บทที่ 2
- 1. บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กียวของ
่
ในการใชกิจกรรมการเลานิทานคุณธรรม
เพื่อพัฒนาความสามัคคีในการทํางานกลุมครั้งนี้ ผูศึกษาได
ษาได
คนควาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ ดังนี้
1.เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของกับคุณธรรมและ
จริยธรรม
2.เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของกับนิทานคุณธรรม
3.เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของกับความสามัคคี
4. งานวิจัยที่เกี่ยวของ
- 2. เอกสารที่เกี่ยวของกับคุณธรรมและจริยธรรม
1.ความหมายของคุณธรรม
คําวา คุณธรรม เปนคําที่คนไทยคุนเคยและรูจักกันดี ดี
เพราะเปนคําที่กลาวถึงกันมากวา การจะเปนคนดีตองมี งมี
คุณธรรม หรือคุณธรรมในการทํางานหรือการปฏิบติ ั
หนาที่ในอาชีพตาง แตความหมายจริงๆนั้น นอยคนนัก
ที่จะรู เวนแตผูที่สนใจคนควาอยางจริงจังเทานัน ฉะนั้น
้
ผูศึกษาจึงไดคนควาความหมายของคํานีมากลาวไวดังนี้
้
- 3. ราชบัณฑิตยสถาน (2555 : 189) ใหความหมายไววา คุณธรรม หมายถึง
สภาพคุณงามความดี
วศิน อินทสระ (2541 : 106-107) ใหความหมายของคุณธรรมตามหลักจ
ริยศาสตรไววา คุณธรรม หมายถึง อุปนิสัยอันดีงามซึ่งสั่งสมอยูในดวงจิต อุปนิสัย
อันนีไดมาจากความพยายามและความประพฤติติดตอกันมาเปนเวลานาน
้
ศูนยสงเสริมจริยธรรม สํานักงาน ก.พ. (2542 : 1) ใหความหมายของคุณธรรม
ไววา คุณธรรม คือ สภาพคุณงามความดี ดังนั้นมาตรฐานทางคุณธรรมจึงหมายถึง
สิ่งที่ถือเอาเปนหลักสําหรับเทียบทางสภาพคุณงามความดี โดยทั่วไปมักใชในลักษณะ
นามธรรมหรือสิ่งที่แสดงถึงคุณงามความดีทางจิตใจ
จากการใหความหมายดังกลาวขางตน สามารถสรุปไดวา คุณธรรม หมายถึง คุณงาม
ความดีทั้งหลายที่บุคคลทําอยูเปนปกติ ซึ่งสังคมยอมรับและไมสรางความเดือดรอน
ใหแกตนและผูอื่น
- 4. 2. ความหมายของจริยธรรม
คําวา จริยธรรมนั้น โดยปกติจะมาคูกับคําวา คุณธรรม เสมอ เพราะมุงหมายใหเขาใจ
และปฏิบัติตนในทางที่ดี จึงเขียนใหเขาใจอยางนั้น แตความหมายโดยเฉพาะของคํานี้
เปนอยางไรนั้น ผูศึกษาไดรวบรวมมาไวแลวดังนี้
ราชบัณฑิตยสถาน (2555 : 17) ใหความหมายไววา จริยธรรม หมายถึง ธรรมที่เปนขอ
ประพฤติปฏิบัติ กฎ ศีลธรรม
พระราชวรมุนี (ประยุทธ ประยุตโต) (2531 : 10) ไดอธิบายความหมายของจริยธรรม
ไววา จริยธรรม หมายถึง การดําเนินชีวิต ความเปนอยู การยังชีวิตใหเปนไป การครอง
ชีพ การใชชีวิต การเคลื่อนไหวของชีวิตทุกแง ทุกดาน ทุกระดับ ทั้งทางกาย ทางวาจา
ทางใจ ทั้งดานสวนตัว ดานสังคม ดานอารมณ ดานจิต ดานปญญา หรือหมายถึง แนว
ทางการดําเนินชีวิตทั้งหมดของบุคคลในสังคม
สาโรช บัวศรี (2526 : 18-20) ใหคําอธิบายคําวา จริยธรรม ไวอยางนี้
ศรี
จริยธรรม หมายถึง ศีลธรรมและคุณธรรม
ศีลธรรม หมายถึง การละเวนการฆาหรือการเบียดเบียน
คุณธรรม หมายถึง ความเมตตากรุณา
- 5. เอกสารที่เกี่ยวของกับนิทาน
นิทานเปนแนวทางสําคัญอีกอยางหนึ่งที่จะชวยใหนักเรียนเกิดความ
เขาใจในสิ่งที่สอนไดงายๆ โดยเฉพาะการสรางแรงบันดาลใหเยาวชนใน
ดานตางๆ ซึ่งโดยมากจะเนนการปลูกฝงใหเกิดคุณธรรมจริยธรรมอันดี ดี
ผานนิทานแตละเรื่อง ดังนั้นผูศึกษาจึงไดคนควาเอกสารที่เกี่ยวของกับ
นิทานดังนี้
1. ความหมายของนิทาน
ฉวีวรรณ คูหาภินันท (2542 : 157) ใหความหมายนิทานไววา นิทาน คือ
หาภิ ท
เรื่องราวที่เลาสืบตอกันมาเปนเวลาชานาน ดวยมุขปาฐะ คือ การเลากัน
จากปากตอปากเรื่อยมา ถือไดวาเปนวรรณกรรมปากเปลา นิทานมักขึ้น
ตอนดวยคําวา กาลครั้งหนึ่งนานมาแลว หรือครั้งหนึ่งนานมาแลว เนื้อ
เรื่องมักจะมีอภินิหารตางๆ เพื่อเราความสนใจ เนื่องจากเปนเรื่องเลาสืบ
กันมา เนื้อเรื่องเดียวกันจึงมีหลายสํานวนและผิดเพี้ยนกันไป นิทานมีทั้ง
นิทานสมัยเกาและนิทานสมัยใหม คือ นิทานที่แตงขึ้นมาใหม
- 6. วาโร เพ็งสวัสดิ์ (2542 : 138) ไดกลาวไววา นิทาน หมายถึง เรื่องราวที่เลาตอๆกัน
ดิ
มาเปนเวลานาน เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลินและใหความรู เพื่อใหเปนคนดี คนดี
อยูในสังคมไดอยางมีสุข และบางครั้งก็สอดแทรกคติหรือคุณธรรมเพื่อสอนใจลง
ไปดวย ในระหวางการเลาเรื่องใหเด็กฟงอาจมีการสนทนาโตตอบ อภิปราย
ซักถาม แสดงขอคิดเห็นและแสดงทาทางประกอบเรื่องราวก็ได ขึ้นอยูกับ
จุดมุงหมายของการเลานิทาน
สมศักดิ์ ปริปุรณะ (2542 : 64) ไดสรุปความหมายของนิทานไว ดังนี้
1.เปนเรื่องที่ผูกขึ้น
2.เปนเรื่องเลาที่ใชวาจาเปนสื่อถายทอดหรือเขียนทํานองการเลาดวยปากเปลา
3.เปนบทประพันธที่มีการเลาแบบเปนกันเอง ทํานองการเลาเปนวาจา
4.เปนเรื่องเลาที่มีจุดประสงคหลักเพื่อความบันเทิงใจ และมีสิ่งสอนใจเปน
จุดประสงครอง
ดังนั้น จึงสรุปไดวา นิทาน คือเรื่องที่เลากันมา สามารถแตงขึ้นเองไดตลอดเวลา
ซึ่งเลาไวก็เพื่อมุงหมายใหผูรับฟงเกิดความสนุกสนาน และมีขอคิดใหผูฟง
- 7. 2. ประเภทของนิทาน
เกริก ยุนพันธ (2539 : 48-75) ไดสรุปสําคัญของการแบงประเภทของนิทานไววา ประเภทของนิทานมี
ธ านมี
วิธีการกําหนดตางกันไมมีเกณฑตายตัว แตทนิยมกันมาก คือ การแบงนิทานออกเปนประเภทตาม
ี่
รูปแบบของนิทาน ซึงแบงออกเปน 5 ประเภท ดังนี้
่
2.1 นิทานปรัมปรา (Fairy Tales or Household Tales)
2.2 ตํานานหรือนิทานทองถิ่น (Legends)
2.3 เทพนิยาย (Myths)
2.4 นิทานเกี่ยวกับสัตว (Animal Tales)
ว
2.5 นิทานตลกขบขัน (Jest. Humourous, Merry Tales
ความหมายความสามัคคี
ความสามัคคีเปนคุณธรรมที่ดีอยางหนึ่ง ซึงเปนรากฐานสําคัญที่จะทําใหคนทํางานไดอยางมี
่ งมี
ประสิทธิภาพและประสบความสําเร็จ เปนคุณธรรมที่ทาใหการทํางานเปนกลุมลุลวงไปในทางที่ดี
ํ
ความสามัคคีกอใหเกิดความเปนน้ําหนึ่งใจเดียวกัน รูจักการรวมมือกันเพื่อทํางานอยางใดอยางหนึ่งให
ให
สําเร็จตามที่ตองการ ดังนั้นการที่เราจะทํางานกลุมไดดีก็ตองมีความสามัคคีในหมูคณะ และตองทํา
เขาใจในความหมายของความสามัคคีอยางตรงไปตรงมาอยางนี้
- 8. ราชบัณฑิตยสถาน (2539 : 829) ใหความหมายไววา ความสามัคคี หมายถึง ความพรอมเพียงกัน,ความปรองดองกัน, ความ
รวมใจกันปฏิบัติงานใหบรรลุ และการไมเอารัดเอาเปรียบกัน
กรมวิชาการ (2534 : 239-296) ใหความหมายของความสามัคคีคือ การรวมกําลังเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อทํางานอยางใด
อยางหนึ่งใหสําเร็จสมประสงคตามความตองการของกลุมหรือสังคมและกําลังที่รวมกันนั้น เปนไปไดทั้งกําลังกาย กําลัง
ความคิด กําลังความคิดเห็น กําลังความรู กําลังทรัพย โดยใชความสามารถเหลานี้รวมกันปฏิบัติงานดวยความกลมเกลียว
โดยไมมีการทะเลาะคิดทําลาย หรือแกงแยงชิงดีกัน โดยพิจารณาไดจากพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความสามัคคีดังตอไปนี้
คือ
1.สมาชิกทุกคนพรอมใจกันปฏิบัติงาน โดยไมมการบังคับ
ี
2.เมื่อมีความผิดพลาดบกพรองเกิดขึ้น สมาชิกรวมกันรับผิดชอบโดยไมโยนความผิดใหแกกันและกัน และรวมมือกัน
แกปญหา
3.เมื่องานสําเร็จลง สมาชิกตางยินดีถือเปนความสําเร็จรวมกันของกลุมและตางยกยองใหเกียรติกัน โดยเฉพาะผูมสวน
ี
ชวยเหลือกลุมอยางมาก
4.เมื่อกลุมตองการความชวยเหลือ สมาชิกพรอมที่จะเสียสละโดยไมมการเกียงกัน
ี
5.ความสามัคคีที่ควรไดรับการสงเสริม คือ การรวมมือในสิ่งทีสรางสรรคสังคมใหดีขึ้น (อาภา ถนัดชาง. 2531 : 49-51)
่
สําหรับกรมวิชาการ (2534 : 39) ไดกลาวถึงองคประกอบของจริยธรรมดานความสามัคคีไวอีกวา มีคุณธรรมดานอื่นรวมอยู รวมอยู
ดวยคือ ความไมเห็นแกตัว ความมีน้ําใจ เปนธรรมและระเบียบวินัย
จากการใหความหมายของความสามัคคีขางตน ก็สามารถสรุปไดวา ความสามัคคี หมายถึง การแสดงออกของคนในกลุม
เดียวกัน แสดงออกในทางเดียวกัน รวมตัวกันทํางานอยางใดอยางหนึ่งใหสําเร็จลุลวงไป โดยไมเอาเปรียบซึ่งกันและกัน
การรวมกําลังนี้ หมายถึงถึงกําลังทางกาย กําลังทางความคิด กําลังความรู กําลังสติปญญา กําลังทรัพย เปนตน รวมกันเพื่อ
สรางสิงใดสิงหนึ่ง หรือรวมกันเพื่อสรางประโยชนตางๆ
่ ่
- 9. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของ
1. งานวิจัยที่เกี่ยวของกับคุณธรรม จริยธรรม
ไพรัตน อยูสมบูรณ (2538 : บทคัดยอ) ไดศึกษาเรื่อง พัฒนาการของพฤติกรรมจริยธรรมและ
ณ
นิสัยรัการอานของเด็กกอนวัยเรียน ผลการวิจัยพบวา มีปฏิสัมพันธระหวางลักษณะของผูเลา
นิทานกอนนอนในดานนิสัยในการอานของเด็กกอนวัยเรียน
ศุภวาร วรสูตร (2538 : บทคัดยอ) ทําการวิจัยเรื่อง การศึกษาการใชบทบาทสมมุติในการ
ร
พัฒนาลักษณะที่พึงประสงคของเด็กวัยอนุบาล ผลการวิจัยปรากฏวา เด็กวัยอนุบาลที่ไดรับ
การสอนโดยใชบทบาทสมมุติที่มีลักษณะพึงประสงคเกี่ยวกับการไมแกลงเพื่อน และการมี
และการมี
น้ําใจตอเพื่อนสูงกวาเด็กวัยอนุบาลทีไดรับการสอนตามปกติอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่
่ นั
ระดับ .01
2. งานวิจยที่เกี่ยวของกับนิทาน
ั
วิจิตรา อุดมมุจลินทร (2543 : บทคัดยอ) ไดศึกษาผลของการใชกิจกรรมเลานิทานทีมีตอการ
นทร ่
พัฒนาความรู และเขาใจความหมายของคําศัพทในเด็กกลุมอาการดาวนระดับกอน
ประถมศึกษา ผลการวิจัยพบวา ความสามารถในการพัฒนาความรูและความเขาใจ
ความหมายของคําศัพทในเด็กกลุมอาการดาวนกอนประถมศึกษา หลังใชกิจกรรมการเลา
นิทานเพิมขึ้นกวากอนการใชกิจกรรมเลานิทานอยางมีนัยสําคัญที่ .01
่ ที
- 10. กรุณา ศรีแสน (2548: บทคัดยอ) ไดศึกษาผลของการใชหนังสือ
การตูนตัวแบบตอการพัฒนาพฤติกรรมจริยธรรมของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาลัยขอนแกน (ศึกษาศาสตร)
เลือกกลุมตัวอยางจากนักเรียนที่มีคะแนนต่ํา โดยนําคะแนนมาเรียง
จากนอยไปหามาก แลวนําคะแนนมาจับคูกันและใชวิธีสุมอยางงาย
แยกแตละคูใหอยูในกลุมทดลองและกลุมควบคุมกลุมละ 10 คน
ผลการวิจัยพบวา 1) พฤติกรรมจริยธรรมของนักเรียนกลุมทดลอง
สูงกวากลุมควบคุมอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ.01
2) พฤติกรรมจริยธรรมของนักเรียนกลุมทดลองหลังการทดลองสูง
กวาการทดลองอยางมีนัยสําคัญที่ระดับ .01