Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (20)
Viewers also liked
Viewers also liked (11)
Similar to 410 Bio002 2 เซลพฐ กล้อง -ดุลยภาพสมช
Similar to 410 Bio002 2 เซลพฐ กล้อง -ดุลยภาพสมช (20)
410 Bio002 2 เซลพฐ กล้อง -ดุลยภาพสมช
- 4. วีดิทัศน์ศึกษาวิธีการเตรี ยมทำา slide plant animal cell •นักเรียนคิดว่า เซลล์ พืชกับเซลล์สัตว์ เหมือนหรือต่างกัน อย่างไร plant animal cell slide.flv
- 5. เซลล์เยื่อหอมและเซลล์เยื่อ บุข้างแก้ม มีรูปร่างลักษณะอย่างไร• เซลล์เยื่อหอม • เซลล์เยื่อบุข้าง แก้ม • มีรูปร่างเป็น
- 7. องค์ประกอบพื้นฐาน ของเซลล์• เยื่อหุ้มเซลล์ cell membrane • นิวเคลียส nucleus • ไซโทพลาซึม (cytoplasm) ร่างแหเอนโดพลาซึม endoplasmic reticulum กอลจิคอมเพลกซ์ golgi complex
- 8. เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane)• หนาเพียงประมาณ 7 นาโนเมตร • ประกอบด้วย phospholipid bilayer • polar head - hydrophilic • nonpolar tail - hydrophobic
- 9. prot ein Phosph olipid bilayer hydrop hobic hydro philic หนาเพียงประมาณ 7 นาโน selective permeable memb fluid mosaic model
- 10. นิวเคลียส (nucleus) • นิวเคลียสเป็นโครงสร้างที่อยู่ ตรงกลางของเซลล์ • เป็นศูนย์กลางควบคุมการ ทำางานของเซลล์
- 14. ร่างแหเอนโดพลาซึม (endoplasmic reticulum : ER)มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ สอง ชั้นเหมือนเป็นท่อแบนใหญ่ เรียงทบไปทบมา มีรูเป็นทาง ติดต่อกันเอง และเชื่อมกับเยื่อ หุ้มนิวเคลียส มี 2 ชนิด คือ R ESE
- 15. 1. rough endoplasmic reticulum : RER • ชนิดนี้มีไรโบโซมเกาะติดที่ผิว ทำาหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนส่ง ออกไปนอกเซลล์ผ่านกอลไจคอม เพลกซ์ไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
- 16. 2. smooth endoplasmic reticulum : SER • ชนิดนี้ไม่มีไรโบโซมเกาะที่ผิว ทำา หน้าที่สร้างไขมันพวก สเต อรอยด์ (steroid) เช่น ฮอร์โมน เพศ คอเลสเทอรอล
- 18. กอลจิคอมเพลกซ์ (golgi complex)•ประกอบด้วยส่วนที่ เป็นถุงแบนๆ คล้าย จาน เรียงซ้อนกันเป็น ชั้นๆ หลายชั้น •สร้างคาร์โบไฮเดรตที่ รวมกับโปรตีนจาก
- 20. ไรโบโซม (ribosome)• มีรูปร่างเป็นก้อนขนาดเล็ก มาก ประกอบด้วยโปรตีน และ ribonucleic acid (RNA) • เป็นแหล่งสร้างโปรตีน เพื่อใช้ เป็นองค์ประกอบของเยื่อหุ้ม เซลล์
- 22. ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)• มีลักษณะยาวรีและยืดหยุ่นได้ ประกอบด้วยเยื่อสองชั้น • ทำาหน้าที่สร้างหรือเปลี่ยน พลังงานจากอาหารอื่นให้เป็น ATP ( Adenosine Tri Phosphate)
- 24. โครงสร้างที่พบ เฉพาะในเซลล์พืช •ผนังเซลล์ cell wall •แวคิวโอล vacuole •คลอโรพลาสต์ chloroplast
- 25. ผนังเซลล์ (Cell wall)• สารที่เป็นโครงสร้างหลักคือ cellulose ทำาให้พืชสามารถ คงรูปร่าง และมีการเจริญใน แนวตั้งสวนทางกับแรงโน้ม ถ่วงของโลกได้ • ยังมี cutin suberin pectin lignin แทรกปนอยู่
- 27. 1. sap vacuole • ทำาหน้าที่สะสมสารละลาย ต่างๆ รวมทั้งกลิ่นของพืช
- 29. พารามี ยูกลี
- 31. คลอโรพลาสต์ (chloroplast)เป็นพลาสทิดที่มีสีเขียว เนื่องจาก มีสารพวก chlorophyll บรรจุ ภายใน ใช้ในกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง
- 32. โครงสร้างที่พบ เฉพาะในเซลล์สัตว์ •สารเคลือบพวกไกล โคโปรตีน glycoprotein •ไลโซโซม lysosome •เซนทริโอล
- 33. สารเคลือบพวก glycoprotein•คาร์โบไฮเดรตจาก golgi complex + โปรตีนจาก ribosome = glycoprotein
- 34. ไลโซโซม (lysosome)• คล้ายถุงเล็กๆ หรือ vesicle สร้างจาก golgi complex มี เยื่อหุ้มชั้นเดียว • ย่อยเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นสิ่ง แปลกปลอมที่เข้าสู่เซลล์
- 35. เซนทริโอล (centriole)• จะมีเซนทริโอล 2 อัน วาง ในแนวตั้งฉากซึ่งกันและกัน แต่ละอันประกอบด้วย microtubule เรียงกันเป็นก ลุ่มวงกลม 9 กลุ่ม microtubule
- 36. • ทำาหน้าที่สร้าง spindle fiber ซึ่งทำาหน้าที่ควบคุม การเคลื่อนที่ของ โครโมโซมในขณะ เซลล์ แบ่งตัว spindle fiber centriole
- 37. •ทำาหน้าที่เป็นส่วนที่เป็น ฐาน (basal body) ของ ซีเลียและแฟลกเจลลา
- 38. cili flag
- 42. อุปกรณ์ บริเวณหน้า ห้อง • นำ้ากลั่นกับ หลอดหยด • สารละลาย กลูโคสกับ หลอดหยด แต่ละกลุ่ม • กล้องจุลทรร ศน์ • ชุดกรรไกร เล็ก • กระจกสไลด์ กับ cover
- 54. นำา cover glass มาวางแนวเฉียง 45 องศา ก่อนจะปิดทับ
- 64. • เมื่อเห็นตำาแหน่งภาพแล้วให้ เปลี่ยน กำาลังขยายเป็น 100 เท่า • ระวังอย่าให้เลนส์กระทบกระจก สไลด์ ห้ามเปลี่ยนเลนส์ระหว่างตา ส่อง
- 69. เมื่อเห็นตำำแหน่งภำพแล้ว ให้เปลี่ยน กำำลังขยำยเป็น 400 เท่ำ ห้ำมเปลี่ยนเลนส์ระหว่ำงตำส่อง
- 75. วิธีกำรทดลอง 1. เตรียมสไลด์เซลพืชและเซลเยื่อบุ ข้ำงแก้ม (ดูคลิป) บันทึกผลด้วยกำร วำดภำพเซลพืชและเซลเยื่อบุข้ำง แก้ม ที่เห็นในกล้อง 2. ส่องกล้องเซลล์ว่ำนกำบหอยที่หยด นำ้ำกลั่น 3. บันทึกผลด้วยกำรวำดภำพลง ในตอนที่ 1 4. เซลล์ว่ำนกำบหอยสไลด์เดิม นำำมำ หยดสำรละลำยกลูโคส
- 83. เซลล์เยื่อหอมและเซลล์เยื่อ บุข้ำงแก้ม• เซลล์เยื่อหอม • เซลล์เยื่อบุข้ำง แก้ม
- 84. ตอนที่ 1
- 85. ตอนที่ 2
- 88. ตอนที่ 1
- 89. ตอนที่ 2
- 90. ตอนที่ 1 เปรียบ เทียบกับ ตอนที่ 2
- 105. กำรแพร่ออกซิเจนจำกถุงลมในปอดเข้ำสู่ หลอดเลือดฝอยรอบๆ ถุงลม สู่ปอด เป็นเลือดที่มีออกซิเจนตำ่ำ คำร์บอนไดออกไซด์สูง กำรแลกเปลี่ยนแก๊สโดยออกซิเจนในถุงลมจะแพร่เข้ำสู่เส้น อนไดออกไซด์ในเส้นเลือดจะแพร่เข้ำสู่ถุงลม แล้วขับออก
- 107. •เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ต้องกำรนำ้ำสำำหรับ กระบวนกำรต่ำงๆ ในเซลล์ •นำ้ำผ่ำนเข้ำ-ออก จำกเซลล์โดย กำร
- 115. **แรงดันออสโมติกแรงดันออสโมติก (Osmotic pressure(Osmotic pressure หรือหรือ O.PO.P.).) แรงดันออสโมติกของ สำรละลำยเกิดจำกแรงดัน ของตัวถูกละลำย สำรละลำยที่มีควำมเข้ม ข้นสูงจะมีแรงดันออสโม ติกสูง (ตัวถูกละลำยมีมำก)
- 118. ****แรงดันเต่งแรงดันเต่ง (Turgor(Turgor pressurepressure หรือหรือ T.PT.P.).) เป็นแรงดันของตัวทำำ ละลำย ออสโมซิสแล้ว ดันให้ถุงเยื่อเต่งขึ้นเกิด ขึ้นภำยในถุงเยื่อ *เมื่อสภำวะสมดุล ของกำรแพร่แล้ว แรง
- 119. กำรที่นำ้ำแพร่เข้ำสู่เซลล์ ได้สำรละลำยภำยในเซล ต้องมีแรงดันออสโมติก สูง( ตัวถูกละลำยมีมำก ควำมเข้มข้นสูง ) กว่ำ สำรละลำยภำยนอก เมื่อมี โมเลกุลของนำ้ำแพร่เข้ำไป ในเซลล์มำกขึ้นก็จะไปเพิ่ม
- 121. ในสำรละลำย hypotonic solution•สำรละลำยภำยนอกมี ควำมเข้มข้นตำ่ำกว่ำ สำรละลำยภำยในเซลล์ •เกิดกำรแพร่ของนำ้ำเข้ำสู่ เซลล์ เซลล์จะขยำย ขนำด หรือ มีปริมำตร
- 124. ในสำรละลำย hypertonic solution• สำรละลำยภำยนอกเซลล์ที่ มีควำมเข้มข้นสูงกว่ำ สำรละลำยภำยในเซลล์ • เยื่อหุ้มเซลล์จะหดตัวและ เหี่ยวแฟบลง เนื่องจำกมี กำรสูญเสียนำ้ำออกจำก เซลล์
- 128. ในสำรละลำย hypotonic solutionดู คลิป•สำรละลำยภำยนอกมี ควำมเข้มข้นตำ่ำกว่ำ สำรละลำยภำยในเซลล์ •เกิดกำรแพร่ของนำ้ำเข้ำสู่ เซลล์ เซลล์จะขยำย ขนำด หรือ มีปริมำตร
- 130. ในสำรละลำย hypertonic solutionดู คลิป• สำรละลำยภำยนอกเซลล์ที่ มีควำมเข้มข้นสูงกว่ำ สำรละลำยภำยในเซลล์ • เยื่อหุ้มเซลล์จะหดตัวและ เหี่ยวแฟบลง เนื่องจำกมี กำรสูญเสียนำ้ำออกจำก เซลล์
- 132. สำรละลำยที่อยู่นอกเซลล์ เมื่อ เปรียบเทียบกับของเหลวที่อยู่ในเซลล์ มี 3 แบบ คือ 1.Hypotonic solution 2. Hypertonic solution 3. Isotonic solution
- 134. • นำำมำใช้ประโยชน์ในหลักกำร ให้นำ้ำเกลือแก่ผู้ป่วย • กำรแช่ผัก รดนำ้ำต้นไม้ น่ำรู้
- 149. การลำาเลียงสารโดยไม่ ทะลุผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ ดูคลิปCell Membrane, Exocitosis & Endocitosis.flv การนำาสารเข้า เซลล์ endocytosis การนำาสารออก
- 157. • เซลล์เว้าเข้าไปในไซโท พลาซึมจนกลายเป็นถุง เมื่อ เยื่อหุ้มเซลล์ปิดสนิทถุงนี้จะ หลุดเข้าสู่เซลล์กลายเป็นก ระเปาะเล็ก หรือ vesicle 2.พิโนไซโทซิส (pinocytosis)
- 158. •บนเยื่อหุ้มเซลล์จะมีตัว รับ (receptor) ซึ่งทำา หน้าที่จับกับสารที่จะนำา เข้าสู่เซลล์แบบจำาเพาะ ก่อนที่เยื่อหุ้มเซลล์จะเว้า กลายเป็นถุง 3. อาศัยตัวรับ (receptor)
- 160. •ลำาเลียงสารที่มีขนาด โมเลกุลใหญ่ออกจาก เซลล์ โดยสารจะถูก บรรจุอยู่ vesicle ก่อน แล้ว vesicle จะค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาเชื่อมกับ เยื่อหุ้มเซลล์ จากนั้นสาร เอกโซไซโทซิส (exocytosis)
- 162. • ชมวีดิทัศน์การ ลำาเลียงสารโดย ไม่ทะลุผ่านเยื่อ หุ้มเซลล์ •ทบทวน Cell Membrane, Exocitosis & Endocitosis.flv
- 167. สารโมเลกุลเล็กสารโมเลกุลเล็ก ลำาเลียง โดย 1.1. ACTIVE TRANSPORTACTIVE TRANSPORT 2.2. PASSIVE TRANSPORTPASSIVE TRANSPORT 2.12.1 SIMPLESIMPLE DIFFUSIONDIFFUSION 2.22.2 FACILITATED DIFFUSIONFACILITATED DIFFUSION สารโมเลกุลใหญ่สารโมเลกุลใหญ่
- 179. ร้อนก็เหงื่อออก
- 183. สภาพแวดล้อมกับสิ่ง มีชีวิตมี 2 ชนิด •สภาพแวดล้อม ภายนอกตัวสิ่งมีชีวิต (external environment) เช่น ความชื้น สายลม แสงแดด
- 185. ในร่างกายคนมีนำ้าอยู่ ประมาณ 65 – 70 % ยังมีเกลือแร่และสาร ต่างๆ อยู่ด้วย ปริมาณ น้อยแต่ก็มีความสำาคัญ ยิ่งที่จะต้องรักษาสมดุล
- 187. ไต (kidney) มี 2 ข้างซ้ายและขวา ลักษณะ คล้ายถั่ว สีแดงแกมนำ้าตาล
- 188. ไต (kidney) ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชั้น -ชั้นนอก เรียกว่า cortex -ชั้นใน เรียกว่า
- 190. หน่วย ไต (Nephron) • แต่ละหน่วยเป็นท่อ มีปลายข้างหนึ่ง เป็นกระเปาะ คือ โบวแมนส์แคปซูล (Bowman’s
- 192. หน่วยไต (Nephron) • ภายในโบวแมนส์ แคปซูล จะมีกลุ่ม เส้นเลือดฝอยเรียกว่า โกลเมอรูลัส (Glomerulus) การก
- 196. •hypothalamus มีหน้าที่ เป็นศูนย์ควบคุมอุณหภูมิ การนอนหลับ การเต้นของ หัวใจ ความดันเลือด ความหิว-อิ่ม การดูดนำ้า กลับและเป็นศูนย์ควบคุม อารมณ์ความรู้สึก
- 199. งกายขาดนำ้า เลือดมีนำ้าน้อย = เลือดมีความเข้มข้น ผ่านยัง hypothalamus กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วน ให้หลั่งฮอร์โมน ADH กระตุ้นท่อของหน่วยไต นำ้ากลับคืนเข้าสู่กระแสเลือด ห้ปริมาณนำ้าในเลือดสูงขึ้น ปัสสาวะลดลง และเข้มข้นขึ้น
- 200. การดูด นำ้า และ สาร กลับคืน เข้าสู่กระแสเลือด ท่อ หน่วย ไต รวมไปสู่ท่อไต ท่อของหน่วยไตดูดนำ้า และสารกลับคืน เข้าสู่กระแสเลือด
- 202. การดูดกลับของ สารที่ไต•เกิดขึ้นโดยอาศัย 2 กระบวนการ คือ 1. active transport เป็นการดูดกลับของสาร ที่จำาเป็นต่อร่างกาย เช่น กลูโคส วิตามิน กรดอะมิ
- 203. ในทางตรง กันข้าม
- 204. งกายดื่มนำ้ามาก เลือดมีนำ้ามาก = เลือดมีความเจือ จางผ่านยัง hypothalamus กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วน ให้ยับยั้งการหลั่ง ADH องหน่วยไตดูดนำ้ากลับคืน กระแสเลือดน้อยลง ปัสสาวะบ่อย และเจือจาง
- 206. วีดิทัศน์ funtion of nephron function of nepron.flv
- 207. หน้าที่ของไต • 1. ขับถ่ายของเสีย ซึ่งเกิดจากเม แทบอลิซึมของร่างกาย เช่น ยู เรีย จากโปรตีน กรดยูริก จาก กรดนิวคลีอิก
- 208. หน้าที่ของไต • 1. ขับถ่ายสารแปลกปลอมที่ ร่างกายรับมา เช่น ยา รักษาโรค สารเคมีในอาหาร
- 209. หน้าที่ของไต • 2. เกิดสารบางอย่างที่เป็น ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น • ดูดกลับกลูโคสในขณะอด อาหาร • สังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิ โนหรือสารอื่นได้
- 210. หน้าที่ของไต • 3. ควบคุมสมดุลนำ้า และสารอิ เล็กโทรไลต์ของร่างกายให้ พอเหมาะ โดยการดูดนำ้ากลับ ที่ท่อหน่วยไต เป็นสาเหตุที่ ทำาให้นำ้าปัสสาวะเข้มข้นขึ้น
- 216. CO2 รวมกับ H2O ในเลือด กรดคาร์บอนิก H2CO3 H+ เจนคาร์บอเนตไอออน(HCO3 - ) แตกตัว เลือดมีภาวะเป็นกรด ค่า pH ส่ง ผล ให้
- 217. เลือดมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาก ภาวะเลือดเป็นกรด รให้กล้ามเนื้อกะบังลมและซี่โครงทำาง หายใจที่เร็วและถี่ ปริมาณ CO2 ในเลือดก็จะลดลง ค่า pH ของเลือดจึงสูงขึ้น การทำางานของสมอง ทำาให้หายใจเป
- 218. แก้ไขโดยปรับดุลยภาพให้เลือดมีก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น กรณีภาวะ เลือดปกติ มเนื้อกะบังลมและซี่โครงทำางานมากข แต่.. ...หายใจ ที่เร็วและถี่ ทำาให้..ปริมาณ CO2 ในเลือดก็จะลดลง ค่า pH ของเลือดจึงสูงขึ้น ชัก,หอบ ารทำางานของสมอง ทำาให้หายใจเป
- 222. 1.ภาวะกรด ( เลือดมี H+ มาก เกินไป ) ร่างกาย ปรับโดยโปรตีน ในนำ้าเลือด และHbจับH+ ไว้
- 223. 2. ภาวะกรด ร่างกายปรับลด ความเป็นกรด โดย หน่วยไตจะเพิ่มการ ขับสาร ที่มีองค์ ประกอบของ
- 225. ในทางตรง กันข้าม
- 226. ปล่อย CO2 กรดคาร์บอนิก H2CO3 เจนคาร์บอเนตไอออน(HCO3 - ) รวมก แตกตัว เลือดมีภาวะเป็นเบสpH สูงร่างกาย ปรับโดย(HCO3 - )รวมกับ H+ H2O ในเลือด
- 230. วีดิทัศน์แมวเลียอุ้งมือ Little kitten licking her paw.flv
- 232. สุนัขไม่มีต่อมเหงื่อ จะ ระบายความร้อน อย่างไร ระบายความร้อนทาง ลิ้นและเพดานปาก ที่ เรียกว่า หอบ
- 235. สัตว์บางชนิดจะหลีกเลี่ยง อุณหภูมิหรือสภาพแวดล้อม ที่ไม่เหมาะสม เช่น การ อาศัยอยู่ในโพรงไม้ และ การขุดรูอยู่ การออกหากิน ในเวลากลางคืน
- 239. สิงโตทะเล
- 249. ในทางตรง กันข้าม
- 250. อากาศ หนาว ผิวหนัง เลือด อุณหภูมิตำ่ากว่าปกติ เพิ่มอัตราเมแทบอลิซึม หลอดเลือดฝอย บริเวณผิวหนัง จะหดตัว ือดที่มาเลี้ยง วหนัง ดปริมาณลง าให้ผิวซีด ลดการขับเหงื่อ กล้ามเนื้อที่ยึดโคน เส้นขนในผิวหนังหดตัว ทำาให้ตัวสั่น ขนลุกชัน ไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดผ่านยัง pothalamus ช่วยกั้นอากาศไว เพื่อลดการถ่ายเท ความร้อน สู่สิ่งแวดล้อม
- 253. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ อาศัยอยู่ในนำ้าจืด contractile vacuole ทำา หน้าที่กำาจัดนำ้าและของเสีย ออกจากเซลล์ เพื่อรักษา ระดับความเข้มข้นของสาร ภายในเซลล์และป้องกันไม่ให้ เซลล์แตก Amoeb Parame
- 254. ปลานำ้าจืด
- 255. Osmoregulation ในปลานำ้าจืด ปัญหา • ได้รับนำ้าเข้าสู่ ร่างกายจำานวนมาก • สูญเสียเกลือแร่ออก จากร่างกาย การแก้ปัญหา • ขับปัสสาวะปริมาณ
- 256. ปลาทะเล
- 257. Osmoregulation ในปลานำ้าเค็ม ปัญหา • ได้รับเกลือเข้าสู่ ร่างกายจำานวนมาก • สูญเสียนำ้าออกจาก ร่างกายจำานวนมาก การแก้ปัญหา • กำาจัดเกลือออกจาก เหงือกโดยวิธี active
- 258. นกทะเล
- 259. นกทะเล ในขณะที่นกกินปลา หรือ นำ้าทะเลเข้าไป ร่างกายจะมีเกลือมากขึ้น ซึ่งจะถูกกำาจัดที่ ต่อมขับ เกลือ (salt secreting glands) หรือ ต่อมนาสิก
- 262. การคายนำ้าของพืช แบ่งเป็น 2 วิธีคือ •1. การคายนำ้าทาง ปากใบ (stomatal transpiration)
- 263. •เนื้อเยื่อชั้นนอกสุด ของใบ เรียกว่า ชั้น เอพิเดอร์มิส (epidermis layer) pper epidermis ower epidermis
- 264. •เซลล์เอพิเดอร์มิสบาง เซลล์เปลี่ยนแปลงไป เป็น เซลล์คุม (guard cell) อยู่ด้วยกัน เป็นคู่ รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดง ประกบกัน มีคลอโรฟีลล์ จึงสังเคราะห์ด้วยแสงได้
- 265. •เซลล์คุมจะทำาหน้าที่ปิด และเปิดปากใบ การ สังเคราะห์ด้วยแสงทำาให้ เกิดการ เปิด-ปิดของปาก ใบด้วย
- 266. •ระหว่างเซลล์คุมจะเป็น ปากใบ (stomata) พบว่า ทางด้านล่างของใบมี ปากใบอยู่มากกว่าทาง ด้านบน ปากใบ
- 272. guttation •เป็นการคายนำ้าในรูป หยดนำ้าเล็ก ๆ ทาง รู เปิดเล็ก ๆ ตามปลายเส้น ใบที่ขอบใบที่เรียกว่า hydathode