More Related Content
More from NIng Bussara (20)
กล่องนม
- 1. ตัวอย่างแบบเสนอโครงงาน
แบบเสนอโครงงานวิชา ง 33201 โครงงานคอมพิวเตอร์
วิชา ง 41101 โครงงานคอมพิวเตอร์ จานวน 0.5 หน่วยกิต
ชื่อโครงงาน ที่รองจานกล่องนม
รายชื่อผู้เสนอโครงงาน
1. นายกิตติธ้ช รักษากิจ เลขที่8
2. น.ส.บุษราภรณ์ พันทอง เลขที่35
3. น.ส.จันทร์นภา พุทธวิสุทธิ เลขที่42
อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
คุรครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
- 4. สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ค
กิตติกรรมประกาศ ง
บทที่ 1 บทนา
1.1 ความเป็นมาของโครงการ 1
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการ 1
1.3 ขอบเขตของโครงการ 1-2
1.4 ประโยชน์ที่ได้รับของโครงการ 2
1.5วิธีการดาเนินการ 2
บทที่ 2 เอกสาร
2.1 ภาวะโลกร้อน 3-4
2.2ปัจจัยสาคัญที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน 4
2.3 ภาวะเรื่อนกระจก 4-6
2.4 กล่องนี้มีที่มา 6-7
2.5การรีไซเคิล “กล่องนม” 8-9
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงการ
3.1 วิธีดาเนินการ 10
3.2 อุปกรณ์ 10
3.3 แผนการดาเนินงาน 11
3.4 สถานที่ดาเนินงาน
3.5 วิธีการทาที่รองจานจากกล่องนม
12
บทที่ 4 ผลการปฏิบัติโครงการ
4.1 ผลการปฏิบัติโครงการ
4.1.1 กราฟแสดงจานวนปริมาณกล่องนม 13
4.1.2 กราฟแสดงจานวนปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 14
- 5. ก่อนและหลังทาโครงการ
สารบัญ (ต่อ)
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการปฏิบัติการ 15
5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติการ 15
5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา 15
บรรณานุกรม 16
ภาคผนวก
* รายการอุปกรณ์ 17
* ภาพขั้นตอนวิธีการทา 18-20
รูปภาพผู้จัดทา 21
ประวัติผู้จัดทา 22-26
- 6. บทที่ 1
บทนา
1.ความเป็นมาของโครงการ
ปัจจุบันโลกของเรากาลังเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน
สังเกตได้การเพิ่มขึ้นของก๊าซที่ปกคลุมชั้นบรรยากาศของโลก ทาให้อุณภูมิภายในโลกสูงขึ้น
เป็นเหตุให้ฤดูกาลทั่วโลกเปลี่ยนไป และก๊าซที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการเผาผลาญเชื้อเพลิง
ภาวะโลกร้อน หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change)
เป็นปัญหาใหญ่ของโลกในปัจจุบัน สังเกตุได้จากอุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้น
มีสาเหตุหลักของมาจากก๊าซเรือนกระจก
ซึ่งมีสาเหตุมาจาก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน คลอโรฟลูออโรค์บอน ไนตรัสออกไซด์
โดยเฉพาะ การตัดไม้ทาลายป่า การเผาขยะ การปล่อยควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม
ซึ่งจะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด
มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด ตอนกลางวันร้อนจัด
เพราะไม่มีบรรยากาศกรองพลังงานจากดวงอาทิตย์
ลักษณะเช่นนี้คล้ายกับหลักการของเรือนกระจก จึงมักเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก
(Greenhouse Effect)
การเพิ่มขึ้นของ ก๊าซเรือนกระจก
ส่งผลให้ชั้นบรรยากาศมีความสามารถในการกักเก็บรังสีความร้อนได้มากขึ้น
ซึ่งการเผากล่องนมก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทาให้เกิดที่ทาให้เกิดก๊าซดังกล่าว ซึ่งกลุ่มของ
ข้าพเจ้าได้ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อนจึงคิดทาโครงการกระเป๋าที่ทาจากกล่องนมโดยนา
กล่องนมมาประดิษฐ์เป็นกระเป๋า เพื่อช่วยลดปริมาณการเผากล่องนม เพื่อลดปริมาณก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ และยับยั้งการเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน
2.วัตถุประสงค์ของโครงการ
2.1 เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนโดยการนากล่องนมมาประดิษฐ์เป็นกระเป๋า
2.2 เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ
2.3 เพื่อลดปริมาณกล่องนมที่ไม่ใช้แล้ว
3.ขอบเขตของโครงการ
- 7. 3.1 กระเป๋าทาจากกล่องนมจานวน1ใบ
3.1.1 สามารถนามาใส่ของได้
(1)
3.1.1.1 มีความคงทน
3.1.1.2 ใช้ความคิดสร้างสรรค์
4.ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ
1. ช่วยลดโลกร้อน
2. ลดก๊าซคาร์บอนได้ออกไซค์
3. สามารถนาไปทาเป็นอาชีพเสริมได้ในชีวิตจริง
4. สามารถนาวิธีการประดิษฐ์ไปสอน หรือ บอกต่อแก่ผู้อื่นได้
5. สามารถนาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจาวันได้จริง
5.วิธีดาเนินการ
5.1 ตั้งชื่อเรื่องที่สนใจ
5.2 ศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูล
5.3 ศึกษา และรวบรวมข้อมูล
5.4 แบ่งหน้าที่การทางาน
5.5 นาเสนอโครงการต่อครูประจาวิชา
- 8. (2)
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) คือ
การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากผลของภาวะเรือนกระจก หรืออที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า
Greenhouse Effect โดยภาวะโลกร้อน
ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผา ไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ,
การขนส่ง และการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
ให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า
สภาวะเรือนกระจก
พลังงานจากดวงอาทิตย์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีทั้งรังสีคลื่นสั้นและคลื่นยาว
บรรยากาศของโลกทาหน้าที่ปกป้องรังสีคลื่นสั้นไม่ให้ลงมาทาอันตรายต่อสิ่งมี ชีวิตบนพื้นโลกได้
โมเลกุลของก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนในบรรยากาศชั้นบนสุดจะดูดกลืนรังสีแกมมา
และรังสีเอ็กซ์จนทาให้อะตอมของก๊าซในบรรยากาศชั้นบนมีอุณหภูมิสูง และแตกตัวเป็นประจุ
(บางครั้งเราเรียกชั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยประจุนี้ว่า "ไอโอโนสเฟียร์"
มีประโยชน์ในการสะท้อนคลื่นวิทยุสาหรับการสื่อสาร)
รังสีอุลตราไวโอเล็ตสามารถส่องผ่านบรรยากาศชั้นบนลงมา
แต่ถูกดูดกลืนโดยก๊าซโอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่ระยะสูงประมาณ 19 - 48 กิโลเมตร
แสงแดดหรือแสงที่ตามองเห็นสามารถส่องลงมาถึงพื้นโลก
รังสีอินฟราเรดถูกดูดกลืนโดยก๊าซเรือนกระจก เช่น
ไอน้าและคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นโทรโปสเฟียร์
ส่วนคลื่นไมโครเวฟและคลื่นวิทยุในบางความถี่สามารถส่องทะลุชั้นบรรยากาศได้
- 9. สาหรับ บรรยากาศของโลกประกอบ ด้วยก๊าซไนโตรเจน 78% ก๊าซออกซิเจน 21%
ก๊าซอาร์กอน 0.9% นอกนั้นเป็นไอน้า และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จานวนเล็กน้อย แม้ว่าไนโตรเจน
ออกซิเจน และอาร์กอนจะเป็นองค์ประกอบหลักของบรรยากาศ
แต่ก็มิได้มีอิทธิพลต่ออุณหภูมิของโลก ในทางตรงกันข้ามก๊าซโมเลกุลใหญ่ เช่นไอน้า
คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน แม้จะมีอยู่ในบรรยากาศเพียงเล็กน้อย
กลับมีความสามารถในการดูดกลืนรังสีอินฟราเรด และมีอิทธิพลทาให้
อุณหภูมิของโลกอบอุ่น เราเรียกก๊าซพวกนี้ว่า "ก๊าซเรือนกระจก" (Greenhouse gas) เนื่องจาก
(3)
คุณสมบัติในการเก็บกักความร้อน หากปราศจากก๊าซเรือนกระจกแล้ว พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิเพียง -
18 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นก็หมายความว่าน้าทั้งหมดบนโลกนี้จะกลายเป็นน้าแข็ง
ปัจจัยสาคัญที่ทาให้เกิดภาวะโลกร้อน
ปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ้นที่มีมูลเหตุมาจากการปล่อยก๊าซพิษต่าง ๆ
จากโรงงานอุตสาหกรรม ทาให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้น
ซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า สภาวะเรือนกระจก
พลังงานจากดวงอาทิตย์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีทั้งรังสีคลื่นสั้นและคลื่นยาว
บรรยากาศของโลกทาหน้าที่ปกป้องรังสีคลื่นสั้นไม่ให้ลงมาทาอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลกได้
โมเลกุลของก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนในบรรยากาศชั้นบนสุดจะดูดกลืนรังสีแกมมาและรังสีเอ็ก
ซ์จนทาให้อะตอมของก๊าซในบรรยากาศชั้นบนมีอุณหภูมิสูง และแตกตัวเป็นประจุ
(บางครั้งเราเรียกชั้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยประจุนี้ว่า "ไอโอโนสเฟียร์"
มีประโยชน์ในการสะท้อนคลื่นวิทยุสาหรับการสื่อสาร)
รังสีอุลตราไวโอเล็ตสามารถส่องผ่านบรรยากาศชั้นบนลงมา
แต่ถูกดูดกลืนโดยก๊าซโอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่ระยะสูงประมาณ 19 - 48 กิโลเมตร
แสงแดดหรือแสงที่ตามองเห็นสามารถส่องลงมาถึงพื้นโลก
รังสีอินฟราเรดถูกดูดกลืนโดยก๊าซเรือนกระจก เช่น
ไอน้าและคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นโทรโปสเฟียร์
ส่วนคลื่นไมโครเวฟและคลื่นวิทยุในบางความถี่สามารถส่องทะลุชั้นบรรยากาศได้ สาหรับ
บรรยากาศของโลกประกอบ ด้วยก๊าซไนโตรเจน 78% ก๊าซออกซิเจน 21% ก๊าซอาร์กอน 0.9%
นอกนั้นเป็นไอน้า และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จานวนเล็กน้อย แม้ว่าไนโตรเจน ออกซิเจน
และอาร์กอนจะเป็นองค์ประกอบหลักของบรรยากาศ แต่ก็มิได้มีอิทธิพลต่ออุณหภูมิของโลก
ในทางตรงกันข้ามก๊าซโมเลกุลใหญ่ เช่น ไอน้า คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน
แม้จะมีอยู่ในบรรยากาศเพียงเล็กน้อย กลับมีความสามารถในการดูดกลืนรังสีอินฟราเรด
- 10. และมีอิทธิพลทาให้อุณหภูมิของโลกอบอุ่น เราเรียกก๊าซพวกนี้ว่า "ก๊าซเรือนกระจก" (Greenhouse
gas) เนื่องจากคุณสมบัติในการเก็บกักความร้อน หากปราศจากก๊าซเรือนกระจกแล้ว
พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิเพียง -18องศาเซลเซียส
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าน้าทั้งหมดบนโลกนี้จะกลายเป็นน้าแข็ง
ภาวะเรือนกระจก
ภาวะเรือนกระจกคือ
ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทาตัวเสมือนกระจกที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่าน
ลงมายังผิวโลกได้
แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้จาก
นั้นก็จะคายพลังงานความร้อนให้กระจายอยู่ภายในชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลกจึง
เปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะสมดุลทางอุณหภูมิ
และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก
(4)
แต่ในปัจจุบันมีก๊าซบางชนิดสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมากเกินสมดุล
ซึ่งก๊าซเหล่านี้ สามารถดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรด และคายพลังงานความร้อนได้ดี
พื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ ของโลก
และสิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอย่างมากมาย
ในภาวะปกติชั้นบรรยากาศของโลกจะประกอบด้วย
โอโซนไอน้าและก๊าซชนิดต่างๆซึ่งทาหน้าที่กรองรังสีคลื่นสั้นบางชนิดให้ผ่าน
มาตกกระทบพื้นผิวโลก
รังสีคลื่นสั้นที่ตกกระทบพื้นผิวโลกนี้จะสะท้อนกลับออกนอกชั้นบรรยากาศไป ส่วนหนึ่ง
ที่เหลือพื้นผิวโลกที่ประกอบด้วยพื้นน้า พื้นดิน และสิ่งมีชีวิตจะดูดกลืนไว้
หลังจากนั้นก็จะคายพลังงานออกมาในรูปรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดแผ่กระจาย
ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศและแผ่กระจายออกนอกชั้นบรรยากาศไปส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่ง
นั้นชั้นบรรยากาศก็จะดูดกลืนไว้ และคายพลังงานความร้อนออกมา
ผลที่เกิดขึ้นคือทาให้โลกสามารถ รักษาสภาพสมดุลทางอุณหภูมิไว้ได้จึงมีวัฏจักรน้า อากาศ
และฤดูกาลต่าง ๆ ดาเนินไปอย่างสมดุลเอื้ออานวยต่อการดารงชีวิตพืชและสัตว์
โลกจึงเปรียบเสมือนเรือนปลูกพืชขนาดใหญ่ที่มีไอน้าและก๊าซต่าง ๆ
ในชั้นบรรยากาศเป็นเสมือนกรอบกระจกที่คอยควบคุมอุณหภูมิ และวัฏจักรต่าง ๆ
ให้เป็นไปอย่างสมดุล แต่ในปัจจุบันชั้นบรรยากาศของโลกมีปริมาณก๊าซบางชนิดมากเกิน
สมดุลของธรรมชาติอันเป็นผลมาจากฝีมือมนุษย์ เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- 11. (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC8) และก๊าซไนตรัสออกไซด์
(N2O) เป็นต้น
ก๊าซเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถดูดกลืนและคายรังสีคลื่นยาวช่วง
อินฟราเรดได้ดีมาก ดังนั้นเมื่อพื้นผิวโลกคายรังสีอินฟราเรดขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ก๊าชเหล่านี้จะดูดกลืนรังสีอินฟราเรดเอาไว้
ต่อจากนั้นมันก็จะคายความร้อนสะสมอยู่บริเวณพื้นผิวโลก และชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น
พื้นผิวโลกจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้น เราเรียกก๊าซที่ทาให้เกิดภาวะแบบนี้ว่า "ก๊าซเรือนกระจก
(greenhouse gases)"
ก๊าซเรือนกระจกนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเพิ่มอุณหภูมิของพื้นผิวโลกโดยตรง
แล้ว มันยังส่งผลกระทบโดยทางอ้อมด้วย กล่าวคือมัน จะไปทาปฏิกิริยาเคมีกับก๊าซอื่น ๆ
และเกิดเป็นก๊าซเรือนกระจกชนิดใหม่ขึ้นมา
หรือก๊าซเรือนกระจกบางชนิดอาจรวมตัวกับโอโซน ทาให้โอโซนในชั้นบรรยากาศ
ลดน้อยลงส่งผลให้ รังสีคลื่นสั้นที่ส่องผ่านชั้นโอโซนลงมายังพื้นผิวโลกได้มากขึ้นรวมทั้ง
ปล่อยให้รังสีที่ทาอันตรายต่อมนุษย์และ
สิ่งมีชีวิตส่องผ่านลงมาทาอันตรายกับสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ด้วยก๊าซเรือนกระจก
ในชั้นบรรยากาศของโลกประกอบด้วยก๊าซต่าง ๆ
หลายชนิดแต่ละชนิดมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
และลดลงตามคุณสมบัติทางเคมีของก๊าซแต่ละชนิด ดังนั้นก๊าซที่มีมาก
(5)
เกินสมดุลของชั้นบรรยากาศจะสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ
ก๊าซบางชนิดสามารถสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานหลายร้อยปี
บางชนิดสะสมอยู่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปีก็สลายไป ก๊าซเรือนกระจกที่กล่าวถึงนี้ก็เช่นกัน
เนื่องจากมันมีปริมาณที่มากเกินสมดุลในชั้นบรรยากาศ
มันจึงสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศและสะสมอยู่ได้เป็นเวลานานหลายปี
เราอาจแบ่งก๊าซเรือนกระจกได้เป็นสองพวกตามอายุการสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ
คือ พวกที่มีอายุการสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศไม่นาน เนื่องจากก๊าซเหล่านี้สามารถ
ทาปฏิกิริยาได้ดีกับไอน้า หรือก๊าซอื่น ๆ จึงทาให้มันมีอายุสะสมเฉลี่ยสั้น
ส่วนอีกพวกหนึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีอายุสะสมเฉลี่ยนานหลายปี เช่น
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน
เป็นต้น
ก๊าซเหล่านี้นับเป็นก๊าซที่เป็นตัวการหลักของการเกิดภาวะเรือนกระจกเนื่อง
จากมันมีอายุสะสมเฉลี่ยยาวนานและสามารถดูดกลืนรังสีอินฟราเรดได้ดีกว่าก๊าซ
- 12. เรือนกระจกอื่น ๆ ทั้งยังส่งผลกระทบให้ผิวโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทางอ้อมได้ด้วย
แม้ว่าจะมีการรณรงค์เพื่อลดการปลด ปล่อยก๊าซเรือนกระจก กันอย่างกว้างขวาง
แต่อัตราการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกก็ยังมีมากขึ้นซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้
เป็นผลมาจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น
กล่องนี้มีที่มา
ใครจะรู้ว่า เส้นทางการเดินทางที่ยาวนานของ 'กล่องเครื่องดื่ม'
ทั้งหมดนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานปรัชญาความคิดที่ว่า "Apackage should save morethan it costs" หรือ
บรรจุภัณฑ์นั้นควรจะประหยัดได้มากกว่าราคาของตัวมันเอง”เป็นประโยคยอดฮิตของดร.รูเบน
เราส์ซิง ตอนที่คิดค้นกล่องเครื่องดื่มครั้งแรก และกลายเป็นรากฐานวิธีคิดในการทาธุรกิจของเตตร้า
แพค ที่ฝังแน่นมาตลอดกว่า 50 ปี”
กลอยตา ณ ถลาง ผู้อานวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย) จากัด บอกว่า
คาว่า ประหยัดได้มากกว่า ในที่นี้ ไม่ใช่คานึงถึงแค่มิติในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน
แต่ยังรวมไปถึงการมองถึงมิติการเป็น "มิตรกับสิ่งแวดล้อม" ซึ่งถือเป็น"ต้นทุนทางสังคม"
อย่างหนึ่งด้วย
ความยั่งยืนในการทาธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการคิด และย้าว่า
ต้องคิดให้ครบจริงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ Life Cycle ทั้งหมดของวรจรชีวิต"กล่องเครื่องดื่ม" สินชัย
เทียนศิริ ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ไทย) จากัด ช่วยอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้น
ตั้งต้นคิดตั้งแต่ "วัสดุ" ที่ใช้มาทากล่อง สัดส่วน 75% ทามาจากกระดาษ
ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทดแทนได้ ทั้งหมดจะนามาจากสวนป่าปลูก หรือป่าเชิงพาณิชย์
ที่ต้องมีการบริการจัดการที่ดี ชุมชนมีส่วนรวม โดยต้นไม้ทุกๆ 1 ต้นที่ถูกตัด จะต้องปลูกคืนอีก 4-10
ต้น
(6)
“ภายในปี 2558 เราตั้งเป้าไว้เลยว่า กล่องเครื่องดื่มทั้งหมดที่ออกจากโรงงาน
สามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตมาจากกระดาษที่ไหน และจากป่าไหน ระบบนี้ จะช่วยควบคุมได้ว่า
กระดาษทั้งหมดมาจากป่าที่มีการปลูกทดแทน”
ทุกวันนี้ หนึ่งในฐานการผลิตใหญ่ของเต็ดตรา แพ้ค ในภูมิภาคเอเชีย อยู่ในโรงงานที่จูล่ง
ประเทศสิงคโปร์ กล่องเครื่องดื่มที่ส่งออกไปจากโรงงานสิงคโปร์ จะถูกส่งไปในรูปม้วนกระดาษ
แล้วจึงค่อยไปขึ้นรูปเป็นกล่องหน้าตาทรงสี่เหลี่ยม เพื่อบรรจุเครื่องดื่ม ณ
โรงงานปลายทางของลูกค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย
- 13. “วิธีการขนส่งเป็นม้วนอย่างนี้ ส่ง 1 ล้านแพ็ค อาจใช้รถขนแค่ 2 คัน
เทียบกับการส่งเป็นกล่องขึ้นรูปไป อาจต้องใช้รถขนส่งมากถึง 50 คัน” สินชัยเล่า
เป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศโลก จากปี 2548 ถึงปี
2553 ลง 10% ตามกรอบความร่วมมือโครงการกอบกู้โลกร้อนกับกองทุนสัตว์ป่าสากล หรือ WWF
(World Wildlife Fund) ทาให้ อัลแบร์โต ตูเรคิส ผู้อานวยการฝ่ายออกแบบ ควบคุมการผลิต
และจัดส่งบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา แพ้ค จูล่ง รวมทั้งทีมงานเต็ดตรา แพ็ค ทั่วโลก ต่างระดมทุก”วิถีทาง”
เพื่อลดกิจกรรมที่จะปล่อยก๊าซ CO2 “การจะทาอย่างนั้นได้ เราต้องดูแลทุกส่วน ตั้งแต่ต้นทาง
ถึงปลายทาง เช่นสมัยก่อน เคยต้องนาเข้าอลูมิเนียมฟอยล์ จากยุโรป ก็เปลี่ยนจากนาเข้าจากมาเลเซีย
เพื่อลดการใช้พลังงานในการขนส่ง รวมถึงการลดการใช้พลังงาน พร้อมปรับเปลี่ยนการใช้ก๊าซหุงต้ม
มาเป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด”
อัลแบร์โต เล่า
ทุกวันนี้ ฝ่ายออกแบบของเตตร้า แพค ยังคงไม่หยุดที่จะคิดค้น หาทางปรับเปลี่ยนการใช้วัสดุ
ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด จากปัจจุบัน ที่พยายามลดการใช้อลูมิเนียมฟอยล์
ให้น้อยลงที่สุด บางเพียงแค่1 ใน 6ของเส้นผมเท่านั้น
(7)
การรีไซเคิล “กล่องนม”
- 14. กล่องเครื่องดื่ม หรือที่เราๆ เรียกกันว่า กล่องนมนั้น มี 2ประเภท คือ
1. กล่องยูเอชที มีกระดาษ อะลูมิเนียมฟอยล์ และพลาสติก ประเภทโพลีเอททีลีน เป็นส่วนประกอบ
ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุ สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยไม่ต้องแช่เย็น
2. กล่องพาสเจอไรซ์ มีส่วนประกอบเป็นกระดาษ และพลาสติกเท่านั้น จึงต้องแช่เย็น
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่เก็บไว้ได้นาน
ปัจจุบันกล่องเครื่องดื่ม เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะกล่องปลอดเชื้อที่คงคุณค่าและเก็บความสด
ใหม่ให้กับเครื่องดื่มได้นานถึง 6 เดือนโดยไม่ต้องใส่วัตถุกันเสีย และไม่ต้องแช่เย็น
จึงปลอดภัยสาหรับผู้บริโภคทุกวัย เมื่อไม่ต้องแช่เย็นก็ไม่ต้องเปลืองค่าไฟ น้าหนัก กล่องเบายังช่วย
ประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่ง
กระดาษซึ่งเป็นวัสดุหลักในการผลิตกล่องมาจากสวนป่าที่ปลูกทดแทนต่อเนื่องพร้อมหมุนเวียนมาใช้
ใหม่(renewable)
จึงไม่ต้องทาลายป่าไม้จากธรรมชาติ จะเห็นได้ว่าเจ้ากล่องเครื่องดื่มนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้
อม ตั้งแต่กระบวนการผลิต จนถึงการนาไปรีไซเคิล ซึ่งไม่มีส่วนใด เหลือทิ้งเป็นขยะ
- 15. (8)
กล่องเครื่องดื่มนาไปรีไซเคิลเป็นอะไรบ้าง
กล่องเครื่องดื่มผลิตมาจากเยื่อกระดาษที่มีเยื่อใยยาวและเยื่อกึ่งเคมีที่ไม่เคยใช้งาน มาก่อน
เยื่อกระดาษจึงมีความแข็งแรงกว่าเยื่อกระดาษจากกล่องกระดาษเก่า (old corrugated carton
boxes) ที่ผ่านการรีไซเคิลมาหลายครั้ง ดังนั้น เยื่อกระดาษที่ได้มาจากกล่องเครื่องดื่ม จึงเหมาะที่จะ
นามาทาเป็นกระดาษกล่องที่ต้องการความแข็งแรงสูง ส่วนพลาสติกและฟอยล์สามารถนาไปทาเป็
นอุปกรณ์พลาสติกที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ด้ามจับกระทะ
หรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลทั่วไปนามาทาผลิตเป็นไม้กระดาน (GreenBoard)
กล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วจะถูกนามาตัดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนามาโรยบนแผ่นเหล็ก
เพื่อขึ้นรูปแผ่นตามความหนาที่ต้องการ จากนั้นจะนาเข้าเครื่องอัดร้อนที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซี
ยส
เพื่อหลอมพลาสติกที่ปนอยู่แล้วจึงนาไปเข้าเครื่องอัดเย็นโดยพลาสติกจะเป็นตัวยึดกระดาษและอลูมิเ
นียมฟอยล์ให้ติดเป็นเนื้อเดียวกันจึงไม่จาเป็นต้องใช้กาวหรือสารเคมีใดๆ เลยในขั้นตอนการผลิต
คุณสมบัติของ Greenboard
1. ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ และมีพื้นผิวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
2. กันน้าได้ดี กันปลวกได้ 100% และไม่เป็นผุยผง
3. เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้อย่างดี
4. ดัดโค้งและทาเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามความต้องการ
5. สามารถเลื่อย ตัด ดัด ติดกาว เจาะ และยึดด้วยตะปูได้ เช่นเดียวกับแผ่นไม้ชนิดอื่นๆ
6. ปราศจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งต่างจากparticleboard หรือ MDF
นอกจากนี้แล้ว กล่องเครื่องดื่มยังสามารถนาไปทาเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกต่างๆ ได้อีก เช่น
ที่รองแก้ว, ที่วางซีดี, ที่ใส่ของ, กระเป๋า และเครื่องใช้อื่นๆ อีกมากมายจากกล่องเครื่องดื่มที่ธรรมดา
เมื่อเรากินหมดก็ทิ้งไป แต่กลับสร้างสิ่งใหม่ได้มากมาย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปที่เราจะนาสิ่งเหลือใช้ หรือบางทีที่เราเห็นว่ามันคือ
ขยะมารีไซเคิล ลองกลับไปดูรอบๆตัวเราซิ ว่ามีอะไรอีกบ้างที่สามารถนามารีไซเคิลได้อีก เพื่อเรา
เพื่อธรรมชาติ เพื่อโลก
- 17. (10)
3.แผนการดาเนินการ
ลาดับ ว/ด/ป การปฏิบัติงาน ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบงาน
1 7/ 12/2012 คิดหัวข้อเรื่องที่สนใจ 1 วัน ทุกคน
2 8/ 12/2012 ศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูล 2 วัน ทุกคน
3 10/ 12/2012 แบ่งหน้าที่การทางาน 1 วัน ทุกคน
4 10-11/12/ 2012 ดาเนินการทาโครงงาน 2 วัน ทุกคน
5 12/ 12/2012 นาเสนอโครงงานต่อ
ครูประจาวิชา
1 วัน ทุกคน
4.สถานที่ดาเนินการ
- โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
238 ถ. พระปกเกล้า ต. ศรีภูมิ อ. เมือง จ. เชียงใหม่50200
- บ้านเลขที่ 229/62หมู่1ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่50300
- 21. (14)
บทที่ 5
สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการปฏิบัติโครงการ
จากการทาโครงการเรื่องกระเป๋ากล่องนมนี้สามารถลดปัญหาภาวะโลกร้อนโดยการนากล่อง
นมมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของเครื่องใช้ ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ในอากาศ
ลดปริมาณการเผากล่องนม และยังลดปริมาณกล่องนมในโรงเรียนอีกด้วย
แทนที่เราจะต้องนากล่องนมมากมายในโรงเรียนเหล่านั้นไปเผาหรือนาไปฝังดินที่จะทาให้เกิดภาวะโ
ลกร้อน
เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเป็นจานวนมากแต่เรากลับนากล่องนมเหล่านั้นมาประดิษฐ์เป็
นกระเป๋า ที่ซึ่งสามารถลดปริมาณกล่องนมในโรงเรียนได้จริงถึง 90 –100 %
และยังช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 30 %
ทั้งนี้ยังสามารถใช้งานได้จริงแข็งแรงทนทานและมีความสวยงามอีกด้วย
ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติโครงการ
1. กล่องนมบางชิ้น มีขนาดไม่เท่ากัน ทาให้สานกระเป๋าให้เป็นระเบียบได้อยาก
2. วิธีการทาต้องใช้ความละเอียดในการสานพอสมควร
3. ใช้เวลาในการสานมาก จึงทาให้งานชิ้นนี้ล่าช้า
4. สมาชิกในกลุ่มไม่สามัคคีกันในการทางาน
ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
อยากให้มีการพัฒนารูปแบบสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ทาจากขยะรีไซเคิลมากขึ้น และอยากให้
ทุกค น เห็ น คุณ ค่าของ รี ไซ เคิลขยะ ที่ จะ น าไป ท าลายอ ย่าง สู ญ เป ล่าประ โยช น์
และนามารีไซเคิลทาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมรวมทั้งยังช่วยในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนรวมทั้งลดปริมาณขยะในโ
ร ง เ รี ย น อ ย่าง เช่ น โ ค ร ง ก าร ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ก ร ะ เ ป๋ าก ล่อ ง น ม ข อ ง พ ว ก เร า
ที่ ล ด ป ริ ม า ณ ก ล่ อ ง น ม ใ น โ ร ง เ รี ย น ไ ด้ จ ริ ง ถึ ง 90 – 100 %
ซึ่ ง โครง การนี้ อาจจะ เป็ น สิ่ งที่ สร้าง รายได้เพิ่ มให้ กับ ตน เอง และ ครอบครัวได้
ช่วยในการลดปัญหาขาดรายได้ คนว่างงาน ได้อีกเช่นกัน
- 22. (15)
บรรณานุกรม
(1) http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=by-step&month=19-07-
2008&group=1&gblog=7
(2) http://campus.sanook.com/u_life/knowledge_04325.php
(3) http://www.oknation.net/blog/print.php?id=233863
(4) http://imaim.wordpress.com/2008/06/28/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0
%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%
B8%B4%E0%B8%A5-
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%
E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0/
(5) http://www.boybdream.com/manager-news-content.php?newid=25318
(6) http://www.thaiall.com/globalwarming/
(7) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E
0%B8%8F%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%
B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B
8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%81
(8) http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/lopburi/usa_s/global_warming/sec01p0
1.html
(9) http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%
E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0
%B8%AD%E0%B8%99