SlideShare a Scribd company logo
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ฟันขาวใสง่ายๆ ไม่แพง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ น.ส.อภิชญา เชิงดี เลขที่ 2 ชั้น ม.6 ห้อง 11
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
ผู้จัดทาโครงงาน
น.ส.อภิชญา เชิงดี เลขที่ 2
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ฟันขาวยิ้มสวย
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Beautiful white teeth
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.อภิชญา เชิงดี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันความสวยความงามเป็นสิ่งหลักที่ผู้คนให้ความสนใจทั้งในเพสชายและเพศหญิง และสิ่งหนึ่งที่คนให้
ความสนใจมากคือรอยยิ้ม และการที่เราจะมีรอยยิ้มที่สวยนั้น ฟันของเราก็ต้องสวยด้วย การที่ฟันเราขาวจะทาให้เราดู
ดีขึ้น ทาให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาฟันเหลืองมีมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากวัยรุ่นส่วนมากจัดฟัน
และหลังจัดฟันนั้นฟันเราจะเหลือง และยังมีหลายสาเหตุที่ทาฟันเหลือง ทั้งกิจวัตรประจาวันของแต่ละคนเกี่ยวกับการ
รับประทานอาหารต่างๆ ซึ่งมีผลมากที่ทาให้ความขาวของฟันลดลง ซึ่งโครงงานนี้จะรวบรวมสาเหตุและวิธีการแก้ไข
ในแบบต่างๆให้ผู้ที่สนใจให้ได้ทาความเข้าใจ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือหลีกเลี่ยง โครงงานเล่มนี้รวบรวมวิธีที่ทา
ให้ฟันขาวไว้หลายวิธีทั้งแบบที่รวดเร็วหรือค่อยเป็นค่อยไป ผู้อ่านสามารถอ่านทาความเข้าใจและเลือกวิธีปฏิบัติให้เข้า
กับวิถีการใช้ชีวิตของตนเองได้ แต่ละวิธีมีราคาค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความสะดวกของตนเองได้
เหตุผลหลักที่ผู้จัดทาทาโครงงานนี้เพราะมองเห็นปัญหาจากตัวผู้จัดทาและคนรอบข้างของผู้จัดทาเอง การทาโครงงาน
นี้ทาให้ผู้จัดทาสามารถนามาใช้เองและแก้ปัญหาเองได้ด้วย ผู้จัดทาหวังว่าโครงงานนี้เมื่อได้เผยแพร่ไปแล้วจะสามารถ
เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจได้เช่นกัน
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อศึกษาสาเหตุของการทาให้เกิดฟันเหลือง
2.เพื่อศึกษาวิธีการแก้ไขในแบบต่างๆ
3.เพื่อค้นคว้าและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาฟนเหลืองที่ถูกต้อง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.สาเหตุและปัจจัยของฟันเหลือง
2. วิธีการแก้ไขให้ฟันขาวกว่าเดิม
3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
สาเหตุของฟันเหลือง
โดยปกติแล้วสีฟันของคนเราจะเป็นสีขาวมันวาว แต่บางคนจะมีฟันเหลือง คล้า หรือดา ดูไม่สวยงาม ซึ่งอาจจะเป็น
ฟันเพียงบางซี่หรือเป็นทุก ๆ ซี่ก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทาให้ฟันไม่ขาวก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน คือ
1. การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจา เช่น ชา กาแฟ เบียร์ ไวน์แดง โซดา น้าผลไม้ ลูกอม
ฯลฯ ร่วมกับการที่เราแปรงฟันไม่สะอาดพอ จึงทาให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติด
สะสมทีละน้อยจนเห็นเป็นสีเหลือง เหลืองเข้ม สีน้าตาล หรือสีดาติดตามซอกฟัน โปรดจาไว้ว่า "น้ำอะไรก็
ตำมที่ท้ำให้พรมของคุณเปื้อนเป็นครำบได้ มันก็สำมำรถท้ำให้ฟันของคุณเป็นครำบได้เช่นกัน"
2. สีสันของอาหาร เป็นที่ทราบดีว่าเชอร์รี่เพียง 1 กามือ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันกลับทาลาย
สุขภาพฟันของคุณได้ เพราะสีย้อมจานวนมากที่ผสมในผลไม้อย่างเช่น เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ รวมไป
ถึงซอสถั่วเหลือง จะทิ้งคราบหลงเหลือไว้ที่ฟันได้
3. การสูบบุหรี่เป็นประจาก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทาให้ฟันไม่ขาวได้เช่นกัน
4. เกิดจากฟันผุ ซึ่งมักจะทาให้ฟันมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้าตาล โดยเฉพาะฟันด้านหน้าที่เรามองเห็นได้ชัดเจน
5. เกิดจากฟันตาย ซึ่งหมายถึง อาการของฟันผุที่ผุมาก ๆ และทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน จนทาให้ฟันที่ผุนั้น
ลุกลามถึงโพรงประสาท (อาจเกิดขึ้นกับฟันที่ได้รับอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกอย่างแรงจนเกิดการฉีกขาดของ
เส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟันก็ได้) ส่งผลทาให้ไม่มีเลือดและประสาทฟันมาหล่อเลี้ยง ทาให้ฟันมีสีทึบไม่โปร่ง
เหมือนฟันปกติ
6. กรรมพันธุ์และวัยของคุณ เนื้อฟันตามธรรมชาติของคุณจะขาวหรือเหลืองน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์
ด้วย เช่น คนผิวดาฟันจะขาว คนมีสีฟันที่ผิดปกติมาแต่กาเนิด รวมไปถึงคนที่มีอายุมากขึ้น โอกาสที่ฟันจะ
ยังคงความขาวก็ยิ่งมีน้อยลง เนื่องจากเคลือบฟันบางลง ทาให้สีเหลืองของชั้นเนื้อฟันที่อยู่ข้างในปรากฏ
ออกมาให้เห็นชัดมากขึ้น เป็นต้น
7. โรคบางชนิดก็สามารถทาให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ของคุณแม่ก็เป็นสาเหตุทาให้ฟัน
เหลืองได้เช่นกัน
8. การได้รับยารักษาโรคหรือยาปฏิชีวนะบางชนิดมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุทาให้สีฟันเปลี่ยนได้ เช่น การ
รับประทานยาเตตราซัยคลิน โดยการรับประทานยาชนิดนี้จะส่งผลต่อสีของฟัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อ
ตัวหรือสร้างฟัน (ช่วงฟันน้านมของเด็กอายุ 3-9 เดือน และช่วงฟันแท้ของเด็กอายุ 3-12 ปี) ทาให้ฟันมีสี
ค่อนข้างเหลืองหรือเป็นสีเทาดาแทบทุกซี่ หรืออาจเกิดจากยาแก้แพ้บางชนิดที่ทาให้ฟันเปลี่ยนสี เกิดจากการ
ได้รับสารฟลูออไรด์มากจนเกินไป ซึ่งจะทาให้มีจุดสีน้าตาลบนฟันที่เรียกว่า "ฟันตกกระ" เป็นต้น ดังนั้นเวลา
คุณไปพบทันตแพทย์ คุณควรนาใบสั่งยาหรือยาที่คุณรับประทานอยู่ไปพบแพทย์เพื่อสอบถามด้วยว่า ยาชนิด
นี้มีผลต่อสีฟันของคุณหรือไม่
9. แปรงสีฟันที่ไม่มีคุณภาพ จะทาให้ประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกมีน้อยลง ส่งผลให้เกิดคราบตกค้างที่
ผิวฟันและนาไปสู่การเกิดฟันเหลือง
10. การจัดฟันอีกหนึ่งสาเหตุที่คาดไม่ถึง เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ที่ยึดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ฯลฯ ซึ่งวัสดุเหล่านี้
จะทาให้สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
4
วิธีทำให้ฟันขำว
1. วิธีแรกเป็นวิธีที่ง่ายมากและเป็นเรื่องที่สาคัญมากที่สุด ก็คือการหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ
แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธีหลังการรับประทานอาหารทุกมื้อหรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
ครั้งละประมาณ 2 นาที และหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงควรงดรับประทานอาหาร
2. งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุทาให้ฟันเหลือง เช่น ชา กาแฟ
น้าอัดลม น้าผลไม้ ขนม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ ไวน์ขาว ไวน์แดง โซดา ผงแกงกะหรี่ อาหารรสจัด
รวมถึงอาหารที่มีรสหวานเกินไป เพราะน้าตาลจะเปลี่ยนเป็นกรดจนทาให้เกิดฟันผุได้ และปรับพฤติกรรม
การรับประทานอาหาร ลดการรับประทานอาหารจุกจิก เพราะทุกครั้งที่รับประทานอาหารจะเกิดกรดขึ้นใน
ช่องปากจนทาให้ฟันผุได้เช่นกัน แต่หากต้องรับประทานอาหารจาพวกนี้ เมื่อรับประทานเสร็จก็ให้รีบแปรง
ฟันโดยเร็วเท่าที่จะทาได้เพื่อไม่ให้เกิดคราบแน่นที่ฟัน
3. หมั่นไปพบทันตแพทย์อย่างสม่าเสมออย่างน้อยปีละครั้งสาหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาในช่องปาก (ส่วนผู้ที่มีปัญหาใน
ช่องปากอาจจะพบบ่อยขึ้น) ถ้าฟันผุก็จัดการให้เรียบร้อย ในฟันหน้า ทันตแพทย์จะกรอส่วนที่ผุ ส่วนที่มีสีดา
หรือสีเหลืองออก แล้วอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟัน เพียงเท่านี้ฟันของคุณก็จะกลับมาขาวสะอาดได้เหมือนเดิม
4. เลือกใช้ยาสีฟันสูตรทาให้ฟันขาวหรือยาสีฟันฟอกฟันขาว ยาสีฟันชนิดนี้จะมีราคาแพงกว่ายาสีฟันทั่วไป
เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นได้ และยังช่วยกาจัดเชื้อแบคทีเรียที่ตกข้างได้ดีกว่ายี่ห้อทั่วไปอีก
ด้วย ยาสีฟันฟันขาว มีหลายยี่ห้อ เช่น ยาสีฟัน Glister ของแอมเวย์, Sparkle white, Close up white
now, Colgate optic white ฯลฯ ยังไงก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ
5. ขูดหินปูน ทุก ๆ 6 เดือน การขูดหินปูนนอกจากจะช่วยขจัดหินปูนที่ติดอยู่บนชั้นเคลือบฟันแล้วยังช่วยขจัด
คราบอาหารหรือเม็ดสีเข้มที่มาเกาะบนฟันได้ด้วย วิธีนี้อาจจะไม่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นมากนัก แต่ก็ช่วยให้ฟันขาว
ได้ในระดับหนึ่ง หรือขาวได้เท่าสีของเนื้อฟันธรรมชาติของเรา
6. การขัดฟัน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขจัดคราบต่าง ๆ ที่เกาะอยู่บนฟันหลังจากการขูดหินปูน ฟันเหลืองที่เกิดจาก
คราบ เมื่อขัดแล้วคราบก็จะหายไป ทาให้ฟันดูขาวขึ้นเหมือนเดิม อีกทั้งยังช่วยทาให้ผิวฟันเรียบ ส่งผลให้
คราบต่าง ๆ มาเกาะจับฟันได้ยากขึ้นอีกด้วย (การขัดฟันจะไม่ทาให้ฟันบางลงอย่างที่หลายคนเข้าใจ)
7. การฟอกสีฟัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไป โดยการฟอกสีฟันในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน
2 วิธี คือ การฟอกสีฟันที่ทาโดยคลินิกหรือทันตแพทย์ (ใช้ระยะเวลาในการทาแต่ละครั้ง ครั้งละประมาณ
30-60 นาที) และการฟอกสีฟันที่คนไข้สามารถนาสารฟอกสีกลับมาทาเองได้ที่บ้าน (ฟอกฟันขาวด้วย
ตัวเอง) แต่การฟอกสีฟันนี้จะทาให้สารบางตัวที่มีอยู่ในเนื้อฟันถูกดึงออกมา เช่น แคลเซียมและแร่ธาตุบางตัว
ทาให้สีธรรมชาติของฟันที่เป็นตัวเคลือบเนื้อฟันเพื่อป้องกันฟันผุและการเสียวฟันหายไป ยิ่งถ้าฟอกบ่อย ๆ ก็
จะยิ่งทาให้มีโอกาสฟันสึกหรือมีอาการเสียวฟันเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทาให้
เกิดฟันกร่อนได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย สาหรับวิธีนี้ถ้าไม่จาเป็นจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งไปทาครับ เพราะมันไม่ได้ทาให้สี
ฟันของเรานั้นขาวถาวร เนื่องจากสีฟันจะกลับมาเป็นสีเดิมตามธรรมชาติภายใน 2 ปี และอาจเป็นการ
สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ
8. เลเซอร์ฟันขาว ราคาต่อครั้งค่อนข้างจะแพงอยู่นะครับ (คงเกือบหมื่นบาท) ทาแค่ครั้งเดียวประมาณหนึ่ง
ชั่วโมงก็เสร็จ วิธีนี้จะทาให้ฟันขาวขึ้นได้แน่นอนครับ แต่ไม่ได้ขาวขึ้นแบบขาวจั๊วะ (ขึ้นอยู่กับเนื้อฟันเดิมของ
เราด้วย) ถ้าอยากขาวขึ้นอีกก็ต้องทาซ้า
9. เจลฟอกฟันขาว วิธีนี้ก็จะเห็นผลหลังจากใช้ไปแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ฟันจะค่อย ๆ ขาวขึ้น ก็เป็นอีก
ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ สาหรับวิธีการใช้และรีวิวดูได้ในคลิปด้านล่างเลยครับ
5
Ads by optAd360
10. แผ่นฟอกฟันขาว หรือ แผ่นแปะฟันขาว ยี่ห้อ Crest Whitestrips (แบบเก่า) หรือ Crest 3D White
Whitestrips (แบบใหม่) ใช้แค่ 2 กล่องก็ขาวแล้ว ในกล่องหนึ่งจะมีอยู่ด้วยกันหลายซอง เมื่อฉีกซองออกมาก็
จะได้แผ่นพลาสติกใส ๆ ที่มีแผ่นเจล 2 ชิ้นติดกัน แผ่นยาวสาหรับแปะฟันบน ส่วนแผ่นสั้นสาหรับแปะฟัน
ล่าง
หรือจะลองดูวิธีใช้ในคลิปเลยก็ได้ครับ
11. น้ายาบ้วนปากฟอกฟันขาว หรือ hydrogen peroxide (H2O2) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มี
อยู่ 2 ความเข้มข้นด้วยกัน คือ ความเข้มข้น 3% (ใช้บ้วนปากได้เลย) และความเข้มข้น 6% (ใช้ผสมกับน้า
บ้วนปากในอัตราส่วน 1 ต่อ 1) ให้ใช้ก่อนการแปรงฟัน ในช่วงแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยเห็นผล หากใช้ไป
ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะทาให้ฟันขาวขึ้นได้บ้าง อีกทั้งยังช่วยขจัดคราบหินปูนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
แต่วิธีนี้ผมเองยังไม่ขอแนะนานะครับ เพราะมันอาจเกิดอันตรายได้ และควรทาโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ครับ
Ads by optAd360
12. การเคลือบฟัน หรือ การทาเคลือบผิวฟันเทียม หรือ การทาฉาบฟัน (Veneer) วิธีนี้จะเหมาะกับฟันที่มีสี
ค่อนข้างเข้มคล้า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในกรณีที่ฟอกสีฟันแล้วไม่ได้ผล แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มักนอนกัดฟันหรือ
ชอบใช้ฟันหน้ากัดอาหารแข็ง หลักการของวิธีนี้ก็คือการใช้วัสดุเฉพาะที่มีสีเหมือนฟันมายึดติดหรือปิดทับ
ถาวรที่ผิวฟัน (สามารถเลือกโทนสีขาวได้ตามต้องการ) โดยทันตแพทย์จะกรอผิวเนื้อฟันบริเวณด้านหน้าออก
พอสมควรประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร เพื่อทาการปิดทับด้วยวัสดุข้างต้น ซึ่งวัสดุที่ใช้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ
คือ แบบใช้วัสดุคอมโพสิตเรซิน (Composite resin) ที่นามาเคลือบผิวฟัน ทาเสร็จภายในครั้งเดียว มีราคา
ถูกกว่า แต่ไม่ค่อยสวยงามและแข็งแรงนัก และแบบใช้วัสดุชนิดเซรามิก (Ceramic) ที่ทาจากแล็บ ซึ่งจะมี
ความแข็งแรงกว่า ให้สีที่สวยใกล้เคียงกับสีเนื้อฟันจริงมากกว่า แต่มีราคาที่สูงกว่าแบบแรก โดยวิธีนี้นอกจาก
จะช่วยแก้ไขสีฟันได้แล้ว ยังช่วยแก้ไขรูปร่างของฟันและแก้ฟันห่างได้ในคราวเดียวกันอีกด้วย
13. การครอบฟัน (Dental Crowns) วิธีนี้ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันออกทั้งซี่ให้เหลือเป็นแกน แล้วทา
ฟันปลอมมาครอบทับลงไปติดแน่นโดยใช้ซีเมนต์ทันตกรรม จึงทาให้ฟันที่ดาหรือแตกบิ่น สามารถทาครอบที่
มีสีและรูปร่างให้สวยงามได้ จึงถือเป็นการเปลี่ยนสีฟันได้อย่างถาวร แต่ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าการฟอกสีฟัน
และการทาเคลือบฟัน
14. มะนาวผสมเบกกิ้งโซดา (หรือจะใช้เลมอนแทนมะนาวก็ได้ครับ) โดยให้ใช้ เบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
นามาเทลงในจานกระเบื้องหรือจานพลาสติก แล้วบีบมะนาวลงไปครึ่งลูก ใช้แปรงสีฟันกวนส่วนผสมให้เข้า
กันจนเกิดฟองและได้เป็นเนื้อเดียวกัน (ความหนืดประมาณโยเกิร์ต) แล้วนามาใช้แปรงฟันประมาณ 2-3 นาที
เสร็จแล้วบ้วนออกด้วยน้าสะอาด หรือจะดูวิธีใช้ในคลิปด้านล่างก็ได้ครับ สาหรับการใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้า
มะนาวแล้วนามาขัดฟันเพื่อให้ฟันขาวนั้น แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นทันทีหลังการใช้ แต่ก็เสี่ยงที่จะ
เกิดอันตรายได้ เนื่องจากน้ามะนาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด จะกัดกร่อนฟัน ทาให้เคลือบฟันบาง นามาซึ่งปัญหา
การเสียวฟันและทาให้ฟันผุได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความเป็นกรดของมะนาว ยังทาให้เกิดอาการระคายเคืองเหงือก
ได้อีกด้วย ส่วนเบกกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นจะมีฤทธิ์เป็นด่าง แม้ว่าจะช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน
6
ได้ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้ผลกับสีฟันที่ผิดปกติที่อยู่ในเนื้อฟันได้ และเมื่อนามาผสมกับน้ามะนาวก็จะมี
ฤทธิ์ในการกัดกร่อนเนื้อฟันและผิวฟันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใช้โดยไม่ระมัดระวังหรือไม่มีการควบคุมปริมาณให้
เหมาะสมแล้วก็จะก่อให้เกิดผลเสียต่อความแข็งแรงของฟัน หรืออาจทาให้เซลล์บริเวณนั้นมีการต่อต้านจน
เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ และอาจมีโอกาสเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นเซลล์ตั้งต้นของเซลล์มะเร็งได้ (ผู้มี
ปัญหาเหงือกอักเสบหรือมีอาการเสียวฟันไม่ควรใช้) (ข้อมูลจากทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย)
15. สตรอว์เบอร์รี่ผสมเบกกิ้งโซดา รู้หรือไม่ว่าสตรอว์เบอร์รี่นั้นมีสารที่ช่วยเสริมฟันขาวโดยธรรมชาติได้ วิธีนี้ให้
นาสตรอว์เบอร์รี่บด 1 ผล นามาผสมกับเบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนามาใช้แทนยาสีฟัน
ใช้แปรงฟันจนเสร็จ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นบ้วนน้าออก เพียงเท่านี้ฟันของคุณก็ดูขาวขึ้นแบบ
ธรรมชาติ (แต่วิธีนี้ไม่ควรทาเกินอาทิตย์ละครั้ง เพราะในสตรอว์เบอร์รี่นั้นมีกรด Malic ที่อาจไปทาลาย
เคลือบฟันได้)
16. ใช้เบกกิ้งโซดาหรือผงฟูเพียว ๆ ก็ได้นะ เพียงแค่คุณนาแปรงสีฟันมาแตะกับเบกกิ้งโซดาแล้วค่อยบีบยาสีฟัน
ตามลงไป หรือใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับยาสีฟันให้เข้ากันตามภาพ ใช้แปรงฟันตามปกติแล้วล้างออก หรืออีกวิธี
ให้นาเบกกิ้งโซดามาผสมกับเกลือเล็กน้อย ใช้แปรงฟันประมาณ 2-3 นาที แล้วบ้วนออกด้วยน้าสะอาด เพียง
เท่านี้ก็จะช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นได้เช่นกัน แต่การใช้เบกกิ้งโซดาเพียงอย่างเดียวก็สามารถทาให้ฟันกร่อนได้ อีก
ทั้งยังทาให้วัสดุยึดอุปกรณ์ดัดฟันเกิดการอ่อนตัวและอาจทาให้เหล็กดัดฟันหลุดได้
17. ผลไม้เหล่านี้ก็ช่วยฟอกฟันให้ขาวได้นะเออ ! ผลไม้ชนิดแรก คือ มะนาว ให้คุณเลือกใช้น้ามะนาวหรือเปลือก
มะนาวนามาถูฟัน (หากใช้น้ามะนาวให้นามาผสมกับน้าเปล่าในสัดส่วนที่เท่ากันก่อนนามาใช้) แต่ก็อย่าทา
เกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะมันอาจทาให้ฟันของคุณผุได้, แคร์รอต ให้นาแคร์รอตดิบ ๆ มาถูฟัน หรือนามา
รับประทานเลยก็ได้, สตรอว์เบอร์รี่ ให้ใช้สตรอว์เบอร์รี่ประมาณ 1-2 ลูก นามาบดแล้วนามาทาฟันทิ้งไว้
ประมาณ 2-3 นาที แล้วให้บ้วนปากหรือแปรงทิ้ง เป็นอันเสร็จ, เปลือกกล้วยเพียงแค่คุณนาเปลือกกล้วยมาถู
ฟันเป็นประจาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วแปรงฟันตามปกติ
18. เคี้ยวแอปเปิ้ลหรือแคร์รอตก็เวิร์กนะ เพราะเมื่อเรานามาเคี้ยวรับประทาน ความกรอบของผักผลไม้เหล่านี้ก็
จะทาหน้าที่เหมือนการแปรงฟันแบบธรรมชาติ อีกทั้งแอปเปิ้ลและแคร์รอตยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้าลาย ซึ่ง
เป็นเหมือนน้ายาทาความสะอาด จึงช่วยขจัดคราบสกปรกที่ติดอยู่บนเคลือบฟันเป็นเวลานานได้ เมื่อ
รับประทานเสร็จแล้วก็อย่าลืมดื่มน้าเปล่าตามเข้าไป เพื่อเป็นการลดคราบน้าตาลที่มีผลต่อสุขภาพฟันด้วย
19. แปรงฟันหลังการว่ายน้า คุณรู้หรือไม่ว่าคลอรีนในน้านั้นเป็นตัวกัดกร่อนสารเคลือบฟัน หากคุณจะว่ายน้า
นอกจากจะต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวแล้วก็ควรพกแปรงสีฟันไปด้วย และให้แปรงฟันหลังจากว่ายน้า และใช้
ฟลูออไรด์บ้วนปากทันทีหลังจากว่ายน้าเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
20. เลือกเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็ช่วยเพิ่มความขาวให้กับฟันได้ เพราะในขณะที่คุณเคี้ยวหมากฝรั่ง ร่างกายก็จะผลิต
น้าลายมาช่วยในการย่อยมากขึ้น ซึ่งกรดจากน้าลายนั้นก็จะมาช่วยทาความสะอาดฟันของคุณไปในตัว อีกทั้ง
ยังช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียในช่องปากได้อีกด้วย
21. เลือกใช้หลอดดูดเครื่องดื่มที่มีสี เช่น ชา กาแฟ หรือไวน์ เพื่อให้ผ่านฟันน้อยที่สุด เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะ
เป็นตัวการทาให้สีฟันของคุณหม่นหมองได้ แล้วให้บ้วนปากตามหลายครั้ง ๆ หรือแปรงฟันได้ยิ่งดี ก็จะทาให้
คราบสีเหลืองไม่มาสะสมบนผิวฟันแล้ว
7
22. ลิปสติกสีแดงสด เมคอัพของคุณผู้หญิงที่จะช่วยทาให้ฟันดูขาวสว่างขึ้นเพียงไม่ถึงนาที ! โดยให้เลือกใช้
ลิปสติกสีแดงสด สีแดงเชอร์รี่ หรือสีแดงไวน์ และให้หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีเนื้อเพราะจะทาให้สีฟันของคุณ
ดูหมองลงกว่าเดิม และหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีโทนส้ม เหลือง หรือน้าตาล เพราะจะยิ่งทาให้สีฟันที่เหลือง
อยู่แล้วกลับมาเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
23. การจูบแบบดูดดื่มและใช้ลิ้นร่วมรัวก็ช่วยได้ ! เพราะการจูบจะเป็นการเพิ่มจานวนน้าลายที่อยู่ในปาก ซึ่งจะ
ช่วยทาความสะอาดฟัน ลดการเกิดแบคทีเรียหรือคราบพลัคที่ผิวฟัน จึงช่วยทาให้ฟันสะอาดขึ้น ป้องกันฟันผุ
และยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเหงือกอักเสบได้อีกด้วย
24. ชีสช่วยได้ การรับประทานชีสชิ้นเล็ก ๆ หลังอาหารสามารถช่วยป้องกันฟันผุและเสริมแร่ธาตุให้เคลือบฟันได้
เพราะชั้นเคลือบฟันเป็นส่วนที่ทาให้ฟันขาว
25. สมุนไพรบางชนิดก็สามารถช่วยทาให้ฟันขาวได้เช่นกัน เช่น ผลหมาก (Areca catechu L.), ใบ
แจง (Maerua siamensis Pax) และผงชาร์โคล เป็นต้น
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ตนเองสนใจ รวบรวมและพิจารณาข้อมูล เลือกข้อมูลที่ถูกต้อง
และน่าสนใจที่ตรงกับโครงงาน เสนอโครงงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
- 200บาท
8
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทา
เอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ให้ผู้คนได้รู้วิธีการดูแลฟัน
2.กระตุ้นให้คนอยากมีฟันที่สวย
3.ชี้ให้เห็นถึงวิธีการดูแลและข้อดีของฟันขาว
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระการเรียนรูวิชาสุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
https://medthai.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B
8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9F%E0%B
8%B1%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7/

More Related Content

What's hot

โครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรโครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
Nattakarntick
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6คงศักดิ์ วิเวกวิน
 
การเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรมการเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรม
Supaporn Khiewwan
 
โครงงานวิทยาศาสตร
โครงงานวิทยาศาสตร โครงงานวิทยาศาสตร
โครงงานวิทยาศาสตร Patcharida Nun'wchph
 
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1Benjapron Seesukong
 
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐานหน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
Janchai Pokmoonphon
 
โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์Aphinya Tantikhom
 
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงานใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
Mypoom Poom
 
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรมเรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรมApichaya Savetvijit
 
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
Beerza Kub
 
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
tumetr1
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
tumetr1
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...suree189
 
รูใหว่โอโซน
รูใหว่โอโซนรูใหว่โอโซน
รูใหว่โอโซนdnavaroj
 
พละ ม.1
พละ ม.1พละ ม.1
พละ ม.1
Computer ITSWKJ
 
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
พัน พัน
 
ขั้นตอนการทำผ้าบาติก
ขั้นตอนการทำผ้าบาติกขั้นตอนการทำผ้าบาติก
ขั้นตอนการทำผ้าบาติก
panida428
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
 
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติการเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติflimgold
 

What's hot (20)

โครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพรโครงงานลูกประคบสมุนไพร
โครงงานลูกประคบสมุนไพร
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6
แนวข้อสอบo-netการงานอาชีพและเทคโนโลยีประถม6
 
การเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรมการเขียนบรรณานุกรม
การเขียนบรรณานุกรม
 
โครงงานวิทยาศาสตร
โครงงานวิทยาศาสตร โครงงานวิทยาศาสตร
โครงงานวิทยาศาสตร
 
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1
เครื่องมือและอุปกรณ์ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ1
 
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐานหน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
หน่วยที่ 4-เครื่องมือช่างพื้นฐาน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์
 
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงานใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
ใบงานที่ 3 เค้าโครงของโครงงาน
 
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรมเรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม
เรื่อง การจัดทำระบบคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม
 
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สื่อการสอน เรื่อง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
 
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างสารบัญ เล่มโปรเจ็ค
 
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็คตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
ตัวอย่างบทที่1 บทนำ เล่มโปรเจ็ค
 
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...
แบบทดสอบปลายภาคเรียน สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท...
 
รูใหว่โอโซน
รูใหว่โอโซนรูใหว่โอโซน
รูใหว่โอโซน
 
พละ ม.1
พละ ม.1พละ ม.1
พละ ม.1
 
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
โครงงานเว็บไซต์โทษของบุหรี่
 
ขั้นตอนการทำผ้าบาติก
ขั้นตอนการทำผ้าบาติกขั้นตอนการทำผ้าบาติก
ขั้นตอนการทำผ้าบาติก
 
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนองการรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
 
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติการเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
การเปรียบเทียบการลดความชื้นจากวัสดุธรรมชาติ
 

Similar to 2562 final-project 02 (1)

2562 final project 605 46
2562 final project 605 462562 final project 605 46
2562 final project 605 46
benhankla
 
FinalProject-Chutimon
FinalProject-ChutimonFinalProject-Chutimon
FinalProject-Chutimon
Natty Chu Ti Mon
 
ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟันทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน
OporfunJubJub
 
ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน
OporfunJubJub
 
การฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันปอ ปลา
 
โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์
Paan Puntajit
 
Sealant
SealantSealant
Sealant
Ballista Pg
 
โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน
Jaturaphun Boontom
 
โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์ต. เตอร์
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 25 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2Lao-puphan Pipatsak
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
OporfunJubJub
 
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)Kobwit Piriyawat
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Gankorn Inpia
 

Similar to 2562 final-project 02 (1) (20)

2562 final project 605 46
2562 final project 605 462562 final project 605 46
2562 final project 605 46
 
FinalProject-Chutimon
FinalProject-ChutimonFinalProject-Chutimon
FinalProject-Chutimon
 
ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟันทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน
 
ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน ทันตกรรมจัดฟัน
ทันตกรรมจัดฟัน
 
การฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟัน
 
โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์
 
Sealant
SealantSealant
Sealant
 
โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน โครงงานน้ำยาล้างจาน
โครงงานน้ำยาล้างจาน
 
โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์โครงร่างคอมพิวเตอร์
โครงร่างคอมพิวเตอร์
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 25 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2
5 คำถามที่จะช่วยคุณตัดสินใจมาเรียนกับเราได้ง่ายขึ้น 2
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
งานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟันงานโครงงานจัดฟัน
งานโครงงานจัดฟัน
 
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)
การเตรียมความพร้อมเพื่อรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Pisa)
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 

2562 final-project 02 (1)

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน ฟันขาวใสง่ายๆ ไม่แพง ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ น.ส.อภิชญา เชิงดี เลขที่ 2 ชั้น ม.6 ห้อง 11 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทาโครงงาน น.ส.อภิชญา เชิงดี เลขที่ 2 ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ฟันขาวยิ้มสวย ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Beautiful white teeth ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.อภิชญา เชิงดี ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ปัจจุบันความสวยความงามเป็นสิ่งหลักที่ผู้คนให้ความสนใจทั้งในเพสชายและเพศหญิง และสิ่งหนึ่งที่คนให้ ความสนใจมากคือรอยยิ้ม และการที่เราจะมีรอยยิ้มที่สวยนั้น ฟันของเราก็ต้องสวยด้วย การที่ฟันเราขาวจะทาให้เราดู ดีขึ้น ทาให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาฟันเหลืองมีมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากวัยรุ่นส่วนมากจัดฟัน และหลังจัดฟันนั้นฟันเราจะเหลือง และยังมีหลายสาเหตุที่ทาฟันเหลือง ทั้งกิจวัตรประจาวันของแต่ละคนเกี่ยวกับการ รับประทานอาหารต่างๆ ซึ่งมีผลมากที่ทาให้ความขาวของฟันลดลง ซึ่งโครงงานนี้จะรวบรวมสาเหตุและวิธีการแก้ไข ในแบบต่างๆให้ผู้ที่สนใจให้ได้ทาความเข้าใจ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือหลีกเลี่ยง โครงงานเล่มนี้รวบรวมวิธีที่ทา ให้ฟันขาวไว้หลายวิธีทั้งแบบที่รวดเร็วหรือค่อยเป็นค่อยไป ผู้อ่านสามารถอ่านทาความเข้าใจและเลือกวิธีปฏิบัติให้เข้า กับวิถีการใช้ชีวิตของตนเองได้ แต่ละวิธีมีราคาค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความสะดวกของตนเองได้ เหตุผลหลักที่ผู้จัดทาทาโครงงานนี้เพราะมองเห็นปัญหาจากตัวผู้จัดทาและคนรอบข้างของผู้จัดทาเอง การทาโครงงาน นี้ทาให้ผู้จัดทาสามารถนามาใช้เองและแก้ปัญหาเองได้ด้วย ผู้จัดทาหวังว่าโครงงานนี้เมื่อได้เผยแพร่ไปแล้วจะสามารถ เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจได้เช่นกัน วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อศึกษาสาเหตุของการทาให้เกิดฟันเหลือง 2.เพื่อศึกษาวิธีการแก้ไขในแบบต่างๆ 3.เพื่อค้นคว้าและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาฟนเหลืองที่ถูกต้อง ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) 1.สาเหตุและปัจจัยของฟันเหลือง 2. วิธีการแก้ไขให้ฟันขาวกว่าเดิม
  • 3. 3 หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) สาเหตุของฟันเหลือง โดยปกติแล้วสีฟันของคนเราจะเป็นสีขาวมันวาว แต่บางคนจะมีฟันเหลือง คล้า หรือดา ดูไม่สวยงาม ซึ่งอาจจะเป็น ฟันเพียงบางซี่หรือเป็นทุก ๆ ซี่ก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทาให้ฟันไม่ขาวก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน คือ 1. การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจา เช่น ชา กาแฟ เบียร์ ไวน์แดง โซดา น้าผลไม้ ลูกอม ฯลฯ ร่วมกับการที่เราแปรงฟันไม่สะอาดพอ จึงทาให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติด สะสมทีละน้อยจนเห็นเป็นสีเหลือง เหลืองเข้ม สีน้าตาล หรือสีดาติดตามซอกฟัน โปรดจาไว้ว่า "น้ำอะไรก็ ตำมที่ท้ำให้พรมของคุณเปื้อนเป็นครำบได้ มันก็สำมำรถท้ำให้ฟันของคุณเป็นครำบได้เช่นกัน" 2. สีสันของอาหาร เป็นที่ทราบดีว่าเชอร์รี่เพียง 1 กามือ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันกลับทาลาย สุขภาพฟันของคุณได้ เพราะสีย้อมจานวนมากที่ผสมในผลไม้อย่างเช่น เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ รวมไป ถึงซอสถั่วเหลือง จะทิ้งคราบหลงเหลือไว้ที่ฟันได้ 3. การสูบบุหรี่เป็นประจาก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทาให้ฟันไม่ขาวได้เช่นกัน 4. เกิดจากฟันผุ ซึ่งมักจะทาให้ฟันมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้าตาล โดยเฉพาะฟันด้านหน้าที่เรามองเห็นได้ชัดเจน 5. เกิดจากฟันตาย ซึ่งหมายถึง อาการของฟันผุที่ผุมาก ๆ และทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน จนทาให้ฟันที่ผุนั้น ลุกลามถึงโพรงประสาท (อาจเกิดขึ้นกับฟันที่ได้รับอุบัติเหตุหรือถูกกระแทกอย่างแรงจนเกิดการฉีกขาดของ เส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงฟันก็ได้) ส่งผลทาให้ไม่มีเลือดและประสาทฟันมาหล่อเลี้ยง ทาให้ฟันมีสีทึบไม่โปร่ง เหมือนฟันปกติ 6. กรรมพันธุ์และวัยของคุณ เนื้อฟันตามธรรมชาติของคุณจะขาวหรือเหลืองน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ด้วย เช่น คนผิวดาฟันจะขาว คนมีสีฟันที่ผิดปกติมาแต่กาเนิด รวมไปถึงคนที่มีอายุมากขึ้น โอกาสที่ฟันจะ ยังคงความขาวก็ยิ่งมีน้อยลง เนื่องจากเคลือบฟันบางลง ทาให้สีเหลืองของชั้นเนื้อฟันที่อยู่ข้างในปรากฏ ออกมาให้เห็นชัดมากขึ้น เป็นต้น 7. โรคบางชนิดก็สามารถทาให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ของคุณแม่ก็เป็นสาเหตุทาให้ฟัน เหลืองได้เช่นกัน 8. การได้รับยารักษาโรคหรือยาปฏิชีวนะบางชนิดมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุทาให้สีฟันเปลี่ยนได้ เช่น การ รับประทานยาเตตราซัยคลิน โดยการรับประทานยาชนิดนี้จะส่งผลต่อสีของฟัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อ ตัวหรือสร้างฟัน (ช่วงฟันน้านมของเด็กอายุ 3-9 เดือน และช่วงฟันแท้ของเด็กอายุ 3-12 ปี) ทาให้ฟันมีสี ค่อนข้างเหลืองหรือเป็นสีเทาดาแทบทุกซี่ หรืออาจเกิดจากยาแก้แพ้บางชนิดที่ทาให้ฟันเปลี่ยนสี เกิดจากการ ได้รับสารฟลูออไรด์มากจนเกินไป ซึ่งจะทาให้มีจุดสีน้าตาลบนฟันที่เรียกว่า "ฟันตกกระ" เป็นต้น ดังนั้นเวลา คุณไปพบทันตแพทย์ คุณควรนาใบสั่งยาหรือยาที่คุณรับประทานอยู่ไปพบแพทย์เพื่อสอบถามด้วยว่า ยาชนิด นี้มีผลต่อสีฟันของคุณหรือไม่ 9. แปรงสีฟันที่ไม่มีคุณภาพ จะทาให้ประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกมีน้อยลง ส่งผลให้เกิดคราบตกค้างที่ ผิวฟันและนาไปสู่การเกิดฟันเหลือง 10. การจัดฟันอีกหนึ่งสาเหตุที่คาดไม่ถึง เนื่องจากจะมีอุปกรณ์ที่ยึดติดฟัน เช่น แร่เงิน มัลกัม ฯลฯ ซึ่งวัสดุเหล่านี้ จะทาให้สีของฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้
  • 4. 4 วิธีทำให้ฟันขำว 1. วิธีแรกเป็นวิธีที่ง่ายมากและเป็นเรื่องที่สาคัญมากที่สุด ก็คือการหมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ แปรงฟันให้สะอาดอย่างถูกวิธีหลังการรับประทานอาหารทุกมื้อหรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ครั้งละประมาณ 2 นาที และหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมงควรงดรับประทานอาหาร 2. งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นสาเหตุทาให้ฟันเหลือง เช่น ชา กาแฟ น้าอัดลม น้าผลไม้ ขนม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์ ไวน์ขาว ไวน์แดง โซดา ผงแกงกะหรี่ อาหารรสจัด รวมถึงอาหารที่มีรสหวานเกินไป เพราะน้าตาลจะเปลี่ยนเป็นกรดจนทาให้เกิดฟันผุได้ และปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ลดการรับประทานอาหารจุกจิก เพราะทุกครั้งที่รับประทานอาหารจะเกิดกรดขึ้นใน ช่องปากจนทาให้ฟันผุได้เช่นกัน แต่หากต้องรับประทานอาหารจาพวกนี้ เมื่อรับประทานเสร็จก็ให้รีบแปรง ฟันโดยเร็วเท่าที่จะทาได้เพื่อไม่ให้เกิดคราบแน่นที่ฟัน 3. หมั่นไปพบทันตแพทย์อย่างสม่าเสมออย่างน้อยปีละครั้งสาหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาในช่องปาก (ส่วนผู้ที่มีปัญหาใน ช่องปากอาจจะพบบ่อยขึ้น) ถ้าฟันผุก็จัดการให้เรียบร้อย ในฟันหน้า ทันตแพทย์จะกรอส่วนที่ผุ ส่วนที่มีสีดา หรือสีเหลืองออก แล้วอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟัน เพียงเท่านี้ฟันของคุณก็จะกลับมาขาวสะอาดได้เหมือนเดิม 4. เลือกใช้ยาสีฟันสูตรทาให้ฟันขาวหรือยาสีฟันฟอกฟันขาว ยาสีฟันชนิดนี้จะมีราคาแพงกว่ายาสีฟันทั่วไป เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นได้ และยังช่วยกาจัดเชื้อแบคทีเรียที่ตกข้างได้ดีกว่ายี่ห้อทั่วไปอีก ด้วย ยาสีฟันฟันขาว มีหลายยี่ห้อ เช่น ยาสีฟัน Glister ของแอมเวย์, Sparkle white, Close up white now, Colgate optic white ฯลฯ ยังไงก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ 5. ขูดหินปูน ทุก ๆ 6 เดือน การขูดหินปูนนอกจากจะช่วยขจัดหินปูนที่ติดอยู่บนชั้นเคลือบฟันแล้วยังช่วยขจัด คราบอาหารหรือเม็ดสีเข้มที่มาเกาะบนฟันได้ด้วย วิธีนี้อาจจะไม่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นมากนัก แต่ก็ช่วยให้ฟันขาว ได้ในระดับหนึ่ง หรือขาวได้เท่าสีของเนื้อฟันธรรมชาติของเรา 6. การขัดฟัน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขจัดคราบต่าง ๆ ที่เกาะอยู่บนฟันหลังจากการขูดหินปูน ฟันเหลืองที่เกิดจาก คราบ เมื่อขัดแล้วคราบก็จะหายไป ทาให้ฟันดูขาวขึ้นเหมือนเดิม อีกทั้งยังช่วยทาให้ผิวฟันเรียบ ส่งผลให้ คราบต่าง ๆ มาเกาะจับฟันได้ยากขึ้นอีกด้วย (การขัดฟันจะไม่ทาให้ฟันบางลงอย่างที่หลายคนเข้าใจ) 7. การฟอกสีฟัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมจากบุคคลทั่วไป โดยการฟอกสีฟันในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ การฟอกสีฟันที่ทาโดยคลินิกหรือทันตแพทย์ (ใช้ระยะเวลาในการทาแต่ละครั้ง ครั้งละประมาณ 30-60 นาที) และการฟอกสีฟันที่คนไข้สามารถนาสารฟอกสีกลับมาทาเองได้ที่บ้าน (ฟอกฟันขาวด้วย ตัวเอง) แต่การฟอกสีฟันนี้จะทาให้สารบางตัวที่มีอยู่ในเนื้อฟันถูกดึงออกมา เช่น แคลเซียมและแร่ธาตุบางตัว ทาให้สีธรรมชาติของฟันที่เป็นตัวเคลือบเนื้อฟันเพื่อป้องกันฟันผุและการเสียวฟันหายไป ยิ่งถ้าฟอกบ่อย ๆ ก็ จะยิ่งทาให้มีโอกาสฟันสึกหรือมีอาการเสียวฟันเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทาให้ เกิดฟันกร่อนได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย สาหรับวิธีนี้ถ้าไม่จาเป็นจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งไปทาครับ เพราะมันไม่ได้ทาให้สี ฟันของเรานั้นขาวถาวร เนื่องจากสีฟันจะกลับมาเป็นสีเดิมตามธรรมชาติภายใน 2 ปี และอาจเป็นการ สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ 8. เลเซอร์ฟันขาว ราคาต่อครั้งค่อนข้างจะแพงอยู่นะครับ (คงเกือบหมื่นบาท) ทาแค่ครั้งเดียวประมาณหนึ่ง ชั่วโมงก็เสร็จ วิธีนี้จะทาให้ฟันขาวขึ้นได้แน่นอนครับ แต่ไม่ได้ขาวขึ้นแบบขาวจั๊วะ (ขึ้นอยู่กับเนื้อฟันเดิมของ เราด้วย) ถ้าอยากขาวขึ้นอีกก็ต้องทาซ้า 9. เจลฟอกฟันขาว วิธีนี้ก็จะเห็นผลหลังจากใช้ไปแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ฟันจะค่อย ๆ ขาวขึ้น ก็เป็นอีก ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ สาหรับวิธีการใช้และรีวิวดูได้ในคลิปด้านล่างเลยครับ
  • 5. 5 Ads by optAd360 10. แผ่นฟอกฟันขาว หรือ แผ่นแปะฟันขาว ยี่ห้อ Crest Whitestrips (แบบเก่า) หรือ Crest 3D White Whitestrips (แบบใหม่) ใช้แค่ 2 กล่องก็ขาวแล้ว ในกล่องหนึ่งจะมีอยู่ด้วยกันหลายซอง เมื่อฉีกซองออกมาก็ จะได้แผ่นพลาสติกใส ๆ ที่มีแผ่นเจล 2 ชิ้นติดกัน แผ่นยาวสาหรับแปะฟันบน ส่วนแผ่นสั้นสาหรับแปะฟัน ล่าง หรือจะลองดูวิธีใช้ในคลิปเลยก็ได้ครับ 11. น้ายาบ้วนปากฟอกฟันขาว หรือ hydrogen peroxide (H2O2) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มี อยู่ 2 ความเข้มข้นด้วยกัน คือ ความเข้มข้น 3% (ใช้บ้วนปากได้เลย) และความเข้มข้น 6% (ใช้ผสมกับน้า บ้วนปากในอัตราส่วน 1 ต่อ 1) ให้ใช้ก่อนการแปรงฟัน ในช่วงแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยเห็นผล หากใช้ไป ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะทาให้ฟันขาวขึ้นได้บ้าง อีกทั้งยังช่วยขจัดคราบหินปูนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่วิธีนี้ผมเองยังไม่ขอแนะนานะครับ เพราะมันอาจเกิดอันตรายได้ และควรทาโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ครับ Ads by optAd360 12. การเคลือบฟัน หรือ การทาเคลือบผิวฟันเทียม หรือ การทาฉาบฟัน (Veneer) วิธีนี้จะเหมาะกับฟันที่มีสี ค่อนข้างเข้มคล้า เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในกรณีที่ฟอกสีฟันแล้วไม่ได้ผล แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มักนอนกัดฟันหรือ ชอบใช้ฟันหน้ากัดอาหารแข็ง หลักการของวิธีนี้ก็คือการใช้วัสดุเฉพาะที่มีสีเหมือนฟันมายึดติดหรือปิดทับ ถาวรที่ผิวฟัน (สามารถเลือกโทนสีขาวได้ตามต้องการ) โดยทันตแพทย์จะกรอผิวเนื้อฟันบริเวณด้านหน้าออก พอสมควรประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร เพื่อทาการปิดทับด้วยวัสดุข้างต้น ซึ่งวัสดุที่ใช้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบใช้วัสดุคอมโพสิตเรซิน (Composite resin) ที่นามาเคลือบผิวฟัน ทาเสร็จภายในครั้งเดียว มีราคา ถูกกว่า แต่ไม่ค่อยสวยงามและแข็งแรงนัก และแบบใช้วัสดุชนิดเซรามิก (Ceramic) ที่ทาจากแล็บ ซึ่งจะมี ความแข็งแรงกว่า ให้สีที่สวยใกล้เคียงกับสีเนื้อฟันจริงมากกว่า แต่มีราคาที่สูงกว่าแบบแรก โดยวิธีนี้นอกจาก จะช่วยแก้ไขสีฟันได้แล้ว ยังช่วยแก้ไขรูปร่างของฟันและแก้ฟันห่างได้ในคราวเดียวกันอีกด้วย 13. การครอบฟัน (Dental Crowns) วิธีนี้ทันตแพทย์จะกรอแต่งผิวเคลือบฟันออกทั้งซี่ให้เหลือเป็นแกน แล้วทา ฟันปลอมมาครอบทับลงไปติดแน่นโดยใช้ซีเมนต์ทันตกรรม จึงทาให้ฟันที่ดาหรือแตกบิ่น สามารถทาครอบที่ มีสีและรูปร่างให้สวยงามได้ จึงถือเป็นการเปลี่ยนสีฟันได้อย่างถาวร แต่ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าการฟอกสีฟัน และการทาเคลือบฟัน 14. มะนาวผสมเบกกิ้งโซดา (หรือจะใช้เลมอนแทนมะนาวก็ได้ครับ) โดยให้ใช้ เบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นามาเทลงในจานกระเบื้องหรือจานพลาสติก แล้วบีบมะนาวลงไปครึ่งลูก ใช้แปรงสีฟันกวนส่วนผสมให้เข้า กันจนเกิดฟองและได้เป็นเนื้อเดียวกัน (ความหนืดประมาณโยเกิร์ต) แล้วนามาใช้แปรงฟันประมาณ 2-3 นาที เสร็จแล้วบ้วนออกด้วยน้าสะอาด หรือจะดูวิธีใช้ในคลิปด้านล่างก็ได้ครับ สาหรับการใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้า มะนาวแล้วนามาขัดฟันเพื่อให้ฟันขาวนั้น แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นทันทีหลังการใช้ แต่ก็เสี่ยงที่จะ เกิดอันตรายได้ เนื่องจากน้ามะนาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด จะกัดกร่อนฟัน ทาให้เคลือบฟันบาง นามาซึ่งปัญหา การเสียวฟันและทาให้ฟันผุได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความเป็นกรดของมะนาว ยังทาให้เกิดอาการระคายเคืองเหงือก ได้อีกด้วย ส่วนเบกกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นจะมีฤทธิ์เป็นด่าง แม้ว่าจะช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน
  • 6. 6 ได้ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้ผลกับสีฟันที่ผิดปกติที่อยู่ในเนื้อฟันได้ และเมื่อนามาผสมกับน้ามะนาวก็จะมี ฤทธิ์ในการกัดกร่อนเนื้อฟันและผิวฟันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใช้โดยไม่ระมัดระวังหรือไม่มีการควบคุมปริมาณให้ เหมาะสมแล้วก็จะก่อให้เกิดผลเสียต่อความแข็งแรงของฟัน หรืออาจทาให้เซลล์บริเวณนั้นมีการต่อต้านจน เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ และอาจมีโอกาสเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นเซลล์ตั้งต้นของเซลล์มะเร็งได้ (ผู้มี ปัญหาเหงือกอักเสบหรือมีอาการเสียวฟันไม่ควรใช้) (ข้อมูลจากทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย) 15. สตรอว์เบอร์รี่ผสมเบกกิ้งโซดา รู้หรือไม่ว่าสตรอว์เบอร์รี่นั้นมีสารที่ช่วยเสริมฟันขาวโดยธรรมชาติได้ วิธีนี้ให้ นาสตรอว์เบอร์รี่บด 1 ผล นามาผสมกับเบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนามาใช้แทนยาสีฟัน ใช้แปรงฟันจนเสร็จ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นบ้วนน้าออก เพียงเท่านี้ฟันของคุณก็ดูขาวขึ้นแบบ ธรรมชาติ (แต่วิธีนี้ไม่ควรทาเกินอาทิตย์ละครั้ง เพราะในสตรอว์เบอร์รี่นั้นมีกรด Malic ที่อาจไปทาลาย เคลือบฟันได้) 16. ใช้เบกกิ้งโซดาหรือผงฟูเพียว ๆ ก็ได้นะ เพียงแค่คุณนาแปรงสีฟันมาแตะกับเบกกิ้งโซดาแล้วค่อยบีบยาสีฟัน ตามลงไป หรือใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับยาสีฟันให้เข้ากันตามภาพ ใช้แปรงฟันตามปกติแล้วล้างออก หรืออีกวิธี ให้นาเบกกิ้งโซดามาผสมกับเกลือเล็กน้อย ใช้แปรงฟันประมาณ 2-3 นาที แล้วบ้วนออกด้วยน้าสะอาด เพียง เท่านี้ก็จะช่วยทาให้ฟันขาวขึ้นได้เช่นกัน แต่การใช้เบกกิ้งโซดาเพียงอย่างเดียวก็สามารถทาให้ฟันกร่อนได้ อีก ทั้งยังทาให้วัสดุยึดอุปกรณ์ดัดฟันเกิดการอ่อนตัวและอาจทาให้เหล็กดัดฟันหลุดได้ 17. ผลไม้เหล่านี้ก็ช่วยฟอกฟันให้ขาวได้นะเออ ! ผลไม้ชนิดแรก คือ มะนาว ให้คุณเลือกใช้น้ามะนาวหรือเปลือก มะนาวนามาถูฟัน (หากใช้น้ามะนาวให้นามาผสมกับน้าเปล่าในสัดส่วนที่เท่ากันก่อนนามาใช้) แต่ก็อย่าทา เกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะมันอาจทาให้ฟันของคุณผุได้, แคร์รอต ให้นาแคร์รอตดิบ ๆ มาถูฟัน หรือนามา รับประทานเลยก็ได้, สตรอว์เบอร์รี่ ให้ใช้สตรอว์เบอร์รี่ประมาณ 1-2 ลูก นามาบดแล้วนามาทาฟันทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาที แล้วให้บ้วนปากหรือแปรงทิ้ง เป็นอันเสร็จ, เปลือกกล้วยเพียงแค่คุณนาเปลือกกล้วยมาถู ฟันเป็นประจาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วแปรงฟันตามปกติ 18. เคี้ยวแอปเปิ้ลหรือแคร์รอตก็เวิร์กนะ เพราะเมื่อเรานามาเคี้ยวรับประทาน ความกรอบของผักผลไม้เหล่านี้ก็ จะทาหน้าที่เหมือนการแปรงฟันแบบธรรมชาติ อีกทั้งแอปเปิ้ลและแคร์รอตยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้าลาย ซึ่ง เป็นเหมือนน้ายาทาความสะอาด จึงช่วยขจัดคราบสกปรกที่ติดอยู่บนเคลือบฟันเป็นเวลานานได้ เมื่อ รับประทานเสร็จแล้วก็อย่าลืมดื่มน้าเปล่าตามเข้าไป เพื่อเป็นการลดคราบน้าตาลที่มีผลต่อสุขภาพฟันด้วย 19. แปรงฟันหลังการว่ายน้า คุณรู้หรือไม่ว่าคลอรีนในน้านั้นเป็นตัวกัดกร่อนสารเคลือบฟัน หากคุณจะว่ายน้า นอกจากจะต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวแล้วก็ควรพกแปรงสีฟันไปด้วย และให้แปรงฟันหลังจากว่ายน้า และใช้ ฟลูออไรด์บ้วนปากทันทีหลังจากว่ายน้าเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง 20. เลือกเคี้ยวหมากฝรั่ง ก็ช่วยเพิ่มความขาวให้กับฟันได้ เพราะในขณะที่คุณเคี้ยวหมากฝรั่ง ร่างกายก็จะผลิต น้าลายมาช่วยในการย่อยมากขึ้น ซึ่งกรดจากน้าลายนั้นก็จะมาช่วยทาความสะอาดฟันของคุณไปในตัว อีกทั้ง ยังช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียในช่องปากได้อีกด้วย 21. เลือกใช้หลอดดูดเครื่องดื่มที่มีสี เช่น ชา กาแฟ หรือไวน์ เพื่อให้ผ่านฟันน้อยที่สุด เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะ เป็นตัวการทาให้สีฟันของคุณหม่นหมองได้ แล้วให้บ้วนปากตามหลายครั้ง ๆ หรือแปรงฟันได้ยิ่งดี ก็จะทาให้ คราบสีเหลืองไม่มาสะสมบนผิวฟันแล้ว
  • 7. 7 22. ลิปสติกสีแดงสด เมคอัพของคุณผู้หญิงที่จะช่วยทาให้ฟันดูขาวสว่างขึ้นเพียงไม่ถึงนาที ! โดยให้เลือกใช้ ลิปสติกสีแดงสด สีแดงเชอร์รี่ หรือสีแดงไวน์ และให้หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีเนื้อเพราะจะทาให้สีฟันของคุณ ดูหมองลงกว่าเดิม และหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีโทนส้ม เหลือง หรือน้าตาล เพราะจะยิ่งทาให้สีฟันที่เหลือง อยู่แล้วกลับมาเด่นชัดมากยิ่งขึ้น 23. การจูบแบบดูดดื่มและใช้ลิ้นร่วมรัวก็ช่วยได้ ! เพราะการจูบจะเป็นการเพิ่มจานวนน้าลายที่อยู่ในปาก ซึ่งจะ ช่วยทาความสะอาดฟัน ลดการเกิดแบคทีเรียหรือคราบพลัคที่ผิวฟัน จึงช่วยทาให้ฟันสะอาดขึ้น ป้องกันฟันผุ และยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเหงือกอักเสบได้อีกด้วย 24. ชีสช่วยได้ การรับประทานชีสชิ้นเล็ก ๆ หลังอาหารสามารถช่วยป้องกันฟันผุและเสริมแร่ธาตุให้เคลือบฟันได้ เพราะชั้นเคลือบฟันเป็นส่วนที่ทาให้ฟันขาว 25. สมุนไพรบางชนิดก็สามารถช่วยทาให้ฟันขาวได้เช่นกัน เช่น ผลหมาก (Areca catechu L.), ใบ แจง (Maerua siamensis Pax) และผงชาร์โคล เป็นต้น วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ตนเองสนใจ รวบรวมและพิจารณาข้อมูล เลือกข้อมูลที่ถูกต้อง และน่าสนใจที่ตรงกับโครงงาน เสนอโครงงาน เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -คอมพิวเตอร์ งบประมาณ - 200บาท
  • 8. 8 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้า ข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทา เอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1.ให้ผู้คนได้รู้วิธีการดูแลฟัน 2.กระตุ้นให้คนอยากมีฟันที่สวย 3.ชี้ให้เห็นถึงวิธีการดูแลและข้อดีของฟันขาว สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระการเรียนรูวิชาสุขศึกษา แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) https://medthai.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B 8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9F%E0%B 8%B1%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7/