More Related Content
Similar to ใบงานPbl1 (20)
More from Sumitrazaza (7)
ใบงานPbl1
- 1. แบบบันทึกการศึกษาค้นคว้าและการแก้ปญหา
ั
โจทย์ปญหา PBL 1 เรือง ประวัตและขันตอนการเขียนโปรแกรม
ั ่ ิ ้
รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซีเบืองต้น ง30201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
้
สมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวจิระภรณ์ นนท์พละ เลขที่ 21
2. นางสาวธนยา คูนีรัตน์ เลขที่ 23
3. นางสาวสุมิตรา บุษบา เลขที่ 24
ภารกิจ
1.กลุ่มของนักเรียนพบปัญหาจากสถานการณ์นี้มีสาเหตุมาจากสิ่งใด และต้องแก้ปัญหานี้อย่างไร (1 คะแนน)
2.จากสถานการณ์ปัญหา ที่กล่าวมาแล้วนั้น นักเรียนสามารถอธิบายถึงประวัติและจุดเด่นของภาษาซี (2
คะแนน)
3.กรณีที่นักเรี ยนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษา นักเรียนควรเริ่มต้นจากศึกษาตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์แบบ
คอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ก่อน แล้วจึงเลือกเป็นตัวแปลภาษา พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ (2 คะแนน)
ตอนที่ 1
หัวข้อปัญหา ประวัติและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม
ทาความเข้าใจปัญหา ภาษาซีมีจุดเริ่มต้นอย่างไรและตัวแปรภาษาของภาษาซี
- สิ่งที่ต้องการรู้ 1.ภาษาซีมีจุดเริ่มต้นอย่างไรและเหตุใดภาษาซีจึงได้รับความนิยมนามาใช้เขียนโปรแกรม
2.ถ้าสมมติว่านักเรียนเป็นคอมพิวเตอร์นักเรียนจะเลือกเป็นตัวแปลภาษาแบบใดระหว่าง
คอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์เพราะเหตุใด
- วิธีการหาคาตอบ 1.ปรึกษากันในกลุ่ม แล้วแบ่งหน้าที่กันสืบค้นปัญหาต่าง ๆ
2.สืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ
แหล่งข้อมูล 1. www.lks.ac.th/anchalee/c_born.htm
2. www.lks.ac.th/kuanjit/Program_C/ProgramC_10.htm
- 2. การศึกษาค้นคว้า / แก้ปญหา
ั
ชื่อสมาชิก การแบ่ง แหล่งข้อมูล/อ้างอิง
หน้าที่
นางสาวจิ ร ะ สื บ ค้ น www.lks.ac.th/anchalee/c_born.htm
ภรณ์ นนท์พละ ข้อมูล
นางสาวธนยา พิมพ์ -
คูนีรัตน์
นางสาวสุมิตรา สื บ ค้ น www.lks.ac.th/kuanjit/Program_C/ProgramC_10.htm
บุษบา ข้อมูล
ตอนที่ 2 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า / แก้ปัญหาตามภารกิจ
1.ปัญหาจากสถานการณ์ข้างต้นมีสาเหตุมาจากการที่เราได้เรียนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมภาษาซี เริ่มต้นจึงต้องรู้
หรือศึกษาประวัติเกี่ยวกับโปรแกรมก่อน ดังนั้นเราจึงเกิดปัญหาข้างต้นขึ้นคือภาษาซี มีจุดเริ่มต้นอย่างไร แล้วทาไมถึงนิยม
นามาใช้เขียนโปรแกรม และอีกอย่างภาษาซีมีตัวแปลภาษา 2 แบบคือ คอมไพเลอร์และอินเตอร์พรีเตอร์ แล้วจึงเกิดคาถามข้อ
ที่2ขึ้น
2.ประวัติของภาษาซีเริ่มต้นมาจาก ศักยภาพและเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์ที่แพรหลาย จึงทาให้มีผู้คิดค้นพัฒนา
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ภาษาซีขึ้น คือ นายเดนนิส ริทชี่ (Dennis Ritchie) ที่ศูนย์วิจัยเบล (Bell Laboratories) ประเทศ
สหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ.1972และเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้เขียนระบบปฏิบัติการยูนิกส์ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ภาษาซีเป็นภาษาที่มีความใกล้เคียงกับภาษาระดับต่า (Low-Level Language) จึงทาให้นักพัฒนา
โปรแกรมสามารถที่จะกาหนดรายละเอียดของโปรแกรมให้เข้าถึงการทางานในส่วนต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุดเพื่อให้
เกิดความเร็ว ในการทางานสูงสุดและในขณะเดียวกันภาษาซีก็ยังมีความเป็นภาษาระดับสูง (High-Level Language) ทาให้
ผู้พัฒนาสามารถที่จะพัฒนาโปรแกรมได้ โดยเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่ต้องการได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องคานึงถึงฮาร์ดแวร์ใด ๆ
ภาษาซีเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นาย Bjarne Stroustrup นักวิจัย
และพัฒนาของศูนย์วิจัยเบล (Bell Laboratiories) ได้พัฒนาภาษา C++ (ซีพลัสพลัส) ขึ้นมา โดยที่ภาษา C++ มี
ความสามารถในการทางานได้ทุกอย่างเหมือนกับภาษาซี ซึ่งมีรูปแบบและโครงสร้างของภาษาใกล้เคียงกัน แต่ภาษา C++ ใช้
หลักการออกแบบโปแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Design) ในขณะที่ภาษาซีใช้หลักการออกแบบโปรแกรมแบบโมดูลาร์
(Modular Design) และภาษาซีก็มีจุดเด่น คือ เป็นภาษาที่มีความเร็วในการทางานสูงใกล้เคียงกับภาษาเครื่อง มีโครงสร้างที่
ชัดเจน เข้าใจง่าย สามารถเขียนโปรแกรมเพื่อติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างดี
3. ตัวแปลภาษาของภาษาซีมี 2 แบบ Compile เป็นตัวแปลภาษารูปแบบหนึ่ง มีหน้าที่หลักคือการแปลภาษาโปรแกรม
ที่มนุษย์เขียนขึ้นไปเป็นภาษาเครื่อง โดยคอมไพเลอร์ของภาษาซี คือ C Compiler ซึ่งหลักการที่คอมไพเลอร์ใช้ เรียกว่า
คอมไพล์ (compile) โดยจะทาการอ่านโปรแกรมภาษาซีทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบแล้วทาการแปลผลทีเดียว นอกจากคอมไพเลอร์
แล้ว ยังมีตัวแปลภาษาอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่าอินเตอร์พรีเตอร์ การอ่านและ แปลโปรแกรมทีละบรรทัด เมื่อแปลผลบรรทัดหนึ่ง
เสร็จก็จะทางานตามคาสั่งในบรรทัดนั้น แล้วจึงทาการแปลผลตามคาสั่งในบรรทัดถัดไป หลักการที่อินเตอร์พรีเตอร์ใช้ ถ้าเรา
เป็นคอมพิวเตอร์เราจะเลือกใช้ตัวแปลภาษาแบบคอมไพเลอร์ เพราะจะทาการอ่านโปรแกรมภาษาซีทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว
ทาการแปลผลทีเดียว เป็นการประหยัดเวลาและรวดเร็วต่อการประมวลผล