More Related Content
Similar to ปฏิญญาสากลฯ (20)
ปฏิญญาสากลฯ
- 1. ปฏิญญาสากลว่ าด้ วยสิทธิมนุษยชน
Universal Declaration of Human Rights : UDHR
ปฏิญญาสากลว่าด้ วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights หรื อ UDHR) คือการ
ประกาศเจตนารมณ์ในการร่ วมมือระหว่างประเทศที<มีความสําคัญในการวางกรอบเบื @องต้ นเกี<ยวกับสิทธิ
มนุษยชน และเป็ นเอกสารหลักด้ านสิทธิมนุษยชนฉบับแรก ซึงที<ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ให้ การ
<
รับรองตามข้ อมติที< 217 A (III) เมื<อวันที< 10 ธันวาคม พ.ศ. 2491 โดยประเทศไทยออกเสียงสนับสนุน
ความเป็ นมาทีปรากฏในคําปรารภ
"ด้ วยเหตุที<การยอมรับศักดิTศรี ประจําตัว และสิทธิซงเสมอกันและไม่อาจโอนแก่กนได้ ของสมาชิกทั @ง
ึ< ั
ปวงแห่งครอบครัวมนุษย์เป็ นรากฐานของเสรี ภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในพิภพ
ด้ วยเหตุที<การเมินเฉย และดูหมิ<นเหยียดหยามสิทธิมนุษยชนได้ ก่อให้ เกิดการอันป่ าเถื<อนโหดร้ ายทารุ ณ
ซึงได้ กระทบกระเทือนมโนธรรมของมนุษยชาติอย่างรุนแรง และโดยเหตุที<ได้ มีการประกาศปณิธานอันสูงสุด
<
ของสามัญชนว่าถึงวาระแห่งโลกแล้ วที<มนุษย์จะมีเสรี ภาพในการพูดและในความเชื<อถือ รวมทั @งมีเสรี ภาพจาก
ความกลัวและความต้ องการ
ด้ วยเหตุที<เป็ นสิงจําเป็ นสิทธิมนุษยชนควรได้ รับความคุ้มครองโดยหลักนิตธรรม ถ้ าไม่พงประสงค์ให้
< ิ ึ
มนุษย์ต้องถูกบีบบังคับให้ หาทางออก โดยการกบฏต่อทรราชและการกดขี<อนเป็ นที<พงแห่งสุดท้ าย
ั ึ<
ด้ วยเหตุที<ประดาประชาชนแห่งสหประชาชาติได้ ยืนยันไว้ ในกฎบัตรถึงความเชื<อมันในสิทธิมนุษย์ชนขั @น
<
พื @นฐานในศักดิTศรี และคุณค่าของตัวบุคคล และในความเสมอกันแห่งสิทธิของ ทั @งชายและหญิง และได้
ตัดสินใจที<จะส่งเสริ มความก้ าวหน้ าทางสังคมตลอดจนมาตรฐานแห่งชาติให้ ดีขึ @น ได้ มีเสรี ภาพมากขึ @น
ด้ วยเหตุที<รัฐสมาชิกได้ ปฏิญาณที<จะให้ ได้ มา โดยร่ วมมือกับสหประชาชาติ ซึงการส่งเสริ มการเคารพ
<
และการถือปฏิบตโดยสากลต่อสิทธิมนุษยชนและเสรี ภาพขันพื @นฐาน
ั ิ @
ด้ วยเหตุที<ความเข้ าใจตรงกันในเรื< องสิทธิและเสรี ภาพมีความสําคัญยิ<งเพื<อให้ ปฏิญาณนี @เกิดสัมฤทธิผล
อย่างเต็มเปี< ยม
- 2. ดังนัน บัดนี @ สมัชชาจึงประกาศให้ ปฏิญญาสากลว่าด้ วยสิทธิมนุษยชนนี @เป็ นมาตรฐานร่ วมกันแห่ง
@
ความสําเร็ จ สําหรับประชาชนทั @งหลายและประชาชาติทั @งปวง ด้ วยจุดประสงค์ที<จะให้ ปัจเจกบุคคลทุกผู้ทก ุ
นามและองค์กรของสังคมทุกหน่วย โดยการระลึกเสมอ ๆ ถึงปฏิญญานี @ พยายามสังสอนและให้ การสอนและ
<
ให้ การศึกษาเพื<อส่งเสริมการเคารพต่อสิทธิและเสรี ภาพเหล่านี @ และด้ วยมาตรฐานที<เจริ ญก้ าวหน้ าไปข้ างหน้ า
ทั @งในและระหว่างประเทศ เพื<อให้ ได้ มาซึงการยอมรับและการถือปฏิบติต่อสิทธิเหล่านั @นสากลและได้ ผลทั @งใน
< ั
หมู่ประชาชนของรัฐสมาชิกเอง และในหมู่ประชาชนแห่งดินแดนที<อยูภายใต้ ดลอาณาของรัฐสมาชิกดังกล่าว"
่ ุ
เนือหาของปฏิญญาสากลว่ าด้ วยสิทธิมนุษยชน
นอกจากเจตนารมณ์ที<ปรากฏในคําปรารภของปฏิญญา หลักการเกี<ยวกับสิทธิมนุษยชนสําคัญ 30
ประการที<ปรากฏในปฏิญญาได้ แก่
@ T
1. มนุษย์ทั @งหลายเกิดมาอิสระเสรี และเท่าเทียมกันทังศักดิศรี และสิทธิทก คนได้ รับการประสิทธิประสาท
ุ
เหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบติต่อกันอย่างฉันพี<น้อง
ั
2. บุคคลชอบที<จะมีสทธิและเสรี ภาพประดาที<ระบุไว้ ในปฏิญาณนี @ ทังนี @โดยไม่มีการจําแนกความแตกต่าง
ิ @
ในเรื< องใดๆ เช่น เชื @อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรื อทางอื<นใด ชาติหรื อ
สังคมอันเป็ นที<มาเดิม ทรัพย์สน กําเนิด หรื อสถานะอื<นใด นอกจากนี @การจําแนกข้ อแตกต่างโดยอาศัย
ิ
มูลฐานแห่งสถานะทางการเมืองทางดุลอาณา หรื อทางเรื< องระหว่างประเทศของประเทศ หรื อดินแดน
ซึงบุคคลสังกัดจะทํามิได้ ทั @งนี @ไม่ว่าดินแดนดังกล่าวจะเป็ นเอกราชอยูในความพิทกษ์ มิได้ ปกครอง
< ่ ั
ตนเองหรื ออยู่ภายใต้ การจํากัดแห่งอธิปไตยอื<นใด
3. บุคคลมีสทธิในการดํารงชีวิต ในเสรี ธรรมและในความมันคงแห่งร่ างกาย
ิ <
4. บุคคลใดจะถูกบังคับให้ เป็ นทาส หรื ออยู่ภาระจํายอมใดๆ มิได้ การเป็ นทาสและการค้ าทาสจะมีไม่ได้
ในทุกรูปแบบ
5. บุคคลใดจะถูกทรมาน หรื อได้ รับการปฏิบติ หรื อการลงทัณฑ์ซงทารุ ณโหดร้ ายไร้ มนุษยธรรมหรื อหยาม
ั ึ<
เกียรติมิได้
6. ทุกๆ คนมีสทธิที<จะได้ รับการยอมรับว่าเป็ นบุคคลในกฎหมายไม่วา ณ ที<ใด
ิ ่
7. ทุกๆ คนต่างเสมอกันในกฎหมายและชอบที<จะได้ รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน โดย
ปราศจากการเลือกปฏิบติใดๆ ทุกๆ คนชอบที<จะได้ รับการคุ้มครองอย่างเสมอหน้ าจากการเลือกปฏิบติ
ั ั
ใดๆ อันเป็ นการล่วงละเมิดปฏิญญานี @ และต่อการยุยงส่งเสริ มให้ เกิดการเลือกปฏิบตเิ ช่นนัน
ั @
- 3. 8. บุคคลมีสทธิที<จะได้ รับการเยียวยาอย่างได้ ผลโดยศาลแห่งชาติ ซึงมีอํานาจเนื<องจากการกระทําใดๆ
ิ <
อันละเมิดต่อสิทธิขั @นมูลฐาน ซึงตนได้ รับจากรัฐธรรมนูญหรื อจากกฎหมาย
<
9. บุคคลใดจะถูกจับ กักขัง หรื อเนรเทศโดยพลการมิได้
10. บุคคลชอบที<จะเท่าเทียมกันอย่างบริ บูรณ์ในอันที<จะได้ รับการพิจารณา อย่างเป็ นธรรมและเปิ ดเผยโดย
ศาลซึ<งเป็ นอิสระและไร้ อคติ ในการวินิจฉัยชี @ขาดสิทธิและหน้ าที< ตลอดจนข้ อที<ตนถูกกล่าวหาใดๆ ทาง
อาญา
11. (1) บุคคลซึงถูกกล่าวหาด้ วยความผิดทางอาญา มีสทธิที<จะได้ รับการสันนิฐานไว้ ก่อนว่าบริ สทธิTจนกว่า
< ิ ุ
จะมีการพิสจน์ว่า มีความผิดตามกฎหมายในการพิจารณาโดยเปิ ดเผย ณ ที<ซงตนได้ รับหลักประกัน
ู ึ<
ทั @งหมดที<จําเป็ นในการต่อสู้คดี (2) บุคคลใดจะถูกถือว่ามีความผิดอันมีโทษทางอาญาใดๆ ด้ วยเหตุผล
ที<ตนได้ กระทํา หรื อ และเว้ นการกระทําการใดๆ ซึงกฎหมายของประเทศหรื อกฎหมายระหว่างประเทศ
<
ในขณะที<มีการกระทํานั @นมิได้ ระบุวาเป็ นความผิดทางอาญามิได้ และโทษที<จะลงแก่บคคลนั @นจะหนัก
่ ุ
กว่าโทษที<ใช้ อยูในขณะที<การกระทําความผิด ทางอาญานันเกิดขึ @นมิได้
่ @
12. การเข้ าไปแทรกสอดโดยพลการในกิจส่วนตัว ครอบครัว เคหะสถาน การส่งข่าสาร ตลอดจนการโจมตี
ต่อเกียรติยศและชื<อเสียงของบุคคลนั @นจะทํามิได้ ทุกๆ คน มีสทธิที<จะได้ รับความคุ้มครองตาม
ิ
กฎหมายจากการแทรกสอดและโจมตีดงกล่าว ั
13. (1) บุคคลมิสทธิที<จะมีเสรี ภาพในการเคลื<อนย้ าย และในถิ<นที<อยูภายในขอบเขตดินแดนของแต่ละรัฐ
ิ ่
(2) บุคคลมิสทธิที<จะเดินทางออกจากประเทศใดๆ รวมทั @งของตนเองและที<จะกลับคืนสู่บ้านเกิดเมือง
ิ
นอน
14. (1) บุคคลมีสทธิที<จะแสวงหาและพักพิงในประเทศอื<นๆ เพื<อลี @ภัยจากการกดขี<ข่มเหง (2) สิทธินี @จะ
ิ
กล่าวอ้ างมิได้ ในกรณีการฟองคดี ซึงโดยความจริ งเกิดจากความผิดที<ไม่ใช่เรื< องการเมือง หรื อจากการ
้ <
กระทําที<ขดต่อความมุ่งประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ
ั
15. (1) บุคคลมีสทธิในการถือสัญชาติ (2) การถอนสัญชาติโดยพลการ หรื อการปฏิเสธสิทธิที<จะเปลี<ยน
ิ
สัญชาติของบุคคลใดนันจะกระทํามิได้
@
16. (1) ชายและหญิงเมื<อเจริ ญวัยบริ บรณ์แล้ ว มีสทธิที<จะสมรสและที<จะสร้ างครอบครัวโดยไม่มีการจํากัด
ู ิ
ใดๆ เนื<องจากเชื @อชาติ สัญชาติ หรื อศาสนา บุคคลชอบที<จะมีสทธิเท่าเทียมกันในเรื< องการสมรส ใน
ิ
ระหว่างการสมรสและในการขาดการสมรส (2) การสมรสจะกระทําได้ ก็โดยความยินยอมอย่างเสรี
และเต็มใจของคู่บ่าวสาวผู้ตงใจจะกระทําการสมรส (3) ครอบครัว คือ กลุมซึงเป็ นหน่วยธรรมชาติและ
ั@ ่ <
พื @นฐานของสังคมและชอบที<จะได้ รับการคุ้มครอง โดยสังคมและรัฐ
- 4. 17. (1) บุคคลมีสทธิในการเป็ นเจ้ าของทรัพย์สนโดยลําพังตนเอง และโดยการร่วมกับผู้อื<น (2) การยึดเอา
ิ ิ
ทรัพย์สินของบุคคลใดไปเสียโดยพลการกระทํามิได้
18. บุคคลมีสทธิในเสรี ภาพแห่งความคิด มโนธรรม และศาสนา สิทธินี @รวมถึงเสรี ภาพที<จะเปลี<ยนศาสนา
ิ
หรื อความเชื<อถือ และเสรี ภาพ ที<จะแสดงให้ ศาสนาหรื อความเชื<อถือประจักษ์ ในรูปของการสังสอน
<
การปฏิบตกิจความเคารพสักการะบูชา สวดมนต์ และการถือปฏิบตพิธีกรรม ไม่วาโดยลําพังตนเอง
ั ิ ั ิ ่
หรื อร่ วมกับผู้อื<นในประชาคมและในที<สาธารณะหรื อส่วนตัว
19. บุคคลมีสทธิในเสรี ภาพแห่งความเห็นและการแสดงออก สิทธินี @รวมถึงเสรี ภาพที<จะยึดมันในความเห็น
ิ <
โดยปราศจากการแทรกสอดและที<จะ แสวงหารับ ตลอดจนแจ้ งข่าว รวมทั @งความคิดเห็นโดยผ่านสื<อ
ใดๆ และโดยมิต้องคํานึงถึงเขตแดน
20. (1) บุคคลมีสทธิในเสรี ภาพแห่งการชุมนุม และการสมาคมโดยสงบ (2) การบังคับให้ บุคคลเข้ าเป็ น
ิ
สมาชิกของสมาคมจะทํามิได้
21. (1) บุคคลมีสทธิที<จะเข้ าร่ วมในรัฐบาลแห่งประเทศของตน ไม่ว่าโดยตรงหรื อโดยผู้แทนซึงผ่านการ
ิ <
เลือกอย่างเสรี
(2) บุคคลมีสทธิเข้ าถึงเท่ากันในบริ การสาธารณะในประเทศของตน
ิ
(3) เจตจํานงของประชาชนจะเป็ นฐานแห่งอํานาจของรัฐบาล เจตจํานงนีจะแสดงออกโดยการเลือกตั @ง
@
เป็ นครังเป็ นคราวอย่างแท้ จริ ง ด้ วยการให้ สทธิออกเสียงอย่างทัวถึงและเท่าเทียมกันและโดยการลงคะแนนลับ
@ ิ <
หรื อวิธีการลงคะแนนอย่างเสรี ที<คล้ ายคลึงกัน
22. ในฐานะสมาชิกของสังคมด้ วยความเพียรพยายามของชาติตลอดจนความร่ วมมือ ระหว่างประเทศ
และโดยสอดคล้ องกับการจัดระเบียบและทรัยากรของแต่ละรัฐ บุคคลมีสทธิในความมั<นคงทางสังคมและชอบที<
ิ
จะได้ รับผลแห่งสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมซึงจําเป็ นต่อศักดิTศรี และการพัฒนาบุคคลิกภาพอย่าง
<
เสรี ของตน
23. (1) บุคคลมีสทธิที<จะทํางานที<จะเลือกงานอย่างเสรี ที<จะมีสภาวะการทํางานที<ยติธรรมและพอใจ และ
ิ ุ
ที<จะได้ รับความคุ้มครองจากการว่างงาน
(2) บุคคลมิสทธิในการรับค่าตอบแทนเท่ากันสําหรับการทํางานที<เท่ากัน โดยไม่มีการเลือกปฏิบตใดๆ
ิ ั ิ
- 5. (3) บุคคลผู้ทํางานมีสทธิในรายได้ ซงยุติธรรม และเอื @อประโยชน์เพื<อประกันสําหรับตนเองและครอบครัว
ิ ึ<
ให้ การดํารงชีวิตมีค่าควร แก่ศกดิTศรี ของมนุษย์ และถ้ าจําเป็ นก็ชอบที<จะได้ รับความคุ้มครองทางสังคมอื<นๆ
ั
เพิ<มเติม
(4) บุคคลมีสทธิที<จะก่อตังและเข้ าร่ วมกับสหภาพแรงงานเพื<อคุ้มครองผลประโยชน์ของตน
ิ @
24. บุคคลมีสทธิในการพักผ่อนและเวลาว่าง รวมทั @งการจํากัดเวลาทํางานที<ชอบด้ วยเหตุผลและมีวนหยุด
ิ ั
ครังคราวที<ได้ รับค่าตอบแทน
@
25. (1) บุคคลมีสทธิในมาตรฐานการครองชีพที<เพียงพอสํากรับสุขภาพ และความอยู่ดีของตนและ
ิ
ครอบครัว รวมทังอาหาร เสื @อผ้ า ที<อยูอาศัย การรักษาพยาบาล และบริ การสังคมที<จําเป็ นและสิทธิในความ
@ ่
มันคงในกรณีว่างงาน เจ็บป่ วย ทุพพลภาพ เป็ นหม้ าย วัยชรา หรื อการขาดปั จจัยในการเลี @ยงชีพอื<นใดใน
<
พฤติการณ์อนเกิดจากที<ตนจะควบคุม ได้
ั
(2) มารดาและบุตรชอบที<จะได้ รับการดูแลแลความช่วยเหลือเป็ นพิเศษ เด็กทั @งหลายไม่ว่าจะเป็ นบุตรใน
หรื อนอกสมรสย่อมได้ รับความคุ้มครองทางสังคม เช่นเดียวกัน
26. (1) บุคคลมีสทธิในการศึกษา การศึกษาจะเป็ นสิ<งที<ให้ เปล่าโดยไม่คิดมูลค่า อย่างน้ อยที<สดในขั @น
ิ ุ
ประถมศึกษาและขั @นพื @นฐาน ขั @นประถมศึกษาให้ เป็ นการศึกษาภาคบังคับ ขั @นเทคนิคและขั @นประกอบอาชีพ
เป็ นการศึกษาที<จะต้ องจัดมีขึ @นโดยทัวๆ ไป และขั @นสูงเป็ นขั @นที<จะเปิ ดให้ ทกคนเท่ากันตามความสามารถ
< ุ
(2) การศึกษาจะมุ่งไปในทางพัฒนาบุคคลิกภาพของมนุษย์อย่างเต็มที<และเพื<อเสริ ม พลังเคารพต่อสิทธิ
มนุษยชน และเสรี ภาพขั @นมูลฐานให้ แข็งแกร่ ง ทั @งจะมุ่งเสริ มความเข้ าใจ ขันติ และมิตรภาพในระหว่าง
ประชาชาติ กลุมเชื @อชาติ หรื อกลุมศาสนา และจะมุ่งขยายกิจกรรมของสหประชาชาติเพื<อการธํารงสันติภาพ
่ ่
(3) ผู้ปกครองมีสทธิก่อนผู้อื<นที<จะเลือกชนิดของการศึกษาสําหรับบุตรหลานของตน
ิ
27. (1) บุคคลมีสทธิที<จะเข้ าร่ วมการใช้ ชีวิตทางด้ านวัฒนธรรมในประชาคมอย่างเสรี ที<จะพึงใจในศิลปะและ
ิ
มีสวนในความคืบหน้ าและผลประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์
่
(2) บุคคลมีสทธิในการรับความคุ้มครองประโยชน์ ทางด้ านศีลธรรมและทางวัตถุอนเป็ น ผลได้ จากการ
ิ ั
ประดิษฐ์ ทางวิทยาศาสตร์ วรรณกรรมและศิลปะซึงตนเป็ นเจ้ าของ
<
- 6. 28. บุคคลชอบที<จะได้ รับประโยชน์ จากระเบียบสังคมและระหว่างประเทศอันจะอํานวย ให้ การใช้ สทธิและ
ิ
เสรี ภาพบรรดาที<ได้ ระบุในปฏิญญานี @ทําได้ อย่างเต็มที<
29. (1) บุคคลมีหน้ าที<ตอประชาชนอันเป็ นที<เดียวซึงบุคคิกภาพของตนจะพัฒนาได้ อย่างเสรี และเต็ม
่ <
ความสามารถ
(2) ในการใช้ สิทธิและเสรี ภาพ บุคคลต้ องอยูใต้ เพียงเช่นที<จํากัดโดยกําหนดแห่งกฎหมายเฉพาะ เพื<อ
่
ความมุ่งประสงค์ให้ ได้ มาซึงการยอมรับ และการเคารพโดยชอบในสิทธิ เสรี ภาพของผู้อื<น และเพื<อให้ สอดคล้ อง
<
กับข้ อกําหนดอันยุติธรรมของศีลธรรม ความสงบเรี ยบร้ อยของประชาชาติและสวัสดิการโดยทัวๆ ไป ในสังคม
<
ประชาธิปไตย
(3) สิทธิและอิสรภาพเหล่านี @ มิว่าจะด้ วยกรณีใดจะใช้ ให้ ขดกับความมุ่งประสงค์และหลักการของ
ั
สหประชาชาติไม่ได้
30. ข้ อความต่างๆ ตามปฏิญญานี @ไม่เปิ ดช่องที<จะแปลความได้ ว่าให้ สิทธิใดๆ แก่รัฐ กลุมชนหรื อบุคคลใดๆ ที<
่
จะประกอบกิจกรรม หรื อกระทําการใดๆ อันมุ่งต่อการทําลายสิทธิและเสรี ภาพใดๆ บรรดาที<ได้ ระบุไว้ ใน
บทบัญญัติฉบับนี @
ข้ อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/ปฏิญญาสากลว่ าด้ วยสิทธิมนุษยชน
ค้ นคว้ าเพิมเติม www.un.org/en/documents/udhr/