More Related Content
More from pair paplern (7)
ใบงาน2-8
- 6. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ใน
การศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งาน
จริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้
ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์
พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการ
สร้างผลงาน
- 13. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
มี 5 ประเภท ให้นักเรียนค้นหา ขอบข่ายของโครงงานแต่ละประเภท เป็น
ข้อๆ (ค้นจากห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) แล้วบันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่
เตรียมมา พร้อมเขียน แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่นักเรียน
ค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วยโครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์
ของการใช้งานดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
- การพัฒนาเครื่องมือ
- การทดลองทฤษฎี
- การประยุกต์ใช้งาน
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
- 15. 1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง
โดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจาก
ประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จาน
วน 2-8 คนต่อกลุ่ม โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษา
ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงาน
และแปรผลรายงานต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ
ตาจุดหมายที่กาหนด
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัย
และสติปัญญารวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วยโครงงานประเภทต่างๆ
- 16. ารกแบ่งประเภทของโครงงานมีหลายวิธี เช่น แบ่งตามหมวดวิชาการงาน
และอาชีพในโรงเรียน เช่น โครงงานเกษตรกรรม โครงงานคหกรรม
โครงงานอุตสาหกรรม โครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นต้น และจากขอบข่าย
โครงงานดังกล่าว จะเห็นได้ว่านักเรียนเป็นผู้ดาเนินงานโดยได้รับคาแนะ
นาจากอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน และนักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ทั้งด้านการเสนอโครงงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนทาแผนปฏิบัติ
การ และรายงานผลตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ ทาให้สามารถแยก
ประเภทของโครงงานได้ 4 ประเภท ดังนี้คือ
1. ประเภทพัฒนาผลงาน
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภทสารวจข้อมูล
- 18. โครงงานประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง โครงงานนี้เป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากการนํา
หลักการทฤษฎีในวิชาการมาทดลอง เพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการที่ได้ศึกษามาแล้ว
หรือต้องการทราบแนวทางเพิ่มคุณค่าและการใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น โครงงาน
• - การศึกษาหลักสูตรอาหารไก่ตอน
• - การทดลองปลูกผักในนํ้ายา (โดยไม่ใช้ดิน)
• - การใช้ฮอร์โมนกับกิ่งกุหลาบ
• - การใช้ฮอร์โมนแปลงเพศปลานิล
• - การคิดค้นสูตรทําแป้ งจากกล้วยชนิดต่างๆ
• - การศึกษาสูตรอาหารเร่งสีปลาคาร์ฟ
• - การคิดค้นสูตรย้อมสีปลาออสการ์
- 20. โครงงานประเภทสารวจข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ได้
ศึกษาและสํารวจ เพื่อนําข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ปรับปรุง
หรือส่งเสริมให้ผลผลิตหรือผลงานมีคุณภาพหรือมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น หรือ
เพื่อให้ทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น เช่น โครงงาน
• - การสํารวจราคาพืชผักในตลาดท้องถิ่น
• - การสํารวจแหล่งปลูกผักกางมุ้งในท้องถิ่น
• - การสํารวจความต้องการพืชผักของผู้บริโภคในท้องถิ่น
• - การสํารวจการเลี้ยงปลาสวยงามในจังหวัดฉะเชิงเทรา
• - การสํารวจการเลี้ยงกุ้งกุลาดําในพื้นที่นํ้าจืดในจังหวัดฉะเชิงเทรา
• - การสํารวจการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ในท้องถิ่น
• การสํารวจพื้นที่การปลูกมะม่วงของจังหวัดฉะเชิงเทรา
- 23. â¤Ã§§Ò¹¾Ñ²¹ÒÊ×่Íà¾×่Í¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้คือ เป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่ง
อาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบ
รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบ
โปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และ
สถานที่สําคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 25. â¤Ã§§Ò¹¾Ñ²¹Òà¤Ã×่ͧÁ×Í
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ
โดยส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และ
ซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น ส้าหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งาน
นั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลค้า ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งาน
ต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออ้านวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย ส้าหรับซอฟต์แวร์
ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้ส้าหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาด
แจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์
ค้านวณค่า และภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบ
ไว้ได้อย่างสะดวก
- 31. • โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน
ชีวิตประจําวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร
ซอฟต์แวร์สําหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สําหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจ
เป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ
ของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรม
ระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001