SlideShare a Scribd company logo
1 of 92
Download to read offline
ทฤษฎีกราฟเบองต้น
           ื้



             ครูบัญญัติ ศรีประเสริฐ
              กลุ่มสาระคณิตศาสตร์
    โรงเรียนเตรียมอุดมศกษาภาคใต้
                        ึ
สารบัญ
•   ทฤษฎีกราฟเบ้ืองตน้
•   ลักษณะของเส้นเชื่อม              จุดยอดประชิด
•   ดีกรี ของจุดยอด                 ทฤษฎีบทที่สาคัญ ํ
•   กราฟออยเลอร์       กราฟเช่ือมโยง วงจรออยเลอร์
•   การประยกตของกราฟ
              ุ ์                     วิถีส้ นที่สุด,วฏจกร,ตนไม ้
                                             ั        ั ั ้
•   กราฟยอย ่                      ้ ้ ่ ่ั
                                  ตนไมแผทว
•   การแปลงปัญหาเป็นกราฟถ่วงน้ าหนก
                                 ํ ั
ปัญหา

ตัวแบบเชิงคณตศาสตร์ ( mathematical model )
            ิ


                วเิ คราะห์


                แก้ปัญหา
ตัวแบบเชิงคณตศาสตร์ ( mathematical model )
               ิ




สมการ      ความสัม        เซต      ตรรกศา     ทฤษฎี
เชิงเส้น   พันธ์ และ                สตร์      กราฟ
                        แผนภาพ
 กราฟ      ฟังก์ ช้ัน   เวนน์ออย   ตารางค่า
เส้นตรง                   เลอร์     ความ
                                     จริง
ตวอย่างของกราฟ
 ั
ส่วนประกอบของกราฟ (G)
• เซตของ จุดยอด (vertices) แทนด้วย V(G)
• เซตของ เส้นเช่อม (edges) แทนด้วย E(G)
                ื


                     G = (V, E)
                     V(G) = {A, B, C, D}
                     E(G) = {e1, e2, e3, e4, e5}
ข้ อสังเกต
• V(G) = ∅ ได้ หรื อไม่
  ไม่ ได้ เพราะถ้ าไม่ มีจุดยอดเลย ก็ไม่ มีอะไร
  ให้พจารณาเป็นกราฟได้เลย
        ิ
• E(G) = ∅ ได้ หรื อไม่
  ได้
ข้อสังเกต
• เส้ นเชื่อม เป็ นส่ วนของเส้ นตรง,เส้ นโค้ ง หรื อ เส้ นคดก็ได้
ข้อสังเกต
• เส้ นเชื่อมสองเส้ นอาจตัดกันได้ โดยจุดตัดไม่ ถือเป็ นจุดยอด
แบบฝึ กทักษะ
                         ํ
จงหา V(G) และ E(G) เมื่อกาหนด G ดงน้ ี
                                 ั

1.    a            b                     2. a         b
               d                                e1
                                                           c
                        c
     f
                                                 e2
                                                      e4
                                                 e3
ลักษณะของเส้นเช่ ือม
          ่
• เส้ นเชือมขนาน (parallel edges)



• วงวน (loop)
การจาแนกประเภทของกราฟ
          ํ




Non-directed graph   Directed graph
 กราฟไม่ระบุทศทาง
              ิ      กราฟระบุทศทาง
                                ิ
กราฟไม่ ระบุทศทาง
                         ิ




     G             H               R
สังเกต
      กราฟ H มเส้นเช่ ือมขนาน
               ี
      กราฟ R มีวงวน
      กราฟ G ไม่มเส้นเช่ อมขนาน ไม่มวงวน
                 ี       ื          ี
นิยาม



   G                   H             R
กราฟท่ ไม่มเส้นเช่ ือมขนาน และไม่มีวงวน
        ี ี
 กราฟเชงเดยว (simple graph)
             ิ ี
กราฟท่ ีมเส้นเช่ อมขนาน หรือมีวงวน
         ี       ื
 กราฟหลายเชง (multi graph)
                     ิ
ทดสอบความเข้ าใจ
กราฟใดเป็นกราฟเชงเดียว และกราฟใดเป็นกราฟหลายเชง
                 ิ                            ิ




        G4            G5             G6
พิจารณากราฟ G และ H


G                         H



         สังเกต
G


   สรุ ปว่ า
G และ H เป็ น
                H
กราฟเดียวกัน
กราฟเดียวกัน (identical graphs)




กราฟ G และกราฟ H เป็น กราฟเดยวกัน  ี
ก็ต่อเม่ ือ V(G) = V(H) และ E(G) = E(H)
a
                           f
         b
                           d
             c
จุดยอด a และจุดยอด b เป็นจุดยอดประชิด
จุดยอด a และจุดยอด d เป็นจุดยอดประชิด
จุดยอด c และจุดยอด f เป็นจุดยอดประชิด
v
นิยาม
                 u



จุดยอด u และจุดยอด v เป็นจุดยอดประชิด
ก็ต่ อเมื่อ มเส้นเช่ อมระหว่างจุดทงสอง
             ี       ื            ั้
a
                               f
           b
                               d
                c
ab และ ad เป็นเส้นเช่ อมท่ ีเกดกับจุดยอด a
                         ื     ิ
ba และ bc เป็นเส้นเช่ อมท่ ีเกดกับจุดยอด b
                           ื     ิ
cb,cf และ cd เป็นเส้นเช่ ือมท่เกิดกับจุดยอด
                                   ี
c
fc เป็นเส้นเช่ อมท่ เกดกับจุดยอด f
               ื ี ิ
v
 นิยาม                 e




เส้นเช่ ือม e เกิดกับจุดยอด v ถ้า
จุดยอด v เป็นจุดปลายจุดหน่ ึงของเส้นเช่ อม e
                                        ื
พจารณากราฟต่อไปนี ้
  ิ
                         จุดยอด     จานวนครังทงหมดท่ ี
                                       ํ        ้ ั้
                                  เส้ นเชื่อมเกิดกับจุดยอด
                           a                 2
                           b                 4

                           c                 4
                           d                 2

หมายเหตุ: วงวนมีจานวนครั งที่เส้ นเชื่อมเกิดกับจุดเป็ น 2
                 ํ       ้
นิยาม

• ดก รี (degree) ของจุดยอด v ในกราฟ คือ
     ี
  จานวนครังทงหมดท่ เส้นเช่ อมเกดกับจุดยอด v
   ํ         ้ ั้     ี    ื    ิ

• ใช้สัญลักษณ์ deg v แทน ดีกรีของ v
พจารณากราฟต่อไปนี ้
 ิ
                      deg A = 2
                      deg B = 3
                      deg C = 2
                      deg D = 3
                      deg E = 0
deg A = 2
                       deg B = 3
                       deg C = 2
                       deg D = 3
                     deg E = 0
ผลรวมของดกรีของจุดยอดทุกจุด = 2+3+2+3+0
         ี
                    ∑ deg v = 10
                  v∈V (G )
ทฤษฎีบทที่สาคัญ
           ํ
หาจํานวนเส้ นเชื่อม และผลรวมของดีกรี ของจุดยอดทุกจุด
ในกราฟแต่ละกราฟต่อไปนี ้

                       จานวนเส้นเช่ อม = 4
                        ํ            ื
                              ∑G ) deg v = 8
                            v∈V (



                       จานวนเส้นเช่ อม = 5
                        ํ           ื
                                ∑
                              v∈V ( G )
                                          deg v =   10
จานวนเส้นเช่ อม = 6
                   ํ           ื
                         ∑
                       v∈V ( G )
                                   deg v =   12


พจารณากราฟอ่ ืน ๆ จากเอกสาร และหาจานวน
  ิ                                 ํ
เส้นเช่ ือมผลรวม และผลรวมของดกรีของจุดยอด
                             ี
ทุกจุดในกราฟแต่ ละกราฟ
ท่านได้ข้อค้นพบอะไรบ้าง
ทฤษฎีบทที่ 1
ผลรวมของดกรีของจุดยอดทกจดในกราฟ
            ี            ุ ุ
เท่ากับสองเท่าของจานวนเส้นเช่ อมในกราฟ
                  ํ           ื
                    หรือ
จานวนเส้นเช่ ือมในกราฟ เป็นคร่ ึงหน่ ึงของ
 ํ
ผลรวมของดกรีของจุดยอดทกจดในกราฟ
           ี              ุ ุ
ให้ G เป็นกราฟท่ มจานวนเส้นเช่ อมเป็น m
                 ี ี ํ         ื
จะได้
                      ∑
                 v∈V ( G )
                             deg v =
                                       2m

    ∑
  v∈V ( G )
              deg v   เป็ นจํานวนค่ ูเสมอ
ตวอย่าง 1 มเส้นเช่ อมก่ ีเส้นในกราฟท่ มจุดยอด
 ั           ี     ื                  ี ี
10 จุด แต่ ละจุดยอดมีดีกรีเป็ น 6
แนวคิด      ∑
          v∈V ( G )
                      deg v =   2m

             6 x 10 = 2m
                60 = 2m
                  m = 30
ตวอย่าง 2 จงหาจานวนจุดยอดของกราฟท่ มี
   ั                 ํ                       ี
 เส้นเช่ ือม 15 เส้น และมจุดยอด 3 จุด ที่มีดีกรี 4
                           ี
 ส่วนจุดยอดท่ เหลือมดกรี 3
                ี      ี ี
 แนวคิด ให้ n เป็นจานวนจุดยอดท่ มดกรี 3
                        ํ           ี ี ี


           (3x4)+ 3n = 2x15
                  3n = 30 - 12
                   n = 6
ดังนัน กราฟนีมีจานวนจุดยอด 3+6 = 9 จุด
     ้       ้ ํ
ตวอย่าง 3 จงพจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมี
  ั           ิ
กราฟที่มีจุดยอด 4 จุด และดีกรีของจุดยอดคือ
1, 1, 2 และ 3
แนวคิด

               1+1+2+3 = 2m
                        7 = 2m
                ขดแย้งกับทฤษฎี 
                 ั
ดังนัน เป็ นไปไม่ ได้ ท่ จะมีกราฟดังกล่ าว
     ้                   ี
นิยาม
จุดยอดท่ มดกรีเป็นจานวนค่ ู เรียกว่า จุดยอดคู่
         ี ี ี     ํ
จุดยอดท่ มดกรีเป็นจานวนค่ ี เรียกว่า จุดยอดคี่
          ี ี ี      ํ

                      จุดยอดคู่ : A และ D

                      จุดยอดคี่ : B และ C
ทฤษฎีบทที่ 2
ทกกราฟจะมจุดยอดค่ ีเป็นจานวนค่ ู
 ุ       ี              ํ




หยุดคดสักสองสามนาทว่าเพราะอะไร
     ิ            ี
ตวอย่าง 1 ในห้องประชุมแห่งหน่ ึงมีผ้ ูเข้าร่วม
    ั
ประชุมทงหมด 23 คน เป็ นไปได้ หรือไม่ ว่า
            ั้
ผ้ ูเข้าร่วมประชุมแต่ ละคนจบมอทกทายผ้ ูเข้าร่วม
                             ั ื ั
ประชุมคนอ่ ืนเพยง 7 คนเท่านัน
                      ี           ้
แนวคิด ให้จุดยอดแทนผ้ ูเข้าร่วมประชุม และ
            เส้นเช่ ือมแทนการจบมอทกทาย
                               ั ื ั
จะได้ กราฟมีจุดยอด 23 จุด แต่ ละจุดมีดีกรี 7
น่ ันคือ กราฟมจุดยอดค่ ีเป็นจานวน 23 จุด
                  ี             ํ
23 เป็นจานวนค่ ี ขัดแย้งกับทฤษฎบทท่ ี 2 
            ํ                       ี
เราสามารถเดนจากจุด C ไปยังจุด D ได้หลายทาง
           ิ
เช่ น C→B→D เขยนเป็นลาดบได้ว่า C, e7,B, e6,D
               ี       ํ ั
หรือ C→A→D เขยนเป็นลาดบได้ว่า
                    ี         ํ ั
     C, e1, A, e3,D หรืออ่ ืน ๆ
หรือ C→B→A→D เขยนเป็นลาดบได้ว่า
                          ี ํ ั
     C, e7,B, e5, A, e3,D
นิยาม
เรียกลาดบ (ท่ ประกอบด้วยจุดสลับกบเส้น) ดัง เช่ น
      ํ ั ี                     ั
     C, e7,B, e6,D
     C, e1, A, e3,D
     C, e7,B, e5, A, e3,D
ว่า แนวเดน C–D
            ิ
นิยาม
กราฟ G เรียกว่า กราฟเช่ อมโยง (connected graph)
                         ื
ก็ต่อเม่ ือสาหรับจุดยอด u และ v ท่ เป็นจุดยอดต่างกัน
            ํ                      ี
ในกราฟ G จะมแนวเดน u-v
                 ี     ิ


  หรือพูดง่ ายๆได้ ว่า ทกๆจุดยอดมแนวเดนถงกัน
                        ุ        ี    ิ ึ
H ไม่เป็นกราฟเช่ ือโยง



        G
                                   H
G เป็นกราฟเช่ ือมโยง
เป็นไปได้ไหมท่ จะเร่ ิมต้นจากจุดหน่ ึงบนแผ่นดน
                 ี                           ิ
แล้วเดนข้ามสะพานให้ครบทกสะพาน และกลับ
      ิ                        ุ
    มายงจุดเร่ ิมต้นโดยไม่ซาสะพานเดมเลย
        ั                   ํ้         ิ
ให้แผ่นดนและเกาะเป็นจุดยอด
                          ิ
                  และให้สะพานเป็นเส้นเช่ ือม



ลักษณะของปัญหา
เหมอนกับ “การลากเส้ น
    ื
วาดรูปโดยไม่ยกดนสอ”
               ิ
นิยาม
วงจร คือ แนวเดนท่ เส้นเช่ อมทงหมดแตกต่างกัน
                  ิ ี     ื ั้
โดยมีจุดเริ่มต้ นและจุดสุดท้ ายเป็ นจุดยอดเดียวกัน
หรือ
วงจร คือ แนวเดนซ่ งเร่ ิมและจบท่ จุดยอดเดยวกัน
                  ิ ึ            ี       ี
โดยไม่ใช้เส้นเช่ อมซากันเลย
                 ื ํ้
แนวเดิน A-A
 (ลําดับ A, e2, C, e7, B, e6, D, e4 ,A)
 เป็ นวงจร




สังเกตว่า วงจรนีไม่ผ่านเส้นเช่ อม e1 และ e3
                ้              ื
นิยาม
วงจรท่ ผ่านจุดยอดทกจุด และผ่านเส้นเช่ อมทกเส้น
       ี           ุ                  ื ุ
ของกราฟ เรียกว่ า วงจรออยเลอร์


กราฟที่มีวงจรออยเลอร์ เรียกว่ า กราฟออยเลอร์
ปัญหาสะพานนี ้ ถูกแก้โดย
                            นักคณิตศาสตร์ ช่ อ
                                             ื
                         เลออนฮาร์ด ออยเลอร์
                                ในปี ค.ศ.1736


การแก้ ปัญหาก็เพียง
พจารณาว่ากราฟทางขวา
  ิ
“เป็ นกราฟออยเลอร์หรือไม่”
ตวอย่าง 1 กราฟ G เป็นกราฟออยเลอร์หรือไม่
 ั
              B                  B
  G
      A           C     A            C



      F           D      F           D

          E                  E
                       มวงจรออยเลอร์
                         ี
                       เป็นกราฟออยเลอร์
G            G            G
    1            2            3

จะทราบได้อย่างไรว่ากราฟใดเป็นกราฟออยเลอร์
ทฤษฎีบทที่ 3
กําหนดให้ G เป็ นกราฟเชื่อมโยง
G จะเป็นกราฟออยเลอร์ กต่อเม่ ือ
                          ็
จุดยอดทุกจุดของ G เป็ นจุดยอดคู่
กราฟใดเป็นกราฟออยเลอร์




     G           G       G
     1           2       3
กราฟใดเป็นกราฟออยเลอร์




      G1              G2                G3
G1 เป็นกราฟออยเลอร์ เพราะทกจุดยอดเป็นจุดยอด
                            ุ
คู่         G2 ไม่เป็นกราฟออยเลอร์
G3 ไม่เป็นกราฟออยเลอร์ เพราะไม่ เป็ นกราฟเชื่อมโยง
การประยุกต์ของกราฟ
วถีท่ สันท่ สุด
 ิ ี ้ ี


กราฟนีเ้ ป็นกราฟถ่วงนาหนัก ซึ่งจําลองจากแผนที่เมือง
                      ํ้
โดยให้จุดยอดแทนเมอง และเส้นเช่ อมแทน
                    ื             ื
ถนน และค่านําหนักเส้นเช่ อมแทนระยะทางระหว่าง
              ้          ื
เมืองสองเมือง
วถีท่ สันท่ สุด
 ิ ี ้ ี




 ภารกิจ: ต้องการหาระยะทางท่ สันท่ สุดจาก
                              ี ้ ี
         เมือง A ไปยังเมือง E (เขยนรูปลงกระดาษ)
                                  ี
หาเส้ นทาง (แนวเดิน) ทงหมดจาก A ไป E
                      ั้
(ท่ ไม่ผ่านเมองซากน)
    ี        ื ํ้ ั
1: A, B, D, E         2+1+3       = 6 กม.
2: A, B, D, F, E      2+1+2+2     = 7 กม.
3: A, B, D, C, F, E   2+1+3+6+2   = 14 กม.
4: A, C, F, E         5+6+2       = 13 กม.
5: A, C, F, D, E      5+6+2+3     = 16 กม.
6: A, C, D, E         5+3+3       = 11 กม.
7: A, C, D, F, E      5+3+2+2     = 12 กม.
นิยาม

วถี คือ แนวเดินในกราฟที่จุดยอดทังหมดแตกต่ างกัน
 ิ                              ้

วิถท่สันที่สุด จากจุดยอด A ถง Z ในกราฟถ่ วงนําหนัก
   ี ี ้                       ึ                ้
คือวิถี A-Z ที่ผลรวมของค่ านําหนักในวิถี A-Z น้อยท่ สุด
                             ้                      ี
นิยาม

วัฏจักร คือ วงจรท่ ไม่มีจุดยอดซากัน
                    ี            ํ้
      ยกเว้ นจุดเริ่มต้ นและจุดสุดท้ าย


ต้นไม้ คือ กราฟเชื่อมโยงที่ไม่ มีวัฏจักร
ตัวอย่ าง ต้ นไม้
C ไม่เป็นต้นไม้เพราะ
 มีวัฎจักร


D ไม่เป็นต้นไม้เพราะ
ไม่ใช่กราฟเช่ อมโยง
              ื
ความสัมพันธ์ ระหว่ างต้ นไม้ จุดยอด และ เส้ นเชื่อม

 ต้นไม้      จานวนจุดยอด
              ํ                   จานวนเส้นเช่ อม
                                   ํ           ื

                    1                     0

                    2                     1
ต้นไม้   จานวนจุดยอด
          ํ            จานวนเส้นเช่ อม
                        ํ           ื

             3               2
             4               3
             5               4

             6               5
ต้นไม้   จานวนจุดยอด
          ํ            จานวนเส้นเช่ อม
                        ํ           ื

             7               6


             8               7


             9               8
ข้อสังเกต
1. ต้ นไม้ ไม่มเี ส้นเช่ือมขนาน และ ไม่มวงวน
                                        ี

2. ต้ นไม้ ที่มี n จุด จะมี n – 1 เส้นเสมอ
กราฟย่อย
นิยาม

กราฟย่ อย ของกราฟ G คือกราฟท่ ประกอบด้วย
                               ี
จุดยอดและเส้นเช่ ือมใน G
กล่าวคือ กราฟ H เป็ นกราฟย่ อยของกราฟ G
ถ้า V(H) ⊂ V(G) และ E(H) ⊂ E(G)
V(G) = { A, B, C, D }         V(H) = { A, B, C, D }
E(G) = {AB, BC, CD, DA, BD}   E(H) = {AB, BC, DA, BD}


  จะได้ ว่า กราฟ H เป็ นกราฟย่ อยของกราฟ G
กราฟใดเป็นกราฟย่อยของ G
กราฟใดเป็นกราฟย่อยของ G
กราฟ H1, H2 , H3 , H4 และ H5 กราฟใดเป็น
กราฟย่อยของกราฟ G ท่ บรรจุทุกจุดของกราฟ G
                        ี
ท่ ีเป็นต้นไม้



        G:



                                 เขียนลงกระดาษไว้
H1:         H2:




      H3:




H4:         H5:
นิยาม

ต้นไม้แผ่ท่ว คือต้นไม้ซ่ งเป็นกราฟย่อยของ
           ั             ึ
กราฟเช่ ือมโยง G ที่บรรจุจุดยอดทุกจุดยอด
พจารณาต้นไม้แผ่ท่ วของกราฟต่อไปนี ้
 ิ                ั
a   c    a   c   a   c

b   d    b   d   b   d

a   c    a   c   a   c

b        b   d   b   d
    d
a    c   a   c   a   c

b   d    b   d   b   d
นิยาม

ต้นไม้แผ่ท่วท่ีน้อยทสุด คือ ต้นไม้แผ่ท่ วท่ มี
           ั        ่ี                  ั ี
ผลรวมของค่านําหนักของแต่ละเส้นเช่ ือมน้อยท่ สุด
                  ้                            ี

                              2

                  2                       7
                      3               5       2
                          4

              1                   6
จงหาต้นไม้แผ่ท่ วท่ น้อยท่ สุด
                ั ี        ี




  1            2
                        1

           1
หาต้นไม้แผ่ท่ วทงหมด (มไม่ก่ ีแบบ)
              ั ั้     ี


1          2
                   1             1+2+1 = 4
      H1

           2
                   1
      H2                             1+2+1 = 4
       1
1        H3             1                1+1+1 = 3
          1

    ดังนัน H3 เป็นต้นไม้แผ่ท่ วท่ น้อยท่ สุด
         ้                    ั ี        ี
ตวอย่าง ปัญหาการวางสายโทรศัพท์
       ั
• บริษัทรับเหมาตดตงโทรศัพท์แห่งหน่ ึง ต้องการวาง
                    ิ ั้
  สายโทรศัพท์เช่ ือมระหว่างหม่ ูบ้าน A, B, C, D, E
  และ F โดยจะวางสายไปตามถนน ถ้าค่าใช้จ่ายใน
  การวางสายโทรศัพท์ขนอย่ กับความยาวของสาย
                            ึ้ ู
  โทรศพ ท์ บริษัทนีจะวางสายโทรศัพท์อย่างไรให้เสีย
         ั            ้
  ค่าใช้จ่ายน้อยท่ ีสุด เม่ ือกาหนดตารางแสดง
                               ํ
  ระยะทาง (กิโลเมตร) ของถนนท่ เช่ อมระหว่าง
                                    ี ื
  หม่ ูบ้านดังนี ้
หม่ บ้าน A
    ู         B    C    D    E    F
   A      -   30    -    -    -   40
   B     30    -   10    -   50   20
   C      -   10    -   20   30    -
   D      -    -   20    -   10   20
    E     -   50   30   10    -   60
    F    40   20    -   20   60    -
แปลงปัญหาเป็นกราฟถ่วงนาหนัก
                      ํ้

         B            C
                 10
                           20
    30                30             D
                  50            10
A        20         20          E
    40               60
             F
ขันท่ ี 1
                   ้

• จดลาดบเส้นเช่ ือม
    ั ํ ั
• เรียงค่านําหนักของเส้นเช่ ือมจากน้อยไปมาก
            ้
• 10, 10, 20, 20, 20, 30, 30, 40, 50, 60
ขันท่ ี 2
  ้ 3   5
        4

                 B            C
                         10
                                   20
            30                30             D
                          50            10
       A         20         20          E
            40               60
                     F
ขันท่ ี 6
                           ้
•   เลือกเส้นเช่ ือมท่ เหลือท่ มีค่านําหนักต่าสุด
                       ี        ี      ้     ํ
•   ในท่ ีนีเ้ หลือ BF ซ่ งมีค่านําหนัก 20
                           ึ      ้
•   แต่ เลือกไม่ ได้ เพราะถ้าเลือกแล้วจะเกิดวัฏจกรั
•   จึงต้ องเลือกค่ านําหนักเส้ นเชื่อมเป็ น 30 แทน
                         ้
•   มีสองทางคือ AB และ CE
•   แต่ ถ้าเลือก CE แล้วจะเกิดวัฏจกร จงเลือก AB
                                         ั ึ
B            C
                  10
                            20
     30                30              D
                   50             10
A         20         20           E
     40               60
              F

    และเลือกต่ อไปไม่ ได้ แล้ ว
ได้ ต้นไม้ แผ่ ท่ วน้ อยที่สุดที่มีผลรวมของค่ านําหนักเส้ นเชื่อม
                  ั                              ้
              10 + 10 + 20 + 20 + 30 = 90

                      B              C
                              10
                                           20
                30                                     D
       A                                          10
                                   20             E
                          F         ดังนันบริษัทรับเหมาแห่ งนีต้องวาง
                                         ้                    ้
                                    สายโทรศัพท์ ตามถนน ซึ่งมีระยะทาง
                                    90 กิโลเมตร
ข้ อสังเกต                                  B     10
                                                                   C
ต้นไม้แผ่ท่ วท่ น้อยท่ ีสุดของ
            ั ี                                30
                                                                       20       D
                                                         20            10
 กราฟอาจจะมีได้ มากกว่ า
            1 แบบ                                                           E
                                      A                  F

                                  B                  C
                                          10
                             30                                        D
                                  20                          10
                    A                           20
                                                         E
                                       F
ผลการเรียนร้ ูท่ คาดหวง
                             ี    ั

1. เขยนกราฟเม่ อกาหนดจุดยอด (Vertex) และ
         ี         ื ํ
   เส้นเช่ อม(Edge) ให้ และระบุได้ว่ากราฟท่ ี
           ื
   กาหนดให้เป็นกราฟออยเลอร์หรือไม่
       ํ
2. นาความร้ ูเร่ ืองกราฟไปใช้แก้ปัญหาบาง
     ํ
   ประการได้
กราฟชนิดอ่ ืน ๆ ท่ น่าสนใจศกษา
                          ี       ึ

• Complete graph    กราฟบริบูรณ์
• Planar graph      กราฟเชงระนาบ
                           ิ
• Bipartile graph   กราฟสองส่วน
• Perfect graph     กราฟสมบูรณ์
• Line graph        กราฟเส้น
• Cograph           โคกราฟ
จัดเก็บเก้าอีให้ เข้ าที่
                ้
ก่อนออกจากห้องด้วยครับ

       ขอบคุณครับ

More Related Content

What's hot

แผนการเรียนรู้ดีกรี1
แผนการเรียนรู้ดีกรี1แผนการเรียนรู้ดีกรี1
แผนการเรียนรู้ดีกรี1Nittaya Lakapai
 
ทฤษฎีกราฟ
ทฤษฎีกราฟทฤษฎีกราฟ
ทฤษฎีกราฟNAMFON Supattra
 
Final เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบFinal เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบTe'tee Pudcha
 
Mai p diamond2551
Mai p diamond2551Mai p diamond2551
Mai p diamond2551krulerdboon
 
จำนวนจริง
จำนวนจริงจำนวนจริง
จำนวนจริงKruGift Girlz
 
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนkanjana2536
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3krookay2012
 
คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32krookay2012
 
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1narong2508
 

What's hot (15)

Graph
GraphGraph
Graph
 
แผนการเรียนรู้ดีกรี1
แผนการเรียนรู้ดีกรี1แผนการเรียนรู้ดีกรี1
แผนการเรียนรู้ดีกรี1
 
ทฤษฎีกราฟ
ทฤษฎีกราฟทฤษฎีกราฟ
ทฤษฎีกราฟ
 
Graph shortest
Graph shortestGraph shortest
Graph shortest
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Final เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบFinal เตรียมสอบ
Final เตรียมสอบ
 
Mai p diamond2551
Mai p diamond2551Mai p diamond2551
Mai p diamond2551
 
จำนวนจริง
จำนวนจริงจำนวนจริง
จำนวนจริง
 
A samakran
A samakranA samakran
A samakran
 
เซต
เซตเซต
เซต
 
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วนใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
ใบความรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
 
Real content
Real contentReal content
Real content
 
กราฟ ม.3
กราฟ ม.3กราฟ ม.3
กราฟ ม.3
 
คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32คณิตศาสตร์ม.32
คณิตศาสตร์ม.32
 
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตรเล่ม1
 

Similar to Graph (12)

2
22
2
 
2
22
2
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
ทฤษฎีกราฟเบื้องต้น/Graph
ทฤษฎีกราฟเบื้องต้น/Graphทฤษฎีกราฟเบื้องต้น/Graph
ทฤษฎีกราฟเบื้องต้น/Graph
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Add m5-2-chapter2
Add m5-2-chapter2Add m5-2-chapter2
Add m5-2-chapter2
 
Graph
GraphGraph
Graph
 
Chapter 04 applied geometry
Chapter 04 applied geometry Chapter 04 applied geometry
Chapter 04 applied geometry
 

More from Laongphan Phan

สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5Laongphan Phan
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4Laongphan Phan
 
การให้เหตุผลอุปนัย
การให้เหตุผลอุปนัยการให้เหตุผลอุปนัย
การให้เหตุผลอุปนัยLaongphan Phan
 
Curriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptCurriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptLaongphan Phan
 
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5dLaongphan Phan
 
Original sv [compatibility mode]
Original sv  [compatibility mode]Original sv  [compatibility mode]
Original sv [compatibility mode]Laongphan Phan
 
Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Laongphan Phan
 

More from Laongphan Phan (14)

สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 7
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 6
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 5
 
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
สื่อการจัดการเรียนรู้ใบกิจกรรมที่ 4
 
การให้เหตุผลอุปนัย
การให้เหตุผลอุปนัยการให้เหตุผลอุปนัย
การให้เหตุผลอุปนัย
 
Curriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20ppptCurriculum%20korea%20pppt
Curriculum%20korea%20pppt
 
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
%Ca%c3%d8%bb%ca%b6%d4%b5%d4%5 b1%5d
 
Role math stat_cs
Role math stat_csRole math stat_cs
Role math stat_cs
 
Set
SetSet
Set
 
Original sv [compatibility mode]
Original sv  [compatibility mode]Original sv  [compatibility mode]
Original sv [compatibility mode]
 
Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]Math m3 [compatibility mode]
Math m3 [compatibility mode]
 

Graph