SlideShare a Scribd company logo
1 of 148
          ลักษณะของโครงงานที่ดีต้องมีความชัดเจนและเข้าใจง่ายของวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ มีความสอดคล้องและสนองต่อความจำเป็น มีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของหน่วยงาน มีความเป็นไปได้ในการดำเนินงานโครงงาน โดยที่สามารถวัดและประเมินผลโครงงานนั้น ๆ ได้ มีการระบุเวลาในแต่ละช่วงตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงานโดยละเอียด มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อย่างถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ต้องได้รับการสนับสนุนจากบุคคลและหน่วยงานอย่างเหมาะสม และมีความสอดคล้องระหว่างหลักการ เหตุผล วิธีดำเนินการ และวัตถุประสงค์ของโครงงาน
         สามารถสืบค้นข้อมูลผ่านเครื่องมือ Search Engine และการใช้เครื่องมือสื่อสารผ่านเครือข่ายได้
คำชี้แจงในการเลือกคำตอบ ให้นักเรียนใช้เมาส์คลิกเลือกตรงกับข้อความที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
10 ผู้ใช้งานจะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสค้นหาวิทยานิพนธ์จากฐานข้อมูล ThaiLIS ได้จากที่ใด (การนำไปใช้) ก.  เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีทาง e-mail 1 ข.  เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีภายใน     ฐานข้อมูล ThaiLIS ค.  ผู้ใช้ต้อง e-mail ไปขอผู้ดูแลระบบ ง.  การใช้งานฐานข้อมูล ThaiLIS ไม่ต้องใช้ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
10 การทำงานของ E-mail มีลักษณะอย่างไร(การวิเคราะห์) ก.  ต้องมี E-mail Address เพื่อบอกว่าจดหมายนั้นจะส่งไปยัง     ที่ใด 2 ข.  จดหมายนั้นจะทำการส่งไปยังคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต      เป็นทอด ค.  จดหมายจะส่งไปจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ Email       แต่ละคน ง.  ถูกทุกข้อ
10 การลงชื่อเข้าใช้งานเพื่อส่งหรืออ่าน Email ต้องเลือกคำสั่งในข้อใด (การนำไปใช้) ก.  sign up 3 ข.  sign in ค.  enter ง.  come in
10 ข้อใดเป็นชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ Email ของต่างประเทศ (ความเข้าใจ) ก.  siammail.com 4 ข.  yahoo.com ค.  chaiyo.com ง.  thaimail.com
10 ข้อใดไม่ใช่เว็บไซต์ที่ใช้ในการหาข้อมูล (ความรู้ความจำ) ก.  google 5 ข.  yahoo ค.  hunsa ง.  sanook
10 "อธิบายเหตุผล บอกเรื่องที่จัดทำเป็นงานใหม่หรือปรับปรุงงานของผู้อื่น" ข้อความนี้เป็นข้อมูลแสดงรายละเอียดการเขียนเค้าโครงโครงงานข้อใด (การสังเคราะห์) ก.  วัตถุประสงค์ 6 ข.  แนวคิดที่มาและความสำคัญ ค.  หลักการและทฤษฎี ง.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ
10 การดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้องที่สุด (การวิเคราะห์) 1. การเขียนรายงาน 7 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร 3. การนำเสนอและการแสดงผลงาน 4. การลงมือทำโครงงาน 5. การเลือกหัวข้อที่จะทำ 6. การเขียนเค้าโครงโครงงาน
10 ก.  5 2 6 4 1 3 7 ข.  5 6 2 4 3 1 ค.  5 1 3 2 4 6 ง.  5 1 2 6 4 3
10 ข้อใดกล่าวถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้องที่สุด(การสังเคราะห์) ก.  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้นำความรู้ทาง     คอมพิวเตอร์ใช้แก้ปัญหา 8 ข.  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจที่ทำงานวิจัย     มากขึ้น ค.  เป็นการจัดลำดับความคิด การวางแผนดำเนินงานตามแผน     จนสำเร็จ ง.  เป็นการใช้ข้อมูลดิบมาสร้างงานใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์
10 ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลก่อนทำโครงงานคือข้อใด (การประเมินค่า) ก.  มีทักษะการสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 9 ข.  มีเวลาเพียงพอสำหรับฝึกทักษะพื้นฐาน ค.  ได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตเรื่องที่จะศึกษา ง.  แนวทางการกำหนดวิธีการและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
10 ขั้นตอนใดของการทำโครงงานที่แสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงาน(การวิเคราะห์) ก.  การลงมือทำโครงงาน 10 ข.  การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ค.  การเขียนรายงานโครงงาน ง.  การนำเสนอโครงงาน
     สวัสดีครับผมเด็กชายดุ๊กดุ๋ยครับ ผมขอพาทุกท่านเข้าสู่บทเรียนการสืบค้นข้อมูลผ่านระบบ Search Engine ครับ
     Search Engine คืออะไรครับแล้วมีประโยชน์อย่างไรนะ ตามผมมาครับ ผมพร้อมอธิบายแล้วครับ
     Search Engine คือแหล่งสืบค้นข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ครับ มีด้วยกันหลายระบบมากๆครับ
	Search Engine ที่นิยมใช้ตัวอย่างเช่น Google , MSN , Yahoo เป็นต้นครับ ซึ่งระบบเหล่านี้นั้นเราสามารถหาข้อมูลได้ทุกอย่างที่อยู่ในระบบเครือข่ายออนไลน์เลยครับ 	ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของ บทความ โครงงาน สินค้า การซื้อขาย แม้แต่กระทั่งการบวกเลข การค้นหาคำศัพท์ ก็สามารถสืบค้นได้ครับ ถือว่ามีประโยชน์มากเลยทีเดียว
	แต่สำหรับฐานข้อมูลวิชาการต่างๆนั้น การสืบค้นจะมี Search Engine เฉพาะแบบครับเพื่อการค้นหาสะดวกและง่ายกว่า
	ผมขอแนะนำระบบสำหรับการค้นหาฐานข้อมูลในประเทศไทยครับ นั่นคือระบบ Thailis นั่นเองครับ
	Thailis คือ ระบบฐานข้อมูลในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมมหาวิทยาลัยและแหล่งความรู้จากทั่วประเทศครับ
	ซึ่งการค้นหาข้อมูลที่เราต้องการนั้นเป็นไปด้วยความง่ายและครบถ้วนด้วยครับ
	เอ แต่ก่อนที่เราจะสามารถใช้การสืบค้นข้อมูลผ่านระบบ Thailis เราต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ตามไปดูขั้นตอนการสมัครและการสืบค้นข้อมูลแบบต่างๆกันเลยครับผม
	เราต้องพิมพ์ Address ในช่อง URL ก่อนนะครับ ดังนี้เลยครับ http://tdc.thailis.or.th/tdc/ หลังจากนั้นคลิกไปหน้าเว็ปเลยครับ
    ปรากฎหน้าจอดังรูปครับ
      คลิกสมัครสมาชิกครับ
  กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกช่องเลยครับ
    กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกช่องเลยครับ
     เมื่อเสร็จแล้วก็คลิกปุ่มบันทึกได้เลยครับ
	หลังจากนั้นจะทำการโหลดหน้าจอแล้ว ขึ้นให้เราไปยืนยันการสมัครสมาชิกในอีเมลล์ที่เรากรอกไปนะครับ
     เข้าอีเมลล์แล้วเปิดข้อความที่ทางระบบส่งมา คลิกยืนยัน ครับ
      จะปรากฎหน้าจอขึ้นของระบบ Thailis ขึ้นนะครับ ถึงตอนนี้เราสามารถสืบค้นข้อมูลได้อย่างเต็มที่ครับ
	ทำการเข้าสู่ระบบโดยใช้รหัสผ่านที่ส่งมาทางอีเมลล์นะครับ
	สำหรับการสืบค้นข้อมูลสามารถเลือกได้จากแถบเครื่องมือด้านบนหน้าจอ นะครับสามารถเลือกได้หลายแบบเลยครับ
   อย่างแรกผมขอแนะนำ การสืบค้นข้อมูลแบบธรรมดาครับ คลิกปุ่ม Basic Search ครับ
	จะปรากฎหน้าจอดังภาพครับ เราสามารถใส่ข้อมูลในช่องได้เลยครับว่าเราต้องการการค้นหาแบบใด       เราต้องการเลือกข้อมูลชนิดไหนจากแหล่งข้อมูลใดสามารถเลือกได้เลยครับ
     เยอะมากมายเลยใช่ไหมครับ มีข้อมูลแนะนำฐานข้อมูลด้วยครับ      เมื่อเราได้คลิกปุ่มค้นหา ผลการค้นหาก็จะออกมาดังนี้ครับ
     ถ้าเราต้องการจะสืบค้นข้อมูลได้ สามารถคลิกเลือกได้เลยครับ
       หลังจากนั้นก็จะปรากฎฐานข้อมูลขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเปิดอ่านแต่ละไฟล์ได้ครับ        ถ้าเราต้องการปริ้นท์หรือบันทึกก็สามารถคลิกแถบเมนูลับได้เลยครับ
      เมื่อเราคลิกเปิดไฟล์ของฐานข้อมูลนั้นๆอาจจะมีการให้ยืนยันการเข้าสู่ระบบอีกครั้งหนึ่งนะครับ
       เพียงเท่านี้เราสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามต้องการแล้วครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับผม
      ต่อไปผมจะอธิบายขั้นตอนการสืบค้นข้อมูลแบบละเอียดนะครับซึ่งจะได้ข้อมูลเหมือนกับการสืบค้นข้อมูลแบบธรรมดาครับ แต่จะผ่านการคัดกรองโดยการที่เราเลือกครับ
          คลิกปุ่ม Advance Searchครับ
     จะปรากฎหน้าจอดังนี้ครับ กรอกเลือกข้อมูลอย่างที่เราต้องการเลยครับ
       หลังจากนั้นจะปรากฎฐานข้อมูล ที่กรองมาแล้วให้เราเลือกได้มากมายเลยครับ ส่วนขั้นตอนการเปิดนั้นเหมือนกับการสืบค้นข้อมูลธรรมดาเลยครับ
      ผมขอแนะนำแถบเครื่องมือลำดับต่อไปนะครับ ซึ่งก็คือ Browse         คลิกปุ่ม Browse เลยครับ
       จะปรากฎหน้าจอดังนี้ครับ ซึ่งเราสามารถเลือกการค้นหาข้อมูลแบบการเรียงลำดับหรือการค้นหารายละเอียดต่างๆเช่น ชื่อผู้จัดทำ หรือชื่อเรื่องได้ครับ
     สำหรับรายการตามเงื่อนไขนั้น เราสามารถใส่เงื่อนไขที่เราต้องการของข้อมูลลงไปเลยครับ
       ไม่ยากเลยใช่ไหมครับกับการสืบค้นฐานข้อมูลในประเทศไทยผ่านระบบสืบค้นข้อมูลระบบ Thailis หาอะไรก็เจอครับ ผมดุ๊กดุ๋ยขอลาไปก่อนนะครับแล้วพบกับผมใหม่ในบทเรียนต่อไปนะครับ
       สวัสดีครับ ผมเด็กชายดุ๋กดุ๊ยครับ พบกันอีกแล้วในบทเรียนเครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายครับ เครื่องมือบนเครือข่ายมีประโยชน์อย่างไรนะครับ อยากรู้ใช่ไหมครับตามผมมาครับ
            เครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายมีประโยชน์มากมายครับ เช่น การพูดคุยออนไลน์กับบุคคลต่างๆ การแสดงความคิดเห็น การกระทำต่างๆร่วมกันในโลกออนไลน์นั่นเองครับ
	ในปัจจุบัน ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้แผ่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้การติดต่อสื่อสารไปถึงได้ทั่วทุกที่ครับ
	การแลกเปลี่ยนความรู้สามารถเกิดขึ้นในการสื่อสารบนเครือข่ายได้มากมายหลายวิธีครับ ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้กันได้อย่างรวดเร็วและยังสามารถสื่อสารได้หลากหลายรูปแบบทั้ง ตัวอักษร รูปภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งวีดีโอครับ
	ผมขอแนะนำเครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายที่เหมาะสมกับการแลกเปลี่ยนความรู้นะครับ เช่น                 E-mail ,  MSN Messenger 9.0 , Blog เป็นต้นครับ 	อยากรู้รายละเอียดวิธีใช้ใช่ไหมครับ ตามผมมาครับ ผมขอแนะนำการใช้เครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายเหล่านี้เองครับ
	หลายคนคงจะได้ยินคำว่า E-mail มาแล้วนะครับ E-mail หมายถึงจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ครับ         Hotmail เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอีเมล์ฟรีที่เป็นที่นิยมเหมาะสำหรับการติดต่อทั่วโลก และการสนทนาด้วยโปรแกรม MSN เริ่มแรกเลยก่อนที่จะสามารถรับส่งอีเมล์หรือจดหมายอิเลคทรอนิกส์ได้นั้นจำต้องมี e-mail address ก่อน การที่จะได้ e-mail address นี้มาได้ ต้องสมัครครับ
          สำหรับขั้นตอนการสมัครนั้นเริ่มต้นจาก เข้าไปที่เลือกใช้ internet Explorer นะครับ แล้วก็กรอก "www.hotmail.com" ในช่อง Address  จากนั้นคลิก Enter เพื่อเข้าสู่เว็บ hotmail.com ครับ
       จะปรากฎหน้าจอดังรูปครับถ้ามีอีเมลล์แล้วก็สามารถลงชื่อใช้งานได้เลยครับ
      ถ้าต้องการสมัครใช้อีเมลล์ให้คลิกปุ่ม ลงทะเบียน ครับ
      จะปรากฎหน้าจอให้กรอกข้อมูลของตัวเราครับ โดยเริ่มจากการกรอกชื่ออีเมลล์ครับ
       เมื่อกรอกชื่ออีเมลล์ที่ต้องการสมัครแล้ว ให้คลิกปุ่ม ตรวจสอบการใช้งาน เพื่อตรงสอบว่ามีชื่อนี้ใช้แล้วหรือยังครับเพื่อการไม่ซ้ำกันครับ
      ถ้าใช้งานได้จะปรากฎดังภาพนะครับ ซึ่งสามารถกรอกข้อมูลในช่องต่อไปได้เลยครับผม
     สร้างรหัสผ่านของเราครับ และยืนยันรหัสผ่านอีกครังครับ จะมีแถบแสดงการคาดเดายากง่ายเพื่อนความปลอดภัยในการใช้อีเมลล์ครับ
       กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกช่องเลยนะครับ หลังจากนั้นกรอกอักขระที่มีอยู่ในช่องให้ถูกต้องด้วยครับ
       การกรอกอักขระสามารถเปลี่ยนเป็นการฟังเสียงแทนได้นะครับ
      เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วคลิกปุ่ม ฉันยอมรับ  หลังจากนั้นรอสักครู่ครับหน้าจอจะขึ้นสถานะแสดงว่ากำลังทำงานอยู่ครับ
        หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าแรกของอีเมลล์เราครับ ถ้าต้องการเปิดอ่านจดหมายสามารถคลิกที่รูปจดหมายได้เลยครับ
        ส่วนการจะส่งจดหมายให้คลิกที่ปุ่ม สร้าง ครับเพื่อสร้างจดหมายครับ
        สำหรับถ้าต้องการส่งรูปภาพหรือไฟล์งาน สามารถคลิกเลือกได้ที่               ปุ่มแนบ ครับ         ใส่อีเมลล์ที่เราต้องการจะส่งในช่องถึง ครับ และชื่อเรื่องคือเรื่องที่เราจะส่งครับ และส่วนตัวข้อความสามารถพิมพ์ลงในช่องว่างได้เลยครับ
         เพียงแค่นี้ก็เราก็จะได้ e-mail address ที่ต้องการแล้ว  ไม่ยากเลยใช่ใหม่ครับสำหรับการสมัครและการใช้ e-mail
         การสมัครอีเมลล์ของ Hotmail นั้นยังสามารถนำอีเมลล์ไปใช้กับ Windows Live Messenger ได้อีกด้วยนะครับ
      โปรแกรม MSN Messenger 9.0 หรือ Windows Live Messenger 9.0 ครับ มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ครับ
     เราต้องทำการติดตั้งโปรแกรมก่อนนะครับถึงจะใช้งานได้ครับซึ่งตัวติดตั้งนั้นสามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ตนะครับ         ผมขอแนะนำ MSN Messenger เวอร์ชั่น 9.0 นะครับ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดและมีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลายครับ และการติดตั้งง่ายที่สุดครับ
      เริ่มต้นจากการขยายไฟล์(unzip) ที่ดาวน์โหลดมา  จากนั้นให้ทำการดับเบิ้ลคลิกเพื่อเริ่มติดตั้งครับ
      จะขึ้นหน้าต่างกังภาพนะครับ คลิกปุ่ม Runเพื่อติดตั้งครับ
      จะขึ้นหน้าต่างแสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรมครับรอสักครู่
      และแล้วโปรแกรมก็ติดตั้งสมบูรณ์ครับ โปรแกรมปรากฎขึ้นมาดังนี้พร้อมใช้งานกันหรือยังครับผม
      ใส่อีเมลล์และรหัสผ่านลงในช่องได้เลยครับ                 คลิกปุ่ม Sing in ครับ
      หลังจากนั้นจะทำการเข้าสู่ระบบซึ่งถ้าการเข้าใช้งานครั้งแรกจะใช้เวลานานนะครับ
        เมื่อได้แล้วจะปรากฎดังภาพครับ มีแถบหน้าต่าง Today ขึ้นแสดงข่าวสารประจำวันด้วยครับ
        สำหรับใช้งานเริ่มต้นจากการเพิ่มรายชื่ออีเมลล์ก่อนครับ ทำได้โดยการคลิกไอคอนดังรูปนะครับ
        หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าต่างดังรูปครับ พิมพ์ชื่ออีเมลล์ที่เราต้องการเพิ่มในเครือข่ายของเราได้เลยครับ คลิกปุ่ม Nextครับ
     หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าต่างดังรูปครับ               คลิกปุ่ม Send invitation ได้เลยครับ
         จะปรากฎหน้าต่างแสดงสถานะรอสักครู่ครับ
       เมื่อเพิ่มรายชื่อเครือข่ายเสร็จแล้ว             คลิกปุ่ม Closeได้เลยครับ
           สำหรับการสื่อสารพูดคุย เราสามารถทำได้โดยการดับเบิลคลิกที่ชื่ออีเมลล์ครับ จะปรากฎหน้าต่างขึ้นมาครับ
       สามารถพิมพ์ข้อความลงในช่องสี่เหลี่ยมได้เลยครับ แล้วคลิก Enterเพื่อส่งข้อความครับ
        นอกจากนี้แล้ว ยังมีปุ่มลัดสำหรับการเปิดข้อความอีเมลล์ได้ด้วย            นะครับ
          Blog ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งครับที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกันบนเครือข่าย โดยสามารถสร้าง Blog ขึ้นมาเป็นของตัวเองได้ครับ ซึ่งผู้อื่นนั้นสามารถมาแสดงความคิดเห็นหรืออ่าน Blog ของเราได้ครับ
            Blog สามารถสมัครใช้งานได้หลายเว็ปไซต์ด้วยกันนะครับ แต่สำหรับเพื่องานวิชาการต้องของ   Thaigoodview.com   ครับ           Thaigoodview.com เป็นเว็ปไซต์ซึ่งผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของ สพฐ. ครับ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็จะเป็นบุคคลในแวดวงการศึกษาครับ
      สำหรับการเข้าเว็ปไซต์ให้พิมพ์  www.thaigoodview.com ในช่อง Address แล้วกดปุ่ม Enter ได้เลยครับ
        หน้าแรกของเว็ปไซต์จะเป็นดังรูปครับ ซึ่งการที่เราจะสามารถติดต่อสื่อสารในเว็ปนี้ได้นั้นต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ
        คลิกเลือก สมัครสมาชิก ที่ด้านบนขวาครับ หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างเงื่อนไขการสมัครสมาชิกขึ้นมาครับ
คลิกปุ่ม ยอมรับ ครับ
    กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนครับ
         เมื่อเสร็จกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว อย่าลืมตอบคำถามคิดเลขด้วยนะครับคลิกปุ่ม สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ครับ
        เมื่อเสร็จแล้วจะกลับเข้าสู่หน้าแรกอีกครั้งหนึ่งครับ คลิกปุ่มเข้าสู่ระบบครับ ทำการกรอกชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน ในการเข้าระบบครับ คลิกปุ่ม ล็อกอิน ครับ
       จะเข้าสู่หน้าประวัติของชื่อผู้ใช้ของเราครับ ซึ่งส่วนนี้สามารถทำการแก้ไขได้โดยคลิกปุ่ม แก้ไข ครับ
       สำหรับการสร้าง Blog ให้สังเกตทางด้านขวามือครับ คลิกปุ่ม  สร้างเนื้อหา ครับ
        จะปรากฎหน้าต่างให้เลือกว่าจะสร้างอะไรนะครับ ให้เลือก Blog นะครับ
        จะขึ้นหน้าต่างให้กรอกข้อมูลรายละเอียด Blog นะครับ ใส่เรื่องที่เราต้องการสร้างเลยครับ และเมื่อเสร็จให้คลิกปุ่ม ยืนยัน ครับ
        เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสร้าง Blog ได้เป็นของตัวเองครับ ซึ่งสามารถสร้างเพิ่มเติมได้อีกนะครับ เราลองไปดู Blog การทำโครงงานกันนะครับ
        สำหรับการแสดงความคิดเห็นของ Blog นั้น เราสามารถทำได้โดยคลิกเลือกปุ่ม แสดงความคิดเห็น ครับ
        ซึ่งจะปรากฎเป็นกล่องข้อความเพิ่มขึ้นมานะครับ เราสามารถแสดงความคิดเห็นลงไปได้เลย แล้วคลิกปุ่ม                    ส่งความคิดเห็น นะครับ
       การสื่อสารบนเครือข่ายมีมากมายหลายรูปแบบครับ สำหรับที่ผมได้อธิบายไปนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถใช้งานได้ง่ายๆและเหมาะสมครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ ดุ๋กดุ๊ยสวัสดีครับ
การเขียนเค้าโครงโครงงาน
          ลักษณะของโครงงานที่ดีต้องมีความชัดเจนและเข้าใจง่ายของวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ มีความสอดคล้องและสนองต่อความจำเป็น มีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของหน่วยงาน มีความเป็นไปได้ในการดำเนินงานโครงงาน โดยที่สามารถวัดและประเมินผลโครงงานนั้น ๆ ได้ มีการระบุเวลาในแต่ละช่วงตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงานโดยละเอียด มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อย่างถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ต้องได้รับการสนับสนุนจากบุคคลและหน่วยงานอย่างเหมาะสม และมีความสอดคล้องระหว่างหลักการ เหตุผล วิธีดำเนินการ และวัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. สามารถบอกหลักการเขียนเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์     ประเภทสื่อเพื่อการศึกษาได้ 2.  สามารถเขียนเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อ     การศึกษาได้
        สำหรับการเขียนเค้าโครงโครงงานคอมพิวเตอร์ มีหลักการเขียนดังนี้ ครับ...
1. ชื่อโครงงาน  ชื่อโครงงานที่ดีควรมีลักษณะดังนี้ เป็นข้อความที่มีลักษณะกะทัดรัด ชัดเจน ชื่อของโครงงานเมื่ออ่านแล้ว ควรมองเห็นภาพพจน์ของโครงงานนั้นว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ชื่อโครงงานควรเป็นหัวข้อที่เป็นปัญหา และน่าสนใจต่อผู้พบเห็นและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
2. ชื่อผู้ทำโครงงาน  ต้องมีการระบุชื่อผู้ทำ    โครงงาน โดยมีการระบุ ชื่อ.........................นามสกุล............................เลขที่..........ชั้น........ ห้อง........................โรงเรียน..........................................................
3. ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน  ที่ปรึกษาโครงงานควรมี    ลักษณะดังนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญในเนื้อหาของโครงงานนั้น เป็นผู้ที่มีเวลาในการให้คำแนะนำปรึกษา เมื่อมีปัญหาในการดำเนินงานโครงงาน เป็นผู้ที่พบปะได้ง่าย และสะดวกต่อผู้ทำโครงงาน เป็นผู้ที่มีความเข้าใจที่ดีกับผู้ดำเนินโครงงาน เป็นบุคคลที่เป็นผู้ที่รู้จักกันดีของบุคคลทั่วไป
การเขียนชื่อที่ปรึกษาโครงงานนั้น ต้องมีการระบุดังนี้ ชื่อ.........................นามสกุล............................ตำแหน่ง................. สถานที่ทำงาน..................................เบอร์โทรศัพท์..........................
4.  ที่มาและความสำคัญของโครงงาน  ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ควรมีลักษณะดังนี้ มีการบ่งชี้รากฐานความเป็นมาของโครงงาน ว่ามีที่มาอย่างไร  มีแนวความคิดเป็นพื้นฐานที่มาของโครงงานนั้น ๆ อย่างไร ควรให้ผู้อ่านหรือผู้ใช้โครงงานอย่างน้อยให้มีความเข้าใจ และทราบถึงพื้นฐานความเป็นมาแนวคิดของโครงงานนั้น ต้องมีการเขียนแสดงถึงความสำคัญของโครงงาน จากประเด็นต่าง ๆ ในโครงงานนั้น มีการระบุความเร่งด่วนของโครงงาน ตลอดจนความสัมพันธ์ ความผูกพันระหว่างโครงงานนั้น กับโครงงาน หรือความรู้ต่าง ๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
5.  จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า  การเขียนจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า ต้องมีลักษณะดังนี้ เขียนเป็นประโยคคำถามหรือเป็นประโยคธรรมดาก็ได้ หรือจะเขียนผสมกันระหว่างประโยคทั้งสองอย่างที่กล่าวมาแล้วก็ได้ ควรใช้ภาษาที่แจ่มชัด เข้าใจง่าย ไม่วกวน สามารถตั้งสมมติฐานได้ สามารถทำการทดสอบได้ ควรแยกแยะให้เห็น สิ่งที่ต้องการศึกษาเป็นรายย่อย ไม่ควรเขียนคลุม ๆ กันไว้ทำให้ขาดเป็นปรนัย
6.  วิธีการดำเนินงาน วิธีดำเนินงานนี้ จะเป็นส่วนระบุถึง แนวทาง กลยุทธ์ และวิธีที่จะทำโครงงานนั้น ๆ โดยละเอียด ในการระบุวิธีดำเนินนี้ จะต้องชี้แจงรายละเอียดว่าทำอย่างไร เพียงใด จึงจะบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดตามโครงงาน มีการระบุถึง
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน โดยละเอียดเป็นรายข้อ แนวการศึกษาค้นคว้า ระบุการจัดทำและการดำเนินโครงงาน ได้แนวคิดจากแหล่งใด โดยใคร และนำมาประยุกต์ใช้ในโครงงานนี้อย่างไร
7.  แผนปฏิบัติงาน   เขียนแผนการปฏิบัติในการจัดทำและดำเนินงานโครงงาน โดยละเอียดเป็นขั้นตอน ระบุระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ และงบประมาณ (ในรูปตาราง เพื่อความสะดวกในการนำเสนอ
แผนปฏิบัติงานแบ่งออกเป็นขั้น ๆ โดยสรุป ดังนี้ ......ครับ  ขั้นตอนดำเนินงาน เป็นขั้นตอนที่ผู้รับผิดชอบ โครงงานต้องเตรียมการก่อนดำเนินงาน เช่น ศึกษาค้นคว้า เอกสารอ้างอิง ประชุมผู้รับผิดชอบโครงงาน เลือกหัวข้อในการทำโครงงาน จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และแบ่งหน้าที่ตามความรับผิดชอบภายในกลุ่ม ขั้นดำเนินงาน ระบุรายละเอียดตั้งแต่เริ่มดำเนินการ จนโครงงานสำเร็จเป็นขั้นตอนในแต่ละช่วงเวลา ขั้นวัดผลและประเมินผล ระบุเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลและประเมินผลว่าใช้เครื่องมือชนิดใดบ้าง
8.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผลที่คาดว่าจะได้รับ จะเป็นการระบุถึงประโยชน์หรือผลที่พึงจะได้รับหลังจากสิ้นสุดการทำโครงงานนั้น ๆ แล้ว เป็นการแสดงผลกระทบที่ดี ทั้งทางตรงและทางอ้อมและระบุว่า ใครจะได้ประโยชน์ และผลกระทบ หรือมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอะไรและอย่างไร ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ
9.  เอกสารอ้างอิง เอกสารอ้างอิง จะเป็นสิ่งทีทำให้ผู้ดำเนินโครงงานมองเห็นแนวทางในการดำเนินงาน และแก้ปัญหาของตนได้ดีขึ้น
การอ้างอิงอาจทำได้ 2 วิธี คือ 1.  การอ้างอิงโดยใช้เชิงอรรถ (Footnote)  1.1  อ้างอิงโดยใช้เลขกำกับ ระหว่างข้อความในเนื้อเรื่องกับเอกสารที่อ้างอิงในเชิงอรรถตรงกัน เรียงลำดับตัวเลขกำกับในเชิงอรรถ เมื่อขึ้นหน้าใหม่ให้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ส่วนของเชิงอรรถจะอยู่ทางส่วนล่างของหน้ากระดาษ โดยมีเส้นคั่นขวางระหว่างตัวเรื่องกับเชิงอรรถจากขอบซ้ายประมาณครึ่งหนึ่ง
การอ้างอิงอาจทำได้ 2 วิธี คือ 1.2  การอ้างอิงจากหนังสือ  เชิงอรรถจะระบุส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวกับผู้แต่งส่วนชื่อหนังสืออ้างอิง การเขียนชื่อผู้แต่งให้เขียนชื่อก่อนชื่อสกุล ขีดเส้นใต้ขีดหนังสือ เชิงอรรถภาษาไทย การบอกเลขหน้าเขียนคำว่า “หน้า” แต่เป็นภาษาอังกฤษเขียนคำว่า “P” นำหน้าเลขบอกหน้าในเชิงอรรถภาษาไทยจะไม่ใช้เครื่องหมายใด ๆ คั่นเลยแต่ถ้าเป็นเชิงอรรถภาษาอังกฤษจะใช้เครื่องหมายมหัพภาคคั่นแต่ละส่วน เช่น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ว 017 โครงงานวิทยาศาสตร์ กับคุณภาพชีวิต, หน้า 2 Brian Bolt and David Hobbs, 101 Mathematics Projects, P.50
การอ้างอิงอาจวิธีที่สอง ...ครับ... 2.  การอ้างอิงโดยใช้บรรณานุกรม แบบการเขียนรายงานเป็นรูปแบบการเขียนทั่วไปในการเขียนรายงาน คือ  ชื่อผู้แต่ง.........................นามสกุลผู้แต่ง......................ชื่อหนังสือ.........................พิมพ์ครั้งที่......................สถานที่พิมพ์.......................................ปีที่พิมพ์.............. เช่น จุลจักร โนพันธ์และวิทยา สิริอนุวัฒน์ง 321 โครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3บริษัท             สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช (แผนกโรงงาน) 2536.
คำชี้แจงในการเลือกคำตอบ ให้นักเรียนใช้เมาส์คลิกเลือกตรงกับข้อความที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
10 การทำงานของ E-mail มีลักษณะอย่างไร(การวิเคราะห์) ก.  ต้องมี E-mail Address เพื่อบอกว่าจดหมายนั้นจะส่งไปยัง     ที่ใด 1 ข.  จดหมายนั้นจะทำการส่งไปยังคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต      เป็นทอด ค.  จดหมายจะส่งไปจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ Email       แต่ละคน ง.  ถูกทุกข้อ
10 ผู้ใช้งานจะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสค้นหาวิทยานิพนธ์จากฐานข้อมูล ThaiLIS ได้จากที่ใด (การนำไปใช้) ก.  เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีทาง e-mail 2 ข.  เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีภายใน     ฐานข้อมูล ThaiLIS ค.  ผู้ใช้ต้อง e-mail ไปขอผู้ดูแลระบบ ง.  การใช้งานฐานข้อมูล ThaiLIS ไม่ต้องใช้ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
10 ข้อใดเป็นชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ Email ของต่างประเทศ (ความเข้าใจ) ก.  siammail.com 3 ข.  yahoo.com ค.  chaiyo.com ง.  thaimail.com
10 "อธิบายเหตุผล บอกเรื่องที่จัดทำเป็นงานใหม่หรือปรับปรุงงานของผู้อื่น" ข้อความนี้เป็นข้อมูลแสดงรายละเอียดการเขียนเค้าโครงโครงงานข้อใด (การสังเคราะห์) ก.  วัตถุประสงค์ 4 ข.  แนวคิดที่มาและความสำคัญ ค.  หลักการและทฤษฎี ง.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ
10 การลงชื่อเข้าใช้งานเพื่อส่งหรืออ่าน Email ต้องเลือกคำสั่งในข้อใด (การนำไปใช้) ก.  sign up 5 ข.  sign in ค.  enter ง.  come in
10 ข้อใดไม่ใช่เว็บไซต์ที่ใช้ในการหาข้อมูล (ความรู้ความจำ) ก.  google 6 ข.  yahoo ค.  hunsa ง.  sanook
10 ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลก่อนทำโครงงานคือข้อใด (การประเมินค่า) ก.  มีทักษะการสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 7 ข.  มีเวลาเพียงพอสำหรับฝึกทักษะพื้นฐาน ค.  ได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตเรื่องที่จะศึกษา ง.  แนวทางการกำหนดวิธีการและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
10 การดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้องที่สุด (การวิเคราะห์) 1. การเขียนรายงาน 8 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร 3. การนำเสนอและการแสดงผลงาน 4. การลงมือทำโครงงาน 5. การเลือกหัวข้อที่จะทำ 6. การเขียนเค้าโครงโครงงาน
10 ก.  5 2 6 4 1 3 8 ข.  5 6 2 4 3 1 ค.  5 1 3 2 4 6 ง.  5 1 2 6 4 3
10 ข้อใดกล่าวถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้องที่สุด(การสังเคราะห์) ก.  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้นำความรู้ทาง     คอมพิวเตอร์ใช้แก้ปัญหา 9 ข.  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจที่ทำงานวิจัย     มากขึ้น ค.  เป็นการจัดลำดับความคิด การวางแผนดำเนินงานตามแผน     จนสำเร็จ ง.  เป็นการใช้ข้อมูลดิบมาสร้างงานใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์
10 ขั้นตอนใดของการทำโครงงานที่แสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงาน(การวิเคราะห์) ก.  การลงมือทำโครงงาน 10 ข.  การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ค.  การเขียนรายงานโครงงาน ง.  การนำเสนอโครงงาน

More Related Content

Viewers also liked

Renewable Energy Resourses
Renewable Energy ResoursesRenewable Energy Resourses
Renewable Energy Resoursesshalini2093
 
Renewable & Nonrenewable Resources
Renewable & Nonrenewable ResourcesRenewable & Nonrenewable Resources
Renewable & Nonrenewable ResourcesPaula Burrough
 
renewable and non renewable resources
renewable and non renewable resourcesrenewable and non renewable resources
renewable and non renewable resourcesGagandeep Singh
 
Renewable non-renewable-energy-resources
Renewable non-renewable-energy-resourcesRenewable non-renewable-energy-resources
Renewable non-renewable-energy-resourcesRachit Walia
 
Renewable Energy Power Point
Renewable Energy Power PointRenewable Energy Power Point
Renewable Energy Power Pointwallbren
 
Renewable and Non- renewable energy Sources
Renewable and Non- renewable energy SourcesRenewable and Non- renewable energy Sources
Renewable and Non- renewable energy SourcesGeorge Thomas
 
Renewable And Non Renewable Sources Of Energy
Renewable And Non Renewable Sources Of EnergyRenewable And Non Renewable Sources Of Energy
Renewable And Non Renewable Sources Of Energyoneworld.abhiraj
 
Nuclear energy powerpoint.
Nuclear energy powerpoint.Nuclear energy powerpoint.
Nuclear energy powerpoint.Enigmatic You
 
Renewable Energy Sources
Renewable Energy SourcesRenewable Energy Sources
Renewable Energy SourcesStoyan Dimitrov
 

Viewers also liked (10)

Renewable Energy Resourses
Renewable Energy ResoursesRenewable Energy Resourses
Renewable Energy Resourses
 
Renewable & Nonrenewable Resources
Renewable & Nonrenewable ResourcesRenewable & Nonrenewable Resources
Renewable & Nonrenewable Resources
 
renewable and non renewable resources
renewable and non renewable resourcesrenewable and non renewable resources
renewable and non renewable resources
 
Renewable non-renewable-energy-resources
Renewable non-renewable-energy-resourcesRenewable non-renewable-energy-resources
Renewable non-renewable-energy-resources
 
Renewable Energy Power Point
Renewable Energy Power PointRenewable Energy Power Point
Renewable Energy Power Point
 
Renewable and Non- renewable energy Sources
Renewable and Non- renewable energy SourcesRenewable and Non- renewable energy Sources
Renewable and Non- renewable energy Sources
 
Renewable And Non Renewable Sources Of Energy
Renewable And Non Renewable Sources Of EnergyRenewable And Non Renewable Sources Of Energy
Renewable And Non Renewable Sources Of Energy
 
Nuclear energy powerpoint.
Nuclear energy powerpoint.Nuclear energy powerpoint.
Nuclear energy powerpoint.
 
Renewable Energy Sources
Renewable Energy SourcesRenewable Energy Sources
Renewable Energy Sources
 
Mineral & energy resources
Mineral & energy resourcesMineral & energy resources
Mineral & energy resources
 

Similar to บทเรียน ประกอบแผนที่ 3

การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตeyechillchill
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูลchaiwat vichianchai
 
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลา
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลาสัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลา
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลาSani Satjachaliao
 
โจทย์ปัญหา Pbl4.1
โจทย์ปัญหา Pbl4.1โจทย์ปัญหา Pbl4.1
โจทย์ปัญหา Pbl4.1siriyaporn20099
 
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคโครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคMontra Songsee
 
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spss
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spssสัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spss
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spssSani Satjachaliao
 
คอมพิวเตอร์ 501
คอมพิวเตอร์ 501คอมพิวเตอร์ 501
คอมพิวเตอร์ 501taygmail
 
20100318 Tamkeynew
20100318 Tamkeynew20100318 Tamkeynew
20100318 Tamkeynewnaruemol
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4Rattana Wongphu-nga
 
ใบความรู้ที่1
ใบความรู้ที่1ใบความรู้ที่1
ใบความรู้ที่1Orapan Chamnan
 
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ท
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ทการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ท
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ทtrevnis
 
ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9Rattana Wongphu-nga
 

Similar to บทเรียน ประกอบแผนที่ 3 (20)

การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
การสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
 
บทเรียน ประกอบแผนที่ 4
บทเรียน ประกอบแผนที่ 4บทเรียน ประกอบแผนที่ 4
บทเรียน ประกอบแผนที่ 4
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูลหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การสร้างแบบสอบถามวิชา การจัดการฐานข้อมูล
 
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลา
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลาสัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลา
สัปดาห์ที่ 3 4 5 6 ทำความรู้จัก spss ยะลา
 
โจทย์ปัญหา Pbl4.1
โจทย์ปัญหา Pbl4.1โจทย์ปัญหา Pbl4.1
โจทย์ปัญหา Pbl4.1
 
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคโครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
 
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spss
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spssสัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spss
สัปดาห์ที่ 1 กลุ่ม 2 ทำความรู้จัก spss
 
คอมพิวเตอร์ 501
คอมพิวเตอร์ 501คอมพิวเตอร์ 501
คอมพิวเตอร์ 501
 
Research-tools 2014
Research-tools 2014Research-tools 2014
Research-tools 2014
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
20100318 Tamkeynew
20100318 Tamkeynew20100318 Tamkeynew
20100318 Tamkeynew
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบ 7
ใบ 7ใบ 7
ใบ 7
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4
 
ใบความรู้ที่1
ใบความรู้ที่1ใบความรู้ที่1
ใบความรู้ที่1
 
Internetsearch
InternetsearchInternetsearch
Internetsearch
 
ใบงาน3
ใบงาน3ใบงาน3
ใบงาน3
 
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ท
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ทการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ท
การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเน็ท
 
ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9ใบความรู้ที่ 9
ใบความรู้ที่ 9
 

More from ปาริชาติ เภสัชชา

แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวน
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวนแนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวน
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวนปาริชาติ เภสัชชา
 
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบ
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบแนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบ
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบปาริชาติ เภสัชชา
 

More from ปาริชาติ เภสัชชา (20)

หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1
 
ปก
ปกปก
ปก
 
แบบทดสอบหลังเรียน
แบบทดสอบหลังเรียนแบบทดสอบหลังเรียน
แบบทดสอบหลังเรียน
 
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบทดสอบก่อนเรียนแบบทดสอบก่อนเรียน
แบบทดสอบก่อนเรียน
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2
 
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวน
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวนแนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวน
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 8 การเรียงลำดับจำนวน
 
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบ
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบแนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบ
แนวการจัดกิจกรรมคณิตศาสตร์ กิจกรรมที่ 7 การเปรียบเทียบ
 
เทคโนโลยี ตอนที่ 2 ป.1 ถึง ป.3
เทคโนโลยี ตอนที่ 2 ป.1 ถึง ป.3เทคโนโลยี ตอนที่ 2 ป.1 ถึง ป.3
เทคโนโลยี ตอนที่ 2 ป.1 ถึง ป.3
 
หน่วยที่ 5
หน่วยที่ 5หน่วยที่ 5
หน่วยที่ 5
 
หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4หน่วยที่ 4
หน่วยที่ 4
 
หน่วยที่ 3
หน่วยที่ 3หน่วยที่ 3
หน่วยที่ 3
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2หน่วยที่ 2
หน่วยที่ 2
 
หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1หน่วยที่ 1
หน่วยที่ 1
 
หน่วยที่ 7
หน่วยที่ 7หน่วยที่ 7
หน่วยที่ 7
 
หน่วยที่ 6
หน่วยที่  6หน่วยที่  6
หน่วยที่ 6
 
หน่วยที่ 5
หน่วยที่  5หน่วยที่  5
หน่วยที่ 5
 
หน่วยที่ 4
หน่วยที่  4หน่วยที่  4
หน่วยที่ 4
 
หน่วยที่ 3
หน่วยที่  3หน่วยที่  3
หน่วยที่ 3
 
หน่วยที่ 2
หน่วยที่  2หน่วยที่  2
หน่วยที่ 2
 
หน่วยที่ 13
หน่วยที่ 13หน่วยที่ 13
หน่วยที่ 13
 

บทเรียน ประกอบแผนที่ 3

  • 1.
  • 2.
  • 3.
  • 4. ลักษณะของโครงงานที่ดีต้องมีความชัดเจนและเข้าใจง่ายของวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ มีความสอดคล้องและสนองต่อความจำเป็น มีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของหน่วยงาน มีความเป็นไปได้ในการดำเนินงานโครงงาน โดยที่สามารถวัดและประเมินผลโครงงานนั้น ๆ ได้ มีการระบุเวลาในแต่ละช่วงตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงานโดยละเอียด มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อย่างถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ต้องได้รับการสนับสนุนจากบุคคลและหน่วยงานอย่างเหมาะสม และมีความสอดคล้องระหว่างหลักการ เหตุผล วิธีดำเนินการ และวัตถุประสงค์ของโครงงาน
  • 5. สามารถสืบค้นข้อมูลผ่านเครื่องมือ Search Engine และการใช้เครื่องมือสื่อสารผ่านเครือข่ายได้
  • 6.
  • 8. 10 ผู้ใช้งานจะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสค้นหาวิทยานิพนธ์จากฐานข้อมูล ThaiLIS ได้จากที่ใด (การนำไปใช้) ก. เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีทาง e-mail 1 ข. เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีภายใน ฐานข้อมูล ThaiLIS ค. ผู้ใช้ต้อง e-mail ไปขอผู้ดูแลระบบ ง. การใช้งานฐานข้อมูล ThaiLIS ไม่ต้องใช้ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
  • 9. 10 การทำงานของ E-mail มีลักษณะอย่างไร(การวิเคราะห์) ก. ต้องมี E-mail Address เพื่อบอกว่าจดหมายนั้นจะส่งไปยัง ที่ใด 2 ข. จดหมายนั้นจะทำการส่งไปยังคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต เป็นทอด ค. จดหมายจะส่งไปจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ Email แต่ละคน ง. ถูกทุกข้อ
  • 10. 10 การลงชื่อเข้าใช้งานเพื่อส่งหรืออ่าน Email ต้องเลือกคำสั่งในข้อใด (การนำไปใช้) ก. sign up 3 ข. sign in ค. enter ง. come in
  • 11. 10 ข้อใดเป็นชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ Email ของต่างประเทศ (ความเข้าใจ) ก. siammail.com 4 ข. yahoo.com ค. chaiyo.com ง. thaimail.com
  • 13. 10 "อธิบายเหตุผล บอกเรื่องที่จัดทำเป็นงานใหม่หรือปรับปรุงงานของผู้อื่น" ข้อความนี้เป็นข้อมูลแสดงรายละเอียดการเขียนเค้าโครงโครงงานข้อใด (การสังเคราะห์) ก. วัตถุประสงค์ 6 ข. แนวคิดที่มาและความสำคัญ ค. หลักการและทฤษฎี ง. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  • 14. 10 การดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้องที่สุด (การวิเคราะห์) 1. การเขียนรายงาน 7 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร 3. การนำเสนอและการแสดงผลงาน 4. การลงมือทำโครงงาน 5. การเลือกหัวข้อที่จะทำ 6. การเขียนเค้าโครงโครงงาน
  • 15. 10 ก. 5 2 6 4 1 3 7 ข. 5 6 2 4 3 1 ค. 5 1 3 2 4 6 ง. 5 1 2 6 4 3
  • 16. 10 ข้อใดกล่าวถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้องที่สุด(การสังเคราะห์) ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้นำความรู้ทาง คอมพิวเตอร์ใช้แก้ปัญหา 8 ข. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจที่ทำงานวิจัย มากขึ้น ค. เป็นการจัดลำดับความคิด การวางแผนดำเนินงานตามแผน จนสำเร็จ ง. เป็นการใช้ข้อมูลดิบมาสร้างงานใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์
  • 17. 10 ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลก่อนทำโครงงานคือข้อใด (การประเมินค่า) ก. มีทักษะการสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 9 ข. มีเวลาเพียงพอสำหรับฝึกทักษะพื้นฐาน ค. ได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตเรื่องที่จะศึกษา ง. แนวทางการกำหนดวิธีการและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
  • 18. 10 ขั้นตอนใดของการทำโครงงานที่แสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงาน(การวิเคราะห์) ก. การลงมือทำโครงงาน 10 ข. การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ค. การเขียนรายงานโครงงาน ง. การนำเสนอโครงงาน
  • 19. สวัสดีครับผมเด็กชายดุ๊กดุ๋ยครับ ผมขอพาทุกท่านเข้าสู่บทเรียนการสืบค้นข้อมูลผ่านระบบ Search Engine ครับ
  • 20. Search Engine คืออะไรครับแล้วมีประโยชน์อย่างไรนะ ตามผมมาครับ ผมพร้อมอธิบายแล้วครับ
  • 21. Search Engine คือแหล่งสืบค้นข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ครับ มีด้วยกันหลายระบบมากๆครับ
  • 22. Search Engine ที่นิยมใช้ตัวอย่างเช่น Google , MSN , Yahoo เป็นต้นครับ ซึ่งระบบเหล่านี้นั้นเราสามารถหาข้อมูลได้ทุกอย่างที่อยู่ในระบบเครือข่ายออนไลน์เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของ บทความ โครงงาน สินค้า การซื้อขาย แม้แต่กระทั่งการบวกเลข การค้นหาคำศัพท์ ก็สามารถสืบค้นได้ครับ ถือว่ามีประโยชน์มากเลยทีเดียว
  • 23. แต่สำหรับฐานข้อมูลวิชาการต่างๆนั้น การสืบค้นจะมี Search Engine เฉพาะแบบครับเพื่อการค้นหาสะดวกและง่ายกว่า
  • 25.
  • 26. Thailis คือ ระบบฐานข้อมูลในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมมหาวิทยาลัยและแหล่งความรู้จากทั่วประเทศครับ
  • 28. เอ แต่ก่อนที่เราจะสามารถใช้การสืบค้นข้อมูลผ่านระบบ Thailis เราต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ตามไปดูขั้นตอนการสมัครและการสืบค้นข้อมูลแบบต่างๆกันเลยครับผม
  • 29. เราต้องพิมพ์ Address ในช่อง URL ก่อนนะครับ ดังนี้เลยครับ http://tdc.thailis.or.th/tdc/ หลังจากนั้นคลิกไปหน้าเว็ปเลยครับ
  • 30. ปรากฎหน้าจอดังรูปครับ
  • 31. คลิกสมัครสมาชิกครับ
  • 33. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกช่องเลยครับ
  • 34. เมื่อเสร็จแล้วก็คลิกปุ่มบันทึกได้เลยครับ
  • 36. เข้าอีเมลล์แล้วเปิดข้อความที่ทางระบบส่งมา คลิกยืนยัน ครับ
  • 37. จะปรากฎหน้าจอขึ้นของระบบ Thailis ขึ้นนะครับ ถึงตอนนี้เราสามารถสืบค้นข้อมูลได้อย่างเต็มที่ครับ
  • 39.
  • 41. อย่างแรกผมขอแนะนำ การสืบค้นข้อมูลแบบธรรมดาครับ คลิกปุ่ม Basic Search ครับ
  • 42. จะปรากฎหน้าจอดังภาพครับ เราสามารถใส่ข้อมูลในช่องได้เลยครับว่าเราต้องการการค้นหาแบบใด เราต้องการเลือกข้อมูลชนิดไหนจากแหล่งข้อมูลใดสามารถเลือกได้เลยครับ
  • 43. เยอะมากมายเลยใช่ไหมครับ มีข้อมูลแนะนำฐานข้อมูลด้วยครับ เมื่อเราได้คลิกปุ่มค้นหา ผลการค้นหาก็จะออกมาดังนี้ครับ
  • 44. ถ้าเราต้องการจะสืบค้นข้อมูลได้ สามารถคลิกเลือกได้เลยครับ
  • 45. หลังจากนั้นก็จะปรากฎฐานข้อมูลขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเปิดอ่านแต่ละไฟล์ได้ครับ ถ้าเราต้องการปริ้นท์หรือบันทึกก็สามารถคลิกแถบเมนูลับได้เลยครับ
  • 46. เมื่อเราคลิกเปิดไฟล์ของฐานข้อมูลนั้นๆอาจจะมีการให้ยืนยันการเข้าสู่ระบบอีกครั้งหนึ่งนะครับ
  • 47. เพียงเท่านี้เราสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามต้องการแล้วครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับผม
  • 48. ต่อไปผมจะอธิบายขั้นตอนการสืบค้นข้อมูลแบบละเอียดนะครับซึ่งจะได้ข้อมูลเหมือนกับการสืบค้นข้อมูลแบบธรรมดาครับ แต่จะผ่านการคัดกรองโดยการที่เราเลือกครับ
  • 49. คลิกปุ่ม Advance Searchครับ
  • 50. จะปรากฎหน้าจอดังนี้ครับ กรอกเลือกข้อมูลอย่างที่เราต้องการเลยครับ
  • 51. หลังจากนั้นจะปรากฎฐานข้อมูล ที่กรองมาแล้วให้เราเลือกได้มากมายเลยครับ ส่วนขั้นตอนการเปิดนั้นเหมือนกับการสืบค้นข้อมูลธรรมดาเลยครับ
  • 52. ผมขอแนะนำแถบเครื่องมือลำดับต่อไปนะครับ ซึ่งก็คือ Browse คลิกปุ่ม Browse เลยครับ
  • 53. จะปรากฎหน้าจอดังนี้ครับ ซึ่งเราสามารถเลือกการค้นหาข้อมูลแบบการเรียงลำดับหรือการค้นหารายละเอียดต่างๆเช่น ชื่อผู้จัดทำ หรือชื่อเรื่องได้ครับ
  • 54. สำหรับรายการตามเงื่อนไขนั้น เราสามารถใส่เงื่อนไขที่เราต้องการของข้อมูลลงไปเลยครับ
  • 55. ไม่ยากเลยใช่ไหมครับกับการสืบค้นฐานข้อมูลในประเทศไทยผ่านระบบสืบค้นข้อมูลระบบ Thailis หาอะไรก็เจอครับ ผมดุ๊กดุ๋ยขอลาไปก่อนนะครับแล้วพบกับผมใหม่ในบทเรียนต่อไปนะครับ
  • 56.
  • 57.
  • 58. สวัสดีครับ ผมเด็กชายดุ๋กดุ๊ยครับ พบกันอีกแล้วในบทเรียนเครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายครับ เครื่องมือบนเครือข่ายมีประโยชน์อย่างไรนะครับ อยากรู้ใช่ไหมครับตามผมมาครับ
  • 59. เครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายมีประโยชน์มากมายครับ เช่น การพูดคุยออนไลน์กับบุคคลต่างๆ การแสดงความคิดเห็น การกระทำต่างๆร่วมกันในโลกออนไลน์นั่นเองครับ
  • 62. ผมขอแนะนำเครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายที่เหมาะสมกับการแลกเปลี่ยนความรู้นะครับ เช่น E-mail , MSN Messenger 9.0 , Blog เป็นต้นครับ อยากรู้รายละเอียดวิธีใช้ใช่ไหมครับ ตามผมมาครับ ผมขอแนะนำการใช้เครื่องมือสื่อสารบนเครือข่ายเหล่านี้เองครับ
  • 63.
  • 64. หลายคนคงจะได้ยินคำว่า E-mail มาแล้วนะครับ E-mail หมายถึงจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ครับ Hotmail เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอีเมล์ฟรีที่เป็นที่นิยมเหมาะสำหรับการติดต่อทั่วโลก และการสนทนาด้วยโปรแกรม MSN เริ่มแรกเลยก่อนที่จะสามารถรับส่งอีเมล์หรือจดหมายอิเลคทรอนิกส์ได้นั้นจำต้องมี e-mail address ก่อน การที่จะได้ e-mail address นี้มาได้ ต้องสมัครครับ
  • 65. สำหรับขั้นตอนการสมัครนั้นเริ่มต้นจาก เข้าไปที่เลือกใช้ internet Explorer นะครับ แล้วก็กรอก "www.hotmail.com" ในช่อง Address จากนั้นคลิก Enter เพื่อเข้าสู่เว็บ hotmail.com ครับ
  • 66. จะปรากฎหน้าจอดังรูปครับถ้ามีอีเมลล์แล้วก็สามารถลงชื่อใช้งานได้เลยครับ
  • 67. ถ้าต้องการสมัครใช้อีเมลล์ให้คลิกปุ่ม ลงทะเบียน ครับ
  • 68. จะปรากฎหน้าจอให้กรอกข้อมูลของตัวเราครับ โดยเริ่มจากการกรอกชื่ออีเมลล์ครับ
  • 69. เมื่อกรอกชื่ออีเมลล์ที่ต้องการสมัครแล้ว ให้คลิกปุ่ม ตรวจสอบการใช้งาน เพื่อตรงสอบว่ามีชื่อนี้ใช้แล้วหรือยังครับเพื่อการไม่ซ้ำกันครับ
  • 70. ถ้าใช้งานได้จะปรากฎดังภาพนะครับ ซึ่งสามารถกรอกข้อมูลในช่องต่อไปได้เลยครับผม
  • 71. สร้างรหัสผ่านของเราครับ และยืนยันรหัสผ่านอีกครังครับ จะมีแถบแสดงการคาดเดายากง่ายเพื่อนความปลอดภัยในการใช้อีเมลล์ครับ
  • 72. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทุกช่องเลยนะครับ หลังจากนั้นกรอกอักขระที่มีอยู่ในช่องให้ถูกต้องด้วยครับ
  • 73. การกรอกอักขระสามารถเปลี่ยนเป็นการฟังเสียงแทนได้นะครับ
  • 74. เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วคลิกปุ่ม ฉันยอมรับ หลังจากนั้นรอสักครู่ครับหน้าจอจะขึ้นสถานะแสดงว่ากำลังทำงานอยู่ครับ
  • 75. หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าแรกของอีเมลล์เราครับ ถ้าต้องการเปิดอ่านจดหมายสามารถคลิกที่รูปจดหมายได้เลยครับ
  • 76. ส่วนการจะส่งจดหมายให้คลิกที่ปุ่ม สร้าง ครับเพื่อสร้างจดหมายครับ
  • 77. สำหรับถ้าต้องการส่งรูปภาพหรือไฟล์งาน สามารถคลิกเลือกได้ที่ ปุ่มแนบ ครับ ใส่อีเมลล์ที่เราต้องการจะส่งในช่องถึง ครับ และชื่อเรื่องคือเรื่องที่เราจะส่งครับ และส่วนตัวข้อความสามารถพิมพ์ลงในช่องว่างได้เลยครับ
  • 78. เพียงแค่นี้ก็เราก็จะได้ e-mail address ที่ต้องการแล้ว  ไม่ยากเลยใช่ใหม่ครับสำหรับการสมัครและการใช้ e-mail
  • 79. การสมัครอีเมลล์ของ Hotmail นั้นยังสามารถนำอีเมลล์ไปใช้กับ Windows Live Messenger ได้อีกด้วยนะครับ
  • 80.
  • 81. โปรแกรม MSN Messenger 9.0 หรือ Windows Live Messenger 9.0 ครับ มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ครับ
  • 82. เราต้องทำการติดตั้งโปรแกรมก่อนนะครับถึงจะใช้งานได้ครับซึ่งตัวติดตั้งนั้นสามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ตนะครับ ผมขอแนะนำ MSN Messenger เวอร์ชั่น 9.0 นะครับ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดและมีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลายครับ และการติดตั้งง่ายที่สุดครับ
  • 83. เริ่มต้นจากการขยายไฟล์(unzip) ที่ดาวน์โหลดมา  จากนั้นให้ทำการดับเบิ้ลคลิกเพื่อเริ่มติดตั้งครับ
  • 84. จะขึ้นหน้าต่างกังภาพนะครับ คลิกปุ่ม Runเพื่อติดตั้งครับ
  • 85. จะขึ้นหน้าต่างแสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรมครับรอสักครู่
  • 86. และแล้วโปรแกรมก็ติดตั้งสมบูรณ์ครับ โปรแกรมปรากฎขึ้นมาดังนี้พร้อมใช้งานกันหรือยังครับผม
  • 87. ใส่อีเมลล์และรหัสผ่านลงในช่องได้เลยครับ คลิกปุ่ม Sing in ครับ
  • 88. หลังจากนั้นจะทำการเข้าสู่ระบบซึ่งถ้าการเข้าใช้งานครั้งแรกจะใช้เวลานานนะครับ
  • 89. เมื่อได้แล้วจะปรากฎดังภาพครับ มีแถบหน้าต่าง Today ขึ้นแสดงข่าวสารประจำวันด้วยครับ
  • 90. สำหรับใช้งานเริ่มต้นจากการเพิ่มรายชื่ออีเมลล์ก่อนครับ ทำได้โดยการคลิกไอคอนดังรูปนะครับ
  • 91. หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าต่างดังรูปครับ พิมพ์ชื่ออีเมลล์ที่เราต้องการเพิ่มในเครือข่ายของเราได้เลยครับ คลิกปุ่ม Nextครับ
  • 92. หลังจากนั้นจะขึ้นหน้าต่างดังรูปครับ คลิกปุ่ม Send invitation ได้เลยครับ
  • 93. จะปรากฎหน้าต่างแสดงสถานะรอสักครู่ครับ
  • 94. เมื่อเพิ่มรายชื่อเครือข่ายเสร็จแล้ว คลิกปุ่ม Closeได้เลยครับ
  • 95. สำหรับการสื่อสารพูดคุย เราสามารถทำได้โดยการดับเบิลคลิกที่ชื่ออีเมลล์ครับ จะปรากฎหน้าต่างขึ้นมาครับ
  • 96. สามารถพิมพ์ข้อความลงในช่องสี่เหลี่ยมได้เลยครับ แล้วคลิก Enterเพื่อส่งข้อความครับ
  • 97. นอกจากนี้แล้ว ยังมีปุ่มลัดสำหรับการเปิดข้อความอีเมลล์ได้ด้วย นะครับ
  • 98.
  • 99. Blog ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งครับที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกันบนเครือข่าย โดยสามารถสร้าง Blog ขึ้นมาเป็นของตัวเองได้ครับ ซึ่งผู้อื่นนั้นสามารถมาแสดงความคิดเห็นหรืออ่าน Blog ของเราได้ครับ
  • 100. Blog สามารถสมัครใช้งานได้หลายเว็ปไซต์ด้วยกันนะครับ แต่สำหรับเพื่องานวิชาการต้องของ Thaigoodview.com ครับ Thaigoodview.com เป็นเว็ปไซต์ซึ่งผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของ สพฐ. ครับ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็จะเป็นบุคคลในแวดวงการศึกษาครับ
  • 101. สำหรับการเข้าเว็ปไซต์ให้พิมพ์ www.thaigoodview.com ในช่อง Address แล้วกดปุ่ม Enter ได้เลยครับ
  • 102. หน้าแรกของเว็ปไซต์จะเป็นดังรูปครับ ซึ่งการที่เราจะสามารถติดต่อสื่อสารในเว็ปนี้ได้นั้นต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ
  • 103. คลิกเลือก สมัครสมาชิก ที่ด้านบนขวาครับ หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างเงื่อนไขการสมัครสมาชิกขึ้นมาครับ
  • 105. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนครับ
  • 106. เมื่อเสร็จกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว อย่าลืมตอบคำถามคิดเลขด้วยนะครับคลิกปุ่ม สร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ครับ
  • 107. เมื่อเสร็จแล้วจะกลับเข้าสู่หน้าแรกอีกครั้งหนึ่งครับ คลิกปุ่มเข้าสู่ระบบครับ ทำการกรอกชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน ในการเข้าระบบครับ คลิกปุ่ม ล็อกอิน ครับ
  • 108. จะเข้าสู่หน้าประวัติของชื่อผู้ใช้ของเราครับ ซึ่งส่วนนี้สามารถทำการแก้ไขได้โดยคลิกปุ่ม แก้ไข ครับ
  • 109. สำหรับการสร้าง Blog ให้สังเกตทางด้านขวามือครับ คลิกปุ่ม สร้างเนื้อหา ครับ
  • 110. จะปรากฎหน้าต่างให้เลือกว่าจะสร้างอะไรนะครับ ให้เลือก Blog นะครับ
  • 111. จะขึ้นหน้าต่างให้กรอกข้อมูลรายละเอียด Blog นะครับ ใส่เรื่องที่เราต้องการสร้างเลยครับ และเมื่อเสร็จให้คลิกปุ่ม ยืนยัน ครับ
  • 112. เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสร้าง Blog ได้เป็นของตัวเองครับ ซึ่งสามารถสร้างเพิ่มเติมได้อีกนะครับ เราลองไปดู Blog การทำโครงงานกันนะครับ
  • 113.
  • 114. สำหรับการแสดงความคิดเห็นของ Blog นั้น เราสามารถทำได้โดยคลิกเลือกปุ่ม แสดงความคิดเห็น ครับ
  • 115. ซึ่งจะปรากฎเป็นกล่องข้อความเพิ่มขึ้นมานะครับ เราสามารถแสดงความคิดเห็นลงไปได้เลย แล้วคลิกปุ่ม ส่งความคิดเห็น นะครับ
  • 116. การสื่อสารบนเครือข่ายมีมากมายหลายรูปแบบครับ สำหรับที่ผมได้อธิบายไปนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถใช้งานได้ง่ายๆและเหมาะสมครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ ดุ๋กดุ๊ยสวัสดีครับ
  • 118. ลักษณะของโครงงานที่ดีต้องมีความชัดเจนและเข้าใจง่ายของวัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการ มีความสอดคล้องและสนองต่อความจำเป็น มีความสอดคล้องกับนโยบายและแผนงานของหน่วยงาน มีความเป็นไปได้ในการดำเนินงานโครงงาน โดยที่สามารถวัดและประเมินผลโครงงานนั้น ๆ ได้ มีการระบุเวลาในแต่ละช่วงตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงงานโดยละเอียด มีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อย่างถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ต้องได้รับการสนับสนุนจากบุคคลและหน่วยงานอย่างเหมาะสม และมีความสอดคล้องระหว่างหลักการ เหตุผล วิธีดำเนินการ และวัตถุประสงค์ของโครงงาน
  • 119. 1. สามารถบอกหลักการเขียนเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทสื่อเพื่อการศึกษาได้ 2. สามารถเขียนเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทสื่อเพื่อ การศึกษาได้
  • 120. สำหรับการเขียนเค้าโครงโครงงานคอมพิวเตอร์ มีหลักการเขียนดังนี้ ครับ...
  • 121. 1. ชื่อโครงงาน ชื่อโครงงานที่ดีควรมีลักษณะดังนี้ เป็นข้อความที่มีลักษณะกะทัดรัด ชัดเจน ชื่อของโครงงานเมื่ออ่านแล้ว ควรมองเห็นภาพพจน์ของโครงงานนั้นว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ชื่อโครงงานควรเป็นหัวข้อที่เป็นปัญหา และน่าสนใจต่อผู้พบเห็นและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
  • 122. 2. ชื่อผู้ทำโครงงาน ต้องมีการระบุชื่อผู้ทำ โครงงาน โดยมีการระบุ ชื่อ.........................นามสกุล............................เลขที่..........ชั้น........ ห้อง........................โรงเรียน..........................................................
  • 123. 3. ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน ที่ปรึกษาโครงงานควรมี ลักษณะดังนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญในเนื้อหาของโครงงานนั้น เป็นผู้ที่มีเวลาในการให้คำแนะนำปรึกษา เมื่อมีปัญหาในการดำเนินงานโครงงาน เป็นผู้ที่พบปะได้ง่าย และสะดวกต่อผู้ทำโครงงาน เป็นผู้ที่มีความเข้าใจที่ดีกับผู้ดำเนินโครงงาน เป็นบุคคลที่เป็นผู้ที่รู้จักกันดีของบุคคลทั่วไป
  • 125. 4. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ควรมีลักษณะดังนี้ มีการบ่งชี้รากฐานความเป็นมาของโครงงาน ว่ามีที่มาอย่างไร มีแนวความคิดเป็นพื้นฐานที่มาของโครงงานนั้น ๆ อย่างไร ควรให้ผู้อ่านหรือผู้ใช้โครงงานอย่างน้อยให้มีความเข้าใจ และทราบถึงพื้นฐานความเป็นมาแนวคิดของโครงงานนั้น ต้องมีการเขียนแสดงถึงความสำคัญของโครงงาน จากประเด็นต่าง ๆ ในโครงงานนั้น มีการระบุความเร่งด่วนของโครงงาน ตลอดจนความสัมพันธ์ ความผูกพันระหว่างโครงงานนั้น กับโครงงาน หรือความรู้ต่าง ๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
  • 126. 5. จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า การเขียนจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า ต้องมีลักษณะดังนี้ เขียนเป็นประโยคคำถามหรือเป็นประโยคธรรมดาก็ได้ หรือจะเขียนผสมกันระหว่างประโยคทั้งสองอย่างที่กล่าวมาแล้วก็ได้ ควรใช้ภาษาที่แจ่มชัด เข้าใจง่าย ไม่วกวน สามารถตั้งสมมติฐานได้ สามารถทำการทดสอบได้ ควรแยกแยะให้เห็น สิ่งที่ต้องการศึกษาเป็นรายย่อย ไม่ควรเขียนคลุม ๆ กันไว้ทำให้ขาดเป็นปรนัย
  • 127. 6. วิธีการดำเนินงาน วิธีดำเนินงานนี้ จะเป็นส่วนระบุถึง แนวทาง กลยุทธ์ และวิธีที่จะทำโครงงานนั้น ๆ โดยละเอียด ในการระบุวิธีดำเนินนี้ จะต้องชี้แจงรายละเอียดว่าทำอย่างไร เพียงใด จึงจะบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดตามโครงงาน มีการระบุถึง
  • 128. วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน โดยละเอียดเป็นรายข้อ แนวการศึกษาค้นคว้า ระบุการจัดทำและการดำเนินโครงงาน ได้แนวคิดจากแหล่งใด โดยใคร และนำมาประยุกต์ใช้ในโครงงานนี้อย่างไร
  • 129. 7. แผนปฏิบัติงาน เขียนแผนการปฏิบัติในการจัดทำและดำเนินงานโครงงาน โดยละเอียดเป็นขั้นตอน ระบุระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ และงบประมาณ (ในรูปตาราง เพื่อความสะดวกในการนำเสนอ
  • 130. แผนปฏิบัติงานแบ่งออกเป็นขั้น ๆ โดยสรุป ดังนี้ ......ครับ ขั้นตอนดำเนินงาน เป็นขั้นตอนที่ผู้รับผิดชอบ โครงงานต้องเตรียมการก่อนดำเนินงาน เช่น ศึกษาค้นคว้า เอกสารอ้างอิง ประชุมผู้รับผิดชอบโครงงาน เลือกหัวข้อในการทำโครงงาน จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ และแบ่งหน้าที่ตามความรับผิดชอบภายในกลุ่ม ขั้นดำเนินงาน ระบุรายละเอียดตั้งแต่เริ่มดำเนินการ จนโครงงานสำเร็จเป็นขั้นตอนในแต่ละช่วงเวลา ขั้นวัดผลและประเมินผล ระบุเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลและประเมินผลว่าใช้เครื่องมือชนิดใดบ้าง
  • 131. 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผลที่คาดว่าจะได้รับ จะเป็นการระบุถึงประโยชน์หรือผลที่พึงจะได้รับหลังจากสิ้นสุดการทำโครงงานนั้น ๆ แล้ว เป็นการแสดงผลกระทบที่ดี ทั้งทางตรงและทางอ้อมและระบุว่า ใครจะได้ประโยชน์ และผลกระทบ หรือมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอะไรและอย่างไร ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ
  • 132. 9. เอกสารอ้างอิง เอกสารอ้างอิง จะเป็นสิ่งทีทำให้ผู้ดำเนินโครงงานมองเห็นแนวทางในการดำเนินงาน และแก้ปัญหาของตนได้ดีขึ้น
  • 133. การอ้างอิงอาจทำได้ 2 วิธี คือ 1. การอ้างอิงโดยใช้เชิงอรรถ (Footnote) 1.1 อ้างอิงโดยใช้เลขกำกับ ระหว่างข้อความในเนื้อเรื่องกับเอกสารที่อ้างอิงในเชิงอรรถตรงกัน เรียงลำดับตัวเลขกำกับในเชิงอรรถ เมื่อขึ้นหน้าใหม่ให้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ส่วนของเชิงอรรถจะอยู่ทางส่วนล่างของหน้ากระดาษ โดยมีเส้นคั่นขวางระหว่างตัวเรื่องกับเชิงอรรถจากขอบซ้ายประมาณครึ่งหนึ่ง
  • 134. การอ้างอิงอาจทำได้ 2 วิธี คือ 1.2 การอ้างอิงจากหนังสือ เชิงอรรถจะระบุส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวกับผู้แต่งส่วนชื่อหนังสืออ้างอิง การเขียนชื่อผู้แต่งให้เขียนชื่อก่อนชื่อสกุล ขีดเส้นใต้ขีดหนังสือ เชิงอรรถภาษาไทย การบอกเลขหน้าเขียนคำว่า “หน้า” แต่เป็นภาษาอังกฤษเขียนคำว่า “P” นำหน้าเลขบอกหน้าในเชิงอรรถภาษาไทยจะไม่ใช้เครื่องหมายใด ๆ คั่นเลยแต่ถ้าเป็นเชิงอรรถภาษาอังกฤษจะใช้เครื่องหมายมหัพภาคคั่นแต่ละส่วน เช่น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ว 017 โครงงานวิทยาศาสตร์ กับคุณภาพชีวิต, หน้า 2 Brian Bolt and David Hobbs, 101 Mathematics Projects, P.50
  • 135. การอ้างอิงอาจวิธีที่สอง ...ครับ... 2. การอ้างอิงโดยใช้บรรณานุกรม แบบการเขียนรายงานเป็นรูปแบบการเขียนทั่วไปในการเขียนรายงาน คือ ชื่อผู้แต่ง.........................นามสกุลผู้แต่ง......................ชื่อหนังสือ.........................พิมพ์ครั้งที่......................สถานที่พิมพ์.......................................ปีที่พิมพ์.............. เช่น จุลจักร โนพันธ์และวิทยา สิริอนุวัฒน์ง 321 โครงงาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3บริษัท สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช (แผนกโรงงาน) 2536.
  • 136.
  • 138. 10 การทำงานของ E-mail มีลักษณะอย่างไร(การวิเคราะห์) ก. ต้องมี E-mail Address เพื่อบอกว่าจดหมายนั้นจะส่งไปยัง ที่ใด 1 ข. จดหมายนั้นจะทำการส่งไปยังคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต เป็นทอด ค. จดหมายจะส่งไปจนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ Email แต่ละคน ง. ถูกทุกข้อ
  • 139. 10 ผู้ใช้งานจะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสค้นหาวิทยานิพนธ์จากฐานข้อมูล ThaiLIS ได้จากที่ใด (การนำไปใช้) ก. เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีทาง e-mail 2 ข. เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งกลับทันทีภายใน ฐานข้อมูล ThaiLIS ค. ผู้ใช้ต้อง e-mail ไปขอผู้ดูแลระบบ ง. การใช้งานฐานข้อมูล ThaiLIS ไม่ต้องใช้ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
  • 140. 10 ข้อใดเป็นชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ Email ของต่างประเทศ (ความเข้าใจ) ก. siammail.com 3 ข. yahoo.com ค. chaiyo.com ง. thaimail.com
  • 141. 10 "อธิบายเหตุผล บอกเรื่องที่จัดทำเป็นงานใหม่หรือปรับปรุงงานของผู้อื่น" ข้อความนี้เป็นข้อมูลแสดงรายละเอียดการเขียนเค้าโครงโครงงานข้อใด (การสังเคราะห์) ก. วัตถุประสงค์ 4 ข. แนวคิดที่มาและความสำคัญ ค. หลักการและทฤษฎี ง. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  • 142. 10 การลงชื่อเข้าใช้งานเพื่อส่งหรืออ่าน Email ต้องเลือกคำสั่งในข้อใด (การนำไปใช้) ก. sign up 5 ข. sign in ค. enter ง. come in
  • 144. 10 ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลก่อนทำโครงงานคือข้อใด (การประเมินค่า) ก. มีทักษะการสืบค้นข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 7 ข. มีเวลาเพียงพอสำหรับฝึกทักษะพื้นฐาน ค. ได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตเรื่องที่จะศึกษา ง. แนวทางการกำหนดวิธีการและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
  • 145. 10 การดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้องที่สุด (การวิเคราะห์) 1. การเขียนรายงาน 8 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร 3. การนำเสนอและการแสดงผลงาน 4. การลงมือทำโครงงาน 5. การเลือกหัวข้อที่จะทำ 6. การเขียนเค้าโครงโครงงาน
  • 146. 10 ก. 5 2 6 4 1 3 8 ข. 5 6 2 4 3 1 ค. 5 1 3 2 4 6 ง. 5 1 2 6 4 3
  • 147. 10 ข้อใดกล่าวถึงการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้องที่สุด(การสังเคราะห์) ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้นำความรู้ทาง คอมพิวเตอร์ใช้แก้ปัญหา 9 ข. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจที่ทำงานวิจัย มากขึ้น ค. เป็นการจัดลำดับความคิด การวางแผนดำเนินงานตามแผน จนสำเร็จ ง. เป็นการใช้ข้อมูลดิบมาสร้างงานใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์
  • 148. 10 ขั้นตอนใดของการทำโครงงานที่แสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงาน(การวิเคราะห์) ก. การลงมือทำโครงงาน 10 ข. การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ค. การเขียนรายงานโครงงาน ง. การนำเสนอโครงงาน