Commm
- 2. ความหมายของโครงงาน
โครงงาน หมายถึง กิจกรรมที่ทา ให้ได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากการลงมือปฏิบัติจริงในลักณะะ
ของการศึกณา สา รวจ ค้นคว้า ทดลอง ประดิณฐ์คิดค้น ซึ่งผ้เูรียนเป็นผ้คูิด หัวเรื่องจัดหาข้อมูล
ทดลอง สรุปผล เขียนรายงาน แสดงผลงาน โดยมีครูเป็นผ้กูระตุ้น แนะนา และให้คา ปรึกณา
อย่างใกล้ชิด
โครงงาน หมายถึง กิจกรรมที่ให้นักเรียนรู้จักวิธีการทางโครงงานวิจัยเล็กๆ ผ้เูรียนลงมือ
ปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้ ทักณะ และสร้างผลผลิตที่มีคุะภาพ ระเบียบวิธีดา เนินการเป็นระบบ
วิธีการทางวิทยาศาสตร์ จุดประสงค์หลักของการสอนแบบโครงงานต้องการกระตุ้นให้นักเรียนรู้จัก
สังเกต รู้จักตั้งคา ถาม รู้จักตั้งสมมติฐาน รู้จักวิธีแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เพื่อตอบคา ถามที่ตนอยากรู้
รู้จักสรุป และทา ความเข้าใจกับสิ่งที่ค้นพบโครงงานอาจจัดในเวลาเรียน หรือนอกเวลาเรียนก็ได้
- 3. ความสา คัญของโครงงาน
ความสา คัญของโครงงานในแง่ของการเรียนการสอน และจัดกิจกรรมเสริมตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น
พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) มีดังนี้
1.ด้านนักเรียน ก่อให้เกิดคุะค่าต่างๆ ดังนี้
1.1 ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่จะนาไปสู่อาชีพ และการศึกษาต่อ ที่ตนเองมีความถนัดและสนใจ
1.2 สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ด้วยชีวิตจริง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอย่างซาบซึ้ง ในโครงงานที่
สร้างสรรค์ขึ้นมา
1.3 ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง และการแก้ปัญหาในการงานที่ตนเองสนใจและมีความพร้อม ส่งผล
ให้เกิดความมัน่ใจในการดา เนินงานต่อไป
1.4 ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติในโครงงานที่ได้ริเริ่มสร้างสรรค์
1.5 ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีงามต่อกัน ระหว่างเพื่อนนักเรียนที่ปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม
1.6 ก่อให้เกิดความรู้ทางวิชาการที่กว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ได้รับความสา เร็จในการศึกษาตามหลักสูตร
และตรงกับจุดหมายที่กาหนดไว้
- 4. 2. ด้านโรงเรียน และ ครู-อาจารย์ ก่อให้เกิดคุะค่าต่าง ๆ ดังนี้
2.1 เกิดการประสานงานทางวิชาการที่ผสมผสาน หรือ บูรณการเกิดข้นึใน โรงเรียน ตรงกับหลักสูตรมัธยมศึกษา
และแนวทางพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
2.2 เกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า การเรียนการสอนในปัจจุบันข้นึอยู่กับการฝึกปฏิบัติจริง ในโครงงานของนักเรียน
มากกว่าที่จะเรียนอยู่แต่ในห้องเรียนเท่านั้น
2.3 เกิดศูนย์รวมสื่อสารการเรียนการสอน หรือศูนย์วัสดุ – อุปกรณ์การสอนสาหรับในหมวดวิชาต่าง ๆ ใน
โรงเรียนได้ใช้ร่วมกัน ส่งผลให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกใช้สื่อการสอนอย่างแท้จริงและหลากหลาย
2.4 เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียน ครู – อาจารย์ผู้สอน และโรงเรียนอาจารย์ที่มีโอกาสปฏิบัติงานอย่าง
ใกล้ชิด และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะชอ่งว่างที่ต่างกัน
- 5. 3. ด้านท้องถิ่น ก่อให้เกิดคุะค่าต่าง ๆ ดังนี้
3.1 การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความรู้ ผลงานในเชิงปฏิบัติของโครงงาน ที่ ประสบผลสา เร็จไปสู่ท้องถิ่น ทา ให้
ท้องถิ่นกับโรงเรียนมีความเข้าใจ และประสานสัมพันธ์กันดียงิ่
3.2 ช่วยลดปัญหาวันรุ่นในท้องถิ่นเกี่ยวกับความประพฤติ จรรยามารยาท และศีลธรรม เพราะนักเรียนที่มี
โครงงานมักจะเป็นนักเรียนที่มีความประพฤติดีมุ่งมัน่ และสนใจการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น
3.3 ทา ให้ประชาชนในท้องถิ่นมีพ้นืฐานทางการศึกษาดี โดยเฉพาะงานอาชีพที่หลากหลาย และการพัฒนา
การศึกษา ที่มุ่งเน้นให้เยาวชนของชาติ มีนิสัยรักการทา งานไม่เป็นคนหยิบโหย่ง และชว่ยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครอง
ด้วยดี
http://www.gotoknow.org/posts/314097
http://www.trss.ac.th/trss/images/wichakan/tecnology/kronghangcom.pdf
- 7. ขอบข่ายของโครงงาน ดา เนินงานโดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และครูอาจารย์เป็นผู้ให้คา แนะนาปรึกษา สรุปคือ
1. เป็นกิจกรรมการศึกษาทีให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเอง โดยอาศัย หลักวิชา การทางทฤษฎี
ตามเนื้อหาโครงสร้างงานนั้น ๆ หรือจากประสบการณ์ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมาแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทา โครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ เป็นภาคเรียนหรือ
มากกว่าก็ได้
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงาน ที่จะศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติด้วย ตนเอง ตามความ
ถนัด สนใจและความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงาน และการ แปรผล รายงานต่อครู
อาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อ ดา เนินงานร่วมกัน ให้บรรลุตามจุดหมาย ที่กา หนด ไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงิน
ดา เนินงานด้วย
http://www.yupparaj.ac.th/CAI/CAI2005/33102/plan2/know1.htm
ขอบข่ายของโครงงาน
- 9. ความหมายโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกณา(Educational Media)
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกณา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการ
สร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคา ถามคา ตอบ
ไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่อง
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียน
เข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขา
คอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อ
ที่นักเรียนทั่วไปที่ทา ความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรม
สอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
- 12. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่
ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ
เป็นต้น สา หรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้
เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออา นวย
ความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สา หรับซอฟต์แวร์ช่วยการมอง
วัตถุในมุมต่างๆ ใช้สา หรับช่วยการออกแบบสิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดู
ว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คา นวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้เพื่อพิจารณา
และแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
- 13. ตัวอย่างชื่อโครงงาน
1. โปรแกรมการค้นหาคา ภาษาไทย
2. โปรแกรมอ่านอักษรไทย
3. โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
4. โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
5. โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
6. โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
7. โปรแกรมการออกแบบผังงาน
8. พอร์ตแบบขนานของไทย
9. การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/5_20.html
- 15. โครงงานประเภทการทดลองทฤณฎี
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จา ลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่
ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทา ต้องศึกษา
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจา ลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคา อธิบาย พร้อมทั้งการจา ลองทฤษฏีด้วย
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทา ให้ผู้เรียนมีความ
เข้าใจได้ดียงิ่ขึ้น การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสา คัญอยู่ที่ผู้ทา ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง
โครงงานจาลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า
และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
- 16. ตัวอย่างหัวข้อโครงงานจา ลองทฤณฎี
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
7. โปรแกรมจาลองการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
http://computer607.blogspot.com/2012/08/6.html
- 18. โครงงานประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ
ผสมสี และซอฟต์แวร์สา หรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ
ของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการ
ทดสอบการทา งานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน
ประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่
เกี่ยวข้อง
- 19. ตัวอย่างชื่อโครงงาน
1. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
2. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
3. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
4. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจา ทาง
5. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
6. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
7. โฮมเพจส่วนบุคคล
8. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
9. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
http://sendai-wirada.blogspot.com/2012/08/7.html
- 21. ความหมายโครงงานประเภทการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ในปัจจุบันเกมคอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามีบทบาทต่อเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นโครงงานพัฒนาเกม จึงเป็น
อีกโครงงานที่จะส่งเสริมการสร้างเกมจากจินตนาการของนักเรียน ซึ่งจะทา ให้ได้เกมสีขาวที่ไม่มีพิษภัยต่อผู้
เล่น หรือเป็นการสร้างเกมในเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ตัวละครตามวรรณคดีเป็นผู้เล่น เช่น เกมผจญภัยทะลุ
มิติ แต่ตัวละครในเกมจะใช้เป็นหนุมาน พระลักษมณ์ พระราม นางสีดา และทศกัณฐ์ซึ่งเป็นตัวละครใน
เรื่องรามเกียรต์ิ เป็นการผสมผสานความรู้ด้านวรรณคดีได้เป็นอย่างดี และทา ให้ผู้เล่นเกมมีความเข้าใจ
สามารถจา ลักษณะของตัวละครเหล่านั้นได้ กฎกติกาการเล่นเกมผู้พัฒนาโครงงานสามารถกา หนดขั้นมา
ได้เองตามความเหมาะสม หรือพัฒนาเกมประเภทฝึกสมอง ประลองปัญญา เช่น เกมจับคู่เกมทายคา ศัพท์
ภาษาอังกฤษ เป็นต้น จึงเป็นอีกรูปแบบของโครงงานประเภทนี้ หรือนาบทเรียนที่ยากต่อการท่องจา มา
สร้างในลักษณะของเกมจะช่วยให้ผู้เล่นนอก จากได้รับความบันเทิงแล้ว ยังเป็นการท่องจา บทเรียนไป
พร้อมกันด้วย