More Related Content
More from mr.somsak phoolpherm
More from mr.somsak phoolpherm (8)
4 1
- 1. แบบฝกทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาซี เลม 4 ฟงกชันนารู
กลุมฟงกชันพื้นฐานการรับและแสดงผล
เปนฟงกชันการรับและแสดงผลขอมูลที่นอกเหนือจากฟงกชัน printf(); scanf(); getch();
และ gets(); ซึ่งไดเรียนมากอนหนานี้ มีดังนี้
#include <stdio.h>
getchar( )
เปนฟงกชั่นที่นํามาสําหรับรับคาตัวอักษรหรืออักขระ 1 ตัว โดยคาที่ปอนลงไปแสดงให
เห็นทางจอภาพและจะตองกดปุม Enter เพื่อแสดงการสิ้นสุดการปอนขอมูล แตถาหากมีการ
กรอกตัวอักษรมากกวา 1 ตัว จะมีเพียงตัวอักษรตัวแรกเทานั้นที่จะถูกเก็บไวในตัวแปร
รูปแบบ
ชื่อตัวแปร = getchar();
ตัวอยางเชน getchar();
และในกรณีที่ตองการนําคาที่ปอน จัดเก็บไวในตัวแปร ก็จะเขียนในรูปแบบดังนี้
char ch1;
ch1=getchar();
ตัวอยางโปรแกรมที่ 4.1 โปรแกรมแสดงการสั่งพิมพคาดวยฟงกชัน getchar()
บรรทัดที่
คําสั่ง
1
#include <stdio.h>
2
#include <conio.h>
3
main()
4
{ char c;
5
printf(“Please type one character:”);
6
c=getchar();
7
printf(“The first character is: %cn ”,c);
8
getch();
9
}
คําอธิบายโปรแกรมที่ 4.1
บรรทัดที่ 4 ประกาศตัวแปรชื่อ c เปนตัวแปรชนิด char
บรรทัดที่ 5 พิมพขอความ Please type one character
6
- 2. แบบฝกทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาซี เลม 4 ฟงกชันนารู
บรรทัดที่ 6 รอรับขอมูลดวยฟงกชัน getchar(); เพื่อเก็บไวในตัวแปร c
บรรทัดที่ 7 แสดงคาที่ปอนเขาไปทางจอภาพ ซึ่งจะไดเพียงอักขระเดียวถึงแมวา
จะปอนหลายตัวก็ตาม
putchar( )
เปนฟงกชั่นที่นํามาเพื่อสั่งพิมพคาตัวแปรอักขระที่ถูกปอนดวยฟงกชั่น getchar() หรือ
อาจจะกําหนดใหแสดงคาอักขระโดยตรง โดยที่ไมตองใชรหัสรูปแบบขอมูล
รูปแบบ
ชื่อตัวแปร = putchar();
หรือ
putchar(ชื่อตัวแปร);
ตัวอยางโปรแกรมที่ 4.2 โปรแกรมแสดงการสั่งพิมพคาดวยฟงกชัน putchar()
บรรทัดที่
คําสั่ง
1
#include <stdio.h>
2
#include <conio.h>
3
main()
4
{
5
char ch1= ‘A’;
6
putchar(ch1);
7
putchar(10);
8
putchar(‘B’);
9
putchar(‘007’);
10
getch();
11 }
คําอธิบายโปรแกรมที่ 4.2
บรรทัดที่ 4 กําหนดใหตัวแปรชื่อ ch1 มีชนิดขอมูลเปน char เก็บคาอักขระ A
บรรทัดที่ 5 พิมพคา ch1 ดวยฟงกชัน putchar()
บรรทัดที่ 6 พิมพรหัสแอสกีเบอร 10 ซึ่งตรงกับ n คือปดบรรทัดใหม
บรรทัดที่ 7 พิมพอักขระ B ดวยฟงกชัน putchar()
บรรทัดที่ 8 รหัสควบคุม 007 จะสงเสียงรอง บี๊บหนึ่งครั้ง
7
- 3. แบบฝกทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาซี เลม 4 ฟงกชันนารู
#include <conio.h>
getche()
ฟงกชั่น getche() เปนฟงกชั่นในการรับคาตัวอักขระ ซึ่งจะถูกประกาศไวใชงานอยูใน
เฮดเดอรไฟล conio.h
รูปแบบการใชงานฟงกชั่น
getche( );
หรือ ชื่อตัวแปร = getche( );
คุณสมบัติของฟงกชั่น
- ในสวนหัวของโปรแกรมจะตองผนวกเฮดเดอรไฟล conio.h
- เปนฟงกชั่นรับอักขระ 1 ตัวทันทีที่กดแปนพิมพ
- ฟงกชั่น getch() จะไมแสดงตัวอักษรที่ปอนใหเห็นทางจอภาพ
- ฟงกชั่น getche() จะแสดงอักขระที่ปอนเขาไปใหเห็นทางจอภาพ
clrscr()
ฟงกชัน clrscr() เปนฟงกชันสําหรับเคลียรหนาจอใหวาง
ตัวอยางโปรแกรมที่ 4.3 โปรแกรมแสดงใชงานฟงกชัน getch(),getche(),clrscr()
บรรทัดที่
คําสั่ง
1
#include <stdio.h>
2
#include <conio.h>
3
main()
4
{
5
char ch;
6
printf(“nPress any key 1:”); getch();
7
printf(“nPress any key 2:”); getche();
8
printf(“nPress any key to clear screen”);
9
ch=getch();
10
clrscr();
11
printf(“n Ascii value of ch is %dn”,ch);
12 }
8
- 4. แบบฝกทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาซี เลม 4 ฟงกชันนารู
คําอธิบายโปรแกรมที่ 4.3
บรรทัดที่ 2 ผนวกเฮดเดอรไฟล conio.h เพิ่มเขาไป
บรรทัดที่ 5 กําหนดใหตัวแปรชื่อ ch1 มีชนิดขอมูลเปน char
บรรทัดที่ 6 พิมพขอความแลวรอรับคาที่ปอนดวยฟงกชัน getch()
บรรทัดที่ 7 พิมพขอความแลวรอรับคาที่ปอนดวยฟงกชัน getche()
บรรทัดที่ 8 พิมพขอความ Press any key to clear screen
บรรทัดที่ 9 รอรับคาจากแปนพิมพดวยฟงกชัน getch() แลวเก็บไวที่ตัวแปร ch
บรรทัดที่ 10 ลางจอภาพ
บรรทัดที่ 11 พิมพรหัสแอสกีของคา ch ออกมาทางจอภาพ
ฟงกชัน
gotoxy() clrscr() ใชไมไดในกรณีที่เขียนในโปรแกรม Dev-C++ ใหใช ฟงกชัน system(“cls”); แทน
gotoxy() เปนฟงกชันที่ใชสําหรับกําหนดตําแหนงคอลัมนและแถวบนจอภาพ โดยใชเปน
ตําแหนงแสดงขอความหรือขอมูลตาง ๆ รวมถึงตําแหนงรับขอมูล โดยจอภาพในเท็กซโหมดจะมี
อยู 25 แถว และแตละแถวจะมี 80 คอลัมน
รูปแบบ
gotoxy(column,row);
ตัวอยางโปรแกรมที่ 4.4 โปรแกรมแสดงใชงานฟงกชัน gotoxy()
บรรทัดที่
คําสั่ง
1
#include <stdio.h>
2
#include <conio.h>
3
main()
4
{
5
gotoxy(10,1); printf(“<< Main Menu >>”)
6
gotoxy(10,2); printf(“1. Green ”);
7
gotoxy(10,3); printf(“2. Yellow ”);
8
gotoxy(10,4); printf(“3. Red ”);
9
gotoxy(10,5); printf(“4. White ”);
10
gotoxy(10,6); printf(“5. Exit ”);
11
gotoxy(10,7); printf(“Selection:”);
getche();
12 }
9