More Related Content Similar to แนวทางการรกัษาไวรัสตับอกัเสบบีในผู้ใหญ่ รศ.นพ.พิศาล ไม้เรียง (20) More from Utai Sukviwatsirikul (20) แนวทางการรกัษาไวรัสตับอกัเสบบีในผู้ใหญ่ รศ.นพ.พิศาล ไม้เรียง 1. แนวทางการรักษาไวรัสตับอักเสบบี ในผู้ใหญ่
รศ.นพ.พิศาล ไม้เรียง
สาขาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี อาจมาพบแพทย์ ยาที่ใช้ในการรักษาผูปวยไวรัสตับอักเสบบี
้ ่
ด้วยรูปแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. Immunomodulators เพื่อกระตุ้นภูมิ
1. ตรวจพบเชื้อไวรัสบี (HBsAg posi- ต้านทานของร่างกายให้กำ�จัดเชื้อไวรัสบี ยาในกลุ่ม
tive) โดยที่ไม่มีการอักเสบของตับ เรียกว่า inactive นี้ประกอบด้วย
chronic hepatitis B infection (HBV carrier) - Conventional interferon (intron A)
2. ตรวจพบมี ก ารอั ก เสบของตั บ โดย โดยให้ 5-10 IU 3 ครังต่อสัปดาห์ ฉีดใต้ผวหนัง นาน
้ ิ
อาจมีหรือไม่มีอาการก็ได้ โดยค่า serum ALT จะอยู่ 24 สัปดาห์
ระหว่าง 1.5 – 5 เท่าของค่าปกติ และมักจะไม่เกิน - Pegylated interferon a -2a (pe-
500 IU/L และตรวจ ติดตามการรักษาอย่างน้อย 2 gasys) 180 microgram หรือ pegylated interferon
ครั้ง ระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน ยังพบ a -2b (peg-intron) 1.5 microgram ต่อนํ้าหนักตัว
ALT สูงอยู่ เรียกว่า chronic hepatitis B 1 กิโลกรัม ฉีดใต้ผิวหนัง สัปดาห์ละครั้ง นาน 48
3. ผูปวยมาพบแพทย์ดวยอาการตาเหลือง
้ ่ ้ สัปดาห์
IJM
ตัวเหลืองอย่างเฉียบพลัน มีอาการอ่อนเพลีย ตรวจ - Thymosis – a 1.6 mg ฉีดใต้ผวหนังิ
Vol. 10 No.3
พบ serum ALT สูง ซึ่งปกติมักจะสูง 500 – 2,000 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 48 สัปดาห์
IU/L จะพบในผู้ป่วยที่เป็น acute viral hepatitis 2. ยากลุ่ม nucleoside ได้แก่ lamivudine
หรือ chronic hepatitis B ซึ่งมี acute flare จาก viral (zeffix), entecavir (baraclude), telbivudine (sebivo)
reactivation 3. ยากลุ่ม nucleotide ได้แก่ adefovir
4. ผู้ป่วยที่มีอาการและอาการแสดงของ (Hepsera), tenofovir (Viread)
โรคตับ จนมีการทำ�ลายเนื้อตับมาก มี decompensa- ยาที่ใช้รับประทานทั้งกลุ่ม nucleoside
tion ของตับ เป็นกลุ่ม liver cirrhosis จาก hepatitis B หรือ nucleotide นี้ จะให้เป็นระยะยาวไม่น้อยกว่า
5. ผูปวยกลุมพิเศษทีมโรคหรือภาวะอืนๆ
้ ่ ่ ่ ี ่ 1 ปี ผู้ป่วยที่มี HBeAg เป็นบวก จะต้องให้ยาไปจน
อยูดวย และตรวจพบมีไวรัสตับอักเสบบีดวยซึงต้อง
่้ ้ ่ HBeAg เป็นลบ ร่วมกับตรวจ HBV DNA น้อยกว่า
คำ�นึงเมื่อรักษาโรคนั้นๆ เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสตับ 60 IU/ml อย่างน้อย 2 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน
อักเสบซี หรือ HIV ผูปวยทีตองให้ chemotherapy ผู้
้ ่ ่้ ในกรณีที่ผู้ป่วย HBeAg เป็นลบ จะต้องให้ยาไป
ป่วยตังครรภ์ เป็นต้น ยาทีใช้ในการรักษาผูปวยไวรัส
้ ่ ้ ่ จนกว่าตรวจไม่พบ HBsAg และตรวจไม่พบ HBV
ตับอักเสบบี DNA 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น 99
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
2. ตารางที่ 1 การตอบสนองของยาชนิดต่างๆ ในกลุ่ม HBeAg Positive chronic HBV
ชนิดของการรักษา Loss of HBV DNA Loss of HBeAg HBeAb + Loss of HBsAg
No treatment 0 – 17% 6 – 12% 4 – 6% 0 – 1%
Interferon (IFN) 37% 33% 18% 7 – 8%
Pegylated IFN 25% 30 – 34% 21 – 32% 3%
Lamivudine (100 mg) 40 – 44% 17 – 32% 16 – 21% 1%
Adefovir (10 mg) 21% 24% 12% 0%
Tenofovir (300 mg) 76% ไม่มีข้อมูล 21% 3.2%
Telbivudine (600 mg) 60% 26% 22% 0%
Entecavir (0.5 mg) 67% 22% 21% 2%
ปัญหาของยารับประทานทัง 2 กลุม เมือใช้
้ ่ ่ ทุก 6-12 เดือน หากมีระดับสูงขึ้นมากกว่า 1.5 เท่า
ไปนานๆ จะมีโอกาสเกิดการดื้อยาจาก viral muta- ให้พิจารณารักษาตามกลุ่ม ข.
tion ได้ โอกาสที่จะเกิดภาวะดื้อยาจะไม่เท่ากันใน ผูปวยกลุมนีจะทำ�การรักษาเมือผูปวย
้ ่ ่ ้ ่ ้ ่
แต่ละตัว ยาใดทีมโอกาสทีไวรัสดือยาน้อย เรียกว่ามี
่ ี ่ ้ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาที่มีผลต่อภูมิต้านทาน
genetic resistance barrier สูง ได้แก่ยากลุม tenofovir
่ เช่น steroid, chemotherapy, rituximab ควรได้รับยา
และ entecavir ยาที่มีโอกาสที่ไวรัสดื้อยาได้ง่าย คือ lamivudine เพื่อป้องกันการ reactivation ของ viral
lamivudine และ telbivudine ส่วน adefovir มีโอกาส hepatitis B เกิด hepatitis flare ได้ และควรให้ยาต่อ
Vol. 10 No.3
ที่ไวรัสดื้อยาได้ปานกลาง เนืองไปอีกอย่างน้อย 12 สัปดาห์หลังหยุดยากลุมดัง
่ ่
กล่าว ยกเว้นยา rituximab ควรให้ lamivudine ต่อ
แนวทางการรักษาผู้ป่วยกลุ่มต่างๆ เนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปี รายละเอียดให้ดูในการ
IJM
ก. Inactive chronic hepatitis B infection (HBV รักษากลุ่ม ค.
carrier) โดย serum ALT ปกติ (ชาย < 30 IU/L และ ข. Chronic hepatitis B แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
หญิง < 19 IU/L) ไม่ตองรักษา ทังนีผปวยทีมี HBeAg
้ ้ ้ ู้ ่ ่ กลุ่มที่ HBeAg positive และ HBeAg negative ซึ่ง
positive ให้ติดตามดู serum ALT ทุก 3-6 เดือน ใน ผลการรักษาและเป้าหมายในการรักษาแตกต่างกัน
ผูปวยทีมี HBeAg negative ให้ตดตามดู serum ALT
้ ่ ่ ิ
100 ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
3. รูปที่ 1 แนวทางการรักษาผู้ป่วยตับอักเสบบีเรื้อรังที่มี HBeAg +
รูปที่ 1. แนวทางการรักษาผูปวยตับอักเสบบีเรื้อรังที่มี HBeAg +
HBeAg Positive
Advanced liver fibrosis
or liver cirrhosis *
No Yes
DNA > 20,000 IU/ml Detectable HBV DNA (PCR)
No Yes Yes No
No treatment ALT elevated Consider treatment Test for HBV DNA
Monitor DNA ทุก 6-12 เดือน ALT ทุก 3-6 เดือน
No >2 เทา ULN
1.5 – 2 เทา ULN
Yes
No treatment
IJM
Monitor ALT, HBeAg, Liver biopsy
DNA ทุก 3-6 เดือน
Vol. 10 No.3
No Significant pathology **
* ตรวจหา sign of chronic liver disease เชน spider naevi, palmar
erythema, Gynecomastia, decompensate liver function เชน hypoalbumin
และ hyperglobulin เปนตน
** HAI score > 3, หรือ metavir scdre > 2 ULN = upper limit normal
ULN = upper limit normal
ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น 101
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
4. รูปที่ 2. รูแนวทางการรักษาผูปวยตับอักเสบบีเรืบรังกชนิด HBeAgงnegative
ปที่ 2 แนวทางการรักษาผู้ป่วยตั้อ อั เสบบีเรื้อรั ชนิด HBeAg negative
HBeAg Negative
DNA > 2,000 IU/ml DNA < 2,000 IU/ml
ALT Normal ALT 1.5 – 2 ULN ALT > 2 ULN No treatment
ติดตามทุก 6-12 เดือน
No treatment Liver biopsy Consider
ติดตาม ALT , HBeAg, treatment
HBV-DNA ทุก 6-12 เดือน Significant pathology
No Yes
รูปที่ 3 แนวทางการเลือกยาที่ใช้ในการรักษาตับอักเสบบีเรื้อรัง
รูปที่ 3. แนวทางการเลือกยาที่ใชในการรักษาตับอักเสบบีเรื้อรัง
Vol. 10 No.3
Liver status
IJM
Decompensate / cirrhosis No cirrhosis
Nucleoside or Nucleotide analogues ที่มี Any of these conditions
high genetic resistance barrier เชน - Elderly
Entecavir หรือ Tenofovir หรือใหยา - Pregnancy
combination เชน Lamivudine + Adefovir - Renal insufficiency
เปนตน ผูหญิงที่วางแผนจะมีบุตรในอนาคตอันใกลไม-ควรใหยา nucleotide หรือ nucleoside เพราะตองใหเปน
Severe depression
เวลานาน ควรเลือก IFN หรือ Peg IFN ซึ่งรักษานาน 6--12 เดือน เมื่อthrombocytopeniaบุตรไดถายังตองการ
Anemia, หยุดยาก็สามารถมี และ Neutropenia
Yes No
Consider Nucleotide หรือ Nucleoside Consider IFN หรือ Peg IFN
102 ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
5. ผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตรในอนาคตอัน มี HbeAg positive ควรได้รับยา 6-12 เดือน ผู้ป่วยที่
ใกล้ไม่ควรให้ยา nucleotide หรือ nucleoside เพราะ มี HBeAg negative ควรได้รับยา 12 เดือน
ต้องให้เป็นเวลานานยไดรบการรักษาดหรือ Peg IFN IFN ควรได้ป่วยที่ได้รับยา adefovir และทุก 2 สัปดาห
หากผูปว ควรเลือก IFN วย IFN หรือ Peg
ั ผู รับการตรวจ ALT และ CBC tenofovir
ซึงรักในชวง 1-2 เดือเดือน เมืองหยุดยาก็สตรวจทุก 4-6 ร ปดาห และควรไดดภาวะไตทำ�thyroid ดปกติ จำ�เป็นต้HBV
่ ษานาน 6-12 นแรก หลั จากนั้นให ามารถมีบตสั อาจทำ�ให้เกิ รับการตรวจ งานผิ function test และ อง
่ ุ
ได้ถ้าDNAอทุก 6 เดือน ผูปวยทีมี HbeAg positive ควรไดรบตรวจการทำ�น ผูปวยที่มี HBeAg อนร่วมด้ควรไดรับยา 12
ยังต้ งการ ่ ั ยา 6-12 เดือ งานของไตทุก 3 เดื negative วย นอกจาก
เดือนหากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วย IFN หรือ การตรวจ ALT และ HBV DNA
Peg IFN ควรได้วรยทีการตรวจ ALT และ CBC ทุก 2 าใหเกิดภาวะไตทํางานผิดปกติพันเปทกองตรวจการทํายงาน
ผูป ับ ่ไดรับยา adefovir และ tenofovir อาจทํ ผูปวยหญิงวัยเจริญ จํา ธุ์ นุตคนทีก�ลังได้ า
้ ่ ่ำ
สัปดาห์ในช่วง31-2อนรอนแรกนอกจากการตรวจตรวจและรัHBV ไม่ว่าจะเป็น nucleoside และ nucleotide หรือ
ของไตทุก เดื เดื วมดวย หลังจากนั้นให้ ALT กษา DNA
ทุก 4-6 สัปดาห์ยหญิงวัยเจริญพัับธุทุกคนที่กําthyroid กษา ไมต้อจะเปน nucleoside�และ เพราะยาทุกตัวมีIFN ตอง
ผูปว และควรได้ร นการตรวจ ลังไดยารั IFN วา งแนะนำ�ให้คมกำ เนิด nucleotide หรือ ผลต่อ
ุ
function test และ าHBV DNA ทุก วมีเดืลตนเด็กในครรภ เด็กในครรภ์
แนะนําใหคุมกํ เนิดเพราะยาทุกตั 6 ผ อ อ ผู้ป่วยที่
รูปที่ รู4ปแนวทางการติดตามการรักกษาผู้ป่วยไวรัสตับอัอักเสบบีวด้วnucleotide หรือหรือ nucleoside analogues
ที่ 4. แนวทางการติดตามการรั ษาผู ปว สตับ กเสบบี ด ย ย nucleotide nucleoside analogues
Liver cirrhosis No liver cirrhosis
Nucleoside or Nucleotide with high genetic Any approved Nucleoside or Nucleotide
barrier or combination treatment depending on HBV DNA และ Co-morbid
Biochemical and virological response
หลัง 6 เดือน
IJM
Vol. 10 No.3
DNA < 60 IU/ml Partial response DNA >2,000 IU/ml
Complete response DNA 60-2,000 IU/ml In adequate response
Continue treatment เพิ่มยาตัวอื่นหรือติดตาม เพิ่มยาตัวอื่นทีไมมี cross
่
ติดตามทุก 6 เดือน อยางใกลชิดทุก 3 เดือน resistance* ติดตามทุก 3 เดือน
* - ถาให lamivudine ใหเพิ่มยา adefovir หรือ tenofovir
- ถาให telbivudine ใหเพิ่ม adefovir หรือ tenofovir
- ถาให entecavir ใหเพิ่ม adefovir หรือ tenofovir
- ถาให adefovir (LAM naïve) ใหเพิ่ม entecavir หรือ lamivudine หรือ telbivudine
- ถาให adefovir (LAM – resistance) ใหเพิ่ม entecavir + tenofovir
ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น 103
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
6. ค. ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี ที่มีอาการและผลการ fulminate liver failure โดยดูจากมี prothombin time
ตรวจเลือดเหมือนตับอักเสบเฉียบพลัน ซึงมีสาเหตุ
่ prolong
ได้ 2 ประการคือ 2. Chronic hepatitis B และมี reactivation
1. Acute hepatitis B ซึ่งพบได้น้อยใน ทำ�ให้เกิด flare ของ hepatitis ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเอง
ผูใหญ่ จะเกิดในกรณีมการติดเชือจากการได้รบเลือด
้ ี ้ ั แต่ส่วนใหญ่จะเกิดหลังได้ chemotherapy, steroid,
หรือสารนําจากเลือด หรือกรณีทใช้ของมีคมร่วมกับ
้ ี่ immunosuppressive drugs, Rituximab, anti TNFa
ผูทเี่ ป็นไวรัสตับอักเสบบี โดยผูปวยจะมีอาการหลัง
้ ้ ่ (รักษา rheumatoid arthritis และ inflammatory
จากติดเชือประมาณ 1-3 เดือน มีอาการไข้ ปวดเมือย
้ ่ bowel diseases) และหลัง organ transplantation
ตามตัว เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ภาวะ jaundice (Bone marrow, solid organs) การวินิจฉัยอาศัยการ
จะเกิดหลังมีอาการประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยปกติ เพิ่มขึ้นของ ALT มากกว่า 3 เท่า ULN และอาจมี
95-99% ของผู้ป่วยจะหายได้เอง ร่างกายสามารถ อาการ jaundice ร่วมด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติ
กำ�จัดเชื้อไวรัสได้ ตามด้วยมีภูมิต้านทานโดยมี se- การพบ HBV DNA สูงขึ้นมากกว่า 1 log มี anti
roconversion จาก HBsAg + เป็น HBsAb + และ HBc IgM ให้ผลบวก ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะ
HBsAg – การรักษาโดยใช้ lamivudine 100 mg/วัน มี HBsAg positive อยูแล้ว แต่จะมีผปวยกลุมหนึงมี
่ ู้ ่ ่ ่
ทำ�ให้ HBV DNA และค่า bilirubin ลดลงเร็วขึ้น แต่ HBsAg negative ในกระแสเลือดแต่มีเชื้อ HBV อยู่
ค่า ALT จะไม่แตกต่างจากกลุมไม่รกษา ดังนันจึงยัง
่ ั ้ ภายในร่างกาย ก็อาจเกิด HBV reactivation ได้ ดัง
ไม่มีข้อแนะนำ�ในการรักษา Acute hepatitis B ด้วย นั้นในผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษาใดๆ ที่มีผลนำ�ไปสู่
ยากำ�จัดไวรัส ยกเว้นในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะเกิด HBV reactivation จึงมีข้อเสนอแนะดังนี้ (รูปที่ 5)
Vol. 10 No.3
IJM
104 ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
7. HBsAg + HBsAg – HBsAg – HBsAg –
Anti HBc + Anti HBc + Anti HBc -
Anti HBs - Anti HBs + Anti HBs -
Check DNA
HBV vaccination 1dose Normal ALT HBV vaccination
Start antiviral Elevate ALT
- Lamivudine ถา DNA < 200
IU/ml Anti HBs + Anti HBs - No treatment
- Entecavir หรือ tenofovir ถา
HBV DNA + HBV DNA -
DNA > 2,000 IU/ml
No treatment HBV DNA
Start Anti-viral
Follow ALT, DNA
HBV DNA + HBV DNA -
ใหยาตอ 6-12 เดือน
หลังหยุด chemotherapy Complete HBV Evaluate non HBV cause
vaccination of ALT
รูปที่ 5 แนวทางการป้องกันผู้ป่วย HBV ที่จะได้ chemotherapy หรือ immunosuppressive treatment ไม่
รูปที่ 5. แนวทางการปองกันผูปวย HBV ที่จะได chemotherapy หรือ immunosuppressive treatment ไมใหเกิด viral
ให้เกิด viral reactivation
reactivation
IJM
การรักษาผู้ปก่วษาผูปวี HBV reactivation
การรั ยที่ม ยที่มี HBV reactivation พิจารณาให้ยา lamivudine หรือ telbivudine หรือ
Vol. 10 No.3
ผู้ป่วยจะมีอาการแตกต่าางกันน้งตั้งแต่มไีอม่มี tenofovir หรือางรุนแรง นําไปสู Fulminant liver failureาณ
ผูปวยจะมีอาการแตกต งกั ตั แตไม าการจนถึงตับอักเสบอย entecavir เพราะสามารถลดปริม
อาการจนถึงตัยบอัิตได างรุนแรง นำ�ไปสู่ Fulmi- ไวรัสได้เร็วและมีความปลอดภัย
และเสี ชีว กเสบอย่
nant liver failure และเสีีอาการรุได้แรง ตองรักษาดังนี้
ในกรณีที่ม ยชีวิต น จ. ผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะ ได้แก่
1.ด หยุด chemotherapy และ immunosu- agents 1. ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ร่วมด้วย หากไม่
1. หยุ chemotherapy และ immunosupressive
pressive agents2. ใหการรักษาผูปวยดวย lamivudine ทันที ได้รบการรักษา HIV ด้วย antiretroviral agent (CD4
ั
2. ให้การรักษาผู้ป่วยด้วย lamivudine ยังสูง) แต่จำ�เป็นต้องใช้ยารักษา HBV ให้เลือก ad-
ทันที efovir หรือ telbivudine เพื่อป้องกันการเกิด cross
3. ในกรณีที่มี acute liver failure ให้พิ resistance ถ้าใช้ lamivudine หรือ tenofovir ในการ
จาณา liver transplantation ยกเว้นโรคทีผปวยเป็นอยู่ รักษา HIV อนาคตในกรณีที่ผู้ป่วยมี CD4ตํ่ากว่า
่ ู้ ่
เช่น มะเร็ง มีการพยากรณ์โรคไม่ดี พิจารณาให้การ 200 cells/ml และมี significant liver fibrosis หรือ
รักษาแบบประคับประคอง cirrhosis ให้ใช้ยา 2 ขนานก่อน คือ lamivudine ร่วม
ง. ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี ที่มี decompensated กับ tenofovir พิจารณาเพิม anti-retroviral agents ตัว
่
cirrhosis ไม่สามารถให้ IFN หรือ Peg-IFN ต้อง ที่ 3 เมื่อ HBV DNA น้อยกว่า 400 copies/ml เพื่อ
ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น 105
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
8. ป้องกันการเกิด immune reconstitution syndrome ระหว่างรักษาด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมี
ตามมาด้วย severe hepatitis และ liver failure reactivation ของ HBV ในระหว่างการรักษา
ผูปวย HBV + HIV ทีมี CD4 > 500 cells/ml สามารถ
้ ่ ่ 3. ผู้ป่วยโรคไตวาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้
ให้การรักษาด้วย peg-IFN a ได้ IFN หรือ peg-IFN ควรพิจารณาให้ยากลุ่ม lami-
2. ผูปวยทีมี HBV ร่วมกับ HCV สามารถ
้ ่ ่ vudine หรือ telbivudine โดยลดขนาดยาตามการ
ใช้ยา peg-IFNa ได้ แต่ต้องติดตามดู HBV DNA ทำ�งานของไต (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 การปรับยา anti-HBV ในกรณีที่มีภาวะไตวาย
ชนิดของยา CCr (ml/min) First dose (mg) Maintenance (mg)
Lamivudine 30 – 50 100 50
15 – 30 100 25
5 – 15 35 15
<5 35 10
Telbivudine >50 600 600
30 – 49 600 600 ทุก 2 วัน
จ. หญิงตั้งครรภและมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถายทอดเชื้อไปใหลูกและเกิดการ
<30 600 600 ทุก 3 วัน
กําเริบของตับอักเสบระหวางตั้งครรภ มีแนวทางการดูแลดังรูปที่ 6
<5 600 600 ทุก 4 วัน
รูปที่ 6. แนวทางการดูแลผูปวย HBV ที่ตั้งครรภ
4. หญิงตั้งครรภ์และมีการติดเชื้อไวรัส ให้ลูกและเกิดการกำ�เริบของตับอักเสบระหว่างตั้ง
ตับอักเสบบี ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถ่ายทอดเชื้อไป ครรภ์ มีแนวทางการดูแลดังรูปที่ 6
Vol. 10 No.3
First trimester
IJM
Check HBsAg, anti-HBc, Anti-HBs
HBsAg +
Negative for HBsAg, Anti HBs
HBV DNA at baseline และ wk. 28
Vaccination
Infant receive vaccination at birth HBV DNA < 106 copies
สงตอใหผูเชี่ยวชาญโรคตับ เพื่อพิจารณาการรักษาดวย HBV DNA > 106 copies
lamivudine, tenofovir, telbivudine เมื่อตั้งครรภได 32 สัปดาห
รูปที่ 6 แนวทางการดูแลผู้ป่วย HBV ที่ตั้งครรภ์
106 ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554
9. บรรณานุกรม 7. Chan LYH, Jia J. Chronic hepatitis B in Asia
1. แนวทางการรั ก ษาผู้ ป่ ว ยไวรั ส ตั บ อั ก เสบบี – new insights from the past decade. Journal of
เรื้อรังในประเทศไทย ปี 2552 : สมาคมโรคตับ Gastroenterol and Hepatol 2010;suppl1:131-7.
ประเทศไทย. http://www.liversocietythailand. 8. Dusheiko GM. Cost-effectiveness of oral
org treatments for chronic hepatitis B. Journal of
2. APASL Guidelines for HBV management Hepatology 2009;51:623-5.
2008. www.apasl.info/guidelinesHBVhtml. 9. Vanagas G, Padaiga Z, Mickeviciene A. Cost-
3. AASLD Practical Guideline : Chronic hepatitis effectiveness and cost-utility of the treatment
B update 2009. Hepatology 2009;50(3):1-35. of chronic hepatitis B with peginterferon alfa-
4. Adhish S, Rajesh K, Sajid J, Wright VK. 2a, interferon alfa, and lamivudine in Lithu-
Chronic HBV with pregnancy : Reactivation ania. Medicina (Kuanas)2010;46(12):835-42.
flare causing fulminant hepatic failure. Ann 10. Wiens A, Venson R, Januario C, Pontarolo R.
Hepatol 2011;10(2):233-6. Cost-effecitveness of telbivudine vs lamivu-
5. Buti M, Brosa M, Casado MA, Rueda M, dine for chronic hepatitis B. Braz J Infect Dis
Esteban R. Modeling the cost-effectiveness 2011;15(3):225-30.
of different oral antiviral therapies in patients 11. Wu B, Li T, Chen H, Shen J. Cost-effectiveness
with chronic hepatitis B. Journal of Hepatology of Nucleoside analog therapy for Hepatitis B in
2009;51:640-6. China : A Markov Analysis. Value in Health
6. Bruno R, Dider S. The difficulties of manag- 2010;13(5):592-60.
IJM
ing severe hepatitis B virus reactivation. Liver
international 2011:104-10.
Vol. 10 No.3
ว า ร ส า ร อ า ยุ ร ศ า ส ต ร์ อี ส า น 107
ปีที่ 10 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2554