกระตุ้นให้ตื่นตัว
เหลือแต่อินเป็นส่วนใหญ่
ก็เป็นโรคเศร้าซึม
โรคนอนไม่หลับหรือนอนเก่ง
หรือผู้ป่วยติดยาเสพติด
ในปัจจุบัน
ก็สามารถอธิบายในลักษณะความสัมพั
นธ์แบบอิน-หยางได้เช่นกัน
2. การแปรเปลี่ยนของอิน-หยาง
2.1
การจาแนกสรรพสิ่งว่าเป็นอินหรือเป็นห
ยาง
เป็นสิ่งแน่นอน
เช่น ไฟ มีคุณสมบัติร ้อน
ลอยขึ้นบนจัดเป็นหยาง
น้ามีคุณสมบัติเย็น ลงล่างเป็นอิน
คุณสมบัติประจาตัวของสรรพสิ่งนี้
เปลี่ยนแปลงไม่ได้
แต่สามารถแปรเปลี่ยนได้
ในกรณีเปรียบเทียบ
เช่น ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีอากาศเย็น
เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูร ้อน
จึงจัดเป็นอิน
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับฤดูหนาวซึ่งเย็นกว่
าฤดูใบไม้ร่วงก็จัดเป็นหยาง
2.2 เป็ นอินหรือเป็ นหยาง
สามารถแบ่งเป็นอิน-หยางได้อีก
นั่นคือ อิน-หยาง แปรเปลี่ยนไป
โดยแบ่งไปได้เรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด
ตัวอย่างเช่น กลางวันกับกลางคืน
กลางวันเป็นหยาง กลางคืนเป็นอิน
ในคัมภีร ์ซู่เวิ่น จินกุ้ยเจินเอี๋ยนลุ่น
《素问。金贵真言论》
ได้อธิบายว่า
“ในอินมีหยาง ในหยางมีอิน” ดังนี้
ช่วงเช ้าตรู่รุ่งสาง จนถึง เที่ยงวัน เป็นหยางในหยาง
ช่วงเที่ยง จนถึง เย็น เป็นอินในหยาง
ช่วงเที่ยงคืน จนถึง ไก่เริ่มขัน เป็นอินในอิน
ช่วงไก่เริ่มขัน จนถึง เช ้าตรู่รุ่งสาง เป็นหยางในอิน
ทานองเดียวกัน
ร่างกายคนก็แบ่งเป็น อิน-หยางได้
อวัยวะตันเป็นอิน อวัยวะกลวงเป็นหยาง
หัวใจและปอด อยู่ส่วนบนของร่างกาย
จัดเป็นหยาง
หัวใจเป็นธาตุไฟ จึงจัดเป็น
หยางในหยาง
ปอดเป็นธาตุทอง จึงจัดเป็น อินในหยาง
ตับและไต อยู่ส่วนล่างของร่างกาย
จัดเป็นอิน
ตับ มีลักษณะแกร่ง จัดเป็น หยางในอิน
ไต เป็นธาตุน้า จึงจัดเป็น อินในอิน
ม้าม อยู่ตรงกลางของร่างกาย
ถึงเขตอินพอดี
จัดเป็น อิน
การแปรเปลี่ยนของอิน-หยาง
แบ่งได้ไม่สิ้นสุด
จึงเป็นคาอธิบายของคาว่า
“อะไรอยู่ภายใต้ฟ้ าดินนั้น เป็นแบบนี้”
ดังมีกล่าวในคัมภีร ์ซู่เวิ่น
อินหยางหลีเหอลุ่น
《素问。阴阳离合论》ว่า
“อิน-หยางนั้น
จากสิบขยายได้เป็นร ้อย เป็นพัน
เป็นหมื่น
ขยายไปเรื่อย ๆ จนนับไม่ถ้วน
…
ความจริงมาจากหนึ่ง”
ดังในคัมภีร ์ซู่เวิ่น
อินหยางอิ้งเซี่ยงต้าลุ่น
《素问。阴阳应象大论》
กล่าวว่า
“หนาวสุดเกิดร ้อน ร ้อนสุดเกิดหนาว”
“อินสุดเกิดหยาง หยางสุดเกิดอิน”
การแปรสภาพของอิน-หยาง
ในทางคลินิก
เช่น การกระตุ้นเป็นหยาง
ถ้ากระตุ้นถึงขีดสูงสุดแล้ว
จะกลายเป็นถูกกดหรือถูกกดยับยั้งเป็น
อิน
จะกลายเป็นโรคซึมเศร ้า
ตรงกันข้าม
ถ้าถูกกดถึงขีดสูงสุด
ก็กระตุ้นให้อาละวาดได้ (โรค mania)
คนไข้ที่ติดเชื้อโรคหัด
เป็นพิษไข้สูงมากถึงขีดสูงสุด
ไข้ลดตัวเย็น หน้าซีด ขาชาเย็น
เหงื่อออกมาก
ก็คือ สภาพหยางแปรเปลี่ยนเป็นอิน
3. ซานอินซานหยาง (三阴三阳)
อิน-หยางนั้น
แบ่งมาจากหนึ่ง
คือ ไท่จี๋ (太极)
เริ่มแรกแบ่งจาก ไท่จี๋
เป็นอินหยาง
แล้วแบ่ง เป็น 4 เรียก ซื่อเซี่ยง (四象)
ซึ่งจะมีแต่ เส้าอิน เส้าหยาง ไท่อิน
ไท่หยาง
โดยแบ่งตามหลักการว่า
ตรงไหนมีชี่มากหรือน้อย
ต่อมา
มีการแบ่งย่อยลงไป
ตามปริมาณชี่มากน้อย
เป็น...หยาง..มี..เส้าหยาง เป็น 1 หยาง
ไท่หยาง เป็น 2 หยาง
หยางหมิง เป็น 3 หยาง
(หยางหมิง...มีชี่มากสุด)
อิน..มี..จฺเหวียอิน เป็น 1 อิน
เส้าอิน เป็น 2 อิน
ไท่อิน เป็น 3 อิน (ไท่อิน
มีจานวนอินมากที่สุด)
เส้นอินมี 3 เส้น เส้นหยางมี 3 เส้น
รวมกันเป็น 6 เส้น
ซึ่งได้ถูกพัฒนาเป็นวิชา
ลิ่วจิงเปี้ยนเจิ้ง
《六经辨证》
ซึ่งเป็นวิธีที่ใช ้พิเคราะห์รักษาโรคที่ดีมา
กวิธีหนึ่ง
การจาแนกอิน-หยาง
การแพทย์แผนจีนได้จาแนกอิน-หยาง
ดังนี้
1. แบ่งร่างกายและเนื้อเยื่อโครงสร ้าง
หยาง - Yang อิน - Yin
อวัยวะภายนอก ขาแขนด ้านนอก อวัยวะภายนอก ขาแขนด ้านใน
อวัยวะภายใน หัวใจ ปอด อยู่ด ้านบน อวัยวะภายในม ้าม ตับ ไต อยู่ด ้านล่าง
ชี่ พลังงาน ไม่มีรูป
เลือด ของเหลวในร่างกาย
(津液 จินเยี่ย) มีรูป
2. แบ่งตามหน้าที่สรีรวิทยา
หยาง - Yang อิน - Yin
ขึ้นบน ลงล่าง
ออกนอก เข ้าใน
กระตุ้น กดยับยั้ง
ให ้ความร ้อนอุ่น ให ้ความหนาวเย็น
ขับเคลื่อน ให ้ความชื้น (นิ่ง)
อรูป (พลังงาน) มีรูป
3. แบ่งตามอาการแสดงของโรค
หยาง - Yang อิน - Yin
ไข ้ร้อน หนาว
จิตตื่นเต ้น จิตหงอยเหงา
อุจจาระแห ้ง อุจจาระเหลว
ปัสสาวะสั้น เหลืองเข ้ม ปัสสาวะใสขาว
สีหน้าสว่าง มีเงา สีหน้ามืด หมองคล้า
เสียงดัง เสียงสูง เสียงค่อย เสียงต่า
ชีพจรลอย ใหญ่ ลื่น เร็ว แกร่ง ชีพจรจม เล็ก ฝืด ช ้า พร่อง
4. แบ่งตามอิทธิพล
หรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดโรค
(邪气 เสียชี่)
หยาง - Yang อิน - Yin
แห ้ง ลม ชื้น
ไฟ (ร้อน) หนาว (เย็น)
เสียชี่หยาง
(เป็นอันตรายต่อ
อินและน้าของร่างกาย)
เสียชี่อิน
(เป็นอันตรายต่อ
หยางชี่ของร่างกาย)
แห ้งร้อน แห ้งเย็น
กับคากล่าวว่า
“หยางเกิน เป็นโรคอิน อินเกิน
เป็นโรคหยาง”
5. แบ่งตามรสและฤทธิ์ของยา (4 ฤทธิ์
5 รส)
หยาง - Yang อิน - Yin
ฤทธิ์ร้อน ฤทธิ์เย็นจัด
ฤทธิ์อุ่น ฤทธิ์เย็น
รสเผ็ด รสขม
รสหวาน รสเปรี้ยว
- รสเค็ม
การแปรเปลี่ยนไปสู่โรคพยาธิ
ความสมบูรณ์ของอิน-หยางในร่างกาย
มีความสาคัญต่อสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็นความสมดุล
ระหว่างส่วนบนหรือส่วนล่างของร่างกาย
หรือ
ระหว่างภายในหรือภายนอกร่างกาย
หรือ
ระหว่างพลังงานชี่นอกหรือพลังงานชี่ใน
ร่างกาย
หรือ ระหว่างชี่กับมวล
ถ้าความสมดุลเสียไป ก็ป่วยเป็นโรค
แม้โรคต่าง ๆ จะซับซ้อนเพียงใด
ก็มีวิธีรักษาโดยปรับสมดุลของอิน-
หยางในร่างกาย
การเสียสมดุลมี 2 แบบ ดังนี้
1. อินหรือหยางแกร่ง
2. อินหรือหยางพร่อง
1. อินหรือหยางแกร่ง
(阴阳偏盛 อิน-หยางเพียนเซิ่ง)
อินหรือหยางแกร่ง
หมายถึง ภาวะที่อินหรือหยาง
ด้านใดด้านหนึ่ง
เกิดแกร่งขึ้นมา ข่มด้านตรงข้าม
ทาให้เกิดโรค
เช่น เสียชี่ ที่เป็นหยางเข้าสู่ร่างกาย
อินและเยี่ย
(น้าจะถูกกระทบ
เสียชี่ที่เป็นหยาง มีลักษณะร้อน
ภาวะร่างกายจะมีหยางเพิ่มขึ้น
มีอาการร ้อน)
แต่ถ้าเสียชี่เป็นอิน
มีลักษณะเย็นเข้าสู่ร่างกาย
ความเย็นจะเพิ่มขึ้น
ทาลายหักล้างหยางลง
จะมีอาการของความหนาวเย็น
ดังในคัมภีร ์ซู่เวิ่น
อินหยางอิ้งเซี่ยงต้าลุ่น
(素问 。阴阳应象大论)
อธิบายว่า
“อินแกร่งเป็นโรคหยาง
หยางแกร่งเป็นโรคอิน
อินแกร่งจักหนาว หยางแกร่งจักร ้อน”
สรุปคาว่า
“โรคหยาง”
หมายถึง สูญเสียหยางชี่
“โรคอิน” หมายถึง สูญเสียอินและเยี่ย
https://www.monomax.me/review/detail/FightsBreakSphere_Skill
2. อินหรือหยางพร่อง
(阴阳偏虚 อิน-หยางเพียนซฺวี)
อินหรือหยางพร่อง
หมายถึง ภาวะที่อินหรือหยาง
ด้านใดด้านหนึ่ง
ข่มหรือยับยั้ง ด้านตรงข้าม ไม่อยู่
ทาให้เกิดโรคขึ้น
ตัวอย่าง
เช่น อินพร่องหยางเกิน
หยางพร่องอินเกิน
อินพร่องจะร้อน หยางพร่องจะหนาว
สาหรับ อินพร่องหยางแกร่ง
เนื่องจาก
อินที่พร่อง
จะทาให้มีอาการร ้อน คอแห้ง ปากแห้ง
อุจจาระแข็งแห้ง
เมื่อไฟลอยขึ้นข้างบน
-แก้มจะแดง
-
มีเหงื่อออกและร ้อนวันละสองครั้งเป็นเว
ลา
เรียก เฉาเย่อ (潮热)
-ลิ้นแดงฝ้ าน้อย ชีพจรเล็กเร็ว
สาหรับกรณี
หยางพร่องอินแกร่ง
หยางพร่องจะทาให้หนาว
จิตใจห่อเหี่ยวและไม่มีแรง
กลัวหนาว ปลายมือเท้าเย็น
อุจจาระเหลว ปัสสาวะมากนานสีขาว
ลิ้นอ้วนซีด ชีพจรพร่อง อ่อนแรง
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx

More Related Content

Similar to ฟาร์มสุข 1.docx

ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50Weerachat Martluplao
 
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯnampeungnsc
 
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีSuwicha Tapiaseub
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลniralai
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษาChalinee Tonsing
 
ปรัชญาพุทธศาสนา
ปรัชญาพุทธศาสนาปรัชญาพุทธศาสนา
ปรัชญาพุทธศาสนาYota Bhikkhu
 
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยา
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยาปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยา
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยาPadvee Academy
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะPadvee Academy
 
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขต
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขตจริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขต
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขตchonlataz
 
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ วัดไร่ขิง
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ  วัดไร่ขิง013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ  วัดไร่ขิง
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ วัดไร่ขิงniralai
 
ข้อสอบสังคม
ข้อสอบสังคมข้อสอบสังคม
ข้อสอบสังคมPorna Saow
 
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒dentyomaraj
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarmaTongsamut vorasan
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarmaTongsamut vorasan
 

Similar to ฟาร์มสุข 1.docx (20)

ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
 
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
 
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
 
การงานน
การงานนการงานน
การงานน
 
02life
02life02life
02life
 
What is life
What is lifeWhat is life
What is life
 
กำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาลกำเนิดจักรวาล
กำเนิดจักรวาล
 
แนวข้อสอบประมวล Radompon
แนวข้อสอบประมวล Radomponแนวข้อสอบประมวล Radompon
แนวข้อสอบประมวล Radompon
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษา
 
ปรัชญาพุทธศาสนา
ปรัชญาพุทธศาสนาปรัชญาพุทธศาสนา
ปรัชญาพุทธศาสนา
 
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยา
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยาปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยา
ปรัชญาเบื้องต้น บทที่ ๕ คุณวิทยา
 
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะพุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
พุทธศาสนามหายาน ตอน นิกายมาธยมิกะ
 
สังคมศึกษา ปลาย
สังคมศึกษา ปลายสังคมศึกษา ปลาย
สังคมศึกษา ปลาย
 
อังกฤษ ปลาย
อังกฤษ ปลายอังกฤษ ปลาย
อังกฤษ ปลาย
 
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขต
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขตจริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขต
จริยศาสตร์ ความหมายและขอบเขต
 
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ วัดไร่ขิง
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ  วัดไร่ขิง013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ  วัดไร่ขิง
013แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามแนววิถีพุทธ วัดไร่ขิง
 
ข้อสอบสังคม
ข้อสอบสังคมข้อสอบสังคม
ข้อสอบสังคม
 
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒
จุลสารชมรมจริยธรรมฉบับที่๒
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
 
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
2 แก้กรรม แนวพุทธ cancelkarma
 

More from SunnyStrong

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxSunnyStrong
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docxSunnyStrong
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docxSunnyStrong
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxSunnyStrong
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docxSunnyStrong
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxSunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxSunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxSunnyStrong
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxSunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxSunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxSunnyStrong
 

More from SunnyStrong (20)

คุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docxคุณเป็นใคร 2.docx
คุณเป็นใคร 2.docx
 
คุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docxคุณเป็นใคร 3.docx
คุณเป็นใคร 3.docx
 
คุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docxคุณเป็นใคร 1.docx
คุณเป็นใคร 1.docx
 
Austria.docx
Austria.docxAustria.docx
Austria.docx
 
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
5 Signs of a Strong Novel Plot.docx
 
7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx7 Fear Archetypes.docx
7 Fear Archetypes.docx
 
คุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docxคุณเป็นใคร.docx
คุณเป็นใคร.docx
 
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docxThe Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
The Hero’s Journey A 17 Step Story Structure Beat Sheet.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
 

ฟาร์มสุข 1.docx