1. แบบทดสอบ
คาชี้แจง แบบทดสอบชุดนี้เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จานวน 95 ข้อ กรุณาเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคาตอบเดี ยว
1. โครงงานคอมพิวเตอร์หมายถึงข้อใด
ก. กิจกรรมกรรมอิสระที่ผู้เรียนสามารถเลือกศึกษาตามความสนใจโดยใช้ทัก ษะประสบการณ์ด้านคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์
ในการแก้ปัญหาต่ างๆ โดยผู้เรียนจะต้องวางแผนดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ข. กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ
โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นใดไปใช้ในการศึกษาหาคาตอบในเรื่องนั้นๆ โดยมีผู้สอนคอย
กระตุ้นแนะนา
ค. เป็นการทากิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้า และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ภายใต้ก ารดูแลและให้คาปรึกษา
ของครู ตั้งแต่การคิดสร้างโครงงาน การวางแผนดาเนินการ การออกแบบลงมือปฏิ บัติ รวมทั้งร่วมกาหนดแนวทางในการ
วัดผลและการประเมินผล
ง. โครงงานเป็นกิจกรรมของนักเรียนเองที่อาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ต้องมีการวางแผนการปฏิบัติอ ย่างชัดเจน ใน
การทากิจกรรมโครงงานนั้นก็ต้องอาศัยเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ในการปฏิบัติง าน ครูมีบทบาทในการอ านวย
ความสะดวกเป็นที่ปรึก ษา และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการทางานที่นักเรียนมาขอคาปรึกษา 3
2.ข้อใดไม่ใช่คุณค่าของโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. สร้างความส านึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้ วยตนเอง
ข. เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความสามารถ
ค. ให้นักเรียนทางานในเวลาเรียนวิชาคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ง. กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนสาขาคอมพิวเตอร์
3.ข้อใดคือองค์ประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องซอฟต์แวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
ข. ผู้เรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา เก็บรวบรวมหรือประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเองตามความสนใจและ
ระดับความรู้ความสามารถ
ค. ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา สรุป และเสนอผลการศึกษาด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นที่ปรึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
4. ขั้นตอนแรกของการทาโครงงาน คือข้อใด
ก. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
ข. จัดทาเค้ าโครงของโครงงาน
ค. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
ง. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อ มูล
5. การพัฒนาเว็บไซต์ เรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวหินช้างสี จัดเป็นโครงงานประเภทอะไร
ก. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ข. โครงงานประเภทการทดลอง
ค. โครงงานพัฒนาเกม
ง. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
6. การพัฒนาเกมจิกซอล์ จัดเป็นโครงงานประเภทอะไร
ก. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ข. โครงงานประเภทการทดลอง
ค. โครงงานพัฒนาเกม
ง. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา

2. 7. นักเรียนควรวางแผนอย่างไรในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. มอบหมายให้คนที่เก่งที่สุด จัดทาโครงงานเพียงคนเดียวเท่านั้น
ข. จัดลาดับภาระงานก่อน-หลัง และทาตามแผนงานที่วางเอาไว้
ค. มีการแบ่งงานมอบหมายงานให้สมาชิกแต่ละคนทาตามความถนัด
ง. ข้อ ข และ ค ถูก
8. ข้อใดคือขันตอนสุดท้ายสุดของการจัดทาโครงงาน
้
ก. การเขียนรายงาน
ข. จัดทาเค้ าโครงของโครงงาน
ค. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
ง. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อ มูล
9. ข้อใดไม่ใช่ประเด็นสาคัญในการการจัดแสดงและการนาเสนอผลงาน
ก. ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อที่ปรึกษา
ข. ผลงานที่เกิดขึ้นจากการทาโครงงาน
ค. ผลงานทุกชิ้นที่ทดลองไม่สาเร็จ
ง. วิธีการดาเนินการโดยเลือกเฉพาะขั้นตอนที่เด่น และสาคัญ
10. ข้อใดไม่ใช่การใช้คอมพิวเตอร์ชวยสร้างงานตามหลักการทาโครงงาน
่
ก. มีการอ้างอิงแหล่งข้อ มูล
ข. ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ค. คัดลอกผลงานผู้อื่น
ง. ใช้คาสุภาพ และไม่สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น
11. ข้อใดเป็น ความสาคัญอันดับแรกของการจัด ทาข้อเสนอโครงงาน
ก. ได้กรอบแนวคิด และแผนการพัฒนาโครงงานทุก ขั้นตอน
ข. ทาให้ทราบประโยชน์ของโครงงาน
ค. เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของการทาโครงงาน
ง. เพื่อเป็นการเลือกเรื่องที่จะทาโครงงาน
12. หัวข้อใดไม่ใช่รายการที่ใช้ประเมิน ข้อเสนอโครงงาน
ก. มีความคิดสร้างสรรค์
ข. ความน่าจะพัฒนาโครงงานได้ส าเร็จ
ค. ประโยชน์ของโครงงาน
ง. ซอฟต์แวร์ที่ใช้นามาพัฒนาโครงงาน
13. เค้าโครงข้อเสนอโครงงาน ไม่ต้องมีหัวข้อใดต่อไปนี้
ก. หลักการและทฤษฎี
ข. บทคัดย่อ
ค. แผนปฏิบัติงาน
ง. เอกสารอ้างอิง
14. ข้อเสนอโครงงานที่ผ่านการพิจารณา จะต้องมีคุณสมบัติในข้อใด
ก. มีความสมบูรณ์ในแต่ละหัวข้อ ของเค้าโครง
ข. เขียนและอธิบายได้หลายหน้ า
ค. มีรูปภาพประกอบ
ง. ผู้พัฒนาโครงงานเป็นกลุ่มหลายคน
15. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับข้อเสนอโครงงาน
ก. การส่งข้อเสนอโครงงานอาจแนบตั วอย่างผลงานไปเสนอด้วยก็ได้
ข. ควรด าเนินการพัฒนาโครงงานขั้นต้น ในขั้นตอนการทาข้อเสนอโครงงาน
ค. ข้อเสนอโครงงานที่ดี ทาให้ทราบแผนการดาเนินงานโครงงานทุก ขั้นตอน
ง. ข้อเสนอโครงงานเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบทคัด ย่อ
16. ข้อใดที่ทาให้ทราบว่าผู้ทาโครงงานจะทาโครงงานอย่างมีหลักเกณฑ์
ก. แนวคิด ที่มา ความสาคั ญ
ข. วัต ถุประสงค์
ค. ปัญหาหรือประโยชน์ที่เป็นเหตุผลให้ควรพัฒนาโปรแกรม
ง. หลักการและทฤษฎีที่ใช้

3. 17. ข้อเสนอหัวข้อใดที่ทาให้ทราบว่าผู้ทาโครงงานจะได้ผลงานอะไร
ก. วัตถุประสงค์
ข. ปัญหาหรือประโยชน์ที่ควรพัฒนาโปรแกรม
ค. หลักการและทฤษฎีที่ใช้
ง. รายละเอียดการพัฒนา โครงสร้างของซอฟต์แวร์
18. ข้อเสนอหัวข้อใดที่ทาให้ทราบว่าผู้ทาโครงงานมีการวางแผนการทางาน
ก. วัตถุประสงค์
ข. ปัญหาหรือประโยชน์ที่ควรพัฒนาโปรแกรม
ค. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ง. รายละเอียดการพัฒนา
19. ข้อเสนอหัวข้อใดที่ทาให้ทราบว่าผู้ทาโครงงานมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาได้สาเร็จ
ก. วัตถุประสงค์
ข. วิธีดาเนินงาน
ค. แผนปฏิบัติงาน
ง. รายละเอียดการพัฒนา
20. หลักเกณฑ์ต่อไปนี้ที่มาเป็นอันดับแรกของการพิจารณาข้อเสนอโครงงาน
ก. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนา
ข. ความคิดสร้างสรรค์
ค. ประโยชน์ของการพัฒนาโปรแกรม
ง. ความยากง่ายของการพัฒนา
21. ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูลก่อนทาโครงงานคือ ข้อใด
ก. มีทักษะการสืบค้น ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ข. มีเวลาเพียงพอสาหรับฝึกทัก ษะพื้นฐาน
ค. ได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตเรื่องที่จะศึกษา ง. แนวทางการกาหนดวิธีก ารและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
22. ขั้นตอนใดของการทาโครงงานที่แสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทางาน
ก. การลงมือทาโครงงาน
ข. การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
ค. การเขียนรายงาน
ง. การนาเสนอโครงงาน
23. เป้าหมายประการแรกในการจัดเนื้อหาวิชาทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนระดับมัธยมศึก ษาคือ ข้อใด
ก. พัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์
ข. พัฒนาครูให้มีความรู้และนาไปส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะ
ค. พัฒนานักเรียนให้มีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรม
ง. พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อออกแบบการแก้ปัญหา
24. " เนื้อหาน่าสนใจ คัดเลือกหัวข้อที่ทาความเข้าใจยาก " ข้อความที่กล่าวนี้มี ความส าคัญในการจัดทาโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานประดิษฐ์
ข. โครงงานพัฒนาเกม
ค. โครงงานประเภทประยุกต์ใช้งาน
ง. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
25. ข้อใดกล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน
ก. นักเรียนฝึกความสามารถในการนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้แก้ปัญหา
ข. นักเรียนมีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปประดิษฐ์คิด ค้นสื่อใหม่ๆ
ค. นักเรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองจากคอมพิวเตอร์
ง. นักเรียนสามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ จากข้อมูลคอมพิวเตอร์
26. การทาโครงงานของนักเรียน ถ้าเป็นการจัดทาเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมานักเรียนจะต้องดาเนินการในข้อใด
ก. แจ้งความต้องการระบบคอมพิวเตอร์
ข. บอกความต้องการของซอฟต์แวร์
ค. จัดทาคู่มือการใช้งาน
ง. บอกประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน

4. 27. กิจกรรมใดไม่จัดอยู่ในองค์ประกอบหลักของโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. การพัฒนาโปรแกรมจากผลงานที่มีคนทามาแล้วโดยการดัด แปลงแก้ไข
ข. กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ ซอฟต์ แวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
ค. นักเรียนผู้เลือกเรื่องที่ศึกษาค้นคว้าด้ว ยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้
ง. นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษาพัฒนาเก็บรวบรวมข้อมูลสรุปเสนอผลงานโดยมีครูเป็นผู้ให้คาปรึก ษา
28. การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ในข้อใดกล่าวถึงข้อมูล ของหัวข้อส่วนน าทั้งหมด
ก. ชื่อโครงงาน วัตถุประสงค์ ที่มาความสาคั ญปัญหา ผู้จัดทา อาจารย์ที่ปรึกษา
ข. ชื่อโครงงาน ที่มาความสาคั ญโครงงาน ผู้จัดทา อาจารย์ที่ปรึกษา
ค. ชื่อโครงงาน สาขางานวิจัย ผู้ทาโครงงาน อาจารย์ที่ปรึกษา คาขอบคุณ บทคัด ย่อ
ง. ชื่อโครงงาน หลักการทฤษฎี วิธีด าเนินการ ผู้จัดทา อาจารย์ ที่ปรึกษา
29. ข้อใดกล่าวถึงคุณค่าและประโยชน์ของโครงงานคอมพิวเตอร์ที่ไม่ถูกต้อง
ก. ส่งเสริมการใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
ข. สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึก ษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
ค. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
ง. เป็นแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมสาหรับประชาชนทั่วไป
30. การจัดนิทรรศการและการแสดงผลงานโครงงานข้อใดที่ไม่ควรทา
ก. เขียนค าอธิบายถึงที่มาของโครงงาน
ข. การอ่านรายงาน
ค. การซ้อมรายงานผลโครงงาน
ง. การตอบคาถามสั้นๆแบบตรงไปตรงมา
31. " การจัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุมเพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน " ข้อความ
นี้เป็นความหมายของข้อใด
ก. การทดสอบผลงานและแก้ไข
ข. การพัฒนาระบบงานและการบัน ทึกข้อ มูล
ค. แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคต
ง. การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
32. " ฐานข้อมูลสมุนไพรไทย " จัดเป็นโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานพัฒนาเกม
ข. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ค. โครงงานประเภทประยุกต์ใช้งาน
ง. โครงงานประดิษฐ์
33. องค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกหัวข้อ ที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ จงเรียงลาดับให้ถูกต้อง
1.มีเวลาเพียงพอ
2.มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือ ขอคาปรึก ษา
3.มีงบประมาณเพียงพอ
4.สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
5.มีความปลอดภั ย 6.ต้องมีค วามรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
ก. 2 6 3 4 5 1
ข. 4 2 1 5 6 3
ค. 6 4 2 1 3 5
ง. 3 1 5 6 2 4

5. 34. ในการเรียนการสอนโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูมีบทบาทและหน้าที่ในข้อใด
ก. ตัดสินใจแทนนักเรียนที่เรียนช้า
ข. คอยควบคุมดูแลการเขียนโครงงาน
ค. คอยกระตุ้น แนะนาและให้คาปรึกษาเมื่อมีปัญหา
ง. ช่วยพัฒนาความคิดนักเรียนให้สร้างสรรค์
35. การดาเนินการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ข้อใดเรียงลาดั บได้ถูกต้องที่สุด
1.การเขียนรายงาน
2.การศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร
3.การนาเสนอและการแสดงผลงาน
4.การลงมือทาโครงงาน
5.การเลือกหัวข้อที่จะทา
6.การเขียนเค้ าโครงโครงงาน
ก. 5 2 6 4 1 3
ข. 5 6 2 4 3 1
ค. 5 1 3 2 4 6
ง. 5 1 2 6 4 3
36. ข้อใดกล่าวถึงโครงงานคอมพิวเตอร์ไว้ถูกต้องที่สุด
ก. เป็นงานวิจัย สืบค้นหาความจริง
ข. เป็นกิจกรรมที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ
ค. เป็นกิจกรรมทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ง. เป็นงานที่สร้างสรรค์จินตนาการ
37. ข้อใดกล่าวถึงการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้ถูกต้องที่สุด
ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้นาความรู้ทางคอมพิวเตอร์ใช้แก้ปัญหา
ข. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจที่ทางานวิจัยมากขึ้น
ค. เป็นการจัดลาดับความคิด การวางแผนด าเนินงานตามแผนจนสาเร็จ
ง. เป็นการใช้ข้อมูลดิบมาสร้างงานใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์
38. จงเรียงลาดั บ การทาเค้าโครงของโครงงานคอมพิ วเตอร์
1. เสนอเค้าโครงต่ออาจารย์ที่ปรึกษา
2. ออกแบบการพัฒนาโครงงาน
3. ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล
4. พัฒนาโครงงานขั้นต้น
5. วิเคราะห์ข้อมูล
ก. 5 3 4 1 2
ข. 3 5 2 4 1
ค. 1 3 5 2 4
ง. 2 3 4 5 1
39. สุชาติเสนอทาโครงงาน “โปรแกรมบัญชีแบบง่าย " เพราะมีเหตุจูงใจจากข้อใดเป็นสาคัญ
ก. ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่อ ยู่รอบตัว
ข. หาเรื่องที่ง่าย ๆ สามารถใช้งานได้ดี
ค. การเก็บรวบรวมข้อมูลที่สะดวกและง่าย
ง. การสังเกต การทางานและเวลาที่เสียไป

6. 40. การรวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร เว็บไซต์ จัดอยู่ในส่วนใดของการเขียนรายงานโครงงาน
ก. บทคัด ย่อ
ข. หลักการและทฤษฎี
ค. คู่มือการใช้งาน
ง. บรรณานุกรม
41. " อธิบายเหตุผล บอกเรื่องที่จัดทาเป็นงานใหม่หรือปรับปรุงงานของผู้อื่น ” ข้อความนี้เป็นข้อมูล แสดงรายละเอียดการเขียนเค้า
โครงโครงงานข้อใด
ก. วัตถุประสงค์
ข. แนวคิดที่มาและความส าคัญ
ค. หลักการและทฤษฎี
ง. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
42. ในส่วนของบทน าเป็นส่วนแสดงรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานที่ประกอบด้วยข้อใดทั้งหมด
ก. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เป้าหมายของการศึกษา ขอบเขตของโครงงาน
ข. บทคัดย่อ ค าขอบคุณ หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ค. ความสาคัญของปัญหา สาขางานวิจัย วิธีด าเนินการ
ง. คาขอบคุณ ที่มาและความสาคัญของโครงงาน หลักการและทฤษฎี
43. " การระบุลักษณะของโครงงานที่พัฒนาว่าเป็นโครงงานชนิดใด” เป็นข้อมูลแสดงรายละเอียดเค้าโครงของโครงงานในข้อใด
ก. ชื่อโครงงาน
ข. แนวคิดที่มาและความส าคัญ
ค. แผนการปฏิบัติงาน
ง. สาขางานวิจัย
44. ความส าเร็จของนักเรียนที่จะสามารถพัฒนาโปรแกรมได้ควรเลือกข้อใด
ก. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการติดต่อสื่อสาร
ข. การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ค. คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้
ง. ศึกษาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
45. ข้อใดไม่จัดอยู่ในประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ข. โครงงานประเภทประยุกต์ใช้งาน
ค. โครงงานพัฒนาเกม
ง. โครงงานบริการ
46. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการทาโครงงาน
ก. เน้นการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
ข. เน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
ค. เน้นการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ง. เน้นการคิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
47. ข้อใดเป็น ความหมายของโครงงานที่ชัดเจนที่สุด
ก. การนาความรู้และความสนใจมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นทราบ
ข. งานทุกอย่างที่เป็นการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีผู้ใดคิดทามาก่อน
ค. การศึกษา ค้นคว้า เพื่อตอบค าถามที่สงสัย
ง. วิธีทางานที่เป็นระบบ เป็นขั้นตอน เพื่อทางานชิ้นใด ชิ้นหนึ่งให้ส าเร็จ
48. ข้อใดเป็น คุณลักษณะพิเศษของผู้ที่จะทาโครงงานได้มีศักยภาพสูง
ก. มีความสนใจด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ข. มีนวัตกรรมทางความคิดเป็น ของตนเอง
ค. มีความจาดี
ง. มีทัก ษะในการสื่อสาร

7. 49. องค์ประกอบหลักของกิจกรรมที่จัดว่ าเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ต่อไปนี้ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ หรือ ฮาร์ดแวร์
ข. ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า และพัฒนา
ค. ผู้เรียนเป็นผู้เลือกเรื่อง ตามความสนใจและระดั บความรู้ความสามารถ
ง. เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม
50. กิจกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์น้อยที่สุด
ก. แก้ปัญหา
ข. ประดิ ษฐ์คิดค้น
ค. ค้นคว้าหาความรู้
ง. ฝึกทักษะพิมพ์โดยใช้คอมพิวเตอร์
51. โครงงาน ระบบจองตั๋วเครื่องบินโดยสาร จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ข. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ค. โครงงานจาลองทฤษฎี
ง. โครงงานประยุกต์ใช้งาน
52. โครงงาน ทดลองเรื่องการไหลของของเหลว จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ข. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ค. โครงงานจาลองทฤษฎี
ง. โครงงานประยุกต์ใช้งาน
53. โครงงาน เกมทายค าศัพท์ จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ข. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ค. โครงงานจาลองทฤษฎี
ง. โครงงานพัฒนาเกม
54. โครงงานสารานุกรมไทยฉบับมัลติมีเดีย จัดอยู่ในโครงงานประเภทใด
ก. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ข. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
ค. โครงงานจาลองทฤษฎี
ง. โครงงานประยุกต์ใช้งาน
55. ข้อใดเป็น ความสาคัญ ของการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. ผู้เรียนเข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์
ข. เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหา
ค. พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
ง. ถูกทุก ข้อ
56. ข้อใดเป็นสิ่งสาคั ญอันดับแรกของการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะน ามาพัฒนาโครงงาน
ก. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
ข. มีงบประมาณเพียงพอ
ค. มีเวลาเพียงพอ
ง. มีความรู้และทัก ษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
57. นารีค้น ข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ว่ามีใครพัฒนาโปรแกรมสอนบวก-ลบเลขไว้บ้างแล้ว อยู่ในขั้นตอนใดของการทาโครงงาน
ก. ขั้นการคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
ข. ขั้นการศึก ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
ค. ขั้นการจัดทาข้อเสนอโครงงาน
ง. ขั้นการลงมือทาโครงงาน
58. อัมราขอพบอาจารย์ผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อขอคาแนะนาการทาโครงงานพัฒนาโปรแกรมสอนเรื่องระบบสุริยะ อยู่ในขั้นตอนใด
ของการทาโครงงาน
ก. ขั้นการคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
ข. ขั้นการศึก ษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
ค. ขั้นการจัดทาข้อเสนอโครงงาน
ง. ขั้นการลงมือทาโครงงาน

8. 59. ชาลีนาเสนอโปรแกรมหน้ าห้องเรียน ให้อ าจารย์ผู้สอนและเพื่อน ๆ ฟัง อยู่ในขั้น ตอนใดของการทาโครงงาน
ก. ขั้นการคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
ข. ขั้นการลงมือทาโครงงาน
ค. ขั้นการนาเสนอโครงงาน
ง. ขั้นการจัด ทาข้อเสนอโครงงาน
60. เรื่องหรือปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ อาจมาจากแหล่งใดได้บ้าง
ก. การศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ
ข. งานอดิเรกของผู้ทาโครงงาน
ค. การเข้าชมงานนิทรรศการหรือการประกวดโครงงาน
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
61. การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นขั้นตอนหนึ่งของการพัฒนาโครงงานในข้อใด
ก. ขั้นการคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
ข. ขั้นการจัด ทาข้อเสนอโครงงาน
ค. ขั้นการเขียนรายงาน
ง. ขั้นการศึก ษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูล
62. จากทั้ง 61 ขั้นตอนต่อไปนี้ ข้อใดเรียงลาดับขั้นตอนการพัฒนาโครงงานได้ ถูกต้องที่สุด
1) ขั้นการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูล
2) ขั้นการคัดเลือกหัวข้อโครงงาน
3) ขั้นการลงมือทาโครงงาน
4) ขั้นการจัดทาข้อเสนอโครงงาน
5) ขั้นการนาเสนอโครงงาน
6) ขั้นการเขียนรายงาน
ก. 1- 2-3-4-5-6
ข. 2-1-3-5-4-6
ค. 2-1-4-3-6-5
ง. 1-2-4-5-3-6
63. ข้อใดไม่ใช่ประเด็นที่ต้องพิจารณาในการเลือกหัวข้อทาโครงงาน
ก. ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ทาโครงงาน ข. แนวทางในการปรับปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดิม
ค. โปรแกรมที่ใช้การนาเสนอโครงงาน
ง. กลุ่มผู้ทดลองใช้โครงงาน
64. การกาหนดขอบข่ายหรือเค้าโครงของโครงงาน ครอบคลุมข้อใด
ก. จะทาอะไร
ข. ทาไมต้องทา
ค. ทากับใคร
ง. เสนอผลอย่างไร
65. การเลือกหัวข้อทาโครงงานข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. ใช้หลักประชาธิปไตย
ข. เลือกจากความรู้ความถนัดของหัวหน้าโครงงาน
ค. มีครูที่ปรึก ษาในด้ านที่สนใจทาโครงงาน
ง. โครงงานนั้นใช้ซอฟต์แวร์ที่หาได้ง่าย
66. ข้อใดเป็น ความสาคัญอันดับแรกของการจัด ทาข้อ เสนอโครงงาน
ก. ได้กรอบแนวคิด และแผนการพัฒนาโครงงานทุก ขั้นตอน
ข. ทาให้ทราบประโยชน์ของโครงงาน
ค. เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของการทาโครงงาน
ง. เพื่อเป็นการเลือกเรื่องที่จะทาโครงงาน
67. หัวข้อใดไม่ใช่รายการที่ใช้ประเมิน ข้อเสนอโครงงาน
ก. มีความคิดสร้างสรรค์
ข. ความน่าจะพัฒนาโครงงานได้ส าเร็จ
ค. ประโยชน์ของโครงงาน
ง. ซอฟต์แวร์ที่ใช้นามาพัฒนาโครงงาน

9. 68. เค้าโครงข้อเสนอโครงงาน ไม่ต้องมีหัวข้อใดต่อไปนี้
ก. หลักการและทฤษฎี
ข. บทคัดย่อ
ค. แผนปฏิบัติงาน
ง. เอกสารอ้างอิง
69. ข้อเสนอโครงงานที่ผ่านการพิจารณา จะต้องมีคุณสมบัติในข้อใด
ก. มีความสมบูรณ์ในแต่ละหัวข้อ ของเค้าโครง
ข. เขียนและอธิบายได้หลายหน้ า
ค. มีรูปภาพประกอบ
ง. ผู้พัฒนาโครงงานเป็นกลุ่มหลายคน
70. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับข้อเสนอโครงงาน
ก. การส่งข้อเสนอโครงงานอาจแนบตั วอย่างผลงานไปเสนอด้วยก็ได้
ข. ควรด าเนินการพัฒนาโครงงานขั้นต้น ในขั้นตอนการทาข้อเสนอโครงงาน
ค. ข้อเสนอโครงงานที่ดี ทาให้ทราบแผนการดาเนินงานโครงงานทุก ขั้นตอน
ง. ข้อเสนอโครงงานเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบทคัด ย่อ
71. ข้อใดเป็นการแก้ปัญหาด้ วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ก. การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ข. การทาโครงงานคอมพิวเตอร์
ค. การใช้ตารางทางานทาโปรแกรมระบบบัญชี
ง. ถูกทุก ข้อ
72. ในการรายงานความก้าวหน้าของโครงงาน ข้อใดไม่จาเป็นต้องมีในแบบบัน ทึก
ก. ปัญหาและอุปสรรค
ข. งานที่ต้องปฏิบัติ
ค. ประโยชน์ของโครงงาน
ง. ชื่อผู้รับผิดชอบ/ผู้ปฏิบัติ
73. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทาให้ก ารพัฒนาโครงงานประสบผลสาเร็จ
ก. ดาเนินการโดยยึดตารางเวลาตามแผนปฏิบัติงานที่วางไว้
ข. ประชุมระดมความคิดในระหว่างผู้ร่วมโครงงานเสมอ
ค. รายงานความก้าวหน้าของโครงงานต่อครูที่ปรึกษาตามเวลาที่กาหนด
ง. สมาชิกในกลุ่มโครงงานมีมนุษยสัมพันธ์ดี
74. ถ้าการทาโครงงานเปรียบเหมือนการเดินทางไปบนถนน เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่ต้องการ ในการจะไปให้ถึง ผู้เ ดินทาง ต้องรู้ใน
ข้อใด
ก. ปลายทางจะไปถึงคืออะไร
ข. ใครจะเป็นคนน าเราไป
ค. รู้ได้อย่างไรว่าเดินไปถูกทาง
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และ ข้อ ค.
75. บทบาทของหัวหน้ าพัฒนาโครงงาน ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. แบ่งงานตามความถนัด และความสนใจของสมาชิก
ข. เป็นผู้คิดหัวข้อโครงงาน
ค. ควบคุ มดูแลการทางานให้เป็นไปตามแผนที่กาหนด
ง. โน้มน้าวให้ผู้ร่วมทีมช่วยกันทางานได้
76. บทคัด ย่อ หมายถึงอะไร
ก. บทสรุปของการวิธีการทางานทั้งหมด
ข. หลักการและทฤษฎีที่ใช้ทาโครงงาน
ค. ภาพรวมโดยย่อของโครงงานตั้งแต่ต้นจนจบ
ง. เรื่องย่อของโครงงานที่ทา
77. เหตุผลที่ต้องเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. แสดงมารยาททางวิช าการ
ข. ให้เกียรติแก่เจ้าของผลงาน
ค. เพื่อให้ผู้ที่สนใจติดตามความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลได้
ง. กล่าวถูกทุก ข้อ

10. 78. การเขียนบทคั ดย่อ ไม่จาเป็นต้องมีข้อใด
ก. จุดมุ่งหมายของการทาโครงงาน
ข. วิธีดาเนินการ
ค. ผลที่ได้
ง. แนวคิด ที่จะทาต่อไปในอนาคต
79. การทาโครงงาน ต้องศึกษาค้นคว้าจากแหล่งต่าง ๆ อย่างน้ อยกี่แห่ง
ก. 2
ข. 3
ค. 4
ง. 5
80. ข้อใดไม่จาเป็นต้องมีในการทารายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
ก. คู่มือการติดตั้งโปรแกรม
ข. คู่มือการใช้งาน
ค. งบประมาณที่ใช้ในการพัฒนา
ง. ซอร์สโค้ดของโปรแกรม
81. สื่อที่ใช้การนาเสนอโครงงาน ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. มีตัวหนังสือน้อย
ข. มีเฉพาะประเด็นสาคัญ
ค. ใช้ Effect มาออกแบบน าเสนอให้มาก
ง.ตัวหนังสือสีเข้ม ชัดเจน อ่านง่าย
82. ข้อใดไม่จาเป็นต้องกล่าวถึงในการรายงานปากเปล่า
ก. ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อที่ปรึกษา
ข. เหตุจูงใจในการทาโครงงาน และความสาคัญของโครงงาน
ค. วิธีการด าเนินการ
ง. ปัญหาและอุปสรรคของการทางานกลุ่ม
83. ในการจัด แสดงโครงงานนั้น ข้อใดสาคั ญที่สุดที่ควรพิจารณาอันดับแรก
ก. ใช้ข้อความกะทัดรัด ชัดเจน และเข้าใจง่าย
ข. ดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม ใช้สีที่สดใส
ค. มีรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอย่างเหมาะสม ง. ทุกอย่างต้องถูกต้อง ไม่มีก ารสะกดผิดหรืออธิบายหลักการที่ผิด
84. หัวข้อในการประเมินโครงงาน ข้อใดสาคัญที่สุด
ก.รู้และเข้าใจหลักการทาโครงงาน
ข. ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ แก้ปัญหา ทางานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
ค. ทางานด้ว ยความตั้งใจ
ง. ประโยชน์ของผลงาน
85. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการนาเสนอโครงงาน
ก. เตรียมสื่อประกอบการนาเสนอ
ข. วางแผนสิ่งที่จะพูด
ค. ฝึกพูดหลาย ๆ ครั้ง
ง. พูดถึงปัญหาการทางานในกลุ่ม
86. ข้อใดเป็น วัตถุประสงค์ในการจัด ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ?
ก. เพื่อผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์
ข. เพื่อผลิตสื่อการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
ค. เพื่อส่งเสริมความรู้ความรู้ด้ านคอมพิวเตอร์
ง. ถูกทุก ข้อ
87. ก่อนที่จะจัด ทาโครงงานทางคอมพิวเตอร์ นักเรียนต้องปฏิบัติอ ย่างไรในขั้น แรก?
ก. ศึกษาตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ที่มีผู้จัดทาไว้แล้ว ข. เขียนเค้าโครงของโครงงาน
ค. ออกแบบโครงงาน
ง. จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ
88. ข้อใดเกี่ยวข้องกับการเขียนเค้ าโครง ของโครงงานคอมพิวเตอร์ ?
ก. บทน า
ข. กิตติกรรมประกาศ
ค. บทคัด ย่อ
ง. อ้างอิง

11. 89. ในการเสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทาต้องบอกสิ่งใดบ้างในส่วนของเครื่องมือที่ใช้พัฒนา?
ก. ชนิดและประเภทของคอมพิวเตอร์
ข. ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
ค. ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ง. ข้อจากัดทางเทคนิคของซอฟต์แวร์
90. ในการเขียนเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ ส่วนที่เป็น ทฤษฎี หลักการ และเทคโนโลยีที่ใช้จะกล่าวถึงเรื่องใด?
ก. เทคนิค วิธีก ารต่าง ๆ ที่นามาใช้ในการจัดทาโครงงาน
ข. ความจาเป็น และความเป็นมาของโครงงาน
ค. ผลที่คาดว่ าจะได้รับจาการจัด ทาโครงงาน
ง. กลุ่มผู้ใช้หรือผู้ทดลองโครงงาน
91. ผู้ประเมินโครงงานของนักเรียนในเบื้องต้นคือใคร ?
ก. ผู้อานวยการ
ข. ครูผู้สอน
ค. ฝ่ายวิชาการ
ง. ผู้ปกครอง
92. โครงงานคอมพิวเตอร์ที่จะสมบูรณ์ได้ จะต้องผ่านกระบวนการตามข้อใด?
ก. การนาเสนอต่อผู้เรียนด้วยกัน , การประเมิน
ข. การทดสอบเบื้องต้น, การปรับปรุง, การประเมิน
ค. การนาเสนอต่อครูผู้สอน, การประเมิน
ง. ถูกทุก ข้อ
93. การจัดทารายงานประกอบโครงงานคอมพิวเตอร์มีความส าคัญอย่างไร?
ก. เพื่ออธิบาย และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการจัด ทาโครงงาน
ข. เพื่อเป็นส่วนประกอบในการประเมินโครงงาน
ค. เพื่อบอกความเป็นมาของโครงงาน
ง. เพื่อบอกขั้นตอนการจัดทาโครงงาน
94. ส่วนประกอบในข้อใดที่ ไม่มี ในรายงานฉบับสมบูรณ์ ของโครงงาน?
ก. ปก
ข. บทนา
ค. กิตติกรรมประกาศ
ง. ผู้ให้การสนับสนุน
95. ส่วนประกอบของรายงานโครงงานฉบับสมบูรณ์ ที่อยู่ส่วนท้ายสุดคือ ข้อใด?
ก. บทน า
ข. ภาคผนวก
ค. ผลที่คาดว่ าจะได้รับ
ง. อ้างอิง