การวางแผนทางธุรกิจ

1. การวางแผนทางธุรกิจ

2. การวางแผนธุรกิจ
1. การประเมินความพร้อมของผู้ประกอบการ
2. การแสวงหาช่องทางในการทาธุรกิจ
3. การวิเคราะห์ปัจจัยความสาเร็จของธุรกิจ
4. การวิเคราะห์ SWOT Analysis
5. การเริ่มต้นธุรกิจ

3. 1.การประเมินความพร้อมของผู้ประกอบการ
ประเมินจาก”บุคลิกภาพ”ตามหลัก
David C. Mc Collard
 ต้องการความสาเร็จ
 มีความรับผิดชอบ
 กล้าที่จะเสี่ยง
 เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง
 มีแรงกระตุ้น
 มีวิสัยทัศน์
 มีความกระตือรือร้น
 มีทักษะในการบริหารจัดการ
 มีความคิดริเริ่ม
 สามารถแก้ปัญหาได้

4. การประเมินความพร้อมของผู้ประกอบการ
ประเมินจาก “แบบฟอร์มประเมินความพร้อมของการเป็นผู้ประกอบการ
ทางธุรกิจของสานักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม”
ควรได้คะแนนเกิน 80%

7. 2.การแสวงหาช่องทางในการทาธุรกิจ
1. ธุรกิจการผลิต
เช่น ครีมหน้าเด้ง อาหารเสริมนมผึ้ง ทุเรียนกวน
การดาเนินกิจการควรมีแนวทางดาเนินงานดังนี้
 การผลิตที่มีประสิทธิภาพ
 มีโรงงานที่เหมาะสม
 จัดหาวัตถุดิบได้ง่าย
 ผลผลิตมีคุณภาพสูง
 ค่าแรงงานต่า

8. การแสวงหาช่องทางในการทาธุรกิจ
2. ธุรกิจการค้า
เช่น ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของชา ร้าน gift shop ร้านเครื่องสาอาง
การดาเนินกิจการควรมีแนวทางดาเนินงานดังนี้
 ทาเลที่ตั้งเหมาะสม
 มีวิธีการขายที่ดี
 มีสินค้าให้เลือกมาก
 ราคาสมเหตุ สมผล
 มีสินค้าคุณภาพดี
 ปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างดี

9. การแสวงหาช่องทางในการทาธุรกิจ
3. ธุรกิจการให้บริการ
เช่น ร้านอาหาร home stay โรงเรียนสอนภาษา
การดาเนินกิจการควรมีแนวทางดาเนินงานดังนี้
 สถานที่เหมาะสม สวยงาม น่าเชื่อถือ
 สร้างความพอใจให้ลูกค้า
 มีความรวดเร็ว
 มีความสะดวก
 มีมาตรฐานการให้บริการ

10. 3.ปัจจัยความสาเร็จของธุรกิจ
เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก
เพื่อนาไปวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ ที่เรียกว่า SWOT Analysis
 ปัจจัยภายนอก
เป็นปัจจัยที่องค์กรควบคุมไม่ได้ แต่ธุรกิจต้องเข้าใจสถานการณ์
และวิเคราะห์เพื่อเป็นข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจว่า สถานการณ์นั้น
เป็น โอกาส หรือ อุปสรรค์
 ปัจจัยภายใน
เป็นปัจจัยที่องค์กรควบคุมได้ สามารถสร้างจุดแข็ง และจุดอ่อน
ขององค์กรธุรกิจได้

11. บริษัท
ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก
• Customer
• Supplier
• Resaler
• Competitor
• Public
• Company
• Economic Factor
• Social and Cultural
Factor
• Legal and Political
Factor
ปัจจัยความสาเร็จของธุรกิจ

12. ปัจจัยภายใน
1. Customer
จะต้องพิจารณาว่าลูกค้าปัจจุบัน มีจานวนมากน้อยเท่าใด
(Market size) เป็นใคร (age, sex) อยู่ที่ไหน
(domestic, international) ความภักดีในตราสินค้า
ลูกค้า จานวนมาก
มีความภักดีสูง
= ปัจจัยภายในมีความเข็มแข็ง
Oxford

13. 2. Competitor
จะต้องพิจารณาว่าคู่แข่งปัจจุบัน มีจานวนมากน้อยเท่าใด
ศักยภาพทางการแข่งขันของเรากับคู่แข่งเป็นอย่างไร (Market share)
คู่แข่งจานวนมาก
= เสี่ยงต่อการแข่งขันด้านราคา
Market share สูง = ธุรกิจมีความเข็มแข็ง
ปัจจัยภายใน

14. 3. Supplier
จะต้องพิจารณาว่า Supplier มีจานวนมากน้อยเท่าใด
มีความสัมพันธ์กับ Supplier อย่างไร อานาจการต่อรอง
อยู่ที่ใคร
supplier จานวนมาก
มีความสัมพันธ์ดี
มีอานาจการต่อรองสูง
= ปัจจัยภายในมีความเข็มแข็ง
ปัจจัยภายใน

15. 4. Resaler (ผู้กระจายสินค้า)
จะต้องพิจารณาว่า Resaler มีจานวนมากน้อยเท่าใด
มีความสัมพันธ์กับ Resaler อย่างไร การกระจายสินค้าเป็นอย่างไร
Resaler จานวนมาก
มีความสัมพันธ์ดี
มีการกระจายสินค้าวงกว้าง
= ปัจจัยภายในมีความเข็มแข็ง
ปัจจัยภายใน

16. 5. Company
จะต้องพิจารณาว่า มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอะไร มีตาแหน่ง
ทางการตลาดอย่างไร มีภาพลักษณ์อย่างไร การกาหนดราคาอย่างไร
มีการสื่อสารการตลาดอย่างไร
ถ้าบริษัทมีความเชี่ยวชาญ
มีตาแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน
(Differentiate)
มีภาพลักษณ์ดี
= ปัจจัยภายในมีความเข็มแข็ง
ปัจจัยภายใน

17. ปัจจัยภายนอก

18. ดัชนี้ชี้วัดทางเศรษฐกิจ

19. ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ
1. Real Sector
2. Gross Domestic Product
3. Gross Natioal Product
4. Per Capital Income
5. Population
6. Household
7. International Reserves
สะท้อนขนาดตลาด
ความมั่นคงทางการเงิน

20. Real Sector
คือ ดัชนีภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
ขนาด
เศรษฐกิจรวม
ชนาดตลาด
ภาคการผลิต
ชนาดตลาด
ภาคการเงิน
ชนาดตลาด
ภาคการบริการ
Real sector

21. GDP

22. GNP

23. Per Capital Income

24. International Reserve

25. ปัจจัยภายนอก
2. Social and Cultural Factor
สุดาพร
• ปัจจัยทางสังคมแสดงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่และพฤติกรรมการ
ซื้อสินค้าของประชาชน
• องค์ประกอบของสังคมประกอบด้วยสถาบันทางครอบครัว การ
แบ่งชนชั้นทางสังคม ระดับการศึกษาของประชาชนตลอดจน
ปัจจัยด้านวัฒนธรรม

26. ปัจจัยภายนอก
2. Social and Cultural Factor
สุดาพร
• การแบ่งชนชั้นทางสังคม (Social Class) มีบทบาทสูง
ต่อการตัดสินใจวางแผนทางการตลาด การแบ่งชนชั้นอาจใช้
ฐานะเป็นปัจจัยแบ่ง หรือใช้การศึกษาเป็นปัจจัยแบ่งหรือใช้
ปัจจัยอื่นๆ การใช้ปัจจัยใดเพื่อแบ่งชนชั้นทางสังคมนั้น
เกิดขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคสินค้า ตลอดจนเพื่อ
ทราบแนวทางในการสื่อสารกับผู้บริโภคในชนชั้นต่างๆ

27. ปัจจัยภายนอก
2. Social and Cultural Factor
สุดาพร
I. ศาสนา (Religion)
–ศาสนาคริสต์
–ศาสนาอิสลาม
–ศาสนาพุทธ
–ศาสนาฮินดู
–ศาสนาอื่นๆและลัทธิต่างๆ

28. ปัจจัยภายนอก
ชนงกรณ์
3.Legal and Political Factor
การพิจารณาสภาพทั่วไปทางการเมืองของประเทศ
• สภาพแวดล้อมทางการเมือง มีระบอบการเมืองที่
เป็นประชาธิปไตย
• มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
• รัฐบาลมีนโยบายที่เกื้อหนุนต่อการลงทุน
• แนวโน้มทางการเมืองเป็นไปในทางที่ดี

29. 4.การวิเคราะห์ SWOT Analysis
เป็นการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค์เพื่อนาไปกาหนดกลยุทธ์การดาเนินงาน
Strengths
คือ จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบของเรา
Weaknesses
คือ จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบของเรา
Opportunities
คือ โอกาสที่จะสามารถดาเนินการได้
Threats
คือ ความเสี่ยง, ภัยคุกคาม, ข้อจากัด หรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อ
การดาเนินการขององค์กร
มาได้อย่างไร ?

30. ปัจจัยที่เกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ
จุดแข็ง
 มีทักษะและความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่า
 มีความพร้อมด้านการเงิน
 มีฐานลูกค้าจานวนมาก
 มีสิทธิบัตร
 มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
 มีความได้เปรียบด้านต้นทุน
 การมีความสามารถในการโฆษณาส่งเสริมการขาย
 มีนวัตกรรม
 มีกระบวนการผลิตที่ดี

31. ปัจจัยที่เกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ
จุดแข็ง
 มีชื่อเสียงด้านการบริการลูกค้า
 มีสินค้าที่มีคุณภาพเหนือคู่แข่ง
 มีความสามารถในการกระจายสินค้า
 มีพันธมิตรทางการค้า

32. ปัจจัยที่เกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ
จุดอ่อน
 ไม่มีแผนการดาเนินธุรกิจที่ชัดเจน
 เครื่องจักร อุปกรณ์ล้าสมัย
 สถานะทางการเงินไม่ดี มีหนี้สิน
 ต้นทุนในการผลิตสูง
 ขาดทักษะความชานาญในกิจการ
 ขาดทักษะเชิงการบริหาร
 การวิจัยและพัฒนาล้าหลัง
 สายผลิตภัณฑ์แคบกว่าคู่แข่ง
 มีข้อจากัดด้านทรัพยากรทางการเงิน

33. ปัจจัยที่เกี่ยวกับโอกาสและอุปสรรค์
โอกาส
 กลุ่มลูกค้ามีขนาดใหญ่ ตลาดมีขนาดใหญ่
 เศรษฐกิจดี มีสภาพคล่อง
 การเมืองมีเสถียรภาพดี
 มีแหล่งสนับสนุนทางการเงิน
 มีเทรนทางการตลาดใหม่ๆ เช่น กระแสนิยมอาหารสุขภาพ ประแสรักษ์โลก
 มีเทคโนโลยีใหม่ เช่น 5G เครื่องจักรที่ทางานได้เร็วขึ้น ประหยัดต้นทุน
 การเปิดเสรีทางการค้า

34. ปัจจัยที่เกี่ยวกับโอกาสและอุปสรรค์
อุปสรรค์
 เกิดคู่แข่งรายใหม่
 มีคู่แข่งในตลาดจานวนมาก
 วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์เป็นช่วงตกต่า
 อัตราการเติบโตของตลาดลดลง
 เศรษฐกิจถดถอย
 การเปลี่ยนแปลงรสนิยมของลูกค้า
 สัดส่วนประชากรเปลี่ยนแปลงทาให้ตลาดเล็กลง
 มีความยุ่งยากในการดาเนินการทางราชการ

35. 5.การเริ่มต้นทาธุรกิจ
1. การประเมินโอกาสการลงทุน
1.1 กาหนดความชัดเจน
 ลูกค้าคือใคร
 ลูกค้าต้องการอะไร
 สินค้าที่จะประกอบการคืออะไร
1.2 ศึกษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน
 สินค้ามีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
 บริษัทมีความเชี่ยวชาญอะไร
 ต้นทุนการแข่งขันต่ากว่าคู่แข่ง
 เงินลงทุนมีสูงกว่าคู่แข่ง
 มีเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพกว่าคู่แข่ง

36. 5.การเริ่มต้นทาธุรกิจ
1.3 ผลตอบแทนจากการลงทุนคุ้มค่าความเสี่ยง
 High risk high return
1.4 มีความสามารถในการจัดการ
 ต้องรู้จักหลักการ POLC คือ การวางแผน จัดองค์กร ชักจูงใจ ควบคุม
1.5 จะต้องไม่มีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อธุรกิจที่อาจทาให้ขาดทุน
 ภาวะโรคระบาด
 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

37. 5.การเริ่มต้นทาธุรกิจ
2. การจัดทาแผนธุรกิจ
 บทสรุปผู้บริหาร
 ประวัติของธุรกิจ หรือภาพรวมของกิจการ
 การวิเคราะห์สถานการณ์
 วัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจ
 แผนการตลาด
 แผนการบริหารบุคลากร
 แผนการผลิต
 แผนการเงน
 แผนฉุกเฉิน