1. วิเคราะห์ กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่ อสารระยะพ.ศ. 2554-2563 ของประเทศไทย
(ICT 2020 Conceptual Framework)

2. ประเด็นการวิเคราะห์ :
1. ความแตกต่ างของแผนแม่ บทฉบับปัจจุบันกับที่ผ่านมา
2. แนวโน้ มในการพัฒนาด้ านการศึกษา
3. รู ปแบบการศึกษาในอนาคต

3. 1. ความแตกต่ างของแผนแม่ บทฉบับปัจจุบันกับที่ผ่านมา
แผนแม่ บทฉบับเก่า
แผนแม่ บทฉบับปัจจุบัน
วิสัยทัศน์ ไม่ ได้ กาหนดไว้ชัดเจน
วิสัยทัศน์ : ประเทศไทยเป็ นสังคมอุดมปัญญา
(Smart Thailand) ด้วย ICT”สังคมอุดมปั ญญา”
เปาหมาย: 1) เพิ่มขีดความสามารถในการใช้
้
เทคโนโลยีเป็ นเครื่ องมือพัฒนาประเทศ เพื่อ
่
ยกระดับประเทศไทยให้อยูในกลุ่มประเทศทีมี
ศักยภาพเป็ นผูนาอันดับต้นๆ โดยใช้ดชนี
้
ั
ผลสัมฤทธิ์Xทางเทคโนโลยีของสานักงาน
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ เป็ นเครื่ อง
ประเมินวัด
2) เพิ่มจานวนแรงงานความรู ้ของประเทศไทยให้
เป็ นร้อยละ 30 ของแรงงานในประเทศทั้งหมด
3) พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเพิมสัดส่ วน
่
ของมูลค่าอุตสาหกรรม (GDP) ร้อยละ 50
เปาหมาย: 1) ประชาชนไม่นอยกว่าร้อยละ 50
้
้
ของประชากรทั้งประเทศ มีความรอบรู ้ สามารถ
เข้าถึง สร้างสรรค์ และใช้สารสนเทศอย่างมี
วิจารณญาณ รู ้เท่าทัน มีคุณธรรมและจริ ยธรรม
(Information Literacy) เกิดประโยชน์ต่อการ
เรี ยนรู้ การทางานและการดารงชีวตประจาวัน
ิ
2) ยกระดับความพร้อมทางด้าน ICT ของ
ประเทศขึ้นอย่างน้อย 15 อันดับ
3) เพิ่มบทบาทและความสาคัญของอุตสาหกรรม
ICTในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมี
สัดส่ วน GDP ไม่นอยกว่าร้อยละ 20
้

4. 1. ความแตกต่ างของแผนแม่ บทฉบับปัจจุบันกับที่ผ่านมา
แผนแม่ บทฉบับเก่า
แผนแม่ บทฉบับปัจจุบัน
กาหนดยุทธศาสตร์ ไว้ 7 ด้ าน ได้แก่
1) พัฒนาอุตสาหกรรม ICT
2) ยกระดับคุณภาพชีวตของคนไทยและ
ิ
สังคมไทย
3) ปฏิรูปและสร้างศักยภาพการวิจยและพัฒนา
ั
ด้าน ICT
4) ยกระดับพื้นฐานสังคมไทยเพื่อการแข่งขันใน
อนาคต
5) พัฒนาศักยภาพผูประกอบการเพื่อมุ่งขยาย
้
ตลาดต่างประเทศ
6) ส่ งเสริ มผูประกอบการขนาดกลางและขนาด
้
ย่อมใช้ ICT
7) ใช้ ICT ในการบริ หารและบริ การของภาครัฐ
กาหนดยุทธศาสตร์ ท้ง 6 ด้ าน ได้แก่
ั
1) การพัฒนากาลังคนด้าน ICT
2) การบริ หารจัดการระบบ ICT ระดับชาติ
3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ICT
4) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสาร
เพื่อสนับสนุนการสร้างธรรมาภิบาลในการ
บริ หารและการบริ การของภาครัฐ
5) การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน
ของอุตสาหกรรม ICT เพื่อสร้างมูลค่าทาง
เศรษฐกิจและรายได้เข้าประเทศ
6) การใช้ ICT เพื่อสนับสนุ นการเพิ่มขีด
ความสามารถในการแข่งขันอย่างยังยืน
่

5. 1. ความแตกต่ างของแผนแม่ บทฉบับปัจจุบันกับที่ผ่านมา
สรุ ปความแตกต่างของแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารฉบับ
่
ปัจจุบนกับที่ผานมา คือ การปรับให้ มจุดเน้ นในบางเรื่องทีเ่ ด่ นชัดขึนจากแผนเทคโนโลยี
ั
ี
้
สารสนเทศและการสื่ อสารฉบับแรก เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
เศรษฐกิจ และสังคมที่เป็ นทั้งโอกาสและความท้าทายของประเทศไทย และพยายามแก้ไข
ส่ วนที่ยงเป็ นจุดอ่อน และต่อยอดส่ วนที่เป็ นจุดแข็งของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทย
ั
สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารในการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมได้อย่างมีประสิ ทธิภาพและประสิ ทธิผลสู งสุ ด อันจะช่วยนาไปสู่ การบรรลุ
เป้ าหมายของการพัฒนาประเทศตามที่กาหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ได้ในที่สุด

6. 2. แนวโน้ มในการพัฒนาด้ านการศึกษา
ด้ านการพัฒนาประชากร
เมื่อพิจารณาจากประชากรเป็ น 3 กลุ่ม คือ ประชากรวัยเด็ก ประชากรวัย
แรงงาน และประชากรวัยสู งอายุแล้ว มีสัดส่ วนที่เปลี่ยนแปลง ดังนี้
• ประชากรวัยเด็กได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 24.65 ในพ.ศ. 2543 เป็ นร้อยละ 19 ใน
พ.ศ. 2563
• สัดส่ วนประชากรวัยสู งอายุเพิมขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 9.43 ใน พ.ศ. 2543 เป็ นร้อย
่
ละ 16.78 ใน พ.ศ. 2563
• วัยแรงงานจะมีสัดส่ วนลดลง จากร้อยละ 65.91 เป็ นร้อยละ 64.21 ใน พ.ศ. 2543 และ
พ.ศ. 2563

7. 2. แนวโน้ มในการพัฒนาด้ านการศึกษา
ด้ านการพัฒนาประชากร
จากข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะเน้นการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารมาเป็ น
องค์ประกอบสาคัญในการบริ หารจัดการโครงสร้างใหม่อนเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลง
ั
ของประชากรไทย อีกทั้งให้ความสาคัญกับการลงทุนเพื่อยกระดับผลิตภาพ (Productivity)
ของวัยแรงงานด้วย
โดยอาจก่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็ นรู ปธรรมและมีประสิ ทธิผลเพื่อทาให้
ประชากรในวัยเรี ยนมีความสามารถทัดเทียมอารยะประเทศ และการสร้างกรอบการ
พัฒนาระบบการเรี ยนรู ้ตลอดชีวต (Life Long Learning) เพื่อรองรับความต้องการของวัย
ิ
สู งอายุประเด็นการออมและการสร้างโอกาสให้ผสูงอายุได้ทางานจะเด่นชัดมากขึ้นเรื่ อย ๆ
ู้
เป็ นต้น

8. 2. แนวโน้ มในการพัฒนาด้ านการศึกษา
ด้ านการพัฒนาทรัพยากรขั้นพืนฐาน
้
ICT จะมีบทบาทต่อการปฏิรูปการศึกษาในระยะต่อไปในหลายลักษณะ เช่น
• ความจาเป็ นที่จะต้องมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตในสถานศึกษาและครอบครัว
• การจัดทาเนื้อหาสาระทางวิชาการทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา
• การเพิมพูนขีดความสามารถให้องค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่นสามารถบริ หารจัดการ
่
การศึกษาของสถานศึกษาในพื้นที่
• การใช้เทคโนโลยีเป็ นเครื่ องมือฝึ กทักษะในการผลิตช่างอาชีวะที่มีคุณภาพสู ง
• การเชื่อมโยงเครื อข่ายข้อมูลของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ในการเรี ยนการสอนและการวิจย
ั
• การศึกษาในระบบ online
• การจัดการศึกษาทางไกลสาหรับผูดอยโอกาสและการจัดการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยี
้้
สาหรับผูพิการด้านต่างๆ เป็ นต้น
้

9. 3. รู ปแบบการศึกษาในอนาคต
ในปัจจุบนก็เริ่ มมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงในบางองค์ประกอบ อาทิ เช่น การ
ั
ส่ งเสริ มเด็กที่มีความสามารถพิเศษในรู ปแบบของการเข้าค่ายวิชาการพิเศษ การจัดการ
ศึกษาโดยโรงเรี ยนวิทยาศาสตร์ การประเมินความพร้อมของสถานศึกษาและถ่ายโอนให้
องค์การปกครองส่ วนท้องถิ่นจานวนหนึ่ง การกาหนดมาตรฐานการอาชีวศึกษาและ
วิชาชีพ ตลอดจนการจัดทากรอบแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี ซึ่งกาหนดเป้ าหมายของ
การพัฒนาระบบมหาวิทยาลัยไทยโดยยึดถือคุณภาพเป็ นที่ต้ ง ที่สาคัญคือ การเชื่อมโยง
ั
การศึกษากับแรงงานในอนาคต ซึ่งจะเป็ นโลกของการแย่งชิงคนเก่ง (Battle for Talents)
ทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก ประกอบกับความต้องการผูนาในสังคมที่เก่งและมี
้
คุณธรรม พร้อม ๆ กับแรงงานที่สามารถรองรับเป้ าหมายการพัฒนาของประเทศ

10. 3. รู ปแบบการศึกษาในอนาคต
ผลกระทบและการแก้ปัญหา :
สาหรับสังคมไทยเอง การคาดการณ์อนาคตของเยาวชนไทยเป็ นนามธรรมมากกว่า
รู ปธรรม จนบางครั้งเกิดความเสี ยหายตัวอย่างที่ชดเจน คือ ผลกระทบด้ านลบของ
ั
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่ อสารต่ อเยาวชน ทั้งต่ อประเด็นคุณธรรมจริยธรรม ต่ อ
เวลาทีเ่ สี ยไปโดยไม่ เกิดผล หรือการบริโภคสื่ อของเยาวชนก็เช่ นกัน ทีมเี นือหาด้ านลบ
่ ้
มากกว่ าด้ านบวก ไม่คานึงถึงคุณภาพและอนาคตของเยาวชน การแก้ปัญหาเหล่านี้
นอกจากมีความซับซ้อนและยากแล้ว ยังต้องใช้เวลานานอีกด้วย อย่างไรก็ดี สังคมไทยก็
พยายามปรับตัว สังเกตได้จากการดิ้นรนเพื่อนาสิ่ งที่เป็ นประโยชน์เข้ามามากขึ้น เช่น
โครงการสร้างคนให้ทาความดีของนครปฐมโมเดลการแก้ปัญหาเยาวชนโดยเยาวชนของ
มูลนิธิสยามกัมมาจล โรงเรี ยนสัตยาไสที่จงหวัดลพบุรี กิจกรรมของศูนย์คุณธรรม การ
ั
วิจยเยาวชนของสถาบันต่าง ๆ รวมถึงสถาบันรามจิตติ และสานักงานกองทุนสนับสนุน
ั
การสร้างเสริ มสุ ขภาพ เป็ นต้น

11. อ้ างอิงจาก
http://www.itgthailand.com/tag/แผนแม่บทไอซีทีอาเซียน-2015/
http://muit.mahidol.ac.th/it_policy/03-5_SmartGovernment.pdf
http://www.ppb.moi.go.th/midev01/upload/asean_final.pdf
https://docs.google.com/viewer?url=http://motfgds.mot.go.th/joomla1512/doc/ict2020&
chrome=true

12. จัดทาโดย
นางสาวกนกพร คาภิสาร
นางสาวบุณย์ศศิร์ เลิศเสนา
Mr. PYNA SOUKCHALEUN
565050016-1
565050022-6
565050349-4
สาขาเทคโนโลยีการศึกษา ภาคปกติ
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

13. Thank you!