SlideShare a Scribd company logo
1 of 63
Download to read offline
สอนโดย
ครู อุ่นเรือน วัฒนนภาเกษม
ตาแหน่งครูฝึกอาชีพ
บทที่ 1
อาหารและโภชนาการกับการจัดเลี้ยง
ความหมายของคาว่าอาหาร
อาหาร หมายถึง สิ่งที่มนุษย์กิน ดื่มหรือรับเข้าร่างกายโดยไม่มี
พิษแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่สึก
หรอและทาให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายดาเนินการไปอย่าง
ปกติซึ่งรวมถึงน้าด้วย ดังนั้นอาหารประจาวันของมนุษย์จึง
จาเป็นต้องประกอบด้วยอาหารหลายๆอย่าง เพื่อให้ร่างกาย
ได้รับสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกายครบถ้วน
ประโยชน์ของอาหาร
1.ให้พลังงานความร้อน
2.ช่วยบารุงร่างกาย
3.ช่วยควบคุมปฏิกิริยาทางเคมี
4.ช่วยในการป้องกันโรค
สรุป อาหารเป็นสิ่งจาเป็นแก่มนุษย์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ร่างกายอาหารช่วยทาให้ไม่หิวและสามารถช่วยสร้างให้
ร่างกายเจริญเติบโตและสมองแจ่มใส
ด้านจิตใจและอารมณ์อาหารช่วยสนองความอยาก
(ทาให้เกิดความสุขและความพึงพอใจ)
นอกจากนี้อาหารยังเป็นเครื่องแสดงฐานะทางเศรษฐกิจและ
สังคมและยังเป็ นเครื่องแสดงสัญญาลักษณ์ทาง
ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่มชน
หมายถึง การเปลี่ยนแปลงต่างๆของอาหาร
ที่กินเข้าไปในร่างกายตลอดจนพัฒนาการ
ของร่างกายอันเกิดจากสารอาหารไปหล่อ
เลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อและควบคุมการทางานของ
อวัยวะต่างๆในร่างกาย
โภชนาการ
สารอาหาร
สารอาหาร หมายถึงสารเคมีที่ประกอบอยู่
ในอาหารที่เรากิน มีอยู่ด้วยกัน 6 ชนิด คือ
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน
เกลือแร่ วิตามิน และ น้า
หน้าที่ของสารอาหาร
เราได้รับสารอาหารต่างๆในวันวันหนึ่งๆมากมาย
สารอาหารทาหน้าที่ได้หลายอย่างเช่น
คาร์โบไฮเดรต
ช่วยให้พลังงานและ
ความร้อนแก่ร่างกาย
ไขมัน
ช่วยให้พลังงานความร้อนช่วยป้องกัน
การกระทบกระเทือนที่จะเกิดแก่
อวัยวะภายในและป้องกันการสูญเสีย
ความร้อนภายในร่างกาย
โปรตีน
ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและ
ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ช่วยสร้างกาลังและภูมิต้านทานโรค
เกลือแร่
มีหลายชนิดด้วยกัน เช่น แคลเซียม ไอโอดีน
ฟอสฟอรัส ประโยชน์เกลือแร่ช่วยทาให้ร่างกาย
เจริญเติบโต ช่วยควบคุมการทางานของร่างกาย
ให้เป็นปกติ
วิตามิน
วิตามิน แบ่งได้เป็น ๒ พวกใหญ่ๆ คือ
วิตามินที่ละลายในไขมันหรือน้ามันได้แก่ A D E K
วิตามินที่ละลายในน้าได้แก่ Bรวม และC
ประโยชน์ต่อร่างกายคือ
ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง และช่วยให้อวัยวะ
ต่างๆทางานได้ตามปกติ
น้าน้ามีความสาคัญเกี่ยวกับการทางานของเซลล์
ช่วยในการไหลเวียนของเลือด การย่อย
อาหาร การขับถ่าย ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น ช่วย
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ
สรุป
การบริโภคอาหารในปริมาณที่เพียงพอ
ได้สัดส่วน และมีสารอาหารครบถ้วนตาม
ต้องการของร่างกาย ร่างกายก็สามารถนา
สารอาหารต่างๆไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่
ร่างกายได้อย่างเต็มที่
อาหารหลัก 5 หมู่ ของคนไทย
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า อาหารมีมากมายหลายชนิด แต่ถ้าเรานาอาหาร
แต่ละชนิดมาจัดหมวดหมู่ตามประโยชน์ของอาหาร จะแบ่งได้เป็น 5
ประเภท เราเรียกอาหาร 5 ประเภทนี้ว่า อาหารหลัก 5 หมู่
อาหารทั้ง 5 หมู่นี้มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน ในแต่ละวันเราจึงควรกิน
อาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่ วยบ่อย ๆ
อาหารหมู่นี้ส่วนใหญ่จะให้โปรตีน ประโยชน์ที่สาคัญคือ ทาให้
ร่างเจริญเติบโตทาให้ร่างกายแข็งแรง
มีภูมิต้านทานโรค นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ
อาหารที่มีโปรตีนคือ เนื้อ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง
ควรรับประทานไข่วันละฟองหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ3-4ฟอง
ควรรับประทานเนื้อสัตว์เท่าปลาทูตัวงามๆ1ตัว
ควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ1แก้ว
ข้าวแป้งน้าตาล เผือก มันจะให้สารอาหารประเภท
คาร์โบไฮเดรตซึ่งจะให้พลังงานแก่ร่างกายทาให้ร่างกาย
สามารถทางานได้และยังให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอีกด้วย
พลังงานที่ได้จากหมู่นี้ส่วนใหญ่จะใช้ให้หมดไปวันต่อวัน
เช่น ใช้ในการเดิน ทางาน
คนทั่วไปรับประทานอาหารประเภทนี้ในปริมาณ
มากอยู่แล้วเพราะอาหารหมู่นี้ราคาถูก ปริมาณ
อาหารหมู่นี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแต่ละคน
อาหารหมู่นี้จะให้วิตามินและเกลือแร่แก่ร่างกาย ช่วย
เสริมสร้างทาให้ร่างกาย แข็งแรง มีแรงต้านทานเชื้อโรค และ
ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ทางานได้อย่างเป็นปกติ
อาหารที่สาคัญของหมู่นี้ คือ ผักต่าง ๆ เช่น ตาลึง ผักบุ้ง
ผักกาด และผักใบเขียว
 ควรรับประทานผักสดทุกวันและควรรับประทานให้หลากหลาย
และควรมีหลายสี
ผลไม้ต่างๆจะให้วิตามินและเกลือแร่ ช่วยทาให้ร่างกาย
แข็งแรง มีแรงต้านทานโรค และมีกากอาหารช่วยทาให้ การ
ขับถ่ายของลาไส้เป็นปกติ
อาหารที่สาคัญ ได้แก่ ผลไม้ต่าง ๆ เช่น กล้วย มะละกอ ส้ม
มังคุด ลาไย เป็นต้น
ควรรับประทานผลไม้สดเป็นประจาทุกวันและควร
รับประทานให้หลากหลาย
ไขมันและน้ามันจะให้สารอาหารประเภทไขมันมากจะ
ให้พลังงานแก่ร่างกาย ทาให้ร่างกายเจริญเติบโต ร่างกายจะ
สะสมพลังงานที่ได้จากหมู่นี้ไว้ใต้ผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย เช่น บริเวณสะโพก ต้นขา เป็นต้น ไขมันที่
สะสมไว้เหล่านี้จะให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และให้
พลังงานที่สะสมไว้ใช้ในเวลาที่จาเป็นในระยะยาว
น้ามันพืชหรือไขมันจากพืชไม่มีโคเลสเตอรอล
และมีกรดไขมันที่จาเป็นแก่ร่างกายในปริมาณสูง
ดังนั้นจึงส่งเสริมให้ใช้น้ามันพืชแทนไขมันจาก
สัตว์ในการประกอบอาหารเช่นผัดหรือทออด
 ไม่มีอาหารชนิดใดที่มีสารอาหารต่างๆครบใน
ปริมาณที่เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย
ดังนั้นในวันหนึ่งๆเราจึงควรกินอาหารหลายๆชนิด
ด้วยกัน
บทที่ 2
นม และ ผลิตภัณฑ์
ปริมาณเป็น%
ชนิด
น้า โปรตีน ไขมัน น้าตาลแลค
โตส
เถ้า
น้านมคน ๘๗.๔๓ ๑.๖๓ ๓.๗๕ ๖.๙๘ ๐.๒๑
น้านมวัว ๘๗.๒๐ ๓.๕๐ ๓.๗๐ ๔.๙๐ ๐.๗๐
น้านมควาย ๘๒.๗๖ ๓.๖๐ ๗.๓๘ ๕.๔๘ ๐.๘๙
น้านมแพะ ๘๗.๒๒ ๓.๗๑ ๔.๐๙ ๔.๒๐ ๐.๗๘
น้านมแกะ ๘๓.๕๗ ๕.๑๕ ๖.๑๘ ๔.๑๗ ๐.๙๓
ตารางแสดงส่วนประกอบของน้านมจากแหล่งต่างๆ
คุณค่าทางอาหารของนม
โปรตีน
ไขมัน
-คาร์โบไฮเดรท
เกลือแร่
วิตามิน
น้า
นม ให้คาร์โบไฮเดรต
น้าตาลในนมเป็นน้าตาลสองชั้น มีชื่อว่า
แลคโตส( Lactose )
สาหรับทารกน้าตาลชนิดนี้มีคุณค่าสูงกว่า
น้าตาลชนิดอื่น เพราะช่วยดูดซึม
ฟอสฟอรัสและแคลเซียม
นมให้ไขมัน
ไขมันในน้านมหรือที่เรียกว่า มันเนย เป็นแหล่ง
พลังงานและมีกรดไขมันที่จาเป็นต่อร่างกาย ในปัจจุบัน
นมที่มีขายในตลาดใช้ไขมันเป็นตัววัดปริมาณ นมที่มี
ไขมันสูงจะขายได้ในราคาดีกว่านมที่มีไขมันต่า
กระทรวงสาธารสุขกาหนดไว้ว่า น้านมสดต้องมีมันเนย
ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 3.25
นมให้โปรตีน
น้านมสด 1 ถ้วยตวงจะมีปริมาณโปรตีน 8 กรัม
โปรตีนในน้านมจึงมีคุณภาพสูงและเป็นโปรตีนที่
สมบูรณ์มีกรด อะมิโนที่จาเป็นที่จาเป็นต่อร่างกาย
เป็นพิเศษ คือ ไลซีน และลูซีน
นมให้เกลือแร่
ในน้านมมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาก
นม 1 ถ้วยตวงมีปริมาณแคลเซียม 300 มิลลิกรัม
นมให้วิตามิน
วิตามิน A วิตามิน B2
วิตามิน c วิตามิน D
มี 2 วิธี
1 พาสเจอร์ไรท์เซชั่น
2 สเตอร์ริไลท์เซชั่น
การฆ่าเชื้อโรคในน้านม
นมพาสเจอร์ไรท์
การฆ่าเชื้อ จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคทุก
ชนิดโดยใช้ความร้อนปลานกลางระยะ
เวลาพอเหมาะแล้วนาไปทาให้เย็นทันทีที่อุณหภูมิ
ต่ากว่า 10 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิที่ใช้ในการฆ่าเชื้อได้แก่63องศาเซลเซียส
เวลานาน 30 นาทีหรืออุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียส
เวลานาน 10 - 15 นาที อุณหภูมิและเวลาดังกล่าว
ได้พิสูจน์ว่าจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคต่าง เช่น เชื้อวัณโรค
จะถูกทาลายจนหมดสิ้น
ข้อควรรู้เกี่ยวกับนมพาสเจอร์ไรซ์
ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
นมพาสเจอร์ไรท์จะมีกาหนดเวลาสั้น
นมพาสเจอร์ไรซ์เก็บไว้ในตู้เย็นก็เสียได้
ตัวอย่างนมพาสเจอร์ไรท์
นมสเตอร์ริไลเซชั่น sterilization
นมสเตอร์ริไลจะใช้ความร้อนสูง
ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทุกชนิด
สเตอริไลเซชั่น
มีผลิตภัณฑ์ที่ได้ 2 แบบ
แบบบรรจุกระป๋ องธรรมดา อุณหภูมิที่ใช้ฆ่าเชื้อโรค
105-107 องศาเซลเซียสเวลา 25-30 นาที
แบบบรรจุกล่องกระดาษพิเศษ
แบบบรรจุกล่องกระดาษพิเศษ อุณหภูมิและเวลาที่ใช้ ได้แก่ 133
องศาเซลเซียสเวลาที่ใช้ไม่น้อยกว่า 1 วินาที ภายใต้ความกดดัน
อากาศจานวนหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดี คือนม U H T
UHTย่อมาจาก ( Ultra high temperature )
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับนม U H T
•คุณค่าทางอาหารของนม U H T
•การเก็บรักษานม U H T
•การเลือกดื่มนม
นมข้นจืด
นมเปรี้ยว
นมสดพร่องมันเนย
นมสดปรุงแต่ง
นมสด
นมคืนรูปปรุงแต่ง
นมผงนมข้นหวาน
ประเภทของนมพร้อมดื่ม
นมสด คือนมที่ทาจากน้านมสดแท้ทั้งหมดมีคุณค่าทาง
อาหารสูง
นมสดปรุงแต่ง คือนมที่ปรุงแต่งด้วย สี กลิ่น รสต่างๆ
นมสดพร่องมันเนย คือนมที่สกัดไขมันบางส่วนออก
นมคืนรูปปรุงแต่ง คือนมที่ได้จากการนานมผงมา
ละลายแล้วปรุงแต่งสี กลิ่น รส
นมเปี้ ยว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักน้านมกับจุลินทรีย์
โดยผู้ผลิตจะคัดเลือกจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ผสมในน้านมแล้วเก็บไว้ในระยะเวลาพอเหมาะ ความเปรี้ยวได้
เกิดจากจุลินทรีย์ ย่อยสลายน้าตาลแลคโตสในน้านมให้
เปลี่ยนเป็นกรดเรียกว่า กรดแลคติก
โยเกิร์ต คือนมที่ได้จากการทานมเปรี้ยวแต่ใช้เวลา
ในการหมักนามขึ้นจากน้านมเหลวเปลี่ยนเป็น
ลักษณะข้นขึ้น เหมือนเต้าฮวย
* นมเปรี้ยวควรใช้ดื่มในกรณีร่างกายมีปัญหา เช่น
ป่ วย หรือท้องเสียจะมีประโยชน์มากที่สุด
 นมข้น คือนมสดที่ระเหยเอาน้าออกเพียงบางส่วนแบ่งออกเป็นชนิด
ต่างๆ ตามส่วนประกอบของนมที่ผู้ผลิตจะทาขึ้น
1 นมข้นจืดหรือนมข้นไม่หวาน หรือนมระเหย คือนมที่ระเหย
เอาน้าออกประมาณครึ่งหนึ่ง
* ต้องการใช้นมข้นจืดแทนนมสดต้องเติมน้า 1 เท่าตัว
*นมข้นจืดมีรสชาติไม่ดีเท่านมสด เพราะผ่านความร้อนแต่นิยมใส่ใน
เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ
*นมข้นจืดส่วนใหญ่จะแปลงไขมัน
2 นมขันหวาน คือนมที่เคี่ยวเอาน้าออกประมาณ 2 ใน 3 ส่วน
แล้วเติมน้าตาลร้อยละ 40 จึงมีลักษณะข้นและหวานจัด
*นมข้นหวานเปิดกระป๋ องแล้วไม่ต้องเก็บในตู้เย็น
*นมข้นหวานไม่เหมาะที่จะเลี้ยงทารก
*นมข้นหวานที่มีจาหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ทาจากนมคืนรูปปรุงแต่ง
และแปลงไขมันบางส่วน หรือทั้งหมด เรียกชื่อว่า
นมข้นคืนรูปแปลงไขมันหวาน
นมผง คือนมที่ผ่านกรรมวิธีระเหยเอาน้าออกเกือบหมด
เหลือน้าอยู่เพียงไม่เกินร้อยละ 5 โดยใช้ความร้อนต่าเพื่อ
รักษาคุณค่าทางโภชนาการของโปรตีนและวิตามิน
ลักษณะนมผงเป็นผงสีขาวคล้ายแป้ ง จึงเรียกว่า แป้ งนม
นมผงที่ผลิตขายมีหลายประเภท ได้แก่
 นมผงธรรมดา ทาจากนมสดทั้งหมดมีคุณค่าทางโภชนาการ
ครบถ้วนสามารถใช้เลี้ยงทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป
 นมผงขาดมันเนย หรือหางนม ทาจากนมที่ซ้อนเอาครีมออก
แล้วนมชนิดนี้ จะขาดไขมันและวิตามิน นมชนิดนี้ ไม่เหมาะที่จะ
ใช้เลี้ยงทารก
 นมผงดัดแปลงสาหรับทารก เด็กที่กินนมวัวไม่ได้ดัดแปลงมัก
ท้องเสียเพราะได้โปรตีนมากเกินไป ฉะนั้นเมื่อใช้นมวัวเลี้ยง
ทารกจะต้องดัดแปลงให้เหมือนนมมารดามากที่สุด
ผลิตภัณฑ์จากนม
เนยแข็ง
ครีม
ไอศครีม
Hard cheese
Soft cheese
Light cream
Heavy cream
เนยแข็ง
เนยแข็ง ได้จากการการตกตะกอนของโปรตีนในน้านม
ซึ่งอาจเป็ นนมวัว นมแพะ หรือ นมแกะ
* การทาเนยแข็งเป็ นวิธีการถนอมอาหารอย่างเก่าแก่
อีกวิธีหนึ่งซึ่งทากันมากในแทบยุโรป อเมริกาและ
ออสเตรเลีย
*เนยแข็งมีโปรตีนประมาณร้อยละ 25-35 มีไขมันร้อย
ละ16-40 และมีแคลเซียม วิตามินเอ
เนยแข็งแบ่งออกเป็ น 2 ชนิด
เนยแข็งชนิด Hard cheese มีน้าประมาณร้อยละ
30-40ได้แก่ เชดด้าร์ สวิสชีส
เนยแข็งชนิด Soft cheese มีน้าประมาณร้อยละ
40-75 ได้แก่ คอทเทจ ชีส ครีม ชีส
*การเก็บเนยแข็งต้องเก็บในตู้เย็น
ครีม
ครีม คือไขมันในน้านมเมื่อตั้งทิ้ง
ไว้ ไขมันที่เบากว่าจะลอยตัวขึ้น
ข้างบน ก็ตักเอาครีมออก ถ้าทา
เป็ นอุสาหกรรมต้องใช้เครื่องแยก
นมเพื่อให้ได้ปริมาณครีมที่เท่ากัน
ครีมต้องผ่านขบวนการฆ่า
เชื้อจุลินทรีย์เช่นเดียวกัน
ครีมที่มีจำหน่ำยมีปริมำณไขมันที่แตกต่ำงกัน เช่น
ครีมอย่างเบา ( Light cream ) มีปริมาณ
ไขมันร้อยละ 18 เหมาะสาหรับใส่เครื่องดื่มเช่น
ชา กาแฟ และใช้ประกอบอาหาร
ครีมอย่างหนัก ( Heavy cream )มีปริมาณ
ไขมันไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 เหมาะสาหรับตีให้
ขึ้น เช่น Whipping cream
ไอศกรีม
•ไอศกรีม เป็นผลิตภัณฑ์นมที่มีผู้บริโภคกันมาก ไอศกรีม
ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย ได้ดัดแปลงใช้ไขมันชนิดอื่น
แทนไขมันจากนม เช่นกะทิ และมีการเติมกลิ่นและรส
ผลไม้ต่างๆ
•ส่วนผสมที่สาคัญของไอศกรีมคือ น้านม ครีม น้าตาล
นอกนั้นจะเป็นสารที่ทาให้เกิดการผสมที่ดีและสารที่ทา
ให้มีความคงตัว ได้แก่ เจลาติน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับไอศครีม
•1 ไอศครีมอาจนาโรคมาสู่ผู้บริโภค
•2 ไอศครีมต้องแข็งอยู่เสมอ
•3 ผลิตภัณฑ์ที่เรียนแบบไอศกรีม
Nutrion fact

More Related Content

Similar to Nutrion fact

สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิตTongsamut vorasan
 
การล้างตับ
การล้างตับการล้างตับ
การล้างตับNamaun
 
Tf tri factor 1
Tf tri factor 1Tf tri factor 1
Tf tri factor 14LIFEYES
 
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลโครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลNat Pat
 
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลโครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลNat Pat
 
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน24LIFEYES
 
ปลิงบำบัด 4/5
ปลิงบำบัด 4/5ปลิงบำบัด 4/5
ปลิงบำบัด 4/5aeay555
 
งานวิจัยอาหารลดความเครียด
งานวิจัยอาหารลดความเครียดงานวิจัยอาหารลดความเครียด
งานวิจัยอาหารลดความเครียดPichetpongSuwanlert
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นTanadol Intachan
 
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 Phet103
 
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdf
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdfมาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdf
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdfPaanSuthahathai
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคtassanee chaicharoen
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30Chanathip Loahasakthavorn
 

Similar to Nutrion fact (20)

Breakfast
BreakfastBreakfast
Breakfast
 
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิตสุทธิวัสส์ คำภา   นาฬิกาชีวิต
สุทธิวัสส์ คำภา นาฬิกาชีวิต
 
Supplementary food
Supplementary foodSupplementary food
Supplementary food
 
Cook 1
Cook 1Cook 1
Cook 1
 
การล้างตับ
การล้างตับการล้างตับ
การล้างตับ
 
Tf tri factor 1
Tf tri factor 1Tf tri factor 1
Tf tri factor 1
 
Clu5
Clu5Clu5
Clu5
 
Clu5
Clu5Clu5
Clu5
 
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลโครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
 
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอลโครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
โครงงานเรื่อง คอเรสเตอรอล
 
Howtoperfect610
Howtoperfect610 Howtoperfect610
Howtoperfect610
 
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
มะเร็งการรักษาและการป้องกัน2
 
ปลิงบำบัด 4/5
ปลิงบำบัด 4/5ปลิงบำบัด 4/5
ปลิงบำบัด 4/5
 
งานวิจัยอาหารลดความเครียด
งานวิจัยอาหารลดความเครียดงานวิจัยอาหารลดความเครียด
งานวิจัยอาหารลดความเครียด
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _น
 
บทที่ 3
บทที่  3บทที่  3
บทที่ 3
 
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23 การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
การดูแลสุขภาพ ธนภรณ์ ม.1 ห้อง 3 เลขที่ 23
 
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdf
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdfมาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdf
มาตรฐานโรงพยาบาล Food Safety Hospital.pdf
 
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภคชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
ชุดส่งเสริมความรู้โภชนาการและการบริโภค
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
โครงงานคอมพิวเตอร์ 6/3.26.30
 

More from unreunwattananapakas (16)

7 sugar
7 sugar7 sugar
7 sugar
 
6 rice
6 rice6 rice
6 rice
 
5 peenut
5 peenut5 peenut
5 peenut
 
การจัดรายการอาหาร
การจัดรายการอาหารการจัดรายการอาหาร
การจัดรายการอาหาร
 
การเลือกซื้ออาหารตามฤดูกาล
การเลือกซื้ออาหารตามฤดูกาลการเลือกซื้ออาหารตามฤดูกาล
การเลือกซื้ออาหารตามฤดูกาล
 
Pamkin
PamkinPamkin
Pamkin
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
 
Egg
EggEgg
Egg
 
Thai food
Thai foodThai food
Thai food
 
ถั่วกวน
ถั่วกวนถั่วกวน
ถั่วกวน
 
Kkkkk
KkkkkKkkkk
Kkkkk
 
Taro
TaroTaro
Taro
 
Kitchen
KitchenKitchen
Kitchen
 
Cook
CookCook
Cook
 
Meat
MeatMeat
Meat
 

Nutrion fact