More Related Content
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
More from pair paplern (7)
โครงงานคอมพิวเตอร์
- 6. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ใน
การศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้
งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทาง
วิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา
รวมทั้งการพัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
- 13. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
มี 5 ประเภท ให้นักเรียนค้นหา ขอบข่ายของโครงงานแต่ละประเภท เป็นข้อๆ (ค้น
จากห้องสมุด / อินเทอร์เน็ต) แล้วบันทึกลงกระดาษขนาด A4 ที่เตรียมมา พร้อมเขียน
แหล่งที่มา หรือ Address ของ website ที่นักเรียนค้นหาข้อมูลเหล่านั้นด้วยโครงงาน
คอมพิวเตอร์ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานดังนี้ - การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
- การพัฒนาเครื่องมือ
- การทดลองทฤษฎี
- การประยุกต์ใช้งาน
- การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
- 15. 1. เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัยหลักวิชาการ
ทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็น
มาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนเป็นผู้พิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือกลุ่ม จานวน 2-8 คนต่อกลุ่ม
โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง
ตามความถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงาน และแปรผลรายงาน
ต่อครูอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาจุดหมายที่กาหนด
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญารวมทั้ง
การใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วยโครงงานประเภทต่างๆ
- 16. การแบ่งประเภทของโครงงานมีหลายวิธี เช่น แบ่งตามหมวดวิชาการงานและอาชีพในโรงเรียน
เช่น โครงงานเกษตรกรรม โครงงานคหกรรม โครงงานอุตสาหกรรม โครงงานวิทยาศาสตร์ เป็น
ต้น และจากขอบข่ายโครงงานดังกล่าว จะเห็นได้ว่านักเรียนเป็นผู้ดาเนินงานโดยได้รับคาแนะนา
จากอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน และนักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งด้านการเสนอโครงงาน
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนทาแผนปฏิบัติการ และรายงานผลตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้ทา
ให้สามารถแยกประเภทของโครงงานได้4 ประเภท ดังนี้คือ
1. ประเภทพัฒนาผลงาน
2. ประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง
3. ประเภทสิ่งประดิษฐ์
4. ประเภทสารวจข้อมูล
- 18. โครงงานประเภทศึกษา ค้นคว้า ทดลอง โครงงานนี้เป็นโครงงานที่เกิดขึ้นจากการนําหลักการ
ทฤษฎีในวิชาการมาทดลอง เพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการที่ได้ศึกษามาแล้ว หรือต้องการทราบ
แนวทางเพิ่มคุณค่าและการใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น โครงงาน
• - การศึกษาหลักสูตรอาหารไก่ตอน - การทดลองปลูกผักในนํ้ายา (โดยไม่ใช้ดิน)
• - การใช้ฮอร์โมนกับกิ่งกุหลาบ - การใช้ฮอร์โมนแปลงเพศปลานิล
• - การคิดค้นสูตรทําแป้งจากกล้วยชนิดต่างๆ - การศึกษาสูตรอาหารเร่งสีปลาคาร์ฟ
• - การคิดค้นสูตรย้อมสีปลาออสการ์
- 20. โครงงานประเภทสารวจข้อมูล โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ได้ศึกษาและสํารวจ เพื่อนํา
ข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา ปรับปรุงหรือส่งเสริมให้ผลผลิตหรือผลงานมีคุณภาพหรือมี
คุณค่ามากยิ่งขึ้น หรือเพื่อให้ทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น เช่น โครงงาน
• - การสํารวจราคาพืชผักในตลาดท้องถิ่น - การสํารวจแหล่งปลูกผักกางมุ้งในท้องถิ่น
• - การสํารวจความต้องการพืชผักของผู้บริโภคในท้องถิ่น
• - การสํารวจการเลี้ยงปลาสวยงามในจังหวัดฉะเชิงเทรา
• - การสํารวจการเลี้ยงกุ้งกุลาดําในพื้นที่นํ้าจืดในจังหวัดฉะเชิงเทรา
• - การสํารวจการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ในท้องถิ่น
• การสํารวจพื้นที่การปลูกมะม่วงของจังหวัดฉะเชิงเทรา
- 23. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
ผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บท
ทบทวน และคําถามคําตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์
ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา
ต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน
เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชํากิ่งกุหลาบ หลัก
ภาษาไทย และสถานที่สําคัญของประเทศไทย เป็นต้น
- 25. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วน ใหญ่จะอยู่
ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมอง วัตถุในมุม
ต่างๆ เป็นต้น ส้าหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลค้า ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้น
เพื่ออ้านวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย ส้าหรับซอฟต์แวร์
ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้ส้าหรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า
และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์ค้านวณค่า และภาพที่ควรจะ
เป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 31. • โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจําวัน
อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สําหรับการ
ผสมสี และซอฟต์แวร์สําหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการ
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของ
ขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มาใช้
ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรือ
ทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภท
นี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่
เกี่ยวข้อง โปรแกรมระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
- 34. โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ
ประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจําวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สําหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์
สําหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สําหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้ว
ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนําข้อมูลที่ได้มา
ใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทํางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์
แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง