More Related Content
Similar to งานคอมพิวเตอร์3
Similar to งานคอมพิวเตอร์3 (20)
งานคอมพิวเตอร์3
- 2. 1. ออกแบบงานนาเสนอตามลักษณะ
งานนาเสนอด้วยโปรแกรมนาเสนอ
โปรแกรมการนาเสนอผลงานและ
การผลิตสื่อผสมด้วยโปรแกรม Microsoft
PowerPoint ใช้สาหรับนาเสนอผลงานที่เป็น
ข้อมูลรูปภาพ ตัวเลข กราฟ ตาราง มาจัด
ให้อยู่ในรูปแบบสไลด์ ซึ่งผู้ที่ใช้จะต้องรู้และ
เข้าใจถึงขั้นตอนการทางาน การจัดวางตัว
หนังสือ ลักษณะรูปแบบต่างๆในโปรแกรม
ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน และไม่
ต้องใช้ทักษะทางศิลปะมากในการออกแบบ
งาน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกรูปแบบ
ต่างๆ อัตโนมัติได้ เพื่อความเหมาะสมและ
สวยงามของงาน
ลักษณะการของโปรแกรม Power Point
โปรแกรม Microsoft PowerPoint
เป็ นโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่ถูก
ออกแบบมาให้ใช้กับงานด้าน การนาเสนอ
เรื่องราวต่าง ๆ (Presentation)ในลักษณะ
คล้าย ๆ กับการฉายสไลด์ (Slide Show)
โดยเราสามารถใช้คาสั่งของ PowerPoint
สร้างแผ่นสไลด์ที่มีรูปภาพและข้อความ
บรรยายเรื่องราวที่ต้องการจะนาเสนอได้
อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกาหนดลักษณะ
แสงเงา และลวดลายสีพื้นให้สไลด์แต่ละ
แผ่นมีความสวยงามน่าสนใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เรายังสามารถกาหนดรูปแบบ
การฉายสไลด์แต่ละแผ่น อย่างต่อเนื่อง
และใช้เทคนิคพิเศษในการแสดงข้อความแต่
ละบรรทัด เพื่อให้ผู้ชมการฉายสไลด์ค่อย
ๆ เห็นข้อความบรรยายและภาพเหล่านี้ที
ละขั้น ๆ อย่างต่อเนื่องกันเป็ นเรื่องราว
ตามระยะเวลาที่เรากาหนดไว้
- 3. 2.กาหนดภาพเคลื่อนไหว ใส่เสียง และ
เอฟเฟ็ กซ์ต่างๆ ในงานนาเสนอ
การทาให้ข้อความหรือวัตถุ
เคลื่อนไหว
สามารถทาให้ข้อความ รูปภาพ
รูปร่าง ตาราง กราฟิก SmartArt และ
วัตถุอื่นๆ เคลื่อนไหวในงานนาเสนอ
PowerPoint เพื่อทาให้มีลักษณะพิเศษแบบ
เป็นภาพ ซึ่งรวมถึงลักษณะการเข้า ออก
การเปลี่ยนขนาดหรือสี ตลอดจนการ
เคลื่อนย้าย สร้างงานนาเสนอสไลด์ที่มีจุด
สัญลักษณ์แสดงหัวข้อหรือเครดิตการ
ผลิตแบบเคลื่อนไหว
แนวทางการสร้างงานนาเสนอ
การนาเสนอที่ดีควรทาอย่างเป็ น
ขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของ
งาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทา
สไลด์เพื่อนาเสนองานเป็ นไปอย่างรวดเร็ว
จึงควรทาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การวางโครงร่าง
2. การลงรายละเอียดเนื้อหา
3. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ หรือ
อื่นๆ ในสไลด์
4. การปรับแต่งสไลด์ให้มีสีสันสวยงาม
5. การเพิ่มความน่าสนใจให้กับสไลด์
ในขณะนาเสนอ
6. เตรียมการนาเสนองานจริง
7. การเตรียมเอกสารประกอบการ
บรรยายแจกผู้เข้ารับฟัง
- 4. เปลี่ยนความเร็วของเอฟเฟ็ กต์
ภาพเคลื่อนไหว
ความเร็วของเอฟเฟ็กต์จะถูกกาหนดโดย
การตั้งค่า ระยะเวลา
1. บนสไลด์ ให้เลือกเอฟเฟ็กต์
ภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง
2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ภายใต
ตัวเลือก กาหนดเวลา ในกล่อง ระยะเวลา
ให้ใส่จานวนวินาทีที่คุณต้องการให้เอฟ
เฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวทางาน
การเพิ่มเสียงในงานนาเสนอ
PowerPoint
1. ในมุมมอง ปกติ ให้คลิกสไลด์ที่
คุณต้องการเพิ่มเสียงลงไป
2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม สื่อ คลิก
ลูกศรภายใต้ เสียง
3. ในรายการ ให้คลิก เสียงจาก
ไฟล์หรือ เสียงคลิปอาร์ต ระบุตาแหน่งและ
เลือกคลิปเสียงที่คุณต้องการ แล้วคลิก
แทรกไอคอนเสียงและตัวควบคุมจะปรากฏ
บนสไลด์
4. ในมุมมอง ปกติ หรือ
มุมมอง การนาเสนอสไลด์ ให้คลิกไอคอน
แล้วคลิก เล่น เพื่อเล่นเพลงหรือเสียงอื่นๆ
ภาพเคลื่อเพิ่มนไหวลงในวัตถุ
1. เลือกวัตถุที่คุณต้องการให้
เคลื่อนไหว
2. บนแท็บ ภาพเคลื่อนไหว ของ
Ribbon ในกลุ่ม ภาพเคลื่อนไหว ให้ ค ลิ ก
ปุ่ ม เพิ่มเติม แล้วเลือกลักษณะ
พิเศษภาพเคลื่อนไหวที่คุณต้องการ
- 6. 2. มัลติมีเดีย
มัลติมีเดีย (multimedia) หรือ สื่อ
ประสม หรือ สื่อหลายแบบ เป็ นการใช้สื่อ
ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็ น ข้อความเสียง
รูปภาพ หรือ ภาพเคลื่อนไหว สาหรับให้
ความรู้หรือให้ความสาราญต่อผู้ชม
สามารถประยุกต์สื่อต่างๆ ให้มารวมกัน
บน ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถ
โต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ
ต่างๆ กันได้
ขั้นตอนการนาเสนองาน
ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอด้วย
โปรแกรม POWER POINT
1. ขั้นตอนการสร้างงานนาเสนอข้อมูล
การสร้างงานนาเสนอข้อมูลให้ได้ดี
นั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายส่วน เริ่ม
ตั้งแต่ข้อมูลที่จะใช้บรรยาย ลาดับ การ
นาเสนอ วิธีการนาเสนอ บรรยากาศ
ในขณะบรรยาย ฯลฯ ปัจจัยต่างๆเหล่านี้
บางอย่างก็ควบคุมได้ บางอย่างก็ไม่
สามารถ แต่การเตรียมพร้อมในการ
บรรยายไว้ก่อน จะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะ
ได้แก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- 7. 2. การจัดเตรียมการนาเสนอ
ลาดับขั้นตอนการจัดทาสไลด์ทา
ได้หลายแบบ บางท่านเริ่มจากสร้างสไลด์
ก่อนแล้วค่อยเรียงลาดับสไลด์ทีหลัง บาง
ท่านวางโครงร่างด้วยข้อความก่อน
4. จัดเก็บงาน ค้นคืนข้อมูล จากการ
สืบค้นข้อมูล และการสื่อสารข้อมูล
ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
เมื่อทาการสืบค้นหรือค้นหาข้อมูล
สารสนเทศได้แล้วถ้าต้องการที่จะจัดเก็บ
ข้อมูลที่ค้นหาเหล่านั้นไว้ใช้งานต่างๆ
ต่อไปนี้ ก็ต้องดาเนินการจัดเก็บข้อมูล
สารสนเทศ ซึ่งมีวิธีจัดเก็บดังนี้
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบของ
ข้อความ จะมีไฟล์ข้อมูลที่จะต้องทาการ
จัดเก็บใน 3 รูปแบบ คือ
1.1ข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าเว็บไซต์
แล้วคลิกที่ Copy(คัดลอก)ทา
การเปิดโปรแกรม Microsoft Word หรือ
โปรแกรมที่ต้องการ แล้วคลิกเมาส์ข้างขวา
บริเวณตาแหน่งที่ต้องการวาง เสร็จแล้ว
ให้คลิก Paste (วาง)
1.2ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .doc
เมื่อทาการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ
จะปรากฏชื่อรูปแบบของไฟล์ ถ้าเป็นข้อมูล
ที่สร้างโดยโปรแกรม Microsoft Word จะ
ปรากฏชื่อไฟล์ DOCให้คลิกที่ชื่อเรื่องที่
ต้องการจะเริ่มดาเนินการดาวน์โหลด
ข้อมูล
ให้คลิกที่ชื่อไฟล์ข้อมูลที่ทาการ
ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว เพื่อดาเนินการเปิ ด
ข้อมูล ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File
(แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save
(บันทึก)
1.3 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .pdf
ไฟล์ PDF เป็ นไฟล์ที่เปิดด้วย
โปรแกรม Acrobat ซึ่งจะปรากฏชื่อไฟล์
PDF
ให้ทาการคลิกชื่อไฟล์ข้อมูลที่
ต้องการจัดเก็บ จะปรากฏกรอบให้ทาการ
ดาวน์โหลด ดังนี้
ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File (แฟ้ ม)
ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save (บันทึก)
1.4 ข้อความที่มีรูปแบบไฟล์ .ppt
ไฟล์PPT เป็ นแฟ้ มข้อมูลที่จัดเก็บ
โดยใช้โปรม Microsoft PowerPoint ซึ่งเมื่อ
คลิกที่บริเวณชื่อจะปรากฏชื่อเรื่องที่ต้อง
หารแล้ว จะปรากฏกรอบให้ดาวน์โหลด
ดังนี้
ทาการจัดเก็บข้อมูลโดยคลิกที่ File
(แฟ้ ม) ที่เราต้องการ แล้วคลิก Save
(บันทึก)จะปรากฏรายละเอียดของเรื่องที่
เราต้องการในรูปแบบของไฟล์ PowerPoint
- 8. ก า ร สื่ อ ส า ร ข้อ มูล ผ่ า น ร ะ บ บ
อินเทอร์เน็ต
ระบบเครือข่าย (Network System)
หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่
2เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อ
เครื่องคอมพิวเตอร์ภายในห้องเรียน
ภายในองค์กร ระหว่าง อาคาร ระหว่าง
เมืองต่าง ๆ ตลอดไปจนถึงการเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกที่เรียกว่า
“อินเทอร์เน็ต”(Internet) การติดต่อสื่อสาร
ข้อมูลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากความ
พยายามในการเชื่อมต่อระหว่าง
คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
โดยอาศัยระบบการสื่อสาร ต่อมาเมื่อมี
การใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นความต้องการ
ในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลาย
เครื่องในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบ
เครือข่าย (Network System) ระบบ
สานักงานอัตโนมัติ (Office Automation
System) เป็ นวิธีการทางด้านการสื่อสาร
ข้อมูล ที่กาลังได้รับการนามาประยุกต์ใช้ใน
ระบบสานักงาน การสื่อสารข้อมูลข่าวสาร
ระหว่างกันโดยอาศัยสัญญาณข้อมูล
ข่าวสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ
ข่ายงาน Internet Working คือ การรวมตัว
กันของระบบข่ายงานที่กระจายอยู่ทั่วโลก
จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ Paperless
System คือ ระบบที่ไม่ใช้กระดาษบทบาทที่
สาคัญอีกบทบาทหนึ่งคือการให้บริการ
ข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
1. จัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสาร
ได้รวดเร็ว
2. ความถูกต้องของข้อมูล
3. ความเร็วของการทางาน
4. ประหยัดต้นทุนมาตรฐาน
สาหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
s<https://vipaprondotme.wordpress.com/%E0%B8%81%
E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7
%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%
B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8
%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%
B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0
%B8%A3%E0%B8%B0/>
- 9. การรับจดหมาย
เมื่อกรอก e-mail address และ
รหัสผ่าน ถูกต้องแล้วจะเข้าไปที่หน้าเพจ
ดังภาพ ให้คลิกที่ ไปที่กล่องขาเข้า
การรับจดหมาย (Check Mail)
อีเมล์ ที่ส่งเข้ามาในกล่องขาเข้าจะ
เรียงตามวันที่ก่อนหลังที่อีเมล์ มาถึง ถ้า
ต้องการเปิดอ่าน ให้คลิกที่ชื่อผู้ส่งก็เข้าไป
อ่านอีเมล์ได้
อีเมล์ ที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ss
อีเมล์ ที่เปิดอ่านแล้ว
<http://www.upload.khukhan.ac.th/sende-
mail.html>
5. รับ-ส่ง E-mail
การรับ-ส่งอีเมล์
การรับ-ส่งอีเมล์ หมายถึง การ
ติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบใหม่
แทนจดหมายบนกระดาษ แต่ใช้วิธีการ
ส่งข้อความ ในรูปของสัญญาณ
อิเล็กทรอนิกส์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์
หนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง ปัจจุบัน
อีเมล์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็น
บริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้มีคนนิยมใช้มาก
ที่สุด เพราะสามารถติดต่อรับส่ง ข้อมูล
ระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว s
การส่งจดหมาย
เมื่อเข้าสู่ระบบ Hotmail ได้
เรียบร้อยแล้วการส่งอีเมล์ มีขั้นตอนดังนี้
คลิกที่ ส่งอีเมล์
จากนั้นจะได้กรอบสาหรับพิมพ์อีเมล์
ภายในกรอบมีความหมายดังนี้
ช่อง ถึง : สาหรับกรอก e-Mail
Address ของบุคคลที่ต้องการจะส่งไป
ช่อง ชื่อเรื่อง : สาหรับ กาหนด
หัวข้อจดหมาย
สิ่งที่แนบมา สาหรับแนบไฟล์ ไปกับ
จดหมาย
กล่องข้อความ สาหรับพิมพ์
ข้อความ
คลิก ส่ง จะมีข้อความตอบรับว่า ส่ง
ข้อความของคุณแล้วได้ส่งอีเมล์แล้ว