Recommended
Recommended
More Related Content
What's hot
Similar to พฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการส่ังอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์
Similar to พฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการส่ังอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ (20)
พฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการส่ังอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์
- 1. ชื่องานวิจัย ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อ การตัดสินใจสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ นาย ธนรัตน์ ศรีสาอางค์
- 3. การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์อาจจะนามาทดแทนการโทรศัพท์สั่งและสามารถ ช่วยลดต้นทุนทางด้านcall center การสั่ง ผ่านเว็บไซต์ผู้บริโภคสามารถดูข้อมูลและตัดสินใจสั่งซื้อได้และในขณะเดียวกัน สามารถดึงผู้บริโภคเข้ามาสั่งออนไลน์โดยมีการแจก แต้มเพิ่มมีโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อสั่งทางออนไลน์ในการที่ใช้ก็จะมี popup โฆษณานั้นสามารถกระตุ้น ผู้บริโภคให้สั่งออนไลน์ เพื่อ ตอบสนองความต้องการด้านความสะดวกสบาย 1.ผลิตภัณฑ์(Product)เป็นองค์ประกอบแรกและสาคัญที่สุดของส่วนประสมทางการตลาด (marketing mix) ผลิตภัณฑ์หมายถึงสิงใดๆที่ต้องการนาเสนอ
- 4. ต่อตลาดเพื่อสนองความจาเป็นหรือความต้องการของลูกค้าให้พึงพอใจผลิตภัณฑ์ ที่เสนอขายอาจจะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยสินค้าที่เป็นรูปธรรมการวางแผนเกี่ยวกับข้อเสนอทาง การตลาดนักการตลาดต้องคานึงถึงระดับ ผลิตภัณฑ์5 ระดับแต่ละระดับช่วยเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้ามากขั้นเรียกว่าระดับชั้น คุณค่าลูกค้า(customervalue hierarchy)ระดับพื้นฐานที่สุดคือประโยชน์หลัก(corebenefit)เป็นประโยชน์ หรือบริการพื้นฐานสาคัญที่ลูกค้าต้องการได้รับจากการซื้อสินค้าหรือบริการนักการตลาดต้องมองตัวเองในฐานะให้ ประโยชน์ ระดับ ที่สองนักการตลาดต้องเปลี่ยนประโยชน์หลัก
- 5. 2.การจัดจาหน่าย (PlaceหรือDistribution) หมายถึงโครงสร้างของช่องทางซึ่งประกอบ ไปด้วยสถาบันและกิจกรรมใช้ เพื่อเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์และบริการออกจากองค์กรไปยังตลาดสถาบันที่นาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเป้าหมายคือสถาบัน การตลาดส่วนกิจกรรมที่ช่วยในการกระจายตัวสินค้า 3.ราคา(Price)หมายถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ในรูปตัวเงินทั้งที่ปัจจัยที่ไม่ใช้ราคามีบทบาทมากขึ้นในการตลาดสมัยใหม่แต่ราคาก็ยัง เป็นส่วนประกอบที่สาคัญในส่วนประสมทางการตลาดราคาเป็นปัจจัยเดียวใน4P’ 4.การส่งเสริมการตลาด (Promotion) หมายถึง กระบวนงานทางด้านการสื่อสาร การตลาดระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และผู้ที่ เกี่ยวข้องในกระบวนการซื้อ เพื่อให้ข้อมูลจูงใจเกี่ยวกับ ตัวผลิตภัณฑ์และตรายี่ห้อเพื่อเกิดอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง
- 6. 4.1 การโฆษณา(Advertising)เป็นการสื่อสารผ่านสื่อสาธารณะเพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร และจูงใจหรือตอกย้าตรายี่ห้อผลิตภัณฑ์โดยผู้ส่งสารจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณา 4.2 กิจกรรมพิเศษทางการตลาด(EventMarketing)เป็นการจัดกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้องกับ สถานการณ์พิเศษ อยู่ ในความสนใจของคนส่วนใหญ่หรือกระตุ้น ให้คนส่วนใหญ่ในพื้นที่หนึ่งเกิดความสนใจ
- 7. 4.3 การส่งเสริมการขาย(SalesPromotion)เป็นกิจกรรมทางการตลาดที่กระตุ้น ให้กลุ่มเป้าหมายทาการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการรวดเร็วขึ้นซื้อปริมาณที่มากขึ้นโดยมีการกาหนดช่วงระยะเวลาสิ้นสุดของรายการไว้ 4.4 การประชาสัมพันธ์(PublicRelation :PR)เป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดที่มุ่งสร้างภาพพจน์และทัศนคติที่ดี ขององค์กร ผลิตภัณฑ์ และตรายี่ห้อต่อผู้บริโภคสื่อมวลชน สาธารณชน ผู้ถือหุ้นพนักงานในองค์กรและกลุ่มมวลชนอื่นๆ ซึ่งไม่ได้เน้นการขายสินค้าเป็นหลัก
- 8. 4.5 การตลาดทางตรง (DirectMarketing)เป็นการติดต่อสื่อสารที่สื่อไปยัง กลุ่มเป้าหมายเฉพาะเป็นรายบุคคลซึ่งเป็น การสื่อสารสองทางโดยมีช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายสามารถ ติดต่อสื่อสารกลับมาได้ตรงกับ ผู้ส่งสารกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิด การตอบสนองโดยตรง นักการตลาดใช้ส่งเสริมผลิตภัณฑ์โดยตรงกับผู้ซื้อและทาให้เกิดการตอบสนองในทันที่ซึ่งเครื่องมือสาคัญประกอบด้วย การขายผ่าน โทรศัพท์ การขายผ่านสื่อออนไลน์
- 9. การขายโดยใช้จดหมายตรงการขายโดยใช้แคตตาล็อค และการขายทางโทรทัศน์ วิทยุหรือ หนังสือพิมพ์ ซึ่งจูงใจให้ลูกค้ามีกิจกรรม การตอบสนองโดยในการศึกษาครั้งนี้ในด้านของการการ ส่งเสริมการตลาดนั้นจะหมายถึง การส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์อันจะทาให้เกิดการรับรู้จดจาและกระตุ้นด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งวิธีเช่นการ โฆษณาผ่านโทรทัศน์การโฆษณาผ่าน ทางวิทยุโฆษณาทางสื่อออนไลน์การประชาสัมพันธ์ข้อมูลผลิตภัณฑ์การไดส่วนลดราคา เมื่อสั่งผ่านระบบออนไลน์
- 13. 1.ทาให้ทราบถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการสั่งอาหารแบบ เดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ 2. ให้ทราบถึงส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่าน เว็บไซต์ในกรุงเทพมหานคร 3. นาผลการศึกษาที่ได้เผยแพร่ให้ผู้ประกอบธุรกิจเดลิเวอรี่ปรับปรุงและพัฒนาการ บริการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นความ ต้องการของผู้บริโภคในการสั่งซื้ออาหารแบบเดลิเวอรี่ผ่าน เว็บไซต์
- 14. นิยามคาศัพท์
- 15. พฤติกรรม หมายถึง พฤติกรรมของผู้บริโภคในการตัดสินใจสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ใครอยู่ในตลาดเป้าหมาย ผู้บริโภคซื้ออะไร ทาไมผู้บริโภคจึงซื้อ ใครมีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคซื้อเมื่อใด ผู้บริโภคซื้อที่ไหน ผู้บริโภคซื้ออย่างไร (ศิริวรรณ เสรีรัตน์, 2550 : 9) ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ที่เคยสั่งอาหารเดลิเวอรี่หรือบริการขั้นสุดท้ายเพื่อตอบสนองความ ต้องการโดยตรงของบุคคลผู้นั้นโดยทั่วไป ผู้ที่ ได้รับจากการบริโภคคือ อรรถประโยชน์หรือความ พอใจ ผู้บริโภคอาจจะเป็นปัจเจกบุคคล กลุ่มบุคคล ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ใน กรุงเทพมหานคร (อดุลย์จาตุรงคกุล, 2550 : 5)
- 16. บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ หมายถึง การจัดสรรหาทรัพยากรและเป็น ตัวกลางข้อมูลข่าวสารจากผผู้ลิตถึงผู้บริโภค รวบรวม เพื่อเสนอข้อมูลทุกอย่างที่เป็นประโยชน์แก่ ผู้บริโภค เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ และเป็นตัวกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้ผลิตทา ให้สามารถ ผลิตสินค้าหรือบริการได้ถึงมือลูกค้าตรงตามเวลาที่กาหนด
- 18. การศึกษาเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ผ่านเว็บไซต์ มีแนวคิดทฤษฏี และทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้คือ 2.1 แนวคิดและทฤษฏี เนื้อหาในการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาได้แบ่งแนวคิดและทฤษฎีดังต่อไปนี้ 1. แนวคิดและทฤษฏี การวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค 2. ส่วนประสมการตลาด 3. แนวคิดเกี่ยวกับ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ E – Commerce
- 19. ขอบเขตการศึกษา
- 20. ขอบเขตการศึกษา ขอบเขตเนื้อหา เนื้อหาในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร ต่อการ ใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ประกอบด้วย ใครอยู่ในตลาดเป้าหมาย ผู้บริโภคซื้ออะไร ทาไมผู้บริโภคจึงซื้อ ใครมีส่วน ร่วมในการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคซื้อเมื่อใด ผู้บริโภคซื้อที่ไหน ผู้บริโภคซื้ออย่างไร เพื่อคน้หาคา ตอบ 7 ประการ และส่วนประสมการตลาด ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ (product) ราคา (price) ช่องทางจัดจาหน่าย (place) การส่งเสริมการตลาด (promotion
- 21. ขอบเขตประชากร
- 22. ประชากรในการศึกษาครั้งนี้คือ ผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครซึ่งเคยสั่งซื้ออาหารแบบเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ ในกรุงเทพมหานคร ขนาดตัวอย่างและวิธีการคัดเลือกตัวอย่าง ในการศึกษาครั้งนี้ไม่ทราบจานวนประชากรจึงกาหนดขนาดตัวอย่างจานวน 400 ราย เนื่องจากเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากครัวเรือนในท้องถิ่นที่ไม่จาแนกกลุ่มย่อยที่จะวิเคราะห์ข้อมูล เลือก 8 เขตจาก 50 เขตในกรุงเทพมหานคร อันเนื่อง สามารถดา เนิน การศึกษาผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครที่เคยสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและนาเสนอผลการศึกษาได้ทันต่อสถานการณ์ จากนั้นจึง ทาการกาหนดโควต้า (Quota) ในการเก็บข้อมูล จาก 8 เขต เขตละ 50 ราย และทา การคดัเลือกตัวอย่างตามสะดวก (Convenience Sampling) ได้ข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่างรวมทั้งสิ้นจานวน 400 ราย
- 24. การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการใช้ บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ ทาการ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากผู้บริโภค ใน กรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ จานวน 400 ตัวอย่าง โดยวิธีการทาการสุ่มตัวอย่างตามสะดวกการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติขั้นพื้นฐาน ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ความถี่ และร้อยละ ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศ หญิง มีอายุ26 – 30 ปี มีสถานะภาพโสด มีระดับการศึกษาสูงสุด คือ ปริญญาตรี อาชีพพนักงาน บริษัทมีรายได้ต่อเดือน 20,001 – 25,000 มีจานวนคนที่ไปร่วม บริโภค 3 – 4 คน
- 25. พฤติกรรมของผตู้อบแบบสอบถามในกรุงเทพมหานครต่อการใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ พบว่า ผู้ตอบสอบถามเคยสั่งซื้อและ สั่งอาหารเดลิเวอรี่ จาก เคเอฟซีบ่อยที่สุด สิ่งที่ พิจารณาในการเลือกสั่งเดลิเวอรี่ คือ เป็นแบรนด์ชั้นนาที่รู้จัก มีเหตุผลในการเลือกสั่งอาหาร เดลิเวอรี่ ผ่านเว็บไซต์ คือ มีความสะดวกรวดเร็วในการสั่งและบริการ ส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ของผู้ตอบ แบบสอบถามเกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาด พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ให้ความสาคัญโดยรวมมี ค่าเฉลี่ยในระดับมาก ปัจจัยย่อยด้านผลิตภัณฑ์ ที่มีผลในอันดับแรก คือ คุณภาพอาหาร ปัจจัยย่อย ทางด้านราคา ที่ผลในอันดับแรก คือ ราคาประหยัด ปัจจัยย่อยทางด้านช่องทางการจัดจาหน่าย ที่มีผล ในอันดับแรก คือ ชาระเงินได้ง่าย และสาหรับปัจจัยย่อยด้านการส่งเสริม การตลาดที่มีผลในอันดับแรก คือ การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ
- 26. อภิปรายผล
- 27. จาการศึกษาพฤติกรรมในการสั่งบริโภคอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ของ กรุงเทพมหานครโดยใช้แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมา อภิปรายผลการศึกษาดังนี้ การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Analysis Consumer Behavior) เป็นคา ถามที่ใช้ เพื่อ คน้หาลกัษณะพฤติกรรมผู้บริโภค ประกอบด้วย Who, What, Why, Where, When, Whom และ How เพื่อค้นหาคาตอบ 7 ประการเกี่ยวกับผู้บริโภคมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. ใครอยู่ในตลาดเป้าหมาย จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีทั้งเพศชายและ เพศหญิง มีอายุ 26 – 30 ปี สถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพนักงานบริษัท และรายได้เฉลี่ย 20,001 – 25,000 บาท 2. ผู้บริโภคซื้ออะไร จากการศึกษาพบว่าผู้บริโภคอาหารเดลิเวอรี่ที่เคยสั่งซื้อ เคฟเอฟซี และซื้อบ่อยที่สุดน ามารับประทาน เป็นอาหารหลัก ชนิดอาหารที่สั่งเดลิเวอรี่ประเภทไก่ทอด/ ไก่ย่าง 3. ทาไมผู้บริโภคจึงซื้อ จากการศึกษาพบว่าเหตุผลที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกสั่งอาหาร เดลิเวอรี่มากที่สุดคือ มี ความสะดวกรวดเร็วในการสั่งและบริการ
- 28. 4. ใครมีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อ จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีผู้มี อิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกบริโภคอาหารเดลิเวอรี่มากที่สุด คือ ตนเอง โดยปัจจัยสาคัญที่สุดในการ ตัดสินใจเลือกบริโภคอาหารเดลิเวอรี่คือ ชื่อเสียงของร้าน 5. ผู้บริโภคซื้อเมื่อใด จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามวันที่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ บ่อยที่สุดคือ วันเสาร์ – อาทิตย์เวลา 11.01 – 13.00 น. 6. ผู้บริโภคซื้อที่ไหน จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามใช้อุปกรณ์ในการสั่งซื้อ บ่อยที่สุดคือ มือถือ สถานที่ในการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่ ส่วนใหญ่คือ ที่บ้าน 7. ผู้บริโภคซื้ออย่างไร จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีแหล่งรับ ข้อมูลอาหารเดลิเวอรี่จาก เว็บไซต์ค้นหา (Search Engines) www.google.com มีช่องทางการรับ ข่าวสารอาหารเดลิเวอรี่จาก อินเตอร์เน็ต
- 29. ข้อเสนอแนะ
- 30. จากผลการศึกษาค้นคว้าแบบอิสระ เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภคในกรุงเทพมหานครต่อการ ใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บไซต์ ตามทฤษฎี พฤติกรรมผู้บริโภค 6Ws 1H มีข้อเสนอแนะต่อ ผู้ประกอบการ ในการทาความเข้าใจถึงลักษณะ และพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อที่จะได้นามา ประยุกต์ใช้ในการวางกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุดโดข้อเสนอแนะดังนี้ - ด้านผลติภัณฑ์ ผู้ผลิตควรให้ความสาคัญกับเรื่องคุณภาพโดยมีการตรวจสอบคุณภาพของอาหารทั้งในด้านรสชาติและความร้อนก่อนจัดส่ง - ด้านราคา ผผู้ลิตควรให้ความสาคัญในเรื่องของระดับราคาของอาหารที่สอดคล้องกับคุณภาพและ ปริมาณในแต่ละชุดที่จัดไว้ในเมนูหลัก โดยเฉพาะผู้ผลิตควรทา การจดัชุดอาหารซึ่งเป็นชุดราคา ประหยัดเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อ
- 31. - ด้านช่องทางการจัดจาหน่าย ผู้ผลิตควรให้ความสาคัญในเรื่องของการสร้างทางเลือกของช่องทางในการชาระเงินที่ สะดวกต่อผู้บริโภคที่จะ สามารถชาระเงินได้ง่าย นอกจากนั้นเพิ่มช่องทางในการสั่งซื้อออนไลน์ อาทิ เช่น เว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นผ่านสังคมออนไลน์ (Social Network) ต่างๆเพื่อสะดวกในการสั่งซื้อ - ด้านส่งเสริมการตลาด ผผู้ลิตควรให้ความสาคัญในเรื่องของการสื่อสารทางการตลาดโดยเฉพาะการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ได้แก่ การโฆษณา ผ่านสื่อโทรทัศน์ หรือวิทยุ หรือหากผู้บริโภคท าการสั่งซื้อผ่านสื่อ ออนไลน์ผู้บริโภคจะได้รับส่วนลดจากการสั่งซื้อในครั้งดังกล่าวหรือครั้งต่อไป
- 33. แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องส่วนประสมทางการตลาด (4P) ผลิตภัณฑ์(Product) เป็นองค์ประกอบแรกและสาคัญที่สุดของส่วนประสมทาง การตลาด (marketing mix) ผลิตภัณฑ์หมายถึงสิง ใดๆ ที่ต้องการนาเสนอต่อตลาดเพื่อสนองความจาเป็น หรือความต้องการของลูกค้าให้พึงพอใจผลิตภัณฑ์ ราคา (Price) หมายถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ในรูปตัวเงินทั้งที่ปัจจัยที่ไม่ใช้ราคามีบทบาทมากขึ้นในการตลาดสมัยใหม่แต่ราคาก็ยังเป็นส่วนประกอบ ที่สาคัญในส่วนประสมทางการตลาดราคาเป็นปัจจัยเดียวใน 4P’ การจัดจาหน่าย (Place หรือ Distribution) หมายถึงโครงสร้างของช่องทางซึ่งประกอบ ไปด้วยสถาบันและกิจกรรมใช้เพื่อเคลื่อนย้าย ผลิตภัณฑ์และบริการออกจากองคกรไปยังตลาดสถาบันที่นาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดเป้าหมายคือสถาบันการตลาดส่วนกิจกรรมที่ช่วยในการกระจายตัว สินค้า
- 34. การส่งเสริมการตลาด (Promotion) หมายถึง กระบวนงานทางด้านการสื่อสาร การตลาดระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และผู้ที่เกี่ยวข้องใน กระบวนการซื้อ เพื่อให้ข้อมูลจูงใจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และตรายี่ห้อเพื่อเกิดอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงความเชื่อทัศนคติและพฤติกรรมของลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย การโฆษณา (Advertising)เป็นการสื่อสารผ่านสื่อสาธารณะเพื่อให้ข้อมูล ข่าวสารและจูงใจ หรือตอกย้าตรายี่ห้อผลิตภัณฑ์ โดยผู้ส่งสารจะ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณา กิจกรรมพิเศษทางการตลาด (EventMarketing)เป็นการจัดกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้องกับ สถานการณ์พิเศษ อยู่ในความสนใจ ของคนส่วนใหญ่ หรือกี่ระตุ้น ให้คนส่วน ใหญ่ในพื้นที่หนึ่งเกิดความสนใจ การส่งเสริมการขาย (SalesPromotion)เป็นกิจกรรมทางการตลาดที่กระตุ้น ให้กลุ่มเป้าหมายทาการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการรวดเร็วขึ้น ซื้อปริมาณที่มากขึ้นโดยมีการกาหนดช่วงระยะเวลาสิ้นสุดของรายการไว้
- 35. การประชาสัมพันธ์ (PublicRelation :PR)เป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดที่มุ่งสร้างภาพพจน์และทัศนคติที่ดีขององค์กร ผลิตภัณฑ์ และตรายี่ห้อต่อผู้บริโภคสื่อมวลชน สาธารณชน ผู้ถือหุ้นพนักงานในองค์กรและกลุ่มมวลชนอื่นๆ การตลาดทางตรง (DirectMarketing) เป็นการติดต่อสื่อสารที่สื่อไปยัง กลุ่มเป้าหมายเฉพาะเป็นรายบุคคลซึ่งเป็นการสื่อสารสองทางโดย มีช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายสามารถ ติดต่อสื่อสารกลับมาได้ตรงกับ ผู้ส่งสารกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดการตอบสนองโดยตรงหรือหมายถึงวิธีการต่างๆ