SlideShare a Scribd company logo
1 of 10
Download to read offline
s
s
งานคอมพิวเตอร์
ธุรกิจ 3
1. ออกแบบงานนาเสนอตามลักษณะ
งานนาเสนอด้วยโปรแกรมนาเสนอ
โปรแกรมการนาเสนอผลงานและ
การผลิตสื่อผสมด้วยโปรแกรม Microsoft
PowerPoint ใช้สาหรับนาเสนอผลงานที่เป็น
ข้อมูลรูปภาพ ตัวเลข กราฟ ตาราง มาจัด
ให้อยู่ในรูปแบบสไลด์ ซึ่งผู้ที่ใช้จะต้องรู้และ
เข้าใจถึงขั้นตอนการทางาน การจัดวางตัว
หนังสือ ลักษณะรูปแบบต่างๆในโปรแกรม
ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน และไม่
ต้องใช้ทักษะทางศิลปะมากในการออกแบบ
งาน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกรูปแบบ
ต่างๆ อัตโนมัติได้ เพื่อความเหมาะสมและ
สวยงามของงาน
ลักษณะการของโปรแกรม Power Point
โปรแกรม Microsoft PowerPoint
เป็ นโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่ถูก
ออกแบบมาให้ใช้กับงานด้าน การนาเสนอ
เรื่องราวต่าง ๆ (Presentation)ในลักษณะ
คล้าย ๆ กับการฉายสไลด์ (Slide Show)
โดยเราสามารถใช้คาสั่งของ PowerPoint
สร้างแผ่นสไลด์ที่มีรูปภาพและข้อความ
บรรยายเรื่องราวที่ต้องการจะนาเสนอได้
อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกาหนดลักษณะ
แสงเงา และลวดลายสีพื้นให้สไลด์แต่ละ
แผ่นมีความสวยงามน่าสนใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เรายังสามารถกาหนดรูปแบบ
การฉายสไลด์แต่ละแผ่น อย่างต่อเนื่อง
และใช้เทคนิคพิเศษในการแสดงข้อความแต่
ละบรรทัด เพื่อให้ผู้ชมการฉายสไลด์ค่อย
ๆ เห็นข้อความบรรยายและภาพเหล่านี้ที
ละขั้น ๆ อย่างต่อเนื่องกันเป็ นเรื่องราว
ตามระยะเวลาที่เรากาหนดไว้
2.กาหนดภาพเคลื่อนไหว ใส่เสียง และ
เอฟเฟ็ กซ์ต่างๆ ในงานนาเสนอ
การทาให้ข้อความหรือวัตถุ
เคลื่อนไหว
สามารถทาให้ข้อความ รูปภาพ
รูปร่าง ตาราง กราฟิก SmartArt และ
วัตถุอื่นๆ เคลื่อนไหวในงานนาเสนอ
PowerPoint เพื่อทาให้มีลักษณะพิเศษแบบ
เป็นภาพ ซึ่งรวมถึงลักษณะการเข้า ออก
การเปลี่ยนขนาดหรือสี ตลอดจนการ
เคลื่อนย้าย สร้างงานนาเสนอสไลด์ที่มีจุด
สัญลักษณ์แสดงหัวข้อหรือเครดิตการ
ผลิตแบบเคลื่อนไหว
แนวทางการสร้างงานนาเสนอ
การนาเสนอที่ดีควรทาอย่างเป็ น
ขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของ
งาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทา
สไลด์เพื่อนาเสนองานเป็ นไปอย่างรวดเร็ว
จึงควรทาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การวางโครงร่าง
2. การลงรายละเอียดเนื้อหา
3. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ หรือ
อื่นๆ ในสไลด์
4. การปรับแต่งสไลด์ให้มีสีสันสวยงาม
5. การเพิ่มความน่าสนใจให้กับสไลด์
ในขณะนาเสนอ
6. เตรียมการนาเสนองานจริง
7. การเตรียมเอกสารประกอบการ
บรรยายแจกผู้เข้ารับฟัง
เปลี่ยนความเร็วของเอฟเฟ็ กต์
ภาพเคลื่อนไหว
ความเร็วของเอฟเฟ็กต์จะถูกกาหนดโดย
การตั้งค่า ระยะเวลา
1. บนสไลด์ ให้เลือกเอฟเฟ็กต์
ภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ภายใต
ตัวเลือก กาหนดเวลา ในกล่อง ระยะเวลา
ให้ใส่จานวนวินาทีที่คุณต้องการให้เอฟ
เฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวทางาน
การเพิ่มเสียงในงานนาเสนอ
PowerPoint
1. ในมุมมอง ปกติ ให้คลิกสไลด์ที่
คุณต้องการเพิ่มเสียงลงไป
2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม สื่อ คลิก
ลูกศรภายใต้ เสียง
3. ในรายการ ให้คลิก เสียงจาก
ไฟล์หรือ เสียงคลิปอาร์ต ระบุตาแหน่งและ
เลือกคลิปเสียงที่คุณต้องการ แล้วคลิก
แทรกไอคอนเสียงและตัวควบคุมจะปรากฏ
บนสไลด์
4. ในมุมมอง ปกติ หรือ
มุมมอง การนาเสนอสไลด์ ให้คลิกไอคอน
แล้วคลิก เล่น เพื่อเล่นเพลงหรือเสียงอื่นๆ
ภาพเคลื่อเพิ่มนไหวลงในวัตถุ
1. เลือกวัตถุที่คุณต้องการให้
เคลื่อนไหว
2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ของ
Ribbon ในกลุ่ม ภาพเคลื่อนไหว ให้ ค ลิ ก
ปุ่ ม เพิ่มเติม แล้วเลือกลักษณะ
พิเศษภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการ
3.การนาเสนอผลงาน
รูปแบบการนาเสนองาน
การนาเสนอข้อมูลเป็นกระบวนการ
ในการทางานเพื่อให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจในสิ่งที่
ผู้นาเสนอข้อมูลต้องการให้ผู้รับรู้การ
นาเสนองานเป็นส่วนหนึ่งของการนาเสนอ
ข้อมูล ซึ่งนิยมนาเสนอในรูปแบบทีสามารถ
จับต้องหรือใช้เป็ นหลักฐานอ้างอิงใน
กระบวนการทางานนั้นๆได้ การนาเสนอ
งานสามารถปฏิบัติได้หลายรูปแบบ เช่น
เอกสารสิงพิมพ์ มัลติมีเดีย และเว็บไซต์
1.เอกสารสิ่งพิมพ์
ปัจจุบันมีการนาเทคโนโลยีมาใช้ใน
การส่งเสริมการทางานด้านเอกสารสั่ง
พิมพ์ทางรูปแบบของเอกสารสิ่งพิมพ์ บน
สื่อต่างๆ จนถึงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
คอมพิวเตอร์ทีใช้สาหรับสร้างเอกสารสิง
พิมพ์ไม่ตองมีประสิทธิภาพสูงเท่ากับการ
นาเสนอด้วย มัลติมีเดีย และเว็บไซต์ โดย
ใช้ฮาร์ดแวร์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์และ
เครื่องพิมพ์ ส่วนซอฟต์แวร์ใช้ได้แก่
โปรแกรมด้านการประมวลผลคาหรือ
โปรแกรมด้านการพิมพ์การนาเสนอ
ผลงานด้วยเอกสารทีมีการเลือกใช้มาก
ที่สุด เนื่องจากมีขอดี ดั้งนี้ นาเสนอข้อมูล
ได้ทางรูปแบบตัวอักษรหรือตัวหนังสือ
รูปภาพ ภาพนิ่ง แผนภูมิ แผนผัง และ
กราฟ
2. มัลติมีเดีย
มัลติมีเดีย (multimedia) หรือ สื่อ
ประสม หรือ สื่อหลายแบบ เป็ นการใช้สื่อ
ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็ น ข้อความเสียง
รูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว สาหรับให้
ความรู้หรือให้ความสาราญต่อผู้ชม
สามารถประยุกต์สื่อต่างๆ ให้มารวมกัน
บน ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถ
โต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ
ต่างๆ กันได้
ขั้นตอนการนาเสนองาน
ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอด้วย
โปรแกรม POWER POINT
1. ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอข้อมูล
การสร้างงานนาเสนอข้อมูลให้ได้ดี
นั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายส่วน เริ่ม
ตั้งแต่ข้อมูลที่จะใช้บรรยาย ลาดับ การ
นาเสนอ วิธีการนาเสนอ บรรยากาศ
ในขณะบรรยาย ฯลฯ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้
บางอย่างก็ควบคุมได้ บางอย่างก็ไม่
สามารถ แต่การเตรียมพร้อมในการ
บรรยายไว้ก่อน จะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะ
ได้แก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
2. การจัดเตรียมการนาเสนอ
ลาดับขั้นตอนการจัดทาสไลด์ทา
ได้หลายแบบ บางท่านเริ่มจากสร้างสไลด์
ก่อนแล้วค่อยเรียงลาดับสไลด์ทีหลัง บาง
ท่านวางโครงร่างด้วยข้อความก่อน
4. จัดเก็บงาน ค้นคืนข้อมูล จากการ
สืบค้นข้อมูล และการสื่อสารข้อมูล
ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
เมื่อทาการสืบค้นหรือค้นหาข้อมูล
สารสนเทศได้แล้วถ้าต้องการที่จะจัดเก็บ
ข้อมูลที่ค้นหาเหล่านั้นไว้ใช้งานต่างๆ
ต่อไปนี้ ก็ต้องดาเนินการจัดเก็บข้อมูล
สารสนเทศ ซึ่งมีวิธีจัดเก็บดังนี้
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบของ
ข้อความ จะมีไฟล์ข้อมูลที่จะต้องทาการ
จัดเก็บใน 3 รูปแบบ คือ
1.1ข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าเว็บไซต์
แล้วคลิกที่ Copy(คัดลอก)ทา
การเปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือ
โปรแกรมที่ต้องการ แล้วคลิกเมาส์ข้างขวา
บริเวณตาแหน่งที่ต้องการวาง เสร็จแล้ว
ให้คลิก Paste (วาง)
1.2ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .doc
เมื่อทาการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ
จะปรากฏชื่อรูปแบบของไฟล์ ถ้าเป็นข้อมูล
ที่สร้างโดยโปรแกรม Microsoft Word จะ
ปรากฏชื่อไฟล์ DOCให้คลิกที่ชื่อเรื่องที่
ต้องการจะเริ่มดาเนินการดาวน์โหลด
ข้อมูล
ให้คลิกที่ชื่อไฟล์ข้อมูลที่ทาการ
ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว เพื่อดาเนินการเปิ ด
ข้อมูล ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File
(แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save
(บันทึก)
1.3 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .pdf
ไฟล์ PDF เป็ นไฟล์ที่เปิดด้วย
โปรแกรม Acrobat ซึ่งจะปรากฏชื่อไฟล์
PDF
ให้ทาการคลิกชื่อไฟล์ข้อมูลที่
ต้องการจัดเก็บ จะปรากฏกรอบให้ทาการ
ดาวน์โหลด ดังนี้
ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File (แฟ้ ม)
ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save (บันทึก)
1.4 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .ppt
ไฟล์PPT เป็ นแฟ้ มข้อมูลที่จัดเก็บ
โดยใช้โปรม Microsoft PowerPoint ซึ่งเมื่อ
คลิกที่บริเวณชื่อจะปรากฏชื่อเรื่องที่ต้อง
หารแล้ว จะปรากฏกรอบให้ดาวน์โหลด
ดังนี้
ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File
(แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save
(บันทึก)จะปรากฏรายละเอียดของเรื่องที่
เราต้องการในรูปแบบของไฟล์ PowerPoint
ก า ร สื่ อ ส า ร ข้อ มูล ผ่ า น ร ะ บ บ
อินเทอร์เน็ต
ระบบเครือข่าย (Network System)
หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่
2เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อ
เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียน
ภายในองค์กร ระหว่าง อาคาร ระหว่าง
เมืองต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงการเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกที่เรียกว่า
“อินเทอร์เน็ต”(Internet) การติดต่อสื่อสาร
ข้อมูลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากความ
พยายามในการเชื่อมต่อระหว่าง
คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
โดยอาศัยระบบการสื่อสาร ต่อมาเมื่อมี
การใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นความต้องการ
ในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลาย
เครื่องในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบ
เครือข่าย (Network System) ระบบ
สานักงานอัตโนมัติ (Office Automation
System) เป็ นวิธีการทางด้านการสื่อสาร
ข้อมูล ที่กาลังได้รับการนามาประยุกต์ใช้ใน
ระบบสานักงาน การสื่อสารข้อมูลข่าวสาร
ระหว่างกันโดยอาศัยสัญญาณข้อมูล
ข่าวสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ
ข่ายงาน Internet Working คือ การรวมตัว
กันของระบบข่ายงานที่กระจายอยู่ทั่วโลก
จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ Paperless
System คือ ระบบที่ไม่ใช้กระดาษบทบาทที่
สาคัญอีกบทบาทหนึ่งคือการให้บริการ
ข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
1. จัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสาร
ได้รวดเร็ว
2. ความถูกต้องของข้อมูล
3. ความเร็วของการทางาน
4. ประหยัดต้นทุนมาตรฐาน
สาหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
s<https://vipaprondotme.wordpress.com/%E0%B8%81%
E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7
%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%
B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8
%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%
B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0
%B8%A3%E0%B8%B0/>
การรับจดหมาย
เมื่อกรอก e-mail address และ
รหัสผ่าน ถูกต้องแล้วจะเข้าไปที่หน้าเพจ
ดังภาพ ให้คลิกที่ ไปที่กล่องขาเข้า
การรับจดหมาย (Check Mail)
อีเมล์ ที่ส่งเข้ามาในกล่องขาเข้าจะ
เรียงตามวันที่ก่อนหลังที่อีเมล์ มาถึง ถ้า
ต้องการเปิดอ่าน ให้คลิกที่ชื่อผู้ส่งก็เข้าไป
อ่านอีเมล์ได้
อีเมล์ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ss
อีเมล์ ที่เปิดอ่านแล้ว
<http://www.upload.khukhan.ac.th/sende-
mail.html>
5. รับ-ส่ง E-mail
การรับ-ส่งอีเมล์
การรับ-ส่งอีเมล์ หมายถึง การ
ติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบใหม่
แทนจดหมายบนกระดาษ แต่ใช้วิธีการ
ส่งข้อความ ในรูปของสัญญาณ
อิเล็กทรอนิกส์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์
หนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง ปัจจุบัน
อีเมล์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็น
บริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้มีคนนิยมใช้มาก
ที่สุด เพราะสามารถติดต่อรับส่ง ข้อมูล
ระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว s
การส่งจดหมาย
เมื่อเข้าสู่ระบบ Hotmail ได้
เรียบร้อยแล้วการส่งอีเมล์ มีขั้นตอนดังนี้
คลิกที่ ส่งอีเมล์
จากนั้นจะได้กรอบสาหรับพิมพ์อีเมล์
ภายในกรอบมีความหมายดังนี้
ช่อง ถึง : สาหรับกรอก e-Mail
Address ของบุคคลที่ต้องการจะส่งไป
ช่อง ชื่อเรื่อง : สาหรับ กาหนด
หัวข้อจดหมาย
สิ่งที่แนบมา สาหรับแนบไฟล์ ไปกับ
จดหมาย
กล่องข้อความ สาหรับพิมพ์
ข้อความ
คลิก ส่ง จะมีข้อความตอบรับว่า ส่ง
ข้อความของคุณแล้วได้ส่งอีเมล์แล้ว
งานคอมพิวเตอร์3

More Related Content

What's hot

การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้น
การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้นการใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้น
การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้นMeaw Sukee
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5krunuy5
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2พงศธร ภักดี
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excelเอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน ExcelLerdrit Dangrathok
 
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007Nicharee Piwjan
 
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1พงศธร ภักดี
 
ประมวลผลคำ
ประมวลผลคำประมวลผลคำ
ประมวลผลคำNattariya Nangmor
 
คู่มือMicrosoftword2010
คู่มือMicrosoftword2010คู่มือMicrosoftword2010
คู่มือMicrosoftword2010noismart
 
Microsoft access
Microsoft accessMicrosoft access
Microsoft accesskomolpalin
 
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นการใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นtechno UCH
 
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010Krongkaew kumpet
 
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]มาโนช นันทา
 
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5พงศธร ภักดี
 
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่Veerapong Takonok
 

What's hot (19)

การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้น
การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้นการใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้น
การใช้งานโปรแกรม Excel เบื้องต้น
 
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2
แผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ม.2
 
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excelเอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
เอกสารประกอบการเรียนวิชา การใช้โปรแกรมคำนวน Excel
 
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007
ใบความรู้ เรื่อง ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft excel 2007
 
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1
แผนการสอน ระบบปฏิบัติการ Windows ม.1
 
ใบความรู้ Powerpoint 2010
ใบความรู้ Powerpoint 2010 ใบความรู้ Powerpoint 2010
ใบความรู้ Powerpoint 2010
 
ประมวลผลคำ
ประมวลผลคำประมวลผลคำ
ประมวลผลคำ
 
คู่มือMicrosoftword2010
คู่มือMicrosoftword2010คู่มือMicrosoftword2010
คู่มือMicrosoftword2010
 
แผนการสอนAccess 57
แผนการสอนAccess 57แผนการสอนAccess 57
แผนการสอนAccess 57
 
Microsoft access
Microsoft accessMicrosoft access
Microsoft access
 
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้นการใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
 
Microsoft Word 2010
Microsoft Word 2010Microsoft Word 2010
Microsoft Word 2010
 
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
 
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]
แผนการเรียนรู้สามารถช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ [Design of Learning Environment]
 
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
การสร้างเว็บเพจด้วยDream 8
 
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5
แผนการสอน เว็บไซต์ ม.5
 
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่
บทที่ 2 เริ่มสร้างเอกสารใหม่
 

Similar to งานคอมพิวเตอร์3

ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3Aungkana Na Na
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3Aungkana Na Na
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศAnuchata Aumpaikul
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศEveEim Elf
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์miiztake
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)JoyCe Zii Zii
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)JoyCe Zii Zii
 
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานNatnicha Nuanlaong
 
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้น
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้นเรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้น
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้นshe-vit-guu
 
605 สุปราณี 11
605 สุปราณี 11605 สุปราณี 11
605 สุปราณี 11Supranee Panjita
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานAungkana Na Na
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานAungkana Na Na
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4Rattana Wongphu-nga
 
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูลตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูลKriangx Ch
 

Similar to งานคอมพิวเตอร์3 (20)

ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศการนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
การนำเสนองานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
 
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายและประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
 
(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)(ใบงานที่ 3)
(ใบงานที่ 3)
 
08
0808
08
 
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานท 3 เรื่อง ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้น
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้นเรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้น
เรื่องการใช้งาน Powerpoint2007 เบื้องต้น
 
605 สุปราณี 11
605 สุปราณี 11605 สุปราณี 11
605 สุปราณี 11
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงานใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ใบงานที่3 เรื่องขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงาน3
ใบงาน3ใบงาน3
ใบงาน3
 
5 6-7-8
5 6-7-85 6-7-8
5 6-7-8
 
K3
K3K3
K3
 
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูลตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
ตอนที่ 3 การนำเสนอข้อมูล
 
K4
K4K4
K4
 

งานคอมพิวเตอร์3

  • 2. 1. ออกแบบงานนาเสนอตามลักษณะ งานนาเสนอด้วยโปรแกรมนาเสนอ โปรแกรมการนาเสนอผลงานและ การผลิตสื่อผสมด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint ใช้สาหรับนาเสนอผลงานที่เป็น ข้อมูลรูปภาพ ตัวเลข กราฟ ตาราง มาจัด ให้อยู่ในรูปแบบสไลด์ ซึ่งผู้ที่ใช้จะต้องรู้และ เข้าใจถึงขั้นตอนการทางาน การจัดวางตัว หนังสือ ลักษณะรูปแบบต่างๆในโปรแกรม ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน และไม่ ต้องใช้ทักษะทางศิลปะมากในการออกแบบ งาน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกรูปแบบ ต่างๆ อัตโนมัติได้ เพื่อความเหมาะสมและ สวยงามของงาน ลักษณะการของโปรแกรม Power Point โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็ นโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่ถูก ออกแบบมาให้ใช้กับงานด้าน การนาเสนอ เรื่องราวต่าง ๆ (Presentation)ในลักษณะ คล้าย ๆ กับการฉายสไลด์ (Slide Show) โดยเราสามารถใช้คาสั่งของ PowerPoint สร้างแผ่นสไลด์ที่มีรูปภาพและข้อความ บรรยายเรื่องราวที่ต้องการจะนาเสนอได้ อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกาหนดลักษณะ แสงเงา และลวดลายสีพื้นให้สไลด์แต่ละ แผ่นมีความสวยงามน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถกาหนดรูปแบบ การฉายสไลด์แต่ละแผ่น อย่างต่อเนื่อง และใช้เทคนิคพิเศษในการแสดงข้อความแต่ ละบรรทัด เพื่อให้ผู้ชมการฉายสไลด์ค่อย ๆ เห็นข้อความบรรยายและภาพเหล่านี้ที ละขั้น ๆ อย่างต่อเนื่องกันเป็ นเรื่องราว ตามระยะเวลาที่เรากาหนดไว้
  • 3. 2.กาหนดภาพเคลื่อนไหว ใส่เสียง และ เอฟเฟ็ กซ์ต่างๆ ในงานนาเสนอ การทาให้ข้อความหรือวัตถุ เคลื่อนไหว สามารถทาให้ข้อความ รูปภาพ รูปร่าง ตาราง กราฟิก SmartArt และ วัตถุอื่นๆ เคลื่อนไหวในงานนาเสนอ PowerPoint เพื่อทาให้มีลักษณะพิเศษแบบ เป็นภาพ ซึ่งรวมถึงลักษณะการเข้า ออก การเปลี่ยนขนาดหรือสี ตลอดจนการ เคลื่อนย้าย สร้างงานนาเสนอสไลด์ที่มีจุด สัญลักษณ์แสดงหัวข้อหรือเครดิตการ ผลิตแบบเคลื่อนไหว แนวทางการสร้างงานนาเสนอ การนาเสนอที่ดีควรทาอย่างเป็ น ขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของ งาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทา สไลด์เพื่อนาเสนองานเป็ นไปอย่างรวดเร็ว จึงควรทาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1.การวางโครงร่าง 2. การลงรายละเอียดเนื้อหา 3. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ หรือ อื่นๆ ในสไลด์ 4. การปรับแต่งสไลด์ให้มีสีสันสวยงาม 5. การเพิ่มความน่าสนใจให้กับสไลด์ ในขณะนาเสนอ 6. เตรียมการนาเสนองานจริง 7. การเตรียมเอกสารประกอบการ บรรยายแจกผู้เข้ารับฟัง
  • 4. เปลี่ยนความเร็วของเอฟเฟ็ กต์ ภาพเคลื่อนไหว ความเร็วของเอฟเฟ็กต์จะถูกกาหนดโดย การตั้งค่า ระยะเวลา 1. บนสไลด์ ให้เลือกเอฟเฟ็กต์ ภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง 2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ภายใต ตัวเลือก กาหนดเวลา ในกล่อง ระยะเวลา ให้ใส่จานวนวินาทีที่คุณต้องการให้เอฟ เฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวทางาน การเพิ่มเสียงในงานนาเสนอ PowerPoint 1. ในมุมมอง ปกติ ให้คลิกสไลด์ที่ คุณต้องการเพิ่มเสียงลงไป 2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม สื่อ คลิก ลูกศรภายใต้ เสียง 3. ในรายการ ให้คลิก เสียงจาก ไฟล์หรือ เสียงคลิปอาร์ต ระบุตาแหน่งและ เลือกคลิปเสียงที่คุณต้องการ แล้วคลิก แทรกไอคอนเสียงและตัวควบคุมจะปรากฏ บนสไลด์ 4. ในมุมมอง ปกติ หรือ มุมมอง การนาเสนอสไลด์ ให้คลิกไอคอน แล้วคลิก เล่น เพื่อเล่นเพลงหรือเสียงอื่นๆ ภาพเคลื่อเพิ่มนไหวลงในวัตถุ 1. เลือกวัตถุที่คุณต้องการให้ เคลื่อนไหว 2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ของ Ribbon ในกลุ่ม ภาพเคลื่อนไหว ให้ ค ลิ ก ปุ่ ม เพิ่มเติม แล้วเลือกลักษณะ พิเศษภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการ
  • 5. 3.การนาเสนอผลงาน รูปแบบการนาเสนองาน การนาเสนอข้อมูลเป็นกระบวนการ ในการทางานเพื่อให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจในสิ่งที่ ผู้นาเสนอข้อมูลต้องการให้ผู้รับรู้การ นาเสนองานเป็นส่วนหนึ่งของการนาเสนอ ข้อมูล ซึ่งนิยมนาเสนอในรูปแบบทีสามารถ จับต้องหรือใช้เป็ นหลักฐานอ้างอิงใน กระบวนการทางานนั้นๆได้ การนาเสนอ งานสามารถปฏิบัติได้หลายรูปแบบ เช่น เอกสารสิงพิมพ์ มัลติมีเดีย และเว็บไซต์ 1.เอกสารสิ่งพิมพ์ ปัจจุบันมีการนาเทคโนโลยีมาใช้ใน การส่งเสริมการทางานด้านเอกสารสั่ง พิมพ์ทางรูปแบบของเอกสารสิ่งพิมพ์ บน สื่อต่างๆ จนถึงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ทีใช้สาหรับสร้างเอกสารสิง พิมพ์ไม่ตองมีประสิทธิภาพสูงเท่ากับการ นาเสนอด้วย มัลติมีเดีย และเว็บไซต์ โดย ใช้ฮาร์ดแวร์พื้นฐานของคอมพิวเตอร์และ เครื่องพิมพ์ ส่วนซอฟต์แวร์ใช้ได้แก่ โปรแกรมด้านการประมวลผลคาหรือ โปรแกรมด้านการพิมพ์การนาเสนอ ผลงานด้วยเอกสารทีมีการเลือกใช้มาก ที่สุด เนื่องจากมีขอดี ดั้งนี้ นาเสนอข้อมูล ได้ทางรูปแบบตัวอักษรหรือตัวหนังสือ รูปภาพ ภาพนิ่ง แผนภูมิ แผนผัง และ กราฟ
  • 6. 2. มัลติมีเดีย มัลติมีเดีย (multimedia) หรือ สื่อ ประสม หรือ สื่อหลายแบบ เป็ นการใช้สื่อ ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็ น ข้อความเสียง รูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว สาหรับให้ ความรู้หรือให้ความสาราญต่อผู้ชม สามารถประยุกต์สื่อต่างๆ ให้มารวมกัน บน ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถ โต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ ต่างๆ กันได้ ขั้นตอนการนาเสนองาน ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอด้วย โปรแกรม POWER POINT 1. ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอข้อมูล การสร้างงานนาเสนอข้อมูลให้ได้ดี นั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายส่วน เริ่ม ตั้งแต่ข้อมูลที่จะใช้บรรยาย ลาดับ การ นาเสนอ วิธีการนาเสนอ บรรยากาศ ในขณะบรรยาย ฯลฯ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ บางอย่างก็ควบคุมได้ บางอย่างก็ไม่ สามารถ แต่การเตรียมพร้อมในการ บรรยายไว้ก่อน จะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะ ได้แก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • 7. 2. การจัดเตรียมการนาเสนอ ลาดับขั้นตอนการจัดทาสไลด์ทา ได้หลายแบบ บางท่านเริ่มจากสร้างสไลด์ ก่อนแล้วค่อยเรียงลาดับสไลด์ทีหลัง บาง ท่านวางโครงร่างด้วยข้อความก่อน 4. จัดเก็บงาน ค้นคืนข้อมูล จากการ สืบค้นข้อมูล และการสื่อสารข้อมูล ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ เมื่อทาการสืบค้นหรือค้นหาข้อมูล สารสนเทศได้แล้วถ้าต้องการที่จะจัดเก็บ ข้อมูลที่ค้นหาเหล่านั้นไว้ใช้งานต่างๆ ต่อไปนี้ ก็ต้องดาเนินการจัดเก็บข้อมูล สารสนเทศ ซึ่งมีวิธีจัดเก็บดังนี้ การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบของ ข้อความ จะมีไฟล์ข้อมูลที่จะต้องทาการ จัดเก็บใน 3 รูปแบบ คือ 1.1ข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าเว็บไซต์ แล้วคลิกที่ Copy(คัดลอก)ทา การเปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือ โปรแกรมที่ต้องการ แล้วคลิกเมาส์ข้างขวา บริเวณตาแหน่งที่ต้องการวาง เสร็จแล้ว ให้คลิก Paste (วาง) 1.2ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .doc เมื่อทาการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ จะปรากฏชื่อรูปแบบของไฟล์ ถ้าเป็นข้อมูล ที่สร้างโดยโปรแกรม Microsoft Word จะ ปรากฏชื่อไฟล์ DOCให้คลิกที่ชื่อเรื่องที่ ต้องการจะเริ่มดาเนินการดาวน์โหลด ข้อมูล ให้คลิกที่ชื่อไฟล์ข้อมูลที่ทาการ ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว เพื่อดาเนินการเปิ ด ข้อมูล ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File (แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save (บันทึก) 1.3 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .pdf ไฟล์ PDF เป็ นไฟล์ที่เปิดด้วย โปรแกรม Acrobat ซึ่งจะปรากฏชื่อไฟล์ PDF ให้ทาการคลิกชื่อไฟล์ข้อมูลที่ ต้องการจัดเก็บ จะปรากฏกรอบให้ทาการ ดาวน์โหลด ดังนี้ ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File (แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save (บันทึก) 1.4 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .ppt ไฟล์PPT เป็ นแฟ้ มข้อมูลที่จัดเก็บ โดยใช้โปรม Microsoft PowerPoint ซึ่งเมื่อ คลิกที่บริเวณชื่อจะปรากฏชื่อเรื่องที่ต้อง หารแล้ว จะปรากฏกรอบให้ดาวน์โหลด ดังนี้ ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File (แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save (บันทึก)จะปรากฏรายละเอียดของเรื่องที่ เราต้องการในรูปแบบของไฟล์ PowerPoint
  • 8. ก า ร สื่ อ ส า ร ข้อ มูล ผ่ า น ร ะ บ บ อินเทอร์เน็ต ระบบเครือข่าย (Network System) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อ เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียน ภายในองค์กร ระหว่าง อาคาร ระหว่าง เมืองต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกที่เรียกว่า “อินเทอร์เน็ต”(Internet) การติดต่อสื่อสาร ข้อมูลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากความ พยายามในการเชื่อมต่อระหว่าง คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยอาศัยระบบการสื่อสาร ต่อมาเมื่อมี การใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นความต้องการ ในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลาย เครื่องในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบ เครือข่าย (Network System) ระบบ สานักงานอัตโนมัติ (Office Automation System) เป็ นวิธีการทางด้านการสื่อสาร ข้อมูล ที่กาลังได้รับการนามาประยุกต์ใช้ใน ระบบสานักงาน การสื่อสารข้อมูลข่าวสาร ระหว่างกันโดยอาศัยสัญญาณข้อมูล ข่าวสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ ข่ายงาน Internet Working คือ การรวมตัว กันของระบบข่ายงานที่กระจายอยู่ทั่วโลก จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ Paperless System คือ ระบบที่ไม่ใช้กระดาษบทบาทที่ สาคัญอีกบทบาทหนึ่งคือการให้บริการ ข้อมูล ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล 1. จัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสาร ได้รวดเร็ว 2. ความถูกต้องของข้อมูล 3. ความเร็วของการทางาน 4. ประหยัดต้นทุนมาตรฐาน สาหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ s<https://vipaprondotme.wordpress.com/%E0%B8%81% E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7 %E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8% B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8 %AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0% B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0 %B8%A3%E0%B8%B0/>
  • 9. การรับจดหมาย เมื่อกรอก e-mail address และ รหัสผ่าน ถูกต้องแล้วจะเข้าไปที่หน้าเพจ ดังภาพ ให้คลิกที่ ไปที่กล่องขาเข้า การรับจดหมาย (Check Mail) อีเมล์ ที่ส่งเข้ามาในกล่องขาเข้าจะ เรียงตามวันที่ก่อนหลังที่อีเมล์ มาถึง ถ้า ต้องการเปิดอ่าน ให้คลิกที่ชื่อผู้ส่งก็เข้าไป อ่านอีเมล์ได้ อีเมล์ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ss อีเมล์ ที่เปิดอ่านแล้ว <http://www.upload.khukhan.ac.th/sende- mail.html> 5. รับ-ส่ง E-mail การรับ-ส่งอีเมล์ การรับ-ส่งอีเมล์ หมายถึง การ ติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบใหม่ แทนจดหมายบนกระดาษ แต่ใช้วิธีการ ส่งข้อความ ในรูปของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ หนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง ปัจจุบัน อีเมล์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็น บริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้มีคนนิยมใช้มาก ที่สุด เพราะสามารถติดต่อรับส่ง ข้อมูล ระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว s การส่งจดหมาย เมื่อเข้าสู่ระบบ Hotmail ได้ เรียบร้อยแล้วการส่งอีเมล์ มีขั้นตอนดังนี้ คลิกที่ ส่งอีเมล์ จากนั้นจะได้กรอบสาหรับพิมพ์อีเมล์ ภายในกรอบมีความหมายดังนี้ ช่อง ถึง : สาหรับกรอก e-Mail Address ของบุคคลที่ต้องการจะส่งไป ช่อง ชื่อเรื่อง : สาหรับ กาหนด หัวข้อจดหมาย สิ่งที่แนบมา สาหรับแนบไฟล์ ไปกับ จดหมาย กล่องข้อความ สาหรับพิมพ์ ข้อความ คลิก ส่ง จะมีข้อความตอบรับว่า ส่ง ข้อความของคุณแล้วได้ส่งอีเมล์แล้ว