SlideShare a Scribd company logo
1 of 69
Download to read offline
บทที่ 1
บทนำ
ภูมิหลัง
ในปัจจุบันนักเรียนทั่วโลกมีเหตุผลในกำรเรียนภำษำอังกฤษที่แตกต่ำงกันไป นักเรียนบำง
กลุ่มจำเป็นต้องเรียนภำษำอังกฤษด้วยเหตุผลที่ว่ำ ภำษำอังกฤษถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรพื้นฐำนทั้งใน
ระดับประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ส่วนนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งก็ต้องกำรเรียนภำษำอังกฤษเพื่อ
จุดประสงค์เฉพำะของตนเอง เพื่อว่ำภำษำอังกฤษจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขำในกำรติดต่อสื่อสำรกับ
ผู้คนทั่วโลก ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ แต่อย่ำงไรก็ตำมนักเรียนในปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องเรียน
ภำษำอังกฤษเชิงวิชำกำรเพื่อที่จะสำมำรถนำควำมรู้ทำงวิชำกำรมำใช้พัฒนำทักษะกำรฟัง พูด อ่ำน
และเขียนผ่ำนสื่อกำรเรียนรู้เชิงวิชำกำร (Harmer. 2007 : 11) ได้มีนโยบำยพัฒนำโรงเรียนต่ำงๆ
ให้เป็นโรงเรียนมำตรฐำนสำกล (World-Class Standard School) ซึ่งในปัจจุบันสำนักงำน
คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน หมำยถึง โรงเรียนที่จัดกำรเรียนกำรสอนมุ่งให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์ (Learner Profile) เทียบเคียงมำตรฐำนสำกล (World - Class Standard) ผู้เรียน
มีศักยภำพเป็นพลโลก (World citizen) พัฒนำยกระดับคุณภำพจัดกำรเรียนกำรสอนและกำรจัดกำร
ด้วยระบบคุณภำพ เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตำมมำตรฐำนสำกล เป็นกำรต่อยอด
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่เป็นมำตรฐำนชำติ กำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำของโรงเรียน
มำตรฐำนสำกล (กระทรวงศึกษำธิกำร. 2553 : 2) โรงเรียนจะต้องใช้หลักกำรและแนวคิดหลักสูตร
แกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ทุกประกำร คือ ให้ผู้เรียนได้เรียนกลุ่มสำระ
พื้นฐำน 8 กลุ่มสำระ เรียนสำระเพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ดังเช่นที่ได้ถือปฏิบัติอยู่ โดย
โรงเรียนควรพิจำรณำถึงควำมเหมำะสม สภำพควำมพร้อม และจุดเน้นของโรงเรียนในกำรจัดให้มีกำร
เรียนกำรสอนสำระที่เป็นสำกล 4 สำระ ได้แก่ ทฤษฎีควำมรู้ (Theory of Knowledge : TOK)
กำรเขียนควำมเรียงขั้นสูง (Extended - Essay) กิจกรรมสร้ำงสรรค์ประโยชน์ (CAS : Creativity,
Action, Service) โลกศึกษำ (Global Education) และเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศที่
2 อีกหนึ่งภำษำสำหรับมัธยมศึกษำตอนปลำย โรงเรียนสำมำรถพัฒนำหลักสูตรโดยนำสำระสำกลมำ
จัดลงในหลักสูตรสถำนศึกษำทั้งในเชิงบูรณำกำร เป็นหน่วยกำรเรียนรู้ในสำระพื้นฐำนทั้ง 8 สำระ
หรือจัดเป็นรำยวิชำเพิ่มเติม (กระทรวงศึกษำธิกำร. 2553 : 10) ในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องอำศัยกลวิธี
ในกำรสอนที่ช่วยสนับสนุนให้กำรเรียนกำรสอนแบบ World Class โดยคณะผู้จัดทำเล็งเห็นว่ำ กำร
เรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำสำมำรถสนับสนุนกำรเรียนกำรสอนแบบ World Class ให้มี
ประสิทธิภำพได้
วิธีกำรสอนกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (CLIL) เป็นวิธีกำรสอนซึ่งผสมผสำนระหว่ำงกำร
สอนเนื้อหำสำระจำกหลักสูตรกำรสอนกับกำรสอนกับเนื้อหำที่ไม่ใช่ภำษำที่สองเข้ำด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้
ผู้เรียนได้พัฒนำทักษะในภำษำแรกเพื่อให้สำมำรถคิดและติดต่อสื่อสำรเกี่ยวกับด้ำนวิทยำศำสตร์
ศิลปศำสตร์ และเทคโนโลยีกับคนทั่วโลกได้ วิธีกำรสอนในลักษณะนี้เป็นกำรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้
ประสบกำรณ์กำรเรียนที่แตกต่ำงจำกเดิม เพรำะวิชำเรียนหลักที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรจะถูกสอนรวมกับ
2
ภำษำที่สอง กำรคิดและกำรเรียนรู้ทักษะต่ำงๆถูกรวมเข้ำด้วยกัน (Bentley 2010 : 5) กำรเรียนรู้
แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำมีควำมสำคัญต่อกระบวนกำรเรียนกำรสอนในปัจจุบัน กำรเรียนรู้แบบ
บูรณำกำรภำษำและเนื้อหำช่วยให้ผู้เรียนมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเนื้อหำวิชำ และในขณะเดียวกัน
ผู้เรียนก็ได้เรียนรู้ภำษำที่สองไปพร้อมกับเนื้อหำวิชำนั้นๆ นอกจำกนั้นกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำ
และเนื้อหำยังเป็นกำรเตรียมผู้เรียนให้มีควำมพร้อมในกำรเรียนต่อและประกอบอำชีพในอนำคตอีกด้วย
ควำมสำมำรถในกำรคิดเกี่ยวกับควำมแตกต่ำงของกำรใช้ภำษำ ผู้สอนจำเป็นที่จะต้องสร้ำงวิธีกำรสอน
เนื้อหำวิชำให้เหมำะสมกับผู้เรียนสมัยใหม่ จำกมุมมองดังกล่ำว กำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำและ
เนื้อหำไม่ใช่เพียงสนับสนุนกำรพัฒนำควำมสำมำรถทำงภำษำเท่ำนั้น แต่ยังพัฒนำให้ผู้เรียนมี
ควำมสำมำรถในด้ำนกำรคิดวิเครำะห์อีกด้วย (Coyle. 2010 : 10) กลวิธีกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร
ภำษำและเนื้อหำเกี่ยวข้องกับกำรใช้ภำษำที่ไม่ใช่ภำษำแม่ของนักเรียน ผู้สอนจะสอนเนื้อหำวิชำตำม
หลักสูตรพื้นฐำนโดยจะหำเนื้อหำวิชำที่เหมำะสมกับนักเรียน ดังนั้นกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำจึง
เป็นเครื่องมือในกำรเรียนกำรสอนระหว่ำงภำษำและเนื้อหำวิชำ โดยทั้งภำษำและเนื้อหำวิชำจะถูก
บูรณำกำรเข้ำด้วยกันโดยมีจุดประสงค์สองด้ำน คือ (1) กำรเรียนภำษำที่สองจะถูกรวมอยู่ใน
เนื้อหำวิชำ เช่น คณิตศำสตร์ ประวัติศำสตร์ ภูมิศำสตร์ คอมพิวเตอร์ และวิทยำศำสตร์ เป็นต้น
(2) เนื้อหำจำกวิชำต่ำงๆจะใช้ในกำรเรียน โดยผู้สอนภำษำที่สองจะต้องทำงำนร่วมกันกับผู้สอน
เนื้อหำวิชำเพื่อให้กำรสอนเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ ดังนั้นผู้สอนจำเป็นที่จะต้องพัฒนำควำมสำมำรถ
ทำงภำษำของผู้เรียนให้มีประสิทธิภำพทั้งทักษะกำรฟัง ทักษะกำรพูด ทักษะกำรอ่ำน และทักษะกำร
เขียน พร้อมทั้งพัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถด้ำนเนื้อหำวิชำไปพร้อมๆกันด้วย (Mehisto. 2008 : 11)
ดังนั้นกลุ่มผู้วิจัยจึงเล็งเห็นประโยชน์ของกำรใช้กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำเพื่อพัฒนำ
ทักษะภำษำอังกฤษให้มีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้ผู้เรียนมีควำมต้องกำรที่จะพัฒนำทักษะ
ภำษำอังกฤษและมีควำมกระตือรือร้นในกำรเรียนรู้ภำษำผ่ำนเนื้อหำวิชำอื่นๆ และส่งเสริมให้ผู้เรียนมี
อิสรเสรีในกำรเลือกรับข้อมูลควำมรู้ และเข้ำใจควำมรู้เหล่ำนั้นอย่ำงถ่องแท้ผ่ำนกระบวนกำรประเมินค่ำ
สังเครำะห์ และวิเครำะห์ข้อมูลที่ได้มำ ซึ่งผู้เรียนยังได้ใช้ภูมิควำมรู้เดิมเกี่ยวกับเนื้อหำวิชำนั้นๆ อีกทั้ง
ยังก่อให้เกิดกระบวนกำรเรียนรู้ผ่ำนกำรปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนข้อมูลกำรทำงำนร่วมกับผู้เรียนคนอื่น
และผู้เรียนยังสำมำรถนำกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนำทักษะควำมรู้อื่น
ภำยนอกห้องเรียนได้ นอกจำกนี้ยังเป็นกำรเสริมสร้ำงทัศนคติที่ดีของผู้เรียนที่มีต่อวิชำภำษำอังกฤษได้
ด้วยเหตุนี้กลุ่มผู้วิจัยจึงมีควำมสนใจที่จะใช้วิธีกำรสอนแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำเพื่อเป็น
เครื่องมือในกำรพัฒนำทักษะภำษำอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภำพมำก
ยิ่งขึ้น
3
ควำมมุ่งหมำยของกำรทำวิจัย
1. เพื่อหำประสิทธิภำพกิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิชำภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้
แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ตำมเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อหำดัชนีประสิทธิผลกิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิชำภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้
แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4
3. เพื่อเปรียบเทียบควำมสำมำรถทำงภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร
ภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ระหว่ำงก่อนเรียน
และหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4
ควำมสำคัญของกำรทำวิจัย
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ได้รับกำรพัฒนำกำรเรียนภำษำอังกฤษในด้ำน
ภำษำอังกฤษวิชำกำร 4 ทักษะหลังจำกกำรได้เรียนรู้บทเรียนภำษำอังกฤษโดยใช้กำรบูรณำกำรภำษำ
และเนื้อหำวิชำ
2. กำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษโดยใช้กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำนี้จะเป็นแนวทำงให้กับ
ครูผู้สอนและผู้วิจัยในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษและวิชำอื่นได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
3. เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของผู้สอนและผู้ที่มีบทบำททำงกำรศึกษำในกำร
พัฒนำทักษะภำษำอังกฤษ โดยใช้กำรสอนแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำ และเป็นกำรส่งเสริม
ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนแก่ผู้เรียน
ขอบเขตกำรวิจัย
กำรวิจัยครั้งนี้เป็นกำรวิจัยกึ่งทดลอง โดยมีขอบเขตกำรวิจัยดังนี้
1. ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง
1.1 ประชำกรที่ใช้ในกำรวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 โรงเรียนโกสุมวิทยำ
สรรค์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหำสำรคำม ที่กำลังศึกษำอยู่ในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2556
จำนวน 2 ห้อง มีนักเรียนทั้งหมด 80 คน
1.2 กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้ในกำรวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4/6 โรงเรียนโกสุม
วิทยำสรรค์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหำสำรคำม ที่กำลังศึกษำอยู่ในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ
2556 จำนวน 40 คนโดยใช้วิธีกำรคัดเลือกแบบกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบกลุ่ม (Cluster Random
Sampling) ด้วยวิธีกำรจับสลำก เพื่อจัดเป็นกลุ่มที่ 1 กลุ่มทดลอง จำนวน 1 ห้องเรียน และกลุ่ม
ที่ 2 กลุ่มตัวอย่ำง จำนวน 1 ห้องเรียน
4
2. ตัวแปรที่ศึกษำ
2.1 ตัวแปรอิสระ คือ กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ
2.2 ตัวแปรตำม คือ ควำมสำมำรถทำงด้ำนทักษะภำษำอังกฤษ
3. สมมุติฐำน
3.1 ควำมสำมำรถด้ำนทักษะภำษำอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่ำก่อนเรียนหลังจำกเรียนรู้
กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ
4. ระยะเวลำที่ใช้ในกำรวิจัยทั้งสิ้น 1 ภำคเรียน คือ ปีกำรศึกษำ 2556 เป็นเวลำ 4
เดือน เริ่มจำกเดือนพฤศจิกำยน 2556 – กุมภำพันธ์ 2557
5. เนื้อหำที่ใช้ในกำรวิจัย
เนื้อหำที่ใช้ในกำรศึกษำครั้งนี้โดยใช้เนื้อหำจำกแหล่งกำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ
หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีทั้งหมด 3 เรื่อง
ดังนี้
1. Unit : Science Topic : Acids and bases
มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง
2. Unit : Science Topic : A chemical reaction
มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง
3. Unit : Science and Technology Topic : The Planets
มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง
นิยำมศัพท์เฉพำะคำ
1. กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ หมำยถึง กำรนำเนื้อหำวิชำต่ำงๆ ที่เป็นภำษำที่สอง
เช่น คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ ประวัติศำสตร์ มำสอนในห้องเรียนซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทั้งกำรใช้
ภำษำที่สองและเนื้อหำวิชำไปพร้อมๆ กัน ในกำรวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้ภำษำอังกฤษในกำรสอนวิชำ
วิทยำศำสตร์ โดยกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำมีขั้นตอนกำรสอนดังนี้
ขั้นที่ 1 กำรเลือกเนื้อหำ (selecting the theme) ในกำรคัดเลือกเนื้อหำที่จะสอน
นั้น ผู้สอนจะต้องเลือกหัวเรื่อง (topic) ที่สอดคล้องกับสถำนกำรณ์จริงและหัวเรื่องย่อย (sub-topic)
ที่สัมพันธ์กัน นอกจำกนี้ผู้สอนจะต้องคำนึงถึงควำมต้องกำรและควำมสนใจของผู้เรียน ผู้สอนสำมำรถ
เลือกหัวเรื่องที่จะสอนจำกรำยวิชำต่ำงๆ ในหลักสูตร
ขั้นที่ 2 กำรเลือกสื่อกำรสอนหรือบทเรียน (selecting material or text) กำรเลือก
สื่อกำรสอนหรือบทเรียนนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพรำะผู้สอนจะต้องหำบทเรียนในกรอบเนื้อหำที่
คำดว่ำผู้เรียนสนใจ ทั้งจะต้องฝึกให้ผู้เรียนพัฒนำทักษะกำรคิดในระดับสูง กำรเลือกบทเรียนที่จะใช้
สอนอำจใช้แนวทำงดังต่อไปนี้
- เนื้อหำบทเรียนสภำพจริง
- งำนหรือกิจกรรมสอดคล้องกับสถำนกำรณ์จริง
- บทเรียนน่ำสนใจ
- บทเรียนยำกง่ำยเหมำะกับระดับของผู้เรียน
- เนื้อหำเข้ำใจได้
5
- บทเรียนหำได้ง่ำย
- รูปแบบของบทเรียน
- บทเรียนยืดหยุ่นได้
- แหล่งเนื้อหำ
- ส่วนประกอบบทเรียน
- สื่อกำรสอนเสริม
ขั้นที่ 3 กำรสร้ำงแผนภูมิแสดงเครือข่ำย (web) หลังจำกเลือกเนื้อหำแล้วจึงกำหนดหัว
เรื่อง (topic) และหัวเรื่องย่อย (sub - topic) เพื่อเจำะลึกเนื้อหำโดยให้มีควำมต่อเนื่องและสัมพันธ์
กัน ตลอดจนสอดคล้องกับวิชำอื่นในหลักสูตร
ขั้นที่ 4 กำรเตรียมกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน (developing instructional task and
activity) กำรเตรียมกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหำ กล่ำวคือ ผู้สอนวิเครำะห์
เนื้อหำเพื่อที่จะประเมินว่ำผู้เรียนต้องมีควำมรู้เบื้องต้นอะไรบ้ำงก่อนที่จะอ่ำนบทเรียนหรือทำกิจกรรม
หลังจำกนั้นจึงเตรียมกิจกรรมเนื้อหำเพื่อสอนศัพท์และโครงสร้ำงของภำษำ วิธีเรียบเรียงเนื้อควำม
กลวิธีกำรเรียน ทักษะกำรเรียน และฝึกกำรสื่อควำมหมำยในรูปแบบปฏิสัมพันธ์ โดยจัดกิจกรรมเพื่อ
พัฒนำทั้ง 4 ทักษะ คือ ทักษะกำรฟัง พูด อ่ำน และเขียน
2. ทักษะภำษำอังกฤษ หมำยถึง ภำษำอังกฤษวิชำกำรได้แก่ทักษะกำรฟังทักษะกำรอ่ำน
ทักษะกำรพูดและทักษะกำรเขียน
2.1 ทักษะกำรฟัง ผู้เรียนฟังเนื้อหำวิชำที่เป็นภำษำอังกฤษ แล้วสนทนำแลกเปลี่ยน
ควำมรู้จำกสิ่งที่ได้ฟังกับเพื่อน ซักถำมเกี่ยวกับข้อสงสัยแล้วทำกิจกรรม เช่น ฟังเนื้อหำแล้วเติม
คำศัพท์ในช่องว่ำงได้ถูกต้อง และฟังเนื้อหำแล้วสำมำรถตอบคำถำมได้ถูกต้อง
2.2 ทักษะกำรอ่ำน ผู้เรียนอ่ำนเนื้อหำวิชำที่เป็นภำษำอังกฤษ สรุป อภิปรำย
แลกเปลี่ยนควำมรู้กับเพื่อนในกลุ่ม ซักถำมผู้สอนเมื่อมีข้อสงสัย แล้วทำกิจกรรม เช่น อ่ำนเนื้อหำ
แล้วตอบคำถำมได้ถูกต้อง และเขียนสรุปเป็นแผนผังควำมคิดจำกเนื้อเรื่องที่อ่ำนได้
2.3 ทักษะกำรพูด ผู้สอนมีแบบฟอร์มคร่ำวๆ ให้ผู้เรียนมีแนวทำงในกำรพูด สร้ำงควำม
มั่นใจในกำรพูดให้กับผู้เรียนโดยสอนกำรออกเสียงคำศัพท์ต่ำงๆ ให้ผู้เรียนฝึกพูดอย่ำงคล่องแคล่ว แล้ว
ทำกิจกรรม เช่น พูดบรรยำยภำพที่กำหนดให้ได้ และพูดแสดงบทบำทสมมติจำกสถำนกำรณ์ที่
กำหนดให้ได้
2.4. ทักษะกำรเขียน ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ควำมรู้พื้นฐำนของตนเองโดยกำรให้
ผู้เรียนทบทวนคำศัพท์และไวยำกรณ์ที่จะใช้เขียน แล้วทำกิจกรรม เช่น เขียนบรรยำยควำมเหมือน
และควำมแตกต่ำงจำกเนื้อเรื่องโดยใช้คำศัพท์และไวยำกรณ์ได้ถูกต้อง และเขียนอธิบำยภำพโดยใช้
คำศัพท์และไวยำกรณ์ได้ถูกต้อง
6
บทที่ 2
เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในกำรวิจัยครั้งนี้ กลุ่มผู้วิจัยได้ค้นคว้ำเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำเสนอ
ตำมลำดับดังต่อไปนี้
1. เอกสำรที่เกี่ยวข้อง
1.1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศในหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน
พุทธศักรำช 2551 และ 2544
1.2 กำรสอนภำษำอังกฤษ
1.3 กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ
2. งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.1 งำนวิจัยในประเทศ
2.2 งำนวิจัยในต่ำงประเทศ
หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ
กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 228 - 243) ได้กำหนดกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
ภำษำต่ำงประเทศ เป็นกลุ่มสำระกำรเรียนรู้พื้นฐำนหนึ่งใน 8 กลุ่มสำระตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้น
พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ซึ่งสรุปสำระสำคัญดังนี้
1. สำระสำคัญกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำต่ำงประเทศ
สำระสำคัญกลุ่มสำระภำษำต่ำงประเทศ กำหนดได้ ดังนี้
1.1 ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรฟัง-พูด-อ่ำน-เขียน
แลกเปลี่ยนข้อมูลข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและแสดงควำมคิดเห็น ตีควำม นำเสนอข้อมูล ควำมคิด
รวบยอดและควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ และสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลอย่ำงเหมำะสม
1.2 ภำษำและวัฒนธรรม กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ ตำมวัฒนธรรมของเจ้ำของ
ภำษำ ควำมสัมพันธ์ ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ
ภำษำและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับวัฒนธรรมไทย และนำไปใช้อย่ำงเหมำะสม
1.3 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ
ในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น เป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้ และเปิด
โลกทัศน์ของตน
1.4 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับชุมชนและโลก กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศใน
สถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐำน ใน
กำรศึกษำต่อ ประกอบอำชีพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
2. สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้
สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 4 แบ่งได้ดังนี้
7
สำระที่ 1 ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร
มำตรฐำน ต 1.1 เข้ำใจและตีควำมเรื่องที่ฟังและอ่ำนจำกสื่อประเภท
ต่ำงๆ และแสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล
มำตรฐำน ต 1.2 มีทักษะกำรสื่อสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็นอย่ำงมีประสิทธิภำพ
มำตรฐำน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่ำวสำร ควำมคิดรวบยอด และควำม
คิดเห็น ในเรื่องต่ำงๆ โดยกำรพูดและกำรเขียน
สำระที่ 2 ภำษำและวัฒนธรรม
มำตรฐำน ต 2.1 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรมของ
เจ้ำของภำษำ และนำไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสมกับกำลเทศะ
มำตรฐำน ต 2.2 เข้ำใจควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงภำษำและ
วัฒนธรรมของ เจ้ำของภำษำกับภำษำและวัฒนธรรมไทย และนำมำใช้อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม
สำระที่ 3 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น
มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับกลุ่มสำระ
กำรเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สำระที่ 4 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มำตรฐำน ต 4.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้งใน
สถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม
มำตรฐำน ต 4.2 ใช้ภำษำต่ำงประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐำนในกำรศึกษำ
ต่อ กำรประกอบอำชีพ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
3. คุณภำพผู้เรียน
คุณภำพผู้เรียนกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ จบชันมัธยมศึกษำปีที่ 6 มี
้
ดังนี้
3.1 ปฏิบัติตำมคำแนะนำในคู่มือกำรใช้งำนต่ำงๆ คำชี้แจง คำอธิบำย และคำ
บรรยำยที่ฟังและอ่ำน อ่ำนออกเสียงข้อควำม ข่ำว ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง และบทละครสั้น
ถูกต้องตำมหลักกำรอ่ำน อธิบำยและเขียนประโยคและข้อควำมสัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียงรูปแบบ
ต่ำงๆ ที่อ่ำน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียงรูปแบบต่ำงๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อควำมที่
ฟังหรืออ่ำนจับใจควำมสำคัญ วิเครำะห์ควำม สรุปควำม ตีควำม และแสดงควำมคิดเห็นจำกกำรฟัง
และอ่ำนเรื่องที่เป็นสำรคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ
3.2 สนทนำและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่ำงๆ ใกล้ตัว
ประสบกำรณ์ สถำนกำรณ์ข่ำว/เหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ในควำมสนใจและสื่อสำรอย่ำงต่อเนื่องและ
เหมำะสม เลือกและใช้คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบำย และให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงควำม
ต้องกำร เสนอและให้ควำมช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ควำมช่วยเหลือในสถำนกำรณ์จำลอง
หรือสถำนกำรณ์จริงอย่ำงเหมำะสม พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยำย อธิบำย เปรียบเทียบ
และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ที่ฟังและอ่ำนอย่ำงเหมำะสม พูดและ
เขียนบรรยำยควำมรู้สึกและแสดงควำมคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่ำงๆ กิจกรรม ประสบกำรณ์
และข่ำว/เหตุกำรณ์อย่ำงมีเหตุผล
8
3.3 พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบกำรณ์ ข่ำว/เหตุกำรณ์
เรื่องและประเด็นต่ำงๆ ตำมควำมสนใจ พูดและเขียนสรุปใจควำมสำคัญ แก่นสำระที่ได้จำกกำร
วิเครำะห์เรื่อง กิจกรรม ข่ำว เหตุกำรณ์ และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ พูดและเขียนแสดงควำม
คิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์ และเหตุกำรณ์ทั้งในท้องถิ่น สังคม และโลก พร้อมทั้งให้
เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ
3.4 เลือกใช้ภำษำน้ำเสียงและกิริยำท่ำทำงเหมำะกับระดับของบุคคล เวลำ
โอกำสและสถำนที่ตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ อธิบำย/อภิปรำยวิถีชีวิต
ควำมคิด ควำมเชื่อ และที่มำของขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้ำของภำษำ เข้ำร่วม แนะนำ
และจัดกิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรมอย่ำงเหมำะสม
3.5 อธิบำย/เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงโครงสร้ำงประโยค ข้อควำม
สำนวนคำพังเพย สุภำษิตและบทกลอนของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทยวิเครำะห์/อภิปรำยควำม
เหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงวิถีชีวิตควำมเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับของไทยและ
นำไปใช้อย่ำงมีเหตุผล
3.6 ค้นคว้ำ/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น จำกแหล่งเรียนรู้ต่ำงๆ และนำเสนอด้วยกำรพูดและกำรเขียน
3.7 ใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/สถำนกำรณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน
สถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม
3.8 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/ค้นคว้ำ รวบรวม วิเครำะห์ และสรุป
ควำมรู้/ข้อมูลต่ำงๆ จำกสื่อและแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ในกำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ เผยแพร่/
ประชำสัมพันธ์ข้อมูล ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชำติ เป็นภำษำต่ำงประเทศ
4. ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 4 ดังตำรำง 1-8
ตำรำง 1 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.1 เข้ำใจและตีควำมเรื่องที่ฟังและอ่ำนจำกสื่อ
ประเภท ต่ำงๆ และแสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
1. ปฏิบัติตำมคำแนะนำในกำรใช้คู่มือ
กำรใช้งำนต่ำงๆ คำชี้แจง
คำอธิบำย และคำบรรยำยที่ฟังและ
อ่ำน

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบำย คำบรรยำย เช่น ประกำศ
เตือนภัยต่ำงๆ ยำและกำรใช้ยำ กำรใช้อุปกรณ์และสิ่งของ
กำรสืบค้นข้อมูลทำงอินเตอร์เน็ต
- Modal verb : should/ought to/need/have
to/ must + verb ที่เป็น infinitive without to
เช่น You should have it after meal. (Active
Voice)/The does must be divided. (Passive
Voice)
- Direct/Indirect Speech
9
ตำรำง 1 (ต่อ)
ตัวชี้วัด

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
- คำสันธำน (conjunction) and/but/or/so/not
only…but also/both…and/as well as/
after/because etc.
- ตัวเชื่อม (connective words) เช่น
First,...Second,...Third,...Fourth,…Next,…
Then,…Finally,…ect.
2. อ่ำนออกเสียง ข้อควำม ข่ำว ข้อควำม ข่ำว ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง และบท
ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง ละครสั้นกำรใช้พจนำนุกรมหลักกำรอ่ำนออกเสียง เช่น
และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ำยคำ
ตำมหลักกำรอ่ำน
สระเสียงสั้น สระเสียงยำว สระประสม
- กำรออกเสียงเน้นหนักเบำในคำและกลุ่มคำ
- กำรออกเสียงตำมระดับเสียงสูง-ต่ำในประโยค
- กำรออกเสียงเชื่อมโยงในข้อควำม
- กำรแบ่งวรรคตอนในกำรอ่ำน
- กำรอ่ำนบทร้อยกรองตำมจังหวะ
3. อธิบำยและเขียนประโยคและ
ประโยคและข้อควำม กำรตีควำม/ถ่ำยโยนข้อมูลให้สัมพันธ์กับ
ข้อควำมให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ สื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียง เช่น ภำพ แผนผัง กรำฟ แผนภูมิ
ควำมเรียงรูปแบบต่ำงๆ ที่อ่ำน ตำรำง อักษรย่อ จำกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น ด้วยกำรพูด
รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ และกำรเขียนอธิบำย โดยใช้ Comparison of
ควำมเรียงต่ำงๆ ให้สัมพันธ์กับ adjective/adverb/
ประโยค และข้อควำมที่ฟัง
Contrast : but, although, however, in spite
หรืออ่ำน
of…/Logical connectives เช่น caused by/ followed
by/consist of etc.
4. จับใจควำมสำคัญ วิเครำะห์ควำม เรื่องที่เป็นสำรคดีและบันเทิงคดี กำรจับใจควำมสำคัญกำรสรุป
สรุปควำม ตีควำม และแสดง ควำม กำรวิเครำะห์ควำมกำรตีควำม กำรใช้ skimming/
ควำมคิดเห็น จำกกำรฟังและ scanning/guessing/context clue
อ่ำนเรื่องที่เป็นสำรคดี และ
ประโยคที่ใช้ในกำรแสดงควำมคิดเห็นกำรให้เหตุผลและกำร
บันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผล ยกตัวอย่ำงเช่น I believe…/ I agree with…but…/Well,
และยกตัวอย่ำงประกอบ
I must say…/What do you think of/about…?/
I think/don’t think…?/What’s your opinion
about…?/In my opinion…/
- if clauses
- so…that/such…that
10
ตำรำง 1 (ต่อ)
ตัวชี้วัด
-

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
too to…/enough to…
on the other hand,…
other (s)/another/the other (s)
คำสันธำน (conjunctions) because/and/so/but/
however/because of/due to/owing to etc.
Infinitive pronouns : some, any, someone,
anyone, everyone, one, ones, etc.
Tenses : present simple/present continuous/
Present perfect/past simple/future tense, etc.
Simple sentence/Compound sentence/Complex
sentence

ตำรำง 2 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.2 มีทักษะกำรสื่อสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็นอย่ำงมีประสิทธิภำพ
ตัวชี้วัด
1. สนทนำและเขียนโต้ตอบข้อมูล
เกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่ำงๆ ใกล้
ตัว ประสบกำรณ์ สถำนกำรณ์
ข่ำว/เหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ใน
ควำมสนใจ ของสังคม และสื่อสำร
อย่ำงต่อเนื่องและเหมำะสม

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
ภำษำที่ใช้ในกำรสื่อสำรระหว่ำงบุคคล เช่น กำรทักทำย
กล่ำวลำ ขอบคุณ ขอโทษชมเชย กำรพูดแทรกอย่ำงสุภำพ
กำรชักชวน กำรแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้
ตัว สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ในชีวิตประจำวัน กำรสนทนำ/เขียน
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและบุคคลใกล้ตัวประสบกำรณ์
สถำนกำรณ์ต่ำงๆ ข่ำวเหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ในควำม
สนใจของสังคม
2. เลือกและใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบำย ที่มีขั้นตอน
คำชี้แจง คำอธิบำยอย่ำง
ซับซ้อน
คล่องแคล่ว
3. พูดและเขียนแสดงควำมต้องกำร ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงควำมต้องกำร เสนอ และให้ควำม
เสนอ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ควำมช่วยเหลือใน
ควำมช่วยเหลือ ในสถำนกำรณ์
สถำนกำรณ์ต่ำงๆ เช่น
จำลอง หรือสถำนกำรณ์จริงอย่ำง Please…/…, please./I’d like…/I need…/
เหมำะสม
May/Can/Could…?/Would you please…? Yes,../
Please do./Certainly/Yes, of course/Sure/
11
ตำรำง 2 (ต่อ)
ตัวชี้วัด

4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
บรรยำย อธิบำยเปรียบเทียบ
และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรื่อง/ประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ที่ฟัง
และอ่ำนอย่ำงเหมำะสม
5. พูดและเขียนบรรยำยควำมรู้สึก
และแสดงควำมคิดเห็นของตนเอง
เกี่ยวกับเรื่องต่ำงๆ กิจกรรม
ประสบกำรณ์ และข่ำว/เหตุกำรณ์
อย่ำงมีเหตุผล

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
Need some help?/What can I do to
help?/Would you like me to help you?/If you
need anything, please…/Is there anything I can
do?/I’ll do it for you./I’m afraid…/I’m sorry,
but…/Sorry, but…etc.
คำศัพท์ สำนวน ประโยคและข้อควำมที่ใช้ในกำรขอและให้
ข้อมูล บรรยำย อธิบำย เปรียบเทียบและแสดงควำม
คิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ ที่ฟังและอ่ำน
ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงควำมรู้สึก ควำมคิดเห็น และให้
เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี
ควำมสุข เศร้ำ หิว รสชำติ สวย น่ำเกลียด เสียงดัง ดี
ไม่ดี จำกข่ำว เหตุกำรณ์ สถำนกำรณ์ ในชีวิตประจำวัน
เช่น
Nice./Very nice./Well done! /Congratulations on…
I like…because…/I love…because…/
I feel…because…/I think…/I believe…/
I agree/disagree…/I’m afraid/I don’t like…/
I don’t believe…/I have no idea…/Oh no! etc.

ตำรำง 3 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่ำวสำรควำมคิดรวบยอด และ
ควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ โดยกำรพูดและกำรเขียน
ตัวชี้วัด
1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ
ตนเอง/ประสบกำรณ์ข่ำว/
เหตุกำรณ์ เรื่อง และประเด็น
ต่ำงๆ ตำมควำมสนใจของสังคม

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กำรนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบกำรณ์ข่ำว/
เหตุกำรณ์ เรื่องและประเด็นที่อยู่ในควำมสนใจของสังคม
เช่น กำรเดินทำง กำรรับประทำนอำหำร กำรเล่นกีฬำ/
ดนตรี กำรดูภำพยนตร์ กำรฟังเพลง กำรเลี้ยงสัตว์กำรอ่ำน
หนังสือ กำรท่องเที่ยว กำรศึกษำ สภำพสังคม เศรษฐกิจ
12
ตำรำง 3 (ต่อ)
ตัวชี้วัด
2. พูดและเขียนสรุปใจควำมสำคัญ/
แก่นสำระที่ได้จำกกำรวิเครำะห์
เรื่อง กิจกรรม ข่ำว เหตุกำรณ์
และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ
3. พูดและเขียนแสดงควำมคิดเห็น
เกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์
และเหตุกำรณ์ ทั้งในท้องถิ่น
สังคม และโลก พร้อมทั้งให้
เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กำรจับใจควำมสำคัญ/แก่นสำระ กำรวิเครำะห์เรื่อง กิจกรรม
ข่ำวเหตุกำรณ์ และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ
กำรแสดงควำมคิดเห็นกำรให้เหตุผลประกอบ และ
ยกตัวอย่ำงเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์ และเหตุกำรณ์
ในท้องถิ่น สังคม และโลก

ตำรำง 4 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 2.1 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรม
ของเจ้ำของภำษำ และนำไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสมกับกำลเทศะ
ตัวชี้วัด
1. เลือกใช้ภำษำ น้ำเสียง และกิริยำ
ท่ำทำงเหมำะกับระดับของบุคคล
โอกำส และสถำนที่ ตำมมำรยำท
สังคมและ วัฒนธรรมของเจ้ำของ
ภำษำ

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กำรเลือกใช้ภำษำ น้ำเสียง และกิริยำท่ำทำงในกำรสนทนำ
ระดับของภำษำ มำรยำทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้ำของ
ภำษำ เช่น กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรชมเชย กำรใช้สี
หน้ำท่ำทำง ประกอบ กำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำร
สัมผัสมือ กำรโบกมือ กำรแสดงควำม รู้สึกชอบ/ไม่ชอบ
กำรกล่ำวอวยพร กำรแสดงอำกำรตอบรับหรือปฏิเสธ
2. อธิบำย/อภิปรำยวิถีชีวิต ควำมคิด วิถีชีวิต ควำมคิด ควำมเชื่อ และที่มำของขนบธรรมเนียม
ควำมเชื่อ และที่มำของ
และประเพณีของเจ้ำของภำษำ
ขนบธรรมเนียม และประเพณีของ
เจ้ำของภำษำ
3. เข้ำร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรม กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำรเล่นเกม กำรร้อง
ทำงภำษำและวัฒนธรรมอย่ำง
เพลง กำรเล่ำนิทำน/เรื่องจำกภำพยนตร์ บทบำทสมมุติ
เหมำะสม
ละครสั้น วันขอบคุณพระเจ้ำ วันคริสต์มำส วันขึ้นปีใหม่วัน
วำเลนไทน์
13
ตำรำง 5 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 2.2 เข้ำใจควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง ระหว่ำง
ภำษำและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับภำษำและวัฒนธรรมไทย และนำมำใช้ อย่ำง
ถูกต้องและเหมำะสม
ตัวชี้วัด
1. อธิบำย/เปรียบเทียบควำมแตกต่ำง
ระหว่ำงโครงสร้ำงประโยค
ข้อควำม สำนวนคำพังเพย
สุภำษิตและบทกลอนของ
ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย
2. วิเครำะห์/อภิปรำยควำมเหมือน
และควำมแตกต่ำงระหว่ำงวิถีชีวิต
ควำมเชื่อ และวัฒนธรรมของ
เจ้ำของภำษำกับของไทย และ
นำไปใช้อย่ำงมีเหตุผล

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กำรอธิบำย/กำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงโครงสร้ำง
ประโยค ข้อควำม สำนวน คำพังเพย สุภำษิต และบท
กลอนของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย
กำรวิเครำะห์/กำรอภิปรำยควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง
ระหว่ำงวิถีชีวิต ควำมเชื่อและวัฒนธรรม ของเจ้ำของภำษำ
กับของไทยกำรนำวัฒนธรรม ของเจ้ำของภำษำไปใช้

ตำรำง 6 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับ
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้และเปิดโลกทัศน์
ของตน
ตัวชี้วัด
สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
1. ค้นคว้ำ/สืบค้น บันทึก สรุป และ กำรค้นคว้ำ/กำรสืบค้น กำรบันทึกกำรสรุป กำรแสดงควำม
แสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ คิดเห็น และนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำร
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เรียนรู้อื่นจำกแหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ
อื่น จำกแหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ และ
นำเสนอด้วยกำรพูด และกำรเขียน
14
ตำรำง 7 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 4.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้ง
ในสถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
1. ใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/ กำรใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/สถำนกำรณ์จำลอง
สถำนกำรณ์จำลองที่เกิดขึ้นใน
เสมือนจริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถำนศึกษำ ชุมชน และ
ห้องเรียนสถำนศึกษำ ชุมชน และ สังคม
สังคม
ตำรำง 8 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ
ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 4.2 ใช้ภำษำต่ำงประเทศเป็นเครื่องมือ พื้นฐำนใน
กำรศึกษำต่อ กำรประกอบอำชีพ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วัด
1. ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/
ค้นคว้ำ รวบรวม วิเครำะห์ และ
สรุปควำมรู/ข้อมูลต่ำงๆ จำกสื่อ
้
และแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ใน
กำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ
2. เผยแพร่/ประชำสัมพันธ์ข้อมูล
ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และ
ท้องถิ่น/ประเทศชำติ เป็น
ภำษำต่ำงประเทศ

สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง
กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/กำรค้นคว้ำควำมรู้/
ข้อมูลต่ำง ๆ จำกสื่อและแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ใน
กำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ
กำรใช้ภำษำอังกฤษในกำรเผยแพร่/ประชำสัมพันธ์ข้อมูล
ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชำติ เช่น
กำรทำหนังสือเล่มเล็กแนะนำโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น/
ประเทศชำติ กำรทำแผ่นปลิว ป้ำยคำขวัญ คำเชิญชวน
แนะนำโรงเรียน สถำนที่สำคัญในชุมชนและท้องถิ่น/
ประเทศชำติ กำรนำเสนอข้อมูลข่ำวสำรในโรงเรียน ชุมชน
ท้องถิ่น/ประเทศชำติเป็นภำษำอังกฤษ

5. โครงสร้ำงหลักสูตร
กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 23-24) กำหนดกรอบโครงสร้ำงเวลำเรียนกลุ่มสำระ
กำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 เรียนปีละ 240 ชั่วโมง
กำรกำหนดโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำน และเพิ่มเติมดังนี้
ระดับประถมศึกษำ สำมำรถปรับเวลำเรียนพื้นฐำนของแต่ละกลุ่มสำระ กำร
เรียนรู้ ได้ตำมควำมเหมำะสม ทั้งนี้ต้องมีเวลำเรียนรวมตำมที่กำหนดไว้ในโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำน
และผู้เรียนต้องมีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด
15
ระดับมัธยมศึกษำ ต้องจัดโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำนให้เป็นไปตำมที่กำหนด
และสอดคล้องกับเกณฑ์กำรจบหลักสูตร
สำหรับเวลำเรียนเพิ่มเติม ทั้งในระดับประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ให้จัดเป็น
รำยวิชำเพิ่มเติม หรือกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนที่กำหนดไว้ในชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4-6 จำนวน 360 ชั่วโมง
นั้น เป็นเวลำสำหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนวกิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สำธำรณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ให้สถำนศึกษำจัดสรรเวลำให้ผู้เรียน
ได้ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้
ระดับประถมศึกษำ (ป. 1-6)
รวม 6 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง
ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (ม. 1-3)
รวม 3 ปี จำนวน 54 ชั่วโมง
ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย (ม. 4-6) รวม 3 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง
6. คำอธิบำยรำยวิชำ
กระทรวงศึกษำธิกำร (2544 : 200) กำหนดคำอธิบำยรำยวิชำ กลุ่มสำระกำร
เรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีดังนี้
เข้ำใจ น้ำเสียง ควำมรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ควำมแตกต่ำง
ด้ำนภำษำ วัฒนธรรม ประเพณี อ่ำนออกเสียงบทควำมได้ถูกต้องตำมหลักกำรอ่ำนออกเสียงและ
เหมำะสมกับเนื้อหำที่อ่ำน ตีควำม วิเครำะห์ ข้อควำม ข้อมูล ข่ำวสำร บทควำม สำรคดี บันเทิง
คดี สื่อที่เป็นควำมเรียงและไม่ใช่ควำมเรียงในแบบต่ำงๆ จำกสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในหัวข้อ
ต่ำงๆ เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล เวลำว่ำงและ
สวัสดิกำร กำรศึกษำและอำชีพ กำรซื้อขำย ลมฟ้ำอำกำศ กำรบริกำร สถำนที่ วิทยำศำสตร์และ
เทคโนโลยี ใช้ภำษำตำมมำรยำททำงสังคม สร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล แสดงควำมคิดเห็น
ควำมต้องกำร อธิบำย บรรยำย แลกเปลี่ยนควำมรู้ และให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องรำวต่ำงๆ เหตุกำรณ์
ในอดีต ปัจจุบันและอนำคต โดยใช้ประโยชน์จำกสื่อ เทคโนโลยี สื่อกำรเรียนทำงภำษำ และผลจำก
กำรฝึกทักษะต่ำงๆ แสวงหำวิธีกำรเรียนที่เหมำะสมกับตนเอง สำมำรถนำเสนอข้อมูล ควำมคิดรวบ
ยอดและควำมคิดเห็น เจรจำโน้มน้ำว ต่อรองเกี่ยวกับประสบกำรณ์และเหตุกำรณ์ต่ำงๆ ในท้องถิ่น
ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำยอย่ำงสร้ำงสรรค์และมีประสิทธิภำพ นำเสนอบทกวีหรือบทละครสั้น โดยใช้
เค้ำโครงตำมแนวคิดของเจ้ำของภำษำด้วยควำมเพลิดเพลิน เข้ำร่วมกิจกรรม เปรียบเทียบ และนำ
ควำมรู้ด้ำนภำษำ วัฒนธรรม ประเพณี ควำมเชื่อไปใช้อย่ำงมีวิจำรณญำณ เห็นประโยชน์ของกำรรู้
ภำษำอังกฤษในกำรแสวงหำควำมรู้เพื่อขยำยโลกทัศน์ จำกแหล่งข้อมูลที่หลำกหลำย กำรเข้ำสู่สังคม
และอำชีพ สำมำรถใช้ภำษำสื่อสำรในรูปแบบต่ำงๆ ตำมสถำนกำรณ์ในสถำนศึกษำและชุมชน
7. หน่วยกำรเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4
กระทรวงศึกษำธิกำร (2544 : 200) กำหนดหน่วยกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้
ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ภำคเรียนที่ 2 ดังนี้
Unit 1 : Myself
- Sports
- Hobbies
- Indoor/Outdoor Game
16
Unit
Unit
Unit
Unit
Unit
Unit
-

2 : Community
Role in Community
3 : Personal Relationship
Personal Traits
Social Life
4 : Environment
How to Preserve Environment
5 : Occupation
Like and Dislike
Hope
Future Career
6 : Health
Measure and Weight
Hoe to Keep Fit
7 : Travel
Places : Attractive Places
Entertainment Brochure
Shopping : Souvenir Market
Accommodation : Service, Food and Drink, Hotel, Home
Stay
Unit 8 : Science and Technology
- Impacts
8. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้
กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 28) กำหนดกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ กลุ่ม
สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีดังนี้
วัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักกำรพื้นฐำนสองประกำรคือ
กำรประเมินเพื่อพัฒนำผู้เรียน และเพื่อตัดสินผลกำรเรียนในกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ของผู้เรียนให้
ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชี้วัด เพื่อให้บรรลุตำมมำตรฐำน
กำรเรียนรู้สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้ำหมำยหลักใน
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ว่ำจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถำนศึกษำระดับเขต
พื้นที่กำรศึกษำ และระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้เป็นกระบวนกำรพัฒนำคุณภำพ
ผู้เรียนโดยใช้ผลกำรประเมินเป็นข้อมูลและสำรสนเทศที่แสดงพัฒนำกำร ควำมก้ำวหน้ำ และ
ควำมสำเร็จทำงกำรเรียนของผู้เรียนตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกำรส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำร
พัฒนำและเรียนรู้อย่ำงเต็มตำมศักยภำพ
กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน
ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำและระดับชำติมีรำยละเอียด ดังนี้
17
1. กำรประเมินระดับชั้นเรียนเป็นกำรวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนกำร
จัดกำรเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินกำรเป็นปกติและสม่ำเสมอในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใช้เทคนิคกำร
ประเมินอย่ำงหลำกหลำย เช่น กำรซักถำมกำรสังเกต กำรตรวจกำรบ้ำน กำรประเมินโครงงำนกำร
ประเมินชิ้นงำน/ภำระงำนแฟ้มสะสมงำนกำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิด
โอกำสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมินในกรณีที่ไม่ผ่ำนตัวชี้วัด ให้
มีกำรสอนซ่อมเสริม กำรประเมินระดับชั้นเรียนเป็นกำรตรวจสอบว่ำ ผู้เรียนมีพัฒนำกำรควำมก้ำวหน้ำ
ในกำรเรียนรู้อันเป็นผลมำจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไม่ และมำกน้อยเพียงใดมีสิ่งที่
จะต้องได้รับกำรพัฒนำปรับปรุงและส่งเสริมในด้ำนใด นอกจำกนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุง
กำรเรียนกำรสอนของตนด้วย โดยสอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัด
2. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำเป็นกำรประเมินที่สถำนศึกษำดำเนินกำร
เพื่อตัดสินผลกำรเรียนของผู้เรียนเป็นรำยปี/รำยภำคผลกำรประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน นอกจำกนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับกำรจัด
กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ว่ำส่งผลต่อกำรเรียนรู้ของผู้เรียนตำมเป้ำหมำยหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนำใน
ด้ำนใด รวมทั้งสำมำรถนำผลกำรเรียนของผู้เรียนในสถำนศึกษำเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชำติ ผล
กำรประเมินระดับสถำนศึกษำจะเป็นข้อมูลและสำรสนเทศเพื่อกำรปรับปรุงนโยบำย หลักสูตรโครงกำร
หรือวิธีกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตลอดจนเพื่อกำรจัดทำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำ
ตำมแนวทำงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ และกำรรำยงำนผลกำรจัดกำรศึกษำต่อคณะกรรมกำร
สถำนศึกษำสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ผู้ปกครองและ
ชุมชน
3. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำเป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนใน
ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อใช้
เป็นข้อมูลพื้นฐำนในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของเขตพื้นที่กำรศึกษำ ตำมภำระควำมรับผิดชอบ
สำมำรถดำเนินกำรโดยประเมินคุณภำพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมำตรฐำนที่จัดทำและ
ดำเนินกำรโดยเขตพื้นที่กำรศึกษำหรือด้วยควำมร่วมมือกับหน่วยงำนต้นสังกัดในกำรดำเนินกำรจัดสอบ
นอกจำกนี้ยังได้จำกกำรตรวจสอบทบทวนข้อมูลจำกกำรประเมินระดับสถำนศึกษำในเขตพื้นที่กำรศึกษำ
4. กำรประเมินระดับชำติ เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนในระดับชำติตำม
มำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน สถำนศึกษำต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่
เรียนในชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษำปีที่
6 เข้ำรับกำรประเมินผลจำกกำรประเมินใช้เป็นข้อมูลในกำรเทียบเคียงคุณภำพกำรศึกษำในระดับต่ำงๆ
เพื่อนำไปใช้ในกำรวำงแผนยกระดับคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนกำร
ตัดสินใจในระดับนโยบำยของประเทศ ข้อมูลกำรประเมินในระดับต่ำงๆข้ำงต้นเป็นประโยชน์ต่อ
สถำนศึกษำในกำรตรวจสอบทบทวนพัฒนำคุณภำพผู้เรียน ถือเป็นภำระควำมรับผิดชอบของ
สถำนศึกษำที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไขส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนำ
เต็มตำมศักยภำพบนพื้นฐำนควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลที่จำแนกตำมสภำพปัญหำ และควำมต้องกำร
ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีควำมสำมำรถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนต่ำ
กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหำด้ำนวินัย และพฤติกรรมกลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนทีมีปัญหำทำง
่
เศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิกำรทำงร่ำงกำยและสติปัญญำ เป็นต้น ข้อมูลจำกกำรประเมินจึงเป็นหัวใจ
18
ของสถำนศึกษำในกำรดำเนินกำรช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงทีเป็นโอกำสให้ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำและ
ประสบควำมสำเร็จในกำรเรียนสถำนศึกษำในฐำนะผู้รับผิดชอบจัดกำรศึกษำจะต้องจัดทำระเบียบว่ำ
ด้วยกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนของสถำนศึกษำให้สอดคล้องและเป็นไปตำมหลักเกณฑ์และแนว
ปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพื่อให้บุคลำกรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ำยถือ
ปฏิบัติร่วมกัน
กำรสอนภำษำอังกฤษ
1. กำรสอนทักษะกำรฟัง
1.1 ควำมหมำยของกำรฟัง
จูตำ (Juta 2007 : Website ) ได้กล่ำวถึงควำมหมำยของกำรฟังไว้ว่ำ กำรฟัง
เป็นกระบวนกำรที่ซับซ้อนกว่ำกำรได้ยิน กำรฟังเป็นกระบวนกำรที่ประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบ
คือ ประสำทสัมผัสและกำรตั้งใจ ควำมเข้ำใจและกำรแปลควำมหมำย กำรจำ และกำรตอบสนอง
ซึ่งองค์ประกอบของกำรฟังดังที่ได้กล่ำวมำจะเกิดขึ้นในลำดับเหตุกำรณ์ในกำรฟังโดยที่เรำไม่รู้ตัวก่อน
เพอร์ดี และโบริซอฟ (Purdy and Borisoff. 1997 : 8) ได้ให้ควำมหมำยของ
กำรฟังว่ำ เป็นกระบวนกำรที่มีกำรทำงำนอยู่ตลอดเวลำ ซึ่งจะแฝงอยู่ในกำรมีส่วนร่วม ประสำทสัมผัส
กำรแปลควำมหมำย กำรจำ กำรตอบสนอง ที่ถูกแสดงออกเมื่อมีควำมต้องกำร ควำมเอำใจใส่ และ
ข้อมูลต่ำงๆ ที่ถูกเสนอของมนุษย์
1.2 ควำมสำคัญของกำรฟัง
ฮำร์มเมอร์ (Harmer. 2007 : 133) ได้กล่ำวถึงควำมสำคัญของกำรฟังไว้ว่ำ กำร
ฟังเป็นสิ่งที่ดสำหรับกำรอ่ำนออกเสียงของผู้เรียน เพรำะยิ่งผู้เรียนได้ยินก็ยิ่งเข้ำใจภำษำอังกฤษที่ผู้อื่น
ี
พูด และผู้เรียนก็จะยิ่งซึมซับระดับเสียง กำรใช้น้ำเสียงที่เหมำะสม กำรเน้นคำ เสียงของคำศัพท์ต่ำงๆ
ซึ่งผสมเข้ำกับกำรพูดที่สัมพันธ์ เนื้อหำในกำรฟังเป็นต้นแบบที่ดีของกำรอ่ำนออกเสียง พูดอีกประกำร
หนึ่งคือผู้เรียนฟังมำกเท่ำใดก็จะพัฒนำตัวเองมำกเท่ำนั้น ไม่เพียงแต่เข้ำใจในด้ำนภำษำแต่ในด้ำนกำร
พูดของผู้เรียนก็จะดีขึ้นด้วย
กีรลักจำร์นี (Gilakjani. 2011 : 979) ได้กล่ำวถึงควำมสำคัญของกำรฟังไว้ว่ำ กำร
์
ฟังเป็นทักษะที่ถูกใช้บ่อยที่สุดในห้องเรียน ทั้งผู้สอนและผู้เรียนต้องยอมรับว่ำกำรฟังอย่ำงเข้ำใจนั้น
สำมำรถทำให้เรำประสบผลสำเร็จในด้ำนวิชำกำร กำรศึกษำค้นคว้ำที่หลำกหลำยบ่งชี้ว่ำ ประสิทธิภำพ
ด้ำนทักษะกำรฟังมีควำมสำคัญมำกกว่ำทักษะกำรอ่ำน โดยเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้ประสบควำมสำเร็จ
ด้ำนวิชำกำร
1.3 กิจกรรมกำรสอนทักษะกำรฟัง
ฮำร์มเมอร์ (Harmer. 2007 : 142-143) ได้เสนอแนะกิจกรรมทักษะกำรฟังไว้ดังนี้
1. จิ๊กซอร์ กิจกรรมนี้เริ่มจำกผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็นสำมกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มฟัง
เทปที่แตกต่ำงกันแต่เป็นเรื่องรำวหรือเนื้อหำที่คล้ำยๆกัน หลังจำกนั้นให้ผู้เรียนนำสิ่งที่ได้จำกกำรฟังมำ
เขียนเปรียบเทียบในสิ่งที่ได้ฟัง ว่ำเกิดเหตุกำรณ์อะไรขึ้น เหตุกำรณ์เกิดขึ้นที่ไหน ทั้งมีกำรแก้ไขหรือ
ตอบคำถำมจำกปริศนำและบรรยำยสถำนกำรณ์ที่ได้ฟัง
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5
บทท  1 - บทท__ 5

More Related Content

What's hot

ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
อำนาจ ศรีทิม
 
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
อำนาจ ศรีทิม
 
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
อำนาจ ศรีทิม
 

What's hot (12)

ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
ปกใช้ หน่วยที่ 4 การปฏิบัติงานไม้1
 
แผนที่ 1 the student analysis
แผนที่ 1 the student analysisแผนที่ 1 the student analysis
แผนที่ 1 the student analysis
 
5tablet jamrat
5tablet jamrat5tablet jamrat
5tablet jamrat
 
การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (SMEDU)
การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (SMEDU)การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (SMEDU)
การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (SMEDU)
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
เจ้าหญิงนกกระจาบ
เจ้าหญิงนกกระจาบเจ้าหญิงนกกระจาบ
เจ้าหญิงนกกระจาบ
 
บทคัดย่อ
บทคัดย่อบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
 
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
 
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
 
ภาษาไทยBbl ป3ภาค1
ภาษาไทยBbl ป3ภาค1 ภาษาไทยBbl ป3ภาค1
ภาษาไทยBbl ป3ภาค1
 
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
ปกใช้ หน่วยที่ 6ออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงาน1
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 

Similar to บทท 1 - บทท__ 5

คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
kroosomsri
 
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
Kruthai Kidsdee
 
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนาแผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
tassanee chaicharoen
 
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีดบทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
กนกศักดิ์ บัวทอง
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
Jutamart Bungthong
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
tassanee chaicharoen
 

Similar to บทท 1 - บทท__ 5 (20)

บทที่ 3
บทที่ 3 บทที่ 3
บทที่ 3
 
การวิจัยการอ่านแบบพาโนรามา
การวิจัยการอ่านแบบพาโนรามาการวิจัยการอ่านแบบพาโนรามา
การวิจัยการอ่านแบบพาโนรามา
 
ภารกิจเลือกรูปแบบการสอน
ภารกิจเลือกรูปแบบการสอนภารกิจเลือกรูปแบบการสอน
ภารกิจเลือกรูปแบบการสอน
 
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
โครงงานวิชาไอเอส เรื่องความพึงพอใจในการใช้ห้องน้ำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท...
 
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
คำนำโคลงโลกนิติ๓.๑
 
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
ภาษาอังกฤษ ม.ต้น
 
การออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
การออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐานการออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
การออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียน
 
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
1.รายงานปฏิบัติงาน255538หน้า
 
5บทที่1
5บทที่1 5บทที่1
5บทที่1
 
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนาแผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศพัฒนา
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๓
 
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Upอบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
อบรมครูแกนนำ จัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นภาษาอังกฤษ Up
 
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีดบทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
บทคัดย่อครูสุภาพร ชายอีด
 
แฟ้มสะสมผลงานนักเรียน
แฟ้มสะสมผลงานนักเรียน แฟ้มสะสมผลงานนักเรียน
แฟ้มสะสมผลงานนักเรียน
 
ครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วยครูผู้ช่วย
ครูผู้ช่วย
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
 

บทท 1 - บทท__ 5

  • 1. บทที่ 1 บทนำ ภูมิหลัง ในปัจจุบันนักเรียนทั่วโลกมีเหตุผลในกำรเรียนภำษำอังกฤษที่แตกต่ำงกันไป นักเรียนบำง กลุ่มจำเป็นต้องเรียนภำษำอังกฤษด้วยเหตุผลที่ว่ำ ภำษำอังกฤษถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรพื้นฐำนทั้งใน ระดับประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ส่วนนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่งก็ต้องกำรเรียนภำษำอังกฤษเพื่อ จุดประสงค์เฉพำะของตนเอง เพื่อว่ำภำษำอังกฤษจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขำในกำรติดต่อสื่อสำรกับ ผู้คนทั่วโลก ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ แต่อย่ำงไรก็ตำมนักเรียนในปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องเรียน ภำษำอังกฤษเชิงวิชำกำรเพื่อที่จะสำมำรถนำควำมรู้ทำงวิชำกำรมำใช้พัฒนำทักษะกำรฟัง พูด อ่ำน และเขียนผ่ำนสื่อกำรเรียนรู้เชิงวิชำกำร (Harmer. 2007 : 11) ได้มีนโยบำยพัฒนำโรงเรียนต่ำงๆ ให้เป็นโรงเรียนมำตรฐำนสำกล (World-Class Standard School) ซึ่งในปัจจุบันสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน หมำยถึง โรงเรียนที่จัดกำรเรียนกำรสอนมุ่งให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ (Learner Profile) เทียบเคียงมำตรฐำนสำกล (World - Class Standard) ผู้เรียน มีศักยภำพเป็นพลโลก (World citizen) พัฒนำยกระดับคุณภำพจัดกำรเรียนกำรสอนและกำรจัดกำร ด้วยระบบคุณภำพ เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตำมมำตรฐำนสำกล เป็นกำรต่อยอด คุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่เป็นมำตรฐำนชำติ กำรพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำของโรงเรียน มำตรฐำนสำกล (กระทรวงศึกษำธิกำร. 2553 : 2) โรงเรียนจะต้องใช้หลักกำรและแนวคิดหลักสูตร แกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ทุกประกำร คือ ให้ผู้เรียนได้เรียนกลุ่มสำระ พื้นฐำน 8 กลุ่มสำระ เรียนสำระเพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ดังเช่นที่ได้ถือปฏิบัติอยู่ โดย โรงเรียนควรพิจำรณำถึงควำมเหมำะสม สภำพควำมพร้อม และจุดเน้นของโรงเรียนในกำรจัดให้มีกำร เรียนกำรสอนสำระที่เป็นสำกล 4 สำระ ได้แก่ ทฤษฎีควำมรู้ (Theory of Knowledge : TOK) กำรเขียนควำมเรียงขั้นสูง (Extended - Essay) กิจกรรมสร้ำงสรรค์ประโยชน์ (CAS : Creativity, Action, Service) โลกศึกษำ (Global Education) และเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศที่ 2 อีกหนึ่งภำษำสำหรับมัธยมศึกษำตอนปลำย โรงเรียนสำมำรถพัฒนำหลักสูตรโดยนำสำระสำกลมำ จัดลงในหลักสูตรสถำนศึกษำทั้งในเชิงบูรณำกำร เป็นหน่วยกำรเรียนรู้ในสำระพื้นฐำนทั้ง 8 สำระ หรือจัดเป็นรำยวิชำเพิ่มเติม (กระทรวงศึกษำธิกำร. 2553 : 10) ในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องอำศัยกลวิธี ในกำรสอนที่ช่วยสนับสนุนให้กำรเรียนกำรสอนแบบ World Class โดยคณะผู้จัดทำเล็งเห็นว่ำ กำร เรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำสำมำรถสนับสนุนกำรเรียนกำรสอนแบบ World Class ให้มี ประสิทธิภำพได้ วิธีกำรสอนกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (CLIL) เป็นวิธีกำรสอนซึ่งผสมผสำนระหว่ำงกำร สอนเนื้อหำสำระจำกหลักสูตรกำรสอนกับกำรสอนกับเนื้อหำที่ไม่ใช่ภำษำที่สองเข้ำด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ ผู้เรียนได้พัฒนำทักษะในภำษำแรกเพื่อให้สำมำรถคิดและติดต่อสื่อสำรเกี่ยวกับด้ำนวิทยำศำสตร์ ศิลปศำสตร์ และเทคโนโลยีกับคนทั่วโลกได้ วิธีกำรสอนในลักษณะนี้เป็นกำรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ประสบกำรณ์กำรเรียนที่แตกต่ำงจำกเดิม เพรำะวิชำเรียนหลักที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรจะถูกสอนรวมกับ
  • 2. 2 ภำษำที่สอง กำรคิดและกำรเรียนรู้ทักษะต่ำงๆถูกรวมเข้ำด้วยกัน (Bentley 2010 : 5) กำรเรียนรู้ แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำมีควำมสำคัญต่อกระบวนกำรเรียนกำรสอนในปัจจุบัน กำรเรียนรู้แบบ บูรณำกำรภำษำและเนื้อหำช่วยให้ผู้เรียนมีควำมรู้ควำมสำมำรถในเนื้อหำวิชำ และในขณะเดียวกัน ผู้เรียนก็ได้เรียนรู้ภำษำที่สองไปพร้อมกับเนื้อหำวิชำนั้นๆ นอกจำกนั้นกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำ และเนื้อหำยังเป็นกำรเตรียมผู้เรียนให้มีควำมพร้อมในกำรเรียนต่อและประกอบอำชีพในอนำคตอีกด้วย ควำมสำมำรถในกำรคิดเกี่ยวกับควำมแตกต่ำงของกำรใช้ภำษำ ผู้สอนจำเป็นที่จะต้องสร้ำงวิธีกำรสอน เนื้อหำวิชำให้เหมำะสมกับผู้เรียนสมัยใหม่ จำกมุมมองดังกล่ำว กำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรภำษำและ เนื้อหำไม่ใช่เพียงสนับสนุนกำรพัฒนำควำมสำมำรถทำงภำษำเท่ำนั้น แต่ยังพัฒนำให้ผู้เรียนมี ควำมสำมำรถในด้ำนกำรคิดวิเครำะห์อีกด้วย (Coyle. 2010 : 10) กลวิธีกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร ภำษำและเนื้อหำเกี่ยวข้องกับกำรใช้ภำษำที่ไม่ใช่ภำษำแม่ของนักเรียน ผู้สอนจะสอนเนื้อหำวิชำตำม หลักสูตรพื้นฐำนโดยจะหำเนื้อหำวิชำที่เหมำะสมกับนักเรียน ดังนั้นกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำจึง เป็นเครื่องมือในกำรเรียนกำรสอนระหว่ำงภำษำและเนื้อหำวิชำ โดยทั้งภำษำและเนื้อหำวิชำจะถูก บูรณำกำรเข้ำด้วยกันโดยมีจุดประสงค์สองด้ำน คือ (1) กำรเรียนภำษำที่สองจะถูกรวมอยู่ใน เนื้อหำวิชำ เช่น คณิตศำสตร์ ประวัติศำสตร์ ภูมิศำสตร์ คอมพิวเตอร์ และวิทยำศำสตร์ เป็นต้น (2) เนื้อหำจำกวิชำต่ำงๆจะใช้ในกำรเรียน โดยผู้สอนภำษำที่สองจะต้องทำงำนร่วมกันกับผู้สอน เนื้อหำวิชำเพื่อให้กำรสอนเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ ดังนั้นผู้สอนจำเป็นที่จะต้องพัฒนำควำมสำมำรถ ทำงภำษำของผู้เรียนให้มีประสิทธิภำพทั้งทักษะกำรฟัง ทักษะกำรพูด ทักษะกำรอ่ำน และทักษะกำร เขียน พร้อมทั้งพัฒนำควำมรู้ควำมสำมำรถด้ำนเนื้อหำวิชำไปพร้อมๆกันด้วย (Mehisto. 2008 : 11) ดังนั้นกลุ่มผู้วิจัยจึงเล็งเห็นประโยชน์ของกำรใช้กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำเพื่อพัฒนำ ทักษะภำษำอังกฤษให้มีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้ผู้เรียนมีควำมต้องกำรที่จะพัฒนำทักษะ ภำษำอังกฤษและมีควำมกระตือรือร้นในกำรเรียนรู้ภำษำผ่ำนเนื้อหำวิชำอื่นๆ และส่งเสริมให้ผู้เรียนมี อิสรเสรีในกำรเลือกรับข้อมูลควำมรู้ และเข้ำใจควำมรู้เหล่ำนั้นอย่ำงถ่องแท้ผ่ำนกระบวนกำรประเมินค่ำ สังเครำะห์ และวิเครำะห์ข้อมูลที่ได้มำ ซึ่งผู้เรียนยังได้ใช้ภูมิควำมรู้เดิมเกี่ยวกับเนื้อหำวิชำนั้นๆ อีกทั้ง ยังก่อให้เกิดกระบวนกำรเรียนรู้ผ่ำนกำรปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนข้อมูลกำรทำงำนร่วมกับผู้เรียนคนอื่น และผู้เรียนยังสำมำรถนำกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนำทักษะควำมรู้อื่น ภำยนอกห้องเรียนได้ นอกจำกนี้ยังเป็นกำรเสริมสร้ำงทัศนคติที่ดีของผู้เรียนที่มีต่อวิชำภำษำอังกฤษได้ ด้วยเหตุนี้กลุ่มผู้วิจัยจึงมีควำมสนใจที่จะใช้วิธีกำรสอนแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำเพื่อเป็น เครื่องมือในกำรพัฒนำทักษะภำษำอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภำพมำก ยิ่งขึ้น
  • 3. 3 ควำมมุ่งหมำยของกำรทำวิจัย 1. เพื่อหำประสิทธิภำพกิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิชำภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้ แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ตำมเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อหำดัชนีประสิทธิผลกิจกรรมกำรจัดกำรเรียนรู้วิชำภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้ แบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 3. เพื่อเปรียบเทียบควำมสำมำรถทำงภำษำอังกฤษ โดยกำรจัดกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำร ภำษำและเนื้อหำ (Content and Language Integrated Learning - CLIL) ระหว่ำงก่อนเรียน และหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ควำมสำคัญของกำรทำวิจัย 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ได้รับกำรพัฒนำกำรเรียนภำษำอังกฤษในด้ำน ภำษำอังกฤษวิชำกำร 4 ทักษะหลังจำกกำรได้เรียนรู้บทเรียนภำษำอังกฤษโดยใช้กำรบูรณำกำรภำษำ และเนื้อหำวิชำ 2. กำรเรียนรู้ภำษำอังกฤษโดยใช้กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำนี้จะเป็นแนวทำงให้กับ ครูผู้สอนและผู้วิจัยในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนภำษำอังกฤษและวิชำอื่นได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ 3. เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของผู้สอนและผู้ที่มีบทบำททำงกำรศึกษำในกำร พัฒนำทักษะภำษำอังกฤษ โดยใช้กำรสอนแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำวิชำ และเป็นกำรส่งเสริม ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนแก่ผู้เรียน ขอบเขตกำรวิจัย กำรวิจัยครั้งนี้เป็นกำรวิจัยกึ่งทดลอง โดยมีขอบเขตกำรวิจัยดังนี้ 1. ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง 1.1 ประชำกรที่ใช้ในกำรวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 โรงเรียนโกสุมวิทยำ สรรค์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหำสำรคำม ที่กำลังศึกษำอยู่ในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2556 จำนวน 2 ห้อง มีนักเรียนทั้งหมด 80 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่ำงที่ใช้ในกำรวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4/6 โรงเรียนโกสุม วิทยำสรรค์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหำสำรคำม ที่กำลังศึกษำอยู่ในภำคเรียนที่ 2 ปีกำรศึกษำ 2556 จำนวน 40 คนโดยใช้วิธีกำรคัดเลือกแบบกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีกำรจับสลำก เพื่อจัดเป็นกลุ่มที่ 1 กลุ่มทดลอง จำนวน 1 ห้องเรียน และกลุ่ม ที่ 2 กลุ่มตัวอย่ำง จำนวน 1 ห้องเรียน
  • 4. 4 2. ตัวแปรที่ศึกษำ 2.1 ตัวแปรอิสระ คือ กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ 2.2 ตัวแปรตำม คือ ควำมสำมำรถทำงด้ำนทักษะภำษำอังกฤษ 3. สมมุติฐำน 3.1 ควำมสำมำรถด้ำนทักษะภำษำอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่ำก่อนเรียนหลังจำกเรียนรู้ กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ 4. ระยะเวลำที่ใช้ในกำรวิจัยทั้งสิ้น 1 ภำคเรียน คือ ปีกำรศึกษำ 2556 เป็นเวลำ 4 เดือน เริ่มจำกเดือนพฤศจิกำยน 2556 – กุมภำพันธ์ 2557 5. เนื้อหำที่ใช้ในกำรวิจัย เนื้อหำที่ใช้ในกำรศึกษำครั้งนี้โดยใช้เนื้อหำจำกแหล่งกำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 ช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีทั้งหมด 3 เรื่อง ดังนี้ 1. Unit : Science Topic : Acids and bases มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง 2. Unit : Science Topic : A chemical reaction มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง 3. Unit : Science and Technology Topic : The Planets มีจำนวน 1 แผนกำรสอน ใช้เวลำทั้งหมด 3 ชั่วโมง นิยำมศัพท์เฉพำะคำ 1. กำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ หมำยถึง กำรนำเนื้อหำวิชำต่ำงๆ ที่เป็นภำษำที่สอง เช่น คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ ประวัติศำสตร์ มำสอนในห้องเรียนซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทั้งกำรใช้ ภำษำที่สองและเนื้อหำวิชำไปพร้อมๆ กัน ในกำรวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยใช้ภำษำอังกฤษในกำรสอนวิชำ วิทยำศำสตร์ โดยกำรบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำมีขั้นตอนกำรสอนดังนี้ ขั้นที่ 1 กำรเลือกเนื้อหำ (selecting the theme) ในกำรคัดเลือกเนื้อหำที่จะสอน นั้น ผู้สอนจะต้องเลือกหัวเรื่อง (topic) ที่สอดคล้องกับสถำนกำรณ์จริงและหัวเรื่องย่อย (sub-topic) ที่สัมพันธ์กัน นอกจำกนี้ผู้สอนจะต้องคำนึงถึงควำมต้องกำรและควำมสนใจของผู้เรียน ผู้สอนสำมำรถ เลือกหัวเรื่องที่จะสอนจำกรำยวิชำต่ำงๆ ในหลักสูตร ขั้นที่ 2 กำรเลือกสื่อกำรสอนหรือบทเรียน (selecting material or text) กำรเลือก สื่อกำรสอนหรือบทเรียนนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพรำะผู้สอนจะต้องหำบทเรียนในกรอบเนื้อหำที่ คำดว่ำผู้เรียนสนใจ ทั้งจะต้องฝึกให้ผู้เรียนพัฒนำทักษะกำรคิดในระดับสูง กำรเลือกบทเรียนที่จะใช้ สอนอำจใช้แนวทำงดังต่อไปนี้ - เนื้อหำบทเรียนสภำพจริง - งำนหรือกิจกรรมสอดคล้องกับสถำนกำรณ์จริง - บทเรียนน่ำสนใจ - บทเรียนยำกง่ำยเหมำะกับระดับของผู้เรียน - เนื้อหำเข้ำใจได้
  • 5. 5 - บทเรียนหำได้ง่ำย - รูปแบบของบทเรียน - บทเรียนยืดหยุ่นได้ - แหล่งเนื้อหำ - ส่วนประกอบบทเรียน - สื่อกำรสอนเสริม ขั้นที่ 3 กำรสร้ำงแผนภูมิแสดงเครือข่ำย (web) หลังจำกเลือกเนื้อหำแล้วจึงกำหนดหัว เรื่อง (topic) และหัวเรื่องย่อย (sub - topic) เพื่อเจำะลึกเนื้อหำโดยให้มีควำมต่อเนื่องและสัมพันธ์ กัน ตลอดจนสอดคล้องกับวิชำอื่นในหลักสูตร ขั้นที่ 4 กำรเตรียมกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน (developing instructional task and activity) กำรเตรียมกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อหำ กล่ำวคือ ผู้สอนวิเครำะห์ เนื้อหำเพื่อที่จะประเมินว่ำผู้เรียนต้องมีควำมรู้เบื้องต้นอะไรบ้ำงก่อนที่จะอ่ำนบทเรียนหรือทำกิจกรรม หลังจำกนั้นจึงเตรียมกิจกรรมเนื้อหำเพื่อสอนศัพท์และโครงสร้ำงของภำษำ วิธีเรียบเรียงเนื้อควำม กลวิธีกำรเรียน ทักษะกำรเรียน และฝึกกำรสื่อควำมหมำยในรูปแบบปฏิสัมพันธ์ โดยจัดกิจกรรมเพื่อ พัฒนำทั้ง 4 ทักษะ คือ ทักษะกำรฟัง พูด อ่ำน และเขียน 2. ทักษะภำษำอังกฤษ หมำยถึง ภำษำอังกฤษวิชำกำรได้แก่ทักษะกำรฟังทักษะกำรอ่ำน ทักษะกำรพูดและทักษะกำรเขียน 2.1 ทักษะกำรฟัง ผู้เรียนฟังเนื้อหำวิชำที่เป็นภำษำอังกฤษ แล้วสนทนำแลกเปลี่ยน ควำมรู้จำกสิ่งที่ได้ฟังกับเพื่อน ซักถำมเกี่ยวกับข้อสงสัยแล้วทำกิจกรรม เช่น ฟังเนื้อหำแล้วเติม คำศัพท์ในช่องว่ำงได้ถูกต้อง และฟังเนื้อหำแล้วสำมำรถตอบคำถำมได้ถูกต้อง 2.2 ทักษะกำรอ่ำน ผู้เรียนอ่ำนเนื้อหำวิชำที่เป็นภำษำอังกฤษ สรุป อภิปรำย แลกเปลี่ยนควำมรู้กับเพื่อนในกลุ่ม ซักถำมผู้สอนเมื่อมีข้อสงสัย แล้วทำกิจกรรม เช่น อ่ำนเนื้อหำ แล้วตอบคำถำมได้ถูกต้อง และเขียนสรุปเป็นแผนผังควำมคิดจำกเนื้อเรื่องที่อ่ำนได้ 2.3 ทักษะกำรพูด ผู้สอนมีแบบฟอร์มคร่ำวๆ ให้ผู้เรียนมีแนวทำงในกำรพูด สร้ำงควำม มั่นใจในกำรพูดให้กับผู้เรียนโดยสอนกำรออกเสียงคำศัพท์ต่ำงๆ ให้ผู้เรียนฝึกพูดอย่ำงคล่องแคล่ว แล้ว ทำกิจกรรม เช่น พูดบรรยำยภำพที่กำหนดให้ได้ และพูดแสดงบทบำทสมมติจำกสถำนกำรณ์ที่ กำหนดให้ได้ 2.4. ทักษะกำรเขียน ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ควำมรู้พื้นฐำนของตนเองโดยกำรให้ ผู้เรียนทบทวนคำศัพท์และไวยำกรณ์ที่จะใช้เขียน แล้วทำกิจกรรม เช่น เขียนบรรยำยควำมเหมือน และควำมแตกต่ำงจำกเนื้อเรื่องโดยใช้คำศัพท์และไวยำกรณ์ได้ถูกต้อง และเขียนอธิบำยภำพโดยใช้ คำศัพท์และไวยำกรณ์ได้ถูกต้อง
  • 6. 6 บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในกำรวิจัยครั้งนี้ กลุ่มผู้วิจัยได้ค้นคว้ำเอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำเสนอ ตำมลำดับดังต่อไปนี้ 1. เอกสำรที่เกี่ยวข้อง 1.1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศในหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 และ 2544 1.2 กำรสอนภำษำอังกฤษ 1.3 กำรสอนภำษำแบบบูรณำกำรภำษำและเนื้อหำ 2. งำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 งำนวิจัยในประเทศ 2.2 งำนวิจัยในต่ำงประเทศ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนพุทธศักรำช 2551 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 228 - 243) ได้กำหนดกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ เป็นกลุ่มสำระกำรเรียนรู้พื้นฐำนหนึ่งใน 8 กลุ่มสำระตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้น พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ซึ่งสรุปสำระสำคัญดังนี้ 1. สำระสำคัญกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำต่ำงประเทศ สำระสำคัญกลุ่มสำระภำษำต่ำงประเทศ กำหนดได้ ดังนี้ 1.1 ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรฟัง-พูด-อ่ำน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและแสดงควำมคิดเห็น ตีควำม นำเสนอข้อมูล ควำมคิด รวบยอดและควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ และสร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลอย่ำงเหมำะสม 1.2 ภำษำและวัฒนธรรม กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ ตำมวัฒนธรรมของเจ้ำของ ภำษำ ควำมสัมพันธ์ ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ ภำษำและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับวัฒนธรรมไทย และนำไปใช้อย่ำงเหมำะสม 1.3 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ ในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น เป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้ และเปิด โลกทัศน์ของตน 1.4 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับชุมชนและโลก กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศใน สถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐำน ใน กำรศึกษำต่อ ประกอบอำชีพ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 2. สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้น มัธยมศึกษำปีที่ 4 แบ่งได้ดังนี้
  • 7. 7 สำระที่ 1 ภำษำเพื่อกำรสื่อสำร มำตรฐำน ต 1.1 เข้ำใจและตีควำมเรื่องที่ฟังและอ่ำนจำกสื่อประเภท ต่ำงๆ และแสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล มำตรฐำน ต 1.2 มีทักษะกำรสื่อสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็นอย่ำงมีประสิทธิภำพ มำตรฐำน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่ำวสำร ควำมคิดรวบยอด และควำม คิดเห็น ในเรื่องต่ำงๆ โดยกำรพูดและกำรเขียน สำระที่ 2 ภำษำและวัฒนธรรม มำตรฐำน ต 2.1 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรมของ เจ้ำของภำษำ และนำไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสมกับกำลเทศะ มำตรฐำน ต 2.2 เข้ำใจควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงภำษำและ วัฒนธรรมของ เจ้ำของภำษำกับภำษำและวัฒนธรรมไทย และนำมำใช้อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม สำระที่ 3 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับกลุ่มสำระ กำรเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน สำระที่ 4 ภำษำกับควำมสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มำตรฐำน ต 4.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้งใน สถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม มำตรฐำน ต 4.2 ใช้ภำษำต่ำงประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐำนในกำรศึกษำ ต่อ กำรประกอบอำชีพ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก 3. คุณภำพผู้เรียน คุณภำพผู้เรียนกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ จบชันมัธยมศึกษำปีที่ 6 มี ้ ดังนี้ 3.1 ปฏิบัติตำมคำแนะนำในคู่มือกำรใช้งำนต่ำงๆ คำชี้แจง คำอธิบำย และคำ บรรยำยที่ฟังและอ่ำน อ่ำนออกเสียงข้อควำม ข่ำว ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง และบทละครสั้น ถูกต้องตำมหลักกำรอ่ำน อธิบำยและเขียนประโยคและข้อควำมสัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียงรูปแบบ ต่ำงๆ ที่อ่ำน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียงรูปแบบต่ำงๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อควำมที่ ฟังหรืออ่ำนจับใจควำมสำคัญ วิเครำะห์ควำม สรุปควำม ตีควำม และแสดงควำมคิดเห็นจำกกำรฟัง และอ่ำนเรื่องที่เป็นสำรคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ 3.2 สนทนำและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่ำงๆ ใกล้ตัว ประสบกำรณ์ สถำนกำรณ์ข่ำว/เหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ในควำมสนใจและสื่อสำรอย่ำงต่อเนื่องและ เหมำะสม เลือกและใช้คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบำย และให้คำแนะนำ พูดและเขียนแสดงควำม ต้องกำร เสนอและให้ควำมช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ควำมช่วยเหลือในสถำนกำรณ์จำลอง หรือสถำนกำรณ์จริงอย่ำงเหมำะสม พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยำย อธิบำย เปรียบเทียบ และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ที่ฟังและอ่ำนอย่ำงเหมำะสม พูดและ เขียนบรรยำยควำมรู้สึกและแสดงควำมคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่ำงๆ กิจกรรม ประสบกำรณ์ และข่ำว/เหตุกำรณ์อย่ำงมีเหตุผล
  • 8. 8 3.3 พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบกำรณ์ ข่ำว/เหตุกำรณ์ เรื่องและประเด็นต่ำงๆ ตำมควำมสนใจ พูดและเขียนสรุปใจควำมสำคัญ แก่นสำระที่ได้จำกกำร วิเครำะห์เรื่อง กิจกรรม ข่ำว เหตุกำรณ์ และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ พูดและเขียนแสดงควำม คิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์ และเหตุกำรณ์ทั้งในท้องถิ่น สังคม และโลก พร้อมทั้งให้ เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ 3.4 เลือกใช้ภำษำน้ำเสียงและกิริยำท่ำทำงเหมำะกับระดับของบุคคล เวลำ โอกำสและสถำนที่ตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ อธิบำย/อภิปรำยวิถีชีวิต ควำมคิด ควำมเชื่อ และที่มำของขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้ำของภำษำ เข้ำร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรมอย่ำงเหมำะสม 3.5 อธิบำย/เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงโครงสร้ำงประโยค ข้อควำม สำนวนคำพังเพย สุภำษิตและบทกลอนของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทยวิเครำะห์/อภิปรำยควำม เหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงวิถีชีวิตควำมเชื่อ และวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับของไทยและ นำไปใช้อย่ำงมีเหตุผล 3.6 ค้นคว้ำ/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น จำกแหล่งเรียนรู้ต่ำงๆ และนำเสนอด้วยกำรพูดและกำรเขียน 3.7 ใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/สถำนกำรณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม 3.8 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/ค้นคว้ำ รวบรวม วิเครำะห์ และสรุป ควำมรู้/ข้อมูลต่ำงๆ จำกสื่อและแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ในกำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ เผยแพร่/ ประชำสัมพันธ์ข้อมูล ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชำติ เป็นภำษำต่ำงประเทศ 4. ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้น มัธยมศึกษำปีที่ 4 ดังตำรำง 1-8 ตำรำง 1 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.1 เข้ำใจและตีควำมเรื่องที่ฟังและอ่ำนจำกสื่อ ประเภท ต่ำงๆ และแสดงควำมคิดเห็นอย่ำงมีเหตุผล ตัวชี้วัด 1. ปฏิบัติตำมคำแนะนำในกำรใช้คู่มือ กำรใช้งำนต่ำงๆ คำชี้แจง คำอธิบำย และคำบรรยำยที่ฟังและ อ่ำน สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบำย คำบรรยำย เช่น ประกำศ เตือนภัยต่ำงๆ ยำและกำรใช้ยำ กำรใช้อุปกรณ์และสิ่งของ กำรสืบค้นข้อมูลทำงอินเตอร์เน็ต - Modal verb : should/ought to/need/have to/ must + verb ที่เป็น infinitive without to เช่น You should have it after meal. (Active Voice)/The does must be divided. (Passive Voice) - Direct/Indirect Speech
  • 9. 9 ตำรำง 1 (ต่อ) ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง - คำสันธำน (conjunction) and/but/or/so/not only…but also/both…and/as well as/ after/because etc. - ตัวเชื่อม (connective words) เช่น First,...Second,...Third,...Fourth,…Next,… Then,…Finally,…ect. 2. อ่ำนออกเสียง ข้อควำม ข่ำว ข้อควำม ข่ำว ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง และบท ประกำศ โฆษณำ บทร้อยกรอง ละครสั้นกำรใช้พจนำนุกรมหลักกำรอ่ำนออกเสียง เช่น และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ำยคำ ตำมหลักกำรอ่ำน สระเสียงสั้น สระเสียงยำว สระประสม - กำรออกเสียงเน้นหนักเบำในคำและกลุ่มคำ - กำรออกเสียงตำมระดับเสียงสูง-ต่ำในประโยค - กำรออกเสียงเชื่อมโยงในข้อควำม - กำรแบ่งวรรคตอนในกำรอ่ำน - กำรอ่ำนบทร้อยกรองตำมจังหวะ 3. อธิบำยและเขียนประโยคและ ประโยคและข้อควำม กำรตีควำม/ถ่ำยโยนข้อมูลให้สัมพันธ์กับ ข้อควำมให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ สื่อที่ไม่ใช่ควำมเรียง เช่น ภำพ แผนผัง กรำฟ แผนภูมิ ควำมเรียงรูปแบบต่ำงๆ ที่อ่ำน ตำรำง อักษรย่อ จำกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น ด้วยกำรพูด รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ และกำรเขียนอธิบำย โดยใช้ Comparison of ควำมเรียงต่ำงๆ ให้สัมพันธ์กับ adjective/adverb/ ประโยค และข้อควำมที่ฟัง Contrast : but, although, however, in spite หรืออ่ำน of…/Logical connectives เช่น caused by/ followed by/consist of etc. 4. จับใจควำมสำคัญ วิเครำะห์ควำม เรื่องที่เป็นสำรคดีและบันเทิงคดี กำรจับใจควำมสำคัญกำรสรุป สรุปควำม ตีควำม และแสดง ควำม กำรวิเครำะห์ควำมกำรตีควำม กำรใช้ skimming/ ควำมคิดเห็น จำกกำรฟังและ scanning/guessing/context clue อ่ำนเรื่องที่เป็นสำรคดี และ ประโยคที่ใช้ในกำรแสดงควำมคิดเห็นกำรให้เหตุผลและกำร บันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผล ยกตัวอย่ำงเช่น I believe…/ I agree with…but…/Well, และยกตัวอย่ำงประกอบ I must say…/What do you think of/about…?/ I think/don’t think…?/What’s your opinion about…?/In my opinion…/ - if clauses - so…that/such…that
  • 10. 10 ตำรำง 1 (ต่อ) ตัวชี้วัด - สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง too to…/enough to… on the other hand,… other (s)/another/the other (s) คำสันธำน (conjunctions) because/and/so/but/ however/because of/due to/owing to etc. Infinitive pronouns : some, any, someone, anyone, everyone, one, ones, etc. Tenses : present simple/present continuous/ Present perfect/past simple/future tense, etc. Simple sentence/Compound sentence/Complex sentence ตำรำง 2 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.2 มีทักษะกำรสื่อสำรทำงภำษำในกำรแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่ำวสำร แสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็นอย่ำงมีประสิทธิภำพ ตัวชี้วัด 1. สนทนำและเขียนโต้ตอบข้อมูล เกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่ำงๆ ใกล้ ตัว ประสบกำรณ์ สถำนกำรณ์ ข่ำว/เหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ใน ควำมสนใจ ของสังคม และสื่อสำร อย่ำงต่อเนื่องและเหมำะสม สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง ภำษำที่ใช้ในกำรสื่อสำรระหว่ำงบุคคล เช่น กำรทักทำย กล่ำวลำ ขอบคุณ ขอโทษชมเชย กำรพูดแทรกอย่ำงสุภำพ กำรชักชวน กำรแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ ตัว สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ในชีวิตประจำวัน กำรสนทนำ/เขียน ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและบุคคลใกล้ตัวประสบกำรณ์ สถำนกำรณ์ต่ำงๆ ข่ำวเหตุกำรณ์ ประเด็นที่อยู่ในควำม สนใจของสังคม 2. เลือกและใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบำย ที่มีขั้นตอน คำชี้แจง คำอธิบำยอย่ำง ซับซ้อน คล่องแคล่ว 3. พูดและเขียนแสดงควำมต้องกำร ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงควำมต้องกำร เสนอ และให้ควำม เสนอ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธกำรให้ควำมช่วยเหลือใน ควำมช่วยเหลือ ในสถำนกำรณ์ สถำนกำรณ์ต่ำงๆ เช่น จำลอง หรือสถำนกำรณ์จริงอย่ำง Please…/…, please./I’d like…/I need…/ เหมำะสม May/Can/Could…?/Would you please…? Yes,../ Please do./Certainly/Yes, of course/Sure/
  • 11. 11 ตำรำง 2 (ต่อ) ตัวชี้วัด 4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยำย อธิบำยเปรียบเทียบ และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่อง/ประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ที่ฟัง และอ่ำนอย่ำงเหมำะสม 5. พูดและเขียนบรรยำยควำมรู้สึก และแสดงควำมคิดเห็นของตนเอง เกี่ยวกับเรื่องต่ำงๆ กิจกรรม ประสบกำรณ์ และข่ำว/เหตุกำรณ์ อย่ำงมีเหตุผล สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง Need some help?/What can I do to help?/Would you like me to help you?/If you need anything, please…/Is there anything I can do?/I’ll do it for you./I’m afraid…/I’m sorry, but…/Sorry, but…etc. คำศัพท์ สำนวน ประโยคและข้อควำมที่ใช้ในกำรขอและให้ ข้อมูล บรรยำย อธิบำย เปรียบเทียบและแสดงควำม คิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น/ข่ำว/เหตุกำรณ์ ที่ฟังและอ่ำน ภำษำที่ใช้ในกำรแสดงควำมรู้สึก ควำมคิดเห็น และให้ เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี ควำมสุข เศร้ำ หิว รสชำติ สวย น่ำเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี จำกข่ำว เหตุกำรณ์ สถำนกำรณ์ ในชีวิตประจำวัน เช่น Nice./Very nice./Well done! /Congratulations on… I like…because…/I love…because…/ I feel…because…/I think…/I believe…/ I agree/disagree…/I’m afraid/I don’t like…/ I don’t believe…/I have no idea…/Oh no! etc. ตำรำง 3 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่ำวสำรควำมคิดรวบยอด และ ควำมคิดเห็นในเรื่องต่ำงๆ โดยกำรพูดและกำรเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ตนเอง/ประสบกำรณ์ข่ำว/ เหตุกำรณ์ เรื่อง และประเด็น ต่ำงๆ ตำมควำมสนใจของสังคม สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง กำรนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบกำรณ์ข่ำว/ เหตุกำรณ์ เรื่องและประเด็นที่อยู่ในควำมสนใจของสังคม เช่น กำรเดินทำง กำรรับประทำนอำหำร กำรเล่นกีฬำ/ ดนตรี กำรดูภำพยนตร์ กำรฟังเพลง กำรเลี้ยงสัตว์กำรอ่ำน หนังสือ กำรท่องเที่ยว กำรศึกษำ สภำพสังคม เศรษฐกิจ
  • 12. 12 ตำรำง 3 (ต่อ) ตัวชี้วัด 2. พูดและเขียนสรุปใจควำมสำคัญ/ แก่นสำระที่ได้จำกกำรวิเครำะห์ เรื่อง กิจกรรม ข่ำว เหตุกำรณ์ และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ 3. พูดและเขียนแสดงควำมคิดเห็น เกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์ และเหตุกำรณ์ ทั้งในท้องถิ่น สังคม และโลก พร้อมทั้งให้ เหตุผลและยกตัวอย่ำงประกอบ สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง กำรจับใจควำมสำคัญ/แก่นสำระ กำรวิเครำะห์เรื่อง กิจกรรม ข่ำวเหตุกำรณ์ และสถำนกำรณ์ตำมควำมสนใจ กำรแสดงควำมคิดเห็นกำรให้เหตุผลประกอบ และ ยกตัวอย่ำงเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบกำรณ์ และเหตุกำรณ์ ในท้องถิ่น สังคม และโลก ตำรำง 4 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 2.1 เข้ำใจควำมสัมพันธ์ระหว่ำงภำษำกับวัฒนธรรม ของเจ้ำของภำษำ และนำไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสมกับกำลเทศะ ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภำษำ น้ำเสียง และกิริยำ ท่ำทำงเหมำะกับระดับของบุคคล โอกำส และสถำนที่ ตำมมำรยำท สังคมและ วัฒนธรรมของเจ้ำของ ภำษำ สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง กำรเลือกใช้ภำษำ น้ำเสียง และกิริยำท่ำทำงในกำรสนทนำ ระดับของภำษำ มำรยำทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้ำของ ภำษำ เช่น กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรชมเชย กำรใช้สี หน้ำท่ำทำง ประกอบ กำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำร สัมผัสมือ กำรโบกมือ กำรแสดงควำม รู้สึกชอบ/ไม่ชอบ กำรกล่ำวอวยพร กำรแสดงอำกำรตอบรับหรือปฏิเสธ 2. อธิบำย/อภิปรำยวิถีชีวิต ควำมคิด วิถีชีวิต ควำมคิด ควำมเชื่อ และที่มำของขนบธรรมเนียม ควำมเชื่อ และที่มำของ และประเพณีของเจ้ำของภำษำ ขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้ำของภำษำ 3. เข้ำร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรม กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำรเล่นเกม กำรร้อง ทำงภำษำและวัฒนธรรมอย่ำง เพลง กำรเล่ำนิทำน/เรื่องจำกภำพยนตร์ บทบำทสมมุติ เหมำะสม ละครสั้น วันขอบคุณพระเจ้ำ วันคริสต์มำส วันขึ้นปีใหม่วัน วำเลนไทน์
  • 13. 13 ตำรำง 5 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 2.2 เข้ำใจควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง ระหว่ำง ภำษำและวัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำกับภำษำและวัฒนธรรมไทย และนำมำใช้ อย่ำง ถูกต้องและเหมำะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบำย/เปรียบเทียบควำมแตกต่ำง ระหว่ำงโครงสร้ำงประโยค ข้อควำม สำนวนคำพังเพย สุภำษิตและบทกลอนของ ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย 2. วิเครำะห์/อภิปรำยควำมเหมือน และควำมแตกต่ำงระหว่ำงวิถีชีวิต ควำมเชื่อ และวัฒนธรรมของ เจ้ำของภำษำกับของไทย และ นำไปใช้อย่ำงมีเหตุผล สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง กำรอธิบำย/กำรเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงระหว่ำงโครงสร้ำง ประโยค ข้อควำม สำนวน คำพังเพย สุภำษิต และบท กลอนของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย กำรวิเครำะห์/กำรอภิปรำยควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง ระหว่ำงวิถีชีวิต ควำมเชื่อและวัฒนธรรม ของเจ้ำของภำษำ กับของไทยกำรนำวัฒนธรรม ของเจ้ำของภำษำไปใช้ ตำรำง 6 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 3.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรเชื่อมโยงควำมรู้กับ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐำนในกำรพัฒนำ แสวงหำควำมรู้และเปิดโลกทัศน์ ของตน ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง 1. ค้นคว้ำ/สืบค้น บันทึก สรุป และ กำรค้นคว้ำ/กำรสืบค้น กำรบันทึกกำรสรุป กำรแสดงควำม แสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ คิดเห็น และนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำร เกี่ยวข้องกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ เรียนรู้อื่นจำกแหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ อื่น จำกแหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ และ นำเสนอด้วยกำรพูด และกำรเขียน
  • 14. 14 ตำรำง 7 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 4.1 ใช้ภำษำต่ำงประเทศในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ทั้ง ในสถำนศึกษำ ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง 1. ใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/ กำรใช้ภำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์จริง/สถำนกำรณ์จำลอง สถำนกำรณ์จำลองที่เกิดขึ้นใน เสมือนจริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถำนศึกษำ ชุมชน และ ห้องเรียนสถำนศึกษำ ชุมชน และ สังคม สังคม ตำรำง 8 ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำ ปีที่ 4 ที่สอดคล้องกับ มำตรฐำน ต 4.2 ใช้ภำษำต่ำงประเทศเป็นเครื่องมือ พื้นฐำนใน กำรศึกษำต่อ กำรประกอบอำชีพ และกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 1. ใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/ ค้นคว้ำ รวบรวม วิเครำะห์ และ สรุปควำมรู/ข้อมูลต่ำงๆ จำกสื่อ ้ และแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ใน กำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ 2. เผยแพร่/ประชำสัมพันธ์ข้อมูล ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และ ท้องถิ่น/ประเทศชำติ เป็น ภำษำต่ำงประเทศ สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรสืบค้น/กำรค้นคว้ำควำมรู้/ ข้อมูลต่ำง ๆ จำกสื่อและแหล่งกำรเรียนรู้ต่ำงๆ ใน กำรศึกษำต่อและประกอบอำชีพ กำรใช้ภำษำอังกฤษในกำรเผยแพร่/ประชำสัมพันธ์ข้อมูล ข่ำวสำรของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชำติ เช่น กำรทำหนังสือเล่มเล็กแนะนำโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น/ ประเทศชำติ กำรทำแผ่นปลิว ป้ำยคำขวัญ คำเชิญชวน แนะนำโรงเรียน สถำนที่สำคัญในชุมชนและท้องถิ่น/ ประเทศชำติ กำรนำเสนอข้อมูลข่ำวสำรในโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น/ประเทศชำติเป็นภำษำอังกฤษ 5. โครงสร้ำงหลักสูตร กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 23-24) กำหนดกรอบโครงสร้ำงเวลำเรียนกลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 เรียนปีละ 240 ชั่วโมง กำรกำหนดโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำน และเพิ่มเติมดังนี้ ระดับประถมศึกษำ สำมำรถปรับเวลำเรียนพื้นฐำนของแต่ละกลุ่มสำระ กำร เรียนรู้ ได้ตำมควำมเหมำะสม ทั้งนี้ต้องมีเวลำเรียนรวมตำมที่กำหนดไว้ในโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำน และผู้เรียนต้องมีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนด
  • 15. 15 ระดับมัธยมศึกษำ ต้องจัดโครงสร้ำงเวลำเรียนพื้นฐำนให้เป็นไปตำมที่กำหนด และสอดคล้องกับเกณฑ์กำรจบหลักสูตร สำหรับเวลำเรียนเพิ่มเติม ทั้งในระดับประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ ให้จัดเป็น รำยวิชำเพิ่มเติม หรือกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนที่กำหนดไว้ในชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4-6 จำนวน 360 ชั่วโมง นั้น เป็นเวลำสำหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนวกิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ สำธำรณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ให้สถำนศึกษำจัดสรรเวลำให้ผู้เรียน ได้ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ ระดับประถมศึกษำ (ป. 1-6) รวม 6 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (ม. 1-3) รวม 3 ปี จำนวน 54 ชั่วโมง ระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย (ม. 4-6) รวม 3 ปี จำนวน 60 ชั่วโมง 6. คำอธิบำยรำยวิชำ กระทรวงศึกษำธิกำร (2544 : 200) กำหนดคำอธิบำยรำยวิชำ กลุ่มสำระกำร เรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีดังนี้ เข้ำใจ น้ำเสียง ควำมรู้สึกของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ควำมแตกต่ำง ด้ำนภำษำ วัฒนธรรม ประเพณี อ่ำนออกเสียงบทควำมได้ถูกต้องตำมหลักกำรอ่ำนออกเสียงและ เหมำะสมกับเนื้อหำที่อ่ำน ตีควำม วิเครำะห์ ข้อควำม ข้อมูล ข่ำวสำร บทควำม สำรคดี บันเทิง คดี สื่อที่เป็นควำมเรียงและไม่ใช่ควำมเรียงในแบบต่ำงๆ จำกสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในหัวข้อ ต่ำงๆ เกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อม ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล เวลำว่ำงและ สวัสดิกำร กำรศึกษำและอำชีพ กำรซื้อขำย ลมฟ้ำอำกำศ กำรบริกำร สถำนที่ วิทยำศำสตร์และ เทคโนโลยี ใช้ภำษำตำมมำรยำททำงสังคม สร้ำงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล แสดงควำมคิดเห็น ควำมต้องกำร อธิบำย บรรยำย แลกเปลี่ยนควำมรู้ และให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องรำวต่ำงๆ เหตุกำรณ์ ในอดีต ปัจจุบันและอนำคต โดยใช้ประโยชน์จำกสื่อ เทคโนโลยี สื่อกำรเรียนทำงภำษำ และผลจำก กำรฝึกทักษะต่ำงๆ แสวงหำวิธีกำรเรียนที่เหมำะสมกับตนเอง สำมำรถนำเสนอข้อมูล ควำมคิดรวบ ยอดและควำมคิดเห็น เจรจำโน้มน้ำว ต่อรองเกี่ยวกับประสบกำรณ์และเหตุกำรณ์ต่ำงๆ ในท้องถิ่น ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำยอย่ำงสร้ำงสรรค์และมีประสิทธิภำพ นำเสนอบทกวีหรือบทละครสั้น โดยใช้ เค้ำโครงตำมแนวคิดของเจ้ำของภำษำด้วยควำมเพลิดเพลิน เข้ำร่วมกิจกรรม เปรียบเทียบ และนำ ควำมรู้ด้ำนภำษำ วัฒนธรรม ประเพณี ควำมเชื่อไปใช้อย่ำงมีวิจำรณญำณ เห็นประโยชน์ของกำรรู้ ภำษำอังกฤษในกำรแสวงหำควำมรู้เพื่อขยำยโลกทัศน์ จำกแหล่งข้อมูลที่หลำกหลำย กำรเข้ำสู่สังคม และอำชีพ สำมำรถใช้ภำษำสื่อสำรในรูปแบบต่ำงๆ ตำมสถำนกำรณ์ในสถำนศึกษำและชุมชน 7. หน่วยกำรเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 กระทรวงศึกษำธิกำร (2544 : 200) กำหนดหน่วยกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 ภำคเรียนที่ 2 ดังนี้ Unit 1 : Myself - Sports - Hobbies - Indoor/Outdoor Game
  • 16. 16 Unit Unit Unit Unit Unit Unit - 2 : Community Role in Community 3 : Personal Relationship Personal Traits Social Life 4 : Environment How to Preserve Environment 5 : Occupation Like and Dislike Hope Future Career 6 : Health Measure and Weight Hoe to Keep Fit 7 : Travel Places : Attractive Places Entertainment Brochure Shopping : Souvenir Market Accommodation : Service, Food and Drink, Hotel, Home Stay Unit 8 : Science and Technology - Impacts 8. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ กระทรวงศึกษำธิกำร (2551 : 28) กำหนดกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ กลุ่ม สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4 มีดังนี้ วัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักกำรพื้นฐำนสองประกำรคือ กำรประเมินเพื่อพัฒนำผู้เรียน และเพื่อตัดสินผลกำรเรียนในกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ของผู้เรียนให้ ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับกำรพัฒนำและประเมินตำมตัวชี้วัด เพื่อให้บรรลุตำมมำตรฐำน กำรเรียนรู้สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้ำหมำยหลักใน กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ว่ำจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถำนศึกษำระดับเขต พื้นที่กำรศึกษำ และระดับชำติ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้เป็นกระบวนกำรพัฒนำคุณภำพ ผู้เรียนโดยใช้ผลกำรประเมินเป็นข้อมูลและสำรสนเทศที่แสดงพัฒนำกำร ควำมก้ำวหน้ำ และ ควำมสำเร็จทำงกำรเรียนของผู้เรียนตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกำรส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกำร พัฒนำและเรียนรู้อย่ำงเต็มตำมศักยภำพ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถำนศึกษำ ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำและระดับชำติมีรำยละเอียด ดังนี้
  • 17. 17 1. กำรประเมินระดับชั้นเรียนเป็นกำรวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนกำร จัดกำรเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินกำรเป็นปกติและสม่ำเสมอในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ใช้เทคนิคกำร ประเมินอย่ำงหลำกหลำย เช่น กำรซักถำมกำรสังเกต กำรตรวจกำรบ้ำน กำรประเมินโครงงำนกำร ประเมินชิ้นงำน/ภำระงำนแฟ้มสะสมงำนกำรใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิด โอกำสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมินในกรณีที่ไม่ผ่ำนตัวชี้วัด ให้ มีกำรสอนซ่อมเสริม กำรประเมินระดับชั้นเรียนเป็นกำรตรวจสอบว่ำ ผู้เรียนมีพัฒนำกำรควำมก้ำวหน้ำ ในกำรเรียนรู้อันเป็นผลมำจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหรือไม่ และมำกน้อยเพียงใดมีสิ่งที่ จะต้องได้รับกำรพัฒนำปรับปรุงและส่งเสริมในด้ำนใด นอกจำกนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุง กำรเรียนกำรสอนของตนด้วย โดยสอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัด 2. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำเป็นกำรประเมินที่สถำนศึกษำดำเนินกำร เพื่อตัดสินผลกำรเรียนของผู้เรียนเป็นรำยปี/รำยภำคผลกำรประเมินกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน นอกจำกนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับกำรจัด กำรศึกษำของสถำนศึกษำ ว่ำส่งผลต่อกำรเรียนรู้ของผู้เรียนตำมเป้ำหมำยหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนำใน ด้ำนใด รวมทั้งสำมำรถนำผลกำรเรียนของผู้เรียนในสถำนศึกษำเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชำติ ผล กำรประเมินระดับสถำนศึกษำจะเป็นข้อมูลและสำรสนเทศเพื่อกำรปรับปรุงนโยบำย หลักสูตรโครงกำร หรือวิธีกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตลอดจนเพื่อกำรจัดทำแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ตำมแนวทำงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ และกำรรำยงำนผลกำรจัดกำรศึกษำต่อคณะกรรมกำร สถำนศึกษำสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ผู้ปกครองและ ชุมชน 3. กำรประเมินระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำเป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนใน ระดับเขตพื้นที่กำรศึกษำตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อใช้ เป็นข้อมูลพื้นฐำนในกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของเขตพื้นที่กำรศึกษำ ตำมภำระควำมรับผิดชอบ สำมำรถดำเนินกำรโดยประเมินคุณภำพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมำตรฐำนที่จัดทำและ ดำเนินกำรโดยเขตพื้นที่กำรศึกษำหรือด้วยควำมร่วมมือกับหน่วยงำนต้นสังกัดในกำรดำเนินกำรจัดสอบ นอกจำกนี้ยังได้จำกกำรตรวจสอบทบทวนข้อมูลจำกกำรประเมินระดับสถำนศึกษำในเขตพื้นที่กำรศึกษำ 4. กำรประเมินระดับชำติ เป็นกำรประเมินคุณภำพผู้เรียนในระดับชำติตำม มำตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน สถำนศึกษำต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่ เรียนในชั้นประถมศึกษำปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 เข้ำรับกำรประเมินผลจำกกำรประเมินใช้เป็นข้อมูลในกำรเทียบเคียงคุณภำพกำรศึกษำในระดับต่ำงๆ เพื่อนำไปใช้ในกำรวำงแผนยกระดับคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนกำร ตัดสินใจในระดับนโยบำยของประเทศ ข้อมูลกำรประเมินในระดับต่ำงๆข้ำงต้นเป็นประโยชน์ต่อ สถำนศึกษำในกำรตรวจสอบทบทวนพัฒนำคุณภำพผู้เรียน ถือเป็นภำระควำมรับผิดชอบของ สถำนศึกษำที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไขส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนำ เต็มตำมศักยภำพบนพื้นฐำนควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลที่จำแนกตำมสภำพปัญหำ และควำมต้องกำร ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีควำมสำมำรถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหำด้ำนวินัย และพฤติกรรมกลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนทีมีปัญหำทำง ่ เศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิกำรทำงร่ำงกำยและสติปัญญำ เป็นต้น ข้อมูลจำกกำรประเมินจึงเป็นหัวใจ
  • 18. 18 ของสถำนศึกษำในกำรดำเนินกำรช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงทีเป็นโอกำสให้ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำและ ประสบควำมสำเร็จในกำรเรียนสถำนศึกษำในฐำนะผู้รับผิดชอบจัดกำรศึกษำจะต้องจัดทำระเบียบว่ำ ด้วยกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนของสถำนศึกษำให้สอดคล้องและเป็นไปตำมหลักเกณฑ์และแนว ปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเพื่อให้บุคลำกรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ำยถือ ปฏิบัติร่วมกัน กำรสอนภำษำอังกฤษ 1. กำรสอนทักษะกำรฟัง 1.1 ควำมหมำยของกำรฟัง จูตำ (Juta 2007 : Website ) ได้กล่ำวถึงควำมหมำยของกำรฟังไว้ว่ำ กำรฟัง เป็นกระบวนกำรที่ซับซ้อนกว่ำกำรได้ยิน กำรฟังเป็นกระบวนกำรที่ประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบ คือ ประสำทสัมผัสและกำรตั้งใจ ควำมเข้ำใจและกำรแปลควำมหมำย กำรจำ และกำรตอบสนอง ซึ่งองค์ประกอบของกำรฟังดังที่ได้กล่ำวมำจะเกิดขึ้นในลำดับเหตุกำรณ์ในกำรฟังโดยที่เรำไม่รู้ตัวก่อน เพอร์ดี และโบริซอฟ (Purdy and Borisoff. 1997 : 8) ได้ให้ควำมหมำยของ กำรฟังว่ำ เป็นกระบวนกำรที่มีกำรทำงำนอยู่ตลอดเวลำ ซึ่งจะแฝงอยู่ในกำรมีส่วนร่วม ประสำทสัมผัส กำรแปลควำมหมำย กำรจำ กำรตอบสนอง ที่ถูกแสดงออกเมื่อมีควำมต้องกำร ควำมเอำใจใส่ และ ข้อมูลต่ำงๆ ที่ถูกเสนอของมนุษย์ 1.2 ควำมสำคัญของกำรฟัง ฮำร์มเมอร์ (Harmer. 2007 : 133) ได้กล่ำวถึงควำมสำคัญของกำรฟังไว้ว่ำ กำร ฟังเป็นสิ่งที่ดสำหรับกำรอ่ำนออกเสียงของผู้เรียน เพรำะยิ่งผู้เรียนได้ยินก็ยิ่งเข้ำใจภำษำอังกฤษที่ผู้อื่น ี พูด และผู้เรียนก็จะยิ่งซึมซับระดับเสียง กำรใช้น้ำเสียงที่เหมำะสม กำรเน้นคำ เสียงของคำศัพท์ต่ำงๆ ซึ่งผสมเข้ำกับกำรพูดที่สัมพันธ์ เนื้อหำในกำรฟังเป็นต้นแบบที่ดีของกำรอ่ำนออกเสียง พูดอีกประกำร หนึ่งคือผู้เรียนฟังมำกเท่ำใดก็จะพัฒนำตัวเองมำกเท่ำนั้น ไม่เพียงแต่เข้ำใจในด้ำนภำษำแต่ในด้ำนกำร พูดของผู้เรียนก็จะดีขึ้นด้วย กีรลักจำร์นี (Gilakjani. 2011 : 979) ได้กล่ำวถึงควำมสำคัญของกำรฟังไว้ว่ำ กำร ์ ฟังเป็นทักษะที่ถูกใช้บ่อยที่สุดในห้องเรียน ทั้งผู้สอนและผู้เรียนต้องยอมรับว่ำกำรฟังอย่ำงเข้ำใจนั้น สำมำรถทำให้เรำประสบผลสำเร็จในด้ำนวิชำกำร กำรศึกษำค้นคว้ำที่หลำกหลำยบ่งชี้ว่ำ ประสิทธิภำพ ด้ำนทักษะกำรฟังมีควำมสำคัญมำกกว่ำทักษะกำรอ่ำน โดยเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้ประสบควำมสำเร็จ ด้ำนวิชำกำร 1.3 กิจกรรมกำรสอนทักษะกำรฟัง ฮำร์มเมอร์ (Harmer. 2007 : 142-143) ได้เสนอแนะกิจกรรมทักษะกำรฟังไว้ดังนี้ 1. จิ๊กซอร์ กิจกรรมนี้เริ่มจำกผู้สอนแบ่งผู้เรียนออกเป็นสำมกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มฟัง เทปที่แตกต่ำงกันแต่เป็นเรื่องรำวหรือเนื้อหำที่คล้ำยๆกัน หลังจำกนั้นให้ผู้เรียนนำสิ่งที่ได้จำกกำรฟังมำ เขียนเปรียบเทียบในสิ่งที่ได้ฟัง ว่ำเกิดเหตุกำรณ์อะไรขึ้น เหตุกำรณ์เกิดขึ้นที่ไหน ทั้งมีกำรแก้ไขหรือ ตอบคำถำมจำกปริศนำและบรรยำยสถำนกำรณ์ที่ได้ฟัง