SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน ขนมกลีบลาดวน
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.น.ส. วาสนา ผุลละศิริ เลขที่ 12 ชั้น 6 ห้อง 8
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1………………………………….. เลขที่……… 2…………………………………เลขที่
……….
3………………………………….. เลขที่………
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ขนมกลีบลาดวน
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Duan petals candy.
ประเภทโครงงานทดลอง
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส. วาสนา ผุลละศิริ
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงานภาคเรียนที่ 1- 2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ขนมไทย
เป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยตั้งแต่สมัยก่อนและสืบทอดมายังลูกหลายรุ่นต่อรุ่นตามที่ปรากฏตา
มกลักฐานสาคัญต่างๆตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน
แสดงให้เห็นว่าขนมไทยเป็นสิ่งสาคัญสาหรับคนไทย ทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่รวมถึงพิธีกรรมต่างๆก็ใช้ขนม
ไทยเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าขนมไทยเป็นขนมมงคล
อีกทั้งขนมไทยยังเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทย
แต่ในปัจจุบันนี้ขนมไทยเริ่มที่จะเลือนหายไป
เพราะขาดผู้สืบทอดและสนใจ อย่างจริงจัง กลุ่มของข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ขนมไทยโดยการไปศึ
กษาและเรียนรู้วิธีการทาขนม
และนามาเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้ลองทากันดูง่ายๆ จึงเลือกขนมที่เป็นขนมทานเล่นและทาได้ง่ายๆ มาให้ล
องทากันดู และปัจจุบันวัยรุ่นสมัยใหม่แทบที่จะไม่รู้จัก ขนมกลีบลาดวนนี้
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงขอสาธิตวิธีการทาขนมกลีบลาดวน
3
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของคนไทยในการทาขนมไทยให้คงอยู่
2. มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์การทาขนมไทย
3. สามารถศึกษาวิธีการทาขนมไทยและทาเองได้
4. สาธิตวิธีการทาขนมกลีบลาดวนให้ผู้ที่สนใจ
5. สามารถทาเป็นอาชีพได้สาหรับผู้ที่สนใจ
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
- การทากลีบลาดวน ทาได้ทุกคนเป็นขนมหวานที่ทาได้ง่ายและทาได้ทุกครอบครัว
หลักการและทฤษฎี
ความหมายของบล็อก หรือ เว็บบล็อก อ้างอิงตามบทความเรื่องบล็อก ( Blog or
Weblog) คืออะไร? ในเว็บไซต์GotoKnow.org เขียนโดย ดร.จันทวรรณปิยะวัฒน์ ( http://gotoknow.org/blog
/tutorial/3) ได้ให้นิยามไว้ดังนี้
"บล็อก ( Blog) หรือ เว็บบล็อก
(Weblog) เป็นเว็บไซต์สาหรับเขียนบันทึกเล่าเรื่องราวประจาวันเพื่อสื่อสารความรู้สึกนึกคิดมุมมอง
ประสบการณ์ ความรู้ และข่าวสาร ในเรื่องที่ผู้เขียนท่านหนึ่งๆ ( Blogger) สนใจโดยเฉพาะ
ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้ทาให้บล็อกต่างกับเว็บบอร์ด
และเนื่องจากความจริงใจและอิสระทางความคิดที่สื่อสารออกไป
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะของบุคคลที่หนึ่ง
เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของผู้เขียนได้เป็นอย่างดีทีเดียว
จึงทาให้บล็อกเป็นสื่อที่นิยมมากขึ้นเรื่องๆ ในนานาประเทศ"
วิธีการสังเกตลักษณะของเว็บไซต์ที่เป็นบล็อกนั้น ให้พิจารณาจากลักษณะต่างๆ ดังนี้คือ
„ มีการบันทึกเนื้อหาโดยเจ้าของบล็อกอย่างสม่าเสมอ
„ ข้อมูลจะถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ คือ รายการล่าสุดจะถูกแสดงไว้ด้านบนสุดของเว็ปเพจ
แล้วไล่ลาดับย้อนหลังตามวันเวลาการเขียนไปเรื่อยๆ
„ มักจะมีการลิงก์ไปหาบล็อกอื่นที่ผู้เขียนสนใจ
หรือได้เสนอความคิดเห็นโยงต่อจากข้อเขียนที่เขาอ้างถึง ดังนั้น
นอกจากบล็อกจะใช้ในการเขียนและเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งรวมลิงก์ที่เจ้าของบล็อกนั้นๆ
ใช้เป็นฐานเพื่อเสริมต่อความรู้อยู่เป็นประจา ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ของบล็อกอื่นๆ หรือลิงก์ของเว็บไซต์ก็ตาม
4
„ บันทึกที่เขียนไว้ในบล็อกมักจะมีการแยกแยะเป็นกลุ่มเนื้อหาตามหัวข้อหลักๆ
ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเพื่อช่วยอานวยความสะดวกให้แก่ผู้อ่านที่สนใจในบันทึกที่มีความสัมพันธ์กันในใจความห
ลัก
„ และเมื่อผู้อ่านได้รับความรู้ต่างๆ จากผุ้เขียนบล็อกแล้ว
ผู้อ่านมักจะมีการเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม
เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มผู้อ่านและผู้เขียนบล็อก
ประโยชน์ของบล็อก
1. ใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้
การเขียน blog สาหรับบันทึกเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ
เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสมองลงสู่ตัวหนังสือการเขียนต้องมีอิสระทางความคิดในรูปแบบที่เป็
นตัวของตัวเอง จะช่วยอานวยให้การดึงเอาความรู้ฝังลึกถูกแสดงออกมาได้โดยไม่ยากนัก
และการเขียน blog อยู่เป็นประจาก็จะสามารถนามาสู่การสร้างขุมความรู้ ( Knowledge Assets
) อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ การเก็บรวบรวมและการแก้ไขหรือเพิ่มเติมความรู้ก็ทาได้โดยสะดวก รวดเร็ว
2. เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้
โดยหลักการของ blog คือการเผยแพร่เรื่องราวที่ผู้เขียนเขียนไว้บน blog เพื่อแสดงตัวตนของผู้เขียนออกสู่สา
ธารณชนซึ่งนั่นหมายถึง blog ย่อมมีความสามารถในการสนับสนุนการเข้าถึงความรู้ได้ง่าย สะดวก
และรวดเร็ว
ทันทีที่ผู้เขียนมีการเพิ่มเติมหรือแก้ไขความรู้ที่มีอยู่บน blog ไฟล์ RSS ก็จะทาการดึงเอาเนื้อหานั้น ๆ
มาใส่ไว้ในไฟล์ด้วยทันที
3. เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้
การเขียน blog จะอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นต่อความรู้ที่ผู้เขียนถ่ายทอดลงไปใน blog และ
ผู้เขียนได้เขียนโต้ตอบต่อความคิดเห็นนั้น ๆ ในลักษณะของการสนทนาเพื่อหาความแตกฉานในตัวความรู้
ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันสกัดความรู้ฝังลึกได้อย่างดี
4. เป็นเครื่องมือในการค้นหาความรู้ ผู้ชานาญการ และชุมชนปฏิบัติ
การเขียนและอ่าน blog เป็นวิธีการค้นหาความรู้ ช่วยให้ค้นพบผู้มีความรู้ความชานาญในด้านต่าง ๆ
ได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะโดยการเขียน blog ที่มักอ้างถึง blog อื่น ๆ
โดยการโยงลิค์ไปหาบทความหรือบันทึกนั้น ๆ อีกทั้งลิงค์ที่ผู้เขียนบรรจุไว้ใน blog ซึ่งอยู่นอกตัวบทความ
หรือการร่วมเป็นสมาชิกของ blog ชุมชน
5. เป็นเครื่องมือในการรวบรวมและแยกแยะประเภทของความรู้ สกัดแก่นความรู้
และสร้างความสัมพันธ์ของความรู้วิธีการหนึ่งที่ระบบ blog โดยทั่วไปนามาใช้ในการรวบรวมและแยกประเ
ภทของของบันทึก คือการให้ผู้เขียนระบุหมวดหมู่หรือคีย์เวิร์ดของบันทึกนั้น ๆ ไว้ซึ่งบันทึกหนึ่ง ๆ
5
อาจมีความเหมาะสมในการแยกหลายหมวดหมู่ ถือเป็นการสกัดแก่นความรู้จากขุมความรู้
โดยที่ตัวผู้เขียนเอง อาจจะดึงเอาคีย์เวิร์ดของชุมชนที่ถูกรวบรวมผู้ใช้หลายคน
6. เป็นเครื่องมือในการสร้างลาดับความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของความรู้โดยผู้นาเอาความรู้นั้
นไปใช้ สิ่งที่นักปฏิบัติด้านการจัดการความรู้อยากให้เกิดขึ้นภายหลังจากการที่ได้มีการจัดการความรู้ ก็คือ
การที่มีผู้อื่นนาเอาความรู้นั้น ๆ ไปใช้ให้เกิดผลและนาผลมาปรับปรุงความรู้เดิมให้เกิดความรู้ตัวใหม่
หรือทาให้ความรู้นั้น ๆ มีความถูกต้องมีหลักฐานที่วัดได้ทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ระบบ blog ประกอบกับเทคโนโลยีในการ พัฒนาเว็บในปัจจุบัน
สามารถสร้างระบบ Rating หรือระบบการจัดลาดับความน่าเชื่อถือ และความถูกต้องของความรู้หนึ่ง ๆ
ได้โดยตรงจากผู้อ่าน blog ซึ่งอาจจะเป็น ผู้ที่ได้นาเอาความรู้นั้นๆ ไปใช้เองอีกด้วย
หรือการแสดงสถิติต่างๆของ blog เช่น บันทึกที่ได้รับการแสดงข้อคิด เห็นมากที่สุด หรือ
บันทึกที่มีผู้อ่านมากที่สุด ก็สามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ
และความถูกต้องของความรู้ได้ในระดับหนึ่งด้วยเช่นกัน
7. ใช้เป็นเครื่องมือแสดงรายละเอียดของแก่นความรู้อย่างเป็นระบบซึ่งนักวิทยาศาสตร์ อัลเบิร์ต
ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า“Imagination is more important than knowledge.” การไม่หยุดคิดที่จะวิจัยและพัฒนา
เครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบของระบบ
การจัดการกับความรู้เป็นสิ่งที่สนับสนุนให้เกิดขึ้นได้เช่น
ในปัจจุบันระบบ blog ถือว่าเป็นเครื่องมือสาหรับเสริมสร้างประสิทธิภาพในการเล่าเรื่อง
ซึ่งถือเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการจัดการความรู้
แต่เพื่อที่จะสกัดความรู้ฝังลึกที่มีความซับซ้อน การใช้เทคนิคการเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว
หรือการร่วมช่วยกันเล่าก็ตาม ก็อาจจะยังไม่สามารถสกัดเอาความรู้ออกมาได้หมด เพราะความสับสน
และความไม่มีรูปแบบในตัว ของความรู้เอง ดังนั้น
เทคโนโลยีที่น่าจะสามารถช่วยจัดการความรู้ประเภทนี้ได้ก็เช่น Rule-based reasoning หรือ Fuzzy
logic เพื่อ ใช้ในการทาเหมืองความรู้ ( Knowledge mining ) เป็นต้น
8. เป็นศูนย์ความรู้ขององค์การ เพราะให้พนักงานและบุคลากร แต่ละคนเขียน blog ส่วนตัวไว้
หากพนักงานและบุคลากรท่านนั้นลาออกไป ความรู้ยังคงอยู่ที่องค์กรให้รุ่นน้องศึกษาไปโดยการถ่ายทอด
หรือแลกเปลี่ยนความรู้ โดยเฉพาะ Tacit Knowledge เขียนออกมาเป็น “เรื่องเล่า”
2.2 เอกสารเกี่ยวกับความหมายของขนมกลีบลาดวน
ขนมกลีบลาดวนเป็นขนมมงคลอีกชนิดหนึ่ง ทาจากแป้งสาลี และอบควันเทียน
นิยมใช้ในงานแต่งงานสมัยก่อน ความหมายของขนมกลีบลาดวนนี้คือ
ชื่อเสียงขจรขจายไปไกลทั่วและมีอีกความหมายคือ สร้างความงดงามให้กับชีวิต เพราะขนมกลีบลาดวน
จะทาเป็นกลีบดอก 3 กลีบมาติดกันและมีเกสรอยู่ตรงกลางดอกลาดวนตอนกลางคืนจะส่งกลิ่นหอมอบอวลเ
6
ป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ขนมชนิดนี้เก็บได้นาน
เหมาะสาหรับเก็บไว้ทานหรือเป็นของฝากผู้ที่อยู่ไกลๆ หอม หวาน อร่อย จนติดใจ
วิธีดาเนินงาน
อุปกรณ์
- เตาอบ
- ถาดใส่ขนม
- ที่ร่อนแป้ง
- ถ้วยตวง
- ช้อนตวง
ส่วนผสม
- แป้งว่าวร่อน 3 ถ้วย
- น้ามันพืช¾ ถ้วย
- น้าตาลไอซ์ซิ่ง 1½ ถ้วย
วิธีการทาขนมกลีบลาดวน
1.ผสมแป้งกับน้าตาลไอซ์ซิ่งคลุกให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ามันพร้อมกับนวดคลุกเคล้า ให้เข้ากัน
2.นาแป้งมาปั้นเป็นกลีบยาวคล้ายกลีบดอกลาดวน และปั้นลูกกลมๆ เล็กๆ เป็นเกสรดอกลาดวน
นากลีบดอกสามดอกจับปลายให้ชนติดกัน ใส่เกสรติดตรงกลางดอก
แล้ววางเรียงบนถาดสาหรับนาเข้าเตาอบ
3.อบด้วยความร้อน 350 oF จนสุก พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ขวด อบด้วยควันเทียน
สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน
7
งบประมาณ ประมาณ 200 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1. ฝึกการทางานและฝึกการเข้าครัว
2. การทาบล็อก
3. ฝึกการใช้คอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์
สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง การงานอาชีพและเทคโนโลยี
แหล่งอ้างอิง
http://mkpyn.blogspot.com/2012/12/61_23.html

More Related Content

What's hot

รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์Chuthamani Phromduangdi
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2monrudeezaza
 
ครูไทยหัวใจไอที1
ครูไทยหัวใจไอที1ครูไทยหัวใจไอที1
ครูไทยหัวใจไอที1guest3114116
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์kamonrat5626
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้nongponthip10
 
Project3
Project3Project3
Project3Mmike3
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์Aunchisa Phongchana
 
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...BlogAseanTraveler
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำNew Tomza
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กJirarat Tesarin
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กPoMpam KamOlrat
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์oraya502
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้น
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้นแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้น
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้นchaiwat vichianchai
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญjjrrwnd
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์Thanakon504
 
โครงงานตัดต่อวีดีโอ
โครงงานตัดต่อวีดีโอโครงงานตัดต่อวีดีโอ
โครงงานตัดต่อวีดีโอManussawee Rattana
 

What's hot (20)

รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
 
ครูไทยหัวใจไอที1
ครูไทยหัวใจไอที1ครูไทยหัวใจไอที1
ครูไทยหัวใจไอที1
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ถูกนำมาใช้กับการจัดการความรู้
 
Project3
Project3Project3
Project3
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Projectm6 2-2556 (1)
Projectm6 2-2556 (1)Projectm6 2-2556 (1)
Projectm6 2-2556 (1)
 
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...
รายงานโครงการคอมพิวเตอร์ กลุ่ม Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสม...
 
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำบทที่ 1 บทนำ
บทที่ 1 บทนำ
 
Turnitin
TurnitinTurnitin
Turnitin
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็ก
 
สมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็กสมุดเล่มเล็ก
สมุดเล่มเล็ก
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้น
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้นแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้น
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูไชยวัฒน์ ม.ต้น
 
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญใบงานท   2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
ใบงานท 2 เร__อง ความหมายและความสำค_ญ
 
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
การเขียนรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานตัดต่อวีดีโอ
โครงงานตัดต่อวีดีโอโครงงานตัดต่อวีดีโอ
โครงงานตัดต่อวีดีโอ
 
work6
work6work6
work6
 

Viewers also liked

7 สามัญ อังกฤษ เฉลย
7 สามัญ อังกฤษ เฉลย7 สามัญ อังกฤษ เฉลย
7 สามัญ อังกฤษ เฉลยKornkaruna Lawanyakul
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษKornkaruna Lawanyakul
 
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลยwasanasiri43965
 
7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยาwasanasiri43965
 
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยายwasanasiri43965
 
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลยwasanasiri43965
 
7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลยwasanasiri43965
 
How to Use Social Media to Influence the World
How to Use Social Media to Influence the WorldHow to Use Social Media to Influence the World
How to Use Social Media to Influence the WorldSean Si
 

Viewers also liked (15)

Math2556
Math2556Math2556
Math2556
 
Phy2556
Phy2556Phy2556
Phy2556
 
Chem2556
Chem2556Chem2556
Chem2556
 
7 สามัญ อังกฤษ เฉลย
7 สามัญ อังกฤษ เฉลย7 สามัญ อังกฤษ เฉลย
7 สามัญ อังกฤษ เฉลย
 
7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม7 สามัญ สังคม
7 สามัญ สังคม
 
7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ7 สามัญ อังกฤษ
7 สามัญ อังกฤษ
 
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
7 สามัญ ฟิสิกส์ เฉลย
 
7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา7 สามัญ ชีววิทยา
7 สามัญ ชีววิทยา
 
Thai2555
Thai2555Thai2555
Thai2555
 
Social
SocialSocial
Social
 
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย
7วิชาสามัญ เคมี เฉลย ขยาย
 
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย
7วิชาสามัญ ภาษาอังกฤษ + เฉลย
 
กสพท. ภาษาไทย 2558
กสพท. ภาษาไทย 2558กสพท. ภาษาไทย 2558
กสพท. ภาษาไทย 2558
 
7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย
 
How to Use Social Media to Influence the World
How to Use Social Media to Influence the WorldHow to Use Social Media to Influence the World
How to Use Social Media to Influence the World
 

Similar to 2558 project (1)

2562 final-project 2
2562 final-project 22562 final-project 2
2562 final-project 2ssuser37a5ed
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานwisita42
 
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้ง
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้งคอลลาเจนฟรุ้งฟริ้ง
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้งpropsets
 
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์greatzaza007
 
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนโครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนBlogAseanTraveler
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน Nongnut Wasikarn
 
ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8PluemSupichaya
 
กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3dannttml
 
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ - Suradet sriangkoon
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ -  Suradet sriangkoonเครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ -  Suradet sriangkoon
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ - Suradet sriangkoonSuradet Sriangkoon
 
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานแบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานKrooIndy Csaru
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2
โครงงานคอมพิวเตอร์2โครงงานคอมพิวเตอร์2
โครงงานคอมพิวเตอร์2Fayefa Kawinthida
 
Projectm6 2-2556 (เสร จ)
Projectm6 2-2556 (เสร จ)Projectm6 2-2556 (เสร จ)
Projectm6 2-2556 (เสร จ)adaxxrose
 

Similar to 2558 project (1) (20)

2562 final-project 2
2562 final-project 22562 final-project 2
2562 final-project 2
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
 
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้ง
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้งคอลลาเจนฟรุ้งฟริ้ง
คอลลาเจนฟรุ้งฟริ้ง
 
K3
K3K3
K3
 
K3
K3K3
K3
 
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนโครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
 
2561 project
2561 project2561 project
2561 project
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
 
ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8ใบงานที่ 2 - 8
ใบงานที่ 2 - 8
 
กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3
 
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ - Suradet sriangkoon
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ -  Suradet sriangkoonเครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ -  Suradet sriangkoon
เครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาระบบ Rm และอื่นๆ - Suradet sriangkoon
 
2561 project (3)
2561 project  (3)2561 project  (3)
2561 project (3)
 
2562 final-project 06
2562 final-project 062562 final-project 06
2562 final-project 06
 
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงานแบบเสนอหัวข้อโครงงาน
แบบเสนอหัวข้อโครงงาน
 
N
NN
N
 
โครงงานคอมพิวเตอร์2
โครงงานคอมพิวเตอร์2โครงงานคอมพิวเตอร์2
โครงงานคอมพิวเตอร์2
 
Projectm6 2-2556 (เสร จ)
Projectm6 2-2556 (เสร จ)Projectm6 2-2556 (เสร จ)
Projectm6 2-2556 (เสร จ)
 
K3
K3K3
K3
 
03
0303
03
 

More from wasanasiri43965

More from wasanasiri43965 (7)

Bio2556
Bio2556Bio2556
Bio2556
 
Thai2556
Thai2556Thai2556
Thai2556
 
Eng2556
Eng2556Eng2556
Eng2556
 
Social2556
Social2556Social2556
Social2556
 
Blogger
BloggerBlogger
Blogger
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
 
ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6ใบงานสำรวจตนเอง M6
ใบงานสำรวจตนเอง M6
 

2558 project (1)

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2558 ชื่อโครงงาน ขนมกลีบลาดวน ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.น.ส. วาสนา ผุลละศิริ เลขที่ 12 ชั้น 6 ห้อง 8 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม .…… 1………………………………….. เลขที่……… 2…………………………………เลขที่ ………. 3………………………………….. เลขที่……… คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ขนมกลีบลาดวน ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Duan petals candy. ประเภทโครงงานทดลอง ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส. วาสนา ผุลละศิริ ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงานภาคเรียนที่ 1- 2 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ขนมไทย เป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยตั้งแต่สมัยก่อนและสืบทอดมายังลูกหลายรุ่นต่อรุ่นตามที่ปรากฏตา มกลักฐานสาคัญต่างๆตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าขนมไทยเป็นสิ่งสาคัญสาหรับคนไทย ทั้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่รวมถึงพิธีกรรมต่างๆก็ใช้ขนม ไทยเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าขนมไทยเป็นขนมมงคล อีกทั้งขนมไทยยังเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งบ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทย แต่ในปัจจุบันนี้ขนมไทยเริ่มที่จะเลือนหายไป เพราะขาดผู้สืบทอดและสนใจ อย่างจริงจัง กลุ่มของข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ขนมไทยโดยการไปศึ กษาและเรียนรู้วิธีการทาขนม และนามาเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้ลองทากันดูง่ายๆ จึงเลือกขนมที่เป็นขนมทานเล่นและทาได้ง่ายๆ มาให้ล องทากันดู และปัจจุบันวัยรุ่นสมัยใหม่แทบที่จะไม่รู้จัก ขนมกลีบลาดวนนี้ กลุ่มของข้าพเจ้าจึงขอสาธิตวิธีการทาขนมกลีบลาดวน
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของคนไทยในการทาขนมไทยให้คงอยู่ 2. มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์การทาขนมไทย 3. สามารถศึกษาวิธีการทาขนมไทยและทาเองได้ 4. สาธิตวิธีการทาขนมกลีบลาดวนให้ผู้ที่สนใจ 5. สามารถทาเป็นอาชีพได้สาหรับผู้ที่สนใจ ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) - การทากลีบลาดวน ทาได้ทุกคนเป็นขนมหวานที่ทาได้ง่ายและทาได้ทุกครอบครัว หลักการและทฤษฎี ความหมายของบล็อก หรือ เว็บบล็อก อ้างอิงตามบทความเรื่องบล็อก ( Blog or Weblog) คืออะไร? ในเว็บไซต์GotoKnow.org เขียนโดย ดร.จันทวรรณปิยะวัฒน์ ( http://gotoknow.org/blog /tutorial/3) ได้ให้นิยามไว้ดังนี้ "บล็อก ( Blog) หรือ เว็บบล็อก (Weblog) เป็นเว็บไซต์สาหรับเขียนบันทึกเล่าเรื่องราวประจาวันเพื่อสื่อสารความรู้สึกนึกคิดมุมมอง ประสบการณ์ ความรู้ และข่าวสาร ในเรื่องที่ผู้เขียนท่านหนึ่งๆ ( Blogger) สนใจโดยเฉพาะ ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้ทาให้บล็อกต่างกับเว็บบอร์ด และเนื่องจากความจริงใจและอิสระทางความคิดที่สื่อสารออกไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะของบุคคลที่หนึ่ง เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของผู้เขียนได้เป็นอย่างดีทีเดียว จึงทาให้บล็อกเป็นสื่อที่นิยมมากขึ้นเรื่องๆ ในนานาประเทศ" วิธีการสังเกตลักษณะของเว็บไซต์ที่เป็นบล็อกนั้น ให้พิจารณาจากลักษณะต่างๆ ดังนี้คือ „ มีการบันทึกเนื้อหาโดยเจ้าของบล็อกอย่างสม่าเสมอ „ ข้อมูลจะถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ คือ รายการล่าสุดจะถูกแสดงไว้ด้านบนสุดของเว็ปเพจ แล้วไล่ลาดับย้อนหลังตามวันเวลาการเขียนไปเรื่อยๆ „ มักจะมีการลิงก์ไปหาบล็อกอื่นที่ผู้เขียนสนใจ หรือได้เสนอความคิดเห็นโยงต่อจากข้อเขียนที่เขาอ้างถึง ดังนั้น นอกจากบล็อกจะใช้ในการเขียนและเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งรวมลิงก์ที่เจ้าของบล็อกนั้นๆ ใช้เป็นฐานเพื่อเสริมต่อความรู้อยู่เป็นประจา ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ของบล็อกอื่นๆ หรือลิงก์ของเว็บไซต์ก็ตาม
  • 4. 4 „ บันทึกที่เขียนไว้ในบล็อกมักจะมีการแยกแยะเป็นกลุ่มเนื้อหาตามหัวข้อหลักๆ ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเพื่อช่วยอานวยความสะดวกให้แก่ผู้อ่านที่สนใจในบันทึกที่มีความสัมพันธ์กันในใจความห ลัก „ และเมื่อผู้อ่านได้รับความรู้ต่างๆ จากผุ้เขียนบล็อกแล้ว ผู้อ่านมักจะมีการเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มผู้อ่านและผู้เขียนบล็อก ประโยชน์ของบล็อก 1. ใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้ การเขียน blog สาหรับบันทึกเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสมองลงสู่ตัวหนังสือการเขียนต้องมีอิสระทางความคิดในรูปแบบที่เป็ นตัวของตัวเอง จะช่วยอานวยให้การดึงเอาความรู้ฝังลึกถูกแสดงออกมาได้โดยไม่ยากนัก และการเขียน blog อยู่เป็นประจาก็จะสามารถนามาสู่การสร้างขุมความรู้ ( Knowledge Assets ) อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ การเก็บรวบรวมและการแก้ไขหรือเพิ่มเติมความรู้ก็ทาได้โดยสะดวก รวดเร็ว 2. เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้ โดยหลักการของ blog คือการเผยแพร่เรื่องราวที่ผู้เขียนเขียนไว้บน blog เพื่อแสดงตัวตนของผู้เขียนออกสู่สา ธารณชนซึ่งนั่นหมายถึง blog ย่อมมีความสามารถในการสนับสนุนการเข้าถึงความรู้ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทันทีที่ผู้เขียนมีการเพิ่มเติมหรือแก้ไขความรู้ที่มีอยู่บน blog ไฟล์ RSS ก็จะทาการดึงเอาเนื้อหานั้น ๆ มาใส่ไว้ในไฟล์ด้วยทันที 3. เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้ การเขียน blog จะอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นต่อความรู้ที่ผู้เขียนถ่ายทอดลงไปใน blog และ ผู้เขียนได้เขียนโต้ตอบต่อความคิดเห็นนั้น ๆ ในลักษณะของการสนทนาเพื่อหาความแตกฉานในตัวความรู้ ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันสกัดความรู้ฝังลึกได้อย่างดี 4. เป็นเครื่องมือในการค้นหาความรู้ ผู้ชานาญการ และชุมชนปฏิบัติ การเขียนและอ่าน blog เป็นวิธีการค้นหาความรู้ ช่วยให้ค้นพบผู้มีความรู้ความชานาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะโดยการเขียน blog ที่มักอ้างถึง blog อื่น ๆ โดยการโยงลิค์ไปหาบทความหรือบันทึกนั้น ๆ อีกทั้งลิงค์ที่ผู้เขียนบรรจุไว้ใน blog ซึ่งอยู่นอกตัวบทความ หรือการร่วมเป็นสมาชิกของ blog ชุมชน 5. เป็นเครื่องมือในการรวบรวมและแยกแยะประเภทของความรู้ สกัดแก่นความรู้ และสร้างความสัมพันธ์ของความรู้วิธีการหนึ่งที่ระบบ blog โดยทั่วไปนามาใช้ในการรวบรวมและแยกประเ ภทของของบันทึก คือการให้ผู้เขียนระบุหมวดหมู่หรือคีย์เวิร์ดของบันทึกนั้น ๆ ไว้ซึ่งบันทึกหนึ่ง ๆ
  • 5. 5 อาจมีความเหมาะสมในการแยกหลายหมวดหมู่ ถือเป็นการสกัดแก่นความรู้จากขุมความรู้ โดยที่ตัวผู้เขียนเอง อาจจะดึงเอาคีย์เวิร์ดของชุมชนที่ถูกรวบรวมผู้ใช้หลายคน 6. เป็นเครื่องมือในการสร้างลาดับความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของความรู้โดยผู้นาเอาความรู้นั้ นไปใช้ สิ่งที่นักปฏิบัติด้านการจัดการความรู้อยากให้เกิดขึ้นภายหลังจากการที่ได้มีการจัดการความรู้ ก็คือ การที่มีผู้อื่นนาเอาความรู้นั้น ๆ ไปใช้ให้เกิดผลและนาผลมาปรับปรุงความรู้เดิมให้เกิดความรู้ตัวใหม่ หรือทาให้ความรู้นั้น ๆ มีความถูกต้องมีหลักฐานที่วัดได้ทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ระบบ blog ประกอบกับเทคโนโลยีในการ พัฒนาเว็บในปัจจุบัน สามารถสร้างระบบ Rating หรือระบบการจัดลาดับความน่าเชื่อถือ และความถูกต้องของความรู้หนึ่ง ๆ ได้โดยตรงจากผู้อ่าน blog ซึ่งอาจจะเป็น ผู้ที่ได้นาเอาความรู้นั้นๆ ไปใช้เองอีกด้วย หรือการแสดงสถิติต่างๆของ blog เช่น บันทึกที่ได้รับการแสดงข้อคิด เห็นมากที่สุด หรือ บันทึกที่มีผู้อ่านมากที่สุด ก็สามารถเป็นเครื่องมือพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ และความถูกต้องของความรู้ได้ในระดับหนึ่งด้วยเช่นกัน 7. ใช้เป็นเครื่องมือแสดงรายละเอียดของแก่นความรู้อย่างเป็นระบบซึ่งนักวิทยาศาสตร์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า“Imagination is more important than knowledge.” การไม่หยุดคิดที่จะวิจัยและพัฒนา เครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อช่วยสร้างความสมบูรณ์แบบของระบบ การจัดการกับความรู้เป็นสิ่งที่สนับสนุนให้เกิดขึ้นได้เช่น ในปัจจุบันระบบ blog ถือว่าเป็นเครื่องมือสาหรับเสริมสร้างประสิทธิภาพในการเล่าเรื่อง ซึ่งถือเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการจัดการความรู้ แต่เพื่อที่จะสกัดความรู้ฝังลึกที่มีความซับซ้อน การใช้เทคนิคการเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว หรือการร่วมช่วยกันเล่าก็ตาม ก็อาจจะยังไม่สามารถสกัดเอาความรู้ออกมาได้หมด เพราะความสับสน และความไม่มีรูปแบบในตัว ของความรู้เอง ดังนั้น เทคโนโลยีที่น่าจะสามารถช่วยจัดการความรู้ประเภทนี้ได้ก็เช่น Rule-based reasoning หรือ Fuzzy logic เพื่อ ใช้ในการทาเหมืองความรู้ ( Knowledge mining ) เป็นต้น 8. เป็นศูนย์ความรู้ขององค์การ เพราะให้พนักงานและบุคลากร แต่ละคนเขียน blog ส่วนตัวไว้ หากพนักงานและบุคลากรท่านนั้นลาออกไป ความรู้ยังคงอยู่ที่องค์กรให้รุ่นน้องศึกษาไปโดยการถ่ายทอด หรือแลกเปลี่ยนความรู้ โดยเฉพาะ Tacit Knowledge เขียนออกมาเป็น “เรื่องเล่า” 2.2 เอกสารเกี่ยวกับความหมายของขนมกลีบลาดวน ขนมกลีบลาดวนเป็นขนมมงคลอีกชนิดหนึ่ง ทาจากแป้งสาลี และอบควันเทียน นิยมใช้ในงานแต่งงานสมัยก่อน ความหมายของขนมกลีบลาดวนนี้คือ ชื่อเสียงขจรขจายไปไกลทั่วและมีอีกความหมายคือ สร้างความงดงามให้กับชีวิต เพราะขนมกลีบลาดวน จะทาเป็นกลีบดอก 3 กลีบมาติดกันและมีเกสรอยู่ตรงกลางดอกลาดวนตอนกลางคืนจะส่งกลิ่นหอมอบอวลเ
  • 6. 6 ป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ขนมชนิดนี้เก็บได้นาน เหมาะสาหรับเก็บไว้ทานหรือเป็นของฝากผู้ที่อยู่ไกลๆ หอม หวาน อร่อย จนติดใจ วิธีดาเนินงาน อุปกรณ์ - เตาอบ - ถาดใส่ขนม - ที่ร่อนแป้ง - ถ้วยตวง - ช้อนตวง ส่วนผสม - แป้งว่าวร่อน 3 ถ้วย - น้ามันพืช¾ ถ้วย - น้าตาลไอซ์ซิ่ง 1½ ถ้วย วิธีการทาขนมกลีบลาดวน 1.ผสมแป้งกับน้าตาลไอซ์ซิ่งคลุกให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ามันพร้อมกับนวดคลุกเคล้า ให้เข้ากัน 2.นาแป้งมาปั้นเป็นกลีบยาวคล้ายกลีบดอกลาดวน และปั้นลูกกลมๆ เล็กๆ เป็นเกสรดอกลาดวน นากลีบดอกสามดอกจับปลายให้ชนติดกัน ใส่เกสรติดตรงกลางดอก แล้ววางเรียงบนถาดสาหรับนาเข้าเตาอบ 3.อบด้วยความร้อน 350 oF จนสุก พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ขวด อบด้วยควันเทียน สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน
  • 7. 7 งบประมาณ ประมาณ 200 บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1. ฝึกการทางานและฝึกการเข้าครัว 2. การทาบล็อก 3. ฝึกการใช้คอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง การงานอาชีพและเทคโนโลยี แหล่งอ้างอิง http://mkpyn.blogspot.com/2012/12/61_23.html