SlideShare a Scribd company logo
1 of 59
Download to read offline
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
216
วิชา ภาษาอังกฤษ อ๓๒๑๐๑
๑.	 จำ�นวน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์	 จำ�นวน ๑.๐ หน่วยกิต
๒.	หนังสือที่ใช้ในการเรียน
	 -	 แบบเรียนชื่อ	 หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ “My World 5”
	 	 ผู้แต่ง	 	 Manuel dos Santos
	 	 สำ�นักพิมพ์	 ไทยวัฒนาพานิช
	 -	 แบบเรียนชื่อ	 แบบฝึกหัดสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ “My World 5”
	 	 ผู้แต่ง	 	 Manuel dos Santos
	 	 สำ�นักพิมพ์	 ไทยวัฒนาพานิช
๓.	 ผู้เขียนคู่มือครู
	 ชื่อ นางสาวพิชญนันท์ ไชยโรจน์	 ตำ�แหน่ง ครู
	 สถานที่ทำ�งาน	 โรงเรียนวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ๗๗๑๑๐
	 	 	 	 โทรศัพท์ ๐-๘๘๙๘-๗๐๒๙, ๐-๓๒๕๒-๒๓๔๕
	 	 	 	 โทรสาร ๐-๓๒๕๒-๒๓๔๕
	 	 	 	 E-mail : suwisa_lovely@hotmail.com
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
217
ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/
ตัวชี้วัด
สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา
(ชั่วโมง)
นํ้าหนัก
คะแนน
๑ Technology :
Unit 1
Press Start to
repeat
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, 	
ม.๔-๖/๔
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
การเรียนรู้ ถ้อยคำ�สำ�นวนภาษาอังกฤษ	
เกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นพื้นฐานของการใช้
ภาษา เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีได้เป็น	
สิ่งสำ�คัญในชีวิตประจำ�วัน
๖ ๑๐
๒ Entertainment :
Unit 2
What are you
doing tonight?
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, 	
ม.๔-๖/๔
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๔
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
เรียนรู้ คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เกี่ยวกับ	
สิ่งบันเทิง ทำ�ให้สามารถฟัง พูด อ่านและ
เขียน ข้อความเกี่ยวกับสิ่งบันเทิงได้ และ
เรียนรู้วัฒนธรรมด้านบันเทิงของเจ้าของ
ภาษา
๖ ๑๐
รายวิชา ภาษาอังกฤษ
รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
จำ�นวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔๐ ชั่วโมง
โครงสร้าง
รายวิชา
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
218
ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/
ตัวชี้วัด
สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา
(ชั่วโมง)
นํ้าหนัก
คะแนน
๓ Promise :
Unit 3
I call you when
I get home
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๔, 	
ม.๔-๖/๕
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๓
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๓
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑
เรียนรู้คำ�ศัพท์ สำ�นวนและการใช้ภาษาที่
เกี่ยวกับระบบการเมือง และนักการเมือง
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อระบบ
การเมืองและนักการเมือง เพื่อสามารถ
วิเคราะห์ อภิปรายและแสดงความคิดเห็น 	
โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสม
๖ ๑๐
สอบกลางภาค ๑ ๑๐
๔ Extreme Sports :
Unit 4
Have you done
it yet?
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, 	
ม.๔-๖/๔
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๓
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑
เรียนรู้ คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เกี่ยวกับ	
สิ่งบันเทิง ทำ�ให้สามารถฟัง พูด อ่านและ
เขียน ข้อความเกี่ยวกับสิ่งบันเทิงได้
๖ ๑๐
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
219
ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/
ตัวชี้วัด
สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา
(ชั่วโมง)
นํ้าหนัก
คะแนน
๕ Complaints :
Unit 6
It’s no use
complaining
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๔
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓ 	
ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๓
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
การเรียนรู้ ถ้อยคำ�สำ�นวนภาษาอังกฤษ	
เกี่ยวกับการร้องทุกข์ เช่น การเขียนจดหมาย
ร้องทุกข์ และการแสดงความคิดเห็น หรือ	
การเรียกร้องสิทธิที่ถูกต้องของผู้รับบริการ
๗ ๑๐
๖ Fables :
Unit 6
One upon a time
ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓,
ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕
ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓
ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, 	
ม.๔-๖/๒
ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
เรียนรู้ คำ�ศัพท์ สำ�นวนภาษาอังกฤษ 	
ที่ใช้ในการแต่งนิทานสอนใจ มักใช้สัตว์
เป็นตัวละครหลัก และมีคติสอนใจ รวมทั้ง
เรียนรู้วัฒนธรรม แนวความคิด ของเจ้าของ
ภาษา และเปรียบเทียบกับการใช้ภาษาไทยใน
นิทานสอนใจและแนวความคิดของคนไทย
๗ ๑๐
สอบปลายภาค ๑ ๓๐
รวมทั้งสิ้น ๔๐ ๑๐๐
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
220
กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
ครั้งที่
วัน/เดือน/ปี
เวลา
จำ�นวน
ชั่วโมง
เรื่องที่สอน
มาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง
ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน)
๑ ๑๙พ.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ PressStartoRepeat(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒ ๒๐พ.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ PressStartoRepeat(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๓ ๒๖พ.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ PressStartoRepeat(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๔ ๒๗พ.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ PressStartoRepeat(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๕ ๒มิ.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ PressStartoRepeat(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๖ ๓มิ.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ WhatAreYouDoingTonight?(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๗ ๙มิ.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ WhatAreYouDoingTonight?(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๘ ๑๐มิ.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ WhatAreYouDoingTonight?(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๙ ๑๖มิ.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ WhatAreYouDoingTonight?(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๐ ๑๗มิ.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ WhatAreYouDoingTonight?(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๑ ๒๓มิ.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ ICallYouWhenIGetHome(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๒ ๒๔มิ.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ ICallYouWhenIGetHome(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๓ ๓๐มิ.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ ICallYouWhenIGetHome(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
221
กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
ครั้งที่
วัน/เดือน/ปี
เวลา
จำ�นวน
ชั่วโมง
เรื่องที่สอน
มาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง
ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน)
๑๔ ๑ก.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ ICallYouWhenIGetHome(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๕ ๗ก.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ ICallYouWhenIGetHome(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๖ ๘ก.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ HaveYouDoneItYet?(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๔กรกฎาคม๒๕๕๗หยุดชดเชยวันเข้าพรรษา
๑๕กรกฎาคม๒๕๕๗ทบทวนบทเรียน(สอบกลางภาค)
๑๗ ๒๑ก.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ HaveYouDoneItYet?(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๘ ๒๒ก.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ HaveYouDoneItYet?(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๙ ๒๘ก.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ HaveYouDoneItYet?(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๐ ๒๙ก.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ HaveYouDoneItYet?(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๑ ๔ส.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ It’sNoUseComplaining(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๒ ๕ส.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ It’sNoUseComplaining(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๓ ๑๑ส.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ It’sNoUseComplaining(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๑๒สิงหาคม๒๕๕๗หยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
๒๔ ๑๘ส.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ It’sNoUseComplaining(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
222
กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
ครั้งที่
วัน/เดือน/ปี
เวลา
จำ�นวน
ชั่วโมง
เรื่องที่สอน
มาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง
ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน)
๒๕ ๑๙ส.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ It’sNoUseComplaining(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๖ ๒๕ส.ค.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ OnceUponaTime(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๗ ๒๖ส.ค.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ OnceUponaTime(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๘ ๑ก.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ OnceUponaTime(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๒๙ ๒ก.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ OnceUponaTime(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๓๐ ๘ก.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ OnceUponaTime(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๓๑ ๙ก.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ Revision1 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๓๒ ๑๕ก.ย.๕๗
๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น.
๑ Revision2 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
๓๓ ๑๖ก.ย.๕๗
๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น.
๑ Revision3 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑,
๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒
หนังสือแบบเรียน
หมายเหตุ	 กำ�หนดการสอนให้ใช้เวลาเรียนที่สอนจริงในภาคเรียนนั้นๆ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
223
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 1
Press Star to
Repeat
GRAMMAR
•	 Simple present tense (review)
•	 Expressions of frequency
•	 Time expression
FUNCTIONS
•	 To give personal information
•	 To use the language of technology
•	 To talk on the phone
LANGUAGE
•	 What’s your PIN number?
•	 Press two for customer service.
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
224
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 2
What Are You
Doing Tonight?
GRAMMAR
•	 Present progressive (for the future)
•	 Verb + gerund
FUNCTIONS
•	 To talk about plans
•	 To talk about likes and dislikes
•	 To discuss types of music, movies,
	 and TV programs
•	 To talk about entertainment
LANGUAGE
•	 What are you diong tomorrow night?
•	 I’m playing tennis tomorrow.
•	 I enjoy watching sitcoms.
•	 I can’t stand watching reality shows.
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
225
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 3
I’ll Call You When
I Get Home
GRAMMAR
•	 When and If clauses (to express
	 future time)
•	 Conjunctions of time: before, after,
	 as soon as, until
FUNCTIONS
•	 To make arrangements
•	 To make promises
LANGUAGE
•	 I’ll call you when I arrive.
•	 If we hurry, we’ll catch the bus.
•	 I’ll come as soon as I finish.
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
226
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 4
Have You Done
It Yet?
GRAMMAR
•	 Present perfect with yet, already, just
FUNCTIONS
•	 To talk about recent actions and
	 events
•	 To talk about recent personal
	 experiences
LANGUAGE
•	 Have you finished the work yet?
•	 I’ve just finished it
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
227
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 5
It’s No Use
Complaining
GRAMMAR
•	 Present perfect progressive
•	 Present perfect progressive versus
	 present perfect
FUNCTIONS
•	 To talk about actions that continue
	 happening over time
•	 To make complaints
LANGUAGE
•	 How long have they been waiting?
•	 The traffic light hasn’t been working
	 for two days.
•	 How many times have you called?
•	 I’ve called three times.
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
228
ผังมโนทัศน์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
UNIT 6
Once Upon
a Time
GRAMMAR
•	 Past perfect
•	 Past progressive with while
FUNCTIONS
•	 To talk about past events
•	 To tell stories
•	 To discuss things that went wrong
•	 To discuss sequence of events
LANGUAGE
•	 By the time the hare arrived, the
	 tortoise had already crossed the
	 finish line.
•	 While she was riding in the coach,
	 it turned into a pumpkin.
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
229
๑.	มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
สาระที่ ๑ :	 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
	 มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑,	
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๒ :	 ภาษาและวัฒนธรรม
	 มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๓ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
	 มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๔ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
	 มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
๒.	สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด
เทคโนโลยีในชีวิตประจ�ำวันจ�ำเป็นต้องเรียนรู้ถ้อยค�ำส�ำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพราะปัจจุบันใช้กัน
อย่างแพร่หลายในชีวิตประจ�ำวัน
๓.	สาระการเรียนรู้
โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
	 -	 Simple Present Tense 	
	 -	 Expressions of frequency
	 -	 Time expressions
ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา
บทเรียนย่อยที่ ๑
	 -	 PIN (n.):	 Personal Identification Number (รหัสเลขประจ�ำตัว)
	 -	 ATM (n.):	 Automated Teller Machine (เครื่องรับ-จ่ายเงินอัตโนมัติ)
	 -	 GPS (n.):	 Global Positioning System (ระบบการค้นหาต�ำแหน่งของสถานที่ทั่วโลก)
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
เรื่อง Press Star to Start
เวลา ๖ ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ
รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
230
บทเรียนย่อยที่ ๒
	 -	 maiden name (n.):	 the family name that a woman had before she got married (นามสกุลก่อนแต่งงาน	
	 	 ของผู้หญิง)
	 -	 verify (v.):	 to find out if a fact, statement, etc. is correct or true (พิสูจน์ความจริง)
	 -	 an immediate stop (n.): a stop without delay (การระงับ, การอายัดการใช้งาน)
	 -	 telemarketer (n.):	 a person who is employed by a business company to sell their products	
	 	 to the customers and the phone by offering attractive packages (พนักงานขาย	
	 	 สินค้าทางโทรศัพท์)
	 -	 issue (v.):	 to officially produce something such as new stamps, new card (ผลิตออก, ตีพิมพ์)
บทเรียนย่อยที่ ๓
	 -	 rotate (v.):	 to turn around a fixed point (หมุนรอบ)
	 -	 orbit (v.):	 to travel in a circle around a much larger object (โคจร)
	 -	 habit (n.):	 something that you do regularly, often without thinking about it because you have	
	 	 done it many times before (นิสัย)
	 -	 habitual (adj.):	 done as a habit or doing something from habit (โดยเป็นนิสัย)
	 -	 subway (n.):	 a railway that runs under the ground (รถไฟใต้ดิน)
บทเรียนย่อยที่ ๔
	 -	 telemarketing (n.):	 a method of selling things and taking orders for sales by telephone (การขายตรง	
	 	 ผ่านโทรศัพท์)
	 -	 so and so (n.):	 used to donate a person, any person not named (ใครก็ได้)
	 -	 XYZ, Inc. (n.):	 a pretend name of a company given as an example (ชื่อสมมติของบริษัท)
	 -	 India’s Silicon Valley (n.): a reference to the original Silicon Valley, a region around San Francisco	
	 	 and San Jose in California, which has a dense concentration of electronics and	
	 	 computer companies (ย่านธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์)
	 -	 transaction (n.):	 a business deal (การด�ำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจ)
บทเรียนย่อยที่ ๕
	 -	 founder (n.):	 a person who found an organization (ผู้ก่อตั้งองค์กร)
	 -	 corp. (n.):	 the abbreviation of corporation (a big company) or a group of companies acting	
	 	 togetherasasingleorganization(ย่อมาจากcorporationหมายถึงบริษัทขนาดใหญ่)
	 -	 campaign (n.):	 a service of actions intended to achieve a particular result, especially in politics or	
	 	 business (การรณรงค์)
	 -	 service (n.):	 an act of help or assistance (การบริการ)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
231
ข้อมูลด้านวัฒนธรรม	
บทเรียนย่อยที่ ๑
	 -	 ประเทศตะวันตกเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสูง ประชาชนส่วนใหญ่จะใช้ เครื่องมือทาง
เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและการค้นหาข้อมูลตลอดเวลา การใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือในการสื่อสาร
และเทคโนโลยีจึงเป็นวิถีชีวิตประจ�ำวันของชาวตะวันตก
	 -	 cellphoneหรือcellularphoneหรือmobilephoneคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้สามารถน�ำติดตัวไปยังที่ต่างๆ
มีการท�ำงานโดยระบบเครือข่ายเพื่อส่งสัญญาณ ในประเทศตะวันตกนิยมเรียกโทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์
เคลื่อนที่ว่า cell phone
บทเรียนย่อยที่ ๒
	 -	 เครื่อง ATM เครื่องแรกของโลกได้ติดตั้งที่เมืองเอนฟิลด์ (Anfield) ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อ	
วันที่ ๒๗ มิ.ย. ค.ศ. ๑๙๖๗ โดยธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays)
	 -	 เครื่อง ATM พูดได้ส�ำหรับคนตาบอดเครื่องแรกของโลกได้ติดตั้งที่ประเทศแคนาดา ในปี ค.ศ. ๑๙๙๙
๔.	สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
๕.	คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ : นักเรียนตระหนักในข้อดีและข้อจ�ำกัดของเทคโนโลยี
๖.	ชิ้นงาน/ภาระงาน
•	 ค�ำตอบที่ได้จากการตอบค�ำถามเกี่ยวกับข้อความที่อ่าน
•	 ค�ำตอบที่ได้จากการตอบค�ำถามเกี่ยวกับข้อความที่ฟัง
•	 กิจกรรมกลุ่ม : การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ telemarketing ของตนเอง
•	 ข้อเขียนบรรยายประสบการณ์เกี่ยวกับ telemarketing
•	 กิจกรรมกลุ่ม : โครงงานเขียนโฆษณาขายสินค้าทางโทรศัพท์ (A Telemarketing Campaign)
๗.	การวัดและการประเมินผล
•	 ประเมินผลการตอบค�ำถามโดยใช้เกณฑ์การประเมิน
•	 ประเมินการพูดโดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลุ่ม
•	 ประเมินการเขียนโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน
•	 ประเมินการท�ำโครงงานแผนการขายสินค้าโดยใช้เกณฑ์การประเมินโครงงาน
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
232
๘.	กิจกรรมการเรียนรู้
บทเรียนย่อยที่ ๑		 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑.	 ครูพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารที่นักเรียนรู้จักหรือใช้
และถามว่านักเรียนใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นได้ดีหรือไม่และใช้บ่อยแค่ไหน เช่น
	 	 -	 What type of technology do you use?
	 ๒.	 นักเรียนอ่านชื่อเรื่องและหัวข้อในกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๒ และ ถามค�ำถามให้
นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ เช่น
		 -	 What are these people doing?
		 -	 What is the woman in the first picture doing?
		 -	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรมNewLanguageในหนังสือเรียนหน้า ๒ให้นักเรียนฟังและออกเสียงตาม	
	 แล้วครูถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ เช่น
	 	 -	 What do you do to make a new reservation?
	 	 -	 What do you do to repeat the menu?
	 ๓.	 ครูถามให้นักเรียนตอบเกี่ยวกับตนเองโดยดูภาพในกิจกรรมNewLanguageในหนังสือเรียนหน้า ๒โดยใช้
ความรู้เดิมเรื่องค�ำหรือกลุ่มค�ำที่แสดงความถี่ของเวลา เช่น
	 	 T:	 How often do you use your cell phone/mobile phone?
	 	 Ss:	 Often/Always/Sometimes/Usually, etc.
	 ๔.	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงให้นักเรียนฟังการออกเสียงค�ำแสดงความถี่ของเวลา (Expressions of frequency) ใน
กิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๒ ให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของแต่ละกลุ่มค�ำ 
	 ๕.	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรมPracticeในหนังสือเรียนหน้า ๒ให้นักเรียนฝึกใช้กลุ่มค�ำที่แสดงความถี่ของ
เวลา โดยครูถามค�ำถามเกี่ยวกับเครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร เช่น
	 	 -	 How often do you use your computer?
	 	 -	 How often do you use the GPS device?
	 	 นักเรียนจับคู่สลับกันฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจ�ำวันครูสุ่ม
นักเรียนแต่ละคู่แสดงบทบาทสมมติการถาม-ตอบเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจ�ำวัน
	 ๖.	 ครูให้นักเรียนดูกรอบLanguageNoteในหนังสือเรียนหน้า ๒โดยอธิบายถึงที่มาของตัวย่อแต่ละค�ำ เช่นATM	
บางคนเรียกATMmachineและtellerในความหมายของATMคือผู้ให้บริการลูกค้าที่เคาน์เตอร์ในธนาคาร
	บทเรียนย่อยที่ ๒		 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑.	 ครูพูดถึงบัตรเครดิต แล้วถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ เช่น
		 -	 What are the advantages of having credit cards?
	 	 -	 Who has a credit card?
	 ๒.	 ให้นักเรียนดูภาพและอ่านค�ำถามในกิจกรรมAbouttheConversationในหนังสือเรียนหน้า ๓เพื่อให้นักเรียน
มีเป้าหมายในการฟัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
233
	 ๓.	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Conversationให้นักเรียนฟัง โดยไม่ให้นักเรียนดูบทสนทนาในหนังสือเรียน
แล้วครูถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ
	 ๔.	 ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือแล้วฟังบทสนทนาในกิจกรรมConversationอีกครั้งโดยอ่านบทสนทนาตามแล้ว
ให้นักเรียนจับคู่ และตอบค�ำถามในกิจกรรม About the Conversation
	 ๕.	 ครูให้นักเรียนฟังบทสนทนาในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า ๓ อีกครั้ง เพื่อตรวจค�ำตอบ
	 ๖.	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรมListeningในหนังสือเรียนหน้า ๓ให้นักเรียนฟังบทสนทนาระหว่างtele-
marketer กับ customer แล้วถามค�ำถาม เช่น
	 	 -	 Who is making a phone call?
	 	 -	 Who is answering the phone?
	 ๗.	 ครูให้นักเรียนฟังบทสนทนาอีกครั้งแล้วตอบค�ำถามในกิจกรรมListeningในหนังสือเรียนหน้า ๓ด้วยตนเอง
แล้วตรวจค�ำตอบร่วมกันทั้งชั้น
	บทเรียนย่อยที่ ๓		 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑.	 ครูทบทวนการใช้ Simple present tense โดยให้นักเรียนอ่านวิธีใช้ tense นี้ ในกรอบ Grammar ในหนังสือ
เรียน หน้า ๔ และช่วยกันสรุป
	 ๒.	 ครูและนักเรียนท�ำแบบฝึกหัดโดยให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าประโยคนั้นกล่าวถึง habitual actions หรือ facts
or truth
	 ๓.	 ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด ข้อ A ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า นักเรียนช่วยกัน	
เติมค�ำกริยาลงในประโยคแรก แล้วอ่านออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์แล้วพร้อมกัน นักเรียน เขียนเติม	
ประโยคอื่นๆ ที่เหลือให้สมบูรณ์ แล้วอ่านออกเสียงทุกข้อพร้อมกัน
	 ๔. 	 ให้นักเรียนฝึกตั้งค�ำถามโดยให้ท�ำแบบฝึกหัดข้อBในกิจกรรมLanguageinContextในหนังสือเรียนหน้า ๔
ช่วยกันท�ำประโยคข้อ๑เป็นตัวอย่างและสังเกตต�ำแหน่งของค�ำ ครูอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนั้นครูให้นักเรียน
จับคู่ท�ำแบบฝึกหัดที่เหลือตั้งแต่ข้อ ๒-๘ แล้วให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันบอกค�ำตอบ
	 ๕. 	 ครูอธิบายค�ำสั่งให้นักเรียนเข้าใจก่อนที่จะท�ำแบบฝึกหัดข้อCในกิจกรรมLanguageinContextในหนังสือ
เรียน หน้า ๕ นักเรียนบอกค�ำที่แสดงความถี่ของเวลาอื่นๆ แล้วเขียนลงในตาราง
	 ๖.	 ให้นักเรียนเขียนกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มในตารางใต้ภาพ แล้วใช้ time expressions ในตารางบนและ everyday
activities ในตารางล่าง เขียนประโยคบอกความถี่ของกิจกรรมต่างๆ ที่ท�ำ
	 ๗.	 ให้นักเรียนจับคู่กันฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกับความถี่ของกิจกรรมที่คู่ของตนกระท�ำ โดยใช้ค�ำถามHowoften…?
	บทเรียนย่อยที่ ๔		 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑.	 ครูให้นักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับประเทศอินเดียในด้านเศรษฐกิจนักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแหล่ง
ทรัพยากรธรรมชาติของอินเดีย อุตสาหกรรมที่ส�ำคัญและผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของอินเดีย โดยตั้ง
ค�ำถามน�ำ เช่น
	 	 -	 How big is India?/What is the population of India?
	 	 -	 What do most people do for a living?
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
234
	 ๒. 	 ให้นักเรียนดูภาพในกิจกรรมReadingในหนังสือเรียนหน้า ๖แล้วถามว่า Wheredoyouthinkthesepeople
are working? ถ้านักเรียนไม่ทราบ ครูอธิบายว่า This is a call center, where customers can call to ask for
information or some kinds of service.
	 ๓. 	 ให้นักเรียนอ่านบทอ่าน เพื่อจับใจความส�ำคัญอย่างคร่าวๆ โดยใช้เวลาประมาณ ๒-๓ นาที
	 ๔. 	 ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงให้นักเรียนฟังบทอ่านในกิจกรรมReading ในหนังสือเรียนหน้า ๖ และอ่านตามในใจ
แล้วขีดเส้นใต้ค�ำศัพท์ใหม่ จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของค�ำศัพท์โดยครูอธิบายเพิ่มเติม
	 ๕. 	 ให้นักเรียนอ่านบทอ่านอีกครั้ง แล้วท�ำแบบฝึกหัด ข้อ A-C ในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน
หน้า ๗ แล้วตรวจค�ำตอบกับเพื่อน (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
	บทเรียนย่อยที่ ๕		 เวลา ๒ ชั่วโมง
	 ๑. 	 นักเรียนอ่านออกเสียงค�ำถามในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า ๗ แล้วแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ
๓-๔ คน โดยแต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่จะอภิปรายจากค�ำถาม ๓ ข้อ
	 ๒. 	 ให้นักเรียนเริ่มอภิปรายโดยใช้เวลากลุ่มละ ๕-๖ นาที เมื่อหมดเวลา ครูสุ่มนักเรียน ๓ กลุ่มให้สรุปความคิด
เห็นของกลุ่มในแต่ละหัวข้อตามล�ำดับ โดยครูให้ข้อสรุปเพิ่มเติม
	 ๓. 	 ครูประเมินการอภิปรายกลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลุ่ม
	 ๔. 	 ครูพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตประจ�ำวันที่นักเรียนอาจพบเจอให้นักเรียนยกตัวอย่างการถูกเพื่อนๆญาติ
พี่น้องหรือคนรู้จักชักชวนให้ท�ำบางสิ่งบางอย่างโดยให้ข้อเสนอเพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนแต่นักเรียนไม่เห็นด้วย
และไม่เต็มใจรับข้อเสนอนั้นนักเรียนจะตอบปฏิเสธหรือตอบรับอย่างไรครูยกตัวอย่างโดยพูดให้ฟังแล้วเขียน
บนกระดานด�ำ เช่น
	 	 -	 Mybrotherwantstogooutandasksmenottotellourparents.Hetellsmethathewillbuymeacomic	
	 book. I say no to him. However, he says he will buy me an MP๓ player. Then I say yes.
	 ๕. 	 จากนั้นนักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ของตนเองโดยครูสุ่มให้นักเรียนบอกเหตุการณ์แล้วครูเขียนบนกระดาน
ด�ำ ๑ ตัวอย่างให้ทั้งชั้นได้ดู
	 ๖. 	 นักเรียนคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเอง หรือคนในครอบครัวประสบเกี่ยวกับการได้รับโทรศัพท์จากบริษัทเพื่อให้	
ข้อเสนอรางวัลโบนัสหรือบริการต่างๆหากนักเรียนหรือคนในครอบครัวตกลงซื้อสินค้าบางอย่างของบริษัท
จากนั้นนักเรียนเขียนร่างเรื่องราวในกิจกรรมWritingในหนังสือเรียนหน้า ๗แล้วให้เพื่อนอ่านโดยช่วยกัน
แสดงความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงการเขียน
	 ๗. 	 นักเรียนเขียนเรื่องที่ได้แก้ไขให้สมบูรณ์แล้วอีกครั้ง
	 ๘. 	 แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๓-๔ คน ให้นักเรียนในกลุ่มระดมสมอง (brainstorm) เพื่อวางแผน การเขียนการ
โฆษณาสินค้าทางโทรศัพท์ (A Telemarketing Campaign) ในกิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๗	
ครูเขียนข้อเสนอแนะบนกระดานด�ำ เช่น
	 	 -	 What is the product your company wants to sell?
	 	 -	 What service does your company want to give?
	 ๙. 	 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท�ำกิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๗ เรื่อง A Telemarketing Campaign	
ให้สมบูรณ์ แล้วน�ำเสนอในชั้นเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
235
๙.	สื่อการเรียนรู้
•	 	 หนังสือเรียน My World Book 5 หน้า ๒-๗
•	 	 หนังสือแบบฝึกหัด My World Book 5 หน้า ๒-๔
•	 	 ซีดีบันทึกเสียง
•	 	 เครื่องเล่นซีดี
•	 สื่ออิเล็กทรอนิกส์
	 -	 http://en.wikipedia.org/wiki/Mobile
	 -	 www.howstuffworks.com/cell-phone.htm
	 - 	 http://darkdest.wordpress.com/
	 - 	 http://en.wikipedia.org/wiki/Talking_ATM
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
236
๑.	มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
สาระที่ ๑ :	 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
	 มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑,	
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๒ :	 ภาษาและวัฒนธรรม
	 มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๓ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
	 มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๔ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
	 มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
๒.	สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด
ปัจจุบันสิ่งบันเทิงต่างๆ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ น�ำเสนอสิ่งที่น่าสนใจและใช้ภาษาอังกฤษในการน�ำเสนอ การฝึก
นักเรียนให้เรียนภาษาอังกฤษจากสิ่งบันเทิง จะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาและสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ
๓.	สาระการเรียนรู้
โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
	 -	 Present progressive tense (for the future)
	 -	 Present progressive tense (for events taking place now)
	 -	 Verb + gerund
	 -	 Simple present tense
	 -	 Simple past tense
ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา
บทเรียนย่อยที่ ๑
	 -	 entertainment (n.):	 things such as movies, television programs, shows or performances, etc. that	
	 	 amuse or interest people (ความบันเทิง)
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒
เรื่อง What Are You Doing Tonight?
เวลา ๖ ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ
รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
237
	 -	 action movie (n.):	 a movie with fighting or exciting events and usually relates to hunting, killing or	
	 	 getting wounded (ภาพยนตร์แนวสู้รบหรือตื่นเต้น ไล่ล่า ฆ่าฟัน)
	 -	 comedy (n.):	 a play, movie, etc. that is intended to entertain people and make them laugh	
	 	 (ละครหรือภาพยนตร์ชวนหัว ตลกขบขัน)
	 -	 romance (n.):	 a play or a movie with a story about the love between two people (ภาพยนตร์หรือ	
	 	 ละครรัก)
	 -	 science fiction (n.):	 a kind of story in which imaginary future developments in science and their effect	
	 	 on life are described (ภาพยนตร์หรือหนังสือแนววิทยาศาสตร์ บางครั้งเรียกย่อว่า 	
	 	 “sci-fi” อ่านว่า ไซไฟ)
บทเรียนย่อยที่ ๒
	 -	 can’t stand (v.):	 to not like someone or something at all or think that something is extremely	
	 	 unpleasant (ไม่ชอบ, ทนไม่ได้)
	 -	 depressing (adj.):	 making you feel very sad (เศร้า, สะเทือนใจ)
	 -	 movie freak (n.):	 someone who is so interested in movies that other people think they are strange or	
	 	 unusual (คนที่ชอบดูภาพยนตร์มากจนกระทั่งคนอื่นเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกหรือ	
	 	 ผิดปกติ)
	 -	 merchandising (n.):	 products sold to make additional profit based on a popular film or TV show, etc.	
	 	 (สินค้าซึ่งถูกโฆษณาเพื่อให้ขายได้ก�ำไรเพิ่มขึ้นโดยขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์หรือรายการ	
	 	 โทรทัศน์ที่เป็นที่นิยม)
	 -	 be keen on (adj.):	 interested or eager to do something (สนใจหรือกระตือรือร้นที่จะท�ำอะไรบางอย่าง)
บทเรียนย่อยที่ ๓
	 -	 avoid (v.):	 to stay away from someone or something, or prevent something from happening	
	 	 or not allow yourself do something (หลบเลี่ยงที่จะไม่ท�ำ)
	 -	 be fond of (adj.):	 to like someone or something very much (ชอบใคร หรือชอบอะไรบางอย่างเป็น	
	 	 อย่างมาก)
	 -	 can’t help (v.):	 to be unable to stop yourself from doing something (หยุดไม่ได้ อดไม่ได้ หรือ	
	 	 ช่วยไม่ได้ที่จะ...)
	 -	 feel like (v.):	 to want to have or do something (ต้องการหรืออยากที่จะท�ำ)
	 -	 give up (v.):	 to stop doing or having something, especially something that you do regularly	
(หยุดหรือเลิกท�ำบางอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่ท�ำอยู่เป็นปกติ)
	 -	 junk food (n.):	 foodthatisnothealthybecauseitcontainsalotoffat,sugarorcarbohydrate(อาหาร
ที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากมีไขมัน นํ้าตาล หรือคาร์โบไฮเดรตจ�ำนวนมาก)
บทเรียนย่อยที่ ๔
	 -	 dub (v.):	 tochangetheoriginalspokenlanguageofafilmorTVprogramintoanotherlanguage
(พากย์)
	 -	 typically (adv.):	 usually (ตามปกติ)
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
238
	 -	 feature (v.):	 toshowapersonorthinginafilm,show,etc.(เป็นนักแสดงหรือตัวส�ำคัญในภาพยนตร์)
	 -	 humorous (adj.):	 deliberately funny and entertaining, especially in a clever way (ตลก, น่าขบขัน)
	 -	 originate (v.):	 to start or to develop in a particular place (เริ่มต้นหรือพัฒนาขึ้น)
บทเรียนย่อยที่ ๕
	 -	 media (n.):	 all the organizations, such as television, radio, and the newspapers, that give infor-
mation for the public (สื่อสารมวลชน)
	 -	 process (n.):	 aseriesofnaturaldevelopmentsoneventsthatproducegradualchange(กระบวนการ)
	 -	 constant evolution (n.): the change and development of an idea, event or object that is happening slowly
and regularly all the time (การวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง)
	 -	 undergo (v.):	 experience or be subjected to (ประสบ)
	 -	 action figure (n.):	 a small-scale figure (as of a superhero) used especially as a toy (หุ่นจ�ำลองของเล่น
เช่น หุ่นของซูเปอร์แมน)
ข้อมูลด้านวัฒนธรรม
บทเรียนย่อยที่ ๓
	 -	 สองปีหลังจากการตายของเอ็ดวูดจูเนียร์(EdWood,Jr.)คือปีค.ศ.๑๙๘๐เขาก็ได้รับรางวัลGoldenTurkey
ซึ่งเป็นรางวัลผู้ก�ำกับยอดแย่ที่สุด เขามีชื่อเสียงโด่งดังมาจากหนังสยองขวัญต้นทุนตํ่า หนังคาวบอย และ	
หนังแนววิทยาศาสตร์(Sci-fi)เรื่องPlan9FromOuterSpaceซึ่งหนังมักจะถูกโหวตว่าเป็นหนังยอดแย่ที่สุด
เท่าที่เคยมีมา
บทเรียนย่อยที่ ๕
	 -	 แฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ (Frank Lloyd Wright) (ค.ศ. ๑๘๖๙ - ๑๙๕๙) เป็นสถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน มีชื่อเสียง	
ระดับโลกด้านการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างงานศิลปะและสถาปัตยกรรมจากประเทศต่างๆ ได้แก่	
อังกฤษ ออสเตรีย และญี่ปุ่นอย่างลงตัว เป็นสิ่งแปลกใหม่และอมตะจนถึงยุคปัจจุบัน
	 -	 Soap Opera เป็นศัพท์แสลงที่ใช้เรียกรายการวิทยุกระจายเสียงหรือรายการโทรทัศน์ประเภทการแสดงเป็น
ชุดๆ ต่อกัน ออกอากาศเป็นประจ�ำตลอดสัปดาห์ ใช้เวลาในการออกอากาศประมาณ ๑๕-๒๐ นาที มักเป็น
รายการซํ้าซาก น่าเบื่อ หรือพวกละครวิทยุ
	 	 Soap Opera พัฒนาขึ้นครั้งแรกในรายการวิทยุช่วงทศวรรษ ๑๙๒๐ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และช่วง
ทศวรรษ ๑๙๔๐ ก็เริ่มแพร่หลายเข้าไปในรายการโทรทัศน์ มักออกอากาศในเวลากลางวัน สาเหตุที่เรียก
รายการประเภทนี้ว่า Soap Opera หรือละครสบู่ก็เพราะแต่เดิมผู้อุปถัมภ์รายการประเภทนี้มักเป็นบริษัท	
ผู้ผลิตผงซักฟอกและสินค้าที่เกี่ยวกับการท�ำความสะอาด ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่บ้านที่มักดู Soap Opera
ในเวลากลางวันนั่นเอง จึงใช้ค�ำนี้เรียกรายการดังกล่าวมาโดยตลอด
๔.	สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
239
๕.	คุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีสุนทรียภาพทางภาษา : นักเรียนใช้ค�ำทับศัพท์ภาษาอังกฤษในภาษาไทยเท่าที่จ�ำเป็น
๖.	ชิ้นงาน / ภาระงาน
•	 การอ่านออกเสียงบทสนทนา
•	 ค�ำตอบที่ได้จากการฟังค�ำพูดของบุคคลระบุรายการบันเทิงที่ชอบ/ไม่ชอบ
•	 ค�ำตอบที่ได้จากการอ่านข้อความบรรยาย sitcoms
•	 ค�ำพูดสนทนาเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ที่ชอบ
•	 ข้อเขียนโครงเรื่องละครโทรทัศน์
•	 โครงงานบรรยายโครงเรื่องละครโทรทัศน์ที่ชอบหรือรู้จัก
๗.	การวัดและประเมินผล
•	 ประเมินการอ่านออกเสียงบทสนทนาโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสียง
•	 ประเมินผลการตอบค�ำถาม
•	 ประเมินการพูดโต้ตอบโดยใช้เกณฑ์การประเมินการพูดสื่อสารตัวต่อตัว
•	 ประเมินการเขียนบรรยายโครงเรื่องบทละครโทรทัศน์ที่ชอบโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน
•	 ประเมินโครงเรื่องละครโทรทัศน์โดยใช้แบบประเมินการเขียน
•	 ประเมินการท�ำงานกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การประเมินการท�ำงานกลุ่ม
๘.	กิจกรรมการเรียนรู้
บทเรียนย่อยที่ ๑	 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑. 	 ครูพูดเกี่ยวกับรูปแบบของความบันเทิง โดยนักเรียนตอบค�ำถาม เช่น
	 	 T:	 What do you like to do in your free time?
	 	 Ss:	 (The answer will vary, such as go to the movie, watch T.V., play computer games, go shopping, etc.)
	 ๒. 	 ให้นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า ๘ แล้วอ่านออกเสียงชื่อเรื่อง “What Are You Doing Tonight?” นักเรียน	
ตอบค�ำถาม
	 ๓. 	 นักเรียนดูภาพในกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๘ และอ่านออกเสียง Movies-Kinds of
Movies และค�ำศัพท์เกี่ยวกับภาพยนตร์ประเภทต่างๆ TV-Types of Programs และค�ำศัพท์เกี่ยวกับรายการ
ต่างๆ ทางโทรทัศน์ Other Entertainment และค�ำศัพท์เกี่ยวกับความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ
	 ๔. 	 นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงแล้วอ่านออกเสียงตามและนักเรียนเลือกประเภทของภาพยนตร์ที่ชอบในภาพที่๑
โดยท�ำเครื่องหมายในช่องหน้ารายการ(นักเรียนสามารถเลือกได้มากกว่า ๑รายการ)และให้นักเรียนเพิ่มเติม
ประเภทของภาพยนตร์นอกเหนือจากรายการที่มีอยู่ในช่องOthersเช่นcartoon,detective,western,fantasy,
tragedy, etc.
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
240
	 ๕. 	 นักเรียนเปรียบเทียบประเภทของภาพยนตร์รายการโทรทัศน์และความบันเทิงอื่นๆที่ตนเองเลือกกับที่เพื่อน
เลือก แล้วพูดคุยเพื่อแสดงความคิดเห็น
	 ๖. 	 นักเรียนฟังบทสนทนาสั้นๆ ๒ บท แล้วออกเสียงตามซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน
หน้า ๘ แล้วฝึกอ่านบทสนทนาอีกครั้งโดยจับคู่กับเพื่อนแล้วสลับบทบาทเป็น A และ B
	 ๗. 	 นักเรียนจับคู่แล้วช่วยกันแต่งบทสนทนาตามแบบในกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน หน้า ๘ โดยใช้	
ความคิดของตนเอง แล้วครูให้นักเรียนแต่ละคู่ออกมาพูดบทสนทนาของตนเองให้ทุกคน
บทเรียนย่อยที่ ๒	 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑. 	 ครูพูดคุยเรื่องสิ่งที่นักเรียนมักจะท�ำเป็นนิสัยในวันเสาร์และอาทิตย์ โดยนักเรียนตอบค�ำถาม
	 	 T: 	 What do you usually do on the weekends?
	 	 Ss:	 (The answer will vary; such as watch T.V., stay at home, do homework, study, etc.)
	 ๒. 	 นักเรียนดูภาพประกอบกิจกรรมConversationในหนังสือเรียนหน้า ๙แล้วอ่านออกเสียงค�ำถามในกิจกรรม
About the Conversation โดยยังไม่ต้องอ่านบทสนทนาและไม่ต้องตอบค�ำถาม เพื่อเป็นแนวทางในการฟัง
	 ๓.	 นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า ๙ โดยไม่ดูบทสนทนาเพื่อจับใจ
ความส�ำคัญ
	 ๔.	 นักเรียนฟังบทสนทนาอีก ๑ ครั้ง โดยอ่านออกเสียงบทสนทนาตามไปด้วย แล้วจับคู่กันอ่านออกเสียง	
บทสนทนา 
	 ๕.	 นักเรียนตอบค�ำถามในกิจกรรมAbouttheConversationในหนังสือเรียนหน้า ๙แล้วตรวจค�ำตอบพร้อมกัน
	 ๖.	 นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า ๙ ระหว่าง Mei, Larry, Yasmin และ
Ryan ๑-๒ ครั้ง และฟังบทสนทนาอีกครั้งโดยดูบทสนทนา แล้วเขียนค�ำตอบลงในตาราง
	 ๗.	 นักเรียนฟังบทสนทนาอีกครั้งหากต้องการ แล้วตรวจค�ำตอบพร้อมกัน
	 ๘.	 นักเรียนท�ำกิจกรรม Language in Context ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า ๑๐ ให้นักเรียนบอกว่าประโยคใด	
แสดงการกระท�ำในขณะที่พูด ประโยคใดแสดงการกระท�ำในอนาคต เสร็จแล้วให้ช่วยกันเฉลยค�ำตอบ
บทเรียนย่อยที่ ๓	 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑. 	 ให้นักเรียนศึกษาการใช้presentprogressivetenseในกรอบGrammarในหนังสือเรียนหน้า ๑๐ครูอธิบายว่า
รูป present progressive tense อาจหมายถึง ความตั้งใจหรือการวางแผนอนาคต ครูเขียนประโยค ๒ ประโยค
บนกระดานด�ำ ดังนี้
	 	 -	 What are you doing? (= now)
	 	 -	 What are you doing tonight? (= future)
	 	 นักเรียนบอกความแตกต่างของหน้าที่ทางภาษาของ ๒ ประโยคนี้
	 ๒. 	 ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจความแตกต่างของการใช้ present progressive
tense แสดงการกระท�ำขณะที่พูดและการกระท�ำในอนาคต แล้วเปรียบเทียบค�ำตอบกับเพื่อน
	 ๓.	 ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัดเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจความแตกต่างระหว่างSimplepresenttenseและ
Present progressive tense แล้วจับคู่ช่วยกันตรวจค�ำตอบ แล้วอ่านประโยคที่สมบูรณ์พร้อมกัน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
241
	 ๔.	 ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน โดยเริ่มจากพูดคุยเรื่องการถ่ายท�ำภาพยนตร์ ครูถามค�ำถามโดย
ให้นักเรียนระดมสมองเพื่อช่วยกันตอบค�ำถาม ดังนี้
	 	 T:	 Who usually work in filming of a movie?
	 	 Ss:	 Actors/actresses/director/camera operator/lighting technician, etc.
	 ๕.	 ครูเขียนค�ำศัพท์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพยนตร์บนกระดานด�ำ
	 ๖.	 ให้นักเรียนดูภาพในแบบฝึกหัด ข้อ C ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ แล้วตอบ
ค�ำถาม
	 ๗.	 นักเรียนดูภาพอีกครั้งและหาสิ่งที่ผิดปกติในภาพ๕แห่งโดยครูให้ตัวอย่างสิ่งผิดปกติ๑แห่งแล้วถามค�ำถาม
เช่น นักเรียนเขียนประโยคเพื่ออธิบายสิ่งผิดปกติที่พบโดยใช้รูปประโยค Present progressive tense
	 ๘.	 นักเรียนเปรียบเทียบค�ำตอบกับเพื่อน และครูสุ่มเรียกนักเรียน ๔-๕ คน อ่านออกเสียงค�ำตอบ แล้วครูเขียน
ค�ำตอบบนกระดานด�ำเพื่อให้ทุกคนได้ดู จากนั้นให้นักเรียนคนที่มีค�ำตอบที่ต่างออกไปบอกค�ำตอบของตน
ครูและนักเรียนช่วยกันแก้ไขการเขียน
	 ๙. 	 นักเรียนดูกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า ๑๐ เรื่อง Verb + gerund โดยอ่านออกเสียงค�ำกริยาทุกตัว
แล้วช่วยกันบอกความหมายของค�ำ ครูอธิบายว่า ค�ำกริยาทั้งหมดนี้ต้องตามด้วยgerund(verbที่ต้องเติม–ing)
นักเรียนอ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกัน นักเรียนฝึกแต่งประโยค
	 ๑๐.	 นักเรียนฝึกแต่งประโยคโดยใช้ค�ำกริยา dislike, enjoy, finish, imagine, mind, miss, stop, suggest โดยแบ่ง
นักเรียนเป็นทีมนักเรียนแต่ละทีมแต่งประโยคที่ใช้ค�ำกริยาทั้ง๘ตัวแล้วส่งตัวแทนไปเขียนประโยคของทีม	
บนกระดานด�ำ แล้วช่วยกันตรวจประโยคดูว่า ทีมใดแต่งประโยคได้ถูกต้อง และมีความหมายเหมาะสม	
มากที่สุด เป็นทีมที่ชนะ
	 ๑๑.	 นักเรียนอ่านออกเสียงส�ำนวน be fond of, to be keen on, can’t stand, can’t help, feel like, give up โดยครู
อธิบายความหมายของส�ำนวนแต่ละค�ำ 
	 ๑๒.	 นักเรียนฝึกแต่งประโยคที่ใช้ส�ำนวนทั้ง๖แบ่งนักเรียนเป็น๖กลุ่มให้แต่ละกลุ่มแต่งประโยคของแต่ละส�ำนวน
ให้ได้มากที่สุดแล้วตัวแทนกลุ่มไปเขียนประโยคของกลุ่มบนกระดานด�ำโดยให้กลุ่มเลือกประโยคที่ชอบที่สุด	
กลุ่มละ ๓ ประโยค แล้วช่วยกันตรวจ และนักเรียนทั้งชั้นอ่านออกเสียงประโยคทั้งหมดบนกระดานด�ำ	
พร้อมกัน
	 ๑๓.	 นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด ข้อ D ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ โดยนักเรียน	
เลือกค�ำและเปลี่ยนทุกค�ำให้เป็นรูปgerundแล้วจึงเติมค�ำลงในประโยคหลังจากนั้นสุ่มนักเรียนอ่านออกเสียง
ค�ำตอบทีละคนเพื่อตรวจค�ำตอบ
	 ๑๔. 	 นักเรียนดูแบบฝึกหัด ข้อ E ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ แล้วอ่านค�ำขึ้นต้น
ประโยคและครูอธิบายความหมายว่า I wouldn’t mind มีความหมายเท่ากับ I would like แล้วให้นักเรียน	
ช่วยกันแต่งประโยค ครูเลือก ๑ ประโยคแล้วเขียนบนกระดานด�ำ 
	 ๑๕.	 นักเรียนทุกคนอ่านออกเสียงทั้งประโยคบนกระดานด�ำนักเรียนแต่งประโยคข้อ๒-๖ด้วยความคิดของตนเอง
แล้วจึงจับคู่เพื่อแลกกันอ่านประโยคของเพื่อน ครูสุ่มให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคของตนเองจนครบ	
ทุกข้อ และอภิปรายประโยคที่มีความหมายน่าสนใจ
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
242
บทเรียนย่อยที่ ๔	 เวลา ๑ ชั่วโมง
	 ๑.	 ครูพูดถึงการแสดงโชว์ตลก(comedyshow)ในประเทศไทยโดยเน้นให้นักเรียนคิดถึงตลกประเภทอื่นๆเช่น
ประเภทที่มีผู้เล่าเรื่องคนเดียว (stand-up comedy) และอื่นๆ โดยให้นักเรียนบอกเกี่ยวกับรายการที่ชอบ
	 ๒. 	 นักเรียนดูภาพประกอบกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ ครูและนักเรียนพูดโต้ตอบกัน
	 ๓. 	 นักเรียนอ่านบทอ่านในกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ แล้วบอกคำ�ศัพท์หรือวลีที่นักเรียนไม่รู้
ความหมายครูเขียนคำ�ศัพท์บนกระดานดำ�แล้วให้นักเรียนลองเดาความหมายจากบริบทครูบอกความหมาย
ที่ถูกต้องของคำ�ศัพท์บนกระดานดำ�
	 ๔.	 นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Reading และอ่านออกเสียงตามเบาๆ เพื่อฝึกการออกเสียงให้ถูกต้อง
	 ๕.	 นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดข้อAในกิจกรรมAbouttheReadingในหนังสือเรียนหน้า ๑๓โดยนักเรียนอ่านออก
เสียงคำ�ข้อ๑-๖แล้วหาคำ�ที่มีความหมายเหมือนกับคำ�ทั้ง๖คำ�จากบทอ่านแล้วเปรียบเทียบคำ�ตอบกับเพื่อน
และตรวจคำ�ตอบพร้อมกันทั้งชั้น
	 ๖.	 นักเรียนดูแบบฝึกหัดข้อBในกิจกรรมAbouttheReadingในหนังสือเรียนหน้า ๑๓แล้วตอบคำ�ถามWhere
do you think the word “sitcom” comes from? ครูทบทวนความรู้จากการเรียนคำ�ศัพท์ sitcom ในชั่วโมงแรก
ของหน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ว่า “sitcom” is a blend of two words situation and comedy พร้อมทั้งนำ�เสนอ
ตัวอย่างคำ�ประเภทนี้ที่ใช้ในวงการสื่อสารมวลชนและวงการบันเทิง (media) เพิ่มเติม
	 ๗.	 นักเรียนอ่านบทอ่านในกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ อีกครั้ง แล้วตอบคำ�ถามในแบบฝึกหัด
ข้อ C ในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓
บทเรียนย่อยที่ ๕	 เวลา ๒ ชั่วโมง
	 ๑. 	 ครูเขียนคำ�พูด (quote/quotation) ของ Frank Lloyd Wright บนกระดานดำ� ดังนี้ “TV-chewing gum for the
eyes” แล้วถามคำ�ถาม
	 ๒. 	 นักเรียนอ่านออกเสียงคำ�ถามในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ แล้วจับคู่อภิปรายคำ�ถาม
	 ๓. 	 นักเรียนแต่ละคู่จับคู่กับคู่อื่น รวมเป็นกลุ่มละ ๔ คน แล้วอภิปรายเกี่ยวกับคำ�ตอบของคำ�ถาม ๖ ข้อ ครู	
เดินรอบๆเพื่อสังเกตการอภิปรายในกลุ่มของนักเรียนและแนะนำ�ให้นักเรียนถามและตอบเป็นภาษาอังกฤษ
	 ๔. 	 ครูสุ่มนักเรียน ๑ กลุ่มนำ�เสนอการอภิปรายของกลุ่มให้เพื่อนในชั้นฟัง โดยกลุ่มอื่นสามารถแสดงความ	
คิดเห็นเพิ่มเติมได้
	 ๕. 	 นักเรียนอ่านออกเสียงคำ�สั่งกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ แล้วครูชี้แจงคำ�สั่งและถามว่า	
โครงเรื่องของละคร sitcom ควรจะประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วครูเขียนคำ�ตอบของนักเรียนบนกระดานดำ�
	 ๖. 	 ครูให้นักเรียนเขียนโครงเรื่องละคร sitcom ที่นักเรียนชอบหรือเรื่องที่ได้ดูเมื่อไม่นานมานี้
	 ๗. 	 นักเรียนแลกกันอ่านเค้าโครงเรื่องละครsitcomที่นักเรียนเขียนแล้วช่วยกันให้ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปรับปรุง
การเขียน
	 ๘.	 นักเรียนเขียนเค้าโครงเรื่อง sitcom ให้สมบูรณ์ ครูสุ่มให้นักเรียน ๑-๒ คน อ่านเค้าโครงเรื่องของตนเองให้
เพื่อนในชั้นฟัง ส่วนกลุ่มอื่นๆ ให้นำ�ผลงานไปติดไว้ที่ผนังรอบห้องเรียน เพื่อให้คนอื่นได้อ่าน
	 ๙. 	 ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำ�กิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ ให้นักเรียนสร้าง เค้าโครงเรื่อง
soap opera โดยให้นักเรียนทำ�งานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน แนะนำ�ให้นักเรียนช่วยกันแต่งเรื่องเองโดยไม่
ยืมความคิดจากเรื่องที่เคยดูมา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
243
๙.	สื่อการเรียนรู้
•	 หนังสือเรียน My World Book 5 หน้า ๘-๑๓
•	 หนังสือแบบฝึกหัด My World Book 5 หน้า ๕-๘
•	 ซีดีบันทึกเสียง
•	 เครื่องเล่นซีดี
•	 สื่ออิเล็กทรอนิกส์
	 -	 http://edwood.the-croc.com/
	 -	 www.answers.com/soap%20opera
	 - 	 www.mthai.com/mag/knowledge/nana015.htm
	 -	 www.bareo-isyss.com/frank/flw_01.php
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
244
๑.	มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
สาระที่ ๑ :	 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
	 มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑,	
ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๒ :	 ภาษาและวัฒนธรรม
	 มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๓ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
	 มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑
สาระที่ ๔ :	 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
	 มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑
๒.	สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด
ปัจจุบันการเมือง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของประชาชน การเรียนรู้เรื่องการเมืองควบคู่ไปกับการเรียนภาษา จะ
สามารถช่วยให้นักเรียนใช้ภาษาในการสื่อสารขั้นสูงได้เช่นการเขียนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งการเขียนแสดงความคิดเห็น
๓.	สาระการเรียนรู้
โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
	 -	 When and If clauses (to express future time)
	 -	 Conjunctions of time: before, after, as soon as, until
	 -	 Simple past tense
	 -	 Simple present tense
ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา
บทเรียนย่อยที่ ๑
	 -	 appreciate (v.):	 to be or to feel thankful for something that someone has done (ขอบคุณ,	
เห็นคุณค่า, แสดงความพอใจ)
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓
เรื่อง I call you when I get home
เวลา ๖ ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาต่างประเทศ
รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗
245
	 -	 be on the road (v.):	 to travel, to be on tour as a plan made by a group of musicians, etc. (เดินทางหรือ
ออกทัวร์ตามก�ำหนดที่วงดนตรีวางแผนไว้)
	 -	 fan (n.):	 someone who likes or admires a particular famous sport player, actor, actress or a
musician, etc. (คนที่นิยมชมชอบนักกีฬา นักแสดง หรือนักดนตรี)
	 -	 duplicity (n.):	 dishonest behavior that is intended to deceive someone (การตีสองหน้า,	
การหลอกลวง)
	 -	 downfall (n.): 	 a loss of power, prosperity, or status (ความหายนะ, ความตกตํ่า)
บทเรียนย่อยที่ ๒
	 -	 after (conj.):	 atalatertimewhenaparticulareventhashappenedorisfinished(ในเวลาต่อมาหรือ
ภายหลัง)
	 -	 as soon as (conj.):	 immediately after something has happened (ทันทีที่)	
	 -	 before (conj.): 	 earlier than a particular event or action (ก่อน, ก่อนหน้านี้)
	 -	 until (conj.):	 up to but not later than (จนกระทั่ง)
	 -	 recognize (v.):	 remember (จ�ำได้)
บทเรียนย่อยที่ ๓
	 -	 execute (v.):	 to carry out, especially official duties (ปฏิบัติ, บริหาร)
	 -	 prosper (v.):	 to be successful and become rich (มั่งคั่ง, รํ่ารวย, เจริญรุ่งเรือง)
	 -	 fulfill (v.):	 to do or have what is require or necessary (ท�ำให้บรรลุ)
	 -	 solemnly (adv.):	 with seriousness and formality (อย่างเคร่งครัด จริงจัง และเป็นทางการ)
	 -	 defend (v.):	 to do something to protect someone or something from being attacked (ป้องกัน)
บทเรียนย่อยที่ ๔
	 -	 run for president (v.):	 to try to be elected in an election (หาเสียงเพื่อการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี)
	 -	 campaign speech (n.):	speech which is intended to achieve a particular result, especially in politics or
business (การพูดปราศรัยเพื่อหาเสียง)
	 -	 celebrated quote (n.):	 famous sentence or phrase from a book, speech, etc. which you repeat in your
speech or piece of writing because it is interesting, amusing, etc. (ประโยคหรือ	
ค�ำพูดที่มีชื่อเสียงจากหนังสือหรือค�ำปราศรัยซึ่งถูกน�ำมากล่าวอ้างถึง)
	 -	 insulting remark (n.):	 word or sentence which is very rude and likely to upset people (ค�ำพูดหรือประโยค
ที่หยาบคาย ท�ำให้ผู้อื่นรู้สึกโกรธ)
	 -	 immortalized (adj.):	 to be made famous for a long time (ท�ำให้เป็นอมตะ)
	 -	 rival (n.):	 a person, group, or organization that you compete with in sport, business, a fight,
politics, etc. (คู่แข่ง)
คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง
246
ข้อมูลด้านวัฒนธรรม
บทเรียนย่อยที่ ๓
	 -	 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) (ค.ศ. ๑๘๗๙ - ๑๙๕๕) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด	
ในศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพราะเป็นผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู	
อันทรงอานุภาพไอน์สไตน์เป็นชาวเยอรมันเชื้อสายยิวผู้คิดค้น“ทฤษฎีสัมพัทธภาพ”(TheoryofRelativity)	
อันน�ำไปสู่การค้นคว้าเรื่องปรมาณู ทฤษฎีนี้ท�ำให้ไอน์สไตน์มีชื่อเสียงมากจนสามารถเขียนเป็นหนังสือชื่อ
ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี
ค.ศ. ๑๙๒๑
	 -	 ชาลส์เดอโกล(CharlesdeGaulle)(ค.ศ.๑๘๙๐-๑๙๗๐)เป็นทหารและรัฐบุรุษคนส�ำคัญของฝรั่งเศสเป็น
ผู้น�ำการปลดปล่อยฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ และผู้น�ำรัฐบาลชั่วคราว ในปี ค.ศ. ๑๙๔๔ - ๑๙๔๖
ชาลส์ เดอ โกล ก้าวขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๕๘ - ๑๙๖๙ แนวคิดทางการ
เมืองของเขาเป็นที่รู้จักในนามของลัทธินิยมโกล(Gaullism)ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมืองฝรั่งเศสในยุค
ต่อมา
	 -	 ออตโต ฟอน บิสมาร์ค (Otto von Bismarck) (ค.ศ. ๑๘๑๕ - ๑๘๙๘) เป็นรัฐบุรุษคนส�ำคัญของยุโรป	
เป็นผู้รวมจักรวรรดิเยอรมัน มีบทบาทส�ำคัญท�ำให้รัฐเยอรมันทั้งหลายเริ่มมีความรู้สึกชาตินิยม และร่วมกัน	
จัดตั้งจักรวรรดิเยอรมัน (German Empire) ส�ำเร็จในวันที่ ๑๘ มกราคม ค.ศ. ๑๘๗๑ พระเจ้าวิลเฮล์มที่ ๑	
ทรงประกาศสถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน(GermanEmpire)ที่พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles)ของฝรั่งเศส
และบิสมาร์คก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าชาย (Prince) และอัครมหาเสนาบดี (Chancellor)
	 -	 วินสตัน เชอร์ชิลล์ (Winston Churchill) (ค.ศ. ๑๘๗๔ - ๑๙๖๕) เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่มีชื่อเสียงใน	
ช่วงสงครามโลกครั้งที่๒เชอร์ชิลล์น�ำอังกฤษฝ่าวิกฤตสงครามโลกครั้งที่๒และเป็นหนึ่งในผู้น�ำที่ส�ำคัญของ	
ฝ่ายสัมพันธมิตรร่วมกับประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ แห่งสหรัฐอเมริกา และโจเซฟ สตาลิน ผู้น�ำ	
ของสหภาพโซเวียต เชอร์ชิลล์เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม เมื่อ ค.ศ. ๑๙๕๓
บทเรียนย่อยที่ ๔
	 -	 คลีเมนท์ แอทลี (Clement Atlee) (ค.ศ. ๑๘๘๓ - ๑๙๖๗) ผู้น�ำพรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งเป็นคู่แข่ง
คนส�ำคัญและมีชัยชนะเหนือวินสตันเชอร์ชิลล์ในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในปีค.ศ.๑๙๔๕ด�ำรง
ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่าง ค.ศ. ๑๙๔๕ - ๑๙๕๑
	 -	 จอห์น นานซ์ การ์เนอร์ (John Nance Garner) (ค.ศ. ๑๘๖๘ - ๑๙๖๗) สมาชิกพรรคเดโมแครต (Democrat
Party) และเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์
	 -	 นิกิตา ครุสเชฟ (Nikita Khrushchev) (ค.ศ. ๑๘๙๔ - ๑๙๗๑) เป็นผู้น�ำสหภาพโซเวียตระหว่าง ค.ศ. ๑๙๕๖ -
๑๙๖๔ ขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งต่อจากอดีตผู้น�ำโจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin)
๔.	สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
-	 ความสามารถในการสื่อสาร
-	 ความสามารถในการคิด
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963
13992611011963

More Related Content

What's hot

Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
Belinda Bow
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
Kruthai Kidsdee
 
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
นางสาวอารียา แย้มภู
 
Reading for comprehension
Reading for comprehensionReading for comprehension
Reading for comprehension
ruttiporn
 
Writing Lesson Plan
Writing Lesson PlanWriting Lesson Plan
Writing Lesson Plan
nam2534
 
เนื้อหา 1
เนื้อหา 1เนื้อหา 1
เนื้อหา 1
ladda06sit
 
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
kruchaily
 

What's hot (18)

daily routine
daily routine daily routine
daily routine
 
Speaking lesson plan
Speaking lesson planSpeaking lesson plan
Speaking lesson plan
 
แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food แผนการสอน ป3 our food
แผนการสอน ป3 our food
 
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)แผนการสอน (เพิ่มเติม)
แผนการสอน (เพิ่มเติม)
 
Unit 1 about myself
Unit 1 about myselfUnit 1 about myself
Unit 1 about myself
 
บทคัดย่อ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ
บทคัดย่อ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำบทคัดย่อ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ
บทคัดย่อ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8aแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8a
 
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
แผนเขียน ส่งครั้งที่ 3
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูด
 
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
ชุดฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ เล่ม 2 การอ่านข่าว(news)
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
 
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshareนวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
นวัตกรรม เรื่อง Occupations slideshare
 
ชุดกิจกรรมที่ 1
ชุดกิจกรรมที่  1ชุดกิจกรรมที่  1
ชุดกิจกรรมที่ 1
 
Reading for comprehension
Reading for comprehensionReading for comprehension
Reading for comprehension
 
Writing Lesson Plan
Writing Lesson PlanWriting Lesson Plan
Writing Lesson Plan
 
เล่มที่ ๗ เรื่อง คำอุทาน
เล่มที่ ๗ เรื่อง คำอุทานเล่มที่ ๗ เรื่อง คำอุทาน
เล่มที่ ๗ เรื่อง คำอุทาน
 
เนื้อหา 1
เนื้อหา 1เนื้อหา 1
เนื้อหา 1
 
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
 

Similar to 13992611011963

จุดเน้นการดำเนินงาน ที่ 1
จุดเน้นการดำเนินงาน   ที่ 1จุดเน้นการดำเนินงาน   ที่ 1
จุดเน้นการดำเนินงาน ที่ 1
kruchaily
 
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
kruchaily
 
Report54 1-edit
Report54 1-editReport54 1-edit
Report54 1-edit
kruchaily
 
คำสั่งสอน57
คำสั่งสอน57คำสั่งสอน57
คำสั่งสอน57
Ozzy Ozone
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
Montree Jareeyanuwat
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
Montree Jareeyanuwat
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
Montree Jareeyanuwat
 
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.562ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
krupornpana55
 
โครงสร าง ค32101-1
โครงสร าง ค32101-1โครงสร าง ค32101-1
โครงสร าง ค32101-1
Benjawan Martkamjan
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียน
Ubonpan Sornsakul
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics reviewแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
pantiluck
 
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูลคู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
phornphan1111
 
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูลคู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
phornphan1111
 

Similar to 13992611011963 (20)

interactive M 4
interactive M 4interactive M 4
interactive M 4
 
จุดเน้นการดำเนินงาน ที่ 1
จุดเน้นการดำเนินงาน   ที่ 1จุดเน้นการดำเนินงาน   ที่ 1
จุดเน้นการดำเนินงาน ที่ 1
 
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1รายงานผลจุดเน้นที่ 1
รายงานผลจุดเน้นที่ 1
 
อังกฤษม.2
อังกฤษม.2อังกฤษม.2
อังกฤษม.2
 
Report54 1-edit
Report54 1-editReport54 1-edit
Report54 1-edit
 
SAR 2560
SAR 2560SAR 2560
SAR 2560
 
คำสั่งสอน57
คำสั่งสอน57คำสั่งสอน57
คำสั่งสอน57
 
Job's portflio
Job's portflioJob's portflio
Job's portflio
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
 
ข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศข้อมูลสารสนเทศ
ข้อมูลสารสนเทศ
 
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.562ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
2ปรับปฏิทินวิชาการภาค1 ปี 56 4 เม.ย.56
 
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
 
รายงานผลการปฏิบัติงานและการประเมินตนเองTeacher Self Assessment Report : T-SAR...
รายงานผลการปฏิบัติงานและการประเมินตนเองTeacher Self Assessment Report : T-SAR...รายงานผลการปฏิบัติงานและการประเมินตนเองTeacher Self Assessment Report : T-SAR...
รายงานผลการปฏิบัติงานและการประเมินตนเองTeacher Self Assessment Report : T-SAR...
 
โครงสร าง ค32101-1
โครงสร าง ค32101-1โครงสร าง ค32101-1
โครงสร าง ค32101-1
 
แผนการเขียน
แผนการเขียนแผนการเขียน
แผนการเขียน
 
Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..Ppp+มิ้น+..
Ppp+มิ้น+..
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics reviewแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 phonics review
 
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูลคู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
 
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูลคู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
คู่มือครู เล่มที่ ๑ เรื่อง คำมูล
 

13992611011963

  • 1. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 216 วิชา ภาษาอังกฤษ อ๓๒๑๐๑ ๑. จำ�นวน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ จำ�นวน ๑.๐ หน่วยกิต ๒. หนังสือที่ใช้ในการเรียน - แบบเรียนชื่อ หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ “My World 5” ผู้แต่ง Manuel dos Santos สำ�นักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช - แบบเรียนชื่อ แบบฝึกหัดสาระการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษ “My World 5” ผู้แต่ง Manuel dos Santos สำ�นักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช ๓. ผู้เขียนคู่มือครู ชื่อ นางสาวพิชญนันท์ ไชยโรจน์ ตำ�แหน่ง ครู สถานที่ทำ�งาน โรงเรียนวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ๗๗๑๑๐ โทรศัพท์ ๐-๘๘๙๘-๗๐๒๙, ๐-๓๒๕๒-๒๓๔๕ โทรสาร ๐-๓๒๕๒-๒๓๔๕ E-mail : suwisa_lovely@hotmail.com
  • 2. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 217 ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) นํ้าหนัก คะแนน ๑ Technology : Unit 1 Press Start to repeat ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ การเรียนรู้ ถ้อยคำ�สำ�นวนภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นพื้นฐานของการใช้ ภาษา เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีได้เป็น สิ่งสำ�คัญในชีวิตประจำ�วัน ๖ ๑๐ ๒ Entertainment : Unit 2 What are you doing tonight? ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๔ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ เรียนรู้ คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เกี่ยวกับ สิ่งบันเทิง ทำ�ให้สามารถฟัง พูด อ่านและ เขียน ข้อความเกี่ยวกับสิ่งบันเทิงได้ และ เรียนรู้วัฒนธรรมด้านบันเทิงของเจ้าของ ภาษา ๖ ๑๐ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ จำ�นวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔๐ ชั่วโมง โครงสร้าง รายวิชา
  • 3. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 218 ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) นํ้าหนัก คะแนน ๓ Promise : Unit 3 I call you when I get home ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑ เรียนรู้คำ�ศัพท์ สำ�นวนและการใช้ภาษาที่ เกี่ยวกับระบบการเมือง และนักการเมือง ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อระบบ การเมืองและนักการเมือง เพื่อสามารถ วิเคราะห์ อภิปรายและแสดงความคิดเห็น โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสม ๖ ๑๐ สอบกลางภาค ๑ ๑๐ ๔ Extreme Sports : Unit 4 Have you done it yet? ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๑ ม.๔-๖/๑ เรียนรู้ คำ�ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ใช้เกี่ยวกับ สิ่งบันเทิง ทำ�ให้สามารถฟัง พูด อ่านและ เขียน ข้อความเกี่ยวกับสิ่งบันเทิงได้ ๖ ๑๐
  • 4. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 219 ลำ�ดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำ�คัญ/ความคิดรวบยอด เวลา (ชั่วโมง) นํ้าหนัก คะแนน ๕ Complaints : Unit 6 It’s no use complaining ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๔ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ การเรียนรู้ ถ้อยคำ�สำ�นวนภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการร้องทุกข์ เช่น การเขียนจดหมาย ร้องทุกข์ และการแสดงความคิดเห็น หรือ การเรียกร้องสิทธิที่ถูกต้องของผู้รับบริการ ๗ ๑๐ ๖ Fables : Unit 6 One upon a time ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔, ม.๔-๖/๕ ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕ ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓ ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒ ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ เรียนรู้ คำ�ศัพท์ สำ�นวนภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการแต่งนิทานสอนใจ มักใช้สัตว์ เป็นตัวละครหลัก และมีคติสอนใจ รวมทั้ง เรียนรู้วัฒนธรรม แนวความคิด ของเจ้าของ ภาษา และเปรียบเทียบกับการใช้ภาษาไทยใน นิทานสอนใจและแนวความคิดของคนไทย ๗ ๑๐ สอบปลายภาค ๑ ๓๐ รวมทั้งสิ้น ๔๐ ๑๐๐
  • 5. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 220 กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี เวลา จำ�นวน ชั่วโมง เรื่องที่สอน มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน) ๑ ๑๙พ.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ PressStartoRepeat(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒ ๒๐พ.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ PressStartoRepeat(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๓ ๒๖พ.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ PressStartoRepeat(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๔ ๒๗พ.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ PressStartoRepeat(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๕ ๒มิ.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ PressStartoRepeat(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๖ ๓มิ.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ WhatAreYouDoingTonight?(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๗ ๙มิ.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ WhatAreYouDoingTonight?(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๘ ๑๐มิ.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ WhatAreYouDoingTonight?(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๙ ๑๖มิ.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ WhatAreYouDoingTonight?(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๐ ๑๗มิ.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ WhatAreYouDoingTonight?(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๑ ๒๓มิ.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ ICallYouWhenIGetHome(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๒ ๒๔มิ.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ ICallYouWhenIGetHome(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๓ ๓๐มิ.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ ICallYouWhenIGetHome(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน
  • 6. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 221 กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี เวลา จำ�นวน ชั่วโมง เรื่องที่สอน มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน) ๑๔ ๑ก.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ ICallYouWhenIGetHome(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๕ ๗ก.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ ICallYouWhenIGetHome(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๖ ๘ก.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ HaveYouDoneItYet?(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๔กรกฎาคม๒๕๕๗หยุดชดเชยวันเข้าพรรษา ๑๕กรกฎาคม๒๕๕๗ทบทวนบทเรียน(สอบกลางภาค) ๑๗ ๒๑ก.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ HaveYouDoneItYet?(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๘ ๒๒ก.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ HaveYouDoneItYet?(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๙ ๒๘ก.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ HaveYouDoneItYet?(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๐ ๒๙ก.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ HaveYouDoneItYet?(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๑ ๔ส.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ It’sNoUseComplaining(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๒ ๕ส.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ It’sNoUseComplaining(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๓ ๑๑ส.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ It’sNoUseComplaining(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๑๒สิงหาคม๒๕๕๗หยุดวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ๒๔ ๑๘ส.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ It’sNoUseComplaining(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน
  • 7. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 222 กำ�หนดการเรียนรู้รายชั่วโมง และสิ่งที่โรงเรียนปลายทางต้องเตรียม รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ ครั้งที่ วัน/เดือน/ปี เวลา จำ�นวน ชั่วโมง เรื่องที่สอน มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวชี้วัด สิ่งที่ร.ร.ปลายทาง ต้องเตรียม(ครู/นักเรียน) ๒๕ ๑๙ส.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ It’sNoUseComplaining(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๖ ๒๕ส.ค.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ OnceUponaTime(1) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๗ ๒๖ส.ค.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ OnceUponaTime(2) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๘ ๑ก.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ OnceUponaTime(3) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๒๙ ๒ก.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ OnceUponaTime(4) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๓๐ ๘ก.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ OnceUponaTime(5) ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๓๑ ๙ก.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ Revision1 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๓๒ ๑๕ก.ย.๕๗ ๐๘.๓๐-๐๙.๓๐น. ๑ Revision2 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน ๓๓ ๑๖ก.ย.๕๗ ๑๓.๓๐-๑๔.๓๐น. ๑ Revision3 ๑.๑,๑.๒,๑.๓,๒.๑, ๒.๒,๓.๑,๔.๑,๔.๒ หนังสือแบบเรียน หมายเหตุ กำ�หนดการสอนให้ใช้เวลาเรียนที่สอนจริงในภาคเรียนนั้นๆ
  • 8. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 223 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 1 Press Star to Repeat GRAMMAR • Simple present tense (review) • Expressions of frequency • Time expression FUNCTIONS • To give personal information • To use the language of technology • To talk on the phone LANGUAGE • What’s your PIN number? • Press two for customer service.
  • 9. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 224 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 2 What Are You Doing Tonight? GRAMMAR • Present progressive (for the future) • Verb + gerund FUNCTIONS • To talk about plans • To talk about likes and dislikes • To discuss types of music, movies, and TV programs • To talk about entertainment LANGUAGE • What are you diong tomorrow night? • I’m playing tennis tomorrow. • I enjoy watching sitcoms. • I can’t stand watching reality shows.
  • 10. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 225 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 3 I’ll Call You When I Get Home GRAMMAR • When and If clauses (to express future time) • Conjunctions of time: before, after, as soon as, until FUNCTIONS • To make arrangements • To make promises LANGUAGE • I’ll call you when I arrive. • If we hurry, we’ll catch the bus. • I’ll come as soon as I finish.
  • 11. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 226 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 4 Have You Done It Yet? GRAMMAR • Present perfect with yet, already, just FUNCTIONS • To talk about recent actions and events • To talk about recent personal experiences LANGUAGE • Have you finished the work yet? • I’ve just finished it
  • 12. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 227 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 5 It’s No Use Complaining GRAMMAR • Present perfect progressive • Present perfect progressive versus present perfect FUNCTIONS • To talk about actions that continue happening over time • To make complaints LANGUAGE • How long have they been waiting? • The traffic light hasn’t been working for two days. • How many times have you called? • I’ve called three times.
  • 13. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 228 ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑ UNIT 6 Once Upon a Time GRAMMAR • Past perfect • Past progressive with while FUNCTIONS • To talk about past events • To tell stories • To discuss things that went wrong • To discuss sequence of events LANGUAGE • By the time the hare arrived, the tortoise had already crossed the finish line. • While she was riding in the coach, it turned into a pumpkin.
  • 14. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 229 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ : ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๒ : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๓ : ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๔ : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ๒. สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีในชีวิตประจ�ำวันจ�ำเป็นต้องเรียนรู้ถ้อยค�ำส�ำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพราะปัจจุบันใช้กัน อย่างแพร่หลายในชีวิตประจ�ำวัน ๓. สาระการเรียนรู้ โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Simple Present Tense - Expressions of frequency - Time expressions ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา บทเรียนย่อยที่ ๑ - PIN (n.): Personal Identification Number (รหัสเลขประจ�ำตัว) - ATM (n.): Automated Teller Machine (เครื่องรับ-จ่ายเงินอัตโนมัติ) - GPS (n.): Global Positioning System (ระบบการค้นหาต�ำแหน่งของสถานที่ทั่วโลก) หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง Press Star to Start เวลา ๖ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
  • 15. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 230 บทเรียนย่อยที่ ๒ - maiden name (n.): the family name that a woman had before she got married (นามสกุลก่อนแต่งงาน ของผู้หญิง) - verify (v.): to find out if a fact, statement, etc. is correct or true (พิสูจน์ความจริง) - an immediate stop (n.): a stop without delay (การระงับ, การอายัดการใช้งาน) - telemarketer (n.): a person who is employed by a business company to sell their products to the customers and the phone by offering attractive packages (พนักงานขาย สินค้าทางโทรศัพท์) - issue (v.): to officially produce something such as new stamps, new card (ผลิตออก, ตีพิมพ์) บทเรียนย่อยที่ ๓ - rotate (v.): to turn around a fixed point (หมุนรอบ) - orbit (v.): to travel in a circle around a much larger object (โคจร) - habit (n.): something that you do regularly, often without thinking about it because you have done it many times before (นิสัย) - habitual (adj.): done as a habit or doing something from habit (โดยเป็นนิสัย) - subway (n.): a railway that runs under the ground (รถไฟใต้ดิน) บทเรียนย่อยที่ ๔ - telemarketing (n.): a method of selling things and taking orders for sales by telephone (การขายตรง ผ่านโทรศัพท์) - so and so (n.): used to donate a person, any person not named (ใครก็ได้) - XYZ, Inc. (n.): a pretend name of a company given as an example (ชื่อสมมติของบริษัท) - India’s Silicon Valley (n.): a reference to the original Silicon Valley, a region around San Francisco and San Jose in California, which has a dense concentration of electronics and computer companies (ย่านธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) - transaction (n.): a business deal (การด�ำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจ) บทเรียนย่อยที่ ๕ - founder (n.): a person who found an organization (ผู้ก่อตั้งองค์กร) - corp. (n.): the abbreviation of corporation (a big company) or a group of companies acting togetherasasingleorganization(ย่อมาจากcorporationหมายถึงบริษัทขนาดใหญ่) - campaign (n.): a service of actions intended to achieve a particular result, especially in politics or business (การรณรงค์) - service (n.): an act of help or assistance (การบริการ)
  • 16. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 231 ข้อมูลด้านวัฒนธรรม บทเรียนย่อยที่ ๑ - ประเทศตะวันตกเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสูง ประชาชนส่วนใหญ่จะใช้ เครื่องมือทาง เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและการค้นหาข้อมูลตลอดเวลา การใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือในการสื่อสาร และเทคโนโลยีจึงเป็นวิถีชีวิตประจ�ำวันของชาวตะวันตก - cellphoneหรือcellularphoneหรือmobilephoneคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ผู้ใช้สามารถน�ำติดตัวไปยังที่ต่างๆ มีการท�ำงานโดยระบบเครือข่ายเพื่อส่งสัญญาณ ในประเทศตะวันตกนิยมเรียกโทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์ เคลื่อนที่ว่า cell phone บทเรียนย่อยที่ ๒ - เครื่อง ATM เครื่องแรกของโลกได้ติดตั้งที่เมืองเอนฟิลด์ (Anfield) ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อ วันที่ ๒๗ มิ.ย. ค.ศ. ๑๙๖๗ โดยธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays) - เครื่อง ATM พูดได้ส�ำหรับคนตาบอดเครื่องแรกของโลกได้ติดตั้งที่ประเทศแคนาดา ในปี ค.ศ. ๑๙๙๙ ๔. สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ : นักเรียนตระหนักในข้อดีและข้อจ�ำกัดของเทคโนโลยี ๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน • ค�ำตอบที่ได้จากการตอบค�ำถามเกี่ยวกับข้อความที่อ่าน • ค�ำตอบที่ได้จากการตอบค�ำถามเกี่ยวกับข้อความที่ฟัง • กิจกรรมกลุ่ม : การเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับ telemarketing ของตนเอง • ข้อเขียนบรรยายประสบการณ์เกี่ยวกับ telemarketing • กิจกรรมกลุ่ม : โครงงานเขียนโฆษณาขายสินค้าทางโทรศัพท์ (A Telemarketing Campaign) ๗. การวัดและการประเมินผล • ประเมินผลการตอบค�ำถามโดยใช้เกณฑ์การประเมิน • ประเมินการพูดโดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลุ่ม • ประเมินการเขียนโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน • ประเมินการท�ำโครงงานแผนการขายสินค้าโดยใช้เกณฑ์การประเมินโครงงาน
  • 17. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 232 ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ บทเรียนย่อยที่ ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูพูดเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารที่นักเรียนรู้จักหรือใช้ และถามว่านักเรียนใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นได้ดีหรือไม่และใช้บ่อยแค่ไหน เช่น - What type of technology do you use? ๒. นักเรียนอ่านชื่อเรื่องและหัวข้อในกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๒ และ ถามค�ำถามให้ นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ เช่น - What are these people doing? - What is the woman in the first picture doing? - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรมNewLanguageในหนังสือเรียนหน้า ๒ให้นักเรียนฟังและออกเสียงตาม แล้วครูถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ เช่น - What do you do to make a new reservation? - What do you do to repeat the menu? ๓. ครูถามให้นักเรียนตอบเกี่ยวกับตนเองโดยดูภาพในกิจกรรมNewLanguageในหนังสือเรียนหน้า ๒โดยใช้ ความรู้เดิมเรื่องค�ำหรือกลุ่มค�ำที่แสดงความถี่ของเวลา เช่น T: How often do you use your cell phone/mobile phone? Ss: Often/Always/Sometimes/Usually, etc. ๔. ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงให้นักเรียนฟังการออกเสียงค�ำแสดงความถี่ของเวลา (Expressions of frequency) ใน กิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๒ ให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของแต่ละกลุ่มค�ำ ๕. ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรมPracticeในหนังสือเรียนหน้า ๒ให้นักเรียนฝึกใช้กลุ่มค�ำที่แสดงความถี่ของ เวลา โดยครูถามค�ำถามเกี่ยวกับเครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร เช่น - How often do you use your computer? - How often do you use the GPS device? นักเรียนจับคู่สลับกันฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจ�ำวันครูสุ่ม นักเรียนแต่ละคู่แสดงบทบาทสมมติการถาม-ตอบเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจ�ำวัน ๖. ครูให้นักเรียนดูกรอบLanguageNoteในหนังสือเรียนหน้า ๒โดยอธิบายถึงที่มาของตัวย่อแต่ละค�ำ เช่นATM บางคนเรียกATMmachineและtellerในความหมายของATMคือผู้ให้บริการลูกค้าที่เคาน์เตอร์ในธนาคาร บทเรียนย่อยที่ ๒ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูพูดถึงบัตรเครดิต แล้วถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ เช่น - What are the advantages of having credit cards? - Who has a credit card? ๒. ให้นักเรียนดูภาพและอ่านค�ำถามในกิจกรรมAbouttheConversationในหนังสือเรียนหน้า ๓เพื่อให้นักเรียน มีเป้าหมายในการฟัง
  • 18. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 233 ๓. ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Conversationให้นักเรียนฟัง โดยไม่ให้นักเรียนดูบทสนทนาในหนังสือเรียน แล้วครูถามค�ำถามให้นักเรียนตอบ ๔. ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือแล้วฟังบทสนทนาในกิจกรรมConversationอีกครั้งโดยอ่านบทสนทนาตามแล้ว ให้นักเรียนจับคู่ และตอบค�ำถามในกิจกรรม About the Conversation ๕. ครูให้นักเรียนฟังบทสนทนาในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า ๓ อีกครั้ง เพื่อตรวจค�ำตอบ ๖. ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรมListeningในหนังสือเรียนหน้า ๓ให้นักเรียนฟังบทสนทนาระหว่างtele- marketer กับ customer แล้วถามค�ำถาม เช่น - Who is making a phone call? - Who is answering the phone? ๗. ครูให้นักเรียนฟังบทสนทนาอีกครั้งแล้วตอบค�ำถามในกิจกรรมListeningในหนังสือเรียนหน้า ๓ด้วยตนเอง แล้วตรวจค�ำตอบร่วมกันทั้งชั้น บทเรียนย่อยที่ ๓ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูทบทวนการใช้ Simple present tense โดยให้นักเรียนอ่านวิธีใช้ tense นี้ ในกรอบ Grammar ในหนังสือ เรียน หน้า ๔ และช่วยกันสรุป ๒. ครูและนักเรียนท�ำแบบฝึกหัดโดยให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าประโยคนั้นกล่าวถึง habitual actions หรือ facts or truth ๓. ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด ข้อ A ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า นักเรียนช่วยกัน เติมค�ำกริยาลงในประโยคแรก แล้วอ่านออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์แล้วพร้อมกัน นักเรียน เขียนเติม ประโยคอื่นๆ ที่เหลือให้สมบูรณ์ แล้วอ่านออกเสียงทุกข้อพร้อมกัน ๔. ให้นักเรียนฝึกตั้งค�ำถามโดยให้ท�ำแบบฝึกหัดข้อBในกิจกรรมLanguageinContextในหนังสือเรียนหน้า ๔ ช่วยกันท�ำประโยคข้อ๑เป็นตัวอย่างและสังเกตต�ำแหน่งของค�ำ ครูอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนั้นครูให้นักเรียน จับคู่ท�ำแบบฝึกหัดที่เหลือตั้งแต่ข้อ ๒-๘ แล้วให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันบอกค�ำตอบ ๕. ครูอธิบายค�ำสั่งให้นักเรียนเข้าใจก่อนที่จะท�ำแบบฝึกหัดข้อCในกิจกรรมLanguageinContextในหนังสือ เรียน หน้า ๕ นักเรียนบอกค�ำที่แสดงความถี่ของเวลาอื่นๆ แล้วเขียนลงในตาราง ๖. ให้นักเรียนเขียนกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มในตารางใต้ภาพ แล้วใช้ time expressions ในตารางบนและ everyday activities ในตารางล่าง เขียนประโยคบอกความถี่ของกิจกรรมต่างๆ ที่ท�ำ ๗. ให้นักเรียนจับคู่กันฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกับความถี่ของกิจกรรมที่คู่ของตนกระท�ำ โดยใช้ค�ำถามHowoften…? บทเรียนย่อยที่ ๔ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูให้นักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับประเทศอินเดียในด้านเศรษฐกิจนักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแหล่ง ทรัพยากรธรรมชาติของอินเดีย อุตสาหกรรมที่ส�ำคัญและผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของอินเดีย โดยตั้ง ค�ำถามน�ำ เช่น - How big is India?/What is the population of India? - What do most people do for a living?
  • 19. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 234 ๒. ให้นักเรียนดูภาพในกิจกรรมReadingในหนังสือเรียนหน้า ๖แล้วถามว่า Wheredoyouthinkthesepeople are working? ถ้านักเรียนไม่ทราบ ครูอธิบายว่า This is a call center, where customers can call to ask for information or some kinds of service. ๓. ให้นักเรียนอ่านบทอ่าน เพื่อจับใจความส�ำคัญอย่างคร่าวๆ โดยใช้เวลาประมาณ ๒-๓ นาที ๔. ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงให้นักเรียนฟังบทอ่านในกิจกรรมReading ในหนังสือเรียนหน้า ๖ และอ่านตามในใจ แล้วขีดเส้นใต้ค�ำศัพท์ใหม่ จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของค�ำศัพท์โดยครูอธิบายเพิ่มเติม ๕. ให้นักเรียนอ่านบทอ่านอีกครั้ง แล้วท�ำแบบฝึกหัด ข้อ A-C ในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๗ แล้วตรวจค�ำตอบกับเพื่อน (ดูเฉลยท้ายเล่ม) บทเรียนย่อยที่ ๕ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. นักเรียนอ่านออกเสียงค�ำถามในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า ๗ แล้วแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๓-๔ คน โดยแต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อที่จะอภิปรายจากค�ำถาม ๓ ข้อ ๒. ให้นักเรียนเริ่มอภิปรายโดยใช้เวลากลุ่มละ ๕-๖ นาที เมื่อหมดเวลา ครูสุ่มนักเรียน ๓ กลุ่มให้สรุปความคิด เห็นของกลุ่มในแต่ละหัวข้อตามล�ำดับ โดยครูให้ข้อสรุปเพิ่มเติม ๓. ครูประเมินการอภิปรายกลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลุ่ม ๔. ครูพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชีวิตประจ�ำวันที่นักเรียนอาจพบเจอให้นักเรียนยกตัวอย่างการถูกเพื่อนๆญาติ พี่น้องหรือคนรู้จักชักชวนให้ท�ำบางสิ่งบางอย่างโดยให้ข้อเสนอเพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนแต่นักเรียนไม่เห็นด้วย และไม่เต็มใจรับข้อเสนอนั้นนักเรียนจะตอบปฏิเสธหรือตอบรับอย่างไรครูยกตัวอย่างโดยพูดให้ฟังแล้วเขียน บนกระดานด�ำ เช่น - Mybrotherwantstogooutandasksmenottotellourparents.Hetellsmethathewillbuymeacomic book. I say no to him. However, he says he will buy me an MP๓ player. Then I say yes. ๕. จากนั้นนักเรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์ของตนเองโดยครูสุ่มให้นักเรียนบอกเหตุการณ์แล้วครูเขียนบนกระดาน ด�ำ ๑ ตัวอย่างให้ทั้งชั้นได้ดู ๖. นักเรียนคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเอง หรือคนในครอบครัวประสบเกี่ยวกับการได้รับโทรศัพท์จากบริษัทเพื่อให้ ข้อเสนอรางวัลโบนัสหรือบริการต่างๆหากนักเรียนหรือคนในครอบครัวตกลงซื้อสินค้าบางอย่างของบริษัท จากนั้นนักเรียนเขียนร่างเรื่องราวในกิจกรรมWritingในหนังสือเรียนหน้า ๗แล้วให้เพื่อนอ่านโดยช่วยกัน แสดงความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงการเขียน ๗. นักเรียนเขียนเรื่องที่ได้แก้ไขให้สมบูรณ์แล้วอีกครั้ง ๘. แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๓-๔ คน ให้นักเรียนในกลุ่มระดมสมอง (brainstorm) เพื่อวางแผน การเขียนการ โฆษณาสินค้าทางโทรศัพท์ (A Telemarketing Campaign) ในกิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๗ ครูเขียนข้อเสนอแนะบนกระดานด�ำ เช่น - What is the product your company wants to sell? - What service does your company want to give? ๙. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท�ำกิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๗ เรื่อง A Telemarketing Campaign ให้สมบูรณ์ แล้วน�ำเสนอในชั้นเรียน
  • 20. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 235 ๙. สื่อการเรียนรู้ • หนังสือเรียน My World Book 5 หน้า ๒-๗ • หนังสือแบบฝึกหัด My World Book 5 หน้า ๒-๔ • ซีดีบันทึกเสียง • เครื่องเล่นซีดี • สื่ออิเล็กทรอนิกส์ - http://en.wikipedia.org/wiki/Mobile - www.howstuffworks.com/cell-phone.htm - http://darkdest.wordpress.com/ - http://en.wikipedia.org/wiki/Talking_ATM
  • 21. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 236 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ : ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๒ : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๓ : ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๔ : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ๒. สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด ปัจจุบันสิ่งบันเทิงต่างๆ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ น�ำเสนอสิ่งที่น่าสนใจและใช้ภาษาอังกฤษในการน�ำเสนอ การฝึก นักเรียนให้เรียนภาษาอังกฤษจากสิ่งบันเทิง จะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาและสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ๓. สาระการเรียนรู้ โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Present progressive tense (for the future) - Present progressive tense (for events taking place now) - Verb + gerund - Simple present tense - Simple past tense ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา บทเรียนย่อยที่ ๑ - entertainment (n.): things such as movies, television programs, shows or performances, etc. that amuse or interest people (ความบันเทิง) หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง What Are You Doing Tonight? เวลา ๖ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
  • 22. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 237 - action movie (n.): a movie with fighting or exciting events and usually relates to hunting, killing or getting wounded (ภาพยนตร์แนวสู้รบหรือตื่นเต้น ไล่ล่า ฆ่าฟัน) - comedy (n.): a play, movie, etc. that is intended to entertain people and make them laugh (ละครหรือภาพยนตร์ชวนหัว ตลกขบขัน) - romance (n.): a play or a movie with a story about the love between two people (ภาพยนตร์หรือ ละครรัก) - science fiction (n.): a kind of story in which imaginary future developments in science and their effect on life are described (ภาพยนตร์หรือหนังสือแนววิทยาศาสตร์ บางครั้งเรียกย่อว่า “sci-fi” อ่านว่า ไซไฟ) บทเรียนย่อยที่ ๒ - can’t stand (v.): to not like someone or something at all or think that something is extremely unpleasant (ไม่ชอบ, ทนไม่ได้) - depressing (adj.): making you feel very sad (เศร้า, สะเทือนใจ) - movie freak (n.): someone who is so interested in movies that other people think they are strange or unusual (คนที่ชอบดูภาพยนตร์มากจนกระทั่งคนอื่นเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกหรือ ผิดปกติ) - merchandising (n.): products sold to make additional profit based on a popular film or TV show, etc. (สินค้าซึ่งถูกโฆษณาเพื่อให้ขายได้ก�ำไรเพิ่มขึ้นโดยขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์หรือรายการ โทรทัศน์ที่เป็นที่นิยม) - be keen on (adj.): interested or eager to do something (สนใจหรือกระตือรือร้นที่จะท�ำอะไรบางอย่าง) บทเรียนย่อยที่ ๓ - avoid (v.): to stay away from someone or something, or prevent something from happening or not allow yourself do something (หลบเลี่ยงที่จะไม่ท�ำ) - be fond of (adj.): to like someone or something very much (ชอบใคร หรือชอบอะไรบางอย่างเป็น อย่างมาก) - can’t help (v.): to be unable to stop yourself from doing something (หยุดไม่ได้ อดไม่ได้ หรือ ช่วยไม่ได้ที่จะ...) - feel like (v.): to want to have or do something (ต้องการหรืออยากที่จะท�ำ) - give up (v.): to stop doing or having something, especially something that you do regularly (หยุดหรือเลิกท�ำบางอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่ท�ำอยู่เป็นปกติ) - junk food (n.): foodthatisnothealthybecauseitcontainsalotoffat,sugarorcarbohydrate(อาหาร ที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากมีไขมัน นํ้าตาล หรือคาร์โบไฮเดรตจ�ำนวนมาก) บทเรียนย่อยที่ ๔ - dub (v.): tochangetheoriginalspokenlanguageofafilmorTVprogramintoanotherlanguage (พากย์) - typically (adv.): usually (ตามปกติ)
  • 23. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 238 - feature (v.): toshowapersonorthinginafilm,show,etc.(เป็นนักแสดงหรือตัวส�ำคัญในภาพยนตร์) - humorous (adj.): deliberately funny and entertaining, especially in a clever way (ตลก, น่าขบขัน) - originate (v.): to start or to develop in a particular place (เริ่มต้นหรือพัฒนาขึ้น) บทเรียนย่อยที่ ๕ - media (n.): all the organizations, such as television, radio, and the newspapers, that give infor- mation for the public (สื่อสารมวลชน) - process (n.): aseriesofnaturaldevelopmentsoneventsthatproducegradualchange(กระบวนการ) - constant evolution (n.): the change and development of an idea, event or object that is happening slowly and regularly all the time (การวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง) - undergo (v.): experience or be subjected to (ประสบ) - action figure (n.): a small-scale figure (as of a superhero) used especially as a toy (หุ่นจ�ำลองของเล่น เช่น หุ่นของซูเปอร์แมน) ข้อมูลด้านวัฒนธรรม บทเรียนย่อยที่ ๓ - สองปีหลังจากการตายของเอ็ดวูดจูเนียร์(EdWood,Jr.)คือปีค.ศ.๑๙๘๐เขาก็ได้รับรางวัลGoldenTurkey ซึ่งเป็นรางวัลผู้ก�ำกับยอดแย่ที่สุด เขามีชื่อเสียงโด่งดังมาจากหนังสยองขวัญต้นทุนตํ่า หนังคาวบอย และ หนังแนววิทยาศาสตร์(Sci-fi)เรื่องPlan9FromOuterSpaceซึ่งหนังมักจะถูกโหวตว่าเป็นหนังยอดแย่ที่สุด เท่าที่เคยมีมา บทเรียนย่อยที่ ๕ - แฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ (Frank Lloyd Wright) (ค.ศ. ๑๘๖๙ - ๑๙๕๙) เป็นสถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน มีชื่อเสียง ระดับโลกด้านการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างงานศิลปะและสถาปัตยกรรมจากประเทศต่างๆ ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย และญี่ปุ่นอย่างลงตัว เป็นสิ่งแปลกใหม่และอมตะจนถึงยุคปัจจุบัน - Soap Opera เป็นศัพท์แสลงที่ใช้เรียกรายการวิทยุกระจายเสียงหรือรายการโทรทัศน์ประเภทการแสดงเป็น ชุดๆ ต่อกัน ออกอากาศเป็นประจ�ำตลอดสัปดาห์ ใช้เวลาในการออกอากาศประมาณ ๑๕-๒๐ นาที มักเป็น รายการซํ้าซาก น่าเบื่อ หรือพวกละครวิทยุ Soap Opera พัฒนาขึ้นครั้งแรกในรายการวิทยุช่วงทศวรรษ ๑๙๒๐ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และช่วง ทศวรรษ ๑๙๔๐ ก็เริ่มแพร่หลายเข้าไปในรายการโทรทัศน์ มักออกอากาศในเวลากลางวัน สาเหตุที่เรียก รายการประเภทนี้ว่า Soap Opera หรือละครสบู่ก็เพราะแต่เดิมผู้อุปถัมภ์รายการประเภทนี้มักเป็นบริษัท ผู้ผลิตผงซักฟอกและสินค้าที่เกี่ยวกับการท�ำความสะอาด ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่บ้านที่มักดู Soap Opera ในเวลากลางวันนั่นเอง จึงใช้ค�ำนี้เรียกรายการดังกล่าวมาโดยตลอด ๔. สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร
  • 24. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 239 ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีสุนทรียภาพทางภาษา : นักเรียนใช้ค�ำทับศัพท์ภาษาอังกฤษในภาษาไทยเท่าที่จ�ำเป็น ๖. ชิ้นงาน / ภาระงาน • การอ่านออกเสียงบทสนทนา • ค�ำตอบที่ได้จากการฟังค�ำพูดของบุคคลระบุรายการบันเทิงที่ชอบ/ไม่ชอบ • ค�ำตอบที่ได้จากการอ่านข้อความบรรยาย sitcoms • ค�ำพูดสนทนาเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ที่ชอบ • ข้อเขียนโครงเรื่องละครโทรทัศน์ • โครงงานบรรยายโครงเรื่องละครโทรทัศน์ที่ชอบหรือรู้จัก ๗. การวัดและประเมินผล • ประเมินการอ่านออกเสียงบทสนทนาโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสียง • ประเมินผลการตอบค�ำถาม • ประเมินการพูดโต้ตอบโดยใช้เกณฑ์การประเมินการพูดสื่อสารตัวต่อตัว • ประเมินการเขียนบรรยายโครงเรื่องบทละครโทรทัศน์ที่ชอบโดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียน • ประเมินโครงเรื่องละครโทรทัศน์โดยใช้แบบประเมินการเขียน • ประเมินการท�ำงานกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การประเมินการท�ำงานกลุ่ม ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ บทเรียนย่อยที่ ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูพูดเกี่ยวกับรูปแบบของความบันเทิง โดยนักเรียนตอบค�ำถาม เช่น T: What do you like to do in your free time? Ss: (The answer will vary, such as go to the movie, watch T.V., play computer games, go shopping, etc.) ๒. ให้นักเรียนดูหนังสือเรียน หน้า ๘ แล้วอ่านออกเสียงชื่อเรื่อง “What Are You Doing Tonight?” นักเรียน ตอบค�ำถาม ๓. นักเรียนดูภาพในกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า ๘ และอ่านออกเสียง Movies-Kinds of Movies และค�ำศัพท์เกี่ยวกับภาพยนตร์ประเภทต่างๆ TV-Types of Programs และค�ำศัพท์เกี่ยวกับรายการ ต่างๆ ทางโทรทัศน์ Other Entertainment และค�ำศัพท์เกี่ยวกับความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ ๔. นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงแล้วอ่านออกเสียงตามและนักเรียนเลือกประเภทของภาพยนตร์ที่ชอบในภาพที่๑ โดยท�ำเครื่องหมายในช่องหน้ารายการ(นักเรียนสามารถเลือกได้มากกว่า ๑รายการ)และให้นักเรียนเพิ่มเติม ประเภทของภาพยนตร์นอกเหนือจากรายการที่มีอยู่ในช่องOthersเช่นcartoon,detective,western,fantasy, tragedy, etc.
  • 25. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 240 ๕. นักเรียนเปรียบเทียบประเภทของภาพยนตร์รายการโทรทัศน์และความบันเทิงอื่นๆที่ตนเองเลือกกับที่เพื่อน เลือก แล้วพูดคุยเพื่อแสดงความคิดเห็น ๖. นักเรียนฟังบทสนทนาสั้นๆ ๒ บท แล้วออกเสียงตามซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน หน้า ๘ แล้วฝึกอ่านบทสนทนาอีกครั้งโดยจับคู่กับเพื่อนแล้วสลับบทบาทเป็น A และ B ๗. นักเรียนจับคู่แล้วช่วยกันแต่งบทสนทนาตามแบบในกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน หน้า ๘ โดยใช้ ความคิดของตนเอง แล้วครูให้นักเรียนแต่ละคู่ออกมาพูดบทสนทนาของตนเองให้ทุกคน บทเรียนย่อยที่ ๒ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูพูดคุยเรื่องสิ่งที่นักเรียนมักจะท�ำเป็นนิสัยในวันเสาร์และอาทิตย์ โดยนักเรียนตอบค�ำถาม T: What do you usually do on the weekends? Ss: (The answer will vary; such as watch T.V., stay at home, do homework, study, etc.) ๒. นักเรียนดูภาพประกอบกิจกรรมConversationในหนังสือเรียนหน้า ๙แล้วอ่านออกเสียงค�ำถามในกิจกรรม About the Conversation โดยยังไม่ต้องอ่านบทสนทนาและไม่ต้องตอบค�ำถาม เพื่อเป็นแนวทางในการฟัง ๓. นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า ๙ โดยไม่ดูบทสนทนาเพื่อจับใจ ความส�ำคัญ ๔. นักเรียนฟังบทสนทนาอีก ๑ ครั้ง โดยอ่านออกเสียงบทสนทนาตามไปด้วย แล้วจับคู่กันอ่านออกเสียง บทสนทนา ๕. นักเรียนตอบค�ำถามในกิจกรรมAbouttheConversationในหนังสือเรียนหน้า ๙แล้วตรวจค�ำตอบพร้อมกัน ๖. นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงในกิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า ๙ ระหว่าง Mei, Larry, Yasmin และ Ryan ๑-๒ ครั้ง และฟังบทสนทนาอีกครั้งโดยดูบทสนทนา แล้วเขียนค�ำตอบลงในตาราง ๗. นักเรียนฟังบทสนทนาอีกครั้งหากต้องการ แล้วตรวจค�ำตอบพร้อมกัน ๘. นักเรียนท�ำกิจกรรม Language in Context ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า ๑๐ ให้นักเรียนบอกว่าประโยคใด แสดงการกระท�ำในขณะที่พูด ประโยคใดแสดงการกระท�ำในอนาคต เสร็จแล้วให้ช่วยกันเฉลยค�ำตอบ บทเรียนย่อยที่ ๓ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ให้นักเรียนศึกษาการใช้presentprogressivetenseในกรอบGrammarในหนังสือเรียนหน้า ๑๐ครูอธิบายว่า รูป present progressive tense อาจหมายถึง ความตั้งใจหรือการวางแผนอนาคต ครูเขียนประโยค ๒ ประโยค บนกระดานด�ำ ดังนี้ - What are you doing? (= now) - What are you doing tonight? (= future) นักเรียนบอกความแตกต่างของหน้าที่ทางภาษาของ ๒ ประโยคนี้ ๒. ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจความแตกต่างของการใช้ present progressive tense แสดงการกระท�ำขณะที่พูดและการกระท�ำในอนาคต แล้วเปรียบเทียบค�ำตอบกับเพื่อน ๓. ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัดเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจความแตกต่างระหว่างSimplepresenttenseและ Present progressive tense แล้วจับคู่ช่วยกันตรวจค�ำตอบ แล้วอ่านประโยคที่สมบูรณ์พร้อมกัน
  • 26. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 241 ๔. ครูให้นักเรียนท�ำแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน โดยเริ่มจากพูดคุยเรื่องการถ่ายท�ำภาพยนตร์ ครูถามค�ำถามโดย ให้นักเรียนระดมสมองเพื่อช่วยกันตอบค�ำถาม ดังนี้ T: Who usually work in filming of a movie? Ss: Actors/actresses/director/camera operator/lighting technician, etc. ๕. ครูเขียนค�ำศัพท์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพยนตร์บนกระดานด�ำ ๖. ให้นักเรียนดูภาพในแบบฝึกหัด ข้อ C ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ แล้วตอบ ค�ำถาม ๗. นักเรียนดูภาพอีกครั้งและหาสิ่งที่ผิดปกติในภาพ๕แห่งโดยครูให้ตัวอย่างสิ่งผิดปกติ๑แห่งแล้วถามค�ำถาม เช่น นักเรียนเขียนประโยคเพื่ออธิบายสิ่งผิดปกติที่พบโดยใช้รูปประโยค Present progressive tense ๘. นักเรียนเปรียบเทียบค�ำตอบกับเพื่อน และครูสุ่มเรียกนักเรียน ๔-๕ คน อ่านออกเสียงค�ำตอบ แล้วครูเขียน ค�ำตอบบนกระดานด�ำเพื่อให้ทุกคนได้ดู จากนั้นให้นักเรียนคนที่มีค�ำตอบที่ต่างออกไปบอกค�ำตอบของตน ครูและนักเรียนช่วยกันแก้ไขการเขียน ๙. นักเรียนดูกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า ๑๐ เรื่อง Verb + gerund โดยอ่านออกเสียงค�ำกริยาทุกตัว แล้วช่วยกันบอกความหมายของค�ำ ครูอธิบายว่า ค�ำกริยาทั้งหมดนี้ต้องตามด้วยgerund(verbที่ต้องเติม–ing) นักเรียนอ่านประโยคตัวอย่างพร้อมกัน นักเรียนฝึกแต่งประโยค ๑๐. นักเรียนฝึกแต่งประโยคโดยใช้ค�ำกริยา dislike, enjoy, finish, imagine, mind, miss, stop, suggest โดยแบ่ง นักเรียนเป็นทีมนักเรียนแต่ละทีมแต่งประโยคที่ใช้ค�ำกริยาทั้ง๘ตัวแล้วส่งตัวแทนไปเขียนประโยคของทีม บนกระดานด�ำ แล้วช่วยกันตรวจประโยคดูว่า ทีมใดแต่งประโยคได้ถูกต้อง และมีความหมายเหมาะสม มากที่สุด เป็นทีมที่ชนะ ๑๑. นักเรียนอ่านออกเสียงส�ำนวน be fond of, to be keen on, can’t stand, can’t help, feel like, give up โดยครู อธิบายความหมายของส�ำนวนแต่ละค�ำ ๑๒. นักเรียนฝึกแต่งประโยคที่ใช้ส�ำนวนทั้ง๖แบ่งนักเรียนเป็น๖กลุ่มให้แต่ละกลุ่มแต่งประโยคของแต่ละส�ำนวน ให้ได้มากที่สุดแล้วตัวแทนกลุ่มไปเขียนประโยคของกลุ่มบนกระดานด�ำโดยให้กลุ่มเลือกประโยคที่ชอบที่สุด กลุ่มละ ๓ ประโยค แล้วช่วยกันตรวจ และนักเรียนทั้งชั้นอ่านออกเสียงประโยคทั้งหมดบนกระดานด�ำ พร้อมกัน ๑๓. นักเรียนท�ำแบบฝึกหัด ข้อ D ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ โดยนักเรียน เลือกค�ำและเปลี่ยนทุกค�ำให้เป็นรูปgerundแล้วจึงเติมค�ำลงในประโยคหลังจากนั้นสุ่มนักเรียนอ่านออกเสียง ค�ำตอบทีละคนเพื่อตรวจค�ำตอบ ๑๔. นักเรียนดูแบบฝึกหัด ข้อ E ในกิจกรรม Language in Context ในหนังสือเรียน หน้า ๑๑ แล้วอ่านค�ำขึ้นต้น ประโยคและครูอธิบายความหมายว่า I wouldn’t mind มีความหมายเท่ากับ I would like แล้วให้นักเรียน ช่วยกันแต่งประโยค ครูเลือก ๑ ประโยคแล้วเขียนบนกระดานด�ำ ๑๕. นักเรียนทุกคนอ่านออกเสียงทั้งประโยคบนกระดานด�ำนักเรียนแต่งประโยคข้อ๒-๖ด้วยความคิดของตนเอง แล้วจึงจับคู่เพื่อแลกกันอ่านประโยคของเพื่อน ครูสุ่มให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคของตนเองจนครบ ทุกข้อ และอภิปรายประโยคที่มีความหมายน่าสนใจ
  • 27. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 242 บทเรียนย่อยที่ ๔ เวลา ๑ ชั่วโมง ๑. ครูพูดถึงการแสดงโชว์ตลก(comedyshow)ในประเทศไทยโดยเน้นให้นักเรียนคิดถึงตลกประเภทอื่นๆเช่น ประเภทที่มีผู้เล่าเรื่องคนเดียว (stand-up comedy) และอื่นๆ โดยให้นักเรียนบอกเกี่ยวกับรายการที่ชอบ ๒. นักเรียนดูภาพประกอบกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ ครูและนักเรียนพูดโต้ตอบกัน ๓. นักเรียนอ่านบทอ่านในกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ แล้วบอกคำ�ศัพท์หรือวลีที่นักเรียนไม่รู้ ความหมายครูเขียนคำ�ศัพท์บนกระดานดำ�แล้วให้นักเรียนลองเดาความหมายจากบริบทครูบอกความหมาย ที่ถูกต้องของคำ�ศัพท์บนกระดานดำ� ๔. นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียงกิจกรรม Reading และอ่านออกเสียงตามเบาๆ เพื่อฝึกการออกเสียงให้ถูกต้อง ๕. นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดข้อAในกิจกรรมAbouttheReadingในหนังสือเรียนหน้า ๑๓โดยนักเรียนอ่านออก เสียงคำ�ข้อ๑-๖แล้วหาคำ�ที่มีความหมายเหมือนกับคำ�ทั้ง๖คำ�จากบทอ่านแล้วเปรียบเทียบคำ�ตอบกับเพื่อน และตรวจคำ�ตอบพร้อมกันทั้งชั้น ๖. นักเรียนดูแบบฝึกหัดข้อBในกิจกรรมAbouttheReadingในหนังสือเรียนหน้า ๑๓แล้วตอบคำ�ถามWhere do you think the word “sitcom” comes from? ครูทบทวนความรู้จากการเรียนคำ�ศัพท์ sitcom ในชั่วโมงแรก ของหน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ ว่า “sitcom” is a blend of two words situation and comedy พร้อมทั้งนำ�เสนอ ตัวอย่างคำ�ประเภทนี้ที่ใช้ในวงการสื่อสารมวลชนและวงการบันเทิง (media) เพิ่มเติม ๗. นักเรียนอ่านบทอ่านในกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๒ อีกครั้ง แล้วตอบคำ�ถามในแบบฝึกหัด ข้อ C ในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ บทเรียนย่อยที่ ๕ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. ครูเขียนคำ�พูด (quote/quotation) ของ Frank Lloyd Wright บนกระดานดำ� ดังนี้ “TV-chewing gum for the eyes” แล้วถามคำ�ถาม ๒. นักเรียนอ่านออกเสียงคำ�ถามในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ แล้วจับคู่อภิปรายคำ�ถาม ๓. นักเรียนแต่ละคู่จับคู่กับคู่อื่น รวมเป็นกลุ่มละ ๔ คน แล้วอภิปรายเกี่ยวกับคำ�ตอบของคำ�ถาม ๖ ข้อ ครู เดินรอบๆเพื่อสังเกตการอภิปรายในกลุ่มของนักเรียนและแนะนำ�ให้นักเรียนถามและตอบเป็นภาษาอังกฤษ ๔. ครูสุ่มนักเรียน ๑ กลุ่มนำ�เสนอการอภิปรายของกลุ่มให้เพื่อนในชั้นฟัง โดยกลุ่มอื่นสามารถแสดงความ คิดเห็นเพิ่มเติมได้ ๕. นักเรียนอ่านออกเสียงคำ�สั่งกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ แล้วครูชี้แจงคำ�สั่งและถามว่า โครงเรื่องของละคร sitcom ควรจะประกอบด้วยอะไรบ้าง แล้วครูเขียนคำ�ตอบของนักเรียนบนกระดานดำ� ๖. ครูให้นักเรียนเขียนโครงเรื่องละคร sitcom ที่นักเรียนชอบหรือเรื่องที่ได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ ๗. นักเรียนแลกกันอ่านเค้าโครงเรื่องละครsitcomที่นักเรียนเขียนแล้วช่วยกันให้ข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปรับปรุง การเขียน ๘. นักเรียนเขียนเค้าโครงเรื่อง sitcom ให้สมบูรณ์ ครูสุ่มให้นักเรียน ๑-๒ คน อ่านเค้าโครงเรื่องของตนเองให้ เพื่อนในชั้นฟัง ส่วนกลุ่มอื่นๆ ให้นำ�ผลงานไปติดไว้ที่ผนังรอบห้องเรียน เพื่อให้คนอื่นได้อ่าน ๙. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนทำ�กิจกรรม Project ในหนังสือเรียน หน้า ๑๓ ให้นักเรียนสร้าง เค้าโครงเรื่อง soap opera โดยให้นักเรียนทำ�งานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน แนะนำ�ให้นักเรียนช่วยกันแต่งเรื่องเองโดยไม่ ยืมความคิดจากเรื่องที่เคยดูมา
  • 28. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 243 ๙. สื่อการเรียนรู้ • หนังสือเรียน My World Book 5 หน้า ๘-๑๓ • หนังสือแบบฝึกหัด My World Book 5 หน้า ๕-๘ • ซีดีบันทึกเสียง • เครื่องเล่นซีดี • สื่ออิเล็กทรอนิกส์ - http://edwood.the-croc.com/ - www.answers.com/soap%20opera - www.mthai.com/mag/knowledge/nana015.htm - www.bareo-isyss.com/frank/flw_01.php
  • 29. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 244 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่ ๑ : ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๓, ต ๑.๑ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๑, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๔, ต ๑.๒ ม.๔-๖/๕, ต ๑.๓ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๒ : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ ม.๔-๖/๑, ต ๒.๑ ม.๔-๖/๒, ต ๒.๒ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๓ : ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ม.๔-๖/๑ สาระที่ ๔ : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ๒. สาระส�ำคัญ/ความคิดรวบยอด ปัจจุบันการเมือง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของประชาชน การเรียนรู้เรื่องการเมืองควบคู่ไปกับการเรียนภาษา จะ สามารถช่วยให้นักเรียนใช้ภาษาในการสื่อสารขั้นสูงได้เช่นการเขียนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งการเขียนแสดงความคิดเห็น ๓. สาระการเรียนรู้ โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - When and If clauses (to express future time) - Conjunctions of time: before, after, as soon as, until - Simple past tense - Simple present tense ค�ำศัพท์และส�ำนวนภาษา บทเรียนย่อยที่ ๑ - appreciate (v.): to be or to feel thankful for something that someone has done (ขอบคุณ, เห็นคุณค่า, แสดงความพอใจ) หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง I call you when I get home เวลา ๖ ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา อ๓๒๑๐๑
  • 30. ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ 245 - be on the road (v.): to travel, to be on tour as a plan made by a group of musicians, etc. (เดินทางหรือ ออกทัวร์ตามก�ำหนดที่วงดนตรีวางแผนไว้) - fan (n.): someone who likes or admires a particular famous sport player, actor, actress or a musician, etc. (คนที่นิยมชมชอบนักกีฬา นักแสดง หรือนักดนตรี) - duplicity (n.): dishonest behavior that is intended to deceive someone (การตีสองหน้า, การหลอกลวง) - downfall (n.): a loss of power, prosperity, or status (ความหายนะ, ความตกตํ่า) บทเรียนย่อยที่ ๒ - after (conj.): atalatertimewhenaparticulareventhashappenedorisfinished(ในเวลาต่อมาหรือ ภายหลัง) - as soon as (conj.): immediately after something has happened (ทันทีที่) - before (conj.): earlier than a particular event or action (ก่อน, ก่อนหน้านี้) - until (conj.): up to but not later than (จนกระทั่ง) - recognize (v.): remember (จ�ำได้) บทเรียนย่อยที่ ๓ - execute (v.): to carry out, especially official duties (ปฏิบัติ, บริหาร) - prosper (v.): to be successful and become rich (มั่งคั่ง, รํ่ารวย, เจริญรุ่งเรือง) - fulfill (v.): to do or have what is require or necessary (ท�ำให้บรรลุ) - solemnly (adv.): with seriousness and formality (อย่างเคร่งครัด จริงจัง และเป็นทางการ) - defend (v.): to do something to protect someone or something from being attacked (ป้องกัน) บทเรียนย่อยที่ ๔ - run for president (v.): to try to be elected in an election (หาเสียงเพื่อการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี) - campaign speech (n.): speech which is intended to achieve a particular result, especially in politics or business (การพูดปราศรัยเพื่อหาเสียง) - celebrated quote (n.): famous sentence or phrase from a book, speech, etc. which you repeat in your speech or piece of writing because it is interesting, amusing, etc. (ประโยคหรือ ค�ำพูดที่มีชื่อเสียงจากหนังสือหรือค�ำปราศรัยซึ่งถูกน�ำมากล่าวอ้างถึง) - insulting remark (n.): word or sentence which is very rude and likely to upset people (ค�ำพูดหรือประโยค ที่หยาบคาย ท�ำให้ผู้อื่นรู้สึกโกรธ) - immortalized (adj.): to be made famous for a long time (ท�ำให้เป็นอมตะ) - rival (n.): a person, group, or organization that you compete with in sport, business, a fight, politics, etc. (คู่แข่ง)
  • 31. คู่มือครูสอนทางไกลผ่านดาวเทียมสำ�หรับโรงเรียนปลายทาง 246 ข้อมูลด้านวัฒนธรรม บทเรียนย่อยที่ ๓ - อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) (ค.ศ. ๑๘๗๙ - ๑๙๕๕) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ในศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพราะเป็นผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู อันทรงอานุภาพไอน์สไตน์เป็นชาวเยอรมันเชื้อสายยิวผู้คิดค้น“ทฤษฎีสัมพัทธภาพ”(TheoryofRelativity) อันน�ำไปสู่การค้นคว้าเรื่องปรมาณู ทฤษฎีนี้ท�ำให้ไอน์สไตน์มีชื่อเสียงมากจนสามารถเขียนเป็นหนังสือชื่อ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ. ๑๙๒๑ - ชาลส์เดอโกล(CharlesdeGaulle)(ค.ศ.๑๘๙๐-๑๙๗๐)เป็นทหารและรัฐบุรุษคนส�ำคัญของฝรั่งเศสเป็น ผู้น�ำการปลดปล่อยฝรั่งเศสในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ และผู้น�ำรัฐบาลชั่วคราว ในปี ค.ศ. ๑๙๔๔ - ๑๙๔๖ ชาลส์ เดอ โกล ก้าวขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๕๘ - ๑๙๖๙ แนวคิดทางการ เมืองของเขาเป็นที่รู้จักในนามของลัทธินิยมโกล(Gaullism)ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมืองฝรั่งเศสในยุค ต่อมา - ออตโต ฟอน บิสมาร์ค (Otto von Bismarck) (ค.ศ. ๑๘๑๕ - ๑๘๙๘) เป็นรัฐบุรุษคนส�ำคัญของยุโรป เป็นผู้รวมจักรวรรดิเยอรมัน มีบทบาทส�ำคัญท�ำให้รัฐเยอรมันทั้งหลายเริ่มมีความรู้สึกชาตินิยม และร่วมกัน จัดตั้งจักรวรรดิเยอรมัน (German Empire) ส�ำเร็จในวันที่ ๑๘ มกราคม ค.ศ. ๑๘๗๑ พระเจ้าวิลเฮล์มที่ ๑ ทรงประกาศสถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน(GermanEmpire)ที่พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles)ของฝรั่งเศส และบิสมาร์คก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าชาย (Prince) และอัครมหาเสนาบดี (Chancellor) - วินสตัน เชอร์ชิลล์ (Winston Churchill) (ค.ศ. ๑๘๗๔ - ๑๙๖๕) เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่มีชื่อเสียงใน ช่วงสงครามโลกครั้งที่๒เชอร์ชิลล์น�ำอังกฤษฝ่าวิกฤตสงครามโลกครั้งที่๒และเป็นหนึ่งในผู้น�ำที่ส�ำคัญของ ฝ่ายสัมพันธมิตรร่วมกับประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ แห่งสหรัฐอเมริกา และโจเซฟ สตาลิน ผู้น�ำ ของสหภาพโซเวียต เชอร์ชิลล์เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม เมื่อ ค.ศ. ๑๙๕๓ บทเรียนย่อยที่ ๔ - คลีเมนท์ แอทลี (Clement Atlee) (ค.ศ. ๑๘๘๓ - ๑๙๖๗) ผู้น�ำพรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งเป็นคู่แข่ง คนส�ำคัญและมีชัยชนะเหนือวินสตันเชอร์ชิลล์ในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในปีค.ศ.๑๙๔๕ด�ำรง ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่าง ค.ศ. ๑๙๔๕ - ๑๙๕๑ - จอห์น นานซ์ การ์เนอร์ (John Nance Garner) (ค.ศ. ๑๘๖๘ - ๑๙๖๗) สมาชิกพรรคเดโมแครต (Democrat Party) และเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ - นิกิตา ครุสเชฟ (Nikita Khrushchev) (ค.ศ. ๑๘๙๔ - ๑๙๗๑) เป็นผู้น�ำสหภาพโซเวียตระหว่าง ค.ศ. ๑๙๕๖ - ๑๙๖๔ ขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งต่อจากอดีตผู้น�ำโจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ๔. สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด