More Related Content
Similar to แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
Similar to แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน (20)
More from Jariya Jaiyot (20)
แผ่นพับสรุปวิจัยในชั้นเรียน
- 1. ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาและผลการใช้เอกสารประกอบการ
เรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3
ผู้วิจัย นางสาวจริยา ใจยศ
สังกัด โรงเรียนสา อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน สานักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 (แพร่-น่าน)
ปีการศึกษา 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของ
เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ
เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น ในการศึกษาได้เลือก
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปี
การศึกษา 2555 โรงเรียนสา อาเภอเวียงสา สานักงานเขตพื้นที่การ
ศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 (แพร่-น่าน) จานวน 30 คน โดยได้มา
จากการสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ เอกสาร
ประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น และแบบสอบถามความพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น วิธีการ
ทดลองใช้แบบแผนการทดลองแบบ One-Group Pretest–Posttest
Design วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบที (t–test)
ผลการวิจัยมีดังนี้
1. เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 85.58/80.33
2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสาร
ประกอบการเรียนวิชาเคมีเบื้องต้น อยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.60,
S.D. = 0.58)
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชา
เคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิ
ภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนสา อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ที่มีต่อเอกสารประกอบการ
เรียน วิชาเคมีเบื้องต้น
สมมติฐานของการวิจัย
1. เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสา อาเภอเวียงสา จังหวัด
น่าน มีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้อง-
ต้น อยู่ในระดับมาก
ขอบเขตของการวิจัย
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 โรงเรียนสา อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2555 จานวน 165 คน 4 ห้องเรียน
1.2 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนสา
อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จานวน
30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบง่าย
2. เนื้อหา
เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่นามาใช้ในครั้งนี้ มีเนื้อหาจานวน 3 หน่วยการ
เรียนรู้ ได้แก่ โครงสร้างอะตอม ตารางธาตุ และพันธะเคมี
3. ระยะเวลาในการใช้วิจัย
การวิจัยครั้งนี้ดาเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ใช้
ระยะเวลาทดลอง จานวน 20 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คาบ รวม 40
คาบ
4. ตัวแปรที่ศึกษา
4.1 ตัวแปรอิสระ คือ การจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการ
เรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
4.2 ตัวแปรตาม คือ ประสิทธิภาพของ
เอกสารประกอบการเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
หลังการใช้เอกสารประกอบการเรียน และความพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อเอกสาร ประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น
วิธีดาเนินการวิจัย
1. กาหนดเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
2. สร้างและหาคุณภาพของเครื่องมือ
สร้างและหาคุณภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมี
เบื้องต้น
- 2. สร้างและหาคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน
3. เก็บรวบรวมข้อมูล
• ทดสอบก่อนเรียน
• ดาเนินการจัดการเรียนรู้ด้วยเอกสารประกอบการเรียน
วิชาเคมีเบื้องต้น
• ทาการทดสอบหลังเรียน
• ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสาร
ประกอบการเรียน
4. วิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยนาข้อมูลที่เก็บรวบรวมหาประสิทธิภาพของเอกสาร
ประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
ด้วยสูตร E1/E2
เกณฑ์ 80 ตัวแรก หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนผลการปฏิบัติ
กิจกรรมและแบบฝึกหัดต่าง ๆ ของนักเรียนทุกคนมารวมกันแล้ว
คานวณหาค่าเฉลี่ยได้คะแนนไม่ต่ากว่าร้อยละ 80
เกณฑ์ 80 ตัวหลัง หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่ได้จาก
การทดสอบหลังเรียน ของนักเรียนทุกคนมารวมกันแล้วคานวณหา
ค่าเฉลี่ยได้คะแนนไม่ต่ากว่าร้อยละ 80
5. สถิติที่ใช้
1. สถิตพื้นฐาน
• ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean)
• ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S)
2. สถิติที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวิจัย
• ค่า IOC
• ค่า E1/E2
• ค่าความยากง่าย และค่าอานาจจาแนก
• ค่าความเชื่อมั่น
• ค่า t – test
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตาราง การหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
วิชาเคมีเบื้องต้น
ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น
สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ
85.58/80.33 ซึ่งเป็นไปตามประสิทธิภาพ 80/80 ที่กาหนดไว้
ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสาร
ประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น
นักเรียนมีความพึงพอใจเฉลี่ย 4.60 อยู่ในระดับมากที่สุด
สรุปผลการวิจัย
1. เอกสารประกอบการเรียน วิชาเคมีเบื้องต้น สาหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.58/80.33
2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อด้วยเอกสารประกอบการเรียน
วิชาเคมีเบื้องต้น อยู่ในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ควรเพิ่มสื่อการเรียนการ
สอนที่หลากหลาย เนื่องจากวิชาเคมีเบื้องต้นเป็นเรื่องของทฤษฎี
และเป็นนามธรรม การจะให้เด็กสร้างองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง
ครูควรมีบทบาทเป็นผู้อานวยความสะดวก เสริมแรงกระตุ้น ให้
นักเรียนได้กล้าแสดงความคิดเห็น และใช้กระบวนการกลุ่มในการ
ฝึกให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น
@@@@@@@@@@