More Related Content
Similar to โรคมะเร็งปอด (20)
More from Wan Ngamwongwan
More from Wan Ngamwongwan (18)
โรคมะเร็งปอด
- 2. โรคมะเร็งปอด
สาเหตุ
1. บุหรี่ การสูบบุหรีเ่ ป็ นสาเหตุทสาคัญที่สุดของการเกิดโรคมะเร็งปอด ผูสบบุหรีมีโอกาสเป็ น
ี่ ู้ ่
มะเร็งปอดมากกว่า
ผูไ้ ม่สบ10เท่าผูทตองสูดดมควันบุหรีของ ผูอน เสียงต่อการเป็ นโรคมะเร็งปอดด้วย ควันบุหรี่
ู ้ ่ี ้ ่ ้ ่ื ่
มีสาร
ประกอบมากกว่า 4,000 ชนิด และในจานวนนี้มีประมาณ 60 ชนิด ทีเ่ ป็ นสารก่อมะเร็ง
ตัวกระตุนและตัว
้
ส่งเสริมให้เกิดมะเร็งปอด ได้แก่ ทาร์ นิโคติน คาร์บอนมอนนอกไซด์ ไฮโดรเจนไซยานายด์ ฟี
นอล
แอมโมเนีย เบ็นซิน และ ฟอร์มาลดีฮายด์ เป็ นต้น
่ ่
มะเร็งปอด พบมากในภาคเหนือของประเทศไทย ซึงนิยม สูบบุหรีพ้ ืนเมือง ขี้โยหรือยามวน ซึง ่
มีปริมาณทาร ์์
่
และ สารก่อมะเร็ง อืนๆ สูง
- 3. ่ี
2. แอสเบสตอส เป็ นแร่ทใช้ในอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น การก่อสร้าง โครงสร้างอาคาร ผ้าเบรค คลัช
ฉนวนความร้อนอุตสาหกรรมสิงทอเหมืองแร่ผูทเ่ี สียง ได้แก่ ผูททางานในสิงแวดล้อมทีมี
่ ้ ่ ้ ่ี ่ ่
แอสเบสตอสเป็ นส่วน ประกอบระยะเวลาตังแต่สมผัสฝุ่ นแอสเบสตอสจนเป็ นมะเร็งปอด อาจใช้ เวลา 15–
้ ั
35 ปี ผูไ้ ม่สบบุหรี่ แต่ทางานกับฝุ่ นแร่แอสเบสตอส เสียงต่อมะเร็ง ปอดมากกว่าคนทัว ไป 5 เท่า
ู ่ ่
่ ่ ่
ผูสบบุหรีและทางานกับฝุ่ นแร่แอสเบสตอสด้วย เสียงต่อมะเร็งปอดมากกว่า คนทัวไปถึง 90 เท่า
ู้
- 4. 3.เรดอน เป็ นก๊าซกัมมันตรังสี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
ไม่มีรส เกิดจากการสลายตัว ของแร่
่
ยูเรเนียมในใยหิน ซึง
กระจายอยูในอากาศและนาใต้ดน ในทีๆ
่ ้ ิ ่
อากาศ ไม่ถ่ายเท เช่น ในเหมืองใต้ดนอาจมี
ิ
ปริมาณมากทาให้มี
่
ความเสียงต่อการ เกิดมะเร็งปอดได้
4.มลภาวะในอากาศ ได้แก่ไอควันพิษจาก
รถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม เป็ นต้น
- 5. อาการ
ระยะเริ่ มแรกของโรค ไม่มีอาการใดใด
ที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็ นมะเร็ ง ปอด
แต่อาจพบอาการไอเรื้ อรัง
ลักษณะไอแห้งๆ นานกว่าธรรมดา
บางครั้ง มีเสมหะ หรื อมีเลือดออกเป็ น
เพียงสายๆติดปนกับเสมหะออกมา
น้ าหนักลด เบื่ออาหาร ซี ด อ่อนเพลีย
ปอดอักเสบ มีไข้ เจ็บหน้าอก ซึ่งอาจทา
ให้ผป่วยไม่มาพบแพทย์ เพื่อรับการ
ู้
รักษา ทาให้โอกาสที่จะรักษา
หายลดน้อยลง
- 6. อาการ
1. ไอแห้งๆ อยูนานกว่าธรรมดา
่
2. ไอมีเสมหะ
3. ไอเป็ นเลือด แต่เลือดมักออกปนมากับเสมหะ
4. ปอดอักเสบ มีไข้ เจ็บหน้าอก
5. นาหนักลด เบื่ออาหาร ซีด อ่อนเพลีย
้
6. เสียงแหบ เพราะมะเร็งลุกลามไปยังประสาทบริเวณกล่องเสียง
7. บวมทีหน้า คอ แขน และอกส่วนบน เนื่องจากมีเลือดดาคัง
่ ่
8. หายใจลาบาก และหอบเหนื่อย เนื่องจากก้อนมะเร็งโตขึ้น ทาให้เนื้อทีปอดสาหรับหายใจเหลือ
่
น้อยลงไม่เพียงพอกับ ความต้องการของร่างกาย
9. กลืนลาบาก เนื่องจากหลอดอาหารถูกกด
10. เจ็บปวด เนื่องจากมะเร็งลุกลามแพร่กระจายไปในกระดูก ผนังอก ฯลฯ
11. อัมพาด เนื่องจากมะเร็งแพร่กระจาย ไปยังสมองหรือไขสันหลัง
- 7. การวินิจฉัย
1. ถ่ายภาพเอ็กซเรย์ปอด
2. ตรวจเสมหะที่ไอออกมาเพื่อหา
เซลล์มะเร็ ง
3. ส่ องกล้องตรวจดูภายในหลอดลม
4. ขลิบชิ้นเนื้อจากหลอดลมหรื อต่อม
น้ าเหลือง บริ เวณไหปลาร้า เพื่อการ
วินิจฉัยทางพยาธิวิทย
- 8. การรักษา
เมื่อพบว่าเป็ นโรคมะเร็งปอด
แน่นอนแล้วแพทย์จะเป็ นผู ้
ตัดสินใจว่าผูป่วย้
ควรจะได้รบการรักษาแบบใดจึงจะ
ั
่
เหมาะสมทีสุด โดยพิจารณาถึง
อายุ ภาวะ
ความแข็งแรงของร่างกาย ระยะ
ของโรค ชนิดของมะเร็งและการ
ยอมรับ
่
ของผูป่วย ซึงการรักษาจะ
้
ประกอบด้วย
1. การผ่าตัด
2. รังสีรกษา
ั
3. เคมีบาบัด
4. การรักษาแบบผสมผสาน
วิธีการดังกล่าวข้างต้น
5. การรักษาแบบประคับประคอง
- 9. การปองกัน
้
1. เลิกสูบบุหรี่
2. หลีกเลี่ยงการได้รบมลพิษใน
ั
่
สิงแวดล้อม
3. รับประทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น และ
่
อาหารทีมี วิตามินซี วิตามินอี รวมทัง้
เซเลเนียม เช่น ข้าวซ้อมมือ รา
่
ข้าว และออกกาลังกายสมาเสมอ อาจลด
่
ความเสียงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอด
่
4. การรับประทานอาหารทีมีไขมันสูง การ
ดืมสุราอาจเพิ่มความเสียง ต่อการ
่ ่
เกิดโรคมะเร็งปอดได้