More Related Content
Similar to กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 2 (DAY 2)
Similar to กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 2 (DAY 2) (20)
กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรม 2 (DAY 2)
- 2. ความคาดหวัง:
เมื่อสิ้นสุดการอบรม ผู้เข้าอบรมสามารถ :
แปลข้อมูลจาก กระบวนการ FBA ได้
ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่พีงประสงค์ของนักเรียนได้
ระบุเป้ าหมายในแผนส่งเสริมเพื่อที่จะพัฒนาการมีส่วนร่วมทางสังคมของนักเรียน
กรณีศึกษาและตรวจสอบการป้ องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และเทคนิคต่างๆใน
ห้องเรียนและโรงเรียนได้
อภิปรายเทคนิคและวิธีการต่างๆที่จะสามารถช่วยให้ผู้เข้าอบรมนาแผนสร้างเสริมเชิง
บวกไปใช้ได้จริง
- 4. ขั้นที่ 5A: การตั้งสมมติฐานของพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
และตั้งเป้ าหมายใหญ่เชิงบวกสาหรับแผนช่วยเหลือ
ตารางวางแผนสร้างเสริมพฤติกรรมเชิงบวก
ชื่อ: วันที่: พฤติกรรมเป้ าหมาย:
สมมติฐาน
เมื่อ x (บริบท) แล้วนักเรียนแสดง y (ลักษณะ) เพื่อที่จะ z (จุดมุ่งหมาย)
เมื่อเพื่อนๆเดินเข้ามาหาสมศรีในระหว่างเวลาพักเล่น(x) สมศรีบ้วนน้าลายใส่เพื่อนๆ (y) เพื่อที่จะทาให้
เพื่อนๆเหล่านี้เดินออกไป (z).
เป้ าหมายหลัก
เพื่อสมศรีจะสามารถเล่นกับเพื่อนได้อย่างเหมาะสมในเวลาที่นานขึ้นระหว่างเวลาพัก
- 5. ขั้นที่ 5B: ระบุหลักทั่วไปและวิธีการป้ องกันการเกิด
พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ทบทวนประเด็นสาคัญในแบบตรวจสอบทั้ง 3 แบบของหลักทั่วไปและวิธีการป้ องกัน
การเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ แต่ทั้งนี้พึงระลึกเสมอว่านักเรียนแต่ละคนนั้น
อาจจะมีความต้องการพิเศษที่นอกเหนือจากนี้ก็ได้
จากนั้นระบุหลักและวิธีการป้ องกันที่สามารถนาไปใช้กับนักเรียนกรณีศึกษาลงใน
ตาราง
- 8. การจัดการกับปัจจัยภายนอก (Setting Events)
ปัจจัยภายนอกนั้นหมายถึงปัจจัยอื่นๆที่อาจมีอิทธิผลกับพฤติกรรม มีข้อพึงระวัง
หรือสิ่งที่ควรตระหนักอะไรบ้างที่สามารถเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของท่านและความ
ต้องการของนักเรียนกรณีศึกษาของท่านบ้าง
ข้อควรตระหนัก:
อาหาร ปัญหาสภาพครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู
การได้รับยา การมีปฏิสัมพันธ์เชิงลบกับเพื่อน ครอบครัวและครูในโรงเรียน
การนอนหลับไม่เพียงพอ การพักระหว่างคาบในตอนเช้า
การถูกเร่งรีบ การสื่อสารระหว่างครอบครัวหรือผู้เลี้ยงดู
- 9. การจัดการกับปัจจัยภายนอก (Setting Events)
เทคนิคต่างๆ :
เมื่อนักเรียนมาถึงชั้นเรียน พานักเรียนไปเล่นในกิจกรรมที่เขาชอบหรือกิจกรรมเงียบๆ
หากนักเรียนรู้สึกอยากพัก ให้นักเรียนไปพักยังพื้นที่ที่เขาต้องการหรือชื่นชอบ
ควรแน่ใจว่ากิจกรรมต่างๆที่ต้องการความร่วมมือของนักเรียนนั้นไม่มากจนเกินไปหรือถูกลดลง
จนกว่านักเรียนมีความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรม
ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในกิจวัตรหรือกิจกรรมต่างๆ เช่น เพิ่มเวลาในการอุ่นเครื่องก่อนที่จะ
เปลี่ยนคาบเรียน หรือ ใช้ตารางกิจวัตรเป็นรูปภาพ ทั้งนี้อาจรวมถึงการใช้สัญลักษณ์หรือครู
ผู้ช่วยด้วย
Adapted from material at http://csefel.uiuc.edu
- 11. การปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ก่อนเกิดพฤติกรรม
(Antecedent)
เทคนิคต่างๆ:
เพิ่ม /ลด ความยากของงาน
เปิดโอกาสแก่นักเรียนในการเลือกหรือตัดสินใจต่อสิ่งต่างๆอย่างเหมาะสม
ลดแสงสว่างหรือจัดให้มีพื้นที่ที่มีแสงสว่างที่เหมาะสมกับนักเรียนคนนั้น
ปรับตารางเรียนหรือกิจวัตรประจาวันให้เข้ากับความต้องการของนักเรียนคน
นี้ เช่น ให้มีช่วงพักเร็วขึ้น
ใช้ภาพสัญลักษณ์ต่างๆ สาหรับ การขออนุญาต หรือ ความต้องการ
ต่างๆ หรือ สัญลักษณ์ที่จาเป็นในการสื่อสาร
- 13. การทดแทนด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสม
(Behaviour Replacement)
เทคนิคต่างๆ:
การทดแทนทักษะต่างๆนั้น ควรใช้ สื่อรูปภาพ หรือ การ์ดต่างๆประกอบ
การใช้เครื่องมือ การสื่อความหมายทดแทน (Augmentative and
Alternative Communication)
การเพิ่มการเสริมแรงเชิงบวกเมื่อนักเรียนแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์
การใช้นิทานจริยธรรมที่สามารถสื่อแม่แบบของพฤติกรรมที่เหมาะสมและการ
เน้นการใช้การสื่อสารแบบต่างๆที่ดี
การสอนแบบตั้งใจให้นักเรียนเห็นถึงการสื่อสารที่เหมาะสมและกระตุ้น
ความสามารถในการสื่อสารของนักเรียน
- 16. กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ
จาก ปัจจัยภายนอก เหตุการณ์ก่อนเกิดพฤติกรรม พฤติกรรม และ
เหตุการณ์หลังเกิดพฤติกรรม ในคู่ของท่าน ให้อภิปรายถึงวิธีการหรือ
เทคนิคต่างๆที่ท่านสามารถนามาจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่พฤติกรรมของ
นักเรียนกรณีของท่าน หรือ นักเรียนกรณีในวิดีโอที่ท่านได้ชมเมื่อวานก็
ได้
อภิปรายกลุ่ม
- 17. การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน
การสอนโดยตรง(Direct Instruction)
ครูเป็นผู้วางแผนทั้งหมด คือ จุดหมายของการเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการเรียนการสอน และแผนการเสริมแรง
(Foggett,2008)
เหมาะสมสาหรับการสอนในกลุ่มเล็กหรือแบบตัวต่อตัวเพื่อปูพื้นฐานทักษะสาคัญต่างๆ
การเรียนแบบกลุ่ม (Co-operative learning)
เป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้นักเรียนทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม
ควรพิจารณา:
ควรเน้นถึงความรับผิดชอบรายบุคคล , การให้รางวัลเป็นกลุ่ม , การโต้ตอบปฏิสัมพันธ์ และกระบวนการกลุ่ม
ควรสอนทักษะต่างๆที่สาคัญก่อนทางานแบบกลุ่ม เช่น ทักษะการสื่อสาร, การตัดสินใจ การแก้ไขความขัดแย้ง
(Sutherland et.al.,2003)
- 18. การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน
เทคนิคต่างๆ
แจกใบงานแก่นักเรียนเป็นส่วนตัว โดยงานนั้นควรจะสั้น กระชับและเป็นงานที่ไม่ต้องมากและยากจนเกินในแต่ละครั้ง
ดูแลและสอบถามนักเรียนอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ต้องทางานเดี่ยว
มีคาถามและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับนักเรียนในการทาใบงานนั้นๆ เพื่อช่วยเพิ่มความถูกต้องของงานได้
ในบางกรณี อาจเพ่ิมเวลาให้นักเรียนทางานของเขาให้มากขึ้น จนนักเรียนสามารถทาถูกต้องเกิน 90 %
เปิดโอกาสให้นักเรียนเลือกกิจกรรมหรือใบงานต่างๆความต้องการของเขาอย่างเหมาะสม
ในการสอนเรื่องใหม่ ควรใช้การสอนที่อธิบายทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน หรือ การสอนแบบตัวต่อตัวก็ได้
- 19. การเพิ่มทักษะการจัดการตัวเอง (Self-management) ด้วย
ความสามารถด้านการรู้คิด (Metacognitive ability)
จุดมุ่งหมายหลัก คือ การพัฒนานักเรียนให้มีความสามารถในการวางแผน ดูแล และแก้ไขเทคนิคต่างๆที่ใช้เพื่อจัดการ
พฤติกรรมของตนเองได้
สาหรับเทคนิคนี้
ครูและนักเรียนช่วยกันเลือกพฤติกรรมที่ต้องการพัฒนา
ครูแนะนาเทคนิคการจัดการตัวเอง และวางแผนด้วยกันกับนักเรียน
ตัวอย่างของแผนพฤติกรรมที่ใช้4 ขั้นของการสอนตัวเอง(Self-instruction)
ปัญหาของฉันตอนนี้คืออะไร?
ฉันมีแผนอย่างไร?
ฉันทาตามแผนที่วางไว้หรือไม่?
ฉันทาได้ดีแค่ไหน?
- 20. การสร้างเสริมทักษะการสื่อสาร โดยรวมถึง
AAC
องค์ประกอบทั้ง 3 คือ บริบท ลักษณะ และหน้าที่ เป็นหัวใจสาคัญของการสร้างเสริมทักษะ
การสื่อสาร
ข้อควรพิจารณา:
ทักษะการสื่อสารสามารถสอนได้: ทั้งบริท, ลักษณะ และ วัตถุประสงค์
ความต้องการของครอบและการคงอยู่ของทักษะเกิดขึ้นได้รวมถึงความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย
ความสามาถทางร่างกาย
ระดับความสามารถของการสื่อสารทางการรับรู้และแสดงออกทางความรู้สึกในปัจจุบันและระดับความสามารถที่ต้องการ
เทคนิคที่ช่วยหรือไม่ช่วยเหลือต่างๆ ทั้งนี้รวมถึง AAC
การสามารถนาไปใช้ได้จริง (เคลื่อนย้ายได้, เวลาในการสอน, ค่าใช้จ่าย , การเข้าถึงอุปกรณ์)
การช่วยเหลือและความต้องการในบริบทรอบๆ รวมถึง การมีคู่สื่อสารเพื่อตอบสนอง (partner
responsiveness)
- 22. เทคนิคการสอนนักเรียนที่มีสมาธิสั้น (ADHD)
เทคนิคต่างๆ:
จัดที่นั่งให้อยู่ห่างจากประตูและหน้าต่าง ควรจัดให้นักเรียนนั่งใกล้ๆครูหรือเพื่อนที่เหมาะสม
จัดให้มีกิจกรรมเคลื่อนไหวทางร่างกายในการสอนแต่ละครั้งหากทาได้
หากงานที่มอบหมายมากเกินไป ควรแบ่งงานให้เล็กลง และให้นักเรียนพักเป็นระยะๆได้
สอนให้นักเรียนอ่านและใช้นาฬิ กาได้เพื่อที่จะใช้ในการบริหารเวลาการทางานที่ได้รับ
มอบหมายให้เสร็จ
มี “ภาษาลับ” กับนักเรียนเพื่อใช้สื่อสารกับครูเป็นส่วนตัวในชั้นเรียนได้ เช่น การใช้ภาษา
กาย
เขียนตารางเวลาของนักเรียนให้ชัดเจนบนกระดานหรือบอร์ด
มอบหมายงานง่ายๆให้นักเรียนรับผิดชอบ เช่น เดินไปหยิบของให้ครู
- 24. เทคนิคการสอนนักเรียนที่มีภาวะออติสซึม
(ASD)
กระดานตัวเลือกแบบรูปภาพ (Visual choice boards)
เริ่มด้วย ตัวเลือก 2 อย่าง เช่น “นักเรียนต้องการ A หรือ B?” โดยใช้รูปภาพที่มีความหมายแก่นักเรียน
ค่อยๆเพิ่มตัวเลือกมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น A หรือ B หรือ C
พยายามให้นักเรียนสามารถตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเองและส่งเสริมให้นักเรียนสื่อสารด้วยคาพูดไปพร้อมๆกัน เช่น
“ต้องการ A”
การเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนกิจกรรม/คาบ
กล่องสิ้นสุด , นาฬิกาไข่จับเวลา , First then, one more turn