More Related Content
Similar to นายจิรวัฒน์ ทาพรหม
Similar to นายจิรวัฒน์ ทาพรหม (20)
นายจิรวัฒน์ ทาพรหม
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน การออกกาลังกาย
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นายจิรวัฒน์ ทาพรหม เลขที่ 34 ชั้น ม.6 ห้อง 11
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
- 2. 2
1นายจิรวัฒน์ ทาพรหม เลขที่ 34
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคกลัวอ้วน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Anorexia Nervosa
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายจิรวัฒน์ ทาพรหม
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม
ระยะเวลาดาเนินงาน 1 ภาคเรียน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เรื่องของรูปร่างและบุคลิกภาพของบุคคลนั้นเป็นเรื่องสาคัญและใกล้ตัวเราเอามากๆ การที่เรามีร่างกาย
และสุขภาพที่แข็งแรง มีรูปร่างที่สมส่วน เหมาะสมกับช่วงอายุ น้าหนักและวัยนั้นเป็นเรื่องดีแต่บางครั้งการมีรูปร่างที่ดี
ก็มักมีโรคบางอย่างแฝงมาด้วย โรคกลัวอ้วนเป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้าหนักไว้ในระดับ
ปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อรูปร่าง และน้าหนักตัวผิดปกติ คนที่เป็นโรคนี้ จะเป็นคนที่กลัวอ้วน กลัวเอามากๆ เห็น
น้าหนักตัวเองเป็นศัตรู ปฏิเสธอาหารอย่างมากจนผ่ายผอม ในสังคมปัจจุบันสนใจน้าหนักตัว ไม่ต้องการอ้วน ไม่
ต้องการหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน คาดว่ามีผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนเสียจนผอมเกินไปราวร้อยละ 0.5-1.8 ของประชากร มี
ผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นราว 5-10 รายต่อประชากร 1 แสนคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า ในผู้ป่วยทั้งหมดจะ
เป็นผู้ชาย ไม่เกินร้อยละ 5-10 อาการของโรคมักเริ่มตอนวัยรุ่น โดยเฉลี่ยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุ 17 ปี มีบ้างที่เป็นตอน
เรียนมัธยมต้น หรือตอนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พบมากในประเทศอุตสาหกรรม หรือประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศด้อย
พัฒนาจะพบน้อยกว่า
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนรักในสุขภาพของตนเองมากขึ้น
2. เพื่อเผยแพร่ให้คนในสังคมได้รู้เกี่ยวกับโรคที่ใกล้ตัวและอาจเกิดขึ้นได้
3. เพื่อเป็นความรู้แก่ผู้ที่สนใจ
ขอบเขตโครงงาน
การรวบรวมข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคกลัวอ้วนเพื่อเป็นกรณีศึกษาและเป็นความรู้กับผู้ที่สนใจ เพื่อให้เกิดความ
ตระหนักถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเอง
หลักการและทฤษฎี
โรคกลัวอ้วน เป็นภาวะที่บุคคลปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเพื่อคงน้าหนักไว้ในระดับปกติ โดยมีทัศนคติที่ผิดต่อ
รูปร่าง และน้าหนักตัวผิดปกติ คนที่เป็นโรคนี้ จะเป็นคนที่กลัวอ้วน กลัวเอามากๆ เห็นน้าหนักตัวเองเป็นศัตรู ปฏิเสธ
อาหารอย่างมากจนผ่ายผอม ในสังคมปัจจุบันสนใจน้าหนักตัว ไม่ต้องการอ้วน ไม่ต้องการหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
คาดว่ามีผู้ป่วยโรคกลัวอ้วนเสียจนผอมเกินไปราวร้อยละ 0.5-1.8 ของประชากร มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นราว 5-10 ราย
- 3. 3
ต่อประชากร 1 แสนคน พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า ในผู้ป่วยทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย ไม่เกินร้อยละ 5-10
อาการของโรคมักเริ่มตอนวัยรุ่น โดยเฉลี่ยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุ 17 ปี มีบ้างที่เป็นตอนเรียนมัธยมต้น หรือตอนโตเป็น
ผู้ใหญ่แล้ว พบมากในประเทศอุตสาหกรรม หรือประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศด้อยพัฒนาจะพบน้อยกว่า ในปัจจุบันยัง
ไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แน่ชัด เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม โดยผู้ป่วยมักเป็นวัยรุ่นที่เป็น เด็กดี เด็ก
ตัวอย่าง ของครอบครัว มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์แบบ ย้าคิดย้าทา ขาดทักษะในการใช้ชีวิตในสังคม มีความเป็นตัวของ
ตัวเอง มีปัญหาความขัดแย้งในจิตใจเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกไม่มีค่า มักทาตามความคาดหวังของผู้อื่นเพื่อให้
ผู้อื่นยอมรับเกิดจากการมองภาพตนเองบิดเบือน มองเห็นสัดส่วนร่างกายอ้วนไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้อ้วน มักปฏิเสธว่าไม่หิว
ไม่ป่วย บอกว่าสบายดี มักแยกแยะความหิวไม่ได้ และปัจจัยอื่นๆเช่น ครอบครัวที่เลี้ยงดูแบบปกป้องจนเกินไป หรือ
ปัจจัยทางสังคมที่มีค่านิยมเกี่ยวกับรูปร่างผอมบาง เป็นต้น
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน หรือนักศึกษาสาวที่ขยันเรียน มีความรับผิดชอบสูง ผลการเรียนดี เป็นคนค่อนข้าง
"สมบูรณ์แบบ" บิดามารดามักประสบความสาเร็จในหน้าที่การงานสูง ผู้ป่วยมักไม่ชอบงานสังคมสังสรรค์นัก
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีน้าหนักตัวต่ากว่ามาตรฐานราว 15% เช่น ควรหนัก 60 กิโลกรัม ก็หนักเพียง 50 กก. หรือควร
หนัก 50 กก. ก็เหลือแค่ 42 กก. หรือน้อยกว่าเป็นต้น โรคนี้ถือเป็นความผิดปกติทางจิตใจชนิดหนึ่ง โดยมีความเชื่อผิด
เกี่ยวกับน้าหนักและรูปร่างตัวเอง บางคนยังเชื่อว่า น้าหนักมากเกินไปทั้งๆ ที่ความจริงอยู่ในขั้นผอมแห้ง บางคนเชื่อ
ว่าอวัยวะบางส่วนของตัวอ้วนไป ความคิดเต็มไปด้วยเรื่องเกี่ยวกับอาหาร น้าหนักตัว และการควบคุมอาหาร ในที่สุด
เมื่อสนใจแต่เรื่องพวกนี้ ก็จะไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น ทาให้การเรียน การทางาน และมนุษยสัมพันธ์แย่ลง
ผู้ป่วยจะกลัวมากๆ เกี่ยวกับการที่น้าหนักเพิ่มขึ้น และที่แปลกคือ เมื่อยิ่งผอม น้าหนักลด กลับยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก
ความกลัวน้าหนักเพิ่มนั้น มากเสียยิ่งกว่ากลัวตายจากการปฏิเสธอาหาร แทนที่จะรู้สึกผ่อนคลายหรือเบาใจ เมื่อ
น้าหนักลดลงได้เขากลับกลัวมากขึ้นไปอีก อีกทั้งผู้ป่วยมักมีความประพฤติแบบย้าคิด-ย้าทา ร่วมด้วย ชีวิตประจาวัน
เต็มไปด้วยพิธีรีตอง ส่วนตัวอาจนับเมล็ดข้าวที่รับประทาน คานวณพลังงานที่ได้จากอาหาร ชั่งน้าหนัก วัดสัดส่วนของ
ร่างกาย ผู้ป่วยโรคนี้จะปฏิเสธความเจ็บป่วยของตัวเองไม่ยอมรับว่าป่วย ทาให้รักษาลาบาก คิดว่าความคิดตนเอง
ถูกต้อง ส่วนคนอื่นต่างหากที่เพี้ยนไป
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ศึกษาและรวบรวมข้อมูล เลือกหัวข้อที่สนใจและพิจารณาจากนั้นนาเสนอ
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
คอมพิวเตอร์
งบประมาณ
200 บาท
- 4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
จากการศึกษาข้อมูลนี้ข้าพเจ้าหวังว่าผู้ที่เข้ามาอ่านจะได้รับประโยชน์และความรู้จากข้อมูลที่ข้าพเจ้ารวบรวม
และเรียบเรียงมาและสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง
http://www.bangkokhealth.com/health/article/โรคกลัวอ้วน-Anorexia-Nervosa-1270