SlideShare a Scribd company logo
1 of 14
Download to read offline
ประเภทและขั้นตอนการทา
โครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของ
โครงงาน
01โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสาร
02โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
03โครงงานจาลองทฤษฎี
04โครงงานประยุกต์ใช ้งาน
05โครงงานพัฒนาเกม
ประเภท โครงงาน
ของ
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสาร
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้
ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ โดยนักเรียนอาจคัดเลือก
หัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน
การพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนา
เครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์
ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูป
ซอฟต์แวร์
โครงงานพัฒนาเกม
เป็นโครงงานพัฒนา
ซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ ความ
เพลิดเพลิน ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะ
เน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการ
ใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ
โครงงานจาลองทฤษฎี
เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้
หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งใน
เรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิดแบบจาลอง
หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้
โครงงานประยุกต์ใช้งาน
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงาน
เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน โครงงานงาน
ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์
ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลง
ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้
ประเภท โครงงาน
ของ
ขั้นตอนการทาโครงงาน
คอมพิวเตอร์
คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
เรื่องที่นามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการ
สังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัวควร โครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้
1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ
2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง
3. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
4. งานอดิเรกของนักเรียน
5. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญ ดังนี้
1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
4. มีเวลาเพียงพอ
5. มีงบประมาณเพียงพอ
6. มีความปลอดภัย
1
ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและ
แหล่งข้อมูล
2
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่ง
รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้
แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้
เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะ
ศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทา
โครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า
1. จะทา อะไร
2. ทาไมต้องทา
3. ต้องการให้เกิดอะไร
4. ทาอย่างไร
5. ใช้ทรัพยากรอะไร
6. ทากับใคร
7. เสนอผลอย่างไร
องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน3
รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร วัตถุประสงค์
สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุด
โครงงาน
ประเภทโครงงาน
วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์
หรือผลงานที่ได้
หลักการและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎีที่นามาใช้ในการ
พัฒนาโครงงาน
ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็น
รายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน
ครูที่ปรึกษาโครงงาน
ครูผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุม
การทาโครงงานของนักเรียน
ขั้นตอนการปฏิบัติ
วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆ
ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ระยะเวลาดาเนินงาน
ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน
ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ
สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและ
ความคาดหวังที่จะเกิดผล
เอกสารอ้างอิง
สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่
นามาใช้ในการดาเนินงาน
การลงมือทาโครงงาน4
4.1 การเตรียมการ
เตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่
จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก
หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับ
บันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน
4.2 การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจ
เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้
2. จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลัก
สาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทา ส่วนที่เป็นส่วนประกอบ
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และ
บันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน ให้แน่ใจว่าผลงานที่
พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
ทาการอภิปรายผลเพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับ
หาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
ข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็น
ข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
การเขียนรายงาน5
5.1 ส่วนนา
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
คาขอบคุณ บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดาเนินการ
5.2 บทนา
ส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานประกอบด้วย ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เป้าหมาย
ของการศึกษาค้นคว้า ขอบเขตของโครงงาน
5.3 หลักการและทฤษฎี
ส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการ
พัฒนาโครงงาน
5.4 วิธีดาเนินการ
วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ
พร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทางาน
5.5 ผลการศึกษา
ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดย
อาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึง
ความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
5.6 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียน
ได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก
การนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
5.7 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทางาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐาน
ควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้
หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลอง
หรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน
การเขียนรายงาน5
5.8 บรรณานุกรม
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร
เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ค้นคว้า
หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นามาใช้
ประโยชน์ในการทา โครงงานนี้การเขียนเอกสาร
บรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน
หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนา
ระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช้
ผลงานนั้นโดยละเอียด
การเขียนรายงาน5
แสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการ
ทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้
และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลาย
รูปแบบต่างๆ กัน โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควร
ประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6. การสาธิตผลงาน
7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการ
ทาโครงงาน
แหล่งอ้างอิง
• http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COM
PUTER/M4/ComputerProject/content2.
html
• http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COM
PUTER/M4/ComputerProject/content1.
html
นายธีรพงษ์ แก้วใจ เลขที่46
นายรัชตภัณฑ สาระ เลขที่7

More Related Content

What's hot

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Kritsanapong Manoreaung
 
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภทSunipha Ruamsap
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานNuchy Geez
 
Presentation
PresentationPresentation
PresentationKUMBELL
 
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5Yokyok' Nnp
 
กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3PaiwarinLuanginta
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์คนไม่มีชื่อ จริงนะ
 
Types of computer projects
Types of computer projectsTypes of computer projects
Types of computer projectsWichuda45
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาFiction Lee'jslism
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือโครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือpim12582
 
Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1RungtiwaWongchai
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Phichak Penpattanakul
 

What's hot (20)

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
13
1313
13
 
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท
 
2 3
2 32 3
2 3
 
Work3
Work3Work3
Work3
 
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งานโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
 
Presentation
PresentationPresentation
Presentation
 
Work2 3
Work2 3Work2 3
Work2 3
 
ประเภทของโครงงาน
ประเภทของโครงงานประเภทของโครงงาน
ประเภทของโครงงาน
 
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5
โครงงานพ ฒนาเคร _องม_อ 5
 
กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3กิจกรรมที่2+3
กิจกรรมที่2+3
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Types of computer projects
Types of computer projectsTypes of computer projects
Types of computer projects
 
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
 
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือโครงงานพัฒนาเครื่องมือ
โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
 
ประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงานประเภทโครงงาน
ประเภทโครงงาน
 
งานคอม (1)
งานคอม (1)งานคอม (1)
งานคอม (1)
 
งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1งานนำเสนอ1
งานนำเสนอ1
 
Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1Power pointhub hand-painted-1-1
Power pointhub hand-painted-1-1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 

Similar to Project3

กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3TanakornKhamwang
 
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2TanakornKhamwang
 
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Petch Kanyapatch
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Punnapuch Chaudnuch
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3Stamprsn
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Mind Just'Smile
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์kanlayaann
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3Stamprsn
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Sunipha Ruamsap
 
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์fangfung
 
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์Thanatchaya21
 
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2 ppahn cheekbone
 
กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3phichaya henphrom
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์122 Chen
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์122 Chen
 

Similar to Project3 (20)

กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
 
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
 
1
11
1
 
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 2 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Random 110919034023-phpapp02
Random 110919034023-phpapp02Random 110919034023-phpapp02
Random 110919034023-phpapp02
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
Project3
Project3Project3
Project3
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทและขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 3 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมที่ 2
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8ใบงานที่ 2-8
ใบงานที่ 2-8
 
กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3กิจกรรมที่ 3
กิจกรรมที่ 3
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 

Project3

  • 3. ประเภท โครงงาน ของ โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการสื่อสาร โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ โดยนักเรียนอาจคัดเลือก หัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อใน การพัฒนาโปรแกรมบทเรียน โครงงานพัฒนาเครื่องมือ เป็นโครงงานเพื่อพัฒนา เครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูป ซอฟต์แวร์ โครงงานพัฒนาเกม เป็นโครงงานพัฒนา ซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ ความ เพลิดเพลิน ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะ เน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรงเน้นการ ใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ
  • 4. โครงงานจาลองทฤษฎี เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งใน เรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิดแบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้ โครงงานประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงาน เพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน โครงงานงาน ประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลง ของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ ประเภท โครงงาน ของ
  • 6. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ เรื่องที่นามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการ สังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัวควร โครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ 2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง 3. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 4. งานอดิเรกของนักเรียน 5. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญ ดังนี้ 1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 4. มีเวลาเพียงพอ 5. มีงบประมาณเพียงพอ 6. มีความปลอดภัย 1
  • 7. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและ แหล่งข้อมูล 2 การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่ง รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้ แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้ เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะ ศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทา โครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า 1. จะทา อะไร 2. ทาไมต้องทา 3. ต้องการให้เกิดอะไร 4. ทาอย่างไร 5. ใช้ทรัพยากรอะไร 6. ทากับใคร 7. เสนอผลอย่างไร
  • 8. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน3 รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุด โครงงาน ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์ หรือผลงานที่ได้ หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎีที่นามาใช้ในการ พัฒนาโครงงาน ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็น รายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้ วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครูผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุม การทาโครงงานของนักเรียน ขั้นตอนการปฏิบัติ วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและ ความคาดหวังที่จะเกิดผล เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่ นามาใช้ในการดาเนินงาน
  • 9. การลงมือทาโครงงาน4 4.1 การเตรียมการ เตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่ จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับ บันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน 4.2 การลงมือพัฒนา 1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจ เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ 2. จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลัก สาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทา ส่วนที่เป็นส่วนประกอบ 3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และ บันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน ให้แน่ใจว่าผลงานที่ พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ ทาการอภิปรายผลเพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับ หาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ ข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็น ข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
  • 10. การเขียนรายงาน5 5.1 ส่วนนา การให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย ชื่อโครงงาน ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา คาขอบคุณ บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดาเนินการ 5.2 บทนา ส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานประกอบด้วย ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เป้าหมาย ของการศึกษาค้นคว้า ขอบเขตของโครงงาน 5.3 หลักการและทฤษฎี ส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนามาใช้ในการ พัฒนาโครงงาน 5.4 วิธีดาเนินการ วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ พร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทางาน
  • 11. 5.5 ผลการศึกษา ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดย อาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึง ความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก 5.6 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียน ได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก การนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย 5.7 สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทางาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐาน ควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้ หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลอง หรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน การเขียนรายงาน5 5.8 บรรณานุกรม บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นามาใช้ ประโยชน์ในการทา โครงงานนี้การเขียนเอกสาร บรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย 5.9 การจัดทาคู่มือการใช้งาน หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนา ระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช้ ผลงานนั้นโดยละเอียด
  • 12. การเขียนรายงาน5 แสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการ ทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้ และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลาย รูปแบบต่างๆ กัน โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควร ประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6. การสาธิตผลงาน 7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการ ทาโครงงาน