1. 6. กระบวนการผลิต และ
พัฒ นาผลิต ภัณ ฑ์
ระหว่า งประเทศ
การดำาเนินธุรกิจระหว่างประเทศเพื่อให้เกิด
ประสิทธิภาพทางการแข่งขัน กิจการจะต้องดำาเนิน
การภายใต้ 2 ปัจจัย คือ…
1. ความแตกต่า งของผลิต ภัณ ฑ์ (Product
Differentiation)
2. การเป็น ผูน ำา ในด้า นต้น ทุน (Cost
้
Leadership)
ซึ่งการดำาเนินการภายใต้ปจจัยทั้ง 2 ข้างต้น จะมี
ั
แนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้…
1
• การทำาวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

2. 2

3. 6.1 การจัด การด้า นวิจ ัย และพัฒ นาของบริษ ท
ั
ข้า มชาติ
จะประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่…
 งานวิจ ัย เพื่อ พัฒ นาให้เ กิด ผลิต ภัณ ฑ์ใ หม่
(Research for New Product) = เป็นการวิจัย
โดยอาศัยข้อมูลจากผู้บริโภคทั่วโลกที่มีความแตกต่าง
กันเพื่อนำามาปรับผลิตภัณฑ์ให้มีการพัฒนาเป็น
มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก (Standardization) หรือ
ปรับผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับความต้องการของผูบริโภค
้
เฉพาะแห่ง (Customize) ซึ่งแนวทางการปฏิบัติใน
การวิจัยมี 2 แนวทาง คือ…
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆแล้วนำาไปจำาหน่ายจึงเกิด
การคิดประดิษฐ์สงใหม่ๆ
ิ่
3

4. บริษัทข้ามชาติมักจะกำาหนดนโยบาย ในการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพทางการแข่งขัน ดังนี้..
• การผลิตสินค้าที่ใช้ได้เหมือนกันทั่วโลกโดยไม่ต้องมี
การปรับเปลี่ยน (Universal product with all
features)
• การผลิตสินค้าที่ใช้ได้เหมือนกันแต่ลักษณะการใช้
งานแตกต่างกันในแต่ละประเทศ (Universal
product with different position)
• การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
(Product design families)
• การปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์แต่ใช้ชนส่วนหรือ
ิ้
อุปกรณ์เดิม (Core components
4

5.  งานวิจ ัย เพื่อ พัฒ นาตลาด (Marketing
Research) = เป็นการหาข้อมูลในด้านความ
ต้องการของลูกค้า รสนิยมของลูกค้า ความต้องการ
ใช้งานผลิตภัณฑ์ และ ปัญหาจากการใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ อันจะนำาไปสูการพัฒนาผลิตภัณฑ์
่
 งานวิจ ัย เพื่อ พัฒ นากระบวนการผลิต
(Production Process Research) = เป็นการ
วิเคราะห์ถึงแนวทางการลดต้นทุนในกระบวนการผลิต
ซึ่งจะเกิดได้หลายแนวทาง เช่น…
* การปรับปรุงกระบวนการผลิต
* การย้ายฐานการผลิต
* การแสวงหาแหล่งวัตถุดิบ หรือ
5

6. 6.2 การปรับ ปรุง กระบวนการผลิต = เป็นการ
วิเคราะห์ถึงสภาพภายในกิจการโดยการพิจารณาถึง
คุณค่าสัมพันธ์ (Value Chain) เพื่อนำาผลการวิจัยที่
ได้มาปรับปรุงกระบวนการผลิตทั้งระบบ อันจะทำาให้
ผลิตสินค้าออกมาตอบสนองความต้องการของผู้
บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และ สามารถสร้างผลกำาไรได้
มากขึ้น
6.3 การย้า ยฐานการผลิต = เป็นวิธการลดต้นทุน
ี
โดยหาแหล่งที่มีความได้เปรียบในการผลิต แต่
อย่างไรก็ตามการย้ายฐานการผลิตจะต้องพิจารณา
หลายองค์ประกอบเพื่อให้เกิดความได้เปรียบอย่าง
แท้จริง อันได้แก่…
6
* สถานการณ์ท างการเมือ งและนโยบายของรัฐ

7. * ปัจ จัย ด้า นสาธารณูป โภคขัน พื้น ฐาน = การ
้
ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีคาจ้างแรงงานที่ถูก
่
แต่ความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภคไม่เอื้ออำานวย
ต่อกระบวนการผลิตทำาให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
* ระยะทาง = การนำาวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิต
และเคลื่อนย้ายสู่ผบริโภคถ้ามีระยะทางไกลและการ
ู้
ขนส่งไม่สะดวกจะทำาให้เสียค่าใช้จ่ายสูง
ดัง นัน การพิจ ารณาการย้า ยฐานการผลิต ไป
้
สูต ่า งประเทศจะต้อ งพิจ ารณาในภาพรวมของ
่
ปัจ จัย ต่า งๆที่จ ะมีผ ลให้เ กิด การลดต้น ทุน อย่า ง
แท้จ ริง
7

8. 6.4 การแสวงหาแหล่ง วัต ถุด ิบ หรือ ชิน ส่ว นจาก
้
ต่า งประเทศ = เป็นการนำาชิ้นส่วนจากหลายๆแหล่ง
มาประกอบหรือผลิตเป็นสินค้าสำาเร็จรูป ซึ่งแนวโน้ม
การใช้แหล่งวัตถุดิบและชิ้นส่วนให้กับฐานการผลิต
ทั่วโลก มีดังนี้…
* การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินมีผลต่อการตัดสินใจใน
การจัดหาชินส่วน
้
* แนวโน้มการแข่งขันทางด้านวัตถุดิบและชิ้นส่วน
เนื่องจากการผลิตที่เกินความต้องการของตลาดโลก
* นวัตกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้าง
ปัจจัยพื้นฐานทางการค้าระหว่างประเทศ
* การยกระดับบทบาทของผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อ
8
* แนวโน้มเป็นการผลิตในระดับสากล

9. การบ้านท้ายบทที่ 6
การบ้า นท้า ยบทจากตำา ราหลัก เล่ม ที่ 1 ข้อ 2
หน้า 342
จงอธิบ ายองค์ป ระกอบต่า งๆที่จ ะมีผ ลต่อ การ
ย้า ยฐานการผลิต (Manufacturing base
movement) โดยอธิบ ายเป็น หัว ข้อ ถึง ปัจ จัย
ต่า งๆที่จ ะมีบ ทบาทและเกื้อ หนุน ต่อ ต้น ทุน
การผลิต และประโยชน์ต ่า งๆที่จ ะได้
9

10. การบ้านท้ายบทที่ 6
การบ้า นท้า ยบทจากตำา ราหลัก เล่ม ที่ 1 ข้อ 2
หน้า 342
จงอธิบ ายองค์ป ระกอบต่า งๆที่จ ะมีผ ลต่อ การ
ย้า ยฐานการผลิต (Manufacturing base
movement) โดยอธิบ ายเป็น หัว ข้อ ถึง ปัจ จัย
ต่า งๆที่จ ะมีบ ทบาทและเกื้อ หนุน ต่อ ต้น ทุน
การผลิต และประโยชน์ต ่า งๆที่จ ะได้
9