(ร่าง)
แผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559
ของกระทรวงศึกษาธิการ
(ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
แผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559
ของกระทรวงศึกษาธิการ
(ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
สานักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป.
E-Mail : planandproject@gmail.com
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
คานา
ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ. 2546 มาตรา 9 กาหนดให้ (1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ไว้เป็นการล่วงหน้า (2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน
ระยะเวลาและงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอนเป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ
และตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ และตามมาตรา 16 วรรคสอง กาหนดให้ในแต่ละปีงบประมาณส่วนราชการ
ต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีโดยให้ระบุ สาระสาคัญเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ
เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานเสนอให้รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และวรรคสาม เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว
ให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการดาเนินงานตามแผนต่อไปประกอบกับระเบียบ
สานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้ วยการจัดทาแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ .ศ. 2547 ข้อ 8 กาหนดให้ส่วนราชการ
จัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ
บ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา โดย (2) กาหนดแผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอ
รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณต่อไป
คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 เห็นชอบแนวทางการจัดทางบประมาณและปฏิทิน
งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 บัดนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี
งบประมาณ พ .ศ. 2559 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ได้ระบุการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ในวงเงินจานวน 517,076.7030 ล้านบาท ดังนั้น
กระทรวงศึกษาธิการโดยทุกหน่วยงานในสังกัดจึงได้ร่วมกันดาเนินการปรับปรุงโครงการ /กิจกรรมให้สอดคล้องตาม
งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่ได้รับการจัดสรร ทั้งนี้ สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการฯ
แบ่งเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 บทนานาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรอบแนวคิดเชิงนโยบาย ที่เกี่ยวข้องกับ
การจัดทาแผนปฏิบัติราชการฯ ส่วนที่ 2 สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559
ของกระทรวงศึกษาธิการนาเสนอรายละเอียดสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการภาพรวมได้แก่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ
ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์และค่าเป้าหมายและกลยุทธ์ ส่วนที่ 3 รายละเอียด
ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการนาเสนอรายละเอียดข้อมูลสาคัญ
ของเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ผลผลิต /โครงการ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบภายใต้นโยบาย
รัฐบาลที่เกี่ยวข้องส่วนที่4รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการส่วนของ
แผนบูรณาการ12แผนส่วนที่5การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติ
ขอขอบคุณหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร )
จนสาเร็จได้เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกหน่วยงานจะนาไปใช้เป็นกรอบในก ารดาเนินงาน และระดม
สรรพกาลังร่วมผลักดันการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการฯ ไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
สารบัญ
หน้า
คานา
สารบัญ
สรุปสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ 1
ส่วนที่ 1 บทนา 12
ความเป็นมา 12
วัตถุประสงค์ 13
กรอบแนวคิดการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ 13
- นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) 14
- นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558-2564) 21
- วาระการปฏิรูป 8 วาระการพัฒนา 23
- นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 32
- แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) 34
- แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552-2559) 38
- แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559)
: ระยะครึ่งแผน 39
- กรอบการศึกษาเพื่อปวงชน (EFA) 41
- ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 42
- การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 42
- งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรร ตามพระราชบัญญัติ
งบประมาณ รายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 43
- มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 48
- อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ 49
- ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา 50
ส่วนที่2 สาระสาคัญภาพรวมของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการ 68
วิสัยทัศน์ 68
พันธกิจ 68
ยุทธศาสตร์ 68
เป้าประสงค์ 69
ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์และค่าเป้าหมาย 69
กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ 71
ส่วนที่ 3 รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ 74
ส่วนที่ 4 รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
(เฉพาะแผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ)
116
ส่วนที่ 5 การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ 145
ภาคผนวก
- ตารางแสดงความเชื่อมโยงของพันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัดฯ ผ-1
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- อักษรย่อของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ-2
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
สรุปสาระสาคัญ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
1. ความเป็นมา
ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ. 2546
มาตรา 9 กาหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติ
ดังต่อไปนี้
(1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นกาลล่วงหน้า
(2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนระยะเวลา
และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอน เปูาหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ
และตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ
(3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ส่วนราชการกาหนดขึ้น ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กาหนด
(4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจหรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่ อประชาชน
ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องดาเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้น หรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ
ให้เหมาะสม
มาตรา 16 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้น
“ในแต่ละปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี โดยให้ระบุสาร ะสาคัญ
เกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเปูาหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน รวมทั้งประมาณการรายได้
และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่จะต้องใช้ เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
เมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดตามวรรคสองแล้วให้
สานักงบประมาณดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสาเร็จในแต่ละภารกิจตามแผนปฏิบัติราชการ
ดังกล่าว
ในกรณีที่ส่วนราชการมิได้เสนอแผนปฏิบัติราชการในภารกิจใดหรือภารกิจใดไม่ได้รับความเห็นชอบ
จากรัฐมนตรี มิให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสาหรับภารกิจนั้น”
สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทา
แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2547 ข้อ 8 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่ง
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา
ดังต่อไปนี้
“(2) แผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาขอ
งบประมาณรายจ่ายประจาปีของปีงบประมาณต่อไป”
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 กาหนดให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติงาน
และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ให้สอดคล้องกับเปูาหมายการเบิกจ่าย
งบประมาณรายไต รมาส โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่าย
งบประมาณฯ ที่กาหนดไว้ และให้นาแผนการใช้จ่ายงบประมาณฯ ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณของหน่วยงานด้วย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 2 -
ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบปร ะมาณ พ.ศ. 2559 ได้ประกาศใช้ใน
ราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ให้สอดคล้องกับบทบาท
และภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิก ารจะต้องดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนที่มี
ความเกี่ยวข้องต่อไป
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางและเปูาหมายการดาเนินงานภาพรวมของกระทรวง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และใช้เป็นกรอบทิศทางหรือแนวทางการดาเนินงานในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดเอกภาพเชิงนโยบายของการปฏิบัติงาน
2.2 เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดสามารถนาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ระดับกรม และพิจารณากาหนดตัวชี้วัดในระดับโครงการ/กิจกรรมให้มีความสอดคล้องต่อไป
2.3 เพื่อให้ผู้บริหารทางการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา นาไปใช้เป็นเครื่องมือในการ
บริหารงาน และการกากับ ติดตาม ประเมินผลความก้าวหน้าหรือความสาเร็จของการดาเนินงาน และบริหาร
จัดการให้การดาเนินงานบรรลุเปูาหมายที่กาหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ
3.1 นโยบายรัฐบาลหลักด้านการศึกษาได้แก่
นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้การทะนุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม
4.1จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้
4.2 ในระยะเฉพาะหน้าจะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา
4.3 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน
ทั่วไปมีโอกาสร่วมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและทั่วถึง
4.4 พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
4.5 ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน
4.6 พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นคน
4.7 ทานุบารุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สนับสนุนให้องค์กรทาง
ศาสนามีบทบาทสาคัญในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างสันติสุขและความ
ปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืน
4.8 อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทยและภาษาถิ่น ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย
4.9 สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและ
วัฒนธรรมสากล
4.10 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกที่ดี
3.2 นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา ได้แก่
นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ
2.1 การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประเด็น
แรงงานต่างด้าว ยาเสพติด
2.2 เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 3 -
นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมลาของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ
3.1 ในระยะเฉพาะหน้าจะเร่งสร้างโอกาสอาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคงแก่ผู้ที่เข้าสู่
ตลาดแรงงานรวมทั้งสตรี ผู้ด้อยโอกาสและแรงงานข้ามชาติที่ถูกกฎหมาย พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพแรงงาน
3.2 ปูองกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
3.6 จัดระเบียบสังคม
นโยบาย 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข
5.2 พัฒนาระบบบริการสุขภาพ
5.7 พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข
นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
6.6 ชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย
6.8 แก้ปัญหาน้าท่วมในฤดูฝนทั้งที่ท่วมเป็นบริเวณกว้างและท่วมเฉพาะพื้นที่และปัญหา
ขาดแคลนน้าในบางพื้นที่และบางฤดูกาล
6.9 ปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนและให้มีภาษี
ที่เหมาะสมระหว่างน้ามันต่างชนิดและผู้ใช้ต่างประเภท
6.17 เพิ่มขีดคว ามสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.18 ส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เริ่มขับเคลื่อน
ได้อย่างจริงจัง
นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน
7.4 เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในอนุภูมิภาคและ
ภูมิภาคอาเซียน
7.5 ต่อเชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์จากฐานการผลิตในชุมชน
สู่แหล่งแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าทั้งภายในประเทศและเชื่อมโยงกับอาเซียน
7.6 พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการวิจัยและ
พัฒนาและนวัตกรรม
8.2 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม
8.3 ผลักดันงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับ
การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนได้แก่
9.1 ในระยะเฉพาะหน้าเร่งปกปูองและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้และสัตว์ปุา
โดยให้ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
9.4 บริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศให้เป็นเอกภาพในทุกมิติทั้งเชิงปริมาณ
และคุณภาพ
9.5 เร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศ ขยะ และน้าเสีย
นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปราม
การทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และจิตสานึก
ในการรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการและความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการบริหารจัดการ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 4 -
4. สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
 วิสัยทัศน์
คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
 พันธกิจ
1) ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาสู่สากล
2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค
3) พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
 ยุทธศาสตร์
1)การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ
2) การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3) การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ
4) การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
5) การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
6) การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
7) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
8) การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน
9) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
 เป้าประสงค์
1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีความสมานฉันท์
สามัคคีปรองดอง มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติด
2)ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจมีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทย
3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้
4) กาลังคนระดับกลางและระดับสูงมีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับการพัฒนา
7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์
8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน
9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ
เพื่อยกระดับเข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
11)ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต
12) นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการเสริมสร้าง
ความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค
13) หน่วยงานมีระบบบริหารและจัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 5 -
 ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย

ลาดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
1 ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีปรองดอง และ/
หรือกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เปรียบเทียบกับ
เปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
2 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพ
ติดเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
3 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมให้มีความซื่อสัตย์สุจริต
เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
4 ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับ
การอนุรักษ์ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
5 ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ
จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ร้อยละ 100
6 จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน
- อายุ 15-39 ปี
- อายุ 40-59 ปี
- อายุ 15-59 ปี
10.9 ปี
7.6 ปี
9.2 ปี
7 ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ร้อยละ 36
8 สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
ต่อสามัญศึกษา (ปวช.1 ต่อ ม.4)
45:55
9 ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ได้งานทา
หรือประกอบอาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี
- ปวช.
- ปวส.
- ปริญญาตรี
ร้อยละ 25
ร้อยละ 50
ร้อยละ 90
10 ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการมีศักยภาพและ
ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว
ร้อยละ 80
11 จานวนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับ
การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
25,000 คน
12 ร้อยละของนักศึกษาและประชาชนที่เข้าอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ
วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการ
ดาเนินงาน
ร้อยละ 10
13 จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ
ด้านการค้าและการพัฒนา
3,700 คน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 6 -
ลาดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
14 จานวนผลงานวิจัยด้านการรักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์ 700 เรื่อง
15
จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้
ประโยชน์
2,405 เรื่อง
16 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน
(O-NET) (5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น คือ ป.6 ม.3 ม.6)
เพิ่มขึ้นร้อยละ
2
17 ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่เข้ารับการประเมินและ
ได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ.
- สถานศึกษาระดับปฐมวัย
- สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ประถมและมัธยม)
- สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา
- สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา
- สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน.
ร้อยละ 97
ร้อยละ 87
ร้อยละ 95
ร้อยละ 97
ร้อยละ 100
18 ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา
ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
19 ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ
และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความมั่นคงและผดุงเกียรติ
และความก้าวหน้าในวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
20 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ บรรลุผลสาเร็จตาม
เปูาหมายที่กาหนด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
- ภาพรวม
- งบลงทุน
ร้อยละ 96
ร้อยละ 87
21 ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ
นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับเปูาหมาย
การดาเนินงาน
ร้อยละ 80
22 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษาหรือความรู้เกี่ยวกับ
ประชาคมอาเซียน เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
23 จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตาม
โครงการพัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล
30,923 แห่ง
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 7 -
 กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลัก 12 ประการ
แก่ประชาชน
1. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง ความซื่อสัตย์สุจริตเสียสละ
เพื่อส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เรียนปลอดภัย
จากยาเสพติด
2. ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม
ประเพณีที่ดีงาม
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3. กระจายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
4. ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
และพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์
5. พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย
ให้เข้าถึงง่ายและสะดวกสาหรับประชาชนในทุกพื้นที่
6. จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ
7. เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาให้มี
คุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
8. สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา /หน่วยงานทางการศึกษา
กับภาคเอกชนหรือสถานประกอบการ ในการวางแผนการผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ
9. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มีความสามารถพิเศษทุกด้า น
ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเต็มตามศักยภาพ
10. ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาลและส่งเสริม
สุขภาพ
11. พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาสร้าง
องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศ
12. สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานและ
องค์กรทั้งในและต่างประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
13. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผู้เรียน
ทุกระดับและประเภทการศึกษา
14. เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาให้มีคุณภาพและ
มาตรฐาน
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
15. ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ให้มีคุณภาพ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 8 -
16. เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบ เทคโนโลยี
สารสนเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู
17. พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรองคุณภาพมาตรฐาน
วิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จการศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือผู้ช่วยสอน
18. สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่ งเข้าสู่วิชาชีพครู
โดยปรับปรุงระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครู
ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
19. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
20. เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัดการศึกษาให้หน่วยงาน
เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและสถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง
ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
21. พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในจังหวั ด
ชายแดนภาคใต้
22. ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและสวัสดิการ สาหรับบุคลากร
ทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเหมาะสม
ยุทธศาสตร์ที่ 8 การดาเนินงานตามกรอบประชาคมอาเซียน
23. การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือทางด้านการศึกษา
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน
24. สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน และ
ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรมนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน
ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
25. ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับและ
ประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
26. นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้พัฒนาระบบการ
บริหารจัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
27. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ มีมาตรฐาน
เดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับการศึกษาและประเภทการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 9 -
6. สรุปงบประมาณจาแนกตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการและแผนบูรณาการ
6.1 สรุปงบประมาณตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ
ยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ
งบประมาณตาม
แผนปฏิบัติราชการฯ
(หน่วย : ล้านบาท)
1. การสร้างความสมานฉันท์สามัคคีปรองดองและค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ 1,071.9620
2. การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 101,174.8136
3. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ 128,715.5614
4. การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา 270,362.1470
5. การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 9,347.2094
6. การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 1,311.2809
7. การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,348.2677
8. การดาเนินการตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน 1,110.4494
9. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย 2,083.0116
งบประมาณรวมทั้งสิ้น 518,524.7030*
หมายเหตุ : เงินงบประมาณ517,076.7030 ล้านบาท รวมเงินกองทุน 1,448 ล้านบาท
6.2 สรุปงบประมาณตามแผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ
แผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ
งบประมาณ
(หน่วย : ล้านบาท)
1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเชียน 1,079.7501
2. การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 160.0000
3. การพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ 0.8400
4. การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3.0000
5. การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,348.2677
8. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา 6,455.1223
9. การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ 118.3159
11. การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 7,009.8295
12. การปูองกัน ปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 41.2500
14. การบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม 162.9134
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 10 -
แผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ
งบประมาณ
(หน่วย : ล้านบาท)
15. การปูองกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ 365.2462
19. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4,286.3866
รวม 23,030.9217
7. สรุปการนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติ
กระทรวงศึกษาธิการกาหนดแนวทางที่สาคัญในการนาแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติ ดังนี้
1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
2. ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องให้ ความสาคัญในการใช้
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรอบในการบริหารงาน
3. ดาเนินการชี้แจงสร้างความรู้ ความเข้าใจในสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ
พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้บุคลากรในหน่วยปฏิบัติ ได้รับทราบอย่างชัดเจน เพื่อการมีส่วนร่วมและ
สนับสนุนให้การดาเนินงานตามแผนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
4. ให้หน่วยงานในส่วนกลางสนับสนุนทรัพยากรอย่างเพียงพอ สาหรับการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานปฏิบัติในระดับพื้นที่
5. การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ.255 9
ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยควร 1) ให้ความสาคัญกับการติดตามความก้าวหน้าในแต่ละยุทธศาสตร์
การประเมินผลสาเร็จและผลกระทบของการดาเนินงานอย่างต่อเนื่อง 2) พิจารณาใช้ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ของ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ และนาค่าเปูาหมายตามตัวชี้วัดมา
กาหนดเป็นเกณฑ์ที่สาคัญในการประเมินผล 3) สร้างระบบการรายงานผลการปฏิบัติราชการ และผลการเบิกจ่าย
งบประมาณเป็นรายไตรมาสอย่างต่ อเนื่องเพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค ทบทวน กาหนดมาตรการเพื่อปรับปรุง
การใช้จ่ายงบประมาณและจัดทาแผนเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบการกากับดูแลให้โปร่งใส และเร่งรัด
การเบิกจ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเปูาหมายที่กาหนด
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
ส่วนที่ 1
บทนา
1. ความเป็นมา
ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ. 2546
มาตรา 9 กาหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติ
ดังต่อไปนี้
(1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า
(2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนระ ยะเวลา
และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอน เปูาหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และ
ตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ
(3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการ
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ส่วนราชการกาหนดขึ้น ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กาหนด
(4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจหรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่อประชาชน
ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องดาเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้น หรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ
ให้เหมาะสม
มาตรา 16 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้น
“ในแต่ละปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี โดยให้ระบุสาระสาคัญ
เกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเปูาหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน รวมทั้งประมาณการรายได้
และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่จะต้องใช้ เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
เมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดตามวรรคสองแล้ว ให้
สานักงบประมาณดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสาเร็จในแต่ละภารกิจตามแผนปฏิบัติราชการ
ดังกล่าว
ในกรณีที่ส่วนราชการมิได้เ สนอแผนปฏิบัติราชการในภารกิจใดหรือภารกิจใดไม่ได้รับความเห็นชอบ
จากรัฐมนตรี มิให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสาหรับภารกิจนั้น”
สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทา
แผนการบริหารราชการแผ่นดินพ .ศ. 2547 ข้อ 8 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่ง
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา
ดังต่อไปนี้
“(2) แผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาขอ
งบประมาณรายจ่ายประจาปีของปีงบประมาณต่อไป”
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ
การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 กาหนดให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติงาน
และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ให้สอดคล้องกับเปูาหมายการเบิกจ่าย
งบประมาณรายไตรมาส โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่าย
งบประมาณฯ ที่กาหนดไว้ และให้นาแผนการใช้จ่ายงบประมาณฯ ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณของหน่วยงานด้วย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 13-
ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ได้ประกาศใช้ใน
ราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ให้สอดคล้ องกับบทบาท
และภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้องดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนที่มี
ความเกี่ยวข้องต่อไป
2. วัตถุประสงค์ของแผน
2.1 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางและเปูาหมายการดาเนินงานภาพรวมของกระทรวง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และใช้เป็นกรอบทิศทางหรือแนวทางการดาเนินงานในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดเอกภาพเชิงนโยบายของการปฏิบัติงาน
2.2 เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดสามารถนาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ
ระดับกรม และพิจารณากาหนดตัวชี้วัดในระดับโครงการ/กิจกรรมให้มีความสอดคล้องต่อไป
2.3 เพื่อให้ผู้บริหารทางการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา นาไปใช้เป็นเครื่องมือในการ
บริหารงาน และการกากับ ติดตาม ประเมินผลความก้าวหน้าหรือความสาเร็จของการดาเนินงาน และบริหาร
จัดการให้การดาเนินงานบรรลุเปูาหมายที่กาหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. กรอบแนวคิดการจัดทาแผน
จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกาหนดกรอบแนวคิด
สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้
มีข้อมูลสาคั ญที่ศึกษา ประกอบด้วย (1) นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี )
(2) (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 – 2564) (3) วาระการปฏิรูป 37 วาระ และ 8 วาระการพัฒนา
(4) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาพงษ์ รัตนสุวรรณ) (5) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 -2559) (6) แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559)
(7)แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่11(พ.ศ. 2555-2559)ระยะครึ่งแผน(8) กรอบข้อตกลงการศึกษา
เพื่อปวงชน (EFA) (9) ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (10) การจัดทา
งบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (11) อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของ
กระทรวงศึกษาธิการ และ (12) ผลการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. นโยบายของรัฐบาล (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี)
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่12กันยายน
2557 โดยได้กาหนดนโยบายไว้ 11 ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
พุทธศักราช 2557 มาตรา 19 ที่ระบุให้รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ดาเนินการให้มีการปฏิรูป
ด้านต่างๆ และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ ดังนี้
นโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ
นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ
นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
นโยบายที่ 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 14-
นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน
นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม
นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์
กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน
ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
นโยบายที่ 11 การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
กระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่มีภารกิจในการจัดและส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา เพื่อพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการนาพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีบทบาทหลักดาเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในข้อที่ 4 นโยบาย
การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเป็น
ส่วนราชการที่สาคัญในการร่วมขับเคลื่อนการดาเนินการตามนโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบัน
พระมหากษัตริย์ นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่าง ประเทศ นโยบายที่ 3 การลดความ
เหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐนโยบายที่ 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้าน
สาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายที่ 7
การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซี ยนนโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์
จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐาน
ทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และนโยบายที่ 10 การส่งเสริม
การบริหารราชการแผ่น ดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
โดยมีรายละเอียดดังนี้
นโยบายที่ 1 : การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประกอบสาคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตาม
ประเพณีการปกครองของไทย รัฐบาลจึงถือเป็นหน้าที่สาคัญยิ่งยวดในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ไว้ด้วยความจงรักภักดี
และปกปูองรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคมจิตวิทยา และ
มาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินการกับผู้คะนองปาก ย่ามใจหรือประสงค์ร้าย
มุ่งสั่นคลอนสถ าบันหลักของชาติ โดยไม่คานึงถึงความรู้สานึกและความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจานวนมาก
ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจ
เพื่อประชาชน ทั้งจะสนับสนุนโครงการทั้งหลายอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ส่งเสริมให้ เจ้าหน้าที่สถานศึกษา
ตลอดจนหน่วยงานทั้งหลายของรัฐเรียนรู้เข้าใจหลักการทรงงาน สามารถนาหลักดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการ
ปฏิบัติราชการและการพัฒนา ตลอดจนเร่งขยายผลตามโครงการและแบบอย่างที่ทรงวางรากฐานไว้ให้แพร่หลาย
เป็นที่ประจักษ์และเกิดประโยชน์ในวงกว้างอันจะช่วยสร้างความสมบูรณ์พูนสุขแก่ประชาชนในที่สุด
นโยบายที่ 2 : การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ
2.1 ในระยะเร่งด่วน รัฐบาลให้ความสาคัญต่อการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมือง
และความมั่นคงอาเซียน ในกิจการ 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการชายแดน การสร้างความมั่นคงทางทะเล
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 15-
การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การสร้างความไว้วางใจกับประเทศเพื่อนบ้าน และการเสริมสร้างศักยภาพ
ในการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของอาเซียน โดยเน้นความร่วมมือเพื่อปูองกัน แก้ไขข้อพิพาทต่าง ๆ และการ
แก้ไขปัญหาเส้นเขตแดนโดยใช้กลไก ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งจะจัดระเบียบการพัฒนาตามกรอบ
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล รองรับการพัฒนา
เขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามแนวชายแดน โดยใช้ระบบเฝูาตรวจที่มีเทคโนโลยีทันส มัย กาหนดให้ปัญหายาเสพติด
การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การกระทาอันเป็นโจรสลัด การก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นปัญหา
เฉพาะหน้าที่ต้องได้รับการปูองกันและแก้ไขโดยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด และจัดการปัญหาอื่นๆ ที่เชื่อมโยง
ต่อเนื่องให้เบ็ดเสร็จ เช่น ปัญห าสถานะและสิทธิของบุคคล การปรับปรุงระบบการเข้าเมือง การจัดระเบียบ
แรงงานต่างด้าว เป็นต้น
2.2 เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายุทธศาสตร์เข้าใจ
เข้าถึง และพัฒนามาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี ส่งเสริมการพูดคุย สันติสุขกับผู้มีคว ามคิดเห็น
ต่างจากรัฐ สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมตามหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นพหุสังคม
ขจัดการฉวยโอกาสก่อความรุนแรงแทรกซ้อน เพื่อซ้าเติ มปัญหาไม่ว่าจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ฝุาย
บ้านเมือง ทั้งจะเพิ่มระดับปฏิสัมพันธ์กับต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศที่อาจช่วยคลี่คลายปัญหาได้
นโยบายที่ 3: การลดความเหลื่อมล้าของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ
ความเหลื่อมล้าในสังคมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งและความเดือดร้อนทั้งหลาย
ของประชาชนจึงมีนโยบายที่จะดาเนินการดังนี้
3.1 ในระยะเฉพาะหน้าจะเร่งสร้างโอกาสอาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคงแก่ผู้ที่เข้าสู่
ตลาดแรงงานรวมทั้งสตรีผู้ด้อยโอกาสและแรงงานข้ามชาติที่ ถูกกฎหมายพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพแรงงาน
โดยให้แรงงานทั้งระบบมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในทุกระดับอย่าง
มีมาตรฐานทั้งจะเชื่อมโยงข้อมูลและการดาเนินการระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชนเพื่อให้ตรงกับความต้องการ
ของพื้นที่และของประเทศโดยรวม นอกจากนี้จะส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมายมากขึ้น
3.2 ปูองกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองการทารุณกรรม
ต่อแรงงานข้ามชาติการท่องเที่ยวที่เน้นบริการทางเพศและเด็กและปัญหาคนขอทานโดยการปรับปรุงกฎหมาย
ข้อบังคับที่จาเป็นและเพิ่มความเข้มงวดในการระวังตรวจสอบ
3.6 จัดระเบียบสังคม สร้างมาตรฐานด้านคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลให้แก่เจ้าหน้าที่
ของรัฐและประชาชนทั่วไปโดยใช้ค่านิยมหลัก 12 ประการตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ได้
ประกาศไว้แล้ว
นโยบายที่ 4 : การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
รัฐบาลจะนาการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ และความเป็นไทย
มาใช้สร้างสังคมให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมควบคู่กัน ดังนี้
4.1 จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ โดยให้ความสาคัญทั้งการศึกษาในระบบและ
การศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ
ประกอบอาชีพและดารงชีวิตได้โดยมีความใฝุรู้และทักษะที่เหมาะสม เป็นคนดีมีคุณธรรม สร้างเสริมคุณภาพ
การเรียนรู้ โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อสร้างสัมมาชีพในพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้า และพัฒนากาลังคนให้เป็นที่ต้องการ
เหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 16-
4.2 ในระยะเฉพาะหน้า จะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา
ให้สอดคล้องกับความจาเป็นของผู้เรียนและลักษณะ พื้นที่ของสถานศึกษา และปรับปรุง และบูรณาการระบบการ
กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสแก่ผู้ยากจนหรือ ด้อยโอกาส จัดระบบการสนับสนุนให้
เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีสิทธิเลือกรับบริการการศึกษา ทั้งในระบบโรงเรียนและนอกโรงเรียน โดยจะ
พิจารณาจัดให้มีคูปองการศึกษาเป็นแนวทางหนึ่ง
4.3 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป
มีโอกาสร่วมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและทั่วถึง และร่วมในการปฏิรูปการศึกษา และการเรียนรู้ กระจายอานาจ
การบริหารจัดการศึกษาสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามศักยภาพและ
ความพร้อม โดยให้สถานศึกษาสามารถเป็นนิติบุคคล และบริหารจัดการได้อย่างอิสระและคล่องตัวขึ้น
4.4 พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถมีความรู้และทักษะ
ใหม่ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามแ นวโน้มการจ้างงานในอนาคต ปรับกระบวนการเรียนรู้และ
หลักสูตรให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยบูรณาการความรู้และคุณธรรมเข้าด้วยกันเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน
ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ การใฝุเรียนรู้ การแก้ปัญหา การรับฟังความเห็นผู้อื่น การมีคุณธรรม จริยธรรม และ
ความเป็นพลเมืองดี โดยเน้นความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอกโรงเรียน
4.5 ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะ
โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่มีความต้องการแรงงาน และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้เชื่อมโยงกับมาตรฐาน
วิชาชีพ
4.6 พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครู ที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู
เน้นครูผู้สอนให้มีวุฒิตรงตามวิชาที่สอนนาเทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในการเรียน
การสอนเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยครูหรือเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น การเรียนท างไกล การเรียนโดยระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งปรับระบบการประเมินสมรรถนะที่สะท้อนประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอน
และการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสาคัญ
4.7 ทะนุบารุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สนับสนุนให้องค์กรทางศาสนา
มีบทบาทสาคัญในการปลูกฝังคุณ ธรรมจริยธรรมตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างสันติสุขและความปรองดอง
สมานฉันท์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมตามความพร้อม
4.8 อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทยและภาษาถิ่น ภูมิปัญญา
ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อการเรียนรู้ สร้างความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์
และความเป็นไทย นาไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับประชาชน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับ
นานาชาติ ตลอดจนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
4.9 สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน และวัฒนธรรม
สากล และการสร้างสรรค์งานศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นสากล เพื่อเตรียมเข้าสู่เสาหลักวัฒนธรรมของประชาคม
อาเซียน และเพื่อการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก
4.10 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกที่ดี รวมทั้งสนับสนุนการผลิตสื่อคุณภาพ เพื่อเปิดพื้นที่
สาธารณะให้เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
นโยบายที่ 5 : การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน
5.2 พัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยเน้นการปูองกันโรคมากกว่ารอให้ปุวย แล้วจึงมารักษา
สร้างกลไกการจัดการสุขภาพในระดับเขตแทนการกระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง ปรับระบบการจ้างงาน การกระจาย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 17-
บุคลากรและทรัพยากรสาธารณสุขให้เหมาะสมกับท้องถิ่น และให้ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมในการจ้าง
บุคลากรเพื่อจัดบริการสาธารณสุขโดยรัฐเป็นผู้กากับดูแล สนับสนุนความร่วมมือระห ว่างรัฐและเอกชนในการ
พัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุข โดยส่งเสริมการร่วมลงทุนและการใช้ทรัพยากรและบุคลากร
ร่วมกันโดยมีข้อตกลงที่รัดกุมและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝุาย
5.7 พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสาธารณสุข โดยจัด
ให้มีบุคลากรและ เครื่องมือที่ทันสมัย และให้มีความร่วมมือทั้งระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ และหน่วยงาน
ต่างประเทศ โดยเฉพาะในการปูองกันและรักษาโรคที่มีความสาคัญ
นโยบายที่ 6 : การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
6.6 ชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยพิจารณามาตรการลด
ผลกระทบจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ที่มีต่อการท่องเที่ยวในโอกาสแรกที่จะทาได้ และสร้าง
สิ่งจูงใจและสิ่งอานวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่ง
ท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกันหรือจัดเป็ นกลุ่มได้ เช่น กลุ่มธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม
ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสุขภาพ เช่น น้าพุร้อน ธรรมชาติ ทั้งจะให้เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิถีชีวิตชุมชน
รวมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในประเทศทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โ ดยเน้นการให้
ความรู้ และ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ
ราคาเป็นธรรม ตลอดจนการอานวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว
6.8 แก้ปัญหาน้าท่วมในฤดูฝนทั้งที่ท่วมเป็นบริเวณกว้างและท่วมเฉพาะพื้นที่และปัญหา
ขาดแคลนน้าในบางพื้นที่และบางฤดูกาล ซึ่งนาความเสียหายและทุกข์ร้อนมาให้แก่เกษตรกรโดยระดมความคิด
เพื่อหาทางปูองกันไม่ให้เกิดน้าท่วมรุนแรงดังเช่นเหตุการณ์น้าท่วมในปี 2554 และหาวิธีที่จะแก้ปัญหาน้าท่วม
เฉพาะพื้นที่ให้ลดลงโดยเร็วไม่กระทบต่อพืชผล ส่วนภาวะภัยแล้งจนเกิดการขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตรนั้นรัฐบาล
จะเร่งดาเนินการจัดสร้างแหล่งน้าขนาดเล็กให้กระจายครอบคลุมทั่วพื้นที่เพาะปลูกให้มากที่สุดซึ่งจะสามารถทาได้
ในเวลาประมาณ 1 ปี
6.9 ปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนและให้มีภาระภาษี
ที่เหมาะสมระหว่างน้ามันต่างชนิดและผู้ใช้ต่างประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศและให้
ผู้บริโภคระมัดระวังที่จะไม่ใช้อย่างฟุุมเฟือยรวมถึงดาเนินการให้มีการสารวจและผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ามันดิบ
รอบใหม่ทั้งในทะเลและบนบกและดาเนินการให้มีการสร้างโรงไฟฟูาเพิ่มขึ้นโด ยหน่วยงานของรัฐและเอกชน
ทั้งจากการใช้ฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงและจากพลังงานทดแทนทุกชนิดด้วยวิธีการที่เปิดเผยโปร่งใสเป็นธรรมและ
เป็นมิตรต่อสภาวะแวดล้อมพร้อมกับร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาพลังงาน
6.17 เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมให้เข้มแข็ง
สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มองค์ความรู้ในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการ
ผลิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และพัฒนาการบริหารจัดการภายในองค์กร ปรับโครงสร้างกลไกการสนับสนุนและ
การขับเคลื่อนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เป็น ระบบและมีเอกภาพที่ชัดเจนทั้งในด้านการเข้าถึงแหล่ง
เงินทุนและบริการทางการเงินและการลงทุนสาหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การพัฒนาผลิตภัณฑ์และ
บริการ การตลาดและโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ
6.18 ส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ให้เริ่มขับเคลื่อนได้
อย่างจริงจังซึ่งจะทาให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ซึ่งหมายรวมถึง
การผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยตรงทั้งผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์สื่อสาร ดิจิทัล
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 18-
อุปกรณ์โทรคมนาคมดิจิทัลและการใช้ดิจิทัลรอง รับการให้บริการของภาคธุรกิจการเงินและธุรกิจบริการอื่นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคสื่อสารและบันเทิงตลอดจนการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและ
การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปรับปรุงบทบาทและภารกิจของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงให้ดูแลและผลักดัน
งานสาคัญของประเทศชาติในเรื่องนี้และจะจัดให้มีคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นโยบายที่ 7 : การส่งเสริมบทบาทและใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน
7.3 พัฒนาแรงงานของภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งแรงงาน
วิชาชีพ แรงงานมีทักษะ และแรงงานไม่มีทักษะ โดยการเร่งรัดและขยายผลการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เกิดผล
ในทางปฏิบัติโดยคานึงถึงความเป็นเอกภาพกับระบบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานและมาตรฐานวิชาชีพใน 8 กลุ่มที่มี
ข้อตกลงการเปิดเสรีในอาเซียนควบคู่ไปกับการวางแผนด้านกา รผลิตให้เพียงพอ การยกระดับฝีมือแรงงานในกลุ่ม
อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น การส่งเสริมการพัฒนาระบบการทดสอบมาตรฐาน
ฝีมือแรงงาน เพื่อใช้ในการประเมินค่าจ้างแรงงาน
7.4 เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในอนุภูมิภาคแล ะ
ภูมิภาคอาเซียนโดยเร่งขับเคลื่อนการดาเนินงานตามแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค
ลุ่มแม่น้าโขง6 ประเทศ(GMS) แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝุายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย(IMT-GT) แผนความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจอิระวดี -เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) แผนความร่วมมือแห่งอ่าวเบงกอลสาหรับความร่วมมือ
หลากหลายสาขาวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) และแผนแม่บทความเชื่อมโยงในอาเซียนซึ่งจะช่วยสนับสนุน
ให้ความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ในอาเซียนสัมฤทธิผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
7.6 พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเริ่มจาก การพัฒนาด่านการค้าชายแดนและโครงข่ายการ
คมนาคมขนส่งบริเวณประตูการค้าหลักของประเทศเพื่อรองรับการเชื่อมโยงกระบวนการผลิตและการลงทุน
ข้ามแดนโดยปรับปรุงโครงข่ายระบบถนนพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) และสิ่งอานวย
ความสะดวกทางการค้าและการขนส่งสินค้าข้ามแดนอย่างต่อเนื่องโดยในระยะแรกให้ความสาคัญกับด่านชายแดน
ที่สาคัญ 6 ด่าน ได้แก่ ปาดังเบซาร์ สะเดา อรัญประเทศ แม่สอด บ้านคลองลึกและบ้านคลองใหญ่ซึ่งจะทาให้
ระบบขนส่งและโลจิสติกส์สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับปริมาณ
การเดินทางและการขนส่งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นโยบายที่ 8 : การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ
พัฒนา และนวัตกรรม
8.2 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม โดยส่งเสริมระบบการเรียนการสอน ที่เชื่อมโยงระหว่าง
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ การผลิตกาลังคนในสาขาที่ขาดแคลน การเชื่อมโยง
ระหว่างการเรียนรู้กับการทางาน การให้บุคลากรด้านการวิจัยของภาครัฐสามารถไปทางานในภาคเอกชน และ
การให้อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม มีช่องทางได้เทค โนโลยีโดยความร่วมมือจากหน่วยงานและ
สถานศึกษาภาครัฐ
8.3 ปฏิรูประบบการให้สิ่งจูงใจระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการนางานวิจัยและ
พัฒนาไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ รวมทั้งส่งเสริมการจัดทาแผนพัฒนาการวิจัยและพัฒนาในระดับภาคหรือ
กลุ่มจังหวัดเพื่อให้ตรงกับความต้องก ารของท้องถิ่นผลักดันงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหน่วยงานวิจัยของรัฐและภาคเอกชน
8.5 ปรับปรุงและจัดเตรียมให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ด้านการวิจัยและพัฒนาและด้านนวัตกรรม ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาที่สาคัญในการต่อยอดสู่การใช้
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 19-
เชิงพาณิชย์ของภาคอุตสาหกรรมให้มีความพร้อมทันสมัยและกระจายในพื้นที่ต่างๆ เช่นการพัฒนาระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศการตั้งศูนย์วิเคราะห์ห้องปฏิบัติการสถาบันและศูนย์วิจัยเป็นต้น
นโยบายที่ 9 : การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์
กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
ในปัจจุบันมีการบุกรุกที่ดินของรัฐและตัดไม้ทาลายปุามากขึ้นทรัพยากรธรรมชาติและความ
หลากหลายทางชีวภาพที่เคยอุดมสมบูรณ์ เช่น ปุาไม้ สัตว์ปุา พันธุ์พืช และแร่ธาตุถูกทาลายหรือนาไปใช้ประโยชน์
ทางพาณิชย์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอันมากทั้งปัญหาภาวะมลพิษโดยเฉพาะขยะประเภทต่างๆ
ก็รุนแรงยิ่งขึ้นรัฐบาลจึงมีนโยบายจะรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติโดยสร้างสมดุลระหว่าง
การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ดังนี้
9.1 ในระยะเฉพาะหน้าเร่งปกปูองและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้และสัตว์ปุา โดยให้
ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จัดทาแนวเขตที่ดินของรัฐให้ชัดเจน เร่งรัดกระบวนการ
พิสูจน์สิทธิการถือครองที่ดินในเขตที่ดินของรัฐโดยนาระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อการบริหารจัดการปรั บปรุง
กฎหมายให้ทันสมัยและสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมโดยเฉพาะใน
พื้นที่ปุาต้นน้าและพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความสาคัญเชิงนิเวศกาหนดพื้นที่แนวกันชนและที่ราบเชิงเขาให้เป็นพื้นที่
ยุทธศาสตร์การปลูกปุาเพื่อปูองกันภัยพิบัติและปูองกันการบุกรุกปุาขยายปุาชุมชนและส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าทาง
เศรษฐกิจในพื้นที่เอกชนเพื่อลดแรงกดดันในการตัดไม้จากปุาธรรมชาติรวมทั้งผลักดันแนวทางการประเมินมูลค่า
ทางเศรษฐศาสตร์ของระบบนิเวศและการสร้างรายได้จากการอนุรักษ์ เช่น โครงการปลูกปุาเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ
โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้แบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเป็นต้น
9.4 บริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศให้เป็นเอกภาพในทุกมิติทั้งเชิงปริมาณและ
คุณภาพ จัดให้มีแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศและมีกระบวนการบูรณาการแผนงานและ
งบประมาณร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ การจัดทาแผนงานโครงการไม่เกิดความซ้าซ้อนมี
ความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้าโดยจัดตั้ง
หรือกาหนดกลไกในการบริหารจัดการน้าพร้อมทั้งมีการน้าเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ในระบบของการ
บริหารจัดการน้าและการเตือนภัย
9.5 เร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศ ขยะ และน้าเสียที่เกิดจากการผลิตและบริโภค
เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชนโดยให้ความสาคัญในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะเป็น
ลาดับแรกส่งเสริมให้เกิดกลไกการคัดแยกขยะเพื่อนากลับมาใช้ใหม่ ให้มากที่สุดเร่งกาจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสม
ในสถานที่กาจัดขยะในพื้นที่วิกฤติซึ่งจะใช้ที่ดินของรัฐเป็นหลักในพื้นที่ใดที่สามารถจัดการขยะมูลฝอยโดยการแปร
รูปเป็นพลังงานก็จะสนับสนุนให้ดาเนินการ ส่วนขยะอุตสาหกรรมนั้นจะวางระเบียบมาตรการการบริหารจัดการ
เป็นพิเศษโดยกาหนดให้ทิ้งในบ่อขยะอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องตามมาตรฐานและให้แยกเป็นสัดส่วนจาก
บ่อขยะชุมชน สาหรับขยะของเสียอันตราย ขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะติดเชื้อจะพัฒนาระบบกากับติดตาม
ตรวจสอบและเฝูาระวังไม่ให้มีการลักลอบทิ้งรวมทั้งจัดการสารเคมีโดยลดความเสี่ยงและอันตรา ยที่เกิดจากการ
รั่วไหลและการเกิดอุบัติเหตุให้ความสาคัญในการจัดการอย่างครบวงจรและใช้มาตรการทางกฎหมายและ
การบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
นโยบายที่ 10 : การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน
ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในภาครัฐ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 20-
10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และจิตสานึกในการ
รักษาศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการและความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อปูองกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับอย่างเคร่งครัด ยกเลิก
หรือแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่ไม่จาเป็น สร้างภาระแก่ประชาชนเกินควรหรือเปิดช่องโอกาส
การทุจริต เช่น ระเบียบการจัดซื้อ จัดจ้าง การอนุญาต อนุมัติ และการขอรับบริการจากรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนยืดยาว
ใช้เวลานาน ซ้าซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน
2. (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2558 – 2564
นโยบายความมั่นคงแห่งชาติเป็นนโยบายระดับชาติ กาหนดขึ้นเพื่อเป็นกรอบในการดาเนินการ
ด้านความมั่นคงของภาครัฐในระยะ 7 ปี โดยได้ประเมินสภาวะแวด ล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์และ
ความเปลี่ยนแปลงของบริบทความมั่นคง นาไปสู่การกาหนดทิศทางหลักในการดาเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์
และความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ได้กาหนดลาดับความสาคัญ โดยพิจารณา
ความเสี่ยงและผลกระทบต่อความมั่ นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ ซึ่งส่งผลต่อความอยู่รอดปลอดภัยของชาติและ
ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในด้านต่างๆ และภูมิคุ้มกันของชาติในภาพรวมเป็น “เกณฑ์สาคัญ” โดยกาหนด
ความสาคัญเป็นสองส่วน คือส่วนที่ 1 นโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติและส่วนที่ 2 นโยบาย
ความมั่นคงแห่งชาติทั่วไปซึ่งการจัดสรรทรัพยากรจะให้น้าหนักต่อนโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลัก
ของชาติเป็นลาดับสาคัญในระดับต้น แต่ทั้งนี้นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทั้งสองส่วนต้องได้รับการขับเคลื่อน
ไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดภาพแห่งความสาเร็จโดยรวมและ สามารถรักษาผลประโยชน์แห่งชาติได้อย่างครบถ้วน
ทั้งเสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่นของประเทศ และการมีจุดยืนที่ชัดเจน เหมาะสม ซึ่งจะทาให้ประเทศมีเกียรติและ
ศักดิ์ศรี ในประชาคมโลกกรอบความคิดหลักในการกาหนดนโยบาย ได้คานึงถึงค่านิยมหลักของชาติซึ่งเป็นสิ่งที่คน
ในชาติจะต้องยึดถือและพึงรักษาไว้ร่วมกัน และผลประโยชน์แห่งชาติซึ่งเป็นความมุ่งประสงค์ของชาติ ที่จะทาให้
ค่านิยมหลักของชาติดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง ค่านิยมหลักของชาติ ได้แก่ (1) มีความรักชาติ ศาสนา
พระมหากษั ตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ (2) เชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (3) มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม มีเหตุมีผล เคารพสิทธิ
เสรีภาพ หน้าที่และหลักนิติธรรม (4) เห็นคุณค่าในคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และวัฒนธรรม
ประเพณีอันดีงามของสังคมไทย (5) เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และยอมรับความแตกต่างหลากหลายทาง
ความคิด ความเชื่อ อัตลักษณ์และวัฒนธรรม บนพื้นฐานของการยึดมั่นในความเป็นพหุสังคม (6) อยู่ร่วมกับ
ประชาคมโลกอย่างสันติ ด้วยมิตรภาพอันดี
ผลประโยชน์แห่งชาติ ได้แก่ (1) การมีเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งเขตอานาจรัฐ
(2) การดารงอยู่อย่างมั่นคง ยั่งยืนของสถาบันหลักของชาติ (3) การดารงอยู่อย่างมั่นคงของชาติและประชาชนจาก
ภัยคุกคามทุกรูปแบบ (4) การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่น มั่นคงทางสังคม ท่ามกลางพหุสัง คมและ
การมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (5) ความเจริญเติบโตของชาติ ความเป็นธรรม และความอยู่ดีมีสุข
ของประชาชน (6) ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงาน อาหาร
(7) ความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงขอ งสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ
(8) การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ประสานสอดคล้องกันด้านความมั่นคงในประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก
อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 21-
วิสัยทัศน์ “ชาติมีเสถียรภาพและเป็นปึกแผ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต ประเทศมีการ
พัฒนาอย่างต่อเนื่องปลอดภัยจากภัย คุกคามข้ามพรมแดน พร้อมเผชิญวิกฤติการณ์ มีบทบาทเชิงรุกในประชาคม
อาเซียนและดาเนินความสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างมีดุลยภาพ”
วัตถุประสงค์ (1) เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) เพื่อเสริมสร้างจิตสานึกของคนใน ชาติให้มีความจงรักภักดี และธารงรักษาไว้
ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ (3) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม
และความสมานฉันท์ในชาติเพื่อลดการเผชิญหน้า และการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ (4) เพื่อให้จังหวัดชายแดน
ภาคใต้มีความปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขของการใช้ความรุนแรง (5) เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริม
บทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบที่กระทบกับความมั่นคง
(6) เพื่อให้การจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และอาหาร มีความมั่นคง ความยั่งยืน และ
มีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนาประเทศ รวมถึงลดความเสี่ยงจากผลกระทบของกระแสโลกาภิวัตน์
(7) เพื่อพัฒนาศักยภาพการเตรียมความพร้อมของชาติในการเผชิญกับภาวะสงครามและวิกฤติการณ์ความมั่นคง
อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ (8) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพใน การปูองกันประเทศ สนับสนุนภารกิจ
ที่ไม่ใช่การสงคราม และสามารถผนึกกาลังของกองทัพกับทุกภาคส่วนในการเผชิญกับภัยคุกคามด้านการปูองกัน
ประเทศในทุกรูปแบบ (9) เพื่อส่งเสริมสภาวะแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสันติในการอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
กลุ่มประเทศอาเซียน ประชาคมโลก บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์ และการดารงเกียรติภูมิของชาติ
ส่วนที่ 1 นโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ (1) เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) สร้างความเป็นธรรม
ความปรองดอง และความสมานฉันท์ในชาติ (3) ปูองกันและแก้ไขการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนที่ 2 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทั่วไป (4) จัดระบบการบริหารจัดการชายแดนเพื่อปูองกันและแก้ไขปัญหา
ข้ามพรมแดน (5) สร้างเสริมศักยภาพการปูองกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ (6) ปกปูอง รักษา
ผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล(7) จัดระบบ ปูองกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง(8) เสริมสร้างความเข้มแข็ง
และภูมิคุ้มกันความมั่นคงภายใน (9) เสริมสร้างความมั่นคงของชาติจากภัยการทุจริตคอร์รัปชั่น (10) เสริมสร้าง
ความมั่นคงทางเทคโนโลยีสารสนเทศและไ ซเบอร์ (11) รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และ
สิ่งแวดล้อม (12) เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร (13) พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ
เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ(14) เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการปูองกันประเทศ(15) พัฒนาระบบงานข่าวกรอง
ให้มีประสิทธิภาพ (16) เสริมสร้างดุลยภาพในการดาเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
3. วาระการปฏิรูป 37 วาระ และ 8 วาระการพัฒนา ซึ่งพิจารณาแล้วมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา
ใน 13 วาระการปฏิรูป และ 6 วาระการพัฒนา โดยสรุป ดังนี้
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
37 วาระการปฏิรูป
วาระปฏิรูปที่ 1
การปูองกันและ
ปราบปรามการทุจริต
แนวคิดการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมที่ดีของสังคมไทยให้แก่เด็กและเยาวชน
เป็นการใช้กลไกซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวเด็กและเยาวชน ทาหน้าที่
เป็นตัวขับเคลื่อนผ่านการ ปลูกจิตสานึก การสร้าง/กระชับเครือข่าย/ขยายพื้นที่
และการสร้างพลังทางสังคม ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านกลไก การศึกษา กลไกครอบครัว
กลไกสื่อมวลชน กลไกเครือข่ายทางสังคม และกลไกสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 22-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
โดยมีกลไกและมาตรการขับเคลื่อน
1) นาหลักสูตรการปลูกจิตสานึกเพื่อการต่อต้านทุจริตไปใช้ในสถานศึกษา
ทั่วประเทศ - การอบรมครูผู้สอนเพื่อนาหลักสูตรต่อต้านทุจริตไปใช้ในสถานศึกษา
2) จัดกิจกรรมระหว่างโรงเรียนและครอบครัวเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและ
เรียนรู้ร่วมกัน ด้านคุณธรรมจริยธรรม
3) ผู้ที่จะดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียนจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร
จริยธรรม
4) การสร้างเครือข่ายครูและนักเรียนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรปลูกฝัง
คุณธรรมจริยธรรม
วาระปฏิรูปที่ 15
การสร้างสังคม
ผู้ประกอบการ
การปฏิรูปการเรียนรู้: สร้างจิตวิญญาณผู้ประกอบการ ความรู้และทักษะในการ
ประกอบการ (Knowledge based Entrepreneurship) โดย
1) ปรับหลักสูตรการเรียนรู้ทั้งระดับพื้นฐาน อาชีวะและระดับอุดมศึกษา
เพื่อสร้างจิตวิญญาณของการ เป็นผู้ประกอบการ ความรู้และทักษะการทาธุรกิจ
2) จัดทาฐานข้อมูลขึ้นทะเบียนหน่วยบ่มเพาะ (Incubation Center)
ทั้งภาครัฐและเอกชนให้เป็น ปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ
3) พัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพสถาบันการศึกษา โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วม
ของภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ และพัฒนาวิทยากร/ผู้บ่มเพาะธุรกิจ (Training
the Trainer/Coach)
4) ส่งเสริมการจัดตั้งหน่วยบ่มเพาะแบบบูรณาการภาครัฐและเอกชนโดยมี
มาตรการจูงใจ เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้ทักษะทางธุรกิจตลอดชีวิต
5) ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมี
ส่วนร่วมเพื่อพัฒนา ผู้ประกอบการและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์
วาระปฏิรูปที่ 16
การปฏิรูประบบการ
จัดการศึกษา
1. ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษา ระดับชาติ ระดับพื้นที่และระดับท้องถิ่น
2. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการในระดับสถานศึกษา
3. จัดให้มีระบบการคัดสรร และการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิภาพ
4. ปรับปรุงระบบการผลิต การพัฒนาและการประเมินครู อาจารย์ และบุคลากร
ทางการศึกษา
5. ปรับปรุงการทดสอบและประเมินผลการศึกษาทั้งระบบ
6. พัฒนาระบบธรรมาภิบาลและกลไกตรวจสอบการจัดการศึกษาทุกระดับ
7. จัดทาประมวลกฎหมายทางการศึกษาทั้งระบบ
วาระปฏิรูปที่ 17
การปฏิรูประบบการ
คลังด้านการศึกษา
(ด้านอุปสงค์)
1. จัดระบบงบประมาณการศึกษาที่เน้นด้านอุปสงค์
2.จัดสรรทุนการศึกษาในรูป “คูปองการศึกษา”
3. ใช้มาตรการทางการเงินและภาษี สนับสนุนการพัฒนาตนเองและเรียนรู้
ตลอดชีวิตของพลเมืองทุกคน
4. ใช้มาตรการทางภาษีสนับสนุน ผู้ประกอบการหรือองค์กรภาคเอกชน ที่ร่วมจัด
การศึกษา
5. จัดตั้งกองทุนสมทบ (matching funds) แก่ท้องถิ่นหรือภาคประชาสังคม
ที่ร่วมจัดการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 23-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
วาระปฏิรูปที่ 18
การปฏิรูประบบการ
เรียนรู้
1. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา สาหรับเยาวชน
2. ปรับปรุงระบบการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และการจัดให้
มีการเรียนรู้เพื่อเตรียมตัวในการเลี้ยงดูเด็กสาหรับ พ่อ แม่และชุมชน
3. พัฒนาระบบการเรียนรู้โดยเน้นกระบวนการคิด และลงมือปฏิบัติจริง
ในการศึกษาทุกระดับ
4. จัดให้มีระบบการเรียนรู้ความเป็น พลเมือง สร้างสังคมอุดมปัญญาที่อยู่บนฐาน
ศาสนาและวัฒนธรรมอันดีงาม
5. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนา แรงงานให้มีคุณภาพ
6. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้สูงอายุ
7. ส่งเสริมการศึกษาที่สอดคล้องกับสังคมพหุวัฒนธรรม
8. สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ วิจัย และใช้เทคโนโลยีและสื่อเพื่อการเรียนรู้
9. จัดการเรียนรู้สาหรับเด็กด้อยโอกาส และเด็กกลุ่มเสี่ยงทั้งในและนอกระบบ
วาระปฏิรูปที่ 19
แผนการปฏิรูป
การกีฬา
การจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
การกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ....
การจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติเป็นการปรับเปลี่ยนสถานะของสถาบัน
การพลศึกษาซึ่งมี17 วิทยาเขต13โรงเรียนกีฬา เป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
เพื่อดาเนินการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญ
ด้านพลศึกษา กีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ นันทนาการ และ
สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาศาสตร์ในหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอน และ
พัฒนากีฬาของประเทศให้มี ความก้าวหน้าเข้มแข็งต่อไป โดยมหาวิทยาลัยการกีฬา
แห่งชาติมีความพร้อมในด้านอาคารสถานที่และบุคลากร สามารถพัฒนาการจัด
การเรียนการสอนในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมได้อย่าง
กว้างขวาง ทั้งในด้านพลศึกษา กีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ
นันทนาการและสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการพัฒนาบุคลากรทางการกีฬา และ
ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ
วาระปฏิรูปที่ 20
ระบบวิจัยเพื่อเป็น
โครงสร้างพื้นฐาน
ทางปัญญาของ
ประเทศ
1. การปรับระบบบริหารจัดการ
- ปรับการบริหารจัดการระบบวิจัยและในองค์กรวิจัยทุกระดับ
- สร้างเครือข่ายความร่วมมือในระบบวิจัยในทุกภาคส่วน
2. ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานของระบบวิจัย
- เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของระบบวิจัย
3. การผลิตและพัฒนากาลังคน (นักวิจัยและกาลังคนที่เกี่ยวข้องกับระบบวิจัย)
และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพ
- เพิ่มการผลิตนักวิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย (ปริมาณ)
- พัฒนาสมรรถนะของนักวิจัยและสร้างแรงจูงใจอาชีพนักวิจัย
4. สร้างสังคม ชุมชน องค์กรฐานความรู้
วาระปฏิรูปที่ 21
ระบบวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และ
การพัฒนาและบริหารจัดการกาลังคน
1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากร วทน. ของภาครัฐ สามารถไปทางานใน
ภาคเอกชน (Talent mobility) เพื่อเพิ่มความสามารถทางเทคโนโลยีและ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 24-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
นวัตกรรม เพื่อเป็น
โครงสร้างพื้นฐาน
นวัตกรรมของ
ประเทศ
นวัตกรรมให้กับภาคเอกชน ตลอดจนพัฒนากลไกดึงดูดบุคลากรผู้มีความสามารถ
ด้าน วทน. จากต่างประเทศให้เข้ามาช่วยทางานในสาขาที่ขาดแคลนของไทย
2. พัฒนากาลังคนด้าน STEM workforce (Science, Technology, Engineering
andMathematics)และWorkingAdultEducation(WAE) พัฒนาและขยายผล
WorkintegratedLearning(WIL)รวมทั้งการพัฒนาทักษะความคิดเชิงสร้างสรรค์
(Creative thinking)
3. ส่งเสริมการพัฒนากาลังคนทางเทคนิคและเทคโนโลยี (อาชีวศึกษา) เพื่อสร้าง
แรงงานที่ มีทักษะ
4. ปรับโครงสร้างเส้นทางอาชีพให้กับบุคลากร วทน.
วาระปฏิรูปที่ 25 :
ระบบการบริหาร
จัดการทรัพยากร :
การจัดการคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมใน
สถานศึกษาต่ากว่า
ระดับอุดมศึกษา
ระยะต้น คือ การจัดการด้านกายภาพ โดยสนับสนุนให้สถานศึกษามีสิ่งต่างๆ
ต่อไปนี้อย่างเพียงพอที่จะเอื้ออานวยให้เยาวชนมีความสุขระหว่างการใช้ชีวิต
ในสถานศึกษา ได้แก่สถานที่และบริเวณอาคารเรียน การระบายอากาศและแสงสว่าง
การจัดห้องเรียนและอาคารเฉพาะกิจ น้าดื่มน้าใช้ ห้องสุขาและที่ปัสสาวะ
การจัดการมูลฝอย การบาบัดน้าเสี ย การควบคุมปูองกันสัตว์และแมลงนา โรค
การรักษาความปลอดภัย การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา
ระยะกลาง คือ การจัดการด้านการเรียนรู้ โดยสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็น
ศูนย์กลางของการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชนใกล้สถานศึกษา ผ่านอุปกรณ์
ลดมลพิษ ต่างๆ เช่น ระบบบา บัดน้าเสียโรงเรียน บ่อดักไขมัน อุปกรณ์ผลิต
ก๊าซชีวภาพจากเศษอาหารจากโรงอาหาร เป็นต้น ชุมชนใกล้เคียงสามารถเรียนรู้
และผลิตขึ้นใช้เองในครอบครัว เป็นการช่วยรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชน
ไปด้วยการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา
ระยะยาว คือการจัดท่าโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) ซึ่งจะเกิดผลดี
อย่างยั่งยืนเพราะเป็นการปฏิรูปจิตสานึกของเยาวชนเป็นหลัก การจัดทา โรงเรียน
สิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) เกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางาน
สิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
เพื่อปลูกฝังความเป็น “พลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อม ” (Environmental Citizen)
โดยนาขบวนการของโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) มาใช้ในสถานศึกษา
อย่างจริงจัง มีการให้รางวัลสถานศึกษาที่จัดทา โรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา
(Eco-school) สาเร็จ ขณะเดียวกัน บุคลากรที่ร่วมกันทาโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา
(Eco-school) จนสาเร็จต้องได้รับการปูนบาเหน็จ ความดีความชอบด้วย
วาระปฏิรูปที่ 26
การจัดการภัยพิบัติ
ตามธรรมชาติภาวะ
โลกร้อน
5.1.2 สร้างยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
มีเปูาหมายการปฏิรูปให้เมืองไทยในอนาคตเป็นสังคมคาร์บอนต่า ทั้งในเขตเมือง
และชนบท ด้วยมาตรการ และยุทธศาสตร์ คือ
 ยุทธศาสตร์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน
- การสร้างความตระหนักรู้เรื่องก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบอันเกิดจาก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประเทศไทยในอนาคต ให้ประชาชนทั่วไปทราบ
และโดยเฉพาะเยาวชน ให้บรรจุเสริมในหลักสูตรการเรียนการสอน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 25-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
วาระปฏิรูปที่ 30
การปฏิรูประบบเพื่อ
รองรับสังคมสูงวัย
1. มาตรการส่งเสริมวางแผนชีวิตครอบครัวซึ่งเป็นมาตรการการพัฒนาทักษะใน
การวางแผนชีวิตของบุคคลและครอบครัว เป็นการกระบวนการวางแผนทั้งชีวิต
ผ่านการอบรมกล่อมเกลา ทางสังคมและการสั่งสมทุนมนุษย์เพื่อให้ประชากรไทย
มีคุณภาพ และมีครอบครัวที่มั่นคง
1.1 การให้ความรู้ด้านชีวิตครอบครัวศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและการ
วางแผน ชีวิตตนเองและครอบครัวตั้งแต่วัยเด็กเพื่อปูองกันการเป็นพ่อแม่ก่อนวัย
อันควรปูองกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไ ม่พร้อมหรือไม่พึงประสงค์การส่งเสริม
บทบาทของชายและหญิงในการร่วมสร้างร่วมดูแลสมาชิกในครอบครัว การไม่ใช้
ความรุนแรงในครอบครัว และการสร้างความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นของ
ครอบครัวและที่สาคัญ คือ การเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ให้พร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีและ
ผู้สูงอายุอย่างมีคุณค่าและอยู่ดีมีสุขในวันข้างหน้าเนื่องจากการปรับแก้หลักสูตรจะใช้
เวลาค่อนข้างมาก แนวทางหนึ่งที่จะทาได้ทันทีคือการสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตร
ลูกเสือ เนตรนารีและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ของโรงเรียน
1.4 ปฏิรูประบบการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อลดช่องว่าง
ทางการศึกษาและเทคโนโลยีระหว่างสมาชิกต่างวัยในครอบครัว และเพื่อเพิ่ม
คุณค่าและศักยภาพของผู้สูงอายุ ในการแบ่งเบาภาระของครอบครัว มีส่วนร่วมใน
การทางานเชิงเศรษฐกิจ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และสังคม รูปแบบการ
เรียนรู้นี้ควรมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องครอบครัวศึกษาของ
ผู้สูงอายุ ร่วมกับประชากรในวัยเด็กและวัยทางาน การเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้
หรือทักษะตามอัธยาศัยหรือตามความต้องการของผู้สูงอายุ การเรียนรู้เพื่อเพิ่ม
โอกาสในการประกอบอาชีพ การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สู งอายุ และ
สมาชิกในครอบครัว การเรียนรู้เพื่อสร้างสัมพันธภาพในหมู่ผู้สูงอายุ เป็นต้น โดย
การจัดการศึกษาให้แก่ ผู้สูงอายุนี้ควรอาศัยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาในพื้นที่
องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจน
สื่อต่าง ๆ
2. มาตรการส่งเสริมศักยภาพครอบครัว
2.1.7 การกระจายการศึกษาที่มีคุณภาพในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และ
อุดมศึกษา ไปสู่ภูมิภาคให้ทั่วถึง เพื่อลดการย้ายถิ่นของประชากรวัยหนุ่มสาวและ
วัยแรงงานเพื่อเข้ามาศึกษาต่อ หรือแสวงหางานทา และลดปัญหาความแตกแยก
ของครอบครัวเนื่องจากการย้ายถิ่น
4. มาตรการเพิ่มคุณค่าผู้สูงอายุ เพื่อสร้างคุณค่าประชากรทุกวัยและสั่งสมคุณค่า
อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็ก
4.1 ปรับเปลี่ยนมุมมองของสังคมว่าผู้สูงอายุเป็นพลังไม่ใช่ภาระ โดยสอดแทรก
ในเนื้อหาหรือ กิจกรรมทางการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน นอกโรงเรี ยน
และตามอัธยาศัย
4.2 เพิ่มบทบาทสื่อสาธารณะกับการสร้างเสริมคุณค่าผู้สูงอายุ สื่อควรมีบทบาท
ในการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ และให้สื่อเป็น
ช่องทางในการสร้างคุณค่าของผู้สูงอายุนาเสนอภาพลักษณ์ผู้สูงอายุในเชิงบวก
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 26-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
ปรับเปลี่ยนและรณ รงค์ให้สมาชิกของสังคมในวัยอื่นมีทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ
รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างวัยที่ดี
4.3 พัฒนากลไกที่จะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุเป็นพฤฒิพลังอย่างแท้จริง
เช่น โอกาสในการทางาน เชิงเศรษฐกิจ โอกาสในการเผยแพร่ภูมิปัญญา
4.4 เพิ่มโอกาสของผู้สูงอายุในการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
สารสนเทศ (IT) เพื่อ ลดช่องว่างระหว่างวัย
วาระปฏิรูปที่ 36
ส่งเสริมความเข้มแข็ง
ของสถาบันศาสนา
เพื่อให้เป็นสถาบัน
หลักของสังคม
4. การนาหลักศาสนาธรรมมาปฏิบัติในชีวิตประจาวัน ทั้งระดับบุคคลและองค์กร
เพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
4.1 ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างครอบครัว โรงเรียน สถานที่ทางาน
ชุมชน และสังคม นาหลักศาสนธรรม คุณธรรม ประเพณีและวัฒนธรรมไทยอันดี
งามมาปฏิบัติในชีวิตประจาวันและในการทางานอย่างจริงจัง
4.4 มีการจัดสรรพื้นที่สาหรับการศึกษาเรียนรู้ และประกอบพิธีทางศาสนา
ต่าง ๆ ในสถานศึกษา หน่วยงาน และสถานประกอบการ
5. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา
5.3 ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างศาสนาและสร้างความร่วมมือเพื่อแ ก้ไขปัญหาที่
สาคัญร่วมกันอย่างจริงจัง
5.5 ส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์รวมในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ระหว่างศาสนาในภูมิภาคอาเซียน
6. การพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาในการบูรณาการหลักศาสนธรรมในการจัด
การศึกษาทุกระดับ
6.1 ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดคณะทางานพัฒนาศักยภ าพสถานศึกษาใน
การบูรณาการหลักศาสนธรรมในการจัดการศึกษาทุกระดับ
6.2 พัฒนาระบบการผลิตครู การต่อใบประกอบวิชาชีพครู การเลื่อนวิทยฐานะ
ให้มีเกณฑ์ มาตรฐานด้านศีลธรรม และการสอนหลักศาสนธรรมแบบบูรณาการ
6.3 ส่งเสริมและผลักดันให้สถานศึกษาทุกแห่งมีหลักสูตร และจัดการเรียนการสอน
ที่เน้นการนาหลักศาสนธรรมมาปฏิบัติจริงในชีวิตประจาวัน เพื่อการสร้างนิสัยดี
พื้นฐาน หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึง
ระดับอุดมศึกษา
6.4 ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการบวชเรียนตามหลักสูตรของคณะสงฆ์
วาระปฏิรูปที่ 37
ปฏิรูปการแรงงาน
การนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพมาร่วมในการขับเคลื่อนระบบการศึกษาและ
ระบบการพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างบูรณาการ รวมทั้งการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับ
หน่วยงานอื่น ๆที่เกี่ยวข้องในการใช้กาลังคน ด้วยการออกกฎหมาย พระราชบัญญัติบูรณาการ
การพัฒนากาลังคนและฝีมือ แรงงานแห่งชาติภายใต้การ กากับของนายกรัฐมนตรี
โดยตรง โดยสาระสาคัญของกฎหมายกาหนดให้มีคณะกรรมการระดับชาติเรียกว่า
คณะกรรมการบูรณาการการพัฒนากาลังคนและฝีมือแรงงานแห่งชาติ
8 วาระพัฒนา
วาระพัฒนาที่ 1
พัฒนาด้าน
2.4 สนับสนุน ส่งเสริมความเข้มแข็งของผู้ประกอบการโดยการประสานงานอย่าง
ใกล้ชิดกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีการพัฒนาทักษะที่จาเป็น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 27-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
การท่องเที่ยว ให้แก่บุคลากรทุกภาคส่วน ได้แก่ ทักษะด้านภาษา ทักษะในการบริหารธุรกิจ และ
กากับให้ผู้ประกอบการมีการดาเนินการอย่างมีธรรมาภิบา ล และปฏิบัติตามข้อ
กฎหมายอย่างเคร่งครัดมีการเสียภาษีประกอบการตามที่เป็นจริงและเชื่อมโยงกับ
ฐานข้อมูลผู้ประกอบการ
วาระพัฒนาที่ 2
แผนการพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐาน
และโลจิสติกส์
9. กาหนดเปูาหมายและหลักสูตรพัฒนาความรู้ทางโลจิสติกส์แก่ผู้ใช้บริการและ
ประชาชนส่งบุคลากร คุณภาพและปริมาณเพียงพอต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์
ระยะเวลาดาเนินการ ปี 2560-2562
วาระพัฒนาที่ 4
ระบบค่านิยม
คุณธรรม จริยธรรม
เพื่อความเป็น
พลเมืองที่ดีและ
มนุษย์ที่สมบูรณ์
1. ระบบ/หลักสูตร
1.1 ปฏิรูประบบการศึกษา ทั้งระบบความคิดเกี่ยวกับการศึกษาและระบบการ
จัดการเรียนการสอน ความหมายของการศึกษาที่แท้จริง ระบบการศึกษาที่ไม่ได้
เน้นเฉพาะการสอบ และการแข่งขันเท่านั้น แต่ต้องมุ่งในการพัฒนาระบบค่านิยม
คุณธรรมและจริยธรรม สร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อค่านิยม คุณธรรมและ
จริยธรรม และต้องนาไปสู่วิถีปฏิบัติให้ได้ การปรับปรุง/ปฏิรูปหลักสูตร เพื่อสอน
คุณธรรมจริยธรรม เช่น การสอนประวัติศาสตร์ การเรียนรู้ประสบการณ์บทเรียน
จากอดีตการเรียนรู้ประวัติของผู้ที่ทาประโยชน์ให้บ้านเมือง (Local heroes)
การประกวดการเขียนตาราประวัติศาสตร์
1.2 การให้ความสาคัญต่อการสร้างและถ่ายทอดค่านิยมที่พึงประสงค์หลัก
(Core values) ในระบบการศึกษา (เช่น ความเอาจริงเอาจัง ไม่ฉาบฉวย )
สอนอย่างจริงจังไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบ (ปักธง ลงลึก) – การจัดให้มี (Liberal Arts
Education) เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ซึมซับสุนทรียภาพและความเป็นมนุษย์อย่าง
สมบูรณ์ การรู้จักผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดเกินไป ซึ่งจะเป็นการรักษาสมดุลของชีวิต
และจรรโลงสังคมให้น่าอยู่และสมบูรณ์อย่างแท้จริง โดยให้ผู้ศึกษามีโลกทัศน์ที่เปิดกว้าง
เรียนรู้ถึงความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่รอบรู้และมีความสมดุล
ทางอารมณ์และจิตใจด้วยการเชื่อมโยงกิจกรรมในหลักสูตรและกิจกรรมนอก
หลักสูตร เช่น ให้เด็กไปดูแลผู้สูงอายุ สร้างบ้านให้คนจน ทากิจกรรมบาเพ็ญ
ประโยชน์กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี - ยุวกาชาด ทั้งนี้จะทาให้เด็กเข้าใจสังคม
มีจิตใจเอื้ออารีต่อผู้อื่น เข้าใจความแตกต่างหลากหลายของ สังคม และรู้จักลงมือ
ปฏิบัติจริงเพื่อช่วยสังคม - การปรับปรุงวิธีการประเมินผลงานของครูและโรงเรียน
โดยคานึงถึงเปูาหมายของการศึกษา อย่างแท้จริงและวัดผลที่ตรงจุด เช่น
การวัดผลครูควรอยู่ที่การสอนให้เด็กรู้จักคิดและได้พัฒนาตนเอง การนา ค่านิยม
ที่พึงประสงค์มาใช้ในการวัดผลการเรียนด้วย โดยไม่ได้วัดด้านความรู้เท่านั้นและ
ต้องวัดถึงพฤติกรรม นิสัย และจิตสานึก
1.3 การส่งเสริม การให้การย อมรับ และการให้คุณค่าแก่คนที่ทา ดี มีค่านิยม
ที่พึงประสงค์ และมีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อสร้างบรรยากาศและแรงจูงใจในการ
ทาความดีประเด็นนี้ มีความสาคัญยิ่ง เพราะจะสร้างรากฐานของการยอมรับ
ส่งเสริม และยกย่องการทาความดี และคนดี ซึ่งจาเป็นยิ่งต่อการปรับเปลี่ยน
สังคมไทยที่อ่อนแอทางด้านคุณธรรมและจริยธรรม
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 28-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
2. กระบวนการเรียนรู้
2.1 กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน การได้ฝึกปฏิบัติและซึมซับผ่าน
ประสบการณ์เป็นกระบวนการสอนที่ให้เด็กได้รู้ได้คิด โดยไม่ใช่ใช้การท่องจาหรือ
บังคับ โดยเฉพาะให้มีการพิจารณา ทบทวนการกระทาของตนเองในเชิงจริยธรรม
จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างคนและพลเมืองที่ดี
2.2 การสอนที่ไม่เน้นชั่วโมงการสอน /รายหัวข้อของวิชาแต่เปิดพื้นที่ให้นักเรียน
ได้เรียนรู้ เพราะการเรียนรู้ของเด็กสามารถทาได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะใน
ห้องเรียนเท่านั้น การสอนให้เด็กรู้จักเรียนรู้และใฝุหาความรู้ด้วยตนเองจึงเป็นการ
สาคัญกว่าการที่ค รูเป็นฝุายให้ความรู้เพียงทางเดียว เช่น การรวมกลุ่มกัน
แลกเปลี่ยนเพื่อตรวจสอบและพัฒนาตนเอง การรวมกลุ่มเพื่อเล่าสถานการณ์ใน
บ้านเมือง เป็นต้น
2.3 การสอนโดยใช้กิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจาวัน กิจกรรมทาเป็นประจา
ต้องบูรณาการ ลงในพฤติกรรมในทุกขั้นตอนทุกเวลาของผู้เรียน และกิจกรรมการ
เรียนรู้อื่น ๆ เช่น การบูรณาการ กับสถาบันศาสนา เป็นต้น - การกระตุ้นให้เด็ก/
นักเรียน ได้คิดและตั้งคาถาม เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม เพื่อกระตุ้น กระบวนการคิด
ของเด็ก เกิดความคิดสร้างสรรค์ และการต่อยอดทางความ คิด กระบวน การสอน
ต้องส่งเสริมและไม่ปิดกั้นความคิดของเด็ก เด็กได้คิดได้ตั้งคาถาม ได้ตอบโจทย์
ได้หาคาตอบเอง เป็นการประเทืองปัญญาของเด็กได้ดียิ่ง
3. ครูผู้สอน
3.1 ครูผู้สอน เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของการเรียน รู้จักประยุกต์เพื่อถ่ายทอด
บทเรียนและถ่ายทอดค่านิยมที่ถูกต้อง รวมถึงการสอนในวิชาต่าง ๆ ที่ครูต้องเข้าใจ
และตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของวิชานั้น ไม่ใช่สอนตามตัวอักษร ครูต้องสามารถ
บูรณาการค่านิยมที่พึงประสงค์ไปในการสอนวิชาต่าง ๆ และวิถีชีวิตประจาวันได้ -
การทดสอบทัศนคติ/คุณลักษณะของผู้จะมาเป็นครูนั่นคือต้องมีความเป็นครู หรือ
อุดมการณ์ ความเป็นครู เพราะครูเป็นผู้ที่มีความสาคัญที่สุดในการหล่อหลอม
นักเรียน จึงต้องคัดสรรคนที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง รักในการสอนและทุ่มเทให้กับ
นักเรียนอย่างแท้จริง - การปรับทัศนคติ/ปลุกจิตสานึกและจิตวิญญาณความเป็นครู
ให้เข้าใจถึงบทบาทในการปลูกฝัง ค่านิยม บ่มเพาะความเป็นครู - การจัดให้มี
หลักสูตรอบรมครูผู้สอนเพื่อให้ถ่ายทอดคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างร่วมสมัย และมี
ประสิทธิภาพ - การส่งเสริม สร้างแรงจูงใจและให้กาลังใจครูที่มีผลงานดีเด่นด้าน
การสอนคุณธรรม จริยธรรม ๕๗ – มาตรการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นครูซึ่งต้องทา
ให้ครูเกิดความภาคภูมิใจและรักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีของตนเอง โดยการปฏิบัติ
หน้าที่ให้สมกับความเป็นครูในฐานะ “แม่พิมพ์ ของชาติ”
4. นักเรียน
4.1 กลไกการสร้างแรงจูงใจแก่นักเรียนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม เช่น การเรียนต่อ
การจบการศึกษา โดยนาค่านิยมที่พึงประสงค์มาเป็นส่วนหนึ่งของการคัดเลือก
เป็นต้น
4.2 การเรียนรู้ของนักเรียนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการมีค่านิยมที่ดี เช่น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 29-
วาระการปฏิรูป/
วาระการพัฒนา
ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา
การใช้วิธีการ “การบ้านห้าข้อ” ของประเทศเวียดนาม เป็นต้น
4.3 ส่งเสริมการสร้าง Intellectual curiosity เช่น การสร้างสถานการณ์จาลอง
หรือให้เด็ก เรียนรู้จากกรณีศึกษา หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม ในชุมชน โดยอาจ
เป็นหัวข้อข่าว หรือการส่งเสริมให้เด็กเข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม โดยการ
เข้าไปทากิจกรรมและเรียนรู้จากชุมชน เป็นต้น
วาระพัฒนาที่ 5
การพัฒนาเศรษฐกิจ
ดิจิทัล
5.5 การพัฒนาองค์ความรู้และสังคมดิจิทัล (Digital Knowledge and Society)
5.5.1 พัฒนาบุคลากรเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล
5.5.2 สร้างความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลระหว่างภาครัฐ เอกชนและ
วิชาการ
วาระพัฒนาที่ 6
การเป็นศูนย์กลาง
อาเซียน (ASEAN
Hub)
5. ปรับโครงสร้างการบริหารความร่วมมือในอาเซียน
วาระพัฒนาที่ 8
การปฏิรูประบบ
ข้อมูลเพื่อการ
พัฒนาประเทศ
การบูรณาการข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ
4. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ดา ว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ได้กาหนดยุทธศาสตร์
ตามกรอบปฏิรูปการศึกษา ให้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
วิสัยทัศน์
ยกระดับคุณภาพการศึกษาที่ดี มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และลดความเหลื่อมล้าอย่างทั่วถึง
ผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการและรองรับการพัฒนาประเทศ
พันธกิจ
1. ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ
2. เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค
3. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
ประเด็นยุทธศาสตร์
1. ผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการและรองรับการพัฒนาประเทศ
2. หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
3. ระบบงบประมาณและทรัพยากรเพื่อการศึกษา
4. ระบบตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษา
5. ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
6. พัฒนาระบบการผลิต การสรรหา และการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 30-
7. ระบบการบริหารจัดการ
8. สร้างโอกาสทางการศึกษา
9. พัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
10. การวิจัยเพื่อพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เปูาประสงค์
 กาลังคนมีคุณภาพและมาตรฐาน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ
 ผู้เรียนและผู้สาเร็จการศึกษาอาชีวศึกษา มีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดแรงงาน
ตามกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ
 การจัดการอาชีวศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานสากล
 ผู้เรียนจบแล้วมีงานทา
 ผู้เรียนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มาตรฐาน
 ผู้เรียนและประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะ และพัฒนาการเหมาะสมตามวัยสามารถ
แสวงหาความรู้ได้ สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน
 นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีค่านิยมที่ถูกต้อง
ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และมีภูมิคุ้มกัน ปลอดภัยจากยาเสพติด
 สถานศึกษาได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม สอดคล้องกับนโยบาย
การผลิตและพัฒนากาลังคน
 สถานศึกษามีการเบิกจ่าย งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้
 ผู้เรียนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน
 ระบบและกลไกการประเมินคุณภาพการศึกษามีประสิทธิภาพ
 สถานศึกษาทุกระดับทุกประเภทผ่านการรับรองมาตรฐานทางการศึกษา
 หน่วยงานมีระบบสื่อสารและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันสมัย
 ระบบ ICT มีการบูรณาการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก
อย่างครอบคลุม มีคุณภาพ รวดเร็วและทั่วถึง
 นาระบบ ICT เข้ามาใช้จัดการเรียนรู้และบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม และกว้างขวาง
 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทาแผนการผลิต การสรรหา และการพัฒนาครูและบุคลากร
ทางการศึกษา
 ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ
เพื่อยกระดับการประกอบวิชาชีพตามระดับคุณภาพของมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ
 ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพและจรรยาบรรณของวิชาชีพสอดคล้องกับความต้องการ
ของสถานศึกษาและท้องถิ่น
 หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
 มีกลไกการบริหารและการประสานงานการจัดการศึกษาส่วนกลางและในพื้นที่อย่างมี
ประสิทธิภาพ
 มีนโยบาย แผน มาตรฐานและการติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาที่หน่วยงานปฏิบัติ
สามารถนาไปบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 31-
 ประชากรทุกกลุ่มทุกวัยได้รับโอกาสในการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง
และเป็นธรรม
 ประชากรวัยเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค
 ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต
 ครูมีความปลอดภัย มีขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน
 การบริหารจัดการเงินอุดหนุนการศึกษาเป็นไปด้วยความถูกต้อง
 มีหน่วยงานรับผิดชอบขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม
 ได้งานวิจัยที่นาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์
 งานวิจัยและบริการวิชาการตอบสนองต่อโจทย์ปัญหาหรือความต้องการของชุมขน ท้องถิ่น
และประเทศ
 มีนวัตกรรม องค์ความรู้ และฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการ
บริการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
5. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 - 2559)
แนวคิดและทิศทางการพัฒนาประเทศของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
(พ.ศ.2555 -2559) ยึดหลักการปฏิบัติตาม “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ
แนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวมที่มี “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ” มีการเชื่อมโยงทุกมิติของการ
พัฒนาอย่างบูรณาการ ทั้งมิติตัวคน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการเมือง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้พร้อมเผชิญ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้ นทั้งในระดับปัจเจก ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ให้ความสาคัญกับการมี
ส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมในกระบวนการพัฒนาประเทศ ทิศทางการบริหารจัดการประเทศเพื่อรองรับการ
เปลี่ยนแปลง ให้ความสาคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศที่เน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ฐานการ
ผลิตภาคเกษตรและการประกอบการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปรับตัวในการเชื่อมโยงกับระบบ
เศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ เพื่อสามารถใช้โอกาสที่เกิดขึ้นและเพิ่มภูมิคุ้มกันของทุน
ที่มีอยู่ในสังคมไทยได้อย่างเหมาะสมพร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคมเศ รษฐกิจอาเซียน สร้างความพร้อมสาหรับ
เชื่อมโยงด้านกายภาพทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพคน การเสริมสร้าง
องค์ความรู้ การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมไทย
การกาหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันใน
มิติต่างๆ เพื่อให้การพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน โดยนาทุนของประเทศที่มีศักยภาพมาใช้ประโยชน์
อย่างบูรณาการและเกื้อกูลกัน พร้อมทั้งเสริมสร้างให้แข็งแกร่งเพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาประเ ทศที่สาคัญ เช่น
การเสริมสร้างทุนสังคม (ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนทางวัฒนธรรม ) ให้ความสาคัญกับการพัฒนาคนและสังคมไทยสู่
สังคมคุณภาพ มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่ระดับปัจเจก ครอบครัว และชุมชน สามารถจัดการความเสี่ยงและปรับตัว
เข้ากับการเปลี่ยนแปลง มีโอกาสเข้าถึงทรัพยา กรและได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่าง
เป็นธรรม ส่วนการเสริมสร้างทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสาคัญกับการสร้างความมั่นคง
ด้านอาหาร การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นฐานการผลิตภาคเกษตรมุ่งสู่การเป็น
เศรษฐกิจและสังคม คาร์บอนต่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีการบริหารจัดการประเทศเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งให้
ความสาคัญกับการพัฒนาระบบราชการและข้าราชการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพิ่มประสิทธิภาพการกระจ าย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 32-
อานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาระบบและกลไกการปูองกันและปราบปรามการทุจริตและ
ประพฤติมิชอบอย่างมีส่วนร่วม สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรควบคู่ไปกับปลูกจิตสานึกค่านิยม
ประชาธิปไตย และธรรมาภิบาลแก่ประชาชนทุกกลุ่ม
วิสัยทัศน์
สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยความเสมอภาคเป็นธรรมและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง
พันธกิจ
พัฒนาคุณภาพคนไทยให้มีคุณธรรมเรียนรู้ตลอดชีวิตมีทักษะและการดารงชีวิตอย่างเหมาะสม
ในแต่ละช่วงวัย สถาบันทางสังคมและชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวรู้เท่าทั นกับการเปลี่ยนแปลง
พัฒนาฐานการผลิตและบริการให้เข้มแข็งและมีคุณภาพบนฐานความรู้ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญา สร้าง
ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ปรับโครงสร้างการผลิตและการบริโภคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้าง
ความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคง ทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรองรับผลกระทบจาก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เปูาหมายหลัก
ความอยู่เย็นเป็นสุขและความสงบสุขของสังคมไทยเพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้าในสังคมลดลง สัดส่วนผู้อยู่
ใต้เส้นความยากจนลดลง และดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชั่นไม่ต่ากว่า 5.0 คะแนน คนไทยมีการเรียนรู้อย่าง
ต่อเนื่องมีสุขภาวะดีขึ้น มีคุณธรรม จริยธรรม และสถาบันทางสังคมมีความเข้มแข็งมากขึ้น เศรษฐกิจเติบโตใน
อัตราที่เหมาะสมตามศักยภาพของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทาง เศรษฐกิจของประเทศ
เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศให้มีไม่ต่ากว่าร้อยละ40
ตัวชี้วัด จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทย ผู้เรียนทุกระดับการศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม สัดส่วนประชากรที่
เข้าถึงโครงข่ายคมนาคมและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จานวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา อัตราการปุวยด้วย
โรคไม่ติดต่อ และดัชนีความอบอุ่นของครอบครัว
ยุทธศาสตร์การพัฒนา
1. ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้ความสาคัญกับการสานสร้างความสัมพันธ์ของ
คนในสังคมให้มีคุณค่าร่วมและตระหนักถึงผลประโยชน์ของสังคม และเสริมสร้างการบริหารราชการแผ่นดินที่มี
ประสิทธิภาพโปร่งใส มีระบบตรวจสอบและการรับผิดชอบที่รัดกุม โดยสร้างค่านิยมใหม่ที่ยอมรับร่วมกันบนฐาน
ของความไว้เนื้อเชื่อใจและเกื้อกูลกันในสังคม ส่งเสริมวัฒนธรรมการเมื องที่มีธรรมาภิบาลนาไปสู่การเป็น
ประชาธิปไตยที่ถูกต้องและเหมาะสม เสริมสร้างระบบบริหารราชการให้เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ พัฒนาข้าราชการ
ให้มีคุณภาพสูงมีคุณธรรม จริยธรรมทางอาชีพ และมีความรับผิดรับชอบปฏิรูปการเมืองไทยทั้งระบบให้เป็น
ประชาธิปไตยของมวลชน รวมทั้งสนับสนุนการใช้สื่อเพื่อสังคมทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นและสังคมออนไลน์
ให้เป็นพลังหนุนเสริมการพัฒนา
2. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ให้ความสาคัญกับ
การพัฒนาคุณภาพคนไทยให้มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพคนไทยทุ กช่วงวัย สอดแทรก
การพัฒนาคนด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างวัฒนธรรมการเกื้อกูล พัฒนาทักษะให้คนมีการเรียนรู้ต่อเนื่อง
ตลอดชีวิต ต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากการฝึกฝนเป็นความคิดสร้างสรรค์ ปลูกฝังการพร้อมรับฟังความ
คิดเห็นจากผู้อื่นและจิตใจที่มีคุณธรรม ซื่ อสัตย์ มีระเบียบวินัย พัฒนาคนด้วยการเรียนรู้ในศาสตร์วิทยาการให้
สามารถประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายสอดคล้องกับแนวโน้มการจ้างงานและเตรียมความพร้อมสู่ประชาคม
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 33-
เศรษฐกิจอาเซียน สร้างจิตสานึกให้คนไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพกฎหมายหลักสิทธิมนุษยชน สร้าง
ค่านิยมก ารผลิตและบริโภคที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เรียนรู้การรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสภาพ
ภูมิอากาศและภัยพิบัติ การส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างเป็นองค์รวมโดยสร้างเสริมสุขภาวะคนไทย
ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พัฒนาความรู้และทักษะในการ ดูแลสุขภาพของตนเองครอบครัว
ชุมชน การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งสร้างกระแสสังคมให้การเรียนรู้เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน มีนิสัยใฝุรู้
รักการอ่านตั้งแต่วัยเด็ก และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันของคนต่างวัยควบคู่กับการส่งเสริมให้องค์กร กลุ่มบุคคล
ชุมชน ประชาชน และสื่อทุกประเภทเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย รวมถึง
ส่งเสริมการศึกษาทางเลือกที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
และสนับสนุน ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเสริมสร้างความเข้ มแข็งของสถาบันทางสังคมให้เอื้อต่อ
การพัฒนาคน สร้างค่านิยมให้คนไทยภูมิใจในวัฒนธรรมไทยและยอมรับความแตกต่างของความหลากหลายทาง
วัฒนธรรมที่ลดปัญหาความขัดแย้งทางความคิด และสร้างความเป็นเอกภาพในสังคม สร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ทางวัฒนธรรมร่วมกับประชาคมโลกโดยเฉพาะประชาคมอาเซียนให้เกิดการไหลเวียนทางวัฒนธรรมในรูปแบบการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร
3. ยุทธศาสตร์ความเข้มแข็งภาคเกษตรความมั่นคงของอาหารและพลังงาน ให้ความสาคัญ
กับการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิต สนับสนุนการผลิตและบริการของชุมชนในการ
สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรอาหารและพลังงาน ส่งเสริมสถาบันการศึกษาในพื้นที่ให้ร่วมกันศึกษา วิจัย กับ
ภาคเอกชน สนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเท คโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม บนฐานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร การ
สร้างความมั่นคงในอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกร สร้างแรงจูงใจให้เยาวชน เกษตรกรรุ่นใหม่ และแรงงานที่มี
คุณภาพเข้าสู่อาชีพเกษตรกรรม พัฒนาสถาบันเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนให้เป็นกลไกสนับสนุนการพึ่งพาตนเอง
ของเกษตรกร การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานชีวภาพ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศและความเข้มแข็ง
ภาคเกษตร ด้วยการปลูกจิตสานึกในการใช้พลังงานชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
4. ยุทธศาสตร์การปรับโคร งสร้างเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
ให้ความสาคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพและยั่งยืน มุ่งการปรับโครงสร้าง
อุตสาหกรรมให้มีคุณภาพและยั่งยืน ด้วยการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์
สู่อุตสาหกรรมฐานความรู้เชิงสร้างสรรค์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย และ
นวัตกรรมให้เป็นพลังขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เน้นการนาความคิด
สร้างสรรค์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพย์สินทางปัญญา วิจัยและพัฒนาไปต่อยอด ถ่ายทอด และประยุกต์ใช้ประโยชน์ทั้ง
เชิงพาณิชย์ สังคม และชุมชน ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิจัยและนวัตกรรมให้
ทั่วถึงและเพียงพอ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพในลักษณะของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
5. ยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
และสังคม ให้ความสาคัญกับการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจ
ตามแนวพื้นที่ชายแดน /เขตเศรษฐกิจชายแดน ตลอดจนเชื่อมโยงระบบการผลิตกับพื้นที่ตอนในของประเ ทศ
การสร้างความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนที่มีศักยภาพ
ในการพัฒนาบุคลากรทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนให้มี
มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน กาหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคุณภาพสินค้า
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 34-
และบริการที่เป็นการปูองกันสินค้าและบริการนาเข้าที่ไม่ได้คุณภาพทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
การมีส่วนร่วมสาคัญในการสร้างสังคมนานาชาติที่มีคุณภาพชีวิต ปูองกันภัยจากการก่อการร้ายและอาชญากรรม
ยาเสพติด ภัยพิบัติ และการแพร่ระบาดของโรคภัย มุ่งพัฒนาศักยภาพและความพร้อมในการปูองกันและแก้ปัญหา
ข้ามชาติด้านการก่อการร้าย ยาเสพติด และการหลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบพัฒนาศักยภาพและความ ร่วมมือภายใน
ภูมิภาค เพื่อเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติและเหตุฉุกเฉิน และร่วมมือในการปูองกันการติดเชื้อและการแพร่
ระบาดของโรคอุบัติใหม่และโรคระบาดซ้า
6. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ให้ความสาคัญกับ
การยกระดับขีดความสามารถในการรองรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สังคม
มีภูมิคุ้มกัน มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ และเครื่องมือในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับกับความท้าทายจากการ
เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงพัฒนาศักยภาพชุมชนให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเตรียมความพร้อมรองรับกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยสนับสนุนภาคเอกชน สถานประกอบการ โรงเรียน
และท้องถิ่นให้มีการเตรียมความพร้อมและจัดทาแผนปฏิบัติการรองรับภัยพิบัติ
6. แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559)
แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559) เป็นแผนที่บูรณาการ ศาสนา ศิลปะ
วัฒนธรรมและกีฬา กับการศึกษาทุกระดับ เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ ของ
ประเทศ และเชื่อมโยงการพัฒนาการศึกษากับการพัฒนาด้านต่างๆ โดยคานึงถึงการพัฒนาการศึกษาอย่าง
ต่อเนื่องตลอดชีวิต และให้ความสาคัญทั้งการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ และกาหนดระยะเวลาในการดาเนินงาน ตามแผนฯ เป็น2 ระยะ
คือ ระยะแรก (พ.ศ.2552 – 2554) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 และระยะ
ที่สอง (พ.ศ. 2555 – 2559) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
โดยมีการกาหนดเปูาหมายการนาแผนสู่การปฏิบัติเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณไว้ดังนี้ เปูาหมาย
เชิงคุณภาพ : เมื่อสิ้นสุดแผนฯ ในปี 2559 การพัฒนาการศึกษาของประเทศบรรลุผลตามเปูาหมายที่กาหนดไว้
ดังนี้
1. คนไทยเป็นคนดี เก่ง มีความสุข มีความรู้เชิงวิชาการและสรรถนะทางวิ ชาชีพ มีคุณธรรม
จริยธรรม ใฝุเรียนรู้และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มีความสุข มีสุขภาพทั้งกายและใจที่สมบูรณ์ สามารถประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข
เพื่อเป็นเปูาหมายและฐานหลักของการพัฒนาประเทศ
2. สังคมไทยเป็นสังคมแห่งคุณธรรม ภูมิปัญญาและการเรียนรู้ มีการสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม
และเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการเรียนรู้ นาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืนมีสุขภาวะ ประชาชนอยู่
ร่วมกันอย่างสันติสุขและเอื้ออาทร ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ
3. สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออานวยต่อการพัฒนาคนอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน มีการนา
เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อการศึกษาและเรียนรู้ มีการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการกระจาย
อานาจสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่ และองค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่น มีการระดมทรัพยากรและความร่วมมือจาก
ทุกภาคส่วน รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคและกับนานาชาติมากขึ้น อันจะนาไปสู่ความสามารถในการร่วมมือและ
แข่งขันของประเทศ และการอยู่ร่วมกันกับพลโลกอย่างสันติสุข มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและเกื้อกูลกัน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 35-
เปูาหมายเชิงปริมาณของแผนการศึกษาแห่งชาติฯ
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระหลัก เกินกว่าร้อยละ 50
2. สถานศึกษาทุกโรงได้รับการรับรองมาตรฐาน จาก สมศ.
3. จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มสูงขึ้น จาก8.7 ปี ในปี2551 เป็น12ปี ในปี2559
4. เอกชนเข้ามาร่วมจัดการศึกษามากขึ้น โดยมีสัดส่วนผู้เรียนระหว่างรัฐ: เอกชน เป็น65 : 35
ในปี 2559
5. สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษามากขึ้น โดยมีสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษา : สามัญศึกษาในระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย เป็น 60 : 40 ในปี 2559
7. แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่11(พ.ศ.2555-2559) : ระยะครึ่งแผน
จากผลการศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์และข้อมูลสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการ
จัดการศึกษา และผลการพัฒนาการศึกษาที่ผ่านมาที่ได้กล่าวมาข้างต้น การพัฒนาการศึกษามีประเด็นสาคัญต้อง
เร่งพัฒนา ได้แก่ การปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภท การผลิตและพัฒนา
ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา การผลิตและพัฒนากาลังคนที่มีความรู้ สมรรถนะ และทักษะสอดคล้อง
กับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ การ สร้างโอกาสทาง
การศึกษาให้คนไทยทุกกลุ่มทุกวัยได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การพัฒนาศักยภาพคนไทยให้มีความพร้อม
สาหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมที่จาเป็นต่อ
การพัฒนาสังคม และประเทศ การพัฒนาการศึกษาเพื่ อความมั่นคงของประเทศ การพัฒนา ระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศเพื่อการศึกษา การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาลการปรับปรุง
แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ
วัตถุประสงค์ เปูาหมายหลัก ตัวชี้วัด และยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11
(พ.ศ. 2555-2559) : ระยะครึ่งแผน ดังนี้
วิสัยทัศน์
“คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก”
พันธกิจ
1) ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาสู่มาตรฐานสากล
2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม
3) พัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
ทุกภาคส่วน
วัตถุประสงค์
1) เพื่อพัฒนาคุณภาพคนไทยให้สามารถคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีคุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์ และทักษะที่จาเป็นสาหรับศตวรรษที่ 21
2) เพื่อผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และพร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3) เพื่อสร้างผลงานวิจัยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
4) เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 36-
5) เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล โดยการมี
ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
เปูาหมายหลัก
1) ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
2)อันดับผลการประเมินด้านการศึกษาของประเทศดีขึ้น(PISA,TIMSS,IMD,WorldUniversityRanking)
3) สถานศึกษาทุกระดับและทุกประเภทมีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐานทางการศึกษา
4) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษามีประสิทธิภาพ ทันสมัย เหมาะสม
สาหรับนาไปใช้ในการเรียนรู้และการบริหารจัดการการศึกษา
5) กาลังแรงงานมีคุณภาพ มีสมรรถนะและทักษะที่จาเป็นต่อการทางาน และมีปริมาณเพียง พอ
กับความต้องการของประเทศและการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
6) ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีคุณภาพ นาไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนา
สังคมและประเทศ
7) คนไทยทุกกลุ่มทุกวัยมีโอกาสได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง เป็นธรรม
8) ภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการจัดการศึกษา
ตัวชี้วัด
1) ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก
การทดสอบระดับชาติเพิ่มขึ้น
2) อันดับผลการประเมินด้านการศึกษาโดยองค์กรระหว่างประเทศดีขึ้น (PISA, TIMSS, IMD,
World University Ranking)
3) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ.
4) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
(E-Book, e-Learning)
5) ร้อยละของผู้สาเร็จการอาชีวศึกษาและการอุดมศึกษาที่เข้าสู่ตลาดแรงงานมีสมรรถนะเป็นที่
พึงพอใจของผู้ใช้
6) สัดส่วนผู้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษาต่อสามัญศึกษา
7) จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นาไปใช้ประโยชน์
8) จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทย
9) ร้อยละของกาลังแรงงานที่จบการศึกษาตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป
10) สัดส่วนผู้เรียนในสถานศึกษาของเอกชนต่อรัฐ
11) จานวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมจัดหรือสนับสนุนการศึกษา
8. กรอบการศึกษาเพื่อปวงชน (Education For All: EFA)
โครงการการศึกษาเพื่อปวงชนเริ่มขึ้นเมื่อปี พ .ศ. 2533 จากการประชุมระดับโลกเรื่องการศึกษา
เพื่อปวงชน (World Conference on Education for All) โดยที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ดังกล่าวขึ้นที่หาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี โดยการประชุมครั้งนั้นมีประเทศสมาชิกยูเนสโกทั้งหมด (ขณะนั้นมี
สมาชิกเพียง 155 ประเทศ ) เข้า ร่วมการประชุม พร้อมทั้งองค์กรพิเศษอื่นๆ ของสหประชาชาติ เช่น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 37-
ยูนิเซฟ ธนาคารโลก ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรองปฏิญญาจอมเทียน ซึ่งกาหนดเปูาหมายการศึกษาเพื่อปวงชนไว้
10 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2543 จานวน 6 ประการ คือ
1. ขยายการดูแลเด็กปฐมวัยและกิจกรรมเพื่อการพัฒนาอื่นๆ โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสและ
เด็กพิการ
2. ขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทั่วถึงภายในปี พ.ศ.2543
3. ปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนผ่านมาตรฐานขั้นต่าได้ในระดับที่สูงขึ้น
4. ลดอัตราการไม่รู้หนังสือของผู้ใหญ่ในปี พ.ศ.2543 ให้ได้ครึ่งหนึ่งของอัตราที่มีอยู่ในปี 2533
โดยเน้นการเรียนรู้ของเด็กหญิงและสตรี
5. ขยายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและการฝึกอบรมทักษะที่จาเป็นต่อการดารงชีพของเยาวชน
และผู้ใหญ่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสุขอนามัยและการงานอาชีพที่ดีขึ้น
6. เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และค่านิยม ที่จาเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและ
ครอบครัว ในหลากหลายรูปแบบและวิธีการ
ต่อมาในปี พ.ศ.2543 (ค.ศ. 2000) ซึ่งถือเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปี ของปฏิญญาจอมเทียน
องค์การยูเนสโกได้จัดประชุมเพื่อประเมินความคืบหน้าของประเทศสมาชิกอีกครั้งหนึ่งที่กรุงดาการ์ ประเทศ
เซเนกัล ผลปรากฏว่า ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่สามารถดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามที่กาหนดไว้ ดังนั้น
ที่ประชุมจึงได้ปรับเปูาหมายและขยายเวลาสาหรับการบรรลุการศึกษาเพื่อปวงชนใหม่ โดยกาหนดเปูาหมาย
ภายในปี พ.ศ.2558 ดังนี้
1. ขยายและปรับปรุงการศึกษาและการดูแลเด็กเล็กก่อนวัยเรียน โดยเฉพาะเด็กที่เปราะบางและ
ด้อยโอกาส
2. จัดให้เด็กทั้งหมด โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เด็กที่อยู่ในสภาวะยากลาบาก และเด็กที่เป็นกลุ่มน้อย
ทางเชื้อชาติ สามารถเข้าถึงและเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาภาคบังคับที่มีคุณภาพ ภายในปี พ .ศ.2558
(ค.ศ. 2015)
3. จัดการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ของเยาวชนและผู้ใหญ่ทั้งหมดผ่านโครงการ
ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน
4. พัฒนาอัตราการรู้หนังสือของผู้ใหญ่ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015)
โดยเฉพาะสตรี และการพัฒนาการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานและต่อเนื่องสาหรับผู้ใหญ่ทั้งหมดให้เท่าเทียมกัน
5. ขจัดความเหลื่อมล้าทางเพศในการศึกษาระดับประถมและมัธยมภายในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005)
และทาให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศในการศึกษาภายในปี พ .ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) โดยเน้นการเข้าถึงของ
เด็กผู้หญิงและทาให้เกิดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ
6. พัฒนาคุณภาพการศึกษาในทุกด้านและรับรองความเป็นเลิศทั้งหมด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทาง
การเรียนรู้ที่ชัดเจนและสามารถวัดได้ โดยเฉพาะในเรื่องการรู้หนังสือ การคานวณตัวเลขและทักษะที่จาเป็น
ต่อชีวิต
9. ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณพ .ศ. 2559 เพื่อให้หน่วยงานของ
รัฐนาไปใช้เป็นแนวทางในการกาหนดลาดับความสาคัญของภารกิจหน่วยงานและใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรร
งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลและเป็นการวางรากฐาน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 38-
เพื่อรองรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในระยะยาวต่อไปยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประม าณรายจ่ายประจาปี
งบประมาณ พ.ศ. 2559 ได้กาหนดไว้ 8 ยุทธศาสตร์และ 1 รายการ คือ
1. ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
2. ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ
3. ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
4. ยุทธศาสตร์การศึกษาสาธารณสุขคุณธรรมจริยธรรมและคุณภาพชีวิต
5. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
6. ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการวิจัยและนวัตกรรม
7. ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
8. ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
9. รายการค่าดาเนินการภาครัฐ
โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนที่เกี่ยวข้อง รวม 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1
ยุทธศาสตร์การเร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์การศึกษา
สาธารณสุขคุณธรรมจริยธรรมและคุณภาพชีวิต และยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีการวิจัยและนวัตกรรม
10. การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
รัฐบาลให้ความสาคัญกับการบูรณาการงบประมาณ เพื่อให้การดาเนินงานของกระทรวงและ
หน่วยงานมีความเชื่อมโยง สอดคล้อง สนับสนุนซึ่งกันและกัน และนาไ ปสู่วัตถุประสงค์ เปูาหมายในทิศทาง
เดียวกัน โดยมุ่งเน้นจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โ ดยคานึงถึงหลักประหยัด ความคุ้มค่ า เพื่อให้
เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557
เห็นชอบแนวทางการจัดทางบปร ะมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 โดย
กาหนดให้มีการจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้
เห็นชอบแผนงานบูรณาการรวม 19 เรื่อง ประกอบด้วย
1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
2. การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
3. การพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ
4. การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
5. การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
6. การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์
7. การบริหารจัดการทรัพยากรน้า
8. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา
9. การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ
10. การสร้างความปรองดองและสมานฉันท์
11. การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต
12. การปูองกันปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
13. การฟื้นฟูปูองกัน และจัดการภัยพิบัติ
14. การบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 39-
15. การปูองกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
16. การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
17. การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและแก้ไขปัญหาที่ดินทากิน
18. การจัดระเบียบการค้าในพื้นที่สาธารณะ
19. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
11. งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรร ตามพระราชบัญญัติงบประมาณ
รายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จาแนกรายยุทธศาสตร์ ดังนี้
พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมา ณ พ.ศ.2559 กาหนดวงเงินงบประมาณ
ไว้จานวน 2,720,000 ล้านบาท สาหรับรัฐบาลและทุกส่วนราชการได้นาไปใช้จ่ายในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน
โดยที่สานักงบประมาณได้จัดทายุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559
ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังค มแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) นโยบายความมั่นคง
แห่งชาติ (พ.ศ. 2558-2564) และแผนแม่บทอื่น ๆ โดยคานึงถึงความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดินควบคู่
กับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการน้อมนายุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ
เข้าถึง พัฒนา” และ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นหลักในการปฏิบัติ
เพื่อให้ประเทศมั่นคงประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน รวมทั้งรัฐบาลให้ความสาคัญกับการบูรณาการงบประมาณ เพื่อให้
การดาเนินงานของกระทร วงและหน่วยงานมีความเชื่อมโยง สอดคล้อง นา ไปสู่วัตถุประสงค์ เปูาหมายในทิศทาง
เดียวกัน โดยกาหนดแผนงานบูรณาการ รวม 19 แผนงาน (วงเงินงบประมาณ 23,180.9207 ล้านบาท ของ
กระทรวงศึกษาธิการ)
โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จานวน 517,076.7030 ล้านบาท และงบประมาณกองทุน
จานวน 1,448.0000 ล้านบาท (รวมเป็นจานวนทั้งสิ้น 518,524.7030 ล้านบาท) ซึ่งมียุทธศาสตร์ที่ความ
สอดคล้องกับการดาเนินงาน ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ 14 แผนงาน และวงเงินงบประมาณ ดังนี้
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ(งบประมาณ11,946.1828ล้านบาท)
1.1 แผนงานเร่งรัดการผลักดันการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต(งบประมาณ6,911.3803ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- คนไทยทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม มีศักยภาพเพิ่มขึ้น มีส่วนร่วมในการพัฒนา
ประเทศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ตัวชี้วัด
- อัตราการเข้าเรียนสุทธิทุกระดับชั้น (net enrolment ratio)
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.1.2 เร่งรัดให้เด็กในวัยเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา จบการศึกษาภาคบังคับและมีโอกาส
ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยการลดอุปสรรคและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
1.1.3 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะของวัยรุ่น/นักศึกษา ทั้งในด้านทักษะชีวิตให้มีคุณธรรม จริยธรรม
มีภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยง และมีทักษะอาชีพในการเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงาน
1.3 แผนงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (งบประมาณ 130.0000 ล้านบาท)
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 40-
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความเข้มแข็งสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.3.4 สนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ของผู้ประกอบการเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
และประสิทธิภาพของแรงงาน ทั้งในเรื่องศูนย์บ่มเพาะ ศูนย์ข้อมูล ตลอดจนการให้คาปรึกษาทางธุรกิจ
1.4 แผนงานพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ(งบประมาณ118.3159ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- สาขาบริการที่มีศักยภาพสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.4.6 พัฒนายกระดับสินค้า บริการ ปัจจัยสนับสนุน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวให้มี
คุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
1.9 แผนงานเร่งรัดประยุกต์ใช้งานวิจัยและพัฒนาไปสู่การปฏิบัติ(งบประมาณ7.6459ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- นาผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้เร่งแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน นาไปสู่การพัฒนาประเทศให้
ทันเหตุการณ์ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ
ตัวชี้วัด
- ผลงานวิจัยสามารถนาไปใช้ประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.9.1 สนับสนุนงานวิจัยที่สามารถแก้ไขปัญหาสาคัญเร่งด่วนของประเทศอย่างยั่งยืน
1.10 แผนงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(งบประมาณ3,348.2677ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- ประชาชนในพื้นที่ได้รับการศึกษา การพัฒนาอาชีพ มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถ
ดาเนินชีวิตประจาวันได้ตามปกติสุข
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.10.5 ส่งเสริมการศึกษา ภาษา ศาสนา ศิลปะ และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้สอดคล้องกับ
อัตลักษณ์ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการศึกษาทั้งในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาที่
สอดคล้องกับตลาดแรงงาน
1.11 แผนงานการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
(งบประมาณ 1,079.7501 ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- ประเทศได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มศักยภาพ
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.11.6 ส่งเสริมการร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษา คุณภาพชีวิต การคุ้มครองและสวัสดิการทาง
สังคมในประชาคมอาเซียน
1.11.8 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียนให้กับบุคลากรทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 41-
1.12 แผนงานปูองกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ(งบประมาณ350.8229ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- ลดปัญหาการทุจริตในสังคมไทย และยกระดับคุณธรรม จริยธรรมของคนไทยให้สูงขึ้น
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
1.12.2 สนับสนุนการปลูกจิตสานึก สร้างค่านิยม ให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ในเรื่องความชื่อสัตย์
สุจริต มีคุณธรรมและจริยธรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริยธรรม และคุณภาพชีวิต (งบประมาณ
497,180.3542 ล้านบาท)
4.1 แผนงานขยายโอกาส พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานทางการศึกษา(งบประมาณ402,183.3367ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- คนไทยทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล
ตัวชี้วัด
- จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น
- ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น
- ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาได้งานทาหรือประกอบอาชีพ
อิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องใน 1 ปี
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
4.1.1 ส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ในด้านคุณภาพครู หลักสูตร ห้องเรียน และการใช้
เทคโนโลยีด้านการศึกษา การบูรณาการการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงแต่ละระดับการศึกษาการพัฒนาการเรียนการสอน
ที่เน้นกระบวนคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
4.1.2 พัฒนาเด็กวัยเรียนทุกระดับให้มีความรู้ทางวิชาการ และความฉลาดทางอารมณ์ รวมทั้ง
สร้างจิตสานึกและภูมิใจในประวัติศาสตร์ไทย ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีคุณธรรม จริยธรรม
และความเป็นพลเมืองดี ตลอดจนตระหนักในสิทธิและหน้าที่การทาประโยชน์ต่อสังคม
4.13 พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้เชื่อมโยงกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพนาไปสู่การวางระบบ
เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่มีกลไกการวัดและประเมินผลเพื่อเทีย บโอนความรู้และประสบการณ์และ
หน่วยงานเรียนที่ชัดเจน
4.1.4 พัฒนาครูให้มีคุณภาพ และสนับสนุนการผลิตบุคลากรทางการศึกษาในสาขาขาดแคลน
4.1.5 ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากาลังคนให้มีคุณภาพและมาตรฐาน เชื่อมโยงกับกลุ่ม
อุตสาหกรรมเปูาหมาย สอดคล้องตามความต้องการของตลาดแรงงาน และทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมทั้ง
ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
4.1.6 เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม เสริมสร้างโอกาสทาง
การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนในการผลิตและเผยแพร่สื่อ
ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์
4.1.7 สร้างนวัตกรรมและสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ทุกลุ่มวัย ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้
ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ทั้งในระบบ นอกระบบ และแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัย
4.1.8 สนับสนุนการดาเนินงานตามภารกิจพื้นฐานของหน่วยงาน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 42-
4.2 แผนงานสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (งบประมาณ 82,981.0566 ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของ
ประเทศ
ตัวชี้วัด
- สัดส่วนการเรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น
- สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นขึ้น
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
4.2.1 สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา
มัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายอาชีวศึกษาและสามัญศึกษาอย่างเหมาะสม เป็นธรรมเพื่อตอบสนองความต้องการ
ของประเทศทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
4.2.2 ส่งเสริมและดาเนินการปรับสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาและสามัญศึกษาให้เหมาะสม
สอดคล้องกับความต้องการกาลังคนในตลาดแรงงานทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
4.2.3 สนับสนุนการดาเนินงานตามภารกิจพื้นฐานของหน่วยงาน
4.3 แผนงานพัฒนาด้านสาธารณสุข (งบประมาณ 11,573.5269 ล้านบาท)
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
4.3.1 ผลิต พัฒนา และกระจายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้สอดคล้องกับการ
ให้บริการ แก่ประชาชน รวมทั้งการดารงรักษาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้คงอยู่ในระบบ
4.3.2 พัฒนาระบบการให้การศึกษาและการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ส่งเสริม
การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน
4.8 แผนงานปูองกัน ปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด(งบประมาณ41.2500ล้านบาท)
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
4.8.1 ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันต่อต้านยาเสพติด สนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก
เยาวชน และประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม รวมทั้งส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถานศึกษาให้มี
บทบาทสาคัญ ในการให้ความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง
4.9 แผนงานอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม(งบประมาณ401.1840ล้านบาท)
เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
- สังคมและคนไทยมีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม จิตสานึก ค่านิยมที่ดีงาม รักษามรดกวัฒนธรรมและ
เข้าใจในสังคมวัฒนธรรมอาเซียน
ตัวชี้วัด
- จานวนเด็ก เยาวชน และประชาชนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม
ศิลปวัฒนธรรม และทากิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มสูงขึ้น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 43-
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
4.9.1 รณรงค์สร้างความตระหนักและความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย การสร้างจิตสานึก
ทางวัฒนธรรม การปลูกฝังค่านิยม 12 ประการ และการเรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 6 : ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม(งบประมาณ7,950.1660ล้านบาท)
6.1 แผนงานส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (งบประมาณ 6,599.4674 ล้านบาท)
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
6.1.1 ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัย สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยทั้งในและ
ต่างประเทศ และหน่วยงานภาครัฐ ในการลงทุนวิจัย พัฒนานวัตกรรม สร้างองค์ความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยี
6.1.4 สนับสนุนการผลิตและเพิ่มสัดส่วนบุคลากรวิจัยที่มีคุณภาพ และสอดคล้องกับความ
ต้องการของทุกภาคส่วน
6.2 แผนงานพัฒนาศักยภาพของประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม(งบประมาณ
1,350.6986ล้านบาท)
นโยบายการจัดสรรงบประมาณ
6.2.1 ส่งเสริมการผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับ
ความต้องการของทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง
6.2.2 ส่งเสริมการประสิทธิภาพของระบบการจัดการความรู้ ภูมิปัญญาไทย โดยพัฒนาการ
เรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน สร้างความตระหนักให้ประชาชนเรียนรู้ คิดและทาอย่างเป็น
วิทยาศาสตร์ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
12. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปี
งบประมาณ พ .ศ. 2559 ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ตามที่สานักงบประมาณเสนอ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดเตรียมความพร้อมจัดลาดับความสาคัญการใช้จ่ายงบประมาณ ติดตามและรายงานผลการ
ใช้จ่ายงบประมาณให้รัฐบาลใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งให้การใช้จ่ายภาครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุนการ
ขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้เป็นไปตามเปูาหมายการเบิกจ่ายรายจ่ายภาพรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ96
และรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า ร้อยละ87 ซึ่งได้จัดทาแผนการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559
ตามวงเงินในพระราชบัญญัติฯ จานวน 2,720,000 ล้านบาท โดยจาแนกเป็นรายไตรมาส ดังนี้
ประมาณการรายจ่าย
ปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (หน่วย : ล้านบาท)
รวม ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4
เปูาหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม
ประมาณการร้อยละ
2,605,721
96
820,302
30
595,134
22
572,833
21
617,452
23
รายจ่ายประจา
ประมาณการร้อยละ
2,132,133
98
717,963
33
478,642
22
456,886
21
478,642
22
รายจ่ายลงทุน
ประมาณการร้อยละ
473,588
87
102,339
19
116,492
21
115,947
21
138,810
26
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 44-
ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณพ.ศ.2559 ให้สอดคล้อง
กับเปูาหมายการเบิกจ่ายรายไตรมาสตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพฯ ในข้างต้น และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับ
ดูแลส่วนราชการให้ปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ที่กาหนดไว้
รวมทั้งให้รายงานผลเป็นรายเดือน โดยส่งให้สานักงบประมาณ เพื่อสรุปรายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทุกไตรมาส
ต่อไป
ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทาแผนการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559
ตามวงเงินในพระราชบัญญัติฯ รวมทั้งสิ้น517,076.7030 ล้านบาทโดยกาหนดเปูาหมายการเบิกจ่ายงบประมาณ
จาแนกเป็นรายไตรมาส ดังนี้
ประมาณการรายจ่าย
ปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (หน่วย : ล้านบาท)
รวม ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4
เปูาหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม
ประมาณการร้อยละ
517,076.7030
96
187,064.6842
30
123,861.1154
22
116,255.8360
21
89,895.0674
23
รายจ่ายประจา
ประมาณการร้อยละ
471,570.9779
98
168,218.7777
33
110,041.7635
22
106,854.0679
21
86,456.3688
22
รายจ่ายลงทุน
ประมาณการร้อยละ
45,505.7251
87
18,845.9065
19
13,819.3518
21
9,401.7681
21
3,438.6986
26
13. อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ .ศ. 2546 มาตรา 5 กาหนดให้
กระทรวงศึกษาธิการมีอานาจหน้าที่ต ามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุง
กระทรวง ทบวง กรม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ .ศ.2542 มาตรา 31 ระบุ “กระทรวงมีอานาจหน้าที่เกี่ยวข้อง
กับการส่งเสริมและกากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กาหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา
สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม และ
การกีฬาเพื่อการศึกษา รวมทั้งติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาและราชการอื่นตามที่มีกฎหมาย
กาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกระทรวง หรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวง”
14. ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา
14.1 ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
กระทรวงศึกษาธิการ โดยทุกหน่วยงานในสังกัดได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และเร่งรัด
ดาเนินการนา นโยบายสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลตามเปูาหมายที่กาหนด ซึ่งในการขับเคลื่อนดาเนินการด้านการศึกษา
ครบรอบ1 ปี (ระหว่างวันที่12กันยายน2557– 12กันยายน2558) มีความก้าวหน้าในการดาเนินงานที่สาคัญ ดังนี้
นโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
1. จัดงาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
2. จัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาส
ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 45-
1) ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้ง“รางวัลสมเด็จเจ้าฟูามหาจักรี” โดยคัดเลือกครู ผู้สมควร
ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟูามหาจักรี ของ10ประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน และติมอร์-เลสเต รวมทั้งสิ้น11คน
2) จัดโครงการ“ทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการ ระยะที่2” จานวน 10 รุ่น ๆ ละ
600 ทุน รวมทั้งสิ้น6,000 ทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดาเนินการนาเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณา
นาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
3. ขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการส่งเสริมสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจาก
พระราชดาริ
1) โดยออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ภาคการศึกษา เพื่อปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีคุณลักษณะ“อยู่อย่างพอเพียง”
2) จัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา โดยบรรจุ
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับ และฝึกอบรมสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้บริหาร ครู
ศึกษานิเทศก์ มีความรู้ความเข้าใจสามารถถ่ายทอดไปสู่นักเรียน นาไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งมีการประเมินตามเกณฑ์
คุณภาพสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และบริหารจัดการตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ
สถานศึกษาพอเพียง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550– 2556จานวน14,852แห่ง
3) จัดโครงการ “ค่ายเรียนรู้และเผยแพร่โครงการพระราชดาริ” ร่วมกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนา
อุดมศึกษา9เครือข่ายๆ ละ 2 ค่าย รวม 18 ค่าย จานวน 900 คน
นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับเคลื่อนภารกิจใน 4 ด้านที่สาคัญ คือ
1. สร้างภูมิคุ้มกันและปูองกันยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา สถาบันอุดมศึกษา
รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ
1) จัดโครงการ“TO BE NUMBER ONE” ในสถานศึกษา
2) จัดโครงการ“การปฏิรูปการศึกษากับการปูองกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ ในนักเรียน และผู้ปกครอง”
ร่วมมือกับสานักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เครือข่าย
ครูดีไม่มีอบายมุข และเครือข่ายโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า เริ่มในภาคเรียนที่1/2558มีโรงเรียนนาร่อง40แห่ง
ทั่วประเทศ
3) จัดโครงการ“Thai Youth Initiative against Drugs” ครั้งที่4 ประจาปี พ.ศ. 2558ร่วมกับสานักงาน
คณะกรรมการปูองกันและปราบปรามยาเสพติ ด กระทรวงการต่างประเทศ และสมาคมองค์กรพัฒนาเอกชน
เพื่อการปูองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคพื้นเอเชีย -แปซิฟิค
2. แก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ น้อมนายุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง
และพัฒนา มาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี ส่งเสริมสันติสุข เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา เสริมสร้างขวัญ
กาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา ควบคู่กับการพัฒนาการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ดังนี้
1) ปรับโครงสร้างและระบบการบริหารการศึกษาให้มีประสิทธิภาพโดยจัดตั้งศูนย์ประสานงาน และ
บริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปบ.จชต.)หรือ“กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า”ณ สานักงานศึกษาธิการภาค๑๒
จังหวัดยะลา
2) เสริมสร้างขวัญกาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา โดยมอบทุนการศึกษารายปี ปัจจุบันมีทายาทผู้ได้รับ
ผลกระทบที่ขอรับทุน จานวน9,821คน จัดตั้งศูนย์ครูใต้ ที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส เพื่อความปลอดภัยและเป็นการ
ส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งพนักงานราชการในพื้นที่ ขณะนี้มีการแต่งตั้ง
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 46-
คณะทางานเพื่อพิจารณาการก่อสร้างศูนย์ครูใต้ และสารวจความต้องการของครูที่ประสงค์จะเข้าพักจังหวัดยะลา จานวน
257คน จังหวัดนราธิวาส จานวน44คน ติดตั้งกล้องCCTV ในสถานศึกษาที่อยู่ใน3 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในโรงเรียน
ประถมศึกษา จานวน1,092 แห่ง และติดตั้งให้กับสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา15และ16ในภาคใต้ รวม5,944ตัว ดาเนินการปรับปรุงซ่อมแซมรั้วโรงเรียนและซ่อมแซมบ้านพักครู
โดยใน11เขตพื้นที่ ใน๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีบ้านพักครู รวม330 หลัง และมีบ้านพักในศูนย์ครูใต้ที่จังหวัดปัตตานี
อีก 100 หลัง
3) ยกระดับความสามารถและอัจฉริยภาพทางด้านกีฬา จัดโครงการ “สานฝันการกีฬาสู่ระบบ
การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในพื้นที่4 จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดความรัก ความสามัคคีโดย
ดาเนินการ แบ่งออกเป็น3 ระยะ ดังนี้1) ระยะสั้น จัดมหกรรมกีฬาระดับอาเภอทุกพื้นที่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ตั้งแต่เดือน
มีนาคม -พฤษภาคม2558 2) ระยะกลาง จัดตั้งโรงเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ -กีฬา ซึ่งปัจจุบันได้ดาเนินการแล้วใน
ภาคเรียนที่ 1/2558 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
อาเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เป็นแห่งแรก ขณะนี้อยู่ระหว่างดาเนินการขยายผล ณ โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์
อาเภอรือเสาะจังหวัดนราธิวาส เป็นแห่งที่ 2 ซึ่งจะเร่งเปิดให้ทันภาคเรียนที่ 2/2558 ภายในเดือนตุลาคม 2558
3) ระยะยาว จะดาเนินการต่อยอดในการรับนักเรียนที่จบการศึกษา มาเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และมอบ
ทุนการศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
3. พัฒนาการศึกษาในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง
โดยจัดทายุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง (พ.ศ.2559-2564) ของ
กระทรวงศึกษาธิการเพื่อรองรับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ(พ.ศ.2558 - 2564) และยุทธศาสตร์การพัฒนา เพื่อเสริม
ความมั่นคงของชาติ(พ.ศ.2556 - 2560)
4. การเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ด้านการศึกษากับนานาประเทศ ให้การต้อนรับ
และหารือประเด็นความร่วมมือด้านการศึกษากับผู้แทนประเทศต่าง ๆ และเป็นเจ้าภาพและเข้าร่วมการประชุมใน
เวทีระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนาเสนอทิศทางการ
พัฒนาการศึกษา
นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ
ความเหลื่อมล้าในสังคมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งและความเดือดร้อนของประชาชน
กระทรวงศึกษาธิการจึงเร่งสร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายได้ที่มั่นคง จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาส
คนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยสาหรับผู้สูงอายุ ดังนี้
1. ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
คณะกรรมการอานวยการลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบยุทธศาสตร์
การลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน10 ชุด ลงไปใน
ระดับพื้นที่เพื่อร่วมดาเนินการภายใต้4 กลยุทธ์ คือ1) ขยายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ เสมอภาค
และยุติธรรม 2) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนทุกระดับ ทุกกลุ่ม และทุกประเภท3) พัฒนาระบบการพัฒนาครูและบุคลากร
ทางการศึกษา4) พัฒนาระบบการสนับสนุนการจัดการศึกษา และ3 มาตรการ คือ ประกันโอกาส ประกันคุณภาพ และ
ประกันประสิทธิภาพ
2. จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสคนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ โดยดาเนินการต่าง ๆ อาทิ
จัดกระบวนการเรียนการสอนใน กศน. ตาบล ภายใต้โครงการ“หนึ่งคน...หนึ่งอาชีพ” จานวน7,424แห่ง พื้นที่5 ภูมิภาค
จัดโครงการอุดมศึกษา สร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุข เพื่อฝึกอาชีพระยะสั้นในพื้นที่ให้บริการของวิทยาลัยชุมชน20
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 47-
แห่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จานวน75กิจกรรม มีผู้สนใจบริการ2,892คน จัดศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษาอาชีวศึกษา
โดยมีกลุ่มเปูาหมาย จานวน10,725คน ในสถานศึกษา288แห่ง
3. พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้สูงอายุ สตรี และเด็ก โดยดาเนินการต่าง ๆ อาทิ
จัดการศึกษาสายอาชีพ เพื่อการมีงานทาของผู้ที่มีความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้(ออทิสติก สมาธิสั้น แอลดี) ร่วมกับ
สานักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.)มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยสารพัดช่าง6แห่ง จัดฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุวิทยาลัยชุมชนจัดการศึกษา
และให้บริการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ จัดโครงการETV เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษานาเทคโนโลยี
สารสนเทศและเครื่องมือ ที่เหมาะสมมาพัฒนาสื่อช่วยสอนสาหรับครู และเพื่อใช้ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยได้
ผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาใน 3 วิชาที่สาคัญ คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ
รวม 54 รายการ ขยายช่องทางเลือกในการเรียนรู้ผ่านสื่อรายการทางช่องETV ทั่วประเทศรวม4,597 แห่ง จานวน
27 ชั่วโมง มีผู้เข้าชม รวม 172,175 คน พร้อมทั้งจัดทาเอกสารประกอบการรับชมรายการ 10,000 เล่ม และ
สาเนาสื่อ DVD จานวน 540,000 แผ่น
4. จัดการศึกษานอกระบบให้กับทหารกองประจาการ โดยเริ่มจัดการศึกษาให้กับนักศึกษาทหารใน
ภาคเรียนที่ 2/2557 จานวน 59,362 คน จัดมุมเรียนรู้ /มุมสื่อ จานวน 274 หน่วย ติดตั้งชุดรับสัญญาณ ETV
พร้อมอุปกรณ์ ในหน่วยทหาร จานวน 192 หน่วย และจัดส่งคู่มือการดาเนินงานการจัดการศึ กษา สาหรับครู
ประจากลุ่มในหน่วยทหาร/ กศน.อาเภอ/เขต จานวน1,125 เล่ม จัดอบรมครู ร่วมกับหน่วยทหาร จานวน 4 ครั้ง/ปี
รวมทั้งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพให้ทหารกองประจาการ ก่อนปลดประจาการให้มีอาชีพอย่างน้อย 1 อาชีพ
จานวน 63 แห่ง
5. การดาเนินงานโครงการ 1 อาเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างโอกาส
ทางการศึกษาในการลดความเหลื่อมล้าทางสังคม โดยสนับสนุนทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ ปัจจุบันมีผู้รับทุนตั้งแต่รุ่นที่ 1 – 4 จานวนทั้งสิ้น 3,093 คน และอยู่ระหว่างการดาเนินการในรุ่นที่
3 – 4 จานวน 1,250 คน
นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
การจัดการศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ
ประกอบอาชีพและดารงชีพได้โดยมีความใฝุรู้และมีทักษะที่เหมาะสม เป็นคนดีมีคุณธรรม สามารถดารงตนได้
อย่างมีความสุข รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกบนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยดาเนินงานสาคัญดังนี้
1. การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ ดาเนินการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช2551โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดาเนินการศึกษาวิเคราะห์สภาพและปัญหาการใช้หลักสูตร และการ
สอดแทรกการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองในทุกระดับชั้นการศึกษาปรับปรุงการ
ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(Ordinary National Educational Test : O - NET) ยกเลิกการสอบประเมิน
คุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับเขตพื้นที่การศึกษา(Local Assessment System : LAS) ในระดับชั้น ป.2 ป.4 - 5
ม.1 – 2 และ ม.4 - 5 การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของนักเรียน โดยเร่งรัดพัฒนาการอ่านออกเขียนได้
อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้ เปูาหมายการพัฒนานักเรียน“เด็กจบ ป. 1 ต้องอ่านออกเขียนได้ โดยต้องมีการ
ประเมินผลที่เป็นรูปธรรม” นอกจากนี้ ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวปฏิบัติในการลดภาระครูและ
นักเรียน รวมทั้งการปรับขนาดห้องเรียนในระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษาเป็น30 คน ต่อห้องเรียน และระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายเป็น40คนต่อห้องเรียน เป็นต้น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 48-
2. การเสริมสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่ผู้ยากจนหรือด้อยโอกาส โดยได้
ดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซึ่งขณะนี้ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ระหว่างเสนอขอทบทวนอัตราเงินอุดหนุนรายหัวสาหรับ
นักเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดสรรงบประมาณสนับสนุนทุนการศึกษาต่าง ๆ อาทิ กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา
(กยศ.)ปัจจุบันมีผู้กู้จานวน739,072 ราย และกองทุนเงินกู้ยืม เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ปัจจุบัน
มีผู้กู้จานวน 67,026 ราย ขยายโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีระยะที่2 จานวน 10 รุ่น รวมทั้งสิ้น 6,000 ทุน
โดยเพิ่มอัตราเงินทุนในแต่ละระดับการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษา (ค่าครองชีพ) ระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี)
ให้แก่เยาวชนที่มีภูมิลาเนาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวนทุนละ 40,000 บาท/ปี
การศึกษาขยายผลโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาในโรงเรียนขนาดเล็ก จานวน
15,369 โรง และดาเนินโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ เปูาหมายโรงเรียนขนาด
กลางและขนาดใหญ่ จานวน15,553แห่ง เป็นต้น
3. การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยจัดให้มีโครงการปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียนเพื่อต้องการ
ส่งเสริมการกระจายอานาจการบริหารและการจัดการศึกษารองรับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา เป็นเวลา3 ปีต่อเนื่อง
(พ.ศ.2558 -2560) ในโรงเรียนนาร่องจานวน300แห่ง และส่งเสริมภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
4. การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ จัดบริการการศึกษาต่อเนื่องให้กับ
ประชาชน จานวน363,128คน ดาเนินโครงการจัดการความรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนโดยมี กศน.ตาบล ที่ตั้ง
อยู่ในวัด จานวน2,093แห่ง จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยสาหรับผู้สูงอายุรวมทั้งสิ้น321,262 คน
จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสคนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ โดย กศน. ตาบล จานวน7,424 แห่ง จัดฝึกอบรม
อาชีพให้กับประชาชนในโครงการ“หนึ่งคน หนึ่งอาชีพ” ใน 5 ภูมิภาค มีผู้เข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น 256,329 คน
เป็นต้น
5. การส่งเสริมการอาชีวศึกษา ปรับภาพลักษณ์และเร่งผลิตและพัฒนากาลังคนเพื่อตอบสนอง
ความต้องการพัฒนาประเทศโดยดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาผ่านโครงการ
เรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย(ทวิศึกษา) ในปีการศึกษา2558 ขณะนี้มีผู้เรียนสนใจสมัคร
เข้าร่วมโครงการแล้วจาก588 สถานศึกษา จานวน30,405 คน พัฒนาผู้บริหาร ครูโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา ครูฝึกใน
สถานประกอบการ ในด้านต่าง ๆ ดาเนินการปรับภาพลักษณ์นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาโดยจัดศูนย์อาชีวะอาสา
“ตรวจรถพร้อมใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ในช่วงเทศกาลปีใหม่2558 และเทศกาลสงกรานต์ ดาเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้าง
เพื่อชุมชน โครงการเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา จานวน2 รุ่น ในส่วนของผลิตกาลังคนด้านอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการของการพัฒนาประเทศ ได้ดาเนินโครงการอาชีวศึกษามาตรฐานสากล โดยศึกษาจุดเด่นของประเทศต่าง ๆ
มาปรับใช้เป็นรูปแบ บการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาอาชีวศึกษา จัดการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี
สายเทคโนโลยีหรือ สายปฏิบัติการในสถาบันการอาชีวศึกษา ในปี พ.ศ. 2556จานวน 9 สถาบัน รวม16 สาขาวิชา รวม
43 หลักสูตร ผลักดันการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยจัดทาคู่มือสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับสถานประกอบการ
ที่ร่วมจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ลงนามความร่วมมือจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ผลิตกาลังคนรองรับ
ภาคอุตสาหกรรมภาคเกษตรกรรม และภาคบริการของประเทศ โดยสถาบันการอาชีวศึกษา18แห่ง จับคู่กับหอการค้ากลุ่ม
จังหวัด18จังหวัดรวมทั้งสร้างหลักสูตรใหม่ รองรับความต้องการของประเทศพร้อมก้าวสู่AEC สอศ. ร่วมกับหน่วยงาน
ภาคเอกชนเป็นต้น
6. การผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจัดทา (ร่าง) ยุทธศาสตร์การผลิต
และพัฒนาครู ดาเนินการจัดทารายละเอียดโครงการคุรุทายาทเพื่อนากลับมาดาเนินการใหม่ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 49-
ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนเป็น
วิทยฐานะชานาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญตามข้อตกลงในการพัฒนางานรวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดาเนินการตามขั้นตอนของสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
การสร้างพื้นฐานองค์ความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อมให้เข้มแข็ง สามารถแข็งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพกระทรวงศึกษาธิการจึงดาเนินการ ดังนี้
1. จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ ปัจจุบันมีศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University
Business Incubator : UBI) จานวน 72 แห่ง สามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ จานวน 120 คน และเตรียม
พัฒนาเป็นบริษัทธุรกิจเต็มรูปในอนาคต (Spin off Companies) จานวน 69 คน ดาเนินโครงการพัฒนาและสร้าง
ผู้ประกอบการโดยใช้ความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาเป็นฐาน หลักสูตรการอบรมทักษะการประกอบอาชีพระยะสั้น
เบื้องต้นเชิงสร้างสรรค์ให้กับนักศึกษาและประชาชน จานวน2,480 คน
2. ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล พัฒนาผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้เข้าถึง
และใช้ระบบดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ โดยจัดโครงการบูรณาการร่วม 4 กระทรวง ประกอบด้วย โครงการต่าง ๆ
ได้แก่ 1) โครงการคลังความรู้ดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้2) โครงการระบบข้อมูลดิจิทัล เพื่อการศึกษาเรียนรู้และมีงานทา
3) โครงการบูรณาการการเรียนรู้สู่อาชีพและวิชาชีพ เป็นต้น
3. พัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณ
พื้นที่เขตชายแดนและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน
นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน
กระทรวงศึกษาธิการมีบทบาทสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
โดยดาเนินที่สาคัญ ดังนี้
1. เตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งมีการดาเนินงานสาคัญต่าง ๆ ดังนี้จัดทาแผน
ยุทธศาสตร์อาเซียนด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (Post2015) (พ.ศ. 2558 – 2562) จัดตั้งศูนย์ส่งเสริม
อาเซียนศึกษาในสานักงานศึกษาธิการภาค 1 – 13 ทั่วประเทศ พัฒนาทักษะการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษ
และภาษาประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านโครงการ และกิจกรรมสาคัญต่าง ๆ อาทิ โครงการ “การศึกษาไทย ก้าวไกล
สู่อาเซียน” สัญจร 4 ภูมิภาค และกรุงเทพมหานคร
2. ส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยดาเนินการผ่านโครงการและ
กิจกรรมสาคัญต่าง ๆ พัฒนาหลักสูตรตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะกาลังคนสายอาชีพ
ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สร้างความร่วมมือด้านการศึกษากับประเทศสมาชิก
อาเซียนและประเทศอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดทายุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา
นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ
พัฒนา และนวัตกรรม
กระทรวงศึกษาธิการให้ความสาคัญต่อการวิจัย การพัฒนาต่อยอด และการสร้างนวัตกรรมเพื่อนาไป
สู่การผลิตและบริการที่ทันสมัย โดยดาเนินการ ดังนี้ ส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและการพัฒนามหาวิทยาลัย
วิจัยแห่งชาติ พัฒนาและขยายผลอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สาหรับเยาวชน โดยคัดเลือก
นักเรียนเข้าโครงการอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจาปีการศึกษา 2557 จานวน 4,430 คน
จัดการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่56ปี พ.ศ.2558 มีผู้เข้าแข่งขันจานวน577คน จาก104ประเทศ
ผู้สังเกตการณ์จาก4ประเทศ คณะกรรมการฝุายต่าง ๆและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานรวมกว่า1,000คน ร่วมมือด้านการวิจัย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 50-
และพัฒนากับหน่วยงานต่าง ๆ พัฒนางานวิจัยดาเนินงานในรูปแบบ “ภาคีสถาบันอุดมศึกษา/วิจัย เพื่อ
การวิจัย” มีสถาบันอุดมศึกษา/วิจัย เข้าร่วมดาเนินการกับศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 11 ศูนย์ จานวน 23 สถาบัน และ
จัดค่ายวิทยาศาสตร์เยาวชนภูมิภาคเอเชีย (Asian Science Camp 2015 : ASC 2015) มีนักเรียนนักศึกษา
ครูอาจารย์ เข้าร่วมกว่า 700 คน จาก 30 ประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก
นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกันปราบปราม
การทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ
กระทรวงศึกษาธิการดาเนินการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน
ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในภาครัฐ ดังนี้
1. การปูองกันการทุจริตคอรัปชั่น ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการควบคุม
การจัดทาโครงการที่มี การจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจัดงาน (Organizer) งานโฆษณาและงานประชาสัมพันธ์
ของทุกหน่วยงานในสังกัดและในกากับของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีวงเงิน 1 ล้านบาท หรือมีกลุ่มเปูาหมาย
จานวนตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป ต้องเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก่อนการจัดงาน
2. จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล ในสถานศึกษา สถาบันการศึกษา และ
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการอาทิ โครงการ “ข้าราชการไทยไร้ทุจริต ” โครงการ “ส่งเสริมค่านิยมหลัก
ของคนไทย 12 ประการ” โครงการ “สพฐ.ใสสะอาด ปราศจากคอรัปชั่น” โครงการ“มหาวิทยาลัยโปร่งใส บัณฑิต
ไทยไม่โกง” โครงการ “โรงเรียนสุจริต” และจัดหลักสูตร“โตไป ไม่โกง”
3. จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราว ร้องเรียน ร้องทุกข์ให้บริการประชาชน ที่เกี่ยวข้องการศึกษา
ซึ่งประชาชนสามารถร้องเรียน ร้องทุกข์ เรื่องต่าง ๆ ผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น สายด่วน 1579 หรือ
www.1579.moe.go.th ปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 2,082 เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว 1,621 เรื่อง และอยู่ระหว่าง
การดาเนินการ 461 เรื่อง
4. จัดหลักสูตร “โตไป ไม่โกง ” ร่วมมือกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.)
โดยจัดอบรมครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาล1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเตรียมความพร้อมให้เข้าใจเนื้อหา และ
การใช้สื่อการเรียนการสอนของหลักสูตร โดยในปีการศึกษา2558 จะมีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร“โตไปไม่โกง”
ระดับชั้นอนุบาล1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6 จานวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ จะเริ่มดาเนินการโครงการอบรม
ครูระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนจานวน 2 รุ่น และจะจัดอบรมครูระดับชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4 - 6 ในลาดับต่อไป
14.2 ผลการดาเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
กระทรวงศึกษาธิการได้ขับเคลื่อนการดาเนินงานด้านการศึกษาตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา โดยในช่วงระหว่างวันที่12กันยายน2557-30กันยายน2558 มีการดาเนินงานสาคัญ ดังนี้
1. ด้านการศึกษา
1) ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาดูแลให้ความช่วยเหลือบุตรธิดาของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจาก
การปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถศึกษาต่อจนจบหลักสูตรการศึกษาและมีโอกาสในการ
ทางานที่ดีด้วยโดยมีการดาเนินการ คือ จัดสรรทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องให้กับผู้ได้รับผ ลกระทบตั้งแต่ระดับ
อนุบาลจนถึงปริญญาตรีโดยปีงบประมาณ 2558 มีจานวนทั้งสิ้น 9,821 ราย และช่วยเหลือบรรจุทายาทของ
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เข้ารับราชการทดแทน
จานวน 1 คน ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 51-
2) ให้ทุกหน่วยงานนาข้อมูลในพระราชดาริต่างๆ แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นต้นเผยแพร่ต่อสาธารณชนในสื่อต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษโดยเฉพาะทาง
สื่อออนไลน์โดยมีการดาเนินการคือ จัดทาเอกสารชุดตัวอย่างหน่วยการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุ ณลักษณะ
อยู่อย่างพอเพียงในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และจัดทา
Banner “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ” ภาคภาษาไทยเผยแพร่หน้าเว็บไซต์กระทรวงสาหรับ
สื่อภาคภาษาอังกฤษอยู่ระหว่างนาเข้าหารือในการประชุมคณะทา งานขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงภาคการศึกษา
3) ให้ห้องสมุดของสถานศึกษาจัดให้มีข้อมูลในข้อ2 ข้างต้น เพื่อเป็นแหล่งความรู้ในสถานศึกษา
โดยดาเนินการส่งเสริมให้มีสถานศึกษาพอเพียงในทุกสังกัดทั้งในและนอกกระทรวงศึกษาธิการจานวน14,582 แห่ง จัดทา
ยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้มีสถานศึกษาพอเพียงเพิ่มขึ้นและจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงภาคการศึกษาจานวน 47 แห่ง เพื่อพัฒนางานให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น
4) ให้กระทรวงศึกษาธิการเตรียมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีเวลาว่างกับครอบครัวมากขึ้น
ลดชั่วโมงเรียน สอนให้มีการคิดวิเคราะห์ให้มีความต่อเนื่อง และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเหมือนดังเช่นโรงเรียน
กาเนิดวิทย์ที่มีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ผลิตบุคลากรเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป โดยกระทรวงศึกษาธิการได้
ดาเนินการสนับสนุนนโยบายเตรียมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้มีเวลาว่างกับครอบครัวมากขึ้น
ลดชั่วโมงเรียน สอนให้มีการคิดวิเคราะห์ให้มีความต่อเนื่องหลังเลิกเรียน 14.00 น. 2) จัดกิจกรรม "คืนความสุขให้
เธอ...เยาวชน : สร้างระบบคิด ปลูกจิตวิทยาศาสตร์ " 3) ผลิตและเผยแพร่สื่อวีดิทัศน์แนะนาศูนย์วิทยาศาสตร์
เพื่อการศึกษา 4) จัดกิจกรรมเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน 5) สร้างโอกาสทางการศึกษาผ่านรายการโทรทัศน์
เพื่อการศึกษา(ETV) 6) การพัฒนาการศึกษาเด็กและเยาวชนของกลุ่มงานโรงเรียนอาชีวศึกษา 7) ส่งเสริมกิจกรรม
ครอบครัวสุขสันต์ 8) อบรมฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับ นักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 9) อบรมการใช้
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรอิสลามศึกษาแบบบูรณาการ
5) ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมการเรียนสายวิชาชีพในพื้นที่รองรับ AEC สร้างแรงงาน
ไทยให้มีทักษะภาษาต่างประเทศ และเป็นแรงงานฝีมือระดับหัวหน้างานโดยให้โรงเ รียนเน้นสอนภาษาอังกฤษ
โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการ ส่งเสริมการเรียนการสอนด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ
ผู้เรียนทั้งในระบบและนอกระบบรองรับการเข้าสู่AEC ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้สถานศึกษาในสังกัด กศน. จัดการเรียนการ
สอนภาษา ประกอบด้วย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียนเพิ่มอีก1 ภาษา เช่น ภาษาพม่า เขมร
ลาว เวียดนาม มลายู เป็นต้น2) จัดผลิตรายการวิทยุเพื่อการศึกษาภาษาอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย
กัมพูชา รวมทั้งภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุุน และอังกฤษ รายการนิทานอาเซียน รายการโลกกว้างทางการศึกษา
ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการเกี่ยวกับอาเซียน และผลิตเอกสาร
ประกอบการรับชมรายการส่งเสริมอาชีพ 3) จัดอบรมทางไกลในหลักสูตรภาษาจีนเพื่อการสื่อสารและภาษาอังกฤษ
เพื่อการสื่อสาร 4) พัฒนาและผลิตสื่อชุดการเรียนทางไกล หลักสูตรภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันในประชาคม
อาเซียน2,500 ชุด ให้สถานศึกษา 5) จัดและผลิตรายการวิทยุเพื่อการศึกษา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
รวม 413 รายการ และผลิตเอกสารประกอบการรับฟังรายการวิทยุเพื่อการศึกษาส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคม
อาเซียน รวม500เล่ม และผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน รวม174รายการ
6) ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับครู และบุคลากรทางการศึก ษาของสถานศึกษาเอกชนประเภท
อาชีวศึกษา ในปีงบประมาณ2558 7) ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อม นักเรียน ครู บุคลากร
ทางการศึกษา และบุคลากรในสังกัด สพฐ. 8) ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในสถานศึกษาสังกัด สอศ.
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 52-
6) ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ
ไทย โดยให้กาหนดไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนและให้มีการเขียนประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้เห็นความแตกต่าง
ของไทยที่ผ่านมามีการกาหนดเปูาหมายวิสัยทัศน์ให้ชัดเจน (มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน) ถึงแม้จะเน้นการพัฒนาเยาวชน
ในด้านวิทยาศาสตร์ก็ขอไม่ให้ลืมความเป็นมาและประวัติศาสตร์ชาติไทย
2. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
1) ให้ทุกส่วนราชการนาข้อเสนอแนะจากการอภิปรายของ สนช . ไปพิจารณาดาเนินการ
โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การแก้ไขปัญหา
ที่ทากิน การปฏิรูประบบการศึกษา การลดความเหลื่อมล้าในสังคม การกากับดูแลระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยดาเนินการมอบหมายให้สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลรับผิดชอบภาพรวม
ของการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบและได้เต รียมดาเนินการปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครูคุณภาพควบคู่ไปกับ
การปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ
2) ให้ทุกส่วนราชการจัดระบบประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับ
การดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลโดยเน้นการประชาสัมพันธ์เรื่องที่ดาเนินแล้วมีผลสัมฤทธิ์และระมัดระวั ง
การประชาสัมพันธ์เรื่องที่อยู่ระหว่างดาเนินการและทิศทางการดาเนินงานของรัฐบาลโดยมีการแต่งตั้ง
คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการจัดทาวารสารกระทรวงศึกษาธิการ
(MOE Journal) เพื่อการประชาสัมพันธ์การดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลนโยบายสู่หน่วยงานทางการศึกษาและ
สาธารณชนทั่วไปโดยขณะนี้ได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลบนหน้าเว็บไซต์ของ
กระทรวงศึกษาธิการ
3) ให้ ศธ. เร่งดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬาให้เกิ ดขึ้นเป็นรูปธรรม
ในทุกภูมิภาคโดยเร็วโดยให้พิจารณากาหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาให้มีความ
เหมาะสมกับลักษณะกีฬาด้วยทั้งนี้เป็นไปตามมติ คสช . ที่ให้ ศธ. พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับ
สถาบันการศึกษาทางด้านวิชาชีพโดยการดาเนินการขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูล
ประกอบการกาหนดแนวทางการดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬาให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมตาม
ข้อสั่งการ อาทิ ข้อมูลสถานศึกษาเฉพาะด้านกีฬาที่ดาเนินการในปัจจุบันแนวทางการดาเนินงานปัญหาอุปสรรค
เป็นต้น โดยคาดว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเพื่อกาหนดแนวทางการดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาฯภายใน
เดือนพฤศจิกายน 2557
4) ให้ทุกส่วนราชการเร่งเสนอกฎหมายที่มีความจาเป็นเร่งด่วนโดยเร็วและให้เร่งรัดจัดกลุ่ม
กฎหมายโดยแบ่งออกเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้า ของสังคมหรือให้สังคมดีขึ้นและ
กฎหมายเกี่ยวกับการค้าการลงทุนหรือการอนุมัติการตามหนังสือสัญญาระหว่างประเทศโดยจัดทาเป็นตารางและ
กาหนดกรอบระยะเวลาแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติแล้วส่งให้ สคก . เพื่อ
รวบรวมเสนอ ครม. ทั้งนี้กฎหมายเร่งด่วนหรือกฎหมายที่มีลักษณะพิเศษที่ต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน เช่น
ภาษีมรดกให้บังคับใช้ก่อนไตรมาสที่ 3 โดยได้ดาเนินการร่างกฎหมายใหม่ที่นาเสนอสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีจานวน 2 ฉบับประกอบด้วยร่างพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้าง
คุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ... และร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ .ศ.... ร่างกฎหมายที่ใหม่อยู่
ระหว่างเตรียมการเสนอต่อสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจานวน 16 ฉบับและร่างกฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่าง
การศึกษายกร่างจานวน 27 ฉบับ
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 53-
5) ให้ทุกส่วนราชการเร่งดาเนินโครงการ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็น
รูปธรรมโดยเร็วเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน เช่น การจัดหารถเมล์ NGV ใหม่, โรงงานกาจัดขยะ
เป็นต้น โดยมีการมอบหมายทุกหน่วยงานในสังกัดเสนอกิจกรรมของขวัญหน่วยงานละ 1 เรื่องเพื่อร่วมกันพิจารณา
ในเดือนพฤศจิกายน 2557
6) การดาเนินการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ให้ทุกกระทรวงร่วมกันกาหนดกิจกรรมที่จะ
ส่งเสริมการดาเนินการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยใน ส่วนกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินงานสาคัญ ดังนี้
จัดการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใน5 พื้นที่ชายแดน สร้างหลักสูตรใหม่ รองรับความต้องการ
ของประเทศพร้อมก้าวสู่ AEC โดยร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน จัดทาหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อรองรับความต้องการ
กาลังคน อาทิหลักสูตร ปวส. สาขาวิชาเทคนิคพลังงาน ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมน้ามันและพลังงาน สอนนาร่อง
ใน ๕ วิทยาลัย จัดให้มีโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย(ทวิศึกษา) เมื่อจบการศึกษา
จะได้รับ 2 วุฒิ รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงาน เร่งเตรียมกาลังคนรองรับตลาดแรงงาน ดังนี้
1) การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เช่นด้านการท่องเที่ยว ภาษามัคคุเทศก์ เป็นต้น2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการ
ลงทุน เช่น วิศวกรรม ระบบขนส่งทางราง เป็นต้น3) การผลิตแรงงาน ให้เร่งดาเนินการและต้องผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพ
ให้เร็ว โดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลนและมีงานรองรับ ให้เริ่มดาเนินการทันทีซึ่งอาจทาโครงการพัฒนาต่อยอด โดยนาบุคลากร
ที่ยังไม่มีงานทามาเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการจัดการเรียนการสอนด้าน
ภาษาอังกฤษและภาษาในกลุ่มประชาคมอาเซียนในสถานศึกษาทุกระดับทั้งในระบบและนอกระบบ เปิดสอน
อาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 147 แห่ง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ระดับ ปวช.) 39 สาขา 145 ห้องเรียน
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ระดับ ปวส.) 31 สาขา 71 ห้องเรียน พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อ
รองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขนส่งระบบราง และจัดการศึกษาอาชีวศึกษาทวิภาคี ได้แก่ การลงนามความ
ร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรีกับบริษัทซีเมนส์ จากัด ในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาทวิภาคีเป็นต้น จัดทา
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เพื่อเป็นการประกันคุณภาพบัณฑิตที่มุ่งเน้นมาตรฐานผลการ
เรียนรู้ (Learning Outcomes) ของผู้เรียนเป็นสาคัญทั้ งในระดับหลักสูตรและสาขาวิชา ส่งเสริมการจัด
การศึกษาเชิงบูรณาการ การเรียนรู้กับการทางาน (Work Integrated Learning: WIL)
14.3 การดาเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
1) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 เห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบัน
วิทยาลัยชุมชนพ.ศ. ...ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งสภานิติบัญญัติ
แห่งชาติ ได้ผ่านความเห็นชอบพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. 2558และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558
2) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 มติอนุมัติการเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลา
ก่อหนี้ผูกพันโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ภายใต้โครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย พ .ศ. 2556-2560
มหาวิทยาลัยแม่ฟูาหลวง กระทรวงศึกษาธิการจากวงเงินรวม2,164,000,000 บาท เป็นวงเงินรวม 3,001,329,600
บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบ
สาธารณูปการจากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ.2557-2560 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2561 โดยใช้เงินรายได้
สมทบตามสัดส่วนที่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณตามความเห็นของสานักงบประมาณโดยได้ดาเนินการปรับ
รูปแบบรายการก่อสร้าง (BOQ) พร้อมกาหนดราคากลางทั้งสองอาคารกาหนดขอบเขตของงานอาคาร (TOR)
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 54-
กาหนดขอบเขตงานค่าควบคุมงาน (TOR) และเตรียมความพร้อมการเข้ากระบวนก ารประกวดราคาของทั้งสอง
อาคารเรียบร้อยแล้วรวมทั้งได้เตรียมความพร้อมของสถานที่เรียบร้อยแล้ว
14.4 ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการตามนโยบาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒ นาศัย) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ตามนโยบายเร่งด่วน 10 นโยบาย (ดาเนินการ
ให้เห็นผลใน 3 เดือน) และนโยบายเฉพาะ 7 นโยบาย (ดาเนินการให้เห็นผลใน 1 ปี) โดยมีการจัดทารายงาน
ในช่วง 6 เดือน (12 กันยายน – 31 มีนาคม 2558) มีผลการดาเนินงาน ดังนี้
1) ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 10 นโยบายเร่งด่วน
(1) เร่งสารวจและให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งฟื้นฟูโรงเรียนสถานศึกษา นักเรียน
นักศึกษา ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยโดยเร็ว จากการสารวจ
และให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งฟื้นฟูโรงเรียนสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และบุคลากร
ทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในภาพรวมสารวจ พบว่า มีสถานศึกษา 104 แห่ง นักเรียน/
นักศึกษา 577 คน และครู /อาจารย์ 2 คน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย ประมาณการความเสียหาย
จานวน 14,943,559 บาท ซึ่งได้ช่วยเหลือตามจานวนที่สารวจแล้ว
(2) เร่งแก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาอย่างเป็นระบบ
และต่อเนื่อง จากข้อมูลทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาในภาพรวม พบว่า การทะเลาะวิวาทของนักศึกษา
อาชีวศึกษามีปริมาณน้อยลง อาจเนื่องมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดการเรียนการสอนให้
นักศึกษาอาชีวศึกษามีการดาเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังในกรณีที่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท พร้อมทั้งมี
มาตรการเร่งรัด รณรงค์ กาชับ เพื่อไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษา ดังนี้ กาหนดมาตรการในการ
แก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษา นามาตรการแก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะ
วิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาไปใช้อย่างจริงจัง เร่งรัด รณรงค์ กาชับ เพื่อไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษา
อาชีวศึกษา ส่งเสริม สนับสนุน สร้างพื้นที่การปรับเปลี่ยนทัศนคติระหว่างสถาบันอาชีวศึกษาที่เป็นคู่กรณีกัน
การส่งเสริมเยาวชนให้มีคุณธรรมและโครงการส่งเสริมศักยภาพการตรวจ ติดตามความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา
(3) เร่งสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา ปรับภาพลักษณ์และกาหนดมาตรการ เพื่อจูงใจให้นักเรียน
นักศึกษา พ่อแม่และผู้ปกครองมีความยินดีและส่งเสริมให้บุตรหลานเข้ารับการศึกษาในสายอาชีพอาชีวศึกษาเพิ่ม
มากขึ้นโดยเฉพาะวิชาชีพที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของตลาดแรงงาน สถานศึกษามีแผนงานหรือ
มาตรการและดาเนินการจูงใจให้นักศึกษาเข้าเรียนสายอาชี พที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของตลาดแรงงาน
จานวน 876 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ของสถานศึกษาทั้งหมด โดยมีกิจกรรมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการศึกษา
ในสายอาชีพอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่อง (VEC-MODEL) จัดฝึกอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา
(Pre.Voc.Ed) ซึ่งนาร่องโดยวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก สมุทรปราการและ
วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมแนะแนวเชิงรุก
อาทิ แนะวิถีทางสู่อาชีพในอนาคต การมีรายได้ระหว่างเรียน จัดการเรียนแบบทวิภาคีเต็มรู ปแบบ และจบแล้วมี
งานทา กาหนดแผนงานหรือมาตรการเพื่อจูงใจในการเข้ารับการศึกษาสายอาชีพอาชีวศึกษา โดยเฉพาะวิชาชีพที่
ขาดแคลน และมีระบบการติดตาม ควบคุมอย่างเป็นระบบและชัดเจน ผลิตกาลังคนด้านอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการของการพัฒนาประเทศการจัดการศึกษาในวิทยาลัยชุมชน มีผู้รับบริการการศึกษาระดับอนุปริญญา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 55-
ระดับ ปวช . และระดับ ปวส . จานวนทั้งสิ้น 16,480 คน รวม 17 สาขาวิชา และมีการจัดการเรียนการสอน
สายสามัญคู่ขนานกับสายอาชีพ
(4) ทบทวนหลักสูตร การเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิ ด วิเคราะห์
มีเวลาทากิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์รวมทั้งปลูกฝังในเรื่องค่านิยมหลัก
มีคุณธรรม จริยธรรม สร้างวินัยจิตสานึกความรับผิดชอบต่อสังคม การยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์และความภาคภูมิใจในการเป็นคนไทย สถานศึกษาที่ดา เนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์และมีการพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ และการปลูกฝังค่านิยมหลักของ
คนไทย 12 ประการ มีจานวน 36,652 แห่ง ซึ่งจากการดาเนินงานนี้สถานศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ
100 ของสถานศึกษากลุ่มเปูาหมายตามที่ โครงการกาหนด ซึ่งสถานศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 100
ของสถานศึกษากลุ่มเปูาหมายตามที่โครงการกาหนด โดยมีการดาเนินงานทั้ง 3 กิจกรรม ได้แก่ การดาเนินการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ การพัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ให้แก่นักเรี ยน
และการปลูกฝังค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรวิชา
ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ประกาศรายชื่อหนังสืออ่านนอกเวลาและหนังสือแนะนาควรอ่านเพิ่มเติมวิชา
ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ดาเนินการพัฒนาการอ่าน คิด วิเคราะ ห์ และเขียนสื่อความเพื่อการอ่านรู้เรื่อง
และสื่อสารได้ตามแนวทางการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) พัฒนาคุณภาพการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานให้สูงขึ้นโครงการอาชีวศึกษาฐานวิทยาศาสตร์และการ
จัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา(STEM Education) จัดทาสื่อเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2558 เพื่อพัฒนาชุด
คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดทาแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ
เพื่อนาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมผ่านกิจกรรมทั้งด้านการเรียนการสอน
และกิจกรรมนักศึกษา พร้อมทั้งอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือสาหรับข้าราชการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม
การศึกษาเอกชน เพื่อปลูกจิตสานึกที่ดีในด้านคุณธรรม จริยธรรม การเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของ
ส่วนรวม มีจิตสาธารณะ ซื่อสัตย์ อดทน เสริมสร้างความมีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีความเข้าใจในหลักการ
ประชาธิปไตย และพัฒนาข้าราชการให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และมีความคิดที่ดีต่อผู้อื่นตาม
ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ จานวน 109 คน หลักสูตร 5 วัน 2 รุ่น จัดตั้งสถาบันเฉพาะทางโดยต่อยอด
การพัฒนาจากสถานศึกษาเดิมที่มีความเป็นเลิศเฉพาะทาง โดยเริ่มนาร่องสถาบันที่จัดการเรียนเฉพาะทาง ในปี
การศึกษา 2558 จานวน 19 วิทยาลัย พัฒนาความเป็นเลิศด้านกีฬาให้กับนิสิตนักศึกษา จัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬา
จานวน 3 ชนิดกีฬา ฝึกซ้อมและจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
(5) เร่งพิจารณาทบทวนการอุดหนุนรายหัวแก่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งของภาครัฐ
และเอกชนการช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนสายอาชีพอาชีวศึกษาและการช่วยเหลือเด็กยากจน พิการ และ
ด้อยโอกาสจากข้อมูลสถานศึกษาที่ได้รับการอุดหนุนรายหัวที่เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมใน
ปัจจุบันในภาพรวม มีสถานศึกษาที่มีการดาเนินการทั้งหมด 36,519 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ของจานวน
สถานศึกษาทั้งหมดและของแต่ละหน่วยงาน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการทบทวนเงินอุดหนุน รายหัว
แก่นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ความ ช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียน
สายอาชีพอาชีวศึกษา และการช่วยเหลือเด็กยากจน พิการ และด้อยโอกาส สานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐานจัดทาข้อตกลงกับผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนในการให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ
การรับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอาคารมูลนิธิบิ๊กซี เป็นต้น ดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 56-
เครื่องมือ ประจาตัวต่อคน ให้แก่ผู้เรียนระดับ ปวช . ทั้ง 3 ชั้นปีทุกสังกัด ประมาณ 262,263 คน เป็นจานวน
390 ล้านบาทและได้พิจารณาทบทวนเงินอุดหนุนรายหัวแก่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งภาครัฐ
และเอกชน เพื่อช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนสายอ าชีพอาชีวศึกษา และได้ขออนุมัติการจัดสรร
งบประมาณเพื่อจัดหาเครื่องมือประจาตัวต่อคน ให้แก่ผู้เรียนระดับ ปวช . ทั้ง 3 ชั้นปีทุกสังกัด แบ่งเป็น 9 สาขา
อาชีพ ปีงบประมาณ 2558 คาดว่าจะมีนักเรียน /นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 1 จานวน
277,717 คน ใช้งบประมาณจานวน 414,527,000 บาท
(6) เร่งขยายบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมในระบบการศึกษาโดยเฉพาะการจัดทา
ข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนในการให้การสนับสนุนและการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าทางานหลัง
สาเร็จการศึกษาและการสนับสนุนอื่นๆ ให้เพิ่มมากขึ้น สถานศึกษาที่มีสถานประกอบการภาคธุรกิจเอกชนเข้ามา
มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ มีจานวนทั้งสิ้น 1,260 แห่งและผู้สาเร็จการศึกษา
ที่ผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนรับเข้าทางานจากสถานศึกษาสังกัดสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาระดับ
ปวช. จานวน 14,156 คน คิดเป็น ร้อยละ 18.56 ของผู้สาเร็จการศึกษา จานวน 76,273 คน และระดับ ปวส .
จานวน 22,064 คน คิดเป็นร้อยละ 45.32 ของผู้สาเร็จการศึกษา จานวน 48,685 คน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้
ดาเนินการส่งเสริมการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการการเรียนรู้กับการทางาน (Work-integrated Learning : WIL)
ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษา สถานประกอบการ และองค์กรวิชาชีพได้ร่วมกันจัดทามาตรฐานคุณวุฒิ
ระดับอุดมศึกษาในสาขาต่างๆ มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากับ
หอการค้าไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย และกลุ่มมิตรผล เพื่อผลิตกาลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และ
ภาคบริการซึ่งสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะนาร่องในวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี6แห่ง
ใน3จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี
(7) เร่งปรับระบบการบรรจุครูและการรับรองมาตรฐานวิชาชีพครูให้เอื้อต่อการเพิ่มโอกาสให้
มีบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสมเข้ามาในระบบการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการแก้ไข
ปัญหาการขาดแคลนครูและบุคลากรอาชีวศึกษาและครูสาขาขาดแคลนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐา น สานักงาน
คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีการเสนอขออนุมัติเห็นชอบกฎ ระเบียบทั้งหมด
8 ฉบับ และมีกฎ ระเบียบที่ได้รับการเห็นชอบ จานวน 5 ฉบับ ดาเนินโครงการผลิตครูมืออาชีพ เพื่อสนับสนุน
การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูในพื้นที่ขาดแคลนและจาเป็นต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษาของ
กระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบแนวทางปฏิบัติสาหรับผู้ประสงค์จะประกอบวิชาชีพครูอาชีวศึกษา โดยสาขาวิชา
ที่สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาแจ้งต่อคุรุสภา หากตรวจสอบกับสาขาวิชาของสถาบันผลิตครู หลักสูตร
5 ปี ที่คุรุสภาให้การรับ รองแล้วไม่มีการผลิตในสาขานั้น ออกประกาศรับรองหลักสูตรอบรมความรู้
เพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของชาวต่างประเทศ และประกาศรับรองการปฏิบัติการสอน
ในสถานศึกษาเพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของชาวต่างประเทศรวมทั้งกาหนดประเ ภท
วิชาและสาขาวิชาขาดแคลนด้านอาชีวศึกษา (9 ประเภทวิชา 86 สาขาวิชา ) พร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติในการ
ออกหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กรณีผู้มีคุณวุฒิไม่ต่า กว่าปริญญาตรี
สาขาวิชาขาดแคลน นอกจากนี้ ได้ จัดสรรทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เพื่อผลิ ตและพัฒนาอาจารย์
ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐให้มีคุณวุฒิปริญญาเอกในสาขาวิชาที่ขาดแคลน16สาขา จานวน5,342ทุน
(8) เร่งทบทวนมาตรการการจัดกิจกรรมรับน้องของนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษา
ต่างๆ และมาตรการติดตาม ควบคุมการลักลอบการจัดกิจกรรมรับน้องทั้งภายในและภายนอกสถาบันการศึกษาให้
เป็นไปในแนวทางที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ปราศจากการใช้ความรุนแรงการละเมิดและคุกคามทางเพศ รวมทั้งไม่ขัด
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 57-
ต่อหลักศีลธรรมขนบประเพณีอันดีงามและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้มีผลบังคับใช้ให้ทุก
สถาบันการศึกษายึดถือเป็นแนวทางปฏิ บัติอย่างเคร่งครัด สถานศึกษามีมาตรการจัดกิจกรรมรับน้อง
เชิงสร้างสรรค์ จานวนทั้งสิ้น 4,728 แห่ง โดยจาแนกเป็นสถานศึกษาจากสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม
การศึกษาเอกชน 4,231 แห่ง สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 421 แห่ง และสานักงานคณะกรรมการ
การอุดมศึกษา 76 แห่ง โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มีการดาเนินการ แจ้งเวียนประกาศการรับน้องใหม่ ประชุม
เชียร์ จัดประชุมหารือและมอบนโยบายให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ โดยการส่งเสริมให้จัดกิจกรรม
ส่งเสริมความรัก ความสามัคคีฉันท์พี่น้อง และการสร้างคุณธรรม จริยธรรม โดยไม่ให้ส ถานศึกษาจัดกิจกรรมรับ
น้องใหม่นอกสถานศึกษา การจัดกิจกรรมให้สถานศึกษาเป็นเจ้าภาพ และควรเคารพเสรีภาพและหลัก
ความเสมอภาคของเด็กและเยาวชน และมีการติดตามผลการปฏิบัติของสถานศึกษา และผลกระทบที่มีต่อนักศึกษา
(9) เร่งทบทวนมาตรการความปลอดภัยสาหรับสถาบันการศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการจัด
กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานศึกษาและมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งเป็นหมู่คณะ
ของนักเรียน นักศึกษาครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาโดยให้มีผลบังคับใช้ให้ทุกสถาบันการศึกษายึดถือ
เป็นแนวท างปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สถานศึกษาของทุกหน่วยงานมีมาตรการและแนวทางการจัดกิจกรรม
ทัศนศึกษานอกสถานศึกษาที่ปลอดภัย และยังไม่ปรากฏข้อมูลการประสบอุบัติเหตุจากการจัดกิจกรรม ทัศนศึกษา
ในรอบการรายงานนี้ ซึ่งหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการมีการดาเนินงานในการรักษาความปลอดภัย โดยดาเนินการ
แจ้งเวียนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ .ศ. 2548 และ
ทบทวนมาตรการความปลอดภัยสาหรับกิจกรรมทัศนศึกษาและการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพื่อแจ้งให้สถานศึกษา
ทราบและยึดถือเป็นแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจัดทาโครงการ /กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ โครงการไปโรงเรียน
ปลอดภัย โครงการประกวดสถานศึกษาร่วมใจ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กิจกรรม
มาตรการด้านความปลอดภัยของรถ รับ-ส่ง นักเรียน เป็นต้น
(10) เร่งดาเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษาทั้ง ที่
เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักและหน่วยสนับสนุนให้เห็นผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามเป้าหมาย
และกรอบระยะเวลาที่กาหนด ได้ดาเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา
กาหนดผู้รับผิดชอบในการรายงานตามนโยบาย แต่งตั้งคณะกรรมการอานวยก ารปฏิรูปการศึกษา คณะทางาน
ติดตามประเมินผล และแต่งตั้งคณะทางานจัดทารายงาน จัดทาระบบการรายงานผลการปฏิบัติงานของ
กระทรวงศึกษาธิการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ และกาหนดตัวชี้วัดรองรับโครงการตามนโยบาย รวมทั้งจัดทา
แผนปฏิบัติราชการประจาปี พ.ศ.2558 เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้จัดทารายงานผลตามนโยบาย
ได้ทันตามกาหนดเวลา
2) ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 7 นโยบายเฉพาะ
(1) การพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและ
พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดาเนินการจัดตั้งสานักงานประสานงานและบูรณาการการศึกษาจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ (สปศ.จชต.) ส่วนกลาง ณ สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา
จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ส่วนหน้า ณ สานักงานศึกษาธิการภาค 12 จังหวัดยะลา และพัฒนาอาจารย์
และบุคลากรสาหรับสถาบันอุดมศึกษาโดยจัดสรรทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก จานวน 30 ทุน แบ่งเป็นทุน
ต่างประเทศ จานวน 5 ทุน ภายในประเทศ จานวน 25 ทุน พัฒนาโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน
1,305 โรง และสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศ โดยดาเนินการโอนเ งินทุนการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 58-
(ค่าครองชีพ) ผ่านสถาบันอุดมศึกษาให้แก่ผู้รับทุนกลุ่มที่ 2 ประจาปีการศึกษา 2556 จานวน 125 คน เสริมสร้าง
ขวัญกาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา ดาเนินการฟื้นฟูสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางเพลิง
โดยจัดสรรงบประมาณจานวน 23 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนถาวรใหม่ จานวน 5 หลัง ให้แก่สถานศึกษา
มอบทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องทายาทผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยดาเนินงานมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบันมีผู้อยู่ในความช่วยเหลือมากกว่า ๗,๐๐๐ ราย นอกจากนี้ มีการ
เสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์กับนานาประเทศ
(2) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ .ศ.2558 และการดารงความ
ต่อเนื่องภายหลังการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เร่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร วิชาการ
และอาชีพ แก่นักเรียน ครู ศึกษ านิเทศก์ และบุคลากรในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จัดทายุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษากับประเทศเพื่อนบ้าน จัดโครงการส่งเสริมการเรียน
การสอนภาษาอังกฤษและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน (ภาษาอาเซียน) ได้แก่ ภาษาพม่า เขมร ลาว มลายู และ
เวียดนาม โดยจัดกิจกรรมพัฒนาการคิดและการสร้างการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ในศตวรรษที่ ๒๑ ให้แก่
อาจารย์และครูผู้สอนภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับประเทศสมาชิกอาเซียน เจรจาความ
ร่วมมือจัดหลักสูตร การอบรมผู้รับทุนศึกษาด้านการสอนภาษาอาเซียน โดยให้ทุนศึกษ าด้านการสอน
ภาษาต่างประเทศที่สอง เพื่อผลิตครูในสาขาวิชาที่ขาดแคลน ระยะเวลา 4 ปี ระหว่างปี 2556-2559 จัดทา
โครงการความร่วมมือกับต่างประเทศและการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย
มอบทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาให้กับประเทศไทยปีละ 60 ทุน เป็นเวลา 6 ปี รวม 360 ทุน จัดโครงการครู
อาสาสมัครชาวจีน ในปี 2557 มีครูอาสาสมัครชาวจีนมาปฏิบัติงานในประเทศไทย รวม 270 คน และจัดทาแผน
ยุทธศาสตร์อาเซียนด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2558 – พ.ศ. 2562)
(3) การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันและสนับสนุนก ารพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ดาเนินการ
ประกาศมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัย
แห่งชาติจัดทาร่างยุทธศาสตร์และRoad map ในการดาเนินงานของหน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอด
เทคโนโลยีในสถาบันอุดมศึกษา(Technology Licensing Office :TLO) จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ และสนับสนุน
ค่าใช้จ่ายเพื่อดาเนินการโครงการวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ รวมทั้งวิจัยการจัดการศึกษาแบบบูรณาการ
เพื่อส่งเสริมสุขภาพนักเรียน
(4) การมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มี คุณภาพดาเนินการ
จัดทาแผนงานพัฒนาวิชาชีพครูทั้งระบบ พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหน่งผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน จานวน 100 คน จัดโครงการนาร่องเพื่อ
การผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาโดยจัดสรรทุ นศึกษาต่อระดับปริญญาเอก จานวน 1,259 ทุน
ผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสาขาวิชาที่ขาดแคลน 16 สาขา โดยจัดสรรทุนปริญญาเอก
จานวน 5,342 ทุน มีผู้รับทุนที่สาเร็จการศึกษา จานวน 3,835 ราย ผลิตครูมืออาชีพโดยคัดเลือกผู้มีสิทธิเข้าร่วม
โครงการ จานวน 1,047 คน และพัฒนาครูอาชีวศึกษาในสถานประกอบการ กลุ่มอาชีพยานยนต์และชิ้นส่วน
จานวน 26 คน และมีการ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาระหว่างเดือนธันวาคม2557– มกราคม2558จานวน
10,000คน แบ่งเป็น 10 รุ่นๆ ละ 1,000คน ระยะที่สอง อบรมครูที่เหลืออีก10,000 คน ในช่วงกลางเดือนเมษายน–
พฤษภาคม2558รวมทั้งพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและครู อาทิ พัฒนาสมรรถนะผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา : หลักสูตรเฉพาะสาขา จานวนทั้งสิ้น216 คน
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 59-
(5) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย ดาเนินโครงการขยายผล
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยขออนุมัติและเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จานวน 1,253,944,875 บาท และ
จัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบสาหรับห้องเรียน โรงเรียนประเภทสามัญศึกษาที่ รับเงินอุดหนุน
รายบุคคล ระดับประถมศึกษาขึ้นไป จานวน 2,530 โรง พัฒนาศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลฯ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์
ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนาโปรแกรมระบบบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านระบบ
เครือข่ายและจัดการเว็บไซต์ และพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพปรับเปลี่ยนสื่อให้กับหน่วยงาน
และสถานศึกษาสามารถเข้าถึงและใช้ระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วขึ้น จานวน35,000 แห่ง
(6) การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ
2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ มีการจัดทาแผนบูรณาการระหว่างกระทรวงต่างๆ และมีการดาเนินการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาโดยจัดประชุมสัมมนาผู้รับใบอนุญาตและผู้บริหารโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จานวน 310 คน
เพื่อสร้างกลุ่มเครือข่ายของโรงเรียนนอกระบบให้มีความเข้มแข็ง เป็นเอกภาพมากขึ้น
(7) การดาเนินการตามแผนก ารศึกษาแห่งชาติและการปฏิรูปการศึกษา ดาเนินโครงการ
ส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนเอกชนให้มีคุณภาพสู่มาตรฐานสากล นาร่องยกระดับคุณภาพการใช้ภาษาไทย จัดการ
เรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์
และคณิตศาสตร์ โดยดาเนินการใน 5 วิทยาลัย รับนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งหมดปีละ 450 คน และมีการปฏิรูป
การเรียนรู้ สู่ผู้เรียน (Coaching Lab) โดยมีการดาเนินงานที่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษานาร่องในเขตภาคเหนือ
ประกอบด้วย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 สานักง านเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาน่าน เขต 1 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 และสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์การปฏิรูปการศึกษาและกระจายอานาจการจัด
การศึกษา นอกจากนี้ ได้ดาเนินโครงการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2560 – 2569) สานักงานเลขาธิการ
สภาการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจัดประชุมทางวิชาการ เรื่อง “แนวทางการยกระดับคุณภาพ
การศึกษาของชาติ และการนาสู่การปฏิบัติ” เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องทั่วทุกภูมิภาค
ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2557 ขณะนี้ได้จัดทารายงานข้อเสนอแนวทางฯ ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์
สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่มีผลกระทบต่อการศึกษา รวมทั้งติดตามการดาเนินงานตาม
แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552 - 2557) และจัดทารายงานทิศทางการพัฒนาการศึกษาร ะดับ
ภาคการศึกษา ภายใต้ความร่วมมือจากสานักงานศึกษาธิการภาค 13 แห่ง
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 60-
ส่วนที่ 2
สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกาหนดกรอบ
แนวคิดสาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้
มีข้อมูลสาคัญที่ศึกษา ประกอบด้วย (1) นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี )
(2) (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 – 2564) (3) ยุทธศาสตร์และนโยบายของคณะรักษาความสงบ
แห่งชาติ (4) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ) (5) แผนพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่11(พ.ศ.2555 -2559) (6) แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง(พ.ศ.2552– 2559)
(7) แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) ระยะครึ่งแผน
(8) กรอบข้อตกลงการศึกษาเพื่อปวงชน (EFA) (9) ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ
พ.ศ.255 9 (10 ) การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559
(11) อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ และ(12) ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
 วิสัยทัศน์
คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
 พันธกิจ
1) ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาสู่สากล
2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค
3) พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล
 ยุทธศาสตร์
1)การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ
2) การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3) การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ
4) การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
5) การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
6) การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
7) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
8) การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน
9) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
 เปูาประสงค์
1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีความสมานฉันท์
สามัคคีปรองดอง มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติด
2)ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจมีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทย
3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 61-
4) กาลังคนระดับกลางและระดับสูงมีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับการพัฒนา
7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์
8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน
9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ
เพื่อยกระดับเข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
11)ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต
12) นักเรียนนักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการเสริมสร้างความสัมพันธ์
และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค
13) หน่วยงานมีระบบบริหารและจัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์และค่าเปูาหมาย
ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย
1 ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีปรองดอง และ/
หรือกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เปรียบเทียบกับ
เปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
2 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด
เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
3 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมให้มีความซื่อสัตย์สุจริต
เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
4 ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์
ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
5 ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ
จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ร้อยละ 100
6 จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน
- อายุ 15-39 ปี
- อายุ 40-59 ปี
- อายุ 15-59 ปี
10.9 ปี
7.6 ปี
9.2 ปี
7 ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ร้อยละ 36
8 สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา
ต่อสามัญศึกษา (ปวช.1 ต่อ ม.4)
45: 55
9 ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ได้งานทา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 62-
ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย
หรือประกอบอาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี
- ปวช.
- ปวส.
- ปริญญาตรี
ร้อยละ 25
ร้อยละ 50
ร้อยละ 90
10 ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการมีศักยภาพและ
ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว
ร้อยละ 80
11 จานวนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับ
การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
25,000 คน
12 ร้อยละของนักศึกษาและประชาชนที่เข้าอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ
วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 10
13 จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ
ด้านการค้าและการพัฒนา
3,700 คน
14 จานวนผลงานวิจัยด้านการรักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์ 700 เรื่อง
15 จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้ประโยชน์ 2,405 เรื่อง
16 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน
(O-NET) (5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น คือ ป.6 ม.3 ม.6)
เพิ่มขึ้นร้อยละ 2
17 ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่เข้ารับการประเมินและได้รับ
การรับรองคุณภาพจาก สมศ.
- สถานศึกษาระดับปฐมวัย
- สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ประถมและมัธยม)
- สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา
- สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา
- สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน.
ร้อยละ 97
ร้อยละ 87
ร้อยละ 95
ร้อยละ 97
ร้อยละ 100
18 ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา
ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
19 ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ
และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความมั่นคงและผดุงเกียรติ
และความก้าวหน้าในวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
20 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ บรรลุผลสาเร็จตาม
เปูาหมายที่กาหนด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
- ภาพรวม
- งบลงทุน
ร้อยละ 96
ร้อยละ 87
21 ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ
นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับเปูาหมาย
การดาเนินงาน
ร้อยละ 80
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 63-
ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย
22 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษาหรือความรู้เกี่ยวกับ
ประชาคมอาเซียน เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
23 จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตามโครงการ
พัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล
30,923 แห่ง
 กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลัก 12 ประการ
แก่ประชาชน
1. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง ความซื่อสัตย์สุจริตเสียสละเพื่อ
ส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เรียนปลอดภัยจาก
ยาเสพติด
2. ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี
ที่ดีงาม
ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3. กระจายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
4. ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
และพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์
5.พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้เข้าถึงง่าย
และสะดวกสาหรับประชาชนในทุกพื้นที่
6. จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ
7. เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาให้มี
คุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
8. สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา/หน่วยงานทางการศึกษากับภาคเอกชน
หรือสถานประกอบการ ในการวางแผนการผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ
9. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มีความสามารถพิเศษทุกด้าน
ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเต็มตามศักยภาพ
10. ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาลและส่งเสริม
สุขภาพ
11. พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาสร้างองค์ความรู้
เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศ
12. สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานและ
องค์กรทั้งในและต่างประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 64-
13. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผู้เรียนทุกระดับ
และประเภทการศึกษา
14. เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาให้มีคุณภา พและ
มาตรฐาน
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
15. ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ให้มีคุณภาพ
16. เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู
17. พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรองคุณภาพมาตรฐาน
วิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จการศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือผู้ช่วยสอน
18. สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่งเข้าสู่วิชาชีพครู โดยปรับปรุง
ระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครู
ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
19. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
20. เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัดการศึกษาให้หน่วยงาน เขตพื้นที่
การศึกษา สถานศึกษาและสถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง
ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
21. พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้
22. ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและสวัสดิการ สาหรับบุคลากร
ทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเหมาะสม
ยุทธศาสตร์ที่ 8 การดาเนินงานงานตามกรอบประชาคมอาเซียน
23. การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือทางด้านการศึกษา
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน
24. สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกั บประชาคมอาเซียน และ
ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรมนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน
ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
25. ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับและ
ประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
26. นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้พัฒนาระบบการบริหาร
จัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
27. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ มีมาตรฐาน
เดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับการศึกษาและประเภทการศึกษา
- 74 -
ส่วนที่ 3
รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
(ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
สป. สกศ. สพฐ. สกอ. ม/ส สอศ. สสวท คส. สกสค. มส สคพ. สทศ.
รวม 4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3
รวม 54,346.4091 235.7821 319,471.0495 6,915.3777 111,755.6807 22,289.8009 1,800.2157 313.5740 208.1927 329.8128 51.6993 807.1085 518,524.7030 138,802.9820 88,590.2387 88,308.0723
1 : การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง 300.6541 310.1239 30.0000 401.1840 30.0000 1,071.9620 247.1766 206.1685 128.2242
และค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ
2 : การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษา 49,274.2239 45,719.9067 1,003.6228 401.4084 4,775.6518 101,174.8136 53,019.6474 13,440.9746 22,162.7253
ให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม
3 : การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 7.6459 3,678.7076 106,164.1492 17,163.5473 1,350.6986 329.8128 21.0000 128,715.5614
และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ
4 : การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับ 1,177.0310 235.7821 263,694.0044 372.3392 3,626.3647 449.5171 807.1085 270,362.1470 80,334.9672 71,465.6752 62,282.0437
คุณภาพการศึกษา
5 : การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิต 1,581.5089 7,243.9338 313.5740 208.1927 9,347.2094 2,879.5823 2,177.5755 2,159.9422
และพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
6 : การปฏิรูประบบบริหารจัดการ 812.5615 403.5441 95.1753 1,311.2809 466.3903 273.3514 305.5480
ให้มีประสิทธิภาพ
7 : การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดน 681.1972 1,753.6674 122.6660 558.4713 232.2658 3,348.2677 1088.3674 554.14 615.8862
ภาคใต้
8 : การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ 33.4418 345.8692 8.0000 604.1031 88.3360 30.6993 1,110.4494 212.2198 126.8703 90.9269
ประชาคมอาเซียน
9 : การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 478.1448 1,604.8668 2,083.0116 554.631 345.4832 562.7758
เพื่อการศึกษาให้ทันสมัย
54,346.4091 235.7821 319,471.0495 6,915.3777 111,755.6807 22,289.8009 1,800.2157 313.5740 208.1927 329.8128 51.6993 807.1085 518,524.7030
-
สรุปแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
ยุทธศาสตร์
งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ
75
55,333.3199 ######### 12,630.5120 13,487.1113 11,138.9719
300.6541 116.5185 115.3186 38.1929 30.6243
50,651.2549 ######### 11,104.7114 12,524.8078 10,188.1714
7.6459 2.0333 2.2127 1.7447 1.6552
- - - - -
2,259.6613 562.5182 899.5690 398.0062 399.5680
812.5615 238.9929 183.0892 215.3480 175.1314
681.1972 201.8404 170.7457 151.3504 157.2607
33.4418 6.2146 8.5307 7.0532 11.6433
586.9032 115.0426 146.3348 150.6082 174.9177
76
ไตรมาส 4
67,954.9778
89.2087
11,588.7194
52,653.0951
2,130.1094
265.9914
531.4028
76.3293
620.1217
77
- 116 -
ส่วนที่ 4
รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
(เฉพาะแผนบูรณาการ 12 แผน)
แผนบูรณาการ: 1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
รวม 4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ
นโยบายที่ 7 : การส่งเสริมบทบาท นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ โครงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 33.4418 6.2146 8.5307 7.0532 11.6433 สป.
และใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับ - กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 22.4010 2.4928 4.8089 4.5810 10.5183 สป. 7 8
7.2 พัฒนาศักยภาพในการ การเสริมสร้างความสัมพันธ์และ - โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ 1.1000 0.0000 0.3668 0.3666 0.3666
แข่งขันของผู้ประกอบการ พัฒนาความร่วมมือกับประเทศ ประจําปี 2559
ไทยทุกระดับ ในภูมิภาค - โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครูสอนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาศักยภาพ 0.8583 0.4292 0.4291 0.0000 0.0000
7.3 พัฒนาแรงงานของภาค ในการให้คําปรึกษา/เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์
อุตสาหกรรมเพื่อรองรับ เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชนตามหลักกติกาสากลและการฝึกอบรมนักเรียน/
การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นักศึกษาและการจัดการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชน
ตามหลักกติกาสากล
- โครงการพัฒนาสื่อเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเพื่อการดําเนินงานของอาเซียน 0.6223 0.0000 0.2075 0.2074 0.2074
ภายหลังปี 2558
- โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อการเข้าสู่ 8.5798 0.8580 1.7160 1.7160 4.2898
ของประชาคมอาเซียนในพื้นที่ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559
- โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิตเยาวชนสู่พลเมือง 7.2766 0.2146 1.0985 1.3000 4.6635
อาเซียน
- กิจกรรม : ส่งเสริมการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน 4.5000 1.1250 1.1250 1.1250 1.1250 สป.(กศน.) 7 8
- โครงการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและภาษาของกลุ่ม 4.5000 1.1250 1.1250 1.1250 1.1250
ประเทศอาเซียน
- กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาเอกชนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6.5408 2.5968 2.5968 1.3472 0.0000 สป.(สช.) 7 8
- โครงการพัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชนเข้าสู่ 6.5408 2.5968 2.5968 1.3472 0.0000
ประชาคมอาเซียนและการศึกษานานาชาติ
ตัวชี้วัดและเป้ าหมาย
1. การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 5 กิจกรรม
2. จํานวนผู้บริหาร ครู ผู้สอนและนักเรียน โรงเรียนเอกชนได้รับ
การพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน จํานวน 640 คน
3. จํานวนประชาชนกลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรรม
การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาในประเทศอาเซียน 2,800,000 คน
4. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจ
รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เฉพาะแผนบูรณาการ 12 แผน)
หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง)
นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง
งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ
ผู้รับผิดชอบ
ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/
118
รวม 4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ
หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง)
นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง
งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ
ผู้รับผิดชอบ
ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/
ต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาใน
ประเทศอาเซียน ร้อยละ 80
โครงการ: เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 345.8692 140.7872 72.6344 72.4240 60.0236 สพฐ. 2 8
กิจกรรม:
1. จัดการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน 251.0139 87.8556 57.7339 57.7339 47.6905
2. ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศที่สอง 66.9553 40.0097 9.5357 9.5357 7.8742
3. โรงเรียนประชาคมอาเซียน 27.9000 12.9219 5.3648 5.1544 4.4589
ตัวชี้วัดและค่าเป้ าหมาย
- สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต และสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.
จํานวน 30,922 แห่ง
88.3360 53.0016 35.0000 0.0000 0.3344 สอศ. 2 8
กิจกรรม: เพิ่มขีดความสามารถในการจัดอาชีวศึกษารองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน
และระดับสากล
โครงการเตรียมความพร้อมเช้าสู่ประชาคมอาเซียน 88.3360 53.0016 35.0000 0.0000 0.3344
กิจกรรมย่อย
1. พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ
2. พัฒนา ส่งเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน
ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ
1.พัฒนาการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ
1.1 สถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 130 แห่ง
1.2 จํานวนนักเรียน นักศึกษาที่ผ่านการพัฒนาภาษาอังกฤษและวิชาชีพ 15,000 คน
1.3 จํานวนผู้บริหาร ครู และบุคลากรที่ผ่านการพัฒนาทักษะทางภาษา 2,000 คน
1.4 จํานวนสื่อ คู่มือ แผนการเรียนการสอนที่ได้รับการพัฒนา 40 สาขาวิชา
1.5 พัฒนาและขยายศูนย์อาชีวศึกษาอาเซียน 120 แห่ง
2.พัฒนา ส่งเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน
2.1 จํานวนเครือข่ายความร่วมมือในประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ
2.2 ค่ายพัฒนาเยาวชนอาชีวศึกษาระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน 1,500 คน
2.3 จัดการเรียนกรสอนคู่ขนานภายใต้ASEAN TVET Networking 6 ประเทศ
โครงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
119
รวม 4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ
หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง)
นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง
งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ
ผู้รับผิดชอบ
ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/
ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ
1.ร้อยละของผู้ที่ได้รับการพัฒนามีความสามารถทางภาษาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 60
2.คุณภาพของคู่มือ สื่อ และแผนการสอน ร้อยละ 60
ผลผลิต : โครงการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533 สกอ. 1 8
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533
- โครงการความร่วมมือกับต่างประเทศและการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533
ตัวชี้วัด/ค่าเป้ าหมายเชิงปริมาณ : จํานวนกิจกรรมความร่วมมือกับประเทศ
สมาชิกอาเซียน 10 กิจกรรม
ผลผลิต : โครงการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 604.1031 0.0000 0.0000 0.0000 0.0000 ม/ส 1 8
การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
กิจกรรม
- พัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อม นักเรียน นักศึกษา บุคลากร
ของมหาวิทยาลัยและประชาชนทัว่ ไป เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
- จัดการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน
- เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและจัดอบรมสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่
ประชาคมอาเซีย
รวมงบประมาณแผนบูรณาการ 1 1,079.7501 59.2162 43.5307 7.0532 11.9777
120
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 145 -
ส่วนที่ 5
การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
ไปสู่การปฏิบัติ และการติดตามประเมินผล
การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ(ฉบับปรับปรุง
ตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ไปสู่การปฏิบัตินั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการในสังกัด
ที่จะมุ่งมั่นผลักดันการดาเนินแผนงาน /โครงการ ภายใต้กลยุทธ์ที่กาหนดไว้ในแผนปฏิบัติราชการฯ และในการ
ดาเนินงานโครงการสาคัญต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าประสงค์ที่กาหนดไว้ จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการระดม
สรรพกาลังทั้งในด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ ตลอดจนการสร้างความตระหนักในการ
มีส่วนร่วมอย่างเป็นเอกภาพและการสื่อสารระหว่างส่วนราชการ ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงกาหนดแนวทาง
ที่สาคัญในการนาแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ดังนี้
1. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเ ป็น
กลไกสาคัญ ในการดาเนินการแปลงยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ภายใต้แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559
ของกระทรวง ศึกษาธิการ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยกาหนดแผนงาน /โครงการ /กิจกรรมหลักที่จะ
นาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ของเป้าประสงค์ที่ชัดเจน รวมทั้งการกาหนดความรับผิดชอบต่อการบรรลุเป้าประสงค์หลัก
2. ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องให้ความสาคัญ
ในการใช้แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรอบในการบริหาร
การดาเนินพันธกิจของทุกหน่วยงานของกระทรวง
3. ผู้บริหารดาเนินการชี้แจงสร้างความรู้ ความเข้าใจในสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้บุคลากรในหน่วยปฏิบัติ ได้รับทราบความรู้ความเข้าใจ
ในเนื้อหาของแผนอย่างถูกต้องชัดเจน เพื่อการมีส่วนร่วมและสนับสนุนให้การดาเนินงา นตามแผนฯ เป็นไปอย่างมี
ประสิทธิภาพ
4. หน่วยงานในส่วนกลางสนับสนุนทรัพยากรอย่างเพียงพอ สาหรับการปฏิบัติงาน
ตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ของแต่ละหน่วยงานปฏิบัติ
ในระดับพื้นที่
5. กระทรวงศึกษาธิการมีการจัดสัมมนาบุคลากรด้ านการจัดทาแผนและประเมินผล เพื่อสร้าง
กลไก นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการดาเนินการจัดทาและประเมินผลแผน
6. การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2558ของกระทรวง
ศึกษาธิการ ควรมีการกาหนดทิศทาง ดังนี้
- ทุกหน่วยงานให้ความสาคัญกับการติดตามความก้าวหน้าในแต่ละยุทธศาสตร์
การประเมินผลสาเร็จและผลกระทบของการดาเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
- ทุกหน่วยงานพิจารณาใช้ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์ของแผนปฏิบัติราชการประจาปี
งบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ และนาค่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดมากาหนดเป็นเกณฑ์ที่สาคัญใน
การประเมินผล
- พัฒนาระบบการรายงานผลการปฏิบัติราชการ และผลการเบิกจ่ายงบประมาณเป็น
รายไตรมาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค สาหรับการทบทวน กาหนดมาตรการเพื่อปรับปรุง
กระบวนการปฏิบัติ งานและแก้ไขปัญหาอย่างทันต่อสถานการณ์ มีระบบวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการใช้จ่าย
แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
- 146 -
งบประมาณและจัดทาแผนเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบการกากับดูแลให้โปร่งใส และเร่งรัดการเบิกจ่าย
งบประมาณที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด
- ดาเนินการจัดให้มีการประชุมประสาน แผน โดยมีการนาข้อมูลที่ได้จากการดาเนินงาน
และผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงแผนและพัฒนาการจัดทาแผนในอนาคตให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น
- ผ-1/ 1 -
ตารางแสดงความเชื่อมโยงของวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัด
ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
- ผ-1/ 2 -
ตารางแสดงความเชื่อมโยงของวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัด ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
1. ยกระดับคุณภาพ
และมาตรฐาน
การศึกษาสู่สากล
1. การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยม
หลักของคนไทย 12 ประการ
กลยุทธ์
1.1 ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง
ความซื่อสัตย์เสียสละเพื่อส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู
ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกัน
ให้ผู้เรียนปลอดภัยจากยาเสพติด
1.2 ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม
1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมี
ความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย
มีความสมานฉันท์สามัคคีปรองดอง
มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของ
คนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกัน
ปลอดภัยจากยาเสพติด
1) ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรม
ส่งเสริมความสามัคคีปรองดองและ/หรือ
กิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย
12 ประการ เปรียบเทียบกับเป้าหมาย
การดาเนินงาน
ร้อยละ 100
2) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วม
กิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด
เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
3) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู
คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยม
ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต เปรียบเทียบกับ
เป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
2) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ
มีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุ
บารุงศิลปวัฒนธรรมไทย
4) ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่
เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทานุ
บารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับ
เป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 100
3. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและส่งเสริมการวิจัยเพื่อ
พัฒนาประเทศ
กลยุทธ์
3.1 เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและ
ระดับอุดมศึกษาให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการ
ของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
3.2 สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา/หน่วยงาน
ทางการศึกษา
3.3 ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มี
4. กาลังคนระดับกลางและระดับสูง
มีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้
ในระดับสากล
8) สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลายประเภทอาชีวศึกษาต่อสามัญศึกษา
(ปวช. 1 ต่อ ม.4) 10.9 ปี
45 : 55
9) ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช.
ปวส. และปริญญาตรีได้งานทาหรือประกอบ
อาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี
- ปวช.
- ปวส.
- ปริญญาตรี
ร้อยละ 25
ร้อยละ 50
ร้อยละ 90
- ผ-1/ 3 -
วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
ความสามารถพิเศษทุกด้านได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เต็มตามศักยภาพ
3.4 ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาล
และส่งเสริมสุขภาพ
3.5 พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและ
พัฒนาสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุน
การพัฒนาประเทศ
3.6 สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา
ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรทั้งในและต่างประเทศ
12) ร้อยละของนักศึกษาและประชาชน
ที่เข้ามาอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ
วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้
เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 10
10) ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากร
ที่เข้าร่วมโครงการ มีศักยภาพและ
ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว
ร้อยละ 80
5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ
ในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
นวัตกรรม
11) จานวนผู้มีความสามารถพิเศษ
ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ได้รับ
การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
25,000 คน
6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการ
รักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับ
การพัฒนา
14) จานวนผลงานวิจัยด้านการ
รักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์
700 เรื่อง
7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับ
การเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือ
ต่อยอดในเชิงพาณิชย์
15) จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้
เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้
ประโยชน์
2,405 เรื่อง
4. การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
กลยุทธ์
8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการ
เรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และ
6) จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัย
แรงงาน
- ผ-1/ 4 -
วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
4.1 เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและ
มาตรฐานผู้เรียนทุกระดับและประเภทการศึกษา
4.2 เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน
มาตรฐาน - อายุ 15-39 ปี
- อายุ 40-59 ปี
- อายุ 15-59 ปี
10.9 ปี
7.6 ปี
9.2 ปี
7) ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป
ร้อยละ 36
16) ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทาง
การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
(5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น
คือ ป.6 ม.3 ม.6)
เพิ่มขึ้นร้อยละ
2
17) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับ
และประเภทที่เข้ารับการประเมิน
และได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ.
- สถานศึกษาระดับปฐมวัย
- สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน
(ประถมและมัธยม)
- สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา
- สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา
- สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน.
ร้อยละ 97
ร้อยละ 87
ร้อยละ 95
ร้อยละ 97
ร้อยละ 100
5. การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ
กลยุทธ์
5.1 ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และ
บุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ
5.2 เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู
5.3 พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรอง
คุณภาพมาตรฐานวิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จ
9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับ
การพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบ
ตามศักยภาพ เพื่อยกระดับเข้าสู่
มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง
18) ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา
ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับ
เป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
19) ร้อยละของครูและบุคลากร
ทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ
และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความ
มั่นคงและผดุงเกียรติ และความก้าวหน้าใน
ร้อยละ 80
- ผ-1/ 5 -
วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
การศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือ
ผู้ช่วยสอน
5.4 สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่งเข้าสู่
วิชาชีพ โดยปรับปรุงระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน
สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นครู
วิชาชีพ เปรียบเทียบกับเป้าหมายการ
ดาเนินงาน
8. การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน
กลยุทธ์
8.1 การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือ
ทางด้านการศึกษาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน
8.2 สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกับ
ประชาคมอาเซียน และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น
ศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรม
นานาชาติในภูมิภาคอาเซียน
12) นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์
และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการ
เสริมสร้างความสัมพันธ์ และพัฒนา
ความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค
22) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู
คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษา
หรือความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
13) จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม
ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ
ด้านการค้าและการพัฒนา
3,700 คน
9. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้
ทันสมัย
กลยุทธ์
9.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการ
ศึกษาทุกระดับและประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยี
สารสนเทศที่ทันสมัย
9.2 นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้
พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่าง
เป็นระบบ
9.3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ
มีมาตรฐานเดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับ
การศึกษาและประเภทการศึกษา
13) หน่วยงานมีระบบบริหารและ
จัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศเพื่อการศึกษา
23) จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนา
คุณภาพการจัดการศึกษาตามโครงการ
พัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษา
ทางไกล
30,923 แห่ง
2. เสริมสร้างโอกาส 2. การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ 3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับ 5) ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร้อยละ 100
- ผ-1/ 6 -
วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก
พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย
ทางการศึกษาแก่
ประชาชนอย่างเสมอ
ภาค
ประชาชนอย่างเท่าเทียม
กลยุทธ์
2.1 กระจายโอการการเข้าถึงบริการการศึกษาและการ
เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
2.2 ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัยและพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้
และประสบการณ์
2.3 พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่ง
เรียนรู้ที่ทันสมัย
2.4 จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา
โอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตาม
สิทธิที่กาหนดไว้
ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัด
การศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน
7. การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
กลยุทธ์
7.1 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับ
พื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
7.2 ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและ
สวัสดิการ สาหรับบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้อย่างเหมาะสม
11) ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดน
ภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ
และยกระดับคุณภาพชีวิต
21) ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและ
ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะ
ด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ
นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้น
เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน
ร้อยละ 80
3. พัฒนาระบบ
บริหารจัดการ
ตามหลักธรรมาภิบาล
6. การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์
6.1 พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตาม
หลักธรรมาภิบาล
6.2 เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัด
การศึกษาให้หน่วยงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและ
สถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง
10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มี
ประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล
20) ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของ
กระทรวงศึกษาธิการบรรลุผลสาเร็จตาม
เป้าหมายที่กาหนดสอดคล้องกับนโยบาย
ของรัฐบาล
- ภาพรวม
- งบลงทุน
ร้อยละ 96
ร้อยละ 87
- ผ2/1 -
อักษรย่อของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
องค์กรหลัก
1. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สป.
- สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)
- สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
- สานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)
2. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สกศ.
3. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.
4. สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สกอ.
5. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สอศ.
หน่วยงานในกากับ
6. สานักงานเลขาธิการคุรุสภา คส.
7. สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ สกสค.
และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
8. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สสวท.
9. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มวส.
10. สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) สคพ.
11. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สทศ.
12. สานักงานลูกเสือแห่งชาติ สลช.
13. มหาวิทยาลัย/ สถาบันอุดมศึกษา ม/ส

แผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 กระทรวงศึกษาธิการ

  • 1.
  • 2.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) แผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) สานักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป. E-Mail : planandproject@gmail.com
  • 3.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) คานา ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 9 กาหนดให้ (1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ไว้เป็นการล่วงหน้า (2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลาและงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอนเป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ และตามมาตรา 16 วรรคสอง กาหนดให้ในแต่ละปีงบประมาณส่วนราชการ ต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีโดยให้ระบุ สาระสาคัญเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานเสนอให้รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และวรรคสาม เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการดาเนินงานตามแผนต่อไปประกอบกับระเบียบ สานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้ วยการจัดทาแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ .ศ. 2547 ข้อ 8 กาหนดให้ส่วนราชการ จัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา โดย (2) กาหนดแผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอ รัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณต่อไป คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 เห็นชอบแนวทางการจัดทางบประมาณและปฏิทิน งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 บัดนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ .ศ. 2559 มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ได้ระบุการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ในวงเงินจานวน 517,076.7030 ล้านบาท ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการโดยทุกหน่วยงานในสังกัดจึงได้ร่วมกันดาเนินการปรับปรุงโครงการ /กิจกรรมให้สอดคล้องตาม งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่ได้รับการจัดสรร ทั้งนี้ สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการฯ แบ่งเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 บทนานาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรอบแนวคิดเชิงนโยบาย ที่เกี่ยวข้องกับ การจัดทาแผนปฏิบัติราชการฯ ส่วนที่ 2 สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการนาเสนอรายละเอียดสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการภาพรวมได้แก่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์และค่าเป้าหมายและกลยุทธ์ ส่วนที่ 3 รายละเอียด ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการนาเสนอรายละเอียดข้อมูลสาคัญ ของเป้าประสงค์ ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย ผลผลิต /โครงการ งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบภายใต้นโยบาย รัฐบาลที่เกี่ยวข้องส่วนที่4รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการส่วนของ แผนบูรณาการ12แผนส่วนที่5การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติ ขอขอบคุณหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) จนสาเร็จได้เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกหน่วยงานจะนาไปใช้เป็นกรอบในก ารดาเนินงาน และระดม สรรพกาลังร่วมผลักดันการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการฯ ไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป
  • 4.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) สารบัญ หน้า คานา สารบัญ สรุปสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ 1 ส่วนที่ 1 บทนา 12 ความเป็นมา 12 วัตถุประสงค์ 13 กรอบแนวคิดการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ 13 - นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) 14 - นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558-2564) 21 - วาระการปฏิรูป 8 วาระการพัฒนา 23 - นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 32 - แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) 34 - แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552-2559) 38 - แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) : ระยะครึ่งแผน 39 - กรอบการศึกษาเพื่อปวงชน (EFA) 41 - ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 42 - การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 42 - งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรร ตามพระราชบัญญัติ งบประมาณ รายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 43 - มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 48 - อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ 49 - ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา 50 ส่วนที่2 สาระสาคัญภาพรวมของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการ 68 วิสัยทัศน์ 68 พันธกิจ 68 ยุทธศาสตร์ 68 เป้าประสงค์ 69 ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์และค่าเป้าหมาย 69 กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ 71 ส่วนที่ 3 รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ 74 ส่วนที่ 4 รายละเอียดของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เฉพาะแผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ) 116 ส่วนที่ 5 การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559ของกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ 145 ภาคผนวก - ตารางแสดงความเชื่อมโยงของพันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัดฯ ผ-1
  • 5.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - อักษรย่อของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ-2
  • 6.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) สรุปสาระสาคัญ แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ 1. ความเป็นมา ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 9 กาหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นกาลล่วงหน้า (2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนระยะเวลา และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอน เปูาหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ (3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ส่วนราชการกาหนดขึ้น ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กาหนด (4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจหรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่ อประชาชน ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องดาเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้น หรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ ให้เหมาะสม มาตรา 16 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้น “ในแต่ละปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี โดยให้ระบุสาร ะสาคัญ เกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเปูาหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน รวมทั้งประมาณการรายได้ และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่จะต้องใช้ เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ เมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดตามวรรคสองแล้วให้ สานักงบประมาณดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสาเร็จในแต่ละภารกิจตามแผนปฏิบัติราชการ ดังกล่าว ในกรณีที่ส่วนราชการมิได้เสนอแผนปฏิบัติราชการในภารกิจใดหรือภารกิจใดไม่ได้รับความเห็นชอบ จากรัฐมนตรี มิให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสาหรับภารกิจนั้น” สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทา แผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2547 ข้อ 8 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่ง พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา ดังต่อไปนี้ “(2) แผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาขอ งบประมาณรายจ่ายประจาปีของปีงบประมาณต่อไป” นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 กาหนดให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ให้สอดคล้องกับเปูาหมายการเบิกจ่าย งบประมาณรายไต รมาส โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่าย งบประมาณฯ ที่กาหนดไว้ และให้นาแผนการใช้จ่ายงบประมาณฯ ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณของหน่วยงานด้วย
  • 7.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 2 - ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบปร ะมาณ พ.ศ. 2559 ได้ประกาศใช้ใน ราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทาแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ให้สอดคล้องกับบทบาท และภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิก ารจะต้องดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนที่มี ความเกี่ยวข้องต่อไป 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางและเปูาหมายการดาเนินงานภาพรวมของกระทรวง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และใช้เป็นกรอบทิศทางหรือแนวทางการดาเนินงานในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดเอกภาพเชิงนโยบายของการปฏิบัติงาน 2.2 เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดสามารถนาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ระดับกรม และพิจารณากาหนดตัวชี้วัดในระดับโครงการ/กิจกรรมให้มีความสอดคล้องต่อไป 2.3 เพื่อให้ผู้บริหารทางการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา นาไปใช้เป็นเครื่องมือในการ บริหารงาน และการกากับ ติดตาม ประเมินผลความก้าวหน้าหรือความสาเร็จของการดาเนินงาน และบริหาร จัดการให้การดาเนินงานบรรลุเปูาหมายที่กาหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ 3.1 นโยบายรัฐบาลหลักด้านการศึกษาได้แก่ นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้การทะนุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม 4.1จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ 4.2 ในระยะเฉพาะหน้าจะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา 4.3 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ทั่วไปมีโอกาสร่วมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและทั่วถึง 4.4 พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 4.5 ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน 4.6 พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นคน 4.7 ทานุบารุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สนับสนุนให้องค์กรทาง ศาสนามีบทบาทสาคัญในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างสันติสุขและความ ปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืน 4.8 อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทยและภาษาถิ่น ภูมิปัญญา ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย 4.9 สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและ วัฒนธรรมสากล 4.10 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกที่ดี 3.2 นโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา ได้แก่ นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ 2.1 การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประเด็น แรงงานต่างด้าว ยาเสพติด 2.2 เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
  • 8.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 3 - นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมลาของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ 3.1 ในระยะเฉพาะหน้าจะเร่งสร้างโอกาสอาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคงแก่ผู้ที่เข้าสู่ ตลาดแรงงานรวมทั้งสตรี ผู้ด้อยโอกาสและแรงงานข้ามชาติที่ถูกกฎหมาย พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพแรงงาน 3.2 ปูองกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ 3.6 จัดระเบียบสังคม นโยบาย 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข 5.2 พัฒนาระบบบริการสุขภาพ 5.7 พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ 6.6 ชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย 6.8 แก้ปัญหาน้าท่วมในฤดูฝนทั้งที่ท่วมเป็นบริเวณกว้างและท่วมเฉพาะพื้นที่และปัญหา ขาดแคลนน้าในบางพื้นที่และบางฤดูกาล 6.9 ปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนและให้มีภาษี ที่เหมาะสมระหว่างน้ามันต่างชนิดและผู้ใช้ต่างประเภท 6.17 เพิ่มขีดคว ามสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6.18 ส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลให้เริ่มขับเคลื่อน ได้อย่างจริงจัง นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน 7.4 เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในอนุภูมิภาคและ ภูมิภาคอาเซียน 7.5 ต่อเชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์จากฐานการผลิตในชุมชน สู่แหล่งแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าทั้งภายในประเทศและเชื่อมโยงกับอาเซียน 7.6 พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการวิจัยและ พัฒนาและนวัตกรรม 8.2 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม 8.3 ผลักดันงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับ การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนได้แก่ 9.1 ในระยะเฉพาะหน้าเร่งปกปูองและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้และสัตว์ปุา โดยให้ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ 9.4 บริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศให้เป็นเอกภาพในทุกมิติทั้งเชิงปริมาณ และคุณภาพ 9.5 เร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศ ขยะ และน้าเสีย นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ 10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และจิตสานึก ในการรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการและความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการบริหารจัดการ
  • 9.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 4 - 4. สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ  วิสัยทัศน์ คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก  พันธกิจ 1) ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาสู่สากล 2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค 3) พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล  ยุทธศาสตร์ 1)การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ 2) การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 3) การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ 4) การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา 5) การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 6) การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 7) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 8) การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน 9) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย  เป้าประสงค์ 1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติด 2)ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจมีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทย 3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้ 4) กาลังคนระดับกลางและระดับสูงมีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล 5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับการพัฒนา 7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์ 8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน 9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ เพื่อยกระดับเข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง 10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 11)ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต 12) นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค 13) หน่วยงานมีระบบบริหารและจัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
  • 10.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 5 -  ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย  ลาดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 1 ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีปรองดอง และ/ หรือกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เปรียบเทียบกับ เปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 2 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพ ติดเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 3 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมให้มีความซื่อสัตย์สุจริต เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 4 ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 5 ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร้อยละ 100 6 จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน - อายุ 15-39 ปี - อายุ 40-59 ปี - อายุ 15-59 ปี 10.9 ปี 7.6 ปี 9.2 ปี 7 ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ร้อยละ 36 8 สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา ต่อสามัญศึกษา (ปวช.1 ต่อ ม.4) 45:55 9 ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ได้งานทา หรือประกอบอาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี - ปวช. - ปวส. - ปริญญาตรี ร้อยละ 25 ร้อยละ 50 ร้อยละ 90 10 ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการมีศักยภาพและ ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว ร้อยละ 80 11 จานวนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับ การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง 25,000 คน 12 ร้อยละของนักศึกษาและประชาชนที่เข้าอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการ ดาเนินงาน ร้อยละ 10 13 จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ ด้านการค้าและการพัฒนา 3,700 คน
  • 11.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 6 - ลาดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 14 จานวนผลงานวิจัยด้านการรักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์ 700 เรื่อง 15 จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้ ประโยชน์ 2,405 เรื่อง 16 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) (5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น คือ ป.6 ม.3 ม.6) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 17 ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่เข้ารับการประเมินและ ได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ. - สถานศึกษาระดับปฐมวัย - สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ประถมและมัธยม) - สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา - สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา - สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. ร้อยละ 97 ร้อยละ 87 ร้อยละ 95 ร้อยละ 97 ร้อยละ 100 18 ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 19 ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความมั่นคงและผดุงเกียรติ และความก้าวหน้าในวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 20 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ บรรลุผลสาเร็จตาม เปูาหมายที่กาหนด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล - ภาพรวม - งบลงทุน ร้อยละ 96 ร้อยละ 87 21 ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับเปูาหมาย การดาเนินงาน ร้อยละ 80 22 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษาหรือความรู้เกี่ยวกับ ประชาคมอาเซียน เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 23 จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตาม โครงการพัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล 30,923 แห่ง
  • 12.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 7 -  กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลัก 12 ประการ แก่ประชาชน 1. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง ความซื่อสัตย์สุจริตเสียสละ เพื่อส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เรียนปลอดภัย จากยาเสพติด 2. ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีงาม ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 3. กระจายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 4. ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ 5. พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย ให้เข้าถึงง่ายและสะดวกสาหรับประชาชนในทุกพื้นที่ 6. จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ 7. เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาให้มี คุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ 8. สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา /หน่วยงานทางการศึกษา กับภาคเอกชนหรือสถานประกอบการ ในการวางแผนการผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ 9. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มีความสามารถพิเศษทุกด้า น ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเต็มตามศักยภาพ 10. ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาลและส่งเสริม สุขภาพ 11. พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาสร้าง องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศ 12. สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานและ องค์กรทั้งในและต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา 13. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผู้เรียน ทุกระดับและประเภทการศึกษา 14. เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาให้มีคุณภาพและ มาตรฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 15. ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพ
  • 13.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 8 - 16. เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบ เทคโนโลยี สารสนเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู 17. พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรองคุณภาพมาตรฐาน วิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จการศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือผู้ช่วยสอน 18. สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่ งเข้าสู่วิชาชีพครู โดยปรับปรุงระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 19. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 20. เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัดการศึกษาให้หน่วยงาน เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและสถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 21. พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในจังหวั ด ชายแดนภาคใต้ 22. ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและสวัสดิการ สาหรับบุคลากร ทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเหมาะสม ยุทธศาสตร์ที่ 8 การดาเนินงานตามกรอบประชาคมอาเซียน 23. การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือทางด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน 24. สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน และ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรมนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย 25. ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับและ ประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย 26. นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้พัฒนาระบบการ บริหารจัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ 27. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ มีมาตรฐาน เดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับการศึกษาและประเภทการศึกษา
  • 14.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 9 - 6. สรุปงบประมาณจาแนกตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการและแผนบูรณาการ 6.1 สรุปงบประมาณตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ งบประมาณตาม แผนปฏิบัติราชการฯ (หน่วย : ล้านบาท) 1. การสร้างความสมานฉันท์สามัคคีปรองดองและค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ 1,071.9620 2. การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 101,174.8136 3. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ 128,715.5614 4. การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา 270,362.1470 5. การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 9,347.2094 6. การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 1,311.2809 7. การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,348.2677 8. การดาเนินการตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน 1,110.4494 9. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย 2,083.0116 งบประมาณรวมทั้งสิ้น 518,524.7030* หมายเหตุ : เงินงบประมาณ517,076.7030 ล้านบาท รวมเงินกองทุน 1,448 ล้านบาท 6.2 สรุปงบประมาณตามแผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ แผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ งบประมาณ (หน่วย : ล้านบาท) 1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเชียน 1,079.7501 2. การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 160.0000 3. การพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ 0.8400 4. การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3.0000 5. การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,348.2677 8. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา 6,455.1223 9. การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ 118.3159 11. การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 7,009.8295 12. การปูองกัน ปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 41.2500 14. การบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม 162.9134
  • 15.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 10 - แผนงบประมาณในลักษณะบูรณาการ งบประมาณ (หน่วย : ล้านบาท) 15. การปูองกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ 365.2462 19. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4,286.3866 รวม 23,030.9217 7. สรุปการนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติ กระทรวงศึกษาธิการกาหนดแนวทางที่สาคัญในการนาแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติ ดังนี้ 1. สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 2. ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องให้ ความสาคัญในการใช้ แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรอบในการบริหารงาน 3. ดาเนินการชี้แจงสร้างความรู้ ความเข้าใจในสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้บุคลากรในหน่วยปฏิบัติ ได้รับทราบอย่างชัดเจน เพื่อการมีส่วนร่วมและ สนับสนุนให้การดาเนินงานตามแผนฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ให้หน่วยงานในส่วนกลางสนับสนุนทรัพยากรอย่างเพียงพอ สาหรับการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ของหน่วยงานปฏิบัติในระดับพื้นที่ 5. การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ.255 9 ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยควร 1) ให้ความสาคัญกับการติดตามความก้าวหน้าในแต่ละยุทธศาสตร์ การประเมินผลสาเร็จและผลกระทบของการดาเนินงานอย่างต่อเนื่อง 2) พิจารณาใช้ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ของ แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ และนาค่าเปูาหมายตามตัวชี้วัดมา กาหนดเป็นเกณฑ์ที่สาคัญในการประเมินผล 3) สร้างระบบการรายงานผลการปฏิบัติราชการ และผลการเบิกจ่าย งบประมาณเป็นรายไตรมาสอย่างต่ อเนื่องเพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค ทบทวน กาหนดมาตรการเพื่อปรับปรุง การใช้จ่ายงบประมาณและจัดทาแผนเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบการกากับดูแลให้โปร่งใส และเร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเปูาหมายที่กาหนด
  • 16.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) ส่วนที่ 1 บทนา 1. ความเป็นมา ตามบทบัญญัติของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 9 กาหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (1) ก่อนจะดาเนินการตามภารกิจใด ส่วนราชการต้องจัดทาแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า (2) การกาหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนระ ยะเวลา และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดาเนินการของแต่ละขั้นตอน เปูาหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และ ตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ (3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ส่วนราชการกาหนดขึ้น ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กาหนด (4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจหรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่อประชาชน ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องดาเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้น หรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติราชการ ให้เหมาะสม มาตรา 16 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้น “ในแต่ละปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี โดยให้ระบุสาระสาคัญ เกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเปูาหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน รวมทั้งประมาณการรายได้ และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่จะต้องใช้ เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ เมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดตามวรรคสองแล้ว ให้ สานักงบประมาณดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสาเร็จในแต่ละภารกิจตามแผนปฏิบัติราชการ ดังกล่าว ในกรณีที่ส่วนราชการมิได้เ สนอแผนปฏิบัติราชการในภารกิจใดหรือภารกิจใดไม่ได้รับความเห็นชอบ จากรัฐมนตรี มิให้สานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสาหรับภารกิจนั้น” สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปี ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดทา แผนการบริหารราชการแผ่นดินพ .ศ. 2547 ข้อ 8 ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการตามมาตรา 16 แห่ง พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ .ศ. 2546 ภายในกาหนดเวลา ดังต่อไปนี้ “(2) แผนปฏิบัติราชการประจาปี ให้จัดทาและเสนอรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคาขอ งบประมาณรายจ่ายประจาปีของปีงบประมาณต่อไป” นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 กาหนดให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ให้สอดคล้องกับเปูาหมายการเบิกจ่าย งบประมาณรายไตรมาส โดยให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่าย งบประมาณฯ ที่กาหนดไว้ และให้นาแผนการใช้จ่ายงบประมาณฯ ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณของหน่วยงานด้วย
  • 17.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 13- ดังนั้น เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ได้ประกาศใช้ใน ราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทาแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ให้สอดคล้ องกับบทบาท และภารกิจที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้องดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนที่มี ความเกี่ยวข้องต่อไป 2. วัตถุประสงค์ของแผน 2.1 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางและเปูาหมายการดาเนินงานภาพรวมของกระทรวง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และใช้เป็นกรอบทิศทางหรือแนวทางการดาเนินงานในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ของหน่วยงานในสังกัด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดเอกภาพเชิงนโยบายของการปฏิบัติงาน 2.2 เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัดสามารถนาไปเป็นกรอบในการจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ระดับกรม และพิจารณากาหนดตัวชี้วัดในระดับโครงการ/กิจกรรมให้มีความสอดคล้องต่อไป 2.3 เพื่อให้ผู้บริหารทางการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา นาไปใช้เป็นเครื่องมือในการ บริหารงาน และการกากับ ติดตาม ประเมินผลความก้าวหน้าหรือความสาเร็จของการดาเนินงาน และบริหาร จัดการให้การดาเนินงานบรรลุเปูาหมายที่กาหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. กรอบแนวคิดการจัดทาแผน จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกาหนดกรอบแนวคิด สาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้ มีข้อมูลสาคั ญที่ศึกษา ประกอบด้วย (1) นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ) (2) (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 – 2564) (3) วาระการปฏิรูป 37 วาระ และ 8 วาระการพัฒนา (4) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาพงษ์ รัตนสุวรรณ) (5) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 -2559) (6) แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559) (7)แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่11(พ.ศ. 2555-2559)ระยะครึ่งแผน(8) กรอบข้อตกลงการศึกษา เพื่อปวงชน (EFA) (9) ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (10) การจัดทา งบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (11) อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของ กระทรวงศึกษาธิการ และ (12) ผลการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. นโยบายของรัฐบาล (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่12กันยายน 2557 โดยได้กาหนดนโยบายไว้ 11 ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 19 ที่ระบุให้รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ดาเนินการให้มีการปฏิรูป ด้านต่างๆ และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ ดังนี้ นโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นโยบายที่ 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน
  • 18.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 14- นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ นโยบายที่ 11 การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่มีภารกิจในการจัดและส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา เพื่อพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการนาพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีบทบาทหลักดาเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในข้อที่ 4 นโยบาย การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังเป็น ส่วนราชการที่สาคัญในการร่วมขับเคลื่อนการดาเนินการตามนโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบัน พระมหากษัตริย์ นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่าง ประเทศ นโยบายที่ 3 การลดความ เหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐนโยบายที่ 5 การยกระดับคุณภาพบริการด้าน สาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซี ยนนโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์ จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐาน ทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และนโยบายที่ 10 การส่งเสริม การบริหารราชการแผ่น ดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ โดยมีรายละเอียดดังนี้ นโยบายที่ 1 : การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประกอบสาคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตาม ประเพณีการปกครองของไทย รัฐบาลจึงถือเป็นหน้าที่สาคัญยิ่งยวดในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ไว้ด้วยความจงรักภักดี และปกปูองรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคมจิตวิทยา และ มาตรการทางระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินการกับผู้คะนองปาก ย่ามใจหรือประสงค์ร้าย มุ่งสั่นคลอนสถ าบันหลักของชาติ โดยไม่คานึงถึงความรู้สานึกและความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจานวนมาก ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจ เพื่อประชาชน ทั้งจะสนับสนุนโครงการทั้งหลายอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ส่งเสริมให้ เจ้าหน้าที่สถานศึกษา ตลอดจนหน่วยงานทั้งหลายของรัฐเรียนรู้เข้าใจหลักการทรงงาน สามารถนาหลักดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติราชการและการพัฒนา ตลอดจนเร่งขยายผลตามโครงการและแบบอย่างที่ทรงวางรากฐานไว้ให้แพร่หลาย เป็นที่ประจักษ์และเกิดประโยชน์ในวงกว้างอันจะช่วยสร้างความสมบูรณ์พูนสุขแก่ประชาชนในที่สุด นโยบายที่ 2 : การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ 2.1 ในระยะเร่งด่วน รัฐบาลให้ความสาคัญต่อการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมือง และความมั่นคงอาเซียน ในกิจการ 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการชายแดน การสร้างความมั่นคงทางทะเล
  • 19.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 15- การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การสร้างความไว้วางใจกับประเทศเพื่อนบ้าน และการเสริมสร้างศักยภาพ ในการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของอาเซียน โดยเน้นความร่วมมือเพื่อปูองกัน แก้ไขข้อพิพาทต่าง ๆ และการ แก้ไขปัญหาเส้นเขตแดนโดยใช้กลไก ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งจะจัดระเบียบการพัฒนาตามกรอบ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล รองรับการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามแนวชายแดน โดยใช้ระบบเฝูาตรวจที่มีเทคโนโลยีทันส มัย กาหนดให้ปัญหายาเสพติด การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การกระทาอันเป็นโจรสลัด การก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นปัญหา เฉพาะหน้าที่ต้องได้รับการปูองกันและแก้ไขโดยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด และจัดการปัญหาอื่นๆ ที่เชื่อมโยง ต่อเนื่องให้เบ็ดเสร็จ เช่น ปัญห าสถานะและสิทธิของบุคคล การปรับปรุงระบบการเข้าเมือง การจัดระเบียบ แรงงานต่างด้าว เป็นต้น 2.2 เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนามาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี ส่งเสริมการพูดคุย สันติสุขกับผู้มีคว ามคิดเห็น ต่างจากรัฐ สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมตามหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นพหุสังคม ขจัดการฉวยโอกาสก่อความรุนแรงแทรกซ้อน เพื่อซ้าเติ มปัญหาไม่ว่าจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ฝุาย บ้านเมือง ทั้งจะเพิ่มระดับปฏิสัมพันธ์กับต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศที่อาจช่วยคลี่คลายปัญหาได้ นโยบายที่ 3: การลดความเหลื่อมล้าของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ความเหลื่อมล้าในสังคมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งและความเดือดร้อนทั้งหลาย ของประชาชนจึงมีนโยบายที่จะดาเนินการดังนี้ 3.1 ในระยะเฉพาะหน้าจะเร่งสร้างโอกาสอาชีพและการมีรายได้ที่มั่นคงแก่ผู้ที่เข้าสู่ ตลาดแรงงานรวมทั้งสตรีผู้ด้อยโอกาสและแรงงานข้ามชาติที่ ถูกกฎหมายพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพแรงงาน โดยให้แรงงานทั้งระบบมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในทุกระดับอย่าง มีมาตรฐานทั้งจะเชื่อมโยงข้อมูลและการดาเนินการระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชนเพื่อให้ตรงกับความต้องการ ของพื้นที่และของประเทศโดยรวม นอกจากนี้จะส่งเสริมให้แรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบที่ถูกกฎหมายมากขึ้น 3.2 ปูองกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองการทารุณกรรม ต่อแรงงานข้ามชาติการท่องเที่ยวที่เน้นบริการทางเพศและเด็กและปัญหาคนขอทานโดยการปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับที่จาเป็นและเพิ่มความเข้มงวดในการระวังตรวจสอบ 3.6 จัดระเบียบสังคม สร้างมาตรฐานด้านคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลให้แก่เจ้าหน้าที่ ของรัฐและประชาชนทั่วไปโดยใช้ค่านิยมหลัก 12 ประการตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ได้ ประกาศไว้แล้ว นโยบายที่ 4 : การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม รัฐบาลจะนาการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ และความเป็นไทย มาใช้สร้างสังคมให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมควบคู่กัน ดังนี้ 4.1 จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ โดยให้ความสาคัญทั้งการศึกษาในระบบและ การศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ ประกอบอาชีพและดารงชีวิตได้โดยมีความใฝุรู้และทักษะที่เหมาะสม เป็นคนดีมีคุณธรรม สร้างเสริมคุณภาพ การเรียนรู้ โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อสร้างสัมมาชีพในพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้า และพัฒนากาลังคนให้เป็นที่ต้องการ เหมาะสมกับพื้นที่ ทั้งในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ
  • 20.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 16- 4.2 ในระยะเฉพาะหน้า จะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา ให้สอดคล้องกับความจาเป็นของผู้เรียนและลักษณะ พื้นที่ของสถานศึกษา และปรับปรุง และบูรณาการระบบการ กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสแก่ผู้ยากจนหรือ ด้อยโอกาส จัดระบบการสนับสนุนให้ เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีสิทธิเลือกรับบริการการศึกษา ทั้งในระบบโรงเรียนและนอกโรงเรียน โดยจะ พิจารณาจัดให้มีคูปองการศึกษาเป็นแนวทางหนึ่ง 4.3 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป มีโอกาสร่วมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและทั่วถึง และร่วมในการปฏิรูปการศึกษา และการเรียนรู้ กระจายอานาจ การบริหารจัดการศึกษาสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามศักยภาพและ ความพร้อม โดยให้สถานศึกษาสามารถเป็นนิติบุคคล และบริหารจัดการได้อย่างอิสระและคล่องตัวขึ้น 4.4 พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถมีความรู้และทักษะ ใหม่ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามแ นวโน้มการจ้างงานในอนาคต ปรับกระบวนการเรียนรู้และ หลักสูตรให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยบูรณาการความรู้และคุณธรรมเข้าด้วยกันเพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ การใฝุเรียนรู้ การแก้ปัญหา การรับฟังความเห็นผู้อื่น การมีคุณธรรม จริยธรรม และ ความเป็นพลเมืองดี โดยเน้นความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอกโรงเรียน 4.5 ส่งเสริมอาชีวศึกษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่มีความต้องการแรงงาน และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้เชื่อมโยงกับมาตรฐาน วิชาชีพ 4.6 พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครู ที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู เน้นครูผู้สอนให้มีวุฒิตรงตามวิชาที่สอนนาเทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้ในการเรียน การสอนเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยครูหรือเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น การเรียนท างไกล การเรียนโดยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งปรับระบบการประเมินสมรรถนะที่สะท้อนประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสาคัญ 4.7 ทะนุบารุงและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สนับสนุนให้องค์กรทางศาสนา มีบทบาทสาคัญในการปลูกฝังคุณ ธรรมจริยธรรมตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างสันติสุขและความปรองดอง สมานฉันท์ในสังคมไทยอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมตามความพร้อม 4.8 อนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทยและภาษาถิ่น ภูมิปัญญา ท้องถิ่น รวมทั้งความหลากหลายของศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อการเรียนรู้ สร้างความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ และความเป็นไทย นาไปสู่การสร้างความสัมพันธ์อันดีในระดับประชาชน ระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับ นานาชาติ ตลอดจนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ 4.9 สนับสนุนการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน และวัฒนธรรม สากล และการสร้างสรรค์งานศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นสากล เพื่อเตรียมเข้าสู่เสาหลักวัฒนธรรมของประชาคม อาเซียน และเพื่อการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก 4.10 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกที่ดี รวมทั้งสนับสนุนการผลิตสื่อคุณภาพ เพื่อเปิดพื้นที่ สาธารณะให้เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ นโยบายที่ 5 : การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน 5.2 พัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยเน้นการปูองกันโรคมากกว่ารอให้ปุวย แล้วจึงมารักษา สร้างกลไกการจัดการสุขภาพในระดับเขตแทนการกระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง ปรับระบบการจ้างงาน การกระจาย
  • 21.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 17- บุคลากรและทรัพยากรสาธารณสุขให้เหมาะสมกับท้องถิ่น และให้ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมในการจ้าง บุคลากรเพื่อจัดบริการสาธารณสุขโดยรัฐเป็นผู้กากับดูแล สนับสนุนความร่วมมือระห ว่างรัฐและเอกชนในการ พัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุข โดยส่งเสริมการร่วมลงทุนและการใช้ทรัพยากรและบุคลากร ร่วมกันโดยมีข้อตกลงที่รัดกุมและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝุาย 5.7 พัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสาธารณสุข โดยจัด ให้มีบุคลากรและ เครื่องมือที่ทันสมัย และให้มีความร่วมมือทั้งระหว่างหน่วยงานภายในประเทศ และหน่วยงาน ต่างประเทศ โดยเฉพาะในการปูองกันและรักษาโรคที่มีความสาคัญ นโยบายที่ 6 : การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ 6.6 ชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยพิจารณามาตรการลด ผลกระทบจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ที่มีต่อการท่องเที่ยวในโอกาสแรกที่จะทาได้ และสร้าง สิ่งจูงใจและสิ่งอานวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแหล่ง ท่องเที่ยวอันมีลักษณะโดดเด่นร่วมกันหรือจัดเป็ นกลุ่มได้ เช่น กลุ่มธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสุขภาพ เช่น น้าพุร้อน ธรรมชาติ ทั้งจะให้เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากวิถีชีวิตชุมชน รวมทั้งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในประเทศทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โ ดยเน้นการให้ ความรู้ และ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การควบคุมสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม ตลอดจนการอานวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว 6.8 แก้ปัญหาน้าท่วมในฤดูฝนทั้งที่ท่วมเป็นบริเวณกว้างและท่วมเฉพาะพื้นที่และปัญหา ขาดแคลนน้าในบางพื้นที่และบางฤดูกาล ซึ่งนาความเสียหายและทุกข์ร้อนมาให้แก่เกษตรกรโดยระดมความคิด เพื่อหาทางปูองกันไม่ให้เกิดน้าท่วมรุนแรงดังเช่นเหตุการณ์น้าท่วมในปี 2554 และหาวิธีที่จะแก้ปัญหาน้าท่วม เฉพาะพื้นที่ให้ลดลงโดยเร็วไม่กระทบต่อพืชผล ส่วนภาวะภัยแล้งจนเกิดการขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตรนั้นรัฐบาล จะเร่งดาเนินการจัดสร้างแหล่งน้าขนาดเล็กให้กระจายครอบคลุมทั่วพื้นที่เพาะปลูกให้มากที่สุดซึ่งจะสามารถทาได้ ในเวลาประมาณ 1 ปี 6.9 ปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนและให้มีภาระภาษี ที่เหมาะสมระหว่างน้ามันต่างชนิดและผู้ใช้ต่างประเภทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศและให้ ผู้บริโภคระมัดระวังที่จะไม่ใช้อย่างฟุุมเฟือยรวมถึงดาเนินการให้มีการสารวจและผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ามันดิบ รอบใหม่ทั้งในทะเลและบนบกและดาเนินการให้มีการสร้างโรงไฟฟูาเพิ่มขึ้นโด ยหน่วยงานของรัฐและเอกชน ทั้งจากการใช้ฟอสซิลเป็นเชื้อเพลิงและจากพลังงานทดแทนทุกชนิดด้วยวิธีการที่เปิดเผยโปร่งใสเป็นธรรมและ เป็นมิตรต่อสภาวะแวดล้อมพร้อมกับร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาพลังงาน 6.17 เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มองค์ความรู้ในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการ ผลิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และพัฒนาการบริหารจัดการภายในองค์กร ปรับโครงสร้างกลไกการสนับสนุนและ การขับเคลื่อนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เป็น ระบบและมีเอกภาพที่ชัดเจนทั้งในด้านการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนและบริการทางการเงินและการลงทุนสาหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การพัฒนาผลิตภัณฑ์และ บริการ การตลาดและโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศ 6.18 ส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลและวางรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ให้เริ่มขับเคลื่อนได้ อย่างจริงจังซึ่งจะทาให้ทุกภาคเศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ทันโลกและสามารถแข่งขันในโลกสมัยใหม่ได้ซึ่งหมายรวมถึง การผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยตรงทั้งผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์สื่อสาร ดิจิทัล
  • 22.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 18- อุปกรณ์โทรคมนาคมดิจิทัลและการใช้ดิจิทัลรอง รับการให้บริการของภาคธุรกิจการเงินและธุรกิจบริการอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคสื่อสารและบันเทิงตลอดจนการใช้ดิจิทัลรองรับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและ การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปรับปรุงบทบาทและภารกิจของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงให้ดูแลและผลักดัน งานสาคัญของประเทศชาติในเรื่องนี้และจะจัดให้มีคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง นโยบายที่ 7 : การส่งเสริมบทบาทและใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน 7.3 พัฒนาแรงงานของภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งแรงงาน วิชาชีพ แรงงานมีทักษะ และแรงงานไม่มีทักษะ โดยการเร่งรัดและขยายผลการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพให้เกิดผล ในทางปฏิบัติโดยคานึงถึงความเป็นเอกภาพกับระบบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานและมาตรฐานวิชาชีพใน 8 กลุ่มที่มี ข้อตกลงการเปิดเสรีในอาเซียนควบคู่ไปกับการวางแผนด้านกา รผลิตให้เพียงพอ การยกระดับฝีมือแรงงานในกลุ่ม อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น การส่งเสริมการพัฒนาระบบการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงาน เพื่อใช้ในการประเมินค่าจ้างแรงงาน 7.4 เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในอนุภูมิภาคแล ะ ภูมิภาคอาเซียนโดยเร่งขับเคลื่อนการดาเนินงานตามแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค ลุ่มแม่น้าโขง6 ประเทศ(GMS) แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝุายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย(IMT-GT) แผนความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจอิระวดี -เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) แผนความร่วมมือแห่งอ่าวเบงกอลสาหรับความร่วมมือ หลากหลายสาขาวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) และแผนแม่บทความเชื่อมโยงในอาเซียนซึ่งจะช่วยสนับสนุน ให้ความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ในอาเซียนสัมฤทธิผลได้อย่างเป็นรูปธรรม 7.6 พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเริ่มจาก การพัฒนาด่านการค้าชายแดนและโครงข่ายการ คมนาคมขนส่งบริเวณประตูการค้าหลักของประเทศเพื่อรองรับการเชื่อมโยงกระบวนการผลิตและการลงทุน ข้ามแดนโดยปรับปรุงโครงข่ายระบบถนนพัฒนาระบบ National Single Window (NSW) และสิ่งอานวย ความสะดวกทางการค้าและการขนส่งสินค้าข้ามแดนอย่างต่อเนื่องโดยในระยะแรกให้ความสาคัญกับด่านชายแดน ที่สาคัญ 6 ด่าน ได้แก่ ปาดังเบซาร์ สะเดา อรัญประเทศ แม่สอด บ้านคลองลึกและบ้านคลองใหญ่ซึ่งจะทาให้ ระบบขนส่งและโลจิสติกส์สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและรองรับปริมาณ การเดินทางและการขนส่งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นโยบายที่ 8 : การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ พัฒนา และนวัตกรรม 8.2 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม โดยส่งเสริมระบบการเรียนการสอน ที่เชื่อมโยงระหว่าง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ การผลิตกาลังคนในสาขาที่ขาดแคลน การเชื่อมโยง ระหว่างการเรียนรู้กับการทางาน การให้บุคลากรด้านการวิจัยของภาครัฐสามารถไปทางานในภาคเอกชน และ การให้อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม มีช่องทางได้เทค โนโลยีโดยความร่วมมือจากหน่วยงานและ สถานศึกษาภาครัฐ 8.3 ปฏิรูประบบการให้สิ่งจูงใจระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการนางานวิจัยและ พัฒนาไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ รวมทั้งส่งเสริมการจัดทาแผนพัฒนาการวิจัยและพัฒนาในระดับภาคหรือ กลุ่มจังหวัดเพื่อให้ตรงกับความต้องก ารของท้องถิ่นผลักดันงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยหน่วยงานวิจัยของรัฐและภาคเอกชน 8.5 ปรับปรุงและจัดเตรียมให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการวิจัยและพัฒนาและด้านนวัตกรรม ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาที่สาคัญในการต่อยอดสู่การใช้
  • 23.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 19- เชิงพาณิชย์ของภาคอุตสาหกรรมให้มีความพร้อมทันสมัยและกระจายในพื้นที่ต่างๆ เช่นการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศการตั้งศูนย์วิเคราะห์ห้องปฏิบัติการสถาบันและศูนย์วิจัยเป็นต้น นโยบายที่ 9 : การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ในปัจจุบันมีการบุกรุกที่ดินของรัฐและตัดไม้ทาลายปุามากขึ้นทรัพยากรธรรมชาติและความ หลากหลายทางชีวภาพที่เคยอุดมสมบูรณ์ เช่น ปุาไม้ สัตว์ปุา พันธุ์พืช และแร่ธาตุถูกทาลายหรือนาไปใช้ประโยชน์ ทางพาณิชย์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอันมากทั้งปัญหาภาวะมลพิษโดยเฉพาะขยะประเภทต่างๆ ก็รุนแรงยิ่งขึ้นรัฐบาลจึงมีนโยบายจะรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติโดยสร้างสมดุลระหว่าง การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ดังนี้ 9.1 ในระยะเฉพาะหน้าเร่งปกปูองและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้และสัตว์ปุา โดยให้ ความสาคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จัดทาแนวเขตที่ดินของรัฐให้ชัดเจน เร่งรัดกระบวนการ พิสูจน์สิทธิการถือครองที่ดินในเขตที่ดินของรัฐโดยนาระบบสารสนเทศมาใช้เพื่อการบริหารจัดการปรั บปรุง กฎหมายให้ทันสมัยและสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมโดยเฉพาะใน พื้นที่ปุาต้นน้าและพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความสาคัญเชิงนิเวศกาหนดพื้นที่แนวกันชนและที่ราบเชิงเขาให้เป็นพื้นที่ ยุทธศาสตร์การปลูกปุาเพื่อปูองกันภัยพิบัติและปูองกันการบุกรุกปุาขยายปุาชุมชนและส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าทาง เศรษฐกิจในพื้นที่เอกชนเพื่อลดแรงกดดันในการตัดไม้จากปุาธรรมชาติรวมทั้งผลักดันแนวทางการประเมินมูลค่า ทางเศรษฐศาสตร์ของระบบนิเวศและการสร้างรายได้จากการอนุรักษ์ เช่น โครงการปลูกปุาเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรปุาไม้แบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเป็นต้น 9.4 บริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศให้เป็นเอกภาพในทุกมิติทั้งเชิงปริมาณและ คุณภาพ จัดให้มีแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศและมีกระบวนการบูรณาการแผนงานและ งบประมาณร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ การจัดทาแผนงานโครงการไม่เกิดความซ้าซ้อนมี ความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้าโดยจัดตั้ง หรือกาหนดกลไกในการบริหารจัดการน้าพร้อมทั้งมีการน้าเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ในระบบของการ บริหารจัดการน้าและการเตือนภัย 9.5 เร่งรัดการควบคุมมลพิษทั้งทางอากาศ ขยะ และน้าเสียที่เกิดจากการผลิตและบริโภค เพื่อสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชนโดยให้ความสาคัญในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะเป็น ลาดับแรกส่งเสริมให้เกิดกลไกการคัดแยกขยะเพื่อนากลับมาใช้ใหม่ ให้มากที่สุดเร่งกาจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสม ในสถานที่กาจัดขยะในพื้นที่วิกฤติซึ่งจะใช้ที่ดินของรัฐเป็นหลักในพื้นที่ใดที่สามารถจัดการขยะมูลฝอยโดยการแปร รูปเป็นพลังงานก็จะสนับสนุนให้ดาเนินการ ส่วนขยะอุตสาหกรรมนั้นจะวางระเบียบมาตรการการบริหารจัดการ เป็นพิเศษโดยกาหนดให้ทิ้งในบ่อขยะอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องตามมาตรฐานและให้แยกเป็นสัดส่วนจาก บ่อขยะชุมชน สาหรับขยะของเสียอันตราย ขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะติดเชื้อจะพัฒนาระบบกากับติดตาม ตรวจสอบและเฝูาระวังไม่ให้มีการลักลอบทิ้งรวมทั้งจัดการสารเคมีโดยลดความเสี่ยงและอันตรา ยที่เกิดจากการ รั่วไหลและการเกิดอุบัติเหตุให้ความสาคัญในการจัดการอย่างครบวงจรและใช้มาตรการทางกฎหมายและ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด นโยบายที่ 10 : การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในภาครัฐ
  • 24.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 20- 10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม และจิตสานึกในการ รักษาศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการและความซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปูองกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับอย่างเคร่งครัด ยกเลิก หรือแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่ไม่จาเป็น สร้างภาระแก่ประชาชนเกินควรหรือเปิดช่องโอกาส การทุจริต เช่น ระเบียบการจัดซื้อ จัดจ้าง การอนุญาต อนุมัติ และการขอรับบริการจากรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนยืดยาว ใช้เวลานาน ซ้าซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน 2. (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2558 – 2564 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติเป็นนโยบายระดับชาติ กาหนดขึ้นเพื่อเป็นกรอบในการดาเนินการ ด้านความมั่นคงของภาครัฐในระยะ 7 ปี โดยได้ประเมินสภาวะแวด ล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์และ ความเปลี่ยนแปลงของบริบทความมั่นคง นาไปสู่การกาหนดทิศทางหลักในการดาเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ และความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ได้กาหนดลาดับความสาคัญ โดยพิจารณา ความเสี่ยงและผลกระทบต่อความมั่ นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ ซึ่งส่งผลต่อความอยู่รอดปลอดภัยของชาติและ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในด้านต่างๆ และภูมิคุ้มกันของชาติในภาพรวมเป็น “เกณฑ์สาคัญ” โดยกาหนด ความสาคัญเป็นสองส่วน คือส่วนที่ 1 นโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติและส่วนที่ 2 นโยบาย ความมั่นคงแห่งชาติทั่วไปซึ่งการจัดสรรทรัพยากรจะให้น้าหนักต่อนโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลัก ของชาติเป็นลาดับสาคัญในระดับต้น แต่ทั้งนี้นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทั้งสองส่วนต้องได้รับการขับเคลื่อน ไปพร้อมกัน เพื่อให้เกิดภาพแห่งความสาเร็จโดยรวมและ สามารถรักษาผลประโยชน์แห่งชาติได้อย่างครบถ้วน ทั้งเสถียรภาพ ความเป็นปึกแผ่นของประเทศ และการมีจุดยืนที่ชัดเจน เหมาะสม ซึ่งจะทาให้ประเทศมีเกียรติและ ศักดิ์ศรี ในประชาคมโลกกรอบความคิดหลักในการกาหนดนโยบาย ได้คานึงถึงค่านิยมหลักของชาติซึ่งเป็นสิ่งที่คน ในชาติจะต้องยึดถือและพึงรักษาไว้ร่วมกัน และผลประโยชน์แห่งชาติซึ่งเป็นความมุ่งประสงค์ของชาติ ที่จะทาให้ ค่านิยมหลักของชาติดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง ค่านิยมหลักของชาติ ได้แก่ (1) มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษั ตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ (2) เชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (3) มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม มีเหตุมีผล เคารพสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่และหลักนิติธรรม (4) เห็นคุณค่าในคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของสังคมไทย (5) เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และยอมรับความแตกต่างหลากหลายทาง ความคิด ความเชื่อ อัตลักษณ์และวัฒนธรรม บนพื้นฐานของการยึดมั่นในความเป็นพหุสังคม (6) อยู่ร่วมกับ ประชาคมโลกอย่างสันติ ด้วยมิตรภาพอันดี ผลประโยชน์แห่งชาติ ได้แก่ (1) การมีเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งเขตอานาจรัฐ (2) การดารงอยู่อย่างมั่นคง ยั่งยืนของสถาบันหลักของชาติ (3) การดารงอยู่อย่างมั่นคงของชาติและประชาชนจาก ภัยคุกคามทุกรูปแบบ (4) การอยู่ร่วมกันในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่น มั่นคงทางสังคม ท่ามกลางพหุสัง คมและ การมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (5) ความเจริญเติบโตของชาติ ความเป็นธรรม และความอยู่ดีมีสุข ของประชาชน (6) ความยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงาน อาหาร (7) ความสามารถในการรักษาผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงขอ งสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ (8) การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ประสานสอดคล้องกันด้านความมั่นคงในประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี
  • 25.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 21- วิสัยทัศน์ “ชาติมีเสถียรภาพและเป็นปึกแผ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต ประเทศมีการ พัฒนาอย่างต่อเนื่องปลอดภัยจากภัย คุกคามข้ามพรมแดน พร้อมเผชิญวิกฤติการณ์ มีบทบาทเชิงรุกในประชาคม อาเซียนและดาเนินความสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างมีดุลยภาพ” วัตถุประสงค์ (1) เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) เพื่อเสริมสร้างจิตสานึกของคนใน ชาติให้มีความจงรักภักดี และธารงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ (3) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างความปรองดอง ความเป็นธรรม และความสมานฉันท์ในชาติเพื่อลดการเผชิญหน้า และการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ (4) เพื่อให้จังหวัดชายแดน ภาคใต้มีความปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขของการใช้ความรุนแรง (5) เพื่อพัฒนาศักยภาพของภาครัฐ และส่งเสริม บทบาทและความเข้มแข็งของทุกภาคส่วนในการรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบที่กระทบกับความมั่นคง (6) เพื่อให้การจัดการฐานทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และอาหาร มีความมั่นคง ความยั่งยืน และ มีความสมดุลกับการขยายตัวของการพัฒนาประเทศ รวมถึงลดความเสี่ยงจากผลกระทบของกระแสโลกาภิวัตน์ (7) เพื่อพัฒนาศักยภาพการเตรียมความพร้อมของชาติในการเผชิญกับภาวะสงครามและวิกฤติการณ์ความมั่นคง อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ (8) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพใน การปูองกันประเทศ สนับสนุนภารกิจ ที่ไม่ใช่การสงคราม และสามารถผนึกกาลังของกองทัพกับทุกภาคส่วนในการเผชิญกับภัยคุกคามด้านการปูองกัน ประเทศในทุกรูปแบบ (9) เพื่อส่งเสริมสภาวะแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสันติในการอยู่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มประเทศอาเซียน ประชาคมโลก บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์ และการดารงเกียรติภูมิของชาติ ส่วนที่ 1 นโยบายเสริมสร้างความมั่นคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ (1) เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) สร้างความเป็นธรรม ความปรองดอง และความสมานฉันท์ในชาติ (3) ปูองกันและแก้ไขการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนที่ 2 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทั่วไป (4) จัดระบบการบริหารจัดการชายแดนเพื่อปูองกันและแก้ไขปัญหา ข้ามพรมแดน (5) สร้างเสริมศักยภาพการปูองกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามข้ามชาติ (6) ปกปูอง รักษา ผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล(7) จัดระบบ ปูองกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมือง(8) เสริมสร้างความเข้มแข็ง และภูมิคุ้มกันความมั่นคงภายใน (9) เสริมสร้างความมั่นคงของชาติจากภัยการทุจริตคอร์รัปชั่น (10) เสริมสร้าง ความมั่นคงทางเทคโนโลยีสารสนเทศและไ ซเบอร์ (11) รักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม (12) เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร (13) พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติ(14) เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพการปูองกันประเทศ(15) พัฒนาระบบงานข่าวกรอง ให้มีประสิทธิภาพ (16) เสริมสร้างดุลยภาพในการดาเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 3. วาระการปฏิรูป 37 วาระ และ 8 วาระการพัฒนา ซึ่งพิจารณาแล้วมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา ใน 13 วาระการปฏิรูป และ 6 วาระการพัฒนา โดยสรุป ดังนี้ วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา 37 วาระการปฏิรูป วาระปฏิรูปที่ 1 การปูองกันและ ปราบปรามการทุจริต แนวคิดการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมที่ดีของสังคมไทยให้แก่เด็กและเยาวชน เป็นการใช้กลไกซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวเด็กและเยาวชน ทาหน้าที่ เป็นตัวขับเคลื่อนผ่านการ ปลูกจิตสานึก การสร้าง/กระชับเครือข่าย/ขยายพื้นที่ และการสร้างพลังทางสังคม ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านกลไก การศึกษา กลไกครอบครัว กลไกสื่อมวลชน กลไกเครือข่ายทางสังคม และกลไกสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ
  • 26.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 22- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา โดยมีกลไกและมาตรการขับเคลื่อน 1) นาหลักสูตรการปลูกจิตสานึกเพื่อการต่อต้านทุจริตไปใช้ในสถานศึกษา ทั่วประเทศ - การอบรมครูผู้สอนเพื่อนาหลักสูตรต่อต้านทุจริตไปใช้ในสถานศึกษา 2) จัดกิจกรรมระหว่างโรงเรียนและครอบครัวเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและ เรียนรู้ร่วมกัน ด้านคุณธรรมจริยธรรม 3) ผู้ที่จะดารงตาแหน่งผู้อานวยการโรงเรียนจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตร จริยธรรม 4) การสร้างเครือข่ายครูและนักเรียนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรปลูกฝัง คุณธรรมจริยธรรม วาระปฏิรูปที่ 15 การสร้างสังคม ผู้ประกอบการ การปฏิรูปการเรียนรู้: สร้างจิตวิญญาณผู้ประกอบการ ความรู้และทักษะในการ ประกอบการ (Knowledge based Entrepreneurship) โดย 1) ปรับหลักสูตรการเรียนรู้ทั้งระดับพื้นฐาน อาชีวะและระดับอุดมศึกษา เพื่อสร้างจิตวิญญาณของการ เป็นผู้ประกอบการ ความรู้และทักษะการทาธุรกิจ 2) จัดทาฐานข้อมูลขึ้นทะเบียนหน่วยบ่มเพาะ (Incubation Center) ทั้งภาครัฐและเอกชนให้เป็น ปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ 3) พัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพสถาบันการศึกษา โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ และพัฒนาวิทยากร/ผู้บ่มเพาะธุรกิจ (Training the Trainer/Coach) 4) ส่งเสริมการจัดตั้งหน่วยบ่มเพาะแบบบูรณาการภาครัฐและเอกชนโดยมี มาตรการจูงใจ เพื่อส่งเสริม การเรียนรู้ทักษะทางธุรกิจตลอดชีวิต 5) ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมี ส่วนร่วมเพื่อพัฒนา ผู้ประกอบการและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ วาระปฏิรูปที่ 16 การปฏิรูประบบการ จัดการศึกษา 1. ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษา ระดับชาติ ระดับพื้นที่และระดับท้องถิ่น 2. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการในระดับสถานศึกษา 3. จัดให้มีระบบการคัดสรร และการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิภาพ 4. ปรับปรุงระบบการผลิต การพัฒนาและการประเมินครู อาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษา 5. ปรับปรุงการทดสอบและประเมินผลการศึกษาทั้งระบบ 6. พัฒนาระบบธรรมาภิบาลและกลไกตรวจสอบการจัดการศึกษาทุกระดับ 7. จัดทาประมวลกฎหมายทางการศึกษาทั้งระบบ วาระปฏิรูปที่ 17 การปฏิรูประบบการ คลังด้านการศึกษา (ด้านอุปสงค์) 1. จัดระบบงบประมาณการศึกษาที่เน้นด้านอุปสงค์ 2.จัดสรรทุนการศึกษาในรูป “คูปองการศึกษา” 3. ใช้มาตรการทางการเงินและภาษี สนับสนุนการพัฒนาตนเองและเรียนรู้ ตลอดชีวิตของพลเมืองทุกคน 4. ใช้มาตรการทางภาษีสนับสนุน ผู้ประกอบการหรือองค์กรภาคเอกชน ที่ร่วมจัด การศึกษา 5. จัดตั้งกองทุนสมทบ (matching funds) แก่ท้องถิ่นหรือภาคประชาสังคม ที่ร่วมจัดการศึกษา
  • 27.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 23- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา วาระปฏิรูปที่ 18 การปฏิรูประบบการ เรียนรู้ 1. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา สาหรับเยาวชน 2. ปรับปรุงระบบการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และการจัดให้ มีการเรียนรู้เพื่อเตรียมตัวในการเลี้ยงดูเด็กสาหรับ พ่อ แม่และชุมชน 3. พัฒนาระบบการเรียนรู้โดยเน้นกระบวนการคิด และลงมือปฏิบัติจริง ในการศึกษาทุกระดับ 4. จัดให้มีระบบการเรียนรู้ความเป็น พลเมือง สร้างสังคมอุดมปัญญาที่อยู่บนฐาน ศาสนาและวัฒนธรรมอันดีงาม 5. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนา แรงงานให้มีคุณภาพ 6. จัดให้มีระบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้สูงอายุ 7. ส่งเสริมการศึกษาที่สอดคล้องกับสังคมพหุวัฒนธรรม 8. สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ วิจัย และใช้เทคโนโลยีและสื่อเพื่อการเรียนรู้ 9. จัดการเรียนรู้สาหรับเด็กด้อยโอกาส และเด็กกลุ่มเสี่ยงทั้งในและนอกระบบ วาระปฏิรูปที่ 19 แผนการปฏิรูป การกีฬา การจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย การกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... การจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติเป็นการปรับเปลี่ยนสถานะของสถาบัน การพลศึกษาซึ่งมี17 วิทยาเขต13โรงเรียนกีฬา เป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เพื่อดาเนินการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านพลศึกษา กีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ นันทนาการ และ สาขาวิชาที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาศาสตร์ในหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอน และ พัฒนากีฬาของประเทศให้มี ความก้าวหน้าเข้มแข็งต่อไป โดยมหาวิทยาลัยการกีฬา แห่งชาติมีความพร้อมในด้านอาคารสถานที่และบุคลากร สามารถพัฒนาการจัด การเรียนการสอนในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมได้อย่าง กว้างขวาง ทั้งในด้านพลศึกษา กีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ นันทนาการและสาขาวิชา ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการพัฒนาบุคลากรทางการกีฬา และ ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ วาระปฏิรูปที่ 20 ระบบวิจัยเพื่อเป็น โครงสร้างพื้นฐาน ทางปัญญาของ ประเทศ 1. การปรับระบบบริหารจัดการ - ปรับการบริหารจัดการระบบวิจัยและในองค์กรวิจัยทุกระดับ - สร้างเครือข่ายความร่วมมือในระบบวิจัยในทุกภาคส่วน 2. ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานของระบบวิจัย - เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของระบบวิจัย 3. การผลิตและพัฒนากาลังคน (นักวิจัยและกาลังคนที่เกี่ยวข้องกับระบบวิจัย) และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพ - เพิ่มการผลิตนักวิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย (ปริมาณ) - พัฒนาสมรรถนะของนักวิจัยและสร้างแรงจูงใจอาชีพนักวิจัย 4. สร้างสังคม ชุมชน องค์กรฐานความรู้ วาระปฏิรูปที่ 21 ระบบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ การพัฒนาและบริหารจัดการกาลังคน 1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากร วทน. ของภาครัฐ สามารถไปทางานใน ภาคเอกชน (Talent mobility) เพื่อเพิ่มความสามารถทางเทคโนโลยีและ
  • 28.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 24- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา นวัตกรรม เพื่อเป็น โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมของ ประเทศ นวัตกรรมให้กับภาคเอกชน ตลอดจนพัฒนากลไกดึงดูดบุคลากรผู้มีความสามารถ ด้าน วทน. จากต่างประเทศให้เข้ามาช่วยทางานในสาขาที่ขาดแคลนของไทย 2. พัฒนากาลังคนด้าน STEM workforce (Science, Technology, Engineering andMathematics)และWorkingAdultEducation(WAE) พัฒนาและขยายผล WorkintegratedLearning(WIL)รวมทั้งการพัฒนาทักษะความคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking) 3. ส่งเสริมการพัฒนากาลังคนทางเทคนิคและเทคโนโลยี (อาชีวศึกษา) เพื่อสร้าง แรงงานที่ มีทักษะ 4. ปรับโครงสร้างเส้นทางอาชีพให้กับบุคลากร วทน. วาระปฏิรูปที่ 25 : ระบบการบริหาร จัดการทรัพยากร : การจัดการคุณภาพ สิ่งแวดล้อมใน สถานศึกษาต่ากว่า ระดับอุดมศึกษา ระยะต้น คือ การจัดการด้านกายภาพ โดยสนับสนุนให้สถานศึกษามีสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้อย่างเพียงพอที่จะเอื้ออานวยให้เยาวชนมีความสุขระหว่างการใช้ชีวิต ในสถานศึกษา ได้แก่สถานที่และบริเวณอาคารเรียน การระบายอากาศและแสงสว่าง การจัดห้องเรียนและอาคารเฉพาะกิจ น้าดื่มน้าใช้ ห้องสุขาและที่ปัสสาวะ การจัดการมูลฝอย การบาบัดน้าเสี ย การควบคุมปูองกันสัตว์และแมลงนา โรค การรักษาความปลอดภัย การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา ระยะกลาง คือ การจัดการด้านการเรียนรู้ โดยสนับสนุนให้สถานศึกษาเป็น ศูนย์กลางของการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชนใกล้สถานศึกษา ผ่านอุปกรณ์ ลดมลพิษ ต่างๆ เช่น ระบบบา บัดน้าเสียโรงเรียน บ่อดักไขมัน อุปกรณ์ผลิต ก๊าซชีวภาพจากเศษอาหารจากโรงอาหาร เป็นต้น ชุมชนใกล้เคียงสามารถเรียนรู้ และผลิตขึ้นใช้เองในครอบครัว เป็นการช่วยรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชน ไปด้วยการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษา ระยะยาว คือการจัดท่าโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) ซึ่งจะเกิดผลดี อย่างยั่งยืนเพราะเป็นการปฏิรูปจิตสานึกของเยาวชนเป็นหลัก การจัดทา โรงเรียน สิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) เกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางาน สิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อปลูกฝังความเป็น “พลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อม ” (Environmental Citizen) โดยนาขบวนการของโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) มาใช้ในสถานศึกษา อย่างจริงจัง มีการให้รางวัลสถานศึกษาที่จัดทา โรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) สาเร็จ ขณะเดียวกัน บุคลากรที่ร่วมกันทาโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco-school) จนสาเร็จต้องได้รับการปูนบาเหน็จ ความดีความชอบด้วย วาระปฏิรูปที่ 26 การจัดการภัยพิบัติ ตามธรรมชาติภาวะ โลกร้อน 5.1.2 สร้างยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลผลกระทบจากภาวะโลกร้อน มีเปูาหมายการปฏิรูปให้เมืองไทยในอนาคตเป็นสังคมคาร์บอนต่า ทั้งในเขตเมือง และชนบท ด้วยมาตรการ และยุทธศาสตร์ คือ  ยุทธศาสตร์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน - การสร้างความตระหนักรู้เรื่องก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบอันเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประเทศไทยในอนาคต ให้ประชาชนทั่วไปทราบ และโดยเฉพาะเยาวชน ให้บรรจุเสริมในหลักสูตรการเรียนการสอน
  • 29.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 25- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา วาระปฏิรูปที่ 30 การปฏิรูประบบเพื่อ รองรับสังคมสูงวัย 1. มาตรการส่งเสริมวางแผนชีวิตครอบครัวซึ่งเป็นมาตรการการพัฒนาทักษะใน การวางแผนชีวิตของบุคคลและครอบครัว เป็นการกระบวนการวางแผนทั้งชีวิต ผ่านการอบรมกล่อมเกลา ทางสังคมและการสั่งสมทุนมนุษย์เพื่อให้ประชากรไทย มีคุณภาพ และมีครอบครัวที่มั่นคง 1.1 การให้ความรู้ด้านชีวิตครอบครัวศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและการ วางแผน ชีวิตตนเองและครอบครัวตั้งแต่วัยเด็กเพื่อปูองกันการเป็นพ่อแม่ก่อนวัย อันควรปูองกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไ ม่พร้อมหรือไม่พึงประสงค์การส่งเสริม บทบาทของชายและหญิงในการร่วมสร้างร่วมดูแลสมาชิกในครอบครัว การไม่ใช้ ความรุนแรงในครอบครัว และการสร้างความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นของ ครอบครัวและที่สาคัญ คือ การเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ให้พร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีและ ผู้สูงอายุอย่างมีคุณค่าและอยู่ดีมีสุขในวันข้างหน้าเนื่องจากการปรับแก้หลักสูตรจะใช้ เวลาค่อนข้างมาก แนวทางหนึ่งที่จะทาได้ทันทีคือการสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตร ลูกเสือ เนตรนารีและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ของโรงเรียน 1.4 ปฏิรูประบบการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อลดช่องว่าง ทางการศึกษาและเทคโนโลยีระหว่างสมาชิกต่างวัยในครอบครัว และเพื่อเพิ่ม คุณค่าและศักยภาพของผู้สูงอายุ ในการแบ่งเบาภาระของครอบครัว มีส่วนร่วมใน การทางานเชิงเศรษฐกิจ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และสังคม รูปแบบการ เรียนรู้นี้ควรมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องครอบครัวศึกษาของ ผู้สูงอายุ ร่วมกับประชากรในวัยเด็กและวัยทางาน การเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้ หรือทักษะตามอัธยาศัยหรือตามความต้องการของผู้สูงอายุ การเรียนรู้เพื่อเพิ่ม โอกาสในการประกอบอาชีพ การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สู งอายุ และ สมาชิกในครอบครัว การเรียนรู้เพื่อสร้างสัมพันธภาพในหมู่ผู้สูงอายุ เป็นต้น โดย การจัดการศึกษาให้แก่ ผู้สูงอายุนี้ควรอาศัยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาในพื้นที่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจน สื่อต่าง ๆ 2. มาตรการส่งเสริมศักยภาพครอบครัว 2.1.7 การกระจายการศึกษาที่มีคุณภาพในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และ อุดมศึกษา ไปสู่ภูมิภาคให้ทั่วถึง เพื่อลดการย้ายถิ่นของประชากรวัยหนุ่มสาวและ วัยแรงงานเพื่อเข้ามาศึกษาต่อ หรือแสวงหางานทา และลดปัญหาความแตกแยก ของครอบครัวเนื่องจากการย้ายถิ่น 4. มาตรการเพิ่มคุณค่าผู้สูงอายุ เพื่อสร้างคุณค่าประชากรทุกวัยและสั่งสมคุณค่า อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็ก 4.1 ปรับเปลี่ยนมุมมองของสังคมว่าผู้สูงอายุเป็นพลังไม่ใช่ภาระ โดยสอดแทรก ในเนื้อหาหรือ กิจกรรมทางการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบโรงเรียน นอกโรงเรี ยน และตามอัธยาศัย 4.2 เพิ่มบทบาทสื่อสาธารณะกับการสร้างเสริมคุณค่าผู้สูงอายุ สื่อควรมีบทบาท ในการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ และให้สื่อเป็น ช่องทางในการสร้างคุณค่าของผู้สูงอายุนาเสนอภาพลักษณ์ผู้สูงอายุในเชิงบวก
  • 30.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 26- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา ปรับเปลี่ยนและรณ รงค์ให้สมาชิกของสังคมในวัยอื่นมีทัศนคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างวัยที่ดี 4.3 พัฒนากลไกที่จะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุเป็นพฤฒิพลังอย่างแท้จริง เช่น โอกาสในการทางาน เชิงเศรษฐกิจ โอกาสในการเผยแพร่ภูมิปัญญา 4.4 เพิ่มโอกาสของผู้สูงอายุในการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สารสนเทศ (IT) เพื่อ ลดช่องว่างระหว่างวัย วาระปฏิรูปที่ 36 ส่งเสริมความเข้มแข็ง ของสถาบันศาสนา เพื่อให้เป็นสถาบัน หลักของสังคม 4. การนาหลักศาสนาธรรมมาปฏิบัติในชีวิตประจาวัน ทั้งระดับบุคคลและองค์กร เพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน 4.1 ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างครอบครัว โรงเรียน สถานที่ทางาน ชุมชน และสังคม นาหลักศาสนธรรม คุณธรรม ประเพณีและวัฒนธรรมไทยอันดี งามมาปฏิบัติในชีวิตประจาวันและในการทางานอย่างจริงจัง 4.4 มีการจัดสรรพื้นที่สาหรับการศึกษาเรียนรู้ และประกอบพิธีทางศาสนา ต่าง ๆ ในสถานศึกษา หน่วยงาน และสถานประกอบการ 5. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา 5.3 ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างศาสนาและสร้างความร่วมมือเพื่อแ ก้ไขปัญหาที่ สาคัญร่วมกันอย่างจริงจัง 5.5 ส่งเสริมประเทศไทยเป็นศูนย์รวมในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างศาสนาในภูมิภาคอาเซียน 6. การพัฒนาศักยภาพของสถานศึกษาในการบูรณาการหลักศาสนธรรมในการจัด การศึกษาทุกระดับ 6.1 ส่งเสริมและผลักดันให้เกิดคณะทางานพัฒนาศักยภ าพสถานศึกษาใน การบูรณาการหลักศาสนธรรมในการจัดการศึกษาทุกระดับ 6.2 พัฒนาระบบการผลิตครู การต่อใบประกอบวิชาชีพครู การเลื่อนวิทยฐานะ ให้มีเกณฑ์ มาตรฐานด้านศีลธรรม และการสอนหลักศาสนธรรมแบบบูรณาการ 6.3 ส่งเสริมและผลักดันให้สถานศึกษาทุกแห่งมีหลักสูตร และจัดการเรียนการสอน ที่เน้นการนาหลักศาสนธรรมมาปฏิบัติจริงในชีวิตประจาวัน เพื่อการสร้างนิสัยดี พื้นฐาน หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึง ระดับอุดมศึกษา 6.4 ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการบวชเรียนตามหลักสูตรของคณะสงฆ์ วาระปฏิรูปที่ 37 ปฏิรูปการแรงงาน การนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพมาร่วมในการขับเคลื่อนระบบการศึกษาและ ระบบการพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างบูรณาการ รวมทั้งการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับ หน่วยงานอื่น ๆที่เกี่ยวข้องในการใช้กาลังคน ด้วยการออกกฎหมาย พระราชบัญญัติบูรณาการ การพัฒนากาลังคนและฝีมือ แรงงานแห่งชาติภายใต้การ กากับของนายกรัฐมนตรี โดยตรง โดยสาระสาคัญของกฎหมายกาหนดให้มีคณะกรรมการระดับชาติเรียกว่า คณะกรรมการบูรณาการการพัฒนากาลังคนและฝีมือแรงงานแห่งชาติ 8 วาระพัฒนา วาระพัฒนาที่ 1 พัฒนาด้าน 2.4 สนับสนุน ส่งเสริมความเข้มแข็งของผู้ประกอบการโดยการประสานงานอย่าง ใกล้ชิดกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีการพัฒนาทักษะที่จาเป็น
  • 31.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 27- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา การท่องเที่ยว ให้แก่บุคลากรทุกภาคส่วน ได้แก่ ทักษะด้านภาษา ทักษะในการบริหารธุรกิจ และ กากับให้ผู้ประกอบการมีการดาเนินการอย่างมีธรรมาภิบา ล และปฏิบัติตามข้อ กฎหมายอย่างเคร่งครัดมีการเสียภาษีประกอบการตามที่เป็นจริงและเชื่อมโยงกับ ฐานข้อมูลผู้ประกอบการ วาระพัฒนาที่ 2 แผนการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์ 9. กาหนดเปูาหมายและหลักสูตรพัฒนาความรู้ทางโลจิสติกส์แก่ผู้ใช้บริการและ ประชาชนส่งบุคลากร คุณภาพและปริมาณเพียงพอต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ระยะเวลาดาเนินการ ปี 2560-2562 วาระพัฒนาที่ 4 ระบบค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม เพื่อความเป็น พลเมืองที่ดีและ มนุษย์ที่สมบูรณ์ 1. ระบบ/หลักสูตร 1.1 ปฏิรูประบบการศึกษา ทั้งระบบความคิดเกี่ยวกับการศึกษาและระบบการ จัดการเรียนการสอน ความหมายของการศึกษาที่แท้จริง ระบบการศึกษาที่ไม่ได้ เน้นเฉพาะการสอบ และการแข่งขันเท่านั้น แต่ต้องมุ่งในการพัฒนาระบบค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม สร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อค่านิยม คุณธรรมและ จริยธรรม และต้องนาไปสู่วิถีปฏิบัติให้ได้ การปรับปรุง/ปฏิรูปหลักสูตร เพื่อสอน คุณธรรมจริยธรรม เช่น การสอนประวัติศาสตร์ การเรียนรู้ประสบการณ์บทเรียน จากอดีตการเรียนรู้ประวัติของผู้ที่ทาประโยชน์ให้บ้านเมือง (Local heroes) การประกวดการเขียนตาราประวัติศาสตร์ 1.2 การให้ความสาคัญต่อการสร้างและถ่ายทอดค่านิยมที่พึงประสงค์หลัก (Core values) ในระบบการศึกษา (เช่น ความเอาจริงเอาจัง ไม่ฉาบฉวย ) สอนอย่างจริงจังไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบ (ปักธง ลงลึก) – การจัดให้มี (Liberal Arts Education) เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ซึมซับสุนทรียภาพและความเป็นมนุษย์อย่าง สมบูรณ์ การรู้จักผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดเกินไป ซึ่งจะเป็นการรักษาสมดุลของชีวิต และจรรโลงสังคมให้น่าอยู่และสมบูรณ์อย่างแท้จริง โดยให้ผู้ศึกษามีโลกทัศน์ที่เปิดกว้าง เรียนรู้ถึงความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่รอบรู้และมีความสมดุล ทางอารมณ์และจิตใจด้วยการเชื่อมโยงกิจกรรมในหลักสูตรและกิจกรรมนอก หลักสูตร เช่น ให้เด็กไปดูแลผู้สูงอายุ สร้างบ้านให้คนจน ทากิจกรรมบาเพ็ญ ประโยชน์กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี - ยุวกาชาด ทั้งนี้จะทาให้เด็กเข้าใจสังคม มีจิตใจเอื้ออารีต่อผู้อื่น เข้าใจความแตกต่างหลากหลายของ สังคม และรู้จักลงมือ ปฏิบัติจริงเพื่อช่วยสังคม - การปรับปรุงวิธีการประเมินผลงานของครูและโรงเรียน โดยคานึงถึงเปูาหมายของการศึกษา อย่างแท้จริงและวัดผลที่ตรงจุด เช่น การวัดผลครูควรอยู่ที่การสอนให้เด็กรู้จักคิดและได้พัฒนาตนเอง การนา ค่านิยม ที่พึงประสงค์มาใช้ในการวัดผลการเรียนด้วย โดยไม่ได้วัดด้านความรู้เท่านั้นและ ต้องวัดถึงพฤติกรรม นิสัย และจิตสานึก 1.3 การส่งเสริม การให้การย อมรับ และการให้คุณค่าแก่คนที่ทา ดี มีค่านิยม ที่พึงประสงค์ และมีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อสร้างบรรยากาศและแรงจูงใจในการ ทาความดีประเด็นนี้ มีความสาคัญยิ่ง เพราะจะสร้างรากฐานของการยอมรับ ส่งเสริม และยกย่องการทาความดี และคนดี ซึ่งจาเป็นยิ่งต่อการปรับเปลี่ยน สังคมไทยที่อ่อนแอทางด้านคุณธรรมและจริยธรรม
  • 32.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 28- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา 2. กระบวนการเรียนรู้ 2.1 กระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน การได้ฝึกปฏิบัติและซึมซับผ่าน ประสบการณ์เป็นกระบวนการสอนที่ให้เด็กได้รู้ได้คิด โดยไม่ใช่ใช้การท่องจาหรือ บังคับ โดยเฉพาะให้มีการพิจารณา ทบทวนการกระทาของตนเองในเชิงจริยธรรม จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างคนและพลเมืองที่ดี 2.2 การสอนที่ไม่เน้นชั่วโมงการสอน /รายหัวข้อของวิชาแต่เปิดพื้นที่ให้นักเรียน ได้เรียนรู้ เพราะการเรียนรู้ของเด็กสามารถทาได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะใน ห้องเรียนเท่านั้น การสอนให้เด็กรู้จักเรียนรู้และใฝุหาความรู้ด้วยตนเองจึงเป็นการ สาคัญกว่าการที่ค รูเป็นฝุายให้ความรู้เพียงทางเดียว เช่น การรวมกลุ่มกัน แลกเปลี่ยนเพื่อตรวจสอบและพัฒนาตนเอง การรวมกลุ่มเพื่อเล่าสถานการณ์ใน บ้านเมือง เป็นต้น 2.3 การสอนโดยใช้กิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจาวัน กิจกรรมทาเป็นประจา ต้องบูรณาการ ลงในพฤติกรรมในทุกขั้นตอนทุกเวลาของผู้เรียน และกิจกรรมการ เรียนรู้อื่น ๆ เช่น การบูรณาการ กับสถาบันศาสนา เป็นต้น - การกระตุ้นให้เด็ก/ นักเรียน ได้คิดและตั้งคาถาม เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม เพื่อกระตุ้น กระบวนการคิด ของเด็ก เกิดความคิดสร้างสรรค์ และการต่อยอดทางความ คิด กระบวน การสอน ต้องส่งเสริมและไม่ปิดกั้นความคิดของเด็ก เด็กได้คิดได้ตั้งคาถาม ได้ตอบโจทย์ ได้หาคาตอบเอง เป็นการประเทืองปัญญาของเด็กได้ดียิ่ง 3. ครูผู้สอน 3.1 ครูผู้สอน เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของการเรียน รู้จักประยุกต์เพื่อถ่ายทอด บทเรียนและถ่ายทอดค่านิยมที่ถูกต้อง รวมถึงการสอนในวิชาต่าง ๆ ที่ครูต้องเข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของวิชานั้น ไม่ใช่สอนตามตัวอักษร ครูต้องสามารถ บูรณาการค่านิยมที่พึงประสงค์ไปในการสอนวิชาต่าง ๆ และวิถีชีวิตประจาวันได้ - การทดสอบทัศนคติ/คุณลักษณะของผู้จะมาเป็นครูนั่นคือต้องมีความเป็นครู หรือ อุดมการณ์ ความเป็นครู เพราะครูเป็นผู้ที่มีความสาคัญที่สุดในการหล่อหลอม นักเรียน จึงต้องคัดสรรคนที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง รักในการสอนและทุ่มเทให้กับ นักเรียนอย่างแท้จริง - การปรับทัศนคติ/ปลุกจิตสานึกและจิตวิญญาณความเป็นครู ให้เข้าใจถึงบทบาทในการปลูกฝัง ค่านิยม บ่มเพาะความเป็นครู - การจัดให้มี หลักสูตรอบรมครูผู้สอนเพื่อให้ถ่ายทอดคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างร่วมสมัย และมี ประสิทธิภาพ - การส่งเสริม สร้างแรงจูงใจและให้กาลังใจครูที่มีผลงานดีเด่นด้าน การสอนคุณธรรม จริยธรรม ๕๗ – มาตรการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นครูซึ่งต้องทา ให้ครูเกิดความภาคภูมิใจและรักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีของตนเอง โดยการปฏิบัติ หน้าที่ให้สมกับความเป็นครูในฐานะ “แม่พิมพ์ ของชาติ” 4. นักเรียน 4.1 กลไกการสร้างแรงจูงใจแก่นักเรียนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม เช่น การเรียนต่อ การจบการศึกษา โดยนาค่านิยมที่พึงประสงค์มาเป็นส่วนหนึ่งของการคัดเลือก เป็นต้น 4.2 การเรียนรู้ของนักเรียนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการมีค่านิยมที่ดี เช่น
  • 33.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 29- วาระการปฏิรูป/ วาระการพัฒนา ประเด็นการปฏิรูปของวาระการปฏิรูป/วาระการพัฒนา การใช้วิธีการ “การบ้านห้าข้อ” ของประเทศเวียดนาม เป็นต้น 4.3 ส่งเสริมการสร้าง Intellectual curiosity เช่น การสร้างสถานการณ์จาลอง หรือให้เด็ก เรียนรู้จากกรณีศึกษา หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม ในชุมชน โดยอาจ เป็นหัวข้อข่าว หรือการส่งเสริมให้เด็กเข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม โดยการ เข้าไปทากิจกรรมและเรียนรู้จากชุมชน เป็นต้น วาระพัฒนาที่ 5 การพัฒนาเศรษฐกิจ ดิจิทัล 5.5 การพัฒนาองค์ความรู้และสังคมดิจิทัล (Digital Knowledge and Society) 5.5.1 พัฒนาบุคลากรเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล 5.5.2 สร้างความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจดิจิทัลระหว่างภาครัฐ เอกชนและ วิชาการ วาระพัฒนาที่ 6 การเป็นศูนย์กลาง อาเซียน (ASEAN Hub) 5. ปรับโครงสร้างการบริหารความร่วมมือในอาเซียน วาระพัฒนาที่ 8 การปฏิรูประบบ ข้อมูลเพื่อการ พัฒนาประเทศ การบูรณาการข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ 4. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก ดา ว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ได้กาหนดยุทธศาสตร์ ตามกรอบปฏิรูปการศึกษา ให้ทุกส่วนราชการ/หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ วิสัยทัศน์ ยกระดับคุณภาพการศึกษาที่ดี มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และลดความเหลื่อมล้าอย่างทั่วถึง ผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการและรองรับการพัฒนาประเทศ พันธกิจ 1. ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ 2. เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค 3. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. ผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการและรองรับการพัฒนาประเทศ 2. หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ 3. ระบบงบประมาณและทรัพยากรเพื่อการศึกษา 4. ระบบตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษา 5. ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา 6. พัฒนาระบบการผลิต การสรรหา และการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
  • 34.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 30- 7. ระบบการบริหารจัดการ 8. สร้างโอกาสทางการศึกษา 9. พัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 10. การวิจัยเพื่อพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เปูาประสงค์  กาลังคนมีคุณภาพและมาตรฐาน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ  ผู้เรียนและผู้สาเร็จการศึกษาอาชีวศึกษา มีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดแรงงาน ตามกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ  การจัดการอาชีวศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานสากล  ผู้เรียนจบแล้วมีงานทา  ผู้เรียนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มาตรฐาน  ผู้เรียนและประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะ และพัฒนาการเหมาะสมตามวัยสามารถ แสวงหาความรู้ได้ สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน  นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีค่านิยมที่ถูกต้อง ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และมีภูมิคุ้มกัน ปลอดภัยจากยาเสพติด  สถานศึกษาได้รับการจัดสรรทรัพยากรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม สอดคล้องกับนโยบาย การผลิตและพัฒนากาลังคน  สถานศึกษามีการเบิกจ่าย งบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้  ผู้เรียนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน  ระบบและกลไกการประเมินคุณภาพการศึกษามีประสิทธิภาพ  สถานศึกษาทุกระดับทุกประเภทผ่านการรับรองมาตรฐานทางการศึกษา  หน่วยงานมีระบบสื่อสารและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันสมัย  ระบบ ICT มีการบูรณาการเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก อย่างครอบคลุม มีคุณภาพ รวดเร็วและทั่วถึง  นาระบบ ICT เข้ามาใช้จัดการเรียนรู้และบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม และกว้างขวาง  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทาแผนการผลิต การสรรหา และการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา  ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ เพื่อยกระดับการประกอบวิชาชีพตามระดับคุณภาพของมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ  ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพและจรรยาบรรณของวิชาชีพสอดคล้องกับความต้องการ ของสถานศึกษาและท้องถิ่น  หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล  มีกลไกการบริหารและการประสานงานการจัดการศึกษาส่วนกลางและในพื้นที่อย่างมี ประสิทธิภาพ  มีนโยบาย แผน มาตรฐานและการติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาที่หน่วยงานปฏิบัติ สามารถนาไปบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้
  • 35.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 31-  ประชากรทุกกลุ่มทุกวัยได้รับโอกาสในการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม  ประชากรวัยเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค  ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต  ครูมีความปลอดภัย มีขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน  การบริหารจัดการเงินอุดหนุนการศึกษาเป็นไปด้วยความถูกต้อง  มีหน่วยงานรับผิดชอบขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม  ได้งานวิจัยที่นาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์  งานวิจัยและบริการวิชาการตอบสนองต่อโจทย์ปัญหาหรือความต้องการของชุมขน ท้องถิ่น และประเทศ  มีนวัตกรรม องค์ความรู้ และฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่สามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการ บริการจัดการเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 - 2559) แนวคิดและทิศทางการพัฒนาประเทศของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 -2559) ยึดหลักการปฏิบัติตาม “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ แนวคิดการพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวมที่มี “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ” มีการเชื่อมโยงทุกมิติของการ พัฒนาอย่างบูรณาการ ทั้งมิติตัวคน สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการเมือง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้พร้อมเผชิญ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้ นทั้งในระดับปัจเจก ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ให้ความสาคัญกับการมี ส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมในกระบวนการพัฒนาประเทศ ทิศทางการบริหารจัดการประเทศเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลง ให้ความสาคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศที่เน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ฐานการ ผลิตภาคเกษตรและการประกอบการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปรับตัวในการเชื่อมโยงกับระบบ เศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ เพื่อสามารถใช้โอกาสที่เกิดขึ้นและเพิ่มภูมิคุ้มกันของทุน ที่มีอยู่ในสังคมไทยได้อย่างเหมาะสมพร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคมเศ รษฐกิจอาเซียน สร้างความพร้อมสาหรับ เชื่อมโยงด้านกายภาพทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพคน การเสริมสร้าง องค์ความรู้ การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมไทย การกาหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในระยะแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันใน มิติต่างๆ เพื่อให้การพัฒนาประเทศสู่ความสมดุลและยั่งยืน โดยนาทุนของประเทศที่มีศักยภาพมาใช้ประโยชน์ อย่างบูรณาการและเกื้อกูลกัน พร้อมทั้งเสริมสร้างให้แข็งแกร่งเพื่อเป็นรากฐานการพัฒนาประเ ทศที่สาคัญ เช่น การเสริมสร้างทุนสังคม (ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนทางวัฒนธรรม ) ให้ความสาคัญกับการพัฒนาคนและสังคมไทยสู่ สังคมคุณภาพ มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่ระดับปัจเจก ครอบครัว และชุมชน สามารถจัดการความเสี่ยงและปรับตัว เข้ากับการเปลี่ยนแปลง มีโอกาสเข้าถึงทรัพยา กรและได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่าง เป็นธรรม ส่วนการเสริมสร้างทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสาคัญกับการสร้างความมั่นคง ด้านอาหาร การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นฐานการผลิตภาคเกษตรมุ่งสู่การเป็น เศรษฐกิจและสังคม คาร์บอนต่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีการบริหารจัดการประเทศเพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งให้ ความสาคัญกับการพัฒนาระบบราชการและข้าราชการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพิ่มประสิทธิภาพการกระจ าย
  • 36.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 32- อานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาระบบและกลไกการปูองกันและปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบอย่างมีส่วนร่วม สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรควบคู่ไปกับปลูกจิตสานึกค่านิยม ประชาธิปไตย และธรรมาภิบาลแก่ประชาชนทุกกลุ่ม วิสัยทัศน์ สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยความเสมอภาคเป็นธรรมและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง พันธกิจ พัฒนาคุณภาพคนไทยให้มีคุณธรรมเรียนรู้ตลอดชีวิตมีทักษะและการดารงชีวิตอย่างเหมาะสม ในแต่ละช่วงวัย สถาบันทางสังคมและชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวรู้เท่าทั นกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาฐานการผลิตและบริการให้เข้มแข็งและมีคุณภาพบนฐานความรู้ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญา สร้าง ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ปรับโครงสร้างการผลิตและการบริโภคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้าง ความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคง ทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรองรับผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ เปูาหมายหลัก ความอยู่เย็นเป็นสุขและความสงบสุขของสังคมไทยเพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้าในสังคมลดลง สัดส่วนผู้อยู่ ใต้เส้นความยากจนลดลง และดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชั่นไม่ต่ากว่า 5.0 คะแนน คนไทยมีการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่องมีสุขภาวะดีขึ้น มีคุณธรรม จริยธรรม และสถาบันทางสังคมมีความเข้มแข็งมากขึ้น เศรษฐกิจเติบโตใน อัตราที่เหมาะสมตามศักยภาพของประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทาง เศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศให้มีไม่ต่ากว่าร้อยละ40 ตัวชี้วัด จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทย ผู้เรียนทุกระดับการศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม สัดส่วนประชากรที่ เข้าถึงโครงข่ายคมนาคมและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จานวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา อัตราการปุวยด้วย โรคไม่ติดต่อ และดัชนีความอบอุ่นของครอบครัว ยุทธศาสตร์การพัฒนา 1. ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมในสังคมให้ความสาคัญกับการสานสร้างความสัมพันธ์ของ คนในสังคมให้มีคุณค่าร่วมและตระหนักถึงผลประโยชน์ของสังคม และเสริมสร้างการบริหารราชการแผ่นดินที่มี ประสิทธิภาพโปร่งใส มีระบบตรวจสอบและการรับผิดชอบที่รัดกุม โดยสร้างค่านิยมใหม่ที่ยอมรับร่วมกันบนฐาน ของความไว้เนื้อเชื่อใจและเกื้อกูลกันในสังคม ส่งเสริมวัฒนธรรมการเมื องที่มีธรรมาภิบาลนาไปสู่การเป็น ประชาธิปไตยที่ถูกต้องและเหมาะสม เสริมสร้างระบบบริหารราชการให้เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ พัฒนาข้าราชการ ให้มีคุณภาพสูงมีคุณธรรม จริยธรรมทางอาชีพ และมีความรับผิดรับชอบปฏิรูปการเมืองไทยทั้งระบบให้เป็น ประชาธิปไตยของมวลชน รวมทั้งสนับสนุนการใช้สื่อเพื่อสังคมทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่นและสังคมออนไลน์ ให้เป็นพลังหนุนเสริมการพัฒนา 2. ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน ให้ความสาคัญกับ การพัฒนาคุณภาพคนไทยให้มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพคนไทยทุ กช่วงวัย สอดแทรก การพัฒนาคนด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่เสริมสร้างวัฒนธรรมการเกื้อกูล พัฒนาทักษะให้คนมีการเรียนรู้ต่อเนื่อง ตลอดชีวิต ต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรมที่เกิดจากการฝึกฝนเป็นความคิดสร้างสรรค์ ปลูกฝังการพร้อมรับฟังความ คิดเห็นจากผู้อื่นและจิตใจที่มีคุณธรรม ซื่ อสัตย์ มีระเบียบวินัย พัฒนาคนด้วยการเรียนรู้ในศาสตร์วิทยาการให้ สามารถประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายสอดคล้องกับแนวโน้มการจ้างงานและเตรียมความพร้อมสู่ประชาคม
  • 37.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 33- เศรษฐกิจอาเซียน สร้างจิตสานึกให้คนไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพกฎหมายหลักสิทธิมนุษยชน สร้าง ค่านิยมก ารผลิตและบริโภคที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เรียนรู้การรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสภาพ ภูมิอากาศและภัยพิบัติ การส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างเป็นองค์รวมโดยสร้างเสริมสุขภาวะคนไทย ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ พัฒนาความรู้และทักษะในการ ดูแลสุขภาพของตนเองครอบครัว ชุมชน การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งสร้างกระแสสังคมให้การเรียนรู้เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน มีนิสัยใฝุรู้ รักการอ่านตั้งแต่วัยเด็ก และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันของคนต่างวัยควบคู่กับการส่งเสริมให้องค์กร กลุ่มบุคคล ชุมชน ประชาชน และสื่อทุกประเภทเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย รวมถึง ส่งเสริมการศึกษาทางเลือกที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และสนับสนุน ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเสริมสร้างความเข้ มแข็งของสถาบันทางสังคมให้เอื้อต่อ การพัฒนาคน สร้างค่านิยมให้คนไทยภูมิใจในวัฒนธรรมไทยและยอมรับความแตกต่างของความหลากหลายทาง วัฒนธรรมที่ลดปัญหาความขัดแย้งทางความคิด และสร้างความเป็นเอกภาพในสังคม สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ทางวัฒนธรรมร่วมกับประชาคมโลกโดยเฉพาะประชาคมอาเซียนให้เกิดการไหลเวียนทางวัฒนธรรมในรูปแบบการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร 3. ยุทธศาสตร์ความเข้มแข็งภาคเกษตรความมั่นคงของอาหารและพลังงาน ให้ความสาคัญ กับการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิต สนับสนุนการผลิตและบริการของชุมชนในการ สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรอาหารและพลังงาน ส่งเสริมสถาบันการศึกษาในพื้นที่ให้ร่วมกันศึกษา วิจัย กับ ภาคเอกชน สนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเท คโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม บนฐานความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร การ สร้างความมั่นคงในอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกร สร้างแรงจูงใจให้เยาวชน เกษตรกรรุ่นใหม่ และแรงงานที่มี คุณภาพเข้าสู่อาชีพเกษตรกรรม พัฒนาสถาบันเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนให้เป็นกลไกสนับสนุนการพึ่งพาตนเอง ของเกษตรกร การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานชีวภาพ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศและความเข้มแข็ง ภาคเกษตร ด้วยการปลูกจิตสานึกในการใช้พลังงานชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า 4. ยุทธศาสตร์การปรับโคร งสร้างเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ให้ความสาคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพและยั่งยืน มุ่งการปรับโครงสร้าง อุตสาหกรรมให้มีคุณภาพและยั่งยืน ด้วยการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ สู่อุตสาหกรรมฐานความรู้เชิงสร้างสรรค์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิจัย และ นวัตกรรมให้เป็นพลังขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เน้นการนาความคิด สร้างสรรค์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพย์สินทางปัญญา วิจัยและพัฒนาไปต่อยอด ถ่ายทอด และประยุกต์ใช้ประโยชน์ทั้ง เชิงพาณิชย์ สังคม และชุมชน ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิจัยและนวัตกรรมให้ ทั่วถึงและเพียงพอ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพในลักษณะของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน 5. ยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคม ให้ความสาคัญกับการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจ ตามแนวพื้นที่ชายแดน /เขตเศรษฐกิจชายแดน ตลอดจนเชื่อมโยงระบบการผลิตกับพื้นที่ตอนในของประเ ทศ การสร้างความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนที่มีศักยภาพ ในการพัฒนาบุคลากรทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนให้มี มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน กาหนดมาตรฐานขั้นพื้นฐานของคุณภาพสินค้า
  • 38.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 34- และบริการที่เป็นการปูองกันสินค้าและบริการนาเข้าที่ไม่ได้คุณภาพทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การมีส่วนร่วมสาคัญในการสร้างสังคมนานาชาติที่มีคุณภาพชีวิต ปูองกันภัยจากการก่อการร้ายและอาชญากรรม ยาเสพติด ภัยพิบัติ และการแพร่ระบาดของโรคภัย มุ่งพัฒนาศักยภาพและความพร้อมในการปูองกันและแก้ปัญหา ข้ามชาติด้านการก่อการร้าย ยาเสพติด และการหลบหนีเข้าเมืองทั้งระบบพัฒนาศักยภาพและความ ร่วมมือภายใน ภูมิภาค เพื่อเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติและเหตุฉุกเฉิน และร่วมมือในการปูองกันการติดเชื้อและการแพร่ ระบาดของโรคอุบัติใหม่และโรคระบาดซ้า 6. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ให้ความสาคัญกับ การยกระดับขีดความสามารถในการรองรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สังคม มีภูมิคุ้มกัน มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ และเครื่องมือในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับกับความท้าทายจากการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงพัฒนาศักยภาพชุมชนให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเตรียมความพร้อมรองรับกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยสนับสนุนภาคเอกชน สถานประกอบการ โรงเรียน และท้องถิ่นให้มีการเตรียมความพร้อมและจัดทาแผนปฏิบัติการรองรับภัยพิบัติ 6. แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559) แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง (พ.ศ.2552 – 2559) เป็นแผนที่บูรณาการ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและกีฬา กับการศึกษาทุกระดับ เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ ของ ประเทศ และเชื่อมโยงการพัฒนาการศึกษากับการพัฒนาด้านต่างๆ โดยคานึงถึงการพัฒนาการศึกษาอย่าง ต่อเนื่องตลอดชีวิต และให้ความสาคัญทั้งการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ และกาหนดระยะเวลาในการดาเนินงาน ตามแผนฯ เป็น2 ระยะ คือ ระยะแรก (พ.ศ.2552 – 2554) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 และระยะ ที่สอง (พ.ศ. 2555 – 2559) สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 โดยมีการกาหนดเปูาหมายการนาแผนสู่การปฏิบัติเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณไว้ดังนี้ เปูาหมาย เชิงคุณภาพ : เมื่อสิ้นสุดแผนฯ ในปี 2559 การพัฒนาการศึกษาของประเทศบรรลุผลตามเปูาหมายที่กาหนดไว้ ดังนี้ 1. คนไทยเป็นคนดี เก่ง มีความสุข มีความรู้เชิงวิชาการและสรรถนะทางวิ ชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม ใฝุเรียนรู้และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีความสุข มีสุขภาพทั้งกายและใจที่สมบูรณ์ สามารถประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข เพื่อเป็นเปูาหมายและฐานหลักของการพัฒนาประเทศ 2. สังคมไทยเป็นสังคมแห่งคุณธรรม ภูมิปัญญาและการเรียนรู้ มีการสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการเรียนรู้ นาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืนมีสุขภาวะ ประชาชนอยู่ ร่วมกันอย่างสันติสุขและเอื้ออาทร ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ 3. สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออานวยต่อการพัฒนาคนอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน มีการนา เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อการศึกษาและเรียนรู้ มีการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการกระจาย อานาจสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่ และองค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่น มีการระดมทรัพยากรและความร่วมมือจาก ทุกภาคส่วน รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคและกับนานาชาติมากขึ้น อันจะนาไปสู่ความสามารถในการร่วมมือและ แข่งขันของประเทศ และการอยู่ร่วมกันกับพลโลกอย่างสันติสุข มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและเกื้อกูลกัน
  • 39.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 35- เปูาหมายเชิงปริมาณของแผนการศึกษาแห่งชาติฯ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระหลัก เกินกว่าร้อยละ 50 2. สถานศึกษาทุกโรงได้รับการรับรองมาตรฐาน จาก สมศ. 3. จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มสูงขึ้น จาก8.7 ปี ในปี2551 เป็น12ปี ในปี2559 4. เอกชนเข้ามาร่วมจัดการศึกษามากขึ้น โดยมีสัดส่วนผู้เรียนระหว่างรัฐ: เอกชน เป็น65 : 35 ในปี 2559 5. สัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษามากขึ้น โดยมีสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษา : สามัญศึกษาในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย เป็น 60 : 40 ในปี 2559 7. แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่11(พ.ศ.2555-2559) : ระยะครึ่งแผน จากผลการศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์และข้อมูลสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการ จัดการศึกษา และผลการพัฒนาการศึกษาที่ผ่านมาที่ได้กล่าวมาข้างต้น การพัฒนาการศึกษามีประเด็นสาคัญต้อง เร่งพัฒนา ได้แก่ การปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภท การผลิตและพัฒนา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา การผลิตและพัฒนากาลังคนที่มีความรู้ สมรรถนะ และทักษะสอดคล้อง กับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ การ สร้างโอกาสทาง การศึกษาให้คนไทยทุกกลุ่มทุกวัยได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การพัฒนาศักยภาพคนไทยให้มีความพร้อม สาหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมที่จาเป็นต่อ การพัฒนาสังคม และประเทศ การพัฒนาการศึกษาเพื่ อความมั่นคงของประเทศ การพัฒนา ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการศึกษา การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักธรรมาภิบาลการปรับปรุง แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ เปูาหมายหลัก ตัวชี้วัด และยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) : ระยะครึ่งแผน ดังนี้ วิสัยทัศน์ “คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก” พันธกิจ 1) ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาสู่มาตรฐานสากล 2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม 3) พัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน วัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาคุณภาพคนไทยให้สามารถคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ และทักษะที่จาเป็นสาหรับศตวรรษที่ 21 2) เพื่อผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และพร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 3) เพื่อสร้างผลงานวิจัยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 4) เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
  • 40.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 36- 5) เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล โดยการมี ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เปูาหมายหลัก 1) ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 2)อันดับผลการประเมินด้านการศึกษาของประเทศดีขึ้น(PISA,TIMSS,IMD,WorldUniversityRanking) 3) สถานศึกษาทุกระดับและทุกประเภทมีคุณภาพผ่านการรับรองมาตรฐานทางการศึกษา 4) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษามีประสิทธิภาพ ทันสมัย เหมาะสม สาหรับนาไปใช้ในการเรียนรู้และการบริหารจัดการการศึกษา 5) กาลังแรงงานมีคุณภาพ มีสมรรถนะและทักษะที่จาเป็นต่อการทางาน และมีปริมาณเพียง พอ กับความต้องการของประเทศและการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6) ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีคุณภาพ นาไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนา สังคมและประเทศ 7) คนไทยทุกกลุ่มทุกวัยมีโอกาสได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง เป็นธรรม 8) ภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมจัดและสนับสนุนการจัดการศึกษา ตัวชี้วัด 1) ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก การทดสอบระดับชาติเพิ่มขึ้น 2) อันดับผลการประเมินด้านการศึกษาโดยองค์กรระหว่างประเทศดีขึ้น (PISA, TIMSS, IMD, World University Ranking) 3) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ. 4) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book, e-Learning) 5) ร้อยละของผู้สาเร็จการอาชีวศึกษาและการอุดมศึกษาที่เข้าสู่ตลาดแรงงานมีสมรรถนะเป็นที่ พึงพอใจของผู้ใช้ 6) สัดส่วนผู้เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษาต่อสามัญศึกษา 7) จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นาไปใช้ประโยชน์ 8) จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทย 9) ร้อยละของกาลังแรงงานที่จบการศึกษาตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป 10) สัดส่วนผู้เรียนในสถานศึกษาของเอกชนต่อรัฐ 11) จานวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมจัดหรือสนับสนุนการศึกษา 8. กรอบการศึกษาเพื่อปวงชน (Education For All: EFA) โครงการการศึกษาเพื่อปวงชนเริ่มขึ้นเมื่อปี พ .ศ. 2533 จากการประชุมระดับโลกเรื่องการศึกษา เพื่อปวงชน (World Conference on Education for All) โดยที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ดังกล่าวขึ้นที่หาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี โดยการประชุมครั้งนั้นมีประเทศสมาชิกยูเนสโกทั้งหมด (ขณะนั้นมี สมาชิกเพียง 155 ประเทศ ) เข้า ร่วมการประชุม พร้อมทั้งองค์กรพิเศษอื่นๆ ของสหประชาชาติ เช่น
  • 41.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 37- ยูนิเซฟ ธนาคารโลก ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรองปฏิญญาจอมเทียน ซึ่งกาหนดเปูาหมายการศึกษาเพื่อปวงชนไว้ 10 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2543 จานวน 6 ประการ คือ 1. ขยายการดูแลเด็กปฐมวัยและกิจกรรมเพื่อการพัฒนาอื่นๆ โดยเฉพาะเด็กด้อยโอกาสและ เด็กพิการ 2. ขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทั่วถึงภายในปี พ.ศ.2543 3. ปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อให้ผู้เรียนผ่านมาตรฐานขั้นต่าได้ในระดับที่สูงขึ้น 4. ลดอัตราการไม่รู้หนังสือของผู้ใหญ่ในปี พ.ศ.2543 ให้ได้ครึ่งหนึ่งของอัตราที่มีอยู่ในปี 2533 โดยเน้นการเรียนรู้ของเด็กหญิงและสตรี 5. ขยายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและการฝึกอบรมทักษะที่จาเป็นต่อการดารงชีพของเยาวชน และผู้ใหญ่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสุขอนามัยและการงานอาชีพที่ดีขึ้น 6. เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และค่านิยม ที่จาเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและ ครอบครัว ในหลากหลายรูปแบบและวิธีการ ต่อมาในปี พ.ศ.2543 (ค.ศ. 2000) ซึ่งถือเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปี ของปฏิญญาจอมเทียน องค์การยูเนสโกได้จัดประชุมเพื่อประเมินความคืบหน้าของประเทศสมาชิกอีกครั้งหนึ่งที่กรุงดาการ์ ประเทศ เซเนกัล ผลปรากฏว่า ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่สามารถดาเนินการให้บรรลุเปูาหมายตามที่กาหนดไว้ ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้ปรับเปูาหมายและขยายเวลาสาหรับการบรรลุการศึกษาเพื่อปวงชนใหม่ โดยกาหนดเปูาหมาย ภายในปี พ.ศ.2558 ดังนี้ 1. ขยายและปรับปรุงการศึกษาและการดูแลเด็กเล็กก่อนวัยเรียน โดยเฉพาะเด็กที่เปราะบางและ ด้อยโอกาส 2. จัดให้เด็กทั้งหมด โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เด็กที่อยู่ในสภาวะยากลาบาก และเด็กที่เป็นกลุ่มน้อย ทางเชื้อชาติ สามารถเข้าถึงและเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาภาคบังคับที่มีคุณภาพ ภายในปี พ .ศ.2558 (ค.ศ. 2015) 3. จัดการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ของเยาวชนและผู้ใหญ่ทั้งหมดผ่านโครงการ ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน 4. พัฒนาอัตราการรู้หนังสือของผู้ใหญ่ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015) โดยเฉพาะสตรี และการพัฒนาการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานและต่อเนื่องสาหรับผู้ใหญ่ทั้งหมดให้เท่าเทียมกัน 5. ขจัดความเหลื่อมล้าทางเพศในการศึกษาระดับประถมและมัธยมภายในปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) และทาให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศในการศึกษาภายในปี พ .ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) โดยเน้นการเข้าถึงของ เด็กผู้หญิงและทาให้เกิดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ 6. พัฒนาคุณภาพการศึกษาในทุกด้านและรับรองความเป็นเลิศทั้งหมด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทาง การเรียนรู้ที่ชัดเจนและสามารถวัดได้ โดยเฉพาะในเรื่องการรู้หนังสือ การคานวณตัวเลขและทักษะที่จาเป็น ต่อชีวิต 9. ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณพ .ศ. 2559 เพื่อให้หน่วยงานของ รัฐนาไปใช้เป็นแนวทางในการกาหนดลาดับความสาคัญของภารกิจหน่วยงานและใช้เป็นเครื่องมือในการจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลและเป็นการวางรากฐาน
  • 42.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 38- เพื่อรองรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในระยะยาวต่อไปยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประม าณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2559 ได้กาหนดไว้ 8 ยุทธศาสตร์และ 1 รายการ คือ 1. ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ 2. ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ 3. ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม 4. ยุทธศาสตร์การศึกษาสาธารณสุขคุณธรรมจริยธรรมและคุณภาพชีวิต 5. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6. ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการวิจัยและนวัตกรรม 7. ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 8. ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 9. รายการค่าดาเนินการภาครัฐ โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนที่เกี่ยวข้อง รวม 3 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยุทธศาสตร์การเร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุขคุณธรรมจริยธรรมและคุณภาพชีวิต และยุทธศาสตร์ที่ 6 ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการวิจัยและนวัตกรรม 10. การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 รัฐบาลให้ความสาคัญกับการบูรณาการงบประมาณ เพื่อให้การดาเนินงานของกระทรวงและ หน่วยงานมีความเชื่อมโยง สอดคล้อง สนับสนุนซึ่งกันและกัน และนาไ ปสู่วัตถุประสงค์ เปูาหมายในทิศทาง เดียวกัน โดยมุ่งเน้นจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โ ดยคานึงถึงหลักประหยัด ความคุ้มค่ า เพื่อให้ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 เห็นชอบแนวทางการจัดทางบปร ะมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 โดย กาหนดให้มีการจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ เห็นชอบแผนงานบูรณาการรวม 19 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2. การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 3. การพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ 4. การบูรณาการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 5. การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 6. การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ 7. การบริหารจัดการทรัพยากรน้า 8. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา 9. การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ 10. การสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ 11. การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 12. การปูองกันปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 13. การฟื้นฟูปูองกัน และจัดการภัยพิบัติ 14. การบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม
  • 43.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 39- 15. การปูองกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ 16. การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน 17. การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและแก้ไขปัญหาที่ดินทากิน 18. การจัดระเบียบการค้าในพื้นที่สาธารณะ 19. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 11. งบประมาณที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรร ตามพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จาแนกรายยุทธศาสตร์ ดังนี้ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมา ณ พ.ศ.2559 กาหนดวงเงินงบประมาณ ไว้จานวน 2,720,000 ล้านบาท สาหรับรัฐบาลและทุกส่วนราชการได้นาไปใช้จ่ายในการปฏิบัติราชการแผ่นดิน โดยที่สานักงบประมาณได้จัดทายุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559 ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังค มแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) นโยบายความมั่นคง แห่งชาติ (พ.ศ. 2558-2564) และแผนแม่บทอื่น ๆ โดยคานึงถึงความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดินควบคู่ กับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการน้อมนายุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นหลักในการปฏิบัติ เพื่อให้ประเทศมั่นคงประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน รวมทั้งรัฐบาลให้ความสาคัญกับการบูรณาการงบประมาณ เพื่อให้ การดาเนินงานของกระทร วงและหน่วยงานมีความเชื่อมโยง สอดคล้อง นา ไปสู่วัตถุประสงค์ เปูาหมายในทิศทาง เดียวกัน โดยกาหนดแผนงานบูรณาการ รวม 19 แผนงาน (วงเงินงบประมาณ 23,180.9207 ล้านบาท ของ กระทรวงศึกษาธิการ) โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จานวน 517,076.7030 ล้านบาท และงบประมาณกองทุน จานวน 1,448.0000 ล้านบาท (รวมเป็นจานวนทั้งสิ้น 518,524.7030 ล้านบาท) ซึ่งมียุทธศาสตร์ที่ความ สอดคล้องกับการดาเนินงาน ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ 14 แผนงาน และวงเงินงบประมาณ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ(งบประมาณ11,946.1828ล้านบาท) 1.1 แผนงานเร่งรัดการผลักดันการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต(งบประมาณ6,911.3803ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - คนไทยทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม มีศักยภาพเพิ่มขึ้น มีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ตัวชี้วัด - อัตราการเข้าเรียนสุทธิทุกระดับชั้น (net enrolment ratio) นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.1.2 เร่งรัดให้เด็กในวัยเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา จบการศึกษาภาคบังคับและมีโอกาส ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยการลดอุปสรรคและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ 1.1.3 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะของวัยรุ่น/นักศึกษา ทั้งในด้านทักษะชีวิตให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยง และมีทักษะอาชีพในการเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงาน 1.3 แผนงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (งบประมาณ 130.0000 ล้านบาท)
  • 44.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 40- เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความเข้มแข็งสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.3.4 สนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ของผู้ประกอบการเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพของแรงงาน ทั้งในเรื่องศูนย์บ่มเพาะ ศูนย์ข้อมูล ตลอดจนการให้คาปรึกษาทางธุรกิจ 1.4 แผนงานพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ(งบประมาณ118.3159ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - สาขาบริการที่มีศักยภาพสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.4.6 พัฒนายกระดับสินค้า บริการ ปัจจัยสนับสนุน และธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวให้มี คุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 1.9 แผนงานเร่งรัดประยุกต์ใช้งานวิจัยและพัฒนาไปสู่การปฏิบัติ(งบประมาณ7.6459ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - นาผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้เร่งแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน นาไปสู่การพัฒนาประเทศให้ ทันเหตุการณ์ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ ตัวชี้วัด - ผลงานวิจัยสามารถนาไปใช้ประโยชน์เพิ่มสูงขึ้น นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.9.1 สนับสนุนงานวิจัยที่สามารถแก้ไขปัญหาสาคัญเร่งด่วนของประเทศอย่างยั่งยืน 1.10 แผนงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(งบประมาณ3,348.2677ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - ประชาชนในพื้นที่ได้รับการศึกษา การพัฒนาอาชีพ มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถ ดาเนินชีวิตประจาวันได้ตามปกติสุข นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.10.5 ส่งเสริมการศึกษา ภาษา ศาสนา ศิลปะ และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้สอดคล้องกับ อัตลักษณ์ สังคมและวัฒนธรรม รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการศึกษาทั้งในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาที่ สอดคล้องกับตลาดแรงงาน 1.11 แผนงานการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (งบประมาณ 1,079.7501 ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - ประเทศได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มศักยภาพ นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.11.6 ส่งเสริมการร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษา คุณภาพชีวิต การคุ้มครองและสวัสดิการทาง สังคมในประชาคมอาเซียน 1.11.8 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียนให้กับบุคลากรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • 45.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 41- 1.12 แผนงานปูองกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ(งบประมาณ350.8229ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - ลดปัญหาการทุจริตในสังคมไทย และยกระดับคุณธรรม จริยธรรมของคนไทยให้สูงขึ้น นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.12.2 สนับสนุนการปลูกจิตสานึก สร้างค่านิยม ให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ในเรื่องความชื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรมและจริยธรรม ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริยธรรม และคุณภาพชีวิต (งบประมาณ 497,180.3542 ล้านบาท) 4.1 แผนงานขยายโอกาส พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานทางการศึกษา(งบประมาณ402,183.3367ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - คนไทยทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล ตัวชี้วัด - จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น - ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาหลักระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น - ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาได้งานทาหรือประกอบอาชีพ อิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องใน 1 ปี นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 4.1.1 ส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ในด้านคุณภาพครู หลักสูตร ห้องเรียน และการใช้ เทคโนโลยีด้านการศึกษา การบูรณาการการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงแต่ละระดับการศึกษาการพัฒนาการเรียนการสอน ที่เน้นกระบวนคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ 4.1.2 พัฒนาเด็กวัยเรียนทุกระดับให้มีความรู้ทางวิชาการ และความฉลาดทางอารมณ์ รวมทั้ง สร้างจิตสานึกและภูมิใจในประวัติศาสตร์ไทย ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมืองดี ตลอดจนตระหนักในสิทธิและหน้าที่การทาประโยชน์ต่อสังคม 4.13 พัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้เชื่อมโยงกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพนาไปสู่การวางระบบ เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพที่มีกลไกการวัดและประเมินผลเพื่อเทีย บโอนความรู้และประสบการณ์และ หน่วยงานเรียนที่ชัดเจน 4.1.4 พัฒนาครูให้มีคุณภาพ และสนับสนุนการผลิตบุคลากรทางการศึกษาในสาขาขาดแคลน 4.1.5 ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากาลังคนให้มีคุณภาพและมาตรฐาน เชื่อมโยงกับกลุ่ม อุตสาหกรรมเปูาหมาย สอดคล้องตามความต้องการของตลาดแรงงาน และทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมทั้ง ส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา 4.1.6 เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม เสริมสร้างโอกาสทาง การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งสนับสนุนภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนในการผลิตและเผยแพร่สื่อ ที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ 4.1.7 สร้างนวัตกรรมและสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ทุกลุ่มวัย ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่ทั้งในระบบ นอกระบบ และแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัย 4.1.8 สนับสนุนการดาเนินงานตามภารกิจพื้นฐานของหน่วยงาน
  • 46.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 42- 4.2 แผนงานสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (งบประมาณ 82,981.0566 ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของ ประเทศ ตัวชี้วัด - สัดส่วนการเรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้น - สัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นขึ้น นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 4.2.1 สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายอาชีวศึกษาและสามัญศึกษาอย่างเหมาะสม เป็นธรรมเพื่อตอบสนองความต้องการ ของประเทศทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ 4.2.2 ส่งเสริมและดาเนินการปรับสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาและสามัญศึกษาให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการกาลังคนในตลาดแรงงานทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ 4.2.3 สนับสนุนการดาเนินงานตามภารกิจพื้นฐานของหน่วยงาน 4.3 แผนงานพัฒนาด้านสาธารณสุข (งบประมาณ 11,573.5269 ล้านบาท) นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 4.3.1 ผลิต พัฒนา และกระจายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้สอดคล้องกับการ ให้บริการ แก่ประชาชน รวมทั้งการดารงรักษาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้คงอยู่ในระบบ 4.3.2 พัฒนาระบบการให้การศึกษาและการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ส่งเสริม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน 4.8 แผนงานปูองกัน ปราบปราม และบาบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด(งบประมาณ41.2500ล้านบาท) นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 4.8.1 ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันต่อต้านยาเสพติด สนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก เยาวชน และประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม รวมทั้งส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถานศึกษาให้มี บทบาทสาคัญ ในการให้ความรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง 4.9 แผนงานอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม(งบประมาณ401.1840ล้านบาท) เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - สังคมและคนไทยมีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม จิตสานึก ค่านิยมที่ดีงาม รักษามรดกวัฒนธรรมและ เข้าใจในสังคมวัฒนธรรมอาเซียน ตัวชี้วัด - จานวนเด็ก เยาวชน และประชาชนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ศิลปวัฒนธรรม และทากิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มสูงขึ้น
  • 47.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 43- นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 4.9.1 รณรงค์สร้างความตระหนักและความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย การสร้างจิตสานึก ทางวัฒนธรรม การปลูกฝังค่านิยม 12 ประการ และการเรียนรู้ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ยุทธศาสตร์ที่ 6 : ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม(งบประมาณ7,950.1660ล้านบาท) 6.1 แผนงานส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (งบประมาณ 6,599.4674 ล้านบาท) นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 6.1.1 ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัย สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยทั้งในและ ต่างประเทศ และหน่วยงานภาครัฐ ในการลงทุนวิจัย พัฒนานวัตกรรม สร้างองค์ความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยี 6.1.4 สนับสนุนการผลิตและเพิ่มสัดส่วนบุคลากรวิจัยที่มีคุณภาพ และสอดคล้องกับความ ต้องการของทุกภาคส่วน 6.2 แผนงานพัฒนาศักยภาพของประเทศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม(งบประมาณ 1,350.6986ล้านบาท) นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 6.2.1 ส่งเสริมการผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับ ความต้องการของทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง 6.2.2 ส่งเสริมการประสิทธิภาพของระบบการจัดการความรู้ ภูมิปัญญาไทย โดยพัฒนาการ เรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน สร้างความตระหนักให้ประชาชนเรียนรู้ คิดและทาอย่างเป็น วิทยาศาสตร์ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 12. มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ .ศ. 2559 ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ตามที่สานักงบประมาณเสนอ โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดเตรียมความพร้อมจัดลาดับความสาคัญการใช้จ่ายงบประมาณ ติดตามและรายงานผลการ ใช้จ่ายงบประมาณให้รัฐบาลใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งให้การใช้จ่ายภาครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุนการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้เป็นไปตามเปูาหมายการเบิกจ่ายรายจ่ายภาพรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ96 และรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า ร้อยละ87 ซึ่งได้จัดทาแผนการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ตามวงเงินในพระราชบัญญัติฯ จานวน 2,720,000 ล้านบาท โดยจาแนกเป็นรายไตรมาส ดังนี้ ประมาณการรายจ่าย ปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (หน่วย : ล้านบาท) รวม ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 เปูาหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม ประมาณการร้อยละ 2,605,721 96 820,302 30 595,134 22 572,833 21 617,452 23 รายจ่ายประจา ประมาณการร้อยละ 2,132,133 98 717,963 33 478,642 22 456,886 21 478,642 22 รายจ่ายลงทุน ประมาณการร้อยละ 473,588 87 102,339 19 116,492 21 115,947 21 138,810 26
  • 48.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 44- ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการจัดทาแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณพ.ศ.2559 ให้สอดคล้อง กับเปูาหมายการเบิกจ่ายรายไตรมาสตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพฯ ในข้างต้น และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกากับ ดูแลส่วนราชการให้ปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ที่กาหนดไว้ รวมทั้งให้รายงานผลเป็นรายเดือน โดยส่งให้สานักงบประมาณ เพื่อสรุปรายงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทุกไตรมาส ต่อไป ในการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทาแผนการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ตามวงเงินในพระราชบัญญัติฯ รวมทั้งสิ้น517,076.7030 ล้านบาทโดยกาหนดเปูาหมายการเบิกจ่ายงบประมาณ จาแนกเป็นรายไตรมาส ดังนี้ ประมาณการรายจ่าย ปีงบประมาณ พ.ศ.2559 (หน่วย : ล้านบาท) รวม ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 เปูาหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม ประมาณการร้อยละ 517,076.7030 96 187,064.6842 30 123,861.1154 22 116,255.8360 21 89,895.0674 23 รายจ่ายประจา ประมาณการร้อยละ 471,570.9779 98 168,218.7777 33 110,041.7635 22 106,854.0679 21 86,456.3688 22 รายจ่ายลงทุน ประมาณการร้อยละ 45,505.7251 87 18,845.9065 19 13,819.3518 21 9,401.7681 21 3,438.6986 26 13. อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ .ศ. 2546 มาตรา 5 กาหนดให้ กระทรวงศึกษาธิการมีอานาจหน้าที่ต ามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ .ศ.2542 มาตรา 31 ระบุ “กระทรวงมีอานาจหน้าที่เกี่ยวข้อง กับการส่งเสริมและกากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กาหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม และ การกีฬาเพื่อการศึกษา รวมทั้งติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาและราชการอื่นตามที่มีกฎหมาย กาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกระทรวง หรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวง” 14. ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา 14.1 ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ โดยทุกหน่วยงานในสังกัดได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และเร่งรัด ดาเนินการนา นโยบายสู่การปฏิบัติให้บรรลุผลตามเปูาหมายที่กาหนด ซึ่งในการขับเคลื่อนดาเนินการด้านการศึกษา ครบรอบ1 ปี (ระหว่างวันที่12กันยายน2557– 12กันยายน2558) มีความก้าวหน้าในการดาเนินงานที่สาคัญ ดังนี้ นโยบายที่ 1 การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 1. จัดงาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 2. จัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาส ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
  • 49.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 45- 1) ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้ง“รางวัลสมเด็จเจ้าฟูามหาจักรี” โดยคัดเลือกครู ผู้สมควร ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟูามหาจักรี ของ10ประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน และติมอร์-เลสเต รวมทั้งสิ้น11คน 2) จัดโครงการ“ทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการ ระยะที่2” จานวน 10 รุ่น ๆ ละ 600 ทุน รวมทั้งสิ้น6,000 ทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดาเนินการนาเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณา นาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ 3. ขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการส่งเสริมสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดาริ 1) โดยออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภาคการศึกษา เพื่อปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีคุณลักษณะ“อยู่อย่างพอเพียง” 2) จัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา โดยบรรจุ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับ และฝึกอบรมสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ มีความรู้ความเข้าใจสามารถถ่ายทอดไปสู่นักเรียน นาไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งมีการประเมินตามเกณฑ์ คุณภาพสถานศึกษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และบริหารจัดการตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ สถานศึกษาพอเพียง ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550– 2556จานวน14,852แห่ง 3) จัดโครงการ “ค่ายเรียนรู้และเผยแพร่โครงการพระราชดาริ” ร่วมกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนา อุดมศึกษา9เครือข่ายๆ ละ 2 ค่าย รวม 18 ค่าย จานวน 900 คน นโยบายที่ 2 การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับเคลื่อนภารกิจใน 4 ด้านที่สาคัญ คือ 1. สร้างภูมิคุ้มกันและปูองกันยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา สถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ 1) จัดโครงการ“TO BE NUMBER ONE” ในสถานศึกษา 2) จัดโครงการ“การปฏิรูปการศึกษากับการปูองกันแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่ ในนักเรียน และผู้ปกครอง” ร่วมมือกับสานักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เครือข่าย ครูดีไม่มีอบายมุข และเครือข่ายโพธิสัตว์น้อยลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า เริ่มในภาคเรียนที่1/2558มีโรงเรียนนาร่อง40แห่ง ทั่วประเทศ 3) จัดโครงการ“Thai Youth Initiative against Drugs” ครั้งที่4 ประจาปี พ.ศ. 2558ร่วมกับสานักงาน คณะกรรมการปูองกันและปราบปรามยาเสพติ ด กระทรวงการต่างประเทศ และสมาคมองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อการปูองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคพื้นเอเชีย -แปซิฟิค 2. แก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ น้อมนายุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี ส่งเสริมสันติสุข เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา เสริมสร้างขวัญ กาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา ควบคู่กับการพัฒนาการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ดังนี้ 1) ปรับโครงสร้างและระบบการบริหารการศึกษาให้มีประสิทธิภาพโดยจัดตั้งศูนย์ประสานงาน และ บริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปบ.จชต.)หรือ“กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า”ณ สานักงานศึกษาธิการภาค๑๒ จังหวัดยะลา 2) เสริมสร้างขวัญกาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา โดยมอบทุนการศึกษารายปี ปัจจุบันมีทายาทผู้ได้รับ ผลกระทบที่ขอรับทุน จานวน9,821คน จัดตั้งศูนย์ครูใต้ ที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส เพื่อความปลอดภัยและเป็นการ ส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งพนักงานราชการในพื้นที่ ขณะนี้มีการแต่งตั้ง
  • 50.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 46- คณะทางานเพื่อพิจารณาการก่อสร้างศูนย์ครูใต้ และสารวจความต้องการของครูที่ประสงค์จะเข้าพักจังหวัดยะลา จานวน 257คน จังหวัดนราธิวาส จานวน44คน ติดตั้งกล้องCCTV ในสถานศึกษาที่อยู่ใน3 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในโรงเรียน ประถมศึกษา จานวน1,092 แห่ง และติดตั้งให้กับสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา15และ16ในภาคใต้ รวม5,944ตัว ดาเนินการปรับปรุงซ่อมแซมรั้วโรงเรียนและซ่อมแซมบ้านพักครู โดยใน11เขตพื้นที่ ใน๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีบ้านพักครู รวม330 หลัง และมีบ้านพักในศูนย์ครูใต้ที่จังหวัดปัตตานี อีก 100 หลัง 3) ยกระดับความสามารถและอัจฉริยภาพทางด้านกีฬา จัดโครงการ “สานฝันการกีฬาสู่ระบบ การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในพื้นที่4 จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดความรัก ความสามัคคีโดย ดาเนินการ แบ่งออกเป็น3 ระยะ ดังนี้1) ระยะสั้น จัดมหกรรมกีฬาระดับอาเภอทุกพื้นที่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ตั้งแต่เดือน มีนาคม -พฤษภาคม2558 2) ระยะกลาง จัดตั้งโรงเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ -กีฬา ซึ่งปัจจุบันได้ดาเนินการแล้วใน ภาคเรียนที่ 1/2558 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ณ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อาเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา เป็นแห่งแรก ขณะนี้อยู่ระหว่างดาเนินการขยายผล ณ โรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์ อาเภอรือเสาะจังหวัดนราธิวาส เป็นแห่งที่ 2 ซึ่งจะเร่งเปิดให้ทันภาคเรียนที่ 2/2558 ภายในเดือนตุลาคม 2558 3) ระยะยาว จะดาเนินการต่อยอดในการรับนักเรียนที่จบการศึกษา มาเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และมอบ ทุนการศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน 3. พัฒนาการศึกษาในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง โดยจัดทายุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาพื้นที่ชายแดน ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง (พ.ศ.2559-2564) ของ กระทรวงศึกษาธิการเพื่อรองรับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ(พ.ศ.2558 - 2564) และยุทธศาสตร์การพัฒนา เพื่อเสริม ความมั่นคงของชาติ(พ.ศ.2556 - 2560) 4. การเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ด้านการศึกษากับนานาประเทศ ให้การต้อนรับ และหารือประเด็นความร่วมมือด้านการศึกษากับผู้แทนประเทศต่าง ๆ และเป็นเจ้าภาพและเข้าร่วมการประชุมใน เวทีระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนาเสนอทิศทางการ พัฒนาการศึกษา นโยบายที่ 3 การลดความเหลื่อมล้าของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ความเหลื่อมล้าในสังคมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งและความเดือดร้อนของประชาชน กระทรวงศึกษาธิการจึงเร่งสร้างโอกาส อาชีพ และการมีรายได้ที่มั่นคง จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาส คนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยสาหรับผู้สูงอายุ ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการอานวยการลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบยุทธศาสตร์ การลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน10 ชุด ลงไปใน ระดับพื้นที่เพื่อร่วมดาเนินการภายใต้4 กลยุทธ์ คือ1) ขยายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ เสมอภาค และยุติธรรม 2) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนทุกระดับ ทุกกลุ่ม และทุกประเภท3) พัฒนาระบบการพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษา4) พัฒนาระบบการสนับสนุนการจัดการศึกษา และ3 มาตรการ คือ ประกันโอกาส ประกันคุณภาพ และ ประกันประสิทธิภาพ 2. จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสคนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ โดยดาเนินการต่าง ๆ อาทิ จัดกระบวนการเรียนการสอนใน กศน. ตาบล ภายใต้โครงการ“หนึ่งคน...หนึ่งอาชีพ” จานวน7,424แห่ง พื้นที่5 ภูมิภาค จัดโครงการอุดมศึกษา สร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุข เพื่อฝึกอาชีพระยะสั้นในพื้นที่ให้บริการของวิทยาลัยชุมชน20
  • 51.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 47- แห่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จานวน75กิจกรรม มีผู้สนใจบริการ2,892คน จัดศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษาอาชีวศึกษา โดยมีกลุ่มเปูาหมาย จานวน10,725คน ในสถานศึกษา288แห่ง 3. พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้สูงอายุ สตรี และเด็ก โดยดาเนินการต่าง ๆ อาทิ จัดการศึกษาสายอาชีพ เพื่อการมีงานทาของผู้ที่มีความต้องการพิเศษทางการเรียนรู้(ออทิสติก สมาธิสั้น แอลดี) ร่วมกับ สานักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.)มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยสารพัดช่าง6แห่ง จัดฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุวิทยาลัยชุมชนจัดการศึกษา และให้บริการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ จัดโครงการETV เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษานาเทคโนโลยี สารสนเทศและเครื่องมือ ที่เหมาะสมมาพัฒนาสื่อช่วยสอนสาหรับครู และเพื่อใช้ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยได้ ผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาใน 3 วิชาที่สาคัญ คือ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาอังกฤษ รวม 54 รายการ ขยายช่องทางเลือกในการเรียนรู้ผ่านสื่อรายการทางช่องETV ทั่วประเทศรวม4,597 แห่ง จานวน 27 ชั่วโมง มีผู้เข้าชม รวม 172,175 คน พร้อมทั้งจัดทาเอกสารประกอบการรับชมรายการ 10,000 เล่ม และ สาเนาสื่อ DVD จานวน 540,000 แผ่น 4. จัดการศึกษานอกระบบให้กับทหารกองประจาการ โดยเริ่มจัดการศึกษาให้กับนักศึกษาทหารใน ภาคเรียนที่ 2/2557 จานวน 59,362 คน จัดมุมเรียนรู้ /มุมสื่อ จานวน 274 หน่วย ติดตั้งชุดรับสัญญาณ ETV พร้อมอุปกรณ์ ในหน่วยทหาร จานวน 192 หน่วย และจัดส่งคู่มือการดาเนินงานการจัดการศึ กษา สาหรับครู ประจากลุ่มในหน่วยทหาร/ กศน.อาเภอ/เขต จานวน1,125 เล่ม จัดอบรมครู ร่วมกับหน่วยทหาร จานวน 4 ครั้ง/ปี รวมทั้งจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพให้ทหารกองประจาการ ก่อนปลดประจาการให้มีอาชีพอย่างน้อย 1 อาชีพ จานวน 63 แห่ง 5. การดาเนินงานโครงการ 1 อาเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างโอกาส ทางการศึกษาในการลดความเหลื่อมล้าทางสังคม โดยสนับสนุนทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ปัจจุบันมีผู้รับทุนตั้งแต่รุ่นที่ 1 – 4 จานวนทั้งสิ้น 3,093 คน และอยู่ระหว่างการดาเนินการในรุ่นที่ 3 – 4 จานวน 1,250 คน นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การจัดการศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ ประกอบอาชีพและดารงชีพได้โดยมีความใฝุรู้และมีทักษะที่เหมาะสม เป็นคนดีมีคุณธรรม สามารถดารงตนได้ อย่างมีความสุข รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกบนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยดาเนินงานสาคัญดังนี้ 1. การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ ดาเนินการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช2551โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดาเนินการศึกษาวิเคราะห์สภาพและปัญหาการใช้หลักสูตร และการ สอดแทรกการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และวิชาเพิ่มเติมหน้าที่พลเมืองในทุกระดับชั้นการศึกษาปรับปรุงการ ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(Ordinary National Educational Test : O - NET) ยกเลิกการสอบประเมิน คุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับเขตพื้นที่การศึกษา(Local Assessment System : LAS) ในระดับชั้น ป.2 ป.4 - 5 ม.1 – 2 และ ม.4 - 5 การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของนักเรียน โดยเร่งรัดพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้ เปูาหมายการพัฒนานักเรียน“เด็กจบ ป. 1 ต้องอ่านออกเขียนได้ โดยต้องมีการ ประเมินผลที่เป็นรูปธรรม” นอกจากนี้ ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวปฏิบัติในการลดภาระครูและ นักเรียน รวมทั้งการปรับขนาดห้องเรียนในระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษาเป็น30 คน ต่อห้องเรียน และระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายเป็น40คนต่อห้องเรียน เป็นต้น
  • 52.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 48- 2. การเสริมสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่ผู้ยากจนหรือด้อยโอกาส โดยได้ ดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งขณะนี้ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ระหว่างเสนอขอทบทวนอัตราเงินอุดหนุนรายหัวสาหรับ นักเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดสรรงบประมาณสนับสนุนทุนการศึกษาต่าง ๆ อาทิ กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)ปัจจุบันมีผู้กู้จานวน739,072 ราย และกองทุนเงินกู้ยืม เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ปัจจุบัน มีผู้กู้จานวน 67,026 ราย ขยายโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีระยะที่2 จานวน 10 รุ่น รวมทั้งสิ้น 6,000 ทุน โดยเพิ่มอัตราเงินทุนในแต่ละระดับการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษา (ค่าครองชีพ) ระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) ให้แก่เยาวชนที่มีภูมิลาเนาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวนทุนละ 40,000 บาท/ปี การศึกษาขยายผลโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาในโรงเรียนขนาดเล็ก จานวน 15,369 โรง และดาเนินโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ เปูาหมายโรงเรียนขนาด กลางและขนาดใหญ่ จานวน15,553แห่ง เป็นต้น 3. การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยจัดให้มีโครงการปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียนเพื่อต้องการ ส่งเสริมการกระจายอานาจการบริหารและการจัดการศึกษารองรับนโยบายการปฏิรูปการศึกษา เป็นเวลา3 ปีต่อเนื่อง (พ.ศ.2558 -2560) ในโรงเรียนนาร่องจานวน300แห่ง และส่งเสริมภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา 4. การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ จัดบริการการศึกษาต่อเนื่องให้กับ ประชาชน จานวน363,128คน ดาเนินโครงการจัดการความรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนโดยมี กศน.ตาบล ที่ตั้ง อยู่ในวัด จานวน2,093แห่ง จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยสาหรับผู้สูงอายุรวมทั้งสิ้น321,262 คน จัดระบบฝึกอาชีพเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสคนพื้นที่ให้เข้าสู่อาชีพพื้นที่ โดย กศน. ตาบล จานวน7,424 แห่ง จัดฝึกอบรม อาชีพให้กับประชาชนในโครงการ“หนึ่งคน หนึ่งอาชีพ” ใน 5 ภูมิภาค มีผู้เข้ารับการอบรมรวมทั้งสิ้น 256,329 คน เป็นต้น 5. การส่งเสริมการอาชีวศึกษา ปรับภาพลักษณ์และเร่งผลิตและพัฒนากาลังคนเพื่อตอบสนอง ความต้องการพัฒนาประเทศโดยดาเนินงานที่สาคัญ ได้แก่ ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาผ่านโครงการ เรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย(ทวิศึกษา) ในปีการศึกษา2558 ขณะนี้มีผู้เรียนสนใจสมัคร เข้าร่วมโครงการแล้วจาก588 สถานศึกษา จานวน30,405 คน พัฒนาผู้บริหาร ครูโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา ครูฝึกใน สถานประกอบการ ในด้านต่าง ๆ ดาเนินการปรับภาพลักษณ์นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาโดยจัดศูนย์อาชีวะอาสา “ตรวจรถพร้อมใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ในช่วงเทศกาลปีใหม่2558 และเทศกาลสงกรานต์ ดาเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้าง เพื่อชุมชน โครงการเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา จานวน2 รุ่น ในส่วนของผลิตกาลังคนด้านอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนอง ความต้องการของการพัฒนาประเทศ ได้ดาเนินโครงการอาชีวศึกษามาตรฐานสากล โดยศึกษาจุดเด่นของประเทศต่าง ๆ มาปรับใช้เป็นรูปแบ บการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาอาชีวศึกษา จัดการศึกษาหลักสูตรปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือ สายปฏิบัติการในสถาบันการอาชีวศึกษา ในปี พ.ศ. 2556จานวน 9 สถาบัน รวม16 สาขาวิชา รวม 43 หลักสูตร ผลักดันการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยจัดทาคู่มือสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับสถานประกอบการ ที่ร่วมจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ลงนามความร่วมมือจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ผลิตกาลังคนรองรับ ภาคอุตสาหกรรมภาคเกษตรกรรม และภาคบริการของประเทศ โดยสถาบันการอาชีวศึกษา18แห่ง จับคู่กับหอการค้ากลุ่ม จังหวัด18จังหวัดรวมทั้งสร้างหลักสูตรใหม่ รองรับความต้องการของประเทศพร้อมก้าวสู่AEC สอศ. ร่วมกับหน่วยงาน ภาคเอกชนเป็นต้น 6. การผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจัดทา (ร่าง) ยุทธศาสตร์การผลิต และพัฒนาครู ดาเนินการจัดทารายละเอียดโครงการคุรุทายาทเพื่อนากลับมาดาเนินการใหม่ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
  • 53.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 49- ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนเป็น วิทยฐานะชานาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญตามข้อตกลงในการพัฒนางานรวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดาเนินการตามขั้นตอนของสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นโยบายที่ 6 การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ การสร้างพื้นฐานองค์ความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมให้เข้มแข็ง สามารถแข็งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพกระทรวงศึกษาธิการจึงดาเนินการ ดังนี้ 1. จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ ปัจจุบันมีศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University Business Incubator : UBI) จานวน 72 แห่ง สามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ จานวน 120 คน และเตรียม พัฒนาเป็นบริษัทธุรกิจเต็มรูปในอนาคต (Spin off Companies) จานวน 69 คน ดาเนินโครงการพัฒนาและสร้าง ผู้ประกอบการโดยใช้ความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาเป็นฐาน หลักสูตรการอบรมทักษะการประกอบอาชีพระยะสั้น เบื้องต้นเชิงสร้างสรรค์ให้กับนักศึกษาและประชาชน จานวน2,480 คน 2. ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล พัฒนาผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ให้เข้าถึง และใช้ระบบดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ โดยจัดโครงการบูรณาการร่วม 4 กระทรวง ประกอบด้วย โครงการต่าง ๆ ได้แก่ 1) โครงการคลังความรู้ดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้2) โครงการระบบข้อมูลดิจิทัล เพื่อการศึกษาเรียนรู้และมีงานทา 3) โครงการบูรณาการการเรียนรู้สู่อาชีพและวิชาชีพ เป็นต้น 3. พัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณ พื้นที่เขตชายแดนและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน นโยบายที่ 7 การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน กระทรวงศึกษาธิการมีบทบาทสาคัญในการเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยดาเนินที่สาคัญ ดังนี้ 1. เตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งมีการดาเนินงานสาคัญต่าง ๆ ดังนี้จัดทาแผน ยุทธศาสตร์อาเซียนด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (Post2015) (พ.ศ. 2558 – 2562) จัดตั้งศูนย์ส่งเสริม อาเซียนศึกษาในสานักงานศึกษาธิการภาค 1 – 13 ทั่วประเทศ พัฒนาทักษะการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษ และภาษาประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านโครงการ และกิจกรรมสาคัญต่าง ๆ อาทิ โครงการ “การศึกษาไทย ก้าวไกล สู่อาเซียน” สัญจร 4 ภูมิภาค และกรุงเทพมหานคร 2. ส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยดาเนินการผ่านโครงการและ กิจกรรมสาคัญต่าง ๆ พัฒนาหลักสูตรตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะกาลังคนสายอาชีพ ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ สร้างความร่วมมือด้านการศึกษากับประเทศสมาชิก อาเซียนและประเทศอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดทายุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและ พัฒนา และนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการให้ความสาคัญต่อการวิจัย การพัฒนาต่อยอด และการสร้างนวัตกรรมเพื่อนาไป สู่การผลิตและบริการที่ทันสมัย โดยดาเนินการ ดังนี้ ส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและการพัฒนามหาวิทยาลัย วิจัยแห่งชาติ พัฒนาและขยายผลอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สาหรับเยาวชน โดยคัดเลือก นักเรียนเข้าโครงการอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ประจาปีการศึกษา 2557 จานวน 4,430 คน จัดการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่56ปี พ.ศ.2558 มีผู้เข้าแข่งขันจานวน577คน จาก104ประเทศ ผู้สังเกตการณ์จาก4ประเทศ คณะกรรมการฝุายต่าง ๆและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานรวมกว่า1,000คน ร่วมมือด้านการวิจัย
  • 54.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 50- และพัฒนากับหน่วยงานต่าง ๆ พัฒนางานวิจัยดาเนินงานในรูปแบบ “ภาคีสถาบันอุดมศึกษา/วิจัย เพื่อ การวิจัย” มีสถาบันอุดมศึกษา/วิจัย เข้าร่วมดาเนินการกับศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 11 ศูนย์ จานวน 23 สถาบัน และ จัดค่ายวิทยาศาสตร์เยาวชนภูมิภาคเอเชีย (Asian Science Camp 2015 : ASC 2015) มีนักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ เข้าร่วมกว่า 700 คน จาก 30 ประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกันปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ กระทรวงศึกษาธิการดาเนินการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกัน ปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในภาครัฐ ดังนี้ 1. การปูองกันการทุจริตคอรัปชั่น ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการควบคุม การจัดทาโครงการที่มี การจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจัดงาน (Organizer) งานโฆษณาและงานประชาสัมพันธ์ ของทุกหน่วยงานในสังกัดและในกากับของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีวงเงิน 1 ล้านบาท หรือมีกลุ่มเปูาหมาย จานวนตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป ต้องเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก่อนการจัดงาน 2. จัดโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาล ในสถานศึกษา สถาบันการศึกษา และ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการอาทิ โครงการ “ข้าราชการไทยไร้ทุจริต ” โครงการ “ส่งเสริมค่านิยมหลัก ของคนไทย 12 ประการ” โครงการ “สพฐ.ใสสะอาด ปราศจากคอรัปชั่น” โครงการ“มหาวิทยาลัยโปร่งใส บัณฑิต ไทยไม่โกง” โครงการ “โรงเรียนสุจริต” และจัดหลักสูตร“โตไป ไม่โกง” 3. จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราว ร้องเรียน ร้องทุกข์ให้บริการประชาชน ที่เกี่ยวข้องการศึกษา ซึ่งประชาชนสามารถร้องเรียน ร้องทุกข์ เรื่องต่าง ๆ ผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น สายด่วน 1579 หรือ www.1579.moe.go.th ปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 2,082 เรื่อง ยุติเรื่องแล้ว 1,621 เรื่อง และอยู่ระหว่าง การดาเนินการ 461 เรื่อง 4. จัดหลักสูตร “โตไป ไม่โกง ” ร่วมมือกับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) โดยจัดอบรมครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาล1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพื่อเตรียมความพร้อมให้เข้าใจเนื้อหา และ การใช้สื่อการเรียนการสอนของหลักสูตร โดยในปีการศึกษา2558 จะมีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร“โตไปไม่โกง” ระดับชั้นอนุบาล1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6 จานวน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ จะเริ่มดาเนินการโครงการอบรม ครูระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนจานวน 2 รุ่น และจะจัดอบรมครูระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 - 6 ในลาดับต่อไป 14.2 ผลการดาเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการได้ขับเคลื่อนการดาเนินงานด้านการศึกษาตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา โดยในช่วงระหว่างวันที่12กันยายน2557-30กันยายน2558 มีการดาเนินงานสาคัญ ดังนี้ 1. ด้านการศึกษา 1) ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาดูแลให้ความช่วยเหลือบุตรธิดาของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจาก การปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถศึกษาต่อจนจบหลักสูตรการศึกษาและมีโอกาสในการ ทางานที่ดีด้วยโดยมีการดาเนินการ คือ จัดสรรทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องให้กับผู้ได้รับผ ลกระทบตั้งแต่ระดับ อนุบาลจนถึงปริญญาตรีโดยปีงบประมาณ 2558 มีจานวนทั้งสิ้น 9,821 ราย และช่วยเหลือบรรจุทายาทของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เข้ารับราชการทดแทน จานวน 1 คน ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือ
  • 55.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 51- 2) ให้ทุกหน่วยงานนาข้อมูลในพระราชดาริต่างๆ แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นต้นเผยแพร่ต่อสาธารณชนในสื่อต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษโดยเฉพาะทาง สื่อออนไลน์โดยมีการดาเนินการคือ จัดทาเอกสารชุดตัวอย่างหน่วยการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างคุ ณลักษณะ อยู่อย่างพอเพียงในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และจัดทา Banner “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา ” ภาคภาษาไทยเผยแพร่หน้าเว็บไซต์กระทรวงสาหรับ สื่อภาคภาษาอังกฤษอยู่ระหว่างนาเข้าหารือในการประชุมคณะทา งานขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงภาคการศึกษา 3) ให้ห้องสมุดของสถานศึกษาจัดให้มีข้อมูลในข้อ2 ข้างต้น เพื่อเป็นแหล่งความรู้ในสถานศึกษา โดยดาเนินการส่งเสริมให้มีสถานศึกษาพอเพียงในทุกสังกัดทั้งในและนอกกระทรวงศึกษาธิการจานวน14,582 แห่ง จัดทา ยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้มีสถานศึกษาพอเพียงเพิ่มขึ้นและจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงภาคการศึกษาจานวน 47 แห่ง เพื่อพัฒนางานให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น 4) ให้กระทรวงศึกษาธิการเตรียมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีเวลาว่างกับครอบครัวมากขึ้น ลดชั่วโมงเรียน สอนให้มีการคิดวิเคราะห์ให้มีความต่อเนื่อง และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเหมือนดังเช่นโรงเรียน กาเนิดวิทย์ที่มีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ผลิตบุคลากรเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ ดาเนินการสนับสนุนนโยบายเตรียมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้มีเวลาว่างกับครอบครัวมากขึ้น ลดชั่วโมงเรียน สอนให้มีการคิดวิเคราะห์ให้มีความต่อเนื่องหลังเลิกเรียน 14.00 น. 2) จัดกิจกรรม "คืนความสุขให้ เธอ...เยาวชน : สร้างระบบคิด ปลูกจิตวิทยาศาสตร์ " 3) ผลิตและเผยแพร่สื่อวีดิทัศน์แนะนาศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา 4) จัดกิจกรรมเสริมสร้างนิสัยรักการอ่าน 5) สร้างโอกาสทางการศึกษาผ่านรายการโทรทัศน์ เพื่อการศึกษา(ETV) 6) การพัฒนาการศึกษาเด็กและเยาวชนของกลุ่มงานโรงเรียนอาชีวศึกษา 7) ส่งเสริมกิจกรรม ครอบครัวสุขสันต์ 8) อบรมฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับ นักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 9) อบรมการใช้ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรอิสลามศึกษาแบบบูรณาการ 5) ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมการเรียนสายวิชาชีพในพื้นที่รองรับ AEC สร้างแรงงาน ไทยให้มีทักษะภาษาต่างประเทศ และเป็นแรงงานฝีมือระดับหัวหน้างานโดยให้โรงเ รียนเน้นสอนภาษาอังกฤษ โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการ ส่งเสริมการเรียนการสอนด้านภาษาต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ ผู้เรียนทั้งในระบบและนอกระบบรองรับการเข้าสู่AEC ดังนี้ 1) ส่งเสริมให้สถานศึกษาในสังกัด กศน. จัดการเรียนการ สอนภาษา ประกอบด้วย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเพื่อนบ้านในอาเซียนเพิ่มอีก1 ภาษา เช่น ภาษาพม่า เขมร ลาว เวียดนาม มลายู เป็นต้น2) จัดผลิตรายการวิทยุเพื่อการศึกษาภาษาอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา รวมทั้งภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุุน และอังกฤษ รายการนิทานอาเซียน รายการโลกกว้างทางการศึกษา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการเกี่ยวกับอาเซียน และผลิตเอกสาร ประกอบการรับชมรายการส่งเสริมอาชีพ 3) จัดอบรมทางไกลในหลักสูตรภาษาจีนเพื่อการสื่อสารและภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร 4) พัฒนาและผลิตสื่อชุดการเรียนทางไกล หลักสูตรภาษาและวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันในประชาคม อาเซียน2,500 ชุด ให้สถานศึกษา 5) จัดและผลิตรายการวิทยุเพื่อการศึกษา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน รวม 413 รายการ และผลิตเอกสารประกอบการรับฟังรายการวิทยุเพื่อการศึกษาส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคม อาเซียน รวม500เล่ม และผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน รวม174รายการ 6) ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้กับครู และบุคลากรทางการศึก ษาของสถานศึกษาเอกชนประเภท อาชีวศึกษา ในปีงบประมาณ2558 7) ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อม นักเรียน ครู บุคลากร ทางการศึกษา และบุคลากรในสังกัด สพฐ. 8) ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในสถานศึกษาสังกัด สอศ.
  • 56.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 52- 6) ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ ไทย โดยให้กาหนดไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนและให้มีการเขียนประวัติศาสตร์ชาติไทย ให้เห็นความแตกต่าง ของไทยที่ผ่านมามีการกาหนดเปูาหมายวิสัยทัศน์ให้ชัดเจน (มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน) ถึงแม้จะเน้นการพัฒนาเยาวชน ในด้านวิทยาศาสตร์ก็ขอไม่ให้ลืมความเป็นมาและประวัติศาสตร์ชาติไทย 2. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 1) ให้ทุกส่วนราชการนาข้อเสนอแนะจากการอภิปรายของ สนช . ไปพิจารณาดาเนินการ โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การแก้ไขปัญหา ที่ทากิน การปฏิรูประบบการศึกษา การลดความเหลื่อมล้าในสังคม การกากับดูแลระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยดาเนินการมอบหมายให้สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลรับผิดชอบภาพรวม ของการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบและได้เต รียมดาเนินการปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครูคุณภาพควบคู่ไปกับ การปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ 2) ให้ทุกส่วนราชการจัดระบบประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับ การดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลโดยเน้นการประชาสัมพันธ์เรื่องที่ดาเนินแล้วมีผลสัมฤทธิ์และระมัดระวั ง การประชาสัมพันธ์เรื่องที่อยู่ระหว่างดาเนินการและทิศทางการดาเนินงานของรัฐบาลโดยมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ของกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการจัดทาวารสารกระทรวงศึกษาธิการ (MOE Journal) เพื่อการประชาสัมพันธ์การดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลนโยบายสู่หน่วยงานทางการศึกษาและ สาธารณชนทั่วไปโดยขณะนี้ได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐบาลบนหน้าเว็บไซต์ของ กระทรวงศึกษาธิการ 3) ให้ ศธ. เร่งดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬาให้เกิ ดขึ้นเป็นรูปธรรม ในทุกภูมิภาคโดยเร็วโดยให้พิจารณากาหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาให้มีความ เหมาะสมกับลักษณะกีฬาด้วยทั้งนี้เป็นไปตามมติ คสช . ที่ให้ ศธ. พิจารณาหาแนวทางการส่งเสริมและยกระดับ สถาบันการศึกษาทางด้านวิชาชีพโดยการดาเนินการขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูล ประกอบการกาหนดแนวทางการดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬาให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมตาม ข้อสั่งการ อาทิ ข้อมูลสถานศึกษาเฉพาะด้านกีฬาที่ดาเนินการในปัจจุบันแนวทางการดาเนินงานปัญหาอุปสรรค เป็นต้น โดยคาดว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเพื่อกาหนดแนวทางการดาเนินการจัดตั้งสถานศึกษาฯภายใน เดือนพฤศจิกายน 2557 4) ให้ทุกส่วนราชการเร่งเสนอกฎหมายที่มีความจาเป็นเร่งด่วนโดยเร็วและให้เร่งรัดจัดกลุ่ม กฎหมายโดยแบ่งออกเป็นกฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่ลดความเหลื่อมล้า ของสังคมหรือให้สังคมดีขึ้นและ กฎหมายเกี่ยวกับการค้าการลงทุนหรือการอนุมัติการตามหนังสือสัญญาระหว่างประเทศโดยจัดทาเป็นตารางและ กาหนดกรอบระยะเวลาแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติแล้วส่งให้ สคก . เพื่อ รวบรวมเสนอ ครม. ทั้งนี้กฎหมายเร่งด่วนหรือกฎหมายที่มีลักษณะพิเศษที่ต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน เช่น ภาษีมรดกให้บังคับใช้ก่อนไตรมาสที่ 3 โดยได้ดาเนินการร่างกฎหมายใหม่ที่นาเสนอสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีจานวน 2 ฉบับประกอบด้วยร่างพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้าง คุณภาพการเรียนรู้ พ.ศ... และร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ .ศ.... ร่างกฎหมายที่ใหม่อยู่ ระหว่างเตรียมการเสนอต่อสานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจานวน 16 ฉบับและร่างกฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่าง การศึกษายกร่างจานวน 27 ฉบับ
  • 57.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 53- 5) ให้ทุกส่วนราชการเร่งดาเนินโครงการ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงให้เกิดเป็น รูปธรรมโดยเร็วเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน เช่น การจัดหารถเมล์ NGV ใหม่, โรงงานกาจัดขยะ เป็นต้น โดยมีการมอบหมายทุกหน่วยงานในสังกัดเสนอกิจกรรมของขวัญหน่วยงานละ 1 เรื่องเพื่อร่วมกันพิจารณา ในเดือนพฤศจิกายน 2557 6) การดาเนินการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ให้ทุกกระทรวงร่วมกันกาหนดกิจกรรมที่จะ ส่งเสริมการดาเนินการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยใน ส่วนกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินงานสาคัญ ดังนี้ จัดการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใน5 พื้นที่ชายแดน สร้างหลักสูตรใหม่ รองรับความต้องการ ของประเทศพร้อมก้าวสู่ AEC โดยร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน จัดทาหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อรองรับความต้องการ กาลังคน อาทิหลักสูตร ปวส. สาขาวิชาเทคนิคพลังงาน ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมน้ามันและพลังงาน สอนนาร่อง ใน ๕ วิทยาลัย จัดให้มีโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย(ทวิศึกษา) เมื่อจบการศึกษา จะได้รับ 2 วุฒิ รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงาน เร่งเตรียมกาลังคนรองรับตลาดแรงงาน ดังนี้ 1) การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เช่นด้านการท่องเที่ยว ภาษามัคคุเทศก์ เป็นต้น2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการ ลงทุน เช่น วิศวกรรม ระบบขนส่งทางราง เป็นต้น3) การผลิตแรงงาน ให้เร่งดาเนินการและต้องผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพ ให้เร็ว โดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลนและมีงานรองรับ ให้เริ่มดาเนินการทันทีซึ่งอาจทาโครงการพัฒนาต่อยอด โดยนาบุคลากร ที่ยังไม่มีงานทามาเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการจัดการเรียนการสอนด้าน ภาษาอังกฤษและภาษาในกลุ่มประชาคมอาเซียนในสถานศึกษาทุกระดับทั้งในระบบและนอกระบบ เปิดสอน อาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 147 แห่ง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ระดับ ปวช.) 39 สาขา 145 ห้องเรียน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ระดับ ปวส.) 31 สาขา 71 ห้องเรียน พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาเพื่อ รองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขนส่งระบบราง และจัดการศึกษาอาชีวศึกษาทวิภาคี ได้แก่ การลงนามความ ร่วมมือระหว่างวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรีกับบริษัทซีเมนส์ จากัด ในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาทวิภาคีเป็นต้น จัดทา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เพื่อเป็นการประกันคุณภาพบัณฑิตที่มุ่งเน้นมาตรฐานผลการ เรียนรู้ (Learning Outcomes) ของผู้เรียนเป็นสาคัญทั้ งในระดับหลักสูตรและสาขาวิชา ส่งเสริมการจัด การศึกษาเชิงบูรณาการ การเรียนรู้กับการทางาน (Work Integrated Learning: WIL) 14.3 การดาเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 1) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 เห็นชอบให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถาบัน วิทยาลัยชุมชนพ.ศ. ...ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ ได้ผ่านความเห็นชอบพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. 2558และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 2) มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 มติอนุมัติการเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลา ก่อหนี้ผูกพันโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์ภายใต้โครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย พ .ศ. 2556-2560 มหาวิทยาลัยแม่ฟูาหลวง กระทรวงศึกษาธิการจากวงเงินรวม2,164,000,000 บาท เป็นวงเงินรวม 3,001,329,600 บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์พร้อมระบบ สาธารณูปการจากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ.2557-2560 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2561 โดยใช้เงินรายได้ สมทบตามสัดส่วนที่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณตามความเห็นของสานักงบประมาณโดยได้ดาเนินการปรับ รูปแบบรายการก่อสร้าง (BOQ) พร้อมกาหนดราคากลางทั้งสองอาคารกาหนดขอบเขตของงานอาคาร (TOR)
  • 58.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 54- กาหนดขอบเขตงานค่าควบคุมงาน (TOR) และเตรียมความพร้อมการเข้ากระบวนก ารประกวดราคาของทั้งสอง อาคารเรียบร้อยแล้วรวมทั้งได้เตรียมความพร้อมของสถานที่เรียบร้อยแล้ว 14.4 ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการตามนโยบาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒ นาศัย) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ตามนโยบายเร่งด่วน 10 นโยบาย (ดาเนินการ ให้เห็นผลใน 3 เดือน) และนโยบายเฉพาะ 7 นโยบาย (ดาเนินการให้เห็นผลใน 1 ปี) โดยมีการจัดทารายงาน ในช่วง 6 เดือน (12 กันยายน – 31 มีนาคม 2558) มีผลการดาเนินงาน ดังนี้ 1) ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 10 นโยบายเร่งด่วน (1) เร่งสารวจและให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งฟื้นฟูโรงเรียนสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยโดยเร็ว จากการสารวจ และให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งฟื้นฟูโรงเรียนสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในภาพรวมสารวจ พบว่า มีสถานศึกษา 104 แห่ง นักเรียน/ นักศึกษา 577 คน และครู /อาจารย์ 2 คน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย ประมาณการความเสียหาย จานวน 14,943,559 บาท ซึ่งได้ช่วยเหลือตามจานวนที่สารวจแล้ว (2) เร่งแก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง จากข้อมูลทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาในภาพรวม พบว่า การทะเลาะวิวาทของนักศึกษา อาชีวศึกษามีปริมาณน้อยลง อาจเนื่องมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดการเรียนการสอนให้ นักศึกษาอาชีวศึกษามีการดาเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังในกรณีที่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท พร้อมทั้งมี มาตรการเร่งรัด รณรงค์ กาชับ เพื่อไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษา ดังนี้ กาหนดมาตรการในการ แก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษา นามาตรการแก้ไขปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะ วิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษาไปใช้อย่างจริงจัง เร่งรัด รณรงค์ กาชับ เพื่อไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษา อาชีวศึกษา ส่งเสริม สนับสนุน สร้างพื้นที่การปรับเปลี่ยนทัศนคติระหว่างสถาบันอาชีวศึกษาที่เป็นคู่กรณีกัน การส่งเสริมเยาวชนให้มีคุณธรรมและโครงการส่งเสริมศักยภาพการตรวจ ติดตามความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (3) เร่งสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา ปรับภาพลักษณ์และกาหนดมาตรการ เพื่อจูงใจให้นักเรียน นักศึกษา พ่อแม่และผู้ปกครองมีความยินดีและส่งเสริมให้บุตรหลานเข้ารับการศึกษาในสายอาชีพอาชีวศึกษาเพิ่ม มากขึ้นโดยเฉพาะวิชาชีพที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของตลาดแรงงาน สถานศึกษามีแผนงานหรือ มาตรการและดาเนินการจูงใจให้นักศึกษาเข้าเรียนสายอาชี พที่ขาดแคลนและเป็นความต้องการของตลาดแรงงาน จานวน 876 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ของสถานศึกษาทั้งหมด โดยมีกิจกรรมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการศึกษา ในสายอาชีพอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่อง (VEC-MODEL) จัดฝึกอบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษา (Pre.Voc.Ed) ซึ่งนาร่องโดยวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก สมุทรปราการและ วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมแนะแนวเชิงรุก อาทิ แนะวิถีทางสู่อาชีพในอนาคต การมีรายได้ระหว่างเรียน จัดการเรียนแบบทวิภาคีเต็มรู ปแบบ และจบแล้วมี งานทา กาหนดแผนงานหรือมาตรการเพื่อจูงใจในการเข้ารับการศึกษาสายอาชีพอาชีวศึกษา โดยเฉพาะวิชาชีพที่ ขาดแคลน และมีระบบการติดตาม ควบคุมอย่างเป็นระบบและชัดเจน ผลิตกาลังคนด้านอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนอง ความต้องการของการพัฒนาประเทศการจัดการศึกษาในวิทยาลัยชุมชน มีผู้รับบริการการศึกษาระดับอนุปริญญา
  • 59.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 55- ระดับ ปวช . และระดับ ปวส . จานวนทั้งสิ้น 16,480 คน รวม 17 สาขาวิชา และมีการจัดการเรียนการสอน สายสามัญคู่ขนานกับสายอาชีพ (4) ทบทวนหลักสูตร การเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนากระบวนการคิ ด วิเคราะห์ มีเวลาทากิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์รวมทั้งปลูกฝังในเรื่องค่านิยมหลัก มีคุณธรรม จริยธรรม สร้างวินัยจิตสานึกความรับผิดชอบต่อสังคม การยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และความภาคภูมิใจในการเป็นคนไทย สถานศึกษาที่ดา เนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์และมีการพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ และการปลูกฝังค่านิยมหลักของ คนไทย 12 ประการ มีจานวน 36,652 แห่ง ซึ่งจากการดาเนินงานนี้สถานศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 100 ของสถานศึกษากลุ่มเปูาหมายตามที่ โครงการกาหนด ซึ่งสถานศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 100 ของสถานศึกษากลุ่มเปูาหมายตามที่โครงการกาหนด โดยมีการดาเนินงานทั้ง 3 กิจกรรม ได้แก่ การดาเนินการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากระบวนการคิด วิเคราะห์ การพัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ให้แก่นักเรี ยน และการปลูกฝังค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรวิชา ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ประกาศรายชื่อหนังสืออ่านนอกเวลาและหนังสือแนะนาควรอ่านเพิ่มเติมวิชา ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ดาเนินการพัฒนาการอ่าน คิด วิเคราะ ห์ และเขียนสื่อความเพื่อการอ่านรู้เรื่อง และสื่อสารได้ตามแนวทางการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) พัฒนาคุณภาพการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานให้สูงขึ้นโครงการอาชีวศึกษาฐานวิทยาศาสตร์และการ จัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา(STEM Education) จัดทาสื่อเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2558 เพื่อพัฒนาชุด คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดทาแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายการสร้างค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ เพื่อนาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมผ่านกิจกรรมทั้งด้านการเรียนการสอน และกิจกรรมนักศึกษา พร้อมทั้งอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือสาหรับข้าราชการสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน เพื่อปลูกจิตสานึกที่ดีในด้านคุณธรรม จริยธรรม การเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของ ส่วนรวม มีจิตสาธารณะ ซื่อสัตย์ อดทน เสริมสร้างความมีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีความเข้าใจในหลักการ ประชาธิปไตย และพัฒนาข้าราชการให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และมีความคิดที่ดีต่อผู้อื่นตาม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ จานวน 109 คน หลักสูตร 5 วัน 2 รุ่น จัดตั้งสถาบันเฉพาะทางโดยต่อยอด การพัฒนาจากสถานศึกษาเดิมที่มีความเป็นเลิศเฉพาะทาง โดยเริ่มนาร่องสถาบันที่จัดการเรียนเฉพาะทาง ในปี การศึกษา 2558 จานวน 19 วิทยาลัย พัฒนาความเป็นเลิศด้านกีฬาให้กับนิสิตนักศึกษา จัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬา จานวน 3 ชนิดกีฬา ฝึกซ้อมและจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ (5) เร่งพิจารณาทบทวนการอุดหนุนรายหัวแก่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งของภาครัฐ และเอกชนการช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนสายอาชีพอาชีวศึกษาและการช่วยเหลือเด็กยากจน พิการ และ ด้อยโอกาสจากข้อมูลสถานศึกษาที่ได้รับการอุดหนุนรายหัวที่เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมใน ปัจจุบันในภาพรวม มีสถานศึกษาที่มีการดาเนินการทั้งหมด 36,519 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 100 ของจานวน สถานศึกษาทั้งหมดและของแต่ละหน่วยงาน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ดาเนินการทบทวนเงินอุดหนุน รายหัว แก่นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ความ ช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียน สายอาชีพอาชีวศึกษา และการช่วยเหลือเด็กยากจน พิการ และด้อยโอกาส สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานจัดทาข้อตกลงกับผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนในการให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ การรับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอาคารมูลนิธิบิ๊กซี เป็นต้น ดาเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดหา
  • 60.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 56- เครื่องมือ ประจาตัวต่อคน ให้แก่ผู้เรียนระดับ ปวช . ทั้ง 3 ชั้นปีทุกสังกัด ประมาณ 262,263 คน เป็นจานวน 390 ล้านบาทและได้พิจารณาทบทวนเงินอุดหนุนรายหัวแก่นักเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนสายอ าชีพอาชีวศึกษา และได้ขออนุมัติการจัดสรร งบประมาณเพื่อจัดหาเครื่องมือประจาตัวต่อคน ให้แก่ผู้เรียนระดับ ปวช . ทั้ง 3 ชั้นปีทุกสังกัด แบ่งเป็น 9 สาขา อาชีพ ปีงบประมาณ 2558 คาดว่าจะมีนักเรียน /นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปี 1 จานวน 277,717 คน ใช้งบประมาณจานวน 414,527,000 บาท (6) เร่งขยายบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมในระบบการศึกษาโดยเฉพาะการจัดทา ข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนในการให้การสนับสนุนและการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าทางานหลัง สาเร็จการศึกษาและการสนับสนุนอื่นๆ ให้เพิ่มมากขึ้น สถานศึกษาที่มีสถานประกอบการภาคธุรกิจเอกชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ มีจานวนทั้งสิ้น 1,260 แห่งและผู้สาเร็จการศึกษา ที่ผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนรับเข้าทางานจากสถานศึกษาสังกัดสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาระดับ ปวช. จานวน 14,156 คน คิดเป็น ร้อยละ 18.56 ของผู้สาเร็จการศึกษา จานวน 76,273 คน และระดับ ปวส . จานวน 22,064 คน คิดเป็นร้อยละ 45.32 ของผู้สาเร็จการศึกษา จานวน 48,685 คน โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ ดาเนินการส่งเสริมการจัดการศึกษาเชิงบูรณาการการเรียนรู้กับการทางาน (Work-integrated Learning : WIL) ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษา สถานประกอบการ และองค์กรวิชาชีพได้ร่วมกันจัดทามาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาในสาขาต่างๆ มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากับ หอการค้าไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย และกลุ่มมิตรผล เพื่อผลิตกาลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และ ภาคบริการซึ่งสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะนาร่องในวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี6แห่ง ใน3จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี (7) เร่งปรับระบบการบรรจุครูและการรับรองมาตรฐานวิชาชีพครูให้เอื้อต่อการเพิ่มโอกาสให้ มีบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสมเข้ามาในระบบการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนครูและบุคลากรอาชีวศึกษาและครูสาขาขาดแคลนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐา น สานักงาน คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีการเสนอขออนุมัติเห็นชอบกฎ ระเบียบทั้งหมด 8 ฉบับ และมีกฎ ระเบียบที่ได้รับการเห็นชอบ จานวน 5 ฉบับ ดาเนินโครงการผลิตครูมืออาชีพ เพื่อสนับสนุน การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครูในพื้นที่ขาดแคลนและจาเป็นต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบแนวทางปฏิบัติสาหรับผู้ประสงค์จะประกอบวิชาชีพครูอาชีวศึกษา โดยสาขาวิชา ที่สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาแจ้งต่อคุรุสภา หากตรวจสอบกับสาขาวิชาของสถาบันผลิตครู หลักสูตร 5 ปี ที่คุรุสภาให้การรับ รองแล้วไม่มีการผลิตในสาขานั้น ออกประกาศรับรองหลักสูตรอบรมความรู้ เพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของชาวต่างประเทศ และประกาศรับรองการปฏิบัติการสอน ในสถานศึกษาเพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของชาวต่างประเทศรวมทั้งกาหนดประเ ภท วิชาและสาขาวิชาขาดแคลนด้านอาชีวศึกษา (9 ประเภทวิชา 86 สาขาวิชา ) พร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติในการ ออกหนังสืออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กรณีผู้มีคุณวุฒิไม่ต่า กว่าปริญญาตรี สาขาวิชาขาดแคลน นอกจากนี้ ได้ จัดสรรทุนศึกษาต่อระดับปริญญาเอก เพื่อผลิ ตและพัฒนาอาจารย์ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐให้มีคุณวุฒิปริญญาเอกในสาขาวิชาที่ขาดแคลน16สาขา จานวน5,342ทุน (8) เร่งทบทวนมาตรการการจัดกิจกรรมรับน้องของนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษา ต่างๆ และมาตรการติดตาม ควบคุมการลักลอบการจัดกิจกรรมรับน้องทั้งภายในและภายนอกสถาบันการศึกษาให้ เป็นไปในแนวทางที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ปราศจากการใช้ความรุนแรงการละเมิดและคุกคามทางเพศ รวมทั้งไม่ขัด
  • 61.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 57- ต่อหลักศีลธรรมขนบประเพณีอันดีงามและเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้มีผลบังคับใช้ให้ทุก สถาบันการศึกษายึดถือเป็นแนวทางปฏิ บัติอย่างเคร่งครัด สถานศึกษามีมาตรการจัดกิจกรรมรับน้อง เชิงสร้างสรรค์ จานวนทั้งสิ้น 4,728 แห่ง โดยจาแนกเป็นสถานศึกษาจากสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน 4,231 แห่ง สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 421 แห่ง และสานักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา 76 แห่ง โดยกระทรวงศึกษาธิการได้มีการดาเนินการ แจ้งเวียนประกาศการรับน้องใหม่ ประชุม เชียร์ จัดประชุมหารือและมอบนโยบายให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ โดยการส่งเสริมให้จัดกิจกรรม ส่งเสริมความรัก ความสามัคคีฉันท์พี่น้อง และการสร้างคุณธรรม จริยธรรม โดยไม่ให้ส ถานศึกษาจัดกิจกรรมรับ น้องใหม่นอกสถานศึกษา การจัดกิจกรรมให้สถานศึกษาเป็นเจ้าภาพ และควรเคารพเสรีภาพและหลัก ความเสมอภาคของเด็กและเยาวชน และมีการติดตามผลการปฏิบัติของสถานศึกษา และผลกระทบที่มีต่อนักศึกษา (9) เร่งทบทวนมาตรการความปลอดภัยสาหรับสถาบันการศึกษาต่างๆเกี่ยวกับการจัด กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานศึกษาและมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งเป็นหมู่คณะ ของนักเรียน นักศึกษาครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาโดยให้มีผลบังคับใช้ให้ทุกสถาบันการศึกษายึดถือ เป็นแนวท างปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สถานศึกษาของทุกหน่วยงานมีมาตรการและแนวทางการจัดกิจกรรม ทัศนศึกษานอกสถานศึกษาที่ปลอดภัย และยังไม่ปรากฏข้อมูลการประสบอุบัติเหตุจากการจัดกิจกรรม ทัศนศึกษา ในรอบการรายงานนี้ ซึ่งหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการมีการดาเนินงานในการรักษาความปลอดภัย โดยดาเนินการ แจ้งเวียนระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ .ศ. 2548 และ ทบทวนมาตรการความปลอดภัยสาหรับกิจกรรมทัศนศึกษาและการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพื่อแจ้งให้สถานศึกษา ทราบและยึดถือเป็นแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจัดทาโครงการ /กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ โครงการไปโรงเรียน ปลอดภัย โครงการประกวดสถานศึกษาร่วมใจ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กิจกรรม มาตรการด้านความปลอดภัยของรถ รับ-ส่ง นักเรียน เป็นต้น (10) เร่งดาเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษาทั้ง ที่ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักและหน่วยสนับสนุนให้เห็นผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามเป้าหมาย และกรอบระยะเวลาที่กาหนด ได้ดาเนินการตามนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา กาหนดผู้รับผิดชอบในการรายงานตามนโยบาย แต่งตั้งคณะกรรมการอานวยก ารปฏิรูปการศึกษา คณะทางาน ติดตามประเมินผล และแต่งตั้งคณะทางานจัดทารายงาน จัดทาระบบการรายงานผลการปฏิบัติงานของ กระทรวงศึกษาธิการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ และกาหนดตัวชี้วัดรองรับโครงการตามนโยบาย รวมทั้งจัดทา แผนปฏิบัติราชการประจาปี พ.ศ.2558 เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้จัดทารายงานผลตามนโยบาย ได้ทันตามกาหนดเวลา 2) ผลการดาเนินงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 7 นโยบายเฉพาะ (1) การพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาและ พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดาเนินการจัดตั้งสานักงานประสานงานและบูรณาการการศึกษาจังหวัดชายแดน ภาคใต้ (สปศ.จชต.) ส่วนกลาง ณ สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ส่วนหน้า ณ สานักงานศึกษาธิการภาค 12 จังหวัดยะลา และพัฒนาอาจารย์ และบุคลากรสาหรับสถาบันอุดมศึกษาโดยจัดสรรทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก จานวน 30 ทุน แบ่งเป็นทุน ต่างประเทศ จานวน 5 ทุน ภายในประเทศ จานวน 25 ทุน พัฒนาโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จานวน 1,305 โรง และสนับสนุนทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในประเทศ โดยดาเนินการโอนเ งินทุนการศึกษา
  • 62.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 58- (ค่าครองชีพ) ผ่านสถาบันอุดมศึกษาให้แก่ผู้รับทุนกลุ่มที่ 2 ประจาปีการศึกษา 2556 จานวน 125 คน เสริมสร้าง ขวัญกาลังใจ และช่วยเหลือเยียวยา ดาเนินการฟื้นฟูสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางเพลิง โดยจัดสรรงบประมาณจานวน 23 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนถาวรใหม่ จานวน 5 หลัง ให้แก่สถานศึกษา มอบทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องทายาทผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยดาเนินงานมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบันมีผู้อยู่ในความช่วยเหลือมากกว่า ๗,๐๐๐ ราย นอกจากนี้ มีการ เสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์กับนานาประเทศ (2) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ .ศ.2558 และการดารงความ ต่อเนื่องภายหลังการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เร่งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร วิชาการ และอาชีพ แก่นักเรียน ครู ศึกษ านิเทศก์ และบุคลากรในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทายุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษากับประเทศเพื่อนบ้าน จัดโครงการส่งเสริมการเรียน การสอนภาษาอังกฤษและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน (ภาษาอาเซียน) ได้แก่ ภาษาพม่า เขมร ลาว มลายู และ เวียดนาม โดยจัดกิจกรรมพัฒนาการคิดและการสร้างการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ในศตวรรษที่ ๒๑ ให้แก่ อาจารย์และครูผู้สอนภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับประเทศสมาชิกอาเซียน เจรจาความ ร่วมมือจัดหลักสูตร การอบรมผู้รับทุนศึกษาด้านการสอนภาษาอาเซียน โดยให้ทุนศึกษ าด้านการสอน ภาษาต่างประเทศที่สอง เพื่อผลิตครูในสาขาวิชาที่ขาดแคลน ระยะเวลา 4 ปี ระหว่างปี 2556-2559 จัดทา โครงการความร่วมมือกับต่างประเทศและการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย มอบทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาให้กับประเทศไทยปีละ 60 ทุน เป็นเวลา 6 ปี รวม 360 ทุน จัดโครงการครู อาสาสมัครชาวจีน ในปี 2557 มีครูอาสาสมัครชาวจีนมาปฏิบัติงานในประเทศไทย รวม 270 คน และจัดทาแผน ยุทธศาสตร์อาเซียนด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2558 – พ.ศ. 2562) (3) การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันและสนับสนุนก ารพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ดาเนินการ ประกาศมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัย แห่งชาติจัดทาร่างยุทธศาสตร์และRoad map ในการดาเนินงานของหน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอด เทคโนโลยีในสถาบันอุดมศึกษา(Technology Licensing Office :TLO) จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ และสนับสนุน ค่าใช้จ่ายเพื่อดาเนินการโครงการวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ รวมทั้งวิจัยการจัดการศึกษาแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสุขภาพนักเรียน (4) การมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มี คุณภาพดาเนินการ จัดทาแผนงานพัฒนาวิชาชีพครูทั้งระบบ พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดารง ตาแหน่งผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน จานวน 100 คน จัดโครงการนาร่องเพื่อ การผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาโดยจัดสรรทุ นศึกษาต่อระดับปริญญาเอก จานวน 1,259 ทุน ผลิตและพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสาขาวิชาที่ขาดแคลน 16 สาขา โดยจัดสรรทุนปริญญาเอก จานวน 5,342 ทุน มีผู้รับทุนที่สาเร็จการศึกษา จานวน 3,835 ราย ผลิตครูมืออาชีพโดยคัดเลือกผู้มีสิทธิเข้าร่วม โครงการ จานวน 1,047 คน และพัฒนาครูอาชีวศึกษาในสถานประกอบการ กลุ่มอาชีพยานยนต์และชิ้นส่วน จานวน 26 คน และมีการ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาระหว่างเดือนธันวาคม2557– มกราคม2558จานวน 10,000คน แบ่งเป็น 10 รุ่นๆ ละ 1,000คน ระยะที่สอง อบรมครูที่เหลืออีก10,000 คน ในช่วงกลางเดือนเมษายน– พฤษภาคม2558รวมทั้งพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและครู อาทิ พัฒนาสมรรถนะผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการ ศึกษา : หลักสูตรเฉพาะสาขา จานวนทั้งสิ้น216 คน
  • 63.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 59- (5) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย ดาเนินโครงการขยายผล การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยขออนุมัติและเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จานวน 1,253,944,875 บาท และ จัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบสาหรับห้องเรียน โรงเรียนประเภทสามัญศึกษาที่ รับเงินอุดหนุน รายบุคคล ระดับประถมศึกษาขึ้นไป จานวน 2,530 โรง พัฒนาศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลฯ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนาโปรแกรมระบบบริหารจัดการเรียนการสอนผ่านระบบ เครือข่ายและจัดการเว็บไซต์ และพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพปรับเปลี่ยนสื่อให้กับหน่วยงาน และสถานศึกษาสามารถเข้าถึงและใช้ระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วขึ้น จานวน35,000 แห่ง (6) การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ 2558 ของกระทรวงศึกษาธิการ มีการจัดทาแผนบูรณาการระหว่างกระทรวงต่างๆ และมีการดาเนินการพัฒนา คุณภาพการศึกษาโดยจัดประชุมสัมมนาผู้รับใบอนุญาตและผู้บริหารโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จานวน 310 คน เพื่อสร้างกลุ่มเครือข่ายของโรงเรียนนอกระบบให้มีความเข้มแข็ง เป็นเอกภาพมากขึ้น (7) การดาเนินการตามแผนก ารศึกษาแห่งชาติและการปฏิรูปการศึกษา ดาเนินโครงการ ส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนเอกชนให้มีคุณภาพสู่มาตรฐานสากล นาร่องยกระดับคุณภาพการใช้ภาษาไทย จัดการ เรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยดาเนินการใน 5 วิทยาลัย รับนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งหมดปีละ 450 คน และมีการปฏิรูป การเรียนรู้ สู่ผู้เรียน (Coaching Lab) โดยมีการดาเนินงานที่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษานาร่องในเขตภาคเหนือ ประกอบด้วย สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 สานักง านเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาน่าน เขต 1 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลาปาง เขต 3 และสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์การปฏิรูปการศึกษาและกระจายอานาจการจัด การศึกษา นอกจากนี้ ได้ดาเนินโครงการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2560 – 2569) สานักงานเลขาธิการ สภาการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาจัดประชุมทางวิชาการ เรื่อง “แนวทางการยกระดับคุณภาพ การศึกษาของชาติ และการนาสู่การปฏิบัติ” เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องทั่วทุกภูมิภาค ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2557 ขณะนี้ได้จัดทารายงานข้อเสนอแนวทางฯ ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่มีผลกระทบต่อการศึกษา รวมทั้งติดตามการดาเนินงานตาม แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง (พ.ศ. 2552 - 2557) และจัดทารายงานทิศทางการพัฒนาการศึกษาร ะดับ ภาคการศึกษา ภายใต้ความร่วมมือจากสานักงานศึกษาธิการภาค 13 แห่ง
  • 64.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 60- ส่วนที่ 2 สาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ จากการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลบริบทที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการกาหนดกรอบ แนวคิดสาหรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้ มีข้อมูลสาคัญที่ศึกษา ประกอบด้วย (1) นโยบายของรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี ) (2) (ร่าง) นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558 – 2564) (3) ยุทธศาสตร์และนโยบายของคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (4) นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ) (5) แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่11(พ.ศ.2555 -2559) (6) แผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปรับปรุง(พ.ศ.2552– 2559) (7) แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) ระยะครึ่งแผน (8) กรอบข้อตกลงการศึกษาเพื่อปวงชน (EFA) (9) ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ.255 9 (10 ) การจัดทางบประมาณในลักษณะบูรณาการ ประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 (11) อานาจหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการ และ(12) ผลการดาเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้  วิสัยทัศน์ คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก  พันธกิจ 1) ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาสู่สากล 2) เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนอย่างเสมอภาค 3) พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล  ยุทธศาสตร์ 1)การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลักของคนไทย12ประการ 2) การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 3) การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ 4) การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา 5) การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 6) การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 7) การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 8) การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน 9) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย  เปูาประสงค์ 1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกันปลอดภัยจากยาเสพติด 2)ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจมีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทย 3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตามสิทธิที่กาหนดไว้
  • 65.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 61- 4) กาลังคนระดับกลางและระดับสูงมีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล 5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม 6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการรักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับการพัฒนา 7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือต่อยอดในเชิงพาณิชย์ 8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน 9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบตามศักยภาพ เพื่อยกระดับเข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง 10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 11)ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิต 12) นักเรียนนักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค 13) หน่วยงานมีระบบบริหารและจัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์และค่าเปูาหมาย ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย 1 ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีปรองดอง และ/ หรือกิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เปรียบเทียบกับ เปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 2 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 3 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยมให้มีความซื่อสัตย์สุจริต เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 4 ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 5 ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการ จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร้อยละ 100 6 จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัยแรงงาน - อายุ 15-39 ปี - อายุ 40-59 ปี - อายุ 15-59 ปี 10.9 ปี 7.6 ปี 9.2 ปี 7 ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ร้อยละ 36 8 สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทอาชีวศึกษา ต่อสามัญศึกษา (ปวช.1 ต่อ ม.4) 45: 55 9 ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ได้งานทา
  • 66.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 62- ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย หรือประกอบอาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี - ปวช. - ปวส. - ปริญญาตรี ร้อยละ 25 ร้อยละ 50 ร้อยละ 90 10 ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการมีศักยภาพและ ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว ร้อยละ 80 11 จานวนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับ การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง 25,000 คน 12 ร้อยละของนักศึกษาและประชาชนที่เข้าอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 10 13 จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ ด้านการค้าและการพัฒนา 3,700 คน 14 จานวนผลงานวิจัยด้านการรักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์ 700 เรื่อง 15 จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้ประโยชน์ 2,405 เรื่อง 16 ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) (5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น คือ ป.6 ม.3 ม.6) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 17 ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับและประเภทที่เข้ารับการประเมินและได้รับ การรับรองคุณภาพจาก สมศ. - สถานศึกษาระดับปฐมวัย - สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ประถมและมัธยม) - สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา - สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา - สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. ร้อยละ 97 ร้อยละ 87 ร้อยละ 95 ร้อยละ 97 ร้อยละ 100 18 ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 19 ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความมั่นคงและผดุงเกียรติ และความก้าวหน้าในวิชาชีพ เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 20 ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ บรรลุผลสาเร็จตาม เปูาหมายที่กาหนด สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล - ภาพรวม - งบลงทุน ร้อยละ 96 ร้อยละ 87 21 ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับเปูาหมาย การดาเนินงาน ร้อยละ 80
  • 67.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 63- ลาดับ ตัวชี้วัดตามเปูาประสงค์ ค่าเปูาหมาย 22 ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษาหรือความรู้เกี่ยวกับ ประชาคมอาเซียน เปรียบเทียบกับเปูาหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 23 จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตามโครงการ พัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล 30,923 แห่ง  กลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยมหลัก 12 ประการ แก่ประชาชน 1. ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง ความซื่อสัตย์สุจริตเสียสละเพื่อ ส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เรียนปลอดภัยจาก ยาเสพติด 2. ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่ดีงาม ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 3. กระจายโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 4. ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ 5.พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้เข้าถึงง่าย และสะดวกสาหรับประชาชนในทุกพื้นที่ 6. จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ 7. เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาให้มี คุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ 8. สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา/หน่วยงานทางการศึกษากับภาคเอกชน หรือสถานประกอบการ ในการวางแผนการผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ 9. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มีความสามารถพิเศษทุกด้าน ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเต็มตามศักยภาพ 10. ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาลและส่งเสริม สุขภาพ 11. พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาประเทศ 12. สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานและ องค์กรทั้งในและต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา
  • 68.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 64- 13. เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผู้เรียนทุกระดับ และประเภทการศึกษา 14. เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาให้มีคุณภา พและ มาตรฐาน ยุทธศาสตร์ที่ 5 การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 15. ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพ 16. เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู 17. พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรองคุณภาพมาตรฐาน วิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จการศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือผู้ช่วยสอน 18. สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่งเข้าสู่วิชาชีพครู โดยปรับปรุง ระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ยุทธศาสตร์ที่ 6 การปฏิรูประบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 19. พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 20. เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัดการศึกษาให้หน่วยงาน เขตพื้นที่ การศึกษา สถานศึกษาและสถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 21. พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ 22. ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและสวัสดิการ สาหรับบุคลากร ทางการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเหมาะสม ยุทธศาสตร์ที่ 8 การดาเนินงานงานตามกรอบประชาคมอาเซียน 23. การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือทางด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน 24. สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกั บประชาคมอาเซียน และ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรมนานาชาติในภูมิภาคอาเซียน ยุทธศาสตร์ที่ 9 การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทันสมัย 25. ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับและ ประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย 26. นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้พัฒนาระบบการบริหาร จัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ 27. พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ มีมาตรฐาน เดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับการศึกษาและประเภทการศึกษา
  • 69.
    - 74 - ส่วนที่3 รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)
  • 70.
    สป. สกศ. สพฐ.สกอ. ม/ส สอศ. สสวท คส. สกสค. มส สคพ. สทศ. รวม 4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 รวม 54,346.4091 235.7821 319,471.0495 6,915.3777 111,755.6807 22,289.8009 1,800.2157 313.5740 208.1927 329.8128 51.6993 807.1085 518,524.7030 138,802.9820 88,590.2387 88,308.0723 1 : การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง 300.6541 310.1239 30.0000 401.1840 30.0000 1,071.9620 247.1766 206.1685 128.2242 และค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 2 : การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษา 49,274.2239 45,719.9067 1,003.6228 401.4084 4,775.6518 101,174.8136 53,019.6474 13,440.9746 22,162.7253 ให้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม 3 : การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 7.6459 3,678.7076 106,164.1492 17,163.5473 1,350.6986 329.8128 21.0000 128,715.5614 และส่งเสริมการวิจัยพัฒนาประเทศ 4 : การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับ 1,177.0310 235.7821 263,694.0044 372.3392 3,626.3647 449.5171 807.1085 270,362.1470 80,334.9672 71,465.6752 62,282.0437 คุณภาพการศึกษา 5 : การปฏิรูปครูโดยเน้นการผลิต 1,581.5089 7,243.9338 313.5740 208.1927 9,347.2094 2,879.5823 2,177.5755 2,159.9422 และพัฒนาครูที่มีคุณภาพ 6 : การปฏิรูประบบบริหารจัดการ 812.5615 403.5441 95.1753 1,311.2809 466.3903 273.3514 305.5480 ให้มีประสิทธิภาพ 7 : การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดน 681.1972 1,753.6674 122.6660 558.4713 232.2658 3,348.2677 1088.3674 554.14 615.8862 ภาคใต้ 8 : การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ 33.4418 345.8692 8.0000 604.1031 88.3360 30.6993 1,110.4494 212.2198 126.8703 90.9269 ประชาคมอาเซียน 9 : การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 478.1448 1,604.8668 2,083.0116 554.631 345.4832 562.7758 เพื่อการศึกษาให้ทันสมัย 54,346.4091 235.7821 319,471.0495 6,915.3777 111,755.6807 22,289.8009 1,800.2157 313.5740 208.1927 329.8128 51.6993 807.1085 518,524.7030 - สรุปแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) ยุทธศาสตร์ งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ 75
  • 71.
    55,333.3199 ######### 12,630.512013,487.1113 11,138.9719 300.6541 116.5185 115.3186 38.1929 30.6243 50,651.2549 ######### 11,104.7114 12,524.8078 10,188.1714 7.6459 2.0333 2.2127 1.7447 1.6552 - - - - - 2,259.6613 562.5182 899.5690 398.0062 399.5680 812.5615 238.9929 183.0892 215.3480 175.1314 681.1972 201.8404 170.7457 151.3504 157.2607 33.4418 6.2146 8.5307 7.0532 11.6433 586.9032 115.0426 146.3348 150.6082 174.9177 76
  • 72.
  • 73.
    - 116 - ส่วนที่4 รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เฉพาะแผนบูรณาการ 12 แผน)
  • 74.
    แผนบูรณาการ: 1. การเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวม4 ไตรมาส ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ นโยบายที่ 7 : การส่งเสริมบทบาท นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ โครงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 33.4418 6.2146 8.5307 7.0532 11.6433 สป. และใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับ - กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 22.4010 2.4928 4.8089 4.5810 10.5183 สป. 7 8 7.2 พัฒนาศักยภาพในการ การเสริมสร้างความสัมพันธ์และ - โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ 1.1000 0.0000 0.3668 0.3666 0.3666 แข่งขันของผู้ประกอบการ พัฒนาความร่วมมือกับประเทศ ประจําปี 2559 ไทยทุกระดับ ในภูมิภาค - โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการครูสอนภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาศักยภาพ 0.8583 0.4292 0.4291 0.0000 0.0000 7.3 พัฒนาแรงงานของภาค ในการให้คําปรึกษา/เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ อุตสาหกรรมเพื่อรองรับ เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชนตามหลักกติกาสากลและการฝึกอบรมนักเรียน/ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นักศึกษาและการจัดการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในที่ชุมชน ตามหลักกติกาสากล - โครงการพัฒนาสื่อเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเพื่อการดําเนินงานของอาเซียน 0.6223 0.0000 0.2075 0.2074 0.2074 ภายหลังปี 2558 - โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อการเข้าสู่ 8.5798 0.8580 1.7160 1.7160 4.2898 ของประชาคมอาเซียนในพื้นที่ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559 - โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิตเยาวชนสู่พลเมือง 7.2766 0.2146 1.0985 1.3000 4.6635 อาเซียน - กิจกรรม : ส่งเสริมการเรียนรู้สู่ประชาคมอาเซียน 4.5000 1.1250 1.1250 1.1250 1.1250 สป.(กศน.) 7 8 - โครงการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและภาษาของกลุ่ม 4.5000 1.1250 1.1250 1.1250 1.1250 ประเทศอาเซียน - กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาเอกชนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 6.5408 2.5968 2.5968 1.3472 0.0000 สป.(สช.) 7 8 - โครงการพัฒนาผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชนเข้าสู่ 6.5408 2.5968 2.5968 1.3472 0.0000 ประชาคมอาเซียนและการศึกษานานาชาติ ตัวชี้วัดและเป้ าหมาย 1. การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 5 กิจกรรม 2. จํานวนผู้บริหาร ครู ผู้สอนและนักเรียน โรงเรียนเอกชนได้รับ การพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน จํานวน 640 คน 3. จํานวนประชาชนกลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาในประเทศอาเซียน 2,800,000 คน 4. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้ าหมายที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจ รายละเอียดแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เฉพาะแผนบูรณาการ 12 แผน) หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง) นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ ผู้รับผิดชอบ ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/ 118
  • 75.
    รวม 4 ไตรมาสไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง) นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ ผู้รับผิดชอบ ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/ ต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาใน ประเทศอาเซียน ร้อยละ 80 โครงการ: เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 345.8692 140.7872 72.6344 72.4240 60.0236 สพฐ. 2 8 กิจกรรม: 1. จัดการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน 251.0139 87.8556 57.7339 57.7339 47.6905 2. ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศที่สอง 66.9553 40.0097 9.5357 9.5357 7.8742 3. โรงเรียนประชาคมอาเซียน 27.9000 12.9219 5.3648 5.1544 4.4589 ตัวชี้วัดและค่าเป้ าหมาย - สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 225 เขต และสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. จํานวน 30,922 แห่ง 88.3360 53.0016 35.0000 0.0000 0.3344 สอศ. 2 8 กิจกรรม: เพิ่มขีดความสามารถในการจัดอาชีวศึกษารองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน และระดับสากล โครงการเตรียมความพร้อมเช้าสู่ประชาคมอาเซียน 88.3360 53.0016 35.0000 0.0000 0.3344 กิจกรรมย่อย 1. พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 2. พัฒนา ส่งเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ 1.พัฒนาการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 1.1 สถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาภาคภาษาอังกฤษ 130 แห่ง 1.2 จํานวนนักเรียน นักศึกษาที่ผ่านการพัฒนาภาษาอังกฤษและวิชาชีพ 15,000 คน 1.3 จํานวนผู้บริหาร ครู และบุคลากรที่ผ่านการพัฒนาทักษะทางภาษา 2,000 คน 1.4 จํานวนสื่อ คู่มือ แผนการเรียนการสอนที่ได้รับการพัฒนา 40 สาขาวิชา 1.5 พัฒนาและขยายศูนย์อาชีวศึกษาอาเซียน 120 แห่ง 2.พัฒนา ส่งเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน 2.1 จํานวนเครือข่ายความร่วมมือในประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ 2.2 ค่ายพัฒนาเยาวชนอาชีวศึกษาระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน 1,500 คน 2.3 จัดการเรียนกรสอนคู่ขนานภายใต้ASEAN TVET Networking 6 ประเทศ โครงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 119
  • 76.
    รวม 4 ไตรมาสไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ยุทศาสตร์ตามกรอบฯ ยุทธ ศธ หน่วย : ล้านบาท (ทศนิยม 4 ตําแหน่ง) นโยบายรัฐบาล เป้ าประสงค์กระทรวง งบประมาณ/ เวลาดําเนินการ ผู้รับผิดชอบ ความสอดคล้องกับผลผลิต/ โครงการ/ กิจกรรมสําคัญ/ ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1.ร้อยละของผู้ที่ได้รับการพัฒนามีความสามารถทางภาษาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 60 2.คุณภาพของคู่มือ สื่อ และแผนการสอน ร้อยละ 60 ผลผลิต : โครงการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533 สกอ. 1 8 การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน กิจกรรม : การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533 - โครงการความร่วมมือกับต่างประเทศและการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 8.0000 0.6420 1.8282 3.2765 2.2533 ตัวชี้วัด/ค่าเป้ าหมายเชิงปริมาณ : จํานวนกิจกรรมความร่วมมือกับประเทศ สมาชิกอาเซียน 10 กิจกรรม ผลผลิต : โครงการเตรียมความพร้อมประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 604.1031 0.0000 0.0000 0.0000 0.0000 ม/ส 1 8 การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน กิจกรรม - พัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อม นักเรียน นักศึกษา บุคลากร ของมหาวิทยาลัยและประชาชนทัว่ ไป เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน - จัดการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน - เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและจัดอบรมสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ ประชาคมอาเซีย รวมงบประมาณแผนบูรณาการ 1 1,079.7501 59.2162 43.5307 7.0532 11.9777 120
  • 77.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 145 - ส่วนที่ 5 การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ไปสู่การปฏิบัติ และการติดตามประเมินผล การนาแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ(ฉบับปรับปรุง ตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ) ไปสู่การปฏิบัตินั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกส่วนราชการในสังกัด ที่จะมุ่งมั่นผลักดันการดาเนินแผนงาน /โครงการ ภายใต้กลยุทธ์ที่กาหนดไว้ในแผนปฏิบัติราชการฯ และในการ ดาเนินงานโครงการสาคัญต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าประสงค์ที่กาหนดไว้ จาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการระดม สรรพกาลังทั้งในด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ ตลอดจนการสร้างความตระหนักในการ มีส่วนร่วมอย่างเป็นเอกภาพและการสื่อสารระหว่างส่วนราชการ ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงกาหนดแนวทาง ที่สาคัญในการนาแผนฯ ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ดังนี้ 1. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเ ป็น กลไกสาคัญ ในการดาเนินการแปลงยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ภายใต้แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวง ศึกษาธิการ ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยกาหนดแผนงาน /โครงการ /กิจกรรมหลักที่จะ นาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ของเป้าประสงค์ที่ชัดเจน รวมทั้งการกาหนดความรับผิดชอบต่อการบรรลุเป้าประสงค์หลัก 2. ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการต้องให้ความสาคัญ ในการใช้แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรอบในการบริหาร การดาเนินพันธกิจของทุกหน่วยงานของกระทรวง 3. ผู้บริหารดาเนินการชี้แจงสร้างความรู้ ความเข้าใจในสาระสาคัญของแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้บุคลากรในหน่วยปฏิบัติ ได้รับทราบความรู้ความเข้าใจ ในเนื้อหาของแผนอย่างถูกต้องชัดเจน เพื่อการมีส่วนร่วมและสนับสนุนให้การดาเนินงา นตามแผนฯ เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ 4. หน่วยงานในส่วนกลางสนับสนุนทรัพยากรอย่างเพียงพอ สาหรับการปฏิบัติงาน ตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ .ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ของแต่ละหน่วยงานปฏิบัติ ในระดับพื้นที่ 5. กระทรวงศึกษาธิการมีการจัดสัมมนาบุคลากรด้ านการจัดทาแผนและประเมินผล เพื่อสร้าง กลไก นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการดาเนินการจัดทาและประเมินผลแผน 6. การติดตามและประเมินผลตามแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2558ของกระทรวง ศึกษาธิการ ควรมีการกาหนดทิศทาง ดังนี้ - ทุกหน่วยงานให้ความสาคัญกับการติดตามความก้าวหน้าในแต่ละยุทธศาสตร์ การประเมินผลสาเร็จและผลกระทบของการดาเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง - ทุกหน่วยงานพิจารณาใช้ตัวชี้วัดตามเป้าประสงค์ของแผนปฏิบัติราชการประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ และนาค่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดมากาหนดเป็นเกณฑ์ที่สาคัญใน การประเมินผล - พัฒนาระบบการรายงานผลการปฏิบัติราชการ และผลการเบิกจ่ายงบประมาณเป็น รายไตรมาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค สาหรับการทบทวน กาหนดมาตรการเพื่อปรับปรุง กระบวนการปฏิบัติ งานและแก้ไขปัญหาอย่างทันต่อสถานการณ์ มีระบบวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการใช้จ่าย
  • 78.
    แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ของกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) - 146 - งบประมาณและจัดทาแผนเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบการกากับดูแลให้โปร่งใส และเร่งรัดการเบิกจ่าย งบประมาณที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด - ดาเนินการจัดให้มีการประชุมประสาน แผน โดยมีการนาข้อมูลที่ได้จากการดาเนินงาน และผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงแผนและพัฒนาการจัดทาแผนในอนาคตให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น
  • 79.
    - ผ-1/ 1- ตารางแสดงความเชื่อมโยงของวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัด ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ
  • 80.
    - ผ-1/ 2- ตารางแสดงความเชื่อมโยงของวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และตัวชี้วัด ของแผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 1. ยกระดับคุณภาพ และมาตรฐาน การศึกษาสู่สากล 1. การสร้างความสมานฉันท์ สามัคคีปรองดอง และค่านิยม หลักของคนไทย 12 ประการ กลยุทธ์ 1.1 ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ถูกต้อง ความซื่อสัตย์เสียสละเพื่อส่วนรวม มีวินัย มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร มีจิตสานึกประชาธิปไตย และสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ผู้เรียนปลอดภัยจากยาเสพติด 1.2 ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด ต่อยอดวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม 1) นักเรียน นักศึกษา ประชาชนมี ความรู้ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ไทย มีความสมานฉันท์สามัคคีปรองดอง มีค่านิยมที่ถูกต้องตามค่านิยมหลักของ คนไทย12 ประการ และมีภูมิคุ้มกัน ปลอดภัยจากยาเสพติด 1) ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรม ส่งเสริมความสามัคคีปรองดองและ/หรือ กิจกรรมส่งเสริมค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ เปรียบเทียบกับเป้าหมาย การดาเนินงาน ร้อยละ 100 2) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วม กิจกรรมการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 3) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับการปลูกฝังจิตสานึกและค่านิยม ให้มีความซื่อสัตย์สุจริต เปรียบเทียบกับ เป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 2) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ มีความตระหนักร่วมอนุรักษ์และทานุ บารุงศิลปวัฒนธรรมไทย 4) ร้อยละของเด็ก เยาวชน และประชาชนที่ เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทานุ บารุงศิลปวัฒนธรรมไทยเปรียบเทียบกับ เป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 100 3. การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและส่งเสริมการวิจัยเพื่อ พัฒนาประเทศ กลยุทธ์ 3.1 เร่งผลิตและพัฒนากาลังคนระดับอาชีวศึกษาและ ระดับอุดมศึกษาให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดแรงงาน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ 3.2 สร้างความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา/หน่วยงาน ทางการศึกษา 3.3 ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพให้ผู้มี 4. กาลังคนระดับกลางและระดับสูง มีคุณภาพ มาตรฐาน สามารถแข่งขันได้ ในระดับสากล 8) สัดส่วนผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอน ปลายประเภทอาชีวศึกษาต่อสามัญศึกษา (ปวช. 1 ต่อ ม.4) 10.9 ปี 45 : 55 9) ร้อยละของผู้สาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรีได้งานทาหรือประกอบ อาชีพอิสระในสาขาที่เกี่ยวข้องภายใน 1 ปี - ปวช. - ปวส. - ปริญญาตรี ร้อยละ 25 ร้อยละ 50 ร้อยละ 90
  • 81.
    - ผ-1/ 3- วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ความสามารถพิเศษทุกด้านได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เต็มตามศักยภาพ 3.4 ส่งเสริมการศึกษา วิจัยเพื่อให้บริการการรักษาพยาบาล และส่งเสริมสุขภาพ 3.5 พัฒนาสถาบันการศึกษาให้มีศักยภาพในการวิจัยและ พัฒนาสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุน การพัฒนาประเทศ 3.6 สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรทั้งในและต่างประเทศ 12) ร้อยละของนักศึกษาและประชาชน ที่เข้ามาอบรม/ปฏิบัติงานในศูนย์บ่มเพาะ วิสาหกิจ สามารถประกอบอาชีพได้ เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 10 10) ร้อยละของนักศึกษา และบุคลากร ที่เข้าร่วมโครงการ มีศักยภาพและ ความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว ร้อยละ 80 5) ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ ในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม 11) จานวนผู้มีความสามารถพิเศษ ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ได้รับ การพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง 25,000 คน 6) ผลงานการศึกษาและวิจัยเพื่อบริการ รักษาพยาบาลและส่งเสริมสุขภาพได้รับ การพัฒนา 14) จานวนผลงานวิจัยด้านการ รักษาพยาบาลที่นาไปใช้ประโยชน์ 700 เรื่อง 7) ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับ การเผยแพร่ นาไปใช้ประโยชน์หรือ ต่อยอดในเชิงพาณิชย์ 15) จานวนผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่นาไปใช้ ประโยชน์ 2,405 เรื่อง 4. การปฏิรูปการเรียนรู้และยกระดับคุณภาพการศึกษา กลยุทธ์ 8) ประชาชนได้รับการศึกษาและการ เรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณภาพ และ 6) จานวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรวัย แรงงาน
  • 82.
    - ผ-1/ 4- วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 4.1 เร่งปฏิรูปการเรียนรู้ทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานผู้เรียนทุกระดับและประเภทการศึกษา 4.2 เร่งพัฒนาสถานศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน มาตรฐาน - อายุ 15-39 ปี - อายุ 40-59 ปี - อายุ 15-59 ปี 10.9 ปี 7.6 ปี 9.2 ปี 7) ร้อยละของกาลังแรงงานมีการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ร้อยละ 36 16) ระดับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) (5 วิชาหลัก แบ่งเป็น 3 ระดับชั้น คือ ป.6 ม.3 ม.6) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 17) ร้อยละของสถานศึกษาทุกระดับ และประเภทที่เข้ารับการประเมิน และได้รับการรับรองคุณภาพจาก สมศ. - สถานศึกษาระดับปฐมวัย - สถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (ประถมและมัธยม) - สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา - สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา - สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. ร้อยละ 97 ร้อยละ 87 ร้อยละ 95 ร้อยละ 97 ร้อยละ 100 5. การปฏิรูปครู โดยเน้นการผลิตและพัฒนาครูที่มีคุณภาพ กลยุทธ์ 5.1 ปรับระบบและวางแผนการผลิตครู คณาจารย์และ บุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพ 5.2 เร่งรัดพัฒนาครูอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ผ่านระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู 5.3 พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู และระบบรับรอง คุณภาพมาตรฐานวิชาชีพครู รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สาเร็จ 9) ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับ การพัฒนาตามเส้นทางวิชาชีพทั้งระบบ ตามศักยภาพ เพื่อยกระดับเข้าสู่ มาตรฐานวิชาชีพชั้นสูง 18) ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนา ตามมาตรฐานวิชาชีพ เปรียบเทียบกับ เป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 19) ร้อยละของครูและบุคลากร ทางการศึกษาได้รับการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพ สิทธิประโยชน์เกื้อกูล ความ มั่นคงและผดุงเกียรติ และความก้าวหน้าใน ร้อยละ 80
  • 83.
    - ผ-1/ 5- วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย การศึกษาในสาขาวิชาอื่นหรือภูมิปัญญา เข้ามาเป็นครูหรือ ผู้ช่วยสอน 5.4 สร้างขวัญกาลังใจ สร้างแรงจูงใจให้คนดี คนเก่งเข้าสู่ วิชาชีพ โดยปรับปรุงระบบเงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการ รวมทั้งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นครู วิชาชีพ เปรียบเทียบกับเป้าหมายการ ดาเนินงาน 8. การดาเนินงานตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน กลยุทธ์ 8.1 การประสานสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างความร่วมมือ ทางด้านการศึกษาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประเทศเพื่อนบ้าน 8.2 สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักเกี่ยวกับ ประชาคมอาเซียน และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางทางการศึกษา การพัฒนา และการฝึกอบรม นานาชาติในภูมิภาคอาเซียน 12) นักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการ เสริมสร้างความสัมพันธ์ และพัฒนา ความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค 22) ร้อยละของนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้ที่เข้ารับการพัฒนาทักษะด้านภาษา หรือความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 13) จานวนบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาทักษะ ด้านการค้าและการพัฒนา 3,700 คน 9. การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ ทันสมัย กลยุทธ์ 9.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียน สถานศึกษา และหน่วยงานทางการ ศึกษาทุกระดับและประเภทเข้าถึงระบบเครือข่ายเทคโนโลยี สารสนเทศที่ทันสมัย 9.2 นาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาและการเรียนรู้อย่าง เป็นระบบ 9.3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางทางการศึกษาให้มีเอกภาพ มีมาตรฐานเดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูลการศึกษาทุกระดับ การศึกษาและประเภทการศึกษา 13) หน่วยงานมีระบบบริหารและ จัดการความรู้รองรับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการศึกษา 23) จานวนสถานศึกษาที่ได้รับการพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาตามโครงการ พัฒนาคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการศึกษา ทางไกล 30,923 แห่ง 2. เสริมสร้างโอกาส 2. การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ 3) นักเรียน นักศึกษาทุกกลุ่ม ได้รับ 5) ร้อยละของผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร้อยละ 100
  • 84.
    - ผ-1/ 6- วิสัยทัศน์ : คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี มีความสุข มีภูมิคุ้มกัน รู้เท่าทันในเวทีโลก พันธกิจ ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ทางการศึกษาแก่ ประชาชนอย่างเสมอ ภาค ประชาชนอย่างเท่าเทียม กลยุทธ์ 2.1 กระจายโอการการเข้าถึงบริการการศึกษาและการ เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม 2.2 ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยและพัฒนาระบบเทียบโอนความรู้ และประสบการณ์ 2.3 พัฒนาห้องสมุดประชาชน ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่ง เรียนรู้ที่ทันสมัย 2.4 จัดตั้ง/จัดหาแหล่งทุนเพื่อการศึกษา โอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตาม สิทธิที่กาหนดไว้ ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัด การศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบ การศึกษาขั้นพื้นฐาน 7. การพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลยุทธ์ 7.1 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสมกับ พื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 7.2 ปรับปรุงระบบการให้ค่าตอบแทน สิ่งจูงใจและ สวัสดิการ สาหรับบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชายแดน ภาคใต้อย่างเหมาะสม 11) ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิต 21) ร้อยละของผู้เรียน เยาวชนและ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะ ด้านอาชีพ เพื่อการมีงานทาหรือ นาไปประกอบอาชีพ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้น เปรียบเทียบกับเป้าหมายการดาเนินงาน ร้อยละ 80 3. พัฒนาระบบ บริหารจัดการ ตามหลักธรรมาภิบาล 6. การปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ 6.1 พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพตาม หลักธรรมาภิบาล 6.2 เร่งรัดดาเนินการกระจายอานาจการบริหารจัด การศึกษาให้หน่วยงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและ สถาบันการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง 10) หน่วยงานมีระบบบริหารจัดการที่มี ประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 20) ผลการเบิกจ่ายงบประมาณของ กระทรวงศึกษาธิการบรรลุผลสาเร็จตาม เป้าหมายที่กาหนดสอดคล้องกับนโยบาย ของรัฐบาล - ภาพรวม - งบลงทุน ร้อยละ 96 ร้อยละ 87
  • 85.
    - ผ2/1 - อักษรย่อของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) องค์กรหลัก 1. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สป. - สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) - สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) - สานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 2. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สกศ. 3. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. 4. สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สกอ. 5. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สอศ. หน่วยงานในกากับ 6. สานักงานเลขาธิการคุรุสภา คส. 7. สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ สกสค. และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 8. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สสวท. 9. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มวส. 10. สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) สคพ. 11. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) สทศ. 12. สานักงานลูกเสือแห่งชาติ สลช. 13. มหาวิทยาลัย/ สถาบันอุดมศึกษา ม/ส