SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
Download to read offline
โครงงาน
ความหมายและความสาคัญของโครงงาน
1.โครงงานมีความสาคัญอย่างไร
- ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ
- สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง
- ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง
- ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ
- ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัย
หลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และ
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้
ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า
ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและ
การแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ
ตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ
สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงาน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต
สื่อเพื่อการศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วน
ใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ
จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน
ชีวิตประจาวัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
ความหมายและตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนา
สื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมอิสระที่ผู้เรียนสามารถเลือกศึกษาตามความสนใจ โด
ใช้ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ของผู้เรียนด้านคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในการแก
ปัญหาต่างๆ ผู้เรียนจะต้องวางแผนดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่
เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่จัดว่าเป็นโครงงานควรมีองค์ประกอบหลัก ดังนี้
- เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องซอฟต์แวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
- ผู้เรียนเป็นริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา
- เก็บรวบรวมหรือประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้
ความสามารถ
- ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา สรุป และเสนอผลการศึกษาด้วยตนเอง โดยมี
ผู้สอนเป็นที่ปรึกษา
ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน
การผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เช่นโครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้าง
งาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์
ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้
งานในชีวิตประจาวัน
5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
การพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้าง
งานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์
วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ
เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม
ประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ
สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับ
ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบ
สิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและ
ด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้
เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
ตัวอย่างชื่อโครงงาน
• โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย
• โปรแกรมอ่านอักษรไทย
• โปรแกรมวาดภาพสามมิติ
• โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล
• โปรแกรมบีบอัดข้อมูล
• โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
• โปรแกรมการออกแบบผังงาน
• พอร์ตแบบขนานของไทย
• การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่างโครงงาน
ชื่อโครงงาน : ระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อการดาเนินธุรกิจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นายฑีฆวัฒน์ เทพานวล,นายปวีณวัช สุรินทร์,
นายปิยะพงษ์บุญมี
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา : ผศ. ดร. สุขุมาล กิติสิน
สถาบันการศึกษา : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ระดับชั้น : ปริญญาตรี
หมวดวิชา : คอมพิวเตอร์
วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน : 1/1/2549
บทคัดย่อ
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนาเทคนิคการสร้างบาร์โค้ดบนจอภาพ
โทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ในการพัฒนาระบบที่ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บน
โทรศัพท์เคลื่อนที่และเว็บเซอร์วิส เพื่อรองรับการทางานดังนี้คือ การขอรับใบแจ้ง
ค่าบริการ การขอทาบัตรสมาชิก การจองและการซื้อตั๋วต่างๆ จากเว็บเซอร์วิสผู้
ให้บริการคือ หน่วยงานของรัฐและเอกชนที่มีการใช้ใบแจ้งค่าบริการหรือบัตร
สมาชิก ผู้ให้บริการในระบบธุรกิจที่มีการใช้ตั๋ว ตามลาดับ ผ่านโปรแกรมประยุกต์
บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนใบแจ้ง
ค่าบริการ บัตรสมาชิก ตั๋วต่างๆและใช้ในการยืนยันการออกตั๋วจริงจากจองตั๋วต่างๆ
โดยระบบมีการทางานดังนี้คือ เว็บเซอร์วิสของระบบจะทาหน้าที่รวบรวมบริการและ
เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อประสานการทางานเพื่อส่งผ่านข้อมูลใบแจ้งค่าบริการ
ข้อมูลบัตรสมาชิก ข้อมูลหมายเลขเฉพาะหรือข้อมูลหมายการจองของตั๋วต่างๆ ระหว่างเว็บ
เซอร์วิสผู้ให้บริการกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยลักษณะข้อมูลที่ใช้ในการ
แลกเปลี่ยนเป็นรูปแบบเอกสาร XML ซึ่งโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ
สามารถนาข้อมูลหมายเลขบาร์โค้ดบนใบแจ้งค่าบริการ หมายเลขบาร์โค้ดบนบัตรสมาชิก และ
หมายเลขเฉพาะหรือหมายเลขการจองของตั๋วต่างๆ ทั้งจากการเชื่อมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบ
การรับข้อความ SMS จากผู้ให้บริการและการพิมพ์ข้อมูลโดยตรง มาทาการสร้างเป็นบาร์โค้ด
บนจอภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรองรับการอ่านจากเครื่องอ่านบาร์โค้ดในการใช้งานต่อไป โดย
ระบบที่พัฒนาขึ้นจะเป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยอานวยความสะดวกและช่วยให้เกิดความรวดเร็วใน
การดาเนินธุรกิจ โดยทาให้ผู้ใช้ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ
สามารถลดภาระการเก็บดูแลรักษาบัตรสมาชิก ใบแจ้งค่าบริการและตั๋วต่างๆ เพิ่มความสะดวก
รวดเร็วในการยืนยันออกตั๋วจริงจากการจองตั๋วต่างๆ ด้านผู้ให้บริการต่างๆ สามารถลดการใช้
ต้นทุนและทรัพยากรธรรมชาติจากการผลิตบัตรสมาชิก ใบแจ้งค่าบริการ และตั๋วต่างๆ เช่น
พลาสติก กระดาษ หมึกพิมพ์เป็นต้น โครงการนี้ได้มีการสร้างส่วนจาลองเพื่อใช้ในการทดสอบ
ระบบสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สาขาของผู้ให้บริการ ส่วนที่
สองคือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริษัทตัวแทนรับชาระเงิน
การทดลองทฤษฎี
ประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์
จริงได้เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน
เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจ
อยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วย
คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือ
สมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน
ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
ความรู้พื้นฐาน
การไหลซึมของน้าสู่ดินขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น (เนื้อดิน และการ
กระจายของขนาดอนุภาคดิน) และแรงดึงดูดระหว่างอนุภาคดินกับน้า ดินบางชนิด
จะปล่อยให้น้าซึมผ่านได้อย่างรวดเร็วแล้วอุ้มน้าไว้ในดิน ซึ่งทาให้พืชสามารถดูด
น้าไปใช้ได้ดีขึ้น ดินบางชนิดอาจปล่อยให้น้าซึมผ่านไปได้หมดภายในเวลา 2-
3 วินาที ดินบางชนิดไม่ยอมให้น้าซึมผ่านเลย ดินที่เหมาะสาหรับการปลูกพืชควร
มีสมบัติอย่างไร ดินที่เหมาะสมสาหรับเป็นที่จอดรถหรือสนามเด็กเล่นควรมีสมบัติ
อย่างไร ถ้าดินอิ่มตัวไปด้วยน้าแล้วมีฝนตกหนักบริเวณนั้นจะเกิดอะไรขึ้น นักเรียน
จะปรับปรุงการอุ้มน้าของดินให้เหมาะสมได้อย่างไร ถ้าเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน
ถ้ามีพืชขึ้นอยู่บนดิน ถ้าดินถูกอัดตัว หรือถ้าดินถูกไถพรวนเกิดอะไรขึ้นกับการ
ไหลซึมของน้าสู่ดิน
น้าในดินเป็นตัวการสาคัญในการลาเลียงธาตุอาหารจากดินสู่พืชที่กาลัง
เจริญเติบโต พืชได้น้าจากการดูดน้าจากดินของราก และได้อาหารที่ละลายอยู่ในน้า
ซึ่งอยู่ในดิน ดินจะมีธาตุอาหารพืชอยู่มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าดินนั้นเกิดขึ้นได้
อย่างไร จากวัตถุต้นกาเนิดอะไร และจัดเรียงตัวกันอย่างไร ชาวสวนและชาวนา
มักจะเติมธาตุอาหาร หรือ ปุ๋ ย ลงในดินเพื่อจะเพิ่มธาตุอาหารของพืช
การทดลอง: ลาแสงหักเห
เคยมองเห็นปลาหรือวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้าใสบ้างหรือไม่ ว่าแต่ว่า ปลา
หรือวัตถุเหล่านั้นอยู่ตรงตาแหน่งที่เรามองเห็นหรือไม่
ผลการทดลอง
ลักษณะของดินสอที่เรามองเห็นขณะที่อยู่ในแก้วที่มีน้า กับดินสอที่อยู่ในแก้วที่
ปราศจากน้ามีความแตกต่างกันอย่างไร เราจะเห็นว่าดินสอที่อยู่ในแก้วเปล่า จะเป็น
แท่งตรงส่วนดินสอที่อยู่ในแก้วที่มีน้าจะมีลักษณะหักงอและเมื่อมองจากด้านบนลง
ไป ดินสอจะดูตื้นกว่าความเป็นจริง เช่นเดียวกับการที่เรามองเห็นปลาว่ายน้าไปมาอยู่
ใกล้ๆผิวน้า แต่จริงๆแล้วปลาว่ายน้าที่ระดับลึกกว่าที่เรามองเห็นมาก เนื่องจากการ
หักเหของแสงนั่นเอง
การจะมองเห็นวัตถุใดๆได้นั้นต้องมีแสงจากวัตถุสะท้อนมาเข้าตาเราโดยวัตถุ
ชนิดนั้นอาจมีแสงสว่างในตัวเอง ทาให้เรามองเห็นได้หรือหากวัตถุชนิดนั้นไม่มีแสง
สว่างในตัวเอง จะต้องมีแสงจากแหล่งกาเนิดแสงอื่นมากระทบวัตถุนั้น แล้วสะท้อน
เข้าตาจึงจะทาให้เรามองเห็นวัตถุนั้นได้ เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านวัตถุที่มีความ
หนาแน่นที่ต่างกัน
การประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ
ประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและ
ตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ
คนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ
อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง
เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้อง
ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ
คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้
ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่
เกี่ยวข้องรวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนา ด้วย
ตัวอย่าง
1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist
2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน
7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
12. โฮมเพจส่วนบุคคล
13. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น
14. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ความหมายของโครงงานประเภทประยุกต์การใช้งาน
(1) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิต
ประจาวัน เช่นซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับ
การผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมี
การประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่
หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้โครงงาน
ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา ข้อมูลที่ได้มา
ใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางาน
หรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์
โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา
โปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
(2)โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง
ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์
สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสม
สี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมี
การประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็น
การคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้ว
ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์
ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ
พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ
คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน
ประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม
และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
(3) สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์
สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ
ผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภท
นี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่ง
อาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่
มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครง งานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ
วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ
ทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มี
ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรม
ระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
สรุปความหมายของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่สร้างขึ้นมา
เพื่อให้สามารถนาไปประยุกต์ในชีวิตประจาวัน ซึ่งโครงงานประเภทนี้
อาจจะเป็นงานที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือจะเป็นการนาเอางานเดอมที่มีมา
อยู่แล้วมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ทั้งนี้
ทั้งนั้น โครงงานลักษณะนี้จาเป็นจะต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้ก่อนจะนาข้อมูลต่างๆมาออกแบบหรือมาพัฒนา และ
ต้องมีนามาทางานจริงเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงาน หากมี
ข้อบกพร่องก็ควรนาไปแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้
ผู้เรียนจาต้องมีความรู้ความสามารถในด้านของคอมพิวเตอร์ ด้านภาษา
โปรแกรมและเครื่องมือต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางานทั้งหมด
ตัวอย่างของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
• โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivis
• โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น
• โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
• เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ
• เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ
• ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียo
• ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
• ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต
• ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง
• โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง
• โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ
• โฮมเพจส่วนบุคคล
แหล่งอ้างอิง
http://www.thaigoodview.com
http://www.learners.in.th
http://thanapongkiatsujja.blogspot.com
http://www.thaigoodview.com
http://portal.edu.chula.ac.th
http://www.nsm.or.th
http://kruoong.blogspot.com

More Related Content

Viewers also liked

ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงUtai Sukviwatsirikul
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์Fon Edu Com-sci
 
การจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกการจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกsuttinun jiyaamorndach
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติพัน พัน
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทAekapoj Poosathan
 

Viewers also liked (6)

ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสงระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
ระบบฐานข้อมูลสำหรับร้านค้าปลีก โดย สันติ พันไธสง
 
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 เรื่อง โครงงานคอมพิวเตอร์
 
การจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีกการจัดการร้านค้าปลีก
การจัดการร้านค้าปลีก
 
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
 
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บทรูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
รูปแบบการเขียนรายงานโครงงาน 5 บท
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์

ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานwichaya222
 
โครงงานวิชาคอม
โครงงานวิชาคอมโครงงานวิชาคอม
โครงงานวิชาคอมnisaratsaeju
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”Justice MengKing
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานThank Chiro
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4Rattana Wongphu-nga
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3melody_fai
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานMind Kyn
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์siratanap
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์siratanap
 
โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7Anny Na Sonsawan
 

Similar to โครงงานคอมพิวเตอร์ (20)

K3
K3K3
K3
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
03
0303
03
 
โครงงานวิชาคอม
โครงงานวิชาคอมโครงงานวิชาคอม
โครงงานวิชาคอม
 
K3
K3K3
K3
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
001
001001
001
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”
 
07
0707
07
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4ใบความรู้ที่ 4
ใบความรู้ที่ 4
 
03
0303
03
 
ใบงานท 3
ใบงานท   3ใบงานท   3
ใบงานท 3
 
ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3ใบงานที่ 3
ใบงานที่ 3
 
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงานขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7
 
07
0707
07
 
07
0707
07
 

โครงงานคอมพิวเตอร์

  • 2. ความหมายและความสาคัญของโครงงาน 1.โครงงานมีความสาคัญอย่างไร - ช่วยสร้างความหวังใหม่ในการริเริ่มงาน ที่สนใจ - สร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง - ได้มีโอกาสทดสอบความถนัดของตนเอง - ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างเกียรติประวัติ - ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดี
  • 3. ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัย หลักวิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้า ปฏิบัติด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและ การแปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุ ตามจุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและ สติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 4. ประเภทของโครงงาน 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิต สื่อเพื่อการศึกษา เช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้างงาน ส่วน ใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ จาลองการทดลองของสาขาต่างๆ 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานใน ชีวิตประจาวัน 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
  • 5. ความหมายและตัวอย่างหัวข้อโครงงานประเภทการพัฒนา สื่อเพื่อการศึกษา โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมอิสระที่ผู้เรียนสามารถเลือกศึกษาตามความสนใจ โด ใช้ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ของผู้เรียนด้านคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในการแก ปัญหาต่างๆ ผู้เรียนจะต้องวางแผนดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ที่ เกี่ยวข้อง กิจกรรมที่จัดว่าเป็นโครงงานควรมีองค์ประกอบหลัก ดังนี้ - เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องซอฟต์แวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ - ผู้เรียนเป็นริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษา ค้นคว้า พัฒนา - เก็บรวบรวมหรือประดิษฐ์คิดค้นด้วยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้ ความสามารถ - ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา สรุป และเสนอผลการศึกษาด้วยตนเอง โดยมี ผู้สอนเป็นที่ปรึกษา
  • 6. ประเภทของโครงงาน แบ่งได้เป็น 5 ประเภท 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใน การผลิตสื่อเพื่อการศึกษา เช่นโครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานที่สร้างเครื่องมือ ใช้สร้าง งาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการจาลองการทดลองของสาขาต่างๆ 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้ งานในชีวิตประจาวัน 5. โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก
  • 8. โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้าง งานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์ วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม ประมวลคา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่อง คอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความ สะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้โดยง่าย สาหรับ ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบ สิ่งของ อาทิเช่น ผู้ใช้วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและ ด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก
  • 9. ตัวอย่างชื่อโครงงาน • โปรแกรมการค้นหาคาภาษาไทย • โปรแกรมอ่านอักษรไทย • โปรแกรมวาดภาพสามมิติ • โปรแกรมเข้าและถอดรหัสข้อมูล • โปรแกรมบีบอัดข้อมูล • โปรแกรมประมวลผลคาไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ • โปรแกรมการออกแบบผังงาน • พอร์ตแบบขนานของไทย • การส่งสัญญาณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • 10. ตัวอย่างโครงงาน ชื่อโครงงาน : ระบบบาร์โค้ดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อการดาเนินธุรกิจ ชื่อผู้ทาโครงงาน : นายฑีฆวัฒน์ เทพานวล,นายปวีณวัช สุรินทร์, นายปิยะพงษ์บุญมี ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา : ผศ. ดร. สุขุมาล กิติสิน สถาบันการศึกษา : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระดับชั้น : ปริญญาตรี หมวดวิชา : คอมพิวเตอร์ วัน/เดือน/ปี ทาโครงงาน : 1/1/2549
  • 11. บทคัดย่อ โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนาเทคนิคการสร้างบาร์โค้ดบนจอภาพ โทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ในการพัฒนาระบบที่ประกอบด้วยโปรแกรมประยุกต์บน โทรศัพท์เคลื่อนที่และเว็บเซอร์วิส เพื่อรองรับการทางานดังนี้คือ การขอรับใบแจ้ง ค่าบริการ การขอทาบัตรสมาชิก การจองและการซื้อตั๋วต่างๆ จากเว็บเซอร์วิสผู้ ให้บริการคือ หน่วยงานของรัฐและเอกชนที่มีการใช้ใบแจ้งค่าบริการหรือบัตร สมาชิก ผู้ให้บริการในระบบธุรกิจที่มีการใช้ตั๋ว ตามลาดับ ผ่านโปรแกรมประยุกต์ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้โปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่แทนใบแจ้ง ค่าบริการ บัตรสมาชิก ตั๋วต่างๆและใช้ในการยืนยันการออกตั๋วจริงจากจองตั๋วต่างๆ โดยระบบมีการทางานดังนี้คือ เว็บเซอร์วิสของระบบจะทาหน้าที่รวบรวมบริการและ เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อประสานการทางานเพื่อส่งผ่านข้อมูลใบแจ้งค่าบริการ
  • 12. ข้อมูลบัตรสมาชิก ข้อมูลหมายเลขเฉพาะหรือข้อมูลหมายการจองของตั๋วต่างๆ ระหว่างเว็บ เซอร์วิสผู้ให้บริการกับโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยลักษณะข้อมูลที่ใช้ในการ แลกเปลี่ยนเป็นรูปแบบเอกสาร XML ซึ่งโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ สามารถนาข้อมูลหมายเลขบาร์โค้ดบนใบแจ้งค่าบริการ หมายเลขบาร์โค้ดบนบัตรสมาชิก และ หมายเลขเฉพาะหรือหมายเลขการจองของตั๋วต่างๆ ทั้งจากการเชื่อมต่อกับเว็บเซอร์วิสของระบบ การรับข้อความ SMS จากผู้ให้บริการและการพิมพ์ข้อมูลโดยตรง มาทาการสร้างเป็นบาร์โค้ด บนจอภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรองรับการอ่านจากเครื่องอ่านบาร์โค้ดในการใช้งานต่อไป โดย ระบบที่พัฒนาขึ้นจะเป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยอานวยความสะดวกและช่วยให้เกิดความรวดเร็วใน การดาเนินธุรกิจ โดยทาให้ผู้ใช้ระบบในส่วนโปรแกรมประยุกต์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของระบบ สามารถลดภาระการเก็บดูแลรักษาบัตรสมาชิก ใบแจ้งค่าบริการและตั๋วต่างๆ เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการยืนยันออกตั๋วจริงจากการจองตั๋วต่างๆ ด้านผู้ให้บริการต่างๆ สามารถลดการใช้ ต้นทุนและทรัพยากรธรรมชาติจากการผลิตบัตรสมาชิก ใบแจ้งค่าบริการ และตั๋วต่างๆ เช่น พลาสติก กระดาษ หมึกพิมพ์เป็นต้น โครงการนี้ได้มีการสร้างส่วนจาลองเพื่อใช้ในการทดสอบ ระบบสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนเว็บเซอร์วิสและโปรแกรมประยุกต์สาขาของผู้ให้บริการ ส่วนที่ สองคือส่วนโปรแกรมประยุกต์ของบริษัทตัวแทนรับชาระเงิน
  • 13. การทดลองทฤษฎี ประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจาลองการ ทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์ จริงได้เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษา รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจ อยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วย คอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือ สมการนั้น ซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทาโครงงาน ประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี
  • 14. ความรู้พื้นฐาน การไหลซึมของน้าสู่ดินขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น (เนื้อดิน และการ กระจายของขนาดอนุภาคดิน) และแรงดึงดูดระหว่างอนุภาคดินกับน้า ดินบางชนิด จะปล่อยให้น้าซึมผ่านได้อย่างรวดเร็วแล้วอุ้มน้าไว้ในดิน ซึ่งทาให้พืชสามารถดูด น้าไปใช้ได้ดีขึ้น ดินบางชนิดอาจปล่อยให้น้าซึมผ่านไปได้หมดภายในเวลา 2- 3 วินาที ดินบางชนิดไม่ยอมให้น้าซึมผ่านเลย ดินที่เหมาะสาหรับการปลูกพืชควร มีสมบัติอย่างไร ดินที่เหมาะสมสาหรับเป็นที่จอดรถหรือสนามเด็กเล่นควรมีสมบัติ อย่างไร ถ้าดินอิ่มตัวไปด้วยน้าแล้วมีฝนตกหนักบริเวณนั้นจะเกิดอะไรขึ้น นักเรียน จะปรับปรุงการอุ้มน้าของดินให้เหมาะสมได้อย่างไร ถ้าเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน ถ้ามีพืชขึ้นอยู่บนดิน ถ้าดินถูกอัดตัว หรือถ้าดินถูกไถพรวนเกิดอะไรขึ้นกับการ ไหลซึมของน้าสู่ดิน น้าในดินเป็นตัวการสาคัญในการลาเลียงธาตุอาหารจากดินสู่พืชที่กาลัง เจริญเติบโต พืชได้น้าจากการดูดน้าจากดินของราก และได้อาหารที่ละลายอยู่ในน้า ซึ่งอยู่ในดิน ดินจะมีธาตุอาหารพืชอยู่มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าดินนั้นเกิดขึ้นได้ อย่างไร จากวัตถุต้นกาเนิดอะไร และจัดเรียงตัวกันอย่างไร ชาวสวนและชาวนา มักจะเติมธาตุอาหาร หรือ ปุ๋ ย ลงในดินเพื่อจะเพิ่มธาตุอาหารของพืช
  • 15. การทดลอง: ลาแสงหักเห เคยมองเห็นปลาหรือวัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้าใสบ้างหรือไม่ ว่าแต่ว่า ปลา หรือวัตถุเหล่านั้นอยู่ตรงตาแหน่งที่เรามองเห็นหรือไม่
  • 16. ผลการทดลอง ลักษณะของดินสอที่เรามองเห็นขณะที่อยู่ในแก้วที่มีน้า กับดินสอที่อยู่ในแก้วที่ ปราศจากน้ามีความแตกต่างกันอย่างไร เราจะเห็นว่าดินสอที่อยู่ในแก้วเปล่า จะเป็น แท่งตรงส่วนดินสอที่อยู่ในแก้วที่มีน้าจะมีลักษณะหักงอและเมื่อมองจากด้านบนลง ไป ดินสอจะดูตื้นกว่าความเป็นจริง เช่นเดียวกับการที่เรามองเห็นปลาว่ายน้าไปมาอยู่ ใกล้ๆผิวน้า แต่จริงๆแล้วปลาว่ายน้าที่ระดับลึกกว่าที่เรามองเห็นมาก เนื่องจากการ หักเหของแสงนั่นเอง การจะมองเห็นวัตถุใดๆได้นั้นต้องมีแสงจากวัตถุสะท้อนมาเข้าตาเราโดยวัตถุ ชนิดนั้นอาจมีแสงสว่างในตัวเอง ทาให้เรามองเห็นได้หรือหากวัตถุชนิดนั้นไม่มีแสง สว่างในตัวเอง จะต้องมีแสงจากแหล่งกาเนิดแสงอื่นมากระทบวัตถุนั้น แล้วสะท้อน เข้าตาจึงจะทาให้เรามองเห็นวัตถุนั้นได้ เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านวัตถุที่มีความ หนาแน่นที่ต่างกัน
  • 17. การประยุกต์ใช้งาน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพื่อ ประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและ ตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ คนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือ อุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุง เปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้อง ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องรวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนา ด้วย
  • 18. ตัวอย่าง 1. โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivist 2. โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น 3. โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 4. เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ 5. เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ 6. ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียน 7. ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล 8. ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต 9. ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง 10. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง 11. โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ 12. โฮมเพจส่วนบุคคล 13. โปรแกรมช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น 14. โปรแกรมพจนานุกรมไทย-อังกฤษ
  • 19.
  • 20. การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ ความหมายของโครงงานประเภทประยุกต์การใช้งาน (1) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิต ประจาวัน เช่นซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับ การผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมี การประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่ หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้โครงงาน ลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนา ข้อมูลที่ได้มา ใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางาน หรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษา โปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
  • 21. (2)โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้าง ผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสม สี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทนี้จะมี การประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจเป็น การคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และ พัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบ คุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงาน ประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • 22. (3) สร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์ สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ ผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภท นี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซึ่ง อาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่ มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครง งานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและ วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้นๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการ ทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มี ความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรแกรม ระบบงานการกีฬา โปรแกรมระบบแฟ้มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001
  • 23. สรุปความหมายของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้สามารถนาไปประยุกต์ในชีวิตประจาวัน ซึ่งโครงงานประเภทนี้ อาจจะเป็นงานที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ หรือจะเป็นการนาเอางานเดอมที่มีมา อยู่แล้วมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ทั้งนี้ ทั้งนั้น โครงงานลักษณะนี้จาเป็นจะต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้ใช้ก่อนจะนาข้อมูลต่างๆมาออกแบบหรือมาพัฒนา และ ต้องมีนามาทางานจริงเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงาน หากมี ข้อบกพร่องก็ควรนาไปแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้ ผู้เรียนจาต้องมีความรู้ความสามารถในด้านของคอมพิวเตอร์ ด้านภาษา โปรแกรมและเครื่องมือต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางานทั้งหมด
  • 24. ตัวอย่างของโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน • โปรแกรม สารบรรณสาเร็จรูป : Readymade Archivis • โปรแกรมระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น • โปรแกรมระบบแฟ้ มฐานข้อมูลผู้เรียน 2001 • เครื่องรดน้าต้นไม้และให้อาหารปลาผ่านโทรศัพท์มือถือ • เครื่องให้อาหารไก่ไข่อัตโนมัติ • ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้เรียนของโรงเรียo • ระบบจัดการข้อมูลการเงินส่วนบุคคล • ระบบจองตั๋วรถไฟบนอินเทอร์เน็ต • ระบบแนะนาเส้นทางเดินรถประจาทาง • โปรแกรมสังเคราะห์เสียงสาหรับคนตาบอดบนรถประจาทาง • โปรแกรมออกและตรวจข้อสอบ • โฮมเพจส่วนบุคคล