4. กราฟ (Graph) G ประกอบด้วย
เซตจากัด ที่ ไม่เป็นเซตว่าง ของจุด แทนด้วยสัญลักษณ์ V(G)
2. เซตจากัดของเส้นที่เชื่อมระหว่างจุด แทนด้วยสัญลักษณ์ E(G)
ตัวอย่าง ให้กราฟ G : (V(G) , E(G)) ประกอบด้วย
V(G) = { A , B , C }
E(G) = { {AB} , {BC} }
เขียนภาพแทนกราฟ G ได้ดังนี้
A
B
C
G :
9. * สัปกราฟ (sub graph)
กำหนด G และ H เป็นกรำฟ H เป็นสับกรำฟของ G
เมื่อ V(H) V(G) และ E(H) E(G)
กำหนด G และ H เป็นกรำฟ H เป็นสับกรำฟแผ่ทั่ว
ของ G เมื่อ V(H) = V(G) และ E(H) E(G)
กำหนด G และ H เป็นกรำฟ H และ G เป็นกรำฟ
เหมือนกัน เมื่อ V(H) = V(G) และ E(H) = E(G)
11. ดีกรีของจุด
เส้น e ของกราฟ G จะเรียกว่า เกิดกับ จุด A ถ้าจุด A
เป็นจุดปลายจุดหนึ่งของเส้น e
ดีกรี (degree) ของจุด V ในกราฟ คือ จานวนเส้นทั้งหมดที่
เกิดกับจุด V
a
b
c
G : deg (a) = 3
deg (b) = 7
deg (c) = 2
12. ทฤษฎี
จานวนเส้น e ของกราฟ G เท่ากับ ครึ่งหนึ่งของ
ผลรวมดีกรีของกราฟ G
a
b
c
G :
deg (a) = 3
deg (b) = 7
deg (c) = 2
1
( ) deg( )
2 1
n
E G Vi
i
deg( ) 12
1
n
Vi
i
( ) 6E G
14. จุดคู่ / จุดคี่
จุดที่มีดีกรี เป็นจานวนคู่ เรียกว่า จุดคู่ (even vertex)
จุดที่มีดีกรี เป็นจานวนคี่ เรียกว่า จุดคี่ (odd vertex)
A
B
C
G :
D
จุด A และ C เป็นจุดคี่ (odd vertex)
จุด B และ D เป็น จุดคู่ (even vertex)
15. A
B
C
G :
D
ในกราฟ G มีจุดคี่ 2 จุด ได้แก่ จุด A และ C เป็นจุดคี่
ทฤษฎี
กราฟใด ๆ จะมีดังนี้
1. มีจุดคู่ทั้งหมด หรือ
2. มีจานวนจุดคี่ เป็นจานวนคู่
16. แนวเดิน U - V ( U - V walk) คือ ลาดับจากัดของจุดและเส้น
สลับกัน โดยเริ่มต้นด้วยจุด U และสิ้นสุดด้วยจุด V และแต่ละเส้น
ในลาดับจะเกิดกับจุดที่อยู่หน้าและหลังของเส้นนั้น
ความยาวของ U - V คือ จานวนเส้นในแนวเดิน U - V
รอยเดิน U - V ( U - V trail)
คือ แนวเดิน U - V ที่มี เส้นเชื่อมทั้งหมดต่างกัน
วิถี U - V (U - V path)
คือ แนวเดิน U - V ที่มี จุดยอด ทั้งหมดต่างกัน
17. A , B , C , D , E เป็น รอยเดิน (trial) , วิถี (path)
A
B
C
G :
D
A , B , C , B , D เป็น แนวเดิน (walk)
E
B , C , D , B , A เป็น รอยเดิน (trial)
18. วงจร ( circuit ) คือ รอยเดินที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเป็น
จุดเดียวกัน (รอยเดินปิด)
วัฎจักร ( cycle ) คือ วงจรที่ไม่มีจุดซ้ากันยกเว้นจุดเริ่มต้นและ
จุดสิ้นสุด (รอยเดินปิดที่มีจุดภายในไม่ซ้ากัน)
A , B , C , A เป็น วงจร (circuit) , วัฏจักร (cycle)
A
B
CG :
D
A , B , C , D , E , C , A เป็น วงจร (circuit)
E
20. กราฟมีน้าหนัก ( weighted graph ) มีความหมายดังนี้
1. กราฟ G เป็นกราฟมีน้าหนัก เมื่อ แต่เส้นแต่ละเส้น ( e )
กาหนดด้วยจานวนจริงที่ไม่เป็นลบ เรียกจานวนจริงว่า
น้าหนักของเส้น แทนด้วย w(e)
2. วิถีที่สั้นที่สุดจากจุด U ถึงจุด V ในกราฟมีน้าหนัก
คือ วิถี U - V ที่มีผลรวมของค่าน้าหนักของทุกเส้นใน
วิถี U - V มีค่าน้อยที่สุด
22. บทนิยาม ให้ G เป็นกราฟเชิงเดียว เรากล่าวว่า G เป็น ต้นไม้ (Tree)
เมื่อ G เป็นกราฟเชื่อมโยงที่ไม่มีวัฏจักร
G H T
G ไม่เป็นต้นไม้ เนื่องจาก G มีวัฏจักร
H ไม่เป็นต้นไม้ เนื่องจาก H เป็นกราฟไม่เชื่อมโยง
T เป็นต้นไม้ เนื่องจาก T เป็นกราฟเชื่อมโยง และไม่มีวัฏจักร
24. ทฤษฎีบท 1
1.1 ถ้ากราฟ G มีวงวน แล้วกราฟ G ไม่เป็นต้นไม้
1.2 ถ้ากราฟ G เป็นต้นไม้ แล้วจุดยอด 2 จุดใด ๆ ใน G เชื่อมโยงกัน
ได้ด้วย วิถีเพียงวิถีเดียว
1.3 ถ้ากราฟ G เป็นต้นไม้ ที่มีจุดยอด n จุด แล้ว กราฟ G
จะมีจานวนเส้นเชื่อม n – 1 เส้น
1.4 ถ้ากราฟ G เป็นต้นไม้ ที่มีจุดยอด n > 1 กราฟ G จะมีจุดยอด
ที่มีดีกรี 1 อย่างน้อย 2 จุด
44. ปัญหานี้แปลงเป็นกราฟได้ โดยกาหนดให้
จุด A,B,C,D,E แทนห้อง A,B,C,D,E และให้
จุด O เป็นจุดแทนบริเวณด้านนอกของตัวบ้าน
จะแสดงแต่ละเส้นทางเดินระหว่างห้องกับด้านนอก
ของตัวบ้านได้ดังกราฟ G ดังรูป
D E
A B C
O
G :
45. จะเห็นว่า กราฟ G มีจุด E และ O เป็น จุดคี่
ดังนั้นกราฟ G ไม่เป็น กราฟออยเลอร์
นั่นคือ เราไม่สามารถเดินจากที่ใดที่หนึ่งภายในบ้าน หรือ
ด้านนอกตัวบ้านโดยผ่านประตูต่าง ๆ เพียงครั้งเดียวแล้วกลับมาที่เดิมได้
D E
A B C
O
G :