More Related Content
Similar to Still image (20)
Still image
- 2. Still Image
ภาพนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว เกิดจากการวางสี
เส้น และรูปทรงต่างๆ ในตำาแหน่งที่เหมาะสม
ปัจจุบนนิยมใช้ภาพนิ่งประกอบการนำาเสนอ
ั
ข่าวสารหรือเชือมโยงเรื่องราวเข้าด้วยกันใน
่
รูปแบบของมัลติมีเดีย
2
- 3. ประเภทของภาพนิ่ง
ภาพนิ่งที่ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เกิดจากการรวม
กันของจุดสีแต่ละจุดว่าพิกเซล (Pixel)
คุณภาพของการแสดงผลภาพนิ่งใดๆ นั้น จะขึ้นอยู่กบั
ความละเอียดของภาพ ประสิทธิภาพของอุปกรณ์
ฮาร์ดแวร์ เช่น จอภาพ การ์ดจอ (Video Card) และ
คุณภาพของเครื่องพิมพ์
ประเภทของภาพนิ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
ภาพ 2 มิติ (2D Image)
ภาพ 3 มิติ (3D Image)
3
- 4. ภาพ 2 มิติ
ที่สร้างและนำามาใช้งานกับคอมพิวเตอร์แบ่ง
ได้ 2 ประเภท
ภาพเวกเตอร์ (Vector Graphic)
ภาพบิตแมป (Bitmapped Image)
4
- 5. ภาพเวกเตอร์ (Vector Graphic)
ภาพเวกเตอร์แสดงถึงภาพ
ลักษณ์ที่มีโครงสร้างทาง
เรขาคณิต และสร้างด้วย
หลักทางคณิตศาสตร์ จึง
ต้องจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ
ของคำาสั่ง
5 ลักษณะการวาดรูปสี่เหลี่ยมด้วยโปรแกรม Photoshop
- 7. ภาพเวกเตอร์ เป็นไฟล์ขนาดเล็ก สามารถปรับปรุงโครงร่างของ
ภาพได้แม้จะเป็นเส้นบางๆ และสามารถย่อขยายภาพได้โดยไม่
สูญเสียคุณภาพ
การขยายภาพเวกเตอร์ เมื่อขยายขนาดจะไม่สูญเสียความคม
7 ชัด
- 8. ภาพบิตแมป (Bitmapped Image)
บิตแมปเป็นภาพที่เกิดจากการประกอบรวมกันของพิกเซล
ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดที่ใช้แสดงผลบนจอภาพและ
ในการพิมพ์ ภาพบิตแมปสามารถรองรับการแสดงสีได้
มากกว่า 16.7 ล้านสี (ความละเอียดที่ 26 บิต)
วิธการสร้างภาพแบบบิตแมปที่นยมกันสามารถทำาได้หลาย
ี ิ
วิธี ดังนี้
การนำาเข้าภาพจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
การคัดลอก (Copy) ภาพที่แสดงบนจอภาพ
นำาเข้าภาพถ่ายผ่านทางเครื่องสแกนเนอร์ (Scanner)
นำาเข้ารูปภาพจากกล้องถ่ายภาพดิจิตอลหรือกล้องวีดีโอ
ดิจิตอล
8
- 9. ภาพบิตแมปถ้าภาพมีความละเอียดน้อย เมื่อทำาการขยายจะ
ทำาให้สูญเสียรายละเอียดของภาพทำาให้เกิดเป็นรอยหยัก
เรียกว่า “อะไลแอส”(Alias)
มีให้เลือกใช้งานหลายชนิด เช่น ไฟล์ที่มีนามสกุล Bmp,
Cgm, Gif, Hgl, Jpeg, Pbm, Pcx Pgm, Pnm, Ppm, Psd,
Rle, Tga, Tiff และ Wpg เป็นต้น
9 ภาพแผนที่บิตเมื่อทำาการขยายจะปรากฏกรอบของจุดภาพ
- 10. ภาพ 3 มิติ (3D Image)
เป็นภาพประเภทหนึ่งของภาพเวกเตอร์ ซึ่งมีลักษณะมุมมองของ
ภาพที่เหมือนจริง อยู่ในรูปทรง 3 มิติ (3D) มีพื้นฐานการสร้างมา
จากภาพ 2 มิติ (มีเพียงแกน X และ Y ) โดยเพิ่มความลึกให้กับ
ภาพที่สร้าง (เพิ่มแกน Z)
ภาพ 2 มิติ ภาพ 3 มิติ
10 ภาพโครงร่างพื้นฐานของภาพ 2 มิติและภาพ 3 มิติ
- 12. รูปแบบไฟล์ข้อมูลภาพ (Image File Format)
โปรแกรมสนับสนุนในระบบ Macintosh ส่วนใหญ่จะสามารถ
นำาเข้า (Import) และ ส่งออก (Export) ไฟล์ภาพที่มีนามสกุล
Pict ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัทแอปเปิ้ล ตัวอย่างโปรแกรม เช่น
โปรแกรม Illustrator หรือ Freehand
ส่วนบนระบบ Windows ใช้รูปแบบ Dibs (Device-
Independent Bitmaps) ซึ่งบันทึกไฟล์ในรูปแบบ Bmp
โดยที่ Dibs นั้นสามารถซ่อนอยู่ในไฟล์ Riff(Resource
Interchange File Format) ได้
Riff เป็นรูปแบบไฟล์ที่รองรับไฟล์ได้หลายชนิดบนระบบ
Windows เช่น ไฟล์ภาพบิตแมปชนิดต่างๆ ไฟล์ Midi และรูป
แบบตัวอักษร
ส่วนใหญ่การบันทึกข้อมูลรูปภาพแบบบิตแมปบนระบบ
Windows จะเป็นไฟล์ Dib, Bmp, Pcx และ Tiff แต่มีบาง
บริษัทสร้างรูปแบบไฟล์ภาพของตัวเองขึ้นมา เช่น บริษัท
Adobe สร้างรูปแบบไฟล์ Psd สำาหรับโปรแกรม Photoshop
12 และไฟล์ Ai สำาหรับโปรแกรม Illustrator
- 13. การสร้างภาพดิจิตอล
จากเครื่องสแกนเนอร์ (Scanner)
จากกล้องดิจิตอล (Digital Camera)
โปรแกรมที่ใช้ในการแก้ไขภาพ เช่น Fauve Xres, Adobe
Photoshop, Hsc Live Picture, Micrografx Picture
Publisher เป็นต้น
13
- 14. เทคนิคการปรับแต่งภาพ
Anti-Aliasing
เป็นขั้นตอน
การปรับแต่ง
การเรียงตัว
ของจุดสี
ภายในภาพที่
มีลักษณะเป็น
รอยหยัก
(Aliasing) ให้ ก่อนการขจัดรอย หลังการขจัด
เรียบกว่าเดิม หยัก รอยหยัก
14 การขจัดรอย
หยัก
- 15. Transformation
เป็นการแปลงรูปร่างของภาพให้มีลักษณะแตกต่างจากเดิม เช่น
ย่อภาพให้เล็กลง หมุนภาพให้อยู่ในแนวที่ต้องการ และบิดภาพ
ให้เอียงในองศาที่เหมาะสม
ภาพเดิมก่อนการแปลง
ภาพใหม่หลังจากการแปลง (พลิกภาพ)
การ Transformation
15
- 16. Dithering
เป็นการปรับข้อมูลสีของแต่ละพิกเซลให้มีความใกล้เคียง
และกลมกลืนกับข้อมูลสีที่ต้องการ ด้วยการคำานวณหาค่า
เฉลี่ยของข้อมูลสีภายในภาพแล้วปรับเปลี่ยนให้ได้ตามความ
ต้องการ
16 การปรับข้อมูลสีด้วยวิธี Dithering
- 17. Rendering
เป็นการเพิ่มพื้นผิวใกล้กับภาพซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับภาพ 3
มิติ เนื่องจากการสร้างภาพ 3 มิติทำาได้เพียงโครงร่างของ
ภาพ
การ Rendering ด้วยโปรแกรม 3D Studio Max
17
- 18. การทำางานของแสงสีร่วมกับคอมพิวเตอร์
เนื่องจากดวงตาของมนุษย์ไวต่อสีหลัก 3 สี คือ สีแดง (Red) เขียว
(Green) และนำ้าเงิน (Blue) โดยใช้หลักการผสมแสงสีเข้าด้วยกันเพื่อ
ได้ได้สีต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เมื่อเห็นวัตถุสีส้ม จะเกิดจาก
การรวมกันของแสงสีเขียว และสีแดง เป็นต้น ด้วยความต้องการให้สี
บนจอภาพเหมือนกับสีที่มองเห็นจากดวงตามนุษย์ จึงนำาลักษณะการ
รวมสีของดวงตามนุษย์มาประยุกต์ใช้กับการแสดงผลของจอภาพ
คอมพิวเตอร์
สำาหรับเครื่องพิมพ์นอกจากใช้ 3 สีขางต้นแล้ว ต้องมีการใช้สีเพิ่มคือ สี
้
คราม (Cyan) สีม่วง (Magenta) สีดำา และสีเหลือง ในทางตรงข้ามกัน
จอภาพคอมพิวเตอร์จะใช้ปฏิกิริยาทางเคมีของสารฟอสฟอรัสรวมจุด
สีหลัก 3 สี (แดง นำ้าเงิน เขียว ) ผสมเป็นแสงสีที่แตกต่างกันบนจอภาพ
สื่อมัลติมีเดียปัจจุบันแสดงผลบนจอภาพได้อย่างน้อย 640X480
พิกเซล 256 สีขึ้นไป ถ้าจอภาพแสดงผลแสงสีได้มากก็สามารถสร้าง
ภาพที่ละเอียดได้มากขึ้น
18
- 19. ตารางแสงสี
ใช้อางอิงข้อมูลแสงสี เพื่อกำาหนดค่าแสงสีของแต่ละพิกเซล
้
ในการแสดงผลบนจอภาพ สำาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ
Windows เรียกได้จาก Palette โดยตารางการอ้างถึงข้อมูล
แสงสีส่วนใหญ่มีความละเอียดของข้อมูลแสงสีขนาด 1, 4,
8,16 และ 26 บิต
สำาหรับการแสดงผลแสงสีขนาด 8 บิต 256 แสงสี ระบบ
คอมพิวเตอร์จะเลือกแสงสีเพียง 256 แสงสีจากจำานวนล้าน
กว่าแสงสีที่สามารถผสมได้มาเก็บข้อมูลไว้ในตารางแสงสี
โดยให้รายละเอียดว่าแต่ละแสงสีมีส่วนผสมของสีแดง เขียว
และนำ้าเงินอย่างไรแล้วดึงแสงสีมาใช้งานตามความเหมาะสม
19
- 20. โปรแกรมที่สนับสนุนการวาดและแก้ไขภาพจะมีตารางแสงสี
ช่วยแสดงผลแสงสีที่เหมาะสม แต่อาจมีข้อจำากัดคือ ไม่
สนับสนุนทุกรูปแบบแสงสี และแก้ไขภาพได้เฉพาะกลุ่ม
ระบบแสงสี 26 บิต จะแบ่งแสงสีแดง เขียว และนำ้าเงิน ออกเป็น
แสงสีละ 256 เฉดสี เมื่อนำามาผสมกันจะได้จำานวนสีถง ึ
16,777,216 แสงสี (256X256x256)
จำานวนแสงสีที่แสดงจะขึ้นอยู่กับความละเอียดของจอภาพด้วย
เช่น ถ้าความละเอียดของจอภาพที่ 660X680 พิกเซล จะแสดง
แสงสีได้สูงสุด 307,200 แสงสีต่อหนึ่งครั้ง ทำานองเดียวกันแม้
การ์ดจอจะแสดงผลได้ 26 บิต หากจอภาพมีความละเอียด
สูงสุดเพียง 1026X768 พิกเซล จอภาพก็จะแสดงผลแสงสีได้
ครั้งละ 786,632 สีเท่านั้น
เมื่อเปลี่ยนแปลงการแสดงผลของจอภาพคอมพิวเตอร์ ระบบจะ
คำานวณและเปลี่ยนค่าข้อมูลแสงสีในตารางแสงสีใหม่ทุกครั้ง
เรียกว่า “พาเลตแฟลซซิ่ง” (Palette Flashing) ซึ่งเป็นปัญหา
หนึ่งของการออกแบบมัลติมีเดีย เช่น ขณะที่แสดงภาพ
เคลื่อนไหวหากมีการเปลี่ยนแปลงตารางแสงสีจะเกิดข้อผิด
พลาดในการแสดงผลเป็นผลให้การแสดงผลติดขัด และสูญ
20 เสียคุณภาพด้วย
- 21. การแก้ปญหาพาเลตแฟลซซิ่ง
ั
จัดตารางแสงสีสำาหรับการแสดงผลเพียงตารางเดียว
และกำาหนดข้อมูลสีที่มีคุณภาพที่สุด (Super Palettes)
สำาหรับแสดงผลเพียง 256 แสงสี ระหว่างภาพแต่ละภาพ
ซึ่งมีโปรแกรมสนับสนุนการกำาหนดดังกล่าวคือ
โปรแกรม Equilibrium’s Debabelizer
ปรับแสงสีของภาพปัจจุบันเป็นแสงสีขาวหรือดำาก่อนที่
จะแสดงภาพต่อไป เนื่องจากแสงสีขาวและดำาสามารถ
ปรับเข้ากับทุกแสงสีภายในตารางแสงสี เป็นผลให้ภาพ
ต่อไปไม่ถูกรบกวน
21
- 22. รูปแบบของแสงสีที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์
มีรูปแบบที่แตกต่างกัน แบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น
HSB (Hue, Saturation, Brightness) เป็นแสงสีที่ตอบ
สนองการมองเห็นของสายตาของมนุษย์
RGB (Red, Green, Blue) เป็นแสงสีทใช้งานกับจอภาพ
ี่
คอมพิวเตอร์
CMYK (Cyan, Magenta, Yellow, Black) เป็นแสงสีที่ใช้
งานกับเครื่องพิมพ์
Lab เป็นมาตรฐานการรองรับแสงสีทั้งสามรูปแบบข้างต้น
22
- 23. HSB
HSB ประกอบขึ้นด้วยลักษณะของแสงสี 3
ประการ คือ Hue, Saturation และ
Brightness
Hue เป็นการเปลี่ยนแปลงเฉดสีทแตก ี่
ต่างจากแสงหลักทังสาม (แดง เขียว
้
นำ้าเงิน) ตามมาตรฐานทีเรียกว่า
่
“Standard Color Wheel” โดยเปรียบ
เทียบกับองศาต่างๆ บนวงกลม ซึ่ง
เป็นการนำาองศาของวงกลมใช้แบ่ง
ความแตกต่างของแสงสีตงแต่ 0-360
ั้
องศา ตามการผสมแสงสีมาตรฐานหลัก
3 แสง สี คือ แดง เหลือง และนำ้าเงิน ซึ่ง
แต่ละแสงสีจะมีค่าองศาที่แตกต่างกัน
ดังนี้ แสงสีแดงมีค่าเป็น 0 และ 360
แสงสีเหลืองมีค่าเป็น 120 และแสง
สีนำ้าเงินมีค่าเป็น 240
แสงสีหลักๆ ที่เปลี่ยนแปลง ณ ตำาแหน่ง
23 องศามาตรฐาน
- 24. Saturation
เป็นค่าความเข้มของแสงสีที่อยู่ในช่วงแสงสีจางจนถึงแสงสีเข้ม
จะเป็นสัดส่วนของแสงสี Hue ที่มีอยู่ในโทนสีเทา โดยวัดค่า
เป็นเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 0% (แสงสีเทา) จนถึง 100% (ค่าความ
เข้มของแสงสีมากที่สุด) เช่น การปรับ Saturation ของแสง
สีนำ้าเงิน จะสามารถปรับได้จากแสงสีนำ้าเงินเทา (0%) จนถึง
แสงสีนำ้าเงินเทาเข้ม (100%)
Brightness
ค่าความสว่างของแสงสี คือค่าของแสงสีดำาไล่ระดับสว่างขึ้น
เรื่อยๆ จนถึงแสงสีขาวซึ่งวัดค่าเป็นเปอร์เซ็นต์จาก 0% (แสงสี
ดำา) จนถึง 100% (แสงสีขาว)
24
- 25. 25 saturation ของแสงสีนำ้าเงิน
- 26. 26 การไล่ระดับของ brightness
- 27. 27
แสงสีต่างๆ ของ HSB
- 28. RGB
เกิดจากการรวมแสงของแสง
สีหลักคือ แสงสีแดง (Red)
เขียว (Green) และ
นำ้าเงิน(Blue) ซึ่งจะได้แสงสี
แตกต่างกันตามสัดส่วนความ
เข้มของแสงสี RGB ที่มา
ผสมกัน โดยแสงสีหลักทั้ง 3
จะมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 255 เมื่อ
ข้อมูลแสงและสี RGB
เปลี่ยนไป ความเข้มของแสง
สีแดง เขียว และนำ้าเงิน บน
จอภาพจะปรับเปลี่ยนตามไป
ด้วย
28 การแสดงแสงสีชนิด RGB
- 29. CMYK
เกิดจากการซึมซับหมึกพิมพ์ลง
บนกระดาษ โดยมีสีพื้นฐาน คือ
สีนำ้าเงินเขียว (Cyan) สีแดง
ม่วง (Magenta) และสีเหลือง
(Yellow) แต่อย่างไรก็ตาม มี
บางสีที่ CMYK ไม่สามารถ
ผสมให้เกิดสีได้ เช่น สีนำ้าตาล
เป็นต้น จึงได้มีการเพิ่มสีดำา
(Black) ลงไปด้วย เป็นผลให้
เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์สีได้
ครอบคลุมทุกสีที่เกิดจากการ
ผสมสีของ CMYK
29
- 30. Lab
พัฒนาขึนโดย Cie (Commission
้
International De I’eclairage)
ข้อมูลแสงสีของ Lab ประกอบด้วย
ค่าต่างๆ ได้แก่ ค่าระดับความเข้ม
ของแสงสว่าง (Luminance Model
(L)) ค่าแสดงการไล่แสงสีจากสี
เขียวไปยังแสงสีแดง (แทนด้วยตัว
อักษร A) และค่าแสดงการไล่แสงสี
จากแสงสีนำ้าเงินไปยังแสงสีเหลือง
(แทนด้วยตัวอักษร B) สำาหรับ
สนับสนุนการใช้งานกับจอภาพ
พรินเตอร์ และสแกนเนอร์
จากการพัฒนาส่งผลให้ Lab กลาย
เป็นมาตรฐานทีสามารถใช้งาน
่
ครอบคลุมแสงสีทุกแสงสีในรูปแบบ
RGB และ CMYK อีกทั้งยังใช้ได้
กับสีทเกิดจากอุปกรณ์ใดๆ เช่น
ี่
เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน และ
รูปภาพบนจอภาพคอมพิวเตอร์และ
โปรแกรมซอฟต์แวร์ทแสดงให้เห็น
ี่
ได้ชัดก็คือ โปรแกรม Photoshop
ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้สในรูปแบ
ี
บอืนๆ ให้เหมาะกับงานทีต้องการ
่ ่
30 สร้าง
- 31. คุณภาพของรูปภาพ
ความละเอีย ดของภาพ (Image Resolution)
การพิจารณาว่าภาพที่ได้มานันจะมีคุณภาพหรือไม่ ต้อง
้
พิจารณาจาก 2 สิ่ง คือ
ความละเอียดของกล้องดิจิตอล
ความละเอียดของ Video Monitor หรือ ตัว Printer
31
- 32. การบีบอัดขนาดของรูปภาพ (Image Compression)
การบีบอัดขนาดแบบ RLE
(Run Length
Encoding)
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด Software จะ
สร้างไฟล์ขึ้นมาจากการอ่านค่า
ในแต่ละพิกเซลของภาพ แล้ว
บันทึกไว้ ถ้าพิกเซลที่อ่านได้มี
ความต่อเนื่องกันจะทำาการ
บันทึกเพียงจำานวนพิกเซลที่มี
ความต่อเนื่องกันเท่านั้น
32 วิธการบีบอัดไฟล์แบบ
ี
- 33. การบีบอัดขนาดแบบ LZW
มีความยุ่งยากกว่าแบบ RLE โดยการใส่รหัสของ LZW นั้นจะ
ขึ้นอยู่กับการค้นหา และการบันทึกแพตเทิร์นในโครงสร้างของ
ภาพ LZW โดยจะอ่านค่าพิกเซลสำาหรับภาพบิตแมปและสร้าง
ตารางรหัสซึ่งแทนค่าแพตเทิร์นที่ซำ้าๆ กันของพิกเซลที่พบ ภาพ
ที่ถูกสแกนมาหรือภาพที่ไม่ค่อยมีแพตเทิร์นที่เหมือนกันจะไม่
ค่อยได้ประโยชน์มากนั้นสำาหรับวิธีการบีบอัดแบบนี้
การบีบอัดข้อมูลภาพดิจิตอลนั้นแบ่งการบีบอัดออกได้เป็นสอง
ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ
การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (Lossless)
การบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูล (Lossy)
33
- 34. 34 วิธีการบีบอัดแฟ้มโดยการเข้ารหัสแบบแอลแซดดับเบิลยู
- 35. การบีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (Lossless)
เป็นการบีบขนาดทีข้อมูลเดิมไม่มีการสูญเสียเลย โดยภาพจะถูกบีบขนาดและถูก
่
ขยายกลับคืนแบบพิกเซลต่อพิกเซลเหมือนกับภาพดั้งเดิม ไฟล์ภาพที่ได้จะมีความ
ละเอียดสูง แต่จะมีขนาดใหญ่ทำาให้เปลืองพื้นที่ของหน่วยเก็บข้อมูล การบีบอัดแบบ
Lossless ที่นิยมใช้ในกล้องดิจิตอลคือการบันทึกเป็นไฟล์ .TIFF ตัวอย่างเช่น
ไฟล์ BMP เป็นไฟล์ทสามารถเก็บสีได้สูงสุด 16.7 ล้านสี เลือกบีบอัดได้ในแบบ
ี่
RLE ซึ่งเป็นการบีบอัดแบบ Lossless ใช้ได้กับรูปที่มสีน้อย กรณีที่ภาพมีสีมาก
ี
บีบอัดได้ไม่ดี
ไฟล์ PNG เป็นไฟล์บิตแมปทีมีการบีบอัดแบบ Lossless ให้สี True Color ได้
่
สูงสุด 48 บิตต่อพิกเซล ไฟล์ PNG นับได้ว่าเป็นรูปแบบไฟล์ภาพทีดีชนิดหนึ่ง
่
เนื่องจากสามารถบีบอัดข้อมูล โดยไม่เสียข้อมูลภาพ ทำาให้เหมาะสำาหรับจับเก็บ
ไฟล์ต้นฉบับ นอกจากนั้นไฟล์ภาพ PNG ยังเล็กกว่าไฟล์แบบ LZW และ TIF
ไฟล์ Tiff เป็นไฟล์บิตแมปทีมีคุณภาพสูง และมีความเป็นมาตรฐานยอมรับได้ใน
่
หลายโปรแกรมแม้เครื่องต่างระบบ โดยจะเก็บความลึกของสี RGB ได้สูงสุด 48
บิต และ CMYK 32 บิตสามารถเลือกการบีบอัดได้หลายรูปแบบ เช่น LZW,
Packbits, JPEG และ RLE การเก็บข้อมูลของ Tiff จะถูกแบ่งออกเป็น สำาหรับ
เครื่อง Macintosh และเครื่อง PC/Windows เนื่องจากระบบการเก็บตัวเลขของ
CPU ของ Motorola กับ Intel มีการจัดเก็บตัวเลขกลับกัน แต่ในปัจจุบัน
โปรแกรมที่ใช้ในการเปิดภาพต่างก็แก้ไขปัญหานี้ได้หมดแล้ว ทำาให้ Tiff หรือ
Tif สามารถเปิดได้ทงบน Macintosh และ Windows อย่างไม่มีปัญหา
ั้
35
- 36. การบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูล หรือ Lossy
เป็นการบีบอัดข้อมูลภาพในลักษณะที่มีการตัดทอนข้อมูลภาพออกไปบาง
ส่วน เพื่อให้ไฟล์ภาพมีขนาดเล็กลง แต่ก็ทำาให้สูญเสียข้อมูลบางอย่างไป
และไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ การบันทึกแบบ Lossy ที่นิยมใช้ในกล้อง
ดิจิตอลคือการบันทึกแบบ JPEG ตัวอย่างเช่น
ไฟล์ JPEG เป็นไฟล์บิตแมปทีมีการบีบอัดเป็นทียอมรับในปัจจุบัน เก็บความลึกสี
่ ่
ได้สูงสุด 32 Bit เนื่องจาก Jpeg เป็นการบีบอัดแบบ Lossy ซึงมีการสูญเสียราย
่
ละเอียดบางส่วนของภาพไปจึงทำาให้สามารถบีบอัดภาพได้มาก
ไฟล์ JPG การบีบอัดไฟล์ Jpg ที่เหมาะสมก็คือ 75-80% ของ Quality โดย
Quality คือการเลือกว่าจะให้มีคุณภาพของภาพเหลือเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไร ดังนั้น
ยิงเปอร์เซ็นต์มาก ยิ่งมีการบีบอัดน้อยลง หรือ 20-25% ของ Compression ซึ่ง
่
Compression หมายถึงเปอร์เซ็นต์ทต้องการบีบอัดไฟล์ ยิ่งมีการบีบอัดมาก และ
ี่
ส่งผลให้คุณภาพของภาพลดตำ่าลง หากกำาหนดค่าตำ่าหรือสูงเกินไป อาจจะส่งผล
เสียต่อคุณภาพของภาพได้โดยตรง และสามารถมองเห็นข้อบกพร่องได้ด้วยตา
เปล่า เช่น ภาพอาจไม่ชัดเจน หรือมีสีผิดเพี้ยน เป็นต้น
36
- 37. แหล่งทีมาของรูปภาพ
่
Original Art คือภาพ
ที่เกิดจากการวาดโดย
จิตรกร อาจวาดโดยใช้
ดินสอ หรือสีชนิดต่างๆ
หากต้องการนำาภาพนั้น
มาแสดงผลใน
คอมพิวเตอร์สามารถ
ทำาได้โดยการสแกน
ภาพด้วยเครื่องสแกน
เนอร์ หรืออาจใช้วิธี
ถ่ายภาพด้วยกล้อง
ดิจิตอล
37 การวาดภาพโดยใช้ดินสอหรือจากสี
- 38. Clip Art
เปรียบเสมือน Library สำาหรับเก็บงานทางด้าน Graphic ที่สามารถนำามา
แทรกไว้ในเอกสาร ถูกจัดเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ในรูปของ Cd-Rom หรือใน
เว็บไซต์ต่างๆ เช่น ภาพ Drawing ภาพ Photograph แผนที่ ไดอะแกรม
แผนภูมิ และภาพลายเส้นต่างๆ เป็นต้น
ส่วนมากมีการนำา Clip Art มาใช้ในงาน Graphic Program การใช้ภาพ
จาก Clip Art จะต้องคำานึงถึงลิขสิทธิ์
กฤตศิลป์จาก Microsoft Clip
38
กฤตศิลป์จากอินเทอร์เน็ต
Gallery
- 39. Photo CD
เป็นทางเลือกหนึ่งในการนำาภาพถ่ายจากฟิลมมาแปลงเป็นภาพ
์
ดิจิตอลเพื่อใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ โดยอ่านจากแผ่นซีดีผ่าน
เครื่องอ่าน Photo CD ที่ต่อเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ รวมทั้งนำาไป
เปิดชมภาพกับโทรทัศน์ได้โดยผ่านเครื่องเล่น Photo CD หรือ
เครื่องเล่นซีดีที่ระบุว่าเล่น Photo CD ได้ โดย Software ที่ใช้
ในการจัดการเกี่ยวกับ Photo CD เช่น Precision Device
Profile ของ Kodak เป็นต้น
39
- 41. Photo Cd Stock Image
เนืองจากในระยะหลังเครื่อง Cd-Rom มีราคาถูกลง รวมทั้งใน
่
ปัจจุบันผู้คนมีความต้องการรูปภาพแบบดิจิตอลเพิ่มขึ้น จึง
ทำาให้เกิดธุรกิจทีมีการรวมรูปภาพแบบดิจิตอล โดยสามารถหา
่
ได้ในรูปแบบ Cd-Rom อีกทั้ง ยังมีให้เลือกหลายประเภท ซึ่ง
รูปภาพแบบดิจิตอลจะถูกเก็บในรูปแบบ Photo Cd ของ
Kodak เป็นไฟล์ประเภท Tiff ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้บน Pc,
Mac หรือแม้แต่ Unix ตัวอย่างเช่น
Diamar Portfolios มีการจัดทำา Cd-Rom ภาพในหัวข้อต่างๆ โดยมี
การจัดเก็บในรูปแบบของ Photo Cd เช่น รูปที่เกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์
ดอกไม้ สิ่งทอ เป็นต้น
Adc Imagevault มีการจัดทำาเป็นชุด (Package) ของแต่ละประเภทต่าง
กันไป เช่น เรื่องทั่วๆ ไป Vol1 ซึ่งเก็บใน Cd-Rom ที่มีมากกว่า 380
ภาพ ซึ่งอาจจะเป็น ภาพพลเมือง ภาพสถานที่ ภาพในเชิงธุรกิจต่างๆ
โดยมีการจัดเก็บรูปภาพในรูปแบบของ Photo Cd
41
- 42. ซอฟต์แวร์สำาหรับภาพกราฟิก (Graphic Software)
Photoshop
พัฒนาโดย บริษัท
Adobe ในปัจจุบันมี
การพัฒนาต่อเนื่อง
จนถึงเวอร์ชัน CS
สามารถทำาการแก้ไข
ภาพที่มีตำาหนิ ตัดต่อ
ภาพ ตกแต่งภาพ สร้าง
องค์ประกอบที่ใช้กับ
เว็บเพจ การดัดแปลง
ภาพ หรือแม้แต่การ
สร้างภาพกราฟิกที่ผสม
ผสารระหว่างข้อความ
และภาพวัตถุต่างๆ ได้
อย่างสะดวกและ
รวดเร็ว
42
การใช้โปรแกรมอะโดบีโฟโตชอปในการตกแต่งภาพ
- 43. ซอฟต์แวร์สำาหรับภาพกราฟิก (ต่อ)
Chemscape Chine
พัฒนาโดย Mdl
Information System
เป็น Player ที่
สนับสนุนไฟล์ภาพ 3
มิติ สามารถแสดง
โครงสร้างได้ทงแบบ 2
ั้
มิติ และ 3 มิติ บนเว็บ
ด้วยภาษา Html ส่วน
ใหญ่มักนิยมใช้เพื่อจัด
ทำาโครงสร้างข้อมูล
ด้านเคมีและเวชภัณฑ์
43 ภาพจากโปรแกรมเคมสเคปไชม์
- 44. ซอฟต์แวร์สำาหรับภาพกราฟิก (ต่อ)
Freehand Shockware
พัฒนาโดย Macromedia
เป็น Plug-In ใช้สำาหรับนำา
เสนอและจัดการกับภาพ
ด้วยโปรแกรม Freehand
นอกจากสร้างภาพเวก
เตอร์ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพแล้ว ยัง
รองรับการทำางานและ
แสดงผลบนเว็บได้สะดวก
และรวดเร็วอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การสร้างจุด
เชื่อมโยง (Link) เพื่อให้ผู้
ใช้งานสามารถคลิกเลือก
ไปยังข้อมูลปลายทางผ่าน
ทางบราวเซอร์ได้
44 โปรแกรมฟรีแฮนด์
- 45. ซอฟต์แวร์สำาหรับภาพกราฟิก (ต่อ)
Cad
ย่อมาจากคำาว่า
Computer Aided
Design โปรแกรม
Autocad เป็น
โปรแกรมทีช่วยในการ
่
เขียนแบบ ซึงมิได้
่
จำากัดอยู่เพียงแวดวง
วิศวกรและสถาปนิก
เท่านั้น แต่ยังรวมไป
ถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ
ด้วยไม่ว่าจะเป็น
นักศึกษา นักโฆษณา
และนักสื่อสารมวลชล
ทีมักจะนิยมมาใช้งาน
่
เช่นกัน
45 การใช้โปรแกรมออโตแคดช่วยในการเขียนแบบ
- 46. ซอฟต์แวร์สำาหรับภาพกราฟิก (ต่อ)
Illustrator
เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท
Adobe จัดได้ว่าเป็นเครื่องมือ
สำาหรับสร้างภาพเวกเตอร์ทมี ี่
คนนิยมใช้งานกันมากที่สด ุ
นอกเหนือจากโปรแกรม
ประเภทเดียวกันนี้ ตัวอย่างเช่น
โปรแกรม Coreldraw ของ
บริษัท Corel และโปรแกรม
Freehand ของบริษัท
Macromedia เป็นต้น
นอกจากสามารถทำางานร่วมกับ
โปรแกรมอืนในค่ายเดียวกันได้
่
อย่างสมบูรณ์แล้ว
( Pagemaker และ
Photoshop) อีกทังยังรองรับ
้
และสนับสนุนการทำางานบน
ระบบปฏิบัตการ Macintosh
ิ
46
โปรแกรมอิลลูสเตรเตอร์ และ Windows ได้อกด้วย
ี
- 47. Graphic Software อื่นๆ
Paint Program
โปรแกรมประเภทตบแต่งภาพวาด ไม่ว่าจะ
เป็นการวาด สร้าง หรือแก้ไขพิกเซลต่างๆ
สามารถทำาได้โดยง่ายและรวดเร็ว ดังนั้น จึง
นิยมมาใช้สำาหรับการแก้ไขภาพถ่าย แต่ไม่
เหมาะสำาหรับที่จะนำามาใช้งานกับการวาด
ลายเส้นหรือสร้างตัวอักษรในรูปแบบต่างๆ
เนื่องจากคุณสมบัติที่มองทุกอย่างเป็นกลุ่ม
พิกเซล ทำาให้การแก้ไขเคลื่อนย้ายเป็นไป
ด้วยความยากลำาบาก อย่างไรก็ตาม จุดเด่น
ของโปรแกรมประเภทนี้ ก็คือ มีเครื่องมือที่
ช่วยอำานวยความสะดวกครบครัน เช่น
Paintbrush, Ink, Felt Pens, Chalk และ
Watercolor รวมถึงฟังก์ชันงานสร้างลูกเล่น
(Effect) ต่างๆ ไว้เป็นจำานวนมาก สามารถ
สร้างชิ้นงานศิลปะได้ออกมาสมจริงและใกล้
เคียงกับธรรมชาติมาก
โปรแกรม Microsoft Paint สำาหรับ
47 ใช้ตกแต่งภาพวาด
- 48. Photo-Manipulation Program
โปรแกรมประเภทปรับแต่ง
รูปภาพ โดยส่วนใหญ่จะใช้
งานร่วมกับกล้องถ่ายรูป
ดิจิตอล หรือเครื่องสแกน
เนอร์ที่ต้องการรายละเอียด
สูง มีฟังก์ชันการใช้งานที่
ง่ายและไม่สลับซับซ้อนมาก
นัก เหมาะสำาหรับช่างภาพที่
ต้องการความสะดวกและ
รวดเร็วในการปรับแต่งภาพ
ให้สวยงาม โปรแกรม Imaging for Windows ซึ่ง
เป็นผลิตภัณฑ์ของ Kodak สำาหรับใช้
48
ปรับแต่งรูปภาพ
- 49. Cad Program
โปรแกรมประเภท
ออกแบบ
สถาปัตยกรรม เหมาะ
สำาหรับใช้งานด้าน
สถาปัตยกรรมและ
วิศวกรรมทีต้องการ
่
แสดงรายละเอียดที่
สลับซับซ้อนค่อนข้าง
มาก สามารถสร้างลูก
เล่น (Effect) ต่างๆ
ได้เป็นจำานวนมาก
รวมถึงการแสดงผลที่
เป็นภาพ 3 มิติได้
อย่างสมบูรณ์แบบ
โปรแกรม Intelligent CAD ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์
49
ของบริษัท Autodesk สำาหรับใช้ออกแบบ
สถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
- 50. 3D Modeling Program
โปรแกรมประเภทสร้างแบบภาพ
จำาลองแบบ 3 มิติ เหมาะสำาหรับ
นักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ที่
ต้องการนำาเสนอชิ้นงานในรูป
แบบจำาลอง ทังนี้ เนื่องจากภาพ
้
แบบจำาลอง 3 มิติ สามารถแสดง
รายละเอียดทีสลับซับซ้อนได้ทก
่ ุ
มุมมองนั้นเอง ด้วยคุณสมบัติ
และขีดความสามารถทีโดดเด่น
่
ในการสร้างและปรับแต่งวัตถุ
(Object) ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง
พืนผิว การปรับความลึก หรือ
้
แม้แต่การให้แสงตกกระทบกับ
วัตถุเพือให้เกิดความสมจริง
่
รวมถึงเครื่องมือสำาหรับสร้างลูก
เล่นต่างๆ อีกจำานวนมาก
โปรแกรม Chem3D สำาหรับใช้
50 สร้างแบบจำาลอง 3 มิติของ
- 51. Draw Program
โปรแกรมประเภทวาดภาพ ใช้
สำาหรับสร้างภาพเชิงวัตถุในรูป
ทรงต่างๆ ไม่เพียงแต่จะเป็นภาพ
วาดลายเส้นเท่านั้น แต่ยัง
สามารถสร้างข้อความหรือตัว
อักษรได้อย่างสวยงาม รวมไปถึง
การมองวัตถุ (Object) จะแยก
เป็นชิ้นส่วนแต่ละชิ้นออกจากกัน
ผู้ใช้สามารถทำาการคัดลอก ลบ
และเคลื่อนย้ายวัตถุแต่ละตัวได้
อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่มี
ผลกระทบกับวัตถุชิ้นอื่นที่อยู่
ภายในกลุ่มเดียวกัน เหมาะ
สำาหรับนักออกแบบศิลปะ
โปรแกรม Microsoft Visio
สำาหรับสร้างภาพเชิงวัตถุในรูป
ทรงต่างๆ
51
- 52. รูปภาพบนเว็บ
ชนิด ไฟล์ภ าพ คำา อธิบ าย
ไฟล์ GIF เป็นไฟล์บิตแมปที่ใช้สีได้สูงสุด 256 สี นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า Gif Animation เป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่
มีขนาดของไฟล์เล็ก ทั้งนี้ เนื่องจากไฟล์ชนิดนี้ได้มการบีบอัดข้อมูลแบบ LZW ทำาให้ขนาดของไฟล์เล็กลง
ี
ส่งผลให้การส่งผ่านข้อมูลไปยังระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถรองรับโหมดสีแบบ
ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bitmap-Mode, Grayscale หรือแม้แต่ Indexed-Color Gif ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นผลจากค้น
คิดและพัฒนาโดยบริษัท Compuserve อย่างไรก็ตามแม้ว่าไฟล์ชนิดนี้ จะเป็นที่นิยมนำามาใช้งานกันอย่าง
แพร่หลายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็ตาม แต่ยังคงมีข้อจำากัดอยู่บ้างในเรื่องคุณภาพของสีที่ลดลง
ไฟล์ JPEG เป็นไฟล์ภาพที่แสดงผลแบบ Indexed-Color สามารถรองรับโหมดสีแบบ CMYK, RGB, Grayscale Color
ได้เป็นอย่างด แต่ไม่รองรับคุณสมบัติการโปร่งแสง (Alpha Channel) นิยมนำามาใช้บนไฟล์เอกสาร Html
ไฟล์ JPG เป็นไฟล์ภาพที่ได้จากแหล่งเก็บภาพถ่ายและการสแกนภาพ สามารถแสดงผลได้อย่างรวดเร็วทั้งนี้ เนื่องจาก
ขนาดของไฟล์เล็กมากเป็นพิเศษ นิยมนำามาใช้เพื่อแลกเปลี่ยนภาพผ่านทางอีเมล์และใช้เป็นส่วนประกอบ
ของภาพในไฟล์เอกสาร Html เช่นกัน
ไฟล์ PNG เป็นไฟล์บิตแมปอีกชนิดหนึ่ง ที่มีการบีบอัดข้อมูลแบบ Lossless สามารถให้สชนิด True Color ได้สงสุดถึง
ี ู
48 Bit/Pixel ทั้งนี้ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนไฟล์ไฟล์ Gif นั่นเอง แม้ว่าไฟล์ PNG จะมี
คุณสมบัติที่เหนือกว่าไฟล์ Gif อยู่หลายประการก็ตาม แต่ความนิยมของผูใช้ยังคงชมชอบใช้ไฟล์ Gif
้
มากกว่า อย่างไรก็ตาม นักออกแบบเว็บไซต์สมัยใหม่กำาลังให้ความสนใจและจะนำาไฟล์ชนิดนี้มาใช้งานเป็น
อย่างมาก เนื่องจากสามารถรองรับโหมดสีต่างๆ ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น โหมดสีแบบ Grayscale และ
RGB (ที่มี Single Alpha Channel)โหมดสีแบบบิตแมป(Bitmap)ชนิดIndexed-Color(ที่ไม่มAlpha ี
Channel) รวมถึงขนาดของไฟล์ที่มีขนาดเล็กใกล้เคียงกันกับไฟล์ GIF แต่ก็ให้คุณภาพของสีที่ดีกว่า
52