ด้วยพระบารมี ตัวแทนครูและนักศึกษาไทยได้อบรมและทำ�วิจัยที่เซิร์น
วารสาร	

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

ชมรมครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ISSN 1905-758X
TSMT Journal สนับสนุนโดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
2

วารสาร สควค.	

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

ผู้บริหารจาก 4 องค์กรหลักด้านฟิสิกส์ของไทย จับมือกับเซิร์น ครูพิมพร ผาพรมและครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า ครู สควค. (ฟิสิกส์)
รับสมัครครู/นักศึกษาไทยเข้าร่วมกิจกรรมภาคฤดูร้อน CERN เป็นตัวแทนครูฟิสิกส์จากประเทศไทยเข้าร่วมโครงการที่ CERN

ครูและนักศึกษาไทยเตรียมความพร้อมเรื่อง เครื่องเร่งอนุภาค ครูฟิสิกส์จำ�นวน 40 คน จาก 22 ประเทศ เข้าร่วมโครงการฯ
ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ก่อนเข้าร่วมโครงการที่ CERN กับ CERN ณ กรุงเจนีวา สหพันธรัฐสวิส เป็นเวลา 3 สัปดาห์

นอกจากจะได้ความรู้และเพื่อนจากหลายประเทศ ยังได้เผยแพร่วัฒนธรรมของไทยและแสดงศักยภาพของครูฟิสิกส์ไทยในเวทีโลก

12 ก.ค. 2553 :: สสวท. ติดตามประเมินผลและให้ก�ลังใจครู สควค. 9 ส.ค. 2553 :: สสวท. จัดกิจกรรมติดตามประเมินผลให้กำ�ลังใจ
ำ
พื้นที่ภาคอีสานตอนล่างที่ ร.ร.เบญจมะ มหาราช จ.อุบลราชธานี ครู สควค. พื้นที่ภาคเหนือที่ ร.ร.จักรคำ�คณาธร จ.ลำ�พูน
ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

วารสาร สควค.

3

สารบัญ

บทบรรณาธิการ

ครูศักดิ์อนันต์ อนันตสุข
E-mail :: anantasook@gmail.com

	
สวัสดีครับ พีนองเพือนสมาชิกชมรมครู สควค. และ
่ ้ ่
ท่านผู้อ่าน “วารสาร สควค.” ทุกท่าน
	
นั บ เป็ น พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ อย่ า งหาที่ สุ ด มิ ไ ด้
ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง
พระราชทานโอกาสให้ครูฟิสิกส์ระดับมัธยมศึกษา 2 คน
ของประเทศไทยได้รวมงานวิจยกับเซิรน องค์กรวิทยาศาสตร์
่
ั
์
ระดับโลก ณ สหพันธรัฐสวิส เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ด้วยทรง
มีพระประสงค์ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการ
ระหว่ า งประเทศไทยกั บ สถาบั น เซิ ร์ น ในการพั ฒ นา
ขีดความสามารถและศักยภาพด้านฟิสกส์ให้แก่เด็ก เยาวชน
ิ
ครู และนักวิจัยไทย ซึ่งในปีแรกนี้ ครู สควค. จำ�นวน 2 คน
คือ นางสาวสุพตรา ทองเนือห้า และนางสาวพิมพร ผาพรม
ั
้
ได้ เ ป็ น ตั ว แทนประเทศไทย ไปร่ ว มโครงการครู ฟิ สิ ก ส์
ภาคฤดูร้อนเซิร์น และทั้งสองคนได้ถ่ายทอดความรู้และ
ประสบการณ์ต่างๆ ให้เราได้รับทราบและร่วมภาคภูมิใจ
ในวารสาร สควค.ฉบั บ นี้ ซึ่ ง ครู ฟิ สิ ก ส์ ที่ ส นใจเข้ า ร่ ว ม
โครงการ ก็ขอให้เตรียมพร้อมและสมัครรับการคัดเลือก
ในปลายปีนี้และปีถัดไป
	
ชมรมครู สควค. ขอเป็นกำ�ลังใจให้กับครู สควค.
ทุกคนในการปฏิบัติงาน กองบรรณาธิการ เปิดรับบทความ
จากทุ ก ท่ า น หากมี ข้ อ เสนอแนะประการใด ที ม งาน
ขอน้อมรับด้วยความยินดี

หน้า
-	 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบันเซิร์น (CERN)	
4
-	 ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์	 5
	 ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า
-	 ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์	 8
	 ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูพิมพร ผาพรม
-	 นวัตกรรมการเรียนรู้ : การพัฒนาเครือข่าย	
10
	 การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า
-	 กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายครู สควค. ภาคใต้	
12
-	 ตัวแทนความคิดวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ความร้อน	
13
-	 การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูน้อย	 14
	 จังหวัดกาฬสินธุ์	
-	 พระบรมราโชวาท/ครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้	 16

วัตถุประสงค์
	
1. 	เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ชมรมครูที่มีความ
สามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี
	 2. 	เพื่ อ เป็ น เวที ใ นการแลกเปลี่ ย นความรู้
ทางวิชาการ ประสบการณ์การสอน การวิจัยในชั้นเรียน
ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี
เพื่อพัฒนาการสอนของครูและการเรียนรู้ของผู้เรียน
	
3. 	เพือเผยแพร่ความรูทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
่
้
และเทคโนโลยี ให้กว้างขวางและเป็นประโยชน์ต่อสังคม
โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

	
สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) : Synchrotron Light Research Institute (Public
Organization) เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดิมคือ “ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่อง
กำ�เนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ” ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2539 มีสำ�นักงานตั้งอยู่ภายใน มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา (www.slri.or.th)
	
แสงซินโครตรอน คือ แสง (หรือโฟตอน) ที่ถูกปลดปล่อย (หรือสลัด) ออกมาจากอิเล็กตรอนที่เลี้ยวโค้ง
ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง (3x108 เมตรต่อวินาที) เป็นแสงที่มีค่าความเข้มสูงและมีค่าพลังงานต่อเนื่อง
ครอบคลุมช่วงพลังงานกว้างตั้งแต่ช่วงของรังสีอินฟราเรดจนถึงรังสีเอ็กซ์ ทำ�ให้สามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย

ขอเชิญครูทุน สควค. ในภูมิภาคต่างๆ ส่งภาพข่าวที่เกี่ยวกับผลงานเด่นของตนเอง รวมถึงงานเขียน บทความเกี่ยวกับ
การพัฒนาการเรียนการสอน ประสบการณ์การวิจย เพือเผยแพร่ ในวารสาร สควค. หรือเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.krusmart.com
ั ่
บทความในวารสาร สควค. เป็นความคิดเห็นและทัศนะของผู้เขียน ชมรมครู สควค. ไม่จำ�เป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป
4

วารสาร สควค.	

เรื่องจากปก

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบันเซิร์น
สุพัตรา ทองเนื้อห้า สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

	
สถาบันเซิร์น (CERN) ตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศ
สวิ ต เซอร์ แ ลนด์ ครอบคลุ ม พื้ น ที่ บ ริ เวณชายแดนระหว่ า ง
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งมามากกว่า
50 ปี โดยมีพันธกิจหลักในการทดลองเร่งอนุภาคและทำ�การ
วิจยเพือตอบคำ�ถามหลัก 3 คำ�ถามคือ เรามาจากไหน (Where
ั ่
do we come from?) เราประกอบขึ้นจากอะไร (What are
we made of?) และเราจะเป็นอย่างไรต่อไป (Where are we
going ?) ซึ่ง “เรา” ในที่นี้ก็หมายความถึง จักรวาล โลกและ
สิ่ ง มี ชี วิ ต ทั้ ง หลาย ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ ากการทดลองแต่ ล ะครั้ ง
มีปริมาณมากมายมหาศาล นำ�ไปสูการให้ก�เนิดเครือข่ายข้อมูล
่
ำ
ของคนทั้งโลกที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เวิลด์ ไวลด์ เว็บ (www)
ด้านการศึกษา สถาบันแห่งนี้มีหน้าที่ในการฝึกอบรมเตรียม
ความพร้อมให้กับนักวิทยาศาสตร์ในอนาคตโดยการสร้าง
แรงบันดาลใจให้กับเยาวชนของโลกในการเรียนวิทยาศาสตร์
พัฒนาความรูและทักษะเกียวกับเทคโนโลยีตางๆ และให้ความ
้
่
่
สำ�คัญกับการให้ความร่วมมือ การทำ�งานร่วมกันด้วยเป้าหมาย
เดียวกันกับคนทั้งโลก
	
เซิร์น (CERN) เป็นชื่อย่อมาจากภาษาอังกฤษตัวแรก
ของชื่อเต็มในภาษาฝรั่งเศสว่า Conseil Europenne pour
la Recherche Nuclaire ชื่อภาษาอังกฤษว่า European
Council for Nuclear Research ปัจจุบนใช้ชอ Oganization
ั ื่
europenne pour la recherche nuclaire ในภาษาฝรั่งเศส

และ European Oganization for Nuclear Research
ในภาษาอั ง กฤษ หากท่ า นได้ มี โ อกาสไปเยี่ ย มชมสถาบั น
แห่งนี้ก็จะปรากฏชื่อที่ตัวอาคาร 33 ซึ่งเป็นอาคารต้อนรับ
ตั้ งอยู่ บริ เวณด้ า นหน้ า ทางเข้ า สถาบั นเซิ ร์น ตรงกั น ข้ า มกั บ
พิพิธภัณฑ์ Globe
	
ปัจจุบันสถาบันเซิร์นมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 20
ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย สาธารณรัฐ
เช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมณี กรีซ ฮังการี อิตาลี
เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สเปน
สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ มีประเทศสังเกตการณ์
6 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อิสราเอล ญี่ปุ่น รัสเซีย ตุรกี และ
สหรัฐอเมริกา และมีความร่วมมือจากหลายประเทศทั่วโลก
ที่ไม่เป็นสมาชิก โดยส่งนักวิจัยร่วมทำ�การทดลองและเข้ารับ
การอบรมต่างๆ ที่ทางสถาบันเซิร์นจัดขึ้น
	
การวิจัยภายในสถาบันเซิร์นอาศัยเครื่องเร่งอนุภาค
LHC (Large Hadron Collider) ซึ่งตั้งอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน
โดยเร่งโปรตอนและนิวเคลียสของตะกั่วในทิศทางสวนกัน
แล้วบังคับ ให้ล�อนุภาคทังสองชนกัน ณ สถานีตรวจวัดอนุภาค
ำ
้
สถานีตรวจวัดอนุภาคที่สำ�คัญของเครื่องเร่งอนุภาค LHC คือ
ALICE, ATLAS, LHCb และ CMS
	
1. 	สถานีตรวจวัด ALICE ย่อมาจาก A Large Ion
Collider Experiment ศึกษาสมบัติของพลาสมาของควาร์ก
และกลูออนซึ่งเกิดจากการชนกันของนิวเคลียสของตะกั่ว
	
2. 	สถานีตรวจวัด ATLAS ย่อมาจาก A Toroidal
LHC ApparatuS ตรวจสอบความแม่นยำ�ของทฤษฎีแบบ
จำ�ลองมาตรฐาน อนุภาคฮิกส์ (Higgs Boson) ทฤษฎีสมมาตร
ยวดยิง (SupersymmetryTheory) ทฤษฎีเอกภพทีมมากกว่า
่
่ี
4 มิติ (Extra-diamensions Theory) โดยสามารถตรวจวัด
อนุภาคมูลฐานได้เกือบทุกชนิด (ยกเว้นนิวตริโน)
	
3. 	สถานีตรวจวัด LHCb ย่อมาจาก Large Hadron
Collider beauty ศึกษาความแตกต่างระหว่างสสารและ
ปฏิสสารที่เกิดขึ้นจากอนุภาคที่ประกอบด้วย บี-ควาร์ก
	
4. 	สถานีตรวจวัด CMS ย่อมาจาก Compact Muon
Solenoid มีจุดประสงค์ในการทำ�งานเช่นเดียวกัน กับสถานี
ตรวจวัด ATLAS แต่ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน
ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

บทความ

วารสาร สควค.

5

ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์
ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า
สุพัตรา ทองเนื้อห้า สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

	
สถาบั น เซิ ร์ น นอกจากจะมี ก ารทดลองวิ จั ย ระดั บ
โลกแล้ว ยังมีพันธกิจหลักในการพัฒนาครูด้วย ซึ่งสามารถ
สังเกตได้จากมีการจัดอบรมครูเกือบตลอดทั้งปี แต่เนื่องจาก
โครงการอบรมครูส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้กับครูในประเทศ
สมาชิกเท่านัน จึงมีโอกาสน้อยทีประเทศทีไม่ใช่สมาชิกจะได้รบ
้
่
่
ั
โอกาสในการเข้ารับการอบรม โครงการนีจงเป็นโครงการเดียว
้ึ
ในขณะนีทเี่ ปิดโอกาสให้ครูฟสกส์ระดับมัธยมศึกษาจากทัวโลก
้
ิิ
่
เข้าร่วมโครงการ
	
โครงการครูฟิสิกส์ภาคฤดูร้อนเซิร์น (CERN Physics
High School Teachers Programme) เป็นโครงการทีสถาบัน
่
เซิร์นจัดขึ้นทุกปี โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการสอนฟิสิกส์
โดยเฉพาะฟิสิกส์อนุภาค ในระดับมัธยมศึกษา สนับสนุน
การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างครูในระดับ
นานาชาติ เปิดโลกทัศน์ของครูผู้สอนวิชาฟิสิกส์ไปสู่งานวิจัย
ระดับโลกในการเข้าร่วมโครงการครูฟสกส์ภาคฤดูรอน ประจำ�
ิิ
้
ปี พ.ศ. 2553 (CERN Physics High School Teachers
Programme 2010) มีครูฟิสิกส์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เข้าร่วมโครงการ 22 ประเทศ จำ�นวน 40 คน
	
กิจกรรมทีเ่ ข้าร่วมระหว่างวันที่ 4-23 กรกฎาคม 2553
จึงมีทั้งการฟังบรรยาย การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการและศูนย์
ควบคุมระบบ วิเคราะห์ขอมูล การฝึกปฏิบตการทดลอง การทำ�
้
ัิ
กิจกรรมกลุม การนำ�เสนอข้อมูล/ผลการทำ�กิจกรรมกลุม และ
่
่
กิจกรรมอื่นๆ มากมาย โดยสำ�หรับการฝึกปฏิบัติการทดลอง
และทำ�กิจกรรมกลุ่ม มีดังนี้
	
1.	 Build a Cloud Chamber การสร้าง Cloud
Chamber ซึ่งเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ใช้ตรวจวัดอนุภาคที่เกิดจาก
รังสีคอสมิก(อนุภาคที่มีประจุ) โดยมีวัสดุอุปกรณ์คือ กล่อง
พลาสติกใส กล่องไม้ แผ่นอะลูมิเนียม ตาข่าย แผ่นโลหะสีดำ�
Isopropyl แอลกอฮอล์ นํ้าแข็งแห้ง โฟมบาง ไฟฉาย แว่นตา
ถุงมือ เชือก/ลวด ขั้นตอนการสร้างมีดังนี้
		 1) 	นำ�กล่องพลาสติก เจาะรูที่ก้นประมาณ 6 รู
แล้วนำ�โฟมบางมาผูกไว้
		 2) 	นำ�กล่องไม้รองด้วยแผ่นอะลูมเิ นียมและตาข่าย
แล้วนำ�นํ้าแข็งแห้งบรรจุให้เต็มกล่องไม้
	
	 3) 	นำ�แผ่นโลหะสีดำ�วางบนนํ้าแข็งแห้ง
		 4) 	ฉีด พ่น Isopropyl แอลกอฮอล ให้ชมโฟมบาง
์ ุ่
จากนั้นนำ�กล่องพลาสติกใสมาครอบด้านบนแผ่นโลหะสีดำ�
		 5) 	ปิ ด ไฟในห้ อ งให้ มื ด จากนั้ น ใช้ ไ ฟฉายส่ อ ง
บริเวณฐาน สังเกตการเปลี่ยนแปลง

		 เพื่ อ ความปลอดภั ย ขณะทำ � การทดลองต้ อ งใส่
แว่นตาและถุงมือขณะจับนําแข็งแห้ง ระหว่างรอผลการทดลอง
้
ผู้บรรยายได้อธิบายเกี่ยวกับประวัติการสร้างเครื่องตรวจวัด
จากนั้นเมื่อผู้เข้าร่วมโครงการสังเกตผลการทดลองได้ทุกกลุ่ม
แล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการและผู้บรรยายจึงร่วมวิเคราะห์ผลการ
ทดลองที่เกิดขึ้น
	
2. 	Introducing the Teachers Lab
		 การแนะนำ�การทดลองในห้อง Teachers Lab
โดยเจ้าหน้าที่ประจำ�ห้อง มีการทดลองทั้งสิ้น 4 การทดลอง
คือ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก (photoelectric effect)
การเบนของลำ�อิเล็กตรอน (finebeam tube) อนุภาคสปิน
และการแทรกสอดของแสงผ่านกระจกและเลนส์ (Michelson
Interferometer) ซึ่งสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหา
เกี่ยวกับฟิสิกส์ยุคใหม่ (Modern Physics) ได้ดียิ่งขึ้น
	
3. 	Working Groups กิจกรรม Working Groups
เป็นกิจกรรมทีให้ผเู้ ข้าร่วมโครงการเลือกกลุมทำ�งานตามความ
่
่
สนใจ (working Groups) โดยมีทั้งหมด 6 กลุ่ม ดังนี้
		 1) 	Teachers Lab
		 2) 	Teaching Module
		 3) 	Master classes
		 4) 	The International Bacculaureate Diploma
		 5)	 Pre-Visit Pack
		 6) 	How do you know?
		 ผู้เข้าร่วมโครงการจะเลือกกลุ่มที่ตนเองสนใจ 2
อันดับ จากนั้นทีมผู้จัดโครงการจะเลือกกลุ่มจากความสนใจ
ในอันดับแรกของแต่ละคน เมือกลุมใดมีจ�นวนสมาชิกมากกว่า
่ ่
ำ
ที่กำ�หนดไว้ ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการพิจารณา
ตัดสินใจยืนยันอีกครั้งว่าตนเองจะเลือกกลุ่มใด

ครูและนักศึกษาไทยที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการภาคฤดูร้อนของเซิร์น
(จากซ้ายไปขวา) นางสาวพิมพร ผาพรม, นายฐาปกรณ์ ภู่ลำ�พงษ์
นางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา และนายอภิมุข วัชรางกูร
6

วารสาร สควค.	

	
สำ�หรับข้าพเจ้าได้เลือกกลุ่ม Teachers Lab โดย
สมาชิกในกลุ่มของข้าพเจ้ามีทั้งสิ้น 10 คน ในครั้งแรกสมาชิก
ในกลุ่ ม ทุ ก คนต้ อ งเข้ า ฝึ ก ปฏิ บั ติ ก ารทดลองภายในห้ อ ง
Teachers Lab อีกครั้ง (หลังจากที่เข้าฝึกปฏิบัติรวมกับ
ผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นๆ แล้ว) ในวันต่อมาก็ได้รับการฝึก
ปฏิบัติการทดลองศึกษาอุปกรณ์การทดลอง เครื่องมือวัดและ
โปรแกรม Cobra4 ของบริษัท PHYWE แล้วจึงประชุมกลุ่ม
แบ่งสมาชิกเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามความสนใจ กลุ่มละ 3-4 คน
แล้วจึงเข้าเยี่ยมชม Microcosm เพื่อร่วมกันวางแผนการจัด
Workshop ให้กับผู้เยี่ยมชม
	
ข้าพเจ้าได้เลือกกลุ่มย่อยเป็นการพัฒนาการสร้าง
Cloud chamber โดยมุงหวังทีจะใช้วสดุทหาได้งายในโรงเรียน
่
่
ั ี่
่
วัสดุทกลุมใช้เป็น ถ้วยอะลูมเิ นียมทาสีด�ด้วยนํายาทาเล็บทิงไว้
ี่ ่
ำ
้
้
ให้แห้ง แก้วพลาสติกใส โฟมบางเป็นวัสดุที่ใช้ทำ�ความสะอาด
โต๊ะ ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่เหลือจากงาน
International Evening ทั้งสิ้น เรายังคงต้องใช้ Isopropyl
แอลกอฮอล์ และนํ้าแข็งแห้ง ทำ�การทดลองเช่นเดียวกับการ
สร้าง Cloud chamber ปกติ จากนั้นสังเกตการเปลี่ยนแปลง
ผลการทดลองทีได้เป็นทีนาพอใจ เราสามารถเห็นร่องรอยของ
่
่ ่
รังสีคอสมิกซึ่งมีอนุภาคที่มีประจุที่เราไม่สามารถมองเห็นได้
อย่างชัดเจน อีกทั้งยังใช้เวลาน้อยกว่าการทดลองปกติที่เคย
ทดลองมา
	
จากนั้นผู้เข้าร่วมโครงการต้องช่วยกันนำ�เสนองาน
ที่แต่ละกลุ่มทำ� เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันสุดท้าย
ของโครงการ มีจำ�นวน 4 กลุ่มๆ ละ 30 นาที โดยมีทีมผู้จัด
โครงการและผู้บริหารของสถาบันเซิร์นเข้าร่วมรับฟังด้วย
	
4.	 Dark Matter & Quantum workshop การฝึก
ปฏิบตเิ ริมจาก hands-on ทีให้นกเรียนรูจกกับคำ�ว่า “อนุภาค”
ั ่
่ ั
้ั
โดยใช้ ท รายสี เ ป็ น สื่ อ การสอน จากนั้ น ใช้ แ ผ่ น ใสสองแผ่ น
ซึ่งเขียนลวดลายของคลื่นไว้ สังเกตการแทรกสอดของคลื่น
สองขบวน แล้วให้นกคำ�ทีเ่ กียวกับ “คลืน” เปรียบเทียบให้เห็น
ึ
่
่
ความแตกต่ า งระหว่ า งคลื่ น และอนุ ภ าคโดยเน้ น คำ � ที่ ใช้
เพื่อให้นักเรียนแยกแยะได้และไม่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
จากนั้นจึงสังเกตการแทรกสอดของแสงโดยเป็นกิจกรรมที่นำ�
เข้าสู่เรื่องทวิภาพของคลื่นและอนุภาคซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ
ฟิสิกส์ยุคใหม่ (Modern Physics)

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

	
จากนั้นดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับ Quantum แล้วทำ �การ
ทดลองการเคลื่อนที่วงกลม เพื่อนำ�เข้าสู่เรื่องเครื่องเร่งอนุภาค
แล้วเชื่อมโยงความรู้ดังกล่าวกับเอกภพ จากนั้นเป็นกิจกรรม
การคำ � นวณหาตำ � แหน่ ง โดยใช้ ร ะบบ GPS คำ � นวณง่ า ยๆ
ซึ่งนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ

	
ข้าพเจ้าได้รบความรูเ้ กียวกับฟิสกส์อนุภาค เทคโนโลยี
ั
่
ิ
ที่ทันสมัย แนวการจัดการเรียนการสอนฟิสิกส์อนุภาค อีก
ทั้ ง ยั ง ได้ แ ลกเปลี่ ย นความรู้ แ ละประสบการณ์ กั บ เพื่ อ นครู
นานาชาติ ซึงเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือกันในการ
่
พัฒนา การเรียนการสอนฟิสกส์ในอนาคต การเยียมชมสถานี
ิ
่
วิจัยระดับโลกและการพบปะกับนักฟิสิกส์ภายในสถาบันเซิร์น
ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในการทำ�งานเพื่อพัฒนาประเทศชาติ
ต่อไป และแรงกระตุนให้ขาพเจ้าต้องเรียนรูตลอดเวลา เนืองจาก
้ ้
้
่
ความรู้ต่างๆ ในโลกนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง ครูไม่สามารถสอนเนื้อหา
เฉพาะจากในหนังสือเรียน หากแต่จะต้องสืบค้นความรูอยูตลอด
้ ่
เวลา ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนช่วยพัฒนาทักษะ
การสื่อสารและความกล้าแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ และ
ทำ�ให้ข้าพเจ้าได้เพื่อนใหม่มากมาย ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงติดต่อ
เพื่อนครูนานาชาติผ่านทางอีเมล์และทางเว็บไซต์อยู่เสมอ
	
นอกจากนี้ ยังทำ�ให้ทราบถึงแนวทางในการจัดการ
ศึกษาของแต่ละประเทศ ซึ่งบางนโยบายเป็นประโยชน์และ
ควรนำ�มาปรับปรุงใช้กับระบบการศึกษาในประเทศของเรา
เช่น การมอบหมายให้ครูต้องพัฒนาตนเองในช่วงปิดเทอม
โดยกำ�หนดชั่วโมงอย่างตํ่าที่ต้องเข้ารับการพัฒนาและให้ทุน
สนับสนุน เป็นต้น ซึงจะทำ�ให้ครูกระตือรือร้นในการพัฒนางาน
่
ของตนเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา
	
ปัจจุบันต่างประเทศกำ�ลังพยายามจัดความรู้เกี่ยวกับ
ฟิสิกส์อนุภาค ลงในหลักสูตรการศึกษา ซึ่งในอนาคตประเทศ
ของเราก็ควรต้องทำ�เช่นกัน จึงควรเตรียมกำ�ลังคน (ครูผู้สอน)
ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิสิกส์อนุภาคอย่างเร่งด่วน
หากประเทศของเราสามารถส่งครูฟสกส์หรือนักศึกษาเข้าร่วม
ิิ
กิจกรรมในทุกๆ ปี ประเทศอื่นๆ ก็จะเล็งเห็นศักยภาพของ
คนไทยและประเทศไทย ซึ่งมีคุณภาพไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้
เช่นกัน
ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

แผนการดำ�เนินการหลังจากเข้าร่วมโครงการ

	
ข้าพเจ้าจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับเพื่อนครูและ
นักเรียนในโรงเรียน ผ่านทางสื่อต่างๆ รวมถึงถ่ายทอดความรู้
และประสบการณ์ ที่ ข้ า พเจ้ า ได้ รั บ ให้ แ ก่ เ พื่ อ นครู ท่ า นอื่ น ๆ
เพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาการเรียนการสอนฟิสิกส์ระดับ
มัธยมศึกษาให้เกิดขึ้นและการพัฒนาเยาวชนของชาติต่อไป
ข้าพเจ้าจึงวางแผนจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฟิสิกส์อนุภาค
ในโรงเรี ย น โดยกำ � หนดให้ โรงเรี ย นที่ ป ระสงค์ จ ะเข้ า ร่ ว ม
โครงการส่งนักเรียนระดับ ม.ปลาย โรงเรียนละ 2 คน พร้อม
ครูฟสกส์ 1 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยครอบคลุมเนือหาเกียวกับ
ิิ
้
่
ฟิสกส์อนุภาค การฝึกปฏิบตการทดลองสร้าง Cloud Chamber
ิ
ัิ
และแนะนำ�ให้รู้จักกับสถาบันวิจัยเซิร์นซึ่งมีเครื่องเร่งอนุภาค
LHC อุปกรณ์วจยระดับโลก และสถาบันวิจยแสงซินโครตรอน
ิั
ั
ซึ่งมีเครื่องเร่งอนุภาคระดับชาติ โดยวางแผนจะดำ�เนินการ
ดังกล่าวในภาคเรียนที่ 2/2553 นี้

คำ�แนะนำ�สำ�หรับผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นต่อไป

	
1. 	การคัดเลือกครูฟสกส์รนต่อไปควรให้ความสำ�คัญ
ิ ิ ุ่
กับผู้ที่สอนในระดับชั้น ม.6 หรือสอนฟิสิกส์อะตอม เพื่อการ
เชือมโยงความรูและโอกาสในการถ่ายทอดความรูให้กบนักเรียน
่
้
้ ั
	
2. 	เนื้ อ หาความรู้ พื้ น ฐานที่ จำ � เป็ น ต่ อ การเข้ า ร่ ว ม
โครงการ ได้แก่ กลศาสตร์ ฟิสิกส์อะตอม ฟิสิกส์ยุคใหม่ ไฟฟ้า
แม่เหล็ก และผู้เข้าร่วมโครงการควรตั้งใจศึกษาความรู้ในช่วง
การเตรียมความพร้อมที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เพราะ
สามารถช่วยในการทำ�ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
	
3.	 ระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการเป็นช่วงเปิด
ภาคเรียนที่ 1 จึงควรเตรียมการสอนนักเรียนโดยสอนล่วงหน้า
หรือมอบหมายงานให้นกเรียนในช่วงระยะเวลาทีครูไม่อยู่
ั
่
	
4. 	การเตรี ย มเอกสารต่ า งๆ โดยเฉพาะการขอ
อนุญาตเดินทางไปต่างประเทศและการรายงานตัวกลับจาก
ต่างประเทศ ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพราะต้องทำ�หนังสือ
ขออนุญาตไปยัง สพท. และ สพฐ. แล้วรอคำ�สั่งอนุญาต
ให้ข้าราชการไปต่างประเทศ ส่วนการรายงานตัวกลับจาก
ต่างประเทศ ให้กรอกแบบรายงานตัวกลับจากต่างประเทศ
พร้อมแนบรายงานการศึกษาดูงาน เกียรติบัตร สำ�เนาบัญชี
ลงเวลาปฏิบัติราชการวันแรก ส่งไปยังต้นสังกัด

วารสาร สควค.

7

	
5.	 การทำ�วีซ่า ควรเตรียมเอกสารให้พร้อมตามที่
สถานฑูตกำ�หนด โดยเฉพาะเอกสารรับรองจากโรงเรียนเป็น
ภาษาอังกฤษ เอกสารเชิญจากสถาบันเซิร์น
	
6. การติดต่อประสานงานกับสถาบันเซิร์น ส่วนใหญ่
เป็นการติดต่อประสานงานทางอีเมล์ จึงควรให้อีเมล์ที่ติดต่อ
ได้และควรตรวจสอบข้อความบ่อยๆ
	
7. การเข้าออกภายในสถาบันเซิร์น ซึ่งมีระบบรักษา
ความปลอดภั ย ที่ เข้ ม งวด หากไม่ ใช่ ผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ เซิ ร์ น
ก็ไม่สามารถเข้าออกได้เด็ดขาด ดังนั้น ในครั้งแรกให้ผู้เข้าร่วม
โครงการยื่ น เอกสารเชิ ญ เข้ า ร่ ว มกิ จ กรรมให้ กั บ เจ้ า หน้ า ที่
เขาจะมอบกุญแจห้องและเอกสารต่างๆ ให้กับเรา รวมทั้ง ID
Cards ชัวคราว การเดินทางเข้าออกทุกครัง ผูเข้าร่วมโครงการ
่
้ ้
ควรนำ�พาสปอร์ตและ ID Cards ติดตัวตลอดเวลา
	
8. 	สถานที่พักตั้งอยู่ภายในสถาบันเซิร์น ภายในห้อง
สะดวกสบายและมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ห้องครัวและห้อง
ซักรีดอยู่ชั้นล่าง ผู้เข้าร่วมโครงการอาจนำ�จาน ช้อน หม้อ
กระทะ ไปทำ�อาหารเองได้ โดยสามารถซื้อของสดหรือซื้อของ
มาอุนด้วยเตาไมโครเวฟได้ มีนาดืม (นําเปล่า) ทังเย็น และร้อน
่
ํ้ ่ ้
้
ฟรีในบริเวณที่พักและบริเวณอาคารทั่วๆ ไปภายในเซิร์น
	
9. 	การแต่งกาย เนืองจากเป็นช่วงฤดูรอน ครูสามารถ
่
้
แต่งตัวตามสบายได้ ควรเตรียมหมวก และควรนำ�รองเท้าผ้าใบ
ไปด้วย เนื่องจากในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ภายในเซิร์น
ต้องสวมรองเท้าหุ้มส้นเพื่อความปลอดภัย และในการเข้าร่วม
กิจกรรมต้องเดินเป็นระยะทางไกลทุกวัน
	
10.	ครูฟิสิกส์ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสถาบันเซิร์น
ควรเตรียมเงินสำ�รองไว้ใช้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยในแต่ละวัน
จะใช้เงินไม่เกิน 50 ฟรังสวิส (ประมาณ 1,500 บาท ขึ้นกับ
อัตราการแลกเปลี่ยนเงินในขณะนั้น) โดยเอกสารรับเงินใช้
เฉพาะพาสปอร์ต รับเงินที่ไปรษณีย์ภายในเซิร์น 	
	
11.	การสือสารภาษาอังกฤษควรเน้นเกียวกับการบอก
่
่
ตำ�แหน่งและทิศทางสำ�คัญมาก นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว
ควรศึกษาภาษาฝรั่งเศสบ้างจะเป็นประโยชน์มาก
	
12.	เว็บไซต์ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมโครงการคือ
http://teachers.cern.ch/ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเอกสาร
ได้ ฟ รี ห รื อ ลิ ง ค์ ไ ปยั ง เว็ บ ไซต์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งเพื่ อ สื บ ค้ น ข้ อ มู ล
ต่างๆ ได้
8

วารสาร สควค.	

บทความ

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์
ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูพิมพร ผาพรม
พิมพร  ผาพรม สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ท่าคันโทวิทยาคาร จ.กาฬสินธุ์

	
กิจกรรมครูฟิสิกส์ภาคฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 4-23
กรกฎาคม 2553 แบ่งเป็น 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การฟัง
บรรยายเนื้อหาฟิสิกส์ การเข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในสถาบัน
เซิร์น การปฏิบัติการทดลอง การนำ�เสนอข้อมูลและผลการ
ทำ � กิ จ กรรมกลุ่ ม และกิ จ กรรมอื่ น ๆ มากมาย โดยสำ � หรั บ
การฝึกปฏิบัติการทดลองและทำ�กิจกรรมกลุ่ม มีดังนี้
	
1. 	Build a Cloud Chamber ฝึกสร้างเครือง cloud
่
chamber
	
2. 	Introducing the Teachers Lab ศึกษาการ
ทดลอง และวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลอง
	
3. 	working Groups แยกกลุ่มย่อยศึกษาตามหัวข้อ
ที่สนใจ ซึ่งมีจำ�นวน 6 กลุ่ม ดังนี้
		 1) 	Teachers Lab การทดลองด้านฟิสกส์อนุภาค
ิ
เพือนำ�ไปใช้ในชันเรียน มีทปรึกษาและผูสนับสนุนด้านอุปกรณ์
่
้
ี่
้
การทดลอง คือ บริษัท Phywe
		 2) 	Teaching Module คือ การจัดทำ�เนือหา และ
้
สื่อการสอนด้านฟิสิกส์อนุภาค
		 3) 	Master classes คือ สร้างเนือหาและหลักสูตร
้
การสอน
		 4) 	The International Baccalaureate
Diploma (IB) การสร้างเนื้อหา แบบฝึก กิจกรรมการเรียน
การสอนฟิสิกส์สำ�หรับนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติ
		 5) 	Pre-Visit Pack การจัดทำ�โปรแกรมสำ�หรับ
การศึกษาดูงาน สาหรับผู้ต้องการเยี่ยมชมเซิร์น ในช่วงเวลา
สั้นๆ
		 6) 	How do you know? การค้นหาวิธีการ หรือ
แหล่งข้อมูลอธิบายความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับฟิสิกส์อนุภาค
	
โดยข้าพเจ้าเลือกกลุ่ม IB เพื่อเรียนรู้การจัดหลักสูตร
เนื้อหา รวมถึงแบบฝึกหัดสำ�หรับการจัดการเรียนการสอน
ฟิสิกส์ระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งได้มีการ
บรรจุเนื้อหาด้านฟิสิกส์อนุภาคในหลักสูตรแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็น
แนวทางในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนและอาจปรับใช้
กับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยต่อไป โดยมีการ
แบ่งหัวข้อสำ�หรับการดำ�เนินการ ดังนี้
	
1. 	ประชุมเพือทำ�ความเข้าใจลักษณะและจุดประสงค์
่
ของงาน

	

2. 	เลือกเนื้อหาและแบ่งหัวข้อย่อย	
	
3. 	ศึกษาค้นคว้า พัฒนาสื่อ แบบฝึกหัดที่รับผิดชอบ
	
4. 	รวบรวมเนื้อหาและสื่อเพื่อสรุปเป็นเนื้อหา
	
5. 	นำ�เสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ
	
6. 	เสนอเนื้อหาลงในเว็บไซต์ของเซิร์น
	
เนื่องจากประเด็นที่กลุ่ม IB จะดำ�เนินการนั้นมีอยู่
จำ�นวนมาก จึงไม่สามารถดำ�เนินการให้เสร็จได้ภายในช่วงเวลา
ที่อบรมอยู่ ดังนั้น จึงวางแผนการทำ�งานให้ถึงเพียงขั้นตอน
การกำ�หนดเนื้อหาและสร้างสื่ออย่างง่าย เพื่อนำ�เสนอให้
เพื่อนครูกลุ่มอื่นๆ เข้าใจและรับรู้เกี่ยวกับภาพรวมของกลุ่ม IB
ส่วนขั้นตอนการสร้างและจัดทำ�เนื้อหาโดยละเอียด ต้องรอ
ตรวจจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งต้องดำ�เนินการภายหลัง การสร้าง
เนื้ อ หาและแบบฝึ ก หั ด หรื อ กิ จ กรรมการเรี ย นการสอน
ให้สัมพันธ์กับหลักสูตรวิชาฟิสิกส์นั้น กลุ่ม IB เน้นที่ฟิสิกส์
อนุภาค สำ�หรับนักเรียนอายุระหว่าง 16-19 ปี จำ�นวน 2,183
โรงเรียนจาก 138 ประเทศ เนื่องจากฟิสิกส์อนุภาคเป็นเนื้อหา
ทางเลือกหนึ่งของวิชาฟิสิกส์ในระดับ higher level ดังนั้น
โปรแกรมครูฟสกส์ภาคฤดูรอนจึงได้สร้างเนือหาและจัดเอกสาร
ิิ
้
้
ต่างๆ เพื่ออำ�นวยความสะดวกและพัฒนาการเรียนการสอน
โดยได้ด�เนินการต่อเนืองมาประจำ�ทุกปี มีจดประสงค์หลัก คือ
ำ
่
ุ
	
1. 	สร้างแหล่งเรียนรู้ที่มีเนื้อหาถูกต้อง แม่นยำ� และ
เป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน ผ่านสื่อที่หลากหลาย เช่น เนื้อหา
ที่อยู่ในรูปแบบ Power point, แบบฝึกหัด, คู่มือการทดลอง
เป็นต้น
	
2. 	กระตุนและส่งเสริมให้ครูสอนเนือหาฟิสกส์อนุภาค
้
้
ิ
มากขึ้น
	
3. 	พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนฟิสิกส์
อนุภาคให้ดียิ่งขึ้น
	
ทังนีโครงสร้างของวิชาฟิสกส์ และเนือหาทีเ่ รียนทีเ่ ซิรน
้ ้
ิ
้
์
กำ�หนด ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 22 ชั่วโมง ผู้สนใจสามารถเลือก
ดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวได้ที่ http://teachers.cern.ch
และที่ www.krusmart.com
	
นอกจากนียงมีการนำ�เสนอระบบการศึกษาของแต่ละ
้ั
ประเทศโดยมีคำ�ถามเป็นตัวกำ�หนดเนื้อหา เช่น โรงเรียนของ
ผู้เข้าร่วมโครงการเป็นของรัฐบาลหรือเอกชน จำ�นวนนักเรียน
ในโรงเรียนและนักเรียนต่อห้อง จำ�นวนวิชาฟิสิกส์ต่อสัปดาห์
ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

สัดส่วนเนือหาวิชาฟิสกส์กบวิชาอืนๆ ในหลักสูตรของโรงเรียน
้
ิ ั
่
สัดส่วนเนื้อหาของฟิสิกส์อนุภาคต่อเนื้อหาวิชาฟิสิกส์ทั้งหมด
อุปกรณ์การทดลองเพียงพอหรือไม่ การสนับสนุนเด็กทีมความ
่ี
สามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลเป็นอย่างไร วุฒการ
ิ
ศึกษาของครูและคุณสมบัติอื่นๆ ในการเป็นครูวิทยาศาสตร์
และครูฟิสิกส์ การนำ�เสนอใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไม่เน้น
ความเป็นทางการมากนัก
	
4. 	กิจกรรมอื่นๆ เช่น
		 - 	Pool and Pizza เป็นกิจกรรมตอนเย็นหลังเลิก
จากการอบรม คือ การว่ายนํ้า (ไม่บังคับ) และร่วมทานพิซซ่า
ที่ร้านใกล้ๆ เซิร์น และชมบรรยากาศสภาพทั่วไปรอบๆ เซิร์น
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไร่ทานตะวัน งา ข้าว และข้าวโพด เป็นต้น
		 - 	Discover Geneva Treasure Hunt แบ่งกลุ่ม
(แบบสุ่ม) เพื่อท่องเที่ยวเจนีวาในวันหยุด เพื่อเป็นการแนะนำ�
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำ�คัญของเจนีวา และเสริมสร้างความ
สามัคคีของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีการแจกเอกสารให้แต่ละ
กลุ่มเดินตามหาคำ�ตอบ ตามเส้นทางที่กำ�หนดและจบด้วย
การทาน ฟองดู (Fon due) อาหารขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์
		 - 	International Evening การแสดงแลกเปลียน
่
วัฒนธรรมของชาติต่างๆ โดยครูที่เข้าร่วมโครงการจะเป็น
ผู้จัดสถานที่และการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนครูส่วนใหญ่
ทำ�อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติตนเองให้เพื่อนๆ ลองชิม
เช่น ช็อกโกแล็ตชาเขียวของญี่ปุ่น ชีสหลากชนิดของฝรั่งเศส
ขนมหวานจากมาซิโดเนีย บางชาติก็มีการแสดงหรือกิจกรรม
ให้ร่วมกันทำ� เช่น การหัดเต้นแบบสเปน ตุรกี เคนยา และการ
แสดงรำ�ไทยของประเทศไทยโดยนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อห้า
ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของครูทุกคน
		 - 	Jura picnic กิจกรรมปิคนิคที่ยอดเขาจูรา
ยอดเขาจูรา เป็นยอดเขาหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ อยู่บริเวณ
ไม่ไกลจากเซิร์นมากนัก โดยทุกคนต้องเดินจากจุดจอดรถ
ถึงยอดเขาและช่วยกันถือสิ่งของที่เป็นของส่วนรวมไปด้วย
เมื่อถึงยอดเขา ครูผู้หญิงจะเตรียมอาหาร จากนั้นร่วมกัน
ทานอาหาร ผลไม้ ที่เตรียมมา บนยอดเขาจูราสามารถมอง
เห็นทะเลสาบเจนีวาและวิวที่สวยงามด้านฝรั่งเศส อากาศเย็น
ลมแรง เป็ น กิ จ กรรมที่ ช่ ว ยเสริ ม สร้ า งความสามั ค คี ไ ด้ อี ก
รูปแบบหนึ่ง	

วารสาร สควค.

9

	
- Farewell BBQ กิ จ กรรมเลี้ ย งส่ ง ด้ ว ยบาบี คิ ว
ในคื น สุ ด ท้ า ยหลั ง ปิ ด โครงการ โดย Dr.rolf Landau
ผู้อำ�นวยการโครงการ HST 2010 ลงมือบริการปิ้งบาบีคิวด้วย
ตนเองและไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือ ทุกคนแสดงความขอบคุณ
ทีมงานที่ให้ความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
เมือถึงเวลาเลิกงาน ทุกคนกล่าวลาด้วยคำ�ว่า “แล้วพบกันอีก”
่

ประโยชน์ที่ได้รับ

	
1.	 ได้รบความรูเพิมเติม ในเนือหาด้านฟิสกส์อนุภาค
ั
้ ่
้
ิ
	
2. 	ทราบแนวทาง และมีประสบการณ์ ในการทดลอง
และการสร้างสื่อการสอนฟิสิกส์
	
3. 	รู้และเข้าใจ จุดประสงค์ เป้าหมาย และบทบาท
ของเซิร์นมากยิ่งขึ้น
	
4.	 ได้ แ ลกเปลี่ ย นเรี ย นรู้ ก ารเรี ย นการสอนฟิ สิ ก ส์
กับครูฟิสิกส์ในประเทศต่างๆ เพื่อนำ�มาปรับปรุงการเรียน
การสอนในชั้นเรียนของตน
	
5. 	มี เ ครื อ ข่ า ยครู ฟิ สิ ก ส์ เ พื่ อ แลกเปลี่ ย นกิ จ กรรม
การสอนและสื่อการเรียนการสอนในโอกาสต่อไป

แผนการดำ�เนินการหลังจากเข้าร่วมโครงการ

	
1. 	จั ด อบรมความรู้ แ ละขยายผลแก่ ค รู นั ก เรี ย น
นั ก ศึ ก ษา ที่ ส นใจเกี่ ย วกั บ การสร้ า งสื่ อ การเรี ย นการสอน
ด้านฟิสิกส์อนุภาค สำ�หรับครูในภูมิภาคหรือในงานประชุม
วิชาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในโรงเรียน เป็นต้น
	
2. 	สร้างสื่อการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ในชั้นเรียน
ให้น่าสนใจ ใช้แหล่งข้อมูลที่มีอยู่เผยแพร่ความรู้ด้านฟิสิกส์
อนุภาค ผ่านทางเว็บไซต์
	
3. 	ติดต่อ ประสานงานกับเครือข่ายครูในกลุ่ม IB
Group จัดทำ�เนื้อหาในช่วงต่อไป
	
ข้าพเจ้าและนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา ล้วนสานึก
ในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ อันหาที่สุดมิได้ในสมเด็จ
พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุ ม ารี ที่ ไ ด้ ท รง
พระราชทานโอกาสในการเป็นตัวแทนครูฟสกส์ไทยให้เข้าร่วม
ิิ
โครงการครูฟิสิกส์ฤดูร้อนเซิร์น ประจำ�ปี 2553 และ ขอกราบ
ขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คัดเลือกและมอบ
โอกาสที่สำ�คัญยิ่ง แก่ข้าพเจ้าและนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา
ซึ่งเป็นครู สควค. ในการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้
10 วารสาร สควค.	

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

นวัตกรรมการเรียนรู้

การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ห้องเรียนสายน้ำ�

  จารุวรรณ เตชะสุทธิรัฐ สควค. รุ่น 5 ครู คศ.1 ร.ร.วัดดอนหวาย (นครรัฐประสาท) จ.นครปฐม

1. ที่มาและความสำ�คัญ

	
โรงเรียนวัดดอนหวาย(นครรัฐประสาท) จ.นครปฐม
ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รวมกลุ่ม
นักเรียนที่มีความสนใจร่วมกันจัดตั้งเป็นชุมนุมวิทยาศาสตร์
และชุมนุมนักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน
ได้เรียนรู้และเพิ่มทักษะทางวิทยาศาสตร์ และจัดกิจกรรม
ทีใช้ความรูทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นประโยชน์รวมกัน ประกอบ
่
้
่
กับโรงเรียนวัดดอนหวายของพวกเรา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่นํ้าท่าจีน
ดังนั้น สมาชิกชุมนุมวิทยาศาสตร์ และชุมนุมนักสิ่งแวดล้อม
รุ่นเยาว์ได้ร่วมกันสำ�รวจ ศึกษา วิเคราะห์ ตลอดจนศึกษา
ปัญหาและอุปสรรคที่ก่อเกิดกับแม่นํ้าท่าจีน และได้มีการ
กำ�หนดวิธีการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อหาแนวทางในการ
พัฒนากลุ่มนักเรียนและเครือข่ายที่สนใจให้มีศักยภาพสูงขึ้น
ใช้เวลาในการพัฒนา 3 ปี (ปีการศึกษา 2551-2553)

2. รูปแบบกิจกรรม

	
คณะผู้ดำ�เนินการได้แก่ สมาชิกชุมนุมวิทยาศาสตร์
ชุมนุมนักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ และคณะครูที่ปรึกษาได้ร่วมกัน
ออกแบบการเรียนรู้กิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า รวมทั้งสิ้น 16 กิจกรรม ดังนี้
	
1) 	กิจกรรมเส้นเวลา ประวัติและความสำ�คัญของ
แม่นํ้าท่าจีน
	
2)	 กิจกรรมเส้นทางคุณขยะ ศิลปะจากเศษกระดาษ
	
3) 	กิจกรรมตะกอนซ่อนหา และค่าการนำ�ไฟฟ้าของนํา
้
	
4) 	กิจกรรมการสำ�รวจสัตว์นาในระบบนิเวศแม่นาท่าจีน
ํ้
ํ้
	
5) 	กิจกรรมการสำ�รวจพืชนําในระบบนิเวศแม่นาท่าจีน
้
้ํ
	
6) 	กิจกรรมนํ้ามือใคร นํ้าสะอาดได้อย่างไร
	
7)	 กิจกรรมร้อนๆ เย็นๆ	 การสำ�รวจอุณหภูมินํ้าใน
แหล่งนํ้า
	
8) 	กิจกรรมสารพัดพิษ (ฟอสเฟต)
	
9) 	กิจกรรมธรรมชาติสอน การอนุรักษ์และพัฒนา
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
	
10)		 กิจกรรม pH สภาพทางเคมีของแหล่งนํ้า
	
11) 	กิจกรรมเพิ่มลมหายใจให้ กุ้งปลา D.O.

	
12)		 กิจกรรมหวนคืนท่าจีน เช่น เขียนเรียงความ
คำ�ขวัญ
	
13)		 กิจกรรมโครงการ “เรือสื่อรักท่าจีน”
	
14) 	กิ จ กรรมพั ฒ นาแหล่ ง การเรี ย นรู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง
กับสุขภาพชุมชน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น
วันสำ�คัญทางพระพุทธศาสนา และการเรียนรู้จากโครงงาน
	
15) 	กิจกรรมศูนย์ท่าจีนศึกษา
	
16) 	กิจกรรมลำ�นํ้า โดยเป็นการเฝ้าระวังคุณภาพนํ้า
ด้วยวิธการตรวจสอบคุณภาพนําด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ
ี
้
อย่างต่อเนือง ตลอดจนการเรียนรูเ้ พือการอยูรวมกับธรรมชาติ
่
่
่่
อย่างยั่งยืน

3. ผลของการพัฒนา

	
1) 	ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีนของ
นักเรียน โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X ) มีการพัฒนาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
	
2)	 ผลการประเมิ น ความพึ ง พอใจในการเข้ า ร่ ว ม
กิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรูวทยาศาสตร์ ห้องเรียน
้ิ
สายนํ้า จากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน ของผู้ร่วมกิจกรรม
โดยภาพรวมอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ
	
3)	 การพัฒนางานเชิงคุณภาพในการจัดการเรียนรู้
การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า
ส่งผลให้ผู้ร่วมกิจกรรม ผ่านการเรียนรู้ ตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ ดังนี้
		 3.1) 	ผู้ร่วมกิจกรรม สามารถเลือกเรียนตามความ
ถนัดและความสนใจได้อย่างหลากหลายโดยผ่านการเรียนรู้
จากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน
		 3.2) 	ผู้ร่วมกิจกรรม มีความสามารถสร้างองค์
ความรู้ได้ด้วยตนเองโดยใช้แหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน
		 3.3) 	ผู้ร่วมกิจกรรม มีผลงานดีเด่นที่เกิดจากการ
พัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า
อย่างต่อเนื่อง
		 3.4) 	ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ทั ก ษะกระบวนการ
ทางวิ ท ยาศาสตร์ เป็ น ผู้ นำ � ด้ า นวิ ช าการท้ อ งถิ่ น สามารถ
นำ�เสนอปัญหาที่เกิดจากแหล่งการเรียนรู้ท้องถิ่นและวิธีการ
แก้ไขปัญหาร่วมกับชุมชนและเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง
ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

		 3.5)	ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามสามารถเชื่ อ มโยง
เนื้อหาทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำ�สู่การแก้ปัญหาของท้องถิ่น
โดยผ่านกระบวนการกลุมสนใจ เช่น ชุมนุมวิทยาศาสตร์ ชุมนุม
่
นักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ และวิทยากรนักสืบสายนํ้าแม่นํ้าท่าจีน
		 3.6) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามสามารถในการ
นำ�เสนอองค์ความรูทเี่ กิดจากการเรียนรูอย่างต่อเนืองสมําเสมอ
้
้
่ ่
และใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่นช่วยในการพัฒนา
คุณภาพชีวต และนำ�เสนอผลงาน เผยแพร่ผลงานสูสาธารณชน
ิ
่
ในสื่อสารมวลชน องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
		 3.7)	ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามรั บ ผิ ด ชอบ มี จิ ต
วิ ท ยาศาสตร์ โดยผ่ า นกระบวนการทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ
เทคโนโลยีในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมและมีการใช้
ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า
		 3.8) 	ผรวมกิจกรรม มีความสามารถในการจัดการ
ู้ ่
ความรู้ จัดกระบวนการเรียนรูดวยกิจกรรมการปฏิบตจริง เช่น
้้
ัิ
กิจกรรมเฝ้าระวังคุณภาพนํ้าแม่นํ้าท่าจีน กิจกรรมคลองสวย
นํ้าใส กิจกรรมสานเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
		 3.9) 	ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม สามารถประดิ ษ ฐ์ คิ ด ค้ น
สิ่งใหม่ (Innovation) พอใจในผลงาน และเป็นผู้สร้างสรรค์
(Creative) มีผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ และผลิตภัณฑ์
จากภูมปญญา ผลงานดีเด่นจากหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนือง
ิ ั
่

4. คุณค่าที่ได้รับจากโครงการ

	
1) 	คุณค่าต่อนักเรียน
		 1.1)	การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ห้องเรียนสายนํ้า กระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้
ลงมือปฏิบตเิ พือสืบเสาะหาความรูในสภาพแวดล้อมในท้องถิน
ั ่
้
่
ทั้งดิน นํ้า อากาศ และสิ่งมีชีวิตที่ตนเองสนใจ โดยเน้นการ
สำ�รวจ การสังเกต การตั้งคำ�ถามวิจัย การสืบค้นข้อมูล การ
ตรวจวัด การวิเคราะห์ การอภิปราย และสรุปผล เพื่อศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบหลักของโลก (ดิน นํ้า
อากาศ และสิ่งมีชีวิต) และการเปลี่ยนแปลง
		 1.2) 	การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ห้ อ งเรี ย นสายนํ้ า ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรมจะได้ พั ฒ นาองค์ ค วามรู้
กระบวนการคิ ด วิ เ คราะห์ แ ละการคิ ด เป็ น ระบบอย่ า งเป็ น
องค์รวม การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ ทักษะในการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ

วารสาร สควค. 11

	
ความสามารถในการสือสาร การทำ�งานร่วมกันเป็นทีม
่
การนำ�ความรูทได้รบไปประยุกต์ใช้ในชีวตประจำ�วัน ตลอดจน
้ ี่ ั
ิ
มีจิตวิทยาศาสตร์ เจตคติ คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม
	
2) 	คุณค่าต่อครูและโรงเรียน
		 ครู ผู้ ส อนและโรงเรี ย นเป็ น ปั จ จั ย สำ � คั ญ ในการ
สนั บสนุ นการเรี ย นรู้ ในทุ ก ๆ ด้ า นของผู้ ร่ วมกิ จ กรรม โดย
สามารถนำ�กิจกรรมการเรียนรู้จากกระบวนการการพัฒนา
เครือข่ายการเรียนรูวทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนําไปประยุกต์ใช้
้ิ
้
เป็นกิจกรรมการเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
ในโรงเรียนและในท้องถินได้หลายรูปแบบ เช่น จัดเป็นรายวิชา
่
เพิ่มเติม (รายปี) กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์
หรือนำ�เนื้อหาบางส่วนบูรณาการเข้าไปกับวิชาวิทยาศาสตร์
ซึงกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาขันพืนฐาน
่
้ ้
พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำ�หรับ
นักเรียนชั้น ป. 4-6 และ ม. 1-3
	
3) 	คุณค่าต่อชุมชนและองค์กรอื่นๆ
		 การเรียนรู้จากกระบวนการ การพัฒนาเครือข่าย
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้าส่งเสริมให้ชุมชน
และทุ ก หน่ ว ยงานทั้ ง ภาครั ฐ และเอกชนเข้ า มามี ส่ ว นร่ ว ม
ในการทำ�ความเข้าใจปัญหา และแก้ปญหาเกียวกับสิงแวดล้อม
ั
่
่
ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น รวมถึงรับผิดชอบในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง
ขององค์ ป ระกอบสำ � คั ญ ของโลก ที่ จ ะต้ อ งร่ ว มมื อ ป้ อ งกั น
อนุรกษ์ ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิงแวดล้อมในท้องถิน
ั
่
่
ของตนและของโลกให้คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Tel.034-393659
Fax. 034-288068 ผู้ประสานงานโครงการ ครูบุญมี อบเชย
Tel. 08-9789-1824 E-mail:sciencedonwai@gmail.com
12 วารสาร สควค.	

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ด้วยครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี
กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายครู สควค. ภาคใต้
        วิสุทธิ์ คงกัลป์ สควค. รุ่น 6 ครู คศ.1 ร.ร. นครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช

	
เมื่อวันที่ 19-21 พ.ค. 2553 ชมรมครู สควค. สาขา
ภาคใต้ ได้กำ�หนดจัดกิจกรรม “สัมมนาวิชาการและประชุม
ใหญ่สามัญประจำ�ปี 2553 ชมรมครู สควค. ภาคใต้ เรื่อง
การพัฒนาครู สควค. สูครูมออาชีพเพือการเรียนรูวทยาศาสตร์
่ ื
่
้ิ
คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี” ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ทักษิณ จังหวัดสงขลา
	
ครูจากโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถ
พิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) เป็นทีคาดหวัง
่
ของสังคมและประเทศชาติว่า จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน
ครู วิ ท ยาศาสตร์ แ ละคณิ ต ศาสตร์ ทั้ ง ปริ ม าณและคุ ณ ภาพ
และยกมาตรฐานการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้
สูงขึ้น ฉะนั้นการที่ครู สควค. จะปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความ
คาดหวังดังกล่าว ต้องได้รบการพัฒนาอย่างต่อเนือง และมีการ
ั
่
สร้างเครือข่ายการทำ�งานร่วมกันเพื่อเป็นผลักดันการศึกษา
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างชัดเจน ชมรมครู สควค.
ภาคใต้จงจัดสัมมนาวิชาการขึน โดยการสนับสนุนงบประมาณ
ึ
้
จาก สสวท. จำ�นวน 150,000 บาท มีครู สควค. เข้าร่วมกิจกรรม
จำ�นวน 130 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
	
1. 	ประชุมใหญ่สามัญ ประจำ�ปี 2553 ชมรมครู สควค.
ภาคใต้
	
2. 	เพื่อให้ผู้เข้าสัมมนาได้แลกเปลี่ยนความรู้ เพิ่มพูน
ประสบการณ์ในการทำ�งาน
	
3. 	เพื่อให้ผู้สัมมนาได้พัฒนาตนเอง สู่การเป็นครู
มืออาชีพ
	
4. 	เพือวางแนวทางในการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์
่
คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
	
ชมรมครู สควค. ภาคใต้ ได้กำ�หนดจัดกิจกรรม ดังนี้
	
19 พฤษภาคม 2553 มีกิจกรรม ดังนี้
	
- 	พิธเี ปิดและบรรยายพิเศษ “ความคาดหวังของสังคม
กับครู สควค.” โดย คณบดี คณะศึกษาศาสตร์ ม.ทักษิณ
	
- 	บรรยายเรื่อง การวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง
	
- 	ประชุมแนะนำ�คณะกรรมการชมรมฯ และสัมมนา
เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาชมรม ครู สควค. ภาคใต้	

	
20 พฤษภาคม 2553 :: มีกจกรรมการอบรมปฏิบตการ
ิ
ัิ
ตามหัวข้อ ดังนี้
	
- 	การเขียนรายงานโครงการและการปฏิบัติงานทาง
วิชาการในโรงเรียน
	
- 	การควบคุมชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพ
	
- 	การจั ด การเรี ย นรู้ แ บบวิ จั ย ในชั้ น เรี ย นที่ เ น้ น
กระบวนการคิด
	
- 	กิจกรรม “จิตสาธารณะสำ�หรับครู สควค.”
	
- 	กิจกรรม สร้างเครือข่ายครู สควค. ที่เข็มแข้ง
	
21 พฤษภาคม 2553 มีกิจกรรม ดังนี้
	
- 	แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำ�เสนอผลงานแยกตาม
สาขาวิชา
	
- 	ประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี 2553 และอภิปราย
แนวทางการจัดกิจกรรมของชมรมเพื่อพัฒนาการศึกษา
	
- 	ศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอน ณ โรงเรียน
มอ.วิทยานุสรณ์ อำ�เภอหาดใหญ่
	
จากการจั ด กิ จ กรรมพบว่ า ได้ รั บ การตอบรั บ จาก
ครู สควค. ภาคใต้ ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมจำ�นวน
มาก และทำ�ให้เรามีเว็บไซต์ของชมรมครู สควค. ภาคใต้ ผู้เข้า
ร่วมกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสนอแนะข้อคิดเห็น
ที่มีประโยชน์ ซึ่งประสบการณ์และความสำ�เร็จที่ได้รับ จะเป็น
พื้นฐานให้เราได้ออกแบบจัดกิจกรรมให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป
	
ชมรมครู สควค. ภาคใต้ จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้าง
เครือข่ายและส่งเสริมความสามัคคีระหว่างครู สควค.
ภาคใต้ ส่ ง เสริ ม มาตรฐานการดำ � เนิ น งานให้ เ ป็ น ไป
ในแนวทางเดียวกัน เป็นศูนย์รวมในการดำ�เนินงานและ
แก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการจัดการ
ศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แก่เยาวชนของชาติ
ร่วมมือกับรัฐบาล หน่วยงาน ผู้บริหารสถานศึกษา และ
สถาบั น ส่ ง เสริ ม การสอนวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี
ในอันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางการพัฒนาการจัดการ
ศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของชาติ และส่งเสริม
ความรู้และพัฒนาความก้าวหน้าแก่สมาชิก
ดูรายละเอียดที่ http://www.nara1.org/sorkorworkor
วารสาร สควค. 13

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

ตัวอย่างงานวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นการตีความ
:: ตัวแทนความคิดวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ความร้อน

ผลงานวิจัยครู สควค.

ศักดิ์อนันต์ อนันตสุข สควค. รุ่น 6 ครู คศ.1 ร.ร.นารายณ์คำ�ผงวิทยา จ.สุรินทร์

	
ตัวแทนความคิด (Representation) หมายถึง สิ่งที่
แสดงถึงความเข้าใจของแต่ละบุคคลทีอาจสือออกมาในรูปของ
่ ่
การบรรยาย การอธิบาย การวาดรูป การประดิษฐ์ การสร้าง
วัสดุอุปกรณ์ หรืออะไรก็ได้ที่แสดงถึงความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ
โดยการเป็นตัวแทนของความคิดทางวิทยาศาสตร์ จะพิจารณา
2 ประเด็น คือ ความเหมือนของจริง (Similarity) และความ
คล้ายของจริง (Isomorphism) จำ�แนกเป็น 4 กรณีต่อไปนี้
	
กรณีที่ 1 (Toy bridge representation) แบบจำ�ลอง
สะพาน ทีสร้างขึนเลียนแบบสะพานจริง ทังขนาด นําหนัก วัสดุ
่
้
้
้
ก่อสร้าง รูปทรงทางเรขาคณิตเหมือนกัน เพียงแต่มีขนาดเล็ก
กว่าของจริง เป็นตัวแทนความคิดที่เหมือนของจริง
	
กรณีที่ 2 (Graph of bridge) ภาพลายเส้นที่แสดง
โครงสร้ า งหรื อ เขี ย นบนกระดาษแทนรู ป ทรงเรขาคณิ ต
แบบแปลน แผนที่ เป็นตัวแทนความคิดที่คล้ายของจริง
	
กรณี ที่ 3 (Billiard ball model) แบบจำ � ลอง
ลูกบิลเลียด ที่ใช้ในการอธิบายระบบโมเลกุลของแก๊สมีความ
เหมื อ นในเชิ ง กายภาพ มี ก ารชนกั น แต่ ลู ก บิ ล เลี ย ดมี ก าร
เคลือนทีใน 2 มิติ ส่วนระบบโมเลกุลของแก๊สจะมีการเคลือนที่
่ ่
่
ใน 3 มิติ และอาศัยจินตนาการ จึงเป็นตัวแทนความคิดทีคล้าย
่
ของจริง
	
กรณีที่ 4 (Quantum state diffusion equation)
สมการคือ สิงทีใช้อธิบายปรากฏการณ์นนๆ ได้ แต่กไม่ทงหมด
่ ่
ั้
็ ั้
เช่น สมการ E=mc2 เป็นสมการทีอธิบายการเปลียนแปลงมวล
่
่
ไปเป็นพลังงาน สมการจึงเป็นตัวแทนความคิดที่ คล้ายของจริง
	
ผู้เขียนได้ทำ�วิจัยกับนักเรียนโรงเรียนนารายณ์คำ�ผง
วิทยา ชั้น ม.5/1 ภาคเรียนที่ 2/2552 โดยใช้แบบสอบถาม
ปลายเปิดเรื่อง ความร้อน จำ�นวน 7 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า
นักเรียนซึ่งยังไม่ได้เรียนเนื้อหาเรื่อง ความร้อน มีรูปแบบ
ตัวแทนความคิดเกี่ยวกับมโนมติ ต่างๆ ดังนี้
	
1.	 แหล่งกำ�เนิดความร้อน นักเรียนบางส่วนบอกได้วา
่
ความร้อนเกิดขึ้นจากการกระทำ�ของมนุษย์และเกิดขึ้นเอง
ตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่บอกสาเหตุของการเกิดความร้อน
ได้หลากหลาย เช่น ความร้อนเกิดจากดวงอาทิตย์ เกิดจาก
การเสียดสีของวัตถุ เกิดจากพลังงานในของเหลวร้อนใต้พิภพ
เป็นต้น

	
2.	 ผลของความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่บอกได้ว่า
ความร้อนทำ�ให้เกิดความอบอุนแก่รางกาย ช่วยในการเผาไหม้
่ ่
ช่วยในการหุงต้ม ช่วยในการตากเสื้อผ้า เป็นต้น นอกจากนี้
ยังมีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น
ทำ�ให้หงุดหงิด โกรธง่าย มีเหงื่อ ต้องอาบนํ้าบ่อย
	
3.	 การบอกระดับความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่บอกว่า
ทำ�ได้โดยการสัมผัส แต่มีบางส่วนบอกว่า สามารถทำ�ได้โดย
ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัด และมีนักเรียนบางคนสามารถบอกได้
ทั้ ง 2 วิ ธี คื อ การใช้ มื อ สั ม ผั ส และการใช้ เ ทอร์ โ มมิ เ ตอร์
ส่วนกรณีที่เป็นสารชนิดเดียวกัน มีปริมาตรต่างกัน และมี
อุณหภูมิเท่ากัน จะมีความร้อนเท่ากันหรือไม่ คำ �ตอบของ
นักเรียน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ มีความร้อนเท่ากัน เนื่องจากมี
อุณหภูมิเท่ากัน และอุณหภูมิไม่เท่ากัน เพราะมีปริมาตรของ
นํ้าต่างกัน
	
4.	 ความร้อนแฝง นักเรียนมีแนวคำ�ตอบจำ�แนกได้
2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่บอกว่า นํ้าแข็งที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส
ไม่มีความร้อน ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้มีแนวคิดที่ผิดไปจากแนว
ความคิ ด ของนั ก วิ ท ยาศาสตร์ แ ละกลุ่ ม ที่ บ อกว่ า นํ้ า แข็ ง
ที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส มีความร้อนแฝงอยู่ภายในระบบ
	
5. 	ความจุความร้อนจำ�เพาะของสาร นักเรียนส่วนใหญ่
มี ค วามคิ ด ว่ า ถ้ า นำ � เหล็ ก และนํ้ า ที่ มี ม วลเท่ า กั น ไปวาง
ตากแดดในเวลาเท่ากัน เหล็กจะมีอณหภูมสงกว่านํา เนืองจาก
ุ
ิู
้ ่
เหล็กนำ�ความร้อนได้ดีกว่านํ้า และเหล็กมีสถานะเป็นของแข็ง
มีนักเรียนบางส่วนบอกว่าทั้งเหล็กและความร้อนมีอุณหภูมิ
สูงขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าวัตถุใดจะมีอุณหภูมิมากกว่ากัน
	
6.	 การถ่ายเทความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่มีความ
เห็นว่า ความร้อนที่ได้รับในขณะที่ยกหม้อแกงที่เปิดฝาและ
กำ�ลังเดือดลงจากเตาไฟ คือ ความร้อนจากไอนํ้า ความร้อน
จากการสัมผัสหูหม้อ และความร้อนที่เกิดจากเตาไฟ นักเรียน
ส่วนใหญ่ตอบทั้งสามอย่าง แต่ไม่มีนักเรียนคนใดเลยที่ใช้ศัพท์
ทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การพาความร้อน การนำ�ความร้อนและ
การแผ่รังสีความร้อน ในการอธิบาย เนื่องจากยังไม่ได้เรียนรู้
อ้างอิง :: Peter Hubber. (2006). Year 12 Students’
Mental Models of the Nature of Light. Research in
Science Education 36: 419-439.
14 วารสาร สควค.	

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553

การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูน้อย
จังหวัดกาฬสินธุ์

ผลงานวิจัยครู สควค.

นิกร สีกวนชา สควค. รุ่น 8 ครู คศ.1 ร.ร.หนองโพธิ์ประชานุกูล จ.ขอนแก่น

	
ซากดึกดำ�บรรพ์ เป็นส่วนที่เหลือของสิ่งมีชีวิตที่ถูก
ธรรมชาติเก็บรักษาเอาไว้ อาจเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นเพียง
ร่องรอยของสิงมีชวตเหลือทิงไว้ขณะทียงมีชวตอยู่ ซึงส่วนใหญ่
่ ีิ
้
่ั ีิ
่
มักพบในหินตะกอน ซากดึกดำ�บรรพ์เหล่านี้จะถูกเก็บรักษา
(Preservation) ไว้ตามธรรมชาติ
	
การเกิ ด ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ปั จ จั ย สิ่ ง หนึ่ ง ที่ สำ � คั ญ คื อ
สภาพแวดล้อม ถ้าสภาพแวดล้อมในขณะนั้นมีความเหมาะสม
เกิดการทับถมลงในตัวกลางที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว จะเป็น
การเก็ บ รั ก ษาร่ า งของสิ่ ง มี ชี วิ ต นั้ น ไว้ ไ ด้ อ ย่ า งสมบู ร ณ์
โดยตะกอนที่ ม าปิ ด ทั บ จะเก็ บ รั ก ษาสภาพซากสิ่ ง มี ชี วิ ต
เหล่ า นั้ น ทั น ที ห รื อ อาจเกิ ด ในระยะเวลาหลั ง จากสิ่ ง มี ชี วิ ต
เหล่ า นั้ น ตายไปไม่ น านนั ก ซึ่ ง ต่ อ มาได้ ก ลายเป็ น หิ น โดย
กระบวนการการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ (Fossilization Process)
เกิดจากแร่ธาตุที่มากับตะกอนทางนํ้าค่อยๆ เข้าไปแทนที่
โครงสร้างเซลล์เดิมของสิงมีชวต ตามแนวรอยแตกหรือตามช่อง
่ ีิ
ว่างระหว่างเซลล์สิ่งมีชีวิตเรื่อยๆ จนกระทั่งโครงร่างแข็งแกร่ง
ขึ้น จนกลายเป็นหินหรือกึ่งกลายเป็นหิน
	
เนื่องจากแหล่งขุดค้นภูน้อย อำ�เภอคำ�ม่วง จังหวัด
กาฬสิ น ธุ์ เป็ น แหล่ ง ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ แ ห่ ง ใหม่ ถู ก ค้ น พบ
ได้ไม่นาน มีความหลากหลายของชนิด (diversity) และความ
ชุกชุม (abundance) ของซากดึกดำ�บรรพ์ แต่ยงไม่มการศึกษา
ั ี
รูปแบบการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษารูปแบบ
การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของซากดึกดำ�บรรพ์ที่ค้นพบในแหล่ง
ซากดึกดำ�บรรพ์ อ.คำ�ม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นฐานข้อมูล
รูปแบบการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งดังกล่าว
	
จากข้อมูลทางธรณีวทยาของแหล่งขุดค้นภูนอยในชัน
ิ
้
้
ทีพบซากดึกดำ�บรรพ์เป็นชันหินตะกอนทีเ่ กิดจากการทับถมกัน
่
้
ประกอบด้วยชั้นหินทรายเนื้อละเอียด (Vary fine sand
stone) แทรกกับหินโคลน (Mud stone) มีชั้นถ่านเป็นชั้นที่มี
เศษซากพืชแทรกในชั้นและมีชั้นหินกรวดมน (Conglomerate)
อยูรอบๆ แหล่งขุดค้น แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของแหล่ง
่
ที่เกิดซากดึกดำ�บรรพ์ที่เคยเป็นแหล่งนํ้ามาก่อน

	
การกระจายและความหนาแน่นของซากดึกดำ�บรรพ์
ในแหล่ ง ขุ ด ข้ น ค้ น เปิ ด อย่ า งเป็ น ระบบมี ก ารวางตั ว ของ
ซากดึกดำ�บรรพ์ที่มีการวางตัวอย่างต่อเนื่อง ซากดึกดำ�บรรพ์
ที่มีความหนาแน่น และสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เช่น กระดูก
สันหลังส่วนหาง และกระดูกขาหน้า ของไดโนเสาร์ทตอเนืองกัน
่ี ่ ่
และขนาดตะกอนทีเ่ ล็กและคัดขนาดดี แสดงถึงสภาพแวดล้อม
ที่กระแสนํ้าไม่รุนแรงในบริเวณหลุมขุดค้น
	
ในส่วนของชั้นหินกรวดมนพบตัวอย่างแตกหักเป็น
ส่วนใหญ่ และการกระจายของซากดึกดำ�บรรพ์ไม่ตอเนืองและ
่ ่
ขนาดตะกอนที่ใหญ่และเล็กปนกันแสดงถึงแรงกระทำ�ของนํ้า
ก่อนเกิดเป็นซากดึกดำ�บรรพ์รอบแหล่งขุดค้นอย่างเป็นระบบ
แสดงถึงการสะสมตัวของซากดึกดำ�บรรพ์ในสภาพแวดล้อม
ที่กระแสนํ้ารุนแรง
	
การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูนอย มีรปแบบ
้ ู
การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์อยู่ 4 ลักษณะ ได้แก่
	
1. 	Perimineralization เป็นกระบวนการกลายเป็นหิน
ซึ่งเกิดจากการเติมเต็มของสารละลายแร่ธาตุเข้าในช่องว่าง
ภายในเซลล์ ทำ�ให้คงสภาพของโครงร่างเดิมไว้ ซากดึกดำ�บรรพ์
ที่เกิดกระบวนการนี้ได้แก่ กระดูกไดโนเสาร์ กระดูกจระเข้
กระดองและกระโหลกเต่า ปลาเลปิโดเทส และไม้กลายเป็นหิน
	
2. 	Replacement เป็นกระบวนการกลายแร่หรือหิน
ซึ่งเกิดจากการแทนที่แบบโมเลกุลต่อโมเลกุลของแร่ธาตุ เช่น
สารซิลิกาในรูปของแร่ควอตซ์แทนที่แคลไซต์ ซากดึกดำ�บรรพ์
ที่เกิดกระบวนการนี้ได้แก่ กระดูกไดโนเสาร์
	
3. 	Carbonization เป็นกระบวนการกลายเป็นถ่าน
เกิดจากสารอินทรีย์ได้รับความร้อนและความดันสูงภายใต้
ชั้นหินทำ�ให้ได้เปอร์เซนต์คาร์บอนที่สูงขึ้น เช่น ไม้กลายเป็น
ถ่าน เมื่อนำ�ไปส่องใต้กล้องสเตอริโอ พบว่ามีเนื้อไม่เป็นผง
สีดำ�เนื้อละเอียด มีความมันวาวสะท้อนแสง
	
4. 	Unaltered hard part เป็นกระบวนการเก็บรักษา
ซากนันให้คงเดิมไม่มการเปลียนแปลง เช่น เกล็ดปลาเลปิโดเทส
้
ี
่
วารสาร สควค. 15

ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553	

A

ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกไดโนเสาร์

A

A

B

B

B

ภาพที่ 3 ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกไดโนเสาร์ที่พบในแหล่งขุดค้น
ภูน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Replacement
และ Permineralization

A

B

ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกจระเข้

A

B

หมายเหตุ :	 A คือ ภาพถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล
	
B คือ ภาพถ่ายด้วยกล้องสเตอริโอไมโครสโคป

ซากดึกดำ�บรรพ์ของเต่า

A

B

ซากดึกดำ�บรรพ์ของปลาเลปิโดเทส

A

B

ซากดึกดำ�บรรพ์ของไม้กลายเป็นหิน

ภาพที่ 1 ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ช นิ ด ต่ า งๆ ที่ พ บในแหล่ ง ขุ ด ค้ น ภู น้ อ ย
จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Permineralization

A

ภาพที่ 4 ซากดึกดำ�บรรพ์ของเกล็ดปลาเลปิโดเทส ในแหล่งขุดค้น
ภูนอย จังหวัดกาฬสินธุ์ ทีมรปแบบการเกิดแบบ Unaltered hard part
้
่ีู

B

ข้อเสนอแนะ

1. 	ควรศึ ก ษาการเกิ ด ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ใ นแหล่ ง
ขุดค้นพบซากดึกดำ�บรรพ์อื่นๆ แล้วนำ�ข้อมูลที่ได้มาศึกษา
เปรียบเทียบกัน
	
2. 	ควรมีการศึกษาแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของ
ซากดึกดำ�บรรพ์โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์
เพิ่มเติม
	
3. 	ควรสร้างสื่อการเรียนหรือนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ
การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ เช่น สร้างเป็นการ์ตูน แอนนิเมชัน
เพื่อเสริมแรงจูงใจให้กับนักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ
	
ขอขอบคุณ ผอ.พิพธภัณฑ์สรธรทีอ�นวยความสะดวก
ิ
ิิ ่ำ
ให้สถานที่และอุปกรณ์เครื่องมือวิจัย ขอขอบคุณ ดร.วรวุธ
สุธธร หัวหน้าสถานีวจยภูกมข้าว ทีให้ค�แนะนำ�ในการปรับปรุง
ี
ิั ุ
่ ำ
การวิจยให้สมบูรณ์ และขอขอบคุณ สำ�นักงานกองทุนสนับสนุน
ั
การวิจัย (สกว.) ที่ให้ทุนสนับสนุนการทำ�วิจัย
	

ภาพที่ 2 ซากดึกดำ�บรรพ์ของไม้ที่พบในแหล่งขุดค้นภูน้อย จังหวัด
กาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Carbonization
วารสาร สควค. ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 (เมษายน-มิถุนายน 2553) พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2553 จำ�นวน 500 เล่ม เจ้าของ ชมรมครูที่มีความ
สามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เว็บไซต์ www.krusmart.com ที่ทำ�การ เลขที่ 46 หมู่ที่ 10 ตำ�บลธาตุ อำ�เภอรัตนบุรี
จังหวัดสุรินทร์ 32130 โทรศัพท์ 08-9028-6327 สนับสนุนการจัดทำ�โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่ปรึกษา
อ.พรพรรณ ไวทยางกูร, อ.ดวงสมร คล่องสารา, อ.อรวรรณ อินทวิชญ, อ.ปราณี สร้อยสั้น, อ.พวงเพ็ญ บุญญภัทโร, อ.โสภณ แย้มทองคำ� ,
อ.มิตรชัย คำ�งอก, อ.สุประดิษฐ สะอาด, ผอ.ธนชัย สุทธิยานุช บรรณาธิการ ศักดิอนันต์ อนันตสุข ผูชวยบรรณาธิการ รัสนา อนันตสุข กองบรรณาธิการ
์
้ ่
ว่องไว ธุอินทร์, ณัฐพล แสงทวี, เจษฎา เนตรสว่างวิชา, วิโรจ หลักมั่น, วิสุทธิ์ คงกัลป์, บุญเลี้ยง จอดนอก, ชำ�นาญ เพริดพราว, วงค์ณภา แก้วไกรษร,
จตุรภัทร ประทุม เครือข่ายวารสารฉบับออนไลน์ www3.ipst.ac.th/dpst และ www.anantasook.com
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

	
“...ผู้มีปัญญาและความรู้ดี เพราะมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนมามากกว่าผู้อื่น ย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบ
เป็นพิเศษ ที่จะต้องทำ�ตัว ทำ�งานให้เป็นประโยชน์แก่ชาติและประชาชน การที่จะกระทำ�ให้ได้ผลเป็นประโยชน์ ดังนั้น
จำ�เป็นที่แต่ละคนจะต้องรู้ซึ้งถึงประโยชน์ที่แท้เป็นเบื้องต้นก่อน ประโยชน์ที่แท้นั้นมีอยู่สองอย่าง คือ ประโยชน์ส่วนตัว     
ที่ทุกคน มีสิทธิจะแสวงหาและได้รับ แต่ต้องด้วยวิถีทางที่สุจริตและเป็นธรรม กับประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเป็นประโยชน์
ของชาติที่แต่ละคนมีส่วนร่วมอยู่ การทำ�งานทุกอย่างจะต้องให้ได้ประโยชน์แท้ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ประโยชน์นั้น
จึงจะมั่นคงถาวร เป็นผลดีแก่ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง...”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล
วันที่ 5 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2539

ครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ :: พัฒนาผู้เรียน พัฒนาตนเอง พัฒนาเครือข่ายครู พัฒนาสังคม

20-24 เม.ย. 2553 :: ครู สควค.ร่วมอบรมเชิงปฏิบตการจัดทำ�เนือหา ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัยพลังงาน รับทุนวิจัยของ สกว. ทำ�วิจัย
ัิ
้
บนเว็บไซต์สหวิชาดอทคอมของ สพฐ. ณ โรงแรมแมกซ์ กรุงเทพฯ เรื่องเทคโนโลยีพลังงาน ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา

ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัยไดโนเสาร์รับทุนวิจัยจาก สกว.ทำ�วิจัย ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัย ดาราศาสตร์ รับทุนวิจัยจาก สกว.ทำ�วิจัย
ซากดึกดำ�บรรพ์ ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์
ผลิตสื่อการเรียนรู้ดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวเกิดแก้ว จ.กาญจนบุรี

8 ก.ค. 2553 :: ประธานชมรมครู สควค. เข้าร่วมประชุมศูนย์          19-21 พ.ค. 2553 :: ชมรมครู สควค. สาขาภาคใต้ จัดกิจกรรม
เครือข่ายการพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่คุรุสภา
พัฒนาเครือข่ายครู สควค. ณ คณะศึกษาศาสตร์ ม.ทักษิณ จ.สงขลา
พิมพ์ที่ :  บริษัท รุ่งธนเกียรติออฟเซ็ท จำ�กัด บริการสมาชิกโดย : ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี (ศวคท.)

TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)

  • 1.
    ด้วยพระบารมี ตัวแทนครูและนักศึกษาไทยได้อบรมและทำ�วิจัยที่เซิร์น วารสาร ปีที่ 4ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 ชมรมครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ISSN 1905-758X TSMT Journal สนับสนุนโดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
  • 2.
    2 วารสาร สควค. ปีที่ 4ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 ผู้บริหารจาก 4 องค์กรหลักด้านฟิสิกส์ของไทย จับมือกับเซิร์น ครูพิมพร ผาพรมและครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า ครู สควค. (ฟิสิกส์) รับสมัครครู/นักศึกษาไทยเข้าร่วมกิจกรรมภาคฤดูร้อน CERN เป็นตัวแทนครูฟิสิกส์จากประเทศไทยเข้าร่วมโครงการที่ CERN ครูและนักศึกษาไทยเตรียมความพร้อมเรื่อง เครื่องเร่งอนุภาค ครูฟิสิกส์จำ�นวน 40 คน จาก 22 ประเทศ เข้าร่วมโครงการฯ ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ก่อนเข้าร่วมโครงการที่ CERN กับ CERN ณ กรุงเจนีวา สหพันธรัฐสวิส เป็นเวลา 3 สัปดาห์ นอกจากจะได้ความรู้และเพื่อนจากหลายประเทศ ยังได้เผยแพร่วัฒนธรรมของไทยและแสดงศักยภาพของครูฟิสิกส์ไทยในเวทีโลก 12 ก.ค. 2553 :: สสวท. ติดตามประเมินผลและให้ก�ลังใจครู สควค. 9 ส.ค. 2553 :: สสวท. จัดกิจกรรมติดตามประเมินผลให้กำ�ลังใจ ำ พื้นที่ภาคอีสานตอนล่างที่ ร.ร.เบญจมะ มหาราช จ.อุบลราชธานี ครู สควค. พื้นที่ภาคเหนือที่ ร.ร.จักรคำ�คณาธร จ.ลำ�พูน
  • 3.
    ปีที่ 4 ฉบับที่15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 วารสาร สควค. 3 สารบัญ บทบรรณาธิการ ครูศักดิ์อนันต์ อนันตสุข E-mail :: anantasook@gmail.com สวัสดีครับ พีนองเพือนสมาชิกชมรมครู สควค. และ ่ ้ ่ ท่านผู้อ่าน “วารสาร สควค.” ทุกท่าน นั บ เป็ น พระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ อย่ า งหาที่ สุ ด มิ ไ ด้ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง พระราชทานโอกาสให้ครูฟิสิกส์ระดับมัธยมศึกษา 2 คน ของประเทศไทยได้รวมงานวิจยกับเซิรน องค์กรวิทยาศาสตร์ ่ ั ์ ระดับโลก ณ สหพันธรัฐสวิส เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ด้วยทรง มีพระประสงค์ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่ า งประเทศไทยกั บ สถาบั น เซิ ร์ น ในการพั ฒ นา ขีดความสามารถและศักยภาพด้านฟิสกส์ให้แก่เด็ก เยาวชน ิ ครู และนักวิจัยไทย ซึ่งในปีแรกนี้ ครู สควค. จำ�นวน 2 คน คือ นางสาวสุพตรา ทองเนือห้า และนางสาวพิมพร ผาพรม ั ้ ได้ เ ป็ น ตั ว แทนประเทศไทย ไปร่ ว มโครงการครู ฟิ สิ ก ส์ ภาคฤดูร้อนเซิร์น และทั้งสองคนได้ถ่ายทอดความรู้และ ประสบการณ์ต่างๆ ให้เราได้รับทราบและร่วมภาคภูมิใจ ในวารสาร สควค.ฉบั บ นี้ ซึ่ ง ครู ฟิ สิ ก ส์ ที่ ส นใจเข้ า ร่ ว ม โครงการ ก็ขอให้เตรียมพร้อมและสมัครรับการคัดเลือก ในปลายปีนี้และปีถัดไป ชมรมครู สควค. ขอเป็นกำ�ลังใจให้กับครู สควค. ทุกคนในการปฏิบัติงาน กองบรรณาธิการ เปิดรับบทความ จากทุ ก ท่ า น หากมี ข้ อ เสนอแนะประการใด ที ม งาน ขอน้อมรับด้วยความยินดี หน้า - ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบันเซิร์น (CERN) 4 - ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์ 5 ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า - ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์ 8 ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูพิมพร ผาพรม - นวัตกรรมการเรียนรู้ : การพัฒนาเครือข่าย 10 การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า - กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายครู สควค. ภาคใต้ 12 - ตัวแทนความคิดวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ความร้อน 13 - การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูน้อย 14 จังหวัดกาฬสินธุ์ - พระบรมราโชวาท/ครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 16 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ชมรมครูที่มีความ สามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี 2. เพื่ อ เป็ น เวที ใ นการแลกเปลี่ ย นความรู้ ทางวิชาการ ประสบการณ์การสอน การวิจัยในชั้นเรียน ในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการสอนของครูและการเรียนรู้ของผู้เรียน 3. เพือเผยแพร่ความรูทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ่ ้ และเทคโนโลยี ให้กว้างขวางและเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) : Synchrotron Light Research Institute (Public Organization) เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดิมคือ “ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่อง กำ�เนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติ” ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2539 มีสำ�นักงานตั้งอยู่ภายใน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา (www.slri.or.th) แสงซินโครตรอน คือ แสง (หรือโฟตอน) ที่ถูกปลดปล่อย (หรือสลัด) ออกมาจากอิเล็กตรอนที่เลี้ยวโค้ง ด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสง (3x108 เมตรต่อวินาที) เป็นแสงที่มีค่าความเข้มสูงและมีค่าพลังงานต่อเนื่อง ครอบคลุมช่วงพลังงานกว้างตั้งแต่ช่วงของรังสีอินฟราเรดจนถึงรังสีเอ็กซ์ ทำ�ให้สามารถนำ�ไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ขอเชิญครูทุน สควค. ในภูมิภาคต่างๆ ส่งภาพข่าวที่เกี่ยวกับผลงานเด่นของตนเอง รวมถึงงานเขียน บทความเกี่ยวกับ การพัฒนาการเรียนการสอน ประสบการณ์การวิจย เพือเผยแพร่ ในวารสาร สควค. หรือเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.krusmart.com ั ่ บทความในวารสาร สควค. เป็นความคิดเห็นและทัศนะของผู้เขียน ชมรมครู สควค. ไม่จำ�เป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป
  • 4.
    4 วารสาร สควค. เรื่องจากปก ปีที่ 4ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบันเซิร์น สุพัตรา ทองเนื้อห้า สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สถาบันเซิร์น (CERN) ตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศ สวิ ต เซอร์ แ ลนด์ ครอบคลุ ม พื้ น ที่ บ ริ เวณชายแดนระหว่ า ง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งมามากกว่า 50 ปี โดยมีพันธกิจหลักในการทดลองเร่งอนุภาคและทำ�การ วิจยเพือตอบคำ�ถามหลัก 3 คำ�ถามคือ เรามาจากไหน (Where ั ่ do we come from?) เราประกอบขึ้นจากอะไร (What are we made of?) และเราจะเป็นอย่างไรต่อไป (Where are we going ?) ซึ่ง “เรา” ในที่นี้ก็หมายความถึง จักรวาล โลกและ สิ่ ง มี ชี วิ ต ทั้ ง หลาย ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ ากการทดลองแต่ ล ะครั้ ง มีปริมาณมากมายมหาศาล นำ�ไปสูการให้ก�เนิดเครือข่ายข้อมูล ่ ำ ของคนทั้งโลกที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เวิลด์ ไวลด์ เว็บ (www) ด้านการศึกษา สถาบันแห่งนี้มีหน้าที่ในการฝึกอบรมเตรียม ความพร้อมให้กับนักวิทยาศาสตร์ในอนาคตโดยการสร้าง แรงบันดาลใจให้กับเยาวชนของโลกในการเรียนวิทยาศาสตร์ พัฒนาความรูและทักษะเกียวกับเทคโนโลยีตางๆ และให้ความ ้ ่ ่ สำ�คัญกับการให้ความร่วมมือ การทำ�งานร่วมกันด้วยเป้าหมาย เดียวกันกับคนทั้งโลก เซิร์น (CERN) เป็นชื่อย่อมาจากภาษาอังกฤษตัวแรก ของชื่อเต็มในภาษาฝรั่งเศสว่า Conseil Europenne pour la Recherche Nuclaire ชื่อภาษาอังกฤษว่า European Council for Nuclear Research ปัจจุบนใช้ชอ Oganization ั ื่ europenne pour la recherche nuclaire ในภาษาฝรั่งเศส และ European Oganization for Nuclear Research ในภาษาอั ง กฤษ หากท่ า นได้ มี โ อกาสไปเยี่ ย มชมสถาบั น แห่งนี้ก็จะปรากฏชื่อที่ตัวอาคาร 33 ซึ่งเป็นอาคารต้อนรับ ตั้ งอยู่ บริ เวณด้ า นหน้ า ทางเข้ า สถาบั นเซิ ร์น ตรงกั น ข้ า มกั บ พิพิธภัณฑ์ Globe ปัจจุบันสถาบันเซิร์นมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 20 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย สาธารณรัฐ เช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมณี กรีซ ฮังการี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ มีประเทศสังเกตการณ์ 6 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อิสราเอล ญี่ปุ่น รัสเซีย ตุรกี และ สหรัฐอเมริกา และมีความร่วมมือจากหลายประเทศทั่วโลก ที่ไม่เป็นสมาชิก โดยส่งนักวิจัยร่วมทำ�การทดลองและเข้ารับ การอบรมต่างๆ ที่ทางสถาบันเซิร์นจัดขึ้น การวิจัยภายในสถาบันเซิร์นอาศัยเครื่องเร่งอนุภาค LHC (Large Hadron Collider) ซึ่งตั้งอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน โดยเร่งโปรตอนและนิวเคลียสของตะกั่วในทิศทางสวนกัน แล้วบังคับ ให้ล�อนุภาคทังสองชนกัน ณ สถานีตรวจวัดอนุภาค ำ ้ สถานีตรวจวัดอนุภาคที่สำ�คัญของเครื่องเร่งอนุภาค LHC คือ ALICE, ATLAS, LHCb และ CMS 1. สถานีตรวจวัด ALICE ย่อมาจาก A Large Ion Collider Experiment ศึกษาสมบัติของพลาสมาของควาร์ก และกลูออนซึ่งเกิดจากการชนกันของนิวเคลียสของตะกั่ว 2. สถานีตรวจวัด ATLAS ย่อมาจาก A Toroidal LHC ApparatuS ตรวจสอบความแม่นยำ�ของทฤษฎีแบบ จำ�ลองมาตรฐาน อนุภาคฮิกส์ (Higgs Boson) ทฤษฎีสมมาตร ยวดยิง (SupersymmetryTheory) ทฤษฎีเอกภพทีมมากกว่า ่ ่ี 4 มิติ (Extra-diamensions Theory) โดยสามารถตรวจวัด อนุภาคมูลฐานได้เกือบทุกชนิด (ยกเว้นนิวตริโน) 3. สถานีตรวจวัด LHCb ย่อมาจาก Large Hadron Collider beauty ศึกษาความแตกต่างระหว่างสสารและ ปฏิสสารที่เกิดขึ้นจากอนุภาคที่ประกอบด้วย บี-ควาร์ก 4. สถานีตรวจวัด CMS ย่อมาจาก Compact Muon Solenoid มีจุดประสงค์ในการทำ�งานเช่นเดียวกัน กับสถานี ตรวจวัด ATLAS แต่ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน
  • 5.
    ปีที่ 4 ฉบับที่15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 บทความ วารสาร สควค. 5 ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์ ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูสุพัตรา ทองเนื้อห้า สุพัตรา ทองเนื้อห้า สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สถาบั น เซิ ร์ น นอกจากจะมี ก ารทดลองวิ จั ย ระดั บ โลกแล้ว ยังมีพันธกิจหลักในการพัฒนาครูด้วย ซึ่งสามารถ สังเกตได้จากมีการจัดอบรมครูเกือบตลอดทั้งปี แต่เนื่องจาก โครงการอบรมครูส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้กับครูในประเทศ สมาชิกเท่านัน จึงมีโอกาสน้อยทีประเทศทีไม่ใช่สมาชิกจะได้รบ ้ ่ ่ ั โอกาสในการเข้ารับการอบรม โครงการนีจงเป็นโครงการเดียว ้ึ ในขณะนีทเี่ ปิดโอกาสให้ครูฟสกส์ระดับมัธยมศึกษาจากทัวโลก ้ ิิ ่ เข้าร่วมโครงการ โครงการครูฟิสิกส์ภาคฤดูร้อนเซิร์น (CERN Physics High School Teachers Programme) เป็นโครงการทีสถาบัน ่ เซิร์นจัดขึ้นทุกปี โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการสอนฟิสิกส์ โดยเฉพาะฟิสิกส์อนุภาค ในระดับมัธยมศึกษา สนับสนุน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างครูในระดับ นานาชาติ เปิดโลกทัศน์ของครูผู้สอนวิชาฟิสิกส์ไปสู่งานวิจัย ระดับโลกในการเข้าร่วมโครงการครูฟสกส์ภาคฤดูรอน ประจำ� ิิ ้ ปี พ.ศ. 2553 (CERN Physics High School Teachers Programme 2010) มีครูฟิสิกส์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เข้าร่วมโครงการ 22 ประเทศ จำ�นวน 40 คน กิจกรรมทีเ่ ข้าร่วมระหว่างวันที่ 4-23 กรกฎาคม 2553 จึงมีทั้งการฟังบรรยาย การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการและศูนย์ ควบคุมระบบ วิเคราะห์ขอมูล การฝึกปฏิบตการทดลอง การทำ� ้ ัิ กิจกรรมกลุม การนำ�เสนอข้อมูล/ผลการทำ�กิจกรรมกลุม และ ่ ่ กิจกรรมอื่นๆ มากมาย โดยสำ�หรับการฝึกปฏิบัติการทดลอง และทำ�กิจกรรมกลุ่ม มีดังนี้ 1. Build a Cloud Chamber การสร้าง Cloud Chamber ซึ่งเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ใช้ตรวจวัดอนุภาคที่เกิดจาก รังสีคอสมิก(อนุภาคที่มีประจุ) โดยมีวัสดุอุปกรณ์คือ กล่อง พลาสติกใส กล่องไม้ แผ่นอะลูมิเนียม ตาข่าย แผ่นโลหะสีดำ� Isopropyl แอลกอฮอล์ นํ้าแข็งแห้ง โฟมบาง ไฟฉาย แว่นตา ถุงมือ เชือก/ลวด ขั้นตอนการสร้างมีดังนี้ 1) นำ�กล่องพลาสติก เจาะรูที่ก้นประมาณ 6 รู แล้วนำ�โฟมบางมาผูกไว้ 2) นำ�กล่องไม้รองด้วยแผ่นอะลูมเิ นียมและตาข่าย แล้วนำ�นํ้าแข็งแห้งบรรจุให้เต็มกล่องไม้ 3) นำ�แผ่นโลหะสีดำ�วางบนนํ้าแข็งแห้ง 4) ฉีด พ่น Isopropyl แอลกอฮอล ให้ชมโฟมบาง ์ ุ่ จากนั้นนำ�กล่องพลาสติกใสมาครอบด้านบนแผ่นโลหะสีดำ� 5) ปิ ด ไฟในห้ อ งให้ มื ด จากนั้ น ใช้ ไ ฟฉายส่ อ ง บริเวณฐาน สังเกตการเปลี่ยนแปลง เพื่ อ ความปลอดภั ย ขณะทำ � การทดลองต้ อ งใส่ แว่นตาและถุงมือขณะจับนําแข็งแห้ง ระหว่างรอผลการทดลอง ้ ผู้บรรยายได้อธิบายเกี่ยวกับประวัติการสร้างเครื่องตรวจวัด จากนั้นเมื่อผู้เข้าร่วมโครงการสังเกตผลการทดลองได้ทุกกลุ่ม แล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการและผู้บรรยายจึงร่วมวิเคราะห์ผลการ ทดลองที่เกิดขึ้น 2. Introducing the Teachers Lab การแนะนำ�การทดลองในห้อง Teachers Lab โดยเจ้าหน้าที่ประจำ�ห้อง มีการทดลองทั้งสิ้น 4 การทดลอง คือ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก (photoelectric effect) การเบนของลำ�อิเล็กตรอน (finebeam tube) อนุภาคสปิน และการแทรกสอดของแสงผ่านกระจกและเลนส์ (Michelson Interferometer) ซึ่งสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหา เกี่ยวกับฟิสิกส์ยุคใหม่ (Modern Physics) ได้ดียิ่งขึ้น 3. Working Groups กิจกรรม Working Groups เป็นกิจกรรมทีให้ผเู้ ข้าร่วมโครงการเลือกกลุมทำ�งานตามความ ่ ่ สนใจ (working Groups) โดยมีทั้งหมด 6 กลุ่ม ดังนี้ 1) Teachers Lab 2) Teaching Module 3) Master classes 4) The International Bacculaureate Diploma 5) Pre-Visit Pack 6) How do you know? ผู้เข้าร่วมโครงการจะเลือกกลุ่มที่ตนเองสนใจ 2 อันดับ จากนั้นทีมผู้จัดโครงการจะเลือกกลุ่มจากความสนใจ ในอันดับแรกของแต่ละคน เมือกลุมใดมีจ�นวนสมาชิกมากกว่า ่ ่ ำ ที่กำ�หนดไว้ ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการพิจารณา ตัดสินใจยืนยันอีกครั้งว่าตนเองจะเลือกกลุ่มใด ครูและนักศึกษาไทยที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการภาคฤดูร้อนของเซิร์น (จากซ้ายไปขวา) นางสาวพิมพร ผาพรม, นายฐาปกรณ์ ภู่ลำ�พงษ์ นางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา และนายอภิมุข วัชรางกูร
  • 6.
    6 วารสาร สควค. สำ�หรับข้าพเจ้าได้เลือกกลุ่ม TeachersLab โดย สมาชิกในกลุ่มของข้าพเจ้ามีทั้งสิ้น 10 คน ในครั้งแรกสมาชิก ในกลุ่ ม ทุ ก คนต้ อ งเข้ า ฝึ ก ปฏิ บั ติ ก ารทดลองภายในห้ อ ง Teachers Lab อีกครั้ง (หลังจากที่เข้าฝึกปฏิบัติรวมกับ ผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นๆ แล้ว) ในวันต่อมาก็ได้รับการฝึก ปฏิบัติการทดลองศึกษาอุปกรณ์การทดลอง เครื่องมือวัดและ โปรแกรม Cobra4 ของบริษัท PHYWE แล้วจึงประชุมกลุ่ม แบ่งสมาชิกเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามความสนใจ กลุ่มละ 3-4 คน แล้วจึงเข้าเยี่ยมชม Microcosm เพื่อร่วมกันวางแผนการจัด Workshop ให้กับผู้เยี่ยมชม ข้าพเจ้าได้เลือกกลุ่มย่อยเป็นการพัฒนาการสร้าง Cloud chamber โดยมุงหวังทีจะใช้วสดุทหาได้งายในโรงเรียน ่ ่ ั ี่ ่ วัสดุทกลุมใช้เป็น ถ้วยอะลูมเิ นียมทาสีด�ด้วยนํายาทาเล็บทิงไว้ ี่ ่ ำ ้ ้ ให้แห้ง แก้วพลาสติกใส โฟมบางเป็นวัสดุที่ใช้ทำ�ความสะอาด โต๊ะ ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่เหลือจากงาน International Evening ทั้งสิ้น เรายังคงต้องใช้ Isopropyl แอลกอฮอล์ และนํ้าแข็งแห้ง ทำ�การทดลองเช่นเดียวกับการ สร้าง Cloud chamber ปกติ จากนั้นสังเกตการเปลี่ยนแปลง ผลการทดลองทีได้เป็นทีนาพอใจ เราสามารถเห็นร่องรอยของ ่ ่ ่ รังสีคอสมิกซึ่งมีอนุภาคที่มีประจุที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ อย่างชัดเจน อีกทั้งยังใช้เวลาน้อยกว่าการทดลองปกติที่เคย ทดลองมา จากนั้นผู้เข้าร่วมโครงการต้องช่วยกันนำ�เสนองาน ที่แต่ละกลุ่มทำ� เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันสุดท้าย ของโครงการ มีจำ�นวน 4 กลุ่มๆ ละ 30 นาที โดยมีทีมผู้จัด โครงการและผู้บริหารของสถาบันเซิร์นเข้าร่วมรับฟังด้วย 4. Dark Matter & Quantum workshop การฝึก ปฏิบตเิ ริมจาก hands-on ทีให้นกเรียนรูจกกับคำ�ว่า “อนุภาค” ั ่ ่ ั ้ั โดยใช้ ท รายสี เ ป็ น สื่ อ การสอน จากนั้ น ใช้ แ ผ่ น ใสสองแผ่ น ซึ่งเขียนลวดลายของคลื่นไว้ สังเกตการแทรกสอดของคลื่น สองขบวน แล้วให้นกคำ�ทีเ่ กียวกับ “คลืน” เปรียบเทียบให้เห็น ึ ่ ่ ความแตกต่ า งระหว่ า งคลื่ น และอนุ ภ าคโดยเน้ น คำ � ที่ ใช้ เพื่อให้นักเรียนแยกแยะได้และไม่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน จากนั้นจึงสังเกตการแทรกสอดของแสงโดยเป็นกิจกรรมที่นำ� เข้าสู่เรื่องทวิภาพของคลื่นและอนุภาคซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ ฟิสิกส์ยุคใหม่ (Modern Physics) ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 จากนั้นดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับ Quantum แล้วทำ �การ ทดลองการเคลื่อนที่วงกลม เพื่อนำ�เข้าสู่เรื่องเครื่องเร่งอนุภาค แล้วเชื่อมโยงความรู้ดังกล่าวกับเอกภพ จากนั้นเป็นกิจกรรม การคำ � นวณหาตำ � แหน่ ง โดยใช้ ร ะบบ GPS คำ � นวณง่ า ยๆ ซึ่งนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ข้าพเจ้าได้รบความรูเ้ กียวกับฟิสกส์อนุภาค เทคโนโลยี ั ่ ิ ที่ทันสมัย แนวการจัดการเรียนการสอนฟิสิกส์อนุภาค อีก ทั้ ง ยั ง ได้ แ ลกเปลี่ ย นความรู้ แ ละประสบการณ์ กั บ เพื่ อ นครู นานาชาติ ซึงเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือกันในการ ่ พัฒนา การเรียนการสอนฟิสกส์ในอนาคต การเยียมชมสถานี ิ ่ วิจัยระดับโลกและการพบปะกับนักฟิสิกส์ภายในสถาบันเซิร์น ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในการทำ�งานเพื่อพัฒนาประเทศชาติ ต่อไป และแรงกระตุนให้ขาพเจ้าต้องเรียนรูตลอดเวลา เนืองจาก ้ ้ ้ ่ ความรู้ต่างๆ ในโลกนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง ครูไม่สามารถสอนเนื้อหา เฉพาะจากในหนังสือเรียน หากแต่จะต้องสืบค้นความรูอยูตลอด ้ ่ เวลา ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างแดนช่วยพัฒนาทักษะ การสื่อสารและความกล้าแสดงออกในทางที่สร้างสรรค์ และ ทำ�ให้ข้าพเจ้าได้เพื่อนใหม่มากมาย ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงติดต่อ เพื่อนครูนานาชาติผ่านทางอีเมล์และทางเว็บไซต์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังทำ�ให้ทราบถึงแนวทางในการจัดการ ศึกษาของแต่ละประเทศ ซึ่งบางนโยบายเป็นประโยชน์และ ควรนำ�มาปรับปรุงใช้กับระบบการศึกษาในประเทศของเรา เช่น การมอบหมายให้ครูต้องพัฒนาตนเองในช่วงปิดเทอม โดยกำ�หนดชั่วโมงอย่างตํ่าที่ต้องเข้ารับการพัฒนาและให้ทุน สนับสนุน เป็นต้น ซึงจะทำ�ให้ครูกระตือรือร้นในการพัฒนางาน ่ ของตนเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ปัจจุบันต่างประเทศกำ�ลังพยายามจัดความรู้เกี่ยวกับ ฟิสิกส์อนุภาค ลงในหลักสูตรการศึกษา ซึ่งในอนาคตประเทศ ของเราก็ควรต้องทำ�เช่นกัน จึงควรเตรียมกำ�ลังคน (ครูผู้สอน) ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิสิกส์อนุภาคอย่างเร่งด่วน หากประเทศของเราสามารถส่งครูฟสกส์หรือนักศึกษาเข้าร่วม ิิ กิจกรรมในทุกๆ ปี ประเทศอื่นๆ ก็จะเล็งเห็นศักยภาพของ คนไทยและประเทศไทย ซึ่งมีคุณภาพไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้ เช่นกัน
  • 7.
    ปีที่ 4 ฉบับที่15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 แผนการดำ�เนินการหลังจากเข้าร่วมโครงการ ข้าพเจ้าจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับเพื่อนครูและ นักเรียนในโรงเรียน ผ่านทางสื่อต่างๆ รวมถึงถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ ที่ ข้ า พเจ้ า ได้ รั บ ให้ แ ก่ เ พื่ อ นครู ท่ า นอื่ น ๆ เพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาการเรียนการสอนฟิสิกส์ระดับ มัธยมศึกษาให้เกิดขึ้นและการพัฒนาเยาวชนของชาติต่อไป ข้าพเจ้าจึงวางแผนจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฟิสิกส์อนุภาค ในโรงเรี ย น โดยกำ � หนดให้ โรงเรี ย นที่ ป ระสงค์ จ ะเข้ า ร่ ว ม โครงการส่งนักเรียนระดับ ม.ปลาย โรงเรียนละ 2 คน พร้อม ครูฟสกส์ 1 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยครอบคลุมเนือหาเกียวกับ ิิ ้ ่ ฟิสกส์อนุภาค การฝึกปฏิบตการทดลองสร้าง Cloud Chamber ิ ัิ และแนะนำ�ให้รู้จักกับสถาบันวิจัยเซิร์นซึ่งมีเครื่องเร่งอนุภาค LHC อุปกรณ์วจยระดับโลก และสถาบันวิจยแสงซินโครตรอน ิั ั ซึ่งมีเครื่องเร่งอนุภาคระดับชาติ โดยวางแผนจะดำ�เนินการ ดังกล่าวในภาคเรียนที่ 2/2553 นี้ คำ�แนะนำ�สำ�หรับผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นต่อไป 1. การคัดเลือกครูฟสกส์รนต่อไปควรให้ความสำ�คัญ ิ ิ ุ่ กับผู้ที่สอนในระดับชั้น ม.6 หรือสอนฟิสิกส์อะตอม เพื่อการ เชือมโยงความรูและโอกาสในการถ่ายทอดความรูให้กบนักเรียน ่ ้ ้ ั 2. เนื้ อ หาความรู้ พื้ น ฐานที่ จำ � เป็ น ต่ อ การเข้ า ร่ ว ม โครงการ ได้แก่ กลศาสตร์ ฟิสิกส์อะตอม ฟิสิกส์ยุคใหม่ ไฟฟ้า แม่เหล็ก และผู้เข้าร่วมโครงการควรตั้งใจศึกษาความรู้ในช่วง การเตรียมความพร้อมที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เพราะ สามารถช่วยในการทำ�ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น 3. ระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการเป็นช่วงเปิด ภาคเรียนที่ 1 จึงควรเตรียมการสอนนักเรียนโดยสอนล่วงหน้า หรือมอบหมายงานให้นกเรียนในช่วงระยะเวลาทีครูไม่อยู่ ั ่ 4. การเตรี ย มเอกสารต่ า งๆ โดยเฉพาะการขอ อนุญาตเดินทางไปต่างประเทศและการรายงานตัวกลับจาก ต่างประเทศ ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพราะต้องทำ�หนังสือ ขออนุญาตไปยัง สพท. และ สพฐ. แล้วรอคำ�สั่งอนุญาต ให้ข้าราชการไปต่างประเทศ ส่วนการรายงานตัวกลับจาก ต่างประเทศ ให้กรอกแบบรายงานตัวกลับจากต่างประเทศ พร้อมแนบรายงานการศึกษาดูงาน เกียรติบัตร สำ�เนาบัญชี ลงเวลาปฏิบัติราชการวันแรก ส่งไปยังต้นสังกัด วารสาร สควค. 7 5. การทำ�วีซ่า ควรเตรียมเอกสารให้พร้อมตามที่ สถานฑูตกำ�หนด โดยเฉพาะเอกสารรับรองจากโรงเรียนเป็น ภาษาอังกฤษ เอกสารเชิญจากสถาบันเซิร์น 6. การติดต่อประสานงานกับสถาบันเซิร์น ส่วนใหญ่ เป็นการติดต่อประสานงานทางอีเมล์ จึงควรให้อีเมล์ที่ติดต่อ ได้และควรตรวจสอบข้อความบ่อยๆ 7. การเข้าออกภายในสถาบันเซิร์น ซึ่งมีระบบรักษา ความปลอดภั ย ที่ เข้ ม งวด หากไม่ ใช่ ผู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ เซิ ร์ น ก็ไม่สามารถเข้าออกได้เด็ดขาด ดังนั้น ในครั้งแรกให้ผู้เข้าร่วม โครงการยื่ น เอกสารเชิ ญ เข้ า ร่ ว มกิ จ กรรมให้ กั บ เจ้ า หน้ า ที่ เขาจะมอบกุญแจห้องและเอกสารต่างๆ ให้กับเรา รวมทั้ง ID Cards ชัวคราว การเดินทางเข้าออกทุกครัง ผูเข้าร่วมโครงการ ่ ้ ้ ควรนำ�พาสปอร์ตและ ID Cards ติดตัวตลอดเวลา 8. สถานที่พักตั้งอยู่ภายในสถาบันเซิร์น ภายในห้อง สะดวกสบายและมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ห้องครัวและห้อง ซักรีดอยู่ชั้นล่าง ผู้เข้าร่วมโครงการอาจนำ�จาน ช้อน หม้อ กระทะ ไปทำ�อาหารเองได้ โดยสามารถซื้อของสดหรือซื้อของ มาอุนด้วยเตาไมโครเวฟได้ มีนาดืม (นําเปล่า) ทังเย็น และร้อน ่ ํ้ ่ ้ ้ ฟรีในบริเวณที่พักและบริเวณอาคารทั่วๆ ไปภายในเซิร์น 9. การแต่งกาย เนืองจากเป็นช่วงฤดูรอน ครูสามารถ ่ ้ แต่งตัวตามสบายได้ ควรเตรียมหมวก และควรนำ�รองเท้าผ้าใบ ไปด้วย เนื่องจากในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ภายในเซิร์น ต้องสวมรองเท้าหุ้มส้นเพื่อความปลอดภัย และในการเข้าร่วม กิจกรรมต้องเดินเป็นระยะทางไกลทุกวัน 10. ครูฟิสิกส์ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสถาบันเซิร์น ควรเตรียมเงินสำ�รองไว้ใช้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยในแต่ละวัน จะใช้เงินไม่เกิน 50 ฟรังสวิส (ประมาณ 1,500 บาท ขึ้นกับ อัตราการแลกเปลี่ยนเงินในขณะนั้น) โดยเอกสารรับเงินใช้ เฉพาะพาสปอร์ต รับเงินที่ไปรษณีย์ภายในเซิร์น 11. การสือสารภาษาอังกฤษควรเน้นเกียวกับการบอก ่ ่ ตำ�แหน่งและทิศทางสำ�คัญมาก นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ควรศึกษาภาษาฝรั่งเศสบ้างจะเป็นประโยชน์มาก 12. เว็บไซต์ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมโครงการคือ http://teachers.cern.ch/ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเอกสาร ได้ ฟ รี ห รื อ ลิ ง ค์ ไ ปยั ง เว็ บ ไซต์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งเพื่ อ สื บ ค้ น ข้ อ มู ล ต่างๆ ได้
  • 8.
    8 วารสาร สควค. บทความ ปีที่ 4ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการครูฟิสิกส์ ภาคฤดูร้อนเซิร์น ของครูพิมพร ผาพรม พิมพร ผาพรม สควค. รุ่น 7 ครู คศ.1 ร.ร.ท่าคันโทวิทยาคาร จ.กาฬสินธุ์ กิจกรรมครูฟิสิกส์ภาคฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 4-23 กรกฎาคม 2553 แบ่งเป็น 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การฟัง บรรยายเนื้อหาฟิสิกส์ การเข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในสถาบัน เซิร์น การปฏิบัติการทดลอง การนำ�เสนอข้อมูลและผลการ ทำ � กิ จ กรรมกลุ่ ม และกิ จ กรรมอื่ น ๆ มากมาย โดยสำ � หรั บ การฝึกปฏิบัติการทดลองและทำ�กิจกรรมกลุ่ม มีดังนี้ 1. Build a Cloud Chamber ฝึกสร้างเครือง cloud ่ chamber 2. Introducing the Teachers Lab ศึกษาการ ทดลอง และวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลอง 3. working Groups แยกกลุ่มย่อยศึกษาตามหัวข้อ ที่สนใจ ซึ่งมีจำ�นวน 6 กลุ่ม ดังนี้ 1) Teachers Lab การทดลองด้านฟิสกส์อนุภาค ิ เพือนำ�ไปใช้ในชันเรียน มีทปรึกษาและผูสนับสนุนด้านอุปกรณ์ ่ ้ ี่ ้ การทดลอง คือ บริษัท Phywe 2) Teaching Module คือ การจัดทำ�เนือหา และ ้ สื่อการสอนด้านฟิสิกส์อนุภาค 3) Master classes คือ สร้างเนือหาและหลักสูตร ้ การสอน 4) The International Baccalaureate Diploma (IB) การสร้างเนื้อหา แบบฝึก กิจกรรมการเรียน การสอนฟิสิกส์สำ�หรับนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติ 5) Pre-Visit Pack การจัดทำ�โปรแกรมสำ�หรับ การศึกษาดูงาน สาหรับผู้ต้องการเยี่ยมชมเซิร์น ในช่วงเวลา สั้นๆ 6) How do you know? การค้นหาวิธีการ หรือ แหล่งข้อมูลอธิบายความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับฟิสิกส์อนุภาค โดยข้าพเจ้าเลือกกลุ่ม IB เพื่อเรียนรู้การจัดหลักสูตร เนื้อหา รวมถึงแบบฝึกหัดสำ�หรับการจัดการเรียนการสอน ฟิสิกส์ระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งได้มีการ บรรจุเนื้อหาด้านฟิสิกส์อนุภาคในหลักสูตรแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็น แนวทางในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนและอาจปรับใช้ กับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทยต่อไป โดยมีการ แบ่งหัวข้อสำ�หรับการดำ�เนินการ ดังนี้ 1. ประชุมเพือทำ�ความเข้าใจลักษณะและจุดประสงค์ ่ ของงาน 2. เลือกเนื้อหาและแบ่งหัวข้อย่อย 3. ศึกษาค้นคว้า พัฒนาสื่อ แบบฝึกหัดที่รับผิดชอบ 4. รวบรวมเนื้อหาและสื่อเพื่อสรุปเป็นเนื้อหา 5. นำ�เสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ 6. เสนอเนื้อหาลงในเว็บไซต์ของเซิร์น เนื่องจากประเด็นที่กลุ่ม IB จะดำ�เนินการนั้นมีอยู่ จำ�นวนมาก จึงไม่สามารถดำ�เนินการให้เสร็จได้ภายในช่วงเวลา ที่อบรมอยู่ ดังนั้น จึงวางแผนการทำ�งานให้ถึงเพียงขั้นตอน การกำ�หนดเนื้อหาและสร้างสื่ออย่างง่าย เพื่อนำ�เสนอให้ เพื่อนครูกลุ่มอื่นๆ เข้าใจและรับรู้เกี่ยวกับภาพรวมของกลุ่ม IB ส่วนขั้นตอนการสร้างและจัดทำ�เนื้อหาโดยละเอียด ต้องรอ ตรวจจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งต้องดำ�เนินการภายหลัง การสร้าง เนื้ อ หาและแบบฝึ ก หั ด หรื อ กิ จ กรรมการเรี ย นการสอน ให้สัมพันธ์กับหลักสูตรวิชาฟิสิกส์นั้น กลุ่ม IB เน้นที่ฟิสิกส์ อนุภาค สำ�หรับนักเรียนอายุระหว่าง 16-19 ปี จำ�นวน 2,183 โรงเรียนจาก 138 ประเทศ เนื่องจากฟิสิกส์อนุภาคเป็นเนื้อหา ทางเลือกหนึ่งของวิชาฟิสิกส์ในระดับ higher level ดังนั้น โปรแกรมครูฟสกส์ภาคฤดูรอนจึงได้สร้างเนือหาและจัดเอกสาร ิิ ้ ้ ต่างๆ เพื่ออำ�นวยความสะดวกและพัฒนาการเรียนการสอน โดยได้ด�เนินการต่อเนืองมาประจำ�ทุกปี มีจดประสงค์หลัก คือ ำ ่ ุ 1. สร้างแหล่งเรียนรู้ที่มีเนื้อหาถูกต้อง แม่นยำ� และ เป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน ผ่านสื่อที่หลากหลาย เช่น เนื้อหา ที่อยู่ในรูปแบบ Power point, แบบฝึกหัด, คู่มือการทดลอง เป็นต้น 2. กระตุนและส่งเสริมให้ครูสอนเนือหาฟิสกส์อนุภาค ้ ้ ิ มากขึ้น 3. พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนฟิสิกส์ อนุภาคให้ดียิ่งขึ้น ทังนีโครงสร้างของวิชาฟิสกส์ และเนือหาทีเ่ รียนทีเ่ ซิรน ้ ้ ิ ้ ์ กำ�หนด ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 22 ชั่วโมง ผู้สนใจสามารถเลือก ดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวได้ที่ http://teachers.cern.ch และที่ www.krusmart.com นอกจากนียงมีการนำ�เสนอระบบการศึกษาของแต่ละ ้ั ประเทศโดยมีคำ�ถามเป็นตัวกำ�หนดเนื้อหา เช่น โรงเรียนของ ผู้เข้าร่วมโครงการเป็นของรัฐบาลหรือเอกชน จำ�นวนนักเรียน ในโรงเรียนและนักเรียนต่อห้อง จำ�นวนวิชาฟิสิกส์ต่อสัปดาห์
  • 9.
    ปีที่ 4 ฉบับที่15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 สัดส่วนเนือหาวิชาฟิสกส์กบวิชาอืนๆ ในหลักสูตรของโรงเรียน ้ ิ ั ่ สัดส่วนเนื้อหาของฟิสิกส์อนุภาคต่อเนื้อหาวิชาฟิสิกส์ทั้งหมด อุปกรณ์การทดลองเพียงพอหรือไม่ การสนับสนุนเด็กทีมความ ่ี สามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลเป็นอย่างไร วุฒการ ิ ศึกษาของครูและคุณสมบัติอื่นๆ ในการเป็นครูวิทยาศาสตร์ และครูฟิสิกส์ การนำ�เสนอใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไม่เน้น ความเป็นทางการมากนัก 4. กิจกรรมอื่นๆ เช่น - Pool and Pizza เป็นกิจกรรมตอนเย็นหลังเลิก จากการอบรม คือ การว่ายนํ้า (ไม่บังคับ) และร่วมทานพิซซ่า ที่ร้านใกล้ๆ เซิร์น และชมบรรยากาศสภาพทั่วไปรอบๆ เซิร์น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไร่ทานตะวัน งา ข้าว และข้าวโพด เป็นต้น - Discover Geneva Treasure Hunt แบ่งกลุ่ม (แบบสุ่ม) เพื่อท่องเที่ยวเจนีวาในวันหยุด เพื่อเป็นการแนะนำ� สถานที่ท่องเที่ยวที่สำ�คัญของเจนีวา และเสริมสร้างความ สามัคคีของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีการแจกเอกสารให้แต่ละ กลุ่มเดินตามหาคำ�ตอบ ตามเส้นทางที่กำ�หนดและจบด้วย การทาน ฟองดู (Fon due) อาหารขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ - International Evening การแสดงแลกเปลียน ่ วัฒนธรรมของชาติต่างๆ โดยครูที่เข้าร่วมโครงการจะเป็น ผู้จัดสถานที่และการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนครูส่วนใหญ่ ทำ�อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติตนเองให้เพื่อนๆ ลองชิม เช่น ช็อกโกแล็ตชาเขียวของญี่ปุ่น ชีสหลากชนิดของฝรั่งเศส ขนมหวานจากมาซิโดเนีย บางชาติก็มีการแสดงหรือกิจกรรม ให้ร่วมกันทำ� เช่น การหัดเต้นแบบสเปน ตุรกี เคนยา และการ แสดงรำ�ไทยของประเทศไทยโดยนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อห้า ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของครูทุกคน - Jura picnic กิจกรรมปิคนิคที่ยอดเขาจูรา ยอดเขาจูรา เป็นยอดเขาหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ อยู่บริเวณ ไม่ไกลจากเซิร์นมากนัก โดยทุกคนต้องเดินจากจุดจอดรถ ถึงยอดเขาและช่วยกันถือสิ่งของที่เป็นของส่วนรวมไปด้วย เมื่อถึงยอดเขา ครูผู้หญิงจะเตรียมอาหาร จากนั้นร่วมกัน ทานอาหาร ผลไม้ ที่เตรียมมา บนยอดเขาจูราสามารถมอง เห็นทะเลสาบเจนีวาและวิวที่สวยงามด้านฝรั่งเศส อากาศเย็น ลมแรง เป็ น กิ จ กรรมที่ ช่ ว ยเสริ ม สร้ า งความสามั ค คี ไ ด้ อี ก รูปแบบหนึ่ง วารสาร สควค. 9 - Farewell BBQ กิ จ กรรมเลี้ ย งส่ ง ด้ ว ยบาบี คิ ว ในคื น สุ ด ท้ า ยหลั ง ปิ ด โครงการ โดย Dr.rolf Landau ผู้อำ�นวยการโครงการ HST 2010 ลงมือบริการปิ้งบาบีคิวด้วย ตนเองและไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือ ทุกคนแสดงความขอบคุณ ทีมงานที่ให้ความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เมือถึงเวลาเลิกงาน ทุกคนกล่าวลาด้วยคำ�ว่า “แล้วพบกันอีก” ่ ประโยชน์ที่ได้รับ 1. ได้รบความรูเพิมเติม ในเนือหาด้านฟิสกส์อนุภาค ั ้ ่ ้ ิ 2. ทราบแนวทาง และมีประสบการณ์ ในการทดลอง และการสร้างสื่อการสอนฟิสิกส์ 3. รู้และเข้าใจ จุดประสงค์ เป้าหมาย และบทบาท ของเซิร์นมากยิ่งขึ้น 4. ได้ แ ลกเปลี่ ย นเรี ย นรู้ ก ารเรี ย นการสอนฟิ สิ ก ส์ กับครูฟิสิกส์ในประเทศต่างๆ เพื่อนำ�มาปรับปรุงการเรียน การสอนในชั้นเรียนของตน 5. มี เ ครื อ ข่ า ยครู ฟิ สิ ก ส์ เ พื่ อ แลกเปลี่ ย นกิ จ กรรม การสอนและสื่อการเรียนการสอนในโอกาสต่อไป แผนการดำ�เนินการหลังจากเข้าร่วมโครงการ 1. จั ด อบรมความรู้ แ ละขยายผลแก่ ค รู นั ก เรี ย น นั ก ศึ ก ษา ที่ ส นใจเกี่ ย วกั บ การสร้ า งสื่ อ การเรี ย นการสอน ด้านฟิสิกส์อนุภาค สำ�หรับครูในภูมิภาคหรือในงานประชุม วิชาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในโรงเรียน เป็นต้น 2. สร้างสื่อการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์ในชั้นเรียน ให้น่าสนใจ ใช้แหล่งข้อมูลที่มีอยู่เผยแพร่ความรู้ด้านฟิสิกส์ อนุภาค ผ่านทางเว็บไซต์ 3. ติดต่อ ประสานงานกับเครือข่ายครูในกลุ่ม IB Group จัดทำ�เนื้อหาในช่วงต่อไป ข้าพเจ้าและนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา ล้วนสานึก ในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ อันหาที่สุดมิได้ในสมเด็จ พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุ ม ารี ที่ ไ ด้ ท รง พระราชทานโอกาสในการเป็นตัวแทนครูฟสกส์ไทยให้เข้าร่วม ิิ โครงการครูฟิสิกส์ฤดูร้อนเซิร์น ประจำ�ปี 2553 และ ขอกราบ ขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คัดเลือกและมอบ โอกาสที่สำ�คัญยิ่ง แก่ข้าพเจ้าและนางสาวสุพัตรา ทองเนื้อหา ซึ่งเป็นครู สควค. ในการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้
  • 10.
    10 วารสาร สควค. ปีที่4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 นวัตกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายน้ำ� จารุวรรณ เตชะสุทธิรัฐ สควค. รุ่น 5 ครู คศ.1 ร.ร.วัดดอนหวาย (นครรัฐประสาท) จ.นครปฐม 1. ที่มาและความสำ�คัญ โรงเรียนวัดดอนหวาย(นครรัฐประสาท) จ.นครปฐม ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น รวมกลุ่ม นักเรียนที่มีความสนใจร่วมกันจัดตั้งเป็นชุมนุมวิทยาศาสตร์ และชุมนุมนักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน ได้เรียนรู้และเพิ่มทักษะทางวิทยาศาสตร์ และจัดกิจกรรม ทีใช้ความรูทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นประโยชน์รวมกัน ประกอบ ่ ้ ่ กับโรงเรียนวัดดอนหวายของพวกเรา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่นํ้าท่าจีน ดังนั้น สมาชิกชุมนุมวิทยาศาสตร์ และชุมนุมนักสิ่งแวดล้อม รุ่นเยาว์ได้ร่วมกันสำ�รวจ ศึกษา วิเคราะห์ ตลอดจนศึกษา ปัญหาและอุปสรรคที่ก่อเกิดกับแม่นํ้าท่าจีน และได้มีการ กำ�หนดวิธีการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อหาแนวทางในการ พัฒนากลุ่มนักเรียนและเครือข่ายที่สนใจให้มีศักยภาพสูงขึ้น ใช้เวลาในการพัฒนา 3 ปี (ปีการศึกษา 2551-2553) 2. รูปแบบกิจกรรม คณะผู้ดำ�เนินการได้แก่ สมาชิกชุมนุมวิทยาศาสตร์ ชุมนุมนักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ และคณะครูที่ปรึกษาได้ร่วมกัน ออกแบบการเรียนรู้กิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า รวมทั้งสิ้น 16 กิจกรรม ดังนี้ 1) กิจกรรมเส้นเวลา ประวัติและความสำ�คัญของ แม่นํ้าท่าจีน 2) กิจกรรมเส้นทางคุณขยะ ศิลปะจากเศษกระดาษ 3) กิจกรรมตะกอนซ่อนหา และค่าการนำ�ไฟฟ้าของนํา ้ 4) กิจกรรมการสำ�รวจสัตว์นาในระบบนิเวศแม่นาท่าจีน ํ้ ํ้ 5) กิจกรรมการสำ�รวจพืชนําในระบบนิเวศแม่นาท่าจีน ้ ้ํ 6) กิจกรรมนํ้ามือใคร นํ้าสะอาดได้อย่างไร 7) กิจกรรมร้อนๆ เย็นๆ การสำ�รวจอุณหภูมินํ้าใน แหล่งนํ้า 8) กิจกรรมสารพัดพิษ (ฟอสเฟต) 9) กิจกรรมธรรมชาติสอน การอนุรักษ์และพัฒนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น 10) กิจกรรม pH สภาพทางเคมีของแหล่งนํ้า 11) กิจกรรมเพิ่มลมหายใจให้ กุ้งปลา D.O. 12) กิจกรรมหวนคืนท่าจีน เช่น เขียนเรียงความ คำ�ขวัญ 13) กิจกรรมโครงการ “เรือสื่อรักท่าจีน” 14) กิ จ กรรมพั ฒ นาแหล่ ง การเรี ย นรู้ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง กับสุขภาพชุมชน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น วันสำ�คัญทางพระพุทธศาสนา และการเรียนรู้จากโครงงาน 15) กิจกรรมศูนย์ท่าจีนศึกษา 16) กิจกรรมลำ�นํ้า โดยเป็นการเฝ้าระวังคุณภาพนํ้า ด้วยวิธการตรวจสอบคุณภาพนําด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ี ้ อย่างต่อเนือง ตลอดจนการเรียนรูเ้ พือการอยูรวมกับธรรมชาติ ่ ่ ่่ อย่างยั่งยืน 3. ผลของการพัฒนา 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีนของ นักเรียน โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X ) มีการพัฒนาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2) ผลการประเมิ น ความพึ ง พอใจในการเข้ า ร่ ว ม กิจกรรมการพัฒนาเครือข่ายการเรียนรูวทยาศาสตร์ ห้องเรียน ้ิ สายนํ้า จากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน ของผู้ร่วมกิจกรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ 3) การพัฒนางานเชิงคุณภาพในการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า ส่งผลให้ผู้ร่วมกิจกรรม ผ่านการเรียนรู้ ตามมาตรฐานการ เรียนรู้ ดังนี้ 3.1) ผู้ร่วมกิจกรรม สามารถเลือกเรียนตามความ ถนัดและความสนใจได้อย่างหลากหลายโดยผ่านการเรียนรู้ จากแหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน 3.2) ผู้ร่วมกิจกรรม มีความสามารถสร้างองค์ ความรู้ได้ด้วยตนเองโดยใช้แหล่งการเรียนรู้แม่นํ้าท่าจีน 3.3) ผู้ร่วมกิจกรรม มีผลงานดีเด่นที่เกิดจากการ พัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า อย่างต่อเนื่อง 3.4) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ทั ก ษะกระบวนการ ทางวิ ท ยาศาสตร์ เป็ น ผู้ นำ � ด้ า นวิ ช าการท้ อ งถิ่ น สามารถ นำ�เสนอปัญหาที่เกิดจากแหล่งการเรียนรู้ท้องถิ่นและวิธีการ แก้ไขปัญหาร่วมกับชุมชนและเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง
  • 11.
    ปีที่ 4 ฉบับที่15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 3.5) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามสามารถเชื่ อ มโยง เนื้อหาทางวิทยาศาสตร์เพื่อนำ�สู่การแก้ปัญหาของท้องถิ่น โดยผ่านกระบวนการกลุมสนใจ เช่น ชุมนุมวิทยาศาสตร์ ชุมนุม ่ นักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ และวิทยากรนักสืบสายนํ้าแม่นํ้าท่าจีน 3.6) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามสามารถในการ นำ�เสนอองค์ความรูทเี่ กิดจากการเรียนรูอย่างต่อเนืองสมําเสมอ ้ ้ ่ ่ และใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในท้องถิ่นช่วยในการพัฒนา คุณภาพชีวต และนำ�เสนอผลงาน เผยแพร่ผลงานสูสาธารณชน ิ ่ ในสื่อสารมวลชน องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง 3.7) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม มี ค วามรั บ ผิ ด ชอบ มี จิ ต วิ ท ยาศาสตร์ โดยผ่ า นกระบวนการทางวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ เทคโนโลยีในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมและมีการใช้ ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า 3.8) ผรวมกิจกรรม มีความสามารถในการจัดการ ู้ ่ ความรู้ จัดกระบวนการเรียนรูดวยกิจกรรมการปฏิบตจริง เช่น ้้ ัิ กิจกรรมเฝ้าระวังคุณภาพนํ้าแม่นํ้าท่าจีน กิจกรรมคลองสวย นํ้าใส กิจกรรมสานเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3.9) ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรม สามารถประดิ ษ ฐ์ คิ ด ค้ น สิ่งใหม่ (Innovation) พอใจในผลงาน และเป็นผู้สร้างสรรค์ (Creative) มีผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ จากภูมปญญา ผลงานดีเด่นจากหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนือง ิ ั ่ 4. คุณค่าที่ได้รับจากโครงการ 1) คุณค่าต่อนักเรียน 1.1) การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้า กระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ ลงมือปฏิบตเิ พือสืบเสาะหาความรูในสภาพแวดล้อมในท้องถิน ั ่ ้ ่ ทั้งดิน นํ้า อากาศ และสิ่งมีชีวิตที่ตนเองสนใจ โดยเน้นการ สำ�รวจ การสังเกต การตั้งคำ�ถามวิจัย การสืบค้นข้อมูล การ ตรวจวัด การวิเคราะห์ การอภิปราย และสรุปผล เพื่อศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบหลักของโลก (ดิน นํ้า อากาศ และสิ่งมีชีวิต) และการเปลี่ยนแปลง 1.2) การพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้ อ งเรี ย นสายนํ้ า ผู้ ร่ ว มกิ จ กรรมจะได้ พั ฒ นาองค์ ค วามรู้ กระบวนการคิ ด วิ เ คราะห์ แ ละการคิ ด เป็ น ระบบอย่ า งเป็ น องค์รวม การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ ทักษะในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ วารสาร สควค. 11 ความสามารถในการสือสาร การทำ�งานร่วมกันเป็นทีม ่ การนำ�ความรูทได้รบไปประยุกต์ใช้ในชีวตประจำ�วัน ตลอดจน ้ ี่ ั ิ มีจิตวิทยาศาสตร์ เจตคติ คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม 2) คุณค่าต่อครูและโรงเรียน ครู ผู้ ส อนและโรงเรี ย นเป็ น ปั จ จั ย สำ � คั ญ ในการ สนั บสนุ นการเรี ย นรู้ ในทุ ก ๆ ด้ า นของผู้ ร่ วมกิ จ กรรม โดย สามารถนำ�กิจกรรมการเรียนรู้จากกระบวนการการพัฒนา เครือข่ายการเรียนรูวทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนําไปประยุกต์ใช้ ้ิ ้ เป็นกิจกรรมการเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ในโรงเรียนและในท้องถินได้หลายรูปแบบ เช่น จัดเป็นรายวิชา ่ เพิ่มเติม (รายปี) กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ หรือนำ�เนื้อหาบางส่วนบูรณาการเข้าไปกับวิชาวิทยาศาสตร์ ซึงกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาขันพืนฐาน ่ ้ ้ พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำ�หรับ นักเรียนชั้น ป. 4-6 และ ม. 1-3 3) คุณค่าต่อชุมชนและองค์กรอื่นๆ การเรียนรู้จากกระบวนการ การพัฒนาเครือข่าย การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ห้องเรียนสายนํ้าส่งเสริมให้ชุมชน และทุ ก หน่ ว ยงานทั้ ง ภาครั ฐ และเอกชนเข้ า มามี ส่ ว นร่ ว ม ในการทำ�ความเข้าใจปัญหา และแก้ปญหาเกียวกับสิงแวดล้อม ั ่ ่ ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น รวมถึงรับผิดชอบในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ขององค์ ป ระกอบสำ � คั ญ ของโลก ที่ จ ะต้ อ งร่ ว มมื อ ป้ อ งกั น อนุรกษ์ ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิงแวดล้อมในท้องถิน ั ่ ่ ของตนและของโลกให้คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Tel.034-393659 Fax. 034-288068 ผู้ประสานงานโครงการ ครูบุญมี อบเชย Tel. 08-9789-1824 E-mail:sciencedonwai@gmail.com
  • 12.
    12 วารสาร สควค. ปีที่4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ด้วยครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายครู สควค. ภาคใต้ วิสุทธิ์ คงกัลป์ สควค. รุ่น 6 ครู คศ.1 ร.ร. นครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 19-21 พ.ค. 2553 ชมรมครู สควค. สาขา ภาคใต้ ได้กำ�หนดจัดกิจกรรม “สัมมนาวิชาการและประชุม ใหญ่สามัญประจำ�ปี 2553 ชมรมครู สควค. ภาคใต้ เรื่อง การพัฒนาครู สควค. สูครูมออาชีพเพือการเรียนรูวทยาศาสตร์ ่ ื ่ ้ิ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี” ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ทักษิณ จังหวัดสงขลา ครูจากโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถ พิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) เป็นทีคาดหวัง ่ ของสังคมและประเทศชาติว่า จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน ครู วิ ท ยาศาสตร์ แ ละคณิ ต ศาสตร์ ทั้ ง ปริ ม าณและคุ ณ ภาพ และยกมาตรฐานการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้ สูงขึ้น ฉะนั้นการที่ครู สควค. จะปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความ คาดหวังดังกล่าว ต้องได้รบการพัฒนาอย่างต่อเนือง และมีการ ั ่ สร้างเครือข่ายการทำ�งานร่วมกันเพื่อเป็นผลักดันการศึกษา วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างชัดเจน ชมรมครู สควค. ภาคใต้จงจัดสัมมนาวิชาการขึน โดยการสนับสนุนงบประมาณ ึ ้ จาก สสวท. จำ�นวน 150,000 บาท มีครู สควค. เข้าร่วมกิจกรรม จำ�นวน 130 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1. ประชุมใหญ่สามัญ ประจำ�ปี 2553 ชมรมครู สควค. ภาคใต้ 2. เพื่อให้ผู้เข้าสัมมนาได้แลกเปลี่ยนความรู้ เพิ่มพูน ประสบการณ์ในการทำ�งาน 3. เพื่อให้ผู้สัมมนาได้พัฒนาตนเอง สู่การเป็นครู มืออาชีพ 4. เพือวางแนวทางในการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์ ่ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ชมรมครู สควค. ภาคใต้ ได้กำ�หนดจัดกิจกรรม ดังนี้ 19 พฤษภาคม 2553 มีกิจกรรม ดังนี้ - พิธเี ปิดและบรรยายพิเศษ “ความคาดหวังของสังคม กับครู สควค.” โดย คณบดี คณะศึกษาศาสตร์ ม.ทักษิณ - บรรยายเรื่อง การวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง - ประชุมแนะนำ�คณะกรรมการชมรมฯ และสัมมนา เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาชมรม ครู สควค. ภาคใต้ 20 พฤษภาคม 2553 :: มีกจกรรมการอบรมปฏิบตการ ิ ัิ ตามหัวข้อ ดังนี้ - การเขียนรายงานโครงการและการปฏิบัติงานทาง วิชาการในโรงเรียน - การควบคุมชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพ - การจั ด การเรี ย นรู้ แ บบวิ จั ย ในชั้ น เรี ย นที่ เ น้ น กระบวนการคิด - กิจกรรม “จิตสาธารณะสำ�หรับครู สควค.” - กิจกรรม สร้างเครือข่ายครู สควค. ที่เข็มแข้ง 21 พฤษภาคม 2553 มีกิจกรรม ดังนี้ - แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำ�เสนอผลงานแยกตาม สาขาวิชา - ประชุมใหญ่สามัญประจำ�ปี 2553 และอภิปราย แนวทางการจัดกิจกรรมของชมรมเพื่อพัฒนาการศึกษา - ศึกษาดูงานการจัดการเรียนการสอน ณ โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ อำ�เภอหาดใหญ่ จากการจั ด กิ จ กรรมพบว่ า ได้ รั บ การตอบรั บ จาก ครู สควค. ภาคใต้ ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมจำ�นวน มาก และทำ�ให้เรามีเว็บไซต์ของชมรมครู สควค. ภาคใต้ ผู้เข้า ร่วมกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเสนอแนะข้อคิดเห็น ที่มีประโยชน์ ซึ่งประสบการณ์และความสำ�เร็จที่ได้รับ จะเป็น พื้นฐานให้เราได้ออกแบบจัดกิจกรรมให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป ชมรมครู สควค. ภาคใต้ จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้าง เครือข่ายและส่งเสริมความสามัคคีระหว่างครู สควค. ภาคใต้ ส่ ง เสริ ม มาตรฐานการดำ � เนิ น งานให้ เ ป็ น ไป ในแนวทางเดียวกัน เป็นศูนย์รวมในการดำ�เนินงานและ แก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการจัดการ ศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แก่เยาวชนของชาติ ร่วมมือกับรัฐบาล หน่วยงาน ผู้บริหารสถานศึกษา และ สถาบั น ส่ ง เสริ ม การสอนวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี ในอันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางการพัฒนาการจัดการ ศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของชาติ และส่งเสริม ความรู้และพัฒนาความก้าวหน้าแก่สมาชิก ดูรายละเอียดที่ http://www.nara1.org/sorkorworkor
  • 13.
    วารสาร สควค. 13 ปีที่4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 ตัวอย่างงานวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นการตีความ :: ตัวแทนความคิดวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ความร้อน ผลงานวิจัยครู สควค. ศักดิ์อนันต์ อนันตสุข สควค. รุ่น 6 ครู คศ.1 ร.ร.นารายณ์คำ�ผงวิทยา จ.สุรินทร์ ตัวแทนความคิด (Representation) หมายถึง สิ่งที่ แสดงถึงความเข้าใจของแต่ละบุคคลทีอาจสือออกมาในรูปของ ่ ่ การบรรยาย การอธิบาย การวาดรูป การประดิษฐ์ การสร้าง วัสดุอุปกรณ์ หรืออะไรก็ได้ที่แสดงถึงความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ โดยการเป็นตัวแทนของความคิดทางวิทยาศาสตร์ จะพิจารณา 2 ประเด็น คือ ความเหมือนของจริง (Similarity) และความ คล้ายของจริง (Isomorphism) จำ�แนกเป็น 4 กรณีต่อไปนี้ กรณีที่ 1 (Toy bridge representation) แบบจำ�ลอง สะพาน ทีสร้างขึนเลียนแบบสะพานจริง ทังขนาด นําหนัก วัสดุ ่ ้ ้ ้ ก่อสร้าง รูปทรงทางเรขาคณิตเหมือนกัน เพียงแต่มีขนาดเล็ก กว่าของจริง เป็นตัวแทนความคิดที่เหมือนของจริง กรณีที่ 2 (Graph of bridge) ภาพลายเส้นที่แสดง โครงสร้ า งหรื อ เขี ย นบนกระดาษแทนรู ป ทรงเรขาคณิ ต แบบแปลน แผนที่ เป็นตัวแทนความคิดที่คล้ายของจริง กรณี ที่ 3 (Billiard ball model) แบบจำ � ลอง ลูกบิลเลียด ที่ใช้ในการอธิบายระบบโมเลกุลของแก๊สมีความ เหมื อ นในเชิ ง กายภาพ มี ก ารชนกั น แต่ ลู ก บิ ล เลี ย ดมี ก าร เคลือนทีใน 2 มิติ ส่วนระบบโมเลกุลของแก๊สจะมีการเคลือนที่ ่ ่ ่ ใน 3 มิติ และอาศัยจินตนาการ จึงเป็นตัวแทนความคิดทีคล้าย ่ ของจริง กรณีที่ 4 (Quantum state diffusion equation) สมการคือ สิงทีใช้อธิบายปรากฏการณ์นนๆ ได้ แต่กไม่ทงหมด ่ ่ ั้ ็ ั้ เช่น สมการ E=mc2 เป็นสมการทีอธิบายการเปลียนแปลงมวล ่ ่ ไปเป็นพลังงาน สมการจึงเป็นตัวแทนความคิดที่ คล้ายของจริง ผู้เขียนได้ทำ�วิจัยกับนักเรียนโรงเรียนนารายณ์คำ�ผง วิทยา ชั้น ม.5/1 ภาคเรียนที่ 2/2552 โดยใช้แบบสอบถาม ปลายเปิดเรื่อง ความร้อน จำ�นวน 7 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนซึ่งยังไม่ได้เรียนเนื้อหาเรื่อง ความร้อน มีรูปแบบ ตัวแทนความคิดเกี่ยวกับมโนมติ ต่างๆ ดังนี้ 1. แหล่งกำ�เนิดความร้อน นักเรียนบางส่วนบอกได้วา ่ ความร้อนเกิดขึ้นจากการกระทำ�ของมนุษย์และเกิดขึ้นเอง ตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่บอกสาเหตุของการเกิดความร้อน ได้หลากหลาย เช่น ความร้อนเกิดจากดวงอาทิตย์ เกิดจาก การเสียดสีของวัตถุ เกิดจากพลังงานในของเหลวร้อนใต้พิภพ เป็นต้น 2. ผลของความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่บอกได้ว่า ความร้อนทำ�ให้เกิดความอบอุนแก่รางกาย ช่วยในการเผาไหม้ ่ ่ ช่วยในการหุงต้ม ช่วยในการตากเสื้อผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น ทำ�ให้หงุดหงิด โกรธง่าย มีเหงื่อ ต้องอาบนํ้าบ่อย 3. การบอกระดับความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่บอกว่า ทำ�ได้โดยการสัมผัส แต่มีบางส่วนบอกว่า สามารถทำ�ได้โดย ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัด และมีนักเรียนบางคนสามารถบอกได้ ทั้ ง 2 วิ ธี คื อ การใช้ มื อ สั ม ผั ส และการใช้ เ ทอร์ โ มมิ เ ตอร์ ส่วนกรณีที่เป็นสารชนิดเดียวกัน มีปริมาตรต่างกัน และมี อุณหภูมิเท่ากัน จะมีความร้อนเท่ากันหรือไม่ คำ �ตอบของ นักเรียน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ มีความร้อนเท่ากัน เนื่องจากมี อุณหภูมิเท่ากัน และอุณหภูมิไม่เท่ากัน เพราะมีปริมาตรของ นํ้าต่างกัน 4. ความร้อนแฝง นักเรียนมีแนวคำ�ตอบจำ�แนกได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่บอกว่า นํ้าแข็งที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ไม่มีความร้อน ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้มีแนวคิดที่ผิดไปจากแนว ความคิ ด ของนั ก วิ ท ยาศาสตร์ แ ละกลุ่ ม ที่ บ อกว่ า นํ้ า แข็ ง ที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส มีความร้อนแฝงอยู่ภายในระบบ 5. ความจุความร้อนจำ�เพาะของสาร นักเรียนส่วนใหญ่ มี ค วามคิ ด ว่ า ถ้ า นำ � เหล็ ก และนํ้ า ที่ มี ม วลเท่ า กั น ไปวาง ตากแดดในเวลาเท่ากัน เหล็กจะมีอณหภูมสงกว่านํา เนืองจาก ุ ิู ้ ่ เหล็กนำ�ความร้อนได้ดีกว่านํ้า และเหล็กมีสถานะเป็นของแข็ง มีนักเรียนบางส่วนบอกว่าทั้งเหล็กและความร้อนมีอุณหภูมิ สูงขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าวัตถุใดจะมีอุณหภูมิมากกว่ากัน 6. การถ่ายเทความร้อน นักเรียนส่วนใหญ่มีความ เห็นว่า ความร้อนที่ได้รับในขณะที่ยกหม้อแกงที่เปิดฝาและ กำ�ลังเดือดลงจากเตาไฟ คือ ความร้อนจากไอนํ้า ความร้อน จากการสัมผัสหูหม้อ และความร้อนที่เกิดจากเตาไฟ นักเรียน ส่วนใหญ่ตอบทั้งสามอย่าง แต่ไม่มีนักเรียนคนใดเลยที่ใช้ศัพท์ ทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การพาความร้อน การนำ�ความร้อนและ การแผ่รังสีความร้อน ในการอธิบาย เนื่องจากยังไม่ได้เรียนรู้ อ้างอิง :: Peter Hubber. (2006). Year 12 Students’ Mental Models of the Nature of Light. Research in Science Education 36: 419-439.
  • 14.
    14 วารสาร สควค. ปีที่4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ผลงานวิจัยครู สควค. นิกร สีกวนชา สควค. รุ่น 8 ครู คศ.1 ร.ร.หนองโพธิ์ประชานุกูล จ.ขอนแก่น ซากดึกดำ�บรรพ์ เป็นส่วนที่เหลือของสิ่งมีชีวิตที่ถูก ธรรมชาติเก็บรักษาเอาไว้ อาจเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นเพียง ร่องรอยของสิงมีชวตเหลือทิงไว้ขณะทียงมีชวตอยู่ ซึงส่วนใหญ่ ่ ีิ ้ ่ั ีิ ่ มักพบในหินตะกอน ซากดึกดำ�บรรพ์เหล่านี้จะถูกเก็บรักษา (Preservation) ไว้ตามธรรมชาติ การเกิ ด ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ปั จ จั ย สิ่ ง หนึ่ ง ที่ สำ � คั ญ คื อ สภาพแวดล้อม ถ้าสภาพแวดล้อมในขณะนั้นมีความเหมาะสม เกิดการทับถมลงในตัวกลางที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว จะเป็น การเก็ บ รั ก ษาร่ า งของสิ่ ง มี ชี วิ ต นั้ น ไว้ ไ ด้ อ ย่ า งสมบู ร ณ์ โดยตะกอนที่ ม าปิ ด ทั บ จะเก็ บ รั ก ษาสภาพซากสิ่ ง มี ชี วิ ต เหล่ า นั้ น ทั น ที ห รื อ อาจเกิ ด ในระยะเวลาหลั ง จากสิ่ ง มี ชี วิ ต เหล่ า นั้ น ตายไปไม่ น านนั ก ซึ่ ง ต่ อ มาได้ ก ลายเป็ น หิ น โดย กระบวนการการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ (Fossilization Process) เกิดจากแร่ธาตุที่มากับตะกอนทางนํ้าค่อยๆ เข้าไปแทนที่ โครงสร้างเซลล์เดิมของสิงมีชวต ตามแนวรอยแตกหรือตามช่อง ่ ีิ ว่างระหว่างเซลล์สิ่งมีชีวิตเรื่อยๆ จนกระทั่งโครงร่างแข็งแกร่ง ขึ้น จนกลายเป็นหินหรือกึ่งกลายเป็นหิน เนื่องจากแหล่งขุดค้นภูน้อย อำ�เภอคำ�ม่วง จังหวัด กาฬสิ น ธุ์ เป็ น แหล่ ง ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ แ ห่ ง ใหม่ ถู ก ค้ น พบ ได้ไม่นาน มีความหลากหลายของชนิด (diversity) และความ ชุกชุม (abundance) ของซากดึกดำ�บรรพ์ แต่ยงไม่มการศึกษา ั ี รูปแบบการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษารูปแบบ การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของซากดึกดำ�บรรพ์ที่ค้นพบในแหล่ง ซากดึกดำ�บรรพ์ อ.คำ�ม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นฐานข้อมูล รูปแบบการเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งดังกล่าว จากข้อมูลทางธรณีวทยาของแหล่งขุดค้นภูนอยในชัน ิ ้ ้ ทีพบซากดึกดำ�บรรพ์เป็นชันหินตะกอนทีเ่ กิดจากการทับถมกัน ่ ้ ประกอบด้วยชั้นหินทรายเนื้อละเอียด (Vary fine sand stone) แทรกกับหินโคลน (Mud stone) มีชั้นถ่านเป็นชั้นที่มี เศษซากพืชแทรกในชั้นและมีชั้นหินกรวดมน (Conglomerate) อยูรอบๆ แหล่งขุดค้น แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของแหล่ง ่ ที่เกิดซากดึกดำ�บรรพ์ที่เคยเป็นแหล่งนํ้ามาก่อน การกระจายและความหนาแน่นของซากดึกดำ�บรรพ์ ในแหล่ ง ขุ ด ข้ น ค้ น เปิ ด อย่ า งเป็ น ระบบมี ก ารวางตั ว ของ ซากดึกดำ�บรรพ์ที่มีการวางตัวอย่างต่อเนื่อง ซากดึกดำ�บรรพ์ ที่มีความหนาแน่น และสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เช่น กระดูก สันหลังส่วนหาง และกระดูกขาหน้า ของไดโนเสาร์ทตอเนืองกัน ่ี ่ ่ และขนาดตะกอนทีเ่ ล็กและคัดขนาดดี แสดงถึงสภาพแวดล้อม ที่กระแสนํ้าไม่รุนแรงในบริเวณหลุมขุดค้น ในส่วนของชั้นหินกรวดมนพบตัวอย่างแตกหักเป็น ส่วนใหญ่ และการกระจายของซากดึกดำ�บรรพ์ไม่ตอเนืองและ ่ ่ ขนาดตะกอนที่ใหญ่และเล็กปนกันแสดงถึงแรงกระทำ�ของนํ้า ก่อนเกิดเป็นซากดึกดำ�บรรพ์รอบแหล่งขุดค้นอย่างเป็นระบบ แสดงถึงการสะสมตัวของซากดึกดำ�บรรพ์ในสภาพแวดล้อม ที่กระแสนํ้ารุนแรง การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ของแหล่งขุดค้นภูนอย มีรปแบบ ้ ู การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์อยู่ 4 ลักษณะ ได้แก่ 1. Perimineralization เป็นกระบวนการกลายเป็นหิน ซึ่งเกิดจากการเติมเต็มของสารละลายแร่ธาตุเข้าในช่องว่าง ภายในเซลล์ ทำ�ให้คงสภาพของโครงร่างเดิมไว้ ซากดึกดำ�บรรพ์ ที่เกิดกระบวนการนี้ได้แก่ กระดูกไดโนเสาร์ กระดูกจระเข้ กระดองและกระโหลกเต่า ปลาเลปิโดเทส และไม้กลายเป็นหิน 2. Replacement เป็นกระบวนการกลายแร่หรือหิน ซึ่งเกิดจากการแทนที่แบบโมเลกุลต่อโมเลกุลของแร่ธาตุ เช่น สารซิลิกาในรูปของแร่ควอตซ์แทนที่แคลไซต์ ซากดึกดำ�บรรพ์ ที่เกิดกระบวนการนี้ได้แก่ กระดูกไดโนเสาร์ 3. Carbonization เป็นกระบวนการกลายเป็นถ่าน เกิดจากสารอินทรีย์ได้รับความร้อนและความดันสูงภายใต้ ชั้นหินทำ�ให้ได้เปอร์เซนต์คาร์บอนที่สูงขึ้น เช่น ไม้กลายเป็น ถ่าน เมื่อนำ�ไปส่องใต้กล้องสเตอริโอ พบว่ามีเนื้อไม่เป็นผง สีดำ�เนื้อละเอียด มีความมันวาวสะท้อนแสง 4. Unaltered hard part เป็นกระบวนการเก็บรักษา ซากนันให้คงเดิมไม่มการเปลียนแปลง เช่น เกล็ดปลาเลปิโดเทส ้ ี ่
  • 15.
    วารสาร สควค. 15 ปีที่4 ฉบับที่ 15 เดือนเมษายน-มิถุนายน 2553 A ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกไดโนเสาร์ A A B B B ภาพที่ 3 ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกไดโนเสาร์ที่พบในแหล่งขุดค้น ภูน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Replacement และ Permineralization A B ซากดึกดำ�บรรพ์ของกระดูกจระเข้ A B หมายเหตุ : A คือ ภาพถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล B คือ ภาพถ่ายด้วยกล้องสเตอริโอไมโครสโคป ซากดึกดำ�บรรพ์ของเต่า A B ซากดึกดำ�บรรพ์ของปลาเลปิโดเทส A B ซากดึกดำ�บรรพ์ของไม้กลายเป็นหิน ภาพที่ 1 ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ช นิ ด ต่ า งๆ ที่ พ บในแหล่ ง ขุ ด ค้ น ภู น้ อ ย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Permineralization A ภาพที่ 4 ซากดึกดำ�บรรพ์ของเกล็ดปลาเลปิโดเทส ในแหล่งขุดค้น ภูนอย จังหวัดกาฬสินธุ์ ทีมรปแบบการเกิดแบบ Unaltered hard part ้ ่ีู B ข้อเสนอแนะ 1. ควรศึ ก ษาการเกิ ด ซากดึ ก ดำ � บรรพ์ ใ นแหล่ ง ขุดค้นพบซากดึกดำ�บรรพ์อื่นๆ แล้วนำ�ข้อมูลที่ได้มาศึกษา เปรียบเทียบกัน 2. ควรมีการศึกษาแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของ ซากดึกดำ�บรรพ์โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติม 3. ควรสร้างสื่อการเรียนหรือนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ การเกิดซากดึกดำ�บรรพ์ เช่น สร้างเป็นการ์ตูน แอนนิเมชัน เพื่อเสริมแรงจูงใจให้กับนักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ขอขอบคุณ ผอ.พิพธภัณฑ์สรธรทีอ�นวยความสะดวก ิ ิิ ่ำ ให้สถานที่และอุปกรณ์เครื่องมือวิจัย ขอขอบคุณ ดร.วรวุธ สุธธร หัวหน้าสถานีวจยภูกมข้าว ทีให้ค�แนะนำ�ในการปรับปรุง ี ิั ุ ่ ำ การวิจยให้สมบูรณ์ และขอขอบคุณ สำ�นักงานกองทุนสนับสนุน ั การวิจัย (สกว.) ที่ให้ทุนสนับสนุนการทำ�วิจัย ภาพที่ 2 ซากดึกดำ�บรรพ์ของไม้ที่พบในแหล่งขุดค้นภูน้อย จังหวัด กาฬสินธุ์ ที่มีรูปแบบการเกิดแบบ Carbonization วารสาร สควค. ปีที่ 4 ฉบับที่ 15 (เมษายน-มิถุนายน 2553) พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2553 จำ�นวน 500 เล่ม เจ้าของ ชมรมครูที่มีความ สามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เว็บไซต์ www.krusmart.com ที่ทำ�การ เลขที่ 46 หมู่ที่ 10 ตำ�บลธาตุ อำ�เภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ 32130 โทรศัพท์ 08-9028-6327 สนับสนุนการจัดทำ�โดย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ที่ปรึกษา อ.พรพรรณ ไวทยางกูร, อ.ดวงสมร คล่องสารา, อ.อรวรรณ อินทวิชญ, อ.ปราณี สร้อยสั้น, อ.พวงเพ็ญ บุญญภัทโร, อ.โสภณ แย้มทองคำ� , อ.มิตรชัย คำ�งอก, อ.สุประดิษฐ สะอาด, ผอ.ธนชัย สุทธิยานุช บรรณาธิการ ศักดิอนันต์ อนันตสุข ผูชวยบรรณาธิการ รัสนา อนันตสุข กองบรรณาธิการ ์ ้ ่ ว่องไว ธุอินทร์, ณัฐพล แสงทวี, เจษฎา เนตรสว่างวิชา, วิโรจ หลักมั่น, วิสุทธิ์ คงกัลป์, บุญเลี้ยง จอดนอก, ชำ�นาญ เพริดพราว, วงค์ณภา แก้วไกรษร, จตุรภัทร ประทุม เครือข่ายวารสารฉบับออนไลน์ www3.ipst.ac.th/dpst และ www.anantasook.com
  • 16.
    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช “...ผู้มีปัญญาและความรู้ดี เพราะมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนมามากกว่าผู้อื่นย่อมมีหน้าที่และความรับผิดชอบ เป็นพิเศษ ที่จะต้องทำ�ตัว ทำ�งานให้เป็นประโยชน์แก่ชาติและประชาชน การที่จะกระทำ�ให้ได้ผลเป็นประโยชน์ ดังนั้น จำ�เป็นที่แต่ละคนจะต้องรู้ซึ้งถึงประโยชน์ที่แท้เป็นเบื้องต้นก่อน ประโยชน์ที่แท้นั้นมีอยู่สองอย่าง คือ ประโยชน์ส่วนตัว ที่ทุกคน มีสิทธิจะแสวงหาและได้รับ แต่ต้องด้วยวิถีทางที่สุจริตและเป็นธรรม กับประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเป็นประโยชน์ ของชาติที่แต่ละคนมีส่วนร่วมอยู่ การทำ�งานทุกอย่างจะต้องให้ได้ประโยชน์แท้ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ประโยชน์นั้น จึงจะมั่นคงถาวร เป็นผลดีแก่ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง...” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล วันที่ 5 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2539 ครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ :: พัฒนาผู้เรียน พัฒนาตนเอง พัฒนาเครือข่ายครู พัฒนาสังคม 20-24 เม.ย. 2553 :: ครู สควค.ร่วมอบรมเชิงปฏิบตการจัดทำ�เนือหา ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัยพลังงาน รับทุนวิจัยของ สกว. ทำ�วิจัย ัิ ้ บนเว็บไซต์สหวิชาดอทคอมของ สพฐ. ณ โรงแรมแมกซ์ กรุงเทพฯ เรื่องเทคโนโลยีพลังงาน ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัยไดโนเสาร์รับทุนวิจัยจาก สกว.ทำ�วิจัย ครู สควค. และเพื่อนครุวิจัย ดาราศาสตร์ รับทุนวิจัยจาก สกว.ทำ�วิจัย ซากดึกดำ�บรรพ์ ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ผลิตสื่อการเรียนรู้ดาราศาสตร์ ณ หอดูดาวเกิดแก้ว จ.กาญจนบุรี 8 ก.ค. 2553 :: ประธานชมรมครู สควค. เข้าร่วมประชุมศูนย์ 19-21 พ.ค. 2553 :: ชมรมครู สควค. สาขาภาคใต้ จัดกิจกรรม เครือข่ายการพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่คุรุสภา พัฒนาเครือข่ายครู สควค. ณ คณะศึกษาศาสตร์ ม.ทักษิณ จ.สงขลา พิมพ์ที่ : บริษัท รุ่งธนเกียรติออฟเซ็ท จำ�กัด บริการสมาชิกโดย : ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี (ศวคท.)