SlideShare a Scribd company logo
1 of 9
แนวทางปฎิบัติของนักเรียน
โรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม
1. การลา
เมื่อผู้ปกครองมีความจาเป็นต้องให้เด็กหยุดการเรียน หรือในกรณีที่เด็กเจ็บป่วย
ต้องมีใบลาเป็นลายลักษณ์อักษรของผู้ปกครองแจ้งให้ครูที่ปรึกษาทราบ
ถ้าเป็นใบลาของนักเรียนต้องมีลายมือชื่อของผู้ปกครองต่อท้ายใบลา
หรือถ้าผู้ปกครองมาลาด้วยตนเองเป็นการดีที่สุด
2. การขาดเรียน
นักเรียนที่ขาดเรียนโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลาเกิน 3 วัน
โรงเรียนจะส่งใบเตือนถึงผู้ปกครองครั้งที่ 1 โดยครูที่ปรึกษาจะมีหนังสือเตือน
หากไม่ได้รับการตอบรับ ภายใน 5 วัน โรงเรียนจะส่งใบเตือนเป็นครั้งที่ 2
และภายในอีก 5 วัน หลังจากส่งใบเตือนครั้งที่ 2 ยังไม่ได้รับการติดต่อ
โรงเรียนจะคัดชื่อออกจากทะเบียนโรงเรียน เพราะเหตุไม่สนใจเรียนหรือไม่สมัครใจเรียน
3. การออกนอกบริเวณโรงเรียน
เมื่อนักเรียนเข้ามาบริเวณโรงเรียนแล้ว นักเรียนจะออกนอกบริเวณโรงเรียนไม่ได้
จนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน
โรงเรียนจะอนุญาตให้ออกนอกโรงเรียนได้ในกรณีที่ผู้ปกครองมารับเท่านั้น
โดยต้องทาตามแบบฟอร์มขอออกนอกบริเวณโรงเรียน
4. การเดินทางมาโรงเรียน
4.1 รถรับส่งนักเรียน โรงเรียนจัดรถรับส่งนักเรียน 2 คัน โดยคันที่ 1
วิ่งผ่านบ้านดงคาพัฒนาและบ้านโนนชาด คันที่ 2 วิ่งผ่านบ้านแห่ บ้านหนองโพนสูง
บ้านหนองผ้าอ้อม บ้านคาไผ่ บ้านหนองขาม
ให้นักเรียนที่อยู่ตามหมู่บ้านดังกล่าวแต่งตัวตามกาหนดในแต่ละวันของทางโรงเรียนให้เรีย
บร้อย รอขึ้นรถตามจุดนัดหมายของแต่ละหมู่บ้าน
4.2 รถจักรยานยนต์,รถยนต์
นักเรียนที่นารถส่วนตัวมาโรงเรียนต้องมาขึ้นทะเบียนกับทางโรงเรียนเพื่อเป็นข้อมูลในการ
ติดตามดูแล ห้ามนารถส่วนตัวไปจอดที่อื่นนอกจากโรงรถหรือสถานที่ที่โรงเรียนกาหนด
ตามความเหมาะสม
5. การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน
เพื่อเป็นการฝึกนักเรียนให้เป็นคนตรงต่อเวลา เป็นผู้มีความกระตือรือร้น ไม่เฉื่อยชา
เป็นผู้มีวัฒนธรรมที่ดี และได้รับการอบรมตักเตือน ดังนั้น
ถ้านักเรียนมาไม่ทันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ครูจะทาการหักคะแนนตามที่กาหนดไว้
เว้นแต่มีเหตุจาเป็นดังนี้
5.1 ผู้ปกครองให้ไปทาธุระที่จาเป็นในตอนเช้า
นักเรียนไม่สามารถมาทันตามกาหนดเวลา
ต้องมีหนังสือรับรองของผู้ปกครองไปแสดงต่อครูเวรประจาวันและครูที่ปรึกษาเซ็นรับรอง
ก่อนเข้าห้องเรียน หากไม่มีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองถือว่านักเรียนคนนั้นมาสาย
5.2 ในกรณีมีความจาเป็นพิเศษ เช่น พายุฝนตกหนัก รถจักรยานยนต์ยางแตก
เครื่องรถเสียระหว่างทาง ครูที่ปรึกษาและครูเวรประจาวันจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
หากพบว่าเป็นการโกหกครู จะถูกตัดคะแนน 10 คะแนน
6. การแต่งกายของนักเรียน ให้ปฏิบัติดังนี้
ก. วันจันทร์ แต่งเครื่องแบบนักเรียนให้ถูกต้อง สะอาด
ผู้หญิงรวบ/มัดผมให้เรียบร้อย
ข. วันอังคาร แต่งกายด้วยชุดพละศึกษา
ค. วันพุธ แต่งกายด้วยชุดลูกเสือ – เนตนารี, นักศึกษาวิชาทหาร
ง. วันพฤหัสบดี แต่งกายด้วยชุดนักเรียน
จ. วันศุกร์ แต่งกายด้วยชุดกิจกรรม
7. การรับประทานอาหาร
นักเรียนจะต้องรับประทานอาหารที่โรงอาหารเท่านั้น
ไม่ให้นักเรียนนาอาหารเข้ามารับประทานในห้องเรียนโดยเด็ดขาด
เพราะจะสร้างขยะขึ้นในห้องเรียนและส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่น เวลารับประทานอาหาร
เช้าตั้งแต่เวลา 06.00 – 08.30 น. (เวลา 08.00 น.
นักเรียนต้องเข้าแถวหน้าเสาธงทาพิธีเคารพธงชาติ) ช่วงพักกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.50 –
13.00 น. และในช่วงหลังเลิกเรียนเวลา 15 .30 น.
โดยนักเรียนจะต้องปฎิบัติตนในโรงอาหารดังนี้
ก. นักเรียนต้องรับประทานอาหารตามเวลาที่กาหนดของทางโรงเรียนเท่านั้น
ข. นักเรียนต้องซื้ออาหารอย่างเป็นระเบียบ โดยการเข้าแถวก่อนและหลัง
ค. นักเรียนต้องช่วยกันรักษาความสะอาดภายในโรงอาหาร
ง. นักเรียนต้องนั่งรับประทานอาหาร ห้ามขึ้นไปเหยียบที่นั่งรับประทานอาหาร
จ. นักเรียนต้องรับประทานอาหารอย่างสุภาพ
ฉ. นักเรียนจะต้องเก็บ จาน ช้อน หลังรับประทานอาหารเสร็จ ส่งคืนแม่ค้า
8. การรักษาความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียน
เพื่อเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นกับนักเรียน
ให้นักเรียนเกิดจิตสานึกที่ดีต่อโรงเรียน มีความรักโรงเรียน มีความภาคภูมิในในโรงเรียน
เมื่อนักเรียนมาถึงโรงเรียนในตอนเช้าให้นักเรียนทุกคนช่วยกันทาความสะอาดห้องเรียนแ
ละบริเวณโรงเรียน ในขณะที่ทาการเรียนการสอนตลอดทั้งวันห้ามนักเรียน
ทิ้งขยะนอกภาชนะที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้
หากนักเรียนคนใดฝ่าฝืนจะถูกหักคะแนนตามที่กาหนด
9. ระเบียบการเข้าแถว
ก. นักเรียนต้องรีบเดินเข้าแถวทันทีเมื่อได้ยินเสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้น
เมื่อเวลา 08.00 น.
ข. นักเรียนจะต้องไม่คุย เล่น หยอกล้อ รับประทานอาหารระหว่างการเข้าแถว
ค. นักเรียนต้องไม่ถือสิ่งใด ๆ ไปเข้าแถว เช่นกระเป๋า เสื้อคลุม เสื้ออื่น ๆ
ที่โรงเรียนไม่ได้กาหนด
ง. ขณะเดินเข้าห้องเรียนให้เดินเป็นแถวด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่แตกแถว
ไม่หยอกล้อกัน ใหเสียระเบียบแถว
จ. ในการขึ้นลงบันไดและเดินในอาคาร ให้เดินด้วยความเรียบร้อย
และให้ถอดรองเท้าตามที่ที่โรงเรียนกาหนด
10. ระเบียบในห้องเรียน
ก. ผู้ใดไม่เข้าห้องเรียน หลีกเลี่ยงการเรียนเมื่อถึงเวลา ถือเป็นความผิดร้ายแรง
ต้องเชิญผู้ปกครอง
ข. นักเรียนต้องรักษาโต๊ะที่นั่งของนักเรียน ไม่ให้มีสิ่งสกปรกอยู่ภายในโต๊ะ
ค. ห้ามขีดเขียนสิ่งใด ๆ ลงบนโต๊ะนักเรียน
ง. นักเรียนต้องช่วยกันทาความสะอาดห้องเรียนทุกวัน
จ. ห้ามนักเรียนสร้างความวุ่นวายในห้องเรียนซึ่งเป็นการรบกวนการเรียนการสอน
ฉ. ห้ามนักเรียนลุกออกจากที่นั่งโดยไม่มีความจาเป็น
ช. นักเรียนต้องให้เกียรติครูผู้สอนหรือวิทยากรอื่น ทั้งภายในและนอกโรงเรียน
11. ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน
ก. มาโรงเรียนสายเป็นประจาโดยไม่มีเหตุจาเป็ น
ข. เสพบุหรี่ สุรา ยาเสพติดให้โทษอื่นๆ หรือจาหน่ายยาเสพติด
ค. เล่นการพนัน หรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายการพนัน
ง. ประพฤติตนในทานองชู้สาว
จ. แสดงกิริยาวาจา หรือการกระทาอย่างดอย่างหนึ่งที่ไม่สุภาพ
ฉ. ก้าวร้าวครู
ช. แต่งกายไม่ถูกต้องตามกาหนด แต่งกายไม่เรียบร้อย
ซ. โดดเรียน ไม่เข้าเรียนแต่อยู่ในบริเวณโรงเรียน หนีเรียน
ไม่เข้าเรียนอยู่ภายนอกบริเวณโรงเรียน
เกณฑ์คะแนนพฤติกรรมนักเรียน
ข้อ 1 นักเรียนทุกคนมีคะแนนเริ่มต้น 0 คะแนน และเป็นคะแนนต่อเนื่อง
ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3
ข้อ 2 นักเรียนทุกคนมีคะแนนเริ่มต้น 0 คะแนน และเป็นคะแนนต่อเนื่อง
ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6
ข้อ 3 กาหนดคุณประโยชน์ สิทธิ
หรือโทษของนักเรียนให้นาคะแนนพฤติกรรมนักเรียนเป็นหลักในการพิจารณา
ข้อ 4 อานาจในการตัดหรือเพิ่มคะแนนให้เป็นอานาจหน้าที่ของครูทุกคน
สามารถส่งข้อมูลการกระทาผิดระเบียบหรือพฤติกรรมในด้านลบ
รวมถึงคะแนนพฤติกรรมด้านบวกของนักเรียนทุกคนให้กับงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรีย
น ครูที่ทาหน้าที่ดูแลคะแนนพฤติกรรมของนักเรียน
จะได้ดาเนินการเก็บข้อมูลของนักเรียนทั้งคะแนนพฤติกรรมด้านลบ และด้านบวกต่อไป
ข้อ 5 การตัดคะแนนความประพฤติด้านลบของนักเรียน
5.1 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1 – 14 คะแนน ให้ครูที่ปรึกษา
เป็นผู้ดูแลว่ากล่าวตักเตือน หรือแจ้งผู้ปกครองนักเรียนให้ทราบเพื่อช่วยกันดูแล ปรับปรุง
แก้ไข พฤติกรรมเบื้องต้น
5.2 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 15 คะแนนขึ้นไป
นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองนักเรียนมารับทราบพฤติกรรม
โดยนักเรียนจะถูกบันทึกประวัติในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 1
รวมถึงการถูกลงโทษให้ทากิจกรรมสาธารณะประโยชน์ในโรงเรียนรวม 3
ชั่วโมงต่อสัปดาห์
โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม
และผู้ปกครองเซ็ฯต์ชื่อรับทราบพฤติกรรมของนักเรียนเป็ นหลักฐาน
5.3 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 30 คะแนนขึ้นไป
นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม
และนักเรียนจะถูกบันทึกประวัติในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 2 รวมถึงการถูกลงโทษ
โดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 1 ไว้เป็นหลักฐาน
และให้นักเรียนทากิจกรรมสาธารณประโยชน์ในโรงเรียนรวม 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
หรือเฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมงต่อวัน
โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม
และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป
5.4 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป
นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และถูกบันทึกประวัติไว้ในแบบ ป.ค.4
ครั้งที่ 3 รวมถึงการถูกลงโทษโดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 2
และให้นักเรียนทากิจกรรมสารธารณะประโยชน์ในโรงเรียนเป็นเวลา 2 วัน
โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม
และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป
5.5 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 70 คะแนนขึ้นไป
นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และถูกบันทึกประวัติไว้ในแบบ ป.ค.4
ครั้งที่ 4 รวมถึงการถูกลงโทษโดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 3
และให้นักเรียนไปเข้าค่ายอบรมพฤติกรรมภายนอกโรงเรียนเป็นเวลา 3 วัน
โดยให้ผู้ปกครองร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% กับทางโรงเรียน
โดยคณะกรรมการและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม
และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป
5.6 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป
นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และให้ทาการย้ายสถานศึกษา
หมายเหตุ
ข้อ 1 กรณีความผิดร้ายแรงที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่ผิดกฏหมาย
จะต้องมีการควบคุมความประพฤติ หรือส่งต่อภายนอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
เพื่อการบาบัดและรักษาต่อไป
ข้อ 2 กรณีการกระทาผิดครั้งแรก ระดับคะแนนที่ถูกตัดตั้งแต่ 30 – 50
คะแนนขึ้นไป ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของระดับคะแนนดังกล่าวทันที
ข้อ 6 การเพิ่มคะแนนพฤติกรรมด้านบวกของนักเรียน
6.1 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 20 คะแนนขึ้นไป
ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย
ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง
6.2 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 30 คะแนนขึ้นไป
ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย
ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง และทาหนังสือชมเชยนักเรียนถึงผู้ปกครอง
6.3 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป
ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย
ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง และทาหนังสือชมเชยนักเรียนถึงผู้ปกครอง
และติดเป็นประกาศของโรงเรียน หรือทาหนังสือถึงชุมชนเพื่อประกาศเสียงตามสาย
6.4 6.2 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป
ทางโรงเรียนมอบเกียรติบัตร หรือโล่เกียรติยศให้กับนักเรียน
หมายเหตุ
ทุกกรณีที่มีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกที่กล่าวมา
ต้องไม่มีคะแนนพฤติกรรมด้านลบมาเกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับคะแนน 15 คะแนนขึ้นไป
กรณีมาสาย ถ้ามาสายถึง 3 ครั้ง จะถูกเตือน ถ้ายังสายอีกเป็นครั้งที่ 4
โดยไม่มีเหตุผลอันควร จะถูกเชิญผู้ปกครอง
รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้
ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด
1 เสื้อไม่ปักชื่อ-สกุล / ระดับชั้น / สถานศึกษา 2
2 ใส่เสื้อผู้อื่น/ สถานศึกษาอื่น มาโรงเรียน 3
3 ร้อยชายเสื้อด้วยเชือกและติดเข็มกลัด 3
4 ใส่เสื้อกันหนาวโดยไม่สวมเสื้อนักเรียน 2
5 ใส่เครื่องประดับไม่เหมาะสมมาโรงเรียน 2
6 ไม่เอาชายเสื้อนักเรียนและเสื้อกีฬาเข้าข้างในกางเกง 2
7 ทรงผมไม่ถูกระเบียบของทางโรงเรียน 5
8 ย้อม กัดสีผม เปลี่ยนสีผม หรือซอยผม 10
9 ไว้หนวด เครา แต่งหน้า กันคิ้ว 5
10 ไม่แต่งชุดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามกาหนด (อังคาร พุธ ศุกร์) 3
11 กระโปรง กางเกง ยาว หรือสั้นกว่าเกณฑ์ 5
12 เหยียบส้นรองเท้านักเรียน และรองเท้าพละ 2
13 ใส่เจลล์ตกแต่งทรงผม 3
14 แต่งกายไม่ถูกระเบียบ 5
15 ถุงเท้าผิดระเบียบ 2
16 รองเท้าผิดระเบียบ 3
17 เล็บยาว เจาะหู แต่งหน้า 3
18 ทาเล็บ 3
19 ไม่ผูกโบ 3
20 ไม่ใส่เข็มขัด 3
รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้ (ต่อ)
ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด
21 กล่าววาจาไม่สุภาพ หยาบคาย 5
22 ไม่สารวมกิริยามารยาทในโรงเรียน 2
23 ไม่สารวจกิริยามารยาทนอกโรงเรียน/ในเครื่องแบบ 4
24 ทะเลาะวิวาท ด้วยวาจา 10
25 ทะเลาะวิวาทและใช้กาลัง เครื่องมือ ทาร้ายร่างกายกัน 15
26 ร่วมกันทะเลาะวิวาทระหว่างสถานศึกษา 30
27 นาคนภายนอกมาทะเลาะวิวาทกับนักเรียนในโรงเรียน 30
28 มีส่วนร่วมในการกระทาผิดในการทะเลาะวิวาท 15
29 เล่นกันโดยประมาท ทามห้ได้รับบาดแผล 5
30 สูบบุหรี่/มีบุหรี่ไว้ในครอบครอง 15
31 มีสื่อลามกไว้ในครอบครอง/ดูสื่อลามก 10
32 มี/ดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 15
33 เล่นการพนันในโรงเรียน 15
34 แสดงการข่มขู่ เพื่อหวังทรัพย์ 15
35 มี/เสพ ยาเสพติดที่ผิดกฏหมาย 30
36 ลักขโมย แอบอ้างเอาของผู้อื่น 30
37 ทาลายทรัพย์สินของทางโรงเรียน 30
38 กลั่นแกล้งเพื่อนโดยเจตนา 5
39 เที่ยวในสถานที่ไม่เหมาะสม 15
40 วางตัวไม่เหมาะสมกับเพื่อนต่างเพศ 5
41 แสดงกิริยา วาจา อาการที่ขาดความเคารพต่อครู 20
42 เพิกเฉยต่อการเรียกตัว/ถูกลงโทษของครู 5
43 ให้ความร่วมมือเพื่อนหนีโรงเรียน 10
44 มาสาย ไม่เข้าเรียนหลังเวลา 08.30 น. 5
45 ขาดเรียนโดยไม่แจ้งเหตุผลเกิน 3 วัน 5
46 ไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัด 3
47 ไม่เข้าเรียนตามตารางเรียนของตน 5
48 ไม่เข้าโฮมรูม ประชุม อบรม 5
49 ไม่ตั้งใจและสนใจเรียน 2
50 หนีออกนอกบริเวณโรงเรียน 15
51 มาสาย หลังเวลา 08.15 – 08.30 น. 3
52 ไม่รักษาความสะอาดห้องเรียนและเขตพื้นที่รับผิดชอบ 3
53 นาอาหาร เครื่องดื่ม ไปทานบนอาคาร ห้องเรียน
ห้องปฏิบัติการต่างๆ
3
รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้ (ต่อ)
ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด
54 เล่นกีฬาในสถานที่ไม่เหมาะสม 3
55 มาโรงเรียน แต่ไม่มาร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง
โดยไม่มีเหตุอันสมควร
2
56 แอบอ้างชื่อผู้อื่นกระทาการอื่นใดที่ทาให้เป็นที่เดือดร้อน 5
57 ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 5
58 ไม่ส่งใบลาในวันที่ไม่มาโรงเรียน 2
59 ปลอมแปลงลายมือชื่อผู้ปกครอง 5
60 พกพาอาวุธ สิ่งเทียมคล้ายอาวุธมาโรงเรียน 30
61 มีพฤติกรรมฉันท์ชู้สาว 15
62 ประพฤติผิดอันทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของทางโรงเรียน 30
63 ทุจริตในการสอบเก็บคะแนน/กลางภาค/ปลายภาค 15
64 นาประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ มาเล่นในบริเวณโรงเรียน 5
65 ซื้อของจากร้านค้า/ผู้ค้า ภายนอกโรงเรียนในเวลาเรียน พักเที่ยง 5
66 นาเครื่องเล่นที่ไม่เหมาะสมมาเล่นในโรงเรียน 5
67 ใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเรียน 15
68 ขับขี่ยานพาหนะด้วยความคะนอง เสียงดัง 10
69 กระทาความเสื่อมเสียจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Facebook
Line Instargram Twitter, etc)
15
70 ถูกลงโทษเรื่องเดิมซ้าครบ 3 ครั้ง ขึ้นไป 10
รายการคะแนนการทาความดี (เพิ่มคะแนน) มีดังนี้
ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ได้
1 ช่วยเหลืองานโรงเรียน 5
2 เก็บสิ่งของได้แล้วนาส่งคืนเจ้าของ 5
3 ช่วยเหลืองานครู (จิตอาสา) 5
4 แจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเพื่อนนักเรียน 5
5 ให้ความช่วยเหลือเพื่อนนักเรียน 5
6 เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 5
7 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับอาเภอ 10
8 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับจังหวัด 15
9 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับภาค (ทองแดง,เงิน,ทอง) 20,25,30
10 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับประเทศ 40
11 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับนานาชาติ 50
12 บาเพ็ญประโยชน์, จิตอาสา 5
13 ปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 5
14 การบริจาคปัจจัย สิ่งของ 5
15 การบริจาคโลหิต 10
12. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ปกครอง
12.1 ควรดูแลนักเรียนในปกครองของท่านให้แต่งกายให้ถูกระเบียบ
เดินทางไปโรงเรียนให้ทันเวลา หมั่นตักเตือนให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนโดยสม่าเสมอ
ประพฤติตามระเบียบวินัยของทางโรงเรียน
12.2 ควรรับผิดชอบส่งเสียเรื่องการเงินให้พอใช้สอยในระหว่างศึกษาเล่าเรียน
12.3 ควรสอบถาม ดูแลการทาการบ้านของนักเรียน
12.4 ควรสอดส่องการไป-กลับโรงเรียนของนักเรียนว่าตรงไปตรงมาหรือไม่
ถ้าพบว่าผิดปกติให้แจ้งทางโรงเรียนทราบเพื่อช่วยติดตาม แก้ไขพฤติกรรม
12.5 ไม่ควรให้เงินนักเรียนมาโรงเรียนมากเกินความจาเป็น
12.6 ไม่ควรให้นักเรียนหยุดเรียนโดยไม่จาเป็น จะให้เสียการเรียน
ถ้าจาเป็นต้องหยุดเรียน ให้ผู้ปกครองลงนามในใบลากิจด้วยทุกครั้ง
12.7 ไม่ควรให้นักเรียนสวมใส่เครื่องประดับมีค่า เช่น สร้อย กาไล แหวน มาโรงเรียน
เพื่อป้องกันการลักขโมยทั้งระหว่างเดินทางไป-กลับ และภายในสถานศึกษา
12.8 ควรอบรมการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างมาโรงเรียนของนักเรียน เช่น
ไม่ควรใช้ในเวลาเรียน
12.9 หากสังเกตว่านักเรียนของท่านมีความผิดปกติทางการเรียน หรือทางพฤติกรรม
ทางสุขภาพ โปรดติดต่อกับทางโรงเรียนด่วน เพื่อหาทางปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว
12.10 หากท่านมีธุระไม่สามารถดูแลนักเรียนของท่านได้
โปรดแจ้งว่าท่านได้ฝากนักเรียนของท่านไว้กับญาติท่านใด
เพื่อการประสานงานระหว่างผู้ปกครองกับทางโรงเรียน
12.11 ควรดูแลนักเรียนในปกครองไม่ให้ไปทาการสักลวดลาย เจาะร่างกาย
12.12 ควรดูแล ให้คาแนะนาแก่นักเรียนในปกครองของท่านไม่ให้ไปมั่วสุม
เสพหรือจาหน่ายสิ่งเสพติดทุกชนิด
12.13 เมื่อทางโรงเรียนมีหนังสือเชิญท่านไปพบเกี่ยวกับกิจกรรมในโรงเรียน
หรือพฤติกรรมนักเรียนในปกครองของท่าน โปรดไปตามนัด
หากไม่สามารถไปได้ให้หาตัวแทนที่เป็นญาติมาพบตามนัด
เพื่อความเข้าใจตรงกันในเงื่อนไข ข้อตกลง
ระหว่างโรงเรียนกับนักเรียนในปกครองของท่าน
12.14 โรงเรียนสามารถดาเนินการย้าย ให้ออก กับนักเรียนได้
หากผู้ปกครองไม่มาติดต่อหลังจากที่ได้รับหนังสือเชิญเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่ครั้งที่ 2
เป็นต้นไป
13. การรายงานถึงบ้าน
โรงเรียนจะรายงานผลไปยังผู้ปกครองอันได้แก่ ผลการเรียน รายงานความประพฤติ
และผลการพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของนักเรียนถึงบ้าน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
โดยครูที่ปรึกษาจะเป็นผู้ส่งรายงานไปให้ผู้ปกครองทราบ
และให้นาคืนกลับมายังครูที่ปรึกษา นักเรียนที่ปิดบังการส่งรายงาน
หรือบิดพลิ้วในการรายงานจะถือว่า ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบ อาจได้รับโทษ
ผู้ปกครองที่มีปัญหาเกี่ยวกับนักเรียนปกครองของท่าน ควรสละเวลาไปพบครูที่ปรึกษา
ครูฝ่ายแนะแนว รองผู้อานวยการ หรือผู้อานวยการโรงเรียน ได้ทุกเวลาราชการ
ในการเขียนรายงานความเห็นทางบ้าน
ผู้ปกครองควรลงความเห็นด้วยตนเองตามข้อเท็จจริง เพื่อให้โรงเรียนได้ทราบความจริง
และมีโอกาสปรับปรุงแก้ไขนักเรียนของท่านได้ตามสมควร

More Related Content

Similar to แนวทางปฎิบัติของนักเรียน

งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
Todsaporn2539
 
งานวิจัย
งานวิจัยงานวิจัย
งานวิจัย
Por Kung
 
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษาแผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
tassanee chaicharoen
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้าน
aapiaa
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
tee155268
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
tee155268
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
tee155268
 
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
ฟาน. ฟฟฟ
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
tee155268
 

Similar to แนวทางปฎิบัติของนักเรียน (20)

พฤติกรรมมาโรงเรียนสาย
พฤติกรรมมาโรงเรียนสายพฤติกรรมมาโรงเรียนสาย
พฤติกรรมมาโรงเรียนสาย
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
แอลดี1
แอลดี1แอลดี1
แอลดี1
 
วิจัยในชั้นเรียนเรื่องการไม่ส่งการบ้านวิชาฟิสิกส์
วิจัยในชั้นเรียนเรื่องการไม่ส่งการบ้านวิชาฟิสิกส์วิจัยในชั้นเรียนเรื่องการไม่ส่งการบ้านวิชาฟิสิกส์
วิจัยในชั้นเรียนเรื่องการไม่ส่งการบ้านวิชาฟิสิกส์
 
งานวิจัย
งานวิจัยงานวิจัย
งานวิจัย
 
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษาแผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
แผนการเรียนรู้เรื่อง เพศศึกษา
 
เด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้านเด็กไม่ส่งการบ้าน
เด็กไม่ส่งการบ้าน
 
ส่งประกวดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ส่งประกวดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนส่งประกวดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ส่งประกวดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
 
สุขศึกษา ม.3
สุขศึกษา ม.3สุขศึกษา ม.3
สุขศึกษา ม.3
 
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติดแผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
 
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติดแผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
 
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติดแผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
 
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติดแผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
แผนจัดการเรียนรู้เรื่องสารเสพติด
 
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ ใบที่2 8
 
การสอนพิเศษ
การสอนพิเศษการสอนพิเศษ
การสอนพิเศษ
 
บทที่ 9 การเลือกใช้สื่อและวิธีการจัดการเรียนรู้
บทที่ 9 การเลือกใช้สื่อและวิธีการจัดการเรียนรู้บทที่ 9 การเลือกใช้สื่อและวิธีการจัดการเรียนรู้
บทที่ 9 การเลือกใช้สื่อและวิธีการจัดการเรียนรู้
 

แนวทางปฎิบัติของนักเรียน

  • 1. แนวทางปฎิบัติของนักเรียน โรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม 1. การลา เมื่อผู้ปกครองมีความจาเป็นต้องให้เด็กหยุดการเรียน หรือในกรณีที่เด็กเจ็บป่วย ต้องมีใบลาเป็นลายลักษณ์อักษรของผู้ปกครองแจ้งให้ครูที่ปรึกษาทราบ ถ้าเป็นใบลาของนักเรียนต้องมีลายมือชื่อของผู้ปกครองต่อท้ายใบลา หรือถ้าผู้ปกครองมาลาด้วยตนเองเป็นการดีที่สุด 2. การขาดเรียน นักเรียนที่ขาดเรียนโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลาเกิน 3 วัน โรงเรียนจะส่งใบเตือนถึงผู้ปกครองครั้งที่ 1 โดยครูที่ปรึกษาจะมีหนังสือเตือน หากไม่ได้รับการตอบรับ ภายใน 5 วัน โรงเรียนจะส่งใบเตือนเป็นครั้งที่ 2 และภายในอีก 5 วัน หลังจากส่งใบเตือนครั้งที่ 2 ยังไม่ได้รับการติดต่อ โรงเรียนจะคัดชื่อออกจากทะเบียนโรงเรียน เพราะเหตุไม่สนใจเรียนหรือไม่สมัครใจเรียน 3. การออกนอกบริเวณโรงเรียน เมื่อนักเรียนเข้ามาบริเวณโรงเรียนแล้ว นักเรียนจะออกนอกบริเวณโรงเรียนไม่ได้ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน โรงเรียนจะอนุญาตให้ออกนอกโรงเรียนได้ในกรณีที่ผู้ปกครองมารับเท่านั้น โดยต้องทาตามแบบฟอร์มขอออกนอกบริเวณโรงเรียน 4. การเดินทางมาโรงเรียน 4.1 รถรับส่งนักเรียน โรงเรียนจัดรถรับส่งนักเรียน 2 คัน โดยคันที่ 1 วิ่งผ่านบ้านดงคาพัฒนาและบ้านโนนชาด คันที่ 2 วิ่งผ่านบ้านแห่ บ้านหนองโพนสูง บ้านหนองผ้าอ้อม บ้านคาไผ่ บ้านหนองขาม ให้นักเรียนที่อยู่ตามหมู่บ้านดังกล่าวแต่งตัวตามกาหนดในแต่ละวันของทางโรงเรียนให้เรีย บร้อย รอขึ้นรถตามจุดนัดหมายของแต่ละหมู่บ้าน 4.2 รถจักรยานยนต์,รถยนต์ นักเรียนที่นารถส่วนตัวมาโรงเรียนต้องมาขึ้นทะเบียนกับทางโรงเรียนเพื่อเป็นข้อมูลในการ ติดตามดูแล ห้ามนารถส่วนตัวไปจอดที่อื่นนอกจากโรงรถหรือสถานที่ที่โรงเรียนกาหนด ตามความเหมาะสม 5. การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน เพื่อเป็นการฝึกนักเรียนให้เป็นคนตรงต่อเวลา เป็นผู้มีความกระตือรือร้น ไม่เฉื่อยชา เป็นผู้มีวัฒนธรรมที่ดี และได้รับการอบรมตักเตือน ดังนั้น ถ้านักเรียนมาไม่ทันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ครูจะทาการหักคะแนนตามที่กาหนดไว้ เว้นแต่มีเหตุจาเป็นดังนี้ 5.1 ผู้ปกครองให้ไปทาธุระที่จาเป็นในตอนเช้า นักเรียนไม่สามารถมาทันตามกาหนดเวลา
  • 2. ต้องมีหนังสือรับรองของผู้ปกครองไปแสดงต่อครูเวรประจาวันและครูที่ปรึกษาเซ็นรับรอง ก่อนเข้าห้องเรียน หากไม่มีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองถือว่านักเรียนคนนั้นมาสาย 5.2 ในกรณีมีความจาเป็นพิเศษ เช่น พายุฝนตกหนัก รถจักรยานยนต์ยางแตก เครื่องรถเสียระหว่างทาง ครูที่ปรึกษาและครูเวรประจาวันจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป หากพบว่าเป็นการโกหกครู จะถูกตัดคะแนน 10 คะแนน 6. การแต่งกายของนักเรียน ให้ปฏิบัติดังนี้ ก. วันจันทร์ แต่งเครื่องแบบนักเรียนให้ถูกต้อง สะอาด ผู้หญิงรวบ/มัดผมให้เรียบร้อย ข. วันอังคาร แต่งกายด้วยชุดพละศึกษา ค. วันพุธ แต่งกายด้วยชุดลูกเสือ – เนตนารี, นักศึกษาวิชาทหาร ง. วันพฤหัสบดี แต่งกายด้วยชุดนักเรียน จ. วันศุกร์ แต่งกายด้วยชุดกิจกรรม 7. การรับประทานอาหาร นักเรียนจะต้องรับประทานอาหารที่โรงอาหารเท่านั้น ไม่ให้นักเรียนนาอาหารเข้ามารับประทานในห้องเรียนโดยเด็ดขาด เพราะจะสร้างขยะขึ้นในห้องเรียนและส่งกลิ่นรบกวนผู้อื่น เวลารับประทานอาหาร เช้าตั้งแต่เวลา 06.00 – 08.30 น. (เวลา 08.00 น. นักเรียนต้องเข้าแถวหน้าเสาธงทาพิธีเคารพธงชาติ) ช่วงพักกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.50 – 13.00 น. และในช่วงหลังเลิกเรียนเวลา 15 .30 น. โดยนักเรียนจะต้องปฎิบัติตนในโรงอาหารดังนี้ ก. นักเรียนต้องรับประทานอาหารตามเวลาที่กาหนดของทางโรงเรียนเท่านั้น ข. นักเรียนต้องซื้ออาหารอย่างเป็นระเบียบ โดยการเข้าแถวก่อนและหลัง ค. นักเรียนต้องช่วยกันรักษาความสะอาดภายในโรงอาหาร ง. นักเรียนต้องนั่งรับประทานอาหาร ห้ามขึ้นไปเหยียบที่นั่งรับประทานอาหาร จ. นักเรียนต้องรับประทานอาหารอย่างสุภาพ ฉ. นักเรียนจะต้องเก็บ จาน ช้อน หลังรับประทานอาหารเสร็จ ส่งคืนแม่ค้า 8. การรักษาความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นกับนักเรียน ให้นักเรียนเกิดจิตสานึกที่ดีต่อโรงเรียน มีความรักโรงเรียน มีความภาคภูมิในในโรงเรียน เมื่อนักเรียนมาถึงโรงเรียนในตอนเช้าให้นักเรียนทุกคนช่วยกันทาความสะอาดห้องเรียนแ ละบริเวณโรงเรียน ในขณะที่ทาการเรียนการสอนตลอดทั้งวันห้ามนักเรียน ทิ้งขยะนอกภาชนะที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ หากนักเรียนคนใดฝ่าฝืนจะถูกหักคะแนนตามที่กาหนด
  • 3. 9. ระเบียบการเข้าแถว ก. นักเรียนต้องรีบเดินเข้าแถวทันทีเมื่อได้ยินเสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนดังขึ้น เมื่อเวลา 08.00 น. ข. นักเรียนจะต้องไม่คุย เล่น หยอกล้อ รับประทานอาหารระหว่างการเข้าแถว ค. นักเรียนต้องไม่ถือสิ่งใด ๆ ไปเข้าแถว เช่นกระเป๋า เสื้อคลุม เสื้ออื่น ๆ ที่โรงเรียนไม่ได้กาหนด ง. ขณะเดินเข้าห้องเรียนให้เดินเป็นแถวด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่แตกแถว ไม่หยอกล้อกัน ใหเสียระเบียบแถว จ. ในการขึ้นลงบันไดและเดินในอาคาร ให้เดินด้วยความเรียบร้อย และให้ถอดรองเท้าตามที่ที่โรงเรียนกาหนด 10. ระเบียบในห้องเรียน ก. ผู้ใดไม่เข้าห้องเรียน หลีกเลี่ยงการเรียนเมื่อถึงเวลา ถือเป็นความผิดร้ายแรง ต้องเชิญผู้ปกครอง ข. นักเรียนต้องรักษาโต๊ะที่นั่งของนักเรียน ไม่ให้มีสิ่งสกปรกอยู่ภายในโต๊ะ ค. ห้ามขีดเขียนสิ่งใด ๆ ลงบนโต๊ะนักเรียน ง. นักเรียนต้องช่วยกันทาความสะอาดห้องเรียนทุกวัน จ. ห้ามนักเรียนสร้างความวุ่นวายในห้องเรียนซึ่งเป็นการรบกวนการเรียนการสอน ฉ. ห้ามนักเรียนลุกออกจากที่นั่งโดยไม่มีความจาเป็น ช. นักเรียนต้องให้เกียรติครูผู้สอนหรือวิทยากรอื่น ทั้งภายในและนอกโรงเรียน 11. ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน ก. มาโรงเรียนสายเป็นประจาโดยไม่มีเหตุจาเป็ น ข. เสพบุหรี่ สุรา ยาเสพติดให้โทษอื่นๆ หรือจาหน่ายยาเสพติด ค. เล่นการพนัน หรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายการพนัน ง. ประพฤติตนในทานองชู้สาว จ. แสดงกิริยาวาจา หรือการกระทาอย่างดอย่างหนึ่งที่ไม่สุภาพ ฉ. ก้าวร้าวครู ช. แต่งกายไม่ถูกต้องตามกาหนด แต่งกายไม่เรียบร้อย ซ. โดดเรียน ไม่เข้าเรียนแต่อยู่ในบริเวณโรงเรียน หนีเรียน ไม่เข้าเรียนอยู่ภายนอกบริเวณโรงเรียน เกณฑ์คะแนนพฤติกรรมนักเรียน ข้อ 1 นักเรียนทุกคนมีคะแนนเริ่มต้น 0 คะแนน และเป็นคะแนนต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ข้อ 2 นักเรียนทุกคนมีคะแนนเริ่มต้น 0 คะแนน และเป็นคะแนนต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ข้อ 3 กาหนดคุณประโยชน์ สิทธิ หรือโทษของนักเรียนให้นาคะแนนพฤติกรรมนักเรียนเป็นหลักในการพิจารณา
  • 4. ข้อ 4 อานาจในการตัดหรือเพิ่มคะแนนให้เป็นอานาจหน้าที่ของครูทุกคน สามารถส่งข้อมูลการกระทาผิดระเบียบหรือพฤติกรรมในด้านลบ รวมถึงคะแนนพฤติกรรมด้านบวกของนักเรียนทุกคนให้กับงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรีย น ครูที่ทาหน้าที่ดูแลคะแนนพฤติกรรมของนักเรียน จะได้ดาเนินการเก็บข้อมูลของนักเรียนทั้งคะแนนพฤติกรรมด้านลบ และด้านบวกต่อไป ข้อ 5 การตัดคะแนนความประพฤติด้านลบของนักเรียน 5.1 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1 – 14 คะแนน ให้ครูที่ปรึกษา เป็นผู้ดูแลว่ากล่าวตักเตือน หรือแจ้งผู้ปกครองนักเรียนให้ทราบเพื่อช่วยกันดูแล ปรับปรุง แก้ไข พฤติกรรมเบื้องต้น 5.2 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 15 คะแนนขึ้นไป นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองนักเรียนมารับทราบพฤติกรรม โดยนักเรียนจะถูกบันทึกประวัติในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 1 รวมถึงการถูกลงโทษให้ทากิจกรรมสาธารณะประโยชน์ในโรงเรียนรวม 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม และผู้ปกครองเซ็ฯต์ชื่อรับทราบพฤติกรรมของนักเรียนเป็ นหลักฐาน 5.3 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 30 คะแนนขึ้นไป นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และนักเรียนจะถูกบันทึกประวัติในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 2 รวมถึงการถูกลงโทษ โดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 1 ไว้เป็นหลักฐาน และให้นักเรียนทากิจกรรมสาธารณประโยชน์ในโรงเรียนรวม 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมงต่อวัน โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป 5.4 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และถูกบันทึกประวัติไว้ในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 3 รวมถึงการถูกลงโทษโดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 2 และให้นักเรียนทากิจกรรมสารธารณะประโยชน์ในโรงเรียนเป็นเวลา 2 วัน โดยให้ครูที่ปรึกษาและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป 5.5 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 70 คะแนนขึ้นไป นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และถูกบันทึกประวัติไว้ในแบบ ป.ค.4 ครั้งที่ 4 รวมถึงการถูกลงโทษโดยการบันทึกการทาทัณฑ์บณครั้งที่ 3 และให้นักเรียนไปเข้าค่ายอบรมพฤติกรรมภายนอกโรงเรียนเป็นเวลา 3 วัน โดยให้ผู้ปกครองร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% กับทางโรงเรียน โดยคณะกรรมการและหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นผู้ควบคุม และรายงานผลให้ผู้อานวยการโรงเรียนทราบต่อไป 5.6 เมื่อนักเรียนถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป นักเรียนจะถูกเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และให้ทาการย้ายสถานศึกษา หมายเหตุ
  • 5. ข้อ 1 กรณีความผิดร้ายแรงที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่ผิดกฏหมาย จะต้องมีการควบคุมความประพฤติ หรือส่งต่อภายนอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อการบาบัดและรักษาต่อไป ข้อ 2 กรณีการกระทาผิดครั้งแรก ระดับคะแนนที่ถูกตัดตั้งแต่ 30 – 50 คะแนนขึ้นไป ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของระดับคะแนนดังกล่าวทันที ข้อ 6 การเพิ่มคะแนนพฤติกรรมด้านบวกของนักเรียน 6.1 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 20 คะแนนขึ้นไป ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง 6.2 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 30 คะแนนขึ้นไป ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง และทาหนังสือชมเชยนักเรียนถึงผู้ปกครอง 6.3 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป ให้ผู้อานวยการโรงเรียน รองผู้อานวยการโรงเรียน หรือครูผู้รับมอบหมาย ชมเชยนักเรียนหน้าเสาธง และทาหนังสือชมเชยนักเรียนถึงผู้ปกครอง และติดเป็นประกาศของโรงเรียน หรือทาหนังสือถึงชุมชนเพื่อประกาศเสียงตามสาย 6.4 6.2 เมื่อนักเรียนมีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป ทางโรงเรียนมอบเกียรติบัตร หรือโล่เกียรติยศให้กับนักเรียน หมายเหตุ ทุกกรณีที่มีระดับคะแนนพฤติกรรมด้านบวกที่กล่าวมา ต้องไม่มีคะแนนพฤติกรรมด้านลบมาเกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับคะแนน 15 คะแนนขึ้นไป กรณีมาสาย ถ้ามาสายถึง 3 ครั้ง จะถูกเตือน ถ้ายังสายอีกเป็นครั้งที่ 4 โดยไม่มีเหตุผลอันควร จะถูกเชิญผู้ปกครอง รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้ ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด 1 เสื้อไม่ปักชื่อ-สกุล / ระดับชั้น / สถานศึกษา 2 2 ใส่เสื้อผู้อื่น/ สถานศึกษาอื่น มาโรงเรียน 3 3 ร้อยชายเสื้อด้วยเชือกและติดเข็มกลัด 3 4 ใส่เสื้อกันหนาวโดยไม่สวมเสื้อนักเรียน 2 5 ใส่เครื่องประดับไม่เหมาะสมมาโรงเรียน 2 6 ไม่เอาชายเสื้อนักเรียนและเสื้อกีฬาเข้าข้างในกางเกง 2 7 ทรงผมไม่ถูกระเบียบของทางโรงเรียน 5 8 ย้อม กัดสีผม เปลี่ยนสีผม หรือซอยผม 10 9 ไว้หนวด เครา แต่งหน้า กันคิ้ว 5 10 ไม่แต่งชุดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามกาหนด (อังคาร พุธ ศุกร์) 3 11 กระโปรง กางเกง ยาว หรือสั้นกว่าเกณฑ์ 5 12 เหยียบส้นรองเท้านักเรียน และรองเท้าพละ 2 13 ใส่เจลล์ตกแต่งทรงผม 3 14 แต่งกายไม่ถูกระเบียบ 5 15 ถุงเท้าผิดระเบียบ 2
  • 6. 16 รองเท้าผิดระเบียบ 3 17 เล็บยาว เจาะหู แต่งหน้า 3 18 ทาเล็บ 3 19 ไม่ผูกโบ 3 20 ไม่ใส่เข็มขัด 3 รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้ (ต่อ) ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด 21 กล่าววาจาไม่สุภาพ หยาบคาย 5 22 ไม่สารวมกิริยามารยาทในโรงเรียน 2 23 ไม่สารวจกิริยามารยาทนอกโรงเรียน/ในเครื่องแบบ 4 24 ทะเลาะวิวาท ด้วยวาจา 10 25 ทะเลาะวิวาทและใช้กาลัง เครื่องมือ ทาร้ายร่างกายกัน 15 26 ร่วมกันทะเลาะวิวาทระหว่างสถานศึกษา 30 27 นาคนภายนอกมาทะเลาะวิวาทกับนักเรียนในโรงเรียน 30 28 มีส่วนร่วมในการกระทาผิดในการทะเลาะวิวาท 15 29 เล่นกันโดยประมาท ทามห้ได้รับบาดแผล 5 30 สูบบุหรี่/มีบุหรี่ไว้ในครอบครอง 15 31 มีสื่อลามกไว้ในครอบครอง/ดูสื่อลามก 10 32 มี/ดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 15 33 เล่นการพนันในโรงเรียน 15 34 แสดงการข่มขู่ เพื่อหวังทรัพย์ 15 35 มี/เสพ ยาเสพติดที่ผิดกฏหมาย 30 36 ลักขโมย แอบอ้างเอาของผู้อื่น 30 37 ทาลายทรัพย์สินของทางโรงเรียน 30 38 กลั่นแกล้งเพื่อนโดยเจตนา 5 39 เที่ยวในสถานที่ไม่เหมาะสม 15 40 วางตัวไม่เหมาะสมกับเพื่อนต่างเพศ 5 41 แสดงกิริยา วาจา อาการที่ขาดความเคารพต่อครู 20 42 เพิกเฉยต่อการเรียกตัว/ถูกลงโทษของครู 5 43 ให้ความร่วมมือเพื่อนหนีโรงเรียน 10 44 มาสาย ไม่เข้าเรียนหลังเวลา 08.30 น. 5 45 ขาดเรียนโดยไม่แจ้งเหตุผลเกิน 3 วัน 5 46 ไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัด 3 47 ไม่เข้าเรียนตามตารางเรียนของตน 5 48 ไม่เข้าโฮมรูม ประชุม อบรม 5 49 ไม่ตั้งใจและสนใจเรียน 2 50 หนีออกนอกบริเวณโรงเรียน 15 51 มาสาย หลังเวลา 08.15 – 08.30 น. 3
  • 7. 52 ไม่รักษาความสะอาดห้องเรียนและเขตพื้นที่รับผิดชอบ 3 53 นาอาหาร เครื่องดื่ม ไปทานบนอาคาร ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการต่างๆ 3 รายการพฤติกรรมด้านลบที่ถูกตัดคะแนน มีดังนี้ (ต่อ) ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ตัด 54 เล่นกีฬาในสถานที่ไม่เหมาะสม 3 55 มาโรงเรียน แต่ไม่มาร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง โดยไม่มีเหตุอันสมควร 2 56 แอบอ้างชื่อผู้อื่นกระทาการอื่นใดที่ทาให้เป็นที่เดือดร้อน 5 57 ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 5 58 ไม่ส่งใบลาในวันที่ไม่มาโรงเรียน 2 59 ปลอมแปลงลายมือชื่อผู้ปกครอง 5 60 พกพาอาวุธ สิ่งเทียมคล้ายอาวุธมาโรงเรียน 30 61 มีพฤติกรรมฉันท์ชู้สาว 15 62 ประพฤติผิดอันทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของทางโรงเรียน 30 63 ทุจริตในการสอบเก็บคะแนน/กลางภาค/ปลายภาค 15 64 นาประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ มาเล่นในบริเวณโรงเรียน 5 65 ซื้อของจากร้านค้า/ผู้ค้า ภายนอกโรงเรียนในเวลาเรียน พักเที่ยง 5 66 นาเครื่องเล่นที่ไม่เหมาะสมมาเล่นในโรงเรียน 5 67 ใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารระหว่างเรียน 15 68 ขับขี่ยานพาหนะด้วยความคะนอง เสียงดัง 10 69 กระทาความเสื่อมเสียจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Facebook Line Instargram Twitter, etc) 15 70 ถูกลงโทษเรื่องเดิมซ้าครบ 3 ครั้ง ขึ้นไป 10 รายการคะแนนการทาความดี (เพิ่มคะแนน) มีดังนี้ ลาดับ รายการพฤติกรรม คะแนนที่ได้ 1 ช่วยเหลืองานโรงเรียน 5 2 เก็บสิ่งของได้แล้วนาส่งคืนเจ้าของ 5 3 ช่วยเหลืองานครู (จิตอาสา) 5 4 แจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเพื่อนนักเรียน 5 5 ให้ความช่วยเหลือเพื่อนนักเรียน 5 6 เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 5 7 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับอาเภอ 10 8 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับจังหวัด 15
  • 8. 9 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับภาค (ทองแดง,เงิน,ทอง) 20,25,30 10 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับประเทศ 40 11 สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนในระดับนานาชาติ 50 12 บาเพ็ญประโยชน์, จิตอาสา 5 13 ปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 5 14 การบริจาคปัจจัย สิ่งของ 5 15 การบริจาคโลหิต 10 12. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ปกครอง 12.1 ควรดูแลนักเรียนในปกครองของท่านให้แต่งกายให้ถูกระเบียบ เดินทางไปโรงเรียนให้ทันเวลา หมั่นตักเตือนให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนโดยสม่าเสมอ ประพฤติตามระเบียบวินัยของทางโรงเรียน 12.2 ควรรับผิดชอบส่งเสียเรื่องการเงินให้พอใช้สอยในระหว่างศึกษาเล่าเรียน 12.3 ควรสอบถาม ดูแลการทาการบ้านของนักเรียน 12.4 ควรสอดส่องการไป-กลับโรงเรียนของนักเรียนว่าตรงไปตรงมาหรือไม่ ถ้าพบว่าผิดปกติให้แจ้งทางโรงเรียนทราบเพื่อช่วยติดตาม แก้ไขพฤติกรรม 12.5 ไม่ควรให้เงินนักเรียนมาโรงเรียนมากเกินความจาเป็น 12.6 ไม่ควรให้นักเรียนหยุดเรียนโดยไม่จาเป็น จะให้เสียการเรียน ถ้าจาเป็นต้องหยุดเรียน ให้ผู้ปกครองลงนามในใบลากิจด้วยทุกครั้ง 12.7 ไม่ควรให้นักเรียนสวมใส่เครื่องประดับมีค่า เช่น สร้อย กาไล แหวน มาโรงเรียน เพื่อป้องกันการลักขโมยทั้งระหว่างเดินทางไป-กลับ และภายในสถานศึกษา 12.8 ควรอบรมการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างมาโรงเรียนของนักเรียน เช่น ไม่ควรใช้ในเวลาเรียน 12.9 หากสังเกตว่านักเรียนของท่านมีความผิดปกติทางการเรียน หรือทางพฤติกรรม ทางสุขภาพ โปรดติดต่อกับทางโรงเรียนด่วน เพื่อหาทางปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว 12.10 หากท่านมีธุระไม่สามารถดูแลนักเรียนของท่านได้ โปรดแจ้งว่าท่านได้ฝากนักเรียนของท่านไว้กับญาติท่านใด เพื่อการประสานงานระหว่างผู้ปกครองกับทางโรงเรียน 12.11 ควรดูแลนักเรียนในปกครองไม่ให้ไปทาการสักลวดลาย เจาะร่างกาย 12.12 ควรดูแล ให้คาแนะนาแก่นักเรียนในปกครองของท่านไม่ให้ไปมั่วสุม เสพหรือจาหน่ายสิ่งเสพติดทุกชนิด 12.13 เมื่อทางโรงเรียนมีหนังสือเชิญท่านไปพบเกี่ยวกับกิจกรรมในโรงเรียน หรือพฤติกรรมนักเรียนในปกครองของท่าน โปรดไปตามนัด หากไม่สามารถไปได้ให้หาตัวแทนที่เป็นญาติมาพบตามนัด เพื่อความเข้าใจตรงกันในเงื่อนไข ข้อตกลง ระหว่างโรงเรียนกับนักเรียนในปกครองของท่าน 12.14 โรงเรียนสามารถดาเนินการย้าย ให้ออก กับนักเรียนได้ หากผู้ปกครองไม่มาติดต่อหลังจากที่ได้รับหนังสือเชิญเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป
  • 9. 13. การรายงานถึงบ้าน โรงเรียนจะรายงานผลไปยังผู้ปกครองอันได้แก่ ผลการเรียน รายงานความประพฤติ และผลการพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของนักเรียนถึงบ้าน อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยครูที่ปรึกษาจะเป็นผู้ส่งรายงานไปให้ผู้ปกครองทราบ และให้นาคืนกลับมายังครูที่ปรึกษา นักเรียนที่ปิดบังการส่งรายงาน หรือบิดพลิ้วในการรายงานจะถือว่า ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบ อาจได้รับโทษ ผู้ปกครองที่มีปัญหาเกี่ยวกับนักเรียนปกครองของท่าน ควรสละเวลาไปพบครูที่ปรึกษา ครูฝ่ายแนะแนว รองผู้อานวยการ หรือผู้อานวยการโรงเรียน ได้ทุกเวลาราชการ ในการเขียนรายงานความเห็นทางบ้าน ผู้ปกครองควรลงความเห็นด้วยตนเองตามข้อเท็จจริง เพื่อให้โรงเรียนได้ทราบความจริง และมีโอกาสปรับปรุงแก้ไขนักเรียนของท่านได้ตามสมควร