แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน โรคภูมิแพ้
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวนิษฐเนตร์ อนันต์สหัส เลขที่ 37 ชั้น ม.6 ห้อง 5
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวนิษฐเนตร์ อนันต์สหัส เลขที่ 37
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โรคภูมิแพ้
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Allergy
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวนิษฐเนตร์ อนันต์สหัส
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1 ถึงภาคเรียนที่2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ในปัจจุบัน มีคนที่เป็นภูมิแพ้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นแพ้ฝุ่น แพ้อากาศ หรือแพ้อาหารต่าง ๆ และมีทุก
ช่วงอายุ บางคนเป็นตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งบางคนอาจคิดว่าโรคภูมิแพ้เป็นเรื่องปกติ ใคร ๆ ก็เป็น แล้วไม่ได้รักษาอย่าง
จริงจัง บางคนไม่ทราบว่าอาการที่ตัวเองมีคือโรคภูมิแพ้อย่างหนึ่ง
โครงงานนี้ จึงรวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ ของโรคภูมิแพ้ ซึ่งโรคนี้จะแบ่งแยก แตกต่างกันออกไป ตาม
ลักษณะอาการ สิ่งที่ทาให้เกิดอาการแพ้ และชนิด แต่ละแบบของอาการแพ้ก็จะมีการรักษาแตกต่างกันไป
โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้ ไอ จาม คัดจมูก น้ามูก น้าตาไหล คันรอบดวงตา ระคายเคืองทั่ว
ใบหน้า มีผดผื่นคันแดงตามผิวหนัง ผิวหนังลอกอักเสบ หรืออาจแพ้รุนแรงถึงขั้นท้องร่วง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
หลังจากที่ได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะมีอาการแพ้ต่อสารแตกต่างกันไป เพราะโดยทั่วไป
แล้ว สารส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยแพ้ เป็นสารที่ไม่ทาปฏิกิริยาหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายคนส่วนใหญ่ แต่จะทาให้เกิดการ
เจ็บป่วยต่อผู้ที่แพ้เท่านั้น
โรคนี้เป็นโรคยอดนิยมที่พบ ยิ่งในสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วย
มลภาวะที่ไม่พึงประสงค์ทาให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายต้องทางานเพิ่มมากขึ้น ทาให้ร่างกายอ่อนแอลง และเพิ่ม
โอกาสในการป่วยด้วยโรคภูมิแพ้มากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์
1.ศึกษาว่าโรคภูมิแพ้คืออะไร
2.ศึกษาสาเหตุของโรคภูมิแพ้
3.ศึกษาลักษณะอาการของโรคภูมิแพ้
4.ศึกษาการรักษาโรคภูมิแพ้
5.ศึกษาวิธีป้องกันโรคภูมิแพ้

3. 3
ขอบเขตโครงงาน
1.ศึกษาอาการที่แสดงออกของโรคภูมิแพ้
2ประเภทของโรคภูมิแพ้
3.การรักษาโรคภูมิแพ้
4.การป้องกันโรคภูมิแพ้
หลักการและทฤษฎี
งานวิจัยจากหลายประเทศทั่วโลกกล่าวไว้ตรงกันว่า อาการภูมแพ้จะทุเลาลงหรือไม่กาเริบขึ้นมาบ่อย ๆ เมื่อลด
การได้รับสารก่อภูมิแพ้ลงได้
ถ้าเรียงลาดับความสาคัญของโรคภูมิแพ้ที่พบในคนไทย พบว่า โรคภูมิแพ้ไรฝุ่นสาคัญ เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ
โรคภูมิแพ้แมลงสาบ ในฝุ่นบ้านพบสารก่อภูมิแพ้ทั้งสองในปริมาณ มาก ส่วนสารก่อภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ พบน้อยลงไป
ปัญหานี้พบในประเทศอื่น ๆ เช่นกัน ทั้งสองโรคนี้ ครองแชมป์ในการเป็นสาเหตุหลักในการก่อโรคภูมิแพ้ บางประเทศ
cockroach allergy อาจเป็น ปัญหา มากกว่า mite allergy และมีอัตราการเกิดโรคทวีมากขึ้นทุกปีในทุกประเทศ
ทั่วโลก
เราจะทราบไดอยางไรวาในวนหนึ่งๆ เราสดดมสารก่อภูมิแพไรฝุนเขาไปในปริมาณเทาใดมีคากาหนดไว้หรือ
ไม การตรวจวัดเชนนั้นทาไดยาก การตรวจจากฝุ่นแวดลอมทาไดงายกวา จึงนิยมดูดฝุนจากแหลงสงสัยในบานมา
ตรวจวิเคราะหแทน เชน ดูดฝุนที่นอน หมอน พรม พื้นหองฯลฯ เมื่อทราบแหลงก็ตองหาทางกาจัดเพื่อใหเราลดการ
สุดดมลง องคการอนามยโลกได้มีเกณฑมาตรฐานกาหนดไวคือ การไดรับสารกอภูมิแพไรฝุนเขาไปเกิน 2 ไมโครกรัม/
1 กรัมฝุน สามารถกระตุนรางกายใหเกิดอาการภูมิแพได และถ้าเกิน 10 ไมโครกรัม ขึ้นไปทาใหเกิดการจับหืด
เฉียบพลันได้ ดังนั้นเมื่อเราสงสัยฝุ่นแวดลอมหรือพบการรักษาไดผลดีเทาที่ควรจะเปน ควรหันมาสนใจเรื่องสภาวะ
แวดลอมดวย รวมทั้งใหความสาคัญกับการรลดปริมาณสารกอภูมิแพในฝุนแวดลอมโดยนาวิธีการปองกันกาจัดไร
ฝุนมาปฏิบัติในชีวิตประจาวัน
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.ค้นหา และ รวบรวมข้อมูลของโรคภูมิแพ้
2.ตรวจสอบความถูกต้อง
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.เครื่องคอมพิวเตอร์
2.แหล่งค้นหาข้อมูลgoogle
3.แหล่งนาเสนอ blogger
งบประมาณ
-

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดั
บ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
1
7
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้ศึกษารู้และเข้าใจลักษณะอาการโรคภูมิแพ้ วิธีป้องกัน วิธีรักษา
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
แหล่งอ้างอิง
https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/admin/article_files/844_1.pdf
https://www.honestdocs.co/4-types-of-allergies-and-treatments
https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/allergy-care-to-keep-up